วตั ถุประสงคก์ าร เนื้อหาสาระ กิจ เรียนรู้ ปิดช้าจึงทำให้ค่า มากกวา่ ปกต)ิ ครูใหค้ วามรู้เก โดยใช้สื่อนำเส ประสาท การเก ถา่ ยทอดกระแสป 9. ครูแสดงภาพ ที่แอกซอนและไม ภาพท่ี 7 ภาพแสด แอกซอนและ จากนนั้ ครูใชค้ ำ 9.1 จากภา แตกตา่ งกันอย่าง เส้นใยประสาทด้า มเี ย่อื ไมอลี นิ หุม้ เส 9.2 นักเรียน กระแสประสาทเ ความคิดนักเรียน ด้านลา่ งกระแสป
24 จกรรมการเรียนรู้ สอื่ และอุปกรณ์การ การวัดและการประเมนิ ผล เรียนรู้ การวดั การประเมนิ าความต่างศักย์ไฟฟ้าจึงลดลงมา กย่ี วกบั ระยะไฮเพอร์โพลาไรเซชัน สนอ เรื่อง ประเภทของเซลล์ กิดกระแสประสาท และการ ประสาท พเซลล์ประสาททม่ี เี ยอ่ื ไมอีลินหุ้ม มม่ ีเยอื่ ไมอีลินห้มุ ทีแ่ อกซอน ดงเซลล์ประสาททีม่ เี ย่อื ไมอีลินหุ้มท่ี ละไมม่ เี ย่ือไมอีลนิ หุ้มทแ่ี อกซอน ำถาม ดังน้ี พเซลล์ประสาททั้ง 2 เซลล์ งไร (เซลล์ดา้ นบนมีเย่ือไมอลี ินหุ้ม านแอกซอนและเซลล์ด้านล่างไม่ สน้ ใยประสาทดา้ นแอกซอน) นคิดว่าเซลล์ประสาทแบบใดที่ เคลื่อนที่ได้เร็วกว่ากัน (ตอบตาม น ครูนำเข้าสู่คำตอบที่ว่าเซลล์ ประสาทเคลื่อนท่ีได้เร็วกว่า)
วตั ถุประสงคก์ าร เนื้อหาสาระ กิจ เรียนรู้ 9.3 นักเรียน กระแสประสาท เคล่ือนที่ได้เรว็ กว ครูใหค้ วามรเู้ กี่ย การเคลื่อนที่ข นำเสนอ เรื่อง และการเกิดกระแ ขัน้ สรปุ (10 น 1. ครูนำนักเ ประสาท โดยอาศ 2. ครูนำนักเ ดงั ต่อไปน้ี 3. ครูมอบหม และการเกดิ กระแ
25 จกรรมการเรยี นรู้ สื่อและอุปกรณ์การ การวัดและการประเมินผล เรียนรู้ การวดั การประเมนิ นทราบหรือไม่ว่าเพราะเหตุใด ทในเซลล์ประสาทด้านล่างจะ ว่า ยวกบั ปจั จยั ทกี่ ำหนดความเร็วใน ของกระแสประสาทโดยใช้สื่อ ประเภทของเซลล์ประสาท แสประสาท นาที) ร ี ย น ส ร ุ ป ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง เ ซ ล ล์ ศัยผังมโนทศั น์ รียนสรุปในประเด็นต่าง ๆ ายใบงาน เรื่อง เซลล์ประสาท แสประสาท
โรงเรียนสรร กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ย แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การถ่ายทอดกระแสประสาท ภาคการศกึ ษาตน้ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6/พ และ 6/1 สาระชีววิทยา 4. เข้าใจการย่อยอาหารของสตั ว์ และมนษุ ย์ การหายใจ และการแล ถา่ ย การรับรู้ และการตอบสนอง การเคลื่อนท่ี การสืบพันธุ์ และกา ไปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ ม.6/4 อธบิ าย และสรุปเกี่ยวกบั โครงสรา้ งของระบบประสาทส่วนกล ม.6/5 สบื ค้นข้อมูล อธบิ ายโครงสร้าง และหนา้ ทขี่ องส่วนต่าง ๆ ใน
26 รพยาวทิ ยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทระหว่างเซลลป์ ระสาท และศนู ย์ควบคมุ ระบบประสาท รายวชิ า ชวี วิทยา5 ว30255 ผูส้ อน นายเรวัตร อย่เู กิด ลกเปลีย่ นแก๊ส การลำเลียงสาร และการหมุนเวยี นเลอื ด ภูมิคมุ้ กนั ของร่างกาย การขยั ารเจริญเตบิ โต ฮอร์โมน การรักษาดลุ ยภาพ และพฤตกิ รรมของสตั ว์ รวมท้ังนำความรู้ ลางและระบบประสาทรอบนอก นสมองสว่ นหนา้ สมองสว่ นกลาง สมองสว่ นหลงั และไขสนั หลงั
วตั ถุประสงคก์ าร เนอ้ื หาสาระ กิจ เรียนรู้ นักเรยี นสามารถ การถ่ายทอดกระแสประสาทระหว่าง ข้ันนำ (10 นา 1. อธิบายกลไกทใี่ ช้ เซลลป์ ระสาท 1. ครูแสดงภา ในการถา่ ยทอดกระแส ประสาทระหวา่ งเซลล์ มีการทดลองค้นพบสารสื่อประสาท ร่างกายมนุษย์ ประสาทได้ (Neurotransmitter) โดยบริเวณปลาย แอกซอนมสี ารส่ือประสาทปรมิ าณสูงมาก 2. ระบุโครงสร้างและ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางถ่ายทอดกระแส หน้าท่ีของสมองมนุษย์ ประสาทจากเซลล์หนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึง่ แตล่ ะส่วนได้ ปจั จบุ ันพบวา่ สารสอื่ ประสาทมีหลายชนิด 3. ระบโุ ครงสรา้ งและ เ ช่น แอซิติลโคลีน( Acetylcholine) ภาพที่ 1 ภาพแสด หนา้ ท่ขี องไขสันหลังได้ น อ ร ์ เ อ พ ิ เ น ฟ ริ น ( Norepinephrine) เอนดอร์ฟิน (Endorphine) โดยเซลล์ จากนั้นครใู ชค้ ำ ประสาทที่ทำหน้าที่สง่ กระแสประสาทจะ 1.1 จากภาพ เรียกว่าเซลล์ประสาทกอ่ นไซแนปส์ เป็นอยา่ งไร (มาก (Presynaptic neuron) ซึ่งจะมีถุงบรรจุ 1.2 นักเรียน สารสื่อประสาทอยู่โดยเมื่อกระแส ประสาทในการตอ ประสาทเคลื่อนมาถึงปลายแอกซอน ถุง อาศัยการทำงา เล็ก ๆ ดังกล่าวจะเคลื่อนไปรวมกับเย่ือ (หลายเซลล)์ หุ้มเซลล์ของเซล์ประสาทก่อนไซแนปส์ 1.3 ถ้าหากก และปล่อยสารสื่อประสาทออกมา เพ่ือ จะต้องอาศัยเซล กระตุ้นเยื่อหุ้มเซลล์ถัดไปหรือ เซลล์ กระแสประสาท ประสาทหลังไซแนปส์ นักเรียนทราบห
27 จกรรมการเรียนรู้ สอื่ และอุปกรณก์ าร การวัดและการประเมินผล เรยี นรู้ การวดั การประเมิน าท)ี 1. งานนำเ ส น อ 1. การมี 1. การ าพแบบจำลองเซลล์ประสาทใน เรื่อง เรื่อง การ สว่ นร่วม ประเมินการ ถ่าย ทอ ดก ร ะ แ ส และตอบ ตอบคำถาม ประสาทระหว่าง คำถามใน ในช้นั เรยี น เซลล์ประสาท และ ชนั้ เรียน 2. การ ศูนย์ควบคุมระบบ 2. การ ประเมินการ ประสาท ตอบคำถาม ตอบคำถาม 2. ใบงาน เรื่อง ลงในใบงาน ลงในใบงาน ดงแบบจำลองเซล์ประสาทในรา่ งกาย การถ่ายทอดกระแส เรอ่ื ง ระบบ เรื่อง การ มนษุ ย์ ประสาทระหว่าง ประสาท ถ่ายทอด เซลล์ประสาท และ กระแส ำถาม ดงั นี้ ศูนย์ควบคุมระบบ ประสาท ประสาท ระหว่างเซลล์ พเซลลป์ ระสาทในมนุษย์มีจำนวน ประสาท และ กมายหลายเซลล์) ศูนย์ควบคุม ระบบ นคิดว่าการทำงานของระบบ ประสาท อบสนองตอ่ สิ่งเร้าต่าง ๆ จะต้อง านของเซลล์ประสาทกี่เซลล์ การทำงานของระบบประสาท ถูกตอ้ งอยา่ ง ลล์ประสาทหลายเซลล์ เมื่อเกิด น้อยรอ้ ยละ ทขึ้นมาในเซลล์ใดเซลล์หนึ่ง 80 หรือไม่ว่าร่างกายมนุษย์มีกลไก
วตั ถุประสงคก์ าร เนอ้ื หาสาระ กิจ เรยี นรู้ ( Postsynaptic neuron) โ ด ย ส า ร สื่ อ อย่างไรในการส ประสาทจะไปจับบนโปรตีนตัวรับท่ีอยู่บน หนึง่ ไปยังอีกเซลล เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาทหลัง ไซแนปส์ ทำให้เกิดการเคล่ือนที่ของ ขน้ั สอน (80 น ไอออนผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ เกิดการ 1. ครูแสดงภา เปลี่ยนแปลงความต่างศักย์ที่เดนไดรต์ ประสาท ของเซลล์ประสาทหลังไซแนปส์ทำให้เกิด ดีโพลาไรเซชันหรือไฮเพอร์โพลาไรเซชัน ข้ึนอยู่กบั ชนิดของสารส่ือประสาท ศูนย์ควบคุมระบบประสาท ภาพที่ 2 ภาพแสดง ศูนย์ควบคุมระบบประสาทในคน คือ สมองและไขสันหลัง จากนั้นครูใช้คำ สมอง มีน้ำหนักประมาณ 1.4 กิโลกรัม 1.1 จากภาพ บรรจุอยู่ภายในกะโหลกศีรษะ เนื้อสมอง (2 เซลล)์ มีสว่ นนอกเป็นสีเทา (Grey matter) มีตัว 1.2 เซลล์ด้า เซลล์ประสาทและแอกซอนที่ไม่มีเยื่อ (เซลลด์ ้านซ้าย) ไมอีลินหุ้ม อีกส่วนเป็นเนื้อสีขาว 1.3 นักเรียน (White matter) เป็นบริเวณที่เส้นใย จะสง่ ต่อไปทีเ่ ซลล ประสาทมีเยื่อไมอีลินหุ้ม สมองประกอบ ครูให้ความรู้เ ไปด้วยเซลล์ประสาทมากกว่าร้อยละ 90 ประสาทระหว่างเ
28 จกรรมการเรยี นรู้ สื่อและอุปกรณก์ าร การวัดและการประเมินผล เรียนรู้ การวดั การประเมนิ ส่งต่อกระแสประสาทจากเซลล์ ลห์ น่ึง นาท)ี าพกลไกการทำงานของสารสื่อ งกลไกการทำงานของสารส่อื ประสาท ำถาม ดงั นี้ พมีเซลล์ประสาททั้งหมดกี่เซลล์ านใดที่มีการเกิดกระแสประสาท นทราบหรือไม่ว่ากระแสประสาท ล์ดา้ นขวาไดอ้ ย่างไร เกี่ยวกับการถ่ายทอดกระแส เซลล์ประสาท โดยใชส้ อ่ื นำเสนอ
วตั ถุประสงคก์ าร เนอื้ หาสาระ กิจ เรยี นรู้ ของเซลล์ประสาททั้งหมดในร่างกาย เรื่อง การถ่ายทอ สมองแบ่งออกเป็น 3 สว่ น ไดแ้ ก่ ประสาท และศูน สมองสว่ นหนา้ (Forebrain) 2. ครแู สดงรูปส ประกอบด้วย อัลแฟกทอรบี ลั บ์ (Olfactory bulb) – เกยี่ วกบั การดมกลนิ่ เซรีบรัม(Cerebrum) – เกี่ยวกับความคดิ ความจำ เชาวน์ปัญญา ศูนย์กลางควบคุม การทำงานต่าง ๆ ภาพที่ 3 ภ ไ ฮ โ พ ท า ล า ม ั ส ( Hypothalamus) – จากนั้นครใู ช้คำ ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ความดัน การ 2.1 นักเรียน เต้นของหัวใจ ความต้องการพื้นฐานของ ระบบประสาทใ ร่างกาย การหลั่งฮอร์โมนจากต่อมใต้ (สมองและไขสันห สมองส่วนหน้า 2.2 นักเรียน ทาลามัส(Thalamus) – รวบรวมกระแส หลังแบ่งออกเป ประสาทที่ผ่านเข้าออกแล้วแยกกระแส อะไรบา้ ง ประสาทกลับไปยังสมองที่เกี่ยวข้องกับ ครูให้ความรู้เก กระแสประสาทน้ัน มนุษย์ โดยใช่ส กระแสประสาทร สมองส่วนกลาง(Midbrain) ควบคุมการ ควบคมุ ระบบประ เคลื่อนไหวของนัยน์ตา หัว และลำตัว 3. ครแู สดงภาพ ตอบสนองต่อแสงเสียง และการ เคล่ือนไหวของร่างกาย
29 จกรรมการเรยี นรู้ ส่ือและอปุ กรณก์ าร การวดั และการประเมินผล เรยี นรู้ การวัด การประเมนิ อดกระแสประสาทระหว่างเซลล์ นย์ควบคุมระบบประสาท สมองและไขสนั หลงั ภาพแสดงสมองและไขสนั หลงั ำถาม ดงั น้ี นทราบหรือไม่ว่าศูนย์ควบคุม ในร่างกายของมนุษย์ คืออะไร หลัง) นทราบหรือไม่ว่าสมองและไขสัน ป็นกี่ส่วน และประกอบไปด้วย กี่ยวกับลักษณะทั่วไปของสมอง สื่อนำเสนอ เรื่อง การถ่ายทอด ระหว่างเซลล์ประสาท และศูนย์ ะสาท พตดั ขวางของสมอง
วตั ถุประสงคก์ าร เนอ้ื หาสาระ กจิ เรยี นรู้ สมองส่วนหลัง(Hindbrain) ประกอบ ไปด้วย เซรีเบลลัม(Cerebellum) – ควบคุม การทรงตัวของร่างกายและการ เคล่อื นไหวให้สละสลวย ภาพท่ี 4 ภา เมดลั ลาออบลองกาตา จากนน้ั ครใู ชค้ ำ (Medulla oblongata) – ควบคุมการ 3.1 จากภาพ หายใจ การเต้นของหัวใจ ความดันเลือด กี่ส่วน อะไรบ้าง การกลืน การจาม การสะอกึ การอาเจียน สว่ นสีขาว) พอนส์(Pons) – ควบคุมการเคี้ยว หลั่ง 3.2 นักเรียน น้ำลาย การหายใจ การเคลื่อนไหวของ และเนอ้ื สมองสขี ใบหน้า ทางผ่านของกระแสประสาท ครูให้ความรู้เก ระหว่างซรี ีบรมั กับซีรีเบลลัม สมอง โดยใช้สื่อ โดยสมองจะมเี สน้ ประสาททีแ่ ยกออกมา กระแสประสาทร เป็นคู่ ๆ 12 คู่เพื่อรับสัญญาณและออก ควบคุมระบบประ คำสั่งควบคุมหนว่ ยปฏบิ ตั งิ าน 4. ครูแจกรปู ภา ไขสันหลัง อยู่ภายในกระดูกสันหลังตั้งแต่กระดูก สันหลังบริเวณคอข้อแรกถึงกระดูกสัน หลังบริเวณเอวข้อที่ 2 โดยส่วนปลาย ของไขสันหลังจะเรียวเล็กจนเหลือแต่ ภาพที่ เพยี งสว่ นของเสน้ ประสาทไขสันหลัง
จกรรมการเรยี นรู้ 30 ส่ือและอุปกรณก์ าร การวัดและการประเมินผล เรียนรู้ การวดั การประเมนิ าพแสดงการตดั ขวางของสมอง ำถาม ดังนี้ พนักเรียนคิดว่าเนอื้ สมองแบ่งเป็น ง (2 ส่วน ได้แก่ ส่วนสีเทาและ นทราบหรือไม่ว่าเนื้อสมองสีเทา ขาวดังกลา่ วแตกต่างกนั อยา่ งไร กี่ยวกับเนื้อสีเทาและเนื้อสีขาวใน อนำเสนอ เรื่อง การถ่ายทอด ระหว่างเซลล์ประสาท และศูนย์ ะสาท าพสมองมนุษย์ 5 ภาพแสดงสมองมนษุ ย์
วตั ถุประสงคก์ าร เนื้อหาสาระ กจิ เรยี นรู้ ไขสันหลังประกอบด้วย 2 บริเวณ คือ จากนัน้ ครูใช้ค ด้านนอกเนื้อสีขาวและด้านในเนื้อสีเทา 4.1 นักเรียน ถ้าหากพิจารณาเนื้อสีเทาซึ่งมีลักษณะ แบ่งออกเป็นกี่สว่ คล้ายตัว H โดยปีกบนของตัว H เรียกว่า ครูให้ความรู้เ ดอร์ซัลฮอร์น(Dorsal horn) ปีกล่าง โดยใช่สื่อนำเสน เรียกว่า เวนทรัลฮอร์น(Ventral horn) ประสาทระหว่าง โดยเสน้ ประสาทท่อี ยใู่ กลก้ ับไขสันหลังจะ ระบบประสาท แยกเป็น รากบน(Dorsal root) ซึ่งจะมี 5. ครูแสดงภาพ ปมประสาทอยู่ด้วย ส่วนรากล่าง (Ventral root) อยู่ต่อกับเวนทรัลฮอร์น และไม่มปี มประสาท โดยไขสันหลังจะมีเส้นประสาทที่แยก ภาพท ออกมาท้งั สน้ิ 31 คู่ จากนน้ั ครูใช้คำ 5.1 จากภาพ ส่วน(2 ส่วน เนื้อ โดยใช้สื่อนำเ ประสาทระหว ควบคุมระบบประ ข้ันสรปุ (10 น
31 จกรรมการเรียนรู้ ส่อื และอุปกรณ์การ การวดั และการประเมนิ ผล เรียนรู้ การวัด การประเมนิ คำถาม ดังน้ี นทราบหรือไม่ว่าสมองมี่เห็นอยู่น้ี วน แตล่ ะสว่ นทำหน้าทอ่ี ย่างไร เกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ภายในสมอง นอ เรื่อง การถ่ายทอดกระแส งเซลล์ประสาท และศูนย์ควบคุม พไขสันหลัง ท่ี 5 ภาพแสดงไขสันหลัง ำถาม ดังน้ี พเนื้อในไขสันหลังแบ่งออกเป็นก่ี อสีขาวและเนือ้ สีเทา) เสนอ เรื่อง การถ่ายทอดกระแส ว่างเซลล์ประสาท และศูนย์ ะสาท นาที)
วตั ถปุ ระสงค์การ เนื้อหาสาระ กจิ เรียนรู้ 1. ครูนำสรุปใน ดังนี้ 1.1 รา่ งกายอ ประสาทจากเซลล 1.2 สมองมน (3 ส่วน สมองส สว่ นท้าย) 1.3 สมองส่ ใดบา้ ง (ซรี บี รมั ไ 1.4 สมองส่ ใดบา้ ง (ซรี เี บลลัม 1.5 โครงสร้ อะไรบ้าง (ดอร์ซ ฮ อ ร ์ น ( Ventral รากล่าง (Ventra 2. ครูมอบหม กระแสประสาทร ควบคมุ ระบบประ
32 จกรรมการเรยี นรู้ สือ่ และอุปกรณก์ าร การวดั และการประเมนิ ผล เรียนรู้ การวัด การประเมนิ นประเด็นต่าง ๆ โดยใช้คำถาม อาศัยกลไกใดในการสง่ ตอ่ กระแส ลห์ นึง่ ไปอีกเซลลห์ น่ึง นุษย์แบ่งออกเปน็ กส่ี ่วน อะไรบ้าง ่วนหน้า สมองส่วนกลาง สมอง วนหน้าประกอบด้วยบริเวณ ไฮโพทาลามัส ทาลามัส) วนท้ายประกอบด้วยบริเวณ ม เมดลั ลาออบลองกาตา พอนส์) างของไขสันหลังประกอบด้วย ซัลฮอร์น(Dorsal horn) เวนทรัล l horn) รากบน(Dorsal root) al root) ) ายใบงาน เรื่อง การถ่ายทอด ระหว่างเซลล์ประสาท และศูนย์ ะสาท
โรงเรยี นสรร กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทย แผนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง ก ภาคการศึกษาต้น ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6/พ และ 6/1 สาระชวี วทิ ยา 4. เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์ และมนษุ ย์ การหายใจ และการแล ถ่าย การรับรู้ และการตอบสนอง การเคล่ือนที่ การสืบพนั ธุ์ และกา ไปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรยี นรู้ ม.6/6 สืบค้นข้อมลู อธิบาย เปรยี บเทียบ และยกตวั อยา่ งการทำงาน
33 รพยาวิทยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี การทำงานของระบบประสาท รายวชิ า ชีววิทยา5 ว30255 ผู้สอน นายเรวัตร อย่เู กิด ลกเปลย่ี นแก๊ส การลำเลียงสาร และการหมนุ เวียนเลือด ภมู คิ ุ้มกนั ของรา่ งกาย การขยั ารเจริญเตบิ โต ฮอร์โมน การรักษาดุลยภาพ และพฤตกิ รรมของสัตว์ รวมทั้งนำความรู้ นของระบบประสาทโซมาตกิ และระบบประสาทอตั โนวัติ
วัตถปุ ระสงค์การ เนื้อหาสาระ ก เรยี นรู้ นกั เรียนสามารถ การทำงานของระบบประสาท ขั้นนำ (10 นา 1. แบ่งประเภทของ ระบบประสาทของสัตว์มกี ระดูกสันหลัง 1. ครูแสดงภาพ ระบบประสาทโดย สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระบบ คือ อาศยั เกณฑก์ ารทำงาน ระบบประสาทส่วนกลาง ไดแ้ ก่ สมองและ ได้ ไขสันหลัง และระบบประสาทรอบนอก 2. บอกการทำงาน ได้แก่ สว่ นต่าง ๆ ของระบบประสาทที่อยู่ ของระบบประสาทส่วน นอ ก ส ม อ ง แ ล ะ ไ ข ส ั น ห ล ั ง ไ ด ้ แ ก่ ภาพท่ี นอกได้ เสน้ ประสาทและปมประสาท 3. บอกการทำงาน การทำงานของเส้นประสาทในระบบ จากน้นั ครใู ชค้ ำ ของส่วนสง่ั การในระบบ ประสาทรอบนอกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน 1.1 จากภาพ ประสาท คือ ส่วนที่รับความรู้สึก( Sensory ประสาท (สมองแ 4. บอกการทำงาน division; SNS) ซึ่งรับความรู้สึกจาก 1.2 สมองแล ของระบบประสาท ภายนอกและภายในร่างกาย และส่วนที่ ระบบประสาท ( โซมาติกได้ สั่งการ(Motor division) ถ้าการสั่งการ ประสาท) 5. บอกการทำงาน เกิดข้ึนกบั หนว่ ยปฏบิ ัตงิ านท่ีบังคบั ได้ เช่น 1.3 นักเรยี นค ของระบบประสาท กล้ามเนื้อโครงร่าง ก็จัดเป็นระบบ แล้วในระบบประ อตั โนวตั ิได้ ประสาทโซมาติก( Somatic nervous หรือไม่ (ม)ี system) ถ้าการสั่งการเกิดขึ้นกับหน่วย 1.4 ถ้าหากม ปฏิบัติงานที่บังคับไม่ได้ เช่น อวัยวะ และไขสันหลังแล ภายในและต่อมต่าง ๆ ก็จัดเป็นระบบ ประสาททง้ั หมดท ประสาทอัตโนวัติ(Autonomic nervous และหน่วยทำงา system; ANS) โ ด ย ร ะ บ บ ป ร ะ ส า ท และมกี ารแบ่งกา
34 กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือและอปุ กรณ์ การวดั และการประเมินผล การเรียนรู้ การวัด การประเมิน าที) 1. งานนำเสนอ 1. การมี 1. การ พสมองและไขสันหลัง เร่อื ง การทำงาน สว่ นร่วม ประเมินการ ของระบบ และตอบ ตอบคำถาม ประสาท คำถามใน ในชัน้ เรยี น 2. ใบงาน เร่ือง ชัน้ เรยี น 2. การ 2. การ ประเมินการ การทำงานของ ตอบคำถาม ตอบคำถาม ลงในใบงาน ลงในใบงาน 1 ภาพสมองและไขสันหลัง ระบบประสาท เรือ่ ง การ เรอ่ื ง การ ทำงานของ ทำงานของ ำถาม ดังนี้ ระบบ ระบบ ประสาท ประสาท พเป็นภาพของอวัยวะใดในระบบ ถูกต้องอยา่ ง นอ้ ยรอ้ ยละ และไขสันหลงั ) 80 ละไขสันหลังทำหน้าที่อย่างไรใน (ศูนย์ควบคุมการทำงานของระบบ คิดว่านอกจากสมองและไขสันหลัง ะสาทยังมีหน่วยการทำงานอื่นอีก มีหน่วยทำงานอื่นนอกจากสมอง ล้ว นักเรียนทราบหรือไม่ว่าระบบ ที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นสมอง ไขสันหลัง านอื่น ๆ ทำงานร่วมกันอย่างไร ารทำงานออกเป็นกี่ประเภท
วตั ถุประสงคก์ าร เน้อื หาสาระ ก เรยี นรู้ อัตโนวัตนิ ย้ี งั แบ่งเป็น 2 ระบบย่อย ได้แก่ ข้นั สอน (80 น ระบบประสาทซมิ พาเทติก(Sympathetic 1. ครูแสดงภาพ nervous system) และระบบประสาท พ า ร า ซ ิ ม พ า เ ท ต ิ ก ( Parasympathetic nervous system) ร ะ บ บ ป ร ะ ส า ท โ ซ ม า ต ิ ก ( Somatic nervous system; SNS) ควบคุมการ ภาพที่ 2 ทำงานของกล้ามเนื้อโครงร่างโดยเซลล์ ประสาทรับความรู้สึกจะรับกระแส ครูให้ความรูเ้ กยี่ ประสาทจากหน่วยรับความรู้สึกผ่าน ใชส้ ือ่ นำเสนอ เร่ือ เส้นประสาทไขสันหลังหรือเส้นประสาท จากนน้ั ครใู ชค้ ำ สมอง แล้วเข้าสไู่ ขสันหลังหรือสมอง และ กระแสประสาทจะถกู สง่ ผา่ นเสน้ ประสาท 1.1 นักเรียน สมองหรือเส้นประสาทไขสันหลังไปยัง ประสาทส่วนกลา หน่วยปฏิบัติงานที่เป็นกล้ามเนือ้ โครงรา่ ง จะสามารถเกิดข้ึน บางครั้งอาจทำงานโดยไขสันหลังเท่านั้น ครใู หค้ วามรู้เกย่ี ใชส้ ่อื นำเสนอ เร่อื เช่น การกระตุกขาเมื่อถูกเคาะที่เอ็นหัว เข่าเบา ๆ การตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่มา กระตุ้นโดยการกระตุกขานี้เกิดขึ้นเอง 2. ครูเปิดวีดิท เรียกว่า รีเฟลกซ์(Reflex) ปฏิกิริยาท่ี นำ้ มันกระเด็นใส่ แสดงออกเมื่อมีสิ่งเร้ากระตุ้นเกิดขึ้นใน ระยะเวลาสั้น ๆ เรียกวา่ รเี ฟลกซ์แอคชัน 2.1 นักเรียน กระเด็นของนำ้ มนั
กจิ กรรมการเรยี นรู้ 35 นาท)ี สอ่ื และอปุ กรณ์ การวัดและการประเมินผล พสมองและไขสนั หลัง การเรียนรู้ การวดั การประเมนิ ภาพแสดงสมองและไขสนั หลงั ยวกับระบบประสาทส่วนกลาง โดย อง การทำงานของระบบประสาท ำถามดังนี้ นคิดว่าถ้าหากร่างกายมีเพียงระบบ าง การตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ นไดห้ รอื ไม่ ยวกับ ระบบประสาทรอบนอก โดย อง การทำงานของระบบประสาท ทัศน์ แสดงการทอดอาหารแล้วมี จากนั้นครูใชค้ ำถาม ดงั นี้ นคิดว่าร่างกายตอบสนองต่อการ นได้อย่างไร (ตอบตามความคิดเห็น
วตั ถุประสงคก์ าร เน้ือหาสาระ ก เรยี นรู้ เป็นการตอบสนองที่เกิดขึ้นอย่าง ของนักเรียน ครู ทันทีทันใดโดยไม่ได้มีการเตรียมหรือคิด รู้สึกแสบรอ้ น แล ล่วงหน้าเป็นการสั่งการไขสันหลังไม่ต้อง 2.2 จากการ อาศยั คำสั่งจากสมอง การทำงานของระ ระบบประสาทอัตโนวัติ(Autonomic ออกเปน็ ก่สี ่วน nervous system; ANS) ครูให้ความรู้เ ระบบประสาทอัตโนวัติจะควบคุมการ แบ่งประเภทออก ทำงานของต่อมและอวัยวะภายในต่าง ๆ ส่งั การโดยใชส้ ่อื น ที่ทำงานนอกอำนาจจิตใจ แบ่งได้เป็น 2 ประสาท ระบบ คือ 3. ครูแสดงภา ร ะ บ บ ป ร ะ ส า ท ซ ิ ม พ า เ ท ติ ก ภายใน ( Sympathetic nervous system) จ ะ ทำงานตอนต่ืนตกใจ ต้องสู้ หรือหนี ระบบประสาทพาราซิมพาเ ทติก ( Parasympathetic nervous system) จะทำงานตอนสบายใจ ภาพท่ี 3 ภาพแสด จากน้ันครูใช้คำ 3.1 นกั เรยี นค เป็นส่วนที่ตอบ (กลา้ มเน้อื เช่น แ
36 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื และอปุ กรณ์ การวดั และการประเมินผล การเรยี นรู้ การวดั การประเมนิ นำเข้าสู่คำตอบที่ว่าเพราะผิวหนัง ล้วมกี ารส่งั การให้เกดิ การขยับหนี) รตอบสนองดังกล่าวนักเรียนคิดว่า ะบบประสาทรอบนอกสามารถแบ่ง เกี่ยวกบั ระบบประสาทรอบนอกซ่งึ กเป็นส่วนที่รับความรู้สึกและส่วน นำเสนอ เร่อื ง การทำงานของระบบ าพกล้ามเนื้อโครงร่างและอวัยวะ ดงกลา้ มเน้ือโครงรา่ งและอวัยวะภายใน ำถาม ดังนี้ คดิ วา่ โครงสร้างใดบา้ งในร่างกายท่ี บสนองต่อระบบประสาทสั่งการ แขนขา)
วตั ถุประสงคก์ าร เนื้อหาสาระ ก เรียนรู้ 3.2 กล้ามเน ประสาทดังกลา่ ว ทเี่ กดิ ข้นึ ไดห้ รือไม 3.3 นักเรยี นท ของระบบประ ปฏบิ ัติงานทบี่ ังคบั ครูให้ความรู้เก ใชส้ ่อื นำเสนอ เร่อื 4. ครใู ชค้ ำถาม ด 4.1 นักเรียน กล้ามเน้ือที่ควบค สั่งการยังมีการ (นกั เรยี นตอบตาม ครูยกตัวอย่า หัวใจที่มีการเต เผชิญหน้ากับสถ แรงและเร็ว แล มาแล้วจะพบว่า คำถามดงั น้ี 4.2 นักเรยี นค ควบคุมของระบบ สั่งการ)
37 กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ และอุปกรณ์ การวัดและการประเมินผล การเรียนรู้ การวดั การประเมนิ นื้อกลุ่มที่ตอบสนองต่อระบบ ว เราสามารถควบคมุ การตอบสนอง ม่ (ได้) ทราบหรือไม่วา่ เราเรยี กส่วนสั่งการ ะสาทรอบนอกที่ควบคุมหน่วย บไดน้ ว้ี า่ อะไร กี่ยวกับระบบประสาทโซมาติก โดย อง การทำงานของระบบประสาท ดงั นี้ นคิดว่านอกจากการสั่งการให้ คุมได้ตอบสนองตอ่ สิ่งเร้าแล้ว ส่วน รควบคุมโครงสร้างอื่นอีกหรือไม่ มความคดิ เห็นของตนเอง) างสถานการณ์ เช่น การเต้นของ ต้นอยู่ตลอดเวลา และเมื่อมีการ ถานการณ์ที่อันตรายหัวใจจะเต้น ละต่ อ ม า เ ม ื ่ อ ผ่ า นสถ า นก า รณ ์ น้ั น าหัวใจเต้นเป็นปกติ จากนั้นครูใช้ คิดวา่ การเตน้ ของหัวใจเกิดจากการ บประสาทส่วนนอก ส่วนใด (ส่วน
วตั ถปุ ระสงค์การ เนื้อหาสาระ ก เรียนรู้ 4.3 กลา้ มเนอ้ื นั้น เราสามารถ (ไม)่ 4.4 นักเรยี นท ของระบบประ ปฏิบัติงานทไี่ ม่สา ครูให้ความรู้เก ใชส้ ื่อนำเสนอ เรอื่ 5. จากสถาณก ของหัวใจ จะเหน็ ไปถึงการเต้นแบบ 5.1 นักเรียน โดยระบบประสา การควบคุมเหมื ความคิดเห็นของ 5.2 ถ้าหากก หัวใจไม่เหมือนก ของหัวใจแต่ละแ ระบบประสาทอตั ครูให้ความรู้เก และพาราซิมพาเ ทำงานของระบบ
38 กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื และอปุ กรณ์ การวัดและการประเมนิ ผล การเรียนรู้ การวดั การประเมนิ อหวั ใจทถี่ ูกควบคมุ ดว้ ยส่วนส่ังการ ถควบคุมการตอบสนองได้หรือไม่ ทราบหรอื ไมว่ า่ เราเรยี กส่วนสั่งการ ะสาทรอบนอกที่ควบคุมหน่วย ามารถบังคบั ไดน้ ว้ี ่าอะไร กี่ยวกับระบบประสาทอัตโนวัติ โดย อง การทำงานของระบบประสาท การณด์ ังกล่าวทเี่ กย่ี วขอ้ งกับการเต้น นได้ว่ามที ั้งการเตน้ แรงและเร็ว รวม บปกติ ครูใชค้ ำถาม ดงั นี้ นคิดว่าการเต้นของหัวใจที่ควบคุม าทอัตโนวัติ ทั้ง 2 แบบ มีกลไกใน อนกันหรือไม่ (นักเรียนตอบตาม งตนเอง) กลไกในการควบคุมการเต้นของ กัน นักเรียนทราบหรือไมว่ ่าการเตน้ แบบถูกควบคุมด้วยกลไกอะไร ใน ตโนวัติ กี่ยวกับระบบประสาทซิมพาเทติก เทตกิ โดยใช้สื่อนำเสนอ เรื่อง การ บประสาท
วตั ถปุ ระสงค์การ เน้อื หาสาระ ก เรยี นรู้ ข้ันสรุป (10 น 1. ครูนำสรุป ดงั ตอ่ ไปนี้ 1.1 ระบบป ออกเปน็ กป่ี ระเภ ประสาทสว่ นกลา 1.2 ระบบปร ทำงานไดก้ สี่ ว่ น ( สว่ นสั่งการ) 1.3 การควบ ไดเ้ ป็นก่ีประเภท มาทกิ และระบบป 1.4 ร ะ บ บ ป ประสาทอัตโนว ประสาทโซมาทิก ภายใต้อำนาจจ ควบคุมการทำงา จิตใจ) 1.5 ระบบป ประเภท ได้แก่อ ประสาทซิมพาเท เทตกิ )
39 กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ และอปุ กรณ์ การวัดและการประเมนิ ผล การเรยี นรู้ การวัด การประเมนิ นาที) โดยสุ่มถามนักเรียนด้วยคำถาม ร ะ ส า ท ข อ ง ม น ุ ษ ย ์ ส า ม า ร ถ แ บ่ ง ภท อะไรบา้ ง (2 ประเภท คอื ระบบ างและระบบประสาทรอบนอก) ระสาทรอบนอกแบ่งตามหน้าที่การ (2 สว่ น ไดแ้ ก่ ส่วนรับความรสู้ ึกกับ บคุมในส่วนสั่งการสามาถแบ่งออก (2 ประเภท คือ ระบบประสาทโซ ประสาทอัตโนวตั ิ) ประสาทโซมาทิกกับระบบ วัติแตกต่างกันอย่างไร (ระบบ กควบคุมการทำงานของกล้ามเน้ือ จิตใจแต่ระบบประสาทอัตโนวัติ านของกล้ามเนื้อนอกเหนืออำนาจ ระสาทอัตโนวัติแบ่งออกเป็นก่ี อะไรบ้าง (2 ประเภท คือ ระบบ ทติกและระบบประสาทพาราซิมพา
วตั ถปุ ระสงค์การ เนื้อหาสาระ ก เรียนรู้ 2. ครูมอบหม ระบบประสาท
40 กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและอปุ กรณ์ การวัดและการประเมินผล การเรียนรู้ การวัด การประเมนิ ายใบงาน เรื่อง การทำงานของ
โรงเรียนสรร กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ย แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอื่ ง ภาคการศกึ ษาต้น ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6/พ และ 6/1 สาระชวี วิทยา 4. เข้าใจการย่อยอาหารของสตั ว์ และมนษุ ย์ การหายใจ และการแล ถ่าย การรับรู้ และการตอบสนอง การเคลอื่ นที่ การสืบพันธุ์ และกา ไปใช้ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ ม.6/9 สืบค้นข้อมลู อธิบาย และเปรียบเทยี บโครงสร้าง และหน้าท แมลง ปลา และนก
41 รพยาวทิ ยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ง การเคล่ือนทขี่ องสง่ิ มชี วี ิต รายวชิ า ชวี วิทยา5 ว30255 ผูส้ อน นายเรวตั ร อยเู่ กิด ลกเปลยี่ นแกส๊ การลำเลียงสาร และการหมนุ เวียนเลอื ด ภูมคิ ุ้มกนั ของร่างกาย การขยั ารเจรญิ เตบิ โต ฮอร์โมน การรักษาดลุ ยภาพ และพฤติกรรมของสตั ว์ รวมท้ังนำความรู้ ที่ของอวัยวะทีเ่ กีย่ วข้องกับการเคลื่อนทีข่ องแมงกะพรุน หมึก ดาวทะเล ไส้เดือนดิน
วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรียนรู้ นกั เรียนสามารถ ดา้ นความรู้(K) ขนั้ ระบุปัญหา 1. ระบโุ ครงสร้าง/ การเคลอ่ื นทข่ี องสตั ว์ไมม่ กี ระดูกสนั้ หลัง 1.ครูนำเขา้ สบู่ ท อวยั วะทใี่ ชใ้ นการ 1. การเคลื่อนที่ของไส้เดือนเกิดจากการ เคลอ่ื นที่ของมนษุ เคลือ่ นที่ของ ทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อวงกลม และ สง่ิ มีชวี ิตได้ (P) กล้ามเนื้อตามยาวหดตัวและคลายตัวเป็น 2. อธบิ ายกลไก ระลอกคล่นื จากทางด้านหน้ามาทางด้านหลัง การเคลื่อนทข่ี อง ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ไปทางด้านหน้า ส่งิ มีชีวติ แต่ละชนดิ ไส้เดือนมีกล้ามเนื้อ 2 ชุด คือ กล้ามเนื้อ ภาพที่ 1 ภา ได้ (K) วงกลมรอบตวั 3. ทำงานร่วมกัน 2. การเคลื่อนที่ของพลานาเรีย พลานาเรยี จากนัน้ ครูใชค้ ำ เป็นกลุ่มได้ (A) เป็นสัตว์จำพวกหนอนตัวแบนอาศัยอยูใ่ นน้ำ 1.1 จากภาพ พลานาเรีย เคลื่อนที่โดยการลอยไปตามน้ำ การเคล่อื นท่ีของม หรือ คืบคลานไปตามพืชใต้น้ำโดยอาศัย 1.2 นักเรียน กลา้ มเนอื้ วงและกลา้ มเนอื้ ตามยาว อื่นมีการเคลื่อนท 3. การเคลื่อนท่ขี องแมงกะพรุนแมงกะพรุน เคลื่อนทแ่ี ตกตา่ ง เคลื่อนที่โดยการหดตัวของเนื้อเยื่อบริเวณ 1.3 นักเรียน ขอบกระดิ่งและที่ผนังลำตวั สลับกนั ทำใหพ้ น่ อาศัยโครงสร้างแ น้ำออกมาทางด้านล่างส่วนตวั จะพุ่งไปในทศิ ครูให้นักเรีย ทางตรงข้ามกับทิศทางน้ำที่พ่นออกมาการ ดังกล่าว เขียนลง หดตัวนี้จะเป็นจังหวะทำให้ตัวแมงกะพรุน ตนเอง (สงสยั แล เคล่ือนไปเป็นจังหวะด้วย
42 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ การ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เรยี นรู้ ทเรยี นโดยการแสดงรูปภาพการ 1. กระดาษ 1. ประเมนิ การอธิบาย ษย์ (ส่งิ เรา้ ) ขนาด A3 กลไกการเคลอื่ นท่ีและระบุ 2. รปู ภาพ ระบโุ ครงสร้าง/อวยั วะ ทใ่ี ช้ าพแสดงการเคลือ่ นทีข่ องมนษุ ย์ สง่ิ มีชวี ติ ในการเคลอื่ นท่ีของส่งิ มีชีวติ ำถาม ดังนี้ (สังเกต) 3. บตั รคำระบุ โดยใชแ้ บบประเมินช้ินงาน พเป็นภาพเกีย่ วกบั อะไร (ภาพแสดง ช่ืออวัยวะ/ 2. ประเมินทักษะการ มนษุ ย)์ โครงสรา้ ง ที่ใชใ้ น ทำงานกลมุ่ โดยแบบ นคิดว่านอกจากมนุษย์แล้วสิ่งมีชีวิต การเคลือ่ นท่ี ประเมนิ ทกั ษะการทำงาน ที่หรือไม่ (สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีการ 4. รปู ภาพ เปน็ กลุม่ งกัน) อวยั วะที่ใช้ในการ นทราบหรือไม่สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด เคล่ือนท่ีของส่ิงมี และกลไกใดในการเคลื่อนท่ี ชวี ตแต่ละชนดิ ยนคาดคะเนคำตอบของคำถาม งในสมุดบันทึกประจำรายวิชาของ ละสมมตฐิ าน)
วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ 4. การเคลือ่ นท่ีของหมกึ หมกึ เคลื่อนที่โดย คำถามสำคัญ ส การหดตัวของกล้ามเนื้อลำตัว พ่นน้ำออกมา และกลไกใดในกา จาก ไซฟอน ซึ่งอยู่ทางส่วนล่างของส่วนหัว ขั้นแสวงหาสาร ทำให้ตัวพุ่งไปข้างหน้าในทิศทางที่ตรงข้าม 1. ครูแบ่งนัก กับทิศทางของนำ้ นอกจากนส้ี ่วนของไซฟอน นักเรียนกลุ่มล ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ ทำให้เกิดการ อุปกรณ์ในการทำ เปล่ยี นแปลงทิศทางของนำ้ ทพ่ี ่นออกมา และ 1.1 กระดาษ ยังทำใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลงทิศทางของการ 1.2 รูปภาพส เคลื่อนที่ด้วย หมึกมีครีบอยู่ทางด้านข้าง 1.3 บัตรคำระ ลำตัว ช่วยในการทรงตัวให้เคลื่อนที่ไปใน เคล่อื นท่ี ทิศทางทเ่ี หมาะสม 1.4 รูปภาพอ 5. ดาวทะเล มีระบบการเคลื่อนที่ด้วย ชวี ตแตล่ ะชนิด ระบบทอ่ น้ำ ระบบทอ่ น้ำประกอบด้วย มาดรี โดยการแจกอุป โพไรต์สโตนแคเนล ริงแคแนล เรเดียล กำหนดให้อยู่ใ แคแนล ทิวบ์ฟีท แอมพูลลา ดาวทะเล (walk rally) เพื่ เคลื่อนที่โดยน้ำเข้าสู่ระบบท่อน้ำดรีโพไรต์ ภายในบรเิ วณโรง และไหลผ่านท่อวงแหวนรอบปากเข้าสู่ท่อ เรเดยี ลแคแนลและทิวบ์ฟีท เมอ่ื กล้ามเน้ือท่ี แอมพูลลาหดตัวดันน้ำไปยังทิวบ์ฟีท ทิวบ์ ฟีทจะยืดยาวออก ไปดันกับพื้นที่อยู่ด้านลา่ ง ทำให้เกิดการเคลื่อนท่ี เมื่อเคลื่อนที่ไปแล้ว
43 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งการ ประเมินผลการเรยี นรู้ เรียนรู้ สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดอาศัยโครงสร้าง ารเคลอื่ นท่ี รสนเทศ กเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม จำนวน ละ 3-4 คน จากนั้นครูให้มารับ ำกจิ กรรมประกอบไปด้วย ษขนาด A3 สิง่ มีชีวติ ระบชุ อ่ื อวยั วะ/โครงสร้าง ทีใ่ ช้ในการ อวัยวะที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของสิ่งมี ปกรณ์ในการทำกิจกรรมครั้งนี้ครู ใ น ล ั ก ษ ณ ะ ข อ ง ก า ร ว อ ล ์ ค แ ร ล ลี่ อค้นหาอุปกรณ์ในการทำกิจกรรม งเรียน
วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ กลา้ มเนื้อของทิวบฟ์ ีทจะหดตัวทำให้ทิวบ์ฟีท สั้นลง ดันน้ำกลับไปที่แอมพูลลา ตามเดมิ การยืดหดของทวิ บ์ฟีท หลายๆ ครัง้ ต่อเนื่องกันทำให้ดาวทะเลเกิดการเคลื่อนที่ ไปได้ 6. แมลง การเคลื่อนไหวเกิดจากทำงาน สลับกันของ กล้ามเนื้อเฟล็กเซอร์ และเอ็ก เทนเซอร์ ซง่ึ เกาะอยโู่ พรงไคทนิ นี้ โดย กลา้ ม เนื้อเฟล็กเซอร์ ทำหน้าที่ในการงอขา และ กล้ามเนื้อเอ็กเทนเซอร์ ทำหน้าที่ในการ เหยียดขาซึ่งการทำงานเป็นแบบแอนทาโกนิ ซึมเหมือนกับคน แมลงมีระบบกล้ามเนื้อ เป็น 2 แบบ คอื - ระบบกลา้ มเนื้อทตี่ ดิ ต่อกับโคนปกี โดยตรง - ระบบกลา้ มเนอ้ื ที่ไม่ติดต่อกบั ปีกโดยตรง ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ความสามารถในการในการสือ่ สาร (การพดู การเขียน) 2. ความสามารถในการคิด
44 กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งการ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เรียนรู้
วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ (การวเิ คราะห์) 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ (กระบวนการกลมุ่ ) 4. ความสามารถในการแกป้ ญั หา (-) 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (สืบค้นข้อมูลผ่านจากอินเทอรเ์ น็ต) ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) ความม่งุ มั่นในการทำงาน ภาพท่ี 2 ภาพแ 2. หลังจากได้ร รูปภาพและบัตร ในการเคลอื่ นท่มี า โดย 1 บัตรคำอ อวัยวะ/โครงสร้า บนกระดาษ A3
45 กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ /แหลง่ การ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ เรยี นรู้ แสดงโครงสร้างทใ่ี ช้ในการเคลื่อนทีข่ อง ส่ิงมชี ีวิตชนิดตา่ ง ๆ รับชุดอุปกรณ์แล้วครูให้นักเรียนนำ รคำที่ระบุชื่ออวัยวะ/โครงสร้างที่ใช้ าจับคูก่ นั ตามความคดิ เหน็ ของกลุ่ม อาจมีสิ่งมีชีวิตมากกว่า 1 ชนิดที่ใช้ างดังกล่าวในการขับถ่าย แล้วติดลง ท่คี รูแจกให้
วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ 3. ครูเดินตรว ระหว่างอวัยวะ/ สิ่งมีชีวิต กลุ่มใด แสดงรายละเอีย เคลื่อนท่ี จากนั้น บตั รคำระบชุ ือ่ อว ให้ถูกต้อง พร้อม (วิเคราะห์) ขน้ั สรา้ งความร 1. ครูให้นักเรีย ข้อมลู แสดงรายล การเคลื่อนที่ มา เปิดโอกาสให้ร เกี่ยวกับผลงานต ประเด็นที่ต้องกา แต่จะต้องมีการห ในการโตแ้ ยง้ นนั้ 2. ครูนำนักเรีย พาวเวอร์พ้อย เร
46 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหลง่ การ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เรยี นรู้ วจสอบความถูกต้องของการจับคู่ /โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่กับ ดที่จับคู่ถูกต้องแล้วครูแจกข้อมูล ดของอวัยวะ/โครงสร้างที่ใช้ในการ นให้นักเรียนจับคู่ข้อมูลดังกล่าวกับ วัยวะ/โครงสรา้ งทใ่ี ช้ในการเคลื่อนท่ี มกับติดข้อมูลนั้นลงบนกระดาษ A3 รู้ ยนนำกระดาษ A3 ที่มีรูปภาพและ ละเอียดของอวยั วะ/โครงสร้างท่ใี ช้ใน าติดบริเวณหน้าห้องเรียนจากนั้นครู ร่วมกันอภิปรายและลงความเห็น ตนเองและเพื่อนกลุ่มอื่น ถ้าหากมี ารจะโต้แย้งครูอนุญาตให้โต้แย้งได้ หาหลักฐานเพือ่ เป็นข้อมูลสนับสนนุ ยนสรุปความรู้ที่ถูกต้องโดยใช้ ส่ือ ร่ือง การเคล่อื นท่ขี องสง่ิ มีชวี ติ (สรุป)
วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ ขน้ั สอ่ื สาร 1. ครูให้นักเร กลุ่มตัวเองที่หน นำเสนอ 1 อวัย ของสง่ิ มชี ีวติ ขัน้ ตอบแทนสงั 1. ครูให้นักเรีย เพื่อนที่คิดว่าถูก ชนิ้ งานดังกลา่ วไป ใชใ้ นการทบทวน
47 กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหล่งการ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ เรยี นรู้ รียนออกมานำเสนอข้อผลงานของ น้าชั้นเรียน โดย 1 กลุ่มให้เลือก ยวะ/โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ งคม ยนทุกคนร่วมกันติดสินชิ้นงานของ กต้องและครบถ้วนที่สุด จากนั้นนำ ปติดท่ีบริเวณผนังของหอ้ งเรียนเพี่อ นความรู้
โรงเรียนสรร กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ย แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง ภาคการศกึ ษาต้น ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6/พ และ 6/1 สาระชีววิทยา 4. เขา้ ใจการยอ่ ยอาหารของสตั ว์ และมนุษย์ การหายใจ และการแล ถา่ ย การรบั รู้ และการตอบสนอง การเคลื่อนที่ การสืบพันธุ์ และกา ไปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรยี นรู้ ม.6/10 สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของกระดกู แ ม.6/11 สังเกต และอธิบายการทำงานของข้อตอ่ ชนิดต่าง ๆ และก มนษุ ย์
48 รพยาวิทยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบบโครงกระดกู และขอ้ ตอ่ รายวชิ า ชวี วิทยา5 ว30255 ผู้สอน นายเรวัตร อยูเ่ กิด ลกเปล่ยี นแก๊ส การลำเลยี งสาร และการหมนุ เวียนเลอื ด ภูมคิ มุ้ กันของรา่ งกาย การขัย ารเจรญิ เตบิ โต ฮอร์โมน การรกั ษาดลุ ยภาพ และพฤติกรรมของสัตว์ รวมท้ังนำความรู้ และกลา้ มเนื้อที่เกยี่ วขอ้ งกบั การเคลอ่ื นไหว และเคล่ือนทข่ี องมนุษย์ การทำงานของกล้ามเน้ือโครงร่างท่ีเกย่ี วข้องกับการเคลอื่ นไหว และการเคล่ือนที่ของ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299