Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมเรื่องสั้น-บ้านเรา วันที่ความรักผลิบาน ณ บ้านแห่งเรา

รวมเรื่องสั้น-บ้านเรา วันที่ความรักผลิบาน ณ บ้านแห่งเรา

Description: รวมเรื่องสั้น-บ้านเรา วันที่ความรักผลิบาน ณ บ้านแห่งเรา

Search

Read the Text Version

เสียงบทเพลงเหก่ ล่อมเป็นภาษายาวอี ันไพเราะเยอื กเย็นดงั แวว่ มาจากในบา้ น “ตโี ดลาเดะ๊ ตโี ด ตาโกะบรู งฺ ฮาตู มาแกลาเด๊ะ ซซู ู ซูซูลือเมาะ มานฮิ ฮืม..” (แปลโดยรวมๆ แลว้ ได้ความ หมายวา่ หลับนะลูก กลัวนกฮกู กินนมหวานๆ เสยี เถิด) เปน็ บทเห่กล่อมที่ฉนั ค้นุ ชินมาตั้งแต่ เด็ก เพราะแมก่ บั แมะแยร้องกล่อมใหฉ้ นั และฮาบีบ๊ะนอนมาตง้ั แต่แบเบาะฉันเดนิ ตามเสียง เห่กล่อมเข้าไปในบ้านพบเมาะซูก�ำลังนั่งไกวเปลกล่อมหลานตัวเล็กๆ ให้นอน ฮาบีบ๊ะเดิน เขยา่ ขวดนมออกมาจากในครวั แล้วสง่ ใหเ้ มาะซูพลางถามฉันวา่ “เตาฟสิ ดขี นึ้ แลว้ ใชม่ ยั้ ฉนั กลวั เตาฟสิ ตาย เพราะเหน็ เปน็ แบบนม้ี าหลายครง้ั แลว้ ฉันไม่กล้าอยดู่ อู าการจงึ เลีย่ งมาช่วยเมาะซูเลย้ี งอาเดะ๊ ” “เตาฟสิ ไมเ่ ปน็ ไรแลว้ และจะไมเ่ ปน็ แบบนอ้ี กี เพราะแมฉ่ นั ผกู คอรบั เปน็ ลกู ไวแ้ ลว้ เหมอื นเธอไงฮาบบี ะ๊ เหน็ มย้ั ตง้ั แตเ่ ปน็ ลกู ของแมฉ่ นั เธอไมค่ อ่ ยเปน็ ไขเ้ หมอื นเมอ่ื กอ่ นแลว้ นะ” ฉันเล่าพลางเข้าไปจูงมอื ชกั ชวนฮาบีบะ๊ ไปซือ้ น้ำ� แขง็ ใสดว้ ยกนั เสียงอาซานดังข้ึนเป็นสัญญาณบอกเวลาละหมาดตอนเท่ียง อาแบ สามีของก๊ะซากีนะ เจ้าของร้านรีบคว้าหมวกซอเกาะเดินออกจากบ้านด้วยความรีบเร่ง วันนี้เป็นวันศุกร์ผู้ชายชาวมุสลิมจะรวมตัวไปละหมาดร่วมกันท่ีมัสยิด ก๊ะซากีนะบอกว่า ทุกวันศุกร์อาแบจะไปละหมาดท่ีมัสยิดไม่เคยขาดเพราะนอกจากเชื่อว่าจะได้บุญมากแล้ว ยังเป็นโอกาสท่ีได้พบปะพูดคุยสานสัมพันธ์ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับเพื่อนบ้าน มีข่าวสาร อะไรก็มาแลกเปลี่ยนกันเหมอื นกบั ที่ชาวไทยพุทธไปท�ำบุญกันทุกวนั พระ นอกจากจะไดบ้ ญุ แล้วยงั เปน็ การสานสัมพันธ์เสรมิ สรา้ งความสามคั คไี ดอ้ ีกด้วย ยงั ไม่ทนั จะได้นง่ั กนิ น�้ำแขง็ ใส แมก่ ข็ บั รถวนมารบั ฉนั ฉนั รบี จา่ ยเงนิ แลว้ ควา้ แกว้ นำ�้ แขง็ ใสซอ้ นทา้ ยมอเตอรไ์ ซดแ์ มก่ ลบั บา้ น ป่านน้พี ่อคงรอกินข้าวเทยี่ งพร้อมกันเพราะนี่กเ็ กอื บบา่ ยโมงแล้ว สายลมในฤดูร้อนพัดใบยางแห้งร่วงหล่นพรูลงมาเป็นระยะๆ ตามจังหวะของ สายลม เสยี งลกู ยางกระเทาะเปลอื กแตกรว่ งหลน่ ดงั ปอ๊ กแปก๊ ๆ ฉนั และฮาบบี ะ๊ รวมทงั้ เพอ่ื น คนอ่ืนๆ ชอบเก็บลูกยางมาเล่นหมากเก็บบ้าง หมากขุมบ้าง แต่มักจะถูกแม่ดุอยู่บ่อยๆ เพราะพวกเราจะขดุ ดนิ เปน็ หลมุ เลน่ หมากขมุ กนั ใตถ้ นุ บา้ น ความจรงิ แลว้ ฉนั ไมช่ อบฤดนู เี้ อา เสยี เลย เพราะอากาศร้อนนำ้� ยางได้นอ้ ย ใบยางก็ผลัดใบไม่เหลือไวใ้ ห้เปน็ รม่ เงา เวลาช่วย แมเ่ ก็บน้�ำยางตอนกลางวันท�ำให้เหนื่อยง่าย แตก่ ย็ งั ดกี วา่ ฤดฝู นตกชกุ เพราะกรดี ยางไมไ่ ดเ้ ลย เรอื่ งเลา่ จากบ้านเรา 225

แม่สอนฉันว่าเราต้องเก็บออมเงินที่ได้ในฤดูแล้งเผื่อไว้ใช้ในฤดูฝน แถมบางคร้ังยังต้องเผื่อ เพื่อนบ้านมาหยิบยืมอีกด้วยเพราะครอบครัวที่มีลูกเยอะจะมีเงินไปพอค่านมค่าขนมลูกใน ฤดูฝน เนอ่ื งจากชาวบา้ นทน่ี ไี่ มม่ อี าชพี อน่ื สำ� รองไวเ้ ลยนอกจากทำ� สวนยางและปลกู ผกั ไวก้ นิ เลก็ ๆ นอ้ ยเทา่ นน้ั ดงั นนั้ ในฤดฝู นหากวนั ไหนฝนไมต่ กแมแ่ ละเพอื่ นบา้ นกจ็ ะชงิ กรดี ยางใหไ้ ด้ บา้ งกย็ งั ด ี หากในระหวา่ งการกรดี ยางมอี นั ตรายอะไรเกดิ ขนึ้ หรอื มฝี นไลม่ ากจ็ ะชว่ ยกนั เคาะ ถว้ ยเคาะกะลาที่รองนำ้� ยางเปน็ สญั ญาณเตือนให้รู้กัน ฉันจะรู้สกึ ตื่นเต้นทกุ คร้งั ท่ไี ดย้ นิ เสยี ง เคาะกะลา เพราะครั้งหน่ึงเคยวิ่งตามแม่ไปช่วยก๊ะนิงท่ีกรีดยางในสวนถัดจากสวนของแม ่ แกเปน็ ลมลูกชายแกไม่รจู้ ะท�ำอย่างไรเลยเคาะกะลาเป็นสัญญาณพรอ้ มตะโกนเรยี กใหค้ น ชว่ ย ดง้ั นน้ั หากไดย้ นิ เสยี งเคาะกะลาในวนั ทฝ่ี นไมต่ กแสดงวา่ จะตอ้ งมเี หตอุ ะไรเกดิ ขนึ้ แนน่ อน ฤดูแล้งผ่านไป ฤดูฝนผ่านเข้ามา ต้นยางผลิใบปีแล้วร่วงหล่นปีแล้วปีเล่า ความเจรญิ เรมิ่ เขา้ มาสหู่ มบู่ า้ นของฉนั ถนนหนทางสะดวกสบายขนึ้ เรมิ่ มไี ฟฟา้ ใช ้ วทิ ยาการ ทางการแพทยเ์ รมิ่ กา้ วหนา้ และทว่ั ถงึ ชาวบา้ นไมต่ อ้ งพง่ึ ยาสมนุ ไพร แตค่ วามรกั ความศรทั ธา ที่เพือ่ นบา้ นมีต่อแมแ่ ละพ่อของฉันไมเ่ คยเปลี่ยน หลายคนยังคงแวะเวียนมาขอน้�ำมนตข์ อง พอ่ และหมากพลขู องแมไ่ ปใช ้ ฉนั เตบิ โตขนึ้ มาทา่ มกลางมติ รภาพและความผกู พนั ระหวา่ งคน สองศาสนา เพือ่ นวัยเด็กของฉันเกือบท้งั หมดเปน็ มุสลมิ แตฉ่ นั โชคดีกวา่ เพือ่ นๆ มากเพราะ ฉนั มโี อกาสไดเ้ รยี นหนงั สอื ฉนั จากบา้ นไปเรยี นหนงั สอื หลายปจี นเรยี นจบและกลบั มาเปน็ ครู อยทู่ โ่ี รงเรียนในอกี ต�ำบลหนึ่งของอำ� เภอ ทำ� ให้ฉันได้กลับมาอยู่บา้ นอีกครง้ั สายลมฤดูแล้งพดั หอบเอาไอแดด และฝนุ่ ละอองโถมเข้ามากระทบผิวอกี ระลอก หนึ่ง แต่คร้ังน้ีแรงพอท่ีจะท�ำให้ฉันต่ืนจากภวังค์เสียงสะอื้นยังคงดังเป็นระยะๆ จนกระท่ัง ดินกองสดุ ทา้ ยถกู โกยกลบหลมุ ฝงั ศพ หญิงวัยกลางคนร้องไห้โฮโผเข้ามากอดฉัน พร้อมกระซิบถามด้วยเสียงสะอ้ืน “ถา้ กะนยิ งั อย ู่ เดะ๊ มงิ คงไมต่ ายใชม่ ย้ั คร”ู คราวนน้ี ำ้� ตาฉนั เรมิ่ เออ่ และลน้ ไหลออกมาเปน็ สาย ถ้าแม่ยังอยู่แม่จะช่วยเด๊ะมิงได้ไหมนะ เพราะเมื่อสองสามวันที่แล้ว แมะแยมาบอกฉันว่า เด๊ะมงิ ปวดท้อง ฉนั ก็ทำ� ได้เพยี งแนะนำ� ใหไ้ ปหาหมอทโี่ รงพยาบาลประจำ� อ�ำเภอ ถา้ แมย่ ัง อยแู่ มจ่ ะทำ� อยา่ งไร นำ�้ หมากของแมจ่ ะรกั ษาเดะ๊ มงิ เหมอื นทร่ี กั ษาเตาฟสิ ไดไ้ หม แทจ้ รงิ แลว้ นำ�้ หมากของแมส่ ามารถฆา่ เชอ้ื โรคในทอ้ งเตาฟสิ หรอื เตาฟสิ หายจากโรคเพราะความเชอ่ื และ 226 วนั ท่ีความรกั ผลบิ าน ณ บา้ นแห่งเรา

ศรัทธาในตัวแม่ ถึงแม้การรักษาด้วยวิธีของแม่จะค้านต่อความรู้สึกตามที่ฉันได้ไปร่�ำเรียน มา แตส่ ิง่ หนงึ่ ท่ฉี นั เชอ่ื ก็คอื ความรักความศรัทธาท่ชี าวบ้านมีตอ่ แม่ไมเ่ คยหายไปเลยจริงๆ ฉันโอบกอดรา่ งอันผอมแห้งน้นั ไว ้ ไมม่ ีค�ำพูดปลอบโยนใดๆ เพราะฉันเองกร็ ้องไห้ แมต่ ายไปตัง้ แต่แปดปีท่ีแลว้ แต่ทุกคนยงั คิดถงึ แม ่ ฉันเองกเ็ ชน่ กันแม่ไม่เคยตายไปจากใจฉัน เลย ภาพของแมย่ งั คงวนเวยี นอยู่ในความทรงจำ� เช่นเดยี วกบั ภาพของอาซือมิงเด็กชายวัย ๗ ขวบ ข้โี รค ผอมแหง้ แรงนอ้ ย ที่ฉนั พยายามชักชวนใหไ้ ปเรียนหนังสือทโ่ี รงเรยี นใกลบ้ ้าน แตอ่ าซือมิงป่วยจนต้องขาดเรียนบ่อย อาซือมงิ เปน็ ลูกชายคนเดยี วของฮาบบี ะ๊ เพือ่ นของฉนั และมักตามแมะแยผเู้ ป็นยายไปเลน่ กบั ลูกชายฉันท่บี ้านอยบู่ อ่ ยๆ คราวน้ีอาซอื มงิ ไดต้ ามไป อยกู่ ับแม่ฉันเสียแล้ว พวกเขาจะพบกันไหมนะ ฉันจะไม่มีวนั ลมื พวกเขาไดเ้ ลย ทุกคนหันหลังเดินออกมาจากกุโบร์ด้วยความหดหู่และเศร้าสร้อย ถึงแม้ฝีเท้า ที่ย่างเดินจะกระทบพ้ืนเพียงเบาๆ แต่ใบไม้และหญ้าแห้งก็แตกหักดังกรอบแกรบ เพราะ ความแห้งกรอบและบอบบาง และแม้จะเป็นเพียงเสียงเบาๆ แต่ดังก้องในความเงียบงัน ลมรอ้ นพดั หวนมาอกี ฉนั กมุ มอื ฮาบบี ะ๊ ไวแ้ นน่ เราเดนิ หา่ งออกมาจากกโุ บรม์ ากพอสมควรแลว้ แตฉ่ ันไมว่ ายเหลียวหลังหนั กลบั ไปมองกุโบร์อีกครั้ง “หลบั ให้สบายนะเดะ๊ มงิ ถ้ากะนยิ งั อยู่ เดะ๊ มงิ อาจไม่ตาย” ดว้ ยความร�ำลึกถงึ แม่ “กะนิ” ในดวงใจของทุกคน กลน่ิ แก้ว เรือ่ งเลา่ จากบ้านเรา 227



กวนี ิพนธ์

ยาย นายกันตภณ รกั คำ� มี จงั หวดั สงขลา กอ่ นวนั เห็ดบานดอก ออกพรรษา เขียวท่งุ นาเบิกบานรับงานใหญ่ ยงั จ�ำถ้อยคำ� ยายเคยสั่งไว้ ช่วยกนั แทงตม้ ไปใสเ่ รือพระ ลงุ ไปชว่ ยคนในวัดวางสดั ส่วน ตกแต่งทรงกระบวนรายระดะ ลว้ นรูปผี เทวา เศยี รนาคะ แกะลวดลายศลิ ปะประดับเรือ เหลา่ นายช่างฝีมอื คอื ชาวบ้าน จากหย่อมย่านมาตามแรงความเชอ่ื รว่ มปันแบ่งแรงบญุ มาจุนเจอื ตา่ งกลู เก้ือสุขล้�ำอ่ิมนำ�้ ใจ จนเป็นรปู เป็นทรงองค์เรือพระ เลา่ สาระพุทธกาลอนั ยง่ิ ใหญ่ ภาพเรื่องราวงามอะเคอ้ื บนเรอื ชยั เช่อื มรากนยั ศาสนาสงา่ งาม เดือนสบิ เอ็ดเหด็ บานดอก ออกพรรษา วนบชู าอกี คร้งั แกว้ ท้ังสาม โลก นรก สวรรค์เบกิ ช่ืนฤกษ์ยามา อรุณอรา่ มแสงทองย่ำ� กลองโพน 230 วันทค่ี วามรักผลบิ าน ณ บ้านแหง่ เรา

เร่อื งเลา่ จากบา้ นเรา 231

เชิญพระปางเปิดโลกงามเรอื งเรื่อ ประทับเรอื พระลาก ครุฑ นาคโขน ฉำ�่ ฝนพรมลมริ้วไหวพล้ิวโอน ใหน้ าคโยกตวั โยนเสมอื นจรงิ วันรอรบั พทุ ธองคท์ รงวโิ มกข์ กลับภูมิโลกจากสวรรค์เปน็ ขวัญม่งิ มนุษย์ ผี เทวามาพ่ึงพงิ รับบญุ อนั ใหญ่ยิ่งแหง่ โพธญิ าณ เสียงโพนหุ้มหนังววั รัวลัน่ ฤกษ์ ย่ิงเร้าเสยี งบานเบกิ ของชาวบ้าน “อสี าระพา เฮโล” โหก่ งั วาน เรง่ จงั หวะแรงดาลไปตามกลอง ในทรงจำ� เชา้ เรือพระผา่ นหน้าบา้ น รมิ เรือนชานดวงหนา้ ยายใสผุดผ่อง ค่อยถอื ต้มพวงใหญด่ ้วยใจปอง ไปแขวนคลอ้ งเรือพระประเพณี วนั น้เี หด็ บานดอก ออกพรรษา หลานของยายยงั ตรงึ ตราทำ� หน้าท่ี คอยส่งตอ่ ความงามและความดี เหมือนอยา่ งมียายคอยสัง่ อยา่ งต้งั ใจ. 232 วนั ทคี่ วามรักผลบิ าน ณ บ้านแหง่ เรา

เราในเขา นายถนอม ขุนเพช็ ร์ จังหวดั สงขลา ๑. เราอยู่กบั เขาทกุ เชา้ คำ่� ลึกลงไปในดวงตาอนั ผวาต่นื จากเสียงระเบิด เมด็ เหงื่อยะเยียบ มองสรรพางค์กลางเงาสลัว ไม่มสี ง่ิ ใดไมใ่ ช่ตวั เรา ใตแ้ สงจันทร์นอกหน้าตา่ ง นิทานเล่าว่ามนุษย์เกิดมาเปลือยเปลา่ เด็กๆ พากันวงิ่ เล่นหวั เราะ หยอกเยา้ พี่เล่นแกล้งนอ้ ง น้องคนรองไล่เรียงแกล้งต่อ น้องสดุ ท้องอดเอาคืนมริ ้ังรอ เขาหันมาตบหัวแมว เจ้าแมวสดี ำ� จอมอาฆาตกลายร่างเป็นปีศาจ ยามค่ำ� คนื มดื มดิ มนั นั่งซุ่มบนหลังคามองเปลวไฟลุกโชติเบือ้ งลา่ ง ถึงเวลาแผ่นดนิ ร้อนระอเุ กินกว่าใครสนใจนิทานแมวๆ ๒. เราอยู่ในกายเขาทกุ เช้าค�ำ่ ชายขาดว้ นผู้อยากกลบฝงั อดตี เหตรุ ้ายยามเชา้ กลางรา้ นน�ำ้ ชา รอยจดจำ� อดั แนน่ กลางอก สุดเสียงทำ� ลายลา้ งอึกทึก กลายเป็นสองปีนอนนิ่งบนเตยี งคนไข้ จง้ิ จกบนฝา้ เพดานแวะมาหวั เราะเยาะชะตากรรม ใครเล่ากำ� หนดชะตากรรม ? เรื่องเล่าจากบา้ นเรา 233

ผา่ นอโุ มงค์ชีวิตมืดมิด จนค้นเจอแสงแรกยามเช้า แดดออ่ นชบุ ลมหายใจใหม่ ลกุ ข้นึ ด้วยไม้เท้ากบั ขาขา้ งซา้ ย แบกสัมภาระชีวิตออกเดนิ ตอ่ ยามหยุดยนื แหงนมองวา่ วสเี หลอื งลอยลบิ กลางผนื ฟ้าสนี ำ้� เงนิ เขาระลึกถงึ มนุษย์ผอู้ ิสระเปลา่ เปลอื ยแต่มิอาจบนิ ๓. เราฟังเสียงเขาทุกเช้าค�่ำ ในตัวเขามีเพลงรองเง็งไวโอลิน ล่องกลอ่ มท้องทุ่งกว้าง จงั หวะกลองทับฉ่งิ โหม่ง เตน้ เรา่ ปลกุ เลือดเนอ้ื จติ วิญญาณ มะโยง่ จงู โนราออกมาร่ายร�ำด้วยท่วงท่าเดียวกัน ชายขาดว้ นผสู้ ดับความเงยี บหลังสุดเสยี งระเบิด อดขยับตามจงั หวะหวั ใจ อยากบินรา่ ยขน้ึ ฟ้ากลวั ถกู กลืนเขา้ กอ้ นเมฆ ๔. เรากลายเป็นเขาทุกเชา้ คำ�่ ผกู้ ินอยูก่ บั เกลยี วคล่นื ทะเลสคี รามเขม้ กลิน่ น�ำ้ เคม็ เรน้ อยู่ในกาย มีความสุขในรงั นอนอบอนุ่ ใตฟ้ า้ โปรง่ จวบจนเมฆสดี �ำลอยมาหยุดนง่ิ บนหลงั คาบ้าน ชะตากรรมจงึ ถกู ก�ำหนดใหม่ ฝนตกเปน็ ฝงู แมว หวั ทมิ่ ลงมาจากก้อนเมฆ ดวงตาแมวเปน็ ลกู ไฟ ทกุ อณูอากาศพลนั เปล่ยี นแปรสีหมน่ ความเศรา้ โศกแวะมาเยี่ยมเยอื น ผ่านวันเวลากังวลเศรา้ สร้อยยากขม่ ตาหลบั ขมปร่าความทุกขย์ ากข้นแค้น เกลียวคล่นื หมนุ วนกระหน�ำ่ ซัดซำ�้ รมิ หาด แม้เพียงความฝัน แตม่ ันเป็นฝนั ร้าย ๕. เราอยู่ในความคดิ เขาทกุ เชา้ ค�่ำ ณ ใต้แสงจันทร์ความฝันสีเทา ผวาตืน่ กลางเสยี งระเบดิ ปริศนา 234 วันที่ความรกั ผลิบาน ณ บา้ นแหง่ เรา

ภาพวาดประกอบเร่อื ง เรอื่ งเลา่ จากบา้ นเรา 235

ดนิ แดนเงยี บเหงายินเสียงลมหายใจแผ่วเบาของผูค้ น ซอกมุมหลบเร้น มะโย่ง โนรา ยืนร่ายรำ� อยู่กบั ผู้ชายขาเดยี วทลุ กั ทุเล จริงหรอื ฝนั เมด็ เหง่ือยะเยียบ มองสรรพางค์กลางเงาสลวั ไม่มสี ิง่ ใดไมใ่ ชต่ ัวเรา เหน็ นกสันติภาพหมดเร่ยี วแรงบนิ ตกกอ่ นถงึ กอ้ นเมฆ แผน่ ดนิ รอ้ นระอคุ ราใด สญั ญาณฝนโปรยกระหนำ่� เมอ่ื ทกุ ขโ์ ศกเจิ่งนองผืนดินอีกครา เราเจ็บปวดกับเขาทกุ เช้าค�ำ่ 236 วันที่ความรักผลบิ าน ณ บ้านแหง่ เรา

ลมแห่งวัฒนธรรมตงั้ คำ� ถาม วายังเซียม ใครนิยามความรม่ เยน็ ให้เปน็ อยู่ ใครนยิ มความมั่งคั่งให้พร่ังพรู นายฉตั รปกรณ์ ก�ำเหนิดผล ใครฮดึ ส้คู วามสงบจนซบซม จงั หวดั สงขลา “ศรีรามอ” ผชู้ ราเหนือผา้ ขาว เรือ่ งเล่าจากบา้ นเรา 237 เคยขับกล่อมแสงดาวในคืนขม ทวั่ พ้นื ท่ี “ปลายแหลม” เคยแต้มพรม เชดิ คณุ ธรรมข้นึ ห่มมานมนาน ลมแหง่ วัฒนธรรมอันลำ้� ลกึ จึงผลึกผลิตศัพทแ์ ล้วขบั ขาน เปน็ รปู เงา เปน็ แสงสี เป็นนทิ าน ให้ชาตพิ ันธุโ์ บราณได้เรงิ รงั เงาต่อเงา เลา่ ตอ่ เรือ่ ง ตอ่ เนื่องอยู่ ผ่านเสียงครูเรยี กวา่ “ทา่ นดาหลงั ” ผู้ฟอ้ นร่ายรปู ชราเปน็ “วายัง” ดว้ ยแผ่นหนังหลงั ไฟให้คนฟัง จากอนิ เดยี สู่ชวา มัชปหิต เข้าตานดี ้วยสิทธ์ิ “คนเชิดหนัง” ลอ่ งประโคมศรทั ธาสพู่ ลงั ดว้ ยความหวังให้หลงั เงา เลา่ เรือ่ งงาม

238 วันทค่ี วามรักผลิบาน ณ บา้ นแหง่ เรา

จากเงาราม งามเรา ทเ่ี ลา่ ว่า... “ธรรมะ” ยอ่ มสงู กวา่ ขอ้ ค�ำถาม สัญญะแหง่ ความดีทท่ี บั ทาม จ่งึ มิตอ้ งนยิ ามศัพท์ใด “ศรีรามอ” ก่อรา่ งสรา้ งโครงเรือ่ ง เราอาจเหน็ “หนังตัง้ เมือง” ไปตามสมัย เราอาจเหน็ “สีดา” มาลุย (Wi) fi แต่หัวใจยังสง่ รักไปจากจอ ส่งความเออื้ อารยี ์จากคยี ์ขบั อาจไม่เปน็ โบราณศพั ท์ออกจากศอ สง่ ความปรารถนาดีให้มีพอ ส่งความดีที่ไม่ขอจากมอื ใคร เปน็ เรือ่ งเลา่ เรยี บง่ายปลายดา้ มขวาน จากปลายแหลมโบราณผ่านสมัย หลอมและรวมชีวติ ด้วยจติ ใจ ดว้ ยลมใดท่โี บกพดั วัฒนธรรม (ผา่ นเรื่องเลา่ เงารปู ธูป เทยี น ไฟ ที่สอ่ งใจ หลงั จอผา้ “วายังเซยี ม” ) เร่อื งเลา่ จากบา้ นเรา 239

ภาพวาดประกอบเรื่อง เข้าชมเชย ขาวดำ� 240 วันทค่ี วามรักผลิบาน ณ บา้ นแหง่ เรา

ครูพลัดถิน่ นางสาวพาซยี ะ อาแซ จังหวดั ยะลา ฉันเปน็ ครบู รรจใุ หมใ่ นตา่ งถิน่ ครูใหญใ่ ห้ประจำ� ชัน้ ปอหนง่ึ และเปน็ ครบู รรณารักษด์ ูแลห้องสมดุ ก่อนเรยี นตอนบ่าย ครใู หญเ่ พิ่มกิจกรรมสวดมนตไ์ หว้พระและละหมาด นกั เรียนคนหน่ึงเปล่งบอกฉนั วา่ ครขู า…หนไู หว้พระไม่ไดห้ นูเปน็ คริสต์ ฉันบอกนกั เรยี นใหไ้ ปห้องสมุดเพอ่ื น่ังสงบนิ่ง ดพู ่ีๆ ละหมาด ไม่ว่าจะเปน็ พทุ ธคริสต์หรอื อิสลามเราตา่ งเป็นพ่นี ้องกัน ฉันหวงั วา่ เมื่อโตข้ึนนกั เรียนจะเข้าใจส่งิ ท่ีฉนั มุ่งหมายมากข้นึ ทุกวันศกุ ร์ก่อนโรงเรียนเลิก ฉันมอบการบา้ นให้นกั เรยี นเสมอ เด็กหญิงคนหนึ่งเปล่งบอกฉนั ว่า วันอาทิตย์แม่จะพาไปทโ่ี บสถ์หนจู ะไปท�ำการบา้ นที่โบสถ์ ทุกเช้าของวันจนั ทร์ เด็กน้อยส่งการบ้านพรอ้ มเลา่ ส่ิงทรี่ ตู้ อนไปโบสถใ์ ห้ฉนั ฟัง พระเยซูครสิ ตจ์ ะมาไถบ่ าปใหพ้ วกเรา แม่บอกว่าพระเยซูสอนให้เรารกั ทุกคน เรือ่ งเล่าจากบา้ นเรา 241

ตอนบา่ ยวนั หนง่ึ หลังจากสวดมนตไ์ หวพ้ ระ เด็กหญงิ ปอหน่งึ เดนิ มาหาฉนั พร้อมกับเพอื่ นๆ ของเขา มอื สองขา้ งถอื กระเปา๋ ผา้ ละหมาดของฉนั ขณะฉันสอนนักเรยี นมุสลิมละหมาดในหอ้ งสมดุ เด็กหญงิ ย่ืนมาใหฉ้ นั พรอ้ มเปล่งบอกฉันว่า “ครูขา หนูเอาผา้ ละหมาดมาให้ครูคะ่ ” ฉนั ย้มิ รบั พร้อมถามวา่ “ใครให้ลูกเอาผ้าละหมาดมาให้ครูคะ” เดก็ หญงิ ตอบวา่ “ไมค่ ะ่ หนเู อามาเอง” ก่อนหน้าน้ี ตอนพักเทีย่ งขณะที่ฉันละหมาดในห้องปอหนึง่ เด็กๆ จะลอ้ มวงเรียงตามผา้ ปลู ะหมาดของฉนั คนหน่งึ พดู เสยี งดงั อกี คนกท็ กั ใหเ้ งียบ “เงยี บๆ พดู เบาๆ ครลู ะหมาดอยู่” พวกเขาสังเกตดว้ ยสายตาทีบ่ ริสุทธิ์ แม้ฉนั จะไมไ่ ดส้ บตาพวกเขา ฉนั กส็ มั ผัสถงึ ความบรสิ ุทธ์ิสดใส ดงั่ คำ� เปรียบเปรยท่วี า่ เด็กเสมือนผ้าขาว เม่อื ฉนั ละหมาดเสรจ็ เด็กหญงิ คนหน่ึงเปล่งถามด้วยความสงสัยวา่ “ท�ำไมคณุ ครูต้องละหมาดด้วยคะ” ฉนั ตอบวา่ “ครูละหมาดเพื่อเขา้ เฝ้าพระเจา้ จะ้ ” เด็กหญิงถามต่ออีก “ทำ� ไมคณุ ครตู อ้ งเข้าเฝ้าพระเจา้ ดว้ ยคะ” ฉนั ยิ้มแล้วตอบวา่ “ครูเขา้ เฝา้ พระเจ้าเพอ่ื ขอพรให้พวกเราเรียนเกง่ เขา้ ใจง่าย และเป็นเดก็ ดี ไงคะ่ ” 242 วันท่คี วามรักผลบิ าน ณ บ้านแหง่ เรา

เชา้ วันหนึง่ ขนมซาลาเปาลกู กลมโตถกู วางบนโต๊ะท�ำงานของฉนั ฉนั เปล่งถามนักเรียนวา่ เป็นขนมของใคร เดก็ ชาย ยม้ิ สบตาฉันแล้วบอกว่าเปน็ ของผมครบั ผมใหค้ รคู รับ ฉนั ยิ้มแลว้ แกลง้ ถามวา่ ขา้ งในใสไ่ ส้อะไรจะ้ ลูกใหญ่จงั เด็กชายตอบทนั ควนั ไสไ้ กค่ รบั ผมรู้ว่าอสิ ลามกินหมไู ม่ได้ ฉนั ย้มิ กลา่ วขอบใจเดก็ ชายนอ้ ย ความสขุ อิม่ เอมประจักษข์ ึ้นในใจฉัน แท้จรงิ แล้วสายธารแห่งก�ำลังใจนั้นไหลผ่านอย่างไมม่ วี ันขาดสาย มนั ไหลมา พร้อมกับการใหเ้ กียรติ แม้คนสว่ นใหญจ่ ะนบั ถอื ศาสนาพุทธ เดก็ หญิงอีกคนนับถือศาสนาครสิ ต์ สว่ นฉนั เปน็ ครมู ุสลมิ คนเดยี ว เราก็ต่างเรียนรแู้ ละใหเ้ กียรติกนั ขณะทฉ่ี นั สอนเขา เขาก็สอนฉนั เรื่องเลา่ จากบา้ นเรา 243

ปัตตานเี มอื งทา่ ชายทะเล นายดิเรก วงศก์ รี ติเมธาวี จงั หวดั สงขลา แวว่ ‘อาซาน’ ปลุกวนั ใหมใ่ ห้เริ่มต้น แม้มืดมนยังมองเหน็ ผู้เปน็ เจ้า ภารกิจก่อนฟา้ สางระหวา่ งเชา้ สะทอ้ นเงาวันที่ฟ้าสที อง สร่างสายหมอกแยกยา้ ยเปน็ สายเมฆ งามสรรเสกอาทติ ย์เยอื นลมเลอื่ นลอ่ ง มองผนื ทรายแดนสวรรคอ์ ันเรอื งรอง งามผนื ทอ้ งทะเลเสนห่ ไ์ ทย รอ้ ยลำ� น�ำล�ำเนา ป๊ะเลา่ วา่ ... “ปัตตานีเปน็ เมอื งท่ามานานสมยั ครัง้ มเี รอื ส�ำเภาแล่นจากแดนไกล พอ่ ค้าจีนแผ่นดนิ ใหญไ่ ดเ้ ขา้ มา มาคบคา้ แลกเปล่ียนมาเรียนร้ ู ความรงุ่ เรืองเฟ่อื งฟูอยูเ่ ทียบท่า ผลผลติ เต็มหวัง คลงั สินคา้ เลา่ คุณคา่ บรรพชนจนตอนนี้” ลว่ งเวลาตามสมัยไม่รจู้ บ ใชเ่ ลอื นลบความภูมใิ จในศกั ดิศ์ รี ผืนแผ่นดินแตป่ ยู่ ่ามานานปี สืบวถิ ชี ัว่ ลกู หลานให้นานวนั เสียงแต๊ก แตก๊ ป๊ะออกเรอื เพอ่ื ลากอวน ภมู ปิ ัญญาทุกกระบวนลว้ นสรา้ งสรรค์ อวนปดิ ล้อม จับล้อม ลากพร้อมกนั ปลาหลากพนั ธุส์ รา้ งรอยย้มิ พริ้มพรายใจ มุ่งสฝู่ งั่ พร้อมปลาท�ำอาหาร มะ๊ ปรุงรสลงจานสานต่อให้ เติมยอดผัก พรกิ ขา่ ขิง ตะไคร ้ แกงหมอ้ ใหญพ่ ร้อมส�ำหรับรับประทาน เร่งสบื เทา้ สับเทา้ หงุ ข้าวหอม เตรียมใหพ้ รอ้ มลกู เหรยี งลกู เนยี งหมาน ลูกตอเคยี งน้ำ� พรกิ อีกหนึง่ จาน เปิดต�ำรบั รสอาหารจากบ้านเรา 244 วนั ท่ีความรกั ผลิบาน ณ บา้ นแห่งเรา

หยดั ยนื อยู่ดว้ ยศรทั ธาใตฟ้ า้ ครอบ รผู้ ิดชอบก็มีสขุ คลายทุกขเ์ ศรา้ รอ้ ยลำ� เนา ลำ� น�ำ ภูมลิ ำ� เนา พรอ้ มบอกเล่าเร่ืองราวอกี ยาวไกล แว่ว ‘อาซาน’ ก่อนหลับใหลในหว้ งฝัน พลันสำ� นึกมาดมนั่ วาดฝนั ใหม่ ประกาศเร่ืองราวดดี ที เ่ี ป็นไป กอ่ นจะสิ้นความเปน็ ใต้ ใหใ้ ครมอง เรื่องเล่าจากบา้ นเรา 245

รากเดียวกัน นายอัษฏาวธุ ไชยวรรณ จังหวดั สงขลา “สวนมะพรา้ ว” รว่ มรกรากจาก “น้ำ� เค็ม” รกั เติมเต็ม ชอ่ งความตา่ งเชอื่ มบางสง่ิ เทศกาล งานบุญใดไมท่ อดท้งิ แตกก้านกงิ่ แผ่รม่ ใบในตน้ เดียว ภูสงู โอบ ปา่ ยางกลางออ้ มกอด เห็นตลอด ร่มเงาเขาเขยี วเขยี ว ท่งุ รวงทอง ไถดะ ด�ำ มือก�ำเคยี ว ขา้ วยงั เก่ียว โคง้ คำ� นับกับทอ้ งนา มิตรภาพ เบง่ บานผ่านดอกรกั พทุ ธทายทัก มสุ ลิมยม้ิ เรงิ ร่า จิบแดดเช้า นกเขาขานรา้ นน้ำ� ชา รอ้ ยชีวา เล่าชีวติ เชอ่ื มชุมชน รากเดยี วกนั ฝังแน่นในแผ่นดนิ แวว่ ไดย้ นิ อาซานขานกุศล “บ่าว” ละหมาด หน้าท่ศี ักด์ศิ รีตน ซง้ึ เหตผุ ล ปฏิบัติดว้ ยศรัทธา ในขณะ พระสวดศพพบความหมาย พงั ทลาย ก�ำแพงศาสน-์ ปรารถนา มุสลิม ร่วมอาลยั ลึกในตา มติ รลำ้� ค่า ซาบซ้ึงถึงหวั ใจ ยืนสงบ ภาวนาอานสิ งส์ รากด�ำรง สมั พนั ธ์มิหวัน่ ไหว รว่ มแผน่ ดนิ รากเหงา้ เราเป็นใคร ? ลว้ นสายใย เช่ือมลูกหลานบา้ นเดียวกนั พระยงั คงบิณฑบาตบุญบังเกิด ธรรมประเสรฐิ ส่แู ก่นแท้มแิ ปรผัน กอ่ นละหมาด แวว่ อาซานสานสมั พันธ์ ในทกุ วนั ภาพตอกยำ�้ ธรรมดา “สวนมะพร้าว” ร่วมรกรากจาก “นำ�้ เคม็ ” รักเติมเตม็ ตามรอยทางอยา่ งปยู่ า่ จากปา่ พง ลงแรงถางสรา้ งกนั มา ล้วนวญิ ญาณ์ บรรพชนคนบา้ นเรา ดวงหน้าพทุ ธ มสุ ลิมอ่มิ ความสุข ผ่านก่ียคุ ซมึ ซาบภาพวนั เกา่ เห็นชีวติ สมั พันธ์อนั บางเบา ผ่านรากเหงา้ ด้งั เดิมเริม่ ทใี่ จ 246 วันท่ีความรักผลิบาน ณ บา้ นแหง่ เรา

(หมายเหตุ ในอดตี บา้ นสวนมะพรา้ วเคยเปน็ ชมุ ชนเดยี วกบั บา้ นนำ้� เคม็ ของพน้ื ท่ี อำ� เภอจะนะ แตด่ ว้ ยเหตผุ ลบางประการของรฐั จงึ แยกใหบ้ า้ นสวนมะพรา้ วเปน็ ของคนพทุ ธและบา้ นนำ้� เคม็ เปน็ ของคนมสุ ลิม แต่พวกเขายังคงอย่รู ว่ มกันเหมือนเดิม) เรอ่ื งเล่าจากบ้านเรา 247

ขา้ วย�ำใบยอ นายจรรยา สวุ รรณ์ จังหวัดสงขลา ๑. แม่ฉันมีอาชพี ขายขา้ วยำ� ฉันไม่ค่อยรู้อะไรหรอก แม่ขายขา้ วย�ำมาหลายปแี ล้ว ร้านข้าวยำ� ท่สี ่งฉันเรยี นจนจบชั้นปรญิ ญาตรี กลับบ้านในงานบุญฮารรี ายอปนี ี้ แม่ใหฉ้ นั ชว่ ยทำ� ขา้ วยำ� เล้ยี งเพ่อื นบ้านและญาติๆ ในหมบู่ า้ น ข้าวย�ำสมนุ ไพรฝมี ือแม่เป็นท่ีเลื่องลอื ถึงความอรอ่ ยเลิศ ๒. แสงอาทิตยย์ ามเชา้ ทีต่ ลาดเก่านคิ มเทพาสาดสอ่ งเป็นสที อง แม่พาฉนั เดินซอื้ เครื่องปรุงขา้ วยำ� ไปทว่ั ตลาด ถ่วั งอก มะนาว แครอทซ้อื จากป้ากิมเฮยี งบ้านอยูท่ า้ ยวดั ดอกดาหลา กุ้งแห้งป่นมะพรา้ วคัว่ ซอื้ จากอาคีเราะหแ์ มค่ า้ จากโคกโพธ์ิ นำ้� บูดู ซอื้ จากรอฮานี สะใภค้ นเทพาบ้านเดิมอยรู่ ูสะมแิ ล แตงกวา ใบชะพลู ถวั่ ฝักยาวซอ้ื จากน้าบุญมีลกู กุลสี วนยางมาจากรอ้ ยเอด็ ความหลากหลายของผคู้ นมาพร้อมเครือ่ งปรงุ หลากชนิดครบถ้วน รอยย้มิ ที่แม้ไมค่ ุ้นเคยแต่ดูเป็นมติ รราวกับญาตสิ นทิ อยูม่ านานเหมอื นเพ่งิ รู้สกึ วา่ ท่ีนค่ี อื บา้ นทีแ่ ทจ้ รงิ 248 วนั ท่คี วามรักผลบิ าน ณ บ้านแหง่ เรา

๓. กลบั ถงึ บา้ นพวกญาติๆ ต่างก็มานัง่ รออยู่พร้อมหนา้ ญาติบางคนเด็ดใบมะกรดู จากข้างบา้ นมาให้ ญาตบิ างคนตัดต้นตะไคร้ และสอยมะม่วงเบาจากตน้ มาให้ ส่วนใบยอน้ันครูสมชาย ครูสมัยเรียนประถมของฉนั เปน็ คนเอามาให้ ฮารีรายอเป็นวนั ส�ำคัญของมุสลิม แต่สว่ นผสมในเมนอู าหารโปรดของเรามาจากความหลากหลายของผ้คู นในทกุ ศาสนา อยมู่ านานเหมอื นฉนั เพิ่งรสู้ ึกวา่ บา้ นของฉนั มอี าณาเขตอันกว้างไกล ๔. ต่างรวมกันเป็นหนึง่ เดียว ขา้ วย�ำใบยอสีสวยสดในหม้อใบใหญว่ างตรงลานเสือ่ หนา้ บ้าน เครือ่ งปรงุ พชื ผกั หลากชนิดแต้มสีตวั เองเหมอื นดงั่ รอยยิม้ ทเ่ี บิกบาน ครูสมชายและภรรยาน่ังอยอู่ กี มุมหนงึ่ จากนัน้ ญาติๆ และเพ่อื นบา้ นเขา้ มาลอ้ มวง ฉันเห็นบางส่ิงในความรนื่ เริงแห่งงานบุญฮารีรายอ ฉันเหน็ ใบหน้าของทุกผคู้ นที่บรรณาการอาหารรสเลิศในเสยี งกระทบของจานชาม ถ่วั งอก มะนาว แครอททม่ี าจากป้ากิมเฮียงบ้านอยูท่ ้ายวดั ดอกดาหลา กุ้งแหง้ ปน่ มะพร้าวค่ัวจากอาคเี ราะหแ์ มค่ า้ จากโคกโพธ์ิ น�ำ้ บูดู ปรงุ รสฝีมือแม่ท่มี าจากรอฮานี บ้านเกิดอยู่ทีร่ สู ะมแิ ล แตงกวา ใบชะพลู ถั่วฝักยาวจากน้าบุญมลี กู กลุ สี วนยางมาจากรอ้ ยเอ็ด ฉันเหน็ มากกว่าดวงตาทไี่ ด้แลเหน็ ฉันรูส้ ึกถึงความสมบรู ณ์พร้อมซ่ึงมาจากท่ัวทุกผนื แผน่ ดินทีไ่ กลออกไป ท้ังหลายน้ันราวกับมติ งิ ดงามอนั เรยี บงา่ ยในวถิ ขี องหมบู่ า้ นท่ามกลางความหวาดกลัว คล้ายว่าความไมส่ งบในพน้ื ท่ีนานนบั สบิ ปีมไิ ดล้ บเลือนวถิ ีอนั ดีงามใหส้ ิ้นสูญ น�้ำบูดูสง่ ผา่ นความหวานหอมอยู่ในวันคืนทล่ี ่วงเลยไปถงึ วันพรุ่งนี้ วนั พร่งุ นีท้ บี่ รรณาการแห่งพืชพันธุจ์ ะยังคงงอกงามในทกุ หนแหง่ เร่ืองเล่าจากบา้ นเรา 249

๕. ขา้ วยำ� ของแม่ท�ำหน้าท่ีของมนั ครบถว้ นสมบรู ณ์อยู่ในดวงหนา้ ย้มิ แยม้ รอ่ งรอยใดๆ ทีห่ ลงเหลอื คอื ทรงจำ� ท่ีงดงามดุจดั่งแสงเชา้ สีทอง ฉนั รู้ หลงั ส้ินงานบุญฮารีรายอ แมจ่ ะยังคงทำ� หนา้ ทขี่ องตัวเองเพื่อสง่ ผ่านรสชาตหิ อมหวานของข้าวย�ำต่อไป แม่จะยงั คงไปเดินซอ้ื เครือ่ งปรุงจากพ่อค้าแม่คา้ คนเดิม และนำ� เครอื่ งปรงุ เหลา่ น้ันมาตระเตรยี มไวใ้ นถาดใบใหญ่ ราวกบั เมนูโปรดของเรายังคงหลอมรวมผคู้ นอนั หลากหลายไว้ในวิถขี องตนเอง ใหพ้ ชื พันธเ์ุ หลา่ นนั้ ท�ำหนา้ ที่ของมันในนามรสชาตเิ ลิศลำ้� ดุจดง่ั พรอันประเสรฐิ ท่บี รรณาการมาจากผ้คู นในผืนแผน่ ดินเดยี วกนั 250 วนั ทีค่ วามรักผลบิ าน ณ บา้ นแหง่ เรา

แสงหักเหจากเงาสะทอ้ น นางสาววชิ ดุ า ราชพทิ กั ษ์ จงั หวดั สงขลา เงาไม้ใหญเ่ คล่อื นตามทิศทางระบำ� ตะวนั รัตตกิ าลรุกไล่สนธยา เขม็ วนิ าทกี ระดิก การแปรเปล่ียนไปเป็นอีกส่ิงหนึง่ เกิดขน้ึ ทกุ เสี้ยวเวลา ท้งั ในมุมมองของผู้สงั เกตและผถู้ กู สังเกต ขา้ พเจ้ากล่าวถงึ ท้องฟา้ ดารดาษดาว แวว่ เสียงคนขับหนงั ตะลงุ ในงานวัด นกเขาบรรเลงเพลงไพร เดก็ น้อยเรียนอ่านคมั ภรี ์กรุ อานหลังละหมาดมักรบิ ภาษาไทยปนภาษามลายอู อกรสในรา้ นน้ำ� ชา และดาราวาววามในดวงตามวลมิตร ทา่ นเลา่ ถึงประกายเพลงิ สะทอ้ นจากดวงดาว สีแดงฉานของมันยอ้ มเมฆเปน็ สเี ลือด เสียงระเบดิ ดงั กลบทุกสรรพเสียง ทา่ นเล่าถึงที่แหง่ นัน้ ที่ท่ีโรงเรียนกลายเปน็ เถ้าถา่ น ทีท่ ค่ี นพูดมลายูไม่ได้คือคนบาป คนแขกทีด่ ตี ้องไมเ่ รียนโรงเรียนคนไทย เรือ่ งเล่าจากบ้านเรา 251

เยาวชนถกู มอมเมาด้วยยาเสพตดิ และโฆษณาชวนเชอื่ การดะวะห์เชญิ ชวนสูศ่ าสนา ทปี่ ลอ่ ยภรรยาและลูกอดอยาก ญฮิ าดกลายเปน็ การสละชพี เพอื่ กวาดลา้ งชีวิตคนบริสทุ ธิ์ ฮญิ าบและกะปเิ ยาะห์หมายถงึ สญั ลักษณข์ องการก่อการร้าย ทา่ นถามในสิง่ ท่ขี า้ พเจ้าเจบ็ ปวดท่ีจะตอบ ท�ำไมศาสนาอิสลามถึงสอนให้ฆา่ คน มหี ลุมดำ� ขนาดใหญเ่ กิดขึน้ ในห้วงเวลาและสถานที่ เสยี งร้องไห้ของทา่ นลอยมาไมถ่ ึงข้าพเจา้ และเสียงกูเ่ รยี กของข้าพเจ้าเกลือ่ นกล่นหล่นพนื้ ส่งิ หนึ่งท่ีดูเหมอื นจะกลายเป็นอีกสิง่ หนงึ่ แสงหักเหท�ำให้เงาสะท้อนบิดเบี้ยวราวอสรุ กาย มนั ไมใ่ ชอ่ ยา่ งนน้ั มนั ไมใ่ ช่อย่างนนั้ มันไมใ่ ช่แบบน้นั ท้ังหมดหรอกนะ สหาย ขา้ พเจา้ จะอธิบายถงึ ความเรียบง่ายและงดงามอยา่ งไร ความอบอนุ่ ยามสวมอาภรณแ์ หง่ เกียรติ ความหอมหวานแหง่ การละหมาดและถอื ศลี อด ความตระหง่านในใจยามนกึ ถงึ การแสวงบุญ รวมไปถงึ ถอ้ ยค�ำจากอัลกุรอ่านและฮะดษี ขวาและซ้าย มลาอิกะฮ์รอกีบและอะตดิ ก�ำลงั บันทึกทกุ การกระทำ� โดยไม่มหี ยุดพัก ทอ้ งฟา้ เสรีต้องเปน็ ของคนทุกผู้ ดารดาษดาวไม่ควรหม่นแสงด้วยเถ้าถ่านจากเปลวไฟ คนพูดมลายเู ปน็ คนพูดมลายูไมเ่ ปน็ ล้วนเปน็ คนไทย ปอเนาะคือโรงเรยี นสอนศาสนาเพอ่ื ขดั เกลาเยาวชน ญิฮาดไมใ่ ช่การพลชี ีพคนบรสิ ทุ ธ์ใิ นนามของศาสนา เพราะทกุ ชวี ิตมีสทิ ธ์ทิ ่ีจะได้รบั ความเคารพเสมอกัน 252 วันทค่ี วามรักผลบิ าน ณ บ้านแห่งเรา

ในช่วงชีวติ ทมี่ ใิ ช่อน่ื ใดนอกจากชัว่ พรบิ ตาหน่งึ ของจักรวาล เรามาเร่ิมจากการฟังเสยี งกนั และกันมไิ ด้หรือ สหาย มองฝ่าแสงหกั เห ม่านควัน รวมท้ังเงาท่บี ดิ เบย้ี ว ข้าพเจา้ ปรารถนาจะรอ้ งไหก้ บั ท่าน เช็ดนำ้� ตาให้แก่ท่าน ขา้ พเจ้าปรารถนาจะมองสกาวดาราในดวงตาท่าน เร่อื งเลา่ จากบา้ นเรา 253

อลงั การกอและ นายสกล ผดงุ วงศ์ จังหวัดปัตตานี ใต้เงาคร้มึ ของพฤกษ์พงดงมะพร้าว ทอดทิวยาวปรก ปะเสยะวอ ย่าน มโี รงเรือนรับจ้างสรรคส์ รา้ งงาน ทวดสู่หลานผา่ นดำ� รงช่างพงศ์พนั ธุ์ ไม้ตะเคียนเพียรดดั วางขดั ขึง กบเกลากลงึ กอ่ กง กูเละ กนั้ ตอกปาเสาะ ลงสลัก ปกั ยึดยัน สงิ่ ละอันเสรมิ แทรกแปลกเพรดิ พราย แล้วค่อยแตะคอ่ ยแตม้ แซมเสน้ สี ค่อยค่อยตคี อ่ ยค่อยตดั คดั ขอบขา่ ย เขยี วเดน่ ดาดคาดด�ำน�้ำเงินระบาย เหลอื งฉ่ำ� ฉายฟา้ แฝงแดงชาดชัก เป็น “กอและ” เลอื่ งลอื ชอ่ื เกา่ แก ่ ละเล่ือมแลลวดลายบุฉลฉุ ลกั วางช่องเวน้ ชว่ งวรรคจังหวะวาง ก่อเปน็ รูปเปน็ รา่ งวางย้ายยัก โลดถลันลีลาเหนิ ฟ้ากว้าง พลิว้ พรายพร่างเบง่ ดอกใบไหวกาบกอ ดูตื่นตัวหัวนกผงกหัน ปาเระแต รอแย รบั ประกบั กอ่ ประจงประดิษฐ์ปะติดปะตอ่ ลออประดัง พรรณพฤกษาเล้ือยลอดกอดเก่ยี วกาง ผงกผงาดกลางน�้ำบา้ พายุคล่งั หัว ลูแว บางา จาปงิ ประดับ ดเู ปล่งปลั่งยามสงบซบรมิ ทราย จิตวิญญาณช�ำนาญช่างฝงั เชอ้ื สาย เสกรงั สรรคบ์ รรเจิดงามงา่ ม ซางอ งามฉาบฉายชายแดนนามดา้ มขวานทอง กระเพื่อมรับคล่ืนคลท่ี ่หี ัวหาด สง่างามยามผจญวา่ ยวนวงั สืบสานต่อสอ่ ตวั ตนชนชาวบา้ น คุณดำ� รงทรงค่าล�ำ้ ก่องก�ำจาย 254 วันทค่ี วามรักผลิบาน ณ บ้านแหง่ เรา

หมายเหตุ คำ� ท่พี มิ พ์ตวั หนาเป็นภาษามลายูทอ้ งถนิ่ อธบิ ายความดังน้ี ๑. ปะเสยะวอ - ช่อื ตำ� บลในอ�ำเภอสายบุรี จงั หวดั ปตั ตานี ๒. กง - กระดูกงู ๓. กเู ละ - ไม้แผ่นประกอบเป็นตวั เรอื กราบเรือ ๔. ปาเสาะ - ไม้กลงึ กลม เล็กประมาณ นิว้ ก้อยใช้ตอกอดั แทนตาปู ๕. ลูแว - ไม้แผ่นประกอบเปน็ ส่วนหัวเรอื ๖. ปาเระแต - ไมแ้ ผน่ เหมอื นส่วนลแู ว แต่มาประกอบดา้ นท้ายเรอื เรอื กอและ รูปทรงปจั จุบนั ไมม่ ไี มช้ น้ิ น้ี ๗. บางา จาปิง - ไม้แผ่นอย่คู กู่ ันใชป้ ดิ ช่องด้านหวั เรือ และใชป้ ระโยชน์เปน็ ที่แขวนตะเกียง ๘. รอแย - ไมท้ ่อนปักตรงึ เป็นหลักยึดหางเสือ ๙. ซางอ - ไม้หนา ๒ ชน้ิ คูก่ นั ทำ� เปน็ งา่ มนำ� ไม้ไผ่มาพาดเพอ่ื พาด อวนปลดปลา เรื่องเลา่ จากบ้านเรา 255

สขุ ในความต่าง นางสาวธันยพร เจนถนอมมา้ จงั หวัดปัตตานี ธานีบุรีศร ี ปฐพขี จีพรง่ั เพรศิ พรายประจกั ษ์ดง่ั ณ สวรรค์ประไพงาม จนี อสิ ลามพทุ ธ บรสิ ทุ ธฤ์ิ ทยั สาม แดนตรยั ประกายนาม สพิ ิบลู วถิ ชี น ด้าวแดนเกษมศานต ์ สหมาน บ่ หมองหม่น ตา่ งศาสนาตน พหวุ ฒั นธรรม มีภทู ะเลหมอก บม่ ิหลอกอรา่ มลำ้� เบตงนครธรรม ปรุ ะสดุ สยามไทย ยงั มสั ยิดกลาง รจุ ิสรา้ ง ธ เล่อื มใส งดงามพิไลไซร ้ ตะโละ๊ หาด ณ ตานี ชมอ่าวมะนาวช่ืน สริ คิ ลนื่ ทะเลศรี แลปา่ พนาม ี พรุโต๊ะแดงนรา ฯ งาม เดน่ กรอื โป๊ะเนอื้ ปลา สจิ ะพาประจักษน์ าม ข้าวยำ� ประดับตาม และประสมกะบดู ู ป่าเขาทะเลลน้ ปถุ ุชน ธ ยดึ ชู มงุ่ ท�ำประมงส ู นรมง่ั และยงั่ ยนื จนี พุทธพระเณรสงฆ ์ สจิ ะคงผดุงผนื ทั้งอสิ ลามยืน สวุ คนธ์ ณ ธานี ดา้ วแดนธราดล ปถุ ุชนประพฤติดี เมืองใต้ ณ ถ่นิ น ี้ บม่ หิ มน่ มหิ มองมวั 256 วนั ท่คี วามรักผลบิ าน ณ บา้ นแหง่ เรา

เบอร์อามสั แห่งเสรภี าพ นายศกั ดา ไชยภาณุรกั ษ์ จังหวัดสงขลา มองม่านฟ้าทาฟากเป็นฉากฟ้า ถงึ เวลาฟา้ เเดนใต้ฉายวันใหม่ ภาพชีวิตจิตวญิ ญาณผ่านความนัย ลว้ นเเฝงใฝใ่ นวิถมี ิโดยเดยี ว ขา้ วเรียงรวงเหลืองอรา่ มตามทอ้ งทุ่ง ‘เเรกหวั รุ่ง’ลงเเขก เเจก‘เเกระ’เกีย่ ว ล้วนครอบครวั พน่ี อ้ งคลอ้ งกลมเกลียว ทีละเท่ยี ว ทีละกำ� น�ำ‘เรียง’นา เร่มิ หน้ารอ้ นลมเเลง้ โลมใจเเลว้ ใบยางรว่ งตามเเถวทั้งเเนวปา่ เเดดเเรงไล้ไลฤ่ ดอู ย‘ู่ กมุ ภา’ ถึงเวลาท้าลมอุดมการณ์ โต๊ะ-เย๊าะ-เเบเดินหนา้ ฝ่าท้องทุ่ง จูงเดก็ น้อยมาดมงุ่ อยา่ งกลา้ หาญ เข้าดงปา่ หาไผไ่ ม่รอนาน ถือด้ามขวานหามพรา้ ประสาชาย ตอ้ งหาไผใ่ หย้ าวถงึ ราวเมตร ตอ้ งดเู พศ‘ตัวเมยี ’ไมเ่ สียหาย ต้องอายสุ ป่ี กี วา่ เรม่ิ ท้าทาย จดุ ม่งุ หมายภูมิปญั ญาวชิ าชน ตดั -เหลา-เผา-ดดั ชโลมนำ�้ วิธีล�ำ้ จำ� สบื ทอดคือยอดผล เเหนะสอนโต๊ะ โต๊ะสอนเยา๊ ะเหมาะยินยล ท่วั ทุกหนพร้อมสืบสายลมหายใจ โครงไผ่ขึงตรึงกล้าทา้ ลมลู่ ลายใบพรู ดอกชบา สง่าไสว ลายสาเกศลิ ป์สร้างรา่ งรอยไทย วิจติ รไกล‘เบอร์อามสั ’ว่าวมลายู ถึงเวลาส่งว่าวขน้ึ ราวฟ้า สอ่ งศรทั ธาเอกลกั ษณ์ประจกั ษ์อยู ่ มรดกวฒั นธรรมคอยค�ำ้ ชู เราคอื ผู้สานตอ่ กอ่ ศลิ ปง์ าม เม่ือมองวา่ วเคลื่อนไหวทั่วเวิ้งฟา้ ดูโดดเดน่ เป็นสง่าน่าเกรงขาม เชือกโยงขงึ ตรงึ ว่าวราวส่อื ความ ถึงนิยามไร้เสรที ีค่ วรเปน็ ปลดปลอ่ ยเชอื กให้เสรีเหมือนอยา่ งนก ไปโปรยปกสนั ติธรรมย�้ำให้เหน็ ฝาก‘เบอร์อามสั ’ปัดเป่า ทกุ ขล์ �ำเค็ญ เปดิ ฟา้ ใหม่ ‘ใต้’ ร่มเยน็ เห็นศิลป-์ ธรรม เร่อื งเล่าจากบ้านเรา 257

ว่าวเบอร์อามัส - ภาษามลายูกลาง เป็นว่าวที่มักเล่นหลังฤดูเก็บเกี่ยว ในอดีต ใช้ว่าว ในพธิ กี รรมสำ� หรบั ทำ� นายหรอื พยากรณ์ ดนิ ฟา้ อากาศ ซง่ึ ในอดตี พบมากในพนื้ ทส่ี ามจงั หวดั ชายแดนใตห้ รอื ๗ หวั เมอื งใต้ 258 วันที่ความรกั ผลิบาน ณ บา้ นแหง่ เรา

๑. คนื จันทรแ์ รม แรมมืดราตรีฉากสเี ศร้า เงยี บเหงาคืนค่�ำมา่ นด�ำหม่น นายวศิ ิษฐ์ ปรียานนท์ ชายแดนใต้ตน่ื ตระหนกยังวกวน จงั หวดั สงขลา เรือ่ งเล่าและผู้คนเคยงดงาม เรอ่ื งเล่าจากบ้านเรา 259 กลายเปน็ พื้นทส่ี ีแดง ความรนุ แรงด่นื ดาษไมอ่ าจห้าม ผลประโยชนข์ องใครชา่ งใจทราม หรือในนามความถูกตอ้ งของกล่มุ ตน คอ่ ยค้นุ ชินทีละนดิ ทุกทศิ ผา่ น จุดต้ังดา่ นมากมายสายถนน ปลอดภัย มีหวงั คลายกงั วล ? รัฐผสานประชาชนจนกลมเกลยี ว ๒. แหลกยบั ความรู้สึกลกึ ข้างใน เนอื้ หัวใจหดหู่ สู้ เดด็ เดยี่ ว เผชญิ หนา้ ความจริงถามสง่ิ เดียว มอื ใดเหนย่ี วล่ันไกปืนท่ีกุม

๓. ในมืดด�ำค�ำ่ นั้นคืนจนั ทรแ์ รม นองนำ้� ตาประแต้มเปอื้ นแก้มชุม่ ยิ่งรอ้ นผ่าวขา่ วรา้ ยกระจายคลมุ ภายใต้มมุ ภาวะสัน่ สะเทอื น ว่าพ่อด่วนจากไปไมอ่ าจฟนื้ พอ่ ได้คนื ลมหายใจส่ไู พรเถอ่ื น เต็มเปยี่ มความโศกเศร้ามาเหย้าเยอื น ไม่อาจลบลมื เลือนด้วยจดจำ� ไปถงึ ทเี่ กิดเหตกุ ารฆา่ โหด ไร้แรงโกรธลม้ ทัง้ ยืนสะอน้ื ร�ำ่ “พ่อหนูตายยงั ไง แลว้ ใครทำ� ?” ไมม่ ใี ครตอบคำ� ทำ� ไม ? ปลอกกระสนุ ปืนตกใกล้อกพ่อ น้ำ� ตาหนมู ไี ม่พอจะรอ้ งไห้ จนหมดแรงอ่อนเพลียเพราะเสียใจ “หนูต้องอย่ตู อ่ ไป พอ่ ไมม่ ”ี เหตกุ ารณ์ความไม่สงบไม่จบส้นิ ผืนแผน่ ดินลุกเปน็ ไฟไหมพ้ น้ื ที่ พ่อหนูคืออีกรายความตายน้ี เปน็ ศพท่ีเทา่ ไหร่แลว้ ไม่รู้ 260 วันทค่ี วามรักผลบิ าน ณ บา้ นแห่งเรา

๑. แอบอิง ฟงั เสียงสวดขอพรในตอนเช้า สงิ่ ยืนยนั พงศเ์ ผ่าเก่าวิถี นายการยี า ยโู ซะ๊ ตามศรัทธาทางธรรมเท่าท่ีมี จังหวัดนราธิวาส ตามความเช่ือเสรขี องชวี ติ เฒ่าชแร-แกช่ ราดวงตานนั้ เรอ่ื งเลา่ จากบ้านเรา 261 ซึมซบั รับคนื วนั แนบสนิท ทั้งสขุ เศร้าอบอวลในมวลมติ ร คอื ศรทั ธาท่สี ถติ ตอ่ เพ่ือนมนุษย์ ในทรงจ�ำเฉดิ ฉายของชายชรา คือภาพจ�ำเลือนพร่ามสิ ิน้ สุด บางสว่ นเสีย้ วทรงจ�ำขาดช�ำรุด เกนิ ยอื้ ยุดคนื วันกบั ฝันร้าย ลึกลงไปนยั น์ตาใบหน้าเศร้า เรอื่ งเลา่ ทง้ิ ถา่ นเถา้ เผาความหมาย กลบฝังถมทางเดนิ เปน็ เนนิ ทราย ทิ้งทรงจ�ำสูญสลายกับสายลม บนความเช่ือทับซ้อนค�ำสอนตา่ ง ตา่ งศรัทธาต่างทางท่สี รา้ งสม ตา่ งทกุ ข์ทนเจ็บปวดทกุ ข์ระทม ต่างตรอมตรมขม่ ขน่ื เพราะปนื ไฟ

๒. แผ่นดนิ ใดเดอื ดดกุ ว่าที่นี่ แผ่นดินท่เี ดือดคุกว่าที่ไหน ทกุ เขตคามเดอื ดดาลกว่าย่านใด เผาศรัทธามอดไหม้ด้วยไฟฟนื นบั แต่น้นั ยาวนานกาลเวลา ก�ำแพงพงั ศรทั ธาใหเ้ ป็นอ่นื แบง่ ความเช่อื แบง่ ชดุ แบง่ จุดยืน ถงั่ โถมความโหดหืน่ สาดใส่กัน ใครฆา่ กันไม่รู้ใครสใู้ คร ใครแอบอ้างยคุ สมยั ใหห้ ้�ำหัน่ ใครบูชาท้าทายการฟาดฟัน ใครโรมรนั ฟนั แทงใครแยง่ ชิง ใหผ้ ีป่ผู ียา่ นอนตาหลับ ปลอ่ ยความชังประดบั ไว้กบั หิ้ง เวน้ ความเชอื่ องิ แอบคอยแอบองิ ให้ศรทั ธาเปน็ สงิ่ จรงิ ใชง่ มงาย 262 วันท่คี วามรักผลบิ าน ณ บา้ นแห่งเรา



ผลการตัดสินการประกวดงานเขียน เร่ืองเล่าจากบ้านเรา ประจ�ำปี ๒๕๖๒ ตามท่ี ส�ำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม ได้เปิด รับสมัครประกวดงานเขียน เร่ืองเล่าจากบ้านเรา ปี ๒๕๖๒ เพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์ ผลงานดา้ นวรรณศลิ ป์ แกเ่ ดก็ เยาวชน และประชาชน ในพน้ื ที่ ๔ จงั หวดั ภาคใต้ ไดแ้ ก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส นน้ั บดั นี้ คณะกรรมการตดั สินงานเขียน เรื่องเลา่ จากบา้ นเรา ปี ๒๕๖๒ ได้พจิ ารณา ตัดสินผลงานของผู้ส่งงานเขียน จ�ำนวนท้ังสิ้น ๔ ประเภท ประกอบด้วย เรียงความระดับ ประถมศกึ ษา เรยี งความระดบั มธั ยมศกึ ษา เรอื่ งสน้ั ระดบั อดุ มศกึ ษาและประชาชนทวั่ ไป และ กวนี พิ นธ์ เรยี บร้อยเเล้ว จงึ ขอแจ้งประกาศผลการตัดสนิ ดังน้ี เรียงความระดับประถมศึกษา รางวัลชนะเลิศ เดก็ หญิงอามีณาย์ ดาโอะ ความสุขเลก็ ๆจากของเหลอื ๆ โรงเรยี นแหลมทองอปุ ถมั ภ์ จังหวดั ปตั ตานี รางวัลรองชนะเลิศอันดบั ๑ เดก็ หญิงพณิชยา เพ็ชรเทพ อยู่กับยาย โรงเรยี นราชวทิ ยา จังหวัดนราธิวาส รางวลั รองชนะเลิศอนั ดับ ๒ เด็กหญงิ ฮาซามี แสงโด บ้านเกิดท่ีรัก โรงเรียนบา้ นเขาแกว้ จังหวดั นราธวิ าส

รางวลั ชมเชย ๑. เด็กหญงิ อาฟนี ี หะมิ บ้านฉันมีกลองบานอ โรงเรียนบ้านเจ๊ะเหม จงั หวัดนราธิวาส ๒. เดก็ หญงิ จารวี เอกนรพนั ธ ์ สายธารแห่งความรกั โรงเรียนบา้ นสไุ หงโก-ลก จงั หวัดนราธิวาส ๓. เดก็ หญิงจริ าภา สุขสำ� ราญ ความฝนั อปุ สรรค มโนราห ์ โรงเรยี นเทศบาล ๒ (วดั ตานีนรสโมสร) จงั หวดั ปตั ตานี ๔. เดก็ หญงิ ไซนบั สะอะ ชาเจ๊ะเหมบา้ นเรา โรงเรยี นบ้านเจะ๊ เหม จังหวัดนราธวิ าส ๕. เด็กหญิงนรู อลิ ฮัม ดามูหิ วา่ ววงเดอื นเสน่ห์มลายู โรงเรียนพมิ านวิทย์ จังหวัดนราธิวาส ๖. เดก็ ชายแวฟิรมนั เจะอูเซ็ง กอและซ่า.. ทา้ ให้ชม โรงเรียนเทศบาล ๔ (บา้ นทรายทอง) จังหวัดนราธวิ าส ๗. เด็กหญิงกุลธดิ า บณิ ฑาประสทิ ธิ์ มโู นะบ้านฉัน โรงเรียนบณุ ยลาภนฤมติ จังหวดั นราธิวาส ๘. เด็กหญิงฟรั ฮานา อาแว ตารีอนี า ณ บ้านสามแยก โรงเรียนบ้านไม้ฝาด จังหวัดนราธิวาส ๙. เดก็ หญงิ เมลสิ า อาแวและ แว้งทร่ี ัก...ความรกั แห่งฮาลา–บาลา โรงเรียนบา้ นแว้ง จงั หวัดนราธิวาส ๑๐. เดก็ หญงิ จิรวดี วงศน์ ราสิน ป่าแห่งความอดุ มสมบูรณ ์ โรงเรยี นบ้านสไุ หงโก-ลก จังหวดั นราธวิ าส เรียงความระดบั มธั ยมศกึ ษา รางวัลชนะเลิศ นางสาวฮดี ายะห์ เบญ็ โกบ อีดิล้ ฟิตรีย:์ วันท่ีความรกั ผลบิ าน ณ บ้านแหง่ เรา โรงเรียนนิด้าศึกษาศาสตร์ จงั หวัดสตูล (ภมู ิลำ� เนาจงั หวัดสงขลา)

รางวลั รองชนะเลิศอันดบั ๑ นายอุสมาน วาเตะ๊ วิหารทถ่ี ูกลมื โรงเรยี นประสานวทิ ยามลู นิธิ จงั หวัดปัตตานี รางวลั รองชนะเลิศอนั ดับ ๒ นายรอมฎอน เบ็ญโกบ หอมกลน่ิ นำ�้ ชา ณ ชายแดนแผน่ ดนิ สยาม โรงเรียนอรณุ ศาสนว์ ทิ ยามูลนธิ ิ จังหวดั สตูล (ภูมลิ �ำเนาจงั หวดั สงขลา) รางวัลชมเชย ๑. นางสาวสไู วดา สาและ เธอคือผูร้ งั สรรคร์ สชาตชิ วี ิต โรงเรียนตนั หยงมัส จงั หวัดนราธิวาส ๒. นางสาวนรู อนั ดา สาและ ความคดิ ท่ตี ายไปแล้ว โรงเรยี นเดชะปัตตนยานกุ ูล จังหวดั ปตั ตานี ๓. นางสาวพชิ ามลช์ุ งามศรีผอ่ งใส เสียงนำ�้ ใจ โรงเรยี นเบญจมราชูทิศ จังหวดั ปัตตานี ๔. นางสาวสธุ าวี สุภาพ สันติสุขอยู่หนใด โรงเรียนสะเดา” ขรรค์ชยั กมั พลานนทอ์ นสุ รณ์” จงั หวัดสงขลา ๕. นางสาวนรู ีดา เจ๊ะอมุ า ยามเม่ือแสงแรกฟา้ โรงเรียนเตรียมศึกษาวิทยา จงั หวัดปตั ตานี ๖. นางสาวฟาดลี ๊ะ ประดู่ เสาหลัก โรงเรยี นประสานวิทยามลู นธิ ิ จังหวดั ปัตตานี ๗. นางสาวสันต์ฤดี แก้ววชิ ติ เรอื ลากจากมนุษย ์ โรงเรียนโพธิ์คีรีราชศกึ ษา จงั หวัดปตั ตานี ๘. นางสาวธิดารตั น์ สียา ดาวบนดิน โรงเรยี นโพธ์คิ รี ีราชศึกษา จังหวดั ปัตตานี ๙. นางสาวฮไู ซนี เสม็ หล่อ ฉนั เรียกมนั วา่ ความสขุ โรงเรยี นรุ่งโรจน์วิทยา จังหวดั สงขลา ๑๐. นางสาวนจั มา กูโน ถน่ิ น้ี ทร่ี กั โรงเรียนตันหยงมัส จังหวัดนราธวิ าส

เรื่องสน้ั ระดับอดุ มศกึ ษาและประชาชนทั่วไป รางวลั ชนะเลศิ กัลยาณมติ รแหง่ ปลายด้ามขวาน นายมฮู มั มดั เจ๊ะเลาะ จังหวัดยะลา รางวลั รองชนะเลิศอันดบั ๑ นายมะรอวี เจะ๊ อุมา ส่งิ มหัศจรรย์ จังหวดั ปัตตานี รางวลั รองชนะเลิศอันดบั ๒ ประวตั ิย่อของโครงการตา้ นระเบิด นายถนอม ขุนเพ็ชร ์ จังหวดั สงขลา รางวลั ชมเชย “วาบูลนั ” สายลมไม่เคยหวนคนื ๑. นางสาวกาลทพิ ย์ ถน่ิ นา ตะปู จงั หวดั ปตั ตานี สายรุ้งพาดนา่ นฟ้านไ้ี ด้บ้างไหม ๒. นายจรรยา สุวรรณ ์ สายสัมพนั ธ์ท่ีขาดชว่ ง จงั หวัดสงขลา สถานการณป์ ระหลาด ๓. นางสาวฟัรซาน สะแมง ฮิญาบสนั ตภิ าพ จงั หวดั นราธิวาส บอมอฮาตกู ับการตอ่ ส้คู ร้งั ส�ำคญั ๔. นายอนสุ รณ์ ศรคี ำ� ขวัญ จงั หวดั นราธิวาส ๕. นายอารีฟ แปเฮาะอีเล จงั หวดั ปตั ตานี ๖. นางสาวพาซยี ะ อาแซ จังหวดั ยะลา ๗. นางสาวรติธรณ ใจหา้ ว จงั หวัดสงขลา

๘. นางสาววิชุดา ราชพทิ กั ษ์ พลังพเิ ศษของมนุษย์ตา่ งดาว จังหวัดสงขลา โศกนาฏกรรม ๙. นางสนุ ารีย์ พันธุเมฆ กะนิ จงั หวัดนราธิวาส ๑๐. นางสธุ ีมนต์ สกลุ วิศัลย ์ จังหวดั นราธิวาส กวีนพิ นธ์ รางวลั ชนะเลศิ ยาย นายกันตภณ รกั ค�ำม ี จงั หวัดสงขลา รางวัลรองชนะเลิศอันดบั ๑ นายถนอม ขนุ เพช็ ร ์ เราในเขา จงั หวัดสงขลา รางวัลรองชนะเลิศอนั ดับ ๒ วายังเซยี ม นายฉตั รปกรณ์ ก�ำเหนิดผล จังหวัดสงขลา รางวลั ชมเชย ครพู ลัดถ่นิ ๑. นางสาวพาซยี ะ อาแซ ปตั ตานีเมอื งท่าชายทะเล จงั หวดั ยะลา รากเดยี วกัน ๒. นายดิเรก วงศ์กีรติเมธาว ี จงั หวดั สงขลา ๓. นายอษั ฏาวธุ ไชยวรรณ จังหวัดสงขลา

๔. นายจรรยา สวุ รรณ์ ขา้ วย�ำใบยอ จังหวดั สงขลา แสงหกั เหจากเงาสะท้อน ๕. นางสาววชิ ุดา ราชพิทักษ์ อลังการกอและ จงั หวัดสงขลา สุขในความต่าง ๖. นายสกล ผดุงวงศ ์ เบอรอ์ ามัสแหง่ เสรภี าพ จังหวัดปัตตานี คนื จนั ทร์แรม ๗. นางสาวธันยพร เจนถนอมม้า แอบองิ จงั หวัดปตั ตานี ๘. นายศักดา ไชยภาณุรกั ษ ์ จงั หวัดสงขลา ๙. นายวศิ ิษฐ์ ปรียานนท์ จงั หวดั สงขลา ๑๐. นายการียา ยโู ซ๊ะ จงั หวดั นราธวิ าส ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๗ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๖๒ (นางสาววมิ ลลักษณ์ ชชู าติ) ผ้อู �ำนวยการสำ� นักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมยั

คณะกรรมการคัดสรรงานเขยี น เรอื่ งเลา่ จากบา้ นเรา ปี ๒๕๖๒ วิมลลกั ษณ ์ ชชู าติ ทป่ี รึกษา นาถนศิ า สขุ จิตต ์ ประธานกรรมการ สุวิมล วมิ ลกาญจนา รองประธานกรรมการ ซะการยี ย์ า อมตยา กรรมการ เชิดชยั อุดมพันธ ์ กรรมการ สฤษดิ์ ผาอาจ กรรมการ อภิชาติ จนั ทรแ์ ดง กรรมการ วนิดา เตะ๊ หลง กรรมการ ชาคริต โภชะเรือง กรรมการ แสงทวิ า นราพิชญ์ เลขานุการ สวรรยา โตะ๊ จ ิ ผู้ช่วยเลขานกุ าร อัมรินทร์ เจะอาลี ผูช้ ว่ ยเลขานุการ คณะกรรมการตัดสินงานเขยี น เรอ่ื งเล่าจากบา้ นเรา ปี ๒๕๖๒ วมิ ลลกั ษณ ์ ชูชาติ ท่ปี รึกษา สถาพร ศรสี ัจจัง ประธานกรรมการ นาถนศิ า สขุ จติ ต ์ รองประธานกรรมการ เจน สงสมพนั ธุ ์ กรรมการ กนกวลี กนั ไทยราษฎร์ กรรมการ วรี ะศักด์ิ จนั ทรส์ ง่ แสง กรรมการ ขจรฤทธิ์ รักษา กรรมการ ชีวัน วิสาสะ กรรมการ ยทุ ธ โตอดิเทพย ์ กรรมการ สุวิมล วมิ ลกาญจนา กรรมการและเลขานุการ แสงทวิ า นราพชิ ญ ์ ผู้ชว่ ยเลขานุการ จติ สุภคั ตันติเกษตรกิจ ผชู้ ่วยเลขานกุ าร

วันที่ความรักผลิบาน ณ บ้านแห่งเรา ทป่ี รึกษา วิมลลักษณ์ ชูชาต ิ ผ้อู �ำนวยการส�ำนักงานศลิ ปวฒั นธรรมรว่ มสมยั สวุ ิมล วิมลกาญจนา ผอู้ ำ� นวยการศูนยเ์ ครอื ขา่ ยสัมพนั ธ์และแหลง่ ทุน บรรณาธิการ นาถนศิ า สขุ จติ ต์ วนิดา เต๊ะหลง กองบรรณาธกิ าร แสงทวิ า นราพชิ ญ์ จริมา ทองสวัสด์ิ จิตสภุ ัค ตนั ติเกษตรกจิ อัมรนิ ทร์ เจะอาลี กลุ สตรี คำ� อินตะ๊ เศรษฐสรณ์ ไชยประเสรฐิ ออกแบบรปู เล่ม สกุ ฤษฎิ์ นุชนาทเจริญสขุ ภาพประกอบ ต้องการ จำ� นวนพิมพ์ ๑,๐๐๐ เลม่ พ.ศ. ๒๕๖๒ ปที พ่ี มิ พ์ สำ� นกั งานศิลปวฒั นธรรมรว่ มสมยั กระทรวงวฒั นธรรม จัดทำ� โดย เลขที่ ๑๐ ถนนเทยี มร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๑๐ http://www.ocac.go.th กู๊ดเฮด พร้นิ ทต์ ิ้ง แอนด์ แพคเกจจ้งิ กรปุ๊ โรงพิมพ ์ 6/1 นคิ มอตุ สาหกรรมบางชัน ซอยเสรไี ทย58 แขวงมนี บรุ ี เขตมนี บุรี กรงุ เทพฯ 10510 โทร. 02-136-7042 http://www.good-head.com

บันทึก

บันทึก

บันทึก