วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ 5. ครูทบทวนก เทโลเฟส II โดยแ และระยะเทโลเฟ ภาพที่ 4 ภาพเปรีย จากนนั้ ครูใชค้ ำ 5.1 ใ น ร ะ ย เปลี่ยนแปลงที่แ อย่างไร (โครโมโ ของเซลล์ โครโม ใยสปนิ เดลิ สลาย เรม่ิ มีการแบง่ ไซโ 5.2 จำนวนเซ เทโลเฟสคอื เทา่ ใด 5.3 จากภาพ แท่ง และประกอ แทนดว้ ย n=4)
126 กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในระยะ แสดงภาพเซลล์ในระยะแอนาเฟส II ฟส II ยบเทียบการแบง่ เซลลใ์ นระยะแอนาเฟส II และเทโลเฟส II ำถาม ดังนี้ ย ะ เ ท โล เ ฟ ส II เ ซ ล ล ์ เ ก ิ ด ก าร แตกต่างไปจากระยะแอนาเฟส II โซมถูกดึงแยกออกจากไปที่บริเวณ มโซมคลายตัวเป็นโครมาทิน เส้น ขอบเขตของนิวเคลียสชัดเจน และ โทพลาสซึม) ซลล์ทั้งหมดที่ได้เมื่อเสร็จสิ้นระยะ ด (4 เซลล)์ พโครโมโซมในแต่ละเซลล์มีจำนวนกี่ อบไปด้วยกี่ชุด (3 แท่ง 1 ชุด เขียน
วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ ข้ันสรปุ 1. ครูนำนักเร ต่าง ๆ ดังตอ่ ไปน 1.1 การแบ่ง II เป็นการแบ่งเซ ทิด) 1.2 นกั เรยี นค II คลา้ ยคลงึ กับกา 1.3 การแบ่งเ แตกต่างกันอยา่ ง
127 กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ การเรยี นรู้ รียนสรุปโดยใช้คำถามในประเด็น น้ี งเซลล์แบบไมโอซิส ในระยะไมโอซสิ ซลล์เพื่อแยกอะไร (ซิสเตอร์โครมา คดิ วา่ การแบ่งเซลล์ในระยะไมโอซิส ารแบง่ เซลล์แบใด (ไมโทซสิ ) เซลล์แบบไมโทซสิ และไมโอซสิ มีขอ้ งไรบ้าง
124 ภาคผนวก ก แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
125 เกณฑป์ ระเมนิ ทกั ษะการสร้างผงั กราฟกิ โดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ แบบรูบริคส์ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งชี้ 1. การจดั เรียงมโน ทัศน์ 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 2. การเชือ่ มโยง แสดงมโนทศั นห์ ลักได้ แสดงมโนทัศนห์ ลักได้ แสดงมโนทศั น์หลกั ได้ ระหว่างข้อมูล ชัดเจน แยกมโนทศั นย์ อ่ ย ชัดเจน แยกมโนทัศนย์ ่อย ชัดเจน แต่ไม่แยกมโน 3. เน้ือหา 4. การออกแบบ ออกมาจากมโนทศั น์หลกั ออกมาจากมโนทัศน์หลัก ทัศน์ย่อยออกมาจากมโน จัดวางมโนทัศน์ที่อยู่ใน แตไ่ มไ่ ดจ้ ดั วางมโนทัศน์ที่ ทัศน์หลัก และไม่ได้จัด ระดับเดียวกันให้อยู่ใน อยใู่ นระดบั เดยี วกันให้อยู่ วางมโนทัศน์ที่อยู่ใน ระนาบเดียวกัน และ ในระนาบเดียวกัน หรือ ระดับเดียวกันให้อยู่ใน ข้อมูลที่อยู่ในมโนทัศน์ ข้อมูลที่อยู่ในมโนทัศน์ ระนาบเดียวกัน รวมถึง รองเป็นประเด็นย่อยที่ รองไม่ได้เป็นประเด็น ข้อมูลที่อยู่ในมโนทัศน์ แยกออกมาจากมโนทัศน์ ย่อยที่แยกออกมาจาก รองไม่ได้เป็นประเด็น หลัก มโนทัศนห์ ลัก ย่อยที่แยกออกมาจาก มโนทัศน์หลัก มกี ารลากเสน้ เช่ือมแสดง มกี ารลากเส้นเชอื่ มแสดง มีการลากเส้นเชื่อมแสดง ความสัมพันธ์ไดอ้ ยา่ ง ความสัมพันธ์ได้อย่าง ความสัมพันธ์แต่ไม่ระบุ ถูกต้องทัง้ หมด มีการใช้ ถูกต้อง มีการใช้คำเชื่อม คำเชื่อมเพื่ออธิบาย คำเชอื่ มเพอื่ อธิบาย เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ของแต่ละ ความสมั พันธข์ องระหว่าง ระหว่างมโนทัศน์แต่ มโนทศั น์ มโนทศั น์ได้ถกู ต้อง เลือกใชค้ ำเชื่อมผิด แสดงข้อมูลสำคัญได้ แสดงข้อมูลสำคัญได้ แสดงข้อมูลสำคัญได้ ครบถ้วน ข้อมูลมีความ ครบถ้วน ข้อมูลมีความ ครบถ้วน แต่ข้อมูลและ ถูกต้อง และเขียนสะกด ถูกต้อง แตเ่ ขียนสะกดคำ เขียนสะกดคำไมถ่ กู ตอ้ ง คำได้ถกู ตอ้ งทัง้ หมด ไม่ถูกต้อง ผังกราฟิกเป็นระเบียบ ผังกราฟิกเป็นระเบียบ ผังกราฟิกไม่เปน็ ระเบยี บ ง่ายต่อการอ่านมีความ ง่ายต่อการอ่าน มีความ ไม่น่าสนใจ แต่ไม่มีการ น่าสนใจ มีการแบ่งพื้นท่ี น่าสนใจ แต่ไม่มีการแบ่ง แบง่ พนื้ ทหี่ นา้ กระดาษให้ หน้ากระดาษให้แต่ละม พื้นที่หน้ากระดาษให้แต่ แต่ละมโมทัศน์เท่า ๆ กัน โมทัศน์เท่า ๆ กัน และมี ละมโมทัศน์เท่า ๆ กัน และไม่มีการใช้สีสันท่ี การใช้สีสันที่แตกต่างกัน หรือไม่มีการใช้สีสันที่ แตกต่างกันเพื่อเน้นย้ำ เพื่อเน้นย้ำความสำคัญ แตกต่างกันเพ่อื เนน้ ยำ้ ความสำคญั ของเนื้อหา ของ
126 รายการประเมนิ พฤติกรรมบ่งช้ี 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน เนื้อหาหรือแสดงลำดับ ความสำคัญของเนื้อหา หรือแสดงลำดับของมโน ข อ ง ม โ น ท ั ศ น ์ ห ลั ก หรือแสดงลำดับของมโน ทศั น์หลักมโนทัศน์รอง มโนทศั น์รอง ทศั นห์ ลกั มโนทศั นร์ อง เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนนเต็ม 12 คะแนน คะแนน 9 - 12 หมายถึง ดี คะแนน 5 - 8 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 - 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ
127 เกณฑ์การประเมนิ การสรุปบทเรียน โดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ แบบรูบรคิ ส์ ประเด็นในการ 3 ระดับคะแนน 1 ประเมนิ มกี ารจับประเด็นสำคญั 2 มีการจับประเดน็ สำคัญ 1. การสรปุ ประเด็น ขยายความ ยกตัวอย่าง ได้นอ้ ย สำคัญ เปรียบเทียบและสรปุ มกี ารจบั ประเดน็ สำคญั ความคดิ รวบยอดไดด้ ี ได้ แตข่ ยายความหรือ 2. ความถกู ต้องของ ยกตัวอยา่ งไม่ได้ เนอื้ หา เนอื้ หาตรงประเด็น 3. ความครบถว้ นของ ถูกต้อง และเขา้ ใจงา่ ย เนือ้ หาตรงประเดน็ แต่ไม่ เน้อื หาไมต่ รงประเดน็ เนอื้ หา ถกู ตอ้ ง 2 แห่ง และไมถ่ ูกต้อง 3 แหง่ 4. ความถกู ตอ้ งของ หวั ข้อครบถ้วนตาม การใชค้ ำและการ ประเด็นทีก่ ำหนด มเี น้อื หา 1 หวั ขอ้ ท่ีขาด มเี นอ้ื หามากกว่า 3 สะกดคำ หายไป หวั ขอ้ ที่ขาดหายไป การใช้คำและการสะกด คำถูกตอ้ งทัง้ หมด การใช้คำและการสะกด การใชค้ ำและการสะกด คำถกู ต้องมากกว่า 80 คำถกู ตอ้ งน้อยกว่า 80 เกณฑก์ ารประเมิน คะแนนเต็ม 12 คะแนน คะแนน 9 – 12 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 5 – 8 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 4 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง
128 เกณฑป์ ระเมินทกั ษะการสร้างโปสเตอร์ โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรูบรคิ ส์ รายการประเมนิ พฤติกรรมบ่งช้ี 1. เนื้อหา 2. การออกแบบ 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 3. การนำเสนอขอ้ มูล แสดงขอ้ มูลสำคญั ได้ แสดงขอ้ มลู สำคญั ได้ แสดงขอ้ มลู สำคญั ไดไ้ ม่ ครบถว้ น ข้อมลู มคี วาม เกอื บทง้ั หมด ข้อมูลมี ครบถ้วน ข้อมลู ไม่ ถกู ตอ้ ง และเขียนสะกด ความถกู ต้อง และเขียน ถกู ต้อง คำไดถ้ กู ตอ้ งทง้ั หมด สะกดคำได้ถกู ตอ้ งเกอื บ และเขยี นสะกดคำได้ไม่ ท้ังหมด ถูกตอ้ ง โปสเตอร์มคี วามเป็น โปสเตอรเ์ กือบท้งั หมด โปสเตอร์ไม่ความเป็น ระเบยี บเรียบรอ้ ย เปน็ ระเบียบเรยี บร้อย มี ระเบียบเรยี บร้อย ไม่ น่าสนใจ จัดสรรพื้นท่ใี น ความนา่ สนใจ น่าสนใจ ใจัดสรรพน้ื ที่ใน การวางข้อความและ จัดสรรพื้นที่ในการวาง การวางข้อความและ รูปภาพไดอ้ ย่างเหมาะสม ข้อความและรูปภาพได้ รูปภาพไดไ้ มเ่ หมาะสม มกี ารเลอื กใช้สีเพ่ือ อย่างเหมาะสม มกี าร ขาดการเลอื กใช้สีเพอื่ แสดงความแตกตา่ งของ เลือกใช้สีเพ่อื แสดงความแตกต่างของ หัวขอ้ หรือเนน้ ยำ้ แสดงความแตกตา่ งของ หัวข้อหรือเนน้ ยำ้ ความสำคัญของขอ้ ความ หวั ขอ้ หรอื เนน้ ย้ำ ความสำคัญของขอ้ ความ ความสำคัญของข้อความ นำเสนอขอ้ มูลอย่างเป็น นำเสนอขอ้ มลู อย่างเปน็ นำเสนอข้อมูลอย่างเปน็ ระบบ มีการเชื่อมโยง ระบบ มกี ารเชอื่ มโยง ระบบ แต่ไม่มกี าร ข้อมูลระหว่างหัวข้อท่ี ขอ้ มลู ระหว่างหัวข้อท่ี เช่ือมโยงข้อมูลระหว่าง สัมพนั ธ์กัน และเลอื กการ สัมพันธก์ ัน แตก่ ารเลอื ก หวั ขอ้ ทสี่ ัมพันธก์ นั แต่ นำเสนอดว้ ยรูปภาพหรอื นำเสนอด้วยรูปภาพหรือ การเลือกนำเสนอด้วย ข้อความ ได้อยา่ งชัดเจน ข้อความ ยังไมช่ ัดเจน ไม่ รปู ภาพหรอื ขอ้ ความ ยัง ถกู ต้อง ถูกต้อง ไม่ชดั เจน ไม่ถกู ตอ้ ง เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนนเต็ม 9 คะแนน คะแนน 7-9 หมายถึง ดี คะแนน 4-6 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 - 3 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
129 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านความมุ่งมน่ั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑก์ ารประเมินแบบรูบริคส์ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 1. ความตั้งใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใส่ต่อภาระงานท่ี ขณะทำงานทไี่ ด้รับ ไดร้ บั มอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรยี นไม่ ขณะทำงานทีไ่ ด้รับ ขณะทำงานทไี่ ด้รับ พฤติกรรมบง่ ชี้ ดงั น้ี แสดงพฤติกรรมบ่งชท้ี ัง้ - เลน่ โทรศพั ท์มือถือ 3 พฤติกรรม หรือแสดง มอบหมาย นักเรยี นแสดง มอบหมาย นกั เรยี น ระหว่างทำงาน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวชิ า พฤตกิ รรม พฤติกรรมบ่งช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤตกิ รรมบ่งช้ีท้ัง อนื่ ข้นึ มาทำ - ฟุบหลับ แก้ปญั หาไดด้ ้วยตวั เอง พฤติกรรม 3 พฤติกรรม 2. รจู้ กั แก้ปัญหาใน ท้ังหมด การทำงานเม่ือมี แก้ปัญหาด้วยตวั เอง แกป้ ัญหาดว้ ยตัวเองน้อย อุปสรรค มีความพยายามที่จะ 3. การปรับปรงุ และ ปรับปรงุ แก้ไขการทำงาน มากกว่ารอ้ ยละ 80 กวา่ รอ้ ยละ 80 ของ แกไ้ ขการทำงานของ ของตนใหม้ ีผลงานท่ดี ี ตนให้ดยี ิ่งขนึ้ และคุณภาพอยเู่ สมอ ของงานทั้งหมด งานท้งั หมด มคี วามพยายามท่ีจะ มีความพยายามท่ีจะ ปรับปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ของตนใหม้ ีผลงานท่ดี ี ของตนให้มีผลงานทดี่ ี และคณุ ภาพ และคุณภาพเปน็ บางครง้ั เกณฑ์การประเมนิ คะแนนเต็ม 9 คะแนน คะแนน 7 - 9 คะแนน ดี คะแนน 4 - 6 คะแนน พอใช้ คะแนน 1 - 3 คะแนน ปรบั ปรุง
130 เกณฑป์ ระเมนิ ทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรบู ริคส์ รายการประเมนิ 3 คะแนน พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ที่ 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นรว่ ม มกี ารกำหนดบทบาท หนา้ ทีข่ องสมาชิก หน้าทีส่ มาชิกไวช้ ัดเจน มีการกำหนดบทบาท สมาชกิ กล่มุ สว่ นใหญไ่ ม่ 3. ความรับผดิ ชอบ หนา้ ท่ีสมาชกิ ไม่ครบ มสี ่วนร่วมในการ สมาชิกกล่มุ ทุกคนมสี ่วน สมาชกิ กล่มุ สว่ นใหญม่ ี ปฏิบัติงานหรอื มนี อ้ ย 4. การรบั ฟังความ ร่วมในการปฏบิ ตั งิ าน ส่วนรว่ มในการ สมาชิกสว่ นใหญไ่ ม่ คดิ เห็น กลุ่ม ปฏิบัตงิ าน ทำงานตามหนา้ ท่ีทีไ่ ด้รบั 5. ผลสำเร็จของงาน สมาชกิ สว่ นใหญท่ ำงาน มอบหมาย หลีกเล่ียง สมาชกิ ทุกคนทำงาน ตามหน้าท่ที ่ไี ดร้ บั งาน และงานเสร็จชา้ ตามหนา้ ที่ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไม่หลกี เลี่ยง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเลยี่ ง งาน งานเสรจ็ ทนั ตาม งาน งานเสรจ็ ทนั ตาม กำหนด สมาชิกสว่ นใหญ่ไมร่ ับฟัง กำหนด ความคดิ เหน็ ของผอู้ ืน่ สมาชิกสว่ นใหญร่ ับฟงั สมาชกิ ทุกคนรับฟัง ความคิดเหน็ ของผูอ้ นื่ เกดิ จากความรว่ มมือ ความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื อยา่ งมีเหตผุ ล ของสมาชกิ ส่วนน้อยใน อย่างมเี หตุผล เกิดจากความรว่ มมือ กลุ่ม ของสมาชิกส่วนใหญ่ใน เกดิ จากความร่วมมือ กลุ่ม ของสมาชิกทุกคนใน กลมุ่ เกณฑ์การประเมิน คะแนนเตม็ 15 คะแนน คะแนน 11 – 15 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 6 – 10 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 5 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261