๑๔ อีกทั้งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ขอ้ มลู วา่ โรงพยาบาลมกี ารวางแผนการดาเนนิ งานและพฒั นามูลค่าของกัญชง (Hemp) ข้อมูลจากผู้ทรงคุณ วุฒิ ท่ีปรึกษากรมการแพทย์แผนไทย และการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนาแนวทางสาหรับกัญชง (Hemp) เพ่ือให้มกี าร รองรับในการนากัญชง (Hemp) ไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ อาหารและเครื่องสาอางเพิ่มเติม จากเดิมที่อนุญาตให้ปลูกเพื่อการใช้ประโยชน์เส้นใย ประเด็นปัญหาที่จะเกิดข้ึนหากมีการออก กฎกระทรวงฯ ตามแนวคิดของท่ีปรึกษากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก คือ เร่อื งของ ใบอนุญาต ท้ังใบอนุญาตการปลูก การครอบครอง การผลิตแปรรูป และอาจรวมถึงการจาหน่าย โดยเสนอกระบวนการในการปลูกกัญชง (Hemp) ในโรงเรือนซ่ึงมีรูปแบบการปลูกกัญชง (Hemp) ออกเป็น ๒ ลักษณะ คือ ๑) การปลูกเพื่อการใช้ประโยชน์จากเส้นใย สามารถปลูกในแปลงปลูกแบบ เปิดได้ แต่ประเทศยังไม่มีศักยภาพและยังขาดภาคอุตสาหกรรมท่ีจะนาเส้นใยกัญชงมาใช้ และ ๒) การเพาะปลูกเพื่อการจะใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์จาเป็นต้องปลูกในแปลงปลูกแบบปิด ปัจจุบัน ได้ มีแ ป ล งป ลู กแบ บ มี โรงเรือน ส าเร็จรูป ที่ ใช้ป ลู กต้น เมล่ อ น ที่ ผ ลิ ต ใน ส าธารณ รัฐ ป ระช าช น จี น ซ่ึงใช้งบประมาณ ๓๐,๐๐๐ บาทต่อแปลง ขนาดแปลงกว้าง ๖ เมตร และความยาว ๓๐-๖๐ เมตร สามารถใชเ้ พาะปลูกกญั ชง (Hemp) ได้ เน่ืองจากความสงู ของต้นกัญชง และต้นเมลอ่ นจะสูงไล่เลยี่ กัน สาหรับการพฒั นาสายพันธกุ์ ญั ชงใหม้ ีสาร CBD สงู โดยไมส่ นใจในปรมิ าณเสน้ ใย พื ชกัญ ชงเป็ นพื ชที่ มีคุณ ค่า เห็น ควรส่งเสริมให้เป็นพื ช ทางการแพทย์แผนไทยโดยทาการศึกษาคู่ขนานกับวิสาหกิจชุมชนบ้านทุ่งแพม อาเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในด้านการผลิตเส้นใยและสารสกัดยารักษาโรค จากการศึกษาดูงานการใช้ เทคโนโลยีการปลูกเพื่อผลผลิตของประเทศเนเธอร์แลนด์และประเทศจีน การแก้ไขปัญหาการใช้กัญชง อย่างเป็นระบบ ควรให้มกี ารพฒั นาเมล็ดพันธ์ุรบั รองที่ให้สารสกดั CBD มูลคา่ สูงเพือ่ แข่งขันตลาดโลก โดยเร็ว โดยมีข้อมูลจากภาคธุรกิจไทยในด้านผลิตภัณฑ์อาหารและเคร่ืองดื่มมีความต้องการเมล็ด และสารสกัดจากพืชกัญชงสูงมาก การสกัดสารสาคัญ CBD ที่มีอยู่จานวนมากในพืชกัญชง (Hemp) มีความตอ้ งการของตลาดในผลิตภัณฑ์ผสมสาร CBD การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ในการนา สาร CBD ใส่ไปในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมออกจาหน่ายโดยการนาเสนอเร่ืองราวของผลิตภัณฑ์ยาไทย ตารับตา่ ง ๆ ที่มคี วามหลากหลาย รัฐบาลควรมีการสนับสนนุ งานวิจยั ในเชิงเศรษฐกิจใหเ้ กิดประโยชน์ จากพืชกัญชง (Hemp) ด้วยในเชิงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสานักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) ตอ้ งมกี ารร่างระเบียบ ข้อปฏบิ ตั ริ องรับกฎกระทรวงฯ ที่จะประกาศใช้ มีวธิ ีปฏบิ ัตใิ นการ ยื่นขอใบอนุญาตต่าง ๆ ท้ังใบอนุญาตผลิต (ปลูก) ใบอนุญาตสกัด และใบอนุญาตแปรรูปผลิตภัณฑ์ ทั้งควรมีการให้ใบอนุญาตผู้ประกอบการ ๔ ประเภท คือ ๑) ใบอนุญาตการปลูก ๒) ใบอนุญาต โรงงานสกัด ๓) ใบอนุญาตการผลิต และ ๔) ใบอนุญาตจาหน่าย ควรมีมาตรการควบคุมไม่ให้บุคคล
๑๕ ใดมีสิทธิขาดคนเดียวหรือผูกขาดและไม่ควรอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายใดได้รับใบอนุญาตท้ังหมด ทกุ ประเภท เพอ่ื ป้องกันการผูกขาดและไม่เกิดประโยชนต์ ่อเกษตรกรรายย่อย สาหรับแนวทางปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อน ส่งเสริมการปลูกกัญชง (Hemp) และการแปรรูปกัญชง (Hemp) โดยสานักงานคณะกรรมการอาหารและยามีกองควบคุม วัตถุเสพติดเป็นผู้รับผิดชอบดูแลเรื่องกัญชง (Hemp) และสานักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ยังมีกรอบแนวความคิดตามกฎระเบียบท่ีบังคับใช้อยู่ เน่ืองจาก สายงานท่ีเคยปฏิบัติมาเป็นการจับกุมปราบปราม แต่เมื่อนโยบายให้มีการปลดล็อค (หมายถึง เม่ือกฎกระทรวงฯ ฉบับน้ีมีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว ทุกคนก็สามารถเข้าสู่พาณิชยกิจกัญชง (Hemp) ได้) การส่งเสริมหรือพัฒนา จึงอาจเป็นเรื่องยากในการปรับเปล่ียนการปฏิบัติงาน และการแก้ไขปญั หา หากกัญชง (Hemp) ท่ีปลูกมีค่า THC เกินร้อยละ ๑.๐ ต่อ น้าหนักแห้ง ซึ่งไม่น่าจะต้องทาลายท้ิง ควรนาไปผ่านกระบวนการสกัดหรือวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อได้สารสกัดหรือผลิตภัณฑ์จากสารสกัด ท่ีมีสารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) เป็น ส่วนประกอบหลัก และมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกิน ร้อยละ ๐.๓ โดยน้าหนัก ส่วนประกอบของ THC ที่เกินร้อยละ ๐.๓ ให้พิจารณานาไปใช้ประโยชน์ ทางการแพทยต์ ามที่ระบใุ นกฎหมายตอ่ ไป ๒) ด้านอุตสาหกรรมการผลิต เนื่องจากกัญชง (Hemp) ยังเป็น (พืช) ยาเสพติดท่ีต้องควบคุมการปลูกและการแปรรูปให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การขออนุญาต การผลักดันด้านอุตสาหกรรมการผลิตจาเป็นต้องสร้างความร่วมมือจากภาคส่วนท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือการรวบรวม ทบทวนและพัฒนางานวิจัย การสรรหาบุคลากรผู้เช่ียวชาญเฉพาะทางด้าน เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพืชกัญชงทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเช่ือมโยงให้เกิดความร่วมมือกันในการ ยกระดับเทคโนโลยีการแปรรูปกัญชง ทบทวนข้อมูลเกี่ยวกับกัญชงให้เป็นปัจจุบันโดยครอบคลุม อุปสงค์อุปทาน กฎระเบียบที่เก่ียวข้องและอื่น ๆ พัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร การแปรรูป วัตถุดิบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกัญชงแบ่งออกเป็น ๓ ระดับในเชิงอุตสาหกรรม โดยการ สนบั สนนุ ของสานกั งานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ดงั นี้ (๑) อุตสาหกรรมแปรรูปข้ันต้น มีการคัดเลือกผู้เช่ียวชาญ เฉพาะทางลงพื้นที่เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรแปรรูป เทคโนโลยีภายหลังการเก็บเกี่ยว และเป็นพ่ีเลี้ยงในการนาไปสู่การปฏิบัติ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูป ในระดับอุตสาหกรรมแปรรูปข้ันต้น จากน้ันจัดทาระบบบริหารจัดการและโลจิสติกส์ ภายใต้เง่ือนไข ของกฎหมายสาหรับผูป้ ระกอบการหรือพน้ื ท่นี าร่อง
๑๖ (๒) อุตสาหกรรมกลางน้า มีการคัดเลือกผู้เช่ียวชาญเฉพาะ ทางลงพ้ืนที่เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปกัญชง (Hemp) จากช่อดอก ดอก ใบ เปลือก แกนลาต้น และเสน้ ใยให้เป็นพ่ีเลี้ยงในการนาไปสู่การปฏิบัติในระดับโรงงานผลิตนาร่อง (Pilot Plant) หรือระบบ ผลติ ระดับอุตสาหกรรม (Industrial Production) เพ่อื ใหเ้ กิดผลิตภัณฑ์ในระดบั กลางนา้ (๓) อุตสาหกรรมปลายน้า มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบ จากอุตสาหกรรมกลางนา้ โดยมีกลุ่มส่งิ ทอจากเส้นใยกญั ชงและกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมโพสิท การผลักดัน การจัดทาข้อกาหนดของผลิตภัณฑ์ (Product Specification) และข้อกาหนดวัตถุดิบ (Raw Material Specification) สาหรับอุตสาหกรรมโดยการทดสอบคุณสมบัติด้านกายภาพ ฟิสิกส์ เคมี จุลชีววิทยา วิศวกรรมและอื่น ๆ ตามความจาเป็นและวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ ปริมาณ สารสาคัญและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สาหรับผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เคร่ืองสาอางและเครื่องด่ืม สาหรับมนุษย์เพ่ือเป็นการกาหนดคุณภาพของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ต้นแบบ สาหรับการค้าระหว่างประเทศ ในตลาดส่งออก ต้องพิจารณาข้อกาหนดเพิ่มเติม โดยสรุป ดงั นี้ ๑. การชื้อขายระหว่างประเทศ ผู้ซื้อและผู้ขาย ต้องมี ใบรับรอง (Certificate) ท้ังสองฝ่าย โดยสินค้า ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชง (Hemp) เม่ือทาการซ้ือขาย ระหว่างประเทศ จัดเป็นสนิ คา้ เฉพาะไม่สามารถซอ้ื ขายได้อสิ ระเหมือนสนิ ค้าทว่ั ไป ๒. การชื้อขายระหว่างประเทศ ผู้ซื้อ จะเป็นผู้กาหนด สายพนั ธ์ุกัญชง (Hemp) ใหผ้ ้ขู ายในสัญญาซอ้ื ขาย ๓. การชื้อขายระหว่างประเทศ ผู้ขาย ต้องปลูก ผลิต แปรรปู กัญชง (Hemp) ให้สอดคล้องตามมาตราฐานสากลท่ีได้รับยอมรบั ในระดบั นานาชาติ ๔. การช้ือขายระหว่างประเทศ ผู้ขายต้องทาให้ผ่าน มาตราฐานการตรวจ ประเมิน (Audit) จากผู้ซื้อ ๕. การส่งสินค้าในการชือ้ ขายระหวา่ งประเทศ ผขู้ ายตอ้ งมี ใบรับรองผลการตรวจวิเคราะห์ค่าสารสาคัญต่าง ๆ ตามมาตราฐานท่ีได้กาหนดและยอมรับ (Testing Facility) จากสถานปฎิบตั ิการทีเ่ ช่ือถือและยอมรับในระดับสากล พรอ้ มแนบกบั เอกสารส่งออกด้วยทุกครั้ง ๓) ด้านการศึกษาวิจัย เพ่ือรองรับการเติบโตของพืชกัญชง (Hemp) ตลอดจนการสารสกัด CBD สู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ในส่งเสริมสุขภาพต่าง ๆ สนับสนุน การศึกษาวิจัยการใช้กัญชง (Hemp) อย่างเป็นระบบ ซึ่งขณะนี้พบว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ลงทุน สร้างระบบโรงเรือนท่ีมีระบบรักษาความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานของกองควบคมุ ยาเสพติด มีความ พร้อมพัฒนาสายพันธพุ์ ืชตระกูลแคนาบิสรวมถึงกัญชง (Hemp) เพื่อให้ปลูกได้ผลช่อดอกและเมล็ดผลิตสูง จาลองสภาพอากาศ เพ่ือพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย มีมหาวิทยาลัย
๑๗ เทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ซ่ึงกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะต้องดาเนินการผลักดันการศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบ โดยวัตถุประสงค์ท่ีสาคัญยิ่งได้กาหนดประเด็น ศึกษาวิจัยในหลายด้าน เช่น ด้านสายพันธุ์ ด้านการผลิต การปลูก การแปรรูป ด้านสารสกัด สู่การ สังเคราะห์สาร CBD และสารอื่น ๆ ในรูปแบบอนุภาคนาโน (CBD Nanoparticles) สู่การพัฒนาเป็น ผลติ ภัณฑด์ ้านการแพทย์และผลิตภณั ฑ์สง่ เสริมสขุ ภาพต่าง ๆ เป็นต้น สถานีเกษตรหลวงปางดะ อาเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาพ้ืนที่สูง (องค์การมหาชน) กับการพัฒนาสายพันธ์ุเพื่อทาเส้นใย และสารสกัด CBD ได้กาหนดเป้าหมายการขยายและพัฒนา ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แปรรูปกัญชง (Hemp) การจัดสัมมนาวิชาการ และพิจารณาเปิดศูนย์วิจัยทดลองปลูกกัญชงในหลาย พื้นท่ีหลายจังหวัดเพ่ิมขึ้น มุ่งเน้นการพัฒนาสายพันธุ์ไทยและการพัฒนาเชิงลึกเกี่ยวกับพันธ์พืช เหมาะสมกบั แตล่ ะภูมิประเทศและภมู อิ ากาศ ท้ังนี้ คณะอนุกรรมาธิการฯ มีความเห็นว่าด้านการส่งเสริม การพัฒนาสายพันธ์ุกัญชง (Hemp) ท่ีให้สาร CBD มีปริมาณสูงและให้ปริมาณเส้นใย (Fiber) มากกว่า รอ้ ยละ ๓๐ (เทียบเคียงกับสายพันธุ์ Yunma 7 ของสาธารณรัฐประชาชนจีน) ในการน้ีคณะอนุกรรมาธิการฯ จึงเห็นสมควรให้มีการส่งเสริม การปลกู กัญชง (Hemp) และการแปรรปู กัญชง (Hemp) ดังน้ี ๑. การเพิ่มอายุของใบอนุญาตผลิต จาหน่าย และครอบครอง กัญชง (Hemp) ควรจะมีอายุ ๓ ปี (จากเดิมกาหนดเพียง ๑ ปีปฏิทิน) เพื่อให้สอดคล้องกับ การวางแผนผลิตเมล็ดพันธ์ุ เพื่อปลูกในรอบปีถัดไปและการนาเทคโนโลยีในการเก็บเกี่ยวในแปลง เพาะปลูก และการลอกเปลือก แยกแกน แยกช่อดอกในโรงงานมาใช้นาร่องในการผลิต เชงิ อุตสาหกรรมเพ่อื นาวัตถุดิบแตล่ ะสว่ นสง่ ตอ่ หน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง เพื่อปรับปรุงคุณภาพและแปรรูป เป็นผลติ ภณั ฑต์ ามวัตถปุ ระสงค์ต่อไป ๒. ควรเตรยี มพร้อมให้การสนบั สนุน ขยายบทบาท อานาจหน้าที่ ในการรับรองข้ึนทะเบียน และหรือ จดทะเบียนพันธุ์พืชกัญชง (Hemp) ตามความประสงค์ของผู้ขอฯ ท้ังพันธ์ุพืชพื้นเมือง พันธุ์พืชที่ผสมขึ้นใหม่ ท่ีไม่ใช่การตัดต่อทางพันธุกรรมให้แก่กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธ์ุพืช พ.ศ. ๒๕๔๒ (ที่มุ่งเน้นเรื่อง การจดทะเบียนเพื่อคุ้มครองเป็นพันธุ์พืชใหม่) และพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. ๒๕๑๘ (ท่ีมุ่งเน้น เร่อื งการข้นึ ทะเบียนเปน็ พันธุ์พชื ข้ึนทะเบียน) ทีไ่ ดเ้ ปน็ ผรู้ บั ผิดชอบดาเนินการอยกู่ อ่ นแลว้ ๓. ควรดาเนิ นการแก้ไขปัญ หาใน กรณี ท่ี กัญ ชง (Hemp) ท่ีเกษตรกรผู้ได้รับอนุญาตปลูกกัญชงมีค่า THC เกินร้อยละ ๑.๐ ต่อน้าหนักแห้ง ซ่ึงไม่น่าจะต้อง ทาลายทิ้ง ควรนาไปผ่านกระบวนการสกัดหรือวธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ เพอ่ื ได้สารสกัดหรอื ผลิตภณั ฑ์
๑๘ จากสารสกัด ท่ีมีสารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) เป็นส่วนประกอบหลัก และมีสารเตตรา ไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ ๐.๓ โดยน้าหนัก ส่วนประกอบ ของ THC ที่เกินรอ้ ยละ ๐.๓ ให้พจิ ารณานาไปใชป้ ระโยชนท์ างการแพทย์ตามที่ระบุในกฎหมายต่อไป ๔. ควรให้หน่วยงานท่ีบังคับใช้กฎหมายกาหนดให้มีมาตราการ ควบคุมเพื่อป้องกันการผูกขาดอันไม่เป็นธรรมและผลักดันให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรท้ังหลาย โดยเสมอภาค ๔.๒.๑.๒ ด้านพาณิชยกรรม ประกอบด้วย ด้านการนาเข้า การส่งออก และการจาหน่าย ดังนี้ เน่ืองจากพืชกัญชง (Hemp) ยังเป็นยาเสพติดที่ต้องควบคุม ท้ังไม่ได้เป็นสินค้าท่ีอยู่ในความควบคุมของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ การผลักดันด้าน การนาเข้า การส่งออก และการจาหน่ายจาเป็นต้องผ่านการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางธุรกิจ (Business Feasibility Study) สาหรับเป็นแนวทางช่วยให้ผู้ประกอบการใช้ในการตัดสินใจลงทุนในเชิง พาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมกัญชง พร้อมนาผลิตภัณฑ์จากการพัฒนาเข้าร่วมแสดง หรือทดสอบ ตลาดในงานกัญชง หรือกัญชา หรืองานแสดงสินค้า (Exhibition หรือ Trade Fair) ในระดับประเทศ หรือนานาชาติ (ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ) ตามกฎหมายท่ีสามารถเข้าร่วมแสดงสินค้าได้ โดยจุดมุ่งหมายเพ่ือความจาเป็นในการทดสอบตลาด เพื่อศึกษาการยอมรับของผู้บริโภค ทางกายภาพ รูป สัมผัสรสชาติ กลิ่น ความพึงพอใจ ข้อเสนอแนะของผู้บริโภคเพื่อการนาไปพัฒนา สินค้าก่อนถ่ายทอดสู่ผู้ประกอบการในเชิงพาณิชย์ และทาแพลทฟอร์ม (Platform) ท่ีสามารถ เชอ่ื มโยงการพฒั นาตลอดหว่ งโซ่อปุ ทานของกญั ชง (Hemp Supply Chain) ในประเทศไทย ความสาคัญท่ีจะส่งเสริมให้กัญชง (Hemp) เป็นพืชท่ีมีมูลค่าทาง เศรษฐกิจและสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง ซ่ึงหากมีการประกาศใช้กฎกระทรวงฯ ฉบับน้ีขึ้นแล้ว ผลิตภัณฑ์ท่ีมีส่วนผสมของกัญชง (ไม่วา่ จะเปน็ ส่วนหน่ึงส่วนใด หรือสารสกัด CBD ก็ตาม) จะเป็นผลิตภัณฑ์ด้านธุรกิจการค้าท่ีมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงต่อไปของเกษตรกรไทยและผู้สนใจ พาณชิ ยกิจนี้ ผู้แทนกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ได้เสนอแนะข้อมูลว่า ในกรณีที่มีการปลดกัญชง (Hemp) ออกจาก (พืช) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ แล้ว (“การปลด” หมายถึง ภาคประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงพาณิชยกิจกัญชงได้ตาม (ร่าง) กฎกระทรวงฯ ฉบับนี้) จะทาให้กระบวนการนาเข้าส่งออกน้ันสามารถทาได้โดยง่ายเช่นเดียวกับสินค้าท่ัวไป เพราะไม่มี ข้อจากัดทางกฎหมาย ในส่วนของพิกัดศุลกากร HS CODE (Harmonizad System Code) เกี่ยวกับ พิกัดพืชกัญชง (Hemp) ที่จะได้มีการจัดเตรียมไว้ ซ่ึงพิกัดท่ีกรมศุลกากรใช้จะเป็นพิกัดที่ได้มีการ รับรองโดยองค์การศุลกากรโลก (World Costoms Organization : WCO) เรียกว่า ระบบพิกัดอัตรา
๑๙ ศุลกากรฮาร์โมไนซ์อาเซียน (ASEAN Harmonization Tariff Nomenclature : AHTN) ท่ีประเทศ ไทยหน่ึงในภาคีสมาชิกอาเซียนนามาใช้ใน พ.ศ. ๒๕๔๗ ด้วยอาเซียนได้เร่ิมเปลี่ยนมาใช้ระบบพิกัด อัตราศุลกากรฮาร์โมไนซ์อาเซียนหรือ AHTN เพ่ือให้ศุลกากรของทุกประเทศสมาชิกใช้พิกัดอัตรา ศุลกากรที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซ่ึงระบบน้ีเป็นระบบเป็นที่ยอมรับจากองค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) โดยใช้เป็นพิกัดท่ีระบุชนิดด้วยรหัสตัวเลข ๘ หลัก ซ่ึงข้อมูลด้านภาษี กรมศุลกากรจะได้กาหนดพิกัดศุลกากรไว้สาหรับสินค้านาเข้าและสินค้าส่งออกในส่วนของผลิตผล และผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชง (Hemp) จะมีการจัดทารายละเอียดได้โดยละเอียดต่อไปอย่างรัดกุม เก่ียวกับการจัดทาพิกัดศุลกากรน้ันจะได้มีการศึกษาข้อมูลตั้งแต่ปฐมภูมิไปจนถึงข้ันทุติยภูมิ เช่น พิกัดพืช จะได้มีการกาหนดตั้งแต่ ราก ลาต้น ใบ ก้าน ดอก เป็นต้น โดยครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นชนิดสด ชนดิ แหง้ หรือผา่ นกระบวนการอบแหง้ หากมกี ารแปรรูปเปน็ ผลิตภณั ฑ์ประเภทใดจะมกี ารจัดทาพกิ ัด ศุลกากรในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ไว้ สาหรับข้อมูลการนาเข้า ส่งออกผลิตภัณฑ์กัญชง (Hemp) ในปัจจุบัน กรมศุลกากรไม่มขี ้อมลู ในส่วนน้ี เนื่องจากยงั เป็นสง่ิ ผิดกฎหมายอยู่ มีเพียงการนาเข้าในส่วนของเมล็ด (ดว้ ยการแจง้ และสาแดงเท็จอนั ผดิ กฎหมายตามพระราชบญั ญัติศลุ กากร พ.ศ. ๒๔๖๙) เท่าน้นั ในมุมมองของผู้ปฏิบัติจากกรมศุลกากรในฐานะที่มีหน้าที่ในการ จบั กุมและปราบปรามวัตถุออกฤทธ์ิเกย่ี วกบั ยาเสพติดใหโ้ ทษ ตามบัญชยี าเสพติดใหโ้ ทษในประเภท ๕ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ด้วย ยังไม่พบผู้ที่ใช้กัญชง (Hemp) เพื่อเป็นยาเสพติด โดยตรง จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่ากัญชง (Hemp) จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมอย่างไร ซ่ึงในวิถี ชีวิตของคนไทยในภาคเหนือนั้น กัญชง (Hemp) จะถูกนามาใช้เพื่อเอาเส้นใยไปใช้ในการทาเส้ือผ้า และอุตสาหกรรมส่ิงทอ หรือเคมีภัณฑ์ท่ีผลิตจากวัตถุดิบชีวภาพที่จะถูกนาไปใช้เป็นส่วนประกอบ ในอาหารเวชภัณฑแ์ ละเคร่ืองสาอางตา่ ง ๆ ได้ ส่วนข้อมูลการนาเข้า ส่งออกกญั ชง (Hemp) น้นั ยังไม่มี ข้อมูลดังกล่าว เน่ืองจากกัญชง (Hemp) ยังเป็นยาเสพติดให้โทษที่ไม่มีการอนุญาตในการนาเข้า ส่งออกไม่ว่ากรณีใด ซึ่งการนาเข้า ส่งออกจะมีการกระทาในลักษณะท่ีเป็นการลักลอบนาเข้าเท่าน้ัน ซ่ึงจากการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้มีความเห็นว่า ควรปลดกัญชง (Hemp) ออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ จึงเป็นท่ีมาท่ีมีการอนุญาต ให้สามารถปลูกพืชกัญชง (Hemp) ได้โดยเร่ิมจากหน่วยงานของรัฐและมีแนวโน้มที่จะเปิดกว้าง มากขน้ึ ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ข้อมูลว่า พืชกัญชง (Hemp) ไม่ได้เป็นสินค้าที่อยู่ในความควบคุมของกรมการค้าต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อรฐั บาลมีนโยบายกาหนดใหก้ ัญชง (Hemp) เป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ พร้อมท่ีจะผลักดันและให้การสนับสนุนนโยบายดังกล่าว ซ่ึงกลไกและกระบวนการท่ีจะกาหนดให้พืช ชนิดใดเป็นพืชเศรษฐกิจน้ัน จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการนโยบายขึ้นมาชุดหนึ่งโดยให้ผู้แทนจาก
๒๐ หน่วยงานที่เก่ียวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการกาหนดนโยบายดังกล่าว ท้ังนี้ จะต้องมีหน่วยงาน ผู้รับผิดชอบหลักในการดาเนินงานและเห็นว่าการกาหนดให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศนั้น จะต้ องพิ จารณ าข้ อมู ลความต้ องการของตลาดในต่ างประเทศประกอบ กั นด้ วย แ ล ะ ห น่ ว ย งา น ท่ีรับผิดชอบเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว คือ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซ่ึงจะมีสาขาใน ต่างประเทศ จานวน ๕๙ สานักงานใน ๔๒ ประเทศท่ัวโลก โดยมีผู้ให้ข้อมูลทางการค้า (Trade Informant) ซึง่ เป็นคนในพื้นท่ี (Local Staff) จะทาหนา้ ทสี่ ืบเสาะ แสวงหา ขอ้ มูลจากผผู้ ลิตและผู้ค้า สินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อนาข้อมูลท่ีได้มารวบรวม เปรียบเทียบเป็นสถิติเก่ียวกับมูลค่า ของสนิ คา้ ชนิดน้ัน ๆ วา่ มีมากน้อยเพียงใดและมคี วามต้องการของตลาดเปน็ จานวนเท่าใด ซึ่งจะทาให้ สามารถนาข้อมลู มาวางแผนการตลาดของประเทศต่อไปได้ ในการน้ี คณะอนุกรรมาธิการฯ จึงเห็นสมควรส่งเสริมการพัฒนา พันธ์ุพืชกัญชง (Hemp) ท่ีให้สาร CBD มีปริมาณสูงและเส้นใย (Fiber) มากกว่า ๓๐% และ เสนอ พิจารณาแก้ไข พรบ ยาเสพติด (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๒๓ ในการเพิ่มอายุของ ใบอนุญาตผลิต จาหน่าย และครอบครองกัญชง (Hemp) เดิมกาหนดเพียง ๑ ปีปฏิทิน ซึ่งไม่ สอดคล้องกับการวางแผนผลิตเมล็ดพันธ์ุเพ่ือปลูกในรอบปีถัดไป ควรจะมีอายุ ๓ ปี เพ่ือให้สอดคล้อง กับการวางแผนผลิตเมล็ดพันธ์ุเพ่ือปลูกในรอบปีถัดไป และการนาเทคโนโลยีในการเก็บเก่ียวในแปลง ปลูกและการลอกเปลือก แยกแกนลาต้น แยกช่อดอกในโรงงาน มาใช้นาร่องในการผลิตเชิง อุตสาหกรรม เพื่อนาวัตถุดิบแต่ละส่วนส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงคุณภาพและแปรรูป เป็นผลติ ภัณฑ์ตามวตั ถุประสงคต์ ่อไป ๔.๒.๒ ด้านเศรษฐกจิ ภายในประเทศและต่างประเทศ ๔.๒.๒.๑ ดา้ นเศรษฐกจิ ภายในประเทศ ประกอบด้วยเศรษฐกิจ ด้านเส้นใย มูลค่าสินค้าผลผลิตและการส่งเสริมกัญชง (Hemp) พืชเศรษฐกิจใหม่ของไทยกับการแข่งขัน ในตลาดโลกได้มีการศกึ ษาพิจารณาดงั ต่อไปนี้ คณะอนุกรรมาธิการฯ เห็นสมควรเสนอให้ส่งเสริมพืชกัญชง (Hemp) เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ และเป็นพืชทดแทนการปลูกพืชรายได้น้อยในพ้ืนที่ท่ีเหมาะสม แต่ “กัญชง (Hemp)” ยังคงเป็น (พืช) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ตามกฎหมายไทย ผลิตภัณฑ์ที่มี ส่วนผสมของกัญชง (Hemp) จึงยังไม่มีข้อมูล และการจัดการด้านธุรกิจภายในประเทศ ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์หลายท่านวิเคราะห์ว่าพืชเศรษฐกิจจัดเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ ตัวสินค้ามีมาตรฐาน เดียวกันหรือใกล้เคียงกันทั่วโลก ราคาสินค้าถูกกาหนดโดยอุปสงค์และอุปทานตลาดโลก พืชเศรษฐกิจ ที่ดีจึงควรปลูกง่าย โตเร็ว ต้นทุนต่า ทนต่อสภาพแวดล้อม ใช้ระบบเกษตรอินทรีย์ มีการชลประทาน ที่ดี สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ง่าย หลากหลายคุณประโยชน์ มีการขนส่งและกระจายสินค้า ไดส้ ะดวก
๒๑ จากความเหมาะสมหลายประการของประเทศไทย ท้ังในด้าน ภูมิประเทศ ปริมาณน้าฝนเพียงพอ ความเหมาะสมของดินท่ีร่วนซุยหรือร่วนปนทราย ฤดูกาล และความชื้นของภูมิอากาศ อุณหภูมิที่มีความเหมาะสม กัญชง (Hemp) เป็นพืชวงจรชีวิตสั้น โดยเฉพาะพ้ืนท่ีสูงภาคเหนือของประเทศที่ให้ผลผลิตท่ีดีและมีคุณภาพ อีกทั้งเป็นพืชที่ได้เปรียบ สามารถให้ประโยชน์จากทุกส่วนเมื่อเปรียบเทียบกับพืชไร่ชนิดอื่น ๆ ท่ีให้ประโยชน์เพียงส่วนใด ส่วนหนึ่ง เช่น ปอ ละหุ่ง มันสาปะหลัง เป็นต้น กล่าวคือ เมื่อกัญชงอายุ ๓ เดือน จะให้ต้นสดและเส้นใย อายุ ๕ เดือน ให้ดอกก่อนช่วงฤดูหนาว และอายุ ๖ เดือน ช่วงปลายปีจะให้เมล็ดเพ่ือเป็นเมล็ดพันธ์ุ หรือจาหน่าย ทั้งในกรณีต้นสด และในกรณีเปลือกและแกนลาต้นท่ีนามาตากแห้งจะมีอายุประมาณ ๓-๔ เดือน ท่ีนามาใช้ประโยชน์เพื่อการอุตสาหกรรม (หมายถึง หัตถกรรม ในกรณีน้ี) ทั้งน้ี มูลค่า เศรษฐกิจแต่เดิม ได้มาจากผลผลิตสาคัญ คือ เส้นใย (จากเปลือก) และเมล็ด ท่ีนามาทา เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม วสั ดุทดแทน อาหาร อาหารสัตว์ ฯลฯ จนกระทงั่ พ.ศ. ๒๕๐๖ เปน็ ต้นมา ทนี่ ักวทิ ยาศาสตร์ ชาวอสิ ราเอลไดค้ น้ พบว่ามสี ารประกอบเคมีสาคัญหลายชนิดท่เี รียกวา่ สารแคนนาบินอยส์ (Cannabinoids) ที่สกัดได้จากกัญชาและกัญชง (Hemp) และหนึ่งในนั้นท่ีสาคัญย่ิงคือ สาร Cannabidiol (CBD) ท่ีสามารถสกัดได้จากช่อดอก ดอกของกัญชง (Hemp) ที่ต่อมาได้มีการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนา สาร CBD เพื่อนาไปใช้ในวงการแพทย์ เภสัชกรรม ท้ังผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และเคร่ืองสาอาง อย่างมากมายกว่า ๒๐๐ ชนิด กัญชง (Hemp) จึงเหมาะสมที่จะส่งเสริมให้เป็น พืชเศรษฐกิจชนดิ ใหมข่ องไทยต่อไป กฎ ห ม าย ไท ยใน อ ดี ต ได้ ก ล่ าวถึ งส ารเส พ ติ ด ใน รัช สมั ย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) ราว ๖๖๐ ปีมาแล้ว ว่า มีกฎหมายการห้ามซ้ือ ห้ามขาย ห้ามเสพฝ่ินไว้อย่างชัดเจน และราวสมัยรัชกาลที่ ๒ ทรงตรากฎหมายห้ามสูบ ห้ามซ้ือขายฝ่ิน และกาหนดบทลงโทษผู้สบู ไว้อย่างรุนแรง และสมัยรชั กาลที่ ๖ เมื่อวันท่ี ๒๑ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘ ได้มีกฎเสนาบดีเรื่องกันชา (ภาษาเขียนของ “กัญชา” สมัยน้ันในกฎเสนาบดีที่เทียบเท่ากฎกระทรวง ในสมัยปจั จุบนั ) อนุมานได้ว่านับรวมกญั ชง (Hemp) ไว้ด้วย โดยนัยยะแห่งการสนั ทนาการและการนา กญั ชง (Hemp) มาใช้ประโยชน์ด้านเสน้ ใยที่มีคณุ ภาพดีน่ันเอง ท่ีสาคัญยิ่งใน พ.ศ. ๒๕๔๗ มูลนิธิโครงการหลวงและสถาบันวิจัย และพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ได้สนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในรัชกาลท่ี ๙ เพ่ือส่งเสริมและพัฒนาการปลูกและการทอเส้นใย ให้กับเกษตรกรพ้ืนท่ีสูงและขยายผลในปีต่อมาในพ้ืนที่ ๘ จังหวัด ๑๗ อาเภอ พ้ืนท่ีโดยรวม ๕๓๓ ไร่ (ข้อมูลจากคาส่ังศูนย์อานวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติท่ี ๗/๒๕๖๐) ตลอดจนการศึกษาวิจัยและสามารถขึ้นทะเบียนสายพันธุ์เฮมพ์ เม่ือวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ จานวน ๔ สายพันธ์ุ โดยมีกลมุ่ สหกรณเ์ ทือกเขาคีรีราษฏร์ อาเภอพบพระ จังหวดั ตากเป็นกลุ่มเกษตรกร
๒๒ ใหญ่ที่สุด ครอบคลุมพ้ืนท่ีประมาณ ๓๐๐ ไร่ มีกาไรจากผลผลิตต้นสด เปลือกแห้ง แกนลาต้นแห้ง และเมล็ดโดยรวมเมื่อหักต้นทุนแล้วที่ประมาณ ๒๑,๒๔๘ บาท ถึง ๗๒,๗๐๖ บาทต่อไร่ และสร้างมูลค่าเพ่ิมด้วยสินค้าแปรรูปถักทอร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจร้านค้าชุมชนเพื่อการท่องเท่ียว เศรษฐกิจ รายไดจ้ ากกัญชง(Hemp) ของกลุ่มสหกรณ์เทอื กเขาคีรีราษฏร์ฯ พบว่า มีรายไดเ้ ฉลี่ยตอ่ ฤดูเก็บ เก่ียวประมาณ ๒๖,๔๐๐,๐๐๐ บาท จากการขายต้นสดประมาณ ๑๐,๓๕๐,๐๐๐ บาท หรอื จากเปลือก แห้งและแกนลาต้นแห้งประมาณ ๒๖,๔๐๐,๐๐๐ บาท และจากเมล็ดประมาณ ๔,๕๐๐,๐๐๐ บาท (ปัจจุบันทางรัฐไม่อนุญาตให้ขายเมล็ดแล้ว) อย่างไรก็ตาม ยังมีการลงทุนส่วนหน่ึงภายใต้การส่งเสริม จากสถาบันฯ และหน่วยงานอื่น ๆ ตลอดจนมลู ค่าต้นทนุ ท่ีดิน มูลค่าจากมาตรการสั่งการและควบคุม ภาครฐั ฯลฯ ทีม่ ิไดน้ ามาพิจารณาประกอบ มีผลการศึกษาท่ีพบว่า กัญชง (Hemp) เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ และเป็นพืชทดแทนการปลูกพืชรายได้น้อยในพ้ืนท่ีท่ีเหมาะสม เชน่ ข้าวโพด ละหุ่ง ปอ มันสาปะหลัง เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างย่ิงการปลูกยาสูบในพื้นท่ีภาคเหนือ ซึ่งมีปัญหาจากผลกระทบต่อสุขภาพ และได้รับผลกระทบจากการค้าระหว่างประเทศ ทาให้เกษตรกรชาวไร่ยาสูบถูกลดโค้วตาการปลูก และราคาผลผลิตลงไปอย่างมาก จึงเห็นสมควรให้มีการนาระบบการวิเคราะห์ข้อมูลเพ่ือกาหนดเขต ความเหมาะสมในการปลูก โดยมีงานวิจัยของหน่วยงานต่าง ๆ รองรับ อาทิ หน่วยวิจัยสารสนเทศ การสื่อสารและการคานวณ (ICCRU) ของศูนย์เทคโนโลยีอิเลคทรอนิคส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ภายใต้สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวง การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซี่งใช้แบบจาลองคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) เพื่อจัดพื้นท่ีเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยใช้ฐานข้อมูลด้านเกษตรกรรม ข้อมูลการใช้พ้ืนที่ ข้อมูลทางเศรษฐศาสตร์ และข้อมูลด้านอื่น ๆ เป็นองค์ประกอบสาคัญ มาใช้ โดยระบบดังกล่าวนี้ ได้มีการพัฒนามาจากฐานระบบคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบ What2Grow อันประกอบด้วย โมเดล แนะนาพืชทดแทน คลังสารสนเทศด้านการเกษตร สถานีตรวจวัดสภาพอากาศที่เกษตรกร ผู้บริหาร บุคลากรที่เก่ียวข้อง ท้ังภาครัฐและภาคเอกชนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ ตลอดจนการใช้ระบบแผนท่ี เกษตรเพือ่ การบริหารจัดการเชงิ รุกออนไลน์ (Agri-Map Online) เพ่ือให้เข้าถึงและใช้งานไดอ้ ยา่ งดีย่ิง เข้าดว้ ยกัน ในลักษณะการประยกุ ตใ์ ช้แบบบูรณาการ (Integrated System) จึงเสนอให้มีการตั้งหน่วยงานกลางในรูปแบบ “ศูนย์หนึ่งกัญชง (Hemp)” เพ่ือการพัฒนาส่งเสริมนวัตกรรม การเพิ่มผลผลิต การแปรรูป ทั้งภาคเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมอย่างครอบคลุมและเต็มศักยภาพ เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ และกลไก ของตลาดการค้า การลงทนุ สามารถสรา้ งรายได้อย่างพหคุ ณู ใหกั บั คนไทยอีกด้วย
๒๓ ท้ังการวิเคราะห์ รัฐควรศึกษาความต้องการบริโภคและอุปโภค ในประเทศที่มีโอกาสขยายตัวต่อไปอย่างไม่จากัด ท้ังน้ี ด้วยความเชื่อม่ันว่าเส้นใยกัญชง ของประเทศไทยจะสามารถทดแทนเส้นใยจากพืชอ่ืน ๆ และเส้นใยจากสัตว์ เช่น ไหม ขนแกะ เสันใย ประดิษฐ์ เป็นต้น จะเป็นโอกาสท่ีดีของไทยที่จะลดการนาเข้าจากต่างประเทศ อาทิ ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ ไทยนาเขา้ เส้นใยเหล่านี้ถงึ ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท เพ่ือการใช้สอยและส่งออก อกี ทัง้ พัฒนาต่อยอดกญั ชง (Hemp) พืชเศรษฐกิจใหม่เข้าสู่สินค้าเทคโนโลยีในยุคอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Future Industry) อันสร้างมูลค่าเพ่ิมอย่างมหาศาลต่อไป ในส่วนของเมล็ดซึ่งพบว่าให้โปรตีนสูงเป็นอาหารยอดเย่ียม (Super Food) และน้ามันจากเมล็ด (Hemp Seed Oil) ให้กรดไขมันไม่อิ่มตัว โอเมก้า-๓ และโอเมก้า-๖ ตลอดจนเข้าสู่อุตสาหกรรมเคร่ืองสาอางในตลาดโลก คาดว่าใน พ.ศ. ๒๕๖๓ จะมียอดขายอาหารกัญชง ประมาณ ๑๔,๓๗๐ ล้านบาท ท้ังนี้ รัฐบาลไทยจึงควรได้ผ่อนปรนมาตรการติดตามและกากับทาง กฏหมายให้กับสินค้ากัญชงของไทยเข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างสะดวก อีกทั้งการวิเคราะห์การตลาด โดยข้อมูลจาก Trade Vistas พบว่ายอดขายกัญชง (Hemp) ทั่วโลกใน พ.ศ. ๒๕๖๑ มีมูลค่า ๑๑๑,๐๐๐ ลา้ นบาท ใน พ.ศ. ๒๕๖๒ มีมูลค่า ๑๓๘,๐๐๐ ล้านบาท และคาดการณ์ว่าใน พ.ศ. ๒๕๖๘ จะมีมูลคา่ สูง ถงึ ๗๙๘,๐๐๐ ล้านบาท จากการเติบโตดังกล่าว กัญชง (Hemp) จึงควรได้รับการส่งเสริม ให้เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทย ทั้งน้ี ยังพบว่าใน พ.ศ. ๒๕๖๑ ประเทศไทยได้นาเข้าสินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์ ๑๐ อันดับแรกมูลค่า ๕๑๒,๙๗๓ ล้านบาท โดยมีมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถึง ๑,๓๘๘,๕๔๑ ล้านบาท อันแสดงถึงศักยภาพด้านเกษตรกรรมไทยท่ีสามารถ แข่งขันได้ในตลาดเสรีการค้า ควบคู่กับการวิเคราะห์ในภาพรวมจากการส่งเสริมศักยภาพทุกด้าน ประเทศไทยจะสามารถเพ่มิ ผลผลิตและผลติ ภณั ฑ์จากกญั ชง (Hemp) ในประเทศ เพ่ือทดแทนและลด การนาเข้าสินค้าภาคการเกษตรและผลิตภัณฑ์ได้อีกจากยอดรวม ๑๓๒,๕๑๕ ล้านบาท ที่สามารถ ลดได้เปน็ จานวนไมม่ ากกน็ ้อย หากพิจารณาปริศนาของกัญชง (Hemp) ว่า กัญชงเป็นพืช เศรษฐกจิ หรือเปน็ พชื ยาเสพตดิ ? ท่ีคณ ะอนุกรรมาธิก ารฯ จักต้องไตร่ตรองอย่างพิถีพิถัน และรอบคอบแล้ว คณะอนุกรรมาธิการฯ ยังเห็นว่าต้องมีการดาเนินการเก็บสะสมตัวเลขพร้อม ผลกระทบของผู้ป่วย ผู้ได้รับอันตรายหรือผู้ได้รับผลกระทบจากสารกัญชง (Hemp) ไม่ว่าการเสพ หรือการนาเข้าสู่ร่างกายวิธีใด ๆ ก็ตาม (ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกัญชา) ทั้งทางตรง (มือแรก-ผู้เสพ) และ ทางอ้อม (มือสอง–ผู้อยู่ใกล้ และมือสาม–ส่ิงแวดล้อม) และยังจะต้องได้รับการยืนยันตัวเลขพร้อม ผลกระทบเหลา่ น้ันในทุกด้านจากหน่วยงานต่าง ๆ ทีเ่ ก่ยี วข้อง อาทิ กองควบคมุ วตั ถุเสพตดิ สานักงาน คณะกรรมการอาหารและยา สานักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ฯลฯ เป็นเบ้ืองต้นเสียก่อน
๒๔ แต่หากปัจจุบัน เมื่อได้พิจารณาตัวเลขจากสานักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยความร่วมมือจาก กรมศุลกากร จะเห็นว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ ๑๐ อันดับแรก ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ มีมูลค่าสูงถึงประมาณ ๑.๔ ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าการนาเข้าฯ มีมูลค่าเพียง ๕ แสนล้านบาท อันถือเป็นการได้เปรียบดุลการค้าทางการเกษตรของประเทศไทยที่ต้องพยายามรักษาไว้ หรือ หากพิจารณาจากตัวเลขปรากฏตามข่าวท่ัวไปว่า ประเทศไทยปัจจุบันเป็นผู้ส่งออกอาหารโลก อันดับที่ ๑๑ ด้วยมูลค่าสูงประมาณ ๑ ล้านล้านบาท และเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องสาอาง ด้วยมูลค่าประมาณ ๑.๓ แสนล้านบาท และที่สาคัญคือ ไทยยังคงได้เปรียบดุลการค้ากับประเทศต่าง ๆ ท่ัวโลกอยู่ จากข้อตกลงเขตการค้าเสรีของไทย ภายใต้กรอบเจรจาต่าง ๆ อีกด้วย เช่น ไทยได้เปรียบ ดุลการค้ากลุ่มอาเซียน ไทยได้เปรียบดุลการค้าสาธารณรัฐจีน และประเทศอ่ืน ๆ เป็นต้น ทาให้คณะอนุกรรมาธิการฯ ต้องพิจารณาให้ความสาคัญเป็นปฐมนิเทศของการผลักดันกัญชง (Hemp) ให้เป็นพืชเศรษฐกิจส่งออก (มากกว่าพืชยาเสพติด) อันเป็นเป้าหมายท่ีสาคัญต่อไป ผลักดัน พืชน้ีเข้าสู่ตลาดโลก หมายถึง กลุ่มอาเซียน ๙ ประเทศ (เพื่อนบ้าน ๔ ประเทศและประเทศต่าง ๆ รอบทะเลจีนใต้ อีก ๕ ประเทศ) สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศญ่ีปุ่น สหรัฐอเมรกิ า สหภาพยุโรป ๒๗ ประเทศ และอ่ืน ๆ ให้ได้อย่างเต็มท่ี อย่างไรก็ตามคณะอนุกรรมาธิการฯ ยังเห็นควรให้พิจารณา โดยกาหนดกรอบเวลาท่ีสมควรของปริศนา “กัญชง (Hemp) – พืชยาเสพติด” กอปรกับการรอ ฟังข่าวการพิจารณาเรื่องการเพิกถอนกัญชา (ที่มีฤทธิ์โดยตรงต่อจิตประสาท) ของสหประชาชาติ (United Nations) ที่ ได้ เลื่ อน กาห น ด การไว้ สาห รับ การลงม ติ (Voting) ใน ราวป ลายปี นี้ ให้เป็นท่ีชดั เจนแน่นอน ก่อนการพจิ ารณาใหก้ ัญชง (Hemp) หลดุ พน้ จากการเป็นพืชยาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๕ สู่การเป็นกัญชง (Hemp) – พืชเศรษฐกิจ มูลค่าสูงอย่างสมบูรณ์แบบของประเทศไทย โดยเร็ว โดยปราศจากอุปสรรค ดังเช่นท่ีบางประเทศ คือ สมาพันธรัฐสวิส (ประเทศสวิสเซอร์แลนด์) ได้ดาเนนิ การไปกอ่ นแล้วดว้ ยความมนั่ ใจและเดด็ เดี่ยว ดังนั้น เพื่อให้การรองรบั พชื กัญชง (Hemp) เป็นพชื เศรษฐกจิ ใหม่ พืชทดแทนที่มีมูลค่าสูงของไทย โดยสามารถมีตลาดเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย และให้เกิด การประยุกต์ใชฐ้ านข้อมูลอย่างบูรณาการ จึงควรจัดตั้ง “คณะกรรมการกัญชง (Hemp) พืชเศรษฐกิจ แห่งชาติ” ๔.๒.๒.๒ เศรษฐกิจตา่ งประเทศ ด้านเศรษฐกิจพืชกัญชงในต่างประเทศ ประกอบด้วย ผลผลิต การแปรรูป มูลค่าสินค้าในต่างประเทศ กลไกการตลาด และมูลค่าสินค้าในตลาดโลก พบว่า กัญชง (Hemp) เป็นพืชท่ีได้รับความสนใจในตลาดเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้นตลอดเวลา แต่ละประเทศต่างได้ พจิ ารณาออกบทบัญญัติทางกฎหมายเพ่ือผ่อนปรน ผ่อนคลายขอ้ กาหนดและข้อบังคับต่าง ๆ มากข้ึน เร่ือย ๆ ท้ังบางประเทศก็ได้ทาการปลดกัญชงออกจากการเป็นยาเสพติดแล้วเพียงควบคุมในระดับ
๒๕ เหมาะสม ที่เรียกว่า “กัญชง (Hemp)” หรือ “กัญชงเพ่ือการอุตสาหกรรม (Industrial Hemp)” ทมี่ คี วามหมายเดยี วกบั คาว่า “กญั ชง (Hemp)” น่ันเอง รวมทง้ั สหรฐั อเมรกิ า จนี แคนาดาและหลาย ประเทศในภูมิภาคยุโรปท่ีถือวา่ เป็นผู้นาในเชิงเกษตรกรรม พาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมของกัญชง (Hemp) ในปจั จบุ ัน ในขณะท่ปี ระเทศไทยกาลังมีการศกึ ษาอยา่ งจรงิ จังแต่ดว้ ยการพิจารณา เรื่องความปลอดภัยด้านสุขภาพเป็นสาคัญจึงยังไม่ได้ทาการปลดกัญชง (Hemp) ออกจากบัญชี ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ด้วยแต่เดิมอนุญาตเพียงเพ่ือการศึกษาวิจัยและอนุญาตให้ใช้เส้นใย ในครัวเรือนของเกษตรกรพื้นทีส่ ูงเท่านั้น และด้วยความเชื่อมน่ั อย่างเต็มเปี่ยมว่า (ร่าง) กฎกระทรวงฯ ฉบับท่ีคณะอนุกรรมาธิการฯ กาลังศึกษาพิจารณาอยู่น้ี จะสามารถผลักดันให้กัญชง (Hemp) เติบโต เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่มีความปลอดภัยสูงและนาพาเกษตรกรให้มีรายได้ที่ดีขึ้นมากจากพาณิชยกิจ กัญชงนต้ี ่อไป ปรากฏข้อมูลแต่ละประเทศได้กาหนดเงื่อนไขพืชกัญชง (Hemp) ด้วยค่าปริมาณรอ้ ยละของ THC ในช่อดอกแหง้ กฏหมายและตลาดการค้าโลก ดงั นี้ กลุ่ม ๑ ป ริมาณ ค่าสาร THC ไม่เกิน ร้อยละ ๑ .๐ ได้แก่ สวิตเซอรแ์ ลนด์ อรุ ุกวยั และโคลมั เบีย กลุ่ม ๒ ปริมาณค่าสาร THC ไม่เกินร้อยละ ๐.๒ ได้แก่ สหภาพ ยุโรปของ ๒๗ ประเทศสมาชิก เช่น โปแลนด์ เยอรมันนี สาธารณรัฐเช็ก อิตาลี (ถึงร้อยละ ๐.๖) รสั เซยี สหราชอาณาจักร เปน็ ต้น กลุ่ม ๓ ปริมาณค่าสาร THC ไม่เกินร้อยละ ๐.๓ ได้แก่ จีน อเมริกา แคนาดา เกาหลีใต้ อหิ รา่ น เดนมาร์ก และออสเตรยี (สหภาพยุโรป) และกลุ่มอื่น ๆ ท่ีอยู่ในระหว่างแก้ไขกฎหมายให้ปลูกกัญชง (Hemp) ได้ เชน่ พม่า อยี ิปต์ มาเลเซยี และบางมลรฐั ในสหรฐั อเมริกา เปน็ ตน้ ส่วนในประเทศไทยอยู่ในกลุ่มที่ ๑ มีระบุ “เฮมพ์” (Hemp) หมายความว่า พืชซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L.subsp. sativa อันเป็นชนิดย่อยของ พืชกัญชา (Cannabis sativa L.) ท่ีมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ ๑.๐ ต่อน้าหนักแห้ง ซ่ึงตรวจวเิ คราะห์ตามหลกั เกณฑ์ และวธิ ีการที่คณะกรรมการ ประกาศกาหนด (กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ครอบครอง ซง่ึ ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๙, ๒๕๖๐) ทั้งน้ี ผ้แู ทนกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ข้อมูลว่าสถานการณ์โดยภาพรวมจากประเทศทั่วโลกของตลาดกัญชง (Hemp) พบว่าใน พ.ศ. ๒๕๖๑ เฉพาะตลาดเครื่องด่ืมที่มีส่วนผสมของกัญชง (Hemp Beverages) สร้างมูลค่ายอดขาย
๒๖ ทางเศรษฐกิจกว่า ๑,๖๑๓ ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ ๔๘,๓๙๐ ล้านบาท และคาดว่าภายใน พ.ศ. ๒๕๖๘ จะสร้างมูลค่ายอดขายทางเศรษฐกิจถึง ๔,๔๖๔ ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ ๑๓๓,๙๒๐ ลา้ นบาท และโดยท่ีกรมสง่ เสริมการคา้ ระหวา่ งประเทศได้รวบรวมข้อมูลการนาเขา้ สง่ ออก กัญชง (Hemp) ไว้ถึง ๒๘ ประเทศ ใน ๓๗ เมืองใน ๙ ภูมิภาคของโลก อันได้หยิบยกตัวอย่าง สาระสาคัญในประเทศตา่ ง ๆ ดังน้ี สาธารณรัฐประชาชนจีนใน พ.ศ. ๒๕๕๓ อนุญาตให้มลฑลยูนนาน เป็นพื้นที่แรกของการปลูกกัญชง (Hemp) ในพื้นท่ีกว่า ๔,๐๐๐ ไร่ และใน พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้เพ่ิมพื้นที่ อนุญาตปลูกในมลฑลเฮยหลงเจียงเพียงมณฑลเดียวอันมีพ้ืนที่ถึง ๑๘๗,๕๐๐ ไร่ ประมาณได้เท่ากับ หน่ึงในสามของพ้ืนที่เพาะปลูกในประเทศยุโรปและแคนาดารวมกัน และใน พ.ศ. ๒๕๖๑ จีนอนุญาต ใหภ้ าคเอกชนสามารถสกัดสาร CBD เพ่ือจาหน่ายไดโ้ ดยมีมลู ค่าการผลิตถึง ๘,๘๕๘ ลา้ นบาท ประเทศญ่ีปุ่นมีหลักฐานทางโบราณคดีว่ากัญชง (Hemp) เป็นพืช ที่พบในญ่ีปุ่นมากกว่า ๑๐,๐๐๐ ปี ล่วงมาแล้ว มีการใช้เส้นใยและใช้ประกอบพิธีทางศาสนา ในปัจจุบัน การปลูกยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีความต้องการสูงด้านซ้ือขายผลิตภัณฑ์อาหารจากเมล็ด ราคาหมุนเวียนในผู้ประกอบการบางรายมีมูลค่าสูงถึง ๒๕,๙๐๐,๐๐๐ บาท และรัฐบาลเพ่ิงอนุญาต ให้มีการใช้ยาทางการแพทย์ที่มีสาร CBD ได้ตลอดจนให้ความสาคัญกับโครงการปลูกกัญชง (Hemp) เพอื่ การส่งเสรมิ สุขภาพผสู้ ูงอายุ สาธารณรัฐอนิ เดียจัดได้ว่าเป็นประเทศตน้ กาเนิดกัญชาและกัญชง (Hemp) รัฐบาลกลางอินเดียได้ออกกฎหมาย โดยให้อานาจรัฐบาลท้องถิ่นกาหนดเง่ือนไขการปลูก และพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชง (Hemp Industrial) เองได้ เพ่ือการผลิตเพ่ือใช้เองในประเทศ ทั้งมีสถิติการนาเข้าจากจีน เนเธอร์แลนด์ ฝร่ังเศส เบลเยี่ยม และการส่งออกไปยังเนปาล มาเลเซีย สวีเดน และแคนาดา ส ห รั ฐ อ เม ริ ก า จั ด ว่ า เป็ น ผู้ น า ป ร ะ เท ศ ผู้ ก า ห น ด ร า ค า กั ญ ช ง (Hemp) ในตลาดโลกและเทคโนโลยีในการเพาะปลูก แปรรูปการผลิตเมล็ดพันธ์ุใหม่และการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งจากเมล็ดเส้นใยและสาร CBD ท่ีเป็นพืชเศรษฐกิจมีมูลค่าการตลาดสูงถึง ๓๓,๐๐๐ ล้านบาท หรือร้อยละ ๒๕ ของมูลค่าตลาดโลก ในประเทศมีการอนุญาตให้ปลูก มีการรับรองให้สาร สกัด CBD จากพืชกัญชงถูกต้องตามกฎหมาย สามารถทารายได้สูงในตลาดโลก เช่น ราคาดอกประมาณ ๑๙,๘๐๐ ถึง ๒๙,๗๐๐ บาทต่อกิโลกรัม มูลค่าสาร CBD ในผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์มีมูลค่าถึง ๔,๖๒๐ บาทต่อกรัม ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าต้น พ.ศ. ๒๕๖๑ สหรัฐอเมริกานาเข้ากัญชง (Hemp) จากจีน ต่อมาใน ปลายปีเดียวกันภายใต้กฎหมาย 2018 Farm Bill สหรัฐอเมริกากลับเจรจาต่อรองจีนเพ่ือเป็นผู้ขาย ผลผลิตและผลิตภัณฑ์กัญชง (Hemp Product) ให้จีนจากมูลค่าส่วนหน่ึงของมูลค่าผลผลิต และผลิตภัณฑ์การเกษตรของสหรัฐท่ีมีมูลค่ารวมถึง ๓๗๕,๐๐๐ ล้านบาท ทั้ง ๆ ท่ีจีนมีพ้ืนที่ผลิต
๒๗ และผลผลิตกัญชง(Hemp) อยู่ในอันดับหน่ึงของโลก อันเนื่องมาจากการเจรจาการค้าแบบ Win–Win ระหวา่ งสองประเทศ ประเทศแคนาดาจะขายสินค้าเกษตรส่งออกรวมกัญชง (Hemp) เพื่อแลกเปล่ียนสินค้ายานยนต์และผลิตภัณฑ์อิเลคทรอนิคส์กับสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ในการ เจรจาเขตการคา้ เสรี (Free Trade Agreement–FTA) ในรูปทวภิ าคีระหวา่ งกนั ประเทศเนเธอร์แลนด์มีการปลูกคิดเป็นร้อยละ ๘๐ เพื่อเป็น สินค้าส่งออกให้แก่ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศแถบ สแกนดเิ นเวีย ท้ังน้ี ผลติ ภัณฑจ์ ะมีการวางจาหนา่ ยในร้านคา้ ปลีกและรา้ นค้าออนไลน์สว่ นใหญ่จะเป็น ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและเครื่องสาอาง ได้แก่ สบู่ โลชั่นบารุงผิว แชมพู ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และวิตามิน ซ่ึงจะใช้น้ามันกัญชง (Hemp Oil) เป็นวัตถุดิบและมีปริมาณสาร THC ตามกฎหมาย คิดเป็นร้อยละต่ากว่า ๐.๐๕ โดยส่งไปสกัดสาร CBD ในต่างประเทศแล้วนากลับมาจาหน่ายในประเทศ มีหน่วยงานกลาง Office of Medicinal Cannabis (OMC) โดยรัฐบาลรับผิดชอบด้านการควบคุม การปลกู ผลติ จาหน่ายและกระจายสนิ คา้ เครือรัฐออสเตรเลีย รัฐบาลแห่งเครือรัฐอนุญาตให้ปลูกผลิต เมล็ดกัญชง (Hemp seed) ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและสามารถนามาบริโภคเป็นอาหารได้ แตไ่ มอ่ นุญาตให้จาหน่ายใบ ดอกและส่วนอ่นื ๆ นอกจากเมล็ดและน้ามันสกัดจากเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) ทั้งนี้ ผลผลิตภายในประเทศยังไม่เพียงพอ ต้องนาเข้าวัตถุดิบจากประเทศแคนาดา และสหภาพยุโรปโดยนาเข้าเมล็ดและน้ามันสกัดมาใช้ในอุตสาหกรรม เช่น อาหาร และเครื่องสาอาง เป็นต้น นาเข้าเส้นใยกัญชง (Hemp) มาใช้ทาเสื้อผ้า สินค้าแฟช่ัน เชือก กระดาษ นาเข้าเน้ือไม้มา ผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง ท่ีนอนของสัตว์เล้ียง และอุปกรณ์ที่ใช้ในรถยนต์ นาเข้าเมล็ดจากสหรัฐอเมริกา มาประกอบอาหารรูปแบบต่าง ๆ ทั้งน้ี กฎหมายของเครือรัฐออสเตรเลียได้กาหนดให้การขอ ใบอนญุ าตปลกู กญั ชง (Hemp) มีอายุ ๑ ปี ภายใต้การกากบั และดูแลของแต่ละภาครฐั สหภาพยุโรปมีแนวโน้มว่าตลาดกัญชาและกัญชง (Hemp) ในสหภาพยุโรปน่าจะเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าสหรัฐอเมริกา ในส่วนกัญชงน้ันอยู่ในกลุ่มควบคุมปริมาณ THC ไม่เกินร้อยละ ๐.๒ พบว่า แต่เดิมเพ่ือใช้เส้นใย ในปัจจุบันเพ่ือการผลิตสาร CBD ทางการแพทย์ และเมล็ดในอุตสาหกรรมอาหาร อาหารสุขภาพ และความงาม ปลูกมากในฝรั่งเศส รัสเซีย และเนเธอรแ์ ลนด์ มีพ้นื ที่ปลูกโดยรวมประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ ไร่ ท้ังนี้ พบว่าสารสกัด CBD จากผู้ประกอบการสัญชาติอเมริกัน ในเมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกาและมีสาขาในสหราชอาณาจักรภายใต้ชื่อบริษัทว่า “Sabaidee- สบายดี” (ตั้งช่ือมาจากประสบการณ์ท่ีดีจากการนวดแผนไทย) ได้ผลิตสาร CBD oil ตัวอย่างหนึ่ง ภายใต้เคร่ืองหมายการค้า “Sabaidee” ท่ีมีปริมาณสาร CBD สูงถึง ๒,๕๐๐ มิลลิกรัมต่อขวดบรรจุ
๒๘ ๓๐ มิลลิลิตร ท่ีมีมูลค่าจาหน่ายขวดละ ๖,๐๐๐ บาท นับได้ว่าประเทศไทยโดยทางอ้อมก็มีช่ือเสียง เปน็ ท่ยี อมรับอยา่ งสูงในด้านแหลง่ ผลิตผลิตภณั ฑ์สุขภาพ และการบริการสง่ เสริมสขุ ภาพวิถีไทย จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า ข้ อ มู ล เพิ่ ม เติ ม ข อ ง ส ม า พั น ธ รั ฐ ส วิ ส (หรือสวิตเซอร์แลนด์) ที่มีประชากรประมาณ ๘.๕ ล้านคน จัดว่าเป็นหน่ึงในประเทศที่ร่ารวยที่สุดในโลก มีมาตรฐานการศึกษาและสขุ ภาพสูงโดดเด่น ได้แกไ้ ขกฎหมายในเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ อนุญาต ให้ปลูกกัญชง (Hemp) ได้อย่างเสรี โดยกาหนดค่าร้อยละของ THC ไม่เกินร้อยละ ๑.๐ โดยเกษตรกร หรือผู้ปลูกไม่ต้องขออนุญาตใด ๆ จากหน่วยงานรัฐ ท้ังให้มีการจาหน่ายอย่างอิสระรวมท้ังสารสกัด CBD ในส่วนของอาหารเสริม (Supplement) และเคร่ืองสาอางด้วย เพียงแต่การจาหน่ายสารสกัด CBD ให้อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกับการจาหน่ายบุหรี่ท่ัวไป ท้ังยังไม่ปรากฏแนวโน้มในเชิงอันตรายใด ๆ ต่อผู้บริโภคและอุปโภคของพืชกัญชง (Hemp) นี้แต่อย่างใด ปัจจุบันสวิตเซอร์แลนด์จัดว่าเป็นศูนย์ CBD ของภูมิภาคยุโรป (CBD Hub of Europe) เพียงยอดขายในประเทศอย่างเดียวใน พ.ศ. ๒๕๖๐ มีมูลค่าประมาณ ๑,๘๐๐ ล้านบาท และคาดว่าใน พ.ศ. ๒๕๗๐ ยอดขายน้ีจะเติบโตถึงเกือบ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาททีเดียว (Heidisgarden.com) จึงเป็นตัวอย่างที่ดีตัวอย่างหนึ่งท่ีจะนามาพิจารณาศึกษาไปสู่ การเพิกถอนพืชกัญชง (Hemp) ออกจาก พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยส้ินเชิง ในอนาคต จากการพิจารณาศึกษาด้านเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ เห็นสมควรสง่ เสริมให้เกิดการการขับเคลื่อนกัญชงให้เปน็ พชื เศรษฐกิจของไทย ดังนี้ ๑. ปรับแกข้ ้อกฎหมายท่เี ป็นอุปสรรคทางการค้าของ ((ร่าง) กฎกระทรวงฯ) ท่ีโดยกาหนดคาจากัดความของพ้ืนท่ีครัวเรือน และ (ประกาศกระทรวงฯ) สาระสาคัญของการห้าม นาเข้า CDB ในเวลา ๕ ปี ๒. สร้างหน่วยงานรัฐ ชื่อศูนย์หนึ่งกัญชง (One-Stop-Service Hemp) พร้อมแผนก Frequently Asked Question (FAQ), Hotline ขนึ้ (เรียกว่า “สร้างศนู ย์บัญชาการ”) ๓. สร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศรวมศูนย์ (Centralised Information Technology-CIT) ระดับชาติ เพ่ือรวมรวม ติดตามและวิเคราะห์ ข้อมูลเก่ียวกับความเคลื่อนไหว (Dynamics) ทั้งหมดของผู้ปลูก ผู้แปรรูป สายพันธุ์พืช พ้ืนท่ีเพาะปลูก ผลผลิต ผลิตภัณฑ์ อุปสงค์ อุปทาน และราคาขึ้นลงในประเทศและตลาดโลก การฝ่าฝืนกฎหมาย มาตรการควบคุม ฯลฯ ด้วยฐานข้อมูลของ Big Data Analytics ของ NECTEC และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ What2Grow ของ NECTEC Agri-Map Online ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ TTTR ของตา่ งประเทศ เพอ่ื การวางแผนระดบั โลกอยา่ งเปน็ พลวัต (เรยี กวา่ “สร้างระบบฐานขอ้ มูล”) ๔. การส่งเสริมสนับสนุนภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมพืชกัญชง (Hemp)
๒๙ ๔.๑ การส่งเสริมให้มีการจัดต้ัง สมาคม วิสาหกิจชุมชน เครือข่าย ๑% THC Club ฯลฯ ข้ึนมาเพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูล ขึ้นทะเบยี นบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการ เช่น ผู้ออกแบบ ระบบเกษตรกรรม ผลิตภัณฑ์ ระบบแสง Indoors เป็นต้น ส่งเสริมการสร้างเครือข่าย (Networks) สร้างมติ รภาพต่อกนั จูงใจใหแ้ ข่งขันกันสร้างพันธ์ุพืชใหม่ (Plant Varieties) การส่งเสริมความร่วมมือ ตามบทบาทแต่ละคนท่ีเป็นการแข่งขันเชงิ มิตรภาพระหว่างกนั เพอ่ื ความพร้อมสตู่ ลาดโลก ๔.๒ การส่งเสริมศักยภาพองค์กรทั้งบุคคล นิติบุคคล เอกชน หรือมหาชน กิจการร่วมค้า (JV) ฯลฯ เพื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ต่อไป เสริมสร้างอาสาสมัครต้นแบบ พื้นท่ีนาร่อง (Pilot Projects) พร้อมกาหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธี สร้างงานและสนับสนุนพ้ืนที่ นาร่องภายใต้หลักการต้นทุนประหยัดจากขนาดใหญ่ (Economies of Scale) ภายใต้ความร่วมมือ หน่วยงานในพ้ืนท่ีภายใต้การดูแลของ กรมพัฒนาท่ีดิน สานักงานปฏิรูปท่ีดินเพ่ือการเกษตร (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเกษตรกรทว่ั ประเทศ ๔.๓ การส่งเสริมศักยภาพและการจัดการเรียนรู้โดยการใช้หลักสูตร “Smart Farmers” เพ่ือให้เกษตรกรมีความรู้ ความเข้าใจด้านการผลิตสายพันธ์ุพืช นาเข้า ส่งออก จาหน่าย ผลผลิต (Produce) และผลิตภัณฑ์ (Products) ด้วยการระดมวิทยากรท้ังหลายในประเทศ และต่างประเทศทั้ง On-Line, Face2Face ตลอดจนการผลักดันช่วยเหลือให้เกษตรกรเข้ารับ การรับรองมาตรฐาน เช่น GAP GMP Halal เป็นต้น รวมทั้งสนับสนุนให้ขึ้นทะเบียน และหรือ จดทะเบียนพนั ธ์พุ ชื กัญชง (Hemp) ใหม่ตามกฎหมาย ๔.๔ การสนับสนุนการลงทุนโดยการงดเว้นหรือผ่อนปรนค่าธรรมเนียม ค่าภาษีท่ีเกี่ยวข้อง ภาษีศุลกากร ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต (ถ้ามี) เป็นระยะเวลา ๕ ปี (Tax Free) ตลอดจนโดยการสนับสนุนของสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และการสนับสนุนสินเช่ือจากธนาคารของรัฐ เช่น KTB GSB GHB EXIM เป็นต้น การสนับสนุนทุน ตลอดจนการแนะนานักลงทุน (Investors) ส่งเสริมการลงทุนเพือ่ สร้างงาน สร้างรายได้ และเพื่อความ รว่ มมอื เสริมสรา้ งธรุ กจิ ใหเ้ ขม็ แข็ง ๕. การส่งเสริมด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การตลาด ดาเนินการ ด้านการตลาด การหาตลาด การช่วยเหลือการเจรจาการค้าระหว่างประเทศของสินค้ากญั ชง (Hemp) ส่งออกในระดับ Bilateral Multilateral Regional หรืออื่น ๆ เพ่ือกาหนดยุทธศาสตร์การตลาด และกาหนดตัวผู้ซื้อและชนิดสินค้าข้ึนมาก่อน (Potential Customers) ผลักดันข้อตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement) ระหวา่ งประเทศไทยและคู่ค้าท้ังหลายที่มีอยู่และเกิดขึน้ ใหม่ ๖. การส่งเสริมเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) ที่เป็นธรรมระหว่าง ผู้ขายและผูซ้ ื้อ เพือ่ รองรบั การผลิตในประเทศอย่างมที ิศทางและป้องกันความเสีย่ งด้านการตลาดของไทย
๓๐ ๔.๒.๓ ด้านการกากบั ดแู ลและติดตามการใช้กัญชง (Hemp) อยา่ งเป็นระบบ ๔.๒.๓.๑ กระบวนการควบคุมและกากับดูแลตามกฎหมาย การควบคุมและกากับดูแลการใช้พืชกัญชง (Hemp) อย่างเป็น ระบบทางกฎหมาย ผู้แทนสานักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ข้อมูลว่า การดาเนินการ ให้สอดคล้องกับกฎกระทรวง เรื่องการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ ในครอบครอง ซ่ึงยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ และคาสั่งศูนย์อานวยการ ป้องกนั และปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ท่ี ๗/๒๕๖๐ เร่ืองมาตรการควบคุมและกากบั ดูแลการปลูก เฮมพ์ (Hemp) พืชเศรษฐกจิ มี อานาจหน้าที่ ดงั นี้ ๑) อานวยการควบคุมติดตามตรวจสอบพ้ืนทป่ี ลูกกัญชง (Hemp) ให้เปน็ ไปตามกฎกระทรวงฯ พ.ศ. ๒๕๕๙ รว่ มกับชุดปฏิบัติการตรวจสอบกญั ชง (Hemp) ระดับอาเภอ โดยดาเนินการตรวจพื้นที่ปลูกกัญชง (Hemp) ใหต้ รงตามท่ีไดม้ กี ารแจ้งไว้ ๒) การมสี ว่ นร่วมในการพจิ ารณาใบอนญุ าตปลกู กญั ชง (Hemp) ๓) การพัฒนาระบบข้อมูลและกากับดูแล การปลูกกัญชง (Hemp) โดยการจัดทาโปรแกรมฐานข้อมูลพืน้ ที่ปลูกกัญชง (Hemp) และให้ผู้ขออนุญาตมีหน้าที่ในการนาข้อมูล พื้นที่ปลูกกัญชง (Hemp) เข้าระบบฐานข้อมูล และให้ฐานข้อมูลน้ีสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกับ หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วข้องในทุกระดับเพ่ือให้ใช้ฐานข้อมลู กัญชง (Hemp) ทงั้ ประเทศ ๔) การสร้างความพร้อมและสนับสนุนทรัพยากรเพื่อควบคุม กัญชง (Hemp) ๕) ดาเนินการถ่ายภาพทางอากาศ เพ่ือรวบรวมพื้นท่ีปลูกกัญชง (Hemp) รวมท้ังหาแหล่งข้อมูลการลักลอบปลูกกัญชาหรือกัญชง (Hemp) ท่ีไม่ได้รับอนุญาตในพ้ืนท่ี บริเวณที่เปน็ จุดเสยี่ ง ๖) จัดทาส่ือประชาสัมพันธ์วิดีโอแผนพัฒนาการปลูกพืชกัญชง (Hemp) พืชเศรษฐกิจ และส่ือช่องทางอ่ืน เช่น อินโฟกราฟิก เป็นต้น โดยประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทาง Social Media โดยสถาบันสารวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด (สพส.) กระทรวงยุติธรรม จะทา หน้าท่ี รวบรวมข้อมูลผู้ขออนุญาตปลูกกัญชง (Hemp) จากระบบฐานข้อมูลสานักงานคณะกรรมการ อาหารและยา (อย.) จัดทาแผนที่ตาแหน่งท่ีตั้งแปลงปลูกกัญชง (Hemp) ข้อมูลผู้ขออนุญาตที่ได้รับ เพื่อนาไปใช้ในการเข้าตรวจสอบพ้ืนที่แปลงกัญชง (Hemp) จัดทาแผนการเข้าตรวจสอบแปลงกัญชง (Hemp) โดยประสานกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพ้ืนที่สูง (องค์การมหาชน) เพ่ือทราบเวลาของ การปลูกของเกษตรกรเพ่ือวางแผนเข้าตรวจสอบแปลงกัญชง (Hemp) ได้อย่างเหมาะสม ดาเนินการ เข้าตรวจสอบพื้นท่ีโดยสถาบันสารวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด (สพส.) จะเข้าตรวจสอบ
๓๑ และควบคุมการปลูกกัญชง (Hemp) อย่างน้อย ๒ ครั้งต่อ ๑ พื้นที่ (ช่วงเร่ิมปลูกและช่วงเก็บผลผลิต) โดยนับระยะเวลา ๙๐ วัน นับตั้งแตว่ นั ปลูกจนถึงวันเก็บเก่ยี วเพอื่ ปอ้ งกนั การปลูกไว้เพ่ือทาพันธ์ุ ทงั้ นี้ จากการดาเนินงานท่ีผ่านมาพบวา่ มีปัญหาในการขออนุญาต ไม่ตรงตามพ้ืนที่จริง ทาให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการตรวจสอบ โดยผู้ปลูกขาดวินัยในการปฏิบัติ ตามข้อกาหนด เช่น ระยะเวลาในการปลูกที่แจ้งไว้จานวน ๙๐ วัน แต่ไม่ดาเนินการตามท่ีกาหนดไว้ ทาให้เสียระยะเวลาในการดาเนินงาน รวมท้ังไมเ่ ก็บเก่ียวให้ตรงตามระยะเวลาท่ีกาหนด ไม่แสดงป้าย สัญลักษณ์ว่าได้รับอนุญาตให้ดาเนินการปลูกตามท่ีกาหนดไว้ ทาให้หน่วยงานท่ีควบคุมตรวจสอบ สูญเสียระยะเวลาในการดาเนินงาน เป็นต้น นอกจากน้ีมีเกษตรกรย้ายพ้ืนท่ีปลูกและขยายพ้ืนที่ปลูก แต่ไม่มีการแจ้งให้ทราบ ซ่ึงสานักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้ให้ข้อมูลว่าปัจจุบัน ยังไมม่ ีบทลงโทษท่ชี ัดเจนและเข้มขน้ จากปัญหาอุปสรรคท่ีพบในการดาเนนิ งาน ประเด็นการแก้ไขคู่มือเบื้องต้น เจ้าหน้าท่ี ป.ป.ส. แจ้งว่า อยู่ในระหว่างการดาเนินแก้ไขคู่มือแบบเบ็ดเสร็จตามกฎกระทรวง เร่ืองการขออนุญาตและการผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกญั ชง (Hemp) พ.ศ. ๒๕๕๙ หลังจากผา่ นการประกาศใช้แล้ว ข้อเสนอให้ส่งเสริม ให้ความรู้เบ้ืองต้นแก่เกษตรกรท้ังหลาย ผู้ปลูกให้ดาเนินการในลักษณะวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ หรือสมาคมกัญชงท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือ เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ให้ทาความเข้าใจต่อข้อกาหนด ข้อปฎิบัติ ตามกฎระเบียบต่าง ๆ ท้ังของ หน่วยราชการและชุมชน การรักษาส่ิงแวดล้อม การแลกเปล่ียนวิธีการผลิตทางเกษตรกรรม ต้ังแต่การคัดเลือก และจัดหาเมล็ดพันธ์ุ การเก็บเกี่ยว การแปรรูปจนกระท่ังการจาหน่ายถึงผู้บริโภค โดยให้ชุมชนมีบทบาทในการควบคุมและกากับ ช่วยเหลือดูแล และรายงานหน่วยราชการทางอ้อม อันจะมีผลทาให้กระบวนการควบคุมและกากับดูแลตามกฎหมายในเร่ืองนี้ ลดลงไปอย่างมาก ทั้งจะนาไปสู่การยกเลกิ เพกิ ถอนกัญชง (Hemp) ออกจากการเปน็ (พืช) ยาเสพติดตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ในอนาคตอันใกล้ ๆ นอ้ี ยา่ งสิน้ เชิงได้ ๔.๒.๓.๒ การใชร้ ะบบเทคโนโลยใี นการกากับ ดแู ลและติดตาม การศึกษากระบวนการการกากับ ดูแลและติดตามการใช้กัญชง (Hemp) อย่างเป็นระบบ จากการศึกษาเทียบเคียงและประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่จาก ต่างประเทศ โดยพิจารณาระบบควบคุมกัญชาและกัญชงจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และประเทศแคนาดา ท่ีมีการใช้ระบบในการติดตาม ตรวจสอบอย่างครบวงจร ซึ่งมีชื่อเรียกว่า (Seed-to-Sale Platform) ระบบนี้จะนาเทคโนโลยีมาเพ่ือทาให้หน่วยงานของรัฐหรือผู้ใช้สามารถ กากับดูแลกัญชงต้ังแต่แรกเป็นเมล็ด งอกงามเป็นต้นพืช จนถึงเม่ือถูกเก็บเก่ียวนาไปแปรรูป บรรจุหีบห่อ ถูกลาเลียงขนส่ง เพื่อจาหน่ายยังร้านค้าส่ง ค้าปลีก จนกระทั่งถึงมือลูกค้า เทคโนโลยีดังกล่ าวถูก
๓๒ พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัทเอกชนท่ีได้สัมปทานจากรัฐ ยกตัวอย่างเช่น ในอเมริกา มลรัฐต่าง ๆ มีอานาจ ในการมอบสัมปทานระบบเทคโนโลยีควบคุมตรวจสอบการปลูกกัญชง (Hemp) ให้แก่ บริษัทฯ ท่ีเหมาะสม ซง่ึ มีการใชใ้ นหลายรัฐ เปน็ ตน้ จากข้อมูลเบื้องต้นในการประยุกต์ระบบเทคโนโลยีม าใช้ ในการกากับ ดูแลและติดตามการใช้กัญชง (Hemp) อย่างเป็นระบบ ควรให้หน่วยงานหลักในการ กากับ ดูแลและติดตามการใช้กัญชง (Hemp) ศึกษาความเป็นไปได้และแนวทางการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีในการกากับ ดูแล ติดตาม ตรวจสอบ มาตรฐานพืชกัญชง (Hemp) พร้อมท้ังศึกษา การพัฒนาระบบ การติดตามปริมาณการใช้พืช เช่น ตัวยา เมล็ด อาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ท่ีใส่สาร CBD เคร่ืองสาอาง CBD เป็นต้น ระบบจะรวบรวมข้อมูลตอบกลับ (Feedbacks) จากผู้บริโภคผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท ควบคุมข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและประสิทธิภาพ สารวจตลาด และข้อมูลลูกค้าเพ่ือการต่อยอดการศึกษาวิจัย การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ การควบคุม และการ รองรับคุณภาพตลอดจนถึงการคาดการณ์ส่วนแบ่งการตลาดตามความต้องการจริง ลดปัญหาความ ซับซ้อนในการควบคุมกากับกัญชง (Hemp) ซ่ึงมีหลายหน่วยงานเก่ียวข้อง เพ่ือประโยชน์ทาง เศรษฐกิจการตลาดในประเทศและตา่ งประเทศต่อไป จากข้อมูลดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ย่ิงในการติดตาม ตรวจสอบและดูแลมาตรฐานพืชกัญชง (Hemp) ในประเทศไทยเพ่ือให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี ๗ พ.ศ. ๒๕๖๒) มาตรา ๙ เพ่ิมมาตรา ๒๖/๒ (๒) ในพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ กฎกระทรวง การขออนุญาตและ การอนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกาศกระทรวงฯ ฉบบั ที่ ๑๘๓ พ.ศ. ๒๕๔๖ และฉบับท่ี ๑๘๖ พ.ศ. ๒๕๔๖ และคาส่ัง ศูนย์อานวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ที่ ๗/๒๕๖๐ (ศอ.ปส.) ทุกฉบับอย่างมี ประสิทธิภาพยิ่ง ให้ทุกภาคส่วนได้รับความรู้ความเข้าใจอย่างดีต่อ (ร่าง) กฎกระทรวงฯ กัญชง พ.ศ. .... ฉบบั นี้ กาหนดบทเฉพาะกาลของเจา้ หน้าทีร่ ะดับปฏิบัติการทุกท่าน เพ่อื บริการประชาชนผู้ขออนญุ าต หมายรวมถึง การให้อนุญาต การตรวจหาสารสกัด CBD การเข้าควบคุมการเก็บเก่ียว ตลอดจนดูแล การทาลาย การเข้าสุ่มตัวอย่างของเจ้าหน้าที่ การตรวจเบื้องต้นจากชุดทดสอบ การตรวจยืนยันสาร THC ในหอ้ งปฏิบัติการ ในการนี้ จึงขอเสนอให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องศึกษาระบบ เทคโนโลยีแบบบูรณาการมาประยุกต์ใช้ในการลดปัญหาความซับซ้อนหน่วยงานต่าง ๆ เพ่ือประหยัด ทรัพยากรการลงทุนระยะยาว เพ่ือรวมรวมติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับความเคล่ือนไหว (Dynamics) ทั้งหมดของการผลิต การแปรรูป การจาหน่าย การนาเข้า การส่งออก การฝ่าฝืนกฎหมาย มาตรการกากับติดตามการใช้พืชกัญชง (Hemp) อย่างเป็นระบบด้วยนวัตกรรมฐานข้อมูล
๓๓ และเทคโนโลยีอันทันสมัย ท้ังน้ี การดาเนินทั้งหมดจะต้องไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายและความยุ่งยาก ของเกษตรกร ๔.๓ กฎหมายท่ีเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาเก่ยี วกับการใช้กัญชง (Hemp) อย่างเป็น ระบบ ๔.๓.๑ กฎหมายตา่ งประเทศ ประกอบดว้ ยข้อตกลงสหประชาชาตแิ ละกฎหมายระหวา่ งประเทศ ดังน้ี ๑) อนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ. 1961 และพิธีแก้ไข อนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ. 1961 และ ค.ศ. 1972 (United Nations Single Convention on Narcotic Drugs, 1961, as Amended by The 1972 Protocal Amending The Single Convention on Narcotic Drugs, 1961) โดยท่ีประเทศไทยได้ลงนามไว้พร้อมภาคีสมาชิกต่าง ๆ ท่ัวโลกไม่น้อย กว่า ๑๓๐ ประเทศในขณะน้ัน เพื่อป้องกันและต่อสู้ร่วมกันกับยาเสพติดให้โทษที่ทุกประเทศต่าง กาหนดข้อตกลงกว้าง ๆ ของหลักปฏิบัติเก่ียวกับกัญชา และ *กัญชาเพ่ือการอุตสาหกรรม (Hemp หรอื Industrial Hemp) ดังตวั อยา่ งตามมาตรา ๑ บทนิยาม (ค) “ต้นกญั ชา” หมายความวา่ พชื ใด ๆ ในตระกูลกัญชา (ฆ) ยางกัญชา (ถ) ผลิตผล ฯลฯ และมาตรา ๒๘ มาตรการควบคุมกัญชา ข้อย่อย ๒ ที่บัญญัติให้ ไม่นาอนุสัญญาเด่ียวฯ นี้ไปบังคับใช้แก่การเพาะปลูกต้นกัญชาเพื่อการอุตสาหกรรม (หมายถึงเพ่ือเส้นใยและเมล็ด) เท่าน้ัน หรือเพื่อความมุ่งหมายเป็นต้นไม้ประดับ (* คาแปลขณะน้ัน ใช้คาว่า “กญั ชาเพอ่ื การอตุ สาหกรรม” ปัจจบุ ันคือคาว่า กัญชง (Hemp) เพื่อการอุตสาหกรรม) ดงั น้ัน จึงอนุมานได้ว่า กัญชง (Hemp) หรือกัญชงเพ่ือการอุตสาหกรรม (Industrial Hemp) ไม่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาเด่ียวฯ หรือถูกวางกฎระเบียบไว้ให้ประเทศไทยปฏิบัติ ตามแต่อยา่ งใด ๒) สานักงานสหประชาชาติเกี่ยวกับยาเสพติดและอาชญากรรม (United Nations Office on Drugs and Crim: UNODC) ได้แนะนาไว้เพื่อการจาแนกและวิเคราะห์ระหว่าง พืชสกุล (Genus) : แคนนาบิส (Cannabis) และผลิตภัณฑ์แคนนาบิส (Cannabis Products) โดยได้ใหห้ ลกั เกณฑ์ในการจาแนกไว้ดังน้ี เฮมพ์ (Hemp) ประกอบด้วยพันธุ์พืช (Plant Variety) ชนิดต่าง ๆ ของสายพันธ์ุ (Species) : Cannabis sativa L. เพื่อการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม เพื่อใช้เมล็ด และเส้นใย โดยมีสาร THC ท่ีมีค่าต่า และมีสาร CBD ท่ีมีค่าสูง พบข้อมูลประเทศในสหภาพยุโรปหลาย ประเทศกาหนดค่า THC จากการเพาะปลูก ไว้สูงสุด ไม่เกินร้อยละ ๐.๒ ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศแคนาดา กาหนดค่า THC ไว้สูงสุดไม่เกินร้อยละ ๐.๓ และให้มีอัตราส่วนของ CBD ตอ่ THC มากกวา่ ๑ ท้ังให้หลักเกณฑ์การเก็บเกยี่ วเส้นใย ควรจะดาเนินการขณะต้นตวั เมียออกดอก
๓๔ แล้วก่อนที่ดอกจะกลายเป็นเมล็ด และให้หลักเกณฑ์การข้ึนทะเบียนรายช่ือสายพันธ์ุรับรอง (Certified plant variety หรือ Approved cultivars) ในหลาย ๆ ประเทศว่า ให้ถอดถอนสายพันธุ์ นัน้ ออกไปจากทะเบียนรายชอื่ ฯ หากพบวา่ สายพนั ธุ์น้ันมีคา่ THC สงู เกินคา่ ท่ีกาหนด ๓) มติคณะกรรมาธิการผู้เชี่ยวชาญเก่ียวกับยาเสพติดขององค์การอนามัย โล ก (World Health Organisation Expert Committee on Drug Dependance : WHO ECDD) ได้ให้คานิยามของ THC โดยสรุปจากแบบสอบถาม ๘๕ ประเทศ (รวมประเทศไทย) ว่า THC หมายถึง Delta-9-Tetrahydrocannabinol ที่ได้มาจากพืชในวงศ์ Cannabaceae โดยตรง หรือจากการถูก สังเคราะห์ (Synthesised) รวม ถึงส ารแต ก ต่ างที่ มี โค รงส ร้างโม เล กุล ส าม มิ ติ ข อง THC (Stereochemical Variant of THC) ท่ีเรียกว่า โดรนาบินอล (Dronabinol) อันมีช่ือทางการค้าว่า มารินอล (Marinol) และซินดรอส (Syndros) ๔) The Agricultural Act of 2014 (The 2014 Farm Bill) และ Agricultural Improvement Act of 2018 (The 2018 Farm Bill) โดย การเสน อ ขอ งสภ าผู้แท น ราษ ฎ ร สหรัฐอเมรกิ าและประธานาธิบดไี ด้ลงนามเมอ่ื วันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ (๒๕๖๒-๒๕๖๖) สาระสาคัญคือ การอนุญาตใช้เฮมพ์ (Hemp) การบัญญัติให้เฮมพ์ เพื่อการอุตสาหกรรม (Industrial Hemp) ถูกต้องตามกฎหมาย และจัดให้ผู้ผลิตมีสิทธ์ิได้รับ ประโยชน์จากโครงการประกันภัยพืชผลจากรัฐบาลกลาง (Federal Crop Insurance) การกาหนด คานิยาม เฮมพ์ (Hemp) การเปิดโอกาสให้มีการผลิตสินค้าจากเฮมพ์ การจาหน่ายในเชิงพาณิชย์ การครอบครองสนิ ค้าทีม่ าจากเฮมพ์ การขนส่งอย่างเสรีตามกฎหมาย และการอนุญาตใช้เฮมพ์จะต้อง ได้รับการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด โดยกระทรวงการเกษตรมลรัฐจะต้องจัดทาแผนงานเสนอต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริการับรองก่อนที่มลรัฐน้ัน ๆ จะดาเนินการออกใบอนุญาต การปลกู เฮมพ์และเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลกลาง โดยคานิยามท่ไี ด้ออกบญั ญัตไิ วว้ ่า Hemp หมายถึง พืชที่มีช่ือวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. รวมถึง ส่วนต่าง ๆ ของพืช เมล็ดและอนุพันธ์ ท้ังหมด สารสกัด Cannabinoids ไอโซเมอร์ กรด เกลือ และเกลือของไอโซเมอร์ ไม่ว่ามีชีวิตหรือไม่ ท่ีมีความเข้มข้นของ Delta-9-Tetrahydrocannabinol หรือ THC ไม่เกินร้อยละ ๐.๓ ดังนั้น เฮมพ์ ในตลาดสหรัฐอเมริกาจึงเป็นท่ีแพร่หลาย มีผลิตภัณฑ์ที่มีสาร CBD (Hemp-Derived CBD) ออกมา จาหน่ายเป็นจานวนมาก อย่างไรก็ดี รัฐไอดาโฮ รัฐมิสซิสซิปปี และรัฐเซาท์ดาโกตา ยังคงเป็น ๓ รัฐ ซึ่งมีขอ้ จากดั และกฎเกณฑก์ ากบั ดูแลอยูอ่ ยา่ งมาก จึงยังไม่มกี ฎหมายมลรฐั ออกมาบงั คับใช้ ๕) องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Food and Drug Administration: US FDA) โดยพระราชบัญญัติอาหาร ยา และเครื่องสาอางของรัฐบาลกลาง แห่งสหรัฐอเมริกา (The United States Federal Food, Drug, and Cosmetic Act : US FFDCA) ได้ให้การรับรองยาอีพิไดโอเล็กซ์ (Epidiolex) สาหรับการรักษาโรคลมชัก ซึ่งเป็นการรับรองยาท่ีสกัด
๓๕ จากสาร CBD เป็นครั้งแรก แต่ FDA ยังไม่ได้ให้การรับรองอาหาร เคร่ืองดื่ม อาหารเสริม เครื่องสาอาง และผลิตภัณฑ์อ่ืน ๆ ท่ีทามาจากสาร CBD ของทั้งพืชกัญชา (Cannabis-derived CBD) และสาร CBD ของพืชกัญชง (Hemp-derived CBD) จากพืชสกุล (Genus) : Cannabis (หมายถึง พืชกัญชา และกัญชง (Hemp) ในท่ีน้ี) แต่อย่างใด แต่ FDA อนุโลมให้ร้านค้าต่าง ๆ จาหน่ายได้ โดย FDA ปัจจุบันกาลังอยู่ในกระบวนการออกกฎระเบียบ เพื่อกากับดูแลการใช้สาร CBD ไม่ว่าจะเป็นในด้านการผลิต ปริมาณสารที่ใช้ การทาฉลาก รวมไปถึงการทาตลาดการโฆษณา เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ประกอบการ ทาการตลาดท่ีมักอวดอ้างสรรพคุณของสาร CBD เกินจริง ของยาและผลิตภัณฑ์ CBD ต่าง ๆ เช่น ใชร้ ักษาโรคมะเร็ง โรคอลั ไซเมอร์ เป็นต้น ท้ัง ๆ ท่ียังไม่ปรากฏผลการทดลองหรอื งานวิจยั อนั แสดงถึง ผลสาเร็จดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สานักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Drug Enforcement Agency : US DEA) โดยพระราชบัญญัติสารทั้งหลายท่ีถูกควบคุม (The Controlled Substances Act : CSA) ก็ไม่อนุญาตให้ผลิต นาเข้าและส่งออก ซึ่งสาร CBD ที่ได้มาจากกัญชา (Cannabis-derived CBD) แต่ให้ยกเว้น สาร CBD ท่ีได้มาจากกัญ ชง (Hemp-derived CBD) ทั้ง ๆ ท่ีสาร CBD ทั้งสองน้ีเป็นสารประกอบทางเคมีที่มีโครงสร้างโมเลกุลและคุณสมบัติเดียวกัน (Hemp Industry Daily - May 29, 2018) อันเป็นเรอ่ื งท่จี ะตอ้ งนามาพิจารณาแกไ้ ขปัญหาตัวอย่างนี้ สาหรบั ทกุ หน่วยงานของรัฐในประเทศไทยเพือ่ ให้ประมวลกฎหมายต่าง ๆ ท่ีใช้บงั คบั โดยหน่วยงานต่าง ๆ ให้ปฏิบัติหน้าท่ีทางกฎหมายที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อกัญชง (Hemp) พืชเศรษฐกิจใหม่ ทีส่ มควรไรอ้ ุปสรรคใด ๆ ตอ่ ไป ๖) ก ฎ ก ระ ท รว งเฮ ม พ์ เพื่ อ ก าร อุ ต ส าห ก รรม (Industrial Hemp Regulations SOR/2018-145) ประเทศแคนาดา ภายใต้การนาเสนอของกระทรวงสาธารณสุข (Health Canada) ออกตามอนุมาตรา ๑๓๙ (๑) ของพระราชบัญญัติแคนนาบิส (Cannabis Act S.C. 2018, c. 16) แก้ไขครั้งสุดท้ายวันที่ ๑๗ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้คานยิ ามและความหมาย ดังนี้ เฮมพ์เพ่ือการอุตสาหกรรม (Industrial Hemp) หมายถึง ส่วนใด ๆ ของพืชท่ีมีความเข้มข้น (Concentration) ของ THC เท่ากับหรือน้อยกว่า ร้อยละ ๐.๓ โดยน้าหนัก ในช่อดอกและใบ โดยความเข้มข้น (Concentration) ของ THC หมายถึง ความเข้มข้นของ THC ที่ได้ รวมปรมิ าณสารโดยน้าหนัก (หรือศักยภาพ-Potential) ของ กรดเดลต้า-9-เตตราไฮโดรแคนนาบิโนลิก (Delta-9-Tetrahydrocannabinolic Acid) ท่ีเปล่ียนเป็น THC เข้าไปด้วย ตามสูตรคานวณดังนี้ : Total THC = delta-9THC + (THCA × 0.877) ; ซ่ึงค่า THC ทางขวาของสมการ คือ ค่าปริมาณ สาร THC โดยน้าหนักในสภาพแห้งตามธรรมชาติท่ีปรากฎอยู่ก่อนกระบวนการดีคาร์บอกซิเลชั่น (Decarboxylation) ของ THCA การนาเข้า การส่งออก การค้าส่ง และการผลิต หมายถึง ส่ิงท่ีได้มาหรือ ผลิตภัณฑ์จากสิ่งท่ีได้มาจะได้รับการยกเว้นถ้าผลิตภัณฑ์นั้นมีค่า THC ไม่เกิน ๑๐ มิลลิกรัม/กรัม
๓๖ (mg/g) รวมท้ังการระบุทชี่ ัดเจนเก่ียวกับการออกใบอนุญาตนาเข้า ใบอนุญาตสง่ ออก การนาเข้าเมล็ด พันธ์ุ (Seed) เมล็ด (Grain) เอกสารประกอบและการส่งออก การครอบครองเมล็ด เพ่ือการแปรรูป การปลกู และการพัฒนาพันธุพ์ ืช ๗) นอกจากน้ี คณะอนุกรรมาธิการฯ ยังได้ศึกษาถึงหน่วยงานรัฐของ ประเทศต่าง ๆ ท่ีทาหน้าที่ในการออกใบอนุญาตปลูกกัญชง (Hemp Licence) ให้แก่ผู้ขออนุญาต เช่น ในสหรัฐอเมริกา จาก กระทรวงเกษตร (Department of Agriculture) ในประเทศแคนาดา จาก กระทรวงสาธารณสุข (Health Canada) ในสหราชอาณาจักร จาก กระทรวงมหาดไทย (Home Office) ในเครือรัฐออสเตรเลีย จาก The Department of Primary Industries and Regional Development; ในประเทศนิวซีแลนด์ จาก กระทรวงสาธารณสุข (Ministry of Health) ในสาธารณรัฐ ประชาชนจีน จาก the Ministry of Agriculture and Rural Affairs; และในสมาพันธรัฐสวิส ไมต่ อ้ งขอใบอนญุ าตใด ๆ (รวมทัง้ ใบอนุญาตสกัดสาร CBD) เปน็ ตน้ จากข้อมูลการศึกษากฎหมายต่างประเทศ คณะอนุกรรมาธิการฯ มีข้อเสนอเห็นสมควร ให้ (ร่าง) กฎกระทรวงฯ ฉบบั ที่จะประกาศบังคับใช้ตอ่ ไปนี้ กาหนดบทบญั ญตั ใิ หม่ใหช้ ัดเจน ดงั นี้ “บททั่วไป หน้าแรก” ๑) ให้กาหนดคานิยามของ กัญชง (Hemp) ลงไปในกฎกระทรวงฯ ฉบับน้ี ความวา่ ขอ้ ๔ ในกฎกระทรวงนี้ “กัญชง (Hemp) หมายถึง พืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. รวมถึงส่วน ต่าง ๆ ของพืช เมล็ด และอนุพันธ์ท้ังหมดทางชีวภาพและกายภาพ อนุพันธ์สารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ท้ังมีชีวิตหรือไม่ ที่มีความเข้มข้นของ เดลต้า-9-เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Delta- 9-Tetrahydrocannabinol หรือ THC) ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๑.๐ โดย นา้ หนกั แหง้ ” ๒) ให้เพ่มิ การใช้คาศพั ท์ภาษาองั กฤษ และแก้ไข เปน็ ดงั นี้ “เมลด็ พนั ธ์ุรบั รอง (Certified Seed)” “เมลด็ พันธ์ุ (Seed)” หมายความว่า เมลด็ ปลูก หรือส่วนขยายพันธุ์ หรือส่วนหนึ่งสว่ นใด ของพชื ทใ่ี ช้เพาะปลูก หรอื ใชท้ าพนั ธุ์ได้ เชน่ ตน้ ตอ หนอ่ เหง้า กิ่ง แขนง ตา เนอื้ เยอื่ เป็นตน้ “เมล็ด (Grain)” หมายความว่า เมล็ดตาย หรือ เมล็ดท่ีไม่สามารถนาไปเพาะพันธุ์ได้ (Non-Viable Grain) ๔.๓.๒ กฎหมายในประเทศ กฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับกัญชง (Hemp) ท่ีนามาพิจารณาประกอบเป็นไป ตามกฎหมายสาคัญ ดงั น้ี ๑. พระราชบญั ญตั ิยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มสี าระสาคัญ คือ มาตรา ๗ วา่ ดว้ ยการกาหนดยาเสพตดิ ใหโ้ ทษแบง่ ออกเปน็ ๕ ประเภท คือ
๓๗ ๑) ประเภท ๑ ยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง เช่น เฮโรอีน (Heroin) เป็นต้น ๒) ประเภท ๒ ยาเสพติดให้โทษท่ัวไป เช่น มอร์ฟีน (Morphine) โคคาอนี (Cocaine) โคเดอนี (Codeine) ฝ่ินยา (Medicinal Opium) เป็นต้น ๓) ประเภท ๓ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษที่มีลักษณะเป็นตารับยาและมยี าเสพติด ใหโ้ ทษในประเภท ๒ ผสมอย่ดู ว้ ยตามหลักเกณฑท์ ่ีรัฐมนตรีประกาศกาหนดในราชกิจจานุเบกษา ๔) ประเภท ๔ สารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ หรอื ประเภท ๒ เชน่ อาเซติคแอนไฮไดรด์ (Acetic Anhydride) อาเซติลคลอไรด์ (Acetyl Chloride) เปน็ ต้น ๕) ประเภท ๕ ยาเสพติดให้โทษท่ีมิได้เข้าอยู่ในประเภท ๑ ถึง ๔ เช่น กญั ชา พืชกระทอ่ ม เปน็ ตน้ ๒. กฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ ในครอบครองซ่ึงยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ (ซ่ึงมีผลใช้บังคับต้ังแต่ วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑) มีสาระสาคัญ คือ เป็นกฎกระทรวงฉบับแรกที่บัญญัติให้ “เฮมพ์” (Hemp) เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ และข้อ ๓ ในกฎกระทรวงน้ี บัญญัติว่า “เฮมพ์” (Hemp) หมายความว่า พืชซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. subsp. sativa อันเป็นชนิดย่อยของพืชกัญชา (Cannabis sativa L.) ท่ีมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ ๑.๐ ต่อน้าหนักแห้ง ซ่ึงตรวจวิเคราะห์ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการทคี่ ณะกรรมการประกาศกาหนด ทั้งนี้ ประกอบด้วยคาส่ังศูนย์อานวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพ ติดแห่งชาติ ที่ ๗/๒๕๖๐ เรื่อง มาตรการควบคุมและกากับดูแลเฮมพ์ (กัญชง) พืชเศรษฐกิจท่ีเป็นกลไก ในการควบคุมและกากับดูแล โดยมีสาระสาคัญ คือ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอานวยการควบคุม และกากบั ดแู ลเฮมพ์ (กัญชง) การกาหนดให้มศี ูนยอ์ านวยการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ จังหวัด ให้มีศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอาเภอ และการแต่งต้ังชุดตรวจสอบเฮมพ์ (กัญชง) ระดับตาบลในพ้ืนท่ีมีการเพาะปลูกมากเกินกว่าชุดปฏิบัติการอาเภอจะดาเนินการตรวจสอบได้ โดยกาหนดใหม้ ีการควบคุมและกากับดแู ลเฮมพ์ (กญั ชง) ให้เป็นพชื เศรษฐกิจอยา่ งจริงจงั ๓. พระราชบญั ญตั ิยาเสพติดให้โทษ (ฉบับท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ มีสาระสาคัญ คอื มาตราที่ ๙ ที่ให้เพ่ิมมาตรา ๒๖/๒ ในพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ (๒) ในกรณีท่ีเป็นกัญชง (Hemp) ซ่ึงเป็นพืชท่ีมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. subsp. sativa และมีลักษณะตามท่ีคณะกรรมการกาหนดโดยประกาศ
๓๘ ในราชกิจจานุเบกษาซ่ึงได้นาไปใช้ประโยชน์ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ให้กระทาได้เม่ือได้รับ ใบอนญุ าตจากผอู้ นญุ าตโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการ ๔. ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เร่ือง กาหนดเมล็ดพนั ธ์ุ เฮมพ์เป็นเมล็ดพันธ์ุรับรองตามกฏกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ ในครอบครองซ่ึงยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ - พ.ศ. ๒๕๖๒ (ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๗ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๖๒) มีสาระสาคัญ คือ กาหนดเมล็ดพันธุ์เฮมพ์ ๔ สายพันธุ์เป็นพันธ์ุพืชท่ีขึ้น ทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นท่ีสูง (องค์การมหาชน) เป็นผูร้ บั อนญุ าตผลติ เมล็ดพนั ธ์ุรบั รองคือ ๑) อารพ์ ีเอฟ ๑ (RPF ๑) ๒) อารพ์ ีเอฟ ๒ (RPF ๒) ๓) อารพ์ ีเอฟ ๓ (RPF ๓) และ ๔) อาร์พีเอฟ ๔ (RPF ๔) ๕. ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เร่ือง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ มีสาระสาคัญ คือ การระบุช่ือยาเสพติดให้โทษลาดับที่ ๒ กัญชง (Hemp) เงื่อนไข ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. subsp. sativa อันเป็นชนิดย่อย ของพืชกัญชา (Cannabis sativa L.) ยกเว้น ๑. - ๕. และระยะเวลาบังคับ ๕ ปีแรก ทั้งการยกเว้น ตามข้อ ๒ ถงึ ขอ้ ๔ ใหใ้ ชบ้ ังคับเฉพาะกับการผลิตภายในประเทศฯ ทั้งน้ี ตามกฎกระทรวง เร่ือง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ (กฎกระทรวงฯ ฉบับนี้ใช้คาว่า “เฮมพ์”) ซ่ึงมีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่ วันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา ในระยะ ๓ ปีแรกจะอนุญาตให้ปลูกได้เฉพาะผู้ขออนุญาตที่เป็นหน่วยงานของรัฐเท่าน้ัน โดยนาร่องในพ้ืนท่ีควบคุม ๖ จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ตาก เพชรบูรณ์ และแม่ฮ่องสอน เพ่ือให้เป็นพืชเศรษฐกิจตามวัตถุประสงค์หลัก คือ สาหรับใช้ประโยชน์ในครัวเรือน สาหรับการศึกษาวิจัย และสาหรับใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมในเชิงพาณิชย์ เช่น แปรรูปเป็นเส้นใย ผลิตเส้ือผ้า เคร่อื งนุ่งหม่ และกระดาษ เป็นต้น โดยเฮมพท์ ่นี ามาปลูกต้องเปน็ พชื ทีม่ ีปริมาณสารเตตรา ไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ ๑ ต่อน้าหนักแห้ง ซ่ึงตรวจ วเิ คราะห์ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการท่ีคณะกรรมการประกาศกาหนด ๖. ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เร่ือง กาหนดลักษณะ กญั ชง (Hemp) พ.ศ. ๒๕๖๒
๓๙ มีสาระสาคัญ คือทั้ง “ข้อ ๔ กัญ ชง (Hemp) มีลักษณ ะเป็นพืช และขอ้ ๕ เมล็ดพนั ธร์ุ ับรอง มีลักษณะเป็นเมล็ดพนั ธุ์กัญชง (Hemp) ท่ีมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคน นาบินอล (Delta-9 Tetrahydrocannabinol, THC) ในช่อดอกซ่ึงรวมถึงใบเล้ียง (Sugar Leaf) ไมเ่ กนิ ร้อยละ ๑.๐ ต่อนา้ หนกั แหง้ ” ๗. (ร่าง) กฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นาเข้า ส่งออก จาหนา่ ยหรือมไี วใ้ นครอบครอง ซ่งึ ยาเสพตดิ ให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. .... มีสาระสาคัญ คือ ให้ยกเลิกกฎกระทรวง การขออนุญ าตและ การอนุญาตผลิตจาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ และแก้ไขเพิ่มเติมข้อ ๔ ในกฎกระทรวงของคานิยามว่า “ประโยชน์ในครัวเรือน” โดยกาหนดจานวนพื้นที่ให้ครัวเรือนสามารถปลูกได้ ครัวเรือนละไม่เกิน ๑ ไร่ และเพิ่มคานิยามว่า “เมล็ดพันธุ์” ให้มีความชัดเจนและครอบคลุม ข้ึนจากกฎกระทรวงฯ ฉบับก่อน รวมท้ังการอนุญาตให้ หน่วยงานทุกภาคส่วนท่ีเป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสามารถขออนุญาตปลูกกัญชง (Hemp) ได้ และเพิ่มบทเฉพาะกาลข้อ ๒๙ เกี่ยวกับการขออนุญาตนาเข้าเมล็ดพันธุ์ และการขออนุญาตผลิต โดยการปลูกด้วยพันธุ์พืชพ้ืนเมืองของไทยอันมีกาหนดภายในระยะเวลา ๕ ปี นับตั้งแต่กฎกระทรวง ฉบับนม้ี ผี ลบังคับใช้ ดังนั้น หาก (ร่าง) กฎกระทรวงฯ ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ หน่วยงาน ท่ีเกี่ยวข้องจะมีกระบวนการและมาตรการในการควบคุมตรวจสอบการดาเนินการปลูกพืชกัญชง (Hemp) และกิจกรรมต่อเนื่องให้รัดกุมและมีมาตรฐานให้เชื่อม่ันว่าหน่วยงานต่าง ๆ น้ัน สามารถ ดาเนินการควบคุมตรวจสอบการดาเนินการปลูกกัญชง (Hemp) และกิจกรรมต่อเน่ืองเพ่ือประโยชน์ ของการเป็นพชื เศรษฐกจิ ไดอ้ ย่างแทจ้ รงิ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการผลิตพืชกัญชง (Hemp) และให้กัญชง (Hemp) หลุดพ้นจากการเป็นพืชยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ และก้าวเข้าสู่การเป็นพืชเศรษฐกิจ ใหม่มูลค่าสูงของประเทศไทยต่อไปโดยเร็ว คณะอนุกรรมาธิการฯ มีข้อเสนอแนะให้มีการออกประกาศฯ คาส่ัง ระเบียบ ฯลฯ ตามมาจาก (ร่าง) กฎกระทรวงฯ ฉบับนี้ท่ีเป็นแม่บท คือ ให้หน่วยราชการ ท่ีรับผิดชอบเตรียมพร้อมเพ่ือดาเนินการ ต้ังแต่เร่ืองการออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขออนุญาตตามกาหนด กรอบเวลาท่ีชัดเจน รวดเร็วและแน่นอน ภายใต้เง่ือนไขเม่ือผู้ขออนุญาตแสดงคุณสมบัติ และเอกสาร ครบถ้วนแลว้ เพ่ือใหผ้ ู้ขออนุญาตดาเนินการไดท้ ันที ให้ต้ังหนว่ ยงานรองรบั เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจ ตอ่ ผู้ขออนุญาตในรายละเอียดเอกสารต่าง ๆ ตามขน้ั ตอนท่ีบัญญัติไวใ้ น (ร่าง) กฎกระทรวงฯ - หมวด ท่ัวไป การขออนุญาต การอนุญาต การดาเนินการ และบทเฉพาะกาล โดยชัดเจน ให้กาหนดแบบ เอกสารราชการในลักษณะการบนั ทึกรายละเอียดเป็นข้อ เพื่อเติมรายละเอยี ดและตรวจสอบได้โดยวิธี
๔๐ ขีดเพียงเครื่องหมาย “√” ในช่องตาราง (Check Lists Table) พร้อมลงนามกากับ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ให้กาหนดบทบาทและหน้าท่ีของหน่วยงาน จาก กรมวิชาการเกษตร และกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่ืองเมล็ดพันธ์ุรับรอง (Certified Seed) เมล็ดพันธ์ุนาเข้า (Imported Seed) พันธุ์พืช (Plant Variety) โซนนิ่ง (Zoning) และอ่ืน ๆ สาหรับ การปลกู และความเหมาะสมของพื้นทป่ี ลูก เพอื่ ใหค้ าแนะนาต่อเกษตรกร ให้กาหนดมาตรฐานและวิธีการ เรื่องการตรวจสอบหาสาร THC (% THC) ด้วยอุปกรณ์ทดสอบง่าย ๆ (THC Test Kits) ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ อย่างชัดเจน เพื่อ ประหยัดเวลาและค่าใชจ้ ่ายของเกษตรกร ให้กาหนดบทบาทและหน้าที่ การติดตาม ควบคุม กากับดูแลของ เจ้าหน้าที่ อย. และ ป.ป.ส. ร่วมกับชุมชนเกษตรกรเป็นระยะ ๆ เพื่อการกากับดูแล ให้ผ่อนคลาย ข้อบังคับ ข้อกาหนดที่ตีความได้ในทางบวก (Ease of Rules and Regulation) ของเจ้าหน้าท่ี เพ่ือ การส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ให้คาแนะนาและความรู้เรื่องเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องการตลาดในประเทศและต่างประเทศ ข้อมูลอุปสงค์อุปทานการตลาดของกัญชง (Hemp) เพื่อควบคุมปริมาณการผลิต การค้าขาย และวิธีการชาระเงินระหว่างประเทศ (International Trade and Payment) การขนส่งสินค้าพร้อม การประกันภยั โดยกระทรวงพาณิชย์ ให้ความสาคัญต่อส่ิงแวดล้อม ส่งเสริมให้มีความรับผิดชอบทางสังคม (Corporate Social Responsibility : CSR) มิตรภาพและคุณธรรมของเกษตรกร (Fraternity and Integrity) และอ่ืน ๆ โดยหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องในลักษณะบูรณาการจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน อันจะนาความสาเร็จของกัญชง (Hemp) พืชเศรษฐกิจใหม่มาสู่ประเทศชาติ และประชาชนต่อไป จากข้อมูลทั้งหมดดังกล่าวข้างต้น คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้พิจารณา เห็นสมควรให้ (ร่าง) กฎกระทรวงฯ ฉบับท่ีจะประกาศบังคับใช้ต่อไปน้ี กาหนดบทบัญญัติให้ชัดเจน ดงั นี้ ๑) กาหนดคานิยามพืชกัญชง (Hemp) ให้เป็นไปในทางเดียวกัน เช่น พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๙ ท่ีให้เพิ่มมาตรา ๒๖/๒ ในพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ใช้คาว่า “กัญชง (Hemp)” แต่ปรากฏในกฎ กระทรวงฯ พ.ศ. ๒๕๕๙ ใช้คาว่า “เฮมพ์” (Hemp) – ยังบังคับใช้อยู่ และใน (ร่าง) กฎกระทรวงฯ พ.ศ. …. ใช้คาว่า “กัญชง (Hemp)” - H ตัวใหญ่ และในประกาศกระทรวงฯ พ .ศ. ๒๕๖๒ (ฉบบั ที่ ๒) ใชค้ าว่า “กญั ชง (hemp)” - h ตวั เล็ก เป็นต้น
๔๑ ๒) ชื่อวิทยาศาสตร์ของพืชกัญชง (Hemp) ควรระบุช่ือเรียกในระดับ สายพันธุ์ (Species) ท่ีไม่ใช่ระดับสายพันธ์ุย่อย (Sub-Species หรือ Subsp.) โดยให้เรียกช่ือ วทิ ยาศาสตรแ์ บบทวนิ าม (Binomial Nomenclature) ของพชื ชนิดนใ้ี นระดับสายพันธุ์ (Species) ว่า “Cannabis sativa L.” เท่านั้น ทั้งนี้ ในปัจจุบันได้มีการเรียกชื่อวิทยาศาสตร์แบบทวินาม ของ “กัญชา” ว่า “Cannabis indica Lam.” อันเป็นการเรียกชื่อกัญชาในระดับสายพันธ์ุ (Species) ทไี่ ม่ใชร่ ะดับสายพันธย์ุ ่อย (Subspecies หรือ subsp.) เปน็ ทีช่ ดั เจนและนิยมแลว้ ๓) ความหมายของสาร THC ควรระบุคานิยามลงไปว่า THC คืออะไร? สาร THC เดลต้า-8-THC เดลต้า-9-THC หรือ เดลต้า-9-THCA รวมทั้งคานิยามของกัญชง (Hemp) ควรระบุลงไปในระดับกฎกระทรวงฯ เพื่อความชัดเจนและเป็นแม่บทตามข้อเสนอแนะของคณะอนุ กรรมาธิการฯ นี้ว่า “กญั ชง (Hemp) หมายถึงพืชทม่ี ีช่ือวิทยาศาสตร์วา่ Cannabis sativa L. รวมถึง ส่วนต่าง ๆ ของพืช เมล็ด และอนุพันธ์ท้ังหมดทางชีวภาพและกายภาพของสาร Cannabinoids ทั้งมีชีวิตหรือไม่ ที่มีความเข้มข้นของ Delta-9-Tetrahydrocannabinol หรือ THC ในช่อดอกแห้ง ไมเ่ กนิ ร้อยละ ๑.๐ โดยนา้ หนักแห้ง” ๔) ความหมายของคานิยามว่า “เมล็ดพันธุ์ (Seed)” หมายความว่า เมลด็ เพ่อื ใช้เพาะปลูก หรอื ส่วนขยายพนั ธุ์ หรอื ส่วนหน่ึงส่วนใดของพืชท่ีใช้เพาะปลูกหรือใชท้ าพันธไ์ุ ด้ เช่น ต้น ตอ หน่อ เหง้า กิ่ง แขนง ตา และเน้ือเยื่อ เป็นต้น ควรให้แยกออกจากกันและใช้คานิยาม เพิ่มข้ึนอีกคาหน่ึงว่า “เมล็ด (Grain)” หมายความว่า เมล็ดท่ีไม่มีชีวิต หรือเมล็ดที่ไม่สามารถนาไป เพาะพนั ธ์ไุ ด้ (Non-Viable Seed) ๕. ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ การพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเก่ียวกับการใช้กัญชง (Hemp) อย่างเป็น ระบบ คณะอนุกรรมาธิการฯ มขี ้อสงั เกตและขอ้ เสนอแนะ สรปุ สาระสาคัญได้ ดงั น้ี ๑. เสนอให้พิจารณาแก้ไข (ร่าง) กฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นาเข้า ส่งออกจาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซ่ึงยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. .… รวมท้ังกฎหมายอ่นื ท่ีเก่ยี วข้อง ๑) ให้พิจารณาแบ่งใบอนุญาตปลูกกัญชง (Hemp) ออกเป็น ๔ ชนิด คือ ชนิดที่ ๑. ใบอนุญาตให้ปลูกสายพันธุ์ขึ้นทะเบียน RPF1-RFP4 จานวน ๔ สายพันธุ์ และสายพันธ์ุพื้นเมือง ที่ได้รับการรับรองแล้ว เพื่อเอาเปลือก แกนลาต้น และเส้นใย ไปใช้ประโยชน์ ชนิดที่ ๒. ใบอนุญาตปลูก เพ่ือเอาเมล็ด เปลือก แกนลาต้น และเส้นใย ชนิดท่ี ๓. ใบอนุญาตให้ปลูก เพ่ือเอาช่อดอก ดอก เปลือก แกนลาต้น และเส้นใย และชนิดท่ี ๔ ใบอนุญาตให้ผลิต เพ่ือสารสกัด CBD จากช่อดอก ดอก เปลือก แกนลาต้น และเส้นใย ทั้งนี้ ผู้ได้รับอนุญาตสามารถเก็บเมล็ดพันธ์ุเพื่อนาไปปลูกหรือจาหน่ายได้
๔๒ มีแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตปลูกเพื่อเอาช่อดอกเท่าน้ัน ท่ีสามารถตัดช่อดอก และนาช่อดอกไปใช้ประโยชน์ ได้และจาหน่ายได้ (*หมายเหตุคาว่า “ผลิต” ใน (ร่าง) กฎกระทรวงฯ คือ ความหมายเดียวกันกับ ความว่า “ปลูก เก็บเก่ียว หรือแปรสภาพ” ในกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จาหน่าย หรอื มีไว้ในครอบครอง ซ่ึงยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๙) และให้ กาหนดคานิยามใหม่ในบททั่วไปของ “ประโยชน์ในครัวเรือน” ให้ชัดเจนจากความเดิม “ข้อ ๔ ในกฎกระทรวงนี้ “ประโยชน์ในครัวเรือน” หมายความว่า การใช้ประโยชน์จากเส้นใย ตามประเพณี วัฒนธรรม ตามวิถชี ีวิต และใช้ในครอบครัว โดยกาหนดจานวนพ้ืนที่ให้สามารถปลูกได้ครัวเรอื นละไม่ เกิน ๑ ไร่” เสนอให้แกไ้ ข “คานยิ ามในบทท่ัวไป” เป็น “ข้อ ๔ ในกฎกระทรวงน้ี ... “ประโยชน์ครัวเรือน” หมายความว่า การใช้ ประโยชน์จากทุกส่วนของพืช ตามวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตด้ังเดิม สามารถปลูกได้ครัวเรือน ละไม่เกิน ๒๐ ไร่” แต่การอนุญาตให้ผู้ปลูกตัดเอา ช่อดอก คือ อนุญาตให้ตัดช่อดอกไปใช้ ไปจาหน่าย ต้องใหเ้ ปน็ ไปตามใบอนุญาตปลูกเพือ่ เอาชอ่ ดอกเท่านั้น และการขออนญุ าตในครัวเรอื น ๒) ให้แก้ไขใน “หมวด ๑ การขออนุญาต ข้อ ๕ วัตถุประสงค์ในการขออนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซ่ึงยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชง (Hemp) มี ๗ ประเภท ซึ่งใน (ร่าง) กฎกระทรวง ระบุไว้ ๖ ประเภท ดังต่อไปน้ี (๒) เพื่อผลิต สาหรับใช้ ประโยชน์ในครัวเรือน (๓) เพ่ือผลิต สาหรับใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ หรืออุตสาหกรรม ท้ังน้ี ห้ามมิให้มี การผลิตเมล็ดพันธ์ุสาหรับการเพาะปลูก ยกเว้นเพื่อการส่งออก และข้อ ๗ ให้ผู้อนุญาตพิจารณา อนุญาตตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปน้ี (๒) กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล (ค) กรรมการนิติบุคคล หุน้ ส่วนหรอื ผถู้ ือหุ้นอย่างนอ้ ยสองในสามเปน็ ผมู้ สี ัญชาติไทย” เสนอใหแ้ ก้ไขใน “หมวด ๑ การขออนุญาต ข้อ ๕” เป็น “ข้อ ๕ วัตถุประสงค์ในการขออนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซง่ึ ยาเสพตดิ ให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชง (Hemp) มี ๗ ประเภท ดงั ตอ่ ไปนี้ (๒) เพื่อผลิต สาหรับใช้ประโยชน์ในครัวเรือน ท้ังน้ี ให้ยกเว้นการผลิตภายใน อาคาร ในร่ม (Indoors) หรือภายนอกอาคาร กลางแจ้ง (Outdoors) ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่มีการ ควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ในการเจริญเติบโตของพืช ไม่ว่าท้ังในลักษณะใต้ถุน (Basement) ระเบียง ดาดฟ้า เรือนกระจก (Greenhouse, Glasshouse) หรือรูปแบบใด ๆ ก็ตาม” (๓) เพ่ือผลิต สาหรบั ใชป้ ระโยชนใ์ นเชงิ พาณชิ ย์ หรอื อุตสาหกรรม ๓) เสนอใหแ้ ก้ไข “หมวด ๑ การขออนุญาต … ข้อ ๗ (๒)” เป็น
๔๓ “ข้อ ๗ (๒) กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล … ข้อ ๗ (๒) (ค) แก้ไข ใน ๒ แนวทาง คือ ๑. กรรมการของนิตบิ ุคคล หรอื หุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อยสองในสาม เปน็ ผมู้ ีสญั ชาตไิ ทย หรือ ๒. การประกอบกิจการให้ดาเนินการตามพระราชบัญญัติการประกอบ ธรุ กิจของคนต่างดา้ ว พ.ศ. ๒๕๔๒” ๔) ให้แก้ไขใน “หมวด ๓ การดาเนินการข้อ ๒๑ (๘) และข้อ ๒๔ (๘)” อันเป็นที่ ปฏิบัติได้ภายใต้ขอบเขตของกฏหมายอย่างปราศจากอุปสรรคเป็นรูปธรรมและสอดคล้องกัน ทั้งนี้ เพ่ือการพัฒนาสง่ เสรมิ ใหก้ ัญชง (Hemp) เป็นพชื เศรษฐกจิ ใหมม่ ูลคา่ สงู ของประเทศไทยต่อไป เสนอให้แก้ไข “หมวด ๓ การดาเนนิ การ … ขอ้ ๒๑ (๘)” เป็น “ขอ้ ๒๑ (๘) ผ้รู ับอนุญาตท่ีมีวตั ถุประสงค์ตาม ข้อ ๕ (๒) เฉพาะการปลูกเพ่ือ เอาช่อดอก หรือเมล็ดพันธุ์ หรือเมล็ด และผู้รับอนุญาตท่ีมีวัตถุประสงค์ตามข้อ ๕ (๓) (๔) และ (๕) เฉพาะการปลกู ต้องจัดให้มกี ารตรวจวิเคราะห์เพื่อหาปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบนิ อล (Delta-9 tetrahydrocannabinol, THC) ในกัญชง (Hemp) ท่ีปลูกทุกครั้งท่ีมีการผลิตตามหลักเกณฑ์ และวิธีการท่ีคณะกรรมการกาหนดหลักฐานการตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวให้เก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า สามปีนับแตว่ ันตรวจวิเคราะห์ ณ สถานท่ีทีไ่ ด้รับอนุญาต และกรณีท่ีผู้รับอนุญาตตรวจพบปรมิ าณสาร เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) เกินกว่าท่ีคณะกรรมการประกาศ กาหนด ให้แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมการทาลายหรือดาเนินการอ่ืน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงือ่ นไขท่ีคณะกรรมการประกาศกาหนด” และเสนอใหแ้ กไ้ ข “หมวด ๓ การดาเนินการ… ข้อ ๒๔ (๘)” เป็น “ข้อ ๒๔ (๘) แจ้งกาหนดการล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนการขนส่งเมล็ด พันธ์ุรับรอง ลาต้นสด หรือส่วนอื่น ๆ ตามท่ีได้รับอนุญาตต่อผู้ว่าราชการจังหวัดหรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี โดยระบุปริมาณ วันและเวลา ยานพาหนะ เส้นทางการขนส่ง และผู้ควบคุมการขนส่ง พร้อมท้ังนาใบแจง้ ดังกลา่ วและสาเนาใบอนุญาตตามข้อ ๑๐ ไปพรอ้ มการขนส่ง” ๒. เสนอให้แกไ้ ขประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ในประเดน็ ต่าง ๆ ดงั นี้ ๑) เสนอให้แก้ไข “ลาดับท่ี ๕ กัญชง (Hemp) เงื่อนไข ข้อ ๑. แคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) ที่สกัดจากกัญชง (Hemp) ซ่ึงมีความบริสุทธ์ิมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ ๙๙ โดยมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ ๐.๐๑ โดยนา้ หนกั ” เป็น
๔๔ “เกล็ดแคนนาบิไดออล (Cannabidiol Isolate, CBD) ที่สกัดจากกัญชง (Hemp) ซ่ึงมีความบริสุทธิ์มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ ๙๙ โดยมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ ๐.๐๑ โดยน้าหนัก เพ่ือการใช้เป็นสารมาตรฐาน ในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร เพ่ือการตรวจวเิ คราะห์และวิจยั ใหถ้ อื เป็น Laboratory Grade” อนึ่งในส่วนของระเบียบหรือกฎหมายประกอบ เสนอให้พิจารณาเพ่ิมเติมโดยมี เง่ือนไข ในประเด็น “ส่วนสารสกัด และเกล็ดแคนนาบิไดออล (Cannabidiol Isolate) ท่ีสกัดจากกัญชง ซ่ึงมีความบริสุทธิ์มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ ๙๕ โดยมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Delta-9 Tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ ๕ โดยน้าหนัก เพื่อการใช้เป็นวัตถุดิบ เชิงอุตสาหกรรม อาหาร เคร่ืองด่ืม ยา และยาสมุนไพร ให้ถือเป็น Food Grade และ สารสกัด และเกล็ดแคนนาบิไดออล (Cannabidiol Isolate) ท่ีสกัดจากกัญชง ซ่ึงมีความบริสุทธิ์มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ ๙๐ โดยมี ปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Delta-9 Tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ ๑๐ โดยน้าหนัก เพื่อการใช้เป็นวัตถุดิบ เชิงอุตสาหกรรม สาหรับภายนอกร่างกาย ให้ถือเป็น Industrial Grade” ๒) เสนอให้แก้ไข “ลาดับที่ ๕ กัญชง (hemp) เงอื่ นไข ข้อ ๒. สารสกัดหรอื ผลติ ภณั ฑ์ จากสารสกัด ท่ีมีสารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) เป็นส่วนประกอบหลักและมีสารเตตรา ไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ ๐.๒ โดยน้าหนัก ซ่ึงเป็นยา หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร ตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร และต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ ทางยาหรอื ผลิตภัณฑส์ มุนไพร เทา่ น้ัน” เป็น “สารสกัดหรือผลิตภัณฑ์จากสารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) รวมท้ังสารสกัดอ่ืน ๆ เช่น CBC CBN CBG Terpene หรือสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมี สารเตตราไฮโดรแคนนาบนิ อล (Tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินรอ้ ยละ ๐.๓ โดยน้าหนัก ให้พิจารณาระบุตามกฎหมายประกอบการใช้ประโยชน์ของ สารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) รวมท้ังสารสกัดอื่น ๆ เช่น CBC CBN CBG Terpene หรือสารอื่น ๆ ท่ีเก่ียวข้อง เป็นต้น ซ่ึงเป็ น ผลิตภัณ ฑ์ สมุน ไพ ร หรืออาห าร ห รือผลิตภัณ ฑ์ เสริมอาหาร หรือเค ร่ืองดื่ม หรือเคร่ืองสาอาง ตามกฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรืออาหาร หรือผลิตภัณฑเ์ สริมอาหาร หรอื เครือ่ งดืม่ หรือเครอื่ งสาอาง” อนึ่งในส่วนของระเบียบหรือกฎหมายประกอบ เสนอให้พิจารณาเพิ่มเติมโดยมี เงอ่ื นไข ในประเดน็ การระบุ “สารสกัดหรือผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป CBD จากช่อดอกกัญชง (Hemp) เป็นยาหรือผลิตภัณ ฑ์สมุนไพร หรืออาหาร หรือผลิตภัณ ฑ์เสริมอาหาร หรือเครื่องดื่ม
๔๕ หรือเครื่องสาอาง ตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรืออาหาร หรือผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร หรือเครื่องดม่ื หรอื เครือ่ งสาอาง ต้องใช้ตามวตั ถุประสงค์ เท่าน้นั ให้แบง่ เป็น ๒ ลกั ษณะ ดังต่อไปน้ี (๑) ผลิตภัณฑ์ใช้รับประทาน ได้แก่ ยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรใช้รับประทาน หรืออาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสรมิ อาหาร หรอื เครื่องด่ืมต้องมีอัตราส่วนสาร THC ต่อ CBD ไม่เกิน ๑ ต่อ ๒๐ สารท้ังสองมีปริมาณรวมกันไม่เกินร้อยละ ๑ โดยน้าหนัก และมีขนาดรับประทานคร้ังละไม่เกิน ๒๐ mg (๒) ผลิตภัณฑ์ใช้ภายนอก ได้แก่ เครื่องสาอาง หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายนอก ต้องมีอัตราส่วนสาร THC ต่อ CBD ไม่เกิน ๑ ต่อ ๑๐ โดยนา้ หนัก สารทั้งสองมีปริมาณรวมกันไม่เกิน ร้อยละ ๕ โดยน้าหนกั ๓) เสนอให้แก้ไข “ลาดับท่ี ๕ กัญชง (Hemp) เงื่อนไข ข้อ ๓. เมล็ดกัญชง (Hemp Seed) หรือน้ามันจากเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) ซ่ึงเป็นอาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร และต้องใช้ตามวตั ถุประสงค์ทางอาหารเท่านั้น และข้อ ๔. น้ามันจากเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) หรือสารสกัดจากเมล็ดกัญชง ซ่ึงเป็นเคร่ืองสาอางตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องสาอางและต้องใช้ตาม วัตถุประสงค์ทางเคร่ืองสาอางเท่านั้น ทั้งน้ี เมล็ดกัญชงท่ีนาไปเป็นอาหาร หรือเคร่ืองสาอางต้องเป็น เมล็ดท่ีไม่สามารถนาไปเพาะพันธ์ุได้ (Non-Viable Seed) หรือถูกทาให้ไม่มีชีวิต ซึ่งเป็นไปตาม หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงือ่ นไขตามทคี่ ณะกรรมการประกาศกาหนด” เปน็ “เมล็ดกัญชง (Hemp Seed) หรือน้ามันจากเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) หรือสารสกัดจากเมล็ดกัญชง ท่ีไม่สามารถนาไปเพาะพนั ธุ์ได้ (Non-Viable Seed) หรอื ถกู ทาให้ไม่มีชีวิต ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรืออาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือเคร่ืองสาอาง หรือเครื่องดื่ม ตามกฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรืออาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือเคร่ืองด่ืม หรือเคร่ืองสาอาง ต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ทางผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรืออาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริม อาหาร หรอื เครอื่ งด่ืม หรือเครื่องสาอาง เท่านั้น” ๔) เสนอให้แก้ไข “ลาดับที่ ๕ กัญชง (Hemp) เงื่อนไข ข้อ ๕. เปลือกแห้ง แกน ลาตน้ แหง้ เสน้ ใยแหง้ และผลิตภัณฑท์ ผ่ี ลติ จากเปลือกแห้ง แกนลาต้นแหง้ เส้นใยแห้ง” เป็น “เปลือกแห้ง แกนลาต้นแห้ง เส้นใยแห้ง และผลิตภัณฑ์ท่ีผลิตจากเปลือกแห้ง แกนลาต้นแห้ง เส้นใยแห้ง รวมถึงยาง (Resin) หรือ น้ามัน (Oil) ท่ีสกัดจากดอกหรือใบที่ไม่มีปริมาณ สารเตตราไฮโดรแคนนาบนิ อล (Tetrahydrocannabinol, THC) กากดอกหรือใบท่ีสกัดยางออกจากช่อดอก ดอก หรอื ใบ รวมทั้งสารสกัดอนื่ ๆ เช่น CBC CBN CBG และ Terpene หรอื สารอน่ื ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง เป็นต้น” ๓. เสนอให้ตั้งหน่วยงานกลางในรูปแบบ “คณะกรรมการกัญชงพืชเศรษฐกิจ (Hemp) แห่งชาติ” ข้ึนประกอบด้วยผู้แทนจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท้ังส่วนราชการและภาคเอกชน รวมถึง
๔๖ ผู้เช่ียวชาญ เพ่ือกาหนดนโยบายแผนและยุทธศาสตร์การพัฒนาส่งเสริมการควบคุมและกากับดูแล การผลักดันเพื่อให้ใช้กัญชงอย่างเป็นระบบครบวงจร และสร้างโอกาสให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ พาณชิ ยกรรมและอตุ สาหกรรมทุกคนเข้าถึงโอกาสอยา่ งเป็นธรรม ๔. เสนอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการบังคับใช้กฎหมาย พัฒนาระบบเทคโนโลยี ในการควบคุมติดตามดูแลและควบคุมมาตรฐานพืชกัญชง (Hemp) โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม สมยั ในการกากับ ตดิ ตามพชื กัญชง (Hemp) อยา่ งเป็นระบบ เชน่ เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Blockchain) เพื่อลดปัญหาความซับซ้อนในการเข้าควบคุมกากับพืชกัญชง ทาให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพและมีประสิทธผิ ล ท้ังน้ี การดาเนินท้ังหมดจะต้องไม่เป็นภาระคา่ ใช้จ่ายและความยุ่งยาก ของเกษตรกร ๕. ข้อสังเกตและขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ ๕.๑ เสนอให้มีการรับรองพันธ์ุพืชพื้นเมือง หรือพันธ์ุพื้นบ้านด้ังเดิมให้ได้รับ การรับรองเป็นพันธุ์พืชข้ึนทะเบียน ตามพระราชบัญญัติพันธ์ุพืช พ.ศ. ๒๕๑๘ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม เพื่อเป็นหลักฐานการแจ้งจดชื่อพันธ์ุและรายละเอียดของพันธุ์พืชที่มีลักษณะดีเด่นทางการเกษตร และส่งเสริมให้มีการพัฒนา และปรับปรุงพันธุ์ให้ได้กัญชงพันธุ์ใหม่ เพ่ือขอจดทะเบียนคุ้มครอง พันธุ์พืชใหม่ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธ์ุพืช พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยให้เป็นหน้าท่ีความรับผิดชอบ ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเสนอให้มีการส่งเสริมให้มีการสร้างกัญชง พันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิตเส้นใยเปลือก แกนลาต้น เมล็ดพันธุ์ ช่อดอก ดอกที่มีเปอร์เซ็นต์สารสาคัญ CBD สูง และ เปอร์เซ็นต์สารสาคัญ THC ต่า และให้ผลผลิตเมล็ดที่มีศักยภาพสูงด้านคุณค่า ทางโภชนาการ หรือซุปเปอร์ฟู้ด เพ่ือให้ผลิตผลและอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์กัญชงสามารถแข่งขัน ในตลาดโลกได้อย่างท้าทายและไมจ่ ากัด ๕.๒ ควรเร่งส่งเสริม จูงใจให้มีการผสมสายพันธุ์กัญชง (Hemp) ประเทศไทย สายพันธ์ุใหม่ เพื่อผลิตเส้นใย เปลือก แกนลาต้น เมล็ด ช่อดอก ดอก CBD และสารสาคัญอื่น ๆ ท่ีจะได้เกิดขึ้นจากความเพียรพยายามของนักพฤกษศาสตร์อย่างเต็มท่ี เพื่อให้ได้โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ ที่ให้สารสกัดสาคัญ ท่ีมีปริมาณร้อยละของ CBD สูง และสารสกัดท่ีมีปริมาณร้อยละของ THC ต่า เพื่อให้พืชกัญชง (Hemp) สามารถแข่งขันได้และเป็นที่ต้องการในตลาดโลก ทั้งในด้านผลผลิต (Produce) และผลติ ภัณฑ์ (Product) ต่อไปอย่างทา้ ทายและไมจ่ ากัด ๕.๓ การนาเข้าเมล็ดพันธ์ุที่สะดวกรวดเร็ว เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการ (Integration) การดาเนินงานร่วมกันเกี่ยวกับการนาเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง (Hemp) เพื่อให้กระบวนการ และขั้นตอนการขออนุญาตให้มีความสอดคล้องกันทันต่อเวลา และไม่เกิดความยุ่งยากต่อผู้ขออนุญาต นาเข้าเมลด็ พนั ธ์กุ ัญชงเพือ่ การผลิตหรือการเพาะปลกู ให้ทันฤดูกาลเกบ็ เกย่ี วต่อไปไม่เกดิ ความเสียหาย ๕.๔ เสนอให้มีการขออนุญาตและการอนุญาตท่ีเข้าถึงได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว สอดคลอ้ งกับการกากับติดตาม และการส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง โดยให้มีความครอบคลุม
๔๗ วัตถุประสงค์ในการขออนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกญั ชง (Hemp) ๕.๕ เสนอให้ส่งเสรมิ และสนับสนุนภาคเกษตรกรรม พาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม ในด้านองค์ความรู้ ปัจจัยการผลิต และการแปรรูปกัญชง (Hemp) การรับรองมาตรฐานพืช การจดทะเบียนพันธ์ุพืชใหม่ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ การผลักดันการจัดต้ังสมาคม วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ องค์กรอ่ืน ๆ เพ่ือเอกชนและสาธารณะ ตลอดจนสนับสนุนแหล่งเงินทุน การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทุกรูปแบบ ตลอดจนการสนับสนุนจาก สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในการส่งเสริมพืชกัญชง (Hemp) และสร้างโอกาส ทางเศรษฐกจิ ใหมน่ ีใ้ หป้ ระชาชนอย่างทัว่ ถึงและเปน็ ธรรม ๕.๖ เสนอให้สนับสนุนส่งเสริมกระบวนการวิจัยและพัฒนารวมทั้งการนามาเผยแพร่ และการใช้ได้จริง ท้ังด้านเมล็ดพันธ์ุ การผลิต แปรรูป การตลาด ด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ทั้งภาคเกษตรกรรม พาณิชยกรรม และภาคอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมให้กัญชง (Hemp) เป็นพืช เศรษฐกจิ ๕.๗ เสนอให้สนับสนุนให้นาผลิตภัณฑ์จากกัญชง (Hemp) ไปใช้อย่างกว้างขวาง ภายใต้กฏกระทรวงฉบับใหม่น้ี เช่น อนุญาตส่งออก สารตั้งต้น CBD เพ่ือส่งเสริมพาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม การนาสาร CBD ไปใช้อย่างกว้างขวางภายในประเทศ การจาหน่ายผลผลิต คือ เมล็ด (Superfood) และผลิตภัณฑ์ของเมล็ดและน้ามัน Omega-๓ ที่ได้จากเมล็ดที่เรียกว่าอาหาร นวตั กรรม (Novel Food) เปน็ ตน้ ๕.๘ เส น อ ให้ ระ บุ พื ช กั ญ ช ง (Hemp) เป็ น พื ช เศ ร ษ ฐ กิ จ โด ย ก ระ ท ร ว ง ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงการผลักดันการจัดต้ัง สมาคม วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ องค์กรอื่น ๆ เพ่ือเอกชนและสาธารณะ ตลอดจนสนับสนุนแหล่ง เงินทุน การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทุกรูปแบบ ตลอดจนการสนับสนุนจากสานักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในการส่งเสริมพืชกัญชง (Hemp) และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่น้ี ให้ประชาชนอยา่ งท่วั ถงึ และเปน็ ธรรม ๕.๙ เสนอให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขประกาศ กฎกระทรวงฯ ประกาศคณะกรรมการฯ และคาสั่งอ่ืน ๆ ทางกฎหมายที่เก่ียวข้องมารองรับให้ทันกาลและรวดเร็ว ทั้งต้องมีการแก้ไข ปรับปรงุ เพ่ือความเหมาะสมแก่เวลาและสภาพการณ์ปจั จบุ นั ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะข้างต้นดังกล่าวทั้งหมดน้ี เพ่ือก่อให้เกิดการบูรณาการ พืชกัญชง (Hemp Integration) อย่างเป็นระบบท่ีรฐั มีความมุ่งม่ัน ผลักดัน ส่งเสริม สนับสนุนให้เป็น พืชเศรษฐกิจใหม่อันสาคัญของประเทศไทยให้ได้อย่างรวดเร็ว ท้ังให้เกิดขึ้นด้วยความเป็นจริง ม่ันคง ยั่งยืน และเติบโตโดยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ (Internationally) อันจะเป็น พืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่หรือเป็นพืชเศรษฐกิจทดแทนเพื่อสร้างรายได้ใหม่ที่จะยังวิถีชีวิตที่ดีข้ึน
๔๘ มากกว่าของเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ประชาชนผู้ตัดสินใจเข้าบุกเบิก และผู้ประกอบอาชีพต่าง ๆ ทุกคนท่ีจะได้เข้าสู่กสิกรรมและการเกษตรสมัยใหม่ประยุกต์ของพืชเศรษฐกิจกัญชง (Hemp) ทั้งใน ดา้ นเกษตรกรรม พาณิชยกรรม และอตุ สาหกรรมของประเทศไทยในอนาคตอนั ใกล้น้ตี ่อไป .......................................................... หมายเหตุ : จากการประชมุ คณะกรรมาธิการวสิ ามัญฯ ได้พิจารณาและมีข้อสังเกตเพม่ิ เติม ดังนี้ ๑) เสนอให้แก้ไขกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ โดยพิจารณากาหนดให้กัญชง (Hemp) ไมใ่ ช่พชื ยาเสพติดให้โทษ และให้ออกกฎหมายวา่ ด้วยกัญชง (Hemp) แยกออกจากกฎหมาย ว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ กาหนดใหม้ กี ารกากับ ดแู ล และตดิ ตามการใชก้ ญั ชง อย่างเปน็ ระบบ ๒) เสนอให้มีการกระจายอานาจในการอนุญาต ผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย และ ครอบครอง ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด และกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับกัญชง (Hemp) พืชเศรษฐกิจ โดยลดข้ันตอนการอนญุ าต ให้ผู้ไดร้ บั อนุญาตดาเนินการได้อยา่ งเหมาะสม และรวดเรว็ รวมทั้งประเดน็ อื่น ๆ ซง่ึ มคี วามเหน็ สอดคลอ้ งกับคณะอนกุ รรมาธิการฯ เปน็ อย่างดยี ิ่ง
๔๙ บรรณานกุ รม กฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนญุ าตผลิตจาหนา่ ย หรือมีไว้ครอบครอง ซ่งึ ยาเสพติดใหโ้ ทษใน ประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๙. (๒๕๖๐, ๖ มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนท่ี ๑ ก. หน้า ๑-๑๐. ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพตดิ ให้โทษ เรื่อง กาหนดลกั ษณะกญั ชง (Hemp) พ.ศ. ๒๕๖๒. (๒๕๖๒, ๒๔ ตลุ าคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๖๔ ง. หน้า ๗-๘ . (๒๕๖๒, ๓๐ สงิ หาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๒๑๘ ง. หน้า ๑๑. ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอื่ ง ระบชุ ือ่ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษเป็นประเภท ๕ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒. (๒๕๖๒, ๓๐ สงิ หาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๒๑๘ ง. หนา้ ๑-๓. พระราชบัญญัติยาเสพติดใหโ้ ทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒. (๒๕๖๒, ๑๘ กุมภาพันธ์). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๖ ตอนท่ี ๑๙ ก. หน้า ๑-๑๖. สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (๒๕๖๓, ๘ ตลุ าคม). พระราชบัญญตั ิยาเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ. ๑๕๒๒. สบื ค้นเมอ่ื ๓ มนี าคม ๒๕๖๓. จาก http://web.krisdika.go.th /data/law/law2/%C207/%C207-20-9999-update.pdf สานกั งานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริต. (๒๕๖๒, ๖ ตลุ าคม). อนสุ ัญญาเด่ยี วว่า ดว้ ยยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ค.ศ. ๑๙๖๑ พิธีแกไ้ ขอนุสัญญาเดีย่ วว่าด้วยยาเสพตดิ ให้โทษ ค.ศ. ๑๙๖๑, ค.ศ. ๑๙๗๒. : กรงุ เทพฯ . (ม.ป.ป.). กฎหมายเก่ียวกับกัญชง (เฮมพ์). : กรุงเทพฯ สถาบันยาเสพตดิ ธญั ญารกั ษ์ ฝ่ายเภสชั กรรม. (๒๕๖๐, ๑๐ มกราคม). กัญชงชอ่ื วิทยาศาสตร์. สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา กองควบคมุ วตั ถุเสพติด. (๒๕๖๑, มนี าคม). คู่มือพนกั งาน เจ้าหน้าท่ใี นการกากับ ดแู ล ซ่ึงยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ (Hemp). กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พส์ านักงานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาต.ิ มนทริ า สขุ เจรญิ และพันธวัศ สมั พันธ์พาณิชย.์ (๒๕๖๒). จุดเร่ิมต้นวา่ ด้วยเรื่องของ “เฮมพ์” หรือ “กัญชง” ที่ไมใ่ ช่ “กญั ชา”. วารสารสง่ิ แวดล้อม ปีที่ ๒๓ (ฉบบั ท่ี ๓). พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๒. (๒๕๔๒, ๔ ธนั วาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๑๖ ตอนที่ ๑๒๓ ก. หน้า ๑-๑๕. ปวณี า ชาตริ ังสรรค.์ (ม.ป.ป.). มาตรการควบคุมกัญชง. วารสารสานกั งาน ป.ป.ส. ตอนที่ ๑, ๒ กรุงเทพฯ.
๕๐ ธมลวรรณ เน่ืองกันทา. (๒๕๕๒). ศักยภาพการผลิตพืชกัญชงบนพืน้ ทีส่ งู ในเขตภาคเหนือตอนบนของ ประเทศไทย. หลกั สูตรปรญิ ญาวทิ ยาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าพืชไร่ สานักบรหิ าร และพฒั นาวชิ าการ มหาวิทยาลยั แม่โจ.้ ชลิดา อุปัญญ.์ สถานะทางกฎหมายและมาตรการควบคุมเพ่อื ใช้ประโยชน์จากญั ชา กัญชงของ ประเทศไทย. (๒๕๖๑, กรกฎาคม-ธนั วาคม). วารสารนิติศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยอัสสมั ชัญ ปีที่ ๙ ฉบบั ที่ ๒. ประภัสสร ทิพย์รัตน์. (ม.ป.ป.). ลกั ษณะองค์ประกอบสาระสาคัญในพืชกญั ชากญั ชง. ศูนยว์ ิทยาศาสตร์ การแพทยเ์ ชยี งใหม่ กรมวทิ ยาศาสร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ . กรงุ เทพฯ. สรติ า ป่ินมณี. (๒๕๖๓, ๒๐ มกราคม). กญั ชง (Hemp). สถาบันวิจัยและพัฒนาพืชท่ีสงู (องคก์ าร มหาชน). จังหวัดเชียงใหม.่ ชตุ ิมา อธิคมธร. (ม.ป.ป.). มารจู้ ัก “กญั ชง” กันเดอ. สานักงานเกาตรอาเภอพบพระ : จงั หวดั ตาก กระทรวงสาธารณสขุ . (ม.ป.ป.). (ร่าง) กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนญุ าตผลติ นาเข้า สง่ ออก จาหน่ายหรอื มีไว้ครอบครองซ่ึงยาเสพติดใหโ้ ทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. .... . : กรงุ เทพฯ เอกสารอน่ื ๆ คณะอนกุ รรมาธกิ ารพจิ ารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกย่ี วกบั การใช้กญั ชงอย่างเปน็ ระบบ ในคณะกรรมาธิการวสิ ามัญพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกยี่ วกับการใชก้ ัญชง กัญชา และกระท่อมอยา่ งเปน็ ระบบ สภาผแู้ ทนราษฎร. (๒๕๖๓). บนั ทึกการประชุม คร้งั ที่ ๒, ๕
ภาคผนวก
ngn%zw=ias n15aooyqim~~azni5oyqimwa'mi i ~ \" U ' 7dsoon ~ I M ~ I U M ~ ~ ~ ~ U W ~ ~ U A ~ ~ ~ %suimwim~~'i~v~ud5az.bbnawwizr%y?J(sHemp) W.H. .... d ??{a sn nqnsaw=iadlim\"aunisvifqw~ raani=iayqi~~wa'nd i ~ I - i i uiit.Gi dsaan 14% ~ u n r a u n r a ; l & u i ~ a w ? m ~ $ w v ~ u d ~ z ~ na.~2\"~b~\"~b<uGddFziuwiiunir\"uooyqim~~azni5 =?5eyqinwan i i ~Am~an ~ i~ ~ I - i ~ u ~ ~ o ~ ~ ~ u n s ~ u na. ~~aw~iz;~qas~ ~ u ~ t . a w (Hemp) ua$fiuwdwnuwmiungnszw~4q sB hnruan-r u s ~ ~ z n i ~ n \" i ~ u m ~ ~ ~ a a ~ i a i ~ b m m ~ i(T~eatra~hmyd~robcabnn~aubiunoiL~ TaHC) n i ~\\< n ~ n r u ~ g a z i ? ; n 1 5 $ n ~ z n ~ 5 u n i 5 d s z n i ~ n \" i ~ u m
i o a %;11s:e;ln\"bunisuoauryinwa'm < i v d i u ~ ' s ~ ) d l j l ~ ~ ~ i l ~ f l 5 0 d d ; l ~ i b ~ ~ ? f l 'Lhwluds:bnw a bawi:%$m (Hemp) ii d dsu~nw&n'oldd (a) bdowa'm a 1 \" l ~ ? ~ ~ $ d % : ~ ~ \" ~ ~ \" b ~ ~ ? a b ' s ~ ~ (b)~GIow8nr i i v ? v l ~ d s d u a u \" b u ~ ~v'~sswqmi ~a~ivinrsu (m) ~dowa'mihvXnisJnvi?<u (dL G I ~ wMi;n~iY~uij?uso~v% ziauuuiuiYuijluniuduooysu_imh m i u h v d i u v'so~~onal'iw?unisdsaa5umi81a\"m;dsz(aa~)~(b)v'so (m) (a)~dohdiu~udmiu$?u5oBai6uam ~auuuiuiYu~iumiuM~i~uo~sv'uso_dimau 4u q miudliiuoysu_inliiv?ul~d*:luuu'nlu (a) (b)(m) wln5~Gayub3alms v~o~n<a;ldiomid i u n ~ v u i u i i i a u n i u~~i+~~~insCij (b)b d 0 ~ % 0 ~ ~ % ~ 9 a 1 \" l ~ ? ~ e l % $ d 5 ~ 1 ~ U u ' h bo b a\"mqd5zadn~umsuooysu_imsd\"vib'siioddoon ?!W-ILIW Y bawizn\"yUd(Hemp) Gdialdi (a) ~dodszluvu'uo~wi~si~n14 C'(b) a1\"iv?u'er4nw1?1,m4ziv 6 4ao- u w~Giiu~nwsnus5 bd~~ib<l(m) a1\"1~9?~eI]la~'~ ~&(bI)Mu' ~ O(&b I5 ~ l b d ~ d ~ ~ ~ a ~ ~ ' l d ~ a \" m ~ ~ ayulw=i i n n i s v'so~n~o~dimin;ul n g v u i u ~ i i a u n i ~ ~ ~ ~ ~ ~ d ~ z bv'suo a u ~ u ~ ~ ~ w i f (n) omwa~~uumiungwuiulwu (\"u)6od!gnwa:miu (a)(m) (0) (a) Lba: (v) (n) $~?uuouvui~lfi~i~Guiionis\"~o~GGynna~uooysu_1m6o~(ia~)nva~w1u (4) nssumruodriiynna $uria~v'so@'iin~uoii~~oualo~luaiu~SuQ~iy~iilwu
{a 00 ni5oyyim~ps\"t-~iiimi b { i ~ ? ~ d d ~ o n ~ d ~ i b a ~ ~ m ~ % p l l w ~du dba~wsl:b s l p l l <yrd (Hemp) ~ ~ o w r j n ~ i u ~ Gwi ~du i pw., l l ' b f i ~ ~ 6 i \" 1 1 o o y y i m r r a \" a l p s \" m ~ a ~ a o u ~ i ~ a : ~ ~ ~ m l u 6 1 \" 1 1 o $0 ni-royyiml c. rawi: <ysd (Hemp) lun~c~id~v~ii8w i~A uipllm~a0aour~a\"a~~u~i~iua:~~u~amnlauistir\"a1a:1vaGany~yiuimi na7upn'os~aun4u;au l p s \" r v~ di ~o ~ i ~ m i r ~ ~ n i ~ ~ a ~ ~ adt i \" ~ ~ o i o ~ o y q i m ~ ~ a G ~ i ~ ~ i ~ o n luoyq1\"u'b~ ~ u a y y i n n i u a ~ s n ~ ~ ~ ~ ~ d u ' b d m i u r b u u d r a \" ~ ~ i ~ n i ~ f i i ~ u mbbumnwui d ~ : n i f i ~ u ~ i s
%I a m {?uayyim~ib~i~~oddoondduibaw~m~~\"r,ww~udba~wzibzn\"wy.ad(Hemp) d i l s ~ n i s i i r i i ~ ~ o d ~ o o n 1 u ~ ~bidatfzum~u4o~yyimbawi~m5iaw,Lnnd 5. dwu-1bii~~adda~n n i ~ u ~ o ~ y i n i i ~ & ~ ~ a d ~ a a n r a w i z m ~ i a d ~ u i ~ a w i m l ~ \"ar , ~wawwlisund\"y~.zadr ~ 1 w (Hemp) ~ f i ~ ? u o y y i n ~ i r ~ i p 4 ~ a d~duaiai nu ~ w l u t a u r a n a i ~ ~ ~ a ' ~ ~ a \"Adno~'bidu3u ~ i ~ ? ~ n ~ d (a) n i s u a ~ ~ y i m ~ i b ~ i b a w i s n ~ i a d d u i b a w ~ m ~ ~ w wa~buawdi~sisinb?n.adw(Hemp) 1 f i u u r ~ n r n ~ ~ ~ s ~ a \" n ~d i uhuda~u~:sayd?. au a d2smw a bawi~n\"yv(.H~emp) ~ a u ~ ~ d a ~ ~ a s i ~ ~ u a ~ a n i u i ~ \" i n i s u o ~ { w ~ n p 4 ~ o ~ d ~ ~~iu-~lusi~aiaiCn~~~as~\"sisluni~i-~~~iuilu~i.aoi~iCn~d~u-~~awimG~n d~zIua~ua~wi~~imi~luni~da~n\"Pdrraadsiudsiu ~~a~da~~ast(&uadaniu~w\"ini~uad{~~n'~~~a{ddu-~ (b)n i s u o a y y i n d ~ a o n ~ a w i s n ~ i a d lGrruuluayyi~ i i u ~ ~ ~ a ~ i m l ~ T w w laubda~wls ~ n w d~oan~mu~~au~iuua~?~ua~d~s~wfidaiuwi~{~uu-~~aw ~ i u a z ~ ~ u m r A u a n \" e r u - ~ ~ a w i m l ~ w w lau dLa~ z ~ n w W \" i n i ~ u a ~ ~ i i u i ~ a w i m l 3 w w l uadL~~~W~I Ln w ~i~aand~uimwGmlfiwwlud~sa~~nawwimn\"g n~i7dd5z~w~1{d~aa b a w i s ~ u d(Hemp) n\"yad (Hemp) miungMuiuuad d ~ s ~ ~ f i ~ uw~dad~ h m u i w b w a d ~ ~ n a ~ n ^ ~ ~ ~ ~ i ~ ~ i ~ a u o m assmaad t~nt;a.r~~aznsuiiau a.m; iiuaubm:d?uiauad~ibawim~fiww~ud5~abnb~awiznib(.ad(Hemp) doyodin ~ f i d d a o n b a w i m - r i a ~ a ~ b ~ u ' b ~ n i u d ~ z U ' b ~ u ~ u a Y y i m u a ~ dim~ ~z'bdwbf~iuw<\"iu~a~u~uai b;:d i d ~ ~ i a d s z y ' b 3 ~ ~ l u o y y i m~uwaf~i wd\"~osb~i iii i a m a l u m ~ i i r i i ~ ~ a d ~ a o n ~ a w i z n ~ i a ~ ~ u i ~ a w i m l a3 w~ awwl ui zdn~i bs(~~~ 1 w (Hemp) ~ f i { ? u o ~ y i n ~ i r ~ i ~ ~ a d ~ o o n ~ a w i ~ n ~ i a d ~ u i ~ a wa Grawmis~nf\"iywww(H~eumdp)~ n w dfidmudaulu Gdiddd (m) iiui~awim~fiww~ud~sambawwir&-g.a.r (Hemp) ~nuiirbivr:ad.rm aga~~dnsd ~IIP~\"WC~~IULGIMIYI~~\" i ~ n ~ i u n a z n ~ ~ u n i ~Na ~i ~i i iu~a ~i ~~i 5a~s~u~ais~u~i ~ \" i n i ~ m ~ a ~ a ~
(b)iirbi~3ad~aanu-1rawRmlfiwwlud~za~~nawwizn\"q~(Hdemp) niu.aijnd-rzy liluluayqim ~ ~ a d r i r i i u ~ i u ~ u ~ ~ a z ~ < u i ~ d ~ ~lu~n'sb4i~l luial iulno~~nqa'i~maan'b6mi81diuau uazd'suiruGdnai2 l M ' u & i e ~ a v i ~ n i s ~ w d a ~ ~ n \" b v l u a y q i ~ l M ' ; n ~ a ~ m i u d < u i ~ ~ a ' ~ a a n ~ ~ ~ (m) C m d ~ d i ~ u i l u a u q i m d ~ a a n vwad~W~d~O i v u i w Y u a i u i ~ v a ~ d ~ zu~i9wr~l ~awuC\" du~ a a n $ ~ ~ uimwRmlhw v d d a ~ u~ ~ a r ~ m ~ wMd' w~ $ i ~ u i w n ~ n a ' i ~ d ~ ~ ~ ~ u ~ ~ ~ u a y q i m d ~ o o n u i ~ ~ d i s 6r \\ \" bo ~ ~ ~ ? u a ~ q ~ m w ~ n ~ d u i b a w ~ m ~ fairawwwiz~f%u-dyn~a(zHe~mnpw) bnu nisdin dfiuT ~ d u i a ~ d d (a)dann\"t-y.u.1(Hemp)~uarnuddfii~um'ba\"bu~uayqimbp/ii~u (b)[?uayodimdiiimqd4zad6miubaa (b) r m s ~~owiznisdgntiaaFinrm4uu aniuduazn~uqunisdpnmiuvi;nmruw' ?Znis ~ ~ a r d a u ' b v $ u ~d d m i u w m ~ z n ~ ~ u n i ~ ~ i v u ~ b m u d ~
(u) nid$dau~uiuw\"u~~ud'b~?u?ah~~yiiumi o i n h ~ < y v(qHemp) d d q n h u ~ua\"nwir$?usaq~ ~ a ~ t i u i o i n n i s i i ~({ui ~i u~auid) ~i i wua~n i & s a o ~ ~ n s i z p ; i o i n G a ~ e ~ f i ~ i n i s ~ d a u ~ i u ~ a ~ ? ~ p 9 ? a ~ n i s ~ \" u ~ p 9 d a u ~ i u u o ~ ? ~ ~ a ~ d s z ~ w f i ~ w a ' m p 9&~tiail[-dli~ida5aunil~G n i s ? u s a ~ aisbmms1~8~msbbnuui~u(Toaetrahydrocannabinol, THC) ku1bn9 uwd noipsum ~~dlul$~un~sdanuo~~?uayyimdZa\"m9ds~c.a(~ah) umaziu(mio) (dj , ~ i ~ r u a ~ ~ ~ m b d n i s ~ w i z ~ a , n d ~ G u ' b i < m ~ . a u i ~ u masaziiQanaiu~4uAaBnwslwug . r l d d a u n i i m ~.auirums~~amsTmqdszaqn'ua.r mswa'n du aniud~wizdqn<yv(Hemp) ~dal$dsduvu7un?adouuams~aud~ua~ydiomi?u oyyim ~ m z ~ a a i i i u ~ n n i s a y y i m m i u ~ u~amy ~uilmiinnmjlilud~gm~dwuul i i i u N a$ ayyiw uas<yvsl. (Hemp) ywntn (a01 i i ~ G u n i s m i u ~ ~ w u n i s w a ' m ~ ~ a z ~ ~ w u n i s l ~ d sd~ l(suiv) l~umnisuiido l d m u i s n n ' i ~ G u n i s m i u ~ ~ w u n i s w a ' m ' ~ ? a ~ ~ ~ u n i s l $ d s ~l Gl u~v~d$ ~~u~i an~aai a' i nl iv n i s C ~ p 9 a \" m p 9 ? a ~auiSmswsiumiui~uud~a\"11i~nisn\"ip9umlmuds~nifilusiv?onoiui~lu~auiun2wuia\"uJu~rm1wau4'w dsin~iildaiuisoRi~GunisG~ndiali (a@C) mw\"isJ\"y~?ud~uu-~~awi~~lAwwKcu.d~sazw~inzw<yvs(Hemp)ludauau~mw\"u$ ?usa.r B i h a n ~ i a d a u i u1m i u d I i ~ u a u y i n~ m ~ a r k d a ~ a ~ i 8 n i s w s 1 u ~ ~ u s i u d a u r ~ a ~ s i u 3
ds-ni~~lus~an'qbquinywi ~ u n i s ~ m i i r j y . j ~ u i i u u i ~ a w i m l f i n w l G $ m i i ~ 3 u aaar~jaur j~ud j l ~ a u a i a ~ a s i h n i u % u a i u i u T u G u ~ ~ i % ~ u ~ 3 a u ~ st.~baga~~ub3insd~ ~ a r ~ n a s J \" u ~ s ~ d l G ~ 6 ua? nawniiluad\"dn\"i~9utilla\" luluayy l n w ? a ~ 6 a u b a n a i 5 ~ ~ a g / r a \" n ~ i u b i u a n \" ~ n i ~ ? u i i u u i b a w ~ m ~ ~ n w i ~ ~ a d ~ i u n i s ~ u r j ~ . j ijn\"i~umGi3~u~~iTuwda~siunis~~~~mw\"iulusJ\"y~ (ob) u ~ i u ~ ~ a - n a i n i s ~ 6 u ~ i u a n \"(Hy \"eImI dp) i a w G n ~ i u t hw~ ud i,n a a ~ p 9 C i l i ~ a u n i i iiuGiTuiaums~6u~i(u~ad a l ~ w G n ~ i uw~d&o~ u i n m i ~ ~ 1 ~ n i ~ ~ a u ~ ~ugna1ls~~w6rejn1d~iiu( ~u Ga i~Cid s i u ~ i u i a ~ ~ i ~ i ~ n i ~ < ~ ~ 9 Y m ~ 9~a?\"aa~t.ain.s~di 5 n i s ~ & ~ i n l 6 i i ~ i i u n i s ~ 6 u ~ i ( u a ~ a udawu\"i~u~7a \" a wGn~iuthm~~dw?aurjuw\"n~a\"n~iu~~a~niwd~u saan\"yw (Hemp) bdanau~u~mrn\"i~~bba%~fl\"b~u~e]miud~6?uay~im L L ~ Y~~uI iluay~mmiu+0a0'belwiaunisuuds (Hemp) n s ~ d bawi%n\"y4(.H1emp) ~ u ~ n i u $ d s r ~ ~ % a bawl-%-gad(Hemp) wiaudiuuamsqaa '%zaaai w\"inissaa~n8ansla~\"auTmqni~siiuu~mna\"ia'biCamuon~~ipluikums u i ~ ~ a u n d $boC3ui~ums~ a ~ i i $ a ~ a i u ~ 3 u G a ~ n wp sb 'hbh~uun i i m ~uibunsImuld~mmjljlu 5~LQWJ~V~ a t i jNi uaniuiCfsr~til~uayyim 4\" (m) $ m % ~ ~ n i s ~ b n s i r p s \" ~ i b a ~ ~ m ~ ~ naw ~i~une\"]y4a3.(brHnenmp) ddauwau dw2m~uImun'~~iinis~~~si~ps\"~n~~~~~a~ii~a\"n~iu~~am~siua~~~umsa~ ~~aunilduil~ub1ia\"u?bfl5~i~ip~s\"~ ~ n s ~ n i ~ ~ i ~ ~ ~ ~ u ~ m q ~ uIE~ uu~ni iLs wL~Tm ;w bawien\"ya;l(Hemp) ~dwada~n\"un1s~~91uw?aqnw\"ai~aaiu-CmlGijni5~~un~6ur3uZmdau.ilinuig/r3a Tmq$u
(G.)iiaGuni~miuaa~uni~w~maaazaawuni~l~e]~~bu\"d~(~6d)mluinu4.iud\"'badaiu14n RiaGunismi%laawunisw~m~9?aaawuni~l~e]~zbuaC~l~4naaa'Gia~'bia6[41~iani~Q~~9im~9?aaa\"111\"5ni4 ~ s i u n i u a a u u d a a u i 8 n i ~ ~ i ~ 9 u m b m u e ] ~ z n i m l u ~ inaiu~lu~a~iiu~8au~iunriwuui maIWuwde]41ng11 'bdaiui4nffiaGuni2$qndia'b6 ( 5 )~ml4ini~Viiljql?udiuaaa~~iu~iuuiaawiml~pllwlueG.]m~ziuadn'b6?u ayqim~aa~aa~a.iiu~iuiaaaui8ni~pll~iua~u~iuaiaunaiaual uz~aiiuu38 u i u l j ~ ~ ~ ~ a \" u ~ u a ~ a u ~ 9 ? a iu3 aah\"l~ainsiniuuuuaaaz~\"5ni~dma~n~~uni~Ri~9umbmue]~znimlu~iaiis~i~aunwi (d)niswan daaaua\"mqfluluniswzmwa'mfia&du'b6ui u i ~?aam$adhai.l~p s \" i i ~ G u n i ~ m i u ~ ~ n m a & nisayqimwSm riiaiii ddaan lunsrPd%qflu$dnr;11 t-ple4nmu ZJ [ ~ i s i a n i s ~ ~ i m ~ ? a a a u ia\"~5~anaia~n'nsraPdansiulnu~ awunisii~ljiu&na'ia'b~ps\"~~G~ia[4i~iani~~~~9~m~9?aaaui\"5ni~pll~iumiu~au~daaui~ni~~i dsznimluiliaiiusiyaunwi niu~uaiuilu~u~uu~~ude]~ing~i'bdaiui~n&1a~uni~$~ndia'b6 ( 5 )$miiljq~?udiuuiba~im%~pllw~ue]4zbG.npbalwl iz;q\"11d (Hemp)%udaubu6n $ui$?usa.r a'iAuan ~93adauBu7 miupdll'bwwm~uayqima ~ a z ~ G ~ i a m u i \" 5 n i ~ p l l ~ i u a ~ u ~ i u ~ i a u a a a z ~ i u 3 a h r ~ i mmi iuuuuua~~\"5ni~dmazn~~uni~~i~9umbmu~~znimlu~iaii~siyaunwi 'Lums~iilj~~?uiiuuibaw~m~~pllw~ps\"$miiba~u~aua\"dda~~auaua~aba\"IIi\"5ni2 niu%uaiuilua\"uGu~~iiu$uaiau~?a$t.ua~gaaain4i aaaz~nalju~u\"q%ps\"afiu?nw~aI'baan\"iuWdWdRi~um
'b~u~uayyin~~au6aubanai~~?a~~ninSiu~~ua~uni~?udiuui~a~~m.[~w~~'b6 G ~ n F i i a i i i ~ u Wn vd iWd u u ~ ~ i a \" u d a ~ ~ i u n i ~ ~ f ~ ; m w \" i u l u s J \" r l ( i (d)lGnaiuiau~ariuwrjn~iu~Giv~id\"bun1~~u~~u~aadi~~u6mw\"u{?u~a~v~ad vndniysid (Hemp) ~~anauqubmz~i~u~bba~~b~u'bdwiud'b6?ua~qiw (dl bb~~~ivumni5a'a~~sd\"i'b~~auna'i~~ma\"ufiauni~~ludEdYib6uua~mmvw?a\"u{?u~a dau$u 7 m ud~ ~wws u a y q i n i a ~ a ' i ~ i \" ~ ~ n i ~ < ~ v a \"umhvoTi na5~Gab~~lui ~s znyi d l u wi u ~ m z ~ a a ~ UIUWIMU~ ~$uwi~ni5~lu~d~da z [ n a u ~ u n i 4 ~ wu d~da u ~ ~ J i l ~ ~ ~ ~ ~ G ~ n a ' i a ~ ~ a z d i ~ u ~ l u a $a a0 ' b d w ~ a u n i ~ ~ u d s (n.) du7 niud~n~:ns~uni-rfli~umTm~d~znifilu~isiii~~iytunwi B (Hemp)d i d ~ d ~ d d i f (a) Cm~idiuii.lua\"n~nia~i~luimna\"i~'biCamuon-di ~ladn\"q~(Hdemp) ~ W d a ~ a ~ ~ u n i s ~ q v i u v ? a ~ n w \" i a i u niu$a an. (n.1ilGiiqmunwiad uwunisl$dsduvCnjna'ia'b~G~~G~%,=-= ~~3i~ivnisC~va\"mv3a~a~i\"5nisw~iuniu~~uu~ta~i\"5nisn .(;Imudsznifilusiafi~~iy~unwi ~i ~ ~ a i u ~ u a \" u1 - Gdu r ~ m a u ~ d ~ i n ~ - d i ~ a i u i ~ n ~ i ~ G u n i ~ G ~ n a i a (5)Cmw\"isJ\"a%~91aiu~i~awRm~Pjibww~au~da~wztinz~n\"qvd(Hemp) ludau~udm firjiu5e.r EYi6uam v4gJaat ~ ~du a7un i u d ~ t i ~ u a y y~i n~ a z ~ ~ ~ ~ i a m ~ l i ~ n i ~ w ~ i u ~ ~ u ~ i u n~~uni~n\"~vumImud~znifilus~afi~~iy~unwi riisJ\"yd?udiuu~~awR11l~wwlGCmw\"-1~5uaaas~jua~sJd\"jluMY~auaie~a\"ui\"5ni5 ~ u ~ ~ a u v : a $ ub3bia~abbin5G~~az~napl\"uvd~lMY~n\"u?nNwai'nbaiu\" ~dflivum ~anms~3a~fin~iu~;fuan\"uni~?udiuui~awRml~wwd'b6a~siuni~lusJ\"rl( iu~a~~iunisnWElnw\"iulusJ\"qd (d) l~n~iuiauian\"uwCn~iu~GivCid\"buni~~u~fiu~aadi~~u6mw\"u{?u~a~v~ad ~lad;yva (Hemp) ~ A a n a u ~ u ~ ~ a z i i ~ u ~ ~ ~ a ~ M Y ~ ~ u ~ s ~ n i u ~ ~ ~ u a ~ y i n (d) ~rG~~ivumnisda~~Ci'biCauna'i~~ma\"ufiauni~~lud~G~i6uu6ammwv\"?ua{?u~a daudu 7 niu~d 'bwmw suayrl(inia[a'i~i\"11ni~C~~a\"m~3au~hau\"1i n1si\"r5un4i n u ~ z y d l uiiu~ ~ t a z ~ a a i Y uiuwivuz b$uwidfl15wdd b~az[mauquni~~udwd~ a u w \" s J i l u ~ ~ ~ ~ < ~ n ~ i a ~ ~ a ~ d i ~ u i ~ u a $a 'bdw-?auni%.uu&
k bd1ps\"~?ua~qimu'ir&ddui~aw~m1~mv1ud5cz~Lnamw i a ~ a d(Hemp) da.3 n d a l d d (a)~iiiliurran~iir~uaniudu'ir~id~uimwGml3mvlucd~bzu~i wnmq n i a s i\"~imn?id'bdsd\"auniim o L ~ U G L ~uiWald~sd\"aunii 50 ~auGruw5rrazi+anaiu~3uGaCnv5lwu zp'biiiaunii m r q u i ~ u n s~nulps\"~~amda\"buCir~dmuwlui i i u a a n i u ~ 6 / ~ z y l i l u h a Y q i m (b) $mlps\"3u?u5aduadiw~mddrramd51uaz ~~umni~Srn~izps\"uirawZml3mwludc~zmm Lawiz~qad(Hemp) d u ' i r ~ i (611) Ri~Guni5wiurl~uu+a d (d~inWaiui5niirGuni5'b; % P 4 Y b ~ G ~ i a ~ i i 5 i a n i ~ $ ~ ~ i m ~ ? a ~ a a i 5 n i ~ m ~ i u n i u r ~ u u d ~ a a i 5 n i ~ n \" i ~ u m b m u d ~ z n il~nul uiiC~ni @a i i~~~~\"4ifa'~ly,rmu nuv i -3 aiuiiuiuriuudiudd~in~iildaiui~n~i~~uni~G~n~ia'b~ Q.\" . (d $mlps\"iaainrii~iuuirawGml3mvlud~z~nrma.wcizt7qndt y e @ ~ u ' i ~ + i (d ~mlps\"ianiudrra~ni~?nvinaiud4aadm~u~warnua?#-nviui~aw~~i~~&mvlud~z~nm r d a d a d ~ u n i 5 ~ q ~ i u ~ ? a ~ un ai iza$i mu ~ p s \" ~ n i ~ u u n r 6 u ~ ~ u ~dm%d>ia+u ~ i n u i ~ ~ q ~ ~ q a u (5) $mlps\"~ni~iiGq~?uiiur~az~iu~iuuirawGmlZmcwlm~idu~vdi~lmwnwsmuoyqim Pu a z ~ a u a ~ i u ~ i u d m a i 5 n i ~ m ~ i u ~ 3 u ~ i u ~ ! a umrurlauza~iai u138d a u r ~ d i u ~ u r ! a u ~ ? a ~~ur3$aud %n d n i u l r u u u a a S ~ n i ~ d n a z n ~ ~ u n i ~ n \" i ~ u mdb\\hJmmuo~ly~ruznnwii~ l u uiyirrazriiruisiudiu i i o ~ r 6 u ~ n#J ~ B~ ~ n i u d d ~ i ~ u m ' b a \" b u 1 u a ~ q i m ~ r a z w i a u d ~ z u a m ~ d a w r i n ~ i u ~ G i ~ s d \" i w %i d~i f~innr \"a ia~i u m ~ ~ ~ u ~ ~ d i u d a ~ ~ i u n i ~ n ~ ~ ~ m w \" i u .'%)1un-riduiraw~n13mw1~85~bn& snI95n55a.1t q ~ i ~ul a g n i i a i uk ~ i i r r ~ d r f J u 4wcl~ ~ ~ ~ o i o ~ i i ~ i a n i ~ $ ~ ~ 9 i mLL~$%9 ?nsotur raw4a~wi55iulnmiu~9Gn.ii7 ( 1 wm~luoyqimaa~su'ba\"bumrDm~wurraz~duN'ba~4niiuu d ~ z u I ~ u ~ u o Y q i w 2 :ul r u n v i q i w d ~ a a n ~ ~ u i r a w ~ m l 3 m v l u dCE~~arwnimzt7qad(Hemp) ~ ~ ~ i m ~ ? a r a a i 5 n i ~ ~ ~ i u m i u r r u u d r a a i 5 n i ~ n \" i ~ u m b m u d ~ z nIim~ul ui i G~ ni ahi i ~ ~ i ~ r u n w um~driiuaiuiiuiu~urria\"uw\"d~in~-di~daiui~nii~Guni~~~na'ia'b~ (m) $m%ps\"iaainrii~?uuirawGm~3mv~ude~zb~anwmi~n\"qad(Hemp) ~4 ~ddWu a a q a n~uiiaurnuMd~?uayqiww~w$m'b? (d) $mlps\"ini~iiGqi?uiiurraz~iu~iuu-1~awGml3mwludc~zmrniumdmlwmw ~uayqim ~ ~ a ~ ~ a u o ~ i u ~ i u d a r a a i 5 n i ~ m ~ i u r 3 u ~ i u nr i~ualuurariauzii~ui iuu3Gurrdiudu~~au~?o~u3 a&rrinsi m i u r ~ u u r r a ~ ~ n i ~ d ~ a z n ~ ~ u n i ~ ~ i ~ u m b m u d ~ z n i ~ ~ u ~ i a i i ~ ~ i ~ ~ u n w
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399