Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมกฏหมายคุ้มครองแรงงาน

รวมกฏหมายคุ้มครองแรงงาน

Published by สสค. มหาสารคาม, 2021-09-30 09:16:42

Description: รวมกฏหมายคุ้มครองแรงงาน

Search

Read the Text Version

 91 หน้า ๖ ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๑ ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๓๕ ตอนที่ ๙๔ ก กฎกระทรวง กำหนดประเภทของสถำนประกอบกจิ กำรและกำรดำเนนิ กำรของสถำนประกอบกิจกำร ในกำรปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หำกำรตงั้ ครรภใ์ นวยั รนุ่ แกล่ กู จำ้ งซงึ่ เปน็ วัยรุ่น พ.ศ. ๒๕๖๑ อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๔ วรรคหน่ึง และมำตรำ ๘ วรรคสอง แห่งพระรำชบัญญัติ กำรป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรต้ังครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. ๒๕๕๙ รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงแรงงำน ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ กฎกระทรวงนใี้ หใ้ ช้บงั คับเมอื่ พน้ กำหนดสำมสิบวนั นับแตว่ นั ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ เปน็ ตน้ ไป ข้อ ๒ ให้สถำนประกอบกิจกำรทุกประเภทจัดให้มขี ้อมูลข่ำวสำรและควำมรเู้ ก่ียวกับกำรป้องกัน และแก้ไขปัญหำกำรตั้งครรภ์ในวัยรุ่นแก่ลูกจ้ำงซ่ึงเป็นวัยรุ่นอย่ำงถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอ โดยอย่ำงนอ้ ยตอ้ งครอบคลมุ ในเรอื่ ง ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) กำรป้องกนั และแก้ไขปัญหำกำรตงั้ ครรภ์ (๒) กำรคุมกำเนิด โดยเฉพำะกำรคมุ กำเนดิ กงึ่ ถำวร (๓) กำรฝำกครรภ์และกำรดูแลกำรต้งั ครรภ์ (๔) กำรแท้งและปัญหำภำวะแทรกซ้อนอนั เนอื่ งจำกกำรแทง้ (๕) โรคตดิ ต่อทำงเพศสัมพนั ธ์ โดยเฉพำะกำรตดิ เชือ้ และเร่อื งเอชไอวี ขอ้ ๓ ให้สถำนประกอบกิจกำรที่มีลูกจ้ำงทำงำนในขณะเดียวกันตั้งแต่สองร้อยคนข้ึนไป จัดให้มีพยำบำลประจำสถำนประกอบกจิ กำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรคุ้มครองแรงงำน ทำหน้ำที่บรกิ ำร ให้คำปรึกษำเกยี่ วกบั กำรปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หำกำรตัง้ ครรภใ์ นวยั รุ่นแกล่ กู จำ้ งซงึ่ เปน็ วยั รุน่ ตำมขอ้ ๒ ขอ้ ๔ ในกรณีที่ลูกจ้ำงซึ่งเป็นวัยรุ่นขอคำปรึกษำหรือขอรับบริกำรอนำมัยกำรเจริญพันธ์ุ ตอ่ สถำนประกอบกิจกำร ให้สถำนประกอบกิจกำรจดั หรือสนับสนุนให้ลูกจ้ำงซ่ึงเป็นวัยรุ่นเข้ำถึงบริกำร จำกสถำนบริกำรท่ีมีหน้ำที่และอำนำจเกี่ยวกับกำรให้คำปรึกษำหรือให้บริกำรอนำมัยกำรเจริญพันธ์ุ รวมท้ังจัดให้มีระบบกำรส่งต่อไปยังหน่วยงำนท่ีมีหน้ำที่และอำนำจเกี่ยวกับกำรจั ดสวัสดิกำรสังคม เพ่อื ให้ลกู จำ้ งซึง่ เป็นวยั รนุ่ ไดร้ บั กำรจดั สวสั ดกิ ำรสังคมอย่ำงเหมำะสมตอ่ ไป

 92 เล่ม ๑๓๕ ตอนที่ ๙๔ ก หน้า ๗ ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๑ ราชกจิ จานเุ บกษา ขอ้ ๕ กำรดำเนินกำรของสถำนประกอบกิจกำรตำมข้อ ๓ และข้อ ๔ ให้คำนึงถึงสิทธิ ในกำรตดั สินใจดว้ ยตนเอง กำรรักษำควำมลับ และควำมเปน็ ส่วนตวั ของลกู จ้ำงซง่ึ เปน็ วัยรุ่นดว้ ย ให้ไว้ ณ วนั ที่ ๒๒ ตุลำคม พ.ศ. ๒๕๖๑ พลตำรวจเอก อดลุ ย์ แสงสงิ แกว้ รัฐมนตรีวำ่ กำรกระทรวงแรงงำน

 93 เล่ม ๑๓๕ ตอนท่ี ๙๔ ก หน้า ๘ ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๑ ราชกิจจานเุ บกษา หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยท่ีมำตรำ ๘ แห่งพระรำชบัญญัติ กำรป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรต้ังครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. ๒๕๕๙ กำหนดให้สถำนประกอบกิจกำรดำเนินกำร ป้องกนั และแกไ้ ขปญั หำกำรต้งั ครรภ์ของลูกจ้ำงซ่งึ เป็นวัยรุน่ โดยกำรกำหนดประเภทของสถำนประกอบกิจกำร และกำรดำเนินกำรของสถำนประกอบกิจกำรแต่ละประเภทในเร่ืองดังกล่ำว ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงอ่ื นไขทกี่ ำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงน้ี

 94

 95

96 เลม่ ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๑๓๗ ง หน้า ๑๐ ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๔ ราชกิจจานเุ บกษา ระเบียบกรมสวัสดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน วา่ ด้วยการรับคํารอ้ งและการพจิ ารณาคาํ ร้องของพนักงานตรวจแรงงาน ตามพระราชบัญญัตคิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยทม่ี าตรา ๑๒๓ และมาตรา ๑๒๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ บัญญัติให้ลูกจ้างหรือทายาทโดยธรรม กรณีท่ีลูกจ้างถึงแก่ความตายมีสิทธิยื่นคําร้องเรียกบรรดาเงิน ทนี่ ายจ้างไมช่ ําระหรอื คนื ให้แกล่ ูกจ้างตามพระราชบญั ญัติดังกล่าว ต่อพนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ี ทล่ี ูกจ้างทาํ งานอยหู่ รอื ท่นี ายจา้ งมีภูมิลําเนาอยู่ตามแบบท่ีอธิบดีกําหนด และให้พนักงานตรวจแรงงาน สอบสวนขอ้ เทจ็ จริง และมีคําสัง่ วินจิ ฉัยคาํ รอ้ งนัน้ เพื่อให้การรับคําร้องและการพิจารณาคําร้องของพนักงานตรวจแรงงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นธรรม มีระบบ และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ๒๕๓๔ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ อธบิ ดกี รมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงานจงึ วางระเบียบไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนีเ้ รียกวา่ “ระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการรับคําร้อง และการพิจารณาคําร้องของพนักงานตรวจแรงงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๕๔” ขอ้ ๒ ระเบยี บน้ีให้ใชบ้ ังคบั ตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการรับคําร้องและ การพิจารณาคาํ รอ้ งของพนักงานตรวจแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๒ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ และคําส่ังอื่นใด ในสว่ นทีก่ ําหนดไวแ้ ล้วในระเบียบนี้หรือซง่ึ ขดั หรือแยง้ กบั ระเบียบนี้ ให้ใชร้ ะเบยี บน้แี ทน ขอ้ ๔ ให้อธบิ ดีกรมสวัสดิการและค้มุ ครองแรงงานรักษาการตามระเบยี บนี้ และให้มีอํานาจ ตคี วามและวินิจฉยั ปัญหา กําหนดหลกั เกณฑแ์ ละวิธปี ฏบิ ตั ิเพ่อื ดาํ เนนิ การให้เปน็ ไปตามระเบยี บนี้ หมวด ๑ การรบั คําร้อง ขอ้ ๕ เมอ่ื ลกู จา้ งหรอื ทายาทโดยธรรมของลกู จา้ งซ่ึงถงึ แก่ความตายยนื่ คาํ ร้องตามมาตรา ๑๒๓ เพอื่ อํานวยความสะดวกและเปน็ การให้บรกิ ารแก่ผ้รู อ้ ง ไม่ว่าผูร้ อ้ งจะย่นื คําร้องต่อพนกั งานตรวจแรงงาน แห่งทอ้ งทใี่ ด ให้พนกั งานตรวจแรงงานน้ันรับคํารอ้ งไว้

 97 เลม่ ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๑๓๗ ง หนา้ ๑๑ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ราชกิจจานเุ บกษา กรณีที่มีการย่ืนคําร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ีอื่นซ่ึงมิใช่พนักงานตรวจแรงงาน แห่งทอ้ งทีต่ ามขอ้ ๘ ใหพ้ นักงานตรวจแรงงานผ้รู บั คาํ ร้องช้ีแจงให้ผู้ร้องได้ทราบว่าการรับคําร้องไว้เพ่ือ อํานวยความสะดวกให้แก่ผู้ร้อง โดยจะส่งคําร้องให้พนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ีท่ีรับผิดชอบ เปน็ ผดู้ าํ เนินการ พรอ้ มทง้ั บนั ทึกจดแจง้ คําชแี้ จงนน้ั ไว้เป็นหลกั ฐาน ให้พนักงานตรวจแรงงานที่รับคําร้องไว้ตามวรรคสอง ประสานกับพนักงานตรวจแรงงาน แหง่ ท้องที่ท่รี ับผดิ ชอบโดยจดั ส่งคําร้องทางโทรสารหรือโดยวิธีอ่ืนใดภายในวันทําการถัดไปเป็นอย่างช้า และจัดส่งคํารอ้ ง บนั ทึกการสอบสวนข้อเทจ็ จริง และพยานหลักฐานทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ไปภายในสามวันทําการนับ แต่วันท่รี บั คาํ ร้องเพอ่ื อาํ นวยความสะดวกให้แก่ผูร้ ้องตามวรรคสอง ท้ังน้ี ใหแ้ จ้งใหผ้ ู้รอ้ งไดท้ ราบโดยมิชักชา้ ในกรณีท่ีพนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ีที่รับผิดชอบอยู่ในกรุงเทพมหานครให้ดําเนินการ ประสานตามวรรคสาม ไปยังกรมสวสั ดิการและค้มุ ครองแรงงาน ขอ้ ๖ เพื่อให้การยื่นคําร้องของลูกจ้าง ทายาทโดยธรรมของลูกจ้างซึ่งถึงแก่ความตาย รวมตลอดถงึ การพจิ ารณาคําร้องของพนกั งานตรวจแรงงานเป็นไปอย่างถูกต้องและเสร็จส้ินภายในเวลา ท่ีกฎหมายกําหนด ให้พนักงานตรวจแรงงานผรู้ บั คาํ ร้องตรวจสอบเอกสารหลักฐานเบ้อื งตน้ ดังต่อไปน้ี (๑) คาํ รอ้ งใหใ้ ช้แบบ คร.๗ ตามประกาศกรมสวัสดกิ ารและคุม้ ครองแรงงาน เรื่อง แบบคําร้อง และแบบคาํ ส่ังของพนักงานตรวจแรงงาน ลงวนั ท่ี ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ (๒) เอกสารหลักฐานท่ีผู้ร้องพึงให้ไว้แก่พนักงานตรวจแรงงานเพื่อประกอบการพิจารณา ดาํ เนนิ การ เช่น สําเนาบัตรประจําตวั ประชาชนซึ่งรบั รองสําเนาถกู ต้อง และเอกสารอืน่ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั คําร้อง ขอ้ ๗ เม่อื การย่ืนคํารอ้ งเป็นไปตามขอ้ ๕ และข้อ ๖ ใหพ้ นกั งานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ี ทีร่ บั ผิดชอบลงทะเบียนรับคําร้องไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน หมวด ๒ การพจิ ารณาคาํ ร้อง ขอ้ ๘ ให้พนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ีที่ลูกจ้างทํางานอยู่เป็นผู้รับผิดชอบในการ สอบสวนข้อเท็จจริง รวบรวมเอกสาร พยานหลักฐานจากนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้เก่ียวข้อง รวมท้ัง มคี าํ สงั่ วินจิ ฉัยคาํ ร้องของลูกจ้างหรือทายาทโดยธรรมของลูกจ้างซึ่งถงึ แก่ความตาย ในกรณที ่สี ถานทีท่ ํางานของลกู จา้ งอย่ตู ่างทอ้ งท่ีกบั ภมู ิลาํ เนาของนายจ้างและในสถานท่ีทํางาน ของลูกจ้างน้ัน ไม่มีผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายจ้างควบคุมดูแลการทํางานของลูกจ้าง ให้พนักงาน ตรวจแรงงานแห่งทอ้ งที่ทน่ี ายจา้ งมภี มู ลิ ําเนาอยู่เปน็ ผู้รับผดิ ชอบดําเนินการตามวรรคหนง่ึ ในกรณีทน่ี ายจา้ งฝา่ ฝืนหรือไมป่ ฏิบตั ิตามเกยี่ วกบั สิทธิได้รบั เงินตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ตอ่ เน่อื งในทอ้ งทีต่ ่าง ๆ เกนิ กว่าทอ้ งท่หี นึ่งข้ึนไป ถ้าผู้ร้องได้ย่ืนคําร้องในคราวเดียวกัน ตอ่ พนักงานตรวจแรงงานแหง่ ทอ้ งที่ท่ลี กู จ้างทํางานอย่คู รั้งสุดท้าย ให้พนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องที่น้ัน เป็นผู้รบั ผิดชอบดาํ เนนิ การตามวรรคหนึง่

98 เล่ม ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๑๓๗ ง หนา้ ๑๒ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ราชกจิ จานเุ บกษา ในกรณีทไ่ี ม่แนว่ ่าพนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ีใดในระหว่างหลายท้องท่ีควรเป็นพนักงาน ตรวจแรงงานผ้รู ับผดิ ชอบ ใหอ้ ธบิ ดีกรมสวัสดิการและคมุ้ ครองแรงงานหรอื ผ้ซู งึ่ อธิบดีมอบหมายเป็นผู้ชี้ขาด ในระหว่างรอคําช้ีขาด ไม่เป็นเหตุให้งดการสอบสวนข้อเท็จจริง รวบรวมเอกสาร พยานหลักฐาน จากนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้เกย่ี วข้อง หากนายจ้างใหล้ กู จ้างไปทํางานต่างประเทศและนายจ้างฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเก่ียวกับสิทธิ ได้รบั เงินตามพระราชบญั ญตั คิ ุม้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ แล้วลูกจ้างกลับมาย่ืนคําร้องในประเทศไทย ให้พนักงานตรวจแรงงานแห่งทอ้ งที่ท่ีนายจา้ งมภี ูมลิ ําเนาเปน็ ผรู้ บั ผิดชอบดาํ เนินการ ขอ้ ๙ การสอบสวนขอ้ เท็จจริง การรวบรวมเอกสารและพยานหลักฐาน พนักงานตรวจแรงงาน แห่งท้องทท่ี ่ีรับผดิ ชอบอาจขอความรว่ มมอื พนักงานตรวจแรงงานทอ้ งทอ่ี ืน่ ท่เี กย่ี วข้องดาํ เนนิ การสอบสวน ขอ้ เท็จจรงิ รวบรวมเอกสารและพยานหลกั ฐานใหก้ ็ได้ การขอความร่วมมือไปให้พนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องที่อื่นดําเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องที่ท่ีรับผิดชอบ กําหนดประเด็นที่ต้องการให้สอบสวนข้อเท็จจริง ระบเุ อกสารหรอื พยานหลักฐานท่ีตอ้ งการอยา่ งชัดเจนก็ได้ ข้อ ๑๐ ใหพ้ นักงานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ที ี่ไดร้ ับการรอ้ งขอดําเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามประเด็น รวบรวมเอกสารและพยานหลักฐานตามท่ีร้องขอรวมตลอดถึงทําการสอบสวนข้อเท็จจริง และรวบรวมเอกสาร พยานหลักฐานเพิ่มเตมิ โดยมิชกั ชา้ ให้พนักงานตรวจแรงงานตามวรรคหน่ึง จัดส่งบันทึกการสอบสวนข้อเท็จจริง เอกสารและ พยานหลักฐานไปให้พนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ีท่ีรับผิดชอบภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ีได้รับ การร้องขอ ขอ้ ๑๑ ให้พนักงานตรวจแรงงานแจ้งสิทธิและหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาให้คู่กรณีทราบ ตามความจาํ เป็นแกก่ รณี ถ้าคําร้อง คําให้การ หรือคําช้ีแจง มีข้อบกพร่องหรือมีข้อความที่อ่านไม่เข้าใจหรือหลงผิด อันเห็นได้ชัดว่าเกิดจากความไม่รู้หรือความเลินเล่อของคู่กรณี ให้พนักตรวจแรงงานแนะนําให้คู่กรณี แก้ไขเพิ่มเติมใหถ้ กู ตอ้ ง ข้อ ๑๒ ในการสอบสวนข้อเท็จจริงจากคู่กรณี ให้พนักงานตรวจแรงงานทําการสอบสวน ขอ้ เท็จจริงโดยเปิดเผยในการนค้ี กู่ รณีมสี ทิ ธินาํ ทนายความหรอื ท่ีปรึกษาของตนรว่ มได้ ในกรณีที่นายจ้างหรือผู้แทนนายจ้างมิได้มาช้ีแจงข้อเท็จจริง หลบหนี หรือจงใจประวิง การชี้แจงข้อเท็จจริงโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ให้พนักงานตรวจแรงงาน ดําเนินการตามข้อ ๑๔ และมคี ําสั่งวินจิ ฉยั คําร้องของลูกจา้ งต่อไป ข้อ ๑๓ ในกรณีลูกจ้างเกินกว่าหน่ึงคนขึ้นไปท่ีมีนายจ้างคนเดียวกัน ยื่นคําร้องต่อพนักงาน ตรวจแรงงานเก่ียวกับสทิ ธไิ ด้รับเงินตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ในวันเดียวกัน ใหพ้ นักงานตรวจแรงงานพจิ ารณาและมคี ําสงั่ รวมกนั ไป

 99 เล่ม ๑๒๘ ตอนพเิ ศษ ๑๓๗ ง หนา้ ๑๓ ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๔ ราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๑๔ พนักงานตรวจแรงงานต้องพิจารณาพยานบุคคล เอกสาร หรือหลักฐานที่เห็นว่า จําเปน็ แก่การพสิ ูจน์ข้อเท็จจริง ท้งั นี้ ให้รวมถงึ การดาํ เนินการดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) แสวงหาพยานหลกั ฐานทกุ อยา่ งท่ีเกีย่ วขอ้ ง (๒) รับฟังพยานบุคคล หลักฐาน คําชี้แจง หรือความเห็นของคู่กรณี พยาน หรือพยาน ผู้เช่ียวชาญที่คู่กรณีกล่าวอ้าง เว้นแต่พนักงานตรวจแรงงานเห็นว่าเป็นการกล่าวอ้างท่ีไม่จําเป็น ฟมุ่ เฟอื ย หรอื เพื่อประวงิ เวลา (๓) ขอข้อเท็จจริงหรอื ความเหน็ จากคูก่ รณี พยานบุคคล หรอื พยานผู้เช่ยี วชาญ (๔) ขอให้ผคู้ รอบครองเอกสาร ส่งเอกสารท่เี กีย่ วข้อง (๕) ออกไปตรวจสอบสถานที่ ข้อ ๑๕ พนักงานตรวจแรงงานต้องให้คู่กรณีมีโอกาสที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมโี อกาสจะไดโ้ ตแ้ ยง้ หรือแสดงพยานหลักฐานของตน ความในวรรคหนึ่งมิให้บังคับในกรณีดังต่อไปนี้ เว้นแต่พนักงานตรวจแรงงานจะเห็นสมควร ปฏบิ ตั ิเปน็ อย่างอ่ืน (๑) เม่ือมีความจําเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไป จะก่อให้เกิดความเสียหาย อยา่ งร้ายแรงแก่ผู้หน่งึ ผใู้ ด หรือจะกระทบตอ่ ประโยชน์สาธารณะ (๒) เมือ่ จะมีผลทาํ ใหร้ ะยะเวลาตามทก่ี ฎหมายกาํ หนดไวใ้ นการทาํ คําส่ังต้องลา่ ช้าออกไป (๓) เมื่อเปน็ ขอ้ เท็จจรงิ ทคี่ ู่กรณไี ด้ใหไ้ ว้ในคาํ ร้อง คําใหก้ าร หรือคาํ ชแี้ จง (๔) เมอื่ โดยสภาพเห็นได้ชดั ในตัวว่าการใหโ้ อกาสดงั กล่าวไม่อาจกระทาํ ได้ ขอ้ ๑๖ คู่กรณีมีสิทธิขอตรวจดูเอกสาร หรือพยานหลักฐานที่จําเป็นเพื่อการโต้แย้ง ช้แี จงหรือปอ้ งกันสทิ ธิของตนได้ พนักงานตรวจแรงงานอาจไม่อนุญาตให้ตรวจดูเอกสาร หรือพยานหลักฐานได้ ถ้าเป็นกรณี ทีต่ อ้ งรักษาไว้เป็นความลับ หมวด ๓ คําสงั่ พนกั งานตรวจแรงงาน ข้อ ๑๗ โดยที่พนักงานตรวจแรงงานต้องดําเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและมีคําส่ังภายใน หกสบิ วันนับแต่วันท่รี ับคําร้อง การนบั ระยะเวลาในการดาํ เนนิ การให้นับเมือ่ (๑) ในกรณีที่พนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ีท่ีลูกจ้างทํางานอยู่หรือท่ีนายจ้างมีภูมิลําเนา อยู่เปน็ ผ้รู บั คําร้อง ให้เร่ิมนบั ระยะเวลาเมอื่ พนกั งานตรวจแรงงานน้นั ไดร้ บั คํารอ้ ง (๒) ในกรณีที่พนักงานตรวจแรงงานนอกท้องที่ตาม (๑) เป็นผู้รับคําร้อง และส่งคําร้อง ทางโทรสารใหพ้ นักงานตรวจแรงงานแหง่ ทอ้ งทท่ี ่ีรบั ผดิ ชอบตามข้อ ๘ ให้เร่ิมนับระยะเวลาเมื่อโทรสาร ไปถงึ จังหวดั หรือกรมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงานแล้วแต่กรณี

100 เล่ม ๑๒๘ ตอนพเิ ศษ ๑๓๗ ง หนา้ ๑๔ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ราชกิจจานเุ บกษา ทั้งนี้ การนบั ระยะเวลาเป็นวัน มใิ หน้ บั วนั แรกแหง่ ระยะเวลานั้นรวมเข้าดว้ ย เว้นแต่จะได้เริ่ม การในวนั นน้ั ต้ังแต่เวลาทีเ่ รมิ่ ตน้ ทําการตามปกตใิ นทางราชการของพนกั งานตรวจแรงงาน ข้อ ๑๘ ในกรณีท่ีพนักงานตรวจแรงงานไม่อาจมีคําสั่งภายในกําหนดเวลาตามข้อ ๑๗ ได้ ให้พนักงานตรวจแรงงานรายงานการดําเนินการ เหตุผลและความจําเป็นเพ่ือขอขยายเวลาต่ออธิบดี กรมสวัสดิการและคมุ้ ครองแรงงานหรือผู้ซง่ึ อธบิ ดกี รมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงานมอบหมายก่อนครบ กําหนดเวลาดังกลา่ ว สบิ วันเปน็ อย่างนอ้ ย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานหรือผู้ซ่ึงอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มอบหมายอาจพิจารณาอนุญาตให้ขยายเวลาได้ตามทเ่ี หน็ สมควร ท้ังน้ี ต้องไม่เกนิ สามสิบวันนับแต่วันท่ี ครบกาํ หนดตามขอ้ ๑๗ ขอ้ ๑๙ เมื่อพนักงานตรวจแรงงานสอบสวนแล้วปรากฏว่า ลกู จ้างมีสิทธิไดร้ ับเงินอยา่ งหนงึ่ อย่างใด ท่ีนายจ้างมีหน้าท่ีตอ้ งจา่ ยตามพระราชบัญญัตคิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ให้พนักงานตรวจแรงงาน มีคําสั่งให้นายจ้างจ่ายเงินดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างหรือทายาทโดยธรรมของลูกจ้าง ซ่ึงถึงแก่ความตาย ภายในสามสบิ วัน นบั แต่วนั ที่ทราบหรือถือว่าได้ทราบคําส่ัง ในกรณที พ่ี นกั งานตรวจแรงงานเหน็ ว่าลูกจา้ งหรอื ทายาทโดยธรรมของลูกจ้าง ซึ่งถึงแก่ความตาย ไม่มีสิทธิได้รับเงินตามวรรคหน่ึง ให้พนักงานตรวจแรงงานมีคําส่ังและแจ้งเป็นหนังสือให้นายจ้าง และลกู จา้ งหรือทายาทโดยธรรมของลกู จา้ งซง่ึ ถงึ แกค่ วามตายทราบ คําสั่งของพนักงานตรวจแรงงานตามวรรคหนึ่งและวรรคสองให้ใช้แบบ คร.๘ ตามประกาศ กรมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน เรอ่ื ง แบบคําร้องและแบบคําส่ังของพนกั งานตรวจแรงงาน ลงวันท่ี ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ขอ้ ๒๐ ใหพ้ นกั งานตรวจแรงงานลงทะเบียนคําส่ังตามข้อ ๑๙ ในทะเบียนออกคําส่ังไว้เป็น หลกั ฐานตามลาํ ดบั คําสั่ง ข้อ ๒๑ ให้พนักงานตรวจแรงงานส่งคําส่ังทางไปรษณีย์ตอบรับหรือนําไปส่งเอง หรือให้เจ้าหน้าที่นําไปส่ง ณ ภูมิลําเนาหรือถ่ินท่ีอยู่หรือสํานักงานของนายจ้างในเวลาทําการ ของนายจ้าง ถ้าไม่พบนายจ้างหรือพบ แต่นายจ้างปฏิเสธไม่ยอมรับให้ส่งแก่บุคคลซ่ึงบรรลุนิติภาวะ และอยู่หรอื ทํางานในบ้านหรอื สาํ นกั งานท่ปี รากฏวา่ เปน็ ของนายจา้ งนนั้ ได้ กรณีไม่สามารถส่งคําส่ังตามวรรคหนึ่งได้ ให้ส่งโดยปิดคําส่ัง ณ สํานักงานของนายจ้าง สถานทีท่ าํ งานของลกู จา้ ง ภูมิลาํ เนาหรอื ถิน่ ท่ีอยู่ของนายจ้าง หมวด ๔ การอุทธรณ์คาํ ส่ังพนักงานตรวจแรงงาน ขอ้ ๒๒ ให้พนักงานตรวจแรงงานแจ้งสิทธิการนําคดีไปสู่ศาลแรงงาน ในกรณีที่นายจ้าง ลูกจา้ ง หรอื ทายาทโดยธรรมของลกู จา้ งซ่งึ ถงึ แก่ความตายไม่เหน็ ด้วยกับคาํ สั่งพนักงานตรวจแรงงานน้ัน ไว้ท้ายคําส่ัง ท้ังนี้ เพื่อแจ้งให้บุคคลดังกล่าวนําคดีไปสู่ศาลแรงงานภายในสามสิบวันนับแต่วันทราบ คาํ สง่ั ดงั กลา่ ว

101 เล่ม ๑๒๘ ตอนพเิ ศษ ๑๓๗ ง หนา้ ๑๕ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ราชกจิ จานเุ บกษา ขอ้ ๒๓ ในกรณีท่ีนายจ้าง ลูกจ้าง หรือทายาทโดยธรรมของลูกจ้างซ่ึงถึงแก่ความตาย นาํ คดีไปสศู่ าลแรงงานภายในกําหนดเวลาตามขอ้ ๒๒ ให้พนักงานตรวจแรงงานที่ปฏิบัติหน้าท่ีในพ้ืนท่ี กรุงเทพมหานครรายงานกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพ่ือกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จะไดม้ อบหมายให้กองนิติการประสานการต่อสู้คดีต่อไป สําหรับพนักงานตรวจแรงงานในส่วนภูมิภาค ให้ประสานกับสาํ นักงานคดีแรงงานเขต สํานกั งานอยั การสูงสุดเพอื่ ดําเนินการตอ่ ไป หมวด ๕ การเพิกถอนหรอื การแก้ไขเพ่ิมเติมคาํ สง่ั ขอ้ ๒๔ เมื่อคู่กรณีมีคําขอ พนักงานตรวจแรงงานอาจเพิกถอนหรือเพ่ิมเติมคําส่ังพนักงาน ตรวจแรงงานท่ีพ้นกาํ หนดอุทธรณ์ตามหมวด ๔ ไดใ้ นกรณีดังตอ่ ไปน้ี (๑) มีพยานหลักฐานใหม่ อันอาจทําให้ข้อเท็จจริงท่ีฟังเป็นอันยุติแล้วน้ันเปล่ียนแปลงไปใน สาระสําคญั (๒) คู่กรณีที่แท้จริงมิได้เข้ามาในกระบวนการพิจารณาคําร้อง หรือได้เข้ามาในกระบวนการ พิจารณาคร้งั ก่อนแลว้ แต่ถูกตดั โอกาสโดยไมเ่ ป็นธรรมในการมสี ว่ นรว่ มในกระบวนการพิจารณาคําร้อง (๓) พนักงานตรวจแรงงานไมม่ ีอํานาจหน้าท่ีจะทําคาํ ส่งั ตามคํารอ้ งนั้น (๔) ถ้าคําส่ังพนักงานตรวจแรงงานได้ออกโดยอาศัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใดและต่อมา ขอ้ เท็จจริงและข้อกฎหมายนั้นเปล่ยี นแปลงไปในสาระสําคัญในทางทีจ่ ะเปน็ ประโยชนแ์ ก่คู่กรณี การย่ืนคําขอตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ให้กระทําได้เฉพาะเม่ือคู่กรณีไม่อาจทราบถึงเหตุน้ัน ในการพิจารณาครง้ั ทแี่ ลว้ มากอ่ นโดยไม่ใชค่ วามผิดของผ้นู ้ัน การย่ืนคําขอให้พิจารณาใหม่ต้องกระทําภายในเก้าสิบวันนับแต่ผู้นั้นได้รู้ถึงเหตุซึ่งอาจขอให้ พิจารณาใหม่ได้ ขอ้ ๒๕ พนักงานตรวจแรงงานหรือผู้บังคับบัญชาของพนักงานตรวจแรงงานอาจเพิกถอน หรอื แก้ไขเพ่ิมเตมิ คาํ สัง่ ของพนักงานตรวจแรงงานได้ ไมว่ ่าจะพ้นกาํ หนดอุทธรณต์ ามหมวด ๔ หรอื ไมก่ ็ตาม เม่ือมเี หตหุ นง่ึ เหตุใดตามข้อ ๒๔ (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) หมวด ๖ การบงั คับตามคาํ สัง่ ขอ้ ๒๖ คําสง่ั พนักงานตรวจแรงงานทกี่ าํ หนดให้นายจา้ งชําระเงินภายในสามสิบวนั นบั แต่วันที่ ทราบหรือถือว่าได้ทราบคําสั่ง ถ้ากําหนดแล้วไม่มีการชําระเงินโดยถูกต้อง ครบถ้วนและครบกําหนด สามสบิ วันแล้วใหพ้ นักงานตรวจแรงงานใช้มาตรการบงั คับตามคาํ สั่งโดยการดําเนนิ คดอี าญา ต่อไป

 102 เลม่ ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๑๓๗ ง หน้า ๑๖ ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๔ ราชกิจจานุเบกษา ขอ้ ๒๗ การดําเนินคดีอาญาให้เป็นอันระงับไปในกรณีท่ีนายจ้างได้ปฏิบัติตามคําส่ัง ของพนกั งานตรวจแรงงานภายในระยะเวลาทกี่ ําหนดหรือได้ปฏิบตั ติ ามคําพิพากษาหรอื คาํ ส่งั ของศาล ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ อาทติ ย์ อสิ โม อธิบดกี รมสวสั ดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน

103103

104 104

105

106

107

108

109 หนา้ ๑ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๒๓๖ ง ระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน วา่ ดว้ ยการดําเนนิ คดีอาญาและการเปรยี บเทยี บผู้กระทาํ ความผิด ตามกฎหมายวา่ ด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัยในการทาํ งาน พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยที่พระราชบญั ญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๕๙ บัญญตั ใิ ห้บรรดาความผิด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ เว้นแต่ความผิดตามมาตรา ๑๕๗ เป็นความผิด ท่ีสามารถเปรียบเทียบได้ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําท่ีบ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๔๙ บัญญัติ ให้บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นความผิด ที่สามารถเปรียบเทียบได้ และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๗๑ บัญญัติให้ความผิดตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ท่ีมีอัตราโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจําท้ังปรับ เป็นความผิดที่สามารถเปรียบเทียบได้ และมาตรา ๗๒ บัญญัติให้ความผิดตามมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นอํานาจของคณะกรรมการเปรียบเทียบในการดําเนินคดี เปรียบเทยี บ เพื่อให้การดาํ เนินคดีอาญาและการเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พระราชบัญญตั คิ ุ้มครองผรู้ บั งานไปทาํ ที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงสมควรแก้ไขปรับปรุงระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนินคดีอาญาและ การเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายดังกล่าว อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จงึ วางระเบยี บไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนิน คดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและ ความปลอดภัยในการทาํ งาน พ.ศ. ๒๕๕๘” ขอ้ ๒ ระเบียบน้ใี หใ้ ช้บังคบั ตงั้ แต่วนั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ตน้ ไป ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนินคดีอาญา และการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัยในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔

เลม่ ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๒๓๖ ง หน้า ๒ 110 ราชกจิ จานุเบกษา ๒ ตลุ าคม ๒๕๕๘ 112 บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ หรือคําส่ังอื่นใดในส่วนที่กําหนดไว้แล้วในระเบียบนี้หรือซึ่งขัด หรอื แย้งกับระเบยี บนี้ ให้ใช้ระเบยี บนี้แทน ขอ้ ๔ ในระเบยี บนี้ “การดําเนินคดี” หมายความว่า การดําเนินคดีโดยการเปรียบเทียบ รวมทั้งการร้องทุกข์ หรือกล่าวโทษผู้กระทําผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้รับงานไปทําท่ีบ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดลอ้ มในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ “พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑” หมายความว่า พระราชบัญญัติคุ้มครอง แรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และทีแ่ กไ้ ขเพมิ่ เติม “พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓” หมายความว่า พระราชบัญญัติ ค้มุ ครองผู้รบั งานไปทําที่บา้ น พ.ศ. ๒๕๕๓ และท่แี ก้ไขเพ่มิ เตมิ “พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔” หมายความว่า พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเตมิ “นิติกร” หมายความว่า ขา้ ราชการทีด่ าํ รงตาํ แหนง่ นติ ิกร กรมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน “พนกั งานเจา้ หน้าท”่ี หมายความว่า พนักงานตรวจแรงงาน พนกั งานตรวจความปลอดภัย และนิติกร “ผู้มีอํานาจเปรียบเทียบ” หมายความว่า อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือผู้ซึ่ง อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมอบหมาย สําหรับความผิดท่ีเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ผูว้ ่าราชการจังหวดั หรอื ผซู้ ่ึงผู้ว่าราชการจงั หวดั มอบหมาย สําหรบั ความผิดท่เี กดิ ข้นึ ในจงั หวัดอ่นื “คณะกรรมการเปรียบเทียบ” หมายความว่า คณะกรรมการเปรียบเทียบตามมาตรา ๗๒ แห่งพระราชบญั ญตั ิความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน พ.ศ. ๒๕๕๔ “อธิบดี” หมายความวา่ อธบิ ดีกรมสวัสดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน ขอ้ ๕ ให้อธบิ ดีกรมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงานรกั ษาการตามระเบยี บนี้และให้มีอํานาจ ตคี วาม วินิจฉยั ปัญหา กาํ หนดหลกั เกณฑ์และวธิ ีปฏบิ ตั เิ พ่ือดําเนนิ การให้เป็นไปตามระเบยี บน้ี หมวด ๑ การพิจารณาดําเนนิ คดี ขอ้ ๖ เพ่ือประโยชน์ในการดําเนินคดีและการรวบรวมพยานหลักฐาน ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ปฏบิ ัติ ดงั นี้

111111 หนา้ ๓ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ราชกจิ จานุเบกษา เล1ม่ 13๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๒๓๖ ง (๑) บันทึกวัน เวลา สถานท่ีเกิดเหตุ ชื่อตัว ชื่อสกุล และท่ีอยู่ของผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทํา ความผิด หากผู้ถูกกล่าวหาเป็นนิติบุคคลให้ระบุช่ือผู้มีอํานาจกระทําการแทนนิติบุคคลในขณะกระทํา ความผิดและในขณะท่ีบนั ทึกขอ้ เท็จจรงิ (๒) บันทึกรายละเอียดแห่งการกระทําทั้งหลายท่ีอ้างว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทําความผิด ท้ังบุคคลและส่ิงของท่ีเก่ียวข้องและตรวจพบ หรือพบเห็นพยานหลักฐาน และให้บันทึกไว้ด้วยว่า ผถู้ ูกกล่าวหายอมรับหรือไมว่ ่าไดก้ ระทําความผดิ (๓) สอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือเรียกบุคคลท่ีเก่ียวข้องมาให้ถ้อยคําและบันทึก รายละเอียดไว้ (๔) บันทึกจะต้องระบุสถานท่ี วัน เดือน ปี ที่ทําบันทึก ช่ือ และตําแหน่งของพนักงาน เจา้ หนา้ ที่ผบู้ ันทกึ และให้พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีผทู้ ําบนั ทึกลงลายมือชือ่ ของตนในบนั ทึกน้นั การบันทึก ถ้ามีผิดที่ใดห้ามมิให้ลบออก ให้ขีดฆ่าคําผิดน้ันแล้วเขียนใหม่ และให้พนักงานเจ้าหน้าท่ี ผู้ทําบนั ทกึ และผใู้ ห้ถ้อยคาํ ลงนามยอ่ รับรอง แต่ถ้าผู้ใหถ้ อ้ ยคําไมย่ ินยอมลงลายมอื ชือ่ ใหบ้ ันทึกเหตนุ ้นั ไว้ (๕) อ่านบันทึกให้ผู้ให้ถ้อยคําฟัง หรือให้ผู้ให้ถ้อยคําอ่านด้วยตนเอง ถ้ามีข้อความแก้ไข ทกั ทว้ ง หรือเพ่ิมเติม ให้แก้ไขให้ถูกต้อง หรือมิฉะน้ันให้บันทึกไว้และให้ผู้ให้ถ้อยคําลงลายมือช่ือรับรอง ว่าถูกต้อง ในกรณีท่ีผู้ให้ถ้อยคําไม่สามารถลงลายมือช่ือได้ ให้ผู้น้ันพิมพ์ลายนิ้วมือแทน แต่ถ้า ผูใ้ หถ้ ้อยคาํ ไมย่ ินยอมลงลายมือชือ่ ให้บันทึกเหตุน้ันไว้ และให้เจ้าหน้าท่ีที่ทราบเหตุดังกล่าวจํานวนหน่ึง คนลงลายมือชอื่ เป็นพยาน (๖) มีหนังสือเรียกพยานหลักฐาน หรือเอกสารที่เก่ียวข้องจากผู้ครอบครองมารวบรวมไว้ในสํานวน โดยเฉพาะเอกสารหลักฐานท่ีนายจ้างจะต้องจัดทําไว้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ รวมท้ังสําเนาบัตรประจําตัวประชาชนหรือหลักฐานอื่นใด ของทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐท่ีมีรูปถ่ายสามารถแสดงตนได้และมีหมายเลขประจําตัว ประชาชนของผู้ถือบัตร สําเนาทะเบียนบ้าน สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หรอื เอกสารอ่ืนใดทเี่ กีย่ วกับคดี เอกสารที่ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีให้จัดทําเป็นภาษาไทย ถ้าเป็นเอกสารที่ทําข้ึน เป็นภาษาต่างประเทศ ให้ผู้ย่ืนจัดทําคําแปลเป็นภาษาไทยที่มีการรับรองความถูกต้องมาให้ภายใน ระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่กําหนด ในกรณีน้ีให้ถือว่าเอกสารดังกล่าวได้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ี ในวันท่ีพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับคําแปลนั้น เว้นแต่พนักงานเจ้าหน้าท่ีจะยอมรับเอกสารที่ทําข้ึน เป็นภาษาต่างประเทศ และในกรณีน้ีให้ถือว่าวันท่ีได้ย่ืนเอกสารฉบับท่ีทําขึ้นเป็นภาษาต่างประเทศ เป็นวันทพ่ี นักงานเจา้ หนา้ ที่ไดร้ ับเอกสารน้ัน ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และวิธีการรับรองความถูกต้องของคําแปล เป็นภาษาไทยหรือการยอมรับเอกสารที่ทําขึ้นเป็นภาษาต่างประเทศให้เป็นไปตามที่กําหนด ในพระราชบัญญตั ิวธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙

เลม่ ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๒๓๖ ง หน้า ๔ 112 ราชกิจจานุเบกษา 112 ๒ ตลุ าคม ๒๕๕๘ (๗) กระทําการอ่ืนตามท่ีพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้อํานาจไว้ โดยให้นําประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลมเพอ่ื ใหไ้ ด้มาซ่งึ ขอ้ เท็จจริงแนช่ ัดในการกระทําความผิด การบนั ทึกตาม (๑) ถึง (๔) พนักงานเจ้าหน้าท่ีอาจมอบหมายให้เจ้าหน้าที่อ่ืนทําการบันทึกแทนได้ ท้ังน้ี ให้เจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมายลงลายมือชื่อในฐานะผู้เขียนหรือพิมพ์แล้วให้พนักงานเจ้าหน้าท่ี ผู้มอบหมายลงลายมอื ช่อื ในบันทึกน้ัน และใหถ้ ือว่าพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ผี ูม้ อบหมายเปน็ ผ้ทู าํ บันทึกนัน้ ความในวรรคหนง่ึ มิใหใ้ ช้บงั คับแก่ความผิดตามขอ้ ๙ (๒) (๓) (๔) และ (๗) ขอ้ ๗ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดเท่าท่ีจะสามารถทําได้ เพื่อทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่าง ๆ อันเกี่ยวกับความผิดท่ีถูกกล่าวหา และเพ่ือจะรู้ตัว หรือยืนยัน หรือช้ีชัด และพสิ จู นใ์ หเ้ ห็นความผิดของผูก้ ระทําความผิด เมื่อดําเนินการตามวรรคหนึ่งเสร็จแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีทําความเห็นว่าควรดําเนินคดี หรอื ไม่ดาํ เนินคดีแล้วส่งพร้อมกับสํานวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาส่ังการถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นด้วย กับความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าท่ีว่าควรดําเนินคดี ให้ผู้บังคับบัญชานั้นสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าท่ี ดาํ เนนิ คดตี อ่ ไป สําหรับความผิดท่ีเกิดข้ึนในกรุงเทพมหานคร ถ้าผู้บังคับบัญชาไม่เห็นด้วยกับความเห็น ของพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ว่าท้ังหมดหรือบางส่วน ให้เร่งรายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยังอธิบดีหรือ ผูซ้ ่งึ อธิบดมี อบหมายเพ่อื พจิ ารณาและสง่ั การให้ดําเนนิ คดีตอ่ ไปหรือใหง้ ดการดําเนินคดี สําหรับความผิดท่ีเกิดขึ้นในจังหวัดอ่ืน ถ้าผู้บังคับบัญชาไม่เห็นด้วยกับความเห็นของพนักงาน เจา้ หนา้ ทีไ่ ม่ว่าทั้งหมดหรือบางสว่ น ให้ความเหน็ ของผู้บงั คับบญั ชานัน้ เป็นทส่ี ุด ผู้ใดจะเป็นผบู้ งั คับบัญชาใหเ้ ป็นไปตามทีอ่ ธิบดีกําหนด ข้อ ๘ เม่ือมีคําส่ังให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดําเนินคดีตามข้อ ๗ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึก รายละเอียดเก่ียวกับการดําเนินคดีในทะเบียนการดําเนินคดีอาญาแล้วเร่งรัดดําเนินคดีอาญาต่อไป โดยไม่ชกั ชา้ ทงั้ นี้ ภายในกําหนดอายคุ วามตามประมวลกฎหมายอาญา ข้อ ๙ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ท่ีสามารถเปรียบเทียบได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีดําเนินคดี ตามขั้นตอนการเปรียบเทียบก่อน เว้นแต่ความผิดดังต่อไปน้ี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดําเนินคดีโดยการร้องทุกข์ หรือกลา่ วโทษตอ่ พนักงานสอบสวนโดยไมต่ ้องผ่านขัน้ ตอนการเปรยี บเทยี บ (๑) ความผิดท่ีมีพฤติการณ์พิเศษ หรือเกิดผลกระทบกับลูกจ้างหรือผู้รับงานไปทําที่บ้าน จาํ นวนมาก (๒) ความผิดเกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็กโดยมีการทารุณ หน่วงเหนี่ยว กักขัง หรือมีการกระทํา ความผดิ อาญาฐานอน่ื รวมอยดู่ ้วย

113 หนา้ ๕ ๒ ตลุ าคม ๒๕๕๘ ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๒๓๖ ง (๓) ความผิดตามมาตรา ๑๖ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติ คุม้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ (๔) ความผิดตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบ ข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล พ.ศ. ๒๕๕๗ และความผิดตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงาน ในงานเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๗ เฉพาะมาตรา ๔๔ แหง่ พระราชบัญญตั ิคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ (๕) ความผิดตาม ๑๓๙ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และ ความผดิ ตามมาตรา ๓๗ (๓) แห่งพระราชบัญญัติคมุ้ ครองผู้รับงานไปทําท่บี ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ (๖) ความผิดตามมาตรา ๑๕๐ หรือมาตรา ๑๕๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง แรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ หรือความผิดตามมาตรา ๔๕ หรือมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้รับงานไปทําท่ีบ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ เฉพาะความผิดที่กระทําต่อพนักงานตรวจแรงงานหรือความผิด ตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ เฉพาะความผดิ ทีก่ ระทาํ ตอ่ พนกั งานตรวจความปลอดภยั (๗) ความผิดตามมาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ มาตรา ๓๙/๑ มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๗ มาตรา ๔๘ แหง่ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และความผิดตามมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ ซ่ึงเป็นสาเหตุโดยตรงท่ีทําให้ลูกจ้าง หรอื ผู้รบั งานไปทาํ ทบี่ ้านไดร้ ับอนั ตรายสาหสั หรือถึงแก่ความตาย (๘) ความผิดตามพระราชบญั ญตั คิ วามปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ หรือความผิดตามมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้รับงานไปทําท่ีบ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ ซ่ึงเป็นสาเหตุโดยตรงท่ีทําให้ลูกจ้างหรือผู้รับงานไปทํา ท่บี า้ นได้รบั อันตรายสาหัสหรอื ถึงแกค่ วามตาย (๙) ความผดิ ทม่ี กี ารกระทําความผิดอาญาตามกฎหมายอื่นรวมอยู่ด้วย ขอ้ ๑๐ ความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ท่ีไม่สามารถเปรียบเทียบได้ หรือที่สามารถเปรียบเทียบได้ แต่ผู้มีอํานาจเปรียบเทียบเห็นสมควรไม่เปรียบเทียบ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีดําเนินคดีตามข้ันตอนการร้องทุกข์ หรือกลา่ วโทษตอ่ พนักงานสอบสวน ในกรณีท่ีผู้กระทําความผิดไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบ หรือเม่ือยินยอมแล้วไม่ชําระเงินค่าปรับ ภายในกําหนดเวลาตามมาตรา ๑๕๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ หรือมาตรา ๔๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ หรือ มาตรา ๗๑ วรรคส่ี และมาตรา ๗๒ แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีดําเนินคดีตามข้ันตอนการร้องทุกข์ หรอื กล่าวโทษต่อพนกั งานสอบสวน

เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๒๓๖ ง หน้า ๖ 114 ราชกิจจานุเบกษา ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ หมวด ๒ การดําเนินคดีเปรยี บเทียบ ขอ้ ๑๑ การดําเนินคดีเปรียบเทียบ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เรียกผู้ถูกกล่าวหามาพบหรือไปพบ ผู้ถูกกล่าวหาด้วยตนเอง เพ่ือแจ้งข้อกล่าวหาเป็นหนังสือหรือวาจาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบแล้วสอบถาม ผู้ถูกกล่าวหาว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ โดยให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีบันทึกคําให้การ ตามแบบ กสร.นก. ๑ ทา้ ยระเบยี บน้ี และใหผ้ ู้ถูกกล่าวหาลงลายมอื ช่อื ไวด้ ว้ ย การมาพบพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหน่ึง ผู้ถูกกล่าวหาอาจมอบอํานาจเป็นหนังสือให้ผู้อื่น ซ่ึงเป็นผู้ท่ีรู้หรือเข้าใจในการปฏิบัติเกี่ยวกับสภาพการจ้างและอื่น ๆ ท่ีเก่ียวข้องในกิจการของผู้ถูกกล่าวหา มาพบพนักงานเจ้าหน้าท่ีแทนก็ได้ ทั้งนี้ ผู้รับมอบอํานาจนั้นสามารถให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธแทน ผู้ถูกกล่าวหาได้ ในกรณีท่ีผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สอบถามผู้ถูกกล่าวหาว่า จะยินยอมให้เปรียบเทียบหรือไม่ เมื่อผู้ถูกกล่าวหายินยอมให้เปรียบเทียบ ให้ผู้ถูกกล่าวหาลงลายมือชื่อ ในบันทึกคํายินยอมให้เปรียบเทียบตามแบบ กสร.นก. ๒ ท้ายระเบียบน้ี ทั้งนี้ ผู้รับมอบอํานาจตามวรรคสอง จะลงลายมือชอ่ื ในแบบ กสร.นก. ๒ แทนผูถ้ กู กล่าวหามิได้ หากเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเกี่ยวกับสิทธิได้รับเงินอย่างหน่ึงอย่างใด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานพ.ศ. ๒๕๕๔ พนักงานเจ้าหน้าท่ีจะดําเนินคดีเปรียบเทียบได้ก็ต่อเม่ือผู้ถูกกล่าวหาได้นําเงินมาชําระให้แก่ลูกจ้างหรือ ผู้รับงานไปทําที่บ้าน หรือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อจ่ายให้แก่ลูกจ้างหรือผู้รับงานไปทําท่ีบ้าน เว้นแต่ลกู จ้างหรือผูร้ บั งานไปทาํ ทบี่ ้านจะแจ้งการสละสิทธใิ นการรบั เงินเป็นหนังสือ ในกรณีที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้จ่ายเงินจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างให้แก่ ลูกจ้างตามมาตรา ๑๓๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พนักงานเจ้าหน้าที่ จะดําเนินคดีเปรียบเทียบได้ก็ต่อเม่ือผู้ถูกกล่าวหาได้ชําระเงินคืนกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างตามจํานวน ที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้จ่ายให้แก่ลูกจ้างพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีนับแต่ วันที่กรมสวสั ดกิ ารและคุม้ ครองแรงงานได้จา่ ยเงนิ จากกองทุนสงเคราะหล์ กู จ้างใหแ้ กล่ กู จ้าง การลงลายมือช่ือในแบบ กสร.นก. ๒ ตามวรรคสาม ในกรณีท่ีผู้ถูกกล่าวหาเป็นนิติบุคคล ให้ผู้ถูกกล่าวหาลงลายมือชื่อในแบบ กสร.นก. ๒ ในฐานะนิติบุคคลและในฐานะส่วนตัวโดยในฐานะ นิติบุคคลน้ัน ให้ผู้มีอํานาจกระทําการแทนนิติบุคคลในขณะยินยอมให้เปรียบเทียบเป็นผู้ลงลายมือชื่อ และประทับตราเป็นสําคัญตามท่ีหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลกําหนดและในฐานะส่วนตัว ให้ผูม้ ีอํานาจกระทาํ การแทนนิติบุคคลในขณะกระทําความผิดเป็นผลู้ งลายมือชอ่ื

115 หน้า ๗ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๒๓๖ ง พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าเป็นดุลพินิจของผู้มีอํานาจเปรียบเทียบที่จะ ทําการเปรยี บเทียบหรือไมก่ ไ็ ด้ ขอ้ ๑๒ ในกรณีที่เป็นความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเกี่ยวกับสิทธิได้รับเงินอย่างหน่ึง อย่างใดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทํา ที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ผู้มีอํานาจเปรียบเทียบจะดําเนินการเปรียบเทียบได้ก็ต่อเมื่อผู้ถูกกล่าวหานําเงินมาชําระ ให้แก่ลูกจ้างหรือผู้รับงานไปทําท่ีบ้าน หรือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่เพ่ือจ่ายให้แก่ลูกจ้างหรือผู้รับงาน ไปทาํ ที่บ้าน เว้นแตล่ ูกจ้างหรอื ผ้รู บั งานไปทาํ ทีบ่ ้านจะแจง้ การสละสทิ ธิในการรับเงินเปน็ หนังสอื ถา้ ผถู้ กู กล่าวหาตกลงกับลูกจา้ งหรอื ผูร้ บั งานไปทาํ ท่ีบา้ นผอ่ นชาํ ระเงินตามวรรคหนึ่งให้พนักงาน เจ้าหน้าที่บันทึกเหตุนั้นไว้ และเสนอผู้บังคับบัญชาตามข้อ ๗ เพื่อพิจารณาสั่งให้ชะลอการดําเนินคดี เปรียบเทียบจนกว่าผู้ถูกกล่าวหาจะได้ชําระเงินครบตามที่ตกลงก็ได้ แต่ทั้งนี้ระยะเวลาดังกล่าวต้องไม่เกินกว่า กาํ หนดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา ในกรณีที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้จ่ายเงินจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างให้แก่ลูกจ้าง ตามมาตรา ๑๓๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ผู้มีอํานาจเปรียบเทียบจะ ดําเนินคดีเปรียบเทียบได้ก็ต่อเมื่อผู้ถูกกล่าวหาได้ชําระเงินคืนกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างตามจํานวนที่ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้จ่ายให้แก่ลูกจ้างพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีนับแต่ วนั ทกี่ รมสวสั ดิการและค้มุ ครองแรงงานได้จา่ ยเงินจากกองทนุ สงเคราะหล์ ูกจ้างให้แก่ลกู จ้าง ข้อ ๑๓ คดีท่ีผู้ถูกกล่าวหายินยอมให้เปรียบเทียบ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีจัดทําประวัติ การกระทําความผิดรวมท้ังพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิดพร้อมด้วยความเห็นในการเปรียบเทียบ เพื่อเสนอผู้บงั คับบญั ชาตามลําดับชน้ั ภายในเจ็ดวันนับแตว่ นั ที่ได้รบั บนั ทึกคํายินยอมให้เปรยี บเทยี บ ในกรุงเทพมหานคร ให้ผู้อํานวยการสํานักหรือผู้อํานวยการกองท่ีพนักงานเจ้าหน้าที่เจ้าของสํานวน สังกัดอยู่ ส่งสํานวนคดีที่จะทําการเปรียบเทียบให้กองนิติการเพ่ือพิจารณาตรวจสํานวนคดี เสนอผู้มีอํานาจ เปรียบเทียบ โดยนิติกรกองนิติการตรวจสํานวน สรุปข้อเท็จจริง และเสนอความเห็นต่อผู้อํานวยการ กองนิติการพิจารณาสํานวนคดีและเสนอความเห็นในการพิจารณาเปรียบเทียบพร้อมทั้งจํานวนเงิน ค่าปรับต่อผู้มีอํานาจเปรียบเทียบ เว้นแต่คดีท่ีอยู่ในอํานาจของสํานักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรุงเทพมหานครพื้นท่ี ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีสํานักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร พ้ืนท่ีพิจารณาตรวจสํานวน สรุปข้อเท็จจริง และเสนอความเห็นต่อผู้มีอํานาจเปรียบเทียบโดยส่งเรื่อง ผา่ นกองนติ กิ ารเพอื่ ใหค้ วามเห็นประกอบการเปรยี บเทยี บของผู้มอี ํานาจเปรียบเทยี บ สําหรับจังหวัดอื่น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สํานักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด พิจารณาตรวจสํานวน สรุปข้อเท็จจริง และเสนอความเห็นต่อสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด โดยไม่ชักช้าหลังจากรับสํานวนคดี และให้สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพิจารณาสํานวนคดีและ เสนอความเหน็ ในการพิจารณาเปรยี บเทยี บพร้อมทั้งจาํ นวนเงนิ ค่าปรบั ต่อผ้มู อี าํ นาจเปรียบเทยี บ

เลม่ ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๒๓๖ ง หน้า ๘ 116 ราชกจิ จานุเบกษา ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ผู้มีอํานาจเปรียบเทียบให้มีอํานาจเปรียบเทียบได้เฉพาะความผิดท่ีมีเหตุเกิดในท้องท่ีท่ีผู้มีอํานาจ เปรียบเทียบดํารงตําแหน่งในท้องที่หรือภายในจังหวัดนั้น ทั้งน้ี เป็นดุลพินิจของผู้มีอํานาจเปรียบเทียบ ทีจ่ ะเปรียบเทยี บหรือไม่รบั เปรยี บเทียบก็ได้ การสรปุ ขอ้ เท็จจรงิ และความเห็นในการเปรียบเทียบให้เปน็ ไปตามแบบ กสร.นก. ๓ ทา้ ยระเบียบนี้ ข้อ ๑๔ สําหรับความผิดตามมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีสรุปสํานวนคดีแล้วส่งสํานวนคดี ให้กองนิติการ เพ่ือสรุปข้อเท็จจริงเสนอคณะกรรมการเปรียบเทียบดําเนินการเปรียบเทียบต่อไป ทั้งน้ี เป็นดลุ พินิจของคณะกรรมการเปรียบเทียบท่ีจะเปรยี บเทียบหรือไม่รบั เปรียบเทียบกไ็ ด้ ใหก้ องนติ กิ ารปฏบิ ัตงิ านธรุ การของคณะกรรมการเปรียบเทียบ ข้อ ๑๕ ในการเปรียบเทียบ ให้ดําเนินการเปรียบเทียบโดยคํานึงถึงพฤติการณ์แห่งการกระทํา ความผิด ความหนักเบาแห่งข้อหา ฐานะของผู้กระทําความผิด จํานวนลูกจ้าง เหตุบรรเทาโทษ และ เหตเุ พมิ่ โทษ ขอ้ ๑๖ เม่ือผู้มีอํานาจเปรียบเทียบ หรือคณะกรรมการเปรียบเทียบมีความเห็นให้เปรียบเทียบ ให้ดําเนินการดังต่อไปน้ี (๑) ในกรุงเทพมหานคร ให้นิติกรกองนิติการหรือนิติกรสํานักงานสวัสดิการและคุ้มครอง แรงงานกรงุ เทพมหานครพน้ื ทีแ่ จง้ ความเหน็ ใหเ้ ปรยี บเทยี บให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ โดยกําหนดให้ผู้ถูกกล่าวหา นําเงินค่าปรับมาชําระ ณ กลุ่มงานกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง สํานักคุ้มครองแรงงาน สําหรับความผิด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ หรือกองบริหารการคลัง สําหรับความผิด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ หรือกลุ่มงานกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน สํานักความปลอดภัยแรงงาน สําหรับความผิด ตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับหนังสือแจ้งความเห็นให้เปรียบเทียบ หากครบกําหนดแล้วผู้ถูกกล่าวหา ไม่มาชําระค่าปรับ ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เว้นแต่กรณี มีเหตุอันสมควร นติ ิกรกองนติ ิการอาจนําคดีไปรอ้ งทกุ ขห์ รือกล่าวโทษตอ่ พนกั งานสอบสวนตอ่ ไป (๒) ในจังหวัดอ่ืน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งความเห็นให้เปรียบเทียบให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ โดยกําหนดให้ผู้ถูกกล่าวหานําเงินค่าปรับมาชําระ ณ ที่ทําการของพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสามสิบวัน นับแต่วันได้รบั หนังสือแจ้งความเห็นให้เปรียบเทียบ หากครบกําหนดแล้วผู้ถูกกล่าวหาไม่มาชําระค่าปรับ ใหพ้ นักงานเจา้ หนา้ ทีน่ าํ คดีไปรอ้ งทุกข์หรือกล่าวโทษตอ่ พนักงานสอบสวนตอ่ ไป ในกรณีท่ีผู้กระทําความผิดได้กระทําความผิดในหลายท้องที่หรือหลายจังหวัดให้พนักงาน เจ้าหนา้ ที่ในทอ้ งทห่ี รือจงั หวัดทพี่ บการกระทาํ ความผดิ กอ่ นเปน็ ผ้รู บั ผิดชอบดาํ เนินคดี ในกรณีที่ลูกจ้างยื่นคําร้องตามมาตรา ๑๒๓ และพนักงานตรวจแรงงานมีคําสั่งตามมาตรา ๑๒๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ หรือในกรณีที่ผู้รับงานไปทําท่ีบ้านย่ืนคําร้อง

117 หน้า ๙ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๒๓๖ ง ตามมาตรา ๓๓ และพนักงานตรวจแรงงานมีคําส่ังตามมาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงาน ไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ หรือในกรณีท่ีพนักงานตรวจความปลอดภัยมีคําสั่งตามมาตรา ๓๖ วรรคหนึ่ง ส่ังให้นายจ้างจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างตามมาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในท้องที่ท่ีออกคําสั่งเป็น ผู้รบั ผิดชอบดาํ เนินคดี ข้อ ๑๗ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีผู้รับชําระเงินค่าปรับออกใบเสร็จรับเงินกองทุนสงเคราะห์ ลูกจ้าง หรือใบเสร็จรับเงินในราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือใบเสร็จรับเงินกองทุน ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานแล้วแตก่ รณี ใหแ้ กผ่ ูถ้ ูกกลา่ วหาและแจ้งให้ พนักงานเจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบสํานวนทราบ เพ่ือบันทึกหมายเหตุการชําระค่าปรับไว้ท้ายบันทึก ความเห็นของผู้มีอาํ นาจเปรียบเทยี บในแบบ กสร.นก. ๓ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับชําระค่าปรับนําเงินค่าปรับส่งเป็นรายได้ของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง หรือรายได้แผ่นดิน หรือรายได้ของกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน แล้วแต่กรณี ท้ังนี้ ตามระเบียบท่ีคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง หรือระเบียบ กระทรวงการคลัง หรือระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทํางานกําหนด แล้วแต่กรณี หมวด ๓ การดาํ เนนิ คดีช้นั พนกั งานสอบสวน ขอ้ ๑๘ การร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดําเนินการร้องทุกข์หรือ กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนที่ความผิดเกิด อ้างหรือเช่ือว่าได้เกิดภายในเขตท้องท่ี และนํา พยานหลักฐานที่รวบรวมได้อันเก่ียวกับการกระทําความผิด พร้อมบันทึกเหตุท่ีผู้กระทําความผิด ไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบหรือไม่ชําระค่าปรับภายในสามสิบวันนับแต่วันท่ีได้รับแจ้งความเห็น ใหเ้ ปรียบเทยี บหรือกรณีทผี่ ูม้ อี าํ นาจเปรยี บเทยี บมีความเห็นไม่เปรียบเทียบหรือกรณีความผิดตามข้อ ๙ (๑) ไปมอบใหพ้ นกั งานสอบสวนผรู้ บั เรือ่ งร้องทกุ ขห์ รอื กลา่ วโทษ ในกรณีลูกจ้างหรือผู้รับงานไปทําท่ีบ้านเป็นผู้ร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเอง เม่ือได้รับการร้องขอจากพนักงานสอบสวน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวม พยานหลกั ฐานเทา่ ทม่ี ีมอบให้พนักงานสอบสวนโดยเร็ว ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีติดตามผลการดําเนินคดีของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ เป็นระยะจนกวา่ คดีจะถงึ ท่ีสุด ข้อ ๑๙ ความผิดตามข้อ ๙ (๒) (๔) และ (๘) ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีร้องทุกข์หรือ กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนทันทีเมื่อทราบหรือพบว่ามีการกระทําความผิดเกิดข้ึน ทั้งนี้

เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๒๓๖ ง หน้า ๑๐ 118 ราชกจิ จานุเบกษา ๒ ตลุ าคม ๒๕๕๘ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเบื้องต้นเก่ียวกับการกระทําความผิดเพ่ือใช้ ในการรอ้ งทกุ ข์หรอื กลา่ วโทษตอ่ พนกั งานสอบสวน ความผดิ ตามข้อ ๙ (๓) ให้พนักงานเจ้าหน้าทีด่ าํ เนนิ การสอบสวนเบ้ืองต้นก่อนนําเร่ืองไปร้องทุกข์ หรือกล่าวโทษตอ่ พนกั งานสอบสวน โดยมีลูกจ้างผู้ถูกล่วงเกินทางเพศเป็นผู้เสยี หายร่วมและพยานในคดี ความผิดตามข้อ ๙ (๖) ให้พนักงานตรวจแรงงาน หรือพนักงานตรวจความปลอดภัยซึ่งมิได้รับ การอํานวยความสะดวกหรือถูกขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นผู้ดําเนินการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ตอ่ พนกั งานสอบสวน ข้อ ๒๐ ในกรณีท่ีพนักงานเจ้าหน้าท่ีร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนแล้ว พนักงานสอบสวนพบว่าผู้ถูกกล่าวหากระทําความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ หรือพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ และผู้ถูกกล่าวหายินยอมให้เปรียบเทียบ เมื่อพนกั งานสอบสวนไดส้ ง่ สํานวนการสอบสวนพร้อมหนังสือส่งตัวผู้ถูกกล่าวหาให้อธิบดีหรือผู้ว่าราชการ จังหวัดภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ผู้ถูกกล่าวหาน้ันแสดงความยินยอมให้เปรียบเทียบตามมาตรา ๑๕๙ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๔๙ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ และมาตรา ๗๑ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ แล้วแต่กรณีให้พนักงานเจ้าหน้าท่ี ดําเนินคดีตามข้ันตอนเปรียบเทียบตามท่ีกําหนดไว้ในหมวด ๒ โดยไม่ต้องดําเนินการบันทึกคําให้การ ตามแบบ กสร.นก. ๑ และบันทึกคํายินยอมให้เปรียบเทียบตามแบบ กสร.นก. ๒ สําหรับความผิด ตามมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สรุปสํานวนคดีส่งให้กองนิติการ เพ่ือสรุปข้อเท็จจริงตามแบบ กสร.นก. ๓ เสนอคณะกรรมการเปรยี บเทยี บดําเนนิ การเปรยี บเทยี บตอ่ ไป ในกรณีที่พนักงานสอบสวนมีหนังสือส่งตัวผู้ถูกกล่าวหามาเพื่อเปรียบเทียบโดยมิได้ส่งสํานวน การสอบสวนมาด้วย ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดําเนินคดีตามขั้นตอนการเปรียบเทียบตามท่ีกําหนดไว้ ในหมวด ๒ ข้อ ๒๑ ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหายินยอมให้เปรียบเทียบในช้ันพนักงานอัยการและพนักงานอัยการ ไดส้ ่งตัวผถู้ กู กลา่ วหามาเพอ่ื เปรียบเทยี บ ให้นาํ ความในขอ้ ๒๐ มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม ขอ้ ๒๒ ในกรณีท่ีผู้ถูกกล่าวหายินยอมให้เปรียบเทียบในชั้นพนักงานสอบสวนหรือ ช้ันพนักงานอัยการ เมื่อผู้ถูกกล่าวหาชําระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีแจ้งให้ พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการทราบว่าคดีเลิกกันตามมาตรา ๑๕๙ วรรคสามแห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ หรือมาตรา ๔๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงาน ไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ หรือมาตรา ๗๑ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ แล้วแต่กรณี ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๗ (๔)

119 หน้า ๑๑ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๒๓๖ ง ข้อ ๒๓ ในการดําเนินคดีทางพนักงานสอบสวนซึ่งพนักงานสอบสวนมีอํานาจเปรียบเทียบ หรือมีการนําคดีไปสู่ศาล หากศาลมีคําพิพากษาให้ปรับผู้กระทําความผิด ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีแจ้งให้ พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานศาลส่งเงินค่าปรับเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ หรือกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน ตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ แล้วแต่กรณี หมวด ๔ การรายงานผลการดาํ เนนิ คดี ขอ้ ๒๔ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีรายงานการดําเนินคดี การชําระค่าปรับและการส่งเงิน ค่าปรับเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง หรือส่งเป็นรายได้แผ่นดิน หรือกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน ให้อธิบดีโดยผ่านกองนิติการทราบทันทีที่มีการดําเนินคดี โดยส่ง สําเนาแบบ กสร.นก. ๑ กสร.นก. ๒ กสร.นก. ๓ หลักฐานการส่งเงินค่าปรับ หลักฐานการร้องทุกข์ หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน หมายจับสําเนาคําฟ้องต่อศาลและสําเนาคําพิพากษาของศาล ประกอบการรายงาน ส่วนสํานวนคดีให้เก็บรักษาไว้ที่สํานักงานของพนักงานเจ้าหน้าที่และให้พนักงาน เจ้าหน้าท่ีบันทึกผลการดําเนินคดีผ่านระบบคอมพิวเตอร์ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานทันทีท่ี มีการดําเนินคดี ในกรณีท่ีพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องคดี และหรือพนักงานอัยการมีคําสั่ง ไม่ฟ้องคดี หรือในกรณีศาลมีคําพิพากษายกฟ้อง ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีสรุปข้อเท็จจริง และรวบรวม พยานหลักฐานรายงานผลคดใี ห้กรมสวสั ดิการและคุม้ ครองแรงงานทราบทันที ท้ังนี้ ให้กองนิติการตรวจ สาํ นวนคดี พร้อมทง้ั สรุปและวิเคราะหผ์ ลคดีเพอ่ื หาแนวทางแกไ้ ข เสนอตอ่ อธิบดโี ดยไมช่ กั ชา้ ขอ้ ๒๕ การดําเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้ดําเนินการตามระเบียบกรมสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนินคดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่า ด้วยการคุ้มครองแรงงาน และความปลอดภัยในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ก่อนวันท่ีระเบียบนี้ใช้บังคับ ใหถ้ อื ว่าเปน็ การปฏบิ ัติตามระเบยี บนี้ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ พีรพฒั น์ พรศิรเิ ลิศกจิ อธิบดกี รมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๒๖๘ ง หนา้ ๒ 120 ราชกจิ จานุเบกษา ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๘ ระเบียบกรมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน ว่าดว้ ยการดําเนินคดอี าญาและการเปรยี บเทียบผูก้ ระทาํ ความผิด ตามกฎหมายว่าดว้ ยการคุม้ ครองแรงงานและความปลอดภัยในการทาํ งาน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยท่ีเปน็ การสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกรมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนิน คดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัย ในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้การดําเนินคดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดเป็นไป ด้วยความเรยี บรอ้ ยและทาํ ให้การบงั คับใชก้ ฎหมายมีประสทิ ธภิ าพ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ อธบิ ดีกรมสวัสดกิ ารและค้มุ ครองแรงงานจึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปน้ี ข้อ ๑ ระเบียบนใ้ี ห้ใช้บงั คับต้งั แตว่ นั ถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นต้นไป ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๙ แห่งระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วย การดําเนินคดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน และความปลอดภัยในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้ใช้ข้อความต่อไปนแี้ ทน “ข้อ ๙ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่สามารถเปรียบเทียบได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดําเนินคดี ตามขั้นตอนการเปรียบเทียบก่อน เว้นแต่ความผิดดังต่อไปนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีดําเนินคดีโดยการร้องทุกข์ หรอื กลา่ วโทษตอ่ พนกั งานสอบสวนโดยเร็วโดยไม่ตอ้ งผ่านขน้ั ตอนการเปรียบเทียบ (๑) ความผิดท่ีมีพฤติการณ์พิเศษ หรือเกิดผลกระทบกับลูกจ้างหรือผู้รับงานไปทําท่ีบ้าน จาํ นวนมาก (๒) ความผิดเกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็กโดยมีการทารุณ หน่วงเหนี่ยว กักขัง หรือการบังคับ ใช้แรงงานตามกฎหมายว่าด้วยการปอ้ งกนั และปราบปรามการค้ามนษุ ย์ (๓) ความผิดตามมาตรา ๑๖ มาตรา ๔๕ (๑) มาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบญั ญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ (๔) ความผิดตามมาตรา ๔๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงาน ในงานประมงทะเล พ.ศ. ๒๕๕๗ และมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัตคิ ้มุ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๗ เฉพาะมาตรา ๔๔ แหง่ พระราชบัญญัตคิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑

121 หน้า ๓ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๘ ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๒๖๘ ง (๕) ความผิดตามมาตรา ๑๓๙ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และความผิดตามมาตรา ๓๗ (๓) แห่งพระราชบัญญตั คิ มุ้ ครองผูร้ บั งานไปทาํ ท่บี า้ น พ.ศ. ๒๕๕๓ (๖) ความผดิ ตามมาตรา ๑๕๐ หรือมาตรา ๑๕๑ วรรคหนึง่ แหง่ พระราชบญั ญตั คิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ หรือความผดิ ตามมาตรา ๔๕ หรอื มาตรา ๔๖ แหง่ พระราชบัญญตั ิคุ้มครองผรู้ ับงานไปทาํ ท่บี ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ เฉพาะความผิดที่กระทําต่อพนักงานตรวจแรงงานหรือความผิดตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ เฉพาะความผิดท่กี ระทาํ ต่อพนักงานตรวจความปลอดภัย (๗) ความผิดตามมาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ มาตรา ๓๙/๑ มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๗ มาตรา ๔๘ แหง่ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และความผิดตามมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ ซ่ึงเป็นสาเหตุโดยตรงท่ีทําให้ลูกจ้าง หรือผรู้ บั งานไปทําท่บี า้ นไดร้ ับอันตรายสาหัส หรือถงึ แก่ความตาย (๘) ความผิดตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ หรือความผิดตามมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้รับงานไปทําท่ีบ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ ซ่ึงเป็นสาเหตุโดยตรงท่ีทําให้ลูกจ้างหรือผู้รับงานไปทําที่บ้าน ได้รบั อนั ตรายสาหสั หรอื ถงึ แกค่ วามตาย (๙) ความผิดตามมาตรา ๗๐ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๑๐ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครอง แรงงานในงานประมงทะเล พ.ศ. ๒๕๕๗ และมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๗ เฉพาะมาตรา ๗๐ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ โดยมีเจตนาที่จะหน่วงเหนี่ยว ใหล้ ูกจา้ งทํางานตอ่ ไปโดยลูกจ้างไมย่ นิ ยอม (๑๐) ความผิดตามมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๓ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงาน ในงานประมงทะเล พ.ศ. ๒๕๕๗ เฉพาะมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวง คุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๗ เฉพาะมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ อันมีลักษณะเป็นการหักเพื่อชําระหน้ีท่ีเป็นค่าใช้จ่ายหรือท่ีทดรองจ่ายอันเนื่องมาจาก การนําลูกจ้างมาทํางาน ไม่ว่าหนี้นั้นจะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ตาม หรือมีลักษณะเป็นการหักค่าจ้าง อนั เนอ่ื งมาจากการหลอกลวงใหล้ กู จา้ งเป็นหน้ีเกนิ กวา่ มูลหนี้ทแ่ี ทจ้ รงิ (๑๑) ความผิดท่มี ีการกระทําความผดิ อาญาตามกฎหมายอืน่ รวมอย่ดู ้วย” ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ พรรณี ศรียทุ ธศักดิ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รกั ษาราชการแทน อธิบดีกรมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน

เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๑๘๕ ง หนา้ ๒ 122 ราชกจิ จานุเบกษา ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๕๙ ระเบยี บกรมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน ว่าดว้ ยการดําเนนิ คดอี าญาและการเปรียบเทยี บผู้กระทําความผดิ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภยั ในการทํางาน (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนิน คดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัย ในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๘ เพ่ือให้การดําเนินคดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดเป็นไปด้วย ความเรียบรอ้ ยและทาํ ใหก้ ารบงั คับใช้กฎหมายมีประสทิ ธภิ าพ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดกี รมสวัสดกิ ารและคุ้มครองแรงงานจงึ วางระเบยี บไว้ ดังต่อไปน้ี ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรยี กวา่ “ระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนินคดีอาญา และการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัยในการทํางาน (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙ ข้อ ๒ ระเบยี บนใี้ หใ้ ชบ้ ังคับต้งั แตว่ นั ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนินคดีอาญาและ การเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัยในการทํางาน (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ ขอ้ ๔ ให้เพ่ิมเติมความต่อไปนี้เป็นข้อ ๙ แห่งระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ว่าด้วยการดําเนินคดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน และความปลอดภัยในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๘ “ขอ้ ๙ บรรดาความผดิ ตามพระราชบัญญตั คิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ท่ีสามารถเปรียบเทียบได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีดําเนินคดีตามขั้นตอน การเปรียบเทียบก่อน เว้นแต่ความผิดดังต่อไปนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดําเนินคดีโดยการร้องทุกข์ หรอื กลา่ วโทษต่อพนกั งานสอบสวนโดยเรว็ โดยไมต่ ้องผ่านขั้นตอนการเปรยี บเทยี บ (๑) ความผิดท่ีมีพฤติการณ์พิเศษ หรือเกิดผลกระทบกับลูกจ้างหรือผู้รับงานไปทําที่บ้าน จาํ นวนมาก (๒) ความผิดเก่ียวกับการใช้แรงงานเด็กโดยมีการทารุณ หน่วงเหน่ียว กักขัง หรือการบังคับ ใชแ้ รงงานตามกฎหมายว่าด้วยการปอ้ งกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์

123 หนา้ ๓ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๑๘๕ ง (๓) ความผิดตามมาตรา ๑๖ มาตรา ๔๕ (๑) มาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ (๔) ความผิดตามมาตรา ๔๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงาน ในงานประมงทะเล พ.ศ. ๒๕๕๗ และมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๗ เฉพาะมาตรา ๔๔ แหง่ พระราชบญั ญัติคุม้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ (๕) ความผิดตามมาตรา ๑๓๙ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และความผิดตามมาตรา ๓๗ (๓) แหง่ พระราชบญั ญัตคิ มุ้ ครองผรู้ บั งานไปทาํ ทบ่ี ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ (๖) ความผิดตามมาตรา ๑๕๐ หรือมาตรา ๑๕๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ หรือความผิดตามมาตรา ๔๕ หรือมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงาน ไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ เฉพาะความผิดที่กระทําต่อพนักงานตรวจแรงงานหรือความผิดตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ เฉพาะความผิดทีก่ ระทาํ ต่อพนักงานตรวจความปลอดภยั (๗) ความผิดตามมาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ มาตรา ๓๙/๑ มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๗ มาตรา ๔๘ แห่งพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และความผิดตามมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําท่ีบ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงท่ีทําให้ลูกจ้าง หรอื ผู้รับงานไปทาํ ที่บ้านได้รบั อันตรายสาหัส หรือถึงแกค่ วามตาย (๘) ความผิดตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ หรือความผดิ ตามมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ แหง่ พระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงที่ทําให้ลูกจ้างหรือผู้รับงานไปทําที่บ้านได้รับ อันตรายสาหสั หรอื ถึงแก่ความตาย (๙) ความผิดตามมาตรา ๗๐ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๑๐ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงาน ในงานประมงทะเล พ.ศ. ๒๕๕๗ และมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๗ เฉพาะมาตรา ๗๐ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ โดยมีเจตนาที่จะหน่วงเหน่ียวให้ลูกจ้างทํางานต่อไป โดยลูกจ้างไม่ยนิ ยอม (๑๐) ความผิดตามมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๓ แห่งกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงาน ในงานประมงทะเล พ.ศ. ๒๕๕๗ เฉพาะมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวง

เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๑๘๕ ง หนา้ ๔ 124 ราชกจิ จานุเบกษา ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๕๙ คุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๗ เฉพาะมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ อันมีลักษณะเป็นการหักเพื่อชําระหนี้ที่เป็นค่าใช้จ่ายหรือที่ทดรองจ่ายอันเน่ืองมาจาก การนําลกู จ้างมาทํางาน ไม่วา่ หนน้ี ัน้ จะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ตาม หรือมีลักษณะเป็นการหักค่าจ้างอันเนื่องมาจาก การหลอกลวงใหล้ ูกจ้างเป็นหนี้เกนิ กว่ามูลหนท้ี ่แี ท้จริง (๑๑) ความผิดตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ โดยเรียกเก็บ บตั รประจาํ ตวั ประชาชนของลูกจ้าง หนังสือเดินทาง หนังสือเดินทางชั่วคราว เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง เอกสารรับรองบุคคล ใบอนุญาตทํางาน และบัตรประจําตัวคนซ่ึงไม่มีสัญชาติไทยของลูกจ้าง เป็นหลักประกัน การทาํ งาน (๑๒) ความผิดท่ีมกี ารกระทําความผิดอาญาตามกฎหมายอื่นรวมอยดู่ ว้ ย” ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ พรรณี ศรยี ทุ ธศักด์ิ อธบิ ดกี รมสวัสดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน

125 หนา้ ๑ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ราชกิจจานุเบกษา 1เล2ม่ 5 ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๓๓ ง ระเบียบกรมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน ว่าดว้ ยการดําเนินคดอี าญาและการเปรยี บเทียบผกู้ ระทาํ ความผิด ตามกฎหมายวา่ ด้วยการค้มุ ครองแรงงานและความปลอดภัยในการทํางาน (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยท่ีสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนินคดีอาญาและ การเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัย ในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้การดําเนินคดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิด เปน็ ไปดว้ ยความเรยี บร้อย และทําใหก้ ารบังคบั ใชก้ ฎหมายมปี ระสิทธภิ าพ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ อธบิ ดกี รมสวัสดกิ ารและคุ้มครองแรงงานจงึ วางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนิน คดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัย ในการทํางาน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๖๐” ขอ้ ๒ ระเบยี บนี้ใหใ้ ชบ้ งั คบั ตัง้ แต่วันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป ข้อ ๓ ให้เพิ่มเติมความต่อไปนี้เป็นข้อ ๒๑/๑ แห่งระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครอง แรงงานว่าด้วยการดําเนินคดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วย การคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัยในการทาํ งาน พ.ศ. ๒๕๕๘ “ข้อ ๒๑/๑ เมื่อมีการดําเนินคดีผกู้ ระทาํ ความผิดตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ซงึ่ เป็นสาเหตโุ ดยตรงที่ทําให้ลูกจ้างได้รับอันตรายสาหัส หรือถึงแก่ความตายตามข้อ ๙ (๘) และผู้กระทําความผิดมีหนังสือขอให้ทบทวนการพิจารณา เปรียบเทียบ หน่วยงานเจ้าของเรื่องอาจมีหนังสือขอให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพิจารณา ทบทวนความเห็น การเปรียบเทียบ ทั้งน้ี ให้สรุปข้อเท็จจริง พร้อมท้ังสําเนาเอกสารท่ีเก่ียวข้อง และ เสนอความเหน็ สง่ ให้กรมสวสั ดิการและค้มุ ครองแรงงานโดยเร็ว ให้มีคณะกรรมการพิจารณาทบทวนการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามพระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกอบด้วย รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานซ่ึงกํากับดูแลงานกองนิติการ เป็นประธาน ผู้อํานวยการ กองความปลอดภัยแรงงาน และผู้อํานวยการกองนิติการ เป็นกรรมการ มีอํานาจพิจารณาทบทวน การดําเนินคดีอาญาผู้กระทําความผิด ตามวรรคหนึ่ง โดยให้นิติกร กองนิติการ รับผิดชอบงานธุรการ ของคณะกรรมการดงั กล่าว

เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๓๓ ง หนา้ ๒ 126 ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๑ เมื่อคณะกรรมการพิจารณาทบทวนการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามพระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ พิจารณาแล้วเสร็จ ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้มีอํานาจเปรียบเทียบพิจารณา ดําเนนิ การตอ่ ไป” ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ อนันตช์ ัย อทุ ยั พัฒนาชีพ อธบิ ดกี รมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน

127 หนา้ ๑ ๒๙ มนี าคม ๒๕๖๑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๗๔ ง ระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ว่าดว้ ยการดําเนินคดีอาญาและการเปรยี บเทยี บผกู้ ระทําความผิด ตามกฎหมายวา่ ด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภยั ในการทํางาน (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยท่ีสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนินคดีอาญา และการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัย ในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้การดําเนินคดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิด เป็นไปด้วยความเรยี บร้อย และทาํ ให้การบังคับใชก้ ฎหมายมีประสิทธิภาพ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดกี รมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงานจึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนินคดีอาญา และการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัย ในการทํางาน (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๖๑” ขอ้ ๒ ระเบยี บน้ีให้ใชบ้ ังคบั ตงั้ แตว่ ันถดั จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนินคดีอาญา และการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัย ในการทํางาน (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๔ ให้เพ่ิมเติมความต่อไปน้ีเป็นข้อ ๒๑/๑ และข้อ ๒๑/๒ แห่งระเบียบกรมสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานว่าด้วยการดําเนินคดีอาญาและการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการคมุ้ ครองแรงงานและความปลอดภยั ในการทาํ งาน พ.ศ. ๒๕๕๘ “ข้อ ๒๑/๑ เมื่อมีการดําเนินคดีผู้กระทําความผิดตามพระราชบัญญัติความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ซ่ึงเป็นสาเหตโุ ดยตรงที่ทาํ ใหล้ ูกจ้างได้รับอนั ตรายสาหัส หรือถึงแก่ความตายตามข้อ ๙ (๘) และผู้กระทําความผิดมีหนังสือขอให้ทบทวนการพิจารณาเปรียบเทียบ หน่วยงานเจ้าของเร่ืองอาจมีหนังสือขอให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพิจารณา ทบทวนความเห็น การเปรียบเทียบ ท้ังนี้ ให้สรุปข้อเท็จจริง พร้อมทั้งสําเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง และเสนอความเห็น ส่งใหก้ รมสวัสดิการและคุม้ ครองแรงงานโดยเรว็

เลม่ ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๗๔ ง หนา้ ๒ 128 ราชกจิ จานุเบกษา ๒๙ มนี าคม ๒๕๖๑ ให้มีคณะกรรมการพิจารณาทบทวนการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามพระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกอบด้วยอธิบดีหรือผู้ซึ่ง อธิบดีมอบหมาย เป็นประธาน ผู้อํานวยการกองความปลอดภัยแรงงานหรือผู้แทน และผู้อํานวยการ กองนิติการหรือผู้แทน เป็นกรรมการ มีอํานาจพิจารณาทบทวนการดําเนินคดีอาญาผู้กระทําความผิด ตามวรรคหนงึ่ โดยให้นิติกร กองนิติการ รับผิดชอบงานธุรการ ของคณะกรรมการดังกลา่ ว เม่ือคณะกรรมการพิจารณาทบทวนการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามพระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ พิจารณาแล้วเสร็จ ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้มีอํานาจเปรียบเทียบพิจารณา ดาํ เนินการต่อไป ข้อ ๒๑/๒ ความผิดท่ีเกิดในเขตกรุงเทพมหานคร สําหรับความผิดตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ในการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิด เมื่อผู้มีอํานาจเปรียบเทียบ พิจารณากําหนดค่าปรับผู้กระทําความผิด หากผู้กระทําความผิดมีหนังสือถึงหน่วยงานเจ้าของเรื่อง หรือกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพ่ือขอให้ผู้มีอํานาจเปรียบเทียบพิจารณาทบทวนค่าปรับ ในกรณีมีหนังสือถึงหน่วยงานเจ้าของเรื่อง ให้หน่วยงานเจ้าของเร่ืองมีหนังสือขอให้กรมสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานพิจารณาทบทวนค่าปรับ ทั้งนี้ ให้สรุปข้อเท็จจริง พร้อมท้ังสําเนาเอกสารที่เก่ียวข้อง และเสนอความเห็นส่งใหก้ รมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงานโดยเรว็ ให้มีคณะกรรมการพิจารณาทบทวนการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ประกอบด้วย อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย เป็นประธาน ผู้อํานวยการกองนิติการหรือผู้แทน ผู้อํานวยการกองคุ้มครองแรงงานหรือผู้แทน เป็นกรรมการ มีอํานาจพิจารณาทบทวนการดําเนินคดีอาญาผู้กระทําความผิด ตามวรรคหน่ึง โดยให้นิติกร กองนิติการ รบั ผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการดงั กล่าว เมื่อคณะกรรมการพิจารณาทบทวนการเปรียบเทียบผู้กระทําความผิดตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พิจารณาทบทวนค่าปรับแล้วเสร็จ ให้คณะกรรมการดังกล่าว มีหนงั สือ แจ้งผลการพิจารณาทบทวนคา่ ปรับให้ผมู้ ีอํานาจเปรยี บเทยี บพิจารณาต่อไป” ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ อนนั ตช์ ยั อทุ ัยพฒั นาชีพ อธิบดีกรมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน

129

130

131

132

215๑13๑388988กรมสวสั กดกรกิ รมามรสสแวลวัสัสะดคดมุ้ิกิกคาารรรแอแลงลแะะรคคง้มุ มุ้งคาคนรรอองงแแรรงงาน พระราชบััญญตั ิิคุ้้�มคุ้รองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แ่� ก้�ไขเพ�มิ เติิม และก้ฎหมายที่่�เก้่�ยวข�อง Labour Protection Act B.E. 2541 (Amended) and Related Laws

216 พระราชบัญั ญตั ิคิ ุ้้�มคุ้รองแรงงาน พ.ศ. ๒(A๕m๔e๑ndแeลdะพท)ี่a่�แรพnกะ้d�ไรขระRเารพeาชิ�มlชaเบตtบิeมิญั ญัdแญญLลaะตัwัตก้ิคsฎคิ มุ้หมุ้ คมาครยอพรทีง่อเ�่รแกะ้ง่�ยรรแวงาขงชร�อาบงงนงัญใานญนงาัตนพคิ ปมุ้ .รศคะร.มอง๒งแ๕พร.๔งศง.๑า๒น(๕ฉพ๖บ๒บ.ศับบั .แแลแ๒กะก๕ก้๔ไ้ไฎข๑ขหเเแพมพลาิม่ ่มิะยทเอเตี่แตื่นมิกทิมไ้ )ขเ่ี)กเพี่ยวิ่มขเตอ้ ิมง9899๑1๑34๙ Labour Protection Act B.E. 2541

2171๑35๒081800กรมสวัสกกดรริกมมาสสรวแวสั ลสั ดะดคิกกิ ุม้ าาครรแรแอลลงะะแคครุ้มงมุ้ คงคารรนอองงแแรรงงาน พระราชบัญั ญตั ิคิ ุ้้ม� คุ้รองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่�่แก้�ไขเพม�ิ เติมิ และก้ฎหมายที่�่เก้่ย� วข�อง Labour Protection Act B.E. 2541 (Amended) and Related Laws

พระราชบััญญตั ิคิ ุ้้ม� คุ้รองแรงงาน พ.ศ. ๒(A๕m๔e๑ndแeลพdะพท)ีร่a�่แระnกพ้ะรdไ� ขรราRเะาพชรeชิ�มาlบaเชบตtัญิeบมิญั dญั ญแญLลญaตัะwัตกัต้ิคsฎคิิคมุ้หุ้มมุ้ มคคาครยรรอทพอี่อง�เ่ กงรแ้ง่ย�ะแรรแวงรขารงง�อชงางงบนงาัญาในนนญงาพัตพนิค.ป.ศมุ้ ศรค..ะรม๒อ๒งง๕๕แพ๔ร๔.งศ๑๑ง.า๒(น(ฉ๕ฉบพ๖๒.ับศแ.แลก๒ะ๕้ไก๔ขฎ๑เหพแมิม่ลาะเยทตอี่แิมน่ื กท)ไ้ ข่เี กเพย่ี วิม่ ขเตอ้ 1มิ8ง091๑1๒3๑6 218 Labour Protection Act B.E. 2541

2191๑3๒7๒8180ก2รมสวัสกดกรกิ รมามรสสแวลวสั สัะดคด้มุิกกิ คาารรรแอแลงลแะะรคคงุ้ม้มุงคาคนรรอองงแแรรงงาน พระราชบัญั ญตั ิคิ ุ้้ม� คุ้รองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่�่แก้�ไขเพม�ิ เติมิ และก้ฎหมายที่�่เก้่ย� วข�อง Labour Protection Act B.E. 2541 (Amended) and Related Laws

220 พระราชบัญั ญตั ิคิ ุ้้�มคุ้รองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แ�่ ก้ไ� ขเพิม� เติิม และก้ฎหมายพที่ร่�เกะ้ย�่รวาขช�อบงัญญตั คิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และท่แี กไ้ ขเพม่ิ เติม ๑๒3 Labour Protection Act B.E. 2541 138 (Amenพdeพรdระ) ะรaพnราdราชะชRบรeบาัญlชaัญtบญeญญัdตั ญLัตคิaคิัตwมุ้ ิคsมุ้ คุ้มคครรรออองงงแแแรรรงงงงงงาาานนนในพงพา.น.ศศป..ร๒ะ๒ม๕๕ง๔๔พ๑๑.ศ.((ฉ๒บ๕๖บั ๒แกแล้ไะขกเฎพหิม่ มเาตยมิอ่นื)ท่เี กี่ยวข18้อ0ง93

๑๒๔81804กรมสวัสกกดรกิรมมาสรสวแวสัลสั ดะดคิกกิุม้ าาครรรแแอลลงะแะครคุ้มงมุ้ งคคารนรอองงแแรงงาน พระราชบัญั ญตั ิคิ ุ้้ม� คุ้รองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่�่แก้�ไขเพม�ิ เติมิ และก้ฎหมายที่�่เก้่ย� วข�อง 221139 Labour Protection Act B.E. 2541 (Amended) and Related Laws

พระราชบัญั ญัติิคุ้ม้� คุ้รองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่่�แก้�ไขเพิ�มเติิม และก้ฎหมายที่่�เก้�่ยวข�อง 140 222 Labour Protection Act B.E. 2541 (Amended) and Related Laws


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook