เอกสารตา่ งประเทศทม่ี อี ยใู่ หผ้ สู้ นใจสามารถเขา้ ถงึ ในรปู แบบตา่ งๆ ทก่ี ำ� หนดไว้ ในโครงการวจิ ัย คือ (๑) การจัดเก็บเอกสารเข้าสู่ระบบใหม่ เพ่ือพร้อมส�ำหรับการเปิดให้ บริการทางสอื่ online ในรปู แบบของระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (๒) การคดั เลอื กเอกสารสำ� คญั เพอ่ื แปลและพมิ พเ์ ผยแพรต่ อ่ ไป โดยเนน้ เอกสารทม่ี ิใช่ภาษาองั กฤษกอ่ น แตท่ งั้ น้ีขึน้ อยกู่ บั ความสำ� คญั ของเอกสารที่ได้ มาใหม่ และความพร้อมของทีมงาน/ผู้แปลดว้ ย (๓) การสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ นกั วจิ ยั อาจารย์ ทำ� การวจิ ยั ในเชงิ ลกึ งาน เขยี นสรา้ งสรรค์ ซงึ่ มไิ ดเ้ จาะจงสมยั ใดเปน็ พเิ ศษ แตค่ วรสมั พนั ธก์ บั งานสมั มนา ในแต่ละปี หรือเอกสารส�ำคญั ชุดใหม่ๆ ท่ีได้มาในปีนั้นๆ และ (๔) การน�ำเอกสารต่างประเทศที่ได้มาใหม่ในปีน้ันๆ (รวมทั้งเอกสาร เดมิ ทม่ี อี ยใู่ นหอจดหมายเหตฯุ ในพระราชดำ� รฯิ ) ไปแนะนำ� ใหค้ วามรแู้ กค่ ณาจารย์ นิสิตนกั ศกึ ษาที่สนใจและแสดงความประสงคร์ บั บรกิ าร ตามขอ้ ๔ ในการบริการความรูด้ า้ นเอกสารต่างประเทศใหแ้ กผ่ ้สู นใจนี้ คณาจารย์ นกั วิชาการ ผสู้ นใจอาจเดินทางมาใช้หรอื สืบค้นเอกสารดงั กล่าว ณ กองวิชาประวตั ศิ าสตรฯ์ หรือให้อาจารย์และคณะวิทยากรเดนิ ทางไปบรรยาย เป็นครัง้ ๆ ตามสถาบัน มหาวทิ ยาลยั ตา่ งๆ ท้งั ในกรงุ เทพฯ ต่างจงั หวัด ก็ได้ แต่ ต้องนดั แนะตกลงกนั กอ่ น เรื่องการให้บริการความรู้น้ี ผู้เขียนได้ด�ำเนินการมามากกว่า ๓๐-๔๐ คร้ังมาแล้ว ตั้งแต่ก่อนและหลังจากปี ๒๕๕๖ เป็นต้นมา และหากรวมเข้า ดว้ ยกันกบั ในช่วงต้งั แตป่ ี ๒๕๕๖ เป็นตน้ มา มีผู้เข้ารว่ มฟงั ไมน่ อ้ ยกวา่ ๔,๐๐๐- ๖,๐๐๐ คนแลว้ (ในจำ� นวนนรี้ วมถงึ ผเู้ ขา้ รว่ มสมั มนาประจำ� ปแี ละฟงั ทาง online/ Zoom ช่วงปี ๒๕๖๓-๖๕ ดว้ ย) ตัวอย่างเช่น กล่าวเฉพาะในปี ๒๕๖๓-๖๔ ผู้เขียนในฐานะหัวหน้า โครงการวิจัยฯ ได้ด�ำเนินการด้านน้ีให้กับมหาวิทยาลัยและสถาบัน องค์กรใน ระดับท้องถ่ิน จ�ำนวน ๒๐-๓๐ แห่งและมีผู้สนใจเข้าฟังรวมกันไม่น้อยกว่า 150
๒,๐๐๐-๒,๕๐๐ คน ส่วนใหญ่เปน็ อาจารยแ์ ละนสิ ติ นักศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี โทและเอก ด้านประวัติศาสตร์ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ในกรุงเทพฯ ภาคกลางและภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และยงั มสี ถาบนั การศกึ ษาตา่ งๆ แสดง ความประสงคม์ าอีกหลายแหง่ และจะได้ใหบ้ ริการในชว่ งปี ๒๕๖๕ ในช่วงต้นปี ๒๕๖๕ ได้ดำ� เนนิ การด้านนี้ใหก้ บั มหาวทิ ยาลยั และสถาบนั องค์กรทอ้ งถนิ่ จ�ำนวนไม่นอ้ ยกว่า ๑๐ แหง่ และมผี ู้สนใจเข้าฟังรวมกนั ไม่น้อย กวา่ ๑,๐๐๐-๑,๕๐๐ คน สว่ นใหญเ่ ปน็ อาจารยแ์ ละนสิ ติ นกั ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญา ตรี โทและเอก ทางดา้ นประวตั ศิ าสตร์ มนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ ทางภาค เหนือและอีสาน และยังมีสถาบันการศึกษาต่างๆ แสดงความประสงค์มาอีก หลายแหง่ และจะไดใ้ หบ้ รกิ ารในชว่ งกลาง-ปลายปี ๒๕๖๕ และในโอกาสปตี อ่ ๆ ไป โดยเฉพาะทางภาคใต้ ในชว่ งกลาง-ปลายปี ๒๕๖๕ และในโอกาสปตี อ่ ๆ ไปนน้ั นอกจากสถาบนั การศกึ ษาทเ่ี คยไปในกรงุ เทพฯ ภาคกลาง เหนอื และอสี านแลว้ มแี นวโนม้ จะไป ในส่วนสถาบันที่ยังไม่เคยไป โดยเฉพาะทางภาคใต้ ตะวันออก และสถาบัน การศกึ ษาทางทหาร รวมทง้ั องคก์ ารอสิ ระ สมาคมวชิ าชพี ตา่ งๆ และคร-ู อาจารย์ ระดับโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายท่ีสนใจและแสดงความประสงค์มา โดย อาจใช้ระบบการประชุมแนะน�ำทางส่ือ online/Zoom และการเดินทางไป พบปะกบั คณาจารย์ นกั ศกึ ษา และผสู้ นใจโดยตรง (on-site) กบั แตล่ ะสถาบนั / องค์กรนั้นๆ อย่างไรก็ตาม เพ่ือให้ผู้อ่านเข้าใจเข้าถึงการบริการความรู้ด้านเอกสาร ต่างประเทศให้แก่ผู้สนใจนี้ ซ่ึงมีพัฒนาการไม่ต่างไปจากด้านอื่นๆ คือเร่ิมต้น จากระบบง่ายๆ ไปสู่ระบบท่ีซับซ้อนและทันสมัยในยุคดิจิทัล โดยอาจแบ่ง ลกั ษณะเด่นได้ ๔ ชว่ งใหญ่ ตามการเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยีท่ีทนั สมยั ข้ึน โดยเฉพาะเทคโนโลยีการส่อื สาร ซง่ึ ไดช้ ว่ ยท�ำใหก้ ารค้นควา้ การเก็บรวบรวม และการบรกิ ารใหค้ วามรทู้ างเอกสารตา่ งประเทศมรี ะบบใหมแ่ ละทนั สมยั สำ� หรบั ผูค้ น้ ควา้ และผูม้ าใชบ้ รกิ ารเป็นอย่างดี จงึ ไดแ้ บ่งการใหบ้ ริการความรูอ้ อกเปน็ ๔ ชว่ ง ไดแ้ ก่ 151
๑) ก่อนปี ๒๕๕๖ ซึ่งยังไม่มีเทคโนโลยีการสื่อสารทันสมัย จึงเป็นไป อย่างชา้ ๆ และไมเ่ ป็นระบบมากนกั ๒) ชว่ งหลังปี ๒๕๕๖-ต้นปี ๒๕๖๔ เริ่มเปน็ ระบบและทันสมัยมากข้ึน เนือ่ งจากมีเทคโนโลยีการสอื่ สารเป็นตวั ช่วยทีส่ ำ� คัญ แต่กย็ งั คงมิได้เปดิ บริการ ทางสือ่ online อย่างเต็มรูปแบบ ๓) ช่วงปลายปี ๒๕๖๔-ต้นปี ๒๕๖๕ เปน็ ต้นไป มรี ะบบการสบื คน้ ท่ี ทนั สมยั เชน่ “คลงั ขอ้ มลู ” ดจิ ทิ ลั มหี นงั สอื ชว่ ยแนะนำ� ในภาพรวม และมรี ะบบ บริการทางสื่อ online หรือการสืบค้นทางห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งจาก ของกองวชิ าประวัตศิ าสตร์ฯ และสำ� นกั งานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) แต่ยงั มใิ ช่ ระบบทีส่ มบูรณ์แบบ และ ๔) ชว่ งกลางปี ๒๕๖๕ และในปตี อ่ ๆ ไปในอนาคต เมอ่ื ระบบบรกิ ารทาง ส่ือ online หรือการสืบค้นทางระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์มีความ สมบูรณ์แบบ การใหบ้ ริการความรู้ด้านน้จี ะเน้นทางสือ่ online เปน็ หลัก โดย มีศูนย์/ห้องบริการและให้การปรึกษาแนะน�ำ ๒ แห่งคือ “หอจดหมายเหตุ ต่างประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ ณ กองวชิ าประวตั ศิ าสตร์ฯ และห้องสมดุ สำ� นกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) แต่ในอนาคต การให้บริการแบบเดิมโดยตรงยังคงเปิดใหก้ ับผูส้ นใจ ท้งั ระดับผู้รู้ในแวดวงวิชาการและประชาชนผู้สนใจสามารถรับบริการจากทีมงาน คน้ ควา้ หรอื หัวหน้าโครงการฯ (พนั เอก ดร.สรศกั ดิ์ งามขจรกุลกิจ) ไดเ้ สมอ หากต้องการในการแนะน�ำเอกสารต่างประเทศ พร้อมด้วยการวิเคราะห์ใน เบื้องต้นหรือเชิงลึกของเอกสารต่างประเทศในแต่ละประเทศ แต่ละสมัย เช่น สงครามโลกฯ สงครามเย็น หลังสงครามเยน็ เปน็ การเฉพาะ ก็สามารถแสดง ความประสงคผ์ ่านทาง “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทลู กระหม่อมอาจารย”์ โดยตรงและไม่เสียคา่ บรกิ ารใดๆ 152
การบริการความร้ดู ้านเอกสารตา่ งประเทศ : กอ่ นปี ๒๕๕๖ ก่อนปี ๒๕๕๖ การใหบ้ รกิ ารความรดู้ า้ นเอกสารตา่ งประเทศนัน้ ดังท่ี กลา่ วมาแล้วว่า ยงั ไม่เปน็ ระบบมากนกั เนื่องจากยงั ไมม่ เี ทคโนโลยกี ารส่ือสาร ทนั สมยั อกี ทงั้ การสำ� เนาเอกสารตา่ งประเทศยงั คงใชแ้ บบเดมิ คอื การถา่ ยสำ� เนา เอกสารแบบธรรมดาทยี่ งั คงพบเหน็ ในปจั จบุ นั จงึ ทำ� ใหก้ ารคน้ ควา้ และการเกบ็ รวบรวมกลับมาในประเทศไทย รวมทั้งการน�ำข้อมลู เอกสารมาเขา้ สรู่ ะบบใหม่ ยังคงอาศยั ระบบตัวส�ำเนาเอกสารแบบกระดาษเปน็ หลัก ดงั นนั้ การใหบ้ รกิ ารความรใู้ นดา้ นนจ้ี งึ มลี กั ษณะจำ� กดั เนอ่ื งจากผสู้ นใจ ต้องเดินทางมาฟงั และดูเอกสารจากกองวิชาประวัติศาสตร์ฯ โดยตรง และยัง ไมม่ ผี สู้ นใจมาเปน็ กลมุ่ /คณะ สว่ นใหญม่ าพดู คยุ เปน็ สว่ นตวั หรอื กลมุ่ เลก็ ๆ โดย เฉพาะคณาจารยแ์ ละนสิ ติ นกั ศกึ ษาทกี่ ำ� ลงั พฒั นางานวจิ ยั หรอื วทิ ยานพิ นธร์ ะดบั ปรญิ ญาโทและเอก เชน่ จากจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหดิ ล ทสี่ �ำคัญกค็ ือ ยังไม่มีเอกสารส�ำคัญจากต่างประเทศมากนกั เพราะการ คน้ ควา้ เอกสารจากตน้ ฉบบั ของหอจดหมายเหตแุ ตล่ ะประเทศ เชน่ สหรฐั อเมรกิ า และอังกฤษน้ัน ตอ้ งใช้เวลาในการสะสมพอควร และเวลาในการค้นควา้ แตล่ ะ ครั้งก็มีเวลาจ�ำกัดเพียงช่วงสั้นๆ เพราะตามปกติคณาจารย์ของกองวิชา ประวัติศาสตร์ฯ ท่ีเดินทางไปค้นคว้าในแต่ละปีน้ัน มักใช้เวลาประมาณ ๑-๒ เดือนในช่วงท่ีนักเรียนนายร้อยไปฝึกภาคสนามในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน เท่านน้ั อย่างไรก็ดี การด�ำเนินการในด้านน้ีมีแนวโน้มท่ีดีขึ้น โดยเฉพาะเม่ือมี เทคโนโลยีการส่ือสารทันสมัย และทางหอจดหมายเหตุต่างประเทศ เช่น สหรฐั อเมริกา อนญุ าตให้ผ้คู น้ ควา้ ใชก้ ารถ่ายภาพแทนการสำ� เนาเอกสารได้ จึง มีส่วนชว่ ยท�ำให้การคน้ ควา้ เอกสาร NARA นี้ มคี วามรวดเร็วยงิ่ ข้ึนและเป็นที่ ตอ้ งการตรงกบั ใจของคณะคน้ ควา้ เปน็ อยา่ งมาก เพราะจากเดมิ ทำ� ไดเ้ พยี ง ๑-๒ พันแผน่ กเ็ กง่ แล้ว กลายเปน็ ๓-๔ หม่นื แผ่น โดยใชเ้ วลาใกล้เคียงกนั 153
โดยสรุปลักษณะเด่นในช่วงน้ี มักเป็นไปตามแบบส�ำนวนรถไฟไทยรุ่น เกา่ “ถงึ กช็ า่ ง ไมถ่ งึ กช็ า่ ง” คอื การดำ� เนนิ การคน้ ควา้ ยงั คงเปน็ ไปในแบบ “ชา้ ๆ ไดพ้ ร้าเล่มงาม” เน่ืองจากไม่มตี วั ช่วย ไมม่ ีเครอ่ื งมือทันสมัย แต่กระนน้ั กลับได้ พบเจอข้อมูลส�ำคญั ขอ้ มลู ชดุ ใหมๆ่ เช่นกัน และมแี นวโน้มที่ดีขึน้ เพราะด้วย ปัจจยั ท่เี อ้ืออ�ำนวยในด้านตา่ งๆ จึงชว่ ยใหก้ ระบวนการตา่ งๆ ตง้ั แต่ต้นคือ การ ค้นคว้า การรวบรวมเอกสารต่างประเทศกลับมา รวมทั้งการน�ำเข้าสู่ “คลัง ข้อมูล” ดจิ ิทัล ใน “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย”์ เพอื่ การพฒั นาระบบใหม่ และการใหบ้ รกิ ารความรเู้ อกสารตา่ งประเทศ เปน็ ไปอยา่ ง มปี ระสทิ ธภิ าพและสะดวก ทง้ั แกผ่ ดู้ ำ� เนนิ การและผสู้ นใจทจี่ ะมาคน้ ควา้ เพอื่ นำ� ไปพฒั นาต่อไป ซ่ึงแนวโน้มท่ดี ขี ้ึนนี้เริ่มชัดเจนต้ังแตป่ ี ๒๕๕๖ เปน็ ตน้ มา การบรกิ ารความรดู้ า้ นเอกสารตา่ งประเทศ : ชว่ งหลงั ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๔ ชว่ งหลงั ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๔ การบรกิ ารความรู้ด้านเอกสารตา่ งประเทศ ดงั ท่ีทราบแล้ววา่ เร่มิ เปน็ ระบบมากขึน้ เม่ือเปรียบเทียบกับชว่ งแรก เน่อื งจาก มเี ทคโนโลยกี ารสอ่ื สารเปน็ ตวั ชว่ ยทส่ี ำ� คญั แตย่ งั มไิ ดเ้ ปดิ บรกิ ารทางสอื่ online อยา่ งเตม็ รปู แบบ ในลกั ษณะการสบื คน้ จากหอ้ งสมดุ อเิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ ยา่ งสมบรู ณ์ และยังไปไม่ถงึ แบบ 5G อยา่ งไรกต็ าม แมว้ า่ การพฒั นาระบบใหม่ไปสู่ “คลงั ข้อมลู ” ดิจิทัล ยัง ไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ในช่วงนี้ แต่การให้บริการความรู้เอกสารต่างประเทศแก่ ผสู้ นใจนน้ั ไดพ้ ฒั นาไปสอู่ กี ขนั้ หนงึ่ ทนี่ า่ พอใจและสะดวกกบั ผสู้ บื คน้ คอื นอกจาก มรี ะบบการสบื คน้ ใน “คลังข้อมูล” ดจิ ทิ ลั ท่ีทันสมยั และรวดเรว็ แล้ว ผูส้ นใจได้ ขยายตวั คอ่ นขา้ งกวา้ งขวางจากเดมิ มาก คอื จากทเ่ี คยตอ้ งเดนิ ทางมาทกี่ องวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ฯ ผู้ใหบ้ รกิ าร โดยเฉพาะผู้เขียน ก็สามารถนำ� ขอ้ มลู จ�ำนวนมาก น้ี ไปใหค้ วามรแู้ กผ่ สู้ นใจทงั้ สถาบนั การศกึ ษาในกรงุ เทพฯ ภาคกลาง เหนอื และ อีสาน ได้บอ่ ยครั้ง 154
ดงั นั้น แม้ในชว่ งแรกๆ จากเม่ือปี ๒๕๕๖ เปน็ ตน้ มา ผู้สนใจต้องมาใช้ หรือสบื คน้ เอกสารดังกล่าว ณ กองวชิ าประวัตศิ าสตรฯ์ เปน็ สว่ นใหญ่ เช่น จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และเกษตรศาสตร์ แต่ในช่วงหลังๆ ปี ๒๕๖๓-ปัจจุบัน อาจารย์ คณะวทิ ยากร โดยเฉพาะผูเ้ ขยี นในฐานะหวั หนา้ โครงการวจิ ัยฯ มักไดเ้ ดนิ ทางไปบรรยายเป็นครัง้ ๆ ตามสถาบนั มหาวทิ ยาลยั ตา่ งๆ ทัง้ ในกรุงเทพฯ และตา่ งจงั หวดั เนือ่ งจากเอกสารจำ� นวนมากใน “คลัง ขอ้ มลู ” ดจิ ทิ ลั นนั้ สามารถจดั เกบ็ ใน external hard drive และนำ� ไปใหบ้ รกิ าร แก่ผสู้ นใจไดอ้ ยา่ งสะดวก ทเี่ ปน็ เชน่ นี้ นอกจากความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยแี ลว้ อกี สว่ นหนง่ึ เปน็ เพราะการด�ำเนินการบริการในด้านการให้ความรู้เอกสารต่างประเทศกับ หน่วยงานและหรือผู้สนใจภายนอกน้ัน ถือเป็นภารกิจหน่ึงของโครงการวิจัยฯ คอื มกี ารกำ� หนดไวใ้ นแผนงานปลี ะอยา่ งนอ้ ย ๕ ครง้ั (แตใ่ นความจรงิ มกั มผี สู้ นใจ แสดงความประสงคม์ ามากกว่า ๑๐ ครัง้ ) และการให้บริการนีไ้ ด้จดั ให้แก่คณะ อาจารย์ นักวิจัย นิสติ นักศกึ ษาปริญญาตรี โทและเอกของมหาวิทยาลยั ตา่ งๆ ทส่ี นใจ ดงั เชน่ หลงั จากการสมั มนาฯ ในชว่ งกลางปี ๒๕๖๓ แลว้ ไดร้ บั การตดิ ตอ่ จากสถาบนั การศึกษาตา่ งๆ ทง้ั ในกทม. และต่างจังหวัดทง้ั ภาคกลาง ใต้ เหนอื และอสี าน ซึ่งมจี �ำนวนมากกวา่ ๑๕ สถาบนั /องค์กร แต่เพราะเหตุเนื่องจากการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา COVID-19 คร้งั ใหม่ในปลายปี ๒๕๖๓-ตน้ ปี ๒๕๖๔ คณะผู้วิจัย โดยหัวหนา้ โครงการฯ มี โอกาสเดนิ ทางไปใหบ้ รกิ ารและเนน้ เอกสารของสหรฐั อเมรกิ า (NARA) เปน็ หลกั ใหแ้ ก่สถาบันการศึกษาตา่ งๆ จ�ำนวน ๙-๑๐ แห่งเทา่ น้ัน ได้แก่ (๑) ภาควชิ าประวตั ศิ าสตร์ คณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั (๒) ศูนย์วิจัยพหุลักษณ์สังคมลุ่มน้�ำโขง มหาวิทยาลัยขอนแก่น (๓) คณะ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (๔) คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี (๕) คณะศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี (๖) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครสวรรค์ (๗) คณะ 155
มนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อตุ รดติ ถ์ (๘) คณะสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร และ (๙) คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏอยุธยา ส่วน (๑๐) ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศิลปากร นครปฐม มีนัดและได้เลื่อน ไป ๒ ครงั้ เนื่องจากการระบาดของโรค COVID-19 จึงไดพ้ ูดคุยในเบือ้ งตน้ กับอาจารย์บางสว่ นทเ่ี คยมารว่ มงานต้งั แตป่ ี ๒๕๕๘ และยังคงสนใจมาร่วมงานอีกในปีหลังๆ อาทิปี ๒๕๖๔ เช่น ผศ.ดร. คทั ทยิ ากร ศศธิ รามาศ ผมู้ ีประสบการณใ์ นการคน้ อ่านเอกสารของเยอรมนี อยา่ งไรก็ดี ในกรณีของมหาวทิ ยาลัยศิลปากรคงตอ้ งรอใหส้ ถานการณ์ ต่างๆ ดีข้ึน ส�ำหรับสถาบันการศึกษาทางภาคใต้ก็มีหลายแห่งเช่นกัน เช่น มหาวิทยาลัยทักษิณ สงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา นครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และ มอ.ปัตตานี ได้แสดงความสนใจมาแล้ว แต่คง ตอ้ งไปในช่วงอน่ื ๆ ต่อไป และกจิ กรรมการให้บริการนีย้ งั สามารถด�ำเนินการได้ อีก หากมกี ารแสดงความประสงคม์ าในช่วงต้นปี ๒๕๖๕ หรอื ปถี ัดๆ ไป การให้บริการความรู้เกี่ยวกับเอกสารต่างประเทศของหอจดหมายเหตุ กองวชิ าประวตั ศิ าสตรฯ์ ใหแ้ กค่ ณะอาจารย์ นกั วจิ ยั และนสิ ติ นกั ศกึ ษาปรญิ ญา ตรี โท เอก ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ท้ังในกทม. และต่างจังหวัดในภาคกลาง เหนือและอสี าน รวมจำ� นวนมากกวา่ ๓๐-๔๐ ครั้งน้นั (บางแห่งมีการบรกิ าร หลายครัง้ เชน่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๓-๔ ครง้ั มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ๓ ครั้ง มศว.ประสานมติ ร ๒ คร้งั ) ซงึ่ การใหบ้ ริการดา้ นความรูท้ ่ผี ่านมาในช่วง แรก เฉพาะมหาวทิ ยาลยั มจี �ำนวน ๑๘ แห่งและมีคณาจารย์ นกั วิชาการ นสิ ติ นกั ศกึ ษาเข้าร่วมมากกว่า ๒,๐๐๐-๒,๕๐๐ คน และเช่อื ไดว้ ่าผู้ฟงั ในจำ� นวนน้ี นา่ จะไดร้ ับประโยชน์ ความรจู้ ากแหลง่ ข้อมลู เอกสารตา่ งประเทศในการศกึ ษา วิจัยเชิงลกึ ในขนั้ ต่อๆ ไป ตามพระราชด�ำริและพระราชประสงค์ของพระองค์ ตัวอย่างเช่น ในช่วงปลายปี ๒๕๖๓-ต้นปี ๒๕๖๔ มีการให้บริการ ด้านน้ีจ�ำนวน ๙-๑๐ แห่งด้วยกัน คือ ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีการพูดคุย 156
กลมุ่ ยอ่ ยกบั คณาอาจารย์ กรรมการของศนู ยว์ จิ ยั พหลุ กั ษณส์ งั คมลมุ่ นำ�้ โขง โดย มคี ณบดี คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ ผู้อำ� นวยการศูนยว์ จิ ยั พหลุ ักษณ์ สังคมลุ่มน้�ำโขง ร่วมการสนทนาด้วย และการบรรยายพิเศษงานวิจัยเอกสาร สำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทยจากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศใหก้ บั คณะอาจารย์ นักศึกษาปรญิ ญาตรี-โท คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ เม่อื วนั ท่ี ๒๗-๒๘ ตลุ าคม ๒๕๖๓ จากการพดู คยุ กลมุ่ ยอ่ ยกบั คณาจารย์ กรรมการศนู ยว์ จิ ยั พหลุ กั ษณส์ งั คม ล่มุ น�้ำโขง และการบรรยายพิเศษงานวิจัยเอกสารสำ� คัญทางประวตั ิศาสตร์ไทย จากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศใหก้ บั คณะอาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษาปรญิ ญาตร-ี โท คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตรน์ นั้ แมจ้ ะเปน็ ชว่ งเวลาไมน่ านนกั แตพ่ บวา่ คณะอาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษามคี วามสนใจ มคี ำ� ถามดๆี เกยี่ วกบั ประเดน็ ทต่ี อ้ งการ จะได้ค้นอ่านเอกสารต่างประเทศ โดยเฉพาะเอกสารของสหรฐั อเมริกา และมี อาจารย์หลายท่านซึ่งมีความรู้ภาษาต่างประเทศอย่างดี เช่น ไต้หวัน ญี่ปุ่น อังกฤษ ลาว และเวียดนาม ได้แสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการวิจัยเอกสาร ตา่ งประเทศ หนง่ึ ในจำ� นวนนีค้ ือ ผศ.ดร.ธนนันท์ บุ่นวรรณา เอกสารเวยี ดนาม กไ็ ดม้ ารว่ มงานสมั มนาในปี ๒๕๖๔ และยังคงจะมารว่ มงานในปี ๒๕๖๕ และปี ตอ่ ๆ ไป ในฐานะผู้เช่ยี วชาญด้านเอกสารเวยี ดนามและเวียดนามศกึ ษา สว่ นทมี่ หาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี มสี มั มนา/พดู คยุ กลมุ่ ยอ่ ยกบั คณาจารย์ คณะรฐั ศาสตร์ และบรรยายพิเศษใหแ้ กค่ ณะอาจารย์และนกั ศึกษาปรญิ ญาตรี คณะศิลปศาสตร์ วันท่ี ๒๙-๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๓ จากการพูดคุยกลุ่มย่อยกับคณาจารย์ คณะรัฐศาสตร์ และคณาจารย์ คณะศลิ ปศาสตร์ และการบรรยายพเิ ศษใหแ้ กค่ ณะอาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษาปรญิ ญา ตรี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ก็มีผู้สนใจดีเช่นเดียวกับทาง มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ เพราะคณะอาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษามคี วามสนใจ มคี ำ� ถาม ดีๆ เก่ยี วกับประเด็นทีจ่ ะได้ค้นอา่ นเอกสารต่างประเทศ 157
นอกจากน้ี ยงั มีอาจารย์หลายทา่ น ซ่ึงมีความรภู้ าษาตา่ งประเทศอย่าง ดี และเป็นผู้รู้ผู้สนใจศึกษาประเทศน้ันๆ ในเชิงลึกอีกด้วย เช่น กัมพูชา จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ลาว และอินเดีย ได้แสดงความสนใจเข้าร่วมคณะ ค้นควา้ ของโครงการวจิ ยั เอกสารต่างประเทศ โดยมี รศ.สมหมาย ชนิ นาค คณะ ศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ช่วยประสานงาน ซ่ึงมีอาจารย์จาก มหาวทิ ยาลยั ในประเทศและตา่ งประเทศไมน่ อ้ ยกวา่ ๘ สถาบนั จำ� นวนมากกวา่ ๑๘ ท่าน ต่างมีความสนใจด้านความสัมพันธ์ไทยกับอินโดจีน : มุมมองจาก เอกสารตา่ งประเทศ (เขมร ลาว เวียดนาม ฝรั่งเศส จนี ญ่ีป่นุ ) ในจ�ำนวนน้ี นอกจากมหาวิทยาลยั อุบลราชธานี ซงึ่ มคี ณาจารย์เขา้ รว่ ม ในเครือข่ายมากทสี่ ุด (๙ ทา่ น) แล้ว ยงั มจี ุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั (๑ ทา่ น) มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ (๒ ทา่ น ซง่ึ รวม ผศ.ดร.ธนนนั ท์ บนุ่ วรรณา ประวตั ศิ าสตร/์ ภาษาเวียดนาม) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (๑ ท่าน) มหาวิทยาลัยศิลปากร (๑ ทา่ น) และจากเพอื่ นบา้ นอนิ โดจีน คอื มหาวิทยาลยั แห่งชาติลาว (๑ ท่าน) The Royal Academy of Cambodia (๑ ท่าน) และ The National University of Social Sciences and Humanities (Hanoi) (๒ ท่าน) คณาจารยใ์ นเครอื ขา่ ยนเี้ ปน็ ผเู้ ชยี่ วชาญและนา่ สนใจยงิ่ และบางสว่ นได้ เขา้ มารว่ มงานของโครงการตงั้ แตใ่ นปี ๒๕๖๔-๖๕ เชน่ จากมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ผศ.ดร.ธนนนั ท์ บุ่นวรรณา (ประวัติศาสตร/์ ภาษาเวียดนาม) และอีกท่านหนึง่ ก็คอื อาจารย์ ดร.ปยิ ณัฐ สรอ้ ยคำ� คณะรฐั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี กไ็ ดม้ าร่วมงานในปี ๒๕๖๔ และจะมาร่วมงานในปี ๒๕๖๕ เช่นกนั รวมทง้ั ใน อนาคตอกี ด้วย ในฐานะผู้เชีย่ วชาญเอกสารอนิ เดีย และอินเดียศึกษา สำ� หรบั ผสู้ นใจ ผรู้ ู้ อกี หลายทา่ นในเครอื ขา่ ยจากมหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี นี้ นา่ จะไดเ้ ขา้ มาชว่ ยงานของหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศแหง่ นใ้ี นโอกาสตอ่ ไป โดยเฉพาะคณาจารย์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในกลุ่มอินโดจีน มหาวิทยาลัย แหง่ ชาติลาว The Royal Academy of Cambodia และ The National University of Social Sciences and Humanities (Hanoi) รวมถงึ คณาจารย์ 158
ด้านภาษาจีน (อ.ดร.ณัฐวุฒิ สุขประสงค์) และภาษาญี่ปุ่น (ผศ.ดร.กีรติพร จูตะวิริยะ อ.วิศรุตา เฟอร์รารา Miss Mishima Kumiko และ อ.สุทธิดา พันธโุ์ คตร) ตอ่ มาในชว่ งตน้ ปี ๒๕๖๔ ไดไ้ ปบรรยายพเิ ศษใหก้ บั คณะอาจารย์ นกั ศกึ ษา และพดู คยุ กล่มุ ย่อยกับคณะอาจารยแ์ ละผ้สู นใจ ผ้รู ู้ในท้องถ่ิน อีก ๕-๖ แห่งใน ภาคเหนอื และกลาง ไดแ้ ก่ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุตรดิตถ์ มหาวิทยาลยั นเรศวร มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อยุธยา และ มหาวทิ ยาลัย ศิลปากร ในสว่ นนไ้ี ดเ้ รม่ิ ทภ่ี าควชิ าประวตั ศิ าสตร์ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์ เมอ่ื วนั ที่ ๒ มนี าคม ๒๕๖๔ การบรรยายพเิ ศษ ใหก้ บั คณะอาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี ภาควชิ าประวตั ศิ าสตร์ คณะ มนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ โดยมี ผศ.ธรี พร พรหมมาศ ช่วยประสานงาน มีผู้สนใจไม่น้อยและในจ�ำนวนนี้มีนักศึกษาท่ีมีความรู้ดีทางภาษาลาว ท้ังด้าน การอา่ นและเขียน และถามค�ำถามทน่ี ่าสนใจดี การพดู คยุ กลมุ่ ยอ่ ยกบั คณาจารย์ ภาควชิ าประวตั ศิ าสตร์ คณะมนษุ ยศาสตร์ และสงั คมศาสตร์ กไ็ ดร้ บั ความสนใจอยา่ งดี และยงั มอี าจารยจ์ ากดา้ นนติ ศิ าสตร์ สนใจเข้าร่วมฟังและมีข้อเสนอการค้นอ่านเอกสารต่างประเทศที่เก่ียวข้องกับ การปฏิรูประบบกฎหมายในประเทศไทยอกี ดว้ ย จากนนั้ ตอ่ ดว้ ย การบรรยายพเิ ศษใหก้ บั คณะปราชญท์ อ้ งถน่ิ สโุ ขทยั แพร่ และอุตรดิตถ์ คณะอาจารย์และนักศึกษาปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์และ สังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏอตุ รดิตถ์ เม่อื วันที่ ๓-๔ มนี าคม ๒๕๖๔ โดย มี อ.ดร.สุภัคกาญจน์ จิวาลักษณ์ และนางสาวภัททากร สุทธิสมณ์ ช่วย ประสานงาน ชว่ งแรกเปน็ การบรรยายพเิ ศษใหแ้ ก่ คณะปราชญท์ อ้ งถน่ิ ผรู้ ดู้ า้ นสโุ ขทยั แพร่ และอตุ รดิตถ์ คณะอาจารย์และนักศกึ ษาปรญิ ญาตรี คณะมนษุ ยศาสตร์ และสงั คมศาสตร์ ซ่งึ มีจำ� นวนไมน่ ้อยกว่า ๒๐๐-๒๕๐ ทา่ น 159
ในระหว่างพักและหลังจากการบรรยายพเิ ศษ ไดพ้ บปะพูดคุยกับ คณะ ปราชญ์ท้องถิ่น ผู้รู้ด้านสุโขทัย แพร่ และอุตรดิตถ์อีกจ�ำนวนหนึ่ง ซ่ึงมีหลาย ประเด็นน่าสนใจและสามารถค้นคว้าจากเอกสารต่างประเทศ และมีประเด็น หน่งึ เชอ่ื มโยงกบั ความสนใจพิเศษของผู้เขียนคอื ภมู ิหลัง บทบาท และอทิ ธิพล ของ ส.ส. รุ่นแรกๆ ของจงั หวัดอตุ รดติ ถแ์ ละแพร่ (นายพง่ึ ศรจี นั ทร์ และนาย ทอง กนั ทาธรรม) ทนี่ า่ สนใจคอื ไดฟ้ งั เรอ่ื งเลา่ จากผใู้ กลช้ ดิ กบั อดตี ส.ส. ๒ ทา่ น น้ี ลกู หลานเสรไี ทยในจงั หวดั แพร่ และคงตอ้ งคน้ อา่ นจากเอกสารของสหรฐั อเมรกิ า ตอ่ ไป หลังจากจบภารกิจทางจังหวัดอุตรดิตถ์ การบรรยายพิเศษได้มาต่อท่ี มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก ภาควชิ าประวตั ิศาสตร์ คณะสงั คมศาสตร์ เม่ือ วนั ท่ี ๕ มีนาคม ๒๕๖๔ มีอาจารย์ ดารณุ ี สมศรี ช่วยประสานงาน การให้ความรู้เอกสารต่างประเทศ ท่ีมหาวิทยาลัยนเรศวร ก็เช่นเดียว กับสถาบันการศึกษาที่ผ่านมา มีท้ังการพูดคุยกลุ่มย่อยกับคณาจารย์และการ บรรยายพเิ ศษใหแ้ กค่ ณะอาจารย์และนักศึกษา ส�ำหรบั การพดู คยุ กลมุ่ ยอ่ ยกบั คณาจารย์ท่นี ม้ี ี ๒ กลมุ่ กลมุ่ แรกมอี าจารย์ชาวญี่ปนุ่ รว่ มดว้ ย อีกกลมุ่ คือกลมุ่ รศ.ดร.ทวศี กั ด์ิ เผือกสม และอาจารย์ ชนดิ า พรหมพยัคฆ์ และกลมุ่ นักศกึ ษา ปรญิ ญาโท-เอก ซ่ึงจะมารว่ มงานคน้ อ่านเอกสารตา่ งประเทศ โดยเฉพาะด้าน ภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ศึกษา เชน่ เวยี ดนาม และพม่า และ รศ.ดร. ทวีศักด์ิ เผือกสม ยังได้รวบรวมและแนะนำ� คณาจารย์ นักวิจัย มากกว่า ๑๐ ทา่ นเพอ่ื เขา้ รว่ มโครงการคน้ ควา้ และวจิ ยั ของหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศแหง่ น้ี และมอบหนังสือที่น่าสนใจมาอีกหลายเล่ม เช่น วิธีวิทยาในการศึกษา ประวตั ศิ าสตร์ ช่วงแรกเป็นการบรรยายพิเศษให้แก่คณะอาจารย์และนักศึกษา ภาควชิ าประวตั ศิ าสตร์ คณะสงั คมศาสตร์ (มอี าจารยจ์ ากภาควชิ าความสมั พนั ธ์ ระหว่างประเทศและสังคมวิทยามาร่วมดว้ ย) มหาวิทยาลยั นเรศวร พิษณโุ ลก 160
การพดู คยุ กลมุ่ ยอ่ ยกบั คณาจารย์ ภาควชิ าประวตั ศิ าสตร์ คณะสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ครง้ั น้ี มอี าจารยแ์ ละนกั ศกึ ษาปรญิ ญาโท-เอกทสี่ นใจดา้ น ลาวศกึ ษา สนใจเข้าร่วมทมี ของโครงการวจิ ยั เอกสารตา่ งประเทศ ด้านเอกสาร ลาว และยงั มอี าจารยจ์ ากภาควชิ าความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศและสงั คมวทิ ยา มาร่วมดว้ ย มีอาจารยช์ าวญ่ปี ่นุ Asst. Prof. Dr. Katsuyuki Takahashi สนใจ เร่ืองประวัตศิ าสตร์ไทยสมยั สงครามโลกคร้ังท่ี ๒ และมปี ระเดน็ พูดคยุ นา่ สนใจ ดี และคิดว่าจะได้สานต่อเร่ืองเอกสารต่างประเทศจากญี่ปุ่นกันต่อไปอีกใน อนาคต การบรรยายพเิ ศษทนี่ มี้ คี ำ� ถามนา่ สนใจมาก เนอ่ื งจากอาจารยห์ ลายทา่ น มีคำ� ถามแลกเปล่ียน เชน่ อาจารยจ์ ากภาควิชาความสมั พันธ์ระหวา่ งประเทศ (ผศ.ดร.วุฒิกรณ์ ชูวัฒนานุรักษ์) มีค�ำถามน่าสนใจและคงมีโอกาสท�ำงานร่วม กันในอนาคต โดยเฉพาะการค้นอ่านเอกสารต่างประเทศและประเทศสมาชิก อาเซยี น และมผี ้เู ข้ารว่ มฟงั ในวงกวา้ ง มกี ารถา่ ยทอดสดทางส่อื online ของ คณะสงั คมศาสตรด์ ว้ ย ส�ำหรับครั้งล่าสุดของการด�ำเนินการในช่วงต้นปี ๒๕๖๔ น้ี คือการ พูดคุยกลุ่มยอ่ ยและการบรรยายพเิ ศษให้แกค่ ณะอาจารย์ และนักศกึ ษาระดับ ปรญิ ญาตรี ภาควชิ าประวตั ิศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอยธุ ยา เมื่อวันท่ี ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๔ มี ผศ.เพชรรงุ่ เทยี นป๋วิ โรจน์ ช่วยประสานงาน ในการน้ี รศ.ดร.ภาคิน โชติเวศย์ศิลป์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และ สังคมศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้ที่สนใจเร่ืองขบวนการเสรีไทย ได้กรุณามาต้อนรับและ กลา่ วแนะน�ำผ้เู ขียน ก่อนการบรรยายพิเศษ และการบรรยายพเิ ศษทนี่ ี่ก็มีการ ถา่ ยทอดสด ผา่ นเพจสาขาประวตั ศิ าสตร์ ม.ราชภัฏอยุธยา เน่อื งจากมีอาจารย์ นักศึกษาและผู้สนใจทั่วไปต้องการฟังด้วย จึงได้รับอนุญาตและทางนักศึกษา คนรนุ่ ใหม่เป็นผูด้ ำ� เนนิ การในส่วนน้ี หลังจากการบรรยายพิเศษ มีโอกาสพูดคุยกับคณาจารย์เรื่องโครงการ การวิจัยเอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่จากหอจดหมายเหตุ 161
ตา่ งประเทศ (ทนุ วช.) พบวา่ อาจารยใ์ หค้ วามสนใจดแี ละมอี าจารยท์ า่ นหนง่ึ จบ ปริญญาเอกดา้ นลาวศกึ ษา (อาจารย์ ดร.พิมพป์ ฏมิ า นเรศศริ กิ ุล) สนใจเข้าร่วม ค้นอา่ นเอกสารดา้ นลาว แม้ได้รับทราบจากอาจารย์ ดร.พิมพ์ปฏิมา นเรศศิริกุล ว่ามีปัญหา เบอ้ื งตน้ เนอื่ งจากทางการลาวมกั จะไมอ่ นญุ าตใหไ้ ปใชเ้ อกสารของหอจดหมายเหตุ แห่งชาติ แต่เท่าท่ีทราบเอกสารทางการของลาวส่วนหน่ึงมีอยู่ในมือของนัก วชิ าการชาวญปี่ นุ่ แลว้ เรอ่ื งนจี้ งึ อาจตอ้ งอาศยั ความรว่ มมอื จากนกั วชิ าการชาว ญีป่ นุ่ ต่อไปดว้ ย ส�ำหรับทมี่ หาวิทยาลยั ศลิ ปากร นครปฐม มเี พียงการพูดคยุ กบั ผศ.ดร. คัททิยากร ศศิธรามาศ เอกสารเยอรมนี และได้มาร่วมงานในโครงการวิจัยฯ เรื่อง ๕๔ ปี อาเซียน เม่ือปี ๒๕๖๔ ส่วนสถาบนั การศึกษาทางภาคใต้ มมี หาวิทยาลัยทักษิณ มหาวทิ ยาลัย ราชภัฏสงขลา นครศรีธรรมราช และ มอ.ปตั ตานี แตค่ งต้องไปในชว่ งอนื่ ๆ ตอ่ ไป เมื่อสถานการณ์การระบาดของโรคไวรสั โคโรนา COVID-19 มแี นวโนม้ ไป ในทางท่ดี ขี นึ้ รวมท้ังปญั หาดา้ นภัยธรรมชาติ เช่น พายุ หรอื ฝนตกน�ำ้ ท่วม อย่างไรกด็ ี หากยังคงต้องเผชญิ กับปญั หาการระบาดของโรคน้อี ยู่ต่อไป ก็คงจ�ำเป็นต้องน�ำร่องการให้บริการทางสื่อ online/ระบบ Zoom ไปก่อน แมว้ า่ ผเู้ ขยี น ผใู้ หบ้ รกิ าร และอาจรวมถงึ ผฟู้ งั ผรู้ บั บรกิ าร นา่ จะไมช่ อบกบั ระบบ การใหบ้ ริการผา่ นทางระบบ Zoom มากนกั กต็ าม แตเ่ มือ่ ต้นปี ๒๕๖๕ กลบั มี แนวโนม้ ทดี่ ขี น้ึ เพราะหลายประเทศไดเ้ ปดิ ประเทศแลว้ และในไทยเองไดก้ ำ� หนด ใหเ้ จา้ COVID-19 เปน็ โรคประจ�ำทอ้ งถิ่นในกลางปี ๒๕๖๕ จึงเปน็ ไปได้ทกี่ าร บรกิ ารในส่วนน้นี า่ จะสามารถกลับไปใชท้ าง on-site ไดด้ ้วย 162
การบริการความรู้ดา้ นเอกสารตา่ งประเทศ : ช่วงปลายปี ๒๕๖๔-ตน้ ปี ๒๕๖๕ ชว่ งปลายปี ๒๕๖๔-ตน้ ปี ๖๕ เปน็ ตน้ ไป การบรกิ ารความรดู้ า้ นเอกสาร ต่างประเทศ แน่นอนว่ามีระบบการสืบค้นท่ีทันสมัยยิ่งข้ึน เช่น “คลังข้อมูล” ดิจิทัล และยังมีหนังสือจากงานแปล การวิจัยเชิงลึกและงานเขียนสร้างสรรค์ เป็นตวั ช่วยส�ำหรับแนะนำ� ในภาพรวม และมรี ะบบบริการทางสอ่ื online หรอื การสบื คน้ ทางหอ้ งสมดุ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ทงั้ จากของกองวชิ าประวตั ศิ าสตรฯ์ และ สำ� นกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) เปน็ ตวั ชว่ ย แตผ่ เู้ ขยี น ผใู้ หบ้ รกิ าร รวมทง้ั ผรู้ บั บรกิ าร ยังคงชอบบรรยากาศแบบเดิม คอื นยิ มชมชอบแบบ on-site มากกวา่ online ดังน้ัน การเดินทางไปให้บริการความรู้เอกสารต่างประเทศแก่สถาบัน การศึกษาและองค์การต่างๆ เช่น โรงเรียนประจ�ำจังหวดั พพิ ธิ ภณั ฑ์ในท้องถนิ่ ต่างๆ ทั้งของระดับจังหวัดและสถาบันการศึกษา และมหาวิทยาลัยตาม ต่างจังหวดั จึงยงั คงเปน็ วิธกี ารที่เหมาะสมและมีคุณภาพในการถ่ายทอดความ รสู้ คู่ ณาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษา ประชาชนผสู้ นใจทว่ั ไป โดยเฉพาะกบั ผสู้ นใจทย่ี งั ไม่ ค้นุ เคยกบั เอกสารตา่ งประเทศมากนัก การไปให้บริการแต่ละครั้งแต่ละสถาบันเหล่านี้ ไปพร้อมด้วย “คลัง ขอ้ มลู ” ดจิ ทิ ลั เคลอื่ นทใี่ น notebook และ external hard drive และหนงั สอื ประกอบการสัมมนาในแต่ละปีที่ผ่านมา รวมทั้งหนังสือที่พิมพ์เผยแพร่แล้ว จ�ำนวน ๒ เล่ม คอื (๑) “เรื่องเลา่ จากทหารวิชาการอาวุโส: การคน้ ควา้ และอา่ น เอกสารทางประวตั ศิ าสตร์ เพอื่ สรา้ งคน สรา้ งชาตแิ ละสรา้ งทหารอาชพี ” (๒๕๖๔) และ (๒) หนงั สอื “จากแฟม้ เอกสารลบั ทส่ี ดุ : เผย “ขอ้ มลู ใหม”่ ทางประวตั ศิ าสตร์ ไทยสมัยสงครามโลกคร้ังท่ี ๒ ของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NARA)” (๒๕๖๔) เปน็ “ตวั ชว่ ย” ไดม้ าก การบรกิ ารความรู้ด้านเอกสารต่างประเทศในชว่ งปลายปี ๒๕๖๔ และ ต้นปี ๒๕๖๕ ส่วนใหญย่ งั คงอยู่ภาคอสี าน จ�ำนวน ๘-๙ จังหวดั และมีสถาบัน 163
การศึกษาและองค์การท้องถิ่นที่ได้รับบริการ ประมาณ ๑๘-๒๐ แห่งด้วยกัน ส่วนใหญ่เป็นคณาจารย์ทางด้านประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์อน่ื ๆ รวมถึงทางวทิ ยาศาสตร์ และผู้รู้ ผสู้ นใจในทอ้ งถ่นิ จำ� นวน ไม่น้อยกวา่ ๑,๘๐๐-๒,๐๐๐ คน ในชว่ งปลายปี ๒๕๖๔ (ช่วง ๒๘ กนั ยายน - ๓ ตลุ าคม) ได้เลอื กเดนิ ทาง ไปให้บริการแก่สถาบันการศึกษาและองค์การต่างๆ ทางภาคอีสาน รวม ๔ จงั หวัด ๙ สถาบันการศกึ ษาและองคก์ ารท้องถิ่น ส�ำหรับสถาบันการศึกษา เช่น คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (โดยมี ผศ.ยุธยา หม่ืนสาย ช่วยประสานงาน) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร (อาจารย์ ภูริภูมิ ชมพูนุช ช่วยประสานงาน) ภาควิชาสังคมศาสตร์และพลศึกษา คณะ ศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต เฉลมิ พระเกยี รติ จงั หวดั สกลนคร (อาจารย์ กัณฐิกา กลอ่ มสุวรรณ) สาขาวิชา มานุษยวิทยาวัฒนธรรมและการท่องเท่ียว คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม (ผศ.ดร.สุริยา ค�ำหว่าน) และคณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีสุขภาพ และคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ (ผศ. ดร.ธันวา ใจเที่ยง) การบรรยายในครั้งนี้ เฉพาะท่ีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร และ สาขาวชิ ามานษุ ยวทิ ยาวฒั นธรรมและการ ทอ่ งเท่ียว คณะศลิ ปศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั นครพนม มที ง้ั สว่ น ท่อี ย่ใู น on-site และ online และในสว่ นของ online น้ี นอกจากคณาจารย์ นักศึกษาของมหาวิทยาลัย ๒ แห่งน้ันแล้ว ยังเปิดให้ผู้สนใจทั่วไปจากที่ต่างๆ เข้ารว่ มด้วย ส่วนองคก์ ารต่างๆ เช่น โรงเรียนอุดรพทิ ยานุกลู และพพิ ธิ ภณั ฑ์อดุ รธานี จงั หวดั อดุ รธานี พพิ ธิ ภณั ฑภ์ พู าน จงั หวดั สกลนคร และพพิ ธิ ภณั ฑข์ องมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร จังหวัดสกลนคร ในสว่ นนเี้ ปน็ การพบปะพูดคุยกับครูอาจารย์ สอนด้านสังคมศึกษา และเจ้าหน้าที่/วิทยากรประจ�ำพิพิธภัณฑ์ และได้มอบ 164
หนงั สอื ของผเู้ ขยี น ๒ เลม่ นน้ั เพอื่ ปรบั ปรงุ และเพมิ่ เตมิ ขอ้ มลู ชดุ ใหม่ เชน่ บนั ทกึ ของนายเตียง ศิริขันธ์ ท้ังในการเรียนการสอนและการน�ำมาแสดงไว้ใน พิพิธภัณฑ์นั้นๆ ให้มีเน้ือหาท่ีมีความสมบูรณ์ยิ่งข้ึนจากเอกสารต่างประเทศ โดยเฉพาะของ NARA นอกจากนีใ้ นช่วงต้นปี ๒๕๖๕ (วันที่ ๓-๙ มกราคม ๒๕๖๕) ผเู้ ขยี นยงั ไดย้ อ้ นกลบั ไปให้บรกิ ารแก่สถาบันการศกึ ษาและองคก์ ารตา่ งๆ ทางภาคอสี าน และเหนืออีกจ�ำนวน ๔-๕ จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม รอ้ ยเอด็ และพษิ ณโุ ลก (มหาวทิ ยาลยั นเรศวร) รวม ๘-๙ สถาบนั การศกึ ษาและ องค์การท้องถิ่น ในส่วนนี้เริ่มจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น (๔ ม.ค.) ตอนเช้าพบปะ แลกเปล่ียนประเดน็ ความร่วมมอื ทางวชิ าการ และบรรยายให้กบั คณบดี คณะ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ผบู้ ริหาร คณะกรรมการ และอาจารยป์ ระจ�ำ ศูนย์วิจัยพหุลักษณ์สังคมลุ่มน้�ำโขง ภาคบ่ายบรรยายให้กับคณาจารย์ และ นักศึกษาปริญญาตรี-โท คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ซึ่งการบรรยาย ในสว่ นหลงั น้มี ที ้งั ทอ่ี ยใู่ นส่วนของ on-site และ online ในภาคเช้ามีการพบปะและบรรยายให้กับฝ่ายบริการ คณะกรรมการ และอาจารยข์ องศนู ยว์ จิ ยั พหลุ กั ษณส์ งั คมลมุ่ นำ�้ โขง และคณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละ สงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ นน้ั มคี ณาจารยส์ นใจและเขา้ รว่ มเครอื ขา่ ย คณะค้นคว้าหลายท่านและจะไดเ้ ขา้ มาร่วมงานในปี ๒๕๖๕ อาทิ รศ.ดร.อรทัย เพยี ยรุ ะ ผศ.ดร.รกั ชนก ชำ� นาญมาก ผศ.ดร.กรี ตพิ ร จตู ะวริ ยิ ะ อาจารย์ ดร.แกว้ ตา จันทรานสุ รณ์ และอาจารย์ ดร.กนั ตพงศ์ จติ ตก์ ลา้ ในสว่ นของ online น้ี นอกจากคณาจารย์ นักศกึ ษาของมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ แลว้ ยังเปิดให้อาจารย์ นกั วิจัย ผสู้ นใจท่ัวไปจากท่ีตา่ งๆ เข้ารว่ มด้วย และเทา่ ทที่ ราบมอี าจารย์ นกั วจิ ยั ทสี่ นใจตดิ ตามและอาจจะมารว่ มในเครอื ขา่ ย ต่อไป เช่น ผศ.ดร.ภมรี สุรเกียรติ ผู้เช่ียวชาญด้านพม่าศึกษา มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ วทิ ยาเขตปัตตานี และอาจารย์ ธานี จงยัง ดา้ นรฐั ศาสตร์ แต่ สนใจประวตั ิศาสตรเ์ ป็นพเิ ศษ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครราชสมี า 165
จากน้ันต่อด้วยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (๕ ม.ค.) มีการสัมมนา กลุ่มย่อยกับคณาจารย์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และวิทยาลัย การเมอื งการปกครอง และบรรยายพิเศษให้กับคณาจารย์และนกั ศึกษา คณะ มนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ ผ้ปู ระสานงาน ผศ.นพพล แกง่ จ�ำปา หัวหนา้ ภาควชิ าประวตั ศิ าสตร์ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ การบรรยายพเิ ศษ ท่นี กี้ เ็ ชน่ เดยี วกับทางมหาวิทยาลัยขอนแกน่ คือมที ั้งส่วนทอี่ ย่ใู น on-site และ online เฉพาะในสว่ นของนักศกึ ษาท่เี ข้าร่วมฟังทาง online เป็นนกั ศกึ ษาเอก วชิ าประวตั ิศาสตร์ท้งั ๔ ช้นั ปี ประมาณ ๑๒๐-๑๕๐ ทา่ นด้วยกนั การบรรยายและประชุมกับคณาจารย์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคามนน้ั ก็ เช่นเดียวกับทางขอนแก่น คือมีคณาจารย์ให้ความสนใจและเข้าร่วมเครือข่าย คณะคน้ ควา้ /วจิ ยั จำ� นวนหลายทา่ นและบางสว่ นจะไดเ้ ขา้ มารว่ มงานในปี ๒๕๖๕ อาทิ รศ.ดร.ทวีศิลป์ สืบวัฒนะ ผศ.ดร.กิตติพงษ์ ประพันธ์ ผศ.ดร.ราชันย์ นิลวรรณาภา ผศ.ดร.ฉลอง พันธจ์ ันทร์ และอาจารย์ วิรยิ า สีบุญเรอื ง ท่ีน่าสนใจจากการประชุมกับคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก็ คือ ทราบว่ามีชาวกัมพูชา ลาว และเวียดนาม มาเรียนระดับปริญญาเอก โดยเฉพาะดา้ นภาษาไทย ทน่ี ห้ี ลายทา่ น และสว่ นทจ่ี บแลว้ มหี ลายทา่ นกลบั ไป รับราชการในส่วนที่จะเกี่ยวข้องกับเอกสารทางประวัติศาสตร์ เช่น ห้องสมุด แหง่ ชาติ และหอจดหมายเหตุ จงึ นา่ จะมาชว่ ยงานในคณะคน้ ควา้ /วจิ ยั เอกสาร ของกลุ่มประเทศอินโดจีนได้อย่างดี และในการนี้ทาง ผศ.ดร.ราชันย์ นิลวรรณาภา ซึ่งเคยดูแลศูนย์ข้อมูลเพ่ือพัฒนาการเรียนการสอนภาษาและ วฒั นธรรมประเทศเพื่อนบา้ น (ลาว เขมร เวียดนาม) และคุน้ เคยกับนักศึกษา กลุ่มอินโดจนี ได้อาสาประสานและตดิ ตอ่ ทาบทามต่อไป ถัดมาเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด (๖ ม.ค.) มีรายการสัมมนา กลมุ่ ย่อยและการบรรยายพิเศษให้กบั คณาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษา คณะครศุ าสตร์ ผปู้ ระสานงาน ผศ.ปริญ รสจันทร์ แต่เนือ่ งจากเกดิ การระบาดของ COVID-19 ในระลอกใหม่ จึงมกี ารพูดคุยกบั อาจารย์ ส่วนการบรรยายพิเศษได้เลอื่ นออก ไปกอ่ น 166
ท้ายสดุ ในเทย่ี วนีค้ อื มหาวิทยาลยั นครพนม (๗-๘ ม.ค.) มี ผศ.ดร.สรุ ิยา คำ� หว่าน คณะศลิ ปศาสตรแ์ ละวิทยาศาสตร์ เป็นผ้ปู ระสานงานหลกั นอกจาก การสมั มนากลมุ่ ยอ่ ยและการบรรยายพเิ ศษแลว้ ยงั เปน็ การตดิ ตามความกา้ วหนา้ ในการจดั สมั มนาทางวชิ าการ ท่ีจะจัดขน้ึ ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ และการ แปล การวิจัยเชิงลึกจากเอกสารของกลุ่มอินโดจีน ซ่ึงมีทีมงานจากคณาจารย์ ของมหาวทิ ยาลยั แห่งนรี้ ับผดิ ชอบหลกั ในส่วนของการบรรยายพิเศษและจัดงานสัมมนา ณ มหาวิทยาลัย นครพนม มีฝ่ายบริหาร และคณาจารย์เข้าร่วม เพื่อการตระเตรียมงาน เช่น ผศ.ดร.รุง้ ลาวลั ย์ เอย่ี มกศุ ลกจิ รองอธิการบดี และ ผศ.ดร.อภกิ นษิ ฐา นาเลาห์ รองคณบดีคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และมีคณาจารย์ที่สนใจและเข้า ร่วมเครือข่ายคณะค้นคว้า/วิจัยจ�ำนวนหลายท่านและจะได้เข้ามาร่วมงานในปี ๒๕๖๕ อาทิ ผศ.ดร.โสรัจจ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผศ.ดร.วสิ ิฏฐ์ คดิ ค�ำสว่ น อาจารย์ ดร.อนุชิต สิงห์สุวรรณ อาจารย์ ดร.ปุณณฑรีย์ เจียวิริยบุญญา อาจารย์ ณรงฤทธ์ิ สุมาลี และอาจารย์ สรุ ิยนั ต์ สุรเกรยี งไกร นอกจากน้ี ผศ.ดร.สรุ ิยา ค�ำหว่าน และคณะ มี ผศ.ดร.โสรจั จ์ ประวีณ วงศว์ ฒุ ิ อาจารย์ ณรงฤทธิ์ สมุ าลี และอาจารย์ ดร.ปุณณฑรีย์ เจยี วริ ิยบญุ ญา ยังได้จัดมินิทัวร์ไปตระเวนเย่ียมชมแหล่งประวัติศาสตร์ท้องถ่ินของจังหวัด นครพนมอีกหลายแห่ง แต่ที่น่าสนใจย่ิงจากการตระเวนแหล่งประวัติศาสตร์ ทอ้ งถน่ิ น้ี ในสว่ นของผเู้ ขยี นมเี รอ่ื งหนง่ึ ทเ่ี กยี่ วโยงเขา้ กบั เอกสารของสหรฐั อเมรกิ า โดยตรงได้ดี นั่นกค็ อื การเคลอื่ นไหวของนกั ชาตนิ ยิ มเวยี ดนาม ซ่งึ มรี อ่ งรอยท่ี เด่นๆ มี “บ้านลุงโฮจิมิน” อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ และพิพิธภัณฑ์ ประธานโฮจิมินห์ รวมทั้งแหล่งชุมชนเก่าของชาวเวียดนาม ต้ังแต่ก่อน สงครามโลกฯ และตอ่ เนื่องมาในสมัยสงครามเย็น จนถึงปจั จุบัน ส่วนที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้พูดคุยเบ้ืองต้นกับคณาจารย์ ผศ.ดร. วุฒิกรณ์ ชูวัฒนานุรักษ์ ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ และอาจารย์ กฤษณะ ภาควิชาพม่า คณะมนุษยศาสตร์ ท่ีสนใจเข้าร่วมการจัดสัมมนาที่ 167
มหาวิทยาลัยนครพนม รวมท้ังการแปลและการวิจัยเชิงลึกเก่ียวกับประเทศ สมาชกิ อาเซยี นในชว่ งสมยั สงครามเย็น-หลงั สงครามเยน็ ซ่ึงจะได้พบปะกันอกี เพื่อแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ และการท�ำงานรว่ มกันในอนาคต การใหบ้ รกิ ารเอกสารตา่ งประเทศทางภาคอสี านและเหนอื ในชว่ งปลาย ปี ๒๕๖๔ ตอ่ ต้นปี ๒๕๖๕ ตามทก่ี ลา่ วมานี้ นอกจากเปา้ หมายเพอ่ื แนะนำ� (๑) “โครงการหอจดหมายเหตุ กปศ.สกศ.รร.จปร.” ในพระราชดำ� รฯิ (๒) โครงการ การวิจัยเอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่จากหอจดหมายเหตุ ต่างประเทศ (ทนุ วช.) และ (๓) เอกสารสำ� คญั ของสหรัฐอเมริกา (NARA) โดย เฉพาะเอกสารชุด RG 226 และ RG 457 เช่น บันทึกของนายเตียง ศริ ขิ นั ธ์ แลว้ ยังมปี ระเด็นอืน่ ๆ ทีเ่ กย่ี วข้อง โดยเฉพาะการอาศัยเอกสารต่างประเทศเปน็ ตวั เชอ่ื มและเปิดโลกกวา้ งใหก้ บั การศึกษาประวตั ิศาสตร์ท้องถ่นิ อีกดว้ ย ตัวอย่างเชน่ การใช้บันทึกของนายเตียง ศริ ขิ ันธ์ จากแฟม้ ลบั ของหนว่ ย OSS สหรัฐอเมริกา (NARA) เป็นส่วนน�ำร่องในการเปิดโลกกว้างและการ เชอื่ มโยงเอกสารตา่ งประเทศกบั การศกึ ษาประวตั ศิ าสตรท์ อ้ งถน่ิ อสี าน ทส่ี ำ� คญั กค็ ือ ยังมเี ปา้ หมายเพอื่ ใหน้ กั วิชาการ คณาจารย์ ทายาทของตระกูล ศิรขิ นั ธ์ และปราชญ์ ผูร้ ู้ท้องถิน่ โดยเฉพาะทางภาคอสี าน ไดช้ ่วยกนั ตรวจสอบเนอื้ หา บนั ทกึ ของนายเตยี ง ศริ ขิ นั ธ์ ซงึ่ เปน็ บนั ทกึ ทนี่ ายเตยี ง ศริ ขิ นั ธ์ เขยี นขน้ึ ในระหวา่ ง สงครามโลกครง้ั ท่ี ๒ แต่ไมไ่ ด้ลงนามไว้ ผลการตรวจสอบจากผรู้ ใู้ นทอ้ งถน่ิ สกลนครหลายทา่ น เชน่ รศ.ดร.ปรชี า ธรรมวินทร (อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร) อาจารย์ วิชาญ ฤทธิธรรม (สาขาวิชารัฐศาสตร์) และ ผศ.ดร.พุฑฒจักร สิทธิ (คณบดี คณะ มนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร)์ และคณุ เกรยี งไกร ปรญิ ญาพล (ทายาทตระกลู ศริ ิขนั ธ์) ตา่ งยนื ยันว่าเปน็ บันทึกของนายเตียง ศิริขันธ์ จรงิ ๑๐๐% ผลจากการตรวจสอบนเี้ ปน็ ไปตามที่คาดหมายไว้ แต่ประเดน็ ส�ำคญั คง ไมต่ อ้ งการใหจ้ บเพยี งเทา่ นี้ เพราะยงั มเี รอื่ งตอ่ เนอื่ งทคี่ วรจะตอ้ งทำ� และมคี วาม ส�ำคัญไม่น้อยกว่าการค้นพบบันทึกฉบับนี้ นอกจากได้ช่วยยืนยันบันทึกของ 168
นายเตยี ง ศริ ขิ นั ธ์ แลว้ เชอื่ วา่ สง่ิ ทไี่ ดม้ มี ากกวา่ นน้ั นน่ั กค็ อื การศกึ ษาประวตั ศิ าสตร์ ท้องถิน่ จากนักวิชาการ ผรู้ ู้ ปราชญ์ในท้องถ่ิน ได้เรยี นรู้ ตระหนกั ถงึ หลกั ฐานที่ กว้างออกไปจากท้องถิ่น และขยายวงออกไปสู่การค้นคว้าเอกสารอื่นๆ ซ่ึงคง มิใช่เฉพาะในเมืองหลวงของไทยเท่าน้ัน หากยังต้องคิดและมองไปไกลถึง ตา่ งประเทศดว้ ยกย็ งิ่ ดใี หญ่ และหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศแหง่ นมี้ คี วามพรอ้ ม ต้อนรับนักวิชาการ ผู้รู้ ปราชญ์ในท้องถ่ินทั้งหลาย เพ่ือให้การศึกษาของ ท้องถน่ิ มีความรอบดา้ นและรู้ลกึ รู้จรงิ มากขน้ึ ดังตัวอย่างเชน่ เรอ่ื งราวของนายเตยี ง ศิรขิ นั ธ์ ซง่ึ เป็นบคุ คลทีม่ ีช่ือเสยี ง กว้างขวางในภาคอีสาน ระดบั ชาตแิ ละภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ ทง้ั ใน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ และหลังจากนั้นในช่วงต้นของสงครามเย็น แต่ งานเขียนงานวิจัยจากนักวิชาการและปราชญ์ผู้รู้ในท้องถ่ินนั้น แทบท้ังหมดที่ ผา่ นมามกั เน้นเฉพาะเรอื่ งเล่าในทอ้ งถน่ิ เป็นหลกั แต่เป็นที่นา่ ยนิ ดีวา่ เรื่องนี้กลับมผี ูฟ้ งั บางสว่ นท่ีสนใจจะสานต่อในการ ศึกษาท้องถนิ่ ทก่ี ล่าวถงึ น้ี นอกจากคณาจารย์ ผู้รู้ ปราชญ์ทอ้ งถ่นิ ในภาคอสี าน โดยเฉพาะทจี่ ังหวดั สกลนคร กาฬสินธุ์ และนครพนม เชน่ อาจารย์ ดร.อนุชิต สิงห์สุวรรณ แล้ว ยังมีสื่อมวลชน เชน่ Thai PBS รายการความจรงิ ไมต่ าย ได้ ติดตามสัมภาษณ์ผู้เขียนและผู้รู้ท้องถ่ินต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบันทึกนายเตียง ศิริขันธ์ (ออกอากาศเมอ่ื ๘ ธนั วาคม ๒๕๖๔) และยงั มนี กั วชิ าการคนร่นุ ใหม่ อกี ดว้ ย เชน่ นายวรี ภทั ร ผวิ ผอ่ ง นกั ศกึ ษาปรญิ ญาโท จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั และนางสาวภทั ทากร สทุ ธสิ มณ์ บณั ฑติ เอกประวตั ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ซึ่งทั้งสองท่านน้ีได้ติดตามฟังการบรรยายพิเศษของผู้เขียน ท้ังที่มหาวิทยาลัย ราชภัฏสกลนคร (on-site) และมหาวทิ ยาลัยนครพนม (online) และทั้งสอง ทา่ นนมี้ ีข้อเขียนท่นี ่าสนใจสง่ มาเป็นแนวคิดเบอื้ งต้น ซง่ึ ผู้เขยี นเห็นว่ามสี าระดี จงึ ได้นำ� มาไวใ้ นภาคผนวก ข้อเขยี น ๑ และ ๒ ด้วย เร่ืองนี้จึงเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ดี และสะท้อนให้เห็นความส�ำคัญของการ รวบรวมและจัดเก็บเอกสารต่างประเทศ จาก “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ 169
ทูลกระหม่อมอาจารย์” จากต่างประเทศทั่วโลกสู่ไทยในเขตส่วนกลางหรือ เมอื งหลวง ไปสู่ท้องถนิ่ ระดบั ตา่ งๆ อยา่ งทว่ั ถงึ ท้งั ประเทศ ที่ส�ำคัญยิ่งคือ ยังสะท้อนถึงพระวิสัยทัศน์ท่ีก้าวไกลของพลเอกหญิง ศ.เกียรติคุณ ดร.สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงริเริ่มด�ำเนินการส่งทีมค้นคว้าและรวบรวม เอกสารตา่ งประเทศ รวมทง้ั นำ� มาจดั เกบ็ ในระบบใหมท่ ที่ นั สมยั เพอื่ เปดิ โอกาส ใหน้ กั วชิ าการ คณาจารย์ นสิ ติ นกั ศกึ ษาและประชาชนทว่ั ไปทส่ี นใจ โดยเฉพาะ ผูค้ นในต่างจังหวัดและท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ สามารถเขา้ ถงึ และนำ� เอกสาร ไปใชใ้ นการพฒั นาความรทู้ ง้ั ในแวดวงของวชิ าการและการพฒั นาความคดิ อา่ น อย่างมีเหตมุ ีผล อันจะช่วยสง่ ผลใหส้ งั คมไทยได้พฒั นาไปสสู่ งั คมแห่งความรู้ใน อนาคตมากกวา่ สังคมแห่งความเช่อื ในอกี ทางหน่งึ พระราชดำ� รแิ ละพระราชประสงคใ์ นเรอ่ื งน้ี ยงั คงเปน็ จดุ มงุ่ หมายสำ� คญั ของ “หอจดหมายเหตุตา่ งประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” และเปน็ สงิ่ ท่ไี ด้รบั การสืบสานต่อมาในโครงการการวิจัยเอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย สมัยใหม่จากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ตง้ั แตป่ ี ๒๕๖๓ เป็นตน้ มา เพราะตามโครงการฯ น้ี ได้ก�ำหนดภารกิจส�ำคัญประการหนึ่งซึ่งก็คือ การให้บริการความรู้เอกสารต่างประเทศแก่ผู้สนใจทุกกลุ่ม และมุ่งไปยังกลุ่ม สถาบนั การศึกษาและองคก์ ารต่างๆ ทัง้ ภาครัฐและเอกชน ในต่างจังหวัด และ ท้องถิ่นต่างๆ ท่ัวประเทศ ที่ไม่มีโอกาสเข้ามาร่วมงานสัมมนาประจ�ำปี และ/ หรือไมส่ ามารถมารบั บริการ ณ กองวชิ าประวตั ิศาสตรฯ์ ได้ การใหบ้ รกิ ารในลกั ษณะเชน่ นยี้ งั คงตอ้ งดำ� เนนิ การตอ่ ไป แมว้ า่ ในอนาคต อันใกล้ ระบบการให้บรกิ ารทางสือ่ online หรือการสบื ค้นทางระบบหอ้ งสมดุ อิเลก็ ทรอนิกสม์ คี วามสมบรู ณแ์ ละจะเข้ามาแทนทแี่ ลว้ ก็ตาม 170
การบริการความรู้ด้านเอกสารต่างประเทศให้แก่ผู้สนใจในอนาคต : ชว่ งกลางปี ๒๕๖๕ และในปตี อ่ ๆ ไป ชว่ งกลางปี ๒๕๖๕ และในปีต่อๆ ไปในอนาคต เม่ือระบบบริการทาง ส่ือ online หรือการสืบค้นทางระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์มีความสมบูรณ์ แล้ว ก็คงมลี ักษณะคล้ายดา้ นอนื่ ๆ ในสงั คมมนษุ ย์ น่นั ก็คอื มีการใช้ AI มากขึ้น และอาจดำ� เนนิ การบนฐานของระบบ 5G และการใหบ้ รกิ ารความรดู้ า้ นเอกสาร ตา่ งประเทศยอ่ มมแี นวโนม้ แบบเดยี วกนั นเ้ี ชน่ กนั แมม้ แี นวโนม้ ทจี่ ะเนน้ ทางสอื่ online เปน็ หลกั แตย่ งั ไปไมถ่ งึ ขน้ั การสรา้ งโลกเอกสารตา่ งประเทศเสมอื นจรงิ ที่เป็นส่วนหน่ึงในลักษณะเอกภพที่สมมติข้ึน ในแบบ “จักรวาลนฤมิต” (Metaverse) ท่ีจริงในวงการเร่ืองนี้ ก็มีแนวคิดและข้อเสนอท่ีน่าสนใจว่า การเรียน ประวัติศาสตร์และองค์ความรู้ประวัติศาสตร์ จะได้รับความส�ำคัญในโลกยุค Metaverse เช่นกัน โดยเปน็ การให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ทเี่ ก่ยี วข้องกับทกุ platform ทีท่ ุกคนอาศยั อยู่ เพื่อให้ผูค้ นไดส้ มั ผัสกบั โลกเสมอื นจริง อาทิ การ สรา้ ง living museum ใหเ้ กดิ ในโลกเสมอื นจรงิ ทผี่ สานชวี ติ จรงิ จากชมุ ชน หรอื การทำ� ให้เกดิ ชมุ ชนเสมือนจรงิ ในอนาคต ในอนาคต หอจดหมายเหตุต่างประเทศแห่งน้ีอาจใช้องค์ความรู้ท่ีมีอยู่ คือ โครงสร้างพ้นื ฐานทาง“คลงั ข้อมลู ” ดิจิทัล เป็น platform ในการจดั ท�ำ พิพิธภัณฑ์มีชีวิต โดยการใช้เอกสารส�ำคัญจากต่างประเทศออกมาเป็นตัวเอก ในการเล่าเรื่อง ประสานเข้ากับการใช้ดาวเทียมกับเส้นทางประวัติศาสตร์ใน เหตุการณ์ส�ำคัญๆ เช่น การเดินทัพของทหารญี่ปุ่น งานใต้ดินของขบวนการ เสรไี ทยสมัยสงครามโลกคร้ังที่ ๒ หรอื การสูร้ บของทหารไทยในสงครามเกาหลี และสงครามเวยี ดนาม ผา่ นนทิ รรศการเสมอื นจรงิ ของ “เอกสารเกา่ เลา่ ตำ� นาน” กเ็ ป็นไปได้ เพ่อื ใหเ้ ดก็ เยาวชนและผ้สู นใจ รับรู้และเรยี นรู้เอกสารต่างประเทศ ผ่านเกมการทอ่ งโลกกวา้ งยอ้ นกลบั ไปในอดีต 171
แต่เกมการทอ่ งโลกกว้างยอ้ นกลับไปในอดีต ในโลกจรงิ ท่มี ไิ ดส้ มมตขิ ้นึ ในแบบ “จกั รวาลนฤมติ ” นนั้ ยงั คงใชว้ ธิ กี ารเดมิ คอื การใหบ้ รกิ ารทาง on-site (ระบบ intranet รร.จปร.) และทางสื่อ online น้ี มีศูนยบ์ รกิ ารเปน็ การเฉพาะ และให้การปรึกษาแนะน�ำแก่ผู้สนใจ ผู้สืบค้น และหากมีข้อสงสัย ก็สามารถ ติดต่อฝ่ายประสานงาน หรือเจ้าหน้าที่โดยตรง คือเจ้าหน้าที่ประจ�ำ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” หรือหัวหน้าโครงการ วจิ ยั ฯ เมอื่ มศี นู ยบ์ รกิ ารอยา่ งเปน็ ทางการ จากการเปดิ ตวั ของ “หอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ ในปี ๒๕๖๕ นอกจากไดเ้ นน้ การเปดิ บรกิ าร เอกสารทางส่ือ online เป็นหลักแล้ว ยังมีกิจกรรมอ่ืนๆ เพื่อส่งเสริมและ เผยแพรท่ งั้ ตวั เอกสาร ความรแู้ ละตวั ระบบของหอจดหมายเหตใุ นแตล่ ะประเทศ ไปสู่ผู้สนใจในวงกว้างอีกด้วย ซ่ึงสามารถท�ำได้หลากหลายรูปแบบ โดยผ่าน ช่องทางของอินเทอรเ์ น็ต เชน่ Live Zoom ผ่าน Facebook, YouTube ตัวอยา่ งเช่น การนำ� เสนอตัวเอกสารสำ� คัญของแตล่ ะประเทศ แตล่ ะยุค สมัย เช่น สงครามโลกฯ สงครามเยน็ หรอื หัวขอ้ เดน่ ๆ เชน่ สงครามเกาหลี และ สงครามเวียดนาม มาจดั แสดงคล้ายพพิ ธิ ภัณฑใ์ นหอจดหมายเหตุต่างประเทศ แหง่ น้ี เพอื่ ใหเ้ อกสารสำ� คญั จากแตล่ ะประเทศออกมาเลา่ เรอื่ งโดยตรง แตย่ งั ไม่ ไปไกลในแบบการสร้าง living museum ให้เกิดในโลกเสมือนจริงที่ผสาน ชวี ติ จรงิ ในอดตี จากประเทศนน้ั ๆ เช่น เกาหลใี ต้ ญ่ีปนุ่ เวยี ดนาม อกี ทางหนงึ่ คอื การนำ� ความรแู้ ละตวั ระบบของหอจดหมายเหตใุ นแตล่ ะ ประเทศมาเผยแพร่ โดยการสมั ภาษณ์สดจากทมี งาน/คณะค้นควา้ เอกสารของ ประเทศนั้นๆ และเปิดให้ผูช้ มสามารถซักถามผา่ น Live Zoom เป็นตน้ และ กิจกรรมเหล่านคี้ วรท�ำอยา่ งตอ่ เน่อื ง คือมตี ารางก�ำหนดไวล้ ่วงหนา้ เป็นอาทติ ย์ หรอื เดอื น และสามารถชมซ้ำ� ผ่านทาง YouTube หรือช่องทางอ่ืนๆ ก็ได้ อยา่ งไรกต็ าม การใหบ้ ริการความรใู้ นแบบเดมิ (on-site) จาก “คลัง ขอ้ มูล” ดจิ ทิ ลั แหง่ นี้ โดยผา่ นระบบ intranet รร.จปร. และ/หรอื โดยผา่ นการ 172
พูดคุยกับผรู้ ู้ ผคู้ น้ คว้าเอกสารต่างประเทศของแต่ละประเทศโดยตรงนน้ั ยังคง เปิดกว้างให้กับผู้สนใจทุกท่าน คือยังคงสามารถมารับบริการ ณ กองวิชา ประวตั ศิ าสตรฯ์ จากทมี งานคน้ ควา้ หรอื หวั หนา้ โครงการฯ ไดเ้ สมอ หากตอ้ งการ รบั บริการในการแนะนำ� เอกสารต่างประเทศ พร้อมด้วยข้อคดิ ขอ้ ตระหนักของ การอา่ นและการนำ� ไปใช้ ในลกั ษณะบรรยายพเิ ศษ พดู คยุ กลมุ่ ยอ่ ยหรอื เปน็ ราย บุคคลก็ได้ การแนะนำ� ในแบบเดิมนีม้ ีขอ้ ดปี ระการหนง่ึ คือ นอกจากไดพ้ บเอกสาร อีกส่วนหนึ่งที่ไม่ไดเ้ ผยแพร่ทาง online แล้ว ยังเป็นการแนะนำ� ทีไ่ ปพร้อมกบั การวเิ คราะห์เอกสารภาพรวมในเบอ้ื งต้น และการวิเคราะหเ์ ชิงลกึ ของเอกสาร ต่างประเทศในแต่ละประเทศ แตล่ ะสมยั เช่น สงครามโลกฯ สงครามเย็น หลงั สงครามเยน็ เปน็ การเฉพาะ ใหแ้ กผ่ สู้ นใจเปน็ หมคู่ ณะ กลมุ่ ยอ่ ย หรอื แมแ้ ตเ่ ปน็ รายบคุ คลกต็ าม โดยสามารถจะแสดงความประสงคผ์ า่ นมาทาง “หอจดหมายเหตุ ต่างประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย์” หรือกองวิชาประวตั ศิ าสตรฯ์ ได้โดยตรง และไม่เสียคา่ บริการใดๆ เพราะอันที่จริงแล้ว แม้ระบบใหม่ของ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่เรื่องการด�ำเนินการในส่วนของ กจิ กรรมการใหบ้ รกิ ารแก่ผูส้ นใจในอนาคตอันใกลน้ ี้ รวมทั้งนกั เรยี นทหารจาก สถาบันการศึกษาทางทหารต่างๆ ยงั คงสามารถจะด�ำเนนิ การในแบบเดมิ หรอื on-site ในยคุ New Normal ไดต้ ่อไปอีก หากมีการแสดงความประสงค์ขอ เพมิ่ เติมมาภายหลังและต่อเนอื่ งในช่วงกลางปี ๒๕๖๕ หรือปีถดั ๆ ไป เหตผุ ลสำ� คญั คงเพราะจากประสบการณข์ องผเู้ ขยี นและในฐานะหวั หนา้ โครงการวิจัยฯ ต้ังแต่ก่อนและหลังจากในปี ๒๕๖๓ ท่ีได้ให้บริการความรู้ ด้านนี้มามากกว่า ๓๐-๔๐ คร้ังมาแล้วนั้น พบว่าการน�ำเสนอหรือการแสดง เฉพาะตวั เอกสารดงั กลา่ วอยา่ งเดยี ว (ดงั ในกรณที ไี่ ดเ้ ปดิ ใหบ้ รกิ ารทางหอ้ งสมดุ online ในระบบ internet ทว่ั ไป ตามทีส่ ำ� นกั งานการวิจัยแห่งชาติได้พฒั นา ข้ึนมาน้ัน) อาจสามารถตอบสนองต่อความต้องการในการสืบค้นได้อย่างดี 173
โดยเฉพาะส�ำหรบั ผู้ทมี่ คี วามรู้ดีอยู่กอ่ นแลว้ แต่ถ้าไม่ เชอื่ วา่ มโี อกาสให้ผลรา้ ย มากกว่าดีเป็นแนแ่ ท้ เพราะอะไร เพราะเหตใุ ด? เรอ่ื งนเ้ี คยมตี วั อยา่ งเกดิ ขนึ้ มาแลว้ และเขา้ ใจ วา่ น่าจะมีกรณตี อ่ ไปอีก หากเปน็ ผู้ใช้หน้าใหม่ เน่อื งจากหากผ้สู นใจซ่ึงอาจเปน็ นักศึกษาระดับปริญญาตรี นักเรียนทหาร หรือประชาชนท่ัวไป ท่ียังไม่มี พน้ื ความรู้ ทงั้ ทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละธรรมชาตขิ องเอกสารตา่ งประเทศมากนกั แทนท่ีจะได้รับประโยชน์จากเอกสารลับต่างๆ น้ัน กลับอาจให้ผลร้ายกับผู้รับ อย่างมิได้ตั้งใจก็ได้ ท้ังนี้เพราะข้อมูลในเอกสารต่างประเทศมีความซับซ้อน พอควร ท่ีส�ำคัญคือ ด้วยเพราะท่ีมันเป็นข้อมูลลับ-ลับท่ีสุด ผู้คนจึงมักต่ืนตา ต่นื ใจไปกับมัน และเช่อื ถือมนั ย่ิงกวา่ ข้อมูลธรรมดาๆ ท่ีมกั พบเห็นกนั อยู่ทวั่ ไป แตเ่ อาเขา้ จรงิ แลว้ ข้อมูลลบั -ลบั ทีส่ ดุ นน้ั หาใชข่ ้อมลู ใหม่ ขอ้ มลู ส�ำคัญ เสมอไปไม่ และกม็ ิใช่จะนำ� มาเปดิ ประเด็นใหมๆ่ ไดเ้ สมอ ในทางความจริงแล้ว ข้อมูลลับ-ลับที่สุดในจ�ำนวนมากมายนั้น มากกว่าคร่ึงต่างเป็นเพียงข้อมูล ธรรมดาๆ และจ�ำเปน็ ต้องมีการตรวจสอบอยา่ งรอบคอบ จึงจะนำ� ไปใชอ้ ยา่ งมี คณุ ภาพ ด้วยเหตนุ ี้ การอ่านและการน�ำมาใช้ จงึ ตอ้ งมพี ้ืนความรู้ดีหรือเข้าใจ เขา้ ถึงบริบทของหลกั ฐานเอกสารดังกล่าวอยา่ งดดี ว้ ยเช่นกนั ดังนน้ั การใหบ้ รกิ ารความรแู้ ก่ผ้สู นใจ จึงยงั คงมคี วามสำ� คัญในแงข่ อง การถา่ ยทอดหลักคิดหรอื วิธีการทางประวตั ิศาสตรใ์ หแ้ ก่ผ้สู นใจอีกดว้ ย เพราะ นอกจากจะช่วยทำ� ให้ผ้สู นใจทีไ่ ม่มีพ้ืนความรดู้ ้านเอกสารต่างประเทศ หรอื ไม่ เคยอา่ น ไม่เคยใช้เอกสารดงั กลา่ ว มขี อ้ คิด ขอ้ ตระหนัก และเกิดความรู้ ความ เข้าใจในตัวระบบของหอจดหมายเหตุต่างประเทศ และธรรมชาติของเอกสาร ประเภทนไี้ ปในตวั ดว้ ยแลว้ ยงั จะชว่ ยทำ� ใหเ้ ขา้ ใจเขา้ ถงึ ความหมาย ความสำ� คญั ของขอ้ มูลในระดับต่างๆ ได้เป็นอย่างดอี ีกด้วย เปน็ ตน้ ว่า ข้อมูลใหม่นน้ั คอื เอกสารประเภทใด ทำ� ไมถึงมคี วามใหม่ มี ความหมาย ความสำ� คญั อย่างไร มปี ัจจัยอะไรทเี่ ปน็ ตวั ตดั สนิ ไดว้ า่ ข้อมลู หรือ หลกั ฐานเอกสารชนิ้ ใดเปน็ ขอ้ มลู ใหม่ และทส่ี ำ� คญั คอื ผสู้ นใจทไ่ี มม่ ปี ระสบการณ์ 174
ในการใชเ้ อกสารดงั กลา่ ว โดยเฉพาะนสิ ติ นกั ศกึ ษาและประชาชนทว่ั ไป ยอ่ มจะ ไดร้ บั ความรหู้ รอื เรยี นรใู้ นเชงิ การวเิ คราะหเ์ อกสารในเบอ้ื งตน้ จากผรู้ ู้ ขอ้ ระมดั ระวงั การน�ำไปใช้ เพราะจะเป็นอันตรายอย่างมากหากอ่านแล้วเช่ือ หรือน�ำข้อมูล จากเอกสารเหล่าน้ีไปใช้อย่างโดดๆ โดยมิได้ตรวจสอบทัดทานจากเอกสาร อื่นใดเลย จากเหตผุ ลขา้ งตน้ ผรู้ คู้ งมองเหน็ ไดช้ ดั เจนแลว้ วา่ ขอ้ มลู ลบั -ลบั ทสี่ ดุ นน้ั ในทางเป็นจริงแล้ว มิใช่พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเราได้เสมอ แต่ในความจริง แนแ่ ท้ก็คอื เราทกุ คนท่จี ำ� เปน็ ตอ้ งใช้เอกสารทางประวตั ศิ าสตรต์ ่างๆ น้ัน ตอ้ ง อาศัยหลัก “ตนเป็นท่ีพึ่งแห่งตน” เสมอ โดยมีหลักคิดท่ียึดติดกับวิธีการทาง ประวัติศาสตร์อย่างมั่นคง แม้เอกสารหลักฐานชิ้นน้ันจะเป็นฝ่ายสนับสนุน ขอ้ เสนอของเรา ก็ต้องตรวจสอบอยา่ งรอบดา้ นเชน่ กนั จงึ จะน�ำไปใช้ได้ เพราะฉะน้ัน การใหบ้ รกิ ารความรแู้ ก่ผูส้ นใจในเรอ่ื งนี้ จึงมีความจำ� เป็น ส�ำหรับผู้เร่ิมต้น โดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรี รวมท้ังนักศึกษา ทหาร และประชาชนท่ัวไป ซ่ึงอาจไม่เคยเหน็ เอกสารต่างประเทศนมี้ ากอ่ นเลย แน่นอนว่าหากอ่านแล้วก็มักจะเช่ือไปตามนั้นเสมอ ยกเว้นผู้สนใจท่ีใช้เอกสาร ขอ้ มลู ทางประวตั ศิ าสตรอ์ ยา่ งระมดั ระวงั แตก่ ารอาศยั ใชเ้ พยี งความระมดั ระวงั อย่างเดยี ว อาจยังไมพ่ อ ไมไ่ ดผ้ ลมากนกั หากขาดประสบการณใ์ นด้านนอ้ี ยา่ ง เท่าที่ควร พินิจในแง่มุมน้ี การให้บริการความรู้นี้ จึงมิใช่เพียงการน�ำเอกสารไป แสดงว่ามีอะไรบ้าง อะไรส�ำคัญ หากแต่สิ่งส�ำคัญที่มักไปควบคู่กับการแสดง เอกสารดังกล่าว น่ันก็คือประสบการณ์พร้อมด้วยหลักคิดวิธีการจากผู้ค้นคว้า ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมี “ช่ัวโมงบินสูง” กว่าผู้ฟัง และผู้สนใจหน้าใหม่ย่อมจะได้ ประโยชน์จากการฟงั และเรียนลัดจากประสบการณน์ ั้น เพราะยังมีอกี ประการ หน่ึงซ่งึ มคี วามส�ำคัญไมน่ ้อยกวา่ ตวั เอกสารตา่ งประเทศ ซ่ึงก็คอื การใหค้ วามรู้ วิธีการทางประวัติศาสตร์ไปในตัวด้วย หรือเป็นการฝึกหัดและปฏิบัติการอ่าน หลักฐานเอกสารต่างประเทศด้วยการเรียนรู้วิธีการทางประวัติศาสตร์ไปในตัว ของผู้ฟังแต่ละทา่ นน่ันเอง 175
เร่ืองนี้ฟังดูแล้วเหลือเชื่อ แต่ก็ต้องเช่ือไปก่อน เนื่องจากเร่ืองการให้ ความรวู้ ิธีการประวัติศาสตร์ในทางปฏบิ ัติ ที่ไปพร้อมๆ กบั เอกสารต่างประเทศ นี้ มคี วามสำ� คญั ไมน่ อ้ ยกวา่ การคน้ พบขอ้ มลู ใหม่ และควรตอ้ งเนน้ ยำ�้ หรอื กลา่ ว ซ�้ำอย่เู สมอในการเรยี นการสอนวิชาประวัตศิ าสตร์ หรอื การบรรยายพิเศษเร่ือง เอกสารสำ� คญั จากตา่ งประเทศก็ไมค่ วรยกเวน้ เชน่ กนั เพราะการเรยี นการสอนวชิ าประวตั ศิ าสตรใ์ นชน้ั เรยี นและนอกหอ้ งเรยี น ในทุกระดับ หากมีการเร่ิมต้นจากส่ิงน้ี คือมีการสอน แนะน�ำตัววิธีการทาง ประวตั ิศาสตร์นำ� หน้าตัวเนื้อหาทางประวัติศาสตรด์ ้วยยงิ่ ดใี หญ่ เพราะเท่ากบั เปน็ การให้ “เครอื่ งมอื ” กบั ผอู้ า่ น ผฟู้ งั ไปในตวั และ “เครอ่ื งมอื ” นี้ กค็ อื กญุ แจ สำ� คญั ของการใชใ้ นการเขา้ ถงึ หรอื ไขปรศิ นาทางประวตั ศิ าสตรจ์ ากขอ้ มลู มากมาย หลากหลายน้นั อย่างมีประสทิ ธิภาพและคณุ ภาพยง่ิ นอกเหนือจากนั้นแล้ว ควรมีเร่ืองเล่าจากแง่มุมใหม่ๆ ที่ท้าท้ายต่อท้ัง ผู้เรียนและเนื้อหาทางประวัติศาสตร์เดิมท่ีเชื่อว่าจริง อีกท้ังควรต้องมีเอกสาร หลกั ฐานชั้นตน้ ประกอบ เช่น เอกสารส�ำคัญจากตา่ งประเทศกย็ ่ิงดใี หญ่ เพอ่ื ให้ ผู้เรียน ผู้ฟังฝึกคดิ คิดวเิ คราะห์เปน็ หรือเท่ากับเป็นการ “ลบั สมอง” ไปในตัว ตามพระราชปรัชญาของทูลกระหม่อมอาจารย์ และข้อคิดข้อตระหนักจาก พระองคท์ ท่ี รงกลา่ วมาแตต่ ้นแล้ว ความว่า “การเขียนบทความหรือหนังสือวิชาการมีเร่ืองของความ คิดเห็นท่ีแต่ละคนมีความคิดของตน อาจไม่เหมือนผู้อ่ืน แต่ในแง่ ขอ้ มูล น่าจะมีข้อมูลท่ีเทย่ี งตรงมากทสี่ ุดเทา่ ท่จี ะทำ� ได”้ บทสรปุ และส่งท้าย ใจความหลักในบทนี้ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า จุดมุ่งหมาย ส�ำคัญประการหน่ึงของการด�ำเนินการ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” คือการให้บริการความรู้ด้านเอกสารต่างประเทศแก่ 176
คณะอาจารย์ นกั วิจยั และนสิ ิตนกั ศกึ ษาปรญิ ญาตรี โท เอกของมหาวิทยาลยั ต่างๆ รวมทั้งประชาชนผู้สนใจท่ัวไป ซ่ึงท่ีผ่านมามีจ�ำนวน มากกว่า ๒๐-๓๐ แห่ง รวมจ�ำนวนไม่น้อยกว่า ๓๐-๔๐ ครั้ง และการให้บริการด้านความรู้ใน จำ� นวนมากกวา่ ๒๐-๓๐ แห่งนี้ มีผูส้ นใจเข้าร่วมไมน่ อ้ ยกว่า ๕,๐๐๐ คน และ เชอ่ื วา่ ผฟู้ งั ในจำ� นวนนน้ี า่ จะไดร้ บั ประโยชนไ์ มม่ ากกน็ อ้ ยจากแหลง่ ขอ้ มลู เอกสาร ตา่ งประเทศ ทง้ั ในการเรยี นการสอน การวจิ ยั เชงิ ลกึ ในขน้ั ตอ่ ๆ ไป ตามพระราช ด�ำริฯ อนั ทจี่ รงิ แลว้ ประโยชนจ์ าก “คลงั ขอ้ มลู ” ดจิ ทิ ลั ของ “หอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ ทคี่ นไทยและสงั คมไทยจะไดร้ บั จากผลผลติ ของโครงการวจิ ยั น้ี คงมใิ ช่เพียงตวั เอกสารเทา่ น้ัน หากอยทู่ ่ีการน�ำเอกสารนัน้ ไปใชต้ อ่ ยอดตอ่ ไป จงึ ไดร้ บั ผลทงั้ ในระยะสน้ั และระยะยาว และผลในระยะยาว นนั้ แนน่ อนวา่ คงไมอ่ าจโตแ้ ยง้ ไดว้ า่ เอกสารขอ้ มลู สำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทย สมัยใหม่ จากหอจดหมายเหตุต่างประเทศจำ� นวนมากมายและหลากหลายน้นั ย่อมจะส่งผลในเชิงของการพัฒนาทางปัญญาให้แก่ผู้ใช้ผู้อ่านในหลายทิศทาง ด้วยกนั กล่าวคอื คงมไิ ดจ้ ำ� กดั เพยี งผคู้ นในแวดวงของวชิ าการเทา่ นนั้ หากยงั เปดิ กวา้ งให้ แก่ผู้สนใจทั่วไปสามารถเข้าถึงและน�ำไปใช้ในการแสวงหาความรู้รอบและการ พัฒนาความคิดอ่านได้อย่างดี คือเป็นกระบวนการในการพัฒนาความรู้ท่ีเกิด ขน้ึ เปน็ ลกู โซ่ เรม่ิ จากการไดร้ บั ขอ้ มลู สำ� คญั เกดิ การศกึ ษาวจิ ยั สรา้ งความรใู้ หมๆ่ จากความสงสยั ใครร่ ู้ อันเนื่องจากการไดพ้ บกับเอกสารสำ� คญั ตา่ งประเทศ จึง เกดิ ความอยากรู้อยากเห็นว่า เรอ่ื งเหล่าน้จี ะมีอะไรตอ่ ไปอีก การกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นน้ีเป็นเร่ืองที่ดี และควรต้อง ท�ำให้เกิดขึ้นในการให้การศึกษาในระดับต่างๆ ไม่ยกเว้นแม้อนุบาล ๓ ก็ตาม เพราะในวยั เดก็ หากมคี วามประทบั ใจสิง่ ใดแล้ว เชอื่ ได้ว่าจะมีการพฒั นาต่อไป ไดด้ ี ในกรณเี อกสารจากตา่ งประเทศกเ็ ชน่ กนั มนั จะชว่ ยเตมิ พลงั อนั แรงกลา้ ให้ กับจินตนาการของผู้สนใจท่ีต้องการอ่านหลักฐานช้ันต้น เอกสารต่างประเทศ 177
และยงิ่ ผูส้ นใจตงั้ คำ� ถามจากเอกสารสำ� คัญ ขอ้ มูลใหมๆ่ นัน้ ไดม้ ากเทา่ ไหร่ ก็ ย่ิงไดค้ ำ� ตอบท่หี ลากหลาย จากผู้คนทีห่ ลากหลาย ซ่ึงในทา้ ยท่ีสดุ แล้ว ยอ่ มจะ นำ� ไปสวู่ ธิ กี ารแกป้ ญั หาทหี่ ลากหลายเชน่ กนั ดงั นน้ั ความคดิ อา่ นใหมๆ่ จงึ มกั จะ เรม่ิ จากสง่ิ น้ีซึ่งมกี ระบวนการของมันเองอยา่ งสลบั ซบั ซอ้ น การทำ� งานตามกระบวนการทสี่ ลบั ซบั ซอ้ นเชน่ น้ี มอี ยแู่ ลว้ ในตวั ตนของ เราทุกคน และจะถูกกระตุ้นออกมาในเชิงสร้างสรรค์ ส่ิงท่ีตามมาย่อมจะช่วย ท�ำให้คนไทยเข้าถึงและตระหนักในความส�ำคัญของหลักฐานช้ันต้น และเกิด ความคิดอ่านใหม่ท่อี ้างองิ อยู่บนหลักฐานอย่างมีเหตุผล ซงึ่ เปน็ กระบวนการท่ี ช่วยพฒั นาความคิดอา่ นให้ผคู้ นมีคุณภาพและพัฒนากา้ วไปสสู่ ังคมแหง่ ความรู้ ทม่ี เี หตุผลและคิดอา่ นบนฐานความรูอ้ ยา่ งมน่ั คงและยง่ั ยนื สืบตอ่ ไป ในท้ายที่สุด ดอกผลต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งมีทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ล้วนต่างมีส่วนช่วยในการผลักดัน ขับเคลื่อนให้สังคมไทยได้รับการพัฒนาไปสู่ สงั คมแห่งความรมู้ ากกว่าสังคมแหง่ ความเชื่อ และสงิ่ นย้ี ่อมถอื เปน็ เรื่องสำ� คัญ ท่ีเกิดจากการใช้ประโยชน์จากโครงการวิจัยน้ี ซึ่งผู้คนสามารถน�ำเอกสาร ดังกล่าวไปประยุกตป์ ระกอบใชไ้ ดใ้ นหลายทศิ ทาง ท้ังในดา้ นการเรียนการสอน การวจิ ยั การพฒั นาความคดิ อา่ น การฝกึ ฝนใหค้ ดิ วเิ คราะหเ์ ปน็ และไมเ่ ชอื่ อะไร ง่ายๆ ให้เกิดเป็นนิสัยและมีวินัยในตนเอง ทั้งในด้านอาชีพการงานและชีวิต ประจ�ำวนั ทั่วไป ในฐานะคนไทย เราจึงควรอย่างยงิ่ ทีจ่ ะร่วมมือร่วมใจช่วยกันคนละเล็ก คนละน้อย ในการรักษาและสืบสานพระราชด�ำริและพระราชประสงค์ของ พระองค์ในเรื่องนีต้ ่อๆ ไป เพื่อขยายขา่ ยงานทพ่ี ระองค์ทรงวางรากฐานไว้แล้ว ใหเ้ ตบิ โตยงิ่ ๆ ขนึ้ ทงั้ ในดา้ นการรวบรวมและจดั เกบ็ ตวั เอกสารตา่ งประเทศ และ การน�ำไปใช้ประโยชนใ์ ห้เกิดการพฒั นาในด้านตา่ งๆ ทัง้ ในแวดวงวชิ าการและ การพฒั นาความคดิ อา่ นของประชาชนผสู้ นใจตอ่ ไป ในทา้ ยทส่ี ดุ เรอ่ื งทพ่ี ระองคท์ รงเนน้ ไวว้ า่ “…สงิ่ ทเ่ี ราทำ� มาเปน็ ประโยชน์ คุ้มคา่ …” น่าจะบังเกดิ ผลขนึ้ จริงในวงกว้างและบรรลตุ ามเปา้ หมายใหญ่ ทที่ รง 178
คุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยในหลายทิศทางด้วยกัน นั่นก็คือ การ พฒั นาในการตอ่ ยอดจากฐานเอกสารตา่ งประเทศหรอื “คลงั ขอ้ มลู ” ดจิ ทิ ลั ของ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ เพอ่ื การจดั ทำ� โครงสรา้ ง พนื้ ฐานท่สี �ำคญั ในอนาคต ส�ำหรับเป็นตวั ชว่ ยในการทำ� ความเขา้ ใจเขา้ ถงึ และ พฒั นาความรใู้ นทศิ ทางทถ่ี กู ตอ้ งบนหลกั ฐานขอ้ เทจ็ จรงิ อยา่ งมเี หตมุ ผี ลสำ� หรบั ชาติบ้านเมืองต่อไป ในบทถัดไปจะได้เขียนเล่าถึงส่วนหน่ึงของเร่ืองน้ี พรอ้ มทั้งการนำ� เสนอ ดอกผลสำ� คัญหนง่ึ ทถ่ี อื เป็น “ลูกหลาน” ของการด�ำเนนิ การอยา่ งตอ่ เนอื่ งจาก “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ นนั่ กค็ อื โครงการสบื สาน และต่อยอดพระราชด�ำริและพระราชประสงค์ของพลเอกหญิง ศ.เกียรติคุณ ดร.สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรม ราชกุมารี ในการริเริ่ม รวบรวม จัดเก็บ และเผยแพร่เอกสารส�ำคัญจาก ตา่ งประเทศ ต้งั แต่ปี ๒๕๖๓ เป็นต้นมา โดยการสนบั สนนุ ของสำ� นักงานการ วิจยั แหง่ ชาติ (วช.) ดว้ ยเปา้ หมายเดยี วกนั คอื การพัฒนา “คลงั ขอ้ มูล” ดจิ ิทัล ของ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ ไปสรู่ ะบบใหมห่ รอื หอ้ งสมุดอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ท้งั นกี้ ็เพอ่ื การจัดทำ� โครงสรา้ งพน้ื ฐานทส่ี ำ� คญั ต่อไป 179
180
บทที่ ๘ โครงการสบื สานพระราชด�ำริฯ : การวจิ ัยเอกสารส�ำคญั ทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่ จากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ 181
“ ประเทศสหรฐั อเมริกามีเอกสารมากมายท่ีเอามาใชเ้ ป็น ประโยชน์ สหรฐั อเมริกาอยไู่ กล โรงเรยี นนายร้อย จปร. ไม่มีเงินพอทจ่ี ะสง่ คนไปคอยดูว่า เอกสารฉบับไหนพน้ จาก การเปน็ เอกสารลบั แล้วทำ� สำ� เนากลับมาวเิ คราะห์ เขียน บทความไดร้ วดเรว็ แต่ส่ิงที่ชว่ ยได้คอื ความรู้ การร้จู กั สังเกต และสตปิ ัญญา ทีอ่ าจารย์ของเราไมไ่ ดแ้ พ้ผู้อนื่ และไดน้ �ำมา เขียนต�ำราให้ผ้อู ่ืนไดศ้ ึกษากนั เช่น พนั เอก ดร.สรศกั ด ์ิ งามขจรกลุ กิจ ผู้เขียนหนังสือเลม่ น้ี ไดเ้ ปน็ ครสู อน ประวตั ศิ าสตร์มาหลายปี เป็นอาจารยท์ ีม่ ปี ระสบการณด์ ียิ่ง ทา่ นหนง่ึ ” พระราชนิพนธ์ “ค�ำนิยม” หนงั สอื เรอ่ื ง จากแฟม้ เอกสารลับทสี่ ดุ : เผย “ขอ้ มูล ใหม่” ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมยั สงครามโลกครง้ั ที่ ๒ ของหอจดหมายเหตุ แหง่ ชาติ สหรัฐอเมริกา (NARA) พนั เอก ดร.สรศกั ด์ิ งามขจรกลุ กิจ (มลู นิธิ สถาบันสรา้ งสรรค์ปัญญาสาธารณะ สำ� นักงานการวิจยั แห่งชาต,ิ ๒๕๖๔) 182
บทนำ� ในฐานะ “ลกู หลาน” ของ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ ม อาจารย”์ น่าจะสอ่ื ความหมายในเรื่องน้ไี ด้ดี แต่การเริ่มตน้ ช่อื เรือ่ งและเนือ้ หา ทจี่ ะนำ� เสนอตอ่ ไปในบทน้ี ผอู้ า่ นกค็ งมคี ำ� ถามในใจและอดสงสยั ไมไ่ ดว้ า่ ในเมอ่ื การด�ำเนินการของโครงการเดิมก็มีและดีอยู่แล้ว ท�ำไมต้องมีโครงการใหม่มา อกี เลา่ คอื โครงการสบื สานพระราชด�ำริฯ และโครงการสบื สานพระราชดำ� รฯิ น้ีมีอะไรเป็นพิเศษที่ต่างไปจากโครงการเดิม และจะเพ่ิมเติมตรงไหน อย่างไร คอื มแี นวทางในการดำ� เนนิ การตอ่ จากนนั้ ในดา้ นไหน อยา่ งไร มอี ะไรใหม่ มอี ะไร ส�ำคญั ในแงใ่ ดบ้าง และมีผลงานอะไรเป็นกอบเป็นกำ� จากการดำ� เนนิ การทัง้ ท่ี ได้ท�ำมาแล้ว ทก่ี �ำลงั ท�ำ ณ ปัจจุบัน และท่จี ะทำ� ต่อไปในอนาคต ถ้าชอบคดิ ชอบถาม ยังคงมีค�ำถามอืน่ ๆ อกี ไม่นอ้ ยและเปน็ ส่ิงดี แตค่ ง มีน้อยคนที่จะตอบค�ำถามเหล่าน้ีได้ดี เนื่องจากการเช่ือมต่อระหว่างโครงการ ใหมก่ ับเดิมซ่ึงก็คือ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย์” นัน้ มผี รู้ ไู้ มเ่ กนิ ๔-๕ ทา่ นเทา่ นน้ั และในจำ� นวนผรู้ นู้ ้ี (ยกเวน้ ผเู้ ขยี น) สว่ นใหญแ่ ตล่ ะ 183
ทา่ นตา่ งกม็ หี นา้ ทกี่ ารงานตำ� แหนง่ ใหญโ่ ต และคงไมม่ เี วลาพอจะมานง่ั เขยี น นง่ั อธบิ ายขยายความ หรอื เล่าให้ฟังอย่างแจม่ แจง้ ในทกุ แงท่ กุ มมุ ให้สิ้นสงสัย แต่เพ่ือมิให้มีอะไรเคลือบแฝง คือเม่ือมีข้อสงสัยเกิดข้ึนแม้จะอยู่ในใจ กต็ าม จำ� เปน็ ตอ้ งตอบใหก้ ระจา่ งสนิ้ ความกนั ยอ่ มจะดกี วา่ ปลอ่ ยไป และเพราะ แมจ้ ะมคี ำ� ถามในใจจากผอู้ า่ น แตก่ ารตอบนค้ี งจะอยใู่ นใจของผเู้ ขยี นไมไ่ ดอ้ ยา่ ง แน่นอน คือจ�ำเป็นตอ้ งเขยี น ต้องอธบิ ายในรายละเอียดพอควร เพอ่ื พสิ ูจนจ์ น สน้ิ สงสยั โดยจะอาศยั ขอ้ เทจ็ จรงิ จากตวั โครงการใหม่ โครงการสบื สานพระราช ด�ำริฯ นี้ รวมผลงานในรอบ ๒-๓ ปีที่ผ่านมา มาสรุปให้ฟังกันอย่างตรงไป ตรงมา มีผลดีดา้ นไหน มอี ะไรเป็นชน้ิ เปน็ อนั และจะวา่ กันไปตามน้นั อยา่ งเปน็ ข้นั เปน็ ตอนจากท่ีมา ทม่ี าของโครงการการวจิ ยั เอกสารสำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมยั ใหม่ จากหอจดหมายเหตตุ ่างประเทศนไี้ มม่ ีอะไรเด่นเปน็ พิเศษ และจริงๆ แลว้ ไมม่ ี ความลบั ในโลก เพราะแม้หลายเรื่องเคยเปน็ top secret มาแล้วก็ตาม แต่ถึง เวลาอันเหมาะสมก็ต้องเปิดเผย ดังตัวอย่างเอกสารลับท่ีสุดของ NARA ท่ีพบ เจอมาแล้วหลายต่อหลายครงั้ เร่ืองน้ีคงไม่ต่างกัน จึงถือเป็นโอกาสอันดีท่ีจะได้เล่าสู่กันฟังในแบบ ประวัติศาสตรบ์ อกเล่า เล่าแบบตำ� นานเพราะถา้ ผ้เู ขยี นไมเ่ ล่า คงไม่ใครจะเล่า ไดด้ ีอกี แล้ว และถา้ ไม่เล่าตงั้ แตต่ อนนี้ กไ็ มแ่ น่ใจวา่ จะได้เล่าอีกหรือไม่ เพราะ แก่แล้วแก่เลย ถ้ามัวแต่รอและรอ อาจสายไปแล้ว ดังข้อคิดท่ีว่า “สายน้�ำไม่ คอยทา่ กาลเวลาไม่คอยใคร” แต่กาลเวลามักใหโ้ อกาสแกเ่ ราเสมอ ถ้ารู้ใชเ้ วลาใหเ้ ป็นและมเี วลาเปน็ ของตนเอง เมอ่ื ยงั พอมเี วลาในขณะทคี่ วามจำ� ยงั ดอี ยู่ ผเู้ ขยี นยงั คงจำ� ไดเ้ สมอวา่ ตน้ เร่ืองนเี้ ร่ิมมาจาก ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ สมัยทที่ า่ นเป็นอธิการ วิทยาลัยบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต มาบรรยายพิเศษที่กองวิชา ประวตั ศิ าสตรฯ์ ไดเ้ ชญิ ชวนผเู้ ขยี นไปรว่ มประชมุ สมั มนาของสำ� นกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) ในชว่ งกลางปี ๒๕๖๒ เพื่อระดมความคดิ เหน็ ประเดน็ ตา่ งๆ ทาง 184
ด้านการวิจัยทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โดยมี ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศวิ ไิ ล เป็นประธาน กอ่ นไปประชมุ เคยถาม ศ.พเิ ศษ ดร.เอนก เหมือนกนั ในทำ� นองวา่ ควร ต้องเตรียมตัวประเด็นไหน อย่างไร แต่ท่านมิได้แนะน�ำอะไรเป็นพิเศษ เพียง บอกวา่ ถา้ สนใจทำ� งานวจิ ยั สรา้ งความรใู้ หมๆ่ นา่ จะไปลองนำ� เสนอใหท้ ปี่ ระชมุ ฟงั ดู หากทป่ี ระชมุ สนใจ เหน็ ชอบดว้ ยกย็ ง่ิ ดใี หญ่ เผอื่ เปน็ ชอ่ ง เปน็ โอกาส สำ� หรบั การทำ� งานวจิ ยั ตอ่ ไป ตามความถนดั ทผี่ เู้ ขยี นชอบอา่ นชอบเขยี นเปน็ ทนุ เดมิ อยู่ แลว้ เพือ่ สร้างสรรคค์ วามรทู้ ่ีดมี ปี ระโยชนใ์ ห้แกส่ งั คมตอ่ ๆ ไป ผู้เขียนจึงได้เตรียมประเด็นท่ีสนใจแต่เดิมไว้หลายเร่ือง สามในน้ันคือ “นักรบสนั ตวิ ธิ ี” (ทนุ สกสว. ปี ๒๕๕๐-๕๗) และด้านการปฏิรูปกองทัพและ การปรับหลกั สตู รของโรงเรยี นนายรอ้ ยพระจุลจอมเกล้า ซง่ึ เรอ่ื งหลังนีเ้ คยวิจัย มารอบหน่ึงโดยทนุ สนับสนนุ จาก สกสว. (ปี ๒๕๕๙-๖๑) แต่ยงั มีประเดน็ ต่อ เนอื่ ง และโครงการวจิ ยั ใหมท่ ย่ี งั ไมไ่ ดเ้ รม่ิ ตน้ เลย เรอ่ื ง “ประเทศไทยกบั สงคราม เกาหลี: บทบาทของทหารไทยและผลกระทบ” (Thailand and The Korean War: the role of Thai soldier and impacts on Thailand) ซ่ึงรว่ มมอื กับ ทางโรงเรยี นนายรอ้ ยเกาหลใี ต้ มรี ะยะเวลา ๓ ปี และไดเ้ สนอตอ่ สกสว. แต่ยงั คงค้างไวเ้ นื่องจากการใหท้ ุนวจิ ัยไดป้ รับเปลีย่ นไปทาง วช. แตจ่ �ำได้วา่ เมอ่ื มกี ารประชมุ จรงิ ซง่ึ มนี กั วิชาการ คณาจารย์ จ�ำนวนไม่ นอ้ ยกวา่ ๒๐๐ ทา่ น สว่ นใหญเ่ ปน็ ศ. รศ. หรอื คณบดี รองคณบดสี ายมนษุ ยศาสตร์ และสงั คมศาสตร์ ในกรงุ เทพฯ และตา่ งจังหวดั และแต่ละท่านตา่ งพูดเก่ง ทงั้ ยงั ไดน้ ำ� เสนอประเดน็ ตา่ งๆ อยา่ งกวา้ งขวางและหลากหลาย รวมทงั้ มเี รอื่ งใหมๆ่ ท่ีน่าสนใจย่งิ จึงท�ำใหผ้ ้เู ขยี นฟังเพลนิ จนลืมพดู ลมื ไปเลยว่า เรากม็ เี ร่ืองอะไรท่ี ควรนำ� เสนอ แต่พอนึกได้ กไ็ มร่ จู้ ะเริ่มตรงไหน อยา่ งไรดี พอดี เมอื่ ไดฟ้ งั ผทู้ รงคณุ วุฒนิ ำ� เสนอหลายทา่ น รวมถงึ การนำ� เสนอของ ศ.พเิ ศษ ดร.เอนก เหลา่ ธรรมทศั น์ ศ.ดร.นพ.สริ ฤิ กษ์ ทรงศวิ ไิ ล และ ศ.ดร.ผาสกุ พงษ์ไพจิตร แล้ว กลับท�ำให้เห็นประเด็นใหม่ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะมีประเด็น 185
สำ� คญั หนึ่งที่ ศ.ดร.นพ.สิรฤิ กษ์ ทรงศวิ ไิ ล ไดเ้ น้นไวว้ า่ ต้องการให้มกี ารท�ำงาน วจิ ยั ระดบั พนื้ ฐาน หรอื เปน็ การสรา้ งฐานขอ้ มลู เชงิ โครงสรา้ งพนื้ ฐานสำ� หรบั การ วจิ ัยทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ผู้เขียนจึงนึกถึงโครงการที่พระองค์ทรงด�ำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหมอ่ มอาจารย”์ และได้บอกกลา่ วเล่าให้ ทป่ี ระชมุ ฟงั อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบมากนกั เนอ่ื งจากนกึ คดิ ขน้ึ มาไดแ้ บบทนั ควนั และ พูดสดๆ จากประสบการณ์ท่ีเคยเห็นและท�ำมา แต่เข้าใจว่าที่ประชุมและผู้ ทรงคุณวุฒหิ ลายท่านกค็ ง “ปงิ๊ ” เรื่องนี้ไม่นอ้ ย เพราะหลงั การประชมุ ศ.ดร. ผาสกุ พงษไ์ พจติ ร ยงั ไดก้ รณุ ามาพดู คยุ พรอ้ มเสนอแนะแหลง่ ขอ้ มลู ตา่ งประเทศ อีกหลายแห่งที่ควรไปเก็บข้อมูล เช่น ส�ำนักวาติกัน และ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศวิ ไิ ล ไดก้ รณุ าทาบทามชวนใหเ้ สนอโครงการวจิ ยั ตอ่ ทาง วช. และโครงการ ใหม่นจี้ ึงได้ฤกษง์ ามยามดี ถอื ก�ำเนิดข้นึ คร้ังแรกเมื่อต้นปี ๒๕๖๓ เดิมผู้เขียนได้เสนอไว้เพียง ๑ ปี เน่ืองจากใกล้เกษียณอายุราชการใน วนั ที่ ๑ ตลุ าคม ๒๕๖๓ และจะได้ถอื โอกาสน้ี “ท้ิงทวน” การงานด้านวชิ าการ ไปในตวั ดว้ ย แต่ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศวิ ิไล กลบั เห็นว่าควรทำ� ติดตอ่ กันไป ชว่ งหนง่ึ จงึ เสนอใหข้ ยายไปเปน็ ๑๐ ปี เพอื่ เปน็ การนำ� รอ่ งในระยะแรก โครงการ ใหมน่ ีจ้ งึ ยังคงต่อเนอื่ งมาในปัจจุบนั นบั เปน็ ปีท่ี ๓ แลว้ โดยได้รบั การสนบั สนุน ชว่ ยเหลอื อยา่ งดจี ากสำ� นกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) ในสมยั ศ.ดร.นพ.สริ ฤิ กษ์ ทรงศิวิไล ต่อมาในสมัย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานการวิจัย แหง่ ชาติ ทา่ นปจั จบุ นั นอกจากนกี้ ารดำ� เนนิ การของโครงการทผ่ี ่านมา ยงั ได้รบั การสนบั สนนุ จากผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านอย่างต่อเนื่อง ที่ให้ความช่วยเหลือด้วยดีตลอดมา โดยเฉพาะ ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ อุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (อว.) พลเอก สุรสิทธิ์ ถนัดทาง อดีตเอกอัครราชทูต สมปอง สงวนบรรพ์ อดีตเอกอัครราชทูต กิตติพงษ์ ณ ระนอง และ ศ.ดร.วีระ สมบูรณ์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต รวมท้ังผู้บริหาร เจ้าหน้าท่ีกองบริหารทุนวิจัยและนวัตกรรม ๒ คุณสตตกมล 186
เกียรติพานิช คุณสิริธรรม ณ ระนอง คุณอาภา เนตรประไพ คุณคันธรส หนเู ขยี ว ผู้บริหาร เจ้าหนา้ ทกี่ องระบบและบริหารข้อมลู เชิงยุทธศาสตร์ฯ คุณ เอนก บำ� รุงกจิ คณุ ไขแสง พฒุ ชูชน่ื และอีกหลายท่านที่ช่วยจดั การข้อมลู และ ระบบฐานขอ้ มูล วัตถุประสงค์พื้นฐานของโครงการน้ี มีจุดเด่นเน้นการสะสมเอกสาร ต่างประเทศและกิจกรรมหลกั ในดา้ นตา่ งๆ ของ “หอจดหมายเหตุตา่ งประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” อย่างต่อเนื่อง อีกท้ังยังพยายามขยายข่ายงานเดิมท้ัง ๖ ด้านน้ันให้เป็นไปอย่างกว้างขวางย่ิงขึ้นด้วย ทั้งน้ีเพ่ือการพัฒนาไปสู่การ จดั ทำ� โครงสรา้ งพ้นื ฐานที่สำ� คญั ในอนาคตตอ่ ไป เพ่อื ความเข้าใจเข้าถงึ ความหมาย ความสำ� คญั ของโครงการวจิ ัยน้ีอย่าง เปน็ รปู ธรรม คอื เปน็ ไปอยา่ งเปน็ ระบบและครบทง้ั กระบวนการในการสนบั สนนุ การดำ� เนนิ การของ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ ตง้ั แต่ ปี ๒๕๖๓ เปน็ ต้นมา จงึ ขอกลา่ วถงึ ความเปน็ มา จดุ ม่งุ หมาย ผลการดำ� เนินการ ท่ผี า่ นมา รวมทัง้ ขอ้ เสนอแนะในการดำ� เนนิ การในปถี ัดๆ ไป ดังนี้ ความสำ� คญั และทีม่ าของปัญหาการวจิ ยั โครงการการวิจัยนี้มีเป้าหมายหลัก เพ่ือเป็นการสืบสานพระราชด�ำริ และพระราชประสงค์ของพระองค์ ในการด�ำเนินการของ “หอจดหมายเหตุ ต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” จากจุดเร่ิมต้นต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๓๔-๓๕ เปน็ ตน้ มา ทั้งในดา้ นการคน้ คว้า รวบรวม จดั เกบ็ และเผยแพร่เอกสารทีเ่ ก่ียว กบั ประเทศไทยจากหอจดหมายเหตขุ องตา่ งประเทศ ท้งั จากประเทศเดมิ และ ประเทศใหมๆ่ เทา่ ทเ่ี ปน็ ไปไดใ้ นแตล่ ะปี เชน่ เกาหลใี ต้ จนี ไตห้ วนั สหรฐั อเมรกิ า องั กฤษ ฝรงั่ เศส รสั เซีย เยอรมนี และอนิ เดยี รวมถงึ ประเทศเพอ่ื นบา้ นในกลมุ่ อาเซียน และเรื่องน้ีทางโครงการวิจัยได้มีการด�ำเนินการมาแล้ว ๒ ครั้งเมื่อปี ๒๕๖๓-๖๔ และปี ๒๕๖๔-๖๕ ส่วนครั้งท่ี ๓ จะด�ำเนินการต่อไปในปี ๒๕๖๕-๖๖ 187
การดำ� เนนิ การมาแลว้ ๒ ครงั้ สว่ นครง้ั ท่ี ๓ ทจ่ี ะดำ� เนนิ การในปี ๒๕๖๕- ๖๖ นี้ ถือเป็นการรวบรวมและจัดเก็บเอกสารต่างประเทศต่อเนื่องจาก “หอ จดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ ซง่ึ เดมิ ตามกรอบแนวคดิ ใหญ่ ไดเ้ นน้ สมยั กอ่ นและสมยั สงครามโลกครง้ั ท่ี ๒ และตอ่ มาขยายมาสสู่ มยั สงคราม เยน็ และยคุ หลงั สงครามเยน็ โดยใน ๒ ปแี รกของโครงการใหมไ่ ดเ้ นน้ สมยั สงคราม เย็นเปน็ หลกั ในปีที่ ๓ จะเร่ิมเขา้ ส่ชู ่วงยุคหลงั สงครามเย็นเปน็ ต้นไป แตถ่ า้ หากมปี ระเดน็ สำ� คญั อนื่ ๆ อนั เนอ่ื งมาจากการคน้ พบขอ้ มลู ชดุ ใหม่ การตคี วามเสนอแนวคดิ ใหมๆ่ ในการศึกษาทางประวตั ิศาสตรไ์ ทยสมยั ใหม่ ซ่งึ อาจสง่ ผลใหม้ กี ารรอื้ ถอนความรเู้ ดมิ ในบางสว่ นหรอื หลายสว่ นกต็ าม ยงั สามารถ ย้อนกลับไปค้นคว้าและเก็บข้อมูลในสมัยที่ผ่านมา คือสมัยสงครามเย็น สงครามโลกฯ และกอ่ นหนา้ กไ็ ด้ อยา่ งไรก็ตาม ใน ๒-๓ ปีแรกยงั เป็นไปตามแผนเดมิ ดงั จะเหน็ ไดว้ ่าการ ด�ำเนินการในปแี รกเมอ่ื ปี ๒๕๖๓ ซึง่ ตรงกบั ในวาระครบรอบ ๗๐ ปี ไทยกับ สงครามเกาหลี จึงได้ใช้กรณีของไทยกับสงครามเกาหลีเป็นตัวอย่างของการ ท�ำงานศึกษาวิจัยร่วมกันจากหลายสถาบัน ท้ังฝ่ายทหารและพลเรือน ทั้งนัก วิชาการรุ่นเก่าและใหม่ จ�ำนวน ๖ ท่าน (มีผู้เขียน อาจารย์ รร.จปร. อีก ๑ อาจารยจ์ าก ม.ธรรมศาสตร์ ๒ ท่าน นักศึกษาปริญญาโท ๑ และปรญิ ญาเอก ๑) ในปที ่ีสอง คอื ปี ๒๕๖๔ ได้เลือกหัวข้อการสมั มนาเรือ่ ง “๕๔ ปี การ กอ่ ตงั้ ‘อาเซยี น’ และปฏกิ ริ ยิ าจากโลกมหาอำ� นาจและเพอ่ื นบา้ น : มมุ มองจาก เอกสารหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศและนกั วชิ าการอาวโุ ส” ก็เช่นกัน ได้เนน้ สมัยสงครามเยน็ เพอ่ื ทบทวนเร่ืองไทยกบั ประเทศสมาชิกอาเซียนจากเอกสาร ๑๑ ประเทศ โดยทมี งาน ๑๗ ทา่ น ประกอบดว้ ยคณาจารย์ของ รร.จปร. และ คณาจารยจ์ ากมหาวิทยาลยั ต่างๆ ทั้งในกรงุ เทพฯ และต่างจังหวัด ครั้งลา่ สุดทีไ่ ด้เตรยี มการด�ำเนินการ คือในชว่ งปลายปี ๒๕๖๕ ไดเ้ ลือก การจัดสัมมนาทางวิชาการเรื่อง “ไทยกับอินโดจีนสมัยประชาคมอาเซียน : 188
มมุ มองจากเอกสารหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศของเพอ่ื นบา้ นและชาตมิ หาอำ� นาจ” ซ่ึงเป็นไปตามพระราชด�ำริและพระราชประสงค์ของทูลกระหม่อมอาจารย์ ที่ ทรงมขี อ้ เสนอใหค้ น้ ควา้ เอกสารตา่ งประเทศสมยั หลงั สงครามเยน็ และเปน็ การ น�ำร่องการสร้างองค์ความรู้ของไทยกับเพ่ือนบ้านและสังคมโลกในยุคน้ี ในภาพรวม โดยมีจดุ มงุ่ หมายเช่นเดียวกับปีทีผ่ า่ นมา ทง้ั นีก้ ็เพ่ือ ๑) ร่วมกันท�ำงานเป็นคณะ ในด้านการเก็บรวบรวมเอกสารส�ำคัญ เกย่ี วกบั ไทยสมยั สงครามเกาหลี ไทยกบั กำ� เนดิ สมาคมอาเซยี น เรอื่ ง ๕๔ ปี การ ก่อต้ัง ‘อาเซียน’ และไทยกับเพื่อนบ้านอินโดจีนสมัยประชาคมอาเซียน จาก หอจดหมายเหตุแห่งชาติของประเทศต่างๆ ท่ีเก่ียวข้อง เช่น ในกรณีไทยกับ สงครามเกาหลีนนั้ มที ้ังฝ่ายคา่ ยโลกเสรีและคอมมิวนสิ ต์ รวมทง้ั ประเทศท่เี ปน็ สนามรบ (กรณสี งครามเกาหล)ี และน�ำกลบั มาจัดเกบ็ ไวใ้ น “คลังขอ้ มูล” ของ หอจดหมายเหตุ กปศ.สกศ.รร.จปร. ในพระราชด�ำริฯ ซึ่งจะมีการด�ำเนินการ พฒั นาการจัดเก็บคลงั ข้อมลู ของหอจดหมายเหตุน้คี วบคูก่ นั ไปด้วย ในลักษณะ ของการจัดทำ� โครงสร้างพน้ื ฐานท่ีส�ำคญั เพอ่ื ให้ “คลงั ข้อมูล” อยู่ในระบบใหม่ ทที่ นั สมยั และพรอ้ มสามารถเปดิ บรกิ ารใหผ้ สู้ นใจทวั่ ไปเขา้ ถงึ ไดอ้ ยา่ งสะดวกทง้ั ทาง on-site และสือ่ online ผ่านทางระบบหอ้ งสมดุ อิเลก็ ทรอนิกส์ ๒) รว่ มกนั แปลเอกสารตา่ งประเทศดงั กลา่ ว ทงั้ กลมุ่ เพอื่ นบา้ นในอาเซยี น เอเชยี และชาตมิ หาอำ� นาจ โดยเฉพาะเอกสารสำ� คญั จากหลายชาติ เชน่ เกาหลใี ต้ จนี ญ่ปี ุน่ ไตห้ วนั สหรฐั อเมริกา รัสเซีย นวิ ซแี ลนด์ ออสเตรเลีย อนิ เดีย และ เพ่อื นบ้านอาเซยี น และดำ� เนินการแปลเทา่ ที่จะทำ� ไดใ้ นแต่ละปี ปีละ ๓-๔ เล่ม ๓) รว่ มกนั ศกึ ษาวจิ ยั ในเชงิ ลกึ และงานเขยี นสรา้ งสรรคอ์ งคค์ วามรใู้ หม่ เกยี่ วกบั “ไทยกับสงครามเกาหล”ี และ ๕๔ ปี การกอ่ ตง้ั ‘อาเซียน’ และ “ไทย กับเพ่ือนบ้านอินโดจีน” อย่างรอบด้านจากฝ่ายสนับสนุน ฝ่ายตรงข้ามและ ฝ่ายอื่นๆ เพื่อให้เห็นภาพสมบูรณ์ หรือความเป็นไปของเหตุการณ์ท่ีใกล้เคียง กบั ความเปน็ จรงิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ อนั จะเปน็ การสรา้ งสรรคอ์ งคค์ วามรทู้ เ่ี ปน็ ประโยชน์ ต่อการเรียนรู้และพัฒนาสังคมต่อไป โดยจะมีทุนสนับสนุนการด�ำเนินการใน สว่ นน้ีเช่นเดียวกับงานแปล ประมาณปีละ ๓-๔ ชิ้น/เล่ม 189
วัตถปุ ระสงค์การวจิ ัย วัตถุประสงค์ส�ำคัญของการวิจัยน้ี คือการสะสมเอกสารต่างประเทศ ด้วยการสืบสานพระราชด�ำริและพระราชประสงค์ ท่ีทรงริเร่ิมและด�ำเนินการ มาอย่างต่อเนื่องในการรวบรวม จัดเก็บ และเผยแพร่เอกสารส�ำคัญจาก หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ และมปี ระเดน็ สำ� คญั ของคำ� ตอบทต่ี อ้ งการเฉพาะ คอื การคน้ ควา้ รวบรวมเอกสารจากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ไทยสมยั สงครามเกาหลี สมยั อาเซยี นจากสมาคมสปู่ ระชาคม และประเดน็ สำ� คญั อ่ืนๆ ที่ไทยไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ส�ำคัญของโลก ในช่วงรัชกาลท่ี ๔ เป็นต้นมาจนถึงช่วงต้นยุคหลังสงครามเย็น ซ่ึงเป็นไปตามกรอบแนวคิดท่ีวาง อยา่ งกว้างๆ ไว้แล้วในระยะแรก ๑๐ ปี จากปี ๒๕๖๓-๒๕๗๒ ดังตัวอย่างในปีแรก ปี ๒๕๖๓ ในกรณีของไทยกับสงครามเกาหลี ได้ เนน้ การคน้ ควา้ และเกบ็ เอกสารตา่ งประเทศทงั้ ในเชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพ จาก ประเทศตา่ งๆ ทงั้ คา่ ยโลกเสรี คา่ ยคอมมวิ นสิ ต์ ประเทศทจี่ ดั สง่ ทหารไปรว่ มรบ ในประเทศเกาหลีและประเทศที่เปน็ สนามรบ ส�ำหรับปีท่ี ๒ ปี ๒๕๖๔ ในกรณีไทยกับก�ำเนิดสมาคมอาเซียน เรื่อง ๕๔ ปี การก่อตั้ง ‘อาเซียน’ น้ัน ได้เน้นมุมมองจากเอกสารหอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศสมยั สงครามเยน็ เชน่ เดมิ แตข่ ยายไปอกี หลายประเทศและเปน็ การ เสนอผลงานการวจิ ยั ของนกั วชิ าการจากหลายสถาบนั การศกึ ษา วา่ ดว้ ยมมุ มอง ของประเทศสำ� คญั ตอ่ อาเซยี นซงึ่ วเิ คราะหจ์ ากเอกสารชนั้ ตน้ จากหอจดหมายเหตุ ในประเทศหรือพน้ื ท่ีน้นั จำ� นวน ๑๑ ประเทศ ได้แก่ รสั เซยี เยอรมนี ฝรง่ั เศส ออสเตรเลยี อนิ เดยี สหรฐั อเมริกา เวยี ดนาม กัมพชู า จนี เกาหลี และไตห้ วนั สว่ นปที ี่ ๓ ปี ๒๕๖๕ ในกรณขี องไทยกบั เพอื่ นบา้ นอนิ โดจนี สมยั ประชาคม อาเซยี นกเ็ ชน่ เดยี วกนั แตม่ จี ดุ เนน้ เอกสารสำ� คญั ในชว่ งยคุ หลงั สงครามเยน็ จาก ตา่ งประเทศ ทงั้ จากกลมุ่ อนิ โดจนี และชาตมิ หาอำ� นาจทเ่ี ขา้ มาเกยี่ วขอ้ งโดยตรง หรอื มบี ทบาทและอทิ ธพิ ลในชว่ งดงั กลา่ ว ทง้ั จากฝา่ ยคา่ ยโลกเสรี เชน่ สหรฐั อเมรกิ า ญ่ีปนุ่ นิวซแี ลนด์ ออสเตรเลยี และคา่ ยโลกคอมมวิ นสิ ตจ์ ากจีนและรัสเซยี กลุ่ม 190
NAM เช่น อนิ เดยี และท่สี �ำคัญคอื กลุ่มอินโดจีน ประกอบด้วยกัมพชู า ลาว และเวียดนาม หลงั จากปี ๒๕๖๕ การดำ� เนนิ การรวบรวมและจดั เกบ็ เอกสารตา่ งประเทศ ยังคงมีแกนกลางอยู่ที่สมัยสงครามเย็นต่อเนื่องมาในยุคหลังสงครามเย็น และ หัวข้อการสัมมนาอาจยังคงอยู่ที่ประชาคมอาเซียน คือจากกลุ่มอินโดจีนไปสู่ ด้านพม่า และทางมาเลเซยี สิงคโปร์ บรูไน ฟลิ ิปปินส์ และอนิ โดนเี ซยี อยา่ งไรกต็ าม ในแตล่ ะปใี นชว่ งการดำ� เนนิ การระหวา่ งนี้ คอื จากปี ๒๕๖๖ เปน็ ตน้ ไปจนจบระยะแรกของโครงการวจิ ยั การดำ� เนนิ การรวบรวมและจดั เกบ็ เอกสารตา่ งประเทศ และหวั ขอ้ การสมั มนานน้ั อาจยอ้ นกลบั ไปกลบั มา คอื กลบั ไปสมัยสงครามเย็นและสงครามโลกฯ อกี กไ็ ด้ เพราะตามท่เี คยกล่าวมาแล้ววา่ การวจิ ยั ในความหมายจากรากความเดมิ (Research) นน้ั เปน็ การ “คน้ หาซำ�้ ” หรือ “ค้นหาใหม่” ดังน้ันการค้นคว้าเอกสารต่างประเทศหรือการวิจัยอ่ืนๆ ก็ตาม จงึ สามารถท�ำซ้ำ� ได้เสมอ หากมเี รอ่ื งนา่ สนใจหรอื เกดิ ประเด็นใหมๆ่ จาก การตีความหรือคน้ พบ “ขอ้ มลู ใหม”่ และท�ำใหป้ ระวัติศาสตรไ์ ทยในสองสมัย น้จี �ำเปน็ ต้องมกี ารรือ้ ถอนองค์ความร้เู ดิม การรอ้ื ถอนองค์ความรูเ้ ดมิ ถือเปน็ เร่อื งปกตแิ ละเกิดข้ึนไดเ้ สมอ เพราะ เมอ่ื มกี ารคน้ พบขอ้ มลู ชดุ ใหม่ มคี ำ� อธบิ ายทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทยเปลย่ี นไปจาก เดมิ ยอ่ มเกดิ ประเดน็ ใหมๆ่ ทจ่ี ำ� เปน็ ตอ้ งไปคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ จากหอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศเดมิ และสง่ิ นี้กค็ อื ความมเี สนห่ อ์ ันแรงกลา้ ของวิชาประวัติศาสตร์ และหอจดหมายเหตตุ ่างประเทศ คอื เปน็ งานการท่ีทำ� ไมจ่ บส้นิ เพราะความรู้ ทางประวัติศาสตร์ไม่เคยตายตัวและไม่มีแบบเดียว ข้ึนอยู่กับยุคสมัยและ มุมมองของแต่ละฝ่าย แต่การด�ำเนินการของโครงการวิจัยนี้ตั้งแต่แรกมุ่งการ รวบรวมเอกสาร มิได้มีเจตนาในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งและ การต่อสู้ในค�ำอธิบายของส�ำนักคิด (วาทกรรม) ต่างๆ แม้ว่าในความเป็นจริง แล้ว การค้นคว้าเอกสารของหอจดหมายเหตุต่างประเทศแห่งน้ีจะหลีกเล่ียง สิ่งเหลา่ น้ันไมไ่ ดก้ ็ตาม 191
มองจากแง่มุมนี้ การหวนกลับไปค้นคว้าสมัยสงครามโลกฯ และ สงครามเยน็ จงึ ยงั สามารถทำ� ไดแ้ ละถอื เปน็ เรอื่ งปกติ เพราะเอกสารตา่ งประเทศ มมี ากมายมหาศาล เช่น NARA น้ัน ตอ่ ให้ส่งคณะคน้ ควา้ ไปปลี ะ ๒๐-๓๐ ท่าน หรอื มากกวา่ นน้ั และทำ� อยา่ งตอ่ เนอ่ื งในระยะ ๑๐-๒๐ ปี กย็ งั มไิ ดม้ หี ลกั ประกนั ใดว่า เราสามารถเก็บข้อมูลของไทยได้จาก NARA หมดแล้ว ดังน้ัน การไป ซำ้� และซำ้� อกี จงึ เปน็ เรอื่ งทท่ี ำ� ไดแ้ ละควรจะตอ้ งทำ� อยา่ งยงิ่ โดยเฉพาะหากเกดิ ประเดน็ ใหมๆ่ ซง่ึ จำ� เปน็ ตอ้ งการขอ้ มลู ชดุ ใหมๆ่ และยอ่ มมโี อกาสพบขอ้ มลู ใหม่ ไดเ้ สมอ แม้วา่ เราจะไปหอจดหมายเหตุต่างประเทศแหง่ เดมิ อีกหลายต่อหลาย คร้งั กต็ าม ทำ� ไมจงึ เปน็ เช่นน้นั และถ้าเป็นเชน่ น้ันจริง นกั เรียนทางประวัตศิ าสตร์ จะทำ� อยา่ งไรกนั ดี เรอื่ งนค้ี งตอ้ งยอ้ นกลบั ไปทกี่ ารเรยี นการสอนวชิ าประวตั ศิ าสตร์ อยา่ งถกู วิธีอกี ครง้ั คอื ตอ้ งเน้นย�้ำตวั หลักคดิ วิธกี าร นำ� หน้าตวั เน้อื หา และหาก เข้าใจเข้าถึง “หัวใจ” ของวิชาน้ีแล้ว ย่อมจะติดตามความเปล่ียนแปลงทาง เนอื้ หาไดเ้ ป็นอย่างดี และการค้นหาเอกสารใหมๆ่ จากสถานท่เี ดิมๆ กเ็ ปน็ ส่งิ จ�ำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเม่ือมุมมองเปล่ียนแปลงไป การพบเห็นเอกสารเก่าใน สถานที่เดิมน้ัน ย่อมกลายเป็นข้อมูลใหม่ได้เช่นกัน คล้ายท�ำนองที่ว่ากันแบบ “เก่าใคร ใหมเ่ รา” “เกา่ ใคร ใหมเ่ รา” ในเชงิ การคน้ เอกสารจากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ มกั เกดิ ขน้ึ ไดเ้ สมอ เนอื่ งจากมนี กั วจิ ยั เคยไปคน้ อา่ นกอ่ นเราเสมอ เอกสารจงึ มกั ผา่ นมอื ผา่ นตาจากใครตอ่ ใครมามากแลว้ แตย่ งั ไมม่ ใี คร “ปง๊ิ ” เหน็ วา่ “ใชเ่ ลย” จนกระท่ังเราไปพบเจอ ข้อส�ำคัญในการคน้ ควา้ ก็คือ ควรตอ้ งมขี อ้ มูลชดุ ใหม่ท่ี ไดม้ าในแตล่ ะปี เพอื่ มาจดั เกบ็ และการเผยแพรใ่ นรปู แบบตา่ งๆ เชน่ การสมั มนา ประจ�ำปี การแปล การวจิ ัยในเชงิ ลกึ การเขยี นงานสร้างสรรค์ต่อไป รวมท้ังการ สัมมนากลุ่มย่อยและการให้บริการความรู้แก่คณาจารย์ นิสิตนักศึกษาและ ผู้สนใจทว่ั ไป และการเปดิ ใหบ้ ริการทางหอ้ งสมดุ online ซึง่ ทัง้ หมดน้อี าจแบง่ วัตถปุ ระสงค์ออกเป็น ๓ ประการใหญ่ ได้แก่ 192
(๑) เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนโครงการหอจดหมายเหตุ กปศ.สกศ. รร.จปร. ในพระราชด�ำริฯ อย่างต่อเนื่องในการรวบรวม จัดเก็บ และเผยแพร่ เอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์จากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ (๒) เพอื่ สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ใหม้ กี ารนำ� เอกสารสำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตร์ ไทยสมัยใหม่ โดยเฉพาะจากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศในประเทศต่างๆ ทั่ว โลก มาจัดเก็บไว้ในประเทศไทยอย่างเป็นระบบตามระบบหอจดหมายเหตุฯ หรอื ระบบห้องสมุดท่ีทันสมยั สำ� หรบั การจัดท�ำโครงสร้างพืน้ ฐานท่สี ำ� คญั ดา้ น ข้อมูลประวัติศาสตร์ไทย และเพ่ือเปิดบริการให้กับนักวิชาการและประชาชน ทง้ั ทาง on-site (ระบบ intranet รร.จปร.) และในระบบ online ทางห้องสมุด อเิ ลก็ ทรอนกิ ส ์ นอกจากนย้ี งั มกี ารดำ� เนนิ การคดั เลอื กแปลเอกสารดงั กลา่ วบางสว่ น เพอ่ื เผยแพรใ่ หป้ ระชาชนชาวไทยทว่ั ไปสามารถเขา้ ถงึ แหลง่ ขอ้ มลู ทางประวตั ศิ าสตร์ ไทยได้อยา่ งท่ัวถึง (๓) เพือ่ สง่ เสรมิ และสนับสนุนคณาจารย์ นักวชิ าการรุ่นใหม่ นักศึกษา ระดบั ปรญิ ญาโทและเอก รวมทงั้ นกั วชิ าการดา้ นมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ และประชาชนทว่ั ไป มเี วทแี ลกเปลยี่ นความรแู้ ละรว่ มผลกั ดนั ความรใู้ หมๆ่ ทาง ประวัตศิ าสตร์ไทยสู่สงั คมไทย ทัง้ น้ี โดยผ่านกระบวนการในการค้นควา้ การสมั มนา การวิพากษ์ และ แปลเอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย รวมทั้งการวิจัยประเด็นเชิงลึกหรือ การนำ� เสนอความรใู้ นเรอื่ งใหมๆ่ หรอื การเขยี นงานวชิ าการ สารคดี งานสรา้ งสรรค์ จากข้อมูลเอกสารของหอจดหมายเหตุต่างประเทศ เพ่ือการสร้างองค์ความรู้ เกยี่ วกบั ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมยั ใหมใ่ หม้ คี วามสมบรู ณแ์ ละทนั สมยั ทนั ตอ่ เหตกุ ารณ์ ยงิ่ ขน้ึ และเพอ่ื การสรา้ งความเขา้ ใจเขา้ ถงึ ชาวตา่ งประเทศทเ่ี ขา้ มาเกยี่ วขอ้ งกบั ไทยในแต่ละชว่ งสมัยที่ผา่ นมาอกี ด้วย ทง้ั หมดนี้ เพอ่ื ตอบโจทยต์ ามวตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั และเปน็ ประโยชน์ ตอ่ ผสู้ นใจในวงกวา้ งตามแนวพระราชดำ� รแิ ละพระราชประสงคข์ องพระองค์ ท่ี 193
ทรงรเิ ร่ิมและพากเพยี รด�ำเนินการมาอยา่ งต่อเนื่องในการรวบรวม จดั เก็บและ เผยแพร่เอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์จากหอจดหมายเหตุต่างประเทศมา นานกว่าสามทศวรรษแลว้ ระเบยี บวิธวี จิ ัย ระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้เป็นหลักในงานวิจัยน้ี คือการวิจัยทางเอกสารและ อาศัยวิธีการทางประวัติศาสตร์ในการรวบรวมและจัดเก็บเอกสารต่างประเทศ กลับมาในไทย เพ่ือการจัดท�ำโครงสร้างพื้นฐานที่ส�ำคัญ โดยก�ำหนดให้มีการ รวบรวมขอ้ มลู เกยี่ วกบั ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยตามกรอบแนวคดิ เดมิ ทเี่ นน้ สมยั ใหม่ จากสมยั รชั กาลที่ ๔ เปน็ ตน้ มา คอื กอ่ นสงครามโลกคร้ังท่ี ๒ สมัยสงครามโลก ครง้ั ท่ี ๒ สมยั สงครามเยน็ สมยั สงครามเกาหลี และไทยสมยั อาเซยี นจากสมาคม สปู่ ระชาคมในขนั้ เบอ้ื งตน้ และทา้ ยสดุ สยู่ คุ หลงั สงครามเยน็ เพอื่ เปน็ การนำ� รอ่ ง การรวบรวม การจัดเก็บและการเผยแพร่ข้อมูลเอกสารหลักๆ ของไทยจาก ต่างประเทศท่ัวโลก เพอ่ื ใหก้ ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ในกรณนี ้ี มคี วามสมจรงิ เปน็ ไปอยา่ งสมดลุ และใกลเ้ คยี งกบั เหตกุ ารณจ์ รงิ ทเี่ คยเกดิ ขน้ึ ในขน้ั แรกมกี ารกำ� หนดจำ� นวนของ หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ไทยในสมยั ตา่ งๆ อยา่ งรอบดา้ น ตาม ประเดน็ ในแตล่ ะครง้ั แตล่ ะปที มี่ กี ารกำ� หนดหวั ขอ้ เพอ่ื การจดั สมั มนาทางวชิ าการ ประจำ� ปี ตัวอย่างเช่น ในกรณีสงครามเกาหลีน้ัน ได้เน้นประเทศที่เก่ียวข้องทั้ง โดยตรงและอ้อม ประมาณไม่น้อยกว่า ๕-๘ ประเทศ ครอบคลุมท้ังฝ่ายค่าย โลกเสรี คา่ ยโลกคอมมวิ นสิ ต์ และประเทศทร่ี ว่ มรบในสงครามเกาหลแี ละประเทศ ที่เป็นสนามรบ ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน ญ่ีปุ่น ฝรั่งเศส รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลยี และอังกฤษ ส�ำหรับกรณีไทยกับก�ำเนิดสมาคมอาเซียน เรื่อง ๕๔ ปี การก่อต้ัง “อาเซยี น” นน้ั กำ� หนดประเทศทเี่ กย่ี วขอ้ งและนา่ จะมขี อ้ มลู สำ� คญั ๆ ไวจ้ ำ� นวน 194
๑๑ ประเทศ ไดแ้ ก่ รัสเซยี เยอรมนี ฝรัง่ เศส ออสเตรเลีย อินเดยี สหรัฐอเมรกิ า เวยี ดนาม กัมพูชา จีน เกาหลใี ต้ และไต้หวนั ส่วนในกรณขี องสมยั ประชาคมอาเซยี นกบั กลุม่ อินโดจนี น้ัน ไดก้ ำ� หนด ไวใ้ นเบอ้ื งต้น ประมาณไม่นอ้ ยกวา่ ๑๒ ประเทศ ครอบคลมุ ๓ ชาตใิ นอินโดจนี และอีก ๙-๑๐ ชาติมหาอ�ำนาจจากฝา่ ยจนี รสั เซีย ฝ่ายสหรฐั อเมรกิ า เกาหลใี ต้ ญีป่ ่นุ ไต้หวนั ฝรงั่ เศส นิวซแี ลนด์ ออสเตรเลยี และอนิ เดยี นอกจากการกำ� หนดประเทศทเ่ี กย่ี วขอ้ งและตอ้ งการคน้ ควา้ เอกสารแลว้ ยังมีการก�ำหนดด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ก�ำหนดข้ันตอนการท�ำงาน เร่ิม จากวิธีการรวบรวมเอกสาร การจัดเก็บเอกสารเข้าสู่ระบบใหม่ การวิเคราะห์ ขอ้ มูล และการเผยแพรเ่ อกสาร ดงั นี้ ประการแรก การรวบรวมเอกสาร แบง่ ไว้ ๒ สว่ น คือ ๑) ก�ำหนดตัวเอกสารท่ีจะรวบรวม โดยได้เน้นเอกสารท่ีเกี่ยวข้องกับ ประวัตศิ าสตรไ์ ทยสมัยใหม่เปน็ หลัก ซึ่งแบง่ ชว่ งอายขุ องเอกสารได้ ๔ ช่วงใหญ่ คือ ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งท่ี ๒ (ประมาณสมยั รชั กาลท่ี ๔ ถึง พ.ศ. ๒๔๘๔, ๑๙๔๑) ชว่ งสงครามโลกคร้งั ที่ ๒ (๒๔๘๔-๒๔๘๘, ๑๙๔๑-๑๙๔๕) ชว่ งหลงั สงครามโลกครั้งที่ ๒ /ชว่ งสงครามเย็น (๒๔๘๘-๒๕๓๔, ๑๙๔๕-๑๙๙๑) และ ช่วงสมัยหลงั สงครามเยน็ (หลัง ๑๙๙๑ เป็นตน้ มา) เปน็ หลกั ๒) กำ� หนดประเทศทีไ่ ปดำ� เนินการเก็บเอกสาร ทง้ั สมยั สงครามเกาหลี และสมัยก�ำเนิดสมาคมอาเซียนซ่ึงอยู่ในช่วงสงครามเย็น และสมัยประชาคม อาเซียนหรอื เหตกุ ารณ์ในชว่ งยคุ หลงั สงครามเยน็ ในส่วนของสมัยสงครามเกาหลีนั้น ได้เน้นประเทศที่เก่ียวข้องโดยตรง กบั ประเทศไทยในสงครามเกาหลีเปน็ หลัก เช่น เกาหลใี ต้ จีน ญ่ีปุน่ ฝร่งั เศส สหภาพโซเวยี ต/รสั เซยี สหรัฐอเมรกิ า ออสเตรเลยี และองั กฤษ แตเ่ นอื่ งจาก การระบาดของโรคไวรสั โคโรนา COVID-19 ท�ำให้ไม่สามารถไปประเทศต่างๆ ทกี่ ำ� หนดไว้ แตก่ ส็ ามารถเจาะขอ้ มลู กลบั มาได้ ๕ ประเทศหลกั ๆ ไดแ้ ก่ เกาหลใี ต้ จนี ญปี่ ่นุ สหรัฐอเมรกิ า และออสเตรเลยี 195
แต่ข้อมูลจาก ๕ ประเทศดังกล่าวน้ี ก็ถือได้ว่าเป็นตัวแทนท่ีครบถ้วน และมคี วามสมดุล คือมาจากทุกฝา่ ยในสมยั สงครามเยน็ มีทั้งจากค่ายโลกเสรี นำ� โดยสหรฐั อเมริกา ญปี่ ุ่น ออสเตรเลยี ค่ายคอมมิวนสิ ตค์ ือจีน ซ่ึงข้อมลู จาก จนี นี้ มีข้อมลู จากเกาหลีเหนอื และสหภาพโซเวยี ต/รสั เซียอย่ดู ้วย และประเทศ ทเ่ี ปน็ สนามรบคอื เกาหลใี ต้ (ทจี่ รงิ มกี ารเสนอเกาหลเี หนอื ดว้ ย แตย่ งั ไมส่ ามารถ ไปได้ แม้ไม่มีการระบาดของโรค COVID-19 ก็ตาม แต่ในอนาคตมีความ เปน็ ไปได้ หากมหี ัวขอ้ หรือเหตกุ ารณ์สำ� คัญท่เี กย่ี วข้องกับไทย-ประเทศสมาชิก อาเซยี น/เอเชยี ตะวันออก) ส่วนเร่อื งกำ� เนิดของสมาคมอาเซยี นสมัยสงครามเยน็ นนั้ มคี ณะค้นควา้ ๑๗ ท่านและก�ำหนดประเทศที่เกี่ยวข้องและน่าจะมีข้อมูลส�ำคัญๆ ไว้จ�ำนวน ๑๑ ประเทศ ได้แก่ รสั เซีย เยอรมนี ฝรัง่ เศส ออสเตรเลยี อินเดีย สหรัฐอเมรกิ า เวียดนาม กมั พชู า จนี เกาหลีใต้ และไตห้ วัน ในปี ๒๕๖๔ การระบาดของโรค COVID-19 ยังคงรุนแรงท่ัวโลก ใน จำ� นวน ๑๑ ประเทศน้ี จงึ มปี ระเทศทส่ี ามารถเกบ็ ขอ้ มลู โดยตรงจากนกั วชิ าการ ผชู้ ว่ ยคน้ ควา้ ในประเทศนน้ั ๆ ไดเ้ พยี ง ๔-๕ ประเทศ เทา่ นนั้ คอื ฝรง่ั เศส เวยี ดนาม จนี เกาหลใี ต้ และออสเตรเลยี (ในสว่ นของออสเตรเลยี ผู้รบั ผดิ ชอบไดส้ งั่ ซือ้ ไมโครฟิล์ม) อีกส่วนหนึ่งเป็นการค้นคว้าข้อมูลของหอจดหมายเหตุที่ ประเทศน้นั เผยแพร่ทางสือ่ online แล้ว ไดแ้ ก่ ไตห้ วนั สหรฐั อเมริกา (เอกสาร CIA ชุด CREST) และอินเดยี นอกจากน้ียังอาศัยข้อมูลเดิมของ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” คอื สหรฐั อเมริกา (NARA) โดยเฉพาะชุด RG 59 และ RG 84 มาชว่ ยได้มาก และมเี พียง กัมพชู า รัสเซีย และเยอรมนี ที่ไม่สามารถ เจาะข้อมูลจากหอจดหมายเหตุได้ แต่ผู้รับผิดชอบใน ๓ ประเทศน้ีก็ได้อาศัย งานวิจัย งานเขียนทางวิชาการของนักวิชาการของทั้งสามประเทศ ซึ่งเคยใช้ เอกสารชน้ั ตน้ จากหอจดหมายเหตขุ องกมั พชู า รสั เซยี และเยอรมนี มาทดแทน และให้ขอ้ มูลและความร้ใู หม่ทด่ี เี ช่นกนั 196
สำ� หรบั สมยั ประชาคมอาเซยี นในสมยั หลงั สงครามเยน็ นนั้ ตามแผนงาน ไดเ้ นน้ ประเทศทเ่ี กยี่ วขอ้ งโดยตรงกบั อนิ โดจนี เปน็ หลกั นอกจาก ๓ ชาตใิ นกลมุ่ อนิ โดจนี แลว้ ยงั เนน้ ชาตมิ หาอำ� นาจทเ่ี ขา้ มามบี ทบาทและอทิ ธพิ ล ไดแ้ ก่ เกาหลใี ต้ จนี รสั เซยี ญป่ี นุ่ ไตห้ วนั ฝรง่ั เศส สหรฐั อเมรกิ า ออสเตรเลยี องั กฤษ และอนิ เดยี เป็นหลักประกอบด้วย เพื่อช่วยให้การตอบโจทย์ท่ีตั้งไว้เป็นไปอย่างรอบด้าน คือนอกจากผู้เล่นตัวหลัก อันได้แก่ ๓ ชาติในกลุ่มอินโดจีนแล้ว ข้อมูลจาก ประเทศมหาอ�ำนาจท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องกับเร่ืองน้ีก็จะช่วยเสริมและ/หรือยืนยัน ไดอ้ ยา่ งดี ในปี ๒๕๖๕ แมส้ ถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ดูเหมือน จะไมด่ ีขน้ึ เม่ือเทยี บกับปกี อ่ น โดยเฉพาะอย่างยงิ่ เมอ่ื มกี ารค้นพบสายพันธใ์ุ หม่ คือ เจ้า Omicron ในช่วงปลายปี ๒๕๖๔ และอาจจะสง่ ผลกระทบรุนแรงขน้ึ อกี ครง้ั กเ็ ปน็ ไปได้ แตย่ งั ไมถ่ อื เปน็ อปุ สรรคสำ� คญั ของคณะคน้ ควา้ /วจิ ยั เอกสาร ต่างประเทศ ดงั นนั้ การดำ� เนนิ การของโครงการน้ียังคงมงุ่ ตอ่ ไปข้างหนา้ แม้ยังไม่มี ใครร้วู า่ เจ้า Omicron จะส่งผลกระทบในแบบเดียวกับเจา้ Delta/Delta Plus หรอื ไม่ รวมทงั้ วกิ ฤตรสั เซยี -ยเู ครน จะสง่ ผลมากนอ้ ยเพยี งใด แตก่ ารดำ� เนนิ การ ในด้านต่างๆ ยังเป็นไปตามท่ีก�ำหนดไว้แต่เดิม เช่น ในส่วนของกลุ่มประเทศ อนิ โดจนี มแี นวโนม้ ทจ่ี ะดำ� เนนิ การได้ ทง้ั จากนกั วชิ าการของไทยและนกั วชิ าการ ท้องถิ่นของประเทศนนั้ แตย่ งั คงตอ้ งรอคอยใหส้ ถานการณ์ดขี ้ึนก่อน ส่วนทาง ยุโรป เกาหลีใต้ มีแนวโน้มจะเปิดประเทศเช่นกันในช่วงเมษายน ๒๕๖๕ เปน็ ตน้ ไป เป็นท่คี าดหมายกันวา่ ถ้าไมม่ กี ารระบาดในระลอกใหม่ โดยเฉพาะหลงั จากสายพนั ธใ์ุ หม่ คอื “Omicron” ซงึ่ เปน็ ชอื่ โควดิ สายพนั ธท์ุ ี่ ๕ และทาง WHO ระบุว่าเปน็ “สายพนั ธ์ุทนี่ า่ กงั วล” เม่อื ปลายเดือนพฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ นัน้ ใน ช่วงกลางปี ๒๕๖๕ ทาง NARA นา่ จะกลับมาให้บรกิ ารได้ แตก่ ็มคี วามหวังใน แบบ ๕๐ : ๕๐ เท่านั้น 197
เฉพาะทางยุโรป ไดเ้ ปดิ หลายประเทศ เช่น องั กฤษ และมีอาจารย์ (รร. จปร.) เดินทางไปคน้ เอกสารแล้ว แตร่ สั เซยี ยงั ไมแ่ นน่ อน เพราะมวี กิ ฤตยเู ครน และยงั มกี ารระบาดครง้ั ใหมเ่ ชน่ เดยี วกบั เยอรมนี จนี สว่ นทางเกาหลใี ต้ กมั พชู า สงิ คโปร์ ญปี่ นุ่ เวยี ดนาม และออสเตรเลยี กม็ แี นวโนม้ ทดี่ เี ชน่ เดยี วกบั ทางองั กฤษ คือเปิดประเทศได้ แต่ทั้งนี้ทีมงานได้มีการเตรียมแผน ๒-๓ ไว้รองรับอยู่แล้ว เชน่ ผคู้ น้ ควา้ ทางออสเตรเลยี ไดส้ งั่ ซอ้ื ไมโครฟลิ ม์ เชน่ เดมิ และคงฝากความหวงั ไวท้ าง online เช่น ทางไตห้ วนั อนิ เดีย และสหรัฐอเมรกิ า (CREST) และทีม ผชู้ ว่ ยคน้ ควา้ ในตา่ งประเทศทางเกาหลีใต้ จีน ญ่ีปนุ่ และฝร่ังเศส รวมทั้งคณะ ผรู้ ่วมวิจยั หน้าใหมจ่ ากลาวและกมั พูชา ประการท่ี ๒ ในสว่ นของการจดั เกบ็ เอกสารเขา้ สรู่ ะบบใหมน่ น้ั เปน็ การ น�ำเอกสารที่รวบรวมกลับมาได้ในแต่ละประเทศดังกล่าว เช่น ในกรณีของ สองปีท่ีผา่ นมา เมื่อปี ๒๕๖๓ จำ� นวน ๕ ประเทศ และในปี ๒๕๖๔ จำ� นวน ๑๑ ประเทศนน้ั มาจดั เกบ็ ไวใ้ น “คลงั ขอ้ มลู ” ดจิ ทิ ลั อยา่ งเปน็ ระบบตามระบบทาง ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ของ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหม่อม อาจารย”์ เพ่อื ให้บรกิ ารแก่ผสู้ นใจทง้ั ทาง on-site และทาง online การจดั เกบ็ ในระบบนมี้ กี ารสำ� รองไวใ้ นสถานท่ี ๒ แหง่ คอื (๑) สำ� นกั งาน การวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) และ (๒) “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทลู กระหมอ่ ม อาจารย์” ซ่ึงจะมีผู้ดูแลในส่วนนี้โดยเฉพาะ ท้ังน้ีก็เพ่ือเปิดให้บริการแก่นัก วชิ าการ นสิ ติ นกั ศกึ ษา และประชาชนทว่ั ไปสามารถเขา้ ถงึ เอกสารตน้ ฉบบั อยา่ ง ทวั่ ถงึ และสะดวกทงั้ ทาง on-site และทาง online หรอื หอ้ งสมดุ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และยงั จะมีกจิ กรรมเสริมทางสื่อ online ในดา้ นต่างๆ อีกด้วย เพ่อื ให้ผ้สู นใจ ได้เข้าถึงตัวเอกสาร ความรู้และตัวระบบของหอจดหมายเหตุต่างประเทศใน แต่ละแห่งต่อไป ประการท่ี ๓ สำ� หรบั การวเิ คราะหข์ อ้ มลู และการเผยแพรเ่ อกสาร กำ� หนด ให้มี ๓ รูปแบบใหญ่ ได้แก่ 198
(๑) การจัดสัมมนาทางวิชาการประจ�ำปี เพื่อให้คณะค้นคว้าเอกสาร อ่านและวิเคราะห์ รวมทั้งจัดล�ำดับความส�ำคัญของเอกสารในแบบต่างๆ เช่น ข้อมูลทั่วไป ข้อมูลเดน่ ขอ้ มลู ใหม่ เพอ่ื น�ำเสนอภาพรวมของเอกสารในแต่ละ ประเทศทนี่ ำ� กลบั มา โดยการจดั สมั มนาไดก้ ำ� หนดแกนเรอื่ งหรอื ประเดน็ สำ� คญั ทที่ ลู กระหมอ่ มอาจารยท์ รงแนะนำ� และ/หรอื หวั หนา้ โครงการและคณะคน้ ควา้ ไดร้ ว่ มกำ� หนดไว้ เพอื่ เผยแพรเ่ อกสารสำ� คญั บางสว่ นทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ประวตั ศิ าสตร์ ไทยชว่ งต้นสมยั สงครามเยน็ และต่อเน่อื งมาในช่วงต้นของยคุ หลงั สงครามเย็น ตวั อยา่ งเชน่ ในปี ๒๕๖๓ การจดั สมั มนาเรื่อง “๗๐ ปี ไทยกับสงคราม เกาหล”ี และมเี อกสารประกอบการสมั มนาเผยแพรต่ อ่ สาธารณะ ๑ เลม่ จำ� นวน ๘ บทความ ซึ่งรวมบทความของทูลกระหม่อมอาจารย์ วิทยากรจากที่ส่งไป ค้นคว้าและผ่านการวิเคราะห์ในระดับต่างๆ แล้ว ประกอบด้วยการน�ำเสนอ ขอ้ มลู ทว่ั ไป ขอ้ มลู ทนี่ า่ สนใจ/ขอ้ มลู ใหม่ และสรปุ ภาพรวมของขอ้ มลู จากแตล่ ะ ประเทศที่ก�ำหนดไว้ และการจัดสัมมนาน้ีมีเป้าหมายเพื่อรับฟังข้อคิดเห็น ข้อ สังเกตจากผ้เู ชยี่ วชาญ ผูส้ นใจ ท่ีมีตอ่ หวั ข้อสมั มนาและเอกสารต่างประเทศที่ น�ำกลับมาจัดเก็บไว้ รวมท้ังเพ่ือระดมความคิดเห็นส�ำหรับการแปลและการ ศกึ ษาวจิ ยั ในเชงิ ลกึ จากแหลง่ ขอ้ มลู ดงั กลา่ วตอ่ ไป ซงึ่ กจิ กรรมการแปลและการ วิจัยเชงิ ลกึ งานเขียนสร้างสรรค์น้นั ตามแผนกำ� หนดไวจ้ ำ� นวน ๖-๘ เลม่ /ชิน้ ตอ่ ปี ในปี ๒๕๖๔ ในการจัดสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง “๕๔ ปี การก่อต้ัง ‘อาเซยี น’ และปฏกิ ริ ยิ าจากโลกมหาอำ� นาจและเพอื่ นบา้ น : มมุ มองจากเอกสาร หอจดหมายเหตุต่างประเทศและนักวิชาการอาวุโส” ก็เช่นเดียวกันกับปีท่ี ผา่ นมา คอื มเี อกสารประกอบการสมั มนาเผยแพรต่ อ่ สาธารณะ ๑ เลม่ ซงึ่ มี ๑๕ บทความ รวมบทความของทูลกระหม่อมอาจารย์ และบทความข้อมูลของ วทิ ยากรจากท่ีส่งไปค้นควา้ และผา่ นการวเิ คราะหใ์ นระดบั ต่างๆ แลว้ ในจ�ำนวน ๑๕ บทความนี้ ประกอบด้วยบทความของทูลกระหม่อม อาจารย์ และบทความของคณะคน้ ควา้ อกี ๑๔ บทความ เปน็ การนำ� เสนอขอ้ มลู 199
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294