141 ▪ สถานะบัญชี หมายถึง สถานะของบญั ชสี นิ เชือ่ ของลูกค้าในปจั จบุ นั ว่าอยใู่ นสถานะใด เชน่ รหัส 10 – ปกติ หมายถงึ ไม่มีหน้คี า้ งชำระ หรอื ค้างชำระไมเ่ กิน 90 วนั รหัส 11 – ปดิ บญั ชี หมายถงึ ลูกหนช้ี ำระหนี้หมด หรอื ชำระครบตามยอดท่ไี ดต้ กลง ประนอมหนี้ระหว่างสมาชิกและลูกค้า รหสั 20 – หน้คี ้างชำระเกิน 90 วัน หมายถึง ลกู หน้ีมีหนีค้ า้ งชำระเกนิ 90 วนั ▪ จำนวนวันที่คา้ งชำระ จะบอกวา่ ในเดอื นน้นั ๆ ลูกค้ามีการชำระปกติ หรอื มีคา้ งชำระ หรอื ไม่ เชน่ ไมค่ ้างชำระหรอื คา้ งชำระไมเ่ กนิ 30 วนั คา้ งชำระ 31-60 วนั หรือคา้ งชำระ 61-90 วนั *ทม่ี า: เวบ็ ไซต์บรษิ ทั ขอ้ มูลเครดิตแหง่ ชาติ จำกัด การติดเครดิตบูโร หรือติด blacklist เครดิตบูโรมีหน้าที่รายงานข้อมูลเครดิตและสถานะลูกหนี้ตามข้อเท็จจริงที่ เกิดขึ้นในแต่ละเดือนตามที่ได้รับแจ้งจากสมาชิก เช่น กรณีที่ลูกค้าชำระหนี้ได้ตามสัญญาจะ รายงานว่า มีสถานะ “ปกติ” หรือ “ไม่ค้างชำระหน้ี” ถ้าลูกค้าไม่ชำระหนี้ ก็จะรายงานสถานะ ว่า “ค้างชำระหน้ี” เครดิตบูโรจะไม่มีการรายงานว่า ติด blacklist หรือติดเครดิตบูโร ซึ่งจะ ทำใหข้ อกเู้ งินไมไ่ ด้ กลา่ วคอื เครดิตบโู รไม่เคยข้นึ บัญชดี ำ (blacklist) หรือข้ึนทะเบียนผู้หน่ึง ผู้ใดใหต้ ดิ เครดติ บูโร หรือติดแบลก็ ลิสต์ หรือมีการเก็บขอ้ มลู เปน็ รายบคุ คลหรือเป็นรายบญั ชี วา่ เปน็ บคุ คลที่สถาบนั การเงนิ ไม่ควรให้กู้เงินแต่อยา่ งใด การท่ีสถาบันการเงินจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะให้กู้แก่ผู้ใดนั้น จะเป็นไปตาม นโยบายการให้กู้ยืมของสถาบันการเงินนั้น ๆ โดยอาศัยปัจจัยต่าง ๆ ที่สำคัญหลายอย่างมา พิจารณาประกอบกัน รวมถึงเอกสารข้อมูลของลูกค้าในการยื่นขอกู้ ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจ การเงินของประเทศในขณะนั้นอกี ด้วย ไม่ใชพ่ จิ ารณาข้อมลู เครดติ จากเครดิตบูโรแต่เพียงอย่างเดยี ว แหล่งศกึ ษาขอ้ มลู เพ่ิมเตมิ เว็บไซต์บริษทั ข้อมลู เครดติ แหง่ ชาติ จำกัด https://www.ncb.co.th กิจกรรมทา้ ยเรอ่ื งที่ 3 เครดิตบูโร (ให้ผูเ้ รียนไปทำกิจกรรมเรอ่ื งท่ี 3 ทสี่ มดุ บันทกึ กจิ กรรมการเรียนรู้) ชดุ วชิ าการเงนิ เพ่อื ชวี ิต 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 สินเชอ่ื
142 เร่ืองที่ 4 วิธกี ารป้องกันปญั หาหน้ี บางครั้งปัญหาเพียงเล็กน้อยในวันนี้ เชน่ นำเงนิ กู้ไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ท่ีขอ (เชน่ บอกเจ้าหน้ีว่าจะกมู้ าขยายธุรกิจ แตก่ ลับแบ่งเงนิ ส่วนหนึ่งไปเที่ยว) ลมื จ่าย เดือนไหนไม่มี เงินก็ไม่จ่าย หรือไม่เคยอ่านเงื่อนไขของสัญญาสินเชื่อ อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตได้ หากไม่ป้องกัน กรณศี กึ ษา วารตี ้งั ใจจะขอสินเชื่อกับธนาคาร A เพ่อื นำเงินไปเปน็ ทนุ ซอ้ื สินค้ามาขาย ธนาคาร A ให้กู้จำนวน 50,000 บาท เมื่อได้รับอนุมัติสินเชื่อก็นำเงิน บางสว่ นไปใหแ้ ฟนซอื้ เครื่องปรบั อากาศ จงึ เหลือเงินไมพ่ อท่ีจะซ้อื ของเข้า รา้ น ยอดขายสนิ คา้ จงึ ได้นอ้ ยกวา่ ทต่ี ัง้ เป้าไว้ เมื่อถึงคราวต้องชำระหน้ี ก็ชำระบางส่วนเพราะเงินไม่พอ เดือนต่อ ๆ มา ก็ชำระบ้าง ไม่ชำระบ้าง จึงถูกธนาคารคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงขึ้นเนื่องจากวารีผิดนัดชำระ นานวันเข้าก็เริ่มถูกติดตามทวงถามหนี้ สุดทา้ ยวารีจึงต้องไปกู้เงินจากธนาคาร B อกี 50,000 บาท เพื่อหวังจะนำเงินมาเป็นทนุ จะได้มีเงินพอชำระหนี้ แต่ปรากฏว่าธนาคาร B ปฏิเสธการอนมุ ตั ิ สนิ เชอ่ื เนื่องจากวารีมีประวัตคิ า้ งชำระมากกวา่ 3 เดือน จากกรณีศึกษาข้างต้น จะเห็นว่าปัญหาเล็กน้อยได้ลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ เพียงเพราะการนำเงินไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ และไม่ได้ศึกษาเงื่อนไขว่าสินเชือ่ ที่ตนเองกู้ มาน้นั จะคดิ ดอกเบี้ยปรบั ในอตั ราที่สงู ขึน้ หากไม่ชำระหนีต้ ามที่ตกลงกันไว้ ดังนั้น ก่อนที่หนี้จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อได้รับสินเชื่อแล้ว ควรปฏิบัติตน ดังนี้ 1. ใช้เงินตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจขอสินเชื่อจริง ๆ เช่น กู้เงินมาเพื่อประกอบ อาชีพ ก็ไม่แบ่งเงินไปทำอย่างอื่น เพราะอาจทำให้เราเหลือเงินไม่พอที่จะทำในสิ่งที่ตั้งใจ และมปี ระโยชน์ 2. จ่ายเงินใหต้ รงเวลาและตามเงือ่ นไข เพอ่ื จะไดไ้ มเ่ สียค่าปรับกรณชี ำระล่าช้า หรือถูกคิดค่าติดตามทวงถามหนี้ และสร้างประวัติเครดิตที่ดี นอกจากนี้ ควรศึกษาเงื่อนไขและ ค่าธรรมเนียมของสนิ เช่ือน้นั ๆ ด้วย ชดุ วิชาการเงนิ เพอื่ ชีวิต 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สนิ เชอ่ื
143 3. ตรวจสอบความถกู ต้องเม่อื ไดร้ บั ใบแจง้ หน้ีและใบเสรจ็ รับเงนิ เชน่ ยอดเงนิ ถูกตอ้ งหรอื ไม่ หากพบวา่ ไม่ถูกต้อง ควรรีบแจง้ เจา้ หนี้โดยเร็ว 4. ชำระหนี้เพิ่มทันทีเมื่อมีเงินก้อน จะช่วยลดภาระหนี้ได้ (แต่ต้องมั่นใจว่าไม่ เสียค่าปรับหากชำระหน้ีก่อนกำหนด หรือถ้ามีค่าปรับตอ้ งดกู อ่ นว่าคุ้มกับดอกเบ้ียท่ีประหยดั ได้ หรือไม่) 5. แจ้งเจ้าหน้ีให้ทราบทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนที่อยู่ เพื่อป้องกันการขาดการ ตดิ ตอ่ สอ่ื สารระหว่างกนั 6. หากจะก่อหนี้เพิ่มอีก อย่าลืมตรวจสอบภาระหนี้ที่ต้องผ่อนต่อเดือน ไม่ควรเกิน 1 ใน 3 (33%) ของรายไดต้ ่อเดอื น เพ่อื ใหม้ นั่ ใจว่าจะสามารถชำระหน้ีได้ หากเกิน แล้วควรชะลอการก่อหนไี้ วก้ ่อน กิจกรรมทา้ ยเร่ืองท่ี 4 วธิ ีการปอ้ งกันปัญหาหนี้ (ใหผ้ ู้เรียนไปทำกจิ กรรมเรอ่ื งท่ี 4 ที่สมุดบนั ทึกกิจกรรมการเรียนรู)้ ชดุ วิชาการเงนิ เพ่ือชวี ิต 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 สนิ เช่อื
144 เรือ่ งที่ 5 วธิ ีการแก้ไขปญั หาหน้ี จุดเริ่มต้นของการเป็นหนี้ของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน บางคนอาจเป็นหน้ี เพราะความจำเป็นในชีวิต หรือบางคนอาจเป็นหนี้เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ตกงาน ล้มป่วยกะทันหัน หรือบางคนเป็นหนี้เพราะต้องการความสะดวกสบายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหนี้ จากสาเหตุใด หากก้าวเข้าสู่บ่วงหนี้จนถึงขั้นที่เป็นปัญหากับชีวิตแล้ว ก็ควรยอมรับความจริง และพยายามท่ีจะไมส่ ร้างภาระหน้ีให้แกต่ นเองเพิม่ ขึน้ อีก ทีส่ ำคัญคอื ตอ้ งหาทางปลดหนี้โดยเร็ว เพราะการเป็นหนี้มีภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายนอกเหนือไปจากเงินต้น และอาจมีค่าปรับหรือ คา่ ใชจ้ ่ายต่าง ๆ ตามมาถา้ ผู้เปน็ หนไี้ มป่ ฏิบตั ิตามเงอ่ื นไขทีก่ ำหนด กรณีศกึ ษา ธิดาเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งมีรายได้เดือนละ 20,000 บาท จุดเริ่มต้นของการเป็นหนี้เกิดจากความอยากได้ของแถมจากการสมัครบัตรเครดิต โดย ผู้ออกบัตรได้เสนอเงื่อนไขว่า ถ้าสมัครบัตรและใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพียง 1 รอบบัญชี ก็จะได้กระเป๋าลอ้ ลาก เธอจงึ ตกลงใจทำบตั รเครดิต เมือ่ มีบตั รเครดิตแลว้ เธอก็ยง่ิ สามารถซ้ือ ของได้สะดวกขึน้ และมากข้ึน เพราะไมต่ ้องจ่ายเงินก่อน แ ล ะ ย ั ง ไ ด ้ ร ั บ ส ่ ว น ล ด ห ร ื อ โ ป ร โ ม ช ั น จ า ก ร ้ า น ค ้ า อี ก ต่างหาก เธอจึงใช้จ่ายแบบไม่ยั้งคิด ทั้งซื้อเสื้อผ้า รองเทา้ กระเปา๋ และการเสริมความงาม ตอนนั้นธิดาคิดเพียงว่ารู้สึกมีความสุขและสนุกกับการใช้ และได้สมัคร บัตรเครดิตเพิ่มอีกหลายใบ พอมีบัตรมากก็ใช้มากขึ้น แต่กลับชำระหนี้ได้ลดลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งชำระได้เพียงยอดหนี้ขั้นต่ำของบัตรแต่ละใบ นานวันเข้าหนี้ก็เร่ิมพอกพูนจนทำให้ มีหนี้เกินกว่า 300,000 บาท ภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี แม้เธอจะนำเงินเก็บบางส่วนไปโปะหน้ี บา้ งแลว้ แตห่ นก้ี ย็ งั ไมล่ ดลงเทา่ ไรนกั จากกรณีตัวอย่างข้างต้น ปัญหาหน้ีเกิดจากความเพลิดเพลินในการใช้จ่ายเพ่ือ ความสะดวกสบายให้แก่ตนเอง จึงใช้เงินโดยไม่ทันคิดว่าตนเองมีความสามารถในการชำระคืน ชดุ วชิ าการเงนิ เพ่อื ชวี ิต 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 สินเชอื่
145 หรือไม่ นอกจากน้ัน การชำระหนี้คืนเพียงข้ันต่ำหรอื บางส่วน ทำให้ภาระหนแี้ ละดอกเบ้ียพอกพูน กลายเปน็ ปญั หาทีแ่ ก้ไขได้ยากขนึ้ ไปเร่ือย ๆ แนวทางการแกไ้ ขปญั หาหนี้ 1. ยอมรบั ความจริง และมีความต้ังใจที่จะแกป้ ญั หา 2. สำรวจภาระหนีท้ งั้ หมด เพือ่ รวบรวมรายละเอยี ดหน้ที ี่มที ัง้ หมด และหาทาง แก้ไขปัญหาตอ่ ไป โดยการจดลงบนกระดาษหรือในโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ตามรายการดงั นี้ 2.1 ประเภทหน้ี เพอ่ื ใหร้ ู้ว่ามีหนี้อะไรบ้าง 2.2 หลกั ประกัน เพอื่ ให้รวู้ า่ หนี้รายการน้นั มีสินทรพั ยใ์ ดคำ้ ประกนั หรือไม่ 2.3 เจา้ หน้ี เชน่ ธนาคาร สถาบันการเงนิ บริษทั บัตรเครดิต 2.4 อัตราดอกเบี้ย เพื่อให้รู้ว่าหนี้แต่ละก้อนมีอัตราดอกเบี้ยเท่าใดต่อปี ซึ่งควรเป็นอัตราดอกเบี้ยที่คำนวณแบบลดต้นลดดอก (effective rate) หากเป็นหนี้ที่คิด ดอกเบย้ี แบบเงนิ ตน้ คงที่ (flat rate) ก็สามารถแปลงเปน็ แบบลดต้นลดดอกไดอ้ ยา่ งครา่ ว ๆ โดย นำอัตราดอกเบี้ยที่คิดแบบ flat rate คูณด้วย 1.8 (กรณีการเช่าซื้อรถ ผู้ให้เช่าซื้อต้องแจ้ง effective rate แก่ผเู้ ช่าซอ้ื ด้วย) 2.5 ยอดหนี้คงเหลือ เพอ่ื ใหร้ ภู้ าระหนี้คงเหลอื 2.6 ยอดเงนิ ผ่อนตอ่ เดอื นของหน้ีแต่ละรายการ เพ่อื ใหร้ จู้ ำนวนเงินที่ต้อง จ่ายแตล่ ะงวด 2.7 รายละเอียดอื่น ๆ เช่น ต้องชำระวันไหน ซึ่งอาจบันทึกไว้ที่ช่องหมาย เหตุ การสำรวจภาระหนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการวางแผนจัดการหน้ี ซึ่งข้อมูลหรือรายละเอียดเกี่ยวกับหนี้ สามารถหาได้จากสัญญาเงินกู้ ใบแจ้งหนี้ หรือหลักฐาน การชำระหน้ี ชดุ วชิ าการเงินเพื่อชวี ิต 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 สินเชือ่
146 ตัวอยา่ งตารางภาระหน้ี ลำดับ ประเภทหนี้ หลักประกนั เจ้าหน้ี อัตรา ยอดหน้ี ยอดผ่อน หมายเหตุ ท่ี - เจเ๊ กียว ดอกเบยี้ คงเหลอื ชำระตอ่ (คดิ แบบ (บาท) เดือน 1. หนน้ี อกระบบ ลดต้นลด (บาท) ดอก) 10,000 252% 4,500 จา่ ยหน้ี 14,235 (150 บาท รายวัน 2. กสู้ หกรณ์ หุ้นสหกรณ์ สหกรณ์ 7.5% 40,000 ตอ่ วนั ) 15,000 ออมทรัพย์ฯ 3,400 หกั บัญชตี อน 79,235 เงนิ เดือนออก 3. เชา่ ซ้ือ - ไฟแนนซ์ B 7.2%* 966.67 จา่ ยหน้ีทกุ รถจักรยานยนต์ วนั ที่ 25 4. บัตรเครดติ - ธนาคาร C 16% 2,000 ชำระคืน มากกวา่ ยอด รวมยอดคงเหลือและผ่อนชำระตอ่ เดอื น ขนั้ ต่ำ * คำนวณจากอตั ราดอกเบย้ี คดิ แบบเงนิ ต้นคงท่ี 4% คณู ด้วย 1.8 10,866.67 3. จัดลำดับความสำคัญของหนี้ที่ต้องชำระ เมื่อทราบจำนวนหนี้ทั้งหมด ที่ตนเองมีแล้ว การจัดลำดับการปลดหนี้จะทำให้จัดการหนี้ให้หมดไปได้ง่ายขึ้น โดยอาจใช้วิธี จัดลำดับหนที้ ี่ต้องชำระดังนี้ 3.1 กำจัดหนี้แพงก่อน ในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยของหนี้แต่ละก้อนต่างกัน มาก ให้เลือกจ่ายหนี้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงก่อน เช่น หนี้นอกระบบ เพื่อป้องกันดอกเบี้ยที่อาจ พอกพูนอยา่ งรวดเร็ว เพ่อื ชะลอการเพ่มิ ข้นึ ของดอกเบย้ี ทต่ี อ้ งจ่าย 3.2 จ่ายหนี้ก้อนเล็กก่อน ในกรณีที่หนี้มีอัตราดอกเบี้ยเท่ากันหรือ ไม่แตกต่างกันมาก ให้เลือกจ่ายหนี้ที่มีมลู ค่าน้อยก่อน เพื่อลดจำนวนรายการหนี้ให้น้อยลงเม่อื เห็นจำนวนบญั ชีหรอื เจา้ หนลี้ ดลงเรื่อย ๆ กจ็ ะมีกำลงั ใจเพ่ิมขนึ้ ในการปลดหน้กี อ้ นทเ่ี หลอื ตอ่ ไป ชดุ วิชาการเงินเพ่อื ชีวิต 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 สนิ เชือ่
147 4. มองหาวิธีการแก้ไขปัญหาหน้ี ซึ่งหากเป็นปัญหาหนี้ที่ไม่ถึงขั้นล้นพ้นตัว ก็สามารถปลดหนี้ด้วยตนเองได้ แต่หากปัญหาหนี้นั้นมากเกินจะจัดการด้วยตนเองก็ควรเจรจา กับเจ้าหน้ี 4.1 การแก้ไขปัญหาหน้ีด้วยตนเอง สำหรับผ้ทู ีร่ ้วู ่าตนเองมปี ัญหาหน้ี แตย่ งั ไมถ่ งึ ขน้ั ล้นพ้นตัว การปลดหนี้ ดว้ ยตนเองจงึ เป็นเร่อื งท่ไี ม่ยากเกินไป ซึ่งเรม่ิ ต้นง่าย ๆ ดังน้ี (1) ลดรายจ่าย บางคนอาจไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร อาจใช้วิธี “บนั ทึกรายรบั -รายจา่ ย” ซึ่งจะชว่ ยหาพฤติกรรมในการใชจ้ ่ายของตนเองวา่ จา่ ยไปกบั อะไรบ้าง รวมทั้งช่วยในการทบทวนตนเองเพื่อหาข้อบกพร่องหรือ “รูรั่ว” เช่น ค่าใช้จ่ายทีจ่ ่ายไปนัน้ เป็น สิ่งจำเป็นหรือไม่ อะไรเป็นรายจ่ายไม่จำเป็น หรือเป็นรายจ่ายจำเป็นที่มากเกินไป แลว้ พยายามหาทางงดหรอื ลดค่าใช้จา่ ยน้ัน เพ่ือนำเงนิ ไปจ่ายหน้ีใหไ้ ด้มากขึ้น (2) เพิ่มรายได้ อาจหารายได้เสริม หรือเปลี่ยนงานอดิเรกให้ กลายเป็นรายได้ เมื่อมีรายไดเ้ พม่ิ ข้นึ ก็จะชว่ ยใหส้ ามารถชำระหน้ีได้เพิ่มขึน้ (3) สำรวจทรัพย์สินที่มีและตัดใจขาย เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ เช่น ทรพั ย์สนิ ทไ่ี ม่จำเปน็ เครอื่ งประดับ (4) ตั้งเป้าหมายปลดหนี้ ปลดหนี้ในที่น้ี หมายถึง มุ่งมั่นตั้งใจและ เพิ่มความพยายามในการใช้หนี้ให้หมดโดยเร็ว แต่ยังคงชำระหนี้อื่น ๆ ตามกำหนดเพื่อรักษา ประวตั ิเครดติ ทด่ี ีเอาไว้ อย่างไรก็ดี อยา่ นำเงนิ ไปใชห้ นหี้ มดจนไมม่ ีเงินเกบ็ ออม เพราะหากมเี หตุ ฉกุ เฉนิ ต้องใช้เงนิ อาจตอ้ งหนั กลบั ไปเปน็ หนี้อกี จงึ ควรใชห้ นี้และออมไปพรอ้ ม ๆ กนั (5) ติดตามอย่างใกล้ชิด ว่าสามารถทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ หาก ไมเ่ ปน็ ไปตามแผน อาจหาทางปรบั แผนใหส้ อดคลอ้ งกับสถานการณท์ เี่ กิดขน้ึ เม่อื ปลดหนไี้ ด้แล้ว ก็ไม่ควรกลับไปก่อหนี้อีก แต่ควรหาทางปลดภาระหนี้ก้อนอื่น ๆ ต่อไป (ถ้ามี) และสะสม เงินออมให้มีมากข้ึนเพือ่ ไว้ใชใ้ นยามจำเปน็ 4.2 การเจรจากับเจา้ หน้ีเพื่อขอปรบั ปรุงโครงสร้างหนี้ ส ำ ห ร ั บ ผ ู ้ ท ี ่ ม ี ป ั ญ ห า ห น ี ้ ท ี ่ ไ ม ่ ส า ม า ร ถ จ ั ด ก า ร ด ้ ว ย ต น เ อ ง ไ ด้ ก็จำเปน็ ต้องเจรจากบั เจา้ หนเี้ พือ่ ขอปรบั ปรงุ โครงสร้างหนี้ ซึ่งทำได้หลายรปู แบบ เช่น ชดุ วิชาการเงินเพ่อื ชีวิต 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 สนิ เชอื่
148 (1) การขอเปลี่ยนเงอื่ นไขการผ่อนชำระ เชน่ การขอลดจำนวนเงินที่ ตอ้ งผ่อนชำระต่องวดลง ขอขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ ขอปรับลดอตั ราดอกเบีย้ ข้อดีของวิธีน้ี คือ เป็นการปรับเงื่อนไขการผ่อนชำระให้ไม่เกิน ความสามารถในการชำระหนีต้ อ่ งวดของตนเอง (2) การชำระหนี้ปิดบัญชี คือ การชำระหนี้เปน็ เงนิ ก้อนตามทีเ่ จา้ หน้ี ยอมลดให้และต้องชำระภายในเวลาที่เจ้าหน้ีกำหนด ซึ่งกรณีของการชำระหนี้ปิดบัญชี ฝงั่ เจา้ หนี้จะเปน็ ผเู้ สนอเงื่อนไขให้แก่ลูกหน้ี ข้อดีของวิธีน้ี คือ มีโอกาสที่ลูกหนี้จะได้รับการลดหนี้บางส่วน เนื่องจากเป็นการชำระหนี้คืนทั้งหมดในคราวเดียว ซึ่งลูกหนี้ควรมองหาแนวทางที่จะนำเงินมา ชำระหนี้ปิดบัญชีให้ครบจำนวนและภายในระยะเวลาที่เจ้าหนี้กำหนด เช่น อาจกู้ยืมเงินญาติ หรือกู้ยืมจากสถาบันการเงินอื่น แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องไม่กู้เงินที่ดอกเบี้ยแพงมาชำระหนี้ที่ ชดุ วชิ าการเงนิ เพ่อื ชวี ติ 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 สนิ เชือ่
149 ดอกเบ้ียถูก หรือไปกูเ้ งินนอกระบบ ซึง่ จะทำใหล้ ูกหน้ีต้องรับภาระดอกเบี้ยท่ีสูงกว่าเดิม และ สร้างภาระหนีเ้ พ่มิ ข้นึ ไปอกี อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นดุลยพินิจของเจ้าหนี้ และเป็นกระบวนการที่ลูกหนี้และเจ้าหนี้เจรจาหาข้อยุติร่วมกัน ซึ่งจะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับ การเจรจาเหตุผลและความจำเป็นของท้งั สองฝ่าย ในกรณีที่มีภาระหนี้กับสถาบันการเงินและต้องการจะขอปรับปรุง โครงสร้างหนี้ ควรทำเป็นลายลักษณ์อักษรถึงสถาบันการเงินเพื่อขอความอนุเคราะห์ โดยสิ่งท่ี ควรระบุในหนังสอื ได้แก่ 1) ข้อมูลของลูกหนี้ เช่น เลขที่สัญญา ประเภทสินเชื่อที่มี หนี้คงค้าง ชำระ ประวตั กิ ารชำระท่ผี า่ นมา 2) ปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ เช่น รายได้ลดลงเนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจ ตกงาน หรือต้องใช้จ่ายเงินเพื่อรักษาพยาบาลคนในครอบครัว โดยควรแจ้ง รายได้ที่ได้รับในปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายจำเป็นที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ เหตุฉุกเฉนิ (ถ้ามี) ซึ่งส่งผลทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามจำนวนที่เคยทำข้อตกลงไว้ และควร มีเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดงให้เจ้าหนี้ดูด้วย เช่น สลิปเงินเดือน ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล บันทกึ รายรับ-รายจ่ายที่จดเป็นประจำ 3) แนวทางท่ีต้องการใหส้ ถาบันการเงินช่วยเหลอื ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เช่น ขอพักชำระเงินต้นหรือขอพักชำระดอกเบี้ย เหมาะกับคนที่รายรับลดลงมากแต่เป็นการ ลดลงแค่ในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยจะกลับมามีรายรับเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมในเวลาไม่นาน หรือ ขยายเวลาชำระหนี้ เหมาะสำหรับคนที่รายรับลดลงในระยะยาว เช่น เปลี่ยนงานใหม่ที่รายรับ น้อยกว่าเดิม ทำให้ไม่สามารถจา่ ยหน้ีในจำนวนเท่าเดมิ ได้ กิจกรรมทา้ ยเรอื่ งท่ี 5 วิธีการแกไ้ ขปญั หาหน้ดี ว้ ยตนเอง (ให้ผเู้ รยี นไปทำกจิ กรรมเรอื่ งที่ 5 ท่ีสมุดบันทกึ กิจกรรมการเรยี นรู้) ชดุ วิชาการเงนิ เพอื่ ชีวติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 สนิ เชื่อ
150 เรอื่ งที่ 6 หน่วยงานทใ่ี หค้ ำปรึกษาวธิ กี ารแก้ไขปญั หาหน้ี เมื่อพบปัญหาหนี้ หลายคนอาจยังนึกไม่ออกว่าตนเองจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร มีทางใดที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดจากปัญหาหนี้ได้บ้าง มีคนจำนวนไม่น้อยที่เมื่อ เจอกับปัญหาหนี้ ก็ใช้วิธีการหลบหน้า ไม่รับโทรศัพท์ หรือย้ายที่อยู่เพื่อหนี ทั้งที่ยังมีหนทางที่ จะแกไ้ ขได้ เร่มิ จากการมีคนชว่ ยชีแ้ นะแนวทางทถ่ี กู ต้อง หน่วยงานทใ่ี หค้ ำปรึกษาวิธีการแกไ้ ขปญั หาหน้ี หากไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นแก้ไขปัญหาหนี้อย่างไร หรือต้องการหาทางออกจาก ปัญหาหนี้ สามารถติดต่อหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพร้อมให้คำแนะนำ คำปรึกษา เพื่อ ชี้แนะแนวทางแก่ผู้มีปัญหาหน้ี ไม่ว่าจะเป็นหนี้ในระบบหรือนอกระบบ โดยมีหน่วยงานหลัก ที่สามารถตดิ ต่อขอคำแนะนำ คำปรึกษาดังนี้ หนใ้ี นระบบ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 1213 หนีน้ อกระบบ ศนู ย์รับแจง้ การเงนิ นอกระบบ กระทรวงการคลงั โทร. 1359 นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ อีก ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ ประชาชนและพร้อมใหค้ ำแนะนำหรอื ชว่ ยหาทางแกไ้ ขปัญหาตา่ ง ๆ ได้ อาทิ - สายด่วนของรัฐบาล สงั กดั สำนกั นายกรัฐมนตรี โทร. 1111 - ศูนย์ดำรงธรรม สงั กดั กระทรวงมหาดไทย โทร. 1567 - สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สังกัด สำนกั งานอยั การสงู สุด โทร. 0 2142 2034 - ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม สังกัด กระทรวงยตุ ธิ รรม โทร. 0 2575 3344 อย่างไรก็ตาม คำปรึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นเพียงแนวทางในการแก้ไข ปัญหาหนี้เท่านั้น การตัดสินใจว่าจะแก้ไขปัญหาหนี้แบบไหน หรือวิธีการใดท่ีเหมาะสมและ สามารถปฏบิ ัตไิ ด้จริง ขึ้นอยู่กับผูม้ ปี ญั หาหนี้เปน็ ผู้พิจารณาว่าแบบใดจงึ จะเหมาะกับตนเองโดย คำนงึ ถึงปัจจยั ตา่ ง ๆ เชน่ สถานการณ์ ความเปน็ ไปได้ และข้อจำกัด ชดุ วชิ าการเงินเพื่อชีวติ 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 สินเชอื่
151 เรื่องน่ารูเ้ ก่ียวกบั ติดตามทวงถามหน้ี ถ้าถึงเวลาชำระหนี้แล้วลูกหนี้ไม่ชำระ หรือชำระล่าช้า เจ้าหนี้หรือตัวแทนจะ สามารถติดต่อทวงหน้ีหรือแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นหน้ีไดก้ ับตัวลกู หน้ี ห้ามผู้ทวงหนี้ติดต่อกับ บคุ คลอน่ื ซ่งึ มิใช่ลกู หนี้เพ่อื การทวงถามหน้ี เวน้ แตบ่ ุคคลซง่ึ ลกู หนี้ได้ระบไุ วเ้ พื่อการดังกลา่ ว การ ติดต่อกับบุคคลอื่น ให้กระทำได้เพื่อวัตถุประสงค์ในการสอบถามหรือยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับ สถานทต่ี ดิ ตอ่ ลกู หนี้ หรือบคุ คลซึ่งลกู หนไ้ี ด้ระบุไวเ้ พื่อการทวงถามหน้เี ท่านนั้ ซ่งึ การทวงหนต้ี ้อง ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 เช่น • ต้องแสดงตัวตนต่อลูกหนี้ โดยแจ้งชื่อและวัตถุประสงค์ในการติดต่อ หาก เปน็ ผรู้ ับมอบใหท้ วงถามหนี้ ให้แสดงหลกั ฐานการมอบอำนาจใหท้ วงถามหน้ีดว้ ย • ให้ติดต่อลูกหนี้ตามสถานที่ที่ลูกหนี้ระบุไว้ ในวันเวลาที่กำหนด คือ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 - 20.00 น. และวันหยุดราชการ (วันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขตั ฤกษ์ และวันหยุดชดเชย) เวลา 08.00 - 18.00 น. โดยให้ผู้ทวงถามหนี้ติดต่อลูกหนี้ไม่เกิน 1 ครง้ั ต่อวนั • หา้ มข่มขู่ ใช้ความรนุ แรง หรือใช้วาจาดูหมิ่น • ห้ามติดต่อลูกหนี้โดยใช้ไปรษณยี บัตร โทรสาร หรือใช้ข้อความ เครื่องหมาย สญั ลกั ษณ์บนซองจดหมายทส่ี ื่อว่าเป็นการทวงหน้ี • ห้ามทวงหนี้ในลักษณะที่เป็นเท็จ หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด เช่น ใช้สญั ลักษณ์ท่ที ำให้เข้าใจวา่ เป็นการกระทำของศาล เจา้ หนา้ ทีข่ องรฐั • อตั ราค่าธรรมเนยี ม คา่ ใชจ้ ่ายในการทวงถามหน้ี - หากคา้ ง 1 งวด คดิ คา่ ใชจ้ ่ายไดไ้ ม่เกิน 50 บาทตอ่ รอบการทวงหน้ี - หากคา้ งมากกวา่ 1 งวด คดิ คา่ ใชจ้ ่ายไดไ้ มเ่ กิน 100 บาทต่อรอบการทวงหนี้ - หากเป็นหนี้ประเภทเช่าซื้อรถยนต์/ลสิ ซิง่ สามารถเก็บค่าใช้จา่ ยลงพืน้ ที่ ติดตามหนี้เพิ่มเติมได้ ตามที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกิน 400 บาทต่อรอบการทวงหนี้ และลูกหนี้ต้อง คา้ งชำระมากกวา่ 1 งวด ชดุ วชิ าการเงินเพอ่ื ชีวติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 สนิ เชอ่ื
152 - ห้ามเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้กรณีที่หนี้ค้างชำระหรือหนี้ที่ถึงกำหนด ชำระสะสมไมถ่ ึง 1,000 บาท - หา้ มเรียกเกบ็ คา่ ทวงถามหนห้ี ลังจากที่ลกู หนีช้ ำระหน้คี รบจำนวน หรอื ได้บอกเลิกสัญญาแล้วตามกฎหมาย หมายเหตุ: คา่ ทวงหนไ้ี ม่รวมคา่ ใช้จ่ายในการติดตามเอาทรพั ยค์ ืน รอบการทวงหนี้จะนบั ตั้งแตว่ ันผดิ นัดชำระจนถึงวันครบกำหนดชำระงวดถดั ไป และรอบการทวงหนต้ี ้องมีระยะเวลาไมน่ อ้ ยกวา่ 1 เดือน ทั้งนี้ หากถูกติดตามทวงถามหนี้อย่างไม่เหมาะสม สามารถร้องเรียนกับ หน่วยงานที่มีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนตาม พ.ร.บ. การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 โดยตรง ได้แก่ กรมการปกครอง สถานีตำรวจท้องที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กองบัญชาการตำรวจ นครบาล ที่ทำการปกครองจังหวัด และที่ว่าการอำเภอ หรือหากพบการคิดค่าธรรมเนียมหรือ ค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการทวงถามหนี้เกินจากที่กฎหมายกำหนด สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์ ดำรงธรรม โทร. 1567 ชดุ วชิ าการเงินเพอื่ ชวี ิต 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 สินเชือ่
153 บญั ญัติ 8 ประการ เพือ่ เป็นหน้ีอยา่ งเปน็ สุข 1. กอ่ หนเี้ ม่ือจำเป็น ควรเลือกก่อหนที้ ด่ี ี และตอ้ งเป็นหนท้ี ่เี กดิ จากความจำเป็น มากกวา่ ความต้องการหรอื ความอยากได้ 2. ไม่เน้นตามกระแส ไม่ควรเป็นหนี้เพื่อนำไปซื้อของที่กำลังอยู่ในความนิยม ของสังคมแตไ่ ม่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของเรา เพราะจะยิ่งทำให้สร้างหนี้เกนิ ความจำเปน็ 3. ไม่ดีแน่ถ้าภาระหนี้เกิน 1 ใน 3 ของรายได้ตอ่ เดือน เมื่อใดที่จะก่อหนี้ควรดู ความสามารถในการผ่อนชำระของตนเองด้วย โดยภาระผ่อนหนี้ที่มีอยู่ (ถ้ามี) บวกกับภาระ ผอ่ นหนี้ใหม่ เมื่อรวมกนั แล้วไม่ควรเกิน 1 ใน 3 (33%) ของรายได้ต่อเดือน 4. อ่านและถามก่อนเซ็นสัญญา ในการทำสัญญาเงินกู้ ก่อนที่จะเซ็นชื่อใน สัญญา ต้องอ่านสาระสำคัญและทำความเข้าใจเงื่อนไขการให้กู้ยืม เช่น จำนวนเงินที่กู้ยืมทั้งที่ เป็นตัวเลขและตัวอักษรต้องตรงกัน ระยะเวลาการกู้ อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขการชำระหน้ี และ เงอื่ นไขการผิดนัดชำระหนี้ 5. ใช้เงินกู้ที่ได้มาตามวัตถุประสงค์ เมื่อได้สินเชื่อมาก็ควรใช้ให้ตรงตาม วตั ถปุ ระสงค์ท่ีตั้งใจไว้ ไม่นำไปใช้นอกลู่นอกทาง 6. จ่ายตรงตามเวลา การชำระหนี้ล่าช้าอาจสร้างภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม เชน่ ดอกเบ้ยี หรือค่าปรบั กรณชี ำระลา่ ช้า คา่ ตดิ ตามทวงถามหนี้ 7. รบี เจรจากอ่ นหนท้ี ว่ ม หากมีปัญหาการชำระหน้ี ควรรีบเจรจากับเจ้าหน้ีเพ่ือ หาทางออกแก้ไขปัญหา เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลให้ภาระหนี้สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนหนี้สิน ลน้ พ้นตัวแกไ้ ขได้ยาก 8. ไม่ติดบ่วงหนี้นอกระบบ เพราะนอกจากดอกเบี้ยท่ีสูงเกินไปแล้ว หากไม่ ชำระอาจถกู ทวงหนโี้ หดได้ กจิ กรรมทา้ ยเรอื่ งที่ 6 หน่วยงานทีใ่ หค้ ำปรึกษาเกยี่ วกับวิธีการแกไ้ ขปญั หาหน้ี (ใหผ้ ูเ้ รียนไปทำกจิ กรรมเรอื่ งที่ 6 ที่สมดุ บันทกึ กจิ กรรมการเรยี นรู้) ชดุ วชิ าการเงนิ เพอื่ ชีวิต 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 สินเชื่อ
154 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 สิทธิและหนา้ ทีข่ องผใู้ ชบ้ รกิ ารทางการเงิน สาระสำคัญ ผู้ใช้บริการทางการเงินมีสิทธิทีพ่ ึงตระหนกั 4 ประการ และมีหน้าที่ทีค่ วรปฏิบัติ ด้วยความรับผิดชอบอีก 5 ประการ นอกจากความรู้ทั้ง 2 เรื่องนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้บริการ ทางการเงินในประเทศไทย บทบาทหน้าที่ด้านการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินของธนาคาร แห่งประเทศไทย หน่วยงานที่รับเรื่องร้องเรียนอื่น ๆ รวมถึงขั้นตอนการร้องเรียนและหลักการ เขยี นหนังสอื รอ้ งเรียนอยา่ งถกู ต้อง จะชว่ ยให้ผใู้ ช้บรกิ ารทางการเงินสามารถเลือกใช้บริการทาง การเงนิ ได้อย่างเหมาะสม ตรงกับความต้องการของตนเอง และลดความเส่ียงและความเสียหาย ท่อี าจเกดิ ข้นึ จากการใชบ้ ริการทางการเงนิ ตัวชีว้ ดั 1. บอกสทิ ธิของผูใ้ ช้บริการทางการเงิน 2. บอกหนา้ ทขี่ องผใู้ ช้บริการทางการเงิน 3. บอกผใู้ ห้บริการทางการเงินในประเทศไทย 4. บอกบทบาทหนา้ ท่ีด้านการคมุ้ ครองผู้ใชบ้ รกิ ารทางการเงนิ ของธนาคารแหง่ ประเทศไทย และหนว่ ยงานทร่ี ับเร่อื งรอ้ งเรียนอืน่ ๆ 5. บอกข้นั ตอนและหลกั การเขียนหนังสอื รอ้ งเรยี น ขอบขา่ ยเน้ือหา เรื่องที่ 1 สิทธิของผูใ้ ช้บริการทางการเงิน เรือ่ งท่ี 2 หนา้ ทขี่ องผูใ้ ชบ้ รกิ ารทางการเงิน เร่ืองที่ 3 ผใู้ ห้บริการทางการเงนิ ในประเทศไทย เรอ่ื งที่ 4 การค้มุ ครองผใู้ ช้บริการทางการเงินของธนาคารแหง่ ประเทศไทย และหน่วยงานทีร่ บั เรอ่ื งร้องเรียนอนื่ ๆ เรอ่ื งที่ 5 ขั้นตอนการรอ้ งเรยี นและหลกั การเขยี นหนังสือรอ้ งเรยี น ชุดวิชาการเงินเพ่ือชีวิต 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 สิทธแิ ละหน้าทีข่ องผู้ใช้บรกิ ารทางการเงิน
155 สือ่ การเรียนรู้ 1. ชดุ วชิ าการเงินเพอ่ื ชีวติ 3 2. เวบ็ ไซต์ศูนยค์ ุม้ ครองผูใ้ ชบ้ รกิ ารทางการเงนิ (ศคง.): www.1213.or.th 3. เฟซบุก๊ ศคง. 1213: www.facebook.com/hotline1213 เวลาที่ใชใ้ นการศึกษา 10 ชัว่ โมง ชุดวิชาการเงินเพ่อื ชวี ติ 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 สทิ ธแิ ละหนา้ ท่ีของผู้ใช้บริการทางการเงนิ
156 เร่ืองที่ 1 สทิ ธขิ องผใู้ ชบ้ ริการทางการเงนิ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินมีความหลากหลาย ซับซ้อน และ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปตามพัฒนาการทางเทคโนโลยี ผู้ใช้บริการทางการเงินจึงควรศึกษา หาความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินต่าง ๆ รวมทั้งสิทธิและหน้าที่ในการเป็น ผู้ใช้บริการทางการเงินเพื่อให้สามารถเลือกใช้บริการอย่างม่ันใจ ตรงกับความต้องการ ไม่เสียสิทธิ ที่พึงได้ และเป็นผู้ใช้บริการทางการเงินที่ทำหน้าที่ได้อย่างเหมาะสมและได้รับประโยชน์สูงสุด โดยผูใ้ ช้บรกิ ารทางการเงนิ มสี ทิ ธิ 4 ประการดังนี้ 1. สิทธิที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง (right to be informed) ผู้ใช้บริการทาง การเงินมสี ทิ ธทิ ่ีจะได้รับข้อมูลทถี่ ูกต้องเก่ียวกับบรกิ ารที่สนใจ โดยเจ้าหน้าท่ีสถาบันการเงินต้อง อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างถูกต้อง ชัดเจน และครบถ้วน เพียงพอต่อการตัดสินใจในการใช้บริการ เช่น ลักษณะสำคัญของผลิตภัณฑ์ ผลประโยชน์ที่ คาดว่าจะได้รับ ความเสี่ยง ค่าปรับ ค่าธรรมเนียม ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเมื่อไม่ทำตาม เงื่อนไข และการใช้ส่ือทางการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายต้องไมช่ วนเชอื่ เกินจริง ไมท่ ำใหผ้ ้ใู ช้บริการ เข้าใจผิด เมื่อได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนแล้ว ผู้ใช้บริการทางการเงินก็ควร พิจารณา ตรวจสอบ และสอบถามรายละเอียดให้แน่ใจก่อนตัดสินใจใช้บริการ เพื่อให้ได้ ผลติ ภณั ฑ์และบริการทเ่ี หมาะสมและตรงความต้องการของผู้ใชบ้ รกิ าร 2. สิทธิทจ่ี ะเลือกใชผ้ ลิตภัณฑแ์ ละบริการได้อย่างอิสระ (right to choose) เจ้าหน้าที่สถาบันการเงินสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ที่ ผู้ใช้บริการทางการเงินต้องการ แต่ผู้ใช้บริการทางการเงินควรเลือกผลิตภัณฑ์และบริการทาง การเงินที่ต้องการจริง ๆ เทา่ น้ัน โดยคำนึงถึงความจำเป็น ประโยชนท์ ไี่ ด้รับ ความคมุ้ ค่า รวมถึง ความสามารถในการรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง หากผู้ใช้บริการไม่ต้องการผลิตภัณฑ์และ บรกิ ารทีเ่ จ้าหนา้ ท่ีเสนอขาย กส็ ามารถปฏิเสธได้ ไมต่ ้องเกรงใจหรอื รสู้ ึกไมด่ ีใด ๆ ชดุ วชิ าการเงินเพ่อื ชวี ติ 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 สิทธแิ ละหนา้ ทขี่ องผูใ้ ชบ้ ริการทางการเงิน
157 3. สิทธิที่จะร้องเรียนเพื่อความเป็นธรรม (right to be heard) หาก ผู้ใช้บริการทางการเงินพบว่าตนเองได้รับการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องหรือถูกเอาเปรียบ เช่น ได้รับ ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน ถูกบังคับให้ซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ไม่ต้องการ ถูกทำให้ เข้าใจผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ คำนวณดอกเบี้ยผิด สามารถร้องเรียนไปยังสถาบันการเงินที่ ใช้บรกิ าร และหากยงั ไม่ได้รบั ความเปน็ ธรรม ก็สามารถร้องเรยี นไปยังหนว่ ยงานทก่ี ำกบั ดแู ลได้ 4. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาค่าชดเชยหากเกิดความเสียหาย (right to redress) หากได้รบั ความเสียหายจากการใช้บริการของสถาบันการเงิน เชน่ เจา้ หน้าท่ีธนาคาร ขโมยเงินฝากจากบัญชี กดเงินจากตู้เอทีเอ็มแล้วไม่ได้รับเงิน และพิสูจน์แล้วว่าเปน็ ความผดิ พลาด ของสถาบันการเงิน เช่น ไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การบริหารจัดการด้านการให้บริการแก่ ลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct) หรือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทาง การเงินอย่างไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะจงใจหรือประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้ผู้ใช้บริการได้รับความ เสียหาย ผู้ใช้บริการทางการเงินมีสิทธิได้รับการชดเชย แต่หากความผิดพลาดนั้นเกิดจาก ผู้ใช้บริการเอง เช่น ฝากสมุดบัญชีไว้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อทำรายการแทน โอนเงินจาก เครื่องเอทีเอ็มไปผิดบัญชีหรือใส่ตัวเลขจำนวนเงนิ ผดิ สถาบันการเงินไม่จำเป็นต้องชดเชยความ เสียหายให้แกผ่ ู้ใช้บริการทางการเงนิ กิจกรรมท้ายเรอ่ื งที่ 1 สิทธิของผูใ้ ช้บรกิ ารทางการเงิน (ใหผ้ ูเ้ รยี นไปทำกิจกรรมเรอื่ งที่ 1 ที่สมดุ บนั ทกึ กิจกรรมการเรียนรู้) ชดุ วชิ าการเงินเพือ่ ชีวิต 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 สิทธแิ ละหนา้ ทีข่ องผ้ใู ชบ้ รกิ ารทางการเงนิ
158 เรื่องท่ี 2 หน้าที่ของผู้ใชบ้ รกิ ารทางการเงิน นอกจากสถาบันการเงินต้องให้บริการด้วยความรับผิดชอบแล้ว ผู้ใช้บริการทาง การเงินยังมี “หน้าที่” ที่ควรปฏิบัติด้วยความรับผิดชอบเพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่ อาจเกิดข้นึ จากการใชบ้ ริการทางการเงิน โดยหนา้ ท่ีของผู้ใช้บรกิ ารทางการเงินมีดงั น้ี 1. วางแผนการเงิน เพื่อให้รู้ฐานะทางการเงินของตนเอง จัดการกับรายรับ- รายจ่ายได้อย่างเหมาะสม สามารถตั้งเป้าหมายการเงินของตนเองได้ สามารถมองเห็นสัญญาณ และวางแผนรับมือกับปัญหาทางการเงนิ ทอี่ าจจะเกดิ ข้นึ ได้ 2. ติดตามข้อมูลข่าวสารทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการ ตัดสินใจเลือกใช้บริการให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของตนเอง ศึกษาและเรียนรู้ บริการทางการเงินในรูปแบบใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย นอกจากข่าวสารเกี่ยวกับ บริการทางการเงินแล้ว ภัยทางการเงินก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้บริการทางการเงินไม่ควรละเลย เพราะการติดตามข่าวสารจะทำให้เข้าใจและรู้เท่าทันรูปแบบการหลอกลวงของมิจฉาชีพ สามารถป้องกนั ตัวเองจากมิจฉาชีพได้ ไมต่ กเปน็ เหย่ือภัยทางการเงินรูปแบบตา่ ง ๆ 3. ศกึ ษารายละเอียดและเปรียบเทยี บขอ้ มูลก่อนเลอื กใช้ เพ่ือใหเ้ ข้าใจลักษณะ ของผลิตภณั ฑแ์ ละบริการ เงือ่ นไขทเี่ ก่ียวขอ้ ง ผลประโยชน์ที่จะได้รับ ความเสยี่ ง และต้องไม่ลืม ที่จะเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ที่สนใจจากหลาย ๆ แหล่ง เช่น สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจ สินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (non-bank) เพื่อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้ เหมาะสมและตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด เช่น สอบถามพนักงาน อ่านและทำ ความเข้าใจหนังสือชี้ชวนหรือเอกสารสรุปข้อมูลสำคัญประกอบการเสนอขายผลิตภัณฑ์ (fact sheet)เพื่อเปรียบเทียบผลติ ภณั ฑ์ นอกจากนี้ ก่อนลงนามหรอื เซ็นชื่อในสญั ญาทำธุรกรรมใด ๆ ผู้ใช้บริการทางการเงินควรอ่านรายละเอียดสัญญาให้ถี่ถ้วน และต้องเข้าใจเงื่อนไขของสัญญา ก่อนลงนาม หากไม่เขา้ ใจ ใหส้ อบถามเจา้ หน้าที่ เพ่อื ปอ้ งกนั ปญั หาท่ีอาจเกดิ ขนึ้ ภายหลงั ชุดวิชาการเงนิ เพอ่ื ชีวติ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สทิ ธิและหนา้ ทขี่ องผูใ้ ช้บรกิ ารทางการเงนิ
159 รหู้ รอื ไม่ว่า fact sheet ชว่ ยคณุ ไดอ้ ยา่ งไร fact sheet หรือเอกสารสรุปข้อมูลสำคัญของผลิตภัณฑ์ คือ ข้อมูลที่สถาบัน การเงินจัดทำขึ้นเพื่อเปดิ เผยให้ลกู คา้ ไดท้ ราบขอ้ มูลเกี่ยวกับผลติ ภัณฑ์หรอื บรกิ ารทางการเงิน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภทที่มีความซับซ้อน เช่น สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บญั ชีเงนิ ฝากแบบขัน้ บนั ได มอี ะไรอยใู่ น fact sheet 1. ลักษณะสำคัญของผลิตภัณฑ์ เช่น ประเภทของผลิตภัณฑ์ อัตราดอกเบี้ย วิธีคดิ ดอกเบ้ีย 2. ค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมที่สถาบันการเงินอาจเรียกเก็บจากการซื้อ ผลิตภณั ฑห์ รอื ใช้บรกิ ารเหลา่ น้ี 3. เงอ่ื นไขและขอ้ กำหนดทคี่ วรทราบ fact sheet จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณรู้จักผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มากขึ้น และยัง สามารถใช้เปรียบเทียบกับผลติ ภัณฑ์ประเภทเดียวกันของสถาบันการเงินอ่ืน ๆ จึงช่วยให้คุณ ตดั สนิ ใจเลอื กผลติ ภัณฑ์ไดง้ า่ ย และตรงกับความต้องการดว้ ย อ่าน fact sheet ทุกครง้ั ก่อนตดั สินใจ เพ่อื ประโยชนส์ ูงสุดของคณุ เอง 4. ตรวจทานความถูกต้องของธุรกรรมทางการเงินทุกครั้ง เพื่อรักษา ผลประโยชน์ของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อบัญชี เลขที่บัญชี จำนวนเงิน หากพบวา่ ไม่ถูกตอ้ ง ควรรบี แจ้งเจา้ หนา้ ที่ทนั ที 5. ชำระหนี้เมื่อเป็นหนี้ ก่อนจะก่อหนี้ให้คำนึงถึง 2 ข้อ คือ (1) ก่อหนี้เท่าท่ี จำเป็นและจ่ายไหว ดูความสามารถในการชำระหนี้ของตนเอง หากมีความจำเป็นและสามารถ ผ่อนชำระไหว ก็สามารถก่อหนี้ได้ และ (2) เป็นหนี้ต้องใช้ ผู้ใช้บริการทางการเงินมีหน้าท่ี ท่ีจะต้องชำระหนี้นั้น หากไม่ชำระหนี้ นอกจากจะทำให้หนี้เพิ่มขึ้นเพราะดอกเบี้ยแล้ว ก็จะทำให้ ประวตั ิเครดิตเสยี และเมื่อต้องการกเู้ งินเพอื่ ส่งิ จำเป็นในอนาคต อาจถูกปฏเิ สธการขอกไู้ ด้ กิจกรรมทา้ ยเรื่องท่ี 2 หนา้ ท่ขี องผูใ้ ช้บริการทางการเงิน (ใหผ้ เู้ รยี นไปทำกิจกรรมเร่อื งท่ี 2 ทส่ี มุดบันทกึ กิจกรรมการเรียนรู้) ชดุ วิชาการเงนิ เพ่อื ชีวิต 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 สทิ ธิและหนา้ ทข่ี องผ้ใู ชบ้ ริการทางการเงนิ
160 เร่อื งที่ 3 ผู้ใหบ้ รกิ ารทางการเงินในประเทศไทย ผใู้ ห้บรกิ ารทางการเงินในประเทศไทย ผู้ให้บริการทางการเงินในประเทศไทย มีทั้งที่เป็นสถาบันการเงินที่รับฝากเงิน และสถาบันการเงินที่ไม่ได้รับฝากเงิน รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (non-bank) สามารถจำแนกผใู้ ห้บรกิ ารทางการเงนิ ไดต้ ามหน่วยงานทก่ี ำกับดแู ลดังน้ี ผ้ใู หบ้ ริการทางการเงนิ ภายใต้การกำกบั ดูแลของธนาคารแหง่ ประเทศไทย (ธปท.) ผู้ให้บริการทางการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย มดี งั น้ี 1. สถาบันการเงิน ตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 คือ สถาบันทีท่ ำหน้าทีใ่ ห้บริการด้านการเงิน เช่น การรับฝากเงิน การรับชำระเงิน การให้สินเชื่อ และ ธุรกรรมทางการเงินอื่นตามทีไ่ ด้รบั อนุญาต ไดแ้ ก่ 1) ธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) คือ บริษัทมหาชนจำกัดที่ได้รับอนุญาตให้ ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ เช่น การรับฝากเงิน การโอนและรับชำระเงิน การให้สินเช่ือ รวมถึงบริการทางการเงินอื่น ๆ เช่น การค้ำประกัน บริการเกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศ ธุรกิจ ต่างประเทศ เช่น สินเชื่อเพื่อการส่งออกนำเข้า ตลอดจนบริการทางการเงินเพื่อการบริหาร ความเสี่ยงให้แก่ลูกค้า เช่น สัญญาซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า ในปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์และประกันภัยบางประเภทเพิ่มขึ้น เช่น ชุดวิชาการเงินเพอื่ ชวี ิต 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 สทิ ธแิ ละหน้าท่ีของผู้ใช้บริการทางการเงนิ
161 การเป็นนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน นายหน้าประกันภัย การแนะนำบริการของ บริษัท ประกนั ภยั ใหล้ ูกค้า 2) ธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อย (ธย.) คือ บริษัทมหาชนจำกัดที่ได้รับ อนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้บริการแก่ประชาชน รายย่อยและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นหลัก และสามารถให้บริการทางการเงิน พื้นฐานอื่น เช่น การรับฝากเงิน การโอนและรับชำระเงินได้ด้วย แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบ ธุรกิจที่มีความซับซอ้ นและมีความเส่ียงสูง เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศ และตราสาร อนุพนั ธ์ 3) ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศ คือ บริษัท มหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในประเทศไทยและได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยมธี นาคารพาณชิ ยต์ ่างประเทศถอื หุ้นไม่ต่ำกวา่ 95% ของห้นุ ทจ่ี ำหนา่ ยไดแ้ ลว้ ทั้งหมด 4) สาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ คือ สาขาของธนาคารพาณิชย์ ตา่ งประเทศทไ่ี ด้รบั อนุญาตใหป้ ระกอบธรุ กจิ ธนาคารพาณชิ ย์ในประเทศไทย 5) บริษัทเงินทุน (บง.) คือ บริษัทมหาชนจำกัดที่ไดร้ ับอนญุ าตให้ประกอบ ธุรกิจเงินทุน โดยรับฝากเงินหรือรับเงินจากประชาชนที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถาม หรือเมื่อสิ้น ระยะเวลาที่กำหนดไว้ และสามารถให้กู้ยืมเงินตามประเภทของธุรกิจเงินทุนที่ได้รับอนุญาต เช่น การให้กู้ยืมเงินระยะปานกลางและระยะยาวแก่กิจการอุตสาหกรรม เกษตรกรรม หรือ พาณิชยกรรม การให้เช่าซื้อบางประเภท แต่ไม่สามารถประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเงินตรา ตา่ งประเทศได้ 6) บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ (บค.) คือ บริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ โดยสามารถรับฝากเงินหรือรับเงินจากประชาชนที่จะจ่ายคืนเม่ือ สิ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ เช่น ไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และต้องฝากเงินไม่น้อยกว่าหนึ่งพันบาท โดย สามารถให้กยู้ มื เงินโดยวิธีรับจำนองอสงั หาริมทรพั ย์ การรบั ซ้ืออสงั หาริมทรัพย์โดยวิธขี ายฝาก 2. สำนักงานผู้แทนธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ คือ สำนักงานของธนาคาร พาณิชย์ต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ดำเนินการในประเทศไทย แทนธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ สำนักงานผู้แทนฯ สามารถดำเนินการเพื่อประโยชน์ของ ชดุ วชิ าการเงินเพือ่ ชีวิต 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 สิทธิและหน้าที่ของผู้ใช้บรกิ ารทางการเงิน
162 สำนักงานใหญ่หรือสำนักงานอื่น ๆ ของธนาคาร ได้เฉพาะที่เกี่ยวกับการติดต่อ ประสานงาน การแนะนำลูกค้า และการรวบรวมข้อมูลข่าวสารเพื่อส่งให้สำนักงานใหญ่หรือสำนักงานอื่น ๆ ของธนาคารเท่านั้น เช่น การรวบรวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับฐานะทางการเงินของลูกค้าและ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงิน สำนักงานผู้แทนฯ ต้องไม่ประกอบธุรกิจใดอันเข้าข่าย ธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจให้เช่าซื้อ ลีสซิ่ง แฟ็ กเตอริง รับซ้ือ รับโอนลูกหนเ้ี งินใหก้ ยู้ ืม ธุรกิจสัญญาซ้ือขายล่วงหน้า 3. บริษัทบริหารสินทรัพย์ คือ บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วย บริษัทบริหารสินทรัพย์ ให้สามารถประกอบธุรกิจรับซื้อหรือรับโอนสินทรัพย์และหลักประกัน ของสถาบันการเงิน เช่น ลูกหนี้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (non-performing loans: NPLs) สินทรัพย์ของสถาบันการเงินที่ปิดกิจการไปแล้ว โดยจะนำมาบริหารต่อ เช่น ให้กู้ยืมเพิ่มเติม ปรบั ปรุงโครงสรา้ งหนี้ 4. สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หมายถึง สถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมาย เฉพาะจัดตั้งขึ้น เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐในการพัฒนาส่งเสริมเศรษฐกิจ และ สนบั สนุนการลงทุนตา่ ง ๆ แบง่ เป็น 1) สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงินจากประชาชนทั่วไป หมายถึง สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เป็นธนาคารและให้บริการทางการเงินทั้งด้านเงินฝากและการให้ สนิ เช่อื เช่น ธนาคารออมสนิ ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2) สถาบันการเงินเฉพาะกจิ ทไ่ี ม่รบั ฝากเงนิ จากประชาชนท่ัวไป หมายถึง สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ทำธุรกิจตามขอบเขตที่กำหนด เช่น ให้สินเชื่อหรือรับประกันสินเชื่อ ให้แก่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม แต่ไม่รับเงินฝากจากประชาชนทั่วไป เช่น ธนาคารเพื่อการส่งออกและ นำเข้าแหง่ ประเทศไทย 5. ผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (non-bank) แบ่งได้ 5 ประเภท ดงั นี้ 1) ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต จะดำเนินกิจการเกี่ยวกับบัตรเครดิต เพื่อให้ผู้ถือบัตรนำไปใช้ชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือค่าอื่นใดแทนการชำระด้วยเงินสด หรือ ชดุ วิชาการเงินเพอ่ื ชวี ติ 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 สิทธแิ ละหนา้ ท่ขี องผ้ใู ชบ้ รกิ ารทางการเงนิ
163 เพื่อใช้เบิกถอนเงินสด โดยผู้ประกอบธุรกิจทดรองจ่ายเงินแทนผู้ถือบัตรนั้นก่อน และจะได้รับ ชำระคนื จากผ้ถู ือบัตรในภายหลงั 2) ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ จะดำเนินกิจการ เกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินแก่บุคคลธรรมดาโดยไม่มีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน เพ่ือนำไปใช้จ่าย ส่วนตัว หรือเพื่อประกอบอาชีพ โดยรวมถึงสินเชื่อที่เกิดจากการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบ ลีสซิ่ง (ยกเว้นการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งในสินค้าประเภทรถและเครื่องจักร) และ สินเชื่อทมี่ ีทะเบยี นรถเปน็ ประกนั 3) ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การ กำกับ หรือสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ จะดำเนินกิจการให้กู้ยืมแก่บุคคลธรรมดานำไปใช้ในการ ประกอบอาชพี เพอ่ื ส่งเสริมการเขา้ ถึงแหลง่ เงินทุนและเพมิ่ โอกาสในการประกอบอาชีพ 4) ผ้ปู ระกอบธุรกิจใหบ้ รกิ ารระบบการชำระเงิน เช่น ผู้ให้บรกิ าร e-Money 5) ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการด้านการแลกเปลี่ยนเงินหรือโอนเงินตรา ต่างประเทศ เช่น บริษัทที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกจิ การซือ้ และขายธนบัตรต่างประเทศ แหลง่ ศึกษาข้อมูลเพมิ่ เตมิ เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย www.bot.or.th ผ้ใู หบ้ ริการทางการเงนิ ภายใต้การกำกบั ดูแลของหนว่ ยงานอนื่ ๆ ชุดวชิ าการเงินเพอ่ื ชีวติ 3 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 สทิ ธิและหนา้ ทขี่ องผใู้ ช้บริการทางการเงิน
164 1. ภายใตก้ ารกำกับดแู ลของสำนักงานเศรษฐกิจการคลงั (สศค.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นหน่วยงานของรัฐในสังกัด กระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ประสานกิจกรรมที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและการคลังของประเทศ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือทางวิชาการในการวางนโยบายการคลังและเศรษฐกิจ นอกจากน้ี ยังขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งกระทรวงการคลังเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่ต้อง เพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ จึงได้อนุญาตให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจจะต้องขออนุญาตให้ ถูกต้องและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขท่ีสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะ ผ้กู ำกับดูแลการประกอบธรุ กจิ กำหนด 2. ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรพั ย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ย์ (ก.ล.ต.) เป็น หน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มีอำนาจหน้าที่ในการการส่งเสริมและพัฒนา ตลอดจนกำกับดูแลตลาดทุน อาทิ การระดมทุน สินคา้ และบรกิ าร ผู้ประกอบธรุ กจิ ท่ีเก่ยี วขอ้ ง การกระทำอนั ไม่เป็นธรรมในตลาดทุน เปน็ ต้น หน่วยงานและบุคคลท่ี ก.ล.ต. กำกับดแู ล เช่น (1) ผปู้ ระกอบธุรกิจตัวกลาง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขาย ล่วงหน้า (2) ตลาดหลักทรัพย์ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และสำนักหักบัญชี (3) บริษัทที่ออกและ เสนอขายหลกั ทรัพย์ และ (4) ผปู้ ระกอบวิชาชีพในตลาดทุน อาทิ ผแู้ นะนำการลงทนุ นกั วเิ คราะห์ ท่ปี รกึ ษาทางการเงิน ผูส้ อบบญั ชี 3. หน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับ และสง่ เสรมิ การประกอบธุรกจิ ประกันภยั (คปภ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ดำเนินงานตามนโยบายที่กำหนดโดยคณะกรรมการ กำกบั และส่งเสรมิ การประกอบธุรกิจประกันภัย มภี ารกจิ ดังนี้ ชดุ วิชาการเงินเพ่ือชวี ติ 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 สทิ ธิและหนา้ ทข่ี องผู้ใช้บริการทางการเงนิ
165 1) กำกับและพฒั นาธุรกจิ ประกันภยั ใหม้ ีความเข้มแขง็ ม่นั คง 2) ส่งเสริมสนับสนุนให้ธรุ กิจประกันภัยมีบทบาทสร้างเสริมความแขง็ แกร่ง ให้ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตลอดจนคณุ ภาพชีวติ ทีด่ ขี องประชาชน 3) คุ้มครองสทิ ธปิ ระโยชนข์ องประชาชนดา้ นการประกนั ภัย หน่วยงานและบุคคลที่ คปภ. กำกับดูแล เช่น บริษัทประกันชีวิต บริษัท ประกันวินาศภัย คนกลางประกันภัย (หมายถึง ตัวแทนประกันภัย (agent) หรือนายหน้า ประกนั ภยั (broker) ผซู้ ง่ึ จะตอ้ งได้รับใบอนุญาตเป็นตวั แทน/นายหนา้ ประกันภยั ) แหลง่ ศึกษาข้อมลู เพิม่ เติม เว็บไซต์สำนกั งาน http://www.1359.go.th/picodoc/ เศรษฐกจิ การคลงั (สศค.) เว็บไซต์สำนกั งาน https://www.sec.or.th/th/pages/home.aspx คณะกรรมการกำกับ หลกั ทรพั ยแ์ ละตลาด หลกั ทรพั ย์ (ก.ล.ต.) เวบ็ ไซต์สำนกั งาน https://www.oic.or.th/th/consumer คณะกรรมการกำกับและ สง่ เสริมการประกอบ ธุรกิจประกันภัย (คปภ.) 4. ผูใ้ ห้บรกิ ารทางการเงินประเภทอ่ืน ๆ สหกรณ์ เป็นองค์กรที่สมาชิกร่วมกันจัดตั้งขึ้นด้วยการลงหุ้นร่วมกันและ จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพของ สมาชิกในด้านการผลิต การจำหน่ายสินค้า หรือให้บริการตามความต้องการของสมาชิก ซึ่งสมาชิกอาจมีการออมทรัพย์ในรูปแบบของการชำระค่าหุ้นเป็นประจำ โดยอาจมีการจ่ายเงิน ปันผลค่าหุ้นให้แก่สมาชิกทุกสิ้นปี สหกรณ์บางประเภท เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ จะมีบริการ ชดุ วิชาการเงนิ เพอื่ ชวี ติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 สิทธิและหน้าทขี่ องผใู้ ช้บรกิ ารทางการเงนิ
166 รับฝากเงินและจ่ายดอกเบี้ยให้เป็นผลตอบแทน รวมทั้งให้บริการกู้ยืมแก่สมาชิกเมื่อเกิดความ จำเป็นในลักษณะคล้ายกับธนาคารพาณิชย์ หลักการสำคัญอย่างหนึ่งของสหกรณ์ คือ สมาชิก แต่ละคนมีสิทธิ์ออกเสียงได้หนึ่งเสียงในการบริหารสหกรณ์ โดยไม่ขึ้นกับจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ สหกรณม์ ี 7 ประเภท ได้แก่ สหกรณก์ ารเกษตร สหกรณป์ ระมง สหกรณน์ คิ ม สหกรณ์ร้านคา้ สหกรณ์ ออมทรัพย์ สหกรณบ์ ริการ และสหกรณเ์ ครดติ ยูเนี่ยน หน่วยงานราชการที่ดูแลส่งเสริมคุณภาพและมาตรฐานในการให้บริการของ สหกรณ์ ได้แก่ กรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นผู้พัฒนาระบบสหกรณ์และสร้างความเข้มแข็งในการ ดำเนนิ ธรุ กิจสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชสี หกรณ์เปน็ ผู้ตรวจสอบบญั ชี โรงรับจำนำ คือ องค์กรที่ให้บริการเงินกู้แก่ประชาชนในวงเงินไม่เกิน 1 แสนบาทตอ่ ราย โดยท่ีผู้ก้หู รอื ที่เรยี กวา่ ผู้จำนำจะต้องนำสิ่งของมามอบให้โรงรบั จำนำเพื่อเป็น หลักประกันในการชำระหนี้ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับ ทองคำ ซึ่งผู้จำนำต้องมีอายุ 15 ปขี ้ึนไป โรงรบั จำนำแบ่งเป็น 2 ประเภทคอื 1. โรงรับจำนำของรัฐบาล ซึ่งแบ่งย่อยได้อีกคือ สถานธนานุเคราะห์ อยู่ใน ความดูแลของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสถานธนานุบาล อยู่ในความ ดูแลของกรงุ เทพมหานครหรอื เทศบาล 2. โรงรบั จำนำเอกชน กิจกรรมท้ายเรอื่ งท่ี 3 ผใู้ หบ้ ริการทางการเงินในประเทศไทย (ให้ผเู้ รียนไปทำกจิ กรรมเร่อื งท่ี 3 ท่สี มุดบนั ทึกกิจกรรมการเรยี นร)ู้ ชุดวชิ าการเงินเพอ่ื ชวี ิต 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 สทิ ธิและหนา้ ที่ของผูใ้ ชบ้ รกิ ารทางการเงนิ
167 เรอื่ งที่ 4 การคุ้มครองผใู้ ชบ้ ริการทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย และหนว่ ยงาน ที่รับเรื่องรอ้ งเรยี นอ่ืน ๆ หนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญของธนาคารแห่งประเทศไทย คือ การดูแลและ ผลักดนั ให้เศรษฐกจิ มีการพัฒนาอย่างย่งั ยนื ส่งเสรมิ บรกิ ารทางการเงนิ อย่างท่วั ถงึ และเป็นธรรม ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงมุ่งส่งเสริมระบบนิเวศที่ส่งเสริมให้สถาบันการเงินให้บริการอย่าง รับผิดชอบและเป็นธรรม และผู้ใช้บริการเข้าใจสิทธิ ได้รับการคุ้มครองและสามารถเลือกใช้ บรกิ ารได้ตรงกับความต้องการ ตลอดจนส่งเสรมิ ให้ประชาชนมคี วามรูท้ างดา้ นการเงินท่ีดี และมี พฤตกิ รรมทางการเงนิ อย่างเหมาะสม ปัจจุบัน ธุรกิจการเงินการธนาคารมีความก้าวหน้าอยา่ งรวดเร็ว สถาบันการเงิน ต่างพยายามนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกองทุน รวมเพอื่ การออม (SSF) กองทนุ รวมเพ่ือการเลี้ยงชีพ (RMF) พนั ธบัตร ห้นุ กู้ ประกนั ชีวติ สินเช่ือ ต่าง ๆ แม้แต่บัญชีเงินฝากก็ยังมีความหลากหลายและมีรูปแบบใหม่ ๆ เช่น เงินฝากแบบ ขั้นบันได ประกันแบบสะสมทรัพย์ ฯลฯ แม้จะมีส่วนดีที่เป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค แต่หากการตัดสินใจเลือกใช้บริการเป็นไปอย่างขาดความรู้ ความเข้าใจ ไม่มีข้อมูลในการ ตัดสนิ ใจอยา่ งเพียงพอ ก็อาจนำมาสปู่ ญั หาทางการเงินได้ ธนาคารแห่งประเทศไทยเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดต้ัง ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2555 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการ ดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินอย่างเป็นระบบ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพ่ือ คมุ้ ครองสทิ ธิและส่งเสรมิ ความรทู้ างการเงินแก่ผู้ใชบ้ ริการทางการเงิน ชุดวชิ าการเงินเพ่อื ชีวติ 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 สิทธิและหน้าท่ีของผู้ใชบ้ ริการทางการเงนิ
168 ทั้งนี้ การคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย แบ่งโครงสรา้ งการทำงานออกเปน็ 2 ฝ่าย ได้แก่ 1. ฝ่ายคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน มีหน้าที่จัดการเรื่องร้องเรียน และ กำกับดูแลด้านการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct) ซึ่งการให้บริการแก่ ลูกคา้ ที่เป็นธรรมของสถาบนั การเงิน ประกอบไปดว้ ย 4 ข้อหลกั ดังน้ี 1) ไม่หลอก ผู้ให้บริการต้องให้ข้อมูลที่ครบถ้วนชัดเจน ไม่เกินจริง ไม่บิดเบือนและเพียงพอต่อการตัดสินใจ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และเพียงพอต่อการใช้ บริการตอ่ ไป 2) ไม่บังคับ ลูกค้าได้รับการเสนอทางเลือกในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้า สนใจ ผู้ให้บริการมีระบบและกระบวนการในการตรวจสอบคุณภาพการขายในทุกช่องทาง เพอ่ื ให้ม่ันใจว่าการเสนอขาย ไมเ่ ปน็ การบังคบั ไมห่ ลอก ไมร่ บกวน เปดิ เผยโปรง่ ใส 3) ไม่รบกวน ผู้ให้บริการมีการกำหนดช่วงเวลาและจำนวนครั้งในการ ติดต่อเสนอขายทางโทรศัพท์ มีแนวปฏิบัตทิ ี่ชัดเจนเมื่อลูกค้าไม่สนใจ มีการลงโทษกรณีพบการ ขายที่รบเร้าลูกค้าหรือบังคับ มีระบบรายชื่อผู้ห้ามติดต่อ (do not call list) สำหรับลูกค้าที่ไม่ ประสงค์ให้ติดต่ออีก และมีการปรับปรุงรายชื่อดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันตลอดเวลา มีการจัดทำ ชุดวิชาการเงินเพื่อชวี ติ 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 สทิ ธแิ ละหนา้ ที่ของผใู้ ช้บรกิ ารทางการเงนิ
169 เว็บไซต์หรืออีเมลเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และให้ลูกค้าที่มีความสนใจแจ้งหมายเลข โทรศพั ทเ์ พอื่ ให้ผูใ้ ห้บริการติดตอ่ กลับมาเสนอขายได้ 4) ไม่เอาเปรียบ ลูกค้าได้รับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นธรรมทั้งด้านราคา และเงื่อนไข ตรงกับความประสงค์และความสามารถของลูกค้า และเป็นไปตามความคาดหวัง ของลูกค้า รวมถึงข้อมูลและสินทรัพย์ของลูกค้าที่ได้รับการดูแลไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ไม่ เหมาะสม สามารถขอคำปรึกษาหรือรอ้ งเรียนเกี่ยวกับบรกิ ารทางการเงินได้ที่ศูนย์คุ้มครอง ผ้ใู ชบ้ รกิ ารทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแหง่ ประเทศไทย โทร. 1213 หรอื ทเ่ี ว็บไซตศ์ ูนยค์ มุ้ ครอง ผ้ใู ช้บรกิ ารทางการเงนิ แหล่งศึกษาข้อมลู เพมิ่ เติม เวบ็ ไซต์ ศคง. https://www.1213.or.th/th/aboutfcc/ แนวทางการรบั และ complainthandling/Pages/complain- พจิ ารณาเรือ่ งรอ้ งเรยี น condition.aspx ชดุ วิชาการเงนิ เพื่อชีวติ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 สทิ ธิและหน้าทข่ี องผู้ใช้บรกิ ารทางการเงนิ
170 2. ฝ่ายส่งเสริมความรู้ทางการเงิน มีหน้าที่ส่งเสริมความรู้ทางการเงิน เพื่อให้ ประชาชนมีความรู้เบื้องต้นทางการเงินเพื่อให้สามารถวางแผนทางการเงินของตนเองได้อย่าง เหมาะสม สามารถตัดสินใจเลือกใช้บริการทางการเงินได้ตามที่ตนเองต้องการ รู้เท่าทันกลโกง ของมิจฉาชีพ โดยให้ความรู้ในรูปแบบสื่อ เช่น อินโฟกราฟิก บทความ รวมถึงการจัดกิจกรรม ต่าง ๆ ผา่ นช่องทางการใหค้ วามรู้ทางการเงินดงั นี้ เวบ็ ไซต์ ศคง. https://www.1213.or.th/ เฟซบกุ๊ ศคง. https://www.facebook.com/hotline1213 หนว่ ยงานทรี่ ับเรอ่ื งรอ้ งเรียนอ่ืน ๆ ชุดวิชาการเงนิ เพื่อชีวิต 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 สทิ ธแิ ละหนา้ ทข่ี องผใู้ ชบ้ ริการทางการเงนิ
171 สำหรับผลิตภัณฑแ์ ละผู้ให้บรกิ ารทางการเงินที่ไม่ไดอ้ ย่ภู ายใตก้ ารกำกับดูแลของ ธนาคารแหง่ ประเทศไทย ผ้ใู ช้บริการสามารถขอคำแนะนำหรือร้องเรยี นได้ดังน้ี 1. สำนกั งานเศรษฐกจิ การคลัง https://1359.go.th/fidp/index.php (สศค.) โทร. 1359 2. สำนักงานคณะกรรมการ https://www.sec.or.th/th/pages/ กำกับหลักทรพั ย์และตลาด home.aspx หลักทรพั ย์ (ก.ล.ต.) โทร. 1207 3. สำนกั งานคณะกรรมการ https://www.oic.or.th/th/consume กำกับและสง่ เสรมิ การประกอบ r ธรุ กิจประกนั ภยั (คปภ.) โทร. 1186 4. บรษิ ทั ข้อมลู เครดติ แหง่ ชาติ https://www.ncb.co.th/ จำกัด (เครดติ บูโร) 5. สำนักงานคณะกรรมการ http://www.ocpb.go.th คมุ้ ครองผู้บรโิ ภค (สคบ.) โทร. 1166 ชดุ วิชาการเงนิ เพื่อชีวติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 สิทธแิ ละหน้าที่ของผู้ใชบ้ ริการทางการเงิน
172 6. หน่วยงานท่รี บั เรอื่ งร้องเรียน 1) กรมการปกครอง โทร. 0 2356 9660 เกี่ยวกับการทวงหนอ้ี ย่าง 2) สำนกั งานเศรษฐกิจการคลงั โทร. 1359 ไมเ่ หมาะสม 3) กองบัญชาการตำรวจนครบาล โทร. 0 2354 5249 4) ท่ที ำการปกครองจงั หวัด 5) สถานตี ำรวจ 6) ท่วี า่ การอำเภอ 7. หน่วยงานท่รี ับเร่ืองร้องเรยี น เกีย่ วกบั สหกรณ์ สำนักเลขานกุ าร กรมสง่ เสริม http://office.cpd.go.th/secretary/ สหกรณ์ โทร.1111 หรือโทร. 0 2281 3095 8. หนว่ ยงานทร่ี ับเร่อื งรอ้ งเรยี น เกี่ยวกับโรงรับจำนำ 1) สำนักงานธนานุเคราะห์ http://www.pawn.co.th (สธค.) กระทรวงพัฒนาสังคม และความม่ันคงของมนุษย์ โทร.0 2281 7500 2) สำนักงานสถานธนานุบาล http://pawnshop.bangkok.go.th/ กรงุ เทพมหานคร (สธก.) โทร. 0 2158 0042 ถงึ 44 3) คณะกรรมการควบคุม โรงรบั จำนำ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โทร. 1548 กิจกรรมทา้ ยเรือ่ งที่ 4 การค้มุ ครองผู้ใช้บริการทางการเงินของธนาคารแหง่ ประเทศไทย และ หนว่ ยงานท่ีรับเร่อื งรอ้ งเรียนอน่ื ๆ (ให้ผเู้ รยี นไปทำกจิ กรรมเรอ่ื งท่ี 4 ท่สี มุดบนั ทกึ กจิ กรรมการเรียนรู้) ชดุ วิชาการเงินเพือ่ ชวี ิต 3 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 สทิ ธแิ ละหนา้ ทข่ี องผใู้ ช้บริการทางการเงนิ
173 เรือ่ งที่ 5 ข้นั ตอนการร้องเรียนและหลกั การเขียนหนงั สอื ร้องเรียน ขั้นตอนการร้องเรยี น หากได้รับการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องหรือถูกเอาเปรียบจาก สถาบันการเงินหรือ ผู้ให้บริการทางการเงินภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น เงินต้นหรือ ยอดหน้ีไม่ถูกตอ้ ง ไถ่ถอนหลกั ประกันลา่ ช้า ไมไ่ ด้รบั การตดิ ต่อจากผใู้ หบ้ ริการทางการเงิน ได้รับ ข้อมูลไม่ถูกต้องทำให้เข้าใจผิดในตัวผลิตภัณฑ์ คำนวณดอกเบี้ยผิด หรือได้รับการบริการที่ไม่ เหมาะสม ผใู้ ชบ้ รกิ ารทางการเงนิ สามารถร้องเรียนไดต้ ามขั้นตอนดงั นี้ 1. ร้องเรียนที่ศูนย์บริการลูกค้า (call center) ของสถาบันการเงินหรือ ผ้ใู ห้บรกิ ารทางการเงินน้นั ๆ เพื่อแจ้งเรือ่ งร้องเรยี นหรอื ปัญหาทพ่ี บ 2. หากไม่ได้รับการติดต่อกลับภายในระยะเวลาการให้บริการมาตรฐาน4 หรือไม่ได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสม สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการ ทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213 ในวันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 - 12.00 น. และ 13.00 - 16.30 น. หรือช่องทางอน่ื ๆ ดังน้ี 1) จดหมายอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-mail) ของ ศคง. [email protected] 2) เว็บไซต์ ศคง. www.1213.or.th 3) รอ้ งเรียนด้วยตนเอง เพอ่ื ติดตอ่ ขอพบเจ้าหน้าที่ตามเวลาขา้ งต้นโดยการ นดั หมายล่วงหน้า 4) จดหมาย/โทรสาร (fax) ตามท่อี ยหู่ รอื หมายเลขโทรสารดังนี้ 4 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงนิ (ศคง.) ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย และสาขา ของธนาคารพาณชิ ย์ต่างประเทศท่ใี หบ้ รกิ ารลกู คา้ บคุ คลธรรมดารายยอ่ ย กำหนดมาตรฐานการใหบ้ ริการของแตล่ ะธนาคาร (SLA) โดยจัดทำเป็นตารางแสดงระยะเวลาการให้บริการของธนาคารแต่ละแห่งเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ ศคง. www.1213.or.th โดยเลือก “ข้อมูลเปรียบเทยี บ” เลือก “SLA” ชุดวชิ าการเงินเพอ่ื ชีวติ 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 สิทธิและหน้าทข่ี องผู้ใช้บรกิ ารทางการเงิน
174 ภาคกลาง ฝ่ายคมุ้ ครองผู้ใชบ้ รกิ ารทางการเงิน ธนาคารแหง่ ประเทศไทย สำนกั งานใหญ่ 273 ถนนสามเสน แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 ภาคเหนอื ส่วนค้มุ ครองและให้ความรผู้ ใู้ ชบ้ ริการทางการเงนิ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนกั งานภาคเหนือ 68/3 ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชยี งใหม่ 50300 โทรสาร (fax) 0 5393 1103 ภาค ส่วนคุ้มครองและให้ความรูผ้ ู้ใชบ้ รกิ ารทางการเงิน ตะวันออก เฉยี งเหนือ ธนาคารแหง่ ประเทศไทย สำนกั งานภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 45 ถนนนกิ รสำราญ ตำบลในเมอื ง อำเภอเมือง จงั หวดั ขอนแกน่ 40000 โทรสาร (fax) 0 4324 1045 สว่ นคมุ้ ครองและให้ความรู้ผ้ใู ชบ้ รกิ ารทางการเงนิ ภาคใต้ ธนาคารแหง่ ประเทศไทย สำนกั งานภาคใต้ 472 ถนนเพชรเกษม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 โทรสาร (fax) 0 7423 4701 หลกั การเขยี นหนังสอื รอ้ งเรียน ในการร้องเรียน ควรเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เช่น เอกสารแสดง ตัวตน (สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/หนังสือเดินทาง) เอกสารประกอบเรื่องร้องเรียน (เช่น สำเนาใบแจง้ หน/้ี สัญญา) โดยควรดำเนินการดังน้ี ▪ เล่าเหตุการณส์ ำคัญโดยมีการเรียงลำดับเหตุการณแ์ ละใชถ้ ้อยคำทสี่ ุภาพ ▪ ใหข้ ้อมลู ทส่ี ำคัญและจำเปน็ ให้ครบถว้ น ▪ แจง้ สิ่งทีต่ อ้ งการให้สถาบนั การเงินดำเนินการ ▪ แจ้งขอ้ มูลส่วนตวั เชน่ ชือ่ ท่อี ยู่ เบอร์โทรศัพทท์ ี่สามารถตดิ ตอ่ ได้ ชุดวชิ าการเงินเพ่ือชีวติ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สทิ ธแิ ละหนา้ ท่ีของผใู้ ชบ้ รกิ ารทางการเงิน
175 ▪ แนบเอกสารท่เี กยี่ วข้องให้ครบถ้วน เอกสารประกอบการร้องเรยี น ได้แก่ 1) กรณีร้องเรียนด้วยตนเอง สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรที่ออกโดย หน่วยงานราชการที่ระบุเลขประจำตัวประชาชนของผู้ร้องเรียน (กรณีเป็นชาวต่างชาติสามารถ ใช้หนงั สือเดนิ ทางได้) พรอ้ มรบั รองสำเนาถกู ตอ้ ง 2) กรณีร้องเรยี นในนามนติ ิบคุ คล ▪ สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคลที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือนพร้อมรับรอง สำเนาถูกต้อง โดยผู้มีอำนาจลงนาม พรอ้ มประทับตรานิติบุคคล (ถ้าม)ี ▪ สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่ระบุเลข ประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม (กรณีเป็นชาวต่างชาติสามารถใช้หนังสือเดินทางได้) พรอ้ มรับรองสำเนาถกู ต้อง 3) กรณีใหบ้ คุ คลอ่นื รอ้ งเรียนแทน ▪ เอกสารหลกั ของผู้ร้องเรยี นตามข้อ 1) หรือ 2) ▪ หนังสอื มอบอำนาจ ▪ สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่ระบุเลข ประจำตัวประชาชนของผู้ร้องเรียนแทนหรือผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเป็นชาวต่างชาติสามารถใช้ หนังสือเดินทางได)้ พรอ้ มรบั รองสำเนาถูกต้อง ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเริ่มดำเนินการกับเรื่องร้องเรียนเมื่อได้รับเอกสาร ครบถ้วนแล้ว และจะดำเนินการให้คำปรึกษาและรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับบริการทางการเงิน หรือบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยทำหน้าที่ประสานงาน ระหว่างผู้ร้องเรียนและสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ในการแก้ไขปัญหา ตลอดจน ติดตามเรื่องร้องเรียน ยกเว้นเร่ืองดังตอ่ ไปน้ี ▪ เรอ่ื งร้องเรียนทไี่ มเ่ กยี่ วข้องกับสถาบันการเงินหรือผปู้ ระกอบธุรกิจภายใต้การ กำกับดแู ลของธนาคารแห่งประเทศไทย ▪ เรื่องร้องเรียนที่ศาลมีคำวินิจฉัย คำสั่ง หรือคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว หรอื เร่อื งท่ีอยใู่ นระหว่างการพจิ ารณาของศาล ชดุ วิชาการเงินเพื่อชีวติ 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สิทธแิ ละหน้าท่ีของผู้ใชบ้ ริการทางการเงนิ
176 ▪ เรื่องที่ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยฟ้องร้องคดีแทน/ช่วยเหลือเงินในการ ต่อสคู้ ด/ี ช่วยจัดหาหรอื วา่ จา้ งทนายความใหผ้ ู้รอ้ งเรยี น ▪ เรื่องที่ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกร้อง/ส่ังการให้สถาบนั การเงินหรอื ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยชดใช้ค่าเสียหายตาม ข้อพพิ าทท่คี ูส่ ญั ญาผูกพนั กนั ทางแพ่ง ▪ เรื่องที่เป็นกรณีพิพาทระหว่างพนักงานของสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบ ธรุ กิจภายใตก้ ารกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยกับสถาบันการเงนิ หรือผู้ประกอบธุรกิจ ขา้ งต้น ทีไ่ มเ่ กีย่ วขอ้ งกบั กฎหมายท่ีธนาคารแหง่ ประเทศไทยกำกบั ดแู ล ▪ เรื่องที่ร้องเรียนซ้ำเรื่องเดิม ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้เคยดำเนินการ จนผูร้ อ้ งเรยี นไดร้ ับคำชแ้ี จงแล้ว หรือเร่อื งร้องเรยี นทข่ี อโต้แย้งผลการพจิ ารณาโดยผู้ร้องเรียนไม่มี ขอ้ มลู ใหม่เพ่ิมเตมิ /การดำเนินการทอี่ ยใู่ นอำนาจหน้าทข่ี องหน่วยงานราชการ/ผกู้ ำกบั ดูแลอนื่ ▪ เรื่องขอความอนุเคราะห์ซึ่งเป็นดุลยพินิจทางธุรกิจของสถาบันการเงินหรือ ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย และไม่มีข้อขดั ต่อกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์หรือแนวนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น การขอปรับปรุงโครงสร้างหน้ี การขอเพิ่มวงเงินสินเชื่อ การขอลด/ยกเว้นดอกเบี้ย คา่ ธรรมเนยี ม หรือค่าปรบั ต่าง ๆ เปน็ ต้น ▪ เรือ่ งท่เี ป็นกรณีสมมติและใหพ้ จิ ารณาแสดงความเห็นว่าถูกหรอื ผดิ ▪ การขอตรวจสอบขอ้ มลู ของบคุ คลอื่น ▪ การขอขอ้ มลู ที่ธนาคารแหง่ ประเทศไทยไมใ่ ช่เจ้าของข้อมูล ▪ เรื่องที่วัตถุประสงค์ไม่ชัดเจน หรือเอกสารแสดงตนไม่สมบูรณ์ หรือเอกสาร/ ข้อมูลประกอบการร้องเรียนไม่ครบถ้วน โดยผู้ร้องเรียนไม่ประสงค์ให้เอกสารแสดงตน หรือ เอกสาร/ข้อมูลประกอบการรอ้ งเรียนเพิม่ เตมิ รวมทง้ั ไมส่ ามารถตดิ ตอ่ ผู้รอ้ งเรยี นเพอ่ื ขอเอกสาร หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ หรือพิจารณาแล้วเห็นว่าเอกสารแสดงตนเป็นเอกสารปลอม ธนาคารแหง่ ประเทศไทยจะรับไว้เป็นขอ้ มลู ประกอบการกำกบั ดแู ล กิจกรรมท้ายเรอ่ื งที่ 5 ขั้นตอนการรอ้ งเรียนและหลกั การเขยี นหนงั สอื ร้องเรียน (ให้ผู้เรียนไปทำกจิ กรรมเรอื่ งที่ 5 ทส่ี มุดบนั ทกึ กิจกรรมการเรียนรู้) ชดุ วิชาการเงินเพื่อชวี ติ 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 สทิ ธแิ ละหนา้ ที่ของผใู้ ช้บรกิ ารทางการเงนิ
177 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ภยั ทางการเงนิ สาระสำคญั รูปแบบการดำรงชีวิตและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มิจฉาชีพพัฒนา สารพัดกลโกงเพื่อหลอกขโมยเงินจากเหยื่อ โดยมักจับจุดอ่อนของเหยื่อ คือ ความกลัว ความโลภ และความไม่รู้มาเป็นตัวช่วย เราจึงจำเป็นต้องรู้เท่าตามทันกลโกงของมิจฉาชีพ ไม่ว่าจะเป็นกล โกงที่มาในรูปแบบของการเงินนอกระบบ ที่มีทั้งหนี้นอกระบบและแชร์ลูกโซ่ ภัยใกล้ตัว ภัยออนไลน์ และภัยทแ่ี ฝงมากับบัตรอิเลก็ ทรอนิกสต์ ่าง ๆ เพื่อให้สามารถป้องกันตนเองจากภัย เหลา่ น้ไี ด้ รวมไปถึงรู้จักหน่วยงานหรอื องคก์ รทใี่ หค้ ำปรึกษาหากตกเป็นเหยือ่ ภัยทางการเงิน ตวั ชีว้ ดั 1. บอกประเภทและลักษณะของภยั ทางการเงนิ และยกตวั อย่างภยั ทางการเงิน ที่มีในชมุ ชน 2. บอกวิธกี ารปอ้ งกันตนเองจากภยั ทางการเงิน 3. บอกวิธแี กป้ ญั หาท่ีเกิดจากภัยทางการเงนิ ขอบข่ายเนอ้ื หา เรื่องท่ี 1 หนีน้ อกระบบ เรอ่ื งที่ 2 แชร์ลกู โซ่ เรือ่ งที่ 3 ภยั ใกลต้ ัว เรอื่ งท่ี 4 แกง๊ คอลเซนเตอร์ เรือ่ งที่ 5 ภยั ออนไลน์ เรื่องที่ 6 ภัยธนาคารออนไลน์ เร่ืองที่ 7 ภยั บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ชุดวชิ าการเงินเพ่ือชวี ติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 ภัยทางการเงนิ
178 สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ชุดวิชาการเงนิ เพื่อชีวิต 3 2. เวบ็ ไซต์ศนู ยค์ มุ้ ครองผ้ใู ช้บริการทางการเงนิ (ศคง.): www.1213.or.th 3. เฟซบุก๊ ศคง. 1213: www.facebook.com/hotline1213 เวลาที่ใช้ในการศกึ ษา 20 ช่ัวโมง ชดุ วิชาการเงินเพอื่ ชวี ติ 3 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ภยั ทางการเงนิ
179 เร่อื งที่ 1 หนี้นอกระบบ เมื่อจำเป็นต้องใช้เงิน แต่ไม่สามารถขอกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ หลายคนคง นึกถึงการกู้เงินนอกระบบที่ได้เงินเร็ว ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีหลักประกันหรือใช้บุคคลค้ำประกัน จนอาจลมื นกึ ถงึ เล่หเ์ หล่ยี มหรอื กลโกงทอ่ี าจแฝงมากับการกู้เงนิ นอกระบบ ลักษณะกลโกงหน้ีนอกระบบ 1. ใช้ตัวเลขนอ้ ย ๆ เพอื่ จงู ใจ นายทุนเงนิ กู้นอกระบบมกั บอกตัวเลขน้อยเพ่อื จูงใจผู้กู้ ไมว่ ่าจะเป็นจำนวน เงินผ่อนต่องวดหรือดอกเบี้ย เช่น กู้เงิน 10,000 บาท ให้ผ่อนวันละ 150 บาทเป็นระยะเวลา 90 วัน แตเ่ ม่ือคำนวณแล้วต้องจ่ายหนคี้ ืน 13,500 บาทภายใน 3 เดอื น ดอกเบ้ยี สูงถงึ 35% ตอ่ สามเดือนหรอื 140% ตอ่ ปี เจ้าหนี้บางรายก็บอกแค่อัตราดอกเบี้ย แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นอัตราดอกเบ้ีย ต่อวัน ต่อเดือน หรือต่อปี เชน่ เจ้าหน้ีรายหนึ่งปล่อยเงินกู้ 3% ลกู หนีเ้ หน็ วา่ อัตราดอกเบี้ยน้อย กว่าสถาบันการเงินก็แห่ไปกู้เงิน แต่เมื่อคำนวณดอกเบี้ยทั้งปีแล้ว ลูกหนี้ก็ตกใจ เพราะดอกเบี้ย 3% นน้ั เปน็ ดอกเบย้ี ตอ่ วัน ถ้าคดิ เปน็ ตอ่ ปี ก็สูงถึง 1,080% 2. ใหเ้ ซ็นเอกสารทไ่ี ม่ไดก้ รอกตวั เลข นอกจากจะใช้ตัวเลขค่างวดหรือดอกเบี้ยน้อย ๆ ดึงดูดลูกหนี้แล้ว เจ้าหนี้ บางรายก็ให้ลูกหนี้เซ็นสัญญากูย้ ืมโดยทีย่ ังไมไ่ ดก้ รอกตัวเลข ทำให้ลูกหนี้ต้องเป็นหนี้มากกว่าที่ ได้ตกลงกันไว้ด้วยวาจา เช่น ลูกหนี้รายหนึ่งต้องใช้เงินคืนเจ้าหนี้ 100,000 บาท ทั้ง ๆ ที่กู้เงิน มาแค่ 20,000 บาท เพียงเพราะไปเซ็นสญั ญาในเอกสารทยี่ ังไมไ่ ด้กรอกจำนวนเงนิ กู้ 3. บีบให้เซ็นสญั ญาเงนิ กู้เกนิ จรงิ เจ้าหนี้บางรายบีบบังคับให้ลูกหนี้เซ็นสัญญาเงินกู้เกินจริง เช่น ขอกู้ 10,000 บาท แต่บังคับให้เซ็นในเอกสารที่เขียนว่าขอกู้ 30,000 บาท ลูกหนี้บางรายมีความ จำเป็นตอ้ งใชเ้ งนิ กจ็ ำใจเซ็นสัญญาน้นั ชุดวชิ าการเงินเพอ่ื ชีวิต 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 ภยั ทางการเงนิ
180 4. หลีกเลี่ยงใหก้ ้โู ดยตรง หลายครั้งที่สัญญาอำพรางเงินกู้ถูกนำมาใช้เพื่อหลอกล่อผู้ที่เดือดร้อนเรื่อง เงิน เช่น ลูกหนี้รายหนึ่งติดต่อขอกู้เงินกับเจ้าหน้ีนอกระบบจำนวน 20,000 บาท เจ้าหนี้บังคบั ให้ลกู หน้ีใชบ้ ตั รผอ่ นสนิ คา้ หรือบัตรเครดติ ซ้ือสนิ คา้ ทีก่ ำลังเปน็ ท่นี ิยมมูลค่า 23,000 บาทเพ่ือมา แลกกับเงนิ กู้ 20,000 บาท ลูกหนี้ได้เงินมาแค่ 20,000 บาท แต่กลับต้องแบกภาระเงินกู้สูงถึง 23,000 บาทกับบริษัทบัตรผ่อนสินค้าหรือบริษัทบัตรเครดิต และยังมีภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย อกี ต่างหาก ส่วนเจ้าหนแ้ี ทบจะไมม่ คี วามเสีย่ งใดเลย แถมยงั ไดส้ ินคา้ ในราคาถกู อกี ด้วย 5. ทวงหน้ีโหด นอกจากภาระดอกเบี้ยที่แสนแพงแล้ว ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบอาจต้องเจอกบั การทวงหนี้โหดหากไม่ชำระตรงตามเวลา ซึ่งเจ้าหนี้อาจไม่ได้แค่ขู่หรือประจานให้ได้อาย แต่บางรายกถ็ งึ ข้ันทำรา้ ยรา่ งกาย นอกจากนี้ เงินกู้นอกระบบยังมีให้กู้ผ่านแอปพลิเคชันเงินกู้ ที่ผู้กู้จะต้อง ยินยอมให้แอปเข้าถึงข้อมูลชื่อผู้ติดต่อในโทรศัพท์และรูปภาพในโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถ โทรหรือส่งข้อความไปทวงหนี้หรือประจานกับเพื่อนของ ผู้กู้หรือบุคคลที่มีชื่ออยู่ใน เบ อร์ โทรศพั ท์ทำใหผ้ กู้ ู้เกิดความอับอายอกี ดว้ ย วิธีป้องกนั ภยั หนี้นอกระบบ 1. ไม่ใช้เงินเกินตัว – ตรวจสอบพฤติกรรมการใช้เงินของตนเองโดยการจด บันทึกรายรบั -รายจา่ ย แลว้ วางแผนใช้เงนิ อยา่ งเหมาะสมกบั รายได้และความจำเป็น 2. วางแผนการเงินล่วงหน้า – คำนึงถึงค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นใน อนาคต เช่น ค่าเล่าเรียนลูก แล้ววางแผนทยอยออมล่วงหน้า รวมถึงออมเงินเผื่อเหตุการณ์ ฉุกเฉินดว้ ย 3. คิดให้ดีก่อนตัดสินใจก่อหนี้ – ทบทวนดูความจำเป็นว่าต้องใช้เงินจริง ๆ หรือไม่ และหากต้องกู้ จะสามารถชำระหนี้ได้หรือไม่ เพราะนอกจากดอกเบี้ยที่แสนแพงแล้ว อาจต้องเจอกับเหตุการณ์ทวงหนแี้ บบโหด ๆ อีกดว้ ย ชุดวชิ าการเงนิ เพื่อชีวิต 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 ภยั ทางการเงิน
181 4. เลือกกู้ในระบบ – หากจำเป็นต้องกู้ ควรเลือกกู้ในระบบดีกว่า เพราะ นอกจากจะมีหน่วยงานภาครฐั คอยดแู ลแล้ว ยงั ระบุดอกเบี้ยในสญั ญาชดั เจนและเป็นธรรมกว่า 5. ศึกษารายละเอียดผู้ให้กู้ – ดูว่าผู้ให้กู้นั้นน่าเชื่อถือหรือไม่ มีเงื่อนไขชำระเงนิ หรอื อัตราดอกเบย้ี ทเ่ี อาเปรยี บผ้กู ู้เกนิ ไปหรอื ไม่ 6. ศึกษาวิธีคิดดอกเบี้ย – หนี้นอกระบบมักคิดอัตราดอกเบี้ยด้วยวิธีเงินต้น คงที่ (flat rate) ซึ่งทำให้ลูกหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (effective rate) เพราะดอกเบี้ยจะถูกคิดจากเงินต้นทั้งก้อนแม้ว่าจะทยอยจ่ายคืนทุกเดือน กต็ าม 7. หากจำเปน็ ตอ้ งกูเ้ งินนอกระบบตอ้ งใส่ใจ • ไม่เซน็ สัญญาในเอกสารที่ยังไมไ่ ดก้ รอกข้อความหรือวงเงนิ กไู้ ม่ตรงกบั ความจริง • ตรวจสอบขอ้ ความในสญั ญาเงินกู้ รวมถึงดูวา่ เป็นเงอ่ื นไขทีเ่ ราทำไดจ้ ริง ๆ • เก็บสัญญาคู่ฉบับไว้กบั ตัวเพือ่ เปน็ หลักฐานการกู้ 8. ตดิ ตามข่าวสารกลโกงเปน็ ประจำ ทำอย่างไรเมอ่ื ตกเปน็ เหย่ือหนน้ี อกระบบ หากเป็นเหยื่อหนี้นอกระบบแล้ว ผู้กู้ควรหาแหล่งเงินกู้ในระบบที่มีดอกเบี้ย ถูกกว่ามาชำระคืน แต่หากไม่สามารถกู้ยืมในระบบได้ ผู้กู้อาจต้องยอมขายทรัพย์สินบางส่วน เพือ่ นำมาชำระหน้ี ทงั้ นี้ ลูกหนเี้ งนิ กู้นอกระบบสามารถขอรับคำปรกึ ษาได้จากองคก์ รดังต่อไปน้ี ชุดวิชาการเงนิ เพือ่ ชีวิต 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 ภยั ทางการเงนิ
182 1. ศูนยร์ ับแจง้ การเงนิ นอก https://1359.go.th/1359LoanShark/ ระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการ index.php คลงั กระทรวงการคลัง โทร. 1359 2. สำนกั งานคมุ้ ครองสทิ ธิและ http://www.lawaid.ago.go.th/ ช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ ประชาชน สำนักอัยการสูงสุด โทร. 0 2142 2034 และ 1157 3. ศนู ย์ช่วยเหลือลกู หน้แี ละ https://www.moj.go.th/home-dhc ประชาชนทไี่ ม่ไดร้ ับความเปน็ ธรรม กระทรวงยตุ ิธรรม โทร. 0 2575 3344 4. ศูนย์ดำรงธรรมจังหวดั และศนู ยด์ ำรงธรรมอำเภอ กระทรวงมหาดไทย โทร. 1567 5. หนว่ ยงานที่รบั เรอื่ งร้องเรียน • กรมการปกครอง สำนักงานเศรษฐกจิ การคลัง เก่ยี วกบั การทวงถามหนีไ้ ม่ • ทที่ ำการปกครองจังหวดั เหมาะสม • • กองบญั ชาการตำรวจนครบาล • สถานตี ำรวจท้องท่ี • ท่ีวา่ การอำเภอทกุ แห่ง กิจกรรมทา้ ยเร่ืองที่ 1 หน้ีนอกระบบ (ใหผ้ เู้ รยี นไปทำกิจกรรมเรอ่ื งที่ 1 ท่ีสมดุ บนั ทกึ กจิ กรรมการเรียนรู้) ชดุ วิชาการเงนิ เพอ่ื ชีวติ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 ภัยทางการเงิน
183 เร่อื งที่ 2 แชรล์ ูกโซ่ แชร์ลูกโซ่เป็นภัยทางการเงินที่อาจสร้างความเสียหายได้ตั้งแต่เงินจำนวนน้อย ๆ จนไปถึงเงินหลักแสนหลักล้าน มจิ ฉาชพี มักใช้ “โอกาสรวย” มาหลอกล่อให้เหย่ือร่วมลงทุน โดยให้ ผลประโยชน์ตอบแทนสูงแกผ่ ู้ร่วมลงทุนในระยะแรก ๆ เพ่อื สร้างความน่าเช่ือถือและกระตุ้นให้เกิด การชักจูงให้ร่วมลงทุน แต่แท้จริงแล้วจะใช้วิธีการนำเงินลงทุนของสมาชิกใหม่หมุนเวียนมาจ่ายให้ สมาชิกเก่า ไม่ไดม้ กี ารนำเงินไปลงทุนตามท่ีกล่าวอ้างแต่อย่างใด นอกจากน้ี ยังมีกรณีการหลอกว่า ขาย “สินค้าราคาถูกมาก” แล้วส่งสินค้าให้จริงตามที่เหยื่อสั่งในช่วงแรก ๆ พอเหยื่อหลงเชื่อใจ สั่งซื้อเพิ่มหรือชวนคนอื่นมาซื้อด้วยก็ไม่ส่งของให้อีกต่อไป กลโกงที่ใช้ “โอกาสรวย” และ “สินคา้ ราคาถกู มาก” จบลงในแบบเดียวกันคือสดุ ทา้ ยแลว้ มจิ ฉาชพี ก็เชิดเงินหนไี ป ลักษณะกลโกงแชร์ลกู โซ่ 1. แชรล์ ูกโซ่ในคราบธุรกิจขายตรง มิจฉาชพี จะโฆษณาชวนเชือ่ ให้เหยื่อทำธุรกิจขายตรงท่มี ผี ลตอบแทนสงู โดยท่ี เหยื่อไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่ชักชวนเพื่อนหรือญาติพี่น้องให้ร่วมทำธุรกิจ แต่ไม่เน้นการขาย หรือสาธิต หรือทำให้สมาชิกเขา้ ใจในตัวสนิ ค้า เมื่อเหยื่อเริ่มสนใจจะให้เหยื่อเข้าร่วมฟังสัมมนา และโน้มน้าวหรือหลอกล่อให้เหยื่อจ่ายค่าสมัครสมาชิก หรือซื้อสินค้าแรกเข้าซึ่งมีมูลค่าที่ คอ่ นข้างสูง (สนิ คา้ สว่ นมากมกั ไมม่ คี ณุ ภาพ) หรอื อาจใหเ้ หยอ่ื ซ้ือหนุ้ หรือหน่วยลงทุนโดยไม่ต้อง รบั สินค้าไปขายแลว้ ก็รอรับเงนิ ปนั ผลได้เลย ค่าสมัครสมาชิก ค่าซื้อสินค้าแรกเข้า ค่าหุ้นหรือค่าหน่วยลงทุนของสมาชิก ใหม่จะถูกนำมาจ่ายเป็นผลตอบแทนให้แก่สมาชิกเก่า เมื่อใดที่ไม่สามารถหาสมาชิกใหม่ได้ แชร์ก็ จะลม้ เพราะไม่สามารถหาเงินมาจา่ ยผลตอบแทนและเงินท่ลี งทนุ คืนสมาชกิ ได้ ปัจจุบันยังมีการโฆษณาชักชวนผ่านอินเทอร์เน็ตและสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊กกลุ่มต่าง ๆ ในแอปพลิเคชัน LINE อีกด้วย โดยมิจฉาชีพจะหลอกให้เหยื่อกรอกข้อมูล ส่วนตัวในอินเทอร์เน็ต แล้วติดต่อเหยื่อเพื่อชักชวนให้เข้าร่วมทำธุรกิจโดยอ้างว่ามีบุคคลที่มี ชื่อเสียงเข้าร่วมด้วย และอาจจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ เช่น งานสัมมนาโดย เช่าหอ้ งประชุมโรงแรมหรอื หอประชุมมหาวิทยาลัย ชุดวชิ าการเงนิ เพ่ือชวี ิต 3 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ภยั ทางการเงิน
184 2. แชรล์ กู โซ่หลอกลงทนุ มิจฉาชีพมักอ้างว่ามีการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงและแน่นอน หรือมีสิทธิ พิเศษ หรือได้โควตาซื้อสินค้าราคาถูกเป็นจำนวนมาก จึงอยากชักชวนให้เหยื่อลงทุนทำธุรกิจ ร่วมกัน เช่น โควตาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (แชร์ลอตเตอรี่) อุตสาหกรรมปลูกป่าเพ่ือ ส่งขายตลาดในต่างประเทศ (แชร์ไม้) เก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (แชร์ FOREX) โดยสร้าง เว็บไซต์เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ หรือบางรายก็อ้างว่ามีสาขาในต่างประเทศ และอาจจัดกิจกรรมเพ่ือ เสริมความน่าเชื่อถือเช่นเดียวกับแชร์ลูกโซ่ในคราบธุรกิจขายตรง แต่ความจริงแล้ว ไม่ได้มีการ ทำธรุ กิจตามท่กี ลา่ วอา้ งจรงิ มิจฉาชีพจะใช้วิธหี มนุ เงินจากผู้ลงทุนรายใหม่ไปจ่ายเปน็ ผลตอบแทนใหแ้ ก่ ผู้ลงทุนรายเก่า จึงต้องพยายามหาผู้ลงทุนรายใหม่อยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้มีเงินไปจ่ายเป็น ผลตอบแทน แต่หากไม่สามารถหาผู้ลงทุนรายใหมไ่ ด้ ก็จะไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนคืนใหแ้ ก่ รายเกา่ ได้ 3. แชรล์ กู โซ่หลอกขายสินคา้ ผา่ นอินเทอรเ์ นต็ มจิ ฉาชีพจะแฝงตวั เปน็ พ่อค้าหรือแมค่ ้า แล้วอ้างว่าสามารถหาสนิ ค้าหายาก หรือสินค้าที่กำลังอยู่ในความต้องการของตลาด (เช่น สินค้ารุ่นใหม่ล่าสุด หรือยังไม่มีขายใน ประเทศไทย) ได้ในราคาถูก จึงประกาศขายสินค้าดังกล่าวในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดเป็น จำนวนมากผา่ นทางอินเทอร์เน็ต เมื่อเหยื่อหลงเชื่อสั่งซื้อสินค้าและโอนเงินให้แก่มิจฉาชีพในครั้งแรก มิจฉาชีพจะสง่ สินค้าให้เหยื่อตามจำนวนที่สัง่ ซ้ือ และเมื่อเหย่ือได้สินค้าในราคาถูก ก็จะบอกตอ่ ชกั ชวนญาตพิ ีน่ อ้ งหรอื เพอ่ื นฝูงใหม้ าซ้อื สนิ ค้าเป็นจำนวนมากแล้วโอนเงินค่าสินค้าทั้งหมดให้แก่ มจิ ฉาชีพ หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็จะเชดิ เงนิ นนั้ หนไี ปโดยไม่ส่งสินค้าใด ๆ ให้แก่เหยอื่ เลย ชดุ วชิ าการเงนิ เพ่ือชีวิต 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 ภัยทางการเงนิ
185 วธิ ีป้องกันภัยแชร์ลกู โซ่ 1. ไม่โลภไปกับผลตอบแทนหรือสินค้าราคาถูกที่นำมาหลอกล่อ เพราะ ผลตอบแทนยิง่ สูง ย่งิ มคี วามเสย่ี งมากทจ่ี ะเป็นแชรล์ กู โซ่ 2. ไม่กรอกข้อมูล หรือให้ข้อมูลส่วนตัวในเว็บไซต์ หรือตอบกลับอีเมลที่ ไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเข้าถึงตัวเราและสร้างความเสียหายให้เราได้ เชน่ สง่ ขอ้ ความมาชวนเราลงทุนหรือซ้ือของ แต่แท้จริงแล้วเป็นแชรล์ ูกโซ่ 3. หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มธุรกิจที่ไม่แน่ใจ เพราะอาจถูก หว่านล้อมให้ร่วมลงทนุ ในธรุ กิจแชร์ลกู โซ่ 4. อย่าเกรงใจจนไม่กล้าปฏิเสธ เมื่อมีคนชักชวนทำธุรกิจที่มีลักษณะคล้าย แชรล์ ูกโซ่ เพราะอาจทำให้สูญเสยี เงินได้ ชดุ วชิ าการเงินเพื่อชีวิต 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 ภัยทางการเงนิ
186 5. ศึกษาที่มาที่ไปของการลงทุนหรือสินค้าให้ดีก่อนการลงทุน ใช้เวลา ไตร่ตรองให้ดี (หากถูกเร่งรัดให้ตอบตกลงโดยเร็ว ให้ตั้งขอสงสัยไว้ก่อนว่าน่าจะเป็นธุรกิจที่ หลอกลวง) โดยเฉพาะธุรกจิ หรือสินค้าที่ให้ผลตอบแทนสูงมากในเวลาอันสนั้ หรือมีราคาถูกผดิ ปกติ 6. ตดิ ตามขา่ วสารกลโกงเปน็ ประจำ ทำอย่างไรเม่ือตกเป็นเหยื่อแชรล์ ูกโซ่ 1. เก็บรวบรวมเอกสารต่าง ๆ ที่ได้จากบริษัทให้มากที่สุด เช่น แผ่นพับ (โบรชัวร์) เอกสารรับ – จา่ ยเงิน เอกสารการชักชวนหรือแนะนำให้สมคั รสมาชกิ 2. ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ กองบังคับการปราบปราม หรือ กองบงั คับการปราบปรามการกระทำความผดิ เกยี่ วกบั อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) 3. ปรกึ ษาศนู ย์รบั แจ้งการเงนิ นอกระบบ โทร. 1359 หรือแจ้งขอ้ มลู ที่ ส่วนป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักนโยบายพฒั นาระบบการเงินภาคประชาชน สำนักงานเศรษฐกิจการคลงั กระทรวงการคลงั ซอยอารยี ส์ มั พันธ์ ถนนพระราม 6 สามเสนใน พญาไท กรงุ เทพฯ 10400 กิจกรรมท้ายเร่ืองท่ี 2 แชร์ลกู โซ่ (ให้ผูเ้ รยี นไปทำกิจกรรมเร่อื งท่ี 2 ทสี่ มุดบนั ทกึ กจิ กรรมการเรียนร)ู้ ชุดวชิ าการเงินเพ่อื ชีวติ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ภัยทางการเงนิ
187 เรื่องที่ 3 ภัยใกล้ตวั ลกั ษณะกลโกงของภยั ใกลต้ ัว 1. เบีย้ ประกันงวดสุดท้าย มจิ ฉาชพี จะแอบอา้ งเปน็ พนักงานบริษทั ประกนั ชีวติ ตดิ ตอ่ ญาตขิ องผู้ตายว่า ผู้ตายทำประกันชีวิตไว้กับบริษัท แต่ขาดการชำระเบี้ยประกันงวดสุดท้าย หากญาติจ่ายค่าเบี้ย ประกันที่ค้างอยู่ ก็จะได้รับเงินคืนตามกรมธรรม์ซึ่งเป็นจำนวนเงินค่อนข้างมาก เมื่อเหยื่อ จ่ายเงนิ ให้ ผทู้ อ่ี ้างว่าเป็นพนกั งานบรษิ ัทประกนั ภยั กจ็ ะหายตวั ไปพรอ้ มเงนิ ประกนั งวดสุดทา้ ย 2. ตกทอง/ลอตเตอรี่ปลอม มจิ ฉาชีพจะอ้างว่ามีทองหรอื ลอตเตอร่ีรางวลั ท่หี นึง่ แตไ่ มม่ เี วลาไปขายหรือ ขึ้นเงิน จึงเสนอขายให้เหยื่อในราคาถูก กว่าจะรู้ว่าเป็นทองหรือลอตเตอรี่ปลอม มิจฉาชีพก็ หายไปพรอ้ มกบั เงินทีไ่ ด้ไป 3. นาย (พัน) หน้า...หลอกลวงเงนิ มิจฉาชีพจะแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ในองค์กรหรือสถาบันการเงินท่ี สามารถช่วยเหยื่อหางาน หรือขอสินเช่ือจากสถาบันการเงินได้ แต่เหยื่อต้องจ่ายค่านายหนา้ ให้ ก่อน มิจฉาชีพบางรายก็หลอกให้เหยื่อเป็นนายหน้าขายที่ดิน โดยทำงานกันเป็นทีม คนแรก หลอกว่าอยากขายที่ดิน คนที่สองหลอกว่าอยากซื้อที่ดิน แล้วขอให้เหยื่อเป็นนายหน้าให้ จากนั้นคนซื้อจะอ้างว่าเงนิ ไม่พอจา่ ยค่ามดั จำจึงขอให้เหยื่อช่วยออกเงนิ ค่ามดั จำ สุดท้ายคนซ้ือ และคนขายหนีหาย เหยอื่ ไมไ่ ดค้ ่านายหนา้ แถมยังเสยี เงนิ คา่ มัดจำไปอีกดว้ ย 4. แกง๊ เงินดำ มิจฉาชีพจะอ้างว่ามีธนบัตรดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เคลือบด้วยสารเคมีสีดำเป็น จำนวนมาก และมีน้ำยาพิเศษที่สามารถล้างน้ำยานั้นออกได้ พร้อมทั้งสาธิตการล้างเงินดำให้ เหยื่อดู เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ จะหลอกเหยื่อว่า น้ำยาพิเศษนั้นอยู่ที่สถานทูต แต่ไม่สามารถนำ ออกมาได้เพราะต้องจ่ายคา่ ธรรมเนียมในการดำเนินการคอ่ นขา้ งสูง ชุดวิชาการเงนิ เพอื่ ชีวติ 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ภยั ทางการเงนิ
188 มิจฉาชีพจึงชักชวนเหยื่อให้ร่วมหุ้นจ่ายค่าธรรมเนียม แล้วจะแบ่งธนบัตร ดอลลารส์ หรัฐฯ ทีล่ า้ งเรยี บร้อยแล้วให้เหยื่อ หากเหยอ่ื หลงเช่อื จ่ายเงินไป มิจฉาชีพก็จะหายไป พร้อมกับเงินของเหยอ่ื วิธีป้องกันจากภัยใกล้ตัว 1. ไม่โลภ ไมอ่ ยากได้เงินรางวลั ทีไ่ ม่มที ่ีมา หากมคี นเสนอให้ ควรสงสยั ไว้ก่อนว่า อาจเป็นภยั ทางการเงนิ 2. ไม่รู้จัก...ไม่ให้ ไม่ให้ทั้งข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน วัน/เดือน/ปีเกิด และข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขที่บัญชี รหัสบัตรเอทีเอ็ม/บัตรเดบิต และ ไมโ่ อนเงิน แม้ผตู้ ิดตอ่ จะอา้ งว่าเป็นหน่วยงานราชการหรือสถาบนั การเงิน 3. ศกึ ษาหาขอ้ มูล กอ่ นเซ็นสัญญา ตกลงจา่ ยเงนิ หรอื โอนเงินใหใ้ คร ควรศึกษา ข้อมลู เงื่อนไข ขอ้ ตกลง ความนา่ เช่อื ถือและความน่าจะเป็นไปไดก้ ่อน 4. อ้างใคร ถามคนนั้น อ้างถึงใครให้สอบถามคนนั้น เช่น ธนาคารแห่ง ประเทศไทย โทร. 1213 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โทร. 1202 ธนาคาร บริษัทประกันที่ถกู อ้างถึง สามารถดูเบอร์โทรศัพทไ์ ดจ้ ากเว็บไซตข์ องผู้ประกอบธรุ กจิ นัน้ ๆ 5. สงสัยให้ปรึกษา ควรหาที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้ หรือปรึกษาเกี่ยวกับภัยทาง การเงินได้ท่ีศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213 และศูนย์รับแจ้งการเงิน นอกระบบ โทร. 1359 6. ติดตามข่าวสารกลโกงเปน็ ประจำ เพอ่ื รูเ้ ท่าทนั เลห่ เ์ หล่ยี มกลโกง รไู้ ว้...ไม่เสีย่ งเป็นเหยอ่ื 1. อ้างหน่วยงานราชการไม่ได้แปลว่าเชื่อถือได้ มิจฉาชีพมักอ้างถึงหน่วยงาน ราชการหรือองค์กรขนาดใหญ่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หากมีการอ้างถึง ควรสอบถาม หน่วยงานนั้นโดยตรง 2. ธุรกิจที่จดทะเบียนแล้วไม่ได้แปลว่าไม่โกง บางธุรกิจจดทะเบียนอย่าง ถกู ต้องตามกฎหมายจรงิ แตไ่ มไ่ ด้ประกอบธรุ กจิ ตามที่ขออนญุ าตไว้ ชุดวิชาการเงินเพ่อื ชีวติ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 ภยั ทางการเงิน
189 3. ไม่มี “ทางลัดรวยทีม่ ีน้อยคนร”ู้ หากทางลัดน้มี จี รงิ คงไมม่ ีใครอยากบอกคนอ่ืน ให้รู้ แอบรวยเงียบ ๆ คนเดียวดีกวา่ 4. หวั ขโมยไมห่ ม่ินเงินนอ้ ย มจิ ฉาชีพไมไ่ ด้มุง่ หวังเงินหลักแสนหลักหมื่นเท่านั้น มิจฉาชีพบางกลมุ่ มงุ่ เงนิ จำนวนนอ้ ยแต่หวงั หลอกคนจำนวนมาก 5. อย่าระวังแค่เรื่องเงิน มิจฉาชพี บางรายกห็ ลอกขอข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมลู ที่ ใช้ทำธุรกรรมการเงิน เพื่อนำไปถอนเงิน โอนเงิน ขอสินเชื่อ หรือทำธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ ในนามของเหยอื่ 6. มิจฉาชีพไม่ใช้บัญชีตนเองรับเงินจากเหยื่อ มิจฉาชีพบางรายจ้างคนเปิด บัญชีเพอื่ เปน็ ท่ีรบั เงินโอนจากเหยือ่ อีกรายหนึง่ เพ่ือหนีการจบั กมุ ของเจา้ หนา้ ทีต่ ำรวจ รหู้ รอื ไมว่ ่า การรับจ้างเปิดบัญชีหรือการหลอกให้ผู้อื่นโอนเงินให้เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปร ามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 60 ตอ้ งระวางโทษจำคกุ ตั้งแตห่ นึ่งปีถงึ สิบปี หรอื ปรบั ต้ังแตส่ องหมื่นบาท ถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น การเห็นแก่ค่าจ้างเพียงไม่กี่บาทจึงอาจทำให้ เราต้องตกเป็นผู้ต้องหาและไปใช้ชีวติ ในเรอื นจำได้ จงึ ไม่ควรหลงเชอื่ หรอื รับจ้างเปิดบัญชีโดย เดด็ ขาด กิจกรรมทา้ ยเรอ่ื งที่ 3 ภยั ใกล้ตวั (ใหผ้ ้เู รียนไปทำกิจกรรมเรอื่ งที่ 3 ทสี่ มุดบนั ทกึ กจิ กรรมการเรียนร้)ู ชดุ วิชาการเงินเพอ่ื ชวี ติ 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ภัยทางการเงนิ
190 เรื่องที่ 4 แกง๊ คอลเซนเตอร์ แก๊งคอลเซนเตอร์มักใช้วิธีสุ่มเบอร์โทรศัพท์เพื่อโทรไปหาเหยื่อแล้วใช้ข้อความ อัตโนมัติสร้างความตื่นเต้นหรือตกใจให้แก่เหยื่อ บางครั้งก็แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ หลอกให้เหยื่อทำรายการที่เครื่องเอทีเอ็มเป็นเมนูภาษาอังกฤษ โดยแจ้งว่าเป็นการทำรายการ เพือ่ ลา้ งหน้ี หรอื อาจหลอกให้เหยอื่ ไปโอนเงนิ ใหห้ นว่ ยงานภาครัฐเพื่อตรวจสอบ ลกั ษณะกลโกงแกง๊ คอลเซนเตอร์ 1. บญั ชเี งินฝากถูกอายดั หรอื เป็นหน้ีบตั รเครดิต มิจฉาชีพจะหลอกเหยื่อว่า บัญชีเงินฝากถูกอายัด หรือเป็นหนี้บัตรเครดิต จำนวนหนึ่ง โดยเริ่มจากการใช้ระบบตอบรับอัตโนมัติแจ้งเหยื่อว่าจะอายัดบัญชีเงินฝาก เนื่องจากเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น เป็นหนี้บัตรเครดิตหรือกระทำการผิดกฎหมาย โดยอาจมีเสียง อัตโนมัติ เช่น “คุณเป็นหนี้บัตรเครดิตกับทางธนาคาร กด 0 เพื่อติดต่อพนักงาน” ซึ่งเหย่ือ สว่ นมากมกั จะตกใจและรีบกด 0 เพือ่ ติดตอ่ พนักงานทนั ที หลังจากนั้นมิจฉาชีพจะหลอกถามฐานะทางการเงินของเหยื่อ หากเหยื่อมี เงินฝากจำนวนไม่มากนัก มิจฉาชีพอาจหลอกให้เหยื่อโอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มโดยหลอกว่า เปน็ การทำรายการเพื่อลา้ งบัญชหี นี้ 2. บัญชเี งนิ ฝากพวั พนั กบั การค้ายาเสพติดหรอื การฟอกเงิน แตห่ ากมิจฉาชีพพบว่า เหยือ่ มีเงินฝากค่อนขา้ งมาก ก็จะหลอกเหย่อื ให้ตกใจ ว่า บัญชีเงินฝากนั้นพัวพันกบั การค้ายาเสพติดหรือการฟอกเงนิ และจะให้เหยือ่ โอนเงนิ ทั้งหมด ผ่านเครื่องเอทีเอ็ม/เครื่องฝากเงินอัตโนมัติ (CDM หรือ ADM) เพื่อทำการตรวจสอบกับ หน่วยงานราชการ เพื่อป้องกนั ไม่ใหเ้ หยอื่ ไดม้ ีโอกาสสอบถามความจริงจากพนกั งานธนาคาร 3. เงนิ คืนภาษี นอกจากจะหลอกให้เหยื่อตกใจแล้วมิจฉาชีพบางรายก็อ้างว่าตนเป็น เจ้าหน้าที่สรรพากร หลอกให้เหยื่อตื่นเต้นดีใจว่า เหยื่อได้รับเงินคืนค่าภาษี แต่ต้องทำรายการ ยืนยันการรับเงินที่เครื่องเอทีเอ็ม และวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะยืนยันรับเงินคืน หากเลย กำหนดเวลาแล้ว เหยื่อจะไม่ได้รับเงินคืนค่าภาษี ด้วยความรีบเร่งและกลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน ชดุ วชิ าการเงินเพ่ือชวี ิต 3 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ภัยทางการเงนิ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284