ดงั เชน่ เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ พระองคท์ รงสนบั สนนุ ใหม้ กี ารจดั สมั มนาทาง วชิ าการ เรอ่ื ง “๕๔ ปี การก่อตง้ั “อาเซียน” และปฏิกริ ิยาจากโลกมหาอำ� นาจ และเพ่ือนบ้าน : มุมมองจากเอกสารหอจดหมายเหตุต่างประเทศและ นักวิชาการอาวุโส” ซึ่งการจัดสัมมนาในคร้ังน้ียังคงได้รับการตอบรับอย่างดี เชน่ เดิม แมก้ ารระบาดของโรคไวรสั โคโรนา COVID-19 ยงั คงอยแู่ ละแผลงฤทธิ์ แผลงเดชอยา่ งรุนแรงดว้ ยความโกรธแคน้ มนุษย์หรือไม่ ก็ตาม ส�ำหรับในปี ๒๕๖๕ แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา COVID-19 ยงั คงอยู่อย่างตอ่ เน่ือง อีกทงั้ ยังแถมเจ้า Omicron และสายพันธ์ุ ย่อยมาอีกด้วย และเป็นท่ีกังวลกันว่าอาจจะร้ายกว่าเจ้า Delta/Delta Plus ก็ได้ แต่พระองค์ยังคงทรงสนับสนุนการด�ำเนินการของ “หอจดหมายเหตุ ต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย”์ ต่อไปดงั เช่นเดิม โดยการจัดงานสัมมนา วชิ าการหวั ขอ้ ใหมๆ่ ทที่ นั สมยั ในสถานการณป์ จั จบุ นั และเปน็ ทสี่ นใจของแวดวง วิชาการ ในครงั้ ใหมป่ ี ๒๕๖๕ นี้ พระองคท์ รงมพี ระราชดำ� รใิ หค้ ณะคน้ ควา้ เอกสาร ต่างประเทศส�ำรวจข้อมูลลับท่ีเปิดเผยแล้วในช่วงยุคหลังสงครามเย็น จึงเป็น ทม่ี าของการจดั สมั มนาเรอื่ ง “ไทยกบั อนิ โดจนี สมยั ประชาคมอาเซยี น : มมุ มอง จากเอกสารหอจดหมายเหตุต่างประเทศของเพ่ือนบ้านและชาติมหาอ�ำนาจ” ซึ่งจะจัดที่มหาวิทยาลัยนครพนม ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ ตามท่ีได้ กล่าวมาแลว้ หลังจากปี ๒๕๖๕ ยังคงจะมีงานสัมมนาเช่นเดิม เพราะยังคงมีเรื่อง น่าสนใจในหวั ข้อใหม่ๆ รอคอยอยูข่ ้างหนา้ ตอ่ ไปอีก และเปน็ ไปตามกรอบใหญ่ ทางแนวคดิ ทวี่ างไวใ้ นการคน้ ควา้ และเกบ็ รวบรวมเอกสารสำ� คญั จากตา่ งประเทศ ตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังสงครามโลกครั้งท่ี ๒ จนถึงยุคหลังสงครามเย็น เพ่ือประโยชน์ในการทำ� วิจัยต่อเน่ืองด้วย เพราะมกี ารก�ำหนดเปา้ หมายผลผลติ ของนกั วิจยั แต่ละท่าน เพือ่ ให้การน�ำเสนอผลการศกึ ษา ทงั้ ด้านการแปล การ วจิ ัยเชงิ ลกึ งานเขียนสรา้ งสรรค์ และตีพิมพ์ในรปู หนงั สอื บทความวิจัยเป็นไป ในทิศทางเดียวกนั 50
โดยสรปุ การดำ� เนนิ การของ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ ม อาจารย”์ แหง่ นี้ ยงั คงมมี าอยา่ งตอ่ เนอ่ื งในปจั จบุ นั แมว้ า่ ทรงเกษยี ณอายรุ าชการ แล้วกต็ าม แต่พระองค์ยงั คงทรงใหก้ ารสง่ เสรมิ สนับสนุนและพัฒนากิจกรรม ตา่ งๆ ท่ีทรงริเริ่มและวางรากฐานไว้อยา่ งตอ่ เนอื่ งตลอดมา และพระองค์ยงั คง ทรงจะสนับสนนุ ตอ่ ไปในอนาคต ดังส่วนหนึ่งสะทอ้ นจากพระราชนพิ นธ์ท่ีทรง เนน้ เสมอมาวา่ “…สิ่งทีเ่ ราทำ� มาเปน็ ประโยชน์คุม้ คา่ …” “…สิ่งที่เราท�ำมาเป็นประโยชน์คุ้มค่า…” คือข้อเท็จจริง และส่ิงนี้ได้ กระจายขยายตวั ออกไปในวงกวา้ งแลว้ เพราะหากมกี ารรวบรวมผสู้ นใจเขา้ รว่ ม สัมมนาท่ีผ่านมา รวมทั้งผู้มาใช้บริการความรู้ทางเอกสารต่างประเทศ ต้ังแต่ ก่อนและหลังปี ๒๕๕๖ จนถึงปจั จบุ ัน ประมาณได้วา่ มีผู้สนใจเขา้ รว่ มมากกวา่ ๔,๐๐๐-๕,๐๐๐ คนแลว้ (ท้งั นีย้ งั ไมน่ ับรวมส่วนทเี่ ขา้ ชม videos รายการทาง ดา้ นการให้บริการความรูท้ างเอกสารต่างประเทศ ซ่ึงมีอยใู่ น Facebook ของ สถาบนั การศกึ ษาตา่ งๆ เชน่ ภาควชิ าประวตั ศิ าสตร์ คณะสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร) เป็นความจริงที่ว่า จ�ำนวนผู้สนใจท่ีได้รับรู้ เข้าร่วมกิจกรรมของ หอจดหมายเหตุต่างประเทศแห่งน้ี มีความส�ำคัญ แต่ความส�ำคัญคงมิใช่เพียง ในเชิงปริมาณเทา่ น้นั หากอยู่ท่ีเชงิ คณุ ภาพอีกดว้ ย เพราะเชอ่ื ได้ว่าผฟู้ งั ผ้รู ่วม ในจำ� นวนน้ี รวมทงั้ วทิ ยากร คณะคน้ ควา้ /วจิ ยั ผรู้ บั บรกิ ารทง้ั ในกรงุ เทพฯ และ ตา่ งจงั หวัด และผู้ร่วมสมั มนาทั้งหลายทาง on-site หรือ online กด็ ี นา่ จะได้ รบั ประโยชนจ์ ากแหลง่ ขอ้ มลู เอกสารตา่ งประเทศน้ี ทงั้ ในดา้ นการเรยี นการสอน การพฒั นาความคดิ อา่ น และการศกึ ษาวจิ ยั ในขนั้ ตอ่ ๆ ไป ตามพระราชดำ� รแิ ละ พระราชประสงคข์ องพระองค์ และย่อมจะสง่ ผลทีด่ ตี ่อไปในกาลข้างหนา้ และ ผลทดี่ นี คี้ งมไิ ดจ้ ำ� กดั เฉพาะผคู้ นในแวดวงวชิ าการเทา่ นน้ั หากประชาชนผสู้ นใจ ท่ัวไปย่อมจะได้รับประโยชน์จากหอจดหมายเหตุต่างประเทศแห่งนี้ไม่น้อย เช่นกนั 51
บทสรปุ และส่งทา้ ย การรเิ ริม่ ของพระองค์ในการดำ� เนนิ การ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ นี้ ถอื เปน็ “ตน้ แบบ” ของหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ในเมืองไทย เพราะจากการทบทวนวรรณกรรมทเ่ี ก่ยี วข้อง เช่น ประวตั ิศาสตร์ รฐั ศาสตร์ บรรณารกั ษศาสตร์ รวมถึงทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ยงั ไม่ เคยพบว่ามีงานเขียนงานศึกษาท่ีเก่ียวข้องหรือจัดอยู่ในลักษณะเดียวกันกับ โครงการนี้ ยกเว้นโครงการการวิจัยเอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย สมัยใหม่จากหอจดหมายเหตุต่างประเทศ (Research on Significant Historical Documents of Modern Thai History From Overseas Archives) ของผเู้ ขยี น (พันเอก ดร.สรศกั ด์ิ งามขจรกลุ กิจ) ในปี ๒๕๖๓-๖๕ เป็นตน้ มา โครงการการวิจัยเอกสารส�ำคัญนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากส�ำนักงานการ วจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) โดยมวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลกั เพอื่ สบื สานพระราชดำ� รแิ ละพระราช ประสงคข์ องทูลกระหมอ่ มอาจารย์ต่อจากโครงการเดิม คอื “หอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศ ทูลกระหมอ่ มอาจารย์” เพือ่ ให้มกี ารขยายงานในการด�ำเนินการ ตอ่ ไปในระยะยาว โดยการสร้างและขยายทมี งาน เครอื ข่ายคณะคน้ คว้า/วจิ ยั ออกไปสสู่ ถาบนั การศกึ ษาตา่ งๆ ทงั้ ภายในและตา่ งประเทศ เพอื่ ใหก้ ารรวบรวม จัดเก็บและเผยแพร่เอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่ ได้ขยายตัว ออกไปสปู่ ระเทศต่างๆ ทง้ั ทเี่ คยท�ำอยู่เดิมและประเทศใหมๆ่ อย่างตอ่ เนือ่ ง ซงึ่ ตามเปา้ หมายในระยะ ๑๐ ปีแรกน้ัน ไดก้ �ำหนดไวไ้ มน่ ้อยกว่า ๒๐-๓๐ ประเทศ ท้ังจากชาติมหาอำ� นาจ ประเทศเพือ่ นบา้ นในเอเชยี และอาเซียน เพอื่ การจัดทำ� ฐานข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในขนาดใหญ่และอยู่ในระบบท่ีทันสมัย ส�ำหรับ การเปิดบรกิ ารให้กับชาวไทยทุกคนทีส่ นใจ โดยเหตุนั้น เรื่องโครงการการวิจัยน้ีจึงก่อเกิดขึ้นมา ด้วยเพราะมี วตั ถุประสงค์หลกั ในดา้ นการด�ำเนนิ การทมี่ ีจุดเดน่ เน้นกจิ กรรมด้านต่างๆ ตาม โครงการเดิมของพระองค์ คือการส่งเสริมและสนับสนุนการด�ำเนินการของ 52
“หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ เพอ่ื พฒั นา “คลงั ขอ้ มลู ” ดิจทิ ลั ไปส่ฐู านขอ้ มลู ในระดับใหญ่ข้นึ เพอื่ การจดั ทำ� โครงสร้างพน้ื ฐานท่สี ำ� คญั ในอนาคตตอ่ ไป สำ� หรบั การวจิ ยั ดา้ นประวตั ศิ าสตรไ์ ทย การวจิ ยั ทางมนษุ ยศาสตร์ และสงั คมศาสตร์ รวมทง้ั ดา้ นอ่ืนๆ เช่น ศลิ ปกรรมศาสตร์ และจะได้เลา่ เขา้ สู่ ต้นขวั้ ในรายละเอียดน้ี ให้เหน็ ถึงแนวคิด เปา้ หมายและการดำ� เนินการในรอบ ๒-๓ ปที ผี่ ่านมาของโครงการนใี้ นตอนทา้ ยอกี ครัง้ คอื ในบทท่ี ๘ ด้วยเหตนุ ้ี ทั้งสองโครงการดงั กล่าวจงึ ถอื ได้วา่ เปน็ งานบกุ เบิก และเป็น “ตน้ แบบ” ในดา้ นการคน้ ควา้ รวบรวมและจดั เกบ็ เอกสารสำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตร์ ไทยจากหอจดหมายเหตุแหง่ ชาตปิ ระเทศตา่ งๆ จากทว่ั โลก เพ่ือเปดิ บริการให้ แกช่ าวไทย ทง้ั นกั วชิ าการ นสิ ติ นกั ศกึ ษา และผสู้ นใจทว่ั ไป สามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู เอกสารดงั กลา่ วในรปู แบบตา่ งๆ เชน่ การเขา้ รว่ มงานสมั มนาทางวชิ าการประจำ� ปี การสมั มนากลมุ่ ยอ่ ย หรอื การรบั บรกิ ารความรเู้ อกสารดงั กลา่ วเปน็ กลมุ่ คณะ หรือรายบุคคล ทั้งในและนอกสถานท่ีของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า การแปลเอกสารส�ำคัญ การวิจัยเชิงลึก การเขียนงานสร้างสรรค์ รวมทั้งการ เข้าถึงต้นฉบับของเอกสารดังกล่าวท่ีเผยแพร่ได้ผ่านทางระบบห้องสมุด อเิ ลก็ ทรอนกิ สข์ อง กปศ.สกศ.รร.จปร. และของสำ� นกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) ผลผลิตของโครงการนต้ี ามเป้าหมายในระยะยาวแล้ว จงึ มคี วามสำ� คัญ ต่อทั้งนักวิชาการ ประชาชนท่ัวไป และประเทศไทย เพราะเป็นการจัดท�ำ โครงสร้างพื้นฐานที่ส�ำคัญด้านข้อมูลในลักษณะตัวเอกสาร/ข้อมูลส�ำคัญทาง ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมยั ใหม่ จากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศทวั่ โลก ทงั้ เอกสาร ของประเทศมหาอ�ำนาจ ภูมภิ าคท่หี ่างไกล และประเทศเพ่ือนบ้านในเอเชยี ที่ เก่ยี วกบั ประเทศไทย ในจ�ำนวนทีม่ ากพอทงั้ ในเชงิ ปรมิ าณและคุณภาพส�ำหรับ การพัฒนาความรู้ความเข้าใจทางประวัติศาสตร์ ความคิดอ่านของผู้คน การ เรยี นการสอนในระดบั ตา่ งๆ และการเปดิ ประเดน็ ใหมๆ่ ของการศกึ ษาวจิ ยั ทาง ประวัติศาสตร์ไทยในหัวเรื่องหรือช่วงนั้นๆ ได้ดี ท้ังก่อน ระหว่าง และหลัง 53
สงครามโลกครงั้ ที่ ๒ อย่างตอ่ เนื่อง โดยเฉพาะสมัยสงครามเย็นจนถงึ ปจั จุบนั ในช่วงยุคหลังสงครามเย็น ผลผลติ ทสี่ ำ� คญั ของโครงการวจิ ยั น้ี กค็ อื “…สง่ิ ทเ่ี ราทำ� มาเปน็ ประโยชน์ คมุ้ คา่ …” ตามทพี่ ระองคท์ รงเนน้ มาแลว้ เพราะมผี ลตอ่ สงั คมไทยทง้ั ในระยะสนั้ และระยะยาว ซึ่งในระยะยาวคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า เอกสารข้อมูลส�ำคัญทาง ประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่ จากหอจดหมายเหตุต่างประเทศจ�ำนวนมากมาย และหลากหลายนั้น ย่อมจะส่งผลในเชิงการพัฒนาทางภูมิปัญญาต่อผู้คนใน สงั คมไทย (wisdom) โดยเฉพาะในแวดวงวชิ าการและผู้สนใจท่ัวไป การพัฒนาน้ีเป็นเรื่องของกระบวนการพัฒนาความรู้ความคิดอ่านท่ี เกดิ ขน้ึ เปน็ ลกู โซ่ เร่มิ จากการไดร้ บั ข้อมูลส�ำคญั ขอ้ มลู ชุดใหม่ เกิดประเดน็ ใหม่ เกดิ การศกึ ษาวจิ ัยสรา้ งความรู้ใหมๆ่ ท�ำให้คนไทยเข้าถึงและตระหนักในความ ส�ำคัญของหลักฐานชั้นต้น และเกิดความคิดอ่านใหม่ที่อ้างอิงบนหลักฐาน ขอ้ เทจ็ จรงิ อยา่ งมเี หตผุ ล ซง่ึ เปน็ กระบวนการทช่ี ว่ ยพฒั นาความคดิ อา่ นใหผ้ คู้ น มคี ณุ ภาพและพฒั นากา้ วไปสสู่ งั คมแหง่ ความรู้ ทม่ี เี หตมุ ผี ลและทสี่ ำ� คญั คอื การ คดิ อ่านบนฐานความรจู้ ากหลกั ฐานข้อเท็จจริงอยา่ งม่ันคงและยัง่ ยนื สืบตอ่ ไป เราในฐานะคนไทย ไมว่ า่ จะไดร้ บั ประโยชนโ์ ดยทางตรงหรอื โดยทางออ้ ม จากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศแหง่ นกี้ ต็ าม จงึ ควรอยา่ งยง่ิ ทจี่ ะรว่ มมอื รว่ มใจ ช่วยกันรักษาและสืบสานพระราชด�ำริและพระราชประสงค์ของพระองค์ใน เรอื่ งนต้ี อ่ ๆ ไป เพอ่ื ขยายขา่ ยงานของ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ ม อาจารย์” ที่พระองค์ทรงพากเพียรในการวางรากฐานไว้แล้ว ให้มีความเจริญ ก้าวหน้าและเติบโตย่ิงๆ ขึ้น ทั้งในด้านการรวบรวมและจัดเก็บตัวเอกสาร ตา่ งประเทศ และการนำ� ไปใชป้ ระโยชนห์ รอื การประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ การพฒั นาใน ดา้ นต่างๆ ตอ่ ไป ที่ส�ำคัญยิ่งคือ การพัฒนาต่อยอดจากแหล่งเอกสารข้อมูลต่างประเทศ หรือ “คลงั ข้อมูล” ดจิ ิทัล ทีพ่ ระองคท์ รงด�ำเนินการมานานกว่าสามทศวรรษ แล้ว เพ่อื การจัดท�ำโครงสรา้ งพนื้ ฐานท่สี ำ� คญั ในอนาคตตอ่ ไป ส�ำหรบั การวิจัย 54
ดา้ นประวตั ศิ าสตรไ์ ทย และการวจิ ยั ทางมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ รวมทง้ั ศาสตรอ์ น่ื ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งทงั้ ในดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศลิ ปกรรมศาสตร์ การจัดทำ� โครงสร้างพ้นื ฐานที่ส�ำคัญนี้ แนน่ อนวา่ หัวใจอย่ทู ่ีการพัฒนา “คลงั ขอ้ มลู ” ดจิ ทิ ลั และตอ้ งอาศยั เทคโนโลยที ที่ นั สมยั เขา้ มาเปน็ ตวั ชว่ ยสำ� คญั และหวั ใจของการพฒั นา “คลังขอ้ มลู ” นี้ จำ� เป็นต้องอาศยั “วัตถุดบิ ” ซง่ึ ก็คือ เอกสารสำ� คญั จากตา่ งประเทศ ทีค่ ณะคน้ คว้า/วจิ ยั ไดน้ �ำกลับมาป้อนเขา้ ใหม่ๆ และมเี พม่ิ ขน้ึ ในแตล่ ะปี ซง่ึ เปน็ กจิ กรรมหลกั อกี ประการหนงึ่ ของการดำ� เนนิ การ ของหอจดหมายเหตุต่างประเทศแห่งนี้ และปัจจุบันมีผู้สนใจเข้ามาร่วมอยู่ใน เครือข่ายไมน่ อ้ ยกวา่ /มากกว่า ๑๐๐ ทา่ นแลว้ แต่ยังคงตอ้ งการกำ� ลังทัพเสริม จากคนรุ่นใหมๆ่ อย่ดู ี โดยเฉพาะผูร้ ู้ ผเู้ ช่ียวชาญทางประเทศตา่ งๆ ในภูมิภาค ใหม่ๆ ทีย่ งั ไม่เคยไปทางตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา แอฟริกา และประเทศ เกิดใหม่จากการสลายตัวของยุโรปตะวันออกและสหภาพโซเวียตเดิม (ยกเว้น ยเู ครนไปกอ่ น) ในบทถัดไป จะได้กล่าวถึงการรวบรวมและจัดเก็บเอกสารส�ำคัญทาง ประวตั ศิ าสตรจ์ ากตา่ งประเทศ และถอื เปน็ ขน้ั ตอนแรกของการดำ� เนนิ การของ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทลู กระหม่อมอาจารย์” และการพัฒนา “คลงั ข้อมูล” ดจิ ทิ ัลแหง่ นไ้ี ปสูก่ ารให้บริการความร้แู ก่ผู้สนใจ ทงั้ ทาง on-site ผ่าน ระบบ intranet รร.จปร. และทางสอื่ online ผา่ นทางระบบหอ้ งสมดุ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ทา้ ยทส่ี ุดคอื เปา้ หมายใหญใ่ นการจัดทำ� โครงสร้างพ้นื ฐานทส่ี ำ� คญั ในอนาคต แตก่ ารจะบรรลุตามเปา้ หมายใหญ่น้ี คงมใิ ชเ่ รอ่ื งงา่ ยนัก แตก่ ็เปน็ ส่งิ ท่ี เป็นไปได้ หากผู้อา่ นทกุ ทา่ นไดใ้ ชค้ วามสามารถ ความสนใจที่มอี ยู่ และไดเ้ ข้า มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง มีส่วนร่วมในการท่ีจะเข้ามาช่วยเหลือกันตามแต่โอกาส และความสามารถเท่าท่ีจะท�ำได้ เพ่ือให้กิจกรรมต่างๆ ของหอจดหมายเหตุ ต่างประเทศแห่งนี้เจริญก้าวหน้าต่อไป ซึ่งความส�ำคัญของ “หอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศ ทูลกระหมอ่ มอาจารย”์ นอกจากจะเปน็ แหล่งรวมขอ้ มูลเอกสาร สำ� คญั จากตา่ งประเทศแลว้ ยงั เปน็ พน้ื ทข่ี องโครงสรา้ งพนื้ ฐานในการพฒั นาทาง 55
ภูมิปัญญา ประวัติศาสตร์ชาติและความทรงจ�ำของท้องถิ่นอีกด้วย จึงถือเป็น ภารกจิ ของผอู้ ่านเชน่ กนั แม้ว่าท่านอาจเปน็ เพยี งประชาชนผ้สู นใจท่ัวไปก็ตาม “The world is not dangerous because of those who do harm but because of those who look at it without doing anything.” (Albert Einstein) 56
บทท่ี ๓ เอกสารสำ� คญั ทางประวัตศิ าสตร์จาก ตา่ งประเทศ : การรวบรวมและจดั เก็บ 57
“ …เม่อื ข้าพเจ้ามีโอกาสไปตา่ งประเทศจงึ ไปดูหอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศ เห็นว่ามีเอกสารที่จะมปี ระโยชน์ในการศึกษา ประวัตศิ าสตรไ์ ทยอยมู่ าก ถงึ จะเป็นหอจดหมายเหตทุ ีม่ ีคนไทยไป ค้นควา้ แล้ว ก็ควรไปถา่ ยสำ� เนากลับมา เนื่องจากระบบของ หอจดหมายเหตุตา่ งประเทศคือ จะเปดิ เผยเอกสารเมอื่ ครบกำ� หนด เช่น ๓๐ ปี ๕๐ ปี ๑๐๐ ปี เปน็ ตน้ จะท�ำใหม้ เี อกสารใหมๆ่ ออก มาทุกปี ข้าพเจา้ เองไม่มโี อกาสทจี่ ะไปนั่งคน้ ควา้ หรือเขียนบทความ อะไรทางวิชาการมากนัก จงึ ขอแรงเพอ่ื นรว่ มงานใหไ้ ปชว่ ยอ่านและ เลือกเอกสารท่ีมีประโยชน์มาไว้ทโี่ รงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกลา้ เมอื่ เอามาถงึ ได้ท�ำเร่ืองยอ่ จัดหมวดหมู่ ภายหลงั จัดท�ำขอ้ มูลลง คอมพิวเตอร์เปน็ ระบบดจิ ติ อลเพอ่ื ใชง้ า่ ยตอ่ การค้นคว้า… ” พลเอกหญงิ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ “พระราชนพิ นธ์คำ� นำ� ” ๗๐ ปี แหง่ การส้นิ สดุ สงครามโลกครง้ั ที่ ๒ : ไทยจากเอกสารจดหมายเหตตุ ่างประเทศ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝร่ังเศส รัสเซยี เยอรมนี ญปี่ นุ่ ตรุ กี และจีน” ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ 58
บทน�ำ “พระราชนิพนธค์ ำ� นำ� ” นี้ พระองคท์ รงนำ� เสนอไวใ้ นงานสมั มนาฯ เมือ่ ปี ๒๕๕๘ และทรงเล่าถึงความเป็นมาของ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ ซงึ่ เปน็ สว่ นหนงึ่ ในโครงการหอจดหมายเหตุ กปศ.สกศ. รร.จปร. ในพระราชดำ� รฯิ เนอ่ื งในโอกาสเปดิ ตวั เปน็ ทางการครง้ั แรกของโครงการ ดังกลา่ ว นอกจากนน้ั ใน “พระราชนพิ นธค์ ำ� นำ� ” ยงั มนี ยั สำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตร์ ในอีกมิติหนึ่ง ท่ีสะท้อนถึงความเป็นมาของพระราชด�ำริและพระราชประสงค์ ในการริเร่ิมและการด�ำเนินการเพื่อการรวบรวม จัดเก็บและเผยแพร่เอกสาร ส�ำคญั ทางประวตั ิศาสตร์จากหอจดหมายเหตุต่างประเทศ ตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๕๓๔- ๓๕ เป็นตน้ มาจนถึงปัจจบุ ัน เนอ้ื หาในบทน้มี คี วามต่อเนื่องจากบททีแ่ ลว้ คอื จากความเปน็ มา ส่กู าร รวบรวมและจัดเก็บเอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์จากต่างประเทศ และจะ ได้น�ำเสนอย้อนกลับไปช่วงต้นเพ่ือให้เห็นในรายละเอียดว่า พระราชด�ำริและ 59
พระราชประสงคข์ องพระองค์ ที่ทรงริเร่ิมการด�ำเนินการเพอื่ การรวบรวมและ จดั เกบ็ เอกสารสำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตรจ์ ากหอจดหมายเหตแุ หง่ ชาตขิ องประเทศ ต่างๆ นั้น พระองค์ทรงด�ำเนินการจากจุดเริ่มต้นอย่างไร ทรงมีอะไรเป็น เครอื่ งมอื ในการดำ� เนนิ การ และเครอ่ื งมอื นน้ั ยงั มปี ระสทิ ธภิ าพหรอื ไม่ มากนอ้ ย เพยี งใด ค�ำถามชุดนี้ยังมีต่อจากน้ัน คณาจารย์ท่ีพระองค์ทรงมอบหมายให้เริ่ม ดำ� เนนิ การดงั กลา่ ว มวี ธิ กี ารทำ� งานกนั อยา่ งไร โดยเฉพาะในการจดั เกบ็ เอกสาร ต่างประเทศทนี่ ำ� กลับมาน้ัน มีปจั จยั อะไรที่ถอื เป็นตัวก�ำหนดความสำ� คญั เช่น ขอ้ มลู ใหม่ คอื ข้อมลู อะไร ท�ำไมถึงจดั เปน็ ขอ้ มลู ใหม่ รวมถึงหอจดหมายเหตุ ต่างประเทศตามเป้าหมายที่ได้ไปนั้น มีเกณฑ์ก�ำหนดในการเลือกอย่างไร มี ประเทศใดบ้าง หลังจากนนั้ มกี ารจัดเกบ็ อย่างไร และการจดั เก็บนี้มีการพฒั นา ไปสู่ระบบใหม่ที่ทันสมัยหรือไม่ ถ้าเกิดมาช่างถาม ก็คงมีค�ำถามต่อไปได้อีก ไม่นอ้ ย ท้ังหมดนี้คือ ส่วนหนึ่งของค�ำถามจากผู้ท่ีไม่เคยค้นคว้า ไม่เคยสืบค้น เอกสารของหอจดหมายเหตุมาก่อน จงึ ไม่รู้และคงมีความสงสยั ใครร่ ู้ แต่ความ ไม่ร้กู เ็ ป็นสิ่งทส่ี ามารถเรยี นรู้กนั ได้ หากสนใจ ตอ้ งการจะรู้ และถอื เปน็ หนา้ ท่ี อย่างหนึ่งของผรู้ ู้ เนอ่ื งจากผ้รู ู้ ผมู้ ปี ระสบการณเ์ ช่นผเู้ ขียน ควรต้องนำ� ความรู้ นัน้ มาบอกกลา่ วเล่ากนั ฟังให้ชดั เจนเป็นรปู ธรรม ซึง่ เร่ืองน้จี ะได้กลา่ วเฉพาะใน บทท่ี ๘ อีกครงั้ จากโครงการวิจยั ที่ก�ำลงั ทำ� อยูแ่ ละได้สร้างสรรคส์ ิ่งทจี่ ะสง่ ต่อ ใหแ้ กค่ นทว่ั ไปไดเ้ รยี นรใู้ นเชงิ “นวตั กรรม” “ตน้ แบบ” ของการคน้ ควา้ เอกสาร ต่างประเทศ ตามกระบวนการ ขั้นตอนต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ เพอื่ เปน็ model สำ� หรับผสู้ นใจหนา้ ใหม่ทีจ่ ะไปค้นคว้าเอกสารต่อไป ในเบอื้ งต้นเพ่อื ให้ผู้อา่ นมคี วามรทู้ ่ดี จี ากเรือ่ งเลา่ น้ี จึงควรอ้างอิงไปกับ ข้อเท็จจริงที่ผู้เขียนเคยประสบพบมาในหลายครั้งแล้ว แม้มีเพียงตัวอย่างจริง จากหอจดหมายเหตแุ ห่งชาติ สหรฐั อเมริกา (NARA) เปน็ กรณีประกอบเทา่ นั้น แต่กลับคิดว่าน่าจะจ�ำลองภาพให้เห็นลักษณะทั่วไปของหอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศในแตล่ ะที่ไดด้ เี ช่นกนั 60
โดยทั่วไปแล้ว หอจดหมายเหตุแต่ละแห่งแต่ละประเทศ มีระบบการ จดั เกบ็ และการใหบ้ รกิ ารแตกตา่ งกนั ในรายละเอยี ด แตโ่ ดยหลกั ใหญก่ ค็ งคลา้ ยๆ กัน คอื มีการจัดเกบ็ เอกสารเป็นหมวดหมใู่ หญ่ เชน่ กระทรวง ทบวง กรม กอง ต่างๆ แลว้ แบ่งซอยย่อยออกไป โดยเรยี งลำ� ดับตามช่วงเวลา และการใหบ้ รกิ าร อาจต้องนดั ล่วงหนา้ หรอื walk-in ก็ได้ แตท่ ุกคนตอ้ งมานั่งอา่ นในหอ้ งบรกิ าร เทา่ น้ัน ยกเว้นหากท่านอยใู่ นระดบั VIP ของ VIP ก็วา่ กันไป แต่ไมว่ า่ ท่านจะเป็นระดับ VIP หรอื ไม่ ในฐานะผคู้ น้ ควา้ ท่ดี ีล้วนตา่ งมี ภารกิจไม่ต่างกัน กล่าวคือ เพื่อจะได้ข้อมูลท่ีต้องการ ผู้ค้นคว้าต้องมีความรู้ พ้ืนฐานที่ดีและมีเป้าหมายเจาะจงในการสืบค้นด้วย คือมิใช่สนใจไปทุกเร่ือง หากตอ้ งเลอื กหวั ขอ้ ทตี่ อ้ งการจรงิ ๆ ในแตล่ ะครงั้ ทไี่ ปคน้ เชน่ การเมอื ง เศรษฐกจิ สงั คม-วฒั นธรรม สง่ิ แวดล้อม และควรเจาะจงใหแ้ คบลงเปน็ สมยั ๆ ก็ยิง่ ดี เชน่ สงครามโลกครั้งท่ี ๒ สงครามเยน็ หรอื ปไี หนถึงปไี หน เป็นตน้ เหตผุ ลเพราะการคน้ ขอ้ มลู เอกสารในแตล่ ะแหง่ น้ัน อาจเปรยี บเสมือน หน่ึง “งมเขม็ ในมหาสมทุ ร” กไ็ ด้ จงึ จ�ำเป็นตอ้ งเจาะจงเป็นเร่อื งๆ ไป คอื ตอ้ ง กำ� หนดวา่ เราต้องการขอ้ มลู อะไรเป็นพิเศษ แตม่ ใิ ช่นัง่ เทียนคิดเอา หากตอ้ งมา จากการศกึ ษาอยา่ งจรงิ จงั และหนทางทดี่ ที สี่ ดุ ของผคู้ น้ หนา้ ใหม่ เมอื่ เขา้ สสู่ นาม จริงควรต้องขอค�ำแนะน�ำจากนักจดหมายเหตุในแต่ละแห่งน้ันเป็น “ผู้ช่วย” และ “ผู้ชว่ ย” น้ีย่อมจะเป็นไกด์นำ� ทัวร์หอจดหมายเหตทุ ี่ดียงิ่ จากน้ันจึงถือเป็นส่วนของผู้ค้นคว้าโดยตรง และความส�ำเร็จของการ ค้นคว้าแตล่ ะครงั้ ย่อมขน้ึ อยกู่ บั ความรเู้ ดิมเปน็ ตวั ต้งั คือรลู้ กึ ร้จู รงิ หรอื ไม่ มาก นอ้ ยเพยี งใด อกี ทง้ั ยงั มคี วามอดทนและความชา่ งสงั เกตของแตล่ ะทา่ นเปน็ ฐาน สำ� คญั เรอ่ื งโชคชว่ ยอาจมสี ว่ นบา้ ง แตอ่ ยา่ ไปหวงั มากนกั คลา้ ยเวลาซอ้ื ลอตเตอรี่ ยงั ไงอยา่ งน้ันเลย เฉพาะการค้นเอกสารของ NARA ผูเ้ ขยี นเคยเขียนไวใ้ นหนงั สอื ๒ เลม่ ขนาดเลก็ ๆ แลว้ คือ “เรื่องเล่าจากทหารวิชาการอาวุโส : การคน้ คว้าและอ่าน เอกสารทางประวตั ศิ าสตรเ์ พอื่ สรา้ งคน สรา้ งชาตแิ ละสรา้ งทหารอาชพี ” (๒๕๖๔) 61
และ “จากแฟ้มเอกสารลับท่ีสุด : เผยข้อมูลใหม่ทางประวัติศาสตร์ไทยสมัย สงครามโลกครั้งท่ี ๒ ของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NARA)” (๒๕๖๔) จงึ จะไม่กล่าวซ้�ำ เพยี งแตก่ ารย้ำ� ในหลกั การใหญเ่ พ่อื บรรลเุ ป้าหมาย คอื “คน้ ใหถ้ ูกเร่ือง ก็จะไม่หลงทาง” ทำ� นองเดยี วกับ “รักใหถ้ ูกคน แล้วเราจะ ไมเ่ จบ็ ปวดอกี ตอ่ ไป” แตส่ ำ� หรบั ผคู้ น้ ควา้ ทไ่ี มส่ นใจในเรอื่ งความรกั และไปคน้ เอกสาร NARA เป็นครั้งแรก ขอแนะน�ำว่าไม่ควรพลาดจาก ๒ เล่มน้ี เพราะนอกจากจะช่วย ประหยัดเวลาแล้ว ท่านยังจะได้รับค�ำแนะน�ำท่ีดีตลอดการค้นหา “เข็ม” ใน มหาสมุทรเอกสารกองโตอย่างถูกทิศถูกทางอกี ดว้ ย แตจ่ ะไดพ้ บ “เขม็ ” ที่วา่ นนั้ หรอื ไม่ อยา่ งไร ยอ่ มขน้ึ อยกู่ บั การทำ� งานของแตล่ ะทา่ นโดยตรง มไิ ดเ้ กย่ี วขอ้ ง กบั ผู้เขียน หรอื โชควาสนาในชาติปางกอ่ นแตป่ ระการใดเลย อย่างไรก็ดี เพื่อให้ผู้สนใจและต้องการค้นเอกสารของหอจดหมายเหตุ ต่างประเทศ มีภาพจ�ำลองและเห็นแนวทางในการสืบค้นได้บ้าง จึงอาจน�ำ บางสว่ นทีเ่ ก่ยี วข้องจากหนังสือ ๒ เล่มขนาดเล็กๆ นน้ั มาบอกเล่าไว้ในที่นีด้ ว้ ย โดยเฉพาะในบทท่ีเกี่ยวข้องโดยตรง ซ่ึงจะได้ขยายความต่อไปข้างหน้า น่าจะ ในบทที่ ๕-๖ ถ้าจำ� ไม่ผดิ ส่วนความรับผิดชอบในการตอบค�ำถามข้างต้นนั้น จะขอกล่าวใน ภาพรวมของกองฯ และจะได้บอกกลา่ วเลา่ ให้ฟงั เปน็ ประเดน็ ๆ ต่อไป โดยเนน้ การรวบรวมและจดั เกบ็ เอกสารเขา้ สรู่ ะบบทท่ี นั สมยั คอื ตามหอ้ งสมดุ ผา่ นระบบ intranet รร.จปร./ห้องสมดุ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เป็นกรอบกว้างและเปน็ เป้าหมาย หลักของกจิ กรรมในสว่ นน้ี การรวบรวมเอกสารสำ� คญั : การกำ� หนดตวั เอกสารและหอจดหมายเหตุ ต่างประเทศ “ขา้ พเจ้าเองไม่มโี อกาสท่ีจะไปนง่ั คน้ คว้า หรอื เขยี นบทความ อะไรทางวชิ าการมากนกั จงึ ขอแรงเพื่อนร่วมงานใหไ้ ปชว่ ยอ่านและ เลอื กเอกสารทม่ี ปี ระโยชนม์ าไวท้ โี่ รงเรยี นนายรอ้ ยพระจลุ จอมเกลา้ ” 62
“เพื่อนร่วมงาน” ตามความหมายของทูลกระหม่อมอาจารย์นี้ ก็คือ คณาจารยข์ องกองวชิ าประวตั ศิ าสตรฯ์ ซงึ่ ระยะแรกถงึ ปจั จบุ นั ยงั คงมปี ระมาณ ๘-๑๐ ท่าน (ยังคงรวมผู้เขียนแม้ได้เกษียณอายุราชการตั้งแต่ปี ๒๕๖๓ แล้ว กต็ าม) ตอ่ มาจงึ ไดข้ ยายออกไปสคู่ ณาจารยจ์ ากมหาวทิ ยาลยั ตา่ งๆ เชน่ จฬุ าลงกรณ์ และธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นกลุ่มคณาจารย์ท่ีมีใจรัก สนใจเอกสารต่างประเทศ รวมทงั้ มเี วลาในการนำ� เสนอเอกสารสำ� คญั ในการจดั สมั มนาทางวชิ าการประจำ� ปี การแปล การวจิ ยั เชงิ ลกึ และการเขยี นงานสรา้ งสรรคจ์ ากฐานขอ้ มลู ดงั กลา่ ว ในปัจจบุ นั มเี ครอื ข่ายอยใู่ นทีมงานจ�ำนวนไม่นอ้ ย/มากกว่า ๑๐๐ ท่าน จากสถาบนั การศกึ ษาทวั่ ประเทศและตา่ งประเทศ และอาจารยท์ ไ่ี ดม้ ารว่ มงาน ของโครงการน้ีมาต้ังแต่คร้ังแรกเมื่อปี ๒๕๕๘ จนถึงปัจจุบันในปี ๒๕๖๕ คือ รศ.ดร.ภูริ ฟวู งศเ์ จรญิ คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ และ ผศ.ดร. คทั ทยิ ากร ศศธิ รามาศ ภาควชิ าประวตั ศิ าสตร์ คณะอกั ษรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร (เดมิ อาจารย์ท่านหลังนีอ้ ยู่ มศว.ประสานมิตร) ส่วนคณาจารยข์ องกองฯ ซึง่ ปจั จบุ ันมี พ.อ.หญิง ดร.เมธินี เฉลมิ วัฒน์ เป็น ผอ.กองฯ และผู้ท่ีได้ร่วมงานในคณะค้นคว้าและน�ำเสนอผลงานในการ สมั มนาต้ังแตค่ ร้ังแรกเม่อื ปี ๒๕๕๘ จนถงึ ปจั จุบนั ยังคงมอี ยจู่ ำ� นวน ๓ ท่าน นอกจากผเู้ ขยี นแลว้ ยงั มอี กี ๒ ทา่ น คอื พ.ท.ผศ.ดร.อภเิ ษก มนเทยี รวเิ ชยี รฉาย และ พ.ท.ผศ.สมโชติ วีรภัทรเวธ (แม้อาจารย์ท่านหลังน้ีปัจจุบันก�ำลังเรียน ปรญิ ญาเอก ภาควชิ าประวตั ศิ าสตร์ คณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ า แตย่ งั ชว่ ยงานสอน และกิจกรรมหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศแหง่ นี้เสมอมา) ท้ังผู้เขียน อาจารย์รุ่นใหม่ของกองฯ และคณาจารย์ นิสิตนักศึกษา ปรญิ ญาโทและเอกจากมหาวทิ ยาลยั ภายในและตา่ งประเทศ ซงึ่ ปจั จบุ นั มมี ากกวา่ ๑๐๐ ท่านนั้น ในจ�ำนวนน้ีมีมากกว่าครึ่งพร้อมท่ีจะหมุนเวียนไปค้นคว้าและ น�ำเสนอผลงานในงานสัมมนา การแปล การวิจัยเชิงลึก งานเขียนสร้างสรรค์ และการใหบ้ รกิ ารความรเู้ อกสารตา่ งประเทศแกผ่ สู้ นใจทง้ั ในแวดวงวชิ าการและ ประชาชนผสู้ นใจทว่ั ไป โดยคณาจารย์ นสิ ติ นกั ศกึ ษา ในเครอื ขา่ ยนลี้ ว้ นมคี วาม ช�ำนาญ เช่ียวชาญในการอ่านและค้นคว้าเอกสารต่างประเทศอย่างน้อย ๑-๒ 63
ประเทศ เพอ่ื นำ� มารว่ มกจิ กรรมของ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ ม อาจารย์” จากจุดเริ่มตน้ คอื การสมั มนาทางวชิ าการประจ�ำปี การจดั สมั มนาทางวิชาการประจำ� ปี เพอ่ื เฉลมิ พระเกยี รตทิ ลู กระหมอ่ ม อาจารย์ และเปน็ การเปดิ ตวั แนะนำ� เอกสารตา่ งประเทศของ “หอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” แห่งนี้ ต้ังแตค่ รงั้ แรกเม่อื ปี ๒๕๕๘ จนถงึ ปัจจุบัน มีจำ� นวน ๔-๕ คร้งั รวมถึงเม่ือคร้งั ปี ๒๕๖๔ เกย่ี วกบั อาเซยี น เรือ่ ง “๕๔ ปี การก่อต้ังอาเซียน” และที่จะจัดงานในปี ๒๕๖๕ เรื่อง “ไทยกับ อินโดจีนสมัยประชาคมอาเซียน : มุมมองจากเอกสารหอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศของเพอ่ื นบา้ นและชาตมิ หาอำ� นาจ” ซงึ่ จะจดั ทมี่ หาวทิ ยาลยั นครพนม ในช่วงพฤศจกิ ายน ๒๕๖๕ การน�ำเสนอเอกสารส�ำคัญในแต่ละครั้งในงานสัมมนาประจ�ำปีน้ี ทผี่ า่ นมาคณะคน้ ควา้ /วจิ ยั ไดเ้ นน้ เอกสารสมยั ใหมม่ ากกวา่ สมยั โบราณ เนอ่ื งจาก เนอื้ หาสว่ นใหญข่ องการจดั สมั มนาฯ ทงั้ ๔-๕ ครง้ั นมี้ กั ครอบคลมุ สมยั สงครามโลก ครงั้ ที่ ๒ และสมยั สงครามเย็นเป็นหลักใหญ่ ยกเว้นมี ๒ คร้ังท่ีเน้ือหาย้อนหลังกลับไปไกลก่อนสมัยสงครามโลกฯ มากหนอ่ ย คอื เรอ่ื ง “๑๒๐ ปแี หง่ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งราชอาณาจกั รไทย-รสั เซยี จากมมุ มองของเอกสารรสั เซยี สหรฐั อเมรกิ าและนกั วชิ าการไทย-รสั เซยี ศกึ ษา” และอีกคร้ังคอื เรือ่ ง “ของขวัญแห่งมิตรภาพ : สองศตวรรษแห่งความสัมพันธ์ ระหวา่ งสหรฐั อเมรกิ ากบั ราชอาณาจกั รไทยฯ” ซงึ่ ครง้ั หลงั นไ้ี มไ่ ดม้ กี ารสง่ คณะ ค้นคว้า/วิจัยไปรวบรวมเอกสารต่างประเทศโดยตรง และมิได้มีการแนะน�ำ เอกสารตา่ งประเทศของ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ แหง่ นอ้ี ย่างเปน็ ทางการ อย่างไรก็ตาม การน�ำเสนอส่วนใหญ่ของคณาจารย์โรงเรียนนายร้อย พระจลุ จอมเกลา้ และหนว่ ยงานภายนอก จากสถาบนั การศกึ ษาตา่ งๆ ทง้ั ในและ ต่างประเทศ ยังคงเน้นเอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ใน ๒ สมัยดังกล่าว เปน็ หลัก คือสมัยสงครามโลกคร้งั ท่ี ๒ และสมัยสงครามเยน็ เป็นสว่ นใหญ่ 64
โดยเหตนุ น้ั การกำ� หนดตวั เอกสารสำ� คญั และสถานทค่ี อื หอจดหมายเหตุ ต่างประเทศที่ได้ไปมาแล้วและที่จะไปค้นและรวบรวมกลับมาจัดเก็บในระยะ แรกนั้น ส่วนมากจึงมักเน้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ และสมัยสงครามเย็น เป็นหลกั ต่อมาจึงขยายไปสู่ยคุ หลังสงครามเยน็ ด้วย และประเทศที่มีบทบาท และอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ไทยใน ๒ สมัยนี้ แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นไปจาก บรรดามหาอำ� นาจชาตติ า่ งๆ ไดแ้ ก่ สหรฐั อเมรกิ า จนี ญป่ี นุ่ นวิ ซแี ลนด์ เยอรมนี รสั เซยี ฝรงั่ เศส ออสเตรเลยี องั กฤษ และประเทศเพอื่ นบา้ นในเอเชยี และอาเซยี น เป็นประการสำ� คญั ดงั จะเหน็ ไดว้ า่ หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศตามเปา้ หมาย ทงั้ ทผ่ี า่ นมา และปจั จบุ นั รวมถงึ ในอนาคต จงึ ยงั คงอยใู่ นกลมุ่ ประเทศเดมิ ๆ คอื ชาตมิ หาอำ� นาจ ทงั้ ทางตะวนั ตกและเอเชยี และเพอ่ื นบา้ นในเอเชยี เปน็ หลกั และเอกสารสำ� คญั จ�ำนวนมากใน “คลังข้อมูล” ดิจิทัลของ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ นี้ ณ ปจั จบุ นั ยังคงไมม่ เี อกสารจากประเทศตา่ งๆ ทาง ตะวันออกกลาง (Middle East) แอฟริกา (Africa) และลาตนิ อเมรกิ า (Latin America) รวมถงึ กลมุ่ ประเทศใหมๆ่ ทแี่ ยกตวั ออกจากสหภาพโซเวยี ตและยโุ รป ตะวนั ออกเดิม อกี จำ� นวนไม่นอ้ ยและอาจรวมกนั เป็นรอ้ ย ซึ่งประเทศต่างๆ ใน กลมุ่ เหลา่ นม้ี คี วามสมั พนั ธก์ บั ไทยกจ็ รงิ แตย่ งั มใิ ชแ่ หลง่ สำ� คญั ทเ่ี กยี่ วขอ้ งโดยตรง กับไทย โดยเฉพาะในเชิงการเมืองระหว่างประเทศหรือสงครามท่ีได้ส่งผล กระทบตอ่ ประเทศไทยทัง้ ทางตรงและทางออ้ ม ยกเวน้ บางส่วนทอี่ าจได้รับผล กระทบจากยูเครนในวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน เมอ่ื ต้นปี ๒๕๖๕ แตใ่ นอนาคตกค็ งมโี อกาสจะขยายตวั ออกไปทางประเทศใหมๆ่ มากขน้ึ และอาจมกี ารรวบรวมเอกสารสำ� คญั จากประเทศในแถบตะวนั ออกกลาง แอฟรกิ า และลาตนิ อเมรกิ า รวมทงั้ กลมุ่ ประเทศใหมๆ่ หลงั จากคา่ ยคอมมวิ นสิ ตล์ ม่ สลาย กลับมาก็ได้ หากคณาจารย์ในทีมงานมีความหลายหลากข้ึนท้ังด้านภาษาและ ความรู้ รวมถึงความสนใจทางประวัติศาสตร์ไทยท่ีขยายออกไปสู่ประเทศทาง ตะวันออกกลาง แอฟริกาและลาตินอเมริกา รวมท้ังกลุ่มประเทศใหม่ๆ หลงั จากค่ายคอมมวิ นสิ ตล์ ม่ สลายในยุโรปตะวันออกและสหภาพโซเวียต 65
นอกจากนี้ ยงั มอี กี ชอ่ งทางหนง่ึ ท่เี ปน็ ไปได้ นัน่ ก็คอื หากมีผู้สนใจทัว่ ไป ในประเทศไทย ท่ีมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ-การค้าและสังคม-วัฒนธรรม มากข้ึนกับบรรดาประเทศต่างๆ ทางตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาติน อเมรกิ า รวมทง้ั กลมุ่ ประเทศใหมๆ่ นนั้ แนน่ อนวา่ จะมสี ว่ นสำ� คญั ทง้ั ในการชว่ ย ส่งเสริมและสนับสนุนให้การด�ำเนินการด้านต่างๆ ตามโครงการของ “หอจดหมายเหตตุ ่างประเทศ ทลู กระหม่อมอาจารย์” ได้ขยายตัวและเตบิ โต ยิง่ ข้นึ เพือ่ ประโยชน์ท้งั ผู้คนในแวดวงวชิ าการและประชาชนผู้สนใจทว่ั ไป ตาม พระราชด�ำรแิ ละพระราชประสงค์ของพระองค์ อย่างไรก็ตาม ในระยะเริ่มแรกของการด�ำเนินโครงการดังกล่าว การ ก�ำหนดตัวเอกสารส�ำคัญและประเทศท่ีได้ไปค้นอ่านและรวบรวมเอกสารกลับ มานน้ั ยังมขี ีดจำ� กดั และมกั เปน็ ไปตามความสามารถและ/หรือขึ้นอยู่กบั ความ สนใจของคณาจารย์ของกองวิชาประวตั ิศาสตรฯ์ เป็นหลกั เพราะคณาจารยใ์ น สว่ นนม้ี คี วามรทู้ างภาษาตา่ งประเทศเพยี งดา้ นภาษาองั กฤษ ฝรงั่ เศส และญป่ี นุ่ เทา่ น้นั ดังน้ัน การคน้ อ่านและน�ำเอกสารกลบั มา จงึ ยังคงอยู่ที่ ๓-๔ ประเทศ เทา่ นนั้ เชน่ สหรฐั อเมรกิ าและองั กฤษ และไดเ้ นน้ ขอ้ มลู ดา้ นสมยั ใหม่ โดยเฉพาะ สมัยสงครามโลกฯ และต่อเนื่องมาในสมัยสงครามเย็น ตามแนวพระราชด�ำริ และพระราชประสงคข์ องทลู กระหมอ่ มอาจารย์ ทท่ี รงรเิ รมิ่ ดำ� เนนิ โครงการวจิ ยั เรือ่ ง “นครนายก : ประวัติศาสตรแ์ ละโบราณคดี” ในปี ๒๕๓๒ และต่อเนอ่ื ง ตอ่ มาในปี ๒๕๓๓ โดยพระองคท์ รงสนบั สนนุ ใหม้ กี ารจดั การสมั มนาทางวชิ าการ และทรงน�ำเสนอบทความวจิ ัยเรอื่ ง “นครนายกกบั สงครามโลกคร้งั ท่ี ๒” ดว้ ยเหตนุ ี้ สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ จงึ เสมือนหนง่ึ เปน็ แกนกลางใหญ่ ของการเรมิ่ ตน้ ในการรวบรวมและจดั เกบ็ เอกสารของโครงการหอจดหมายเหตุ กปศ.สกศ.รร.จปร. ในพระราชดำ� รฯิ และหอจดหมายเหตแุ หง่ ชาตขิ องประเทศ ตามเปา้ หมายแรกๆ นนั้ จงึ ไดแ้ ก่ สหรฐั อเมรกิ า องั กฤษ ญป่ี นุ่ และฝรงั่ เศส และ ในชว่ งระยะแรกยงั คงเนน้ อยปู่ ระเทศกลมุ่ เดมิ นเ้ี ปน็ หลกั ดงั จะเหน็ ไดว้ า่ เอกสาร 66
สำ� คญั ทน่ี ำ� กลบั มาสว่ นใหญก่ เ็ ปน็ เอกสารของหอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติ สหรฐั อเมรกิ า (NARA) ตามท่ไี ดก้ ลา่ วไวแ้ ลว้ ในบทที่ ๒ แต่เพอื่ ใหก้ ารค้นควา้ เอกสารต่างประเทศมีความใหม่ มกี ารกระจายตัว ออกไปจากประเทศเดิม และเพอ่ื ปอ้ งกันตามค�ำกลา่ วของ Albert Einstein ท่ี เคยวา่ ไว้ “มแี ตค่ นบา้ เทา่ นน้ั ทจ่ี ะทำ� สง่ิ เดมิ ซำ้� ๆ แตก่ ลบั หวงั ผลลพั ธท์ แี่ ตกตา่ ง” (Insanity is doing the same thing over and over again and expecting different results.) ตอ่ มาในภายหลงั การกำ� หนดตวั เอกสารสำ� คญั และประเทศ ทไี่ ดไ้ ปคน้ อา่ นและรวบรวมเอกสารกลบั มานนั้ จงึ ไดข้ ยายตวั ไปสปู่ ระเทศใหมๆ่ ดว้ ย ไดแ้ ก่ เกาหลใี ต้ จนี ญปี่ นุ่ ไต้หวนั เยอรมนี (รวมถึงเยอรมนีตะวันออก) รสั เซยี เวยี ดนาม อนิ เดยี และออสเตรเลยี รวมทงั้ เพอ่ื นบา้ นอนื่ ๆ ในกลมุ่ ประเทศ สมาชิกอาเซยี นอีกด้วย ทงั้ นส้ี ว่ นหนง่ึ เปน็ เพราะ ทลู กระหมอ่ มอาจารยท์ รงสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ให้คณาจารย์จากมหาวิทยาลยั ต่างๆ เขา้ มาร่วมในคณะคน้ คว้าด้วย ดงั ตัวอย่าง เช่นในปี ๒๕๕๗ ทรงมีพระเมตตาพระราชทานทุนส่วนพระองค์ให้อาจารย์ ๒ ทา่ นของภาควชิ าประวตั ศิ าสตร์ คณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั คอื ผศ.ดร.ภาวรรณ เรืองศลิ ป์ และ ผศ.ดร.ตุลย์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา เดนิ ทาง ไปค้นเอกสารของเยอรมนี (ตะวันตก) สมยั สงครามโลกฯ อกี สว่ นเปน็ เพราะความสนใจของคณาจารยจ์ ากทต่ี า่ งๆ ทมี่ คี วามรภู้ าษา ต่างประเทศอื่นๆ และมีพ้ืนฐานความรู้ในประเด็นที่ตรงพอดีกับหัวข้อการจัด สัมมนาประจ�ำปีของกองวิชาประวัติศาสตร์ฯ โดยเฉพาะในปีหลังๆ ต้ังแต่ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๕ เปน็ ตน้ มา จงึ ไดข้ ยายไปสปู่ ระเทศอน่ื ๆ เชน่ จนี เกาหลใี ต้ ญป่ี นุ่ ไตห้ วัน นิวซีแลนด์ รัสเซยี ออสเตรเลยี อนิ เดยี และประเทศในกลุ่มเพอื่ นบ้าน อาเซยี น เชน่ กัมพูชา ลาว และเวยี ดนาม คณาจารยก์ ลมุ่ หลงั นซ้ี ง่ึ มาจากเครอื ขา่ ยผสู้ นใจ และมใี จรกั ในการคน้ ควา้ เอกสารตา่ งประเทศจากมหาวทิ ยาลยั ทวั่ ประเทศและตา่ งประเทศ เชน่ เกาหลใี ต้ จนี ญ่ปี ุน่ เวียดนาม รัสเซยี อนิ เดยี และมกั หมนุ เวียนมาชว่ ยคน้ คว้าและอา่ น 67
เอกสารต่างประเทศไปตามแกนเร่ืองของการจัดสัมมนาทางวิชาการประจ�ำปี เช่น ปี ๒๕๖๓ เร่ือง ๗๐ ปี ไทยกับสงครามเกาหลี ได้เน้นข้อมูลส�ำคัญของ ประเทศทเี่ ก่ียวข้องกับสงครามเกาหลี ซง่ึ เกิดขึ้นในช่วงสมัยสงครามเยน็ ท่โี ลก แบ่งเปน็ ๒ คา่ ย จงึ ต้องค้นและเกบ็ เอกสารจากท้งั ๒ คา่ ยนเี้ ป็นหลัก กล่าวคอื คา่ ยโลกเสรนี ำ� โดยสหรฐั อเมรกิ า ญปี่ นุ่ องั กฤษ ฝรง่ั เศส และออสเตรเลยี แตเ่ นอื่ งจากการระบาดของโรค COVID-19 ไม่สามารถเจาะข้อมลู ของฝร่ังเศส และอังกฤษกลับมา ส่วนค่ายคอมมวิ นิสต์ มีจนี แต่ไมส่ ามารถไปเกบ็ รวบรวม เอกสารในกรณีของรสั เซีย (เน่ืองจากการระบาดของโรค COVID-19 เช่นกัน) อย่างไรกด็ ี ข้อมูลของจีนนี้ก็มขี ้อมูลจากทางรสั เซียและเกาหลเี หนือด้วย และ ส่วนทา้ ยสุดคอื ประเทศท่ีเป็นสนามรบ กไ็ ด้ขอ้ มลู จากเกาหลใี ต้ ส�ำหรับในปี ๒๕๖๔ ก�ำหนดงานสัมมนาทางวชิ าการเรอ่ื ง “๕๔ ปี การ กอ่ ตง้ั อาเซียน” นั้น ยังมปี ระเทศใหม่ๆ เช่นกัน อาทิ เวยี ดนาม ซึง่ มขี ้อมลู ของ กัมพชู าและลาว หรือกลมุ่ อินโดจีน-ฝรัง่ เศสอยดู่ ว้ ย รสั เซยี เยอรมนี (รวมขอ้ มลู ของฝ่ายเยอรมนีตะวันออกสมัยนั้นด้วย) และอินเดียในฐานะตัวแทนของกลุ่ม ไมฝ่ กั ใฝฝ่ า่ ยใด (Non-Aligned Movement; NAM) ซงึ่ จะมขี อ้ มลู ของเมยี นมาร์ และอินโดนเี ซียรวมอยูด่ ้วย อย่างไรก็ดี การไปค้นอ่านและรวบรวมเอกสารส�ำคัญท่ีผ่านมาและใน อนาคต เช่นในปี ๒๕๖๕ ที่มีแกนเรื่อง “ไทยกับอินโดจีนสมัยประชาคม อาเซยี น : มมุ มองจากเอกสารหอจดหมายเหตตุ ่างประเทศของเพื่อนบา้ นและ ชาติมหาอ�ำนาจ” นั้น ยังคงเน้นกลุ่มประเทศเดิม กลุ่มชาติมหาอ�ำนาจคือ สหรฐั อเมรกิ า องั กฤษ ฝรงั่ เศส ญป่ี นุ่ รสั เซยี จนี และกลมุ่ ประเทศสมาชกิ อาเซยี น เปน็ หลัก แม้วา่ ในอนาคตจะมีการขยายออกไปสูป่ ระเทศใหม่ๆ ก็ตาม นอกจากนี้ ยงั จะมกี ารขยายไปสปู่ ระเทศใหมๆ่ เพมิ่ ขนึ้ อกี หลายประเทศ ตอ่ ไป เชน่ แคนาดา นวิ ซแี ลนด์ สำ� นกั วาตกิ นั กลมุ่ ยโุ รปตะวนั ออกใหมแ่ ละกลมุ่ ประเทศท่ีแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตเดิม เช่น จอร์เจีย คาซัคสถาน อาเซอร์ไบจาน และอาร์มีเนีย กลุ่มตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา แอฟริกา 68
และในสว่ นของประเทศสมาชกิ อาเซยี น นอกจากดา้ นกมั พชู า ลาว และเวยี ดนาม แล้ว ยังมีโครงการจะขยายไปสู่เมียนมาร์ (พม่า) บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สงิ คโปร์ และอนิ โดนเี ซยี อีกด้วย การรวบรวมเอกสารสำ� คญั จากประเทศตา่ งๆ น้ี มที ง้ั ขอ้ มลู ทวั่ ไป ขอ้ มลู สำ� คญั และข้อมลู ใหม่ แตท่ ส่ี ำ� คัญควบคไู่ ปกับการรวบรวมน้ัน กค็ อื การจัดเกบ็ เอกสารดังกล่าวใหอ้ ยู่ใน “คลังข้อมูล” ดิจทิ ลั เพอ่ื พัฒนาไปสรู่ ะบบทที่ ันสมัย ผา่ นทางสอ่ื online ส�ำหรบั การเปดิ บรกิ ารใหแ้ ก่ผูส้ นใจทง้ั ทาง on-site และ ทาง online อย่างเตม็ รูปแบบ แต่ก่อนท่ีจะไปสู่เร่ืองการจัดเก็บเอกสารต่างประเทศ เพ่ือการสร้าง ฐานขอ้ มลู ระบบใหมท่ ท่ี นั สมยั นนั้ ยงั มอี กี เรอื่ งหนง่ึ ทส่ี ำ� คญั และควรตอ้ งทำ� ความ เข้าใจไว้ก่อนในเบ้ืองต้น น่ันก็คือ การจัดแบ่งหรือแยกเอกสารเป็นส่วนๆ เช่น ข้อมูลท่ัวไป ข้อมูลส�ำคัญ และข้อมูลใหม่น้ัน มีอะไรเป็นตัวก�ำหนด และ ใครกนั แน่ท่ีเป็นผกู้ �ำหนด ตัวระบบของหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศแตล่ ะแหง่ ผคู้ น้ ควา้ หรอื ผมู้ าใชเ้ อกสาร ซง่ึ คำ� ถามหลงั นผี้ อู้ า่ นคงจะดใี จทผ่ี ใู้ ชก้ ม็ สี ว่ นกำ� หนด ได้เช่นกัน ท�ำนองคล้ายเรื่องประชาธิปไตยที่ประชาชนทุกภาคส่วนต่างมี ส่วนร่วมในการกำ� หนดนน่ั เอง อันท่ีจริงแล้ว เร่ืองการก�ำหนดฐานะของข้อมูลน้ัน มีฐานคิดตามหลัก วชิ าการ วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์รองรบั อยู่ แต่ก็ไมต่ ายตัวนัก เพราะไม่ว่าจะ จัดอยู่ฐานะ “ข้อมูลท่ัวไป ข้อมูลส�ำคัญ และข้อมูลใหม่” นั้น เป็นเพียงการ กำ� หนดในเบื้องต้นจากผู้คน้ ควา้ ในแตล่ ะประเทศ หรอื อาจารย์ นักวิจยั แตล่ ะ ทา่ น แตใ่ นสว่ นของผสู้ นใจ ผมู้ าใชเ้ อกสาร ยอ่ มจะมสี ว่ นรว่ มสำ� คญั ในฐานะเปน็ ผกู้ ำ� หนด คัดเลือก หรือตคี วามเอกสารส�ำคัญดังกล่าวไดเ้ ช่นกนั ด้วย ท�ำไมจึงเป็นเช่นน้ี เหตุผลก็คงเพราะว่า ผู้ใช้ย่อมมีอ�ำนาจ หน้าท่ีและ ความรับผิดชอบที่จะเป็นผู้ก�ำหนดว่า มีข้อมูลอะไรส�ำคัญ และมีอะไรท่ีถือว่า เป็น “ข้อมูลใหม่” ท่ีสามารถจะน�ำไปใช้ประโยชน์ต่อๆ ไป ท้ังในด้านของ การเรียนการสอน การศึกษาวิจัยเชิงลึก และการพัฒนาองค์ความรู้ทาง 69
ประวตั ศิ าสตรใ์ หมๆ่ ตอ่ ไป ซง่ึ การกำ� หนดจากผมู้ าใชน้ นั้ อาจจะแตกตา่ งกนั ดว้ ย และยังอาจมีความแตกต่างไปจากผู้ค้นคว้าได้เช่นกัน เรื่องน้ีก็คงไม่ต่างไปจาก การอา่ นหนงั สอื เพราะตอ่ ใหห้ ลายคนอา่ นเลม่ เดยี วกนั กระบวนการเรยี นรแู้ ละ ผลลพั ธ์ยอ่ มตา่ งกนั ได้เชน่ กนั แต่ความต่างกันน้ีคงไม่เกี่ยวกับตัวเอกสาร หนังสือ หรือมิได้มาจาก ตน้ ขวั้ ของหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศแตป่ ระการใดเลย เพราะหอจดหมายเหตุ แตล่ ะแหง่ มหี นา้ ทใี่ นการใหบ้ รกิ ารและใหค้ วามสำ� คญั กบั เอกสารอยา่ งเทา่ เทยี ม กนั เปน็ ไปตามหลักปรัชญาสากล แม้วา่ หอจดหมายเหตุของประเทศนน้ั มิได้มี รัฐบาลเปน็ ประชาธปิ ไตยก็ตาม ดงั นนั้ การกำ� หนดวา่ ขอ้ มลู ในเอกสารใดจะมฐี านะสำ� คญั มากนอ้ ยเพยี ง ใด จงึ ไมต่ ายตวั นัก เพราะข้นึ อยกู่ บั มุมมองของผูส้ นใจแต่ละท่าน ซง่ึ อาจสนใจ หรอื ใหค้ วามสำ� คัญประเด็นทางประวัตศิ าสตร์ไม่เหมือนกนั และเร่ืองนค้ี วรถอื เป็นเร่ืองปกติ เป็นเสรีภาพทางวิชาการในการตีความ หรือการใช้หลักฐานที่ แตกตา่ งกัน และเป็นท่ยี อมรบั กนั ได้ หากผศู้ กึ ษาวจิ ัยได้ใช้หลักฐานเอกสารนนั้ ถกู ต้องอยา่ งมเี หตมุ ีผลตามหลักคิดและวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ ท�ำไมจึงเป็นเช่นนั้น และจะเป็นเช่นน้ันได้อย่างไร ในเม่ือหลักฐาน จากอดีตมนั พูดไมไ่ ด้ แมม้ ันพูดไมไ่ ด้ก็จรงิ แตใ่ นความเปน็ จริงแล้ว เนอ้ื ในของ มนั มกั เปน็ เหตใุ หม้ นษุ ย์ ผคู้ นในแวดวงวชิ าการมวี วิ าทะหรอื ทะเลาะกนั ไดเ้ สมอ แมย้ งั ไมถ่ งึ ขน้ั ตอ้ งลงไมล้ งมอื ตบตตี อ่ กนั แตเ่ ปน็ การทะเลาะกนั ทม่ี คี วามรนุ แรง และไม่ส้ินสุดกันอย่างง่ายๆ ก็มีไม่น้อย ที่ส�ำคัญคือ ความเห็นขัดแย้งกันนี้ เจา้ หน้าทขี่ องรฐั ทัง้ ต�ำรวจ อยั การ และผูพ้ พิ ากษา มักไมส่ นใจโดยตรง ยกเวน้ จะมีการฟ้องร้องกันจากผู้ที่คิดว่าตนเองเป็นฝ่ายเสียหายจากการตีความของ ผูอ้ น่ื กว็ า่ กนั เปน็ รายๆ ไป เรอ่ื งนจ้ี งึ มคี วามสำ� คญั ควรตอ้ งทำ� ใหก้ ระจา่ งชดั ขนึ้ โดยเฉพาะผมู้ าใหม่ ซ่ึงคงสงสัยว่า ท�ำไมเอกสารฉบับเดียวกัน จึงใช้ต่างกันและสร้างผลกระทบได้ ขนาดนั้น เช่น การใช้เอกสารฉบับเดียวกัน นักวิชาการฝ่ายหนึ่งไม่เห็นความ 70
สำ� คัญ แตอ่ กี ฝา่ ยกลับเหน็ ว่า “ใชเ่ ลย” ใหค้ ุณคา่ ในฐานะ “ข้อมลู ใหม่” ทั้งๆ ที่ ตา่ งกส็ นใจในเร่อื งเดยี วกนั เรื่องนี้คงเปรียบได้คล้ายการมองต่างมุม เน่ืองจากในวงวิชาการ วงผู้รู้ อื่นๆ ก็ตาม มกั มคี วามรู้ “กระแสหลกั ” และ “ทวนกระแส” เสมอ ซ่งึ เป็นเรอื่ ง ปกติ แต่ในความปกติน้ี ถ้าสมมติเราอยู่ฝ่าย “ทวนกระแส” ย่อมจะเห็น หลายสงิ่ หลายอยา่ งในทางตรงขา้ มกบั “กระแสหลกั ” ในทางกลบั กนั ถา้ เราอยู่ ฝ่าย “กระแสหลกั ” กค็ งเช่นกนั ฉะน้ันแล้ว การให้คุณค่ากับหลักฐานชนิดใดก็ตาม จึงต้องใช้หรือให้ นำ�้ หนกั ของหลกั ฐานอยา่ งถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการความรู้ เพอ่ื ใหค้ วามรู้ (ใหม)่ ท่ีได้มานั้น เป็นท่ียอมรับและน�ำไปพัฒนาต่อไปได้อย่างถูกทิศทาง ซ่ึงตาม หลกั คิดและกระบวนการในการศกึ ษาวจิ ัยท่คี ิดต่างกนั นีเ้ ป็นเรือ่ งดี และรฐั ควร ส่งเสริม สนบั สนุน หรือปล่อยไป คอื ให้มนั เป็นไปตามหลักวชิ าความรู้ มากกว่า การปดิ กั้น ห้ามปรามดว้ ยประการท้งั ปวงในนามของความมัน่ คงแหง่ ชาติ เพราะการมองตา่ งมมุ กนั นใี้ นทส่ี ดุ แลว้ ยอ่ มมคี วามรใู้ หมๆ่ เกดิ ขนึ้ เสมอ และเป็นสิ่งดขี องมนษุ ยชาติ เพราะมนุษยชาตจิ ะอยู่รอดต่อไปในอนาคต ยอ่ ม ตอ้ งการความรใู้ หมๆ่ เสมอ ดงั ปจั จบุ นั เชน่ ในการเผชญิ กบั เจา้ ไวรสั COVID-19 นัน้ ก็มผี ้คู ิดค้นวัคซีนหลายแบบ แถมมีสูตรฉีดไขวด้ ว้ ย เพราะมีแนวคิดทฤษฎี ท่ีเชื่อต่างกนั เช่น ชนิดผลติ จากเชื้อตาย ชนดิ mRNA ซึ่งแตล่ ะชนดิ ต้องพสิ จู น์ กันวา่ จะส้กู ับเจ้าไวรสั นีไ้ ดห้ รอื ไม่ มากนอ้ ยเพียงใด และถ้ามนุษย์ไม่สามารถ ศึกษาวิจยั เพ่อื พัฒนาในการสรา้ งวคั ซนี ใหม่ๆ ได้อย่างทนั การแลว้ ก็คงอยูร่ อด ยากเปน็ แน่แท้ แตท่ แี่ นๆ่ และดที สี่ ดุ คอื การปลอ่ ยใหก้ ารผลติ วคั ซนี เปน็ ไปอยา่ งเสรี แม้ มีความเช่ือต่างกันก็ตาม ในการศึกษาทางประวัติศาสตร์ก็เช่นกัน ด้วยเพราะ การมองจากคนละมุม จึงให้ความส�ำคัญกับเอกสารเดียวกันนั้นต่างกันออกไป สุดข้ัวแบบไปคนละทิศคนละทาง และเรื่องน้ีผู้เขียนเคยเล่าแล้วว่า ได้เคย เขียนไวใ้ นกรณีของเอกสารสหรฐั อเมริกา (NARA) ในหนงั สอื ๒ เล่ม คอื “จาก 71
แฟ้มเอกสารลับที่สดุ ” และ “เร่ืองเลา่ จากทหารวชิ าการอาวโุ ส” และบางสว่ น จะได้น�ำมากล่าวไวใ้ นบทท่ี ๕ และ ๖ ซ่งึ จะเขียนเลา่ ต่อไปข้างหนา้ เมอ่ื พบเจอ กับประเดน็ นี้อกี คร้งั กลับมาที่เร่ืองเดิม คือการจัดเก็บเอกสารต่างประเทศ เพ่ือการสร้าง ฐานขอ้ มลู ระบบใหม่ทท่ี นั สมัยนนั้ ถอื เปน็ ภารกิจหลักทเี่ ป็นเรอื่ งส�ำคัญอกี เรือ่ ง หน่งึ ของ “หอจดหมายเหตตุ ่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” เพราะการนำ� เอกสารต่างประเทศไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ นั้น ถ้าจะให้ดี คือเกิดขึ้นได้ อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ จ�ำเป็นต้องเร่ิมจากความสามารถในการ เข้าถึงแหล่งข้อมูลหรือ “คลังข้อมูล” ดิจิทัลของหอจดหมายเหตุ กปศ.สกศ. รร.จปร. ในพระราชด�ำรฯิ ไดอ้ ย่างสะดวกและทั่วถึงส�ำหรบั ทกุ คนทสี่ นใจ และ มีใจรักในการแสวงหาความจรงิ จากอดีต เรอื่ งนท้ี ลู กระหมอ่ มอาจารยท์ รงใหค้ วามสำ� คญั ไมน่ อ้ ย และทรงผลกั ดนั ในการพัฒนามาอย่างต่อเน่ือง เพ่ือให้การจัดเก็บข้อมูลเหล่าน้ีเป็นไปอย่างมี ระบบที่ทันสมัยตามแบบระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งโดยผ่านทางระบบ intranet รร.จปร. สำ� หรบั คณาจารย์ นักเรียนนายร้อย รวมทงั้ นักวชิ าการ นิสติ นักศกึ ษา ได้มาสบื ค้น ณ กองฯ และทางสื่อ online เพ่อื เปิดใหแ้ กผ่ สู้ นใจทว่ั ไป และดว้ ยความสนับสนุน ช่วยเหลอื จากส�ำนกั งานการวิจยั แห่งชาติ (วช.) การ พฒั นาในเร่ืองนมี้ คี วามกา้ วหนา้ ต้ังแต่ปี ๒๕๖๓ เปน็ ต้นมา คอื มคี วามสมบูรณ์ ย่ิงขึ้นในปี ๒๕๖๔ และมีความพร้อมให้บริการในช่วงการเปิดตัวของ “หอ จดหมายเหตุต่างประเทศ ทลู กระหม่อมอาจารย์” แหง่ นี้ ในตน้ ปี ๒๕๖๕ การจัดเก็บเอกสารต่างประเทศ : การสร้างฐานข้อมูลระบบใหม่ที่ ทนั สมัย เพอ่ื ใหก้ ารนำ� เอกสารตา่ งประเทศไปใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และมคี ณุ ภาพนนั้ การจดั เกบ็ ขอ้ มลู เหลา่ นจ้ี งึ มคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งพฒั นาฐานขอ้ มลู ให้เป็นไปอย่างมีระบบและเป็นระบบท่ีทันสมัย คือต้องหาบ้านใหม่ (new 72
archives) ใหก้ บั บรรดาเอกสารตา่ งประเทศทม่ี จี ำ� นวนมากมายและหลากหลาย จากทวั่ โลก และหนงึ่ ในระบบทด่ี มี คี วามทนั สมยั นก้ี ค็ อื ระบบทท่ี นั สมยั ตามแบบ ระบบหอ้ งสมุดอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ในเร่ืองน้ีทูลกระหม่อมอาจารย์ทรงให้ความส�ำคัญ และทรงหาหนทาง ในการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ทน่ี ำ� กลบั มาเขา้ สรู่ ะบบใหมใ่ หม้ คี วามทนั สมยั หรอื เปน็ ระบบ ระเบยี บอยา่ งดเี สยี กอ่ น และระบบใหมท่ กี่ อ่ ขนึ้ นอ้ี ยใู่ นระหวา่ งการจดั เขา้ สรู่ ะบบ หอ้ งสมดุ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ โดยการสนบั สนนุ ของสำ� นกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) การจดั ทำ� และพฒั นาในเรอ่ื งนี้ ศ.ดร.นพ.สริ ฤิ กษ์ ทรงศวิ ไิ ล ผอู้ ำ� นวยการ ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ทา่ นเดมิ ตำ� แหน่งปจั จุบนั คอื ปลดั กระทรวง อว. และคณะเจา้ หนา้ ทผี่ เู้ ชย่ี วชาญทางหอ้ งสมดุ ของสำ� นกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) ไดเ้ ขา้ เฝา้ ฯ ถวายรายงานการสำ� รวจและจดั ทำ� ระบบเอกสารตา่ งประเทศ ของหอจดหมายเหตุ กปศ.สกศ.รร.จปร. ในพระราชด�ำรฯิ ในเบือ้ งตน้ เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ภายหลงั จากนนั้ คณะเจา้ หนา้ ทผี่ เู้ ชย่ี วชาญหอ้ งสมดุ ของ วช. นำ� โดยคณุ ไขแสง พฒุ ชชู นื่ บรรณารกั ษ์ ชำ� นาญการพเิ ศษ และคณุ สริ ธิ รรม ณ ระนอง ผู้ประสานงานต้ังแตต่ น้ ไดม้ าช่วยจัดทำ� ระบบเอกสาร ณ กองวิชา ประวตั ิศาสตร์ฯ หลายครง้ั อยา่ งต่อเนื่อง การพัฒนาระบบเอกสารในเร่ืองน้ี รวมทั้งการพัฒนาสร้างสรรค์ในเชิง “นวัตกรรม” จาก “ต้นแบบ” ของการคน้ ควา้ เอกสารตา่ งประเทศนัน้ ได้มกี าร ดำ� เนนิ การตอ่ เน่ืองมาจนถึงปัจจุบนั ในปี ๒๕๖๕ ด้วยการสนับสนุนอย่างดีจาก ดร.วภิ ารัตน์ ดอี ่อง ผ้อู ำ� นวยการสำ� นักงานการวิจยั แห่งชาติ (วช.) ท่านปจั จบุ ัน และผู้สนใจสามารถจะเรียนรู้ท้ังในเชิง “นวัตกรรม” และการเข้าถึงเอกสาร ดงั กลา่ วภายในช่วงพฤษภาคม ปี ๒๕๖๕ เป็นตน้ ไป ในเบ้ืองต้น “คลังข้อมูล” ดิจิทัลของ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหมอ่ มอาจารย์” แห่งนี้ มีเอกสารทง้ั จาก เกาหลใี ต้ จีน ญ่ีป่นุ ไต้หวนั เยอรมนี ฝร่ังเศส เวยี ดนาม สหรฐั อเมรกิ า ออสเตรเลยี อนิ เดีย และอังกฤษ ผู้ สนใจสามารถเขา้ สบื คน้ ไดจ้ ากทง้ั ทาง online และ on-site ซง่ึ ในระบบ on-site 73
มเี อกสารใหบ้ รกิ ารมากกวา่ ทาง online เนอื่ งจากหอจดหมายเหตบุ างประเทศ เชน่ อังกฤษและเยอรมนี มขี อ้ ก�ำหนดหา้ มนำ� เอกสารเผยแพร่ตอ่ ทาง online เมอื่ การดำ� เนนิ การในเรอ่ื งนแ้ี ลว้ เสรจ็ อยา่ งสมบรู ณ์ แนน่ อนวา่ ในอนาคต ยงั มเี ปา้ หมายใหญท่ สี่ ำ� คญั รออยขู่ า้ งหนา้ อยา่ งมคี วามหมายยงิ่ เนอ่ื งจากยงั ไมม่ ี ใครหรือหน่วยงานใดท�ำมาก่อน น่ันก็คือ การพัฒนาระบบการจัดเก็บเอกสาร ต่างประเทศน้ใี ห้อย่ใู นระบบทีท่ นั สมัยและมีขนาดฐานขอ้ มูลท่ใี หญย่ ง่ิ ขึ้น ซง่ึ ก็ หมายถงึ การพฒั นาไปสู่การจัดทำ� โครงสรา้ งพน้ื ฐานทสี่ �ำคญั ในอนาคตนน่ั เอง สรปุ และส่งทา้ ย อนั ท่จี รงิ แลว้ การจดั ทำ� โครงสรา้ งพืน้ ฐานที่ส�ำคญั สำ� หรบั การวจิ ยั ด้าน ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย รวมท้งั การวิจยั ทางมนษุ ยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศาสตร์ สาขาอ่ืนๆ นั้น ถือเป็นเป้าหมายใหญ่ของ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย์” ในพระราชด�ำริของพระองค์ และถือเป็นงานบกุ เบิกใน แวดวงวิชาการทสี่ ำ� คัญยิง่ ทง้ั ในปัจจุบันและอนาคต เพราะดงั ทเ่ี คยกล่าวมาแล้ววา่ จากการสำ� รวจงานศึกษาวิจัยในแวดวง วิชาการทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ในประเทศไทย โดยเฉพาะสาขาที่ เกย่ี วขอ้ ง เชน่ ประวตั ศิ าสตร์ รฐั ศาสตร์ บรรณารกั ษศาสตร์ วทิ ยาการสารสนเทศ หรือสารสนเทศศาสตร์ ยังไม่พบว่ามีงานศึกษาวิจัยในลักษณะเช่นเดียวกับ โครงการน้ีมาก่อน เท่าท่ีผู้เขียนได้เคยส�ำรวจพบว่า มีเอกสารต่างประเทศบางส่วน เช่น อังกฤษ (FO) สหรฐั อเมรกิ า (RG) ทีม่ หาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ (ห้องสมดุ กลาง และสถาบนั ไทยคดศี กึ ษา) และสถาบนั พระปกเกลา้ และมโี ครงการแลกเปลย่ี น ทางข้อมูลและระบบการสืบค้นเอกสารระหว่างห้องสมุดของมหาวิทยาลัยไทย กับต่างประเทศในบางสถาบัน ท่ีสามารถสืบค้นเอกสารต่างประเทศทางสื่อ online และท่ีส�ำคัญก็คือ หอจดหมายเหตุแห่งชาติของหลายประเทศ เช่น 74
สหรฐั อเมรกิ า ไตห้ วนั และอนิ เดยี ไดเ้ ปดิ ใหป้ ระชาชนสามารถสบื คน้ ขอ้ มลู ทาง สื่อ online ไดแ้ ล้ว การสืบคน้ เอกสารขอ้ มลู ทางส่อื online น้ี ตวั อย่างเชน่ ชุดเอกสารลบั ของหน่วย CIA ส�ำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปัจจุบัน เอกสารลับของ CIA ชุดนี้ คือ CIA Records Search Tool (CREST) มี เอกสารลับทป่ี ลดความลบั แล้ว (declassified documents) จำ� นวน ๑๓ ลา้ น แผ่น และเปิดให้ประชาชนท่ัวโลกสามารถเข้าถึงทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (online) ได้ ตง้ั แตป่ ี ๒๕๖๐ เปน็ ต้นมา (ผู้สนใจขอ้ มูลนี้ สามารถทดลองสบื ค้น จากหลายแหล่ง ดงั ตัวอย่างเช่น https://www.cia.gov/readingroom/col- lection/crest-25-year-program-archive) อย่างไรก็ดี ท้ังหมดท่ีกล่าวมานี้ ยังไม่มีสถาบันการศึกษาหรือ หน่วยงานใดทั้งภาครัฐและเอกชน ท่ีมีการศึกษาและจัดท�ำเป็นระบบเอกสาร ส�ำคัญของไทยจากต่างประเทศอย่างจริงจัง ท่ีถือได้ว่าเป็นงานวิจัยหรือมี ขอ้ เสนอทางเนอ้ื หาทอี่ าจนบั อยใู่ นระดบั เดยี วกบั “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” ยกเว้นการด�ำเนินการของโครงการสืบสานพระราช ดำ� รฯิ “การวจิ ยั เอกสารสำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมยั ใหมจ่ ากหอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศ” ของผเู้ ขยี นซง่ึ ไดร้ บั ทนุ จากสำ� นกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) ตง้ั แต่ ปี ๒๕๖๓ เปน็ ต้นมา การดำ� เนนิ การของโครงการวจิ ยั น้ี จงึ ถอื เปน็ งานบกุ เบกิ เชน่ กนั ในขณะ เดียวกันก็เป็นการสืบสานพระราชด�ำริและพระราชประสงค์ของพระองค์ ต่อ จาก “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” และท้ังสอง โครงการน้ีย่อมถือได้ว่าเป็นงานบุกเบิก เป็น “ต้นแบบ” ในด้านการค้นคว้า รวบรวม และจัดเกบ็ เอกสารสำ� คัญทางประวัติศาสตร์ไทยจากหอจดหมายเหตุ แห่งชาติของประเทศต่างๆ ท่ัวโลก เพื่อเปิดบริการให้แก่ชาวไทยทุกหมู่เหล่า สามารถเข้าถึงข้อมูลเอกสารดังกล่าวในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการเข้าถึง 75
ต้นฉบับหรือฉบับเต็มผ่านทาง “ระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ เอกสารส�ำคัญ ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทย จากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ ดงั น้ัน ผลผลติ ของโครงการนี้ตามเป้าหมายในระยะยาวแลว้ จงึ มีความ สำ� คญั ตอ่ ทงั้ นกั วชิ าการ นสิ ติ นกั ศกึ ษา รวมถงึ นกั เรยี นทหารในระดบั ตา่ งๆ และ ประชาชนท่ัวไป เพราะเป็นการจัดทำ� แหล่งขอ้ มลู ขนาดใหญ่ คือเป็นโครงสร้าง พน้ื ฐานด้านขอ้ มลู ในลกั ษณะตวั เอกสารสำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมยั ใหม่ จากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศทวั่ โลก ทงั้ เอกสารของประเทศมหาอำ� นาจและ เพ่ือนบ้านที่เกี่ยวกับประเทศไทย ในจ�ำนวนท่ีมากพอท้ังในเชิงปริมาณและ คุณภาพ และผู้สนใจสามารถเข้าถึงและน�ำไปใช้อย่างสะดวกทั้งทาง on-site และทางส่ือ online ซึ่งในอนาคตผลกระทบจากการเปิดกว้างน้ี จะช่วยให้ คนไทยสามารถพัฒนาความรู้ ความคดิ อ่านไดด้ ยี ิง่ ดังนั้น การเข้าถึงและน�ำไปใช้น้ี จึงย่อมส่งผลกระทบในลักษณะการ กระจายออกไปในวงกวา้ ง สำ� หรบั การพฒั นาความรคู้ วามเขา้ ใจทางประวตั ศิ าสตร์ อย่างรอบด้าน การพัฒนาความคิดอ่านของผู้คนอย่างมีเหตุมีผลบนฐานของ ขอ้ เทจ็ จรงิ การพฒั นาดา้ นการเรยี นการสอนในระดบั ตา่ งๆ อยา่ งมคี ณุ ภาพ คอื การฝึกคิดวิเคราะห์เป็น ไม่เช่ืออะไรง่ายๆ และการเปิดประเด็นใหม่ๆ ในการ วิจัยเชิงลึก งานเขียนสร้างสรรค์ทางประวัติศาสตร์ท้ังก่อน ระหว่าง และหลัง สงครามโลกครงั้ ที่ ๒ จากสมยั สงครามเย็นสู่ยคุ หลังสงครามเย็น จนถึงปัจจุบัน ในยุค Post-COVID War อยา่ งไรกต็ าม กอ่ นทจี่ ะบรรลตุ ามเปา้ หมายใหญใ่ นระยะยาวนนั้ จำ� เปน็ ตอ้ งอาศยั เวลาท้งั ในดา้ นการจัดหาและป้อน “วตั ถดุ บิ ” ให้ไดม้ ากพอ ทัง้ ในเชิง ปริมาณและคุณภาพจากหอจดหมายเหตุในแต่ละประเทศ และยังต้องอาศัย คณะผู้เชี่ยวชาญในการค้นหาและทดลองระบบและโครงสร้างพ้ืนฐานให้ เหมาะสม แต่ในระหว่างทางนั้นการด�ำเนินการก็ยังสามารถทยอยน�ำเอกสาร สำ� คญั บางส่วนออกเผยแพรใ่ หผ้ ูส้ นใจไดร้ ับรู้และนำ� ไปใชต้ อ่ ยอดตอ่ ไปได้ 76
ด้วยเหตุนี้ ก่อนท่ีจะมีการพัฒนา “คลังข้อมูล” ดิจิทัล ไปสู่ “ระบบ ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์” ท่ีสมบูรณ์และการจัดท�ำโครงสร้างพื้นฐานท่ีส�ำคัญ อย่างเต็มรูปแบบน้ัน พระองค์จึงทรงมีพระราชด�ำริและพระราชประสงค์ให้มี การทยอยเผยแพรเ่ อกสารสำ� คญั ทน่ี ำ� กลบั มาในแตล่ ะปี ควบคไู่ ปกบั การพฒั นา “คลังข้อมูล” ดิจิทัล ไปสู่ “ระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์” และการจัดท�ำ โครงสร้างพื้นฐานท่ีส�ำคัญที่สมบูรณ์นั้น ท้ังน้ีก็เพ่ือเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้รับรู้ กอ่ น และสามารถนำ� ไปใชท้ ง้ั ดา้ นการเรยี นการสอน การวจิ ยั และงานเขยี นตา่ งๆ ในระหว่างทางก่อนที่การพฒั นา “คลังข้อมลู ” ดิจิทลั จะถงึ เสน้ ชยั น้นั คอื การ จดั ท�ำโครงสรา้ งพ้ืนฐานทส่ี �ำคัญเสร็จสมบรู ณอ์ ยา่ งเตม็ รปู แบบ อย่างไรก็ดี ในเร่ืองการทยอยเผยแพร่เอกสารส�ำคัญนี้ พระองค์ทรงมี พระราชด�ำริและพระราชประสงค์ในแบบกว้างๆ ท่ีไม่ตายตัวนัก จึงสามารถ กระท�ำได้ในหลายลักษณะและในรูปแบบต่างๆ อันได้แก่ การจัดงานสัมมนา ทางวิชาการประจ�ำปี การแปลเอกสารส�ำคัญ การวิจัยเชิงลึก การเขียนงาน สรา้ งสรรค์ และการใหบ้ รกิ ารความรเู้ อกสารตา่ งประเทศแกผ่ สู้ นใจเปน็ หมคู่ ณะ หรือรายบุคคล พระองคท์ รงรเิ รม่ิ ใหม้ กี ารจดั สมั มนากอ่ น ตอ่ มาภายหลงั จงึ ไดย้ ดึ ไวเ้ ปน็ แบบอยา่ ง กลา่ วคอื หลงั จากคณะคน้ ควา้ ไดเ้ อกสารสำ� คญั กลบั มาในแตล่ ะปนี น้ั ไดม้ กี ารเผยแพรเ่ อกสารดงั กลา่ วตามรปู แบบตา่ งๆ นน้ั เรม่ิ จากการจดั สมั มนาฯ ประจ�ำปี การคดั เลอื กเอกสารส�ำหรบั แปล การหาหวั ข้อสำ� หรับการวจิ ัยเชิงลกึ การเขียนงานสร้างสรรค์บนฐานข้อมูลเอกสารท่ีได้มาใหม่หรือของเดิมท่ีมี อยู่แล้วใน “หอจดหมายเหตตุ ่างประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ และการให้ บรกิ ารความรแู้ กผ่ สู้ นใจทแ่ี สดงความประสงคม์ า ทง้ั สถาบนั และองคก์ ารศกึ ษา ในกรุงเทพฯ และตา่ งจังหวดั เรอื่ งนีม้ ีหลกั การและรายละเอียดของการเผยแพรใ่ นแตล่ ะดา้ นพอควร และจ�ำเป็นตอ้ งขยายความให้ชัดเจนเป็นด้านๆ ไป ในบทถดั ไปจะนำ� เสนอเร่อื ง การเผยแพร่เอกสารสำ� คญั ในรูปแบบต่างๆ โดยเริ่มจากการจดั งานสัมมนาทาง 77
วชิ าการประจำ� ปี สว่ นการคดั เลอื กเอกสารสำ� หรบั แปล การวจิ ยั เชงิ ลกึ การเขยี น งานสรา้ งสรรคบ์ นฐานขอ้ มลู ทไี่ ดม้ าใหมห่ รอื ของเดมิ ทมี่ อี ยแู่ ลว้ ใน “หอจดหมายเหตุ ตา่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ และการใหบ้ รกิ ารความรแู้ กผ่ สู้ นใจทแี่ สดง ความประสงคม์ านนั้ จะได้นำ� เสนอเปน็ เรอื่ งๆ ในแตล่ ะบทในบทถดั ๆ ไปจาก บทท่ี ๔ 78
บทท่ี ๔ การเผยแพรเ่ อกสารส�ำคัญ : การจดั งานสมั มนาทางวชิ าการ 79
“ การประชุมเกยี่ วกับเอกสารช้นั ต้นในโรงเรยี นนายรอ้ ย พระจลุ จอมเกล้า เคยจดั มาครง้ั หน่ึงแลว้ เมอื่ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยตง้ั ใจ เปิดใหบ้ ุคคลภายนอกมีโอกาสมาใชเ้ อกสารทเ่ี ราเกบ็ สะสมมา หลายสบิ ปแี ล้วจากหอจดหมายเหตุ หรอื Archives ในประเทศ ตา่ งๆ เช่น สหราชอาณาจกั ร สหรฐั อเมรกิ า และประเทศอืน่ ๆ ทเ่ี คยไดไ้ ปดูยังมีสาธารณรัฐเยอรมนี และสาธารณรัฐฝรงั่ เศส… ” พลเอกหญงิ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ “บทกลา่ วนำ� ” ในการสัมมนาทาง วิชาการเร่ือง “๑๒๐ ปีแหง่ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งราชอาณาจกั รไทย-รสั เซีย จาก มมุ มองของเอกสารรสั เซยี สหรัฐอเมริกา และนักวิชาการไทย-รสั เซียศึกษา” ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ 80
บทนำ� จากพระราชนิพนธ์ “บทกลา่ วนำ� ” ท่ที รงน�ำเสนอในการสมั มนา เมอื่ วันท่ี ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ ณ กองวิชาประวัติศาสตร์ฯ เพ่ือเป็น สว่ นหนงึ่ ของการเฉลมิ พระเกยี รตพิ ระองค์ ในโอกาสเจรญิ พระชนมายคุ รบ ๖๒ พรรษา และการแนะน�ำเอกสารใน “หอจดหมายเหตุจากต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” คร้ังที่ ๒ น้ัน มีข้อมูลที่น่าสนใจย่ิง และควรน�ำมา บอกกล่าวเล่าให้ฟังในบทน้ี ในทำ� นองคลา้ ยการขยายข่าวเร่ืองเล่าเช้าน้ี เพราะการขยายขา่ ว การขยายความ ในบางกรณีมคี วามจำ� เปน็ ในการ ช่วยท�ำให้เกิดเข้าใจเข้าถึงประเด็นนั้นๆ ได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากเนื้อหาใน “บทกล่าวน�ำ” ท่ียกมาน้ี มีใจความส�ำคัญสะท้อนพระราชด�ำริและพระราช ประสงคข์ องพระองคอ์ ยา่ งชดั เจน โดยเฉพาะในดา้ นการเผยแพรเ่ อกสารสำ� คญั ในรปู การจดั งานสมั มนาทางวชิ าการ ซง่ึ เปน็ สว่ นหนง่ึ ในเรอื่ งการรวบรวมเอกสาร ส�ำคัญของไทยจากหอจดหมายเหตุต่างประเทศ ท่ีพระองค์ทรงริเร่ิมและ ด�ำเนินการมาอย่างต่อเน่ืองตลอดในช่วงระยะยาวนานและครบสามทศวรรษ แล้ว 81
เนอื้ ความส้นั ๆ ในบทนี้ซงึ่ เปน็ ตอนท่ี ๓ ในชดุ ทูลกระหมอ่ มอาจารยก์ ับ ๓๐ ปี โครงการเอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์จากต่างประเทศในพระราช ด�ำริฯ ท่ีได้น�ำเสนอมาอย่างต่อเน่ืองจากบทที่ ๒ เรื่อง “ความเป็นมา : พระ ราชด�ำรแิ ละพระราชประสงค์” และบทที่ ๓ “เอกสารสำ� คัญทางประวตั ิศาสตร์ จากต่างประเทศ : การรวบรวมและจัดเก็บ” และในบทท่ี ๔ น้ี คือ “การ เผยแพรเ่ อกสารสำ� คัญ : การจัดงานสัมมนาทางวิชาการ” สาระหลกั ในบทท่ี ๔ นจ้ี ะไดแ้ นะนำ� และนำ� เสนอในสว่ นของการเผยแพร่ เอกสารส�ำคัญตามพระราชด�ำรขิ องพระองค์ โดยเฉพาะการเผยแพร่ในรูปของ การจัดงานสมั มนาทางวชิ าการตามพระราชประสงค์ ตามท่ไี ดย้ กมาแต่ตน้ แลว้ ความวา่ “… โดยตงั้ ใจเปดิ ใหบ้ คุ คลภายนอกมโี อกาสมาใชเ้ อกสารทเี่ ราเกบ็ สะสม มาหลายสบิ ปีแลว้ จากหอจดหมายเหตุ หรอื Archives ในประเทศต่างๆ เชน่ สหราชอาณาจักร สหรฐั อเมรกิ า และประเทศอนื่ ๆ…” การเผยแพร่เอกสารส�ำคัญ : หลากหลายรูปแบบ แต่มีเป้าหมาย เดยี วกัน ตามที่ได้กล่าวมาแล้วว่า พระราชด�ำริและพระราชประสงค์ของ ทูลกระหม่อมอาจารย์ในการทรงด�ำเนินการ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” เพื่อรวบรวม จัดเก็บ และเผยแพร่เอกสารที่เกี่ยวกับ ประเทศไทยจากหอจดหมายเหตุของต่างประเทศนั้น นอกจากพระองค์ทรงมี เปา้ หมายเพอ่ื สนบั สนนุ การเรยี นการสอน การวจิ ยั ของอาจารยโ์ รงเรยี นนายรอ้ ย พระจุลจอมเกล้าแล้ว ยังทรงมีพระราชประสงค์เปิดบริการให้แก่นักวิชาการ อาจารย์ นสิ ติ นกั ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตร-ี โท-เอก และประชาชนผสู้ นใจสามารถ มาอ่านเอกสารดงั กลา่ วได้อยา่ งทวั่ ถงึ อกี ด้วย เพอ่ื ในการนี้ พระองคท์ รงมกี ารดำ� เนนิ การในการเผยแพรเ่ อกสารสำ� คญั ในหลายรูปแบบด้วยกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ “…ต้ังใจเปิดให้บุคคล ภายนอกมโี อกาสมาใชเ้ อกสารทเี่ ราเกบ็ สะสมมาหลายสบิ ปแี ลว้ จากหอจดหมายเหตุ 82
หรือ Archives ในประเทศตา่ งๆ เชน่ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และ ประเทศอ่ืนๆ…” ทง้ั นี้พระองค์ทรงด�ำเนนิ การผา่ นช่องทางในรปู แบบตา่ งๆ ซึ่งมี ๕ ดา้ น ไดแ้ ก่ (๑) การจัดสมั มนาทางวชิ าการประจำ� ปี (๒) การจดั เกบ็ เอกสารเขา้ สรู่ ะบบใหมใ่ นระบบหอ้ งสมดุ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (๓) การแปลเอกสารสำ� คัญ (๔) การวจิ ัยในเชิงลกึ หรือการเขียนงานสร้างสรรคค์ วามรู้ใหม่ และ (๕) การใหบ้ รกิ ารความรเู้ อกสารตา่ งประเทศแกผ่ สู้ นใจเปน็ หมคู่ ณะหรอื รายบุคคล ตามพระราชดำ� ริและพระราชประสงคน์ ี้ การเผยแพรเ่ อกสารสำ� คัญจงึ มชี อ่ งทางทำ� ไดใ้ นหลากหลายรปู แบบ แตม่ ี “หวั ใจ” สำ� คญั เดยี วกนั นนั่ คอื การ ขยายความรแู้ ละตวั เอกสารข้อมูลจากตา่ งประเทศไปสู่ผสู้ นใจในวงกว้าง ทง้ั ใน แวดวงวิชาการและประชาชนอย่างทั่วถึง โดยมี ๕ รปู แบบใหญ่ และจะไดก้ ล่าว สรุปใหเ้ หน็ ดังน้ี คือ การจัดสัมมนาทางวิชาการประจ�ำปี กิจกรรมน้ีถือเป็นส่วนแรกของ คณะคน้ ควา้ เพอ่ื ใหค้ ณะคน้ คว้าเอกสารนำ� เสนอภาพรวมของเอกสารในแตล่ ะ ประเทศทนี่ ำ� กลบั มา และรบั ฟงั จากผรู้ ตู้ า่ งๆ รวมทง้ั การเปดิ โอกาสใหผ้ สู้ นใจใน แวดวงวิชาการและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงเอกสารดังกล่าวในเบื้องต้น เพ่อื กระต้นุ ความสงสัยใคร่รู้ การจัดสัมมนาทางวิชาการนี้อยู่ในระดับชาติ และอาจจัดเป็นระดับ นานาชาติดว้ ยกไ็ ด้ ปกตแิ ลว้ ได้จดั ข้นึ ปลี ะ ๑ ครัง้ และไดก้ �ำหนดแกนเรอ่ื งหรอื ประเดน็ ส�ำคัญตามท่พี ระองคท์ รงแนะน�ำ และ/หรือหวั หนา้ โครงการและคณะ ค้นคว้าได้ร่วมก�ำหนดไว้ เพ่ือเผยแพร่เอกสารส�ำคัญบางส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับ 83
ประวัติศาสตร์ไทยสมยั สงครามโลกครั้งท่ี ๒ หรอื สมัยสงครามเยน็ และยคุ หลัง สงครามเย็น เช่น ประเด็นไทยกับสงครามเกาหลี ไทยกับการก่อต้ังสมาคม ประชาชาตแิ ห่งเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ (Association of South East Asian Nations) หรอื อาเซียน (ASEAN) และไทยกับอนิ โดจีนสมัยประชาคมอาเซยี น ซง่ึ หัวขอ้ หลังสดุ น้อี ยใู่ นระหวา่ งการตระเตรยี ม เพื่อจัดสมั มนาข้ึนในชว่ งปลาย ปี ๒๕๖๕ ณ มหาวิทยาลัยนครพนม การจัดสัมมนาเร่ืองหลังนี้ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายปี ๒๕๖๕ นั้น มี เปา้ หมายสำ� คญั เพอื่ กา้ วขา้ มไปสอู่ กี สมยั หนงึ่ ซง่ึ โครงการวจิ ยั นย้ี งั ไมเ่ คยกระทำ� มากอ่ น นนั่ กค็ อื ยคุ หลงั สงครามเยน็ หรอื ตงั้ แตก่ ารพงั ทลายของกำ� แพงเบอรล์ นิ โดยได้เน้นเร่ิมต้นเข้าสู่การรวบรวม จัดเก็บ และเปิดเผยข้อมูลสมัยหลัง สงครามเยน็ ตามพระราชด�ำรขิ องทลู กระหมอ่ มอาจารย์ ทีท่ รงมีขอ้ แนะนำ� ไว้ เมอ่ื ปี ๒๕๖๔ ในพระราชนพิ นธ์ “คำ� นยิ ม” ในพลเอกหญงิ ศ.เกยี รตคิ ณุ ดร.สมเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากหนังสือ จากแฟ้มเอกสารลบั ทสี่ ดุ : เผย “ข้อมูลใหม”่ ทางประวตั ศิ าสตร์ ไทยสมัยสงครามโลกครั้งท่ี ๒ ของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NARA) (ส�ำนกั งานการวิจยั แห่งชาติ, ๒๕๖๔) ดังใจความตอนหนง่ึ ว่า “ขา้ พเจา้ คดิ วา่ ถงึ ระยะน้ี นา่ จะไดไ้ ปสำ� รวจเอกสารอกี เนอ่ื งจาก เม่ือหลายปีมาแล้วเอกสารมักจะเกี่ยวกับสมัยสงครามโลกคร้ังที่ ๒ หรือสมยั สงครามเยน็ แต่เอกสารท่เี ปดิ ในระยะน้ีนา่ จะเป็นสมัยหลัง สงครามเย็นท่นี า่ สนใจเชน่ เดยี วกัน เพราะเป็นเหตุการณ์ทม่ี เี งื่อนไข ต่างจากเหตุการณ์ในยุคก่อน และมีนักวิชาการอื่นก็มาช่วยเรา คัดเลอื กเอกสารจากหอจดหมายเหตุอีกหลายแห่งดว้ ย” เพอื่ สนองพระราชดำ� รขิ องทลู กระหมอ่ มอาจารย์ ในการคน้ ควา้ เอกสาร ข้อมูลต่างประเทศให้กว้างขวางย่ิงข้ึนจากเดิมที่เคยท�ำมาเพียงเฉพาะในช่วง 84
สงครามโลกฯ และสงครามเย็น ดังน้ันแกนเรอื่ งของการจัดสัมมนาในปี ๒๕๖๕ จึงได้เร่ิมเน้นสมัยหลังสงครามเย็นเป็นหลัก โดยใช้หัวเร่ือง “ไทยกับอินโดจีน สมยั ประชาคมอาเซยี น : มมุ มองจากเอกสารหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศของ เพ่อื นบา้ นและชาตมิ หาอ�ำนาจ” เปน็ ตวั นำ� รอ่ งของการค้นคว้า เปา้ หมายของการจัดสมั มนาครัง้ น้ี กเ็ พอื่ เป็นการน�ำรอ่ งในการคน้ ควา้ และเก็บข้อมูลเอกสารต่างประเทศในช่วงยุคหลังสงครามเย็น โดยเฉพาะการ ค้นหาเอกสารจากหอจดหมายเหตุต่างประเทศในหลายประเทศท่ีสะท้อนถึง ทา่ ที แนวคดิ นโยบายและแนวโนม้ ทง้ั ดา้ นปจั จยั ภายในของประเทศเพอ่ื นบา้ น อินโดจีน และปัจจัยภายนอก ได้แก่ การพังทลายของก�ำแพงเบอร์ลิน การ ลม่ สลายของสหภาพโซเวียต และการสนิ้ สุดของสงครามเย็นน้ัน มสี ่วนหรอื ได้ สง่ ผลตอ่ การปรบั ตวั ของเพอื่ นบา้ นอนิ โดจนี และการเขา้ รว่ มกบั ประชาคมอาเซยี น ในระยะต่อมาอย่างไร หลังจากปี ๒๕๖๕ ไปแล้ว การจัดสัมมนาทางวิชาการประจ�ำปยี ังคงมี ต่อไปเช่นเดิม แต่แกนเร่ืองของการจัดสัมมนาในแต่ละปีนั้นจะเลือกจากความ สำ� คญั ของปนี นั้ ๆ ตวั อย่างเชน่ ปี ๒๕๖๖ หัวข้อเช่น “๕๐ ปี เหตกุ ารณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖” “๑๓๐ ปี เหตุการณ์ ร.ศ. ๑๑๒” และหากผอู้ า่ นทา่ นใดมี หัวขอ้ อน่ื ๆ ที่นา่ สนใจอกี โดยเฉพาะประเดน็ สำ� คญั ในยคุ หลังสงครามเย็น และ สามารถเขา้ มาเปน็ สว่ นหนงึ่ ของคณะคน้ ควา้ /วจิ ยั นบั เปน็ เรอ่ื งนา่ ยนิ ดี เนอื่ งจาก การดำ� เนนิ การของ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ แหง่ น้ี เปิดรบั ผู้รว่ มงานใหมๆ่ เสมอ และถอื วา่ หอจดหมายเหตุตา่ งประเทศแหง่ น้ี เปน็ ของทกุ ทา่ น กค็ งจะไมผ่ ดิ จากพระราชดำ� รแิ ละพระราชประสงคข์ องพระองค์ อย่างไรกต็ าม หวั ข้อของการสมั มนาในแต่ละปนี ัน้ อาจมไิ ด้เจาะจงจาก การครบวงรอบทางประวตั ศิ าสตร์ไปตามนี้ เชน่ ๓๐ ปี ๕๐ ปี หรือ ๑๐๐ ปี ก็ได้ ทงั้ นข้ี นึ้ อยกู่ บั ประเดน็ หรอื เหตกุ ารณส์ ำ� คญั ในปนี น้ั ทไี่ ทยไดเ้ ขา้ ไปเกย่ี วพนั หรอื เปน็ เรอื่ งทอ่ี ยใู่ นความสนใจของนกั วชิ าการ คณาจารย์ รวมทงั้ ขอ้ เสนอแนะจาก ทลู กระหมอ่ มอาจารย์ ท่ีทรงแนะน�ำคณะผ้คู น้ ควา้ เอกสารมาตลอดทกุ ปี ทงั้ นี้ 85
เน่ืองจากเป้าหมายของการจัดงานสัมมนาทางวิชาการประจ�ำปีนั้น มีความ สัมพันธ์กับกิจกรรมด้านอ่ืนๆ รวมถึงความสนใจ ความพร้อมของทีมงานเป็น ประการส�ำคัญด้วย การจัดเก็บเอกสารเข้าสู่ระบบใหม่ กิจกรรมน้ีต่อเน่ืองจากส่วนแรกที่ กลา่ วมา คอื ภายหลงั จากการจดั สมั มนาฯ ในแตล่ ะปแี ลว้ คณะคน้ ควา้ ไดส้ ง่ มอบ เอกสารและมกี ารจดั เกบ็ เอกสารดงั กลา่ วเขา้ สรู่ ะบบใหมใ่ น “คลงั ขอ้ มลู ” ดจิ ทิ ลั ของ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ ในขนั้ ตอนนเี้ ปน็ การ นำ� เอกสารทรี่ วบรวมกลบั มาไดใ้ นแตล่ ะประเทศมาจดั เกบ็ ไวอ้ ยา่ งเปน็ ระบบหรอื เขา้ สบู่ า้ นใหมต่ ามระบบหอจดหมายเหตแุ ละหอ้ งสมดุ เพอ่ื เปดิ ใหบ้ รกิ ารแกน่ กั วิชาการ นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไป สามารถเข้าถึงเอกสารต้นฉบับ อย่างท่ัวถึงและสะดวกท้ังทาง on-site (ระบบ intranet รร.จปร.) และทาง online ในระบบห้องสมุดอเิ ล็กทรอนิกส์ของ กปศ.สกศ.รร.จปร. ปัจจุบัน “คลังข้อมูล” ดิจิทัล ของ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย”์ น้ี มเี อกสารเดมิ อยแู่ ลว้ (ประมาณมากกวา่ ๒ แสนแผน่ ) กับของใหม่ในปี ๒๕๖๔-๖๕ รวมๆ กันมีจ�ำนวนประมาณเกือบ ๓ แสนแผ่น (หนา้ ) และก�ำลงั อยู่ในระหวา่ งการด�ำเนนิ การจดั เกบ็ เข้าสู่ระบบใหม่ และการ จดั ทำ� โครงสรา้ งพน้ื ฐานทสี่ ำ� คญั สำ� หรบั การเปดิ บรกิ ารใหแ้ กน่ กั วชิ าการ ผสู้ นใจ สามารถเข้าถึงแหล่งเอกสารดงั กลา่ วทางหอ้ งสมุดอเิ ล็กทรอนิกส์ คาดว่าระบบใหม่น่าจะแล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์ และเปิดให้บริการใน ขน้ั ตน้ ในช่วงเมษายน-พฤษภาคม ปี ๒๕๖๕ และเปน็ จังหวะดีทีม่ าพรอ้ มๆ กบั การเปิดตวั ของ “หอจดหมายเหตตุ ่างประเทศ ทูลกระหมอ่ มอาจารย์” อย่าง เป็นทางการ ณ กองวิชาประวัติศาสตร์ฯ เพื่อจัดถวายเฉลิมพระเกียรติ พลเอกหญิง ศ.เกยี รติคณุ ดร.สมเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเจริญพระชนมายุ ๖๗ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๖๕ ตามดำ� ริของ พลโท ปิยพงศ์ กลนิ่ พันธุ์ ผู้บญั ชาการโรงเรียน นายรอ้ ยพระจุลจอมเกลา้ ทา่ นปจั จุบัน 86
การแปลเอกสารส�ำคัญ การด�ำเนินการในส่วนน้ีก็เช่นเดียวกับการ จัดเกบ็ เอกสารเขา้ สู่ระบบใหม่ คอื จะเกดิ ขึน้ ภายหลงั จากการจัดสัมมนาฯ เชน่ กัน และทสี่ �ำคัญคือ รูปธรรมหรือผลงานการแปลนเี้ กิดข้ึนในช่วงหลงั ๆ นับจาก เมือ่ ปี ๒๕๖๓-๖๕ เป็นต้นมา เน่อื งจากคณะผวู้ จิ ยั /ค้นควา้ เอกสารส่วนหนงึ่ มา จากมหาวิทยาลัย และมีความรภู้ าษาต่างประเทศเพม่ิ ขึ้น คือนอกเหนอื ไปจาก อังกฤษและฝร่งั เศสแล้ว ยังมอี ีกหลายภาษาท้งั ในยุโรปและเอเชีย เชน่ รัสเซยี เยอรมนี เกาหลี จีน ญ่ปี ุ่น ไต้หวนั เวยี ดนาม และประเทศสมาชกิ อาเซียนแทบ ทุกประเทศ เปา้ หมายของการแปลน้ี ในเบอ้ื งตน้ ไดก้ ำ� หนดเอกสารสำ� คญั ทมี่ ใิ ชภ่ าษา อังกฤษก่อน เชน่ เกาหลี จีน ญ่ปี นุ่ เยอรมนี เวียดนาม และรัสเซีย เพ่ือด�ำเนนิ การแปลและพมิ พ์ โดยคดั เลอื กจากเอกสารทเ่ี กบ็ รวบรวมกลบั มาในแตล่ ะปี ทงั้ ของใหมแ่ ละของเดมิ ทมี่ อี ยแู่ ลว้ ใน “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ ม อาจารย”์ กจิ กรรมในดา้ นนเ้ี มือ่ ปี ๒๕๖๓-๖๔ ในเบอ้ื งตน้ มีผู้สนใจและไดก้ ำ� หนด ใหม้ กี ารแปลเอกสารสำ� คญั ทมี่ ใิ ชภ่ าษาองั กฤษกอ่ น เชน่ เกาหลี จนี ญปี่ นุ่ ไตห้ วนั ฝรัง่ เศส และเวียดนาม เฉพาะปี ๒๕๖๓ มีการแปลเอกสารสำ� คัญ ๓ ชุดก่อน คอื ชุดเกาหลี จนี และญป่ี ุ่น และตอ่ มาได้เพิ่มอีก ๑ ชุด คอื สหรฐั อเมรกิ า (สมยั สงครามโลกคร้งั ที่ ๒) กิจกรรมการแปลนย้ี ังคงต่อเนอื่ งในปี ๒๕๖๔-๖๕ ดว้ ยปจั จัยเอ้ือหนุน ทั้งด้านทุนสนับสนุนจากส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และองค์ประกอบ ของคณะผู้ค้นคว้าซ่ึงมีความสนใจหลากหลายขึ้น ท้ังยังสามารถใช้ภาษา ตา่ งประเทศไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวางกวา่ เดมิ คอื นอกจากภาษาองั กฤษ ฝรง่ั เศส เกาหลี ญี่ปุ่น และเยอรมนีแล้ว ยังมีอาจารย์อีกหลายท่านท่ีอยู่ในเครือข่ายของคณะ คน้ คว้าจากมหาวิทยาลัย สถาบันตา่ งๆ ท่ัวประเทศและตา่ งประเทศ สามารถ ใช้ภาษาอ่นื ๆ ไดแ้ ก่ พมา่ มาเลเซีย อนิ โดนเี ซยี บรูไน รสั เซยี ไต้หวัน กัมพูชา ลาว และเวยี ดนาม 87
การวจิ ยั ในเชงิ ลกึ หรอื การเขยี นงานสรา้ งสรรคค์ วามรใู้ หม่ กจิ กรรมนี้ เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้นักวิจัย อาจารย์ ท�ำการวิจัยในเชิงลึกหรือ งานเขียนท่ีสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ๆ จากเอกสารต่างประเทศดังกล่าว และใน การด�ำเนินการนี้ก็เช่นเดียวกับการแปลเอกสารส�ำคัญ คือเกิดขึ้นภายหลังจาก การจัดสัมมนาฯ ในแต่ละปี และรูปธรรมหรือผลผลิตได้เกิดขึ้นในช่วงหลัง โดยเฉพาะนบั ตง้ั แตป่ ี ๒๕๖๓-๖๕ เปน็ ตน้ มาเช่นกัน ในปี ๒๕๖๓-๖๔ เนน้ กจิ กรรมวจิ ยั นใ้ี นสมยั สงครามเกาหลี โดยมเี อกสาร เกาหลใี ตแ้ ละจีนเป็นสำ� คญั และในปี ๒๕๖๔-๖๕ มแี กนกลางเน้นการแปลและ การวจิ ยั เชงิ ลกึ งานเขยี นสรา้ งสรรคท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั สมาคมอาเซยี นและประชาคม อาเซยี น โดยเฉพาะในสว่ นของเพอ่ื นบา้ นกลมุ่ อนิ โดจนี เปน็ การนำ� รอ่ งกอ่ น และ ในปีถัดๆ ไปคงมีโอกาสจะได้เน้นขยายเพม่ิ ไปทางเมยี นมาร์ และทางมาเลเซยี รวมท้ังกลุ่มประเทศหมู่เกาะ คือ ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย เพ่ือช่วยท�ำให้ สังคมไทยมอี งค์ความรู้ท่ีดีและรอบดา้ นเกยี่ วกับประเทศสมาชกิ ของประชาคม อาเซยี น การใหบ้ รกิ ารความรเู้ อกสารตา่ งประเทศแกผ่ สู้ นใจ กจิ กรรมนเ้ี กดิ ขน้ึ หลงั สดุ จากการจดั สมั มนาทางวชิ าการประจำ� ปี การจดั เกบ็ เอกสารเขา้ สรู่ ะบบ ใหม่ การแปลเอกสารส�ำคัญ การวิจัยในเชิงลึกหรือการเขียนงานสร้างสรรค์ ความรู้ใหม่ แต่อาจเกิดขึ้นควบคู่ไปกับไปการจัดเก็บเอกสารเข้าสู่ระบบใหม่ การแปลเอกสารส�ำคัญ การวิจัยในเชิงลึกหรือการเขียนงานสร้างสรรค์ ความรู้ใหม่ก็ได้ หากมีผู้สนใจแสดงความประสงค์มา หรือภายหลังจากการ จัดสัมมนาทางวิชาการประจ�ำปีในปีน้ันๆ แล้ว ผู้เข้าร่วมสัมมนาสนใจศึกษา เอกสารฉบับเตม็ จากตา่ งประเทศ เพราะกิจกรรมในด้านนี้เป็นการน�ำเอกสารต่างประเทศท่ีได้มาใหม่ใน ทกุ ปี รวมทงั้ เอกสารเดมิ ทมี่ อี ยใู่ น “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทลู กระหมอ่ ม อาจารย์” ออกไปเผยแพรเ่ พอื่ การแนะนำ� แก่คณาจารย์ นกั วิจยั นสิ ิตนกั ศึกษา ทส่ี นใจและแสดงความประสงคข์ อรบั บรกิ ารดงั กลา่ วนี้ โดยการจดั บรรยายพเิ ศษ การสมั มนากลมุ่ ยอ่ ย เพอ่ื ให้ตรงกบั ความสนใจของนกั วชิ าการ นสิ ติ นักศึกษา 88
ผสู้ นใจเฉพาะเอกสารนน้ั ๆ เชน่ เอกสารจากจนี องั กฤษ หรอื สหรฐั อเมรกิ า หรอื อาจสนใจเป็นช่วงสมัยของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ เช่น สงครามโลก คร้ังท่ี ๒ สงครามเกาหลี เป็นตน้ กจิ กรรม ๕ ด้านหรือการเผยแพร่เอกสารส�ำคัญใน ๕ รปู แบบนี้ จะขอ เรมิ่ จากในสว่ นของ “การเผยแพรเ่ อกสารสำ� คญั : การจดั งานสมั มนาทางวชิ าการ” ตามหวั เรอ่ื งของบทท่ี ๔ สว่ นการเผยแพร่ในทางอืน่ ๆ อีก ๔ รปู แบบน้นั จะได้ นำ� เสนอและขยายความในตอนตอ่ ๆ ไป คอื บทท่ี ๕ “การแปลเอกสารสำ� คญั : เกาหลี จีน รสั เซีย สหรัฐอเมริกา และเพ่ือนบ้านอาเซยี น” บทที่ ๖ “การวจิ ยั เชิงลกึ ทางประวตั ศิ าสตร์ไทย : สมยั สงครามโลกครงั้ ที่ ๒ สมัยสงครามเย็น และ ยคุ หลงั สงครามเยน็ ” และบทท่ี ๗ “การบรกิ ารความรใู้ หแ้ กผ่ สู้ นใจ : นกั วชิ าการ นิสติ นักศึกษาในกรงุ เทพฯ และตา่ งจงั หวัด” ซึ่งจะรวมถึง “การจดั เกบ็ เอกสาร เขา้ สูร่ ะบบใหม”่ ดว้ ย การจัดงานสมั มนาทางวิชาการ : จากสงครามโลกครงั้ ที่ ๒ สู่ ๕๔ ปีการกอ่ ตง้ั “อาเซยี น” และไทยกบั อนิ โดจนี สมัยประชาคมอาเซยี น การด�ำเนินการในการเผยแพร่เอกสารต่างประเทศในด้านนี้ มีประวัติ ความเป็นมาไม่ยาวนานนัก เนื่องจากต้องรอคอยข้อมูลส�ำคัญจากการสะสม เอกสารใหไ้ ดม้ ากพอกอ่ น แตถ่ อื วา่ มคี วามสำ� คญั ในฐานะเปน็ “ตน้ สายธารใหญ”่ ของการเปิดโอกาสให้ผู้สนใจชาวไทยเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างประเทศที่น�ำกลับ มา โดยทางโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าและหน่วยงานภายนอก เช่น สำ� นกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) ไดเ้ คยจดั สมั มนาทางวชิ าการเฉลมิ พระเกยี รติ และแนะน�ำเอกสารของโครงการหอจดหมายเหตุ กปศ.สกศ.รร.จปร. ใน พระราชดำ� ริฯ มาแล้ว ๓ ครง้ั ดว้ ยกัน ครงั้ ล่าสุดนบั เปน็ ครั้งท่ี ๔ คอื เรอื่ ง ๕๔ ปี การก่อตั้ง “อาเซยี น” ปี ๒๕๖๔ และครัง้ ท่ี ๕ ทีจ่ ะจัดในปี ๒๕๖๕ เร่อื งไทยกับ อนิ โดจนี สมัยประชาคมอาเซยี น 89
การจัดสัมมนาในแต่ละครั้งน้ีมีเป้าหมายหลักเดียวกัน คือเพื่อให้ นกั วชิ าการ นสิ ติ นกั ศกึ ษา และผสู้ นใจ มโี อกาสเขา้ ถงึ แหลง่ ขอ้ มลู เหลา่ นไี้ ดอ้ ยา่ ง ท่วั ถงึ ทงั้ ยังสามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชนต์ อ่ การพัฒนาความรู้ ความคิดอ่านไปใน ทิศทางที่มีเหตุผลบนหลักฐานข้อเท็จจริง แต่แกนเร่ืองได้เน้นความส�ำคัญของ ประเทศไทยกับเหตุการณ์ส�ำคัญของกระแสโลก และเป็นการแนะน�ำเอกสาร ตา่ งประเทศสำ� คญั หรอื เปน็ ขอ้ มลู ชดุ ใหมๆ่ ในแตล่ ะปที ไ่ี ดเ้ กบ็ กลบั มา และคณะ คน้ คว้าได้หมุนเวยี นเปลยี่ นกันไปตามประเทศตา่ งๆ ตามโอกาสที่จะไปค้นควา้ และเกบ็ ขอ้ มูลกลับมาได้ ตัวอย่างเช่น ในการจัดงานสัมมนาครั้งล่าสุดที่ผ่านมาเม่ือวันท่ี ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔ คอื เรอ่ื ง “๕๔ ปี การกอ่ ตงั้ “อาเซยี น” นนั้ เปน็ การจดั สมั มนา ตลอดวนั ในภาคเชา้ เปน็ การอภปิ รายของนกั วชิ าการอาวโุ ส และภาคบา่ ยเปน็ การ น�ำเสนอของคณะวิจัย/ค้นคว้าเอกสารต่างประเทศ เพ่ือน�ำเสนอข้อมูลท่ัวไป ข้อมูลชุดใหม่ และภาพรวมของข้อมูลจากหอจดหมายเหตุต่างประเทศ โดย กำ� หนดหวั ขอ้ สำ� คญั ทไี่ ทยเขา้ ไปเกยี่ วขอ้ งกบั การกอ่ ตง้ั สมาคม “อาเซยี น” และ บทบาทของไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนบนเวทีระหว่างประเทศในช่วง สองทศวรรษแรก (ทศวรรษ ๒๕๑๐-๒๐) และรบั ฟงั ขอ้ คิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ผูส้ นใจท่ัวไป สำ� หรับการคน้ เอกสารต่างประเทศตามหวั ขอ้ ขา้ งตน้ คือเรือ่ ง “๕๔ ปี การกอ่ ตัง้ “อาเซียน” นน้ั ในเบือ้ งตน้ ได้ก�ำหนดทีม/คณะอาจารยแ์ ละนักวิจัย เดินทางไปเก็บข้อมูลจากหอจดหมายเหตุต่างประเทศ ตามท่ีก�ำหนดไว้ใน เบือ้ งตน้ มจี ำ� นวน ๑๕-๑๗ ท่าน เปา้ หมายคอื การค้นควา้ และเกบ็ ข้อมลู จาก ๑๑-๑๒ ประเทศ ไดแ้ ก่ เกาหลใี ต้ กมั พชู า จนี ญป่ี นุ่ เยอรมนี ไตห้ วัน เวียดนาม ฝรั่งเศส รัสเซยี สหรัฐอเมรกิ า ออสเตรเลยี และอินเดีย คณะผู้วิจัยจ�ำนวน ๑๕-๑๗ ท่านท่ีเข้าร่วมในการค้นคว้าอ่านเอกสาร ตา่ งประเทศนี้ ประมาณคร่งึ หนึ่งเปน็ คณาจารย์ของ รร.จปร. ประกอบดว้ ย (๑) พ.อ.ดร.สรศักดิ์ งามขจรกุลกิจ (รร.จปร. สหรัฐอเมริกา) หัวหน้าโครงการฯ (๒-๓) พ.อ.รศ.ดร.พีรพล สงนุ้ย (รร.จปร. ฝร่ังเศส และมีผู้ช่วยคือ นางสาว 90
ณุทยา ณุตตรกุล (ม.ปารีส1 ซอร์บอ์น กรุงปารีส ฝรั่งเศส) (๔-๕) พ.ท.ผศ. ประวิทย์ ทองพูน (รร.จปร. ญี่ปุ่น และมีผู้ช่วยคือ นางสาวสิรัศม์ิ อ๋องสกุล นกั ศกึ ษาปริญญาเอก มหาวทิ ยาลยั วาเซดะ Waseda University ญปี่ นุ่ ) (๖) พ.ท.ผศ.ดร.อภเิ ษก มนเทียรวเิ ชียรฉาย (รร.จปร. สหรัฐอเมรกิ า/องั กฤษ) และ (๗) พ.ท.ผศ.สมโชต ิ วีรภัทรเวธ (รร.จปร. สหรฐั อเมรกิ า/อนิ เดีย) ส่วนคณาจารย์อีกครึ่งหน่ึงมาจากสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย ท้ัง ในและตา่ งประเทศ ประกอบดว้ ย (๑) รศ.ดร.สทิ ธพิ ล เครอื รฐั ตกิ าล (ธรรมศาสตร์ ไตห้ วัน) (๒) ผศ.ดร.ภูริ ฟวู งศเ์ จริญ (ธรรมศาสตร์ ออสเตรเลีย) (๓) ผศ.ดร. ณัฐพร ไทยจงรักษ์ (มศว.ประสานมิตร กัมพูชา) (๔) อาจารย์ ดร.จิราพร ตรวี เิ ศษศร (มศว.ประสานมติ ร รสั เซยี ) (๕) ผศ.ดร.ธนนนั ท์ บนุ่ วรรณา (ม.ขอนแกน่ เวียดนาม) (๖-๗) อาจารย์ ดร.คัททิยากร ศศิธรามาศ และนายศุภศิษฏ์ สทิ ธสิ งิ ห์ (ศิลปากร เยอรมน)ี (๘) นางสาวณุทยา ณุตตรกุล (ม.ปารีส1 ฝรงั่ เศส) (๙) อาจารย์ ดร.ปิยณฐั สรอ้ ยคำ� (ม.อุบลราชธานี อินเดยี ) (๑๐) นางสาวสริ ัศม์ิ อ๋องสกุล (นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยวาเซดะ ญ่ีปุ่น) (๑๑) อาจารย์ ชยั พร พยาครุฑ (ธรรมศาสตร์ จีน) และ (๑๒) นางสาวเกษราภรณ์ หาญแกล้ว (อกั ษรศาสตรมหาบณั ฑติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกาหลใี ต)้ สำ� หรบั ครง้ั ท่ี ๕ เรอ่ื ง “ไทยกบั อนิ โดจนี สมยั ประชาคมอาเซยี น” ทกี่ ำ� ลงั ตระเตรียมจะจัดสัมมนาในช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ มหาวิทยาลัย นครพนม นั้น ได้เน้นความต่อเนื่องจากคร้ังท่ี ๔ คือ อาเซียนจากสมัย สงครามเยน็ สยู่ คุ หลงั สงครามหรอื ประชาคมอาเซยี น และเปา้ หมายของการจดั สัมมนาคร้ังที่ ๕ น้ี ก็เพื่อเรียนรู้และท�ำความเข้าใจเข้าถึงเพื่อนบ้านในกลุ่ม อินโดจนี โดยเป็นการนำ� ร่องในการค้นคว้าและเกบ็ ข้อมลู เอกสารตา่ งประเทศ โดยเฉพาะการค้นหาทา่ ที แนวคิด นโยบายและแนวโนม้ ท้ังดา้ นปัจจัยภายใน ของประเทศเพอื่ นบา้ นอนิ โดจนี และปจั จยั ภายนอกคอื การพงั ทลายของกำ� แพง เบอร์ลนิ การล่มสลายของสหภาพโซเวยี ต และการส้ินสุดของสงครามเย็น ได้ สง่ ผลอยา่ งไรตอ่ การปรบั ตวั ของเพอื่ นบา้ นอนิ โดจนี และการเขา้ รว่ มกบั อาเซยี น ในระยะตอ่ มา 91
สำ� หรบั การคน้ เอกสารต่างประเทศตามหัวขอ้ ขา้ งตน้ คือเรอ่ื ง “ไทยกับ อนิ โดจีนสมยั ประชาคมอาเซียน” นั้น ในเบ้อื งต้นไดก้ ำ� หนดทีมนักวิจยั เดนิ ทาง ไปเกบ็ ขอ้ มลู จากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ตามทก่ี ำ� หนดไวม้ จี ำ� นวนมากกวา่ ๒๐ ทา่ น เป้าหมายหลักคือ การค้นคว้าและเกบ็ ขอ้ มลู จาก ๑๕ ประเทศ โดย ไดเ้ นน้ กลมุ่ อนิ โดจนี ๓ ประเทศ และชาตมิ หาอำ� นาจ ไดแ้ ก่ เกาหลใี ต้ จนี รสั เซยี ญปี่ ่นุ นวิ ซแี ลนด์ ไตห้ วัน ฝร่ังเศส สหรฐั อเมรกิ า สิงคโปร์ ออสเตรเลีย องั กฤษ และอินเดีย แต่ทั้งน้ีในการท�ำงานจริงย่อมข้ึนอยู่กับความพร้อมของผู้ค้นคว้า และสถานการณต์ ่างๆ ดว้ ย คณะผวู้ จิ ยั จำ� นวนมากกวา่ ๒๐ ทา่ น ท่ีเขา้ ร่วมในการค้นควา้ อ่านน้ี มี ทง้ั ดาราหน้าเดมิ และหนา้ ใหม่ทีม่ าร่วมเป็นครั้งแรก ในส่วนของกลุม่ อนิ โดจีนมี ทีมคณาจารย์หน้าใหม่ท้ังหมดจากหลายสถาบันการศึกษา ทั้งต่างจังหวัดและ กรงุ เทพฯ โดยมที ีมจากมหาวิทยาลัยนครพนม (ประมาณ ๔-๕ ทา่ น) เป็นหลกั และเสริมด้วยอีกส่วนหนึ่งจากอาจารย์และนิสิตปริญญาโทจากจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย (๒ ท่าน) มหาวิทยาลัยขอนแก่น (๒-๓ ท่าน) มหาวิทยาลัย มหาสารคาม (๑-๒ ท่าน) มศว.ประสานมิตร (๑-๒ ท่าน) และมหาวิทยาลัย อบุ ลราชธานี (๑ ท่าน) นอกจากน้ีอาจมวี ิทยากรจากเพือ่ นบ้าน เชน่ กมั พูชา และลาว จะมารว่ มน�ำเสนอเอกสารสำ� คญั ด้วย ส�ำหรับการค้นคว้าเอกสารจากชาติมหาอ�ำนาจท่ีเก่ียวข้องโดยตรงใน เรื่องนี้ ประกอบด้วยคณาจารย์หน้าเดิมเกือบท้ังหมด ดังน้ี (๑) รศ.ดร.ภูริ ฟูวงศ์เจริญ (ธรรมศาสตร์ ออสเตรเลีย) (๒) พ.อ.หญิง ดร.เมธินี เฉลิมวัฒน์ (รร.จปร. สหรัฐอเมริกา) (๓-๔) พ.ท.ผศ.ดร.อภเิ ษก มนเทียรวเิ ชียรฉาย และ พ.ท.ธนฤทธ์ิ แสนจุ้ม (รร.จปร. อังกฤษ) (๕) พ.ท.ผศ.สมโชติ วีรภัทรเวธ (รร.จปร. สหรัฐอเมริกา/อินเดีย) (๖) อาจารย์ ดร.จิราพร ตรีวิเศษศร (ร่วมพงษพ์ ัฒนะ) (มศว.ประสานมติ ร รสั เซีย) (๗) อาจารย์ ดร.ปิยณฐั สรอ้ ยค�ำ (อบุ ลราชธานี อนิ เดยี ) (๘-๙) พ.ท.ผศ.ประวทิ ย์ ทองพูน (รร.จปร. ญีป่ ุ่น) และ นางสาวสริ ัศม์ิ อ๋องสกลุ (นักศกึ ษาปริญญาเอก ญ่ีปนุ่ ) (๑๐) อาจารย์ ชยั พร พยาครฑุ (ธรรมศาสตร์ จนี ) (๑๑) นางสาวเกษราภรณ์ หาญแกลว้ (อกั ษรศาสตร 92
มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกาหลีใต้) (๑๒) นางสาวณุทยา ณุตตรกุล (ม.ปารีส1 ฝร่ังเศส) และ (๑๓) พ.อ.ดร.สรศักดิ์ งามขจรกุลกิจ (รร.จปร. นวิ ซีแลนด์ สิงคโปรแ์ ละสหรฐั อเมรกิ า) ข้อเดน่ ของการจัดงานสมั มนาทางวิชาการในแต่ละปี จากสงครามโลก คร้งั ท่ี ๒ สู่ ๕๔ ปีการก่อตัง้ “อาเซียน” และไทยกับอินโดจีนสมยั ประชาคม อาเซียน ตามที่กล่าวมาน้ี นอกจากมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ทลู กระหมอ่ มอาจารยแ์ ลว้ ยงั เปน็ การเปดิ ตวั ของ “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทูลกระหม่อมอาจารย์” แหง่ น้ี เพ่อื แนะนำ� เอกสารขอ้ มูลชุดใหม่ๆ ทีไ่ ด้มาเพม่ิ ในแตล่ ะปีอกี ด้วย ท้ังน้ี เพราะการจัดสัมมนาในแต่ละครั้งนั้น มีเป้าหมายหลักเพื่อให้ นกั วิชาการ นิสติ นักศกึ ษา และประชาชนชาวไทยท่ัวไป มโี อกาสเข้าถงึ แหลง่ ขอ้ มูลสำ� คัญเหลา่ นไี้ ดอ้ ยา่ งทันสมยั ทันเหตกุ ารณแ์ ละเปน็ ไปอย่างทัว่ ถงึ ทั้งยัง สามารถน�ำไปใช้ประโยชน์ต่อการพัฒนาความรู้ ความคิดอ่านไปในทิศทางท่ีมี เหตุผลตามหลักฐานข้อเท็จจริง และจะเป็นพ้ืนฐานที่ส�ำคัญของการพัฒนา คุณภาพของประชากร สงั คม และประเทศชาตติ ่อไปอย่างม่ันคง บทสรปุ และส่งท้าย การเผยแพร่เอกสารส�ำคัญในรูปการจัดงานสัมมนาทางวิชาการน้ี ถือ เป็นส่วนหน่ึงที่มีความส�ำคัญในการด�ำเนินการของโครงการหอจดหมายเหตุ กปศ.สกศ.รร.จปร. ในพระราชดำ� รฯิ และเป็นไปตามพระราชดำ� ริและพระราช ประสงคข์ องทูลกระหม่อมอาจารย์ ทีท่ รงเน้นการกระจายข้อมลู ความรู้ จาก เอกสารตา่ งประเทศออกไปสผู่ สู้ นใจในวงกวา้ งเทา่ ทจี่ ะทำ� ไดใ้ นแตล่ ะโอกาส ใน แต่ละปีท่ีได้เอกสารชุดใหม่ๆ กลับมา เนื่องจากเร่ืองนี้พระองค์รับส่ังไว้ตั้งแต่ เรมิ่ แรกของการดำ� เนนิ โครงการและตอ่ เนอื่ งเสมอมา และยงั ทรงกลา่ วไวช้ ดั เจน ในการประชุมสัมมนาทางวิชาการประจำ� ปขี อง “หอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ ทูลกระหมอ่ มอาจารย์” ดังความตอนหนึ่งคือ 93
“…ตั้งใจเปิดให้บุคคลภายนอกมีโอกาสมาใช้เอกสารที่เราเก็บ สะสมมาหลายสิบปีแล้วจากหอจดหมายเหตุ หรือ Archives ใน ประเทศต่างๆ เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และ ประเทศอ่นื ๆ…” เอกสารจากหอจดหมายเหตุ หรือ Archives ในประเทศต่างๆ เช่น สหราชอาณาจกั ร สหรฐั อเมริกา และประเทศอน่ื ๆ ตามทพี่ ระองค์ทรงกลา่ วถงึ ต้ังแตเ่ มื่อปี ๒๕๕๘ นน้ั มจี ำ� นวนเพิ่มขนึ้ ทุกปีที่ผ่านมา ทง้ั ในเชิงปริมาณและ คุณภาพ และในแต่ละปที ม่ี เี อกสารตา่ งประเทศเพ่ิมข้นึ นน้ั พระองค์ทรงเสนอ ให้มีการจัดสัมมนาทางวิชาการประจ�ำปีต่อเนื่องตลอดมาจนถึงปัจจุบันในปี ๒๕๖๕ หลังจากมีการจัดสัมมนาทางวิชาการประจ�ำปี เพ่ือเผยแพร่เอกสาร ดังกล่าวในภาพรวมแล้ว ก็จะมีกิจกรรมที่ต่อเนื่องในการเผยแพร่เอกสารท่ีน�ำ มาเสนอในแต่ละปอี อกไปสผู่ ู้สนใจ ทงั้ ในระดบั กว้างและลกึ ยง่ิ ข้ึน หรือเจาะจง ไปสู่กลุ่มผู้สนใจเฉพาะด้านอย่างทั่วถึง ท้ังในรูปของการจัดเก็บเอกสารเข้าสู่ ระบบใหมห่ รอื ระบบทท่ี นั สมยั ตามแบบหอ้ งสมดุ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ การแปลเอกสาร ส�ำคัญ การวิจัยในเชิงลึกหรืองานเขียนท่ีสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ๆ จากเอกสาร ต่างประเทศ และการให้บริการความรู้เอกสารต่างประเทศแก่ผู้สนใจเป็น หมู่คณะหรือรายบคุ คล ด้วยเหตุนี้ การจัดสัมมนาทางวิชาการประจ�ำปีในแต่ละปี จึงมีความ ส�ำคัญในฐานะคล้ายกับเป็นจุดเริ่มต้น คืออาจเปรียบเสมือนหน่ึงเป็น “ต้น สายธารใหญ”่ ของการเผยแพรเ่ อกสารตา่ งประเทศ เพราะหลงั จากงานสมั มนา ในแตล่ ะปีแตล่ ะครัง้ นั้นแลว้ ได้มกี ารนำ� ไปสกู่ ารเผยแพรเ่ อกสารดงั กล่าวตอ่ ไป ในหลากหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น การพัฒนาระบบฐานข้อมูลในแบบใหม่ท่ี ทันสมัย การแปล การวิจัยเชิงลึก งานเขียนสร้างสรรค์ และการให้บริการแก่ 94
ผสู้ นใจเปน็ คณะหรอื รายบคุ คลจากสถาบนั การศกึ ษาตา่ งๆ ทง้ั ในกรงุ เทพฯ และ ตา่ งจงั หวดั ทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี ปจั จยั ส�ำคญั ทีท่ �ำใหส้ ามารถด�ำเนินการในการจดั สมั มนาใน แตล่ ะปีไดน้ น้ั มคี วามจ�ำเป็นตอ้ งมีวัตถดุ ิบ ข้อมลู จากเอกสารตา่ งประเทศ ทั้ง ในเชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพทมี่ ากพอในเชงิ วชิ าการสำ� หรบั การสรา้ งความรใู้ หมๆ่ และการทจ่ี ะไดม้ าซง่ึ ขอ้ มลู สำ� คญั จากเอกสารตา่ งประเทศมามากพอสำ� หรบั การ จัดงานสัมมนาน้ัน จ�ำเป็นต้องมีการร่วมมือร่วมใจของหลายฝ่ายหลายสถาบัน เขา้ มามีสว่ นชว่ ย และท่ผี า่ นมาก็ได้รบั ความร่วมมอื รว่ มใจกันมาอย่างดี ทง้ั จาก คณาจารย์ นักวจิ ัย นสิ ติ นักศึกษาปรญิ ญาโทและเอก จากมหาวิทยาลัยในและ ต่างประเทศ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทูลกระหม่อม อาจารย”์ แหง่ น้ี ซึ่งเปน็ ส่วนหน่ึงของโครงการหอจดหมายเหตุ กปศ.สกศ.รร. จปร. ในพระราชด�ำริฯ ยังคงด�ำเนินต่อไปด้วยดีจากความร่วมมือร่วมใจของ หลายฝ่ายหลายสถาบนั ที่ตา่ งเห็นความส�ำคญั ในการสบื สานพระราชด�ำรแิ ละ พระราชประสงคต์ ่อเนื่องตอ่ ไปในระยะยาว ดังตัวอย่างเช่น แม้ในรอบปี ๒๕๖๓-๖๕ ท่ีผ่านมา ประเทศไทยและ ทว่ั โลกตอ้ งเผชญิ กบั เจา้ COVID-19 อยา่ งแรง แตก่ ารดำ� เนนิ การจดั สมั มนาของ “หอจดหมายเหตุต่างประเทศ ทลู กระหมอ่ มอาจารย์” กลับยังสามารถผ่านไป ดพี อควร ทัง้ นก้ี ็ดว้ ยการสง่ เสริม ช่วยเหลอื และสนับสนนุ จากหลายฝา่ ยหลาย สถาบนั ทตี่ า่ งเหน็ ความสำ� คญั ของการสบื สานพระราชดำ� รแิ ละพระราชประสงค์ ของพระองค์ ทท่ี รงรเิ รม่ิ และดำ� เนนิ การมาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งในการรวบรวม จดั เกบ็ และเผยแพรเ่ อกสารสำ� คญั ทางประวัตศิ าสตร์จากหอจดหมายเหตตุ า่ งประเทศ แหง่ นี้ แน่นอนว่า โครงการท่ีพระองค์ทรงด�ำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนี้ มิได้ หวังผลในระยะส้ันๆ และคงไม่ได้เกิดผลทันทีในเชิงของการผลิตเชิงวิจัยหรือ 95
สรา้ งความรใู้ หมๆ่ แตด่ อกผลสำ� คญั จะตดิ ตามมาหลงั จากโครงการนดี้ ำ� เนนิ การ ผ่านไปในระยะหน่ึง และน่าจะส่งผลดีต่อเนื่องในระยะต่อๆ ไปอย่างมี ความหมาย มีนัยส�ำคัญทั้งต่อผู้คนในแวดวงวิชาการและสังคมไทยในอนาคต หากมีการด�ำเนินโครงการในลักษณะนี้อย่างต่อเน่ืองจากปีแรกต่อไปอีก อย่างน้อย ๑๐-๒๐ ปีข้างหน้า โดยหมุนเวียนทีมค้นคว้าและประเทศอ่ืนๆ ที่ เก่ียวข้องกับเหตุการณ์ส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย และมีการจัดงานสัมมนา ทางวิชาการ เพือ่ การเผยแพรเ่ อกสารสำ� คญั ในปีตอ่ ๆ ไป เช่น ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ หวั ข้อ/ประเด็นสำ� คญั เช่น “๙๐ ปี การเปลย่ี นแปลง การปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕” หรอื “๑๑๑ ปี ซนุ ยตั เซ็นปฏวิ ตั ิในจีน” “๘๐ ปี ไทยประกาศสงครามกบั ฝา่ ยสมั พนั ธมติ ร” และ “ไทยกบั อนิ โดจนี สมยั ประชาคม อาเซยี น” ซง่ึ คณะคน้ ควา้ ไดเ้ ลอื กหวั ขอ้ ทา้ ยสดุ น้ี ดว้ ยเหตผุ ลตามทไ่ี ดก้ ลา่ วแลว้ คอื ตอ้ งการเจาะขอ้ มลู สมยั หลงั สงครามเยน็ ตามพระราชดำ� รขิ องทลู กระหมอ่ ม อาจารย์ ส่วนปถี ัดๆ ไปยงั มีหัวเร่ืองนา่ สนใจหลากหลายประเด็นด้วยกนั แตย่ ัง ไมไ่ ดต้ กลงใจว่าควรจะเนน้ ในเรื่องใดดี เหตผุ ลทคี่ งปลอ่ ยไวเ้ ชน่ นี้ ดว้ ยเพราะการคน้ ควา้ เอกสารตา่ งประเทศใน แต่ละปีนั้น มีลักษณะกว้างกว่าเพียงหัวข้อการจัดสัมมนาเท่าน้ัน ดังนั้นหัวข้อ ส�ำคัญทย่ี กมาจงึ เป็นเพยี งตัวอย่างในปีถัดๆ ไป คือ ตัง้ แต่ปี ๒๕๖๖ เปน็ ตน้ ไป นนั้ ถือเปน็ เพียงตวั อย่างหน่ึงที่ต้องการเกบ็ รวบรวมกลบั มา และยงั ไมม่ ีความ จ�ำเป็นที่จะต้องก�ำหนดหัวข้อที่แน่ชัดหรือตายตัวในแต่ละปี แต่การเก็บข้อมูล จะเปน็ ไปตามกรอบแนวคดิ ใหญท่ ว่ี างไว้คือ จากสมัยสงครามโลกครัง้ ที่ ๒ ไปสู่ ยุคหลังสงครามเย็น หรืออาจย้อนกลับมากลับไปใน ๓-๔ สมัยท่ีก�ำหนดไว้ใน แผนก็ได้ การคน้ ควา้ ทย่ี อ้ นกลบั มากลบั ไปนี้ สว่ นหนง่ึ เปน็ เพราะการคน้ ควา้ เอกสาร ต่างประเทศก็เหมือนการวิจัย เพราะตามรากความคิดของการวิจัยแล้ว มี ความหมายในเชงิ เปน็ การ “คน้ หาซ้�ำ” หรือ “ค้นหาใหม”่ จากแหล่งเอกสาร เดิมต่างๆ นั้น และอีกส่วนหน่ึงก็เน่ืองจากการค้นคว้าและรวบรวมเอกสาร ตา่ งประเทศ ในแตล่ ะประเทศไม่วา่ เลก็ หรือใหญ่ เราไมส่ ามารถท�ำไดค้ รบอย่าง 96
สมบูรณ์ในแต่ละปีหรือในแต่ละคร้ังท่ีไป แม้ว่าจะส่งคณะค้นคว้าไปเป็น กลุ่มใหญ่มากกว่า ๒๐-๓๐ ท่านและใช้เวลานานเป็นปีก็ตาม ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา (NARA) มีเอกสารจ�ำนวนมากมายเกินกว่าท่ีสามารถค้นคว้า รวบรวมกลบั มาไดใ้ นแต่ละปี แม้มที มี งานเปน็ ๑๐๐ ก็ตาม ดังนนั้ จึงจำ� เป็นต้อง อาศัยการเกบ็ เอกสารแบบสะสม คอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป ยอ้ นไปย้อนมา ตามแตล่ ะปี ทมี่ ีหวั เรื่องนา่ สนใจ เชน่ ปี พ.ศ. ๒๕๖๖ หวั ขอ้ เชน่ “๕๐ ปี เหตกุ ารณ์ ๑๔ ตลุ าคม ๒๕๑๖” “๑๓๐ ปี เหตกุ ารณ์ ร.ศ. ๑๑๒” ปี พ.ศ. ๒๕๖๗ หวั ขอ้ เชน่ “๗ รอบ รชั กาลท่ี ๑๐” และ “๙๐ ปี สถาปนา กองทัพอากาศ” ปี พ.ศ. ๒๕๖๘ หวั ขอ้ เช่น “๕๐ ปี การยุตสิ งครามเวยี ดนาม” “๗๐ ปี การประชมุ ทบ่ี นั ดุง นำ� ไปสกู่ ารต้งั NAM” และ “๘๐ ปี สหรฐั อเมรกิ าทิ้งระเบดิ ปรมาณทู ญ่ี ีป่ ุ่น” ปี พ.ศ. ๒๕๖๙ หวั ขอ้ เชน่ “๕๐ ปี เหตกุ ารณ์ ๖ ตลุ าคม ๒๕๑๙” และ “๘๐ ปี สถาปนา UNESCO” ปี พ.ศ. ๒๕๗๐ หัวขอ้ สำ� คญั เช่น “๘๐ ปี การรฐั ประหาร พ.ศ. ๒๔๙๐” “๑๐๐ ปี พระราชสมภพ รชั กาลที่ ๙” และ “๑๔๐ ปี การสถาปนาความสมั พนั ธ์ ทางการทตู ระหวา่ งไทย-ญปี่ ุ่น” ปี พ.ศ. ๒๕๗๑ หัวข้อ เช่น “๗๐ ปี การปฏิวัติของจอมพล สฤษด์ิ ธนะรชั ต์ นำ� ไปส่แู ผนพฒั นาเศรษฐกจิ ” ปี พ.ศ. ๒๕๗๒ เช่น “๔๐ ปี ก�ำแพงเบอร์ลนิ ล่มสลาย” “๙๐ ปกี าร เปล่ียนชอื่ ประเทศจากสยามเป็นไทย” ดงั นนั้ หากมกี ารดำ� เนนิ การในลกั ษณะนอ้ี ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง โดยสง่ ทมี คน้ ควา้ ไปจัดเก็บเอกสารส�ำคัญจากประเทศต่างๆ ซ่ึงปัจจุบันมีอย่างน้อยจ�ำนวน ๒๑ ประเทศตามเปา้ หมาย (ท้ังนย้ี งั ไม่รวมถึงกล่มุ ประเทศใหมๆ่ ในยโุ รปตะวนั ออก และสหภาพโซเวยี ตเดิม ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา และแอฟรกิ า) ได้แก่ 97
จนี ไต้หวนั ญ่ปี นุ่ เกาหลใี ต้ แคนาดา อนิ เดยี เยอรมนี ฝรัง่ เศส สหภาพโซเวยี ต- รัสเซยี องั กฤษ ออสเตรเลยี นวิ ซีแลนด์ ส�ำนักวาตกิ ัน และสหรฐั อเมรกิ า และ กล่มุ อาเซียน ไดแ้ ก่ กมั พชู า ลาว เวียดนาม มาเลเซยี สงิ คโปร์ ฟลิ ิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ย่อมจะทำ� ให้การดำ� เนินการของหอจดมายเหตตุ า่ งประเทศแหง่ นี้ ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง ซ่ึงพร้อมท่ีจะบรรลุในการจัดท�ำโครงสร้างพื้นฐานทาง ขอ้ มลู สำ� หรบั การศกึ ษาวจิ ยั ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมยั ใหมอ่ ยา่ งรอบดา้ น และการ พฒั นาไปสกู่ ารมโี ครงสรา้ งพนื้ ฐานนี้ แนน่ อนวา่ ยอ่ มมปี ระโยชนส์ ำ� คญั ตอ่ สงั คม และประเทศชาตอิ ย่างย่งิ ในอนาคต แต่ความส�ำเร็จในอนาคตต้องใช้เวลา และการค้นเก็บตามเวลาน้ันคือ ความหวัง เพราะหากการรวบรวม จัดเก็บ และเผยแพร่เอกสารส�ำคัญใน เบื้องต้นจาก ๒๑ ประเทศน้ีเกิดข้ึนจริงในอนาคต ย่อมส่งผลให้การจัดท�ำ ฐานขอ้ มลู ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทยจากเอกสารตา่ งประเทศมขี นาดใหญก่ วา้ งขวาง ย่ิงข้ึน และจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาความร้คู วามเขา้ ใจทางประวัติศาสตร์ ไทยในบรบิ ทสังคมโลกใหม้ คี วามรอบด้านและรอบรอู้ ยา่ งลกึ ซ้ึงตอ่ ไป บทส่งท้ายน้ีจึงขอจบด้วย พระราชปรัชญาประวัติศาสตร์ท่ีน่าสนใจยิ่ง ของทูลกระหมอ่ มอาจารย์ ความวา่ “การหาข้อมูลหรือหลักฐาน ควรหาหลักฐานให้ได้มากท่ีสุด และหลากหลาย เพื่อตรวจสอบ ตรวจทานกันและกัน ให้มน่ั ใจวา่ จะ จ�ำลองภาพในอดตี ไดใ้ กล้เคียง ขอ้ ผิดพลาดทางประวัตศิ าสตร์ (historical fallacy) ประการ หนึ่งคือ การมุ่งค้นคว้าหลักฐานประเภทเดียว มองไปในทางเดียว และละเลยหลักฐานอ่ืนๆ ทมี่ อี ยู่ จะท�ำให้ไมไ่ ด้ค�ำอธบิ ายทีร่ อบด้าน และมนี ำ้� หนักน่าเชือ่ ถือ” (จดุ มุ่งหมายและขอบเขตการศึกษา และวธิ กี าร ทางประวัตศิ าสตร์ วชิ าประวัตศิ าสตร์ไทย ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖) 98
บทที่ ๕ การแปลเอกสารส�ำคญั : เกาหลี จนี ญป่ี นุ่ รัสเซีย สหรัฐอเมรกิ า และเพ่ือนบา้ นอาเซยี น 99
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294