รายงาน การจดั การเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 เสนอ อาจารย์ ธานินทร์ ปญั ญาวัฒนากลุ จดั ทาโดย นางสาว ธดิ ารตั น์ คุณเอนก 62003161001 นางสาว ชลธชิ า ศรเี กษม 62003161003 นางสาว จิราภรณ์ ป้องพระราช 62003161007 นางสาว ธนภรณ์ เคนเหลา 62003161012 นางสาว โสภดิ า ภิรมยค์ ลอ้ ย 62003161019 นาย สุทธริ ัตน์ ศรีสวสั ด์ิ 62003061020 นางสาว ปณดิ า พลกระโทก 62003161034 นกั ศกึ ษาชน้ั ปีท่ี 3 คณะครุศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์ท่ัวไป รายงานนี้เปน็ ส่วนหนึ่งของวิชาการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตรร์ ะดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต (หลกั สตู ร 4 ปี) มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏราชนครินทร์
คานา รายงาน เร่ือง การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่มน้ี เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีจุดประสงค์เพ่ือศึกษาความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งรายงานฉบับน้ีมีเน้ือหาเก่ียวกับ แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบ STEAM โดยใช้ปญั หาเปน็ ฐาน และชุดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 คณะผู้จัดทาได้วางแผนการ ดาเนนิ งานการศึกษาค้นคว้า การจัดการเรียนรู้รูปแบบ STEAM และการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพ่ือนามา สังเคราะห์เป็นการจัดการเรียนรู้รูปแบบ STEAM โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน และนามาออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ท่เี หมาะสมสาหรับนกั เรยี นระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 การจัดทารายงานฉบับน้ีสาเร็จตามวัตถุประสงค์ไปด้วยดี คณะผู้จัดทาขอขอบพระคุณอาจารย์ ธานินทร์ ปัญญาวัฒนากุล ท่ีท่านได้ให้คาแนะนา จนทาให้รายงานฉบับนี้สมบูรณ์ในด้านการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ การ ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รวมถึงการจัดทาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี คณะผู้จัดทาหวังว่า เนื้อหาในรายงานฉบับนี้ท่ีได้เรียบเรียงมาจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจเป็นอย่างดี หากมีส่ิง ใดในรายงานฉบับน้ีจะต้องปรับปรุง คณะผู้จัดทาขอน้อมรับในข้อช้ีแนะและจะนาไปแก้ไขหรือพัฒนาให้ถูกต้องสมบูรณ์ ตอ่ ไป คณะผ้จู ัดทา
สารบัญ เร่ือง ตารางวเิ คราะหห์ ลักสูตรสาหรับการจดั ทาหนว่ ยการเรยี นรู้ ตารางการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ กรอบแนวคิดการออกแบบหน่วยการเรยี นรูย้ อ่ ย หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง อะตอม ธาตุและสารประกอบ แผนการจัดการเรียนรู้ย่อยท่ี 1 เรื่อง สมบัตขิ องสาร ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สมบัตขิ องสาร แผนการจัดการเรยี นรู้ย่อยท่ี 2 เร่ือง ประโยชนแ์ ละผลกระทบของธาตุ สารประกอบ และธาตุกัมมนั ตรังสี ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง ประโยชน์และผลกระทบของธาตุ สารประกอบ และธาตกุ ัมมันตรงั สี แผนการจดั การเรียนรยู้ ่อยที่ 3 เรอ่ื ง จุดเดือดจดุ หลอมเหลวของสารบรสิ ทุ ธแ์ิ ละสารผสม ชุดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เร่ือง จุดเดอื ดจุดหลอมเหลวของสารบริสุทธแิ์ ละสารผสม แผนการจดั การเรยี นรยู้ ่อยท่ี 4 เรื่อง ความหนาแน่นของสาร ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง ความหนาแน่นของสาร แผนการจดั การเรยี นรยู้ ่อยที่ 5 เรอ่ื ง ความสัมพนั ธ์ระหว่าง อะตอม ธาตุ และสารประกอบ ชุดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เรื่อง ความสัมพันธ์ระหวา่ ง อะตอม ธาตุ และสารประกอบ แผนการจัดการเรยี นรยู้ ่อยท่ี 6 เร่ือง โครงสร้างอะตอม ชุดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรื่อง โครงสร้างอะตอม แผนการจัดการเรียนรยู้ ่อยที่ 7 เรอ่ื ง การจัดเรยี งอนุภาคและเเรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนุภาค ชุดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง การจดั เรยี งอนุภาคและเเรงยึดเหน่ยี วระหวา่ งอนุภาค
ตารางวเิ คราะหห์ ลักสูตรสาหรับการจดั ทาหนว่ ยการเรียนรู้ รายวชิ า วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 21 ชั่วโมง สาระท่ี สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ชื่อหน่วยการเรียนรู้ เวลา 1 (ชัว่ โมง) 2 วิทยาศาสตร์ ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร - ธาตแุ ตล่ ะชนดิ มีสมบตั ิเฉพาะตัวและมี อะตอม ธาตแุ ละสารประกอบ สมบัติทางกายภาพบางประการเหมือนกนั 21 ชวั่ โมง และบางประการต่างกัน ซึง่ สามารถนํามา กายภาพ องคป์ ระกอบของสสาร จดั กลมุ่ ธาตุเปน็ โลหะอโลหะและกงึ่ โลหะ ธาตโุ ลหะมจี ุดเดอื ดจุดหลอมเหลวสงู มีผวิ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสมบัติ มันวาว นาํ ความรอ้ น นาํ ไฟฟ้า ดึงเปน็ เสน้ หรอื ตเี ป็นแผน่ บางๆได้และมีควาหนาแนน่ ของสสารกบั โครงสรา้ งและแรง ท้ังสงู และตํา่ ธาตุอโลหะมจี ดุ เดอื ด จดุ หลอมเหลวต่ํามผี ิวไมม่ ันวาวไม่นําความ ยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนุภาค หลัก รอ้ น ไมน่ ําไฟฟ้า เปราะ แตกหกั งา่ ย และมคี วามหนาแนน่ ต่ําธาตุก่ึงโลหะมี และธรรมชาติ ของการ สมบตั ิบางประการเหมือนโลหะ และ สมบตั ิบางประการเหมือนอโลหะ เปล่ยี นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการ เกดิ ปฏิกิริยาเคมี
ตารางวิเคราะห์หลกั สูตรสาหรบั การจัดทาหนว่ ยการเรียนรู้ (ตอ่ ) รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 21 ชว่ั โมง สาระที่ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ช่อื หน่วยการเรียนรู้ เวลา 2,3 (ช่ัวโมง) - ธาตโุ ลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ที่ 4 สามารถแผร่ ังสไี ด้ จดั เปน็ ธาตุกมั มนั ตรังสี - ธาตุมที ้งั ประโยชน์และโทษ การใชธ้ าตุ โลหะ อโลหะ กงึ่ โลหะ ธาตกุ ัมมันตรงั สี ควรคํานึงถึง ผลกระทบต่อส่ิงมชี ีวติ สิง่ แวดลอ้ ม เศรษฐกจิ และสังคม - สารบรสิ ุทธป์ิ ระกอบดว้ ยสารเพยี งชนดิ เดยี ว สว่ นสารผสมประกอบด้วยสารตง้ั แต่ 2 ชนดิ ขน้ึ ไป สารบรสิ ทุ ธ์แิ ต่ละชนิดมี สมบตั บิ างประการ ทเี่ ปน็ คา่ เฉพาะตัว เช่น จุดเดือดและ จุดหลอมเหลวคงทแ่ี ต่สาร ผสมมจี ดุ เดือด และจุดหลอมเหลวไม่คงท่ี ขน้ึ อย่กู ับชนิดและ สดั ส่วนของสารท่ผี สม อยู่ดว้ ยกัน
ตารางวิเคราะห์หลักสตู รสาหรับการจัดทาหน่วยการเรียนรู้ (ตอ่ ) รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 21 ชั่วโมง สาระที่ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ชื่อหน่วยการเรียนรู้ เวลา 5,6 (ชั่วโมง) - สารบริสุทธ์แิ ต่ละชนดิ มคี วามหนาแนน่ หรอื มวลต่อ 7 หนึ่งหนว่ ยปรมิ าตรคงท่ี เป็นค่าเฉพาะ ของสารน้ัน ณ สถานะและอุณหภูมหิ นึ่ง แต่สารผสมมีความหนาแน่นไม่ คงทขี่ ึ้นอย่กู ับชนิด และสดั ส่วนของสารทผ่ี สมอยูด่ ว้ ยกนั - สารบรสิ ทุ ธ์ิแบ่งออกเป็นธาตุแลสารประกอบธาตุ ประกอบด้วยอนุภาคท่ีเล็กทีส่ ุดทย่ี งั แสดงสมบัติของธาตุ น้นั เรียกวา่ อะตอม ธาตุแตล่ ะชนิดประกอบด้วยอะตอม เพยี งชนิดเดียวและไมส่ ามารถแยกสลายเปน็ สารอนื่ ได้ ดว้ ยวธิ ที างเคมี ธาตเุ ขียนแทนด้วยสญั ลักษณธ์ าตุ สารประกอบเกิดจากอะตอมของธาตุต้งั แต่ 2 ชนดิ ขึ้นไป รวมตวั กันทางเคมใี นอัตราสว่ นคงท่ี มีสมบัติแตกต่างจาก ธาตุท่ีเป็นองค์ประกอบ สามารถแยกเปน็ ธาตุได้ดว้ ยวธิ ี ทางเคมธี าตุและสารประกอบสามารถเขียนแทนไดด้ ว้ ย สูตรเคมี
ตารางวเิ คราะห์หลกั สตู รสาหรับการจัดทาหนว่ ยการเรยี นรู้ (ตอ่ ) รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 21 ชัว่ โมง สาระที่ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ชื่อหน่วยการเรียนรู้ เวลา 8 (ชวั่ โมง) - อะตอมประกอบด้วยโปรตอน นวิ ตรอน และ 9 อเิ ลก็ ตรอน โปรตอนมปี ระจไุ ฟฟา้ บวก ธาตุ ชนดิ เดยี วกันมจี ํานวนโปรตอนเทา่ กันและเปน็ ค่าเฉพาะ ของธาตนุ นั้ นิวตรอนเป็นกลางทางไฟฟ้า ส่วน อิเล็กตรอนมปี ระจไุ ฟฟา้ ลบ เมื่ออะตอม มีจาํ นวน โปรตอนเทา่ กับจํานวนอิเล็กตรอน จะเปน็ กลางทาง ไฟฟ้า โปรตอนและนิวตรอน รวมกนั ตรงกลางอะตอม เรียกวา่ นิวเคลียส ส่วนอเิ ล็กตรอนเคลื่อนทีอ่ ยู่ใน ที่วา่ งรอบนวิ เคลยี ส - สสารทุกชนดิ ประกอบดว้ ยอนภุ าค โดยสาร ชนดิ เดยี วกันทีม่ ีสถานะของแข็ง ของเหลว แก๊ส จะมีการ จดั เรยี งอนุภาค แรงยึดเหน่ยี วระหวา่ ง อนุภาคการ เคลือ่ นที่ของอนุภาคแตกต่างกัน ซง่ึ มผี ลตอ่ รูปรา่ ง และปริมาตรของสสาร
ตารางวิเคราะหห์ ลกั สูตรสาหรับการจัดทาหน่วยการเรยี นรู้ (ต่อ) รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้น มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 21 ช่วั โมง สาระท่ี สาระการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ เวลา (ชั่วโมง) - อนุภาคของของเหลวอยู่ใกล้กนั มีแรงยึดเหนย่ี ว ระหวา่ งอนภุ าคน้อยกว่าของแขง็ แตม่ ากกวา่ แก๊ส อนุภาคเคล่ือนท่ีไดแ้ ต่ไมเ่ ปน็ อิสระเทา่ แกส๊ ทําให้ มี รูปรา่ งไม่คงท่ีแต่ปรมิ าตรคงที่ - อนุภาคของแกส๊ อยหู่ า่ งกนั มาก มแี รงยึดเหน่ยี ว ระหว่างอนภุ าคน้อยท่สี ุด อนุภาคเคลื่อนท่ีได้ อย่าง อสิ ระทุกทิศทาง ทาํ ใหม้ รี ูปรา่ งและปรมิ าตร ไม่คงที่ - สสารทุกชนดิ ประกอบดว้ ยอนุภาค โดยสาร ชนิด เดียวกันทม่ี สี ถานะของแขง็ ของเหลว แกส๊ จะมีการ จัดเรยี งอนภุ าค แรงยดึ เหนีย่ วระหว่าง อนภุ าคการ เคล่ือนที่ของอนุภาคแตกตา่ งกนั ซึง่ มผี ลตอ่ รปู รา่ ง และปรมิ าตรของสสาร
ตารางการออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ รายวิชา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า - ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง อะตอม ธาตุและสารประกอบ มาตรฐาน ว 2.1 ตัวช้วี ดั ตวั แปรศกึ ษา ชิ้นงาน/ภาระงาน ฐานคดิ การจดั การเรยี นรู้ 1. อธิบายสมบตั ิทางกายภาพบางประการ ตวั แปรท่ี 1 ตวั แปรที่ 2 ตัวแปรท่ี 3 ของ ธาตโุ ลหะ อโลหะ และกึง่ โลหะ โดยใช้ หลักฐานเชงิ ประจกั ษท์ ีไ่ ด้จากการสังเกตและ การ - ความรู้เรือ่ งสมบัติ ทักษะกระบวนการทาง - ความมุ่งมั่น - ตารางเปรียบเทียบ รูปแบบการจดั การเรียนรู้ ทดสอบ และใช้สารสนเทศทีไ่ ดจ้ าก แหล่งขอ้ มลู มานะ อดทน คณุ สมบัติของธาตโุ ลหะ แบบ STEAM โดยใช้ ปัญหา ตา่ ง ๆ รวมท้งั จดั กลุ่มธาตเุ ปน็ โลหะ อโลหะ และ ทางกายภาพบาง วิทยาศาสตร์ - ความละเอยี ด อโลหะ และกงึ่ โลหะ เปน็ ฐาน กงึ่ โลหะ -ทกั ษะการสงั เกต รอบคอบ ประการของ ธาตุ - ทักษะการทดลอง โลหะ อโลหะและ ก่ึง - ทักษะความรว่ มมือ การ โลหะ ทำงานเปน็ ทีมและภาวะ ผูน้ ำ 2. วิเคราะหผ์ ลจากการใชธ้ าตโุ ลหะ อโลหะ กึ่ง - ผลจากการใชธ้ าตุ - ทักษะการลงความเหน็ - มีความอยากรอู้ ยาก เห็น - ออกแบบงานนำเสนอ รปู แบบการจดั การเรยี นรู้ แบบ STEAM โดยใช้ ปัญหา โลหะ และธาตุกมั มันตรงั สที ่มี ตี ่อสงิ่ มชี ีวติ โลหะ อโลหะ กงึ่ โลหะ จากขอ้ มลู - มคี วามมงุ่ มานะ ด้วยเทคโนโลยดี จิ ิทลั แบบ เปน็ ฐาน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสงั คม จากข้อมูลท่ี และธาตุกมั มันตรังสที ี่ - ทักษะการจัดกระทำ อดทน ตา่ ง ๆ (power point, รวบรวมได้ และสือ่ ความหมายขอ้ มลู canva, Prezi) เรอ่ื ง มตี อ่ ส่งิ มชี วี ิต ผลจากการใช้ธาตุโลหะ 3. ตระหนกั ถงึ คณุ ค่าของการใชธ้ าตุโลหะ อโลหะ -ด้านการสอื่ สารสารสนเทศ อโลหะ กึ่งโลหะ และ กงึ่ โลหะ ธาตุกมั มนั ตรังสีโดยเสนอ แนวทาง การ สงิ่ แวดลอ้ ม เศรษฐกจิ และการรู้เทา่ ทนั ส่ือ ใช้ธาตุอยา่ งปลอดภัย คมุ้ ค่า และสงั คม ธาตุกมั มนั ตรงั สีทม่ี ีต่อ สง่ิ มชี ีวติ สง่ิ แวดลอ้ ม เศรษฐกจิ และสังคม (ถ้าไมม่ ีให้นักเรยี นทำใส่ กระดาษ Flow Chart)
ตารางการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ (ต่อ) รายวชิ า วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา - ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง อะตอม ธาตแุ ละสารประกอบ มาตรฐาน ว 2.1 ตวั ชี้วัด ตัวแปรท่ี 1 ตวั แปรศกึ ษา ตวั แปรที่ 3 ช้นิ งาน/ ภาระงาน ฐานคดิ การจดั การเรยี นรู้ 4. เปรยี บเทียบจดุ เดอื ดจดุ หลอมเหลวของ ตวั แปรท่ี 2 รปู แบบการจดั การเรียนรู้ สารบริสทุ ธ์ิ และสารผสม โดยการวดั แบบ STEAM โดยใช้ อุณหภูมิเขยี นกราฟ แปลความหมายข้อมูล ความรเู้ รือ่ งจดุ เดือด - ทกั ษะการสังเกต - ความมุ่งมั่น มานะ - สร้างเปรยี บเทียบจุด ปญั หาเปน็ ฐาน จากกราฟ หรือสารสนเทศ จดุ หลอมเหลวของสาร - ทกั ษะการวัด อดทน เดอื ดจุดหลอมเหลวของ บรสิ ทุ ธแิ์ ละสารผสม - ทักษะการทดลอง - ความละเอียด สารบรสิ ทุ ธิ์ และสาร รปู แบบการจัดการเรยี นรู้ 5. อธบิ ายและเปรยี บเทยี บความหนาแน่น - ทักษะการ รอบคอบ ผสม แบบ STEAM โดยใช้ ของ สารบริสุทธิแ์ ละสารผสม -ความรู้เรื่องความหนา ตีความหมายและลง ปัญหาเป็นฐาน 6. ใชเ้ คร่ืองมือเพ่ือวดั มวลและปรมิ าตรของ เเน่นของสารบรสิ ทุ ธิ์ ข้อสรปุ - ความมุ่งมน่ั มานะ -บรรยาย วาดภาพ สารบริสทุ ธ์แิ ละสารผสม เเละสารผสม - ทกั ษะความร่วมมือ อดทน ตาราง หรอื เขียนผงั มโน การทางานเป็นทมี และ - ความละเอยี ด ทศั น์เปรียบเทยี บความ ภาวะผู้นา รอบคอบ หนาแนน่ ของสาร - ทกั ษะการสังเกต -ตารางบันทึกมวลของ - ทกั ษะการวดั - ทกั ษะการทดลอง - ทกั ษะการลง ความเหน็ จากข้อมลู สาร
ตารางการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ (ต่อ) รายวชิ า วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า - ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรื่อง อะตอม ธาตแุ ละสารประกอบ มาตรฐาน ว 2.1 ตวั ชวี้ ัด ตวั แปรท่ี 1 ตัวแปรศกึ ษา ตวั แปรท่ี 3 ชิน้ งาน/ ภาระงาน ฐานคดิ การจดั การเรยี นรู้ 7. อธบิ ายเกย่ี วกบั ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง ตัวแปรที่ 2 รูปแบบการจัดการเรียนรู้ อะตอม ธาตแุ ละสารประกอบ โดยใช้ แบบ STEAM โดยใช้ แบบจาลอง และสารสนเทศ -ความรู้เรือ่ ง - ทกั ษะการสรา้ ง - ความมุ่งมน่ั มานะ แบบจาลองอธิบาย ปัญหาเปน็ ฐาน ความสมั พันธ์ระหว่าง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง 8. อธบิ ายโครงสร้างอะตอมท่ีประกอบด้วย อะตอม ธาตุและ แบบจาลอง อดทน อะตอม ธาตุ รูปแบบการจดั การเรยี นรู้ โปรตอน นวิ ตรอน และอิเลก็ ตรอน โดยใช้ สารประกอบ สารประกอบ แบบ STEAM โดยใช้ แบบจาลอง -ทกั ษะการจัดกระทา - ความละเอยี ด ปัญหาเปน็ ฐาน -ความรเู้ รือ่ งโครงสร้าง แบบจาลองอธิบาย อะตอม สือ่ ความหมายขอ้ มูล รอบคอบ โครงสรา้ งอะตอมที่ ประกอบดว้ ย โปรตอน -ความรว่ มมอื การทางาน นวิ ตรอน และ อเิ ล็กตรอน เป็นทีม และภาวะผู้นา -การสรา้ งสรรค์ นวตั กรรม -ทกั ษะการสรา้ ง - ความมุ่งมั่น มานะ แบบจาลอง อดทน -ทักษะการจัดกระทา - ความละเอยี ด สอื่ ความหมายขอ้ มลู -ความร่วมมอื การทางาน รอบคอบ เปน็ ทีม และภาวะผู้นา -การสร้างสรรค์ นวตั กรรม
ตารางการออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ (ต่อ) รายวิชา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า - ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง อะตอม ธาตแุ ละสารประกอบ มาตรฐาน ว 2.1 ตวั ชีว้ ัด ตวั แปรที่ 1 ตวั แปรศกึ ษา ตวั แปรที่ 3 ชน้ิ งาน/ ภาระงาน ฐานคิดการจัดการเรียนรู้ ตวั แปรที่ 2 9. อธิบายและเปรยี บเทยี บการจัดเรียง รูปแบบการจดั การเรยี นรู้ อนภุ าค แรงยึดเหนย่ี วระหว่างอนภุ าค และ - ความรเู้ รอื่ งการ - ทักษะการสรา้ ง - ความม่งุ มั่น มานะ แบบจาลอง แบบ STEAM โดยใช้ การเคลือ่ นที่ ของอนภุ าคของสสารชนดิ ปัญหาเป็นฐาน เดยี วกนั ในสถานะ ของแข็ง ของเหลว และ จดั เรียงอนุภาค แรงยึด แบบจาลอง อดทน แกส๊ โดยใชแ้ บบจาลอง เหนีย่ วระหว่างอนภุ าค - ทกั ษะการจาแนก - ความละเอยี ด และการเคลอื่ นที่ ของ ประเภท รอบคอบ อนภุ าคของสสารชนดิ - ทกั ษะการจดั กระทา เดียวกนั ในสถานะ และส่ือความหมาย ข้อมลู ของแขง็ ของเหลว และ -ความรว่ มมอื การทางาน แก๊ส เปน็ ทมี และภาวะผ้นู า - ดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
กรอบแนวคดิ การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ยอ่ ย เอกสารหมายเลข 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง อะตอม ธาตุและสารประกอบ จำนวน 21 ชวั่ โมง หนว่ ยย่อยที่ 1 หนว่ ยยอ่ ยที่ 2 เร่ือง สมบัติของสาร เร่ือง ผลจากการใช้ธาตโุ ลหะ อโลหะ จำนวน 3 ชว่ั โมง กง่ึ โลหะ และธาตกุ ัมมนั ตรังสีทมี่ ีตอ่ สาระสำคัญ : ธาตุแตล่ ะชนดิ มสี มบตั ิ ส่ิงมีชีวิต สิง่ แวดล้อม เศรษฐกจิ และ เฉพาะตวั และมสี มบัตทิ างกายภาพบาง ประการเหมือนกนั และบางประการ สังคม ตา่ งกัน ซึง่ สามารถนำมาจัดกลมุ่ ธาตุเป็น จำนวน 3 ชัว่ โมง โลหะอโลหะและกึ่งโลหะธาตโุ ลหะมีจดุ สาระสำคญั : ธาตโุ ลหะ อโลหะ และก่ึง เดือดจุดหลอมเหลวสงู มผี วิ มันวาว นำ โลหะ ทสี่ ามารถแผร่ ังสไี ด้ จัดเปน็ ธาตุ ความรอ้ นนำไฟฟา้ ดึงเปน็ เสน้ หรือตเี ป็น กัมมนั ตรงั สี แผ่นบางๆไดแ้ ละมีความหนาแนน่ ทงั้ สงู ธาตมุ ีทงั้ ประโยชนแ์ ละโทษ และตำ่ การใช้ธาตโุ ลหะ อโลหะ กง่ึ โลหะ ธาตุ กัมมันตรงั สีควรคำนงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ตวั ช้วี ัดที่ 1 สิ่งมีชวี ิต ส่ิงแวดล้อม เศรษฐกจิ และ สังคม ตวั ชี้วัดที่ 2,3
กรอบแนวคิดการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ยอ่ ย หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง อะตอม ธาตแุ ละสารประกอบ จำนวน 21 ช่ัวโมง หนว่ ยยอ่ ยที่ 3 หนว่ ยย่อยท่ี 4 เรอ่ื ง จุดเดอื ดจุดหลอมเหลวของสาร เร่ือง ความหนาแน่นของสาร บริสุทธิแ์ ละสารผสม จำนวน 3 ช่ัวโมง จำนวน 3 ชวั่ โมง สาระสำคัญ : สารบรสิ ทุ ธแิ์ ตล่ ะชนดิ มี สาระสำคัญ : สารบริสุทธ์ิ ความหนาแนน่ หรอื มวลตอ่ หน่ึงหนว่ ย ประกอบดว้ ยสารเพียงชนิดเดยี ว แต่ ปรมิ าตรคงที่ เปน็ ค่าเฉพาะ ของสารนนั้ ละชนิดมสี มบตั บิ างประการทีเ่ ปน็ ค่า ณ สถานะและอุณหภมู ิหน่งึ แตส่ ารผสม เฉพาะตวั เช่น จดุ เดือดแลจุด มคี วามหนาแนน่ ไม่คงที่ข้นึ อยูก่ บั ชนดิ หลอมเหลวคงท่ี สว่ นสารผสม และสัดสว่ นของสารท่ผี สมอยูด่ ้วยกัน ประกอบด้วยสารตัง้ แต่ ๒ ชนดิ ขึ้นไป มีจดุ เดือดและจุดหลอมเหลวไมค่ งที่ ตวั ชีว้ ดั ที่ 5,6 ข้นึ อยกู่ ับชนดิ และสดั สว่ นของสารที่ ผสมอยู่ดว้ ยกนั ตัวชว้ี ัดที่ 4
กรอบแนวคดิ การออกแบบหนว่ ยการเรียนรยู้ ่อย หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เรอื่ ง อะตอม ธาตุและสารประกอบ จำนวน 21 ช่ัวโมง หนว่ ยย่อยที่ 5 หนว่ ยยอ่ ยที่ 6 หนว่ ยยอ่ ยท่ี 7 เรื่อง ความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง อะตอม ธาตุ เรอ่ื ง โครงสร้างอะตอม เรอื่ ง การจดั เรยี งอนุภาคและเเรงยึดเหนี่ยว และสารประกอบ จำนวน 3 ชว่ั โมง ระหว่างอนุภาค จำนวน 3 ชว่ั โมง สาระสำคญั : อะตอมประกอบด้วย จำนวน 3 ชัว่ โมง สาระสำคญั : สารบรสิ ทุ ธ์แิ บ่งออกเป็นธาตุ โปรตอน นวิ ตรอน และ อเิ ล็กตรอน สาระสำคญั : สสารทุกชนิดประกอบดว้ ยอนภุ าค และสารประกอบ ธาตปุ ระกอบดว้ ยอนภุ าค โปรตอนมีประจุไฟฟา้ เปน็ บวก นวิ ตรอน โดยสารชนดิ เดียวกนั ทม่ี ีสถานะของแขง็ ที่เลก็ ท่ีสดุ ทยี่ งั แสดง สมบัติของธาตนุ น้ั เป็นกลางทางไฟฟา้ สว่ นอเิ ล็กตรอนมี ของเหลว แก๊ส จะมีการจัดเรียงอนภุ าค แรงยึด เรียกวา่ อะตอม ธาตุแต่ละชนิด ประจไุ ฟฟา้ เปน็ ลบ เมอ่ื อะตอม มีจำนวน เหนีย่ วระหว่างอนภุ าค การเคลอ่ื นท่ีของอนุภาค ประกอบดว้ ยอะตอมเพียงชนิดเดยี วและไม่ โปรตอนเทา่ กับจำนวนอิเลก็ ตรอน จะเป็น แตกต่างกัน อนภุ าคของของแข็งเรียงชิดกนั มแี รง สามารถแยกสลายเปน็ สารอืน่ ไดด้ ้วยวธิ ที าง กลางทางไฟฟา้ โปรตอนและนวิ ตรอน ยดึ เหนย่ี วระหวา่ งอนุภาคมากทสี่ ุด อนภุ าคสน่ั อยู่ เคมี สุ ารประกอบ เกดิ จากอะตอมของธาตุ รวมกนั ตรงกลางอะตอมเรียกว่า นวิ เคลียส กบั ที่ ทำให้มรี ปู รา่ งและปริมาตรคงท่ี อนุภาคของ ตัง้ แต่ 2 ชนิดขึ้นไป รวมตวั กนั ทางเคมใี น สว่ นอเิ ล็กตรอนจะเคล่อื นทอ่ี ยูใ่ นที่ว่างรอบ ของเหลวอยู่ใกล้กนั มแี รงยดึ เหนี่ยว ระหวา่ ง อตั ราสว่ นคงที่ มสี มบตั แิ ตกตา่ งจากธาตุที่ นวิ เคลียส อนภุ าคนอ้ ยกว่าของแข็งแตม่ ากกว่าแกส๊ อนภุ าค เปน็ องคป์ ระกอบ สามารถ แยกเป็นธาตไุ ด้ เคลือ่ นที่ได้แตไ่ มเ่ ปน็ อิสระ อนภุ าคของแก๊สอยู่ ด้วยวิธที างเคมี ตัวชว้ี ัดที่ 8 หา่ งกันมาก มแี รงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคน้อย ตวั ช้วี ดั ท่ี 7 ท่สี ุด อนภุ าคเคลอ่ื นทไ่ี ด้อยา่ งอสิ ระทุกทิศทาง ทำ ให้มีรูปร่างและปรมิ าตรไม่คงที่ ตวั ชี้วดั ท่ี 9
เอกสารหมายเลข 4 แบบบันทกึ หน่วยการเรยี นรยู้ ่อย (แผนการจดั การเรยี นร)ู้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรอ่ื ง อะตอม ธาตแุ ละสารประกอบ หนว่ ยการเรยี นร้ยู อ่ ยที่ 1 เรื่อง สมบัติของสาร รหสั วชิ า/ช่ือวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เวลา 3 ชัว่ โมง ผสู้ อน นางสาวโสภดิ า ภริ มยค์ ล้อย โรงเรยี น เทศบาล 2 วัดโพธ์ มาตรฐานการเรียนรู้ : ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบัตขิ องสสารกับ โครงสร้างและแรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนภุ าคหลกั และธรรมชาตขิ องการเปลย่ี นแปลงสถานะของสสารการเกดิ สารละลายและการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี ตวั ชีว้ ัด : 1. อธิบายสมบตั ิทางกายภาพบางประการของ ธาตุโลหะ อโลหะ และก่งึ โลหะ โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจักษ์ ท่ไี ดจ้ ากการสงั เกตและการทดสอบ และใชส้ ารสนเทศทไี่ ด้จากแหล่งขอ้ มลู ตา่ ง ๆ รวมทงั้ จัดกลมุ่ ธาตุเป็นโลหะ อโลหะ และ กงึ่ โลหะ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายสมบตั ทิ างกายภาพบางประการของธาตุโลหะ อโลหะ และกง่ึ โลหะ 2. สามารถจัดกลมุ่ ธาตุท่เี ป็นโลหะ อโลหะ และกงึ่ โลหะ สาระสำคญั : ธาตแุ ตล่ ะชนดิ มสี มบัตเิ ฉพาะตวั และมสี มบัติทางกายภาพบางประการเหมอื นกนั และบางประการ ต่างกัน ซ่ึงสามารถนำมาจดั กล่มุ ธาตุเปน็ โลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ธาตุโลหะมีจดุ เดือดจุดหลอมเหลวสูงมผี วิ มนั วาว นำความรอ้ นนำไฟฟา้ ดึงเปน็ เสน้ หรอื ตเี ปน็ แผ่นบางๆ ไดแ้ ละมคี วามหนาแน่นทั้งสูงและตำ่ เป้าหมายการเรียนรู/้ สาระการเรยี นรู้ 1. ตวั แปรที่ 1 (ด้านความรู้) 1.1 สมบัตทิ างกายภาพบางประการของ ธาตโุ ลหะ อโลหะและกึ่งโลหะ 2. ตวั แปรท่ี 2 (ด้านทกั ษะ) 2.1 ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1.1 ทักษะการสงั เกต 2.1.2 ทักษะการทดลอง 2.1.3 ทักษะการจำแนกประเภท 2.2 ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 2.2.1 ด้านคิดอย่างมีวจิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา 2.2.2 ทักษะความรว่ มมอื การทำงานเป็นทมี และภาวะผ้นู ำ 3. ตัวแปรท่ี 3 (ด้านเจตคติ) 3.1 ความมงุ่ ม่ัน มานะ อดทน 3.2 ความละเอียดรอบคอบ ชิน้ งาน/ภาระงาน 1. ตารางเปรียบเทียบคุณสมบตั ขิ องธาตโุ ลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ
กจิ กรรมการเรยี นรู้ (รปู แบบการจัดการเรียนรแู้ บบ STEAM โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน) ขัน้ ตอนท่ี 1 : ระบปุ ญั หา 1.1 ครกู ระตนุ้ ผู้เรยี นจากการทบทวนความรู้เดมิ เร่อื ง โลหะ อโลหะ และกงึ่ โลหะ 1.2 ครูกระตุ้นผเู้ รยี นโดยใชค้ ำถามในการทเี่ กี่ยวกบั ชวี ิตประจำวนั 1.2.1 จงอธิบายคุณสมบตั ิของธาตโุ ลหะ อโลหะ และกง่ึ โลหะ ตามความเขา้ ใจของผู้เรียน (แนวคำตอบ ธาตโุ ลหะ มคี วามแข็ง นำไฟฟ้าได้ ธาตุอโลหะ นำไฟฟ้าไมไ่ ด้ ธาตกุ งึ่ โลหะ เป็นธาตุทีอ่ ยู่ระหว่างโลหะและอโลหะ นำไฟฟา้ ได้บา้ งบางชนดิ ) 1.2.2 ในชีวติ ประจำวันของผู้เรยี นมีวตั ดชุ นดิ ใดบ้างทเ่ี ป็น โลหะ อโลหะ และ กง่ึ โลหะ (แนวคำตอบ แกว้ นำ้ ใส ยางวง เสาไฟ เงนิ ทอง สงั กะสี) 1.2.3 จากตวั อยา่ งท่ีผู้เรยี นนำเสนออกมานนั้ ทำไมธาตุทเ่ี ป็นอโลหะถึงไมส่ ามารถนำไฟฟ้าได้ เพราะเหตใุ ด (แนวคำตอบ เพราะธาตุอโลหะมจี ุดหลอมเหลวและจดุ เดอื ดท่ีตำ่ เปราะบาง และมีการ แปลผันทางด้านคณุ สมบัตทิ างกายภาพมากกว่าโลหะ) ขัน้ ตอนท่ี 2 : รวบรวมข้อมูลและออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หา 1.1 ครแู บ่งกลุม่ ผเู้ รยี น 5 กล่มุ โดยใชว้ ธิ กี ารส่มุ เลอื กจากการนับเลข แลว้ ให้เลอื กประธาน และ เลขานุการ 1.2 ครใู ห้ผู้เรยี นมารับชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง คุณสมบตั ิของธาตุโลหะ อโลหะ ก่งึ โลหะ 1.3 ใหผ้ ้เู รียนเตรียมทดลองคณุ สมบตั ขิ องธาตโุ ลหะ อโลหะ และกง่ึ โลหะ 2.3.1 เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์ - แผ่นเหล็ก แก้ว และยาง - วงจรไฟฟา้ จากถ่านไฟฉายสำหรบั ทดสอบการนำไฟฟ้า - แท่งเหล็กสำหรับการทดสอบรอยขีดข่วน 2.3.2 วธิ ีการทำการทดลอง - ให้ผู้เรียนสังเกตผวิ ของแผ่นเหลก็ แกว้ และยาง เพ่อื ดลู กั ษณะของผิว และบนั ทึกผล - ให้ผเู้ รยี นต่อวงจรไฟฟา้ จากถ่านไฟฉาย นำแผน่ เหลก็ แกว้ ยางไปทดสอบการนำไฟฟา้ และจดบันทึกผล - นำเหล็กมาขูดทแ่ี ผน่ เหลก็ แกว้ ยางแลว้ สังเกตรอยขีด และบันทกึ ผล 1.4 ให้ผเู้ รียนออกแบบตารางการเปรยี บเทยี บคณุ สมบตั ิของธาตโุ ลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ ตาม ความเข้าใจของผ้เู รยี น 2.3.1 การนำไฟฟ้า 2.3.2 รอยขีดข่วน 2.3.3 ลกั ษณะผวิ ขั้นตอนท่ี 3 : สังเคราะหข์ ้อมูล ครใู หผ้ ู้เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั สรุปผลการทดลองและอภิปรายผลการทดลองคณุ สมบัตขิ องธาตุ โลหะ อโลหะ และกึง่ โลหะ โดยมีการนำเสนอกันภายในกลมุ่ ขน้ั ตอนที่ 4 : ดำเนินการแกป้ ัญหา ครใู ห้ผู้เรียนจดั ทำตารางการเปรียบเทยี บคุณสมบตั ิของธาตุโลหะ อโลหะ และกงึ่ โลหะ ทีไ่ ด้จากการ สรุปและอภปิ รายผลการทดลอง
ขัน้ ตอนที่ 5 : นำเสนอและอภปิ รายผลงาน 5.1 ครใู หน้ กั เรียนออกมานำเสนอตารางการเปรยี บเทยี บคณุ สมบตั ขิ องธาตุโลหะ อโลหะ และก่ึง โลหะ หนา้ ชัน้ เรียน 5.2 ครูใหผ้ เู้ รียนทำแบบทดสอบเรือ่ ง คุณสมบตั ขิ องธาตุโลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ ข้นั ตอนท่ี 6 : ประเมนิ ผล 6.1 แบบสงั เกตพฤติกรรม 6.1.1 ผ้เู รยี นใหค้ วามร่วมมอื ในการตอบถาม 6.1.2 ผู้เรยี นใหค้ วามรว่ มมือในการทำการทดลอง 6.2 ประเมนิ จากการใช้ Rubrics scoring 6.2.1 ประเมินความสามารการเปรียบเทยี บคุณสมบตั ิของธาตโุ ลหะ อโลหะ และก่งึ โลหะ 6.2.2 แบบทดสอบเร่ืองสมบตั ขิ องโลหะ อโลหะ และกึง่ โลหะ 10 ข้อ ส่ือ/นวัตกรรม และแหลง่ เรียนรู้ 1. ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง คุณสมบตั ขิ องธาตโุ ลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ
การวัดและประเมินผล วธิ ีการประเมิน เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ประเด็นการประเมนิ -ประเมินความสามาร ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 75 ความรู้ - แบบทดสอบ การเปรยี บเทียบ - ตารางเปรยี บเทียบ ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดขี ้ึนไป 1. ทกั ษะกระบวนการทาง คุณสมบัตขิ องธาตโุ ลหะ คุณสมบตั ขิ องธาตโุ ลหะ ผา่ นเกณฑ์ระดับดขี ึ้นไป วทิ ยาศาสตร์ อโลหะ และก่งึ โลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ -การทำแบบทดสอบ 1.1 ทักษะการสงั เกต เร่ือง สมบตั ขิ องสาร แบบสงั เกตพฤติกรรม 1.2 ทกั ษะการทดลอง สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ขณะตอบคำถาม สงั เกตพฤตกิ รรม ขณะทำการทดลอง 2 ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ระดบั ดีขึ้นไป 2.1 ดา้ นคิดอยา่ งมี ขณะทำการทดลอง เม่อื มปี ญั หาสามารถแก้ไขได้ วจิ ารณญาณและการ แกป้ ัญหา 2.2ทกั ษะความร่วมมือ สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑร์ ะดับดีข้ึนไป การทำงานเป็นทมี และภาวะ ขณะทำการทดลอง แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑร์ ะดับดขี ึ้นไป ผู้นำ ใหค้ วามร่วมมอื และ ทำงานเป็นกลมุ่ ได้ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ / เจตคติ สงั เกตพฤตกิ รรม 3.1 ความมงุ่ ม่นั มานะ มีความมงุ่ ม่นั และอดทน อดทน ในการทำกิจกรรม 3.2 ความละเอียด สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ระดบั ดีข้ึนไป รอบคอบ มีความละเอยี ดรอบคอบ ตอ่ การทำกจิ กรรม
แบบบันทกึ หลังการสอน พฤติกรรมท่ีพบ แนวทางแกไ้ ข ประเดน็ ปัญหาที่พบ 1. ดา้ นพฤติกรรมผู้เรยี น 2. ดา้ นการเรยี นการสอน
การประเมนิ ดา้ นความรู้ กำหนดเกณฑ์ประเมินไวท้ ร่ี ้อยละ 70 เปน็ เกณฑผ์ า่ น ลำดับ ช่อื -นามสกุล ผลการประเมนิ * รวม คดิ เปน็ ร้อยละ สรุป ท่ี 1 2 3 (10 คะแนน) 1 2 3 4 5 6 7 8 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 ภาพรวม
* 1 หมายถึงผลการประเมินด้านความรู้จากประเมินการทดสอบ คะแนนเตม็ 10 2 หมายถึงผลการประเมินด้านความร้จู ากการเปรยี บเทียบคณุ สมบัตขิ องธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ คะแนนเต็ม 5 3 หมายถงึ ผลการประเมินดา้ นความรู้จากการประเมินให้ความรว่ มมือนการทำกิจกรรม คะแนนเตม็ 5 ลงช่ือ ผูป้ ระเมนิ วนั ท่ี ............./............./...............
แบบประเมินชิ้นงาน กำหนดเกณฑป์ ระเมนิ ไว้ที่รอ้ ยละ 75 เปน็ เกณฑผ์ า่ น เลขท่ี ชอื่ -นามสกุล ผลการประเมนิ รวมคะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ สรปุ 123 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 รวม
หมายเหตุ คะแนนเฉลี่ยระหว่าง 4.51 – 5.00 ระดบั ดีเย่ียม 1 หมายถงึ ความถูกต้องของขอ้ มลู 3.51 – 4.50 ระดับ ดมี าก 2 หมายถึง การออกแบบชิ้นงาน 2.51 – 3.50 ระดับ ดี 3 หมายถงึ การนำเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น 1.51 – 2.50 ระดับ พอใช้ 1.00 – 1.50 ระดบั ปรับปรงุ ลงชื่อ ผู้ประเมนิ วันที่ ............./............./...............
แบบประเมนิ ทักษะสำคัญในการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ทักษะทางวทิ ยาศาสตร์ เลขท่ี ชือ่ -นามสกุล ทกั ษะกระบวนการทาง ทักษะในศตวรรษ รวม ค่าเฉลี่ย ลำดับ คะแนน 1 วทิ ยาศาสตร์ ท่ี 21 2 3 1.1 1.2 1.3 2.1 2.2 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 ภาพรวม
หมายเหตุ 1. ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1.1 ทกั ษะการสงั เกต 1.2 ทักษะการทดลอง 1.3 ทักษะการจำแนกประเภท 2 ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 2.1 ดา้ นคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา 2.2 ทกั ษะความรว่ มมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผ้นู ำ ลงช่อื ผ้ปู ระเมนิ วนั ท่ี ............./............./...............
แบบประเมินเจตคติทางวิทยาศาสตร์ เลขท่ี ชือ่ -นามสกุล เจตคติทางวิทยาศาสตร์ รวม คา่ เฉล่ยี ระดับ 12 1 2 3 4 5 6 7 8 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 ภาพรวม
หมายเหตุ คะแนนเฉลี่ยระหว่าง 4.51 – 5.00 ระดบั ดีเยยี่ ม 1 หมายถึง ความมุ่งมน่ั มานะ อดทน 3.51 – 4.50 ระดับ ดมี าก 2.51 – 3.50 ระดบั ดี 2 หมายถงึ ความละเอยี ดรอบคอบ 1.51 – 2.50 ระดบั พอใช้ 1.00 – 1.50 ระดับ ปรบั ปรุง ลงชอ่ื ผู้ประเมนิ วันท่ี ............./............./...............
เกณฑ์การประเมินแผนผงั มโนทัศน์เปรยี บเทียบคุณสมบตั ิของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ รายงานการประเมนิ คำอธิบายระดบั คุณภาพ/ระดบั คะแนน 1. ความถูกต้องของ ข้อมูล 5 432 1 ชิ้นงานมขี ้อมูล 2. การออกแบบ ช้ินงานต้องมี ช้ินงานมขี อ้ มลู ท่ี ชน้ิ งานมขี อ้ มูล ชิ้นงานมขี อ้ มูลท่ี ทีไ่ มค่ รบถว้ น ช้นิ งาน และไมถ่ ูกตอ้ ง ขอ้ มูลท่ีครบถ้วน ครบถว้ น และ ไม่ครบถ้วน ครบถว้ น และไม่ ทง้ั หมด 3. การนำเสนอหนา้ ชิ้นงานมีความ ชนั้ เรยี น และถกู ตอ้ ง บางส่วนไม่ และบางสว่ นไม่ ถกู ต้องท้งั หมด ถกู ต้องตามที่ ออกแบบไว้มี ทัง้ หมด ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง แต่ไม่มีความ น่าสนใจ ชิ้นงานมีความ ชน้ิ งานมีความ ช้นิ งานมีความ ชิ้นงานมคี วาม ภาษาทใี่ ช้ใน ถูกตอ้ งตามที่ ถกู ต้องตามที่ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ งตามที่ การนำเสนอ หนา้ ใช้เรียน ออกแบบไวม้ ี ออกแบบไว้มี ตามที่ออกแบบ ออกแบบไว้มี เหมาะสม นา่ ฟงั ขนาดเหมาะสม ขนาดเหมาะสม ไว้มีขนาด แต่มีความ รูปแบบนา่ สนใจ รปู แบบนา่ สนใจ เหมาะสม น่าสนใจน้อย แปลกตา และ แปลกตา และ รูปแบบนา่ สนใจ สร้างสรรค์ดี สรา้ งสรรคด์ ี ภาษาทีใ่ ชใ้ นการ ภาษาท่ีใช้ในการ ภาษาที่ใช้ใน ภาษาที่ใชใ้ นการ นำเสนอหน้าใช้ นำเสนอหนา้ ใช้ การนำเสนอ นำเสนอหนา้ ใช้ เรียนเหมาะสม เรียนเหมาะสม หน้าใช้เรยี น เรียนเหมาะสม น่าฟงั น่าตืน่ เตน้ นา่ ฟัง นา่ ตนื่ เต้น เหมาะสม นา่ ฟัง นา่ ฟัง นา่ ตืน่ เต้น และสามารถ และสามารถ น่าต่ืนเตน้ และ ดงึ ดูดความสนใจ ดึงดูดความสนใจ สามารถดงึ ดดู เพือ่ นได้ดีมาก เพือ่ นไดป้ านกลาง ความสนใจ เพือ่ นได้นอ้ ย
เกณฑใ์ นการใหป้ ระเมนิ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1. ทกั ษะการสงั เกต พฤตกิ รรมตามลำดบั ข้ัน 1. ใช้ประสาทสัมผสั อยางใดอย่างหนึ่งหรอื หลายอย่าง รวมกนั เพ่อื สมั ผสั โดยตรงกบั วตั ถุ ประสบการณ์ หรือ สถานการณ์ 2. บันทกึ การสงั เกตในเชิงคุณภาพ 3. บนั ทกึ การสงั เกตในเชงิ ปริมาณ 4. ไม่ใส่ความคิดเหน็ สว่ นตัวของผ้สู ังเกตลงไปในสงิ่ ท่ี สังเกต 5. บันทกึ การสังเกตในเชิงการเปลย่ี นแปลง 2.ทกั ษะการทดลอง ปฏิบัติ 5 ขอ้ : 5 คะแนน พฤติกรรมตามลำดับขั้น ปฏบิ ตั ิ 4 ขอ้ : 4 คะแนน 1.กำหนดวิธีการทดลองไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมโดย ปฏิบัติ 3 ข้อ : 3 คะแนน คำนึงถึงตวั แปรตน้ ตัวแปรตามและตัวแปรที่ต้องควบคุม ปฏบิ ัติ 2 ขอ้ : 2 คะแนน 2. ระบอุ ุปกรณ์หรือสารเคมีทีจ่ ะต้องใชใ้ นการทดลอง ปฏบิ ัติ 1 ข้อ : 1 คะแนน ถูกต้องและเหมาะสม 3. ปฏบิ ัตกิ ารทดลองได้ 4. ใช้อุปกรณห์ รอื สารเคมีไดถ้ กู ด้องเหมาะสม 5. บนั ทึกผลการทดลองไดค้ ล่องแคลว่ และถกู ต้อง 3. ทักษะการจำแนกประเภท พฤติกรรมตามลำดับขั้น 1. กำหนดเกณฑก์ ารจำแนกประเภทได้ถกู ตอ้ ง 2. แบ่งชนิดออกเป็นกล่มุ ๆตามเกณฑไ์ ดถ้ ูกต้อง 3. จัดเรียงแตล่ ะชนิดได้ถกู ต้อง 4. บอกเกณฑ์ผ้อู ื่นใชใ้ นการจำแนกประเภทได้ 5. แบ่งชนดิ ออกเปน็ กลุ่มๆตามเกณฑ์ทีผ่ อู้ นื่ กำหนดได้
เกณฑก์ ารประเมนิ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1 ดา้ นคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา พฤตกิ รรมตามลำดับข้นั 1. เข้าใจบรบิ ทและขอบเขตของปญั หาทเ่ี กิดขึ้น 2. รวบรวมข้อมูลจากข้อมลู เดมิ ท่ีมอี ยูแ่ ละข้อมลู ท่ศี กึ ษา เพมิ่ เติม ปฏิบตั ิ 5 ขอ้ : 5 คะแนน 3. หาวธิ ีแก้ปัญหาโดยใชข้ อ้ มูลจากการวเิ คราะห์ ปฏิบตั ิ 4 ขอ้ : 4 คะแนน 4. ไม่ยดึ ความคิดเหน็ ของตนเองเปน็ หลัก ปฏิบัติ 3 ข้อ : 3 คะแนน 5. ใชเ้ หตุใชผ้ ลพิจารณา โดยอาศัยการศกึ ษาข้อมลู ปฏบิ ตั ิ 2 ข้อ : 2 คะแนน แยกแยะข้อมลู ปฏิบัติ 1 ข้อ : 1 คะแนน 2 ทักษะความร่วมมอื การทำงานเป็นทมี และภาวะผนู้ ำ พฤติกรรมตามลำดับขน้ั 1. ทำงานรว่ มกนั อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 2. เคารพการตัดสินใจของกลมุ่ 3. รับผิดชอบร่วมกัน 4. เหน็ คุณคา่ ของเพ่ือน 5. มีปฏิสัมพนั ธก์ นั ในกลุ่ม
เกณฑ์ในการประเมินเจตคติทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1. ความมงุ่ ม่นั มานะ อดทน พฤติกรรมตามลำดับขัน้ ปฏบิ ัติ 5 ขอ้ : 5 คะแนน 1.ไมย่ ่อท้อในการค้นหาข้อมูล หลกั ฐาน ปฏิบัติ 4 ข้อ : 4 คะแนน 2.แสดงความเขา้ ใจความไม่ชดั เจนท่สี ามารถเกิดขึน้ ได้ ปฏิบัติ 3 ข้อ : 3 คะแนน เสมอ ปฏบิ ตั ิ 2 ขอ้ : 2 คะแนน 3.อดทนในการค้นคว้าหาข้อมูลจากแหลง่ ตา่ งๆ ปฏิบตั ิ 1 ขอ้ : 1 คะแนน 4.ยอมรบั ความไม่แนน่ อนทส่ี ามารถเกดิ ข้นึ ไดเ้ สมอ 5.มีความมานะสบื เสาะหาขอ้ มูลใหม่ๆอยู่ตลอด 3.ความละเอยี ดรอบคอบ พฤตกิ รรมตามลำดับขั้น 1. มีการวางแผนการทำงานและจดั ระบบการทำงาน 2. ทำงานอยางมรี ะเบยี บและเรยี บร้อย 3. นำวธิ กี ารหลายๆวิธีมาตรวจสอบผล, นำวธิ กี าร หลายๆวิธมี าใช้ 4. มีความละเอยี ดถี่ถ้วนในการทำงาน 5. ตรวจสอบความเรียบร้อยของงาน ลงช่อื ผ้ปู ระเมนิ วันท่ี ............./............./...............
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง คุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ เเละกึ่งโลหะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รูปเเบบการจัดการเรียนรู้เเบบ STEAM โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ชื่อ-นามสกุล .......................................... ชั้น ................ เลขที่ ............. นางสาวโสภิดา ภิรมย์คล้อย โรงเรียนเทศบาล 2 วัดโพธิ์
ก คำนำ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องคุณสมบัติของธาตุ โลหะ อโลหะ เเละกึ่งโลหะ จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับ ประกอบการจัดการเรียนรู้เเบบ STEAM โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เเละพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ เเละ เทคโนโลยีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยได้รวบรวมเนื้อหา ที่เป็นความรู้เเละกิจกรรมเรียนรู้วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับคุณสมบัติ ของธาตุโลหะ อโลหะ เเละกึ่งโลหะ โดยประกอบไปด้วย 1 กิจกรรม ได้เเก่ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง คุณสมบัติของธาตุ โลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องคุณสมบัติของธาตุ โลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ฉบับนี้มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ จริง ได้เรียนรู้ด้วยตนเองเเละมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการ เรียนรู้ มุ่งเน้นให้นักเรียนพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ ได้เเก่ ทักษะการสังเกต ทักษะการทดลอง ทักษะการจำเเนกประเภท เเละมุ่งเน้นให้นักเรียนพัฒนาทักษะเเห่งศตวรรษที่ 21 ในด้าน ด้านคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา ทักษะความร่วมมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ เเละมุ่งเน้นให้นักเรียนพัฒนา เจตคติทางวิทยาศาสตร์ ได้เเก่ ความมุ่งมั่น มานะ อดทน เเละ ความละเอียดรอบคอบ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องคุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ เเละกึ่งโลหะ ฉบับนี้จะเกิด ประโยชน์เเก่นักเรียนที่จะนำไปใช้ในการเรียนรู้เเละประสบความ สำเร็จในการเรียน เเละเป็นเเนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่องคุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ เเละ กึ่งโลหะ ฉบับนี้สำหรับครู ผู้สอนหรือผู้ที่มีความสนใจในเรื่อง ดังกล่าว ผู้จัดทำ
สารบัญ ข เรื่อง หน้า ก คำนำ ข สารบัญ 1 คำชี้เเจง 2 กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง คุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ เเละกึ่งโลหะ 9 เเบบทดสอบ 11 เฉลยเเบบทดสอบ
1 คำชี้เเจง 1.ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องคุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ เเละกึ่ง โลหะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จะประกอบไปด้วย - กิจกรรมการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องคุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ เเละกึ่งโลหะ ซึ่งจัดการเรียนรู้ในรูปเเบบการจัดการเรียนรู้เเบบ STEAM โดยใช้ปัญหา เป็นฐาน 2. ให้นักเรียนเเบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม ให้เลือกประธาน และเลขานุการ ในการปฏิบัติ กิจกรรม 3. ให้นักเรียนอ่านขั้นตอนการทำกิจกรรมให้ละเอียดก่อนลงมือปฏิบัติกิจกรรม 4. เมื่อปฏิบัติกิจกรรมครบเเล้ว ให้นักเรียนร่วมกันสรุปผลการทดลองและอภิปราย ผลการทดลอง โดยมีการนำเสนอกันภายในกลุ่ม 5. ให้นักเรียนจัดทำตารางการเปรียบเทียบคุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ และ กึ่งโลหะ เเละนำเสนอหน้าชั้นเรียน 6. ให้นักเรียนทำเเบบทดสอบท้ายกิจกรรม 7. หากมีข้อสงสัยในการปฏิบัติกิจกรรมให้ปรึกษาครูผู้สอนทันที
คุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ 2 เเละกึ่งโลหะ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายสมบัติทางกายภาพบางประการของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ 2. สามารถจัดกลุ่มธาตุที่เป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ อยากรู้อยากเห็น ในชีวิตประจำวันของผู้เรียนมีวัตดุชนิดใดบ้างที่เป็น โลหะ อโลหะ และ กึ่งโลหะ
คุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ 3 เเละกึ่งโลหะ โลหะ โลหะ (metal) เป็นกลุ่มธาตุที่มีสมบัติเป็นตัวนำไฟฟ้าได้ นำความร้อนที่ดี เหนียว มีจุดเดือดสูง ปกติเป็นของแข็งที่ อุณหภูมิห้อง (ยกเว้น ปรอท) เช่น แคลเซียม อะลูมิเนียม เหล็ก ทองแดง เป็นต้น
คุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ 4 เเละกึ่งโลหะ อโลหะ อโลหะ (non-metal) เป็นกลุ่มธาตุที่มีสมบัติไม่นำไฟฟ้า มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดต่ำ เปราะบาง และมีการ แปรผันทางด้านคุณสมบัติทางกายภาพมากกว่าโลหะ เช่น ออกซิเจน กำมะถัน ฟอสฟอรัส เป็นต้น
คุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ 5 เเละกึ่งโลหะ กึ่งโลหะ กึ่งโลหะ (metalloid) เป็นกลุ่มธาตุที่มีสมบัติก้ำกึ่งระหว่าง โลหะ และอโลหะ เช่น ธาตุซิลิคอน และเจอเมเนียม มีสมบัติ บางประการคล้ายโลหะ เช่น นำไฟฟ้าได้บ้างที่อุณหภูมิปกติ และนำไฟฟ้าได้มากขึ้นเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น เป็นของแข็ง เป็นมันวาวสีเงิน จุดเดือดสูง แต่เปราะแตกง่ายคล้ายอโลหะ
6 กิจกรรมที่ 1 เรื่อง คุณสมบัติของธาตุโลหะ อโลหะ เเละกึ่งโลหะ อุปกรณ์ 1.แผ่น เหล็ก แก้ว และยาง 2. วงจรไฟฟ้าจากถ่านไฟฉายสำหรับทดสอบการนำ ไฟฟ้า 3. แท่งเหล็กสำหรับการทดสอบรอยขีดข่วน วิธีการทำการทดลอง 1.ให้ผู้เรียนสังเกตผิวของแผ่นเหล็ก แก้ว และยาง เพื่อดู ลักษณะของผิว และบันทึกผล 2.ให้ผู้เรียนต่อวงจรไฟฟ้าจากถ่านไฟฉาย นำแผ่นเหล็ก แก้ว ยางไปทดสอบการนำไฟฟ้า และจดบันทึกผล 3.นำเหล็กมาขูดที่แผ่นเหล็ก แก้ว ยางแล้วสังเกตรอยขีด และบันทึกผล
7 สรุปผลการทดลอง ......................................................................... .............................................................................. ............................................................................... .............................................................................. ..............................................................................
8 ตารางการเปรียบเทียบคุณสมบัติ ของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ
9 เเบบทดสอบ คำชี้เเจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว 1. เราแบ่งสมบัติของธาตุออกได้เป็นอะไร 4. ธาตุใดเป็นกึ่งโลหะ บ้าง ก. A ข. B ก. โลหะ และอโลหะ ค. C ข. โลหะ และกึ่งโลหะ ง. D ค. อโลหะ และกึ่งโลหะ ง. โลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ 5.ข้อใดมีการใช้ประโยชน์จากธาตุไม่ถูกต้อง ก. คลอรีนใช้เป็นตัวนำไฟฟ้า 2. ข้อดังต่อไปนี้เป็นสมบัติของ ธาตุโลหะ ข. ทองคำใช้ทำเครื่องประดับ ยกเว้น ข้อใด ค. อะลูมิเนียมใช้ทำแผ่นห่ออาหาร ก. นำความร้อน ง. ทองแดงใช้ทำมอเตอร์ไฟฟ้า ข. นำไฟฟ้า ค. มีสถานะเป็นของแข็ง ทั้งหมด 6. อนุภาคที่เล็กที่สุดของสสารเรียกว่าอะไร ง. จุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูง ก. ธาตุ ข. อะตอม จงพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ค. โมเลกุล 3-4 ง. สารประกอบ ธาตุ A มีสมบัตินำไฟฟ้าไม่ได้, มีสถานะก๊าซ ธาตุ B มีสมบัตินำไฟฟ้าได้, ผิวเป็นมันวาว 7. กลุ่มของธาตุในข้อใดมีสมบัติเป็นโลหะ ธาตุ C มีสมบัตินำไฟฟ้าไม่ได้, เปราะ อโลหะและกึ่งโลหะ ตามลำดับ ธาตุ D มีสมบัตินำไฟฟ้าได้, เปราะ ก. Li , Ca , F 3. ธาตุใดเป็นโลหะ ข. Na , S , B ก. A ค. Al , C , N ข. B ง. Si , Mg , Ne ค. C ง. D
10 เเบบทดสอบ 8. ธาตุอโลหะมีสมบัติอย่างไร ก. เคาะมีเสียงดังกังวาน ข. ไม่นำไฟฟ้าและความร้อน ค. จุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูง ง. แข็งเหนียวตีเป็นแ่ผ่นและดึงเป็นเส้นได้ 9. ธาตุใดเป็นอโลหะ ก. แคลเซียม ข. โคบอลต์ ค. ไอโอดีน ง. พลวง 10. ธาตุใดเป็นโลหะ ก. ไนโตรเจน ข. โบรอน ค. ฮีเลียม ง. โซเดียม
11 เฉลยเเบบทดสอบ ข้อ เฉลย 1ง 2ค 3ข 4ง 5ข 6ข 7ข 8ข 9ค 10 ง
แบบบนั ทกึ หนว่ ยการเรยี นรู้ย่อย (แผนการจัดการเรียนร)ู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรอื่ ง อะตอม ธาตแุ ละสารประกอบ หน่วยการเรียนรู้ย่อยที่ 2 เรื่อง ผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตุกัมมันตรังสีที่มีต่อสิ่งมีชีวิต ส่ิงแวดลอ้ ม เศรษฐกิจและสงั คม รหสั วิชา/ชือ่ วชิ า วิทยาศาสตร์กายภาพ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชั้น มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 เวลา 3 ชั่วโมง ผูส้ อน นายสทุ ธิรตั น์ ศรสี วัสดิ์ โรงเรียน มัธยมวดั ใหมก่ รงทองในพระราชูปถัมภ์ มาตรฐานการเรียนร:ู้ ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคหลัก และธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี ตัวช้วี ัด : 2. วิเคราะห์ผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตุกัมมันตรังสีที่มีต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสงั คม จากข้อมูลที่รวบรวมได้ 3. ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสีโดยเสนอแนวทาง การใช้ธาตุอย่าง ปลอดภัย คุ้มค่า จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สบื ค้นข้อมลู ผลจากการใชธ้ าตุโลหะ อโลหะ กึง่ โลหะ และธาตุกมั มนั ตรงั สที มี่ ีตอ่ สงิ่ มชี วี ิต สง่ิ แวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม 2. อธิบายถึงคุณค่าของการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสีโดยเสนอแนวทาง การใช้ธาตุอย่าง ปลอดภยั คมุ้ ค่า สาระสำคัญ :ทั้งธาตุและสารประกอบสามารถนำมาใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้มากมาย จึงควรเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย และยั่งยืน รวมทั้งการนำธาตุกัมมันตรังสีมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้มากมาย แต่การใช้อย่างไม่ ระมดั ระวังและขาดความรู้จะทำใหอ้ ันตรายได้ เนอื่ งจากกมั มนั ตภาพรงั สที แ่ี ผอ่ อกมาเมื่อผ่านเขา้ ไปในเนอ้ื เยอื่ ของสิ่งมชี วี ติ จะ ทำให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงภายในเนอื้ เย่ือได้ สาระการเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ - อธิบายผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตุกัมมันตรังสีที่มีต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและ สังคมและแนวทางในการใชธ้ าตอุ ยา่ งปลอดภัยและค้มุ ค่า 2. ดา้ นทักษะสำคัญในการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ 2.1 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ - ทักษะการลงความเหน็ จากขอ้ มลู - ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล 2.2 ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 - ดา้ นการสอื่ สารสารสนเทศและการรูเ้ ทา่ ทันสอ่ื 3. ดา้ นเจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 3.1 มีความอยากรอู้ ยากเห็น 3.2 มีความมุ่งมานะ อดทน
ช้ินงาน/ภาระงาน ออกแบบงานนำเสนอด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลแบบต่าง ๆ (power point, canva, Prezi) เรื่อง ผลจากการใช้ธาตุ โลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตกุ ัมมนั ตรงั สที ่ีมีตอ่ สิ่งมีชวี ติ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม (ถา้ ไม่มใี ห้นักเรียนทำใส่กระดาษ Flow Chart) กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ตอนที่ 1 : ขนั้ ระบุปญั หา 1.1 ครูทบทวนความรเู้ ดมิ ของนกั เรียนเกีย่ วกบั ผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ ก่งึ โลหะ และธาตุกัมมนั ตรังสีท่มี ตี อ่ สิ่งมชี วี ิต ส่ิงแวดลอ้ ม เศรษฐกิจและสังคม โดยใช้คำถามปลายเปดิ เก่ียวกับประโยชน์และผลกระทบว่า ถา้ มีประโยชน์นำไปใช้ อะไร ถ้ามีผลกระทบจะมีผลอย่างไร และมีแนวทางป้องกันอย่างไร เพื่อกระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความสนใจ ความอยากรู้อยาก เห็น เกิดกระบวนการคิด และเสนอแนวคดิ ของแต่ละคน เช่น - การนำธาตุ สารประกอบและธาตุกัมมันตรังสีมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้มากมาย มีประโยชน์และ ผลกระทบต่อสิ่งมชี วี ิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกจิ และสงั คมอย่างไรบา้ ง - นักเรยี นมแี นวทางการป้องกันอนั ตรายจากการใช้ธาตกุ มั มันตรงั สอี ยา่ งไร 1.2 ครูอธิบายสิ่งที่นักเรียนต้องไปศึกษา ได้แก่ การศึกษาค้นคว้า เรื่อง ผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตกุ ัมมนั ตรงั สที มี่ ีต่อสงิ่ มีชวี ิต สิ่งแวดลอ้ ม เศรษฐกจิ และสงั คม 1.3 นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 คน คละกัน เด็กเก่ง เด็กปานกลาง และเด็กอ่อน และมอบหมายงานออกแบบงาน นำเสนอดว้ ยเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ขั้นตอนท่ี 2 : รวบรวมข้อมูลและออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา 2.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมารับเอกสารประกอบการเรียน และแบ่งหน้าที่ หัวหน้ากลุ่ม รองหัวหน้ากลุ่ม หรือ แล้วแต่ละกลุ่มจะออกแบบ และช่วยกันรวบรวมและสบื ค้นข้อมูลภายในกลุ่มเกี่ยวกับการผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ ก่ึง โลหะ และธาตกุ มั มนั ตรังสีทีม่ ีต่อส่ิงมีชวี ิต สิ่งแวดลอ้ ม เศรษฐกจิ และสงั คม 2.2 นกั เรียนภายในกลมุ่ รว่ มกันออกแบบงานนำเสนอดว้ ย โดยอาศัยความรทู้ ีไ่ ด้จากการศึกษาค้นคว้าของแตล่ ะคน รวบรวมและออกแบบมาเปน็ งานนำเสนอด้วยเทคโนโลยีดิจทิ ัลในรูปแบบตา่ ง ๆ ขนั้ ตอนท่ี 3 : สงั เคราะห์ความรู้ 3.1 เมื่อศึกษาค้นคว้าเรียบร้อยแล้ว นักเรียนรวมกันสังเคราะห์ขอ้ มูลของแต่ละคน โดยมีการทบทวน แลกเปลี่ยน ข้อมลู ภายในกลุ่มเพอ่ื ตรวจสอบความถกู ต้อง 3.2 ครูเปิดประเดน็ ด้วยคำถามให้เด็กเกิดกระบวนการคิดและแสดงความคดิ เหน็ ภายในกลุ่ม 3.3 นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันสรปุ ผลการศึกษาคน้ ควา้ ทไ่ี ด้จาก ข้ันตอนท่ี 4 : ดำเนนิ การแก้ปัญหา 4.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันออกแบบงานนำเสนอด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สรุปผลการศึกษาของกลุ่มตนเอง ตาม รูปแบบท่ตี นเองสนใจให้ถกู ตอ้ ง เรยี บร้อย ขั้นตอนที่ 5 : นำเสนอและอภปิ รายผลงาน 5.1 นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานของกลุ่มตนเองหนา้ ชนั้ เรียน 5.2 ครูเสนอเพิม่ เติมในสว่ นทบ่ี กพรอ่ งหรือขยายความรู้ เพ่ือผเู้ รียนสามารถนำความรไู้ ปประยุกตใ์ ชไ้ ด้ ข้ันตอนที่ 6 : ประเมินผล ประเมนิ ผลตามสภาพจริง โดยการสรา้ งเกณฑก์ ารประเมนิ (Rubric scoring) เพื่อประเมิน ดงั รายการต่อไปน้ี 6.1 ประเมนิ จากความถูกตอ้ งขอ้ มูลในการนำเสนอ
- ประเมินการใช้สื่อเทคโนโลยีในการอธบิ ายเกีย่ วกับการผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตุกัมมันตรังสีที่มีต่อ สง่ิ มีชวี ิต สง่ิ แวดลอ้ ม เศรษฐกิจและสังคม - ประเมินผลจากคะแนนการทำแบบทดสอบปรนยั จำนวน 10 ขอ้ ในเอกสารประกอบการเรยี น 6.2 ประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 - ประเมินโดยการสังเกตพฤติกรรมที่นักเรียนแสดงออกมาระหวา่ งที่นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมในทุกขั้นตอน โดยใช้แบบสังเกต พฤตกิ รรม 6.3 ประเมินด้านเจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ - ประเมนิ โดยการสงั เกตพฤติกรรมที่นักเรียนแสดงออกมาระหว่างท่ีนักเรยี นปฏิบัติกจิ กรรมในทุกขน้ั ตอน โดยใช้แบบสังเกต พฤตกิ รรม สอ่ื /นวัตกรรม และแหล่งเรยี นรู้ นวัตกรรม - เอกสารประกอบการเรียน แหล่งการเรยี นรู้ - อินเทอรเ์ น็ต - หนังสอื เรยี น
การวัดและประเมนิ ผล ประเดน็ การประเมนิ วิธีการประเมนิ เคร่อื งมือ เกณฑ์ แบบประเมนิ Rubric ผ่านเกณฑไ์ มต่ ่ำกวา่ รอ้ ย ดา้ นความรู้ Score ละ 80 อธบิ ายการผลจากการใช้ 1. ประเมินจากการสือ่ ที่ แบบบนั ทกึ การสงั เกต ผา่ นเกณฑไ์ มต่ ่ำกวา่ รอ้ ย ธาตโุ ลหะ อโลหะ กงึ่ โลหะ นำเสนอ พฤตกิ รรม ละ 80 และธาตุกัมมนั ตรงั สที ม่ี ตี อ่ 3. ประเมินจากการ Rubric Score ผ่านเกณฑไ์ มต่ ่ำกวา่ ร้อย ละ 80 สงิ่ มีชีวิต สง่ิ แวดลอ้ ม นำเสนอส่อื เทคโนโลยี แบบบนั ทึกการสังเกต พฤตกิ รรม เศรษฐกิจและสังคม 2. ประเมินผลจากคะแนน Rubric Score การทำแบบทดสอบปรนยั จำนวน 10 ข้อ ในเอกสาร ประกอบการเรยี น ดา้ นทกั ษะ / กระบวนการ 1. ทกั ษะกระบวนการทาง ประเมนิ โดยการสงั เกต วิทยาศาสตร์ พฤติกรรมทีน่ กั เรียน 1.1ทักษะการลงความเห็น แสดงออกมาระหวา่ งท่ี จากขอ้ มูล นกั เรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมใน 1.2ทกั ษะการจัดกระทำ ทุกขั้นตอน และสือ่ ความหมายข้อมลู 2. ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 2.1 ด้านการส่อื สาร สารสนเทศและการรู้เทา่ ทนั สื่อ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ / เจตคติ 3.1 มีความอยากร้อู ยากเหน็ ประเมินโดยการสงั เกต 3.2 มคี วามมุ่งมานะ อดทน พฤติกรรมท่นี กั เรยี น แสดงออกมาระหว่างท่ี นักเรยี นปฏิบัติกจิ กรรมใน ทกุ ขน้ั ตอน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240