เล่ม 4 (2) เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม

129 ไทยพบี เี อส 2563

ส่วนท่ี 5 : ผลงานเด่น ปี 2563 55คลปิ เดน่ ส่อื พลเมอื ง 130 ไทยพบี เี อส 2563

131 ไทยพบี เี อส 2563

ส่วนท่ี 6 : รายงานผลการดำ�เนินงานของส่ือสาธารณะ “ดูรายการตอบโจทย์ ช่องไทยพบี เี อส ตอนสถานการณ์ชมุ นมุ ทางการเมอื ง ดีมาก ถือวา่ เป็นจดุ เยยี วยาสภาวะจิตใจอยา่ งหนงึ่ กบั สภาวะบา้ นเมอื งตอนน้ี 6รายงานผลการด�ำ เนินง”านส่วนที่ 6มันคอื การเอาทกุ ฝา่ ยมาแลกเปลย่ี น ได้ฟังหลากหลายมุมมอง และหาทางแกไ้ ขปัญหาจริง ๆ Mhaiz ผู้ชมไทยพบี เี อส ของสื่อสาธารณะ วสิ ยั ทศั น์ วัตถุประสงค์ นโยบายปี พ.ศ. 2563 เสียงสะทอ้ นจากผูช้ มผู้ฟงั รายการ รายงานการดำ�เนินงานของคณะอนกุ รรมการ รบั และพจิ ารณาเร่ืองรอ้ งเรยี นจากประชาชน รายงานคณะกรรมการตรวจสอบ รายงานการประเมินผลการดำ�เนนิ งาน ส.ส.ท. รายงานของผู้สอบบัญชแี ละงบการเงนิ แผนบริหารกิจการและแผนงบประมาณ ประจำ�ปี 2564 แผนจดั ทำ�รายการประจำ�ปี 2564 132 ไทยพีบเี อส 2563

133 ไทยพบี เี อส 2563

ส่วนที่ 6 : รายงานผลการดำ�เนินงานของส่ือสาธารณะ วิสยั ทศั น์ วัตถปุ ระสงค์ นโยบาย ปี พ.ศ. 2563 วสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ ค่านิยมองค์กร วิสัยทัศน ์ มุ่งมั่นเป็นสถาบันสื่อสาธารณะท่ีสร้างสรรค์สังคม คุณภาพและคุณธรรม พันธกจิ ให้บริการข่าวสาร ความรู้ สาระบันเทิงท่ีมีคุณภาพ และมาตรฐานตามขอ้ บงั คบั ดา้ นจรยิ ธรรมขององคก์ าร เพ่ือเผยแพร่ผ่านสื่อทุกแขนงโดยยึดถือผลประโยชน์ สาธารณะและความคุม้ คา่ เป็นสำ�คญั คา่ นยิ มองค์กร ส สื่อเพอ่ื สาธารณะ ส มุ่งสรา้ งสังคมเปน็ ธรรม ท เทยี่ งตรง โปรง่ ใส 134 ไทยพีบีเอส 2563

วัตถุประสงค์ 2. นโยบายโครงสร้างและพฒั นาบุคลากร ปรับโครงสร้างและกลไกการท�ำงานให้กระชับ ตามมาตรา 7 แหง่ พ.ร.บ. องคก์ ารกระจายเสยี ง คล่องตัว และมีประสิทธิภาพ พัฒนาบุคลากรให้มี และแพร่ภาพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. 2551 กระบวนทัศน์และทักษะที่เหมาะสมกับภาระงานท่ี กำ�หนดวัตถปุ ระสงคข์ อง ส.ส.ท. ดังน้ี เปลย่ี นแปลงไป และกำ� หนดคา่ ตอบแทนใหส้ อดคลอ้ ง กบั ความรูค้ วามสามารถและผลการปฏบิ ตั งิ าน (1) ดำ�เนินการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุ 3. นโยบายการเปล่ียนแปลง โทรทัศน์ท่ีจะสนับสนุนการพัฒนาสังคมท่ีมีคุณภาพ ขับเคลื่อนการเปล่ียนแปลงสังคมที่มีคุณภาพและ และคุณธรรมบนพื้นฐานของความเป็นไทย โดย คุณธรรม โดยเป็นโรงเรียนของสังคม เพื่อเสรมิ สร้าง ผ่านทางบริการข่าวสารที่เท่ียงตรง รอบด้าน สมดุล การเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน การพัฒนาท่ี และซือ่ ตรงต่อจรรยาบรรณ ยั่งยืน ตลอดจนการส่อื สารสันติภาพ 4. นโยบายการมสี ว่ นรว่ ม (2) ผลติ รายการทางดา้ นขา่ วสาร สารประโยชน์ ดำ� เนนิ การใหส้ ภาผชู้ มและผฟู้ งั รายการ ภาคเี ครอื ขา่ ย ทางดา้ นการศึกษาและสาระบนั เทิง ทม่ี สี ัดสว่ นอย่าง และประชาชนทว่ั ไปมสี ว่ นรว่ มในการกำ� หนดนโยบาย เหมาะสมและมีคุณภาพสูง เน้นความหลากหลาย การเสนอข่าว รายการ การติดตามตรวจสอบการ ในมิติต่าง ๆ โดยมุ่งดำ�เนินการอย่างปราศจากอคติ ด�ำเนินงานของ ส.ส.ท. ตลอดจนการขยายฐานผู้ใช้ ทางการเมอื งและผลประโยชนเ์ ชงิ พาณชิ ย์ และยดึ ถอื บรกิ าร ผลประโยชนส์ าธารณะเป็นสำ�คญั 5. นโยบายความสมั พนั ธ์ ร่วมมือกับบุคคล หน่วยงาน ท้ังภาครัฐ เอกชน (3) สง่ เสรมิ ใหค้ วามรแู้ กป่ ระชาชนใหก้ า้ วหนา้ ภาคประชาสังคม และชุมชน บนพ้ืนฐานประโยชน์ ทนั การเปล่ยี นแปลงของโลก เพ่ือประโยชน์ทงั้ ระดบั สาธารณะและการด�ำเนินการท่ีเป็นอิสระของสื่อ ชาตแิ ละระดบั ทอ้ งถน่ิ ผา่ นทางการใหบ้ รกิ ารขา่ วสาร สาธารณะ และสารประโยชนอ์ ื่น 6. นโยบายฐานข้อมลู สร้างระบบฐานข้อมูล เพ่ือประโยชน์ในการบริหาร (4) ส่งเสริมเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสาร เพื่อ จัดการ การน�ำเสนอข่าวสาร รายการท่ีเจาะลึก สร้างสังคมประชาธิปไตยที่ประชาชนได้รับข่าวสาร ในทุกมิติอย่างรอบด้าน และให้ประชาชนสามารถ อยา่ งเท่าเทียมกนั เข้าถงึ ใชป้ ระโยชนไ์ ด้ (5) สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน 7. นโยบายการประเมินผล ทั้งทางตรงและทางออ้ มในการก�ำ หนดทศิ ทางการให้ พฒั นาเครอ่ื งมอื ประเมนิ คณุ ภาพและความคมุ้ คา่ ทาง บรกิ ารขององคก์ ารเพ่อื ประโยชน์สาธารณะ สังคมในการด�ำเนินงานท่ีสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของสื่อสาธารณะ และเป็นที่รับรู้ของ (6) สนบั สนนุ กจิ กรรมสาธารณประโยชน์อื่น สังคมนอกเหนือจากการประเมินความคุ้มค่าทาง การด�ำ เนินการตาม (2) (3) (4) และ (5) ให้ เศรษฐกจิ ค�ำ นงึ ถงึ การเขา้ ถงึ และการใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งทว่ั ถงึ และเปน็ ธรรมของประชาชน 8. นโยบายการจดั การความเสีย่ ง มีแผนบริหารและจัดการความเส่ียงท้ังภายในและ นโยบายของคณะกรรมการนโยบาย ภายนอกองค์การ ประจ�ำ ปี 2563 1. นโยบายเน้ือหาและการน�ำเสนอ พัฒนาเน้ือหาให้แตกต่างบนฐานขององค์ความรู้ และการมีส่วนร่วมของเครือข่ายทุกภาคส่วน และ บรู ณาการการน�ำเสนอทกุ ชอ่ งทางการสอื่ สาร โดยให้ ความสำ� คัญกบั สื่อออนไลน์ 135 ไทยพีบเี อส 2563

ส่วนท่ี 6 : รายงานผลการดำ�เนินงานของสื่อสาธารณะ เสยี งสะทอ้ นจากผชู้ มผูฟ้ งั รายการ การรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ผชู้ มและผฟู้ งั รายการ (Feedback & Monitoring) ความคิดเห็นของผู้ชมและผู้ฟังรายการเป็น โดยมีจำ�นวนรายการมากกว่า 100 รายการ และ ข้อมูลสำ�คัญ เป็นประโยชน์เพื่อพัฒนาคุณภาพและ แตล่ ะรายการสรา้ งชอ่ งทางการตดิ ตอ่ สอ่ื สารกบั ผชู้ ม กระบวนการผลิตข่าว รายการ และการให้บริการ ผา่ นแพลตฟอรม์ ตา่ ง ๆ ทง้ั เวบ็ ไซต์ และโซเชยี ลมเี ดยี ของสอื่ สาธารณะใหม้ คี ณุ ภาพสอดคลอ้ งกบั ประโยชน์ เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ ทวิตเตอร์ และไลน์ เป็นต้น สาธารณะ อีกทั้งยังเป็นการเปิดพ้ืนท่ีสร้างการมี ซงึ่ เปน็ การอ�ำ นวยความสะดวกใหผ้ ชู้ มเขา้ ถงึ รายการ ส่วนร่วมของ “เพ่ือนสื่อสาธารณะ หรือ Thai PBS ได้งา่ ย Friends” สร้างภาวะรู้เท่าทันส่ือให้เกิดกับพลเมือง 136 ไทยพีบเี อส 2563

ไทยพบี เี อสมกี ลไกรบั ฟงั ความคดิ เหน็ จาก 3 สว่ น ไดแ้ ก่ ผลการแสดงความคดิ เห็นทีช่ น่ื ชม ไดแ้ ก่ 1. กลไกเฝ้าระวังและสะท้อนสื่อไทยพีบีเอส (Feedback การรายงานสถานการณ์ข่าวกราดยิงประชาชน & Monitoring) จากทมี งานคนพกิ าร 2.สภาผชู้ มและผฟู้ งั ที่จงั หวัดนครราชสมี า ไดร้ บั รางวัลสื่อท่มี ีจรยิ ธรรมดที สี่ ดุ รายการไทยพบี เี อส 3.เพอื่ นสอื่ สาธารณะ หรอื Thai PBS แห่งปี (Best Ethic Reporter of the Year) จากเพจ Friends ขอ้ มลู ความคดิ เหน็ สามารถแสดงขอ้ มลู ความรสู้ กึ RAiNMaker มอบรางวัลผู้สร้างสรรค์งานคอนเทนต์ การตอบรับจากผู้ชมในปัจจุบัน และผลการวิเคราะห์ บนโลกออนไลน์ว่า ได้รับเสียงช่ืนชมในการรายงานข่าว ยงั สามารถสะท้อนให้เหน็ ถึงพฤตกิ รรมการรับชม ทัศนคติ โดยใหข้ อ้ มลู ทป่ี ระชาชนจ�ำ เปน็ ตอ้ งทราบ ไมม่ ขี อ้ มลู ออ่ นไหว ข้อเสนอแนะ รวมทั้งการนำ�ข่าวและรายการไปใช้ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้กระทำ�ความผิด มีจรรยาบรรณ ประโยชน์ ในการนำ�เสนอขา่ ว การน�ำ เสนอสถานการณก์ ารระบาดของโควดิ 19 ปี พ.ศ.2563 มจี �ำ นวนความคดิ เหน็ ทน่ี �ำ มาวเิ คราะห์ (COVID-19) ความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นการติดตาม ข้อมูลท้ังหมด 2,333 ความคิดเห็น โดยมีความคิดเห็น สถานการณ์ จำ�นวนผู้ติดเช้ือ แนวทางการป้องกันและ ชื่นชม 1,679 ความคิดเห็น คิดเป็นร้อยละ 71.97 การปฏิบัติตัวเพ่ือระงับการระบาดของโรค การพาด เสนอแนะ 520 ความคิดเหน็ คิดเปน็ ร้อยละ 22.29 และ หัวข่าวที่ไม่สร้างความเกลียดชังและไม่ให้ประชาชน ความผดิ พลาด 134 ความคิดเหน็ คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.74 137 ไทยพีบเี อส 2563

ต่ืนตระหนก ได้ความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้ทันกับสถานการณ์โควิดสำ�หรับผู้สูงอายุที่อาศัย อยู่บ้าน และผู้ท่ีต้องทำ�งานที่บ้านเพื่อลดความเสี่ยง ในการแพร่กระจายของโรค และให้ความสำ�คัญกับ คนทกุ เช้ือชาติ ไทยพีบีเอสเปิดให้บริการภาษาเมียนมาและ บรกิ าร Big Sign ภาษามอื ใหญเ่ ตม็ จอ ส�ำ หรบั ผพู้ กิ าร ทางการได้ยิน ในการถ่ายทอดแถลงข่าวสถานการณ์ โควิด 19 ประจำ�วัน ผู้ชมชาวไทยและชาวเมียนมา เห็นว่าเป็นการแปลความหมายโดยตรงท่ีดี สำ�หรับ ผ้ทู ี่ไมเ่ ข้าใจภาษาไทยและภาษาองั กฤษ สะดวกที่จะ ทราบกฎว่าส่ิงใดควรทำ�และไม่ควรทำ� ทำ�ให้มีความ เข้าใจท่ีถูกต้องในการปฏิบัติตัวและหยุดการแพร่เชื้อ ได้เรว็ ยงิ่ ขึ้น การออกอากาศ ALTV ชอ่ งหมายเลข 4 ทวี ี เรียนสนุก ความคิดเห็นส่วนใหญ่ช่ืนชมคณะบริหาร และทีมงานที่ร่วมสร้างนวัตกรรมให้กับวงการทีวี และการศึกษาไทย มีรายการคุณภาพดีส่งเสริมการ เรียนรู้ของคนทุกเพศวัย สะท้อนหลากหลายแง่มุม การดึงศักยภาพของเด็กเพื่อให้เด็กมีความสุขและ สนกุ กบั การเรยี นมากขน้ึ น�ำ เสนอรายการทสี่ รา้ งสรรค์ อาทิ วิธีการเลี้ยงดูของพ่อแม่ รายการกลุ่มคณิต วิทยาศาสตร์ ภาษา เทคโนโลยี การกระตุ้นแนวคิด ทศั นคตเิ ชงิ ตรรกะ เปน็ ตน้ ข้อเสนอแนะเพ่ือการพัฒนาข่าวและรายการ แบ่งเป็น 7 หัวข้อหลัก ได้แก่ 1. ความถูกต้องและ ความรอบด้านของข้อมูล 2. รูปแบบการนำ�เสนอ 3. บุคลิกภาพและการส่ือสารของผู้ประกาศ ผดู้ �ำ เนนิ รายการ 4.การเผยแพรค่ วามเปน็ ไทยสสู่ ากล 5. การพาดหัวข่าวอย่างสร้างสรรค์ 6. จริยธรรม ส่ือสาธารณะ 7. คำ�บรรยายใต้ภาพเป็นภาษาไทย และภาษาตา่ งประเทศ การแสดงความไมช่ อบมคี วามเหน็ เปน็ สว่ นนอ้ ย ในเร่ืองมาตรการป้องกันตัวเองจากการระบาดของ โควิด 19 (COVID-19) เช่น พิธีกร ผู้ประกาศข่าว หรือผู้ส่ือข่าวภาคสนามไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ในการปฏบิ ตั งิ านออกอากาศทางดา้ นหนา้ จอโทรทศั น์ (On Air) และดา้ นสอ่ื ใหม่ (Online) ใหเ้ ปน็ แบบอยา่ ง แก่ประชาชน ซ่ึงมีโอกาสเส่ียงต่อการแพร่ระบาด 138 ไทยพีบเี อส 2563

ของโรค รปู แบบการน�ำ เสนอเนน้ ความกระชบั ไมเ่ ยน่ิ เยอ้ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ชมสะท้อน และชวนติดตาม ด้านบุคลิกภาพและทักษะการนำ�เสนอ ให้เห็นถึงพฤตกิ รรม การรับชม ทศั นคติ การใช้ประโยชน์ ของผู้ประกาศ ผู้ชมให้ความสำ�คัญกับความถูกต้องของ จากสื่อสาธารณะ ไทยพีบีเอสสื่อสารกับประชาชนเพ่ือ ภาษาในการน�ำ เสนอผา่ นออนไลน์ เสนอแนะใหร้ ะมดั ระวงั สร้างทกั ษะการร้เู ทา่ ทนั ส่อื เรยี นรจู้ รยิ ธรรมส่อื สาธารณะ การพาดหวั ขา่ วบนขา่ วออนไลนท์ ที่ �ำ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผดิ รวมทง้ั รายงานผลการด�ำ เนนิ งานและการพฒั นาคณุ ภาพงาน ระมดั ระวงั การน�ำ เสนอภาพรนุ แรง เศรา้ โศก การคมุ้ ครอง อนั เนอ่ื งมาจากความคดิ เหน็ ผา่ นรายการและการน�ำ เสนอ สิทธิสว่ นบุคคล การน�ำ เสนอข่าวอย่างเปน็ กลาง รอบด้าน ข่าวและรายการไปใช้ประโยชน์ผ่าน “รายการเปิดบ้าน สมดลุ และเป็นธรรม ไทยพีบีเอส” จำ�นวน 50 ตอน ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา13.45-14.00น.และมกี ารน�ำ เสนอรายงานความคดิ เหน็ ก ล ไ ก เ ฝ้ า ร ะ วั ง แ ล ะ ส ะ ท้ อ น ส่ื อ ไ ท ย พี บี เ อ ส ตอ่ อนกุ รรมการรบั และพจิ ารณาเรอ่ื งรอ้ งเรยี นจากประชาชน (Monitoring & Feedback) แสดงให้เห็นถึงสถิติความ เพือ่ ป้องกันความผดิ พลาดทางจรยิ ธรรม อีกทัง้ ยงั น�ำ ไปใช้ ผดิ พลาดหนา้ จอทผ่ี ชู้ มใหค้ วามส�ำ คญั และทว้ งตงิ มากทสี่ ดุ ประกอบพจิ ารณาการประเมนิ ผลคณุ ภาพขา่ วรายการเพอ่ื คอื ความถูกตอ้ งของกราฟกิ ขา่ วออนไลน์ และข้อมูล บท ต่อสัญญา และรายงานส่วนงานที่เก่ียวข้องเพ่ือใช้กำ�หนด หรือการอ่านของผู้ประกาศ ภาพไมต่ รงกับเนือ้ หา เป็นตน้ ยทุ ธศาสตรก์ ารน�ำ เสนอข่าวและรายการตอ่ ไป การนำ�ขา่ วและรายการไปใช้ประโยชน์ การรับฟังความคิดเห็นจากสภาผู้ชมและผู้ฟัง รายการ ความคดิ เหน็ สะทอ้ นใหเ้ หน็ การน�ำ ขา่ วและรายการ ไปใช้ประโยชน์ เรียนรแู้ ละเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรม เช่น สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ เป็นกลไกสำ�คัญท่ี สนับสนุนนโยบายและแผนบริหารกิจการขององค์การ กรณีรับชมข่าวและรายการไทยพีบีเอสเสมือน กระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เปดิ โลกอกี ใบ ไดค้ วามรเู้ รอื่ งชาตพิ นั ธ์ุ โอรงั อสั ลี แทนค�ำ วา่ (ส.ส.ท.) โดยเฉพาะด้านการมสี ่วนรว่ มของประชาชน ทง้ั เงาะหรอื ซาไก จากรายการเปดิ ปม ขา่ วไทยพบี เี อสทคี่ รสู อน ทางตรงและทางออ้ ม ในการกำ�หนดทศิ ทางการให้บริการ สงั คมน�ำ ไปพดู คยุ กบั นกั เรยี นเพอ่ื ใหท้ นั เหตกุ ารณ์ ไดร้ บั ชม เพือ่ ประโยชนส์ าธารณะสงู สุด ในปี พ.ศ. 2563 สภาผชู้ ม รายการพร้อมครอบครัว สร้างความสัมพันธ์ความสนใจ และผู้ฟังรายการได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นแบ่งเป็น ร่วมกัน ละครสอดแทรกเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ 3 ประเภท ได้แก่ (1) เวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อพัฒนา สมัยรัชกาลท่ี 5 เช่น ละครปลายจวัก คุณครูได้นำ�ไป คุณภาพการผลิตรายการ 5 ภูมิภาค จำ�นวน 31 เวที เป็นสื่อการสอนแก่นักเรียนในคาบเรียน การปรุงอาหาร มีผู้เข้าร่วม 1,153 คน (2) เวทีรับฟังความคิดเห็นตาม หลาย ๆ ภาคตามละครท่ีออกอากาศ วัฒนธรรม การชิง สถานการณ์และบรบิ ท 6 กลุ่มประเด็น จำ�นวน 30 เวที ดินแดน สนธิสัญญา เห็นภาพรายละเอียดชัดเจนมากข้ึน มีผู้เข้าร่วม 1,719 คน (3) กิจกรรมรับฟังความคิดเห็น รายการสอนศิลป์ซ่ึงเป็นครูศิลปะคนแรก จุดประกายให้ ผ่านช่องทางออนไลน์จำ�นวน 10 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมและ เป็นนักประดิษฐ์ สร้างประกอบสิ่งของเพ่ือเป็นของขวัญ แสดงความคิดเห็นจำ�นวน 29,821 คน สรุปการรับฟัง ของเลน่ เพลนิ ๆ ความคิดเห็นผ่านกิจกรรมในพื้นท่ีจำ�นวน 61 เวที และ กิจกรรมแบบออนไลน์ 10 คร้ัง มีประชาชนผู้ชมผู้ฟัง นอกจากนใี้ นสว่ นของภาคพลเมอื ง ไดเ้ ขา้ ใจและเหน็ รายการและภาคเี ครือข่ายเข้าร่วมทัง้ สิน้ 32,693 คน ปัญหาของชาวคลิตี้ล่างที่ยังคงต้องสู้กับปัญหาสารตะก่ัว ในแมน่ า้ํ มา 20 ปี การน�ำ เสนอ พ.ร.บ. การจัดให้มอี ากาศ นอกจากเวทีรับฟังความคิดเห็นแล้ว สภาผู้ชมและ สะอาดของนักข่าวพลเมืองท่ีทางอาจารย์มหาวิทยาลัย ผฟู้ งั รายการไดร้ ว่ มจดั กจิ กรรมและพฒั นาความรว่ มมอื กบั ภาคประชาชน หอการค้า ร่วมกับภาครัฐบางส่วนกำ�ลัง ภาคีเครือข่ายภายนอกจำ�นวน 25 กิจกรรม มีผู้เข้าร่วม ผลักดันเป็นกฎหมายเข้าสภาผู้แทนราษฎรที่พยายามจะ 1,993 คน แก้ปัญหาเรื่องหมอกควันอย่างเป็นระบบเพื่อประโยชน์ กับคนทุกกลมุ่ 139 ไทยพีบีเอส 2563

ในปี พ.ศ. 2563 มีขอ้ เสนอแนะท่สี �ำ คญั สรุปได้ดงั นี้ เร่ืองหลักประกันรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุหลังเกษียณ เพื่อ 1. ข้อเสนอเพ่อื พัฒนาคุณภาพการผลิตรายการ ลดความเหล่ือมล้ําในสังคมไทย ส่ือสาธารณะควรติดตาม 1.1 ดา้ นเนื้อหารายการ แนวโนม้ ทศิ ทางการขบั เคลอ่ื นกฎหมายรฐั สวสั ดกิ ารเกยี่ วกบั รายการส่วนใหญ่ของไทยพีบีเอสมีความแตกต่างจาก รา่ ง พ.ร.บ.บ�ำ นาญแหง่ ชาติ และตดิ ตามผลกระทบจากวกิ ฤติ สอื่ ชอ่ งอืน่ โดยเฉพาะเมื่อมีช่องทาง ALTV “ชอ่ ง 4 เพอื่ การ สถานการณโ์ ควดิ 19 ท่ีสง่ ผลตอ่ คณุ ภาพชวี ติ ของประชาชน เรียนรู้” มีเนื้อหาท่ีตอบสนองการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคน อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ทกุ วัย มงุ่ เนน้ สรา้ งแรงบันดาลใจ นำ�เสนอข้อมลู และความรู้ แกผ่ ชู้ มผฟู้ งั อยา่ งรอบดา้ น เปน็ ประโยชนต์ อ่ สงั คมอยา่ งมาก 2.2 ดา้ นการศกึ ษาและการเรยี นรู้ เพม่ิ มมุ มองการศกึ ษา ติดตามสถานการณ์และการขับเคล่ือนประเด็นทางสังคม ทางเลือกโดยกระตุ้นการศึกษาเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน การเปลย่ี นแปลงดา้ นเทคโนโลยใี หค้ รอบคลมุ และหลากหลาย เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั วถิ ชี มุ ชน น�ำ ไปตอ่ ยอดในการสรา้ งอาชพี มติ ิ เช่น ประเด็นโรคระบาดโควิด 19 ประเด็นเรอ่ื งเศรษฐกจิ และรายได้ เปลี่ยนวิชาการให้เป็นวิชากินเพื่อปากท้องของ ประเด็นเรื่องการศึกษาออนไลน์ ประชาชน 1.2 ด้านการใชป้ ระโยชน์ ควรเพ่ิมเนื้อหาและรูปแบบนำ�เสนอเพื่อดึงดูด เปดิ พน้ื ทเ่ี พอื่ ใหผ้ ทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งไดเ้ สนอแนวทางเพอื่ การ ความสนใจของกลุ่มคนที่หลากหลาย ในการเข้าถึงและใช้ พัฒนาการศึกษาที่ย่ังยืน รวมไปถึงการส่งเสริมการศึกษา ประโยชน์จากรายการให้มากขึ้นในสถานการณ์การระบาด นอกระบบ และเสนอทางเลือกจากหลากหลายมุมมองให้ ของโควิด 19 เช่น การใช้แบบสอบถาม Google form ผปู้ กครองไดเ้ หน็ แนวทางด้านการจัดการศกึ ษาให้ลกู หลาน สนทนากลุ่มย่อย เวทีสาธารณะหรอื เสวนาออนไลน์ ฯลฯ 1.3 ด้านการมสี ว่ นรว่ มของประชาชน 2.3 ด้านสื่อสาธารณะ เปิดพื้นท่ีนำ�เสนอส่ือพื้นบ้าน ควรรว่ มมอื กบั ภาคเี ครอื ขา่ ยสรา้ งและพฒั นานกั สอ่ื สาร ทอ้ งถ่ิน จดั อบรมให้กบั ผู้ผลิตสือ่ ในเรอ่ื งความรเู้ ชงิ จรยิ ธรรม พลเมอื งครอบคลมุ ทกุ จงั หวดั และกลมุ่ ประเดน็ เปน็ พน้ื ทก่ี ลาง มีจติ สำ�นึกความรับผิดชอบตอ่ สงั คม และความรู้ในการผลติ ใหก้ ลมุ่ ประเดน็ ตา่ งๆ ในสงั คมไดน้ �ำ เสนอเรอื่ งราวดีๆ ทเ่ี ปน็ รายการ เพื่อเพิ่มเนื้อหาคุณภาพรายการให้น่าสนใจและ รูปธรรมความสำ�เร็จ หรือปัญหาผลกระทบที่ต้องการความ ชวนตดิ ตามต่อไป ชว่ ยเหลอื รวมถงึ การเป็นพน้ื ทกี่ ารเรยี นรู้กันทั้งในสว่ นกลาง และส่วนภูมิภาค ส่งเสริมเร่อื งการร้เู ท่าทันส่อื ให้กับผ้บู ริโภคและผ้ใู ช้ส่อื 1.4 ดา้ นการสรา้ งกลไกความรว่ มมอื ระหวา่ งสภาผชู้ มฯ สังคมออนไลน์ เพ่อื ไม่ให้ตกเป็นเหย่อื ของส่อื ปลอมเหล่าน้นั กบั ไทยพีบเี อส สอ่ื สาธารณะควรพัฒนาช่องทางการส่ือสารที่สามารถเข้าถึง เพ่ิมบทบาทและการมีส่วนร่วมของศูนย์ข่าวภูมิภาค กลมุ่ Gen Z ได้ ด้วยรปู แบบ เน้ือหาท่ีกระชับ สัน้ เขา้ ใจง่าย ในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นและกิจกรรมเสริมสร้าง ตรงประเดน็ และเปน็ ศนู ยก์ ารเรยี นรขู้ องเยาวชน เพอ่ื กา้ วไป ภาคีหุ้นส่วน และพัฒนากระบวนการรับฟังความคิดเห็น เปน็ สอื่ พลเมอื งยคุ ดจิ ทิ ลั ผา่ นการสรา้ งเครอื ขา่ ยและหนุ้ สว่ น ท่มี ปี ระสทิ ธิภาพและใชร้ ะบบฐานขอ้ มูลเพ่อื การพัฒนาต่อ ในการสรา้ งสรรคง์ านผา่ นสือ่ สาธารณะรว่ มกัน 2. ข้อเสนอเชงิ สถานการณ์และบรบิ ททางสังคม 2.4 ดา้ นเศรษฐกิจและการพัฒนา จดั ทำ�ชุดสอ่ื ข้อมูล 2.1ดา้ นสงั คมและคณุ ภาพชวี ติ เพม่ิ เนอ้ื หาดา้ นกฎหมาย ความรู้ให้แก่ประชาชนในด้านอาชีพท่ีหลากหลาย นำ�เสนอ เก่ียวกับสิทธิและช่องทางการเข้าถึงสิทธิของประชาชน ตัวอย่างบุคคลที่ประสบความสำ�เร็จเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ทุกกลุ่มวัยในประเด็นรัฐสวัสดิการอย่างรอบด้าน ในการ ในการท�ำ ธรุ กจิ และการประกอบอาชพี ในชว่ งวกิ ฤตโิ รคระบาด สรา้ งอาชพี สรา้ งแหลง่ อาหารในชมุ ชน ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ และ จัดทำ�รายการเชื่อมโยงเกี่ยวกับเรื่องประเด็นเศรษฐกิจ สรา้ งแรงบนั ดาลใจจากบคุ คลตน้ แบบ น�ำ ไปสอ่ื สารเพอื่ พฒั นา ที่สะท้อนปัญหาและผลกระทบ รวมถึงมาตรการการแก้ไข ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้น ควรให้ความสำ�คัญกับ ปญั หาของหน่วยงานตา่ ง ๆ เพือ่ ใหป้ ระชาชนเข้าถึงได้ วิเคราะห์ผลกระทบท่ีเกิดขึ้นแบบรอบด้านจาก นโยบายการพัฒนาของภาครัฐ ติดตามสถานการณ์อย่าง ต่อเนื่อง รวมถึงเป็นสื่อกลางระหว่างภาคประชาชนและ ภาครฐั ในการหาทางออกเพ่อื การพฒั นาร่วมกัน 140 ไทยพีบีเอส 2563

2.5 ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม น�ำ เสนอ 2.6 ดา้ นพหวุ ฒั นธรรม ศาสนา และสง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตย รายการเรอื่ งการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม นำ�เสนอเน้ือหารายการที่ส่งเสริมกระแสการท่องเที่ยวของ ตั้งแต่ต้นทางจนไปถึงปลายทาง เช่ือมโยงการทำ�งานตั้งแต่ ชุมชนในเชิงวัฒนธรรม นำ�ชุมชนต้นแบบมาเป็นตัวอย่าง ชมุ ชนในพื้นทขี่ ้ึนไป กระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตระหนกั สร้างความรู้ความเข้าใจในความแตกต่างทางความเช่ือของ เกยี่ วกบั ความมน่ั คงทางอาหารในการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ ศาสนาตา่ ง ๆ ทีส่ ามารถอยูร่ ่วมกนั ได้ รวมไปถงึ ประเดน็ ของ ที่มอี ยู่ใหถ้ กู วิธเี พ่อื ไม่ใหถ้ กู ท�ำ ลายไป กลุ่มคนชายขอบ ส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตย โดยการ ขับเคล่ือนการทำ�งานปฏิรูปอย่างสันติวิธี ควรมีรายการที่ นำ�เสนอรายการที่เก่ียวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากร เก่ยี วขอ้ งกับกลมุ่ ประชากรชาตพิ ันธุ์ เพื่อใหไ้ ด้ทราบถึงสทิ ธิ ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในชุมชน เพื่อให้มีการตระหนัก ที่พึงมีทั้งในรูปแบบที่เข้าใจง่าย รายการท่ีส่งเสริมแนวคิด ถึงความเป็นเจ้าของในการดูแล รักษา ฟ้ืนฟู พร้อมท้ัง ประชาธปิ ไตย เพอ่ื ปลกู ฝังจิตสำ�นกึ ให้แก่เยาวชนคนรุน่ ใหม่ เป็นส่ือกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างชุมชนและ ได้ตระหนักถึงความเหมาะสมต่อการดำ�รงชีวิตในอนาคต หนว่ ยงานภาครฐั ในการรว่ มลงมอื เพอ่ื การอนรุ กั ษท์ รพั ยากร ส่ือสาธารณะควรเป็นส่ือกลางในการขับเคล่ือนการทำ�งาน ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลูกจิตสำ�นึกให้แก่เยาวชนเพื่อ ของทุกภาคสว่ นให้เปน็ แบบสนั ตวิ ธิ ี ใหเ้ กดิ ความหวงแหนทรพั ยากรธรรมชาตใิ นพนื้ ทเี่ พอื่ ใหค้ งอยู่ ต่อไป จัดทำ�ชุดความรู้ที่เก่ียวข้องกับนโยบายและกฎหมาย 141 ด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมท่ีทุกคนสามารถ ไทยพีบเี อส 2563 เขา้ ใจไดง้ ่าย

3. ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อพัฒนาแนวทางการ ชอ่ งเพ่อื การเรียนรู้” นับว่าเปน็ ประโยชนต์ อ่ สังคมอยา่ งมาก ดำ�เนนิ งานของไทยพบี เี อส ควรมุ่งเน้นเนื้อหาท่ีช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมและ ผู้ฟังรายการให้ครอบคลุมหลากหลายมิติ ทุกเพศ ทุกวัย 3.1 ดา้ นการพัฒนาภาพลกั ษณ์องค์กร ไทยพบี ีเอส โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่และกลุ่มผู้สูงอายุเพื่อ ต้องรักษาภาพลักษณ์ความเป็นส่ือสาธารณะที่มีจริยธรรม เตรยี มรองรบั สงั คมสงู วยั ทง้ั นเ้ี กย่ี วกบั ประเดน็ การรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื น�ำ เสนอขอ้ มลู ขา่ วสารดว้ ยความเปน็ กลาง เชอ่ื ถอื ได้ เปน็ ทพ่ี ง่ึ ในช่วงสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ควรติดตาม เป็นกระบอกเสียงของประชาชน เป็นกลไกการสื่อสาร ผลความก้าวหน้าของประเด็นท่ีนำ�เสนออย่างต่อเนื่องและ ที่ส่งเสริมให้เกิดระบบเศรษฐกิจท่ีปลอดภัย ย่ังยืน และ สมา่ํ เสมอ เป็นธรรม โดยยึดชุมชนท้องถ่ินเป็นสำ�คัญ รวมถึงเพิ่มการ สือ่ สารประชาสมั พนั ธ์ในรูปแบบและชอ่ งทางใหม่ ๆ ท่ที �ำ ให้ 3.3 ด้านการเสริมสร้างภาคีหุ้นส่วน ควรสนับสนุน ไทยพบี เี อสเป็นสอ่ื ที่ไดร้ บั ความนิยมจากประชาชนทกุ กล่มุ ให้สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการมีการพัฒนาความร่วมมือกับ หน่วยงานภายใน ส.ส.ท. เพื่อวางแผนและออกแบบการ 3.2 ดา้ นการสง่ เสรมิ การเรยี นรสู้ อ่ื สาธารณะ ไทยพบี เี อส ทำ�งานที่หนุนเสริมซ่ึงกันและกัน ในการสร้างความร่วมมือ ควรสรา้ งความรว่ มมอื กบั สถาบนั การศกึ ษา ศนู ยข์ า่ วภมู ภิ าค กับภาคีเครือข่ายภายนอกองคก์ าร เพ่อื กำ�หนดแผนกลยุทธ์ สอ่ื ทอ้ งถน่ิ และองคก์ รสาธารณประโยชนท์ ส่ี นใจ เพอ่ื รว่ มกนั ในการทำ�งานร่วมกัน รวมถึงควรมีการพัฒนาศักยภาพและ ผลิต พัฒนาเนื้อหา และเพ่มิ ชอ่ งทางการเข้าถงึ สื่อสาธารณะ สรา้ งเครอื ขา่ ยนกั สอ่ื สารสรา้ งสรรค์ นกั ขา่ วพลเมอื งใหข้ ยาย ทงั้ ในแบบ On Air, Online & On Ground รวมถึงควรมกี าร ครอบคลุมทุกจังหวัด เพ่ือเช่ือมโยงประเด็นและเชื่อมการ ผลติ เครอ่ื งมอื ทเ่ี ครอื ขา่ ยสามารถน�ำ ไปใชป้ ระโยชนใ์ นพนื้ ทไี่ ด้ ท�ำ งานกนั อยา่ งเปน็ ระบบ หรอื สอ่ื เพอ่ื การเรยี นรสู้ �ำ หรบั ใหค้ รผู สู้ อน ผปู้ กครอง นกั เรยี น นกั ศกึ ษาน�ำ ไปใช้ได้ การพัฒนาช่องทาง ALTV “ช่อง 4 เปน็ 142 ไทยพีบเี อส 2563

ข้อเสนอแนะจากสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการดังกล่าว 2. ด้านการขับเคลื่อนการเรียนรู้และวาระทางสังคม ไทยพบี เี อสควรน�ำ ไปใชป้ ระโยชนท์ ง้ั ดา้ นการพฒั นาคณุ ภาพ ไทยพบี เี อสด�ำ เนนิ การและสนบั สนนุ ใหศ้ นู ยพ์ ฒั นาการสอ่ื สาร การผลติ รายการ สร้างสรรคเ์ นอื้ หา เป็นขอ้ มูลในการพฒั นา ด้านภัยพิบัติผลิตรายการท่ีมีเนื้อหาเก่ียวกับแหล่งนํ้าใน ยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนการด�ำ เนนิ งานขององคก์ าร การก�ำ หนด ประเทศ พัฒนาเครือข่ายนักส่ือสารภัยพิบัติลุ่มนํ้าทำ�หน้าท่ี วาระขับเคลื่อนทางสังคม การส่งเสริมความรู้เท่าทันสื่อแก่ สอ่ื สารขอ้ มลู ภยั พบิ ตั แิ กป่ ระชาชนผา่ นทางรายการรสู้ ภู้ ยั พบิ ตั ิ ประชาชน การขยายภาคีหุ้นส่วนผ่านการสร้างและพัฒนา เสนอประเด็นความเดือดร้อนของชาวบ้านท่ีทำ�การเกษตร นักสื่อสารภาคพลเมือง รวมถึงการจัดกิจกรรมพ้ืนท่ี จากผลกระทบการสร้างทางรถไฟท่ีจังหวัดนครสวรรค์ผ่าน การเรียนรู้ท้ังในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นอกจากน้ี รายการสถานีประชาชนจนสามารถแก้ไขปัญหาได้สำ�เร็จ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ยังมีความ นอกจากน้ีมีการนำ�เสนอรายการสร้างการเรียนรู้ผ่านช่อง 4 ไม่แน่นอน จึงต้องมีแผนการดำ�เนินงานเพื่อเตรียม ALTV ความพร้อมรองรับ เช่น การสนับสนุนสภาผู้ชมและผู้ฟัง รายการให้ใช้เทคโนโลยีการส่ือสารออนไลน์ในการรับฟัง 3. ด้านการสร้างหุ้นส่วนทางสังคม ไทยพีบีเอส ความคดิ เหน็ มากขนึ้ และรว่ มมอื กนั ขบั เคลอ่ื นวาระทางสงั คม ร่วมมือกับสำ�นักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ พัฒนากิจกรรมพ้นื ท่กี ารเรียนร้ขู ยายห้นุ ส่วนทางสังคมอย่าง และภาคีเครือข่ายจัดอบรมนักส่ือสารชุมชนใน 4 ภูมิภาค ตอ่ เนอ่ื ง รวมถึงการทบทวนปรับปรุงระเบยี บและระบบงาน ของประเทศ เพื่อทำ�หน้าที่สื่อสารข้อมูลสถานการณ์ชุมชน ขององค์การเพื่อสนับสนุนการดำ�เนินงานของสภาผู้ชมและ ภายใต้สถานการณ์โควิด ผ่านแอปพลิเคชัน C-Site ซ่ึง ผู้ฟงั รายการใหม้ คี วามคล่องตัวและมปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ มีผู้เข้ารับการอบรม 200 คน มีการใช้ประโยชน์จาก เนื้อหารายการ สร้างความร่วมมือกับสถาบันอุทยานการ การดำ�เนินงานของไทยพีบีเอสต่อข้อเสนอแนะของ เรียนรู้และสถาบันพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สภาผ้ชู มและผฟู้ ังรายการ นำ�สื่อของไทยพีบีเอสไปใช้ในการเรียนการสอนนักเรียน และพัฒนาพฤตินิสัยเยาวชน มีการสร้างความร่วมมือกับ 1. ดา้ นการพฒั นาคณุ ภาพรายการ ไทยพบี เี อสจดั ให้ ภาคีภาคพลเมืองรายงานสถานการณ์โควิดในพ้ืนท่ีผ่าน มกี ลไกการบรหิ ารคณุ ภาพเนอ้ื หา ในรปู แบบของ Executive แอปพลิเคชัน C-Site พัฒนาทักษะการผลิตรายการแก่ Overview Team ดแู ลคณุ ภาพเนอ้ื หารายการทง้ั รายการเกา่ เครือข่ายนักข่าวพลเมือง และร่วมกับภาคีเครือข่ายพัฒนา และรายการใหม่ โดยรายการข่าวเน้นเกาะติดสถานการณ์ นักสื่อสารชมุ ชนสภู้ ัยโควิดทว่ั ประเทศ และการวิเคราะห์เชิงลึก นำ�เสนอเนื้อหาสถานการณ์ โควดิ 19 อยา่ งครบถว้ นรอบดา้ นโดยเฉพาะในประเดน็ ทเ่ี ปน็ 4. ดา้ นการพฒั นายทุ ธศาสตรแ์ ละแผนงาน ไทยพบี เี อส สถานการณห์ รอื ปญั หาทมี่ ผี ลกระทบตอ่ ประชาชนในวงกวา้ ง ได้นำ�ข้อมูลความคิดเห็นที่ได้จากสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ ผา่ นรายการ News Room และรายการตอบโจทย์ รวมถงึ ไปใช้ในการกำ�หนดยุทธศาสตร์และแผนบริหารกิจการทุกปี มีการพัฒนาเนื้อหาข่าวเชิงสืบสวน เจาะลึกรอบด้านเพ่ือนำ� และปีนี้ได้นำ�ความคิดเห็นไปใช้ในการกำ�หนดแผนงานที่จะ ขอ้ มลู มาตแี ผต่ อ่ สาธารณชนผา่ นรายการเปดิ ปมและรายการ ดำ�เนินการ คือ การร่วมมือพัฒนากลไกและรูปแบบการ The Exit เป็นต้น รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ รว่ มขบั เคลอ่ื นวาระทาง สงั คมประเดน็ เศรษฐกิจปากท้องและการเรยี นรู้ รว่ มพัฒนา รายการเด็กและเยาวชนเปิดช่องทางเลือกใหม่ผ่าน กิจกรรมพ้ืนท่ีการเรยี นรู้ และขยายภาคีหุ้นสว่ น ทางรายการชอ่ ง 4 ALTV ทมี่ เี นอื้ หาส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของ เด็กเยาวชน ครู และผู้ปกครอง รายการด้านสุขภาพ ปรับ 143 เน้ือหารายการให้สอดคล้องกับสถานการณ์โรคระบาด ไทยพบี เี อส 2563 โควิด 19 (COVID-19) รายการสร้างสรรค์แรงบันดาลใจ มีภาพยนตร์สั้นเนื้อหาเชิงจิตวิทยา สารคดีการสร้าง ประสบการณ์ชีวิต และการดูแลทรัพยากรธรรมชาติของ ชมุ ชน

ส่วนที่ 6 : รายงานผลการดำ�เนินงานของส่ือสาธารณะ รายงานการด�ำ เนนิ งานของคณะอนุกรรมการรับและพจิ ารณา เรอ่ื งร้องเรยี นจากประชาชน องคก์ ารกระจายเสยี งและแพรภ่ าพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ประจ�ำ ปี 2563 คณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเร่ืองร้องเรียนจาก ผ่านช่องทางน้ี และได้ส่งเรื่องร้องทุกข์และความเห็นต่าง ๆ ประชาชน ส.ส.ท. เป็นคณะอนุกรรมการท่ีคณะกรรมการ ไปยงั ผู้บริหาร ส.ส.ท. และผ้เู ก่ียวข้องได้รบั ทราบ นอกจากน้ี นโยบายแต่งต้ังข้ึนตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติ ยังมีเร่ืองร้องเรียนท่ีอนุกรรมการหยิบยกขึ้นพิจารณาเอง องคก์ ารกระจายเสยี งและแพรภ่ าพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย จำ�นวน 3 เร่ือง และหยิบยกจากรายงานความคิดเห็นจาก พ.ศ.2551 มหี นา้ ทร่ี บั และพจิ ารณาเรอ่ื งรอ้ งเรยี นจากประชาชน ผู้ชมผู้ฟังจำ�นวน 10 เรื่อง คณะอนุกรรมการได้พิจารณา กรณีท่ีองค์การ ผู้ผลิตรายการ หรือพนักงาน หรือลูกจ้าง เรอ่ื งรอ้ งเรยี นทง้ั หมดแลว้ เสรจ็ และมขี อ้ เสนอแนะตอ่ ส.ส.ท. ขององค์การกระทำ�การหรือผลิตรายการที่ขัดต่อข้อบังคับ ในประเด็นปญั หาท่ีพบจากขอ้ ร้องเรียน ดงั ต่อไปน้ี ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่ง ประเทศไทย ว่าด้วยจริยธรรมของวิชาชีพเก่ียวกับการผลิต เรื่องที่ 1 : ร้องเรียนรายการ “วันใหม่ไทยพีบีเอส” รายการและการเผยแพรร่ ายการ พ.ศ.2552 และฉบบั ปรบั ปรงุ น�ำเสนอเรอื่ ง “เกาะตดิ สถานการณน์ าํ้ ทว่ มภาคใต”้ พ.ศ. 2563 ขอ้ รอ้ งเรยี น : รอ้ งเรยี นรายการ“วนั ใหมไ่ ทยพบี เี อส” โดยในปีพ.ศ.2563มคี ณะอนกุ รรมการรวมทง้ั สน้ิ 11คน นำ�เสนอเร่ือง “เกาะติดสถานการณ์นํ้าท่วมภาคใต้” ซ่ึง ประกอบด้วย กรรมการนโยบาย 3 คน ผู้แทนผูอ้ �ำ นวยการ ออกอากาศวนั ท่ี 4 ธนั วาคม พ.ศ.2562 เวลา 08.19 น. ไดน้ �ำ ส.ส.ท. 1 คน ผู้แทนสภาผูช้ มและผู้ฟงั รายการ 1 คน ผ้แู ทน มุสลิมข้ามเพศมารายงานข่าวสถานการณ์นํ้าท่วมจังหวัด องคก์ รสือ่ สารมวลชน 3 คน ผแู้ ทนสภาทนายความ 1 คน นราธิวาสในแง่ตลกขบขัน ซึ่งไม่เหมาะสม เพราะเป็นการ ผู้แทนมูลนิธิเพ่ือผู้บริโภค 1 คน ผู้แทนจากสมาคมส่งเสริม รายงานข่าวในพืน้ ท่ีทีม่ ผี ้นู บั ถอื ศาสนาอสิ ลามจ�ำ นวนมาก ศักยภาพสตรีพิการ 1 คน ทั้งน้ี เพื่อให้องค์การ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจา้ งของ ส.ส.ท. รวมถงึ บคุ คลภายนอกท่ีท�ำ งาน ผลการวินิจฉัย : คณะอนุกรรมการมีมติว่า ผู้ถูก ดา้ นการผลติ รายการใหก้ บั องคก์ ารกระท�ำ ในสงิ่ ทคี่ วรปฏบิ ตั ิ ร้องเรียนนำ�เสนอขัดจริยธรรมสื่อข้อ 7 จริยธรรมด้านการ ตามมาตรฐานสื่อสาธารณะ เคารพศกั ดศิ์ รคี วามเปน็ มนษุ ย์ ความเปน็ สว่ นตวั การคมุ้ ครอง สิทธิส่วนบุคคล ศาสนา ไสยศาสตร์ และความเชื่อเรื่อง ในรอบปีพุทธศักราช 2563 คณะอนุกรรมการ เหนือธรรมชาติ (7.1) การปฏิบตั ิงานในทกุ ขัน้ ตอน การผลิต รับพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชน มีการประชุม รายการในทุกประเภทและรูปแบบ ต้องเคารพศักด์ิศรี รวม 11 ครง้ั (มกราคม-ธนั วาคม2563) มเี รอ่ื งรอ้ งเรยี นเขา้ สู่ ความเป็นมนุษย์ ไมเ่ ลือกปฏิบตั ิ ไม่เสยี ดสีบุคคล กลุม่ บคุ คล การพจิ ารณารวม 53 เรื่อง รบั เปน็ เร่อื งรอ้ งเรียน 15 เร่อื ง เพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเร่ืองถิ่นกำ�เนิด เช้ือชาติ ประกอบด้วยเรื่องร้องเรียนผ่านเว็บไซต์รับเร่ืองร้องเรียน ภาษา เพศสภาพ เพศวิถี อายุ ความพิการ สภาพทางกาย จ�ำ นวน 40 เรอ่ื ง รบั เปน็ เรอ่ื งรอ้ งเรยี นเพยี ง 2 เรอื่ ง เนอื่ งจาก หรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือ โดยส่วนใหญ่เป็นเร่ืองร้องทุกข์หรือร้องเรียนในเรื่องที่ สงั คม ความเชอื่ ทางศาสนา การศึกษาอบรม หรอื ความคดิ ไมเ่ กย่ี วขอ้ งกบั ส.ส.ท. อยา่ งไรกต็ ามคณะอนกุ รรมการเลง็ เหน็ ทางการเมืองท่ีไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และ ถึงคุณค่าและประโยชน์ของความเห็นที่ผู้ร้องเรียนส่งเข้ามา (7.2) การน�ำ เสนอเนอ้ื หาเกยี่ วกบั เรอื่ งเพศ เพศสภาพ เพศวถิ ี 144 ไทยพบี เี อส 2563

ต้องดำ�เนินการอย่างเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมท้ัง วิชาชีพ ความรับผิดชอบต่อสาธารณะ และการไม่มี สทิ ธแิ ละเสรีภาพในการรบั รูข้ องประชาชน แต่ต้องมีเหตุผล ผลประโยชน์ทับซ้อน (6.7) ผู้ปฏิบัติงานต้องหลีกเล่ียงหรือ และคำ�นึงถึงความเหมาะสมกับบรรทัดฐานและค่านิยมของ ใชว้ ิจารณญาณอย่างรอบคอบในการนำ�เสนอภาพ ข้อความ สังคม และเพื่อประโยชนท์ างการศกึ ษา หรือสัญลักษณ์ของสินค้า บริการเพ่ือธุรกิจการค้า การ ส่งเสริมการขาย เรอ่ื งท่ี 2 : รอ้ งเรยี นรายการ “กนิ อยรู่ รู้ อบ” ในรายการ “วนั ใหมไ่ ทยพบี เี อส” น�ำเสนอเรอ่ื ง “เครอ่ื งฟอกอากาศ” เรอื่ งที่ 3 : รายการ “วนั ใหมว่ าไรต”้ี ในรายการ “วนั ใหม่ ไทยพีบีเอส” น�ำเสนอเร่ือง “วิธีท�ำเจลล้างมือฆ่าเชื้อด้วย ข้อร้องเรียน : ร้องเรียนรายการ “กินอยู่รู้รอบ” ตนเอง (DIY)” ในรายการ “วันใหม่ไทยพีบีเอส” นำ�เสนอเร่ือง “เคร่ือง ฟอกอากาศ” ซึ่งออกอากาศวนั ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2563 ข้อร้องเรียน : ร้องเรียนรายการ “วันใหม่วาไรต้ี” เวลา 07.41 น. นำ�เสนอผลเปรียบเทียบประสิทธิภาพ ในรายการ “วันใหม่ไทยพีบีเอส” นำ�เสนอเร่ือง “วิธีทำ� เครื่องฟอกอากาศ 10 ผลิตภัณฑ์ของศูนย์ทดสอบฉลาดซ้ือ เจลล้างมือฆ่าเช้ือด้วยตนเอง (DIY)” ซ่ึงออกอากาศวันที่ 7 นติ ยสารฉลาดซอ้ื มลู นธิ เิ พอื่ ผบู้ รโิ ภค วา่ ผลติ ภณั ฑใ์ ดโฆษณา กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 08.00 น. น�ำ เสนอขอ้ มูลการ เกนิ จรงิ โดยทางรายการเบลอชอื่ ผลติ ภณั ฑท์ งั้ หมด แตก่ ลบั ท�ำ เจลแอลกอฮอลล์ล้างมือที่ไมถ่ ูกตอ้ ง ปรากฏว่ามีสัมภาษณ์ตัวแทนเครื่องฟอกอากาศโดยระบุชื่อ ผลติ ภณั ฑ์ ซงึ่ สุม่ เสย่ี งทจี่ ะเปน็ การโฆษณาแฝง ผลการวินิจฉัย : เห็นว่าการเผยแพร่ข้อมูลความ เขม้ ขน้ ของแอลกอฮอลล์ฆ่าเช้ือโรคที่ผิดพลาดในภาวะวิกฤติ ผลการวินิจฉัย : เห็นว่าหน้าท่ีของสื่อสาธารณะ สง่ ผลให้ประชาชนเข้าใจผิด เนอื่ งจากแอลกอฮอลล์ดงั กล่าว ประการหนึ่งคือ ให้ความรู้และคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ ทำ�ให้ ส.ส.ท. ขาดความน่าเชื่อถือ ผลเปรียบเทียบประสิทธิภาพเคร่ืองฟอกอากาศของ แม้ต่อมาได้มีการลบคลิปและผลิตรายการท่ีมีเน้ือหาถูกต้อง ศนู ย์ทดสอบฉลาดซอ้ื นิตยสารฉลาดซื้อ มลู นธิ ิเพือ่ ผบู้ ริโภค แตก่ ็ลา่ ชา้ ไปเกือบ 1 เดือน สุ่มตัวอย่างเครื่องฟอกอากาศท่ีมาจากท้องตลาดและ ทางออนไลน์จำ�นวน 10 ผลิตภัณฑ์ โดยใชว้ ิธแี ละเครอื่ งมือ อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการเห็นว่าการนำ�เสนอ ที่มีมาตรฐาน นับเป็นข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจ เน้ือหาดังกล่าวเป็นไปด้วยเจตนาท่ีดี ประกอบกับเป็น เลือกผลิตภัณฑ์สำ�หรับผู้บริโภคซ่ึงเป็นผู้ชมผู้ฟังของ ช่วงแรกในการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซ่ึงยังไม่มีข้อมูล สื่อสาธารณะ ดังนั้น การจะเบลอแบรนด์สินค้าหรือไม่ ท่ีมากพอ ทำ�ให้เสนอข้อมูลได้ไม่ครบถ้วน ในสถานการณ์ ต้องพิจารณาจากเน้ือหาข่าวที่นำ�เสนอและประโยชน์ เช่นการเกิดโรคอุบัติใหม่เช่นน้ี แม้ต้องการเป็นท่ีพึ่งให้กับ สาธารณะหรอื ผชู้ มจะไดร้ บั ในกรณนี ผี้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านไมม่ คี วามรู้ ประชาชน แต่ไม่ควรรวบรวมข้อมูลเอง หรือใช้ข้อมูลจาก ความเข้าใจ ประกอบกับไม่กล้าใช้ดุลพินิจ เม่ือปรากฏ เว็บไซต์เท่านั้น แม้จะเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ติดตามจำ�นวนมาก แบรนด์สินค้าในช้นิ ข่าว จงึ ทำ�การเบลอเสียท้ังหมด กม็ ไิ ดห้ มายความวา่ จะเสนอขอ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง สงิ่ ทสี่ อ่ื สาธารณะ ควรกระทำ� คือควรอ้างอิงผู้ที่มีความรู้ ในกรณีน้ีคือผู้รู้ ส่วนกรณีการสัมภาษณ์ตัวแทนเครื่องฟอกอากาศ ทางดา้ นเภสัชศาสตร์ นกั วทิ ยาศาสตร์ หรือนักเคมี หรือขอ หากผสู้ อ่ื ขา่ วไดส้ มั ภาษณบ์ คุ คลภายนอก ในเบอ้ื งตน้ ผสู้ อ่ื ขา่ ว ข้อมูลจากองค์กรหรือสถาบันทางด้านสาธารณสุข จะ ตอ้ งท�ำ ความเขา้ ใจกบั ผใู้ หส้ มั ภาษณถ์ งึ ความเปน็ สอ่ื สาธารณะ ช่วยป้องกันความผิดพลาดได้ต้ังแต่เร่ิมต้น และได้ข้อมูล ขององคก์ ารและพยายามควบคมุ มใิ หผ้ ้ใู หส้ มั ภาษณก์ ลา่ วชอ่ื ทถ่ี กู ต้อง เที่ยงตรง หรือนำ�เสนอตราสัญลักษณ์สินค้าในการให้สัมภาษณ์ เน่ืองจากอาจเข้าข่ายโฆษณาหรือส่งเสริมการขาย หาก คณะอนุกรรมการมีมติว่าผู้ถูกร้องเรียนนำ�เสนอ ไมส่ ามารถควบคมุ ได้ กอ่ นน�ำ ออกอากาศควรตอ้ งด�ำ เนนิ การ ขดั จรยิ ธรรมสอ่ื ขอ้ 4 จริยธรรมด้านความถูกตอ้ ง เท่ยี งตรง ให้เป็นไปตามข้อบังคับว่าด้วยหลักจริยธรรมของวิชาชีพ (4.1) การนำ�เสนอข่าว หรือข้อมูล ต้องยึดถือข้อเท็จจริง โดยไมท่ ำ�ใหค้ ณุ คา่ ของข่าวลดลง ความถูกต้อง เทยี่ งตรง โดยการเลอื กแหลง่ ข่าว แหลง่ ขอ้ มูล การใช้ภาษา การกำ�หนดเน้ือหา และวิธีการหรือรูปแบบ คณะอนุกรรมการมีมติว่าผู้ถูกร้องเรียนนำ�เสนอ การน�ำ เสนอ ต้องดำ�เนนิ การดว้ ยความรอบคอบ ระมัดระวงั ขัดจริยธรรมสื่อ ข้อ 6 จริยธรรมด้านความเป็นอิสระของ มกี ารตรวจสอบ ตรวจทานเปน็ หลกั ปฏิบตั สิ ำ�คญั 145 ไทยพีบเี อส 2563

เรอ่ื งที่ 4 : รอ้ งเรยี นผผู้ ลติ ขา่ วออนไลน์ เรอื่ ง “ผปู้ กครองโวย เรอื่ งท่ี 5 : รอ้ งเรยี นรายการ “วนั ใหมไ่ ทยพบี เี อส” เรอื่ ง จา่ ยคา่ อาหารแพงแตค่ ณุ ภาพอาหารกลางวนั ตาํ่ ” น�ำเสนอ “เยาวชนหญงิ กระโดดสะพานขา้ มแมน่ า้ํ กก” ทางเวบ็ ไซต์ ส.ส.ท. ขอ้ รอ้ งเรยี น : รอ้ งเรยี นรายการ “วนั ใหมไ่ ทยพบี เี อส” ข้อร้องเรียน : ร้องเรียนผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เร่ือง เรื่อง “เยาวชนหญิงกระโดดสะพานข้ามแม่นํ้ากก” ซึ่ง “ผปู้ กครองโวยจา่ ยคา่ อาหารแพงแตค่ ณุ ภาพอาหารกลางวนั ตา่ํ ” ออกอากาศเม่อื วนั ที่ 17 เมษายน พ.ศ.2563 เวลา 05.06 น. นำ�เสนอทางเว็บไซต์ ส.ส.ท. ขาดความเที่ยงตรง เป็นกลาง นำ�เสนอภาพคนกระโดดจากสะพาน เกรงว่าจะทำ�ให้เกิด และความเป็นธรรม เน่ืองจากนำ�เสนอข่าวโดยที่ยังมิได้ การฆา่ ตัวตายเลียนแบบจากการน�ำ เสนอข่าว สอบถามขอ้ มลู จากทางโรงเรียนท่ีถูกพาดพิง ผลการวนิ จิ ฉยั : เหน็ วา่ การน�ำ เสนอภาพเคลือ่ นไหว ผลการวินิจฉัย : เห็นว่าการนำ�เสนอข่าวไม่จำ�เป็น ในข่าวลักษณะนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เน่ืองจากภาพ ต้องนำ�เสนอทุกข่าวที่ได้รับมา แต่ควรมีกระบวนการทาง เคลอ่ื นไหวท�ำ ใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ เรา้ แมจ้ ะเปน็ การน�ำ เสนอขา่ ว บรรณาธิการในการประเมินเน้ือหาของข่าวก่อนนำ�เสนอ ทางโทรทัศน์กส็ ามารถใช้ภาพนิ่งได้ หากใชภ้ าพน่ิงแทนและ หากมิใช่ข่าวที่มีความสำ�คัญและเป็นประโยชน์แก่ประชาชน ปิดบังอัตลักษณ์เยาวชนด้วย อาจจะทำ�ให้ลดความสุ่มเสี่ยง ยง่ิ ตอ้ งควรพจิ ารณาใหร้ อบคอบกอ่ นการน�ำ เสนอขา่ วทกุ ครง้ั การนำ�เสนอที่ขัดจริยธรรมลงได้ รวมถึงควรวางแผนการแก้ไขในกรณีที่หากนำ�เสนอไปแล้ว เกิดปัญหาภายหลัง นอกจากน้ี การทำ�ข่าวออนไลน์ท่ีไม่ใช่ คณะอนุกรรมการมีมติว่าผู้ถูกร้องเรียนนำ�เสนอ ข่าวเร่งด่วนท่ีกระทบต่อคนส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีข้อจำ�กัด ขัดจริยธรรมสื่อ ข้อ 8 จริยธรรมด้านการคุ้มครองเด็กและ ในเร่ืองของเวลาการนำ�เสนอ ทีมงานสามารถรวบรวมให้ เยาวชนจากรายการที่แสดงออกถึงความรุนแรง การกระท�ำ เนื้อข่าวสมบูรณ์ครบถ้วนก่อนจึงค่อยเผยแพร่ การนำ�เสนอ อนั ผดิ กฎหมายหรอื ศลี ธรรม อบายมขุ และภาษาอนั หยาบคาย ขา่ วโดยเนน้ ความเรว็ แตไ่ มร่ อบดา้ น ไมค่ รบถว้ น แมส้ ามารถ (8.2) ผปู้ ฏิบัติงานต้องใชว้ ิจารณญาณในการนำ�เสนอเนื้อหา เพิ่มจำ�นวนผู้ชมทางออนไลน์ได้ในขณะน้ัน แต่ก็อาจส่งผล ภาษา ภาพ เสยี ง ทอ่ี าจชกั จงู ผชู้ มผฟู้ งั ทเ่ี ปน็ เดก็ และเยาวชน ตอ่ ความน่าเชอ่ื ถอื ของ ส.ส.ท. และขดั ตอ่ จรยิ ธรรมได้ ใหเ้ หน็ ผดิ เปน็ ชอบ หรอื กระตนุ้ พฤตกิ รรมการลอกเลยี นแบบ เช่น รายการท่ีมีเนื้อหาความรุนแรง การยั่วยวนทางเพศ นอกจากนน้ั คณะอนกุ รรมการเหน็ วา่ การพาดหวั ขา่ ว การใชภ้ าษาหยาบคาย กจิ กรรมทเ่ี สย่ี งภยั ตอ่ รา่ งกาย อบายมขุ ดว้ ยค�ำ เพยี งไมก่ ค่ี �ำ อาจไมค่ รอบคลมุ ทกุ ประเดน็ ขา่ ว จงึ ควร การกระท�ำ ทผี่ ดิ กฎหมายทข่ี ดั ตอ่ ศลี ธรรม (8.4) ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ปรบั พาดหวั ข่าวให้เป็นไปตามหลักการการนำ�เสนอขา่ ว คือ ต้องหลีกเล่ียงการนำ�เสนอภาพเด็ก เยาวชน ที่ถูกทำ�ร้าย ต้องครบถว้ นและรอบด้าน ถูกกระทำ�ทารุณ ถูกคุกคามทางเพศ ตกเป็นผู้ต้องหา ผู้ต้องสงสัย ท้ังนี้ หมายความรวมถึงการไม่นำ�เสนอภาพ คณะอนุกรรมการมีมติว่าผู้ถูกร้องเรียนนำ�เสนอ ข้อมูล ข้อความ และสัญลักษณ์ใดที่สามารถเช่ือมโยงไปถึง ขดั จริยธรรมสื่อ ขอ้ 5 จรยิ ธรรมด้านความสมดุล เปน็ ธรรม เด็ก เยาวชน ที่ตกเป็นข่าว ที่ถูกกระทำ� ที่เป็นผู้ต้องหา (5.1) การรายงานข่าวหรือการผลิตรายการ โดยเฉพาะ ผู้ต้องสงสัย เว้นแต่กระทำ�ไปเพื่อประโยชน์ของเด็กหรือ ในประเด็นสำ�คัญหรือประเด็นที่มีความขัดแย้งสูง ต้อง เยาวชนน้ันเอง (8.5) การรายงานข่าวหรือการนำ�เสนอ นำ�เสนอข้อมูลความคิดเห็นจากผู้เก่ียวข้องอย่างรอบด้าน รายการใด ๆ ที่เกย่ี วข้องกับเด็กและเยาวชน ตอ้ งด�ำ เนนิ การ สมดลุ และเปน็ ธรรม และขอ้ 10 จรยิ ธรรมดา้ นการปกปอ้ งและ อย่างคำ�นึงถึงการปกป้องศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์และ การปฏิบัติต่อแหล่งข่าวอย่างเป็นธรรม (10.2) การเสนอ สวสั ดภิ าพของเดก็ และเยาวชน (8.6) ขอ้ บงั คบั ดา้ นจรยิ ธรรม ขา่ ว รายงาน หรอื รายการท่ีมีการกลา่ วหาบุคคล กลมุ่ บุคคล เพ่ือการคุ้มครองเด็กและเยาวชนท่ีกำ�หนดในข้อ 8 นี้ นิติบุคคล ต้องระลึกเสมอว่าผู้ท่ีถูกกล่าวหาต้องได้รับสิทธิ ใหค้ รอบคลุมถึงสื่อทกุ ประเภทขององคก์ าร และโอกาสท่ีจะโต้ตอบข้อกล่าวหาในข่าว ในรายงาน หรือ ในรายการเดียวกนั และในเวลาทีส่ มควร 146 ไทยพีบีเอส 2563

เรื่องท่ี 6 : ร้องเรียนรายการ “The Exit” ในรายการ เรอื่ งที่ 7 : รอ้ งเรยี นผสู้ อื่ ขา่ วกรณเี ปดิ รบั ความชว่ ยเหลอื “ข่าวค่ํามิติใหม่ทั่วไทย” เร่ือง “อบต. คลองตันจัดซ้ือ ใหแ้ กแ่ หลง่ ขา่ วผา่ นสอ่ื สงั คมออนไลน์ เครอื่ งวดั อณุ หภมู ริ าคาสงู ” ข้อร้องเรียน : ร้องเรียนผู้ส่ือข่าวกรณีเปิดรับ ขอ้ รอ้ งเรยี น : รอ้ งเรยี นรายการ “The Exit” ในรายการ ความช่วยเหลือให้แก่แหล่งข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ “ขา่ วคํ่ามิติใหมท่ ั่วไทย” เรื่อง “อบต. คลองตันจัดซอื้ เครอ่ื ง เนื่องจากคณะอนุกรรมการได้รับเสียงสะท้อนจากกรณีท่ี วดั อุณหภมู ิราคาสงู ” ซึ่งออกอากาศเม่ือวันท่ี 28 พฤษภาคม เกิดขึ้นทั้งด้านบวกและด้านลบ ท้ังจากประชาชนท่ัวไป พ.ศ. 2563 เวลา 18.52 น. เนอ่ื งจากนกั ข่าวมิไดข้ ออนุญาต สภาผู้ชมผู้ฟังรายการ และในแวดวงสื่อมวลชน การเปิด กอ่ นการสมั ภาษณ์ รับความช่วยเหลือให้แก่แหล่งข่าวผ่านส่ือสังคมออนไลน์ ลักษณะนี้นับเป็นเรื่องใหม่และอาจยังไม่มีบรรทัดฐาน ผลการวนิ จิ ฉยั : เห็นว่าการท�ำ ขา่ วประเดน็ ออ่ นไหว ท่ีชัดเจนสำ�หรับ ส.ส.ท. คณะอนุกรรมการจึงเห็นสมควรรับ เชน่ ขา่ วการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ควรประเมนิ คณุ คา่ ของแหลง่ ขา่ ว เรอ่ื งนเ้ี ปน็ เรอ่ื งรอ้ งเรยี น เพอ่ื ใชโ้ อกาสนเ้ี ชญิ ผสู้ อ่ื ขา่ วดงั กลา่ ว อย่างถถี่ ว้ น 3 ประการ คือ มาช้ีแจง แลกเปล่ยี น และเก็บรบั บทเรียนครงั้ น้ใี หค้ รบถ้วน ท้ังในเรอ่ื งจริยธรรมของวิชาชพี และการใชส้ อ่ื สงั คมออนไลน์ (1) ความน่าเชือ่ ถือของแหล่งข่าว อยา่ งเหมาะสมในฐานะสอ่ื สาธารณะ (2) ความเกีย่ วขอ้ งของแหลง่ ข่าว (3) สวัสดภิ าพและความปลอดภัยของแหลง่ ขา่ ว ผลการวนิ จิ ฉยั : เหน็ วา่ กรณนี แ้ี ม้จะมีความพยายาม บุคคลทั่วไปมักไม่ทราบถึงผลกระทบจากการไปเป็น ระมัดระวังและอยู่ในการรับรู้ของผู้บริหารสำ�นักข่าว พยานหรือมีส่วนรู้เห็นในข้อมูลบางเร่ือง โดยเฉพาะเรื่อง มาตั้งแต่แรก แต่เป็นสถานการณ์ท่ีเหนือความคาดหมาย การทุจริต ผู้ส่ือข่าวหรือผู้สัมภาษณ์ต้องตระหนักในเร่ืองน้ี โดยเฉพาะการไดร้ บั เงนิ บรจิ าคกวา่ 8ลา้ นบาทในเวลาชว่ั ขา้ มคนื และแจ้งแหล่งข่าวหรือผู้ให้สัมภาษณ์ทราบถึงผลกระทบ ทำ�ให้ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง เม่ือผนวกกับการ ตา่ งๆ ถงึ แมว้ า่ แหลง่ ขา่ วจะยนิ ยอมใหข้ อ้ มลู หรอื ใหส้ มั ภาษณ์ มีเร่ืองออ้ื ฉาวตามมา แม้ว่าจะคล่คี ลายไปในทสี่ ดุ แตก่ รณนี ้ี ทั้งด้วยวาจาหรือด้วยลายลักษณ์อักษร แต่นักข่าวและ ควรเป็นกรณีศึกษาเพื่อก�ำ หนดแนวทางของ ส.ส.ท. ในการ กองบรรณาธิการยังจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ถ่ีถ้วน ทำ�ข่าวเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือบุคคลหรือชุมชน และรบั ผดิ ชอบตอ่ แหลง่ ขา่ ว โดยค�ำ นงึ ถงึ ผลกระทบทต่ี ามมา เพ่ือไม่ให้เกิดเรื่องทำ�นองน้ีอีก ซ่ึงอาจกระทบต่อความ ในดา้ นตา่ ง ๆ โดยเฉพาะเรอ่ื งสวสั ดภิ าพและความปลอดภยั นา่ เชอ่ื ถอื และภาพลกั ษณข์ อง ส.ส.ท. ได้ ของแหลง่ ข่าว การท�ำ ใหแ้ หล่งขา่ วรูส้ กึ ปลอดภัย คณะอนุกรรมการมีมติว่าผู้ถูกร้องเรียนมิได้ประพฤติ คณะอนกุ รรมการมมี ตวิ า่ การทผี่ ถู้ กู รอ้ งเรยี นใชเ้ ฟซบกุ๊ ผิดจริยธรรมตามข้อบังคับองค์การกระจายเสียงและ ส่วนตัวให้ข้อมูลแก่ผู้ที่ประสงค์จะช่วยเหลือแก่แหล่งข่าว แพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ว่าด้วยจริยธรรมของ มไิ ดป้ ระพฤตผิ ดิ จรยิ ธรรมตามขอ้ บงั คบั องคก์ ารกระจายเสยี ง วชิ าชพี เกยี่ วกบั การผลติ และการเผยแพรร่ ายการ พ.ศ.2552 และแพรภ่ าพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย วา่ ดว้ ยจรยิ ธรรมของ หรือแนวทางปฏิบัติเพ่ือธำ�รงจริยธรรมของวิชาชีพการผลิต วชิ าชพี เกยี่ วกบั การผลติ และการเผยแพรร่ ายการ พ.ศ.2552 การจดั หา และการเผยแพรร่ ายการองคก์ ารกระจายเสยี งและ หรือแนวทางปฏิบัติเพ่ือธำ�รงจริยธรรมของวิชาชีพการผลิต แพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยแต่อย่างใด เนื่องจาก การจัดหา และการเผยแพร่รายการองค์การกระจายเสียง เนื้อหาข่าวเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ประกอบกับการ และแพรภ่ าพสาธารณะแห่งประเทศไทย รวมถงึ แนวปฏบิ ตั ิ ปล่อยเสียงสัมภาษณ์แหล่งข่าว เป็นการปล่อยเสียงเฉพาะ การใช้ส่ือสังคมออนไลน์ (Social Media) ในกิจการของ เรื่องการทำ�งานของอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิเท่าน้ัน มิได้ ส.ส.ท. แต่อย่างใด เน่ืองจากเป็นการกระทำ�ไปโดยสุจริต เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดซ้ือจัดจ้างทุจริตแต่อย่างใด และเมื่อเกิดสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมายก็ได้ อีกท้ังผู้ส่ือข่าวลงพ้ืนท่ีโดยไม่ได้ปิดบังท้ังอัตลักษณ์บุคคล ดำ�เนนิ การแกไ้ ขปัญหารว่ มกับฝ่ายบรหิ ารเป็นอยา่ งดี และใช้รถยนต์และอุปกรณ์ขององค์การโดยเปิดเผย อีกท้ัง มเี สยี งผสู้ อ่ื ข่าวแจง้ ขอสมั ภาษณช์ ดั เจน 147 ไทยพบี ีเอส 2563

เรอื่ งท่ี 8 : รอ้ งเรยี นส�ำนกั ขา่ วและผผู้ ลติ รายการขา่ วคาํ่ วา่ ดว้ ยจรยิ ธรรมของวชิ าชพี เกย่ี วกบั การผลติ และการเผยแพร่ มติ ใิ หมท่ ว่ั ไทย เรอ่ื ง “ผลกระทบเลอ่ื นจา่ ยเบยี้ ยงั ชพี ผสู้ งู อาย”ุ รายการ พ.ศ. 2552 และท่แี กไ้ ขเพ่ิมเตมิ ขอ้ รอ้ งเรยี น : รอ้ งเรยี นส�ำ นกั ขา่ วและผผู้ ลติ รายการ ผลการวนิ จิ ฉยั : เหน็ วา่ การบรหิ ารจดั การดา้ นเนอ้ื หา ข่าวคํ่ามิติใหม่ทั่วไทย ออกอากาศวันท่ี 11 กันยายน พ.ศ. อันเป็นกลไกปกติของกองบรรณาธิการสามารถกระทำ�ได้ 2563 เวลา 19.32 น เร่อื ง “ผลกระทบเลือ่ นจ่ายเบ้ยี ยังชพี ตามข้อบังคับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะ ผู้สงู อาย”ุ เปน็ การน�ำ เสนอข่าวโดยไม่รบั ฟงั ความรอบด้าน แห่งประเทศไทย ว่าด้วยจริยธรรมของวิชาชีพเกี่ยวกับ การผลติ และการเผยแพรร่ ายการ พ.ศ.2552 (“ขอ้ บงั คบั ฯ”) ผลการวินิจฉัย : เห็นว่ากรณีน้ีเป็นปัญหาในเร่ือง ข้อ 6 จริยธรรมด้านความเป็นอิสระของวิชาชีพ ความ ของการปฏิบัติงาน แม้ผู้ปฏิบัติงานได้ติดตามนำ�เสนอข่าว รับผิดชอบต่อสาธารณะ และการไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ให้มีความรอบด้านและต่อเนื่อง แต่เป็นการนำ�เสนอข่าว (6.2) กองบรรณาธิการหรือคณะผู้รับผิดชอบในการ ท่ีกระจายตามรายการข่าวหลายช่วงเวลา ซ่ึงการนำ�เสนอ ผลิตรายการต้องมีความเป็นอิสระในการคัดเลือกประเด็น ข่าวหนึ่งช้ินควรนำ�เสนอให้รอบด้านมากท่ีสุดในแต่ละช่วง การกำ�หนดเน้ือหาและวิธีการหรือรูปแบบการนำ�เสนอ หรือมีวิธีการสื่อสารที่ทำ�ให้ผู้ชมผู้ฟังรับรู้ว่ากรณีดังกล่าว โดยสามารถอธบิ ายเหตผุ ลในการตดั สนิ ใจอยา่ งสอดคลอ้ งกบั มีการนำ�เสนออย่างต่อเนื่อง หากสนใจสามารถติดตาม บทบาทหนา้ ทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบขององคก์ ารตอ่ สาธารณะ รายละเอียดหรือรบั ชมรบั ฟงั เพม่ิ เตมิ หรอื ยอ้ นหลงั ไดอ้ ยา่ งไร และชอ่ งทางใดบ้าง คณะอนุกรรมการเห็นว่ากรณีน้ีเป็นปัญหาเรื่องการ สื่อสาร เม่ือผู้ชมคาดหวังแล้วผิดหวังจึงเกิดความสงสัยว่า คณะอนุกรรมการจึงมีมติว่ารายการข่าวคํ่ามิติใหม่ มกี ารแทรกแซงเกดิ ขน้ึ หรอื ไม่ ผบู้ รหิ ารส�ำ นกั ขา่ วจงึ ตอ้ งเขา้ ใจ ทว่ั ไทย ออกอากาศวนั ท่ี 11 กนั ยายน พ.ศ.2563 เวลา 19.32 น. เรอ่ื งการบรหิ ารจัดการความคาดหวงั ของผชู้ มผู้ฟงั และตอ้ ง เรอ่ื ง “ผลกระทบเลอ่ื นจา่ ยเบย้ี ยงั ชพี ผสู้ งู อาย”ุ มไิ ดป้ ระพฤตผิ ดิ ตระหนกั วา่ การส่ือสารเปน็ เรือ่ งส�ำ คัญ ท้งั การส่อื สารภายใน จริยธรรมตามข้อบังคับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพ ระหว่างทีมงานและตอ่ ผูช้ มผ้ฟู งั ในทุกช่องทาง สาธารณะแห่งประเทศไทย ว่าด้วยจริยธรรมของวิชาชีพ เกี่ยวกบั การผลติ และการเผยแพร่รายการ พ.ศ. 2552 และ คณะอนุกรรมการมีมติว่าการท่ีผู้ผลิตรายการข่าวคํ่า ที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือแนวทางปฏิบัติเพื่อธำ�รงจริยธรรมของ มิติใหม่ท่ัวไทยไม่เสนอรายการตามท่ีผู้ประกาศแจ้งไว้ วชิ าชพี การผลติ การจดั หา และการเผยแพรร่ ายการองคก์ าร เนื่องจากงดรายการพิเศษตามท่ีเตรียมการไว้เดิมน้ัน กระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย มิได้เป็นการประพฤติผิดจริยธรรมตามข้อบังคับองค์การ แต่อย่างใด เน่ืองจากเป็นปัญหาในเร่ืองการปฏิบัติงาน กระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ซึ่งสามารถเกดิ ขนึ้ ได้ ว่าด้วยจริยธรรมของวิชาชีพเก่ียวกับการผลิตและการ เผยแพรร่ ายการ พ.ศ.2552 และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ หรอื แนวทาง เรอ่ื งท่ี 9 : รอ้ งเรยี นส�ำนกั ขา่ วและผผู้ ลติ รายการขา่ วคา่ํ ปฏิบัติเพ่ือธำ�รงจริยธรรมของวิชาชีพการผลิต การจัดหา มิติใหม่ท่ัวไทย กรณีไม่น�ำเสนอข่าวตามท่ีผู้ประกาศแจ้งไว้ และการเผยแพรร่ ายการองคก์ ารกระจายเสยี งและแพรภ่ าพ ในรายการ วนั ท่ี 20 กนั ยายน พ.ศ. 2563 สาธารณะแหง่ ประเทศไทยแตอ่ ยา่ งใด เนอื่ งจากสถานการณ์ ไดเ้ ปลีย่ นแปลง ขอ้ รอ้ งเรยี น : รอ้ งเรยี นส�ำ นกั ข่าวและผผู้ ลติ รายการ ขา่ วคาํ่ มติ ใิ หมท่ วั่ ไทย ออกอากาศวนั ที่ 20 กนั ยายน พ.ศ.2563 เรอื่ งรอ้ งเรยี นรายการขา่ วออนไลน์ “ขา่ วจดั เตม็ ” เวลา 18.31 น. กรณกี ารไมน่ �ำ เสนอขา่ วตามทผ่ี ปู้ ระกาศแจง้ ไว้ ในรายการ ซง่ึ การกระท�ำ และพฤตกิ รรมของกองบรรณาธกิ าร จ�ำนวน 6 กรณี (เรอื่ งที่ 10 - 15) กองบรรณาธกิ ารรายการ ผดู้ �ำ เนนิ รายการ พนกั งาน รวมถงึ ผ้ทู มี่ ีสว่ นเก่ยี วขอ้ ง อาจสร้างความสับสนใหก้ บั ผู้ชมรายการ เรอื่ งท่ี 10 : รอ้ งเรยี นรายการขา่ วออนไลน์ “ขา่ วจดั เตม็ ” ในวันและเวลาดังกล่าว ทำ�ให้ผู้ชมเคลือบแคลงสงสัยต่อ เรอื่ ง “ท�ำรา้ ยเยาวชนชายในรา้ นเกมส”์ องคก์ ร เกดิ การตง้ั ค�ำ ถามวา่ อาจถกู การครอบง�ำ หรอื แทรกแซง หรอื ไม่ และอาจขดั ตอ่ จรยิ ธรรมวชิ าชพี ตามขอ้ บงั คบั องคก์ าร ขอ้ รอ้ งเรยี น : ร้องเรียนรายการข่าวออนไลน์ “ข่าว กระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย จดั เตม็ ” เรอ่ื ง “ท�ำ รา้ ยเยาวชนชายในรา้ นเกมส”์ ซง่ึ ออกอากาศ เม่ือวนั ที่ 26 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 14.00 น. นำ�เสนอ 148 ไทยพบี เี อส 2563

ภาพเด็กถูกทำ�ร้ายรุนแรงเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก รวมถึง ขอ้ รอ้ งเรยี น : ร้องเรียนรายการข่าวออนไลน์ “ข่าว การนำ�เสนอภาพข่าวที่เห็นหน้าญาติของเด็กท่ีถูกทำ�ร้าย จดั เตม็ ” เรอ่ื ง “ต�ำ รวจจบั ชายกอ่ เหตยุ งิ 2 คด”ี ซง่ึ ออกอากาศ อาจทำ�ให้โยงถึงตัวเด็ก อาจทำ�ให้กระทบต่อสวัสดิภาพและ เมอ่ื วนั ท่ี 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 10.00 น. น�ำ เสนอ ความปลอดภยั ของเดก็ ได้ ภาพชายกอ่ เหตถุ อื ปนื วง่ิ ไลย่ งิ คอู่ ริ สมุ่ เสย่ี งการลอกเลยี นแบบ เรอ่ื งท่ี 11 : รอ้ งเรยี นรายการขา่ วออนไลน์ “ขา่ วจดั เตม็ ” เรอื่ ง “พลทหารฆา่ หลานสาวตนเอง” ผลการวนิ จิ ฉยั ทง้ั 6 เรอ่ื ง : เห็นวา่ ส.ส.ท. ควรเสนอ ข่าวอาชญากรรมที่มีลักษณะเฉพาะของสื่อสาธารณะ ซึ่ง ขอ้ รอ้ งเรยี น : ร้องเรียนรายการข่าวออนไลน์ “ข่าว แตกต่างจากสื่อพาณิชย์ท่ัวไป โดยคำ�นึงถึงคุณค่าของข่าว จดั เตม็ ” เรอ่ื ง “พลทหารฆา่ หลานสาวตนเอง” ซงึ่ ออกอากาศ และกรอบจริยธรรมสื่อสาธารณะ การเสนอข่าวทุกช้ินและ เม่อื วันท่ี 5 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 14.00 น. น�ำ เสนอภาพ ในทุกช่องทางของ ส.ส.ท. ควรคำ�นึงเสมอว่าผู้ชมผู้ฟังได้ ไม่เหมาะสมของมารดาผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในภาวะเศร้าโศก ประโยชนอ์ ะไรจากข่าวท่ีนำ�เสนอน้ัน และภาพสัมภาษณ์ยายผู้เสียชวี ิตขณะรอ้ งไห้ เป็นการฝา่ ฝนื จริยธรรมด้านการปฏิบัติต่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย และผู้ที่อยู่ คณะอนุกรรมการมีมติว่า ผู้ถูกร้องเรียนนำ�เสนอ ในภาวะเศรา้ โศก ขัดจริยธรรมส่ือท้งั 6 กรณี เรอื่ งที่ 12 : รอ้ งเรยี นรายการขา่ วออนไลน์ “ขา่ วจดั เตม็ ” เรอื่ ง “สอบทหารรมุ ท�ำรา้ ยชาวบา้ น” ทั้งน้ีฝ่ายบริหารของ ส.ส.ท. ได้แจ้งผลการวินิจฉัย ข้อร้องเรียนท้ังหมดและเตือนผู้เกี่ยวข้องด้วยวาจาให้เพ่ิม ขอ้ รอ้ งเรยี น : ร้องเรียนรายการข่าวออนไลน์ “ข่าว ความรอบคอบในแนวทางการปฏิบตั ิงานและเขม้ งวดในการ จดั เตม็ ” เรอ่ื ง “สอบทหารรมุ ท�ำ รา้ ยชาวบา้ น” ซง่ึ ออกอากาศ ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามหลักจริยธรรมของ ส.ส.ท. และ เมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 14.00 น. น�ำ เสนอ นำ�ข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมการไปดำ�เนินการ อีกทั้ง ภาพชาวบ้านท่ีถูกทำ�ร้ายและอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่ จัดเวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้ด้านจริยธรรมให้กับผู้ปฏิบัติงาน โรงพยาบาล อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เรอื่ งท่ี 13 : รอ้ งเรยี นรายการขา่ วออนไลน์ “ขา่ วจดั เตม็ ” เรอ่ื ง “สอบผอู้ �ำนวยการโรงเรยี นอนาจารนกั เรยี นหญงิ ” นอกจากน้ัน คณะกรรมการนโยบายได้จัดให้มี คณะทำ�งานปรับปรุงระเบียบองค์การกระจายเสียงและ ขอ้ รอ้ งเรยี น : ร้องเรียนรายการข่าวออนไลน์ “ข่าว แพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการรับและ จดั เตม็ ”เรอ่ื ง“สอบผอู้ �ำ นวยการโรงเรยี นอนาจารนกั เรยี นหญงิ ” พิจารณาเร่ืองร้องเรียนจากประชาชน พ.ศ. 2563 และ ซง่ึ ออกอากาศเมอ่ื วนั ท่ี 21 เมษายน พ.ศ.2563 เวลา 10.00 น. ประกาศใช้เมื่อวันท่ี 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 เพื่อให้ น�ำ เสนอภาพเคลอ่ื นไหวใหเ้ หน็ ถงึ การกระท�ำ ทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั เดก็ การรบั และพจิ ารณาเรอื่ งรอ้ งเรยี นขององคก์ ารกระจายเสยี ง ออกอากาศอยหู่ ลายรอบ และแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยมีประสิทธิภาพ เรอื่ งที่ 14 : รอ้ งเรยี นรายการขา่ วออนไลน์ “ขา่ วจดั เตม็ ” สามารถตรวจสอบเรื่องร้องเรียนได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง เรอื่ ง “พย่ี งิ นอ้ งเสยี ชวี ติ เหตขุ ดั แยง้ ทดี่ นิ ” และเปน็ ธรรม สอดคลอ้ งกบั ภมู ทิ ัศนส์ ือ่ ทเี่ ปลยี่ นแปลง ขอ้ รอ้ งเรยี น : ร้องเรียนรายการข่าวออนไลน์ “ข่าว 149 จดั เตม็ ”เรอ่ื ง“พย่ี งิ นอ้ งเสยี ชวี ติ เหตขุ ดั แยง้ ทด่ี นิ ”ซง่ึ ออกอากาศ ไทยพบี เี อส 2563 เมอ่ื วันท่ี 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 10.00 น. น�ำ เสนอ ภาพญาติผู้เสยี ชวี ติ ทอี่ ยู่ในสภาพจิตใจไมป่ กติ เรอื่ งท่ี 15 : รอ้ งเรยี นรายการขา่ วออนไลน์ “ขา่ วจดั เตม็ ” เรอ่ื ง “ต�ำรวจจบั ชายกอ่ เหตยุ งิ 2 คด”ี

ส่วนท่ี 6 : รายงานผลการดำ�เนินงานของส่ือสาธารณะ รายงานคณะกรรมการตรวจสอบ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ประจำ�ปี 2563 องคก์ ารกระจายเสยี งและแพรภ่ าพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย (ส.ส.ท.) แตง่ ตง้ั คณะกรรมการตรวจสอบ เพ่ือช่วยคณะกรรมการนโยบายในการปฏิบัตหิ น้าที่กำ�กบั ดแู ลการควบคมุ ภายในและการตรวจสอบภายใน ในปี พ.ศ. 2563 คณะกรรมการตรวจสอบประกอบดว้ ยบคุ คล ดังนี้ คณะกรรมการตรวจสอบ ตามประกาศ ส.ส.ท. วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ชุดเดิม (หมดวาระ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563) 1. รองศาสตราจารย์ ดร. ธีรภัทร สงวนกชกร ประธานกรรมการ 2. รองศาสตราจารย์ ดร. ณรงค์ เพช็ รประเสรฐิ กรรมการ 3. ศาสตราจารย์ ดร. ปราณี ทนิ กร กรรมการ 4. รองศาสตราจารย์ ดร. อังครตั น์ เพรียบจริยวัฒน ์ กรรมการ 5. ผ้อู ำ�นวยการสำ�นกั ตรวจสอบภายใน เลขานุการ คณะกรรมการตรวจสอบ ตามประกาศ ส.ส.ท. วันท่ี 15 ตลุ าคม พ.ศ. 2563 ชุดปัจจบุ ัน (ปฏบิ ัติหน้าที่ 15 ตลุ าคม ถงึ 25 ธนั วาคม พ.ศ. 2563) และวันท่ี 23 ธนั วาคม พ.ศ. 2563 (เร่ิมปฏบิ ัติหนา้ ที่ 26 ธนั วาคม พ.ศ. 2563) 1. รองศาสตราจารย์ ดร. ธีรภัทร สงวนกชกร ประธานกรรมการ 2. รองศาสตราจารย์ ดร. อนสุ รณ์ ธรรมใจ กรรมการ 3. นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการ 4. ศาสตราจารย์ ดร. ปราณี ทนิ กร กรรมการ 5. รองศาสตราจารย์ ดร. อังครตั น์ เพรียบจรยิ วัฒน ์ กรรมการ 6. ผ้อู �ำ นวยการส�ำ นกั ตรวจสอบภายใน เลขานุการ ในปี พ.ศ. 2563 คณะกรรมการตรวจสอบมีการประชุม 10 คร้ัง เป็นการประชุมโดยกรรมการชุดเดิม 7 คร้ัง และกรรมการชุดปัจจุบัน 3 คร้ัง ทั้งนี้รายงานต่อคณะกรรมการนโยบาย 5 ครั้ง และกำ�กับดูแล สำ�นักตรวจสอบภายในให้ปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์กระทรวงการคลังว่าด้วยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ ปฏบิ ัติการตรวจสอบภายในส�ำ หรับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2561 และแนวทางการปฏิบตั หิ น้าท่ตี ามมาตรฐาน การปฏิบัติงานวิชาชีพการตรวจสอบภายใน ท่ีเผยแพร่โดยสมาคมผู้ตรวจสอบภายในแห่งประเทศไทย สาระสำ�คญั ในการปฏิบตั ิหน้าที่ สรุปไดด้ งั นี้ 1. การสอบทานรายงานทางการเงนิ ไดส้ อบทานประเดน็ เกย่ี วกบั การบญั ชแี ละการรายงานทางการเงนิ ท่มี ีสาระสำ�คัญ ตามประกาศขององค์กรวิชาชีพและองค์กรกำ�กับดูแลท่เี ก่ยี วข้อง สอบทานผลกระทบท่มี ีต่อ รายงานทางการเงนิ รวมถงึ สอบทานกระบวนการในการจดั ท�ำ รายงานทางการเงนิ ทง้ั นผ้ี สู้ อบบญั ชมี คี วามเหน็ วา่ รายงานทางการเงินของ ส.ส.ท. มีความถูกต้องตามท่คี วรในสาระสำ�คัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและ นโยบายการบญั ชภี าครฐั ทก่ี ระทรวงการคลงั ก�ำ หนด 150 ไทยพบี ีเอส 2563

2. การสอบทานการบริหารความเส่ียง ได้สอบทานระบบการบริหารความเส่ียงและมีคำ�แนะนำ�ให้ ส.ส.ท. ติดตามและรายงานความคืบหน้าผลดำ�เนินการตามแผนบริหารความเส่ียงอย่างสม่ําเสมอ เพ่ือให้ ม่นั ใจว่าการปรับปรุงระบบการควบคุมภายในสามารถลดผลกระทบจากความเส่ยี งให้อย่ใู นระดับท่ยี อมรับได้ และบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคก์ ารด�ำ เนนิ งานของ ส.ส.ท. 3. การสอบทานระบบการควบคมุ ภายใน ไดส้ อบทานระบบการควบคมุ ภายในทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การด�ำ เนนิ งาน การใช้ทรัพยากร การดูแลทรัพย์สิน การป้องกันหรือลดความผิดพลาดอันอาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย การร่ัวไหล การส้ินเปลือง หรือการทุจริต และสอบทานการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบขององค์การ ผลการสอบทานพบวา่ ระบบการควบคุมภายในมีความเพียงพอเหมาะสม และพฒั นาตามหลักเกณฑ์กระทรวง การคลังว่าด้วยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏิบัติการควบคุมภายในสำ�หรับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยมี คำ�แนะนำ�ให้ ส.ส.ท. พัฒนาการควบคุมและกำ�กับดูแลการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพ และประสทิ ธผิ ลมากยง่ิ ขน้ึ รวมทง้ั ใหค้ วามส�ำ คญั ตอ่ การรกั ษาความมน่ั คงปลอดภยั ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ 4. การสอบทานการก�ำ กบั ดแู ลกจิ การทด่ี ี ไดส้ อบทานการปฏบิ ตั ติ ามระบบงาน ระเบยี บ และขอ้ บงั คบั เก่ยี วกับจริยธรรมของกรรมการนโยบาย กรรมการบริหาร ผ้บู ริหารและพนักงาน และมีคำ�แนะนำ�ให้ ส.ส.ท. เร่งดำ�เนินการจัดทำ�มาตรการจัดการเร่ืองร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบให้แล้วเสร็จ เพ่ือใช้เป็น แนวปฏิบัติงานด้านการป้องปรามการทุจริตของ ส.ส.ท. ท่ชี ัดเจนและมีประสิทธิภาพ ตามแนวการประเมิน คณุ ธรรมและความโปรง่ ใสในการด�ำ เนนิ งานของหนว่ ยงานภาครฐั 5. การก�ำ กบั ดแู ลงานตรวจสอบภายใน ไดส้ อบทานและอนมุ ตั แิ ผนการตรวจสอบประจ�ำ ปี รวมทง้ั ตวั ชว้ี ดั ผลการปฏบิ ตั งิ านของส�ำ นกั ตรวจสอบภายใน สอบทานผลการปฏบิ ตั งิ านตามแผนการตรวจสอบทก่ี �ำ หนด โดยให้ ข้อแนะนำ�และติดตามการดำ�เนินการแก้ไขในประเด็นท่มี ีนัยสำ�คัญตามรายงานผลการตรวจสอบอย่างต่อเน่อื ง เพอ่ื ใหม้ กี ารควบคมุ ภายในทเ่ี พยี งพอ ไดป้ ระเมนิ ความเพยี งพอทรพั ยากรของส�ำ นกั ตรวจสอบภายใน พจิ ารณา ทบทวนกฎบัตรการตรวจสอบภายใน และสนับสนุนให้บุคลากรของสำ�นักตรวจสอบภายในได้พัฒนาความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติงานตรวจสอบภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้งั ประเมินผลการปฏิบัติงานของ ผอู้ �ำ นวยการส�ำ นกั ตรวจสอบภายใน นอกจากนจ้ี ดั ใหม้ กี ารประกนั และการปรบั ปรงุ คณุ ภาพงานตรวจสอบภายใน ตามหลกั เกณฑก์ ระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยมาตรฐานและหลกั เกณฑป์ ฏบิ ตั กิ ารตรวจสอบภายในส�ำ หรบั หนว่ ยงาน ของรฐั พ.ศ. 2561 6. การรกั ษาคณุ ภาพของคณะกรรมการตรวจสอบ ไดท้ บทวนกฎบตั รคณะกรรมการตรวจสอบและรายงาน ผลการปฏบิ ตั งิ านตอ่ คณะกรรมการนโยบายทกุ ไตรมาส โดยใหข้ อ้ เสนอแนะหรอื ขอ้ สงั เกตทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ ส.ส.ท. ซง่ึ น�ำ ไปสกู่ ารพฒั นาปรบั ปรงุ กระบวนการปฏบิ ตั งิ าน เพอ่ื เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลของการด�ำ เนนิ งาน รวมทง้ั ไดป้ ระเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยตนเอง โดยผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดเี ยย่ี ม (รองศาสตราจารย์ ดร. ธีรภัทร สงวนกชกร) ประธานกรรมการตรวจสอบ วันท่ี 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 151 ไทยพีบเี อส 2563

ส่วนที่ 6 : รายงานผลการดำ�เนินงานของส่ือสาธารณะ รายงานการประเมนิ ผลการด�ำ เนนิ งาน องค์การกระจายเสยี งและแพร่ภาพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย (ส.ส.ท.) ประจ�ำ ปี 2563 โดย ศูนยบ์ ริการวชิ าการแห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย พระราชบัญญัตอิ งคก์ ารกระจายเสยี งและแพร่ภาพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. 2551 มาตรา 50 ไดก้ �ำ หนด ให้คณะกรรมการนโยบายจัดให้มีการประเมินผลการดำ�เนินงานประจำ�ปีขององค์การ โดยคณะกรรมการประเมินผล ซง่ึ เปน็ บคุ คลภายนอกองคก์ าร เพอ่ื ประโยชนใ์ นการสง่ เสรมิ การด�ำ เนนิ การขององคก์ ารใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ เกดิ ผลสมั ฤทธ์ิ สร้างความรับผิดชอบและความเชื่อถือแก่สาธารณชนในกิจการขององค์การ ตลอดจนมีการติดตามความก้าวหน้าและ การตรวจสอบการด�ำ เนินงานขององค์การ ในปี พ.ศ. 2563 ศูนย์บรกิ ารวชิ าการแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัยในฐานะ คณะกรรมการประเมินผล (ผู้ประเมินภายนอก) ได้ดำ�เนินการโดยอาศัยข้อมูลทั้งจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิและข้อมูล ปฐมภูมิท่ีได้จากการสัมภาษณ์ การสอบถาม และการจัดประชุมกลุ่มย่อยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ครอบคลมุ ทกุ กลุ่มเปา้ หมายของ ส.ส.ท. ทง้ั คณะกรรมการนโยบาย ผู้บริหาร บคุ ลากร ผชู้ ม/ผู้ฟังรายการ สภาผู้ชมและ ผู้ฟังรายการ และหน่วยงานภายนอกท่ีเกี่ยวข้อง และนำ�ข้อมูลท่ีได้เข้าสู่กระบวนการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล ซง่ึ สามารถสรปุ และรายงานผลการด�ำ เนนิ งานของ ส.ส.ท. ในปี พ.ศ. 2563 ได้ดังนี้ ภาพรวมผลการดำ�เนินงานของ ส.ส.ท. ในปี พ.ศ. 2563 ตามแผนงานและยุทธศาสตร์ของ ส.ส.ท. ในปี พ.ศ. 2563 มีการดำ�เนินงานภายใต้เป้าประสงค์ขององค์การ “สอ่ื ร่วมสรา้ งสงั คมแหง่ Informed Citizen (พลเมอื งตนื่ รู้ พลเมอื งประเทืองปญั ญา)” เปา้ หมายยทุ ธศาสตร์ “แตกต่าง อยา่ งยง่ั ยนื ” ซงึ่ ด�ำ เนนิ การดว้ ย 3 แผนหลกั ครอบคลมุ 4 ยทุ ธศาสตร์ โดยมผี ลงานทสี่ �ำ คญั ประกอบดว้ ย แผนดา้ นเนอ้ื หา ช่องทาง และบรกิ าร (Content, Platforms and Services) ในยุทธศาสตร์ท่ี 1 เขา้ ถึงผู้รับสาร/ผู้ส่ือสารหลากหลาย ท่ัวถึง ด้วยสารประโยชน์ท่ีแตกต่าง มีการจัดต้ังศูนย์เน้ือหาพิเศษ 4 ศูนย์ (ศูนย์สื่อสารวาระทางสังคมและนโยบาย สาธารณะ ศูนย์สอ่ื สาธารณะเพ่อื เด็กและครอบครวั ศนู ยพ์ ฒั นาการสอ่ื สารดา้ นภยั พบิ ตั ิ และศูนย์ Thai PBS World) การกำ�หนดวาระในการขับเคลื่อนเนื้อหาท่ีกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม 3 วาระ (การลดและจัดการขยะ ประชาธิปไตยและการกระจายอำ�นาจ และการแก้ปัญหาปากท้องความเป็นอยู่ของประชาชน) การให้ความสำ�คัญ ต่อสถานการณ์และประเด็นทางสังคมอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำ�เสนอข่าวและรายการต่าง ๆ เช่น กรณีการเกิดวิกฤติ โรคระบาดโควดิ 19 การพฒั นาแพลตฟอรม์ ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ALTV#4, The Active, Decode, Citizen plus, C-Site Nexus และยทุ ธศาสตรท์ ่ี 2 สรา้ งสรรคส์ งั คมแหง่ การเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ เกดิ ผลงานดา้ นเนอื้ หาเพอ่ื รบั มอื กบั สถานการณโ์ ควดิ 19 เนื้อหากลมุ่ สนกุ เรยี น/การเรยี นรูใ้ นชีวติ วถิ ใี หม่ และการสร้างเป็น Brand ALTV ช่อง 4 ทวี เี รยี นสนุก ในขณะทแี่ ผนดา้ นภาคหี นุ้ สว่ น (Partnership Strategic Plan) ในยทุ ธศาสตรท์ ี่ 3 การสรา้ งคณุ คา่ และความยงั่ ยนื ดว้ ยหุน้ ส่วนทางสงั คม ก่อใหเ้ กดิ ผลงานความร่วมมอื กับภาคหี ้นุ สว่ นวาระพเิ ศษ “สู้ภยั COVID-19” จำ�นวน 8 องคก์ ร การขับเคลอ่ื นประเดน็ ท่ีสง่ ผลกระทบต่อวิถชี วี ิตของคน จ�ำ นวน 15 เครือขา่ ยทอ้ งถ่ิน และพันธมิตร ALTV 11 องคก์ ร 152 ไทยพบี ีเอส 2563

ส่วนแผนดา้ นทนุ มนษุ ย์และทนุ องค์กร (Human & Organization Capital Strategic Plan) ในยุทธศาสตรท์ ่ี 4 การสรา้ ง ส.ส.ท. ให้เป็นทวี่ างใจ หรือ Trusted Brand ในใจประชาชน มกี ารด�ำ เนินการปรบั โครงสร้างสำ�นักขา่ ว ส�ำ นกั สรา้ งสรรคเ์ นอ้ื หา และการบรหิ ารอตั ราก�ำ ลงั พรอ้ มทง้ั การจดั ท�ำ แผนพฒั นารายบคุ คล (IDP) ของทง้ั องคก์ าร การพฒั นา Digital Competency การจัดเวที Tomorrow’s Thai PBS เพ่ือออกแบบองค์กรในอนาคต การพัฒนาฐานข้อมูล เพื่อองค์การและประชาชน เชน่ Feedback & Monitoring, Big Data และ Open Data และปรับรปู แบบการทำ�งาน ขององค์การตามมาตรการป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 ให้กระทบกบั การด�ำ เนินงานน้อยทีส่ ดุ การประเมินด้านประสิทธิผลของการด�ำ เนนิ งานตามแผนงาน ประจำ�ปี 2563 การวดั ประสทิ ธผิ ลของการด�ำ เนนิ งานซงึ่ พจิ ารณาจากองคป์ ระกอบการประเมนิ วตั ถปุ ระสงค์ ทวี่ ดั ผลการประเมนิ จากกลุ่มตัวอย่างผู้ให้บริการ (ผู้บริหารและบุคลากรของ ส.ส.ท.) และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เก่ียวข้องจำ�แนกตาม แผนงานและยุทธศาสตร์ และการประเมินผลผลิต โดยประเมินผลจากข้อมูล 2 มิติ คือข้อมูลทุติยภูมิท่ีได้จาก KPI ของ ส.ส.ท. ในปี พ.ศ. 2563 และการประเมินความพึงพอใจต่อผลผลิตของผู้บริหารและบุคลากรของ ส.ส.ท. เพ่ือเปรียบเทียบผลผลิตท่ีเกิดข้ึนจากการดำ�เนินงานกับเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ท่ีกำ�หนดไว้ ซึ่งผลการประเมิน ประสิทธิผลของการดำ�เนินงาน ส.ส.ท. ปี พ.ศ. 2563 มีประสิทธิผลการดำ�เนินงานอยู่ในระดับมาก (3.79 คะแนน) ในขณะท่ีการประเมินผลสัมฤทธ์ิการดำ�เนินงานท่ีนำ�เสนอในทุกช่องทาง ท้ัง On Air, Online และ On Ground ผลท่ีได้จากการสำ�รวจข้อมูลปฐมภูมิท้ังจากกลุ่มบุคลากรและผู้ชม/ผู้ฟังรายการ พบว่า ช่องทางทั้งหมดของ ส.ส.ท. มีระดับประสิทธิผลเท่ากับความคาดหวัง โดยช่องทางที่ได้รับคะแนนความคาดหวังมากท่ีสุด 4 ลำ�ดับแรก ได้แก่ โทรทัศนด์ จิ ทิ ัลช่องหมายเลข 3, YouTube, Facebook และ Twitter ในขณะท่ีผลสำ�เร็จของการดำ�เนินงานตามเป้าประสงค์ Expected Outcome หรือจุดเน้นประจำ�ปี 2563 ของ ส.ส.ท. ในฐานะสื่อสาธารณะ โดยสำ�รวจข้อมูลปฐมภูมิจาก 2 กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้ชม/ผู้ฟัง และผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย ซ่ึงครอบคลุมทั้งผู้รับบริการโครงข่าย ผู้ผลิตอิสระภายนอก หน่วยงานภายนอก และหน่วยงานกำ�กับการ ด�ำ เนินงานดา้ นกจิ การกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ (กสทช.) ผลการประเมินในภาพรวมพบวา่ ในทุกเปา้ ประสงค์ ท่ีพิจารณามีระดับความสำ�เร็จในระดับมากท้ังสิ้น โดยเฉพาะเป้าประสงค์ด้านพัฒนาเทคโนโลยีและช่องทางที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ผู้รับสารเข้าถึงเน้ือหาได้ทุกที่ทุกเวลา ตอบสนองต่อประสบการณ์ของพลเมืองทุกกลุ่ม รวมท้ังมีบริการสำ�หรับ ผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินและการมองเห็นให้มีความหลากหลายและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขณะท่ีข่าวเจาะลึกหรือ ข่าวสืบสวนสอบสวนมีความถูกต้อง รอบด้าน เป็นธรรม เข้าใจง่าย ให้ทางออกกับสังคม และสร้างประสบการณ์ ที่แตกต่าง เป็นมิติที่ได้รับคะแนนในระดับมากท่ีระดับใกล้เคียงกัน แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้รับชม/รับฟังรายการสามารถ เข้าถึง ส.ส.ท. หรือไทยพีบีเอสได้ด้วยช่องทางที่หลากหลาย และตระหนักว่าข่าวสารท่ีได้รับน้ันมีจุดแข็งท่ีแตกต่าง จากส่อื อ่ืน ๆ การประเมนิ ด้านประสทิ ธิภาพของการด�ำ เนนิ งานตามแผนงาน ประจ�ำ ปี 2563 การประเมินภาพรวมประสิทธิภาพการดำ�เนินงาน กระบวนการ และการบริหารจัดการเพื่อให้องค์การบรรลุ เป้าหมายและวัตถุประสงค์ท่ีตั้งไว้ ซ่ึงพิจารณาจากองค์ประกอบการประเมินปัจจัยนำ�เข้าและความพึงพอใจของ ผู้ท่ีเกี่ยวข้องที่มีต่อทั้งผลผลิตและกระบวนการดำ�เนินงานของ ส.ส.ท. จำ�แนกรายแผนงานและยุทธศาสตร์ ซ่ึงผล การประเมินภาพรวมประสทิ ธภิ าพของการดำ�เนนิ งานของ ส.ส.ท. ในปี พ.ศ. 2563 มีประสิทธิภาพสงู (3.53 คะแนน) และเมื่อพิจารณาองค์ประกอบการประเมินผลพบว่า ในมิติปัจจัยนำ�เข้าด้านวัสดุอุปกรณ์มีความเหมาะสมมากที่สุด 153 ไทยพีบเี อส 2563

154 ไทยพีบเี อส 2563

รองลงมาคอื ดา้ นงบประมาณเพอ่ื การด�ำ เนนิ งาน ในขณะทด่ี า้ นกฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งอ�ำ นวยตอ่ การด�ำ เนนิ งาน มีความเหมาะสมในระดับปานกลางและควรต้องได้รับการปรับปรุงเพื่อเอ้ือต่อการแข่งขันในสภาวะภูมิทัศน์ส่ือที่มี การเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ในปจั จบุ นั สว่ นมติ ดิ า้ นความพงึ พอใจตอ่ กระบวนการด�ำ เนนิ งาน ผลการประเมนิ ปรากฏวา่ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 1 เขา้ ถงึ ผรู้ บั และผใู้ ชส้ อื่ ทห่ี ลากหลาย ทว่ั ถงึ ดว้ ยสารประโยชนท์ แี่ ตกตา่ ง ไดร้ บั ความพงึ พอใจตอ่ กระบวนการ ดำ�เนินงานมากที่สุด โดยเฉพาะด้านการรายงานข่าวที่ปฏิบัติอย่างเคารพต่อเหย่ือผู้เคราะห์ร้ายและผู้ท่ีอยู่ในภาวะ โศกเศร้า และความพึงพอใจต่อผลผลิต ผลการประเมินอยู่ในระดับมากทุกยุทธศาสตร์ โดยยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้าง คุณค่าและความย่ังยืนด้วยหุ้นส่วนทางสังคมได้รับความพึงพอใจต่อผลผลิตมากท่ีสุด โดยเฉพาะในผลผลิตด้านการ ขยายฐานผู้ชมผู้ฟัง และเผยแพร่ผลงานของ ส.ส.ท. ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ช่วยสร้างการยอมรับในฐานะสื่อสาธารณะ ทนี่ ่าเช่อื ถอื และพึง่ พาได้ ไดร้ บั ความพงึ พอใจในระดบั มากที่สุด การวิเคราะห์ความคุ้มค่าหรือคุณค่าที่เกิดขึ้นในกระบวนการหรือการดำ�เนินงานในปี พ.ศ. 2563 ดำ�เนินการ ประเมินผลโดยการคัดเลือกโครงการที่มีลักษณะเด่นท้ังในด้านการใช้งบประมาณ ความต่อเนื่องของการดำ�เนิน โครงการ และมีมิติผลกระทบในวงกว้างเพ่ือเป็นกรณีศึกษาตัวอย่างของการประเมินความคุ้มค่าหรือคุณค่าที่เกิดข้ึน ในกระบวนการดำ�เนินงาน โดยผลการคัดเลือกพบว่า แผนและยุทธศาสตร์ท่ีสามารถสร้างคุณค่าแก่สังคมในวงกว้าง และเห็นผลสัมฤทธ์ิเชิงประจักษ์มากที่สุดคือ แผนด้านภาคีหุ้นส่วนในยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างคุณค่าและความยั่งยืน ด้วยหุ้นส่วนทางสังคม โดยโครงการท่ีสามารถแสดงศักยภาพของแผนงานและเป็นโครงการที่มีผลต่อเศรษฐกิจและ สงั คมในเชิงประจกั ษ์ คือ โครงการอบรมครู “ชวนครูวิทย์ - คณิต มาคดิ ใหว้ ้าว ปี 4” ซงึ่ ผลจากการประเมนิ ความคุ้มค่า พบวา่ การด�ำ เนนิ โครงการกอ่ ใหเ้ กดิ คณุ คา่ ตอ่ สงั คมและการเปลย่ี นแปลงทง้ั ในระดบั ผลผลติ และผลลพั ธ์ กลา่ วคอื ในระดบั ผลผลติ กอ่ ใหเ้ กดิ การสรา้ งครทู ผี่ า่ นการอบรมมากถงึ 1,000 คน เกดิ สอื่ การสอนในรปู แบบคลปิ ตอ่ ยอดความรสู้ หู่ อ้ งเรยี น และการเพ่ิมพูนความรู้และประสบการณ์ของครูในต่างประเทศ ในด้านผลลัพธ์ก่อให้เกิดองค์ความรู้ที่ได้รับการพัฒนา และถ่ายทอดสูน่ กั เรยี นประมาณ 180,000 คน การส่งตอ่ ความรใู้ นรูปแบบคลิปในช่องทางของสำ�นักงานคณะกรรมการ 155 ไทยพีบีเอส 2563

156 ไทยพีบเี อส 2563

การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (สพฐ.) ไปยังโรงเรียนในเครือ สพฐ. 29,000 โรงเรียนทั่วประเทศ และการต่อยอดในโครงการ “ไทยพบี เี อสรวมพลังครู ตอน Code ได้ Code ด”ี เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เรอ่ื ง Coding ดังนัน้ ในภาพรวมจากการ ประเมนิ กอ่ ใหเ้ กดิ ความคมุ้ คา่ จากการค�ำ นวณคา่ Economic Benefit-Cost Ratio เทา่ กบั 3.60 หมายความวา่ ตน้ ทนุ ทกุ ๆ 1 บาทของการด�ำ เนนิ โครงการ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลตอบแทนทคี่ ดิ เปน็ ตวั เลขได้ 3.60 บาท ซง่ึ แสดงถงึ ความคมุ้ คา่ ของการลงทนุ นอกจากนั้น เมื่อพิจารณาผลผลิตเดน่ ทเี่ กิดจากการดำ�เนนิ งานในปี พ.ศ. 2563 ท่มี หี น่วยงานภายในของ ส.ส.ท. รว่ มด�ำ เนนิ การมากทีส่ ุด คอื การรายงานสถานการณ์โควดิ 19 ผา่ นช่องทางทค่ี รอบคลมุ และกอ่ ใหเ้ กิดคุณค่าตอ่ สงั คม ในวงกว้างทั้งทางตรงและทางอ้อม ท้ังในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ กล่าวคือ ในระดับผลผลิตการดำ�เนินงานก่อให้เกิด การปรับผังรายการเพื่อเปิดพื้นท่ีให้การรายงานสถานการณ์โควิด 19 อย่างต่อเน่ือง มีการข้ึนรายการใหม่ท่ีเก่ียวข้อง 8 รายการ และละคร 1 เรอ่ื ง มีการสรา้ งช่อง ALTV (Active Learning TV) ช่องหมายเลข 4 และเวบ็ ไซตเ์ ฉพาะกจิ Covid-19 ในขณะท่ีมิติผลลัพธ์ตามแนวคิดห่วงโซ่ผลกระทบ (Impact Value Chain) ก่อให้เกิดการกระจายข้อมูลและ ความรู้ที่เกี่ยวกับโควิด 19 ไปครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มได้ในวงกว้าง ท้ังการส่ือสารภาษามือ (Big Sign) และการ จัดทำ�คำ�บรรยายแทนเสียงแบบปิด หรือ Closed Caption (CC) สำ�หรับผู้พิการ และส่ือสารทุกช่องทาง การสร้าง ความตระหนกั จากขอ้ มลู ทถี่ กู ตอ้ ง เพอื่ น�ำ ไปสกู่ ารเตรยี มความพรอ้ มของระบบสาธารณสขุ พรอ้ มทงั้ การขยายเครอื ขา่ ย ท่ีครอบคลุมทุกมิติของผลกระทบท่ีเกิดข้ึนจากการระบาดของโควิด 19 โดยมี ส.ส.ท. เป็นตัวกลางในการผสาน ความร่วมมือ รวมถึงในมติ ิมหภาคทีส่ ่งผลตอ่ การก�ำ หนดนโยบายภาครฐั เช่น เรื่องระบบการกกั ตวั และการขยายโอกาส ทางการศกึ ษา ซึ่งผลผลติ และผลลัพธ์ทเ่ี กดิ ข้นึ สามารถแสดงใหเ้ ห็นในเชงิ ประจกั ษไ์ ด้ แต่ยงั มีขอ้ จ�ำ กดั ด้านการประเมนิ ผลผลิตและผลลพั ธ์ต่อกรณีการน�ำ เสนอเนอ้ื หาโควดิ 19 ในเชิงมูลคา่ เป็นตัวเลข การประเมินด้านการพัฒนาองค์การ ประเมนิ ภายใตบ้ รบิ ทภมู ทิ ศั นส์ อ่ื ทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลง มกี ระบวนการพฒั นาองคก์ ารในฐานะสอ่ื สาธารณะตามกรอบ การประเมนิ 5 มติ ิ ประกอบดว้ ย ดา้ นเปา้ หมาย นโยบาย และผบู้ รหิ ารองคก์ ร ดา้ นระบบสารสนเทศและสภาพแวดลอ้ ม ในการทำ�งาน ด้านกระบวนการท�ำ งานและวฒั นธรรมองค์กร ด้านทรพั ยากรมนษุ ย์ และดา้ นการสอ่ื สารภายในองค์กร พบว่าภาพรวมของการพัฒนาองค์การอยู่ในระดับปานกลาง ซ่ึงเป็นผลมาจากมิติท่ีพิจารณาส่วนใหญ่ได้คะแนน การประเมินผลในระดับปานกลางท้ังส้ิน ยกเว้นมิติด้านเป้าหมาย นโยบาย และผู้บริหารองค์กรเท่านั้นที่ได้รับคะแนน ในระดับมาก โดยเฉพาะด้านเป้าหมายและยุทธศาสตร์ของกรรมการบริหารมีความสอดคล้องกับบริบทการเป็น ส่ือสาธารณะและบริบทภูมทิ ัศน์สอ่ื ที่มกี ารเปลยี่ นแปลงอยา่ งชัดเจน ในขณะท่ีด้านทรัพยากรมนุษย์เป็นมิติท่ีได้รับคะแนนการประเมินในระดับปานกลางท่ีมีค่าคะแนนได้น้อยท่ีสุด โดยเฉพาะประเด็นที่ได้คะแนนน้อย ได้แก่ ด้านโครงสร้างบุคลากรมีความยืดหยุ่นเพ่ือรองรับการบริหารจัดการท่ีต้อง ปรบั เพ่อื ความคล่องตัว ดา้ นการวางแผนความก้าวหน้าทางวิชาชพี ให้กับบคุ ลากรอย่างเป็นระบบ และ ส.ส.ท. มีการให้ รางวัล/ยกย่องชมเชยบุคลากรที่ทุ่มเทให้แก่องค์กรอย่างเหมาะสม ซึ่งแต่ละประเด็นท่ีผลการประเมินอยู่ในระดับน้อย เป็นประเด็นที่ ส.ส.ท. ต้องพิจารณาปรับปรุงเป็นลำ�ดับแรก เพ่ือสร้างความชัดเจนในแผนการบริหารจัดการทรัพยากร บุคคลท่ีสามารถเข้าใจได้ และนำ�ไปสู่การปฏิบัติได้จริง พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่บุคลากรว่าการดำ�เนินงาน จะน�ำ ไปสคู่ วามส�ำ เร็จในวิชาชีพได้ และสามารถเตบิ โตในสายงานไดอ้ ย่างเปน็ ธรรมและม่ันคง นอกจากนั้น ด้านการส่ือสารภายในองค์กรยังคงปรากฏประเด็นย่อยท่ีมีผลการประเมินในระดับน้อยเช่นกัน คือ ด้านการจัดกิจกรรมให้ผู้บริหารระดับสูงพบบุคลากรอย่างเพียงพอ ซ่ึงสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่าบุคลากรในระดับ ปฏบิ ตั งิ านมคี วามตอ้ งการไดร้ บั การสอื่ สารโดยตรงจากผบู้ รหิ ารระดบั สงู เพอ่ื สรา้ งความเขา้ ใจในวาระและประเดน็ ตา่ งๆ มากกวา่ การสอ่ื สารเปน็ ล�ำ ดบั ขนั้ ทเ่ี ปน็ อยใู่ นปจั จบุ นั และในประเดน็ ดา้ นกระบวนการท�ำ งานและวฒั นธรรม พบประเดน็ 157 ไทยพบี ีเอส 2563

ผลการประเมนิ ทน่ี ่าสนใจในมติ ิดา้ นวฒั นธรรมองคก์ รยงั ขาดความเหมาะสมกับเปา้ หมายของ ส.ส.ท. ทงั้ ในปัจจบุ นั และ อนาคต ซ่ึงผลการประเมินดังกล่าวสอดคล้องกับผลการสัมภาษณ์เชิงลึกจากบุคลากรที่สะท้อนไปในทิศทางเดียวกันว่า ส.ส.ท. ยังขาดวฒั นธรรมองค์กรทช่ี ัดเจน กลา่ วคอื บคุ ลากรภายในหนว่ ยงานมลี ักษณะของความเปน็ ปัจเจกค่อนขา้ งสูง เนอ่ื งจากมที ม่ี าทห่ี ลากหลาย ประกอบกบั การเปน็ องคก์ รสอ่ื แม้ส.ส.ท.จะมกี ารจดั กจิ กรรมเพอื่ เสรมิ สรา้ งการอยรู่ ว่ มกนั และการสร้างวัฒนธรรมองค์กร หากแต่ยังไม่สามารถผลักดันผลท่ีเกิดจากกิจกรรมไปสู่เป้าหมายการสร้างวัฒนธรรม องค์กรท่ีชัดเจนได้ ดังน้ัน ส.ส.ท. ควรพิจารณาการสร้างวัฒนธรรมองค์กรในรูปแบบการประสานความหลากหลาย ใหส้ ามารถอยรู่ ่วมกนั ได้ผ่านรูปแบบการจดั กิจกรรมที่มุ่งเนน้ การมีสว่ นรว่ มอยา่ งทั่วถึง การประเมนิ ด้านความพึงพอใจของผู้ชมและการสนบั สนุนจากประชาชน จากการส�ำ รวจประชาชนกลุ่มเป้าหมายผ้รู บั ชม/รบั ฟังรายการของ ส.ส.ท. หรอื ไทยพบี ีเอสทง้ั สน้ิ 2,360 ตวั อยา่ ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ ในภาพรวมการประเมินผลพบว่าช่องทางที่มีผู้รับชมมากท่ีสุด 4 ลำ�ดับแรก คือ โทรทัศน์ดิจิทลั ชอ่ งหมายเลข 3 Thai PBS (ร้อยละ 29.93) YouTube (รอ้ ยละ 10.42) โทรทศั นด์ ิจทิ ลั ช่องหมายเลข 4 ALTV (ร้อยละ 9.66) และ Facebook (ร้อยละ 9.23) โดยกลุ่มรายการท่ีผู้ชม/ผู้ฟังรู้จักมากท่ีสุด 3 ลำ�ดับแรก คือ กลมุ่ รายการข่าว (ร้อยละ 90.98) กลุ่มรายการสารคดี (รอ้ ยละ 65.65) และกลุ่มรายการวาไรตี้ (ร้อยละ 50.93) หากพิจารณาในมิติด้านความพึงพอใจพบว่า ในภาพรวมของทุกกลุ่มรายการได้คะแนนความพึงพอใจอยู่ใน ระดับมาก โดย 3 ลำ�ดับแรก คือ กลุ่มรายการข่าว กลุ่มรายการสารคดี และกลุ่มรายการเด็กและเยาวชน และเม่ือ พจิ ารณาถงึ ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากการรบั ชม/รบั ฟงั รายการตอ่ ผลผลติ ในแตล่ ะกลมุ่ รายการทน่ี �ำ เสนอ ปรากฏวา่ ทกุ ผลผลติ ได้รับความพึงพอใจในระดับมากท้ังสิ้น กล่าวคือ ผลผลิตด้านข่าวได้รับความพึงพอใจในระดับมากท่ีระดับคะแนน มากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับผลผลิตด้านอ่ืน (3.63 คะแนน) โดยเฉพาะประโยชน์ด้านการเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารท่ีมี ความถูกต้องและเชื่อถือได้ เป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารท่ีฉับไว ทันต่อสถานการณ์ และการสร้างความตระหนัก ตื่นตัว และให้ความสำ�คัญกับปัญหา/สถานการณ์/เร่ืองราวในการดำ�เนินชีวิต/สังคม/โลก ในขณะท่ีผลผลิตด้านสารคดีได้รับ ความพึงพอใจในระดับมากเช่นกัน (3.61 คะแนน) โดยเฉพาะประโยชน์ด้านสามารถนำ�ความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิต หรือ การทำ�งาน ครอบครวั และสังคม และการเกดิ ความรู้ใหม่ แนวคดิ ใหม่ และการสรา้ งมุมมองทีส่ ร้างสรรค์ ส่วนผลผลติ ด้านเด็กและเยาวชน ได้รับความพึงพอใจในระดับมาก (3.61 คะแนน) โดยด้านเสริมสร้างจินตนาการ การแสดงออก ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ ด้านส่งเสริมการเรียนรู้และกระตุ้นพัฒนาการด้านสติปัญญาได้รับคะแนนสูง ที่สุด ผลผลิตด้านกีฬา/นันทนาการได้รับความพึงพอใจในระดับมาก (3.53 คะแนน) โดยด้านสร้างความสนใจและ อยากมีส่วนร่วม/ติดตามการแข่งขันกีฬาได้คะแนนมากที่สุด ผลผลิตด้านละครซีรีส์ได้รับความพึงพอใจในระดับมาก (3.50 คะแนน) โดยด้านเกิดความรู้สึกเพลิดเพลิน/ผ่อนคลาย และให้แง่คิด การสร้างความเข้าใจในสังคม วัฒนธรรม ที่หลากหลายได้คะแนนมากท่ีสุด ผลผลิตด้านรายการวาไรต้ีได้รับความพึงพอใจในระดับมาก (3.47 คะแนน) โดย ด้านเกิดความรู้ใหม่ แนวคิดใหม่ และการสร้างมุมมองที่สร้างสรรค์ได้คะแนนมากท่ีสุด และผลผลิตด้านรายการ ภาคพลเมืองได้รับความพึงพอใจในระดับมาก (3.48 คะแนน) โดยด้านการสร้างให้เกิดความม่ันใจในการแสดงออก ซ่งึ คุณค่าของวิถีท้องถน่ิ ได้คะแนนมากทส่ี ดุ นอกจากนน้ั เมอ่ื พจิ ารณาถงึ การด�ำ เนนิ งานในปี พ.ศ. 2563 ของ ส.ส.ท. มภี ารกจิ ทม่ี งุ่ เนน้ การน�ำ เสนอสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในทุกช่องทางอย่างต่อเน่ือง เพ่ือเป้าหมายในการสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน ในวงกว้าง ซ่ึงผลการดำ�เนินงานมีการประเมินผลความพึงพอใจต่อการดำ�เนินงานในสถานการณ์พิเศษดังกล่าว ผลการประเมินสะท้อนประสิทธิภาพอย่างชัดเจนของการดำ�เนินงาน กล่าวคือ หากพิจารณาการเลือกรับชมและ เช่อื ถอื การรายงานสถานการณโ์ ควดิ 19 พบวา่ ประชาชนกลุ่มตวั อย่างเลอื กรบั ชมและเช่อื ถอื การรายงานสถานการณ์ จากช่อง 3 (ไทยพีบีเอส) เป็นลำ�ดับท่ี 1 ลำ�ดับที่ 2 ช่อง 33 (3 HD) ลำ�ดับที่ 3 ช่อง 32 (ไทยรัฐทีวี) ลำ�ดับที่ 4 158 ไทยพีบเี อส 2563

ชอ่ ง 34 (อมรินทร์ทีว)ี และลำ�ดับท่ี 5 ช่อง 35 (7 HD) สว่ นในดา้ นความพงึ พอใจตอ่ การรายงานสถานการณ์ในภาพรวม ผู้ชมมีความพึงพอใจในระดับมาก โดยเฉพาะประเด็นด้านความรวดเร็ว ฉับไว ทันต่อเหตุการณ์ และต่อเนื่อง และ เนื้อหา/ข้อมูลเป็นข้อเท็จจริงมีความถูกต้องและเช่ือถือได้จากแหล่งข้อมูลภาครัฐ และสร้างความเข้าใจท่ีถูกต้อง ต่อสถานการณ์ ดา้ นการสนบั สนนุ จากประชาชน เนอื่ งจากการด�ำ เนนิ งานของส.ส.ท.ในปจั จบุ นั พง่ึ พารายไดจ้ ากภาษบี หุ รแ่ี ละสรุ า และหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาษีดังกล่าว ส.ส.ท. จะไม่สามารถดำ�เนินการได้ ดังน้ัน จากการสำ�รวจความยินดี ท่ีจะจ่ายเพ่ือรักษาให้ ส.ส.ท. สามารถดำ�เนินการได้ต่อไปในฐานะผู้รับชมรายการ ผลการสำ�รวจพบว่าประชาชน รอ้ ยละ 11.65 มคี วามยนิ ดที ีจ่ ะจ่ายเพอื่ สนบั สนุน ส.ส.ท. เฉลยี่ เดือนละประมาณ 150 บาท ข้อเสนอแนะต่อการด�ำ เนนิ งานของ ส.ส.ท. 1. ส.ส.ท. มีจุดแข็งในด้านการได้รับการยอมรับว่าการนำ�เสนอเนื้อหามีความน่าเชื่อถือ ถูกต้อง เป็นธรรม และ ในด้านการนำ�เสนอคุณค่าที่ดีต่อสังคม ซ่ึงเอ้ือให้สามารถแสดงบทบาทผู้นำ�และการเป็นแหล่งตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร ในสังคมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะวิกฤติ และสามารถมีบทบาทในการผลักดันให้เกิดความตระหนักและเกิดการ ขับเคล่อื นประเดน็ ทางสงั คมที่ส�ำ คัญ ดังน้ัน ส.ส.ท. จงึ ควรม่งุ เนน้ การพฒั นาเน้ือหาด้านข่าวและสารคดที ่ีมคี วามลกึ ซ้ึง ทง้ั ดา้ นเนือ้ หา และมนี วัตกรรมการนำ�เสนอเน้อื หาท่ที ันสมัย ชวนให้ตดิ ตาม เหมาะสมกบั พฤติกรรมการเปดิ รบั เนอื้ หา แต่ละแพลตฟอร์ม และใช้เนื้อหาด้านข่าวและสารคดีที่มีคุณภาพสูงเป็นผลผลิตนำ�ในการสร้างการรับรู้อัตลักษณ์ของ องค์กร ซ่ึงเป็นการตอบสนองยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นการสร้างเน้ือหาที่โดดเด่นและสร้างสรรค์การเรียนรู้ตลอดชีวิต และ เพือ่ เปน็ การขยายฐานผ้ชู ม 2. ส.ส.ท. ควรพิจารณาหาจุดสมดุลระหว่างการนำ�เสนอเนื้อหาท่ีสะท้อนบุคลิกองค์การในการเป็นสื่อสาธารณะ ท่ีเน้นการให้ข้อมูล ความรู้ที่ค่อนข้างจริงจังแก่สังคม กับการนำ�เสนอเน้ือหาท่ีให้ความบันเทิง มีประเด็นท่ีคนในสังคม ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างย่ิงคนรุ่นใหม่เห็นว่ามีความเก่ียวข้องกับตน มีข้อมูลที่ทันสมัย เป็นประโยชน์ และมีวิธีการ นำ�เสนอในรูปแบบท่ีดึงดูดใจ สอดคล้องกับรสนิยมของผู้ชมในปัจจุบัน พร้อมทั้งควรผลักดันและขยายการสร้างสรรค์ เน้ือหาแบบบูรณาการและข้ามสื่อไปสู่เน้ือหาให้ครอบคลุมมากย่ิงขึ้น จนเป็นแนวทางการดำ�เนินการสร้างสรรค์เนื้อหา หลักของ ส.ส.ท. ในท่ีสดุ 3. ส.ส.ท. ควรตอ้ งพจิ ารณาการปรบั โครงสรา้ งองคก์ ร หรอื การพฒั นาทกั ษะของบคุ ลากรใหเ้ ออ้ื ตอ่ การสรา้ งสรรค์ เน้ือหาแบบบูรณาการ รวมถึงการใช้ Media Lab พัฒนาเนื้อหาในรูปแบบที่เหมาะสมสำ�หรับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน การปรับโครงสร้างองค์กรแบบ Content-Based Structure โดยการสร้างศูนย์เน้ือหาพิเศษ หรือ ที่เรียกภายในองค์การว่า BU (Business Unit) เป็นทิศทางที่เหมาะสมในการผลิตผลงานที่มีคุณภาพสูง ซ่ึงสามารถ นำ�ไปสู่การพ่ึงพาตนเองทางด้านรายได้ พร้อมท้ังควรสร้างกลไกการแบ่งปันผลประโยชน์ท่ีเอื้อให้หน่วยงานด้านเนื้อหา ภายในองค์การสามารถเป็นภาคีกันในการแบ่งปันเนื้อหา หรือสร้างโครงการแบบบูรณาการในอนาคต และเพ่ือพัฒนา ความแขง็ แกรง่ ของการด�ำ เนนิ งานของ ส.ส.ท. ให้มีประสิทธิภาพมากยงิ่ ข้นึ 4. การพฒั นาการบรหิ ารงานดา้ นทรพั ยากรบคุ คลมคี วามจ�ำ เปน็ ทต่ี อ้ งเรง่ ด�ำ เนนิ การอยา่ งเปน็ รปู ธรรมเพอ่ื ผลกั ดนั การดำ�เนินงานตามแผนงาน รวมถึงด้านการติดตามการประเมินผลการดำ�เนินงานในระยะต่าง ๆ ซึ่งการดำ�เนินการ ดังกล่าวจะส่งผลโดยตรงกับบุคลากรในทุกส่วนงาน ทั้งในมิติด้านความเข้าใจในระบบการประเมินผลรายบุคคล มติ ิด้านการดำ�เนินงานเพ่ือใหส้ ามารถบรรลุเป้าหมายการประเมินผลได้ พรอ้ มทัง้ การพฒั นาการวางแผนความกา้ วหน้า ทางวชิ าชีพทีส่ ามารถเห็นเป้าหมายที่ชัดเจนได้ 159 ไทยพบี ีเอส 2563

160 ไทยพีบเี อส 2563

161 ไทยพบี เี อส 2563

162 ไทยพีบเี อส 2563

163 ไทยพบี เี อส 2563

164 ไทยพีบเี อส 2563

165 ไทยพบี เี อส 2563

166 ไทยพีบเี อส 2563

167 ไทยพบี เี อส 2563

168 ไทยพีบเี อส 2563

169 ไทยพบี เี อส 2563

170 ไทยพีบเี อส 2563

171 ไทยพบี เี อส 2563

172 ไทยพีบเี อส 2563

173 ไทยพบี เี อส 2563

174 ไทยพีบเี อส 2563

175 ไทยพบี เี อส 2563

176 ไทยพีบเี อส 2563

177 ไทยพบี เี อส 2563

178 ไทยพีบเี อส 2563