รายงานประจ�ำ ปี 2561 ส�ำ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ISBN: 978-616-12-0601-7 เอกสารเผยแพร่ พิมพ์ครง้ั ที่ 1 จ�ำ นวน 1,000 เลม่ สงวนลขิ สิทธิ์ ตาม พ.ร.บ. ลขิ สทิ ธิ์ (ฉบบั เพม่ิ เติม) พ.ศ. 2558 โดยส�ำ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม ไมอ่ นุญาตให้คดั ลอก ท�ำ ซ�ำ้ และดัดแปลง ส่วนใดส่วนหน่งึ ของหนังสอื เลม่ นี้ นอกจากจะได้รบั อนญุ าตเป็นลายลกั ษณอ์ ักษรจากเจา้ ของลขิ สิทธ์เิ ทา่ นน้ั รายงานประจ�ำ ปี 2561 สำ�นักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ/โดย ส�ำ นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยแี ห่งชาต.ิ พิมพค์ ร้งั ที่ 1. -- ปทมุ ธานี : ส�ำ นักงานพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาต,ิ 2561. 163 หนา้ : ภาพประกอบสี ISBN: 978-616-12-0601-7 1. สำ�นกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ -- รายงานประจำ�ปี I. สำ�นกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ II. ชอื่ เรอ่ื ง Q10 506 จดั ทำ�โดย สำ�นักงานพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอดุ มศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 111 อทุ ยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน ตำ�บลคลองหนึง่ อ�ำ เภอคลองหลวง จังหวดั ปทมุ ธานี 12120 โทรศพั ท์ 0 2564 7000 โทรสาร 0 2564 7002-5 https://www.nstda.or.th E-mail: [email protected]
สาํ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปน็ หน่วยงานในกาํ กับของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม จดั ตง้ั ข้นึ เม่อื ปี พ.ศ. 2534 โดย พ.ร.บ. พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2534 อยู่ภายใตก้ ารกํากบั ดูแลของ คณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (กวทช.) วิสยั ทศั น์ของ สวทช. “พันธมติ รร่วมทางทด่ี สี ู่สังคมฐานความรู้ด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย”ี Nation First คาํ นงึ ถงึ ผลประโยชน์ของชาตเิ ป็นหลัก มีจิตสํานกึ และความรบั ผิดชอบ ต่อสังคมมีความเสยี สละ คิดถงึ ทิศทางของส่วนรวม Science and Technology Excellence การยดึ ม่นั ในการสรา้ งความเปน็ เลิศในทกุ สิง่ ทที่ ํา อนั เกิดจากการใฝ่รู้ ริเริม่ และสร้างสรรค์ด้วยมาตรฐานสงู สุด Team Work การทํางานรว่ มกนั เปน็ ทีม พรอ้ มท่จี ะเปิดใจรับฟงั การกล้าวพิ ากษอ์ ย่างสร้างสรรค์ มีการสอ่ื สารสองทาง Deliverability ความมุ่งม่นั ท่จี ะสง่ มอบงานที่มีคณุ ภาพ ให้ไดต้ ามคาํ มั่นสญั ญา มงุ่ เน้นใหท้ ุกคนทาํ งานดว้ ยความกระตอื รือร้น และเน้นความคลอ่ งตัว Accountability and Integrity ความมีจริยธรรม จรรยาบรรณ ความโปร่งใส กล้ายืนหยดั ในสง่ิ ที่ถกู ตอ้ ง
สารบัญ 05 สารจากประธานกรรมการ 06 สารจากผ้อู �ำนวยการ 07 บทสรุปผ้บู รหิ าร 10 สรา้ งสรรค์ผลงานวจิ ยั เทคโนโลยี นวัตกรรม 32 สรา้ งเสริมความสามารถในการแขง่ ขัน 42 สร้างเสรมิ ขีดความสามารถเกษตรชุมชน 48 พัฒนาและสรา้ งเสริมบุคลากรวิจัย 54 บรหิ ารและส่งเสริมเขตนวัตกรรม 60 สร้างความร่วมมอื ระดับนานาชาติ 66 ผลกระทบตอ่ เศรษฐกิจและสังคม 70 ความปลอดภยั และสง่ิ แวดลอ้ ม 75 การบริหารความเส่ยี ง 78 การด�ำเนนิ งานตาม พ.ร.บ. ขอ้ มูลขา่ วสาร พ.ศ. 2540 ภาคผนวก 81 ผลงานวิชาการ 132 รายงานคณะอนกุ รรมการตรวจสอบ 135 คณะผ้บู รหิ าร สวทช. 136 คณะกรรมการพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ 137 รายงานทางการเงิน
สารจากประธานกรรมการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นกระทรวงท่ีมีความส�ำคัญอย่างย่ิงต่อ การเปล่ียนผ่านประเทศไทยสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ในปีท่ีผ่านมา อว. ด�ำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ขับเคลอื่ นประเทศไปขา้ งหน้าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) มงุ่ เน้นตามกรอบยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี และไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นนโยบายส�ำคัญในการปรับเปลี่ยนประเทศไทยสู่ศตวรรษที่ 21 กลไกหลักใน การขับเคล่ือน คือ การพัฒนาคนและเทคโนโลยี ซ่ึงในบริบทของการพัฒนาและการส่งเสริมการใช้ประโยชน์นั้น ถือเป็นภารกิจส�ำคัญในล�ำดับต้นของ อว. มุ่งเน้นการด�ำเนินงานใน 4 มิติ ได้แก่ วิทย์สร้างคน วิทย์แก้จน วิทย์เสริมแกร่ง และวิทยส์ ภู่ ูมิภาค โดยใช้ วทน. เป็นกลไกส�ำคัญในเตรียมความพร้อมคนไทยสศู่ ตวรรษท่ี 21 สรา้ ง อาชีพ ลดความเหลื่อมล้�ำ สร้างชาติให้เข้มแข็ง แข่งขันได้ในระดับสากล รวมท้ังสร้างความตระหนักรู้ น�ำ วทน. ไปแก้ปัญหาให้ตรงกับความต้องการของคนในประเทศ ก่อให้เกิดนวัตกรรมท่ีสามารถประยุกต์ใช้ได้จริง และเห็นผล อย่างเป็นรูปธรรม เกิดการบูรณาการงานระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพ่ือขับเคลื่อนการพัฒนาท่ียั่งยืน และก้าวพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง สวทช. เป็นหน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ท่ีส�ำคัญของ ประเทศ มีส่วนส�ำคัญอย่างย่ิงในการสร้างสรรค์นวัตกรรมท่ีเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยและยกระดับความเป็นอยู่ ของคนในสงั คม ซงึ่ ผลงานทผี่ า่ นมาของ สวทช. เปน็ ผลงานวจิ ยั ท่ีใช้ไดจ้ รงิ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความมงุ่ มนั่ สรา้ งเสรมิ งานวจิ ัย พฒั นา ออกแบบ และวศิ วกรรม จนเกิดการน�ำไปประยุกต์ใช้ในภาคอตุ สาหกรรม เกษตรกรรม และชมุ ชน อย่างกว้างขวาง พร้อมท้ังส่งเสริมด้านพัฒนาก�ำลังคน และโครงสร้างพ้ืนฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อสร้างขดี ความสามารถในการแข่งขนั และพัฒนาประเทศอยา่ งม่ันคงและยง่ั ยนื ในนามของคณะกรรมการพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ ขอแสดงความยนิ ดกี บั ความส�ำเรจ็ ของ สวทช. ในการพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างสม�่ำเสมอ และขอใหก้ �ำลังใจในการท�ำงานของ สวทช. ในระยะ ต่อจากน้เี พ่อื ท�ำหนา้ ท่เี ปน็ เสาหลักทางดา้ น วทน. เปน็ แรงส�ำคญั ในการน�ำพาประเทศไปสไู่ ทยแลนด์ 4.0 รวมทัง้ เป็น ก�ำลังขบั เคลอ่ื นประเทศสูค่ วามมน่ั คง มั่งคั่ง และยั่งยนื ตอ่ ไป (นายสุวทิ ย์ เมษินทรยี ์) รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม ประธานกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ ส�ำ นกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ 5
สารจากผู้อ�ำ นวยการ รฐั บาลมีนโยบายทีช่ ัดเจนในการน�ำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) มาเปน็ เคร่ืองมอื ส�ำคญั ในการขบั เคลอ่ื นเศรษฐกจิ และสังคม ตามกรอบยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี สวทช. ในฐานะหนว่ ยงานท่ีมุ่งด�ำเนนิ งาน สร้างความเข้มแข็งด้าน วทน. ให้ทุกภาคส่วน ต้ังแต่การสร้างสรรค์งานวิจัย พัฒนา ออกแบบ และวิศวกรรม ตลอดจนผลกั ดนั ใหเ้ กดิ การถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ภู่ าคเอกชน/ชมุ ชน การพฒั นาก�ำลงั คน และพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐาน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ตลอดปีงบประมาณ 2561 สวทช. ได้มุ่งมั่นพัฒนา วทน. ไปสู่การใช้ ประโยชนเ์ พ่อื การพฒั นาประเทศตามเป้าหมายประเทศไทย 4.0 สง่ มอบผลงานวิจยั และนวตั กรรมซึ่งเป็นท่ียอมรับทัง้ ในประเทศและระดบั นานาชาติ สรา้ งผลกระทบมากกวา่ 45,000 ลา้ นบาท สง่ มอบผลงานวจิ ัยประเด็นม่งุ เนน้ 5 ด้าน ตลอดจนใชศ้ กั ยภาพและความเชยี่ วชาญเฉพาะดา้ น ผลติ ผลงานวจิ ยั และนวตั กรรมตอบโจทย์โครงการขนาดใหญข่ อง รฐั บาล ไดแ้ ก่ โครงการ Big Rock โดยอาศยั ศกั ยภาพดา้ นการวจิ ยั และพฒั นา รวมไปถงึ การจดั การเทคโนโลยที ่ี สวทช. มอี ยู่ ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วท้ังในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีของโลก การด�ำเนินงานในช่วงต่อไป สวทช. ได้ปรับกระบวนทัศน์น�ำความสามารถของนักวิจัย สวทช. ใน 5 สาขาวิชาหลัก ทเ่ี ปน็ ความเชย่ี วชาญของ สวทช. มาขบั เคลอ่ื น 10 กลมุ่ เทคโนโลยเี ปา้ หมาย มกี ารเตรยี มหนว่ ยงานใหบ้ รกิ ารโครงสรา้ ง พื้นฐานระดับชาติ เพ่ือสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา วทน. ของประเทศ 5 หน่วย ได้แก่ National Biobank of Thailand, National Omics Center, NSTDA Supercomputer Center, Center for Cyber-Physical System และ Technology and Informatics Institute for Sustainability ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้เกิดระบบนิเวศนวัตกรรม ท่ีเอื้อให้เกิดการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรม พร้อมทั้งสร้างผู้ประกอบการนวัตกรรม และสตาร์ทอัพผ่านกลไกต่าง ๆ พรอ้ มทงั้ สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การใชป้ ระโยชนข์ องนวตั กรรมในภาคสงั คมชมุ ชน รวมถงึ พฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ นคณุ ภาพ (National Quality Infrastructure: NQI) เพอื่ ยกระดบั การวเิ คราะห์ ทดสอบ และใหก้ ารรบั รองมาตรฐานในระดบั สากล เพ่อื ให้ผลติ ภัณฑ์ใหม่สามารถออกสตู่ ลาดสากลได้ พร้อมกันน้ีขอขอบคุณบุคลากรของ สวทช. ทุกคนที่ร่วมกันผลักดันการพัฒนาประเทศด้วย วทน. สร้าง ผลงานที่น�ำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ก่อให้เกิดผลกระทบในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ซ่ึง สวทช. พร้อมก้าวไป ข้างหน้าร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร โดยใช้ศักยภาพของ วทน. ขับเคล่ือนทุกภาคส่วนเพื่อกา้ วข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวพ้นค�ำว่า “ประเทศกับดักรายได้ปานกลาง” ไปสู่ประเทศไทย 4.0 ขับเคลื่อน เศรษฐกจิ ไทยใหเ้ ตบิ โตอยา่ งมนั่ คง มงั่ คง่ั และยง่ั ยนื ตอ่ ไป (นายณรงค์ ศิรเิ ลศิ วรกลุ ) ผอู้ ำ�นวยการ สำ�นักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ 6 รายงานประจำ�ปี 2561
บทสรุปผบู้ ริหาร ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มุ่งมั่นพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์ เพื่อการพัฒนาประเทศตามเป้าหมายประเทศไทย 4.0 ในปีงบประมาณ 2561 สวทช. มีผลการด�ำเนินงานท่ีส�ำคัญ ดงั น้ี ดา้ นงานวจิ ยั พัฒนา และถา่ ยทอดเทคโนโลยี สวทช. มบี ทความตีพมิ พ์ในวารสารวชิ าการนานาชาติ 546 เรื่อง มากกว่า 1 ใน 4 ตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติช้ันน�ำของโลก และน�ำไปใช้อ้างอิงทางวิชาการสูงกว่าค่าเฉลี่ย ภาพรวมของประเทศ นอกจากนี้ มีการย่ืนขอจดทรัพย์สินทางปัญญามากถึง 383 รายการ ส�ำหรับการถ่ายทอด เทคโนโลยี สวทช. ถ่ายทอดผลงาน 261 โครงการ ใหแ้ ก่หน่วยงานตา่ ง ๆ รวม 335 หนว่ ยงาน สรา้ งผลกระทบทาง เศรษฐกจิ และสังคมมากกว่า 45,000 ล้านบาท ผลักดนั ใหเ้ กิดการลงทุนดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ของภาคการผลติ และบริการมูลค่าเกือบ 14,000 ล้านบาท ส�ำหรับตัวอย่างผลงานวิจัย ในปีงบประมาณ 2561 สวทช. เดินหน้างานวิจัยประเด็นมุ่งเน้น เพื่อสร้าง ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคมให้เปน็ ท่ีประจกั ษ์ 5 ดา้ น ได้แก่ • สารให้ประโยชนเ์ ชงิ หนา้ ทแี่ ละนวตั กรรมอาหาร เช่น สารยับยง้ั แบคทเี รยี จากโปรตนี ไข่ eLysozyme ใชแ้ ทนสารกนั บดู ในอาหารหรอื ยาปฏชิ วี นะในการเลย้ี งสตั ว์ และตวั ปรบั เนอ้ื สมั ผสั อาหารประเภทเนอื้ สตั ว์ ให้บดเคี้ยวง่ายเพ่อื ผู้สงู อายุ • ระบบขนสง่ สมยั ใหม่ เชน่ แบตเตอรต่ี น้ แบบส�ำหรบั รถยนตน์ งั่ ไฟฟา้ และบรกิ ารทดสอบแบตเตอรลี่ เิ ทยี ม ระดบั โมดูล เพ่อื รองรบั การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟา้ • การเสรมิ สรา้ งสขุ ภาพและคณุ ภาพชวี ติ เชน่ บรกิ ารถา่ ยทอดการสอ่ื สารแบบแปลงเสยี งพดู เปน็ ขอ้ ความ และระบบถอดความเสียงพูดแบบทันตอ่ เวลาผา่ นระบบสอื่ สารทางไกล เพื่อผู้ท่มี ปี ัญหาทางการไดย้ นิ • อุตสาหกรรมเช้ือเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ เช่น เทคโนโลยีการยกระดับคุณภาพไบโอดีเซล หรือ H-FAME และระบบบ�ำบัดน้ำ� เสียเพ่ือผลิตกา๊ ซชีวภาพ • นวัตกรรมเพ่ือการเกษตรย่ังยืน เช่น โมไบล์แอปพลิเคชันส�ำหรับวินิจฉัยโรคข้าว และการสืบหายีนใน เช้ือราสาเหตุโรคไหม้ในขา้ วพนั ธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และพนั ธุ์ กข 6 สวทช. ยังด�ำเนินโครงการพัฒนาพเิ ศษขนาดใหญ่ หรือ Big Rock ตามนโยบายรฐั บาล ได้แก่ โครงการ สื่อการสอนโปรแกรมม่ิงในโรงเรยี นหรอื Coding at School Project ฝกึ เยาวชนเขียนโปรแกรมดว้ ยบอร์ดสมองกล ฝังตัว KidBright โครงการโรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม (Fabrication Lab) หรือ Fab Lab พัฒนาทักษะ ความเปน็ นวตั กรแกเ่ ดก็ และเยาวชนไทย โครงการธนาคารทรพั ยากรชวี ภาพแหง่ ชาตเิ พอ่ื อนรุ กั ษ์ วจิ ยั และใชป้ ระโยชน์ ในอตุ สาหกรรมและชุมชน (National Biobank) โครงการนวัตกรรมเทคโนโลยีกา้ วหน้าเพือ่ การผลติ สมนุ ไพร (Plant Factory) และโครงการขยายผลงานวจิ ยั DentiiScan เครื่องเอกซเรยค์ อมพิวเตอรส์ ามมิติทางทันตกรรม เพือ่ พัฒนา อุตสาหกรรมเคร่อื งมือแพทย์ไทย ดา้ นการสรา้ งเสรมิ ความสามารถในการแขง่ ขนั สวทช. มกี ลไกสนบั สนนุ สรา้ งแรงจงู ใจใหภ้ าคเอกชนลงทนุ วิจัยเพิ่มขึ้น อาทิ เทคโนโลยีราคาเดียว 30,000 บาท มีผู้ขอรับถ่ายทอดเทคโนโลยีกว่า 485 รายการ ภาษี 300% มีการรบั รอง 404 โครงการ มลู คา่ 1,313 ลา้ นบาท บญั ชนี วตั กรรมไทย คณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบตั ิผลงาน นวัตกรรมได้อนุมัติผู้ยื่นขอขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยรวมท้ังส่ิ้น 270 ผลงาน โดยส�ำนักงบประมาณประกาศขึ้นบัญชี นวัตกรรมไทยแล้วทั้งส้ิน 226 ผลงาน Startup Voucher สนับสนุนเงินด้านการตลาด 87 ราย สร้างรายได้รวม สำ�นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ 7
399 ลา้ นบาท โปรแกรมสนบั สนนุ การพฒั นาเทคโนโลยแี ละนวตั กรรม หรอื ITAP ไดส้ นบั สนนุ SMEs จ�ำนวน 1,610 ราย มกี ารลงทนุ 730 ล้านบาท สร้างผลกระทบมูลคา่ กวา่ 3,039 ลา้ นบาท เช่น ผลิตภัณฑ์นาฬิกาโทรศัพทป์ ้องกนั เดก็ หาย และศนู ย์บรกิ ารวิเคราะหท์ ดสอบให้บริการมากกว่า 50,000 รายการ คิดเป็นมลู คา่ กว่า 125 ล้านบาท โดยให้บริการ วเิ คราะหท์ ดสอบที่ไดม้ าตรฐาน เชน่ ศนู ยท์ ดสอบผลติ ภณั ฑ์ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ หรอื PTEC ไดร้ บั การขน้ึ ทะเบยี น ใหเ้ ป็นหอ้ งปฏิบัตกิ ารทดสอบของอาเซยี น ส�ำหรบั การสรา้ งเสรมิ ขดี ความสามารถเกษตรชมุ ชน สวทช. ถา่ ยทอดเทคโนโลยสี เู่ กษตรกร จ�ำนวน 6,781 คน 264 ชุมชน ใน 42 จังหวัด อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันส�ำปะหลัง การแปรรูปข้าวเพ่ือเพิ่มมูลค่า สกู่ ารสรา้ งธรุ กจิ และการยกระดบั เกษตรอนิ ทรยี บ์ า้ นหนองมงั พฒั นาเกษตรกรแกนน�ำ ผปู้ ระกอบการนวตั กรรม 825 คน ซง่ึ จะชว่ ยใหช้ มุ ชนเข้มแขง็ พงึ่ พาตนเองอย่างย่ังยืน ด้านการพัฒนาและสรา้ งเสรมิ บคุ ลากรวจิ ยั สวทช. ใหท้ นุ การศกึ ษา พฒั นาบณั ฑิต และนักวจิ ัยอาชีพท่ีมี ศกั ยภาพใหก้ บั ประเทศมากกวา่ 790 คน สนบั สนนุ นกั ศกึ ษาและบคุ ลากรวจิ ยั ทงั้ ในและตา่ งประเทศเขา้ รว่ มงานในหอ้ ง ปฏบิ ตั กิ ารของศนู ยแ์ หง่ ชาติ 324 คน และสง่ เสรมิ พฒั นาเยาวชนสอู่ าชพี นกั วจิ ยั เชน่ การจดั ประชมุ วชิ าการนานาชาติ Asia Pacific Conference on Giftedness หรอื APCG 2018 นอกจากน้ี ด้านการบรหิ ารและสง่ เสรมิ เขตนวตั กรรม สวทช. รว่ มผลักดนั ใหผ้ ้ปู ระกอบการ ผ้เู ชา่ พื้นที่ใน อทุ ยานวทิ ยาศาสตรป์ ระเทศไทยประกอบธรุ กจิ ไดป้ ระสบความส�ำเรจ็ อยา่ งดยี งิ่ อาทิ บรษิ ทั ท-ี เนต็ จ�ำกดั ใหค้ �ำปรกึ ษา ความปลอดภยั ในการใชง้ านระบบคอมพวิ เตอร์ บรษิ ทั เบทาโกร จ�ำกดั (มหาชน) ผนู้ �ำธรุ กจิ อตุ สาหกรรมการเกษตรและ อาหารครบวงจรของประเทศไทย บริษัทโซเอทิส (ประเทศไทย) จ�ำกัด บริษัทระดับโลกที่ดูแลผลิตภัณฑ์เพ่ือสุขภาพ ของสัตวเ์ ลีย้ ง บรษิ ัทโพลิพลาสตกิ ส์ มาร์เกต็ ตงิ้ (ท)ี จ�ำกัด ผ้ผู ลติ เมด็ พลาสตกิ เชงิ วิศวกรรมชนั้ น�ำจากประเทศญี่ปนุ่ ได้จัดต้ัง ASEAN Polyplastics Technical Solution Center ในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย รวมท้ังได้รับ มอบหมายให้เป็นผู้ดูแลโครงการที่เก่ียวข้องกับ EECi และเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในกิจกรรมของ BIOPOLIS และ ARIPOLIS โดยประสานงานกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ อาทิ การพัฒนาผังแม่บทและออกแบบกลุ่มอาคาร EECi ระยะที่ 1A ยกระดบั ความสามารถทางเทคโนโลยขี อง SMEs ในพืน้ ท่ี EECi จ�ำนวน 101 ราย และถ่ายทอด เทคโนโลยแี ละองคค์ วามรู้ดา้ นการเกษตรสู่ชุมชนในพน้ื ท่ีภาคตะวันออก 63 ชมุ ชน ในพืน้ ท่ี 5 จังหวัด ทั้งหมดน้ีเป็นผลงานเพียงบางส่วนในปี 2561 ท่ีเกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของนักวิจัย บุคลากร สวทช. และหนว่ ยงานพนั ธมติ ร ทมี่ งุ่ หวงั สรา้ งผลงานตอ่ เนอ่ื งอยา่ งมงุ่ เปา้ เพอื่ เสรมิ แกรง่ ผปู้ ระกอบการ สรา้ งชาตใิ หเ้ ขม้ แขง็ ยกระดับคณุ ภาพชวี ติ ของคนไทยดว้ ยนวัตกรรมอย่างยง่ั ยนื 8 รายงานประจ�ำ ปี 2561
บุคลากร สวทช. ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาเอก และตาํ่ กวา่ 637 คน 970 คน 34% 22% 44% ปรญิ ญาโท 1,266 คน บุคลากรจำแนกตามวฒุ กิ ารศกึ ษา สนบั สนุน+บรหิ าร 32% วิจยั และวชิ าการ 905 คน 1,968 คน 68% บุคลากรจำแนกตามกลมุ่ งาน สำ�นักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ 9
สารให้ประโยชนเ์ ชิงหน้าทแ่ี ละนวตั กรรมอาหาร Functional Ingredient & Food Innovation eLysozymeTM สารยับยงั้ แบคทีเรียจากโปรตีนไขข่ าว สารยับยง้ั แบคทีเรยี แทนสารกนั บูดและยาปฏิชวี นะ ไบโอเทค สวทช. วิจัยและพัฒนา “ไลโซไซม์ อย่างไรก็ตามโดยธรรมชาติแล้ว ไลโซไซม์จาก (Lysozyme)” เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งท่ีอยู่ในไข่ขาวของไก่ ไข่ขาวของไก่มีความสามารถในการยับย้ังแบคทีเรีย ซงึ่ ท�ำหนา้ ทป่ี กปอ้ งตวั ออ่ นของไกจ่ ากการรกุ รานของเชอื้ แกรมบวก และแบคทีเรียในกลุ่มแบคทีเรียแลกติกได้ดี แบคทีเรียในส่ิงแวดล้อม ซ่ึงในอุตสาหกรรมอาหารมี กว่าแบคทีเรียแกรมลบ ทว่าด้วยความก้าวหน้าทาง การน�ำไลโซไซม์มาใช้ประโยชน์ในฐานะของสารยับยั้ง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ ท�ำให้คณะผู้วิจัย แบคทีเรียหรือสารกันบูดจากธรรมชาติ (natural สามารถพัฒนาไลโซไซม์ที่มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียได้ดีขึ้น preservative) ทั้งน้ีไลโซไซม์ได้รับการยอมรับจาก ทง้ั แกรมบวกและแกรมลบ จงึ ยบั ยง้ั ครอบคลมุ แบคทเี รยี องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ทท่ี �ำใหอ้ าหารเนา่ เสยี แบคทเี รยี กอ่ โรคทม่ี กั พบปนเปอ้ื น องคก์ ารอนามยั โลก (WHO) และหลาย ๆ ประเทศ ทง้ั ใน ในอาหาร และแบคทเี รียกอ่ โรคที่มีความส�ำคญั ในระบบ ยโุ รปและเอเชยี ถงึ ความปลอดภยั ในการบรโิ ภค และได้ การเพาะเลี้ยงสัตว์น�้ำและปศุสัตว์ โดยผลงานวิจัย รับอนญุ าตให้ใช้ในผลติ ภัณฑอ์ าหาร ยา และการบ�ำบดั ดั ง ก ล ่ า ว ก�ำ ลั ง น�ำ ไ ป ผ ลิ ต เ ป ็ น ผ ลิ ต ภั ณ ฑ ์ ไ ล โ ซ ไ ซ ม ์ รักษาบางประเภท ประสิทธิภาพสูง ภายใต้ช่ือทางการค้า eLysozymeTM (eLYS-T1) ส�ำหรับใช้เป็นสารยบั ยงั้ แบคทเี รยี ในอาหาร และ eLysozymeTM (eLYS-T2) ส�ำหรบั ใช้เป็นสารยบั ยัง้ แบคทเี รยี ในอาหารสตั ว์ ทงั้ น้ี สวทช. ไดท้ �ำสญั ญาอนญุ าต ให้ใชส้ ทิ ธใิ นผลงานวจิ ยั การผลติ สารยบั ยง้ั แบคทเี รยี จาก โปรตนี ไข่ขาวให้แก่บรษิ ทั ดเี อม็ เอฟ (ประเทศไทย) จ�ำกดั และบรษิ ทั โอโว่ ฟดู้ เทค จ�ำกัด เพ่ือผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ และจ�ำหนา่ ยในเชงิ พาณชิ ย์ 12 รายงานประจ�ำ ปี 2561
ตัวปรบั เน้อื สัมผัสอาหารประเภทเนือ้ สัตว์ ตอ่ ยอดสเตก๊ เนื้อนมุ่ จากเน้อื ววั และ สง่ มอบสตู รสเตก๊ หมบู ดเคีย้ วง่ายใหบ้ ริษทั เอกชน เอ็มเทค สวทช. ได้พัฒนาตัวปรับเน้ือสัมผัส ปัญหาสุขภาพฟัน แต่ยังคงความสุนทรีย์ในการบริโภค อาหารส�ำหรับสเต๊กเน้อื นุม่ พร้อมอุ่นรอ้ น (pre-cooked) การพัฒนาเพื่อให้ได้สเต๊กเน้ือนุ่มจากเนื้อหมูหรือเนื้อวัว จากเนื้อหมหู รอื เนื้อววั บดหยาบ ตวั ปรบั เนื้อสัมผัสน้เี ป็น บดหยาบใช้ความรู้เชิงวัสดุศาสตร์ด้านอาหาร (food ของผสมของไฮโดรคอลลอยด์ส�ำหรับอาหารท่ีท�ำหน้าที่ materials science) เพ่ือออกแบบโครงสร้างและปรับ เป็นท้ังตัวยึดเกาะ ตัวปรับเนื้อสัมผัส และตัวทดแทน เนื้อสมั ผัสของเน้อื สตั ว์ ไขมนั ในคราวเดยี วกนั เพอื่ ใชก้ บั สเตก๊ เนอ้ื นมุ่ จากเนอื้ หมู ผลงานวิจัยน้ีได้น�ำไปต่อยอดร่วมกับบริษัท หรือเนื้อวัวบดหยาบ (ท่ีมีปริมาณเนื้อสัตว์มากกว่า 70 เอกชนเพอื่ พฒั นาผลติ ภณั ฑท์ เ่ี หมาะกบั ผสู้ งู อายุ ซงึ่ เปน็ เปอร์เซ็นต์ โดยน�้ำหนัก และมีไขมันน้อยกว่า 5 อีกทางเลือกส�ำหรับอุตสาหกรรมอาหารของไทย ใน เปอร์เซ็นต์) ให้มีเน้ือสัมผัสคล้ายเนื้อช้ิน แต่นุ่มและ การน�ำไปพฒั นาตอ่ ยอดเพอ่ื สรา้ งนวตั กรรมอาหารส�ำหรบั บดเค้ียวได้ง่าย ช่วยลดอุปสรรคในการบริโภคของคน ผสู้ งู อายุ เพื่อจ�ำหนา่ ยเชิงพาณชิ ย์ ที่มีปัญหาในการบดเค้ียว เช่น คนท่ีดัดฟัน และคนท่ีมี สำ�นกั งานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 13
ระบบขนส่งสมัยใหม่ Modern Transportation แบตเตอรต่ี น้ แบบส�ำหรบั รถยนต์น่งั ไฟฟา้ พัฒนาตน้ แบบแพ็กแบตเตอรี่ลิเทยี มไอออนสำ� หรับรถยนต์นัง่ ไฟฟา้ สง่ มอบให้สถาบนั ยานยนต์ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนเป็น ไฟฟ้า โดยต้นแบบแพ็กแบตเตอรี่ที่พฒั นาขึ้น ประกอบ อุตสาหกรรมส�ำคัญท่ีท�ำรายได้เป็นอันดับต้น ๆ ให้แก่ ดว้ ย 4 โมดลู มีจ�ำนวนเซลล์ 1,408 ก้อน มคี วามจุไฟฟา้ ประเทศไทย ในขณะที่สังคมโลกมีแนวโน้มที่จะก้าวไปสู่ 228.8 แอมป์-ชั่วโมง เม่ือน�ำไปประกอบกับรถยนต์นั่ง สังคมท่ีใช้เทคโนโลยีสะอาดมากยิ่งขึ้น ขณะที่ ไฟฟา้ สามารถวงิ่ ไดร้ ะยะทางประมาณ 160 กโิ ลเมตร ท่ี อตุ สาหกรรมยานยนตก์ ม็ งุ่ พฒั นาไปสรู่ ะบบไฟฟา้ เปน็ สว่ น ส�ำคัญคือวัสดุและชิ้นส่วนในแพ็กแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ ใหญ่ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเติบโตของ ผลิตในประเทศไทย สามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนา เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้ นักวิจัย รถยนต์ไฟฟา้ โดยคนไทยได้ ปจั จบุ นั ทดสอบและสาธติ ใช้ สวทช. จงึ ไดศ้ กึ ษาพฒั นาเทคโนโลยที เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ยานยนต์ งานกบั ตน้ แบบรถยนตน์ ง่ั ไฟฟา้ ขนาดเลก็ และสง่ มอบให้ ไฟฟ้า หนึ่งในนั้นคือ แพ็กแบตเตอรี่ส�ำหรับรถยนต์น่ัง กับสถาบนั ยานยนตซ์ ่ึงเปน็ หนว่ ยงานผรู้ ว่ มสนับสนุน ส�ำ นักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ 15
บริการทดสอบแบตเตอรีล่ ิเทยี มระดบั โมดูล เพ่ือความปลอดภัยและรองรับการเตบิ โตของอตุ สาหกรรมยานยนต์ไฟฟา้ การผลกั ดนั ใหเ้ กดิ การใชง้ านยานยนต์ไฟฟา้ จาก สวทช. โดยศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและ นโยบายภาครัฐ และกระแสการผลักดันการใช้ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) จึงปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อ ไฟฟ้าจากนานาประเทศ ท�ำให้ความต้องการแบตเตอรี่ ผู้ประกอบการไทยท่ีมีศักยภาพรองรับการเติบโตของ แพ็กสูงข้ึน ในขณะที่ราคาของแบตเตอร่ีลิเทียมมี อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ให้สามารถตั้งฐานการผลิต แนวโน้มลดต่�ำลงอย่างต่อเน่ือง แตป่ ัจจุบนั ประเทศไทย อยู่ในประเทศไทยได้ ปัจจบุ นั PTEC สามารถใหบ้ รกิ าร ไม่สามารถผลิตแบตเตอร่ีลิเทียมเองได้ แต่สามารถน�ำ ทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยแบตเตอรี่ ลเิ ทยี มมาประกอบเปน็ แบตเตอรแ่ี พก็ เพอื่ สรา้ งมลู คา่ เพม่ิ ลิเทียมท้ังในระดับเซลล์และระดับโมดูลได้แล้วตาม ได้ จงึ มหี ลายโรงงานปรบั ไปส่กู ารผลิตแบตเตอรส่ี �ำหรับ มาตรฐานสากล เช่น UN ECE R100, IEC 62660, UL ยานยนต์ไฟฟ้า ในด้านมาตรฐานองค์กรควบคุมต่าง ๆ 2580, SAE J2929, RTCA DO-311 DO-160, ISO บงั คบั ใหก้ อ่ นน�ำแบตเตอรขี่ นาดใหญม่ าใชง้ านหรอื ขนสง่ 12405-3 และ IEC 62619 รวมทงั้ ขอ้ ก�ำหนดของผผู้ ลติ ต้องผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัย เน่ืองจาก รถยนต์ไฟฟา้ เช่น โตโยต้า ฮอนดา้ บีเอม็ ดับเบิลยู และ แบตเตอรชี่ นดิ นส้ี ามารถลามไฟและเกดิ การระเบดิ ขน้ึ ได้ ฟอร์ด 16 รายงานประจำ�ปี 2561
การเสรมิ สร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิต Health & Quality of Life บรกิ ารถ่ายทอดการสื่อสารแบบแปลงเสียงพู ดเป็นข้อความ (Captioned Phone Service) เปลย่ี นเสยี งพูด...เปน็ ขอ้ ความ แบบ Real-Time เตรยี มขยายผลบรษิ ทั Call Center ระบบบริการถ่ายทอดการส่ือสารแบบแปลง จุดเด่นของเทคโนโลยีดังกล่าว คือ มีฟังก์ชัน เสียงพูดเป็นข้อความ เป็นบริการท่ีช่วยให้คนที่มีปัญหา Interactive Voice Response (IVR) บนระบบโทรศัพท์ ทางการได้ยิน (คนหูตึง) ให้สามารถส่ือสารกับคนหูดีได้ ตอบรับอัตโนมัติ มีฟังก์ชัน Real-Time Text (RTT) โดยขน้ั ตอนการใชง้ านเรม่ิ จากคนทม่ี ปี ญั หาทางการไดย้ นิ ส�ำหรบั แสดงผลแบบทนั ตอ่ เวลา ท�ำใหผ้ รู้ บั เหน็ ขอ้ ความ โทรเขา้ ศนู ยบ์ รกิ ารทมี่ เี จา้ หนา้ ทถี่ อดความเสยี งพดู ประจ�ำ ทผี่ สู้ ง่ ก�ำลงั พมิ พอ์ ยู่ โดยทผ่ี สู้ ง่ ยงั ไมก่ ดสง่ ไปให้ มฟี งั กช์ นั อยู่ เม่ือเจ้าหน้าที่ถอดความรับสายคนที่มีปัญหาทาง Customer Relationship Management (CRM) ส�ำหรบั การได้ยิน เจ้าหน้าที่ถอดความเสียงพูดจะโทรออกไปยัง เจา้ หนา้ ทรี่ บั เรอื่ ง และมฟี งั กช์ นั เชอื่ มตอ่ ระบบแปลงเสยี ง เบอร์ท่คี นมปี ญั หาทางการได้ยินตอ้ งการสนทนา เมื่อคน พูดเป็นข้อความแบบทันต่อเวลา (Rea-Time Speech หูดีปลายทางรับสายและเร่ิมพูด เจ้าหน้าที่ถอดความ to Text System) ปจั จุบนั ไดต้ ดิ ต้งั ระบบบรกิ ารไวท้ ี่ศนู ย์ เสียงพูดจะเริ่มถอดความเสียงของคนหูดีแล้วส่ง บริการถ่ายทอดการสอื่ สารแห่งประเทศไทย และเปดิ ให้ ข้อความให้กับคนท่ีมีปัญหาทางการได้ยิน คนท่ีมีปัญหา บริการให้กับคนหตู งึ เรยี บร้อยแล้ว ทางการได้ยินก็จะได้ยินท้ังเสียงพูดของคนหูดีและ ขอ้ ความทถี่ อดความเสยี งไปพรอ้ มกนั ดว้ ยวธิ กี ารนท้ี �ำให้ คนท่มี ีปญั หาทางการได้ยินเขา้ ใจในส่ิงท่ีคนหูดีพูดได้ TTRS Caption : บริการถEายทอดการสอ่ื สารแบบแปลงเสียงพูดเปJนข#อความ สำหรับคนทบ่ี กพรอE งทางการไดย# ิน (คนหูตึง) เพอ่ื ใชต# ดิ ตอE กบั ศนู ยบV รกิ ารถาE ยทอดการสอ่ื สารแหEงประเทศไทย (TTRS) (1) คนหูตึงโทรออกผาE น TTRS Caption (2) คนหูตึงสนทนากับคนหดู ี เมื่อเจา# หนา# ที่รบั สายจะโทรออกหาคนหดู ี เสยี งพดู สนทนา และเร่มิ สนทนาเมอื่ คนหดู ีรับสาย เสยี งพดู คนหดู ี ต้องการส*ังอะไรบ้างครับ (3) เจา# หนา# ท่ถี อดเสียงพดู ของคนหดู ี คนหตู ึง ข้อความท*ีคนหดู ีพดู (4) ข#อความถกู สEงไป แสดงผลแบบทนั ตEอเวลาจริง เจา# หน#าทถ่ี อดความเสียงพูด 18 รายงานประจ�ำ ปี 2561
ระบบถอดความเสียงพู ดแบบทันต่อเวลาผา่ นระบบสื่อสารทางไกล (A Real-Time Transcription System) เปิดโลกสอื่ สารคนพิการทางการไดย้ ิน ระบบถอดความเสยี งพดู แบบทนั ตอ่ เวลาฯ เปน็ ชมไดห้ ลายรปู แบบตามความตอ้ งการ เชน่ รบั ชมผา่ นจอ นวตั กรรมทชี่ ว่ ยใหค้ นพกิ ารทางการไดย้ นิ และผสู้ งู อายทุ ี่ มอนิเตอร์ ในงานประชุมสัมมนา หรือรับชมผ่าน มีปัญหาทางการได้ยินสามารถเข้าใจเนื้อหาข้อมูลใน แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ซ่ึงแสดงผลได้ท้ังแบบ การประชุมสมั มนาหรือรายการโทรทศั น์ได้ ด้วยการอา่ น ขอ้ ความอยา่ งเดยี ว หรอื แบบภาพวดิ โี อพร้อมข้อความที่ ข้อความท่ีได้จากการถอดความเสียงพูด โดยอาศัย แสดงใต้ภาพ นอกจากน้ี ยังสามารถน�ำระบบถอดความ เทคโนโลยกี ารสอ่ื สารทางไกลในการสง่ สญั ญาณเสยี งพดู เสยี งพดู แบบทนั ตอ่ เวลาฯ ไปเชอื่ มตอ่ กบั ระบบบรกิ ารค�ำ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปยังศูนย์ถอดความที่มี บรรยายแทนเสยี งของสถานโี ทรทศั น์ในระบบดจิ ิทลั เพอ่ื เจ้าหน้าทถี่ อดความเสยี งพดู เปน็ ขอ้ ความ โดยใชเ้ ทคนคิ ใหบ้ รกิ ารค�ำบรรยายแทนเสยี งแบบปดิ (closed caption) แบง่ พมิ พ์ ซงึ่ จะแบง่ เสยี งพดู สง่ ไปใหเ้ จา้ หนา้ ทแ่ี ตล่ ะคน ปัจจุบันระบบถอดความเสียงพูดแบบทันต่อ ถอดความ และรวมขอ้ ความจากเจา้ หนา้ ทต่ี ามล�ำดบั เวลา เวลาฯ เปิดให้ทดสอบใช้งานในระบบส�ำหรับการเรียน เพอ่ื ให้ไดข้ อ้ ความทม่ี คี วามถกู ตอ้ งสงู และสามารถแสดง การสอนและงานประชมุ สมั มนา และทดสอบเชอ่ื มตอ่ กบั ผลได้ทันกับเสียงพูดของผู้พูด ซึ่งข้อความที่ได้จาก ระบบบริการค�ำบรรยายแทนเสียงของสถานีโทรทัศน์ใน การถอดความจะถกู สง่ ผา่ นเทคโนโลยกี ารสอื่ สารทางไกล ระบบดิจิทลั แล้ว กลับไปยังผู้ใช้แบบ real-time ซ่ึงผู้ใช้สามารถเลือกรับ 1 3 LIVE 2 LIVE สำ�นักงานพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ 19
อตุ สาหกรรมเช้อื เพลิงชวี ภาพและเคมชี วี ภาพ Biochemical & Biofuels เทคโนโลยกี ารยกระดับคุณภาพไบโอดีเซล (H-FAME) พัฒนาก�ำลังผลิต 0.5-1 ตัน/วนั ตดิ ต้งั ทโี่ รงงานผลติ ไบโอดเี ซล 2 บรษิ ัท เอ็มเทค สวทช. ร่วมกับกรมพัฒนาพลังงาน เทคนิคและเศรษฐศาสตร์ โดยตรวจสอบคุณภาพ ทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้การสนับสนุน เช้ือเพลิงให้ผ่านตามเกณฑ์สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญ่ีปุ่น ของกองทุนเพ่ือส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ด�ำเนิน (Japan Automobile Manufacturers Association: โครงการสนบั สนนุ การเพมิ่ สดั สว่ นการใชน้ ำ�้ มนั ไบโอดเี ซล JAMA) และน�ำไปผสมเป็น B10 เพื่อทดสอบวงิ่ จรงิ กบั ให้สูงข้ึน ซ่ึงน้�ำมันดีเซลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีการผสม รถกระบะคอมมอนเรลในประเทศ จ�ำนวน 8 คัน เป็น เชอ้ื เพลงิ ไบโอดเี ซลไดส้ งู สดุ ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 7 หรอื ทเี่ รยี ก ระยะทางกว่า 100,000 กิโลเมตรต่อคัน เพ่ือประเมิน ว่า B7 แต่ในอนาคตจะมกี ารเพ่มิ สดั ส่วนผสมเป็น B10 ความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์ของเทคโนโลยี H-FAME จึงจ�ำเป็นต้องเพ่ิมคุณภาพไบโอดีเซลด้วยเทคโนโลยี ตลอดจนผลกระทบตอ่ การใชน้ ำ้� มนั B10 ในระยะยาว ซงึ่ H-FAME ซึ่งต่อยอดจากโครงการร่วมวิจัยไทย-ญ่ีปุ่น เทคโนโลยที างเลอื ก H-FAME ไดร้ บั การบรรจอุ ย่ใู นแผน (JST-JICA SATREPS) ที่สามารถผลิตไบโอดีเซล พัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 2558- คณุ ภาพสงู มาขยายผลเพอื่ สนบั สนนุ การใช้ไบโอดเี ซลใน 2579 เพ่ือช่วยสนับสนุนการใช้น�้ำมัน B10 และน�้ำมัน สดั สว่ นทสี่ งู ขน้ึ ทมี วจิ ยั รว่ มกบั โรงงานผลติ ไบโอดเี ซลเชงิ B20 ในอนาคต ช่วยลดการน�ำเข้าน�้ำมันดิบจากต่าง พาณิชย์ที่ได้รับคัดเลือก 2 บริษัท ท�ำการขยายก�ำลัง ประเทศ และเปน็ การใช้วัตถุดิบทผี่ ลติ ไดภ้ ายในประเทศ การผลติ H-FAME เพ่อื สาธติ เทคโนโลยี H-FAME เชิง ตามนโยบายของรฐั บาล ส�ำ นกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแหง่ ชาติ 21
ระบบบ�ำบดั นำ้� เสียเพื่อผลติ ก๊าซชีวภาพ เปลย่ี นนำ�้ เสียเป็นพลงั งาน...กา๊ ซชีวภาพ ก๊าซชีวภาพเป็นทางเลือกของแหล่งพลังงาน ปัจจุบันระบบบ�ำบัดน้�ำเสียแบบตรึงฟิล์ม หมุนเวียนที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากประเทศไทยมี จุลนิ ทรยี ์ไม่ใชอ้ ากาศเพือ่ ผลติ ก๊าซชวี ภาพ ได้ตดิ ตง้ั แลว้ ของเสียและของเหลือจากการเกษตร และกระบวนการ ในหลายอตุ สาหกรรม เชน่ โรงงานผลติ แปง้ มนั ส�ำปะหลงั แปรรูปผลิตผลทางการเกษตรจ�ำนวนมาก ซึ่งเป็นแหล่ง โรงงานน�้ำมันปาล์ม และโรงงานผลไม้แช่อ่ิม/อบแห้ง วตั ถดุ บิ ทส่ี �ำคญั ส�ำหรบั การผลติ กา๊ ซชวี ภาพ อาทิ ของเสยี ระบบดังกล่าวมีคุณสมบัติท่ีทนต่อการเปลี่ยนแปลง จากฟาร์มปศุสัตว์ และน�้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม อณุ หภูมิ สามารถรบั น้ำ� เสยี ทีม่ ีสารเเขวนลอยสงู รองรบั การเกษตรและอาหาร ไบโอเทค สวทช. จึงวิจัยและ ชนดิ นำ�้ เสยี ทมี่ กี ารเปลยี่ นเเปลงกะทนั หนั ไดด้ ี อกี ทง้ั เปน็ พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตก๊าซชีวภาพอย่างต่อเน่ือง ระบบปิด ไม่มีปัญหาเร่ืองกล่ิน ดูแลง่าย ไม่ซับซ้อน เกิดเป็นการพัฒนาระบบบ�ำบัดน�้ำเสียแบบตรึงฟิล์ม ซงึ่ กา๊ ซชวี ภาพทผ่ี ลติ ไดส้ ามารถน�ำไปใชป้ ระโยชนท์ ดแทน จุลินทรีย์ไม่ใช้อากาศ เพ่ิมความสามารถในการเก็บกัก น�้ำมันเตาในหม้อต้มน�้ำมันร้อน และใช้เดินเครื่องยนต์ ตะกอนจุลินทรีย์ในถังปฏิกรณ์ และลดโอกาสสูญเสีย เพ่ือผลิตกระแสไฟฟ้าได้ จลุ นิ ทรียอ์ อกจากระบบ ท�ำใหร้ ะบบมเี สถียรภาพสงู โดย ท�ำให้จุลินทรีย์ยึดเกาะกับตัวกลางที่เป็นวัสดุท่ีผลิตใน ประเทศ ราคาไมส่ ูง เช่น ตาขา่ ยไนล่อน เชอื ก เพื่อใช้ ตรึงเซลล์จุลินทรีย์ให้จุลินทรีย์อยู่ภายในระบบบ�ำบัดใน ปริมาณท่ีมากท่ีสุดและระยะเวลานาน ท�ำให้มีการย่อย สลายสารอินทรีย์ภายในระบบมากข้ึน ส่งผลให้ระบบมี ประสิทธิภาพสูง ใช้ระยะเวลาในการบ�ำบัดน้�ำเสียและ ผลิตก๊าซชีวภาพน้อย และตัวระบบยังมีขนาดเล็กจึง ประหยดั พ้นื ทก่ี ว่าการบ�ำบดั น�้ำเสยี ด้งั เดมิ แบบบ่อเปดิ 22 รายงานประจำ�ปี 2561
นวัตกรรมเพื่ อการเกษตรยั่งยืน Innovation for Sustainable Agriculture การสืบหายีนในเช้อื ราสาเหตุโรคไหม้ (Magnaporthe oryzae) ที่ส่งผลตอ่ การเกิดโรคไหมใ้ นข้าวพันธขุ์ าวดอกมะลิ 105 และพันธุ์ กข 6 ลดความเสยี หายและชว่ ยใหน้ กั ปรบั ปรงุ พันธุเ์ ลือกใช้ยีนตา้ นทานที่เหมาะสม ไบโอเทค สวทช. ศึกษาหาต�ำแหน่งยีนที่ จากนนั้ น�ำขอ้ มลู ดเี อน็ เอและขอ้ มลู ความรนุ แรง เกยี่ วขอ้ งกบั การกอ่ ใหเ้ กดิ โรคไหม้ในขา้ วพนั ธข์ุ าวดอกมะลิ ของเชอื้ สาเหตโุ รคไหมบ้ นขา้ วทงั้ 2 พนั ธม์ุ าวเิ คราะหด์ ว้ ย 105 และพนั ธ์ุ กข 6 โดยเกบ็ รวบรวมตวั อยา่ งเชอื้ สาเหตุ วิธี association mapping เพื่อหาต�ำแหน่งยีนท่ีอยู่ โรคไหม้จากพื้นที่ปลูกข้าวท่ัวประเทศ เพ่ือน�ำมาสกัด ใกล้เคียงหรือบนยีนก่อให้เกิดโรค ต�ำแหน่งที่ได้น้ีจะ ดีเอน็ เอและหาล�ำดบั เบสดว้ ยเทคโนโลยี genotype by ถกู น�ำไปพฒั นาออกแบบเครอ่ื งหมายโมเลกลุ ทจี่ �ำเพาะกบั sequencing ขณะเดียวกันท�ำการประเมินการเกิดโรค ยนี นน้ั ๆ เพ่ือใช้ในการตรวจสอบเชื้อราสาเหตุโรคไหม้ ไหมร้ ะยะตน้ กลา้ ของขา้ วทงั้ 2 สายพนั ธ์ุ ดว้ ยเชอื้ สาเหตุ ที่พบในธรรมชาติว่ามียีนก่อให้เกิดโรคใดอยู่ในตัวบ้าง โรคไหมช้ ุดเดียวกนั ภายใต้สภาพโรงเรอื น และมพี นื้ ทก่ี ารระบาดอยบู่ รเิ วณใด ชว่ ยใหก้ ารตรวจสอบ เป็นไปได้สะดวก รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ และมี ความแม่นย�ำสูง อีกทั้งยังช่วยให้เลือกใช้ยีนต้านทาน โรคไหม้ ในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 พนั ธ์ุ กข 6 และพันธ์อุ ื่น ๆ ได้อย่างเหมาะสม ปจั จบุ นั ไดท้ �ำการคดั เลอื กตวั แทนเชอ้ื สาเหตโุ รค ไหมจ้ �ำนวน 96 ไอโซเลต แบง่ เปน็ ตวั อยา่ งทเี่ กบ็ จากพน้ื ท่ี ปลกู ขา้ วทว่ั ประเทศรวม 41 จงั หวดั จ�ำนวน 94 ไอโซเลต และจากตา่ งประเทศจ�ำนวน 2 ไอโซเลต ซ่งึ เชอื้ โรคไหม้ ที่เก็บรวบรวมได้ทั้งหมดจะน�ำมาเล้ียงแยกกันในอาหาร เหลวสังเคราะห์ ท�ำการสกดั ดีเอ็นเอ เพอ่ื น�ำไปหาล�ำดบั เบสดว้ ยเทคโนโลยี genotype by sequencing ตอ่ ไป 24 รายงานประจำ�ปี 2561
โมไบล์แอปพลิเคชนั ส�ำหรบั วินจิ ฉยั โรคขา้ ว วนิ ิจฉยั โรคจากภาพถา่ ย แจง้ ผลวนิ ิจฉยั พรอ้ มค�ำแนะน�ำ ปัจจุบันแอปพลิเคชันส�ำหรับวินิจฉัยโรคข้าว โดยท้ังหมดให้บริการผ่านโมไบล์แอปพลิเคชันส�ำหรับ สว่ นใหญย่ งั อย่ใู นรปู ของขอ้ มลู สารสนเทศและฐานขอ้ มลู วเิ คราะห์โรคขา้ วโดยใชภ้ าพถา่ ยในสภาพแปลงธรรมชาติ บนเวบ็ ไซต์ ซง่ึ ผสู้ นใจตอ้ งเขา้ ไปศกึ ษาท�ำความเขา้ ใจดว้ ย คณะวจิ ยั ไบโอเทค เนคเทค สวทช. รว่ มกบั คณะวจิ ยั จาก ตนเอง จึงยังไม่เป็นท่ีนิยมและไม่ได้รับการเผยแพร่ ภาควิชาโรคพืช และภาควิชาวิศวกรรรมคอมพิวเตอร์ เท่าที่ควร สวทช. จึงมีเป้าหมายในการพัฒนาโมบาย มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตก�ำแพงแสน พฒั นา แอปพลเิ คชนั ส�ำหรบั การวนิ จิ ฉยั โรคขา้ ว โดยใหผ้ ู้ใชง้ าน ต้นแบบแอปพลิเคชันส�ำรวจโรคข้าว ท่ีสามารถบันทึก ส่งภาพถ่ายโรคข้าวผ่านอุปกรณ์มือถือเข้าสู่ระบบ โดย ขอ้ มลู รายละเอยี ดโรคและภาพของโรคจากมอื ถอื สง่ ตรง ระบบจะวินิจฉัยโรคจากภาพถ่ายนั้น แล้วแจ้งผล เขา้ คลงั ภาพท�ำใหม้ ที งั้ ภาพและขอ้ มลู การระบาดทพ่ี รอ้ ม การวนิ จิ ฉยั แบบทนั ทว่ งที พรอ้ มใหค้ �ำแนะน�ำในการดแู ล ใชป้ ระโยชน์ ผลจากโครงการจะชว่ ยยกระดบั ความรดู้ า้ น และสามารถสอบถามข้อสงสัยเพ่ิมเติมจากผู้เชี่ยวชาญ การวินิจฉัยโรคข้าวเบื้องต้นให้กับเกษตรกรในวงกว้าง ผา่ นระบบได้ เพม่ิ ชอ่ งทางการตดิ ตอ่ ระหวา่ งเกษตรกรและนกั วชิ าการ ระบบดังกล่าวประกอบด้วย คลังภาพโรคข้าว และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการโรคข้าว ซ่ึงข้อมูลท่ี เซิร์ฟเวอร์ส�ำหรับประมวลผลภาพและวินิจฉัยโรคข้าว เกบ็ รวบรวมจากการรายงานการระบาดของโรค จะน�ำมา ระบบโตต้ อบขอ้ ความอตั โนมตั ิ และไลนก์ ลมุ่ ผเู้ ชยี่ วชาญ พฒั นาเปน็ ระบบเตอื นภยั โรคขา้ วอบุ ตั ใิ หมแ่ ละอบุ ตั ซิ ำ้� ได้ โรคข้าว เพื่อแนะน�ำและตรวจสอบผลการวินิจฉัยโรค ตอ่ ไปในอนาคต ส�ำ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ 25
โครงการ Big Rock 2561 โครงการส่ือการสอนโปรแกรมมงิ่ ในโรงเรียน (Coding at School Project) ฝึกระบบการคดิ กับ KidBright สวทช. เล็งเห็นถึงความส�ำคัญในการพัฒนา การด�ำเนนิ งาน ปีงบประมาณ 2561 เยาวชน ซึ่งจะเป็นอนาคตที่ส�ำคัญของชาติ จึงด�ำเนิน โครงการส่งมอบบอร์ด KidBright 160,000 โครงการ “Coding at School” เพอ่ื พัฒนาส่อื การสอน บอร์ด ให้แก่ 1,340 โรงเรยี น จดั อบรมการใชบ้ อรด์ กบั โปรแกรมมง่ิ เบอ้ื งตน้ ส�ำหรบั นกั เรยี น เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเกดิ เทรนเนอร์ 3,293 คน และจัดประกวดโครงงานส่ิง ความคิดเชิงระบบ สามารถเข้าใจกระบวนการเขียน ประดษิ ฐด์ ว้ ยบอรด์ KidBright นอกจากน้ี มกี ารประยกุ ต์ โปรแกรม ผ่านชุดค�ำส่งั โปรแกรม KidBright ซึง่ รองรับ ใชบ้ อรด์ KidBright มาประดษิ ฐผ์ ลงานอนื่ ๆ อาทิ MuEye การเชอื่ มตอ่ กบั เซนเซอรท์ ห่ี ลากหลาย และการเชอ่ื มตอ่ RoboKid, ChemKid, KidBright วัดฝุน่ PM2.5 และ ระหว่างอปุ กรณ์ (Internet of Things) TuktukKid KidBright เป็นบอร์ดท่ีพัฒนาข้ึนเพื่อกระตุ้น ศักยภาพการคดิ เชงิ ระบบ และการคดิ เชงิ สรา้ งสรรค์ใน เดก็ วยั เรยี น ผา่ นการเรยี นรแู้ บบ Learn and Play บอรด์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนโปรแกรมสรา้ งชุดค�ำสั่ง และสว่ นบอรด์ สมองกลฝงั ตวั ทปี่ ระกอบดว้ ยจอแสดงผล ล�ำโพง และเซนเซอร์พื้นฐาน เช่น เซนเซอร์วัดแสง เซนเซอร์วดั อณุ หภมู ิ ใชง้ านได้งา่ ยโดยการลากและวาง บลอ็ กค�ำสง่ั ทต่ี อ้ งการ ผา่ นแอปพลเิ คชนั หรอื หนา้ เวบ็ ไซต์ ชดุ ค�ำสง่ั ดงั กลา่ วจะถกู สง่ ไปทบ่ี อรด์ ใหท้ �ำงานตามค�ำสง่ั ทีต่ อ้ งการ เชน่ รดน�้ำต้นไมต้ ามระดบั ความชืน้ ท่ีก�ำหนด เปดิ -ปดิ ไฟตามเวลาทก่ี �ำหนด สำ�นักงานพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 27
โครงการโรงประลองตน้ แบบทางวศิ วกรรม (Fabrication Lab) เพ่ือพัฒนาทกั ษะความเป็นนวัตกรแกเ่ ด็กและเยาวชนไทย สวทช. ด�ำเนนิ โครงการโรงประลองตน้ แบบทาง การด�ำเนนิ งาน ปงี บประมาณ 2561 วิศวกรรม (Fabrication Lab) โดยส่งเสริมให้มีการจัด ลงนามบนั ทกึ ขอ้ ตกลง (MOU) กบั มหาวทิ ยาลยั พ้ืนที่การเรียนรู้ “โรงประลองต้นแบบวิศวกรรม” หรือ พเี่ ลย้ี ง 10 แหง่ และจดั กจิ กรรมอบรม Fabrication Lab “Fab Lab” ในสถานศกึ ษาและแหลง่ เรียนรู้ทว่ั ประเทศ ทางเทคนิค ส�ำหรับมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงในโครงการ มี และพัฒนากิจกรรมส�ำหรับนักเรียนและครู ให้มีทักษะ เดก็ และเยาวชนในระดบั มธั ยมศกึ ษาและอาชวี ศกึ ษาเขา้ ดา้ นวิศวกรรม มีความคดิ สรา้ งสรรค์ สามารถออกแบบ รว่ มกจิ กรรมค่าย 1,453 คน มีครเู ขา้ ร่วมกจิ กรรม 387 และสร้างช้ินงานโดยใช้เคร่ืองมือทางวิศวกรรม และ คน มีสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ เข้าร่วมในโครงการ เครอื่ งมอื วดั ทางวทิ ยาศาสตร์ รวมท้งั เกดิ แรงบนั ดาลใจ 150 แหง่ ภายใตก้ ารดแู ลของมหาวทิ ยาลยั พเี่ ลยี้ ง ในทกุ และสนใจท่จี ะมีอาชีพวิศวกรหรอื นวัตกรในอนาคต ภูมภิ าค Fab Lab ได้รับความร่วมมือจากส�ำนักงาน คณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและ นวตั กรรมแหง่ ชาติ (สวทน.) และมหาวทิ ยาลยั พเี่ ลยี้ ง 10 แหง่ ไดแ้ ก่ (1) มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ (2) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (3) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (4) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (5) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง (6) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนอื (7) มหาวิทยาลัยบูรพา (8) มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ (9) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ (10) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รวมท้ังจัดต้ัง โรงประลองตน้ แบบวศิ วกรรม ณ บา้ นวทิ ยาศาสตรส์ ริ นิ ธร เพ่ือจัดตั้งห้องปฏิบัติการ พัฒนาหลักสูตรและกิจกรรม การเรยี นรู้ รวมท้ังจัดกจิ กรรมส�ำหรบั นักเรียนและครู 28 รายงานประจ�ำ ปี 2561
โครงการธนาคารทรพั ยากรชวี ภาพแห่งชาติ เพื่ออนรุ ักษ์ วิจยั และใช้ประโยชน์ ปัจจุบันความต้องการใช้ประโยชน์ “ชีววัสดุ” การด�ำเนินงาน ปีงบประมาณ 2561 เพื่อตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม มีแนวโน้มเพ่ิมมากขึ้น อยู่ระหว่างด�ำเนินการก่อสร้างปรับปรุงพ้ืนที่ สวทช. จึงด�ำเนินโครงการจัดต้ัง “ธนาคารทรัพยากร อาคารกล่มุ นวัตกรรม 2 (Tower A) ชั้น 1, 3 และ 4 ชวี ภาพแหง่ ชาต”ิ หรอื “National Biobank” เพอ่ื เป็น เพื่อเป็น National Biobank เริ่มด�ำเนินการส�ำรวจ แหลง่ เกบ็ รกั ษาทรพั ยากรชวี ภาพไวน้ อกสภาพธรรมชาติ จ�ำแนกชนิด จดั ท�ำ DNA barcode ตรวจสอบสายพันธุ์ เพอ่ื ควบคมุ คณุ ภาพ และบ�ำรงุ รกั ษาใหค้ งสภาพมชี วี ติ ได้ และคณุ สมบตั เิ ฉพาะของตวั อยา่ งทจ่ี ดั เกบ็ ไดแ้ ก่ จ�ำนวน ยาวนาน ส�ำหรับเป็นแหล่งวัตถุดิบต้นทางที่มีข้อมูล จลุ นิ ทรยี ์ในคลงั ทมี่ ขี อ้ มลู DNA barcode 7,898 รายการ วิทยาศาสตร์ครบถ้วน เพื่อการใช้ประโยชน์ ใน จ�ำนวนสมุนไพรที่มีข้อมูล DNA barcode 200 สปีชีส์ อตุ สาหกรรมและในระดับชมุ ชน ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ และจ�ำนวนเซลล์ไลนส์ ตั ว์ 20 ชนดิ (clone) รวมทง้ั จดั ท�ำ รวดเร็ว และยง่ั ยนื ซึง่ แนน่ อนว่า National Biobank น้ี Digital Biobank จุลนิ ทรีย์และสมนุ ไพร นอกจากน้ี ยัง จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ส�ำคัญด้านวิทยาศาสตร์ สร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อการเก็บรักษาทรัพยากร เทคโนโลยี นวตั กรรม เพอ่ื ความมนั่ คง มง่ั คง่ั และยง่ั ยนื ชวี ภาพ โดยลงนามบนั ทกึ ขอ้ ตกลงความรว่ มมือ (MOU) ของประเทศ กบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ส�ำนกั งานพฒั นาเศรษฐกจิ จาก ฐานชวี ภาพ (องคก์ ารมหาชน) องคก์ ารสวนพฤกษศาสตร์ (อสพ.) จังหวัดเชียงใหม่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัย แม่โจ้ มหาวิทยาลัยพะเยา และศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ สำ�นักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ 29
โครงการนวตั กรรมเทคโนโลยีกา้ วหนา้ เพื่อการผลติ สมุนไพร Plant Factory โรงงานผลติ พืชเพื่อขับเคล่อื น เพิ่มมลู ค่าสมนุ ไพรไทย เทคโนโลยีการผลิตพืชมีความส�ำคัญอย่างมาก การด�ำเนนิ งาน ปงี บประมาณ 2561 ต่อการผลิตอาหารและยารักษาโรค ทั้งด้านการเพ่ิม อยู่ระหว่างการก่อสร้างปรับปรุงพื้นที่เพื่อเป็น ปริมาณให้เพียงพอต่อการบริโภค การเพิ่มคุณภาพ Plant Factory ณ อาคารกลมุ่ นวตั กรรม 2 (Tower A) ผลผลิต การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ ช้ัน 7 และจัดซอ้ื ครภุ ณั ฑ/์ เคร่ืองมอื เทคโนโลยที ีเ่ ป็นมิตรต่อส่งิ แวดล้อม สวทช. เลง็ เหน็ ถึง ความส�ำคญั ของเทคโนโลยีโรงงานผลิตพืช หรือ “Plant Factory” ตอ่ ภาคการเกษตร ซงึ่ เทคโนโลยนี เ้ี ปน็ การผลติ พชื ในระบบปดิ หรอื กงึ่ ปดิ ทคี่ วบคมุ สภาพแวดลอ้ มภายใน ให้เหมาะตอ่ การเจริญเติบโตของพชื ซึง่ เปน็ การตอ่ ยอด องค์ความรู้ของ สวทช. ท้ังด้านสรีรวิทยาพืช เกษตร วิศวกรรม รวมถงึ การจัดการเทคโนโลยี โดยจุดเด่นของ เทคโนโลยีนคี้ อื สามารถผลติ พชื ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ สูง (ผลผลิตต่อพื้นที่ต่อเวลา) ผลผลิตที่ได้สะอาด ปลอดภยั ปราศจากสารปนเปอ้ื น จงึ ด�ำเนนิ โครงการจดั ตงั้ Plant Factory โดยช่วงแรกจะมุ่งเนน้ เพอ่ื การเพาะปลกู พืชสมุนไพรที่มีมูลค่าสูง ซ่ึงปัจจุบันประเทศไทยยังต้อง น�ำเข้าสมุนไพร รวมถึงสารสกัดสมุนไพรไม่น้อยกว่า 1,000 ลา้ นบาทตอ่ ปี ซ่ึงแน่นอนว่า Plant Factory จะ สนับสนุนอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยให้ก้าวกระโดดได้ อยา่ งแนน่ อน 30 รายงานประจำ�ปี 2561
โครงการขยายผลงานวิจยั DentiiScan เพ่ือพัฒนาอตุ สาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทย เพ่ือให้คนไทยได้รับบริการด้านทันตกรรมด้วย การด�ำเนนิ การ ปงี บประมาณ 2561 เทคโนโลยีข้ันสูง ที่ปลอดภัยและทันสมัย สวทช. โดย จัดจ้างผลิตและติดตั้งเครื่อง DentiiScan รุ่น เนคเทคและเอ็มเทค ได้ร่วมกันพัฒนาเครื่องเอกซเรย์ 2.0 จ�ำนวน 50 เครอื่ ง กับบรษิ ัทพกิ ซาเมด จ�ำกดั โดย คอมพิวเตอร์ส�ำหรับงานทันตกรรม หรือ “DentiiScan บริษัทส่งมอบเคร่ืองฯ แลว้ จ�ำนวน 2 เครื่อง อยู่ระหว่าง 2.0” เคร่อื งเอกซเรย์คอมพวิ เตอรส์ �ำหรบั งานทนั ตกรรม สรรหาโรงพยาบาล 50 แหง่ เพื่อเขา้ ร่วมโครงการ โดย และศัลยกรรมบริเวณช่องปาก ขากรรไกร และใบหน้า จัดส่งบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ไปตาม เคร่ืองแรกของประเทศไทย DentiiScan ประกอบด้วย ต้นสังกัดของโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้แก่ มหาวิทยาลัย เครอ่ื งก�ำเนดิ รงั สเี อกซท์ ม่ี ลี �ำรงั สแี บบทรงกรวย และฉาก กรมการแพทยท์ หารบก กรมการแพทยท์ หารอากาศ และ รบั ภาพซงึ่ อยตู่ รงขา้ มกนั เมอ่ื เรม่ิ ท�ำงาน อปุ กรณท์ ง้ั สอง กระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว รวมท้ังอยู่ระหว่าง นจี้ ะหมนุ รอบศีรษะ 1 รอบ ใช้เวลาเพยี ง 18 วนิ าที เพอื่ เตรียมจัดอบรมเชิงปฏิบัติการส�ำหรับทันตแพทย์และ เกบ็ ขอ้ มูล แลว้ ส่งต่อให้ซอฟต์แวร์ประมวลผลสร้างเปน็ ผชู้ ว่ ยทนั ตแพทย์ หลงั จากลงนาม MOU กบั โรงพยาบาล ภาพสามมิติ จุดเดน่ ของ DentiiScan คอื ภาพสามมิติท่ี ทีเ่ ข้าร่วมโครงการ ได้ จะเห็นข้อมูลบริเวณศีรษะและขากรรไกรของผู้ป่วย ที่มีความลึกและไม่มีการซ้อนทับของอวัยวะ ต่างจาก เคร่ืองถ่ายภาพเอกซเรย์แบบสองมิติท่ัวไป ท�ำให้ ทนั ตแพทยว์ นิ จิ ฉยั โรค และวางแผนการผา่ ตดั ไดแ้ มน่ ย�ำ ปลอดภัย ส�ำ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ 31
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 675
Pages: