ศาสนาท่ีเข้ากันได้อย่างลงตัว ถึงแม้ว่าท่ีนี่จะมีท้ังศาสนาพุทธและอิสลาม แต่ส่วนใหญ่จะ นบั ถือศาสนาอสิ ลามมากกวา่ ศาสนาไมไ่ ด้แบง่ แยกมวลมนุษย์ คำ� สอนหลกั ๆ กไ็ มไ่ ด้ตา่ งกัน คอื สอนให้ท�ำความดีละเวน้ ความชว่ั ปดิ เทอมทผ่ี า่ นมาฉนั มโี อกาสไดไ้ ปบา้ นลงุ อกี ครง้ั แตค่ รง้ั นพี้ เิ ศษกวา่ ทกุ ครง้ั ทผ่ี า่ นมา เพราะมีเวลา ๑ เดือนเตม็ วันแรกท่ีไปถึงบ้านลงุ ฉันจำ� ได้ว่าลงุ ได้เตรียมกบั ขา้ วตงั้ ไว้ หน่ึงใน นน้ั มนี ้�ำบูดู ซึ่งถา้ กินกับขา้ วร้อนๆ แล้วจะอรอ่ ยมาก ฉนั ถกู ใจรสชาตขิ องน�้ำบดู ูมากๆ เพราะ ที่แม่เคยท�ำให้กินตอนอยู่สงขลา เป็นบูดูท่ีปรุงรสด้วยน�้ำตาลทราย หัวหอม หรือพริกสด แต่บดู ูทนี่ ี่ เป็นบูดูสดทีไ่ ร้การปรุงแตง่ นอกจากบูดูแลว้ ยงั มีแกงส้มปลาชอ่ นใส่มะละกอและ ไข่เจยี วของโปรดอีกด้วย ฉันสังเกตเห็นว่าทบี่ ้านของลุง ไมค่ อ่ ยมชี ้อนด้วยความท่ฉี นั เปน็ คน ท่ีคอ่ นข้างขสี้ งสยั เลยถามลงุ ไปวา่ ทำ� ไม ค�ำตอบท่ไี ดม้ าท�ำใหฉ้ ันประทบั ใจไมน่ ้อย ลงุ บอกว่า คนแถวนสี้ ่วนใหญ่ ยงั กินขา้ วโดยใช้มือ ซ่ึงเปน็ วัฒนธรรมเดมิ ของชาวมสุ ลมิ จากวันแรกท่ฉี นั ไดเ้ รียนรู้วา่ ถงึ แม้เวลาจะเคลือ่ นท่ไี ปข้างหนา้ อยู่ตลอดเวลา วฒั นธรรมก็ขบั เคลอ่ื นตวั เองอยู่ ตลอดเวลาเชน่ กนั แตส่ ดุ ทา้ ยแลว้ ไมว่ า่ มนั จะขบั เคลอ่ื นไปตามยคุ สมยั แตม่ นั ยงั คงไวใ้ นความ เป็นเอกลักษณ์ทีโ่ ดดเด่น ไม่เหมือนใครและท่ีส�ำคัญไมล่ บเลอื นหายไปตามกาลเวลา ชาวมุสลิมศรัทธาต่อองค์อัลลอฮ ในแต่ละวันพวกเขาได้มีการสละเวลาเพ่ือ ท�ำการละหมาดวนั ละ ๕ ครัง้ อยา่ เครง่ ครัด พวกเขามีความเชือ่ ว่าการละหมาดเปน็ สิ่งทจี่ ะ ชว่ ยเชอื่ มตอ่ กบั อลั ลอฮโดยตรง อนั เปน็ แนวทางทม่ี คี วามเชอ่ื มน่ั ไดม้ ากทสี่ ดุ เปน็ การตดิ ตอ่ กบั อลั ลอฮทางจติ วญิ ญาณ ลงุ บอกวา่ นไ่ี มใ่ ชส่ ง่ิ ทโ่ี ดนบงั คบั แตท่ กุ คนจะเขา้ ใจในสง่ิ เดยี วกนั และ ทำ� ละหมาดดว้ ยจิตใจที่สะอาดและบรสิ ทุ ธ์ิ นอกจากนี้ สิ่งทีฉ่ นั ค่อนข้างจะสนใจเปน็ พิเศษคือภาษาทพ่ี วกเขาใชส้ ือ่ สารกนั คอื ภาษามลายูปาตานหี รือนยิ มเรยี กอยา่ งไม่เปน็ ทางการวา่ ภาษายาวี ฉันไดเ้ รยี นรูม้ าหลายคำ� เชน่ คำ� วา่ กาเซะฮ แปลว่ารักในภาษาไทย ตเี ยาะ แปลวา่ ร้องไห้ ซือโยะฺ แปลวา่ หนาว และ อกี หลายๆ คำ� ด้วยกัน นคี่ ือความโชคดีของประเทศไทย ท่หี นง่ึ ความรูส้ กึ หรอื หนง่ึ สิ่งมคี ำ� ให้ ใชม้ ากมาย ลงุ ยงั บอกอกี วา่ ถงึ แมจ้ ะอยใู่ นจงั หวดั ปตั ตานเี หมอื นกนั แตก่ ย็ งั มอี กี หลายคำ� ทใี่ ช้ ตา่ งกัน แต่พวกเขาก็สื่อสารกนั อยา่ งเขา้ ใจ และสิง่ ทเี่ หมอื นกนั คือเคารพต่อองคอ์ ลั ลอฮ ล่วงไปเกือบสัปดาห์ตอนนี้ฉันได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง วันน้ีก็เป็นอีกวันหน่ึง เร่ืองเล่าจากบา้ นเรา 75
ท่ีน่าตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย เพราะลุงบอกว่าจะพาฉันไปเท่ียวท่ีชายหาดวาสุกรี ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน ของลุง หรือจะเรียกอีกอย่างว่า หากปาตาตีมอ วันน้ีท้องฟ้าสวยมาก สายลมก็พัดมาเย็น สบาย เป็นหาดทรายยาวขนานไปกับทิวสน มีความเงียบสงบ น�้ำใสสะอาด ทรายขาวนวล เหมาะกับการที่มาผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ป้ายของหาดน้ีก็น่าสนใจมาก เป็นรูปปลายักษ์ ขนาดใหญ่ พรอ้ มข้อความวา่ หาดวาสกุ รี ตอนน้นั ฉันจำ� ไดว้ า่ ฉนั ไดใ้ ช้กงิ่ ไมเ้ ลก็ ๆ เขยี นบนผืน ทรายว่า ฉนั รกั เธอ...วาสกุ รี และไดเ้ กบ็ ภาพไว้เปน็ ท่รี ะลกึ แต่ไม่นานขอ้ ความนีก้ ็หายไปกบั เกลียวคลื่น แตไ่ ม่ไดห้ ายไปจากใจฉนั เลย ฉันหวงั วา่ สกั วนั จะได้กลบั มาท่นี อ่ี กี สักครงั้ นอกจากอาหารการกิน ภาษาท่ีใช้ในการส่ือสาร สถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ระยะ เวลา ๑ เดือนน้ีฉันยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสายบุรีอีกด้วย พวกเขาด�ำเนิน ชวี ติ ไปอย่างเรียบง่ายเป็นกันเอง ทุกคนดูเปน็ มิตรต่อกัน ฉันรสู้ ึกประทบั ใจในทุกอย่างท่เี ป็น สายบรุ ี ตอนแรกกอ่ นจะมาฉนั ยอมรบั วา่ แอบกลวั อยไู่ มน่ อ้ ย แตเ่ มอ่ื ไดม้ าลองใชช้ วี ติ อยจู่ รงิ ๆ ภาพโหดรา้ ยที่เคยได้เหน็ ในโทรทัศน์ ก็ถูกลบไปจากสมองโดยอัตโนมัติ หวั ใจฉันไดเ้ ปดิ กวา้ ง พรอ้ มทจ่ี ะเรยี นรใู้ นความแตกตา่ งระหวา่ งศาสนาพทุ ธและศาสนาอสิ ลามความอบอนุ่ เปน็ พลงั ที่ยิ่งใหญ่ทำ� ใหร้ สู้ ึกปลอดภยั เหมือนอย่บู ้านของตัวเอง นก่ี เ็ ปน็ วนั สดุ ทา้ ยทฉี่ นั จะไดอ้ ยบู่ า้ นของลงุ ซงึ่ ตอนนฉี้ นั คดิ วา่ นเ่ี ปน็ บา้ นอกี หลงั ของ ฉนั ไปเสยี แลว้ ฉนั จะเกบ็ ความทรงจำ� ดๆี นไ้ี วใ้ หน้ านตราบนาน ฉนั จะไมล่ มื วา่ กาลครง้ั หนงึ่ ได้ มอี ะไรเกดิ ขนึ้ บา้ ง ณ ทแี่ หง่ นี้ และไมว่ า่ เราจะนบั ถอื ศาสนาอะไรกต็ าม แตเ่ ราคอื เพอื่ นมนษุ ย์ ดว้ ยกนั เราใช้ชวี ติ อยใู่ นโลกเดยี วกันดว้ ยความรักและรอยยิม้ ทเ่ี ปีย่ มล้นไมตรี ฉนั อยากบอก ทกุ คนวา่ ทน่ี ไ่ี มไ่ ดน้ า่ กลวั หรอื โหดรา้ ยอยา่ งทท่ี กุ คนคดิ อยากใหท้ กุ คนมองมมุ กลบั แลว้ ปรบั มมุ มองลองมาสมั ผัสท่ีนด่ี ูสกั ครั้งในชวี ิต และตอนนี้ฉันเองกไ็ ด้คน้ พบค�ำตอบท่แี ท้จรงิ กบั คำ� ถาม ทส่ี งสยั มานานวา่ แทจ้ ริงแลว้ สนั ติสขุ อยู่ทห่ี วั ใจของเรา อยทู่ คี่ วามคิด ทศั นคตขิ องเราที่มอง โลก เพียงเราได้ลองปลดปล่อยหวั ใจของตัวเองใหโ้ บยบนิ ท่ามกลางความสุข ทา่ มกลางส่ิงดีๆ ทเ่ี ราได้สัมผสั และตอนนีฉ้ ันเองก็คดิ วา่ ตอนนี้ฉันได้รับสันตสิ ุขที่แท้จริงเพียงพอแล้ว… สายเลอื ดไทยหวั ใจสยาม ขวานไทยถ้าไม่มดี ้าม คงหมดความงามไมม่ ีพลงั .. *ขอบคุณบทเพลง ลมหายใจปลายด้ามขวาน ของ นอ้ งเดียว สุวรรณแวน่ ทอง 76 วันทีค่ วามรกั ผลิบาน ณ บา้ นแหง่ เรา
ยามเมอื่ แสงแรกฟ้า นางสาวนรู ดี า เจ๊ะอมุ า โรงเรียนเตรียมศกึ ษาวิทยา จังหวัดปตั ตานี เร่ืองราวในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่รู้มาก็เป็นเร่ืองที่จดจ�ำมาแต่อดีต อาจนานมาแล้วแต่ก็ ยังอยูใ่ นความทรงจำ� เชน่ ‘ปาตาน’ี คอื อาณาจกั รที่มากด้วยความเจรญิ รุง่ เรือง นับจากสมัย อาณาจักรลังกาสุกะ กระทั่งเปลี่ยนผ่านประวัติศาสตร์มายุคแล้วยุคเล่า ก่อนจะกลายเป็น ‘ปตั ตาน’ี จงั หวดั เลก็ ๆ ทอ่ี ยทู่ างตอนใตส้ ดุ ของประเทศไทย เปน็ เมอื งแหง่ สงั คมพหวุ ฒั นธรรม การเดินทางท่ีอยู่หา่ งไกลจากเมืองหลวง มีพ้ืนทีร่ าบลุม่ ตดิ ทะเลอา่ วไทยและประกอบไปด้วย ชาวไทยหลากหลายเช้อื ชาติ เสียงไก่ขันที่เปรียบเสมือนนาฬิกาปลุกส�ำหรับการเร่ิมต้นวันใหม่พร้อมกับเสียง “อาซาน” ของชว่ งเวลาแรกกบั การละหมาดดงั เกรกิ กอ้ งไปทวั่ ชมุ ชนผคู้ นสว่ นใหญต่ า่ งตนื่ มา ปฏบิ ตั ภิ ารกจิ และกจิ วตั รประจำ� วนั บา้ งกข็ บั เรอื ประมงสทู่ ะเล บา้ งกก็ ำ� ลงั เดนิ ทางไปละหมาด ที่มัสยิดชุมชน บ้างก็เตรียมเปิดร้านขายเพ่ือหารายได้เล้ียงครอบครัว ฉันได้ต่ืนมาปฏิบัติ ภารกจิ ทางศาสนาเพอ่ื พรอ้ มออกเดนิ ทางกบั จกั รยานสชี มพคู ใู่ จหลายครงั้ ทไ่ี ดป้ น่ั จกั รยานตาม ถนนสายหลักและถนนสายยอดนิยมของนักปั่นในทุกๆ เช้าลมพัดได้เอากลิ่นไอธรรมชาติ อนั สดช่นื ลอ่ งลอยไปตลอดระยะทาง ฉันได้สัมผสั อากาศบริสุทธเ์ิ หลา่ นีท้ �ำให้ร้สู ึกเพลิดเพลิน กับการปั่นจักรยานจนเดินทางเข้าสู่ถนนสายต่างๆ ของจังหวัดที่เป็นบ้านเกิดของฉัน บา้ นทมี่ เี รอ่ื งราวดๆี อนั นา่ ประทบั ใจ มปี ระวตั ศิ าสตรท์ ย่ี าวนาน เมอื งแหง่ สงั คมพหวุ ฒั นธรรม ทม่ี เี อกลกั ษณโ์ ดดเดน่ มธี รรมชาตทิ ย่ี งั คงอดุ มสมบรู ณ์ มสี ถานทที่ อ่ งเทยี่ วมากมายหลายแหง่ ผู้คนรักใคร่เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ท่ีแห่งเดียวในประเทศไทย น่ันก็คือ “จังหวัดปัตตานี” บา้ นเกดิ ของฉันนน่ั เอง “ปัตตานี” คือเมืองเล็กๆ ท่ีตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอ่าวไทยเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ ที่ยาวนานในอดีตเป็นอาณาจักรท่ีมีความเจริญรุ่งเรือง มีท่าเรือซึ่งเป็นที่ติดต่อค้าขายแลก เปลี่ยนสินค้ากับพ่อค้าชาติต่างๆ ท�ำให้ปัตตานีในอดีตมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เรื่องเล่าจากบ้านเรา 77
จากการทป่ี ตั ตานมี พี นื้ ทเ่ี ปน็ ทร่ี าบลมุ่ สลบั กบั ปา่ เขาและมพี นื้ ทต่ี ดิ ชายทะเลเปน็ ระยะทางยาว จงึ เปน็ เมอื งทา่ ทส่ี ำ� คญั และเปน็ ศนู ยก์ ลางการปกครอง การคา้ และวฒั นธรรม มที รพั ยากรดา้ น การทอ่ งเทยี่ วหลายดา้ น มปี ระเพณวี ฒั นธรรมทงี่ ดงาม มผี คู้ นหลากหลายเชอ้ื ชาตมิ าอาศยั อยู่ รวมกัน ได้แก่ ชาวไทยพุทธ ชาวไทยมสุ ลิม และชาวไทยเชือ้ สายจนี ทำ� ให้ปตั ตานไี ด้รบั การ กล่าวขานวา่ เป็น “เมอื งแหง่ สงั คมพหุวฒั นธรรม” ตลอดระยะทางท่ีได้ปั่นจักรยาน ฉันได้สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนใน พืน้ ท่ตี า่ งๆ ของจงั หวัดปตั ตานีผคู้ นส่วนใหญ่ประกอบอาชีพคา้ ขายและประมง บางพ้นื ทกี่ ็มี การทำ� สวนยางพารา ปลกู พชื ผกั เศรษฐกจิ ฉนั ไดป้ น่ั จกั รยานผา่ นถนนยา่ นเมอื งเกา่ ในตวั เมอื ง ปตั ตานไี ดพ้ บเหน็ สถาปตั ยกรรมทส่ี วยงามของตกึ รามบา้ นชอ่ งอนั เกา่ แกค่ เู่ มอื งปตั ตานที แี่ สดง ถงึ ความเจริญรงุ่ เรอื งในอดีตให้ชาวปตั ตานไี ด้ภาคภมู ิใจ ใกล้ๆ กนั มีศาลเจา้ แมล่ ิ้มก่อเหน่ยี ว ซ่ึงเป็นท่ีประดิษฐานรูปแกะสลักของเจ้าแม่ลิ้มก่อเหนี่ยวอันศักด์ิสิทธิ์ ช่วงเช้าก็จะได้พบเห็น คนไทยเช้ือสายจีนทีต่ น่ื มาประกอบพิธกี รรมอันเปน็ ความเชื่อของชาวจีน ความศรทั ธาทีช่ าว จีนในแถบนนั้ มีต่อเจ้าแมล่ ิม้ ก่อเหน่ยี วน่าอศั จรรย์ย่ิงนกั ทุกๆ ปีจะมงี านสมโภชเจ้าแมล่ ้ิมก่อ เหนยี่ วทจ่ี ดั ขนึ้ หลงั วนั ตรษุ จนี ของทกุ ปมี กี ารแหร่ ปู สลกั เจา้ แมล่ มิ้ กอ่ เหนยี ว มกี ารเดนิ ลยุ นำ�้ ลยุ ไฟและแสดงอภินหิ ารต่างๆ เพือ่ สักการะและพิสจู น์ความศักดสิ์ ิทธิ์ของเจ้าแมล่ ม้ิ กอ่ เหนยี่ วมี การเฉลมิ ฉลองกันเป็นที่สนกุ สนานในงานจะมีชาวไทยทุกพนื้ ทีม่ าร่วมพธิ กี ันเปน็ จ�ำนวนมาก ไมไ่ กลกนั นกั กไ็ ด้ป่นั จกั รยานมาถึงสถานท่ีท่ีมีความส�ำคญั ของชาวมสุ ลมิ นนั่ ก็คือ มัสยดิ กลาง จังหวัดปัตตานี มีความสวยงามตระการตาผู้คนเพ่ิงเสร็จสิ้นภารกิจทางศาสนาก็ต่างพากัน ขอพรจากพระเจา้ ใหบ้ า้ นเมอื งสงบสขุ รม่ เยน็ มสั ยดิ แหง่ นจ้ี ะมพี ธิ กี ารละหมาดครงั้ ใหญใ่ นชว่ ง วันตรุษซึง่ คนในท้องถ่ินเรียกกันว่า “เทศกาลฮารรี ายอ” เป็นวันออกบวชของชาวไทยมสุ ลมิ และชาวมสุ ลมิ ทัว่ โลกและยังเป็นการฉลองออกฮจั ญ์ส�ำหรบั ชาวมสุ ลมิ ที่เดนิ ทางไปประกอบ พิธีฮัจญ์และแสวงบุญ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เทศกาลฮารีรายอเป็นวัน รน่ื เรงิ ชาวมสุ ลมิ จะไปเยยี่ มเยยี นพอ่ แม่ ญาตพิ นี่ อ้ ง และเพอื่ นบา้ นเพอื่ ขออภยั ในสง่ิ ทผ่ี า่ นมา ถือเป็นวันแห่งการท�ำความดีต่างๆ ผู้คนจะมีความสุข คร้ืนเครง มีการเฉลิมฉลองและท่อง เที่ยวคล้ายกบั เทศกาลปีใหมข่ องไทย เวลาผา่ นไปทอ้ งฟา้ เรมิ่ สางขนึ้ ฉนั รสู้ กึ มคี วามสขุ และอบอนุ่ ไปดว้ ยไอแหง่ ธรรมชาติ ฉันยังคงปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ จนมาถึงสถานท่ีท่ีมีความส�ำคัญอีกแห่งหนึ่งของชาวปัตตานี 78 วันที่ความรักผลิบาน ณ บา้ นแหง่ เรา
นั่นก็คือ วัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง วัดเก่าแก่คู่เมืองปัตตานีอีกแห่งหนึ่งเป็นสถาน ท่ีพ่ึงพาทางใจของชาวไทยพุทธในพื้นที่ ซ่ึงเป็นวัดที่สวยงามสะดุดตาที่สุดต้ังแต่ที่ฉันได้ เคยพบเห็นในพ้ืนที่ต่างๆ ทุกๆ เช้าพระสงฆ์จะต่ืนข้ึนมาบิณฑบาตเดินทั่วเมืองปัตตานี ชาวไทยพทุ ธทกุ คนกต็ า่ งมารอตกั บาตรทำ� บญุ กนั อยา่ งมคี วามสขุ และวดั แหง่ นย้ี งั เปน็ สถาบนั ทางการศึกษาที่ให้ความรู้กับนักเรียนและเยาวชนเพราะเป็นท่ีต้ังของโรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร ภายในวัดประดบั ประดาดว้ ยสีทองอรา่ มตามสถานท่ีต่างๆ ไดอ้ ยา่ งงดงาม ครงั้ แรกทฉี่ นั ไดเ้ ขา้ ไปภายในบรเิ วณวัดก็ไดส้ มั ผัสกบั ความสงบรม่ รน่ื อยา่ งน่าหลงใหล นอกจากวดั ตานนี รสโมสรแลว้ จังหวัดปตั ตานยี ังมวี ดั ทีส่ ำ� คัญอีกหลายแห่งหนึง่ ใน นั้นกค็ อื วดั ช้างให้หรือวัดราษฎร์บรู ณะ ตัง้ อยู่ในพน้ื ท่ีอำ� เภอโคกโพธิ์ เปน็ วัดเกา่ แก่สร้างมา แล้วกว่า ๓๐๐ ปี มตี �ำนานเล่าขานมากมายเก่ยี วกับหลวงพ่อทวดเหยียบน�้ำทะเลจืด ภายใน วัดก็จะพบเจอกับประติมากรรมและสถาปัตยกรรมท่ีสวยงามตระการตาไม่แพ้กันฉันยัง คงเพลิดเพลินกับการปั่นจักรยานไปตามสถานท่ีต่างๆ ในตวั เมืองปัตตานี ผ่านหอนาฬิกา สามวฒั นธรรมทมี่ รี ปู แบบสถาปตั ยกรรมแสดงถงึ การผสมผสานทางวฒั นธรรมไดอ้ ยา่ งโดดเดน่ ผา่ นศาลหลกั เมอื งปตั ตานี สถานทเี่ คารพสกั การะของชาวปตั ตานแี ละนกั ทอ่ งเทยี่ วเพอื่ ความ เป็นสิริมงคลอีกท้ังยังต้ังอยู่ใกล้กับลานวัฒนธรรม สถานที่ท่ีมีความส�ำคัญเป็นอย่างย่ิงของ เมอื งปตั ตานี ทกุ ๆ งานทงั้ เทศกาลและมหกรรมตา่ งๆ จะใชพ้ น้ื ทข่ี องลานวฒั นธรรมแหง่ นเี้ ปน็ สถานทจี่ ดั งาน เชน่ มหกรรมไก่กอและ มหกรรมของดีเมืองปัตตานี เทศกาลอาหารปลอดภัย เทศกาลอาหารทะเล และงานร่นื เริงท่วั ไป เชน่ งานกาชาดและงานประจ�ำปจี งั หวัดปัตตานี งานตลาดน้�ำและถนนคนเดินเมืองปัตตานี ซ่ึงทุกเทศกาลจัดข้ึนเพ่ือเป็นการประชาสัมพันธ์ การทอ่ งเทยี่ วและอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ภาคใต้ ภายในงานยงั มกี ารจำ� หนา่ ยอาหารทอ้ งถนิ่ ของดจี ากทุกพื้นท่ใี นจังหวดั ปตั ตานี เช่น ไก่กอและ อาหารขน้ึ ชื่อของจังหวดั ปัตตานี เนื้อไก่ นมุ่ เจอื ดว้ ยรสทกี่ ลมกลอ่ มของเครอ่ื งปรงุ ชนดิ ตา่ งๆ โรตมี ะตะบะ อาหารทอ่ี ยคู่ กู่ บั ชาวมสุ ลมิ รสชาติหอมหวานภายในจะเป็นเนื้อวัวหรือเนื้อไก่ผสมเคร่ืองเทศ รสหอมหวานกลมกล่อม คล้ายกับโรตียัดไส้ นาซิดาแกฺ อาหารพ้ืนเมืองท่ีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีรสชาติที่หวานมัน หอมด้วยส่วนผสมต่างๆ บวกกับกรรมวิธีการปรุงที่สะอาดตามแบบฉบับชาวอิสลามอาหาร พ้ืนถ่นิ ท่ีเป็นท่ีนิยมอีกอยา่ งหน่งึ คือ ขา้ วยำ� บดู รู สเลิศ สามารถพบเจอรา้ นขายไดบ้ นถนนทุก สายซงึ่ จะมกี ารจดั จำ� หนา่ ยภายในงานตา่ งๆ ดว้ ย สำ� หรบั เครอ่ื งดม่ื ทเ่ี ปน็ ทน่ี ยิ มนนั่ กค็ อื ชาชกั เรือ่ งเล่าจากบา้ นเรา 79
นอกจากอาหารการกินดงั กล่าวแลว้ จงั หวัดปตั ตานียังมสี ินคา้ โอทอปมากมายจากทกุ ทอ้ งถ่ิน ได้แก่ ปลาหมึกแห้ง น้ำ� บดู ู ข้าวเกรียบกุ้ง ลูกหยกี วน โรตีกรอบ ผ้าปาเตะ๊ ผา้ ทอลายจวนตานี เครื่องทองเหลอื ง กรงนกเขา และอกี มากมาย สินค้าต่างๆ สามารถน�ำมาจ�ำหน่ายเป็นของ ฝากที่ชาวปัตตานีได้ผลิตขึ้นซึ่งถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถ่ินเพ่ือใช้ในการด�ำรง ชีวิตได้อย่างภาคภูมิใจ นอกจากปัตตานีจะมีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมอาหารการกินแล้ว ศิลปะด้าน การแสดงกถ็ อื เปน็ วฒั นธรรมอยา่ งหนง่ึ ทม่ี คี วามโดดเดน่ ไมแ่ พก้ นั การแสดงทไ่ี ดร้ บั ความนยิ ม ของคนในพ้นื ท่เี ช่น การแสดงดิเกร์ฮลู ู เปน็ การแสดงของชายไทยมุสลมิ เกดิ ขน้ึ ครัง้ แรกท่ีต้น กำ� เนดิ แมน่ ำ�้ ปตั ตานี เวลาแสดงใชแ้ มเ่ พลงขบั กลอนโตต้ อบกนั เปน็ ทคี่ รกึ ครน้ื การแสดงระบำ� ตารีกีปสั ทใ่ี ชพ้ ดั ในการแสดง ส่วนใหญ่จะแสดงเปน็ กล่มุ คณะในพิธีเปดิ งานที่ส�ำคญั อีกการ แสดงหน่งึ ทเี่ ปน็ ทีน่ ิยมของหนุ่มสาวในพน้ื ท่นี ่ันก็คือ การแสดงรองเงง็ พบไดท้ ่ัวไปในเทศกาล ต่างๆ ของจงั หวดั ปัตตานี เป็นการแสดงคู่กนั ของหน่มุ สาวตามจังหวะท่าของเพลงทบี่ รรเลง ลลี าการเตน้ จะเคลอ่ื นไหวทง้ั ขอ้ มอื เทา้ และลำ� ตวั อยา่ งนมิ่ นวลมคี วามออ่ นชอ้ ยสวยงามเปน็ อย่างย่ิง ผ่านไปไม่นานก็ได้ปั่นจักรยานเดินทางเข้าสู่ถนนใหญ่ ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๔๒ ซึ่งเป็นท่ีตั้งของสถานท่ีส�ำคัญอีกแห่งหน่ึงของจังหวัดปัตตานีนั่นก็คือ มสั ยดิ กรือเซะ มสั ยิดเก่าแก่ที่มปี ระวัตศิ าสตร์ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน แตค่ วามศรทั ธา ของผคู้ นทนี่ ยี้ งั คงเหนยี วแนน่ ถงึ แมจ้ ะผา่ นเหตกุ ารณอ์ นั เลวรา้ ยจากกลมุ่ แนวคดิ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ซงึ่ มสั ยดิ แหง่ นยี้ งั คงมคี วามศกั ดสิ์ ทิ ธแิ์ ละเปน็ ทปี่ ระกอบพธิ กี รรมทางศาสนาอยา่ งปกตสิ ขุ ของ ชาวมสุ ลมิ หากใครไดม้ าเยอื นสถานทแ่ี หง่ นี้ มนตเ์ สนห่ อ์ ยา่ งหนงึ่ ทจี่ ะไดส้ มั ผสั ณ มสั ยดิ กรอื เซะ คอื มคั คเุ ทศกน์ อ้ ย หนง่ึ ในผลผลติ ของชมุ ชนทตี่ อ้ งการพฒั นาเยาวชนใหต้ ระหนกั ทจ่ี ะพฒั นา แหลง่ ท่องเทย่ี วในท้องถน่ิ ตน และดึงนักทอ่ งเทย่ี วเขา้ มาเพื่อสรา้ งรายได้ให้ชมุ ชนอย่างยงั่ ยืน โดยมัคคเุ ทศกน์ ้อยจะมาต้อนรับดว้ ยการแสดงวัฒนธรรมพนื้ บ้าน และนำ� ชมสถานท่ี รวมทั้ง บอกเล่าความเป็นมาให้ผู้มาเยือนมีความเข้าใจประวัติและความเป็นมาของมัสยิดได้อย่าง ชัดเจน ขา้ งๆ มสั ยดิ จะเปน็ ทตี่ ง้ั ของฮวงซยุ้ เจา้ แมล่ มิ้ กอ่ เหนย่ี วทจ่ี ำ� ลองเปน็ สสุ านเพอ่ื ใหผ้ คู้ น ไดส้ กั การะบชู า หา่ งกนั ไมไ่ กลกไ็ ดเ้ ดนิ ทางเขา้ สเู่ ขตอำ� เภอยะหรง่ิ สง่ิ เดยี วทดี่ งึ ดดู ใจใหฉ้ นั อยาก มาเยือน ณ ที่แหง่ นี้ คือ วงั เกา่ ยะหร่งิ วังแห่งเดยี วในจังหวัดปตั ตานีท่ียงั คงได้รับการบูรณะ 80 วนั ท่ีความรกั ผลบิ าน ณ บ้านแห่งเรา
ฟืน้ ฟูตลอดเวลา เป็นวังเกา่ ที่มสี ถาปตั ยกรรมท่โี ดดเดน่ และสวยงามตามแบบศลิ ปะชวาและ ศิลปะแบบตะวันตก ท�ำให้ตัววังยังคงสง่างามมาจนถึงปัจจุบัน วังยะหริ่งได้รับการดูแลจาก เจา้ ของวงั เปน็ อยา่ งดบี รรยากาศภายในบรเิ วณวงั เกา่ ยะหรง่ิ รม่ รนื่ ทำ� ใหฉ้ นั ไดพ้ กั เหนอื่ ยกอ่ น ที่จะใช้เวลาท่ีเหลือเพ่ือเดินทางไปสู่ปลายแหลมตาชี เป้าหมายหลักของเราต่อไป นอกจาก วังยะหร่ิงแล้ว เป็นท่ีทราบกันดีว่าจังหวัดปัตตานีเป็นอาณาจักรเก่าแก่ท�ำให้มีสถานที่ส�ำคัญ มากมายท่ีเป็นร่องรอยหลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เช่น วงั เกา่ สายบรุ หี รอื วงั พพิ ธิ ภกั ดเี ปน็ อาคารไม้ ๒ ชนั้ ช่างท้องถิ่นเป็นผู้สร้างโดยน�ำศิลปะแบบ ตะวันตกและศิลปะของท้องถ่ินมาผสมผสานกันจึงเป็นวังอีกแห่งหน่ึงในจังหวัดปัตตานีท่ี คงความงดงามอย่างสมบูรณ์แบบในปัจจุบัน ถดั มาเปน็ วงั เกา่ หนองจกิ เปน็ วงั ทล่ี อ้ มรอบดว้ ย กำ� แพงวงั และซมุ้ ประตแู บบสถาปตั ยกรรมจนี ภายในบรเิ วณวงั มบี อ่ นำ�้ แผน่ อฐิ ปพู น้ื สภาพยงั สมบรู ณ์ สว่ นอาคารบรวิ ารทเี่ หลอื อยใู่ นสภาพทรดุ โทรมแตก่ ไ็ ดร้ บั การฟน้ื ฟบู รู ณะในภายหลงั และสถานทที่ ม่ี คี วามสำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตรอ์ กี ไมแ่ พก้ นั นน่ั กค็ อื เมอื งโบราณยะรงั เปน็ เมอื ง ทม่ี คี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งในอดตี เปน็ ชมุ ชนทมี่ คี วามสำ� คญั ทางดา้ นประวตั ศิ าสตรแ์ ละโบราณคดี เป็นอย่างมาก ประกอบไปดว้ ย เมอื งโบราณบา้ นวัดเมืองโบราณบ้านจาเละ และเมืองโบราณ บ้านปราแวสถานท่ีสำ� คญั ต่างๆ เหล่าน้นี บั เปน็ สถานที่ที่มคี ณุ คา่ ทางจิตใจของผคู้ นในพื้นท่ี ปลายทางทเี่ ราจะเดินทางไปยังไกลอกี นัก ตลอดเส้นทางฉันยงั ไดส้ ัมผสั กับวถิ ีชีวติ ของชุมชนชาวเลรมิ สะพานขา้ มคลองยามู ผู้คนที่น้มี อี าชพี หลกั คอื การทำ� ประมง ซึ่งเป็นวิถี ชีวิตด้ังเดิมของประชากรในพื้นที่จังหวัดปัตตานีที่มีความผูกพันกับสายน้�ำและท้องทะเลมา อย่างช้านาน ตลอดระยะทางจะสามารถพบเจอร้านนำ�้ ชาอยู่ท่วั ทกุ พื้นท่ี อันเป็นสัญลักษณ์ ที่บ่งบอกถึงจุดศูนย์รวมใจของชาวบ้านในพื้นที่ที่มักจะมารวมกลุ่มพูดคุยสังสรรค์เฮฮาตาม ประสาชาวบ้าน บา้ งกม็ าเพอ่ื พดู คยุ เกย่ี วกบั ปญั หาในหมบู่ า้ นและรว่ มหาทางออกพรอ้ มกนั ฉนั ปั่นจักรยานจนเข้าสู่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลนยะหร่ิง ธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ของจังหวัดปัตตานี โดยมีชุมชนท่องเที่ยงบางปู ท่ีร่วมกันอนุรักษ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายในบรเิ วณปา่ ชายเลนยะหรง่ิ ทำ� ใหเ้ กดิ กจิ กรรมทอ่ งเทยี่ วเชงิ อนรุ กั ษพ์ น้ื ทปี่ า่ ชายเลนและ อ่าวปตั ตานเี พือ่ ให้ชมุ ชนได้ร้สู ึกหว่ งแหนและช่วยกนั อนรุ กั ษท์ รัพยากรในพนื้ ท่ขี องตน ซง่ึ จะ มีการล่องเรือชมป่าชายเลนผืนใหญ่ จุดเด่นอยู่ท่ีการน่ังเรือลอดอุโมงค์โกงกาง ชมนกหลาก หลายชนิด สมั ผัสวิถชี วี ติ ชาวประมงพ้ืนบ้าน ตกปลาในอา่ วปตั ตานี ชิมอาหารพืน้ บา้ นรสเด็ด เรือ่ งเลา่ จากบ้านเรา 81
พักผอ่ นบนโฮมสเตย์ ลอ่ งเรอื ชมหิ่งห้อยและชมประตมิ ากรรมปูดำ� นอกจากนจี้ ดุ เด่นสำ� คัญ ประการหนง่ึ คอื ธรรมชาตขิ องผคู้ นทนี่ ใี่ สซอื่ บรสิ ทุ ธแิ์ ละมคี วามมงุ่ มน่ั ทจ่ี ะพฒั นาทอ้ งถน่ิ ของ ตนส�ำหรับพ้ืนท่ปี า่ ชายเลนยะหร่ิง อากาศชว่ งเชา้ ชา่ งสดชืน่ ยากที่จะบรรยายยิ่งนัก ฉันด่ืมด�่ำ กบั ธรรมชาติอนั บริสุทธ์เิ หลา่ นี้ ก่อนทจ่ี ะเดนิ ทางตอ่ ไป จังหวัดปตั ตานนี อกจากจะมีสถานทีท่ ่องเท่ยี วทางวัฒนธรรมทีง่ ดงามแลว้ ปัตตานี ยังมีสถานที่ท่องเท่ียวทางธรรมชาติอีกหลายแห่ง เส้นทางไปแหลมตาชีก็ได้ผ่านสถานท่ี ท่องเที่ยวที่โด่งดังของจังหวัดปัตตานี น่ันก็คือ หาดตะโละกาโปร์ เป็นหาดทรายท่ีเกิดจาก ธรรมชาติมีสภาพแวดล้อมท่ีอุดมสมบูรณ์ มีชายหาดทอดตัวยาวขนานไปกับทิวสนร่มร่ืน มีสายลมพาคล่ืนกระทบฝั่ง ในวันท่ีอากาศปลอดโปร่งน้�ำทะเลจะมีสีฟ้าคราม ทรายเป็น สีทองสวยงาม หาดช่ือดังอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดปัตตานี คือ หาดปะนาเระและหาดแฆแฆ ตง้ั อยใู่ นอำ� เภอปะนาเระ หาดปะนาเระเปน็ ทตี่ ง้ั ของหมบู่ า้ นชาวประมงหลายรอ้ ยหลงั คาเรอื น บนหาดทรายมเี รอื ประมงนานาชนดิ จอดเรยี งรายอยทู่ วั่ ทงั้ หาด ทกุ ๆ เชา้ จะเหน็ เรอื ประมงขบั แล่นออกสู่กลางทะเลเพ่ือออกประมงหาปลามาเลี้ยงชีพ ส่วนหาดแฆแฆเป็นชายหาดท่ีล้อม รอบไปด้วยทิวเขา มโี ขดหินท่มี รี ปู ร่างแปลกตาสวยงาม ชายหาดเป็นโค้งเวา้ มีความยาวเป็น ระยะไกล ทรายมีสที องละเอียดกบั นำ�้ ทะเลสีฟ้าคราม ในวันท่ีฟ้าใสได้รับความนิยมจากนัก ท่องเท่ียวแวะเวียนมาพักผ่อนเล่นน�้ำกันอยู่เสมอจนถือได้ว่าเป็นชายหาดท่ีสวยท่ีสุดของ จังหวัดปัตตานีเลยก็ว่าได้ ไมไ่ กลจากหาดแฆแฆยงั มี หาดวาสกุ รี หาดทสี่ ำ� คญั อกี แหง่ หนงึ่ ตง้ั อยใู่ นอำ� เภอสายบรุ ี มลี กั ษณะเปน็ หาดทรายกวา้ งและขาวละเอยี ด รม่ รน่ื ดว้ ยทวิ สน เหมาะแก่ การพักผ่อนเล่นน�้ำและยังเป็นชายหาดท่ีมีเอกลักษณ์ท่ีโดดเด่นเพราะตลอดริมหาดนักท่อง เที่ยวจะได้พบเห็นลวดลายศิลปะท่ีสวยงามของเรือกอและท่ีจอดเรียงรายตลอดริมชายฝั่ง โดยมีหมู่บ้านปะเสยะวอ หมู่บ้านท่ีมีชื่อเสียงในการต่อเรือกอและที่มีลวดลายอันสวยงามซึ่ง สามารถสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั คนในทอ้ งถนิ่ ไดอ้ ยา่ งมหาศาล นอกจากชายหาดแล้วจังหวัดปัตตานี ยังมีเทือกเขาสันกาลาคีรีซึ่งเป็นป่าดิบชื้นมีพรรณไม้หลากหลายชนิดและเป็นต้นก�ำเนิดของ ปา่ ตน้ นำ�้ ลำ� ธารและนำ�้ ตกทสี่ ำ� คญั หลากหลายแหง่ เชน่ อทุ ยานแหง่ ชาตนิ ำ�้ ตกทรายขาว นำ�้ ตก โผงโผง น้�ำตกอรัญวาริน เป็นสถานท่ีท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ มีธารน�้ำตกไหลผ่าน เป็นชั้นๆ อย่างงดงาม อบอวลไปด้วยกลิ่นไอธรรมชาติของป่าดิบชื้นเหมาะกับการพักผ่อน เป็นอย่างยิ่ง บนเทือกเขายังเป็นท่ีประดิษฐาน พระพุทธมหามุนินทโลกนาถ ท่ีสง่างาม 82 วนั ทีค่ วามรกั ผลิบาน ณ บา้ นแหง่ เรา
สามารถเดินข้ึนชมทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของจังหวัดปัตตานีได้อย่างชัดเจน หมู่บ้านต่างๆ ทตี่ ำ� บลทรายขาว จงั หวดั ปตั ตานี เปน็ หมบู่ า้ นทเี่ งยี บสงบและมเี อกลกั ษณว์ ฒั นธรรมทโี่ ดดเดน่ จากการทมี่ ผี คู้ นหลากหลายวฒั นธรรมมาอาศยั อยรู่ วมกนั ทำ� ใหช้ าวบา้ นอยอู่ ยา่ งถอ้ ยทถี อ้ ยอาศยั กนั ทสี่ ำ� คญั คอื การรว่ มใจของชมุ ชนในการสรา้ งกจิ กรรมสง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี วทหี่ ลากหลาย เชน่ กิจกรรมนำ� ชมสวนผลไมด้ ้วยการนงั่ รถจิ๊บลยุ เขา้ สวน การท�ำบา้ นพกั แบบโฮมสเตย์ที่สะท้อน วถิ ีชีวติ ทเ่ี รียบง่าย การจัดกจิ กรรมวงิ่ ป่าและจกั รยานเสือภูเขาเพือ่ พิชิตยอดเขาสนั กาลาคีรี ฉันยังคงเดินทางต่อไปจนมาถึงถนนเลียบชายทะเล แสงของดวงอาทิตย์ได้ฉาย ไปท่ัวท้องฟ้า อีกเพียงไม่ก่ีกิโลเมตรก็จะเดินทางไปถึงปลายแหลมตาชี ณ ตอนนี้เหมือน รู้สึกยืนอยู่บนเกาะกลางทะเลซ่ึงจะเห็นทะเลทั้งสองฝั่ง คือ อ่าวปัตตานีและทะเลอ่าวไทย แหลมตาชี หรอื แหลมโพธิ์ เปน็ หาดทรายยาวตอ่ จากหาดตะโละกาโปรเ์ กดิ จากการกอ่ ตวั ของ สันทรายท่ียื่นออกไปในทะเลในลักษณะสันดอนจะงอยยื่นยาวงอกออกไปในทะเล ระยะ ทางยาวกว่า ๑๙ กโิ ลเมตรและจะงอกเพิม่ ข้ึนทุกปี ด้านนอกของอ่าวเปน็ หาดทรายทอดตัว ยาวตลอด จึงสามารถมองเห็นทัศนียภาพท่ีสวยงามของสองฝั่งทะเล ลมพัดเย็นสบาย ในยามเชา้ เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเหนือผืนน�้ำและในยามเยน็ สามารถชมพระอาทิตยต์ กลบั เมือง ปตั ตานีได้อยา่ งสวยงาม ตลอดจนชมภาพวิถีชวี ติ ของชาวบ้านซึง่ ด�ำรงอาชพี ประมง เส้นทาง ก่อนถึงแหลมตาชีมีหมู่บ้านท่ีมาตั้งถิ่นฐานอยู่บนพื้นดินกลางทะเลแห่งน้ี คือ บ้านดาโต๊ะ บ้านตะโละสะมิแล และบ้านบุดี เสน่ห์ของผู้คนท่ีน่ียังคงมีวิถีชีวิตดั้งเดิมคือการด�ำรงชีวิต แบบวถิ ปี ระมงพนื้ บา้ น ทง้ั สองขา้ งทางในทกุ ๆ เชา้ เราจะไดพ้ บเหน็ กบั วถิ ชี วี ติ ชาวบา้ นทจี่ ะนำ� ปลากะตกั และปลาหมกึ แหง้ มาตากอยบู่ นราวทที่ ำ� ดว้ ยอวนประมงพรอ้ มรบั แสงอาทติ ย์ทา่ มกลาง ต้นมะพร้าวรายเรียงทอดตัวไปตามแนวชายหาด โดยมีฉากหลังเป็นทะเลสีครามสวยงาม หลังจากนั้นชาวบ้านจะน�ำออกมาจ�ำหน่ายสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่อีกเช่นกัน ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ ๘ กโิ ลเมตร เรากไ็ ดป้ นั่ จกั รยานเดนิ ทางมาถึงปลายแหลมตาชี จดุ หมายปลายทางของนกั ปน่ั หลายๆ คน ดวงอาทติ ยไ์ ดโ้ ผลพ่ น้ เสน้ ขอบฟา้ สมั ผสั กบั ทอ้ งทะเล สฟี า้ คราม ธรรมชาตไิ ดร้ งั สรรคส์ ง่ิ สวยงามประจกั ษต์ าแกผ่ พู้ บเหน็ ชา่ งเปน็ ภาพทแี่ สนจะสดุ ประทบั ใจเปน็ อยา่ งยง่ิ นกั ตลอดเสน้ ทางทไ่ี ดเ้ ดนิ ทางผา่ นมานน้ั จะทำ� ใหเ้ ราไดเ้ รยี นรวู้ ถิ ชี วี ติ ของผคู้ นจากพน้ื ที่ ต่างๆ ซ่ึงเป็นวิถีชีวิตแห่งความกลมกลืนจากการผสมผสานทางวัฒนธรรม ในขณะเดียวกัน เรื่องเลา่ จากบ้านเรา 83
ยงั คงรักษาอัตลกั ษณ์ของศาสนาไวอ้ ย่างเหนยี วแนน่ ปัตตานไี ม่ใช่แค่เมอื งเลก็ ๆ แตเ่ ปน็ เมอื ง ทมี่ ากดว้ ยอารยธรรม มวี ฒั นธรรมประเพณที งี่ ดงาม มธี รรมชาตทิ ย่ี งั คงอดุ มสมบรู ณ์ เปน็ เมือง แห่งสังคมพหุวัฒนธรรมอันบริสุทธ์ิท่ีแท้จริง สะท้อนได้จากการท่ีจังหวัดปัตตานีมีสถานที่ ส�ำคัญท่ีมีคุณค่าทางจิตใจมากมายหลายแห่งที่จะเป็นศูนย์รวมใจให้กับผู้คนในพื้นที่และ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสได้เกิดความภาคภูมิใจและมีความสุขไปด้วยกัน จังหวัดปัตตานีคือพ้ืนท่ีหนึ่งของจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพียบพร้อมไปด้วยแหล่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และพ้ืนท่ีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ท้ัง ผืนป่า สายน�้ำ และท้องทะเล นับเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่งดงามด้วยศิลปวัฒนธรรมวิถีชีวิต ผู้คนและสภาพภูมิประเทศ สมกับความย่ิงใหญ่ในฐานะเมืองหลวงของอาณาจักรลังกาสุกะ มีช่ือปรากฏอยู่ในเอกสารโบราณหลายฉบับ ด้วยท�ำเลที่ตั้งติดกับทะเล มีอ่าวท่ีสามารถ บงั คล่นื ลมได้ดี อกี ทั้งยังมเี ส้นทางบกและเส้นทางแมน่ ้ำ� ทเ่ี ชื่อมต่อกันหลายสาย รวมถงึ การท่ี มที รพั ยากรธรรมชาตทิ อี่ ดุ มสมบรู ณ์ ปตั ตานจี งึ เปน็ เมอื งทา่ คา้ ขายกบั เมอื งอนื่ ๆ ในคาบสมทุ ร มลายู ด้วยเหตุนี้ท�ำให้ปัตตานีได้รับอารยธรรมจากชนชาติต่างๆ ที่เข้ามาติดต่อค้าขาย ซ่ึงต่อมาได้ผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิมกลายเป็นวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ มาจนถึงทุกวันน้ี แมจ้ ะไดย้ นิ เรอื่ งราวและเหตกุ ารณร์ า้ ยๆ ในจงั หวดั ชายแดนภาคใตอ้ ยตู่ ลอด แต่ความงดงามในความเชื่อ วัฒนธรรม วิถีชีวิต และธรรมชาติก็ยังคงด�ำรงอยู่อย่าง เหนียวแน่นชาวบ้านในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้บ้างก็ต่างเชื้อชาติ บ้างก็ต่างศาสนาหรือ มาจากท่ีต่างๆ กัน แต่ทุกคนด�ำรงชีวิตอยู่บนพื้นฐานของการมีน้�ำใจ มีการช่วยเหลือและ ถอ้ ยทีถ้อยอาศยั ซง่ึ กันและกันตลอดมา 84 วันทีค่ วามรักผลิบาน ณ บา้ นแห่งเรา
เสาหลัก นางสาวฟาดีล๊ะ ประดู่ โรงเรยี นประสานวทิ ยามูลนิธิ จังหวดั ปัตตานี เดก็ ผหู้ ญงิ คนหนงึ่ ตอ้ งสเู้ พอ่ื ครอบครวั เดก็ ผหู้ ญงิ คนหนงึ่ ทต่ี อ้ งเปน็ เทา้ ใหก้ บั คณุ พอ่ ท่เี ดนิ ไม่ได้ เด็กผหู้ ญงิ คนหน่งึ ทตี่ ้องเปน็ แรงและกำ� ลงั ใจใหก้ บั ครอบครัว เด็กผหู้ ญิงคนหนงึ่ ที่ ไมม่ คี วามสขุ เหมือนเด็กคนอื่นเขา โดยเขาคิดอย่เู สมอวา่ ...วนั หนง่ึ เขาอาจจะสบายและเลี้ยง ดูแลครอบครวั ได้ ซ่งึ เดก็ ผหู้ ญิงคนนน้ั กค็ ือ...ตัวฉันเอง ฉนั เปน็ เดก็ ตา่ งจงั หวดั บา้ นเดมิ อยปู่ ตั ตานี แตต่ อนนคี้ รอบครวั ไดย้ า้ ยบา้ นเพอ่ื ไปทำ� สวนทสี่ งขลา ฉันเลยได้ย้ายมาอยกู่ บั ครอบครัวทีน่ ี่ ฉนั มีพี่นอ้ ง ๒ คน ฉนั เปน็ บุตรคนสดุ ท้าย และลกู ผู้หญงิ คนเดียว และมพี ี่ชายอกี ๑ คน ฐานะบา้ นของฉนั ก็ไมไ่ ด้รวยอะไรมาก พออยู่ พอกิน เพราะพ่อกับแม่ของฉันเป็นคนขยันมาก ท่านบอกเสมอว่าตราบใดที่ท่านยังอยู่ลูกๆ ไม่ต้องกลัวอด ตอนเช้าๆ พอ่ กับแมก่ ไ็ ปสวน เพื่อไปปลูกพชื ผักผลไม้ขาย แล้วกนิ กนั ภายใน ครอบครัวและแบ่งให้กับเพื่อนบ้าน โดยคุณแม่ของฉันมักจะปลูกแตงโมเป็นประจ�ำทุกปี พอ่ กับแมส่ ูเ้ พื่อครอบครวั โดยท่านทงั้ สองมกั จะสอนอยูเ่ สมอวา่ คนเราเกิดมากอ็ ย่าโลภมาก มอี ะไรกค็ วรพอใจกบั สิง่ ทมี่ ี อยา่ โลภแลว้ ท�ำให้คนอ่นื เดือดร้อนเพราะความเหน็ แกต่ ัวของตัว เอง แม่ของฉันน�ำแนวพระราชด�ำรัสแบบเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการด�ำรงชีวิต ฉันให้ค�ำ สัญญากับแม่ว่าถึงแม้ฉันจะเป็นได้แค่ลูกชาวสวนที่แสนจะธรรมดาและไม่ได้เลิศอะไร แตฉ่ ันก็เขา้ ใจกับการใชช้ วี ิตตอนนี้ มันดีซะอย่าง มันจะไม่โลภจนเกนิ ไป จนไม่ท�ำใหเ้ กิดหน้ี ทกุ ๆ เยน็ หลงั เลกิ เรยี น ฉนั มกั จะชว่ ยงานแมใ่ นสวน ชว่ ยพอ่ กบั แมข่ นแตงโมใหก้ บั พอ่ คา้ แมค่ า้ ที่มาอุดหนุน เวลาเพ่ือนมาขอซื้อแม่ของฉันมักจะแบ่งให้เสมอ โดยท่านได้บอกไว้ว่ายามมีก็ ควรแบ่งปัน อะไรที่พอช่วยไดเ้ ราก็ควรช่วยเหลอื ซงึ่ กนั และกนั เรือ่ งเล่าจากบา้ นเรา 85
วันหนึ่ง...ฉันจบมัธยมต้นพอดี แม่ของฉันบอกกับฉันว่าจะส่งฉันให้ย้ายกลับไป เรียนต่อมัธยมปลายที่ปัตตานี แต่ฉันบอกกับแม่ว่าถ้าหากฉันย้ายกลับไปเรียนท่ีโน่น แล้ว ใครจะดูแลท่านล่ะ ท่านเองก็แก่ข้ึนทุกที พ่อเองก็สุขภาพไม่ค่อยดีอยู่ด้วย แล้วใครจะดูแล ละ่ แต่ทา่ นกลับตอบฉนั วา่ แมด่ ูแลตวั เองได้ ลูกกลับไปเรยี นท่โี น่นดีแล้ว ลูกจะไดโ้ ฟกัสแต่ เรื่องเรียนอย่างเดียว ลูกอนาคตยังอีกไกล ต้องเจออะไรอีกมากมาย แต่ฉันบอกแม่ไปว่าแต่ ค่าใช้จ่ายเยอะนะแม่ แล้วถ้าหากวันไหนต้องใช้เงินด่วนล่ะ แม่ส่งเล้ียงไหวเหรอคะ ไหนจะ พช่ี ายอกี แม่ก็ตอบไปวา่ เรามวี ัวเราก็ขายววั สิ ทรพั ย์สินหมดเราหาใหมไ่ ด้ แต่ลูกนี่สิ ถ้าลกู ไม่เรียนวันน้ีแล้วลูกจะเรียนทันเพ่ือนไหม แม่อยากเห็นลูกมีชีวิตที่ดี จะได้ไม่ต้องล�ำบาก เหมอื นแม่ แมเ่ องก็จบแค่ ป.๖ มปี ัญญาแค่นหี้ รอกลูก ลูกแค่ตง้ั ใจเรียนนำ� ความภาคภูมิใจ มาให้แม่ แม่ก็ดีใจแล้ว ลูกอย่าลืมสิ คนอื่นอาจจะมองใบจบเป็นแค่กระดาษแผ่นเดียว แต่สำ� หรบั แม่แล้วมันยิ่งใหญม่ าก พอวนั เปดิ เทอม ฉันกถ็ ูกส่งไปเรยี นทโ่ี นน่ ฉนั ไปเรยี นด้วยความสขุ เพราะแม่ของ ฉันโทรมาให้ก�ำลังใจแต่เช้า ฉันต้ังใจเรียนท�ำตามท่ีแม่ได้บอกทุกอย่าง เพราะฉันมีความฝัน อยากเป็นครู ซ่ึงแม่ของฉันเองก็อยากเป็นครูอยู่เหมือนกัน แต่ท่านก็ไม่มีโอกาสเพราะท่าน จน แต่ท่านก็เปรียบเสมือนครูคนแรกของฉัน และตัวฉันเองก็เปรียบเสมือนลูกศิษย์คนแรก ของเขา แต่เขาก็ยังส่งฉันเข้าโรงเรียนเพื่อจะได้มีความรู้มากกว่าน้ี เวลาผ่านไป ๖ เดือน เฮอ้ น่ีก็ปิดเทอมละ่ ฉันคิดถงึ แม่เหลอื เกิน จู่ๆ ก็มเี สียงโทรศพั ทเ์ ขา้ มาพอดี ฉันมองไปทห่ี น้า จอ มนั คอื เบอรแ์ มฉ่ นั เอง เสยี งในสายถามฉันว่า ลูกสบายดไี หม แม่คิดถงึ เมื่อไหร่จะมาหา แมก่ บั พอ่ ละ่ ฉนั ลำ� บากทจี่ ะตอบแมไ่ ป ฉนั กลวั แมไ่ มส่ บายใจ สดุ ทา้ ยฉนั กต็ อ้ งจำ� ใจตอบไปวา่ แมจ่ า๋ โรงเรยี นหนปู ดิ แคส่ ปั ดาหเ์ ดยี วคะ่ แตห่ นไู มไ่ ดห้ ยดุ หรอกคะ่ หนตู อ้ งไปคา่ ย ฉนั บอกแมไ่ ป แต่แม่กลับพูดแบบน้ีกับฉัน ฉันฟังแล้วน�้ำตาจะไหล มันคือความเป็นห่วงของผู้หญิงคนนึง ท่านได้บอกไปว่า...ลูกถ้าลูกเหนื่อยลูกก็ควรพักบ้างนะ ล�ำพังลูกเรียนก็ไม่ค่อยได้พักอยู่แล้ว แตฉ่ ันกลบั ตอบแมว่ ่า หนไู หวค่ะ เพื่อพ่อกับแมห่ นูไหวเสมอ เวลาผา่ นไป น่กี ผ็ ่านไป ๒ อาทิตย์แล้ว ฉันโทรหาคุณแมเ่ พอ่ื ขอเงนิ แมก่ ็บอกวา่ จะ โอนพรุ่งนี้ให้ รุง่ เชา้ ใครจะคดิ ละว่า จะมีสิง่ ที่ไม่คาดคิดเกิดขน้ึ มเี บอร์แปลกโทรหาฉัน ฉนั ก็ รับสายเป็นปกติ เสียงสายเป็นเสียงผู้หญิงวัยกลางคน โดยได้บอกกับฉันว่า ถ้าบอกอะไร ไปแล้วห้ามตกใจแล้วร้องล่ะ แกได้บอกแบบนั้นท�ำให้ฉันใจไม่ดีเลย แกได้บอกกับฉันว่า 86 วันท่ีความรักผลิบาน ณ บา้ นแห่งเรา
ตอนนแ้ี กอยูโ่ รงพยาบาล เพราะพ่อกับแม่ของฉนั ประสบอบุ ตั เิ หตุ แมข่ องฉนั ไปโรงพยาบาล อืน่ เนอื่ งจากแมข่ องฉนั ไมร่ ู้สึกตวั พอ่ กอ็ ยู่โรงพยาบาลเทพา ฉันไดฟ้ ังแล้วตกใจมาก ช้นั วาง สายแล้วน้�ำตาก็ไหล ในตอนนั้นในหัวของฉันเต็มไปด้วยความกลัวต่างๆ นานา กลัวว่าท่าน จะจากฉันไปโดยไม่ทันดูความส�ำเร็จของฉัน ตอนบ่ายก็มีคนมารับฉันไปหาคุณพ่อ ส่วนคุณ แมก่ ็มพี ่ชี ายตามไปดูแลแล้ว ฉนั มกี ันอยแู่ คส่ องคน กต็ ้องช่วยกนั ดูแล พอไปถึงโรงพยาบาล แวบแรกทฉ่ี นั เหน็ คอื นำ้� ตาของคนทอี่ ยตู่ รงหนา้ ฉนั นนั่ คอื พอ่ ของฉนั เอง ฉนั สมั ผสั ไดถ้ งึ ความ เจบ็ ปวดของคณุ พอ่ พอ่ ไดแ้ ตข่ อโทษทไ่ี มท่ นั ไดไ้ ปโอนเงนิ ให้ แตเ่ กดิ อบุ ตั เิ หตเุ สยี กอ่ น ฉนั ไดแ้ ต่ บอกไปวา่ ไมเ่ ปน็ ไรคะ่ คณุ พอ่ พอ่ เองกค็ งเจบ็ ไมน่ อ้ ย พอ่ ของฉนั คางฉกี ขาดตอ้ งเยบ็ ไปหลายเขม็ แผ่นเท้าข้างซ้ายขยับไม่ได้ ส่วนคุณแม่ท่ีตัวไม่มีแผลถลอกอะไร แต่จะหนักตรงที่หัวและ ใบหน้า เนื่องจากกระแทกกับหินท�ำให้เบ้าตากระดูกหัก รุ่งเช้าสายเข้าจากแม่ของฉัน แก โทรมาให้ก�ำลังใจฉัน โดยแกได้บอกว่าพรุ่งน้ีหมอจะท�ำการผ่าตัด การให้ก�ำลังใจแม่ให้สู้ๆ อย่าเพิ่งทอ้ ฉันยงั รอและเป็นกำ� ลังใจใหเ้ สมอ รีบๆ หายเรว็ ๆ แล้วมาอยูด่ ้วยกนั เร็วๆ ทุกคน รออยู่ รงุ่ เชา้ หมอทำ� การผา่ ตดั ใหค้ ณุ แมเ่ ปน็ ทเ่ี รยี บรอ้ ย รอพกั ฟน้ื กไ็ ดก้ ลบั บา้ นแลว้ พอ่ กบั แม่ อาการดขี นึ้ เนอื่ งจากมกี ำ� ลงั ใจดๆี จากคนขา้ งๆ โรคทกุ โรคไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งรกั ษาดว้ ยยาเสมอไป แค่มกี �ำลงั ใจดีๆ ก็พอ เหมือนฉันตอนนก้ี ร็ ู้สึกสบายใจขนึ้ ละหลงั จากมีกำ� ลังใจดีๆ จากครแู ละ เพื่อนๆ ที่คอยเปน็ หว่ ง ตอนน้ีก็เป็นเวลา ๑ สัปดาห์แล้ว วันนี้คุณหมอให้คุณพ่อกับคุณแม่กลับบ้านได้ ฉันเลยตัดสินใจให้ท่านท้ังสองกลับไปพักฟื้นท่ีปัตตานี เพื่อฉันจะได้ดูแลท่านอย่างใกล้ชิด และฉันเองก็จะได้เรียนด้วย พอไปถึงฉันเห็นภาพของคนใกล้บ้านท่ีออกมาต้อนรับและคอย ช่วยเหลือเป็นห่วงมาโดยตลอด และพ่อกับแม่เองก็มีความสุขตามไปด้วย น่ีก็เป็นเดือนละ ที่ท้ังสองกลับมาพักฟื้นท่ีบ้าน แม่ของฉันอาการดีข้ึนสามารถช่วยตัวเองได้แล้ว ต่างจากคุณ พอ่ เลยทต่ี อนนย้ี งั ไมส่ ามารถเดนิ ได้ ฉนั แอบเหน็ พอ่ ของฉนั รอ้ งไหค้ นเดยี ว ฉนั รสู้ กึ ไมส่ บายใจ เลยเขา้ ไปถามพ่อ พ่อได้บอกว่าแกเบอื่ อยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน ฉนั เองก็เขา้ ใจแกดี เพราะ แกไมเ่ คยหยุดทำ� งานอยา่ งเดยี ว แล้ววนั หนงึ่ ต้องพกั ไมท่ �ำอะไร มนั กน็ า่ เบอ่ื ฉนั เลยตัดสนิ ใจ พาพ่อไปหาดตะโละกาโปร์ ซึง่ ไม่ไกลจากบ้าน เพ่อื พาทุกคนไปเปิดหเู ปดิ ตา รุ่งเชา้ กอ็ อกเดนิ ทาง ทุกคนต่างมีความสุขรวมถึงพ่อฉันด้วย ฉันเห็นพ่อยิ้มแก้มปริ ฉันก็รับรู้ได้เลยว่าพ่อมี ความสขุ จรงิ ๆ พอถงึ อาหารเยน็ ฉนั กไ็ ปหารา้ นขา้ วยำ� เพราะปตั ตานจี ะขนึ้ ชอ่ื เรอ่ื งบดู มู ากและ เรือ่ งเลา่ จากบา้ นเรา 87
ยังเป็นของโปรดคุณพ่อ และปัตตานียังมีขนมไทยที่อร่อยอยู่หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ขนมอาเกาะ สว่ นใครทชี่ อบแหลง่ โบราณกจ็ ะมอี ยหู่ ลายทไี่ มว่ า่ จะเปน็ มสั ยดิ เกา่ แกม่ สั ยดิ กรอื เซะ และศาลคนจีนคือศาลเจา้ แม่ลมิ้ กอเหนี่ยว และยงั มที อี่ ื่นอีกมากมาย ฉันคิดวา่ ทริปนี้มนั มคี วามสขุ จริงๆ ทกุ คนยอ่ มมปี ญั หาและบททดสอบเขา้ ในชวี ติ ได้ แตถ่ า้ หากทกุ คนแกไ้ ขเชอ่ื เถอะวา่ ปญั หาใหญก่ จ็ ะกลายเปน็ ปญั หาเลก็ ได้ ถา้ เราแกป้ ญั หาคนเดยี วไมไ่ ดก้ อ็ ยา่ ลมื วา่ ยงั มคี นขา้ งๆ พรอ้ มชว่ ยเหลือเราอยเู่ สมอ เสาหลักไม่จำ� เปน็ ต้องเปน็ พอ่ กบั แมเ่ สมอไป วันหนึ่งท่านทัง้ สอง ลม้ เรากส็ ามารถเป็นเสาหลกั ใหท้ ัง้ สองได้ 88 วันทค่ี วามรักผลบิ าน ณ บ้านแห่งเรา
เรือลากจากมนษุ ย์ นางสาวสันตฤ์ ดี แกว้ วิชติ โรงเรยี นโพธค์ิ ีรรี าชศกึ ษา จังหวดั ปตั ตานี เสยี งกลองอกึ ทกึ ทว่ั ทง้ั โคกโพธิ์ พรอ้ มเชอื กทบ่ี คุ คลมากหนา้ หลายตามาลากดงึ เพอ่ื ใหล้ อ้ เลก็ ๆ สล่ี อ้ ไดเ้ คลอ่ื นไป พรอ้ มกบั จงั หวะฝเี ทา้ และเสยี งโหท่ เี่ ปน็ ทว่ งทำ� นองของชาวบา้ น ท่มี าพร้อมกับความศรทั ธาอย่างแทจ้ ริง ชุมชนเล็กๆ ชุมชนหนึ่ง ท่ีมีประชากรอยู่พอสมควร ได้รวมตัวกันวาดลวดลาย ไทยและแกะสลักลายเรือพระ บนกระดาษสีทอง ท่ีทอประกายระยิบระยับเม่ือกระทบกับ แสงอาทิตย์ โดยที่ฉันไม่คาดคิดเลยว่ามือและใจของมนุษย์สามารถอดทนท�ำสิ่งพวกนี้ได้ โดยเฉพาะผู้ท่ีมีอายุประสบการณ์มานานเน่ินจนเกิดเป็นความช�ำนาญอย่างพวกเขา ซึ่งเรือ ของพวกเขาได้สร้างชื่อให้กับอ�ำเภอโคกโพธ์ิ จนสามารถคว้ารางวัลเรือสลักลายไทยโบราณ ประเภทเรือสวยงาม จนผู้ตัดสินและเจ้าของงานยกรางวัลเรือกิตติมศักด์ิให้โดยไม่ต้องแข่ง กบั ใคร เม่ือวันลากเรือมาถึง มีผู้คนหลากหลายวัยต่างน�ำขนมต้มหรือที่เรียกว่าขนม สามเหลยี่ ม พรอ้ มกบั ดอกไมท้ ม่ี องดทู ไี ร กส็ วยสดงดงามทกุ ครงั้ เมอ่ื ชาวบา้ นวางขนมตม้ เสรจ็ เกดิ มเี สียงดังขึ้น อันท�ำให้ผ้คู นในละแวกนน้ั และรวมถึงฉันด้วย สะด้งุ แล้วสะดุง้ อกี สงสยั มยั้ ว่าเสียงน้ันมันคืออะไร มันก็คือเสียงกลองเรือพระน่ันเอง แต่เม่ือเวลาผ่านไปก็มีเสียงคุณลุง มีอายุหน่อยๆ ได้ร้องโห่เสียงดังออกมาว่า “อีสาระภา เฮโล เฮโล” เสียงของคุณลุงน้ัน เหมอื นมีเวทต์สะกดทำ� ใหฉ้ นั หนั กลับไปมองด้วยความฮกึ เหมิ สิ้นเสียงโห่ของชายแก่ๆ คนน้ัน ได้มีพระรูปหน่ึงซึ่งในมือของท่านถืออะไรก็ ไมท่ ราบ จนทำ� ใหฉ้ นั ขยตี้ าเพง่ ดแู ละดว้ ยความทฉี่ นั เปน็ เดก็ กอ็ ดใจไมไ่ หว เลยวงิ่ เขา้ ไปดใู กลๆ้ ผลปรากฏว่าในมอื ของทา่ นถือพระพุทธรูปขนาดกลางทรี่ อบคอขององค์พระประดบั ด้วย เรื่องเลา่ จากบ้านเรา 89
ดอกไม้สดสเี หลือง ท่ีรอ้ ยคลอ้ งเปน็ พวงมาลยั เพ่ือน�ำไปวางไวบ้ นเรือพระท่ีแกะสลักลายอนั น่าสะดุดตาสะดุดใจ แต่เสยี งดงั เปน็ จงั หวะของกลองน้นั ยังคงดงั ไปเร่ือยๆ ซง่ี ไม่ร้วู ่าจะจบใน ตอนไหน แตใ่ นขณะนน้ั เอง พระรปู เดมิ ไดเ้ ดนิ ไปบอกคนควบคมุ เรอื วา่ “ไดฤ้ กษแ์ ลว้ จงทำ� ตาม ทน่ี ัดแนะไว้ไดเ้ ลย” เมื่อคนควบคุมไดท้ ราบเรอ่ื งแล้ว เขาจึงตะโกนบอกชาวบ้านวา่ “ลาก” คำ� เดียวส้นั ๆ และชาวบ้านก็ขับร้อง “อีสาระภา เฮโล เฮโล” ขนึ้ อีกครง้ั และมือกลองก็เร่ง จังหวะขึ้นเรือ่ ยๆ ชาวบา้ นก็แหเ่ รือพรอ้ มกบั ลากเรือ และรอ้ งเพลงไป ทำ� ให้การลากเรือชาว บา้ นมสี ีสันขน้ึ ไปอกี ฉันเลยสงสยั วา่ ทำ� ไมนะ ทำ� ไมแค่กลองใบเดยี ว ไมเ้ ลก็ ๆ สองอันกบั เสียง โห่ของชาวบา้ นท่ไี ม่ได้ร้จู กั กันท�ำใหม้ สี ีสนั และเร้าใจขนาดนเ้ี ลยหรือ ซงึ่ มนั ท�ำใหฉ้ นั อยากจะ ไปตกี ลองดว้ ยเลย ฉันรอเวลาให้พ่อกับแม่กลับมาบ้าน รออย่างมีความหวัง ลืมบอกไปว่าพ่อกับแม่ ของฉันเป็นชาวนา อาจจะกลับบ้านไม่ตรงเวลาเหมือนข้าราชการสักหน่อย และแล้วความ หวังของฉันก็มาถึง พ่อกับแม่ของฉันกลับมาบ้าน ฉันเลยรวบรวมความกล้า ไปขอพ่อกับ แม่เรื่องที่จะไปงานชักพระที่หน้าอ�ำเภอ เพ่ือจะไปดูพวกเขาตีกลองเรือพระ ตอนแรกท่าน ท้ังสองก็ได้บอกกับฉันว่าค่อยไปก็ได้ เพราะว่างานยังมีอีกหลายวัน แต่ด้วยความด้ือร้ันของ ฉนั เลยตีลกู บทเจ้านำ้� ตาทำ� ลกู ออ้ นเล็กนอ้ ย เพราะท่านคงไมป่ ล่อยใหแ้ กว้ ตาดวงใจของทา่ น ทงั้ สองเสียใจเป็นแน่ แมว้ า่ ฉันจะต้องแลกมาดว้ ยน�ำ้ ตาสกั ก่หี ยดฉันก็ยอม ผลปรากฏวา่ ส่ิงท่ี ฉันคิดและการกระท�ำของฉันได้ผล ท�ำให้ท่านทั้งสองใจอ่อน จนท�ำให้ฉันได้ไปดูการตีกลอง ท่งี านชกั พระจนได้ เมอื่ วนั ทฉี่ นั รอคอยมาถงึ ทา่ นทงั้ สองกไ็ ดพ้ าฉนั ไปดู บอกเลยวา่ ฉนั แทบจะนงั่ ไมต่ ดิ เพราะว่าด้วยความตืน่ เตน้ เขา้ มาครอบครองในหัวสมองของฉันตอนน้ีเลยก็ว่าได้ และเมอื่ ฉัน เข้าไปในงาน ฉันก็ได้ยินเสียงกลองใบเดิม ที่ฉันเคยได้ยินในคร้ังแรก มันดังขึ้นอีกคร้ัง ฉันก็ เลยมองหาเสียงนั้น แตค่ ราวนม้ี นั ไมไ่ ดม้ ีแค่กลองใบเดยี ว มันกลบั มนี ับสิบๆ ใบ บอกไดเ้ ลย วา่ เสียงดังสน่ันทั่วท้ังลานหน้าอำ� เภอ ถา้ เปรยี บเสมือนจ้ิงหรดี กค็ งจะเปน็ จ้ิงหรีดยกั ษ์ ด้วยความที่ฉันเป็นเด็ก เลยซุกซนกับการเที่ยวเล่นในงานประเพณี ได้เห็น ของเลน่ ในงาน เสอื้ ผา้ สดุ สวยทท่ี ง้ั ราคาแสนแพงและถกู ปะปนกนั ไป และทข่ี าดไมไ่ ดค้ อื ของกนิ บอกเลยว่าภาคใต้ไม่แพ้ภาคใดในประเทศไทย ที่ฉันประทับใจท่ีสุดคือสินค้าโอทอป 90 วันทค่ี วามรกั ผลิบาน ณ บา้ นแห่งเรา
ของต�ำบลนาประดู่ คือขนมเปี๊ยะเจ้าเก่า ฉันกินทุกทีก็ลืมอิ่มทุกที ถ้ากินขนมเปี๊ยะใน งานชักพระก็จะไดบ้ รรยากาศประมาณว่า นง่ั อยูก่ ลางเมอื งศวิ ิไลซ์ทมี่ แี สงระยบิ ระยับวับวาว เพลิดเพลินใจทุกที แต่ตาแสนซนของฉันได้หันไปเห็นเรือพระท่ีตกแต่งด้วยเรือผลไม้ ของ วดั ทรายขาวทมี่ ผี ลไมห้ ลากหลายชนดิ ทป่ี ระดบั อยบู่ นเรอื ชกั พระ ซง่ี ฉนั กส็ งสยั วา่ ทำ� ไมตอ้ งเอา ผลไมม้ าใสใ่ นเรอื พระดว้ ย ทนั ใดนน้ั ความสงสยั กพ็ ลนั คลายลง เมอ่ื มลี งุ ทท่ี ำ� หนา้ ทค่ี วบคมุ เรอื ล�ำนัน้ เดินตรงมาหาฉนั พร้อมเอ่ยปากถามฉนั ว่า “คงสงสัยอะไรบางอย่างสินะ” ฉนั เลยตอบ กลบั ไปแบบงงๆ ว่า “ใชค่ ะ่ ” ลงุ เลยตอบกลับมาวา่ “เพราะวา่ ตำ� บลทรายขาวเปน็ เมอื งผลไม้ เลยหยิบยกผลไมม้ าใสไ่ ว้ในเรอื เพื่อใหม้ เี อกลักษณ์คงอย่เู พ่อื บ่งบอกว่าเรอื ผลไม้ล�ำนี้คอื ของ ทรายขาว” ความสงสยั ของฉนั ไดค้ ลายหายไปหลงั จากทลี่ งุ เลา่ มา ทำ� ใหฉ้ นั เขา้ ใจ ภมู ใิ จในบา้ น เกดิ และประทบั ใจในภมู ปิ ญั ญาของบา้ นฉนั แตล่ งุ แกเหมอื นรวู้ า่ ฉนั กำ� ลงั มองแตงโมบนเรอื ลำ� นน้ั อยู่ แกเลยบอกฉนั วา่ “เอาแตงโมผลนไี้ ปสิ ถอื ซะวา่ เปน็ ของฝากจากทรายขาวกแ็ ลว้ กนั นะ” ฉันกไ็ ม่ได้ท�ำอะไรมาก นอกจากยิ้มรบั และเอาผลไม้จากมอื ของลุงและกลา่ วค�ำว่า “ขอบคุณ คุณลงุ มากนะคะ หนูกลับก่อนนะคะ สวัสดีคะ่ ” ฉนั เดนิ ออกมาจากตรงนนั้ พรอ้ มแตงโมลกู โตๆ แลว้ เดนิ มาหาพอ่ กบั แมเ่ พอื่ จะกลบั บ้านและจะไปอวดแตงโมสักหน่อย ขากลับพ่อกับแม่ก็ชวนฉันไปท�ำบุญเรือพระ และเดินดู รอบๆ งานอีกครั้ง อยากจะบอกว่างานชักพระคร้ังน้ีมีสีสันสวยงามมาก ท�ำให้ฉันไม่อยาก กลับบา้ น และดว้ ยแสงจันทร์ทส่ี ะท้อนกบั แผ่นสีทองทีแ่ กะสลกั ลาย ท�ำให้ในงานมแี สงวบิ วับ เรอื งอร่ามตา และพร้อมกบั เสียงตกี ลองท่ีเปน็ จงั หวะ มันชวนให้ฉนั คิดวา่ โคกโพธ์คิ อื เพชรใน หินที่พร้อมให้คนมาทุบออกและเจียระไน แล้วพาออกไปโชว์ต่อสาธารณชนได้ประจักษ์รับ ทราบ นี่คือเรื่องเล่าจากบ้านของฉันท่ีมีความประทับใจ งานประเพณีชักพระที่ไม่ได้มีแต่ การแกะสลกั ลายเพยี งอยา่ งเดยี ว แตย่ งั มคี วามคดิ สรา้ งสรรคท์ ใี่ สค่ วามเปน็ เอกลกั ษณไ์ ปดว้ ย และฉนั คดิ วา่ มนั สะทอ้ นถงึ ความคดิ และความในใจของคนทำ� ขนึ้ เพอ่ื อยากใหร้ วู้ า่ บา้ นเกดิ ของ เขามีอะไรดีบ้าง และสุดท้ายน้ีอยากจะลองให้คุณมาลองเท่ียวเล่น สัมผัสถึงกล่ินไอของงาน ลองชมิ ขนมเป๊ยี ะที่สุดแสนอรอ่ ย ซงึ่ ไมแ่ นบ่ างทคี ุณอาจจะได้แตงโมลูกโตๆ กลบั บา้ นเหมือน ฉันกเ็ ปน็ ได้ เรื่องเลา่ จากบ้านเรา 91
ดาวบนดิน นางสาวธิดารัตน์ สยี า โรงเรยี นโพธ์ิครี ีราชศึกษา จงั หวัดปัตตานี ถน่ิ แหง่ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ถน่ิ แหง่ เรอื่ งเลา่ ตำ� นาน เรอื่ งราวนา่ คน้ หา นา่ สนใจ ใคร เลา่ จะรวู้ า่ เป็นผนื ดินแหง่ นี้ จะเป็นเพยี งสถานท่ีเลก็ ๆ ทเ่ี ตม็ ไปดว้ ยเรอ่ื งราวท่ียิ่งใหญซ่ ่อนอยู่ ใครเลา่ จะรู้ว่าท่ีแห่งนี้ ผคู้ นเอ่ยช่อื เรยี กว่า “ปตั ตาน”ี สายน�้ำยิ้มรับกับก้อนเมฆบนท้องฟ้าท่ีลอยละล่องอย่างหยอกล้อ บนผืนดินเล็กๆ ณ ท่ีแห่งหนึ่งที่ไม่ใหญ่มากนัก ไม่ได้โด่งดังก้องโลก แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสกลับรู้สึกย่ิงใหญ่ จนนา่ แปลก รถโดยสารนำ� ทางฝนั สองคนั บรรทกุ นกั เขยี นนอ้ ยและผลู้ า่ ฝนั เตม็ คนั รถ เพอื่ มงุ่ หนา้ เขา้ สู่ชมุ ชนบา้ นบาราโหม ฉันคือหน่งึ คนในน้ัน นบั วา่ เปน็ คร้ังแรกทฉี่ ันได้มาทำ� ความรู้จกั กับ ท่ีแหง่ น้ี ฉันยอมรับว่าฉันไม่รู้จกั ทน่ี ี่ ฉันไม่อาจอธิบายไดว้ ่าที่นี่คอื ทไ่ี หน ไมอ่ าจพูดถงึ สถานที่ แหง่ น้ไี ด้ว่าเปน็ อยา่ งไร วันนแ้ี หละท่ฉี นั จะไดม้ าท�ำความรู้จกั กบั เธอ “บาราโหม” รถบัสน�ำทางฝันพาฉนั และเพ่ือนๆ นักเขียนมาทบี่ ้านหลังเล็กหลงั หนง่ึ ฉันมุ่งหน้า ลงจากรถด้วยความต้งั ใจ แต่ถึงอย่างนัน้ อากาศด้านนอกก็ไม่ค่อยเปน็ ใจนัก พระอาทติ ย์ส่อง แสงจา้ คงเพราะอยากร้เู รื่องราวต่างๆ เหมือนอย่างฉนั ณ บา้ นหลังเล็กหลงั นัน้ ไม่ใช่บา้ นที่ ใหญ่โตหรูหรา ไม่ใช่บ้านของผู้มากทรัพย์ ไม่ใช่บ้านของมหาเศรษฐีชื่อดังแต่มันส�ำคัญกว่า นั้น ที่น่คี ือบ้านของผู้มากประสบการณ์ทา่ นหน่งึ หากมองแคภ่ ายนอก นอ้ ยคนนกั ท่ีจะทราบ ถึงความเก่งและความคิดอันแตกต่างของเขา ขอนไม้น้อยใหญ่ข้างบ้านคือปริญญาความรู้ท ่ี มากค่า “อาเยาะลี” ชาวประมงเก่าที่ผันตัวมาเป็นนกั ออกแบบทย่ี ่ิงใหญข่ องทอ้ งถ่ิน ขอนไม้ นอ้ ยใหญท่ เี่ ปน็ ปรญิ ญาชวี ติ ของอาเยาะลี อาเยาะลนี ำ� มาแกะสลกั จนกลายเปน็ “เจา้ กระตา่ ย ขูดมะพร้าว” ลวดลายมลายูที่แกะออกมาด้วยฝีมือของอาเยาะลี ซ่ึงประทับไว้บนขอนไม้ 92 วนั ที่ความรกั ผลิบาน ณ บา้ นแห่งเรา
เหลา่ นน้ั มนั สะทอ้ นและสอื่ ใหฉ้ นั เหน็ วา่ ทกุ อยา่ งมนั มเี รอ่ื งราว ความตง้ั ใจและความพยายาม ของอาเยาะลี ไดถ้ า่ ยทอดผา่ นมาจากเจา้ กระตา่ ยขดู มะพรา้ ว อาเยาะลที ำ� ใหฉ้ นั ประทบั ใจมาก จนิ ตนาการ ความคดิ ทอี่ าเยาะลอี อกแบบชว่ ยสรา้ งเอกลกั ษณใ์ หแ้ กช่ มุ ชนบา้ นบาราโหมแหง่ นี้ ชว่ ยสร้างความนา่ จดจำ� ใหแ้ กผ่ ทู้ ่ีพบเห็น ถอื เป็นสิ่งเล็กๆ ทยี่ ง่ิ ใหญอ่ ยา่ งหน่งึ ท่ีประดับเป็น เพชรเมด็ งามอยใู่ นเมอื งปัตตานี ประสบการณ์คร้ังน้ีช่วยให้ฉันได้พบเธอ “บาราโหม” จากในเม่ือก่อนท่ีฉัน ไม่คนุ้ เคยกบั ชือ่ นแ้ี ต่ ณ วันน้ี กลับท�ำใหฉ้ ันได้เข้ามาเหยียบยา่ ง ไดเ้ ข้ามาศกึ ษาจากจุดเด่นท่ี เป็นเอกลกั ษณ์ ถึงแมจ้ ะมหี ลายคนทมี่ องขา้ ม แตห่ ากทุกคนมีความตงั้ ใจและความพยายาม อย่างแท้จริงเช่นอาเยาะลี ท่ีช่วยส่งเสริมให้เราได้ตระหนักและเห็นคุณค่าของถิ่นเมืองนอน ของเราเอง โดยการน�ำทรัพยากรในท้องถิ่นมาประยุกต์ด่ังเช่นขอนไม้เก่าที่สามารถน�ำมา ประยกุ ต์สร้างเป็นสมบัตแิ หง่ ชวี ติ ที่ไม่มใี ครสามารถมาแย่งชิงได้ นั่นคอื “ความรู”้ ควบค่กู ับ “จนิ ตนาการ” เพยี งแคเ่ ราสรา้ งเปา้ หมายทช่ี ดั เจน พรอ้ มรว่ มพฒั นาฟน้ื ฟตู อ่ ไป เพอ่ื ตอ่ ยอดไป ในอนาคตให้คนรุ่นหลังไดพ้ บ ไดเ้ ห็น ได้ศึกษาเป็นแบบอยา่ ง รวมทง้ั สืบสานใหค้ งอยู่ ฉันอดทีจ่ ะยอ้ นนกึ ถงึ บา้ นไม่ได้เลย แต่ละที่มกั มสี ง่ิ ดีๆ ซ่อนอยู่ แม้มเี ร่อื งโหดร้าย ที่มาทำ� ลายภาพอนั สวยงามของใครหลายคนท่ีเคยวาดไว้ แต่หากทกุ คนลองมองลึกๆ สงิ่ ดๆี เหลา่ นน้ั ยังคงอยู่ อยคู่ อยผู้คนกลบั ไปช่ืนชม “บาราโหม” นำ� พาฉนั คิดถงึ บ้าน ณ ชว่ งเวลาท้องฟ้ายามเยน็ โบกมอื ลาพระอาทิตย์ท่ีพร้อมจะลาลบั วันนี้ สีมว่ งปน ประดบั ดว้ ยสสี ม้ ผสมผสานไดอ้ ยา่ งลงตวั บนพน้ื สคี รามของทอ้ งฟา้ หมดไปอกี แลว้ กบั อกี หนง่ึ วนั เวลาชา่ งลว่ งเลยไปเรว็ ยง่ิ ฉนั กำ� ลงั นงั่ มองทอ้ งฟา้ ยามเยน็ ผา่ นมา่ นกระจก พลางนกึ ถงึ สถาน ที่อันเปน็ ท่รี ักเม่ือตอนฉนั ยงั เดก็ “นำ้� ตกทรายขาว” สถานทีแ่ หง่ ความทรงจำ� ของฉนั ปตั ตานคี อื สถานที่แห่งการเพาะสร้างประสบการณ์ องค์ความรใู้ หม่ๆ ทฉี่ ันไดจ้ าก บาราโหม เปรยี บเหมอื นตน้ กลา้ เลก็ ๆ ตน้ ใหมใ่ นใจฉนั ปตั ตานไี มใ่ ชม่ แี คช่ มุ ชนบาราโหมเทา่ นน้ั ฉันเป็นคนสงขลาที่มีบ้านอยู่ใกล้อ�ำเภอโคกโพธิ์ เม่ือเจ็ดปีท่ีแล้วต้นกล้าเล็กที่ปลูก ขนึ้ ในใจฉนั จากเมอื งปตั ตานแี หง่ น้ี คอื ตน้ กลา้ แหง่ นำ�้ ตกทรายขาว เปน็ ครงั้ แรกทฉ่ี นั ไดเ้ ขา้ มา ในจงั หวดั ปตั ตานี นำ�้ ใสไหลรนิ จากภเู ขาชว่ ยสรา้ งความทรงจำ� ในวยั เดก็ แกฉ่ นั ฉนั ยงั จำ� ความ เร่อื งเลา่ จากบ้านเรา 93
รู้สึก ณ เวลานั้น ฉันต่ืนเต้นท่ีได้เห็นฝูงปลา ฉันตื่นเต้นท่ีได้เห็นน้�ำใสๆ ไหลลงมาจากภูเขา ฉนั ตน่ื เตน้ ทไี่ ดเ้ หน็ ธรรมชาตติ า่ งๆ โอบลอ้ มนำ้� ตกทน่ี ่ี คอื สถานทท่ี ยี่ ากจะลมื กลน่ิ ไอธรรมชาติ ยงั คงตราตรงึ ในใจฉัน กลิ่นแหง่ ความสดชืน่ จากต้นไม้ ยิ่งครง้ั ไหนที่ฉนั นึกถงึ หัวใจของฉนั มกั จะสดชน่ื ตามอยเู่ สมอ ภาพผคู้ นหลากหลายศาสนายงั คงตดิ ตาฉนั เปรยี บเหมอื นภาพถา่ ยทมี่ ิ อาจเปลยี่ นแปลงไป รอยยม้ิ ของเหลา่ ผคู้ นทมี่ าเลน่ นำ�้ ตก คอื องคป์ ระกอบภาพถา่ ยของฉนั ได้ อยา่ งลงตวั “นำ�้ ตกทรายขาว” ชว่ ยสรา้ งความประทบั ใจแกฉ่ นั สรา้ งความหลงใหล สรา้ งเสนห่ ์ ที่เป็นธรรมชาติด้วยความอดุ มสมบรู ณ์ทไ่ี มไ่ ด้เติมแตง่ หรือดัดแปลงข้นึ เลย ปัตตานีคือถ่ินแห่งพหุวัฒนธรรม ถ่ินแห่งความคิดสร้างสรรค์ ถ่ินที่มากด้วยความ อุดมสมบรู ณ์ ฉันปฏิเสธไมไ่ ดเ้ ลยวา่ ฉนั รักท่ีน่ีมากแคไ่ หน ทั้งบาราโหมและนำ�้ ตกทรายขาว ทุกอย่างคือองค์ประกอบท่ีส�ำคัญท่ีช่วยสร้างเสน่ห์แก่ผืนแผ่นดินเล็กๆ แต่ยกระดับค่าให้ ยงิ่ ใหญข่ นึ้ “กระตา่ ยขดู มะพรา้ ว” หัตถกรรมทำ� มือของอาเยาะลที แ่ี สดงออกถึงจนิ ตนาการ ของคนปัตตานี “น้�ำตกทรายขาว” สถานท่ียืนยันแห่งความอุดมสมบูรณ์อันเลอค่า ท่ีมาก ด้วยธรรมชาติอนั นา่ เพลดิ เพลิน ใครจะรเู้ ล่าว่าที่แหง่ น้ี “ปัตตาน”ี จะมีเสน่ห์มากมายเหลา่ นี้ ซอ่ นอยู่ หากคุณไม่เข้ามาสัมผัสและใช้ใจมองอยา่ งแทจ้ ริง ปัตตานีแห่งนีเ้ ปรยี บเหมือน “ดาวบนดนิ ” ที่ไม่มีผใู้ ดเป็นเจ้าของ หากแตป่ ัตตานี คือดาวท่ีอยู่บนดินที่ทุกคนสามารถสัมผัสและร่วมชื่นชมได้ ปัตตานียังคงรอคอยผู้คนเข้า มาดูแล เฝ้าคอยผู้คนเข้ามามอบความรัก ถึงแม้อาจจะมีเร่ืองราวท่ียากเกินกว่าจะอธิบาย เพยี งแคท่ กุ คนลองเปดิ ใจ เมอื่ ถงึ เวลานน้ั คณุ จะมองเหน็ ดาวดวงนน้ั เสนห่ ท์ เี่ คยถกู บดบงั ดาว ทีย่ งั คงเจดิ จรสั อยูอ่ ยา่ งเชน่ ดาวดวงนี้ “ปัตตานี” 94 วันที่ความรักผลบิ าน ณ บา้ นแหง่ เรา
ฉันเรยี กมันวา่ ความสุข นางสาวฮไู ซนี เสม็ หล่อ โรงเรยี นรงุ่ โรจน์วิทยา จังหวดั สงขลา หากจะกล่าวถึงความสขุ ทกุ ๆ คน คงจะนึกถงึ การไดไ้ ปเท่ยี วกบั ครอบครวั การไป ตงั้ แคมปก์ บั เพ่อื นๆ การไปเลน่ น�ำ้ สงกรานตก์ ับแฟน การมเี งนิ เยอะๆ ไปซ้อื ของในหา้ งหรูๆ แต่ส�ำหรับฉันแล้วความสุขคือการได้กินข้าวสวยร้อนๆ กับน�้ำบูดูผักต้มในบ้านหลังเล็กๆ พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว การเดินไปทุ่งนาในตอนเช้าตรู่กับปู่เพื่อพาวัวของปู่ ไปกินหญ้า การนั่งฟังย่าเล่าชีวประวัติของท่านนบีต่างๆ ให้ฉันฟัง ทุกอย่างของฉันเป็นแค่ สงิ่ ธรรมดาๆ ของเด็กบ้านนอกแตม่ นั ทำ� ให้ฉันมคี วามสขุ เสมอเมอ่ื ไดส้ ัมผสั มนั “กร๊ิงๆ กร๊ิงๆ” เสียงนาฬิกาปลุกท่ีแสนจะคุ้นเคยของย่าจากโทรศัพท์ปุ่มกด เคร่ืองเก่าดังข้ึนท่ีท�ำให้ทุกคนในบ้านได้ยินพร้อมกันในทุกๆ เช้าพร้อมกับเสียงเคาะประตู ห้องนอนฉันแล้วพูดว่า “ต่ืนมาละหมาดได้แล้ว นอนให้ชัยฏอนหลอกหลอนอยู่ท�ำไม” ในเวลา ๐๕.๒๐ น. คือเวลาท่ีมุสลิมทุกคนต้องตื่นมาละหมาดเพ่ือกราบไหว้องค์อัลลอฮ ผเู้ ปน็ พระเจา้ หนง่ึ เดยี ว เมอ่ื ทกุ คนทำ� หนา้ ทขี่ องตวั เองเสรจ็ กจ็ ะมเี สยี งหนง่ึ ทเ่ี รยี กทกุ คนใหม้ า กินข้าวในทุกๆ เช้า เป็นเสียงท่ีดังมาจากในครัว พร้อมกับกลิ่นหอมของกับข้าวที่ท�ำให้ทุก คนท้องร้องและพากันเข้าไปในครัวเพื่อจัดการส่ิงที่แม่ท�ำเอาเข้าปาก “ท�ำอะไรให้หนูกินอ่ะ วันน้ี” เสียงของฉันที่ดังมาจากหน้าทีวีที่ก�ำลังช่ังใจอยู่ว่าจะไปหากล่ินหอมๆ ในครัวหรือดู ส่ิงท่ีอยู่ตรงหน้าก่อนดี แต่ในท่ีสุดขาของฉันก็มาหยุดอยู่ท่ีโต๊ะอาหาร เมนูวันน้ีคือข้าวคลุก กะปขิ องโปรดพ่อ พอ่ เคยบอกว่านี่เปน็ เมนแู รกที่แม่ทำ� ใหก้ ิน พอ่ ก็เลยยกให้เป็นเมนูสดุ โปรด เมื่อกินข้าวเสร็จฉันก็ไปนั่งรอปู่กินหมากหน้าบ้านเพ่ือท่ีจะพา “ไอ่เมี่ยง” และ” ไอ่ผา” ววั ของปไู่ ปกนิ หญา้ ทท่ี งุ่ เดนิ ไปบนถนนทา่ มกลางแดดสอ่ งในยามเชา้ พรอ้ มเสยี งตน้ ขา้ วทป่ี ลวิ เสียดสีกัน มันเป็นสิ่งท่ีคุ้นเคย เม่ือจัดการผูกลูกรักของปู่ท้ังสองตัวเรียบร้อยฉันก็น่ังพูดคุย กับปู่ริมถนน ปู่ชอบให้ฉันเล่าเร่ืองที่โรงเรียนของฉันให้แกฟัง คุยเพลินๆ จนแดดเร่ิมร้อนก็ พากนั กลบั บา้ น ท�ำแบบนี้ทกุ วนั จนเป็นกจิ วัตร ครอบครัวของฉันถือเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากๆ ฉันมีพี่ชาย ๑ คน ฉันเป็นน้อง เรอื่ งเล่าจากบ้านเรา 95
สุดท้อง ตอนนฉี้ นั อยู่มัธยมปลาย ฉนั เป็นนักเรียนหอพัก นานๆ ทีจะไดก้ ลับบา้ น พ่ชี ายของ ฉนั อาย ุ ๒๘ ปี ฉนั ดีใจที่พ่ีชายของฉันไมย่ งุ่ กับสง่ิ เสพตดิ เหมือนท่ผี ูช้ ายร่นุ น้สี ว่ นใหญต่ ิดกัน บา้ นของฉนั เปน็ บา้ นชน้ั เดยี ว ขนาดของบา้ นไมไ่ ดใ้ หญโ่ ตหรหู รา พออยพู่ อกนิ ขา้ งๆ บา้ นปลกู ผักสวนครวั เต็มไปหมด พ่อเป็นแค่ชาวสวนยาง ส่วนแมค่ ้าขาย บา้ นเลก็ ๆ หลังนีอ้ ยู่กนั ๖ คน มพี อ่ แม่ พช่ี าย ปู่ ยา่ และฉนั ทง้ั ๆ ทเี่ ปน็ บา้ นหลงั เลก็ แตก่ น็ า่ แปลกทท่ี กุ คนในบา้ นไมเ่ คยอดึ อดั เลย แต่กลับมีความสุขและรู้สึกอบอุ่นทุกคร้ังเมื่ออยู่ด้วยกัน เม่ือเข้าเวลาละหมาดทุกคนจะ รว่ มละหมาดญมุ อะฮพรอ้ มกนั โดยมปี เู่ ปน็ อหิ มา่ ม หลงั ละหมาดมฆั รบิ เราจะอา่ นอลั กรุ อา่ นดว้ ย กัน โดยฉันจะมีย่าเปน็ ผูส้ อน และหลงั ละหมาดอิชาอฺ เราจะทานขา้ วพร้อมกนั “ให้กินดึกๆ แบบนี้พออ้วนก็บ่น” ฉันพูดกับแม่ ทุกคนพากันหัวเราะกับค�ำพูดของฉัน แม่พูดกลับมาว่า “อว้ นแหละดแี ลว้ คนอนื่ จะไดร้ วู้ า่ พอ่ แมม่ นั เลย้ี งมาด”ี ฉนั ทำ� หนา้ มยุ่ แตค่ นอน่ื พากนั หวั เราะ หลังทานข้าวเสร็จเราไปน่ังดูทีวีด้วยกันทั้งบ้าน นั่งโม้ นั่งเล่าเร่ืองราวของตัวเองในแต่ละวัน ให้ทุกคนฟัง สิ่งที่เกดิ ขึ้นในบา้ นหลงั นี้มนั อาจจะดธู รรมดาแต่ฉันวา่ มันคอื ทีส่ ุดแลว้ สำ� หรับฉัน และครอบครวั มนั เป็นความสขุ ทบี่ อกไมถ่ กู เปน็ ความสขุ ที่หาจากไหนไม่ไดเ้ ลย หมบู่ ้านท่ีฉนั อาศัยอยู่คือ “บ้านปา่ หวา้ ” ตำ� บลขนุ ตดั หวาย มี ๙ หมบู่ า้ น ซง่ึ บ้าน ของฉนั อยหู่ มทู่ ี่ ๘ ตำ� บลขนุ ตดั หวายปรากฏอยใู่ นพงศาวดารภาคท่ี ๑๕ สมยั อาณาจกั รศรวี ชิ ยั ต่อมาไดม้ กี ารทำ� สงครามกับมลายู ถกู ชนชาตมิ ลายูยกทพั ชิงเมืองชยั สมรภูมิของเมืองจะนะ ซงึ่ ตง้ั อยบู่ า้ นวงั โต้ เนอ่ื งจากเมอื งวงั โตไ้ มเ่ หมาะในการตงั้ รบั ศกึ จงึ ไดย้ า้ ยเมอื งมาตง้ั ทปี่ า่ ละไม ขณะนั้นท่านขนุ (ชอื่ เรยี กตามศกั ดินา) มชี า้ งพงั คู่บารมี๑เชือก ช่ือพญา ท่านไดม้ าทน่ี ่ีกบั ชา้ ง เชือกน้ัน ช้างนาม พญา ของทา่ นไดเ้ สยี ชีวิตลงบรเิ วณเนินสูง ซงึ่ ปัจจุบันเรยี กวา่ โคกนางพญา ต่อมาทา่ นขนุ ได้ไปตดั หวายเพอื่ น�ำมาทำ� เครอื่ งใช้สอยบรเิ วณแอ่งน�ำ้ จึงพลาดตกน�ำ้ เสียชีวติ ตัง้ แตน่ ้นั ชาวบ้านจึงเรยี ก “ขุนตดั หวาย” ซ่งึ ตอนท่ีท่านเสียชีวิตกย็ งั มีตน้ หวายข้ึนอยู่ แตไ่ ม่มี ใครกล้าไปตัด บางสว่ นก็เพราะใหเ้ กยี รติทา่ น บางส่วนก็ไม่กลา้ ฉันโตมากับที่น่ี โตมากับสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ เม่ือก่อนที่น่ีค่อนข้างจะ ล�ำบาก การคมนาคมของทน่ี ี่ส่วนใหญ่แลว้ คือการเดินบนคนั นา รถราไมค่ อ่ ยจะมี มีบา้ งกแ็ ค่ จกั รยานธรรมดาๆ เกา่ ๆ ท่ีรวมๆ ทัง้ หม่บู า้ นแลว้ มไี ม่ถึง ๕ คัน บรรยากาศของทน่ี ี่ดมี ากๆ กลิ่นควันรถไม่ค่อยมี เสียงรบกวนที่ดังท่ีสุดของที่น่ีก็คงจะเป็นแค่เสียงหมาเห่า (ฉันเป็น อสิ ลามแตห่ มบู่ า้ นอยตู่ ดิ กบั คนพทุ ธ) ทนี่ มี่ แี คเ่ สยี งนกรอ้ ง เสยี งไก่ เสยี งเปด็ ทคี่ นละแวกนเ้ี ลย้ี ง 96 วนั ที่ความรักผลบิ าน ณ บ้านแหง่ เรา
เป็นหมู่บ้านที่มีความพออยู่พอกิน ฉันท์พี่ฉันท์น้อง คนส่วนใหญ่ท�ำไร่ท�ำนา เพราะโดน ปลูกฝังมากับการท�ำนา สืบทอดส่ิงที่คนรุ่นก่อนเคยท�ำ รอบๆ บริเวณถนนก็มีต้นข้าวเต็ม ไปหมด แลว้ แตฤ่ ดกู าลในการท�ำนา จำ� ได้ว่าตอนเด็กๆ ชว่ งฤดูฝนเคยเดนิ ตามแม่ไปท่นี าขา้ ว ตอนนนั้ อยูใ่ นชว่ งการดำ� นา ฉนั ชอบชว่ งน้ที ี่สุดแลว้ เพราะอยากเล่นนำ้� แมจ้ ะเปน็ แคน่ ำ�้ โคลน ฉันแข่งจับปลากับพ่ีชาย ในขณะที่แม่ของฉันก�ำลังปักต้นกล้า จ�ำได้ว่าวันน้ันพ่ีชายได้ ปลาชอ่ นใหญ่ ๒ ตวั ตา่ งกบั ฉนั ทไี่ มไ่ ดอ้ ะไรเลย นอกจากความสนกุ และความสขุ จากการเลน่ นำ้� เยน็ วนั นีพ้ ่อยา่ งปลาช่อนที่พี่ชายไดม้ าให้ทุกคนในบา้ นกิน ซง่ึ มนั เปน็ ของโปรดของปทู่ ่ีนานๆ จะได้ลิ้มรสกับมัน ความทรงจ�ำตามแบบฉบับเด็กบ้านนอกๆ อย่างฉันมีมากมายกับแผ่น ดินน้ี แต่ตอนนี้ท่ีนี่เจริญขึ้น ทุกๆ บ้านมีรถขับ ถนนก็ได้รับการพัฒนาท�ำให้การคมนาคม ดีขึ้นกว่าก่อนมาก ชาวบ้านที่น่ีรักกันเหมือนเป็นพ่ีน้องแท้ๆ มีอะไรก็แบ่งปันกันตลอด เวลามีการจัดงาน ไม่ว่าจะเป็นงานขึ้นบ้านใหม่หรืองานแต่ง ทุกๆ คนก็จะไปช่วยกันเสมอ ไม่เคยร้องขอหาสิ่งตอบแทน ในวันฮารีรายอทุกคนในหมู่บ้านจะท�ำกับข้าวไปกินพร้อมกันที่ มสั ยดิ ช่วงกลางคนื กม็ าป้งิ ย่างกันที่ศาลาหม่บู ้าน มีนำ้� ใจตอ่ กนั ไมห่ ยงิ่ คนรวยแบ่งปนั คนจน เสมอ ไม่โออ้ วด มีความสามัคคี ช่วยเหลอื กันเท่าท่ีสามารถจะชว่ ยได้ ไมม่ ีการแบง่ ชนชัน้ กนั มีรอยยม้ิ ทเี่ ต็มเปี่ยมไปดว้ ยความจริงใจใหก้ นั เสมอ ที่นี่อาจเป็นแค่เขตพื้นท่ีธรรมดาๆ ท่ีไม่ค่อยมีคนรู้จัก ไม่มีจุดเด่น ไม่มีสถานที่ ท่องเที่ยว ไม่ใช่ที่ที่คนนอกอยากมา แต่ส�ำหรับฉันมันกลับกลายเป็นที่ท่ีฉันอยากกลับไปหา เพราะฉันเปน็ เด็กหอ นานๆ ทีจะไดก้ ลับบ้าน ฉันอยากไปอย่กู บั ธรรมชาตแิ ละความธรรมดา เหล่าน้ี ฉันไม่อาจรู้ได้ว่าความสุขของทุกๆ คนคืออะไร จะเป็นแบบฉันหรือหรูหรากว่าฉัน แตถ่ า้ ใหฉ้ นั เลอื กระหวา่ งการอยเู่ ปน็ เดก็ บา้ นนอกแบบนกี้ บั การอยใู่ นเมอื ง ฉนั กย็ งั ยนื ยนั คำ� เดมิ วา่ ฉนั จะเลอื กทนี่ ี่ อยทู่ น่ี ี่ ใชช้ วี ติ เรยี บงา่ ยอยทู่ น่ี เี่ หมอื นเดมิ ฉนั ไมร่ วู้ า่ ในเมอื งมนั มคี วามสขุ ยงั ไง จะสุขเท่าที่แห่งน้ีไหม ฉันเคยไปก็ได้รับแต่ความวุ่นวาย ฉันรักที่ของฉัน รักแผ่นดินของฉัน รักท่ีน่ี รักคนท่ีน่ี รักทุกอย่างที่เป็นท่ีนี่ เพราะมันคือความสุขของฉันท่ีหาจากที่ไหนไม่ได้อีก มันเป็นความสุขที่ต่อให้มีเงินเป็นล้านก็ซ้ือมาไม่ได้ มันคือความสุขของฉัน และฉันก็เรียก มนั ว่า “ความสุข” เรื่องเล่าจากบา้ นเรา 97
ถิ่นน้ี ท่รี ัก นางสาวนัจมา กโู น โรงเรยี นตนั หยงมสั จงั หวัดนราธวิ าส ฉนั ลืมตาตืน่ ข้นึ มาอยา่ งไมค่ อ่ ยสดชื่นเทา่ ไหร่นกั เมอ่ื ไดห้ ลับเพยี งแคส่ องช่ัวโมงเศษ มือข้างหน่งึ ของฉันหยบิ โทรศัพท์ท่วี างไวข้ ้างหมอนเพอ่ื กดดเู วลา พบว่าอกี คร่งึ ชัว่ โมงกจ็ ะหก โมงเช้าแล้ว ฉันลุกข้ึนอาบน้�ำแต่งตัว และเตรียมสัมภาระท่ีจ�ำเป็น เพ่ือหวังให้ทันกับเวลาที่ รถไฟจะออกในตอนหกโมงครง่ึ ฉนั ถงึ สถานรี ถไฟสไุ หงโก-ลก ดว้ ยระยะเวลาทเี่ ฉยี ดฉวิ พรอ้ มกบั เรง่ ฝเี ทา้ ตวั เองเพอื่ ไปซอ้ื ต๋วั โดยสารอย่างรวดเรว็ “ตันหยงมัสค่ะ” ฉันบอกเจ้าที่ขายต๋ัวเม่ือจัดการเรื่องต๋ัวเสร็จสรรพ จึงรีบวิ่งข้ึน รถไฟไปจบั จองท่นี ัง่ ทันที วันน้ีเป็นวันท่ีโรงเรียนของฉันได้มีการจัดทัศนศึกษา พานักเรียนสายชั้น ม.๕ ไปเที่ยวนอกสถานที่ โดยมีจุดหมายปลายทางคือ อ.สุคิริน ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดนราธิวาสนี่ แหละ หากพูดถงึ เรื่องเสน้ ทาง อันทจ่ี ริงสามารถนั่งรถยนตจ์ ากสไุ หงโก-ลก ไปสุคริ นิ เลยก็ได้ โดยจะต้องผา่ น อ.แวง้ แต่พ่อของฉันทา่ นไมย่ อมไปสง่ ฉันจึงต้องเลือกนั่งรถไฟไปขน้ึ รถสอง แถวพรอ้ มกบั คณุ ครแู ละเพอ่ื นๆ ทต่ี นั หยงมสั โดยคนขบั จะใชอ้ กี เสน้ ทางหนงึ่ ใชเ้ วลาประมาณ หนง่ึ ชว่ั โมง และเปน็ เสน้ ทางทปี่ ลอดภยั กวา่ ทางของ อ.แวง้ เพราะไมม่ ภี เู ขาสงู ชนั หากยอ้ นถงึ สาเหตทุ พี่ อ่ ไมย่ อมไปสง่ เนอื่ งจากพอ่ อยากสอนใหฉ้ นั หาประสบการณใ์ นการเดนิ ทางรว่ มกบั คณุ ครแู ละเพอ่ื นๆ พอ่ บอกวา่ ประสบการณน์ นั้ ไมไ่ ดอ้ ยทู่ จ่ี ดุ หมายปลายทางทเี่ ราจะไปเทา่ นนั้ แต่มนั เร่ิมตัง้ แต่การคิดและการวางแผนรว่ มกัน 98 วนั ท่คี วามรักผลบิ าน ณ บา้ นแหง่ เรา
รถสองแถวสองคนั ขบั พาพวกเราไปถงึ อ. สคุ ริ นิ และขบั ตอ่ ไปอกี ประมาณยส่ี บิ นาที ไปยังโฮมสเตย์เล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนเขา ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถฉันเหลือบเห็นป้ายตรง ทางเข้าเขียนว่า นาบันได โฮมสเตย์ บ้านยาเด๊ะ (ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส) พวกเรา แวะพกั ตรงจดุ ที่เขาเตรยี มไวใ้ ห้ รบั ประทานอาหารวา่ งจนเสรจ็ สน้ิ จากน้นั กเ็ ตรยี มตัวไปลอ่ ง แก่ง ซึง่ เปน็ กจิ กรรมแรกทวี่ างไว้ในกำ� หนดการ โดยมรี ถกระบะมารบั เพ่ือไปยังจุดลอ่ งแก่ง ฉันต่ืนเต้นมากๆ เพราะพวกเราไม่ไดน้ ัง่ หากแตย่ นื บนรถกระบะในสภาพทีฉ่ ันเองกห็ ันไปพดู กบั เพอื่ นขา้ งๆ วา่ รถคนั นคี้ ลา้ ยกบั รถบรรทกุ ววั เลย เพราะมนั มรี าวเหลก็ ทำ� ใหฉ้ นั จนิ ตนาการ ไปเช่นนนั้ เมื่อถึงจดุ ที่ลอ่ งแก่ง เพื่อนๆ เริม่ จบั คู่กนั โดยเรือหนง่ึ ล�ำต่อสองคน ฉันหนั ไปมอง เพอ่ื นข้างๆ ทพี่ ายเรือไมเ่ ป็น และในความเป็นจรงิ แลว้ ฉันเองกพ็ ายเรือไมเ่ ปน็ เช่นกนั ฉนั ตะโกนบอกคณุ ครวู า่ “คณุ ครคู ะ หนพู ายเรือไมเ่ ป็นคะ่ ” “พายไมเ่ ปน็ กต็ อ้ งฝกึ หรอื ถา้ ไมอ่ ยากพายกใ็ หไ้ ปนงั่ กบั สตาฟ” และนค่ี อื สง่ิ ทค่ี ณุ ครู ตอบกลับมา ฉันรีบตัดสินใจโดยหันไปบอกเพ่ือนว่าฉันจะขอพายเอง แต่เพ่ือนก็ส่ายหน้าและ ไม่ยอมฝากชีวิตไว้กับฉัน ด้วยเหตุผลท่ีว่ากลัวเรือจะล่ม จนเกิดการเปล่ียนตัวเพ่ือนนั่งเรือ ด้วยกะทนั หนั เม่ือทุกอย่างลงตัวแล้ว เรือเร่ิมออก ฉันที่น่ังอยู่ข้างหน้ากับเพื่อนท่ีนั่งอยู่ข้างหลัง กช็ ว่ ยกนั พาย วนิ าทที ไ่ี ดช้ มบรรยากาศของปา่ รอบขา้ ง พบปะกบั สตั วท์ อ่ี ยตู่ ามธรรมชาติ ทำ� ให้ ฉนั เกดิ ความรสู้ กึ ทส่ี ดชน่ื อยา่ งมาก เมอ่ื พายกนั จนถงึ จดุ ทนี่ ำ�้ เชย่ี วกม็ ตี วั เงนิ ตวั ทองมาทกั ทาย มันแลบลนิ้ ใสฉ่ ันกับเพ่ือนดว้ ย ด้วยระยะทางที่ไกลกว่าจะถึงฝั่ง ได้มีการหยุดพักเพ่ือเล่นน้�ำบ้าง และท้ายที่สุด ท่ีนับว่าฉันภูมิใจในตัวเองมาก คือฉันที่พายเรือไม่เป็น แต่กลับพายไปถึงฝั่งด้วยระยะทาง ถึงเจ็ดกิโล ฉันงงตัวเองมากว่าเอาแรงมาจากไหน ในขณะที่เพื่อนที่นั่งมาด้วย ต้องย้ายไป น่ังเรืออีกล�ำอย่างกะทันหันในตอนระหว่างทางเนื่องด้วยพายไม่ไหว เมื่อถึงฝั่งสตาฟท่ีรออยู่ หลายคนเรม่ิ แกล้งคว�ำ่ เรอื ฉันตะโกนบอกใหห้ ยุดไปกเ็ สียเปล่า เพราะในทส่ี ดุ ก็ถึงคิวเรอื ของ ฉนั โดนควำ�่ จนได้ มนั เปน็ ความตกใจทฉ่ี นั รสู้ กึ สนกุ ทส่ี ดุ เลยแหละ จากนน้ั พวกเราทง้ั หมดกข็ น้ึ เรอ่ื งเล่าจากบ้านเรา 99
รถกระบะคนั เดมิ เพอ่ื ไปกลบั ไปยงั ทพี่ กั และพกั ผอ่ นตามอธั ยาศยั ในชว่ งของตอนเยน็ พวกเรา ต่างช่วยกันจัดเตรียมอุปกรณ์ปิ้งย่างเพื่อท�ำอาหารเย็น บางส่วนก็ออกไปเดินเล่นชมวิว ถ่ายรูปบ้าง มีการเล่นเกมสันทนาการระหว่างคุณครูและนักเรียนเล็กน้อยเม่ือรับประทาน อาหารเย็นเสรจ็ สนิ้ กไ็ ด้แยกย้ายกันเข้านอน เช้าวันต่อมาพวกเราตน่ื อาบน้ำ� แตง่ ตัวกันต้ังแตต่ สี ามครึง่ เพอ่ื จะไปชมทะเลหมอก ทผ่ี านบั ดาว รถสองแถวเริม่ ออกตัง้ แตเ่ วลาตีส่ีคร่งึ และแวะให้พวกเราละหมาดที่มสั ยิดระหวา่ ง ทาง อีกทั้งทางท่ีจะข้ึนผานับดาวค่อนข้างชันและต้องขึ้นไปบนเขา เลยต้องมีการเปล่ียนรถ พวกเราย้ายไปนง่ั รถโฟรว์ ลี ทีม่ าจอดรอรบั อยแู่ ลว้ จากนน้ั เมอ่ื ละหมาดเสรจ็ ก็ไดอ้ อกเดนิ ทาง ในตอนทรี่ ถก�ำลงั เคล่อื นพาพวกเราข้ึนไปบนเขา ฉันกบั เพอ่ื นๆ รับรูถ้ ึงความรสู้ กึ ที่ ตนื่ เตน้ ถงึ แมว้ า่ ยงั มองเหน็ เสน้ ทางทไ่ี มช่ ดั เทา่ ไหร่ เพราะความมดื ของทอ้ งฟา้ ยงั คงปกคลมุ อยู่ พวกเรามาถงึ จดุ ทร่ี ถจอด โดยคนขบั และสตาฟทพี่ าเทย่ี วบอกวา่ ตอ้ งเดนิ ขนึ้ ไปเองอกี ประมาณ หนงึ่ ร้อยเมตร และเน่ืองดว้ ยมนั เปน็ เนนิ ที่สูง เวลาเดินกก็ ลัวมากๆ เพราะหากทรงตัวไมด่ กี ็ อาจจะไถลลืน่ ลงมาได้ ในระหวา่ งทางถงึ จดุ ท่ตี อ้ งมกี ารไตเ่ ชอื กบา้ ง บางคร้งั ก็เกือบจะล่ืนลม้ แตก่ ็มีพ่ีสตาฟคอยชว่ ยเหลอื ใหเ้ กาะแขนบ้าง สว่ นตัวฉันเปน็ คนทชี่ อบภูเขาอยู่แล้ว และนี่ก็ เป็นอกี หนึ่งเหตผุ ลท่ฉี ันไมป่ ฏเิ สธการมารว่ มทรปิ กบั คณุ ครแู ละเพ่อื นๆ ในคร้ังน้ี ‘เรายังจะพยายามไปให้ถึงฝั่งฝันอยู่ไหม หากทางท่ีก�ำลังเดินอยู่นั้นแสนจะ ล�ำบาก และทรหด’ เป็นค�ำถามที่ผุดขึ้นในใจของฉันในยามที่ก�ำลังไต่เชือกข้ึนเขาด้วยความ เหนด็ เหนอื่ ย และแลว้ เรากถ็ งึ บนจดุ สงู สดุ ของผาจนได้ ฉนั คน้ พบคำ� ตอบบางอยา่ งของคำ� ถาม ทอ่ี ยใู่ นใจเมอ่ื ครแู่ ลว้ แหละ ตอ้ งผา่ นความยากลำ� บากกอ่ นเสมอ ถงึ จะเจอความสวยงาม เพราะ ภาพทฉี่ นั เหน็ อยตู่ รงหนา้ ววิ ทิวทัศนท์ สี่ วยงามมาก มหี มอกปกคลมุ แสงของตะวนั เริม่ สาด ส่องขน้ึ เรื่อยๆ เปน็ การต้อนรับวันใหมท่ ด่ี ีมากจริงๆ พวกเรารอชมพระอาทติ ยข์ นึ้ ในยามเชา้ พรอ้ มๆ กนั และถา่ ยรปู เกบ็ ไว้ กอ่ นจะลงมา ในตอนท่ีไต่เชือกลงนั้นไม่ล�ำบากเหมือนตอนขึ้นมาเท่าไหร่นัก และในตอนท่ีจะกลับไปยัง จุดเปล่ียนรถนีแ่ หละทำ� ใหฉ้ ันได้เหน็ ถึงเสน้ ทางทเี่ ราข้นึ มาได้อย่างชดั เจน 100 วันทคี่ วามรกั ผลิบาน ณ บา้ นแหง่ เรา
พวกเราย้ายตัวเองกลับมาน่ังรถสองแถวเช่นเดิม เพ่ือไปยัง ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งมีชื่อว่า “ตน้ กะพงษย์ กั ษ”์ ความใหญข่ องมนั คอื เทา่ กบั ยสี่ บิ เจด็ คนโอบ โดยทางผา่ นกอ่ นจะไปพบกบั ตน้ ไมใ่ หญน่ นั้ เราไดพ้ บกบั เนนิ พศิ วงของทน่ี ี่ มคี นในละแวกนนั้ เขา้ มาใหอ้ ธบิ ายใหพ้ วกเราได้ ฟงั พวกเราเดนิ เข้าไปในป่า และไดโ้ อบกอดตน้ กะพงยกั ษส์ ามสิบสคี่ น เม่ือเสร็จสิ้นภารกิจตรงน้ีแล้ว ก็ได้ออกเดินทางต่อไปยังน�้ำตกไอร์บอง กิจกรรมท่ี น�ำ้ ตกมีการเฉลยบดั ด้-ี บัดเดอร์ ท่ีไดจ้ บั ฉลากลว่ งหนา้ มาแลว้ โดยมีแปง้ ทาหน้า เป็นส่วนหนง่ึ ของกิจกรรม พวกเราเฉลยกันอย่างสนุกสนานรวมกันกับความสะใจ เม่ือได้แกล้งประแป้ง คนทตี่ ัวเองจับได้ พวกเราเลน่ น้ำ� ตก และรบั ประทานอาหารเท่ียง จนเวลาที่ต้องกลบั ท่ีพกั ก็ มาถงึ พวกเราได้กลบั ไปยงั ท่พี ักเพื่อเตรียมตัวเก็บสัมภาระเตรยี มกลับโรงเรยี น ไดม้ โี อกาสลา พี่ๆ สตาฟท่ีคอยช่วยดูแลตลอดสองวันหน่ึงคืนท่ีผ่านมา พร้อมบอกไว้ว่าถ้ามีโอกาสพวกเรา จะกลับมาท่ีนีอ่ ีก เร่ิมออกจากตัว อ.สุคิริน ในเวลาบ่ายสามโมงสี่สิบนาที ฉันค่อนข้างจะกังวลว่า จะทนั กบั เวลารถไฟทตี่ นั หยงมสั ซง่ึ เปน็ ขบวนสดุ ทา้ ยทจ่ี ะกลบั ไปยงั สไุ หงโก-ลก คนขบั รถกข็ บั ซงิ่ อยา่ งเตม็ ที่ เพอ่ื ใหฉ้ นั ถงึ ทนั เวลา ถงึ ขน้ั ทว่ี า่ ใชท้ างลดั เพอื่ ใหเ้ รว็ กวา่ เดมิ แตไ่ มม่ อี ะไรจะเปน็ ไปตามทใี่ จหวงั เสยี หมดซะทเี ดยี ว ในชวี ติ คนเรามกั จะตอ้ งเตรยี มตวั แกป้ ญั หาในสงิ่ ทไ่ี มไ่ ดเ้ ปน็ ไปตามแผนทวี่ างไวเ้ สมอ ผลปรากฏวา่ ฉนั คลาดกบั รถไฟขบวนสดุ ทา้ ยไปเพยี งแคส่ บิ นาทกี วา่ ๆ เท่านั้น ฉันตัดสินใจเลือกติดรถเพ่ือนไปอ.เจาะไอร้อง เพราะหวังจะไปบ้านญาติและรอพ่อ ไปรับที่น่ัน โดยขอติดรถของเพื่อนไป ฉันกล่าวขอบคุณคนขับรถและรู้สึกดีใจท่ีมาถึงไม่ทัน เพราะมนั ได้ฝกึ ใหฉ้ ันแก้ไขปญั หาเฉพาะหนา้ ฉันได้ไปนั่งรอพ่อที่บ้านญาติ ณ บ้านยานิง (ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส) ท่ีนี่ยังคงเหมือนเดิมหลังจากท่ีฉันไม่ได้กลับมาเย่ียมเยียนได้ราวปีกว่า จ�ำได้ว่าเมื่อก่อน เคยมาปั่นจักรยานยามเช้า กินข้าวราดแกงสูตรของคนท่ีนี่และมันยังเป็นส่ิงท่ีฉันชอบที่สุด เพราะได้เห็นภาพความเป็นอยู่ของผู้คนท่ีนี่ มีคนเฒ่าคนแก่ปั่นจักรยานมาจิบน้�ำชา ยามเชา้ และฉนั กย็ งั เคยไดเ้ ลน่ นำ�้ คลองใตส้ ะพาน กบั ญาตๆิ อกี ดว้ ย นำ้� ทนี่ ใ่ี สมากๆ เลยแหละ ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นมักจะชอบมาตักน�้ำเพ่ือน�ำไปซักผ้ากัน บ้างก็มาอาบน�้ำท่ีน่ี เพราะกระแสน้�ำไหลพัดผา่ นตลอด เรือ่ งเลา่ จากบ้านเรา 101
ฉันกลับมาทบทวนถึงมนต์เสน่ห์ของนราธิวาส ฉันคือผู้เขียนเร่ืองเด็กหญิง กลบั ถน่ิ ทไี่ ดเ้ คยเขยี นเลา่ เรอ่ื งราวของการตอ้ งพลดั ไปอยตู่ า่ งถนิ่ และตอ้ งกลบั มาใชช้ วี ติ ในถน่ิ บา้ นเกดิ ของตนเองอกี ครง้ั ฉนั เคยตงั้ ปณธิ านกบั ตวั เองไวว้ า่ ในระยะเวลาสามปขี องการอยทู่ นี่ ่ี ฉันอยากที่จะรู้จักนราธิวาสให้มากขึ้น และตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปเย่ียมเยียนทั้งสิบสามอ�ำเภอ ใหห้ มด กอ่ นทต่ี วั ฉนั เองจะตอ้ งยา้ ยไปอยทู่ อ่ี น่ื และในแตล่ ะทย่ี งั มสี ง่ิ ทนี่ า่ ประทบั ใจอกี มากมาย ท่ีรอใหฉ้ นั ไปเย่ยี มชม การกลับมาของฉันเนื่องด้วยเป็นการก�ำหนดของพระผู้เป็นเจ้า ความรู้สึกที่ เริ่มก่อตัวขึ้นเร่ือยๆ ภายในหัวใจโดยท่ีฉันเองก็ไม่รู้ตัวว่าเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ มันสร้างให้ฉันมี ความรสู้ ึกรกั ในบา้ นเกิดของตนเอง หากวนั ใดทฉ่ี นั ต้องไปในท่ีทไี่ กลแสนไกล ฉันจะเก็บทุกความรู้สึก ภาพความทรงจ�ำ ผู้คน วัฒนธรรม อาหาร และ บรรยากาศของที่น้ีเอาไว้ ยากแกก่ ารจะลมื เลือน เพราะที่น่คี อื ถนิ่ น้ีที่ฉันรกั 102 วันทคี่ วามรักผลิบาน ณ บา้ นแห่งเรา
ระดบั อุดมศกึ ษาและประชาชนท่วั ไป
กัลยาณมิตรแหง่ ปลายดา้ มขวาน นายมฮู มั มดั เจะ๊ เลาะ จงั หวัดยะลา ดวงอาทิตย์ ณ ยามสายณั ห์ทอแสงเหลืองทองอรา่ มกระจ่างฟ้า สาดสอ่ งลงตดั เงา บนทิวเขาลาดชันสลับซับซ้อน ซ่ึงทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตาอยู่เบื้องล่าง จากมุมมองบน ยอดเขาสูงแห่งหนึ่งในอ�ำเภอธารโต จังหวัดยะลา ชวนหลงใหลพาใจเขาให้ล่องลอยไปตาม สายลมกระซิบโชยแผ่วเบาท่ีข้างหู ทันใดน้ัน!!! เสียงระเบิดตูมสนั่นดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เขาสะดุ้ง!!! ไก่ป่าลูกผสมสีประดู่จอมขยันโก่งคอตะเบ็งขันสู้เสียงท้าทายของไก่ป่าตัวอื่นๆ ท่ียืนคอนเรียงรายอีกนับสิบราวกับรู้หน้าท่ีว่าวันน้ีพวกมันต้องซิวรางวัลใหญ่ให้ผู้เป็นเจ้าของ ได้ช่ืนใจเพื่อแลกกับเมล็ดข้าวโพดบดคลุกข้าวเปลือกสุดโปรดเป็นอาหารเย็น...แต่แล้ว!!! พวกมันร่วงหล่นตกคอนนอนตายเกลื่อน ดวงตาของเขาสอดส่ายถี่ยิบภายใต้เปลือกตาที่ ยงั คงปดิ สนทิ อยู่ รมิ ฝปี ากทเ่ี บเ้ บยี้ วบดิ ใบหนา้ สะเทอื นอารมณส์ ดุ ระสำ�่ ของเขาไปมา พระสงฆ์ รูปน้ันซึ่งก�ำลังบิณฑบาตอยู่ริมถนนได้ยกสายตาที่ทอดต�่ำมาสบประสานสายตาของ เขาด้วยสีหน้าแค้นเคืองแล้วยกปืนส้ันในมือข้ึนเล็งแสกหน้าพร้อมทั้งใช้น้ิวที่หยาบ กร้านลั่นไกอย่างไม่รอรี เสยี งปนื นดั นน้ั ดงั กอ้ งทำ� เอาเขาสะดงุ้ โหยงและยกมอื ทง้ั สองขา้ ง มากุมศีรษะแล้วลูบๆ คล�ำๆ หาคราบเลือดจากรูกลวงกลางหน้าผาก เสียงหายใจฟืดฟาด ไล่ส่งความเงียบไม่สงัดแห่งค�่ำคืนของเรือนนอนนักโทษในคุกแห่งหน่ึงในพื้นท่ีสามจังหวัด ชายแดนภาคใต้ซ่ึงอัดแน่นไปด้วยนักโทษชายหลายสิบนายไว้ด้วยกัน เขาถอนหายใจยาว อีกคร้ังก่อนที่จะยอมให้ความความเงียบท่ีทุกอณูถูกแทรกซึมไปด้วยไออากาศอุณหภูมิค่อน ข้างสูงของค�่ำคืนน้ีกลับมาปกคลุมความมืดอีกคร้ัง เป็นเวลาร่วมสองเดือนแล้วที่พญามารแห่งความฝันร้ายได้ออกอาละวาดและ ท�ำร้ายเด็กวัยรุ่นตอนปลายอย่างนักโทษชายอุสมานแทบจะทุกคร้ังท่ีเขาพยายามข่มตา เพ่ือให้ได้หลับนอน มนั ตามมาหลอกหลอนอยา่ งไม่ลดละตงั้ แต่เขายังถูกคมุ ขัง ณ แดนแรก รบั แลว้ แตเ่ ขากม็ อี าวธุ มหากาฬทส่ี ามารถเอาชนะมนั ไดท้ กุ ครงั้ นน่ั กค็ อื ลมหายใจฟดื ฟาดยาม ดึกซ่งึ มักจะทงิ้ ร่องรอยการใชไ้ วบ้ นขอบตาของเขาในวนั ถดั ไปเสมอ 106 วนั ทีค่ วามรกั ผลบิ าน ณ บ้านแห่งเรา
ภาพวาดประกอบเร่อื ง เรอื่ งเลา่ จากบา้ นเรา 107
“อย่าท�ำเสียงดังรบกวนคนอื่นไอ้น้อง ถ้าไม่อยากถูกเสยคางด้วยเท้าหลัง แถวนี้มีหลายตีนนะ!!!” เสยี งทุ้มใหญฟ่ ังดูเกรยี้ วกราดของชายวยั กลางคนที่นอนทอดร่างหา่ ง จากเขาไม่ถึงครึ่งศอก แหวกผ่านความมืดมาข่มขู่เขาถึงข้างใบหู เสียงน้ันท�ำให้เขาอยากรีบ มดุ กลบั ไปขนึ้ สงั เวยี นตอ่ กรกบั พญามารอกี ครงั้ โดยพลนั แตท่ วา่ ...เมอ่ื ตน่ื แลว้ สง่ิ ทเ่ี ขารดู้ กี ค็ อื พญามารจะไมม่ าระรานเขาอกี หลายชวั่ โมง เนอ่ื งจากสมองชา่ งคดิ จะพาเขาโลดแลน่ ไปยงั ทตี่ า่ งๆ ผา่ นเหตุการณร์ า้ ยดีเรอ่ื ยเป่ือยแม้วา่ ใจของเขาไมไ่ ด้เรยี กรอ้ งเลยสักนิดกต็ าม เรือนนอนของเรือนจ�ำแดนน้ีคุมขังนักโทษไว้หลายร้อยชีวิต มันเป็นครูที่แสนโหด ร้ายส�ำหรับทุกคนโดยเฉพาะนักเรียนใหม่นอกแถวอย่างเขา เขาไม่มีทางเลือกใดนอกจาก จ�ำต้องลงทะเบียนร่�ำเรียนและตั้งตารอคอยวันเวลาให้ผ่านไปเท่าน้ัน ถ้าโชคดีเขาอาจจะใช้ ความประพฤตดิ ที เ่ี ขาเคยมมี าลดหยอ่ นจำ� นวนปที ถ่ี กู ตดั สนิ ใหถ้ กู จองจำ� ไดบ้ า้ งละ่ ไดช้ ว่ ยงาน อยู่ในแดนสบายๆ บ้างล่ะ...กไ็ ดแ้ ต่หวงั !!! เขาไม่ชอบอะไรเลยท่ีนี่ “กน็ ี่มนั เรยี กว่าคกุ นีน่ ะ!!!” เขาบน่ พลนั ถอนใจเฮอื กยาวอยา่ งแผว่ เบาเนอื่ งดว้ ยเกรงจะระคายบาทาของชายเสยี งหา้ วขา้ งๆ เขาไม่ชอบความรู้สึกเครียด เศร้า หดหู่ หวาดกลัว หวาดระแวง สับสน และ อีกสารพัดความรู้สึกสุดแสนจะย่�ำแย่ที่ประเดประดังเข้าถาโถมรุมเร้าหัวใจน้อยเดียงสาของ เขา จนมนั บบี เคน้ นำ้� ตาออกมาผา่ นสหี นา้ เรยี บเฉยในวนั แรกทเ่ี ขากา้ วเขา้ มายงั ขมุ นรกแหง่ น้ี อาหารทีน่ ี่ก็เหมอื นจะจงใจส่ังสอนให้เขาไดซ้ าบซึ้งกบั คำ� วา่ “กนิ เพอ่ื อย”ู่ นนั้ เป็น อย่างไร เขาขยาดกับห้องส้วมท่ีมีผนังก้ันเฉพาะด้านหลังและด้านข้างที่สูงแค่ราวครึ่งเมตร เท่าน้ัน ซ�้ำด้านหน้าก็ยังเปิดโล่งเหมือนจะจงใจเปิดเผยเรื่องราวสี่มิติที่ก�ำลังด�ำเนินไปในนั้น ให้โลกภายนอกได้รับรู้ อีกทง้ั ยงั เชญิ ชวนสายตาบรรดานักโทษด้วยกนั หรอื ท่ชี าว น.ช. เรียก มันวา่ “บอ็ กซ์” (บางแห่งเรยี กวา่ ซอง) กบั ความสดุ แสนจะสกปรกของมนั จนท�ำใหเ้ ขาอดท่ี จะสบถไมไ่ ดว้ ่า “ถา้ ออกไปไดก้ จู ะไม่มาเหยยี บทนี่ ี่อีก!!!” มันเป็นบทลงโทษแรกๆ ท่ีหนักหน่วงโดยเฉพาะกับนักโทษป้ายแดงที่เมื่ออยู่ไปก็ จะพบว่าไม่มีทางเลือกอื่น เขารับไม่ได้ที่จะต้องอยู่ร่วมกับ น.ช. ร่วมแดนท่ีชอบท�ำตัวเป็น อันธพาล และหลายคนก็เป็นมุสลมิ ทหี่ ยอ่ นยาน บางคนกเ็ กบ็ สว่ ยอาหาร บุหร่ี ขนมปงั จาก น.ช. ทอ่ี อ่ นแอกวา่ ทสี่ ำ� คญั เขาเกลยี ดการอยรู่ ว่ มกนั น.ช. ตา่ งศาสนกิ ทเี่ ขาไมถ่ กู จรติ มาตง้ั แต่ สมัยเรียนปอเนาะ และได้รับรู้ถึงประวัติศาสตร์รัฐปัตตานีซึ่งชาวมุสลิมถูกกดขี่ในอดีตจาก 108 วันทค่ี วามรกั ผลบิ าน ณ บ้านแหง่ เรา
“เปอรก์ าเดซ” ท่ีเขาใว้ใจแลว้ แตใ่ นคกุ แหง่ นอี้ สุ มานกย็ งั พอมเี รอื่ งดๆี อยบู่ า้ ง ไมม่ ใี ครรงั แกเขาไดเ้ ทา่ ไหรเ่ นอื่ งจาก พ่อของเขาซ่ึงเป็นโต๊ะอีหม่ามรู้จักขาใหญ่ในน้ีหลายคน ท�ำให้เขารอดจากการรับน้องใหม่มา ได้แบบหวุดหวิด ชาวพุทธในนี้ก็เถ่ือนน้อยกว่าท่ีเขาคิดไว้ อาจจะเป็นเพราะวีรกรรมท่ีเขา ก่อในวันนั้นได้ใจคนเหล่านี้อยู่บ้างก็เป็นได้ ท่ีน่าจะถือว่าเป็นเร่ืองดีท่ีสุดส�ำหรับเขาก็เห็นจะ เปน็ การท่ีเขาจะได้ออกไปจากทนี่ ่กี ่อนใครอกี หลายคนเน่อื งจากศาลสั่งจ�ำคุกเขาแค่ ๕ ปกี ับ อีก ๖ เดอื นในคดคี วามมน่ั คงเท่านนั้ ซึ่งก็นอ้ ยกวา่ ทีเ่ ขาคาดไวเ้ ยอะ ในขณะท่ี น.ช. สว่ นใหญ่ โดนคดียาเสพติดอัตราโทษหลายปี แต่กับเวลาในนี้ที่ ๑ ชั่วโมงให้ความรู้สึกราวกับ ๑ วัน ๑ วนั ให้ความรู้สกึ ราวกับ ๑ สปั ดาห์ และ ๑ สปั ดาหก์ ใ็ หค้ วามร้สู กึ เสมือน ๑ เดอื นเชน่ นี้ ทำ� ให้ ณ ตอนนเี้ ขาเองก็ยงั นึกไม่ออกวา่ มนั จะแสนยาวนานสักเพยี งใด แต่สิ่งที่ท�ำให้เขาทน สภาพที่น่าเวทนาน้ีได้จนทุกวันน้ีก็คือก�ำลังใจจากโต๊ะอีหม่ามผู้เป็นพ่อซ่ึงแวะเวียนมา เย่ียมเยียนเขาเสมอ ถึงแม้ช่วงนี้ท่านจะไม่มาถ่ีเหมือนช่วงแรกๆ แล้วก็ตาม แม่ของเขาได้ กลับสู่ความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้านานมากแล้ว ท�ำให้ในชีวิตของเขาตอนน้ีมีแต่พ่อเพียง คนเดียว สว่ นเปอร์กาเดซนั้นหายหน้าไปต้ังแต่วันทเี่ กดิ เร่อื งแลว้ เปอร์กาเดซคือกลุ่มคนท่ีท�ำงานชักจูงความคิดเพ่ือสร้างมวลชนและกลุ่มผู้น�ำทาง จิตวิญญาณไว้ใช้ประโยชน์ในการสร้างความไม่สงบในพ้ืนที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้กับ อีก ๔ อ�ำเภอในจังหวัดสงขลา แต่บางคร้ังก็ไปยังพ้ืนที่อ่ืนอยู่เนืองนิตย์ คนเหล่าน้ีดูเป็นผู้มี ความรแู้ ละนา่ เชอื่ ถอื พวกเขาเขา้ มาตกี บั สนทิ อสุ มานตง้ั แตเ่ ขาอายุ ๑๒ ปี เพราะคณุ ลกั ษณะ ของเขาท่เี ฉลยี วฉลาดแตข่ าดประสบการณ์ มีความเป็นผนู้ �ำแต่ไม่แสดงออก กล้าไดก้ ลา้ เสยี แตไ่ มว่ วู่ าม และคณุ สมบตั เิ ดน่ อน่ื ๆ ของเขาทเี่ หมาะกบั การใชง้ าน คนกลมุ่ นใี้ ชน้ ทิ านและและ ค�ำสอนท่ีแปลงผิดเป็นถูกมาท�ำให้เขารู้สึกแปลกแยก รู้สึกว่าเขาและศาสนิกเดียวกับเขาถูก กดขเี่ อาเปรยี บ กอ่ นทจี่ ะสรปุ วา่ ดนิ แดนสามจงั หวดั ชายแดนภาคใตเ้ ปน็ ดนิ แดน “ฮาดรุ อลั บ”ี หรอื แผน่ ดนิ ทกี่ ดขแี่ ละขดั ขวางการประกอบศาสนกจิ ของมสุ ลมิ และเขาจะตอ้ งทำ� การ “จฮี ดั ” หรือสงครามศาสนาจนเป็นเหตุให้เขายอมร่วมลงมือก่อความไม่สงบหลายคร้ังก่อนจะกลาย มาเป็นนักโทษชายที่น่ี ในคุกที่นี่หรือที่ไหนๆ น.ช. ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ อย่างเคร่งครัด เร่อื งเลา่ จากบา้ นเรา 109
ไม่เช่นนั้นอาจจะตกนรกขุมท่ีลึกเข้าไปอีกได้โดยง่าย ทุกคนต้องต่ืน ๖.๐๐ น. แล้วแย่งกัน ทำ� กจิ วตั รประจำ� วนั เรอื่ งตน่ื นอนเชา้ ไมเ่ ปน็ ปญั หาสำ� หรบั เขาเนอ่ื งจากเขาตนื่ มาละหมาดแรก ของวนั กอ่ นเวลานอี้ ยแู่ ลว้ แตเ่ ขากต็ อ้ งรบี แปรงฟนั เขา้ บอ็ กซแ์ ละกต็ อ้ งร่ บี อาบนำ�้ เพราะเมอื่ หมดเวลา ลานอาบก็จะไมม่ นี ำ้� ใหอ้ าบอีกต่อไป ใครพลาดไปกว่าจะได้อาบอีกครง้ั ก็ต้องรอไป จนถงึ ช่วงเย็นกอ่ นเข้าเรือนนอน การอาบน้�ำท่ามกลางหมู่คนนับร้อยท่ีเบียดเสียดแย่งสายน้�ำไหลเอ่ือยโดยไม่มีการ แบ่งแยกคนปกติกับผู้ป่วยน้ัน น.ช. ทกุ คนต้องคอยระวงั โรคติดตอ่ กนั เอาเอง ดาวรา้ ยมา้ มดื “ตะมอย” เป็นชื่อที่ใช้เรียกแทนโรคหิดท่ีฮิตท่ีสุดในคุกแห่งนี้ มันมักจะขโมยซีนได้มากกว่า โรคตดิ ตอ่ ชนิดอ่ืน ดว้ ยจ�ำนวนนักโทษกบั จดุ บริการนำ�้ อาบทไ่ี ม่สมดลุ การอาบไมท่ นั แทบจะ เป็นเรื่องปกติของทนี่ ี่ ๗.๐๐ น. เป็นเวลาอาหารเช้าท่ีรสชาติมักจะเป็นมิตรต่อสุขภาพ กุ้งหน่ึงกิโลกรัม สามารถเสนอหน้ามาพร้อมกับผักทั้งไร่ได้เสมอ จากน้ันทุกคนจะไปเคารพธงชาติในเวลา ๘ นาฬิกาตรงและตามด้วยการฟังการอบรมจากเจ้าพนักงานก่อนที่จะแยกย้ายไปท�ำงาน ตามกองงานทีไ่ ด้รับมอบหมายเร่อื ยไปจนถึงเทย่ี งกพ็ กั รับประทานอาหารชีวจิตม้ือที่ ๒ ของ วนั แลว้ ทกุ คนก็จะกลับเข้ากองงานอีกครงั้ ในช่วงบ่ายเรอ่ื ยไปจนถึง ๑๕.๐๐ น. จึงจะเลกิ งาน และทำ� กจิ วตั รประจำ� วนั อกี ครงั้ หลงั จากนน้ั ถงึ จะเปน็ เวลารบั ประทานอาหารเยน็ และเตรยี ม ขึน้ เรือนนอนอีกครัง้ ในเวลา ๑๖.๐๐ น. ช่วงน้จี ะเป็นเวลาอสิ ระ เสยี งอึกทึกครกึ โครมจะเริม่ บรรเลงไปเรือ่ ยๆ และจะสงบลงอกี ครง้ั ในเวลา ๒๑.๐๐ น. ชีวิตของเขาดูแสนจะวุ่นว่ายเรง่ รีบอยู่ตลอดเวลาราวกับว่าเวลาติดปีกบินปรู๊ดปร๊าด แต่ทว่าในความรู้สึกของเขานั้นมันกลับ เดินทอดน่องย่องเหยาะชมนกชมไมเ้ ปน็ ทองไม่รู้ร้อนอย่อู ยา่ งน้ัน ระหว่างวันน้ันสิ่งท่ี น.ช. ทุกคนตั้งตารอคอยก็คือการได้พบญาติ พบทนาย ฯลฯ เหล่าน้ีล้วนเป็นโอกาสที่ผู้ต้องขังจะได้เดินออกไปสูดอากาศนอกกรอบสี่เหลี่ยมบ้าง แม้จะ เปน็ เพยี งความสขุ แสนสนั้ แตก่ เ็ ปน็ การผอ่ นคลายใหห้ ายเหงาไดด้ ยี ง่ิ นกั สำ� หรบั คนทม่ี แี ตค่ วาม เครง่ เครียดหดหู่อยูเ่ กอื บจะตลอดเวลา เขาโชคดีทย่ี ังมีพอ่ แวะเวียนมาเยยี่ มอยู่บา้ ง สงสารก็ แต่ น.ช. บางคนทีท่ ง้ั ชอ่ื แซแ่ ละรปู พรรณสณั ฐานได้จางหายไปจากความทรงจำ� ของลกู หลาน ญาตมิ ติ รนอกกำ� แพงรว้ั นนั้ ไปเสยี แลว้ แมไ้ ดก้ ลบั ออกไปกค็ งไมไ่ ดเ้ ปน็ ทย่ี นิ ดยี นิ รา้ ยของใครๆ 110 วนั ที่ความรกั ผลบิ าน ณ บ้านแห่งเรา
อีกต่อไป แต่คนเหลา่ นีส้ ว่ นใหญ่มกั จะไม่ไดอ้ อกไปในสภาพทย่ี งั มลี มหายใจ อนิจจงั !!! ชวี ติ ไรค้ า่ เชน่ นี้เป็นชวี ติ ท่เี ลือกไมไ่ ดห้ รอื เพราะพวกเขาเลือกกันเองนะ!!! วนั เสาร์อาทติ ย์นั้นกจิ วัตรทุกอย่างยงั คงเหมอื นเดิม ต่างกันแค่ไม่ตอ้ งท�ำงาน แต่ก็ ไม่มีใครชอบ ๒ วันตีพุงน้ีนักโดยเฉพาะนักโทษท่ีคดียังไม่สิ้นสุด เพราะพวกเขาจะไม่ได้พบ ทนาย ไมม่ กี ารประกนั ตัว และทแี่ ยท่ ส่ี ดุ กค็ ือไม่มีญาติมาเยี่ยมนั่นเอง วันน้ีเป็นวันที่อุสมานหัวใจชุ่มช้ืนอีกครั้งเมื่อพ่อของเขามาเย่ียมในชุดโต๊ปสีขาว มีผ้าโพกหัวซึ่งท่านสวมใส่เป็นประจ�ำ พอ่ หอบของกนิ พะรงุ พะรงั เหมอื นเดมิ โดยทไ่ี มเ่ คยลว่ ง รเู้ ลยวา่ มนั จะตกถงึ ทอ้ งของเขาเพยี งไมก่ สี่ ว่ นเทา่ นนั้ เพราะทเี่ หลอื จะไปกระแทกปากขาใหญ่ ในคกุ เกอื บจะท้งั หมดนัน่ แหละ แมพ้ ่อจะมาน่ังอยใู่ กล้แคเ่ พยี งแผ่นกระจกบางๆ กัน้ เทา่ น้ัน แตม่ นั กไ็ กลเกนิ กวา่ ทเ่ี ขาจะไดส้ มั ผสั ออ้ มกอดของพอ่ พอ่ ลกู กต็ อ้ งคยุ ผา่ นโทรศพั ท์ ความใกล้ ทีแ่ สนไกลมันเปน็ เชน่ นี้นี่เอง!!! “เปน็ ไงบ้าง แบ สบายดีอยู่ไหม ?” พ่อซง่ึ ค�ำพดู ไมค่ อ่ ยจะดกถามเป็นคำ� ถามแรก เหมอื นเดิมทุกครง้ั ท่เี ขาจำ� ได้ “สบายดีครับ เยาะ ไม่ต้องเป็นหว่ ง” เขาพยายามฝืนเปลยี่ นสหี น้าสอ่ พริ ธุ ไม่ให้พอ่ ไดร้ บั รคู้ วามรสู้ กึ ทแ่ี ทจ้ รงิ ทง้ั ๆ ทเี่ ขามคี ำ� ตอบมากมายทจ่ี ะตอบไดไ้ มซ่ ำ�้ ทกุ ครง้ั ทพ่ี อ่ ยงิ คำ� ถาม นี้ แต่เขาไม่อยากให้พ่อต้องเป็นห่วงอีกต่อไปแล้ว ด้วยตระหนักว่าหยดน�้ำตาของพ่อจะย่ิง ปิดประตูสวรรค์ของเขาให้แคบลงตามค�ำสอนในอิสลาม “เยาะสบายใจที่แบอยู่ได้ แบอยู่ในนี้ถึงจะล�ำบากแต่ก็ปลอดภัยกว่าข้างนอกนะ” โตะ๊ อหี ม่ามกล่าว “ผมเป็นห่วงเยาะมากกว่าครับ พวกน้ันอาจจะแค้นผมแล้วไปลงท่ีเยาะก็ได้ เยาะตอ้ งระวงั ตัวใหม้ ากๆ นะครับ” อสุ มานปรารภกับพ่อด้วยสีหน้าไมส่ ้ดู ี “ชีวิตของเราเป็นกรรมสิทธิ์ของเอกองค์อัลเลาะห์ ไม่มีใครเร่งหรือย้ือเวลาแห่ง ความตายได้หรอกลูก” พ่อกล่าวด้วยท่าทีสุขุม “เออน่ี!!! แผลหัวแตกของท่านเจ้าอาวาส หายดีแล้วนะ” พ่อหมายถึงเจ้าอาวาสเพ่ือนสนิทสมัยช้ันประถมซึ่งเกือบจะถูกเขายิงดับใน เร่ืองเลา่ จากบา้ นเรา 111
เหตุการณว์ นั น้ัน เขาและเพ่ือนแนวร่วมอีก ๒ คนได้รบั คำ� สัง่ ให้ฆ่าพระสงฆ์รปู หนึ่งในจงั หวัด ยะลาเพื่อสร้างสถานการณ์ สถานท่ีเกิดเหตุซ่ึงเป็นตลาดเช้าเล็กๆ ใกล้กับวัด เอื้ออ�ำนวยให้ เขาซ่ึงน่ังอยู่บนมอเตอร์ไซค์ข้างพุ่มไม้ในมุมอับสายตาผู้คน ยกปืนข้ึนเล็งเป้าคร้ังแรกไปยัง พระสงฆร์ ปู นนั้ ทกี่ ำ� ลงั เดนิ บณิ ฑบาตขา้ งตลาดทา่ มกลางผคู้ นทกี่ ำ� ลงั จบั จา่ ยซอ้ื ของคอ่ นขา้ งจะ บางตากวา่ ทกุ วนั แต่เพียงไม่ก่ีอึดใจที่เขาสบโอกาสจะล่ันไกเพื่อปิดจ็อบ พระสงฆ์รูปนั้นได้ หยดุ ทกั ทายปราศรยั กบั ชายรา่ งใหญใ่ นชดุ โตป๊ สขี าวอยา่ งสนทิ สนม เมอ่ื ชายคนนน้ั หนั ใบหนา้ ท่เี ขาคุ้นเคยเปน็ อย่างดมี าเขาถึงกบั ผงะ มอื สัน่ เทาคาปืนพกขนาด ๙ มม.ท่กี ุมอยู่ เมื่อเพอ่ื น แนวร่วมอีก ๒ คนบนมอเตอร์ไซค์อีกคันซ่ึงท�ำหน้าที่ดูต้นทางเห็นท่าว่าเขาน่าจะใจเสาะ เกินไปท่ีจะปลิดชีพเหยื่อจึงยกปืนขึ้นหมายจะจัดการเสียเอง ทันทีที่เขาเหลือบไปเห็นเพื่อน แนวร่วมที่ก�ำลังเล็งเป้าไปยังชายผู้พ่อ สัญชาติญาณลูกกตัญญูก็ไม่ปล่อยให้เขาได้ใช้เวลาแม้ เสยี้ ววนิ าทเี พอ่ื พจิ ารณาวา่ เขาควรจะทำ� อยา่ งไร มอื ทก่ี ำ� ปนื แนน่ กห็ นั กระบอกไปยงั ทมี แนวรว่ ม พวกเดยี วกนั และลนั่ ไกไปเสยี แลว้ กระสนุ ปนื นดั นน้ั วงิ่ แผดเสยี งแหวกอากาศไปเจาะทะลหุ วั ไหลซ่ า้ ยของหนมุ่ แนวรว่ มคนนนั้ เลอื ดสแี ดงชาดไหลซบิ ออกมาพรอ้ มกบั เสยี งรอ้ งครวญคราง ทด่ี งั ขนึ้ ดว้ ยความเจบ็ ปวด ดว้ ยความออ่ นหดั ของชดุ ปฏบิ ตั กิ ารมอื ใหมท่ ำ� ใหส้ องหนมุ่ เสยี ขวญั และรบี บงึ่ มอเตอร์ไซคห์ นีไปทนั ทแี ทนที่จะยิงสวนกลบั มายงั มอื ลั่นไกเจ้าของกระสุนอยา่ งท่ี มืออาชีพท�ำกัน เสียงกระสุนท�ำให้ผู้คนแตกต่ืนวิ่งหนีตายกันอลหม่านเสียงร้องดังเซ็งแซ่ไป ท่วั บริเวณ พอ่ ของเขาคว้าตัวพระสงฆ์รปู นั้นลงนอนทับราบกับพ้นื เพอื่ ปกป้องทา่ นกอ่ นที่จะ หนั มามองเจา้ ของเสยี งปนื และตกใจสดุ ขดี เมอ่ื เหน็ วา่ เดก็ ชายทลี่ นั่ ไกคนนน้ั คอื ลกู ชายสดุ ทร่ี กั ของตนซง่ึ ในขณะนนั้ ยนื แน่นิ่งตกอยู่ในภวงั ค์ พ่อของเขาพยายามควบคุมสติและรีบเดนิ ขา้ ม ถนนมาสวมกอดเขาไว้แนน่ ในขณะทสี่ ตสิ ตังของเขากระเจิงหายไปกับเสียงปืนนดั น้ันไปแลว้ มารสู้ กึ ตวั อกี ทกี ต็ อนทม่ี ชี ายในชดุ สี “สนว.๐๑” (สกี ากเี ฉดทส่ี มเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี ๑๐ ทรงพระราชทานให้ต�ำรวจใช)้ ใสก่ ญุ แจมอื เขาเสยี แล้ว “เยาะภูมิใจท่ีวันน้ันลูกเลือกท�ำในสิ่งที่ถูกต้อง ลูกคือฮีโร่รู้ไหม” โต๊ะอีหม่ามผู้พ่อ พูดชมลกู ชายดว้ ยน�ำ้ เสียงส่ันเครอื ในขณะที่น�ำ้ ตาเรมิ่ ปร่ิมไหลอาบร่องแกม้ “พดู เปน็ เล่น เยาะ ฮีโร่ไมม่ านอนคุกแบบผมหรอก ผมมนั คนบาป” เขาพยายาม หยอกเยา้ ชายผู้พอ่ เพือ่ เบนประเดน็ สะเทอื นใจ 112 วันทคี่ วามรกั ผลบิ าน ณ บ้านแห่งเรา
“ฮโี รข่ องเยาะไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งเปน็ ผทู้ ม่ี พี ลงั วเิ ศษเหนอื ใครๆ หรอื สามารถเปลยี่ นโลก ได้ท้งั ใบ แค่เขาเป็นคนธรรมดาท่ีรจู้ ักผดิ ชอบชวั่ ดี สร้างประโยชน์ใหแ้ ผน่ ดินเกดิ แมเ้ พยี งน้อย นดิ กเ็ ปน็ ฮโี รข่ องพอ่ ไดแ้ ลว้ ” พอ่ ของเขาพยายามอธบิ ายความหมายของคำ� วา่ ฮโี รใ่ นความคดิ ของท่าน กอ่ นหมดเวลาเยย่ี ม พอ่ ทง้ิ ทา้ ยใหเ้ ขาไดค้ ดิ วา่ อสิ ลามนนั้ ไมไ่ ดส้ อนใหฆ้ า่ คนไมว่ า่ จะ นบั ถอื ศาสนาใด ความแตกตา่ งไมใ่ ชค่ วามแตกแยก แตม่ นั เปน็ สว่ นเตมิ เตม็ สงั คมพหวุ ฒั นธรรม ของเราท่มี ีมาอยา่ งยาวนานตา่ งหาก เขาไม่แปลกใจว่าทำ� ไมพอ่ ถงึ พดู เช่นน้หี ลังจากท่รี วู้ ่าพ่อ มีเพือ่ นสนทิ สมัยเรยี นเปน็ เจ้าอาวาสซึ่งเกอื บจะท�ำให้เขากลายเป็นฆาตกร เดือนท่ี ๖ ในเรือนจ�ำแห่งน้ีปรับเปล่ียนความคิดและทัศนคติของอุสมานไปมาก จติ ใจของเขาดีขึน้ มาก ทง้ั ๆ ทบี่ รรยากาศในนี้ยงั คงแย่เหมือนเดมิ จนดูเหมือนว่ามันน่าจะกด ความรู้สึกของเขาให้ด่ิงต�่ำลงไปอีกก็ตาม ความรักในพระเจ้าท�ำให้เขายืนหยัดและอดทนต่อ ส่ิงท่เี ป็นอยู่เพราะถือว่าเปน็ บททดสอบซึ่งเขาตอ้ งผา่ นไปใหไ้ ด้ ในเดอื นนอ้ี สุ มานเรม่ิ มคี นสนทิ ดว้ ยบา้ งแลว้ ในนเ้ี พอื่ นทเี่ ขาพอจะรบั รแู้ ละสมั ผสั ได้ ถึงความจรงิ ใจน้ันมไี มม่ าก น.ช. อนสุ รณเ์ ป็นหน่ึงในไม่กีค่ นทีอ่ ุสมานรสู้ กึ ว่าไวใ้ จได้ อนุสรณ์ เป็นนักโทษในคดีลักทรัพย์เพราะเคยติดเกมและการพนันอย่างหนักก่อนท่ีเขาจะ น�ำค�ำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใช้ในฐานะพุทธมามกะเพื่อลบล้างความผิด พลาดในอดีต อนุสรณ์ทำ� ใหอ้ สุ มานนึกถึงพอ่ และเจ้าอาวาสรูปนนั้ อุสมานและอนุสรณ์จูนติดกันง่ายเพราะพื้นฐานเคยเป็นเด็กดีมาก่อน ท้ังคู่เป็นคน พูดน้อยแต่ก็อัธยาศัยดี แต่ที่ดึงดูดเข้าหากันได้มากที่สุดเห็นจะเป็นเพราะการเป็นเด็กหัวดี และมีความรู้รอบตัวมาก ซึง่ ท�ำใหต้ อ่ กันติดในทกุ หวั ขอ้ สนทนา อุสมานได้เรียนรู้คำ� สอนของ พุทธจากอนุสรณ์และพบวา่ ค�ำสอนของพุทธหลายอยา่ ง เชน่ ศีล ๕ อริยสจั ๔ มรรค ๘ ฯลฯ เปน็ คำ� สอนทด่ี มี าก หากใครถอื ปฏบิ ตั ยิ อ่ มเปน็ สริ มิ งคลแกช่ วี ติ และคงจะมชี ยั เหนอื ทกุ ขท์ งั้ ปวง เขาเองก็มีโอกาสอธิบายค�ำสอนท่ีแท้จริงของอิสลามอย่างหลักศรัทธา ๖ ประการ และ หลักปฏบิ ตั ิ ๕ ประการท�ำใหอ้ นุสรณร์ ู้ว่ามุสลมิ ที่แท้จริงนน้ั รักสงบ แตส่ ่ิงท่ที �ำให้อนสุ รณท์ ง่ึ ทสี่ ดุ เหน็ จะเปน็ การทไี่ ดร้ วู้ า่ ศาสดามฮู ำ� หมดั เปน็ ชาวราศพี ฤษภเชน่ เดยี วกบั พระพทุ ธเจา้ และ ก็เปน็ ราศีเดยี วกับราศเี กิดของตวั เขาเองดว้ ย มนั ทำ� ให้อนุสรณ์พอจะคาดเดาบุคลิกภาพของ เรื่องเลา่ จากบา้ นเรา 113
มหาศาสดาทั้ง ๒ ในขณะทีท่ า่ นเผยแผ่ศาสนาจากพื้นฐานนิสัยของชาวราศีพฤษภทโี่ ดดเดน่ เร่อื งการใชส้ ติ มคี วามคดิ ท่ลี กึ ซ้งึ มีความสุขมุ เป็นเลศิ มีความอดทนเปน็ ยอด ฯลฯ เพ่อื นตา่ ง ศาสนกิ ได้กลายเป็นกัลยาณมิตรต่างศาสนาไปในท่ีสดุ อสุ มานเคยเกลยี ดชาวพทุ ธกอ่ นทจี่ ะมาใช้ น.ช. เปน็ คำ� นำ� หนา้ ชอื่ รว่ มกบั พวกเขา เขา เคยชงั บรรพบรุ ษุ ชาวพทุ ธทย่ี ดึ ครองรฐั ปตั ตานี จนพาลไมช่ อบเจา้ หนา้ ทรี่ ฐั ทน่ี บั ถอื ศาสนาพทุ ธ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า คนต่างศาสนิกท่ีมีคดีติดตัวหลายคนจะเป็นคนดีในอีก หลายมมุ ได้ พวกเขาหลายคนทำ� ดกี บั เขามากกวา่ เพอื่ นบางคนทเี่ ปน็ มสุ ลมิ นอกตารางเสยี อกี “แล้วชาวพทุ ธท่ีอยู่ข้างนอกน่นั หละ ?” เขาถามตวั เองให้ไดค้ รุน่ คดิ “กค็ งจะเหมอื นกบั มสุ ลมิ ท่ีอยู่ขา้ งนอกน่ันแหละ มที ้งั ดีและไม่ด”ี เขาตอบค�ำถาม ของตัวเองในที่สุด เขาถามค�ำถามคาใจตัวเองหลายข้อ และเขาก็ตอบจากประสบการณ์ ในคุกและนึกถึงค�ำสอนของพ่อซึ่งเป็นโต๊ะอีหม่ามที่ต่างจากเปอร์กาเดซท่ีเขาเคยเชื่อ สนิทใจอย่างสิ้นเชิง “ใช่แล้ว พ่อพูดถูก คนพวกนั้นไม่ใช่พวกที่มีศาสนาในใจ” เขาบ่นพึมพ�ำ “มันเป็นแค่คนใช้ศาสนาหากินเท่านั้น อิสลามไม่ได้สอนอย่างนั้น” เขาถกกับตัวเองและ พยายามจินตนาการถงึ คนนอกรตี พวกนน้ั อนาคตท่ีควรจะสดใสได้ดีของลูกคนเดียวของโต๊ะอีหม่ามประจ�ำมัสยิดซ่ึงมีฐานะ ค่อนข้างดีซ้�ำยังหัวดีและเอาถ่านกลับพังครืน เขาถูกโนม้ นา้ วให้เขา้ ร่วมกอ่ เหตกุ ับแนวร่วมร่นุ ราวคราวเดยี วกนั มาแลว้ หลายคร้งั แต่งานของเขาก็ยังคงเป็นแค่งานระดับล่าง เป็นแค่งานป่วนเมืองสร้างสถานการณ์เท่านั้น จนมาถึงเหตุการณ์หลังสุดท่ีเขาได้รับไฟเขียวให้ส่งคนไปหาพระเจ้าแลกกับค่าจ้างที่ค่อน ข้างสูง แต่เขากท็ ำ� ไมส่ ำ� เรจ็ และถกู จบั เสยี ก่อน มนั ยงั ไม่สายเกนิ ไป เขายังคงเป็นผู้บริสุทธ์ทิ ่ี ยงั ไมเ่ คยฆา่ ใคร ถงึ แม้ว่าบางครั้งเขาจะยังสบั สนอยู่บ้างวา่ ความลม้ เหลวในครง้ั น้นั เขาผดิ ต่อ ความศรทั ธาหรือไม่ แต่อนสุ รณ์เพ่ือนรักกช็ ว่ ยเขาไดม้ าก 114 วนั ทค่ี วามรักผลบิ าน ณ บา้ นแห่งเรา
ตอนนี้เขาจึงเข้าใจแล้วว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ในศาสนาต่างๆ มีทั้งคน ดีและไม่ดี ถึงตอนนี้เขาสามารถแยกแยะได้อย่างแม่นย�ำแล้วว่าใครเป็นชาวพุทธที่ดี มุสลิม คนไหนทีค่ วรศรทั ธา และคนแบบไหนทีอ่ ยู่ในคราบคนดี กลางเดือนหน้าอนุสรณ์เพื่อนรักจะเปลี่ยนค�ำน�ำหน้าชื่อไปใช้ค�ำว่านายตามปกติ และจะไดใ้ ชม้ นั ในโลกแหง่ อสิ รภาพของเขาแลว้ เขารสู้ กึ ดใี จทวี่ นั นนั้ จะมาถงึ ในเรว็ วนั แตล่ กึ ๆ เขากแ็ อบเหงาทเ่ี พอื่ นสนทิ ซง่ึ หาไดไ้ มง่ า่ ยในนจี้ ะจากเขาไปเสยี แลว้ แตอ่ นสุ รณก์ ส็ ญั ญาวา่ จะ มาเยย่ี มเขาบ่อยๆ หลายเดอื นตอ่ มาน้าชายอุสมานมาเย่ยี มพรอ้ มกับนำ� ขา่ วรา้ ยมาบอกเขา “ท�ำใจดีๆ นะ...มัง” น้าชายพูดโทรศัพท์กับอุสมานผ่านแผ่นกระจกแผ่นเดิมและ แผน่ เดียวกบั ทพ่ี อ่ เคยมองทะลผุ า่ นด้วยสีหนา้ ไม่สดู้ ี “เยาะเสียแลว้ นะ...เมอ่ื วาน ทา่ นถกู คนรา้ ยดกั ยิงระหวา่ งทางไปมัสยดิ เม่ือวาน… ไม่ทันส้ินเสียงน้าชาย อุสมานก็ตกอยู่ในภวังค์ก่อนท่ีเขาจะรวบรวมสติเพ่ือ พยายามฟังและ สะกดเสียงร้องไม่ให้ดังออกมา น้�ำตาแค่ปริ่มปลายหางตาในขณะที่มันเทเป็นห่าฝนลงสู่ก้น บึ้งของหัวใจของเขา น้าชายปลอบใจและบอกให้เขาเข้มแข็ง เขารู้สึกเศร้าและโกรธแค้น ผู้ที่ก่อเหตุซ่ึงเขารู้ว่าพวกมันคือใคร แต่สุดท้ายเขาก็นึกถึงค�ำท่ีพ่อเคยบอกไว้ว่าความตาย เปน็ ส่งิ ทพี่ ระเจา้ ก�ำหนดไว้แล้ว อกี ทง้ั พ่อกพ็ รำ่� สอนเร่ืองการใหอ้ ภัย เขาจงึ ล้มเลิกความคดิ ท่ี จะออกไปแกแ้ คน้ และอโหสกิ รรมในสง่ิ ทพ่ี วกมนั ทำ� เขาจะไมไ่ ปกอ่ กรรมทำ� เวรกบั คนพวกนน้ั เพราะถา้ พอ่ ยงั อยพู่ อ่ กค็ งจะหา้ มเขาเชน่ กนั เขาจะไมก่ ลบั ไปจบั ปนื อกี พอ่ ไดส้ งั่ สอนเขาในสงิ่ ที่พระเจ้าส่ังมุสลิมแล้ว ถ้าเขามีลูกเขาจะอบรมลูกให้คิดเหมือนพ่อ ลูกของเขาจะต้องไม่ใช้ คำ� วา่ น.ช. เปน็ ค�ำน�ำหนา้ ชอื่ เช่นเดียวกบั เขาเป็นอันขาด หลายปีผ่านไป....ดวงอาทิตย์ ณ ยามสายัณห์ทอแสงเหลืองทองอร่ามกระจ่างฟ้า สาดสอ่ งลงตัดเงาบนทิวเขาลาดชันสลบั ซับซ้อนซึง่ ทอดตัวยาวสดุ ลูกหูลูกตาอยู่เบอ้ื งลา่ งจาก มมุ มองบนยอดเขาสงู แหง่ หนง่ึ ในอำ� เภอธารโต จงั หวดั ยะลาชวนหลงใหลพาใจเขาใหล้ อ่ งลอย ไปตามสายลมกระซิบโชยแผว่ เบาทีข่ า้ งห.ู .. เรื่องเล่าจากบา้ นเรา 115
ทนั ใดนน้ั !!! “ปะป๊าจ๋า...หนูอยากจับบ้าน” เสียงเด็กชายวัยสามขวบเศษดังแทรกสายลม ที่พดั เออ่ื ย 116 วันท่ีความรักผลิบาน ณ บา้ นแห่งเรา
ส่ิงมหัศจรรย์ นายมะรอวี เจะ๊ อุมา จงั หวดั ปัตตานี แดดยามสายปรายแสงเจิดจ้าครอบคลุมทั่วเมืองสายบุรี ค�่ำคืนที่แสนจะโหดร้าย คงจะเป็นที่จดจ�ำของใครอีกหลายๆ คน ทั่วทุกพ้ืนท่ีเต็มไปด้วยสายน�้ำที่เฉอะแฉะ เศษขยะ และซากปรักหักพังเกล่ือนถนน เศษกระเบื้องหลังคาแตกกระจัดกระจายท่ัวทุกบริเวณของ ชุมชน ในขณะที่เสียงลมยังคงพัดรุนแรงเป็นระยะๆ พร้อมกับเสียงร้องไห้ของชาวบ้านด้วย ความหวาดกลัวหลังจากท่ีต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงเพื่อหลบหนีแรงลมที่โหดร้ายราวกับ ฟ้าพิโรธ ความรุนแรงของพายุโซนร้อน “ปาบึก” เหมือนกับเป็นสัญญาณเตือนถึงวันสิ้นโลก ที่ใกล้จะมาถึง ก่อนที่ศูนย์กลางพายุจะเคลื่อนตัวผ่านเมืองสายบุรีไป “ป๊ะ!!! เกดิ เร่อื งขึ้นแล้ว” เสียงซัลมาตะโกนเข้ามาจากหน้าบา้ น ผใู้ หญด่ ิงสะดุ้งจน ผา้ โสร่งหลุดลยุ่ “อะไรๆ ใจเยน็ ๆ ใจเยน็ ๆ ” ผใู้ หญด่ งิ ถามซลั มา ในขณะทสี่ องมอื กมุ ผา้ โสรง่ ไวแ้ นน่ “ทห่ี าดป๊ะ ที่หาด...” ซลั มาในสภาพท่หี ายใจเหนอื่ ยหอบ พูดคำ� เอ่ยค�ำไปมา “ท�ำไม เกดิ อะไรขึน้ ท่หี าด” “ฮมื ฮมื มันใหญม่ าก ใหญเ่ ทา่ ตกึ เกอื บ ๑๐ ชน้ั เลย” “ตกลงลูกจะบอกปะ๊ ไหมวา่ เกิดอะไรข้นึ ” เสียงหายใจเหน่ือยหอบของซัลมาดังขึ้นถ่ีๆ ผู้ใหญ่ดิงอดทนฟังลูกสาวต่อไปไม่ไหว จึงรบี ขบั รถไปที่ชายหาดทนั ที ผู้ใหญ่ดิง คือบุคคลที่ได้รับความเคารพจากชาวบ้านชุมชนปาตาตีมอในฐานะ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านปาตาตีมอเป็นชุมชนท่ีต้ังอยู่ริมชายฝั่งในเขตอ�ำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตาน ี ชมุ ชนแหง่ นใ้ี นอดตี เปน็ ทข่ี นึ้ ชอื่ ในเรอื่ งเอกลกั ษณท์ อ้ งถนิ่ ทม่ี คี วามเดน่ ทง้ั ในเรอ่ื งของวถิ ชี มุ ชน เร่ืองเลา่ จากบา้ นเรา 117
ที่ประกอบอาชีพประมงท้องถ่ิน วัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันของคนไทยพุทธและไทยมุสลิม รวมไปถึงการมีแหล่งท่องเที่ยวท่ีสวยงามมากมาย ทุกครั้งที่นักท่องเที่ยวมาเย่ียมเยียนก็จะ ไดพ้ บเจอกบั ความสุขอม่ิ เอมใจอยูเ่ สมอ แตห่ ลงั จากทเี่ กิดเหตุการณ์ความไม่สงบข้ึนทุกอย่าง ก็เปลยี่ นไป ที่ชายหาดบ้านปาตาตีมอ ชาวบ้านต่างห้อมล้อมมุ่งดูอะไรบางอย่างด้วยความ ครกึ ครน้ื และชวนสงสยั ชายหาดทเ่ี ตม็ ไปดว้ ยแสงแดดทค่ี อยแผดเผาอยตู่ ลอดเวลา ทกุ อยา่ งดู โลง่ โจง้ ไมม่ แี มเ้ งาของตน้ ไม้ เลยยากนกั ทจ่ี ะมผี คู้ นหลายๆ คนมาเดนิ สมั ผสั แวะเวยี นกนั เหมอื น ในอดีตท่ีเคยผ่านมา ที่ชายหาดแห่งนี้เปรียบเสมือนสวรรค์บนดินของบรรดานักท่องเที่ยว เดนิ ทางมาแวะเวียนพกั ผ่อนอยา่ งไม่ขาดสาย เสยี งคลน่ื ยงั คงพดั พาเศษทรายเศษไมต้ ลอดแนวชายหาดผใู้ หญด่ งิ ยงั คงสงสยั วา่ เกดิ อะไรขึ้นกับชายหาดแห่งนี้ “อะไรนน่ั !!!” เสียงสงสยั ดงั ข้ึนจากค�ำพูดของผ้ใู หญด่ ิง สายตาอ้งึ ทึง่ เมือ่ มองไปเห็น ชาวบ้านก�ำลังตกตะลึงไปกับสิ่งท่ีปรากฎอยู่ตรงหน้า ความย่ิงใหญ่ของเรือยักษ์ล�ำมหึมา ทก่ี ำ� ลงั จอดประชดิ รมิ ชายหาด สรา้ งความสงสยั ใหก้ บั ชาวบา้ นปาตาตมี อ ผู้ใหญ่ดิงและก�ำนัน พาชาวบ้านข้ึนไปตรวจสอบภายในเรือยักษ์ท่ียังคงมีสภาพสมบูรณ์อยู่ภายในเรือพบเพียง เศษกระเบ้ืองของหลังคาและกระจกหน้าต่างแตกกระจัดกระจาย ไมม่ ผี คู้ นอาศยั อยบู่ นเรอื พบแตเ่ พยี งร่องรอยเศษอาหารเทเกล่ือนอย่ใู นท้องเรอื เพียงช่ัวข้ามคนื ข่าวเรอื ยักษ์ถูกจอดทช่ี ายหาดบา้ นปาตาตมี อ สร้างความสนใจให้ กับชาวบ้านทั้งในและนอกพ้ืนที่ หลายครอบครัวเดินทางพาลูกพาหลานมามุงดูเรือยักษ์กัน อยา่ งลน้ หลาม จากชายหาดทรี่ กรา้ งอยนู่ านเกอื บ ๓ ทศวรรษ มาวนั นที้ กุ อยา่ งเปลยี่ นไปอยา่ ง ส้นิ เชงิ บ้านปาตาตีมอกลับมาครึกครื้นอีกคร้ัง ผู้ใหญ่ดิงเข้าไปปรึกษาหารือกับก�ำนัน ในเรื่องของการพลกิ วกิ ฤตใหเ้ ป็นโอกาสในการสง่ เสรมิ การท่องเท่ยี วของชมุ ชน “ผมคิดว่า ตอนน้ีชายหาดของชุมชนเรากลับมาครึกครื้นอีกครั้ง การมาของ เรือยักษ์น่าจะเป็นสัญญาณเตือนท่ีดีของชุมชน ผมเลยอยากเสนอก�ำนันให้ระดมชาวบ้านไป 118 วันทคี่ วามรกั ผลบิ าน ณ บ้านแหง่ เรา
ภาพวาดประกอบเรอื่ ง ขาวดำ� เร่ืองเลา่ จากบ้านเรา 119
ช่วยปรับภูมิทัศน์ริมชายหาด เพ่ือให้ผู้คนท่ีมาเที่ยวชมหาดได้ประทับใจชุมชนของเรามาก ยงิ่ ขนึ้ ” ผใู้ หญด่ งิ มคี วามตงั้ ใจอยา่ งแนว่ แนใ่ นการทจ่ี ะใหก้ ลมุ่ ชาวบา้ นหนั กลบั มาสนใจในเรอ่ื ง พัฒนาชมุ ชนอกี ครั้ง หลังจากทีช่ มุ ชนไมไ่ ด้ครึกครน้ื แบบน้ีมานาน “แต่ผมว่า อีกไม่นานทุกอย่างก็จะสงบลงเหมือนเดิม ย่ิงเมื่อทางการรู้เข้า เขาจะ ตอ้ งหาวิธีการพาเรอื ลำ� น้นั ออกไปแน่เลย ผมไมอ่ ยากเสี่ยงและเสียเวลา ผ้ใู หญก่ ็รู้ ว่าพวกเรา นน้ั พยายามสนบั สนนุ การทอ่ งเทย่ี วของชมุ ชนตลอด ไมร่ กู้ คี่ รง้ั แลว้ แตส่ ดุ ทา้ ยแลว้ ผลเปน็ ยงั ไง ผมวางมอื กบั เรอ่ื งพฒั นาชมุ ชนแลว้ ยง่ิ ตอนนไี้ มร่ วู้ า่ เรอื ลำ� นน้ั เปน็ ของใคร เขา้ มาถกู กฎหมาย หรอื เปลา่ ผมไมอ่ ยากเดอื ดรอ้ น ปลอ่ ยใหช้ ายหาดอยแู่ บบนน้ั แหละ เดยี๋ วเราจะเหนอื่ ยเปลา่ ๆ ” กำ� นนั กล่าวด้วยใบหน้าทไี่ มใ่ หค้ วามหวงั ผ้ใู หญด่ งิ เลย ขา่ วถงึ กรมเจา้ ทา่ จงั หวดั ปตั ตานี ชาวบ้านต่างแห่มามุงดูการท�ำงานของเจ้าหน้าที่ ในการลากเรือยักษ์ล�ำนั้นออกไปเพราะกลัวว่าจะเป็นเรือท่ีเข้ามาผิดกฎหมายและเกรงว่า อันตรายจะเกิดข้ึนกับชาวบ้าน แตถ่ งึ อยา่ งไรการลำ� เลยี งเรอื ยกั ษด์ งั กลา่ วออกไปนน้ั จะมผี ล ทลี่ ม้ เหลวเนอื่ งจากเรอื มขี นาดใหญ่ ตอ้ งอาศยั เครอื่ งมอื และเรอื เหลก็ ลาก รวมไปถงึ ตอ้ งรอให้ เปน็ ชว่ งที่น�้ำทะเลหนนุ สงู จงึ จะสามารถลากเรือออกไปไดท้ �ำให้ต้องรออย่างนอ้ ยอีก ๑ เดอื น กวา่ ๆ กว่าน�้ำทะเลจะหนุนสูงอกี ครงั้ การจากไปของเจา้ หนา้ ทส่ี รา้ งความดใี จใหก้ บั ผใู้ หญด่ งิ เรอื ถกู จอดทง้ิ ไวร้ มิ ชายหาด ทเี่ ดมิ ไมน่ านชาวบา้ นทอี่ าศยั อยใู่ นละแวกรมิ ชายหาดนนั้ กต็ า่ งลอื วา่ ไดย้ นิ เสยี งแปลกๆ ดงั ขนึ้ จากในตัวเรือยกั ษอ์ ยู่ทกุ คืน หากจะเดนิ ไปดูใกลๆ้ ก็กลา้ ๆ กลัวๆ “ไม่มีหรอก ผมกับก�ำนันเดินไปส�ำรวจบนตัวเรือแล้วไม่มีใครอยู่เลย” ผู้ใหญ่ดิง พยายามสร้างความเข้าใจให้กบั ชาวบ้านเพื่อไมใ่ ห้เกิดการหวาดกลวั ทั่วทกุ พ้ืนทขี่ องชายหาดพลุกพล่านไปด้วยผคู้ นทีม่ ามงุ ดเู รอื ยักษ์ บางคนกเ็ ชอื่ วา่ มี วิญญาณลูกเรืออยู่ในเรือ หลังจากที่มีข่าวชาวบ้านเห็นผู้ชายร่างสูงใหญ่ยืนบนหัวเรือในยาม วิกาล บา้ งกไ็ ดย้ ินเสียงแปลกๆ ดังขน้ึ ภายในตัวเรอื ในขณะท่บี างคนกเ็ ช่ือวา่ เป็นเพราะอาจ จะมีใครไปรบกวนหรือลบหลู่ส่ิงศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ในบริเวณชายหาดนี้ ทุกวันนี้ก็มีผ้าหลาก สยี าวแปดถงึ สบิ ศอกถกู เอามาพาดทห่ี วั เรอื มธี ปู ทไี่ หมห้ มดแลว้ เหลอื แตก่ า้ นเตม็ พนื้ ทช่ี ายหาด 120 วันทีค่ วามรกั ผลิบาน ณ บา้ นแหง่ เรา
ไปหมด ยิ่งมีข่าวลือว่ามีคนในหมู่บ้านถูกหวยรวยกันหลายคน ข่าวจึงดังไปถึงนักเสี่ยงโชค ทีเ่ ดนิ ทางมาขดุ เลขขุดหวยกันจา้ ละหวน่ั “คงเปน็ อยา่ งทผี่ ใู้ หญด่ งิ บอก การมาของเรอื ยกั ษช์ ว่ ยสรา้ งการเปลยี่ นแปลงอะไรๆ หลายอย่างในชมุ ชนของเรา เห็นทเี ราจะอยเู่ ฉยไม่ได้แลว้ ” กำ� นนั กลา่ วพึมพ�ำกบั ตนเอง ผใู้ หญด่ งิ เดนิ ทางมาถงึ บา้ นกำ� นนั เพอ่ื รว่ มพดู คยุ เรอ่ื งการพฒั นาพน้ื ทช่ี ายหาด กำ� นนั จึงเสนอให้มีการจัดงานตลาดชุมชนเพื่อระดมทุนสนับสนุนก่อน ท้ังสองเลยตัดสินใจระดม ชาวบา้ นและผนู้ ำ� ศาสนากวา่ รอ้ ยชวี ติ จดั พธิ ลี ะหมาดฮาญตั เพอื่ ทำ� การปดั เปา่ สง่ิ ไมด่ อี อกจาก ชายหาดและขอพรจากพระผูเ้ ป็นเจา้ ใหก้ ารจัดงานในคร้งั น้ีส�ำเรจ็ ลุลว่ งไปด้วยดี ตอนสายของการจัดพิธีละหมาดฮาญัต ในวันนั้นบริเวณชายหาดเนืองแน่นไปด้วย ผ้คู นทุกศาสนามารวมตัวกนั สว่ นของชาวมสุ ลิมไดร้ ว่ มพิธีละหมาดฮาญัตครั้งใหญ่เพอื่ ขอพร และขอบคุณพระเจ้าท่ีได้ประทานชวี ิตใหมใ่ ห้ชาวบา้ นชุมชนปาตาตีมอ ทำ� ให้กจิ การห้องพัก บงั กะโลรมิ ชายหาดของชมุ ชนมคี วามคกึ คกั เป็นพิเศษ ชาวบา้ นมเี งินใชจ้ ่ายในชวี ติ ประจ�ำวนั จากการค้าขายอยู่ริมชายหาด เมด็ เงินไหลมาเทมาเข้าสู่ชุมชนอยา่ งล้นหลาม อีกฟากฝั่งหน่ึงมีพ่ีน้องไทยพุทธ จัดพิธีขอพรต่อส่ิงศักด์ิสิทธิ์ที่เชื่อว่าสถิตอยู่ รมิ ชายหาดและในตวั เรอื ทำ� ให้หวั เรอื ชัน้ บนเต็มไปด้วยผา้ สแี ดง สชี มพู สเี หลืองจนแน่นไป หมด ธูปเทียนไหม้คละคลุ้งตลอดเวลา ของบูชาที่หลงเหลืออยู่วันก่อนๆ กองเกลื่อนใส่ใน กระทงใบตองทง้ั เลก็ ทง้ั ใหญ่ ทงั้ คาวทง้ั หวานเตม็ ไปหมด และยงั มคี นนำ� มาบชู าใหมไ่ มข่ าด ซงึ่ สงิ่ ของทง้ั หมดนนั้ กเ็ ปน็ ชาวมสุ ลมิ ของชมุ ชนทน่ี ำ� ทรพั ยากรในทอ้ งถน่ิ มาวางขายอยหู่ นา้ ชายหาด คืนนั้นชาวบ้านชุมชนปาตาตีมอร่วมใจแต่งตัวด้วยชุดพื้นถ่ินเพื่อเดินทางเข้ามา ร่วมงานส�ำคัญของชุมชน ผู้ใหญ่ดิงและก�ำนันไม่ได้หลับไม่ได้นอนตลอดสองสามคืนท่ีผ่าน มาเพื่อวางแผนเตรียมงาน งานค�่ำคืนนี้มีผู้คนมาร่วมชมงานท่ีจัดขึ้นบริเวณชายหาดอย่างไม่ ขาดสาย บางคนพาลูกจูงหลานพามาขอพรจากส่ิงศักด์ิสิทธ์ิและร่วมชมการแสดงรวมถึงการ จ�ำหน่ายสินค้าท้องถิ่นที่มีการจัดแสดงภายในงานอย่างใหญ่โต ซึ่งภายในงานและตัวเรือถูก ประดับตกแต่งไปด้วยแสงสีไฟสีสันสวยงามครึกคร้ืนไปด้วยเสียงเอะอะเฮฮาจากเสียงดนตรี ผู้ใหญด่ ิงและกำ� นันรับหน้าทเ่ี ปน็ เจา้ ภาพจดั งาน มีคนเดนิ ทางเขา้ ร่วมชมงานตลาดชมุ ชนกนั เร่อื งเล่าจากบ้านเรา 121
อย่างหนาแนน่ เตม็ พื้นที่ชายหาด กิจกรรมภายในงานค่�ำคืนนี้มีการแสดงท้องถิ่นให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชมไม่ว่าจะ เปน็ การแสดงดเิ กรฮ์ ูลู การเต้นรองเง็ง การแสดงระบำ� ตารีกีปสั การร�ำโนราห์ การเชดิ หนัง ตะลุงสองภาษา การจ�ำหน่ายอาหาร ๓ วัฒนธรรมจากร้านอาหารปลอดภัยได้มาตรฐาน Clean Food Good Taste การจ�ำหน่ายขนมพื้นบา้ นอาหารพน้ื เมืองไมว่ ่าจะเปน็ ไกก่ อและ ข้าวย�ำบดู ู โรตีชาชกั ขนมอาเกา๊ ะอาหารทะเล อาหารแปรรูป การจ�ำหนา่ ยผักและผลไม้ตาม ฤดกู าล ซึ่งรา้ นค้าภายในงานเนน้ การมีสว่ นร่วมในการรณรงคร์ กั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลก รอ้ น ดว้ ยการใชภ้ าชนะทสี่ ามารถยอ่ ยสลายไดจ้ ากชานออ้ ย ใบตอง และสำ� หรบั ผทู้ น่ี ำ� ภาชนะ มาใส่อาหารเอง เช่น ปิ่นโต แก้วนำ�้ ถุงผา้ หรอื ตะกร้าก็จะได้รบั ส่วนลดในการซ้อื อาหารจาก ร้านค้าซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่ือให้เห็นถึงเอกลักษณ์ท้องถ่ิน ท�ำให้บรรยากาศภายในงานเต็มไป ดว้ ยกล่ินอายของความเป็นมลายผู สมผสานกบั วัฒนธรรมท้องถิน่ ภาคใต้ได้อย่างลงตวั นอกจากนี้เองทางกลุ่มแม่บ้านของชุมชนปาตาตีมอก็ไม่ท้ิงหน้าที่ด้วยการเป็น แม่ค้าขายสินค้าโอทอปที่ผลิตขึ้นจากการรวมตัวของคนในชุมชน หลงั จากท่ีธรุ กจิ การท�ำ สนิ ค้าโอทอปของชมุ ชนต้องหยุดชะงักไปเพราะไม่มีเงินทนุ มาสนบั สนุน ชาวบา้ นจงึ ต้องเดนิ ทางไปทำ� งานในเมืองกันหมด มาวันนี้ผ้ใู หญ่ดงิ และก�ำนนั ก็หันกลบั มาส่งเสริมการผลติ สนิ คา้ โอทอปของชมุ ชนใหมอ่ กี คร้ังไม่วา่ จะเปน็ การท�ำน้ำ� บูด ู ปลาหมึกแหง้ ลกู หยกี วน และการ ท�ำเครื่องจักสานย่านลิเภา ซ่ึงถือเป็นสินค้าโอทอปหลักของชุมชนที่น�ำทรัพยากรใน ท้องถ่ินมาใช้ให้เกิดประโยชน์จนเกิดเป็นผลผลิตที่มีความส�ำคัญต่อการสร้างรายได้ เข้าสู่ชุมชน มาวนั นช้ี าวบา้ นกลบั มคี วามหวงั ใหมอ่ กี ครงั้ ทว่ั ทกุ บรเิ วณงานมกี ารนำ� สนิ คา้ โอ ทอปมาวางจ�ำหน่ายรวมถึงสาธิตวิธีการท�ำให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชมกันแบบสดๆ ท�ำให้ผู้เข้า ร่วมงานได้ร่วมชมและซื้อสินค้าติดไม้ติดมื้อกลับบ้านไป สร้างรายได้และก�ำไรสู่ชุมชนอย่าง มหาศาล ค่�ำคืนนี้แสงจันทร์ทอแสงสว่างใสท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับ หยดนำ้� ค้างทอ่ี บอนุ่ หยดลงบนหาดทรายทะเลอันเวง้ิ วา้ ง ชาวบา้ นรวมถึงผ้เู ขา้ ร่วมงานทุกคน ตา่ งรสู้ กึ อม่ิ เอมใจเปน็ พเิ ศษ งานตลาดชมุ ชนยงั คงดำ� เนนิ ไปในแตล่ ะวนั โดยไมม่ ที ที า่ วา่ จะจบสน้ิ เรือยักษ์ยังคงท�ำหน้าที่ส�ำคัญในการดึงดูดความสนใจให้กับกลุ่มนักท่องเท่ียวได้เดินทางมา เที่ยวชมงานอย่างไม่หยุดหย่อน 122 วนั ท่คี วามรักผลบิ าน ณ บา้ นแห่งเรา
“อีกไม่กี่วันแล้วน่ะที่ทางการจะพาเรือยักษ์ดังกล่าวออกจากพ้ืนท่ีบ้านเราไป” เสยี งพึมพำ� ของก�ำนนั สรา้ งความกงั วลใหก้ ับผู้ใหญด่ ิงและกลุม่ ชาวบ้าน เวลาผ่านไป...เจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าก็ได้เดินทางมาท่ีชายหาดบ้านปาตาตีมอ ทัง้ ทางบกและทางน้ำ� พรงั่ พรอ้ มไปด้วยเครื่องมือขนาดใหญเ่ พ่อื ทีจ่ ะลากเรอื ยักษ์ออกไป ขา่ วการกเู้ รอื ของเจา้ หนา้ ทด่ี งั ครกึ โครม บา้ งกส็ รา้ งความไมพ่ อใจใหก้ บั กลมุ่ ชาวบา้ น ในขณะท่ีชาวบ้านท่ีอาศัยอยู่ริมชายหาดพากันดีใจยกใหญ่เพราะบริเวณหน้าบ้านจะกลับมา สงบสุขอีกครั้งหลังจากที่ต้องทนกับเสียงรถเสียงผู้คนท่ีเดินทางมาชมเรือยักษ์กันอย่าง หนาแน่นจนแทบจะไม่มีพ้ืนที่สงบเป็นของตนเองเหมือนเช่นทุกวัน “กำ� นัน เราจะทำ� ยงั ไงกันด”ี ผู้ใหญด่ งิ เอย่ ถามกำ� นนั ดว้ ยความว้าวนุ่ “ผมกไ็ มร่ ู้ คงตอ้ งปลอ่ ยใหเ้ ปน็ ไปตามนี้ เราเองกไ็ มใ่ ชเ่ จา้ ของเรอื คงทำ� อะไรไดไ้ มม่ าก” แมจ้ ะผา่ นไปคนื แลว้ คนื เลา่ กไ็ มม่ ที ที า่ ทจ่ี ะกเู้ รอื ยกั ษน์ อ้ี อกไปได้ เนอื่ งจากนำ้� ทะเล ยงั คงลดลงอยา่ งตอ่ เนอ่ื งตอ้ งรอใหน้ ำ้� ทะเลเพม่ิ สงู ขนึ้ ในชว่ งเวลานนั้ ผคู้ นจากทว่ั ทกุ สารทศิ ยงั คงเดนิ ทางมาชมเรือยกั ษอ์ ยเู่ ป็นระยะๆ เวลาผ่านไปห้าวันสถานการณ์การกู้เรือเร่ิมจะส�ำเร็จข้ึน ผู้ใหญ่ดิงน่ังเหม่อลอย มองดกู ารท�ำงานของเจา้ หนา้ ท่อี ยู่ทกุ วนั สิง่ แรกทีเ่ ขาเหน็ คือ ณ ตอนนนี้ ำ้� ทะเลเรม่ิ มรี ะดบั ท่ี สงู ขนึ้ รถยนตบ์ รรทกุ รถขดุ มา ๒ คนั จอดเลยี บประชดิ ฝง่ั พรอ้ มกบั เครอื่ งมอื กเู้ รอื ทข่ี นมาเตม็ ท่ี ทั้งหมดเดินตรงเข้ามาจนชาวบ้านต้องหลีกเป็นช่องแล้วหยุดยืนเรียงรายเป็นหน้ากระดาน กอ่ นท่เี จา้ หน้าท่ีคนหนงึ่ จะตะโกนขนึ้ มาวา่ … “นคี่ อื เรอื ขนสง่ สนิ คา้ จากประเทศอนิ โดนเี ซยี มงุ่ หนา้ ไปประเทศญป่ี นุ่ ลกู เรอื ตกนำ�้ เสยี ชวี ติ ทงั้ หมดจากเหตลุ มกระโชกแรงและอทิ ธพิ ลจากพายโุ ซนรอ้ งปาบกึ ทผ่ี า่ นมา ทำ� ใหเ้ รอื ไมม่ คี นบงั คบั ถกู ลมและคลน่ื ทะเลซดั มาถงึ ชายหาดแหง่ นี้ ขอใหช้ าวบา้ นทกุ คนออกจากบรเิ วณ น้ี เพือ่ ให้การกู้เรอื ด�ำเนินไปอยา่ งสะดวก” ผู้ใหญ่ดิงตกตะลึงเมื่อได้ฟังเจ้าหน้าที่พูด ยังไม่ทันที่จะได้บอกก�ำนัน ก�ำนันก็เดิน ทางมาถึง เร่ืองเล่าจากบ้านเรา 123
“ผใู้ หญด่ ิง...ทำ� ใจเถอะ” ก�ำนันเอ่ยกับผู้ใหญพ่ รอ้ มกับสา่ ยหนา้ ช้าๆ “เห็นที...เราคงต้องกลับไปอยู่แบบเดิมแล้วใช่ไหม” ผู้ใหญ่ดิงพูดด้วยน้�ำเสียงส่ัน คลอก่อนทจ่ี ะโนม้ ตวั น่ังลงบนหาดทรายท่ีร้อนระอุ ฝา่ ยเจา้ หนา้ ทไ่ี ดก้ น้ั รวั้ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทกี่ เู้ รอื ยกั ษ์ ชาวบา้ นและนกั ทอ่ งเทยี่ วทม่ี า มงุ ดเู กาะแนน่ อยตู่ ามขอบรวั้ ทกุ คนมองดกู ารทำ� งานของเจา้ หนา้ ทอี่ ยา่ งไมล่ ะสายตา จนเวลา ใกลพ้ ลบคำ่� แสงอาทติ ยเ์ รมิ่ ทอแสงออ่ นๆ ทว่ั ผนื นำ�้ ณ ตอนนี้ เรอื ยกั ษถ์ กู ลากออกไปทลี ะนดิ ๆ วนั นนี้ ำ้� ทะเลเพมิ่ สงู ขนึ้ เปน็ พเิ ศษ เจา้ หนา้ ทสี่ ามารถประคองเรอื ไดท้ กุ อยา่ งดงู า่ ยดายไปหมด เรอื ยกั ษถ์ กู เรอื เหลก็ อกี ลำ� ลากแลน่ ออกไปกลางทะเลกอ่ นทจ่ี ะลอยไปไกลจนลบั สายตา ทง้ิ ไว้ แค่นำ้� ทะเลอันเว้งิ ว้างกวา้ งใหญ่กบั เสยี งลมอ่อนๆ ในขณะที่ทอ้ งฟา้ กค็ ่อยๆ มืดดบั ลงไป วันรุ่งข้ึนชาวบ้านปาตาตีมอทุกคนเดินทางมาที่ชายหาดเพื่อท�ำการเก็บข้าวของ เคร่ืองใช้จากชายหาดที่เคยคับแคบเพราะเนืองแน่นไปด้วยผู้คน มาวันน้ีทุกอย่างดูกว้าง ขวางเป็นพิเศษ ก�ำนันยืนคอตก “อีกนานเท่าใดชุมชนปาตาตีมอจะกลับมาครึกคร้ืนอีกคร้ัง” เขาพึมพำ� ปนสะอนื้ ผู้ใหญด่ งิ ทรดุ ตวั ลงน่งั กอดเข่าบนหาดทราย ซัลมาวิง่ มาแต่ไกล ตะโกนเสียงดังชัดแจว๋ “ป๊ะ...ท�ำไมวันนท้ี ี่หาดไมม่ ใี ครขายขนม อรอ่ ยๆ ” ผใู้ หญ่ดงิ ไดแ้ ตม่ องหน้าลูกสาว พลางคดิ ในใจ “เราคงต้องรอสิง่ มหศั จรรย์ใหม่แล้ว ลกู ความสวยงามของชุมชนจึงจะผงาดขึน้ อีกคร้งั ...” ท่ามกลางสถานการณ์ความเงียบสงบของชายหาดท่ีเคยคุกกรุ่นอยู่สักพัก มันมี บทบาทอยา่ งมากต่อการเปลีย่ นแปลงสงั คมความเป็นอยู่ของชาวบา้ นชมุ ชนปาตาตีมอแห่งน้ี ย่ิงเวลาผ่านไปชายหาดก็เร่ิมทรุดโทรมมีสภาพไม่ต่างอะไรกับชายหาดรกร้างเหมือนเช่นใน อดีตท่ีเคยผ่านมา... 124 วันท่ีความรักผลบิ าน ณ บา้ นแห่งเรา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304