Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรียนภาษาเขมรถิ่นไทยแบบบูรณาการ เล่ม 1

เรียนภาษาเขมรถิ่นไทยแบบบูรณาการ เล่ม 1

Published by ems2512, 2020-11-29 23:23:23

Description: เรียนภาษาเขมรถิ่นไทยแบบบูรณาการ เล่ม 1

Search

Read the Text Version

โครงการ การบนั ทกึ ความรทู้ างดา้ นพฤกษศาสตรข์ องกลุ่มเขมรถน่ิ ไทย ในรปู แบบดิจทิ ลั : การทำ� งานร่วมกันของนกั ภาษาศาสตร์ นักพฤกษศาสตร์ และคนในชุมชน สถาบนั วิจยั ภาษาและวฒั นธรรมเอเชยี มหาวิทยาลัยมหดิ ล

เรียนภาษาเขมรถน่ิ ไทยแบบบูรณาการ เล่ม 1 บรรณาธกิ าร ศริ ิเพญ็ อึ้งสิทธพิ ูนพร พมิ พ์คร้งั แรก จ�ำนวน 100 เล่ม เดือนกันยายน 2563 ISBN 978-616-443-492-9 ผ้พู มิ พ ์ โครงการ “การบนั ทกึ ความรทู้ างดา้ นพฤกษศาสตรข์ องกลมุ่ เขมรถน่ิ ไทย ในรปู แบบดจิ ทิ ลั : การทำ� งานรว่ มกนั ของนกั ภาษาศาสตร์ นกั พฤกษศาสตร์ และคนในชมุ ชน” Digital Documentation of the botanical knowledge of Northern Khmer speakers: Linguists, botanists, and community members working together สถาบนั วิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวทิ ยาลยั มหิดล 999 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตำ�บลศาลายา อำ�เภอพุทธมณฑล จงั หวดั นครปฐม 73170 ออกแบบปก/ รปู เล่ม สุมาลี หาญยศ พมิ พท์ ่ ี บรษิ ทั จรลั สนทิ วงศ์การพิมพ์ จ�ำกดั 219 ซอยเพชรเกษม 102/2 แขวงบางแคเหนอื เขตบางแค กรงุ เทพฯ 10160 ได้รบั ทนุ สนับสนนุ จาก สำ� นกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (สกสว.) สำ� นกั งานกองทนุ สนับสนุนการวจิ ยั (สกว.) เดมิ Newton Fund, British Academy, UK หนว่ นงานร่วมสนับสนุนการวิจยั SOAS, University of London หวั หนา้ โครงการฯ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศริ ิเพ็ญ อึ้งสิทธพิ นู พร จัดท�ำโดย สถาบันวจิ ัยภาษาและวฒั นธรรมเอเชีย มหาวทิ ยาลัยมหิดล

บรรณาธิการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริเพ็ญ อึ้งสิทธิพูนพร ผู้ให้ข้อมูลภาษาเขมรถิ่นไทย นางสาวกิตตินันท์ สายไทย นายประถม โกยส�ำราญ นางกัญญาพัชร สายศร นางสาวเสาวนิจ ดีมาก นางอรชร สุวรรณด�ำ นางธัญสิริ ก้อนทอง นางสุภาพ กลีบแดง นางกิตติยา เชยชม นายปุด กลีบแดง นายเพียร นิลแท้ ทีมวิจัยชุมชนเขมรถ่ินไทย บ้านขนาดปรีง ต�ำบลเช้ือเพลิง อ�ำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย ผู้เรียบเรียงข้อมูล ภาษาเขมรถ่ินไทย – IPA - ไทย - อังกฤษ นายชัยวัฒน์ หอมชง นายธีรธัช รุ่งเรืองวงษ์ นายภีมระพัฒต์ รองสวัสดิ์ นางสาวกมนทรรศน์ ดอกเมฆ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริเพ็ญ อึ้งสิทธิพูนพร ทีมวิจัยในโครงการ “การบันทึกความรู้ทางด้านพฤกษศาสตร์ของกลุ่มเขมรถิ่นไทยในรูปแบบดิจิทัล: การท�ำงานร่วมกันของนักภาษาศาสตร์ นักพฤกษศาสตร์ และคนในชุมชน ผู้ตรวจทานภาษาไทยและอังกฤษ ดร.ณรงเดช พันธะพุมมี



ค�ำน�ำ หนังสือ “เรียนภาษาเขมรถิ่นไทยแบบบูรณาการ” เป็นผลผลิตส่วนหน่ึงในโครงการ “การบนั ทกึ ความรทู้ างดา้ นพฤกษศาสตรข์ องกลมุ่ เขมรถน่ิ ไทยในรปู แบบดจิ ทิ ลั : โดยการทำ� งาน ร่วมกันของนักภาษาศาสตร์ นักพฤกษศาสตร์ และคนในชุมชน” ได้รับทุนสนับสนุนจาก Newton Advanced Fellowships ซง่ึ เปน็ การรว่ มทนุ ระหวา่ ง British Academy ฝา่ ยองั กฤษ และ สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั (สกว. เดมิ ) ฝา่ ยไทย ตอ่ มาไดเ้ ปลย่ี นเปน็ สำ� นกั งาน คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ฝ่ายวิชาการ ระยะเวลา ในการท�ำวิจัย 2 ปี แต่เน่ืองจากมีกิจกรรมจ�ำนวนมากไม่สามารถท�ำส�ำเร็จตามเวลาดังกล่าว จึงขอขยายเวลาเป็น 3 ปี กิจกรรมหลักของโครงการฯ เป็นการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้คนในชุมชนสามารถ บันทึกองค์ความรู้ในป่าชุมชนด้วยเครื่องมือบันทึกเสียง กล้องถ่ายภาพ และกล้องวิดีโอ ท่ีมีคุณภาพสูง ซ่ึงเป็นหัวใจส�ำคัญในการบันทึกข้อมูลด้านภาษาและวัฒนธรรม (Language documentation) เพื่อเก็บรักษาในระยะยาว โดยเก็บเป็นไฟล์ดิจิทัล และใช้ภาษาท้องถ่ิน ในการสนทนา หลงั จากนนั้ นกั ภาษาศาสตรจ์ ะนำ� ไปวเิ คราะหท์ างดา้ นเสยี ง จากการถา่ ยถอดเสยี ง ดว้ ยโปรแกรม ELAN และ Export ไปทำ� สอื่ การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ไดอ้ กี หลายรปู แบบ เชน่ วดิ โี อ ทมี่ คี ำ� บรรยายใตภ้ าพ พจนานกุ รมคำ� ศพั ท์ พจนานกุ รมรปู ภาพพชื เปน็ ตน้ รวมทง้ั บรู ณาการ เป็นแบบเรยี นภาษาเขมรถ่นิ ไทย-ภาษาไทย-ภาษาองั กฤษ ดังเช่นหนงั สือเลม่ น้ี อย่างไรก็ตาม โดยบริบทชุมชนชนบทของประเทศไทย ยังมีข้อจ�ำกัดในการเข้าถึง เทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยผลผลิตที่ได้จากโครงการนี้ เน้นสื่อการเรียนรู้ภาษาเขมรถ่ินไทย ในรูปแบบดิจิทัล แต่ยังไม่ตอบสนองความสะดวกของเจ้าของภาษา ทีมวิจัยจึงได้จัดท�ำสื่อ การเรียนภาษาเขมรถ่ินไทยในรูปแบบหนังสือท่ีสามารถพกพาได้ และอ่านได้สะดวกกว่า การอา่ นในคอมพวิ เตอรห์ รอื ในโทรศพั ทม์ อื ถอื และนำ� ความรเู้ หลา่ นคี้ นื สชู่ มุ ชน สำ� หรบั ผทู้ ส่ี นใจ ฟังเสียงสนทนาของเจ้าของภาษา สามารถเข้าถึงได้ท่ี https://langarchive-th.org/th/ collections ในเวบ็ ไซตด์ งั กลา่ วยงั ไดบ้ นั ทกึ ความรดู้ า้ นภาษาและวฒั นธรรมของกลมุ่ ชาตพิ นั ธอ์ุ นื่ ๆ ในประเทศไทยไว้อกี ดว้ ย หนงั สอื เลม่ นี้ เปน็ การบรู ณาการความรพู้ ชื ทอ้ งถนิ่ จำ� นวน 65 ชนดิ โดยแบง่ ออกเปน็ 2 เล่ม เพื่อให้เหมาะแก่พกพาจ�ำนวนหน้าไม่มากเกินไปในแต่ละเล่ม ความรู้จากบทสนทนา เร่ืองพืชเขียนด้วยภาษาเขมรถิ่นไทยอักษรไทย ซ่ึงเป็นภาษาแม่ของคนในชุมชน ทั้งยังมี การแปลเป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เพ่ือให้เด็กนักเรียน ได้เรียนรู้มากกว่าหน่ึงภาษา อกี ดว้ ย นอกจากนน้ั เพอ่ื เสรมิ ความรสู้ ำ� หรบั นกั ภาษาศาสตร์ หรอื นกั วชิ าการทส่ี นใจจงึ จดั ใหม้ ี การถา่ ยถอดเสยี งดว้ ยสัทอกั ษรสากลอีกประเภทหน่งึ ด้วย

ทีมวิจัยหวังเป็นอย่างย่ิงว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนเจ้าของภาษา และคนทส่ี นใจทว่ั ไปไมม่ ากกน็ อ้ ย อกี ทงั้ เพอ่ื การอนรุ กั ษภ์ าษาทอ้ งถนิ่ ในรปู แบบสอื่ การเรยี นรู้ ภาษาท้องถ่ินต่อไป ถึงแม้ว่าโครงการฯ ไม่สามารถบันทึกข้อมูลพืชทุกชนิดในป่าตาเกาว์ได้ แต่ก็ได้น�ำรายการพืชที่บันทึกเสียงและภาพจากเจ้าของภาษาพร้อมข้อมูลจากเจ้าของภาษา โดยตรงมาเผยแพรใ่ นรูปแบบท่ีอ่านงา่ ย หากมคี วามผดิ พลาดประการใด ๆ ทมี วจิ ยั นอ้ มรบั ผดิ ชอบและยนิ ดรี บั ฟงั ขอ้ เสนอแนะ เพ่ือการทำ� ส่ือการเรยี นรตู้ อ่ ไปในอนาคต ผศ.ดร.ศริ เิ พญ็ อึง้ สทิ ธิพนู พร หัวหนา้ โครงการวจิ ัยฯ และคณะ กันยายน 2563 

กติ ติกรรมประกาศ หนงั สอื แบบเรยี นภาษาเขมรถน่ิ ไทยแบบบรู ณาการ เลม่ 1และ 2 เปน็ ผลผลติ สว่ นหนงึ่ ของโครงการวิจัยเรื่อง การบันทึกความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ของกลุ่มเขมรถ่ินไทยในรูปแบบ ดิจิทัล: การท�ำงานร่วมกันของนักภาษาศาสตร์ นักพฤกษศาสตร์ และคนในชุมชน (Digital Documentation of the botanical knowledge of Northern Khmer speakers: Linguists, botanists, and community members working together) ไดร้ บั ทนุ สนบั สนนุ จาก Newton Advanced Fellowships ซงึ่ เปน็ การรว่ มทนุ วจิ ยั ระหวา่ ง British Academy ฝ่ายอังกฤษ กับ ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.เดิม) ฝ่ายไทย ต่อมาเปล่ียนเป็น ส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ระยะเวลา 2 ปี และได้ขยายเวลาเป็น 3 ปี เน่ืองจากมีกิจกรรมมาก ไม่สามารถท�ำได้เสร็จสิ้นภายในเวลา ที่กำ� หนด โครงการวิจัยฯน้ี ไม่สามารถส�ำเร็จลุล่วงได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน และบคุ คลดงั ตอ่ ไปนี้ ทมี วจิ ยั ขอขอบคณุ สถาบนั วจิ ยั ภาษาและวฒั นธรรมเอเชยี มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ทสี่ นบั สนนุ การขอทนุ วจิ ยั ตา่ งประเทศเพอ่ื ขยายงานวจิ ยั ใหก้ วา้ งขวางและเพมิ่ ความเชยี่ วชาญ ดา้ นการวจิ ยั กบั ชาวตา่ งชาติ ขอบคณุ SOAS, University of London ทอี่ นญุ าตใหบ้ คุ ลากร ที่เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์ ได้แก่ Dr. Julia Sallabank และ Dr. Candide Simard ได้ท�ำงานวิจัยร่วมกับสถาบันวิจัยภาษาฯ ขอบคุณบุคลากรจากสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ที่ร่วมเป็นวิทยากรในการเก็บตัวอย่างพืชและการบันทึกข้อมูลการใช้ ประโยชนจ์ ากพชื ใหก้ บั โครงการฯนี้ และทสี่ ำ� คญั อยา่ งยง่ิ คอื ทมี วจิ ยั ชมุ ชนเขมรถนิ่ ไทย หมู่ 8 บ้านขนาดปรีง ต�ำบลเช้ือเพลิง อ�ำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ น�ำโดยผู้ใหญ่ปุด กลีบแดง และคณะ ซงึ่ เปน็ พนื้ ทใี่ นการทำ� วจิ ยั ของโครงการฯ หากไมม่ พี นื้ ทช่ี มุ ชนดงั กลา่ ว โครงการฯน้ี กไ็ มส่ ามารถเกิดขน้ึ ได้ ทมี วิจยั ขอขอบคุณ ดร.ณรงเดช พันธะพมุ มี ซ่งึ เปน็ ผทู้ รงคุณวฒุ ทิ ี่ไดก้ รุณาตรวจทาน ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ท้งั สองเล่มน้ีและให้ขอ้ เสนอแนะที่เปน็ ประโยชน์ เพ่ือให้เน้อื หา สมบูรณย์ ง่ิ ขึ้น ขอขอบคุณทีมงานผู้ช่วยวิจัยในโครงการฯ ได้แก่ นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชา ภาษาศาสตร์ สถาบนั วจิ ยั ภาษาและวฒั นธรรมเอเชยี มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ไดแ้ ก่ นายภมี ระพฒั ต์ รองสวัสดิ์ นายชัยวัฒน์ หอมชง นายธีรธัช รุ่งเรืองวงษ์ และนางสาวกมนทรรศน์ ดอกเมฆ ที่มีความสนใจและร่วมท�ำงานเรียนรู้มาด้วยกันตลอดเวลา 3 ปี นอกจากน้ียังมีทีมพี่เล้ียง จากศนู ยศ์ กึ ษาและฟน้ื ฟภู าษา - วฒั นธรรมในภาวะวกิ ฤต สถาบนั วจิ ยั ภาษาและวฒั นธรรมเอเชยี

มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ไดแ้ ก่ นางสาวกมุ ารี ลาภอาภรณ์ นางสาวอจั ฉราภรณ์ ถาวรพฒั น์ และ นายรณกร รักวงศ์ ท่ีได้อ�ำนวยความสะดวกในการลงพื้นท่ีคร้ังแรก พร้อมทั้งแนะน�ำทีมวิจัย ชุมชนใหร้ จู้ กั กบั ทีมวิจัย สดุ ท้ายนท้ี มี วจิ ัยขอขอบคณุ คณุ พิจารณา สมคั รการ ผจู้ ดั การโปรแกรมวิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม สถานเอกอคั รทตู องั กฤษ ประจำ� ประเทศไทย ทใ่ี หก้ ำ� ลงั ใจและใหโ้ อกาส ในการขอทุน Newton Fund ตลอดมา รวมทั้งท่านอื่นๆ ท่ีมีส่วนร่วมในโครงการฯนี้ แต่ไม่ สามารถกลา่ วชอ่ื ไดท้ งั้ หมด ทง้ั ในระดบั ชมุ ชน สถาบนั และตา่ งประเทศ ทที่ ำ� ใหโ้ ครงการวจิ ยั ฯน้ี ส�ำเรจ็ ลลุ ว่ งทกุ ประการ ศิริเพญ็ อง้ึ สทิ ธิพนู พร หวั หนา้ โครงการฯ

สารบัญ หน้า 1 1. เกรนิ่ น�ำ และท่มี าของหนังสือ 4 2. จดุ ประสงค์ และประโยชนข์ องหนงั สอื เลม่ น้ี 5 3. ขอบเขตและขอ้ จ�ำกดั 5 4. ระบบตวั เขยี นภาษาเขมรถิน่ ไทยอักษรไทย 10 5. พืชในปา่ ตาเกาวแ์ ละบทสนทนาเก่ยี วกับประโยชนก์ ารน�ำไปใช้ 11 5.1 กจอฺกเนกฺิ 25 5.2 กตุยปรวั ็ฮ 30 5.3 กเตียว 34 5.4 กร็วง 38 5.5 กันเติรง็ 42 5.6 คล็อง 47 5.7 จังอฺญี เซจ 51 5.8 ซงคง 55 5.9 เซาฺ ะเนียง 59 5.10 ญัวปร ฺี 63 5.11 เดฺิมปฺจู 66 5.12 เดฺาะตัวะ 70 5.13 ตระมูงเซจ 77 5.14 ตลมเป 85 5.15 ตโลงตฺนี 91 5.16 ตังกบฺี กดาม 5.17 บาดปเตลิ ็ตจู 102 5.18 ปรอ็ ง 106 5.19 ปร็อฮซวา 119 5.20 ปนั รอฮ 123 5.21 ปเรยี ลจรกู 127 5.22 พเงยี ฮ 134

สารบัญ หนา้ 138 5.23 พเงยี ยา 143 5.24 มจู ซนัร 148 5.25 รกา 152 5.26 รเงฺกิ พเลฺงิ 156 5.27 ลงญฺี อจั โกน 160 5.28 เวอื ร็ คเนงิ ็ 174 5.29 เวอื ร็ กฮอมฺ 178 5.30 อจั อเมา 182 6. สรปุ การแบง่ กลมุ่ พืชตามประโยชนใ์ ช้สอย 184 7. เอกสารอ้างอิง 185 ดัชนคี ำ�

เรียนภาษาเขมรถนิ่ ไทยแบบบรู ณาการ 1. เกร่นิ น�ำ และทมี่ าของหนังสอื กลุ่มชาติพันธุ์เขมรถ่ินไทยในประเทศไทยมีจ�ำนวนประชากรประมาณ 1.4 ล้านคน (สวุ ไิ ล เปรมศรรี ตั นแ์ ละคณะ, 2547) อาศยั อยมู่ ากในจงั หวดั สรุ นิ ทร์ ศรสี ะเกษ บรุ รี มั ย์ จนั ทบรุ ี ตราด ฯลฯ ถงึ แมว้ า่ จะมจี ำ� นวนประชากรเปน็ จำ� นวนมากกต็ าม แตก่ เ็ ผชญิ ปญั หาการถดถอย ของการใชภ้ าษาและวฒั นธรรม เนอื่ งจากมกี ารใชภ้ าษาไทยมากขน้ึ และใชภ้ าษาเขมรถนิ่ ไทย น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จากการท�ำงานวิจัยเพื่อท้องถ่ินของชาวเขมรถิ่นไทย บ้านโพธิ์กอง ตำ� บลเช้ือเพลงิ อ�ำเภอปราสาท จังหวัดสุรนิ ทร์ ตัง้ แต่ พ.ศ. 2550 เป็นตน้ มา เริ่มจากผู้อ�ำนวยการโรงเรียนบ้านโพธิ์กองเมื่อ พ.ศ. 2550 ซึ่งมีเชื้อสายเขมรถ่ินไทย มีวิสัยทัศน์ท่ียาวไกล เห็นความส�ำคัญของภาษาท้องถิ่น ซ่ึงคนส่วนใหญ่ในพื้นท่ีเป็น ชาวเขมรถิ่นไทย ท่านผู้อ�ำนวยการได้รวบรวมคุณครูในโรงเรียนบ้านโพธิ์กองเป็นทีมวิจัย ทำ� โครงการวจิ ยั เรอื่ ง “การพฒั นาหลกั สตู รและการจดั การเรยี นรภู้ าษาเขมรถนิ่ ไทย เพอื่ การอนรุ กั ษ์ ภาษาท้องถ่ินและเสริมสร้างการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านโพธิ์กอง ต�ำบลเชื้อเพลิง อำ� เภอปราสาท จงั หวดั สรุ นิ ทร”์ (ประชมุ พร สงั ขน์ อ้ ยและคณะ, 2553) เพอื่ นำ� ภาษาทอ้ งถนิ่ ไปสอนในโรงเรยี น ในชว่ งเวลานนั้ เยาวชนเขมรถนิ่ ไทยยงั พดู ภาษาเขมรถนิ่ ไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ จากกระแสการจัดการเรยี นการสอนแบบทวภิ าษาในโรงเรียนโดยใชภ้ าษาแมเ่ ปน็ ฐาน การเรียนรู้สู่ภาษาราชการ ได้แพร่หลายมากข้ึน ตัวอย่างท่ีเห็นได้ชัดคือ กลุ่มมลายูปาตานี ในพื้นท่ีสามจังหวัดชายแดนใต้ โดยศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษา – วัฒนธรรมในภาวะวิกฤต รว่ มกบั ทป่ี รกึ ษาชาวตา่ งชาติ และหนว่ ยงานราชการอกี หลายหนว่ ยงาน ทำ� การวจิ ยั เพอื่ เพมิ่ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้ ท�ำให้กลุ่มเขมรถ่ินไทย โดยผู้อ�ำนวยการฯ คนเดิม ได้ประเมิน ความสามารถของเดก็ ในโรงเรยี นบา้ นโพธกิ์ อง จงึ ไดเ้ สนอโครงการวจิ ยั ตอ่ เนอ่ื งเปน็ โครงการทสี่ อง คือ โครงการ “รูปแบบการจัดการศึกษาปฐมวัยแบบทวิภาษาโดยใช้ภาษาเขมรถิ่นไทย รว่ มจดั การเรยี นรขู้ องโรงเรยี นบา้ นโพธกิ์ อง ตำ� บลเชอ้ื เพลงิ อำ� เภอปราสาท จงั หวดั สรุ นิ ทร”์ (ประชมุ พร สังข์น้อยและคณะ, 2556) แต่อย่างไรก็ดี สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดข้ึนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ โครงการวิจัย เพอื่ ทอ้ งถนิ่ โครงการทส่ี อง กำ� ลงั ดำ� เนนิ อยู่ ทมี วจิ ยั ชมุ ชนไดพ้ บวา่ เดก็ ในชน้ั อนบุ าลไมส่ ามารถ ส่ือสารภาษาเขมรถ่ินไทยได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนรุ่นที่ผ่าน ๆ มา ท�ำให้การใช้ภาษาแม่ ในการสอนชั้นอนุบาลไม่ประสบผลเท่าท่ีควร คุณครูต้องใช้ภาษาไทยในการส่ือสารร่วมกับ ภาษาเขมรถนิ่ ไทย เดก็ บางคนไมย่ อมพดู เขมรถน่ิ ไทย บางคนกไ็ มค่ อ่ ยเขา้ ใจภาษาเขมรถนิ่ ไทย 1

สาเหตเุ นอื่ งจากผปู้ กครองของเดก็ มกี ารใชภ้ าษาไทยทบ่ี า้ นมากขน้ึ ทมี วจิ ยั ชมุ ชนมคี วามตระหนกั ถึงสถานการณ์ทางภาษาเขมรถิ่นไทยท่ีถดถอยลงอย่างรวดเร็ว เกรงว่าเยาวชนรุ่นใหม่จะไม่ สามารถใชภ้ าษาเขมรถน่ิ ไทยในการสอ่ื สารได้ จงึ ไดท้ ำ� โครงการวจิ ยั เพอื่ ทอ้ งถนิ่ อกี โครงการ ชื่อว่า โครงการ “พัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อการฟื้นฟูภาษาเขมรถ่ินไทยบ้านโพธิ์กอง ต�ำบลเชื้อเพลิง อ�ำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์” (สุรัญญา ทะวงศ์ดี และคณะ, 2559) โดยหวงั วา่ จะเรม่ิ ปลกู ฝงั ภาษาเขมรถน่ิ ไทยตง้ั แตเ่ ดก็ เรมิ่ เขา้ เรยี นในศนู ยเ์ ดก็ เลก็ ซง่ึ มบี คุ ลากร ในศนู ยเ์ ดก็ เล็กเป็นชาวเขมรถ่ินไทยทส่ี อื่ สารภาษาไดด้ ี การท�ำงานวิจัยเพื่อท้องถ่ินของชาวเขมรถิ่นไทย ยังไม่หยุดเพียงในโรงเรียนหรือ ศนู ยเ์ ดก็ เลก็ เทา่ นนั้ เพราะความรดู้ า้ นอนื่ ๆ ยงั มอี กี มาก อยา่ งเชน่ เรอ่ื งพชื สมนุ ไพรในปา่ ชมุ ชน ซึ่งสมัยก่อนเป็นแหล่งอาศัยและยารักษาโรคของกลุ่มเขมรถ่ินไทยเช่นกัน การอนุรักษ์ฟื้นฟู ภาษาและวฒั นธรรมของชาวเขมรถนิ่ ไทย จงึ ขยายผลมาทห่ี มบู่ า้ นขนาดปรงี ตำ� บลเชอ้ื เพลงิ อ�ำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยมีผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 เป็นหัวหน้าทีมวิจัยในโครงการ “ทีฺว มโฮบ ทน�ำ ปรีฺตากาฮ (เท่ียว อาหาร ยา ป่าตาเกาว์) บ้านขนาดปรีง ต�ำบลเช้ือเพลิง อำ� เภอปราสาท จงั หวดั สรุ นิ ทร”์ (ปดุ กลบี แดงและคณะ 2563) ซง่ึ เปน็ ความตอ้ งการของชมุ ชน ที่จะบนั ทกึ ความร้เู รอื่ งชอ่ื พชื คณุ ประโยชน์การใช้สอย เพือ่ สบื ทอดและส่งตอ่ ความรู้เหล่านี้ สู่รุ่นต่อ ๆ ไป ผลผลิตจากโครงการวิจัยเพื่อท้องถิ่นโครงการนี้ คือรวบรวมชื่อพืชที่ส�ำรวจ ในป่าตาเกาว์ในช่วงเวลาท�ำโครงการฯ แล้วผลิตเป็นหนังสือชื่อ “ทฺีว มโฮบ ทน�ำ ปรฺีตากาฮ (เทย่ี ว อาหาร ยา ปา่ ตาเกาว)์ บา้ นขนาดปรงี ตำ� บลเชอื้ เพลงิ อำ� เภอปราสาท จงั หวดั สรุ นิ ทร”์ จากโครงการวจิ ยั เพอื่ ทอ้ งถน่ิ ทง้ั หมดทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ ไดร้ บั การสนบั สนนุ ทนุ วจิ ยั จาก สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั (สกว.) ฝา่ ยวจิ ยั เพอื่ ทอ้ งถน่ิ และดา้ นวชิ าการมที มี พเี่ ลยี้ ง และนักภาษาศาสตร์จากศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษา-วัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัย ภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ท�ำงานร่วมกัน ทั้งยังผลักดันให้ระบบเขียน ภาษาท้องถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ได้รับการรับรองจากราชบัณฑิตยสภาให้เป็นคู่มือ ระบบเขียนภาษาท้องถ่ินด้วยอักษรไทย ในการเขียนบันทึกความรู้ท้องถิ่น หรือท�ำเป็นสื่อ การเรยี นการสอนทเ่ี ปน็ มาตรฐาน เปน็ ทยี่ อมรบั และภาษาเขมรถน่ิ ไทยกเ็ ปน็ หนงึ่ ใน 10 กลมุ่ ชาติพันธุ์ที่ท�ำเสร็จใน พ.ศ. 2556 (ราชบัณฑิตยสถาน, 2556) ในการจัดท�ำคู่มือระบบเขียน ภาษาเขมรถนิ่ ไทยอกั ษรไทย มผี เู้ ชย่ี วชาญจากทมี วจิ ยั ชมุ ชนจงั หวดั สรุ นิ ทรร์ ว่ มเปน็ กรรมการดว้ ย เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบระบบเสียงและได้รับการยอมรับจากเจ้าของภาษา ดังนั้น หนังสือเล่มน้ี จึงใช้คู่มือระบบเขียน ฉบับราชบัณฑิตยสถานเป็นแนวทางในการเขียนภาษา เขมรถน่ิ ทีบ่ ้านขนาดปรีง 2

สถานการณ์ทางภาษาในชุมชนบ้านขนาดปรีงนั้น มีชาวบ้านท่ีเป็นคนในพื้นท่ีมา แต่ก�ำเนิด และชาวบ้านจากที่อ่ืนเข้ามาอาศัยอยู่รวมกัน จึงพบการใช้ภาษาท่ีหลากหลาย โดยมีการผสมกลมกลืนกันในการพูดคุยสนทนา ได้แก่ ภาษาเขมรถิ่น ภาษาไทยกลาง ภาษาอีสาน และภาษาลาว ด้านการใช้ภาษาของคนในชุมชน พบว่า ผู้สูงอายุจะใช้ภาษา เขมรถิ่นมากกว่าภาษาไทยกลาง ช่วงอายุวัยท�ำงานจะพูดภาษาเขมรถิ่นและภาษาไทยกลาง และมีการใช้ภาษาไทยกับภาษาเขมรถิ่นปนกัน ในช่วงวัยรุ่นส่วนใหญ่จะใช้ภาษาไทยกลาง สามารถสอ่ื สารภาษาเขมรถนิ่ ไดบ้ า้ ง ในชว่ งวยั เดก็ สว่ นใหญจ่ ะพดู ภาษาไทยกลาง ไมค่ อ่ ยพดู ภาษาเขมรถนิ่ แตฟ่ งั รเู้ รอื่ งบา้ ง ซงึ่ พอ่ แมจ่ ะพดู ภาษาไทยกลางกบั ลกู และพยายามพดู ภาษา เขมรถนิ่ ดว้ ยบา้ ง เพราะยงั อยากใหล้ กู หลานสามารถสอื่ สารภาษาเขมรถน่ิ ได้ เพอื่ เปน็ การอนรุ กั ษ์ ภาษาของบรรพบรุ ษุ และเปน็ ประโยชนต์ อ่ การประกอบอาชพี ในอนาคต โครงการ “การบันทึกความรู้ทางด้านพฤกษศาสตร์ของกลุ่มเขมรถิ่นไทยในรูปแบบ ดิจิทัล: โดยการท�ำงานร่วมกันของนักภาษาศาสตร์ นักพฤกษศาสตร์ และคนในชุมชน” มีวัตถุประสงค์หลักคือ ต้องการบันทึกองค์ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ การใช้ประโยชน์ และ การจัดกลุ่มพันธุ์พืชตามภูมิปัญญาของกลุ่มเขมรถ่ินไทยในจังหวัดสุรินทร์ ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อการอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาท้องถ่ิน สามารถส่งต่อให้ลูกหลานชาวเขมรถ่ินไทย ไดม้ าศกึ ษาหาความรใู้ นรปู แบบดจิ ทิ ลั และสามารถนำ� เนอื้ หาไปขยายผลในรปู แบบสอื่ การเรยี นรู้ ประเภทต่าง ๆ เช่น หนังสือความรู้เกี่ยวกับพืชและการใช้ประโยชน์ พจนานุกรมค�ำศัพท์ หนังสือเรียนภาษาเขมรถน่ิ ไทย เป็นตน้ ในส่วนที่เป็นข้อมูลดิจิทัลมีลักษณะเป็นไฟล์วิดีโอ พร้อมค�ำบรรยายที่ได้จากการ ถา่ ยถอดเสยี งการสนทนาเกย่ี วกบั พชื ชนดิ ตา่ งๆ โดยมภี าษาเขมรถน่ิ ไทยอกั ษรไทย ความหมาย ภาษาไทย และสัทอักษรสากล ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ที่ https://langarchive-th.org/th/ collection/northern-khmer สำ� หรบั เวบ็ ไซต์ https://langarchive-th.org/ เปน็ เวบ็ ไซต์ คลังข้อมูลดิจิทัล ท่ีพัฒนาขึ้นเพื่อเก็บรวบรวมความรู้ภูมิปัญญาด้านภาษาและวัฒนธรรม ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในประเทศไทย จัดท�ำโดยสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล แต่ในชุมชนเจ้าของภาษาก็ยังมีข้อจ�ำกัดในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลดิจิทัล ทางโครงการจึงได้จัดท�ำในรูปแบบหนังสืออีกเวอร์ช่ันหนึ่ง เพ่ือความสะดวกของผู้เรียนที่อยู่ ในชมุ ชน ลกู หลานชาวเขมรถน่ิ ไทยจะไดใ้ ชอ้ า่ นพรอ้ มกบั พอ่ แม่ ปยู่ า่ ตายายในบา้ น หรอื ผใู้ หญ่ ใชส้ อนเดก็ ก็สะดวกดี ข้อมูลพืชท่ีน�ำมาเรียบเรียงในหนังสือ “เรียนภาษาเขมรถ่ินไทยแบบบูรณาการ” เป็นเพียงการน�ำเสนอพืชส่วนหน่ึงของป่าตาเกาว์ท่ีเก็บบันทึกด้วยวิดีโอในระหว่างการท�ำ โครงการวจิ ยั ฯ เนอื่ งจากการบนั ทกึ วดิ โี อตอ้ งใชเ้ วลามาก รวมทงั้ การถา่ ยถอดเสยี งทางภาษาศาสตร์ 3

จึงไม่สามารถน�ำเสนอพืชท้ังหมดได้ องค์ความรู้ท่ีได้นี้ได้รับความร่วมมือจากทีมวิจัยชุมชน ที่เป็นเจ้าของภาษาได้ท�ำโครงการวิจัยเพ่ือท้องถิ่นควบคู่กันไป อาจกล่าวได้ว่า โครงการ บันทึกความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ในป่าตาเกาว์ เป็นความต้องการของคนในชุมชน จึงได้ท�ำ โครงการวิจัยเพ่ือท้องถิ่น ส่วนโครงการ “การบันทึกความรู้ทางด้านพฤกษศาสตร์ของกลุ่ม เขมรถ่ินไทยในรูปแบบดิจิทัล: โดยการท�ำงานร่วมกันของนักภาษาศาสตร์ นักพฤกษศาสตร์ และคนในชุมชน” ต้องการต่อยอดในการบันทึกข้อมูลด้วยเคร่ืองมือที่มีคุณภาพสูงและเก็บ ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้เก็บได้เป็นเวลานาน และเป็นการอนุรักษ์ภาษา-วัฒนธรรมท้องถ่ิน รวมทง้ั ตอ่ ยอดทางดา้ นวิชาการอกี ด้วย 2. จุดประสงคแ์ ละประโยชน์ของหนงั สือ จุดประสงค์หลักคือ เป็นแบบเรียนภาษาเขมรถ่ินไทย ซึ่งเป็นภาษาท้องถ่ินที่ใช้ ระบบตัวเขียนอักษรไทยในการเขียน เนื่องจากอักษรเขมรไม่เหมาะกับเยาชนเขมรถ่ินไทย เพราะมคี นอา่ นไดจ้ ำ� นวนนอ้ ยหรอื อา่ นไมไ่ ดเ้ ลย แตอ่ กั ษรไทยนน้ั เยาวชนทเ่ี ขา้ เรยี นในระบบ โรงเรียนของรัฐบาลไทยสามารถอ่านภาษาไทยได้ ซ่ึงเป็นการประยุกต์ใช้อักษรไทยเขียน แทนเสียงภาษาเขมรถนิ่ ท�ำใหช้ าวเขมรถน่ิ ไทยไมต่ อ้ งเรียนวธิ กี ารเขยี นใหม่ เพยี งแตต่ อ่ ยอด จากวธิ กี ารประสมอกั ษรในภาษาไทยกส็ ามารถอา่ นได้ และเมอ่ื รรู้ ะบบเขยี นภาษาเขมรถน่ิ ไทย อักษรไทย หรือได้รับการแนะน�ำเพียงเล็กน้อยก็สามารถอ่านภาษาเขมรถิ่นไทยในเล่มนี้ได้ อย่างคล่องแคล่ว จดุ ประสงคร์ อง เปน็ หนงั สอื เรยี นภาษาองั กฤษทใี่ ชส้ อ่ื สารในชวี ติ ประจำ� วนั ซง่ึ คำ� ศพั ท์ ไม่ยาก จึงเหมาะกับเยาวชนระดับประถมศึกษาตอนปลาย หรือมัธยมศึกษาตอนต้น สามารถใช้เป็นแบบฝึกอ่านนอกเวลาเรียนเพ่ิมเติมได้ ทั้งยังได้รับความรู้เก่ียวกับพืชท้องถิ่น อกี ประการหนึ่งด้วย จุดประสงค์เสริม เป็นหนังสือส�ำหรับบุคคลท่ัวไปท่ีสนใจความรู้เรื่องพืชท้องถิ่น ของเขมรถ่ินไทยในจังหวัดสุรินทร์ เพราะมีค�ำแปลความหมายเป็นภาษาไทย ทั้งยังมี ภาพพืชประกอบ รวมท้ังนักภาษาศาสตร์ที่สามารถอ่านสัทอักษรได้ จึงนับว่าเป็นประโยชน์ แกว่ งการภาษาศาสตรอ์ ีกช้นั หนงึ่ 4

3. ขอบเขตและข้อจำ� กดั ขอบเขตองค์ประกอบของหนังสอื เลม่ น้ี มจี ุดเน้น 3 ส่วนด้วยกัน คอื (1) ความรู้เร่ืองระบบตัวเขียนภาษาเขมรถิ่นไทยอักษรไทย เพื่อให้ผู้ที่ต้องการเรียนรู้ เขา้ ใจสญั ญลกั ษณแ์ ละวธิ กี ารเขยี นโดยสงั เขป ซงึ่ ผทู้ ม่ี พี นื้ ฐานความรภู้ าษาไทยจะสามารถอา่ น ได้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา และแน่นอนว่าเจ้าของภาษาที่รู้จักค�ำศัพท์ภาษาเขมรถ่ินไทย ยอ่ มต้องอา่ นออกเสียงได้ในภาษาของตนเอง (2) ช่ือพืชที่เป็นภาษาเขมรถิ่นไทย พร้อมรูปภาพ บางชนิดอาจมีช่ือภาษาไทยด้วย แต่บางชนิดอาจจะไม่ทราบจึงไม่สามารถระบุภาษาไทยได้ ส่วนชื่อทางวิทยาศาสตร์ได้รับ ความอนุเคราะห์จากนักพฤกษศาสตร์ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม แต่ทีมวิจัยคิดว่ามีประโยชน์ จงึ น�ำมาใส่ไวด้ ้วย (3) บทสนทนาลกั ษณะของพชื และการใชป้ ระโยชนข์ องพชื แตล่ ะชนดิ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ภาษาเขมรถน่ิ ไทยอกั ษรไทย การถอดเสยี งโดยใชส้ ทั อกั ษรสากล ความหมายภาษาไทย และ ความหมายภาษาองั กฤษ ข้อจ�ำกัดของเน้ือหาในเล่มมีหลายประการ ได้แก่ รูปพืช ควรมีให้หลากหลาย ส่วนประกอบ เช่น ส่วนใบ ราก ล�ำต้น ผล ดอก ฯลฯ แต่เน่ืองจากช่วงเวลาที่เก็บข้อมูล ในป่าไม่สามารถท�ำได้ทุกฤดูกาล พืชบางชนิดช่วงเวลาที่เข้าป่าอาจจะไม่พบ หรือไม่ใช่ฤดู ทมี่ ดี อก มผี ล กไ็ มส่ ามารถเกบ็ ภาพไดค้ รบ ในสว่ นของรายละเอยี ดของพชื และการใชป้ ระโยชน์ ในบทสนทนาควรจะมคี วามหลากหลาย และมคี วามยาวมากกวา่ นี้ แตเ่ นอื่ งจากเจา้ ของภาษา ไมม่ ีความช�ำนาญในการถามคำ� ถามทหี่ ลากหลาย ดังน้ันในชว่ งเริม่ ต้น จงึ มักจะเปน็ ประโยค เดมิ ๆ อาจทำ� ใหผ้ อู้ า่ นเกดิ ความนา่ เบอื่ ทวา่ หากอา่ นใหค้ รบทกุ ชนดิ ในสว่ นของการใชป้ ระโยชน์ ของพชื จะพบวา่ มคี วามแตกตา่ งกนั จงึ ทำ� ใหไ้ ดร้ บั คำ� ศพั ทใ์ หม่ ๆ เพมิ่ เตมิ แมจ้ ะจำ� นวนไมม่ าก แตก่ ็ได้เพิ่มจากพชื ทกุ ชนิด 4. ระบบตัวเขียนภาษาเขมรถน่ิ ไทยอักษรไทย ระบบตัวเขียนภาษาเขมรถ่ินไทยอักษรไทยอ้างอิงจาก “คู่มือระบบเขียนภาษา เขมรถ่ินไทยอักษรไทย” ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2556 ซึ่งจัดท�ำโดยคณะกรรมการ จดั ทำ� ระบบเขยี นภาษาทอ้ งถนิ่ ของกลมุ่ ชาตพิ นั ธด์ุ ว้ ยอกั ษรไทย สำ� หรบั ฉบบั ภาษาเขมรถนิ่ ไทย ประกอบด้วยกรรมการจากราชบัณฑิตยสถาน นักวิชาการจากหลายมหาวิทยาลัย และ ผู้เช่ียวชาญภาษาเขมรถ่ินไทย ซ่ึงระบบเขียนฉบับราชบัณฑิตฯ นี้ได้พัฒนาระบบเขียนท่ีใช้ ส�ำเนียงถิ่นสุรินทร์เป็นส�ำเนียงกลางในการสร้างระบบเขียนด้วยอักษรไทยต้ังแต่ พ.ศ. 2531 5

แลว้ นำ� มาปรบั ปรงุ ใหเ้ ปน็ “คมู่ อื ระบบเขยี นภาษาเขมรถนิ่ ไทยอกั ษรไทย” เพอ่ื เปน็ มาตรฐาน และใชก้ ันในวงกวา้ งต่อไป ระบบเขียนภาษาเขมรถิ่นไทยอักษรไทยน้ี โรงเรียนบ้านโพธิ์กอง อ�ำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ได้น�ำไปประยุกต์ใช้ท�ำสื่อการเรียนการสอนภาษาท้องถ่ิน และงานวิจัย เพอื่ ทอ้ งถน่ิ ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2550 จงึ มผี เู้ ชย่ี วชาญจำ� นวนหนงึ่ เปน็ ครทู ส่ี อนอยโู่ รงเรยี นบา้ นโพธก์ิ อง แต่บางท่านก็เกษียณอายุไปแล้ว ท้ังนี้ทีมวิจัยของโรงเรียนบ้านโพธิ์กองได้ขยายผล โดยน�ำ ระบบเขยี นนไ้ี ปเผยแพรใ่ นโรงเรยี นและหมบู่ า้ นใกลเ้ คยี ง รวมทงั้ บา้ นขนาดปรงี ตำ� บลเชอื้ เพลงิ อ�ำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซ่ึงเป็นพื้นที่วิจัยในโครงการ “การบันทึกความรู้ทางด้าน พฤกษศาสตรข์ องกลมุ่ เขมรถนิ่ ไทยในรปู แบบดจิ ทิ ลั : โดยการทำ� งานรว่ มกนั ของนกั ภาษาศาสตร์ นกั พฤกษศาสตร์ และคนในชมุ ชน” ดว้ ย ความแตกตา่ งระดบั ภาษาถนิ่ ระหวา่ งบา้ นโพธกิ์ อง กบั บา้ นขนาดปรงี หรอื หมบู่ า้ นใกลเ้ คยี ง มเี พยี งเลก็ นอ้ ย สามารถสอ่ื สารกนั เขา้ ใจเปน็ สว่ นมาก แตจ่ ะมเี สยี งแปรบางเสยี งเทา่ นน้ั ตวั อยา่ งเชน่ รไซ ~1 รเซยิ ็ “ไมไ้ ผ”่ มรวย ~ มโรย ~ มรยู “หนง่ึ รอ้ ย” โบะ ~ เบาะ “ตำ� ” แวย็ ~ เวยิ ็ “ต”ี มพี ~ มเพยิ ็ “ยส่ี บิ ” จากการสงั เกตพบวา่ มีเสยี งแปรที่เปน็ เสียงสระค่อนข้างมาก แตไ่ ม่เป็นปญั หาในการใช้ระบบเขยี นน้ี สรปุ ระบบเขยี นภาษาเขมรถนิ่ ไทยอักษรไทย ประกอบดว้ ย (1) พยัญชนะต้นที่ออกเสียงเหมือนพยัญชนะไทย 21 ตัว ได้แก่ ก ค ง จ ช ซ ด ต ท น บ ป พ ฟ ม ย ร ล ว อ ฮ และพยัญชนะทีอ่ อกเสยี งตา่ งจากภาษาไทย 1 ตัว คือ ญ (2) พยัญชนะสะกดที่ออกเสียงเหมือนพยัญชนะไทย 8 ตัว ได้แก่ ก ง ด น บ ม ย ว และพยัญชนะสะกดท่อี อกเสยี งตา่ งจากภาษาไทย 5 ตัว ได้แก่ จ ญ ร ล ฮ (3) พยัญชนะต้นควบ ประกอบด้วยตัวอักษร 2 ตัว ตัวท่ีอยู่ต�ำแหน่งท่ี 1 ได้แก่ ก ค จ ซ ต ท บ ป พ สว่ นตวั ทอี่ ยตู่ ำ� แหนง่ ที่ 2 ไดแ้ ก่ ร ล ว ซงึ่ โดยปกตจิ ะออกเสยี งควบกนั โดยไม่มีระยะห่าง แต่บางคร้ังอาจออกเสียงมีระยะห่างได้ เช่น ตร�ำ “แช่” อาจออกเสียง เป็น [ตรำ� หรอื ต-ร�ำ] (4) สระท่ีออกเสียงเหมือนสระไทย ได้แก่ –ะ –า –ิ –ี –ึ – –ุ –ู เ–ะ เ– แ–ะ แ– เ–อะ เ–อ โ–ะ โ– เ–าะ –อ เ–ียะ เ–ยี เ –อ ะ เ –อ –ัะ –ัว –ำ ไ– เ–า (5) สระทอี่ อกเสยี งไมเ่ หมอื นสระไทย แตใ่ กลเ้ คยี งกบั สระไทย จงึ ใชส้ ระทเ่ี สยี งใกลเ้ คยี ง แล้วเติมเครื่องหมายจุด ( –ฺ ) เพิ่มเติมใต้สระที่มี อ ประกอบ หรือใต้ตัวอักษรที่สระไม่มี อ ประกอบ เช่น ปเรอฺ “ใช้” เดฺิม “ต้น” ซเลอะฺ “ใบ” ลอื ฺ “ขา้ งบน” 1 ~ เป็นสัญลกั ษณท์ ี่หมายถึง การแปรเสียง 6

ตารางสรุประบบตัวเขยี นภาษาเขมรถ่นิ ไทยอกั ษรไทย และสทั อักษรสากล ในเชิงภาษาศาสตร์ การอธิบายเร่ืองเสียงพยัญชนะ จะต้องประกอบด้วย ลักษณะ การออกเสยี ง ตำ� แหนง่ การเกดิ เสยี ง และการสน่ั (โฆษะ) ของเสน้ เสยี ง โดยบางเสยี งจะแยก ด้วยการพ่นลมหรือไม่พ่นลมด้วย ดังนั้น ในตารางข้างล่างนี้จะใช้อักษรไทยควบคู่กับ สทั อักษรสากล ในการแสดงเสยี งตา่ ง ๆ ดงั น้ี ลักษณะการออกเสียง ตำ�แหนง่ เกิดเสยี ง เสน้ เสยี ง ริมฝปี าก ปุม่ เหงอื ก เพดาน เพดาน อ/ʔ อโฆษะ เสียงหยุด ไมพ่ ่นลม แขง็ ออ่ น เสยี ง อโฆษะ พน่ ลม ป/p ต/t จ/c ก/k เสียดแทรก โฆษะ พ / pʰ ท / tʰ ช / cʰ ค / kʰ ฟ/f บ/b ด/d ซ/s ฮ/h เสียงขา้ งลิน้ ล/ l เสียงนาสกิ ม / m น / n ญ / ɲ ง / ŋ เสียงล้นิ รวั ร/ r เสยี งอรรธสระ ว / w ย/ j 7

ตารางสระ ระดับลิ้น ตำ�แหนง่ ลนิ้ หนา้ กลาง หลัง สูง –ิ / i –ี / ii –ึ / ɨ – / ɨɨ –ุ / u –ู / uu ก่ึงสงู –.ิ / ɪ –.ี / ɪɪ –ึ. / ɤ –. / ɤɤ –ุ. / ʊ –.ู / ʊʊ กลาง เ–ะ / e เ– / ee เ–อะ / ə เ–อ/ əə โ–ะ / o โ– / oo กึง่ ต�ำ่ แ–ะ / ɛ แ– / ɛɛ เ–อะฺ / ʌ เ–อ/ฺ ʌʌ เ–าะ / ɔ –อ / ɔɔ ต�ำ่ –ะ / a –า / aa เ–.าะ /ɒ –อฺ / ɒɒ สระประสม เ–ยี ะ / iə เ–ีย / iiə เ –อ ะ / ɨə เ –อ / ɨɨə –ัะ/ uə –วั / uuə หลกั ในการเขียนภาษาเขมรถิ่นไทยอกั ษรไทย ค�ำในภาษาเขมรถิ่นไทยส่วนใหญ่เป็นค�ำพยางค์เดียวและค�ำสองพยางค์ และค�ำ หลายพยางคแ์ ต่กม็ ีจำ� นวนน้อย ค�ำพยางคเ์ ดียว เขยี นตามอักขระวิธีเขียนภาษาไทย เชน่ ตึก “นำ้� ” รฮึ “ราก” ค�ำท่ีมีเสียงควบก็เขียนตามอักขระวิธีไทย ยกเว้นบางสระท่ีมี เ– และ โ– ไ– เป็นส่วนประกอบ ให้วางพยัญชนะต้นที่ 1 อยู่หน้ารูปสระ เ– และ โ– ไ– เน่ืองจากภาษา เขมรถ่ินไทยมีตัวสะกดท่ีออกเสียงต่างจากภาษาไทย ซึ่งอาจท�ำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ จึงก�ำหนดให้เขียนต่างจากอักขระวิธีไทย เช่น กเร “แคร่” ถ้าเขียนเป็น เกร จะสับสนกับค�ำ ทม่ี เี สยี งสะกด –ร ในภาษาเขมรถนิ่ ไทย ค�ำท่ีมีสระเสียงส้ันประกอบ ให้เพิ่มไม้ไต่คู้ และเขียนเรียงต่อจากสระบน (ถ้ามี) เช่น เมือ็ด “ปาก” ซเรฺิว็ “ข้าวเปลือก” เพือ่ ความสะดวกในการพิมพ์คอมพิวเตอร์ คำ� สองพยางค์ ทมี่ พี ยญั ชนะตน้ สองตวั เรยี งกนั จะไมใ่ สส่ ระ –ะ หลงั พยญั ชนะตวั แรก เช่น ชดำ� “ขวา” ทน�ำ “ยา” คยอ็ ล “ลม” 8

ค�ำท่ีมีพยัญชนะต้น สามตัวเรียงกัน โดยพยัญชนะสองตัวแรกออกเสียงควบกัน จะใส่สระ –ะ หลังพยญั ชนะตัวที่สอง เชน่ ตระเซาฺ ะ “แตงกวา” ค�ำท่ีมีพยัญชนะต้น สามตัวเรียงกัน แต่ออกเสียงควบตัวที่สองกับสาม จะใส่สระ –ะ หลังพยญั ชนะตัวแรก เชน่ ซะกรอ็ ฺม “ไม้แดง” คำ� หลายพยางคใ์ หเ้ ขียนติดกนั เชน่ กนั ตมุ รุย “แมลงปอ” คำ� ประสมและคำ� ซอ้ น ใหเ้ ขยี นตดิ กนั เชน่ บองฺ ปโอน “พน่ี อ้ ง” ชนงั บาย “หมอ้ ขา้ ว” การเขยี นประโยคและขอ้ ความภาษาเขมรถนิ่ ไทย ใหเ้ ขยี นเวน้ วรรคเปน็ คำ� ๆ เพอื่ ใหอ้ า่ นงา่ ย เชน่ ภาษาเขมรถนิ่ ไทย : หนงึ่ เดิฺม นิฮ กฺี เฮา เดฺิม ซเดิย็ นิฮ? ภาษาไทย : หนง่ึ ต้นนเี้ ขาเรียกว่าตน้ อะไร? หมายเหตุ รายละเอียดปลีกย่อยอ่ืน ๆ หากผู้ใดสนใจ สามารถอ่านและท�ำความเข้าใจ เพมิ่ เตมิ ไดจ้ าก “คมู่ อื ระบบเขยี นภาษาเขมรถนิ่ ไทยอกั ษรไทย” ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2556 5. พชื ในป่าตาเกาว์และบทสนทนาเกีย่ วกบั ประโยชนก์ ารน�ำไปใช้ ในสว่ นนจ้ี ะเปน็ ความรเู้ รอื่ งพชื และการใชป้ ระโยชนจ์ ากพชื ในปา่ ตาเกาว์ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ชอื่ พชื เปน็ ภาษาเขมรถนิ่ ไทย หากมภี าษาไทยจะใสช่ อื่ ภาษาไทยไว้ ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ บทสนทนา เกี่ยวกับพืชแต่ละชนิดด้วยภาษาเขมรถ่ินไทย ถ่ายถอดเสียงด้วยสัทอักษรสากล ความหมาย ภาษาไทย และความหมายภาษาอังกฤษ ส่วนรูปน้ันบางรูปจะมีแถบสี และมาตรวัด ประกอบอยู่ในภาพ เพ่ือใช้เทียบสีและขนาด เพราะการถ่ายภาพใกล้ ไกล ขยาย จะมีผล ใหภ้ าพนัน้ ต่างจากความจรงิ ตวั อยา่ ง ตา นฮิ กีฺ เฮา ทา เดฺิม ซเดิย็ นิฮ ภาษาเขมรถ่นิ ไทย สัทอกั ษรสากล taa nih kɪɪ haw tʰaa dʌʌm sadəj nih ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ตา นเี้ ขาเรยี กว่าต้นอะไร? Granpa, how do they call this one? 9

พชื ในปา่ ตาเกาวแ์ ละบทสนทนา เกีย่ วกับประโยชน์การน�ำไปใช้ เลม่ 1 10

5.1) กจอฺกเนฺิก /kacɒɒk nʌʌk/ ชื่อไทย กระเจียว ชอื่ วงศ์ Zingiberaceae ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Curcuma sp. ประโยชน ์ ใช้ดอกจมิ้ น้�ำพรกิ (ดอกออกประมาณเดอื นเมษายน พฤษภาคม) สว่ นหัวใชต้ ำ� ปดิ แผลเร้อื รัง 11

กจอฺกเนฺกิ /kacɒɒk nʌʌk/ Then, they looked for it but it is quite rare. 1 ตา นฮิ กฺี เฮา ทา เดฺิม อย 5 กฺี ปรบั ทา ยี้ มือฺ ตา เดิฺม กีฺ ยวั แนฮ็ taa nih kɪɪ haw tʰaa dʌʌm ʔoj ซเลอฺะ เวญ เวญ ตา นี้เขาเรียกว่าต้นอะไร kɪɪ prap tʰaa jii mɤɤ taa dʌʌm kɪɪ juuə nɛh slʌʔ weeɲ weeɲ Grandpa, how do they call this plant? เขาบอกวา่ ดูต้นทใี่ บของมนั ยาว ๆ 2 They said we should look for นฮิ เฮา เดมิฺ กจอกฺ เนฺิก the one with long leaves. nih haw dʌʌm kacɒɒknʌʌk 6 เติว็ ดอ็ ฺล เคญิ ตา เดมฺิ เวีย ออย เตวิ ็ ยวั น้เี รียกวา่ ตน้ กจอกฺ เนิกฺ โม จรัวะ ยาง นา บาน This plant is called ‘kacɒɒknʌʌk.’ təw dɒl kʰəəɲ taa dʌʌm wiiə ʔɔɔj təw juuə moo cruəʔ jaaŋ 3 naa baan เดิมฺ กจอฺกเนิฺก นฮิ จฮั โบราน โม กีฺ ทา ออย เตวิ ็ รวั มลัวะ จรวั ะ. พอไปถงึ กเ็ หน็ แตต่ น้ ของมนั แลว้ จะใหเ้ อามา (เปน็ ผัก) จม้ิ ไดอ้ ย่างไร dʌʌm kacɒɒknʌʌk nih cah booraan moo kɪɪ tʰaa ʔɔɔj təw When we got there, there is only ruuə mluəʔ cruəʔ stem left. How are we supposed to collect its leaves? ตน้ กจอกฺ เนิฺกนี้คนสมัยก่อนเขาให้ไปหา ผกั จิ้ม 7 ปกา เวีย เบอฺ เวีย เมยี น ปกา เวยี ดอฮ For this ‘kacɒɒknʌʌk', people in ยวั ปกา the past usually looked for it to make a vegetable side dish. pakaa wiiə bʌʌ wiiə miiən pakaa wiiə dɔɔh juuə pakaa 4 เกอฺะ เลย เติว็ รัว มนั แจฮ็ เคิญ ถา้ มนั มดี อกก็เดด็ เอาดอก kʌʔ ləəj təw ruuə wiiə man cɛh If there are flowers, collect them kʰəəɲ instead. ก็เลยไปหา แต่ไม่ค่อยเจอ 12

8 เมื่อก่อนมันมดี อกใช่ไหม? เออ เบอฺทา ปกา เวยี เมยี น เฮย เตวิ ็ ดอฮ ยวั เดิมฺ นิฮ เตวิ ็ จรัวะ ยางจนา In the past, it also bloomed, didn’t it? ʔəə bʌʌtʰaa pakaa wiiə miiən həəj təw dɔɔh juuə dʌʌm nih 13 təw cruəʔ jaaŋcanaa บาด แลว้ จะเด็ดเอาตน้ มันไปทำ� อะไร baat Then, what do you do with ครบั the plant’s stem? Yes, it did. 9 เวีย จรัวะ ปกา 14 เกดฺิ ยาง จนา น็อฮ ปกา wiiə cruəʔ pakaa kʌʌt jaaŋcanaa nɔh pakaa กินดอกของมัน ดอกของมนั เปน็ อย่างไร? Well, we eat its flower. How is its flower like? 10 บาด จรวั ะ ปกา 15 ด็อฺล เวยี เงอื ็บ เดมฺิ baat cruəʔ pakaa dɒl wiiə ŋɨəp dʌʌm ครบั กนิ ดอก ตอนต้นของมนั ตาย Yes, we eat its flower. (ถึงจะออกดอก) 11 Oh, when the plant grows old and ออย จรวั ะ ปกา เวยี เตอ dies. ʔɔɔj cruəʔ pakaa wiiə təə 16 ออ๋ เงอื บ็ เดิมฺ นิฮ เติว็ ใหก้ ินดอกของมัน ʔɔɔ ŋɨəp dʌʌm nih təw Just eat its flowers. อ๋อ ตอนตน้ ของมันตาย 12 ปเฺี ดฺิม เวยี ปกา เมียน นฮั Well, when its stem is about to die. pɪɪdʌʌm wiiə pakaa miiən nah 13

17 21 เยียะ เวยี เงือ็บ เติว็ ดอ็ ลฺ เวยี ซแนฮ็ ดอฮ ปกา โม โอ จเรฺนิ นัฮ jiəʔ wiiə ŋɨəp təw dɒl wiiə dɔɔh pakaa moo ʔoo crʌʌn nah sanɛh มนั ออกดอกเยอะมาก พอต้นของมันตายทนี ้มี นั ก็ออกดอก It blooms a lot. When its stem is about to die, it blooms. 22 เกอฺะ เบอฺ ยฺืง กัด ปกา เวยี เฮย เกอฺะ เวยี 18 ดอฮ เดมฺิ โม แจ็ฮ ตา? เบอฺ ปรงั นฮิ กีฺ ออจ kʌʔ bʌʌ jɤɤŋ kat pakaa wiiə bʌʌ praŋ nih kɪɪ ʔɔɔc həəj kʌʔ wiiə dɔɔh dʌʌm moo cɛh taa ถ้าหน้าแล้งเขาเผา ถ้าเราตดั ดอกของมัน แล้วตน้ ของมันจะ In the dry season, people just งอกใชไ่ หมตา? burn it. If we cut its flower, will it bloom 19 again, Grandpa? ออจ ซเลอะฺ ซแนฮ็ เวีย เกอะฺ 23 ʔɔɔc slʌʔ sanɛʔ wiiə kʌʔ กดั ปกา โม แนฮ็ เวยี ดอฮ เดิมฺ ดอฮ โม ทแม็ย เผาใบเสรจ็ แล้วมันก็... kat pakaa moo nɛh wiiə dɔɔh Burn the leaves, then... dʌʌm dɔɔh moo tʰamɛj 20 ตดั ดอกของมัน เด๋ียวต้นก็งอกขนึ้ ใหม่ ทเลียะ พลญฺี โม ซแนฮ็ เวีย ดอฮ ปกา โม If we cut its flower, the plant tʰaliəʔ plɪɪɲ moo sanɛh wiiə grows again soon. dɔɔh pakaa moo 24 พอฝนตก ดอกของมนั ก็จะงอกออกมา อ๋อ เกอฺะ กัด เดฺิม แจฮ็ มนัฮ? When it rains, it blooms. ʔɔɔ kʌʔ kat dʌʌm cɛh manah 14 อ๋อ ก็ตัดตน้ ของมันอย่างนเ้ี ลยใชไ่ หม? Well, we just cut its stem like this, don’t we?

25 29 บาด กดั เดมิฺ แจฮ็ บาด นิฮ เกอฺะ ออ๋ บาด baat kat dʌʌm cɛh baat nih kʌʔ ʔɔɔ baat ครับ กต็ ัดตน้ ของมนั อยา่ งน้แี หละ ครับ Yes, just like that. Well... 26 30 เดิมฺ เดมฺิ ซเลอฺะ เวยี เมยี น อา เติว็ กรอม ญม ทา นึก ตา เดมิฺ รมีจฺ เตวิ ็ ลือฺ ยาง แจ็ฮ แอญ บอ? ɲom tʰaa nɨk taa dʌʌm ramɪɪc dʌʌm dʌʌm slʌʔ wiiə miiən ʔaa təw krɔɔm təw lɤɤ jaaŋ ฉนั นึกวา่ ตน้ ขม้นิ cɛh ʔɛɛɲ bɔɔ I thought it was turmeric. มนั มีใบขึน้ ๆ ลง ๆ อย่างนีใ้ ชไ่ หม? 31 Do its leaves grow up-and-down ญม ซเกอื ล็ อย เดมฺิ กจอกฺ เนกฺิ นึก ตา เดิมฺ along its twigs like that? รมจีฺ เตอ 27 ɲom sakɨəl ʔoj dʌʌm อา ตอน เวยี นิฮ เวีย ปฮั คย็อล เวีย เกอะฺ kacɒɒknʌʌk บะ ยาง จแนฮ็ เฮย nɨk taa dʌʌm ramɪɪc təə ʔaa tɔɔn wiiə nih wiiə pah ฉันไมค่ ดิ วา่ เปน็ ต้นกจอกฺ เนิกฺ ฉันก็นกึ วา่ kʰajɔl wiiə kʌʔ baʔ jaaŋ canɛh ตน้ ขมน้ิ həəj I didn’t think it is kacɒɒknʌʌk. ตอนที่มนั โดนลม มนั ก็หกั อย่างนแี้ หละ I thought it was turmeric. As the wind blows, its leaves 32 will go down like this. ซเลอฺะ เวีย เวยี คลาย คลาย ซเลอะฺ รมฺีจ คลฮั เฮย 28 ปัฮ คย็อล ปัฮ คยอ็ ล slʌʔ wiiə wiiə klaaj klaaj slʌʔ ramɪɪc kʰlah həəj pah kʰajɔl pah kʰajɔl ใบของมนั ก็คล้าย ๆ ใบตน้ ขมิ้นนัน่ แหละ มันโดนลม Its leaf is quite like turmeric’s. Well, because of the wind. 15

33 37 จา กฺี ยวั จจี ซันลอฺ caa kɪɪ juuə ciic sanlɒɒ ค่ะ เขาขุดเอา (ขมิน้ ) ไปแกง Well. People dig it up to cook. 34 38 จา ญม มัน กฺืย เคญิ เดมฺิ กจอฺกเนิฺก เติว็ ซงอร ตแร็ย อย นา โพง รมจีฺ caa ɲom man kɤɤj kʰəəɲ təw saŋɔɔr trɛj ʔoj naa pʰooŋ dʌʌm kacɒɒknʌʌk ramɪɪc ฉนั ไมเ่ คยเหน็ ตน้ กจอกฺ เนฺกิ (ขม้ิน) เอาตม้ ปลาอะไรพวกนี้ I have never seen kacɒɒknʌʌk Those turmeric, it can be used before. to cook a fish curry too. 35 ซเราะซแร ยฺืง กฺี 39 ซอ็ จ ซเลอะฺ รมฺีจ srɔʔsrɛɛ jɤɤŋ kɪɪ... sɔc slʌʔ ramɪɪc หมู่บา้ นของเรา... (กจอกฺ เนฺกิ ) เหมอื นใบต้นขม้ิน In our village. Its leaf just looks like turmeric’s. 36 จา ญม มัน กฺืย เคญิ เดิมฺ กจอกฺ เนกิฺ 40 ซ็อจ น็อฮ caa ɲom man kɤɤj kʰəəɲ dʌʌm kacɒɒknʌʌk sɔc nɔh ฉนั ไมเ่ คยเห็นต้นกจอกฺ เนกิฺ เหมอื นนะ I have never seen kacɒɒknʌʌk Quite similar. before. ออ๋ ซ็อจ รมีฺจ ʔɔɔ sɔc ramɪɪc เหมือนตน้ ขมิ้น It looks like turmeric. 16

41 ฉันเคยกนิ แตด่ อกของมนั แต่ไม่รจู้ ักตน้ เยียะ อา นิฮ เกอฺ ะ เดิฺม กจอกฺ เนฺิก ของมนั jiəʔ ʔaa nih kʌʔ dʌʌm I used to eat only its flower, but kacɒɒknʌʌk I’ve never known about its stem before. ใช่ ตน้ กจอฺกเนฺิกน้ี 46 Yes, this is kacɒɒknʌʌk... ก็อล คมอจฺ แยย็ กัด ดอฮ เดิฺม นิฮ ยวั เติว็ บอฺก 42 ลออฺ โอย ลออฺ แมนเตน เฮย kɔl kʰamɒɒc jɛj kat dɔɔh dʌʌm nih juuə təw bɒɒk laʔɒɒ ʔooj laʔɒɒ mɛɛnteen həəj สมยั กอ่ นยายจะตดั เอาตน้ กจอกฺ เนกิฺ นไ้ี ปปอก (กจอกฺ เนิกฺ ) นส้ี วยจริงๆ In the past, people would collect It is really a beautiful plant. this plant to peel. 43 47 คีว มือฺ เติว็ ปและ บอฺก ยาง รันเดญ จ็อฮ เฮย บอฺก รันเดญ เกอะฺ ซงอร จรัวะ kʰiiw mɤɤ təw plɛʔ bɒɒk jaaŋ randeeɲ cɔh həəj เขยี วจนดแู ปลกตา bɒɒk randeeɲ kʌʔ saŋɔɔr cruəʔ It's so green that it looks strange. ก็ปอกเหมือนปอกขา่ น่ันแหละ แลว้ ก็เอาไป ต้มเปน็ ผกั จม้ิ 44 จา Like peeling blue ginger, then boil it as vegetable side dish for dipping caa with chilli paste. ค่ะ 48 ซงอร จรัวะ บาน แดจ็ คเนีย Yes. saŋɔɔr cruəʔ baan dɛc kʰaniiə 45 ญม กืยฺ จรวั ะ ตา ปกา เวีย แต ญม มัน กยฺื ต้มเปน็ ผกั จม้ิ ไดเ้ หมือนกนั ซเกือล็ เดิฺม เวีย It can be a kind of vegetable side ɲom kɤɤj cruəʔ taa pakaa wiiə dish. tɛɛ ɲom man kɤɤj sakɨəl dʌʌm wiiə 17

49 wiiə kʌʌt tʰamɛj tʰamɛj dɔɔh บาน ต็อง เดิมฺ ต็อง ปกา juuə pʰooŋ ʔaa kacɛj kacɛj bɒɒk bɒɒk kʌʔ cruəʔ cruəʔ baan tɔŋ dʌʌm tɔŋ pakaa เอาพวกออ่ น ๆ ทีม่ ันงอกใหม่ ๆ มาปอก ได้ท้ังตน้ ท้ังดอก จิ้มนำ�้ พริก Well, both stem and flower are Collect those young leaves that edible. just sprout. You can peel and dip it with chilli paste. 50 เดิมฺ เวีย จงญั ปนั นา? 54 จรัวะ เดิมฺ กแจ็ย dʌʌm wiiə caŋaɲ pannaa cruəʔ dʌʌm kacɛj ตน้ ของมนั อร่อยมากไหม? กนิ ต้นอ่อน How good is its stem? Eat its young stems. 51 ยี เวีย ยาง เกอฺะ เดิฺม ตรฺยู รนั เดญ จอ็ ฮ 55 เฮย รอื ซงอร ตาบาน ซงอร ออย พย jii wiiə jaaŋ kʌʔ dʌʌm trʊʊj rɨɨ saŋɔɔr taabaan saŋɔɔr ʔɔɔj randeeɲ cɔh həəj pʰoj มันกเ็ หมือนต้นข่าอ่อนน่ันแหละ หรือตม้ กไ็ ด้ ตม้ ใหเ้ ปื่อย Well, its taste like young blue Or boil it soft. ginger. 56 52 บาด เกอะฺ ยวั เตวิ ็ จรัวะ จรวั ะ เติว็ นา ยาง เกอฺะ รันเดญ baat kʌʔ juuə təw cruəʔ cruəʔ təw naa jaaŋ kʌʔ randeeɲ ครบั ก็เอาไปจ้ิมน�ำ้ พริก รสชาตมิ นั เหมือนขา่ อ่อน Yes, you can dip it with chilli paste. its taste like young blue ginger. 57 53 ทา จงัญ เวีย เกฺิด ทแม็ย ทแม็ย ดอฮ ยัว โพง อา กเเจ็ย กเเจ็ย บอฺก บอกฺ เกอะฺ จรวั ะ จรวั ะ tʰaa caŋaɲ 18

เขาวา่ อร่อย 62 ด�ำ ด็อลฺ จงั วะ เวีย จบั รึฮ บาน ซแน็ฮ เวยี They said it’s really good. เกอะฺ แจญ็ ตรฺูย โม ทแมย็ 58 dam dɒl caŋwaʔ wiiə cap rɨh จ็อฮ จอ็ ฮ เบอฺ เบอฺ ยืฺง ยัว เตวิ ็ ดำ� ยัว ตรา baan sanɛh wiiə kʌʔ cɛɲ trʊʊj เวยี เตวิ ็ ดำ� ? moo tʰamɛj cɔh cɔh bʌʌ bʌʌ jʌʌŋ juuə təw ตอนทีม่ ันแทงรากได้ มนั ก็ออกยอดใหม่ dam juuə traa wiiə təw dam Once its roots grow, new top leaves ถา้ เราจะปลกู เราต้องเอาส่วนไหนไปปลกู ? would grow. If we want to grow it, which part 63 of it should we take to plant? ยัว ตา เมฺิม เวีย ยาง แจ็ฮ นุฮ บะ เจือ็บ ต็อง เดิมฺ เต? 59 ยัว เมฺิม เวีย นิฮ ยัว กว็ ล เวีย นิฮ juuə taa mʌʌm wiiə jaaŋ cɛh nuh baʔ cɨəp tɔŋ dʌʌm tee juuə mʌʌm wiiə nih juuə kuəl wiiə nih เอาแตห่ นอ่ ของมนั อยา่ งนี้ ไมเ่ อาทง้ั ตน้ เหรอ? เอาหวั เอาหน่อของมันไปปลกู Take only its shoot, don't we have to take the whole plant? Its roots and shoots can be planted. 64 60 เบอฺ เวยี เมยี น เดมิฺ เจอื บ็ เดมฺิ เกอะฺ ยวั เดมฺิ ยวั ก็วล เวีย เติว็ ดำ� bʌʌ wiiə miiən dʌʌm cɨəp juuə kuəl wiiə təw dam dʌʌm kʌʔ juuə dʌʌm เอาหน่อของมนั ไปปลกู ถา้ มันมีต้น ก็เอาต้น Its shoots can be planted. If you have the whole plant, then take it. 61 จจี โม บาน เกอะฺ ยวั เตวิ ็ ด�ำ 19 ciic moo baan kʌʔ juuə təw dam ขุดต้นมาได้ กเ็ อาไปปลูก The young stem can be replanted.

65 69 เบอฺ เมยี น เมฺมิ เวีย ยาง แจฮ็ เกอะฺ ยวั เบอฺ เดิฺม เวีย มันเซิว็ นิฮ เฮย เมฺมิ เวีย โม bʌʌ dʌʌm wiiə mansəw nih həəj bʌʌ miiən mʌʌm wiiə jaaŋ cɛh kʌʔ juuə mʌʌm wiiə moo ถา้ ต้นมนั ไม่คอ่ ยมี If you can’t find the stem. แต่ถ้ามีหนอ่ อย่างน้กี เ็ อาหนอ่ ของมนั มา 70 But if there is only a shoot like เบอฺ เคิญ เมฺิม เวยี ทม เวีย จเรฺิน ยัว ตอ็ ง this, then just take it as it is. เมมิฺ เวีย โม เลย 66 bʌʌ kʰəəɲ mʌʌm wiiə tʰom จา เบอทฺ า ยัว โม ดำ� ยัว โม จีจ ตอ็ ง แจฮ็ wiiə crʌʌn juuə tɔŋ mʌʌm wiiə เลย นอ็ ฮ ตา? moo ləəj caa bʌʌtʰaa juuə moo dam juuə ก็เห็นหวั มนั เยอะ กเ็ อาหวั ทีใ่ หญม่ าเลย moo ciic tɔŋ cɛh ləəj nɔh taa But there is only its roots. Dig up ถา้ หากวา่ จะเอามาปลกู กข็ ดุ เอามาทงั้ อยา่ งน้ี the big one. ใชไ่ หม? 71 If we want to replant it, can we จา just dig it all up? caa 67 บาด บาด จจี ต็อง แจ็ฮ เลย จะ่ baat baat ciic tɔŋ cɛh ləəj alright ครับ ขดุ เอาทง้ั หมดเลยครับ 72 บาด จจี ววง ววง กลม ซแน็ฮ เกอะฺ Yes, dig it all up like that. baat ciic wawoŋ wawoŋ klom 68 sanɛh kʌʔ จีจ ต็อง เดมิฺ โม ดำ� เลย เนาะ ครับ ขดุ เป็นวงกลม (สำ� หรับเตรยี มปลกู ) ciic tɔŋ dʌʌm moo dam ləəj nɔʔ Well, dig around the plant. ขุด (เอา) ท้งั ต้นมาปลกู เลยนะ Dig it all up to replant. 20

73 77 จงญั เฮย ปกา เวยี ? ซงอร บาน ตแร็ย บาน อย โม เกอะฺ โบะ caŋaɲ həəj pakaa wiiə saŋɔɔr baan trɛj baan ʔoj moo kʌʔ boʔ ดอกของมันอร่อยไหม? ตม้ ได้ หรือมีปลามอี ะไรก็ตำ� ... Is its flower good to eat? We can boil it or if you have a 74 fish, just pound it... จงญั เฮย จังวะ จปืบ มนอง มนอง 78 caŋaɲ həəj caŋwaʔ เลยี ย ประเฮาะ เลยี ย อย เตวิ ็ นะ capɨɨp manɔɔŋ manɔɔŋ liiəj prahɔʔ liiəj ʔoj təw naʔ อร่อย นาน ๆ ได้กินสกั ครัง้ พอไดก้ นิ กก็ ิน เยอะเลย ผสมปลารา้ หรอื ผสมอย่างอนื่ It is good. We don’t often eat it. Mix it with fermented fish. But once we do, we just take it quite a lot. 79 จคู เนิง็ จู อย 75 กีฺ เทอ อย มโฮบ? cuu kʰanəŋ cuu ʔoj kɪɪ tʰəə ʔoj mahoop ใบตน้ คเนิง็ (ท่มี รี สเปร้ียว) หรือเถาอะไร (มนั )ทำ� อาหารอะไรได?้ Mix it with kʰanəŋ vine... What kind of food can we cook 80 with it? เบอฺ นิฮ เกอะฺ มัน จอู ำ� ปลึ 76 bʌʌ nih kʌʔ man cuuʔampɨl จรวั ะ พัด ซงอร บาน นฮั ? ถา้ ไมม่ ี (ตน้ คเนงิ ็) ก็ใช้ใบมะขาม cruəʔ pʰat saŋɔɔr baan nah If you have none (kʰanəŋ vine), (มนั ) เปน็ ผกั จ้ิม ผัด หรอื ต้มไดไ้ หม? just mix it with tamarind leaves. Can we dip it (with chilli paste), 81 fry it, or boil it? เบอฺ มัน เมียน มัน จูอ�ำปึล เกอฺะ ยัว มัน จกู โรจ bʌʌ man miiən man cuuʔampɨl kʌʔ juuə man cuukrooc ถ้าไม่มีใบมะขามก็เอามะนาวแทน 21

If there is no tamarind leaves, only kʰɛɛ pakul cɛɛt lime will do. เดอื นมีนาคม-เมษายน 82 จ็อฮ ปกา เวีย เกอะฺ ปกา ดอ็ ฺล แค นา โต?๋ Well, it’s from March to April. cɔh pakaa wiiə kʌʔ pakaa dɒl 87 kʰɛɛ naa too? ออ๋ จงั วะ ทเลยี ะ พลญฺี แลว้ ดอกของมันออกเดอื นไหนเหรอ? ʔɔɔ caŋwaʔ tʰliəʔ plɪɪɲ Which months do its flowers อ๋อ ตอนฝนตก normally bloom? Well, it’s the rainy season. 83 อารา น็อง เตวิ ็ จ�ำ บาน 88 ทเลยี ะ พลฺีญ มนอง ʔaaraa nɔŋ təw cam baan tʰaliəʔ plɪɪɲ manɔɔŋ ใครจะไปจ�ำได้ พอหน้าฝน Who can remember? When it’s the rainy season... 84 แค จังวะ 89 ทเลยี ะ พลญีฺ มนอง บาน เวยี ดอฮ kʰɛɛ caŋwaʔ tʰaliəʔ plɪɪɲ manɔɔŋ baan wiiə เดอื น ตอนท.่ี .. dɔh A month of... ฝนตกมนั กง็ อก 85 When it rains, the plant grows. แค ปกุล เมนนฮั ? 90 kʰɛɛ pakul meennah? ซัจนฮิ แค ปรัง เติว็ รวั เดิฺม มัน เคญิ เต เวีย เงอื บ็ ม็อด เดือนมีนาคมใชไ่ หม? sacnih kʰɛɛ praŋ təw ruuə dʌʌm Isn’t it in March? man kʰəəɲ tee wiiə ŋɨəp mɔt 86 เราไปหาตน้ นีต้ อนหน้าแลง้ กไ็ ม่เห็นหรอก แค ปกุล แจด มันตายหมด We can’t find it in the dry season, it’s all dead. 22

91 95 เงือ็บ ม็อด อานา เวีย เซมฺิ มนั บาน ทเลยี ะ พลฺีญ เวีย เกอฺะ ดอฮ ŋɨəp mɔt ʔaanaa wiiə sʌʌm man baan มันตายหมด tʰaliəʔ plɪɪɲ wiiə kʌʔ dɔɔh All of them. ตรงไหนที่ชน้ื ถงึ (ต้นกจอฺกเนิกฺ ) ไม่โดนฝน มนั กง็ อก 92 จา In any damp ground the plant will grow, though no rain can caa fall through. คะ่ 96 เบอเฺ ซินต็ า เวยี ทเลยี ะ พลีญฺ นุฮ ดอฮ ลฺืน Yes. bʌʌsəntaa wiiə tʰaliəʔ plɪɪɲ nuh 93 dɔɔh lɤɤn เมยี น เวยี เนวิ ็ อา นอ็ ง ซเลอฺ ะ กซาม ตาม ดบ ตาม ปรฺี ถ้ายิง่ มันโดนฝน มนั ยง่ิ งอกเรว็ miiən wiiə nəw ʔaa nɔŋ If it gets rain, it grows fast. slʌʔ slʌʔ kasaam taam dop taam prɪɪ 97 เวีย ดอฮ ฮูจ นา เอิวฺ ?็ มมี ันอยูก่ บั ใบไมท้ ม่ี ันร่วงทับถมกนั ในป่า wiiə dɔɔh huuc naa ʔʌw? It stays under all falling leaves in the forest. มันขึ้นท่ไี หนพอ่ ? 94 Where does it grow, Father? โม ดอ็ ลฺ ทเลียะ พลฺญี มนอง โม เกอะฺ 98 moo dɒl tʰaliəʔ plɪɪɲ manɔɔŋ ดอฮ อฺี ดบ อีฺ ปรฺี นอ็ ฮ เฮย moo kʌʔ dɔɔh ʔɪɪ dop ʔɪɪ prɪɪ nɔh həəj พอถงึ ฤดฝู นตกคร้งั แรกก็ ขนึ้ ท่ีปา่ นัน่ แหละ When the first rain comes... It grows in the forest. 23

99 garden, in the forest is harder to นอ็ ฮ เฮย ปรฺี ตากาฮ ปรีฺ ตากาฮ เมยี น นฮั ? find any. nɔh həəj prɪɪ taakaah prɪɪ 104 taakaah miiən nah? กอ็ ฺบ ก็อฺบ ปา่ ตากาฮมีไหม? kɒp kɒp Does it grow in the Takah forest? กลบ(ลงไปในดิน) 100 Just put it under the soil. บาด เมียน เมียน เฮย 105 baat miiən miiən həəj ซ็อบฺ ไง เดฺริ เตวิ ็ มญั เคิญ กแรกเริญ เตอ ครบั มีครับ sɒpŋaj dʌʌr təw kʰəəɲ krɛɛkrəəɲ təə Yes, it grows in the forest. เดนิ ไปไหนมาไหนก็เห็นเยอะ 101 เมียน จเรนฺิ นัฮ? It can be seen anywhere we go. miiən crʌʌn nah? 106 เวยี จเรฺนิ มืฺอ เตวิ ็ เฮย นา มเี ยอะไหม? wiiə crʌʌn mɤɤ təw həəj naa Does it grow a lot? ดูไปแลว้ มันกม็ ีเยอะ 102 จเรฺนิ There are a lot of them. crʌʌn 107 ญม มือฺ เติว็ ฮะตา เดรฺิ เคิญ ตาม ปเตียฮ็ เยอะ เลฺงิ A lot! ɲom mɤɤ təw hataa dʌʌr kʰəəɲ taam patiəh lʌʌŋ 103 ซ็อฺบ ไง กีฺ จีจ ยัว โม ดะ ตาม ปเตีย็ฮ ตาม ฉันเดินไปตามบ้านก็เหมอื นว่าจะเห็นเยอะ ซแมง กยฺู ออ็ ฮ When walking around a village, sɒpŋaj kɪɪ ciic juuə moo daʔ taam I also see them a lot. patiəh taam samɛɛŋ kʊʊj ʔɔh ทกุ วันนี้เขาขดุ เอาไปปลกู ตามบา้ น ในป่ากค็ ่อย ๆ หมด Today people grow it in their 24

5.2) กตยุ ปร็วั ฮ /katujpruəh/ ชื่อไทย เท้ายายม่อม ช่ือวงศ์ Dioscoreaceae ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Tacca leontopetaloides (L.) Kuntze ประโยชน ์ หัวใชต้ ำ� พอกแผลท่ีถูกสตั ว์มพี ิษกดั ตอ่ ย เช่น ตะขาบ งู แมงป่อง 25

กตยุ ปร็วั ฮ /katujpruəh/ 5 เฮ แจ็ฮ แอญ็ เดิฺม กตยุ ปร็วั ฮ หนอ มันแด็ล 1 เคิญ กฺี ยวั เทอ อย ตา อานฮิ กีฺ เฮา ทนำ� ซเดิย็ นิฮ hee cɛh ʔeeɲ dʌʌm katujpruəh taa ʔaanih kɪɪ haw tʰanam nɔɔ mandɛl kʰəəɲ kɪɪ juuə tʰəə sadəj nih ʔoj ตา อนั นเี้ ขาเรยี กยาอะไร อยา่ งนนี้ ะ ตน้ กตยุ ปร็วั ฮ สว่ นมากเขาเอาไปทำ� Grandpa, what do they call this Let me think. This katujpruəh, kind of drug (plant)? mostly they used it to make… 2 6 เต อานฮิ กฺี เฮา เดมิฺ ยวั เตวิ ็ เทอ คัร เวีย ปวั ็ฮ กแอบ เวีย ค�ำ เวีย เจอฺะ tee ʔaanih kɪɪ haw dʌʌm juuə təw tʰəə kʰar wiiə puəh เอ... อนั น้เี ขาเรยี กตน้ kaʔɛɛp wiiə kʰam wiiə cʌʔ Hmm. This one they call… ท�ำน�้ำมันแก้งูกดั ตะขาบกัด 3 To make oilment for detoxifying เฮา เดิมฺ กตยุ ปร็วั ฮ snake’s or centipede’s poison. haw dʌʌm katujpruəh 7 เกอฺะ กีฺ ยวั เมมฺิ เวยี ยัว เมฺิม เวีย เรยี กวา่ ต้นเท้ายายม่อม kʌʔ kɪɪ juuə mʌʌm wiiə juuə They call it ‘katujpruəh.’ mʌʌm wiiə 4 ก็เอาหัวมนั มา..(ไปปัน่ ใหล้ ะเอียดแล้วเอา เดิมฺ แมญ็ กฺี เฮา เดิฺม กตุยปรว็ั ฮ มาปิดแผล) dʌʌmmɛɲ kɪɪ haw dʌʌm Then, you can crush and apply it katujpruəh on the wound. เมอ่ื กอ่ นเขาเรยี กต้นกตุยปรว็ั ฮ In the past, they called it ‘katujpruəh.’ 26

8 12 เติว็ คัร คัร ครั ครั คัร ครั บาน ลเอด็ บาน บาด ยัว เมิฺม เวยี บอกฺ คัร บาน บาฮ บอกฺ เกอะฺ ยัว โม เบฺิด็ ซมอฺ เต กดั ตา ตแรฮ็ อนั แตจ็ กดั ยวั ตา จอ็ ง เวยี təw kʰar kʰar kʰar kʰar kʰar kʰar baan laʔet baan kʌʔ juuə moo bʌt baat juuə mʌʌm wiiə bɒɒk kʰar baan baah bɒɒk samɒɒ tee kat ไปปัน่ ๆ ๆใหล้ ะเอียดแลว้ เอามาปดิ แผล taa trɛʔ ʔantɛc kat juuə taa cɒŋ wiiə Or grind it into tiny pieces, and put them on the wound or bite. ครบั ปอกหวั มนั ปน่ั ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งปอกเปลอื ก 9 Yes. Take the root to crush without เบดิฺ ็ อา บอฺน แด็ล คำ� เบฺิด็ บอฺน ค�ำ เวีย having to peel it. ตเจยี ะ 13 bʌt ʔaabɒn dɛl kʰam bʌt bɒɒn คัร คัร ยัว จ็อง กเม็ด ซโรจ ซโรจ คัร คัร kʰam wiiə taciəʔ ออย ลเอด็ ยวั โม เบิฺด็ ปิดที่โดนกดั แล้วมนั จะเย็น kʰar kʰar juuə cɒŋ kamet srooc srooc kʰar kʰar ʔɔɔj laʔet juuə Put them on the wound or bite moo bʌt to cool it down. ตดั ตรงนนี้ ดิ หนอ่ ย เอาแค่ยอดมนั มาปั่น 10 โดยใช้มีดปลายแหลม ปั่นให้ละเอียด เวยี เกอฺะ บดั ชือ แลว้ เอามาปดิ แผล wiiə kʌʔ bat cʰɨɨ Cut this part a bit. Use only its apical buds. Grind them with a sharp-tip แล้วมนั กห็ ายเจบ็ knife into tiny pieces and apply them on the wound or bite. Then, you will feel better. 14 11 เบิดฺ ็ ออย ยรู อนั แตจ็ ตเจียะ เกอฺะ บัด ชือ ยัว เมมฺิ นิฮ บาฮ บอกฺ ซมอฺ เต bʌt ʔɔɔj juur ʔantɛc taciəʔ kʌʔ juuə mʌʌm nih baah bɒɒk bat cʰɨɨ samɒɒ tee ปดิ ไวใ้ หน้ านหนอ่ ย มนั จะเยน็ แลว้ จะหายเจบ็ เอาหัวนี่แหละ ไม่ต้องปอกเปลอื ก Put it on the wound for a while. Just take the root. Don’t have to peel its skin. 27

It’ll cool down and you’ll feel 19 better. ซี พอฺง นฮิ 15 sɪɪ pʰɒɒŋ nih เกอฺะ เดิฺม เวยี นฮุ กินด้วยเหรอ kʌʔ dʌʌm wiiə nuh Can we? แล้วต้นมันละ่ 20 And what about its stem? ซี 16 sii เดิฺม เวีย มัน เคิญ ปเรอฺ ซเดิย็ กืฺย ปเรอฺ ตา เมฺมิ กิน dʌʌm wiiə man kʰəəɲ prʌʌ Yes, we can. sadəj kɤɤj prʌʌ taa mʌʌm 21 ต้นมันเหมอื นไมเ่ คยเหน็ ใชอ้ ะไร ซี ยงั นา ตา เหน็ ใชแ้ ตห่ วั มนั sii jaŋnaa taa For its stems, I’ve never seen anyone using it. Only its root กินอย่างไร ตา would do. How to eat it, Grandpa? 17 เกอฺะ พแล เวยี เมียน กีฺ ซี นิฮ 22 ซี พแล เวีย ทม kʌʔ pʰlɛɛ wiiə miiən kɪɪ sii nih sii pʰlɛɛ wiiə tʰom ส่วนผลก็มีคนกนิ นะ กนิ ผลใหญม่ นั Some people eat its fruit. You just eat the big (mature) fruit. 18 นฮิ กฺี ซี 23 เต อานิฮ เวีย มันเตือ็น นิฮ อานิฮ เพียงตา nih kɪɪ sii เวีย ปกา โม นก่ี ก็ นิ tee ʔaanih wiiə mantɨən nih ʔaanih pʰiiiəŋtaa wiiə pakaa moo Also this one. เอ... อนั นีม้ ันยงั ไม่ออกลกู เพียงแค่มนั 28 ออกดอก

Hmm. This one hasn’t yielded ประโยชน์ของมนั any fruit, so it has only flower. Its use... 24 ออ่ ปกา นิฮ ปกา 28 แน็ฮ ปเรอฺ คาง ปึฮ ʔɔɔ pakaa nih pakaa nɛh prəə kʰaaŋ pɨh อ๋อ น่ดี อกมัน ใช้แก้พษิ Oh, here is its flower. It can be used as antidote. 25 บาด นิฮ เวีย เมียน ต็อง พแล เวีย นิฮ 29 เปนิฺ แ็ นฮ็ แจญ็ โม เมยี น จเรจ็ ยาง จแนฮ็ เฮย ตเจยี ะ baat nih wiiə miiən tɔŋ pʰlɛɛ taciəʔ wiiə nih pʌnnɛʔ cɛɲ moo miiən crec jaaŋ canɛh həəj จะเย็น ครับ ผลมนั ออกมาจะเปน็ แฉก It’ll help cool down the wound. ถ้าผลมนั สกุ แลว้ 30 Yes, the shape of its fruit is like ออย ตเจยี ะ แนฮ็ บดั ชอื a ray of a star when it ripens. ʔɔɔj taciəʔ nɛh bat cʰɨɨ 26 แจ็ญ โม ด็อลฺ นฮิ พแล เวยี จะ ตุม แบ็ฮ ซี จะเย็น แลว้ จะหายเจ็บ พแล ปแอม To cool down the wound, and cɛɲ moo dɒl nih pʰlɛɛ wiiə caʔ then you’ll feel better. tum bɛh sii pʰlɛɛ paʔɛɛm 29 เกบ็ มากนิ ก็จะหวาน You can collect it to eat. Quite sweet. 27 เบอฺ อานฮิ ประยอจ bʌʌ ʔaanih prajooc

5.3) กเตยี ว /katiəw/ ช่อื ไทย พงั แหรใหญ่ ชื่อวงศ์ Cannabaceae ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Trema orientalis (L.) Blume ประโยชน ์ น�ำลำ� ตน้ ไปเผาให้เปน็ ถ่านกอ่ น แลว้ ตำ� ผสมกบั สารเคมี เพือ่ ทำ� เปน็ ดินปะสิว ทำ� พลุ หรอื ตะไล 30

กเตยี ว /katiəw/ Plants in our village are always like that. 1 นึง อนั นิฮ กีฺ เฮา เดมิ ฺ อย 6 เดมิ ฺ เวีย ทม มะ nɨŋ ʔannih kɪɪ haw dʌʌm ʔoj dʌʌm wiiə tʰom maʔ หน่งึ อนั น้เี ขาเรยี กตน้ อะไร ตน้ มันใหญไ่ หม Neung, what do they call this plant? Is it big? 2 7 เดมิ ฺ กเตียว ไป แพว เดิม เวยี มนั เซวิ ็ ทม บลา เต dʌʌm katiiəw paj pʰɛɛw dʌʌm wiiə mansəw tʰom blaa tee ตน้ กเตยี ว น้าแพว ต้นมนั ไม่คอ่ ยใหญเ่ ท่าไรหรอก This is ‘katiiəw,’ Auntie Phaew. It is not too big. 3 8 ซอ็ ด เดมิ ฺ กคบ นอ เปนิ ็ พเลิว คลัฮ sɔt dʌʌm kakʰop nɔɔ pən pʰləw kʰlah เหมือนต้นตะขบนะ เทา่ ต้นขาบา้ ง It looks like ‘kakʰop.’ It is about your thigh. 4 9 จา ยงั เกอะฺ เดิมฺ กคบ เปนิ ็ กอฺได คลฮั caa jaŋ kʌʔ dʌʌm kakʰop pən kɒɒdaj kʰlah จะ๊ เหมอื นกบั ต้นตะขบ เท่าข้อมอื บ้าง Well. It looks like ‘kakʰop.’ Some are about our wrist. 5 10 ซเราะ ยงื ฺ ยังจอ็ ฮ เฮย ปเรอฺ เทอ ออ็ ฮ เทอ อย บาน นฮั srɔh jɤɤŋ jancɔh həəj prʌʌ tʰəə ʔɔh tʰəə ʔoj baan nah บ้านเราอย่างนัน้ แหละ 31

ใช้ทำ� ฟนื ท�ำอะไรได้ไหม ถ้ามันสุกไปแลว้ ละ่ เป็นสีอะไร Can it be made into firewood? When it ripens… What colour would it be? 11 บาน 16 ซี คเมา คเมา baan sii kʰamaw kʰamaw ได้ สดี ำ� ๆ Yes, it can. It will become black. 12 เวีย เมยี น ปกา นฮิ เวยี เมียน พแล นฮั 17 เทอ ทน�ำ นฮุ wiiə miiən pakaa nih wiiə miiən pʰlɛɛ nah tʰəə tʰanam nuh มนั มดี อก มันมีผลไหม (ถา้ ) ท�ำยาล่ะ Does it have flowers or fruits? Can it be made into drug? 13 18 เมยี น จา มัน แดล ปเรอฺ เทอ ทน�ำ เต ไป แพว miiən caa man dɛɛl prʌʌ tʰəə tʰanam tee paj pʰɛɛw มจี ะ่ ไมไ่ ด้ใช้ท�ำยาหรอก นา้ แพว Yes, it does. It can’t be made into drugs, 14 Auntie Phaew. นิฮ พแล เวีย ตจู ตูจ 19 nih pʰlɛɛ wiiə tuuc tuuc เมียน ตา กฺี ยวั เดิมฺ เวีย เดิมฺ เงือ็บ นฮั นี่ ผลมันเล็กๆ miiən taa kɪɪ juuə dʌʌm wiiə dʌʌm ŋɨəp nah Look at this. Its fruit is quite small. มีแต่เขาเอาต้นมนั ต้นที่ตายนะ 15 จ็อฮ ด็อล เวยี ตมุ เติว็ นุฮ เกิฺด ซี อย They take dried wood (dead-wood) ... cɔh dɔl wiiə tum təw nuh kʌʌt sii ʔoj 32

20 25 กีฺ ยัว เตวิ ็ ด็อด ออย เกิดฺ คยงู มนั เซว พรุฮ kɪɪ juuʌ təw dɔt ʔɔɔj kʌʌt kʰajuuŋ manseew pʰruh เขาเอาไปเผาเป็นถ่าน ดินปะสิว ระเบิด They burn it to make charcoal. Like gunpowder and explosive powder. 21 บาน เกอะฺ กีฺ ยัว เตวิ ็ โบะ 26 ต็อง กฺี ออ็ จ ซบไง นฮั baan kʌʔ kɪɪ juuə təw boʔ tɔŋ kɪɪ ʔɔc sopŋaj nah ได้แล้ว เขาก็เอาไปต�ำ ทเี่ ขาจดุ ทกุ วันนี้นะ่ After that. They pound it... Just like people do today... 22 ปซ็อม น็อง คราม 27 พรุฮ ตไล pasɔm nɔŋ kʰraam pʰruh tlaj ผสมกบั คราม พลุ ตะไล And mix it with ‘kʰraam'. Firework that is called ‘tlaj'. 23 ซมัย ปี เดิมฺ นฮั 28 ปเรอฺ อะ samaj pii dʌʌm nah prʌʌ ʔaʔ สมยั ก่อนนะ่ ใช้ ไหม In the past... Isn’t it? 24 ยวั เติว็ เทอ มันเซว 29 จา juuə təw tʰəə manseew caa เอาไปท�ำดนิ ปะสวิ จ่ะ To make gunpowder. Yes. 33

5.4) กร็วง /kruəŋ/ - ช่ือไทย - ชอ่ื วงศ์ - ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ใช้ล�ำต้นผ่าเปน็ 7 ชนิ้ ประโยชน์ นำ� มาตม้ กินน�้ำเปน็ ยาแก้กษัยเสน้ 34

กรว็ ง /kruəŋ/ 6 จา ยัว โม เทอ ทน�ำ เดิมฺ เวีย นะ ยัว โม 1 เทอ ทน�ำ หน่งึ เดิฺม นิฮ กฺี เฮา เดมฺิ อย caa juuə moo tʰəə tʰanam dʌʌm nɨŋ dʌʌm nih kɪɪ haw dʌʌm ʔoj wiiə naʔ juuə moo tʰəə tʰanam หนึ่ง ตน้ นีเ้ ขาเรียกตน้ อะไร? ค่ะ เอามาท�ำยา ต้นของมันมาท�ำยา Neung, how do they call this plant? Well, they take its stems to make drug. 2 นิฮ กีฺ เฮา ทา เดมิฺ กรว็ ง 7 แก ตไซ nih kɪɪ haw tʰaa dʌʌm kruəŋ kɛɛ tasaj นีเ่ ขาเรียกวา่ ต้นกร็วง แกก้ ษัย They call it ‘kruəŋ’ As a relaxant. 3 ซเลอฺะ เวีย ตนั ทม แจฮ็ แอญ 8 ยัว เดฺิม เวยี โม ปุฮ ปร�ำปลิ จนงั slʌʔ wiiə tantʰom cɛh ʔɛɛɲ juuə dʌʌm wiiə moo puh ใบของมนั ใหญอ่ ย่างน้ใี ชไ่ หม? prampil canaŋ It has a big leaf, isn’t it? เอาต้นของมันมาผา่ เป็น 7 ช้ิน 4 They cut its stem into seven แจฮ็ เฮย pieces. cɛh həəj 9 โม ซงอร เพอฺะ อยา่ งนแี้ หละ moo saŋɔɔr pʰʌʔ Just like this. มาต้มดืม่ 5 ประยอจ เคฺนิ ็ เวีย เมยี น นะ And boil and drink it as a decoction. prajɔɔc kʰʌn wiiə miiən naʔ 35 มนั มีประโยชนอ์ ะไรบา้ ง? How can we make use of it?

10 ตน้ มนั ก็ใหญเ่ หมอื นกัน แก ตไซ It’s quite a big tree. kɛɛ tasaj 15 แกก้ ษยั ปนั แน็ฮ ปนั แนฮ็ น็อฮ As a relaxant. pannɛh pannɛh nɔh 11 ใหญป่ ระมาณน้ี ๆ ปันนอ็ ฮ น็อฮ It is around this size. pannɔh nɔh 16 เทา่ นั้นใชไ่ หม? เวยี เมียน ปกา เมียน พแล แอญ Is that all? wiiə miiən pakaa miiən pʰlɛɛ ʔɛɛɲ 12 จา เมยี น สรรพคณุ ปันแน็ฮ เฮย มันมีดอกมีผลไหม? caa miiən sappʰakʰun pannɛh Does it have flowers or fruits? həəj 17 คะ่ มสี รรพคณุ เท่านี้แหละ เมยี น Yes, that’s all for its medical use. miiən 13 มี หน่งึ เดมิฺ เวีย ยงั นา กรว็ ง นฮิ Yes, it does. nɨŋ dʌʌm wiiə jaŋnaa kruəŋ nih 18 หนึ่ง ต้นของมนั เปน็ อยา่ งไร? ตน้ กร็วงน้ี พแล กแจย็ เวีย เกอฺะ ซี คีว Neung, how does ‘kruəŋ’ look pʰlɛɛ kacɛj wiiə kʌʔ sii kʰiiw like? ผลออ่ นของมันกม็ สี ีเขียว 14 เดิมฺ เวีย เกอฺะ ทม กเรอื น็ เฮย The young fruits are green. dʌʌm wiiə kʌʔ tʰom krɨən həəj 19 ดอ็ ฺล ตุม เกอฺะ เกฺดิ ซี ลืฺง 36 dɒl tum kʌʔ kʌʌt sii lɤɤŋ

พอสุกก็เป็นสีเหลอื ง 22 แตทา ปเรอฺ การ เกอฺะ กยืฺ เคญิ กฺี ปเรอฺ When it ripens, the fruits are เฮย เดิมฺ ตนั ทม ทม นอ็ ฮ yellow. tɛɛtʰaa prʌʌ kaar kʌʔ kɤɤj 20 kʰəəɲ kɪɪ prʌʌ həəj dʌʌm โฮบ มันบาน เต tantʰom tʰom nɔh hoop manbaan tee แต่กเ็ คยเหน็ เขาเอาต้นใหญ่ ๆ มาใชง้ านอยู่ กนิ ไม่ได้ But I have seen some people make use of its log. We can’t eat them. 23 21 ปนั แนฮ็ เฮย มัน กฺยื เคญิ กฺี โฮบ เต pannɛh həəj man kɤɤj kʰəəɲ kɪɪ hoop tee เทา่ นแี้ หละ ไมเ่ คยเห็นใครกนิ นะ That’s all. I have never seen anyone eat it before. 37

5.5) กันเติรง็ /kantrəŋ/ ชือ่ ไทย - ชื่อวงศ์ Rutaceae ช่อื วทิ ยาศาสตร์ Micromelum sp. ประโยชน ์ ใชร้ ากเคี้ยวกับหมาก เป่าถอนพษิ งู 38


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook