Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมกฏหมายคุ้มครองแรงงาน

รวมกฏหมายคุ้มครองแรงงาน

Published by สสค. มหาสารคาม, 2021-09-30 09:16:42

Description: รวมกฏหมายคุ้มครองแรงงาน

Search

Read the Text Version

241 หนา้ ๔ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใช้พระราชบญั ญตั ฉิ บับนี้ คือ โดยท่ีได้มีการตรากฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน เพอื่ กาํ หนดการดําเนนิ การควบคมุ กาํ กับ ดูแล และบริหารจดั การ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานไว้เป็นการเฉพาะ ประกอบกับเพื่อให้ การบริหารจดั การเป็นไปอย่างมเี อกภาพ สมควรยกเลิกบทบญั ญัตเิ ก่ียวกับเร่อื งดังกล่าวท่ีบัญญัติไว้ในกฎหมาย ว่าดว้ ยการคุ้มครองแรงงาน และแก้ไขเพิ่มเตมิ บทกาํ หนดโทษใหส้ อดคลอ้ งกับการยกเลิกบทบัญญัติดงั กลา่ วดว้ ย จงึ จําเป็นตอ้ งตราพระราชบัญญตั ิน้ี

เลม่ ๑๓๔ ตอนท่ี ๑๐ ก หนา้ ๕๒ 242 ราชกจิ จานุเบกษา ๒๔ มกราคม ๒๕๖๐ พระราชบัญญตั ิ คุ้มครองแรงงาน (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๐ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวมหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เปน็ ปีที่ ๒ ในรชั กาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยท่ีเปน็ การสมควรแกไ้ ขเพมิ่ เติมกฎหมายว่าดว้ ยการคุม้ ครองแรงงาน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของ สภานติ บิ ัญญตั แิ ห่งชาติ ดังตอ่ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๐” มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับเม่ือพ้นกําหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๔๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่งึ แก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบญั ญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และให้ใช้ความตอ่ ไปนแ้ี ทน “มาตรา ๑๔๔ นายจ้างผใู้ ดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติดังต่อไปน้ี ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกินหกเดอื น หรือปรบั ไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือท้ังจาํ ท้งั ปรบั (๑) มาตรา ๑๐ มาตรา ๒๔ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ มาตรา ๓๙/๑ มาตรา ๔๐ มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗ มาตรา ๔๘ มาตรา ๕๑ มาตรา ๖๑ มาตรา ๖๒ มาตรา ๖๓ มาตรา ๖๔ มาตรา ๖๗ มาตรา ๗๐ มาตรา ๗๑ มาตรา ๗๒ มาตรา ๗๖ มาตรา ๙๐ วรรคหนงึ่ หรือมาตรา ๑๑๘ วรรคหน่ึง

243 หน้า ๕๓ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ๑๓๔ ตอนท่ี ๑๐ ก (๒) มาตรา ๑๒๐ มาตรา ๑๒๑ หรือมาตรา ๑๒๒ ในส่วนท่ีเก่ียวกับการไม่จ่ายค่าชดเชยพิเศษ แทนการบอกกล่าวล่วงหนา้ หรอื ค่าชดเชยพเิ ศษ (๓) กฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๒๒ ในส่วนที่เก่ียวกับการคุ้มครองแรงงานในกรณีต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการจ้างเด็กอายุต่ํากว่าท่ีกําหนดในกฎกระทรวงเป็นลูกจ้างหรือการรับเด็กซึ่งมีอายุต่ํากว่า ท่ีกําหนดในกฎกระทรวงเข้าทํางาน หรือการห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซ่ึงเป็นเด็กอายุต่ํากว่าสิบแปดปี ทาํ งานตามประเภทของงานและสถานทท่ี ่กี ําหนดในกฎกระทรวง หรือกฎกระทรวงทอี่ อกตามมาตรา ๙๕ ในกรณีที่นายจ้างฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ มาตรา ๓๙/๑ มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๗ หรอื มาตรา ๔๘ เป็นเหตุให้ลูกจ้างได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หรือถึงแก่ ความตาย ตอ้ งระวางโทษจําคุกไม่เกินหน่ึงปี หรอื ปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทัง้ จาํ ทงั้ ปรับ” มาตรา ๔ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๔๘ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญัติคมุ้ ครองแรงงาน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนีแ้ ทน “มาตรา ๑๔๘ นายจ้างผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๑ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกิน สองแสนบาท หรือท้ังจําทง้ั ปรับ” มาตรา ๕ ใหเ้ พ่มิ ความต่อไปน้ีเป็นมาตรา ๑๔๘/๑ และมาตรา ๑๔๘/๒ แห่งพระราชบัญญัติ คมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ “มาตรา ๑๔๘/๑ นายจ้างผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๔ หรือกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๒๒ ในส่วนท่ีเกี่ยวกับการจ้างเด็กอายุตํ่ากว่าท่ีกําหนดในกฎกระทรวงเป็นลูกจ้างหรือการรับเด็กซ่ึงมีอายุต่ํากว่า ท่ีกําหนดในกฎกระทรวงเข้าทํางาน ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ส่ีแสนบาทถึงแปดแสนบาทต่อลูกจ้างหนึ่งคน หรือจําคุกไม่เกนิ สองปี หรอื ทง้ั ปรบั ท้ังจาํ มาตรา ๑๔๘/๒ นายจ้างผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๙ หรือมาตรา ๕๐ หรือกฎกระทรวงท่ีออก ตามมาตรา ๒๒ ในส่วนท่ีเก่ียวกับการห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซ่ึงเป็นเด็กอายุตํ่ากว่าสิบแปดปีทํางาน ตามประเภทของงานและสถานท่ที ี่กาํ หนด ตอ้ งระวางโทษปรับต้ังแต่ส่ีแสนบาทถึงแปดแสนบาทต่อลูกจ้าง หนึ่งคน หรอื จาํ คกุ ไม่เกินสองปี หรือท้งั ปรับท้ังจาํ ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ลูกจ้างได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หรอื ถงึ แก่ความตาย ต้องระวางโทษปรับต้ังแต่แปดแสนบาทถึงสองล้านบาทต่อลูกจ้างหน่ึงคน หรือจําคุก ไม่เกินสีป่ ี หรอื ทง้ั ปรบั ทง้ั จํา” ผรู้ บั สนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทรโ์ อชา นายกรัฐมนตรี

เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๐ ก หนา้ ๕๔ 244 ราชกจิ จานุเบกษา ๒๔ มกราคม ๒๕๖๐ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เน่ืองจากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ใช้บังคับมาเป็นเวลานานมีบทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เปล่ียนแปลงไป โดยเฉพาะอัตราโทษในความผิดเกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็ก ดังน้ัน เพ่ือให้การป้องกัน ยับย้ัง และขจัดปัญหา การค้ามนุษย์ด้านแรงงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สมควรกําหนดอัตราโทษสําหรับความผิดดังกล่าวให้สูงขึ้น จงึ จําเป็นตอ้ งตราพระราชบญั ญัตนิ ้ี

245 หนา้ ๗ ๓๑ สงิ หาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๘๘ ก พระราชบัญญตั ิ คมุ้ ครองแรงงาน (ฉบบั ที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ สมเด็จพระเจา้ อยู่หวั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เปน็ ปที ่ี ๒ ในรัชกาลปัจจุบนั สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศวา่ โดยที่เปน็ การสมควรแก้ไขเพม่ิ เติมกฎหมายว่าดว้ ยการคุ้มครองแรงงาน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของ สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติทําหน้าทร่ี ฐั สภา ดงั ตอ่ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัตนิ ี้เรียกว่า “พระราชบัญญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน (ฉบับท่ี ๖) ๒๕๖๐” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ใหย้ กเลกิ ความในมาตรา ๘๗ แหง่ พระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่งึ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้แี ทน “มาตรา ๘๗ ในการพิจารณากําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ําให้คณะกรรมการค่าจ้างศึกษา และพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างท่ีลูกจ้างได้รับอยู่ประกอบกับข้อเท็จจริงอื่นโดยคํานึงถึง ดัชนีค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ มาตรฐานการครองชีพ ต้นทุนการผลิต ราคาของสินค้าและบริการ ความสามารถของธุรกิจ ผลิตภาพแรงงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ และสภาพทางเศรษฐกิจ และสงั คม การพิจารณากําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ําจะกําหนดให้ใช้เฉพาะกิจการ งานหรือสาขาอาชีพ ประเภทใด เพยี งใด ในทอ้ งถ่ินใดก็ได้

เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๘๘ ก หนา้ ๘ 246 ราชกจิ จานุเบกษา ๓๑ สงิ หาคม ๒๕๖๐ เพ่อื เปน็ การส่งเสรมิ การจ้างงานและการคมุ้ ครองแรงงานสําหรับลูกจ้างบางกลุ่มหรือบางประเภท คณะกรรมการค่าจ้างอาจพิจารณากําหนดอัตราค่าจ้างข้ันตํ่าท่ีแตกต่างจากที่พิจารณากําหนดในวรรคสอง เพื่อใช้สําหรับลูกจ้างกลุ่มนั้นหรือประเภทนั้นในกิจการ งานหรือสาขาอาชีพประเภทใด เพียงใด ในท้องถ่ินใดก็ได้ ท้ังน้ี ค่าจ้างดังกล่าวต้องไม่ตํ่ากว่าอัตราค่าจ้างข้ันตํ่าที่คณะกรรมการค่าจ้างกําหนด ตามวรรคสอง ในการพิจารณากําหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ให้คณะกรรมการค่าจ้างศึกษา และพิจารณาข้อเท็จจริงเก่ียวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับในแต่ละอาชีพตามมาตรฐานฝีมือที่กําหนดไว้ โดยวัดค่าทักษะฝีมือ ความรู้ และความสามารถ แต่ต้องไม่ตํ่ากว่าอัตราค่าจ้างขั้นตํ่าท่ีคณะกรรมการ ค่าจ้างกาํ หนด” มาตรา ๔ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๐๘ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยคําส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ท่ี ๒๑/๒๕๖๐ เร่ือง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย เพ่ืออํานวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ลงวันที่ ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ และให้ใช้ความ ตอ่ ไปน้แี ทน “มาตรา ๑๐๘ ให้นายจ้างซึ่งมีลูกจ้างรวมกันต้ังแต่สิบคนข้ึนไป จัดให้มีข้อบังคับเกี่ยวกับ การทาํ งานเป็นภาษาไทย และข้อบงั คับนนั้ อย่างนอ้ ยตอ้ งมีรายละเอยี ดเกยี่ วกบั รายการ ดงั ต่อไปนี้ (๑) วนั ทํางาน เวลาทํางานปกติ และเวลาพกั (๒) วนั หยุดและหลักเกณฑก์ ารหยดุ (๓) หลักเกณฑก์ ารทาํ งานล่วงเวลาและการทาํ งานในวนั หยดุ (๔) วนั และสถานที่จา่ ยค่าจา้ ง ค่าล่วงเวลา ค่าทาํ งานในวันหยดุ และคา่ ล่วงเวลาในวันหยุด (๕) วนั ลาและหลักเกณฑ์การลา (๖) วนิ ัยและโทษทางวนิ ัย (๗) การรอ้ งทกุ ข์ (๘) การเลิกจ้าง คา่ ชดเชย และค่าชดเชยพเิ ศษ ให้นายจ้างประกาศใช้ข้อบังคับเกี่ยวกับการทํางานภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ีนายจ้างมีลูกจ้าง รวมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป และให้นายจ้างจัดเก็บสําเนาข้อบังคับน้ันไว้ ณ สถานประกอบกิจการ หรือสํานักงานของนายจ้างตลอดเวลา ให้นายจ้างเผยแพร่และปิดประกาศข้อบังคับเกี่ยวกับการทํางานโดยเปิดเผย ณ สถานท่ีทํางาน ของลูกจ้าง หรือเพิ่มเติมโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วยก็ได้ เพื่อให้ลูกจ้างได้ทราบและเข้าถึงได้ โดยสะดวก”

247 หนา้ ๙ ๓๑ สงิ หาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๘๘ ก มาตรา ๕ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๑๐ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยคําส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ท่ี ๒๑/๒๕๖๐ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย เพ่ืออํานวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ลงวันท่ี ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ และให้ใช้ความ ต่อไปนแ้ี ทน “มาตรา ๑๑๐ การแก้ไขเพ่ิมเติมข้อบังคับเก่ียวกับการทํางานท่ีนายจ้างประกาศใช้ตามมาตรา ๑๐๘ ให้นายจ้างประกาศข้อบังคับท่ีมีการแก้ไขเพ่ิมเติมนั้น และให้นํามาตรา ๑๐๘ วรรคสองและวรรคสาม มาใช้บงั คับโดยอนโุ ลม” มาตรา ๖ ใหเ้ พม่ิ ความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๑๑๘/๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ “มาตรา ๑๑๘/๑ การเกษียณอายุตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันหรือตามที่นายจ้างกําหนดไว้ ให้ถอื วา่ เป็นการเลกิ จา้ งตามมาตรา ๑๑๘ วรรคสอง ในกรณีท่ีมิได้มีการตกลงหรือกําหนดการเกษียณอายุไว้ หรือมีการตกลงหรือกําหนด การเกษียณอายุไว้เกินกว่าหกสิบปี ให้ลูกจ้างที่มีอายุครบหกสิบปีขึ้นไปมีสิทธิแสดงเจตนาเกษียณอายุได้ โดยให้แสดงเจตนาต่อนายจ้างและให้มีผลเมื่อครบสามสิบวันนับแต่วันแสดงเจตนา และให้นายจ้าง จา่ ยค่าชดเชยให้แกล่ กู จ้างทีเ่ กษียณอายนุ นั้ ตามมาตรา ๑๑๘ วรรคหนงึ่ ” มาตรา ๗ ให้ยกเลิกความใน (๑) ของมาตรา ๑๔๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง แรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๖๐ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนีแ้ ทน “(๑) มาตรา ๑๐ มาตรา ๒๔ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ มาตรา ๓๙/๑ มาตรา ๔๐ มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗ มาตรา ๔๘ มาตรา ๕๑ มาตรา ๖๑ มาตรา ๖๒ มาตรา ๖๓ มาตรา ๖๔ มาตรา ๖๗ มาตรา ๗๐ มาตรา ๗๑ มาตรา ๗๒ มาตรา ๗๖ มาตรา ๙๐ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๑๘ วรรคหนง่ึ หรอื มาตรา ๑๑๘/๑ วรรคสอง” ผรู้ ับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๘๘ ก หน้า ๑๐ 248 ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน และมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงไป สมควรเพ่ิมบทบัญญัติเกี่ยวกับการกําหนดอัตราค่าจ้างข้ันต่ําสําหรับลูกจ้างบางกลุ่ม หรือบางประเภท เช่น นักเรียน นักศึกษา คนพิการ และผู้สูงอายุ เพ่ือให้มีการส่งเสริมการจ้างงาน และคุ้มครองแรงงานสําหรับลูกจ้างบางกลุ่มหรือบางประเภทดังกล่าว ซึ่งอาจมีลักษณะการทํางาน ทแ่ี ตกตา่ งจากลูกจา้ งท่ัวไป ปรับปรงุ บทบัญญตั ิเรอื่ งข้อบังคับเกี่ยวกับการทํางานเพื่อลดภาระของนายจ้าง ในการส่งสําเนาข้อบังคับดังกล่าว ปรับปรุงบทบัญญัติเก่ียวกับการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับเกี่ยวกับ การทํางานให้สอดคล้องกันและเหมาะสมยิ่งขึ้น และเพิ่มบทบัญญัติเก่ียวกับการเกษียณอายุและการจ่าย ค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างกรณีเกษียณอายุเพื่อคุ้มครองลูกจ้างกรณีเกษียณอายุ และเพ่ือให้เกิดความชัดเจน ในการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งเพ่ิมบทกําหนดโทษกรณีนายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง กรณเี กษยี ณอายุ จึงจําเปน็ ต้องตราพระราชบัญญัตนิ ้ี

249 หน้า ๒๑ ๕ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๓ ก พระราชบัญญัติ คมุ้ ครองแรงงาน (ฉบับท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นปที ี่ ๔ ในรชั กาลปัจจบุ นั สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศวา่ โดยทเ่ี ป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายวา่ ด้วยการคมุ้ ครองแรงงาน พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๔๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทาได้ โดยอาศัยอานาจตามบทบญั ญัตแิ หง่ กฎหมาย เหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัติน้ี เพอื่ ยกระดับการคุ้มครองลูกจ้างใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานสากลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อันจะทาใหล้ ูกจ้าง ซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีความมน่ั คงในการทางานและมีคณุ ภาพชีวิตที่ดีข้ึน และจะเป็น ประโยชน์แก่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซ่ึงการตราพระราชบัญญัติน้ีสอดคล้องกับเงื่อนไข ทบี่ ญั ญัติไวใ้ นมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของ สภานติ ิบัญญัตแิ หง่ ชาติทาหนา้ ทร่ี ัฐสภา ดงั ต่อไปนี้

250 เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๓ ก หน้า ๒๒ ๕ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒” มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกาหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศใน ราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และ ให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “มาตรา ๙ ในกรณีท่ีนายจ้างไม่คืนหลักประกันท่ีเป็นเงินตามมาตรา ๑๐ วรรคสอง ไม่จ่ายเงินกรณีนายจ้างบอกเลิกสัญญาจ้างโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าตามมาตรา ๑๗/๑ หรือไม่จ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยุด ค่าล่วงเวลาในวันหยุด และเงินท่ีนายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่าย ตามพระราชบัญญัติน้ีภายในเวลาที่กาหนดตามมาตรา ๗๐ หรือไม่จ่ายเงินกรณีนายจ้างหยุดกิจการ ตามมาตรา ๗๕ หรือค่าชดเชยตามมาตรา ๑๑๘ ค่าชดเชยพิเศษแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือ ค่าชดเชยพิเศษตามมาตรา ๑๒๐ มาตรา ๑๒๐/๑ มาตรา ๑๒๑ และมาตรา ๑๒๒ ให้นายจ้าง เสยี ดอกเบย้ี ใหแ้ ก่ลกู จ้างในระหวา่ งเวลาผดิ นดั รอ้ ยละสิบห้าต่อปี” มาตรา ๔ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และให้ใช้ความต่อไปน้ีแทน “มาตรา ๑๓ ในกรณีท่ีมีการเปลี่ยนแปลงตัวนายจ้าง หรือในกรณีท่ีนายจ้างเป็นนิติบุคคล และมีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง โอน หรือควบกับนิติบุคคลใด หากมีผลทาให้ลูกจ้างคนหนึ่งคนใด ไปเป็นลูกจ้างของนายจ้างใหม่ การไปเป็นลูกจ้างของนายจ้างใหม่ดังกล่าวต้องได้รับความยินยอมจาก ลูกจ้างคนน้ันด้วย และให้สิทธิต่าง ๆ ท่ีลูกจ้างมีอยู่ต่อนายจ้างเดิมคงมีสิทธิต่อไป โดยนายจ้างใหม่ ต้องรบั ไปท้ังสทิ ธิและหนา้ ทอี่ นั เกีย่ วกับลกู จา้ งน้ันทกุ ประการ” มาตรา ๕ ให้เพ่ิมความต่อไปน้ีเป็นมาตรา ๑๗/๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ “มาตรา ๑๗/๑ ในกรณที ี่นายจา้ งบอกเลกิ สญั ญาจา้ งโดยไมบ่ อกกล่าวล่วงหน้าให้ลูกจ้างทราบ ตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง ให้นายจ้างจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างเป็นจานวนเท่ากับค่าจ้างที่ลูกจ้างควรจะได้รับ นับแต่วันที่ให้ลูกจ้างออกจากงานจนถึงวันท่ีการเลิกสัญญาจ้างมีผลตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง โดยให้จ่าย ในวันทใ่ี หล้ กู จา้ งออกจากงาน”

251 เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๓ ก หน้า ๒๓ ๕ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๖ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และใหใ้ ช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๓๔ ให้ลกู จา้ งมสี ทิ ธลิ าเพอื่ กจิ ธุระอนั จาเปน็ ได้ปลี ะไม่น้อยกว่าสามวันทางาน” มาตรา ๗ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๔๑ แห่งพระราชบญั ญัตคิ ุม้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปนแ้ี ทน “มาตรา ๔๑ ใหล้ กู จา้ งซ่ึงเปน็ หญงิ มีครรภ์มีสทิ ธิลาเพ่ือคลอดบตุ รครรภห์ นึง่ ไมเ่ กนิ เก้าสิบแปดวนั วันลาเพ่อื คลอดบตุ รตามมาตรานีใ้ หห้ มายความรวมถงึ วันลาเพอ่ื ตรวจครรภก์ อ่ นคลอดบตุ รด้วย วนั ลาตามวรรคหน่ึง ใหน้ ับรวมวันหยดุ ทีม่ ีในระหวา่ งวนั ลาดว้ ย” มาตรา ๘ ให้ยกเลกิ ความในมาตรา ๕๓ แห่งพระราชบัญญัติคุม้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนีแ้ ทน “มาตรา ๕๓ ให้นายจ้างกาหนดค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยุดและค่าล่วงเวลา ในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างที่ทางานอันมีลักษณะ คุณภาพ และปริมาณเท่ากัน หรืองานท่ีมคี ่าเทา่ เทียมกนั ในอัตราเท่ากนั ไมว่ ่าลูกจ้างนัน้ จะเป็นชายหรือหญงิ ” มาตรา ๙ ให้เพ่ิมความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๕๗/๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ “มาตรา ๕๗/๑ ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันลาเพ่ือกิจธุระอันจาเป็นตามมาตรา ๓๔ เทา่ กบั ค่าจา้ งในวันทางานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ปีหน่งึ ตอ้ งไมเ่ กนิ สามวันทางาน” มาตรา ๑๐ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๕๙ แห่งพระราชบัญญัตคิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และให้ใชค้ วามต่อไปน้แี ทน “มาตรา ๕๙ ให้นายจ้างจา่ ยค่าจ้างใหแ้ กล่ ูกจ้างซงึ่ เปน็ หญงิ ในวันลาเพื่อคลอดบุตรตามมาตรา ๔๑ เทา่ กบั คา่ จา้ งในวนั ทางานตลอดระยะเวลาทีล่ า แตไ่ ม่เกินสี่สิบห้าวนั ” มาตรา ๑๑ ให้ยกเลกิ ความในมาตรา ๗๐ แห่งพระราชบัญญัตคิ ้มุ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้แี ทน “มาตรา ๗๐ ใหน้ ายจ้างจ่ายค่าจา้ ง คา่ ลว่ งเวลา คา่ ทางานในวนั หยุด ค่าลว่ งเวลาในวนั หยดุ และเงนิ ทน่ี ายจา้ งมีหน้าทต่ี ้องจ่ายตามพระราชบัญญตั ินใ้ี หถ้ กู ตอ้ งและตามกาหนดเวลา ดงั ตอ่ ไปนี้

252 เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๓ ก หน้า ๒๔ ๕ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา (๑) ในกรณที ่ีมกี ารคานวณค่าจ้างเปน็ รายเดือน รายวัน รายชว่ั โมง หรือเปน็ ระยะเวลาอย่างอื่น ท่ีไม่เกนิ หนึ่งเดอื น หรือตามผลงานโดยคานวณเปน็ หนว่ ย ให้จ่ายเดือนหนง่ึ ไมน่ ้อยกวา่ หนง่ึ คร้งั เวน้ แต่ จะมกี ารตกลงกันเป็นอย่างอ่ืนที่เป็นประโยชน์แกล่ ูกจา้ ง (๒) ในกรณีที่มีการคานวณค่าจ้าง นอกจาก (๑) ให้จ่ายตามกาหนดเวลาท่ีนายจ้างและ ลกู จ้างตกลงกัน (๓) คา่ ล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยดุ คา่ ล่วงเวลาในวันหยดุ และเงนิ ทนี่ ายจ้างมีหน้าทีต่ ้องจ่าย ตามพระราชบัญญัตินีใ้ หจ้ ่ายเดือนหนึง่ ไม่น้อยกวา่ หนึง่ คร้ัง ในกรณีทีน่ ายจา้ งเลกิ จา้ งลูกจา้ ง ใหน้ ายจา้ งจา่ ยค่าจ้าง คา่ ล่วงเวลา คา่ ทางานในวนั หยดุ ค่าล่วงเวลา ในวันหยุด และเงินทน่ี ายจ้างมหี นา้ ทีต่ ้องจ่ายตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ ตามที่ลูกจ้างมสี ิทธิได้รบั ให้แก่ลูกจา้ ง ภายในสามวนั นับแตว่ นั ทเี่ ลิกจา้ ง” มาตรา ๑๒ ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา ๗๕ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และ ใหใ้ ชค้ วามต่อไปนีแ้ ทน “มาตรา ๗๕ ในกรณีที่นายจา้ งมีความจาเป็นต้องหยดุ กจิ การทง้ั หมดหรอื บางส่วนเป็นการชัว่ คราว ด้วยเหตุหนึ่งเหตุใดท่ีสาคัญอันมีผลกระทบต่อการประกอบกิจการของนายจ้าง จนทาให้นายจ้างไม่สามารถ ประกอบกิจการไดต้ ามปกติซ่ึงมิใช่เหตุสุดวิสยั ให้นายจ้างจ่ายเงินให้แก่ลูกจา้ งไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละเจ็ดสิบหา้ ของค่าจ้างในวันทางานที่ลูกจ้างได้รับก่อนนายจ้างหยุดกิจการตลอดระยะเวลาที่นายจ้างไม่ได้ให้ลูกจ้าง ทางาน ณ สถานท่จี า่ ยเงินตามมาตรา ๕๕ และภายในกาหนดเวลาการจ่ายเงนิ ตามมาตรา ๗๐ (๑)” มาตรา ๑๓ ให้ยกเลิกความใน (๕) ของมาตรา ๙๓ แห่งพระราชบัญญตั ิคุม้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และ ใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนแ้ี ทน “(๕) ออกคาสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยพิเศษแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือค่าชดเชยพิเศษ ตามมาตรา ๑๒๐/๑” มาตรา ๑๔ ให้ยกเลิกความใน (๕) ของมาตรา ๑๑๘ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน

253 หน้า ๒๕ ๕ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๔๓ ก “(๕) ลกู จ้างซึ่งทางานติดต่อกนั ครบสิบปี แต่ไมค่ รบย่ีสบิ ปี ให้จา่ ยไมน่ ้อยกวา่ คา่ จ้างอัตราสุดท้าย สามร้อยวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางานสามร้อยวันสุดท้ายสาหรับลูกจ้างซ่ึงได้รับค่าจ้าง ตามผลงานโดยคานวณเปน็ หน่วย” มาตรา ๑๕ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๖) ของมาตรา ๑๑๘ แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ “(๖) ลูกจ้างซึ่งทางานติดต่อกันครบยี่สิบปีข้ึนไป ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย ส่ีร้อยวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางานส่ีร้อยวันสุดท้ายสาหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงาน โดยคานวณเปน็ หนว่ ย” มาตรา ๑๖ ให้ยกเลกิ ความในมาตรา ๑๒๐ แห่งพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซง่ึ แก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิคุ้มครองแรงงาน (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และให้ใช้ความตอ่ ไปนแ้ี ทน “มาตรา ๑๒๐ นายจ้างซง่ึ ประสงค์จะยา้ ยสถานประกอบกิจการแหง่ หนง่ึ แหง่ ใดไปต้งั ณ สถานท่ีใหม่ หรือย้ายไปยังสถานที่อ่ืนของนายจ้าง ให้นายจ้างปิดประกาศแจ้งให้ลูกจา้ งทราบลว่ งหนา้ โดยใหป้ ดิ ประกาศไว้ ในที่เปิดเผย ณ สถานประกอบกิจการนน้ั ต้ังอยู่ท่ีลกู จ้างสามารถเห็นไดอ้ ย่างชัดเจน ติดตอ่ กันเปน็ เวลา ไม่นอ้ ยกวา่ สามสิบวนั กอ่ นวนั ยา้ ยสถานประกอบกจิ การ และประกาศน้นั อย่างน้อยต้องมีขอ้ ความชัดเจน เพยี งพอทีจ่ ะเข้าใจได้ว่าลูกจา้ งคนใดจะต้องถูกย้ายไปสถานที่ใดและเม่อื ใด ในกรณีท่ีนายจา้ งไม่ปดิ ประกาศให้ลูกจา้ งทราบลว่ งหน้าตามวรรคหน่งึ ใหน้ ายจ้างจา่ ยค่าชดเชยพิเศษ แทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่ลูกจ้างท่ีไม่ประสงค์จะไปทางาน ณ สถานประกอบกิจการแห่งใหม่ เท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้ายสามสิบวัน หรือเท่ากับค่าจ้างของการทางานสามสิบวันสุดท้ายสาหรับลูกจ้าง ซึง่ ไดร้ ับค่าจา้ งตามผลงานโดยคานวณเป็นหน่วย หากลูกจ้างคนใดเห็นว่าการย้ายสถานประกอบกิจการดังกล่าวมีผลกระทบสาคัญต่อการดารงชีวิต ตามปกติของลูกจ้างหรือครอบครัวของลูกจ้างคนนั้น และไม่ประสงค์จะไปทางาน ณ สถานประกอบ กิจการแห่งใหม่ ต้องแจ้งให้นายจ้างทราบเป็นหนังสือภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ปิดประกาศ หรือ นับแต่วันที่ย้ายสถานประกอบกิจการในกรณีที่นายจ้างมิได้ปิดประกาศตามวรรคหน่ึง และให้ถือว่า สัญญาจ้างส้ินสุดลงในวันท่ีนายจ้างย้ายสถานประกอบกิจการ โดยลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชยพิเศษ ไม่นอ้ ยกวา่ อัตราค่าชดเชยทล่ี ูกจา้ งพึงมีสิทธไิ ดร้ บั ตามมาตรา ๑๑๘

254 เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๓ ก หน้า ๒๖ ๕ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา ให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยพิเศษแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามวรรคสองหรือค่าชดเชยพิเศษ ตามวรรคสามใหแ้ กล่ ูกจ้างภายในเจ็ดวนั นบั แต่วนั ที่สัญญาจา้ งส้ินสดุ ในกรณีท่ีนายจ้างไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของลูกจ้างตามวรรคสาม ให้นายจ้างย่ืนคาร้องต่อ คณะกรรมการสวัสดกิ ารแรงงานภายในสามสบิ วันนบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ บั แจง้ เปน็ หนงั สอื ” มาตรา ๑๗ ให้เพิ่มความต่อไปน้เี ป็นมาตรา ๑๒๐/๑ และมาตรา ๑๒๐/๒ แห่งพระราชบัญญัติ คมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ “มาตรา ๑๒๐/๑ เมื่อคณะกรรมการสวัสดิการแรงงานพิจารณาคาร้องตามมาตรา ๑๒๐ วรรคห้าแล้ว เห็นว่าลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชยพิเศษแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือค่าชดเชยพิเศษ ให้คณะกรรมการสวัสดิการแรงงานส่ังให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยพิเศษแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือ คา่ ชดเชยพเิ ศษ แล้วแต่กรณี ใหแ้ ก่ลูกจ้างภายในสามสบิ วนั นับแต่วันท่นี ายจา้ งทราบคาสงั่ ในกรณีที่คณะกรรมการสวัสดิการแรงงานพิจารณาแล้ว เห็นว่าลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับ ค่าชดเชยพิเศษแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือค่าชดเชยพิเศษ แล้วแต่กรณี ให้คณะกรรมการ สวสั ดิการแรงงานแจง้ คาสั่งใหน้ ายจ้างและลกู จา้ งทราบ ในการพิจารณาและมีคาส่ังของคณะกรรมการสวัสดิการแรงงานให้ดาเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคาร้อง และแจ้งคาสั่งให้นายจ้างและลูกจ้างทราบภายในสิบห้าวัน นับแตว่ นั ท่ีมคี าส่งั คาสงั่ ของคณะกรรมการสวสั ดิการแรงงานให้เปน็ ท่ีสุด เว้นแตน่ ายจา้ งหรือลกู จา้ งจะอุทธรณ์คาสั่ง ต่อศาลภายในสามสิบวันนับแต่วันท่ีได้ทราบคาส่ัง ในกรณีที่นายจ้างเป็นฝ่ายนาคดีไปสู่ศาล นายจ้าง ต้องวางหลกั ประกนั ตอ่ ศาลตามจานวนท่ีตอ้ งจา่ ยตามคาสัง่ นน้ั จึงจะฟอ้ งคดีได้ การส่งคาส่งั ของคณะกรรมการสวสั ดกิ ารแรงงานใหน้ ามาตรา ๑๔๓ มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม มาตรา ๑๒๐/๒ ในกรณีทน่ี ายจ้างไดอ้ ุทธรณค์ าส่งั ของคณะกรรมการสวัสดิการแรงงานต่อศาล ภายในระยะเวลาที่กาหนดตามมาตรา ๑๒๐/๑ วรรคส่ี และได้ปฏิบัติตามคาพิพากษาหรือคาส่ัง ของศาลแล้ว การดาเนนิ คดีอาญาต่อนายจา้ งให้เปน็ อนั ระงับไป” มาตรา ๑๘ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๒๔/๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และ ให้ใชค้ วามต่อไปนี้แทน

255 เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๓ ก หน้า ๒๗ ๕ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา “มาตรา ๑๒๔/๑ ในกรณที ่นี ายจ้างได้ปฏบิ ัติตามคาสงั่ ของพนักงานตรวจแรงงานตามมาตรา ๑๒๔ ภายในระยะเวลาทกี่ าหนด การดาเนนิ คดอี าญาต่อนายจา้ งใหเ้ ปน็ อนั ระงับไป” มาตรา ๑๙ ให้เพิ่มความต่อไปน้ีเป็นมาตรา ๑๒๕/๑ ของหมวด ๑๒ การยื่นคาร้องและ การพิจารณาคาร้อง แห่งพระราชบัญญัติคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ “มาตรา ๑๒๕/๑ ในกรณีที่นายจ้างได้นาคดีไปสู่ศาลภายในระยะเวลาที่กาหนดตามมาตรา ๑๒๕ และไดป้ ฏบิ ตั ติ ามคาพิพากษาหรือคาสงั่ ของศาลแล้ว การดาเนนิ คดอี าญาตอ่ นายจา้ งใหเ้ ป็นอันระงับไป” มาตรา ๒๐ ให้ยกเลิกความใน (๑) ของมาตรา ๑๔๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ และ ให้ใช้ความตอ่ ไปน้ีแทน “(๑) มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๗/๑ มาตรา ๒๓ วรรคสอง มาตรา ๒๔ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ มาตรา ๓๙/๑ มาตรา ๔๐ มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗ มาตรา ๔๘ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๗/๑ มาตรา ๖๑ มาตรา ๖๒ มาตรา ๖๓ มาตรา ๖๔ มาตรา ๖๗ มาตรา ๗๐ มาตรา ๗๑ มาตรา ๗๒ มาตรา ๗๖ มาตรา ๙๐ วรรคหน่ึง มาตรา ๑๑๘ วรรคหน่ึง หรือมาตรา ๑๑๘/๑ วรรคสอง” มาตรา ๒๑ ให้ยกเลิกความใน (๒) ของมาตรา ๑๔๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๐ และ ให้ใช้ความต่อไปนแ้ี ทน “(๒) มาตรา ๑๒๐ มาตรา ๑๒๐/๑ มาตรา ๑๒๑ หรือมาตรา ๑๒๒ ในส่วนที่เกี่ยวกับ การไมจ่ า่ ยค่าชดเชยพเิ ศษแทนการบอกกล่าวลว่ งหนา้ หรอื คา่ ชดเชยพเิ ศษ” มาตรา ๒๒ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๔๕ แหง่ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และให้ใช้ความตอ่ ไปน้ีแทน “มาตรา ๑๔๕ นายจ้างผู้ใดไม่ปฏิบัตติ ามมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม ต้องระวางโทษ ปรบั ไม่เกนิ ห้าพนั บาท” มาตรา ๒๓ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๑๔๖ แห่งพระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญัตคิ ุม้ ครองแรงงาน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใช้ความตอ่ ไปนแี้ ทน

256 เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๓ ก หน้า ๒๘ ๕ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา “มาตรา ๑๔๖ นายจา้ งผใู้ ดไมป่ ฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๑๕ มาตรา ๒๗ มาตรา ๒๘ มาตรา ๒๙ มาตรา ๓๐ วรรคหน่ึง มาตรา ๔๕ มาตรา ๕๓ มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๖ มาตรา ๕๗ มาตรา ๕๘ มาตรา ๕๙ มาตรา ๖๕ มาตรา ๖๖ มาตรา ๗๓ มาตรา ๗๔ มาตรา ๗๕ วรรคหนงึ่ มาตรา ๗๗ มาตรา ๙๙ มาตรา ๑๐๘ มาตรา ๑๑๑ มาตรา ๑๑๒ มาตรา ๑๑๓ มาตรา ๑๑๔ มาตรา ๑๑๕ มาตรา ๑๑๗ หรือไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ตามมาตรา ๑๒๑ วรรคหน่ึง หรือมาตรา ๑๓๙ (๒) หรอื (๓) ตอ้ งระวางโทษปรบั ไมเ่ กนิ สองหม่ืนบาท” มาตรา ๒๔ ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา ๑๕๑ แห่งพระราชบัญญัติค้มุ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๓ และ ใหใ้ ช้ความต่อไปน้ีแทน “ผ้ใู ดไมป่ ฏบิ ตั ติ ามคาส่งั ของพนักงานตรวจแรงงานทส่ี ง่ั ตามมาตรา ๑๒๔ ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหน่ึงปี หรือปรบั ไม่เกนิ สองหมนื่ บาท หรือทง้ั จาท้ังปรบั ” มาตรา ๒๕ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๕๕/๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และ ใหใ้ ช้ความต่อไปนแี้ ทน “มาตรา ๑๕๕/๑ นายจา้ งผใู้ ดไมย่ น่ื หรอื ไมแ่ จ้งแบบแสดงสภาพการจา้ งและสภาพการทางาน ตามมาตรา ๑๑๕/๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกนิ สองหมืน่ บาท” ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี

257 เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๓ ก หน้า ๒๙ ๕ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน ทาให้บทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบันและ ไม่เอ้ือประโยชน์ต่อการดาเนินการเพ่ือให้ความคุ้มครองลูกจ้าง สมควรแก้ไขเพิ่มเติมโดยกาหนดให้การเปลี่ยนแปลง ตวั นายจา้ งต้องไดร้ ับความยินยอมจากลูกจ้าง กาหนดใหล้ กู จ้างมีสิทธลิ าเพ่ือกิจธุระอนั จาเป็นปีหน่ึงไมน่ ้อยกว่า สามวันทางาน กาหนดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์สามารถลาเพ่ือตรวจครรภก์ ่อนคลอดบุตรได้โดยให้ถือเปน็ วันลาเพื่อคลอดบุตร เพ่ิมอัตราค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซ่ึงทางานติดต่อกันครบย่ีสิบปีขึ้นไป กาหนดให้ การย้ายสถานประกอบกจิ การ ใหร้ วมท้ังการยา้ ยสถานประกอบกิจการไปตั้ง ณ สถานท่ีใหม่ หรือสถานท่ีอื่น ของนายจา้ ง และแก้ไขใหน้ ายจ้างกาหนดค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา คา่ ทางานในวันหยุด และคา่ ล่วงเวลาในวนั หยุด ในอัตราเท่ากันท้ังลูกจ้างชายและหญิงในงานท่ีมีค่าเท่าเทียมกันเพื่อให้เปน็ ไปตามมาตรฐานสากล จึงจาเป็นต้องตรา พระราชบญั ญตั ิน้ี

258

259

260

261

262

263

264

265

266

267

268 ระเบียบกรมสวสั ดกิ ารและคุม ครองแรงงาน วา ดว ยการตรวจสถานประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติคุม ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๕๖ เพ่ือใหการปฏิบัติการตามหนาที่ของพนักงานตรวจแรงงานในการตรวจสถานประกอบกิจการ ตามพระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ เปนไปดวยความเรียบรอย มีประสิทธิภาพ และสามารถ บรรลุวัตถุประสงคของกฎหมาย อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๒ แหงพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการแผนดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผนดิน (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดีกรมสวัสดิการและคมุ ครองแรงงานจงึ วางระเบยี บไว ดงั ตอ ไปนี้ ขอ ๑ ระเบียบน้ีเรียกวา “ระเบียบกรมสวัสดิการและคุมครองแรงงานวาดวยการตรวจ สถานประกอบกิจการตามพระราชบญั ญัตคิ ุมครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๕๖” ขอ ๒ ระเบยี บนใ้ี หใ ชบังคบั ตงั้ แตว นั ประกาศเปน ตน ไป ขอ ๓ บรรดาระเบียบ ขอบังคับ และคําส่ังอื่นใดในสวนท่ีกําหนดไวแลวในระเบียบนี้ หรือซ่ึงขดั หรอื แยงกับระเบียบนี้ ใหใ ชระเบยี บนแ้ี ทน ขอ ๔ ในระเบยี บน้ี “พนักงานตรวจแรงงาน” หมายความวา ผูซ่ึงรัฐมนตรีแตงต้ังใหปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ คมุ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และท่ีแกไ ขเพม่ิ เติม “สถานประกอบกิจการ” หมายความวา หนวยงานแตละแหงของนายจางที่มีลูกจางทํางาน อยใู นหนว ยงานและหมายความรวมถงึ สํานักงานของนายจางและสถานท่ีทาํ งานของลูกจา ง “การตรวจสถานประกอบกิจการ” หมายความวา การท่ีพนักงานตรวจแรงงานเขาไป ในสถานประกอบกิจการ เพื่อตรวจสภาพการทํางานของลูกจางและสภาพการจาง สอบถามขอเท็จจริง ถายภาพ ถายสําเนาเอกสารท่ีเก่ียวกับการจาง การจายคาจาง คาลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด คาลวงเวลา ในวันหยุด และทะเบียนลูกจาง เก็บตัวอยาง วัสดุหรือผลิตภัณฑเพ่ือวิเคราะหเกี่ยวกับความปลอดภัยในการ ทํางาน และกระทําการอยางอ่นื เพื่อใหไดขอเท็จจริงในอันท่ีจะปฏิบัติการใหเปนไปตามพระราชบัญญัติคุมครอง แรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และท่ีแกไขเพ่มิ เตมิ ขอ ๕ ภายใตบังคับขอ ๙ ใหพนักงานตรวจแรงงานซ่ึงเปนขาราชการในสังกัดกรมสวัสดิการ และคุมครองแรงงานและสํานักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่งปฏิบัติงาน ณ กรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดอ่ืน ดําเนินการตรวจสถานประกอบกิจการที่ตั้งอยูในเขตทองท่ีในความรับผิดชอบ กรณีการตรวจสถานประกอบกิจการ แลว พบวานายจา งฝาฝนหรอื ไมปฏบิ ัติตามพระราชบัญญตั ิคมุ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ใหมคี ําสง่ั เปนหนังสือ ตามมาตรา ๑๓๙ (๓) แหงพระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ใหนายจางปฏิบัติใหถูกตอง ตามกฎหมายและติดตามผลตามคําสง่ั ดงั กลาว

269 -๒- ขอ ๖ ใหพนักงานตรวจแรงงานซ่ึงเปนขาราชการในสังกัดสวนราชการอ่ืนนอกจากขอ ๕ ดําเนินการตรวจสถานประกอบกิจการในลักษณะเปนการตรวจทั่วไปตามคูมือการตรวจสถานประกอบกิจการ ของกรมสวัสดิการและคุมครองแรงงาน เพื่อใหคําแนะนําแกนายจางหรือลูกจางในการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยใหจัดทําแผนการตรวจในรอบหนึ่งเดอื นประสานงานกับพนักงานตรวจแรงงานตามขอ ๕ เปนการลวงหนา เพอื่ มใิ หเ กิดความซา้ํ ซอ นในการตรวจ เมื่อไดดําเนินการตรวจสถานประกอบกิจการตามวรรคหน่ึงแลว ใหพนักงานตรวจแรงงาน ดังกลาวประสานงานกับพนักงานตรวจแรงงานตามขอ ๕ เพ่ือแจงผลการดําเนินการหรือรวมดําเนินการ ในขน้ั ตอนตอ ไปในกรณีทน่ี ายจา งยงั ปฏิบตั ไิ มถกู ตองตามกฎหมาย ขอ ๗ ในกรณีท่ีมีคํารองหรือความปรากฏแกพนักงานตรวจแรงงานตามขอ ๕ วา นายจางฝาฝน หรือไมปฏิบัติตามกฎหมาย ใหพนักงานตรวจแรงงานน้ันดําเนินการสอบสวนขอเท็จจริงโดยดวน หากพบวา นายจางฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามกฎหมาย ใหมีคําส่ังเปนหนังสือใหนายจางปฏิบัติใหถูกตองตามกฎหมายและ ติดตามผลตามคําสั่งนั้นตอไป เวนแตเปนความผิดอยางหนึ่งอยางใดตามขอ ๙ ใหดําเนินคดีทางพนักงาน สอบสวนโดยไมตองมีคําสงั่ ถ า มี คํ า ร อ ง ห รื อ ค ว า ม ป ร า ก ฏ แ ก พ นั ก ง า น ต ร ว จ แ ร ง ง า น ใ น สั ง กั ด ส ว น ร า ช ก า ร อื่ น ใหป ระสานงานกบั พนกั งานตรวจแรงงานตามขอ ๕ โดยดวน เพ่ือดําเนนิ การตามวรรคหนึง่ ทงั้ นี้ พนกั งานตรวจ แรงงานนน้ั จะรวมดาํ เนนิ การดวยกไ็ ด กรณีตามวรรคหน่ึง และวรรคสอง หากเปนเร่ืองท่ีเกี่ยวกับสิทธิการไดรับเงินตาม พระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และลูกจางประสงคใหพนักงานตรวจแรงงานดําเนินการ ตามหมวด ๑๒ แหงพระราชบัญญัติคุม ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ใหพนกั งานตรวจแรงงานแจงใหลูกจางหรือ ทายาทโดยธรรมของลูกจางกรณีลูกจางถึงแกความตาย แลวแตกรณี ย่ืนคํารองตอพนักงานตรวจแรงงาน เม่ือพนักงานตรวจแรงงานผูรับผิดชอบไดรับคํารองแลว ใหดําเนินการตามระเบียบกรมสวัสดิการและคุมครอง แรงงานวาดวยการรับคํารองและการพิจารณาคํารองของพนักงานตรวจแรงงานตามพระราชบัญญัติคุมครอง แรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๕๔ และที่แกไ ขเพ่มิ เติม ขอ ๘ ในกรณีพนักงานตรวจแรงงานมีคําส่ังตามขอ ๕ หรือ ขอ ๗ วรรคหนึ่ง ใหแจงสิทธิ อุทธรณคําส่ังใหนายจางทราบไวทายคําสั่งเพื่อใหนายจางที่ไมเห็นดวยกับคําสั่ง อุทธรณตออธิบดีหรือ ผูซ่งึ อธิบดีมอบหมายภายในระยะเวลาทกี่ าํ หนดในคาํ สง่ั กรณีมีการอุทธณคําสั่งตามวรรคหน่ึง ใหนําระเบียบหรือแนวปฏิบัติกรมสวัสดิการและ คุมครองแรงงานวาดวยการรับและการพิจารณาอุทธรณคําส่ังทางปกครอง และที่แกไขเพ่ิมเติม มาใชบังคับ โดยอนโุ ลม ขอ ๙ กรณีพนักงานตรวจแรงงานดําเนนิ การตรวจแรงงานตามขอ ๕ หรือ ขอ ๗ วรรคหนึ่ง แลว ปรากฏขอเท็จจริงวามีการฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ในกรณี ดงั ตอไปนี้ ใหดําเนนิ คดีทางพนักงานสอบสวนโดยเร็ว โดยไมตองมคี ําส่งั ใหน ายจางปฏบิ ตั ิ (๑) ความผิดที่มพี ฤตกิ ารณพเิ ศษ หรือเกดิ ผลกระทบกบั ลูกจา งจาํ นวนมาก (๒) ความผิดเก่ียวกับการใชแรงงานเด็กโดยมีการทารุณ หนวงเหนี่ยว กักขัง การบังคับใช แรงงานตามกฎหมายวาดวยการปองกันและปราบปรามการคามนุษยหรือมีการกระทําความผิดอาญา ฐานอืน่ รวมอยูด วย (๓) ความผิดตามมาตรา ๑๖ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๙ และ มาตรา ๕๐ แหงพระราชบัญญัติ คมุ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑

270 -๓- (๔) ความผดิ ตามมาตรา ๑๓๙ (๒) แหงพระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ (๕) ความผิดตามมาตรา ๑๕๐ หรือมาตรา ๑๕๑ วรรคหนึ่ง แหงพระราชบัญญัติคุมครอง แรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ เฉพาะความผิดท่ีกระทําตอ พนักงานตรวจแรงงาน (๖) ความผิดตามมาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ มาตรา ๓๙/๑ วรรคหนึ่ง มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๗ หรือมาตรา ๔๘ แหงพระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งเปนสาเหตุโดยตรงที่ทําให ลูกจางไดร บั อนั ตรายสาหัส หรือถึงแกค วามตาย การดําเนินคดีตามวรรคหนึ่ง ใหเปนไปตามระเบียบกรมสวัสดิการและคุมครองแรงงานวาดวย การดําเนินคดีอาญาและการเปรียบเทียบผูกระทําความผิดตามกฎหมายวาดวยการคุมครองแรงงานและ ความปลอดภัยในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ และท่แี กไขเพ่ิมเติม ขอ ๑๐ ในกรณีท่ีนายจางไดปฏิบัติตามคําสั่งของพนักงานตรวจแรงงานตามขอ ๕ ขอ ๗ วรรคหน่ึง ภายในระยะเวลาท่ีกําหนด หรือไดปฏิบัติตามคําวินิจฉัยของอธิบดีหรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายภายใน ระยะเวลาทีก่ ําหนด การดําเนินคดีอาญาตอนายจางใหเปนอันระงบั ไป กรณีท่ีนายจางไมไ ดป ฏิบัตติ ามคําส่ังให ถูกตองภายในระยะที่กําหนด ใหพนักงานตรวจแรงงานใชมาตรการบังคับตามคําสั่งดวยการดําเนินคดีอาญา ตอไปโดยไมชักชา ทั้งนี้ ตามระเบียบกรมสวัสดิการและคุมครองแรงงานวาดวยการดําเนินคดีอาญาและ การเปรียบเทียบผูกระทําความผิดตามกฎหมายวาดวยการคุมครองแรงงาน และความปลอดภัยในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ และทีแ่ กไ ขเพิ่มเติม ขอ ๑๑ การตรวจสถานประกอบกิจการ การออกคําส่ังพนักงานตรวจแรงงาน การดําเนิน คดีอาญา รวมท้ังการติดตามผลการดําเนินการดังกลาว ใหพนักงานตรวจแรงงานหรือนิติกร รายงาน ในระบบรายงานผลการปฏบิ ตั งิ านของกรมสวัสดิการและคุม ครองแรงงานทุกครัง้ ขอ ๑๒ การตรวจแรงงานของพนักงานตรวจแรงงานที่ไดดําเนินการตามระเบียบกระทรวง แรงงานวาดวยการตรวจสถานประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๔๒ กอนวนั ท่ีระเบยี บน้ใี ชบ งั คับ ใหถอื วา เปน การปฏบิ ตั ิตามระเบยี บน้ี ขอ ๑๓ ใหอ ธบิ ดกี รมสวัสดกิ ารและคมุ ครองแรงงานรักษาการตามระเบียบน้ี ประกาศ ณ วันท่ี ๗ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๖. โชคชยั ศรที อง รองอธิบดี รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสวสั ดิการและคุมครองแรงงาน

271

แบบ คร. ๒/๒๕๕๘ 272 แบบแจง้ การจ้างลูกจ้างซ่งึ เป็นเด็กอายตุ า่ํ กว่าสบิ แปดปี ตามมาตรา ๔๕ (๑) ข้าพเจ้า บริษัท/ห้างหุ้นส่วนจํากัด …………………….........................................................… โดยนาย/นาง/นางสาว……………………………………………………………………………………………….เป็นนายจ้าง นาย/นาง/นางสาว……………………....นามสกุล....................................เป็นนายจ้าง สถานประกอบกิจการช่ือ........................................................................................................................... ประกอบกิจการ........…………..................................................................................................................… ตั้งอยู่เลขท่ี..........................หมู่ที่.............ตรอก/ซอย...............................ถนน.......................................... แขวง/ตําบล...............................เขต/อําเภอ....................... จังหวัด......................รหัสไปรษณีย์…………… โทรศัพท์............................................สถานท่ีใกล้เคียง............................................................................... …………………………………………………………………………………………………….............................................…… ขา้ พเจา้ ไดว้ ่าจ้างลกู จา้ งช่อื นาย/นาง/นางสาว....................................นามสกุล............................ สญั ชาติ.............เกิดวันที.่ ........เดือน.........................พ.ศ. ........... หมายเลขประจําตัวผู้ถือบัตรประชาชน (กรณีแรงงานต่างด้าวให้ระบุเลขที่หนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตทํางาน)................................................ ภูมิลําเนาบ้านเลขที่.............หมู่ท่ี...........ตรอก/ซอย..................................ถนน........................................ แขวง/ตําบล...............................เขต/อําเภอ....................... จังหวัด......................รหัสไปรษณีย์…………… โทรศัพท์...................................... ระดับการศึกษา................................................................................... บิดาชื่อนาย...........................................อาชีพ............................ มารดาช่ือนาง/นางสาว......................... อาชีพ.........................หรือผู้ปกครองช่ือ........................................................... อาชีพ............................... เข้าทํางานเปน็ ลกู จา้ งเม่อื วนั ที่............เดือน..................................พ.ศ. ………………………………………..…. ข้าพเจ้ารับลูกจ้างมาจาก บริษัท/ห้างหุ้นส่วนจํากัด……………………………………………………………. หรือนาย/นาง/นางสาว................... นามสกุล………………………ท่ีอยู่......................................................... เก่ียวพันกบั ลกู จา้ งเป็น............................................................................................................................... ข้าพเจ้าให้ลูกจ้างทํางานในหน้าท่ี................................................................................................. โดยมีลักษณะงาน ดังนี้............................................................................................................................... อตั ราค่าจ้างเป็นรายเดือน/วัน/ชั่วโมง ละ...................บาท หรือตามผลงานหน่วยละ........................บาท เวลาทํางาน ตั้งแต.่ ..............น. ถึง...............น. เวลาพัก................ช่ัวโมง/วัน แบ่งเวลาพัก ดังนี้ ช่วงที่ ๑ เวลา................น. ถึง................น. ช่วงท่ี ๒ เวลา................น. ถึง...............น. ช่วงที่ ๓ เวลา............... น. ถึง...............น. วันทํางาน..........วัน/สัปดาห์ วันหยุดประจําสัปดาห์คือวัน................................................ วันหยุดตามประเพณี........วัน/ปี วันหยุดพักผ่อนประจําปี.........วัน/ปี สวัสดิการ..................................... สถานที่ทํางานเลขที่.....................หมู่ท่ี......... ตรอก/ซอย....................ถนน................................ แขวง/ตําบล...............................เขต/อําเภอ....................... จังหวัด......................รหัสไปรษณีย์…………… โทรศัพท์....................................สถานที่พักของลูกจ้างเลขที่...................................................................... พักอาศัยอยกู่ บั ..........................................................เกยี่ วข้องเป็น........................................................... ข้าพเจ้าได้แนบ.... สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน/หนงั สอื เดนิ ทาง/ใบอนญุ าตทํางาน หรอื สาํ เนาทะเบียนบ้าน หรอื สาํ เนาใบสทุ ธิ หรอื หลกั ฐานทางการแพทยท์ ี่แสดงว่าเด็กนัน้ มอี ายุต้ังแต่ ๑๕ ปขี ้นึ ไป พรอ้ มรูปถา่ ย และ สําเนาเอกสารหลกั ฐานการว่าจา้ งลูกจา้ งเข้าทํางาน (ถา้ ม)ี ลงช่อื .....................................................นายจา้ ง/ผู้แทนนายจ้าง (.................................................) วนั ท่ี............เดือน...........................พ.ศ. .............

273 แบบ คร. ๓/๒๕๕๘ แบบบนั ทกึ การเปลยี่ นแปลงสภาพการจ้างลูกจา้ งซึ่งเป็นเด็กอายุตํ่ากว่าสิบแปดปตี ามมาตรา ๔๕ (๒) ๑. สถานประกอบกจิ การ บรษิ ัท/หา้ งหุ้นส่วนจาํ กดั ………………………….........................................................… โดยนาย/นาง/นางสาว……………………………………………………………………………………………………..นายจา้ ง นาย/นาง/นางสาว………………………………....นามสกุล...................................นายจา้ ง สถานประกอบกจิ การช่อื .............................................................................. ไดว้ า่ จ้าง ลกู จ้างชือ่ นาย/นาง/นางสาว.........................................นามสกุล............................. สัญชาติ.................... เกิดวนั ท.่ี .......เดอื น......................... พ.ศ. ........... เปน็ ลกู จ้างเม่ือวนั ท่ี..........เดอื น.................. พ.ศ. ........ ๒. สภาพการจา้ งเมอ่ื เริม่ เขา้ ทาํ งาน ทาํ งานในหน้าท่ี........................................... ลกั ษณะงานท่ีทํา............................................... อตั ราคา่ จ้างเป็นรายเดือน/วนั /ชวั่ โมง ละ........................บาท หรือตามผลงานหนว่ ยละ...................บาท เวลาทํางานตั้งแต่........................น. ถงึ ........................น. เวลาพกั ...............ชัว่ โมง/วัน แบ่งเวลาพัก ดังนี้ ชว่ งที่ ๑ เวลา................... น. ถึง..................... น. ช่วงท่ี ๒ เวลา....................... น. ถึง .......................น. ชว่ งที่ ๓ เวลา....................น. ถึง …...................น. วันทํางาน.............วนั /สัปดาห์ วันหยุดประจาํ สัปดาห์ คือวัน........................... วนั หยุดตามประเพณ.ี .................วัน/ปี วนั หยดุ พกั ผอ่ นประจําปี................วนั /ปี สวัสดกิ าร.................................................................................................................................................. อ่ืนๆ.......................................................................................................................................................... ๓. สภาพการจ้างทเี่ ปลย่ี นแปลง ครัง้ ท่ี ทาํ งานในหน้าที่/ อัตราคา่ จ้าง เวลาทํางาน เวลาพัก วนั หยุด สวสั ดิการและอ่ืนๆ วันเดอื นปี ลายมือชื่อ ลักษณะงานท่ที ํา ทเี่ ปลย่ี นแปลง นายจ้าง/ผูแ้ ทน สภาพการจ้าง นายจ้าง วัน/เดอื น/ปี

274 แบบ คร. ๔/๒๕๕๘ แบบแจ้งการสิ้นสดุ การจา้ งลูกจา้ งซึง่ เป็นเด็กอายตุ ่ํากวา่ สบิ แปดปี ตามมาตรา ๔๕ (๓) ขา้ พเจา้ บริษัท/หา้ งหุ้นสว่ นจํากัด ……………………….........................................................… โดยนาย/นาง/นางสาว……………………………………………………………………………………………….เปน็ นายจา้ ง นาย/นาง/นางสาว……………………....นามสกลุ ....................................เปน็ นายจา้ ง สถานประกอบกิจการช่ือ........................................................................................................................... ประกอบกิจการ........…………..................................................................................................................… ต้ังอยเู่ ลขท.ี่ .........................หมูท่ .ี่ ............ตรอก/ซอย...............................ถนน.......................................... แขวง/ตําบล...............................เขต/อําเภอ....................... จงั หวัด......................รหัสไปรษณีย์…………… โทรศพั ท.์ ...........................................สถานทีใ่ กลเ้ คยี ง............................................................................... …………………………………………………………………………………………………….............................................…… ขา้ พเจ้าได้ว่าจ้างลูกจา้ งชอ่ื นาย/นาง/นางสาว....................................นามสกุล............................ สญั ชาติ.............เกดิ วนั ท่.ี ........เดอื น.........................พ.ศ. ........... หมายเลขประจําตัวผู้ถือบัตรประชาชน (กรณีแรงงานต่างด้าวให้ระบุเลขที่หนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตทํางาน)................................................ ภูมิลําเนาบ้านเลขที่.............หมู่ท่ี...........ตรอก/ซอย..................................ถนน........................................ แขวง/ตําบล...............................เขต/อําเภอ....................... จังหวัด......................รหัสไปรษณีย์…………… โทรศัพท์...................................... เม่ือวันท่ี...........เดือน...............................พ.ศ. ...….............. และ ไดแ้ จ้งการจา้ งต่อพนักงานตรวจแรงงานตามแบบ คร. ๒/๒๕๕๘ เม่ือวนั ที่........เดอื น..............พ.ศ. ........ ขา้ พเจา้ ขอแจง้ การส้นิ สุดการจา้ งลูกจ้างซง่ึ เป็นเด็กอายุตํ่ากวา่ สิบแปดปี เน่อื งจาก ลูกจ้างลาออก เมือ่ วนั ที.่ .........เดอื น........................................... พ.ศ. …........................ สาเหตุการลาออก..............................................…......................................................... ….................................................................................................................................... เลิกจา้ งลูกจา้ ง เมอ่ื วันที่..........เดอื น........................................... พ.ศ. ….................. สาเหตุการเลิกจ้าง......................................................................................................... …................................................................................................................................... อนื่ ๆ…............................................................................................................................. รวมระยะเวลาการจ้างลูกจ้างเขา้ ทาํ งาน …..........ปี …........เดอื น...........วนั สิทธปิ ระโยชนท์ ่ขี ้าพเจ้าจ่ายใหแ้ กล่ กู จา้ งเม่อื สิ้นสุดการจ้าง ค่าจา้ ง ….................................................................................................บาท คา่ ชดเชย.….............................................................................................บาท คา่ ชดเชยพเิ ศษ........................................................................................บาท ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวลว่ งหนา้ ...........................................................บาท อน่ื ๆ ….................................................................................................. เมื่อลูกจ้างส้นิ สดุ การจา้ งแล้วปรากฏว่า กลับภมู ิลาํ เนา ทํางานในสถานประกอบกิจการใหม่ ชอ่ื ....................................................................... ท่ีตั้ง.............................................................................................................................. อ่นื ๆ............................................................................................................................ ลงช่อื .....................................................นายจา้ ง/ผู้แทนนายจ้าง (.................................................) วนั ท่.ี ...........เดือน...........................พ.ศ. .............

275 แบบ คร. ๑๑ แบบแสดงสภาพการจา้ งและสภาพการทำ� งานของสถานประกอบกจิ การ ประจำ� ปี พ.ศ............. หมวดที่ ๑ ขอ้ มลู ท่ัวไป ๑. ชื่อสถานประกอบกิจการ .......................................................................................................................................... ช่ือทางการค้า .............................................................................................................................................................. ที่ต้ังเลขท่ี ......................... หมู่ ............... ซอย .................................................... ถนน ...................................................... แขวง/ต�ำบล .................................. เขต/อ�ำเภอ .................................. จังหวัด ............................... รหัสไปรษณีย์..................... โทรศัพท์ .................................................. โทรสาร ..................................... E-mail …...................................................... ประกอบกิจการ …............................................................................................. ส่งออก สง่ เสริมการลงทุน ประเภทส�ำนกั งาน ส�ำนักงานใหญ ่ สำ� นกั งานสาขา ส�ำนกั งานเดียว แผงลอย/แผงตัง้ สำ� นักงานช่วั คราว/หน่วยงานกอ่ สรา้ ง (วันทเ่ี ร่ิมโครงการ …......................... วันท่สี ้นิ สดุ …........................ ) เจ้าของกิจการ/กรรมการผู้จัดการ/หนุ้ สว่ นผ้จู ดั การ .............................................................................................. สัญชาติ ..................... เลขบัตรประจ�ำตัวประชาชน/หรือบัตรอื่น(ระบุ) …..................................................................................................................... หนังสือรับรองนิติบุคคล/ทะเบียนการค้า เลขที่ …............................................................................... ลงวันท่ี …........................... เลขทะเบียนประกนั สงั คม …........................................................................................................................................................................ ๒. จำ� นวนลูกจา้ ง สัญชาติ ต่ำ� กว่า ๑๕ ปี ๑๕ - ต�ำ่ กวา่ ๑๘ ปี ๑๘ - ต่ำ� กวา่ ๖๐ ปี ๖๐ ปขี น้ึ ไป รวม ชาย หญงิ ชาย หญงิ ชาย หญิง ชาย หญิง ไทย พม่า ลาว กมั พชู า อน่ื ๆ ระบ.ุ ...................... ๓. จ�ำนวนลูกจา้ งพกิ าร ผู้รับเหมาคา่ แรง จ�ำนวน ................... ราย ผรู้ ับเหมาช่วงงาน จ�ำนวน ................... ราย ๔. มีงานทส่ี ่งไปท�ำนอกสถานประกอบกจิ การหรือไม ่ มี จ�ำนวน ................... ราย ไม่มี ๔.๑ ประเภทงานทสี่ ง่ .......................................................................................................................................................................... ๔.๒ สถานท่สี ง่ ..................................................................................................................................................................................... ๔.๓ ช่อื บคุ คล/กล่มุ ............................................................................................................................................................................. ๔.๔ สัญญา มี ไมม่ ี ๔.๕ คา่ ตอบแทนตอ่ หนว่ ย มี จำ� นวน ................... บาท ไมม่ ี ๕. วันทำ� งาน เวลาท�ำงาน เวลาพัก ลกั ษณะงาน หมวดท่ี ๒ สภาพการจ้าง ลักษณะงาน จำ� นวนวันท�ำงานตอ่ สปั ดาห์ เวลาทำ� งานปกติ จ�ำนวนเวลาพักตอ่ วัน เรม่ิ ต้น สน้ิ สุด (ชว่ั โมง) งานสำ� นักงาน งานผลติ งานกะ ๑ งานกะ ๒ งานกะ ๓ งานบริการ งานพาณิชยกรรม งานเฝ้าดูแลทรัพย์สิน งานขนส่งทางบก งานกอ่ สร้าง งานอันตราย งานอน่ื ๆ (ระบ)ุ กรณีนายจา้ งผู้ใดไม่ยืน่ หรอื ไม่แจง้ แบบแสดงสภาพการจา้ งและสภาพการทำ� งานตามมาตรา ๑๑๕/๑ ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ สองหม่ืนบาท

- 2 - 276 ๖. การจัดวนั หยุด มี ................ วัน ไมม่ ี ประกาศ ไม่ประกาศ ๖.๑ วนั หยุดประจำ� สปั ดาห ์ ก�ำหนดแนน่ อน หมนุ เวยี นกันหยุด อืน่ ๆ ระบุ ........................................... ๖.๒ วันหยดุ ตามประเพณี มี ................ วนั ไมม่ ี ประกาศ ไม่ประกาศ ก�ำหนดแน่นอน กำ� หนดรายปี (๑) วนั แรงงานแหง่ ชาติ............................... (๒) ......................................................... (๓)................................................ (๔) ............................................................... (๕)........................................................... (๖) ................................................... (๗) .............................................................. (๘) .......................................................... (๙) ......................................... (๑๐) ........................................................... (๑๑) ....................................................... (๑๒) ................................................. (๑๓) ........................................................... (๑๔) ........................................................ (๑๕) ................................................. การจา่ ยคา่ จา้ งในวันหยดุ ตามประเพณี จา่ ย ไม่จา่ ย ๖.๓ วนั หยดุ พักผ่อนประจ�ำปี มี ............... วัน ไมม่ ี การจา่ ยคา่ จา้ งในวันหยดุ พักผอ่ นประจำ� ปี จ่าย ไมจ่ า่ ย ๗. สทิ ธวิ นั ลา ๗.๑ วนั ลาป่วย มี ไมม่ ี การจ่ายคา่ จา้ งในวนั ลาป่วย จ่าย ................วนั ทำ� งานตอ่ ปี ไมจ่ ่าย ๗.๒ วนั ลาท�ำหมนั มี ไมม่ ี การจ่ายค่าจ้างในวันลาทำ� หมนั จ่าย ไมจ่ า่ ย ๗.๓ วันลากิจ มี ...................วันท�ำงานต่อปี ไมม่ ี การจ่ายคา่ จ้างในวันลากจิ จา่ ย ...............วันทำ� งานตอ่ ปี ไมจ่ า่ ย ๗.๔ วันลาคลอด ม.ี ..........วัน ไม่มี การจา่ ยคา่ จ้างในวันลาคลอด จา่ ย.......วัน ไม่จา่ ย ๗.๕ วันลาเพอ่ื รับราชการทหารในการเรียกพล มี ไมม่ ี การจา่ ยค่าจา้ งในวนั ลาเพือ่ รับราชการทหารในการเรียกพล จา่ ย ไม่จา่ ย ๗.๖ วนั ลาเพอื่ ฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ มี ไมม่ ี การจ่ายคา่ จา้ งในวนั ลาเพอ่ื ฝกึ อบรมหรือพัฒนาความรู ้ จา่ ย ไม่จา่ ย ๗.๗ วันลาเพื่อประโยชนใ์ นการพฒั นาและส่งเสริมคุณภาพชีวติ และการท�ำงานของลูกจ้างเดก็ มี ไม่มี การจา่ ยคา่ จา้ งในวันลาเพอื่ ประโยชนใ์ นการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ จ่าย ไม่จา่ ย ๗.๘ วนั ลาอนื่ ๆ..................................................................................... ม ี ไม่มี จ่าย ไมจ่ า่ ย ๘. การเรียกหรอื รบั หลักประกนั การทำ� งานจากลกู จ้าง ๘.๑ หลกั ประกนั ท่ีเปน็ เงิน มี จ�ำนวน.................คน ไม่ม ี ๘.๒ หลักประกนั ท่เี ปน็ ทรัพยส์ นิ มี จ�ำนวน.................คน ไมม่ ี ๘.๓ การค้�ำประกันโดยบคุ คล มี จ�ำนวน.................คน ไมม่ ี ๙. การจ่ายค่าจา้ ง ๙.๑ ประเภทค่าจ้าง - ค่าจ้างรายเดือน ตำ�่ สดุ ..................................................บาท สูงสุด......................................................บาท - ค่าจ้างรายวนั ต�่ำสุด..................................................บาท สงู สุด......................................................บาท - อ่ืน ๆ ระบุ (รายชวั่ โมง เฉลี่ยต�่ำสดุ ….............................................บาท/วัน เฉล่ยี สงู สดุ ……................................บาท/วัน งานเหมา เฉลย่ี ต�่ำสุด…............................................บาท/วนั เฉลีย่ สงู สดุ …….................................บาท/วัน) ๙.๒ สถานทจ่ี า่ ยค่าจา้ ง สถานทท่ี ำ� งานของลกู จา้ ง ผา่ นธนาคาร อื่นๆ (ระบ)ุ ........................ ๙.๓ กำ� หนดเวลาการจา่ ยคา่ จา้ ง เดอื น/คร้ัง ๑๕ วนั /ครงั้ ๑ สัปดาห์/คร้ัง อืน่ ๆ (ระบ)ุ ...................................................................................................... ๑๐. การจา่ ยคา่ ล่วงเวลาและคา่ ทำ� งานในวนั หยดุ ๑๐.๑ ค่าลว่ งเวลาในวนั ทำ� งานปกติ จ่าย ................เทา่ ไม่จา่ ย ๑๐.๒ คา่ ทำ� งานในวันหยดุ จา่ ย ................เทา่ ไมจ่ ่าย ๑๐.๓ คา่ ล่วงเวลาในวันหยุด จา่ ย ................เท่า ไม่จา่ ย กรณนี ายจ้างผูใ้ ดไมย่ น่ื หรือไม่แจ้งแบบแสดงสภาพการจ้างและสภาพการทำ� งานตามมาตรา ๑๑๕/๑ ตอ้ งระวางโทษปรบั ไม่เกนิ สองหมืน่ บาท

277 - 3 - 276 ๑๑. หลกั ฐานเกย่ี วกับการทำ� งาน มี ไมม่ ี ๑๑.๑ ข้อบังคบั เกีย่ วกับการทำ� งาน ปดิ ประกาศ ไม่ปดิ ประกาศ - การปิดประกาศใหล้ ูกจา้ งทราบ มี ไม่มี ๑๑.๒ ทะเบียนลกู จ้าง มี ไมม่ ี ๑๑.๓ เอกสารการจา่ ยคา่ จ้าง มี ไมม่ ี ๑๑.๔ การลงเวลาท�ำงาน ๑๒. การใช้แรงงานหญงิ หมวดท่ี ๓ การใชแ้ รงงานหญงิ และเด็ก ๑๒.๑ มกี ารใชล้ ูกจา้ งท�ำงานในลกั ษณะน้หี รอื ไม่ มี (ระบไุ ดม้ ากกว่า ๑ ขอ้ ) ไมม่ ี งานเหมอื งแร่หรอื กอ่ สร้างใตด้ นิ ใตน้ �ำ้ ในถ้ำ� ในอโุ มงค์หรอื ปล่องในภูเขา งานทตี่ อ้ งท�ำบนน่งั ร้านที่สูงกวา่ พน้ื ดินตงั้ แต่ ๑๐ เมตรขึน้ ไป งานผลติ หรอื ขนสง่ วัตถรุ ะเบิดหรอื วัตถไุ วไฟ งานยก แบก หาบ หาม ทนู ลาก หรอื เขน็ ของหนกั เกิน ๒๕ กโิ ลกรัม ๑๒.๒ การใชล้ กู จ้างหญงิ มีครรภ์ ๑๒.๒.๑ มีการท�ำงานในลกั ษณะนี้หรือไม่ มี (ระบไุ ด้มากกวา่ ๑ ขอ้ ) ไมม่ ี งานเกยี่ วกบั เครอื่ งจกั รหรอื เคร่ืองยนต์ทม่ี คี วามสน่ั สะเทือน งานขบั เคลอ่ื นหรอื ติดไปกับยานพาหนะ งานยก แบก หาบ หาม ทนู ลาก หรอื เข็นของหนกั เกิน ๑๕ กโิ ลกรมั งานทท่ี ำ� ในเรือ ๑๒.๒.๒ มกี ารทำ� งานระหวา่ งเวลา ๒๒.๐๐ - ๐๖.๐๐ น. ม ี ไมม่ ี ๑๒.๒.๓ มกี ารทำ� งานลว่ งเวลา มี ไม่มี ๑๒.๒.๔ มีการทำ� งานในวันหยดุ มี ไม่ม ี ๑๓. การใชแ้ รงงานเดก็ (อายุ ๑๕ - ต่�ำกว่า ๑๘ ปี) ๑๓.๑ มีการใช้ลูกจา้ งเด็กท�ำงานในลักษณะน้หี รอื ไม่ มี (ระบุไดม้ ากกวา่ ๑ ขอ้ ) ไม่มี งานหลอม เปา่ รดี หรือป๊ัมโลหะ งานเกี่ยวกบั ความร้อน ความเย็น ความสน่ั สะเทอื น เสยี ง และแสงท่มี รี ะดับแตกตา่ งจากปกติ งานเก่ยี วกับสารเคมที ี่เปน็ อนั ตราย งานทท่ี �ำใต้ดิน ใตน้ �ำ้ ในถำ�้ ในอุโมงคห์ รือปลอ่ งในภเู ขา งานเกี่ยวกบั จุลชีวนั ที่เป็นพิษ งานเกี่ยวกับวัตถุมีพษิ วัตถรุ ะเบดิ วตั ถไุ วไฟ ซงึ่ มิใช่งานในสถานีบริการน�้ำมนั เช้อื เพลงิ งานขับหรือบังคบั รถยกหรือป้นั จั่น งานใช้เลื่อยไฟฟ้าหรอื เลอ่ื ยเครือ่ งยนต์ งานท่ีตอ้ งท�ำบนนัง่ ร้านทีส่ งู กวา่ พน้ื ดินตงั้ แต่ ๑๐ เมตรขึ้นไป งานผลิตหรอื ขนสง่ วัตถุระเบิดหรือวตั ถุไวไฟ งานเก่ียวกับกมั มนั ตภาพรังสี งานท�ำความสะอาดเครอื่ งจกั ร หรือเคร่ืองยนต์ท่กี �ำลังท�ำงาน งานยก แบก หาบ หาม ทนู ลาก หรือเขน็ ของหนัก/สำ� หรบั เดก็ หญิงเกิน ๒๐ กิโลกรมั / ๒๕ กิโลกรมั สำ� หรบั เด็กชาย ๑๓.๒ มีการใช้ลูกจา้ งเด็กทำ� งานในสถานท่นี ห้ี รือไม่ มี ไม่มี โรงฆ่าสัตว์ สถานทีเ่ ล่นการพนัน สถานบรกิ ารตามกฎหมายว่าดว้ ยสถานบรกิ าร ๑๓.๓ มีการท�ำงานระหว่างเวลา ๒๒.๐๐ – ๐๖.๐๐ น. มี ไมม่ ี ๑๓.๔ มกี ารทำ� งานลว่ งเวลา ม ี ไมม่ ี ๑๓.๕ มีการท�ำงานในวันหยดุ มี ไม่มี กรณีนายจ้างผู้ใดไม่ย่นื หรอื ไม่แจง้ แบบแสดงสภาพการจ้างและสภาพการท�ำงานตามมาตรา ๑๑๕/๑ ตอ้ งระวางโทษปรบั ไมเ่ กนิ สองหม่นื บาท

277 - 4 - 278 ๑๔. สวสั ดิการ หมวดที่ ๔ สวัสดิการ ๑๔.๑ สวสั ดิการท่ีจัดให้ลูกจา้ ง ประเภทสวสั ดิการ มี (ระบจุ �ำนวน) ไมม่ ี น�ำ้ ดมื่ หอ้ งน�ำ้ - ห้องสว้ มชาย หอ้ งน�ำ้ - หอ้ งสว้ มหญิง ปัจจัยในการปฐมพยาบาล ห้องรกั ษาพยาบาล ยานพาหนะนำ� ส่งลูกจา้ งเพื่อการรกั ษาพยาบาล พยาบาล แพทย์ การใชส้ ถานพยาบาลแทนการจดั แพทย์เพอื่ ตรวจรกั ษา อาหาร ที่พัก ชุดทำ� งาน พาหนะรับส่ง สหกรณอ์ อมทรพั ยใ์ นสถานประกอบกจิ การ อืน่ ๆ ระบุ..................................................................... ๑๔.๒ คณะกรรมการสวสั ดกิ ารในสถานประกอบกจิ การ มี จ�ำนวน......คน แต่งตงั้ วันท่.ี ................................. ครบวาระวนั ท่.ี ............................ ไมม่ ี ๑๕. โปรดบรรยายทีต่ ้งั สถานประกอบกิจการโดยสงั เขป / แนบแผนทแ่ี สดงทต่ี งั้ สถานประกอบกจิ การ ๑๖. ความต้องการลกู จ้างเพม่ิ ในปี ๒๕๖๒ - วุฒกิ ารศกึ ษา...................................................................................................(ระบุ เชน่ ปรญิ ญาตร,ี ปวส. เป็นตน้ ) - สาขา............................................................................................................. - จำ� นวน.........................................คน ลงชื่อ..............................................................................ผแู้ จง้ (…............................................................................) ต�ำแหน่ง.................................................................................. วันท.่ี ....................................................................................... กรณีนายจา้ งผ้ใู ดไม่ยน่ื หรอื ไมแ่ จ้งแบบแสดงสภาพการจา้ งและสภาพการท�ำงานตามมาตรา ๑๑๕/๑ ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกินสองหม่ืนบาท

279 278 แบบแสดงสภาพการจ้างและสภาพการทางานของสถานประกอบกิจการ ประจาปี พ.ศ. ….................… (แบบ คร.๑๑) แบบแสดงสภาพการจ้างและสภาพการทางานของสถานประกอบกิจการ ประจาปี พ.ศ. ….. (แบบ คร.๑๑) จดั ทาขึ้นตามพระราชบญั ญตั ิคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ แกไ้ ขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิ คุ้มครองแรงงาน (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๑๑๕/๑ ให้นายจ้างซึ่งมีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่สิบคนข้ึนไป ยน่ื แบบแสดงสภาพการจ้างและสภาพการทางาน ต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายในเดือนมกราคม ของทกุ ปี กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จึงขอความร่วมมือสถานประกอบกิจการกรอกแบบแสดง สภาพการจ้างและสภาพการทางาน (แบบ คร.๑๑) โดยให้ศึกษาวิธีการกรอกแบบดังกล่าวตามคาอธิบาย ซง่ึ ได้จัดทาไว้ในตอนทา้ ยของเอกสารน้ี และกรอกขอ้ มูลตามความเป็นจริงอย่างครบถว้ น ส ถ าน ป ระ ก อบ กิ จก าร ซึ่ ง ไ ม่ ย่ื นห รื อไ ม่ แ จ้ ง แ บบ แ สด งสภาพการ จ้ างแ ละ สภาพก ารท าง าน (แบบ คร.๑๑) ภายในระยะเวลาที่กาหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา ๑๕๕/๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และหากกรอกข้อความอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือนหรือ ปรับไมเ่ กินหนง่ึ พันบาทหรอื ทั้งจาท้งั ปรับ ตามมาตรา ๑๓๗ แหง่ ประมวลกฎหมายอาญา กรมสวัสดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน

279 280 คาอธบิ ายการกรอกแบบแสดงสภาพการจ้างและสภาพการทางานของสถานประกอบกิจการ ประจาปี พ.ศ. …...... (แบบ คร. ๑๑) แบบแสดงสภาพการจ้างและสภาพการทางานของสถานประกอบกิจการ (แบบ คร. ๑๑) แบ่งเป็น ๔ หมวด ได้แก่ หมวดท่ี ๑ ข้อมูลท่ัวไป หมวดที่ ๒ สภาพการจ้าง หมวดท่ี ๓ การใช้แรงงานหญิงและเด็ก และ หมวดที่ ๔ สวัสดกิ าร โดยมรี ายละเอียด ดังนี้ หมวด ๑ ข้อมูลทัว่ ไป ๑. ช่อื สถานประกอบกิจการ ช่ือสถานประกอบกิจการ ให้ระบุช่ือสถานประกอบกิจการให้ชัดเจน หากเป็นนิติบุคคลให้ระบุ ว่าเป็นนิติบุคคลประเภทใด เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจากัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ เป็นต้น หากเป็นบุคคลธรรมดา ให้ระบุชื่อ-นามสกุล ของบุคคลท่ีเป็นเจ้าของสถาน ประกอบกจิ การ ช่ือทางการค้า กรณีสถานประกอบกิจการมีชื่อทางการค้าแตกต่างจากช่ือสถานประกอบกิจการ ให้กรอกช่ือทางการค้าท่ีใช้อยู่ เช่น ๑) ร้าน ข การค้า เป็นช่ือทางการค้าของสถานประกอบกิจการซ่ึงมี นาย ก เก่งดี เป็นเจ้าของ ๒) โรงแรมอยู่ดีมีสุข เป็นช่ือทางการค้าของบริษัท เก่งดี จากัด เป็นต้น หากไม่มีช่อื ทางการค้าไมต่ อ้ งกรอกขอ้ ความในช่องนี้ ทต่ี ัง้ ใหร้ ะบสุ ถานทต่ี ้งั สถานประกอบกจิ การท่เี ป็นท่ีทางานให้ชดั เจน ประกอบกิจการ ให้ระบุว่าเป็นกิจการประเภทใด เช่น ผลิตเส้ือผ้าส่งออก สถานีบริการน้ามัน โรงกลึง ร้านจาหน่ายอาหาร รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น และถ้าเป็นกิจการที่ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก หรือไดร้ บั การส่งเสรมิ การลงทนุ ใหข้ ีดเครือ่ งหมายถกู √ ในชอ่ ง  ทต่ี ้องการ ประเภทสานักงาน ให้เลือกทาเคร่ืองหมาย √ ในช่อง  ที่กาหนดไว้ ว่าสถานประกอบกิจการน้ี เป็นสานักงานประเภทใด ส่วนช่อง สานักงานชั่วคราว / หน่วยงานก่อสร้าง ให้ระบุวันท่ีเริ่มโครงการ และวนั สิน้ สดุ โครงการด้วย เจ้าของกิจการ ให้ระบุ ช่ือ-นามสกุลของเจ้าของกิจการ หรือผู้มีอานาจกระทาการแทน นิตบิ ุคคลนนั้ พร้อมระบุสญั ชาติและเลขบตั รประจาตัวประชาชนหรอื บตั รอนื่ ท่ที างราชการออกให้ หนังสอื รบั รองนติ ิบุคคล/ทะเบยี นการคา้ ใหร้ ะบุเลขการจดทะเบียนนิตบิ ุคคลหรือทะเบียนการค้า และวนั ท่ีซง่ึ กรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ กระทรวงพาณิชย์ออกให้แกส่ ถานประกอบกิจการ เลขทะเบยี นประกนั สงั คม ให้ระบเุ ลขการขนึ้ ทะเบยี นประกันสังคม

281 -๒- 280 ๒. จานวนลูกจ้าง จานวนลูกจ้าง ให้ระบุจานวนลูกจ้างทั้งหมดที่มีในสถานประกอบกิจการ โดยแยกประเภทลง ในตารางท่ีกาหนด ๓. จานวนลกู จา้ งพกิ าร หากมีการจ้างลกู จา้ งพิการใหร้ ะบดุ ้วย ทง้ั นีจ้ านวนลกู จา้ งจะรวมอยูใ่ นข้อ ๒ ดว้ ย กรณมี ผี ้รู ับเหมา ให้แยกเป็นผู้รับเหมาค่าแรง หรือผ้รู ับเหมาชว่ งงาน โดยระบุจานวนของผรู้ บั เหมา ๔. มงี านท่สี ง่ ไปทานอกสถานประกอบกจิ การหรอื ไม่ (การรบั งานไปทาท่บี า้ น) หมายถึง การส่งงานในกระบวนการผลิตหรือธุรกิจของนายจ้างไปให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลทานอก สถานประกอบกจิ การของนายจ้าง หมวด ๒ สภาพการจ้าง ๕. วนั ทางาน เวลาทางาน เวลาพัก ลักษณะงาน ให้ระบุเกี่ยวกับจานวนวันทางานต่อสัปดาห์ เวลาทางานปกติ และจานวนเวลาพักต่อวันท่ี นายจ้างกาหนดใหล้ ูกจา้ งตามลกั ษณะงานลงในตาราง ๖. การจัดวนั หยุด ๖.๑ วันหยุดประจาสัปดาห์ ใหท้ าเครอ่ื งหมาย √ ในชอ่ ง  ว่ามหี รอื ไมอ่ ย่างไร ๖.๒ วันหยุดตามประเพณี ให้ทาเครื่องหมาย √ ในช่อง  ว่ามีหรือไม่ ถ้ามีให้ระบุว่า เปน็ วันใดบา้ ง และมกี ารประกาศใหล้ กู จ้างทราบหรอื ไม่ ๖.๓ วันหยดุ พกั ผ่อนประจาปี ใหท้ าเครื่องหมาย √ ในชอ่ ง  วา่ มหี รอื ไม่ อยา่ งไร ๗. สทิ ธิการลา ข้อ ๗.๑-๗.๘ ให้ทาเคร่ืองหมาย √ ในช่อง  ว่ามีหรือไม่ หากมีให้ระบุจานวนวันที่จ่าย คา่ จา้ งตามประเภทการลา ๘. การเรียกหรือรบั หลกั ประกนั การทางานจากลูกจ้าง นายจ้างได้เรียกหรือรับหลักประกันการทางานจากลูกจ้างหรือไม่ ให้ทาเครื่องหมาย √ ในชอ่ ง  ว่ามหี รอื ไม่ หากมใี ห้ระบจุ านวนลูกจา้ งที่นายจ้างเรียกหรือรบั หลักประกนั ๙. การจา่ ยค่าจา้ ง ข้อ ๙.๑ ให้ระบุรายละเอียดการจ่ายค่าจ้าง ของลูกจ้างรายเดือนและรายวัน หรืออ่ืน ๆ พร้อมทั้ง ระบคุ ่าจ้างทไี่ ดร้ ับต่าสดุ และสูงสุด ข้อ ๙.๒-๙.๓ สถานที่จา่ ยค่าจา้ ง และกาหนดเวลาการจา่ ยคา่ จ้าง ให้ทาเครื่องหมาย √ ในช่อง  ตามลกั ษณะของสถานทีแ่ ละกาหนดเวลาการจ่ายคา่ จา้ ง

281 -๓- 282 ๑๐. การจ่ายค่าล่วงเวลาและค่าทางานในวันหยุด มีการจา่ ยใหห้ รอื ไม่ ถ้าจ่าย จ่ายให้อยา่ งไร ๑๑. หลกั ฐานเกี่ยวกบั การทางาน นายจา้ งจัดใหม้ ีหรอื ไม่ และดาเนนิ การอย่างไร หมวด ๓ การใช้แรงงานหญงิ และเด็ก ๑๒. การใชแ้ รงงานหญงิ ๑๒.๑ ให้ทาเคร่ืองหมาย √ ในช่อง  ว่ามีการใช้แรงงานหญิงหรือไม่ หากมีให้ทาเครื่องหมาย √ ในช่อง  ว่ามงี านลกั ษณะใดบ้าง ๑๒.๒ ให้ทาเคร่ืองหมาย √ ในช่อง  ว่ามีการใช้แรงงานหญิงมีครรภ์หรือไม่ หากมีให้ทา เครอ่ื งหมาย √ ในช่อง  ว่ามงี านลักษณะใดบา้ ง และมีการทางานในขอ้ ๑๒.๒.๒ - ๑๒.๒.๔ หรอื ไม่ ๑๓. การใชแ้ รงงานเด็ก (อายุ ๑๕ - ตา่ กว่า ๑๘ ปี) ๑๓.๑ ใหท้ าเคร่ืองหมาย √ ในช่อง  ว่ามีการใช้แรงงานเด็กหรือไม่ หากมีให้ทาเคร่ืองหมาย √ ในชอ่ ง  วา่ มงี านลักษณะงานใดบ้าง ๑๓.๒ ให้ทาเคร่ืองหมาย √ ในช่อง  ว่ามีการใช้แรงงานเด็กในสถานที่น้ีหรือไม่ หากมีให้ทา เครอ่ื งหมาย √ ในชอ่ ง  ว่ามที ่ีใดบา้ ง ๑๓.๓ - ๑๓.๕ ให้ทาเคร่ืองหมาย √ ในช่อง  ว่ามีการใช้แรงงานเด็กหรือไม่ หากมีให้ทา เครื่องหมาย √ ในชอ่ ง  วา่ มีลักษณะใดบ้าง หมวด ๔ สวัสดกิ าร ๑๔. สวัสดกิ าร ๑๔.๑ สวัสดิการท่ีจัดให้ลูกจ้าง ให้ระบุว่ามีการจัดสวัสดิการให้ลูกจ้างหรือไม่ หากมีให้ระบุ จานวนตามประเภทของสวสั ดกิ าร ๑๔.๒ คณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ ให้ระบุว่ามีคณะกรรมการสวัสดิการ ในสถานประกอบกิจการหรอื ไม่ หากมใี หร้ ะบุจานวนคน วันเดอื นปที ี่แต่งตงั้ และครบวาระ ๑๕. บรรยายท่ีต้ังสถานประกอบกิจการโดยสังเขป หรือแนบแผนทแ่ี สดงท่ตี ัง้ หลงั จากรายงานข้อมูลครบถ้วนตามแบบแลว้ ใหล้ งชื่อ ผู้แจ้ง ตาแหนง่ และวนั ท่ี

283 แบบ กสว.๑ 282 กระทรวงแรงงาน กรมสวสั ดกิ ารและคมุ ครองแรงงาน เลขท่ีรับ.......... คําขออนญุ าตใชสถานพยาบาลแทนการจดั ใหม ีแพทย ใบอนุญาตเลขที.่ ............ วนั ทร่ี บั ........... ตรวจรกั ษาพยาบาลในสถานทที่ าํ งาน ออกใหเม่อื วันท่.ี ............. ชอ่ื ผูรบั ........... ๑. ขอ ความทั่วไป ๑.๑ ขา พเจา ....................................................... ตาํ แหนง ……………………………….. ๑.๒ ชอ่ื สถานประกอบกจิ การ ............................................................................................ ประเภทกิจการ .......................................................................................................... ๑.๓ ทีต่ ั้ง ......................................................................................................................... โทรศัพท/ โทรสาร ....................................................................................................... ๑.๔ ปจจบุ นั มลี ูกจา งทงั้ หมด .................. คน ชาย ................ คน หญงิ ................. คน ๑.๕ มีความประสงคข ออนญุ าตใชส ถานพยาบาลแทนการจดั ใหมีแพทยเ พอ่ื ตรวจรกั ษาพยาบาลใน สถานทท่ี ํางาน โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี ๑.๕.๑ ช่ือสถานพยาบาล ......................................................................................... 1.5.2 ชื่อตามหนงั สอื รับรองนิตบิ ุคคล ...................................................................... ๑.๕.๒ ท่ีต้งั ............................................................................................................. โทรศพั ท/โทรสาร .............................................................................................. เปน สถานพยาบาลประเภท ...................... เตยี ง ซึ่งเปดบรกิ ารตลอด ๒๔ ชัว่ โมง ๑.๕.๓ ระยะทางหางจากสถานประกอบกิจการ ............................ กโิ ลเมตร ๑.๖ ผยู ืน่ คาํ ขอ (เจา ของหรือผูกระทําการแทน ๒. สําหรับเจา หนา ที่ นิติบคุ คล หรอื ผูทไ่ี ดรบั มอบอาํ นาจจากเจาของ ความเห็นเจาหนาที่ ............................... หรอื ผมู ีอาํ นาจกระทําการแทนนติ ิบคุ คล) ............................................................. ลงชือ่ ................................................. …………………………......................... (.................................................) …………………………………………… …………………………………………… ตาํ แหนง .................................................. วันท่ี ................................................. ลงชือ่ ............................................... (...............................................) ตาํ แหนง .............................................. วนั ที่ ...............................................

283 แบบ กสว. ๒ 284 ใบอนุญาตใหใ ชสถานพยาบาลแทนการจดั ใหม แี พทยเ พือ่ ตรวจรักษาพยาบาลในสถานทที่ ํางาน ตามขอ ๓ แหงกฎกระทรวงวา ดว ยการจัดสวสั ดกิ ารในสถานประกอบกจิ การ พ.ศ. ๒๕๔๘ เลขท่ี .........../................ ใบอนญุ าตฉบับนีใ้ หไ วเพือ่ แสดงวา .......................................................... นายจา ง สถานทที่ าํ งานทม่ี ีลูกจา งทาํ งานตง้ั อยูเลขที่ ................. หมูที่ ........... ตรอก/ซอย …………………... ถนน ...................................แขวง/ตาํ บล ............................. เขต/อาํ เภอ …………………………. จังหวดั ………………………………. เปนผไู ดร บั อนญุ าตจากอธิบดกี รมสวสั ดกิ ารและคุมครองแรงงาน หรือผซู ่งึ อธบิ ดีมอบหมายใหใชสถานพยาบาลแทนการจัดใหมีแพทยเ พ่อื ตรวจรักษาพยาบาลในสถานที่ ทํางานตามขอ ๓ แหง กฎกระทรวงวาดว ยการจดั สวัสดิการในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. ๒๕๔๘ ตาม รายชื่อและท่ตี งั้ สถานพยาบาล ดงั นี้ ชื่อสถานพยาบาล …………………………………………………………….. ตงั้ อยเู ลขที่ ............... หมูท ่ี ............ ตรอก/ซอย .................................... ถนน ...................................... แขวง/ตําบล .......................................... เขต/อาํ เภอ .................................. จังหวดั ............................................... ท้ังน้ี ใหนายจางเก็บใบอนญุ าตฉบบั นี้ไว ณ สถานท่ที าํ งานของลกู จา ง เพ่ือเปน หลกั ฐาน แสดงตอพนกั งานตรวจแรงงาน ออกให ณ วนั ที่ ............ เดอื น ......................... พ.ศ. ………... (ลงช่ือ) ..................................................... ( …..………………………………… ) (ตาํ แหนง)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook