Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงาน การสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย

รายงาน การสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย

Description: Upload_20211005-065740

Search

Read the Text Version

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้ังที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 287 ความเสย่ี งต่ออบุ ัตเิ หตใุ นบา้ น ข้อแนะน�ำส�ำหรับผู้สูงอายุให้ละเว้นการข้ึนลงบันได โดยให้ห้องนอนมาอยู่ชั้นล่าง รวมถึงการปรับพ้ืนบ้าน ใช้วัสดุที่ไม่ล่ืน ท้ังน้ีเพ่ือลดความเสี่ยงต่อการหกล้มที่อาจน�ำไปสู่การเจ็บป่วยสาหัส หรือทุพพลภาพและอาจน�ำไปสู่ การเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุวัยปลายอายุ 80 ปีขึ้นไป จากการสัมภาษณ์ได้พบว่ามีผู้สูงอายุที่ต้องใช้บันได ในการขน้ึ ลงทกุ วนั และตอ้ งเดนิ บนพนื้ บา้ นทลี่ น่ื โดยรวม มถี งึ รอ้ ยละ 43.8 และรอ้ ยละ 37.3 ตามลำ� ดบั เมอ่ื เปรยี บเทยี บ สดั สว่ นดงั กลา่ วระหวา่ งหญงิ ชาย กลมุ่ อายุ และเขตการปกครอง พบวา่ ไมแ่ ตกตา่ งกนั มากนกั ยกเวน้ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ที่มสี ัดส่วนของความเส่ยี งในประเด็นน้ตี ่ำ� ทีส่ ุด รูปท่ี 7.3.9 - 7.3.10 รปู ท่ี 7.3.9 รอ้ ยละของผสู้ ูงอายุทต่ี อ้ งใชบ้ นั ไดขึ้นลงทุกวนั จ�ำแนกตามเพศ และอายุ รปู ที่ 7.3.10 รอ้ ยละของผู้สงู อายุท่ตี อ้ งใชบ้ นั ไดขนึ้ ลงทุกวัน จำ� แนกตามเขตการปกครอง และภาค

288 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครง้ั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 การดัดแปลงบา้ นให้เหมาะกับวัยสงู อายุ 1) การดดั แปลงโครงสรา้ งของบ้าน สำ� หรบั การดดั แปลงโครงสรา้ งของบา้ นใหเ้ หมาะกบั สภาพรา่ งกายและวยั ของผอู้ ยอู่ าศยั นนั้ จากการสมั ภาษณว์ า่ “บ้านท่ีพักได้มีการดัดแปลงให้เหมาะสมส�ำหรับผู้สูงอายุใช่หรือไม่” โดยรวมร้อยละ 21.3 ตอบว่าใช่ เมื่อพิจารณาถึง ความแตกต่างระหวา่ งเพศและอายุ พบวา่ ในกลมุ่ อายุ 80 ปีขนึ้ ไป ทง้ั ชายและหญงิ มีการดดั แปลงบา้ นร้อยละ 23.8 เมื่อจ�ำแนกตามรายภาค พบว่าภาคเหนือมีสัดส่วนการดัดแปลงสูงสุด ร้อยละ 32.3 ส่วนภาคกลาง และกรุงเทพฯ มีสัดส่วนของการดัดแปลงโครงสร้างของบ้านใกล้เคียงกัน และค่อนข้างต�่ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ (ร้อยละ 12.6 และ 12.9 ตามล�ำดับ) พิจารณาตามเขตการปกครอง ในเขตฯมีสัดส่วนของการดัดแปลง สงู กว่านอกเขตเทศบาล (รอ้ ยละ 23.1 กบั ร้อยละ 20.3) รปู ที่ 7.3.11 รอ้ ยละของบ้านผูส้ ูงอายมุ กี ารดัดแปลงโครงสรา้ งของบ้านให้เหมาะสมกบั วัยสงู อายุ รปู ท่ี 7.3.12 ร้อยละของบา้ นทีผ่ สู้ ูงอายุอยอู่ าศยั มกี ารดัดแปลงโครงสรา้ งบา้ นใหเ้ หมาะกบั วัย จำ� แนกตามรายเขตการปกครอง และภาค

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 289 2) ราวเกาะยดึ เม่ือถามเกี่ยวกับการติดต้ังราวเกาะยึดข้ึนลงบันได ราวเกาะในห้องนอน และราวเกาะในห้องน�้ำห้องส้วม พบวา่ ร้อยละ 51.4 ตอบว่ามรี าวบนั ได รอ้ ยละ 14.7 มรี าวเกาะในหอ้ งน�ำ้ ห้องสว้ ม มรี ้อยละ 6.6 บอกว่ามีราวเกาะ ในห้องนอน (รูปที่ 7.3.13) รปู ที่ 7.3.13 รอ้ ยละของบา้ นผสู้ ูงอายุท่ีมรี าวบันได ราวในหอ้ งนอน และราวในหอ้ งน�้ำ จ�ำแนกตามอายุ และเพศ รปู ท่ี 7.3.14 รอ้ ยละของบา้ นผูส้ ูงอายุที่มีราวบนั ได ราวในห้องนอน และราวในหอ้ งนำ้� จ�ำแนกตามเขตการปกครอง และภาค

290 การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 3) การใช้ห้องนอนและเตยี ง ตามท่ีได้มีค�ำแนะน�ำว่าผู้สูงอายุควรอาศัยอยู่ชั้นล่าง ถ้าใช้เตียงนอนก็ควรสูงพอเหมาะกับที่จะลุก จากเตียงได้โดยสะดวกน้ัน ในการส�ำรวจครั้งนี้พบว่าผู้สูงอายุประมาณร้อยละ 67.6 มีห้องนอนอยู่ช้ันล่างของบ้าน และนอนบนเตียง (ร้อยละ 63.2) กลุ่มที่นอนท่ีพื้นห้องมีสัดส่วนร้อยละ 36.4 มีความแตกต่างระหว่างอายุและเพศ เล็กน้อย แต่มีความแตกต่างระหว่างภาค โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือผู้สูงอายุมีการนอนช้ันล่างมากที่สุดและ นอนบนเตียงน้อยทสี่ ุด (รปู ที่ 7.3.15 - 7.3.16) รปู ที่ 7.3.15 ร้อยละของการใช้หอ้ งนอนและเตียงในผสู้ งู อายุ จ�ำแนกตามอายุ และเพศ รปู ที่ 7.3.16 การใช้หอ้ งนอนและเตียง จ�ำแนกตามภาค

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 291 4) ชนิดของสว้ มในบ้าน โดยทว่ั ไปสว้ มในบา้ นแบง่ เปน็ 2 ชนดิ คอื สว้ มนงั่ หอ้ ยขา กบั แบบนงั่ ยองๆ ซงึ่ ชนดิ ทส่ี องนพี้ บในตา่ งจงั หวดั มากกว่าในเมือง มขี อ้ ด้อยสำ� หรับผ้สู ูงวยั ทอี่ ายมุ าก ในการนง่ั และลกุ ข้นึ ลำ� บาก และเสี่ยงต่อการหกลม้ ด้วย ดังนนั้ ถ้าม ี ความสะอาดพอกัน ส้วมน่ังหอ้ ยขาน่าจะปลอดภัยกวา่ สำ� หรบั ผู้สงู อายุ ผลจากการสำ� รวจ พบว่า รอ้ ยละของการใชส้ ้วมแบบนงั่ หอ้ ยขา กบั นง่ั ยองๆ คิดเป็นรอ้ ยละ 59.4 และ 40.6 ตามล�ำดับ และมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยตามอายุ เพศ และภาค ยกเว้นในกรุงเทพฯที่ใช้ส้วมนั่งห้อยขาสูงสุด ถึงรอ้ ยละ 86.2 (รูปที่ 7.3.17 - 7.3.18) รปู ที่ 7.3.17 รอ้ ยละของชนิดสว้ มทผ่ี ู้สงู อายุใช้ จ�ำแนกตามอายุ และเพศ รูปท่ี 7.3.18 รอ้ ยละของชนิดสว้ มที่ผสู้ งู อายุใช้ จ�ำแนกตามภาค

292 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 การดแู ลตนเองหรอื ความตอ้ งการผ้ดู ูแล 1) ดแู ลตนเองไดม้ ากนอ้ ยเพยี งไร ประเด็นน้ีผู้สูงอายุตอบสัมภาษณ์ตามความรู้สึกของตัวเองว่าจ�ำเป็นต้องมีคนดูแลปรนนิบัติในงานกิจวัตร ประจำ� วนั หรือไม่ ค�ำตอบคอื ผ้ทู อี่ ยใู่ นกลมุ่ อายุ 60-69 ปี ร้อยละ 90.0 บอกว่าสามารถดแู ลตนเองได้ สดั ส่วนนีล้ ดลง ตามอายุท่ีมากขึ้น ในวัย 80 ปีข้ึนไปเหลือร้อยละ 64.7 ในผู้ชาย และร้อยละ 60.8 ในผู้หญิง ส่วนท่ีบอกว่า ต้องการผู้ดูแลในบางกิจกรรมมีสัดส่วนสูงขึ้นตามอายุ (ร้อยละ 8.6) ส่วนท่ีต้องพ่ึงผู้ดูแลท้ังหมดมีร้อยละ 5.5 (รูปท่ี 7.3.19 - 7.3.20) รูปที่ 7.3.19 ร้อยละของผู้สูงอายุทสี่ ามารถดแู ลตนเอง ตอ้ งการผู้ดแู ลบางกจิ กรรม หรอื ต้องพง่ึ พาผ้ดู แู ลทั้งหมด รปู ที่ 7.3.20 ร้อยละของผสู้ ูงอายุท่ีสามารถดแู ลตนเอง ต้องการผ้ดู แู ลบางกิจกรรม หรอื ต้องพึ่งพาผดู้ แู ลท้งั หมด จำ� แนกตามเพศ และอายุ

การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้ังที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 293 2) ความต้องการผ้ดู ูแล ประเด็นผู้สูงอายุที่ต้องการผู้ดูแลและปัจจุบันมีผู้ดูแลหรือไม่ ประกอบด้วยค�ำถาม 2 ข้อคือ ขอ้ ท่ี 1. ความต้องการผดู้ ูแล (ค�ำตอบ:ไมจ่ ำ� เป็นต้องมีผดู้ แู ล, ต้องการผดู้ แู ลบางกิจกรรม และตอ้ งพง่ึ ผ้ดู ูแลทั้งหมด) และ ข้อที่ 2. ปัจจุบันผู้สูงอายุมีผู้ดูแลหรือไม่ (ค�ำตอบ: มี และไม่มี) การวิเคราะห์ได้จัดเป็น 3 กลุ่มคือ (1) ไม่ต้องการ ผดู้ แู ล (2) กลุ่มที่ตอ้ งการและมีผูด้ ูแล และ (3) กลุ่มท่ตี ้องการแตไ่ ม่มีผดู้ แู ล ผลการส�ำรวจพบว่า ผู้สูงอายุชายระบุว่าไม่ต้องการผู้ดูแลมีถึงร้อยละ 87.4 ในผู้หญิงร้อยละ 84.7 สัดส่วนที่ระบุว่าต้องการและมีผู้ดูแล มีร้อยละ 8.2 และ 9.8 ในผู้ชายและผู้หญิง ตามล�ำดับ กลุ่มท่ีต้องการแต่ไม่มี ผู้ดูแล มีร้อยละ 3.5 - 7.7 เมอื่ จ�ำแนกตามอายแุ ละเพศ ทง้ั สามกลมุ่ อายมุ ีแผนแบบคลา้ ยกัน โดยกลุ่มอายุ 60 - 69 ปี ท่ีไม่ต้องการผู้ดูแลมีสูงถึงร้อยละ 91.9 และ 90.2 ในชายและหญิง อธิบายได้ว่ากลุ่มนี้ยังแข็งแรงและช่วยตัวเองได้ สัดส่วนนลี้ ดลงตามอายทุ มี่ ากขนึ้ ในกลมุ่ อายุ 80 ปีข้นึ ไป นน้ั ลดลงเป็นร้อยละ 64.7 ในผ้ชู าย และร้อยละ 60.8 ในผหู้ ญงิ เม่ือพิจารณาถึงกลุ่มที่ต้องการผู้ดูแลและมีผู้ดูแลตามกลุ่มอายุ พบว่ากลุ่มอายุ 80 ปีข้ึนไป สัดส่วนใน ผู้ชายต่�ำกว่าผู้หญงิ พบร้อยละ 27.6 และ 34.6 ตามล�ำดบั (รูปที่ 7.3.21) การกระจายตามรายภาค มคี วามแตกตา่ งกันไม่มากนกั คือสว่ นใหญ่ไม่ต้องการผู้ดูแล ซ่ึงสงู สุดในกรงุ เทพฯ ร้อยละ 92.3 ตำ่� สุดในภาคใต้ รอ้ ยละ 83.1 สว่ นท่ตี ้องการผดู้ ูแลแต่ไม่มผี ดู้ ูแล พบในภาคกลางและตะวันออกเฉยี งเหนือ รอ้ ยละ 5.8 และ 5.6 ตามล�ำดบั รองลงมาคือ กรงุ เทพฯ ภาคเหนือ และภาคใต้ (รูปท่ี 7.3.22) รูปที่ 7.3.21 ร้อยละของผูส้ งู อายุตามความตอ้ งการผดู้ ูแล จำ� แนกตามเพศ และอายุ

294 การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครัง้ ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 รปู ที่ 7.3.22 ร้อยละของผสู้ ูงอายตุ ามความต้องการผู้ดูแล จำ� แนกตามภาค 3) ใครเปน็ ผ้ดู ูแลผู้สงู อายุ ในกล่มุ ของผู้ที่ตอบวา่ มผี ู้ดแู ลในชีวิตประจำ� วัน ซ่งึ อาจมีมากกว่าหนี่งคน ใหร้ ะบุคนท่ีใชเ้ วลาดูแลมากท่ีสดุ พบว่าคือบตุ รสาว ทพี่ บในสัดส่วนสงู สดุ ถึงรอ้ ยละ 35.5 รองลงมาคือ ค่สู มรส (รอ้ ยละ 33.6) บตุ รชาย (รอ้ ยละ 20.0) และ หลาน (รอ้ ยละ 7.4) สรุปไดว้ า่ เป็นผูด้ ูแลในระบบครอบครัว และดูเหมือนว่าผูด้ แู ลอ่ืนจากระบบบรกิ าร เช่น ผู้ชว่ ย พยาบาล หรือผดู้ ูแลรับจ้างมไี มม่ าก รปู ท่ี 7.3.23 ในปจั จุบันใครเปน็ ผดู้ ูแลทา่ นเปน็ ประจ�ำวนั มากทส่ี ุด

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้ังท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 295 การเลย้ี งดสู มาชิกในบา้ น (ดา้ นเศรษฐกิจ) การเลี้ยงดูสมาชิกในบ้านหมายถึง ผู้สูงอายุยังต้องรับภาระในการเลี้ยงดู ด้านเศรษฐกิจ ให้ใครหรือไม่ พบว่า มีผู้สงู อายรุ อ้ ยละ 21.2 ในผู้ชาย และร้อยละ 15.6 ในผหู้ ญิง มีภาระนัน้ ตอ้ งดูแลสมาชกิ ในครอบครวั โดยเฉลีย่ 1 คน รปู ท่ี 7.3.24 รอ้ ยละของผู้สงู อายทุ ม่ี ภี าระตอ้ งเล้ยี งดูคนในบา้ น

296 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 7.4 การพ่ึงพิงในกิจวัตรประจ�ำวัน สรุป • ในบทนี้กล่าวถึงผลการส�ำรวจด้านการท�ำกิจวัตรประจ�ำวันพ้ืนฐาน (Activities of Dialy Livings, ADL) และกิจวัตรดา้ นการทำ� งาน การเดินทาง การสื่อสาร (Instrumental Activitiies of Daily Livings, IADL) ของผูส้ ูงอายุ • ผู้สูงอายุร้อยละ 0.7 ถึง 20.2 มีข้อจ�ำกัดในการท�ำกิจวัตรประจ�ำวันพื้นฐาน (ADL) กิจกรรมใด กจิ กรรมหนงึ่ ตอ่ ไปนี้ : รบั ประทานอาหาร, ลา้ งหนา้ , ลกุ นง่ั จากทน่ี อนหรอื เตยี ง, การใชห้ อ้ งนำ�้ , การเคลอ่ื นที่ ภายในบา้ น, การใสเ่ สอ้ื ผา้ , การข้นึ ลงบนั ได, การอาบน้�ำ, กลน้ั ปัสสาวะ และกลน้ั อจุ จาระ • รอ้ ยละ 2.7 ถงึ 29.8 ของผสู้ งู อายมุ ีข้อจำ� กัดในการทำ� กิจกรรมการท�ำงาน เดนิ ทาง สอื่ สารหรอื ใชเ้ ครอื่ งมอื (IADL) กจิ กรรมใดกิจกรรมหน่งึ ต่อไปน:ี้ การใช้เงนิ นบั เงนิ ทอนเงิน, จดั ยากนิ เอง, ทำ� งานบ้าน, ตดั เล็บเทา้ , เดินออกนอกบ้าน, ห้ิวของหนัก, เดินไกล 400 เมตร, ขับรถเอง/ข้ึนรถโดยสารสาธารณะ, ส่ือสาร กบั คนในครอบครัว/เพอ่ื นบ้าน และการใชโ้ ทรศัพท์ • ความชุกของภาวะที่ต้องพ่ึงพิงในกิจวัตรพื้นฐาน หมายถึง การไม่สามารถท�ำกิจวัตรพื้นฐานด้วนตนเอง ได้ตั้งแต่ 2 กิจกรรมข้ึนไปหรือไม่สามารถกล้ันปัสสาวะหรืออุจจาระได้ พบร้อยละ 21.7, ผู้สูงอายุหญิง มคี วามชกุ สูงกว่าชาย (ชายรอ้ ยละ 18.3 หญิงรอ้ ยละ 24.4) และความชกุ เพม่ิ ข้ึนตามอายุ • รอ้ ยละ 12.8 ของผสู้ งู อายทุ ม่ี ขี อ้ จำ� กดั ในการทำ� กจิ วตั รพนื้ ฐาน ADL กจิ กรรมใดๆ 1 กจิ กรรม, รอ้ ยละ 11.1 มีข้อจ�ำกดั 2 กิจกรรม และร้อยละ 4.3 มีขอ้ จ�ำกดั 3 กิจกรรมขึน้ ไป และสัดส่วนนีเ้ พม่ิ ขน้ึ ตามอายุ • รอ้ ยละของผสู้ งู อายทุ ม่ี ขี อ้ จำ� กดั ในการทำ� กจิ กรรม IADL 1 กจิ กรรม (รอ้ ยละ 15.3), 2 กจิ กรรม (รอ้ ยละ 9.0) และ 3 กจิ กรรม ขึน้ ไป (ร้อยละ 20.6) และสัดสว่ นนเ้ี พิม่ ข้นึ ตามอายุ • เม่อื เปรียบเทียบกับภาวะพึง่ พงิ ของการส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยครง้ั ที่ 5 พ.ศ. 2557 ซ่ึงพบวา่ สัดสว่ น ทอ่ี ยใู่ นเกณฑท์ ต่ี ้องพ่งึ พิงในกิจวตั รพน้ื ฐาน (ADL) ร้อยละ 20.7 (ชายรอ้ ยละ 16.6 และหญงิ รอ้ ยละ 24.1) ตำ่� กว่าของการสำ� รวจครั้งน้ี รอ้ ยละ 21.7 (ชายร้อยละ 18.3 และหญิงร้อยละ 24.4) การพงึ่ พิงในกจิ วตั รประจำ� วัน ภาวะทุพพลภาพและความจ�ำกัดในการท�ำหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ในผู้สูงอายุมีสาเหตุเนื่องมาจาก ความเสอื่ มของอวยั วะหรอื การเจบ็ ปว่ ยโดยเฉพาะโรคเรอ้ื รงั ทำ� ใหก้ ารทำ� งานของระบบอวยั วะตา่ งๆ เชน่ ระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบกล้ามเนื้อ ฯลฯ มีประสิทธิภาพลดลง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ท�ำให้ผู้สูงอายุมีข้อจ�ำกัด ในการท�ำกิจกรรมตา่ งๆ ดว้ ยตนเอง ตอ้ งมีคนชว่ ยหรือตอ้ งพึง่ อปุ กรณช์ ว่ ย การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยคร้งั ที่ 6 นี้ มี การสัมภาษณ์เก่ียวกับความสามารถในการท�ำกิจวัตรประจ�ำวันในปัจจุบันของผู้สูงอายุ โดยใช้แบบประเมินท�ำกิจวัตร ประจ�ำวันพ้นื ฐาน (Activities of Daily Living, ADL) และกิจวตั รในการท�ำงาน การเดนิ ทาง การสื่อสาร และท่ตี อ้ งใช้ เคร่อื งมือ (Instrumental Activities of Daily Living, IADL) โดยการสมั ภาษณ์นี้เป็นการสอบถามวา่ ผู้สูงอายุท�ำอะไร ได้บ้าง ที่ท�ำได้จริงๆ ไม่ใช่การทดสอบหรือการคาดการณ์ว่าท�ำได้หรือไม่ โดยทั่วไปเป็นการถามถึงกิจกรรมที่ปฏิบัติได้ ในระยะเวลา 24 - 48 ชั่วโมงก่อนสมั ภาษณ์ (ตารางท่ี 7.4.1)

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 297 กิจวตั รประจ�ำวันทีเ่ กีย่ วขอ้ งแบง่ เปน็ 2 ส่วน ไดแ้ ก่ 1) กจิ วัตรประจำ� วันพื้นฐาน (ADL) ประกอบด้วยกจิ กรรมดแู ลตนเอง 10 ข้อ (ตารางท่ี 7.4.1) ขอ้ ส่วนใหญ่ คำ� ตอบคือ 0 = ไม่สามารถท�ำได้ 1 = ตอ้ งการคนช่วย หรอื ใช้อปุ กรณ์ 2 = ท�ำได้เอง 2) กจิ กรรมทีเ่ กีย่ วกับการทำ� งาน การเดนิ ทาง และการสื่อสาร (Instrumental Activities of Dilay Livings, IADL) ประกอบดว้ ยกจิ กรรม 12 ขอ้ (ตามตารางที่ 7.4.1) และคำ� ตอบมี 3 ระดับ คือ 1 = ท�ำไมไ่ ดเ้ ลย 2 = ตอ้ งมผี ู้อื่นชว่ ย หรอื ใช้อปุ กรณ์ 3 = ท�ำได้เอง 4 = ไมเ่ คยทำ� หมายเหตุ ในการวเิ คราะหร์ ายกจิ กรรมนนั้ กจิ กรรมใดทผ่ี สู้ งู อายตุ อบวา่ “ไมเ่ คยทำ� ” ขอ้ นน้ั ไมถ่ กู รวมอยใู่ นการวเิ คราะห์ ตารางที่ 7.4.1 กจิ วตั รประจำ� วนั พนื้ ฐาน (Activities of Daily Livings) และกจิ กรรม Instrumental Acitivities of Daily Livings ก. กจิ วัตรประจำ� วันพ้ืนฐาน (การดูแลตนเอง) ข. กจิ กรรมทีเ่ กยี่ วกบั การท�ำงาน การเดินทาง และการสอ่ื สาร (Activities of daily livings, ADL) (Instrumental Activities of Dilay Livings, IADL) 1) อาบน�ำ้ (0, 1) 2) ล้างหน้า หวผี ม แปรงฟัน โกนหนวด (0, 1) 1) ใช้เงนิ นับเงิน ทอนเงนิ 3) สวมใสเ่ สือ้ ผา้ (0, 1, 2) 2) จัดยากินเอง 4) กินอาหาร (0, 1, 2) 3) งานบ้านอยา่ งเบา (กวาดบ้าน/เก็บของ/ท�ำครวั ) 5) ลุกน่ังจากท่ีนอนหรอื เตยี ง (0, 1, 2, 3) 4) งานบ้านอย่างหนัก (ถูบา้ น/ตกั นำ�้ /ยกของ) 6) ใช้ห้องน�้ำ/สว้ ม (0, 1, 2) 5) ตัดเลบ็ เท้า 7) เดนิ ไปเดนิ มาภายในตัวบา้ น (0, 1, 2, 3) 6) เดินออกนอกบา้ นมากกว่า 15 นาทใี นแต่ละคร้ัง 8) การขึ้นลงบันได 1 ชนั้ (0, 1, 2) 7) หิ้วของหนกั 9) กล้นั ปัสสาวะ (0, 1, 2) 8) เดนิ ไกลอยา่ งน้อย 400 เมตร 10) กลั้นอจุ จาระ (0, 1, 2) 9) ออกนอกบา้ นโดยขับรถเอง/ขน้ึ รถโดยสารสาธารณะ รวมคะแนน เต็ม 20 คะแนน 10) พูดคุยสอื่ สารกบั คนในครอบครวั 11) การติดต่อสอ่ื สารกับเพอ่ื นบา้ นกรณจี �ำเป็น ปรบั จาก Barthel ADL4, Lawton’s IADL5 12) ใชโ้ ทรศัพท์กดเบอรเ์ อง รับเอง 4 Mahony F, Barthel DW. Functional evaluation: The Barthel Index. Md State Med J. 1965 Feb; 14:61 - 5. 5 Lawton MP, Brody EM. Assessment of older people: self-maintaining and instrumental activities of daily living. Gerontologist. 1969;9: 179 - 86.

298 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ค�ำจ�ำกัดความ 1. การมขี อ้ จำ� กัดในการท�ำกิจวตั รประจำ� วนั พื้นฐาน (ADL) หมายถงึ มีขอ้ จ�ำกดั ในการทำ� กจิ กรรมดูแลตนเอง พนื้ ฐาน (อาบนำ้� / ลา้ งหนา้ , แตง่ ตวั , กนิ อาหาร, ลกุ นง่ั จากทน่ี อนหรอื เตยี ง, การใชห้ อ้ งนำ�้ /สว้ ม, เดนิ ไปเดนิ มา ภายในตวั บา้ น, กล้ันปสั สาวะ และ กล้ันอุจจาระ) จำ� นวน 1, 2 และ 3 กิจกรรมปน็ ตน้ ไป (ตารางท่ี 7.4.1) 2. ภาวะพ่ึงพิงในกิจวัตรประจ�ำวันหมายถึง การมีข้อจ�ำกัดในการท�ำกิจวัตรดูแลตนเอง (ADL) โดยการท�ำ กิจกรรมต้องมีผู้อื่นช่วยหรือใช้อุปกรณ์ หรือท�ำเองไม่ได้เลย ตั้งแต่ 2 กิจกรรมขึ้นไป ของ 10 กิจกรรม ในหมวดกิจกรรมการดแู ลตนเอง (ADL) 3. การมีข้อจ�ำกัดในการท�ำกิจกรรมท่ีเกี่ยวกับการท�ำงาน เดินทาง สื่อสารหรือใช้เคร่ืองมือ (IADL) หมายถึง มีข้อจ�ำกัดในการท�ำงานที่ต้องใช้เคร่ืองมือ ใช้เงิน นับเงิน ทอนเงิน, จัดยากินเอง, งานบ้านอย่างเบา (กวาดบา้ น/เกบ็ ของ/ทำ� ครวั ), งานบา้ นอย่างหนกั (ถูบ้าน/ตักนำ�้ /ยกของ), ตดั เล็บเทา้ , เดนิ ออกนอกบ้าน มากกว่า 15 นาทใี นแต่ละครงั้ , หว้ิ ของหนกั เช่นไปตลาดได้ไกล 100 เมตร เดินไกลอยา่ งนอ้ ย 400 เมตร, ออกนอกบา้ นโดยขับรถเอง/ขนึ้ รถโดยสารสาธารณะ, การติดต่อส่อื สารกับเพอื่ นบา้ น หรือการใชโ้ ทรศัพท)์ จ�ำนวน 1, 2 และ 3 กิจกรรมปน็ ต้นไป โดยไมร่ วมกรณีทตี่ อบวา่ กจิ รรมนน้ั ไมเ่ คยทำ� ผลการสำ� รวจ กจิ วตั รประจำ� วันพื้นฐาน การมขี ้อจำ� กัดในการท�ำกจิ วตั รประจ�ำวนั พนื้ ฐาน พบวา่ รอ้ ยละ 0.7 - 17.4 ของผ้สู งู อายุ ไมส่ ามารถทำ� กจิ วัตร พ้ืนฐานกิจกรรมใดกิจกรรมหน่ึงด้วยตนเอง ได้แก่ การไม่สามารถท�ำกิจกรรมต่อไปนี้ การข้ึนลงบันได ร้อยละ 7.7 (ชายร้อยละ 5.6 หญิงรอ้ ยละ 9.3) การเคลอ่ื นทภ่ี ายในบ้านร้อยละ 3.6 (ชายและหญงิ รอ้ ยละ 3.7 และ 3.5 ตามล�ำดบั ) การใช้ห้องนำ�้ ร้อยละ 3.2 (ชายและหญิง ร้อยละ 3.3 และ 3.2 ตามลำ� ดบั ) สำ� หรับการกล้ันปสั สาวะ หรอื กล้ันอจุ จาระ พบว่าไม่สามารถกลั้นไดร้ อ้ ยละ 17.4 และ 13.6 ตามลำ� ดบั (รปู ที่ 7.4.1) รูปที่ 7.4.1 ร้อยละของผู้สูงอายทุ ่ีมคี วามจ�ำกัดในการทำ� กจิ วตั รพนื้ ฐาน (ADL)

การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 299 กิจวตั รประจำ� วนั ที่เก่ียวกบั การทำ� งาน เดินทาง ใชเ้ ครื่องมอื หรอื สอื่ สาร (IADL) กิจกรรม IADL ท่ีมีข้อจ�ำกัดมากท่ีสุดคือ การห้ิวของหนัก (ร้อยละ 24.2) รองลงมา คือ การใช้โทรศัพท์ (โทรด้วยตนเอง) การเดินไกล การขับรถหรือโดยสารรถประจ�ำทาง งานบ้านหนัก (เช่น ถูบ้าน ตักน้�ำ ยกของ) กิจกรรมอ่ืนท่ีมีข้อจ�ำกัด ได้แก่ การตัดเล็บเท้าด้วยตนเอง เดินออกนอกบ้าน การสื่อสารกับเพื่อนบ้าน การใช้เงิน นับเงนิ และทอนเงนิ การตดั เล็บ งานบ้านอยา่ งเบา และการจัดยากินเอง โดยสว่ นใหญ่ในแต่ละกิจกรรม ผสู้ ูงอายหุ ญงิ มขี อ้ จ�ำกัดในการทำ� มากกว่าผ้สู งู อายุชาย (รปู ท่ี 7.4.2) รูปที่ 7.4.2 ร้อยละของผ้สู ูงอายทุ ่ีมีขอ้ จำ� กดั ในการท�ำกิจกรรม IADL* * หมายเหตุ กิจกรรมทผ่ี ตู้ อบวา่ “ไมเ่ คยท�ำ” ไมร่ วมอยใู่ นการวิเคราะห์ การมีขอ้ จ�ำกดั ในการทำ� กจิ วตั รประจำ� วันพน้ื ฐาน (ADL) ต้งั แต่ 1 ถึง 3+ กิจกรรม เมอื่ พจิ ารณาการมขี อ้ จำ� กดั ในการทำ� กจิ วตั รประจำ� วนั พนื้ ฐาน (ADL) 10 กจิ กรรม พบวา่ รอ้ ยละ 12.8 มขี อ้ จำ� กดั ในการทำ� กจิ กรรมใดๆ 1 กจิ กรรม, รอ้ ยละ 11.1 มีขอ้ จำ� กัด 2 กิจกรรม และร้อยละ 4.3 มขี อ้ จำ� กัด 3 กจิ กรรมขึ้นไป เม่ือพิจารณาตามกลุ่มอายุ พบว่าร้อยละของผู้สูงอายุที่ไม่สามารถท�ำกิจวัตรพื้นฐานได้น้ีเพ่ิมข้ึนตามอายุ ตวั อยา่ งเชน่ รอ้ ยละของผสู้ งู อายทุ ไ่ี มส่ ามารถทำ� กจิ วตั รพน้ื ฐานอยา่ งนอ้ ย 1 กจิ กรรม ในกลมุ่ อายุ 60 - 69 ป,ี 70 - 79 ป,ี และ 80 ปีข้ึนไป มีรอ้ ยละ 11.1, 14.7 และ 17.6 ตามลำ� ดับ (ตารางท่ี 7.4.2) ผู้สูงอายุท่ีอาศัยอยู่นอกเขตเทศบาลมีร้อยละของผู้ที่มีข้อจ�ำกัดในการท�ำกิจวัตรพ้ืนฐานสูงกว่าผู้สูงอายุในเขตฯ เลก็ นอ้ ย และเมอื่ พจิ ารณาตามภาค พบวา่ ผสู้ งู อายทุ อี่ าศยั ในภาคกลางมรี อ้ ยละของผทู้ มี่ ขี อ้ จำ� กดั สงู กวา่ ภาคอนื่ เลก็ นอ้ ย (ตารางที่ 7.4.2)

300 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ตารางท่ี 7.4.2 ร้อยละของผู้สูงอายทุ ีม่ ีขอ้ จ�ำกดั ในการท�ำกจิ วัตรประจำ� วัน (ADL)* ดว้ ยตนเอง ชาย อายุ จ�ำนวน 1 2 3+ 7.5 2.4 60 - 69 2,485 9.2 12.0 3.1 70 - 79 10.3 12.2 80+ 1,164 12.5 เขตการปกครอง 3.2 432 17.9 7.8 3.9 ในเขต 9.7 นอกเขต เขตการปกครอง 5.0 2,200 12.0 9.3 4.5 ภาค 10.6 2.3 1,881 10.6 8.4 2.5 เหนือ 8.8 4.2 กลาง 6.6 3.6 ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 9.1 ใต้ 940 11.1 3+ กรงุ เทพฯ 2.2 รวม 863 15.8 7.3 14.7 1,025 7.0 3.7 831 10.4 5.6 422 13.1 5.4 5.6 4,081 11.1 4.3 4.9 หญิง 3.8 4.9 อายุ จำ� นวน 1 2 11.2 60 - 69 3,237 12.5 13.1 70 - 79 20.7 80+ 1,417 16.6 เขตการปกครอง 10.0 499 17.3 14.2 ในเขต นอกเขต 8.9 16.1 ภาค 3,099 13.7 14.8 10.6 เหนอื 2,054 14.3 7.6 กลาง 12.7 ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ใต้ กรุงเทพฯ 985 13.2 รวม 1,131 18.4 1,119 11.0 1,058 13.8 860 14.6 5,153 14.1

การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 301 ตารางที่ 7.4.2 ร้อยละของผู้สงู อายทุ ม่ี ีขอ้ จ�ำกดั ในการทำ� กจิ วตั รประจ�ำวนั (ADL)* ด้วยตนเอง (ต่อ) รวม อายุ จ�ำนวน 1 2 3+ 9.6 2.3 60 - 69 5,722 11.1 12.6 5.4 70 - 79 16.0 13.6 80+ 2,581 14.7 เขตการปกครอง 9.1 3.5 931 17.6 12.2 4.8 ในเขต นอกเขต 9.1 5.2 13.8 5.2 ภาค 5,299 13.0 11.9 3.4 9.8 3.8 เหนือ 3,935 12.6 7.2 4.0 กลาง 11.1 4.3 ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ใต้ กรุงเทพฯ 1,925 12.3 รวม 1,994 17.3 2,144 9.2 1,889 12.3 1,282 14.0 9,234 12.8 การมีข้อจำ� กดั ในการท�ำกิจกรรม IADL 1, 2 และ 3+ กจิ กรรม รอ้ ยละของผสู้ ูงอายทุ ี่มขี อ้ จำ� กัดในการทำ� กจิ กรรม IADL 1 กิจกรรม (รอ้ ยละ 15.3), 2 กจิ กรรม (รอ้ ยละ 9.0) และ 3 กิจกรรมขึน้ ไป (ร้อยละ 20.6) และสดั ส่วนน้ีเพ่มิ ขน้ึ ตามอายทุ ่เี พม่ิ ขน้ึ พิจาณาตามเขตการปกครอง พบว่าสัดส่วนของผู้สูงอายุท่ีมีข้อจ�ำกัดในการท�ำกิจรรม IADL นอกเขตเทศบาล มีมากกว่าในเขตฯ เม่ือพิจารณาตามภาคพบว่า สัดส่วนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีร้อยละของผู้ที่มีข้อจ�ำกัด ตง้ั แต่ 1 - 3 กจิ กรรมขนึ้ ไปมากท่สี ุด (ตารางที่ 7.4.3)

302 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้ังท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ตารางท่ี 7.4.3 รอ้ ยละของผสู้ งู อายทุ มี่ ขี อ้ จำ� กดั ในการทำ� กจิ กรรม IADL* ดว้ ยตนเอง จำ� แนกตามจำ� นวนกจิ กรรม เพศ อายุ เขตการปกครอง และภาค ชาย อายุ จำ� นวน 1 2 3+ 5.8 8.2 60 - 69 2,485 13.9 10.3 18.6 70 - 79 7.4 46.8 80+ 1,164 17.4 เขตการปกครอง 6.5 12.7 432 11.9 7.6 16.4 ในเขต นอกเขต 7.4 17.9 6.3 11.6 ภาค 2,200 11.6 10.3 19.7 3.4 9.2 เหนอื 1,881 16.3 3.3 9.9 กลาง 7.2 15.1 ตะวันออกเฉยี งเหนอื ใต้ กรุงเทพฯ 940 13.6 รวม 863 16.4 1,025 16.0 831 14.7 422 7.6 4,081 14.7 หญงิ อายุ จำ� นวน 1 2 3+ 15.6 60 - 69 3,237 16.9 9.5 34.2 70 - 79 56.4 80+ 1,417 14.8 12.3 เขตการปกครอง 18.7 499 11.6 10.4 28.4 ในเขต นอกเขต 23.4 3,099 13.9 7.7 22.3 ภาค 35.8 2,054 16.9 11.9 16.7 เหนือ 11.5 กลาง 24.9 ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ใต้ 985 13.9 12.0 กรุงเทพฯ รวม 1,131 18.9 12.0 1,119 15.7 10.9 1,058 18.1 7.6 860 9.1 4.5 5,153 15.8 10.4 * ความหมาย IADL โปรดดูตาราง 7.4.1

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้ังที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 303 ตารางท่ี 7.4.3 รอ้ ยละของผสู้ งู อายทุ ม่ี ขี อ้ จำ� กดั ในการทำ� กจิ กรรม IADL* ดว้ ยตนเอง จำ� แนกตามจำ� นวนกจิ กรรม เพศ อายุ เขตการปกครอง และภาค (ตอ่ ) รวม อายุ จำ� นวน 1 2 3+ 7.9 12.4 60 - 69 5,722 15.6 11.4 27.2 70 - 79 9.0 52.1 80+ 2,581 16.0 เขตการปกครอง 7.2 16.1 931 11.8 10.0 23.0 ในเขต นอกเขต 9.9 20.9 9.5 17.7 ภาค 5,299 12.9 10.6 28.5 5.8 13.4 เหนอื 3,935 16.6 4.0 10.9 กลาง 9.0 20.6 ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ใต้ กรุงเทพฯ 1,925 13.8 รวม 1,994 17.8 2,144 15.8 1,889 16.6 1,282 8.5 9,234 15.3 * ความหมาย IADL โปรดดตู าราง 7.4.1 ภาวะพึ่งพิงในกจิ วตั รพน้ื ฐาน เม่ือพิจารณาภาวะที่ต้องพ่ึงพิงในกิจวัตรพ้ืนฐาน ซ่ึงหมายถึงการไม่สามารถท�ำกิจวัตรพื้นฐานด้วยตนเองได้ ตั้งแต่ 2 กิจกรรมขนึ้ ไป หรือไมส่ ามารถกลน้ั ปสั สาวะหรืออจุ จาระอยา่ งหน่งึ อยา่ งใดได้ พบความชุกของภาวะพึ่งพิงในกิจวัตรประจ�ำวันพ้ืนฐาน (ADL) ในผู้สูงอายุเท่ากับร้อยละ 21.7 โดยในผู้สูงอายุชายร้อยละ 18.3 และผู้สูงอายุหญิง ร้อยละ 24.4 ความชุกเพิ่มขึ้นตามอายุจากร้อยละ 18.3 ใน กลุ่มอายุ 60 - 69 ปี เพิ่มเปน็ รอ้ ยละ 24.6 ในกล่มุ อายุ 70 - 79 ปี และเป็นร้อยละ 34.8 ในกลุม่ อายุ 80 ปีขึ้นไป ผู้สูงอายุหญิงมีความชุกสูงกว่าผู้ชายทุกกลุ่มอายุ ความชุกของภาวะพ่ึงพิงของนอกเขตเทศบาลสูงกว่าในเขตฯ การกระจายตามภาคพบว่า ภาคกลางมีความชุกสูงสุด คือร้อยละ 28.6 รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพฯ และภาคใตม้ คี วามชุกใกล้เคียงกนั และภาคเหนอื มคี วามชุกต�่ำทสี่ ุด (รปู ท่ี 7.4.3 - 7.4.5)

304 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครง้ั ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 รปู ท่ี 7.4.3 รอ้ ยละของผ้สู งู อายุทตี่ อ้ งพึง่ พิงในกจิ วัตรพนื้ ฐาน* จ�ำแนกตามเพศ และอายุ * หมายถึงไมส่ ามารถทำ� กิจวัตรพน้ื ฐานดว้ ยตนเองตง้ั แต่ 2 กิจกรรมขน้ึ ไป หรอื ไมส่ ามารถกลัน่ ปสั สาวะหรืออจุ จาระอย่างใดอย่างหนึง่ รูปท่ี 7.4.4 รอ้ ยละของผูส้ งู อายุทตี่ อ้ งพึง่ พิงในกิจวตั รพ้ืนฐาน* จำ� แนกตามเพศ และเขตการปกครอง * หมายถงึ ไมส่ ามารถทำ� กิจวัตรพ้ืนฐานดว้ ยตนเองตง้ั แต่ 2 กิจกรรมข้นึ ไป หรอื ไมส่ ามารถกล่ันปัสสาวะหรืออุจจาระอย่างใดอย่างหนึ่ง

% การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 305 รูปท่ี 7.4.5 รอ้ ยละของผสู้ งู อายทุ ี่ต้องพ่งึ พงิ ในกจิ วตั รพนื้ ฐาน* จำ� แนกตามเพศ และภาค * หมายถึงไมส่ ามารถทำ� กจิ วัตรพื้นฐานดว้ ยตนเองต้งั แต่ 2 กิจกรรมขึน้ ไป หรือไม่สามารถกลนั่ ปสั สาวะหรอื อจุ จาระอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ การเปรียบเทยี บกับผลการสำ� รวจคร้งั ที่ 5 เมื่อเปรียบเทียบกับภาวะพ่ึงพิงของการส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยครั้งท่ี 5 พ.ศ. 2557 (โดยใช้ ความหมายเดียวกันคือ การท�ำกิจวัตรประจ�ำวันพ้ืนฐานไม่ได้ 2 กิจกรรม หรือกล้ันปัสสาวะหรืออุจจาระอย่างใด อย่างหนึ่งไม่ได้) พบว่า ความชุกของผู้สูงอายุท่ีอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องพึ่งพิงในกิจวัตรพ้ืนฐาน (ADL) ในการส�ำรวจครั้งที่ 5 มรี ้อยละ 20.7 (ชายรอ้ ยละ 16.6 และหญิงร้อยละ 24.1) ซ่งึ สัดสว่ นนใ้ี กล้เคียงกบั ของการสำ� รวจครัง้ ที่ 6 ท่ีพบความชกุ รอ้ ยละ 21.7 (ชายรอ้ ยละ 18.3 และหญงิ รอ้ ยละ 24.4) ภาวะพง่ึ พา : กลุม่ ตดิ บา้ น ติดเตียง และติดสงั คม เม่ือพิจารณาแบ่งกลุม่ ภาวะพึ่งพาตาม คำ� จำ� กัดความ การจ�ำแนกกลุ่มผู้สูงอายุเพื่อให้เหมาะสมกับการด�ำเนินงานดูแลส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายตามกลุ่มศักยภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่ายและผู้ทรงคุณวุฒิ โดยแบ่งกลมุ่ ดัชนบี าร์เธลเอดีแอล (Barthel ADL index) ซ่ึงมคี ะแนนเต็ม 20 คะแนน ดังน้ี 1. กลุม่ ติดเตยี ง มีภาวะพึ่งพามาก ผู้สูงอายกุ ล่มุ ทีพ่ ่ึงตนเองไม่ได้ ชว่ ยเหลือตนเองไม่ได้ พกิ าร หรือทพุ พลภาพ มผี ลรวมคะแนน ADL อยใู่ นชว่ ง 0-4 คะแนน คะแนน ADL <5 2. กล่มุ ติดบา้ น มีภาวะพ่ึงพาปานกลาง ผ้สู งู อายุทด่ี ูแลตนเองไดบ้ ้าง ช่วยเหลอื ตนเองได้บา้ ง มผี ลรวมคะแนน ADLอยู่ในชว่ ง 5 - 11 คะแนน คะแนน ADL 5 - 11 3. กลุ่มตดิ สังคม พงึ่ ตนเองได้ สามารถช่วยเหลือผ้อู ืน่ ในชมุ ชนและสงั คมได้ มผี ลรวมคะแนน ADL ต้งั แต่ 12 คะแนนขึ้นไป คะแนน ADL > =12 ความชุกของกลุ่มติดเตียง ร้อยละ 0.3 หญิงมากกว่าชาย (ชายและหญิงร้อยละ 0.2 และ 0.3 ตามล�ำดับ) ความชกุ เพ่ิมขึน้ เมอ่ื อายุขน้ึ สูงสดุ ในกลุม่ อายุ 80 ปขี ้ึนไป คอื ร้อยละ 1.4 (ชายและหญงิ รอ้ ยละ 1.0 และ 1.8 ตามล�ำดบั ) ความชุกของกลุ่มติดบ้าน ร้อยละ 0.5 ชายมากกว่าหญิง (ชายและหญิงร้อยละ 0.8 และ 0.3 ตามล�ำดับ) ความชกุ เพิ่มขึน้ เมื่ออายขุ ึ้นสงู สุดในกลุ่มอายุ 80 ปขี นึ้ ไป คอื ร้อยละ 1.9 (ชายและหญงิ ร้อยละ 2.2 และ 1.7 ตามลำ� ดบั ) (รปู ท่ี 7.4.6)

306 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 รปู ท่ี 7.4.6 ความชกุ ของภาวะพึง่ พา ตามระดบั ความรุนแรงในผู้สงู อายุไทย จ�ำแนกตามเพศ และอายุ เม่ือพิจารณาตามเขตการปกครอง ความชุกของกลุ่มติดเตียงของนอกเขตเทศบาลมีมากกว่าในเขตเทศบาล (ร้อยละ 0.3 และ 0.1 ตามล�ำดับ) สว่ นกลมุ่ ตดิ บ้าน ผสู้ งู อายนุ อกเขตฯ มีความชกุ มากกว่าในเขตฯเลก็ นอ้ ย (รูปท่ี 7.4.7) ความชุกของกลุ่มติดเตียงมมี ากสุดในกรุงเทพฯและภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื คอื รอ้ ยละ 0.4 เท่ากัน รองลงมา คือภาคกลาง ภาคเหนือและภาคใต้ ส่วนกลุ่มติดบ้านมีมากสุดในกรุงเทพฯ รองลงมา คือภาคเหนือ ภาคกลางและ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ และภาคใตม้ คี วามชุกเทา่ กนั (รูปท่ี 7.4.8) รปู ที่ 7.4.7 ความชกุ ของภาวะพง่ึ พา ตามระดับความรุนแรงในผ้สู งู อายุไทย จ�ำแนกตามเพศ และเขตการปกครอง

การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้ังท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 307 รปู ท่ี 7.4.8 ความชกุ ของภาวะพงึ่ พา ตามระดับความรุนแรงในผ้สู ูงอายไุ ทย จ�ำแนกตามเพศ และภาค

308 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครง้ั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 7.5 ความเส่ือมถอยของอวัยวะ สว่ นนก้ี ลา่ วถงึ ความชกุ ของโรคตอ้ กระจก ระบบบดเคย้ี ว การไดย้ นิ และสายตา รวมถงึ สดั สว่ นทไี่ ดร้ บั การรกั ษา หรอื บรกิ ารทดแทน 1) ต้อกระจก ความชุกของต้อกระจกในผู้สูงอายุท่ีเคยได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ โดยรวมคือ ร้อยละ 17.6 จ�ำแนก ตามเพศ ความชุกในผู้ชายและผู้หญิงเป็นร้อยละ 16.1 และ 18.7 ตามล�ำดับ เม่ือจ�ำแนกตามกลุ่มอายุและเพศ พบวา่ ความชกุ ในผชู้ ายตำ่� กวา่ ผหู้ ญงิ ในทกุ กลมุ่ อายุ ตำ�่ สดุ ในกลมุ่ 60 - 69 ปี แลว้ เพม่ิ ขน้ึ ตามอายุ ในผชู้ ายและผหู้ ญงิ สงู สดุ เม่อื อายุ 80 ปขี นึ้ ไป อยรู่ อ้ ยละ 27.9 และ 33.8 ตามล�ำดับ (รปู ท่ี 7.5.1) รปู ท่ี 7.5.1 รอ้ ยละของผูส้ ูงอายุท่เี ป็นตอ้ กระจก จ�ำแนกตามอายุ และเพศ

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครัง้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 309 เม่ือพิจารณาตามเขตการปกครองและภาค (รูปท่ี 7.5.2 - 7.5.3) พบความชุกของต้อกระจกของผู้ที่อยู่ ในเขตเทศบาลสูงกว่านอกเขตฯ (ร้อยละ 20.9 กับร้อยละ 15.7 ตามล�ำดับ) นอกจากน้ียังพบว่าในระดับภาค ความชุกสงู สุดเป็นผูท้ ่ีอยูใ่ นกรุงเทพฯ รอ้ ยละ 26.5 รองลงมาได้แก่ ภาคกลาง (รอ้ ยละ 23.0) ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ (รอ้ ยละ 14.8) ภาคใต้ (ร้อยละ 14.3) และต�่ำสดุ ในภาคเหนือ (รอ้ ยละ 12.9) รปู ท่ี 7.5.2 ความชุกของผสู้ ูงอายุที่เปน็ ตอ้ กระจก จ�ำแนกตามเพศ และเขตการปกครอง รปู ที่ 7.5.3 ความชุกของผูส้ งู อายุทเ่ี ปน็ ตอ้ กระจก จ�ำแนกตามเพศ และภาค ผู้ท่ีเป็นต้อกระจกแล้วได้รับการรักษานั้น มีเป็นร้อยละ 59.2 โดยรวม ผู้หญิงมีสัดส่วนสูงกว่าผู้ชายเล็กน้อย (ร้อยละ 59.9 และ 58.1 ตามล�ำดับ) ส�ำหรับเขตการปกครองและภาค ร้อยละของผู้ได้รับการรักษาต้อกระจก ในเขตเทศบาลสูงกว่านอกเขตฯเล็กนอ้ ย (รอ้ ยละ 61.7 และรอ้ ยละ 57.3) ในระหว่างภาคนั้น กรงุ เทพฯมีสดั สว่ นสูงสุด ร้อยละ 66.1 อนั ดบั ต่อมา ไดแ้ ก่ ภาคใต้ (รอ้ ยละ 60.3) ภาคอ่นื ๆมสี ัดส่วนใกลเ้ คียงกนั (รูปท่ี 7.5.4 - 7.5.6)

310 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้งั ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 รูปท่ี 7.5.4 ร้อยละของผสู้ ูงอายทุ ีเ่ ปน็ ตอ้ กระจกและได้รับการรักษา จำ� แนกตามเพศ และอายุ รปู ท่ี 7.5.5 รอ้ ยละของผู้สูงอายุท่เี ปน็ ตอ้ กระจกและไดร้ ับการรกั ษา จ�ำแนกตามเพศ และเขตการปกครอง

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 311 รปู ที่ 7.5.6 ร้อยละของผสู้ ูงอายทุ เี่ ปน็ ตอ้ กระจกและได้รับการรักษา จ�ำแนกตามเพศ และภาค 2) ระบบการบดเคย้ี ว ฟันเป็นส่วนของอวัยวะที่ส�ำคัญต่อความอยู่ดีมีสุข แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 และฉบบั ที่ 9 ได้กำ� หนดว่าผู้สงู อายุควรมฟี ันส�ำหรับการบดเคี้ยวได้ไม่นอ้ ยกว่า 20 ซ่ี ซ่ึงเปน็ เป้าหมายของการรักษาฟนั ให้อยู่ในสภาพดี และหากมีฟนั น้อยกวา่ 20 ซ่ี ควรไดร้ บั บริการทดแทน เพอื่ คงสภาพการท�ำหนา้ ที่ได้ จากการสำ� รวจโดยรวมพบวา่ ความชุกของผสู้ ูงอายไุ ทยทม่ี ฟี นั นอ้ ยกว่า 20 ซี่ มีประมาณร้อยละ 52.2 ใกล้เคียงกันในชายและหญงิ เมอ่ื พิจารณาตามรายอายุ ผู้สูงอายุทม่ี ีฟนั ไมถ่ งึ เกณฑ์ ต�ำ่ ทสี่ ดุ ในกล่มุ อายุ 60 - 69 ปี แลว้ เพ่มิ ตามอายทุ ่ีเพมิ่ ข้ึน และสูงสดุ ในผมู้ ีอายุ 80 ปีขึ้นไป อยู่ท่รี ้อยละ 68.9 ในเพศชาย และรอ้ ยละ 67.0 ในเพศหญิง (รูปที่ 7.5.7) การได้รับบริการของผู้สูงอายุที่มีฟันน้อยกว่า 20 ซ่ีน้ัน โดยเฉลี่ยพบว่ามีผู้ได้รับบริการใส่ฟันทดแทน ร้อยละ 20.7 - 32.3 ในชายและหญิงตามลำ� ดบั (รูปท่ี 7.5.8) เมื่อพิจารณาตามรายภาค พบว่าผู้สูงอายุในกรุงเทพฯได้รับการใส่ฟันทดแทนในสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 35.9 และ 47.0 ในผ้ชู ายและผู้หญิงตามลำ� ดบั รองลงมาได้แก่ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคเหนอื และต�่ำท่ีสดุ คอื ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ซึง่ ผหู้ ญงิ และผูช้ ายได้รบั บรกิ ารต่�ำสดุ คือ ร้อยละ 11.1 และ 14.5 ตามลำ� ดบั (รูปท่ี 7.5.9)

312 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครง้ั ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 รูปท่ี 7.5.7 รอ้ ยละของผ้สู ูงอายุท่มี ฟี นั ไมค่ รบ 20 ซี่ จำ� แนกตามอายุ และเพศ รปู ที่ 7.5.8 ร้อยละของการไดร้ บั บริการใสฟ่ ันทดแทน ในผู้สูงอายทุ ม่ี ฟี ันไม่ครบ 20 ซ่ี จำ� แนกตามอายุ และเพศ

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 313 รูปท่ี 7.5.9 รอ้ ยละของการไดร้ บั บริการใส่ฟันทดแทน ในผสู้ งู อายุทีม่ ฟี นั ไมค่ รบ 20 ซ่ี จำ� แนกตามเพศ และภาค 3) การได้ยิน ร้อยละ 24.5 ของผู้สงู อายุตอบว่ามปี ญั หาการไดย้ นิ จำ� แนกไดเ้ ป็น 3 กลุ่ม คอื 1) กลุ่มหตู งึ เลก็ นอ้ ย ร้อยละ 18.0 2) กลุ่มหูตงึ ปานกลาง รอ้ ยละ 7.2 และ 3) กลมุ่ หตู ึงมากจนหนวก ร้อยละ 1.2 (รูปท่ี 7.5.10) เม่ือจ�ำแนกปัญหาตามอายุและเพศ พบว่า ปัญหาการได้ยินลดลงตามอายุเหมือนกันทั้งสองเพศคือ ผู้สูงอายุวัยปลาย 80 ปีขึ้นไป ท่ีไม่มีปัญหาการได้ยินอยู่ในระดับต�่ำที่สุด ร้อยละ 41.2 และ 54.9 ในชายและหญิง ตามลำ� ดับ (รปู ที่ 7.5.11) การใช้เคร่ืองช่วยฟัง พบว่ามีการใช้ค่อนข้างน้อย กล่าวคือ มีการใช้เครื่องร้อยละ 5.0 (ชายและหญิง เทา่ กัน) ชายกลมุ่ อายุ 80 ปีข้ึนไป รอ้ ยละ 10.6 และหญิงอายุ 70 - 79 ปี ร้อยละ 7.1 มีการใช้เคร่ืองชว่ ยฟังสงู ท่สี ุด (รปู ท่ี 7.5.12 - 7.5.13) รปู ที่ 7.5.10 ร้อยละของผูส้ งู อายทุ ่มี ีปัญหาการไดย้ ินและความรุนแรงของปญั หาการไดย้ นิ จำ� แนกตามเพศ

314 การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครัง้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 รูปท่ี 7.5.11 รอ้ ยละของผสู้ งู อายุท่มี ีปัญหาการไดย้ นิ และความรนุ แรงของปัญหาการได้ยนิ จำ� แนกตามอายุ และเพศ รูปที่ 7.5.12 ร้อยละของผ้สู ูงอายทุ ใ่ี ช้เครอ่ื งชว่ ยฟงั ในผู้ทมี่ ีปญั หาการได้ยนิ จำ� แนกตามเพศ รปู ที่ 7.5.13 ร้อยละของผูส้ งู อายทุ ่ใี ชเ้ ครื่องชว่ ยฟังในผู้ที่มปี ญั หาการไดย้ นิ จำ� แนกตามเพศ และอายุ

การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้ังท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 315 7.6 การหกลม้ การหกล้มเป็นปัญหาส�ำคัญในผู้สูงอายุ การหกล้มอาจน�ำไปสู่การบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะ ในกล่มุ อายุ 80 ปีข้ึนไป ความชกุ ของการหกลม้ ภายใน 6 เดอื นทผ่ี า่ นมา การสำ� รวจครงั้ นไี้ ดถ้ ามถงึ อบุ ตั เิ หตหุ กลม้ ภายใน 6 เดอื นทผ่ี า่ นมา ความชุกของการหกล้มรวมร้อยละ 15.3 ผู้สูงอายุหญิงเคยหกล้มร้อยละ 18.5 ซ่ึงสูงกว่าผู้สูงอายุชาย (ร้อยละ 11.3) เม่ือจ�ำแนกตามกล่มุ อายุ พบความชกุ ของการหกล้มไมแ่ ตกตา่ งกันมากนักระหว่างสามกลมุ่ อายุ นอกจากนพ้ี บผูส้ ูงอายุ ท่ีอยู่นอกเขตเทศบาลมีความชุกของการหกล้มสูงกว่าผู้ที่อยู่ในเขตเทศบาลเล็กน้อย และผู้สูงอายุชายและหญิงใน ภาคกลางมีการหกลม้ สูงกว่าภาคอนื่ สว่ นภาคอื่นๆ ไม่แตกตา่ งกันมากนกั รูปที่ 7.6.1 ความชกุ การหกลม้ ใน 6 เดือนท่ผี ่านมา ของผู้สงู อายุ ตามเพศและอายุ รูปที่ 7.6.1.1 ความชุกการหกลม้ ใน 6 เดือนที่ผา่ นมา ของผูส้ งู อายุ จ�ำแนกตามเพศ และเขตการปกครอง

316 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 รูปท่ี 7.6.1.2 ความชุกการหกล้มใน 6 เดือนท่ีผ่านมา ของผสู้ งู อายุ จำ� แนกตามเพศ และภาค สถานทห่ี กล้ม สถานท่ีหกล้ม ผู้สูงอายุชายร้อยละ 70.3 และผู้สูงอายุหญิง ร้อยละ 54.7 มีการหกล้มภายนอกบริเวณบ้าน ร้อยละ 29.7 ในผชู้ าย และรอ้ ยละ 45.3 ในผ้หู ญิง เป็นการลม้ ภายในบ้าน โดยรอ้ ยละ 11.9 หกล้มในนอน รอ้ ยละ 13.5 หกลม้ ในห้องน้ำ� ห้องครัว และรอ้ ยละ 4.3 หกล้มขณะขึน้ ลงบันได (รปู ท่ี 7.6.2 - 7.6.3) รูปที่ 7.6.2 สถานที่หกล้มของผสู้ ูงอายุ จ�ำแนกตามเพศ

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้ังท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 317 รูปที่ 7.6.3 สถานที่หกลม้ จำ� แนกตามอายุ และเพศ สาเหตุของการหกล้ม จากการส�ำรวจ พบว่าสาเหตุท่ีท�ำให้ผู้สูงอายุหกล้ม คือ การสะดุดสิ่งวัตถุส่ิงของ (ร้อยละ 33.6) ซึ่งพบ ในผู้สูงอายุหญิงและผู้ชายใกล้เคียงกัน (ร้อยละ 33.9 และ ร้อยละ 33.1 ตามล�ำดับ) รองลงมา คือ ลื่นหกล้ม พบรอ้ ยละ 32.4 และ 27.1 ในผู้สงู อายุหญงิ และชาย ตามลำ� ดับ สาเหตุตอ่ มาคอื จากการเสียการทรงตัว รอ้ ยละ 23.2 สาเหตุจากพ้ืนต่างระดบั ร้อยละ 17.0 สาเหตุจากหน้ามดื ขณะก�ำลงั ลกุ ข้นึ ยืน รอ้ ยละ 9.7 ส�ำหรบั สาเหตุจากส่งิ แวดล้อม อาทเิ ช่น ปวดขอ้ ถูกชน ตกบันได ฯลฯ มีสดั ส่วนของแตล่ ะสาเหตตุ ำ�่ กวา่ ร้อยละ 8.0 (รปู ที่ 7.6.4)

318 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 หน้ามดื ขณะกำ� ลังลุกขึน้ ยืน หน้ามดื ขณะก�ำลงั เบ่ง ปัสสาวะ/อจุ จาระ วิงเวียนเหมือนบ้านหมนุ เสยี การทรงตัวขณะเปล่ียนท่าทาง สะดดุ วัตถสุ ิ่งของ สะดดุ พนื้ ตา่ งระดับ, ขน้ั บันได ลน่ื หกลม้ ตกบันได ถูกชนล้ม เจ็บแนน่ หนา้ อก/ใจสั่น อ่อนแรงครึ่งซีก ตาพร่ามัว ปวดขอ้ กำ� ลังมไี ขไ้ ม่สบาย 0.0 5.0 10.0 15.0 20.0 25.0 30.0 35.0 40.0 % รปู ท่ี 7.6.4 สาเหตทุ หี่ กลม้ ในผูส้ งู อายุ จ�ำแนกตามเพศ (ตอบทกุ ข้อ/ตอบได้มากกวา่ 1 ค�ำตอบ) จำ� นวนครั้งทห่ี กล้มใน 6 เดือนทผ่ี ่านมา ผสู้ ูงอายทุ ่บี อกว่าเคยหกลม้ โดยเฉลี่ย 2.4 คร้งั ผชู้ ายหกล้ม 2.2 ครั้ง และผูห้ ญงิ 2.5 ครัง้ (รูปที่ 7.6.5 - 7.6.6)

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครงั้ ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 319 รูปท่ี 7.6.5 ใน 6 เดือนท่ีผ่านมาหกล้มกค่ี รงั้ รปู ท่ี 7.6.6 จำ� นวนครั้งการหกลม้ ใน 6 เดอื นท่ผี า่ นมา จ�ำแนกตามเขตการปกครอง และภาค

320 การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้ังท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 การบาดเจ็บจากหกล้มคร้ังสดุ ท้าย และการรกั ษา การฟกช้�ำ ถลอก หรือเป็นแผล เป็นอาการท่ีพบประมาณครึ่งหน่ึงของการบาดเจ็บท้ังหมด รองลงมาได้แก่ ปวดหลัง (ร้อยละ 15.0) ท่ีรุนแรงจนกระดูกหัก ได้แก่ ข้อมือหัก (ร้อยละ 1.6) ข้อสะโพกหัก (ร้อยละ 1.2) และ กระดูกซี่โครงหัก (ร้อยละ 0.5) ส�ำหรับการรักษาน้ันร้อยละ 45.9 รักษาตัวเอง ส่วนที่ไปรักษาท่ีโรงพยาบาล พบร้อยละ 20.0 เป็นผู้ป่วยนอก และที่เหลือร้อยละ 8.4 เป็นการบาดเจ็บรุนแรงที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล (รูปที่ 7.6.7 - 7.6.8) รปู ท่ี 7.6.7 การบาดเจ็บจากการหกล้มครั้งสุดทา้ ย (ตอบทุกข้อ/ตอบไดม้ ากกวา่ 1 ค�ำตอบ) รูปที่ 7.6.8 การรักษาการบาดเจ็บจากการหกล้มครง้ั สดุ ทา้ ย

การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 321 7.7 โรคเร้ือรงั ในผสู้ ูงอายุ การส�ำรวจภาวะโรคเร้ือรังท่ีพบบ่อยและเป็นภาระโรคส�ำคัญในผู้สูงอายุ จ�ำแนกเป็นโรคทางกายและจิต โรคทางกาย ได้แก่ ความดันโลหิตสงู เบาหวาน ไขมันในเลือดสงู เสน้ เลอื ดในสมองแตก โรคหวั ใจขาดเลือด โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคปอดอุดก้ันเรื้อรัง โรคมะเร็งอวัยวะต่างๆ และโรคไตวายเร้ือรัง โรคเหล่าน้ีส่วนใหญ่เร่ิมเป็นปัญหา ในวัยกลางคน แล้วต่อเน่ืองจนถึงวัยสูงอายุซ่ึงมักเป็นหลายโรคพร้อมๆ กัน ท�ำให้มีปัญหาซับซ้อนในการรักษาและ ควบคุมภาวะแทรกซ้อนต่อการอยู่ดีเป็นปกติของผู้สูงอายุ ส�ำหรับสุขภาพจิต ได้แก่ภาวะซึมเศร้าซ่ึงมีความชุกเพิ่มขึ้น ตามอายุเชน่ กนั ภาวะซึมเศร้า ภาวะซึมเศร้าเป็นปัญหาหน่ึงที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ เป็นหน่ึงในสิบอันดับแรกของโรคที่มีขนาดภาระโรคสูง ในการส�ำรวจคร้ังนี้ พบความชุกของภาวะซึมเศร้าในประชาชนไทยอายุ 60 ปีข้ึนไป เท่ากับร้อยละ 2.3 ความชุก ในผู้หญงิ สงู กว่าผชู้ าย (รอ้ ยละ 3.1 และรอ้ ยละ 1.3 ตามล�ำดับ) (รปู ท่ี 5.9.1) โรคเรื้อรงั ท่พี บบ่อยในผู้สงู อายุ กล่มุ โรคท่เี ปน็ ปัจจยั เสยี่ งของโรคระบบหัวใจและหลอดเลอื ด โรคและภาวะท่ีเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดในผู้สูงอายุไทย (≥60 ปี) พบความชุกดังน้ี ความดันโลหิตสงู รอ้ ยละ 60.7 เบาหวาน รอ้ ยละ 20.4 โรคอ้วน (BMI≥25 กก./ตร.ม.) รอ้ ยละ 38.4 ภาวะอ้วนลงพุง รอ้ ยละ 46.5 และภาวะ Metabolic syndrome รอ้ ยละ 39.8 (ตารางที่ 7.7.1) โรคเรือ้ รังทีเ่ คยได้รับการวนิ ิจฉยั จากแพทย์ จากการสัมภาษณ์ผู้สูงอายุเกี่ยวกับประวัติที่เคยได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ ได้แก่ โรคข้อเข่าเส่ือมเป็น ภาวะทีพ่ บประมาณหนึ่งในส่ีของผสู้ ูงอายุ รองลงมาคอื โรคเกาต์ (ร้อยละ 5.8) โรคหอบหืด (รอ้ ยละ 4.8) โรคกลา้ มเนอ้ื หวั ใจขาดเลอื ด (ร้อยละ 3.9) โรคหลอดเลือดสมอง (ร้อยละ 2.9) และโรคปอดอุดกั้นเรอื้ รงั (ร้อยละ 1.2) ซงึ่ ความชกุ เหลา่ นอ้ี าจต่�ำกวา่ ความเปน็ จรงิ (ตารางที่ 7.7.1 และ รูป 7.7.1) ตารางท่ี 7.7.1 ความชกุ ของโรคเร้ือรงั ในประชาชนไทยอายุ 60 ปีขนึ้ ไป ภาวะเสีย่ งตอ่ โรคหวั ใจ ความชกุ จำ� นวน โรคเรื้อรังท่ีสำ� คญั ความชกุ จ�ำนวน และหลอดเลอื ด ประชากร* ประชากร* ความดันโลหิตสงู 60.7 65 กล้ามเนอ้ื หัวใจขาดเลือด 3.9 4.5 เบาหวาน 20.4 คอเลสเตอรอลในเลอื ดสงู 23.8 23 หลอดเลือดสมอง 2.9 3.3 อ้วน (BMI 7.25 kg/m2) 38.4 อ้วนลงพงุ 46.5 27 ถงุ ลมโป่งพอง/หลอดลมปอดอดุ ก้นั เรือ้ รงั 1.2 1.4 Metabolic syndrome 39.8 43 เกาต์ 5.8 6.6 53 หอบหดื 4.8 5.4 45 ข้อเข่าเสอ่ื ม 17.7 20 ไตเรือ้ รัง 4.0 4.5 ธาลัสซเี มยี 0.4 0.5 มะเรง็ 1.5 1.7 เรื้อนกวาง/โรคสะเก็ดเงนิ 0.6 0.7 นิ่วในทางเดินปสั สาวะ 2.4 12.0 *หมายเหต:ุ จ�ำนวนประชากรทม่ี ภี าวะดงั กลา่ ว คาดประมาณ (แสนคน) ค�ำนวณจากประชาชนอายุ 60 ปขี ้ึนไป

322 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครง้ั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 รูปที่ 7.7.1 ความชุก (ร้อยละ)ของโรคเรอื้ รงั (ทเี่ คยได้รับการวนิ ิจฉยั จากแพทย์) ในประชาชนไทยอายุ 60 ปขี น้ึ ไป จำ� แนกตามเพศ รปู ท่ี 7.7.2 ความชกุ (รอ้ ยละ) ของโรคในกลุ่มหัวใจและหลอดเลอื ดในประชาชนไทยอายุ 60 ปขี ้นึ ไป จำ� แนกตามเพศ * ประวัตเิ คยรบั การวินจิ ฉยั จากแพทย์ **เคยมีอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครง้ั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 323 ความชุกของความดันโลหิตสูง ความชุกของโรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุต้ังแต่ 60 ปีขึ้นไป ในชายและหญิงของกลุ่มอายุ 60 - 69 ปี มีร้อยละ 53.5 และ 56.2 ตามล�ำดับ ความชุกเพ่ิมขึ้นเมื่ออายุมากข้ึน จนถึงร้อยละ 74.7 และ 78.5 ในเพศชาย และหญิงตามลำ� ดบั ของกลุม่ อายุ 80 ปีขน้ึ ไป ความชุกเพิม่ ขึ้นเมือ่ เปรยี บเทียบกบั ผลการสำ� รวจในป ี 2552 และ 2557 รูปที่ 7.7.3 รปู ท่ี 7.7.3 ความชุกของความดนั โลหติ สูงในผู้สูงอายุ ระหวา่ ง ปี พ.ศ. 2552 2557 และ 2562 ความครอบคลุมของการได้รับวินิจฉัย การรักษา และ การควบคุมได้ : แนวโน้มระหว่างปี พ.ศ. 2552 2557 และ 2562 การสำ� รวจสุขภาพครง้ั ท่ี 6 น้ี พบรอ้ ยละ 35.8 (กลมุ่ อายุ 60 - 69, 70 - 79 และ 80 ปขี ึ้นไปมีร้อยละ 38.3, 31.6 และ 34.7 ตามลำ� ดบั ) ของผสู้ ูงอายทุ ่มี คี วามดันโลหติ สูงไมไ่ ด้รบั การวินจิ ฉยั และรอ้ ยละ 2.5 (กลุม่ อายุ 60 - 69, 70 - 79 และ 80 ปขี นึ้ ไปมรี อ้ ยละ 2.8, 2.3 และ 1.5 ตามลำ� ดบั ) ไมไ่ ดร้ บั การรกั ษา และรอ้ ยละ 31.2 (กลมุ่ อายุ 60 - 69, 70 - 79 และ 80 ปีขึ้นไปมรี ้อยละ 28.5, 33.1 และ 38.1 ตามลำ� ดบั ) ของผสู้ งู อายุทมี่ ีภาวะความดันโลหิตสงู ไดร้ บั รักษา แต่ยังควบคุมความดันฯไม่ได้ และมีร้อยละ 30.6 (กลมุ่ อายุ 60 - 69, 70 - 79 และ 80 ปขี ึ้นไปมรี อ้ ยละ 30.4, 33.0 และ 25.7 ตามล�ำดับ) ท่ีสามารถควบคุมความดันเลือดได้อยู่ในเกณฑ์ <140/90 มม.ปรอท โดยผู้สูงอายุหญิง มีสัดส่วนของการไม่ได้รับวินิจฉัยน้อยกว่าผู้สูงอายุชาย และสัดส่วนของการรักษาและควบคุมความดันได้ตามเกณฑ์สูง กว่าผู้สูงอายุชาย เม่ือเปรียบเทียบกับผลการส�ำรวจคร้ังท่ี 4 และ 5 พบว่า สัดส่วนของคนท่ีได้รับความวินิจฉัยและ การรกั ษาและควบคมุ ความดนั เลือดไม่ได้เพม่ิ ข้นึ รปู ที่ 7.7.4 - 7.7.5

324 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 รปู ท่ี 7.7.4 ร้อยละของผสู้ งู อายุชายทเ่ี ปน็ โรคความดนั โลหติ สูง ท่ีไม่ไดร้ ับวินจิ ฉยั รักษาและควบคมุ ได้ : แนวโนม้ ระหวา่ งปี 2552 2557 และ 2562 รูปที่ 7.7.5 รอ้ ยละของผสู้ ูงอายหุ ญงิ ท่ีเป็นโรคความดันโลหิตสงู ทีไ่ มไ่ ดร้ บั วินิจฉัย รักษาและควบคมุ ได้ : แนวโน้มระหวา่ งปี 2552 2557 และ 2562

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้ังท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 325 โรคเบาหวาน ความชุกของเบาหวาน ในผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 - 69 ปี มีร้อยละ 18.6 ในผู้ชายและร้อยละ 22.3 ในผู้หญิง ความชกุ ลดลงเม่ืออายมุ ากขน้ึ และลดเป็นรอ้ ยละ 13.1 ในผู้ชาย และรอ้ ยละ 18.5 ในผ้หู ญงิ กลมุ่ อายุ 80 ปี ผูส้ ูงอายชุ าย และหญิงในกลุ่มอายุเดียวกัน เพศหญิงมีความชุกมากกว่าเพศชาย ยกเว้นกลุ่มอายุ 80 ปีข้ึนไปท่ีผู้ชายและผู้หญิง มีความชกุ ใกล้เคยี งกนั เมอ่ื เปรยี บเทียบกบั ผลการสำ� รวจครั้งที่ 4 และ 5 ความชกุ ของเบาหวานในกลมุ่ อายุ 60 - 69 ปี และ 70 - 79 ปี ในการส�ำรวจในปี 2562 - 2563 น้ี สูงกวา่ ความชุกของการสำ� รวจครัง้ ที่ 4 และ 5 รูปท่ี 7.7.6 ความชกุ ของโรคเบาหวานในผู้สูงอายุ ระหว่างปี 2552 2557 และ 2562 ความครอบคลุมของการได้รับวินิจฉัย การรักษา และ ควบคุมได้ : แนวโน้มระหว่างปี พ.ศ. 2552 2557 และ 2562 เม่ือพิจารณาผู้ท่ีเป็นเบาหวานจากการส�ำรวจโดยการตรวจน�้ำตาลในเลือด พบว่าสัดส่วนของผู้ท่ีไม่ได้ รับการวนิ ิจฉัย ในปี 2562 ของผ้สู ูงอายุ ร้อยละ 15.9 (กลุ่มอายุ 60 - 69, 70 - 79 และ 80 ปขี นึ้ ไปมีร้อยละ 16.1, 13.7 และ 22.2 ตามล�ำดับ) ท่ีรักษาแต่ยังคุมน�้ำตาลในเลือดไม่ได้ตามเกณฑ์ (FPG < 130 มก./ดล.) มีร้อยละ 44.8 (กลุม่ อายุ 60 - 69, 70 - 79 และ 80 ปีข้นึ ไปมีรอ้ ยละ 47.5, 43.7 และ 27.4 ตามล�ำดับ) และสดั ส่วนที่สามารถ ควบคุมได้มรี ้อยละ 38.4 (กลมุ่ อายุ 60 - 69, 70 - 79 และ 80 ปีข้นึ ไปมรี อ้ ยละ 35.6, 41.7 และ 49.3 ตามลำ� ดับ) เม่ือเปรียบเทียบกับผลการส�ำรวจฯคร้ังท่ี 5 มีสัดส่วนของการวินิจฉัยและการควบคุมน�้ำตาลได้ตามเกณฑ์ดีขึ้น (รปู ที่ 7.7.7 - 7.7.8)

326 การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครง้ั ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 รูปท่ี 7.7.7 รอ้ ยละของผู้สงู อายชุ ายทเ่ี ป็นเบาหวาน ท่ไี มไ่ ดร้ บั วนิ ิจฉัย รักษาและควบคมุ ได้ : แนวโนม้ ระหว่างปี 2552-2562 รูปที่ 7.7.8 ร้อยละของผ้สู ูงอายหุ ญิงท่เี ปน็ เบาหวาน ที่ไมไ่ ด้รบั วินิจฉัย รกั ษาและควบคุมได้ : แนวโนม้ ระหว่างปี 2552 2557 และ 2562

การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 327 7.8 การทดสอบความเร็วของการเดนิ (timed walk) การทดสอบการเดนิ ในการสำ� รวจสขุ ภาพในผสู้ งู อายใุ นครง้ั นี้ ทำ� การวดั เวลาทผี่ สู้ งู อายุ 60 ปขี นี้ ไป ใชใ้ นการเดนิ ระยะสน้ั (4 เมตร) เปน็ การทดสอบความสามารถในการเคลอ่ื นไหวขา การทดสอบเดนิ นไี้ มไ่ ดม้ วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ วดั ความ สามารถสงู สุด แตเ่ ป็นการทดสอบวา่ มคี วามบกพร่องในการเดินหรือไม่ การทดสอบท�ำโดยใหผ้ ู้สงู อายเุ ดนิ 2 ครัง้ ครง้ั ที่ 1 การทดสอบ เดนิ ดว้ ยความเรว็ ตามปกตเิ หมอื นขณะเดนิ ในชวี ติ ประจำ� วนั (ตอ่ ไปจะเรยี กวา่ เดนิ ปกต)ิ และ ครั้งท่ี 2 การทดสอบ เดินอย่างเรว็ ทส่ี ดุ ทสี่ ามารถท�ำได้ (ตอ่ ไปจะเรียกวา่ เดินเร็ว) เจา้ หน้าที่ผ้ดู แู ลการทดสอบทำ� การจับเวลาการเดินดว้ ยนาฬิกาจบั เวลา หนว่ ยเป็นวินาที เกณฑก์ ารตัดสิน การมคี วามบกพรอ่ งในการเดนิ (walking impaired) หมายถงึ การเดนิ ด้วยความเร็วชา้ กวา่ 0.5 เมตรตอ่ วินาที รวมทงั้ คนทีไ่ มส่ ามารถเดนิ ได้ เวลาเฉลย่ี ในการเดนิ ปกติ เม่ือให้ผู้สูงอายุเดินปกติ โดยเฉลี่ยผู้สูงอายุ 60 ปีข้ึนไป ใช้เวลา 5.3 วินาที ในการเดินปกติในระยะ 4 เมตร ผสู้ ูงอายุ 60 - 69, 70 - 79 และ 80 ปขี ้นึ ไป ใช้เวลา 5.0, 5.7 และ 6.3 วินาที ตามล�ำดับ ผ้ชู ายเดินเร็วกว่าผูห้ ญงิ คนท่ีอยู่ในเขตเทศบาลเดินเร็วกว่านอกเขตฯ การจ�ำแนกตามภาค พบว่ามีความเร็วใกล้เคียงกัน ยกเว้นผู้สูงอายุ ในภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ใช้เวลาเดนิ มากกว่าภาคอน่ื เวลาเฉล่ยี ในการเดนิ เรว็ เม่อื ใหผ้ สู้ งู อายเุ ดนิ เร็ว โดยเฉลี่ยผูส้ งู อายุ 60 ปีขึ้นไป ใชเ้ วลา 3.6 วินาที ในการเดินอย่างเรว็ ในระยะ 4 เมตร ผู้สงู อายุ 60 - 69, 70 - 79 และ 80 ปขี ้ึนไป ใชเ้ วลา 3.4, 3.9 และ 4.0 วินาที ตามล�ำดบั ผูช้ ายเดินเรว็ กว่าผู้หญิง คนท่ีอยู่ในเขตเทศบาลเดินเร็วกว่านอกเขตฯ การจ�ำแนกตามภาค พบว่ามีความเร็วใกล้เคียงกัน ยกเว้นผู้สูงอายุ ในภาคกลางและภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ใชเ้ วลาเดินมากกว่าภาคอนื่ ความชกุ ของความบกพรอ่ งในการเดิน การเดินปกติ พบว่าร้อยละ 9.2 ของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เดินช้ากว่า 0.5 เมตรต่อวินาที สัดส่วนของคน ที่เดนิ ช้าในกลุ่มอายุ 60 - 69 ปี มนี อ้ ยท่ีสุด (ร้อยละ 5.3) และเพ่มิ ขน้ึ สงู สดุ ในกล่มุ อายุ 80 ปีขน้ึ ไป (ร้อยละ 27.7) คนนอกเขตเทศบาลมีร้อยละของคนท่ีเดินช้ากว่าปกติสูงกว่าในเขตฯ เม่ือพิจารณาตามภาค พบว่า ภาคใต้มีสัดส่วน ของผู้สูงอายุที่เดินช้ากว่าปกติต�่ำท่ีสุด (ร้อยละ 1.0) ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีสัดส่วนผู้สูงอายุท่ีเดินช้าสูงท่ีสุด (รอ้ ยละ 11.3) เมื่อใหผ้ ้สู งู อายุเดินเร็ว พบว่าร้อยละ 2.2 ของผู้สูงอายุ 60 ปขี ้ึนไป มีความบกพร่องในการเดนิ ความชกุ ตำ่� สดุ ในกลุ่มอายุ 60 - 69 ปี (ร้อยละ 1.1) และเพิ่มขึ้นสูงสุดในกลุ่มอายุ 80 ปีขึ้นไป (ร้อยละ 8.0) นอกเขตเทศบาล มีความชุกสูงกว่าในเขตฯ เมื่อพิจารณาตามภาค พบว่า ภาคใต้มีสัดส่วนของผู้สูงอายุที่เดินเร็วที่ช้ากว่าปกติต่�ำที่สุด (ร้อยละ 0.6) สว่ นภาคกลางมคี วามชกุ สงู สดุ (รอ้ ยละ 3.7)

328 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครัง้ ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ตารางท่ี 7.8.1 คา่ เฉลยี่ ของเวลา (วินาที) ในการเดินปกติ ระยะทาง 4 เมตร ในประชาชนไทยอายุ 60 ปขี ึน้ ไป จ�ำแนกตามเพศ อายุ เขตการปกครอง และภาค ชาย อายุ จ�ำนวนตวั อยา่ ง Median (วินาที) Mean (วินาที) S.D (วนิ าที) (min,max) 4.4 4.8 2.3 (2.0,49.3) 60 - 69 2,434 4.9 5.2 2.2 (2.6,32.6) 70 - 79 1,113 5.8 6.1 3.2 (2.8,22.4) 80+ 386 เขตการปกครอง 4.6 4.9 2.6 (2.0,27.2) 2,111 4.7 5.1 2.2 (2.3,49.3) ในเขตเทศบาล 1,822 นอกเขตเทศบาล 4.8 5.2 2.3 (2.3,32.6) 914 4.4 5.1 3.2 (2.2,49.3) ภาค 836 5.0 5.2 1.6 (2.3,15.5) 998 4.0 4.3 1.8 (2.0,18.9) เหนือ 805 4.5 4.7 2.2 (2.5,14.8) กลาง 380 4.7 5.0 2.4 (2.0,49.3) ตะวนั ออกเฉียงเหนือ 3,933 ใต้ กรุงเทพฯ รวม หญงิ อายุ จำ� นวนตวั อย่าง Median (วนิ าที) Mean (วินาที) S.D (วนิ าที) (min,max) (1.0,22.6) 60 - 69 3,158 5.0 5.2 1.8 (2.8,29.9) 70 - 79 1,343 5.6 6.1 3.0 (3.0,48.3) 80+ 406 6.3 6.5 4.2 เขตการปกครอง (2.2,31.5) 2,949 5.0 5.3 3.0 (1.0,48.3) ในเขตเทศบาล 1,958 5.3 5.8 2.1 นอกเขตเทศบาล (3.1,31.5) 935 5.4 5.8 2.5 (2.5,29.9) ภาค 1,097 4.9 5.6 2.7 (1.0,22.4) 1,086 5.7 6.0 1.9 (3.0,48.3) เหนือ 1,022 5.0 4.8 2.8 (2.2,25.1) กลาง 767 4.8 5.0 3.3 (1.0,48.3) ตะวันออกเฉียงเหนอื 4,907 5.1 5.6 2.6 ใต้ กรงุ เทพฯ รวม

การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 329 ตารางท่ี 7.8.1 ค่าเฉล่ยี ของเวลา (วินาท)ี ในการเดินปกติ ระยะทาง 4 เมตร ในประชาชนไทยอายุ 60 ปขี ึ้นไป จ�ำแนกตามเพศ อายุ เขตการปกครอง และภาค (ตอ่ ) รวม อายุ จ�ำนวนตัวอย่าง Median (วนิ าที) Mean (วนิ าท)ี S.D (วนิ าท)ี (min,max) (1.0,49.3) 60 - 69 5,592 4.8 5.0 2.0 (2.6,32.6) 70 - 79 2,456 5.2 5.7 2.7 (2.8,48.3) 80+ 792 6.0 6.3 3.8 เขตการปกครอง (2.0,31.5) 5,060 4.8 5.1 2.8 (1.0,49.3) ในเขตเทศบาล 3,780 5.0 5.5 2.2 นอกเขตเทศบาล (2.3,32.6) 1,849 5.1 5.5 2.4 (2.2,49.3) ภาค 1,933 4.7 5.4 2.9 (1.0,22.4) 2,084 5.4 5.7 1.8 (2.0,48.3) เหนือ 1,827 4.0 4.6 2.4 (2.2,25.1) กลาง 1,147 4.7 4.9 2.9 (1.0,49.3) ตะวันออกเฉยี งเหนือ 8,840 5.0 5.3 2.5 ใต้ กรงุ เทพฯ รวม ตารางท่ี 7.8.2 ค่าเฉลี่ยของเวลา (วนิ าที) ในการเดินเร็ว ระยะทาง 4 เมตร ในประชาชนไทยอายุ 60 ปีขนึ้ ไป จำ� แนกตามเพศ อายุ เขตการปกครอง และภาค ชาย อายุ จ�ำนวนตวั อย่าง Median (วินาท)ี Mean (วนิ าท)ี S.D (วนิ าท)ี (min,max) (1.3,34.0) 60 - 69 2,403 3.0 3.2 1.7 (1.9,14.0) 70 - 79 1,092 3.3 3.4 1.5 (2.0,18.7) 80+ 361 4.0 4.0 2.4 เขตการปกครอง (1.3,27.2) 2,066 3.0 3.3 2.0 (1.5,34.0) ในเขตเทศบาล 1,790 3.2 3.4 1.5 นอกเขตเทศบาล (1.5,10.0) 851 3.2 3.3 1.6 (1.3,34.0) ภาค 835 3.0 3.5 2.4 (1.5,12.8) 985 3.3 3.5 1.1 (2.0,18.7) เหนอื 805 3.0 3.1 1.7 (1.7,10.6) กลาง 380 3.0 3.2 1.6 (1.3,34.0) ตะวันออกเฉยี งเหนอื 3,856 3.1 3.4 1.8 ใต้ กรุงเทพฯ รวม

330 การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ตารางท่ี 7.8.2 คา่ เฉลยี่ ของเวลา (วนิ าที) ในการเดนิ เร็ว ระยะทาง 4 เมตร ในประชาชนไทยอายุ 60 ปีข้ึนไป จ�ำแนกตามเพศ อายุ เขตการปกครอง และภาค (ตอ่ ) หญงิ อายุ จำ� นวนตัวอย่าง Median (วินาท)ี Mean (วินาท)ี S.D (วินาที) (min,max) 3,118 3.4 3.6 1.3 (1.0,15.0) 60 - 69 1,296 3.9 4.2 2.3 (2.0,23.5) 70 - 79 364 4.0 4.0 3.0 (2.2,20.4) 80+ เขตการปกครอง 2,868 3.4 3.6 2.1 (1.0,18.3) 1,910 3.7 3.9 1.6 (2.0,23.5) ในเขตเทศบาล นอกเขตเทศบาล 842 3.5 3.5 1.8 (1.9,16.3) 1,092 3.5 4.0 2.2 (1.0,23.5) ภาค 1,058 3.9 4.0 1.3 (2.0,11.0) 1,022 3.0 3.6 1.9 (2.0,20.4) เหนอื 764 3.3 3.5 2.4 (1.1,18.3) กลาง 4,778 3.6 3.8 1.9 (1.0,23.5) ตะวันออกเฉียงเหนอื ใต้ รวม กรุงเทพฯ รวม อายุ จ�ำนวนตวั อยา่ ง Median (วินาท)ี Mean (วินาที) S.D (วินาท)ี (min,max) (1.0,34.0) 60 - 69 5,521 3.2 3.4 1.5 (1.9,23.5) 70 - 79 2,388 3.6 3.9 2.0 (2.0,20.4) 80+ 725 4.0 4.0 2.8 เขตการปกครอง (1.0,27.2) 4,934 3.2 3.5 2.1 (1.5,34.0) ในเขตเทศบาล 3,700 3.4 3.7 1.6 นอกเขตเทศบาล (1.5,16.3) 1,693 3.3 3.4 1.7 (1.0,34.0) ภาค 1,927 3.3 3.8 2.3 (1.5,12.8) 2,043 3.6 3.8 1.2 (2.0,20.4) เหนือ 1,827 3.0 3.4 1.8 (1.1,18.3) กลาง 1,144 3.2 3.4 2.1 (1.0,34.0) ตะวันออกเฉยี งเหนือ 8,634 3.4 3.6 1.9 ใต้ กรงุ เทพฯ รวม

การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครงั้ ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 331 ตารางท่ี 7.8.3 รอ้ ยละของประชาชนไทยอายุ 60 ปขี ้นึ ไป ทม่ี ีความบกพร่องในการเดนิ เมอ่ื เดินปกติ (เดนิ ปกติ <0.5 เมตร/วินาที) จ�ำแนกตามเพศ อายุ เขตการปกครองและภาค ชาย กลุ่มอายุ จ�ำนวนตัวอย่าง รอ้ ยละ 95% CI 2,364 3.8 (2.5,5.0) 60 - 69 1,048 7.6 (5.4,9.7) 70 - 79 315 22.5 (19.1,26.0) 80+ เขตการปกครอง 2,001 5.5 (3.8,7.3) 1,726 7.3 (5.7,8.9) ในเขตเทศบาล นอกเขตเทศบาล 860 8.8 (5.3,12.2) 771 7.6 (5.4,9.7) ภาค 932 7.2 (5.4,9.1) 803 0.3 (0.0,0.7) เหนือ 361 5.8 (3.4,8.2) กลาง 3,727 6.7 (5.4,8.0) ตะวันออกเฉยี งเหนือ ใต้ หญงิ กรงุ เทพฯ รวม กลุ่มอายุ จ�ำนวนตัวอยา่ ง ร้อยละ 95% CI 6.4 (5.4,7.4) 60 - 69 2,983 16.1 (13.7,18.4) 70 - 79 1,154 32.3 (27.0,37.5) 80+ 284 เขตการปกครอง 9.7 (7.9,11.6) 2,667 12.2 (10.8,13.6) ในเขตเทศบาล 1,754 นอกเขตเทศบาล 12.0 (9.5,14.5) 819 11.6 (9.4,13.9) ภาค 975 14.6 (12.5,16.7) 937 1.6 (0.7,2.5) เหนอื 1,008 10.8 (9.3,12.3) กลาง 682 11.3 (10.0,12.6) ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 4,421 ใต้ กรงุ เทพฯ รวม

332 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครัง้ ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ตารางท่ี 7.8.3 รอ้ ยละของประชาชนไทยอายุ 60 ปขี ึน้ ไป ทม่ี คี วามบกพร่องในการเดนิ เมื่อเดินปกติ (เดินปกติ <0.5 เมตร/วินาท)ี จ�ำแนกตามเพศ อายุ เขตการปกครองและภาค (ต่อ) รวม กลมุ่ อายุ จำ� นวนตัวอย่าง ร้อยละ 95% CI 5.3 (4.4,6.1) 60 - 69 5,347 12.2 (10.5,14.0) 70 - 79 2,202 27.7 (23.8,31.7) 80+ 599 เขตการปกครอง 7.9 (6.3,9.6) 4,668 10.0 (8.9,11.1) ในเขตเทศบาล 3,480 นอกเขตเทศบาล 10.5 (8.6,12.4) 1,679 9.9 (8.1,11.7) ภาค 1,746 11.3 (9.4,13.1) 1,869 1.0 (0.6,1.5) เหนอื 1,811 8.7 (7.0,10.4) กลาง 1,043 9.2 (8.2,10.3) ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 8,148 ใต้ กรงุ เทพฯ รวม ตารางที่ 7.8.4 ร้อยละของประชาชนไทยอายุ 60 ปีขึน้ ไป ทม่ี ีความบกพร่องในการเดนิ เมอ่ื เดนิ เร็ว (เดินเร็ว <0.5 เมตร/วินาที) จ�ำแนกตามเพศ อายุ เขตการปกครองและภาค ชาย กลุ่มอายุ จ�ำนวนตัวอย่าง รอ้ ยละ 95% CI 1.0 (0.3,1.6) 60 - 69 2,390 1.0 (0.4,1.7) 70 - 79 1,079 6.8 (4.1,9.5) 80+ 342 เขตการปกครอง 1.7 (0.7,2.6) 2,040 1.5 (0.9,2.1) ในเขตเทศบาล 1,771 นอกเขตเทศบาล 1.5 (0.0,2.9) 847 3.3 (1.7,5.0) ภาค 809 0.7 (0.4,1.1) 977 0.3 (0.0,0.7) เหนอื 803 1.5 (0.8,2.1) กลาง 375 1.6 (1.0,2.2) ตะวนั ออกเฉียงเหนอื 3,811 ใต้ กรุงเทพฯ รวม

การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 333 ตารางท่ี 7.8.4 รอ้ ยละของประชาชนไทยอายุ 60 ปขี ึน้ ไป ที่มีความบกพรอ่ งในการเดนิ เม่ือเดินเรว็ (เดนิ เรว็ <0.5 เมตร/วินาที) จำ� แนกตามเพศ อายุ เขตการปกครองและภาค (ต่อ) หญงิ กลุ่มอายุ จำ� นวนตัวอย่าง ร้อยละ 95% CI 1.2 (0.7,1.8) 60 - 69 3,092 4.6 (3.3,5.9) 70 - 79 1,251 9.0 (5.6,12.5) 80+ 337 เขตการปกครอง 2.1 (1.5,2.7) 2,818 3.2 (2.4,4.0) ในเขตเทศบาล 1,862 นอกเขตเทศบาล 2.7 (1.8,3.6) 822 3.9 (2.3,5.5) ภาค 1,056 2.8 (1.8,3.9) 1,041 0.8 (0.1,1.4) เหนอื 1,014 2.4 (1.8,3.0) กลาง 747 2.8 (2.2,3.4) ตะวันออกเฉยี งเหนอื 4,680 ใต้ กรงุ เทพฯ รวม รวม กลุ่มอายุ จำ� นวนตวั อย่าง รอ้ ยละ 95% CI 1.1 (0.7,1.6) 60 - 69 5,482 3.0 (2.1,3.8) 70 - 79 2,330 8.0 (5.3,10.7) 80+ 679 เขตการปกครอง 1.9 (1.2,2.6) 4,858 2.4 (1.9,3.0) ในเขตเทศบาล 3,633 นอกเขตเทศบาล 2.1 (1.2,3.0) 1,669 3.7 (2.3,5.1) ภาค 1,865 1.9 (1.3,2.4) 2,018 0.6 (0.1,1.0) เหนอื 1,817 2.0 (1.6,2.4) กลาง 1,122 2.2 (1.7,2.8) ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 8,491 ใต้ กรุงเทพฯ รวม

334 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครัง้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 7.9 การมองระยะใกล้ (Near vision test) การมองระยะใกล้ เป็นการวัดความสามารถในการมองเห็นระยะใกล้ ส�ำหรับผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยอ่าน ตัวอักษรบนแผ่นทดสอบ (near vision chart) ท่ีระยะ 40 เซนติเมตร การอ่านเร่ิมปิดตาซ้ายและอ่านด้วยตาขวา ผู้อ่านๆ จากอักษรตัวใหญ่ลงมาสู่อักษรตัวเล็ก อ่านแต่ละแถวจนจบ ถ้าอ่านแถวใดผิด 3 ค�ำขึ้นไป จบการทดสอบ จดอักษรแถวที่สามารถอ่านได้ ตอ่ มาปดิ ตาขวาแลว้ อ่านดว้ ยตาซ้าย วิธกี ารเชน่ เดยี วกบั การอ่านดว้ ยตาขวา ผลการทดสอบ เป็นความสามารถในการอา่ นที่ระยะดงั ต่อไปน้ี คือ 20/20, 20/30, 20/50, 20/70, 20/100, 20/200, 20/400, 20/800 การแปลผล การมองเหน็ แบ่งได้เปน็ 3 กลุ่ม โดยใช้ผลการตรวจของตาขา้ งท่ีดกี วา่ คอื 1. มองเห็นตัวหนงั สือ อ่านหนังสือได้ คอื การอา่ นไดท้ ร่ี ะยะ 20/20 - 20/50 2. มองเห็นเลอื นลาง คอื การอ่านไดท้ ร่ี ะยะ 20/70 - 20/200 3. มองแทบไมเ่ ห็น คือ การอ่านได้ท่ีระยะ 20/400 - 20/800 เทา่ นัน้ หมายเหตุ: การทดสอบครงั้ นี้ ผทู้ ่ปี กตใิ ส่แวน่ เปน็ การตรวจขณะใส่แว่น ส่วนผู้ทีป่ กตไิ มใ่ ส่แวน่ เป็นการตรวจ ขณะไมใ่ ส่แว่น ผลการสำ� รวจ • ผู้ที่ตรวจขณะใส่แวน่ จ�ำนวน 1,860 คน พบร้อยละ 65.4 อยู่ในเกณฑท์ ีม่ องเหน็ ตัวหนังสอื รอ้ ยละ 31.1 เหน็ เลือนลาง และรอ้ ยละ 3.5 เกอื บมองไมเ่ ห็น • ผทู้ ตี่ รวจขณะไมใ่ สแ่ วน่ จำ� นวน 13,787 คน พบรอ้ ยละ 49.8 อยใู่ นเกณฑท์ มี่ องเหน็ ตวั หนงั สอื รอ้ ยละ 44.8 เห็นเลือนลาง และรอ้ ยละ 5.4 เกือบมองไมเ่ หน็ • รวมทงั้ ผทู้ ใี่ สแ่ วน่ และไมใ่ สแ่ วน่ จำ� นวน 15,647 คน พบวา่ รอ้ ยละ 51.4 มกี ารมองระยะใกลอ้ ยใู่ นเกณฑป์ กติ ชายร้อยละ 50.7 หญงิ รอ้ ยละ 52.1 (ตารางที่ 7.9.1 - 7.9.2) ตารางท่ี 7.9.1 ร้อยละของการมองเห็นระยะใกลข้ องประชาชนไทยอายุ 40 ปีขน้ึ ไป จำ� แนกตามเพศ และระดับ การมองเหน็ ใสแ่ วน่ ชาย หญงิ รวม จ�ำนวนตวั อยา่ ง (คน) 774 1,086 1,860 อา่ นหนงั สอื ได้ (%) 60.2 70.3 65.4 เลือนราง (%) 35.6 26.9 31.1 แทบไม่เหน็ (%) 4.3 2.8 3.5 ไมใ่ ส่แวน่ ชาย หญิง รวม จ�ำนวนตวั อยา่ ง (คน) 5,702 8,085 13,787 อา่ นหนงั สือได้ (%) 49.6 50.0 49.8 เลือนราง (%) 45.9 43.9 44.8 แทบไมเ่ หน็ (%) 4.6 6.2 5.4

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 335 ตารางที่ 7.9.1 ร้อยละของการมองเห็นระยะใกลข้ องประชาชนไทยอายุ 40 ปขี ึ้นไป จ�ำแนกตามเพศ และระดบั การมองเหน็ (ตอ่ ) รวมใส่แวน่ และไม่ใส่แว่น ชาย หญงิ รวม จ�ำนวนตวั อย่าง (คน) 6,476 9,171 15,647 อา่ นหนงั สอื ได้ (%) 50.7 52.1 51.4 เลอื นราง (%) 44.7 42.1 43.4 แทบไมเ่ หน็ (%) 4.6 5.8 5.2 ตารางท่ี 7.9.2 ร้อยละของการมองเห็นระยะใกล้ของประชาชนไทยอายุ 40 ปีข้ึนไป จ�ำแนกตามอายุ เพศ เขตการปกครอง และภาค ชาย อายุ จำ� นวนตัวอยา่ ง อา่ นหนังสือได้ เลอื นราง แทบมองไม่เหน็ 24.7 1.5 40 - 49 1,081 73.8 54.1 4.2 50 - 59 48.3 6.8 60 - 69 1,435 41.7 52.7 7.5 70 - 79 58.6 12.5 80+ 2,450 44.9 เขตการปกครอง 40.9 4.9 1,140 39.9 46.7 4.3 ในเขต นอกเขต 409 29.0 52.3 5.3 37.6 3.3 ภาค 44.8 3.3 53.5 11.3 เหนือ 3,462 54.3 36.3 1.8 กลาง 44.6 4.5 ตะวันออกเฉยี งเหนือ 3,053 49.0 ใต้ กรุงเทพฯ รวม 1,458 42.3 1,418 59.1 1,700 52.0 1,283 35.2 656 61.9 6,515 50.9

336 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครง้ั ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ตารางที่ 7.9.2 ร้อยละของการมองเห็นระยะใกล้ของประชาชนไทยอายุ 40 ปีข้ึนไป จ�ำแนกตามอายุ เพศ เขตการปกครอง และภาค (ตอ่ ) หญิง อายุ จ�ำนวนตัวอย่าง อา่ นหนังสอื ได้ เลอื นราง แทบมองไม่เห็น 25.4 1.2 40 - 49 1,717 73.4 47.7 5.9 50 - 59 47.0 7.8 60 - 69 2,540 46.4 49.7 10.8 70 - 79 54.0 18.3 80+ 3,168 45.2 เขตการปกครอง 39.7 5.5 1,365 39.6 43.4 6.2 ในเขต นอกเขต 445 27.8 47.4 7.2 38.1 4.4 ภาค 42.8 4.9 51.2 12.4 เหนอื 5,712 54.8 30.0 3.4 กลาง 41.9 5.9 ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 3,523 50.4 ใต้ กรงุ เทพฯ รวม 1,667 45.4 2,167 57.5 1,993 52.3 1,812 36.5 1,596 66.6 9,235 52.2 รวม อายุ จำ� นวนตัวอย่าง อา่ นหนงั สือได้ เลือนราง แทบมองไมเ่ หน็ 25.1 1.3 40 - 49 2,798 73.6 50.8 5.1 50 - 59 47.5 7.4 60 - 69 3,975 44.1 51.0 9.3 70 - 79 56.1 15.6 80+ 5,618 45.1 เขตการปกครอง 40.2 5.2 2,505 39.7 45.0 5.3 ในเขต นอกเขต 854 28.3 49.8 6.3 37.9 3.9 ภาค 43.8 4.1 52.3 11.9 เหนอื 9,174 54.6 32.7 2.7 กลาง 43.2 5.2 ตะวนั ออกเฉียงเหนือ 6,576 49.7 ใต้ กรงุ เทพฯ รวม 3,125 43.9 3,585 58.2 3,693 52.1 3,095 35.9 2,252 64.6 15,750 51.6