89 อานาจหน้าท่ี หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา ซ่ึงจะเห็นได้ว่านิยามความหมายของสถานศึกษานั้นกว้างมาก ประกอบกับประกาศฉบับน้ีมีปัญหาในเร่ือง ความชัดเจนในแง่ว่าสถานศึกษาประเภทใด อยู่ภายใต้บังคับ ของประกาศฉบับน้ี และคาว่า “ใกล้เคียง” คิดเป็นระยะทางเท่าใด ซึ่งในแนวปฏิบัติท่ีกาหนดข้ึนตาม มติคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ มอบหมาย ๖ หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง (กรมสรรพสามิต) สานักงานตารวจแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข (กรมควบคุมโรค) กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานครประสานงานร่วมกัน โดยในแต่ละพ้ืนท่ีให้มีการกาหนดเขตระยะ ใกลเ้ คยี งสถานศกึ ษา100 ด้วยขอบเขตของคาว่า “สถานศึกษา” และการมอบอานาจให้หน่วยงานและ เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ดุลพินิจในการกาหนดระยะ “ใกล้เคียง” สถานศึกษา จึงทาให้เกิดผลกระทบต่อ ผู้ประกอบการหลายราย เน่ืองจากในแต่ละพ้ืนท่ีนั้นอาจมีสถานศึกษาต้ังอยู่หนาแน่น เช่น ในพ้ืนที่จังหวัด นครศรีธรรมราช มีสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา อาชีวะศึกษา และมัธยมศึกษา ตั้งอยู่ทั้งสิ้น ๑๓๗ แห่ง เป็นต้น101 ซ่ึงมาตรการดังกล่าวน้ัน อาจจะเป็นมาตรการที่ครอบคลุมเกินความจาเป็น และไม่ได้สัดส่วน อย่างเห็นได้ชัด เม่ือเปรียบเทียบระหว่างวัตถุประสงค์ที่ต้องการกีดกันไม่ให้เกิดการเข้าถึงเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ในเด็กและเยาวชน เพราะในท้ายที่สุดแลว้ กรณีน้ีหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าทรี่ ัฐ สามารถใชม้ าตรการอน่ื แทนได้ ทั้งการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา และการห้ามจาหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้บุคคลท่ียัง ไม่บรรลุนิติภาวะ การทร่ี ัฐบาลยงั คงใช้บังคับประกาศฉบบั ดังกล่าว อาจจะกลายเป็นสร้างภาระแก่ผ้ปู ระกอบการ เกนิ สมควร (๗) ปญั หาการให้อานาจดลุ พินจิ แกเ่ จา้ หนา้ ท่ขี องรัฐออกกฎหมายลาดบั รอง พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นบทบัญญัติ ที่ให้อานาจดุลพินจิ แก่เจ้าหนา้ ท่ขี องรัฐในการออกกฎหมายลาดับรอง ดังจะเหน็ ได้จากบทบญั ญัติในหลายมาตรา ที่ให้อานาจแก่นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายฉบับน้ีมีอานาจในการออกประกาศ กาหนดเง่ือนไขและวิธีการประกอบกิจการ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ตารางที่ ๑๖, น. 53) แม้การประกาศกาหนดในลักษณะดังกล่าวจะมีข้อดี คือ การทาให้กฎหมายสามารถ ปรับให้สอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจ แต่ก็มีข้อเสีย คือ บทบัญญัติในลักษณะดังกล่าวน้ัน ให้อานาจดุลพินิจ แก่เจ้าหน้าท่ีของรัฐออกกฎหมายลาดับรองมากเกินไป โดยไม่มีการกาหนดกรอบของการใช้อานาจแก่เจ้าหน้าที่ ของรัฐเอาไว้ อกี ท้ัง การให้อานาจดุลพินิจแก่เจ้าหนา้ ที่ของรัฐในการออกกฎหมายลาดับรอง โดยไม่มีการกาหนด กรอบของการใช้อานาจไว้นั้น ทาให้เกิดความไม่แน่นอนแก่ประชาชนผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น เม่ือมีการ ประกาศใช้ประกาศสานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กาหนดสถานท่ีหรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รอบสถานศึกษา พ.ศ. 2558 ตามประกาศฉบับดังกล่าว ได้เปลี่ยนแปลงสถานะของผู้ประกอบการจากเดิม 100 สานักงานสรรพสามิตพ้ืนท่ีนครพนม, “คู่มือการกาหนดเขตพื้นที่ (Zoning) ห้ามมิให้มีสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้ังอยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา ในเขตจังหวัดนครพนม,” สืบค้นเม่ือวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๓, จาก https://www.excise.go.th/ cs/groups/%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9% 88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1/documents/docu ment/dwnt/mziw/~edisp/uatucm320188.pdf 101 หนังสือสานักงานสรรพสามิตพ้ืนท่ีนครศรีธรรมราช ที่ กค ๐๖๑๑.๐๔/ - ลงวันท่ี ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เร่ือง กาหนด เขตพ้นื ที่ (Zoning) บริเวณใกล้เคียงสถานศกึ ษา
90 กฎหมายต้องการควบคุมมิให้จาหน่ายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ภายในสถานศึกษา แต่เม่ือประกาศใช้ประกาศฉบับ ดังกล่าวกลายเป็นกฎหมายกาหนดห้ามจาหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นท่ีใกล้เคียง โดยประชาชน กไ็ ม่สามารถคาดหมายได้ว่าพื้นที่ใกล้เคียง คือ พ้ืนท่ีใดบ้าง เป็นต้น จากตัวอย่างขา้ งต้นสภาวะดังกล่าวเกิดความ ไม่แน่นอนใน ๒ ลักษณะ คือ กรณีแรก เกิดไม่แน่นอนว่าการประกอบการที่เคยปฏิบัติได้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในเวลาต่อมากลับไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และกรณีท่ีสอง เกิดความไม่แน่นอนในเน้ือความของประกาศ ท่ีออกมาว่าจะควบคุมในเร่ืองใดบ้าง และจะควบคุมอย่างไร สภาวะความไม่แน่นอนนี้ส่งผลกระทบต่อสิทธิและ เสรีภาพของประชาชน เพราะทาให้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนไม่มีความแน่นอน นอกจากนี้ สภาวะความ ไม่แน่นอนในลักษณะดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบต่อการประกอบการ และเกิดความเสี่ยงในการลงทุนของ ผู้ประกอบการเอกชนไม่อยากลงทุน นอกจากน้ี พระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้กาหนดโทษทางอาญาให้แก่ผู้ประกอบการ หรือบุคคลท่ีละเมิดบทบัญญัติในข้างต้นเอาไว้ (ตารางท่ี ๒๕) ซ่ึงการ นาบทลงโทษทางอาญามาใช้ในการป้องปรามนั้น เป็นเป้าหมายในอุดมคติของระบบกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ผล ของการใช้โทษทางอาญามาดาเนินการกับเรื่องดังกล่าวนั้น สร้างผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล กล่าวคือ เมื่อมีการประกาศกฎหมายลาดับรองกาหนดเงื่อนไขและวิธีการประกอบกิจการข้ึนใหม่ มีผลเป็นการ เปล่ียนแปลงการประกอบกิจการของผู้ประกอบการท่ีจากเดิม ถูกต้องตามกฎหมายกลายมาเป็นผิดกฎหมาย และถูกเจา้ หนา้ ท่ขี องรฐั บังคบั ใช้กฎหมายลงโทษทางอาญากระทบต่อสิทธแิ ละเสรภี าพของบคุ คล จากสภาพปัญหาในข้างต้นนีจ้ ะเห็นได้ว่าบทบัญญัติของพระราชบัญญัตคิ วบคุม เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ที่ให้อานาจดุลพินิจแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐในการออกกฎหมายลาดับรองน้ัน สรา้ งผลกระทบท้งั ในทางเศรษฐกจิ และตอ่ สิทธแิ ละเสรีภาพของประชาชน ตารางท่ี ๒๕ แสดงบทบัญญัตทิ ี่ใหร้ ฐั มนตรีมีอานาจออกประกาศโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และโทษของกฎหมาย มาตรา บทบัญญัติเก่ยี วกับ โทษ มาตรา ๒๗ การกาหนดสถานทหี่ รอื บรเิ วณอ่ืน ๆ ท่หี า้ มขาย จาคกุ ไม่เกินหกเดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ ๑๐,๐๐๐ เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ (๘) การกาหนดวันหรอื เวลาห้ามขายเครือ่ งด่มื แอลกอฮอล์ บาท หรือทง้ั จาทั้งปรบั มาตรา ๒๘ จาคกุ ไมเ่ กินหกเดอื น หรอื ปรับไมเ่ กนิ ๑๐,๐๐๐ มาตรา ๓๐ การกาหนดวธิ กี ารหรอื ลักษณะในการขายเครอื่ งด่มื บาท หรอื ทัง้ จาทั้งปรบั (๖) แอลกอฮอล์ จาคุกไมเ่ กนิ หกเดอื น หรือปรับไมเ่ กนิ ๑๐,๐๐๐ มาตรา ๓๑ การกาหนดสถานทีห่ รือบริเวณอนื่ ๆ ท่หี ้ามบริโภค บาท หรือท้ังจาท้ังปรับ (๗) เครอ่ื งดืม่ แอลกอฮอล์ จาคุกไมเ่ กนิ หกเดอื น หรือปรบั ไมเ่ กิน ๑๐,๐๐๐ ทมี่ า : คณะอนุกรรมการศกึ ษาพัฒนาธุรกิจอตุ สาหกรรมสรุ า บาท หรือทง้ั จาทั้งปรบั
91 (๘) ปัญหาการไม่มีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจอุตสาหกรรม เครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอล์ พระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้กาหนดให้ คณะกรรมการนโยบายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์แห่งชาตินั้น ประกอบไปด้วยกรรมการโดยตาแหน่งซ่ึงเป็นรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงเป็นกรรมการ โดยไม่มีสัดส่วนของผู้ประกอบการเข้าไปดารงตาแหน่งเป็นกรรมการ อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับน้ีได้ให้คณะกรรมการนโยบายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติมีที่ปรึกษาเพ่ือให้ คาแนะนา โดยเป็นผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ไทย ผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผู้แทนองค์กรท่ีเป็นนิติบุคคล ซึ่งมีวัตถุประสงค์เก่ียวกับการรณรงค์ เพื่อลดและเลิกการบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ และผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งโดยสัดส่วนนั้น ไม่เปิดโอกาสให้มี ผู้ประกอบการขนาดย่อมเข้าไปมีส่วนเก่ียวข้องในการกาหนดนโยบายควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด ทาให้นโยบายที่ออกมานั้น ไม่ผ่านกระบวนการท่ีรอบด้านเพียงพอ เช่นเดียวกันกับคณะกรรมการควบคุม เครื่องด่มื แอลกอฮอล์ ท่ีไมไ่ ด้เปิดโอกาสให้มีผูแ้ ทนของผู้ประกอบการขนาดย่อมเข้าไปมสี ่วนรว่ มใด และผลของ การตัดขาดและไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมน้ี ทาให้นโยบายเกี่ยวกับเครือ่ งด่มื แอลกอฮอล์น้นั ขาดการมีส่วนร่วม ในทกุ ระดับ และขาดการรับฟงั อย่างรอบดา้ น (๙) ปญั หาความซ้าซ้อนกนั ของบทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้กับกฎหมายอ่ืน เน่ืองจากพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ น้ันเป็น กฎหมายท่ีตราขึ้นในภายหลังสถานการณ์ของประเทศไทย ซ่ึงก่อนหน้านี้จึงมีลักษณะเป็นการอาศัยกฎหมาย หลายฉบับเพ่ือเข้ามาควบคุมการบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ทว่า เม่ือบทบัญญัติของพระราชบัญญัติฉบับนี้ ประกาศใช้เป็นกฎหมาย ทาให้เกิดปัญหาเรื่องความซ้าซ้อนกันขึ้นมาระหว่างบทบัญญัติของพระราชบัญญัติ ควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ กับกฎหมายอ่ืน ๆ ซึ่งปัญหาความซับซ้อนกันนั้น อาจเกิดข้ึนทั้ง ในลักษณะวตั ถปุ ระสงค์ของกฎหมายและในเชิงการบังคับใชก้ ฎหมาย ดังปรากฏตามตารางที่ ๒๖ หนา้ 92
92 ตารางที่ ๒๖ : แสดงบทบัญญัติที่ซา้ ซอ้ นกันระหวา่ งพระราชบัญญัตคิ วบคมุ เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอลก์ ับกฎหมายอน่ื ๆ ประเดน็ กฎหมายที่ซ้าซ้อนกนั พระราชบญั ญตั ิควบคุมเครอ่ื งดื่ม กฎหมายอน่ื ๆ การควบคมุ ฉลากบรรจภุ ัณฑเ์ ครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ แอลกอฮอล์ เรื่อง สุรา (ออกตามความใน มาตรา ๒๖ พระราชบัญญตั ิอาหาร พ.ศ. ๒๕๒๒) ประกาศคณะกรรมการควบคุม เคร่ืองดม่ื แอลกอฮอล์ เร่ือง กฎกระทรวงการอนญุ าตนาสรุ า หลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงือ่ นไข เข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. เกี่ยวกับฉลากของเครื่องดื่ม ๒๕๖๐ แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๘ การห้ามมใิ หข้ ายเครอ่ื งดืม่ มาตรา ๒๙ มาตรา ๒๕ (๑๐) ของ แอลกอฮอลใ์ ห้แกเ่ ดก็ และผู้เยาว์ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองเดก็ และ เยาวชน พ.ศ. ๒๕๔๖ บัญญตั วิ ่า “ผู้ปกครองตอ้ งไม่กระทาการ จาหนา่ ย แลกเปลย่ี น หรือให้สรุ า หรือบหุ รแ่ี กเ่ ดก็ เว้นแตก่ าร ปฏบิ ตั ทิ างการแพทย์” การหา้ มบรโิ ภคเคร่อื งดมื่ แอลกอฮอล์ มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๗๘ ประมวลกฎหมาย ในสถานท่หี รอื บรเิ วณสาธารณะ อาญา บัญญตั วิ ่า “ผู้ใดเสพสรุ า หรือของเมาอยา่ งอ่ืน จนเป็นเหตุ ใหต้ นเมา ประพฤติวุ่นวายหรอื ครองสติไมไ่ ด้ขณะอยู่ในถนน สาธารณะ หรอื สาธารณสถาน ตอ้ งระวางโทษปรบั ไม่เกินหา้ พนั บาท” การหา้ มโฆษณาเคร่ืองด่มื แอลกอฮอล์ มาตรา ๓๒ กฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณา เครอ่ื งด่มื ที่มสี ว่ นผสมของ แอลกอฮอลแ์ ละเครื่องด่ืมทผ่ี สม กาเฟอีน ในโรงภาพยนตรแ์ ละ ทางป้ายโฆษณา พ.ศ. ๒๕๔๗ (ออกตามความใน พระราชบัญญัติคมุ้ ครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒) ทม่ี า : คณะอนกุ รรมการศึกษาพฒั นาธรุ กิจอุตสาหกรรมสรุ า
93 ปัญหาความซ้าซ้อนกันของบทบัญญัติของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืม แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ กับกฎหมายอื่น ๆ น้ัน สร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบการ หรือประชาชนที่จะต้องปฏิบัติตาม กฎหมาย กล่าวคือ เม่ือมีกฎหมายหลายฉบับและบรรดากฎหมายท้ังหลายเหล่าน้ัน ได้ใช้บังคับอยู่ไปพร้อม ๆ กัน อาจทาให้ประชาชนเกิดความสับสนในการปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะไม่อาจแน่ใจได้ว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมายใด จงึ ตอ้ งปฏิบตั ิตามกฎหมายทุกฉบบั ซ่ึงปญั หาจะเกดิ ข้ึนตามมาหากกฎหมายน้ัน มเี นื้อหาที่ไม่ต้องตรงกันสอดรับกันหรือ เจ้าหน้าท่ีของรัฐผู้ใช้อานาจตามกฎหมายนั้น ขาดความเข้าใจตามกฎหมายของตน จึงอาจใช้ดุลพินิจในลักษณะ ทผี่ ดิ เพี้ยน หรือไม่สอดคล้องกนั กลายเป็นภาระให้กับผูป้ ระกอบการ หรอื ประชาชนที่จะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย การลดความซ้าซ้อนกันของบทบัญญัติของเรื่องของความซ้าซ้อนกันระหว่าง พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ กับกฎหมายอ่ืน ๆ น้ัน อาจแก้ไขได้โดยการโดยกาหนดให้ ยึดถือเนื้อหาในกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง เช่น ประกาศสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การ โฆษณาอาหาร พ.ศ. ๒๕๖๔ ข้อ ๙ (๑๓) ซึ่งกาหนดให้การให้ข้อมูลใด ๆ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข ตามพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยไม่ต้องย่ืนต่อสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้พิจารณา เป็นต้น ซ่ึงทาให้การควบคุมการโฆษณาเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่ม แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เพยี งฉบับเดยี ว (๑๐) ปัญหาประสทิ ธิภาพการบงั คับใช้กฎหมายควบคุมเคร่อื งดื่มแอลกอฮอล์ กฎหมายควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ได้ใช้บังคับมาเป็นระยะเวลากว่า ๑๐ ปี นับตั้งแต่การบังคับใช้กฎหมายควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ในปี ๒๕๕๑ เป็นต้นมา ทว่า ภายใต้การบังคับใช้ของ กฎหมายฉบับนี้ประโยชน์ที่เกิดข้ึนต่อสังคมนั้นมีน้อยมาก ท้ังในแง่ของเป้าหมายท่ีต้องการลดการบริโภคเคร่ืองดื่ม แอลกอฮอล์ดังจะเห็นได้จากตารางท่ี ๗ หน้า 37 และ ๘ หน้า 38 ก็ตาม ซ่ึงเม่ือเปรียบเทียบกับมาตรการบังคับใช้ กฎหมายของสานักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ โดยสถิตินับต้ังแต่ปี 2555 จนถึง 2563 (ณ วนั ท่ี 28 ตุลาคม 2563) มีคดีท่ีดาเนินการกล่าวโทษไปยังสานักงานตารวจแห่งชาติท้ังส้ิน ๒,๐๑๐ คดี (ตารางที่ ๑๘, น. 59)102 โดยในช่วงปี ๒๕๕๘ จนถึง ๒๕๖๓ (ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2563) มีผู้ร้องเรียนท้ังหมดในทุกช่องทางจานวน ๕,๙๓๑ เรอ่ื ง และมีการดาเนินการเรียกตามมาตรา ๓๔ (๓) จานวนท้ังส้ิน ๓๔๑ เรือ่ ง103 ตารางท่ี ๒๗ จานวนคดที ด่ี าเนินการกล่าวโทษไปยังสานักงานตารวจแหง่ ชาติตัง้ แต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๖๓ ฐานความผิด จานวนคดี ฝา่ ฝืนบทบัญญตั ทิ ี่กาหนดเกี่ยวกับฉลากตามมาตรา ๒๖ ๘ ฝ่าฝืนบทบญั ญัติที่กาหนดห้ามขายเครื่องด่มื แอลกอฮอล์ในสถานที่หรอื บรเิ วณ ๑๕๐ ทก่ี าหนดไว้ตามมาตรา ๒๗ ฝ่าฝืนบทบญั ญัตทิ ก่ี าหนดเรอื่ งวันหรือเวลาห้ามจาหน่ายเครือ่ งดื่มแอลกอฮอล์ ๑๕๘ ตามมาตรา ๒๘ ฝา่ ฝืนบทบญั ญัติที่กาหนดหา้ มขายเครื่องดม่ื แอลกอฮอลใ์ หบ้ ุคคลซ่ึงมีอายตุ า่ ๔๐ กวา่ ๒๐ ปบี ริบรู ณ์ หรือบุคคลท่ีมึนเมาจนครองสติไมไ่ ด้ตามมาตรา ๒๙ 102 หนังสือสานักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ท่ี สธ ๐๔๑๗.๕/๒๕๔๓ ลงวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๓ เร่ือง ขอจดั ส่งข้อมลู และเอกสาร 103 เพงิ่ อ้าง.
94 ฝ่าฝืนบทบัญญตั ิท่ีกาหนดวธิ กี ารหรอื ลักษณะตอ้ งหา้ มในการขายเคร่อื งดม่ื ๒๔๕ แอลกอฮอล์ตามมาตรา ๓๐ ๕๔ ๑,๓๔๖ ฝ่าฝืนบทบญั ญัตทิ ีก่ าหนดสถานทีห่ รอื บริเวณหา้ มบรโิ ภคเคร่อื งดื่มแอลกอฮอล์ ๙ ตามมาตรา ๓๑ ฝ่าฝืนบทบัญญตั ิที่กาหนดเก่ยี วกับการโฆษณาเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ตามมาตรา ๓๒ ฝ่าฝืนคาสั่งเจา้ พนกั งานตามมาตรา ๓๔ ท่มี า : คณะอนกุ รรมการศกึ ษาพฒั นาธุรกจิ อุตสาหกรรมสรุ า ดังจะเห็นได้จากสถิติจานวนคดีในข้างต้น นับต้ังแต่ปี ๒๕๕๕ เป็นต้นมาน้ัน ประเภทคดีท่ีถูกดาเนินการกล่าวโทษมากที่สุดเป็นคดีประเภทการกระทาความผิดเกี่ยวกับการโฆษณาตาม มาตรา ๓๒ ซ่ึงปัญหาส่วนหนึ่งเกิดมาจากลักษณะของบทบัญญัติทางกฎหมาย และการตีความบทบัญญัติของ เจ้าหน้าที่ท่ีตีความกฎหมายกว้างจนเป็นผลร้ายแก่ประชาชน โดยมีจานวนคดีที่ดาเนินการกล่าวโทษท้ังหมด ๑,๓๔๖ คดี ตรงกันข้ามกับคดีประเภทที่น่าจะเกิดข้ึนมากที่สุดอย่างการจาหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้บุคคล ซ่ึงมีอายุต่ากว่า ๒๐ ปีบริบูรณ์ หรือบุคคลท่ีมึนเมาจนครองสติไม่ได้ตาม มาตรา ๒๙ กลับมีการดาเนินการ กล่าวโทษเพียง ๔๐ คดี ตลอดระยะเวลา ๘ ปี ซ่ึงหากคิดเป็นจานวนเฉล่ียต่อปีจะมีคดีตาม มาตรา ๒๙ เพียงแค่ ๕ คดตี ่อปเี ทา่ น้นั ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ สถิติในข้างต้นนั้นสะท้อนปัญหาการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องด่ืม แอลกอฮอล์ของประเทศไทยว่า กาลังใช้มาตรการท่ีไม่เหมาะสมมาควบคุมดูแลพฤติกรรมของประชาชนหรือไม่ ผลการบังคับใช้กฎหมาย จึงไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอทาให้สถิติการบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ไม่ได้ลดลง ดังวัตถุประสงค์ของกฎหมาย นอกจากน้ี กฎหมายฉบับนี้ยังมีปัญหาเป็นการยับยั้งการเติบโตของธุรกิจ อุตสาหกรรมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งในระดับของผู้ประกอบการท่ีได้รับผลกระทบจากมาตรการที่ไม่เหมาะสม ตามกฎหมาย เช่น การควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลต์ าม มาตรา ๓๒ เปน็ ต้น และยังเป็นการสร้างผลระทบต่อรัฐ ในเชิงรายได้ของประเทศ พระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ จึงอาจจะจาเป็นที่จะต้องมี การทบทวนและประเมินผลสัมฤทธ์ิของกฎหมายเสียใหม่ รวมถึงอาจจะจาเป็นต้องยกเลิกกฎหมายฉบับน้ีเสีย เน่ืองจากเมื่อเปรียบเทียบระหว่างประโยชน์ที่ได้รับกับต้นทุนในการบังคับใช้กฎหมายนั้น ซ่ึงตามปีงบประมาณ ๒๕๖๒ สานักงานคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ได้รับการจัดสรรงบประมาณท้ังส้ิน เป็นเงิน ๑๘,๖๖๘,๓๘๕.๗๕ (สิบแปดล้านหกแสนหกหมื่นแปดพันสามรอ้ ยแปดสิบห้าบาทเจ็ดสิบห้าสตางค์)104 ซึ่งหากปรับลดภารกิจของภาครัฐในเรื่องดังกล่าวลง โดยลดหน้าท่ีและอานาจของสานักงานคณะกรรมการ ควบคมุ เครื่องด่มื แอลกอฮอลล์ งให้เหมาะสมมากข้ึน อาจจะนางบประมาณไปใชด้ าเนนิ การในลักษณะอ่ืนได้ 104 สานักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, “รายงานประจาปี ๒๕๖๒,” สืบค้นเม่ือวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๓, จาก https://drive.google.com/file/d/1YNEippUBYsy0RXmo-WPpNf8r9hwfk6y-/view
95 (๑๑) ปัญหานโยบายโดยรวมเก่ียวกับการควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ นโยบายโดยรวมเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ของประเทศไทย ให้ความสาคัญไปกับการลดผลกระทบต่อสุขภาพ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน เช่น การดื่มเครื่องด่ืม แอลกอฮอล์แล้ว ก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท เป็นสาคัญ โดยไม่ได้พิจารณาในมุมมองทางด้านเศรษฐกิจ ทเ่ี กย่ี วข้องกบั การประกอบกจิ การจาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ จากการศึกษา วสันต์ ปวนปันวงศ์ โดยการสนับสนุนของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) หน่วยระบาดวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ให้ข้อสังเกตว่า ในสถานการณ์ ปจั จบุ ันการจัดจาหน่ายเคร่ืองดืม่ แอลกอฮอล์เปน็ ธุรกิจที่มีความสาคญั โดยเฉพาะอย่างในสังคมของประเทศกาลัง พัฒนา ทัศนคติเก่ียวกับการจัดจาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์น้ัน มีส่งผลดีต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจของ ประเทศ แม้ว่าอาจจะสร้างผลกระทบต่อสุขภาพและความสงบเรียบร้อยของประชาชนท่ีเป็นผลร้ายจากการ จาหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่การจาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์น้ัน มีความสาคัญโดยเฉพาะอย่างย่ิงกับ โครงสร้างของเศรษฐกิจผ่านกิจกรรมการจาหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซ่ึงยึดโยงอยู่กับการจ้างงาน ในภาคอุตสาหกรรมที่เก่ียวข้องกับแอลกอฮอล์ที่มีการจ้างงานลดลง เน่ืองมาจากการบังคับใช้กฎหมายควบคุม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยรัฐ การบังคับใช้กฎหมายควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์อาจจะยังจาเป็นในบางบริบท แต่เม่ือการจาหน่ายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ส่งผลสาคัญต่อรายได้ของรัฐในการจัดเก็บภาษี การลดลงของธุรกิจ จาหน่ายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์นั้น ไม่เพียงแต่กระทบต่อการจ้างงานและการท่องเท่ียวโดยตรงแล้ว ยังส่งผลเสีย ต่อรายได้ของรัฐอีกด้วย การพิจารณาเฉพาะผลกระทบต่อสุขภาพและความสงบเรียบร้อย โดยไม่ได้พิจารณา บริบทของเศรษฐกิจท่ีเก่ียวเน่ืองกับการประกอบการจาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ เช่น การจ้างงาน และการ ทอ่ งเท่ยี ว เปน็ ต้น อาจจะเกิดผลรา้ ยต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ105 การกาหนดนโยบายโดยรวมเกี่ยวกับการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์น้ัน จงึ ควรนาประเดน็ ความสนใจเก่ียวกับบริบทของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวมาพจิ ารณาประกอบด้วย โดยเฉพาะ อย่างยิง่ ในกรณีของจงั หวัดท่องเที่ยวน้ัน เศรษฐกิจและการท่องเท่ียวท้งั หมดนน้ั เช่อื มโยงอยูก่ บั รา้ นคา้ และบริการ ทีม่ กี ารจาหนา่ ยเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ดงั ได้กลา่ วมาแล้วในกรณีของยา่ นนิมมานเหมนิ ทร์ จงั หวดั เชียงใหม่ 3.๒.๓ การบงั คับใช้กฎหมายของเจา้ หน้าท่ีของรฐั (๑) ปัญหาการตคี วามของเจ้าหน้าทตี่ ามบทบญั ญตั ิมาตรา ๓๒ บทบัญญัติใน มาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ น้ัน นอกจากจะมีปัญหาในเรื่องความเหมาะสมของบทบัญญัติที่ว่าด้วยการเข้าไปควบคุม การโฆษณาเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ของรัฐแล้ว ในด้านการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ก็มีปัญหาเช่นกัน กล่าวคือ ในการตีความบทบัญญัติ มาตรา ๓๒ วรรคหน่ึง ซึ่งบัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจ ให้ผู้อื่นด่ืมโดยตรงหรือโดยอ้อม” โดยมีปัญหาในการตีความว่า บทบัญญัตินี้มงุ่ หมายจะใช้ในลักษณะใด ระหว่าง การห้ามโฆษณาโดยเด็ดขาด กับการห้ามโฆษณาเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ จะเป็นความผิดจะต้องมีข้อความอวดอ้าง สรรพคุณ ซึ่งหากพิจารณาเฉพาะบทบัญญัติของกฎหมายใน มาตรา ๓๒ วรรคหน่ึงนั้น อาจตีความไปได้ ใน ๒ ลกั ษณะ อันเปน็ ปัญหามาจากบทบัญญตั ิมีความไมช่ ัดเจน และมคี วามคลมุ เครอื 105วสนั ต์ ปวนปันวงศ,์ อ้างแล้ว เชงิ อรรถที่ ๑๓, น. ๙๑ - ๑๐๑
96 (๒) ปัญหาการตีความผตู้ กอย่ภู ายใต้บงั คับของบทบญั ญัติมาตรา ๓๒ นอกจากปัญหาในการตีความข้างต้นแล้ว บทบัญญัติมาตรา ๓๒ แห่ง พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ยังมีปัญหา เนื่องมาจากการตีความของสานักงาน คณะกรรมการควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ โดยห้ามบุคคลมิให้โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประกอบกับ เมื่อพิจารณาบทนิยามใน มาตรา ๓ ซึ่งบัญญัติว่า “โฆษณา” หมายความว่า การกระทาไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ ให้ประชาชนเห็น ได้ยิน หรือทราบข้อความ เพ่ือประโยชน์ในทางการค้า และให้หมายความรวมถึงการสื่อสาร การตลาด” ดังจะเห็นได้ว่าเป็นการนิยามการโฆษณาที่มีความหมายกว้าง ซึ่งหากพิจารณาในบริบทสังคม การถ่ายภาพเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ และนาเข้าสู่เครือข่ายส่ือสังคมออนไลน์ ก็เข้าลักษณะเป็นการโฆษณา ตามนิยามใน มาตรา ๓ แล้ว ทาให้เจ้าหน้าท่ีเลือกบังคับใช้กฎหมายกับบุคคลทุกคน โดยไม่พิจารณาว่า การโฆษณาน้นั เปน็ ไปเพื่อประโยชน์ในทางการคา้ หรือเป็นการสือ่ สารการตลาดหรือไม่กต็ าม (๓) ปญั หาการใชเ้ งินสนิ บนรางวัล การใช้สินบนรางวัลเป็นมาตรการเพ่ือตอบแทนพลเมืองดี และเจ้าหน้าท่ีของรัฐ เข้าเส่ียงภัยในการปฏิบัติตามหน้าที่ท่ีตามกฎหมายกาหนด อย่างไรก็ตาม ในการบังคับใช้กฎหมายของ เจ้าหน้าท่ีของรัฐโดยมีสินบนรางวัลนั้น อาจสร้างแรงจูงใจให้เจ้าหน้าท่ีเลือกจะบังคับใช้กฎหมาย โดยไม่สนใจ เจตนารมณ์ของกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งหากประชาชนไม่ประสงค์ให้เกิดการดาเนินคดีอาญา ย่อมเลือกที่จะ เปรียบเทยี บปรับ เพอ่ื ให้การดาเนนิ คดอี าญาสิ้นสุดลง จากการรายงานข่าวของสานักข่าวออนไลน์เดอะแมทเทอร์ (The Matter) ในวันท่ี ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔ บนเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก (Facebook) พบว่า เจ้าหน้าท่ีของรัฐได้รับ ส่วนแบ่งจากเงินสินบนรางวัลจากค่าปรับ กรณีห้ามโฆษณาเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์มากน้อยเพียงใด โดยสานัก ข่าวออนไลน์เดอะแมทเทอร์ได้สรุปว่า ต้ังแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๖ - ๒๕๖๓ ข้อมูลเฉพาะในเขต กรุงเทพมหานครเท่าน้ัน ไม่รวมข้อมูลในต่างจังหวัดอีก ๗๖ จังหวัด ซ่ึงการจัดเก็บข้อมูลกระจายอยู่กับ สานักงานสาธารณสขุ จังหวัดต่าง ๆ สามารถสรปุ ตัวเลขค่าปรับทั้งหมดและสว่ นแบ่งเงินสินบนรางวลั ดังนี้106 (๑) ปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ค่าปรับท้ังหมด ๔๙๒,๐๐๐ บาท คิดเป็นเงินสินบน รางวัล ๑๑๓,๗๐๐ บาท (รอ้ ยละ ๒๓) (๒) ปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ค่าปรับทั้งหมด ๕๔๓,๐๐๐ บาท คิดเป็นเงินสินบน รางวัล ๒๓,๔๐๐ บาท (ร้อยละ ๔) (๓) ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ค่าปรับท้ังหมด ๑,๐๐๙,๐๐๐ บาท คิดเป็นเงิน สินบนรางวลั ๒๒๖,๘๐๐๐ บาท (ร้อยละ ๒๒) (๔) ปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ค่าปรับทั้งหมด ๒,๒๓๙,๐๐๐ บาท คิดเป็นเงิน สินบนรางวลั ๑,๐๕๗,๕๐๐๐ บาท (ร้อยละ ๔๗) (๕) ปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ค่าปรับทั้งหมด ๑,๙๐๕,๐๐๐ บาท คิดเป็นเงิน สนิ บนรางวัล ๘๖๙,๔๐๐ บาท (รอ้ ยละ ๔๖) 106 The matter, ดแู บง่ ส่วน” “เงนิ สนิ บนรางวลั ” จากคา่ ปรับหา้ มโฆษณาเครือ่ งดื่มแอลกอฮอล์ ประเดน็ ที่คนคาใจ, สบื คน้ เมอื่ วันท่ี 30 มถิ ุนายน 2564, จาก https://thematter.co/quick-bite/reward-alcohol-ads-act/148623
97 (๖) ปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ค่าปรับท้ังหมด ๑,๖๙๗,๐๐๐ บาท คิดเป็นเงิน สินบนรางวัล ๗๐๓,๙๕๐ บาท (ร้อยละ ๔๑) (๗) ปีงบประมาณ ๒๕๖๒ ค่าปรับทั้งหมด ๒,๑๐๕,๐๐๑ บาท คิดเป็นเงิน สินบนรางวัล ๑,๐๑๔,๔๕๐ บาท (รอ้ ยละ ๔๘) (๘) ปีงบประมาณ ๒๕๖๓ ค่าปรับทั้งหมด ๑๑,๘๒๖,๘๐๐ บาท คิดเป็นเงิน สินบนรางวลั ๕,๑๙๖,๔๐๑ บาท (รอ้ ยละ ๔๔) ภาพที่ ๑๒ แสดงสัดส่วนเงนิ สนิ บนรางวลั จากคา่ ปรบั กรณีหา้ มโฆษณาเหล้าเบียร์ ภาพที่ ๑๒ แสดงสัดสว่ นเงินสนิ บนรางวัลจากค่าปรบั กรณีหา้ มโฆษณาเหลา้ เบียร์ ท่มี า : สานักขา่ วออนไลน์เดอะแมทเทอร์
98 ดังจะเห็นได้ว่าสัดส่วนของเงินสินบนรางวัลดังกล่าวมีจานวนมาก และในแต่ละปี มีการเก็บเพ่ิมข้ึนทุก ๆ ปี นอกเหนือจากประเด็นในเชิงการขัดกันของผลประโยชน์ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ ท่ีบังคับใช้กฎหมายในข้างต้นแล้ว จะเห็นได้ว่าการกาหนดให้มีสินบนรางวัลน้ัน ยังมีปัญหาในเชิงการคลัง ของประเทศ เพราะเงินสินบนรางวัลนั้น จะถูกกันไว้ไม่ต้องส่งคลังและจะเก็บเอาไว้ในบัญชีธนาคารเป็นเงิน นอกงบประมาณของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งแทนท่ีจะได้นาเงินมาใช้เพื่อดาเนินบริการสาธารณะอื่น หรือใช้เพ่ือ วัตถุประสงค์เฉพาะในการชดเชยความเสียหายจากการฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เงินจานวน ดังกล่าวกลับถูกกันเอาไว้และไม่ได้ใช้ประโยชน์ใด ๆ การท่ีกฎหมายกาหนดให้มีสินบนรางวัลจึงอาจจะไม่ เหมาะสมและควรยกเลิกการใหส้ นิ บนรางวลั เสยี จากการศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการเกี่ยวกับปัญหาการประกอบกิจการผลิต เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ท้ังในระดับนโยบายและ การบังคบั ใชก้ ฎหมายของเจ้าหน้าท่ขี องรฐั นัน้ คณะอนุกรรมาธกิ ารสรุปได้ ดังนี้ (๑) ระดับนโยบาย พระราชบัญญัติ ควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นกฎหมาย สาคัญท่ีเข้ามากากับดูแลกิจกรรมการจาหน่าย การโฆษณา การขาย และควบคุมลักษณะของฉลากบรรจุภัณฑ์ โดยมีประเด็นดังตอ่ ไปน้ี ประการแรก ปัญหาการควบคุมโฆษณาเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ รัฐไทยมีนโยบาย การควบคุมโฆษณาเคร่ืองดืม่ แอลกอฮอล์ดังปรากฏอยตู่ ามพระราชบัญญตั ิฉบับนี้ อย่างไรก็ตาม กลไกการควบคุม ฉบับดังกล่าวน้ัน ได้สร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบกิจการผลิตและจาหน่ายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์รวมถึงประชาชน ท่ัวไป เนอ่ื งจากกฎหมายไม่ได้กาหนดขอบเขตไว้โดยชดั เจนว่าการโฆษณาเครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอลน์ ั้น ครอบคลุมถึง ลักษณะใดบ้าง และวิธีการหรือสถานที่โฆษณานั้นควรจะเป็นอย่างไร ทาให้ปัจจุบันการโฆษณาไม่ว่าจะกระทา โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์ หรือแม้แต่เป็นการบอกต่อผ่านทางสังคมออนไลน์ ก็ถูกนับว่าเป็นการโฆษณาเครื่องด่ืม แอลกอฮอล์ ซง่ึ กฎหมายห้ามมใิ ห้กระทาการโฆษณา ในทางกลับกนั การโฆษณาเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์นั้น ควรเน้น ไปที่ช่องทางของการควบคุมเคร่ืองดื่มในลักษณะที่กระทบต่อประชาชนเป็นส่วนใหญ่ เช่น ผ่านทางสื่อวิทยุ โทรทัศน์ และป้ายโฆษณา เป็นต้น ซ่ึงสามารถเข้าถึงประชาชนได้เป็นอย่างรายการทั่วไป และเม่ือได้สอบถาม เป้าหมายของการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการโฆษณาน้ัน ผู้แทนสานักงานคณะกรรมการควบคุม เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ได้ชี้แจงว่า “วัตถุประสงค์ดังกล่าวน้ันไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกัน หรือสร้างอุปสรรค ในเรื่องของการเข้าถึงเครอื่ งดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด แต่มุ่งเพ่ือจะมิให้มีการแข่งขันกันระหว่างรายเล็กรายใหญ่ ให้เกิดการเอาเปรียบซ่ึงกันและกัน” ซึ่งคาชี้แจงดังกล่าวไม่น่าใช่วัตถุประสงค์ที่ถูกต้อง เพราะหากพิจารณาถึง เจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้แล้ว มีวัตถุประสงค์ท่ีต้องการจะสร้างอุปสรรคในการเข้าถึงเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ของเด็กและเยาวชน ประกอบกับเมื่อพิจารณาแนวทางของการกากับดูแลการโฆษณาเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ของ ต่างประเทศ ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ดีนั้น จะเห็นได้ว่าในต่างประเทศใช้กลไกท่ีมีลักษณะเป็นการปล่อยให้เอกชน กากับดูแลกันเองผ่านมาตรฐานวิชาชีพการโฆษณา และหากจะมีกฎหมายเข้ามากาหนดในเร่ืองของการควบคุม การโฆษณานั้น กฎหมายจะมุ่งเน้นไปที่การควบคุมการโฆษณาท่ีจะเกิดกับเด็กเป็นหลัก โดยการห้ามไม่ให้มี การโฆษณาผ่านสื่อสาธารณะต่าง ๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ แผ่นปลิว ป้ายโฆษณา และใบแสดงสินค้า เป็นต้น โดยมีให้รวมถงึ การใชส้ ื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ กฎหมายมุ่งเข้ามาควบคุมวิธีการโฆษณาว่าจะต้องไม่ใช้บคุ คล
99 ท่ีสามารถสร้างความสนใจ หรือเป็นเป้าหมายให้กับเด็กและเยาวชน เช่น นักรอ้ ง นักดนตรี และนักกีฬา เป็นต้น ซึ่งการที่กฎหมายควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ของประเทศไทยน้ัน ไม่ได้มีหลักเกณฑ์วิธีการโฆษณาท่ีชัดเจน ทาให้เกิดปัญหา เนื่องจากบทลงโทษตามกฎหมายที่เก่ียวกับการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น้ัน มีอัตราโทษสูง และรวมถึงมีการใช้โทษทางอาญากับผู้กระทาความผิด ซ่ึงเม่ือเปรียบเทียบกับอัตราโทษตามกฎหมายในเร่ืองอื่น ๆ แล้วอัตราโทษของการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น กลับมีอัตราโทษท่ีสูงมาก โดยผู้ชี้แจงจากสานักงาน คณะกรรมการควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ได้ให้ข้อสังเกตว่า เป็นไปเพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ ใชก้ ารโฆษณาเพ่อื เอารดั เอาเปรียบกบั ผ้ปู ระกอบการขนาดย่อม ประการที่สอง ปัญหาการควบคุมวันจาหน่ายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ โดยกฎหมายใดห้ามจาหน่ายเครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล์ในวันสาคัญทางศาสนาพุทธ โดยไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าเหตุใด ถึงใช้วันทางศาสนามาเป็นวันควบคุมมิให้มีการจาหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในทางตรงกันข้าม วัตถุประสงค์ ของการควบคุมวันจาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ควรจะต้องเป็นการกาหนดควบคมุ โดยมีพยานหลักฐานในทาง สถติ ริ ะบุได้ว่า วันดังกล่าวมีนัยสาคญั อยา่ งไร ทจ่ี ะทาให้เกิดอนั ตรายทเ่ี กิดจากการดม่ื เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ประการท่ีสาม ปัญหาการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ซ่ึงทาให้เกิดข้อจากัดในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่ และผู้ประกอบการขนาดย่อม เน่ืองจาก ผปู้ ระกอบการรายใหญน่ ้ัน มชี ่องทางการจัดจาหน่ายท่หี ลากหลายมากกวา่ ผูป้ ระกอบการขนาดยอ่ มผ่านทางหนา้ ร้าน และเครือข่ายต่าง ๆ ในทางตรงกันข้าม ผู้ประกอบการขนาดย่อมได้เปรียบในเร่ืองของการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เพื่อช่วยในเร่ืองการขยายขอบเขตตลาดออกไป การที่หน่วยงานของรัฐนั้น กาหนดกฎหมายลักษณะดังกล่าวออกมาน้ัน ทาให้เกิดอุปสรรคต่อการประกอบกิจการของผู้ประกอบการขนาดย่อม อกี ท้ัง หลังจากการที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 และรัฐบาลมีนโยบายเว้นระยะห่างทาง สังคมเพ่ือลดการติดต่อของโรคโควิด-19 และได้สั่งให้มีการห้ามจาหน่ายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ณ ร้านค้าและ สถานที่จาหน่าย ทาให้เกิดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ลดลง เนื่องจาก ไม่สามารถใชช้ ่องทางการจาหน่ายผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ หากพิจารณาวตั ถุประสงคข์ องการควบคมุ เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ผ่านทางการห้ามจาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น มีวัตถุประสงค์เพ่ือสร้าง อุปสรรคในการเข้าถึงเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างย่ิงกับ เด็กและเยาวชน รัฐบาลอาจจะใช้วิธีการอื่น ในการจัดการการเข้าถึงเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ได้แทนการกาหนดห้ามขายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ผ่านทาง อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การกาหนดให้จาเป็นต้องให้เลขประชาชนในการซ้ือขายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ เพ่ือตรวจสอบว่า บคุ คลดังกล่าวมอี ายุถึงเกณฑ์ทสี่ ามารถด่ืมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ได้หรือไม่ เปน็ ต้น ประการที่สี่ ปญั หาการควบคมุ ฉลากเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ กฎหมายได้กาหนดว่า การใช้ส่ังเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์น้ัน จะต้องไม่มีการเป็นลักษณะที่เชิญชวนให้เกิดการอยากด่ืม ซึ่งรวมถึงเรอื่ งของ การห้ามใช้ภาพการ์ตูนประกอบเป็นฉลากเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ปัญหาดังกล่าวนั้นทาให้เกิดลักษณะเป็นการ จากัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ประกอบกิจการในการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสรา้ งอัตลักษณ์ให้กับสินค้าและบริการ โดยเมื่อพิจารณาจากเจตนารมณ์ของกฎหมายแล้ว กฎหมายมีเจตนารมณ์ท่ีต้องการป้องกันมิให้เป็นการชักชวน ให้เด็กและเยาวชน สนใจและหันมาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวที่ต้องการมุ่งใช้กับ เด็กและเยาวชนน้ัน กฎหมายอาจใช้วิธีการอื่นแทนท่ีการป้องกันโดยการโฆษณา เช่น การควบคุมมิให้เด็กและ เยาวชนเข้าถงึ เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ดว้ ยการหา้ มจาหน่ายเคร่อื งดมื่ แอลกอฮอลใ์ ห้กับเด็กและเยาวชน เปน็ ตน้
100 ประการที่ห้า ปัญหาการจากัดสถานท่ีห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กฎหมายได้กาหนดสถานท่ีห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เอาไว้หลายสถานที่ ซ่ึงบางสถานที่น้ันก็มีความ เหมาะสม โดยพจิ ารณาจากภยันตรายทีจ่ ะเกดิ ขึ้นจากการดม่ื เคร่ืองดม่ื แอลกอฮอล์ภายในพืน้ ทีด่ ังกล่าว อย่างไรกต็ าม เงื่อนไขดังกล่าวนั้นก็จะมีข้อที่ไม่เหมาะสมอยู่บางประการ เช่น การกาหนดห้ามด่ืมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ในศาสนสถาน เว้นแต่เป็นเรื่องของการประกอบพิธีกรรม เป็นต้น ซ่ึงเม่ือพิจารณาจากบริบทของประเทศไทย ทเ่ี ป็นสังคมที่มกี ารสังสรรค์เฉลิมฉลอง และมวี ัดเป็นศูนย์กลางทางศาสนา และเป็นศูนย์กลางของชุมชน กิจกรรม และงานร่ืนเริงต่าง ๆ ย่อมเกิดข้ึนในวัดเป็นจานวนมาก การกาหนดให้วัดเป็นสถานท่ีห้ามบริโภคเครื่องด่ืม แอลกอฮอล์ จึงอาจขัดกับสภาพความเป็นจริงของสังคม ประกอบกับเม่ือพิจารณาในเชิงสถิติแล้ว กิจกรรมและ งานรื่นเริงท้ังหลายที่มีศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น มักจะมีขึ้นด่ืมแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ซึ่งเมื่อ เปรียบเทียบกันแล้ว วิธีการซ่ึงกฎหมายกาหนดเอาไว้ โดยการห้ามไม่ให้บริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์กับวิธีการ รณรงค์ แนวโน้มการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายใต้พื้นที่ควบคุมจากการรณรงค์น้ัน มีผลสัมฤทธิ์ท่ีมากกว่า กันดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานท่ีซึ่งห้ามมิให้บริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ด้วยเหตุว่าการใช้กลไกทางสังคม เป็นการกดดันนั้น จะเกิดข้ึนจากสภาพแวดล้อมโดยรอบท่ีบุคคลส่วนใหญ่นั้น มิได้ยอมรับการด่ืมเครื่องด่ืม แอลกอฮอล์ภายใต้บริบทของการรณรงค์ ตรงกันข้ามกับวิถีการบังคับใช้กฎหมายที่จะมีผลสาเร็จก็ต่อเมื่อมีการ แสดงตัวของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ดังน้ัน การใช้กลไกของกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพ่ือห้ามมิให้มีการ บริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ในพื้นที่ควบคุม ควรคานึงถึงลักษณะของการบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ จะทาให้ เกดิ ภยันตรายกบั ผู้ด่มื เคร่อื งด่ืมแอลกอฮอลไ์ ด้หรือไม่ ประการที่หก ปัญหาการจากัดสถานที่ห้ามจาหน่ายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ได้มี การกาหนดหลักเกณฑ์ เร่ือง การห้ามจาหน่ายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานศึกษา ซึ่งทาให้ เกิดปัญหาในการตีความว่าบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษานั้น ครอบคลุมพื้นท่ีเท่าใดและสถานศึกษานั้นครอบคุลม ถึงสถานศึกษาระดับใด เพราะเนื่องจากว่ากฎหมายไม่ได้กาหนดรายละเอียดของเรื่องดังกล่าวเอาไว้ ทาให้ ผู้ประกอบกจิ การได้รับผลกระทบโดยไม่สามารถแน่ใจได้วา่ พื้นท่ีของตนนั้น อยูภ่ ายใต้บังคับของกฎหมายหรือไม่ อีกท้ัง หากพิจารณาถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายแล้ว หากกฎหมายมีวัตถุประสงค์เพ่ือป้องกันมิให้เด็กและ เยาวชนเข้าถึงเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์น้ัน ควรจะควบคุมหาวิธีการห้ามจาหน่ายมากกว่า การควบคุมสถานที่ ประกอบกิจการซ่ึงมีลักษณะเป็นการสร้างผลกระทบให้กับบุคคลเป็นการทั่วไป โดยไม่จากัดว่าบุคคลนั้น จะเป็น เดก็ และเยาวชน จากการศึกษาของคณะอนุกรรมาธกิ ารพบว่า ภายหลังการกาหนดเงอื่ นไขดงั กลา่ วนั้น ในจังหวัด ทมี่ สี ถานศกึ ษาตง้ั อยหู่ นาแน่น ผ้ปู ระกอบการอาจจะไดร้ ับผลกระทบเปน็ วงกวา้ ง ประการท่ีเจ็ด ปัญหาการให้อานาจดุลพินิจแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกกฎหมาย รับรอง เน่ืองจากพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นบทบัญญัติท่ีให้อานาจดุลพินิจ แก่เจ้าหน้าท่ีของรัฐ ในการออกกฎหมายลาดับรองดังจะเห็นได้จากบทบัญญัติในหลายมาตราท่ีให้อานาจแก่ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้รักษาการตามกฎหมายฉบับน้ี มีอานาจในการออกประกาศกาหนดเงื่อนไขและวิธีการ ประกอบกิจการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตาม บทบัญญัติ หลายมาตราท่ีให้อานาจแก่นายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้กาหนดกรอบการใช้ดุลพินิจเอาไว้อย่างชัดเจน ทาให้ นายกรัฐมนตรีภายใต้ความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์มีอานาจที่จะกาหนด เนื้อความของกฎหมายลักษณะเช่นใดก็ได้ โดยไม่ต้องคานึงว่ากฎหมายลาดับรองดังกล่าวน้ัน จะเกินไปกว่า
101 เจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่ ทาให้ในหลายกรณีกฎหมายท่ีออกมาน้ันมีลักษณะเป็นการจากัดสิทธิและ เสรีภาพของประชาชน โดยที่ประชาชนไม่สามารถคาดหมายได้ว่าสิทธิเสรีภาพของประชาชนนั้น จะถูกจากัดไว้ ในลักษณะใด ตัวอย่างเช่น กรณีของการกาหนดห้ามมิให้ขายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้กาหนดว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐจะใช้ดุลพินิจในลักษณะใด ภายใต้เง่ือนไขหรือสถานการณ์ แบบใด ผลท่ีตามมาคอื เจ้าหนา้ ที่ของรัฐจึงมีอสิ ระท่จี ะกาหนดหลักเกณฑ์ของกฎหมายระดับรองไวแ้ บบใดกไ็ ด้ ประการที่แปด ปัญหาการไม่มีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจ อุตสาหกรรมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ในปัจจุบันนั้นกฎหมายยังไม่ได้ให้พื้นที่แก่ผู้แทน ของผู้ประกอบกิจการผลิต เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างย่ิง ผู้ประกอบการขนาดย่อม ทาให้ในการออกกฎหมายลาดับรอง ซ่ึงจาเป็นต้องพินิจในการตัดสินใจขาดมุมมอง หรือทัศนะของผู้มีส่วนเก่ียวข้องอย่างรอบด้าน และทาให้นโยบาย การควบคุมเครือ่ งด่มื แอลกอฮอลข์ าดการมสี ว่ นร่วมจากทกุ ระดับ ประการท่ีเก้า ปัญหาความซ้าซ้อนกันของบทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้กับ กฎหมายฉบับอื่น ลกั ษณะของการซ้าซ้อนกนั ของบทบญั ญัติของกฎหมายฉบับน้ี และกฎหมายฉบับอื่นน้ันเกดิ ข้ึน ท้ังในแงข่ องความซ้าซ้อนในเชิงของตัวอย่างและความซ้าซ้อนในแงข่ องเจตนารมณ์ของกฎหมาย ผลที่ตามมาก็ คือ เกิดความไม่แน่นอนว่า ประชาชนจาเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับใด โดยเฉพาะอย่างย่ิงกรณีท่ีเกิดการ ซา้ ซ้อนกับกฎหมายทวั่ ไปเชน่ ประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายท่เี กี่ยวกับเดก็ และเยาวชน ประการที่สิบ ปัญหาประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ โดยตลอดระยะเวลาที่กฎหมายควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์มีผลใช้บังคับ จานวนสัดส่วนของ การกระทาความผิดในแต่ละฐานมีจานวนไม่มาก ซึ่งอาจเกิดจากข้อจากัดในการบังคับใช้กฎหมายให้มี ประสิทธิภาพและสม่าเสมอกันตลอดท้ังประเทศ รวมแล้วมีคดีมาสู่สานักงานคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์ ท้ังสิ้น ๒,๐๒๐ คดี โดยส่วนใหญ่ความผิดท่ีถูกลงโทษจะเป็นกรณีท่ีเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติ ที่กาหนดเกี่ยวกับการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตาม มาตรา ๓๒ รวมจานวน ๑,๓๔๖ กรณี เน่ืองมาจาก สานักงานคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์เปิดช่องทางให้เกิดการร้องเรียนและกล่าวโทษ และด้วย ดว้ ยอัตราโทษท่ีสงู มาก ทาใหใ้ นความเปน็ จริงประชาชนสว่ นใหญ่เลอื กทจ่ี ะชาระค่าปรับแทนการดาเนินคดี ประการท่ีสิบเอ็ด ปัญหานโยบายโดยรวมเก่ียวกับการควบคุมเคร่ืองดื่ม แอลกอฮอล์ โดยนโยบายการควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ของประเทศไทยนั้น มุ่งไปท่ีการควบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพและความสงบเรียบร้อยของประชาชน โดยไม่ได้ให้ความสาคัญหรือ พิจารณาบริบทของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเท่ียว ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สาคัญท่ีสร้างความมั่งคั่ง ให้กับประเทศ การดาเนินนโยบายโดยไม่คานึงถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเท่ียวน้ัน ส่งผล กระทบอย่างยิ่งเม่ือมีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ในลักษณะที่เป็นการสร้างภาระให้กับ ประชาชนเกินสมควร เพราะผู้ประกอบกิจการจะมีต้นทุนเพิ่มข้ึนจากการต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และมีรายได้ ลดลง เนื่องจากต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อการจ้างแรงงานโดยตรง นอกจากน้ี อุตสาหกรรม การท่องเที่ยวในหลายพ้ืนท่ีมีการพ่ึงพิงการประกอบกิจการที่มีการจาหน่ายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ การบังคับใช้ กฎหมายและนโยบายของรัฐที่เก่ียวกับการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ โดยมองเฉพาะในมิติของสุขภาพและ ความสงบเรยี บรอ้ ยน้ัน อาจกลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับประเทศในระยะยาว
102 (๒) ระดับการบงั คบั ใชก้ ฎหมายของเจา้ หน้าที่ของรัฐ ในส่วนของปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีเกิดจาก บทบัญญตั ิ พระราชบัญญตั ิควบคมุ เครื่องดม่ื แอลกอฮอล์ มดี ังนี้ ประการแรก ปัญหาการตีความของเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติ มาตรา ๓๒ ว่ามี วัตถุประสงค์มุ่งหมายในการใช้ในลักษณะใด เนื่องจากข้อความที่บัญญัติไว้ในกฎหมายระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใด โฆษณาเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้าง สรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นด่ืมโดยตรงหรือโดยอ้อม” เจตนารมณ์ของกฎหมายมีวัตถุประสงค์ คือ การห้าม โฆษณาเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์เด็ดขาด หรือมีเจตนาห้ามการโฆษณาเคร่ืองดื่ม โดยอวดอ้างสรรพคุณ เน่ืองจาก แนวทางลักษณะของบทบญั ญัตินั้น ยังขาดความชดั เจนและทาความไม่ชัดเจนต่อผู้ประกอบกิจการในการโฆษณา แบบใดจงึ จะสอดคลอ้ งกับแนวทางของกฎหมายควบคมุ เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ประการที่สอง ปัญหาการตีความผู้ตกอยู่ภายใต้บงั คบั ของบทบัญญัติ มาตรา ๓๒ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้กาหนดว่าการโฆษณาน้ันจะต้องทาโดยบุคคลใด ผลท่ีเกิดขนึ้ ตามมานั้นไม่ว่าบุคคลน้ันจะ เป็นผู้ประกอบกิจการผลิตหรือจาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไปหากมีการ โฆษณาหรือ มีการชักชวนให้ด่ืมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ โดยไม่ว่าจะมีวัตถุประสงค์เพ่ือประกาศหรือไม่ก็ตามก็มีความผิด ตามกฎหมายฉบบั น้ีทง้ั หมด ประการท่ีสาม ปัญหาการใช้เงินสินบนรางวัล ซง่ึ เป็นกลไกหนึ่งท่ีหน่วยงานของ รฐั นามาใช้เพ่ือสร้างแรงจูงใจให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายและตอบแทนพลเมืองดี หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่าเสียง ผ่านไปที่ปฏิบัติตามหน้าท่ีที่กฎหมายกาหนด อย่างไรก็ตาม การใช้เราสินบนรางวัลนั้นอาจทาให้เกิดปัญหา เร่ือง การขัดกันของผลประโยชน์ เน่ืองจากการที่เจ้าหน้าท่ีสามารถบังคับใช้กฎหมายได้มากย่อมหมายความว่า เจ้าหน้าที่อาจจะได้รับสินบนรางวัลตอบแทนเป็นจานวนมาก ซ่ึงจะเห็นได้ว่าสัดส่วนของการลงโทษตามกฎหมายน้ัน ในช่วงตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓ มีการบังคับใช้กฎหมายปรับเงินเพ่ิมมากขึ้นและทาให้จานวนเงินสินบนรางวัล เพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ การนาเงินสินบนรางวัลมาใช้เป็นกลไกตามกฎหมายมีปัญหาในทางการคลังของ ประเทศเข้ามาเก่ียวข้อง เน่ืองจากเงินสินบนรางวัลนั้นเป็นเงินนอกงบประมาณทาให้เงินไม่สามารถนาไปใช้ ประโยชนเ์ พ่ือวัตถุประสงค์อ่นื ได้ ดังนั้น จากการศึกษาของอนุกรรมาธิการพบว่า ปัญหาเก่ียวกับธุรกิจ อุตสาหกรรมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์มีหลายประการด้วยกันท้ังในระดับนโยบายและการบังคับใช้กฎหมายของ เจ้าหน้าท่ี ซึ่งปัญหาในลักษณะดังกล่าวกลายเป็นอุปสรรค และฉุดร้ังการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมเคร่ืองดื่ม แอลกอฮอลข์ องประเทศ ซึง่ ในการแก้ไขปญั หาดังกลา่ วจะไดก้ ล่าวต่อไปในบทถัดไป
103 บทที่ ๔ บทสรุปและขอ้ สงั เกตของคณะอนกุ รรมาธกิ าร ๔.๑ บทสรปุ การศึกษาในครั้งน้ีเป็นการศึกษาพัฒนาธรุ กิจอุตสาหกรรมสุรา โดยมีวัตถุประสงค์ในการศึกษาคร้ังนี้ เพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหาต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตสุราในประเทศไทย และวิเคราะห์และจัดทา แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตสุราในประเทศไทย ซ่ึงจากการศึกษา พบว่าอุปสรรคสาคัญของ การพัฒนาอุตสาหกรรมสุราเกิดมาจากกฎระเบียบของภาครัฐ เน่ืองจากเดิมธุรกิจอุตสาหกรรมสุราเป็นธุรกิจ ควบคุมโดยรัฐ และแม้จะได้เปิดเสรีให้สามารถประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมสุราได้แล้วก็ตาม แต่เงื่อนไขทาง กฎหมายหลายประการน้ัน ไม่เอ้ืออานวยให้ผู้ประกอบกิจการสามารถดาเนินการได้ โดยจากการศึกษาของ คณะอนกุ รรมาธิการสามารถสรปุ ผลการศึกษาได้ ดังน้ี ๔.๑ ธุรกิจอุตสาหกรรมสุราคิดปริมาณการบริโภคแล้วมีการบริโภคประมาณ ร้อยละ ๒๘ แต่หาก พิจารณาในเชิงมูลค่าอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีมูลค่าประมาณ ร้อยละ ๖๕ ของมูลค่าทั้งหมดของ อุตสาหกรรมเครอ่ื งดมื่ ไทย แมว้ ่าในบางช่วงเวลาอุตสาหกรรมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์อาจเติบต่าหรือถดถอยบ้าง เนื่องมาจากนโยบายของรัฐและการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากนโยบายภาษี สรรพสามิตที่เปลี่ยนแปลงใหม่ในปี ๒๕๖๐ ซง่ึ ทาให้อัตราการเติบโตลดลง นอกจากนี้ ในช่วงปี ๒๕๖๓ ถึงต้นปี ๒๕๖๔ ผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทาให้การเติบโตของธุรกิจอุตสาหกรรม เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ลดลงเน่ืองมาจากรัฐมีนโยบายควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยไม่ให้ผู้ประกอบ กิจการขายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการม่ัวสุ่มและการระบาดของโรค ตลอดจนถึงรัฐประการควบคุม มใิ หม้ ีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลอ์ อนไลน์ย่ิงซา้ เตมิ ปญั หาการเตบิ โตของธุรกจิ อุตสาหกรรมสุรา ๔.๒ จานวนผู้ประกอบกิจการผลิตเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทยนั้น มีจานวน ๑,๙๐๑ ราย (ตารางที่ ๑, น. ๒๔) แต่เม่ือพิจารณาโครงสร้างตลาดเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์นั้นมีลักษณะเป็นตลาดผู้ขายน้อยราย โดยส่วนแบ่งตลาดจะตกอยู่กับผู้ประกอบกิจการรายใหญ่เพียงไม่ก่ีราย ซ่ึงผลของการกระจุกตัวของส่วนแบ่ง ตลาดในอุตสาหกรรมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์นั้น ทาให้ผู้ประกอบกิจการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ อาจใชอ้ านาจเหนอื ตลาด เพ่อื จากดั การแขง่ ขนั ในตลาดเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลใ์ นลกั ษณะตา่ ง ๆ ได้ ๔.๓ ประเทศไทยยังไม่สามารถแสวงหาผลประโยชน์จากธรุ กิจอตุ สาหกรรมเคร่อื งด่ืมแอลกอฮอลไ์ ด้ อย่างเพียงพอท้ัง ๆ ท่ีธุรกิจอุตสาหกรรมเครอื่ งด่มื แอลกอฮอล์น้นั สร้างมลู คา่ ใหก้ บั ธุรกิจเกษตรในฐานะวัตถุดิบ ของการผลิตเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ แต่เน่ืองจากจานวนผู้ผลิตเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ไม่ได้มีจานวนมากทาให้ ความต้องการวตั ถุดบิ ทางการเกษตรมีอย่อู ยา่ งจากัด ๔.๔ ในด้านการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากเครือ่ งดื่มแอลกอฮอล์นั้น สร้างรายได้ให้กับรัฐบาลไทย มากเป็น อันดบั ๓ และอันดบั ๕ ลองมาจากภาษีน้ามนั และผลิตภณั ฑน์ า้ มนั และภาษรี ถยนต์ ๔.๕ การจัดเก็บภาษเี สรมิ จากเครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล์ เนื่องจากเคร่อื งด่มื แอลกอฮอลเ์ ป็นสินค้าทีไ่ ม่ดี ต่อสุขภาพ โดยเอาชดเชยให้บางกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตาม กิจการเฉพาะบางอย่างน้ันได้อาศัยแหล่งรายได้จากภาษีเสริมจากภาษีบาป (รวมถึง ภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) เป็นหลักเพื่อดาเนินการ เช่น กองทุน ส.ส.ส. เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า นับต้ังแต่ปี
104 ๒๕๔๕ เป็นต้น มารายได้ของกองทุน ส.ส.ส. นั้น เติบโตข้ึนอย่างต่อเนื่องจากรายได้จากภาษีบาปสวนทางกับ วตั ถปุ ระสงค์ของกองทุน ส.ส.ส. ท่ีตอ้ งการรณรงคเ์ พ่อื ใหเ้ กดิ ความตระหนกั เกย่ี วกบั ผลกระทบของสขุ ภาพ ๔.๖ เมื่อพิจารณาสถิติในปี ๒๕๕๑ ปี ๒๕๕๗ และปี ๒๕๖๐ (ตารางที่ ๑๒, น. ๔๒) จะเห็นได้ว่า แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์พฤติกรรมการบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ในระยะเวลาช่วง ๖ ปี อัตราความชุกของเด็กและเยาวชนที่ดื่มเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง ๑๒ เดือนท่ีผ่านมา ไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสาคัญ ในทางตรงกันข้ามนัน้ ในบางช่วงกลบั มอี ตั ราความชกุ เพิ่มข้นึ ๔.๗ ผู้ประกอบกิจการผลิตเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์นั้นประสบปัญหาจากนโยบายและการบังคับใช้ กฎหมายของเจ้าหน้าท่ขี องรฐั โดยสามรถแบ่งเป็นประเด็น ดงั น้ี ๑) ปัญหาระดับนโยบายน้นั สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น ๓ ประการ ดังน้ี (๑) ปัญหาเงื่อนไขการขอใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซ่ึงกาหนด เง่ือนไขการขอใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งกาหนดเง่ือนไขในเรื่องของทุนจดทะเบียนนิติบุคคล หรือกาหนด เงื่อนไขในการผลิตขั้นต่าเอาไว้ ซ่ึงสร้างอุปสรรคให้กับผู้ประกอบกิจการในการเข้าสู่ตลาดการผลิตเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์ของผ้ปู ระกอบการขนาดย่อม ซ่ึงในต่างประเทศนั้นกฎหมายไมไ่ ด้กาหนดเง่อื นไขในลักษณะข้างต้น เทา่ ใดนัก (๒) ปัญหาการขอใบอนุญาตประกอบกิจการแล้วผู้ประกอบกิจการผลิตเครื่องด่ืม แอลกอฮอล์ยังประสบปัญหาในเรื่องความไม่สอดคล้องกันระหว่างกฎหมายโรงงานกับกฎหมายสรรพสามิต กล่าวคือ ตามกฎหมายโรงงานในปัจจุบันน้ันได้แก้ไขนิยามความหมายของโรงงานโดยขยายกาลังแรงม้า ตั้งแต่ ๕๐ แรงมา้ ข้นึ ไป หรอื ใช้กาลังคนตั้งแต่ ๕๐ แรงคนขน้ึ ไป จงึ จะมีสถานะเป็นโรงงานตามกฎหมายโรงงาน แต่ในทางกฎหมายสรรพสามิตน้ันกลับกาหนดว่าโรงงานผลิตสุราชุมชน ซ่ึงเป็นประเภทของโรงงานสุรา ขนาดเล็กนัน้ จะต้องใช้เคร่ืองจกั ร ซ่ึงมแี รงมา้ ไมเ่ กิน ๕ แรงมา้ และไม่เกนิ ๕ แรงคน (๓) ปัญหาการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสุราท่ีมีความเหล่ือมล้ากันระหว่างเครื่องด่ื ม แอลกอฮอลแ์ ตล่ ะประเภท ซง่ึ มีความแตกต่างกนั แม้ว่าจะเป็นเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลป์ ระเภทเดียวกนั ก็ตาม ๒) ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเกิดจากการตีความหรือการใช้ดุลพินิจของ เจ้าหน้าท่ี โดยมปี ัญหาดงั นี้ (๑) ปัญหาการตีความวัตถุดิบในการผลิตสุรากลั่นชุมชน ซึ่งเจ้าหน้าท่ีตีความว่า วัตถุดิบที่ จะนามาใช้ในการผลิตสุรากล่ันชุมชน จะต้องเป็นวัตถุดิบจาพวกข้าวหรือแป้ง หรือผลไม้ หรือน้าผลไม้หรือ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอ่ืน ๆ โดยเจ้าหน้าท่ีตีความอย่างแคบว่าวัตถุดิบประเภทผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ไม่รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการแปรรูปแล้วอย่างเช่นกากน้าตาล ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักอย่างหนึ่งท่ีนามาใช้ในการ ผลิตสรุ ากลัน่ ชนิดสุราขาว (๒) ปัญหาเรื่องขนาดบรรจุภัณฑ์ ซ่ึงเจ้าหน้าท่ีตีความว่า ขนาดบรรจุภัณฑ์ต้องสอดคล้อง กับประเภทของอากรแสตมป์ปิดผนึกสุราที่มีเพียง ๓ ประเภท ฉะน้ัน ขนาดบรรจุภัณฑ์ซึ่งไม่สอดคล้องกับ ประเภทของอากรแสตมป์ จึงไม่สามารถนามาใช้ได้ ซ่ึงปัญหาดังกล่าวทาให้ผู้ประกอบกิจการต้องดาเนินการ และใช้บรรจุภัณฑใ์ นลกั ษณะที่สอดคล้องกับอากรแสตมป์ปิดผนึกสุราทีม่ ีอยู่ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดย่อม ที่จาเป็นต้องนาขวดเบียร์ใช้แล้วมาเป็นบรรจุภัณฑ์สุราขาว ทว่า ในเวลาต่อมากรมสรรพสามิตก็ได้มีหนังสือ ขอความร่วมมือให้งดใชข้ วดเบยี รเ์ ก่าเพราะกังวลวา่ จะทาใหเ้ กิดความเขา้ ใจผิดได้
105 (๓) ปัญหาการไม่สามารถผลิตเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ให้มีแรงดีกรีอย่างอิสระ เนื่องจาก แรงดีกรขี องเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์จะต้องสอดคล้องกับแรงแอลกอฮอล์ที่กาหนดไวบ้ นอากรแสตมปป์ ิดผนึกสุรา เทา่ นัน้ (๔) ปญั หาเร่ืองการไมม่ ีแนวทางทีช่ ัดเจนระหว่างเจ้าหนา้ ท่ีผปู้ ฏบิ ตั ิงาน ซึ่งจากการประชุม คณะอนุกรรมาธิการพบว่า ในแต่ละพ้ืนท่ีและแต่ละภูมิภาคนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐมีแนวทางการปฏิบัติงาน ไม่เหมือนกนั ทั้ง ๆ ท่ีเป็นการบังคับใช้กฎหมายและระเบียบในลักษณะเดียวกัน เนือ่ งจากเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ได้ มีแนวทางการปฏบิ ตั ิงานท่ีชัดเจนเพียงพอ ๔.๘ ผู้ประกอบกิจการผลิตและจาหน่ายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ได้รับผลกระทบจากการประกอบ กิจการภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมเคร่อื งดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ท้ังในระดับนโยบายและการบังคับใช้ กฎหมายของเจ้าหนา้ ทข่ี องรัฐ โดยสามรถแบ่งเปน็ ประเดน็ ดังน้ี ๑) ปัญหาระดบั นโยบายนั้นสามารถแบง่ ไดเ้ ปน็ ๔ ประการ ดังนี้ (๑) ปัญหาการควบคุมการโฆษณาเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งในปัจจุบันกฎหมายไม่อนุญาต ให้มีการโฆษณาเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ในส่ือสาธารณะทุก ๆ ประเภท โดยอธิบายว่าไม่ต้องการให้เกิด การได้เปรียบเสียเปรียบกันระหว่างผู้ประกอบกิจการขนาดใหญ่กับผู้ประกอบกิจการขนาดย่อม ซึ่งมาตรการ ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบกิจการขนาดย่อมได้รับผลกระทบไม่สามารถโฆษณา หรือนาเสนอสินค้าในตลาด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ในขณะท่ีผู้ประกอบกิจการรายใหญ่สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อประชาสัมพันธ์ ต่อไปได้ นอกจากนี้ อัตราโทษที่ลงกับความผิดฐานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังมีอัตราโทษที่สูง เมื่อเปรียบเทียบกบั ความผิดฐานอืน่ ๆ ในกฎหมายเดยี วกัน (๒) ปัญหาการควบคุมวันจาหน่ายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ท่ีกาหนดให้ใช้วันสาคัญทาง พระพุทธศาสนาน้ัน เป็นการกาหนดเง่ือนไขการประกอบกิจการที่ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจ และสงั คมใดรองรบั (๓) ปญั หาการห้ามขายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ผา่ นทางอิเล็กทรอนิกส์ เน่ืองมาจากกฎหมาย ต้องการป้องกันมิให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลดผลกระทบอันเกิดจากเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ ซ่ึงผลของกฎหมายดังกล่าวทาให้ผู้ประกอบกิจการได้รับผลกระทบทาให้ไม่สามารถจาหน่าย เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซ่ึงจะเห็นได้ชัดเจนเม่ือพิจารณาผลกระทบท่ีเกิดข้ึน ในชว่ งการระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา่ 2019 ทรี่ ัฐบาลมนี โยบายเวน้ ระยะห่างทางสงั คม (๔) ปัญหาการควบคุมฉลากเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ซ่ึงเกิดจากกฎหมายกาหนดแนวทาง เก่ียวกับการใช้ฉลากเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ในลักษณะที่ไม่เป็นการเชิญชวนให้ด่ืมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ท้ัง ๆ ที่ ฉลากเครอื่ งด่ืมแอลกอฮอล์นน้ั เปน็ ส่ิงที่ช่วยสร้างอัตลักษณ์ให้กับเครื่องด่มื แอลกอฮอล์แตย่ ี่ห้อ (๕) ปัญ หาการจากัดสถานท่ีห้ ามบริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ในบางสถานที่ ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของสังคมไทย เช่น กรณีของวัดท่ีเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นต้น โดยมาตรการจากัดสถานที่ห้ามดื่มควรคานึงถึงความเส่ียงภัยท่ีจะเกิดข้ึนกับผู้ด่ืมมากกว่า ซึ่งท่ีผ่านมามาตรการ รณรงค์น้ันมีประสทิ ธภิ าพมากกว่าการห้ามโดยผลของกฎหมาย
106 การแก้ไขนโยบายของรัฐและบทบัญญัติของกฎหมายที่เก่ียวกับการประกอบกิจการเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์ ซ่ึงการแก้ไขคร้ังน้ีสอดคล้องกับแนวนโยบายตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถ ในการแข่งขันท่ีมุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติบนพื้นฐาน ของการต่อยอดอดีต โดยมองย้อนกลับไปหารากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และจุดเด่นทาง ทรัพยากรธรรมชาติท่ีหลากหลายของประเทศ ซึ่งสร้างความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศไทย107 และตามแนวนโยบายแห่งรัฐในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๗๗ วรรคหน่ึง ซ่ึงบัญญัติว่า “รัฐพึงจัดให้มีกฎหมายเพียงเท่าที่จาเป็น และยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจาเป็น หรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ หรือท่ีเป็นอุปสรรคต่อการดารงชีวิตหรือการประกอบอาชีพโดยไม่ชักช้า เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน และดาเนินการให้ประชาชนเข้าถึงตัวบทกฎหมายต่าง ๆ ได้โดยสะดวกและ สามารถเข้าใจกฎหมายได้ง่ายเพ่ือปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง” นอกจากนี้ การแก้ไขดังบทบัญญัติ ดังกล่าวยังเป็นการส่งเสริมเสรีภาพในการประกอบอาชีพของประชาชนซึ่งบัญญัติไว้ใน มาตรา ๔๐ แห่งรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ ดงั นั้น เพ่ือให้ตอบสนองต่อกรอบในการดาเนินนโยบายของรฐั บาล และส่งเสริมสิทธแิ ละเสรีภาพของ ประชาชน จึงสมควรทจี่ ะแก้ไขนโยบายและบทบญั ญัตขิ องกฎหมายตามขอ้ สังเกตของคณะอนุกรรมาธกิ าร ๔.๒ ข้อสงั เกต จากผลการศึกษา คณะอนุกรรมาธิการจึงมขี อ้ สังเกตต่อสภาพปัญหาท้ังหมดเกย่ี วกับการศึกษาพัฒนา ธุรกจิ อุตสาหกรรมสรุ า โดยจะแบ่งออกเป็น ๒ ประเด็นหลกั ดังนี้ (๑) กฎระเบยี บของภาครัฐน้ันสร้างอุปสรรคทาใหเ้ กิดข้อจากดั ของความสามารถในการแข่งขัน (๒) นโยบายของภาครฐั นัน้ ไม่สง่ เสรมิ ต่อการพัฒนาธุรกจิ อุตสาหกรรมสรุ า ดงั น้ัน คณะอนุกรรมาธิการจึงมขี อ้ เสนอแนะสาคัญ ๒ ประการ ได้แก่ ขอ้ เสนอแนะเพื่อให้มกี ารแกไ้ ข เปล่ียนแปลงกฎหมาย และข้อเสนอแนะเพ่ือให้มีการแก้ไขเชงิ นโยบายต่อไป ๔.3 ข้อเสนอแนะ ๔.๓.๑ ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื ให้มกี ารแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมาย จากปญั หากฎระเบียบของภาครฐั ทส่ี รา้ งอุปสรรคทาให้เกดิ ข้อจากดั ของความสามารถในการ แข่งขันโดยสามารถแบ่งออกได้เป็น ๒ กรณี คือ กรณีการประกอบกิจการภายใต้พระราชบัญญัติภาษี สรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ และกรณีการประกอบกิจการภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ 107รายละเอียดของยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันวางอยู่บนหลักการสาคัญ ๓ ประการ คือ (๑) “ต่อยอดอดีต” โดยมองกลับไปที่รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม มาตร วิถีชีวิต และจุดเด่นทาง ทรัพยากรธรรมชาติท่ีหลากหลาย รวมท้งั ความไดเ้ ปรยี บเชงิ เปรยี บเทียบของประเทศในดา้ นอ่ืน ๆ นามาประยกุ ต์ผสมผสานกับ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพ่ือให้สอดรบั กบั บรบิ ทของเศรษฐกจิ และสังคมโลกสมยั ใหม่ (๒) “ปรับปัจจบุ ัน” เพอ่ื ปูทางสู่อนาคต ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐานของประเทศในมติ ิต่าง ๆ ทงั้ โครงขา่ ยระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสรา้ งพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และดิจิทัล และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการอนาคต และ (๓) “สร้างคุณค่าใหม่ ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่ รวมถึงปรับรูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ท่ีรองรับอนาคตบนพ้ืนฐานของการต่อยอดอดีตและปรับ ปัจจุบัน พร้อมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐให้ประเทศไทยสามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในเวทีโลกควบคู่ไปกับการยกระดับรายได้และการกินดีอยู่ดี รวมถึงการเพ่ิมข้ึนของคน ช้ันกลางและลดความเหล่ือมล้าของคนในประเทศไดใ้ นคราวเดยี วกัน
107 พ.ศ. ๒๕๕๑ จึงจาเป็นต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมายและกฎหมายลาดับรองภายใต้พระราชบัญญัติท้ังสอง ฉบับบางประการ โดยมีรายละเอียดดังน้ี ๑) การแกไ้ ขเง่อื นไขการขอใบอนญุ าตประกอบกจิ การผลิตเครอื่ งด่มื แอลกอฮอล์ จากผลการศึกษาพบว่า พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ กาหนดเง่ือนไข ให้บุคคลใดจะประกอบกิจการผลิตเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ จะต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมสรรพสามิต ซึ่งจากการศึกษาถึงวัตถุประสงค์ในการขอใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์นั้น เพ่ือให้รัฐ สามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างครบถ้วน จึงมีความจาเป็นท่ีกฎหมายจะกาหนดให้ผู้ประกอบกิจการผลิตเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์จะต้องได้รบั อนุญาตจากอธิบดกี รมสรรพสามติ เสียกอ่ น อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในเชิงเงื่อนไขของการขอรับอนุญาตตามกฎกระทรวง การอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. ๒๕๖๐ จะเห็นได้ว่ากฎหมายนั้น ได้กาหนดเง่ือนไขของการขอรับอนุญาตเอาไว้ ในลักษณะเป็นการสร้างอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบกิจการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหม่ เช่น การกาหนดคุณสมบัตขิ องผู้ประกอบกิจการผลิตสุราแชช่ นิดเบียร์ (เบียร์) โดยกาหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาต จะต้องเป็นบริษัท และมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ากว่า ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สิบล้านบาท) หรือการกาหนดให้ ผูข้ อรับใบอนญุ าตจะต้องผลิตเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์โดยมีกาลังการผลติ ขั้นต่า สาหรับกรณีโรงอุตสาหกรรมผลิต เบียร์ประเภทผลิตเพ่ือขาย ณ สถานที่ผลิต (Brew pub) จะต้องมีกาลังการผลิตไม่ต่ากว่า ๑๐๐,๐๐๐ ลิตร (หน่ึงแสนลิตร) ต่อปี และไม่เกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ ลิตร (หนึ่งล้านลิตร) ต่อปี และสาหรับโรงอุตสาหกรรมผลิต เบียร์ประเภทผลิตลงบรรจุภัณฑ์ เพ่ือจาหน่ายจะต้องมีกาลังการผลิตไม่ต่ากว่า ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ ลิตร (สิบล้าน ลิตร) ต่อปี หรือกรณีของสุรากลั่นชนิดพิเศษประเภทวิสก้ี บร่ันดี และยิน จะต้องมีกาลังการผลิตขั้นต่าไม่น้อย กว่า ๓๐,๐๐๐ ลิตร (สามหมื่นลิตร) ต่อวัน และสุรากลั่นอื่น ๆ ไม่ต่ากว่า ๙๐,๐๐๐ ลิตร (เก้าหม่ืนลิตร) ต่อวัน เป็นต้น ซึ่งเม่ือคณะอนุกรรมาธิการได้เชิญผู้แทนของกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง มาช้ีแจงถึงเหตุผล ในการกาหนดเงื่อนไขในลักษณะดังกล่าวพบว่า ไม่ได้มีเหตุผลเจาะจงถึงความจาเป็นในการกาหนดเงื่อนไข การขอรับใบอนุญาตในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด ประกอบกับเมื่อพิจารณาจากการกาหนดเงื่อนไข การประกอบกิจการผลิตเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ในต่างประเทศท่ีคณะอนุกรรมาธิการศึกษามาน้ัน ไม่พบว่ามี การกาหนดเงอื่ นไขในลักษณะเดยี วกนั กับประเทศไทยแต่อยา่ งใด ดงั นัน้ เพื่อใหแ้ นวทางการพัฒนาสอดคล้องกับยทุ ธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ในด้านการสร้าง ความสามารถในการแข่งขัน และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๗๗ วรรคหนึ่งแล้ว จึงมีความจาเป็นที่จะต้องแก้ไขบทบัญญัติของพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ และกฎกระทรวงการอนญุ าตผลิตสุรา พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยมีรายละเอียดดังนี้ (๑) แก้ไขบทบัญญัติของพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๕๓ โดยมเี นอ้ื ความดังน้ี มาตรา ๑๕๓ ผู้ใดประสงค์จะผลิตสุราเพื่อการค้าพาณิชย์หรือมีเครื่องกลั่นสาหรับผลิต สุราไว้ใช้เพ่ือการค้าพาณิชย์ ให้ยื่นคาขออนุญาตต่ออธิบดี และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เง่ือนไขทอ่ี ธบิ ดปี ระกาศกาหนด การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงอื่ นไขทกี่ าหนดในกฎกระทรวง
108 หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามวรรคสองจะต้องไม่กาหนดคุณสมบัติของผู้ขอรับ ใบอนุญาตโดยอาศัยเงื่อนไขด้านทุนจดทะเบียน ขนาดกาลังการผลิต กาลังแรงม้าเคร่ืองจักร จานวน พนักงาน หรอื ประเภทบคุ คลผูม้ สี ทิ ธขิ ออนญุ าต ใบอนญุ าตทอ่ี อกตามมาตรานใ้ี ห้มีอายุสามปีนับแต่วนั ทไ่ี ดร้ บั อนุญาต (๒) แก้ไขบทบัญญัติของกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยยกเลิก ความใน ข้อ ๒ ของกฎกระทรวงฉบับดงั กล่าว และให้แทนท่ีดว้ ยข้อความดงั นี้ ข้อ ๒ ผู้ใดประสงค์จะขอใบอนุญาตผลิตสุราต้องเป็นนิติบุคคล ซ่ึงจดทะเบียนถูกต้อง ตามกฎหมายไทย เว้นแตส่ รุ าชนิดสามทบั เพ่ือขายในราชอาณาจักร ตอ้ งเป็นรัฐวสิ าหกิจไทย (๓) แก้ไขบทบัญญัติของกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยยกเลิก ความใน ข้อ ๔ ของกฎกระทรวงฉบับดงั กลา่ ว และใหแ้ ทนทดี่ ้วยขอ้ ความดังนี้ ข้อ ๔ โรงงานอุตสาหกรรมที่จะต้ังเพื่อใช้ผลิตสุราต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเง่ือนไข ดังต่อไปน้ี (๑) โรงอุตสาหกรรมจะตอ้ งจดั ให้สถานทีส่ ะอาดถูกสุขลักษณะอนามัย (๒) โรงอุตสาหกรรมจะต้องจัดสถานที่ให้มีความปลอดภัยถูกต้องตามหลักการของ กฎหมายโรงงาน เวน้ แต่โรงอุตสาหกรรมดังกลา่ วจะไม่เข้านยิ ามของกฎหมายโรงงาน ให้ปฏิบตั ิตามกฎหมาย ควบคมุ สถานประกอบกจิ การทีเ่ ป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพ (๓) โรงอุตสาหกรรมจะต้องตั้งอยู่ในทาเลและสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม มีพ้ืนที่เพียง พอท่ีจะผลิตสุราโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เหตุเดือดร้อนราคาญ หรือความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน ของผ้อู ่ืน (๔) โรงอุตสาหกรรมผลิตสุรากลั่น ต้องตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้าสาธารณะไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อย เมตร เว้นแต่อธิบดีเห็นเป็นการสมควรจะต้ังห่างจากแหล่งน้าสาธารณะน้อยกว่าหน่ึงร้อยเมตรก็ได้ โดยคานึงถึง ลักษณะพน้ื ที่และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (๕) โรงอุตสาหกรรมผลิตสุรากลั่นต้องมีระบบบาบัดน้าเสียที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อ ส่งิ แวดล้อมตามมาตรฐานทกี่ รมควบคุมมลพิษกาหนด (๖) โรงอุตสาหกรรมจะต้องมีสายการผลิต เคร่ืองจักร อุปกรณ์ และกระบวนการผลิต เคร่อื งดืม่ แอลกอฮอลต์ อ้ งเปน็ ไปตามมาตรฐานเครื่องจักร (๗) โรงอตุ สาหกรรมจะต้องควบคุมคณุ ภาพของนา้ สุราจะต้องเปน็ ไปตามมาตรฐานกาหนด ความในวรรคหนึ่งไม่ให้นามาใช้กับโรงอุตสาหกรรมที่ใช้ผลิตสุรากลั่นชนิดเอทานอล ต้อง ดาเนนิ การดังต่อไปนีใ้ หแ้ ลว้ เสร็จกอ่ นเปดิ ดาเนินการ (๑) ต้องใช้เทคโนโลยีการผลติ และมเี ครอ่ื งจักรที่สามารถผลติ สุรากลนั่ ชนิดเอทานอลให้มี แรงแอลกอฮอล์ไดส้ งู ถงึ เกา้ สบิ เก้าจดุ หา้ ดีกรี
109 (๒) ตอ้ งตดิ ตัง้ เครอ่ื งมอื และอุปกรณเ์ พื่อการคานวณปริมาณสุรากลั่นชนิดเอทานอล (๓) ต้องติดต้ังระบบฐานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์โดยการเชื่อมโยงเครือข่ายจาก โรงอุตสาหกรรมไปยังกรมสรรพสามิต สานักงานสรรพสามิตผู้ควบคุมโรงอุตสาหกรรมนั้นและสานักงาน สรรพสามติ พนื้ ท่ที ี่โรงอตุ สาหกรรมตง้ั อยู่ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอในการยกเลิกเง่ือนไขการขอรับอนุญาตประกอบกิจการผลิต เครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะท่ีเป็นอุปสรรคต่อการประกอบกิจการ จะมีผลเป็นการยกเลิกการแบ่งประเภท ของโรงผลิตสุราแช่และสุรากลั่นชุมชนไปโดยปริยาย เนื่องจากไม่มีข้อจากัดในเร่ืองกาลังการผลิตและ ทุนจดทะเบียน ตลอดจนถึงประเภทของนิตบิ ุคคลที่จะมายืน่ คาขอรับอนุญาต จึงมีผลเปน็ การยกเลิกบทบัญญัติ ใน ข้อ ๓ ของกฎกระทรวงการอนญุ าตผลิตสรุ า พ.ศ. ๒๕๖๐ ไปโดยปริยาย ๒) การแก้ไขความไมส่ อดคลอ้ งกันของกฎหมายโรงงานกับกฎหมายสรรพสามติ จากผลการศึกษาพบว่า พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบกับ กฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้กาหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโรงอุตสาหกรรมที่ใช้ผลิต เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ในชุมชน จะต้องใช้เคร่ืองจักรที่มีกาลังรวมต่ากว่าห้าแรงมา้ หรอื ใช้คนงานน้อยกวา่ เจ็ดคน หรือกรณีใช้เคร่ืองจักรและคนงาน เคร่ืองจักรต้องมีกาลังรวมต่ากว่าห้าแรงม้าหรือใช้คนงานน้อยกว่าเจ็ดคน ซึ่งเป็นนิยามของโรงงานตามกฎหมายเดิม แต่กฎหมายโรงงานได้แก้ไขบทนิยามของโรงงาน หมายถึง “อาคาร สถานท่ี หรือยานพาหนะที่ใช้เคร่ืองจักรมีกาลังรวมตั้งแต่ห้าสิบแรงม้าหรือกาลังเทียบเท่าตั้งแต่ห้าสิบแรงม้าข้ึนไป หรือใช้คนงานตั้งแต่ห้าสิบคนข้ึนไป โดยใช้เครื่องจักรหรือไม่ก็ตามเพ่ือประกอบกิจการโรงงาน...”108 สภาวะ ดังกล่าวจึงเกิดปัญหาความไมส่ อดคล้องกนั ของกฎหมายโรงงาน และกฎหมายภาษีสรรพสามิตซึ่งเป็นกฎหมาย ว่าด้วยการอนุญาตประกอบกิจการผลิตเคร่อื งด่ืมแอลกอฮอล์ จ า ก ก า ร เชิ ญ ผู้ แ ท น ข อ ง ก ร ม ส ร ร พ ส า มิ ต ม า ชี้ แ จ งต่ อ ค ณ ะ อ นุ ก ร ร ม า ธิ ก า ร พ บ ว่ า กรมสรรพสามติ อยู่ในขั้นตอนการศึกษาเพ่ือแกไ้ ขสภาพปัญหาดังกล่าวให้สอดคลอ้ งกันระหวา่ งกฎหมายโรงงาน และกฎหมายภาษีสรรพสามิต ซ่ึงตรงกับความเห็นของคณะอนุกรรมาธกิ ารที่ต้องการขจัดอปุ สรรคในด้านกาลัง เคร่ืองจักรและแรงงานคนให้สอดคล้องกับกฎหมายโรงงาน ดังน้ัน เพ่ือไม่ให้เกิดความไม่สอดคล้องกันระหว่าง กฎหมายทัง้ สองฉบบั จงึ เสนอให้ยกเลิกความในกฎกระทรวงการอนุญาตผลติ สุรา พ.ศ. ๒๕๖๐ ในเรือ่ งประเด็น ดงั กล่าวข้อเสนอแนะของคณะอนกุ รรมาธิการใน ข้อ ๒.๒.๑ หน้า ๕ นั้น ได้เสนอมิให้นากาลังแรงมา้ เครือ่ งจักร และจานวนพนกั งานมากาหนดหลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขในการขอรับอนุญาตแลว้ ดังน้นั กฎกระทรวงจงึ ควรแกไ้ ขให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะข้างต้น ๓) การแกไ้ ขปญั หาการจดั เกบ็ ภาษสี รรพสามติ สุรา ปัญหาการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสุรานั้นมีปัญหาเร่ืองความไม่เป็นธรรมในการคิดภาษี สรรพสามิตสุรา ระหว่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทและชนิดเดียวกัน คือ ไวน์ผลไม้และไวน์องุ่น และ ระหว่างไวน์กับเบียร์ ซึ่งล้วนเป็นสุราแช่ด้วยกัน และระหว่างสุราขาวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอ่ืน ๆ ทั้งที่ สุราขาวมีปรมิ าณแรงแอลกอฮอลม์ ากกว่าแต่กับเสียภาษีนอ้ ยกว่า ปัญหาในลักษณะดังกล่าวนั้นสร้างผลกระทบ ต่อการแขง่ ขนั ระหว่างผ้ปู ระกอบการผลติ เคร่ืองดมื่ แอลกอฮอล์ในการแขง่ ขันกนั โดยเท่าเทยี ม 108พระราชบญั ญตั โิ รงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕, มาตรา ๕
110 ดังนน้ั คณะอนุกรรมาธิการเหน็ ควรให้กรมสรรสามิตพิจารณาแก้ไขวิธีการคานวณจัดเก็บ ภาษีสรรพสามิตสรุ าใหม่ โดยอาจใชว้ ิธีการของตา่ งประเทศดังคณะอนุกรรมการได้ทาการศกึ ษามาแลว้ กไ็ ด้ ๔) การทบทวนบทบญั ญัติของพระราชบญั ญัติควบคุมเครื่องดมื่ แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ มีผลใช้บังคับมาแล้วเป็น ระยะเวลาเกือบ ๑๐ ปี ตลอดระยะเวลาที่กฎหมายฉบับน้ีมผี ลใช้บังคับโดยมีเจตนารมณ์ เพอ่ื ควบคมุ ผลกระทบ ต่อสังคมที่เกิดจากเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ทั้งปัญหาด้านสุขภาพ ครอบครัว อุบัติเหตุ และอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ดังนั้น กฎหมายฉบับน้ี จึงให้อานาจแก่หน่วยงาน ของรัฐในการควบคุมกจิ กรรมท่ีเกี่ยวข้องกับการบริโภคเคร่ืองดืม่ แอลกอฮอล์ ตง้ั แต่การกาหนดสถานท่จี าหน่าย วันและเวลาจาหนา่ ย บุคคลที่ห้ามจาหนา่ ย และการควบคุมการโฆษณาเครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล์ ภายใต้ทัศนคติต่อเครอื่ งด่ืมแอลกอฮอล์ไม่ใช่สินค้าธรรมดาท่วั ไป นโยบายของรัฐเก่ียวกับ การควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์น้ัน มีการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ท้ังส้ินจานวน ๒,๐๑๐ คดี โดยสามารถจาแนกฐานความผิดได้ดังปรากฏตามตารางที่ ๒๗ หน้า ๙๕ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับผลของการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้กับประโยชน์ท่ีสังคมโดยร่วมได้รับนั้น ถือว่าน้อยมากดังจะเห็นได้จากตัวเลขเชิงสถิติว่า จานวนผู้ดื่มเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์น้ันไม่ได้ลดลงเลยตลอดช่วง ระยะเวลาท่ีผา่ นมา โดยเฉพาะอย่างย่งิ กลุม่ ผดู้ ่มื ทเ่ี ปน็ เดก็ และเยาวชน (ตารางที่ ๙, น. ๓๙ และ ตารางที่ ๑๐, น. ๔๐) ในทางตรงกันข้ามหลกั เกณฑ์และเง่ือนไขเก่ียวกับการควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติ ฉบับน้ี ในหลายเรื่องได้กลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบกิจการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินสมควร ตัวอยา่ งเช่น การควบคุมการโฆษณาเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์ ซ่ึงกาหนดเอาไว้ใน มาตรา ๓๒ ของพระราชบัญญัติ ควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ นั้น การบังคับใช้บทบัญญัติในมาตราดังกล่าวโดยมุ่งห้ามมิให้มี การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยป้องกันมิให้ผู้ประกอบการรายใหญ่อาศัยความได้เปรยี บจากการโฆษณานั้น ได้กลายเป็นดาบสองคมในการทาลายธุรกิจอุตสาหกรรมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ เพราะภายใต้กฎหมายฉบับน้ี ผ้ปู ระกอบการขนาดย่อมก็ไม่สามารถโฆษณา หรือประชาสัมพันธ์ย่ีหอ้ เครื่องดม่ื ให้เป็นที่รู้จักได้ อีกทั้งกฎหมาย ในมาตราน้ียังถูกนาไปบังคบั ใชอ้ ย่างไม่มหี ลักการ กลา่ วคอื การโฆษณาเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์นั้น ในทัศนคติของ สานักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์น้ัน ตีความครอบคลุมถึงการกระทาในทุกลักษณะท่ี ปรากฏภาพและข้อความท่ีเป็นการเชิญชวนให้ด่ืมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ แม้ว่าข้อความในลักษณะดังกล่าว จะมิได้มีวัตถุประสงค์ หรือสื่อไปในทางการค้าพาณิชย์ก็ตาม อีกท้ังพระราชบัญญัติฉบับน้ี และกฎหมายลาดับรอง ซ่ึงออกตามความในกฎหมายฉบับน้ี ได้สร้างหลักเกณฑ์และเง่ือนไขในการประกอบกิจการ ซ่ึงมีลักษณะเป็น การจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล และสร้างอุปสรรคต่อการดารงชีวิตหรือการประกอบอาชีพ โดยไม่มี เหตุผลอันสมควร เช่น การกาหนดห้ามขายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการกาหนด วันห้ามขายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์โดยยึดโยงกับวันสาคัญทางศาสนาพุทธ ซ่ึงเป็นเพียงศาสนาเดียวของคนทั้ง ประเทศ เปน็ ตน้ นอกจากนี้ บทบญั ญัตใิ นพระราชบัญญัติฉบับน้ียังมเี น้ือหาซา้ ซอ้ นกับกฎหมายหลายฉบับ ทั้งกฎหมายเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน หรือกฎหมายท่ัวไปอย่างประมวลกฎหมายอาญา ทว่า บทลงโทษของ กฎหมายฉบับน้ีกลับสูงกว่าบรรดากฎหมายเหล่านั้น และในหลายฐานความผิดน้ันก็มีอัตราโทษที่ไม่เหมาะสม (ตารางท่ี ๒๑, น. ๘๐ และ ตารางที่ ๒๒, น. ๘๕)
111 ดังน้ัน คณะอนุกรรมาธิการเห็นควรเสนอให้มีการประเมินผลสัมฤทธ์ิของกฎหมายและ ทบทวนบทบัญญัติในพระราชบัญญัติควบคมุ เคร่ืองดืม่ แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ทุกมาตรา และกฎหมายลาดับ รองทกุ ฉบบั โดยอาจดาเนินการในประเด็น ดงั นี้ (๑) การแก้ไขบทบญั ญัติเก่ยี วกบั การควบคมุ การโฆษณาเครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอล์ คณะอนุกรรมาธิการมีข้อเสนอแนะให้ยกเลิกบทบัญญัติใน มาตรา ๓๒ ของ พระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เน่ืองจากบทบัญญัติในมาตราดังกล่าวน้ัน ไม่สามารถสัมฤทธิ์ผลได้ตามเจตนารมณ์ท่ีต้องการให้ผู้ประกอบการรายใหญ่อาศัยทุนสร้างความได้เปรียบ ผ่านการโฆษณา เน่ืองจากในความเป็นจริงผู้ประกอบการายใหญ่สามารถปรับเปล่ียนกลยุทธ์ผ่านการโฆษณา ดว้ ยวิธีการอืน่ ได้ มาตรการควบคุมการโฆษณาเคร่ืองด่มื แอลกอฮอล์จงึ ไมส่ ัมฤทธผ์ิ ลตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จากการศึกษากฎหมายและนโยบายเก่ียวกับการควบคุม การโฆษณาเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ของต่างประเทศของคณะอนุกรรมาธิการพบว่า กฎหมายและนโยบาย การควบคุมเคร่ืองดืม่ แอลกอฮอลน์ นั้ มงุ่ เนน้ ไปที่การควบคุมการโฆษณาในลักษณะท่ีกระทบต่อเด็กและเยาวชน ดังน้ัน หากกฎหมายมุ่งจะควบคุมการโฆษณาเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ จึงอาจใช้วิธีการเช่นเดียวกับต่างประเทศ คือ การใช้นากฎหมายเด็กและเยาวชนมาใชโ้ ดยควบคุมการโฆษณาในส่ือทมี่ ีลักษณะเปน็ การกระทบต่อเดก็ และ เยาวชน เช่น รายการทีวีสาหรับเด็กและเยาวชน หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ โดยใช้ผู้นาเสนอสินค้า เป็นดาราหรือนักกีฬาที่มีผลต่อเด็กและเยาวชน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์นั้น ไม่สมควรจากัดเป็นวงกว้าง โดยต้องชั่งน้าหนักระหว่างการควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จะ กระทบต่อเด็กและเยาวชน และสิทธิและเสรีภาพในการประกอบกิจการของผู้ประกอบกิจการอย่างเหมาะสม ดังน้ันในการควบคุมการโฆษณาจึงอาจจะไม่สามารถทาได้ในทุก ๆ ช่องทางการโฆษณา เช่น การโฆษณาผ่าน ทางสื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เปน็ ต้น การยกเลิกการควบคุมการโฆษณาตาม มาตรา ๓๒ ของพระราชบัญญัติควบคุม เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ นี้ จะช่วยแก้ไขสภาพปัญหาท่ีเป็นอยู่ทั้งในแง่ของความเหมาะสมของการ ควบคุมการโฆษณาเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ และปัญหาการตีความบทบัญญัติตาม มาตรา ๓๒ โดยครอบคลุม ทุกกรณี รวมถึงเป็นเหตุให้ยกเลิกฐานความผิดและโทษของการโฆษณาเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ตาม มาตรา ๔๓ ไปโดยปริยาย (๒) การแก้ไขบทบญั ญัติเก่ียวกบั การควบคมุ วนั จาหนา่ ยเครื่องดมื่ แอลกอฮอล์ คณะอนุกรรมาธิการเสนอให้ยกเลิกประกาศสานักนายกรัฐมนตรี เร่ือง กาหนดวัน หา้ มขายเคร่อื งด่ืมแอลกอฮอล์ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งกาหนดวนั ห้ามขายเครอ่ื งด่มื แอลกอฮอลใ์ นวันสาคัญ ทางศาสนาพุทธ ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วนั เข้าพรรษา และวนั ออกพรรษา ยกเว้นแต่ การขายเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ จากการศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการไม่พบว่า เหตุผลของการออกประกาศ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร เนื่องจากวันดังกล่าวมิได้มีเหตุผลสนับสนุนในทางสถิติในลักษณะเป็นการลด ความเสยี่ งจากอนั ตรายที่จะเกิดขึน้ จากการบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ทว่า การบงั คับใช้กฎหมายในลักษณะ ดังกล่าวกลับสร้างอุปสรรคให้กับผู้ประกอบการทาให้ไม่สามารถประกอบธุรกิจจาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ในวันดังกล่าวได้
112 (๓) การแก้ไขบทบัญญตั ิหา้ มขายเครอื่ งดม่ื แอลกอฮอล์ผา่ นทางอิเล็กทรอนกิ ส์ คณะอนุกรรมาธิการเสนอให้ยกเลิกประกาศสานักนายกรัฐมนตรี เร่ือง ห้ามขาย เคร่อื งด่ืมแอลกอฮอล์โดยวิธกี ารหรือในลักษณะการขายทางอิเลก็ ทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๓ เน่ืองจากประกาศฉบับ ดังกล่าวนั้น สร้างผลกระทบให้กับผู้ประกอบการผลิตและขายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการขนาดย่อม ดังจะเห็นได้วา่ ผลกระทบจากมาตรการเวน้ ระยะห่างทางสังคมในช่วงการระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 น้ัน การไม่สามารถขายเครือ่ งด่มื แอลกอฮอล์ผ่านทางหน้ารา้ นได้นั้น ทาให้อัตรา การเติบโตของธุรกิจอุตสาหกรรมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ลดลง (ภาพท่ี ๓, น. ๒๔ และ ภาพที่ ๔, น. ๒๕) ซ่ึงในอนาคตหากห้ามมิให้ผู้ประกอบการสามารถจาหน่ายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้นั้น จะมีผลเป็นการซ้าเติมผู้ประกอบการจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 ซ่ึงสถานการณ์อาจจะเลวร้ายขึ้น หากในอนาคตมีการระบาดของโรคโควิด-19 ในลักษณะเดียวกันอีก นอกจากน้ี ในด้านของผู้ประกอบการจากัดมิให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อยอย่างมาก เพราะนอกจากเป็นการจากัดช่องทางในการจาหน่าย เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์แล้ว ยังเป็นการจากัดช่องทางในการทาให้ผลิตภัณฑ์เป็นท่ีรู้จัก ประกอบกับมาตรการ ควบคมุ การโฆษณาแลว้ ผปู้ ระกอบการรายยอ่ ยนั้นได้รบั ผลกระทบเปน็ อย่างมาก ทว่า เม่ือพิจารณาวัตถุประสงค์ของประกาศฉบบั ดังกล่าวแล้ว จะเห็นได้ว่าประกาศ ฉบับน้ีมีวัตถุประสงค์อยู่ ๒ ประการ คือ เพื่อปอ้ งกันมิใหเ้ ยาวชนสามารถเข้าถึงเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย และลดผลกระทบอนั เกดิ จากเคร่อื งดืม่ แอลกอฮอล์ ในกรณี ของการป้องกันมิให้เยาวชนสามารถเข้าถึงเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ได้โดยง่ายผ่านการซ้ือขายทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น มีวัตถุประสงค์ซ้าซ้อนกับพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและ เยาวชน พ.ศ. ๒๕๔๖ ใน มาตรา ๒๕ ได้กาหนดห้ามมิให้บุคคลใดจาหน่าย แลกเปลี่ยน หรือให้เคร่ืองดื่ม แอลกอฮอลแ์ ก่บคุ คลอายุตา่ กว่า ๑๘ ปี ที่ยังไม่บรรลนุ ิติภาวะจากการสมรส ซึ่งได้กาหนดความผิดสาหรบั ผขู้ าย เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลอายุต่ากว่า ๑๘ ปี ท่ียังไม่บรรลุนิติภาวะจากการสมรส และกาหนดวิธีการ สาหรับเด็กและเยาวชนท่ีซื้อหรือเสพสรุ าเอาไวแ้ ล้ว ในลักษณะดังกลา่ วประกาศสานักนายกรัฐมนตรี เร่ือง หา้ ม ขายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๓ จึงมีลักษณะ ซ้าซ้อนกับพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและเยาวชน พ.ศ. ๒๕๔๖ นอกจากน้ี มาตรการห้ามขายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น เป็นการไม่ได้สัดส่วนระหว่างมาตรการกับวัตถุประสงค์ เพราะประกาศ ฉบับดังกล่าวนั้น เปน็ การห้ามบคุ คลทุกคนมิให้สามารถซื้อเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงไมใ่ ช่ เฉพาะเด็กและเยาวชนเท่าน้ัน ที่ไม่สามารถซ้ือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ฉะนั้น ในทางนโยบายหากรัฐต้องการ ควบคุมมิให้เด็กและเยาวชนสามารถซื้อเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น อาจจะใช้วิธีการอื่นมา ทดแทน เช่น การกาหนดให้การซ้ือขายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีการยืนยันตัวบุคคล ผ้ซู ื้อดว้ ยบตั รประชาชน เปน็ ตน้ ใน ก รณี ข อ งก ารล ด ผ ล ก ระท บ อั น เกิ ด จาก เค รื่อ งดื่ ม แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ นั้ น คณะอนุกรรมาธิการการมีข้อสังเกตว่า การส่ังซื้อเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์น้ัน โดยสภาพแล้ว มีผลกระทบอันเกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่มาก เพราะผู้บริโภคเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ที่สั่งซ้ือเคร่ืองด่ื ม แอลกอฮอลน์ ั้น ย่อมจะด่ืมในพ้ืนท่ีเฉพาะ เช่น ทีพ่ ักอาศยั เปน็ ต้น ซ่ึงมแี นวโนม้ จะกอ่ ให้เกิดผลกระทบได้ต่า
113 ดังน้ัน จะเห็นได้ว่าการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์น้ันเป็น การจากัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และเป็นการสร้างอุปสรรคต่อการดารงชีวิตหรือการประกอบอาชีพ เกินสมควร นอกจากน้ี มาตรการดังกล่าวไม่ได้สัดส่วนเม่ือเปรียบเทียบวัตถุประสงค์ท่ีกฎหมายต้องการกับ วิธกี ารท่ีกฎหมายใช้ (๔) การแก้ไขบทบญั ญัตเิ กย่ี วกับการควบคุมฉลากเครอื่ งด่มื แอลกอฮอล์ พระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๑๖ ประกอบ ประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเง่ือนไข เก่ียวกับฉลากของ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้กาหนดหลักเกณฑ์เก่ียวกับฉลากเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์เอาไว้ ในลักษณะท่ีเข้มงวดและไม่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ ในการนาเสนอบนพื้นท่ี ของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างย่ิง การนาเสนอฉลากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีภาพการ์ตูนประกอบ โดยมี ความกังวลว่าจะเปน็ การส่งเสรมิ ใหเ้ ดก็ และเยาวชนเข้าถึงเคร่อื งดื่มแอลกอฮอล์ คณะอนุกรรมาธิการมขี อ้ สงั เกต และข้อเสนอแนะว่า การควบคุมฉลากเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์โดยการห้ามใช้ภาพการ์ตูนน้ัน เป็นวิธีการแก้ไข ปัญหาท่ีไม่เหมาะสม แม้ว่าภาพการ์ตูนบางลักษณะอาจจะสร้างความสนใจให้ผู้บริโภค ทว่า การห้ามใช้ภาพ การ์ตูนอาจไม่ได้มีส่วนช่วยลดความสนใจในการด่ืมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ของเด็กและเยาวชน เพราะอาจจะมี ปัจจัยในลกั ษณะอน่ื ๆ แทน เช่น ค่านิยมในวัยรนุ่ และการทาตามพฤติกรรมเรยี นแบบ เป็นต้น ในทางกลับกัน หากภาครัฐบังคับใช้กฎหมายห้ามขายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ให้กับเด็กและเยาวชนอย่างเคร่งครัดสม่าเสมอ อาจจะแก้ปัญหาไดต้ รงจดุ มากกว่า (๕) การแก้ไขบทบญั ญัติการจากัดสถานทห่ี ้ามบรโิ ภคเครื่องดม่ื แอลกอฮอล์ บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ใน มาตรา ๓๐ นั้น ได้มีกาหนดห้ามมิให้บริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ในวัดหรือสถานท่ีสาหรับปฏิบัติพิธีกรรม ทางศาสนา โดยกาหนดขอ้ ยกเวน้ ไวว้ ่า ในกรณีการบริโภคเป็นส่วนหน่ึงของพิธีกรรมทางศาสนาสามารถบรโิ ภคได้ เช่น การดื่มไวน์ในพิธีมิสซาของศาสนาคริสต์ เป็นต้น ทว่า ในบริบทของสังคมไทยน้ันวัดน้ันได้ทาหน้าท่ีเป็น สถานท่ีศูนย์กลางของชุมชนและบรรดาพิธีมงคลต่าง ๆ ซ่ึงทาให้มีการจัดเลี้ยงในวัดเป็นธรรมดาตรงกันข้าม ในมาตราเดียวกันนั้น กฎหมายได้กาหนดข้อยกเวน้ ยกเว้นให้สถานที่ราชการและสถานศกึ ษาได้รับการยกเว้นให้ สามารถบรโิ ภคเครื่องดม่ื แอลกอฮอล์ได้ หากเป็นการจดั เลีย้ งตามประเพณี ดังน้ัน คณะอนุกรรมาธิการจึงมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะให้มีการแก้ไขบทบัญญัติ โดยรับรอง เรื่อง การด่ืมเคร่ืองแอลกอฮอล์ในวัดหรือสถานท่ีสาหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาในลักษณะเป็น การจัดเลย้ี งตามประเพณีได้ (๖) การแก้ไขอานาจดลุ พินิจแก่เจา้ หน้าท่ขี องรัฐออกกฎหมายลาดบั รอง จากการศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการเกี่ยวกับอานาจดุลพินิจแก่เจ้าหน้าท่ีของรัฐ ออกกฎหมายลาดับรองพบว่า กฎหมายได้ให้อานาจแก่นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีผู้รักษาการ ตามกฎหมายฉบับนี้ เป็นเจ้าหน้าท่ีของรัฐที่มีอานาจในการออกประกาศกาหนดเงื่อนไขและวิธีการประกอบ กิจการ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซ่ึงรัฐมนตรีผู้มีอานาจในการตรา กฎหมายภายใต้ความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีอยู่อย่างกว้างขวาง โดยไม่มี
114 หลักเกณฑ์ท่ีเหมาะ ซ่ึงการตรากฎหมายเพ่ือจากัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ควรจะต้องมีความแน่นอน และประชาชนสามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้น คณะอนุกรรมาธิการจึงขอเสนอให้ยกเลิกอานาจของรัฐมนตรีออกประกาศ กาหนดเงือ่ นไขและวธิ ีการประกอบกิจการ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ (๗) การแก้ไขสัดส่วนของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ จากการศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการพบว่า คณะกรรมการพระราชบัญญัติควบคุม เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ นั้น ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดย่อมเข้าไปมีส่วนร่วม ในการกาหนดนโยบายเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้ง ในระดับของคณะกรรมการนโยบายเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์แห่งชาติ คณะกรรมการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ และคณะอนุกรรมการต่าง ๆ ภายใต้ พระราชบญั ญตั ิควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ดังนั้น คณ ะอนุกรรมาธิการจึงเสนอให้มีการปรับสัดส่วนให้มีผู้แทนจาก ผู้ประกอบการท้งั ในขนาดใหญแ่ ละขนาดย่อมเข้าไปเปน็ กรรมการในทุกระดบั (๘) การแกไ้ ขบทบัญญัติซ้าซ้อนกับกฎหมายอื่น จากการศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการเก่ียวกับพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่ม แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ มีบทบัญญัติหลายมาตราที่ซ้าซ้อนกันกับกฎหมายอื่น เช่น เช่น มาตรา ๒๗ แห่ง พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ประกอบกับประกาศสานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กาหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ นั้น มีลักษณะซ้าซ้อน กับพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและเยาวชน พ.ศ. ๒๕๔๖ ที่มีวัตถุประสงค์ต้องการมิให้ขายเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์แก่เดก็ และเยาวชน เป็นต้น ซ่งึ การซ้าซ้อนกันระหว่างพระราชบัญญัติควบคุมเครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล์ กับกฎหมายอ่ืนน้ัน ทาให้เกิดสภาวะความไม่ชัดเจนว่าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับใดบ้าง ในขณะเดียวกัน แนวโน้มของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ น้ัน มีแนวโน้มที่จะกาหนดหลักเกณฑ์ และเง่ือนไขซา้ ซอ้ นกบั กฎหมายฉบบั อื่น ๆ อกี หลายฉบบั ดังน้ัน คณะอนุกรรมาธิการจึงเสนอให้ทบทวนความซ้าซ้อนกันของกฎหมาย ระหว่างพระราชบัญญัติควบคมุ เครอื่ งดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ กบั กฎหมายอ่นื อย่างไรก็ตาม หากพิจารณ าจากข้อสังเกตและข้อเสนอแนะข้างต้นของ คณะอนุกรรมาธิการเกี่ยวกับพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น จะเป็นข้อเสนอที่เปล่ียนแปลง สาระสาคัญหลายประการของพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว จึงอาจจะจาเป็นต้องยกเลิกพระราชบัญญัติฉบับนี้ และร่างพระราชบญั ญัตฉิ บบั ใหมข่ ้ึนมาแทน 4.3.2 ขอ้ เสนอแนะเพ่อื ใหม้ ีการแก้ไขเชิงนโยบาย ข้อเสนอแนะเพ่ือให้มีการแก้ไขเชิงนโยบาย เป็นข้อเสนอแนะที่คณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาแล้วเห็นว่า มีความจาเป็นต่อการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ต่อไป โดยข้อเสนอ เหล่าน้ีเป็นข้อเสนอที่นอกเหนือไปจากการแก้ไขกฎหมาย ซ่ึงข้อเสนอบางประการนั้นรัฐบาลอาจจะดาเนินการ ให้เกิดขนึ้ ได้กอ่ น แต่ในบางขอ้ เสนออาจจะจาเป็นตอ้ งดาเนินการต่อไปในอนาคต เพื่อให้เกดิ การสนบั สนนุ ธุรกิจ อุตสาหกรรมเคร่ืองด่มื แอลกอฮอลอ์ ยา่ งแทจ้ ริง
115 ๑) การจัดทาแนวปฏบิ ัติสาหรบั เจ้าหน้าทขี่ องรัฐ เน่ืองจากการศึกษาของคณะอนุกรรมการพบว่า ในหลายประเด็นน้ันเกิดปัญหาการ ตีความบทบัญญัติของกฎหมายในหลายเร่ืองด้วยกัน ซึ่งเกิดการจากการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ที่รักษาการตามกฎหมายแต่ละฉบับ โดยเจ้าหน้าท่ีของรัฐมีแนวทางการตีความทั้งที่ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของ กฎหมายและตีความแตกต่างกันในแตล่ ะพ้ืนท่ี ซง่ึ การท่ีบทบัญญัติของกฎหมายไม่มีความชัดเจน อันเนื่องมาจาก การตีความของเจ้าหน้าท่ีของรัฐไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือแตกต่างกันในแต่ละพ้ื นท่ีทาให้ ผูป้ ระกอบการไม่มีความแนน่ อนในการปฏิบัติตามกฎหมาย และไม่อาจเข้าใจแนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายได้ เนื่องจากกฎหมายยังขาดความชัดเจนและต้องอาศัยการตีความของเจ้าหน้าที่ของรัฐในหลายกรณี ซึ่งหาก หน่วยงานของรัฐท้ังกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง และสานักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์สามารถจัดทาแนวปฏิบัติสาหรับเจ้าหน้าท่ีของรัฐ และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบได้เป็นการทั่วไป จะเกิดประโยชนก์ ับประชาชนผู้ประกอบการทจ่ี ะสามารถปฏบิ ัตติ ามกฎหมายได้อยา่ งถูกต้อง ๒) การยกเลิกสินบนนาจับตามพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ การใชส้ ินบนนาจับเปน็ มาตรการเพ่ือตอบแทนพลเมืองดีและเจ้าหน้าท่ีของรัฐเข้าเสี่ยง ภัยในการปฏิบัติตามหน้าท่ีที่กฎหมายกาหนด อย่างไรก็ตาม ในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมีสินบนนาจับน้ัน อาจสร้างแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่เลือกจะบังคับใช้กฎหมาย โดยไม่สนใจเจตนารมณ์ของ กฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งหากประชาชนไม่ประสงค์ให้เกิดการดาเนินคดีอาญา ย่อมเลือกท่ีจะเปรียบเทียบปรับ เพ่ือให้การดาเนินคดีอาญาสิ้นสุดลง ประกอบกับหากพิจารณาฐานอานาจในการจ่ายเงินสินบนนาจับ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่มื แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ นั้น ไม่ได้ให้อานาจแก่สานักงานคณะกรรมการ ควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ในการจ่ายเงินสินบนนาจับเอาไว้ แต่เป็นการอาศัยฐานอานาจตามประกาศ กระทรวงการคลัง เร่ือง การกาหนดประเภท และอัตราการหักเงินค่าปรับก่อนนาส่งคลังประกอบกับข้อบังคับ กระทรวงการคลังว่าด้วยการหักเงินค่าปรับก่อนนาส่งคลงั พ.ศ. ๒๕๔๖ ออกตามความพระราชบัญญตั ิเงินคงคลัง พ.ศ. 2491 ซึ่งเมื่อพิจารณาจากประกอบกฎหมายทั้งสองฉบับนั้น ไม่ได้ให้อานาจแก่สานักงานคณะกรรมการ ควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลใ์ นการหกั เงินสินบนนาจับแตอ่ ย่างใด ซ่ึงเม่ือพิจารณาในเชงิ การรกั ษาวินัยการเงิน การคลังของรัฐตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ การกระทาในลักษณะดังกล่าว อาจจะขัดกับบทบัญญัติใน มาตรา ๓๕ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ห้ามกัน เงินรายได้เพื่อให้หน่วยงานของรัฐนาไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงานนั้น หรือเพ่ือเป็นการหน่ึงการใด เป็นการเฉพาะจะกระทามไิ ด้ เว้นแต่จะอาศยั อานาจตามกฎหมาย ๓) การจดั ต้ังสถาบนั พฒั นาอตุ สาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย เมื่อมีการแก้ไขพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ เพื่อขจัดอุปสรรค ใหก้ ับผปู้ ระกอบการผลิตเคร่ืองดม่ื แอลกอฮอล์แลว้ ผลที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา คือ ผปู้ ระกอบการผลิตเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์อาจจะมีจานวนเพิ่มข้ึน จึงจาเป็นจะต้องควบคุมคุณภาพของเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ให้มีมาตรฐาน ความสะอาด และมีคุณภาพเหมาะสมแก่การดื่มเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตาม การควบคุมมาตรฐาน ความสะอาด และคุณภาพของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น้ัน ได้ถูกควบคุมโดยกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลังแล้ว เพียงแต่ในเรื่องขององค์ความรู้ท่ีจะนามาใช้ในการพัฒนามาตรฐาน ความสะอาด และคุณภาพเคร่ืองด่ืม
116 แอลกอฮอล์น้ันยังไม่มีเพียงพอ โดยจากัดอยู่เฉพาะผู้ประกอบการบางกลุ่มเท่านั้น ประกอบกับการศึกษาวิจัย เก่ียวกับเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ในประเทศไทยมีน้อย เนื่องจากมายาคติของรัฐมองว่า เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ เป็นส่ิงไม่ดีทั้งต่อสุขภาพและศีลธรรมของคนในสังคม จึงทาให้มีการศึกษาและพัฒนาเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ มีน้อย ดังนั้น การจัดตั้งสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย จึงจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจ อตุ สาหกรรมเครื่องดม่ื แอลกอฮอล์สามารถเติบโตได้อยา่ งมีมาตรฐาน ความสะอาด และคณุ ภาพ ๔) การจดั การกับภาษีเสริมบางรายการทีไ่ มเ่ หมาะสม เนื่องจากประเทศไทยได้มีการเก็บภาษีเสริมไปใช้ตามวัตถุประสงค์เฉพาะต่าง ๆ จากเคร่อื งดืม่ แอลกอฮอล์และยาสบู ท้ังสนิ้ ๔ กิจกรรม คอื กองทุน ส.ส.ส. กองทุนพัฒนาการกฬี า ส.ส.ท. และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะเห็นได้ว่าการเก็บภาษีเสริมไปใช้ตามวัตถุประสงค์เฉพาะในบางกรณีนั้น มลี ักษณะไม่เหมาะสม ตวั อยา่ งเช่น การจัดเก็บภาษีเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ เพ่ือเอามาใช้ในกิจกรรมรณรงค์ลดการ บริโภคเครื่องดม่ื แอลกอฮอล์ของกองทุน ส.ส.ส. ซ่งึ ปญั หา คือ ตามกฎหมายของกองทุน ส.ส.ส. น้ัน ไม่ได้กาหนด เพดานขั้นสูงของการได้รับการอุดหนุนจากภาษีเสริมเอาไว้ ทาให้สามารถได้รับภาษีเสริมในอัตรา ร้อยละ ๒ ต่อเนื่องโดยตลอด ทว่า เม่ือเปรียบเทียบผลประโยชน์ที่ได้รับจากการรณรงค์แล้วน้อยมากดังสถิติที่ได้แสดงไว้ ในตารางท่ี ๙ หน้า 39 และตารางท่ี ๑๐ หน้า 40 หรือ กรณีของ ส.ส.ท. น้ัน ไม่ได้มีการโฆษณาเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์ในลักษณะที่แสดงภาพเครื่องดื่มผ่านทางสื่อโทรทัศน์วิทยุอีกต่อไปแล้ว ยกเว้นแต่เป็นการโฆษณา โดยแสดงเคร่ืองหมายการค้าประกอบการทาการตลาด ดังน้ัน จะเห็นได้ว่าการนาเงินจากภาษีเสริมมาใช้ เพื่ออุดหนุน กองทุน ส.ส.ส. และ ส.ส.ท. จึงไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ท่ีต้องการลดผลกระทบท่ีเกิดจาก การเครือ่ งดม่ื แอลกอฮอล์เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนพัฒนาการกีฬา หรือองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ซ่ึงสามารถ นาเงนิ ไปใชก้ บั กจิ กรรมทางสาธารณสุขแทนได้ ดังน้ัน คณะอนุกรรมาธิการจึงเสนอให้แก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายโดยลดเงิน สัดส่วนเงินอุดหนุนจากภาษีเสริมท่ีส่งให้กับ ส.ส.ท. และกาหนดเพดานขั้นสูงของเงินท่ีส่งให้กับกองทุน ส.ส.ส. และลดสัดส่วนเงินอุดหนุนจากภาษีเสริมที่ส่งให้กับกองทุน ส.ส.ส. โดยอาจเปิดให้มีการปรับเปล่ียนได้ในแต่ละปี ให้สอดคลอ้ งกับประสิทธภิ าพของการใช้เงินเพ่ือรณรงค์ลดการบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้เงนิ แผ่นดิน ไปกระจายอยใู่ นทุนหมุนเวียนโดยไม่จาเป็น นอกจากน้ี อาจจะนาเงินอุดหนนุ ทีไ่ ด้จากภาษีเสริมนั้น ไปกาหนดให้ กับกิจกรรมอนื่ เช่น การอุดหนุนกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ เป็นทุนให้กับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ไทย ซึ่งจะกลับไปช่วยส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจ อุตสาหกรรมเครอ่ื งดืม่ แอลกอฮอล์ไทย
117 บรรณานกุ รม
118 บรรณานกุ รม กฎหมาย กฎกระทรวงการอนุญาตผลติ สรุ า พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อบงั คบั การประชมุ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. ๒๕62 ประกาศคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ เร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข เกี่ยวกับฉลากของ เคร่ืองดืม่ แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกาศสานักนายกรฐั มนตรี เรอ่ื ง กาหนดวนั ห้ามขายเคร่อื งดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘ พระราชบัญญตั กิ ารกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘ พระราชบญั ญตั กิ องทนุ สนบั สนุนการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ พ.ศ. ๒๕๔๔ พระราชบญั ญัติกาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจใหแ้ ก่องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ พ.ศ. ๒๕๔๒ พระราชบัญญตั แิ ข่งขนั ทางการค้า พ.ศ. ๒๕๔๒ พระราชบญั ญัติควบคมุ เครอ่ื งดืม่ แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ พระราชบัญญัติภาษสี รรพสามติ พ.ศ. ๒๕๖๐ พระราชบญั ญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชบัญญตั ิองค์การกระจายเสยี งและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๑ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช 2560 Alcoholic Liquor Duties Act 1979 Excise notice 39 CFR Chapter I Alcohol Regulations Customs Act Customs (Home-Brewing of Fermented Liquors) (Exemption) Order Decree No. 105/2017/ND-CP dated September 14, 2017 of the Government on alcohol trade Federal Alcohol Administration Act Rating Manual The Beer Regulations 1993 27 CFR Chapter I Alcohol Regulations หนังสอื จักรกฤษณ์ ดา่ นเฉลมิ นนท์.(2551). ปัญหาการตคี วามและผลกระทบจากการตีความบทบัญญตั เิ ก่ียวกบั การ โฆษณาเคร่อื งดม่ื แอลกอฮอล์ตามพระราชบัญญตั ิควบคมุ เครื่องดมื่ แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑. วารสาร นติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยอัสสมั ชัญ ปีที่ ๑๐ ฉบับท่ี ๒ ตะวันชัย จริ ประมุขพิทักษ์. (2558). นโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหาสรุ า บุหรี่ ยาเสพตดิ : แนวคิด และหลักฐานเชงิ ประจักษ์. สานกั พมิ พม์ หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. กรงุ เทพมหานคร นพิ นธ์ พวั พงศกร และคณะ. (2557). รายงานฉบบั สมบูรณ์ โครงการการปฏิรูปเศรษฐกจิ เพื่อความเป็นธรรม ในสงั คม. สานกั งานกองทนุ สนับสนุนการวิจัย
119 รัตนา จนี กลาง. (2558). การวิเคราะหก์ ารเปล่ยี นแปลงโครงสรา้ งตลาดสรุ าภายใตส้ รุ านโยบายเสรี. ภาค นิพนธ์ปริญญาเศรษฐศาสตร์มหาบัณฑติ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรุ กิจบณั ฑติ วรณี จิเจริญ. (2534). เศรษฐศาสตรจ์ ลุ ภาค ๒. สานักพิมพม์ หาวทิ ยาลัยรามคาแหง. กรงุ เทพมหานคร. (พมิ พ์คร้งั ที่ ๒) วสนั ต์ ปวนปนั วงศ์. (2563). นโยบายการควบคุมเครือ่ งด่ืมแอลกอฮอลข์ องรฐั กบั การสรา้ งความมน่ั คั่งดา้ น เศรษฐกจิ ในพ้นื ที่ถนนนมิ านเหมนิ ทร์ จงั หวดั เชียงใหม่.” ศูนยว์ จิ ัยปัญหาสุรา (ศวส.) หนว่ ยระบาด วทิ ยา คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. ศรรี ัช ลอยสมุทร. (2563). การศึกษาเปรียบเทยี บผลของการรณรงค์งดเหลา้ ในเทศกาลงานบุญประเพณี: สงกรานต์ ปีใหม่ ลอยกระทง งานแข่งเรือ บญุ บ้ังไฟ และกลยุทธการตลาดของธุรกิจเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ในเทศกาลดงั กลา่ ว”. ศนู ยว์ จิ ัยปญั หาสุราและสานกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ. น. 588 - 589 สถาบนั วิจัยเพอ่ื พฒั นาประเทศไทย. (2562). รายงานฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาวเิ คราะห์ทบทวนกฎหมาย กฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับและกระบวนงานที่เก่ียวกับการอนญุ าต เพื่อลดขนั้ ตอนการดาเนนิ การและการ อนุญาตท่ีไม่จาเปน็ หรอื เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพและการดาเนินธุรกจิ ของประชาชน เลม่ ที่ ๒. กรุงเทพมหานคร สาวิตรี อษั ณางคก์ รชยั และคณะ. (2562). รายงานสถานการณ์การบริโภคเครือ่ งดมื่ แอลกอฮอลใ์ นสังคมไทย ประจาปี พ.ศ. 2560. สหมิตรพฒั นาการพิมพ์. กรงุ เทพมหานคร สานักงานคณะกรรมการควบคมุ เคร่อื งด่ืมแอลกอฮอล์. (2561). ๑ ทศวรรษ พระราชบญั ญัติควบคุมเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑. สานักงานคณะกรรมการควบคมุ เคร่อื งดมื่ แอลกอฮอล์. จงั หวดั นนทบรุ ี สานกั งานเลขานุการของคณะกรรมการยทุ ธศาสตร์ชาติ. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580. สานักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ. กรุงเทพมหานคร เอกสาร หนงั สือสานกั งานคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ที่ สธ ๐๔๑๗.๕/๒๕๔๓ ลงวนั ท่ี ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๓ เร่ือง ขอจัดสง่ ข้อมูลและเอกสาร หนังสือสานักงานสรรพสามิตพ้ืนท่ีนครศรีธรรมราช ท่ี กค ๐๖๑๑.๐๔/ - ลงวันท่ี ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เร่อื ง กาหนดเขตพน้ื ที่ (Zoning) บรเิ วณใกลเ้ คียงสถานศกึ ษา หนังสอื สานักมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี กรมสรรพสามิต ที่ กค 0615/ว 1284 ลงวนั ท่ี 30 สิงหาคม 2560 เรื่อง ซักซอ้ มความเข้าใจเกีย่ วกับการใชภ้ าชนะบรรจุสุรากลัน่ ชมุ ชน เอกสารการประชมุ บนั ทึกการประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกจิ ครั้งท่ี 25 ในวนั พุธท่ี ๑5 กรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ หอ้ งประชมุ คณะกรรมาธิการ (สผ.) 405 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา บนั ทกึ การประชุมคณะกรรมาธกิ ารศกึ ษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธิการการพฒั นา เศรษฐกจิ สภาผแู้ ทนราษฎร ครั้งท่ี 2 ในวนั พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ หอ้ งประชุม คณะกรรมาธกิ าร (สผ.) 406 ชนั้ 4 อาคารรัฐสภา
120 บันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการศึกษาพฒั นาธรุ กิจอตุ สาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธิการการพฒั นา เศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ครั้งท่ี ๓ ในวันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุม คณะกรรมาธกิ าร (สผ.) 406 ชนั้ 4 อาคารรัฐสภา บนั ทกึ การประชุมคณะกรรมาธกิ ารศึกษาพัฒนาธรุ กิจอุตสาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธกิ ารการพัฒนา เศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ครั้งท่ี ๔ ในวันพฤหัสบดีท่ี ๖ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุม คณะกรรมาธกิ าร (สผ.) 406 ชัน้ 4 อาคารรัฐสภา บันทกึ การประชมุ คณะกรรมาธกิ ารศึกษาพัฒนาธรุ กิจอตุ สาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธิการการพฒั นา เศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร คร้ังท่ี ๕ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุม คณะกรรมาธกิ าร (สผ.) 406 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา บันทกึ การประชมุ คณะกรรมาธิการศกึ ษาพฒั นาธุรกิจอตุ สาหกรรมสรุ า ในคณะกรรมาธกิ ารการพฒั นา เศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร คร้ังท่ี ๖ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุม คณะกรรมาธกิ าร (สผ.) 406 ชนั้ 4 อาคารรฐั สภา บันทึกการประชุมคณะกรรมาธกิ ารศึกษาพฒั นาธรุ กจิ อตุ สาหกรรมสรุ า ในคณะกรรมาธกิ ารการพัฒนา เศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร คร้ังที่ ๗ ในวันพฤหัสบดีท่ี ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุม คณะกรรมาธิการ (สผ.) 40๕ ชั้น 4 อาคารรัฐสภา บนั ทกึ การประชุมคณะกรรมาธกิ ารศกึ ษาพฒั นาธุรกิจอุตสาหกรรมสรุ า ในคณะกรรมาธกิ ารการพฒั นา เศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร คร้ังที่ ๘ ในวันพฤหัสบดีท่ี 3 กันยายน ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุม คณะกรรมาธิการ (สผ.) 406 ช้ัน 4 อาคารรฐั สภา รายงานการจดั สัมมนาของคณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอตุ สาหกรรมสรุ า ในคณะกรรมาธิการการ พัฒนาเศรษฐกจิ สภาผู้แทนราษฎร ในวันเสาร์ที่ 12 กนั ยายน 2563 ณ หอ้ งประชุมก่ิงเพชร โรงแรมเอเชียกรงุ เทพ เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร รายงานการเดนิ ทางไปศึกษาดงู านของคณะอนุกรรมาธกิ ารศึกษาพัฒนาธรุ กิจอุตสาหกรรมสรุ า ใน คณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันท่ี ๑๘ – ๑๙ กันยายน ๒๕๖๓ ณ จังหวดั ปทมุ ธานีและจงั หวดั นครราชสมี า ฐานขอ้ มลู ออนไลน์ กรมสรรพสามิต. (2560). คาอธบิ ายพระราชบญั ญัตภิ าษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐. สืบคน้ เม่ือวนั ท่ี ๑๖ ตลุ าคม ๒๕๖๓, จาก https://bit.ly/2S80Zmt แนวหน้า. (2563). หมอแท้จริง'แนะหนนุ สุราชุมชนช่วยเกษตร-รากหญา้ ชเี้ มาแลว้ ขับปัญหาท่ีบังคบั ใช้ กฎหมาย. สืบค้นเม่ือวันที่ 12 กันยายน 2563. จากhttps://www.naewna.com/local/517861 ผ้จู ดั การออนไลน์. (2558), รวบโจ๋ก่อเหตุยิงนกั ศกึ ษา ม.รังสิตแล้ว 1 ราย อ้างเข้าใจผิดจีบสาวคนเดยี วกัน. สืบคน้ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2563. จาก https://bit.ly/3e14jsj โพซชิ ่นั น่ิง. (2560). ยักษใ์ หญก่ ินรวบธรุ กิจผลิตขวดแก้ว เจาะบิ๊กโฟร์ชิงตลาด 4 หม่ืนล้าน. สบื ค้นเมื่อวนั ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๓. จาก https://positioningmag.com/1144128 วรรณา ยงพศิ าลภพ. (2562). วจิ ัยกรงุ ศรี แนวโน้มธรุ กิจ/อตุ สาหกรรม ปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ อตุ สาหกรรม เครอ่ื งดมื่ . สบื ค้นเมือ่ วนั ท่ี ๑๕ กนั ยายน ๒๕๖๓. จาก https://bit.ly/3aOMKtf
121 วสนั ต์ ลว่ิ ลมไพศาล. (2017). สารวจเพ่อื นบา้ น กฎหมายโรงเบยี ร์ขนาดเล็กและการหมักเบยี ร์ในบ้านของ สิงคโปร์. แบรนดอ์ นิ ไซด์. สืบคน้ เมอื่ วนั ที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๓. จาก brandinside.asia/singapore-microbrewery-regulation/ ศศิ สมุ า. (2562). คราฟท์เบยี ร์ไทยเสยี ทา่ ดว้ ยกติกาขัดขาตวั เอง. หนงั สือพมิ พก์ รงุ เทพธรุ กิจ. สืบคน้ เมือ่ วนั ท่ี ๑๖ กนั ยายน ๒๕๖๓ จาก www.bangkokbiznews.com/blog/detail/647105 ศนู ย์วจิ ยั ปญั หาสรุ า. (2020). ทาไมจงึ ต้องมพี ระราชบญั ญตั คิ วบคุมเครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอล์. สืบค้นเมอ่ื วันที่ 18 มกราคม 2564., จาก http://cas.or.th/cas/?p=7740 สรุ าไทย. (2017). เหล้าชมุ ชนโดนหา้ มใชข้ วดเบียร์เกา่ . สืบคน้ เมอ่ื วนั ท่ี 18 มกราคม 2564. จาก https://bit.ly/3xxL0i0 สานกั ขา่ วออนไลนไ์ ทยพบั ลกิ ้า. (2017). สรรพสามิตเตรียมเก็บ ภาษบี ารุงกองทุนคนชรา ๒ % สรุ า – ยาสูบ จ่ า ย Earmark Tax ร ว ม ๑ ๗ .๕ % . สื บ ค้ น เม่ื อ วั น ที่ 18 ม ก ร า ค ม ๒ ๕ ๖ ๔ , จ า ก https://bit.ly/2PxkC6x สานักงานคณะกรรมการควบคมุ เครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล์. (2562). รายงานประจาปี ๒๕๖๒. สบื ค้นเมอ่ื วันที่ ๒๘ ตลุ าคม ๒๕๖๓. จาก https://bit.ly/32V4zCN สานกั งานเศรษฐกิจการคลงั .(2557). การคลงั ปริทัศน:์ Earmarked Tax. สืบคน้ เมอ่ื วันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๖๔, จาก https://bit.ly/3dYPt5h สานักงานสรรพสามิตพื้นทีน่ ครพนม. (2558). คมู่ อื การกาหนดเขตพ้ืนท่ี (Zoning) หา้ มมใิ ห้มีสถานท่ขี าย เคร่อื งด่ืมแอลกอฮอลต์ ง้ั อยู่ในบรเิ วณใกล้เคยี งสถานศึกษา ในเขตจังหวดั นครพนม. สืบค้นเม่อื วนั ท่ี ๒๘ ตลุ าคม ๒๕๖๓. จาก https://bit.ly/3xxSuS0 American Addiction Centers. (2020). Rules & Regulations About Marketing Alcohol. Accessed 20 October 2020. From https://bit.ly/3eG8UyV ASAS. (2020). Introduction. Accessed 20 October 2020. From https://asas.org.sg/About Australian Taxation Office. (2020). Excise Duty Rates for Alcohol. Accessed 18 October 2020. From https://bit.ly/2R3k8FI Australian Taxation Office. (2020). Wine Equalization Tax. Accessed 18 October 2020. From https://bit.ly/3aQjxy2 California Department of Alcoholic Beverage Control. (2020). License Application Requirements. Accessed 18 October 2020. From https://bit.ly/2R88JEy Department of Alcoholic Beverage Control. (2020).License Types. Accessed 18 October 2020. From www.abc.ca.gov/licensing/license-types/ FTC. (2013). Alcohol Advertising. Accessed 20 October 2020. From https://bit.ly/2SdxRuf Global Advertising Lawyer Alliance. (2011). Alcohol Advertising: A Global Legal Perspective. Accessed 20 October 2020. From https://bit.ly/3xzXUM8 Heather Morton. (2019). Home Manufacture of Alcohol State Statutes. National Conference of State Legislatures. (2019). accessed 10 August 2020, from https://bit.ly/3vpBVG0 Institute of Alcohol Studies. (2020). Current UK rates of alcohol duty. Accessed 10 October 2020. From https://bit.ly/3vs0W3s
122 Singapore Customs. (2020). Excise Factory Scheme. Singapore Customs. Accessed 10 August 2020. From https://bit.ly/3eCRdAl Singapore Customs. (2020). Duties & Dutiable Goods. Accessed 18 October 2020. From https://bit.ly/3aOwiZZ Singapore Customs. (2020). Home-Brewed Beer & Other Fermented Liquors. Singapore Customs. Accessed 10 August 2020. From https://bit.ly/3aIxbU3 The matter. (2020). ดสู ่วนแบ่ง ‘เงินสินบนรางวลั ’ จากคา่ ปรับห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประเด็นที่ คนคาใจ. accessed 10 August 2020, from https://thematter.co/quick-bite/reward- alcohol-ads-act/148623 Vanbanphapluat.co. (2019). LUẬT 44/2019/QH14. Accessed 20 October 2020. From https://bit.ly/3sWO1F3
123 ภาคผนวก
124 ภาคผนวก ก ประกาศคณะกรรมาธิการการพฒั นาเศรษฐกิจ สภาผ้แู ทนราษฎร
125
126
127 ภาคผนวก ข ประมวลภาพการจดั ประชมุ ของคณะอนุกรรมาธกิ าร
128 ภาพการประชมุ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพฒั นาธรุ กจิ อตุ สาหกรรมสรุ า ในคณะกรรมาธกิ ารการพัฒนาเศรษฐกจิ สภาผแู้ ทนราษฎร
129 ภาพการประชุมคณะอนุกรรมาธกิ ารศึกษาพฒั นาธุรกิจอตุ สาหกรรมสรุ า ในคณะกรรมาธกิ ารการพัฒนาเศรษฐกจิ สภาผูแ้ ทนราษฎร
130 ภาพการประชมุ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพฒั นาธรุ กจิ อตุ สาหกรรมสรุ า ในคณะกรรมาธกิ ารการพัฒนาเศรษฐกจิ สภาผแู้ ทนราษฎร
131 ภาพการประชมุ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพฒั นาธรุ กจิ อตุ สาหกรรมสรุ า ในคณะกรรมาธกิ ารการพัฒนาเศรษฐกจิ สภาผแู้ ทนราษฎร
132 ภาพการประชมุ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพฒั นาธรุ กจิ อตุ สาหกรรมสรุ า ในคณะกรรมาธกิ ารการพัฒนาเศรษฐกจิ สภาผแู้ ทนราษฎร
133 ภาคผนวก ค ประมวลภาพการจดั สมั มนาของคณะอนุกรรมาธกิ าร
134 ภาพคณะอนุกรรมาธกิ ารดาเนินการจัดสัมมนา ณ โรงแรมเอเชยี กรงุ เทพ กรุงเทพมหานคร (ในวนั ท่ี 12 กันยายน 2563)
135 ภาพคณะอนุกรรมาธกิ ารดาเนินการจัดสัมมนา ณ โรงแรมเอเชยี กรงุ เทพ กรุงเทพมหานคร (ในวนั ท่ี 12 กันยายน 2563)
136 ภาพคณะอนุกรรมาธกิ ารดาเนินการจัดสัมมนา ณ โรงแรมเอเชยี กรงุ เทพ กรุงเทพมหานคร (ในวนั ท่ี 12 กันยายน 2563)
137 ภาคผนวก ง ประมวลภาพการเดนิ ทางไปศกึ ษาดงู านของคณะอนกุ รรมาธกิ าร
138 ภาพคณะอนกุ รรมาธกิ ารเดนิ ทางไปศกึ ษาดงู าน ณ จงั หวัดปทมุ ธานแี ละจงั หวดั นครราชสมี า (ระหว่างวันที่ ๑๘ – ๑๙ กนั ยายน 2563)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260