หลักสตู รสถานศึกษา “ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย” ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 สาหรับนักศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 กศน.อาเภอจอมบงึ สานกั งาน กศน.จังหวดั ราชบรุ ี สานักงาน กศน. สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ
คานา กกกกกกก หลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2554) จัดทาํ ข้ึนเพอื่ ให้ครผู สู้ อนและผูท้ ่ีมีส่วนเกย่ี วข้องกับหลักสูตรนี้ไว้ใช้ศึกษา และจดั การศกึ ษาได้บรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตร ตลอดจนเพื่อเป็นเอกสารหลักฐานรองรับการประเมิน ประกันคุณภาพการศกึ ษาทั้งภายในโดยต้นสังกดั และภายนอกจากสํานกั งานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (สมศ.) กกกกกกกเอกสารฉบับน้ี ประกอบด้วย (1) บริบทพื้นฐาน (2) ปรัชญา (3) วิสัยทัศน์ (4) พันธกิจ (5) หลักการจุดหมายของหลักสูตร (6) กลุ่มเปูาหมาย (7) กรอบโครงสร้าง (8) การจัดหลักสูตร (9) สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ (10) แผนการลงทะเบียนเรียน (11) วธิ กี ารจัดการเรียนรู้ (12) การจัด กระบวนการเรียนรู้ (13) สื่อการเรียนรู้ (14) การวัดและประเมินผลการเรียน (15) การจบหลักสูตร และ (16) เอกสารหลักฐานการศึกษา รวมทง้ั บรรณานกุ รมและภาคผนวก กก ก ก ก ก ก เ อก ส า ร ฉ บั บ นี้สํ า เ ร็ จ ล ง ได้ ด้ ว ย ดี เ นื่ อ งจ า ก ไ ด้ รั บ คํา แ น ะ นํ า แ ละ ข้ อ มู ล จ า ก (1) ดร.รุ่งอรุณ ไสยโสภณ ผู้อํานวยการกลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (2) นางสาวดารัตน์ กาญจนาภา ผู้อํานวยการสํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัยจังหวดั ราชบุรี และ(3) นางกัณฐมณี แก้วเกิด ครูชํานาญการพิเศษรักษาการในตําแหน่งผอ.กศน. อําเภอจอมบึง รวมทั้งคณะครูของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอจอมบึง ขอขอบพระคุณและขอบคุณทุกทา่ นมา ณ ท่ีนีด้ ้วย (นายนพรตั น์ แจ้งหมื่นไวย์) ผอ.กศน.อาํ เภอจอมบึง
สารบญั หนา้ บริบทพ้ืนฐาน……………………………………………………………..…….….………….................................................1 ขอ้ มลู อําเภอจอมบงึ ...…………………………..…………………………….……………...............................................17 ขอ้ มูล กศน.อําเภอจอมบึง………………………………………………..…….……………...........................................26 แหลง่ เรียนรทู้ ี่สาํ คัญในชมุ ชน.......................................…………...………………………..……………..................28 เปูาหมายการจัดการศึกษา………………………………………………………………………………………………………....29 ปรัชญา วสิ ยั ทศั น์ พันธกิจ…………………………………………………………………………………………………..……..30 หลักการ……………………………………………………………………………………………………………………………………30 จดุ หมาย…………………………………………………………………………………………………......................................30 กรอบโครงสรา้ งหลักสตู รสถานศึกษาระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย.………………………………………..…………31 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้…………………………………………………………………………………..…………………33 คําอธิบายรายวชิ าและรายละเอยี ดคําอธบิ ายรายวิชาบงั คับ และรายละเอยี ดคําอธบิ าย รายวิชาบงั คบั …………………………………………………………………………………………………………..……………..…35 สาระทกั ษะการเรียนรู้……………………………………………………………………………………….………..….35 สาระความรู้พื้นฐาน……………………………………………………………………………………….………….…..49 สาระการประกอบอาชพี ………………………………………………………………………………………….……116 สาระทกั ษะการดําเนินชวี ิต……………………………………………………………………………………………137 สาระการพฒั นาสังคม……………………………………………………………………………………..……………154 แผนการลงทะเบยี นเรยี น ระดบั ประถมศึกษา…………………………………………………………………………….203 วธิ กี ารจดั การเรียนรู้………………………………………………………………………………………………………………....204 การจดั กระบวนการเรยี นรู้…………………………………………………………………………..………………………..…..204 สอ่ื และแหล่งเรียนรู้…………………………………………………………………….……………………………………….…..206 การจบหลักสูตร…………………………………………………………………………………………………………….…….…..207
สารบัญ (ต่อ) หนา้ เอกสารและสง่ิ อา้ งอิง…………………………………………………………………………………………………................208 ภาคผนวก...............................................................................................................................................210
บรบิ ทพื้นฐาน ประวตั ิความเป็นมาของจังหวัดราชบุรี จังหวัดราชบุรี มีชื่ออันเป็นมงคลยิ่ง หมายถึง “เมืองพระราชา”เป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของ ประเทศไทย จากการศึกษาและขุดค้นของนักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี พบว่าดินแดนแถบลุ่มแม่น้ํา แม่กลองแห่งน้ีเป็นถิ่นฐานท่ีอยู่อาศัยของคนหลายยุคหลายสมัย และมีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต จาก หลักฐานทางโบราณ สถานและโบราณวัตถุจํานวนมาก ทําให้เชื่อได้ว่ามีผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณน้ี ตั้งแต่ยุคหินกลาง ตลอดจนได้ค้นพบเมืองโบราณสมัยทวารวดีท่ีตําบลคูบัว อําเภอเมืองราชบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาู จฬุ าโลกมหาราช ปฐมกษัตริยแ์ ห่งราชวงศ์จักรี ได้เคยดํารงตําแหน่งหลวง ยกกระบัตรเมืองราชบุรีในสมัยกรงุ ศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งในชว่ งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาและตอนต้นกรุง รัตนโกสินทร์ปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าเมืองราชบุรีเป็นเมืองหน้าด่านที่สําคัญเป็นสมรภูมิการ รบหลายสมยั โดยเฉพาะในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟูาจุฬาโลกมหาราช ได้ยกทัพมาต้ังรับศึกพม่าในเขต ราชบรุ หี ลายครง้ั ครัง้ ที่สาํ คญั ทสี่ ดุ คือ สงครามเก้าทัพ ต่อมา พ.ศ.2360 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธ เลิศหล้านภาลัย ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างกําแพงเมืองใหม่ทางฝ่ังซ้ายของแม่นํ้าแม่กลองตลอดมาจนถึง ปจั จุบัน ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ.2437 ได้ทรงเปล่ียนการปกครอง ส่วนภูมิภาค โดยรวมหัวเมืองต่างๆ ท่ีอยู่ใกล้ชิดกันต้ังขึ้นเป็นมณฑล และได้รวมเมืองราชบุรี เมือง กาญจนบรุ ีเมืองสมทุ รสงคราม เมืองเพชรบรุ ี เมืองปราณบุรี เมืองประจวบคีรีขันธ์ รวม 6 เมือง ต้ังขึ้นเป็น มณฑลราชบุรีโดยตั้งท่ีบัญชาการมณฑล ณ เมืองราชบุรี ทางฝั่งขวาของแม่นํ้าแม่กลอง (ต่อมาเป็นที่ต้ัง ของศาลากลางจังหวัดราชบุรีหลังเก่า และในปัจจุบันเป็นที่ต้ังของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี)ต่อมา ในปี พ.ศ.2440 ได้ย้ายท่ีบัญชาการเมืองราชบุรี จากฝั่งซ้ายกลับมาตั้งรวมอยู่แห่งเดียวกับศาลาว่าการ มณฑลราชบุรี ทางฝั่งขวาของแม่นํ้าแม่กลอง จนถึง พ.ศ.2476 เมื่อได้มีการยกเลิกการปกครองแบบ มณฑลทง้ั หมด มณฑลราชบรุ ีจึงถกู ยกเลกิ และคงฐานะเปน็ จงั หวดั ราชบรุ ีจนถงึ ปัจจุบัน ท่ีต้งั และอาณาเขต จังหวัดราชบุรีตั้งอยู่ในพ้ืนท่ีภาคกลางด้านทิศตะวันตก มีพ้ืนที่ 3,247 ล้านไร่ หรือ 5,196 ตาราง กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 11.27 ของเน้ือที่ภาคตะวันตก 8 จังหวัด มีพื้นท่ีชายแดนติดกับสาธารณรัฐแห่ง สหภาพเมียนมาร์ โดยมีเทือกเขาตะนาวศรีเป็นแนวพรมแดนสันปันน้ํา ระยะความยาว 73 กิโลเมตร จังหวัดราชบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 100 กิโลเมตร มีแม่นํ้าแม่กลองเป็นแม่นํ้าสายหลัก ไหลผ่านจังหวัดราชบุรีในเขตพ้ืนท่ีอําเภอบ้านโปุง โพธาราม และอําเภอเมืองราชบุรี เป็นระยะทาง 67 กิโลเมตร
2 อาณาเขตตดิ ต่อ ดงั นี้ ภาพท่ี 1 แผน่ ทจี่ งั หวดั ราชบุรี ทศิ เหนอื ติดตอ่ กับจงั หวดั กาญจนบรุ ี ทิศใต้ ตดิ ตอ่ กับจังหวัดเพชรบรุ ี ทศิ ตะวันออก ตดิ ตอ่ กับจงั หวัดนครปฐม สมทุ รสาคร และ สมทุ รสงคราม ทิศตะวนั ตก ติดตอ่ กับสาธารณรัฐแหง่ สหภาพเมียนมาร์ ลกั ษณะภมู ิประเทศ สภาพภมู ิประเทศแบง่ ได้เป็น 4 ลกั ษณะ คอื (1) พ้ืนทภ่ี ูเขาสูง ไดแ้ ก่ บรเิ วณเขตแดนด้านทศิ ตะวนั ตกติดกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และเขตแดนดา้ นทศิ ใต้ตดิ กบั จังหวัดเพชรบุรี มีสภาพเป็นเทือกเขาสูง อุดมด้วยปุาดิบ ปุาเบญจพรรณ ปุา เต็งรัง และปุาไผ่ ความสูงจากระดับนํ้าทะเลปานกลางต้ังแต่ 200 เมตร ถึง 1,100 เมตรสภาพเนื้อดิน ค่อนข้างเป็นดินทราย มีความอุดมสมบูรณ์ต่ํา มีปฏิกิริยาเป็นกรด ดินอุ้มน้ําได้น้อย อยู่ในเขตพื้นที่อําเภอ สวนผึง้ อําเภอบา้ นคา และด้านทศิ ตะวันตกของอําเภอปากทอ่ (2) พ้ืนที่ราบสูง ได้แก่ บริเวณถัดจากเทือกเขามาทางด้านทิศตะวันออก จนถึงตอนกลางของ พ้ืนทีจ่ งั หวัด มลี ักษณะเป็นทร่ี าบสงู และเป็นลอนลาด มีแม่น้ําภาชีและลําห้วยสาขาเป็นสายนํ้าหลักสภาพ ดนิ เป็นดินร่วนปนทราย มีการชะล้างพังทลายของหน้าดินค่อนข้างสูง สภาพเหมาะกับการปลูกพืชไร่และ
3 ไม้ผล อยใู่ นเขตพื้นทอี่ าํ เภอสวนผ้งึ อําเภอบ้านคา อําเภอจอมบึง และด้านทิศตะวันตกของอําเภอปากท่อ เมอื งราชบรุ ี โพธาราม และอําเภอบา้ นโปุง (3) พ้ืนท่ีราบลุ่ม ได้แก่ บริเวณสองฝั่งแม่นํ้าแม่กลอง และด้านทิศตะวันออกของจังหวัด มีความอุดม สมบรู ณค์ ่อนข้างดี มีระบบชลประทานแม่กลองที่เป็นระบบชลประทานขนาดใหญ่ สภาพดินเป็นดินร่วน และดินร่วนปนเหนียว เหมาะแก่การปลูกข้าวและพืชผัก อยู่ในเขตอําเภอจอมบึง ปากท่อ เมืองราชบุรี บาง แพ โพธาราม และอาํ เภอบา้ นโปงุ (4) พืน้ ทรี่ าบลุ่มตา่ ได้แก่ บรเิ วณทิศตะวันออกของจังหวดั บริเวณตอนปลายของแม่นํ้าแม่กลอง ที่เช่ือมต่อกับจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นที่ราบลุ่ม มีลําคลองและคูน้ําที่เช่ือมต่อกับแม่นํ้าแม่กลองอยู่สูง จากระดบั น้าํ ทะเลปานกลาง 1 - 2 เมตร สภาพดินค่อนข้างเป็นเนื้อดินเหนียว ระบายน้ําเลว มีความอุดม สมบรู ณ์ตามธรรมชาตปิ านกลางถึงสงู ใช้ทาํ นา และยกร่องเพ่ือปลกู พชื สวนและพชื ผัก อย่ใู นเขตอาํ เภอ วดั เพลง และอาํ เภอดําเนินสะดวก ลกั ษณะภูมิอากาศ จังหวัดราชบุรีต้ังอยู่ในเขตท่ีได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้สามารถแบ่งออกตาม ฤดกู าลได้ 3 ฤดู ดงั น้ี ฤดูร้อน เร่ิมต้ังแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ช่วงนี้ได้รับอิทธิพลจากลม ตะวันออกและลมฝุายใต้พัดผ่านทําให้มีอากาศร้อนอบอ้าวทั่วไป อาจมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในช่วง เดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน (สถิติอุณหภูมิสูงที่สุดวัดได้ 40.9 องศาเซลเซียส เม่ือวันที่ 24 เมษายน 2541) ฤดฝู น แบง่ ออกเปน็ 2 ชว่ ง ได้แก่ ช่วงแรก ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม ช่วงนี้ได้รับอิทธิพลจากมรสุม ตะวนั ตกเฉยี งใต้ที่พัดเอาความชื้นจากมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน แต่เนื่องจากมีเทือกเขาตะนาวศรี กั้นอยู่ จึงทําให้พ้ืนท่ีติดเทือกเขาได้รับปริมาณฝนไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะถูกพัดเลยไปตกแถบลุ่มนา้ํ แม่ กลองและด้านตะวันออกของจงั หวดั ช่วงท่สี อง ประมาณเดอื นกันยายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ช่วงนี้ได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมท่ี เลื่อนลงมาจากทางภาคเหนือมาปะทะแนวเทือกเขาตะนาวศรี ทําให้มีฝนตกชุกและตกหนักแถบอําเภอ สวนผ้ึง บ้านคา จอมบึง และอําเภอโพธาราม ทําให้เกิดอุทกภัยและนํ้าปุาไหลหลากจากเทือกเขาเป็น ประจาํ ทกุ ปี
4 ปรมิ าณฝนมากท่สี ดุ ต่อเดือน วดั ได้ 441.5 มลิ ลิเมตร เมอื่ เดือนตลุ าคม พ.ศ.2548 ปรมิ าณฝนมากทีส่ ดุ ต่อปี วัดได้ 1,513.1 มลิ ลเิ มตร เมอ่ื ปี พ.ศ.2539 ปริมาณฝนนอ้ ยท่สี ดุ ต่อปี วดั ได้ 902.7 มิลลเิ มตร เมือ่ ปี พ.ศ.2536 ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ มีอากาศหนาวเย็นเน่ืองจาก ได้ลมท่ีพัดนําเอาความหนาวเย็นและแห้งมาปกคลุมทําให้พ้ืนท่ีตามเชิงเขา และอําเภอปากท่อ มีอากาศ หนาวถึงหนาวจดั ทกุ ปี (สถติ อิ ณุ หภูมติ ํา่ ท่ี 25 ธันวาคม 2542) การปกครอง และประชากร จงั หวดั ราชบุรี แบง่ การปกครองออกเปน็ 10 อําเภอ 104 ตาํ บล 975 หมู่บ้าน การบรหิ ารราชการสว่ นภูมภิ าคและท้องถนิ่ ในจงั หวดั การจัดองค์กรบริหารราชการส่วนภูมิภาค มีหน่วยงานราชการท่ีอยู่ในความควบคุมดูแลของผู้ว่า ราชการจังหวัด ประกอบด้วย (1) ส่วนราชการในระดับจังหวัด แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ หน่วยราชการบริหารส่วนภูมิภาค ประจาํ จังหวัด จาํ นวน 31 หน่วยงาน และหนว่ ยราชการบริหารส่วนกลาง จาํ นวน 78 หนว่ ยงาน (2) การบริหารราชการส่วนท้องถ่นิ จาํ นวน 112 แห่ง ประกอบดว้ ย องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัด 1 แหง่ ได้แก่ องค์การบริหารสว่ นจังหวดั ราชบุรี เทศบาลเมือง 4 แห่ง ได้แก่ เทศบาลเมืองราชบุรี เมืองบ้านโปุง เมืองโพธารามและเทศบาล เมืองท่าผา เทศบาลตําบล 30 แห่ง องค์การบรหิ ารสว่ นตาํ บล 77 แห่ง การแบ่งเขตการปกครองจังหวัดราชบรุ ี ลาดับ อาเภอ ตงั้ เมอ่ื พน้ื ท่ี จานวน (แหง่ ) (ตร.กม.) ตาบล หมบู่ ้าน 1 เมอื งราชบรุ ี ร.ศ. 116 430.298 22 187 2 บ้านโปุง ร.ศ. 116 366.559 15 183 3 โพธาราม พ.ศ. 2436 417.009 19 156 4 ดาํ เนนิ สะดวก กอ่ น พ.ศ. 2400 210.271 13 105 5 ปากท่อ ร.ศ.118 757.835 12 85 6 จอมบงึ 772.054 6 89 พ.ศ. 2438
5 ลาดบั อาเภอ ตั้งเมือ่ พ้ืนท่ี จานวน (แหง่ ) (ตร.กม.) ตาบล หมู่บา้ น 7 บางแพ พ.ศ. 2457 172.597 7 65 8 สวนผง้ึ พ.ศ. 2517 1,005.080 4 37 9 บา้ นคา พ.ศ. 2540 1,026.867 3 40 10 วดั เพลง พ.ศ. 2453 37.892 3 28 รวม 5,196.462 104 975 หมายเหตุ : ตาํ บลจาํ นวน 104 ตาํ บล ประกอบดว้ ย ตาํ บลในการปกครองท้องท่ี จํานวน 101 ตาํ บล การ ปกครองท้องถ่นิ (อยู่ในเขตเทศบาลเมือง) จํานวน 3 ตาํ บล ได้แก่ ตาํ บลหนา้ เมอื ง อาํ เภอเมอื งราชบุรี ตาํ บลบา้ นโปงุ อาํ เภอบ้านโปุง และตําบลโพธาราม อําเภอโพธาราม คาขวัญประจาจังหวัดราชบุรี “คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโปุง เมืองโอ่งมังกร วัดขนอนหนังใหญ่ ต่ืนใจถาํ้ งาม ตลาดน้ํา ดาํ เนิน เพลนิ คา้ งคาวร้อยล้าน ยา่ นยสี่ กปลาดี” ตราประจาจังหวัดราชบรุ ี รปู เครอ่ื งราชกกุธภณั ฑ์ของพระมหากษัตริย์ 2 สิง่ คือ พระแสงขรรค์ชัยศรี ประดิษฐานอยู่บน บนั ไดแก้ว และฉลองพระบาทคปู่ ระดิษฐานอยูบ่ นพานทองหมายถงึ เครื่องแสดงถึงความเป็นพระเจา้ แผน่ ดนิ (สํานกั งาน จังหวัดราชบรุ ี ดอกไมป้ ระจาจังหวดั ราชบุรี ชอ่ื ดอกไม้ ดอกกัลปพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia bakeriana Craib ตน้ ไม้ประจาจงั หวดั ราชบรุ ี ชอ่ื พรรณไม้ โมกมัน ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Wrightia tomentosa
6 นโยบายพัฒนาของจงั หวัดราชบรุ ี วสิ ยั ทัศน์จังหวดั ราชบรุ ี เมืองเกษตรสเี ขียว เศรษฐกิจมั่นคง สังคมมีความสุข เมืองเกษตรสีเขียว พัฒนากระบวนการผลิตในพน้ื ที่ในทุกกิจกรรม ให้เป็นการผลติ ที่ดีและ เหมาะสม ปลอดภัยจากสารเคมผี ู้บริโภคได้บริโภคสินค้าเกษตรที่ปลอดภัยโดยมุ่งเน้นส่งเสริมให้ เกษตรกรทําการเกษตรกรรม อย่างย่ังยืน เพอ่ื ให้เกิดความสมดุลของเกษตรกรรมให้ความรู้และ ส่งเสริมการใช้สารชีวภาพทดแทนการใช้สารเคมี ของเกษตรกร โดยจัดให้มีกลไกการให้ความรู้ และ ขบั เคลื่อนในระดับพน้ื ที่ รวมทั้งการสร้างเครือขา่ ยเพื่อการพัฒนาใน พน้ื ที่ ด้านการตลาดส่งเสริมและ พฒั นาการรวมกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชน โดยพัฒนาให้มีการเชอ่ื มโยง กันตั้งแต่การ รวบรวมผลผลติ การขนส่ง จนถึงผู้จําหน่ายผลผลิตเศรษฐกิจมั่นคง เป็นเศรษฐกิจท่ีพัฒนาและสร้าง ความเข้มแขง็ แก่เศรษฐกิจฐานราก เพ่อื การสร้างภูมิค้มุ กันและพง่ึ ตัวเองในสถานการณ์ความผันผวน ทางเศรษฐกิจ โดยการพัฒนาความเขม้ แข็งเศรษฐกิจชุมชน พัฒนา อาชีพ สร้างรายได้ในกลุ่ม ประชาชนและเกษตรกร และยกระดบั เปน็ การพฒั นาในสาขาการผลิตที่จะขบั เคล่ือนมูลค่า GPP ของ จังหวดั โดยการพฒั นาผลิตภณั ฑ์ให้ได้มาตรฐาน พัฒนาคุณภาพผลผลิต และการบริการโดยการนํา องค์ความรู้ และสร้างนวัตกรรม เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือสนับสนุนภาคการผลิตและการ บริหารการตลาดท่ีมีประสิทธิภาพมาก ข้ึน ท้ังน้ีเพอื่ การปรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของจังหวดั ให้ ม่ันคง มีภูมิคุ้มกนั ในการขยายตัวต่อไป สังคมมีความสุข เป็นการอยู่ร่วมกนั ของประชาชนในจังหวัด อยา่ งสันติสขุ ความเหลอ่ื มลาํ้ ลดลง มคี วามปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินท่ีเหมาะสม เข้าถงึ ระบบ ประกันสุขภาพที่ครอบคลุม มีการสืบทอดวัฒนธรรมอย่าง มีคณุ ค่า มีรายได้ท่ีเหมาะสมภายใต้ แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสวยงาม จึงกําหนดวิสัยทัศน์การ พฒั นาระหว่าง พ.ศ. 2561 – 2564“เมืองเกษตรสีเขียว เศรษฐกิจมนั่ คง สงั คมมีความสขุ ” พันธกิจ 2.1 ปรบั ปรุงประสทิ ธิภาพการผลิต การบริการ และพัฒนาระบบการตลาดในแต่ละสาขาการผลติ ของจังหวัด 2.2 พัฒนาครอบครวั และชุมชนให้เข้มแขง็ ส่งเสริมสขุ ภาวะ การมวี นิ ยั ทางสังคม ความ ปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สิน และลดความเหลือ่ มลาํ้ ทางสงั คม 2.3 ยกระดบั มาตรฐานการบริการ และส่งเสรมิ การท่องเทีย่ วทหี่ ลากหลาย เพอ่ื การสรา้ งรายได้ 2.4 บรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมท่ีมีประสิทธภิ าพ
7 ประเดน็ ยุทธศาสตร์ และเป้าหมายการพฒั นา ประเดน็ ยุทธศาสตรท์ ี่ 1 เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการผลติ และความสามารถในการแขง่ ขัน 1. พฒั นาความเข้มแข็งเศรษฐกิจชมุ ชนและเครือขา่ ยธุรกิจในท้องถิ่น โดยส่งเสริมการพัฒนา ความรู้ทั้ง การผลิตที่ได้มาตรฐานและการตลาด กลุ่มอาชีพ ผลิตภณั ฑช์ ุมชน วสิ าหกิจชุมชน SMEs เพ่อื การผลิตที่ได้มาตรฐานตาม ความตอ้ งการของตลาด เพื่อการสร้างรายได้และความเข้มแข็งของ เศรษฐกิจในทอ้ งถ่นิ 2. ยกระดับการพฒั นาด้านการเกษตร มีเปูาหมายเป็นเมืองเกษตรสีเขียว และเพิม่ มูลค่า ผลิตภัณฑ์ มวลรวมในภาคการเกษตร โดยการพัฒนามาตรฐานการผลิต ใช้นวัตกรรม ภูมิปัญญา และ เทคโนโลยที ี่เหมาะสม ในการ สรา้ งคณุ คา่ และเอกลกั ษณ์ของสินค้า ส่งเสริม Smart Farmer เพ่ือการ ใช้นวตั กรรมในการผลิต ให้ความรู้และส่งเสริมการ ใช้สารชีวภาพทดแทนการใช้สารเคมีของเกษตรกร พัฒนาระบบควบคมุ คณุ ภาพสินค้าทั้งภาคบริการ ภาคการเกษตร ผลติ ภัณฑช์ ุมชนจากผู้ผลิตจนถึง ตลาดและผู้บริโภค ทั้งนี้เพ่ือสร้างความสามารถในการแขง่ ขันและการส่งออก สําหรับ สาขา อุตสาหกรรมและสาขาการผลิตอนื่ ส่งเสริมการผลิตและสินค้าด้านการบริการ ท่ีได้มาตรฐานตาม ความตอ้ งการของ ตลาด 3. สนับสนุนการศึกษาวิจัย การใช้ภูมิปัญญา เทคโนโลยี การคิดค้นนวัตกรรมที่มคี ุณค่า และ พัฒนา เป็นอุปกรณ์ เครื่องมืออุปกรณ์ เพอ่ื สนับสนุนกระบวนการผลิตในทุกสาขาการผลิต หรือเพอ่ื การพฒั นาสนิ ค้าใหม่ในการ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยการร่วมมือกับเกษตรกร ผู้ประกอบการ สถาบันการศกึ ษา และกระทรวง กรม ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง 4. ด้านการตลาด ดําเนินการเปิดช่องทางการคา้ มากข้ึน โดยการแสวงหาความร่วมมือกับภาค การตลาดต่างๆ ในการเพิม่ ช่องทางการจําหน่ายของจังหวดั ท้ังในและต่างประเทศ ตลาดประชาคม อาเซียนและประเทศ คู่ค้า ท้ังผลิตภัณฑท์ างการเกษตร อตุ สาหกรรม ผลิตภณั ฑช์ ุมชนในรูปแบบทีม ราชบุรี กลยุทธ์ 1.1 ส่งเสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยแี ละนวตั กรรมในการพัฒนาอปุ กรณ์ เครื่องมืออิเลก็ ทรอนิกส์ เทคโนโลยชี ีวภาพ เพื่อยกระดการผลิตทางการเกษตร การบรกิ าร และอุตสาหกรรม 1.2 พฒั นาความเข้มแข็งธรุ กิจท้องถน่ิ และสรา้ งเครือข่ายความรว่ มมือ 1.3 พัฒนามาตรฐานการผลิตและสรา้ งเอกลกั ษณ์ผลผลิต
8 1.4 พัฒนาประสิทธิภาพการตลาดการสง่ ออก และควบคมุ คุณภาพของสนิ ค้าจากผ้ผู ลิตถึง ผบู้ ริโภค 1.5พฒั นาระบบการขนส่งเพ่ือการเชอื่ มโยงทางการคา้ 1.6 ส่งเสรมิ การสรา้ งสรรค์งานศลิ ปะ งานบันเทิง การส่อื สารทางการตลาดดว้ ย ระบบดิจทิ ัลและโปรแกรม ประยกุ ต์ เปา้ ประสงค์เชงิ ยุทธศาสตร์ 1.ผ้ปู ระกอบการและเกษตรกรมีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีการผลิตและการตลาดมากย่ิงข้ึน 2. เพ่มิ ประสิทธิภาพการผลิตสู่มาตรฐาน นวตั กรรมและตามความต้องการช่องตลาด 3.เพ่อื ขยายช่องทางการตลาดและการประชาสมั พันธท์ ัง้ ในและต่างประเทศมากขนึ้ ตวั ชว้ี ดั และเป้าหมายการพฒั นา เป้าประสงค์เชิงยทุ ธศาสตร์ ตัวช้ีวัด/ค่าเป้าหมาย 2561 ค่าเป้าหมายรายปี 1.ผปู้ ระกอบการและเกษตรกรมีความรู้ ร้อยละ 2562 2563 2564 ใกนารใช้เทคโนโลยีการผลติ นวตั กรรมและ รอ้ ยละของเกษตรกรและ 10 รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ การตลาดมากยิง่ ขนึ้ ผู้ประกอบการทีเ่ ข้าอบรม 20 30 40 หลักสตู รถา่ ยทอด จาํ นวน เทคโนโลยี 1 จํานวน จํานวน จํานวน การผตลิตาดและความรู้ดา้ น 111 จาํ นวนผลิตภัณฑ์ท่ีพฒั นา นเชวงิ ตั กรรมสรา้ งสรรค์ 2.เพิ่มประสิทธภิ าพการผลิตสู่มาตรฐาน รอ้ ยละผลิตภัณฑ์จังหวัด รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ ราชบุรไี ดร้ ับมาตรฐาน และตามความต้องการของตลาด เพิม่ ข้ึน 5555 3.เพือ่ ขยายช่องทางการตลาดและการ จาํ นวนรายได้จากการ รอ้ ยละ ร้อยละ รอ้ ยละ ร้อยละ ประชาสมั พันธท์ ั้งในและต่างประเทศมาก จําหนา่ ยเพม่ิ ข้นึ 5555 ขน้ึ
9 ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมและพัฒนาเชอื่ มโยงกิจกรรมการท่องเท่ียว พฒั นาการท่องเท่ียวใหเ้ ป็นเส้นทางการทอ่ งเท่ยี วเพ่ือการเรียนรสู้ ร้างสรรค์สังคมทีบ่ ูรณา การศิลปะ วัฒนธรรม สิง่ แวดลอ้ ม การทอ่ งเท่ยี วเชงิ นนั ทนาการ และเชงิ เกษตรสคู่ วามมั่งคง่ั อย่าง ย่ังยืน ดงั นั้น การพัฒนาจะเป็น สองรูปแบบ ดงั นี้ 1.พัฒนาการท่องเทยี่ วเชงิ อนุรกั ษ์ เปน็ ศนู ย์กลางการท่องเทย่ี วด้านประวตั ศิ าสตร์มรดก ไทยหวั ใจ แผน่ ดิน(เมอื งคูบัว)เส้นทางการทอ่ งเที่ยวเชงิ ธรรมชาติ (สวนผึ้ง, จอมบึง, บ้านคา, บางแพ) เสน้ ทางท่องเทยี่ วเชิงเกษตร และวิถีไทยวิถถี นิ่ สายน้ํา (ดาํ เนินสะดวก) ท่องเทยี่ วเชิงวัฒนธรรมชมุ ชน ไทยด้ังเดิม (บ้านโพหกั , ไทยพื้นถนิ่ ) 2.พัฒนาการท่องเทย่ี วในกลมุ่ เปูาหมายคนร่นุ ใหม่วัยทาํ งานเพ่ือเน้นการพักผ่อนในเชิงการเรียนรู้ สร้างสรรค์ เช่น การท่องเท่ยี วเชงิ นันทนาการเพื่อการพักผ่อนบรเิ วณอําเภอสวนผึ้ง บ้านคา และ ท่องเทยี่ วเชงิ เกษตร เช่น อุทยานกล้วยไม้ หมู่บ้านผลิตเกษตรปลอดภัย หม่บู ้าน OTOP กลยุทธ์ 2.1 พัฒนาและฟน้ื ฟแู หลง่ ท่องเทยี่ ว 2.2 พัฒนากจิ กรรมการท่องเทีย่ วเชิงการเรียนรู้สร้างสรรคส์ งั คม ด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม การเกษตร นันทนาการและสิ่งแวดล้อม 2.3 พัฒนาบรกิ ารและโครงสรา้ งพน้ื ฐานสนับสนนุ การเชื่อมโยงการท่องเทย่ี ว 2.4 พัฒนาการท่องเทีย่ วทปี่ ลอดภยั เป้าประสงคเ์ ชงิ ยุทธศาสตร์ 1. เพอื่ เพม่ิ รายไดจ้ ากการทอ่ งเทย่ี วมากยิ่งขึ้น ตวั ชว้ี ดั และเป้าหมายการพฒั นา เป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ ตวั ช้ีวัด/คา่ เปา้ หมาย คา่ เป้าหมายรายปี ค่าฐาน 1. เพอ่ื เพิ่มรายได้จากการท่องเทีย่ ว อัตราการขยายตวั จรายกไกดา้ รทอ่ งเทยี่ ว 2561 2562 2563 2564 มากยิ่งข้ึน 2,250.8 ร้อยละ ร้อยละ รอ้ ยละ ร้อยละ 7บล้าานท 5 5 5 5 เพมิ่ ข้ึน
10 เปา้ ประสงค์เชงิ ยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัด/คา่ เป้าหมาย ค่าฐาน คา่ เปา้ หมายรายปี 2561 2562 2563 2564 1. เพ่อื ลดความเหล่ือมลํา้ 1.1 ประชากรอายุ ดา้ นรายได้ของประชาชน 15 ข้ึนไป ทไี่ ม่ผา่ นเกณฑ์ จปฐ.2559 รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ไดร้ ับการพฒั นาอาชีพและ รายได้ 10,148 คน 30 40 50 60 /(อส5าัด,(3ยปส2ุ ี ว่ 102น56540-05อค6,ค.ไ8ป64านป0น2)ยีข9)8ุ6นึ้ 1.2 สมั ประสทิ ธก์ิ าร - 0.450 - 0.350 กระจายรายได้ลดลง รอ้ ยละ ร้อยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ 1.3 รอ้ ยละของประชากรท่ี อยใู่ ตเ้ สน้ ความยากจน 9.27 9 8 7 6 ลดลง (ปี 2557) 1.4 จํานวนหมู่บ้าน 9 รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ ร้อยละ เศรษฐกิจพอเพยี ง ตน้ แบบ หม3่บู า้ น 20 21 22 23 เพม่ิ ขนึ้ (ป2ี 559) 2. คุณภาพชวี ติ ของ 2.1 จาํ นวนกลมุ่ คดอี าญาท่ี 147 คดี ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ รอ้ ยละ ประชากรทุกกลมุ่ วัยสงู ข้ึน นา่ สนใจลดลง (ปี 2557) 5 5 5 5 2.2 ร้อยละความ จํานวน ร้อยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ สคิทรอธบใิ นครละมุ บบหลกั ประกนั ประชากร 99 99 99 99 สขุ ภาพจังหวัดราชบรุ ี ทง้ั หมด 2.3 ผู้สงู อายุไดร้ ับการดแู ล ค ร้อยละ ร้อยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ และพฒั นาศักยภาพ 136น,010 90 92 94 96 (ปี 2558) 2.4 จํานวนแรงงานที่ไดร้ บั ค ค ค คค การพัฒนาทักษะฝมี ือ 2,น000 500 น 500 น 500 น 5น00 แรงงาน ประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี 3 สง่ เสริมคณุ ภาพชวี ติ และชุมชนเข้มแข็ง พฒั นาเพ่ือยกระดับรายได้ของครัวเรือนและชุมชนเพ่ือสร้างความเข้มแขง็ ระดับชุมชน โดย ส่งเสริมการ พัฒนาอาชีพตามแนวทางตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงส่งเสริมสุขภาวะของประชาชนโดย ส่งเสรมิ สุขภาวะทางกาย สุขภาวะทางจิต สุขภาวะทางสังคม และสขุ ภาวะทางปัญญาทส่ี มบูรณ์ สง่ เสริม การเข้าถงึ บริการสาธารณสุข ปูองกนั โรค การบริการด้านการแพทย์รวมท้ังการเขา้ ถึง สิทธิในระบบ หลักประกันสุขภาพ ส่งเสริมความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พฒั นาการเข้าถึงการศึกษาของ
11 ประชากรวัยแรงงานให้มากขน้ึ ตลอดจนการส่งเสรมิ ศักยภาพและดูแลผู้สูงอายุ เพ่ือการ เป็นเมืองที่ ประชาชนอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอย่างมคี วามสขุ กลยุทธ์ 3.1.เสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ของชมุ ชนและการพัฒนารายได้ครวั เรือน 3.2.ส่งเสรมิ การศกึ ษาของเยาวชนและประชากรวัยแรงงาน 3.3.สง่ เสริมการพฒั นาตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3.4. ส่งเสริมสุขภาวะของประชาชนทกุ กลุ่มวัย 3.5. ส่งเสรมิ ความปลอดภัยในชวี ิตและทรพั ย์สนิ เปา้ ประสงค์เชิงยทุ ธศาสตร์ 1. เพือ่ ลดความเหล่ือมลา้ํ ด้านรายไดข้ องประชาชน 2. คุณภาพชีวติ ของประชากรทุกกลุ่มวัยสูงขน้ึ 3. สง่ เสรมิ การมีสว่ นรว่ มเพอ่ื สร้างความเขม้ แขง็ ของชุมชนมากยิง่ ขึน้ ประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี 4 สง่ เสรมิ การอนรุ ักษพ์ ลงั งาน และทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและมีประสิทธิภาพโดยการส่งเสริมการพฒั นาพลังงาน ทดแทนเพื่อ ใชใ้ นภาคครวั เรอื นและชมุ ชน เช่นการประหยัดการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือน การประหยัดการ ใช้น้ํามัน โดยสนับสนุนการ พัฒนาพลังงานทดแทนในชุมชนและครัวเรือน สําหรับการแก้ไขปัญหาขยะ พ้ืนที่เกิดขยะท่สี ําคัญคือเขตเมือง โดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วน ท้องถ่ิน ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันรับผิดชอบในการจัดการปัญหาขยะ ส่งเสริมสนับสนุน และสร้างแรงจงู ใจแก่องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินพฒั นาระบบการจัดการขยะท่ีดีสร้างอปท.ต้นแบบ เพอื่ เปน็ แหลง่ เรียนรู้ในการแก้ปัญหาขยะมูลฝอย กลยทุ ธ์ 4.1 สง่ เสริมการประหยดั พลังงาน และการใชพ้ ลังงานทดแทนภาค ครวั เรอื น 4.2ส่งเสรมิ การมสี ว่ นร่วมจากทุกภาคส่วนในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4.3สง่ เสริมการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรปุาไม้และการเพ่ิมพนื้ ท่สี ีเขียว
12 เปา้ ประสงค์เชิงยทุ ธศาสตร์ 1. เพ่ือลดปริมาณการใชไ้ ฟฟา้ ภาคครวั เรอื น การใช้นํา้ มนั เช้ือเพลงิ และการใช้พลงั งานทดแทน มากขนึ้ 2. สง่ เสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาขยะมูลฝอยในพื้นที่ และคุณภาพน้ําท้ิงจาก แหลง่ กําเนดิ ที่มีกฎหมาย ควบคุมอยู่ในระดับมาตรฐาน 3.เพื่อสรา้ งการมีส่วนร่วมจากภาคสว่ นตา่ งๆในการอนรุ ักษ์และพ้ืนฟูทรัพยากรธรรมชาติและ สิง่ แวดล้อม ตวั ชว้ี ดั และเปา้ หมายการพฒั นา เป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ ตวั ช้ีวดั /ค่าเป้าหมาย คา่ ฐาน ค่าเป้าหมายรายปี 2561 2562 2563 2564 1.เพอ่ื ลดปริมาณการใช้ 1.1 สดั ส่วนปริมาณ รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ไฟฟูาภาคครัวเรอื น และ กไฟาฟรใูาชภ้ าคครวั เรอื นต่อ 647 รอ้ ยละ 6.5 7 7.5 การใชพ้ ลังงานทดแทนมาก ประชากรลดลง กิโลวตั ต์- 6 ขน้ึ ชัว่ โมง/คน รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ 2.ส่งเสรมิ การมีส่วนรว่ มใน 2.1 รอ้ ยละของ 6 81 การจัดการปัญหาขยะ มลู ขปยรมิะใานณพื้นทจ่ี งั หวัด 247,105 ตนั รอ้ ยละ 0 ฝอยในพื้นท่ี และ คณุ ภาพ ลดลง (ปี 2558) นา้ํ ทิง้ จากแหลง่ กําเนิดท่มี ี 2.2 คุณภาพนํ้าทง้ิ จาก 4 รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ กฎหมายควบคุมอยใู่ นระดับ แหล่งกาํ เนิดทม่ี ี 81 82 83 มาตรฐาน กคฎวบหคมมุ ายอยู่ในระดบั รอ้ ยละ รอ้ ยละ มาตรฐาน 79 80 (ปี 2558)
13 เป้าประสงคเ์ ชิงยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัด/คา่ เป้าหมาย ค่าฐาน 2561 คา่ เป้าหมายรายปี 1,081,387 รอ้ ยละ 2562 2563 2564 3.สร้างการมสี ่วนรว่ มจาก 3.1 อตั ราการ รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ภาคสว่ นตา่ งๆในการ เปลี่ยนแปลงพืน้ ท่ี ไร่ 0.05 0.10 0.15 0.20 อนุรักษ์ และพื้นฟู ปุาไม้เพ่ิมข้นึ (ปี 2557) ธทรรพั มยชาากตริและสิ่งแวดลอ้ ม ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 การพฒั นาเพอื่ เสริมความมน่ั คง ภัยคุกคามด้านความม่ันคงรูปแบบใหม่ 4 ภัย 6 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย ภยั คุกคาม ดา้ นยาเสพติดดา้ น แรงงานตา่ งดา้ วและบุคคลหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การก่อการร้ายและ อาชญากรรมข้ามชาติ การบุกรุกทําลาย ทรัพยากรธรรมชาติและปุาไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ ภัย พิบตั ิ และความขดั แยง้ ทางสังคม โดยเฉพาะเรื่องของผู้มีอิทธิพล และการทุจริตคอรัปช่ัน ท้ังในพ้ืนท่ี ชายแดนและพ้ืนท่ีตอนในโดยดําเนินการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพ้ืนที่ เปูาหมาย เร่งด่วนเปน็ ลาํ ดบั แรกและดําเนนิ การในพ้นื ท่ีเปูาหมายรองครบถ้วนในระยะ 4 ปีในส่วนการปูองกัน และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เป็นการดําเนินการในพ้ืนที่เปูาหมายเพื่อการพัฒนาแก้ลิงแหล่งนํ้าหรือ ปรับปรงุ แหล่งนํา้ ท่ีมอี ยู่เดมิ ใหส้ ามารถกักเกบ็ นา้ํ ในฤดูฝนและสามารถใชน้ ้ําในฤดูแล้ง เพื่อสนับสนุน การเกษตรและการอปุ โภคบรโิ ภค กลยุทธ์ 5.1 เสริมสรา้ งให้คนและชุมชนมจี ติ สาํ นกึ ดา้ นความมัน่ คง 5.2 บูรณาการเพ่ือการพฒั นาและสร้างเครือข่ายความม่ันคง 5.3 พัฒนาระบบข้อมลู ดา้ นความมั่นคง และสาธารณภัย 5.4 สนับสนุนการดาํ เนินงานโครงการพระราชดาํ ริ 5.5 พฒั นาแกม้ ลงิ ฟืน้ ฟูแหล่งกักเก็บนํา้ การกระจายและเชอ่ื มโยงแหลง่ นาํ้ เพ่ือแก้ไขปัญหาน้ํา ทว่ มและภยั แลง้
14 เป้าประสงคเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ 1.ส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนมสี ่วนรว่ มในการพัฒนาด้านความมนั่ คงเพ่ิมข้ึน 2. เพอื่ แก้ไขปญั หาความมัน่ คงในทกุ มติ ิ 3. เพื่อแก้ไขปัญหาภยั แล้ง นํา้ ทว่ ม และภยั พิบัติอนื่ ในพืน้ ที่เปาู หมายได้อย่างครบถว้ น ตวั ช้วี ัดและเป้าหมายการพัฒนา เป้าประสงคเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ ตวั ช้ีวัด/ค่าเปา้ หมาย ค่าฐาน ค่าเปา้ หมายรายปี 1.เพือ่ แก้ไขปญั หาภัยแล้ง นํ้าท่วม พน้ื ท่ีเส่ยี งภยั และภยั 2561 2562 2563 2564 และภัยพิบตั ิอน่ื ในพ้นื ทเ่ี ปาู หมาย พิบตั ไิ ดร้ บั การปูองกัน (จาํ นวนพน้ื ท่ี ร้อยละ รอ้ ยละ ร้อยละ รอ้ ยละ และแก้ไข 20 40 60 80 ไดอ้ ย่างครบถว้ น เปูาหมาย) 2. ส่งเสริมให้ประชาชนมสี ่วน ประชาชนในพน้ื ท่ี ตาํ บล ตาํ บล ตาํ บล ตาํ บล ตาํ บล รว่ ม ในการพฒั นาความมนั่ คง เปาู หมายมีสว่ นร่วม เพมิ่ ขึ้น ใกนารเสริมสรา้ งความ 51 10 10 15 16 ม่นั คง 7. การเช่อื มโยงกับแนวทางการพฒั นาของประเทศ 7.1 ยุทธศาสตร์ชาตริ ะยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560– 2579) “ประเทศไทยมีความมน่ั คง มั่งคงั่ ยั่งยืน เป็นประเทศพฒั นาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลกั ปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียง” ประกอบดว้ ย 6 ยทุ ธศาสตร์ ดงั น้ี (1) ยุทธศาสตร์ ดา้ นความมนั่ คง มีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปล่ียนแปลงท้ังภายในและภายนอกประเทศสังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคลมีความม่ันคงในทุกมติ ิ ท้ังเศรษฐกิจ สังคม ส่ิงแวดล้อม และ การเมือง ประเทศ มีความม่ันคงในเอกราชและอธิปไตย มีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่ เข้มแขง็ เป็นศูนย์กลางและเป็นท่ียึดเหน่ียวจิตใจของประชาชน ระบบการเมืองมีความม่ันคงเป็น กลไกท่ีนําไปสู่การบริหารประเทศที่ ต่อเนื่องและโปร่งใส สงั คม มีความปรองดองและความสามัคคี สามารถผนึกกําลังเพ่ือพัฒนาประเทศ ชุมชนมีความ เข้มแข็ง ครอบครัวมีความอบอุ่น ฐานทรัพยากร และสง่ิ แวดล้อม มีความม่ันคงของอาหาร พลังงาน และนํา้
15 (2) ยทุ ธศาสตร์ การสรา้ งความสามารถในการแข่งขัน สามารถสรา้ งรายได้ทั้งภายในและภายนอกประเทศสรา้ งฐานเศรษฐกิจและสังคมแหง่ อนาคต เป็นจดุ สาํ คัญของการเชอ่ื มโยงภูมิภาคท้ังการคมนาคมและขนส่ง การผลิต การคา้ การลงทุนการทําธรุ กิจ มีบทบาทสําคัญใน ระดบั ภูมิภาคและระดับโลก เกดิ สายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการคา้ อย่างมีพลัง (3) ยทุ ธศาสตร์ การพฒั นาและเสริมสร้างศกั ยภาพคน มงุ่ ประโยชน์สว่ นรวมอย่างยั่งยืนให้ความสาํ คญั การมสี ่วนร่วมของประชาชนทกุ ภาคสว่ นเพ่ือการ พัฒนาในทุกระดับอยา่ งสมดุล มเี สถียรภาพ และย่ังยนื ประชาชนทุกภาคสว่ นในสังคมยดึ ถือและ ปฏิบัตติ ามปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง (4) ยุทธศาสตร์ การสรา้ งโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกนั ทางสังคม ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอยา่ งต่อเนื่องยกระดบั เปน็ ประเทศในกลมุ่ ประเทศ รายได้ สงู ความเหลือ่ มล้าํ ของการพัฒนาลดลง ประชากรได้รบั ผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่า เทียมมากขน้ึ (5) ยทุ ธศาสตร์ การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชวี ติ ทเี่ ปน็ มิตรกับสง่ิ แวดลอ้ ม การพัฒนาที่สามารถสร้างความเจริญรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เพ่ิมข้ึนอย่าง ต่อเน่ือง ซ่ึงเป็นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินพอดีไม่สร้างมลภาวะต่อ ส่ิงแวดล้อมจนเกิน ความสามารถในการรองรบั และเยยี วยาของระบบนิเวศน์ การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับกฎระเบียบของประชาคม โลกซึง่ เป็นท่ียอมรับรว่ มกัน ความอุดมสมบูรณ์ของทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมคี ุณภาพดีขึ้น คนมคี วามรบั ผิดชอบต่อ สังคม มคี วามเออ้ื อาทร เสียสละเพ่อื ประโยชนส์ ว่ นรวม (6) ยุทธศาสตร์ การปรับสมดลุ และพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการภาครัฐ มุ่งประโยชน์ส่วนรวมอย่างยั่งยืน ให้ความสําคัญกับการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนเพ่ือการพฒั นาใน ทุกระดับอยา่ งสมดุล มีเสถยี รภาพ และยั้งยนื 7.2 แนวทางการพัฒนาตามแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 12 (1) การยกระดบั ศกั ยภาพการแขง่ ขนั และการหลดุ พ้นกบั รายได้ปานกลางสรู่ ายได้สูง การ ส่งเสริมด้านการวิจัยและพฒั นา การพัฒนาผลิตภาพแรงงาน การส่งเสริมผู้ประกอบการที่เข้มแขง็ และ พาณิชยด์ จิ ิตอลการลงทนุ โครงสร้างพื้นฐาน การปรบั โครงสรา้ งการผลติ (2) การพฒั นาศักยภาพคนตามช่วงวยั และการปฏิรปู ระบบเพอ่ื สร้างสงั คมสงู วัยอย่างมีคุณภาการ พัฒนาศักยภาพคนในทุกช่วงวัยให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศการยกระดับคุณภาพการศึกษา และการเรียนรู้ให้มีคุณภาพเทา่ เทียมและทั่วถึงการพัฒนาด้านสุขภาพการสร้างสภาพแวดล้อมและ นวัตกรรมทเ่ี อ้อื ตอ่ การดาํ รงชพี ในสงั คมสูงวยั
16 (3) การลดความเหลอื่ มล้ําทางสังคม การยกระดบั รายไดแ้ ละสร้างโอกาสในการ ประกอบอาชีพ การจัดบริการทางสังคมให้ทุกคนตามสิทธิข้ันพื้นฐานและเน้นการสร้าง ภูมคิ ุ้มกนั ระดับปจั เจก การสร้างความเสมอภาคในการเขา้ ถงึ ทรพั ยากร (4) การรองรบั การเช่ือมโยงภูมภิ าคและความเปน็ เมือง (5) การสรา้ งความเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอยา่ งเปน็ มติ รกบั สิง่ แวดล้อม (6)การบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ทม่ี ีประสทิ ธิภาพ
17 ข้อมลู อาเภอจอมบึง อําเภอจอมบงึ เป็นอาํ เภอหนึ่งของจังหวดั ราชบุรี มเี นอ้ื ท่ี ประมาณ 776,019 ตารางกโิ ลเมตร แบ่งเปน็ 6 ตําบล จํานวน 89 หมบู่ ้าน ต้ังอยทู่ างทศิ ตะวันตกของจังหวัดราชบรุ ี ระยะทางหา่ งจากจงั หวัดราชบรุ ี ประมาณ 30 กโิ ลเมตร ประชากร 39,840 คน แยกเป็นชาย 19,476 และหญงิ 20,364 อาณาเขต อาณาเขตทต่ี ั้งสถานศกึ ษา : อําเภอจอมบึง มีอาณาเขตติดต่อกบั เขตการปกครองขา้ งเคียงดงั ตอ่ ไปนี้ ทิศเหนอื ติดกบั อําเภอโพธาราม จงั หวัดราชบุรี อาํ เภอทา่ มว่ ง และอําเภอด่านมะขามเตยี้ จังหวัดกาญจนบรุ ี ทศิ ใต้ ตดิ กับอําเภอเมืองราชบรุ ี อําเภอปากท่อ และอาํ เภอบา้ นคา จังหวัดราชบุรี ทิศตะวนั ออก ตดิ กบั อําเภอเมืองราชบรุ ี จังหวัดราชบุรี ทิศตะวันตก ตดิ กบั อําเภอจอมบงึ จงั หวดั ราชบุรี อําเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวดั กาญจนบรุ ี ภาพที่ 2 แผนทอี่ าเภอจอมบึง จงั หวัดราชบรุ ี ประวัติความเป็นมาของอาเภอจอมบงึ
18 อําเภอจอมบงึ เป็นอําเภอที่มีความสําคัญทางประวัติศาสตร์ ซ่ึงมีหลักฐานสามารถยืนยันได้ว่า เป็นสถานท่ที ค่ี นในสมัยก่อนประวัตศิ าสตรเ์ คยอยู่อาศัย จากการค้นพบหลักฐานเคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ ซึ่งมีอายุไม่ น้อยกว่า 4,000 ปี กระจัดกระจายอยู่โดยรอบทุ่งจอมบึง บนพ้ืนที่ราบ และบริเวณถ้ําตามภูเขา และใน เหตุการณส์ มัยไทยรบกบั พมา่ ตง้ั แตส่ มยั กรงุ ศรอี ยุธยา กรงุ ธนบุรี ถงึ ต้นกรงุ รัตนโกสินทร์ อําเภอจอมบงึ เปน็ เสมือนชายแดนเมืองราชบุรี เป็นเส้นทางการเดินทัพของพม่ามาโดยตลอด ซ่ึงปรากฏหลักฐานสําคัญท่ีเก่ียวเน่ือง เช่น ด่านทับตะโก เป็นต้น และอําเภอจอมบึง เป็นอําเภอที่ “พระพุทธเจ้าหลวง” หรือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ไดเ้ คยเสด็จพระพาสถงึ 2 ครัง้ คือ ครั้งที่ 1 ปีพ.ศ.2416 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 5 เสด็จประพาส ไทรโยค จงั หวดั กาญจนบรุ ี โดยผ่านมาทางเมืองราชบุรี มีชาวกระเหร่ียงจากบ้านจอมบึงมาเฝูารอรับเสด็จ ใกล้ กับบ้านเก่ากระเหรี่ยงเดิม ในเขตตําบลด่านทับตะโก ตามพระราชนิพนธ์โคลงนิราศกาญจนบุรี ที่พระองค์ทรง แต่งโดยใช้พระนามแฝงว่า “ท้าวสุภัติการภักดี (นาก)” ได้ผ่านท้องที่บ้านหนองบัวค่าย ด่านทับตะโกไปทางท่า ตะคร้อ ครั้งที่ 2 เม่ือวันท่ี 19-21 ธันวาคม พ.ศ.2438 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 5 เสด็จประพาสถ้ํามุจลินท์ ในเขากลางเมืองท้องท่ีตําบลจอมบึง ได้ทรงพระราชทานนามถ้ําใหม่ว่า “ถํา้ จอมพล” และทรงจารกึ พระบรมมหานามาภิไธย จปร. 114 เพ่ือเป็นอนุสรณ์ไว้หน้าถ้ําด้วย การเสด็จคร้ังน้ี ทรงมีพระราชดําริว่า ท้องท่ีอําเภอจอมบึง เป็นที่ราบ มีการทํานามากกว่าแห่งอ่ืน ประชาชนต้ังบ้านเรือนอยู่ หนาแน่นแต่กันดาร และอยู่ไกลจากตัวเมืองราชบุรีมาก การเดินทางให้เร็วต้องใช้การข่ีม้า ถ้าเดินเท้าต้องใช้ เวลารว่ มวนั จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้ต้ังขึ้นเป็นก่ิงอําเภอ โดยให้ชื่อว่า “จอมบึง” ตามชื่อพระราชทาน ให้ท้องบึง เมื่อครั้งเสด็จโดยทรงม้า พระที่นั่ง ไปทางสายเก่าบ้านวังมะเดื่อ เพื่อไปทอดพระเนตรบึงใหญ่ ซึ่ง พระองค์ทรงโปรดปรานในความงามของบึงมาก ทรงพระดํารัสช้าๆ ว่า \"นี้หรือบึง สวยงามดี ต่อไป จะเจริญ ตอ่ ไปนี้ให้เรยี กวา่ จอมบงึ \" และใหก้ ิ่งอาํ เภอจอมบงึ ขน้ึ กบั อาํ เภอเมอื งราชบุรี ในปี พ.ศ.2439 และท่ีทําการก่ิง อําเภอจอมบึง คร้ังแรกต้ังอยู่ที่บ้านเกาะริมบึง (ปัจจุบันคือ บริเวณโรงฆ่าสัตว์เทศบาลตําบลจอมบึง) คร้ังที่ 2 บรเิ วณเสาธงในสนามโรงเรียนบา้ นจอมบึง ครั้งที่ 3 คอื ท่ีวา่ การอาํ เภอจอมบงึ ในปจั จบุ นั ปี พ.ศ.2501 กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศยกฐานะ “ก่ิงอําเภอจอมบึง เป็น อําเภอจอมบึง” โดยมีนายประกติ พิณเจรญิ เป็นนายอาํ เภอคนแรก และใช้อาคารหลังเดมิ เรอื่ ยมา จนถึงปี พ.ศ.2518 วนั ท่ี 1 มิถุนายน พ.ศ. 2515 กระทรวงมหาดไทย เห็นว่าตําบลจอมบึง มีพ้ืนที่กว้างขวาง เต็มไป ดว้ ยภเู ขา และปุาไม้ ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวกระเหรี่ยงถึง 16 หมู่บ้าน เกรงว่าจะปกครองดูแลไม่ท่ัวถึง จึง ได้ประกาศแต่งต้ัง และแยกเปน็ ตาํ บลใหม่อกี 2 ตําบล คอื ตาํ บลปุาหวาย และตาํ บลบา้ นบึง วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2517 กระทรวงมหาดไทย ได้อนุมัติให้ แบ่งท้องที่ตําบลจอมบึง ตําบลปุา หวาย และตาํ บลบ้านบึง ออกเปน็ กิ่งอาํ เภอจอมบึง (แยกออกจากอาํ เภอจอมบงึ ) นอกจากการเสด็จพระพาสของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระปิยมหาราช) รัชกาลท่ี 5 แล้ว ในสมัยของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (สมเด็จพระภัทรมหาราช) รชั กาลท่ี 9 ไดเ้ สด็จในเขตพืน้ ทีอ่ ําเภอจอมบงึ ดังน้ี
19 วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จประพาสถ้ําจอมพล ได้ทรงจารึกพระ ปรมาภไิ ธยย่อ ท่ีหน้าถ้าํ จอมพล ว่า “ภปร. 1 มิ.ย.99 “ ท้ังสามพระองค์ได้ทรงปลูก ต้นสัก ต้นกัลปพฤกษ์ และ ต้นนนทรี ไว้เป็นท่ีระลึก ณ สว นรุกขชาติ บริเว ณหน้าถํ้าจอมพล พ ร้อมโ ป รดให้ร าษฎ รได้ เฝูาทูลละอองธุลพี ระบาทอยา่ งใกล้ชดิ วันที่ 21 กรกฎาคม 2520 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมงกุฎราชกุมาร เสด็จวางศิลาฤกษ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง และเสด็จประพาสถํ้าจอมพล และทรงเสด็จเปิดปูายโรงพยาบาลสมเด็จ พระยุพราชจอมบึง เมอ่ื วันท่ี 29 กันยายน 2521 วันที่ 28 สิงหาคม 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดําเนินวัดถํ้าสิงโตทอง ตําบลปากช่อง อําเภอจอมบึง ทรงประกอบพิธี “พระ บรมสารีริกธาตุ ยกฉัตรพระประธาน ตัดลูกนิมิต ฉลองรูปเหมือนพระราชสังวราภิมมฑ์ (หลวงปุูโต๊ะ) และพิธี พุทธาภิกเษกพระพุทธรูป พระพุทธสิริกิตติพิพัฒน์ และสมเด็จนางพญา สก.ฯ หน้าบันพระอุโบสถ วัดถ้ําสิงโต ทอง” เพ่ือเป็นการเทิดพระเกียรติ และน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลท่ี 5 แห่งราชวงศ์จักรี ที่มีต่อพสกนิกรชาวจอมบึงเป็นการส่วนพระองค์ จากการ เสด็จประพาสถ้ําจอมพล เขากลางเมือง อําเภอจอมบึง ชาวอําเภอจอมบึงได้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ องค์ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัว รชั กาลท่ี 5 ณ บรเิ วณหนา้ ที่ว่าการอําเภอจอมบึง ให้ทรงสถิตเป็นมิ่ง ขวญั พระบารมี ปกเกลา้ ฯ คกู่ ับชาวอาํ เภอจอมบึงสบื ไป ลกั ษณะภมู ิประเทศ ท่ีราบลุ่มทุ่งนาและหนองนํ้า พบอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตําบล ปากช่อง ใจกลางของตําบลจอมบึง ตอนใต้ของตําบลเพิกไพร ตอนเหนือของตําบลรางบัวและทางตอนกลาง ด้านทิศตะวันออกของตําบลด่านทับตะโก พื้นที่เหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ปลูกข้าว พ้ืนท่ีเป็นที่ดินทรายและดิน ลกู รงั พบในดา้ นทศิ ตะวนั ตกเฉยี งเหนือและทิศตะวันตกของตําบลปากช่อง ด้านเหนือและด้านตะวันออกของ ตําบล จอมบึง ตามแนวกลางจากด้านทิศตะวันออกโค้งไปถึงด้านตะวันตกของตําบลรางบัว พื้นที่ เหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้ปลูกมันสําปะหลังพ้ืนท่ีดินร่วนปนทรายและดินดํา พบในด้านทิศใต้ของตําบลปาก ช่อง สองฝ่งั ลาํ นํ้าภาชีในตําบลด่านทับตะโกและตําบลแก้มอ้น พ้ืนที่เหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ปลูกอ้อย พืชไร่ และ พชื ผักสวนครัว โดยเฉพาะตําบลด่านทับตะโกและตําบลแก้มอ้น จะปลูกพืชผักสวนครัวและพืชไร่มากท่ีสุดใน อําเภอพื่นท่ีภูเขา พบมากในตอนใต้ของตําบลรางบัว ด้านทิศตะวันตกของตําบลด่านทับตะโกและตําบลแก้ม อ้น ตามแนวเส้นแบ่งเขตตําบลและอําเภอ และยังพบภูเขาขนาดเล็กอยู่ในทุกพ้ืนท่ีของตําบลอื่นๆ ด้วย พื้นท่ี เหล่าน้ีส่วนใหญ่จะเป็นปาุ ไม้
20 สภาพภมู ศิ าสตร์ อําเภอจอมบึง มีพ้ืนท่ีประมาณ 776.019 ตารางกิโลเมตร หรือ 485,000 ไร่ พื้นท่ีส่วนใหญ่ เปน็ ทร่ี าบสงู สลบั เทอื กเขา สภาพดนิ เป็นดินรว่ นปนทราย คอ่ นข้างอุดมสมบรู ณ์ สภาพปุาไม้และภูเขาส่วนใหญ่ เป็นปาุ โปร่ง ประกอบดว้ ยไมย้ าง ไม้รงั ไมป้ ระดู่ ไมเ้ ต็ง และปาุ ไม้เบญจพรรณ มีหินแกรนิต และหินปูน มีแหล่ง น้ําทีส่ ําคญั 2 สาย คอื 1. ลํานํ้าภาชี ต้นน้ําเกิดจากเทือกเขาตะนาวศรี ไหลมาจากต้นนํ้าที่อําเภอจอมบึง ผ่านตําบล ด่านทับตะโก และตําบลแก้มอ้น และไหลมาบรรจบรวมกับลํานํ้าแควน้อย อําเภอเมืองกาญจนบุรี ความยาว ประมาณ 75 กิโลเมตร มีน้ําตลอดท้ังปี แตใ่ นฤดูแล้งน้ํามคี ่อนข้างนอ้ ย 2. ลํานํ้าห้วยท่าช้าง ต้นนํ้าเกิดจากเทือกเขาสน ในเขตตําบลรางบัว ไหลผ่านตําบลจอมบึง ตาํ บลเบิกไพร ตําบลดา่ นทบั ตะโก ไหลลงสูล่ ําน้ําภาชีท่ีตําบลแก้มอ้น มคี วามยาวประมาณ 30 กิโลเมตร ลักษณะภูมิอากาศ มี 3 ฤดู ดังน้ี - ฤดฝู น มีฝนตกค่อนข้างนอ้ ย ประมาณเดอื นพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม เนื่องจากมีเทือกเขา ตะนาวศรีกั้นอยู่ จึงทําให้ไม่สามารถรับลมมรสุมจากมหาสมุทรอินเดียได้เต็มที่ ปริมาณนํ้าฝนเฉล่ีย ประมาณ 120 มลิ ลเิ มตรตอ่ ปี - ฤดูร้อน อากาศจะร้อนและแห้งแล้ง เริ่มต้ังแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน จึงประสบ กับปญั หาการขาดแคลนน้ําเพ่ือการเกษตร และอปุ โภค-บริโภคตลอดมา - ฤดูหนาว อากาศค่อนข้างเย็น เร่ิมต้ังแต่เดือนธันวาคม ถึงเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉล่ีย ประมาณ 13 – 14 องศาเซลเซียส การปกครอง การปกครองส่วนภมู ิภาค อาํ เภอจอมบึงแบง่ พื้นทก่ี ารปกครองออกเปน็ 6 ตาํ บล 90 หมูบ่ า้ น 1. จอมบงึ (Chom Bueng) 13 หมู่บ้าน 2. ปากช่อง (Pak Chong) 16 หมบู่ า้ น 3. เบกิ ไพร (Boek Phrai) 11 หม่บู ้าน 4. ด่านทบั ตะโก (Dan Thap Tako) 20 หมบู่ า้ น 5. แกม้ อน้ (Kaem On) 15 หมู่บา้ น 6. รางบวั (Rang Bua) 15 หมู่บ้าน
21 การปกครองส่วนทอ้ งถิน่ 1. เทศบาลตาํ บลจอมบึง ครอบคลมุ พืน้ ท่ีบางสว่ นของตาํ บลจอมบึง 2. เทศบาลตาํ บลด่านทบั ตะโก ครอบคลุมพนื้ ทีบ่ างสว่ นของตําบลดา่ นทบั ตะโก 3. องค์การบริหารสว่ นตาํ บลจอมบึง ครอบคลุมพน้ื ท่เี ฉพาะนอกเขตเทศบาลตําบลจอมบงึ 4. องค์การบริหารส่วนตําบลปากช่อง ครอบคลมุ พ้นื ทต่ี ําบลปากชอ่ งทั้งตาํ บล 5. องค์การบรหิ ารสว่ นตําบลเบิกไพร ครอบคลมุ พน้ื ท่ีตาํ บลเบิกไพรทง้ั ตําบล 6. องค์การบรหิ ารส่วนตาํ บลด่านทบั ตะโก ครอบคลุมพนื้ ที่นอกเขตเทศบาลตําบลด่านทับตะโก 7. องค์การบริหารสว่ นตาํ บลแก้มอ้น ครอบคลุมพื้นทีต่ ําบลแก้มอน้ ทง้ั ตําบล 8. องค์การบริหารสว่ นตาํ บลรางบวั ครอบคลมุ พนื้ ท่ีตาํ บลรางบวั ทงั้ ตําบล ขอ้ มูลด้านสังคม ขอ้ มูลประชากร อําเภอจอมบงึ มปี ระชากรรวมท้งั ส้ิน 39,840 คน แยกเป็นประชากรชาย 19,476 คน และ ประชากรหญิง จํานวน 20,364 คน รายละเอยี ดดังน้ี ตาบล จานวน จานวน จานวน จานวนประชากรรวม ครัวเรือน ประชากรชาย ประชากรหญิง ตาํ บลจอมบึง 1,575 2,676 2,802 5,478 ตําบลปากช่อง 1,963 3,026 3,302 6,328 ตาํ บลเบกิ ไพร 1,126 1,896 1,984 3,880 ตาํ บลดา่ นทับตะโก 2,047 3,491 3,666 7,157 ตําบลแก้มอน้ 2,376 3,763 3,713 7,476 ตาํ บลรางบวั 2,000 3,221 3,313 6,534 เทศบาลตําบลจอมบึง 524 758 866 1,624 เทศบาลตาํ บลด่านทบั ตะโก 504 645 718 1,363 12,115 19,476 20,364 39,840 รวม ขอ้ มูล ณ เดือน ตลุ าคม 2561 ระบบสถติ ทิ างการทะเบยี น กรมการปกครอง กระทรวง มหาดไทย
22 สภาพเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ ประชากรสว่ นใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ไดแ้ ก่ ทํานา ปลูกพืชไร่ ปลูกพืชผัก ปลูกไม้ผล และไม้ยืนต้น โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของอําเภอจอมบึง มีการทําการเกษตรประมาร 360,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 76.44 ของพ้นื ทที่ ้งั หมด ลกั ษณะทางเศรษฐกิจโครงสรา้ งทางเศรษฐกิจของประชาชนตามลักษณะเดิมของประชาชนใน ชุมชนสว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกรรมเป็นหลักกล่าวคือประชาชนส่วนมากประกอบอาชีพ เกษตรกรรมถึง รอ้ ยละ80รองลงมาคือคา้ ขายและข้าราชการซึง่ ประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรรม เพราะสภาพพ้ืนที่มีความ เหมาะสมและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นท่ีมีการทําไร่มันสําปะหลังอ้อยนอกจาก การประกอบอาชีพ เกษตรกรรมแล้วการค้าขายของเบ็ดเตล็ดร้านอาหารและหอพักก็จัดเป็นรายได้ที่ สําคัญของประชาชนทั้งนี้ อําเภอจอมบึงมีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงซ่ึงกลุ่ม นักศึกษาและข้าราชการของมหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึงจัดอยู่ในกลุ่มของผู้มีกําลังซ้ือและช่วย กระจายรายได้ให้แก่ชุมชน เช่น หอพัก ร้านอาหาร ร้าน เคร่อื งเขยี น เปน็ ตน้ ธนาคารพาณิชย์ มีจานวน 6 แห่ง 1. ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์ สาขาจอมบงึ 2. ธนาคารกรุงไทยจาํ กัด (มหาชน) สาขาจอมบึง 3. ธนาคารออมสนิ สาขาจอมบึง 4. ธนาคารกรงุ เทพ จํากัด 5. ธนาคารไทยพานชิ ย์ 6. ธนาคารกสกิ รไทย ดา้ นวฒั นธรรม มจี าํ นวน 6 แหง่ 1. สํานกั งานวฒั นธรรมอาํ เภอจอมบึง ตัง้ อยู่ที่ โรงเรียนคุรุราษฎรร์ ังสฤษฎ์ อาํ เภอจอมบึง จงั หวัดราชบุรี โทรศพั ท์: 032- 261390 กจิ กรรมท่ดี าเนนิ การ แสดงนทิ รรศการวฒั นธรรมของอําเภอจอมบึง และเป็นแหล่งเรยี นรู้ทางการศกึ ษา 2. ศนู ย์บรู ณาการวฒั นธรรมไทยสายใยชุมชนตําบลรางบัว ตงั้ อยู่ที่ วัดรางบัว ตาํ บลรางบวั อาํ เภอจอมบงึ จังหวดั ราชบรุ ี โทรศพั ท์: 032- 228272 กจิ กรรมทด่ี าเนินการ 1. เป็นศนู ยจ์ ัดแสดงวตั ถุโบราณ และส่งิ ของตา่ ง ๆในสมยั อดตี ปจั จบุ นั 2. เป็นศนู ยศ์ ึกษาข้อมลู ทางประวัตศิ าสตร์ วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาของท้องถิ่น 3. ศูนยศ์ ิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นราชบรุ ี
23 ตั้งอยู่ที่ สํานกั งานศลิ ปวฒั นธรรม มหาวิทยาลัยราชภฏั หมบู่ า้ นจอมบึง อําเภอจอมบงึ จังหวัดราชบรุ ี โทรศัพท:์ 032- 261790 ต่อ 1600 กิจกรรมท่ีดาเนินการ 1. จัดแสดงนิทรรศการเกีย่ วกับเร่อื งราวของ อําเภอจอมบงึ การก่อตั้งมหาวิทยาลัย – ราชภัฎหมู่บ้าน จอมบึง อดีต-ปจั จุบัน 2. เปน็ ศูนยค์ น้ คว้าข้อมลู ประวตั ิศาสตร์ วฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญา 3. การแสดงของชนเผา่ ตา่ ง ๆ 4. พิพิธภัณฑ์วดั จอมบงึ ตง้ั อยู่ที่ วดั จอมบึง หมู่ ๓ ตําบลจอมบงึ อําเภอจอมบึง จังหวดั ราชบุรี โทรศพั ท์ : 032 - 261436 กิจกรรมท่ีดาเนนิ การ เป็นพพิ ธิ ภัณฑท์ ีร่ วบรวมเกบ็ รักษาวัตถโุ บราณ และสิง่ ของต่าง ๆ ในสมยั ก่อน ประวตั ิศาสตร์ ปัจจุบนั 5. ศูนยว์ ัฒนธรรมจงั หวัดราชบรุ ี ตั้งอยู่ท่ี มหาวิทยาลยั ราชภัฏหมบู่ ้านจอมบึง อําเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี โทรศพั ท์: 032 - 261780 กิจกรรมทดี่ าเนินการ 1. จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเรือ่ งราวของ อาํ เภอจอมบงึ การก่อตั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏหม่บู า้ นจอม บงึ อดตี -ปจั จุบัน 2. เปน็ ศูนยค์ น้ ควา้ ข้อมูลประวัติศาสตร์ วฒั นธรรม ภูมิปัญญา 3. การแสดงของชนเผา่ ตา่ ง ๆ 6. พิพธิ ภัณฑ์ไทยทรงดาํ ตั้งอยู่ที่ โรงเรียนบ้านวงั ปลา ตาํ บลแก้มอ้น อําเภอจอมบึง จงั หวัดราชบรุ ี โทรศพั ท:์ 032 - 316326 กิจกรรมที่ดาเนินการ 1. จัดแสดงนิทรรศการเกย่ี วกับวถิ ชี วี ิตของชนเผ่าไทยทรงดําในตาํ บลแก้มอน้ อําเภอจอมบงึ 2. การแสดงเคร่ืองใช้สอยในชีวิตประจาํ วัน ของชนเผ่าไทยทรงดาํ ดา้ นศิลปวฒั นธรรม และประเพณี อําเภอจอมบึงประกอบด้วยคนหลายชาติพันธุ์จํานวน 8 เผ่า ดังน้ี ชาวไทยพื้นถิ่น ชาวไทยจีน ชาวไทยยวน ชาวไทยมอญ ชาวไทยเขมร ชาวลาวเวียงราชบุรี ชาวไททรงดํา (โซ่ง) ชาวไทยเช้ือสายจีน ซง่ึ มศี ิลปวัฒนธรรมที่สาํ คญั เชน่ - ประเพณสี งกรานต์ - ประเพณีลอยกระทง - ประเพณีแหเ่ ทียนจํานําพรรษา - ประเพณเี น่ืองในวันสาํ คัญต่าง ๆ
24 ประเพณี - วง่ิ มินิมาราธอน และจอมบึงเสือภูเขา สถานทจ่ี ดั บรเิ วณมหาวิทยาลัยราชภฎั หมูบ่ ้านจอมบึง สอบถามเพมิ่ เตมิ มหาวิทยาลัยราชภัฎหมบู่ า้ นจอมบึง - งานประกวดกล้วยไม้ ในงาน \"เดิน-วงิ่ ขีจ่ กั รยาน ชมกล้วยไม้งาม ราชบุรศี รจี อมบึง ประจาํ ภาคตะวันตก ครั้งที่ 1\" ในงานจอมบึงมาราธอน ประจาํ ปี ณ อาคารหอประชุมใหม่ มรภ.หมบู่ ้านจอมบงึ จ.ราชบุรี รายละเอยี ด โทร.0-3226-1790 ต่อ 3132 - เทศกาลปนี เขาเข้าถา้ํ จอมพล อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี พบกจิ กรรมยอ้ นรอยประพาสต้น รชั กาลที่ 5 การแข่งขนั ปีนเขาเขา้ ถา้ํ จอมพล การแสดงของสาํ นกั ศลิ ปะและวฒั นธรรม มรภ.หมบู่ า้ นจอมบึง การละเล่นพน้ื บ้าน มวย ลิเก ภาพยนตร์ สวนสนุก รําวงย้อนยคุ สนิ ค้าราคาถูกจากโรงงาน สนิ คา้ OTOP พืช พันธไ์ ม้ดอกไม้ประดบั และมหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ทุกคืน - งานประจาํ ปีศาลเจ้าแม่เบิกไพร (เจ้าแมเ่ ทยี วโหวเซีย้ บ้อ) วันจดั งาน กุมพาพนั ธ์-มีนาคม สถานทจี่ ัดงาน ลานเอนกประสงค์ริมเข่ือน หนา้ ศาลเจา้ แมเ่ บกิ ไพร กิจกรรมเด่นทีน่ ่าสนใจ อญั เชิญองคเ์ จา้ แม่ แหร่ อบตลาดบา้ นโปุง ทําพทิ ้ิงกระจาด มหรสพ การแสดง การออกร้าค้า การจําหน่ายสินคา้ ราคาถกู สอบถาม ขอ้ มูลเพมิ่ เติม ต.เบิกไพร โทร.0-3234-4381 - งานเทดิ พระเกียรตริ ชั กาลที่ 5 และสืบสานประเพณแี ละของดีจอมบงึ วนั จัดงาน 19-21 ธันวาคม สถานท่จี ดั งาน โดยรอบทวี่ า่ การ อ.จอมบึง กจิ กรรมเดน่ ที่น่าสนใจ พธิ บี วงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ และกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลท่ี 5 การแสดงศิลปวัฒนธรรม ดนตรี การแสดงทางวิชาการ ประกวดธิดาผ้าจกรางบัว กิจกรรมกีฬาพ้ืนบ้าน ประกวดรํากลองยาว ส้มตําลีลา เลี้ยงโต๊ะจีนลงิ สอบถามเพิม่ เติม ที่ว่าการ อ.จอมบึง โทร. 0-3226-1133 สภาพทางสงั คมและวัฒนธรรมส่งิ สาคัญและส่ิงโดดเด่นในชมุ ชน อําเภอจอมบงึ มีแหลง่ ท่องเทยี่ วทส่ี าํ คญั คอื 1) ถ้ําจอมพล อยทู่ ่เี ขาจอมพล ติดกับมหาวิทยาลยั ราชภฎั หมบู่ า้ นจอมบึง 2) สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีภาคกลาง ตัง้ อยู่เชิงเขาประทับชา้ ง หมูท่ ่ี 1 ตาํ บลปากช่อง อาํ เภอจอมบงึ 3) สวนสตั ว์เปิดเขาประทับช้าง ต้ังอยู่เชิงเขาประทับช้าง หมู่ที่ 1 ตําบลปากช่อง อําเภอจอม บงึ เปน็ ศนู ยเ์ พาะเลย้ี งสตั วป์ าุ เปิดให้เท่ียวชมตัง้ แต่เวลา 8.00 – 16.00 น. ทกุ วัน 4) ศูนย์ทอผา้ ซ่ินตนี จก (สนิ ค้า OTOP) ศิลปะการทอผ้า ไดร้ บั การถ่ายทอดภมู ปิ ัญญาจาก บรรพบรุ ุษทส่ี ืบเช้ือสายไท-ยวน (เชยี งแสนเดิม) ที่มีฝีมือละเอยี ดประณีต ลวดลายงดงามมาก 5) รอยพระพุทธบาททองคํา สาํ นกั ปฏิบตั ิธรรมสวนแกว้ หม่ทู ่ี 1 ตําบลปากช่อง เปน็ รอย พระพุทธบาทจําลอง ขนาดยาว 88 ซม. กว้าง 40 ซม. หนา 2 ซม. ประดษิ ฐานอยู่ในบอ่ นา้ํ พระพทุ ธมนต์ ขนาดกว้างและยาว 170 ซม. 6) วัดถํา้ สิงโตทอง ตง้ั อยู่หมทู่ ี่ 11 ตาํ บลปากช่อง ก่อตั้งโดยพระราชสงั วราภิมนต์ (หลวงปุู โต๊ะ อินทสวุ รรโณ) อดีตเจ้าอาวาสวดั ประดู่ฉิมพลี เม่ือ พ.ศ. 2510 7) ทะเลสาบนา้ํ จดื (บึงจอมบงึ )
25 8) ถ้าํ เขาทะลุ ตง้ั อยู่ บ้านหนองบัวค่าย หมทู่ ี่ ๒ ตาํ บลรางบวั เป็นถา้ํ ท่ีมีความสวยงามมาก แต่ยงั ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เพราะการเดินทางเข้าชมภายในถํา้ ยังไมส่ ะดวกต้องใช้วิธไี ต่เชอื กข้ึนลงอาจเปน็ อนั ตรายสําหรบั ผู้เข้าชม 9) วดั เขากลางตลาด ต้ังอยู่ หมทู่ ี่ ๓ ตําบลจอมบงึ เปรยี บเสมอื นเกาะท่ีมที ุง่ นาล้อมรอบ รม่ รื่น มถี นนใหร้ ถวิ่งวนรอบเขา เป็นสถานทพี่ ักผ่อนหย่อนใจที่ดี 10) วดั ปาุ ภาวนาวเิ วก ตง้ั อยู่ท่ีบา้ นหนองเต่าดํา หมู่ที่ ๑๓ ตาํ บลรางบวั เป็นสถานที่ปฏิบตั ิ ธรรม ที่มีความเงียบสงบ รม่ รืน่ สวยงาม เหมาะสาํ หรับการปฏบิ ตั ธิ รรมและพักผ่อนหย่อนใจ
26 ข้อมูลสถานศึกษา สภาพทัว่ ไป 1. ช่ือสถานศึกษา ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาํ เภอจอมบงึ 2. ทอ่ี ยู่ ตง้ั อย่เู ลขท่ี 67 หมู่ 3 ตําบลจอมบงึ อําเภอจอมบึง จังหวดั ราชบุรี รหัสไปรษณยี ์ 70150 เบอรโ์ ทรศัพท์ :032-261949เบอร์โทรสาร : 032-261949 E-mail ตดิ ตอ่ : [email protected] 3. สังกัด สาํ นกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจังหวัดราชบรุ ี สํานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั 4. ประวตั ิความเป็นมาของสถานศกึ ษา 4.1 ประวัตสิ ถานศกึ ษา ประวัติสถานศึกษา : กศน.อําเภอจอมบึง เร่ิมจัดตั้งครั้งแรกเป็นโรงเรียนฝึกฝนอาชีพเคลื่อนที่ เม่ือ วันที่ 1 พฤษภาคม 2518 สงั กัดกองการศึกษาผู้ใหญ่ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนช่างยนต์ ชา่ งพิมพ์ดดี ชา่ งตดั เส้อื ชา่ งเสริมสวย มนี ายประยนต์ ทรพั ยเ์ จริญ เป็นหัวหน้าสาขา จนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2520 ได้จัดตั้งเป็นศูนย์การศึกษาประชาชนจังหวัดราชบุรี สังกัดกองการศึกษาผู้ใหญ่ เม่ือวันที่ 24 มีนาคม 2522 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศจัดต้ังกรมการศึกษานอกโรงเรียน และประกาศจัดตั้งศูนย์ประสานงา น การศึกษานอกโรงเรียนอําเภอ โดยว่าที่ ร.ต.เกษม ศรีวัง ทําหน้าท่ีผู้ประสานงานการศึกษานอกโรงเรียน อําเภอ ดําเนินการจัดการศึกษานอกโรงเรียนตามพันธกิจของกรมการศึกษานอกโรงเรียน จนถึงวันท่ี 27 สิงหาคม 2536 กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้ประกาศจัดต้ังศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอําเภอทั่ว ประเทศ ตามนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดราชบุรี จึงได้แต่งตั้งให้ นาย เสรี วงศ์แก้ว ทําหน้าท่ีหัวหน้าศูนย์และได้ประสานงานขอใช้สถานท่ีอาคารเดิมของโรงเรียนครุราษฎร์รังสฤษ เป็นที่ตั้งสํานักงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2537 และได้ดําเนินงานจัดการศึกษานอกโรงเรียนตามพันธกิจของ กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี นเป็นตน้ มา ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 ได้ ประกาศจัดตง้ั สํานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สังกัดสํานักงานปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอําเภอจอมบึงจึงเปล่ียนชื่อตาม พรบ.ดังกล่าวเป็นศูนย์ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาํ เภอจอมบงึ
27 บคุ ลากร กศน.อาเภอจอมบึง ลาดบั ท่ี ชือ่ – สกลุ ตาแหนง่ วุฒกิ ารศกึ ษา ผอ.กศน.อาํ เภอจอมบงึ ปรญิ ญาโท 1 นายนพรตั น์ แจ้งหมน่ื ไวย์ ครชู ํานาญการพิเศษ ปรญิ ญาตรี ครผู ู้ช่วย ป.บัณฑิต 2 นางกัณฐมณี แกว้ เกดิ ครูอาสาสมคั รฯ ปริญญาตรี ครอู าสาสมัครฯ ปริญญาตรี 3 นางศนั สุนีย์ ศรีพหมทอง ครอู าสาสมัครฯ ปริญญาตรี ครอู าสาสมัครฯ ปรญิ ญาตรี 4 นางสาวสําเนียง บุตรนํา้ เพชร ครอู าสาสมคั รฯ ปริญญาตรี ครู กศน.ตาํ บลจอมบึง ป.บัณฑติ 5 นายกาํ จดั เสยี งเพราะ ครู กศน.ตําบลปากช่อง ปริญญาตรี ครู กศน.ตาํ บลเบิกไพร ปริญญาตรี 6 นายชาติชาย ดวงแกว้ ครู กศน.ตาํ บลดา่ นทับตะโก ปรญิ ญาตรี ครู กศน.ตาํ บลแกม้ อน้ ปรญิ ญาตรี 7 นางวิภา สอนผิว ครู กศน.ตําบลรางบวั ปรญิ ญาตรี บรรณารักษอ์ ัตราจา้ ง ปรญิ ญาตรี 8 นายสวุ รรณ ทองนอ้ ย ครผู ู้สอนคนพิการ ปริญญาตรี เจา้ หน้าท่ีบนั ทกึ ขอ้ มลู ปรญิ ญาตรี 9 นางวารุณี จนั ทร์โตศรี พนักงานบรกิ าร มธั ยมศึกษาตอนปลาย 10 นางสาวรุ่งขวัญ อยดู่ ี 11 นายบญุ จง กจิ พร้อมผล 12 นางมณั ฑนา นิลอร่าม 13 นางสาวสมจติ ประเสรฐิ ขจรสขุ 14 นางสาวเพลนิ พิศ ศลิ ปชยั 15 นางสาวสุนิษา จีนแส 16 นางพกิ ลุ ทอง แสงเทศ 17 นางสาวกญั ญาภทั ร ดอนมะไพร 18 นางสาวสายชล คร้ามวงษ์ คณะกรรมการสถานศกึ ษา ประธานกรรมการ 1. นายสุชิน ประพันธ์พจน์ กรรมการ 2. นายเกรยี งศกั ดิ์ รบั ศริ ิ กรรมการ 3. นายสมศกั ดิ์ คงละออ กรรมการ 4. นางสาวศริ ลิ ักษณ์ ตนั งามตรง กรรมการ 5. พระปลัดณรงคศ์ ักด์ิ ปภากโร กรรมการ 6. นายสมหวัง สขุ พ่วง กรรมการ 7. นายสมพร อนิ ทรส์ าลี กรรมการ 8. นายชัยวฒั น์ ทองจนี กรรมการ 9. นายนพรตั น์ แจง้ หมื่นไวย์ กรรมการและผูช้ ว่ ยเลขานุการ 10. นางกัณฐมณี แกว้ เกดิ
28 แหลง่ เรยี นร้ทู ่ีสาคัญในชุมชน ช่ือแหล่งเรยี นรู้ ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ ท่ีต้ัง สวนพฤกษศาสตรว์ รรณคดีภาคกลาง สถานที่ หมทู่ ี่ 1 ต.ปากช่อง อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี สวนสตั ว์เปิดเขาประทับชา้ ง สถานท่ี หมู่ท่ี 1 ต.ปากช่อง อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี สถานเี พาะเลยี้ งสตั วป์ ุาเขาประทับช้าง สถานท่ี หมูท่ ี่ 1 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี ศนู ยศ์ ึกษาและพัฒนาวนศาสตร์ สถานท่ี / บุคคล หมู่ท่ี 1 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี ชุมชนที่ 10 กลุม่ สาธติ ทดลองพันธุข์ า้ วไม่ไวแสง บุคคล หมทู่ ่ี 3 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย บคุ คล หมทู่ ี่ 4 ต.ปากช่อง อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ตาํ บลปากชอ่ ง ถาํ้ วดั เขาปน่ิ ทอง สถานท่ี หม่ทู ่ี 6 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้าน บุคคล หมทู่ ่ี 8 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง หนองไผ่ จ.ราชบุรี กลุ่มผลติ ภณั ฑ์จากเสน้ พลาสติก บคุ คล หมู่ที่ 8 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กลุ่มพริกแกง บคุ คล หมู่ท่ี 9 ต.ปากช่อง อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ธนาคารหมบู่ า้ นห้วยยาง บุคคล หมู่ที่ 9 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี ศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชนบา้ นหว้ ยยาง บคุ คล หมทู่ ่ี 9 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี หมู่บา้ นเศรษฐกจิ พอเพียงบ้านหว้ ยยาง บุคคล หมู่ท่ี 9 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี วัดถ้าํ สิงโตทอง สถานที่ หมทู่ ี่ 11 ต.ปากช่อง อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี สาํ นกั ปฏิบตั ธิ รรมสวนแกว้ สถานที่ หมู่ท่ี 11 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี ศูนยเ์ รียนรเู้ ศรษฐกิจพอเพียง กลุ่ม หมู่ที่ 2 ต.รางบัว อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ศูนย์เพาะพันธส์ ัตว์ปุาเขาสน หนว่ ยงาน หมูท่ ่ี 1 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี ศูนยส์ ายใยวฒั นธรรมชุมชน โบราณสถาน หมูท่ ี่ 1 ต.รางบวั อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ศนู ยท์ อผา้ จกรางบวั กล่มุ อาชีพ หมูท่ ่ี 1 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี สถานปฏิบตั ธิ รรมวดั ปาุ ภาวนาวิเวก โบราณสถาน หมู่ท่ี 13 ต.รางบวั อ.จอมบึง จ.ราชบุรี แหลง่ เรยี นรปู้ รัชญาเศรษฐกิจ กล่มุ หมทู่ ่ี 14 ต.รางบวั อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี พอเพยี งบา้ นหนองนํา้ ใส ถา้ํ เขาทะลุ โบราณสถาน หมู่ที่ 2 ต.รางบัว อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี กลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชนกล่มุ เหด็ หูหนู กลมุ่ วิสาหกิจ หมู่ท่ี 15 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี วดั รางเฆ่ สถานที่ หมทู่ ่ี 4 ต.แก้มอน้ อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี วัดหนองปากชฏั สถานที่ หมทู่ ่ี 6 ต.แกม้ อ้น อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี วัดแกม้ อน้ สถานท่ี หมู่ที่ 3 ต.แกม้ อ้น อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี วัดเขาแดน สถานที่ หมทู่ ี่ 12 ต.แก้มอน้ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี วัดโปุงกก สถานท่ี หมทู่ ่ี 11 ต.แกม้ อน้ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
29 ชือ่ แหล่งเรยี นรู้ ประเภทแหล่งเรียนรู้ ทต่ี ้ัง วัดทงุ่ แฝก วดั วังปลา สถานที่ หมู่ที่ 1 ต.แกม้ อ้น อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี สาํ นกั สงฆพ์ ุตะเคียน สํานักสงฆ์ถน่ิ กาขาว สถานที่ หมู่ที่ 5 ต.แก้มอน้ อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี สํานกั สงฆ์เขารัง ศูนยเ์ รียนรู้ ICT ชุมชน สถานที่ หมทู่ ่ี 8 ต.แกม้ อน้ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ศูนยไ์ ทยทรงดาํ ศนู ยเ์ รียนรู้เศรษฐกจิ พอเพียง สถานที่ หมทู่ ี่ 11 ต.แกม้ อน้ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี วดั นยิ มธรรมาราม วดั ท่งุ กระถิ่น สถานท่ี หมทู่ ่ี 5 ต.แกม้ อ้น อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี วดั โกรกสิงขร วัดหนองสนี วล สถานที่ หมทู่ ่ี 5 ต.แก้มอน้ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี วดั บางซือ่ พรหมนิมติ ร วัดหุบพริก สถานที่ หมทู่ ่ี 5 ต.แก้มอ้น อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี สาํ นกั สงฆอ์ นุรกั ษป์ ุาไม้ สาํ นกั สงฆห์ ว้ ยท่าชา้ ง สถานท่ี / บคุ คล หมู่ที่ 3 ต.แก้มอ้น อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี สาํ นกั สงฆ์เขานอ้ ยบุญทวี กลมุ่ สตรดี า้ นอาชีพตัดเยบ็ เสื้อผ้า โบราณสถาน หมทู่ ี่ 1 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี กลุ่มผลติ และจาํ หน่ายพืชสมุนไพร ตาํ บลด่านทับตะโก โบราณสถาน หมู่ที่ 3 ต.ด่านทบั ตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี กลุ่มสตรีผลติ ขนม ธูปหอมสมนุ ไพร ตราหงสท์ อง โบราณสถาน หมู่ที่ 8 ต.ดา่ นทบั ตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี กลุ่มแปรรูปผลิตภณั ฑ์หญ้าแฝก โบราณสถาน หมู่ที่ 5 ต.ดา่ นทบั ตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โบราณสถาน หมู่ที่ 16 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โบราณสถาน หมู่ที่ 6 ต.ดา่ นทบั ตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โบราณสถาน หมทู่ ี่ 13 ต.ดา่ นทบั ตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โบราณสถาน หมทู่ ่ี 4 ต.ดา่ นทบั ตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี โบราณสถาน หมทู่ ่ี 11 ต.ดา่ นทับตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี วสิ าหกิจชุมชน หมู่ที่ 1 ต.ดา่ นทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี วิสาหกิจชมุ ชน หมทู่ ่ี 13 ต.ดา่ นทบั ตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี วสิ าหกจิ ชุมชน หมทู่ ่ี 17 ต.ดา่ นทบั ตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี วิสาหกจิ ชุมชน หมทู่ ่ี 7 ต.ด่านทบั ตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี วสิ าหกจิ ชุมชน หมทู่ ่ี 11 ต.ดา่ นทบั ตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี เป้าหมายการจดั การศกึ ษา กศน.อาํ เภอจอมบงึ จัดการศึกษาให้ประชาชนตามหลักปรชั ญาคดเป็นโดยจดั การเรียนรู้ตามแนวทาง ของหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปรชั ญา “คิดเปน็ ” ปรชั ญา “คิดเป็น” มีแนวคิดภายใตค้ วามเชอื่ ทีว่ ่า “คนเราสามารถพัฒนาการคิด การตัดสินใจ ใหม้ ี ประสทิ ธิภาพสงู ขนึ้ ได้ ดว้ ยการฝึกทักษะ การใชข้ ้อมูลทห่ี ลากหลายท้งั ด้านตนเอง สังคม สิง่ แวดลอ้ ม และ วชิ าการมาวเิ คราะห์ เชื่อมโยง สมั พนั ธ์ สร้างสรรค์ เป็นแนวทาง วิธีการ สาํ หรบั ตนเอง แล้วประเมนิ ตีคา่ ตัดสนิ ใจเพ่ือตนเอง และชุมชน สงั คม ซึ่งเปน็ ลกั ษณะของคน “คิดเปน็ ”
30 ปรัชญา “การสร้างสังคมแห่งการเรยี นรู้ จะนําไปสู่การศกึ ษาตลอดชีวติ ท่มี ีคุณภาพ” วิสัยทัศน์ กศน.อําเภอจอมบึงมุ่งส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิต พัฒนาผู้เรียน ผู้รับบริการให้มี คุณภาพ คุณธรรม พร้อมเขา้ สปู่ ระชาคมอาเซยี น พันธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพ่ือสรา้ งสงั คมแห่ง การเรยี นรตู้ ลอดชีวิต 2. ส่งเสรมิ และสนับสนุนการมสี ่วนรว่ มของภาคี เครือขา่ ยและชมุ ชน ในการจัด การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 3. ส่งเสรมิ และพฒั นาการนาํ เทคโนโลยีทางการศกึ ษา และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมาใชใ้ ห้เกิดประสทิ ธิภาพในการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั 4. พฒั นาหลักสูตร รูปแบบการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือ และนวัตกรรม การ วดั และประเมนิ ผลในทุกรูปแบบ 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจดั การเพ่ือมงุ่ การจัดการศึกษาทีม่ ี คุณภาพโดยยดึ หลักธรรมาภิบาล และการมีส่วนร่วม หลกั การ 1. เปน็ หลักสูตรที่มีโครงสรา้ งยืดหยุ่นด้านสาระการเรียนรู้ เวลาเรยี น และการจัดการเรียนรู้ โดยเน้น การบรู ณาการเนื้อหาให้สอดคลอ้ งกับวิถชี วี ติ ความแตกตา่ งของบุคคล และชุมชน สังคม 2. ส่งเสรมิ ให้มีการเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั 3. สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รียนได้พฒั นาและเรียนรูอ้ ย่างต่อเน่ืองตลอดชีวติ โดยตระหนักว่าผ้เู รยี นมีความสําคัญ สามารถพัฒนาตนเองได้ตามธรรมชาตแิ ละเตม็ ศกั ยภาพ 4. ส่งเสรมิ ให้ภาคีเครอื ขา่ ยมีสว่ นร่วมในการจัดการศึกษา จดุ หมาย หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ม่งุ พัฒนาให้ผู้เรียนมี คุณธรรม จริยธรรม มีสตปิ ัญญา มคี ุณภาพชีวิตท่ดี ี มีศักยภาพในการประกอบอาชพี และการเรียนร้อู ย่าง ต่อเน่อื ง ซ่งึ เปน็ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ท่ีต้องการ จงึ กําหนดจดุ หมาย ดังตอ่ ไปนี้ 1. มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยมท่ดี ีงาม และสามารถอยู่ร่วมกันในสงั คมอย่างสันติสุข 2. มีความรู้พนื้ ฐานสาํ หรบั การดาํ รงชวี ิต และการเรยี นรูต้ ่อเนอ่ื ง
31 3. มคี วามสามารถในการประกอบสัมมาอาชีพ ใหส้ อดคลอ้ งกับความสนใจ ความถนัด และตามทัน ความเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คม และการเมือง 4. มีทักษะการดําเนินชวี ิตท่ดี ี และสามารถจดั การกับชีวติ ชุมชน สังคม ได้อย่างมีความสุข ตามปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียง 5. มีความเขา้ ใจประวตั ศิ าสตร์ชาติไทย ภมู ิใจในความเป็นไทย โดยเฉพาะภาษา ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี กีฬา ภูมิปญั ญาไทย ความเป็นพลเมืองดี ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา ยดึ ม่ันในวถิ ชี ีวิต และ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข 6. มจี ติ สาํ นกึ ในการอนุรกั ษ์ และพฒั นาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม 7. เปน็ บุคคลแห่งการเรยี นรู้ มีทักษะในการแสวงหาความรู้ สามารถเข้าถงึ แหลง่ เรยี นรู้ และบรู ณาการ ความรมู้ าใช้ในการพฒั นาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม และประเทศชาติ กลุม่ เปา้ หมาย ประชาชนทั่วไป กรอบโครงสรา้ งหลักสตู รสถานศกึ ษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1 ระดบั การศึกษา ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 2 สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรปู้ ระกอบด้วย 5 สาระ ดังนี้ 2.1. สาระทักษะการเรียนรู้ เป็นสาระเก่ียวกับการเรยี นรู้ด้วยตนเอง การใชแ้ หล่งเรียนรู้ การจัดการความรู้ การคิดเป็น และการวิจยั อย่างงา่ ย 2.2. สาระความรู้พน้ื ฐาน เป็นสาระเกยี่ วกับภาษาและการส่ือสาร คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.3. สาระการประกอบอาชีพ เปน็ สาระเกี่ยวกบั การมองเหน็ ช่องทางและการตัดสนิ ใจ ประกอบอาชีพ ทักษะในอาชีพ การจัดการอาชีพอยา่ งมีคุณธรรม และการพัฒนาอาชพี ใหม้ นั่ คง 2.4. สาระทักษะการดาเนินชวี ติ เป็นสาระเกี่ยวกบั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สขุ ภาพ อนามัยและความปลอดภัยในการดําเนินชวี ติ ศิลปะและสุนทรยี ภาพ 2.5. สาระการพฒั นาสังคม เป็นสาระท่ีเกีย่ วกบั ภมู ิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หนา้ ที่พลเมือง และการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม
32 3 กจิ กรรมพัฒนาคุณภาพชวี ิต กิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชีวติ เปน็ กิจกรรมท่ีจดั ขนึ้ เพ่ือให้ผู้เรยี นพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สังคม 4 มาตรฐานการเรยี นรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 กําหนดมาตรฐาน การเรยี นรู้ ตามสาระการเรยี นรู้ท้งั 5 สาระ ทเ่ี ปน็ ข้อกําหนดคณุ ภาพของผ้เู รียน ดังนี้ 4.1. มาตรฐานการเรียนรู้การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน เป็นมาตรฐาน การเรยี นรูใ้ นแต่ละสาระการเรยี นรู้ เมอื่ ผู้เรียนเรียนจบหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 4.2. มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ เป็นมาตรฐานการเรยี นรูใ้ นแต่ละสาระการเรยี นรู้ เมื่อ ผู้เรียนเรยี นจบในแต่ละระดับ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานพทุ ธศักราช 2551 5 เวลาเรยี น ในแต่ละระดับใช้เวลาเรียน 4 ภาคเรยี น ยกเว้นกรณที ม่ี ีการเทียบโอนผลการเรียน ท้ังนี้ ผู้เรียน ต้องลงทะเบียนเรียนในสถานศึกษาอย่างน้อย 1 ภาคเรียน 6 หนว่ ยกติ ใช้เวลาเรยี น 40 ช่ัวโมง มีค่าเท่ากบั 1 หนว่ ยกิต 7 โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศกึ ษาระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย สถานศกึ ษาจัดทําโครงสร้างหลักสตู รสถานศึกษา โดยพจิ ารณาตามโครงสร้างหลกั สตู รการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ดังน้ี ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ท่ี สาระการเรียนรู้ รายวชิ า รายวิชา รายวชิ า หมายเหตุ บงั คบั เลอื กบังคับ เลอื กเสรี 1 ทักษะการเรียนรู้ 5- 3 2 ความรูพ้ ้ืนฐาน 20 6 6 3 การประกอบอาชพี 8- 3 4 ทักษะการดาเนนิ ชวี ติ 5- - 5 การพัฒนาสงั คม 6 12 3 รวม 44 18 15 77 หนว่ ยกิต กจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต 200 ช่ัวโมง หมายเหตุ วชิ าเลือกในแต่ละระดับ สถานศกึ ษาต้องจดั ใหผ้ เู้ รียน เรียนรจู้ ากการทําโครงงานจํานวนอยา่ งน้อย3หน่วยกิต
33 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ประกอบด้วยสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ดังน้ี 1. สาระทกั ษะการเรยี นรู้ ประกอบด้วย 5 มาตรฐาน ดงั นี้ มาตรฐานที่ 1.1 มีความร้คู วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี ่อการเรยี นรู้ด้วยตนเอง มาตรฐานท่ี 1.2 มีความร้คู วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ีต่อการใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ มาตรฐานที่ 1.3 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติที่ดตี ่อการจดั การความรู้ มาตรฐานท่ี 1.4 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดีต่อการคดิ เปน็ มาตรฐานที่ 1.5 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดีต่อการวจิ ัยอย่างงา่ ย 2. สาระความรู้พ้นื ฐาน ประกอบด้วย 2 มาตรฐาน ดงั นี้ มาตรฐานที่ 2.1 มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะพ้ืนฐานเกี่ยวกบั ภาษาและการสื่อสาร มาตรฐานที่ 2.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจและทกั ษะพน้ื ฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3. สาระการประกอบอาชพี ประกอบด้วย 4 มาตรฐาน ดังนี้ มาตรฐานท่ี 3.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติท่ีดใี นงานอาชีพ มองเหน็ ชอ่ งทางและตดั สนิ ใจ ประกอบอาชพี ไดต้ ามความตอ้ งการ และศักยภาพของตนเอง มาตรฐานท่ี 3.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะในอาชพี ที่ตดั สินใจเลอื ก มาตรฐานท่ี 3.3 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการจดั การอาชพี อยา่ งมีคุณธรรม มาตรฐานที่ 3.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการพัฒนาอาชีพใหม้ ีความมนั่ คง 4. สาระทักษะการดาเนินชีวิต ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน ดงั นี้ มาตรฐานท่ี 4.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ เจตคติทด่ี เี กยี่ วกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถ ประยุกตใ์ ชใ้ นการดาํ เนินชวี ิตไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มาตรฐานที่ 4.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติท่ีดเี กีย่ วกับการดูแล ส่งเสรมิ สขุ ภาพ อนามยั และความปลอดภัยในการดาํ เนินชวี ติ มาตรฐานที่ 4.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคติทดี่ ีเก่ียวกบั ศลิ ปะและสุนทรยี ภาพ 5. สาระการพัฒนาสังคม ประกอบดว้ ย 4 มาตรฐาน ดงั นี้ มาตรฐานที่ 5.1 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถงึ ความสาํ คัญเก่ยี วกบั ภูมศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง สามารถนํามาปรบั ใชใ้ นการ ดาํ รงชวี ติ มาตรฐานที่ 5.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ คณุ ค่า และสบื ทอดศาสนา วัฒนธรรมประเพณี
34 เพือ่ การอยรู่ ่วมกันอย่างสนั ตสิ ุข มาตรฐานที่ 5.3 ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธิปไตย มจี ิตสาธารณะเพอ่ื ความสงบสขุ ของสงั คม มาตรฐานที่ 5.4 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ ความสําคัญของหลักการพัฒนา และสามารถพฒั นา ตนเอง ครอบครัว ชุมชน/สงั คม หมายเหตุ สาระการเรยี นรู้ความรพู้ ื้นฐาน มาตรฐานที่ 2.1 มีความรู้ความเข้าใจทกั ษะพื้นฐานเก่ยี วกบั ภาษาและการสื่อสาร ซ่ึงภาษาในมาตรฐานนี้หมายถงึ ภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ
35 สาระทักษะการเรียนรู้ สาระทักษะการเรียนรู้ เปน็ สาระเกี่ยวกบั การพฒั นาทักษะการเรียนรู้ของผู้เรียนในด้าน การเรียนรู้ด้วย ตนเอง การใช้แหล่งเรียนรู้ การจัดการความรู้ การคิดเป็น และการวิจัยอย่างง่าย โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ ผู้เรียนสามารถกําหนดเปูาหมาย วางแผนการเรียนรู้ด้วยตนเอง เข้าถึงและเลือกใช้แหล่งเรียนรู้ จัดการความรู้ กระบวนการแก้ปัญหา และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ท่ีสามารถใช้เป็นเคร่ืองมือในการช้ีนําตนเองในการเรียนรู้ และการประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับหลักการพื้นฐาน และการพัฒนา 5 ศักยภาพของพ้ืนท่ีใน 5 กลุ่มอาชีพ คือ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การอานวยการ (การบริหารจัดการและ บรกิ าร) ตามยทุ ธศาสตร์ กระทรวงศึกษาธกิ าร ได้อยา่ งตอ่ เนื่องตลอดชวี ติ สาระทักษะการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย 5 มาตรฐาน ดังน้ี มาตรฐานท่ี 1.1 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดีตอ่ การเรียนร้ดู ้วยตนเอง มาตรฐานท่ี 1.2 มคี วามรูค้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดีต่อการใช้แหลง่ เรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 1.3 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การจดั การความรู้ มาตรฐานที่ 1.4 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดตี อ่ การคิดเปน็ มาตรฐานที่ 1.5 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดีต่อการวิจยั อย่างง่าย มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ และผลการเรยี นร้ทู ีค่ าดหวัง ในแตล่ ะมาตรฐาน มาตรฐานที่ 1.1 มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดีต่อการเรยี นรู้ด้วยตนเอง มาตรฐาน สามารถประมวลความรู้ ทาํ งานบนฐานข้อมูล และมีความชํานาญในการอ่าน ฟัง จด การเรยี นร้รู ะดับ บันทึก เป็นสารสนเทศอยา่ งคล่องแคล่วรวดเร็ว ผลการเรียนรู้ 1. ประมวลความรู้ และสรปุ เป็นสารสนเทศ ที่คาดหวัง 2. ทาํ งานบนฐานข้อมูลดว้ ยการแสวงหาความรจู้ นเป็นลักษณะนสิ ยั 3. มคี วามชํานาญในทักษะการอา่ น ทกั ษะการฟัง และทักษะการจดบนั ทึก อย่าง คล่องแคล่ว รวดเรว็ 4. สามารถนาความรู้ ความเข้าใจในเร่ือง 5 ศักยภาพของพ้นื ท่ีและหลักการพ้นื ฐานตามยทุ ธศาสตร์ตามกระทรวงศึกษาธกิ าร 2555 ไปเพ่ิมขีด ความสามารถการประกอบอาชพี โดยเนน้ ที่กล่มุ อาชีพใหม่ ใหแ้ ขง่ ขันได้ในตลาดสากล
36 มาตรฐานที่ 1.2 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดตี ่อการใช้แหลง่ เรยี นรู้ มาตรฐาน สามารถวางแผนและใช้แหลง่ เรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ จนเปน็ ลกั ษณะนสิ ยั การเรยี นรู้ระดับ ผลการเรียนรู้ 1. วางแผนการใช้แหล่งเรยี นรตู้ ามความต้องการจาํ เป็นของ แต่ละบคุ คล ทคี่ าดหวัง 2. ใช้แหลง่ เรียนร้จู ากเทคโนโลยีและนวัตกรรมตามความต้องการจาํ เป็น 3. ใชแ้ หลง่ เรียนรอู้ ย่างแคลว่ คลอ่ งจนเป็นลักษณะนสิ ัย 4. สามารถวางแผนและเลือกใชแ้ หล่งเรยี นรูเ้ พื่อพัฒนาอาชีพของตนเองและท้องถนิ่ ได้ อยา่ งรวดเรว็ เหมาะสมกับความสามารถ เชน่ การหาตาแหน่งงานวา่ งจากอนิ เทอรเ์ นต็ ฯลฯ มาตรฐานที่ 1.3 มคี วามรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดีต่อการจดั การความรู้ มาตรฐาน สามารถสรุป องค์ความรู้ใหม่ นาํ ไปสรา้ งสรรคส์ ังคมอุดมปัญญา การเรยี นรรู้ ะดบั ผลการเรียนรู้ 1. ออกแบบผลติ ภัณฑส์ รา้ งสูตร สรปุ องค์ความรู้ใหมข่ องขอบเขตความรู้ ทคี่ าดหวัง 2. ประพฤติตนเปน็ บคุ คลแหง่ การเรียนรู้ 3. สามารถจดั ทาแผนที่ความคดิ เกย่ี วกับอาชพี ในดา้ นตา่ ง ๆ ของชมุ ชน เชน่ เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม พาณชิ ยกรรม ความคดิ สรา้ งสรรค์ การบริหารจดั การ ได้อย่างถกู ต้อง 4. สร้างสรรค์สังคมอุดมปญั ญา มาตรฐานท่ี 1.4 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการคิดเปน็ มาตรฐาน ความสามารถในการ ฝกึ ทักษะการคดิ เป็นทซ่ี บั ซ้อนเชื่อมโยงกับคุณธรรม จรยิ ธรรมท่ี การเรยี นรู้ระดบั เก่ียวขอ้ งกบั ปรชั ญา คิดเป็นและสามารถระบุถงึ ปัญหาอุปสรรคการพัฒนากระบวนการ คดิ เปน็ และการแก้ไข ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหรอื ทบทวนปรชั ญาคดิ เปน็ และการใช้ระบบขอ้ มลู ทางวชิ าการ ตนเอง และ ที่คาดหวัง สังคม สิ่งแวดลอ้ ม มาวเิ คราะห์ สังเคราะห์ เพ่ือประกอบกระบวนการคดิ การตดั สนิ ใจ ในการแกป้ ัญหา 2. อธิบายและปฏบิ ัตกิ ารใช้เทคนิควิธีการฝึกทักษะการคดิ เปน็ ท่ซี ับซ้อนและ นาํ คุณธรรม จริยธรรม ที่เกีย่ วข้องมาส่งเสรมิ กระบวนการคิดเป็นใหม้ ากขึ้น 3. อภิปราย ถกแถลงถงึ ปญั หาและอปุ สรรคในการใช้กระบวนการ คิดเปน็ ประกอบการ แก้ปัญหา 4. เช่ือมโยงปรัชญา คิดเปน็ กระบวนการเรียนรู้ การศกึ ษานอกระบบ 5. บอกลกั ษณะของคนคดิ เป็น ได้อยา่ งน้อย 8 ประการ 6. สามารถนาความรู้ ความเขา้ ใจในเรือ่ ง 5 ศักยภาพ ของพื้นที่และหลักการพนื้ ฐาน ตามยทุ ธศาสตร์ตามกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 2555 ไปเพ่ิมขีดความสามารถการ ประกอบอาชพี โดยเนน้ ทกี่ ลุ่มอาชพี ใหม่ ใหแ้ ข่งขนั ได้ในตลาดสากล
37 มาตรฐานท่ี 1.5 มีความรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดตี ่อการวจิ ัยอย่างง่าย มาตรฐาน สามารถวางแผน การวจิ ัย ดําเนินการตามแบบแผนอย่างถูกตอ้ ง การเรยี นรรู้ ะดบั ผลการเรียนรู้ 1. ออกแบบการวิจัย เพื่อคน้ หาความรู้ ความจริงที่ต้องการคําตอบ ท่ีคาดหวัง 2. ดาํ เนนิ การตามแบบแผนการวจิ ยั และวิเคราะห์ข้อมลู สรปุ สารสนเทศความรู้ ความ จรงิ ที่ตอ้ งการคําตอบ 3. ใช้กระบวนการวจิ ยั อย่างง่ายเพ่อื เพม่ิ ศักยภาพและขีดความสามารถในการประกอบ อาชพี สรา้ งรายไดท้ ี่มั่งค่งั และมนั่ คง
38 สาระทักษะการเรียนรู้ (รายวิชาบงั คบั ) มาตรฐานที่ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1.1-1.5 รายวชิ าบังคับ รหัสรายวิชา รายวชิ า หนว่ ยกติ 5 ทักษะการเรยี นรู้ ทร31001 ทักษะการเรยี นรู้ 5 รวม สาระทกั ษะการเรยี นรู้ (รายวชิ าเลอื กเสร)ี มาตรฐานที่ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1.1 รายวิชาเลอื ก รหัสรายวิชา รายวชิ า หนว่ ยกิต 3 โครงงานเพอื่ พฒั นาทกั ษะ ทร02006 โครงงานเพ่ือพัฒนาทักษะการเรียนรู้ การเรยี นรู้ รวม
39 คาอธิบายรายวชิ า ทร31001 ทกั ษะการเรียนรู้ จานวน 5 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ 1. สามารถประมวลความรู้ ทํางานบนฐานข้อมูล และมีความชํานาญในการอ่าน ฟัง จดบันทึก เป็น สารสนเทศอยา่ งคล่องแคล่วรวดเร็ว 2. สามารถวางแผนและใชแ้ หล่งเรยี นรูไ้ ดอ้ ย่างคล่องแคล่วจนเปน็ ลักษณะนิสยั 3. สามารถสรปุ องคค์ วามร้ใู หม่ นําไปสรา้ งสรรคส์ ังคมอดุ มปญั ญา 4. ความสามารถในการฝึกทักษะการคิดเป็นท่ีซับซ้อนเชื่อมโยงกับคุณธรรม จริยธรรม ที่เก่ียวข้องกับ ปรัชญาคิดเป็นและสามารถระบุถงึ ปัญหาอุปสรรคการพัฒนากระบวนการคิดเปน็ และการแกไ้ ข 5. สามารถวางแผนการวิจยั ดําเนนิ การตามแบบแผนอย่างถกู ต้อง 6. สามารถวางแผนประยุกต์ใชท้ ักษะการเรียนรู้ และศกั ยภาพหลักของพื้นท่เี ปน็ เครอื่ งมือในการเพิม่ ศกั ยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขนั ใน 5 กลมุ่ อาชีพใหม่ ศกึ ษาและฝกึ ทักษะเกีย่ วกบั เรื่องดังต่อไปน้ี 1. การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ทบทวน ความหมาย ความสาํ คญั และกระบวนการของการเรียนรดู้ ้วยตนเอง ฝึกทักษะพืน้ ฐานทางการศึกษาหาความรู้ ทักษะการแกป้ ัญหาและเทคนิคในการเรยี นรู้ ดว้ ยตนเอง ดา้ นการอ่าน การฟงั การสังเกต การจาํ และการจดบนั ทึก ทบทวนการวางแผนการเรยี นรู้ และการประเมนิ ผลการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง มีทักษะพื้นฐานและ เทคนคิ ในการเรียนรดู้ ว้ ยตนเองในเรื่องการวางแผน การประเมินผลการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การวเิ คราะห์วิจารณ์ ฝึกทักษะความรู้ทักษะการพูด และการทาํ แผนผังความคดิ เจตคติ/ปัจจัย ที่ทําให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสําเร็จ การเปิดรับโอกาสการเรียนรู้ การ คิดริเริ่มและเรียนรู้ด้วยตนเอง การสร้างแรงจูงใจ การสร้างวินัยในตนเอง การคิดเชิงบวก ความคิดสร้างสรรค์ ความรักในการเรยี น การใฝุรู้ใฝุเรียน และความรบั ผดิ ชอบ 2. การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ ทบทวน ความหมาย ความสําคัญ ประเภทแหล่งเรยี นรู้ ทบทวนการใช้ห้องสมุดประชาชน การเข้าถึงสารสนเทศห้องสมุดประชาชน ห้องสมุด อ่ืน ๆ แหล่ง เรียนรูอ้ ่นื ๆ ที่สําคัญเช่นผู้รู้ในชุมชน พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ ส่ือมวลชน รวมทั้งการใช้อินเตอร์เน็ตเพ่ือการ เรยี นรูข้ องตนเอง ศกึ ษา สาํ รวจ แหล่งเรยี นรู้ภายในชุมชน จดั กลุ่ม ประเภท และความสาํ คญั ศึกษาเรยี นรู้กบั ภูมปิ ญั ญา ปราชญ์ ผูร้ ้ใู นทอ้ งถ่นิ
40 3. การจัดการความรู้ ทบทวนความหมาย ความสาํ คญั หลกั การของการจัดการความรู้ กระบวนการจัดการความรู้ การรวมกล่มุ เพ่อื ตอ่ ยอดความรู้ การพัฒนาขอบข่ายความรู้ของกลมุ่ การจดั ทําสารสนเทศเผยแพร่ความรู้ ฝกึ ทักษะกระบวนการจัดการความรู้ดว้ ยตนเองและด้วยการรวมกล่มุ ปฏบิ ัตกิ าร โดยการกําหนด เปาู หมายการเรียนรู้ ระบคุ วามรู้ที่ต้องใช้ การแสวงหาความรู้ สรุปองคค์ วามรู้ ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ แลกเปล่ียน ความรู้ การรวมกลุ่มปฏิบัติการเพ่ือต่อยอดความรู้ การพฒั นาขอบข่าย ความรู้ของกล่มุ สรปุ องค์ความร้ขู องกลุ่ม จัดทําสารสนเทศองค์ความร้ใู หม่และการนําไปใชใ้ นการพฒั นาตนเอง ครอบครัว 4. การคดิ เป็น ทบทวนความรูค้ วามเข้าใจ และความหมายของความเชอ่ื พ้ืนฐานทางการศึกษา / การศึกษานอก ระบบ และเชื่อมโยงมาส่กู ระบวนการคดิ เปน็ ทบทวน ความหมาย ความสําคญั ของการคิดเปน็ กระบวนการคิดการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบ กระบวนการคิดเป็น ศึกษารายละเอียดที่หลากหลายในเชิงเปรียบเทียบของลักษณะข้อมูลทางด้านวิชาการ ตนเอง และ สังคม สิ่งแวดล้อมท่ีแตกต่างกันไปของชุมชน วัฒนธรรม จารีตประเพณี สถานภาพทางสังคม เศรษฐกิจ และ บุคคลเพื่อนํามาขยายในการคิด การตัดสินใจอย่างคนคิดเป็น ศึกษาข้อมูลด้านคุณธรรม จริยธรรมท่ีเกี่ยวข้อง กับบุคคล ครอบครัวและชุมชนมาเสริมความหมายการคิดเป็นให้เกิดสันติสุขท่ียั่งยืน ฝึกปฏิบัติการเก็บข้อมูล การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ขอ้ มลู ในชมุ ชน เพื่อนํามาประกอบการคดิ การตัดสินใจ ฝกึ ปฏิบัตกิ ารคิดการแกป้ ญั หาอย่างเป็นระบบ การคิดเป็นทง้ั จากกรณีตวั อย่างท่ซี ับซ้อน และ หลากหลายโดยนาํ ขอ้ มูลด้านคณุ ธรรม จริยธรรม มาประกอบการคดิ การพิจารณาด้วย ฝึกการสรปุ กระบวนการแกป้ ัญหาดว้ ยกระบวนการคดิ เป็นจากข้อมลู ท่เี กบ็ และวิเคราะห์จากชมุ ชน 5. การวจิ ัยอยา่ งง่าย ทบทวนความหมาย ความสําคญั การวจิ ัยอย่างง่าย กระบวนการและขน้ั ตอนของการดําเนนิ งาน สถติ ิงา่ ย ๆ เพ่ือการวิจยั เคร่ืองมอื การวิจัย และการเขียนโครงการวจิ ัยอย่างง่าย ๆ ศึกษา ฝึกทกั ษะ การวิจยั ในบ้าน การเขยี นรายงานวจิ ยั การนําเสนอและเผยแพร่งานวิจัย 6. ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลกั ของพ้นื ที่ในการประกอบอาชพี ทบทวน ประยุกต์ใช้ทักษะกาเรเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพ้ืนท่ี คือ ศักยภาพของ ทรัพยากรธรรมชาติ ในแต่ละพื้นที่ ศักยภาพของพื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศ และ ทาเลท่ีตั้งของแต่ละพื้นท่ี ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของแต่ละพื้นท่ี และศักยภาพ ของทรัพยากรมนษุ ย์ในแตล่ ะพืน้ ท่ี เพื่อเปน็ เครอื่ งมือในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันใน กลุ่มอาชีพใหม่ เช่น กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และการ บรหิ ารจดั การและการบริการ
41 การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ 1. การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะตา่ ง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการเรยี นรู้ท่ี หลากหลาย ซบั ซอ้ น อย่างสร้างสรรค์ เพ่อื 1) ฝกึ ใหผ้ เู้ รียนไดก้ าํ หนดเปูาหมาย และวางแผนการเรียนรู้ 2) เพ่มิ พูนให้มที ักษะพ้ืนฐานทักษะการพดู และการทาํ แผนผังความคดิ โดยการปฏิบัติจริง 3) มเี จตคติที่ดตี อ่ การ เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองท่ีทําให้การเรยี นร้ดู ้วยตนเองประสบผลสาํ เร็จ และนาํ ความรู้ไปใช้ในวิถีชีวติ ใหเ้ หมาะสมกับ ตนเอง และชุมชน/สังคม 2. การใช้แหลง่ เรยี นรู้ ให้ผู้เรียนทุกคนไปสํารวจ ศึกษา รวบรวมแหล่งเรียนรู้ ภายในชุมชน จังหวัด ประเทศ และโลก รวมท้ังการใช้อินเทอร์เน็ต การเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศที่สนใจ ทําความเข้าใจ บทบาท หน้าที่ ข้อดีข้อเสียของ แหลง่ เรยี นรตู้ ่าง ๆ 3. การจดั การความรู้ ศึกษาค้นคว้าหลักการ และกระบวนการของการจัดการความรู้ การฝึกปฏิบัติจริงโดย การรวมกลุ่มปฏิบัติการ/ชุมชนปฏิบัติการ (Community of practice = Cops) สรุปองค์ความรู้ของกลุ่ม แลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่างกลมุ่ ยกระดบั ความร/ู้ สร้างองค์ความรู้ใหม่และจัดทําสารสนเทศเผยแพร่ความรู้ ด้วย วธิ ีการทห่ี ลากหลาย 4. การคดิ เปน็ ให้ผู้เรียนได้มีการทบทวนท้ังความเชื่อพื้นฐานทางการศึกษาผู้ใหญ่ / กศน. ท่ีเช่ือมโยงไปสู่ปรัชญา คิดเป็น และกระบวนการคิดการแก้ปัญหาท่ีเป็นระบบกระบวนการคิดเป็นที่ใช้ข้อมูลของการคิดอย่างน้อย 3 ประการ คอื ข้อมูลวธิ ีการตนเอง และสงั คม สิง่ แวดล้อม ให้ ผู้เ รีย น ได้ มีการ อภิป รายถกแถลงถึงป ระสบ การ ณ์ในการคิดของต นเ องที่ผ่านมาว่ ามีการ ใช้ กระบวนการคิดเป็นมากน้อยเพียงใด มีผลกระทบจากการคิดการตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างใด รวมถึงการใช้หลัก คุณธรรมจริยธรรมบรู ณาการเข้ากบั กระบวนการคดิ เป็นเพ่ือปรบั กระบวนการ คิดเป็นทยี่ ง่ั ยนื ให้ผู้เรียนได้ฝึกการเก็บข้องมูล การเลือกใช้ข้อข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การสังเคราะห์ข้อมูล ใน ชุมชน และนํามาฝึกปฏิบัติการแก้ปัญหา ในลักษณะการคิดเป็นที่มีข้อมูลคุณธรรม จริยธรรม บูรณาการด้วย เหมือนการคดิ ท่ยี ัง่ ยืน ให้มีการสรุปรายงานการคิดแก้ปัญหาด้วยกรนะบวนการคิดเป็น เพ่ือจัดทําเป็นร่องรอยในแฟูม ผลงาน 5. การวิจัยอยา่ งง่าย จัดใหผ้ ูเ้ รียนได้ศึกษา ค้นคว้า เอกสารที่เกี่ยวข้อง การใช้เทคโนโลยีเพื่อสืบค้นข้อมูลฝึกทักษะ การ สังเกตและค้นหาปัญหาท่ีพบในชีวิตประจําวัน / ในการประกอบอาชีพ / ในสาระที่เรียน การต้ั งคําถาม การ แลกเปล่ียนเรียนรู้กับเพื่อน / ผู้รู้ การคาดเดาคําตอบอย่างมีเหตุผล การฝึกปฏิบัติการเขียนโครงการวิจัยตาม หลักการ การเก็บรวบรวมข้อมูล การสร้างเคร่ืองมือ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติอย่างง่าย ๆ ที่เหมาะสมกับ ข้อมูล การนําเสนอข้อมูล การสรุปข้อมูลและเขียนรายงานผลตามหลักการ การเผยแพร่ ข้อค้นพบด้วยวิธีการ หลากหลาย
42 6. ทกั ษะการเรยี นรู้ และศกั ยภาพหลกั ของพื้นทใี่ นการพัฒนาอาชีพ จัดให้ผู้เรียนทั้งรายบุคคล/กลุ่มได้ศึกษา สารวจ วิเคราะห์ ประยุกต์ทักษะการเรียนรู้ และ พ้ืนฐานศักยภาพหลักแต่ละพื้นที่ ท่ีมีความแตกต่าง และมีความต้องการท้องถ่ินที่ไม่เหมือนกัน ในการเพ่ิม ขีดความสามารถที่เกี่ยวกับการพัฒนาการประกอบอาชีพในกลุ่มอาชีพใหม่ คือ ด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การบริหารจัดการและการบริการ เพื่อสร้างอาชีพ และ รายได้ อยา่ งมน่ั คง และย่งั ยืนอยา่ งต่อเน่อื ง การวดั และประเมนิ ผล 1. การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนท่ีแสดงออกเกี่ยวกับ การกําหนดเปูาหมาย และวางแผน การเรียนรู้ รวมทักษะพ้ืนฐานและเทคนิคในการเรียนรู้ต่าง ๆ ตลอดจนปัจจัยที่ทําให้การเรียนรู้ประสบ ความสําเรจ็ 2. การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ ผลงานจากการศึกษาสํารวจ และการนําไปใช้ประโยชน์ 3. การจัดการความรู้ ประเมินจากสภาพจริงโดย การสังเกต ความสนใจ การแสดงความคิดเห็น การมีส่วนร่วม การให้ ความร่วมมือในกลุ่มปฏิบัติการ ผลงาน/ช้ินงานจากการรวมกลุ่มปฏิบัติการ ใช้วิธีการประเมินแบบมีส่วนร่วม ระหวา่ งครู ผู้เรียนและผเู้ กี่ยวขอ้ งร่วมกนั ประเมินตีค่าความสามารถ ความสําเร็จกับเปูาหมายท่ีกําหนดไว้ และ ระบขุ อ้ บกพร่องทีต่ ้องแก้ไข สว่ นทีท่ าํ ได้ดีแลว้ ก็พฒั นาให้ดยี ิ่งข้นึ ตอ่ ไป 4. การคิดเป็น ประเมินจากการเก็บรวบรวมข้อมูล การคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจแก้ปัญหาจากข้อมูลตาม ข้อเท็จจริง ประเมินจากการใช้ข้อมูลท่ีเหมาะสม สอดคล้อง เพียงพอ น่าเช่ือถือ ประเมินจากการมีส่วนร่วมใน กิจกรรม และการอภปิ รายถกแถลง และความพอใจในการแก้ปัญหาดว้ ยวธิ คี ดิ เปน็ อย่างยงั่ ยืน 5. การวิจยั อยา่ งง่าย ประเมินจากสภาพจริงโดย การสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วม ความร่วมมือจากผลงาน / ช้ินงานทีม่ อบหมายใหฝ้ กึ ปฏิบตั ิ ในระหวา่ งเรยี น และการสอบปลายภาคเรียน 6. ทกั ษะการเรยี นรู้ และศกั ยภาพหลกั ของพ้นื ท่ีในการพัฒนาอาชพี ประเมินจากสภาพจริงโดย ความสนใจ การมีส่วนร่วม ความร่วมมือ จากผลงาน / ช้ินงานท่ี มอบหมายใหฝ้ ึกปฏบิ ัติ ในระหว่างเรยี นและการสอบปลายภาคเรยี น
43 รายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวิชา ทร31001 ทกั ษะการเรียนรู้ จานวน 5 หน่วยกติ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั 1. สามารถประมวลความรู้ ทํางานบนฐานข้อมูล และมีความชํานาญในการอ่าน ฟัง จดบันทึก เป็น สารสนเทศอย่างคล่องแคล่วรวดเรว็ 2. สามารถวางแผนและใชแ้ หล่งเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งคล่องแคล่วจนเป็นลักษณะนสิ ยั 3. สามารถสรุปองค์ความรู้ใหม่ นําไปสรา้ งสรรคส์ ังคมอุดมปัญญา 4. ความสามารถในการฝึกทักษะการคิดเป็นท่ีซับซ้อนเช่ือมโยงกับคุณธรรม จริยธรรม ที่เกี่ยวข้องกับ ปรัชญาคิดเป็นและสามารถระบุถึงปัญหาอุปสรรคการพฒั นากระบวนการคิดเป็น และการแกไ้ ข 5. สามารถวางแผนการวิจยั ดําเนนิ การตามแบบแผนอย่างถูกต้อง 6. สามารถวางแผนประยุกต์ใช้ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพื้นท่ีเป็นเคร่ืองมือในการเพิ่ม ศกั ยภาพ และขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ใน 5 กลุม่ อาชพี ใหม่ ท่ี หวั เร่ือง ตวั ชีว้ ดั เนอ้ื หา จานวน (ชัว่ โมง) 1 การเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมาย ความสําคญั 1. ความหมาย ความสาํ คัญ และ ดว้ ยตนเอง 4 และกระบวนการของการเรียนรู้ กระบวนการของการเรียนรดู้ ้วยตนเอง 12 ดว้ ยตนเอง 8 10 2. ปฏบิ ตั ิการฝึกทกั ษะพ้ืนฐานทาง 2. ทักษะพนื้ ฐานทางการศกึ ษาหาความรู้ การศกึ ษาหาความรู้ ทักษะการ ทักษะการแกป้ ญั หาและเทคนิคในการ แกป้ ญั หา และเทคนิคในการ เรียนรู้ดว้ ยตนเอง รวมทง้ั การวาง เรยี นรู้ดว้ ยตนเองได้ และการวาง แผนการเรยี นรู้ และการประเมินผลการ แผนการเรียนรู้ และการ เรียนร้ดู ้วยตนเอง ประเมนิ ผลการเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง 3. ฝกึ ปฏิบตั ทิ กั ษะการพดู 3. ทักษะการพูดและการทําแผนผัง และการทาํ แผนผังความคดิ ความคิด 4. อธบิ ายปัจจัย ทท่ี าํ ให้การเรียนรู้ 4. ปัจจัย ที่ทาํ ให้การเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้วยตนเองประสบความสําเร็จ ประสบความสําเรจ็ 2 การใช้ 1. อธิบายความหมาย ความสําคัญ 1. ความหมาย ความสาํ คัญ ประเภท 10 แหล่งเรียนรู้ ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ การใช้ แหล่งเรยี นรู้ เขา้ ถงึ สารสนเทศ หอ้ งสมุดและ แหลง่ เรียนร้อู ่ืน ๆ ที่ แหล่งเรยี นรอู้ ่นื ๆ ท่ีสาํ คัญ รวมทั้งการใช้
44 ท่ี หวั เร่อื ง ตวั ชีว้ ัด เนอ้ื หา จานวน (ชวั่ โมง) สาํ คัญ รวมทง้ั การใชอ้ ินเตอร์เน็ต อินเตอร์เน็ตเพื่อการเรยี นรู้ของตนเอง เพอ่ื การเรียนรูข้ องตนเอง 2. บ่งชขี้ ้อดขี ้อเสียของแหลง่ 2. ข้อควรคาํ นึงในการศึกษาเรยี นร้กู ับ 24 เรียนรู้ แหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ รวมทง้ั นวัตกรรมและ 3. ปฏบิ ัตกิ ารเรียนรู้กับแหล่ง เทคโนโลยี เรยี นรู้ต่างๆไดเ้ หมาะสม 3 การจัดการ 1. อธบิ ายความหมาย ความสําคัญ 1. ความหมาย ความสาํ คัญ หลกั การ 10 ความรู้ หลักการ กระบวนการจดั การ กระบวนการจัดการความรู้ ความรู้ การรวมกลุ่มเพื่อต่อยอด การรวมกลุ่มเพ่อื ตอ่ ยอดความรู้ การ ความรู้ การพฒั นาขอบข่ายความรู้ พัฒนาขอบขา่ ยความรู้ของกลุ่ม การ ของกลมุ่ การจัดทาํ สารสนเทศ จัดทําสารสนเทศเผยแพรค่ วามรู้ เผยแพร่ความรู้ 2. ทักษะกระบวนการจัดการความรดู้ ้วย 12 2. ปฏิบตั ิการด้านทกั ษะ ตนเองและดว้ ยการรวมกลุ่มปฏบิ ัตกิ าร กระบวนการจดั การความรู้ด้วย 3. สรุปองค์ความรู้ของกลุ่ม จัดทาํ 12 ตนเองและดว้ ยการรวมกลุ่ม สารสนเทศองคค์ วามรู้ในการพัฒนา ปฏบิ ัติการ ตนเอง ครอบครัว 3. สรุปองคค์ วามรู้ของกลมุ่ จัดทาํ สารสนเทศองค์ความรใู้ นการ พัฒนาตนเอง ครอบครวั 4 การคดิ เป็น 1. อธบิ ายความหมาย ความสําคัญ 1. ความเชอ่ื พืน้ ฐานทางการศึกษาผใู้ หญ/่ 3 ของการคดิ เปน็ การศกึ ษานอกระบบ ทเ่ี ช่ือมโยงมาสู่ 2. รวบรวมและวิเคราะห์สภาพ ปรัชญา คดิ เป็น ปัญหา ของตนเอง ครอบครวั 2. ความหมาย ความสาํ คัญของ 3 ชมุ ชน และ คดิ วเิ คราะห์ โดยใช้ การคิดเป็น ขอ้ มูลด้านตนเอง ด้านวิชาการ 3. การรวบรวมและวิเคราะห์สภาพ 8 และด้านสังคมสิ่งแวดล้อม ปญั หา ของตนเอง ครอบครวั ชุมชน 3. กาํ หนดแนวทางทางเลือกที่ และคดิ วเิ คราะห์ โดยใช้ข้อมูลดา้ น หลากหลายในการแกป้ ญั หาอยา่ ง ตนเอง ด้านวชิ าการ และดา้ นสังคม มีเหตผุ ล มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม สิง่ แวดล้อม และมคี วามสุข การประยุกต์ใช้ 4. กระบวนการและเทคนิคการเกบ็ ข้อมูล 10 อย่างมีเหตุผลเหมาะสมกบั ตนเอง การวิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลท้ัง 3 ครอบครัว และชุมชน/สังคม ประการ ของบุคคล ครอบครัว และ
45 ท่ี หัวเรอ่ื ง ตัวชว้ี ดั เนอื้ หา จานวน (ชว่ั โมง) ชุมชน เพ่ือประกอบการคิด การ ตัดสินใจ 5. การกาํ หนดแนวทางทางเลือกท่ี 10 หลากหลายในการแกป้ ัญหาอย่าง มีเหตุผล มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และมี ความสขุ อย่างยั่งยืน การประยุกต์ใช้อย่าง มเี หตผุ ลเหมาะสมกบั ตนเอง ครอบครัว และชมุ ชน/สงั คม 5 การวจิ ยั 1. อธบิ ายความหมาย ความสําคญั 1. ความหมาย ความสําคัญการวิจัยอยา่ ง 3 อย่างงา่ ย การวิจัยอย่างง่าย กระบวนการและ งา่ ย กระบวนการและขน้ั ตอนของการ ขัน้ ตอนของการดําเนนิ งาน ดําเนนิ งาน 2. อธบิ าย และฝึกปฏิบัตเิ ก่ียวกบั 2. สถติ ิง่าย ๆ เพือ่ การวิจยั 5 สถิติงา่ ย ๆ เพ่ือการวจิ ยั 3. สร้างเครอื่ งมือการวจิ ยั อย่าง 3. การสร้างเครือ่ งมือการวจิ ยั 8 ง่าย ๆ 4. การเขยี นโครงการวิจยั อย่างง่าย ๆ 8 4. ปฏิบัตกิ ารเขยี นโครงการวิจัย 5. ทกั ษะการวิจัยในอาชพี การเขยี น 10 อยา่ ง รายงานวจิ ยั การนําเสนอและเผยแพร่ ง่าย ๆ และมีทักษะการวิจัยในอาชีพ งานวจิ ยั การเขียนรายงานวจิ ัย การนําเสนอ และเผยแพร่งานวจิ ยั 6 ทกั ษะการ 1. อธบิ ายความหมาย ความสาคญั 1. ความหมาย ความสาคัญ ของ 2 เรยี นรู้และ ของทักษะการเรียนรู้ และ ศักยภาพ ศักยภาพ ศกั ยภาพหลักของพน้ื ที่ ทีแ่ ตกต่าง หลักของพื้นท่ี 2 หลกั ของ กนั 2. กลุ่มอาชีพใหม่ 5 ด้าน และศกั ยภาพ พ้นื ที่ในการ 2. ยกตวั อยา่ งเกย่ี วกับศักยภาพ หลักของพ้นื ที่ 5 ประการ 10 พฒั นาอาชีพ หลักของพน้ื ท่หี ลัก ที่แตกต่างกัน กลมุ่ อาชีพใหม่ 3. สามารถบอกหรอื ยกตวั อย่าง 1. กลมุ่ อาชีพด้านเกษตรกรรม เกี่ยวกบั ศักยภาพหลักของพืน้ ท่ี 2. กลุ่มอาชีพด้านอตุ สาหกรรม ของตนเอง 3. กลุ่มอาชีพด้านพาณิชยกรรม 4. ยกตัวอยา่ งอาชพี ที่ใช้หลักการ 4. กลมุ่ อาชีพด้านความคดิ พื้นฐานของศักยภาพหลักในการ สรา้ งสรรค์ ประกอบอาชีพในกลมุ่ อาชีพใหม่ 5. กลุม่ อาชีพดา้ นการบริหารจดั การ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227