Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน เครื่องรับวิทยุ

แผนการสอน เครื่องรับวิทยุ

Published by punaja95, 2022-06-02 09:02:11

Description: วิชาเครื่องรับวิทยุ

Search

Read the Text Version

กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรียน 1. ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน (40 นาที ) 1. ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน (40 นาที ) 1. ผูส้ อนจดั เตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะนา 1. ผเู้ รียนเตรียมอุปกรณ์และ ฟังครูผสู้ อนแนะนา รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรี ยนเรื่ อง แหล่งจ่ายไฟ แหล่งจ่ายไฟ 2. ผูส้ อนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของหน่วย 2. ผูเ้ รียนทาความเขา้ ใจเก่ียวกบั จุดประสงค์การ เรียนท่ี 9 และขอให้ผูเ้ รียนร่วมกนั ทากิจกรรมการ เรียนของหน่วยเรียนที่ 9 และการให้ความร่วมมือใน เรียนการสอน การทากิจกรรม 3. ผสู้ อนให้ผเู้ รียนบอกคุณสมบตั ิแหล่งจ่ายไฟ 3. ผูเ้ รียนบอกคุณสมบตั ิแหล่งจ่ายไฟ ดี-ซี แบบ ดี-ซี แบบใชแ้ บตเตอรี่ ใชแ้ บตเตอร่ี 2. ข้นั ให้ความรู้ (220 นาที) 2. ข้ันให้ความรู้ (220 นาที ) 1. ผู้สอนเปิ ด PowerPoint หน่วยท่ี 9 เร่ื อง 1. ผู้เรียนศึกษา PowerPoint หน่วยที่ 9 เร่ือง แหล่งจา่ ยไฟและใหผ้ เู้ รียนศึกษาเอกสารประกอบการ แหล่งจ่ายไฟ และให้ผเู้ รียนศึกษาเอกสารประกอบการ สอน ทฤษฎีเคร่ืองรับวทิ ยุ หน่วยที่ 9 หนา้ ที่ 169-178 สอน ทฤษฎีเคร่ืองรับวิทยุหน่วยท่ี 9 หน้าที่ 169-178 ประกอบกบั PowerPoint 2. ผู้สอนและผู้เรี ยนร่วมกันบอกคุณสมบัติ 2. ผู้เรี ยนและผู้สอนร่ วมกันบอกคุณ สมบัติ แหล่งจ่ายไฟ ดี-ซี แบบใช้แบตเตอร่ี ตามท่ีได้ศึกษา แหล่งจ่ายไฟ ดี-ซี แบบใชแ้ บตเตอรี่ ตามท่ีไดศ้ ึกษาจาก จาก PowerPoint PowerPoint 3. ผสู้ อนทดลองแกป้ ัญหาการแบ่งย่านความถี่ 3. ผูเ้ รียนดูผูส้ อนทดลองแก้ปัญหาการแบ่งย่าน วทิ ยุ ใหผ้ เู้ รียนดู พร้อมใหค้ าแนะนา ความถ่ีวทิ ยพุ ร้อมจดบนั ทึกเน้ือหาสาระ

กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรียน 3. ข้ันประยุกต์ใช้ (300 นาที ) 3. ข้ันประยกุ ต์ใช้ (300 นาที ) 1. ผู้สอนให้ผู้เรี ยนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน 1. ผู้เรี ยน แบ่ งก ลุ่ ม ๆ ล ะ 4-5 คน ร่ วม กัน ร่วมกนั อภิปรายบทเรียนหน่วยท่ี 9 อภิปรายบทเรียนหน่วยที่ 9 2. ผู้สอนให้ตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอ 2. ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมาอภิปราย แนวคิดที่ไดจ้ ากบทเรียนหน่วยที่ 9 ของแต่ละกลุ่ม แนวคิดท่ีได้จากบทเรียนหน่วยท่ี 9 ของกลุ่มตนเอง ใหฟ้ ังหนา้ ช้นั เรียน หนา้ ช้นั เรียน 3. ผู้ส อ น ใ ห้ ผู้ เรี ย น สื บ ค้ น ข้ อ มู ล จ า ก 3. ผู้เรียนสื บค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตหรื อ อินเทอร์เน็ตหรือแหล่งความรู้ตา่ งๆ แหล่งความรู้ต่างๆ 4. ข้ันสรุปและประเมินผล (40 นาที ) 4. ข้นั สรุปและประเมินผล (40 นาที ) 1. ผูส้ อนและผูเ้ รียนร่วมกันสรุปเน้ือหาท่ีได้ 1. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาที่ได้ เรียนใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั เรียนเพื่อใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั 2. ผู้สอนและผู้เรียนทาแบบฝึ กหัดบทที่ 9 2. ผูเ้ รียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 9 หนา้ 179 - 182 หนา้ 179 - 182 3. ผูส้ อนให้ผเู้ รียนสลบั กนั ตรวจกิจกรรมและ 3. ผู้ เรี ย น ส ลั บ กั น ต ร ว จ กิ จ ก ร ร ม แ ล ะ แบบทดสอบหลังเรียน ด้วยความซื่อสัตย์ แล้วนา แบบทดสอบหลังเรียน ด้วยความซ่ือสัตย์ แล้วนา คะแนนที่ไดบ้ นั ทึกลงในแบบบนั ทึกคะแนน คะแนนที่ไดบ้ นั ทึกลงในแบบบนั ทึกคะแนน 4. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนศึกษาเพิ่มเติมนอกหอ้ งเรียน 4. ผู้เรี ยนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรี ยน ด้วย ดว้ ย PowerPoint ที่จดั ทาข้ึน PowerPoint ท่ีจดั ทาข้ึน (บรรลจุ ุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 1-4) (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-4) (รวม 600 นาที หรือ 10 คาบเรียน)

งานทม่ี อบหมายหรือกจิ กรรมการวดั ผลและประเมนิ ผล ก่อนเรียน 1. จดั เตรียมเอกสาร สื่อการเรียนการสอนหน่วยที่ 9 2. ทาความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การเรียนของหน่วยท่ี 9 และให้ความร่วมมือในการทา แบบฝึกหดั บทท่ี 9 ขณะเรียน 1. ศึกษา PowerPoint และเอกสารประกอบการสอน 9 เรื่อง แหล่งจา่ ยไฟ 2. ซกั ถามขอ้ สงสัยระหวา่ งการเรียนการสอน 3. ปฏิบตั ิตามแบบฝึกหดั ที่ 9 เรื่อง แหล่งจ่ายไฟ หลงั เรียน 1. สรุปเน้ือหา 2. สลบั กนั ตรวจแบบฝึกหดั บทที่ 9 คาถาม 1. อุปกรณ์ที่ใชเ้ ปลี่ยนไฟเอ-ซี (AC) เป็นไฟดี-ซี (DC) คือ 2. วงจรเปล่ียนไฟเอซี (AC) เป็ นไฟดีซี (DC) คือวงจรอะไร 3. วงจรที่ทาใหก้ ระแสไฟดีซีเรียบคือวงจรอะไร ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสาเร็จของผ้เู รียน แบบฝึกหดั บทท่ี 9 เรื่อง แหล่งจา่ ยไฟ

สมรรถนะท่ีพงึ ประสงค์ ผเู้ รียนสร้างความเขา้ ใจเก่ียวกบั แหล่งจา่ ยไฟ 1. วเิ คราะห์และตีความหมาย 2. ต้งั คาถาม 3. อภิปรายแสดงความคิดเห็นระดมสมอง 4. การประยกุ ตค์ วามรู้สู่งานอาชีพ สมรรถนะการปฏบิ ัตงิ านอาชีพ - เปิ ดใชง้ านแหล่งจ่ายไฟ สมรรถนะการขยายผล ความสอดคล้อง แบบฝึ กหดั บทท่ี 9 แหล่งจ่ายไฟ ท่ีจดั ทาข้ึนไดท้ าให้ผเู้ รียนมีความรู้เพิ่มเก่ียวกบั คล่ืนวิทยุตลอดจน การทางานของวิทยุ ทาให้ผูเ้ รียนสามารถนาไประยุกต์ใช้ในการเรียน การทางาน และสามารถหารายได้ ระหวา่ งการเรียนการสอนช่วยเหลือผปู้ กครองไดใ้ นระดบั หน่ึง

ส่ือการเรียนการสอน/การเรียนรู้ สื่อส่ิงพมิ พ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ า ทฤษฎีเครื่องรับวทิ ยุ (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์ เชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-4) 2. แบบฝึกหดั หลงั เรียน (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 1-3) 3. แบบประเมินผลงานตามกิจกรรม ใชป้ ระกอบการสอนข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 1 4. แบบเฉลยกิจกรรมการเรียนรู้ ใชป้ ระกอบในข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน และข้นั สรุปและประเมินผล 5. แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ใชป้ ระกอบการสอนข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 2 ส่ือโสตทศั น์ (ถ้ามี) 1. PowerPoint เรื่อง แหล่งจา่ ยไฟ สื่อของจริง แหล่งจ่ายไฟ (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-4)

แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั เทคนิคสมุทรสาคร 2. หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ศึกษาหาขอ้ มูลทางอินเทอร์เน็ต นอกสถานศึกษา ผปู้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถิ่นจงั หวดั สมุทรสาคร การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วชิ าอน่ื 1. บูรณาการกบั วชิ าชีวิตและวฒั นธรรมไทย ดา้ นการพดู การอา่ น การเขียน และการฝึกปฏิบตั ิตน ทางสังคมดา้ นการเตรียมความพร้อม ความรับผดิ ชอบ และความสนใจใฝ่ รู้ 2. บรู ณาการกบั วชิ าคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์

การประเมนิ ผลการเรียนรู้  หลกั การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ก่อนเรียน ความรู้ก่อนการเรียนการสอน ขณะเรียน สังเกตการทางาน หลงั เรียน ตรวจแบบฝึกหดั หลงั เรียน ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลสาเร็จของผ้เู รียน แบบฝึกหดั บทท่ี 9 เร่ือง แหล่งจ่ายไฟ

รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 1 บอกคุณสมบตั ิแหล่งจ่ายไฟ ดี-ซี แบบใชแ้ บตเตอรี่ได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : บอกคุณสมบตั ิแหล่งจา่ ยไฟ ดี-ซี แบบใชแ้ บตเตอรี่ได้ จะได้ 2 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 2 ซ่อมวงจรจ่ายไฟ ดี-ซี แบบใชว้ งจรเร็กติฟายได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ซ่อมวงจรจ่ายไฟ ดี-ซี แบบใชว้ งจรเร็กติฟายได้ จะได้ 2 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 3 เลือกแหล่งจา่ ยไฟแบบใชแ้ บตเตอร่ีและแบบใชว้ งจรเร็กติฟายได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบทดสอบ 2. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : เลือกแหล่งจ่ายไฟแบบใชแ้ บตเตอร่ีและแบบใชว้ งจรเร็กติฟายได้ จะได้ 3 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 4 ศึกษาความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั แหล่งจ่ายไฟ และนามาใชใ้ หเ้ กิด ประโยชน์อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ศึกษาความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับแหล่งจ่ายไฟ และนามาใช้ให้เกิด ประโยชนอ์ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม จะได้ 3 คะแนน

แบบฝึ กหดั บทที่ 9 จงกาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงหน้าข้อทถ่ี ูกทสี่ ุด 1. แบตเตอรี่ จานวน 4 ก้อน ต่ออนุกรมกนั จะได้ไฟดซี ีกโ่ี วลท์ ก. 4V ข. 5V ค. 6V ง. 7V 2. แบตเตอรี่จานวนจานวน 4 ก้อน ต่อตามรูป ข้วั + และข้วั – จะวดั ได้ กโี่ วลท์ ก. 2V ข. 3V ค. 4V ง. 5V 3. อุปกรณ์ทใี่ ช้เปลย่ี นไฟเอ-ซี (AC) เป็ นไฟดี-ซี (DC) คอื ก. สวติ ช์ ข. ไดโอด ค. คาปาซิเตอร์ ง. รีซิสเตอร์ 4. ไฟบ้านคอื เอซี 220 V ใช้อปุ กรณ์ชนิดใดลดระดับแสงไฟเป็ นเอซี 9V ก. ทรานสฟอร์เมอร์ ข. ไดโอด ค. คาปาซิเตอร์ ง. ทรานซิสเตอร์ 5. วงจรเปลย่ี นไฟเอซี (AC) เป็ นไฟดีซี (DC) คอื วงจรอะไร ก. เร็กติฟาย ข. ฟิ ลเตอร์ ค. แอมปริฟาย ง. ขอ้ ก และ ข ถูก 6. วงจรท่ีทาให้กระแสไฟดีซีเรียบคือวงจรอะไร ก. เร็กติฟาย ข. ฟิ ลเตอร์ ค. แอมปลิฟาย ง. ขอ้ ก และ ข ถูก

(จากรูป) จงประมาณแรงไฟ ณ จุดต่าง ๆ ของรูปแล้วตอบคาถาม 7. แรงดันไฟโดยประมาณของคอลเลคเตอร์ของ TR3 ก. 0.5V ข. 1V ค. 2V ง. 6V 8. แรงไฟโดยประมาณของขาเบส TR3 ก. 0.5V ข. 4V ค. 5V ง. 6V 9. แรงไฟโดยประมาณ ขาอมิ ิตเตอร์ของ TR3 ก. 0.5V ข. 4V ค. 5V ง. 6V 10. แรงไฟโดยประมาณ ขาคอลเลคเตอร์ TR2 ก. 0.5V ข. 1V ค. 2V ง. 6V

11. แรงไฟโดยประมาณ ขาเบส TR 2 ก. 0.5V ข. 4V ค. 5V ง. 6V 12. แรงไฟโดยประมาณ ขาอิมติ เตอร์ ของTR2 ก. 0.5V ข. 4V ค. 5V ง. 6V 13. แรงไฟโดยประมาณ ขาคอลเลคเตอร์ ของ TR1 ก. 0.5V ข. 1V ค. 2V ง. 5V 14. แรงไฟโดยประมาณ ขาเบส ของ TR1 ก. 0.5V ข. 4V ค. 5V ง. 6V 15. แรงไฟโดยประมาณขาอิมิตเตอร์ ของ TR1 ก. 0.5V ข. 4V ค. 5V ง. 6V

เฉลย บทท่ี 9 ตอนท่ี 1 จงกาเครื่องหมายกากบาท (X) ลงหน้าข้อท่ถี ูกทส่ี ุด 1. ค 2. ข 3. ก 4. ค 5. ง 6. ค 7. ข 8. ก 9. ข 10. ข 11. ก 12. ง 13. ค 14. ก 15. ค

แบบประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………หอ้ ง........................... รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขท่ี……. 2……………………………………เลขท่ี……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเห็น 32 1 1 เน้ือหาสาระครอบคลมุ ชดั เจน (ความรู้เกี่ยวกบั เน้ือหา ความถูกตอ้ ง ปฏิภาณในการตอบ และการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ ) 2 รูปแบบการนาเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลกั ษณะ กิริยา ท่าทางในการพดู น้าเสียง ซ่ึงทาให้ผฟู้ ังมีความ สนใจ รวม ผปู้ ระเมิน………………………………………………… เกณฑ์ การให้ คะแนน 1. เน้ือหาสาระครอบคลุมชดั เจนถกู ตอ้ ง 3 คะแนน = มสี าระสาคญั ครบถว้ นถูกตอ้ ง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสาคญั ไม่ครบถว้ น แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสาคญั ไม่ถูกตอ้ ง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการนาเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนาเสนอที่เหมาะสม มกี ารใชเ้ ทคนิคที่แปลกใหม่ ใชส้ ื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นาเสนอที่น่าสนใจ นาวสั ดุในทอ้ งถ่ินมาประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ งคุม้ ค่าและประหยดั คะแนน = มีเทคนิคการนาเสนอท่ีแปลกใหม่ ใชส้ ่ือและเทคโนโลยปี ระกอบการนาเสนอท่ีน่าสน ใจ แต่ขาด การประยกุ ตใ์ ช้ วสั ดุในทอ้ งถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการนาเสนอไม่เหมาะสม และไมน่ ่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมสี ่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนนอ้ ยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผฟู้ ัง 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกวา่ ร้อยละ 90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ 2 คะแนน = ผฟู้ ังร้อยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ 1 คะแนน = ผฟู้ ังนอ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามร่วมมอื

แบบประเมนิ กระบวนการทางาน ช่ือกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………หอ้ ง........................... รายช่ือสมาชิก 2……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. 1……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเห็น 1 การกาหนดเป้ าหมายร่วมกนั 321 2 การแบ่งหนา้ ที่รับผดิ ชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบตั หิ นา้ ที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรบั ปรุงงาน รวม ผปู้ ระเมิน………………………………………………… วนั ท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์ การให้ คะแนน 1. การกาหนดเป้ าหมายร่วมกนั 3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนมีส่วนร่วมในการกาหนดเป้ าหมายการทางานอยา่ งชดั เจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการกาหนดเป้ าหมายในการทางาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนนอ้ ยมีส่วนร่วมในการกาหนดเป้ าหมายในการทางาน 2. การมอบหมายหนา้ ที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานไดท้ ว่ั ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทกุ คน มีการจดั เตรียมสถานท่ี สื่อ / อปุ กรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง 2 คะแนน = กระจายงานไดท้ วั่ ถึง แตไ่ มต่ รงตามความสามารถ และมีสื่อ / อปุ กรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง แตข่ าด การจดั เตรียมสถานที่ 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทวั่ ถึงและมีส่ือ / อุปกรณ์ไมเ่ พยี งพอ 3. การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย 3 คะแนน = ทางานไดส้ าเร็จตามเป้ าหมาย และตามเวลาท่ีกาหนด 2 คะแนน = ทางานไดส้ าเร็จตามเป้ าหมาย แตช่ า้ กวา่ เวลาท่ีกาหนด 1 คะแนน = ทางานไมส่ าเร็จตามเป้ าหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แตไ่ มป่ รับปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนไมม่ ีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน

บนั ทกึ หลงั การสอน หน่วยที่ 9 แหล่งจ่ายไฟ ผลการใช้แผนการเรียนรู้ 1. เน้ือหาสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 2. สามารถนาไปใชป้ ฏิบตั ิการสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรียนการสอน 3. สื่อการสอนเหมาะสมดี ผลการเรียนของนักเรียน 1. นกั เรียนส่วนใหญ่มีความสนใจใฝ่ รู้ เขา้ ใจในบทเรียน อภิปรายตอบคาถามในกลุ่ม และร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 2. นกั เรียนกระตือรือร้นและรับผดิ ชอบในการทางานเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จทนั เวลาที่กาหนด 3. นกั เรียนเปิ ดใชง้ านแหล่งจา่ ยไฟ ผลการสอนของครู 1. สอนเน้ือหาไดค้ รบตามหลกั สูตร 2. แผนการสอนและวธิ ีการสอนครอบคลุมเน้ือหาการสอนทาใหผ้ สู้ อนสอนไดอ้ ยา่ งมนั่ ใจ 3. สอนไดท้ นั ตามเวลาที่กาหนด

แผนการจดั การเรียนรู้/แผนการเรียนรู้ภาคทฤษฎี แผนการจดั การเรียนรู้/การเรียนรู้ภาคทฤษฎี หน่วยที่ 10 ช่ือวชิ า ทฤษฎีเครื่องรับวิทยุ สอนสัปดาหท์ ี่ 16 ชื่อหน่วย การปรับแต่งเคร่ืองรับวทิ ยุ AM-FM คาบรวม 80 ชื่อเร่ือง การปรับแต่งเครื่องรับวทิ ยุ AM-FM จานวนคาบ 5 หวั ข้อเร่ือง ดา้ นความรู้ 1. อาร์-เอฟ ซิกแนล เจนเนอเรเตอร์ 2. เคร่ืองรับวทิ ยุ AM 3. เคร่ืองรับวทิ ยุ FM ดา้ นทกั ษะ 4. เคร่ืองมือและอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการปรับแตง่ ดา้ นจิตพสิ ัย 5. การปรับแตง่ ไม่ใช่เครื่องมือทดสอบ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 6. รู้ถึงการปรับแตง่ เคร่ืองรับวทิ ยุ AM-FM และนาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ สาระสาคญั การปรับเคร่ืองรับวทิ ยุ เรียกวา่ การอะไลเมนท์ (Alignment) การปรับแตง่ จะทาในกรณี เครื่องรับประกอบ ข้ึนมาใหม่ หรือเคร่ืองรับที่ผา่ นการซ่อม เพอ่ื ใหเ้ คร่ืองรับมีประสิทธิภาพ และคุณภาพ ไดม้ าตรฐาน การปรับแต่ง จะเนน้ ที่วงจรจนู ถา้ การปรับแต่งวงจรถูกตอ้ งจะทาใหเ้ ครื่องรับ เช่น 1. มีความไวตอ่ การรับสัญญาณไดด้ ี เรียกวา่ เครื่องรับมี “เซนซิติวติ ้ี” (Sensitivity) 2. มีการเลือกรับความถี่ที่ดี สามารถแยกแยะสถานีใกลเ้ คียงออกจากกนั คือ ไม่รบกวน กนั ไม่ แซงกนั เรียกวา่ เคร่ืองรับมี “ซิเล็คติวติ ้ี” (Selectivity) การปรับแตง่ จะกระทาเฉพาะภาครับวทิ ยุ คือ 1. ภาค อาร์ –เอฟ คอนเวอร์เตอร์ 2. ภาคขยายไอ-เอฟ 1-2

สมรรถนะอาชีพประจาหน่วย - ปรับแตง่ เคร่ืองรับวทิ ยุ AM - FM คาศัพท์สาคญั ความหมายของคาส่ังหรือคาแนะนา เครื่องมอื และอปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการปรับแต่ง การใชเ้ ครื่องมือในการปรับแตง่ มีความจาเป็นมากถา้ ตอ้ งการใหเ้ คร่ืองรับปรับแต่งให้ ไดม้ าตรฐาน แตเ่ ครื่องมือ บางชนิดมีราคาค่อนขา้ งแพง ในการปรับแต่งจึงมีทางเลือก 2 กรณี - ใชเ้ ครื่องมือและอุปกรณ์ในการปรับแตง่ - ไมใ่ ชเ้ ครื่องมือในการปรับแต่ง (ใชเ้ พียงไขควง) จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้  จุดประสงค์ทว่ั ไป / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. เพ่ือใหม้ ีความรู้เร่ืองอธิบาย อาร์-เอฟ ซิกแนล เจนเนอเรเตอร์ (ด้านความรู้) 2. เพ่ือใหม้ ีความรู้เก่ียวกบั การบอกความแตกต่างของวงจรที่จะปรับแต่งของเครื่องรับวิทยุ AM และ FM (ด้านความรู้) 3. เพอ่ื ใหม้ ีทกั ษะผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการปรับแตง่ (ดา้ นทกั ษะ) 4. เพ่ือใหผ้ เู้รียนตระหนกั ถึงการจดั ลาดบั การปรับแต่งไมใ่ ช่เครื่องมือทดสอบ (ดา้ นจิตพสิ ัย) 5. เพอ่ื รู้ถึงการปรับแต่งเคร่ืองรับวทิ ยุ AM-FM และนาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ (ด้านคุณธรรม จริ ยธรรม)  จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. อธิบาย อาร์-เอฟ ซิกแนล เจนเนอเรเตอร์ ได้ (ด้านความรู้) 2. บอกความแตกต่างของวงจรท่ีจะปรับแตง่ ของเคร่ืองรับวทิ ยุ AM และ FMได้ (ด้านความรู้) 3. ผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการปรับแตง่ ได้ (ด้านทักษะ) 4. จดั ลาดบั การปรับแต่งไม่ใช่เคร่ืองมือทดสอบได้ (ดา้ นจิตพิสัย) 5. รู้ถึงการปรับแต่งเครื่องรับวทิ ยุ AM-FM และนาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ(ด้านคุณธรรม จริ ยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง)

เนือ้ หาสาระการสอน/การเรียนรู้ • ด้านความรู้(ทฤษฎ)ี 10.1 เคร่ืองมอื และอปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการปรับแต่ง การใชเ้ ครื่องมือในการปรับแต่ง มีความจาเป็นมากถา้ ตอ้ งการใหเ้ ครื่องรับปรับแต่งให้ ไดม้ าตรฐาน แต่ เครื่องมือบางชนิดมีราคาคอ่ นขา้ งแพง ในการปรับแตง่ จึงมีทางเลือก 2 กรณี - ใชเ้ คร่ืองมือและอุปกรณ์ในการปรับแตง่ - ไมใ่ ชเ้ คร่ืองมือในการปรับแต่ง (ใชเ้ พยี งไขควง) เคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการปรับแต่งมีดงั นี้ 1. เครื่องกาเนิดสัญญาณความถว่ี ทิ ยุ (RF Signal Generator) เครื่องกาเนิด สัญญาณความถี่วทิ ยุ เรียกวา่ อาร์-เอฟ ซิกแนล เจนเนอเรเตอร์ เคร่ืองมือชนิดน้ีมีความสาคญั และจาเป็นมากเป็นเคร่ืองมือส่งสัญญาณ หรือ กาเนิดสญั ญาณความถ่ีวทิ ยุ เปรียบเสมือนเคร่ือง ส่งวทิ ยุ AM-FM ขนาดเล็กเหมาะสาหรับในหอ้ งปฏิบตั ิการตรวจ ซ่อมวทิ ยเุ ทา่ น้นั 2. เครื่ องวั ดสั ญญาณ “ออสซิ ลโลสโคป” (Oscilloscope) เคร่ืองวดั สญั ญาณ “ออส ซิลโลสโคป” เป็น เครื่องมือดูรูปสัญญาณขณะท่ีปรับแตง่ วา่ สญั ญาณที่ปรับแตง่ ถูกตอ้ งหรือสมบรูณ์ ที่สุดหรือไม่ 3. เคร่ืองวดั “มัลติมิเตอร์” (Mati-meter) เครื่องวดั “มลั ติมิเตอร์” เคร่ืองมือชนิดน้ี ช่างวทิ ยจุ าเป็นตอ้ งมี ประจาอยแู่ ลว้ จะนามาใชว้ ดั ความแรงของสัญญาณวา่ ปรับแตง่ วา่ ระดบั ใด ที่สญั ญาณถูกตอ้ งที่สุด 4. ไขควง ไขควงที่ใชใ้ นการปรับแตง่ จะตอ้ งเป็นไขควงใชเ้ ฉพาะการปรับแตง่ โดย เฉพาะเรียกวา่ ไขควง “จนู ” ไขควงชนิดน้ีมีส่วนเป็ นโลหะนอ้ ยมาก หรืออาจจะไม่มีโลหะเลยมกั จะ เป็นพวกพลาสติก (ไขควงท่ีเป็น โลหะจะมีผลต่อวงจรจนู ) ขนาดไขควงตอ้ งพอดีกบั แกนปรับของ อุปกรณ์น้นั ๆ 10.2 อาร์-เอฟ ซิกแนล เจนเนอเรเตอร์ อาร์-เอฟ ซิกแนล เจนเนอเรเตอร์ (RF signal Generator) คือเคร่ืองก���ำาเนิดหรือสร้าง สัญญาณความถ่ี วทิ ยุ เคร่ืองมือชนิดน้ีแต่ละบริษทั ผผู้ ลิตจะมีส่วนให้เลือกสญั ญาณที่จะใชท้ ดสอบ เช่น - จะสร้างความถี่วทิ ยุ (RF) ผสมกบั ความถี่เสียง (AF) ภายในเครื่อง - จะสร้างเฉพาะความถ่ีวทิ ยุ(RF) - จะสร้างความถ่ีวทิ ยุ (RF) ส่วนความถี่เสียงจะไดจ้ ากภายนอกเคร่ือง ดงั น้นั ใน “อาร์-เอฟ ซิกแนล” จะมี สวทิ ซ์เลือกตาแหน่ง อยู่ 3 ตาแหน่ง คือ

10.3 วงจรทจี่ ะปรับแต่งของเคร่ืองรับวิทยุ AM วงจรที่จะทาการปรับแต่งของเคร่ืองวทิ ยุ AM จะดาเนินการปรับแต่ง 2 วงจรหลกั 1. การปรับแต่งภาคขยาย ไอ-เอฟ (IF Amplifier) 2. การปรับแต่งภาค อาร์-เอฟ คอนเวอร์เตอร์ (RF Convertor) การจะทราบผลวา่ การปรับแต่งถูกตอ้ ง หรือผดิ พลาดไดม้ าจาก - ดูจากเครื่องมือวดั “ออสซิลโลสโคป” ในขณะที่การปรับแต่งหรือ “จนู ” ถา้ ปรับ ถูกตอ้ งรูปสญั ญาณจะ สูงสุด น้นั คือ การปรับแตง่ ตอ้ งทดลองปรับไป – มา จนกวา่ ตาแหน่งปรับ ณ จุดใดที่รูปสญั ญาณจาก ออสซิลโลสโคปจะสูงสุด - ดูจากเครื่องมือวดั “มลั ติมิเตอร์” ในขณะที่การปรับแต่ง หรือ “จูน” ณ ตาแหน่ง ใดของการปรับแตง่ เขม็ มิเตอร์ช้ีสูงสุด แสดงวา่ ตาแหน่งการปรับแตง่ ถูกตอ้ งที่สุด -ฟังจากเสียงโทน (ดงั ต๊ิด ๆ ๆ ) ถา้ ยงิ่ ดงั มากแสดงวา่ ถึงจุดปรับแตง่ ถูกตอ้ งท่ีสุด 10.4 วงจรทจี่ ะปรับของเครื่องรับวทิ ยุ ในการปรับแตง่ เคร่ืองรับวทิ ยุ FM จะกาหนดวงจรที่จะปรับแตง่ คือ 1. ภาคเรโซ ดีเทคเตอร์ (Ration Detector) 2. ภาคขยาย ไอ-เอฟ (IF Amplifier) 3. ภาคจูนเนอร์ (tuner) หรือ ฟรอนต์ เอน็ ด์ (Front End) 10.4.1 การปรับภาคเรโซดีเทคเตอร์ การดีเทคเตอร์ ของวทิ ยรุ ะบบ FM มกั จะใชด้ ีเทคเตอร์แบบเรโซ ดีเทคเตอร์ วธิ ี การปรับแต่งด���ำาเนิน การมีดงั น้ี 1. ใชม้ ิเตอร์ DC 2.5 V จานวน 2 ตวั (รูป 11.5) - มิเตอร์ตวั ที่ 1 สายวดั บวกจบั จุด A และสายลบจบั จุด B - มิเตอร์ตวั ที่ 2 สายวดั บวกจบั จุด C และสายลบจบั กราวด์ 2. ตอ่ สายสญั ญาณ ผา่ น C 50 pF เขา้ ท่ีขาเบสของภาคขยาย ไอ –เอฟ ภาค การปรับแต่งความไวของเครื่องรับวทิ ยุ FM 1. เปล่ียนความถี่ FM RF Signal Gnerator ใหอ้ ยใู่ นความถี่ 105 KHZ หรือ ใกลเ้ คียงทไี่ มม่ ีสญั ญาณจาก สถานีรบกวน 2. หมุนวาริเอเบิลไปทางความถ่ีสูงจนกวา่ จะพบสญั ญาณความถ่ี 105 KHZ ปรากฏบนจอ ออสซิลโลสโคป จากน้นั ปรับทริมเมอร์ (TM1) ใหส้ ญั ญาณปรากฏมีความแรงสูงสุด 3. เปล่ียนความถี่ FM RF Signal Genrator อยทู่ ่ีตาแหน่ง 92 KHZ 4. หมุนวาริเอเบิล จนพบสญั ญาณความถี่ 92 KHZ ปรากฏบนจอ ออสซิลโลสโคปปรับ Antenna Coil จน

รูปสญั ญาณสูงข้ึน 10.5 การปรับแต่งไม่ใช้เคร่ืองมือทดสอบ การปรับแตง่ เครื่องรับวทิ ยุ เรียกวา่ การ “จนู ” ในกรณีท่ีไม่มีเคร่ืองมือ เช่น เคร่ืองกาเนิด สัญญาณความถี่ วทิ ยหุ รือเรียกวา่ “อาร์ เอฟ ซิกแนล เจนเนอเรเตอร์” และเครื่องวดั สญั ญาณเช่น “ออสซิลโลสโคป” เพราะ เคร่ืองมือดงั กล่าวราคาค่อนขา้ งแพง ช่างทวั่ ๆ ไปแมว้ า่ จะไม่มีเครื่องมือก็ สามารถปรับแต่งหรือ “จูน”ให้ เครื่องรับวทิ ยสุ ามารถทางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพใกลเ้ คียงกบั การ ปรับแต่งดว้ ยเคร่ืองมือ ในการปรับแตง่ จะ ใชเ้ พียงไขควง “ จูน” ไขควง “จูน” คือ ไขควงที่มีส่วนเป็นโลหะนอ้ ยมาก บางคร้ังอาจจะเป็นจาพวกพลาสติก ปาก ของไขควงจนู ควร มีขนาดพอดีกบั แกนปรับ ไอ-เอฟ เพราะแกนปรับมกั จะแตกหกั ง่าย วธิ ีการดาเนิน การปรับแตง่ วงจรเคร่ืองรับ วทิ ยจุ ะแบง่ เป็น 2 ลกั ษณะ คือ 1. การปรับแต่งภาคขยาย ไอ – เอฟ 2. การปรับแตง่ ภาคอาร์ เอฟ คอนเวอร์เตอร์ 1. การปรับแตง่ ภาคขยายไอ – เอฟ ข้นั ท่ี 1 หมุนวาริเอเบิลหาสถานีวทิ ยใุ หไ้ ดส้ ถานีใดสถานีหน่ึงท่ีมีความชดั เจนหน่ึงสถานี ข้นั ท่ี 2 ปรับแกนปรับของ ไอ – เอฟ 1-2-3 โดยเร่ิมตน้ 2.1 ปรับ ไอ- เอฟ ตวั สุดทา้ ย คือ ไอ- เอฟ ที่ 3 (แกนปรับสีดา) วธิ ีปรับ ใหห้ มุนแกนปรับซา้ ย – ขวา ดูตาแหน่งใดที่สถานีท่ีรับอยดู่ งั และ เสียงชดั เจนมากท่ีสุด ใหห้ ยดุ อยตู่ าแหน่งน้นั 2.2 ปรับ ไอ-เอฟตวั ท่ี 2 (แกนปรับสีขาว) วธิ ีปรับ ปรับไปดา้ นซา้ ยหรือดา้ นขวา หาตาแหน่งแกนปรับที่รับสถานีได้ ดงั ท่ีสุดและเสียงชดั เจนมาก ท่ีสุดและหยดุ ตาแหน่งน้นั ไว้ 2.3 ปรับไอ-เอฟ ตวั ที่ 1 (แกนปรับสีเหลือง) วธิ ีปรับ ปรับไปดา้ นซา้ ยมือหรือดา้ นขวา หาตาแหน่งแกนปรับท่ีรับสถานี ไดด้ งั ท่ีสุดและเสียงชดั เจน มากท่ีสุด และหยดุ ตาแหน่งน้นั ไว้ เม่ือดาเนินการปรับขอ้ 2.1, 2.2, และ 2.3 แลว้ ใหท้ าซ้าใหม่อีกคร้ัง คือ ใหผ้ ล ปรากฏเสียงดงั และเสียง ชดั เจนมากท่ีสุด 2. การปรับแต่งภาคอาร์ เอฟ คอนเวอร์เตอร์ ใหห้ มุนหาสถานีความถ่ีต่าท่ีสุดที่สามารถรับได้ (AM 510 - 600 KHZ) วาริเอเบิล จะหมุนดา้ นซา้ ยมือ หมุ นวาริ เอเบิ ลเกื อบชิ ดดา้ นซา้ ยมือท่ี สุ ดท่ี สามารถรั บสถานี ได้ ความถี่ท่ี รั บควร จะอยปู่ ระมาณ 510 KHZ – 600 KHZ วธิ ีน้ีผปู้ รับตอ้ งมีความชานาญพอสมควร การปรับแตง่ ค่อน ขา้ งจะยาก

2.1 ปรับแกน ปรับออสซิสเลเตอร์คอยล์ ปรับรับความถี่ต่าก่อน สมมติรับ สถานี 600 KHZ หรือใกลเ้ คียง คือ รอฟังการประกาศทางสถานีท่ีกาลงั รับคา่ ส่งความถ่ีเท่าไร ปรับ วาริเอเบิลใหเ้ กือบชิดซา้ ยมือ เม่ือทาการปรับ ออสซิลเลเตอร์คอยล์ จะพบวา่ ความถ่ีของสถานีรับ เปลี่ยนระยะของวาริเอเบิลไป-มา 2.2 ปรับทริมเมอร์ดา้ นออสซิลเลเตอร์คอยล์ การปรับเป็ นการปรับแบบละเอียด ใหส้ ถานีท่ีรับชดั เจนมาก ท่ีสุด 2.3 ปรับความถ่ีสูง หาสถานี 1400 KHZ – 1600 KHZ โดยรอฟังการประกาศ ของสถานีท่ีรับสญั ญาณได้ วา่ ส่งความถี่เท่าไร โดยหาสถานีความถี่สูงสุดใหไ้ ด้ ปรับวาริเอเบิลไป เกือบจะชิดดา้ นขวามือ แลว้ ดาเนินปรับ ออสซิลเลเตอร์คอยลใ์ หห้ าสถานีสูงสุด 2.4 ปรับทริมเมอร์ดา้ นออสซิลเลเตอร์คอยลใ์ หร้ ับสถานีสูงสุดโดยประมาณ วา่ ควรจะอยู่ ณ ตาแหน่งใกล้ เกือบจะชิดดา้ นขวามือ 2.5 การปรับคอยลอ์ ากาศ ความถี่สูง เมื่อปรับออสซิลเลเตอร์คอยลใ์ นตาแหน่ง ที่คาดวา่ จะถูกตอ้ ง โดยประมาณ ใหป้ รับวาริเอเบิลมาตามความถ่ีต่าก่อน และเลื่อนคอยล์ ไป – มา วา่ ตาแหน่งใดรับสถานีไดช้ ดั เจน ที่สุด และเลือกคอยลอ์ ากาศน้นั เอาไว้ 2.6 การปรับคอยลอ์ ากาศความถี่ต่า หมุนวาริเอเบิลใหร้ ับสถานีความถี่ต่าสุดและเลื่อนคอยลอ์ ากาศ ไป – มา จุดใดท่ีสถานีชดั เจนมากที่สุดและลอ็ คคอยลอ์ ากาศ ด้านทกั ษะ+ด้านจติ พสิ ัย (ปฏบิ ตั ิ+ด้านจติ พสิ ัย) (จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 3-4) 1. แบบฝึกหดั บทท่ี 10 ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 5) 2. รู้ถึงการปรับแต่งเครื่องรับวทิ ยุ AM-FM และนาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ

กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรียน 1. ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน (20 นาที ) 1. ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน (20 นาที ) 1. ผู้สอนให้ผู้เรี ยนทาความเข้าใจเรื่ องท่ีจะ 1. ผู้เรี ยนทาความเข้าใจเรื่ องที่จะศึกษา ของ ศึกษา ของเอกสารประกอบการสอนวิชา ทฤษฎี เอกสารประกอบการสอนวิชา ทฤษฎีเครื่องรับวิทยุ เคร่ื องรับวิทยุ หน่ วยที่ 10 เร่ื อง การปรับแต่ง หน่วยที่ 10 เรื่อง การปรับแต่งเคร่ืองรับวิทยุ AM-FM หนา้ ท่ี 183-195 เคร่ืองรับวทิ ยุ AM-FM หนา้ ที่ 183-195 2. ผสู้ อนให้ผเู้ รียนบอกความแตกต่างของวงจร 2. ผู้เรี ยนบอกความแตกต่างของวงจรที่ จะ ท่ีจะปรับแตง่ ของเครื่องรับวทิ ยุ AM และ FM ปรับแตง่ ของเคร่ืองรับวทิ ยุ AM และ FM 2. ข้ันให้ความรู้ (110 นาที) 2. ข้ันให้ความรู้ (110 นาที ) 1. ผูส้ อนและผูเ้ รียนร่วมกันอธิบาย อาร์-เอฟ 1. ผเู้ รียนและผูส้ อนร่วมกนั อธิบาย อาร์-เอฟ ซิก ซิ ก แ น ล เจ น เน อ เรเต อ ร์ ต าม ท่ี ไ ด้ศึ ก ษ าจ าก แนล เจนเนอเรเตอร์ ตามที่ไดศ้ ึกษาจาก PowerPoint PowerPoint 2. ผเู้ รียนซกั ถามขอ้ สงสยั ที่เกิดข้ึน 2. ผสู้ อนเปิ ดโอกาสให้ผเู้ รียนถามปัญหา และ ขอ้ สงสัยจากเน้ือหา โดยครูเป็ นผตู้ อบปัญหาที่เกิดข้ึน ระหวา่ งการเรียนการสอน

กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรียน 3. ข้นั ประยุกต์ใช้ ( 150 นาที ) 3. ข้ันประยกุ ต์ใช้ ( 150 นาที ) 1. ผู้สอนให้ผู้เรี ยนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน 1. ผู้เรี ยน แบ่ งกลุ่ ม ๆ ละ 4-5 คน ร่ วมกัน ร่วมกนั อภิปรายบทเรียนหน่วยท่ี 10 อภิปรายบทเรียนหน่วยท่ี 10 2. ผู้สอนให้ตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอ 2. ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมาอภิปราย แนวคิดที่ไดจ้ ากบทเรียนหน่วยที่ 10 ของแต่ละกลุ่ม แนวคิดท่ีไดจ้ ากบทเรียนหน่วยที่ 10 ของกลุ่มตนเอง ใหฟ้ ังหนา้ ช้นั เรียน หนา้ ช้นั เรียน 3. ผู้ส อ น ใ ห้ ผู้ เรี ย น สื บ ค้ น ข้ อ มู ล จ า ก 3. ผู้เรียนสื บค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตหรื อ อินเทอร์เน็ตหรือแหล่งความรู้ต่างๆ แหล่งความรู้ตา่ งๆ 4. ข้นั สรุปและประเมินผล (20 นาที ) 4. ข้ันสรุปและประเมินผล ( 20 นาที ) 1. ผูส้ อนและผูเ้ รียนร่วมกันสรุปเน้ือหาที่ได้ 1. ผูส้ อนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาที่ได้ เรียนใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั เรียนเพอ่ื ใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั 2. ผูส้ อนและผูเ้ รียนทาแบบฝึ กหัดบทท่ี 10 2. ผูเ้ รียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 10 หนา้ 196 - 197 หนา้ 196 - 197 3. ผูส้ อนให้ผเู้ รียนสลบั กนั ตรวจกิจกรรมและ 3. ผู้ เรี ย น ส ลั บ กั น ต ร ว จ กิ จ ก ร ร ม แ ล ะ แบบทดสอบหลังเรียน ด้วยความซ่ือสัตย์ แล้วนา แบบทดสอบหลังเรียน ด้วยความซื่อสัตย์ แล้วนา คะแนนที่ไดบ้ นั ทึกลงในแบบบนั ทึกคะแนน คะแนนท่ีไดบ้ นั ทึกลงในแบบบนั ทึกคะแนน 4. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนศึกษาเพิ่มเติมนอกหอ้ งเรียน 4. ผู้เรี ยนศึกษาเพ่ิมเติมนอกห้องเรี ยน ด้วย ดว้ ย PowerPoint ที่จดั ทาข้ึน PowerPoint ท่ีจดั ทาข้ึน (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-5) (บรรลจุ ุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-5) (รวม 300 นาที หรือ 5 คาบเรียน)

งานที่มอบหมายหรือกจิ กรรมการวดั ผลและประเมินผล ก่อนเรียน 1. จดั เตรียมเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนหน่วยที่ 10 2. ทาความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การเรียนของหน่วยท่ี 10 และให้ความร่วมมือในการทา แบบฝึกหดั บทท่ี 10 ขณะเรียน 1. ศึกษา PowerPoint และเอกสารประกอบการสอน 10 เรื่อง การปรับแตง่ เครื่องรับวทิ ยุ AM-FM 2. ซกั ถามขอ้ สงสยั ระหวา่ งการเรียนการสอน 3. ปฏิบตั ิตามแบบฝึกหดั ที่ 10 เรื่อง การปรับแต่งเคร่ืองรับวิทยุ AM-FM หลงั เรียน 1. สรุปเน้ือหา 2. สลบั กนั ตรวจแบบฝึกหดั บทท่ี 10 คาถาม 1. อาร์ – เอฟ ซิกแนล เจนเนอเรเตอร์ จะส่งความถี่ผา่ น 2. การปรับแตง่ เครื่องรับวทิ ยุ AM จะเร่ิมตน้ ปรับแตง่ ท่ีวงจรแรก คือ 3. การปรับแต่งเคร่ืองรับวทิ ยุ AM จะทาการปรับแตง่ ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสาเร็จของผ้เู รียน แบบฝึกหดั บทที่ 10 เรื่อง การปรับแต่งเคร่ืองรับวทิ ยุ AM-FM

สมรรถนะท่ีพงึ ประสงค์ ผเู้ รียนสร้างความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การปรับแต่งเครื่องรับวทิ ยุ AM-FM 1. วเิ คราะห์และตีความหมาย 2. ต้งั คาถาม 3. อภิปรายแสดงความคิดเห็นระดมสมอง 4. การประยกุ ตค์ วามรู้สู่งานอาชีพ สมรรถนะการปฏบิ ัตงิ านอาชีพ - ปรับแตง่ เคร่ืองรับวทิ ยุ AM - FM สมรรถนะการขยายผล ความสอดคล้อง แบบฝึ กหัดบทท่ี 10 การปรับแต่งเครื่องรับวิทยุ AM-FM ที่จดั ทาข้ึนได้ทาให้ผูเ้ รียนมีความรู้เพิ่ม เกี่ยวกบั คลื่นวิทยุตลอดจนการทางานของวิทยุ ทาให้ผเู้ รียนสามารถนาไประยุกตใ์ ช้ในการเรียน การทางาน และสามารถหารายไดร้ ะหวา่ งการเรียนการสอนช่วยเหลือผปู้ กครองไดใ้ นระดบั หน่ึง สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ สื่อสิ่งพมิ พ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ า ทฤษฎีเคร่ืองรับวทิ ยุ (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์ เชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-5) 2. แบบฝึกหดั หลงั เรียน (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-4) 3. แบบประเมินผลงานตามกิจกรรม ใชป้ ระกอบการสอนข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 1 4. แบบเฉลยกิจกรรมการเรียนรู้ ใชป้ ระกอบในข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน และข้นั สรุปและประเมินผล 5. แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ใชป้ ระกอบการสอนข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 2 สื่อโสตทศั น์ (ถ้ามี) 1. PowerPoint เรื่อง การปรับแต่งเคร่ืองรับวทิ ยุ AM-FM ส่ือของจริง การปรับแต่งเคร่ืองรับวทิ ยุ AM-FM (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 1- 5)

แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั เทคนิคสมุทรสาคร 2. หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ศึกษาหาขอ้ มูลทางอินเทอร์เน็ต นอกสถานศึกษา ผปู้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถิ่นจงั หวดั สมุทรสาคร การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วชิ าอน่ื 1. บูรณาการกบั วชิ าชีวิตและวฒั นธรรมไทย ดา้ นการพดู การอา่ น การเขียน และการฝึกปฏิบตั ิตน ทางสังคมดา้ นการเตรียมความพร้อม ความรับผดิ ชอบ และความสนใจใฝ่ รู้ 2. บรู ณาการกบั วชิ าคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์

การประเมินผลการเรียนรู้  หลกั การประเมินผลการเรียนรู้ ก่อนเรียน ความรู้ก่อนการเรียนการสอน ขณะเรียน สังเกตการทางาน หลงั เรียน ตรวจแบบฝึกหดั หลงั เรียน ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลสาเร็จของผ้เู รียน แบบฝึกหดั บทที่ 10 เรื่อง การปรับแตง่ เคร่ืองรับวทิ ยุ AM-FM

รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 1 อธิบาย อาร์-เอฟ ซิกแนล เจนเนอเรเตอร์ ได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อธิบาย อาร์-เอฟ ซิกแนล เจนเนอเรเตอร์ ได้ จะได้ 2 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 2 บอกความแตกต่างของวงจรท่ีจะปรับแต่งของเคร่ืองรับวทิ ยุ AM และ FMได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : บอกความแตกต่างของวงจรที่จะปรับแต่งของเคร่ืองรับวทิ ยุ AM และ FMไดจ้ ะได้ 2 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 3 ผลิตเคร่ืองมือและอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการปรับแตง่ ได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 2. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ผลิตเคร่ืองมือและอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการปรับแตง่ ได้ จะได้ 2 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 4 จดั ลาดบั การปรับแต่งไมใ่ ช่เครื่องมือทดสอบได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : จดั ลาดบั การปรับแต่งไมใ่ ช่เคร่ืองมือทดสอบได้ จะได้ 2 คะแนน

 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 5 รู้ถึงการปรับแตง่ เครื่องรับวทิ ยุ AM-FM และนาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : รู้ถึงการปรับแต่งเครื่องรับวทิ ยุ AM-FM และนาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ จะได้ 2 คะแนน

แบบฝึ กหัด บทที่ 10 ตอนที่ 1 จงทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงหน้าข้อทถ่ี ูกทสี่ ุด จงกาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงหน้าข้อทถ่ี ูกทสี่ ุด 1. เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ในการปรับแต่งเครื่องรับวิทยุ ก. มลั ติมิเตอร์ ข. ออสซิลโลสโคป ค. อาร์-เอฟ ซิกแนล ง. ถูกทุกขอ้ 2. เคร่ืองมอื ทสี่ ่งสัญญาณตรวจสอบการปรับแต่งเครื่องรับวทิ ยุ ก. มลั ติมิเตอร์ ข. ออสซิลโลสโคป ค. อาร์-เอฟ ซิกแนล ง. ไขควงจูน 3. เครื่องมือวดั สัญญาณตรวจสอบ การปรับแต่งเคร่ืองรับวทิ ยุ ก. มลั ติมิเตอร์ ข. ออสซิลโลสโคป ค. อาร์-เอฟ ซิกแนล ง. ถูกท้งั ขอ้ ก. และ ข. 4. อาร์ – เอฟ ซิกแนล เจนเนอเรเตอร์ จะส่งความถผ่ี ่าน ก. AM ข. FM ค. SW ง. ไดท้ ุกขอ้ 5. อาร์ – เอฟ ซิกแนล ถ้ากดตาแหน่ง INT MOD จะมสี ัญญาณเอ้าต์พตุ ก. RF ข. AF ค. RF+AF ง. RF+AF (ภายนอกเคร่ือง) 6. อาร์ – เอฟ ซิกแนล ถ้ากดตาแหน่ง EXT จะมสี ัญญาณเอ้าต์พุต ก. RF ข. AF ค. RF+AF ง. RF+AF (ภายนอกเครื่อง) 7. การปรับแต่งเครื่องรับวทิ ยุ AM จะทาการปรับแต่ง ก. อาร์-เอฟ คอนเวอร์เตอร์ ข. ขยาย ไอ-เอฟ ค. ขยายเสียง ง. ถูกท้งั ขอ้ ก. และ ข.

8. การปรับแต่งเครื่องรับวทิ ยุ AM จะเร่ิมต้นปรับแต่งทว่ี งจรแรก คือ ก. อาร์-เอฟ คอนเวอร์เตอร์ ข. ขยาย ไอ-เอฟ 1 ค. ขยาย ไอ-เอฟ 2 ง. ขยาย ไอ-เอฟ 3 9. แกนปรับ ไอ – เอฟ เคร่ืองรับวทิ ยุ AM ไอ-เอฟ ตวั ท่ี 3 แกนปรับสี ก. สีแดง ข. สีเหลือง ค. สีขาว ง. สีดา 10. แกนปรับ ไอ – เอฟ เครื่องรับ วทิ ยุ AM ไอ – เอฟตัวที่ 2 แกนปรับสี ก. สีแดง ข. สีเหลือง ค. สีขาว ง. สีดา 11. แกนปรับ ไอ – เอฟ เคร่ืองรับ วทิ ยุ AM ไอ – เอฟตวั ที่ 1 แกนปรับสี ก. สีแดง ข. สีเหลือง ค. สีขาว ง. สีดา 12. แกนปรับ คอยล์ออสซิลเลเตอร์ เครื่องรับวิทยุ AM ก. สีแดง ข. สีเหลือง ค. สีขาว ง. สีดา

เฉลย บทท่ี 10 ตอนที่ 1 จงกาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงหน้าข้อท่ถี ูกทส่ี ุด 1. ง 2. ค 3. ก 4. ง 5. ค 6. ง 7. ง 8. ง 9. ง 10. ค 11. ข 12. ก

แบบประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………หอ้ ง........................... รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขท่ี……. 2……………………………………เลขท่ี……. 3……………………………………เลขท่ี……. 4……………………………………เลขที่……. ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเห็น 32 1 1 เน้ือหาสาระครอบคลมุ ชดั เจน (ความรู้เกี่ยวกบั เน้ือหา ความถูกตอ้ ง ปฏิภาณในการตอบ และการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ ) 2 รูปแบบการนาเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลกั ษณะ กิริยา ท่าทางในการพดู น้าเสียง ซ่ึงทาให้ผูฟ้ ังมีความ สนใจ รวม ผปู้ ระเมิน………………………………………………… เกณฑ์ การให้ คะแนน 1. เน้ือหาสาระครอบคลุมชดั เจนถกู ตอ้ ง 3 คะแนน = มสี าระสาคญั ครบถว้ นถูกตอ้ ง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสาคญั ไม่ครบถว้ น แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสาคญั ไม่ถูกตอ้ ง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการนาเสนอ 3 คะแนน = มรี ูปแบบการนาเสนอที่เหมาะสม มีการใชเ้ ทคนิคที่แปลกใหม่ ใชส้ ื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นาเสนอท่ีน่าสนใจ นาวสั ดุในทอ้ งถ่ินมาประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ งคุม้ ค่าและประหยดั คะแนน = มเี ทคนิคการนาเสนอท่ีแปลกใหม่ ใชส้ ่ือและเทคโนโลยปี ระกอบการนาเสนอท่ีน่าสน ใจ แต่ขาด การประยกุ ตใ์ ช้ วสั ดุในทอ้ งถ่ิน 1 คะแนน = เทคนิคการนาเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมสี ่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนนอ้ ยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผฟู้ ัง 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกวา่ ร้อยละ 90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ 2 คะแนน = ผฟู้ ังร้อยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ 1 คะแนน = ผฟู้ ังนอ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามร่วมมอื

แบบประเมนิ กระบวนการทางาน ช่ือกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………หอ้ ง........................... รายช่ือสมาชิก 2……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. 1……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเห็น 1 การกาหนดเป้ าหมายร่วมกนั 321 2 การแบ่งหนา้ ที่รับผดิ ชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบตั หิ นา้ ที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรบั ปรุงงาน รวม ผปู้ ระเมิน………………………………………………… วนั ท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์ การให้ คะแนน 1. การกาหนดเป้ าหมายร่วมกนั 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการกาหนดเป้ าหมายการทางานอยา่ งชดั เจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการกาหนดเป้ าหมายในการทางาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนนอ้ ยมีส่วนร่วมในการกาหนดเป้ าหมายในการทางาน 2. การมอบหมายหนา้ ที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานไดท้ ว่ั ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทกุ คน มีการจดั เตรียมสถานท่ี ส่ือ / อปุ กรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง 2 คะแนน = กระจายงานไดท้ วั่ ถึง แตไ่ มต่ รงตามความสามารถ และมีสื่อ / อปุ กรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง แตข่ าด การจดั เตรียมสถานที่ 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทวั่ ถึงและมีส่ือ / อุปกรณ์ไมเ่ พยี งพอ 3. การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย 3 คะแนน = ทางานไดส้ าเร็จตามเป้ าหมาย และตามเวลาที่กาหนด 2 คะแนน = ทางานไดส้ าเร็จตามเป้ าหมาย แตช่ า้ กวา่ เวลาที่กาหนด 1 คะแนน = ทางานไม่สาเร็จตามเป้ าหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไมป่ รับปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนไมม่ ีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน

บันทึกหลงั การสอน หน่วยที่ 10 การปรับแต่งเคร่ืองรับวทิ ยุ AM-FM ผลการใช้แผนการเรียนรู้ 1. เน้ือหาสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 2. สามารถนาไปใชป้ ฏิบตั ิการสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรียนการสอน 3. ส่ือการสอนเหมาะสมดี ผลการเรียนของนักเรียน 1. นกั เรียนส่วนใหญ่มีความสนใจใฝ่ รู้ เขา้ ใจในบทเรียน อภิปรายตอบคาถามในกลุ่ม และร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. นกั เรียนกระตือรือร้นและรับผดิ ชอบในการทางานเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จทนั เวลาท่ีกาหนด 3. นกั เรียนปรับแตง่ เคร่ืองรับวทิ ยุ AM - FM ผลการสอนของครู 1. สอนเน้ือหาไดค้ รบตามหลกั สูตร 2. แผนการสอนและวธิ ีการสอนครอบคลุมเน้ือหาการสอนทาใหผ้ สู้ อนสอนไดอ้ ยา่ งมนั่ ใจ 3. สอนไดท้ นั ตามเวลาที่กาหนด

แผนการจดั การเรียนรู้/แผนการเรียนรู้ภาคทฤษฎี แผนการจดั การเรียนรู้/การเรียนรู้ภาคทฤษฎี หน่วยท่ี 11 ช่ือวชิ า ทฤษฎีเคร่ืองรับวทิ ยุ สอนสัปดาห์ท่ี 17 ช่ือหน่วย อิเลก็ ทรอนิกส์จูนเนอร์ควบคุมดว้ ยระบบดิจิตอล คาบรวม 85 ช่ือเร่ือง อิเลก็ ทรอนิกส์จนู เนอร์ควบคุมดว้ ยระบบดิจิตอล จานวนคาบ 5 หัวข้อเรื่อง ดา้ นความรู้ 1. จนู เนอร์ระบบ AM 2. จูนเนอร์ระบบ FM ดา้ นทกั ษะ 3. ข้นั ตอนการจูนหาสถานี วทิ ยุ AM-FM ดา้ นจิตพสิ ยั 4. บล็อกไดอะแกรมภาครับวทิ ยุ AM-FM ควบคุมการทางานแบบดิจิตอล ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 5. รู้จกั ควบคุมอิเลก็ ทรอนิกส์จูนเนอร์ดว้ ยระบบดิจิตอลและนามาประยกุ ตใ์ ชไ้ ดเ้ กิดประโยชน์สูงสุด สาระสาคญั ภาครับวทิ ยุ หรือเคร่ืองรับวิทยใุ นยคุ แรกเป็ นเคร่ืองรับวทิ ยแุ บบหลอดในยคุ ที่ยงั ไมม่ ี โทรทศั นว์ ทิ ยไุ ดร้ ับ ความนิยมเป็นอยา่ งมาก การส่งวทิ ยกุ ็เป็ นระบบAM เป็ นส่วนมาก การควบคุม การทางานเช่นการหาสถานีรับฟังก็ ใชม้ ือหมุนลูกบิด ดา้ นหนา้ เคร่ืองรับจะมีหนา้ ปัดยบ์ อกถึงความถ่ี ท่ี รับ จะเร่งลดเสียงก็ใชม้ ือหมุนปรับที่ ลูกบิด ของวอลลุ่ม ต่อมา การส่งวิทยุก็มีสถานีส่งระบบFMมี สถานีมากข้ึน ประมาณ พ.ศ.2510 เคร่ืองรับวิทยุ ทรานซีสเตอร์เริ่มเขา้ มาแทนที่ ต่อมาอีกประมาณ พ.ศ. 2520 เริ่มมีการพฒั นานาระบบดิจิตอลเขา้ มาใช้ คือเขา้ มา ใชง้ านในระบบการควบคุมการ ทางานของเครื่องรับวิทยุและเคร่ืองเสียง ที่เรียกวา่ การใช้รีโมทมาสั่งงานทาให้ ผใู้ ชเ้ คร่ืองสะดวก สบายยง่ิ ข้ึน สมรรถนะอาชีพประจาหน่วย - ควบคุมจนู เนอร์ดว้ ยระบบดิจิตอล

คาศัพท์สาคญั ความหมายของคาส่ังหรือคาแนะนา บลอ็ กไดอะแกรมภาครับวิทยุ AM-FM ควบคุมการทางานแบบดิจิตอล ในปัจจุบนั เคร่ืองรับวิทยุ ที่วางจาหน่ายในร้านจาหน่ายเคร่ืองเสียง หรือศูนยก์ ารคา้ ที่ จาหน่ายเคร่ืองเสียง รุ่นใหม่ ในเครื่องเสียงแต่ละชุดมกั จะมีเคร่ืองรับวทิ ยุ AM-FM รวมอยใู่ นชุดน้นั ดว้ ยและเราจะพบวา่ เครื่องรับวทิ ยุ AM-FM ถ้าเป็ นแบบรุ่นเก่าที่ เรียกวา่ แบบ อนาล็อก เม่ือตอ้ งการ หาสถานีจะใช้มือหมุนลูกบิดจะมีเข็มหน้าปัด ช้ีบอกตาแหน่งของสถานีต่าง ๆ เม่ือเราหมุนลูกบิดไป พบสถานีท่ีตอ้ งการรับฟังเราก็หยุดหมุน เมื่อตอ้ งการ เปล่ียนสถานีรับก็จะไปหมุนลูกบิดใหม่อีกคร้ัง เพ่ือหาสถานีที่ตอ้ งการรับฟังใหม่น้ันหมายความวา่ จะเปล่ียน สถานีรับแต่ละคร้ังจะตอ้ งไปหมุนลูกบิด จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้  จุดประสงค์ทว่ั ไป / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. เพ่ือใหม้ ีความรู้เร่ืองการบอกความแตกต่างระหวา่ งจูนเนอร์ระบบ AM และ ระบบ FM (ด้านความรู้) 2. เพื่อใหม้ ีทกั ษะสาธิตข้นั ตอนการจูนหาสถานี วทิ ยุ AM-FM (ด้านทักษะ) 3. เพอ่ื ใหผ้ เู้รียนตระหนกั ถึงการเขียนชื่อกากบั บล็อกไดอะแกรมภาครับวทิ ยุ AM-FM ควบคุมการทางาน แบบดิจิตอล (ด้านจิตพิสัย) 4. เพื่อรู้จกั ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ดว้ ยระบบดิจิตอลและนามาประยกุ ตใ์ ชไ้ ดเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด (ด้านคุณธรรม จริยธรรม)  จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. บอกความแตกตา่ งระหวา่ งจนู เนอร์ระบบ AM และ ระบบ FM ได้ (ด้านความรู้) 2. สาธิตข้นั ตอนการจูนหาสถานี วทิ ยุ AM-FM ได(้ ด้านทักษะ) 3. เขียนชื่อกากบั บล็อกไดอะแกรมภาครับวทิ ยุ AM-FM ควบคุมการทางานแบบดิจิตอลได้ (ดา้ นจิต พิสัย) 4. รู้จกั ควบคุมอิเลก็ ทรอนิกส์จูนเนอร์ดว้ ยระบบดิจิตอลและนามาประยกุ ตใ์ ชไ้ ดเ้ กิดประโยชน์สูงสุด (ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง)

เนือ้ หาสาระการสอน/การเรียนรู้ • ด้านความรู้(ทฤษฎ)ี 11.1 บลอ็ กไดอะแกรมภาครับวทิ ยุ AM-FM ควบคุมการทางานแบบดิจิตอล ในปัจจุบนั เคร่ืองรับวทิ ยุ ท่ีวางจาหน่ายในร้านจาหน่ายเคร่ืองเสียง หรือศูนยก์ ารคา้ ท่ี จาหน่ายเคร่ืองเสียง รุ่นใหม่ ในเครื่องเสียงแตล่ ะชุดมกั จะมีเครื่องรับวทิ ยุ AM-FM รวมอยใู่ นชุดน้นั ดว้ ยและเราจะพบวา่ เครื่องรับ วทิ ยุ AM-FM ถา้ เป็นแบบรุ่นเก่าท่ี เรียกวา่ แบบ อนาล็อก เมื่อตอ้ งการ หาสถานีจะใชม้ ือหมุนลูกบิดจะมีเขม็ หนา้ ปัดช้ีบอกตาแหน่งของสถานีตา่ ง ๆ เมื่อเราหมุนลูกบิดไป พบสถานีที่ตอ้ งการรับฟังเรากห็ ยดุ หมุน เมื่อ ตอ้ งการเปลี่ยนสถานีรับก็จะไปหมุนลูกบิดใหม่อีกคร้ัง เพื่อหาสถานีที่ตอ้ งการรับฟังใหม่น้นั หมายความวา่ จะ เปล่ียนสถานีรับแต่ละคร้ังจะตอ้ งไปหมุนลูกบิด เครื่องรับวทิ ยุ AM-FM รุ่นใหมท่ ่ีเรียกวา่ แบบดิจิตอล การคน้ หาสถานีหรือเลือกสถานี รับ จะใชแ้ คม่ ือ สมั ผสั ป่ ุม Search ภาครับวทิ ยกุ ็จะคน้ หาสถานีอยา่ งอตั โนมตั ิ เมื่อพบจุดท่ีมีสถานี ก็จะหยดุ ผฟู้ ังถา้ ไม่ตอ้ งการรับ ฟังสถานีน้นั กก็ ดป่ ุม Search ใหมอ่ ีก น้นั หมายความวา่ การคน้ หา สถานีจะใชแ้ ค่มือสัมผสั ป่ ุมคน้ หาสถานีดงั กล่าว และพอมาถึงยคุ ใชร้ ีโมดยงิ่ สบายไปกวา่ น้นั อีกแค่ เลือกสถานีรับโดยใชร้ ีโมดสง่ั งานเลือกสถานีรับ 11.2 ข้นั ตอนการจูนหาสถานี วทิ ยุ AM –FM ในการดาเนินการจูนหาสถานีในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ จะขอเสนอตวั อยา่ ง เครื่องรับวทิ ยุ AM-FMในเครื่องมินิคอมโปของยหี่ อ้ พานาโซนิค รุ่น SA-AK 48 เครื่องรับวทิ ยใุ นยคุ ทฤษฎเี คร่ืองรับวทิ ยุ AM - FM 203 ปัจจุบนั ถา้ เป็นรูปแบบการสัง่ งานแบบดิจิตอล จะมีหลกั การคลา้ ยๆกนั ไม่วา่ จะเป็นของยหี่ อ้ โซน่ี เจ วี ซี ลาดบั ข้นั การเรียนรู้ตอนน้ีคือ จะหาแรงดนั ไฟจูนหาสถานีมาจากแหล่งใด ? และเม่ือไดแ้ รงดนั ไฟจนู สถานีแลว้ การดาเนินการของอิเลก็ ทรอนิคส์ทางานไดอ้ ยา่ งไร? มีข้นั ตอนการดาเนินการโดย ยอ่ ดงั น้ี 11.2.1 ระบบซีสเต็ม คอนโทรล (System Control) ระบบซีสเตม็ คอนโทรลหรือ เมนไมโครคอมพิวเตอร์ คือ IC600 เป็นการนาเอา เทคโนโลยกี่ ารควบคุม การทางานของเครื่องวทิ ยุ ซีดี-วซี ีดี ในยคุ ปัจจุบนั โดยหนา้ ที่ของระบบซีส เตม็ คอนโทรลในเบ้ืองตน้ คือ ก. การรับทราบคาส่งั ข. การแจกคาส่งั เน่ืองจากระบบน้ีมีการทางานที่สลบั ซบั ซอ้ นมากถา้ จะศึกษาในรายละเอียดจะ ตอ้ งใชเ้ วลาในการเขา้ ใจ วธิ ีการทางานที่มาก ในเบ้ืองตน้ น้ีขอแนะนาข้นั ตอนทางานเพ่ือใหไ้ ดม้ าซ่ึง “แรงไฟจูนหาสถานี” หรือ BTหรือ VT

ระบบซีสเตม็ ของมินิคอมโป ยห่ี อ้ พานาโซนิค รุ่น SA-AK48 ใช้ IC 600 เบอร์ M62457 FPE1เร่ิมตน้ จาก ผใู้ ชเ้ คร่ืองรับวทิ ยุ กดป่ ุมคน้ หาสถานี คือ SARCH คาส่ังน้ีจะส่ังให้ ระบบซีสเตม็ คอนโทรลรับทราบคาสงั่ เมื่อ รับทราบคาส่ังเรียบร้อยแลว้ ระบบซีสเตม็ คอนโทรล ก็ จะแจกคาสัง่ ไปใหก้ บั หน่วยเฟสลอ็ กลูพดาเนินการ 11.3 จูนเนอร์ ระบบ AM จูนเนอร์คือภาครับสญั ญาณวิทยุ ขอทบทวนเรื่องที่ เคยเรียนรู้มาแลว้ วา่ จูนเนอร์ ประกอบดว้ ยภาคต่าง ๆ คือ ก อาร์-เอฟ แอมป์ ข. มิกเซอร์ ค. ออสซิลเลเตอร์ สถานีวทิ ยรุ ะบบ AM ส่งกระจายเสียงความถ่ีต้งั แต่ 550 KHZ จนถึง 1600 KHZจะมีสถานีวทิ ยจุ านวนมากสถานี แตล่ ะสถานีกม็ ีความถ่ีของตนเอง การจนู รับความถี่ของสถานีส่งวทิ ยุ จะใชว้ งจรจูน วงจรจูนจะเป็นวงจรแรกของเคร่ือง รับวทิ ยุ เพอ่ื เลือก สถานีที่ตอ้ งการรับฟัง วงจรจูนจะประกอบดว้ ยอุปกรณ์หลกั อยู่ 2 ชนิด คือ 1 ขดลวดหรือท่ี เรียกวา่ คอยล์ (Ciol) ลกั ษณะจะเป็นขดลวดจะพนั รอบแกนอากาศ หรือแกนฟอร์ไรต์ 2 คาปาซิเตอร์ท่ีปรับคา่ ได้ จนู เนอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ จะใชอ้ ุปกรณ์ เรียกวา่ วาริแคป (Varicap) • ทางเดินของสัญญาณ ของระบบ AM ชุดแรกคือวงจรจูนเลือกสถานีประกอบดว้ ย คอยล์ L1 และ L2 ทางานร่วมกบั วาริ แคป V1 ชุดที่ 1 คือ วงจรออสซิลเลเตอร์ประกอบดว้ ย คอยล์ L3 และ L4 ทางานร่วมกบั วาริแคป V2 แรงไฟจูน คือ BT จะเขา้ มาโมดูล ท่ี จุด Aแรงไฟจูนส่งให้ วาริแคปของชุดเลือกสถานีคือ V1 และ เขา้ วาริแคปของชุดออสซิลเลเตอร์ คือ V2 การเลือกสถานีรับวทิ ยุ แรงดนั ไฟจนู คือ BTจะเปลี่ยนคา่ จากต่าสุดคือ 2 โวลตถ์ ึง 10 โวลต์ เม่ือระบบการ สง่ั งานจากซีสเตม็ คอนโทรล และจากเฟสล็อกลูฟ กาหนดใหส้ มมุติ แรงไฟจูนมี คา่ เทา่ กบั 5 โวลต์ วงจรจูนมีค่า ตรงกบั ความถี่ของสถานีวทิ ยุแห่งประเทศไทย ความถ่ี 1000 KHz ความถ่ีน้ีจะถูกเลือกเขา้ มาที่ คอยลอ์ ากาศ L1 และ L2 สัญญาณที่เลือกแลว้ จะออกท่ี จุด B ส่ง ตอ่ ไปที่ ขา 21 ของ IC101 เขา้ สู่ภาค อาร์เอฟ แอมป์ ในส่วนการทางานของภาคออสซิเลเตอร์ แรงไฟจูนคือ BTจะเขา้ ไปโมดูลท่ี จุดเดียวกนั คือ A ส่งเขา้ วาริ แคปคือ V2 และส่งเขา้ ต่อไปยงั คอยล์ ออสเลเตอร์ ความถ่ีที่สร้างข้ึนคือ 1455 KHZ (ความถี่ออสเลเตอร์จะสร้างสูงก่วาความถี่ที่ รับเขา้ มา 455 KHzเสมอ) สญั ญาณความถี่ออสเลเตอร์ จะ ออกจากจุด D ต่อไปเขา้ IC 101 เพ่ือเขา้ สู่วงจร ออสเลเตอร์ภายใน IC 101 ที่ขา 23 ของ IC 101 IC 101เบอร์ LA1833NM ไอ-ซี 101 ในภาครับวทิ ยุ ระบบ AM การทางานของทุกภาคจะอยภู่ ายในไอ-ซี101 ท้งั หมดสัญญาณ อินพุต จะมี 2 สัญญาณ คือ ก. สัญญาณจากวงจรจูนเลือกความถ่ีท่ีรับเขา้ มา จะเขา้ มาท่ี ขา 21 ข. สญั ญาณจากวงจรจูนสร้างความถ่ีออสเลเตอร์ จะเขา้ มาท่ี ขา 23 เขา้ มาสู่ขบวนการการทางานของจูนเนอร์ระบบ AM คือภาค อาร์เอฟ แอมป์ ออสซิล เลเตอร์ และมิกเซอร์ ทาใหไ้ ดส้ ัญญาณความถี่ ไอ-เอฟ ของ ระบบ AM คือ 455 KHZ ความถ่ีน้ีคือ ความถี่กลาง ไมว่ า่ จะ เลือกรับควมถ่ีจากสถานีวทิ ยใุ ด ๆ กต็ าม ความที่ไอ-เอฟจะเทา่ กบั 455 KHz เสมอสัญญาณความถี่ของไอ-เอฟ

455KHZ จะออกจาก IC 101 ขา 2 เขา้ สู่หน่วยกรองความถี่ ไอ-เอฟ คือ Z102 เมื่อผา่ นการกรองความถี่แลว้ จะยอ้ น เขา้ IC101 ที่ ขา 4 จะเขา้ สู่ภาคขยายไอ เอฟ และภาค ดีเทคเตอร์ ทาใหไ้ ด้ สัญญาณทางไฟฟ้ าของเสียงคือ ซาวด์ ซิกแนล (Sound Signal) สญั ญาณน้ีจะออกไปที่ ขา 19 เรียกวา่ ทางออกของสัญญาณเสียงระบบ AM เพื่อนาไป ภาคขยาย เสียงตอ่ ไป 11.4 จูนเนอร์ ระบบ FM (Tuner FM) การทางานขงจูนเนอร์ระบบ FM ก็จะคลา้ ยกบั การทางานของจูนเนอร์ระบบ AM ท่ี ศึกษาผา่ นมาแลว้ จะ แตกตา่ งกนั ตรงเม่ือจูนเนอร์ระบบ FM ดาเนินการทุกอยา่ งแลว้ สัญญาณท่ี ออกจากจูนเนอร์ คือ IF-FM ความถ่ี 10.7 MHZ เสมอ ในจนู เนอร์ของ FM ประกอบไปดว้ ยภาคต่าง ๆ คือ • อาร์เอฟ แอมป์ (RF AMP) • มิกเซอร์ (Mixer) • ออสซิสเลเตอร์ (Oscilator) • การจูนสถานี เม่ือมีแรงดนั ไฟฟ้ าจูนสถานี (BT) มาต่อเขา้ ท่ีขา 5 ของจูนเนอร์ แรงดนั ไฟฟ้ าจูน สถานีจะ ไปจูนหา สถานีรับที่ตอ้ งการเม่ือไดห้ น่ึงสถานีแลว้ สัญญาณจะออกในรูปความถ่ี IF ของ FM (IF-FM) คือ ความถ่ี 10.7 MHz ความถ่ี IF ของ FM จะส่งเขา้ สู่ภาค ( IF-FM) ใน IC101 ตอ่ ไป ส่วนในการคน้ หาสถานีอตั โนมตั ิ จากจนู เนอร์หน่วย บพั เฟอร์ แอมป์ (Buff AMP) จะส่งสัญญาณออกท่ี ขา 8 ส่งสญั ญาณไปยงั PLL (IC 102) ขา 14 หน่วยเฟสลอ็ กลูพ กจ็ ะดาเนิน การก่อใหเ้ กิดแรงดนั ไฟจนู สถานีอยา่ ง อตั โนมตั ิตอ่ ไป ด้านทกั ษะ+ด้านจิตพสิ ัย (ปฏบิ ตั ิ+ด้านจติ พสิ ัย) (จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 2-3) 1. แบบฝึกหดั บทท่ี 10 ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง (จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 4) 2. รู้จกั ควบคุมอิเลก็ ทรอนิกส์จูนเนอร์ดว้ ยระบบดิจิตอลและนามาประยกุ ตใ์ ชไ้ ดเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด

กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรียน 1. ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน (20 นาที ) 1. ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน (20 นาที ) 1. ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนทาความเขา้ ใจจุดประสงค์ 1. ผู้เรียนศึกษาจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมของ เชิงพฤติกรรมของเอกสารประกอบการสอนวิชา เอกสารประกอบการสอนวิชาทฤษฎีเคร่ืองรับวิทยุ ท ฤ ษ ฎี เค ร่ื อ ง รั บ วิ ท ยุ ห น่ ว ย ที่ 11 เรื่ อ ง หน่วยท่ี 7 เร่ือง อิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ควบคุมด้วย อิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ควบคุมด้วยระบบดิจิตอล ระบบดิจิตอล หนา้ ท่ี 199 หนา้ ที่ 199 2. ผูเ้ รียนทาความเขา้ ใจเกี่ยวกบั จุดประสงค์การ 2. ผูส้ อนแจง้ จุดประสงค์การเรียนของหน่วย เรียนของหน่วยที่ 11 เร่ือง อิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ เรียนที่ 11 เรื่อง อิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ควบคุมดว้ ย ควบคุมดว้ ยระบบดิจิตอล ระบบดิจิตอล 3. ผู้เรียนบอกความแตกต่างระหว่างจูนเนอร์ 3. ผสู้ อนให้ผูเ้ รียนบอกความแตกต่างระหวา่ ง ระบบ AM และ ระบบ FM ตามความเข้าใจ โดยขอ จูนเนอร์ระบบ AM และ ระบบ FM ตามความเขา้ ใจ ค าแ น ะ น าจ าก ผู้ส อ น ห รื อ ศึ ก ษ าจ าก เอ ก ส าร โดยครูเป็นผใู้ หค้ าแนะนาอยา่ งใกลช้ ิด ประกอบการสอนวชิ า ทฤษฎีเครื่องรับวทิ ยุ 2. ข้ันให้ความรู้ (110 นาที) 2. ข้ันให้ความรู้ (110 นาที ) 1. ผู้สอนแนะนาให้ผู้เรียนอ่านหนังสื อวิชา 1. ผูเ้ รียนศึกษาอ่านหนงั สือวิชา ทฤษฎีเคร่ืองรับ ทฤษฎีเคร่ืองรับวิทยุ หน่วยที่ 3 เร่ือง อิเล็กทรอนิกส์ วิทยุ หน่วยที่ 11 เรื่องอิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ควบคุม จูนเนอร์ควบคุมดว้ ยระบบดิจิตอล ดว้ ยระบบดิจิตอล 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนสาธิตข้ันตอนการจูนหา 2. ผเู้ รียนสาธิตข้นั ตอนการจูนหาสถานี วทิ ยุ AM- สถานี วทิ ยุ AM-FM ตามที่ไดศ้ ึกษาจาก PowerPoint FM ตามท่ีไดศ้ ึกษาจาก PowerPoint 3. ผูส้ อนทดลองแก้ปัญหาวงจรภาคขยายไอ- 3. ผเู้ รียนดูผสู้ อนทดลองแกป้ ัญหาวงจรภาคขยาย เอฟ ใหผ้ เู้ รียนดู พร้อมใหค้ าแนะนะ ไอ-เอฟพร้อมจดบนั ทึกเน้ือหาสาระ

กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรียน 3. ข้นั ประยุกต์ใช้ ( 150 นาที ) 3. ข้ันประยุกต์ใช้ ( 150 นาที ) 1. ผู้สอนให้ผู้เรี ยนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน 1. ผู้เรี ยน แบ่ งก ลุ่ ม ๆ ล ะ 4-5 คน ร่ วม กัน ร่วมกนั อภิปรายบทเรียนหน่วยท่ี 11 อภิปรายบทเรียนหน่วยที่ 11 2. ผู้สอนให้ตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอ 2. ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมาอภิปราย แนวคิดที่ไดจ้ ากบทเรียนหน่วยที่ 11 ของแต่ละกลุ่ม แนวคิดที่ได้จากบทเรียนหน่วยท่ี 11 ของกลุ่มตนเอง ใหฟ้ ังหนา้ ช้นั เรียน หนา้ ช้นั เรียน 3. ผู้ส อ น ใ ห้ ผู้ เรี ย น สื บ ค้ น ข้ อ มู ล จ า ก 3. ผู้เรียนสื บค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตหรื อ อินเทอร์เน็ตหรือแหล่งความรู้ต่างๆ แหล่งความรู้ตา่ งๆ 4. ข้นั สรุปและประเมินผล (20 นาที ) 4. ข้ันสรุปและประเมินผล ( 20 นาที ) 1. ผูส้ อนและผูเ้ รียนร่วมกันสรุปเน้ือหาที่ได้ 1. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาท่ีได้ เรียนใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั เรียนเพ่ือใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั 2. ผูส้ อนและผูเ้ รียนทาแบบฝึ กหัดบทท่ี 11 2. ผูเ้ รียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 11 หนา้ 218 - 219 หนา้ 218 - 219 3. ผูส้ อนให้ผเู้ รียนสลบั กนั ตรวจกิจกรรมและ 3. ผู้ เรี ย น ส ลั บ กั น ต ร ว จ กิ จ ก ร ร ม แ ล ะ แบบทดสอบหลังเรียน ด้วยความซื่อสัตย์ แล้วนา แบบทดสอบหลังเรียน ด้วยความซ่ือสัตย์ แล้วนา คะแนนที่ไดบ้ นั ทึกลงในแบบบนั ทึกคะแนน คะแนนที่ไดบ้ นั ทึกลงในแบบบนั ทึกคะแนน 4. ผสู้ อนให้ผเู้ รียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน 4. ผู้เรี ยนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรี ยน ด้วย ดว้ ย PowerPoint ท่ีจดั ทาข้ึน PowerPoint ที่จดั ทาข้ึน (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-4) (บรรลจุ ุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 1-4) (รวม 300 นาที หรือ 5 คาบเรียน)

งานทมี่ อบหมายหรือกจิ กรรมการวดั ผลและประเมินผล ก่อนเรียน 1. จดั เตรียมเอกสาร สื่อการเรียนการสอนหน่วยที่ 11 2. ทาความเข้าใจเก่ียวกับจุดประสงค์การเรียนของหน่วยที่ 11 และให้ความร่วมมือในการทา แบบฝึกหดั บทที่ 11 ขณะเรียน 1. ศึกษา PowerPoint และเอกสารประกอบการสอน 11 เรื่อง อิเล็กทรอนิกส์จนู เนอร์ควบคุมดว้ ย ระบบดิจิตอล 2. ซกั ถามขอ้ สงสยั ระหวา่ งการเรียนการสอน 3. ปฏิบตั ิตามแบบฝึกหดั ที่ 11 เรื่อง อิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ควบคุมดว้ ยระบบดิจิตอล หลงั เรียน 1. สรุปเน้ือหา 2. สลบั กนั ตรวจแบบฝึกหดั บทท่ี 11 คาถาม 1. จนู เนอร์ของระบบ AM ส่วนของอินพุตคือ 2. แรงดนั ไฟฟ้ า จนู สถานีระบบ FM เรียกวา่ 3. จูนเนอร์ของระบบ FM สายอากาศมีคา่ ก่ีโอห์ม ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสาเร็จของผ้เู รียน แบบฝึกหดั บทที่ 11 เร่ือง อิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ควบคุมดว้ ยระบบดิจิตอล สมรรถนะที่พงึ ประสงค์ ผเู้ รียนสร้างความเขา้ ใจเกี่ยวกบั อิเลก็ ทรอนิกส์จนู เนอร์ควบคุมดว้ ยระบบดิจิตอล 1. วเิ คราะห์และตีความหมาย 2. ต้งั คาถาม 3. อภิปรายแสดงความคิดเห็นระดมสมอง 4. การประยกุ ตค์ วามรู้สู่งานอาชีพ สมรรถนะการปฏบิ ัตงิ านอาชีพ - ควบคุมจนู เนอร์ดว้ ยระบบดิจิตอล

สมรรถนะการขยายผล ความสอดคล้อง แบบฝึ กหดั บทท่ี 11 อิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ควบคุมดว้ ยระบบดิจิตอล ที่จดั ทาข้ึนไดท้ าให้ผูเ้ รียนมี ความรู้เพิ่มเกี่ยวกบั คล่ืนวิทยุตลอดจนการทางานของวิทยุ ทาให้ผเู้ รียนสามารถนาไประยุกต์ใช้ในการเรียน การทางาน และสามารถหารายไดร้ ะหวา่ งการเรียนการสอนช่วยเหลือผปู้ กครองไดใ้ นระดบั หน่ึง สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ ส่ือสิ่งพมิ พ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ า ภาษาไทยธุรกิจ (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงคเ์ ชิง พฤติกรรมขอ้ ที่ 1-4) 2. แบบฝึกหดั หลงั เรียน (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 1-3) 3. แบบประเมินผลงานตามกิจกรรม ใชป้ ระกอบการสอนข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 1 4. แบบเฉลยกิจกรรมการเรียนรู้ ใชป้ ระกอบในข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน และข้นั สรุปและประเมินผล 5. แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ใชป้ ระกอบการสอนข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 2 ส่ือโสตทศั น์ (ถ้ามี) 1. PowerPoint เรื่อง อิเลก็ ทรอนิกส์จูนเนอร์ควบคุมดว้ ยระบบดิจิตอล ส่ือของจริง อิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ควบคุมด้วยระบบดิจิตอล (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิง พฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-4)

แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั เทคนิคสมุทรสาคร 2. หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาขอ้ มลู ทางอินเทอร์เน็ต นอกสถานศึกษา ผปู้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถ่ินจงั หวดั สมุทรสาคร

การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วชิ าอน่ื 1. บรู ณาการกบั วชิ าชีวติ และวฒั นธรรมไทย ดา้ นการพูด การอ่าน การเขียน และการฝึกปฏิบตั ิตน ทางสังคมดา้ นการเตรียมความพร้อม ความรับผดิ ชอบ และความสนใจใฝ่ รู้ 2. บรู ณาการกบั วชิ าคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ การประเมนิ ผลการเรียนรู้  หลกั การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ก่อนเรียน ความรู้ก่อนการเรียนการสอน ขณะเรียน สังเกตการทางาน

หลงั เรียน ตรวจแบบฝึกหดั หลงั เรียน ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลสาเร็จของผู้เรียน แบบฝึกหดั บทท่ี 11 เรื่อง อิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ควบคุมดว้ ยระบบดิจิตอล

รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 1 บอกความแตกตา่ งระหวา่ งจนู เนอร์ระบบ AM และ ระบบ FM ได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : บอกความแตกตา่ งระหวา่ งจูนเนอร์ระบบ AM และ ระบบ FM ได้ จะได้ 2 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 2 สาธิตข้นั ตอนการจูนหาสถานี วทิ ยุ AM-FM ได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : สาธิตข้นั ตอนการจูนหาสถานี วทิ ยุ AM-FM ได้ จะได้ 2 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 3 เขียนชื่อกากบั บล็อกไดอะแกรมภาครับวทิ ยุ AM-FM ควบคุมการ ทางานแบบดิจิตอลได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 2. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : เขียนชื่อกากบั บล็อกไดอะแกรมภาครับวทิ ยุ AM-FM ควบคุมการ ทางานแบบดิจิตอลได้ จะได้ 3 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 4 รู้จกั ควบคุมอิเลก็ ทรอนิกส์จูนเนอร์ดว้ ยระบบดิจิตอลและนามา ประยกุ ตใ์ ชไ้ ดเ้ กิดประโยชน์สูงสุด 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : รู้จักควบคุมอิเล็กทรอนิกส์จูนเนอร์ด้วยระบบดิจิตอลและนามา ประยกุ ตใ์ ชไ้ ดเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด จะได้ 3 คะแนน

แบบฝึ กหัด บทท่ี 11 ตอนท่ี 1 จงทาเครื่องหมายกากบาท (X) ลงหน้าข้อทถี่ ูกทส่ี ุด 1. จูนเนอร์ของระบบ AM ส่วนของอนิ พุตคอื ก. สายอากาศ ข. แรงดนั ไฟ จูนสถานี ค. แรงดนั ไฟเล้ียงวงจร ง. ถูกทุกขอ้ 2. จูนเนอร์ของระบบ AM ส่วนของเอาต์พุตคอื ก. สายอากาศ ข. แรงดนั ไฟ จูนสถานี ค. แรงดนั ไฟเล้ียงวงจร ง. ไอ เอฟ 3. แรงดันไฟจูนสถานีระบบ AM เรียกว่า ก. BT ข. VCC ค. VT ง. ถูกขอ้ ก. และ ค. 4. แรงดันจูลสถานี ก. 0 ถึง 2 โวลต์ ข. 2 ถึง 10 โวลต์ ค. 10 ถึง 20 โวลต์ ง. 20 ถึง 30 โวลต์ 5. สัญญาณจากจูนเนอร์ จะไปภาค ก. ไอ เอฟ ข. ดีเทคเตอร์ ค. มิกเซอร์ ง. ออสเลเตอร์ 6. จูนเนอร์ของระบบ FM สายอากาศมีค่ากโี่ อห์ม ก. 10 โอห์ม ข. 20 โอห์ม ค. 50 โอห์ม ง. 75 โอห์ม 7. แรงดันไฟฟ้ า จูนสถานีระบบ FM เรียกว่า ก. BT ข. VCC ค. +B ง. –V

8. เฟสลอ็ กลพู จะเกดิ แรงดนั ไฟ ก. BT ข. VCC ค. +B ง. -V 9. ระบบซีสเตม็ คอนโทรล จะส่ังวงจรเฟสลอ็ กลพู สร้าง ก. ไฟจนู สถานี ข. ไฟเล้ียงวงจร ค. ไฟเล้ียงวงจร ไอ เอฟ ง. ถูกทุกขอ้ 10. ไอ เอฟ ของระบบ AM คอื ก. 455 KHZ ข. 10.7 KHZ ค. 50 KHZ ง. 100 KHZ เฉลย บทที่ 11 ตอนที่ 1 จงกาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงหน้าข้อท่ีถูกทส่ี ุด 1. ง 2. ง 3. ค 4. ข 5. ก 6. ก 7. ก 8. ก 9. ง 10. ก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook