หลกั สตู รสถานศึกษา “ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น” ตามหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สาหรบั นกั ศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 กศน.อาเภอจอมบงึ สานักงาน กศน.จังหวัดราชบรุ ี สานกั งาน กศน. สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร
คานา กกกกกกก หลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2554) จดั ทาขึ้นเพอื่ ใหค้ รผู ้สู อนและผทู้ ี่มีส่วนเก่ียวข้องกับหลักสูตรน้ีไว้ใช้ศึกษา และจดั การศกึ ษาได้บรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตร ตลอดจนเพื่อเป็นเอกสารหลักฐานรองรับการประเมิน ประกันคณุ ภาพการศึกษาท้ังภายในโดยตน้ สงั กดั และภายนอกจากสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (สมศ.) กกกกกกกเอกสารฉบับน้ี ประกอบด้วย (1) บริบทพื้นฐาน (2) ปรัชญา (3) วิสัยทัศน์ (4) พันธกิจ (5) หลักการจุดหมายของหลักสูตร (6) กลุ่มเปูาหมาย (7) กรอบโครงสร้าง (8) การจัดหลักสูตร (9) สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ (10) แผนการลงทะเบียนเรียน (11) วิธกี ารจัดการเรียนรู้ (12) การจัด กระบวนการเรียนรู้ (13) ส่ือการเรียนรู้ (14) การวัดและประเมินผลการเรียน (15) การจบหลักสูตร และ (16) เอกสารหลักฐานการศึกษา รวมท้ังบรรณานุกรมและภาคผนวก กก ก ก ก ก ก เ อก ส า ร ฉ บั บ นี้ส า เ ร็ จ ล ง ได้ ด้ ว ย ดี เ น่ื อ งจ า ก ไ ด้ รั บ คา แ น ะ น า แ ละ ข้ อ มู ล จ า ก (1) ดร.รุ่งอรุณ ไสยโสภณ ผู้อานวยการกลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (2) นางสาวดารัตน์ กาญจนาภา ผู้อานวยการสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั จงั หวัดราชบุรี และ(3) นางกัณฐมณี แกว้ เกิด ครูชานาญการพิเศษรักษาการในตาแหน่งผอ.กศน. อาเภอจอมบึง รวมทั้งคณะครูของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอจอมบึง ขอขอบพระคณุ และขอบคุณทกุ ท่านมา ณ ทน่ี ้ดี ้วย (นายนพรัตน์ แจ้งหม่นื ไวย์) ผอ.กศน.อาเภอจอมบงึ
สารบญั หน้า บรบิ ทพน้ื ฐาน……………………………………………………………..…….….………….................................................1 ข้อมลู อาเภอจอมบึง...…………………………..…………………………….……………...............................................17 ขอ้ มูล กศน.อาเภอจอมบึง………………………………………………..…….……………...........................................27 แหลง่ เรยี นรู้ทสี่ าคัญในชุมชน.......................................…………...………………………..……………..................29 เปาู หมายการจัดการศึกษา………………………………………………………………………………………………………....30 ปรชั ญา วสิ ยั ทศั น์ พันธกิจ…………………………………………………………………………………………………..……..31 หลกั การ……………………………………………………………………………………………………………………………………31 จดุ หมาย…………………………………………………………………………………………………......................................32 กรอบโครงสร้างหลักสตู รสถานศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษา……………………………………………………..…………32 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้…………………………………………………………………………………..…………………34 คาอธบิ ายรายวชิ าและรายละเอียดคาอธบิ ายรายวชิ าบังคับ และรายละเอียดคาอธิบาย รายวชิ าเลือกบงั คับ…………………………………………………………………………………………………..……………..…40 สาระทกั ษะการเรยี นรู้……………………………………………………………………………………….………..….40 สาระความรู้พน้ื ฐาน……………………………………………………………………………………….………….…..55 สาระการประกอบอาชพี ………………………………………………………………………………………….……100 สาระทกั ษะการดาเนนิ ชวี ิต……………………………………………………………………………………………119 สาระการพัฒนาสงั คม……………………………………………………………………………………..……………134 แผนการลงทะเบียนเรียน ระดับประถมศกึ ษา…………………………………………………………………………….174 วิธกี ารจดั การเรียนรู้………………………………………………………………………………………………………………....176 การจัดกระบวนการเรยี นรู้…………………………………………………………………………..………………………..…..177 สื่อและแหล่งเรยี นรู้…………………………………………………………………….……………………………………….…..178 การจบหลักสตู ร…………………………………………………………………………………………………………….…….…..179
สารบัญ (ต่อ) หนา้ เอกสารและสิ่งอา้ งอิง…………………………………………………………………………………………………................181 ภาคผนวก...............................................................................................................................................182
บริบทพื้นฐาน ประวัตคิ วามเปน็ มาของจงั หวัดราชบุรี จังหวัดราชบุรี มีชื่ออันเป็นมงคลย่ิง หมายถึง “เมืองพระราชา”เป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของ ประเทศไทย จากการศึกษาและขุดค้นของนักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี พบว่าดินแดนแถบลุ่มแม่น้า แม่กลองแห่งนี้เป็นถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของคนหลายยุคหลายสมัย และมีความรุ่งเรืองมาต้ังแต่อดีต จาก หลักฐานทางโบราณ สถานและโบราณวัตถุจานวนมาก ทาให้เช่ือได้ว่ามีผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณนี้ ต้ังแต่ยุคหินกลาง ตลอดจนได้ค้นพบเมืองโบราณสมัยทวารวดีท่ีตาบลคูบัว อาเภอเมืองราชบุรี พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟูาจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แหง่ ราชวงศ์จกั รี ได้เคยดารงตาแหน่งหลวง ยกกระบัตรเมืองราชบุรใี นสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยาตอนปลาย ซง่ึ ในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาและตอนต้นกรุง รัตนโกสินทร์ปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าเมืองราชบุรีเป็นเมืองหน้าด่านที่สาคัญเป็นสมรภูมิการ รบหลายสมัย โดยเฉพาะในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟูาจุฬาโลกมหาราช ได้ยกทัพมาตั้งรับศึกพม่าในเขต ราชบุรหี ลายครงั้ ครัง้ ทสี่ าคัญทีส่ ุด คือ สงครามเก้าทัพ ต่อมา พ.ศ.2360 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธ เลิศหล้านภาลัย ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างกาแพงเมืองใหม่ทางฝ่ังซ้ายของแม่น้าแม่กลองตลอดมาจนถึง ปจั จุบัน ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ.2437 ได้ทรงเปล่ียนการปกครอง ส่วนภูมิภาค โดยรวมหัวเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้ชิดกันตั้งขึ้นเป็นมณฑล และได้รวมเมืองราชบุรี เมือง กาญจนบุรเี มืองสมทุ รสงคราม เมอื งเพชรบุรี เมอื งปราณบุรี เมืองประจวบคีรีขันธ์ รวม 6 เมือง ตั้งขึ้นเป็น มณฑลราชบุรีโดยตั้งท่ีบัญชาการมณฑล ณ เมืองราชบุรี ทางฝ่ังขวาของแม่น้าแม่กลอง (ต่อมาเป็นที่ต้ัง ของศาลากลางจังหวัดราชบุรีหลังเก่า และในปัจจุบันเป็นท่ีตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี)ต่อมา ในปี พ.ศ.2440 ได้ย้ายที่บัญชาการเมืองราชบุรี จากฝ่ังซ้ายกลับมาต้ังรวมอยู่แห่งเดียวกับศาลาว่าการ มณฑลราชบุรี ทางฝ่ังขวาของแม่น้าแม่กลอง จนถึง พ.ศ.2476 เม่ือได้มีการยกเลิกการปกครองแบบ มณฑลท้งั หมด มณฑลราชบุรีจึงถูกยกเลิกและคงฐานะเปน็ จังหวัดราชบรุ ีจนถึงปัจจบุ ัน ทีต่ ้งั และอาณาเขต จงั หวัดราชบุรีต้ังอยู่ในพื้นท่ีภาคกลางด้านทิศตะวันตก มีพื้นท่ี 3,247 ล้านไร่ หรือ 5,196 ตาราง กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 11.27 ของเนื้อท่ีภาคตะวันตก 8 จังหวัด มีพ้ืนท่ีชายแดนติดกับสาธารณรัฐแห่ง สหภาพเมียนมาร์ โดยมีเทือกเขาตะนาวศรีเป็นแนวพรมแดนสันปันน้า ระยะความยาว 73 กิโลเมตร จังหวัดราชบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 100 กิโลเมตร มีแม่น้าแม่กลองเป็นแม่น้าสายหลัก ไหลผ่านจังหวัดราชบุรีในเขตพ้ืนท่ีอาเภอบ้านโปุง โพธาราม และอาเภอเมืองราชบุรี เป็นระยะทาง 67 กิโลเมตร
2 อาณาเขตตดิ ตอ่ ดังน้ี ภาพท่ี 1 แผน่ ทีจ่ งั หวัดราชบุรี ทศิ เหนือ ติดต่อกับจังหวดั กาญจนบรุ ี ทิศใต้ ติดตอ่ กับจงั หวัดเพชรบุรี ทศิ ตะวันออก ติดตอ่ กับจงั หวดั นครปฐม สมุทรสาคร และ สมทุ รสงคราม ทิศตะวันตก ตดิ ต่อกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ลักษณะภูมปิ ระเทศ สภาพภมู ปิ ระเทศแบ่งไดเ้ ป็น 4 ลกั ษณะ คอื (1) พ้ืนท่ีภเู ขาสูง ไดแ้ ก่ บริเวณเขตแดนดา้ นทศิ ตะวนั ตกติดกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และเขตแดนด้านทิศใต้ติดกบั จงั หวัดเพชรบุรี มีสภาพเป็นเทือกเขาสูง อุดมด้วยปุาดิบ ปุาเบญจพรรณ ปุา เต็งรัง และปุาไผ่ ความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางต้ังแต่ 200 เมตร ถึง 1,100 เมตรสภาพเน้ือดิน ค่อนข้างเป็นดินทราย มีความอุดมสมบูรณ์ต่า มีปฏิกิริยาเป็นกรด ดินอุ้มน้าได้น้อย อยู่ในเขตพื้นท่ีอาเภอ สวนผงึ้ อาเภอบ้านคา และด้านทศิ ตะวันตกของอาเภอปากท่อ (2) พ้ืนที่ราบสูง ได้แก่ บริเวณถัดจากเทือกเขามาทางด้านทิศตะวันออก จนถึงตอนกลางของ พืน้ ทีจ่ ังหวดั มลี ักษณะเป็นท่ีราบสงู และเป็นลอนลาด มีแม่น้าภาชีและลาห้วยสาขาเป็นสายน้าหลักสภาพ ดนิ เปน็ ดินร่วนปนทราย มีการชะล้างพังทลายของหน้าดินค่อนข้างสูง สภาพเหมาะกับการปลูกพืชไร่และ
3 ไมผ้ ล อยใู่ นเขตพืน้ ทีอ่ าเภอสวนผงึ้ อาเภอบ้านคา อาเภอจอมบึง และด้านทิศตะวันตกของอาเภอปากท่อ เมืองราชบรุ ี โพธาราม และอาเภอบ้านโปงุ (3) พ้ืนท่ีราบลุ่ม ได้แก่ บริเวณสองฝ่ังแม่น้าแม่กลอง และด้านทิศตะวันออกของจังหวัด มีความอุดม สมบูรณค์ ่อนข้างดี มีระบบชลประทานแม่กลองที่เป็นระบบชลประทานขนาดใหญ่ สภาพดินเป็นดินร่วน และดินร่วนปนเหนียว เหมาะแก่การปลูกข้าวและพืชผัก อยู่ในเขตอาเภอจอมบึง ปากท่อ เมืองราชบุรี บาง แพ โพธาราม และอาเภอบา้ นโปุง (4) พนื้ ทร่ี าบลุม่ ตา่ ไดแ้ ก่ บรเิ วณทิศตะวนั ออกของจงั หวดั บริเวณตอนปลายของแม่น้าแม่กลอง ท่ีเชื่อมต่อกับจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นที่ราบลุ่ม มีลาคลองและคูน้าที่เช่ือมต่อกับแม่น้าแม่กลองอยู่สูง จากระดับนา้ ทะเลปานกลาง 1 - 2 เมตร สภาพดินค่อนข้างเป็นเน้ือดินเหนียว ระบายน้าเลว มีความอุดม สมบูรณ์ตามธรรมชาติปานกลางถงึ สงู ใชท้ านา และยกรอ่ งเพื่อปลกู พืชสวนและพชื ผัก อยู่ในเขตอาเภอ วดั เพลง และอาเภอดาเนินสะดวก ลกั ษณะภูมอิ ากาศ จังหวัดราชบุรีตั้งอยู่ในเขตท่ีได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้สามารถแบ่งออกตาม ฤดูกาลได้ 3 ฤดู ดังนี้ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ช่วงน้ีได้รับอิทธิพลจากลม ตะวันออกและลมฝุายใต้พัดผ่านทาให้มีอากาศร้อนอบอ้าวทั่วไป อาจมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในช่วง เดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน (สถิติอุณหภูมิสูงท่ีสุดวัดได้ 40.9 องศาเซลเซียส เม่ือวันท่ี 24 เมษายน 2541) ฤดฝู น แบ่งออกเปน็ 2 ชว่ ง ไดแ้ ก่ ช่วงแรก ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม ช่วงนี้ได้รับอิทธิพลจากมรสุม ตะวันตกเฉยี งใต้ที่พัดเอาความชื้นจากมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน แต่เนื่องจากมีเทือกเขาตะนาวศรี กั้นอยู่ จึงทาให้พื้นที่ติดเทือกเขาได้รับปริมาณฝนไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะถูกพัดเลยไปตกแถบลุ่มน้าแม่ กลองและดา้ นตะวันออกของจงั หวดั ช่วงทส่ี อง ประมาณเดือนกนั ยายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ช่วงนี้ได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่ เลื่อนลงมาจากทางภาคเหนือมาปะทะแนวเทือกเขาตะนาวศรี ทาให้มีฝนตกชุกและตกหนักแถบอาเภอ สวนผ้ึง บ้านคา จอมบึง และอาเภอโพธาราม ทาให้เกิดอุทกภัยและน้าปุาไหลหลากจากเทือกเขาเป็น ประจาทุกปี
4 ปริมาณฝนมากท่ีสดุ ต่อเดอื น วัดได้ 441.5 มิลลิเมตร เม่ือเดือนตลุ าคม พ.ศ.2548 ปริมาณฝนมากทสี่ ุดตอ่ ปี วัดได้ 1,513.1 มลิ ลเิ มตร เมอื่ ปี พ.ศ.2539 ปรมิ าณฝนนอ้ ยที่สดุ ต่อปี วดั ได้ 902.7 มลิ ลิเมตร เมือ่ ปี พ.ศ.2536 ฤดูหนาว เร่ิมต้ังแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ มีอากาศหนาวเย็นเน่ืองจาก ได้ลมท่ีพัดนาเอาความหนาวเย็นและแห้งมาปกคลุมทาให้พ้ืนท่ีตามเชิงเขา และอาเภอปากท่อ มีอากาศ หนาวถึงหนาวจดั ทกุ ปี (สถติ อิ ุณหภมู ติ า่ ท่ี 25 ธนั วาคม 2542) การปกครอง และประชากร จังหวดั ราชบรุ ี แบ่งการปกครองออกเป็น 10 อาเภอ 104 ตาบล 975 หมบู่ ้าน การบริหารราชการส่วนภมู ภิ าคและท้องถนิ่ ในจงั หวดั การจัดองค์กรบริหารราชการส่วนภูมิภาค มีหน่วยงานราชการท่ีอยู่ในความควบคุมดูแลของผู้ว่า ราชการจงั หวดั ประกอบด้วย (1) ส่วนราชการในระดับจังหวัด แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ หน่วยราชการบริหารส่วนภูมิภาค ประจาจังหวดั จานวน 31 หน่วยงาน และหน่วยราชการบริหารสว่ นกลาง จานวน 78 หน่วยงาน (2) การบรหิ ารราชการสว่ นท้องถน่ิ จานวน 112 แหง่ ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แหง่ ไดแ้ ก่ องค์การบริหารสว่ นจังหวัดราชบรุ ี เทศบาลเมือง 4 แห่ง ได้แก่ เทศบาลเมืองราชบุรี เมืองบ้านโปุง เมืองโพธารามและเทศบาล เมืองท่าผา เทศบาลตาบล 30 แหง่ องค์การบริหารส่วนตาบล 77 แหง่ การแบง่ เขตการปกครองจังหวดั ราชบุรี ลาดับ อาเภอ ต้งั เม่ือ พน้ื ที่ จานวน (แห่ง) (ตร.กม.) ตาบล หมบู่ ้าน 1 เมืองราชบรุ ี ร.ศ. 116 430.298 22 187 2 บ้านโปงุ ร.ศ. 116 366.559 15 183 3 โพธาราม พ.ศ. 2436 417.009 19 156 4 ดาเนนิ สะดวก กอ่ น พ.ศ. 2400 210.271 13 105 5 ปากท่อ ร.ศ.118 757.835 12 85 6 จอมบึง 772.054 6 89 พ.ศ. 2438
5 ลาดับ อาเภอ ตง้ั เมือ่ พ้ืนที่ จานวน (แห่ง) (ตร.กม.) ตาบล หมู่บ้าน 7 บางแพ พ.ศ. 2457 172.597 7 65 8 สวนผง้ึ พ.ศ. 2517 1,005.080 4 37 9 บ้านคา พ.ศ. 2540 1,026.867 3 40 10 วัดเพลง พ.ศ. 2453 37.892 3 28 รวม 5,196.462 104 975 หมายเหตุ : ตาบลจานวน 104 ตาบล ประกอบด้วย ตาบลในการปกครองท้องท่ี จานวน 101 ตาบล การ ปกครองท้องถิ่น (อยู่ในเขตเทศบาลเมือง) จานวน 3 ตาบล ได้แก่ ตาบลหนา้ เมอื ง อาเภอเมอื งราชบรุ ี ตาบลบา้ นโปงุ อาเภอบา้ นโปุง และตาบลโพธาราม อาเภอโพธาราม คาขวัญประจาจังหวัดราชบุรี “คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโปุง เมืองโอ่งมังกร วัดขนอนหนังใหญ่ ตื่นใจถ้างาม ตลาดน้า ดาเนิน เพลินคา้ งคาวร้อยล้าน ย่านยสี่ กปลาดี” ตราประจาจังหวัดราชบรุ ี รปู เคร่ืองราชกกุธภณั ฑ์ของพระมหากษตั ริย์ 2 ส่งิ คอื พระแสงขรรค์ชัยศรี ประดิษฐานอยบู่ น บนั ไดแก้ว และฉลองพระบาทคูป่ ระดิษฐานอย่บู นพานทองหมายถึง เคร่ืองแสดงถึงความเป็นพระเจ้า แผ่นดิน (สานักงาน จงั หวดั ราชบรุ ี ดอกไม้ประจาจังหวดั ราชบุรี ชื่อดอกไม้ ดอกกัลปพฤกษ์ ชือ่ วิทยาศาสตร์ Cassia bakeriana Craib ต้นไมป้ ระจาจังหวัดราชบรุ ี ชอื่ พรรณไม้ โมกมัน ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Wrightia tomentosa
6 นโยบายพัฒนาของจังหวัดราชบุรี วิสัยทัศน์จังหวัดราชบุรี เมืองเกษตรสเี ขียว เศรษฐกิจมั่นคง สงั คมมีความสขุ เมืองเกษตรสีเขียว พัฒนากระบวนการผลิตในพ้ืนท่ีในทุกกิจกรรม ให้เป็นการผลิตท่ีดีและ เหมาะสม ปลอดภัยจากสารเคมผี ู้บริโภคได้บริโภคสินค้าเกษตรท่ีปลอดภัยโดยมุ่งเน้นส่งเสริมให้ เกษตรกรทาการเกษตรกรรม อย่างย่ังยืน เพ่อื ให้เกิดความสมดุลของเกษตรกรรมให้ความรู้และ ส่งเสริมการใช้สารชีวภาพทดแทนการใช้สารเคมี ของเกษตรกรโดยจัดให้มีกลไกการให้ความรู้ และ ขบั เคลื่อนในระดับพนื้ ที่ รวมทั้งการสร้างเครือขา่ ยเพ่ือการพฒั นาใน พนื้ ท่ี ด้านการตลาดส่งเสริมและ พัฒนาการรวมกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชน โดยพัฒนาให้มีการเช่อื มโยง กันต้ังแต่การ รวบรวมผลผลิต การขนส่ง จนถึงผู้จาหน่ายผลผลิตเศรษฐกิจมั่นคง เป็นเศรษฐกิจท่ีพัฒนาและสร้าง ความเขม้ แข็งแกเ่ ศรษฐกิจฐานราก เพ่อื การสร้างภูมิคุ้มกันและพึ่งตัวเองในสถานการณ์ความผันผวน ทางเศรษฐกิจ โดยการพฒั นาความเขม้ แขง็ เศรษฐกิจชุมชน พัฒนา อาชีพ สร้างรายได้ในกลุ่ม ประชาชนและเกษตรกร และยกระดบั เปน็ การพฒั นาในสาขาการผลิตที่จะขบั เคลื่อนมูลค่า GPP ของ จังหวดั โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน พัฒนาคุณภาพผลผลิต และการบริการโดยการนา องค์ความรู้ และสร้างนวัตกรรม เทคโนโลยีอเิ ล็กทรอนิกส์ เพื่อสนับสนุนภาคการผลิตและการ บริหารการตลาดท่ีมีประสิทธิภาพมาก ข้ึน ทั้งนี้เพือ่ การปรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของจังหวัดให้ มั่นคง มีภูมิคมุ้ กันในการขยายตัวต่อไป สังคมมีความสุข เป็นการอยู่ร่วมกนั ของประชาชนในจังหวัด อยา่ งสันติสุข ความเหลื่อมลา้ ลดลง มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่เหมาะสม เข้าถึงระบบ ประกันสุขภาพท่ีครอบคลุม มีการสืบทอดวัฒนธรรมอย่าง มีคณุ ค่า มีรายได้ที่เหมาะสมภายใต้ แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสวยงาม จึงกาหนดวิสัยทัศน์การ พัฒนาระหวา่ ง พ.ศ. 2561 – 2564“เมอื งเกษตรสเี ขยี ว เศรษฐกิจมน่ั คง สังคมมีความสขุ ” พันธกิจ 2.1 ปรับปรงุ ประสทิ ธิภาพการผลิต การบรกิ าร และพฒั นาระบบการตลาดในแต่ละสาขาการผลติ ของจงั หวดั 2.2 พฒั นาครอบครวั และชมุ ชนใหเ้ ขม้ แขง็ สง่ เสรมิ สุขภาวะ การมวี นิ ัยทางสงั คม ความ ปลอดภัยในชีวติ และ ทรัพยส์ ิน และลดความเหลือ่ มลา้ ทางสังคม 2.3 ยกระดบั มาตรฐานการบริการ และสง่ เสรมิ การท่องเท่ียวทห่ี ลากหลาย เพื่อการสร้างรายได้ 2.4 บริหารจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมที่มปี ระสทิ ธภิ าพ
7 ประเด็นยุทธศาสตร์ และเป้าหมายการพฒั นา ประเด็นยุทธศาสตรท์ ่ี 1 เพิม่ ประสิทธภิ าพการผลติ และความสามารถในการแขง่ ขัน 1. พัฒนาความเขม้ แข็งเศรษฐกิจชุมชนและเครือข่ายธุรกิจในท้องถิ่น โดยส่งเสริมการพัฒนา ความรู้ท้ัง การผลิตท่ีได้มาตรฐานและการตลาด กลุ่มอาชีพ ผลิตภัณฑ์ชุมชน วิสาหกิจชุมชน SMEs เพื่อการผลติ ท่ีได้มาตรฐานตาม ความต้องการของตลาด เพื่อการสร้างรายได้และความเข้มแข็งของ เศรษฐกจิ ในทอ้ งถ่ิน 2. ยกระดับการพัฒนาด้านการเกษตร มีเปูาหมายเป็นเมืองเกษตรสีเขียว และเพ่มิ มูลค่า ผลิตภัณฑ์ มวลรวมในภาคการเกษตร โดยการพัฒนามาตรฐานการผลิต ใช้นวัตกรรม ภูมิปัญญา และ เทคโนโลยีท่เี หมาะสม ในการ สรา้ งคณุ คา่ และเอกลกั ษณ์ของสินคา้ ส่งเสริม Smart Farmer เพื่อการ ใช้นวัตกรรมในการผลิต ให้ความรู้และส่งเสริมการ ใช้สารชีวภาพทดแทนการใช้สารเคมีของเกษตรกร พัฒนาระบบควบคมุ คุณภาพสินคา้ ท้งั ภาคบรกิ าร ภาคการเกษตร ผลิตภัณฑ์ชุมชนจากผู้ผลิตจนถึง ตลาดและผู้บริโภค ท้ังนี้เพ่ือสร้างความสามารถในการแขง่ ขันและการส่งออก สาหรับ สาขา อุตสาหกรรมและสาขาการผลิตอ่นื ส่งเสริมการผลิตและสินค้าด้านการบริการ ที่ได้มาตรฐานตาม ความตอ้ งการของ ตลาด 3. สนับสนุนการศึกษาวิจยั การใช้ภูมิปัญญา เทคโนโลยี การคิดคน้ นวัตกรรมท่ีมีคุณค่า และ พฒั นา เป็นอุปกรณ์ เครื่องมืออปุ กรณ์ เพอ่ื สนับสนุนกระบวนการผลิตในทุกสาขาการผลิต หรือเพือ่ การพัฒนาสินค้าใหม่ในการ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยการร่วมมือกับเกษตรกร ผู้ประกอบการ สถาบนั การศกึ ษา และกระทรวง กรม ทเี่ กย่ี วขอ้ ง 4. ด้านการตลาด ดาเนินการเปิดช่องทางการคา้ มากข้ึน โดยการแสวงหาความร่วมมือกับภาค การตลาดต่างๆ ในการเพมิ่ ช่องทางการจาหน่ายของจังหวดั ทั้งในและต่างประเทศ ตลาดประชาคม อาเซียนและประเทศ คู่ค้า ท้ังผลติ ภัณฑท์ างการเกษตร อุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ชุมชนในรูปแบบทีม ราชบุรี กลยทุ ธ์ 1.1 สง่ เสริมการใชเ้ ทคโนโลยีและนวตั กรรมในการพัฒนาอปุ กรณ์ เครอ่ื งมืออิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีชีวภาพ เพ่ือยกระดการผลิตทางการเกษตร การบรกิ าร และอุตสาหกรรม 1.2 พฒั นาความเข้มแข็งธรุ กิจท้องถิน่ และสร้างเครือข่ายความร่วมมอื 1.3 พัฒนามาตรฐานการผลิตและสร้างเอกลกั ษณ์ผลผลิต
8 1.4 พัฒนาประสิทธิภาพการตลาดการสง่ ออก และควบคมุ คุณภาพของสนิ ค้าจากผู้ผลิตถึง ผู้บริโภค 1.5พัฒนาระบบการขนสง่ เพื่อการเช่ือมโยงทางการค้า 1.6 สง่ เสรมิ การสรา้ งสรรค์งานศลิ ปะ งานบันเทงิ การสอื่ สารทางการตลาดด้วย ระบบดิจิทัลและโปรแกรม ประยุกต์ เป้าประสงคเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ 1.ผู้ประกอบการและเกษตรกรมีความรู้ในการใช้เทคโนโลยกี ารผลติ และการตลาดมากยงิ่ ขน้ึ 2. เพิ่มประสิทธิภาพการผลติ สู่มาตรฐาน นวตั กรรมและตามความต้องการช่องตลาด 3.เพอ่ื ขยายช่องทางการตลาดและการประชาสัมพันธท์ งั้ ในและตา่ งประเทศมากข้นึ ตัวชวี้ ัดและเปา้ หมายการพฒั นา เปา้ ประสงคเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ ตวั ชวี้ ัด/คา่ เปา้ หมาย 2561 คา่ เปา้ หมายรายปี 2562 2563 2564 1.ผู้ประกอบการและเกษตรกรมีความรู้ ใกนารใชเ้ ทคโนโลยีการผลิต นวตั กรรมและ รอ้ ยละของเกษตรกรและ รอ้ ยละ ร้อยละ รอ้ ยละ ร้อยละ การตลาดมากย่งิ ข้ึน ผู้ประกอบการที่เข้าอบรม 10 หลกั สูตรถา่ ยทอด 20 30 40 เทคโนโลยี การตผลิตาดและความร้ดู า้ น จานวนผลติ ภณั ฑท์ พ่ี ฒั นา จานวน จานวน จานวน จานวน เนชวิงัตกรรมสรา้ งสรรค์ 1 111 2.เพิม่ ประสทิ ธิภาพการผลิตสู่มาตรฐาน รอ้ ยละผลิตภัณฑ์จงั หวัด รอ้ ยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ และตามความต้องการของตลาด ราชบรุ ีได้รบั มาตรฐาน 5555 เพม่ิ ขึน้ 3.เพอื่ ขยายช่องทางการตลาดและการ จานวนรายไดจ้ ากการ ร้อยละ รอ้ ยละ ร้อยละ รอ้ ยละ ประชาสัมพันธ์ทั้งในและตา่ งประเทศมาก จาหนา่ ยเพม่ิ ขน้ึ 5555 ขน้ึ
9 ประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี 2 ส่งเสริมและพัฒนาเชอ่ื มโยงกจิ กรรมการทอ่ งเที่ยว พัฒนาการท่องเที่ยวให้เปน็ เสน้ ทางการทอ่ งเท่ยี วเพ่ือการเรียนรูส้ รา้ งสรรค์สังคมทบี่ ูรณา การศลิ ปะ วัฒนธรรม สิ่งแวดลอ้ ม การท่องเทยี่ วเชิงนันทนาการ และเชิงเกษตรสู่ความม่ังคัง่ อย่าง ยั่งยืน ดังนั้น การพฒั นาจะเป็น สองรปู แบบ ดังน้ี 1.พฒั นาการท่องเทย่ี วเชงิ อนุรักษ์ เป็นศูนย์กลางการท่องเทยี่ วด้านประวัตศิ าสตรม์ รดก ไทยหวั ใจ แผน่ ดิน(เมอื งคบู วั )เส้นทางการทอ่ งเทีย่ วเชงิ ธรรมชาติ (สวนผง้ึ , จอมบึง, บ้านคา, บางแพ) เส้นทางท่องเทย่ี วเชิงเกษตร และวถิ ีไทยวถิ ีถ่นิ สายน้า (ดาเนินสะดวก) ทอ่ งเท่ยี วเชิงวัฒนธรรมชมุ ชน ไทยด้งั เดิม (บา้ นโพหัก, ไทยพ้ืนถน่ิ ) 2.พฒั นาการท่องเที่ยวในกลุ่มเปูาหมายคนรุน่ ใหม่วยั ทางานเพ่ือเน้นการพักผ่อนในเชงิ การเรียนรู้ สร้างสรรค์ เช่น การทอ่ งเทีย่ วเชงิ นันทนาการเพื่อการพักผ่อนบรเิ วณอาเภอสวนผง้ึ บ้านคา และ ท่องเทย่ี วเชงิ เกษตร เช่น อทุ ยานกล้วยไม้ หมู่บา้ นผลติ เกษตรปลอดภัย หมู่บ้าน OTOP กลยุทธ์ 2.1 พฒั นาและฟนื้ ฟแู หล่งท่องเทีย่ ว 2.2 พัฒนากจิ กรรมการท่องเท่ยี วเชิงการเรียนรูส้ ร้างสรรค์สงั คม ดา้ นศาสนา ศิลปะ วฒั นธรรม การเกษตร นันทนาการและสิ่งแวดล้อม 2.3 พัฒนาบรกิ ารและโครงสรา้ งพื้นฐานสนบั สนุนการเช่ือมโยงการท่องเท่ียว 2.4 พฒั นาการท่องเทีย่ วท่ปี ลอดภัย เปา้ ประสงค์เชิงยทุ ธศาสตร์ 1. เพือ่ เพ่ิมรายไดจ้ ากการทอ่ งเทย่ี วมากยง่ิ ขน้ึ ตัวชว้ี ัดและเป้าหมายการพฒั นา เป้าประสงค์เชงิ ยทุ ธศาสตร์ ตัวชว้ี ัด/ค่าเป้าหมาย คา่ เปา้ หมายรายปี ค่าฐาน 1. เพือ่ เพิ่มรายได้จากการท่องเท่ียว อัตราการขยายตัว รจายกไกดา้ รทอ่ งเท่ยี ว 2561 2562 2563 2564 มากยิ่งขึ้น 2,250.8 ร้อยละ รอ้ ยละ ร้อยละ ร้อยละ 7ลบ้าานท 5 5 5 5 เพ่ิมขึ้น
10 เป้าประสงคเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ ตัวช้ีวัด/คา่ เปา้ หมาย คา่ เปา้ หมายรายปี 1. เพ่อื ลดความเหล่ือมล้า ค่าฐาน 2561 2562 2563 2564 ดา้ นรายได้ของประชาชน 1.1 ประชากรอายุ 15 ขน้ึ ไป ท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์ จปฐ.2559 รอ้ ยละ ร้อยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ 2. คุณภาพชีวิตของ ได้รบั การพัฒนาอาชีพและ ประชากรทุกกลมุ่ วัยสูงข้ึน รายได้ 10,148 คน 30 40 50 60 (/อส5าัด,(3ยปส2ุ ี ่ว102น56540-05อค6,ค.ไ8ป64านป0น2)ขยี9)8ุ6นึ้ 1.2 สมั ประสิทธิ์การ - 0.450 - 0.350 กระจายรายได้ลดลง รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ ร้อยละ 1.3 รอ้ ยละของประชากรที่ อยู่ใตเ้ สน้ ความยากจน 9.27 9 8 7 6 ลดลง (ปี 2557) 1.4 จานวนหม่บู ้าน 9 รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ รอ้ ยละ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ต้นแบบ หม3ู่บา้ น 20 21 22 23 เพ่มิ ข้นึ (ป2ี 559) 2.1 จานวนกล่มุ คดอี าญาท่ี 147 คดี รอ้ ยละ ร้อยละ รอ้ ยละ ร้อยละ นา่ สนใจลดลง (ปี 2557) 5 5 5 5 2.2 ร้อยละความ จานวน ร้อยละ ร้อยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ สคิทรอธบใิ นครละมุ บบหลักประกนั สุขภาพจังหวัดราชบุรี ประชากร 99 99 99 99 ทัง้ หมด 2.3 ผู้สูงอายุไดร้ บั การดแู ล และพฒั นาศกั ยภาพ ค รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ ร้อยละ 136น,010 90 92 94 96 (ปี 2558) 2.4 จานวนแรงงานท่ีได้รบั ค ค ค คค การพฒั นาทกั ษะฝมี ือ 2,น000 500 น 500 น 500 น 5น00 แรงงาน ประเด็นยุทธศาสตรท์ ่ี 3 ส่งเสริมคุณภาพชวี ติ และชุมชนเข้มแขง็ พฒั นาเพื่อยกระดับรายได้ของครัวเรือนและชุมชนเพ่ือสร้างความเขม้ แขง็ ระดับชุมชน โดย สง่ เสริมการ พฒั นาอาชีพตามแนวทางตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งส่งเสริมสุขภาวะของประชาชนโดย ส่งเสริมสขุ ภาวะทางกาย สขุ ภาวะทางจิต สุขภาวะทางสงั คม และสขุ ภาวะทางปัญญาที่สมบูรณ์ ส่งเสริม การเข้าถงึ บริการสาธารณสุข ปูองกันโรค การบริการด้านการแพทย์รวมท้ังการเข้าถึง สิทธิในระบบ หลักประกันสุขภาพ ส่งเสริมความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พัฒนาการเข้าถงึ การศึกษาของ
11 ประชากรวยั แรงงานให้มากขน้ึ ตลอดจนการสง่ เสรมิ ศกั ยภาพและดแู ลผสู้ งู อายุ เพ่ือการ เป็นเมืองที่ ประชาชนอยู่รว่ มกันในสังคมอยา่ งมคี วามสุข กลยทุ ธ์ 3.1.เสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งของชมุ ชนและการพฒั นารายได้ครวั เรือน 3.2.สง่ เสริมการศึกษาของเยาวชนและประชากรวยั แรงงาน 3.3.สง่ เสริมการพฒั นาตามแนวปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3.4. สง่ เสรมิ สุขภาวะของประชาชนทุกกลุม่ วัย 3.5. ส่งเสรมิ ความปลอดภัยในชวี ติ และทรพั ยส์ ิน เป้าประสงคเ์ ชงิ ยุทธศาสตร์ 1. เพอื่ ลดความเหลือ่ มล้าด้านรายไดข้ องประชาชน 2. คุณภาพชีวติ ของประชากรทกุ กลุ่มวัยสงู ขึ้น 3. ส่งเสริมการมีสว่ นร่วมเพื่อสร้างความเข้มแขง็ ของชุมชนมากยงิ่ ขึน้ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 สง่ เสริมการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน และทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและมีประสิทธิภาพโดยการส่งเสริมการพฒั นาพลังงาน ทดแทนเพือ่ ใชใ้ นภาคครวั เรือนและชมุ ชน เชน่ การประหยัดการใช้ไฟฟา้ ของครัวเรือน การประหยัดการ ใช้น้ามัน โดยสนับสนุนการ พัฒนาพลังงานทดแทนในชุมชนและครัวเรือน สาหรับการแก้ไขปัญหาขยะ พน้ื ท่ีเกิดขยะท่สี าคัญคือเขตเมือง โดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วน ท้องถ่ิน ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นท่ี ร่วมกนั รับผิดชอบในการจัดการปัญหาขยะ ส่งเสริมสนับสนุน และสรา้ งแรงจูงใจแก่องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นพฒั นาระบบการจัดการขยะท่ีดีสร้างอปท.ต้นแบบ เพอ่ื เป็นแหลง่ เรียนรู้ในการแก้ปัญหาขยะมูลฝอย กลยทุ ธ์ 4.1 สง่ เสรมิ การประหยดั พลงั งาน และการใชพ้ ลงั งานทดแทนภาค ครวั เรอื น 4.2สง่ เสริมการมีสว่ นรว่ มจากทกุ ภาคสว่ นในการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม 4.3สง่ เสริมการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรปาุ ไม้และการเพ่ิมพื้นที่สีเขยี ว
12 เปา้ ประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ 1. เพื่อลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคครวั เรือน การใช้น้ามันเชื้อเพลิง และการใช้พลังงานทดแทน มากขนึ้ 2. สง่ เสรมิ การมสี ่วนร่วมในการจัดการปญั หาขยะมูลฝอยในพน้ื ที่ และคุณภาพน้าทิง้ จาก แหลง่ กาเนดิ ทีม่ ีกฎหมาย ควบคมุ อยูใ่ นระดับมาตรฐาน 3.เพอื่ สรา้ งการมีส่วนร่วมจากภาคสว่ นต่างๆในการอนรุ ักษ์และพนื้ ฟูทรัพยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดล้อม ตัวชว้ี ดั และเป้าหมายการพฒั นา เป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ ตวั ช้ีวัด/คา่ เป้าหมาย คา่ ฐาน คา่ เป้าหมายรายปี 2561 2562 2563 2564 1.เพอื่ ลดปริมาณการใช้ 1.1 สัดส่วนปริมาณ รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ไฟฟูาภาคครวั เรอื น และ กไฟาฟรใูาชภ้ าคครัวเรอื นต่อ 647 รอ้ ยละ 6.5 7 7.5 การใชพ้ ลังงานทดแทนมาก ประชากรลดลง กโิ ลวัตต์- 6 ข้ึน ชั่วโมง/คน รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ 2.1 รอ้ ยละของ 6 81 2.ส่งเสรมิ การมีส่วนร่วมใน ขปยรมิะใานณพื้นท่จี งั หวัด 247,105 ตนั รอ้ ยละ 0 การจัดการปัญหาขยะ มูล ลดลง (ปี 2558) ฝอยในพ้ืนท่ี และ คณุ ภาพ 2.2 คณุ ภาพน้าท้ิงจาก 4 รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ นา้ ทง้ิ จากแหล่งกาเนิดที่มี แหล่งกาเนิดทมี่ ี 81 82 83 กฎหมายควบคมุ อยูใ่ นระดบั กฎหมาย รอ้ ยละ รอ้ ยละ ควบคุมอยูใ่ นระดบั มาตรฐาน มาตรฐาน 79 80 (ปี 2558)
13 เป้าประสงคเ์ ชิงยุทธศาสตร์ ตวั ชี้วดั /คา่ เป้าหมาย ค่าฐาน 2561 ค่าเป้าหมายรายปี รอ้ ยละ 2562 2563 2564 3.สร้างการมีส่วนรว่ มจาก 3.1 อตั ราการ 1,081,387 รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ภาคสว่ นตา่ งๆในการ เปลย่ี นแปลงพน้ื ท่ี ไร่ 0.05 0.10 0.15 0.20 อนุรักษ์ และพ้ืนฟู ปุาไม้เพ่ิมขึ้น ทรัพยากร (ปี 2557) ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ประเด็นยุทธศาสตรท์ ่ี 5 การพฒั นาเพอื่ เสริมความมั่นคง ภัยคุกคามด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ 4 ภัย 6 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย ภยั คุกคาม ด้านยาเสพติดด้าน แรงงานต่างด้าวและบุคคลหลบหนเี ขา้ เมืองโดยผิดกฎหมาย การก่อการร้ายและ อาชญากรรมขา้ มชาติ การบุกรุกทาลาย ทรัพยากรธรรมชาติและปุาไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ ภัย พิบัติ และความขดั แยง้ ทางสงั คม โดยเฉพาะเรอ่ื งของผู้มีอทิ ธิพล และการทุจริตคอรัปช่ัน ท้ังในพ้ืนที่ ชายแดนและพ้นื ท่ีตอนในโดยดาเนินการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพ้ืนที่ เปูาหมาย เรง่ ด่วนเป็นลาดับแรกและดาเนินการในพื้นทเี่ ปาู หมายรองครบถ้วนในระยะ 4 ปีในส่วนการปูองกนั และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เป็นการดาเนินการในพื้นที่เปูาหมายเพื่อการพฒั นาแก้ลิงแหล่งน้าหรือ ปรับปรงุ แหล่งน้าทีม่ อี ย่เู ดมิ ใหส้ ามารถกกั เก็บนา้ ในฤดูฝนและสามารถใชน้ า้ ในฤดแู ลง้ เพื่อสนับสนุน การเกษตรและการอุปโภคบริโภค กลยุทธ์ 5.1 เสริมสร้างใหค้ นและชมุ ชนมีจิตสานกึ ด้านความมัน่ คง 5.2 บรู ณาการเพ่ือการพัฒนาและสร้างเครือข่ายความมน่ั คง 5.3 พฒั นาระบบข้อมลู ด้านความมนั่ คง และสาธารณภยั 5.4 สนับสนนุ การดาเนินงานโครงการพระราชดาริ 5.5 พฒั นาแก้มลิง ฟ้ืนฟแู หล่งกกั เก็บนา้ การกระจายและเช่อื มโยงแหล่งนา้ เพื่อแก้ไขปัญหาน้า ทว่ มและภยั แลง้
14 เป้าประสงค์เชิงยทุ ธศาสตร์ 1.สง่ เสรมิ ให้ประชาชนมสี ่วนร่วมในการพัฒนาดา้ นความม่ันคงเพ่ิมขน้ึ 2. เพ่อื แก้ไขปัญหาความมั่นคงในทกุ มติ ิ 3. เพอื่ แก้ไขปญั หาภัยแล้ง นา้ ท่วม และภยั พบิ ัติอ่นื ในพนื้ ที่เปูาหมายได้อย่างครบถว้ น ตวั ชวี้ ดั และเป้าหมายการพัฒนา เปา้ ประสงคเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ ตวั ช้ีวัด/ค่าเป้าหมาย ค่าฐาน คา่ เป้าหมายรายปี 1.เพอ่ื แก้ไขปัญหาภยั แล้ง นา้ ทว่ ม พืน้ ทเี่ สี่ยงภัยและภยั 2561 2562 2563 2564 และภยั พบิ ัติอื่นในพ้ืนที่เปาู หมาย พบิ ัตไิ ด้รับการปอู งกัน (จานวนพนื้ ท่ี ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ และแก้ไข เปูาหมาย) 20 40 60 80 ไดอ้ ย่างครบถว้ น 2. ส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนมีส่วน ประชาชนในพื้นท่ี ตาบล ตาบล ตาบล ตาบล ตาบล รว่ ม ในการพัฒนาความม่ันคง เปูาหมายมีส่วนรว่ ม เพม่ิ ข้ึน ใน 51 10 10 15 16 การเสรมิ สร้างความ มนั่ คง 7. การเชื่อมโยงกับแนวทางการพัฒนาของประเทศ 7.1 ยุทธศาสตร์ชาตริ ะยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560– 2579) “ประเทศไทยมีความมน่ั คง ม่ังคั่ง ย่ังยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลกั ปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง” ประกอบด้วย 6 ยทุ ธศาสตร์ ดงั น้ี (1) ยุทธศาสตร์ ดา้ นความมน่ั คง มีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปลี่ยนแปลงท้ังภายในและภายนอกประเทศสังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคลมีความมั่นคงในทุกมิติ ท้ังเศรษฐกิจ สังคม สง่ิ แวดล้อม และ การเมือง ประเทศ มีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ ที่ เข้มแข็งเป็นศูนย์กลางและเป็นที่ยึดเหน่ียวจิตใจของประชาชน ระบบการเมืองมีความมน่ั คงเป็น กลไกทีน่ าไปสู่การบริหารประเทศท่ี ต่อเน่ืองและโปร่งใส สังคม มีความปรองดองและความสามัคคี สามารถผนึกกาลังเพื่อพัฒนาประเทศ ชุมชนมีความ เข้มแข็ง ครอบครัวมีความอบอุ่น ฐานทรัพยากร และสงิ่ แวดล้อม มคี วามมัน่ คงของอาหาร พลงั งาน และน้า
15 (2) ยทุ ธศาสตร์ การสรา้ งความสามารถในการแข่งขัน สามารถสรา้ งรายได้ทง้ั ภายในและภายนอกประเทศสร้างฐานเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ อนาคต เปน็ จุดสาคญั ของการเชอื่ มโยงภูมิภาคทั้งการคมนาคมและขนส่ง การผลิต การคา้ การลงทนุ การทาธุรกิจ มบี ทบาทสาคญั ใน ระดบั ภูมิภาคและระดับโลก เกิดสายสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างมีพลงั (3) ยทุ ธศาสตร์ การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน ม่งุ ประโยชน์สว่ นรวมอยา่ งย่ังยืนใหค้ วามสาคัญการมีส่วนร่วมของประชาชนทกุ ภาคส่วนเพื่อการ พฒั นาในทกุ ระดบั อย่างสมดลุ มเี สถียรภาพ และยงั่ ยืนประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมยึดถือและ ปฏิบตั ติ ามปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพยี ง (4) ยุทธศาสตร์ การสร้างโอกาสความเสมอภาคและเทา่ เทียมกนั ทางสังคม ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกจิ อย่างต่อเนอื่ งยกระดับเปน็ ประเทศในกลุม่ ประเทศ รายได้ สงู ความเหล่อื มลา้ ของการพัฒนาลดลง ประชากรได้รับผลประโยชนจ์ ากการพัฒนาอยา่ งเท่า เทยี มมากขึ้น (5) ยุทธศาสตร์ การสรา้ งการเติบโตบนคุณภาพชีวติ ทเี่ ปน็ มิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนาท่ีสามารถสร้างความเจริญรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เพ่ิมขึ้นอย่าง ต่อเน่ือง ซ่ึงเป็นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจท่ีไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินพอดีไม่สร้างมลภาวะต่อ สิ่งแวดลอ้ มจนเกนิ ความสามารถในการรองรบั และเยียวยาของระบบนิเวศน์ การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกบั ส่ิงแวดล้อม และสอดคล้องกับกฎระเบียบของประชาคม โลกซ่งึ เปน็ ที่ยอมรับรว่ มกัน ความอุดมสมบูรณข์ องทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพดีข้ึน คนมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ สังคม มคี วามเอื้ออาทร เสยี สละเพ่อื ประโยชนส์ ่วนรวม (6) ยุทธศาสตร์ การปรบั สมดลุ และพัฒนาระบบการบริหารจดั การภาครฐั มุ่งประโยชน์ส่วนรวมอย่างยั่งยืน ให้ความสาคัญกับการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนเพื่อการพัฒนาใน ทกุ ระดบั อย่างสมดุล มีเสถียรภาพ และย้ังยนื 7.2 แนวทางการพฒั นาตามแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 12 (1) การยกระดบั ศกั ยภาพการแขง่ ขนั และการหลุดพ้นกับรายได้ปานกลางสรู่ ายได้สูง การ ส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาผลติ ภาพแรงงาน การส่งเสริมผู้ประกอบการท่ีเข้มแขง็ และ พาณิชยด์ ิจิตอลการลงทนุ โครงสรา้ งพนื้ ฐาน การปรบั โครงสร้างการผลิต (2) การพัฒนาศักยภาพคนตามชว่ งวัยและการปฏริ ปู ระบบเพอื่ สรา้ งสังคมสงู วัยอย่างมีคณุ ภาการ พัฒนาศักยภาพคนในทุกช่วงวัยให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศการยกระดับคุณภาพการศกึ ษา และการเรียนรู้ให้มีคุณภาพเทา่ เทียมและทั่วถึงการพัฒนาด้านสุขภาพการสร้างสภาพแวดล้อมและ นวัตกรรมทีเ่ อื้อต่อการดารงชีพในสงั คมสงู วยั
16 (3) การลดความเหลือ่ มลา้ ทางสงั คม การยกระดับรายไดแ้ ละสร้างโอกาสในการ ประกอบอาชีพ การจัดบริการทางสังคมให้ทุกคนตามสิทธิขั้นพ้ืนฐานและเน้นการสร้าง ภมู คิ มุ้ กันระดับปัจเจก การสร้างความเสมอภาคในการเข้าถึงทรพั ยากร (4) การรองรบั การเช่ือมโยงภมู ิภาคและความเปน็ เมือง (5) การสรา้ งความเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจและสงั คมอยา่ งเปน็ มิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม (6)การบริหารราชการแผ่นดนิ ทม่ี ีประสทิ ธิภาพ
17 ข้อมลู อาเภอจอมบึง อาเภอจอมบงึ เป็นอาเภอหน่ึงของจงั หวดั ราชบุรี มีเน้อื ที่ ประมาณ 776,019 ตารางกโิ ลเมตร แบง่ เป็น 6 ตาบล จานวน 89 หมบู่ ้าน ต้งั อยทู่ างทิศตะวันตกของจังหวัดราชบุรี ระยะทางหา่ งจาก จังหวดั ราชบุรีประมาณ 30 กิโลเมตร ประชากร 39,840 คน แยกเปน็ ชาย 19,476 และหญงิ 20,364 อาณาเขต อาณาเขตที่ต้ังสถานศึกษา : อาเภอจอมบึง มีอาณาเขตติดตอ่ กบั เขตการปกครองขา้ งเคียงดงั ตอ่ ไปน้ี ทศิ เหนอื ติดกบั อาเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี อาเภอท่ามว่ ง และอาเภอดา่ นมะขาม เตี้ย จังหวดั กาญจนบรุ ี ทศิ ใต้ ติดกบั อาเภอเมืองราชบุรี อาเภอปากท่อ และอาเภอบา้ นคา จังหวดั ราชบรุ ี ทิศตะวนั ออก ติดกบั อาเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ทศิ ตะวันตก ติดกบั อาเภอจอมบงึ จงั หวดั ราชบุรี อาเภอดา่ นมะขามเตี้ย จังหวดั กาญจนบรุ ี ภาพท่ี 2 แผนทอี่ าเภอจอมบึง จงั หวดั ราชบุรี
18 ประวตั ิความเปน็ มาของอาเภอจอมบงึ อาเภอจอมบึง เป็นอาเภอท่ีมีความสาคญั ทางประวตั ิศาสตร์ ซ่ึงมีหลักฐานสามารถยืนยัน ไดว้ า่ เปน็ สถานที่ทีค่ นในสมัยก่อนประวัติศาสตร์เคยอยู่อาศัย จากการค้นพบหลักฐานเครื่องมือ เคร่ืองใช้ ซ่งึ มีอายไุ ม่นอ้ ยกว่า 4,000 ปี กระจดั กระจายอยู่โดยรอบท่งุ จอมบึง บนพื้นที่ราบ และบริเวณถ้าตามภูเขา และในเหตกุ ารณส์ มัยไทยรบกบั พมา่ ตัง้ แตส่ มัยกรงุ ศรอี ยธุ ยา กรงุ ธนบรุ ี ถึงต้นกรุงรตั นโกสนิ ทร์ อาเภอจอมบึง เป็นเสมือนชายแดนเมืองราชบุรี เป็นเส้นทางการเดินทัพของพม่ามาโดย ตลอด ซ่ึงปรากฏหลักฐานสาคัญที่เก่ียวเนื่อง เช่น ด่านทับตะโก เป็นต้น และอาเภอจอมบึง เป็นอาเภอท่ี “พระพุทธเจ้าหลวง” หรือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 5 ไดเ้ คยเสด็จพระพาสถงึ 2 คร้ัง คือ คร้ังท่ี 1 ปีพ.ศ.2416 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จ ประพาสไทรโยค จงั หวดั กาญจนบรุ ี โดยผา่ นมาทางเมืองราชบุรี มีชาวกระเหรย่ี งจากบ้านจอมบึงมาเฝูารอ รับเสด็จ ใกล้กับบ้านเก่ากระเหร่ียงเดิม ในเขตตาบลด่านทับตะโก ตามพระราชนิพนธ์โคลงนิราศ กาญจนบรุ ี ท่พี ระองคท์ รงแตง่ โดยใช้พระนามแฝงว่า “ท้าวสุภัติการภักดี (นาก)” ได้ผ่านท้องท่ีบ้านหนอง บวั ค่าย ดา่ นทบั ตะโกไปทางท่าตะคร้อ ครง้ั ท่ี 2 เมอ่ื วนั ที่ 19-21 ธันวาคม พ.ศ.2438 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 5 เสดจ็ ประพาสถา้ มจุ ลินท์ ในเขากลางเมืองท้องท่ีตาบลจอมบึง ได้ทรงพระราชทานนามถ้าใหม่ ว่า “ถ้าจอมพล” และทรงจารึกพระบรมมหานามาภิไธย จปร. 114 เพื่อเป็นอนุสรณ์ไว้หน้าถ้าด้วย การ เสด็จคร้ังน้ี ทรงมีพระราชดาริว่า ท้องที่อาเภอจอมบึง เป็นที่ราบ มีการทานามากกว่าแห่งอ่ืน ประชาชน ตง้ั บา้ นเรือนอยหู่ นาแนน่ แตก่ นั ดาร และอย่ไู กลจากตัวเมืองราชบุรีมาก การเดินทางให้เร็วต้องใช้การข่ีม้า ถ้าเดินเท้าต้องใช้เวลาร่วมวัน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งข้ึนเป็นกิ่งอาเภอ โดยให้ช่ือว่า “จอม บึง” ตามชอ่ื พระราชทานให้ท้องบงึ เมื่อคร้งั เสด็จโดยทรงมา้ พระทนี่ ั่ง ไปทางสายเก่าบ้านวังมะเดื่อ เพื่อ ไปทอดพระเนตรบึงใหญ่ ซ่ึงพระองค์ทรงโปรดปรานในความงามของบึงมาก ทรงพระดารัสช้าๆ ว่า \"นี้ หรือบึง สวยงามดี ต่อไป จะเจริญ ต่อไปน้ีให้เรียกว่า จอมบึง\" และให้ก่ิงอาเภอจอมบึง ข้ึนกับอาเภอ เมืองราชบุรี ในปี พ.ศ.2439 และท่ีทาการก่ิงอาเภอจอมบึง ครั้งแรกต้ังอยู่ที่บ้านเกาะริมบึง (ปัจจุบันคือ บรเิ วณโรงฆ่าสัตวเ์ ทศบาลตาบลจอมบึง) คร้ังท่ี 2 บริเวณเสาธงในสนามโรงเรียนบ้านจอมบึง ครั้งท่ี 3 คือ ทว่ี า่ การอาเภอจอมบงึ ในปัจจุบัน ปี พ.ศ.2501 กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศยกฐานะ “ก่ิงอาเภอจอมบึง เป็น อาเภอจอม บึง” โดยมีนายประกิต พิณเจริญ เป็นนายอาเภอคนแรก และใช้อาคารหลังเดิมเร่ือยมา จนถึงปี พ.ศ. 2518 วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2515 กระทรวงมหาดไทย เห็นว่าตาบลจอมบึง มีพ้ืนท่ีกว้างขวาง เต็มไปดว้ ยภเู ขา และปุาไม้ ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวกระเหร่ียงถึง 16 หมู่บ้าน เกรงว่าจะปกครองดูแล ไมท่ ่วั ถึง จึงได้ประกาศแตง่ ตง้ั และแยกเปน็ ตาบลใหมอ่ ีก 2 ตาบล คอื ตาบลปุาหวาย และตาบลบา้ นบึง
19 วนั ท่ี 21 ตุลาคม พ.ศ.2517 กระทรวงมหาดไทย ไดอ้ นุมัติให้ แบ่งท้องที่ตาบลจอมบึง ตาบล ปาุ หวาย และตาบลบ้านบึง ออกเป็นกง่ิ อาเภอจอมบึง (แยกออกจากอาเภอจอมบึง) นอกจากการเสด็จพระพาสของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระปิย มหาราช) รัชกาลที่ 5 แล้ว ในสมัยของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (สมเด็จพระ ภัทรมหาราช) รัชกาลท่ี 9 ไดเ้ สด็จในเขตพน้ื ท่อี าเภอจอมบึง ดังนี้ วันที่ 1 มิถนุ ายน พ.ศ.2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้า สิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ ีนาถ และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จประพาสถ้าจอมพล ได้ทรง จารึกพระปรมาภิไธยย่อ ท่ีหน้าถ้าจอมพล ว่า “ภปร. 1 มิ.ย.99 “ ท้ังสามพระองค์ได้ทรงปลูก ต้นสัก ต้น กลั ปพฤกษ์ และตน้ นนทรี ไวเ้ ป็นทร่ี ะลึก ณ สวนรุกขชาติ บริเวณหน้าถ้าจอมพล พร้อมโปรดให้ราษฎรได้ เฝาู ทูลละอองธุลีพระบาทอย่างใกลช้ ดิ วันท่ี 21 กรกฎาคม 2520 สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช สยามมงกุฎราชกุมาร เสด็จวางศิลา ฤกษ์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง และเสด็จประพาสถ้าจอมพล และทรงเสด็จเปิดปูาย โรงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราชจอมบงึ เมอื่ วันที่ 29 กันยายน 2521 วันที่ 28 สิงหาคม 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดาเนินวัดถ้าสิงโตทอง ตาบลปากช่อง อาเภอจอมบึง ทรงประกอบพิธี “พระบรมสารรี ิกธาตุ ยกฉัตรพระประธาน ตดั ลกู นิมติ ฉลองรปู เหมอื นพระราชสังวราภิมมฑ์ (หลวงปุูโต๊ะ) และพิธีพุทธาภกิ เษกพระพทุ ธรูป พระพุทธสิริกิตติพิพัฒน์ และสมเด็จนางพญา สก.ฯ หน้าบันพระอุโบสถ วดั ถา้ สิงโตทอง” เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี ท่ีมีต่อพสกนิกรชาวจอมบึงเป็นการส่วน พระองค์ จากการเสด็จประพาสถ้าจอมพล เขากลางเมือง อาเภอจอมบึง ชาวอาเภอจอมบึงได้สร้างพระ บรมราชานุสาวรีย์ องค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการ อาเภอจอมบงึ ให้ทรงสถติ เป็นมงิ่ ขวญั พระบารมี ปกเกลา้ ฯ คกู่ ับชาวอาเภอจอมบงึ สืบไป ลกั ษณะภูมิประเทศ ท่ีราบลุ่มทุ่งนาและหนองน้า พบอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตาบล ปากช่อง ใจกลางของตาบลจอมบึง ตอนใต้ของตาบลเพิกไพร ตอนเหนือของตาบลรางบัวและทาง ตอนกลางด้านทิศตะวันออกของตาบลด่านทับตะโก พ้ืนท่ีเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ปลูกข้าว พื้นท่ีเป็นที่ดิน ทรายและดินลกู รัง พบในดา้ นทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกของตาบลปากช่อง ด้านเหนือและ ดา้ นตะวันออกของตาบล จอมบึง ตามแนวกลางจากด้านทิศตะวันออกโค้งไปถึงด้านตะวันตกของ ตาบลรางบัว พืน้ ท่เี หล่านีส้ ว่ นใหญจ่ ะใชป้ ลกู มนั สาปะหลังพน้ื ทด่ี ินรว่ นปนทรายและดนิ ดา พบในด้านทิศ ใตข้ องตาบลปากช่อง สองฝ่ังลาน้าภาชีในตาบลด่านทับตะโกและตาบลแก้มอ้น พ้ืนท่ีเหล่าน้ีส่วนใหญ่ใช้ ปลูกอ้อย พืชไร่ และพืชผักสวนครัว โดยเฉพาะตาบลด่านทับตะโกและตาบลแก้มอ้น จะปลูกพืชผัก
20 สวนครวั และพืชไรม่ ากท่ีสุดในอาเภอพืน่ ที่ภเู ขา พบมากในตอนใต้ของตาบลรางบัว ด้านทิศตะวันตกของ ตาบลด่านทับตะโกและตาบลแก้มอ้น ตามแนวเส้นแบ่งเขตตาบลและอาเภอ และยังพบภูเขาขนาดเล็ก อยใู่ นทกุ พน้ื ทข่ี องตาบลอนื่ ๆ ดว้ ย พืน้ ที่เหล่านสี้ ่วนใหญ่จะเป็นปาุ ไม้ สภาพภูมศิ าสตร์ อาเภอจอมบึง มีพ้ืนที่ประมาณ 776.019 ตารางกิโลเมตร หรือ 485,000 ไร่ พื้นท่ีส่วน ใหญ่เป็นท่ีราบสูง สลับเทือกเขา สภาพดินเป็นดินร่วนปนทราย ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ สภาพปุาไม้และ ภูเขาส่วนใหญเ่ ปน็ ปุาโปร่ง ประกอบดว้ ยไม้ยาง ไม้รัง ไม้ประดู่ ไม้เต็ง และปุาไม้เบญจพรรณ มีหินแกรนิต และหินปนู มีแหล่งน้าทส่ี าคญั 2 สาย คือ 1. ลาน้าภาชี ต้นน้าเกิดจากเทือกเขาตะนาวศรี ไหลมาจากต้นน้าท่ีอาเภอจอมบึง ผ่าน ตาบลด่านทับตะโก และตาบลแก้มอ้น และไหลมาบรรจบรวมกับลาน้าแควน้อย อาเภอเมืองกาญจนบุรี ความยาวประมาณ 75 กโิ ลเมตร มีนา้ ตลอดท้ังปี แต่ในฤดูแล้งน้ามีคอ่ นข้างนอ้ ย 2. ลาน้าห้วยท่าช้าง ต้นน้าเกิดจากเทือกเขาสน ในเขตตาบลรางบัว ไหลผ่านตาบลจอม บึง ตาบลเบิกไพร ตาบลด่านทับตะโก ไหลลงสู่ลาน้าภาชีที่ตาบลแก้มอ้น มีความยาวประมาณ 30 กโิ ลเมตร ลกั ษณะภมู ิอากาศ มี 3 ฤดู ดังน้ี - ฤดูฝน มีฝนตกค่อนข้างน้อย ประมาณเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม เน่ืองจากมี เทือกเขาตะนาวศรีก้ันอยู่ จึงทาให้ไม่สามารถรับลมมรสุมจากมหาสมุทรอินเดียได้เต็มที่ ปริมาณน้าฝน เฉลีย่ ประมาณ 120 มลิ ลเิ มตรตอ่ ปี - ฤดูร้อน อากาศจะร้อนและแห้งแล้ง เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน จึง ประสบกบั ปัญหาการขาดแคลนน้าเพื่อการเกษตร และอปุ โภค-บรโิ ภคตลอดมา - ฤดหู นาว อากาศคอ่ นข้างเย็น เรมิ่ ตงั้ แตเ่ ดือนธันวาคม ถึงเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ย ประมาณ 13 – 14 องศาเซลเซียส การปกครอง การปกครองส่วนภมู ิภาค อาเภอจอมบงึ แบ่งพน้ื ทก่ี ารปกครองออกเป็น 6 ตาบล 90 หมบู่ า้ น
21 1. จอมบึง (Chom Bueng) 13 หมูบ่ า้ น 2. ปากช่อง (Pak Chong) 16 หมบู่ า้ น 3. เบกิ ไพร (Boek Phrai) 11 หมู่บ้าน 4. ดา่ นทับตะโก (Dan Thap Tako) 20 หมู่บ้าน 5. แก้มอน้ (Kaem On) 15 หมบู่ า้ น 6. รางบวั (Rang Bua) 15 หมบู่ ้าน การปกครองส่วนท้องถิ่น 1. เทศบาลตาบลจอมบึง ครอบคลุมพื้นท่ีบางส่วนของตาบลจอมบงึ 2. เทศบาลตาบลดา่ นทบั ตะโก ครอบคลมุ พ้ืนท่บี างสว่ นของตาบลด่านทับตะโก 3. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลจอมบงึ ครอบคลมุ พื้นทีเ่ ฉพาะนอกเขตเทศบาลตาบลจอมบึง 4. องค์การบริหารส่วนตาบลปากช่อง ครอบคลมุ พ้ืนทีต่ าบลปากช่องทั้งตาบล 5. องค์การบริหารส่วนตาบลเบิกไพร ครอบคลุมพืน้ ท่ีตาบลเบิกไพรทั้งตาบล 6. องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลดา่ นทับตะโก ครอบคลุมพน้ื ทน่ี อกเขตเทศบาลตาบลด่านทับ ตะโก 7. องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลแก้มอ้น ครอบคลมุ พ้ืนท่ีตาบลแก้มอ้นทัง้ ตาบล 8. องค์การบริหารสว่ นตาบลรางบัว ครอบคลุมพนื้ ทต่ี าบลรางบัวทั้งตาบล ข้อมูลด้านสังคม ข้อมูลประชากร อาเภอจอมบึง มีประชากรรวมทั้งส้ิน 39,840 คน แยกเป็นประชากรชาย 19,476 คน และ ประชากรหญิง จานวน 20,364 คน รายละเอียดดงั นี้ ตาบล จานวน จานวน จานวน จานวนประชากรรวม ครัวเรอื น ประชากรชาย ประชากรหญิง ตาบลจอมบึง 1,575 2,676 2,802 5,478 6,328 ตาบลปากช่อง 1,963 3,026 3,302 3,880 7,157 ตาบลเบิกไพร 1,126 1,896 1,984 ตาบลด่านทับตะโก 2,047 3,491 3,666
22 ตาบลแกม้ อน้ 2,376 3,763 3,713 7,476 ตาบลรางบัว 2,000 3,221 3,313 6,534 เทศบาลตาบลจอมบึง 524 758 866 1,624 เทศบาลตาบลด่านทับตะโก 504 645 718 1,363 12,115 19,476 20,364 39,840 รวม ข้อมลู ณ เดือน ตุลาคม 2561 ระบบสถิตทิ างการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวง มหาดไทย สภาพเศรษฐกิจ การประกอบอาชพี ประชากรส่วนใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกรรม ได้แก่ ทานา ปลูกพืชไร่ ปลูกพืชผัก ปลูก ไม้ผลและไม้ยืนตน้ โดยพน้ื ที่สว่ นใหญ่ของอาเภอจอมบงึ มีการทาการเกษตรประมาร 360,000 ไร่ คิดเป็น รอ้ ยละ 76.44 ของพืน้ ทที่ งั้ หมด ลักษณะทางเศรษฐกิจโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประชาชนตามลักษณะเดิมของ ประชาชนในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักกล่าวคือประชาชนส่วนมากประกอบ อาชีพ เกษตรกรรมถึงร้อยละ80รองลงมาคือค้าขายและข้าราชการซึ่งประชาชนประกอบอาชีพ เกษตรกรรม เพราะสภาพพื้นที่มีความเหมาะสมและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่มีการทาไร่มันสาปะหลัง ออ้ ยนอกจาก การประกอบอาชีพเกษตรกรรมแล้วการค้าขายของเบ็ดเตล็ดร้านอาหารและหอพักก็จัดเป็น รายได้ที่ สาคัญของประชาชนท้ังน้ีอาเภอจอมบึงมีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงซ่ึงกลุ่ม นักศึกษา และข้าราชการของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงจัดอยู่ในกลุ่มของผู้มีกาลังซ้ือและช่วย กระจาย รายได้ให้แก่ชุมชน เช่น หอพกั ร้านอาหาร รา้ นเครื่องเขยี น เป็นต้น ธนาคารพาณิชย์ มจี านวน 6 แหง่ 1. ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์ สาขาจอมบึง 2. ธนาคารกรุงไทยจากัด (มหาชน) สาขาจอมบึง 3. ธนาคารออมสิน สาขาจอมบึง 4. ธนาคารกรุงเทพ จากัด 5. ธนาคารไทยพานิชย์ 6. ธนาคารกสิกรไทย ด้านวฒั นธรรม มจี านวน 6 แหง่ 1. สานกั งานวฒั นธรรมอาเภอจอมบงึ
23 ตง้ั อยู่ที่ โรงเรียนคุรรุ าษฎรร์ งั สฤษฎ์ อาเภอจอมบึง จงั หวดั ราชบุรี โทรศัพท:์ 032- 261390 กจิ กรรมทด่ี าเนินการ แสดงนทิ รรศการวัฒนธรรมของอาเภอจอมบึง และเปน็ แหลง่ เรยี นร้ทู างการศึกษา 2. ศูนยบ์ รู ณาการวัฒนธรรมไทยสายใยชมุ ชนตาบลรางบัว ตง้ั อยู่ท่ี วดั รางบวั ตาบลรางบัว อาเภอจอมบงึ จงั หวดั ราชบรุ ี โทรศพั ท:์ 032- 228272 กจิ กรรมที่ดาเนินการ 1. เป็นศนู ยจ์ ัดแสดงวตั ถโุ บราณ และสิง่ ของตา่ ง ๆในสมยั อดตี ปัจจบุ ัน 2. เป็นศูนยศ์ กึ ษาข้อมลู ทางประวัติศาสตร์ วฒั นธรรมและภูมิปญั ญาของท้องถนิ่ 3. ศูนยศ์ ิลปวัฒนธรรมท้องถ่ินราชบุรี ตัง้ อยู่ท่ี สานกั งานศิลปวฒั นธรรม มหาวิทยาลยั ราชภัฏหมบู่ า้ นจอมบงึ อาเภอจอมบึง จังหวดั ราชบรุ ี โทรศัพท์: 032- 261790 ต่อ 1600 กิจกรรมท่ีดาเนนิ การ 1. จัดแสดงนทิ รรศการเกี่ยวกับเร่อื งราวของ อาเภอจอมบงึ การกอ่ ตั้งมหาวิทยาลยั – ราชภัฎ หมูบ่ า้ น จอมบึง อดีต-ปัจจุบัน 2. เปน็ ศนู ยค์ ้นคว้าข้อมลู ประวตั ิศาสตร์ วฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญา 3. การแสดงของชนเผา่ ต่าง ๆ 4. พิพธิ ภณั ฑว์ ดั จอมบงึ ตั้งอยู่ที่ วัดจอมบึง หมู่ ๓ ตาบลจอมบงึ อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี โทรศัพท์ : 032 - 261436 กิจกรรมทด่ี าเนินการ เปน็ พพิ ธิ ภัณฑ์ทรี่ วบรวมเก็บรักษาวตั ถโุ บราณ และสิง่ ของต่าง ๆ ในสมยั ก่อน ประวัติศาสตร์ ปจั จุบัน
24 5. ศนู ย์วัฒนธรรมจงั หวดั ราชบรุ ี ตั้งอยู่ท่ี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบงึ อาเภอจอมบึง จงั หวัดราชบรุ ี โทรศัพท:์ 032 - 261780 กจิ กรรมที่ดาเนินการ 1. จดั แสดงนทิ รรศการเกีย่ วกับเร่ืองราวของ อาเภอจอมบงึ การก่อตง้ั มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ หมบู่ ้านจอมบึง อดตี -ปจั จุบัน 2. เป็นศูนย์ค้นควา้ ข้อมลู ประวตั ศิ าสตร์ วัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญา 3. การแสดงของชนเผ่าต่าง ๆ 6. พพิ ธิ ภณั ฑ์ไทยทรงดา ตัง้ อยู่ท่ี โรงเรียนบา้ นวังปลา ตาบลแก้มอน้ อาเภอจอมบึง จงั หวัดราชบุรี โทรศพั ท์: 032 - 316326 กจิ กรรมทดี่ าเนนิ การ 1. จดั แสดงนทิ รรศการเกย่ี วกับวิถีชีวิตของชนเผา่ ไทยทรงดาในตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง 2. การแสดงเคร่ืองใช้สอยในชีวติ ประจาวนั ของชนเผา่ ไทยทรงดา ดา้ นศลิ ปวฒั นธรรม และประเพณี อาเภอจอมบึงประกอบด้วยคนหลายชาติพันธุ์จานวน 8 เผ่า ดังน้ี ชาวไทยพ้ืนถิ่น ชาวไทย จีน ชาวไทยยวน ชาวไทยมอญ ชาวไทยเขมร ชาวลาวเวียงราชบุรี ชาวไททรงดา (โซ่ง) ชาวไทย เชอื้ สายจนี ซงึ่ มศี ลิ ปวฒั นธรรมทส่ี าคญั เช่น - ประเพณสี งกรานต์ - ประเพณลี อยกระทง - ประเพณีแหเ่ ทยี นจานาพรรษา - ประเพณเี น่ืองในวนั สาคัญต่าง ๆ ประเพณี - ว่ิงมินมิ าราธอน และจอมบึงเสือภเู ขา สถานทีจ่ ดั บริเวณมหาวิทยาลัยราชภฎั หมบู่ า้ น จอมบงึ สอบถามเพ่ิมเตมิ มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บา้ นจอมบึง - งานประกวดกล้วยไม้ ในงาน \"เดิน-ว่ิง ขจ่ี กั รยาน ชมกลว้ ยไมง้ าม ราชบุรีศรีจอมบึง ประจาภาคตะวนั ตก ครัง้ ที่ 1\" ในงานจอมบึงมาราธอน ประจาปี ณ อาคารหอประชุมใหม่ มรภ.หมู่บ้าน จอมบึง จ.ราชบุรี รายละเอยี ด โทร.0-3226-1790 ตอ่ 3132 - เทศกาลปนี เขาเข้าถ้าจอมพล อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี พบกจิ กรรมยอ้ นรอยประพาสต้น รชั กาลท่ี 5 การแขง่ ขนั ปนี เขาเขา้ ถา้ จอมพล การแสดงของสานกั ศิลปะและวัฒนธรรม มรภ.หมบู่ า้ นจอม บึง การละเลน่ พื้นบา้ น มวย ลเิ ก ภาพยนตร์ สวนสนุก ราวงย้อนยคุ สินคา้ ราคาถูกจากโรงงาน สนิ คา้ OTOP พืชพนั ธไ์ มด้ อกไม้ประดับ และมหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ทกุ คนื
25 - งานประจาปศี าลเจ้าแม่เบิกไพร (เจา้ แม่เทียวโหวเซ้ียบอ้ ) วันจัดงาน กุมพาพนั ธ์-มีนาคม สถานทีจ่ ัดงาน ลานเอนกประสงคร์ มิ เขื่อน หนา้ ศาลเจา้ แมเ่ บิกไพร กิจกรรมเด่นทนี่ ่าสนใจ อญั เชญิ องค์ เจ้าแม่แห่รอบตลาดบ้านโปุง ทาพทิ ิ้งกระจาด มหรสพ การแสดง การออกรา้ คา้ การจาหน่ายสนิ ค้าราคา ถกู สอบถามข้อมลู เพม่ิ เติม ต.เบิกไพร โทร.0-3234-4381 - งานเทิดพระเกยี รติรัชกาลที่ 5 และสืบสานประเพณีและของดีจอมบงึ วนั จดั งาน 19-21 ธนั วาคม สถานทจ่ี ดั งาน โดยรอบท่ีว่าการ อ.จอมบึง กิจกรรมเด่นท่ีน่าสนใจ พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุ สาวรีย์และกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลท่ี 5 การแสดง ศิลปวัฒนธรรม ดนตรี การแสดงทางวิชาการ ประกวดธิดาผ้าจกรางบัว กิจกรรมกีฬาพื้นบ้าน ประกวดรา กลองยาว ส้มตาลีลา เลี้ยงโตะ๊ จนี ลิง สอบถามเพม่ิ เตมิ ท่ีวา่ การ อ.จอมบึง โทร. 0-3226-1133 สภาพทางสังคมและวัฒนธรรมสิ่งสาคญั และส่งิ โดดเด่นในชุมชน อาเภอจอมบงึ มแี หลง่ ท่องเทยี่ วท่ีสาคญั คอื 1) ถ้าจอมพล อยทู่ เี่ ขาจอมพล ตดิ กับมหาวทิ ยาลยั ราชภัฎหมบู่ า้ นจอมบึง 2) สวนพฤกษศาสตรว์ รรณคดีภาคกลาง ตง้ั อย่เู ชิงเขาประทับชา้ ง หม่ทู ี่ 1 ตาบลปาก ช่อง อาเภอจอมบึง 3) สวนสตั วเ์ ปดิ เขาประทับชา้ ง ตั้งอยูเ่ ชงิ เขาประทบั ชา้ ง หมู่ที่ 1 ตาบลปากช่อง อาเภอ จอมบึง เป็นศูนย์เพาะเล้ยี งสัตวป์ ุา เปดิ ให้เที่ยวชมตง้ั แต่เวลา 8.00 – 16.00 น. ทกุ วนั 4) ศูนย์ทอผา้ ซนิ่ ตนี จก (สนิ ค้า OTOP) ศิลปะการทอผ้า ไดร้ บั การถา่ ยทอดภมู ปิ ัญญา จากบรรพบรุ ุษทสี่ บื เชื้อสายไท-ยวน (เชียงแสนเดมิ ) ท่ีมฝี ีมอื ละเอียดประณตี ลวดลายงดงามมาก 5) รอยพระพทุ ธบาททองคา สานักปฏบิ ัติธรรมสวนแกว้ หม่ทู ี่ 1 ตาบลปากช่อง เป็น รอยพระพุทธบาทจาลอง ขนาดยาว 88 ซม. กวา้ ง 40 ซม. หนา 2 ซม. ประดิษฐานอยู่ในบ่อนา้ พระ พุทธมนต์ ขนาดกว้างและยาว 170 ซม. 6) วดั ถา้ สิงโตทอง ตัง้ อยหู่ มทู่ ี่ 11 ตาบลปากชอ่ ง กอ่ ตั้งโดยพระราชสังวราภมิ นต์ (หลวงปุูโต๊ะ อินทสวุ รรโณ) อดตี เจา้ อาวาสวัดประดู่ฉิมพลี เม่อื พ.ศ. 2510 7) ทะเลสาบนา้ จืด (บึงจอมบงึ ) 8) ถ้าเขาทะลุ ตัง้ อยู่ บ้านหนองบัวคา่ ย หมูท่ ่ี ๒ ตาบลรางบัว เป็นถ้าท่มี ีความสวยงาม มาก แตย่ งั ไม่เปน็ ทร่ี ู้จกั มากนกั เพราะการเดินทางเข้าชมภายในถ้ายงั ไมส่ ะดวกต้องใช้วธิ ไี ตเ่ ชอื กขึน้ ลง อาจเป็นอนั ตรายสาหรบั ผูเ้ ขา้ ชม 9) วัดเขากลางตลาด ตั้งอยู่ หมู่ท่ี ๓ ตาบลจอมบงึ เปรยี บเสมอื นเกาะที่มีทุ่งนาล้อมรอบ ร่มรื่น มถี นนใหร้ ถวิ่งวนรอบเขา เป็นสถานท่ีพกั ผ่อนหยอ่ นใจท่ดี ี 10) วดั ปาุ ภาวนาวิเวก ต้ังอยู่ที่บา้ นหนองเต่าดา หม่ทู ่ี ๑๓ ตาบลรางบัว เปน็ สถานที่ ปฏบิ ัตธิ รรม ทมี่ ีความเงยี บสงบ รม่ ร่นื สวยงาม เหมาะสาหรบั การปฏบิ ตั ิธรรมและพกั ผ่อนหยอ่ นใจ
26 ข้อมูลสถานศกึ ษา สภาพทวั่ ไป 1. ชอ่ื สถานศกึ ษา ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอจอมบึง 2. ท่อี ยู่ ตง้ั อย่เู ลขที่ 67 หมู่ 3 ตาบลจอมบึง อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบรุ ี รหัสไปรษณยี ์ 70150 เบอร์โทรศัพท์ :032-261949เบอรโ์ ทรสาร : 032-261949 E-mail ตดิ ตอ่ : [email protected]
27 3. สังกดั สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวดั ราชบรุ ี สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั 4. ประวัตคิ วามเป็นมาของสถานศึกษา 4.1 ประวัตสิ ถานศึกษา ประวัติสถานศึกษา : กศน.อาเภอจอมบึง เร่ิมจัดต้ังคร้ังแรกเป็นโรงเรียนฝึกฝนอาชีพเคลื่อนที่ เมือ่ วันที่ 1 พฤษภาคม 2518 สังกดั กองการศึกษาผ้ใู หญ่ กรมสามัญศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอน ช่างยนต์ ช่างพิมพ์ดีด ช่างตัดเส้ือ ช่างเสริมสวย มีนายประยนต์ ทรัพย์เจริญ เป็นหัวหน้าสาขา จนถึง เดอื นตลุ าคม พ.ศ. 2520 ไดจ้ ัดต้ังเปน็ ศูนย์การศึกษาประชาชนจงั หวดั ราชบุรี สังกัดกองการศึกษาผู้ใหญ่ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2522 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศจัดต้ังกรมการศึกษานอกโรงเรียน และ ประกาศจัดต้ังศูนย์ประสานงานการศึกษานอกโรงเรียนอาเภอ โดยว่าที่ ร.ต.เกษม ศรีวัง ทาหน้าที่ผู้ ประสานงานการศกึ ษานอกโรงเรียนอาเภอ ดาเนินการจัดการศึกษานอกโรงเรียนตามพันธกิจของกรมการ ศึกษานอกโรงเรียน จนถึงวันท่ี 27 สิงหาคม 2536 กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้ประกาศจัดต้ัง ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอาเภอท่ัวประเทศ ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ศูนย์ การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดราชบุรี จึงได้แต่งตั้งให้ นายเสรี วงศ์แก้ว ทาหน้าท่ีหัวหน้าศูนย์และได้ ประสานงานขอใช้สถานที่อาคารเดิมของโรงเรียนครุราษฎร์รังสฤษ เป็นท่ีต้ังสานักงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2537 และได้ดาเนินงานจัดการศึกษานอกโรงเรียนตามพันธกิจของกรมการศึกษานอกโรงเรียน เป็นต้นมา ตามพระราชบัญญตั สิ ง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 ได้ประกาศจัดต้ังสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สังกัดสานักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอาเภอจอมบึงจึงเปลี่ยนช่ือตาม พรบ. ดงั กลา่ วเป็นศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอจอมบึง บคุ ลากร กศน.อาเภอจอมบงึ ลาดบั ท่ี ชอ่ื – สกลุ ตาแหน่ง วฒุ ิการศกึ ษา ผอ.กศน.อาเภอจอมบงึ ปริญญาโท 1 นายนพรัตน์ แจง้ หมืน่ ไวย์
28 2 นางกัณฐมณี แก้วเกิด ครูชานาญการพิเศษ ปริญญาตรี ป.บณั ฑติ 3 นางศนั สนุ ีย์ ศรีพหมทอง ครูผชู้ ว่ ย ปริญญาตรี ปรญิ ญาตรี 4 นางสาวสาเนยี ง บตุ รนา้ เพชร ครอู าสาสมคั รฯ ปริญญาตรี ปรญิ ญาตรี 5 นายกาจัด เสียงเพราะ ครอู าสาสมัครฯ ปรญิ ญาตรี ป.บณั ฑติ 6 นายชาติชาย ดวงแก้ว ครอู าสาสมคั รฯ ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาตรี 7 นางวิภา สอนผวิ ครูอาสาสมคั รฯ ปรญิ ญาตรี ปริญญาตรี 8 นายสวุ รรณ ทองน้อย ครอู าสาสมคั รฯ ปรญิ ญาตรี ปริญญาตรี 9 นางวารุณี จนั ทร์โตศรี ครู กศน.ตาบลจอมบงึ ปริญญาตรี ปริญญาตรี 10 นางสาวรงุ่ ขวัญ อย่ดู ี ครู กศน.ตาบลปากชอ่ ง มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 11 นายบุญจง กิจพร้อมผล ครู กศน.ตาบลเบกิ ไพร 12 นางมณั ฑนา นลิ อรา่ ม ครู กศน.ตาบลด่านทับตะโก 13 นางสาวสมจติ ประเสริฐขจรสขุ ครู กศน.ตาบลแก้มอ้น 14 นางสาวเพลินพิศ ศิลปชยั ครู กศน.ตาบลรางบวั 15 นางสาวสุนษิ า จนี แส บรรณารกั ษ์อัตราจ้าง 16 นางพกิ ุลทอง แสงเทศ ครผู ู้สอนคนพิการ 17 นางสาวกัญญาภทั ร ดอนมะไพร เจา้ หนา้ ที่บนั ทึกข้อมูล 18 นางสาวสายชล ครา้ มวงษ์ พนักงานบรกิ าร คณะกรรมการสถานศึกษา ประธานกรรมการ 1. นายสุชิน ประพนั ธ์พจน์ กรรมการ 2. นายเกรยี งศักดิ์ รบั ศริ ิ กรรมการ 3. นายสมศกั ด์ิ คงละออ กรรมการ 4. นางสาวศริ ลิ ักษณ์ ตนั งามตรง กรรมการ 5. พระปลดั ณรงคศ์ ักดิ์ ปภากโร กรรมการ 6. นายสมหวัง สขุ พ่วง กรรมการ 7. นายสมพร อนิ ทรส์ าลี กรรมการ 8. นายชยั วฒั น์ ทองจนี กรรมการ 9. นายนพรัตน์ แจง้ หม่ืนไวย์ กรรมการและผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร 10. นางกัณฐมณี แก้วเกดิ แหลง่ เรียนรูท้ ี่สาคัญในชุมชน ช่ือแหล่งเรยี นรู้ ประเภทแหล่งเรยี นรู้ ท่ตี ง้ั สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีภาคกลาง สถานที่ หมู่ที่ 1 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี
29 ชอื่ แหล่งเรยี นรู้ ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ ท่ีตง้ั สวนสตั ว์เปดิ เขาประทบั ชา้ ง สถานที่ หม่ทู ่ี 1 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี สถานีเพาะเล้ียงสัตวป์ าุ เขาประทบั ช้าง สถานที่ หม่ทู ี่ 1 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี ศูนย์ศึกษาและพัฒนาวนศาสตร์ สถานที่ / บุคคล หมทู่ ี่ 1 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี ชุมชนท่ี 10 กลมุ่ สาธิตทดลองพันธุข์ ้าวไม่ไวแสง บุคคล หมู่ที่ 3 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย บุคคล หมู่ท่ี 4 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี ตาบลปากชอ่ ง ถา้ วดั เขาปิน่ ทอง สถานที่ หมู่ที่ 6 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้าน บุคคล หม่ทู ่ี 8 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบงึ หนองไผ่ จ.ราชบรุ ี กลมุ่ ผลติ ภัณฑ์จากเส้นพลาสติก บคุ คล หมู่ท่ี 8 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กลุ่มพรกิ แกง บคุ คล หมู่ท่ี 9 ต.ปากช่อง อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ธนาคารหมูบ่ า้ นห้วยยาง บุคคล หมทู่ ่ี 9 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชนบ้านห้วยยาง บคุ คล หมู่ที่ 9 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี หมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพียงบ้านห้วยยาง บคุ คล หมทู่ ี่ 9 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี วดั ถ้าสงิ โตทอง สถานที่ หมทู่ ่ี 11 ต.ปากชอ่ ง อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี สานกั ปฏิบตั ธิ รรมสวนแกว้ สถานที่ หมู่ท่ี 11 ต.ปากช่อง อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ศนู ย์เรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียง กลมุ่ หมู่ที่ 2 ต.รางบวั อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ศูนย์เพาะพนั ธ์สตั ว์ปุาเขาสน หน่วยงาน หมู่ท่ี 1 ต.รางบัว อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ศนู ยส์ ายใยวฒั นธรรมชุมชน โบราณสถาน หมทู่ ี่ 1 ต.รางบวั อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ศนู ยท์ อผา้ จกรางบวั กลุม่ อาชีพ หมทู่ ่ี 1 ต.รางบวั อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี สถานปฏิบัตธิ รรมวัดปุาภาวนาวิเวก โบราณสถาน หมู่ท่ี 13 ต.รางบวั อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี แหล่งเรยี นรปู้ รัชญาเศรษฐกจิ กลมุ่ หมทู่ ี่ 14 ต.รางบวั อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พอเพยี งบา้ นหนองน้าใส ถา้ เขาทะลุ โบราณสถาน หมู่ที่ 2 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กลุ่มวสิ าหกิจชมุ ชนกลมุ่ เห็ดหูหนู กลุม่ วิสาหกิจ หมูท่ ่ี 15 ต.รางบวั อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี วัดรางเฆ่ สถานท่ี หมทู่ ่ี 4 ต.แก้มอ้น อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี วัดหนองปากชฏั สถานท่ี หมู่ที่ 6 ต.แกม้ อน้ อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี วดั แกม้ อ้น สถานที่ หมู่ท่ี 3 ต.แก้มอน้ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี วัดเขาแดน สถานท่ี หมทู่ ี่ 12 ต.แก้มอน้ อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี วดั โปงุ กก สถานท่ี หมู่ที่ 11 ต.แก้มอ้น อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี วดั ทงุ่ แฝก สถานท่ี หมู่ที่ 1 ต.แก้มอน้ อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี
30 ชือ่ แหล่งเรียนรู้ ประเภทแหล่งเรียนรู้ ทต่ี ้งั วดั วงั ปลา สานกั สงฆพ์ ตุ ะเคยี น สถานที่ หมู่ที่ 5 ต.แก้มอน้ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี สานกั สงฆ์ถ่ินกาขาว สานักสงฆ์เขารงั สถานที่ หมู่ท่ี 8 ต.แกม้ อ้น อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี ศูนยเ์ รยี นรู้ ICT ชุมชน ศนู ยไ์ ทยทรงดา สถานที่ หมูท่ ี่ 11 ต.แก้มอ้น อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ศนู ย์เรียนรู้เศรษฐกจิ พอเพียง วัดนยิ มธรรมาราม สถานท่ี หมทู่ ่ี 5 ต.แกม้ อ้น อ.จอมบึง จ.ราชบุรี วัดทุ่งกระถน่ิ วัดโกรกสิงขร สถานท่ี หม่ทู ี่ 5 ต.แก้มอน้ อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี วดั หนองสีนวล วัดบางซ่อื พรหมนิมติ ร สถานที่ หม่ทู ี่ 5 ต.แกม้ อ้น อ.จอมบึง จ.ราชบุรี วัดหบุ พรกิ สานกั สงฆ์อนุรกั ษป์ าุ ไม้ สถานที่ / บคุ คล หมู่ท่ี 3 ต.แก้มอ้น อ.จอมบึง จ.ราชบุรี สานกั สงฆ์หว้ ยท่าช้าง สานกั สงฆเ์ ขาน้อยบุญทวี โบราณสถาน หมู่ท่ี 1 ต.ดา่ นทบั ตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี กลุ่มสตรีด้านอาชีพตดั เย็บเสื้อผา้ กลุ่มผลิตและจาหน่ายพืชสมุนไพร โบราณสถาน หมทู่ ่ี 3 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี ตาบลด่านทบั ตะโก กลุ่มสตรีผลติ ขนม โบราณสถาน หมู่ท่ี 8 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ธูปหอมสมนุ ไพร ตราหงสท์ อง กลมุ่ แปรรปู ผลิตภณั ฑห์ ญ้าแฝก โบราณสถาน หมูท่ ี่ 5 ต.ดา่ นทับตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี โบราณสถาน หมทู่ ่ี 16 ต.ดา่ นทับตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี โบราณสถาน หมทู่ ี่ 6 ต.ดา่ นทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี โบราณสถาน หมทู่ ี่ 13 ต.ด่านทบั ตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี โบราณสถาน หมู่ที่ 4 ต.ดา่ นทับตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี โบราณสถาน หมู่ที่ 11 ต.ดา่ นทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี วสิ าหกจิ ชมุ ชน หมู่ท่ี 1 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี วสิ าหกจิ ชมุ ชน หมู่ท่ี 13 ต.ด่านทบั ตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี วสิ าหกิจชุมชน หมทู่ ่ี 17 ต.ดา่ นทับตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี วสิ าหกจิ ชมุ ชน หมู่ท่ี 7 ต.ด่านทบั ตะโก อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี วิสาหกิจชมุ ชน หมทู่ ี่ 11 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี เป้าหมายการจัดการศึกษา กศน.อาเภอจอมบึงจัดการศกึ ษาใหป้ ระชาชนตามหลักปรชั ญาคดเปน็ โดยจดั การเรียนร้ตู าม แนวทางของหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ปรชั ญา “คิดเปน็ ” ปรชั ญา “คดิ เปน็ ” มีแนวคดิ ภายใตค้ วามเช่อื ทีว่ า่ “คนเราสามารถพัฒนาการคิด การตดั สินใจ ให้มีประสทิ ธภิ าพสงู ข้ึนได้ ดว้ ยการฝกึ ทักษะ การใชข้ ้อมูลท่หี ลากหลายทัง้ ดา้ นตนเอง สงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม และวชิ าการมาวเิ คราะห์ เชอ่ื มโยง สัมพนั ธ์ สรา้ งสรรค์ เป็นแนวทาง วธิ กี าร สาหรับตนเอง แล้วประเมนิ ตี ค่า ตดั สินใจเพ่ือตนเอง และชุมชน สงั คม ซงึ่ เปน็ ลักษณะของคน “คิดเป็น”
31 ปรชั ญา “การสร้างสงั คมแหง่ การเรียนรู้ จะนาไปสู่การศกึ ษาตลอดชีวิตท่มี คี ุณภาพ” วิสยั ทัศน์ กศน.อาเภอจอมบึงมุ่งส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิต พัฒนาผู้เรียน ผู้รับบริการให้มี คุณภาพ คุณธรรม พรอ้ มเข้าสปู่ ระชาคมอาเซียน พนั ธกจิ 1. จดั และสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยเพื่อสร้างสงั คม แห่ง การเรียนรตู้ ลอดชวี ติ 2. ส่งเสริมและสนับสนนุ การมีส่วนรว่ มของภาคี เครือข่ายและชมุ ชน ในการจัด การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 3. ส่งเสริมและพัฒนาการนาเทคโนโลยที างการศกึ ษา และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมาใชใ้ ห้เกดิ ประสทิ ธภิ าพในการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 4. พฒั นาหลกั สูตร รูปแบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื และนวตั กรรม การ วดั และประเมนิ ผลในทกุ รูปแบบ 5. พัฒนาบคุ ลากรและระบบการบรหิ ารจดั การเพ่ือมุง่ การจดั การศกึ ษาท่มี ี คณุ ภาพโดยยดึ หลักธรรมาภิบาล และการมีสว่ นรว่ ม หลกั การ 1. เปน็ หลักสูตรที่มโี ครงสร้างยดื หย่นุ ดา้ นสาระการเรยี นรู้ เวลาเรียน และการจัดการเรียนรู้ โดย เน้นการบูรณาการเน้อื หาให้สอดคล้องกับวิถีชีวติ ความแตกต่างของบุคคล และชมุ ชน สังคม 2. สง่ เสรมิ ให้มีการเทียบโอนผลการเรยี นจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศยั 3. สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนได้พฒั นาและเรยี นรอู้ ย่างต่อเนื่องตลอดชวี ิตโดยตระหนักว่าผเู้ รยี นมี ความสาคัญ สามารถพฒั นาตนเองได้ตามธรรมชาตแิ ละเต็มศักยภาพ 4. สง่ เสริมใหภ้ าคีเครือข่ายมีสว่ นรว่ มในการจัดการศึกษา จุดหมาย หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 มุง่ พัฒนาให้ ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีสติปญั ญา มีคุณภาพชวี ิตท่ีดี มศี กั ยภาพในการประกอบอาชพี และการ เรยี นร้อู ยา่ งต่อเนอื่ ง ซ่ึงเปน็ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ที่ต้องการ จึงกาหนดจุดหมาย ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมทดี่ งี าม และสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสนั ติสุข
32 2. มีความรูพ้ ้นื ฐานสาหรบั การดารงชวี ิต และการเรียนรตู้ ่อเน่อื ง 3. มคี วามสามารถในการประกอบสมั มาอาชพี ใหส้ อดคล้องกับความสนใจ ความถนัด และตาม ทันความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คม และการเมอื ง 4. มีทักษะการดาเนนิ ชวี ิตท่ีดี และสามารถจัดการกับชวี ิต ชมุ ชน สงั คม ได้อยา่ งมคี วามสุข ตาม ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 5. มีความเข้าใจประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย ภมู ใิ จในความเป็นไทย โดยเฉพาะภาษา ศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณี กฬี า ภูมปิ ัญญาไทย ความเป็นพลเมืองดี ปฏิบัตติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา ยดึ มน่ั ในวิถชี ีวติ และการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข 6. มจี ิตสานกึ ในการอนุรกั ษ์ และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม 7. เป็นบคุ คลแห่งการเรียนรู้ มที กั ษะในการแสวงหาความรู้ สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ และบูรณา การความรมู้ าใช้ในการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม และประเทศชาติ กลมุ่ เปา้ หมาย ประชาชนทว่ั ไป กรอบโครงสร้าง ระดับการศึกษา ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรปู้ ระกอบด้วย 5 สาระ ดังน้ี 1. สาระทักษะการเรยี นรู้ เปน็ สาระเกย่ี วกับการเรยี นรู้ด้วยตนเอง การใช้แหลง่ เรียนรู้ การจัดการความรู้ การคดิ เป็น และการวจิ ยั อย่างงา่ ย 2. สาระความร้พู นื้ ฐาน เป็นสาระเกย่ี วกบั ภาษาและการสื่อสาร คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี 3. สาระการประกอบอาชพี เป็นสาระเก่ียวกับการมองเห็นช่องทาง และการตัดสนิ ใจประกอบ อาชีพ ทกั ษะในอาชีพ การจัดการอาชีพอย่างมคี ุณธรรม และการพัฒนาอาชีพให้มัน่ คง 4. สาระทกั ษะการดาเนินชีวิต เปน็ สาระเกีย่ วกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สขุ ภาพอนามยั และความปลอดภัยในการดาเนนิ ชีวิต ศลิ ปะและสุนทรียภาพ
33 5. สาระการพัฒนาสงั คม เปน็ สาระทเ่ี กี่ยวกับภูมศิ าสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หน้าที่พลเมือง และการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม กิจกรรมพฒั นาคุณภาพชวี ติ กจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ เป็นกิจกรรมท่จี ัดขน้ึ เพ่ือให้ผูเ้ รยี นพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สังคม มาตรฐานการเรยี นรู้ หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 กาหนด มาตรฐานการเรยี นรู้ ตามสาระการเรยี นรทู้ ้ัง 5 สาระ ที่เป็นข้อกาหนดคุณภาพของผู้เรียน ดังน้ี 1. มาตรฐานการเรียนรูก้ ารศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน เปน็ มาตรฐานการ เรยี นรู้ในแต่ละสาระการเรยี นรู้ เม่อื ผเู้ รยี นเรยี นจบหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 2. มาตรฐานการเรียนร้รู ะดับ เปน็ มาตรฐานการเรียนร้ใู นแต่ละสาระการเรยี นรู้ เม่ือผเู้ รียนเรยี น จบในแตล่ ะระดบั ตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 เวลาเรียน ในแตล่ ะระดบั ใชเ้ วลาเรียน 4 ภาคเรยี น ยกเว้นกรณที ่มี กี ารเทยี บโอนผลการเรียน ท้ังน้ี ผู้เรียนต้องลงทะเบยี นเรียนในสถานศกึ ษาอย่างน้อย 1 ภาคเรยี น หนว่ ยกติ ใช้เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง มคี า่ เท่ากบั 1 หน่วยกติ โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา สถานศกึ ษาจดั ทาโครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศึกษา โดยพจิ ารณาโครงสร้างหลักสตู ร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ดงั น้ี ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ หมายเหตุ รายวิชา รายวิชา รายวชิ า ท่ี สาระการเรยี นรู้ บงั คับ เลือกบงั คบั เลอื กเสรี 1 ทกั ษะการเรียนรู้ 5
34 2 ความรู้พ้ืนฐาน 16 18 3 การประกอบอาชีพ 8 4 ทกั ษะการดาเนนิ ชวี ติ 5 5 การพัฒนาสงั คม 6 40 รวม 56 หน่วยกติ กิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ 200 ช่ัวโมง หมายเหตุ วชิ าเลอื กในแต่ละระดับ สถานศึกษาตอ้ งจัดใหผ้ ้เู รียน เรียนรจู้ ากการทาโครงงานจานวนอย่างน้อย 3หน่วย กิต สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ประกอบด้วยสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ดงั นี้ 1. สาระทักษะการเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 มาตรฐาน ดงั นี้ มาตรฐานที่ 1.1 มีความรูค้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรยี นรู้ด้วยตนเอง มาตรฐานท่ี 1.2 มีความร้คู วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติที่ดตี ่อการใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ มาตรฐานที่ 1.3 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดีต่อการจัดการความรู้ มาตรฐานท่ี 1.4 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ด่ี ตี ่อการคิดเป็น มาตรฐานท่ี 1.5 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทด่ี ตี ่อการวจิ ยั อย่างง่าย 2. สาระความรู้พืน้ ฐาน ประกอบด้วย 2 มาตรฐาน ดังน้ี มาตรฐานท่ี 2.1 มคี วามรู้ความเข้าใจ และทักษะพืน้ ฐานเกยี่ วกบั ภาษาและการส่ือสาร มาตรฐานท่ี 2.2 มีความรู้ ความเข้าใจและทกั ษะพืน้ ฐานเก่ียวกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี 3. สาระการประกอบอาชพี ประกอบด้วย 4 มาตรฐาน ดังนี้ มาตรฐานที่ 3.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคติท่ีดใี นงานอาชพี มองเหน็ ช่องทางและ ตดั สินใจประกอบอาชพี ไดต้ ามความต้องการ และศักยภาพของตนเอง มาตรฐานท่ี 3.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะในอาชพี ท่ีตัดสนิ ใจเลอื ก
35 มาตรฐานท่ี 3.3 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการจดั การอาชพี อย่างมีคณุ ธรรม มาตรฐานที่ 3.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการพัฒนาอาชพี ให้มคี วามมนั่ คง 4. สาระทกั ษะการดาเนินชีวิต ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน ดงั น้ี มาตรฐานที่ 4.1 มีความรู้ ความเข้าใจ เจตคติที่ดเี ก่ียวกบั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง และ สามารถประยุกตใ์ ชใ้ นการดาเนินชีวิตไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มาตรฐานที่ 4.2 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติทด่ี ีเก่ียวกบั การดูแล สง่ เสรมิ สขุ ภาพ อนามัย และความปลอดภยั ในการดาเนินชวี ติ มาตรฐานที่ 4.3 มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคตทิ ่ีดีเกี่ยวกับศิลปะและสนุ ทรียภาพ 5. สาระการพัฒนาสังคม ประกอบด้วย 4 มาตรฐาน ดังนี้ มาตรฐานที่ 5.1 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และตระหนกั ถงึ ความสาคญั เก่ยี วกับภมู ศิ าสตร์ ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ เ ศ ร ษ ฐ ศ า ส ต ร์ ก า ร เ มื อ ง ก า ร ป ก ค ร อ ง ส า ม า ร ถ น า ม า ป รั บ ใ ช้ ใ น ก า ร ดารงชวี ิต มาตรฐานท่ี 5.2 มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณคา่ และสืบทอดศาสนา วัฒนธรรมประเพณี เพื่อการอยู่รว่ มกันอย่างสันตสิ ขุ มาตรฐานท่ี 5.3 ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย มีจิตสาธารณะเพ่ือความสงบ สขุ ของสงั คม มาตรฐานที่ 5.4 มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นความสาคัญของหลักการพัฒนา และสามารถ พัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน/สงั คม หมายเหตุ สาระการเรยี นรู้ความรูพ้ ื้นฐาน มาตรฐานท่ี 2.1 มีความรู้ความเข้าใจทักษะพ้ืนฐาน เกยี่ วกับภาษาและการสื่อสาร ซึง่ ภาษาในมาตรฐานน้ีหมายถึง ภาษาไทย และภาษาตา่ งประเทศ สาระทกั ษะการเรียนรู้ สาระทักษะการเรียนรู้ เปน็ สาระการเรยี นรทู้ ่ีเกยี่ วกบั การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในเรื่องของการ เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การใช้แหล่งเรียนรู้ การจัดการความรู้ การคิดเป็น และการวิจัยอย่างง่าย เพ่ือให้ผู้เรียน
36 สามารถกาหนดเปูาหมายและวางแผนการเรียนรู้ โดยใช้ทักษะการเรียนรู้เป็นเคร่ืองมือในการศึกษา คน้ ควา้ ของตนเองไดต้ อ่ เนือ่ งตลอดชวี ิต สาระทกั ษะการเรยี นรู้ ประกอบดว้ ย 5 มาตรฐาน ดงั นี้ มาตรฐานที่ 1.1 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดตี ่อการเรียนรูด้ ้วยตนเอง มาตรฐานท่ี 1.2 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี ่อการใชแ้ หล่งเรียนรู้ มาตรฐานที่ 1.3 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการจดั การความรู้ มาตรฐานท่ี 1.4 มีความรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การคดิ เปน็ มาตรฐานท่ี 1.5 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดีตอ่ การวจิ ัยอยา่ งง่าย มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั และผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวัง ในแต่ละมาตรฐาน มาตรฐานที่ 1.1 มีความร้คู วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีตอ่ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง มาตรฐาน สามารถวเิ คราะห์ เห็นความสาคัญ และปฏบิ ตั ิการแสวงหาความรูจ้ ากการอา่ น ฟงั การเรยี นรรู้ ะดบั และสรุปได้ถูกต้องตามหลักวชิ าการ ผลการเรียนรู้ 1. สามารถวเิ คราะห์ความรจู้ าก การอ่าน การฟัง การสงั เกต และและสรุป ได้ถูกต้อง ทีค่ าดหวงั 2. สามารถจัดระบบการแสวงหาความรู้ให้กับตนเอง 3. ปฏบิ ัตติ ามข้ันตอนในการแสวงหาความรเู้ กีย่ วกบั ทักษะการอา่ น ทักษะการฟัง และทกั ษะการจดบันทึก 4. สามารถนาความรู้ ความเข้าใจในเร่อื ง 5 ศักยภาพของพื้นที่ และหลกั การพื้นฐาน ตามยทุ ธศาสตร์ 2555 กระทรวงศึกษาธกิ ารไปเพิม่ ขีดความสามารถการประกอบ อาชพี โดยเนน้ ท่ีกล่มุ อาชีพใหม่ ให้แข่งขนั ได้ในระดับท้องถิ่น มาตรฐานที่ 1.2 มคี วามรูค้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดีต่อการใช้แหล่งเรียนรู้ มาตรฐาน สามารถจาแนก จดั ลาดับความสาคัญ และเลือกใชแ้ หลง่ เรียนรู้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม การเรียนรู้ระดับ ผลการเรียนรู้ 1. จาแนกความแตกต่างของแหลง่ เรยี นรู้ และตัดสินใจเลือกใช้แหลง่ เรียนรู้ ทค่ี าดหวัง 2. เรยี งลาดับความสาคญั ของแหล่งเรียนรู้ และจัดทาระบบในการใชเ้ รียนรขู้ องตนเอง 3. สามารถปฏิบัติการใช้แหล่งเรียนรตู้ ามข้นั ตอนได้อย่างถกู ต้อง 4. สามารถเลอื กใช้ แหลง่ เรียนรู้ด้านเกษตรกรรมอตุ สาหกรรม พาณชิ ยกรรม ความคดิ สร้างสรรค์ การบริหารจดั การและการบรกิ ารเกีย่ วกับอาชีพของพืน้ ทที่ ี่ ตนเองอาศยั อยู่ได้ตามความต้องการ มาตรฐานท่ี 1.3 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การจัดการความรู้ มาตรฐาน สามารถจาแนกผลที่เกดิ ข้ึนจากขอบเขตความรู้ ตดั สนิ คณุ ค่า กาหนดแนวทางพัฒนา การเรียนรรู้ ะดับ ผลการเรียนรู้ 1. วเิ คราะหผ์ ลที่เกดิ ข้ึนของขอบเขตความรู้ ตดั สินคุณค่ากาหนดแนวทางพัฒนา
37 ทคี่ าดหวงั 2. เหน็ ความสมั พนั ธ์ของกระบวนการจดั การความรู้ กบั การนาไปใช้ในการพฒั นา ชุมชน 3. ปฏบิ ัตติ ามกระบวนการการจดั การความรู้ไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ 4. สามารถนากระบวนการจัดการความรขู้ องชมุ ชนจาแนกอาชีพในด้านต่าง ๆ ของ ชมุ ชน คือ เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม พาณชิ ยกรรม ความคดิ สรา้ งสรรค์ การบรหิ ารจัดการได้อย่างถูกต้อง มาตรฐานท่ี 1.4 มคี วามร้คู วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการคิดเปน็ มาตรฐาน ความสามารถในการศึกษา เลอื กสรร จดั เกบ็ และการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลท้ัง การเรียนรู้ระดับ สามประการ และการใชเ้ ทคนิคในการฝึกทักษะ การคิดเปน็ เพ่อื ใช้ประกอบการ ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหา ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายหรือทบทวนปรัชญาคดิ เปน็ และลักษณะของขอ้ มูลดา้ นวชิ าการ ตนเอง ที่คาดหวงั สงั คม ส่ิงแวดล้อม ทจี่ ะนามาวิเคราะหแ์ ละสังเคราะห์เพ่ือประกอบการคิด การ ตัดสินใจแกป้ ัญหา 2. จาแนก เปรยี บเทยี บ ตรวจสอบขอ้ มูลด้านวชิ าการ ตนเอง สังคมส่งิ แวดล้อมที่ จดั เกบ็ และทักษะในการวิเคราะห์ สงั เคราะหข์ ้อมูลทั้งสามดา้ น เพ่ือประกอบการ ตดั สินใจแก้ปัญหา 3. ปฏบิ ตั ิตามเทคนคิ กระบวนการคิดเป็น ประกอบการตัดสนิ ใจ ได้อย่างเป็นระบบ 4. สามารถนาความรู้ ความเข้าใจในเร่ือง 5 ศักยภาพของพื้นท่ี และหลักการพื้นฐาน ตามยุทธศาสตรต์ ามกระทรวงศึกษาธิการ 2555 ไปเพ่ิมขีดความสามารถการประกอบ อาชีพโดยเน้นท่ีกลุ่มอาชพี ใหม่ ให้แขง่ ขันได้ในระดบั ชาติ มาตรฐานที่ 1.5 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดตี ่อการวจิ ยั อย่างง่าย มาตรฐาน สามารถวิเคราะหป์ ัญหา ความจาเปน็ เห็นความสมั พนั ธข์ องกระบวนการวจิ ยั การเรียนรูร้ ะดบั กับการนาไปใชใ้ นชีวิต และดาเนนิ การวจิ ยั ทดลองตามขนั้ ตอน ผลการเรยี นรู้ 1. ระบุปัญหา ความจาเปน็ วัตถุประสงค์ และประโยชน์ ทค่ี าดว่าจะได้รับจากการ ท่คี าดหวัง วจิ ัย และสืบค้นขอ้ มลู เพ่ือทาความกระจ่างในปญั หาการวจิ ัย รวมทั้งกาหนดวิธีการหา ความรูค้ วามจรงิ 2. เห็นความสมั พนั ธข์ องกระบวนการวจิ ัยกับการนาไปใชใ้ นชีวิต 3. ปฏิบตั กิ ารศึกษาทดลอง รวบรวม วเิ คราะห์ข้อมลู และสรุปความรคู้ วามจริงตาม ขน้ั ตอนไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ชัดเจน เช่น การวเิ คราะห์อาชีพ สาระทกั ษะการเรยี นรู้ (รายวชิ าบงั คับ) มาตรฐานท่ี ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย รายวชิ าบังคับ รหสั รายวชิ า รายวิชา หน่วยกติ
38 1.1-1.5 ทักษะการเรียนรู้ ทร21001 ทักษะการเรียนรู้ 5 รวม 5 สาระทกั ษะการเรยี นรู้ (รายวิชาเลอื ก) มาตรฐานท่ี ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1.1 รายวชิ าเลอื ก รหสั รายวิชา รายวิชา หน่วยกติ 1.3 รวม 1.5
39 อธบิ ายรายวิชา และรายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวชิ า
40 คาอธิบายรายวิชา ทร21001 ทักษะการเรียนรู้ จานวน 5 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั 1. สามารถวิเคราะห์ เหน็ ความสาคัญ และปฏิบัติการแสวงหาความรจู้ ากการอ่าน ฟัง และสรุปได้ ถกู ตอ้ งตามหลักวิชาการ 2. สามารถจาแนก จัดลาดบั ความสาคัญ และเลอื กใชแ้ หลง่ เรยี นรูไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. สามารถจาแนกผลที่เกิดขึ้นจากขอบเขตความรู้ ตัดสนิ คุณคา่ กาหนดแนวทางพัฒนา 4. ความสามารถในการศึกษา เลือกสรร จัดเก็บ และการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลทั้งสาม ประการ และการใช้เทคนิคในการฝึกทักษะ การคิดเป็น เพอื่ ใช้ประกอบการตดั สนิ ใจแก้ปัญหา 5. สามารถวิเคราะห์ปัญหา ความจาเป็น เห็นความสัมพันธ์ของกระบวนการวิจัยกับการนาไปใช้ ในชีวิต และดาเนนิ การวจิ ัยทดลองตามข้ันตอน 6. สามารถจาแนก และวิเคราะห์ ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพ้ืนที่ในการเพ่ิมขีด ความสามารถของการประกอบอาชีพใน 5 กลุ่มอาชพี ใหม่ ศกึ ษาและฝึกทักษะเกยี่ วกบั เรือ่ งดงั ต่อไปนี้ 1. การเรยี นร้ดู ้วยตนเอง ทบทวน ความหมาย ความสาคญั และกระบวนการของการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ทบทวนทกั ษะพื้นฐานทางการศกึ ษาหาความรู้ ทักษะการแก้ปัญหาและเทคนคิ ในการเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง ด้านการอา่ น การฟงั การสงั เกต การจา และการจดบันทกึ ฝกึ ทักษะการวางแผนการเรียนรู้ และการประเมินผลการเรียนรดู้ ้วยตนเอง ทกั ษะพน้ื ฐานและ เทคนิคในการเรียนรู้ดว้ ยตนเองในเรื่องการวางแผน การประเมินผลการเรยี นรู้ด้วยตนเอง และการวเิ คราะหว์ ิจารณ์ เจตคต/ิ ปัจจัย ทีท่ าใหก้ ารเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองประสบความสาเร็จ การเปิดรบั โอกาสการเรียนรู้ การคิดรเิ ริม่ และเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง การสร้างแรงจูงใจ การสรา้ งวินัยในตนเอง การคิดเชิงบวก ความคิด สรา้ งสรรค์ การใฝุรใู้ ฝเุ รียน และความรบั ผิดชอบ 2. การใชแ้ หล่งเรียนรู้ ทบทวนความหมาย ความสาคัญของการใช้แหล่งเรียนรู้ประเภทต่าง ๆ ศึกษาแหล่งเรียนรู้ หอสมุดแห่งชาติ หอสมุดวิทยาลัย/มหาวิทยาลัย ห้องสมุดเฉพาะ ห้องสมุดโรงเรียน พิพิธภัณฑ์ อทุ ยานแห่งชาติ แหลง่ เรียนรสู้ าคญั อนื่ ๆ ในประเทศ ศึกษา เรยี นรู้ การใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ การเข้าถึงข้อมลู สารสนเทศท่ตี ้องการและสนใจ
41 3. การจัดการความรู้ ศึกษาความหมาย ความสาคัญ หลักการของการจัดการความรู้ กระบวนการจัดการ ความรู้ การรวมกลุ่มเพื่อต่อยอดความรู้ การพัฒนาขอบข่ายความรู้ของกลุ่ม การจัดทาสารสนเทศ เผยแพร่ความรู้ ฝึ ก ทั ก ษ ะ ก ร ะ บ ว น ก า ร จั ด ก า ร ค ว า ม รู้ ด้ ว ย ต น เ อ ง แ ล ะ ด้ ว ย ก า ร ร ว ม ก ลุ่ ม ป ฏิ บั ติ ก า ร โดยการกาหนดเปูาหมายการเรียนรู้ ระบุความรู้ที่ต้องใช้ การแสวงหาความรู้ สรุปองค์ความรู้ ระยุกต์ใช้ความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ การรวมกลุ่มปฏิบัติการเพื่อต่อยอดความรู้ การพัฒนาขอบข่าย ความรู้ของกลุ่มสรุปองค์ความรู้ของกลุ่ม จัดทาสารสนเทศองค์ความรู้ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน 4. การคดิ เป็น ทบทวนทาความเข้าใจกับความเช่ือพื้นฐานทางการศึกษาผู้ใหญ่/การศึกษานอกระบบ และ เชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่องความหมายและความสาคัญของการคิดเป็น โดยใช้ข้อมูลอย่างน้อย 3 ประการ คือ ข้อมูลด้านวิชาการ ตนเอง และสังคม ส่ิงแวดล้อม อย่างพอเพียงมาวิเคราะห์และสังเคราะห์ เพือ่ กาหนดทางเลอื กในการคดิ การตัดสินใจแก้ปัญหาทเ่ี หมาะสมอย่างคนคิดเป็น ศึกษาทาความเข้าใจและฝึกทักษะในการพิจารณาข้อมูล ท้ังด้านด้านวิชาการ ตนเอง และ สังคม สิ่งแวดล้อม จนสามารถจาแนกและเปรียบเทียบลักษณะของข้อมูลทั้ง 3 ประการได้จากกรณีที่ หลากหลาย เพ่ือนาไปใชใ้ นการเลือกเกบ็ ข้อมูลดังกลา่ วมาใช้ประกอบการคิดตัดสินใจอยา่ งคน คดิ เป็น ฝกึ ปฏิบตั ิการคิด การตัดสนิ ใจอย่างเปน็ ระบบในการแก้ปัญหาอยา่ งคนคดิ เป็นจากกรณี ตัวอย่าง 5. การวิจัยอยา่ งงา่ ย ทบทวนความหมาย ความสาคัญการวิจัยอย่างง่าย กระบวนการและข้ันตอนของการ ดาเนินงาน ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะ สถติ งิ ่าย ๆ เพ่ือการวจิ ัย เครอื่ งมือการวจิ ัย และการเขยี นโครงการวจิ ยั อยา่ งงา่ ย ๆ 6. ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพน้ื ทใ่ี นการพัฒนาอาชีพ ศึกษา วิเคราะห์ และจาแนกใช้ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพ้ืนท่ีในการเพิ่มขีด ความสามารถของการประกอบอาชีพใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสรา้ งสรรค์ การบรหิ ารจัดการและการบริการ โดยคานึงถึงศักยภาพหลักของพ้ืนที่ คือ ศักยภาพของทรพั ยากรธรรมชาติ ในแต่ละพ้ืนท่ี ศักยภาพของพื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพ ของภูมิประเทศ และทาเลที่ต้ังของแต่ละพ้ืนท่ี ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของ แต่ละพื้นที่ และศักยภาพของทรัพยากรมนษุ ยใ์ นแตล่ ะพน้ื ท่ี
42 การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ 1. การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการ เรียนร้ทู ่หี ลากหลาย ซับซอ้ น อยา่ งสร้างสรรค์ เพ่ือ 1) ฝึกให้ผู้เรียนได้กาหนดเปูาหมาย และวางแผนการ เรียนรู้ 2) เพ่ิมพูนให้มีทักษะพื้นฐานในการการวางแผน การประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง การ วิเคราะห์วิจารณ์ 3) มีเจตคติท่ีดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบผลสาเร็จ และนาความร้ไู ปใช้ในวถิ ีชีวิตใหเ้ หมาะสมกับตนเอง และชุมชน/สงั คม 2. การใชแ้ หลง่ เรียนรู้ ให้ผู้เรยี นศึกษาสารสนเทศ จากระดับชุมชนสู่ระดับจังหวัด ประเทศ และโลก การเรียนรู้การ ใช้อนิ เตอร์เนต็ และแหล่งเรยี นรู้ได้สอดคล้องกับความต้องการ ความจาเป็นในการนาไปใช้ในการแสวงหา ขอ้ มลู เพื่อการเรียนร้ขู องตนเอง 3. การจัดการความรู้ ใหผ้ ้เู รียนศกึ ษาคน้ คว้าหลกั การ และกระบวนการของการจดั การความรู้ การฝึกปฏิบัติจริงโดย การรวมกลุ่มปฏิบัติการ/ชุมชนปฏิบัติการ (Community of practice = Cops) สรุปองค์ความรู้ของกลุ่ม แลกเปล่ียนเรยี นรูร้ ะหว่างกลุ่ม ยกระดบั ความรู้ และจัดทาสารสนเทศเผยแพร่ความรู้ 4. การคดิ เปน็ ให้ผู้เรียนที่ยังไม่เคยเรียนสาระนี้มาก่อนได้ศึกษาเล่าเรียน และฝึกทักษะการคิด การตัดสินใจ ในรายละเอียด เช่นเดียวกับในระดับประถมศึกษา สาหรับผู้เรียนท่ีได้เรียนสาระนี้มาก่อนแล้วควรจัดให้ ผู้เรียนได้ทบทวน ทาความเข้าใจกับการเช่ือมโยง ความเช่ือพ้ืนฐานทางการศึกษาผู้ใหญ่/การศึกษานอก ระบบมาสู่การคิดเป็นคล้ายกระบวนการอภิปราย ถกแถลงอย่างกว้างขวางให้ผู้เรียนได้ศึกษาทาความ เข้าใจเก่ียวกับลักษณะของข้อมูลทางด้านวิชาการ ตนเอง และสังคม สิ่งแวดล้อม จากเอกสาร แหล่ง ความรู้ ใบความรู้ ฯลฯ และให้มีการฝึกอธิบายและยกตัวอย่าง เพ่ือเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างของ ลักษณะข้อมูลท้ัง 3 ประการ ควรให้มีการทาใบงานในการฝึกปฏิบัติเพื่อเพิ่ม ประสบการณ์ในการเรียนรู้ลักษณะของข้อมูลท้ัง 3 ด้าน ให้ผู้เรียนมีโอกาสฝึกปฏิบัติในการทาแบบฝึกหัด ในใบงาน และการอภิปรายถกแถลงถึงกระบวนการคิด แก้ปัญหาอย่างการคิดเป็นที่ต้องใช้ข้อมูล และ กระบวนการคิด แก้ปญั หาอย่างคนคิดเปน็ จากกรณีตัวอย่างที่หลากหลายยง่ิ ขึ้น 5. การวจิ ยั อยา่ งง่าย จัดให้ผู้เรียนได้ศกึ ษา คน้ คว้า เอกสารที่เกี่ยวข้อง ฝกึ ทกั ษะการสังเกตและคน้ หาปัญหา ที่พบในชีวิตประจาวัน / ในสาระท่ีเรียน การต้ังคาถาม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพ่ือน / ผู้รู้ การคาด เดาคาตอบอย่างมีเหตุผล / การตั้งสมมติฐาน การฝึกปฏิบัติการเขียนโครงการวิจัยที่มีความซับซ้อนข้ึน การเก็บรวบรวมข้อมูล การสร้างเครื่องมือ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพ้ืนฐาน การนาเสนอข้อมูล การสรปุ ขอ้ มลู และเขยี นรายงานผล การเผยแพรข่ อ้ คน้ พบ
43 6. ทกั ษะการเรียนรู้ และศกั ยภาพหลักของพ้ืนที่ในการพัฒนาอาชีพ จัดให้ผู้เรียนทั้งรายบุคคล/กลุ่มได้ศึกษา วิเคราะห์ จาแนกทักษะการเรียนรู้ โดยคานึงถึง ศักยภาพหลักของแต่ละพ้ืนท่ี ที่มีความแตกต่าง และมีความต้องการของท้องถิ่นท่ีไม่เหมือนกัน เพ่ือเพ่ิม ขีดความสามารถของการประกอบอาชีพใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การบริหารจัดการและการบริการ เพ่ือสร้างอาชีพ และ รายได้ อย่างม่ันคง และยัง่ ยนื อยา่ งตอ่ เนื่อง การวัดและประเมินผล 1. การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ใช้การประเมินจากผลงานของผู้เรียนที่แสดงออกเก่ียวกับ การกาหนดเปูาหมาย และวางแผน การเรียนรู้ รวมทักษะพ้ืนฐานและเทคนิคในการเรียนรู้ต่าง ๆ ตลอดจนปัจจัยท่ีทาให้การเรียนรู้ประสบ ความสาเร็จ 2. การใชแ้ หลง่ เรียนรู้ จากการสงั เกต ความสนใจ การมสี ว่ นร่วมและ ผลงานทไี่ ด้ใช้ประโยชนจ์ ากแหลง่ เรียนรู้ 3. การจัดการความรู้ จากการสังเกต ความสนใจ การแสดงความคิดเห็น การมีส่วนร่วม การให้ความร่วมมือ ในกลุ่มปฏิบัติการ ผลงาน/ชิ้นงานจากการรวมกลุ่มปฏิบัติการ ใช้วิธีการประเมินแบบมีส่วนร่วม ระหว่างครู ผู้เรียนและผู้เก่ียวข้องร่วมกันประเมินตีค่าความสามารถ ความสาเร็จกับเปูาหมายที่ วางไว้ และระบุขอ้ บกพรอ่ งที่ต้องแก้ไข ส่วนทีท่ าไดด้ ีแล้วก็พัฒนาให้ดยี งิ่ ขน้ึ ต่อไป 4. การคดิ เปน็ ประเมินจากการอภิปราย การทาแบบฝึกหัด ทาใบงาน และการสังเกตจากการอภิปราย ถกแถลง การให้เหตุผล ความรอบคอบและละเอียดย่ิงข้ึน ความพอเพียง และความเหมาะสมใน การแสวงหาขอ้ มูลทัง้ 3 ประการ ประกอบการคดิ การตดั สินใจ 5. การวิจัยอยา่ งงา่ ย จากการสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วม ความร่วมมือ จากผลงาน / ชิ้นงานที่มอบหมาย ให้ ฝึกปฏบิ ตั ิ ในระหวา่ งเรยี น และการสอบปลายภาคเรียน 6. ทักษะการเรียนรู้ และศกั ยภาพหลักของพื้นทีใ่ นการพัฒนาอาชพี จากการสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วม ความร่วมมือ จากผลงาน / ชิ้นงานท่ีมอบหมาย ใหฝ้ ึกปฏิบัติ และการประเมนิ แบบมีสว่ นรว่ ม
44 รายละเอียดคาอธิบายรายวิชา ทร21001 ทักษะการเรียนรู้ จานวน 5 หน่วยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ 1. สามารถวิเคราะห์ เห็นความสาคัญ และปฏิบตั กิ ารแสวงหาความรูจ้ ากการอา่ น ฟัง และสรุปได้ ถกู ต้องตามหลกั วชิ าการ 2. สามารถจาแนก จัดลาดบั ความสาคญั และเลอื กใช้แหลง่ เรยี นร้ไู ด้อย่างเหมาะสม 3. สามารถจาแนกผลทเี่ กดิ ขน้ึ จากขอบเขตความรู้ ตัดสนิ คณุ ค่า กาหนดแนวทางพัฒนา 4. ความสามารถในการศึกษา เลือกสรร จัดเก็บ และการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลท้ังสาม ประการ และการใช้เทคนคิ ในการฝึกทกั ษะ การคดิ เป็น เพ่ือใช้ประกอบการตดั สินใจแก้ปญั หา 5. สามารถวิเคราะห์ปัญหา ความจาเป็น เห็นความสัมพันธ์ของกระบวนการวิจัยกับการนาไปใช้ ในชวี ติ และดาเนินการวิจัยทดลองตามข้ันตอน 6. สามารถจาแนก และวิเคราะห์ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพ้ืนท่ีในการเพ่ิมขีด ความสามารถของการประกอบอาชีพ 5 กลมุ่ อาชพี ใหม่ ที่ หัวเรอ่ื ง ตวั ชี้วัด เนอื้ หา จานวน (ชวั่ โมง) 1 การเรียนรู้ 1. บอกความหมาย ตระหนักและ 1. ความหมาย ความสาคัญของการ ดว้ ยตนเอง เห็นความสาคัญของการเรียนรู้ เรียนรดู้ ้วยตนเอง 3 ดว้ ยตนเอง 2. การกาหนดเปาู หมาย และการวาง 3 2. มที ักษะพ้ืนฐานทางการศึกษา แผนการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง 3 หาความรู้ ทกั ษะการแก้ปัญหา 3. ทกั ษะพนื้ ฐานทางการศกึ ษาหาความรู้ และเทคนิคในการเรียนรดู้ ว้ ย ทกั ษะการแก้ปัญหา แล ะเทคนิคในการ 4 ตนเอง เรยี นรดู้ ้วยตนเอง 6 3. อธิบายปจั จัยทท่ี าให้การเรียนรู้ 4. ปัจจัยทท่ี าใหก้ ารเรียนรู้ด้วยตนเอง 15 ดว้ ยตนเองประสบความสาเร็จ ประสบความสาเร็จ 4. สามารถวางแผนการเรยี นรู้และ 5. การวางแผนการเรียนรู้ และ การ การประเมินผลการเรยี นรู้ดว้ ย ประเมินผลการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ตนเองได้ 6. การฝึกทกั ษะวางแผนการเรยี นรู้และ การประเมนิ ผลการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง การวิจารณ์
45 ที่ หัวเร่ือง ตัวชี้วดั เน้อื หา จานวน (ช่ัวโมง) 2 การใช้ 1.อธบิ ายความหมาย ความสาคญั 1. ความหมาย ความสาคัญ ของการใช้ 3 แหลง่ เรียนรู้ ของการใชห้ ้องสมดุ อาเภอ หอ้ งสมุดอาเภอ 2. อธบิ ายการเขา้ ถงึ สารสนเทศ 2. การเข้าถึงสารสนเทศของห้องสมุด 3 ของห้องสมุดประชาชน ประชาชน 3. อธิบายแหลง่ เรยี นรู้ หอสมุด 3. แหล่งเรียนรู้ หอสมดุ แห่งชาติ หอสมุด 14 แห่งชาติ หอสมุดวิทยาลยั / วิทยาลยั /มหาวิทยาลัย หอ้ งสมุดเฉพาะ มหาวิทยาลัย หอ้ งสมุดเฉพาะ หอ้ งสมดุ โรงเรียน พิพิธภณั ฑ์ อทุ ยาน หอ้ งสมุดโรงเรียน พิพธิ ภณั ฑ์ แหง่ ชาติ แหลง่ เรียนร้สู าคัญ อทุ ยานแห่งชาติ แหล่งเรยี นรู้ อ่ืน ๆ ในประเทศ สาคญั อืน่ ๆ ในประเทศ 4. อธบิ ายและปฏบิ ตั กิ ารใช้ 4. การใชอ้ ินเทอร์เนต็ การเข้าถงึ ข้อมูล 14 อินเทอรเ์ นต็ และ สารสนเทศท่ีต้องการและสนใจ การเข้าถงึ ข้อมูลสารสนเทศที่ ต้องการและสนใจ 3 การจัดการ 1. อธิบายความหมาย ความสาคัญ 1. ความหมาย ความสาคัญ หลักการ 6 ความรู้ หลกั การ กระบวนการจดั การ กระบวนการจัดการความรู้ การรวมกลมุ่ ความรู้ การรวมกล่มุ เพ่ือต่อยอด เพื่อต่อยอดความรู้ การพัฒนาขอบขา่ ย ความรู้ การพัฒนาขอบขา่ ย ความรู้ของกลมุ่ และการจดั ทา ความรู้ของกล่มุ และ การ สารสนเทศเผยแพร่ความรู้ จดั ทาสารสนเทศเผยแพรค่ วามรู้ 2. ปฏบิ ตั กิ ารจดั การความรู้ใน 2. การฝกึ ทกั ษะกระบวนการจดั การ 18 เนื้อหาท่ีสอดคล้องกบั ความ ความร้ดู ว้ ยตนเอง และ กระบวนการ ตอ้ งการของชุมชน จดั การความรดู้ ว้ ยการรวมกลุ่ม ปฏิบตั ิการ 3. จัดทาสารสนเทศและเผยแพร่ 3. สรปุ องคค์ วามรู้ของกล่มุ จัดทา 10 ความรู้ สารสนเทศองค์ความรู้ในการพฒั นา ตนเอง ครอบครวั 4 การคิดเป็น 1. อธิบายได้ถงึ ความเชอ่ื พืน้ ฐาน 1. ความเช่อื พืน้ ฐานทางการศึกษาผใู้ หญ่/ 3 ทางการศกึ ษาผ้ใู หญ/่ การศกึ ษา การศึกษานอกระบบ 5 ประการโดยสรปุ นอกระบบ และเช่ือมโยงมาสู่ 2. ปรชั ญาการคดิ เป็น กระบวนการคดิ เปน็ และระบบคิด 2.1 ความหมาย/ความสาคัญ 3
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210