Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

Published by kimfc101, 2021-09-29 23:39:58

Description: โครงสร้างรายวิชา,หน่วยการเรียนรู้,แผนการจัดการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

โครงสรา้ งรายวิชา โครงสร้างรายวชิ า เทคโนโลยี วิทยาการคำนวณ กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ลำดับที่ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตารฐาน/ตวั ช้วี ดั / สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก ผลการเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 1 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ว 4.2 ป.3/5 1.จริยธรรมในการใช้ 2 12 อยา่ งปลอดภยั เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. Digital Footprint 2 ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตในการคน้ หา ว 4.2 ป.3/3 1.เวบ็ เบราวเ์ ซอร์ 2 12 ความรู้ 2.Google Search 3 รวบรวม ประมวลผล และ ว 4.2 ป.3/4 1. รวบรวมขอ้ มูล 2 12 นำเสนอข้อมลู 2. การประมวลผล 4 การใชซ้ อฟต์แวรท์ ำงานตาม ว 4.2 ป.3/3 1.นำเสนอขอ้ มูล 4 22 วัตถปุ ระสงค์ ว 4.2 ป.3/4 1.อลั กอรทิ มึ 2.การแสดงอัลกอริทึม 5 แสดงอัลกอรทิ มึ ในการทำงาน ว 4.3 ป.3/1 ดว้ ยการเขยี นบอกเล่า 4 22 หรอื แก้ปัญหาอยา่ งงา่ ย 3.การแสดงอัลกอริทึม ดว้ ยการวาดภาพ 4.การแสดงอัลกอริทึม ด้วยการใชส้ ัญลกั ษณ์ 6 เขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ ว 4.2 ป.3/2 1.Scratch 50 โปรแกรม Scratch รวมตลอดปี / ภาค 19 80 สอบปลายภาคเรยี น 1 20 รวม 20 100

คำอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาและฝึกทักษะเกยี่ วกบั การใช้อัลกอริทึมเป็นข้นั ตอนที่ใชใ้ นการแกป้ ัญหา การแสดงอัลกอรทิ ึมทำ ได้โดยการเขยี น บอกเล่า วาดภาพหรือใชส้ ญั ลกั ษณ์ การเขียนโปรแกรมเปน็ การสร้างลำดบั ของคำส่งั ให้ คอมพิวเตอร์ทำงาน การตรวจหาข้อผิดพลาดทำได้โดยตรวจสอบคำส่ังท่ีแจง้ ข้อผิดพลาด หรือหากผลลัพธ์ไม่ เปน็ ไปตามทตี่ ้องการให้ ตรวจสอบการทำงานทลี ะคำสั่งซอฟต์แวร์หรือสอ่ื ท่ใี ช้ในการเขียนเวบ็ เบราวเ์ ซอร์เป็น โปรแกรมสำหรบั อา่ นเอกสารบนเวบ็ เพจ การสบื คน้ ข้อมูลบนอินเตอรเ์ น็ตทำได้โดยใช้เวบ็ ไซตส์ ำหรับสืบค้น และตอ้ งกำหนดคำคน้ ทเ่ี หมาะสม จึงจะได้ข้อมลู ตามต้องการ การใช้อนิ เตอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั ควรอย่ใู นการดูแลของครู หรอื ผู้ปกครอง การรวบรวมขอ้ มลู ทำได้โดยกำหนดหวั ข้อท่ีต้องการ เตรียมอุปกรณ์ในการจดบันทกึ การประมวลผลอยา่ งง่าย การนำเสนอข้อมูลทำได้หลายลกั ษณะตามความเหมาะสม การใช้ซอฟต์แวร์ทำงานตาวตั ถปุ ระสงค์ การใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ขอความช่วยเหลอื จากครหู รอื ผ้ปู กครองเมื่อเกดิ ปัญหาจาก การใชง้ าน เมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ทำให้ไม่สบายใจ การปฏิบัตติ ามข้อตกลงในการใช้อนิ เทอรเ์ นต็ จะทำให้ ไมเ่ กิดความ เสียหายต่อตนเองและผู้อนื่ ข้อดีและข้อเสยี ในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การเกบ็ คะแนน คะแนนระหว่างเรียน 80 คะแนน คะแนนปลายภาค 20 คะแนน รวม 100 คะแนน

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั รหัส – ช่อื รายวิชา วิทยาการคาํ นวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ชวั่ โมง ผสู้ อน นายศุภานต์ รนิ วงศ์ โรงเรียน อนุบาลแม่เมาะ (ชุมชน 1) มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทัน และมีจริยธรรม ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ป.3/5 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ อย่างปลอดภยั ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในการใช้ อนิ เทอร์เน็ต สาระสำคัญ 1. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เช่นปกป้องข้อมูลส่วนตวั 2. ขอความช่วยเหลือจากครหู รือผปู้ กครองเมื่อเกดิ ปญั หาจาก การใชง้ าน เมื่อพบขอ้ มูลหรอื บคุ คลที่ทำ ให้ไมส่ บายใจ 3. การปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงในการใชอ้ นิ เทอร์เน็ตจะทำให้ไมเ่ กิดความเสียหายต่อตนเองและผูอ้ ่นื เช่น ไม่ ใช้คำหยาบลอ้ เลียน ด่าทอ ทำให้ผู้อ่ืนเสยี หายหรือเสยี ใจ 4. ข้อดีและข้อเสียในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ และการสอื่ สาร 5. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั เช่นปกป้องข้อมลู สว่ นตัว 6. ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผู้ปกครองเมื่อเกิดปัญหาจาก การใช้งาน เมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ทำ ใหไ้ มส่ บายใจ 7. การปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ตจะทำให้ไม่เกิดความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่น เช่น ไม่ใช้คำหยาบล้อเลยี น ดา่ ทอ ทำให้ผู้อ่นื เสยี หายหรอื เสียใจ 8. ข้อดีและข้อเสียในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร

สาระการเรยี นรู้ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผู้ปกครองเมื่อเกิดปัญหา จากการใช้งาน เมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ทำให้ไม่สบายใจ การปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ตจะ ทำให้ ไม่เกิดความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่น ข้อดีและข้อเสียในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กานำเสนอข้อมูล (Presentation of Data) เป็นการนำข้อเท็จจริงหรือรายละเอียดต่าง ๆ ของข้อมูลที่เก็บ รวบรวมไว้ มาจัดให้เป็นระเบียบ และสามารถอ่านรายละเอียดหรือเปรียบเทียบข้อเท็จจรงิ ของข้อมูลเหล่านน้ั ได้ อยา่ งถกู ตอ้ ง รวดเรว็ และตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผู้ปกครองเมื่อเกิดปัญหา จากการใช้งาน เมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ทำให้ไม่สบายใจ การปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ตจะ ทำให้ ไม่เกดิ ความเสียหายต่อตนเองและผอู้ ื่น ข้อดีและขอ้ เสยี ในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ 1. บอกไดว้ ่าจรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศมอี ะไรบ้าง 2. อธบิ ายได้ว่าร่องรอยดิจิทลั (Digital Footprint) คืออะไร ทกั ษะกระบวนการ 1. ปฏิบัตติ ามจรรยาบรรณผ้ใู ชอ้ ินเทอร์เนต็ 2. ปฏบิ ัติตามกฎความปลอดภยั ในการใช้งานอินเทอรเ์ น็ตได้ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

การประเมินผลรวบยอด 1. แบบทดสอบออนไลน์ เรือ่ ง จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. แบบทดสอบออนไลน์ เรอื่ งเรื่อง รอ่ งรอยดจิ ิทลั การประเมนิ ผล ระดับคณุ ภาพ นำ้ หนกั คะแนน ประเด็นการประเมิน ดมี าก ดี (3) พอใช้ ปรับปรงุ (2) (1) 6 (4) 6 1. แบบทดสอบออนไลน์ เร่อื ง จรยิ ธรรมในการใช้ 10 8-9 6-7 0-5 12 เทคโนโลยีสารสนเทศ คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน 1. แบบทดสอบออนไลน์ เรื่องเรื่อง ร่องรอยดจิ ิทัล 10 8-9 6-7 0-5 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน รวม กิจกรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงที่ 1 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครูสมุ่ นกั เรียนใหบ้ อกข้อมลู ส่วนตวั เบื้องต้นของตัวเอง 2. ครูอธบิ ายว่า ข้อมลู สว่ นตวั คือ ขอ้ มลู ท่แี สดงความเปน็ ตัวตนของเรา 3. ครูแจกใบความรูท้ ่ี 1 จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ใหก้ ับนักเรยี น พร้อมอธิบายใบความรู้ 4. ครแู จกใบงานท่ี 1.1 จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 5. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบออนไลน์ เรอ่ื ง จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 6. ครสู รปุ ใหน้ กั เรียนเข้าใจ 7. ครูใหน้ กั เรยี นทำกจิ กรรม ใครกันปฐมภมู ิ 8. ครสู รุปความหมายของแนวคดิ เชิงคำนามธรรม 9. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนถามในเรอื่ งทไี่ มเ่ ข้าใจ 10. ครูนัดหมายนกั เรยี นในการเรียนคร้งั ตอ่ ไป ภาระงานของนกั เรียน 1. นกั เรียนบอกขอ้ มูลส่วนตัวเบอื้ งต้นของตวั เอง 2. นักเรียนทำใบงานที่ 1.1 จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. นักเรยี นทำแบบทดสอบออนไลน์ เร่ือง จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

ช่ัวโมงที่ 2 กิจกรรมหลกั ของครู 1. ครเู ลา่ ให้นกั เรียนฟงั เพอ่ื เปน็ การกระตุ้นความสนใจของนักเรยี น 2. ครถู ามนกั เรยี นเพ่อื เปน็ การทบทวนความรู้เดมิ ของนักเรยี น 3. ครูแจกใบความรู้ท่ี 2 รอ่ งรอยดิจิทลั (Digital Footprint) 4. ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกันคดิ กฎการใชง้ านอนิ เทอร์เน็ตเพ่อื ไมใ่ ห้ทิง้ ร่องรอยดิจทิ ลั 5. ครแู นะนำกฎความปลอดภัยในการใช้งานอนิ เทอร์เน็ต 6. ครแู จกใบงานที่ 1.2 Digital Footprint ใหก้ บั นักเรียน 7. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบทดสอบออนไลน์ เรอ่ื งเรอื่ ง ร่องรอยดจิ ทิ ลั ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรยี นช่วยกันคดิ กฎการใชง้ านอนิ เทอร์เน็ตเพื่อไมใ่ ห้ท้งิ ร่องรอยดจิ ิทัล 2. นักเรยี นทำใบงานที่ 1.2 Digital Footprint 3. นกั เรียนทำแบบทดสอบออนไลน์

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนว่ ยท่ี 1/1 เร่อื ง จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ เวลา 1 ชัว่ โมง 1. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ป.3/5 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ อย่างปลอดภยั ปฏบิ ัติตามข้อตกลงในการใช้ อินเทอรเ์ นต็ 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผ้ปู กครองเม่ือเกดิ ปัญหา จากการใชง้ าน เม่อื พบข้อมลู หรือบุคคลที่ทำให้ไม่สบายใจ การปฏิบตั ติ ามข้อตกลงในการใช้อนิ เทอร์เน็ตจะ ทำให้ ไม่เกิดความเสียหายต่อตนเองและผู้อน่ื ข้อดแี ละข้อเสยี ในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ 1. บอกไดว้ า่ จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีอะไรบ้าง ด้านทักษะกระบวนการ 1. ปฏบิ ตั ิตามจรรยาบรรณผูใ้ ชอ้ ินเทอร์เน็ต ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน สมรรถนะทสี่ ำคญั ของนกั เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

4. สาระการเรียนรู้ 1. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัยเชน่ ปกป้องข้อมลู สว่ นตัว 2. ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผู้ปกครองเม่ือเกิดปัญหาจาก การใช้งาน เมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลทีท่ ำ ให้ไมส่ บายใจ 3. การปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ตจะทำให้ไม่เกิดความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่น เช่น ไมใ่ ชค้ ำหยาบล้อเลียน ดา่ ทอ ทำใหผ้ อู้ นื่ เสียหายหรือเสยี ใจ 4. ขอ้ ดแี ละข้อเสยี ในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอื่ สาร 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูถามนักเรียนเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เช่น “นักเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับเพื่อนที่นั่ง ข้างๆกนั บา้ ง?” 2. ครูสุ่มนักเรียนให้บอกข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้นของตัวเอง เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วัน เดือน ปี เกิด อาหารทช่ี อบ ผลไมท้ ี่ชอบ สีท่ีชอบ 3. ครูอธิบายว่า ข้อมูลส่วนตัว คือ ข้อมูลที่แสดงความเป็นตัวตนของเรา เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์ โทรศพั ท์ เลขทบ่ี ตั รประชาชน ชื่อบญั ชีผใู้ ช้-รหัสผา่ น จำนวนเงิน เลขท่ีบญั ชธี นาคาร เปน็ ตน้ ขน้ั สอน (วิธสี อน/นวตั กรรม) 1. ครแู จกใบความรู้ท่ี 1 จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ให้กบั นักเรียน พร้อมอธิบายใบความรู้ คอื จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ แบง่ เปน็ 4 ประเด็น คือ 1. ความเป็นส่วนตัว 2. ความถกู ต้อง 3. ความเป็นเจ้าของ 4. การเขา้ ถงึ ข้อมูล จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ (บัญญตั ิ 10 ประการ) 1. ไมใ่ ชค้ อมพิวเตอรเ์ พอื่ ก่ออาชญากรรมหรอื ละเมดิ สิทธผิ ูอ้ นื่ 2. ไมใ่ ช้คอมพวิ เตอร์รบกวนการผูอ้ นื่ 3. ไม่ทำการสอดแนม แกไ้ ข หรอื เปิดดูไฟลข์ องผู้อนื่ ก่อนได้รับอนุญาต 4. ไมใ่ ชค้ อมพวิ เตอร์ในการโจรกรรมขอ้ มลู ข่าวสาร 5. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์สรา้ งหลกั ฐานเท็จ 6. ไม่ใชค้ อมพิวเตอร์ในการคัดลอกโปรแกรมทีม่ ลี ิขสิทธ์ิ 7. ไมใ่ ชค้ อมพิวเตอรใ์ นการละเมิดการใชท้ รัพยากรคอมพวิ เตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสทิ ธ์ิ

8. ไม่ใช้คอมพิวเตอรเ์ พ่อื นำเอาผลงานของผู้อ่ืนมาเปน็ ของตน 9. คำนึงถงึ ผลของการกระทำทจ่ี ะเกิดขึน้ กบั สงั คม 10. ใชค้ อมพวิ เตอรโ์ ดยเคารพกฎระเบยี บ กติกา และมารยาท 2. ครแู จกใบงานที่ 1.1 จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ พร้อมอธบิ ายวิธกี ารทำใบงาน คอื ให้ นักเรียนเขยี นทำเคร่อื งหมาย / หน้าข้อทเ่ี ป็นควรทำ และทำเครื่องหมาย x หน้าข้อ ท่ีไม่ควรทำ เมื่อ ใชง้ านอนิ เทอร์เนต็ 3. ครูให้นักเรียนแลกเปลี่ยนใบงานกัน และครูเฉลยใบงาน 4. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบออนไลน์ เรอ่ื ง จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ จำนวน 10 ขอ้ ข้ันสรปุ 1. ครูสรุปใหน้ ักเรยี นเข้าใจว่า เทคโนโลยสี ารสนเทศมีท้ังประโยชน์และโทษ จึงต้องศกึ ษาเพื่อให้ใช้งาน ได้อย่างเท่าทนั และปลอดภัยซึง่ มดี ังน้ี 1. ไมเ่ ปิดเผยข้อมลู ส่วนตัว 2. กำหนดรหัสผา่ นใหร้ ดั กุม เปล่ยี นรหัสผา่ นทุกๆ 3 เดือน 3. ออกจากระบบทุกครง้ั หลงั ใช้งาน 4. ตดิ ตั้งโปรแกรมป้องกันไวรสั คอมพวิ เตอร์ 5. ขอความชว่ ยเหลอื เม่ือเกิดปญั หา 2. ครูถามนักเรยี นวา่ หากพบวา่ ขอ้ มูลส่วนตวั ถกู ขโมยไป นักเรียนจะบอกใครให้ช่วยเหลอื ได้บา้ ง แนวคำตอบ : บอกพอ่ แม่ ผูป้ กครอง บอกคุณครู แจง้ ผดู้ ูแลเว็บไซต์ แจ้งตำรวจ 3. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามเพมิ่ เติม 6. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรทู้ ี่ 1 จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ใบงานที่ 1.1 จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 3. แบบทดสอบออนไลน์ เร่ือง จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

7. การวัดผลและประเมนิ ผล วธิ กี ารวัด เคร่อื งมอื 7.1 การวดั ผล แบบทดสอบ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ แบบทดสอบออนไลน์ เรือ่ ง จรยิ ธรรมใน การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ดา้ นทักษะกระบวนการ ใบงานที่ 1.1 จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี แบบทดสอบ สารสนเทศ ดา้ นคุณลักษณะ แบบประเมนิ ด้าน อนั พงึ ประสงค์ วดั โดยการสงั เกตคุณลกั ษณะอนั พึง คุณลักษณะอนั พ่ึงประสงค์ ประสงค์ของนักเรียน 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ สมรรถนะทสี่ ำคัญ แบบประเมินด้านสมรรถนะ ของนักเรียน 1. มวี นิ ัย สำคัญของนกั เรยี น 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน วัดโดยการสงั เกตสมรรถนะสำคญั ของ นักเรียน 3 ด้าน ได้แก่ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

7.2 เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ แบบทดสอบออนไลน์เรื่อง จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ (10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถงึ ดี 6-7 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ หมายเหตุ ด้านความรู้เกณฑผ์ ่าน ร้อยละ 80 ทกุ ประเดน็ การประเมนิ แบบบนั ทกึ การประเมนิ ด้านความรู้ เรอื่ ง จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ เลขท่ี แบบฝึกหัด รอ้ ยละ ผลการประเมนิ (10คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลี่ย ลงชอื่ (.......................................................) ครู

ดา้ นทักษะกระบวนการนกั เรยี น ใบงานที่ 1.1 จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ (10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 6-7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ หมายเหตุ ดา้ นความร้เู กณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 80 ทุกประเด็นการประเมิน แบบบันทึกการประเมนิ ดา้ นความรู้ เร่ือง จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ เลขท่ี แบบฝึกหัด ร้อยละ ผลการประเมนิ (10คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลีย่ ลงชื่อ (.......................................................) ครู

ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขน้ึ ไปทกุ ตัวชว้ี ัด ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน หมายเหตุ: ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กำหนดระดบั คุณภาพ 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรบั ปรุง การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เรื่อง จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มวี ินัย 1.เขา้ เรยี นตรงตอ่ เวลา 2.ไม่โดดเรยี น 3.แตง่ กายสุภาพเรียบร้อย 4.ส่งการบ้านตรงต่อเวลา ใฝ่เรยี นรู้ 1.ตัง้ ใจเรยี น 2.สืบค้นหาความร้/ู ข้อมลู สมำ่ เสมอ 3.รว่ มทำกิจกรรมในหอ้ งเรียน 4.บันทกึ ความรู้ วิเคราะหข์ ้อมูลจากสิง่ ทีเ่ รียนรู้ มุง่ ม่นั ในการทำงาน 1.ต้งั ใจและรับผิดชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่การงาน 2.เอาใจใส่ต่อการปฏิบตั ิหนา้ ท่ที ี่ไดร้ ับมอบหมาย 3.ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานให้สำเรจ็ 4.ปรับปรุงและพัฒนาการทำงานดว้ ยตนเอง

เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านสมรรถนะนกั เรียน ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึง ระดบั คะแนน ประสงค์ มีวินัย 432 1 มคี ุณลักษณะอัน ใฝ่เรียนรู้ มีคณุ ลกั ษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอัน มีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มีคุณลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคุณลักษณะอนั มีคณุ ลักษณะอนั มคี ุณลักษณะอนั 1 ข้อ พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ มคี ุณลักษณะอัน มคี ณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 ข้นึ ไปทุกตวั ชว้ี ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ

แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เรอื่ ง จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ผลการประเมิน เลขท่ี หมายเหตุ ผ่าน ไม่ผา่ น มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มั่นในการ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลยี่ ลงชอ่ื (.......................................................) ครู

ด้านสมรรถนะนักเรียน ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ข้ึนไปทกุ ตวั ช้วี ัด ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ หมายเหตุ : ด้านสมรรถนะนักเรยี น กำหนดระดบั คุณภาพ 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุง การประเมนิ ดา้ นสมรรถนะนักเรียน เร่อื ง จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีความสามารถในการรับและส่งสาร 2. เลอื กรับหรอื ไมร่ บั ข้อมลู ขา่ วสารด้วยหลักเหตุผล 3. คำนึงถงึ ผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสังคม 4. การเจรจาตอ่ รองเพื่อขจดั และลดปัญหาความขดั แย้งต่าง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ 2. การคิดเปน็ ระบบ 3. การคดิ สงั เคราะห์ 4. การคิดอย่างสรา้ งสรรค์ ความสามารถในการแกป้ ัญหา 1. การแก้ปญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ 2. มีการตัดสินใจท่ีมีประสทิ ธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบทเ่ี กิดขึ้นต่อตนเอง สงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม 3. ประยุกต์ความรู้มาใชใ้ นการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา 4. เขา้ ใจความสมั พนั ธแ์ ละการเปล่ยี นแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ

เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นสมรรถนะนกั เรยี น ด้านสมรรถนะนกั เรยี น ระดับคะแนน ความสามารถในการ 432 1 สอ่ื สาร ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถในการคิด การสือ่ สาร การสื่อสาร การส่อื สาร การส่อื สาร 1 ข้อ ความสามารถในการ แกป้ ญั หา ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ ความสามารถใน การคิด ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน 1 ข้อ การคดิ การคดิ การคดิ ความสามารถใน การแกป้ ัญหา ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา การแกป้ ัญหา ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตวั ช้วี ัด ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะนกั เรียน เรอ่ื ง จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สมรรถนะนักเรยี น ผลการประเมนิ หมายเหตุ เลขท่ี การ การคิด การ ผา่ น ไมผ่ า่ น สื่อสาร แก้ปญั หา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลยี่ ลงชอื่ (.......................................................) ครู

8. ข้อเสนอแนะ ✓ ใช้สอนได้  ควรปรับปรงุ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .................................................. (นายวสิ ุทธิศกั ดิ์ เครือสาร) ครพู ี่เลี้ยง วันที่ 1 เดือน มถิ นุ ายน พ.ศ.2564 9.บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ คน 100 คิดเป็นรอ้ ยละ 1) ผลท่ีเกดิ ข้นึ แกผ่ ้เู รยี น คน 0 คิดเปน็ ร้อยละ ด้านความรู้ จำนวนนักเรยี นท่ีผ่านเกณฑ์ 175 คน 175 คิดเป็นรอ้ ยละ จำนวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เปน็ ร้อยละ ด้านทกั ษะกระบวนการ จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์ 175 คน 175 คิดเป็นรอ้ ยละ จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเปน็ ร้อยละ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์ 175 คน 175 คิดเป็นรอ้ ยละ จำนวนนกั เรียนที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เป็นร้อยละ ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน จำนวนนกั เรยี นทผ่ี ่านเกณฑ์ 175 จำนวนนักเรยี นที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์ 0 2) ปัญหาและอุปสรรค เนื่องจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดจงึ ทำให้นกั เรียนแบง่ กล่มุ มาโรงเรยี น เปน็ กล่มุ A และกลุม่ B

3)แนวทางการแกป้ ัญหา ลงชื่อ.................................................. ครใู ชแ้ ผนละ สองครัง้ (.......................................................) ผสู้ อน วันท.่ี ......เดือน................... พ.ศ.............. 10.ความคดิ เห็นของหวั หนา้ กล่มุ สาระ/สายชน้ั ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) หัวหน้ากลุ่มสาระ/สายช้นั วนั ท่.ี ......เดือน................... พ.ศ.............. 11.ความคิดเหน็ ของฝ่ายวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ฝา่ ยวิชาการ วันท่.ี ......เดือน................... พ.ศ.............. 12.ความคดิ เห็นของผอู้ ำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) ผู้อำนวยการโรงเรียน วนั ท่ี.......เดอื น................... พ.ศ..............

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน่วยที่ 1/2 เรอ่ื ง Digital Footprint เวลา 1 ชวั่ โมง 1. มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั / ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ รูเ้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ป.3/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อยา่ งปลอดภัย ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงในการใช้ อนิ เทอร์เนต็ 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผปู้ กครองเมือ่ เกดิ ปญั หา จากการใชง้ าน เมือ่ พบข้อมลู หรือบคุ คลที่ทำให้ไมส่ บายใจ การปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงในการใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตจะ ทำให้ ไม่เกิดความเสียหายตอ่ ตนเองและผอู้ น่ื ข้อดแี ละข้อเสยี ในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ 1. อธบิ ายได้ว่าร่องรอยดิจิทลั (Digital Footprint) คืออะไร ดา้ นทักษะกระบวนการ 1. ปฏิบตั ติ ามกฎความปลอดภัยในการใชง้ านอนิ เทอร์เน็ตได้ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน สมรรถนะท่สี ำคญั ของนักเรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

4. สาระการเรยี นรู้ 1. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เชน่ ปกป้องข้อมูลส่วนตัว 2. ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผู้ปกครองเมื่อเกิดปัญหาจาก การใช้งาน เมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ทำ ใหไ้ ม่สบายใจ 3. การปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ตจะทำให้ไม่เกิดความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่น เช่น ไมใ่ ช้คำหยาบล้อเลียน ด่าทอ ทำให้ผู้อ่ืนเสยี หายหรือเสียใจ 4. ขอ้ ดีและขอ้ เสียในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ และการสอ่ื สาร 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครเู ลา่ ให้นักเรยี นฟัง เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของนกั เรยี น ไม่นานมาน้มี ีนักการเมอื ง บคุ คล สำคัญทางสงั คมโดนโจมตีทางสือ่ สังคมออนไลน์ ด้วยรูปภาพและข้อมลู ทเ่ี คยลงไว้ในสอ่ื สังคม ออนไลน์ทเี่ คยลงไวน้ านหลายสบิ ปี และถูกขดุ คุ้ยมาโจมตี และทำใหเ้ กดิ การส่ือสารท่ีสรา้ งความ เกลียดชงั และความขัดแย้ง เหตกุ ารณท์ ั้งหมดนเี้ กิดขน้ึ ด้วย รอ่ งรอยดิจทิ ลั (Digital Footprint) 2. ครถู ามนักเรียนเพ่ือเป็นการทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน เชน่ “เดก็ ๆรจู้ ักคำวา่ ดจิ ิทัล หรอื ไม่ ดจิ ทิ ลั คืออะไร?” แนวคำตอบ : ดจิ ทิ ัลเปน็ เทคโนโลยที มี่ คี วามสำคญั กับการดำรงชวี ิตของมนุษยใ์ นยุคปัจจุบนั เชน่ คอมพวิ เตอร์ สมารท์ โฟน แทบ็ เลต็ ขน้ั สอน (วิธีสอน/นวัตกรรม) 1. ครูแจกใบความรู้ที่ 2 ร่องรอยดิจิทัล (Digital Footprint) ให้กับนักเรียน พร้อมอธิบายใบความรู้ คอื ร่องรอยดิจิทัล คือ ร่องรอยที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกระทำการต่าง ๆ เช่น การใช้งานอัพโหลดข้อมูล ส่วนตัว ไฟล์งาน รูปภาพ การใช้งานสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ โดยระบบต่าง ๆ ของ อนิ เทอร์เน็ตจะบันทกึ ขอ้ มูลของผู้ใช้งาน เช่น ชอื่ และข้อมูลส่วนตวั วนั เดินปเี กิด ตำแหน่งงาน ผลงาน ขอ้ มลู การศึกษา ประวัติสว่ นตัว ของผ้ใู ชง้ าน รอ่ งรอยดิจทิ ลั สามารถบอกใหผ้ ้อู ่ืนทราบถึงส่ิงที่เราชอบ ส่งิ ที่สนใจ และส่ิงทีเ่ ราอยากทำ รอ่ งรอยดจิ ิทลั มี 2 ประเภทคือ ประเภทที่ 1 รอ่ งรอยดิจิทัล ทีผ่ ูใ้ ช้เจตนาบนั ทกึ (Active Digital Footprints) ร่องรอยดิจิทัล ของผู้ใช้งานที่เจตนาบันทึกไว้ในโลกออนไลน์ ข้อมูลที่เราตั้งใจเปิดเผยโดยที่รู้ตัว เช่น อีเมล์ เบอร์โทร ชื่อโปรไฟล์ เฟซบุ๊ก หรือสิ่งที่เราตั้งใจโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น สิ่งที่เราพูด หรือโพสต์ รปู ทเี่ ราเคยลง สง่ิ ท่ีเรากดไลก์ รีทวติ หรือแชร์ ที่ต้งั สถานที่ที่เราอยู่ หรอื เคยไป

ประเภทท่ี 2 รอ่ งรอยดจิ ิทัล ทีผ่ ้ใู ช้ไมเ่ จตนาบนั ทึก (Passive Digital Footprints) ร่องรอยดิจิทัล ของผู้ใช้งานที่ไม่มีเจตนาบันทึกเอาไว้ในโลกออนไลน์ หรือข้อมูลแบบที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่ได้รู้ตัว เช่น IP Address หรือ Search History ต่าง ๆ ที่เราถูกจัดเก็บเอาไว้ สิ่งที่เราเคยคลิก เขา้ ไป การซือ้ สนิ ค้าออนไลนข์ องเรา การเปดิ ระบบ GPS เปน็ ตน้ 1. ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกนั คดิ กฎการใชง้ านอินเทอรเ์ นต็ เพือ่ ไมใ่ ห้ทิง้ ร่องรอยดิจทิ ลั แนวคำตอบ : ไม่โพสต์ภาพ หรือข้อมูลส่วนตัวลงบนอินเทอร์เน็ต ไม่แสดงความคิดเห็นใน แง่ลบ ก่อนโพสต์หรือแชร์อะไร ควรเปรียบเทียบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเช่ือถือ ใช้อินเทอร์เนต็ ให้ เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ 2. ครแู นะนำกฎความปลอดภยั ในการใชง้ านอนิ เทอร์เนต็ คอื 1. ไม่เปดิ เผยขอ้ มูลส่วนตัว เช่น เบอร์โทรศัพท์ ชือ่ โรงเรียน ช่อื เพ่ือน หรอื ผปู้ กครอง 2. ไมน่ ัดแนะเพ่อื พบปะกบั บุคคลทร่ี ้จู กั ทางอินเทอร์เน็ตโดยไมบ่ อกผ้ปู กครอง 3. ไมส่ ง่ รูปหรือข้อมลู ส่วนตวั ให้กบั คนท่รี จู้ กั ทางอนิ เทอร์เนต็ 4. ไม่ให้ความสนใจ หรอื ตอบโต้กบั คนที่ใชถ้ อ้ ยคำหยาบคาย 5. ไม่ดาวนโ์ หลดสงิ่ ทไ่ี ม่คุ้นเคยหรอื เปดิ เอกสารจากอเี มล์ของคนท่เี ราไม่รู้จัก 6. เคารพในกฎระเบียบ นโยบาย หรอื ข้อตกลงทีใ่ หไ้ ว้กบั ผ้ปู กครอง และคุณครู ในการใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ 3. ครแู จกใบงานที่ 1.2 Digital Footprint ให้กับนักเรียน พรอ้ มอธิบายวธิ ีการทำใบงาน คือ ให้นักเรยี นเขยี นประวัตสิ ่วนตัวของตัวเองด้วย ปากกา ลงในใบงาน โดยครใู หเ้ วลา 20 นาที 4. เมื่อครบกำหนดเวลา ครูให้นักเรียน นำ ยางลบ ลบข้อมูลส่วนตัวที่เขียนลงในใบงาน จะพบว่า ไม่ สามารถลบได้ หรือบางคนอาจจะลบได้ แต่ก็ไม่สะอาด ซึ่งเปรียบเสมือนการกระทำการต่างๆบน อนิ เทอรเ์ น็ต ทุกอย่างจะถกู บนั ทึกไวแ้ ละยากทจี่ ะลบออกไป 5. ครูให้นกั เรียนทำแบบทดสอบออนไลน์ เรื่องเรือ่ ง ร่องรอยดจิ ิทัล จำนวน 6 ข้อ (แบบเลือกตอบ 5 ข้อ แบบ อธิบาย 1 ข้อ) ขน้ั สรปุ 1. อธบิ ายว่า รอ่ งรอยการกระทำของผูใ้ ช้งานอนิ เทอร์เน็ต เชน่ หากเราทำอะไรลงไปในโลกอินเทอร์เน็ต จะคงอยู่อย่างถาวร ยากที่จะลบออกไปได้ และเมื่อบุคคลอื่นเข้ามาอ่านอาจนำข้อมูลของเราไป เผยแพร่ได้ จะทำให้เกิดผลเสียต่อตัวเราและคนอื่นมากมาย ฉะนั้น เด็ก ๆ จะต้องระมัดระวังให้มาก ในการส่งข้อมลู ลงไปในโลกของอนิ เทอร์เน็ต 2. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นสอบถามเพิ่มเติม 6. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. ใบความรทู้ ่ี 2 ร่องรอยดิจิทลั (Digital Footprint) 2. ใบงานที่ 1.2 Digital Footprint 3. แบบทดสอบออนไลน์ เรอ่ื งเร่ือง ร่องรอยดิจิทัล

7. การวดั ผลและประเมินผล วิธกี ารวดั เครอ่ื งมือ 7.1 การวดั ผล แบบทดสอบ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ แบบทดสอบออนไลน์ เร่ืองเรื่อง ร่องรอยดิจิทัล ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ประเมินจากใบงานท่ี 1.2 Digital แบบประเมินด้านทักษะ Footprint กระบวนการ ด้านคุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ วัดโดยการสงั เกตคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินดา้ น ประสงคข์ องนักเรยี น 3 ดา้ น ได้แก่ คุณลักษณะอนั พงึ่ ประสงค์ สมรรถนะทีส่ ำคญั ของนักเรยี น 1. มวี ินยั แบบประเมินดา้ นสมรรถนะ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ สำคญั ของนักเรยี น 3. มุ่งม่ันในการทำงาน วดั โดยการสังเกตสมรรถนะสำคญั ของ นกั เรยี น 3 ด้าน ไดแ้ ก่ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

7.2 เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ แบบทดสอบออนไลน์ เรอื่ งเร่ือง รอ่ งรอยดจิ ิทลั (10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 6-7 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ด้านความรเู้ กณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 80 ทุกประเด็นการประเมนิ แบบบนั ทกึ การประเมินด้านความรู้ เรอื่ ง Digital Footprint เลขท่ี แบบฝึกหัด รอ้ ยละ ผลการประเมิน (10คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลยี่ ลงช่อื (.......................................................) ครู

ดา้ นทกั ษะกระบวนการนกั เรยี น การประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการ เร่ือง Digital Footprint การสรุปความรู้ในรปู แบบ ให้นกั เรยี นเขียนประวัติส่วนตัว 1. ทำสำเร็จตามเวลาทีก่ ำหนด 2. ทำครบทกุ ข้อคถาม 3. เข้าใจงา่ ย 4. งานมีความสะอาดเรยี บร้อย การสรุปความรูใ้ นรูปแบบ ให้นกั เรยี นเขยี นประวัตสิ ่วนตัว คะแนน 4 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 3 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ด้านทักษะกระบวนการ เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านทกั ษะกระบวนการ 1 นกั เรยี นเขียนประวัตสิ ว่ นตัว ระดบั คะแนน นกั เรยี นเขียน ประวตั ิสว่ นตัว 432 ตามเกฑณ์ 1 ข้อ นกั เรยี นเขยี น นกั เรยี นเขียน นกั เรียนเขียน ประวัติสว่ นตวั ประวตั ิสว่ นตัว ประวตั สิ ่วนตวั ครบตามเกณฑ์ ตามเกฑณ์ 3 ข้อ ตามเกฑณ์ 2 ข้อ หมายเหตุ : ได้คะแนน 3 ข้ึนไปทกุ ตวั ชีว้ ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ 4 หมายถึง ดีมาก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ

แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรือ่ ง Digital Footprint เลขที่ คะแนนด้านทกั ษะ ผลการประเมนิ หมายเหตุ กระบวนการ ผ่าน ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉล่ยี ลงชื่อ (.......................................................) ครู

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ได้ระดับคณุ ภาพ 3 ข้นึ ไปทกุ ตวั ชว้ี ดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ หมายเหต:ุ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ กำหนดระดับคุณภาพ 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรงุ การประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เร่ือง Digital Footprint มีวินัย 1.เข้าเรยี นตรงตอ่ เวลา 2.ไม่โดดเรยี น 3.แตง่ กายสภุ าพเรียบร้อย 4.ส่งการบ้านตรงต่อเวลา ใฝเ่ รยี นรู้ 1.ตงั้ ใจเรียน 2.สืบค้นหาความร/ู้ ข้อมูลสม่ำเสมอ 3.รว่ มทำกจิ กรรมในหอ้ งเรียน 4.บันทึกความรู้ วิเคราะห์ข้อมูลจากสง่ิ ที่เรียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทำงาน 1.ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั ิหน้าท่ีการงาน 2.เอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัติหนา้ ท่ที ี่ไดร้ ับมอบหมาย 3.ตั้งใจและรับผิดชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็ 4.ปรับปรุงและพัฒนาการทำงานดว้ ยตนเอง

เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านสมรรถนะนกั เรียน ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึง ระดบั คะแนน ประสงค์ มีวินัย 432 1 มคี ุณลักษณะอัน ใฝ่เรียนรู้ มีคณุ ลกั ษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอัน มีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มีคุณลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคุณลักษณะอนั มีคณุ ลักษณะอนั มคี ุณลักษณะอนั 1 ข้อ พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ มคี ุณลักษณะอัน มคี ณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 ข้นึ ไปทุกตวั ชว้ี ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ

แบบประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เรอ่ื ง Digital Footprint คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมิน เลขที่ หมายเหตุ ผ่าน ไมผ่ า่ น มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมน่ั ในการ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉล่ยี ลงช่ือ (.......................................................) ครู

ด้านสมรรถนะนักเรียน ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตัวชีว้ ดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน หมายเหตุ : ดา้ นสมรรถนะนักเรยี น กำหนดระดับคุณภาพ 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรบั ปรงุ การประเมินดา้ นสมรรถนะนักเรียน เรือ่ ง Digital Footprint ความสามารถในการสื่อสาร 1. มคี วามสามารถในการรบั และส่งสาร 2. เลอื กรับหรอื ไมร่ บั ข้อมูลข่าวสารด้วยหลกั เหตผุ ล 3. คำนงึ ถงึ ผลกระทบท่ีมตี อ่ ตนเองและสังคม 4. การเจรจาตอ่ รองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขดั แย้งต่าง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 2. การคดิ เปน็ ระบบ 3. การคดิ สังเคราะห์ 4. การคดิ อย่างสร้างสรรค์ ความสามารถในการแกป้ ัญหา 1. การแกป้ ญั หาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ 2. มกี ารตดั สินใจที่มปี ระสทิ ธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบทีเ่ กิดขึ้นต่อตนเอง สงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม 3. ประยกุ ต์ความรู้มาใชใ้ นการปอ้ งกันและแก้ไขปญั หา 4. เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปลยี่ นแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ

เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นสมรรถนะนกั เรยี น ด้านสมรรถนะนกั เรยี น ระดับคะแนน ความสามารถในการ 432 1 สอ่ื สาร ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถในการคิด การสือ่ สาร การสื่อสาร การส่อื สาร การส่อื สาร 1 ข้อ ความสามารถในการ แกป้ ญั หา ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ ความสามารถใน การคิด ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน 1 ข้อ การคดิ การคดิ การคดิ ความสามารถใน การแกป้ ัญหา ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา การแกป้ ัญหา ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตวั ช้วี ัด ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

แบบประเมินดา้ นสมรรถนะนักเรยี น เร่ือง Digital Footprint สมรรถนะนักเรียน ผลการประเมนิ หมายเหตุ เลขท่ี การ การคิด การ ผา่ น ไมผ่ ่าน สือ่ สาร แกป้ ญั หา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลยี่ ลงชื่อ (.......................................................) ครู

8. ข้อเสนอแนะ ✓ ใช้สอนได้  ควรปรับปรงุ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .................................................. (นายวสิ ุทธิศกั ดิ์ เครือสาร) ครูพเ่ี ล้ียง วนั ท่ี 1 เดือน มถิ ุนายน พ.ศ.2564 9.บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ คน 100 คดิ เป็นรอ้ ยละ 1) ผลท่ีเกดิ ข้นึ แกผ่ ้เู รยี น คน 0 คดิ เปน็ ร้อยละ ด้านความรู้ จำนวนนักเรยี นท่ีผ่านเกณฑ์ 175 คน 175 คดิ เป็นรอ้ ยละ จำนวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเปน็ ร้อยละ ด้านทกั ษะกระบวนการ จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์ 175 คน 175 คดิ เป็นรอ้ ยละ จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเปน็ ร้อยละ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์ 175 คน 175 คดิ เป็นรอ้ ยละ จำนวนนกั เรียนที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เป็นร้อยละ ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น จำนวนนกั เรยี นทผ่ี ่านเกณฑ์ 175 จำนวนนักเรยี นที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์ 0 2) ปัญหาและอุปสรรค เนื่องจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดจึงทำให้นักเรยี นแบง่ กลุ่มมาโรงเรียน เปน็ กล่มุ A และกลุ่มB

3)แนวทางการแกป้ ัญหา ลงชื่อ.................................................. ครใู ชแ้ ผนละ สองครัง้ (.......................................................) ผสู้ อน วันที่.......เดือน................... พ.ศ.............. 10.ความคดิ เห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระ/สายช้ัน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) หัวหนา้ กลุม่ สาระ/สายชัน้ วันท.่ี ......เดือน................... พ.ศ.............. 11.ความคิดเหน็ ของฝ่ายวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่.......เดือน................... พ.ศ.............. 12.ความคดิ เห็นของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ.................................................. (.......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น วนั ท่ี.......เดือน................... พ.ศ..............

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 หน่วยการเรยี นรู้ ใช้อนิ เทอร์เนต็ ในการคน้ หาความรู้ รหัส – ช่ือรายวชิ า วิทยาการคาํ นวณ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 2 ชวั่ โมง ผูส้ อน นายศภุ านต์ รินวงศ์ โรงเรยี น อนุบาลแมเ่ มาะ (ชมุ ชน 1) มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ป.3/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อยา่ งปลอดภัย ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงในการใช้ อินเทอร์เน็ต สาระสำคญั 1. การใช้อนิ เตอรเ์ นต็ เปน็ เครอื ข่ายขนาดใหญ่ ชว่ ยให้การตดิ ต่อสอ่ื สารทำได้สะดวกและรวดเร็วเปน็ แหล่งขอ้ มูลความรทู้ ่ีชว่ ย ในการเรียนและการดำเนินชีวิต 2. เว็บเบราวเ์ ซอรเ์ ปน็ โปรแกรมสำหรับอ่านเอกสารบนเว็บเพจ 3. การสืบคน้ ข้อมลู บนอินเตอรเ์ น็ตทำได้โดยใช้เวบ็ ไซตส์ ำหรับสบื คน้ และต้องกำหนดคำค้นทีเ่ หมาะสมจึง จะได้ขอ้ มูลตามต้องการ 4. ข้อมลู ความรู้ เชน่ วธิ ที ำอาหาร วธิ ีพบั กระดาษเปน็ รูปตา่ งๆขอ้ มลู ประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทย (อาจเป็น ความรใู้ นวิชาอืน่ ๆหรือเร่อื งที่เปน็ ประเดน็ ทส่ี นใจในช่วงเวลานั้น) 5. การใช้อินเตอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั ควรอยูใ่ นการดูแลของครู หรือผ้ปู กครอง 6. การใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ช่วยให้การติดต่อสื่อสารทำได้สะดวกและรวดเร็วเป็น แหล่งขอ้ มูลความรทู้ ่ีชว่ ย ในการเรยี นและการดำเนนิ ชีวิต 7. เว็บเบราวเ์ ซอร์เป็นโปรแกรมสำหรับอ่านเอกสารบนเว็บเพจ 8. การสืบค้นขอ้ มลู บนอนิ เตอร์เนต็ ทำไดโ้ ดยใช้เว็บไซต์สำหรับสืบค้นและต้องกำหนดคำคน้ ท่ีเหมาะสมจึง จะได้ข้อมูลตามต้องการ 9. ข้อมูลความรู้ เช่น วิธีทำอาหาร วิธีพับกระดาษเป็นรูปต่างๆข้อมูลประวัติศาสตร์ชาติไทย (อาจเป็น ความรู้ในวิชาอ่ืนๆหรือเร่ืองทเ่ี ปน็ ประเด็นที่สนใจในช่วงเวลานั้น) 10. การใชอ้ ินเตอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั ควรอย่ใู นการดแู ลของครู หรอื ผ้ปู กครอง

สาระการเรยี นรู้ อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ช่วยให้การติดต่อสื่อสารทำได้สะดวกและรวดเร็ว เป็น แหล่งขอ้ มูลความรู้ทชี่ ่วย ในการเรียนและการดำเนินชวี ิต เว็บเบราว์เซอรเ์ ป็นโปรแกรมสำหรับอ่านเอกสารบน เวบ็ เพจ การสบื ค้นขอ้ มลู บนอนิ เทอรเ์ น็ตทำได้โดยใช้เว็บไซตส์ ำหรับสืบคน้ และต้องกำหนดคำค้นทเี่ หมาะสมจึง จะไดข้ อ้ มลู ตามต้องการ ขอ้ มูลความรู้ เช่น ขัน้ ตอนการทำอาหาร การใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภัยควรอยู่ใน การดูแลของครู หรือผู้ปกครอง อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ช่วยให้การติดต่อสื่อสารทำได้สะดวกและรวดเร็ว เป็น แหล่งข้อมูลความรู้ท่ีช่วย ในการเรียนและการดำเนินชวี ติ เวบ็ เบราว์เซอรเ์ ป็นโปรแกรมสำหรบั อ่านเอกสารบน เวบ็ เพจ การสืบคน้ ขอ้ มูลบนอินเทอรเ์ น็ตทำได้โดยใช้เวบ็ ไซต์สำหรับสืบคน้ และต้องกำหนดคำค้นที่เหมาะสมจึง จะได้ขอ้ มลู ตามต้องการ ขอ้ มลู ความรู้ เชน่ ขนั้ ตอนการทำอาหาร การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภัยควรอยู่ใน การดูแลของครู หรอื ผู้ปกครอง จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ 1. บอกได้วา่ จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีอะไรบ้าง 2. อธบิ ายได้วา่ ร่องรอยดิจิทลั (Digital Footprint) คอื อะไร ทักษะกระบวนการ 1. ปฏิบัตติ ามจรรยาบรรณผูใ้ ชอ้ ินเทอรเ์ น็ต 2. ปฏบิ ตั ิตามกฎความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอรเ์ น็ตได้ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มั่นในการทำงาน สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

การประเมนิ ผลรวบยอด 1. แบบทดสอบออนไลน์ เรอื่ ง เว็บเบราว์เซอร์ 2. แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง มาคน้ หาข้อมูลกันเถอะ การประเมินผล ระดบั คณุ ภาพ น้ำหนัก คะแนน ประเด็นการประเมิน ดีมาก ดี (3) พอใช้ ปรบั ปรงุ (4) (2) (1) 6 แบบทดสอบออนไลน์ เรอื่ ง เว็บเบราวเ์ ซอร์ 10 แบบทดสอบออนไลน์ เรอ่ื ง มาค้นหาข้อมลู กนั เถอะ คะแนน 8-9 6-7 0-5 6 10 12 รวม คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน 8-9 6-7 0-5 คะแนน คะแนน คะแนน กจิ กรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 กิจกรรมหลกั ของครู 1. ครถู ามนักเรียนเพื่อเปน็ การทบทวนความรู้เดิมของนกั เรียนและเพ่ือกระตุ้นความสนใจของนักเรยี น 2. ครแู จกใบความรทู้ ่ี 3 เวบ็ เบราว์เซอร์ พร้อมอธิบายใบความรู้ 3. ครยู กตวั อยา่ งโดเมนเนม 4. ครอู ธิบายใบความรู้ 5. ครนู ำ บตั รภาพเวบ็ บราวเซอร์ มาอธบิ าย 6. ครคู อยดูแลความเรยี บรอ้ ย ในการทำลกู เตา๋ บราวเซอร์ 7. ครสู รปุ ให้นกั เรียนเขา้ ใจ 8. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นสอบถามเพม่ิ เติม ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรียนทำลูกเต๋า บราวเซอร์ 2. นกั เรยี นทำแบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง เว็บเบราว์เซอร์

ช่ัวโมงท่ี 2 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครถู ามนักเรยี นเพอื่ เป็นการทบทวนความรู้เดมิ ของนกั เรียนและเพื่อกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียน 2. ครูอธบิ ายเพิม่ เตมิ 3. ครูแบ่งกลุ่มนกั เรยี นออกเปน็ 5 กลุ่ม และแจกใบงานที่ 2.2 Google Search 4. ครสู รุปให้นักเรยี นเข้าใจวา่ Google Search คอื อะไร 5. ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกันบอกประโยชน์ของการใชง้ าน Google Search 6. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนไดส้ อบถามเพิม่ เติม ภาระงานของนกั เรียน 1. นักเรยี นทำใบงานที่ 2.2 Google Search 2. แบบทดสอบออนไลน์ เร่ือง มาค้นหาข้อมูลกันเถอะ 3. นกั เรียนชว่ ยกันบอกประโยชนข์ องการใช้งาน Google Search

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 หน่วยท่ี 2/1 เรอ่ื ง เว็บเบราว์เซอร์ เวลา 1 ชว่ั โมง 1. มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั / ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ป.3/3 ใชอ้ ินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้ 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ช่วยให้การติดต่อสื่อสารทำได้สะดวกและรวดเร็ว เป็น แหล่งข้อมูลความรู้ท่ีชว่ ย ในการเรียนและการดำเนินชีวติ เว็บเบราวเ์ ซอร์เป็นโปรแกรมสำหรับอ่านเอกสารบน เว็บเพจ การสืบค้นขอ้ มูลบนอนิ เทอร์เน็ตทำได้โดยใช้เว็บไซตส์ ำหรับสบื คน้ และต้องกำหนดคำค้นทีเ่ หมาะสมจึง จะได้ข้อมลู ตามต้องการ ข้อมูลความรู้ เชน่ ขนั้ ตอนการทำอาหาร การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภัยควรอยู่ใน การดูแลของครู หรือผ้ปู กครอง 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ 1. อธิบายไดว้ า่ เว็บเบราว์เซอร์คืออะไร ดา้ นทักษะกระบวนการ 1. เลือกใช้งานเวบ็ เบราว์เซอร์ได้ตามวัตถปุ ระสงค์ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน สมรรถนะท่ีสำคญั ของนักเรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

4. สาระการเรยี นรู้ 1. การใชอ้ นิ เตอร์เนต็ เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ช่วยให้การตดิ ต่อสือ่ สารทำไดส้ ะดวกและรวดเรว็ เป็น แหล่งขอ้ มูลความรู้ทช่ี ว่ ย ในการเรียนและการดำเนนิ ชีวติ 2. เว็บเบราว์เซอรเ์ ปน็ โปรแกรมสำหรับอา่ นเอกสารบนเวบ็ เพจ 3. การสืบค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตทำไดโ้ ดยใชเ้ ว็บไซตส์ ำหรบั สบื คน้ และต้องกำหนดคำค้นทเี่ หมาะสมจงึ จะได้ข้อมูลตามต้องการ 4. ขอ้ มูลความรู้ เชน่ วธิ ีทำอาหาร วิธีพบั กระดาษเป็นรปู ตา่ งๆข้อมูลประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย (อาจเปน็ ความรู้ในวิชาอน่ื ๆหรือเรอื่ งท่ีเปน็ ประเดน็ ท่สี นใจในช่วงเวลานั้น) 5. การใช้อินเตอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั ควรอย่ใู นการดูแลของครู หรอื ผปู้ กครอง 5. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรียน 1. ครูถามนักเรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนและเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เช่น “นักเรียนเคยใช้งานอนิ เทอร์เนต็ เพือ่ ทำอะไรบา้ ง” แนวคำตอบ ดูยทู ูป เรียนออนไลน์ ติดตอ่ ส่อื สารกบั เพ่อื น เลน่ เกม ขัน้ สอน (วธิ สี อน/นวัตกรรม) 1. ครแู จกใบความรูท้ ่ี 3 เวบ็ เบราวเ์ ซอร์ พร้อมอธบิ ายใบความรู้ คือ Web Browser (เว็บเบราวเ์ ซอร)์ คอื โปรแกรมท่ใี ชใ้ นการเขา้ ถงึ ข้อมูลและตดิ ต่อสอื่ สาร ในรูปแบบ Webpage (เว็บเพจ) โดยโปรแกรมจะแปลงภาษาคอมพิวเตอร์ HTML ให้เป็นภาษาที่คนทั่วไป สามารถอา่ นและเข้าใจได้บนหนา้ 2. ครยู กตวั อย่างโดเมนเนม หรอื ช่ือเว็บไซต์ เช่น www.youtube.com หรือ www.google.co.th โดเมนเนมจะมนี ามสกลุ ท่ีแตกต่างกันไปแล้วแต่ประเภทของเวบ็ ไซต์ เชน่ .org , .co.th และท่ีนิยมใช้มากท่ีสุด ก็คือ .com 3. ครอู ธบิ ายใบความรู้ต่อว่า การจะเขา้ เว็บไซตต์ ่างๆได้ นักเรยี นจะตอ้ งมี เวบ็ เบราว์เซอรก์ ่อน และเว็บเบราวเ์ ซอรท์ ีน่ ยิ มใชม้ ากที่สดุ คือ 1. กเู กิล โครม (Google Chrome) 2. อินเทอรืเนต็ เอ็กซพ์ ลอเรอร์ (Internet Explorer) 3. มอซลิ ลา ไฟร์ฟอกซ์ (Mozilla Firefox) 4. โอเปรา่ (Opera) 5. ซาฟารี (Safari)

ประโยชน์ของเว็บบราวเซอร์ เว็บบราวเซอร์เป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็น การเข้าเว็บไซต์เพื่อค้นหาข้อมูล ทำธุรกิจหรือธุรกรรมต่างๆ ประกอบกับในปัจจุบันเมื่อสังคเข้าสู่ยุค อินเทอร์เน็ตการใชง้ านเว็บบราวเซอร์จึงเป็นที่นิยม และถือเป็นส่ิงแรกที่ผู้ใช้งานต้องทำการเข้าใช้เพื่อเปน็ การ ส่งต่อไปยังเวบ็ ไซต์หรอื ส่งิ อื่นๆ ทเี่ ราต้องการเขา้ ใชต้ อ่ ไป 4. ครนู ำ บัตรภาพเวบ็ บราวเซอร์ มาอธบิ ายวา่ มแี บบใดบ้าง และมีคณุ สมบัติอยา่ งไรบา้ ง 5. ครแู จกใบงานท่ี 2.1 ลูกเตา๋ เบราว์เซอร์ ให้กับนกั เรยี น พรอ้ มอธบิ ายวิธีการทำใบงาน คือ 1. ให้นักเรยี นตัดตามรปู แบบ 2. พบั ตามรอยปะ 3. ทากาวทีห่ มายเลข 1 4. ประกอบใหเ้ ปน็ ลูกเต๋า 6. ครูให้เวลานักเรียนในการทำลูกเต๋า โดยครูคอยดูแลความเรียบร้อย โดยกำหนดระยะเวลาในการทำ ลูกเตา๋ ใหน้ ักเรียน 20 นาที 7. เมื่อครบกำหนดระยะเวลา ครูให้นักเรียนนำลูกเต๋ามาส่ง ก่อนส่งให้นักเรียนทอยลกู เต๋า เมื่อตกที่ภาพ ใดใหน้ ักเรยี นบอกชอ่ื เว็บเบราว์เซอรแ์ ละคณุ สมบตั เิ บือ้ งตน้ 8. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบทดสอบออนไลน์ เร่ือง เวบ็ เบราว์เซอร์ จำนวน 10 ข้อ ขน้ั สรุป 1. ครสู รปุ ให้นกั เรียนเข้าใจว่า เวบ็ เบราวเ์ ซอร์ เปน็ โปรแกรมท่ชี ว่ ยให้ผู้ใชง้ านสามารถใชง้ านอินเทอร์เน็ต ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะการเรียกใช้งานเว็บไซต์แต่ละครั้ง ถ้าต้องจดจำ IP ซึ่งเป็นชุดตัวเลขคงเป็น เรื่องยาก ซึง่ หนา้ ทห่ี ลักๆ ของเว็บบราวเซอรก์ ค็ อื ชว่ ยในการแปลงโดเมนเนมให้กลายเป็นไอพนี ้นั เอง 2. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนสอบถามเพ่ิมเติม 6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบงานท่ี 2.1 ลกู เตา๋ เบราว์เซอร์ 2. ใบความรูท้ ่ี 3 เวบ็ เบราวเ์ ซอร์ 3. บตั รภาพเวบ็ บราวเซอร์ 4. แบบทดสอบออนไลน์ เรอื่ ง เว็บเบราว์เซอร์

7. การวัดผลและประเมินผล วิธกี ารวดั เครือ่ งมือ 7.1 การวัดผล แบบทดสอบ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ แบบทดสอบออนไลน์ เรือ่ ง เว็บเบราวเ์ ซอร์ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ใบงานท่ี 2.1 ลกู เตา๋ เบราวเ์ ซอร์ แบบประเมินดา้ นทักษะ กระบวนการ ด้านคุณลักษณะ วัดโดยการสงั เกตคุณลกั ษณะอันพงึ อนั พงึ ประสงค์ ประสงค์ของนักเรยี น 3 ด้าน ได้แก่ แบบประเมนิ ดา้ น คณุ ลักษณะอันพง่ึ ประสงค์ สมรรถนะทีส่ ำคญั 1. มีวินยั ของนักเรียน 2. ใฝ่เรียนรู้ แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะ 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน สำคญั ของนกั เรยี น วัดโดยการสังเกตสมรรถนะสำคัญของ นักเรียน 3 ด้าน ได้แก่ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

7.2 เกณฑ์การประเมินผล ดา้ นความรู้ แบบทดสอบออนไลน์ เร่อื ง เว็บเบราวเ์ ซอร์ (10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 6-7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง หมายเหตุ ด้านความรเู้ กณฑผ์ ่าน ร้อยละ 80 ทกุ ประเด็นการประเมนิ แบบบนั ทึกการประเมนิ ด้านความรู้ เร่อื ง เว็บเบราวเ์ ซอร์ เลขท่ี แบบฝกึ หดั ร้อยละ ผลการประเมนิ (10คะแนน) ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉล่ีย ลงชอื่ (.......................................................) ครู

ดา้ นทักษะกระบวนการนักเรยี น การประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ เรอ่ื ง เว็บเบราวเ์ ซอร์ การสรปุ ความรู้ในรูปแบบ ให้นกั เรยี นทอยลูกเตา๋ เมื่อตกทภ่ี าพใดให้นักเรยี นบอกชอื่ เว็บเบราว์เซอร์และ คณุ สมบตั เิ บื้องตน้ 1. ทำลูกเตา๋ เบราว์เซอร์สำเรจ็ ตามเวลาทีก่ ำหนด 2. บอกช่อื เวบ็ เบราว์เซอร์ ท่ที อยลูกเตา๋ ไดไ้ ดถ้ ูกต้อง 3. สามารถอธิบายคุณสมบัติของเว็บเบราว์เซอร์ ท่ที อยได้ได้ถูกต้อง 4. งานมีความสะอาดเรียบร้อย การสรุปความร้ใู นรปู แบบ ให้นักเรยี นทอยลูกเตา๋ เม่ือตกทีภ่ าพใดให้นักเรียนบอกชอื่ เว็บเบราว์เซอรแ์ ละ คุณสมบตั ิเบื้องต้น คะแนน 4 คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน 3 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ด้านทักษะกระบวนการ เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทักษะกระบวนการ ระดบั คะแนน นกั เรียนทำกิจกรรมลูกเต๋า เบราวเ์ ซอร์ 4321 นักเรยี นทำ นักเรียนทำ นักเรียนทำ นกั เรยี นทำ กิจกรรมลกู เต๋า กจิ กรรมลกู เตา๋ กิจกรรมลกู เตา๋ กจิ กรรมลูกเต๋า เบราว์เซอร์ได้ เบราวเ์ ซอร์ได้ เบราว์เซอร์ได้ เบราวเ์ ซอร์ได้ ครบตามเกณฑ์ ตามเกฑณ์ 3 ข้อ ตามเกฑณ์ 2 ข้อ ตามเกฑณ์ 1 ข้อ หมายเหตุ : ได้คะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตวั ช้ีวัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถึง ดีมาก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ เรื่อง เวบ็ เบราว์เซอร์ เลขท่ี คะแนนด้านทักษะ ผลการประเมนิ หมายเหตุ กระบวนการ ผ่าน ไมผ่ ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลย่ี ลงช่ือ (.......................................................) ครู

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ได้ระดับคณุ ภาพ 3 ขนึ้ ไปทุกตัวช้วี ดั ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ หมายเหตุ: ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ กำหนดระดับคุณภาพ 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุง การประเมนิ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เรือ่ ง เวบ็ เบราว์เซอร์ มีวินัย 1.เข้าเรียนตรงต่อเวลา 2.ไม่โดดเรยี น 3.แตง่ กายสุภาพเรียบร้อย 4.ส่งการบ้านตรงต่อเวลา ใฝเ่ รยี นรู้ 1.ต้ังใจเรยี น 2.สืบค้นหาความร/ู้ ข้อมูลสม่ำเสมอ 3.ร่วมทำกจิ กรรมในหอ้ งเรียน 4.บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ข้อมูลจากส่ิงที่เรียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทำงาน 1.ตั้งใจและรบั ผิดชอบในการปฏบิ ัติหนา้ ที่การงาน 2.เอาใจใสต่ ่อการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 3.ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในการทำงานให้สำเรจ็ 4.ปรับปรุงและพัฒนาการทำงานดว้ ยตนเอง

เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านสมรรถนะนกั เรียน ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึง ระดบั คะแนน ประสงค์ มีวินัย 432 1 มคี ุณลักษณะอัน ใฝ่เรียนรู้ มีคณุ ลกั ษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอัน มีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มีคุณลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคุณลักษณะอนั มีคณุ ลักษณะอนั มคี ุณลักษณะอนั 1 ข้อ พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ มคี ุณลักษณะอัน มคี ณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 ข้นึ ไปทุกตวั ชว้ี ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ

แบบประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เรอ่ื ง เวบ็ เบราวเ์ ซอร์ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมิน เลขที่ หมายเหตุ ผ่าน ไมผ่ า่ น มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมัน่ ในการ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉล่ยี ลงชือ่ (.......................................................) ครู

ดา้ นสมรรถนะนกั เรียน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตัวชีว้ ัด ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน หมายเหตุ : ด้านสมรรถนะนักเรยี น กำหนดระดับคุณภาพ 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรงุ การประเมินดา้ นสมรรถนะนักเรียน เรือ่ ง เวบ็ เบราว์เซอร์ ความสามารถในการสื่อสาร 1. มคี วามสามารถในการรบั และสง่ สาร 2. เลือกรับหรือไม่รับข้อมูลขา่ วสารด้วยหลักเหตผุ ล 3. คำนงึ ถงึ ผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสงั คม 4. การเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขดั แย้งต่าง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคิดอย่างมีวิจารณญาณ 2. การคดิ เป็นระบบ 3. การคิดสงั เคราะห์ 4. การคิดอยา่ งสรา้ งสรรค์ ความสามารถในการแกป้ ญั หา 1. การแกป้ ญั หาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ 2. มีการตดั สนิ ใจท่ีมปี ระสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบทีเ่ กดิ ขึ้นต่อตนเอง สงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม 3. ประยกุ ตค์ วามรู้มาใชใ้ นการปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหา 4. เข้าใจความสมั พันธแ์ ละการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook