241 1.2.20 ความซ่ือสตั ย์สจุ รติ จรงิ ใจตอํ กัน 1.2.20 ซื่อสัตยส์ ุจริต มีความหมายวาํ ความประพฤติดี ความประพฤติ ชอบ ประพฤตติ รง และจริงใจ ไมํคิดคดทรยศ ไมํคดโกง และไมหํ ลอกลวง คนจะได๎ชื่อวาํ มคี วาม ซือ่ สัตย์ ต๎องมีความจรงิ 5 ประการ คือ 1.2.20 1. จริงตํอการงาน หมายถงึ ทาอะไรทาจรงิ มํุงใหง๎ านสาเรจ็ เกิด ประโยชนส์ วํ นตน หรือสวํ นรวมไดจ๎ ริง ๆ 1.2.20 2. จริงตํอหน๎าท่ี หมายถึง ทาจริงในงานที่ไดร๎ บั มอบหมาย ซงึ่ เรยี กวาํ หน๎าท่ีทางานเพื่องาน ทางานให๎ดที ่สี ดุ ไมํเลินเลํอ ไมหํ ละหลวม ไมหํ ลกี เลี่ยง บดิ พล้ิว คือ หลีกเล่ยี งไมํปฏบิ ตั ิตามหนา๎ ทีต่ อ๎ งเอาใจใสหํ น๎าที่ให๎งานสาเรจ็ เกิดผลดี 1.2.20 3. จริงตํอวาจา หมายถงึ การพูดความจริง ไมํกลับกลอก รักษาวาจา สตั ย์อยํางเครํงครดั พดู จริงทาจริงตามที่พูด 1.2.20 4. จริงตอํ บคุ คล หมายถึง มีความจริงใจตํอคนท่ีเก่ียวข๎อง ตํอมิตร และผร๎ู ํวมงาน จรงิ ใจตํอเจ๎านายของตน เรยี กวาํ มคี วามจงรกั ภักดี จริงใจตํอผู๎มพี ระคุณ เรียกวาํ มีความกตัญญูกตเวที 1.2.20 พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช รชั กาลท่ี 9 พระราชทานพระราชดารัส เรือ่ ง ความซื่อสตั ย์สุจริต จรงิ ใจตํอกนั อยํางตํอเนื่องตลอดมา เพราะทรง เห็นวําหากคนไทยทกุ คนได๎รํวมมอื กันชวํ ยชาติ พัฒนาชาติด๎วยความซื่อสตั ย์สุจรติ จริงใจตอํ กันแล๎ว ประเทศไทยจะเจริญก๎าวหนา๎ อยํางมาก 1.2.21 ทางานอยาํ งมีความสขุ 1.2.21 ทางานต๎องมีความสขุ ดว๎ ย ถ๎าเราทาอยาํ งไมมํ ีความสุข เราจะแพ๎ แตํถา๎ เรามีความสุข เราจะชนะ สนุกกับการทางานเพียงเทํานั้น ถือวําเราชนะแล๎ว หรือจะทางานโดย คานึงถึงความสุขท่ีเกิดจากการได๎ทาประโยชน์ให๎กับผู๎อ่ืนก็สามารถทาได๎ พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ทรงเกษมสาราญ และทรงมีความสุขทุกคราท่ีจะ ชํวยเหลอื ประชาชน 1.2.22 ความเพียร 1.2.21 ความเพยี ร หมายถึง ความก๎าวไปข๎างหน๎า ความดาเนินไป ความบากบ่ัน ความพยายาม ความอุตสาหะ ความหม่ัน ความออกแรง ความไมํถอยหลัง ความทรงไว๎ ความไมํยํอ หยํอน ความไมํทอดทิ้ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ทรงริเริ่ม ดาเนนิ งานโครงการตาํ ง ๆ ในระยะแรกท่ีไมํได๎มีความพร๎อมในการดาเนินงานมากนัก และทรงใช๎พระ ราชทรัพย์สํวนพระองค์ท้ังส้ิน แตํพระองค์ก็มิได๎ท๎อพระราชหฤทัย ทรงอดทน และมํุงม่ันดาเนินงาน นน้ั ๆ ให๎สาเร็จลุลํวง จากตวั อยํางบทพระราชนพิ นธพ์ ระมหาชนก พระมหาชนกเพียรวํายน้าอยูํ 7 วัน 7 คืน แม๎จะมองไมํเห็นฝ่ังแตํยังคงวํายตํอไป ไมํจมลง จนกลายเป็นอาหารของปลา และได๎รับความ ชํวยเหลือจน ถงึ ฝั่งไดใ๎ นทส่ี ดุ 1.2.23 รู๎ รกั สามคั คี คิ ด เ พื่ อ ง า น 1.2.21 คิดเพื่องาน ร๎ู = ต๎องร๎ูปัจจยั รปู๎ ัญหา รู๎ทางออกของปัญหา
242 รกั = เมือ่ รแ๎ู ล๎ว ต๎องเกดิ ความอยากในทางที่ดีกํอน คอื ฉนั ทะเห็นวําเป็น ประโยชนต์ อํ ประเทศชาติ ภมู ใิ จ อยากทา 1.2.21 สามัคคี = ลงมือปฏิบัติ ต๎องรํวมมอื เพ่ือเกิดพลัง แยกกันไร๎คาํ รวมกัน ไร๎เทียมทาน คิดเพอื่ ตวั เราเอง ร๎ู = ร๎จู ักทุกคนทั้งหนา๎ ท่ีการงาน ชีวติ ครอบครัวทาอยํางไร จงึ จะร๎ูจัก ใหด๎ ไี ด๎ รู๎จดุ อํอน จุดแข็ง โดยเฉพาะผบู๎ ังคบั บญั ชา รัก = เน๎นความดี ใสใํ จกันและกนั มองกนั ในแงํดี สามคั คี = จงึ จะเกิด กกกกกกกจากหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลที่ 9 จานวน 23 ขอ๎ ข๎างต๎น เมื่อวิเคราะหใ์ นสวํ นทเี่ กีย่ วขอ๎ งกบั คุณธรรมของพลเมืองดี มี 9 ข๎อ ซ่งึ พลเมือง ดีควรนาไปปฏบิ ัตใิ หเ๎ ป็นรปู ธรรม คอื กกกกกกกขอ๎ ที่ 10 การมสี วํ นรวํ ม มีสวํ นรํวมและคิดถงึ สํวนรวม กกกกกกกขอ๎ ที่ 11 ต๎องยึดประโยชน์สํวนรวม กกกกกกกขอ๎ ท่ี 12 บรกิ ารจดุ เดียว กกกกกกกขอ๎ ท่ี 16 ขาดทนุ คือกาไร กกกกกกกขอ๎ ท่ี 17 การพึง่ ตนเอง กกกกกกกขอ๎ ที่ 20 ความซ่อื สตั ยส์ จุ ริต จรงิ ใจตอํ กัน กกกกกกกขอ๎ ท่ี 21 ทางานอยาํ งมีความสขุ กกกกกกกข๎อที่ 22 ความเพียร กกกกกกกข๎อที่ 23 ร๎ู รกั สามัคคี กกกกกกก2. แนวทางการปฏิบัตหิ น้าทีพ่ ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลที่ 9 ตามหลกั การทรงงาน 2.1 การมีสํวนรวํ ม มีสํวนรํวมและคดิ ถงึ สวํ นรวม หนา๎ ท่พี ลเมอื งที่ดีมีแนวปฏบิ ัติ คอื ภารกิจสํวนรวม ทกุ คนควรเข๎าไปมสี ํวนรวํ ม คิด รํวมทาเพื่อใหภ๎ ารกจิ น้ันสาเร็จลลุ ํวง ถงึ แมว๎ ําบางครงั้ การคิดของแตลํ ะคนอาจจะไมํตรงกนั กต็ าม แตํเราต๎องปฏบิ ัตติ ามถ๎าเปน็ มตคิ วามคดิ เหน็ ของสํวนใหญํ 2.2 ต๎องยดึ ประโยชนส์ วํ นรวม หน๎าท่พี ลเมอื งทดี่ มี แี นวปฏบิ ัติ คอื จะต๎องมีความเสียสละ ในเร่ืองท่ีจาเปน็ เพ่ือผลประโยชน์ของสํวนรวมและรักษาไว๎ซ่ึงสังคมประชาธิปไตย เป็นการสํงผลตํอความมั่นคงและ ความก๎าวหน๎าขององค์กร ซ่ึงสุดท๎ายแล๎วผลประโยชน์ดังกลําวก็ย๎อนกลับมาสูํสมาชิกของสังคม เชํนการไปใช๎สิทธิเลือกตั้ง ถึงแม๎วําเราจะมีอาชีพบางอยํางที่มีรายได๎ตลอดเวลา เชํนค๎าขาย แตํก็ยอม เสียเวลาค๎าขายเพ่ือไปลงสิทธิเลือกต้ัง บางครั้งเราต๎องมีน้าใจชํวยเหลือกิจกรรมสํวนรํวม เชํน การสมัครเปน็ กรรมการเลือกตั้ง หรอื สมาคมบาเพญ็ ประโยชนส์ วํ นรวม เปน็ ตน๎ 2.3 บรกิ ารจดุ เดยี ว หน๎าที่พลเมืองที่ดีมีแนวปฏิบัติ คือ พลเมืองหลากหลายอาชีพซ่ึงมีความรู๎และ ประสบการณ์ที่แตกตํางกัน การรํวมกันแก๎ไขปัญหาหรือการบริการรํวมกัน ณ จุดเดียวกัน เพ่ือให๎ สมาชกิ ในสังคมได๎รับบรกิ ารเบ็ดเสร็จ
243 2.4 ขาดทุนคือกาไร หน๎าที่พลเมอื งทีด่ ีมีแนวปฏิบตั ิ คือ การเสยี สละผลประโยชน์ที่ตนเองจะไดร๎ บั ให๎ กันสํวนรวมแทน เพราะเม่ือสํวนรวมไดร๎ บั ผลประโยชน์น่ี เราในฐานะเปน็ สวํ นหน่งึ ของสมาชิกสงั คมก็ ไดร๎ ับผลประโยชนด์ ว๎ ย 2.5 การพ่ึงตนเอง หนา๎ ทีพ่ ลเมืองทด่ี มี ีแนวปฏบิ ตั ิ คือ พยายามพ่งึ ตนเองให๎มากทีส่ ดุ ลดการพึง่ พา ภายนอก จะทาใหส๎ ามารถแก๎ไขปัญหาในเบอื้ งต๎นได๎ 2.6 ความซ่ือสัตยส์ ุจริต จรงิ ใจตํอกัน หน๎าท่ีพลเมืองที่ดีมีแนวปฏิบัติ คือ การปฏิบัติตน ทางกาย วาจา จิตใจ ที่ตรงไปตรงมา ไมํแสดงความคดโกงไมํหลอกลวง ไมเํ อาเปรยี บผู๎อ่ืน ล่ันวาจาวําจะทางานส่ิงใดก็ต๎องทาให๎สาเร็จเป็น อยํางดี ไมํกลบั กลอก มคี วามจริงใจตํอทุกคน จนเปน็ ทไ่ี วว๎ างใจของคนทกุ คน 2.7 ทางานอยํางมีความสขุ หน๎าท่พี ลเมืองทีด่ มี ีแนวปฏิบัติ คอื ขณะทางานต๎องมีความสุขด๎วย ถา๎ เราทาอยําง ไมํมีความสุข เราจะแพ๎ แตถํ ๎าเรามีความสุข เราจะชนะ สนุกกับการทางานเพียงเทํานัน้ ถอื วาํ เราชนะ แลว๎ หรือจะทางานโดยคานงึ ถึงความสุขทีเ่ กิดจากการไดท๎ าประโยชนใ์ หก๎ ับผอู๎ ่ืนก็สามารถทาได๎ 2.8 ความเพยี ร หนา๎ ทพ่ี ลเมืองทีด่ ีมีแนวปฏิบัติ คือ การเริ่มตน๎ ทางาน หรอื ทาสง่ิ ใดนนั้ อาจไมํมี ความพร๎อมแตํต๎องอาศัยความอดทนและความมุงํ มั่น เพยี รพยายามให๎งานน้นั สาเร็จลลุ วํ งไปได๎ 2.9 ร๎ู รัก สามคั คี หน๎าท่ีพลเมืองทด่ี ีมีแนวปฏิบตั ิ คือ ต๎องมีความร๎ใู นงานที่ตนเองทาเป็นอยาํ งดกี ํอน ตอํ จากนัน้ ใหท๎ างานดว๎ ยความรกั และเม่อื ลงมอื ปฏบิ ตั ิ ถ๎าทาคนเดยี วไมสํ าเร็จกต็ ๎องใช๎บุคคลอืน่ มาชํวย ทารํวมกนั อยํางมีความสามัคคี สรปุ กกกกกกกหลกั การทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 มีจานวน 23 ข๎อ ได๎แกํ (1) ศึกษาข๎อมูลให๎เป็นระบบ (2) ระเบิดจากภายใน (3) แก๎ปัญหาจากจุดเล็ก (4) ทาตามลาดับข้ัน (5) ภูมิสังคม ภูมิศาสตร์ สังคมศาสตร์ (6) ทางานแบบองค์รวม (7) ไมํติดตารา (8) ประหยัด เรียบงําย ได๎ประโยชน์สูงสุด (9) ทาให๎งําย (10) การมีสํวนรํวม มีสํวนรํวมและคิดถึง สํวนรวม (11) ต๎องยึดประโยชน์สํวนรวม (12) บริการรวมจุดเดียว (13) ใช๎ธรรมชาติชํวยธรรมชาติ (14) ใช๎อธรรมปราบอธรรม (15) ปลูกปุาในใจคน (16) ขาดทุนคือกาไร (17) การพ่ึงตนเอง (18) พออยํพู อกิน (19) เศรษฐกิจพอเพียง ยึดแนวคิดประหยัด เรียบงําย ประโยชน์สูงสุด (20) ความ ซือ่ สตั ย์สจุ รติ จรงิ ใจตอํ กัน (21) ทางานอยํางมีความสขุ (22) ความเพียร (23) ร๎ู รัก สามัคคี
244 ใบความรู้ หัวเร่อื งท่ี 6 การเจรญิ พระราชไมตรี ณ ประเทศเครือรฐั ออสเตรเลีย และการนาพระราชกรณียกจิ ไปใช้ของประเทศสธารณรฐั แหง่ สหภาพเมียนมาร์ วตั ถปุ ระสงค์ กกกกกกก1. เพื่อให๎นกั ศึกษามคี วามรคู๎ วามเขา๎ ใจ เร่ือง การเจรญิ พระราชไมตรี ณ ประเทศเครือรฐั ออสเตรเลยี กกกกกกก2. เพอ่ื ให๎นกั ศึกษามีทักษะการแสวงหาความรู๎ เรื่อง การเจริญพระราชไมตรี ณ ประเทศ เครอื รัฐออสเตรเลยี กกกกกกก3. เพือ่ ให๎นกั ศึกษาตระหนักถงึ ความสาคัญ เรอ่ื ง การนาพระราชกรณียกจิ ไปใชข๎ อง ประเทศสาธารณรฐั แหงํ ประเทศสหภาพเมยี นมาร์ เนอื้ หา กกกกกกก1. การเจริญพระราชไมตรี ณ ประเทศเครือรัฐออสเตรเลีย กกกกกกก1. พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป่ยี มด๎วยพระอัฉริยภาพ วางพระองค์ได๎สงํางามและทรงมขี นั ติ แจ๎งประจกั ษต์ ํอสายตาชาวตํางชาติ ราลึกเหตคุ ร้ังทรงโดนหลํู พระเกียรติ ณ เครือรฐั ออสเตรเลยี กกกกกกก1. ย๎อนเร่ืองราวเมื่อคร้ังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเยือน ออสเตรเลีย และถูกนกั ศึกษามหาวิทยาลัยเมลเบริ น์ ลบหลูํพระเกยี รติ แตํพระองค์ก็เปย่ี มไปดว๎ ย พระราชธรรม “อกโกธ “ คอื กริยาท่ไี มแํ สดงความโกรธให๎ปรากฏ พร๎อมแสดงพระอัจฉริยะภาพใน การรบั มือกบั ปญั ญาเฉพาะหนา๎ ไดอ๎ ยํางดีเย่ยี ม เร่ืองราวดังกลาํ ว เมือ่ วนั ท่ี 3 กันยายน 2505 พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช เสด็จฯ นพิธีทูลเกลา๎ ฯ ถวายปรญิ ญานติ ศิ าสตร ดษุ ฎีบัณฑิตกติ ตมิ ศกั ด์ิ ณ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในคร้งั นนั้ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ทรงถกู ทา๎ ทายจากนกั ศึกษากลุํมหน่งึ ทีม่ ีความคิดรุนแรง ไมเํ ขา๎ ใจ พระองค์และเมืองไทยเปูนอยํางดี โดยบ๎างกถ็ ือปูายท่ีมขี ๎อความกลําวรา๎ ยตํอพระองค์ทําน บ๎างก็สงํ เสียงโหปํ นฮา ลบหลํพู ระเกียรติ และเกียรตภิ ูมิของชาติไทยอยํางแรง กกกกกกก1. สมเด็จพระนางเจา๎ ฯ พระบรมราชินนี าถ ซึ่งรวํ มเสดจ็ ฯดว๎ ยในครังนั้น ได๎ทรงบรรยายกก กกกกกกก1. “ตอํ จากน้ันกถ็ ึงเวลาที่พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช จะเสด็จฯ ไปพระราชทานพระราชดารชั ที่เคร่อื งขยายเสียงกลางเวที ยังไมํทันจะอะไรก็มีเสียงโหํ ปนฮาดังขึ้นมา จากกลมํุ ปัญญาชนข๎างนอกอกี แลว๎ ข๎าพเจา๎ ร๎ูสึกวํามือเย็นเฉียบ หัวใจหวิวๆ อยํางไรพิกล รู๎สึกสํงสาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนทาอะไรไมํถูก ไมํกล๎าแม๎แตํจะบอกข้ึนดูพระ พักตร์ทํานด๎วยความสงสารและเห็นพรัย ในท่ีสุดก็ฝืนใจมองข้ึนไปเพ่ือถวายกาลังพระทัย แตํแล๎ว ข๎าพเจ๎านั้นเองและท่ีเป็นผู๎ได๎กาลังใจกลับคืนมา เพราะมองดูทํานขณะท่ีทรงพระดาเนินไปยืนกลาง
245 เวทีเห็นพระพกั ตร์สงบเฉยทนั ใดน้ันเองคนที่อยูํในหอประชุมท้ังหมดก็ปรบมือเสียงสน่ันหว่ันไหวคล๎าย จะถวายกาลงั พระทยั ทําน กกกกกกก1. พอเสยี งปรมมือเงียบลง คราวน้ขี ๎าพเจ๎ามองขึ้นไปบนเวทีอีกก็เห็นพระบาทสมเดจ็ พระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช ทรงเปิดพระมาลาท่ีทรงคํูกับฉลองพระองค์ครุย แล๎วหนั พระองค์ไป โค๎งคานับกลุมํ ท่สี ํงเสียงเอะอะอยูํขา๎ งนอกอยาํ งงดงาม และนาํ ดทู ส่ี ดุ พระพกั ตรย์ ้ิมนดิ ๆ พระเนตรมี แววเยาะหนอํ ยๆ แตํพระสุรเสยี งราบเรยี บยิง่ นัก กกกกกกก1. “ขอขอบใจทํานทงั้ หลายเป็นอันมาก ในการต๎อนรบั อนั อบอํุนและสภุ าพเรียบรอ๎ ยทที่ าํ น แสดงตอํ แขกเมอื งของทําน” กกกกกกก1. รับส่งั เพียงเทํานัน้ เอง แลว๎ กห็ ันพระองค์มารบั ส่ังตํอกับผูท๎ น่ี ั่งฟงั อยํูในหอประชุม ตอนนี้ ขา๎ พเจา๎ อยากจะหัวเราะออกมาดังๆ ดว๎ ยความสะใจ เพราะเสยี งฮาน้ันเงียบลงทันทรี าวกบั ปิดสวิทช์ แล๎วตั้งแตํน้ันก็ไมมํ ีอะไรเลย ทกุ คนขา๎ งนอกข๎างในตาํ งนง่ั ฟังพระราชดารัสเฉย ทําทางดูขบคิด ขา๎ พเจา๎ เหน็ วาํ พระราชดารัสวันน้นั ดีมาก รับส่ังสดๆโดยไมํสงใช๎กระดาษเลย กกกกกกก2. การนาพระราชกรณยี กจิ ไปใช๎ของประเทศสาธารณรฐั แหงํ สหภาพเมยี นมาร์ กกกกกกก1. ความเป็นมาของโครงการ กกกกกกก1. พ้นื ทแ่ี ห๎งแลง๎ ดอนกลางของเมียนมาร์ (Central Dry Zone) เปน็ ที่รูจ๎ กั กันดีในฐานะ พ้นื ทีเ่ ขตแลง๎ และยากจนที่สุดของประเทศเมียนมารเ์ ม่ือ พ.ศ. 2522 องค์กรระวาํ งประเทศมุํงให๎ความ สนใจพัฒนาพ้ืนท่ีประสบภัยพิบัติจากพายุไซโคลนนาร์กีสโยเฉพาะรัฐบาลเมียนมาร์ นั้นขณะน้ันจึง เรียนร๎องใหอ๎ งคก์ รระหวาํ งประเทศตาํ งๆ เข๎าไปพฒั นาในเขตพนื้ ท่ีแหง๎ แล๎งหลงั ดอนกลางเพิ่มมากขึน้ กกกกกกก1. ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 มูลนิธิแมํฟูาหลวงฯด๎วยการสนบั สนุนดา๎ นงบประมาณจาก สานักงานคณะกรรมการปูองกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสานักงานความรํวมมือเพื่อ การพัฒนาระหวํางประเทศ กระทรวงการตํางประเทศ ได๎ลงนามในบันทึกความเข๎าใจรํวมกับกรม ปศุสัตว์ กระทรวงปศุสัตว์ และประมงของเมียนมาร์ในขณะนั้น เพื่อดาเนินโครงการพัฒนาทางเลือก ในการดารงชีวิตที่ยั่งยืนในเขตอาเภอเยยันซอง ซ่ึงเป็นเขตพื้นท่ียากจนที่สุดในภาคมะกวย โดยครอบคลุม 16 หมํูบ๎าน ใน 4 ตาบล เมื่อ พ.ศ. 2554 กํอนจะขยายเพิ่มเติมอีก 13 หมูํบ๎าน ใน 2 ตาบล ตามคาร๎องขอจากชมุ ชนเมื่อ พ.ศ. 2556 กกกกกกก1. กิจกรรมการพฒั นา กกกกกกก1. โครงการพฒั นาท่อี าเภอเยนนั ซอง มรี ะยะเวลาดาเนินการทั้งสิน้ 6 ปี เพ่อื ใหส๎ ามารถ แก๎ปัญหาตํางๆ อยํางเป็นข้ันเป็นตอน และพัฒนาศักยภาพของชาวบ๎านในพื้นท่ีได๎ตามกรอบเวลาที่ เหมาะสม โครงการ มีจุดมํุงหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ๎านให๎ดีข้ึนอยํางย่ังยืน ผํานการ สร๎างความมั่นคงทางอาหาร ลดรายจํายในครวั เรอื น และสร๎างรายได๎เพิ่มเตมิ ใหแ๎ กคํ รวั เรือน กกกกกกก1. การพัฒนามาใน 3 ปีแรก มํงุ เน๎นการแกป๎ ัญหา “อยูรํ อด”และความต๎องการพน้ื ฐานของ ชมุ ชน กจิ กรรมดงั กลําวครอบคลมุ การพัฒนาแหลํงน้า การจัดตั้งกองทุนเซรํุมแก๎พิษงูเพ่ือชํวยคนที่ถูก งกู ดั การพฒั นาด๎านพลงั งานทางเลอื ก และการพฒั นาดา๎ นปศสุ ตั ว์ ท้ังนี้ ปัญหาการขาดแคลนน้าสํงผล ให๎ศกั ยภาพด๎านการเกษตรมีจากัด วถิ ชี ีวติ ของชมุ ชนท่ีน่ีจึงพ่ึงพาปสุสัตว์เป็นหลัก และปศุสัตว์นับเป็น สินทรัพย์สาคญั ของผ๎คู นในเขตพน้ื ที่แหง๎ แล๎งน้ี ดงั นั้น โครงการจงึ ให๎ความสาคญั เป็นพิเศษแกํโครงการ พฒั นาด๎านปศุสัตว์แบบครบวงจร ไมํวําจะเป็นการฝึกอบรมเจ๎าหน๎าที่สัตวบาล การจัดต้ังกองทุน
246 ยารักษาสัตว์ หรือการเพ่ิมปริมาณปศุสัตว์ในพื้นที่ โดยปลํอยก๎ูแพะให๎แกํครัวเรือนท่ียากจนท่ีสุด ผาํ นโครงการ “ธนาคารแพะ” รวมถงึ การพฒั นาอาหารสัตว์ ท้งั นี้ การพฒั นาอาสาสมัครพัฒนาชุมชน ให๎เป็นเจา๎ หนา๎ ทส่ี ตั วบาลนี้ ไมเํ พยี งพอตํอโจทย์ในเร่อื งการดแู ลสขุ ภาพสุขภาพสัตว์เทําน้ัน แตํยังชํวย พัฒนาศักยภาพให๎พวกเขาเป็นส่ือกลางระหวํางโครงการและชุมชน ให๎คนในพื้นท่ีเป็นศูนย์กลางของ กระบวนการพัฒนาด๎วยตนเอง และสามารถพึง่ พาตนเองได๎ในระยะยาว กกกกกกก1. กํอนสน้ิ สดุ ปีที่ 3 ของการดาเนนิ วาน มูลนธิ ิแมํฟาู หลวงฯ ของการดาเนนิ งานมลู นธิ ิ แมํฟูาหลวงฯ ได๎รํวมกับชุมชนในการสร๎างทางเลือกเพ่ือชีวิตความเป็นอยูํที่ยั่งยืนตํอไปในอนาคต โดยมุํงเน๎นกิจกรรมแปรรูปสร๎างมูลคําเพิ่มแกํวัฒถุดิบในท๎องถ่ิน เชํน ถ่ัวลิสง งา และน้าตาลโตนด มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ตามความต๎องการของตลาด จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ คุกก้ีถั่ว ถ่ัวตัด งาตัด และถั่วลิสงค่ัว ภายใต๎แบรนด์ “Happy Orl” ซ่ึงถือเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่จะ พฒั นาความเปน็ อยขูํ องคนในชุมชนได๎อยาํ งย่ังยืนหลังจากโครงการฯส้ินสุดลงในพ.ศ. 2559 สรปุ กกกกกกกพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ มหาภูมิพลอดลุ ยเดช พรอ๎ มดว๎ ยสมเดจ็ พระนางเจา๎ สิรกิ ิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ไดเ๎ สดจ็ พระราชดาเนินเยอื นประเทศเครือรัฐออสเตรเลีย เสด็จฯ ในพิธีทูลเกล๎าฯ ถวายปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักด์ิ ณ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ถูกนักศึกษามหาวิทยาลัยเมลเบิร์นลบหลูํพระเกียรติ แตํพระองค์ก็เป่ียมไปด๎วยพระราชธรรม “อกโกธ” คือ กริยาท่ีไมํแสดงความโกรธให๎ปรากฏ พร๎อมแสดงพระอัจฉริยะภาพในการรับมือกับ ปญั ญาเฉพาะหน๎าไดอ๎ ยาํ งดีเยยี่ ม พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช จึงเป็นที่ยอมรับ ของนานาประเทศ เพ่อื เป็นการเจรญิ พระราชไมตรีกบั บรรดามิตรประเทศ และเพ่ือนาความปรารถนา ดีของประชาชนชาวไทยไปมอบให๎กับประชาชนในประเทศตํางๆ เป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่แนบ แนํนกับประเทศที่สัมพันธ์ดีกับไทย จึงเป็นการแสดง ไมตรีจิต และยืนยันความสัมพันธ์ที่อาจนาไปสํู การสานตํอความสัมพันธ์ด๎านการค๎าและการลงทุน หรือยกระดับความสัมพันธ์กับประเทศท่ีไมํได๎ ใกล๎ชดิ กับประเทศไทย อกี ทง้ั ยังชวํ ยเสรมิ สรา๎ งความเข๎าใจอนั ดี และชวํ ยกระชบั ความสัมพันธ์ทางด๎าน การเมือง เศรษฐกิจ สังคม กกกกกกกในดา๎ นพระราชกรณียกจิ พระองค์ได๎รวมพัฒนาประเทศสาธารณรฐั แหํงสภาพเมยี นมาร์ ที่อาเภอเยนันซอง มีระยะเวลาดาเนินการทั้งสิ้น 6 ปี เพ่ือให๎สามารถแก๎ปัญหาตําง ๆ อยํางเป็น ขั้นเป็นตอน และพัฒนาศักยภาพของชาวบ๎านในพ้ืนท่ีได๎ตามกรอบเวลาท่ีเหมาะสม โครงการ มีจุดมงุํ หมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ๎านให๎ดีขึ้นอยํางย่ังยืน ผํานการสร๎างความม่ันคงทาง อาหาร ลดรายจาํ ยในครวั เรอื น และสรา๎ งรายได๎เพิ่มเตมิ ให๎แกํครัวเรอื น
247 ใบความรู้ หวั เรอ่ื งท่ี 7 การนอ้ มนาพระราชจริยวตั รและพระราชกรณยี กิจ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั วัตถปุ ระสงค์ กกกกกกก1. เพือ่ ให๎นักศึกษามีความรค๎ู วามเข๎าใจเร่ือง การน๎อมนาพระราชจรยิ วตั รและพระราช กรณียกจิ ไปใชใ๎ นชวี ติ ประจาวัน กกกกกกก2. เพอ่ื ให๎นักศึกษามีทักษะการแสวงหาความร๎ูเรื่อง การน๎อมนาพระราชจริยวตั รและ พระราชกรณยี กิจไปใช๎ในชวี ติ ประจาวัน กกกกกกก3. เพ่อื ให๎นักศึกษามีความตระหนักถงึ ความสาคัญเรื่อง การน๎อมนาพระราชจรยิ วัตรและ พระราชกรณียกจิ ไปใช๎ในชีวิตประจาวัน เน้ือหา กกกกกกก1. การนอ้ มนาพระราชจริยวัตรไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั กกกกกกก1. 1.1 พระราชจริยวัตรไปใช๎ในชีวิตประจาวัน กกกกกกก1. 1.1 พระราชจรยิ วัตรของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รชั กาล ท่ี 9 ในเรื่องความประหยัด เรียบงําย เป็นหนึ่งในพระราชจริยวัตรที่ปวงชนชาวไทยควรปฏิบัติตาม อยํางยิ่ง แม๎จะทรงเป็นราชาผย๎ู ิ่งใหญํแตจํ ริยวตั รแสนเรียบงํายน้นั กลับยงิ่ ทาให๎ปวงชนชาวไทยยกยํอง สรรเสริญมากยิ่งข้ึน พระราชจริยวัตร 5 ประการตํอไปนี้ เป็นจริยวัตรที่พระองค์ทรงทาตลอด พระชนม์ชพี โดยยดึ ถอื คตสิ น้ั ๆที่วํา \"ประหยัด เรยี บงาํ ย ไดป๎ ระโยชนส์ งู สดุ \" ดงั นี้ กกกกกกก1. 1.1 1.1.1 ดนิ สอไม๎ทรงงาน ทรงใชด๎ ินสอไม๎ในการทรงงานตํางๆ และจะใชจ๎ นกดุ สน้ั ดงั เชนํ ท่ีมีคาบอกเลําจาก กองงานในพระองค์ คือ ทาํ นผหู๎ ญิงบุตรี วีระไวทยะ บอกวาํ ปีหนึ่งพระองค์ ทรงเบิกดินสอ 12 แทํง เดือนละแทํงใช๎จนกระท่ังกุด ใครอยําไปทิ้งของทํานนะจะกร้ิวเลยโดยทรง ประหยัดทุกอยําง ทรงใช๎ดินสอไม๎ราคาไมํแพง มียางลบติดอยํูตรงปลายดินสอเพื่อลบคาที่เขียนผิด ออกได๎งําย ไมํเปลืองกระดาษเหมือนใช๎ปากกา และจะทรงเหลาดินสอด๎วยพระองค์เองเหน็บไว๎ท่ี กระเปา๋ ฉลองพระองคเ์ ดือนละน่งึ แทํง ใช๎จนกดุ สั้น กกกกกกก1. 1.1 1.1.2 หลอดยาสพี ระทนต์ ดร.สุเมธ ตนั ติเวชกลุ เลขาธกิ ารมลู นิธิชัยพัฒนา ได๎เลําไว๎ในหนังสือตามรอยพระยุคลบาท ครูแหํงแผํนดิน (2556, หน๎า 94) ความตอนหนึ่งวํา “พระองค์ทรงไมํยดึ ตดิ กับวัตถุ ทรงประหยัดมาก คงเคยเหน็ ภาพหลอดยาสฟี ัน พระองค์ทรงบีบหลอด ยาสีฟันจนลีบ มหาดเล็กเชิญออก นาหลอดใหมํมาวาง ทรงมีรับส่ังให๎นากลับมา แล๎วรับส่ังกับ ทนั ตแพทยว์ าํ ท่เี หลืออยํูนฉ้ี ันใช๎ตํอไดอ๎ กี 5 วนั ”
248 กกกกกกก1. 1.1 1.1.3 ไมํโปรดการสวมใสเํ ครือ่ งประดบั มากมาย สวมเพียงนาฬิกาขอ๎ มือ เวลาเสดจ็ ฯ ปฏิบตั พิ ระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไมํโปรดสวม เครื่องประดับ แหวน สร๎อยใดๆ ทรงสวมเพียงนาฬิกาข๎อพระหัตถ์ ดูพระองค์ทํานมีอะไรนาฬิกาของ พระองคท์ ํานพระองคเ์ รียกของพระองคเ์ องวาํ “ย่หี อ๎ ใสแํ ล๎วโก๎” ทํานบอก “นาฬิกาฉันย่ีห๎อใสํแล๎วโก๎” ไมํกี่ร๎อยบาทนะครับ ในขณะท่ีพวกเราต๎องจอเป็นสัญญลักษณ์ท่ีทาอยํางน้ัน แสดงวําในตัวไมํมีอะไร เลย เพราะฉะนั้นต๎องการเฟอร์นิเจอร์มาประดับเพราะไส๎ในไมํมีอะไรเลย คนที่เขามีอะไรแล๎ว เขาไมํ สนใจพวกอะไรสิ่งตาํ งๆเหลาํ น้ี จาหลกั ไวอ๎ นั หน่ึง โหงวเฮ๎งมันฟูอง คนที่พอกอะไรไว๎แสดงวําในตัวไมํมี อะไรเลย เปลือก จะเข๎ากับกรณีใครก็ไมํรู๎ดูกันเอาเอง แตํถ๎าเป็นคนท่ีเขาไมํสนใจอะไร มันไร๎สาระ ยกตัวอยําง เชํน การร๎จู ักประหยัด ออํ นนอ๎ มถอํ มตน เรยี บงาํ ย เปน็ สิง่ ท่คี วรจะยดึ ถอื กกกกกกก1. 1.1 1.1.4 ยานพาหนะ ทรงเลอื กใชย๎ านพาหนะทไี่ มใํ ช๎เชอื้ เพลิงจากฟอสซิล ยามน้ามันมีราคาสูง รวมถึงพระราชดารัสที่วํา \"นั่งรถหารสอง\" ทรงรับส่ังกับข๎าราชบริพารเสมอวํา การนง่ั รถคนละคันเปน็ การสน้ิ เปลืองจงึ ใหน๎ ั่งรวมกนั ไมํโปรดใหม๎ ีขบวนรถยาวเหยยี ด กกกกกกก1. 1.1 1.1.5 ทรงฉลองพระองค์และสนบั เพลา จะทรงใชจ๎ นกวําจะเกําและเลอื กท่ี ราคาถูก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได๎กลําวถึงพระราชดาริและพระราช จรยิ วตั รในพระบาทสมเด็จพระเจา๎ อยูํหัวตลอดระยะเวลาท่ีทรงครองราชย์ ได๎นาคากลําวของกองงาน ในพระองค์ โดยทํานผ๎ูหญิงบุตรี วีระไวทยะ มาบอกกลําวให๎ฟังวํา \"หากนาพระบรมฉายาลักษณ์เกําๆ มาเปรียบเทียบกันในระยะเวลาหํางกันสิบปี ย่ีสิบปี จะสังเกตเห็นได๎วํา ฉลองพระองค์และสนับเพลา หลายองค์ก็ยังทรงใช๎อยูํ ดังเชํน ฉลองพระบาทใบ (ร๎องเท๎าผ๎าใบ) ก็ยังทรงใช๎แบบเดิม ราคาไมํกี่ รอ๎ ยบาท\" กกกกกกก1. 1.1 กลําวโดยสรปุ นักศึกษาควรน๎อมนาพระราชจริยวัตรในเร่ืองความเรียบงาํ ย ประหยัดมาใช๎กับตนเองในด๎านการศึกษา ด๎วยการท่ีนักเรียน นักศึกษารู๎จักใช๎วัสดุการศึกษาให๎ ประหยดั เรียบงาํ ย ราคาถูก และสามารถใช๎ประโยชน์ในการศึกษาไดค๎ ๎มุ คําสงู สุด กกกกกกก1. 1.2 พระราชจรยิ วัตรท่เี กย่ี วขอ๎ งกับครอบครัว กกกกกกก1. 1.2 1.2.1 ในฐานะบตุ ร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช รัชกาล ท่ี 9 ในฐานะเปน็ บุตร ทรงเชอื่ ฟงั ในคาสั่งสอนของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นอยํางยิ่ง ทรงจดบันทึกคาสั่งสอนแล๎วนามาปฏิบัติ ดังพระราโชวาทหน่ึงท่ีมีความวํา “ในครอบครัวเรา ความ รับผิดชอบเป็นของท่ีไมํต๎องคิด เป็นธรรมชาติ สิ่งท่ีสอนอันแรกคือ เราจะทาอะไรให๎เมืองไทย ถ๎าไมํมี ความรับผิดชอบจะไปชํวยเมืองไทยได๎อยํางไร” ในทุกคร้ังที่สมเด็จยําหรือสมเด็จพระศรีนครินทราบ รมราชชนนี ตรัสสอนไมํวําเรื่องใด ในหลวงจะทรงนากระดาษมาจดและมีพระราชดารัสตอบวํา “อยากฟังแมํสอนอีก” อยูํเสมอ นอกจากน้ีพสกนิกรชาวไทยยังได๎เห็นภาพความประทับใจของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รชั กาลท9่ี ได๎แสดงความรัก ความกตัญญู ด๎วยการ เอาใจใสํดูแลให๎สมเด็จยําได๎รับความสะดวกสบายอยํูเป็นนิจ รวมถึงภาพแสดงออกถึงความรักที่มีตํอ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นที่ประจักษ์อยํางตํอเน่ืองสม่าเสมอทุกต้ังที่ได๎พบกับสมเด็จ พระศรนี ครินทราบรมราชชนนี
249 กกกกกกก1. 1.2 1.2.1 หน๎าทพ่ี ลเมืองท่ีดี มีแนวปฏบิ ัติ ในฐานะลูก ควรเชอ่ื ฟังคาสั่งสอนของบดิ า มารดาโดยเฉพาะในเรื่องของความรับผิดชอบ ควรมกี ารนาไปปฏบิ ัติอยํางเครงํ ครดั นอกจากนใ้ี น ฐานะบุตรตอ๎ งมคี วามกตัญญูตอํ บดิ ามารดา และควรแสดงความรกั เคารพตํอบดิ ามารดา กกกกกกก1. 1.2 1.2.2 ในฐานะพํอ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาล ท่ี 9 แม๎มีพระราชกรณียกิจมากมายและทรงงานอยํางหนัก แตํพระองค์ทรงอบรมดูแลพระราชโอรส และพระราชธิดาทั้ง 4 พระองค์ด๎วย ความรัก โดยมีพระราชประสงค์ในการอบรมทุกพระองค์ให๎รู๎จัก ชีวิตของคนสามัญมากท่ีสุด ไมํทรงต๎องการให๎พระราชโอรสพระราชธิดาถือตนวําเป็นลูกเจ๎า ดังพระ ราชดารัสในสมเด็จนางเจ๎าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่9 ได๎พระราชทานให๎แกํคณะบุคคลตํางๆ ที่มาเข๎าเฝูาฯ ถวายพระพรชัยมงคลในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราช วังดุสิต เม่ือวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2522 ความวํา “พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยํูหัวทรงสอนลูกๆ ทกุ คน สอนข๎าพเจา๎ กํอน และก็สอนลกู วํา เมอ่ื คนเขายกยอํ งนับถือให๎เปน็ ประมุขเทําไร เราต๎องร๎ูสึกวํา เราต๎องทางานให๎หนักกวําทุกคน ต๎องมีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ ข๎อสาคัญเป็นคนดีให๎รู๎จัก เสียสละ ย่ิงเกิดมาในตาแหนํงของลูกของประมุขแล๎วก็ย่ิงต๎องเสียสละมากขึ้น ต๎องท้ังเรียนและต๎อง ทางานไปดว๎ ยและก็ต๎องพยายามทาให๎ได๎ดี” กกกกกกก1. 1.2 1.2.1 หนา๎ ทพ่ี ลเมืองที่ดี มีแนวปฏบิ ตั ิ ตอ๎ งอบรมสงั่ สอนบุตรใหเ๎ ป็นคนดีมีความ เสยี สละ รับผดิ ชอบหน๎าท่ีทีต่ ๎องปฏิบตั ิให๎ดี โดยเฉพาะในวัยเยาวต์ ๎องตัง้ ใจศึกษาเลําเรยี นและทางานที่ พํอแมํหรอื ครูมอบหมายให๎ทาเป็นอยํางดี นอกจากนี้พํอแมํต๎องสงํ เสรมิ ให๎บตุ รได๎ออกกาลังกาย เพือ่ ให๎ราํ งกายแขง็ แรง ใชเ๎ วลาวาํ งให๎เป็นประโยชน์ รวมถึงแนะนาสงํ เสริมให๎บุตรไดเ๎ รียนร๎ู ศลิ ปะ ดนตรี เพ่ือขัดเกลาจิตใจใหอ๎ ํอนโยน กกกกกกก1. 1.2 1.2.3 ในฐานะสามี พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช รัชกาล ที่ 9 ในฐานะพระสวามีสมเดจ็ นางเจา๎ ฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลท่ี9 ได๎ทรงให๎เกียรติตั้งแตํวันที่มี พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสโปรดให๎มีการจดทะเบียนสมรส นอกจากนี้ยังทรงดูแลในฐานะสามีต๎อง ดูแลภรรยาเมื่อปฏิบัติงานหรือปฏิบัติพระราชกรณียกิจเยี่ยมราษฎร ภาพที่พสกนิกรได๎พบเห็นมักจะ เป็นภาพท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9 ยืนพระกร (แขน) หรือพระ หัตถ์ (มือ) ให๎สมเด็จนางเจ๎าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลท่ี9 ได๎จับขณะทรงเดินไปในท่ีตํางๆของ แผํนดินไทย รวมถึงการให๎เกียรติในฐานะภรรยา เมื่อมีพระราชอาคันตุกะได๎เข๎าเฝูา พสกนิกรมักทรง ได๎เห็นภาพใหส๎ มเดจ็ นางเจา๎ ฯ พระบรมราชินนี าถ ในรชั กาลท9่ี นั่งเคยี งขา๎ งหรือทรงประทับยืนเคียงคํู กันปฏบิ ตั ิพระราชกรณยี กจิ ตลอดจนบางครัง้ ทง้ั สองพระองค์สัมผสั พระหตั ถใ์ ห๎กาลังพระราชหฤทัยซ่ึง กนั และกนั ด๎วย กกกกกกก1. 1.2 1.2.1 หน๎าที่พลเมืองท่ี ดีมีแนวปฏิบัติ โดยสามีในฐานะเป็นสุภาพบุรุษต๎องให๎ เกียรติเกียรติสุภาพสตรี ดูแลคํูครองด๎วยความรัก ให๎เกียรติกันและกัน เม่ือพบปัญหาต๎องรํวมกัน ตดั สนิ ใจแก๎ไขปญั หาอยาํ งตง้ั มั่นในความซอ่ื สัตย์สุจรติ และความปรารถนาดี กกกกกกก1. 1.2 1.2.4 ในฐานะผนู๎ าครอบครวั พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลที่9 ได๎ทรงเป็นผู๎ครอบครัวที่ดี พระองค์ทรงเป็นแบบอยํางให๎สมเด็จนางเจ๎าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลท่ี9 พระราชโอรสและพระราชธิดาในการทรงงานเพื่อประโยชน์สุขของ พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด นอกจากนี้พระองค์ยังได๎ทรงสั่งสอนทุกพระองค์ให๎ทรงงานด๎วยความ
250 มุํงม่ัน เสียสละ และชํวยพสกนิกรให๎พ๎นจากความทุกข์ยากลาบาก พสกนิกรจึงได๎เห็นทุกพระองค์ได๎ รํวมกันทางาน บาบัดทุกข์บารุงสุขให๎กับราษฎรมาอยํางตํอเน่ือง นอกจากนี้พระองค์ทํานยังได๎ทรง ประทานพระราชโชวาทให๎กับประชาชนอยํางตํอเนื่องในฐานะผู๎นาครอบครัวของชนชาวไทย เพื่อให๎ สามารถดาเนนิ ชวี ิตไดอ๎ ยาํ งมีความสขุ กกกกกกก1. 1.2 1.2.1 หนา๎ ทพ่ี ลเมอื งท่ดี ี มีแนวปฏิบัติ ในฐานะผู๎นาครอบครัว ต๎องเป็นแบบอยําง ในการปฏิบตั ิได๎ ปฏบิ ัตชิ อบ ใหบ๎ ุตรได๎เหน็ และทาตาม รวมถึงสั่งสอนให๎บุตรทางานท่ีเป็นบทบาทของ ตนเองใหด๎ ที ่สี ดุ กกกกกกก2. การนอ้ มนาพระราชกรณยี กิจไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั กกกกกกก2. 2.1 โรงเรียน กกกกกกก2. 2.1 พระองค์มีแนวพระราชดารใิ ห๎วางรากฐานความร๎ูและการศึกษาอยํางท่ัวถงึ และ เพียงพอ ซึ่งจะสํงผลตํอการสร๎างคนให๎มาพัฒนาประเทศตํอไป โดย “สร๎างโอกาสให๎ประชาชนได๎รับ ความรู๎” ในทกุ ระดับของการศกึ ษาท้งั ในระบบและนอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยนับต้ังแตํใน ระดับปัจเจกบุคคล จนถึงระดับประเทศและทรง “สร๎างรากฐานอยํางทั่วถึง” โดยพระราชทาน พระราชดารใิ ห๎ราษฎรทดี่ ๎อยโอกาส ไมํไดร๎ ับการศกึ ษาในโรงเรียน ให๎ไดร๎ บั การศกึ ษาอยํางเทําเทียมกัน ดังเห็นได๎จากการพระราชทานพระราชทรัพย์สํวนพระองค์หรือท่ีดิน ในการจัดสร๎างโรงเรียนตํางๆ สาหรับจังหวัดประจวบคีรขี ันธ์ ไดแ๎ กํ โรงเรียนวังไกลกังวล อาเภอหวั หิน จงั หวดั ประจวบคีรขี ันธ์ กกกกกกก2. 2.1 โรงเรียนวงั ไกลกังวล ตง้ั อยูํท่ีอาเภอหัวหิน จังหวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ เป็นโรงเรียนที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลมีพระบรมราชานุญาตให๎จัดต้ังข้ึน เมื่อวันท่ี 22มถิ นุ ายน พ.ศ. 2481 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให๎การศึกษาแกํบุตรหลานของเจ๎าหน๎าที่ผู๎รักษาวังไกล กังวล ซ่ึงมีอยํูจานวนมากแตํไมํมีสถานที่เลําเรียน มีฐานะเป็นโรงเรียนราษฎร์ท่ีได๎พระราชอุปการะ คําใช๎จํายจากเงินพระราชกุศลเปน็ รายปี กกกกกกก2. 2.1 โรงเรยี นวงั ไกลวงั กล เปิดสอนนักเรียนต้ังแตํชน้ั เดก็ เล็กข้นึ ไปจนถงึ ชัน้ มัธยมศึกษา ปีที่ 6 และเปิดสอนหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นเพ่ิมเติมด๎วย โรงเรียนวังไกลกังวลได๎อยูํในพระบรม ราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและได๎มีการพัฒนาปรัปปรุงมาเป็น ลาดับ อาทิ พ.ศ. 2497 ทรงพระกรุณาโปรดเกล๎าฯ พระราชทานอาคารท่ีพักกองรักษาการณ์วังไกล กังวลให๎เป็นอาคารเรียนแทนอาคารไม๎เกําท่ีชารุดทรุดโทรมมาก อาณาบริเวณน้ีมีเนื้อท่ี 14 ไรํ 2 งาน 7 ตารางวา ตํอมาได๎สร๎างอาคารเรียนเพ่ิมขึ้นอีก ใน พ.ศ. 2522 ทรงพระกรุณาโปรดเกล๎าฯ ใหเ๎ ปลีย่ นแปลงการบริหารโรงเรียนวงั ไกลกังวล จากการบรหิ ารโดยมคี รใู หญเํ ปน็ ผู๎บริหารด๎านวิชาการ หัวหน๎าแผนกวังไกลกังวล ปัจจุบันเรียกหัวหน๎าสํวนวังไกลกังวลเป็นท้ังเจ๎าของและผ๎ูจัดการ ควบคุมดูแลท่ัวไป เปล่ียนมาเป็นการบริหารโดยคณะกรรมการเรียกวํา \"กรรมการบริหารโรงเรียน วงั ไกลกังวล\" ประกอบด๎วยผ๎ูทรงคุณวุฒิทางด๎านการบริหารโรงเรียน และทางด๎านวิชาการข๎าราชการ ช้ันผ๎ูใหญํฝุายกระทรวง ศึกษาธิการและฝุายบ๎านเมืองตลอดจนเจ๎าหน๎าท่ีช้ันผ๎ูใหญํของสานัก พระราชวังและของโรงเรียน นอกจากน้ียังเปิดโอกาสให๎ผู๎แทนสมาคมผู๎ปกครองเป็นกรรมการด๎วย ทั้งนี้เพื่อให๎โรงเรียนวังไกลกังวลเป็นโรงเรียนท่ีมีสมรรถภาพ สามารถประสิทธิ์ประสาทวิทยาการแกํ นักเรียนได๎ดีข้ึน ใน พ.ศ. 2526 คณะกรรมการบริหารโรงเรียนได๎จัดให๎มีศูนย์พัฒนาเด็กกํอนวัยเรียน เพ่ือให๎การศึกษาอบรมเลี้ยงดูแกํเด็กกํอนวัยเรียน ใน พ.ศ. 2527 คณะกรรมการบริหารโรงเรียนได๎
251 ประสานงานกบั กรมอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ ารจัดสรรงบประมาณสร๎างอาคารเรียนสารพัดชําง วงั ไกลกังวล เพื่อเปิดสอนหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชํางฝีมือ (ปชม.) และหลกั สูตรประกาศ นียบตั รวิชาชพี (วช.1 หรือ วช.2) วิชาท่ีเปิดสอนจะคานึงถึงอาชีพของท๎องถ่ิน เป็นสาคัญ อันเป็นการสนองโครงการตามพระราชดาริเก่ียวกับศิลปาชีพพิเศษด๎วย และใน ขณะเดียวกันนักเรียนของโรงเรียนวังไกลกังวลสามารถใช๎ห๎องฝึกงานของโรงเรียนสารพัดชํางเป็นท่ี ฝกึ งานในชวั่ โมงเรียนวิชาการงานพนื้ ฐานอาชพี ไดอ๎ ีกด๎วย กกกกกกก2. 2.1 นอกจากนใี้ นปฉี ลองสริ ิราชสมบตั ิครบ 50 ปี กระทรวงศึกษาธิการโดยการ ประสานงานจากนายขวัญแก๎ว วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวังเสนอให๎กรมสามัญศึกษาจัด การศึกษาระดับมัธยมศึกษา ด๎วยระบบทางไกลผํานดาวเทียม เพื่อเฉลิมพระเกียรติในปีฉลองสิริราช สมบัติครบ 50 ปี และถวายเป็นพระราชกุศลแดํสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซ่ึงมีพระมหา กรุณาธิคุณใหญํหลวงตํอการเสริมสร๎าง ยกระดับการศึกษาและคุณภาพชีวิตของปวงประชาราษฎร์ อยํางทั่วถึงตลอดมา การศึกษาทางไกลผํานดาวเทียม นอกจากจะเป็นประโยชน์ในการทาให๎นักเรียน ในสํวนภูมิภาคหรือชนบทหํางไกล ได๎มีโอกาสรับประสบการณ์การเรียนร๎ูที่มีคุณภาพไมํด๎อยกวํา โรงเรียนที่มีคุณภาพและได๎มาตรฐานแล๎ว ยังจะใช๎เป็นสื่อในการเผยแพรํแลกเปลี่ยนข๎อมูลขําวสารที่ เป็นประโยชน์ตํอการพัฒนาการศึกษาได๎อยํางมีประสิทธิภาพอีกด๎วย โดยได๎ติดต้ังสถานีสํงสัญญาณ ผํานดาวเทียม เพื่อออกอากาศการเรียนการสอนและรายการทางการศึกษา ณ โรงเรียนวังไกลกังวล จงั หวัดประจวบคีรี ขันธ์ ซึ่งได๎ทดลองออกอากาศต้ังแตํวันที่ 5 ธันวาคม 2538 เป็นต๎นมา ดาเนินการ ออกอากาศรายการสอน ระดบั มธั ยมศึกษาสายสามญั ตลอดจนรายการทางการศึกษาท่ีเก่ียวข๎อง และ ตดิ ตงั้ สถานีรบั สัญญาณในโรงเรยี นมธั ยมศึกษา ในปีการศึกษา 2538 จานวนไมํต่ากวํา 100 โรงเรียน และขยายสถานีรับในสวํ นของโรงเรียนสังกัดกรมสามญั ศกึ ษา ปลี ะ 800 แหงํ จนครบ 2,500 โรงเรียน ในสนิ้ ปี 2544 กกกกกกก2. 2.1 โรงเรียนรมํ เกลา๎ ก็เปน็ สถานศึกษาในระดับมธั ยมศึกษา ในหลายจังหวัดท่ีเกิดขึน้ จากพระราชดาริ ทจ่ี ะใหท๎ หารออกไปปฏิบัติภารกิจในท๎องท่ีทุรกันดาร ได๎ทาประโยชน์ตํอชุมชน และ มีสํวนชํวยเหลือประชาชนในด๎านการศึกษา ตามโอกาสอันควร โดยพระราชทานพระราชทรัพย์สํวน พระองค์ ให๎ทหารจัดสร๎างโรงเรียนข้ึนในจังหวัดนครพนม จังหวัดสกลนคร จังหวัดนราธิวาส จังหวัด ปราจีนบุรีและจังหวัดแมํฮํองสอน เป็นต๎น เพ่ือชํวยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนสถานศึกษาสาหรับ เยาวชน และยังเป็นการสํงเสริมความเข๎าใจอันดี ระหวํางเจ๎าหน๎าที่ทหารที่ไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ นนั้ ๆ กับราษฎรเจ๎าของท๎องท่ีอีกโสตหนงึ่ ด๎วย ซ่ึงในการดาเนินงานจัดสร๎างโรงเรียน ทางฝุายทหารได๎ ติดตํอประสานงานกับเจ๎าหน๎าที่ฝุายปกครอง และฝุายศึกษาธิการ เพื่อเลือกสถานที่ตั้งโรงเรียนท่ี เหมาะสมกับความจาเป็นท่ีสุด ซ่ึงปรากฎวําราษฎรในท๎องที่ที่มีการสร๎างโรงเรียน ได๎พากันรํวมอุทิศ แรงกายชํวยในการกํอสร๎าง ตลอดจนอุทิศทุนทรัพย์สมทบเป็นทุนในการจัดซื้ออุปกรณ์ตํางๆ ที่จะ นาไปใชใ๎ นการกํอสร๎างโรงเรยี น เพอ่ื เป็นการโดยเสด็จพระราชกุศลด๎วย และเม่ือการกํอสร๎างโรงเรียน แล๎วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยํหู ัว ไดเ๎ สด็จพระราชดาเนนิ ไปทรงเปิดโรงเรียนเหลําน้ัน พร๎อมทั้ง พระราชทานนามวํา โรงเรียนรํมเกล๎า ซ่ึงในปัจจุบันมีท้ังโรงเรียนระดับประถมศึกษา และระดับ มัธยมศึกษา ควรน๎อมนามาใช๎ด๎วยการท่ีเห็นความสาคัญด๎านการศึกษา ปฏิบัติตนเป็นแบบอยําง ใน เร่ืองการมีระเบียบวินัยความสามัคคี ในเรือ่ งซือ่ สัตย์สจุ ริต ขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝุหาความรู๎ ให๎เป็น
252 พลเมืองท่ดี ีมคี วามร๎ูความสามารถ มที ักษะกระบวนการคิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์มีคุณธรรม และ อยํูรํวมกับผู๎อื่นได๎อยํางมีความสุข และควรทาตัวเป็นคนดี ทาตัวให๎เกิดประโยชน์แกํประเทศชาติให๎ มากท่สี ุด กกกกกกก2. 2.2 ทอ๎ งถิน่ กกกกกกก2. 2.2 สงิ่ หน่งึ พระบาทสมเดจ็ พระเจ๎าอยูหํ วั ทรงเป็นหวํ งและทรงหาวธิ ีการแกไ๎ ขอยูํก็คือ เร่ืองการพัฒนาชนบทให๎เจริญก๎าวหน๎า เพราะทรงทราบดีวํามีข๎อจากัดและมีอุปสรรคในด๎านตําง ๆ มาก ทั้งด๎านเศรษฐกิจและสังคม ด๎านการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของราษฎรในท๎องถิ่น ที่สาคัญคือชาว ชนบทขาดความร๎ูความสามารถ และส่ิงจาเป็นขั้นพื้นฐานในการดารงชีวิต โดยเฉพาะอยํางย่ิงการท่ี เกษตรกรขาดความร๎ู ในเร่ืองการประกอบอาชีพเกษตรกรรม อยํางมีหลักวิชา รวมทั้งอุปสรรคปัญหา อื่น ๆ เชํนขาดท่ีดินทากินเป็นของตนเอง ขาดแคลนแหลํงน้าท่ีจะใช๎ทาการเกษตรและใช๎อุปโภค บริโภคเป็นต๎น แตํด๎วยพระราชหฤทัยท่ีมุํงม่ันในการชํวยเหลือราษฎรให๎พ๎นหรือบรรเทาจากความ เดือดร๎อน ดังนั้น แนวพระราชดาริที่จะชํวยพัฒนาชนบทจึงออกมาในรูปของโครงการตําง ๆ อันเน่ืองมาจากพระราชดาริ ซ่ึงมีลักษณะแตํละโครงการแตกตํางกันออกไปตามปัญหาและสภาพ ภูมิประเทศในแตํละ แหํง แตํมีจุดประสงค์เดียวกัน คือ การพัฒนาบทเพ่ือให๎ราษฎรในชนบทได๎มี ความเปน็ อยูํตลอดจนสามารถประกอบอาชพี เล้ียงครอบครัวให๎ดีขึ้น แนวพระราชดาริที่สาคัญในเร่ือง การพัฒนาชนบท คือมีพระราชประสงค์ที่จะมุํงชํวยให๎ชาวชนบทนั่นเองได๎สามารถชํวยเหลือพึ่ง ตน เองได๎ จะสังเกตเห็นได๎วําโครงการตําง ๆ อันเน่ืองมาจากพระราชดาริ ที่ขยายตัวครอบคลุมพื้นท่ี สํวนตําง ๆ ของประเทศน้ัน จุดมํุงหมายสาคัญประการสุดท๎ายก็คือทาให๎ชาวชนบทสามารถพึ่งพา ตนเองได๎ท้ัง สิ้น ได๎ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด๎านน้ีโดยการสร๎างพื้นฐานหลักที่จาเป็นตํอการ ผลิตให๎แกํราษฎรเหลํานน้ั อันจะเป็นรากฐานท่จี ะนาพาไปสูํการพึ่งตนเองได๎ในท่ีสุด ในเวลาเดียวกันก็ ทรงสํงเสริมใหช๎ าวชนบทได๎มีความร๎ใู นเรอื่ งของการประกอบ อาชีพอยํางถกู วิธี โดยเผยแพรํความร๎ูนั้น แกํชาวชนบทอยํางคํอยเป็นคํอยไปในลักษณะที่เป็นระบบ อยํางตํอเนื่อง และให๎สอดคล๎องแกํความ จาเป็นของแตํละท๎องถ่ิน ซึ่งเรื่องการพัฒนาชนบทนั้นไมํใชํเรื่องงําย เพราะต๎องอาศัยเคร่ืองไม๎ เคร่ืองมือหลายชนิด กกกกกกก2. 2.2 พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวเสด็จฯ ไปทุกหนแหํงไมํวําดินแดนแหํงนั้นจะ ทุรกันดารเพียงใด ไมํวําใกล๎ไกลแคํไหน พระองค์จัดทาโครงการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดาริ ควบคํูไปในทุก ๆ ด๎าน ไมํเน๎นด๎านใดด๎านหนึ่ง พระองค์มีจุดประสงค์เดียวคือ เพื่อขจัดความทุกข์ยาก ของชาวชนบท และสนับสนุนสํงเสริมให๎มีความเป็นอยํูที่ดีข้ึน รวมท้ังแก๎ปัญหาสังคมเมืองให๎ดีขึ้น โดยจะเห็นได๎จากโครงการในพระราชดาริหลายโครงการที่เกิดข้ึนจากความรับผิดชอบของหนํวยงาน ตาํ ง ๆ กกกกกกก2. 2.2 โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดารจิ ะเปน็ โครงการเกี่ยวกับปรับปรุงถนนหนทาง การกํอสร๎างถนนเพื่อการ สัญจรไปมาได๎สะดวกและทั่วถึง การคมนาคมเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ สาคัญ ของการนาความเจริญไปสูํชนบท การส่ือสาร ติดตํอท่ีดียังผล สาคัญทาให๎เศรษฐกิจของราษฎรใน พื้นที่ดีข้ึน ราษฎรก็มีความเป็นอยํูที่ดีข้ึน ในการพัฒนาชนบทน้ัน การคมนาคม เป็นปัจจัยพ้ืนฐานท่ี สาคญั ทจี่ ะมองข๎ามไปเสยี มไิ ด๎ เพราะเป็นเสมือนประตูเชื่อม ระหวํางในเมือง และชนบท ดังนั้น การท่ี
253 จะเร่ิมโครงการพฒั นาใด ๆ นั้นจะต๎องเร่ิมจากการปรับปรุง และการกํอสร๎างถนนหนทางเป็นการเปิด ประตูนาความเจริญเข๎าไปสูํพนื้ ท่ี ควรน๎อมนามาใชด๎ ว๎ ยการทที่ ุกคนสามารถรวมกลํมุ ทาประโยชน์เพอื่ สวํ นรวม โดยอาศยั ภมู ปิ ัญญาและความสามารถของตนและคนในท๎องถ่นิ มีความเอ้ืออาทรระหวาํ ง สมาชกิ ทอ๎ งถน่ิ ส่งิ เหลํานี้จะทาใหเ๎ กดิ พลงั ทางสังคม พฒั นาทอ๎ งถิ่นของตนเองไปสเูํ ครือขํายระหวําง ท๎องถน่ิ ตาํ งๆ มีความอดทนไมํยอํ ท๎อใจตอํ ข๎อวิพากษ์วจิ ารณ์ ใหม๎ ุงํ ม่นั พัฒนา และรวบรวมผล ปฏบิ ตั กิ ารและประสบการณแ์ ลว๎ บนั ทึกไวเ๎ ป็นตาราของคนรุํนหลังสืบไป กกกกกกก2. 2.3 ประเทศ กกกกกกก2. 2.3 พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ทรงตระหนัก เป็นอยาํ งดวี าํ พ้ืนท่ีนับล๎านไรํในภูมิภาคตําง ๆ ของประเทศมีปัญหาทั้งทางเคมี และทางฟิสิกส์อยูํหลายลักษณะ และดินขาดความอดุ มสมบูรณ์ ราษฎรทาการเพาะปลูกได๎ผลผลิตต่า จึงมีฐานะ ยากจน เชํน พ้ืนที่ดิน พรุ พ้ืนท่ีดินเปร้ียวจัด พ้ืนท่ีดินเค็ม พ้ืนที่ดินทราย และพ้ืนที่ดินเค็มในหลายภูมิภาค จึงพระราชทาน พระราชดาริให๎จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดาริข้ึน โดยให๎ต้ังอยํูในพื้นที่ที่ดิน มีปัญหาให๎การพัฒนาพ้ืนที่ให๎เป็นตัวอยําง โดยเน๎นการพัฒนาด๎านการเกษตรสมบูรณ์แบบ ท้ังการ แก๎ไขปัญหาเดิมของดิน การพัฒนาให๎ดินมีความอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น การจัดระบบเพาะปลูกและเลี้ยง สัตว์อยํางเหมาะสม การพัฒนาแหลํงน้า การฟื้นฟูสภาพปุาและการสํงเสริมศิลปาชีพและหัตถกรรม พื้นบ๎านเพื่อเป็นแหลํงรายได๎เสริม พระองค์จึงทรงพระราชทานแนวพระราชดาริให๎จัดตั้งศูนย์ศึกษา การพัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ ในภูมิภาคตํางๆ เพ่ือเป็นแนวทางในการแก๎ปัญหาของ เกษตรกร มีหลักการ คือ ทาให๎ชุมชนมีความเข๎มแข็งและประชาชนสามารถพึ่งตนเองได๎ ศูนย์ศึกษา การพัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ ในพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช จะมีสํวน สาคัญในการพัฒนาความรู๎ เทคนิคและวิชาการสมัยใหมํแกํเกษตรกร รวมถึงการแก๎ปัญหาของ เกษตรกรที่กาลังประสบอยูํได๎เป็นอยํางดี เกษตรกรทั้งหลายจึงควรจะแสวงหาโอกาสไปศึกษาเรียนรู๎ ในเฉพาะเรื่องที่สนใจของแตํละบุคคลจากศูนย์ฯ ท้ัง 6 แหํงน้ี เพราะความร๎ู เทคนิคและวิชาการ สมัยใหมํทง้ั มวลล๎วนเป็น “ศาสตรแ์ หงํ พระราชา” ซึ่งจะนาไปสูกํ ารเพม่ิ ขดี ความสามารถของเกษตรกร และยกระดับการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให๎มีความเข๎มแข็ง และย่ังยืน โดยเกษตรกรสามารถ พ่ึง พ าต น เ อง ไ ด๎ อยํ า งแ ท๎ จ ริง ก าร น๎ อ มน า พร ะ ร าช ก ร ณีย กิ จ ไ ด๎ แกํ ศู นย์ ก า รศึ ก ษ า การพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาริ 6 แหํง ทั่วประเทศ ประชาชนชาวไทย ควรน๎อมนาด๎วยการ (1) ควรศึกษาเรยี นรู๎กระบวนการในการทางานของศนู ยพ์ ัฒนาท่อี ยใํู กล๎บ๎านหรือชุมชนนามาปรับใช๎ใน ชีวิตประจาวันเพื่อชํวยพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองหรือชํวยพัฒนาชุมชน สังคม ให๎เข๎มแข็ง (2) ชํวยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล๎อมให๎เป็นประโยชน์ตํอสํวนรวม (3) นาแนวทาง การปฏิบัติงานรํวมกันของทุกฝุายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาริมาปรับใช๎ใน เรื่องการทางานเป็นทีม เป็นคณะต๎องรู๎รักสามัคคี และ (4) ควรยึดหลักการพ่ึงพาตนเองลดการพ่ึงพา ภายนอก และดาเนินชวี ิตแบบพอเพยี ง กกกกกกก2. 2.4 โลก กกกกกกก2. 2.3 พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไดส๎ ร๎างความสัมพันธ์กับนานา ประเทศดว๎ ยดเี สมอมา ตลอดระยะเวลาของการข้ึนครองราชย์ โดยในระหวํางปี พ.ศ. 2502 ถึง 2510 พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัว พร๎อมด๎วยสมเด็จพระนางเจ๎าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ได๎เสด็จ
254 พระราชดาเนินเยือนประเทศตํางๆ ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกา เพ่ือเป็นการเจริญพระราช ไมตรีกับบรรดามิตรประเทศเหลําน้ันให๎มีความสัมพันธ์แนํนแฟูนยิ่งขึ้น และเพื่อนาความปรารถนาดี ของประชาชนชาวไทยไปมอบให๎กับประชาชนในประเทศตํางๆ โดยรายช่ือประเทศตํางๆ ท่พี ระบาทสมเดจ็ พระเจา๎ อยูํหวั เสดจ็ พระราชดาเนินเยือน หลายประเทศมีความสัมพันธ์ท่ีดีกับไทยท้ัง ในมิติของความสัมพันธ์ระหวํางราชวงศ์ตํอราชวงศ์ ความสัมพันธ์ระหวํางรัฐบาล ความสัมพันธ์ ทางการทูต และความสัมพันธ์ทางการค๎าระหวํางประเทศ การมาครั้งน้ีจึงเป็นการแสดงไมตรีจิต และยนื ยนั ความสัมพันธท์ ่ีอาจนาไปสํูการสานตํอความสมั พันธด์ ๎านการคา๎ และการลงทุน เชํน ประเทศ คูเวตที่มีความสัมพันธ์ทางการค๎าและแรงงานที่ดีกับไทยตลอดมา ประเทศญ่ีปุนที่มีความสัมพันธ์ทาง ราชวงศ์ที่ดีตํอกันเห็นได๎จากการเสด็จเยือนกันและกันมาโดยตลอด ประเทศมาเลเซียท่ีแสดงออก อยํางชัดเจนในความสัมพันธ์ท่ีดีโดยการปลํอยตัวคนไทยที่กระทาความผิด 121 คนกลับสํูมาตุภูมิ นอกจากนี้ผู๎นาของประเทศอื่นท่ีไมํมีพระมหากษัตริย์ตํางรํวมแสดงความยินดี ยกยํองและแสดงทําที ยืนยันสถาปนาความสัมพันธ์ระหวํางประเทศให๎ยืนนาน อาทิ การสํงสาสน์ถวายพระพรชัยมงคลจาก ผู๎นาประเทศจีน ฟิลิปปินส์ เม็กซิโก รวมถึงข๎อมติรํวมของรัฐสภาสหรัฐอเมริกาที่ 409 และหนังสือ จากประธานาธิบดีประเทศสิงคโปร์ ท่ยี ืนยันท่จี ะสานสมั พนั ธท์ ีด่ กี บั ไทยใหย๎ ืนนาน กกกกกกก2. 2.3 การน๎อมนาพระราชกรณียกจิ ท่เี ก่ียวข๎องกับโลกหรือนานาประเทศ ทไี่ ด๎น๎อมนา พระราชดาริ หรือกระบวนการพัฒนาตามศาสตร์ท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ทรงใช๎ในการพัฒนาประเทศไทยไปปรับประยุกต์ใช๎ ประชาชนชาวไทย ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการ คานึงการพัฒนาหรือการกระทา การส่ิงใดที่มีความสัมพันธ์เช่ือมโยงกันต้ังแตํ ระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศรวมโลกของเราด๎วยการกระทาทุกอยําง จะสํงผลกระทบตํอผ๎ูที่ อยูํรอบข๎างท้ังทางตรงและทางอ๎อม นอกจากน้ี ควรมีสัมพันธภาพท่ีดีตํอกัน ทั้งเป็นบุคคลในประเทศ ไทยหรือบคุ คลตาํ งประเทศ ท่ีมาทํองเท่ียวหรือมาทาธรุ กิจ
255 ภาคผนวก ข. ใบงาน
256 ใบงาน หวั เรอ่ื งท่ี 1 ความรพู้ ื้นฐานเก่ยี วกับหน้าทีพ่ ลเมือง คาชี้แจง 1. ใบงานน้จี ดั ทาข้ึนเพ่ือให๎นักศึกษามีความรูแ๎ ละประสบการณท์ ีศ่ ึกษา เร่ืองท่ี 1 ความร๎ู พ้ืนฐานเกี่ยวกับหน๎าท่ีพลเมือง ให๎นกั ศึกษาปฏิบตั ิตามข้ันตอนตอํ ไปน้ี 2. ให๎นักศกึ ษาปฏิบตั ิตามขน้ั ตอนตอํ ไปน้ี 2.1 ให๎นกั ศึกษาคน๎ คว๎าประเดน็ ความร๎พู ื้นฐานเก่ยี วกบั หน๎าที่พลเมือง เร่ืองสิทธิ และหน๎าท่ีพลเมือง จากสื่อการเรียนร๎ู เอกสาร หนังสือ จานวน 2 เลํม จากส่ืออินเทอร์เน็ต จานวน 2 เว็บไซต์ หนังสือที่เกี่ยวข๎องจากห๎องสมุดประชาชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จานวน 1 เลํม และใบความร๎เู ร่อื งที่ 1 สิทธแิ ละหนา๎ ทีพ่ ลเมือง 2.2 ใหน๎ กั ศึกษารวบรวมข๎อมูลท่ีศกึ ษาค๎นควา๎ ไดจ๎ าก ข๎อ 2.1 บันทึกลงในเอกสาร การเรยี นรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) สํงครผู ๎ูสอน เมือ่ มาพบกลมํุ ตามนดั หมายเสร็จส้ิน 2.3 นาขอ๎ ค๎นพบทีไ่ ดจ๎ ากบันทึก ในข๎อ 2.2 มาอภิปรายแลกเปลีย่ นเรียนร๎ู ขณะพบกลุํม คิด วเิ คราะหข์ ๎อมูล สรปุ การเรียนรท๎ู ่ไี ด๎ลงในเอกสารการเรียนรดู๎ ว๎ ยตนเอง (กรต.) 2.4 นาผลสรุปการเรยี นรท๎ู ี่ได๎ไปฝึกปฏิบตั จิ รงิ ในชีวติ ประจาวนั และตอบแบบฝึกหัดใน ใบงานน้ี จานวน 4 ขอ๎ แล๎วเขยี นคาตอบลงในเอกสารการเรยี นรู๎ดว๎ ยตนเอง (กรต.) 2.5 สงํ เอกสารการเรยี นร๎ดู ว๎ ยตนเอง (กรต.) ท่ไี ด๎จากการทาใบงานนีเ้ สร็จส้นิ ขณะพบกลํมุ แกํครูผ๎ูสอน แบบฝกึ หดั กกกกกกก1. พลเมืองดี หมายถงึ กกกกกกก1. คาตอบ ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก2. หน๎าท่พี ลเมือง มีอะไรบา๎ งจงยกตัวอยํางมา 5 ข๎อ กกกกกกก1. คาตอบ ............................................................................................................................ ................................................................................................................... ............................................. กกกกกกก3. สทิ ธแิ ละหนา๎ ทีเ่ ป็นส่งิ คูกํ ัน เมื่อมีสทิ ธกิ ็ต๎องมีหน๎าที่เพราะอะไร จงอธบิ ายมาพอสงั เขป กกกกกกก1. คาตอบ ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ...................................
257 กกกกกกก4. ถา๎ คนในชมุ ชนของเราไมํปฏิบัตติ ามหนา๎ ที่ของตนเองอยํางถูกตอ๎ งเหมาะสมแลว๎ นักศึกษาคดิ วําจะเกิดปัญหาในชมุ ชนอยาํ งไรบา๎ งจงเขยี นเป็นแผนผงั ความคิด (Mind Mapping) กกกกกกก1. คาตอบ ............................................................................................................................ .......................................................................................................................................... ......................
258 ใบงาน หัวเรื่องท่ี 2 ความหมายและความสาคญั ของหนา้ ที่พลเมอื ง ตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 คาชีแ้ จง กกกกกกก1. ใบงานนจ้ี ัดทาขึ้นเพือ่ ใหน๎ ักศึกษามีความรู๎และประสบการณท์ ่ีศกึ ษาเร่ือง ความหมาย และความสาคัญของหนา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 2. ให๎นกั ศึกษาปฏิบตั ิตามข้ันตอนตอํ ไปน้ี 2.1 ให๎นักศึกษาค๎นคว๎าประเด็นหน๎าท่ีพลเมืองดีตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 จากสื่อการเรียนรู๎ เอกสาร 2 เลํม จากส่ืออินเตอร์เน็ต จานวน 2 เว็บไซต์ จากสื่อห๎องสมุดประชาชน จังหวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ จานวน 1 เลํม สอ่ื เอกสารท่ีเกี่ยวขอ๎ งและใบความร๎ู เรื่องท่ี 2 ความหมายและ ความสาคญั ของหนา๎ ทีพ่ ลเมอื งตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 2.2 ให๎นักศึกษารวบรวมข๎อมูลท่ีศึกษาค๎นคว๎าได๎จาก ข๎อ 2.1 บันทึกลงในเอกสาร การเรียนรูด๎ ๎วยตนเอง (กรต.) สงํ ครผู สู๎ อน เมื่อมาพบกลุํม 2.3 นกั ศึกษานาข๎อค๎นพบที่ได๎จากบันทึกในข๎อ 2.2 มาอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนร๎ู ต๎องวเิ คราะห์ ข๎อมูล และสรปุ การเรยี นร๎ทู ไี่ ด๎ลงในเอกสารการเรยี นรดู๎ ว๎ ยตนเอง (กรต.) 2.4 นาผลสรุปการเรียนรู๎ที่ได๎ตอบแบบฝึกหัดในใบงานนี้ จานวน 4 ข๎อ แล๎วเขียน คาตอบลงในเอกสารการเรียนร๎ูดว๎ ยตนเอง (กรต.) 2.5 รวบรวมสํงเอกสารการเรียนรู๎ด๎วยตนเอง (กรต.) ที่ได๎จากการทาใบงานน้ีเสร็จ สนิ้ แกํครผู ๎สู อน แบบฝึกหดั 1. ให๎นกั ศกึ ษาคน๎ ควา๎ ข๎อมูลหนา๎ ท่ีพลเมืองดีตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 มีเรอื่ ง อะไรบา๎ ง กกกกกกก1. คาตอบ ........................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ 2. ใหน๎ ักศึกษาอธิบายหนา๎ ที่พลเมอื งดตี ามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลที่ 9 เรือ่ งของการ มีจติ สาธารณะ คาตอบ........................................................................................................................ .. ................................................................................................................................................................
259 3. นักศึกษาอธิบายหน๎าท่ีพลเมอื งในเรื่องของจิตสาธารณะมาใชใ๎ นชวี ิตประจาวันอยํางไร คาตอบ…........................................................................................................................ .......................................................................................... ..................................................................... 4. นกั ศกึ ษาตอบความหมายของการเรยี นร๎ูตามรอยพระยุคลบาท คืออะไร คาตอบ .......................................................................................................................... ................................................................................................................ ................................................
260 ใบงาน หัวเรือ่ งที่ 3 หนา้ ท่ีพลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลท่ี 9 ดว้ ยทศพธิ ราชธรรม คาชแ้ี จง กกกกกกก1. ใบงานน้จี ดั ทาขึ้นเพ่ือให๎นกั ศึกษามีความร๎ูและประสบการณ์ศึกษา เร่ือง หนา๎ ท่พี ลเมือง ตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ด๎วยทศพธิ ราชธรรม กกกกกกก2. ให๎นักศึกษาปฏิบัติตามขนั้ ตอนตํอไปน้ี 2.1 ให๎นกั ศกึ ษาค๎นควา๎ ประเดน็ เรื่อง ทศพิธราชธรรม จากสอ่ื การเรียนร๎ู เอกสาร หนงั สือ จานวน 2 เลํม จากส่ืออนิ เทอร์เน็ต จานวน 2 เวบ็ ไซต์ หนงั สือทีเ่ ก่ียวข๎องจากห๎องสมุด ประชาชนจงั หวัดประจวบคีรีขนั ธ์ หรอื บ๎านหนงั สือชุมชน จานวน 1 เลมํ และใบความรู๎เรือ่ งที่ 3 ทศพธิ ราชธรรม 2.2 ให๎นักศึกษารวบรวมข๎อมูลที่ศึกษาค๎นคว๎าได๎จาก ข๎อ 2.1 บันทึกลงในเอกสาร การเรียนร๎ูด๎วยตนเอง (กรต.) สงํ ครูผ๎สู อน เม่อื มาพบกลํมุ ตามนัดหมายเสร็จส้นิ 2.3 นาขอ๎ ค๎นพบที่ไดจ๎ ากบนั ทกึ ในข๎อ 2.2 มาอภปิ รายแลกเปลยี่ นเรียนรูข๎ ณะ พบกลุํม คิดวิเคราะห์ ข๎อมูล สรปุ การเรยี นรู๎ท่ีได๎ลงในเอกสารการเรยี นร๎ูดว๎ ยตนเอง (กรต.) 2.4 นาผลสรปุ การเรียนรูท๎ ี่ได๎ตอบแบบฝึกหัดในใบงานน้ี จานวน 4 ข๎อ แล๎วเขียน คาตอบลงในเอกสารการเรยี นร๎ูด๎วยตนเอง (กรต.) 2.5 สํงเอกสารการเรียนรด๎ู ว๎ ยตนเอง (กรต.) ทไ่ี ด๎จากการทาใบงานนี้เสรจ็ สิน้ ขณะพบกลมุํ แกํครูผ๎ูสอน แบบฝกึ หัด กกกกกกก1. นกั ศกึ ษาไดน๎ าทศพธิ ราชธรรม ข๎อ 2 ศลี ไปใช๎ในชีวิตประจาวันตามบทบาทอยํางไร คาตอบ............................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ กกกกกกก2. นักศกึ ษาได๎นาทศพธิ ราชธรรม ขอ๎ 5 มัททวะ ไปใช๎ในชวี ิตประจาวนั ตามบทบาท อยํางไร คาตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก3. นักศึกษาได๎นาทศพธิ ราชธรรม ขอ๎ 7 อักโกธะ ไปใชใ๎ นชีวิตประจาวนั ตามบทบาท อยาํ งไร กกกกกกก2. คาตอบ............................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
261 กกกกกกก4. นักศกึ ษาไดน๎ าทศพิธราชธรรม ข๎อ 9 ขันติ ไปใช๎ในชีวติ ประจาวนั ตามบทบาทอยํางไร กกกกกกก2. คาตอบ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...................................
262 ใบงาน หัวเร่ืองที่ 4 หน้าทพ่ี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ตามพระราชดารัส คาชแี้ จง 1. ใบงานนี้จัดทาขน้ึ เพื่อใหน๎ ักศึกษามีความร๎แู ละประสบการณ์ศกึ ษา เร่ือง หนา๎ ท่ี พลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลท่ี 9 ตามพระราชดารสั 2. ให๎นกั ศึกษาปฏบิ ตั ติ ามขั้นตอนตํอไปนี้ 2.1 ให๎นักศึกษาค๎นคว๎าประเด็น หน๎าที่พลเมืองตามพระราชดารัสท่ีเก่ียวข๎องกับ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จากส่ือการเรียนรู๎เอกสาร หนังสือ จานวน 2 เลํม จากสื่ออินเทอร์เน็ต จานวน 2 เว็บไซต์ หนงั สือทเี่ ก่ียวข๎องจากห๎องสมุดประชาชนจังหวดั ประจวบคีรีขันธ์ หรือบ๎านหนังสือ ชุมชน จานวน 1 เลํม และใบความรู๎เรื่องที่ 4 หน๎าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ตาม พระราชดารัส 2.2 ใหน๎ กั ศึกษารวบรวมขอ๎ มูลท่ีศกึ ษาคน๎ คว๎าได๎จาก ข๎อ 2.1 บันทึกลงในเอกสารการ เรียนรูด๎ ๎วยตนเอง (กรต.) สํงครผู ส๎ู อน เมือ่ มาพบกลํุมตามนดั หมายเสรจ็ ส้ิน 2.3 นาข๎อคน๎ พบทไี่ ดจ๎ ากบนั ทกึ ในข๎อ 2.2 มาอภปิ รายแลกเปลยี่ นเรยี นร๎ูขณะ พบกลํมุ คิดวเิ คราะห์ ข๎อมลู สรุปการเรยี นรู๎ทไี่ ดล๎ งในเอกสารการเรยี นร๎ูดว๎ ยตนเอง (กรต.) 2.4 นาผลสรปุ การเรียนรทู๎ ่ีได๎ตอบแบบฝกึ หัดในใบงานนี้จานวน 4 ข๎อ แล๎วเขยี น คาตอบลงในเอกสารการเรยี นร๎ดู ว๎ ยตนเอง (กรต.) 2.5 สงํ เอกสารการเรยี นรด๎ู ว๎ ยตนเอง (กรต.) ที่ได๎จากการทาใบงานนี้เสร็จสิน้ ขณะ พบกลํุม แกํครูผส๎ู อน แบบฝึกหัด กกกกกกก1. ทํานไดน๎ าปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไปใชใ๎ นชวี ิตประจาวันตามบทบาทอยํางไร กกกกกกก2. คาตอบ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. กกกกกกก2. ทํานไดน๎ าปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เร่ือง ความมีเหตผุ ล `ไปในชวี ิตประจาวนั ตาม บทบาทอยํางไร กกกกกกก2. คาตอบ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. กกกกกกก3. ทาํ นได๎นาปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง ความมภี ูมิค๎ุมกัน ไปใช๎ในชีวิตประจาวัน ตามบทบาทอยํางไร กกกกกกก2. คาตอบ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
263 กกกกกกก4. ทํานได๎นาปรัชญาของเศรษฐกจิ เร่ือง เงื่อนไขความร๎ู ไปใช๎ในชวี ติ ประจาวันตาม บทบาทอยาํ งไร กกกกกกก2. คาตอบ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
264 ใบงาน หวั เรื่องท่ี 5 หนา้ ทพ่ี ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาลรชั กาลท่ี 9 ตามหลักการทรงงาน คาช้ีแจง(มาจากการจัดประสบการณ์การเรียนรู๎) 1. ใบงานน้จี ดั ทาขึน้ เพ่ือใหน๎ ักศกึ ษามีความร๎แู ละประสบการณ์ศึกษา เรื่อง หน๎าที่ พลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลที่ 9 ตามหลักการทรงงาน 2. ใหน๎ กั ศกึ ษาปฏบิ ตั ิตามขน้ั ตอนตํอไปน้ี 2.1 ใหน๎ กั ศกึ ษาคน๎ ควา๎ ประเด็น หน๎าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ตามหลกั การทรงงาน โดยเลอื กหลักการทรงงาน ที่เกย่ี วขอ๎ งมา 9 ขอ๎ จากสือ่ การเรยี นรู๎หลกั การ ทรงงาน 9 ขอ๎ จากส่ืออนิ เทอร์เนต็ จานวน 2 เวบ็ ไซต์ หนงั สอื ที่เก่ยี วข๎องจากห๎องสมุดประชาชน จงั หวัดประจวบคีรขี นั ธ์ หรือบา๎ นหนังสือชุมชน จานวน 1 เลํม และใบความร๎ูหลักการทรงงานของ รชั กาลที่ 9 2.2 ให๎นกั ศึกษารวบรวมข๎อมลู ทศ่ี ึกษาค๎นคว๎าไดจ๎ าก ข๎อ 2.1 บนั ทกึ ลงในเอกสารการ เรยี นรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) สงํ ครูผส๎ู อน เม่ือมาพบกลุํมตามนัดหมายเสร็จสน้ิ 2.3 นาข๎อคน๎ พบท่ีได๎จากบนั ทกึ ในขอ๎ 2.2 มาอภปิ รายแลกเปล่ียนเรยี นรข๎ู ณะพบกลุมํ คดิ วเิ คราะห์ขอ๎ มลู สรปุ การเรียนร๎ูท่ีได๎ลงในเอกสารการเรียนรดู๎ ว๎ ยตนเอง (กรต.) 2.4 นาผลสรุปการเรยี นร๎ทู ่ีได๎ไปฝึกปฏิบัติจริงในชวี ิตประจาวนั และตอบแบบฝกึ หดั ใน ใบงานน้ีจานวน 4 ขอ๎ แลว๎ เขียนคาตอบลงในเอกสารการเรียนรด๎ู ๎วยตนเอง (กรต.) 2.5 สํงเอกสารการเรียนร๎ดู ว๎ ยตนเอง (กรต.) ทีไ่ ด๎จากการทาใบงานนีเ้ สรจ็ ส้นิ ขณะพบ กลมํุ แกํครผู ู๎สอน แบบฝกึ หดั กกกกกกกก1. ทาํ นได๎นาหลักการทรงงานที่ศกึ ษาค๎นคว๎า ขอ๎ ที่ 17 การพึ่งตนเอง ไปใช๎ในการดาเนนิ ชวี ติ อยาํ งไร ในฐานะหนา๎ ท่พี ลเมอื งดี คาตอบ.................................................................................................. .......................... ............................................................................................................................. ................................... 1. ทาํ นได๎นาหลกั การทรงงานที่ศึกษาค๎นควา๎ ข๎อที่ 19 เศรษฐกิจพอเพียง ยึดแนวคิด ประหยดั เรียบงําย ประโยชน์สงู สุด ไปใชใ๎ นการดาเนนิ ชีวิตอยาํ งไรในฐานะหน๎าทพ่ี ลเมืองดี คาตอบ.......................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... .
265 3. ทาํ นได๎นาหลกั การทรงงานทีศ่ กึ ษาค๎นคว๎า ข๎อท่ี 20 ความซื่อสตั ย์สุจรติ จรงิ ใจตํอกัน ไปใชใ๎ นการดาเนนิ ชวี ิตอยาํ งไร ในฐานะหนา๎ ที่พลเมอื งดี คาตอบ.......................................................................................................................... ................................................................................................................... ............................................. 4. ทาํ นไดน๎ าหลักการทรงงานทีศ่ กึ ษาคน๎ คว๎า ขอ๎ ที่ 22 ความเพยี ร ไปใช๎ในการดาเนิน ชวี ิตอยํางไร ในฐานะหนา๎ ทพี่ ลเมอื งดี คาตอบ..................................................................................... .................................... ............................................................................................................................. ...................................
266 ใบงาน หัวเร่ืองที่ 6 หนา้ ทพี่ ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 ตามพระราชจริยวัตร และพระราชกรณยี กจิ คาชี้แจง กกกกกกก1. ใบงานน้ีจดั ทาข้นึ เพอ่ื ใหน๎ ักศกึ ษามคี วามรู๎และประสบการณ์ศึกษา เร่อื ง หน๎าท่ี พลเมืองตามรอยพระยุคลบาท รัชกาลที่ 9 ตามพระราชจรยิ วัตร และพระราชกรณยี กจิ กกกกกกก2. ให๎นกั ศกึ ษาปฏบิ ตั ิตามข้นั ตอนตํอไปนี้ 2.1 ให๎นักศกึ ษาค๎นควา๎ ประเดน็ หน๎าทีพ่ ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาท รชั กาลท่ี 9 ตามพระราชจริยวัตรในครอบครัว และพระราชกรณียกิจในท๎องถ่ิน จากส่ือการเรียนรู๎ เอกสาร หนังสือ จานวน 2 เลํม จากส่ืออินเทอร์เน็ต จานวน 2 เว็บไซต์ หนังสือท่ีเก่ียวข๎องจากห๎องสมุด ประชาชนจงั หวัดประจวบครี ขี นั ธ์หรอื บ๎านหนงั สอื ชุมชน จานวน 1 เลมํ และใบความรูเ๎ รื่องที่ 6 หน๎าท่ี พลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาท รัชกาลท่ี 9 ตามพระราชจรยิ วัตร และพระราชกรณียกิจ 2.2 ให๎นักศกึ ษารวบรวมขอ๎ มูลทีศ่ ึกษาค๎นควา๎ ไดจ๎ าก ข๎อ 2.1 บันทึกลงในเอกสารการ เรียนร๎ูดว๎ ยตนเอง (กรต.) สํงครผู ๎สู อน เมือ่ มาพบกลํมุ ตามนดั หมายเสร็จสิน้ 2.3 นาข๎อค๎นพบที่ได๎จากบันทึก ในข๎อ 2.2 มาอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนร๎ูขณะ พบกลุํม คิด วเิ คราะหข์ ๎อมลู สรุปการเรยี นร๎ทู ่ไี ดล๎ งในเอกสารการเรียนรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) 2.4 นาผลสรปุ การเรยี นรู๎ที่ได๎ไปปฏบิ ตั จิ ริงในชีวติ ประจาวัน ตอบแบบฝกึ หัดในใบงาน นี้จานวน 4 ข๎อ แลว๎ เขยี นคาตอบลงในเอกสารการเรยี นรูด๎ ๎วยตนเอง (กรต.) 2.5 สํงเอกสารการเรียนร๎ูด๎วยตนเอง (กรต.) ที่ได๎จากการทาใบงานนี้เสร็จสิ้นการ พบกลมํุ แกคํ รูผสู๎ อน แบบฝึกหัด กกกกกกก1. ให๎นักศกึ ษานาผลการสบื คน๎ ขอ๎ มลู ในการเจริญพระราชไมตรีในฐานะพลเมืองดี ตอ๎ งปฏิบัตอิ ะไรบ๎าง กกกกกกก1. คาตอบ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก2. ศกึ ษาได๎นาสรุปบทเรียนทีไ่ ด๎ในข๎อ 1 มาใชใ๎ นการศกึ ษาอยาํ งไร กกกกกกก1. คาตอบ............................................................................................................................. ............................................................................................. ...................................................................
267 กกกกกกก3. ให๎นกั ศกึ นาผลการศึกษาข๎อมลู นาพระราชกรณียกิจในฐานะพลเมืองดีต๎องปฏิบัติ อยํางไร กกกกกกก1. คาตอบ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก4. นักศึกษานาสรุปผลเรียนที่ได๎ในข๎อ 3 มาใช๎ในการประกอบอาชพี ของตนเอง อยาํ งไรบ๎าง กกกกกกก1. คาตอบ............................................................................................................................. ................................................................................................................................................................
268 ใบงาน หวั เรอ่ื งท่ี 7 การนอ้ มนาพระราชจรยิ วตั รและพระราชกรณียกิจ ไปใช้ในชีวติ ประจาวัน คาชี้แจง กกกกกกก1. ใบงานน้ีจัดทาข้ึนเพ่อื ใหน๎ กั ศึกษามีความร๎ูและประสบการณท์ ่ีศึกษา เรอ่ื ง การน๎อมนา พระราชจริยวัตรและพระราชกรณยี กิจไปใช๎ในชวี ิตประจาวัน กกกกกกก2. ใหน๎ ักศึกษาปฏิบตั ิตามขัน้ ตอนตํอไปน้ี กกกกกกก 2.1 ใหน๎ ักศึกษาคน๎ คว๎าประเด็น การน๎อมนาพระราชจรยิ วัตรและพระราชกรณียกจิ ไปใชใ๎ นชวี ิตประจาวัน จากส่ือการเรียนร๎ู เอกสารหนังสือ จานวน 2 เลํม จากสื่ออินเทอร์เน็ต จานวน 2 เว็บไซต์ และสัมภาษณ์จากส่ือบุคคล ได๎แกํ เจ๎าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือเจ๎าคณะตาบล จานวน 1 รูป และ นายกฤษฏา นุตะโรหรือนายคงณัฐ โชติภัทรศรี จานวน 1 คน รวมถึงศึกษา ค๎นคว๎าหนังสือท่ีเกี่ยวข๎องจากห๎องสมุดประชาชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จานวน 1 เลํม และใบ ความร๎ู เรื่องที่ การน๎อมนาพระราช จริยวัตรและพระราชกรณยี กจิ ไปใชใ๎ นชวี ติ ประจาวนั กกกกกกก 2.2 ใหน๎ กั ศึกษารวบรวมขอ๎ มลู ทีศ่ ึกษาค๎นควา๎ ได๎จาก ข๎อ 2.1 บนั ทึกลงในเอกสารการ เรียนรด๎ู ว๎ ยตนเอง (กรต.) สํงครูผสู๎ อน เมือ่ มาพบกลมํุ ตามนัดหมายเสร็จส้นิ กกกกกกก 2.3 นาข๎อค๎นพบท่ีได๎จากบนั ทึก ในขอ๎ 2.2 มาอภปิ รายแลกเปลี่ยนเรยี นร๎ขู ณะพบกลํมุ คดิ วิเคราะห์ขอ๎ มลู สรปุ การเรียนรท๎ู ี่ไดล๎ งในเอกสารการเรียนรู๎ด๎วยตนเอง (กรต.) กกกกกกก 2.4 นาผลสรปุ การเรยี นร๎ูท่ีได๎ไปฝึกปฏิบตั ิจรงิ ในชีวิตประจาวนั และตอบแบบฝึกหดั ใน ใบงานนี้จานวน 5 ข๎อ แล๎วเขียนคาตอบลงในเอกสารการเรียนรู๎ด๎วยตนเอง (กรต.)ตลอดจนเขียน เป็นเอกสารรายงานผลการปฏิบัติหน๎าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาท รัชกาลท่ี 9 จริงด๎วย ทศพิธราชธรรม ตามพระราชดารัส หลักการทรงงาน และพระราชจริยวัตร และพระราชกรณียกิจ ในครอบครวั โรงเรยี น ทอ๎ งถิ่น ประเทศ และโลก กกกกกกก 2.5 สงํ เอกสารการเรยี นร๎ูดว๎ ยตนเอง (กรต.) ท่ีไดจ๎ ากการทาใบงานนเี้ สรจ็ สิน้ ขณะพบ กลมุํ แกํครผู ๎ูสอนและสํงเอกสารท่เี ป็นรายงานเอกสารการปฏิบัติหนา๎ ทีพ่ ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาท รชั กาลที่ 9 แบบฝกึ หัด กกกกกกก1. ทาํ นได๎น๎อมนาพระราชกรณยี กิจ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช ท่ศี กึ ษาคน๎ ควา๎ ไปใช๎ในการดาเนนิ ชีวติ เก่ยี วกบั ครอบครัวอยํางไร กกกกกกก1. คาตอบ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...................................
269 กกกกกกก2. ทาํ นได๎น๎อมนาพระจรยิ วตั รของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช ที่ศึกษาคน๎ ควา๎ ไปใช๎ในการดาเนนิ ชวี ิตเกยี่ วกับโรงเรยี นอยํางไร กกกกกกก1. คาตอบ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก3. ทํานได๎น๎อมนาหลักการทรงงาน ของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ทีศ่ กึ ษาค๎นคว๎าไปใชใ๎ นการดาเนนิ ชีวติ เกย่ี วกับท๎องถิ่นอยํางไร กกกกกกก1. คาตอบ............................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ กกกกกกก4. ทาํ นไดน๎ ๎อมนาทศพิธราชธรรม ตามพระราชดารัส หลกั การทรงงาน และพระราช จริยวัตร และพระราชกรณียกิจไปใช๎ในครอบครัว โรงเรียน ท๎องถ่ิน ประเทศ และโลกอยํางไรบ๎าง ให๎เขียนเป็นเอกสารรายงานผลการปฏิบัติหน๎าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 จริงด๎วย ทศพิธราชธรรม ตามพระราชดารสั หลักการทรงงาน และพระราชจรยิ วตั ร และพระราชกรณียกิจและ สงํ ครูผูส๎ อนตามท่นี ดั หมาย กกกกกกก1. คาตอบ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...................................
270 ภาคผนวก ค. เครื่องมอื วดั ความก้าวหนา้
271 แบบตรวจเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ใบงานหวั เรอื่ งท่ี 1 ความร้พู นื้ ฐานเกี่ยวกับหนา้ ที่พลเมอื ง คาชีแ้ จง 1. แบบประเมนิ ฉบับน้ีจัดทาขึ้นเพื่อให๎ครผู สู๎ อนใช๎ตรวจเอกสารการเรียนรด๎ู ว๎ ยตนเอง (กรต.) ของนักศกึ ษาตามใบงานทีค่ รูผู๎สอนได๎มอบหมายให๎นักศึกษาไดฝ๎ ึกปฏบิ ัติ 2. ใหค๎ รผู ส๎ู อนตรวจเอกสารการเรยี นรด๎ู ว๎ ยตนเอง (กรต.) โดยมีรายการตรวจสอบและ เกณฑ์การให๎คะแนนดงั นี้ 2.1 การศกึ ษาค๎นควา๎ ในประเด็นท่ีกาหนด ต๎องมีความหลากหลายครบถ๎วนตามใบงาน ทมี่ อบหมายใหน๎ ักศึกษาปฏบิ ตั ิ โดยถา๎ นักศึกษาปฏิบัติได๎ครบถ๎วนตามใบงาน ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบัติ ได๎บ๎างไมํครบถ๎วน ให๎ 2 คะแนน ถ๎าปฏิบัติได๎อยํางเดียว ให๎ 1 คะแนน และถ๎าไมํปฏิบัติเลย ให๎ 0 คะแนน 2.2 การตรวจข๎อมูลการบันทึกผลตดิ ตาม การปฏิบัติตามใบงานในเอกสารการเรียนร๎ู ดว๎ ยตนเอง (กรต.) มีแนวทางการตรวจดังน้ี 2.2.1 การบันทึกผลสรุปการศึกษาค๎นคว๎า ถ๎ามีข๎อมูลครบถ๎วนตามท่ีใบงาน มอบหมายให๎ค๎นคว๎าได๎ ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบัติได๎บ๎าง ให๎ 2 คะแนน ถ๎าปฏิบัติได๎เพียงอยํางเดียว ให๎ 1 คะแนน และถา๎ ไมํปฏิบตั ิเลยให๎ 0 คะแนน 2.2.2 การบนั ทึกผลการเรยี นร๎ูท่ีได๎จากการอภิปรายแลกเปลย่ี นเรยี นร๎ูขณะ พบกลุมํ ถา๎ บันทึกได๎ตรงกับข๎อสรุปทไี่ ด๎ ให๎ 1 คะแนน ถ๎าไมํบนั ทึกหรือบนั ทึกไดไ๎ มํตรง ให๎ 0 คะแนน 2.2.3 การตอบคาถามแบบฝกึ หดั ในใบงาน 1) ถา๎ ตอบได๎ถูกต๎องครอบคลุม ให๎ 2 คะแนน 2) ถ๎าตอบได๎ถกู ตอ๎ งแตํไมํครอบคลมุ ให๎ 1 คะแนน 3) ถ๎าตอบไมถํ ูกตอ๎ งไมคํ รอบคลุม หรือครอบคลุมแตไํ มถํ ูกตอ๎ ง หรือ ไมํทาเลย (ไมํตอบ) ให๎ 0 คะแนน
272 รายการตรวจสอบ คะแนนเตม็ ผลการใหค้ ะแนน 3 ................................ 1. ผลการศึกษาคน๎ คว๎าในประเดน็ ท่ีกาหนด 2. ผลการตรวจเอกสารการเรียนรู๎ดว๎ ยตนเอง (กรต.) 3 ................................ 1 ................................ 2.1 ผลการบนั ทึกข๎อมลู ค๎นคว๎า 8 ………………………….. 2.2 ผลการบันทึกการสรปุ การเรียนรู๎ 15 ................................ 2.3 ผลการตอบคาถามในใบงาน รวม หมายเหตุ การแปลคะแนนท่ีไดจ๎ ากการตรวจเอกสารการเรียนรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) มีแนวทางดงั นี้ คะแนนท่ีได๎ = 40 X X 105 X คะแนน หมายถงึ คะแนนรวมของการตรวจเอกสารการเรียนรด๎ู ๎วยตนเอง (กรต.) ในใบงานของหัวเร่ืองน้นั ๆ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน กกกกกกก1. ถา๎ ไดค๎ ะแนน 9 คะแนนข้ึนไป (60% ข้ึนไปของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถือวาํ ผาํ น กกกกกกก2. ถา๎ ได๎คะแนน ต่ากวาํ 9 คะแนนลงมา (60% ลงมาของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถอื วาํ ไมํผําน
273 แบบตรวจเอกสารการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) ใบงานหัวเร่ืองที่ 2 ความหมายและความสาคญั ของหน้าทพี่ ลเมือง ตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลที่ 9 คาชี้แจง 1. แบบประเมินฉบบั น้จี ดั ทาข้นึ เพื่อให๎ครผู ูส๎ อนใชต๎ รวจเอกสารการเรียนร๎ูดว๎ ยตนเอง (กรต.) ของนักศกึ ษาตามใบงานที่ครูผส๎ู อนได๎มอบหมายให๎นักศกึ ษาได๎ฝึกปฏิบตั ิ 2. ใหค๎ รผู สู๎ อนตรวจเอกสารการเรยี นรูด๎ ๎วยตนเอง (กรต.) โดยมรี ายการตรวจสอบและ เกณฑ์การให๎คะแนนดังนี้ 2.1 การศึกษาคน๎ ควา๎ ในประเด็นท่ีกาหนด ต๎องมีความหลากหลายครบถ๎วนตามใบงาน ท่ีมอบหมายใหน๎ ักศึกษาปฏิบตั ิ โดยถา๎ นักศึกษาปฏิบัติได๎ครบถ๎วนตามใบงาน ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบัติ ได๎บ๎างไมํครบถ๎วน ให๎ 2 คะแนน ถ๎าปฏิบัติได๎อยํางเดียว ให๎ 1 คะแนน และถ๎าไมํปฏิบัติเลย ให๎ 0 คะแนน 2.2 การตรวจขอ๎ มลู การบันทกึ ผลตดิ ตาม การปฏิบตั ิตามใบงานในเอกสารการเรยี นรู๎ ด๎วยตนเอง (กรต.) มีแนวทางการตรวจดังนี้ 2.2.1 การบันทึกผลสรุปการศึกษาค๎นคว๎า ถ๎ามีข๎อมูลครบถ๎วนตามที่ใบงาน มอบหมายให๎ค๎นคว๎าได๎ ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบัติได๎บ๎าง ให๎ 2 คะแนน ถ๎าปฏิบัติได๎เพียงอยํางเดียว ให๎ 1 คะแนน และถ๎าไมํปฏบิ ตั ิเลยให๎ 0 คะแนน 2.2.2 การบันทึกผลการเรยี นร๎ูท่ไี ดจ๎ ากการอภปิ รายแลกเปลย่ี นเรียนร๎ขู ณะ พบกลุํมถ๎าบันทึกได๎ตรงกับขอ๎ สรปุ ท่ีได๎ ให๎ 1 คะแนน ถา๎ ไมํบันทกึ หรอื บันทกึ ได๎ไมตํ รง ให๎ 0 คะแนน 2.2.3 การตอบคาถามแบบฝกึ หัดในใบงาน 1) ถา๎ ตอบได๎ถูกต๎องครอบคลุม ให๎ 2 คะแนน 2) ถ๎าตอบได๎ถกู ต๎องแตํไมํครอบคลมุ ให๎ 1 คะแนน 3) ถา๎ ตอบไมํถูกต๎องไมํครอบคลุม หรือครอบคลุมแตํไมถํ ูกต๎อง หรือ ไมทํ าเลย (ไมตํ อบ) ให๎ 0 คะแนน
274 รายการตรวจสอบ คะแนนเตม็ ผลการให้คะแนน 3 ................................ 1. ผลการศึกษาคน๎ คว๎าในประเดน็ ท่ีกาหนด 2. ผลการตรวจเอกสารการเรียนรู๎ดว๎ ยตนเอง (กรต.) 3 ................................ 1 ................................ 2.1 ผลการบนั ทึกข๎อมลู ค๎นคว๎า 8 ………………………….. 2.2 ผลการบันทึกการสรปุ การเรียนรู๎ 15 ................................ 2.3 ผลการตอบคาถามในใบงาน รวม หมายเหตุ การแปลคะแนนท่ีไดจ๎ ากการตรวจเอกสารการเรียนรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) มีแนวทางดงั นี้ คะแนนท่ีได๎ = 40 X X 105 X คะแนน หมายถงึ คะแนนรวมของการตรวจเอกสารการเรียนรด๎ู ๎วยตนเอง (กรต.) ในใบงานของหัวเร่ืองน้นั ๆ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน กกกกกกก1. ถา๎ ไดค๎ ะแนน 9 คะแนนข้ึนไป (60% ข้ึนไปของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถือวาํ ผาํ น กกกกกกก2. ถา๎ ได๎คะแนน ต่ากวาํ 9 คะแนนลงมา (60% ลงมาของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถอื วาํ ไมํผําน
275 แบบตรวจเอกสารการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) ใบงานหัวเรอ่ื งท่ี 3 หน้าท่พี ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาท รชั กาลท่ี 9 ดว้ ยทศพิธราชธรรม คาชีแ้ จง กกกกกกก1. แบบประเมนิ ฉบับนี้จดั ทาขน้ึ เพ่อื ให๎ครผู ูส๎ อนใชต๎ รวจเอกสารการเรียนรู๎ดว๎ ยตนเอง (กรต.) ของนกั ศกึ ษาตามใบงานทีค่ รูผ๎สู อนได๎มอบหมายให๎นักศึกษาไดฝ๎ ึกปฏิบตั ิ กกกกกกก2. ให๎ครผู ส๎ู อนตรวจเอกสารการเรยี นรด๎ู ๎วยตนเอง (กรต.) โดยมรี ายการตรวจสอบและ เกณฑ์การให๎คะแนนดังน้ี 2.1 การศกึ ษาค๎นควา๎ ในประเด็นที่กาหนด ต๎องมีความหลากหลายครบถ๎วนตามใบงาน ทมี่ อบหมายใหน๎ ักศึกษาปฏบิ ตั ิ โดยถ๎านักศึกษาปฏิบัติได๎ครบถ๎วนตามใบงาน ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบัติ ได๎บ๎างไมํครบถ๎วน ให๎ 2 คะแนน ถ๎าปฏิบัติได๎อยํางเดียว ให๎ 1 คะแนน และถ๎าไมํปฏิบัติเลย ให๎ 0 คะแนน 2.2 การตรวจขอ๎ มลู การบันทึกผลการปฏบิ ัตติ ามใบงานในเอกสารการเรยี นรูด๎ ว๎ ย ตนเอง (กรต.) มีแนวทางการตรวจดงั น้ี 2.2.1 การบนั ทกึ ผลสรุปการศึกษาค๎นควา๎ ถ๎ามขี ๎อมูลครบถ๎วนตามทใี่ บงาน มอบหมายใหค๎ น๎ คว๎าได๎ ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบตั ไิ ดบ๎ ๎าง ให๎ 2 คะแนน ถา๎ ปฏบิ ตั ไิ ดเ๎ พยี งอยํางเดียว ให๎ 1 คะแนน และถ๎าไมํปฏิบัติเลยให๎ 0 คะแนน 2.2.2 การบนั ทึกผลการเรียนร๎ูทไี่ ด๎จากการอภปิ รายแลกเปลย่ี นเรยี นร๎ู ขณะพบ กลํุม ถา๎ บนั ทึกได๎ตรงกับข๎อสรุปทไ่ี ด๎ ให๎ 1 คะแนน ถ๎าไมํบันทกึ หรือบันทกึ ได๎ไมํตรง ให๎ 0 คะแนน 2.2.3 การตอบคาถามแบบฝึกหดั ในใบงาน 1) ถ๎าตอบได๎ถูกต๎องครอบคลุม ให๎ 2 คะแนน 2) ถ๎าตอบได๎ถูกตอ๎ งแตํไมํครอบคลุม ให๎ 1 คะแนน 3) ถา๎ ตอบไมํถกู ต๎องไมํครอบคลุม หรือครอบคลุมแตไํ มถํ ูกต๎อง หรือไมํทา เลย (ไมตํ อบ) ให๎ 0 คะแนน
276 รายการตรวจสอบ คะแนนเตม็ ผลการให้คะแนน 3 ................................ 1. ผลการศึกษาคน๎ คว๎าในประเด็นท่ีกาหนด 2. ผลการตรวจเอกสารการเรยี นรูด๎ ๎วยตนเอง (กรต.) 3 ................................ 1 ................................ 2.1 ผลการบนั ทึกข๎อมลู ค๎นคว๎า 8 ………………………….. 2.2 ผลการบันทึกการสรปุ การเรียนรู๎ 15 ................................ 2.3 ผลการตอบคาถามในใบงาน รวม หมายเหตุ การแปลคะแนนท่ีไดจ๎ ากการตรวจเอกสารการเรียนรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) มีแนวทางดงั นี้ คะแนนท่ีได๎ = 40 X X 105 X คะแนน หมายถงึ คะแนนรวมของการตรวจเอกสารการเรียนรด๎ู ๎วยตนเอง (กรต.) ในใบงานของหัวเร่ืองน้นั ๆ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน กกกกกกก1. ถา๎ ได๎คะแนน 9 คะแนนข้ึนไป (60% ข้ึนไปของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถือวําผาํ น กกกกกกก2. ถา๎ ได๎คะแนน ต่ากวาํ 9 คะแนนลงมา (60% ลงมาของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถอื วาํ ไมํผําน
277 แบบตรวจเอกสารการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) ใบงานหัวเรอ่ื งที่ 4 หนา้ ทพี่ ลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลท่ี 9 ตามพระราชดารัส คาชแี้ จง กกกกกกก1. แบบประเมินฉบบั นจี้ ัดทาขนึ้ เพือ่ ใหค๎ รูผู๎สอนใชต๎ รวจเอกสารการเรียนร๎ูดว๎ ยตนเอง (กรต.) ของนกั ศกึ ษาตามใบงานทคี่ รูผู๎สอนไดม๎ อบหมายให๎นักศึกษาได๎ฝึกปฏิบตั ิ กกกกกกก2. ให๎ครผู ูส๎ อนตรวจเอกสารการเรยี นรู๎ดว๎ ยตนเอง (กรต.) โดยมรี ายการตรวจสอบและ เกณฑ์การให๎คะแนนดังน้ี 2.1 การศึกษาค๎นควา๎ ในประเด็นท่ีกาหนด ต๎องมีความหลากหลายครบถ๎วนตามใบงาน ทม่ี อบหมายให๎นกั ศกึ ษาปฏบิ ัติ โดยถ๎านกั ศึกษาปฏิบัติได๎ครบถ๎วนตามใบงาน ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบัติ ได๎บ๎างไมํครบถ๎วน ให๎ 2 คะแนน ถ๎าปฏิบัติได๎อยํางเดียว ให๎ 1 คะแนน และถ๎าไมํปฏิบัติเลย ให๎ 0 คะแนน 2.2 การตรวจข๎อมลู การบนั ทึกผลการปฏิบตั ิตามใบงานในเอกสารการเรียนร๎ูดว๎ ย ตนเอง (กรต.) มีแนวทางการตรวจดังน้ี 2.2.1 การบันทกึ ผลสรุปการศกึ ษาคน๎ ควา๎ ถ๎ามขี ๎อมูลครบถ๎วนตามท่ใี บงาน มอบหมายใหค๎ น๎ คว๎าได๎ ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบตั ิไดบ๎ ๎าง ให๎ 2 คะแนน ถา๎ ปฏิบัติได๎เพยี งอยาํ งเดียว ให๎ 1 คะแนน และถ๎าไมํปฏบิ ัติเลยให๎ 0 คะแนน 2.2.2 การบนั ทกึ ผลการเรยี นร๎ูทีไ่ ด๎จากการอภิปรายแลกเปลีย่ นเรียนร๎ู ขณะพบ กลมํุ ถ๎าบนั ทึกได๎ตรงกบั ขอ๎ สรุปที่ได๎ ให๎ 1 คะแนน ถ๎าไมํบนั ทกึ หรือบันทึกได๎ไมํตรง ให๎ 0 คะแนน 2.2.3 การตอบคาถามแบบฝึกหัดในใบงาน 1) ถ๎าตอบได๎ถูกต๎องครอบคลุม ให๎ 2 คะแนน 2) ถ๎าตอบได๎ถูกต๎องแตํไมํครอบคลุม ให๎ 1 คะแนน 3) ถ๎าตอบไมํถูกต๎องไมคํ รอบคลมุ หรือครอบคลุมแตไํ มถํ ูกตอ๎ ง หรอื ไมํทา เลย (ไมํตอบ) ให๎ 0 คะแนน
278 รายการตรวจสอบ คะแนนเตม็ ผลการให้คะแนน 3 ................................ 1. ผลการศึกษาคน๎ คว๎าในประเดน็ ท่ีกาหนด 2. ผลการตรวจเอกสารการเรียนรู๎ดว๎ ยตนเอง (กรต.) 3 ................................ 1 ................................ 2.1 ผลการบันทึกข๎อมลู ค๎นคว๎า 8 ………………………….. 2.2 ผลการบันทึกการสรปุ การเรียนรู๎ 15 ................................ 2.3 ผลการตอบคาถามในใบงาน รวม หมายเหตุ การแปลคะแนนท่ีไดจ๎ ากการตรวจเอกสารการเรียนรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) มีแนวทางดงั นี้ คะแนนท่ีได๎ = 40 X X 105 X คะแนน หมายถงึ คะแนนรวมของการตรวจเอกสารการเรียนรด๎ู ๎วยตนเอง (กรต.) ในใบงานของหัวเร่ืองน้นั ๆ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน กกกกกกก1. ถ๎าไดค๎ ะแนน 9 คะแนนข้ึนไป (60% ข้ึนไปของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถือวาํ ผาํ น กกกกกกก2. ถา๎ ได๎คะแนน ต่ากวาํ 9 คะแนนลงมา (60% ลงมาของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถอื วาํ ไมํผําน
279 แบบตรวจเอกสารการเรยี นรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ใบงานหัวเรอื่ งท่ี 5 หนา้ ทพ่ี ลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาท รัชกาลที่ 9 ตามหลักการทรงงาน คาชี้แจง กกกกกกก1. แบบประเมินฉบับนจ้ี ดั ทาข้นึ เพอ่ื ให๎ครผู ๎สู อนใช๎ตรวจเอกสารการเรยี นร๎ดู ๎วยตนเอง (กรต.) ของนกั ศกึ ษาตามใบงานทคี่ รผู ู๎สอนได๎มอบหมายใหน๎ ักศกึ ษาได๎ฝึกปฏบิ ัติ กกกกกกก2. ใหค๎ รูผ๎สู อนตรวจเอกสารการเรยี นร๎ูดว๎ ยตนเอง (กรต.) โดยมรี ายการตรวจสอบและ เกณฑ์การให๎คะแนนดังนี้ 2.1 การศกึ ษาคน๎ ควา๎ ในประเด็นท่ีกาหนด ต๎องมีความหลากหลายครบถ๎วนตามใบงาน ท่ีมอบหมายใหน๎ ักศกึ ษาปฏบิ ตั ิ โดยถา๎ นักศึกษาปฏิบัติได๎ครบถ๎วนตามใบงาน ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบัติ ได๎บ๎างไมํครบถ๎วน ให๎ 2 คะแนน ถ๎าปฏิบัติได๎อยํางเดียว ให๎ 1 คะแนน และถ๎าไมํปฏิบัติเลย ให๎ 0 คะแนน 2.2 การตรวจข๎อมลู การบนั ทึกผลการปฏิบัติตามใบงานในเอกสารการเรียนรด๎ู ๎วย ตนเอง (กรต.) มแี นวทางการตรวจดังน้ี 2.2.1 การบันทกึ ผลสรปุ การศกึ ษาคน๎ ควา๎ ถ๎ามีข๎อมูลครบถ๎วนตามท่ีใบงาน มอบหมายให๎คน๎ คว๎าได๎ ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏบิ ตั ไิ ด๎บ๎าง ให๎ 2 คะแนน ถ๎าปฏบิ ตั ไิ ดเ๎ พยี งอยาํ งเดยี ว ให๎ 1 คะแนน และถา๎ ไมํปฏิบัติเลยให๎ 0 คะแนน 2.2.2 การบันทกึ ผลการเรียนรู๎ทไ่ี ด๎จากการอภปิ รายแลกเปลี่ยนเรียนร๎ู ขณะพบ กลมํุ ถ๎าบันทึกได๎ตรงกบั ขอ๎ สรุปทไ่ี ด๎ ให๎ 1 คะแนน ถ๎าไมํบนั ทึกหรอื บนั ทกึ ได๎ไมํตรง ให๎ 0 คะแนน 2.2.3 การตอบคาถามแบบฝกึ หัดในใบงาน 1) ถา๎ ตอบได๎ถูกต๎องครอบคลุม ให๎ 2 คะแนน 2) ถา๎ ตอบได๎ถกู ต๎องแตํไมํครอบคลุม ให๎ 1 คะแนน 3) ถา๎ ตอบไมํถกู ตอ๎ งไมคํ รอบคลมุ หรือครอบคลุมแตไํ มถํ ูกตอ๎ ง หรอื ไมํทา เลย (ไมตํ อบ) ให๎ 0 คะแนน
280 รายการตรวจสอบ คะแนนเตม็ ผลการให้คะแนน 3 ................................ 1. ผลการศึกษาคน๎ คว๎าในประเดน็ ท่ีกาหนด 2. ผลการตรวจเอกสารการเรียนรู๎ดว๎ ยตนเอง (กรต.) 3 ................................ 1 ................................ 2.1 ผลการบนั ทึกข๎อมลู ค๎นคว๎า 8 ………………………….. 2.2 ผลการบันทึกการสรปุ การเรียนรู๎ 15 ................................ 2.3 ผลการตอบคาถามในใบงาน รวม หมายเหตุ การแปลคะแนนท่ีไดจ๎ ากการตรวจเอกสารการเรียนรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) มีแนวทางดงั นี้ คะแนนท่ีได๎ = 40 X X 105 X คะแนน หมายถงึ คะแนนรวมของการตรวจเอกสารการเรียนรด๎ู ๎วยตนเอง (กรต.) ในใบงานของหัวเร่ืองน้นั ๆ เกณฑ์การใหค้ ะแนน กกกกกกก1. ถา๎ ไดค๎ ะแนน 9 คะแนนข้ึนไป (60% ข้ึนไปของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถือวาํ ผาํ น กกกกกกก2. ถา๎ ได๎คะแนน ต่ากวาํ 9 คะแนนลงมา (60% ลงมาของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถอื วาํ ไมผํ ําน
281 แบบตรวจเอกสารการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) ใบงานหัวเรอื่ งที่ 6 หนา้ ทพ่ี ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลที่ 9 ตามพระราชจริยวตั ร และพระราชกรณยี กิจ คาชแ้ี จง กกกกกกก1. แบบประเมินฉบับน้ีจดั ทาขึน้ เพอื่ ให๎ครผู ส๎ู อนใชต๎ รวจเอกสารการเรยี นรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) ของนักศกึ ษาตามใบงานท่ีครูผ๎ูสอนได๎มอบหมายใหน๎ ักศึกษาไดฝ๎ ึกปฏบิ ตั ิ กกกกกกก2. ใหค๎ รผู สู๎ อนตรวจเอกสารการเรยี นรูด๎ ว๎ ยตนเอง (กรต.) โดยมีรายการตรวจสอบและ เกณฑ์การให๎คะแนนดังน้ี 2.1 การศึกษาค๎นคว๎าในประเด็นท่ีกาหนด ต๎องมีความหลากหลายครบถ๎วนตามใบงาน ทมี่ อบหมายใหน๎ กั ศกึ ษาปฏิบัติ โดยถ๎านักศึกษาปฏิบัติได๎ครบถ๎วนตามใบงาน ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบัติ ได๎บ๎างไมํครบถ๎วน ให๎ 2 คะแนน ถ๎าปฏิบัติได๎อยํางเดียว ให๎ 1 คะแนน และถ๎าไมํปฏิบัติเลย ให๎ 0 คะแนน 2.2 การตรวจขอ๎ มลู การบนั ทกึ ผลการปฏบิ ตั ิตามใบงานในเอกสารการเรยี นร๎ดู ว๎ ย ตนเอง (กรต.) มีแนวทางการตรวจดังนี้ 2.2.1 การบนั ทึกผลสรุปการศึกษาค๎นคว๎า ถ๎ามีข๎อมลู ครบถว๎ นตามที่ใบงาน มอบหมายใหค๎ น๎ คว๎าได๎ ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบัตไิ ดบ๎ ๎าง ให๎ 2 คะแนน ถ๎าปฏิบัติไดเ๎ พียงอยํางเดยี ว ให๎ 1 คะแนน และถ๎าไมปํ ฏบิ ัติเลยให๎ 0 คะแนน 2.2.2 การบันทึกผลการเรยี นร๎ูทีไ่ ดจ๎ ากการอภปิ รายแลกเปลยี่ นเรยี นร๎ู ขณะพบ กลุํม ถ๎าบันทึกได๎ตรงกบั ขอ๎ สรุปทไ่ี ด๎ ให๎ 1 คะแนน ถ๎าไมํบันทึกหรอื บันทึกได๎ไมํตรง ให๎ 0 คะแนน 2.2.3 การตอบคาถามแบบฝึกหัดในใบงาน 1) ถา๎ ตอบได๎ถูกต๎องครอบคลุม ให๎ 2 คะแนน 2) ถ๎าตอบได๎ถูกต๎องแตํไมํครอบคลมุ ให๎ 1 คะแนน 3) ถ๎าตอบไมํถูกต๎องไมํครอบคลุม หรือครอบคลุมแตไํ มํถูกต๎อง หรือไมํทา เลย (ไมตํ อบ) ให๎ 0 คะแนน
282 รายการตรวจสอบ คะแนนเตม็ ผลการให้คะแนน 3 ................................ 1. ผลการศึกษาคน๎ คว๎าในประเดน็ ท่ีกาหนด 2. ผลการตรวจเอกสารการเรียนรู๎ดว๎ ยตนเอง (กรต.) 3 ................................ 1 ................................ 2.1 ผลการบนั ทึกข๎อมลู ค๎นคว๎า 8 ………………………….. 2.2 ผลการบันทึกการสรปุ การเรียนรู๎ 15 ................................ 2.3 ผลการตอบคาถามในใบงาน รวม หมายเหตุ การแปลคะแนนท่ีไดจ๎ ากการตรวจเอกสารการเรยี นรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) มีแนวทางดงั นี้ คะแนนท่ีได๎ = 40 X X 105 X คะแนน หมายถงึ คะแนนรวมของการตรวจเอกสารการเรียนรด๎ู ๎วยตนเอง (กรต.) ในใบงานของหวั เร่ืองนั้น ๆ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน กกกกกกก1. ถา๎ ไดค๎ ะแนน 9 คะแนนข้ึนไป (60% ข้นึ ไปของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถือวาํ ผาํ น กกกกกกก2. ถา๎ ได๎คะแนน ต่ากวาํ 9 คะแนนลงมา (60% ลงมาของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถอื วาํ ไมํผําน
283 แบบตรวจเอกสารการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง (กรต.) ใบงานหวั เรือ่ งที่ 7 หน้าที่พลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลที่ 9 การประยุกต์ใช้หน้าทีพ่ ลเมืองตามรอยพระยุคลบาท รชั การท่ี 9 ในชีวิตประจาวัน คาชีแ้ จง กกกกกกก1. แบบประเมินฉบบั นจี้ ดั ทาขน้ึ เพ่อื ใหค๎ รผู ู๎สอนใช๎ตรวจเอกสารการเรยี นรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) ของนกั ศึกษาตามใบงานที่ครูผ๎สู อนไดม๎ อบหมายให๎นักศกึ ษาไดฝ๎ กึ ปฏบิ ัติ กกกกกกก2. ใหค๎ รูผส๎ู อนตรวจเอกสารการเรยี นรู๎ด๎วยตนเอง (กรต.) โดยมรี ายการตรวจสอบและ เกณฑ์การให๎คะแนนดังน้ี 2.1 การศึกษาคน๎ คว๎าในประเด็นที่กาหนด ต๎องมีความหลากหลายครบถ๎วนตามใบงาน ท่มี อบหมายให๎นักศึกษาปฏบิ ัติ โดยถา๎ นักศึกษาปฏิบัติได๎ครบถ๎วนตามใบงาน ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบัติ ได๎บ๎างไมํครบถ๎วน ให๎ 2 คะแนน ถ๎าปฏิบัติได๎อยํางเดียว ให๎ 1 คะแนน และถ๎าไมํปฏิบัติเลย ให๎ 0 คะแนน 2.2 การตรวจขอ๎ มูลการบันทึกผลการปฏบิ ตั ติ ามใบงานในเอกสารการเรียนร๎ดู ว๎ ย ตนเอง (กรต.) มีแนวทางการตรวจดงั น้ี 2.2.1 การบันทกึ ผลสรปุ การศกึ ษาค๎นควา๎ ถา๎ มขี ๎อมลู ครบถว๎ นตามท่ีใบงาน มอบหมายให๎ค๎นคว๎าได๎ ให๎ 3 คะแนน ถ๎าปฏิบัตไิ ด๎บ๎าง ให๎ 2 คะแนน ถา๎ ปฏบิ ัตไิ ด๎เพยี งอยํางเดียว ให๎ 1 คะแนน และถา๎ ไมํปฏบิ ัติเลยให๎ 0 คะแนน 2.2.2 การบนั ทกึ ผลการเรียนรู๎ที่ได๎จากการอภิปรายแลกเปลี่ยนเรยี นรู๎ ขณะพบ กลํุม ถา๎ บนั ทึกได๎ตรงกับข๎อสรุปที่ได๎ ให๎ 1 คะแนน ถ๎าไมํบันทึกหรอื บันทกึ ไดไ๎ มตํ รง ให๎ 0 คะแนน 2.2.3 การตอบคาถามแบบฝกึ หดั ในใบงาน 1) ถ๎าตอบได๎ถูกต๎องครอบคลุม ให๎ 2 คะแนน 2) ถา๎ ตอบได๎ถูกต๎องแตํไมํครอบคลมุ ให๎ 1 คะแนน 3) ถา๎ ตอบไมํถกู ต๎องไมคํ รอบคลมุ หรือครอบคลุมแตไํ มถํ ูกต๎อง หรอื ไมํทา เลย (ไมตํ อบ) ให๎ 0 คะแนน
284 รายการตรวจสอบ คะแนนเตม็ ผลการให้คะแนน 3 ................................ 1. ผลการศึกษาคน๎ คว๎าในประเดน็ ท่ีกาหนด 2. ผลการตรวจเอกสารการเรียนรู๎ดว๎ ยตนเอง (กรต.) 3 ................................ 1 ................................ 2.1 ผลการบนั ทึกข๎อมลู ค๎นคว๎า 8 ………………………….. 2.2 ผลการบันทึกการสรปุ การเรียนรู๎ 15 ................................ 2.3 ผลการตอบคาถามในใบงาน รวม หมายเหตุ การแปลคะแนนท่ีไดจ๎ ากการตรวจเอกสารการเรียนรดู๎ ๎วยตนเอง (กรต.) มีแนวทางดงั นี้ คะแนนท่ีได๎ = 40 X X 105 X คะแนน หมายถงึ คะแนนรวมของการตรวจเอกสารการเรียนรด๎ู ๎วยตนเอง (กรต.) ในใบงานของหัวเร่ืองน้นั ๆ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน กกกกกกก1. ถา๎ ไดค๎ ะแนน 9 คะแนนข้ึนไป (60% ข้ึนไปของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถือวาํ ผาํ น กกกกกกก2. ถา๎ ได๎คะแนน ต่ากวาํ 9 คะแนนลงมา (60% ลงมาของคะแนนเต็ม 15 คะแนน) ถอื วาํ ไมํผําน
285 แบบตรวจเอกสารรายงาน ผลการปฏิบตั ิหน้าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 จรงิ ด้วยทศพิธราชธรรม ตามพระราชดารสั ตามหลกั การทรงงาน ตามพระราชจริยวัตร และตามพระราชกรณยี กิจ คาช้แี จง กกกกกกกโปรดทาเครื่องหมายถูก () ลงในชํองหลงั รายการตรวจสอบเอกสารรายงานท่ีทาํ นได๎ ตรวจพบจริง โดยมีระดบั คุณภาพดงั นี้ กกกกกกกดีมาก หมายถึง รายการตรวจสอบเร่ืองนี้มีคณุ ภาพดมี าก เทํากบั 5 คะแนน กกกกกกกดี หมายถงึ รายการตรวจสอบเรอ่ื งนม้ี ีคณุ ภาพดี เทํากับ 4 คะแนน กกกกกกกพอใช๎ หมายถงึ รายการตรวจสอบเรอ่ื งน้มี ีคณุ ภาพพอใช๎ เทาํ กบั 3 คะแนน กกกกกกกไมํดี หมายถงึ รายการตรวจสอบเรือ่ งนม้ี ีคุณภาพไมดํ ี เทาํ กบั 2 คะแนน กกกกกกกไมํดีอยาํ งยงิ่ หมายถงึ รายการตรวจสอบเรื่องนี้มคี ณุ ภาพไมํดีอยํางยิ่ง เทาํ กับ 1 คะแนน ระดบั คุณภาพ ข้อ รายการตรวจสอบ ดีมาก ดี พอใช้ ไมด่ ี ไม่ดี 5 4 3 2 อยา่ งย่งิ 1 1. ทศพธิ ราชธรรม 1.1 นกั ศึกษาใชท๎ ศพธิ ราชธรรมใน ครอบครวั ได๎.............................................. .......... .......... .......... .......... …………….. 1.2 นักศึกษาใชท๎ ศพธิ ราชธรรมใน การศึกษาเลําเรียนได๎................................ .......... .......... .......... .......... …………….. 1.3 นักศึกษาใช๎ทศพธิ ราชธรรมในอาชีพ การงานได๎................................................. .......... .......... .......... .......... …………….. 1.4 นักศกึ ษาใช๎ทศพธิ ราชธรรมในการ พฒั นาชุมชน ท๎องถิ่น และสงั คมของ ตนเองได๎.................................................... .......... .......... .......... .......... ……………..
286 ระดบั คุณภาพ ข้อ รายการตรวจสอบ ดีมาก ดี พอใช้ ไมด่ ี ไมด่ ี 5 4 3 2 อย่างยิง่ 1 2. พระราชดารัส 2.1 นกั ศกึ ษาใช๎พระราชดารัสของ รัชกาลที่ 9 ในการพัฒนาครอบครัว ของตนเองได๎………………………………………………… .......... .......... .......... .......... …………….. 2.2 นกั ศกึ ษาใช๎พระราชดารัสของ รัชกาลท่ี 9 ในการศึกษาเลําเรยี นของ ตนเองได๎…………………………………………………… .......... .......... .......... .......... …………….. 2.3 นักศกึ ษาใชพ๎ ระราชดารัสของ รัชกาลท่ี 9 ในการพฒั นาอาชพี การงาน ของตนเองได๎............................................. .......... .......... .......... .......... …………….. 2.4 นักศึกษาใชพ๎ ระราชดารัสของ รัชกาลท่ี 9 ในการพฒั นาชุมชน ทอ๎ งถิ่น และสงั คมของตนเองได๎............................. .......... .......... .......... .......... …………….. 3. หลกั การทรงงาน 3.1 นักศึกษาใช๎หลักการทรงงาน ของรชั กาลที่ 9 ในการพฒั นาครอบครัว ของตนเองได๎................................................. .......... .......... .......... .......... …………….. 3.2 นกั ศึกษาใช๎หลกั การทรงงาน ของรัชกาลที่ 9 ในการพัฒนาการศกึ ษา ของตนเองได๎............................................ .......... .......... .......... .......... …………….. 3.3 นักศกึ ษาใช๎หลักการทรงงาน ของรัชกาลท่ี 9 ในการพัฒนาอาชีพ การงานของตนเองได๎................................ .......... .......... .......... .......... …………….. 3.4 นกั ศึกษาใช๎หลกั การทรงงาน ของรัชกาลท่ี 9 ในการพฒั นาชุมชน ทอ๎ งถิ่น และสังคม ของตนเองได๎............... .......... .......... .......... .......... …………….. 4. พระราชจรยิ วัตรและพระราชกรณยี กจิ 4.1 พระราชจรยิ วตั ร 4.1.1 นักศึกษาใชพ๎ ระราชจริยวตั ร ของรชั กาลท่ี 9 ในการพฒั นาครอบครัวของ ตนเองได๎...................................................... .......... .......... .......... .......... ……………..
287 ระดบั คุณภาพ ข้อ รายการตรวจสอบ ดีมาก ดี พอใช้ ไม่ดี ไมด่ ี 5 4 3 2 อยา่ งยงิ่ 1 4.1.2 นกั ศึกษาใชพ๎ ระราชจริยวตั ร ของรัชกาลที่ 9 ในการพฒั นาการศึกษา ของตนเองได.๎ ........................................... .......... .......... .......... .......... …………….. 4.1.3 นักศึกษาใช๎พระราชจรยิ วตั ร ของรัชกาลท่ี 9 ในการพัฒนาอาชพี การ งานของตนเองได.๎ ...................................... .......... .......... .......... .......... …………….. 4.1.4 นกั ศึกษาใช๎พระราชจรยิ วัตร ของรัชกาลที่ 9 ในการพฒั นาชมุ ชน ท๎องถ่ิน และสังคม ของตนเองได๎ .......... .......... .......... .......... …………….. 4.2 พระราชกรณียกิจ 4.2.1 นักศึกษาใชพ๎ ระราชกรณียกจิ ของรชั กาลที่ 9 ในการพัฒนาครอบครัวของ ตนเองได.๎ ................................................... .......... .......... .......... .......... …………….. 4.2.2 นักศึกษาใชพ๎ ระราชกรณยี กิจ ของรัชกาลท่ี 9 ในการพัฒนาการศึกษา ของตนเองได๎............................................. .......... .......... .......... .......... …………….. 4.2.3 นักศึกษาใช๎พระราชกรณียกิจ ของรชั กาลที่ 9 ในการพัฒนาอาชพี การ งานของตนเองได.๎ ...................................... .......... .......... .......... .......... …………….. 4.2.4 นักศึกษาใช๎พระราชกรณยี กิจ ของรชั กาลที่ 9 ในการพัฒนาชมุ ชน ท๎องถ่ิน และสังคม ของตนเองได.๎ .............. .......... .......... .......... .......... …………….. หมายเหตุ การแปลคะแนนทไ่ี ดจ๎ ากการตรวจเอกสารรายงานฉบับน้ี xคะแนนที่ได๎ = 20 100 X คะแนน หมายถงึ คะแนนรวมการตรวจเอกสารรายงานทีไ่ ด๎บันทกึ ลงในแบบตรวจ เอกสารรายงานฉบับนี้
288 ภาคผนวก ง. เครื่องมอื วดั ผลรวม
289 แบบทดสอบความรู้ วิชา สค33108 วชิ าหนา้ ทีพ่ ลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลทเ่ี ก้า 3 คาชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบบั นีจ้ ัดทาข้นึ เพื่อวัดความรูห๎ รอื ความสามารถทางสติปัญญา ของนักศึกษาท่ีได๎ศกึ ษาเรยี นรวู๎ ชิ านี้ 2. แบบทดสอบฉบับนี้มลี ักษณะเปน็ ปรนัย 4 ตัวเลือก จานวน 40 ข๎อ ให๎นกั ศกึ ษาเลือก ข๎อที่ ถูกต้องทีส่ ดุ เพียงข้อเดียว โดยให๎ทาเคร่อื งหมายกากบาท (x) ทับตวั อกั ษรในแผนํ กระดาษ คาตอบ ท่ีแจกใหเ๎ ทาํ นน้ั หา้ มขีดเขยี นข๎อความใด ๆ ลงในเอกสารข๎อสอบ 3. เวลาท่ีใชท๎ าแบบทดสอบฉบับนใ้ี ช๎เวลา 1 ช่วั โมง 4. เม่ือนักศึกษาทาแบบทดสอบฉบับนี้เสร็จสิ้น ให๎สํงเอกสารข๎อสอบ พร๎อมแผํนกระดาษ คาตอบสํงคืนครูผสู๎ อนท่คี ุมสอบหรอื ผ๎คู ุมสอบ 5. กอํ นลงมือทาแบบทดสอบฉบบั นใ้ี ห๎เขียนชื่อสกลุ รหัสประจาตัวของนกั ศึกษาในแผนํ กระดาษคาตอบกํอนลงมือทา 1. ขอ๎ ใดไมํใชคํ วามหมายของพลเมอื งในประเทศไทย 1. ก. คนทเ่ี กิดในประเทศไทย 1. ข. คนที่มีพอํ แมํเปน็ คนไทย 1. ค. คนท่อี พยพเข๎ามาอยํูในประเทศไทย 1. ง. คนไทยท่ีต้ังบ๎านเรือนอยูํในประเทศไทย 2. พลเมืองดีตามวถิ ีชีวติ ประชาธปิ ไตย หมายถงึ ข๎อใด 1. ก. คนท่อี ยรํู วมกันและเคารพสิทธิผอู๎ ่ืน 1. ข. พลเมอื งทีท่ าตามแบบอยาํ งคนอ่ืนๆ ทุกอยําง 1. ค. ชักชวนคนใหเ๎ ลอื กญาตติ นเองเปน็ ผแ๎ู ทนราษฎร 1. ง. คนทท่ี าให๎คนอ่ืนยอมรับความคดิ ของตนเองไดท๎ ุกเร่ือง 3. พลเมอื งดีมีลักษณะอยาํ งไร 1. ก. มอี านาจบารมี 1. ข. มีชอื่ เสยี งทางสงั คม 1. ค. มคี วามรบั ผดิ ชอบตอํ สังคม 1. ง. มฐี านะดเี ปน็ ทย่ี อมรบั ตํอสังคม 4. ขอ๎ ใดไมํใชํความหมายของคาวํา หนา๎ ที่พลเมือง 1. ก. การเคารพกฎหมาย 1. ข. การไปใช๎สิทธิเลอื กต้งั 1. ค. การนาเอาวฒั นธรรมตาํ งประเทศมาประยุกต์ใช๎ 1. ง. การอนุรักษห์ วงแหนวัฒนธรรมและประเพณีไทย
290 5. กานันแหนบทอง ถกู กรรมการหมบูํ า๎ นทักทว๎ งในทปี่ ระชุม แตํเขาไมโํ กรธ แสดงวําเขา 1. ปฏิบัติตามหลกั ธรรมของทศพธิ ราชธรรม ในข๎อใด 1. ก. ศิล – อาชชวะ 1. ข. มัททวะ – ตบะ 1. ค. ขนั ติ – อกั โกธะ 1. ง. ทาน – อวหิ งิ สา 6. หลกั ทศพธิ ราชธรรม เรือ่ ง ความซ่อื ตรง ตรงกับ อาชชวะ แล๎วความอํอนโยนจะตรงกับ 1. ข๎อใด 1. ก. ตบะ 1. ข. มทั ทวะ 1. ค. อักโกธะ ง. อวหิ ิงสา 7. การทพี่ ระมหากษัตริย์ทรงปฏบิ ัติพระราชกรณียกจิ ด๎วยความซอ่ื ตรงสอดคล๎องกบั 1. ทศพธิ ราชธรรมในข๎อใด 1. ก. ตบะ 1. ข. มัทวะ 1. ค. อาชชวะ 1. ง. อวิหิงสา 8. “ความสุขใจ” ตามแนวพระราชดารสั ของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหา 1. ภมู พิ ลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 คือข๎อใด 1. ก. ความรา่ รวย 1. ข. การได๎กินอาหารดี 1. ค. การมีรํางกายทแ่ี ข็งแรง 1. ง. การได๎ชวํ ยเหลือผ๎ูทอี ํอนแอกวํา 9. ความสขุ กายคืออะไร 1. ก. การมีสขุ ภาพท่ีแขง็ แรง 1. ข. การไดอ๎ ยํกู ับบุคคลท่รี ัก 1. ค. การมีความเป็นอยูํทีดีกวาํ บคุ คลอนื่ 1. ง. การบริจาคสง่ิ ของตาํ งๆ ใหค๎ นยากจน 10. ข๎อใดคือคุณธรรมที่ควรปลูกฝังในวยั เดก็ 10. มากท่สี ดุ 10. ก. ความคดิ สร๎างสรรค์ 10. ข. ความอํอนน๎อมถํอมตน 10. ค. ความรับผิดชอบตํอสังคม 10. ง. ความสามคั คีและปรองดอง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323