แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 12 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 ระบบรา่ งกายมนษุ ย์ เแรแผอ่ื ผนงนกรกาะารบรจจบัดัดสกกืบาารพรเรันเรียธยีน์ุ น2รู้ทรู้ที่ 1่ี 212 เวลา 1 ช่วั โมง หกนล่วมุ ยสกาารระเกรายี รนเรยีทู้ นี่ 2รวู้ ริทะยบาบศราา่ สงตกราแ์ยลมะนเษุทยค์โนโลยี รายวเริช่ือาเงวริทอื่รยงะาบรศบะาบสสบื ตสพรบื ์พันพธ้นื ัน์ุ ฐ2ธา์ุน2 3 ช้ันมเธั วยลมาศ1กึ ษชาัว่ ปโมีทง่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวริทายยวาชิศาาวสทิตยรา์พศื้นาฐสาตนร์ 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 (เพราะผ้หู ญิงแแลละะผผ้ชู ้ชู าายยมมีลีลกั ักษษณณะะบบาางงปปรระะกกาารรไไมม่เเ่หหมมอื ือนนกกนั นั มีโครงสรา้ งและการทำ�งาน (ขเมพอีโรงคาอระวงผยัสู้หวรญา้ะงทงิแ่รีและละบะกบผาู้ชสราบืทยพำมงันลีาธนักไุ์ ขษมอณ่เหงะอมบวอื ยัานงวกปะันรทะ่ีรมกะหีาบรนบไา้ มสท่เบื หี่เตพมกนั อื ตธน่า์ุไกมงันก่เหันมนือา่นจกะนั เกมดิ ีหจนาา้กทกเ่ีาตรกคตว่าบงคกมุนั ขนมนอโีา่า่ คงจจสระะงาเ2เ•สกรก.เรดิดิคา้จจมงกาาแี/จิกกฮลกกกอะราารกรรรโ์ามคคมรววนHทบบคoำคคงนmุมามุ ลนขeขะอขอช–งองนสสงEิดาอาxกรรวpเนัเยั eคคว)rมมtะี/ี/ทGฮฮ่รีอrอoะรรบu์โ์โมมpบนนส“คคบื กนนพิจลลนักะะรธชชรุ์ไนมนมิด่เิดรหก้จูกมันักันือฮ))นอกรโ์นั มนมีห”น้าทีเ่ ตกตา่ งกัน 1•-) กคจิรกแู รนระมนำHใoหm้นกัeเร–ยี Eนxรpจู้ eักrชtอ่ื Gฮrอoรu์โpมน“ทก่ีจิ ะกไรดรร้มู้จรักจู้ ใักนฮรอะรด์โับมชน้ัน”นี้ทง้ั ชอ่ื ภาษาไทย - คภรูแานษะาอนงัำกใหฤ้นษกั แเรลยี ะนกราจู้รักอชา่ นือ่ ชฮื่อรดโ์ มังน้ีท่ีจะไดร้ ้จู ักในระดับช้นั น้ที ัง้ ช่อื ภาษาไทย - Pภroาษgeาsอtังeกrฤoษneแ(ลโะปกราเจรสอเา่ ทนอชโอื่ รนด)ังนี้ - PErsotrgoegsetenro(เnอeสโ(ทโปรเรจเจนส) เทอโรน) - ELsHtrogen (เอสโทรเจน) - LFHSH - FTSeHstosterone (เทสโทสเทอโรน) 2-) Tคeรsูแtบo่งsนteักrเoรnยี eนอ(เอทกสเโปท็นสกเทล่มุอโจรำนน) วน5 กลุ่ม กลุม่ ละ เทา่ ๆ กันใหน้ กั เรียน - แคตแร่ลูแตะบล่ กง่ะลนกมุ่ กัลจเุ่มับรจสียบัลนาสอกลอเาลกกือเปเกล็นศือกึ กษลศา่มุ ึกฮษอจารำโ์ฮนมอวนรน์โท5มัง้ นก5ลทมุ่ชัง้ นกดิ ลุ่มโดลยะมีขเทอ่าบเๆขตกขันอใงหก้นารักศเรึกียษนาดงั น้ี - ชแอื่ ตฮล่ อะรก์โมลนมุ่ จภบัาษสลาไาทกยเลแอื ลกะศภกึ าษษาาฮอองั รกโ์ ฤมษน ทัง้ - ชพ่ือบฮใอนรเพ์โมศนชภาายษหารไอื ทเพยศแหลญะภิงาหษราอื อทงั ั้งกเฤพษศชายและหญงิ - พแบหใลนง่ เทพีส่ ศรช้าางยในหรรา่ ืองเกพาศยหญิง หรือทัง้ เพศชายและหญิง - แหหนลา้ ่งทที่ขส่ี อรง้าฮงอในรโ์รมา่ นงกาย - หน้าทขี่ องฮอร์โมน 276
แผนการจดัดกกาารรเรเรียยี นนรรู้ทู้ที่ 1่ี 122 295 เรเรอ่ื อ่ื งงรระะบบสบื พนั ธุ์ 22 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบรา่ งกายมนุษย์ รายวชิ ราวยทิวิชยาวศทิ ายสาตศรา์พส้นืตฐร์าน 3 เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 3-) โดยนักเรยี นตอ้ งทา Brochure แนะนาฮอรโ์ มนใหม้ สี ีสัน รายละเอยี ดน่าสนใจ ใน 1 หนา้ กระดาษ A4 ทางานกลมุ่ ให้สาเรจ็ ภายในเวลา 10 นาที 4-) เม่ือหมดเวลา นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ตอ้ งเปล่ียนกลมุ่ ใหม่ โดยกล่มุ ใหม่จะต้องมี สมาชกิ ที่มาจากกลุ่มทง้ั 5 ฮอรโ์ มน 5-) สมาชิกในกลมุ่ ใหมจ่ ะมเี วลาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลโดยใช้ส่ือทีเ่ ตรียมมา คนละ ค1นนละาท1ี รนวามทที รัง้ ว5มทฮ้งั อ5รฮ์โมอนรโ์ ม5นน5านทาี ที 6-) จากน้ันทกุ คนกลับกล่มุ เดมิ และนาข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกัน ทาใบงานท่ี 21.1 ขั้นสรปุ 1. กจิ กรรม Show the key “ฮอร์โมนเพศ” ครูชแ้ี จงให้นกั เรียนเขา้ ใจกติกาตามใบ กิจกรรมที่ 12 ดงั นี้ 1-) ให้นักเรยี นทางานร่วมกันเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั 2-) ครูบอกปริศนาฮอรโ์ มนทีละข้อ ฮอร์โมนแตล่ ะตวั จะมี 5 ปริศนา เม่ือครู อ่านแตล่ ะปริศนานักเรียนจะมีเวลา 30 วนิ าทใี นการตอบ หากนกั เรียนกลุ่ม ใดสามารถตอบถูกจากปริศนาข้อแรก จะได้คะแนนเต็ม 5 คะแนน และเมื่อ ครบู อกปริศนาข้อต่อ ๆ ไป คะแนนจะลดลงข้อละ 1 คะแนน 3-) นกั เรียนตอบปริศนาโดยการ Show the key หรือกระดาษคาตอบทเี่ ขียน ช่ือฮอร์โมนเอาไว้ 277
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 12 เรอ่ื ง ระบบสบื พนั ธุ์ 2 รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4) 278
297 279 การวัดและประเมนิ ผล สิง่ ที่ต้องการวัด/ประเมิน วิธกี าร เครือ่ งมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ 1. อธิบายผลของฮอรโ์ มนเพศ - ประเมนิ การตอบ - ใบงานท่ี 12.1 นกั เรยี นทาถูก ทีท่ าใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลง คาถามในใบงานที่ 12.1 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ รา่ งกาย และอารมณข์ องเพศ 60 ข้นึ ไป ชายและเพศหญงิ ได้ 2. ระบุฮอรโ์ มนเพศชาย และ ฮอรโ์ มนเพศหญิงได้ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 1. ทักษะการลงความเห็น - ประเมินการตอบ - ใบงานท่ี 12.1 นกั เรยี นทาถูก ขอ้ มูล คาถามในใบงานท่ี 12.1 - แผนภาพ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 2. ทกั ษะการจาแนกข้อมูล - ประเมนิ การสร้าง Concept map 60 ข้นึ ไป 3. ทักษะการจดั กระทาและ แผนภาพ Concept สรปุ ผลของ ส่ือความหมายขอ้ มลู map สรุปผลของ ฮอรโ์ มนเพศต่อการ ฮอรโ์ มนเพศต่อการ เปลี่ยนแปลง เปลยี่ นแปลงร่างกาย ร่างกาย ด้านคุณลกั ษณะ - แบบประเมนิ 1. มวี ินยั สงั เกตพฤติกรรม - คแุณบบลปกั รษะณเมะนิ ได้ระดับคุณภาพ 2 2. ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะ ทกุ รายการขน้ึ ไป 3. มุง่ มัน่ ในการทางาน ถอื ว่าผ่าน
298 298 280 บนั ทกึ ผลหลงั สอน บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการสอน …ผล…ก…า…รส…อ…น………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ป…ญั…ห…า…/…อปุ…ส…ร…รค…………………………………………………………………………………….…………….………………………………… …ปัญ…ห…า…/…อุป…ส…ร…รค…………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ข…้อ…เส…น…อ…แ…น…ะ/…แ…น…วท…า…งแ…ก…ไ้ …ข………………………………………………………………….…………….………………………………… …ข้อ…เ…สน…อ…แ…น…ะ/…แ…น…วท…า…งแ…ก…ไ้ …ข………………………………………………………………….…………….………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ความเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศึกษา (ลงช่ือ)…….............…………………..………… วตตนั(าาลทแแง.่ีชหห..ื่อ.นน.((.)..่งง่.…..........เ…....ด...........อื............น..........................................................…...............…...............…...............…...............…...............…...........พ...…..............ศ........…..............…..............….............))….............. วันท.่ี ........เดอื น.........................พ.ศ............ …คว…า…ม…เห…็น…ข…อ…งผ…้บู …ร…ิห…าร…ส…ถ…าน…ศ…กึ …ษ…า……………………………………………………….…………….………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… (ลงชอ่ื )…….............…………………..………… ตตวนัาา(ลแแทงหห.่ีช.นน.่อื..ง่ง่((.)...…............เ…....ด.............ือ..........น..........................................................…...............…...............…...............…...............…...............….............พ.…..............ศ.........…...............…..............….............))….......... วันที.่ ........เดือน.........................พ.ศ............
299 281 ใบความรทู้ ่ี 12 ฮอร์โมนเพศชายและหญิง (Male and Female Hormones) หนว่ ยท่ี 2 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 12 เรอื่ ง ระบบสืบพนั ธ์ุ 2 รราายยววชิ ชิ าาววิทิทยยาาศศาาสสตตรร์ 3์ รรหหสั ัสววิชชิ าาวว22221100112ภภาาคคเรเรียยีนนทที่ 1ี่ 1ชชั้น้นั มมธั ัธยยมมศศึกึกษษาาปปีทที ี่ 2่ี 2 ฮอร์โมนเพศ คอื สารเคมที ีเ่ ป็นฮอรโ์ มน โดยส่วนใหญจ่ ะสรา้ งจากอวัยวะที่เปน็ อวัยวะในระบบสบื พันธ์ุ เช่น รังไข่ (ในผู้หญิง) หรือ อัณฑะ (ในผู้ชาย) แต่ส่วนน้อยจะสร้างได้จากอวัยวะอื่นในระบบต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมหมวกไต ทั้งนี้ การสร้างฮอร์โมนเพศของ รังไข่ หรือ อัณฑะ จะอยู่ในการกากับควบคุมของต่อมใต้สมอง และตอ่ มใตส้ มองจะอยใู่ นการกากับควบคุมของสมองสว่ นไฮโปธาลามสั เป็นหลัก ฮอร์โมนเพศ มีหน้าที่สาคัญในการใหก้ ารเจริญเติบโตกบั อวยั วะที่เป็นสัญลักษณ์บอกเพศ (เช่น อวัยวะ เพศหญงิ และเตา้ นมในเพศหญิง หรือ อวัยวะเพศชาย หนวด เครา ในเพศชาย), การมปี ระจาเดอื นในเพศหญิง หรือมีน้าอสุจิ และอสุจิในเพศชาย โดยอวัยวะที่จะอยู่ภายใต้การดูแลของฮอร์โมนเพศ จะต้องมีตัวรับ (Receptor) ฮอร์โมนเพศ ท่ีเรียกว่า Hormone receptor ฮอร์โมนเพศจึงจะสามารถทางานหรือทาให้เกิด ลักษณ์ทางเพศได้ ฮอร์โมนเพศ((Sex HHoorrmmoonnese)sป) รปะรกะอกบอดบว้ ยดว้ กยลมุ่ 22กไลดุม่ แ้ กได่ แ้ ก่ 1. ฮอร์โมนเพศชาย(M(Maallee Sex Hormmoonnee)sไ)ดไแ้ ดกแ้ ่ ก่ Testosterone (เทสโทสเทอโรน) 2. ฮอรโ์ มนเพศหญิง((FFeemmale Sex HHoorrmmoonnee)sป)รปะรกะอกบอดบว้ ยดว้ ย 2.1 Progesterone (โปรเจสเทอโรน) 2.2 Estrogen (เอสโตรเจน) 2.3 LH (Luteinizing Hormone) 2.4 FSH (Follicle stimulating Hormone) ฮอรโ์ มนเพศชาย เทสโทสเตอโรน เทสโทสเตอรโรน เป็นฮอรโ์ มนเพศชายทส่ี ร้างข้ึนโดยอัณฑะ และมีการสร้างในปริมาณน้อยทบี่ ริเวณตอ่ มหมวกไต ท้ังในเพศชายและเพศหญิง โดยจะมีระดับฮอร์โมนในเพศชายสูงกว่า เทสโทสเตอโรนทาหน้าท่ีเกี่ยวกับกระบวนการ กระตุ้นการสร้างสเปิร์มและการแสดงออกลักษณะทางเพศ (Sex Characteristics) เม่ือถึงวัยเจริญพันธ์ุ เช่น อัณฑะ และอวัยวะเพศมีขนาดใหญข่ ึ้น ลูกกระเดือกมีขนาดใหญ่ข้ึน ส่งเสริมการสร้างกล้ามเน้ือแทนท่ีไขมนั แลแะลกะระกตรุ้นะกตาุ้นร กสราร้างสขรนา้ งทข่ใี นบทหีใ่นบ้าหหนน้าา้ หอนก้ารอักแรัก้ แแลระ้ แอลวะยั อววะยัเพวะศเพศ
300 282 ฮอร์โมนเพศหญิง เอสโทรเจน ร่างกายสามารถผลิตเอสโตรเจนได้จากต่อมหมวกไตช้ันนอก จากรกและจากถุงไข่ในรังไข่ระยะที่ กาลังเจรญิ เตบิ โต โดยเริ่มตน้ จากการนาโคเลสเตอรอลในเลือดมาเปล่ียนเปน็ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งต่อมา จะเปล่ียนเป็นโปรเจสเตอโรน และสุดท้ายจึงได้เป็นเอสโตรเจน ทาหน้าท่ีกระตุ้นการเจริญของระบบสืบพันธ์ุ เม่ือเพศหญงิ ย่างเข้าสู่วัยรนุ่ การเจริญเติบโตของร่างกายและควบคมุ ลักษณะทางเพศ ได้แก่ การขยายของเต้า นม กระดูกเชิงกราน การเจรญิ และพฒั นากลา้ มเน้ือและการสะสมไขมันใต้ผวิ หนงั หน้าทข่ี องเอสโตรเจน 1. ทาใหม้ ีลักษณะของเพศหญงิ เช่น ชว่ งไหล่แคบ สะโพกผาย มีหน้าอก และมไี ขมันสะสมบริเวณสะโพก ผวิ ตึง มีเสียงแหลม ฯลฯ 2. กระต้นุ การเจริญเตบิ โตของรงั ไข่ ถุงไข่ และไขอ่ ่อน 3. ทาให้ปีกมดลูกหรือท่อนาไข่และกล้ามเน้ือมดลูกหดตัว กล้ามเนื้อเรียบ เช่น หลอดเลือดฝอย มีการ เคล่ือนไหวบบี รัดมากข้นึ 4. เซลลม์ กี ารแบง่ ตัวเพมิ่ ข้ึน ทาใหม้ ดลูกมีขนาดใหญ่และผนังเยื่อบโุ พรงมดลูกหนาขนึ้ 5. กระตุ้นเซลล์บริเวณปากมดลูกและช่องคลอดให้หล่ังน้าเมือกหรือตกขาวท่ีใส ไม่เหนียว และมีปริมาณ มาก เพือ่ ช่วยในการเคลอ่ื นที่ของอสจุ ิไปยงั มดลูกและปีกมดลกู 6. ทาให้มีการปิดของกระดูกในทางยาวหรือกระดกูดในทางยาวหยุดเจริญเติบโต เราจะสังเกตได้ว่า เดก็ ผหู้ ญงิ จะหยดุ สงู เมอ่ื มีประจาเดอื น ซงึ่ หมายความวา่ รงั ไขไ่ ด้สร้างเอสโตรเจนแล้วนนั่ เอง 7. ยับย้ังการสลายของเนื้อกระดูก เน่ืองจากเอสโตรเจนควบคุมให้เกิดความสมดุลของแคลเซียมใน ร่างกาย โดยเพิ่มการดูดซึมของแคลเซียมในลาไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือดและเข้าเกาะกับเนื้อกระดูก ได้มากขนึ้ ในขณะเดียวกันก็ลดการสลายตัวของแคลเซยี มออกจากเนื้อกระดกู ผลคือทาให้เน้ือกระดูก หรือมวลกระดูดยังคงความหนาแนน่ แข็งแรง ไม่เปราะบางและแตกหกั ง่าย 8. ทาใหไ้ ตซขบั โซเดียมวออกจากรา่ งกายน้อยลง มีผลใหเ้ กดิ การคง่ั ของน้าและโซเดยี มในรา่ งกายมีผลต่อตอ่ ม ใมตผี ส้ ลมตออ่ งสตว่อนมหใตนส้ามองสว่ นหน้า โพรเจสเทอโรน ทาหน้าท่ีกระตุ้นเยื่อบุมดลูกให้สะสมอาหารสาหรับตัวอ่อน สร้างเมือกที่ปากมดลูกให้เหนียวข้น และลดการบีบตัวของมดลูก
301 283 โปรเจสเตอโรน เปน็ ฮอร์โมนเพศทส่ี าคญั อีกชนดิ หนึง่ ทีร่ า่ งกายสรา้ งขนึ้ จากอวยั วะหลายอวยั วะ เ ชน่ เดยี วกับโเปอรสเโจตสรเตเจอนโรนแตเป่ส็นว่ นฮอใหร์โญมส่นรเพ้างศขทนึ้ สี่ จำ�คากัญคออีกรช์ปนสั ิดลหูเนทงึ่ ียทม่ีรใา่ นงกรังาไยขสแ่ รลา้ งะขสนึ้ ่วจนานกอ้ ยวัยผวละิตหจลาากยตออ่ วหยั วมะวเกชไน่ ตเดียวกบั เชอัน้สโนตอรกเจน แตส่ ่วนใหญส่ รา้ งข้ึนจากคอร์ปสั ลเู ทยี มในรังไขแ่ ละสว่ นนอ้ ยผลติ จากต่อหมวกไตชัน้ นอก โปรเจสเตอโรนมผี ลตอ่ ร่างกายหลายอยา่ ง ดังน้ี 1. ผลต่ออวัยวะสืบพันธ์ุ เช่น เปลี่ยนแปลงผนังเยื่อบุโพรงมดลูกให้เหมาะสาหรับการฝังตัวของตัวอ่อน สรา้ งสารคัดหลั่งและกระตนุ้ การหลั่งสารต่างๆ จากผนังเย่ือบุโพรงมดลูกให้เพมิ่ ขึ้นมีอาหาร ออกซิเจน มาเลยี้ งบริเวณนมี้ ากขึน้ 2. ลดการบีบรดั ตัวของกล้ามเนื้อมดลูก ทาใหก้ ล้ามเน้ือมดลูกคลายตัว เซลล์ผนังชอ่ งคลอดเปลี่ยนแปลง และหลดุ ลอก 3. กระตุ้นเซลลป์ ากมดลูกให้ขับเมือกหรือตกขาวทเี่ หนียวข้นและมีปริมาณน้อย ทาให้ตัวอสุจิไม่สามารถ เดนิ ทางผ่านชอ่ งคลอดและปากมดลกู ได้หรือผา่ นเขา้ ไปไดย้ ากขนึ้ 4. กระตนุ้ การเจริญเตบิ โตของเซลล์เตา้ นม 5. กระตนุ้ ศนู ย์ควบคมุ อณุ หภูมใิ นสมอง ทาใหอ้ ณุ หภมู ขิ องร่างกายสงู ข้ึน 6. ทาใหร้ ะดบั อนิ ซลู นิ ในกระแสเลอื ดสูงขนึ้ 7. มีผลต่อการเลีย่ นแปลงระดับไขมันชนิดต่างๆ เชน่ เดียวกับเอสโตรเจน แแตต่เป่เป็น็นผลผทล่ีตทรี่ตงรขง้าขม้ากมันกคันือคทือา ทใหำ�ใ้รหะร้ดะบั ดขับอขงอเงอเชอชดดีแีแออลลโโคคเเลลสเตอรอลล (HDL-Cholesterol) ลดลง และระดับแอลดแี อลโคเลสเตอรอล (LDL-Cholesterol) สูงข้นึ ผลตอ่ ตอ่ มใต้สมองสว่ นหนา้ พบว่าโปรเจสเตอโรนในปริมาณต่าจะกระตุ้นการหล่ังแอลเอช (LH-hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมน จากต่อมใต้สมองส่วนหน้าทาหน้าที่กระตุ้นถุงไข่ท่ีเจริญเต็มที่แล้วหรือถุงไข่ข้ันกราเฟียนให้มีการตกไข่ แต่ ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีโปรเจสเตอโรนในปริมาณสูงก็จะยับย้ังไม่ให้ต่อมใต้สมองส่วนหน้าหลั่งแอลเอช ผลคือ ทาให้ไม่มีไข่ตก ซ่ึงเรานาผลในข้อน้ีมาใช้คุมกาเนิด โดยให้เพ่ิมเข้าไปในร่างกายวิธีใดวิธีหนึ่ง เช่น รับประทาน ฝังเข้าใต้ผิวหนัง หรือโดยการฉีด เป็นการเพิ่มปริมาณของโปรเจสเตอโรนในร่างกายให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้ต่อใต้ สมองสว่ นหน้าหล่ังแอลเอช จึงทาใหไ้ ม่เกดิ การตกไข่ เปน็ การป้องกันการตัง้ ครรภ์ทางออ้ ม LH (Luteinizing Hormone) สร้างและหลั่งออกมาจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า ทาหน้าท่ีกระตุ้นการตกไข่จากรังไข่ ควบคุมรอบ ประจาเดือนของผู้หญิงให้ปกติ และทางานร่วมกับ FSH ในการผลิตอสุจิของผู้ชาย ในเพศชายมีการผลิต ฮอรโ์ มนน้ีอยา่ งสมา่ เสมอ ส่วนในเพศหญงิ ผลิตไม่สม่าเสมอในระยะของการมปี ระจาเดือน
302 284 FSH (Follicle Stimulating Hormone) สร้างและหล่ังออกมาจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า ทาหน้าท่ีกระตนุ้ การเจริญของเซลล์สืบพันธ์ุ รังไข่ ช่วยควบคุมการตกไข่ของรังไข่ในผู้หญิง และการผลิตอสุจิของอัณฑะในผู้ชาย ในเพศชายมีการผลิตฮอร์โมนนี้ อย่างสม่าเสมอ สว่ นในเพศหญิงผลติ ไม่สมา่ เสมอในระยะของการมปี ระจาเดอื น แหล่งอา้ งอิง 1. https://www.honestdocs.co/what-is-estrogen/testosterone-estrogen (เขา้ ถึงเม่ือ 15/01/2562) 2. https://surasa5651.wordpress.com (เขา้ ถงึ เมือ่ 15/01/2562) 3. https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter5/estrogen_progeterone.htm (เขา้ ถึงเม่ือ 15/01/2562)
303 285 ใบงานท่ี 12.1 ฮอร์โมนเพศชายและหญงิ คาชแ้ี จง ให้นักเรียนระบุแหล่งทส่ี รา้ งฮอรโ์ มน และบทบาทของฮอรโ์ มนต่อร่างกาย ฮอรโ์ มน แหล่งทีส่ ร้างฮอร์โมน บทบาทของฮอร์โมนตอ่ ร่างกาย Progesterone Estrogen LH FSH Testosterone หมายเหตุ ฮอร์โมนเพศหญิง มีในผู้หญงิ ในปริมาณมาก ควบคมุ การแสดงออกลักษณะของผ้หู ญิง เช่น หนา้ อก เสียงเล็กแหลม สะโพก เป็นต้น ส่วนฮอรโ์ มนเพศชาย มีในผู้ชายมากกวา่ ควบคุมการแสดงออกลักษะเพศชาย เช่น เสียงห้าวทุม้ กล้ามเน้อื เดน่ ชัด หนวด เครา เป็นตน้ ทาใหห้ ญงิ และชายมีลกั ษณะบางประการแตกตา่ งกนั
304 286 ใบกจิ กรรม ท่ี 12.1 Show the Key “ปริศนาฮอร์โมนเพศ” คาช้แี จง 1. ใหน้ กั เรยี นทางานรว่ มกนั เป็นกลมุ่ กลุ่มละเท่า ๆ กนั 2. ครูบอกปรศิ นาฮอรโ์ มนทลี ะข้อ ฮอร์โมนแตล่ ะตัวจะมี 5 ปริศนา เม่อื ครูอ่านแตล่ ะปริศนานักเรยี นจะ มเี วลา 30 วินาทใี นการตอบ หากนกั เรียนกลุ่มใดสามารถตอบถูกจากปรศิ นาข้อแรก จะไดค้ ะแนนเต็ม 5 คะแนน และเม่ือครบู อกปริศนาข้อต่อ ๆ ไป คะแนนจะลดลงข้อละ 1 คะแนน 3. นกั เรยี นตอบปริศนาโดยการ Show the key หรอื กระดาษคาตอบท่เี ขยี นชือ่ ฮอรโ์ มนเอาไว้ 4. เม่อื ครบท้ัง 5 ฮอร์โมน นับคะแนนรวมของแตล่ ะกลมุ่ บัตรคา “Show the key” ของนักเรยี น กลุ่มละ 1 ชดุ Testosterone Progesterone Estrogen LH FSH
ปรศิ นาของครู 305 ฮอร์โมน 287 Progesterone ปรศิ นา Estrogen 1. กระต้นุ ผนงั เยื่อบุโพรงมดลูกใหเ้ หมาะสาหรับการฝงั ตวั ของตวั อ่อน 2. สรา้ งสารคดั หล่ังและกระตุน้ การหล่ังสารต่างๆ จากผนังเยื่อบโุ พรงมดลูก Testosterone 3. กระตุ้นเซลลป์ ากมดลูกให้ขับเมอื กหรือตกขาวทเ่ี หนียวขน้ และมปี รมิ าณน้อย 4. กระต้นุ การเจริญเติบโตของเซลล์เต้านม LH 5. ตัวอสจุ ไิ มส่ ามารถเดนิ ทางผ่านชอ่ งคลอดและปากมดลูกได้หรือผ่านเขา้ ไปไดย้ ากขึ้น FSH 1. กระตนุ้ การเจริญของระบบสืบพันธ์เุ พศหญิง 2. ควบคุมลักษณะทางเพศ 3. การขยายของเต้านม กระดูกเชิงกราน 4. ผลิตจากต่อมหมวกไตช้นั นอก 5. สรา้ งจากรก และรังไข่ 1. สรา้ งได้ในปริมาณน้อยจากต่อมหมวกไต 2. สรา้ งจากอัณฑะเปน็ ส่วนใหญ่ 3. กระตุ้นการสรา้ งสเปิร์ม 4. ควบคุมการแสดงออกลกั ษณะทางเพศชาย 5. ทาให้อวยั วะเพศใหญข่ ึ้น ลกู กระเดือกใหญ่ขน้ึ 1. กระตุน้ การตกไข่จากรังไข่ 2. สร้างและหลง่ั จากต่อมใตส้ มองส่วนหนา้ 3. มที ้ังในผู้ชายและผหู้ ญิง 4. ควบคุมรอบเดอื นของผู้หญิงให้ปกติ 5. ในเพศชายมีตราการสรา้ งสม่าเสมอทุกชว่ ง สว่ นเพศหญิงไม่สม่าเสมอชว่ งมี ประจาเดอื น 1. กระตนุ้ การเจริญของเซลล์สืบพนั ธุ์ รงั ไข่ 2. ชว่ ยควบคุมการตกไข่ของรงั ไขใ่ นผูห้ ญงิ และการผลิตอสจุ ิของอัณฑะเพศชาย 3. มีทั้งในผู้ชายและผหู้ ญิง 4. สร้างและหลง่ั จากต่อมใต้สมองส่วนหนา้ 5. ในเพศหญิง มกี ารสร้างไมส่ ม่าเสมอ จะมีการเปลย่ี นแปลงช่วงมีประจาเดือน
306 แผนการจจดั ัดกกาารรเรเรยี ยี นนรูท้รู้ที่ 1่ี 313 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ระบบร่างกายมนษุ ย์ เรเร่อื ่อื งง รระบบสืบพันธธุ์ ุ์33 เวลา 1 ช่ัวโมง รายวชิ รายววทิ ชิยาาวศิทายสาตศรา์พสนื้ตรฐ์าน 3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ขอบเขตเนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 32 การเปลย่ี นแปลงเมื่อเข้าสู่วยั หนมุ่ สาว การดูแล สือ่ /แหล่งเรียนรู้ รา่ งกายของมนุษย์มกี ารเปลยี่ นแปลงเมอื่ รา่ งกาย และจิตใจ 1. หอ้ งเรียนวทิ ยาศาสตรโ์ รงเรียน เข้าสูช่ ว่ งวยั รุน่ การเปลีย่ นแปลงทาง ข้ันนา 2. ห้องสมดุ โรงเรียน ร่างกายส่งผลต่อสภาพจิตใจ อารมณ์ และ 1. ครใู หน้ กั เรียนสารวจและเปรียบเทียบการเปล่ยี นแปลงท่ีเกดิ ขนึ้ กบั ตนเอง 3. ใบความรู้ท่ี 13 การเปล่ยี นแปลงของ สงั คม รวมถึงความต้องการของวยั ร่นุ วยั รนุ่ ระหว่างชว่ งวยั เดก็ ทผี่ ่านมากับปัจจุบนั ภายในเวลา 1 นาที แลว้ นาเสนอ รา่ งกายเมื่อเขา้ สวู่ ยั หนุ่มสาวและการดแู ล จึงตอ้ งมีวิธใี นการดูแลตนเองอยา่ งเหมาะสม ร่วมกัน ร่างกาย และจติ ใจในช่วงท่มี ีการ เพ่อื ใหเ้ กิดความปลอดภยั และสามารถดูแล เปลี่ยนแปลง ตนเองได้ 2. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั รวบรวมขอ้ มลู ท่ีได้ บนั ทึกในบอรด์ หรอื กระดาน หรอื ครู อาจตัง้ คาถามเพ่ือเปน็ ประเด็นนาเขา้ สู่บทเรยี น ดงั นี้ 4. ใบกิจกรรมท่ี 13.1 เรื่อง กิจกรรม จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1o) นักเรียนสงั เกตการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึน้ กบั ตนเอง เมื่อเปรียบเทียบ สารวจเพือ่ น สารวจตน 5. ใบกิจกรรมท่ี 13.2 เรอื่ ง กิจกรรม 1) อธิบายการเปล่ียนแปลงของร่างกายเม่ือ กับวยั เด็กอย่างไรบ้าง เขา้ สู่วัยหนุม่ สาว (ร่างกายขนาดใหญ่ข้ึน หน้าอกขนาดใหญข่ ึ้น มีเสียงเปลีย่ นไป มปี ระจาเดอื น Brainstorming 2) บอกวิธกี ารดแู ลรา่ งกาย และจติ ใจ 6. ใบงานที่ 13 จุดเปล่ยี นของฉนั ...ในวันท่ี ในชว่ งทมี่ ีการเปลี่ยนแปลงได้ สะโพกขยาย เปน็ ต้น) 2o) นักเรยี นคิดว่า การเปล่ยี นแปลงต่าง ๆ เกิดขึน้ กับนกั เรียนเท่าน้นั สับสน หรือไม่ (เป็นการเปล่ียนแปลงท่ีเกดิ ขึ้นกับทุกคนเม่ือเข้าสวู่ ยั รนุ่ ) ภาระงาน/ช้ินงาน 3o) นกั เรยี นเคยสอบถามเพื่อนถึงการเปล่ียนแปลงบ้างหรือไม่ อยา่ งไร 1. ใบความรู้ที่ 13 (เคย/ไมเ่ คยสอบถาม) 2. ใบงานท่ี 13 3. ใบกจิ กรรมที่ 13.1 288
307 แแผนการจัดกกาารรเเรรียียนนรรทู้ ู้ที่ 1ี่ 133 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ระบบรา่ งกายมนษุ ย์ เรเรอ่ื ่ืองงรระะบบบสบื พันธุ์ 33 เวลา 1 ชั่วโมง รายวิชราวยทิวชิยาวศิทายสาตศรา์พสืน้ตฐร์าน 3 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 4. ใบกิจกรรมท่ี 13.2 ข้นั สอน 1. นกั เเรรียยี นนทท�ำ ากกจิ จิกรกรรมรสมำ�สราวรจวเพจือ่ เพนอ่ื สนำ�รสวจาตรวนจตน o1) ครแู จกใบกจิ กรรมให้นกั เรยี นคนละ 1 แผ่น จากนนั้ ให้นักเรียนทาแบบประเมนิ ตนเอง o2) นาแบบสอบถามไปถามเพ่ือน 4 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 2 คน และผหู้ ญิง 2 คน o3) นาผลจากการสอบถามไปสรุปเปน็ สารสนเทศ ตามใบกจิ กรรมท่ี 13.1 กจิ กรรม สารวจเพอื่ น สารวจตน o4) นาเสนอผลการศึกษาด้วยการอภิปรายผลร่วมกนั ในชั้นเรียน 2. นักเรียนทากิจกรรม Brainstorming “การเปลย่ี นแปลงของร่างกายเม่ือเขา้ สู่วัย หนุ่มสาว” ซ่ึงเป็นกิจกรรมทนี่ ักเรียนจะไดร้ ่วมกนั วิเคราะหผ์ ลของฮอรโ์ มนเพศต่อ การเปลี่ยนแปลงรา่ งกาย ดังนี้ 1) ครเู ตรยี มอปุ กรณ์ให้นกั เรียน โดยการปริ้นท์ใบกจิ กรรมที่ 13.2 หนา้ 1 ใส่ กระดาษโปสเตอร์ แล้วตัดเป็นชน้ิ แจกนักเรยี นกลุ่มละ 1 ชดุ และใบกิจกรรม หนา้ 2 และ 3 กลมุ่ ละ 1 ชดุ 2) ช้แี จงนักเรยี น ให้นักเรียนร่วมกนั ระดมความคิดเห็น โดยการวิเคราะห์ ข้อความในกระดาษที่ครแู จกว่าเปน็ การเปลย่ี นแปลงของเพศชายหรอื เพศ หญิง โดยแจง้ เพิ่มเตมิ ว่าข้อความมที ้งั หมด 10 ข้อความ มีการเปล่ียนแปลง 289
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ระบบรา่ งกายมนุษย์ แผนการจจดั ัดกกาารรเรเรียยี นนรู้ทรทู้ี่ 1ี่ 313 308 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เรเรื่อือ่ งง รระบบสืบพันนธธ์ุ ุ์33 เวลา 1 ช่ัวโมง รายวิชรายววิทิชยาาวศิทายสาตศรา์พสื้นตรฐ์าน 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ของเพศหญิงและชายอย่างละ 5 ข้อความ 3) เม่อื พิจารณาไดแ้ ลว้ ขอ้ ความทเ่ี ปน็ การเปลยี่ นแปลงของเพศชาย ใหน้ าไปปะ ไวท้ ี่ใบกจิ กรรม 13.2 หน้า 2 ส่วนข้อความทเ่ี ปน็ การเปลยี่ นแปลงของเพศ หญิง ใหน้ าไปปะไวท้ ่ีใบกิจกรรม 13.2 หนา้ 3 4) ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มคิดลกั ษณะหรอื การเปลย่ี นแปลงทีเ่ กิดกบั เพศชายและ เพศหญงิ เพ่ิมเติม เขยี นในใบกิจกรรมที่ 13.2 หนา้ 2 และ 3 ตงั้ แตข่ ้อท่ี 6-10 3. นกั เรรยี ยี นนททำ�ากกิจิจกรกรรมรม “จดุ เปลี่ยนของฉัน...ในวันท่ีสับสน” 1) ครแู จกใบงานท่ี 13 ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ วเิ คราะห์การเปล่ียนแปลงของตวั ละคร และเสนอแนวทางการดแู ลตนเอง ดว้ ยการทาแผน่ ป้ายนเิ ทศแบบย่อ ขนาด B5 2) กจิ กรรม Gallery walk แต่ละกลมุ่ ติดป้ายนิเทศไวบ้ นผนงั หอ้ งเรยี น ตามจดุ ตา่ ง ๆ ใหเ้ พื่อน ๆ ในห้องเย่ยี มชม เปน็ เวลา 5 นาที ขนั้ สรุป นกั เรยี นสรปุ ความรู้ที่ได้ร่วมกัน ดว้ ยกจิ กรรมขยาสรปุ (Paper Crumple) ดังนี้ 1.ครแู จกกระดาษใหน้ ักเรียนคนละ 1 แผ่น เขยี นช่อื ของตนเองไวม้ มุ บนขวามือ ของกระดาษ 2.จากนั้น ครกู าหนดประเด็นสรุปใหน้ ักเรยี นคือ “นักเรยี นไดเ้ รยี นร้อู ะไรในวันนี้ 290
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 ระบบร่างกายมนุษย์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 13 เวลา 1 ชั่วโมง กหลน่มุว่ สยยากกราาะรรกเเรรายี ยีรนเนรรรยี ู้ท้ทูน่ี ่ี2ร2ูว้ รทิ ระยะบาบบศบรารา่ส่างตกงรกา์แยาลยมะมนเทนุษคษุยโ์ยน์ โลยี เแรแื่อผผงนนกรกาะารบรจบจดั ดัสกกืบาารพรเนัรเรยีธียน์ุ 3นรูท้รู้ที่ 1ี่ 313 ชั้นมธัเวยลมาศึก1เษวชลาั่วปาโมที 1ง่ี 2ชว่ั โมง กลุ่มสาารระะกกาารรเเรรยี ียนนรรู้ววู้ ิทิทยยาาศศาาสสตตรแ์ร์ละเทคโนโลยี รายวเิชร่อืาวเงริทื่อรยงะาบรศบะาบสสบืตสพรบื์พันพ้นืธนั์ุฐ3าธน์ุ 33 ชน้ั มธั ยชมั้นศมึกธั ษยามปศีทกึ ี่ ษ2าปที ่ี 2 รายวชิ าวรทิายยวาิชศาาวสทิตยรา์พศืน้ าฐสาตนร์ 3 3. ใหน้ 3ัก.เใรหยี น้ นักเขเรยี ียนนเปเข็นยีขนอ้ เๆป็นโดขยอ้ เรๆม่ิ จโาดกยเเจร้าม่ิ ขจอางกเรจะา้ ดขาอษงเขกยีรนะดข้อาษท่ีเ1ขยี เมนื่อขเ้อขทยี นี่1 เมื่อเขยี น เสรจ็3แ.ใลห้วน้ใเหสกั ้ขรเจ็รยียแ�ำ กนลรเว้ ขะใดยีหานข้ ษเยปเำปน็กน็ ขรกะอ้ ้อดนๆาษโดเปย็นเรกิ่ม้อจนากเจ้าของกระดาษเขียนข้อท่ี1 เม่อื เขยี น 4. ทุกค4น.ทนุก�ำ เกคสรนระน็จดำแากลษรว้มะใาหดร้ขาวษมยกำมกนัารกะวลดมางากหษันอ้ เกปงล็นคากรงใูอ้หหนอ้ ส้ งัญคญราูใณห้สนญักเญรยี านณโยนนกั กเรยีะดนาโษยนข้นึกระดาษข้นึ พร้อ4ม.กทนั ุกพคแนรล้อวนมเำลกือันรกะหแดยลาบิ ว้ษกเมลราะือรดกวาหมษยกกบิ ัน้อกกนรลอะ่ืนาดงาๆหษอ้ คกงนอ้ ลคนะรอูใ1ห่ืนส้กๆญัอ้ นคญทนา่ไีลณมะ่ในช1กัก่ กเรรอ้ะียดนนาทษโ่ีไยมนใ่ กชรก่ ะรดะาดษาษขน้ึ ของตนเอขพงอรงอ้ ตมนกเันองแล้วเลอื กหยิบกระดาษกอ้ นอน่ื ๆ คนละ1 ก้อนท่ีไม่ใช่กระดาษ 5. คล่กี 5ร.ะคดลาก่ีขษอรอะงอตดกนาษเแออลงอ้วอก่านแลข้อวอควา่ านมขทอ้ ค่ี คนวกา่อมนทห่ีคนน้ากน่อี้เขนยี หนนแ้านลว้ีเขเขียยี นนเแพลมิ่ ้วเเตขมิ ยี ขน้อเทพ่ี ่ิม2เตมิ ขอ้ ท่ไี ม5่ซ.้ือคกลับที่กขรี่2อ้ ะแทดรี่ไากมษซ่จออื้าอกกกนบั ั้นแขเลอ้ข้วแยี อนร่ากชนอ่ื จขขา้ออกคงนตวน้ัามเอขทงียค่ีในนนชวก่ือง่อเขลนอ็บหงหตนลน้างั นเขออ้้ีเขงคใยี วนนาวมงแทเลีเ่ ขว้็บยีเหขนลียงันขเพอ้ คิ่มวเตาิมข้อ ทำ�ประมาทณี่เ2ข3ียท-4น่ีไมรทซ่ อำือ้ บปกรตบั ะาขม้อคาแณวรากม3เ-จห4ามกรานอะสบนั้ มเขตยีามนคชวือ่ าขมอเงหตมนาเะอสงมในวงเลบ็ หลงั ข้อความ 6. เมือ่ 6เส.เรม็จื่อกทเจิ สีเ่ ขกรรีย็จรนกมิจทสกำง่รปครืนรมะกมสระ่งาคดณาืนษ3กใ-รห4ะ้เดจร้าอขษบอใงหตา้เจมม้าอ่ื คขไวดอาร้ งมบั เกหมรอื่มะไาดดะา้รสษบั มคกืนรแะลด้วาษนักคเืนรียแนลอว้ ่าน จาก6น.้ันเมสอื่รนุปเกัสคเรวร็จายี กมนิจรอทู้ก่า่ีไรนดร้มใจนาสรกงู่ปนคแั้นื บสกบรแุปะผดคนาวภษาามใพหรคเู้ทจวีไ่ า้ ดมข้ คอในิดงรเูปมแ่อื บไดบ้รแบั ผกนรภะาดพาคษวคานื มแคลิด้ว 7. นกั เ7ร.ียนนักสนเรรักุปยี เสนรง่ิ ียสทนร่ีไุปดอ้เส่ารนิ่งียทนจ่ีไรดา้ใู กนเ้ รนรยี ูป้นั นแสรบร้ใู บุปนแครผูปวนาแมภบราบพู้ทแค่ีไผดวน้าใมภนคาริดพูปคแWวบeาบbมแbคผiิดnนWgภเeราbอ่ืพงbคiกวnาgรมเคปริด่อืล่ยีงน แปล7ง.รนา่ ักงกเรายี รนเมปสื่อลรเ่ียปุขน้าสสแ่งิ วู่ทปัยไ่ีลหดงนเ้รรุ่มาียสงนการวาูใ้ยนเมรปู่ือแเขบ้าบสแูว่ ผัยนหภนาุ่มพสคาวามคิดWebbing เรอ่ื ง การเปลีย่ นแปลงรา่ งกายเมอ่ื เข้าส่วู ยั หนมุ่ สาว 291
310 292 การวดั และประเมนิ ผล สิ่งทตี่ ้องการวัด/ประเมิน วิธีการ เครื่องมอื ท่ใี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ 1. อธบิ ายผลของฮอรโ์ มนเพศ - ประเมนิ การตอบ - ใบงใาบนงทา่ีน1ท3่ี 13 นักเรียนทาถูก ทีท่ าใหเ้ กดิ การเปลี่ยนแปลง คาถามในใบงานที่ 13 - ใบกใบจิ กกริจรกมรร1ม3.113.1 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 รา่ งกาย และอารมณ์ของเพศ ใบกิจกรรมที่ 13.1 และ - ใบกใบจิ กกริจรกมรร1ม3.213.2 ขึน้ ไป ชายและเพศหญงิ ได้ 13.2 2. ระบฮุ อร์โมนเพศชาย และ ฮอรโ์ มนเพศหญิงได้ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 1. ทักษะการลงความเห็น - ประเมนิ การตอบ - ใบงใาบนงทาี่น1ท3่ี 13 นักเรยี นทาถูก ขอ้ มลู คาถามในใบงานท่ี 13 - แผนแภผนาพภาCพoncept ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 2. ทักษะการจาแนกข้อมูล - ประเมินการสรา้ ง mapCสoรnุปcผeลpชtอmงฮaอpรโ์ มน ขึ้นไป 3. ทักษะการจัดกระทาและ แผนภาพ Concept เพศตสอ่ รกปุ าผรลเปขลอย่ี งนฮแอปรลโ์ มงน สอ่ื ความหมายข้อมูล map สรุปผลของ ร่างกเาพยศต่อการ ฮอร์โมนเพศต่อการ เปลยี่ นแปลง เปล่ยี นแปลงรา่ งกาย ร่างกาย ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมิน ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 1. มวี นิ ยั ทุกรายการขึ้นไป - คุณแบลบักปษรณะเะมนิ ถือวา่ ผา่ น 2. ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน
311 293 บันทึกผลหลงั สอน ผลการสอน ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………3…11 ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… บ…นั…ท…ึก…ผ…ล…ห…ลัง…ส…อ…น……………………………………………………………………………….…………….………………………………… ผข้อลเกสานรอสแอนนะ/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………………......……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงช่อื )…….............…………………..………… ปัญหา/อุปสรรค (...................................................) ………………………………………………………………………………………ต…าแ…ห…น…ง่ …..…...…....…...…...…...…...…....…...…...…...…...…...…...…...…...…...…. ……… …………………………………………………………………………………………ว…นั ท…ี.่…...…...…..เ…ด.อื…น…..…...…...…....…...…...…...…...….พ….ศ….…...…...…...….. …… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… คขอ้วเาสมนเหอแ็นนขะอ/งแผน้บู วรทิหาางรแสกถไ้ ขานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… (ลงช่ือ)…….............…………………..………… ต(ตลาางวแแชันหห่ือทน)นี่.…ง่((...่ง....…...............................เ......ด.............อื...........น......................…...............…...............…...............…...............…...............…...............…...........................…...พ.........….....ศ........…..............….......))................ วันท.่ี ........เดอื น.........................พ.ศ............ ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….…………………………………
312 294 ใบความรูท้ ี่ 13 การเปล่ียนแปลงของรา่ งกายเม่ือเขา้ ส่วู ัยหนุม่ สาวและการดูแลรา่ งกาย และจิตใจในชว่ งท่ีมีการเปล่ียนแปลง หน่วยท่ี 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 13 เร่อื ง ระบบสืบพันธ์ุ 3 รราายยววิชชิ าาววิททิ ยยาาศศาาสสตตรร์ ์3รหรหัสวัสชิวาิชาว2ว212011021ภภาคาคเรเียรนียนทที่ 1ี่ 1ชชั้น้นัมมธั ยัธยมมศศกึ ึกษษาปาปีทีท่ 2่ี 2 การเปล่ยี นแปลงในวัยรุน่ มี 3 ทางใหญ่ๆ คือ 1. การเปล่ยี นแปลงทางรา่ งกาย 2. การเปลยี่ นแปลงทางอารมณ์ สังคม 3. การเปล่ียนแปลงทางจิตใจ หมายเหตุ ในบทเรยี นนี้จะกลา่ วถึงการเปล่ียนแปลงทางร่างกายเทา่ นนั้ การเปล่ียนแปลงทางรา่ งกาย 1. ขนาดและความสูง : ในวัยเด็กท้ังเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายจะมีความกว้างของไหล่และสะโพกใกล้เคียงกัน แต่เม่ือเข้าสู่วัยรุ่น ผู้ชาย จะมีอัตราเร็วในการเจริญเติบโตของไหล่มากท่ีสุด ทําให้วัยรุ่นผู้ชายจะมีไหล่กว้างกว่า ในขณะท่ีวัยรุ่นผู้หญิงมี อัตราการเจริญเติบโตของสะโพกมาก กว่าผู้ชาย โดยเฉพาะท่ี คอ แขน ขา มีการเจริญเติบโตมากกว่าท่ีลาตัว จะทาให้วยั รนุ่ รสู้ ึกวา่ ตวั เองมรี ปู ร่างเก้งกา้ งน่าราคาญ 2. ไขมนั และกล้ามเน้ือ: เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงมีความหนาของไขมันที่สะสมใต้ผิวหนังใกล้เคียงกัน จนกระทั่งอายุประมาณ 8 ปีจะ เร่ิมมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว วัยรุ่นชายจะมีกาลังของกล้ามเน้ือมากกว่าวัยรุ่นผู้หญิง พละกาลังของ กล้ามเนื้อจะแขง็ แรงขน้ึ หลังงจจาากกนนั้นนววยั ัยรรุ่นุ่นชชาายยจจะะมมไี ีไขขมมันันใใตต้ผ้ผิวิวหหนนังังบบาางงลลงงพพรรอ้ ้อมมๆๆกับมกี ล้ามเนอื้ เพ่ิมมากข้ึน และแข็งแรงขึ้น ซ่ึงจะทาให้วัยรุ่นชายดูผอมลงโดยเฉพาะที่ขา น่อง และแขน สาหรับวัยรุ่นหญิงถึงแม้ว่าจะมี การเพ่ิมขึ้นของกล้ามเน้ือ แต่ขณะเดียวกันจะมีการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังเพ่ิมขึ้นอีก โดยเฉพาะไขมันท่ี สะสมท่ีเต้านมและสะโพก 3. โครงสรา้ งใบหนา้ : ชว่ งน้ีกระดูกของจมูกจะโตขึ้น ทาให้ดง้ั จมูกเป็นสันขน้ึ กระดกู ขากรรไกลบนและ ขากรรไกรลา่ งเติบโตเร็วมาก ในระยะนี้ พบว่าในวยั รุ่นชายจะเจริญเติบโตเรว็ กวา่ วัยร่นุ หญิงชดั เจน เปน็ เหตใุ ห้วัยรุ่นชายเสียงแตก 4. การเปลย่ี นแปลงของระดับฮอรโ์ มน: ทั้งฮอร์โมนการเติบโต (growth hormone) และฮอร์โมนจาก ต่อมธัยรอยด์มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโต รวมทงั้ ฮอร์โมนทางเพศ นอกจากระดับฮอร์โมนจะมีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตทางร่างกาย และอวัยวะเพศ ในวัยรุ่นแล้ว ตัวของมันเองยังส่งผลถึงความรู้สึกทางอารมณ์และจิตใจ ปฏิกิริยาการเรียนรู้ ฯลฯ ในวัยรุ่นอีก
313 295 ด้วย โดยเฉพาะต่อมไขมันใต้ผิวหนัง และต่อมเหง่ือจะทาหน้าท่ีเพ่ิมมากขึ้น เป็นสาเหตุทาให้เกิดปัญหาเร่ือง \"สิว\" และ \"กลิ่นตัว\" 5. การเปลย่ี นแปลงของอวัยวะเพศ วัยรุ่นหญิงมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงระยะ 1 ปี ก่อนที่จะมีประจาเดือน โดยเฉพาะการ เจริญเติบโตของเต้านม ซ่ึงเริ่มมีการขยายในขนาด มีรูปร่างเป็นสาวเต็มตัว ดังนั้นในช้ันประถมตอนปลายหรือ มัธยมต้น จะเห็นว่าวัยรุ่นสาวจะมีรูปร่างสูงใหญ่เป็นสาวน้อยแรกรุ่น ในขณะท่ีพวกผู้ชายยังดูเป็นเด็กชายตัว เล็กๆ ทั้งๆ ท่ีเด็กผู้หญิงเคยตัวเล็กกว่าเด็กผู้ชายมาตลอด ทาให้เด็กสับสนและเป็นกังวลกับสภาพร่างกายได้ การมีรอบเดือนครั้งแรก แสดงให้เห็นว่ามดลูกและช่องคลอดได้เจริญเติบโตเต็มท่ี แต่ในระยะ 1-2 ปี แรกของ การมีประจาเดือน มักจะเป็นการมีประจาเดือนโดยไม่มีไข่ตก รอบเดือนในช่วงปีแรกจะมาไม่สม่าเสมอ หรือ ขาดหายไปได้ และเมื่อมปี ระจาเดือนแลว้ พบวา่ เดก็ ผู้หญิงยงั สงู ตอ่ ไปอีกเล็กน้อยไปได้อีกระยะหน่ึง สาหรับวัยรุ่นชาย ซ่ึงจะเริ่มมีการเจริญเติบโตของลูกอัณฑะ ในขณะที่รูปร่างภายนอกจะมีการ เจรญิ เติบโตเปล่ยี นแปลงช้ากว่าวัยรุ่นหญิง ประมาณ 2 ปี คือ ประมาณอายุ 12-14 ปี ในขณะท่ีเพื่อนผู้หญิงท่ี เคยตวั เลก็ กว่า กลบั เจรญิ เตบิ โตแซงหนา้ ทาใหว้ ัยรุน่ ชายมคี วามวติ กกังวลเกยี่ วกบั รปู รา่ ง ความสูง ได้มาก เมื่อ เติบโตเข้าสู่วัยรุ่นตอนกลาง ลูกอัณฑะเจริญเติบโตและทางานได้เต็มท่ีจึงสามารถพบภาวะฝันเปียกได้ บางคน เข้าใจผิดคิดว่าฝันเปียกเกิดจากการสาเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง หรือเป็นความผิดอย่างแรง หรือทําให้สภาพจิต ผิดปกติ หรือบางรายวติ กกังวลไปกบั จินตนาการหรือความฝัน ผลของฮอร์โมนเพศที่ควบคุมการเปลยี่ นแปลงเมื่อเข้าสู่วัยหนมุ่ สาว การเปล่ยี นแปลงดา้ นร่างกายและสภาวะทางอารมณข์ องเพศชาย การเปล่ยี นแปลงดา้ นร่างกายและสภาวะทางอารมณน์ ัน้ เกิดขึน้ ในทุก ๆ ช่วงวยั แตกตา่ งกันไป แตส่ าหรบั เพศ ชายน้นั ในชว่ งวยั รนุ่ จะมีการเปลย่ี นแปลงที่มากทสี่ ุด การเปลีย่ นแปลงด้านร่างกายทางเพศของวัยรนุ่ ชายเกิดจากอิทธิพลโดยตรงของฮอรโ์ มนเพศ (Testosterone) ซึง่ ผลิตโดยอณั ฑะ และการสร้างฮอรโ์ มนเพศชายนีถ้ ูกควบคุมโดยฮอร์โมน ICSH (Interstitial cell stimulating hormone) และ FSH (Follicle Stimulating hormone) ซงึ่ เปน็ ฮอรโ์ มนท่ี ผลติ โดยต่อมมพพิททิ ูออู ติ ติ าารรี ี(P(Pitituuitiataryry) )โดโดยยกกลลไกไกากราผรลผติลจติ าจกากกลกบี ลหบี นหา้ นขา้ อขงอตง่อตม่อพมทิ พูอิทิตูอารติ ีผาลรีผติ ลฮอติ รฮ์โอมรนโ์ ทม่ีกนรทะ่กี ตรุ้นะกตานุ้ ร กเปาลรี่ยเปนลแี่ยปนลแงปดลา้ นงดรา่้ งนกรา่ ยงกแาลยะแจิตลใะจจทิตาใจงเทพาศงชเพายศดชังานยี้ดังนี้ ฮอร์โมนของเพศชายนี้มีอิทธิพลอย่างย่ิงต่อความเจริญเตบิ โตและพฒั นาการทางเพศรวมท้งั พฤติกรรม ทางเพศตา่ งๆ ทผ่ี ูช้ ายแสดงออกมาอีกด้วย
314 314 296 เม่ือเรมิ่ ย่างเขา้ สวู่ ัยรนุ่ หรืออายุประมาณ 14 ปี มกี ารผลติ ฮอรโมนเทสโตสเตอโรนมากขึน้ ซง่ึ เป็น สาเหตใุ หเ้ มกือ่ดิ เกราม่ิ รยเา่ปงลเขย่ี า้นสแู่วปัยลรงุน่ อหวรัยือวอะาทย่ีแปุ สรดะงมคาวณาม1เป4น็ ปเพี มศีกชาารยผลดิตังตฮอ่ ไรปโมนน้ี เทสโตสเตอโรนมากขน้ึ ซ่ึงเป็น สาเหตุใหเ้ ก1ดิ. กมารกี เาปรลส่ียรน้างแตปัวลองสอจุวิัยแวละะทมี่แีกสาดรงหคลวั่งานมา้ เอปส็นจุ เพไิ ดศ้ ชาย ดงั ตอ่ ไปนี้ 21. มกี ารเสปรลา้ ่ียงตนัวแอปสลจุ งิขแอลงะอมวกี ยั าวระหเพลงั่ศนเ้าชอ่นสจุอิไงดค้ ชาต ต่อมลูกหมากถุงเก็บน้าอสจุ ิ รวมทง้ั อัณฑะเอง 2. กม็จกี ะาเรจเปรญิลย่ีมนีขแนปาดลโงตขขอนึ้งอวยั วะเพศ เชน่ องคชาต ต่อมลูกหมากถุงเกบ็ น้าอสุจิ รวมทัง้ อัณฑะเอง 3. มกกี็จาะรเจเปริญลย่ี มนีขแนปาลดงโตทขาใ้ึนหเ้ กิดลักษณะทางเพศอันดับรอง สาหรบั เพศชาย คือ เสียงแตก เสยี งห้าว 3. มีหกานรวเดปลเค่ียรนาแปเรลม่ิ งขทึ้นาใมหีข้เนกิดขลน้ึ กัตษามณระักทแารง้แเลพะศบอรนั ิเดวณับรเหองนือสอางหครชับาเตพิศไชหาลยจ่ ะคกือวา้เสงขยี งึน้ แแตลกะมเสี ยี งหา้ ว กมลีห้านมวเดนือ้ เคหรนาาเแร่ิมลขะึ้นแขมง็ ีขแนรงขขึน้ ึ้นตาซมง่ึ รเปัก็นแลร้แกั ลษะณบะรแิเวสณดงเหคนวาือมอเงปคน็ ชเาพตศิ ชไหาลยจ่ ะกว้างขน้ึ และมี 4. มกีกลา้ รมเปนล้ือ่ียหนนแาปแลลงะทแาขงด็งแา้ รนงจขิต้ึนใจซมึง่ เคี ปวน็ าลมักรษสู้ กึณตะ้อแงสกดางรคทวาางมเพเปศ็นสเพนศใจชเาพยศตรงข้าม แสดง 4. พมกีฤาตริกเรปรลมีย่ ในแเชปงิ ลเกงท้ียวาพงดา้ารนาสจีติ ใจ มีความร้สู กึ ต้องการทางเพศ สนใจเพศตรงขา้ ม แสดง การเปลยี่ นแปลพงฤดตา้ ิกนรร่ามงใกนาเชยิงแเลกะี้ยสวภพาวราะสที างอารมณข์ องเพศหญงิ การเปลยี่ เพนศแหปญลงิ ดเ้าปนน็ รเพา่ งศกทาม่ี ยีกแาลระเปสภลี่ยาวนะแทปาลงงอทาี่นร่ามสณน์ขใจอใงนเหพลศาหยญช่วิงงวยั โดยเรม่ิ ตงั้ แตเ่ มอื่ เข้าสวู่ ยั สาว วัย สบื พันธ์ุ จเพนศกหระญทิงง่ั เถปงึ น็วยัเพหศมทดม่ีปีกราะรจเาปเลดี่ยอื นแปลงที่นา่ สนใจในหลายช่วงวัย โดยเรมิ่ ตง้ั แต่เม่ือเข้าสวู่ ัยสาว วัย ลสกับื ษพณันธะุ์ขจอนงกสรตะรทที ่งั ่เี ถขงึา้ วสยั ูว่ หัยมสดาวประจาเดอื น ลักษณะของสตรที ่เี ข้าสู่วยั สาว เร่ิมมีประจาเดือนแรก ๆ อาจมาไม่ตรง อาจมีอาการปวด หรือประจาเดือนอาจขาดหายไปหลาย ๆ เดร่ิมือมนีปหรระือจจาเาดนือวนนแขรอกงปๆรอะจาจามเดาือไมน่ตมรีมงากอนาจ้อมยีอไมาก่แานร่นปอวนด ซหึ่งรแือสปดรงะถจึงากเาดรือเนร่ิมอทาจาขงานดขหอายงสไป่ิงใหหลมา่ขยอๆง รเดา่ ืงอกนายหรอือาจมานีขวอ้ นบขกอพงรป่อรงเะกจิดาขเดนึ้ ือไดน้ มแีมตเ่ามก่ือนร้องั ยไขไมท่ ่แางนา่นนอไปนแซลึ่ง้วแ1ส-ด2งปถึงี ปกราะรจเราิ่มเดทอื านงาคนวรขจอะงมสาิ่งตใหามป่ขกอตงิ (รก่าางรกมาีปยรอะาจจามเดีขือ้ นบเกปพ็นรเ่อคงรเื่อกงิดหขม้ึนาไยดแ้ แสตดเ่งมถื่อึงรพังัฒไขนท่ าากงารนทไปางแรล่า้วงก1า-ย2ขปอี งปเดระ็กจหาญเดิงือว่านไคดว้เรขจ้าะสมู่วัยาตสามวปแลก้วติ แ(กลาะรเมปีปน็ รสะญั จลากัเดษือณนบ์เปอ็นกเวค่ารห่ือญงหงิ สมาาวยผแ้นู สนั้ ดมงคีถวึงาพมัฒพนราอ้ กมาทร่ีจทะาใงหรก้่าางกเนาิดยทขาอรงกเดห็กรหอื ญมีคิงรวร่าภไดไ์ ้เดข้)้าสู่วัยสาวแล้ว มแไีลขะมเปันน็เกสิดญั ขล้ึนกั บษรณเิ วบ์ณอหกนวา้่ อหกญหิงสัวาเหวผนูน้า่ นั้ ขมาคีอวอ่ านมพคอืรอ้ทมาทใหจ่ี ม้ ะรีใหูป้กรา่ งเนเปิดน็ ทสาตรรกีโหดรยอื สมมีคบรูรรณภ์ใไนด)้รายทีข่ าด มฮไีอขรมมโ์ มนั นั นเเกกิดาขขร้ึนึ้นเบปรลเิี่ยววนณณแหหปนนล้า้างออเจกกรหิญหัววัเตเเหหบิ นนโา่ตา่ ทขขกุาาออยอ่ อ่ า่นนงดคคังืออื กททล�ำ า่ ใใวหหม้ม้มารี ีรแปู ูปลรรว้ ่า่ากงงจ็เเปปะ็นเ็นกสสดิ ตตขรร้นึ โี โี ดนดยอ้ยสสยมมซบบึง่ รู ูรอณณาใ์จ์ในนจระราตายย้อททงขี่แขี่ ากาฮด้ไอขร์โมน กเฮสาอียรรแเ์โปตมลเ่นนี่ย่ินกาแๆรปเลปงลเ่ยีจนรญิแปเตลบิ งโเจตรทิญุกเอตยิบา่ โงตดทงั ุกอล่ายวา่ มงดาแังกลลว้ า่กว็จมะาเกแิดลขว้ ก้ึน็จนะอ้ เยกิดซขึง่ น้ึอนาจ้อจยะซตึ่งอ้ องาแจกจไ้ ขะเตส้อียงแแตก่เไ้นขิน่ ๆ มเสขี ยี นแทต่ีหเ่ นัวิ่นเหนๆ่าและทรี่ กั แร้ จมติขี ในจทเปีห่ ลัว่ียเหนนแา่ปแลลงะไปที่รรกั ู้จแกั รอ้ าย สนใจตอ่ เพศตรงขา้ ม มจี รติ การพูดจา ผดิ ไปจากเดิม แหล่งอา้ งจอติ ิงใจเปลย่ี นแปลงไป ร้จู กั อาย สนใจตอ่ เพศตรงข้าม มีจรติ การพดู จา ผิดไปจากเดิม แหล1ง่ .อ้าhงอttงิp://en.wikipedia.org/wiki/Sex_steroid บทความโดย ศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ุณ แพทยห์ ญงิ 1. พhtวtงpท:/อ/งenไก.wรพikิบipลู eยd์ วiaว.o.รrังgส/ีรwกั ikษiา/Sแeลxะ_เsวtชeศroาiสdตบร์นทิวคเวคาลมยี โรด์ยกาศราเสตตรรยี ามจตาวั รกย่อ์เกนยีพรบตแิคพุณทยแ์พทย์หญงิ 2. คพ่มูวืองทสอ่ื งกาไรกสรอพนบิ วลู ชิ ยา์ ชววี ว.ริทงั ยสาีรกั โษดยาคแวลาะมเรวว่ชมศมาอืสรตะรหน์ วิ ่าเคงสลาียนร์ักกงาารนเคตรณยี ะมกตรวั รกม่อกนาพรกบาแรพศทึกยษ์าขัน้ พนื้ ฐาน 2. แคลู่มะอื คสณื่อกะาวรทิ สยอานศวาชิสาตชรวี์ จวฬุทิ ายลางโกดรยณค์วิทามยราว่ลมัยมือระหว่างสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน 3. hแtลtะpค:/ณ/aะrวtทิs.ยkmาศuาtสtต.aรc์ .จthฬุ /าsลsงcก2ร1ณ0/์วGิทrยoาuลpัย%20Project/G244/G07/pages/know_change.html 43. “hพttัฒp:น//าaกrาtรs.แkลmะuกtาtร.aปcร.บัthต/ัวsใsนcว2ยั1ร0ุน่/G”r,oสuริ pุย%เด2ว0ทPรroปี jาeตcี,t/สGถ2า4บ4นั /แGห07่งช/pาตagเิ พeือ่s/กkาnรoพwัฒ_นcาhเaดn็กgแeล.hะtml 4. ค“รพอัฒบนคารกวั ารและการปรับตัวในวยั รุ่น”, สิรุยเดว ทรีปาตี, สถาบนั แหง่ ชาตเิ พอ่ื การพฒั นาเดก็ และ ครอบครวั
315 297 ใบกิจกรรมที่ 13.1 สารวจเพื่อน สารวจตน (กิจกรรมนาเขา้ สู่บทเรียน) คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนประเมินการเปลี่ยนแปลงทเ่ี กิดขึ้นกบั ตนเอง และสอบถามเพือ่ น อีก 4 คน โดยสอบถาม เพือ่ นผชู้ าย 2 คน และผู้หญิง 2 คน เกีย่ วกับการเปล่ียนแปลงในรายการแบบประเมนิ โดยทาเคร่ืองหมาย √ หากมีการเปล่ยี นแปลงตามรายการประเมิน จากนัน้ สรปุ ข้อมูลเปน็ สนเทศ ท่ี รายการ ผู้ตอบแบบสอบถาม ตนเอง คนท่ี 1 คนที่ 2 คนที่ 3 คนที่ 4 เพศของผู้ตอบแบบสอบถาม (ระบุ ชาย/หญิงในชอ่ ง) 1. มีอารมณ์แปรปรวน ใจร้อน ไมช่ อบรอนาน 2. มีสะโพกขยาย หนา้ อกขายใหญ่ 3. มสี ีผิวคล้าขึ้น มตี กกระเปน็ จุด ๆ 4. เสยี งแตก เสียงห้าว ท้มุ ใหญ่ 5. มขี นข้ึนเหนืออวยั วะเพศ 6. มีขนขน้ึ ที่รักแร้ จดุ ซ่อนเรน้ ต่าง ๆ และหนา้ อก 7. มสี วิ ขน้ึ บนในหนา้ และจุดตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย 8. มผี มร่วงเป็นหย่อม ๆ 9. มคี วามร้สู กึ ทางเพศ มีอารมณ์ในบางครัง้ 10. สนใจเพศตรงข้าม 11. มีไหล่ขยาย ไหล่กว้างขึ้น 12. มกี ลิ่นตัวรุนแรง 13. มีกระดูกขยายขนาด ยาวขึ้นมาก 14. มีความสนใจเพศเดยี วกนั 15. ชอบความสะอาดมากข้นึ ตอ้ งการความเป็นระเบียบ สรปุ เปน็ สารสนเทศ เพศชายส่วนใหญจ่ ะ --- ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ เพศหญงิ ส่วนใหญจ่ ะ --- ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. จากการสอบถาม มลี กั ษณะใดบา้ งที่ไมพ่ บในการเปล่ยี นแปลงของเพื่อน ๆ ............................................................................................................................. .................................................
316 298 ใบกจิ กรรมที่ 13.2 Brain storming เรือ่ ง ผลของฮอร์โมนเพศที่ควบคุมการเปล่ียนแปลงเมื่อเข้าสวู่ ยั หนุ่มสาว คาชีแ้ จง 1. ครเู ตรียมอปุ กรณ์ให้นกั เรยี น โดยการปริน้ ท์ใบกจิ กรรมที่ 22.2 หน้า 1 ใส่กระดาษโปสเตอร์ แล้วตัด เปน็ ช้ิน แจกนักเรียนกลุม่ ละ 1 ชุด และใบกิจกรรมหนา้ 2 และ 3 กลุ่มละ 1 ชดุ 2. ชีแ้ จงนกั เรยี น ให้นกั เรียนรว่ มกันระดมความคิดเหน็ โดยการวเิ คราะห์ข้อความในกระดาษท่ีครแู จกวา่ เปน็ การเปลย่ี นแปลงของเพศชายหรือเพศหญิง โดยแจ้งเพิ่มเติมวา่ ข้อความมีทัง้ หมด 10 ขอ้ ความ มี การเปล่ียนแปลงของเพศหญงิ และชายอย่างละ 5 ข้อความ 3. เมื่อพิจารณาไดแ้ ลว้ ข้อความที่เป็นการเปลีย่ นแปลงของเพศชาย ให้นาไปปะไวท้ ี่ใบกิจกรรม 22.2 หนา้ 2 ส่วนข้อความทเี่ ป็นการเปล่ยี นแปลงของเพศหญิง ใหน้ าไปปะไว้ที่ใบกิจกรรม 22.2 หน้า 3 4. ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ คิดลักษณะหรอื การเปลีย่ นแปลงที่เกิดกับเพศชายและเพศหญิงเพ่ิมเตมิ เขียนใน ใบกจิ กรรมที่ 22.2 หน้า 2 และ 3 ต้ังแตข่ ้อท่ี 6-10
317 299 ใบกิจกรรมที่ 13. 1 หน้า 1 เพศชาย มีการสร้างตวั อสุจิ และมกี ารหล่งั น้าอสจุ ิได้ มีการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะเพศ เชน่ องคชาต ตอ่ มลูกหมากถงุ เก็บน้าอสจุ ิ รวมทงั้ อัณฑะเองก็ จะเจริญมขี นาดโตขน้ึ อวัยวะเพศมีขนาดขยายใหญ่ข้นึ เสยี งแตก เสยี งหา้ ว มหี นวด เครา เรม่ิ ขึ้น มีขนข้ึนตามรักแร้และบรเิ วณเหนืออวัยวะเพศ ไหลจ่ ะ กว้างข้ึนและมีกล้ามเนือ้ หนา และแข็งแรงข้นึ มกี ารเปล่ยี นแปลงทางดา้ นจิตใจ มคี วามร้สู ึกต้องการทางเพศ สนใจเพศตรงขา้ ม แสดงพฤตกิ รรม ในเชิงเกี้ยวพาราสี เพศหญิง เริม่ มปี ระจาเดอื น แรก ๆ ของการมปี ระจาเดือน อาจมีอาการปวด หรอื มาไมต่ รงเวลา มีไขมันเกิดขน้ึ บรเิ วณหนา้ อก หวั เหน่า ขาออ่ น มขี นท่หี ัวเหนา่ และท่รี ักแร้ จติ ใจเปลย่ี นแปลงไป รูจ้ กั อาย สนใจต่อเพศตรงข้าม มีจริต การพูดจา ผดิ ไปจากเดิม สะโพกขยาย มีหน้าอกใหญ่ข้ึน
318 300 ใบกจิ กรรม 13.1 หนา้ 2 การเปลี่ยนแปลงเม่ือเข้าสวู่ ัยหนุม่ สาว ของเพศชาย 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8.
319 301 ใบกจิ กรรม 13.1 หนา้ 3 การเปลี่ยนแปลงเม่ือเข้าสวู่ ัยหนมุ่ สาว ของเพศหญิง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8.
320 302 ใบงานที่ 13 จุดเปลีย่ น....ของฉัน ในวนั ที่สบั สน คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนอา่ นบทสนทนาของพ่อลกู คหู่ นึ่ง แล้ววิเคราะหต์ ามประเด็นคาถาม เชา้ อกี วนั ทกี่ อ้ งไดค้ ุยกับพอ่ กอ่ นไปโรงเรียน และยงั คงสงสยั เก่ยี วกับการเปลี่ยนแปลงของตวั เอง มนั เปน็ เรอ่ื งธรรมชาติ เม่ือผู้ชายเรม่ิ เขา้ สู่วัยหนมุ่ จะมีความเปลีย่ นแปลงหลายอยา่ งเกดิ ขึ้นมากมาย “อะไรเปลย่ี นครบั พ่อ” ก้องถามดว้ ยความอยากรู้ “อ้าว! ก้องไม่สงั เกตเหรอว่า เสยี งของก้องดูแตก ๆ” “ฮัลโลๆๆๆๆๆ เทสๆๆๆ หน่งึ สอง สาม” ก้องลองเปลง่ เสยี ง “แล้วเม่ือสองสามเดือนก่อน พอ่ จาได้วา่ ก้องบ่นรู้สึกเจบ็ ท่ตี รงนมสองข้าง” กอ้ งน่ิงทบทวน “ใชค่ รับพ่อ ท่ีพ่อบอกวา่ นมแตกพาน ใช่ไหมครับ” “ใชล่ ูก การที่ฮอร์โมนเพศชายในร่างกายเรมิ่ ทาหนา้ ที่กระตนุ้ ใหอ้ วัยวะต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงเจา้ ฮอร์โมนเพศนจี้ ะ กระตนุ้ ใหโ้ ครงสร้างรา่ งกายภายนอกมกี ารเปลี่ยนแปลงหลายอย่างนอกจากเสียง การเจ็บของเต้านม “พ่อครบั ขนขนึ้ เต็มตัวไปหมดเลยทั้งรกั แร้ หน้าแข้ง และที่อวัยวะเพศ ผมตอ้ งทายังไงบา้ งครับ ผมอาย” ก้องเลา่ ให้พอ่ ฟังดว้ ยสีหน้ากังวลใจ “ไม่ต้องตกใจนะก้อง บางคนอาจจะมีขนท่หี น้าอกดว้ ยนะ เกดิ จากการเปล่ียนแปลงฮอร์โมนในร่างกายของผู้ชาย” พอ่ พยายามอธบิ ายให้ก้องสบายใจขึ้น “พ่อครบั ท่คี อผมเหมอื นจะบวม มอี ะไรปอ่ งออกมาไม่รู้ครับ แต่ผมไมเ่ จ็บเลยครับ” กอ้ งยงั คงถามดว้ ยความสงสัย “ไหพ่อขอดูหน่อย...ออ๋ อออออ....นี่เรยี กว่าลกู กระเดอื กท่ีคอ เดิมลกู กระเดือกก็อย่ทู ี่อด แตย่ งั ไม่แสดงออกมาครับ” พอ่ เลา่ ดว้ ยใบหนา้ เปื้อนย้ิม “แลว้ ทาไม แม่กับน้องแก้วไม่มเี หมอื นผมหละครับ” กอ้ งยังไมล่ ะความสงสัย “กเ็ พราะวา่ แมแ่ ละน้องแก้วเป็นผู้หญิง มฮี อร์โมนเพสต่างจากผชู้ าย” พ่อพยายามให้เหตุผลกบั กอ้ ง พ่อเล่าต่อว่า “นอกจากนแี้ ลว้ ร่างกายของกอ้ งจะเริม่ เป็นผูช้ ายมากขึ้นโดยจะมีกล้ามเนื้อโตขึ้น เชน่ กลา้ มเนอ้ื ตามแขน ขา หนา้ อก ไหล่จะกวา้ งขึ้น ถ้ากนิ อาหารท่มี ีคุณค่าครบถว้ นและออกกาลังกายสม่าเสมอ ก็จะสงู หรือมกี ล้ามเนื้อเปน็ ก้อนแขง็ มากขึน้ ” “แต่งตัวเสรจ็ หรือยงั ก้อง เด๋ียวไปโรงเรยี นสาย” “เสร็จแล้วครบั แม”่ เสยี งกอ้ งตะโกนบอกแม่ แต่ก้องยงั ยนื บิดอยูห่ นา้ กระจก ดูเสอ้ื ผา้ และทรงผมของตัวเองกอ่ นทจี่ ะว่ิง ลงไปช้นั ล่าง ยืนทาท่าหล่อต่อหนา้ แม่ ก่อนท่จี ะไปโรงเรียนเหมอื นทุกวนั ดัดแปลงจาก: https://www.lovecarestation.com(เขา้ ถึงเม่ือ15/01/2562)
321 303 คาถามสะท้อนคิดวเิ คราะห์ 1. จากบทสนทนาของก้องและพ่อ นกั เรียนคดิ วา่ กอ้ งมอี ายุอย่ใู นชว่ งวัยใด เพราะเหตใุ ด อธิบายโดย อ้างอิงข้อมูล ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................ 2. หากนักเรยี นเปน็ เพือ่ นก้อง นักเรียนจะแนะนาให้ก้องดแู ลตนเองในช่วงทรี่ ่างกายมีการเปล่ียนแปลง อยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................ .............. ..................................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ................................................
322 แผแนผกนากราจรดัจกัดากราเรรเรียียนนรรู้ท้ทู ี่ ่ี1144 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 ร่างกายมนุษย์ เรอ่ื ง กกาารรตตกกไไขข่ ก่ กาารมรมีปปีระรจะ�ำจเาดเอดนอื น เวลา 1 ชว่ั โมง รายวราิชยาววชิ ทิ ายวาิทศยาาสศตารส์พตรนื้ ์ ฐาน 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้ 1. หอ้ งเรยี นวิทยำศำสตร์โรงเรยี น ขอบเขตเนื้อหา กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ 33 2. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ประจำเดือน หรือ รอบเดอื น หรือ ข้ันนา 3. แหลง่ เรียนรอู้ อนไลน์ สอ่ื ระดู คอื เลือดและเนื้อเย่ือต่ำง ๆ ทหี่ ลุด 1. ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกันอภิปรำย ดังนี้ 1. ใบควำมรทู้ ่ี 14.1 เรื่อง บันทึก ของแม่ ลอกออกจำกเย่ือบโุ พรงมดลกู หรอื เยื่อ - สัญญำณเด่นชัดทสี่ ุดท่แี สดงวำ่ ผหู้ ญิงสำมำรถต้ังครรภไ์ ดค้ ืออะไร 2. ใบควำมรู้ที่ 14.2 เรือ่ ง วงจรกำร บมุ ดลูก โดยเปน็ ผลจำกกำร (การมีประจาเดือน) มีประจำเดือน เปล่ียนแปลงของระดบั ฮอร์โมนเพศหญิง - รงั ไข่ของเพศหญิงมีหน้ำท่ีอย่ำงไร 3. แผนภำพวงล้อกำรเกดิ โดยสมั พนั ธก์ ับกำรตกไข่ ซึ่งกำร (1. สรา้ งไข่อ่อน ประจำเดอื น หลดุ ลอกของเย่ือบุโพรงมดลูกจะเกดิ 2. ผลิตฮอร์โมนเพศเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน) 4. บตั รภำพตัวเลข 1-28 ประมำณเดือนละคร้งั ภำวะท่ีเกดิ ข้นึ น้ี - ฮอรโ์ มนชนิดใดทเ่ี ปน็ ตวั ควบคุมกำรตกไข่ของเพศหญงิ จงึ ถกู เรยี กวำ่ ประจำเดือน (ฮอรโ์ มนเอสโตรเจน, ฮอรโ์ มนโปรเจสเตอโรน, ฮอรโ์ มนแอลเอช (LH) และฮอรโ์ มน เอฟเอสเอช (FSH) จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2. ครูอธบิ ำยเพิม่ เตมิ ให้นักเรียนฟังว่ำ ผหู้ ญงิ มีประจำเดอื นคร้งั แรกในช่วงอำยปุ ระมำณ 1) อธิบำยกำรตกไขแ่ ละกำรมี 9 –16 ปี ซึง่ ในแต่ละคนอำจจะมปี ระจำเดือนครง้ั แรกช้ำหรอื เรว็ ตำ่ งกัน ขนึ้ อยู่กับควำม ประจำเดอื นได้ สมบูรณ์ของรำ่ งกำยในแตล่ ะคน แต่ถ้ำอยู่ในช่วงดังกล่ำวก็ถือว่ำปกติ 2) วเิ ครำะห์กำรตกไขแ่ ละกำรมี ข้นั สอน ประจำเดอื นในหนง่ึ รอบเดอื นได้ 1. นักเรยี นแบ่งกลุม่ ๆ ละ 6 คน ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ประกอบดว้ ยนักเรยี นชำยและนกั เรียนหญงิ 3) ตระหนกั ถงึ กำรเปลยี่ นแปลงของ 2. นักเรยี นศกึ ษำสถำนกำรณ์ “บนั ทึกของแม่” จำกใบควำมรู้ท่ี 14.1 เรื่องบนั ทกึ ของแม่ ร่ำงกำย และกำรดูแลรักษำรำ่ งกำย 3. นกั เรยี นชว่ ยกันตอบคำถำมจำก เรอ่ื ง บันทึกของแม่ ดังน้ี 304
แผแนผกนากราจรดัจัดกการารเรเรยี ยี นนรรทู้ ู้ที่ ี่1144 323 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ร่างกายมนุษย์ เรื่อองงกกาารรตตกกไขไข่ ก่ การามรปีมรปี ะรจะ�ำ จเดาเอดนือน เวลา 1 ชวั่ โมง รายรวาิชยาววชิ ทิ ายวาิทศยาสศตาสรตพ์ รน้ื ์ ฐาน 3 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในช่วงทม่ี ปี ระจำเดือน - กำรเปลยี่ นแปลงของร่ำงกำยในข้อใดท่บี ง่ บอกวำ่ เป็นสำวเต็มตวั แลว้ ดา้ นคุณลกั ษณะ (การมปี ระจาเดือน, การมีหนา้ อกใหญข่ ึ้น, การมีสวิ ,เอวคอด) 1. มวี ินัย - เพรำะเหตุใดคุณแม่จงึ บอกวำ่ ลกู สำวยงั ไม่พรอ้ มทจ่ี ะมลี ูก ทั้ง ๆ ทีม่ ปี ระจำเดือนแลว้ 2. ใฝ่เรียนรู้ (เพราะถึงแมร้ ่างกายของลกู จะพร้อมสาหรับการมลี ูก แต่โดยสภาพการณ์ตอนน้ีลกู ยังอยู่ 3. มงุ่ ม่นั ในกำรทำงำน ในวยั เรยี น ดงั น้นั จงึ ถอื วา่ อยใู่ นวัยที่ยงั ไม่พร้อมจะมีลูก) - เพรำะเหตุใดคุณแมจ่ ึงจำเปน็ ทจี่ ะต้องสอนกำรวธิ ีกำรใช้ผ้ำอนำมยั กับลูกสำว (เพ่อื สขุ อนามยั ที่ดี เพราะลูกสาวเพิ่งมีประจาเดือนเป็นครั้งแรก) - เมือ่ นักเรยี นมีประจำเดอื น ควรปฏบิ ัติตวั อย่ำงไร (การใชผ้ ้าอนามัยให้ถูกวิธ,ี การรักษาความสะอาดของร่างกายและอวัยวะเพศ, หลีกเลี่ยง การมเี พศสมั พันธเ์ พ่ือป้องกันปญั หาการท้องในวัยเรียน, การดูแลสุขภาพรา่ งกายให้แขง็ แรง เชน่ การดมื่ นม,การออกกาลงั กาย) 4. นักเรียนใบควำมรู้ที่ 14.2 เร่ืองวงจรกำรมีประจำเดือน 5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มทำกจิ กรรม ระยะกำรเกดิ ประจำเดือน โดยมีวิธกี ำร ดังน้ี 5.1 ครเู ตรยี มอปุ กรณ์ไวใ้ ห้นกั เรียน ได้แก่ แผนภำพวงล้อกำรเกิดประจำเดอื น และบัตร ภำพตัวเลข 1-28 5.2 ครตู ดิ แผนภำพ วงล้อกำรเกิดประจำเดือน ไวบ้ นกระดำน 5.3 นกั เรยี นแต่ละคนออกมำหยบิ บัตรภำพตวั เลข อย่ำงนอ้ ยคนละ 1 แผน่ 5.4 ครูขออำสำสมคั รนกั เรียน 1 คน นำบัตรภำพตัวเลข มำตดิ ลงบน แผนภำพ วงล้อกำร 305
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 14 324 เรแ่อืผแงนผกนากราตจรจดักัดไกขกา่ารกรเราเรียรียมนนีปรรูท้รู้ทะ่ี 1จ4าเดือน 324 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 ร่างกายมนุษย์ เรรือ่ร่ืองางยกกวาาิชรรตาตกวกไทิ ขไยข่ กา่ ศากรามสรีปมตรีประพ์รจะน้ืำ�จเฐดาาอเนดนือ3น กหลนุ่มว่ สยากราะรกเราียรนเรรยี ทู้ นี่ ร2้วู ริทา่ ยงากศาายสมตนรุษ์แยล์ะเทคโนโลยี เวลา 1 ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโเกนิดโลปยรีะจำเดอื น ให้ตรงกบั วันท่ีในรวางลยร้อวาิชยพาวรวชิ้อิทามยวททิาง้ั ศยใาหสศ้บาตอสรกต์พดรนื้ว์ ยฐวาำ่นต3ัวเลขทน่ี กั เรยี นได้ เปน็ วันที่ที่ ชน้ั มัธเวยลมาศึก1ษชาวั่ปโีทมี่ง2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 อเกยิดใู่ นปชระว่ จงไำหเดนือขนองใกหำต้ รรเงกกิดบั ปวรันะทจำ่ีในเดวืองนลอ้ แพละรช้อ่วมงทนัง้ น้ั ใหม้บกี ำอรกเดปว้ ลยย่ี วน่ำแตปัวลเลงขอทย่ีนำงกั ไเรรยี จนำกไดน้ ั้นเปใหน็ ้วันที่ท่ี นอยกั ู่ใเรนียชนว่ เงปไหน็ นผข้เู ลอืองกคำนรเทกจ่ีดิ ะปนรำะบจัตำเรดภอื ำนพตแัวลเะลชขว่ มงำนตน้ั ิดมวกีงลำร้อเเปปล็นี่ยลนำแดปบั ลตงอ่ อไยปำ่ ซงไ่ึงรทจำอำกยน่ำงนั้ นใ้ีไหป้ เนรัก่ือเยรยี ๆนจเปน็นคผรเู้บลือ2ก8ควนันทีจ่ ะนำบัตรภำพตัวเลขมำติดวงล้อเป็นลำดับตอ่ ไป ซึ่งทำอยำ่ งน้ีไป เ(รห่ือมยำๆยเลจขนค1รบ– 528ชว่วนั งกำรตกไข่ เมอื่ มีกำรตกไข่ ผนังมดลูกจะหนำข้นึ ห(หมมำำยยเลเลขข61––150 หชล่วงั กจำรกตไขกต่ไขก่แเมลื่อว้ ม5กี วำันรตผกนไขงั ่มผดนลังกู มจดะลเูรกม่ิจหะหนนำขำ้นึขนึ้ หมำยเลข 161–- 180 ชหว่ลงงั มจปีำกระไขจต่ำเกดแือลนว้ ผ5นวงั นัมดผลนูกงั สมลดำลยูกตจวั ะเรปิม่ ็นหเลนือำดขท้ึน่ีไหลออกมำทำง ชหอ่ มงคำยลเอลดข 11- 18 ช่วงมีประจำเดือน ผนังมดลูกสลำยตัว เปน็ เลือดที่ไหลออกมำทำงช่องคลอด ชห่อมงำคยลเอลดข 19 – 28 เป็นช่วงทปี่ ระจำเดือนหมดแล้ว ผนังมดลกู จะบำงลง) 6ห.มนำักยเรลียขน1แ9ต่ล–ะ2ก8ลุ่มเปร็นว่ มชกว่ งนั ทอ่ปี ภริปะรจำำยเสดรือปุนจหำมกดเกแมลว้ งผจนรกังมำรดเลกกู ิดจปะรบะำจงำลเดง)ือน โดยตอบคำถำม ต6่อ.ไนปกันเี้ รียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อภิปรำยสรปุ จำกเกมวงจรกำรเกดิ ประจำเดือน โดยตอบคำถำม ตอ่ ไป6.น1้ี ฮอรโ์ มนชนดิ ใดกระตุ้นใหไ้ ขต่ ก 6.1(ฮอร์โมนเชอนฟิดเอใดสกเฮรชะต(ุ้นFSใหH้ไ)ขแต่ ลกะ ฮอรโ์ มนแอลเฮช (LH) 6.2(ฮกอำรทโ์ ม่ีผนนเงัอมฟดเลอูกสหเฮนชำข(F้นึ SHเป)็นแผลละมฮำอจรำ์โกมกนำแรอทลำเงฮำชนข(LอHงฮ) อรโ์ มนใด 6.2(ฮกอำรร์โทมนผี่ นอีสงั มโตดรลเูกจหนน) ำขน้ึ เป็นผลมำจำกกำรทำงำนของฮอรโ์ มนใด 6.3(ฮอร์โมนอชีสนโดิ ตใรดเทจี่ถนูก) ปลอ่ ยออกมำเพ่ือชว่ ยหลอ่ เลี้ยงผนงั มดลกู 6.3(ฮฮออรร์โม์โมนนโพชนรเิดจใสดเทถ่ีอูกโรปนล)อ่ ยออกมำเพื่อช่วยหลอ่ เลี้ยงผนงั มดลูก (ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน) 306
แแผผนนกกาารรจจัดดั การเรียนรรทู้ ู้ที่ ี่1144 325 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 รา่ งกายมนุษย์ เรเอื่รื่องงกากราตรกตไกขไ่ ขกา่ กรมารปี มรปีะจรำ�ะเจดาอเนดอื น เวลา 1 ชั่วโมง รายรวายิชวาิชวาทิ วยทิ ายศาาศสาตสรตพ์ ร์้นื ฐาน 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี .46ถ.4ำ้ ไถข้า่ไไมข่ไ่ไดมร้ไ่ บัด้รกับำกราผรสผมสจมำจกาสกเสปเปิร์มริ ์มจจะะเกเกดิ ิดกกำารรเเปปลลย่ี นแปลงอยย่า่ำงงไไรร (ผนังในมดลูกจะหยุดการหล่อเลีย้ งและลอกตัวสลายออกมาและไหลออกมาทางช่อง คลอด กลายเปน็ ประจาเดือน) ขน้ั สรปุ 16. ครูอธบิ ำยเพิม่ เติมเก่ียวกบั อำกำรต่ำง ๆ ทเ่ี กิดขน้ึ ก่อนมีประจำเดอื นและระหว่ำงมี ประจำเดอื น โดยใช้คำถำมดงั น้ี 16.1 กอ่ นมปี ระจำเดือน นกั เรยี นมีอำกำรทำงรำ่ งกำย อย่ำงไรบ้ำง (ก่อนมปี ระจาเดือนจะมีอาการทางรา่ งกาย เชน่ ปวดศีรษะ, ท้องอืด, นา้ หนักขน้ึ ทอ้ งผกู หรือท้องเสยี , อ่อนเพลีย ไมม่ แี รง, ง่วงนอนผิดปกติ, เต้านมคัดตงึ , รู้สึกอยากอาหาร มากกว่าปกติ เป็นตน้ ) 16.2 กอ่ นมปี ระจำเดอื น นักเรยี นมอี ำกำรทำงจติ ใจ อยำ่ งไรบ้ำง (ก่อนมปี ระจาเดือนจะมีอาการทางจติ ใจและพฤติกรรม เชน่ มีอารมณ์เศรา้ หรอื เสียใจ, โกรธหรอื หงดุ หงิดง่าย, อารมณ์แปรปรวน, วติ กกังวลงา่ ย,ไมม่ สี มาธิ ไม่กระตือรือรน้ เป็นต้น) 16.3 ระหว่ำงมีประจำเดือน นกั เรยี นมอี ำกำรทำงร่ำงกำย อยำ่ งไรบ้ำง (เมือ่ เขา้ สู่ช่วงมปี ระจาเดอื นแลว้ เลือดประจาเดอื นจะเร่ิมไหลออกมาพร้อมกับผนังมดลูกท่ี หลุดลอก และอาจมีอาการอ่ืน ๆ รว่ มด้วย ได้แก่อาการปวดท้องประจาเดือน โดยจะรู้สึกปวด บบี บรเิ วณทอ้ งหรือท้องน้อย, ทอ้ งอดื , เจบ็ หนา้ อก, ปวดหลงั สว่ นลา่ ง เป็นต้น) 307
แแผผนนกกาารรจจัดดั การเรยี นนรรทู้ ้ทู ี่ ่ี1144 326 เรเือ่รงอื่ งกากราตรกตไกขไ่ ขกา่ กรมารีปมรปีะจร�ำะเจดาอเนดอื น หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 รา่ งกายมนุษย์ รายราวยิชวาชิ วาทิ วยิทายศาาศสาตสรตพ์ร์้นื ฐาน 3 เวลา 1 ชั่วโมง ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 16.4 ระหวำ่ งมปี ระจำเดือน นักเรียนมีอำกำรทำงจติ ใจ อย่ำงไรบำ้ ง (ผู้หญงิ บางคนที่อยู่ในชว่ งการมปี ระจาเดือนอาจจะมีอารมณแ์ ปรปรวนและหงดุ หงิดง่าย, ปวด ศีรษะ, อ่อนเพลยี และรู้สกึ อยากอาหารมากข้นึ ) 61.5 เพรำะเหตใุ ดเรำจึงรสู้ ึกปวดท้องในขณะมปี ระจำเดือน (การท่ีเรารู้สกึ ปวดทอ้ งในขณะมปี ระจาเดือนนน้ั เปน็ เพราะว่ากลา้ มเน้ือมดลูกของเราหด และคลายตวั เพ่ือปล่อยใหเ้ ลือดออกมา) 16.6 ถ้ำนกั เรยี นรสู้ กึ ปวดท้องขณะมีประจำเดือน นกั เรยี นควรทำอยำ่ งไร (จิบชาสมุนไพรร้อนๆ กนิ วติ ามินซี แคลเซียม หรืออาบน้าอุ่น ใชก้ ระเปา๋ นา้ ร้อนวางบริเวณ ท้องน้อย ถ้าปวดมากอาจจะต้องรับประทานยาแกป้ วด) 27. นกั เรียนเขียนอนุทนิ เรื่องกำรตกไข่และกำรมีประจำเดือน เป็นกำรบำ้ นส่งครู 308
327 309 การวดั และประเมนิ ผล ส่งิ ที่ต้องการวดั /ประเมนิ วธิ กี าร เครือ่ งมือท่ีใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ 1. อธบิ ำยกำรตกไข่และกำรมี - ประเมนิ กำรตอบ - คำถำม นักเรียนตอบถกู คำถำมจำกกิจกรรมกำร - อนทุ นิ ผ่ำนเกณฑ์ร้อยละ 60 ประจำเดอื นได้ กเรายี รนเรกยี ำนรกสาอรนสอน ข้ึนไป 2. วิเครำะหก์ ำรตกไข่และกำร -กำรเขียนอนุทนิ มีประจำเดือนในหน่งึ รอบ เดือนได้ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ - ประเมินกำรตอบ -กิจกรรมระยะกำรเกดิ นักเรยี นตอบคำถำม 1. ทักษะกำรลงควำมเหน็ คำถำมและกำรทำ ประจำเดอื น จำกกจิ กรรมระยะ กิจกรรมระยะกำรเกิด กำรเกิดประจำเดือน ขอ้ มูล ประจำเดอื น ผำ่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 2. ทักษะกำรจำแนกข้อมลู ขึ้นไป สงั เกตพฤตกิ รรม ด้านคุณลกั ษณะ แบบประเมิน ได้ระดบั คุณภำพ 2 1. มวี นิ ัย คณุ ลกั ษณะ ทุกรำยกำรข้นึ ไป 2. ใฝ่เรยี นรู้ ถือว่ำผ่ำน 3. มุ่งม่ันในกำรทำงำน
328 บันทกึ ผลหลงั สอน 328 310 ผบลนั กทำึกรผสลอหนลังสอน บผ…ผ…ลลนั……กกท……ำำกึ ……รรผสส……ลออ……หนน……ลัง……ส……อ……น……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….….………………………………………..…………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………………………….………………………………………………………………… ป…ญั…ห…ำ…/…อปุ…ส…ร…รค…………………………………………………………………………………………………………………………………… ……ป…ปัญญั………หห………ำำ………//………ออุปุป………สส………รร………รรคค……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….….………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………….………………………….………………………………………………………………… …ขอ้ …เ…สน…อ…แ…น…ะ/…แ…น…วท…ำ…งแ…ก…้ไ…ข………………………………………………………………………………………………………………… ………ขข้้ออ………เเ……สส…นน………ออ………แแ………นน………ะะ//………แแ………นน………ววทท………ำำ………งงแแ………กก………ไไ้้ ………ขข………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………………………….………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………(ล…ง…ชอื่…)……………...…...…...…..…………………………………….….………………………………… (ลงช่อื )…(….............…...…...…...…...…...…...….....…...…...…...…......) (ลตงชำอ่ืแ)ห…น(….ง่ ............…...…...…...…...…...…...….....…...…...…...…......)..... ตำวแันหทนี่.(..ง่ .......เ.ด...ือ..น............................พ...ศ......)........ ตำวแนั หทน่ี..ง่........เ.ด..ือ...น............................พ...ศ.............. วนั ที่.........เดือน.........................พ.ศ............ ความเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษา ค…ว…า…ม…เห…็น…ข…อ…งผ…บู้ …ร…ิห…าร…ส…ถ…าน…ศ…กึ …ษ…า……………………………………………………….…………….………………………………… ค…ว…า…ม…เห…็น…ข…อ…งผ…บู้ …ร…ิห…าร…ส…ถ…าน…ศ…กึ …ษ…า……………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………(ล…งช…ื่อ…)………….…...….....…...…..………………….…………….….………………………………… (ลงชอื่ )…(..…................…...…...…...…...…...….....…...…...…...…....) ต(ลำงแชห่ือน)…ง่(..…................…...…...…...…...…...….....…...…...…...….....)... ตำวแนั หทน่ี.ง(.........เ.ด...ือ..น............................พ....ศ......)... .... ตำวแนั หทนี่.ง........เ.ด...ือ..น............................พ....ศ......... .... วันที่.........เดือน.........................พ.ศ............
329 311 ใบความรทู้ ่ี 14.1 บนั ทึกของแม่ หน่วยท่ี 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 14 เรื่องที่ 4 การตกไข่และการมีประจาเดือน รายวรชิ าายวชิทายาวศิทายสาตศราพ์ สืน้ ตฐรา์ นร3หสั วรชิ หาัสวชิ22า1ว021110ภ3าคเภรยีานคทเรี่ ีย1นชทั้นี่ 1มธัชย้นั มมศธั ึกยษมาศปึกทีษี่ า2ปที ี่ 2 วันนี้จะมำเล่ำเกีย่ วกับลูกสำว ท่ีวันน้ีเธอได้กลำยเป็น สำวเตม็ ตัวแล้ว!!!! ขอเกรน่ิ ก่อนนะคะวำ่ ลูกสำว อำยุ 9 ขวบ 11 เดือนค่ะ นิสัยของลูกสำวค่อนข้ำงทะโมนเป็นลิง ห้ำว ๆ แต่ไม่เป็นทอม และยังนิสัยเป็นเด็ก เต็มตัว ยงั ไม่ได้ออกสำวรักสวยรักงำมเท่ำไหร่นัก แต่เธอก็เริ่มมีหน้ำอก มีสิวบ้ำง 2-3 เม็ด ตัวแม่ก็จะคอยดูแล สอนลูกให้ดูแลตัวเองเสมอ ๆ แต่ 3-4 วันมำนี่เร่ิมรู้สึกว่ำเธอหน้ำอกใหญ่ขึ้นมำก และเริ่มมีเอวคอด อะไรกัน!! นี่จะเปน็ สำวเร็วไปไหนนะ..ฮม่ึ !!! เช้ำวันหน่ึง ลูกสำวมีสอบท่ีโรงเรียน ซ่ึงต้องรีบไปแต่เช้ำกว่ำปกติ พอลูกสำวต่ืนนอนมำเข้ำห้องน้ำจะ จัดกำรธุระของตัวเอง เข้ำไปได้ 10 วิ. นำงตะโกนเรียก แม่!!!!!! ดังล่ันบ้ำนเลยค่ะ แม่ตกใจนึกว่ำเจอจ้ิงจก.. ที่ไหนได้ นำงเดินออกมำพร้อมช้ีให้ดูที่เส้ือเป้ือนเลือด ขุ่นแม่งุ่นงงไป 3 วิ. คืออะไรๆๆ พอนึกออกเท่ำนั้น แหละ “หนมู ีเมนส์แว้ว!!!” เอำละ่ ส.ิ . ตัง้ สติคะ่ แม่บอกให้ลูกสำวไปอำบนำ้ ลำ้ งตัวแลว้ ออกมำ ขุ่นแมจ่ ะสอนวิธีให้ โดยมขี น้ั ตอน ดังนี้ 1.บอกกับลูกสำวว่ำ ตอนนี้หนูเป็นสำวเต็มตัวแล้วนะ สำมำรถมีลูกได้แล้ว ซึ่งเธอทำหน้ำตกใจ.. แม่ก็ บอกกับลูกสำวว่ำ มันเป็นเรื่องธรรมชำตินะคะ เด็กผู้หญิงพอมีประจำเดือน น่ันก็คือ ร่ำงกำยพร้อมแล้ว……… แต่อย่ำงอ่ืนยังไม่พร้อมนะ!! เธอยังเรียนประถม ยังไม่ทำงำน เลี้ยงตัวเองยังไม่ได้ และที่สำคัญ..คุณแม่ก็ยังไม่ พร้อมจะเป็นยำยนะคะ เธอกข็ ำ ๆ ไป แต่มันสำคญั นะคะ ข้อนี้ต้องบอกเขำ ว่ำต่อไปนเี้ ธอต้องระวังตัวเองจำก ผู้ชำยทุกคน ถ้ำเธอยังไม่อยำกเป็นแม่คน หรือถ้ำอีกหน่อยเธอจะมีแฟน เธอต้องป้องกัน ซึ่งอันนี้เรำพูดกับลูก เสมอ ๆ ตงั้ แต่เลก็ ไม่ใชส่ ่งเสรมิ ให้มแี ฟน แต่เรอ่ื งแบบน้ีมันไมเ่ ขำ้ ใครออกใคร!!! 2. สอนกันเรือ่ งใส่ผำ้ อนำมัย สอนต้งั แตจ่ ะหยบิ กำงเกงในทรงไหนขนึ้ มำถงึ จะแปะผ้ำอนำมยั ตดิ ปีกลง ไปได้ วธิ ีแกะห่อพลำสตกิ แกะกระดำษกำว และแปะผำ้ อนำมัยลงไปกับกำงเกงใน และที่สำคญั อยำ่ แปะผดิ ดำ้ น!! 3. สอนเธอเรื่องจำนวนครั้งในกำรเปลยี่ นผำ้ อนำมัยต่อวนั เชำ้ เท่ยี ง เยน็ กอ่ นนอน เพรำะมนั คือ สุขอนำมยั ท่ดี ี และบอกใหเ้ ธอพกผ้ำอนำมยั สำรองไปในกระเปำ๋ ดว้ ย 4.พูดใหเ้ ธอฟงั ถึงขน้ั ตอนกำรเปลี่ยนแผน่ ใหม่ วำ่ หำกไปเปล่ียนทโ่ี รงเรียนแลว้ เขำไม่มกี ระดำษห่อไว้ให้ ให้ใช้พลำสติกของแผน่ ใหมม่ ้วนห่อแผน่ เกำ่ แลว้ ทิง้ ลงถงั ขยะ หำ้ มท้ิงลงชักโครกเพรำะจะทำให้สว้ มอุดตนั 5. บอกกบั แม่ลูกสำววำ่ หลังจำกนเี้ ธอต้องด่ืมนมใหม้ ำก ๆ เพรำะตำมท่ีคณุ แมอ่ ำ่ นมำ เด็กสำวจะหยดุ สูงหลงั จำกมีประจำเดือนคร้งั แรก อีก 2 ปี ซ่งึ จะสงู ได้อีกประมำณ 10-15 ซม. โดยตอนนแ้ี ม่ลูกสำวของคุณแม่ สูง 155 ซม. จะสูงได้ที่สดุ ประมำณ 170 ซม. ตำมทห่ี วังให้คณุ เธอไว้ เนอ่ื งจำกลูกสำวเล่นเทควนั โด และอยำก ใหเ้ ลน่ ไปจนถงึ ระดบั ติดทมี ชำตไิ ด้ ซ่ึงหำกไดส้ ว่ นสูงทีห่ วงั ไว้มำ เธอจะได้เปรียบสำวไทยทั้งมวล
330 312 66..พพาำเเธธออไไปปรร้าำ้ นนสสะะดดววกกซซือ้ อื้ เเพพอื่ อื่ สส�ำ ำรรววจจชชั้น้ันววาำงงขขาำยยผผา้ ำ้ ออนนาำมมัยัยสสออนนววธิ ธิ เี เีลลอื ือกกซซอื้ อื้ ททง้ั งั้ แแบบบบกกลลาำงงววันันกกลลาำงงคคืนืนมา มาำกมำกมามนำอ้ นย้อยมปีมีกปีกแแผผ่นน่หหนนาบำบางำกงกรอรอบบใใหห้เธเ้ ธออไไดดด้ ด้ ูใูใหห้ห้หมมดด และขนั้ ตอนสำ�ำคัญวดั ใจ...ให้เธอเดินไปจา่ำยเงินเอง!!! เรอางบ!!!อเกรกำบั อลกู กสับาวลวูกา่ สไำมว่ตว้อำ่ งไอมา่ตย้องผอ้หู ำญยงิ ผทู้หกุ ญคนงิ ทตุก้อคงทนำ�ต้อไปงทยำืนพไปดู ยหืนนพ้าูดแคหชนเำ้ชแียครช์ ไเมช่ตยี ้อร์งไอมา่ตยอ้ ๆงอำยๆ ถำมว่ำ เร่อื งประจำเดอื นยุ่งยำกไหม จริง ๆ ไม่นะคะสำหรับคนท่ีเคยมีประสบกำรณม์ ำแล้ว แต่สำหรับกำร จะผ่ำนประสบกำรณ์คร้ังแรกของสำวน้อยอย่ำงน่ำประทับใจและควำมรู้แน่นน้ัน คุณแม่ท้ังหลำยจะต้องไม่ ปล่อยปละละเลยนะคะ เป็นกำรสร้ำงควำมสัมพันธ์อันดีระหว่ำงเด็กและประจำเดือนสร้ำงควำมรู้ที่ถูกต้อง รวมถึงสร้ำงสุขลักษณะนิสัยท่ีดีให้กับลูกอีกด้วย ซ่ึงโดยอย่ำงย่ิง...กำรท้ิงไส้ช้ินเดิมไว้เกลื่อนกลำดของผู้หญิง มักง่ำยหลำยๆคน อันเป็นท่ีอุจำดตำแก่ผู้ที่พบเห็นตำมห้องน้ำสำธำรณะต่ำงๆ ในเมื่อเรำยังรู้สึกทุเรศลูกกะตำ เรำก็ต้องสอนบุตรหลำนของเรำไม่ใหท้ ำแบบนน้ั สคิ ะ.. เนอื้ หำในกระท้นู ี.้ ..อยำกใหท้ กุ ทำ่ นที่ไดเ้ ข้ำมำอำ่ น ไมว่ ำ่ จะเป็นคุณแม่ หรือคณุ พ่อ ได้โปรดตระหนกั ถึง ควำมสำคญั ใสใ่ จในเรื่องนี้ของคณุ ลูกสำวใหม้ ำกๆนะคะ เพรำะมนั จะเปน็ นิสัยตดิ ตัวลกู ไปยันมดลกู ฝอ่ กันเลย ทเี ดยี ว...
331 313 ใบความรู้ท่ี 14.2 เร่ืองวงจรการมีประจาเดอื น หนว่ ยที่ 2 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 14 เร่อื งท่ี 4 การตกไขแ่ ละการมปี ระจาเดอื น รายวรชิ าายวิชทายาวศิทายสาตศรา์พสืน้ ตฐรา์ นร3หัสวริชหาสั วชิ22า1ว021110ภ3าคเภรยีานคทเร่ี ีย1นชท้นัี่ 1มธัชย้นั มมศัธกึ ยษมาศปกึ ีทษ่ี า2ปีที่ 2 ภาพที่ 14.2 วงจรการมีประจาเดอื น (Menstural Periods) ท่ีมำของภำพ : www.thaigoodview.com. สืบค้นเมอื่ วันที่ 14 มกรำคม 2562, จำก https://sistacafe.com/summaries/13521 ระยะทท่ี ่ี 1 ใในนแแตต่ละเดือนต่ออมมใใตตส้ ส้ มมอองงจจะะสสง่ สง่ สัญัญญญาณำณไปไยปงั ยรงั รไขงั ่ใไหข้ผ่ใหล้ผติ ฮลอติ รฮโ์ อมรน์โเมอนฟเอฟสเฮอชสเฮ(FชSH(F)SแHล)ะและ ฮแอลระโ์ ฮมอนรแ์โอมลนเแฮชอล(LเฮHช) ซ(Lง่ึ Hกร)ะซต่งึ ุ้นกใรหะไ้ ตขุ้น่ตกใหอ้ไยขา่ ่ตงนก้ออยยห่ำนงนึง่ ใ้อบยหเพนือ่ ึ่งเใตบบิ โเตพเื่อปเ็นตไบิขส่โตุกเตปอ่ ็นไปไขเส่ มกุ ื่อตไข่อ่สไปุก มเมัน่อื จไะขป่สลุกอ่ ยมฮนั อจระโ์ มน เปอลส่อโตยรฮเอจนร์โอมอนกเมอาสโทต�ำ รใหเจผ้ นนองั อขอกงมมำดทลกูำใหหนผ้ านขงั้ึนข องมดลกู หนำขน้ึ รระะยยะะทท่ี 2่ี 2กการำตรกตไกขไ่ ข-่ เ-มเ่อื มไข่อื ส่ไขกุ ส่เตุกม็ เตท็มี่จะทถี่จูกะปถลูกอ่ ปยลอ่ออยกอมอากจามกำชจอ่ ำงกวชา่ ่องใงนวรำ่ ังไใขนไ่ รปังยไังขปไ่ ลปายยงั ทป่อลรำังยไขท่ข่อ้ารงังหไนขึ่งขซำ้ ่งึ งมี ลหกันษึง่ ณซง่ึ ะมคีลลกั ้าษยทณ่อะแคละำ้ เยรท่มิ เ่อคลแ่ือลนะตเรวั มิ่ไปเคยลงั มื่อดนลตกู วั ไโปดยใังชม้เดวลาูกปโรดะยมใาชณเ้ ว2ล-ำ3ปวรนั ะมผหู้ำณญงิ 2ส-่ว3นใวหนั ญผ่ไมหู้ ่รญตู้ ิงัวสเม่วื่อนไใขห่ตญก่ไแมต่ร่บตู้ าวั ง คเมนื่อจไะขรต่ ้สู กึ ปแวตด่บทำอ้ งงคนน้อจยะแรปสู้ ลกึ บปๆวดรทะอ้ยงะน้อีระยดแบั ปฮลอบร์โๆมนรเะอยสะโตนร้ีรเะจดนับจะฮสองู รข์โน้ึมนทเ�ำอใสหโ้เตกรดิ เขจอนงจเหะลสวูงอขอึน้ กทมาำทใหาง้เกชิดอ่ งคลอด ฮขอรง์โเมหนลโวปอรอเจกสมเำททอำโรงนชจอ่ ะงถคูกลปอลด่อฮยออร์โกมมนาโเปพร่ือเชจว่สยเทหอลอ่โรเลน้ียจงะผถนกู งั ปมลดอ่ลกูยออกมำ เพื่อชว่ ยหล่อเลีย้ งผนงั มดลูก ระรยะะยทะ่ีท3่ี ช3่วชงม่วงปี มรีปะจรำ�ะเจดำือเนดอื -นระ-ดรับะฮดอบัรโ์ฮมอนรโ์โปมรนเจโปสเรทเจอสโรเนทจอะโสรงูนขจ้นึ ะสขงูอขงเึน้ หลขวอทง่ีปเหลลอ่ วยทอ่ีปอกลม่อายทอาองกชมอ่ งำคทลำองด จชะ่อขง้นคขลึ้นอแดลจะะนข้อนยขลึ้นงแ(ลเกะือนบ้อไยมล่มงี) เ(มเก่อื ือสบเปไิรม์ม่มผ)ี สเมกื่อับสไเขปร่ ิระ์มหผวส่ามงเกคับลไ่ือขนร่ ไะปหทวีท่ ่ำอ่ งรเคังไลข่ือกนารไตป้งัทคท่ี ร่รอภร์ังไขจ่กะำเรกติดงั้ ขคนึ้ รรจภา์กนนั้ ผจนะเังกมดิ ขล้นึกู จจะำเตกรนยี นั้ มผพนรงัอ้ มมดรลองูกรจบั ะแเตละรบียม�ำ รพงุ รไขอ้ ท่ มไี่ รดอ้รงับรกับาแรลผสะมบนำรัน้ ุงถไข้า่ทไข่ีไไ่ดมร้ ่ไับดร้กบั ำกรผารสผมสนม้นั ถจำ้าไกขส่ไเมป่ไริ ดม์ ้รผับนกังำใรนผมสดมลูกจะ หจำยกดุ สกเาปรหิรม์ลอ่ ผเลนยี้ังงในแลมะดลลอูกกจตะัวหสยลุดายกอำอรกหมลาอ่ แเละี้ยไงหแลลอะอลกอมกาตทัวาสงชล่อำงยคอลออกดมกำแลลายะเไปหน็ ลปอรอะกจม�ำ เำดทอื ำนงใชนอ่ ทงีส่คดุ ลอด กลำยเป็นรปะยระทจ่ีำเ4ดือหนลใังนจทาสี่กหุดมดประจ�ำ เดอื น ผนงั มดลูกบางลง เตรียมพรอ้ มท่จี ะเกิดประจำ�เดอื นครง้ั ใหม่ วงจร ทัง้ หมดก็จระเยระ่ิมทต้นี่ 4ข้ึนหลงั จำกหมดประจำเดือน ผนังมดลูกบำงลง เตรียมพร้อมทจ่ี ะเกิดประจำเดือนครั้งใหม่ วงจรทั้งหมดก็จะเริ่มต้นขน้ึ
332 314 การนับรอบเดอื น กาำรนับบรรออบบเเดดือือนนจจะะนนับบัจาจกำวกนั วแันรแกรขกอขงอกงากรมำรีปมระีปจร�ำะเจดำอื เนดจอื นนถจงึ นวันถแึงวรกนั ขแอรงกกขาอรงมกปี ำรระมจปี�ำ เรดะือจนำรเอดบือถนัดรไอปบ ใน ผถู้หดั ไญปงิ ทใี่มนีรผอหู้ บญระิงทดสูมี่ มรี อ�่ำ เบสรมะอดจสู งึ มส่ำาเมสามรอถจคงึ �ำ สนำวมณำวรถันคตำกนไขวไ่ณดว้ โนั ดตยกจไดขว่ไันดแ้ โรดกยทจม่ี ดปี วรนั ะแจรำ�กเดทือ่ีมนปี รแะลจว้ ำนเับดยืออ้นนหลังไปอีก 1แ4ล้วนั บั นยน่ั อ้ คนือหวลนั ังทไีไ่ปขอ่ตีกใน14รอวบันเดนือน่ั คนอื้ันวหันรทือไี่ งข่าต่ยกๆใกน็ครอื บเกเดิ ือกนารนตั้นกไหข่ร1ือ4ง่ำวยันๆกกอ่ น็คืทอจ่ี เะกมิดีปกรำะรจต�ำ กเดไขือ่น14เชน่วันรอบเดอื น 2ก8อ่ นวทัน่จี จะะมตีปกรไะขจ่วำนั เทด่ีือ1น4 เขชอน่ งรออบบเเดดืออื นน, ร2อ8บวเดนั อื จนะต30กไวขันว่ นั จทะี่ ต1ก4ไขขว่ อนั งทรี่อ1บ6เดขืออนงร, อรบอเบดเือดนือนคน3ท0ี่มวปี ันระจจะ�ำ ตเดกือไขน่ไม่ สวันม�ำ่ทเี่ส1ม6อมขกัอจงระอมบีปญัเดหือานเรคื่องนกทาี่มรตีปกรไะขจ่ ปำเจั ดจือุบนันไมมีชส่ ุดมทำ่ ดเสมอบอมกาักรจตะกมไขปี ่ัญโดหยำตเรวื่อจงวกดั ำรระตดกบั ไขL่Hปัจาจกุบปันสั มสีชาดุวะทดใสนอชบว่ งกใำกรล้ ไตขกต่ ไกข่LโHดยจตะรเพวจิ่มวมัดากระขด้นึ ับแลLะHสูงจสำุดกใปนัสวสนั ำทวไ่ี ขะ่ตกใน(LชH่วงsใuกrลgไ้eข)ต่ จกะเกLHดิ แจถะบเสพีขม่ิ ึ้นมจำากงๆขึน้ แลแว้ ลเขะ้มสขูงสึ้นุดเรใอ่ื นยวๆันแทสไ่ี ขดงต่ วกา่ ใ(กLลH้จะ ตsuกrไgขe่ ข)อจแะนเกะนดิ ำ�แใถหบ้มสเี พีขศ้ึนสจมั ำพงๆนั ธแ์บลอ่ ว้ ยเคขร้มง้ั ขข้ึน้นึ เใรนื่อชย่วๆงนแี้ สแลดะงแวถำ่ ใบกสลีจ้จะะจตางกลไงขอ่ ขีกอคแรง้ันหะลนงั ำจใาหกม้ตเีกพไขศไ่ สปัมแพลนัว้ ธซ์บงึ่ เ่อปย็นควริธั้งงี ขา่ ้ึนยๆ อในาชจ่วทง�ำ นเอ้ี แงลดะกู แ่อถนบถส้าีจยะังจไำมง่ตล้ังคอรกี รคภรห์้ังหรอืลตังจรำวกจตไมก่พไขบ่ไวป่าแมลแี ้วถซบึง่ขเ้ึนปแ็นบวธิบีงไ่ำขยต่ ๆก อกำต็ จอ้ ทงำใชเอ้วงธิ ดตี ูกร่อวนจเถลำ้อื ยดงั แไทมนต่ ั้งซคึง่รจระภใ์ ห้ คหวราือมตแรมวน่ จยไมำ�แ่พลบะวล่ำะมเอแี ียถดบกขวึ้นา่ แกาบรบตไรขวต่ จกปัสกสต็ า้อวงะใชว้ ิธตี รวจเลือดแทน ซ่งึ จะให้ควำมแมน่ ยำและละเอยี ดกว่ำกำร ตรวจปัสสำวะ การนบั วนั ตกไข่ ดดงั งันนัน้ ้นั ตต้อ้องย้อนกลบั ไปปดดปู ูปรระะจจ�ำ ำเดเดอื ือนนยยอ้ อ้นนหลหังลปังรปะรมะามณำณ3-63-เ6ดือเดนือเนพื่อเหพาอื่ คหา่ ำเฉคล่ำย่ีเฉขลอ่ยีงรขะอยงะรหะา่ยงะรหะำ่หงวา่ งรอบ เรดะอื หนวแ่ำลงว้รลอบเ1ด4ือนจแะไลด้ว้ตลวั บเล1ข4ที่เจปะ็นไวดนั ้ตปัวรเะลมขาทณ่เี ปกน็ารวในั นปกราระตมกำไณข่กเชำร่นในระกยำะรหตา่กงไรขะ่ หเชว่นางระอยบะเดหอื ่ำนงร2ะ8หว่ำนั งรคอื บ2เด8-อื 1น4 ไ2ข8่จะวตันกวคันอื ท2่ี 184-1ข4องไรขอ่จบะเตดกือนวนั (นทับ่ี 1ว4นั ทข่ีมอปี งระอจบำ�เดือนว(นั นแบั รกวเนั ปทน็ ี่มวนัปี ทระี่ 1จ)ำหเดากือรนะวยันะแหร่างกขเปองน็ รวอนับทป่ีร1ะ)จำ�หเำดกอื รนะคยอื ะ3ห5ำ่ งวนั 3ข5อ-ง1ร4อไบขปจ่ ระะตจกำวเนั ดทอื ่ี น21คอื ขอ3ง5รอวบนั เด3อื 5น-1เป4น็ ไตขน้ จ่ ะตกวันที่ 21 ของรอบเดอื นเป็นตน้
333 315 ภำพท่ี 14.2 แผนภำพวงลอ้ กำรเกิดประจำเดอื น 1234567 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 ภำพท่ี 14.3 บตั รภำพตวั เลข 1-28
334 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ร่างกายมนุษย์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรอื่ ง การปฏสิ นธิและการพัฒนาของไซโกต ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ขอบเขตเนอื้ หา แหล่งเรียนรู้ รายวิชราวยิทวยชิ าศวาิทสยตารศพ์ าสื้นตฐรา์น 3 1. ห้องเรยี นวทิ ยาศาสตร์โรงเรยี น การปฏสิ นธิ ในมนุษยเ์ กิดข้ึนเมื่อ กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 34 เซลล์สบื พันธเ์ุ พศชาย (อสุจ)ิ ผสมกบั ข้นั นา 2. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น เซลล์สืบพันธเุ์ พศหญงิ (เซลล์ไข)่ 1. ครูใหน้ ักเรียนชมภาพการเคลอื่ นไหวของอสุจิมนษุ ย์ จาก ลงิ ก์ 3. แหลง่ เรยี นรู้ออนไลน์ https://www.youtube.com/watch?v=SwZuCARE3EI จากนัน้ ร่วมกันอภปิ รายโดยใช้ สอ่ื การปฏิสนธเิ กิดขึน้ บริเวณทอ่ นาไข่ 1. ใบความรทู้ ่ี 15.1 เรอื่ งการปฏิสนธิ หรือปกี มดลูก ทาใหเ้ กดิ เป็นเซลล์ใหม่ 1 คาถาม ดังน้ี และการคลอด เซลล์ เรียกว่า ไซโกต หลังจากน้ันจะมี การแบ่งเซลล์จาก 1 เปน็ 2 ทวีคณู - เซลลอ์ สุจทิ ่นี ักเรียนเห็นในคลิป มีลักษณะอยา่ งไร 2. ใบงานท่ี 15.1 เรือ่ งการปฏิสนธแิ ละ ไปเร่อื ย ๆ จนเกิดเป็นกล่มุ เซลล์ เรียกว่า (เซลล์อสุจิ ประกอบส่วนหัว ส่วนตวั และสว่ นหาง มีหางเคลอ่ื นที่ไดแ้ ละมจี านวนมาก) เอ็มบริโอ เคล่ือนไปตามท่อนาไข่ แล้ว การคลอด ฝงั ตัวที่ผนังมดลกู - นักเรียนคิดวา่ ขนาดของเซลล์อสุจแิ ละเซลล์ไข่ แตกตา่ งกนั หรอื ไม่ อย่างไร 3. คลิปวดิ โี อ เกย่ี วกับการเคล่อื นไหว จุดประสงค์การเรยี นรู้ (แตกต่างกัน โดยเซลล์ไขจ่ ะใหญก่ ว่าเซลล์อสุจ)ิ ของอสจุ มิ นุษย์ 1) อธบิ ายการปฏสิ นธไิ ด้ - เซลล์ทั้งสองนา่ จะมีลกั ษณะและส่วนประกอบเหมือนกบั เซลลท์ ว่ั ไปหรือไม่ อยา่ งไร 2) อธิบายการพัฒนาของไซโกต 4. เกมบิงโก การปฏิสนธิและการคลอด จนคลอดเปน็ ทารกได้ (เหมอื นกบั เซลล์ทัว่ ไป คอื มีเย่อื หมุ้ เซลล์ ไซโทพลาสซึมและนิวเคลยี ส) 3) ตระหนกั ถึงการเปลยี่ นแปลงของ 2. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการปฏสิ นธิ จากคลิปเพม่ิ เตมิ ว่า ไข่เปน็ เซลล์สบื พนั ธเ์ุ พศเมีย มลี กั ษณะค่อนข้างกลม มีขนาดใหญก่ วา่ เซลลอ์ สจุ มิ าก ส่วนเซลลอ์ สุจิ เป็นเซลลส์ บื พนั ธ์ุเพศผู้ ทส่ี ามารถว่ายน้าหรือในของเหลวได้ ประกอบดว้ ย สว่ นหวั ส่วนตวั และส่วนหาง มีขนาดเล็ก มาก จนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ซง่ึ จะมีเพยี งเซลล์อสจุ ิทีแ่ ข็งแรงทีส่ ดุ ตวั เดียวเท่านน้ั จะไปผสม กบั ไข่ได้กอ่ น และเนือ่ งจากอสุจิจะมสี ารซ่งึ สามารถละลายผนงั ทห่ี ่อหมุ้ ปกป้องไขอ่ อกได้ อสจุ ิ จึงเจาะผ่านเปลอื กของไข่ เพื่อเขา้ ไปรวมตัวกบั นิวเคลียสภายในไข่ได้ หลังจากนัน้ อสจุ ติ ัวอ่นื ๆ 316
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 รา่ งกายมนษุ ย์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 335 กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ เรือ่ ง การปฏสิ นธิและการพัฒนาของไซโกต ทารกในครรภ์ จนกระท่งั คลอดออกมา เวลา 1 ชั่วโมง ได้อย่างปลอดภยั รายวิชราวยทิวชิยาศวาทิ สยตารศ์พาส้ืนตฐรา์น 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ก็จะไม่สามารถเขา้ ไปได้อีก สว่ นอสจุ ติ ัวทเี่ ขา้ ไปในไขแ่ ล้วจะสลดั หางทิ้ง และสว่ นหวั ทเ่ี ข้าไปใน ดา้ นคุณลักษณะ 1. มีวินยั ไขจ่ ะเรม่ิ พองข้ึนและหลอมรวมกันกับไข่เปน็ เซลล์เดยี วกันในท่ีสุด 2. ใฝเ่ รียนรู้ ขนั้ สอน 3. มุง่ ม่ันในการทางาน 1. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม ๆ ละ 6 คน ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ประกอบดว้ ยนักเรียนชายและนกั เรยี นหญงิ 2. นักเรยี นศึกษาใบความรู้ที่ 15.1 เร่อื งการปฏสิ นธแิ ละการคลอด 3. ครูนาอภปิ รายเร่ืองการเกิดฝาแฝด โดยใช้คาถาม ดังนี้ - ในโรงเรียนของเรามีฝาแฝดหรือไม่ (คาตอบ ขึน้ อยูก่ ับสถานการณข์ องแตล่ ะโรงเรยี น) - ครนู าภาพแฝดแทม้ าให้นักเรียนดู แล้วซกั ถามนักเรียนว่า เดก็ ทัง้ สองคนนี้มอี ะไร เหมอื นกันบ้าง (เพศ, หนา้ ตา) - นักเรียนทรราาบบหหรรืออื ไไมมว่ ว่ ่า่าเพเพรราาะะเหเหตตใุ ดใุ ดเดเดก็ ็กททง้ั สั้งสอองนงนี้จงึีจ้ มงึ เีมพีเศพเศดเยีดวยี กวนั กแนั ลแะลมะีหมนหี า้ นตา้ ตเหามอื นกนั 317
หกกหลลนนุุ่ม่มว่ว่ สสยยาากกรราาะะรรกกเเรราายียี รรนนเเรรรรียีย้้ททูู นนี่่ี รร22วูวู้้ รริิทท่่าายยงงาากกศศาาาายยสสมมตตนนรรษุษุ ์์ ยย์์ เเเเอหอหม็ม็คค--มม((เเบบแแูู่่ืออืพพรรรนนรรรกกโิโิเคเคาากกหหออออะะรรันนั มมนูนูเเยยจจเเปปอือืสสาา่่าาะะ็นน็นนงงภภมมแแไไแแกกาาออบบรรฝฝพพัันน))ง่่งดดแแออแแฝฝออททดดกก้้ออเเททปปนินิ ีเ่เี่น็น็ กก-- ิดิดจจ22จจันันเเสสาารรมมวว่่กกื่ืออ่ นนาาไไงงขขใใหหรรหหกก่่แแาารร11าา้้นนผผือือยยรรักักใในนมมววปปบบเเิิชชาากกรรรฏฏกกาาผผาาียยี สสิิกกววรรนนสสยนนจจววทิทิมมวดด่าา่ธธัดดัยยกกิชูู แิิแแแกกาาททับับลลลลาาศศวาาออว้ว้ะะรราาใใทิสสถถกกเเหหสสรรยจุจุ าาาา้เเ้ตตีียยิิาดดมมรร11รรนนศก็็กพพนนพ์พ์ ารรตตททัักกัฒฒั สททูู้้นืนื้้ววััีเ่ี่เเเกกตนนรร่่ีีฐฐเเ11ยีียิดิดราาาามม55นน์มมนนขขอ่อืื่ ววาาออไไ33า่า่กกขขงงมมไ่่ไไไแแดดซซีเีเฝฝพพร้้รโโดดับับกกศศออตตกกเเดดินินาายยีีรร––ผผววกกสสจจัันนมมันนั แแแแตตลลลลาา่่ะะวว้้ งงหหกกนนัับบ้้าาแแตตฝฝาาดด 336 336 ชชนัน้ั้ มมเเววัธัธลลยยาามมศศ11ึกกึ ชชษษว่ั่วั าาโโปปมมีททีงง่ีี่ 22 เเดดด็็ด--((ขขแแาาฝฝดดอจจอดดาาะะออยยกกไไนิินังงัรรนนมม--ททจจ้ััน้นีีออ่เีี่เันันคคหหววรรัยยัมมเเนููนปปววืืออะะาานน็็นนภภบบแแกกาาาาฝฝนันั พพงงดดแแสสแแททลล่่ววฝฝีเเี่่ะะนนดดกกออททเเิิดดะะทที่ตตี่จจไไยีียิดิดาารรมมกกกกไไมมเเันันมมออ่่เเ))หหาา็็มมใใมมบบหหอืือรรนน้้ นนิโโิ กักัออกกเเแแนัันรรบบียียบบงง่่นน้้าาออดดงงออููแแกกลลไเเม้้ววปป่มซซ็็นนีอกกัั สสะถถออไาางงรมมสสเนนหวว่่ กัักนนมเเือรรแแนยยีี ตตกนน่ไ่ไันมมววา่่า่่แแเลยยแแยกกลลทออ้วว้ งั้ ออแแเพกกฝฝจจศดดาาแสสกกลออกกะงงันันคคหออนนนยยนนา้ ่่าา้ม้มีีตงงีีา) 318
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 ร่างกายมนษุ ย์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 15 337 กหลนมุ่ว่ สยากราะรกเรายี รนเรรียทู้ นี่ ร2ูว้ ริท่ายงากศาายสมตนรษุ ์ ย์ เรอ่ื ง กแาผรนปกฏาสิ รนจธดั แิกลาะรกเราียรนพรัฒทู้ นี่ 1า5ของไซโกต กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรือ่ ง รกาายรวปิชฏาิสวนทิ ธยิแาลศะากสาตรรพ์พฒั ้ืนนฐาานขอ3งไซโกต 337 รายวิชราวยิทวชิยาศวาทิ สยตารศพ์ าส้นื ตฐรา์น 3 เวลา 1 ชัว่ โมง ชั้นมเวัธลยามศ1ึกชษว่ั าโปมีทง่ี 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 (ไม่มีอะไรเหมือนกนั เลย ทั้งเพศและหน้าตา) (ไม-่มีอะเพไรรเาหะมเือหนตกุใดนั เแลฝยดทค้งันู่ เจี้พึงศไแมลเ่ พะศหแนล้าะตหา)นา้ ตาไมเ่ หมอื นกัน -(เพรเาพะรเปาะ็นเแหฝตดุใทดี่เแกฝิดดจคาก่นู ไจ้ี ขงึ ่มไมากเ่ พกศวแา่ ล1ะหใบนา้ผตสามไกมับ่เหอมสอืจุ นมิ กากนั กวา่ 1 ตัว เนือ่ งจากมีไข่สุก (พเพร้อรมาะกเันปมน็ าแกฝกดวทา่ ี่เก1ดิ ฟจอางกไอขาม่ จาจกะกเวปา่ น็ เ1พใศบเดผียสวมกกนั ับหอรสือจุตมิ่าางเกพกศวกา่ ็ไ1ด้)ตัว เนอ่ื งจากมีไข่สุก พ4.รค้อรมสูกรันุปมเารกือ่ กงกวาา่ ร1เกฟดิ อฝงาแอฝาดจจเพะเอ่ื ปใน็หเ้นพักศเเรดยี ยี นวเกขัน้าใหจรตือรตง่ากงันเพดศงั กน็ไ้ี ด)้ ก4.ารคเรกสู ิดรฝปุ าเแรฝื่อดงกเปา็นรเกกาดิ รฝตา้ังแคฝรดรภเพ์ทีผ่ือ่ ิดใหป้นกักตเิรฝยี านแเฝขด้ามใจสี ตอรงงปกรันะเดภังทน้ีคือ กา1ร.เแกฝิดดฝแาแทฝ้หดรเือปแ็นฝกดารรว่ ตมงั้ ไคขร่ เรกภดิ ์ทจ่ผี าดิกปไขก่ ต1ิ ฝใบาแผฝสดมมกีสับอองปสุจระิ 1เภตทวั คเมอื อื่ ไขไ่ ดร้ ับการผสมแล้ว เอ1ม็ .บแรฝโิ ดอแแทบ้หง่ ตรวัืออแอฝกดเรป่ว็นมไ2ข่ สเก่วิดนจเาพกศไเขด่ ยี1วใกบันผแสลมะกหับนอ้าสตจุ าิ เ1หมตอืวั นเมกันื่อไเสขมไ่ ดอร้ บบั ากงาครรผงั้ สแมฝแดลรว่้วม เไอขม็่ ทบเี่ รกิโดิ อจแาบกง่ เตอวั็มอบอรกิโอเปแ็นบง่ 2ออสก่วนเปเ็นพศ2เดสว่ยี นวกแันตแไ่ มล่แะยหกนอ้าอตกาจเหากมกือนันอกยันา่เสงเมดอด็ บขาางดครั้งแฝดรว่ ม ยงั ไมขีอ่ วทยั ่เี กวดิะบจาากงสเอว่ ม็นบทร่ีตโิ ิดอกแันบเง่ รอียอกกวเา่ป็น“แ2ฝดสสว่ ยนาแมต”ไ่ มเช่แ่นยกแอฝอดกอจินา-กแกฝันดจอันย่างเดด็ ขาด ยงั ม2อี .วแัยฝวดะเบทายี งมสห่วนรือทแ่ีตฝิดดกตันา่ เงรไียขก่ เวก่าิด“จแาฝกดไขสม่ ยาากมก”วเา่ ช1่น ใแบฝดผอสินม-กแับฝอดสจจุ ันมิ ากกวา่ 1 ตัว 2. แฝดเทยี มหรือแฝดต่างไข่ เกิดจากไข่มากกว่า 1 ใบ ผสมกับอสจุ มิ ากกวา่ 1 ตัว 319
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รา่ งกายมนษุ ย์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 338 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ เร่ือง การปฏสิ นธิและการพฒั นาของไซโกต เวลา 1 ชั่วโมง รายวิชราวยิทวชิยาศวิทาสยตารศพ์าส้นื ตฐรา์น 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 เนื่องจากมีไข่สกุ พร้อมกนั มากกว่า 1 ฟอง อาจเปน็ เพศเดียวกนั หรอื ต่างเพศกไ็ ด้ ขั้นสรุป 1. นกั เรยี นเลน่ เกมบงิ โก การปฏสิ นธแิ ละการคลอด 2. นักเรียนทาใบงานที่ 15.1 เรอ่ื งการปฏสิ นธแิ ละการคลอด 320
339 321 การวดั และประเมนิ ผล สง่ิ ทต่ี ้องการวดั /ประเมิน วิธีการ เครือ่ งมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ 1. อธิบายการตกไข่และการมี - ประเมนิ การตอบ - คาถาม นักเรยี นตอบถกู คาถามจากกจิ กรรมการ - อนทุ นิ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ประจาเดอื นได้ เกราียรนเรกียานรกสาอรนสอน ขน้ึ ไป 2. วิเคราะหก์ ารตกไข่และการ -การเขยี นอนุทนิ มีประจาเดือนในหน่งึ รอบ เดอื นได้ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ - ประเมินการตอบ -กิจกรรมระยะการเกดิ นักเรยี นตอบคาถาม 1. ทกั ษะการลงความเห็น คาถามและการทา ประจาเดอื น จากกิจกรรมระยะ กิจกรรมระยะการเกดิ การเกิดประจาเดือน ข้อมูล ประจาเดือน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 2. ทกั ษะการจาแนกข้อมูล ขึน้ ไป สังเกตพฤติกรรม ด้านคณุ ลกั ษณะ แบบประเมิน ได้ระดับคณุ ภาพ 2 1. มีวนิ ยั คุณลักษณะ ทกุ รายการขนึ้ ไป 2. ใฝเ่ รียนรู้ ถอื วา่ ผา่ น 3. มงุ่ มั่นในการทางาน
340 340 322 บนั ทึกผลหลงั สอน บันทึกผลหลงั สอน ผลการสอน …ผล…ก…า…รส…อ…น………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………....………………………………………………………………………………………………………………………………………… …ปญั…ห…า…/…อุป…ส…ร…รค…………………………………………………………………………………….…………….………………………………… …ปัญ…ห…า…/…อปุ…ส…ร…รค…………………………………………………………………………………….…………….………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………....………………………………………………………………………………………………………………………………………… …ขอ้ …เ…สน…อ…แ…น…ะ/…แ…น…วท…า…งแ…ก…้ไ…ข………………………………………………………………….…………….………………………………… …ข้อ…เ…สน…อ…แ…น…ะ/…แ…น…วท…า…งแ…ก…ไ้ …ข………………………………………………………………….…………….………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………....………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… (ลงช่อื )…….............…………………..………… (ตตลาางวแแชนั หห่ือทนน)่ี.…((...ง่ง่....…..............................เ......ด............ือ............น......................…...............…...............…...............…...............…...............…...............…...........................…....พ........….....ศ........…............…..........))................ วันท่ี.........เดอื น.........................พ.ศ............ ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา ค…ว…า…ม…เห…็น…ข…อ…งผ…้บู …ร…ิห…าร…ส…ถ…าน…ศ…ึก…ษ…า……………………………………………………….…………….………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………....……………………………………………………....………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………(ล…งช…ื่อ…)………….…...….....…...…..………………….…………………..………………………………… ตต(ลาางวแแชนัหหื่อทนน)่ี.…งง่่((.......…................................เ......ด..............ือ..........น......................…...............…...............…...............…...............…...............…...............…...........................…....พ........….......ศ......…..............…........))............. วันที่.........เดือน.........................พ.ศ...........
323 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว22101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาพที่ 15.1 การปฏิสนธิ
324 - ภายในเวลา 10-12 ชัว่ โมง นิวเคลียสของอสจุ จิ ะรวมตวั กบั นวิ เคลยี สของเซลล์ไข่ เรียกว่า การปฏิสนธิ (Fertilization) ไข่ท่ถี ูกผสม เรยี กวา่ ไซโกต (Zygote) - จากน้นั ไซโกต จะแบ่งเซลล์จาก 1 เป็น 2 จาก 2 เปน็ 4 และทวีคณู ไปเรื่อย ๆ จนเปน็ กล่มุ เซลล์ เรยี กวา่ เอม็ บริโอ (embryo) ภายในเวลา 30 - 37 ช่วั โมง - เอม็ บริโอ จะเคลอื่ นท่ีไปฝังตัวท่ผี นงั มดลูก ซ่ึงมลี กั ษณะหนาขึน้ เพ่อื รองรบั การฝงั ตวั ของเอม็ บรโิ อ จากน้นั เอม็ บรโิ อจะเร่มิ พฒั นาอวยั วะตา่ ง ๆ มากขนึ้ ภายใน 7 วัน - สปั ดาห์ท่ี 3 เริ่มมีหัวใจ สมอง และไขสันหลงั - สัปดาห์ที่ 4-5 เรม่ิ มีตาและปมุ่ แขนขา - สัปดาหท์ ี่ 6 เริ่มมหี ู - สัปดาหท์ ี่ 7 เร่ิมมีเพดานในชอ่ งปาก - สปั ดาหท์ ่ี 8 เริ่มมีอวยั วะเพศ ระยะนี้เริ่มมีลักษณะต่าง ๆ เหมือนมนษุ ย์ กระดกู ภายในเปลย่ี นจากกระดกู ออ่ นเป็นกระดกู แข็ง เรยี กระยะนี้วา่ ระยะ “ฟีตัส” (Fetus) ทารกจะมกี ารเจริญเตบิ โตในครรภ์มารดาประมาณ 38 สปั ดาห์ จนกระท่งั คลอด ซึง่ ขณะทารกอยใู่ นครรภจ์ ะไดร้ ับ อาหาร อากาศจากมารดา รวมทงั้ การขับถ่ายของเสยี ผา่ นทางรก
325 ต่อมใต้สมอง รว่ มกบั การหดตวั ของกลา้ มเนอ้ื ตามธรรมชาติ 1. แฝดแท้หรือแฝดร่วมไข่ เกิดจากไข่ 1 ใบผสมกบั อสุจิ 1 ตัว เมื่อไขไ่ ดร้ บั การผสมแล้วเอม็ บรโิ อแบ่งตัวออกเป็น 2 เพศเดยี วกนั และ หน้าตาเหมอื นกันเสมอ บางครัง้ แฝดรว่ มไข่ ท่เี กดิ จากเอม็ บริโอแบง่ ออกเปน็ 2 สว่ น แตไ่ มแ่ ยกออกจากกันอยา่ งเดด็ ขาด ยงั มีอวยั วะ บางส่วนทตี่ ิดกนั เรียกวา่ “แฝดสยาม” เช่น แฝดอิน-แฝดจัน 2. แฝดเทยี มหรอื แฝดตา่ งไข่ เกดิ จากไขม่ ากกวา่ 1 ใบ ผสมกบั อสุจิมากกว่า 1 ตวั เนอ่ื งจากมไี ขส่ กุ พร้อมกนั มากกว่า 1 ฟอง อาจเป็นเพศ เดยี วกนั หรอื ต่างเพศก็ได้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400