Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ระดับ ม.ปลาย

แผนการจัดการเรียนรู้ ระดับ ม.ปลาย

Published by supreeya010737, 2021-05-18 09:35:01

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ระดับ ม.ปลาย

Search

Read the Text Version

ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอบ้านแหลม สำนักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั เพชรบุรี การอนุมัติแผนการจัดการเรยี นรู้ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอบา้ นแหลม ------------------------------------- เพ่ือให้การส่งเสรมิ การจดั การศกึ ษาบรรลุเป้าประสงคต์ ามที่สานักงาน กศน.. กาหนดศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอบ้านแหลม จึงได้จดั ทา แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 หลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับ การศกึ ษา ขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ซ่งึ ประกอบดว้ ยปฏทิ นิ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ รายวชิ าทล่ี งทะเบยี นเรยี นแผนการจดั การเรยี นรรู้ ายภาคเรยี นในแผนการจดั การเรยี นรขู้ องศูนย์ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอบา้ นแหลม เห็นชอบในการนาแผนการ จดั การเรยี นรดู้ งั กล่าว ใชเ้ ป็นแนวทางของสถานศกึ ษาต่อไป ทงั้ น้ี ตงั้ แต่ 8 ธนั วาคม 2563 ลงชอ่ื .......................................................... ผูเ้ สนอแผน ( นางสาววรวรรณ ทิวาลยั ) ครูผ้ชู ่วย ลงชือ่ ....................................................... ผเู้ หน็ ชอบแผน ( นางวภิ ารตั น์ ชาแจ้ง ) ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอบา้ นแหลม

ก คำนำ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หลักสูตร การศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับนี้จัดทำขึ้นโดย ครูและผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์มาตรฐานสาระในรายวิชาทลี่ งทะเบียนเรียน ในภาคเรียน 2 ปีการศึกษา 2563 และนำเน้ือหาท่ีวิเคราะห์แล้วจัดทำแผนการเรียนรู้รายภาคเรียน โดยครูและผเู้ รียนร่วมกันจัดทำแผนการเรียนร้รู ายวิชาตามแผนการลงทะเบียน เพื่อทำให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ บรรลุผลตามมาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง และ ตัวชีว้ ัดต่าง ๆ อน่ึง หากครู กศน. หรอื บคุ คลใดนำแผนการจัดการเรียนรู้ ฉบบั นี้ไปใช้ในการ จัดกระบวนการเรียนการสอนให้กับผู้เรียน แล้วพบข้อดี หรือมีข้อเสนอแนะประการใด โปรดชี้แนะแสดงความคิดเห็น ซึ่งศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอบ้านแหลม ยินดีนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงแก้ไข พัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ให้ดีย่ิงข้ึน เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เกิด ประสทิ ธภิ าพตอ่ ไป ผจู้ ัดทำ กศน.อำเภอบา้ นแหลม ข สารบัญ

คำนำ หน้า ก สารบญั ข ปฏทิ นิ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1 รายวิชาท่ีลงทะเบียนเรียน 3 4 แผนการจัดการเรยี นรรู้ ายภาคเรยี น ภาคผนวก 257 คำอธิบายรายวิชา/รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา 266 269 คำสั่ง คณะทำงาน กศน.อำเภอบา้ นแหลม คณะผ้จู ัดทำ

1 ปฏทิ ินการจัดการเรียนรู้ (พบกลุ่ม) ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอบา้ นแหลม จงั หวดั เพชรบุรี ครงั้ ที่ วนั เดือน ปี วชิ า/หัวเร่ือง กิจกรรม/ หมาย วธิ ีการเรียนรู้ เหตุ 1 29 พฤศจกิ ายน วิชาภาษาองั กฤษเพอื่ ชวี ติ และสงั คม พบกลุ่ม กศน.ตำบล 2563 หัวเร่ืองที่ 1 Acting & Feeling 2 6 ธันวาคม วิชาภาษาองั กฤษเพือ่ ชวี ติ และสงั คม พบกลุ่ม กศน.ตำบล 2563 หัวเรื่องท่ี 2 ภาษาในการส่อื สาร 3 13 ธนั วาคม วชิ าภาษาอังกฤษเพ่อื ชีวติ และสังคม พบกลมุ่ กศน.ตำบล 2563 หวั เรือ่ งที่ 3 Have you exercised today and Shall we save the energy? 4 20 ธันวาคม วิชาภาษาองั กฤษเพือ่ ชวี ิตและสงั คม พบกลุ่ม กศน.ตำบล 2563 หวั เรือ่ งท่ี 4 การเดนิ ทางกบั โลกออนไลน์ 5 27 ธนั วาคม วิชาภาษาองั กฤษเพื่อชีวิตและสังคม พบกลมุ่ กศน.ตำบล 2563 หวั เรอ่ื งท่ี 5 Will it rain tomorrow , Global Warming 6 3 มกราคม วชิ าภาษาองั กฤษเพือ่ ชวี ติ และสังคม พบกลุ่ม กศน.ตำบล 2564 หัวเรือ่ งที่ 6 ภาษาอังกฤษเพอ่ื พฒั นาทกั ษะอาชีพ 7 10 มกราคม วชิ าทักษะการขยายอาชีพ พบกลุ่ม กศน.ตำบล 2564 หวั เรื่องที่ 7 ทักษะในการขยายอาชพี และการทำ แผนธรุ กจิ เพอ่ื การขยายอาชีพ 8 17 มกราคม วชิ าทักษะการขยายอาชีพ พบกลมุ่ กศน.ตำบล 2564 หัวเรื่องท่ี 8 การจดั การความเส่ยี ง การจัดการ การผลิตหรือการบริการ การจัดการตลาด 9 24 มกราคม วิชาทกั ษะการขยายอาชพี พบกลมุ่ กศน.ตำบล 2564 หวั เรือ่ งที่ 9 โครงการขยายและพฒั นาอาชพี ให้ยงั่ ยนื ปฏทิ ินการจัดการเรียนรู้ (พบกลมุ่ ) ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอบา้ นแหลม จงั หวดั เพชรบุรี

2 คร้งั ที่ วัน เดือน ปี วิชา/หัวเรือ่ ง กจิ กรรม/ หมาย วธิ ีการเรยี นรู้ เหตุ 10 31 มกราคม วชิ าสังคมศกึ ษา พบกลมุ่ กศน.ตำบล 2564 หวั เรื่องท่ี 10 ภูมศิ าสตร์กายภาพ 11 7 กมุ ภาพันธ์ วิชาสงั คมศกึ ษา พบกลมุ่ กศน.ตำบล 2564 หัวเรื่องที่ 11 เศรษฐศาสตร์ การเมืองและการ ปกครอง 12 14 กมุ ภาพันธ์ วิชาประวตั ิศาสตรช์ าตไิ ทย พบกล่มุ กศน.ตำบล 2564 หัวเรอ่ื งที่ 12 ความภมู ิใจในประวตั ิศาสตร์ ชาตไิ ทย 13 21 กุมภาพนั ธ์ วิชาประวัติศาสตรช์ าติไทย พบกลุ่ม กศน.ตำบล 2564 หวั เรอ่ื งที่ 13 มรดกไทยและพระราชกรณียกิจ ของพระมหากษตั รยิ ส์ มัยรัตนโกสนิ ทร์ 14 28 กุมภาพนั ธ์ วชิ าการเรยี นรู้สภู้ ัยธรรมชาติ 3 พบกลมุ่ กศน.ตำบล 2564 หัวเรอ่ื งที่ 14 ภยั แล้ง อุทกภยั ดนิ โคลนถลม่ บคุ ลากรและหนว่ ยงานทีช่ ว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัย 15 7 มนี าคม วิชาการเรียนรู้สูภ้ ยั ธรรมชาติ 3 พบกลมุ่ กศน.ตำบล 2564 หัวเรื่องท่ี 15 วาตภัย ไฟปา่ หมอกควัน 16 14 มีนาคม วชิ าการเรียนรสู้ ู้ภัยธรรมชาติ 3 พบกลมุ่ กศน.ตำบล 2564 หวั เรอ่ื งท่ี 16 แผน่ ดินไหวและสึนามิ 17 21 มนี าคม วชิ าศิลปศกึ ษา พบกล่มุ กศน.ตำบล 2564 หวั เรอ่ื งท่ี 17 ศลิ ปะนำพาอาชพี 18 28 มีนาคม วชิ าศิลปศกึ ษา พบกลุม่ กศน.ตำบล 2564 หวั เรอ่ื งท่ี 18 โสตศลิ ป์ & นาฏศลิ ป์

3 รายวิชาทล่ี งทะเบียนเรยี น วิเคราะห์หลักสูตร ทล่ี งทะเบียนเรียนใน ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สำหรบั นักศึกษา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอบ้านแหลม ท่ี วิชา รหสั วชิ า หนว่ ยกิต 1 วชิ าภาษาองั กฤษเพื่อชวี ติ และสังคม พต 31001 5 หนว่ ยกติ 2 วชิ าทกั ษะการขยายอาชพี 4 หนว่ ยกิต 3 วชิ าศิลปศึกษา อช 31002 2 หนว่ ยกติ 4 วิชาสงั คมศึกษา ทช 31003 3 หน่วยกติ 5 วชิ าประวตั ศิ าสตร์ชาติไทย สค 31001 3 หน่วยกิต 6 วชิ าการเรยี นรสู้ ูภ้ ัยธรรมชาติ สค 32034 3 หนว่ ยกิต สค 32032 20 หนว่ ยกติ รวม

4 แผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563 รายวิชา ภาษาอังกฤษเพือ่ ชวี ติ และสงั คม สาระความรพู้ น้ื ฐาน รหสั วิชา พต31001 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ENGLISH IS FUN เรอ่ื งท่ี 1.1 Acting & Feeling จำนวน 6 ชั่วโมง สถานท่ีจัดการเรียนรู้.............................................................................................................................. ชือ่ ครผู สู้ อน………………………………………………………………………………………………………………….. _________________________________________________________________________________________________________________ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 2.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะพืน้ ฐานเกย่ี วกบั ภาษาและการสอื่ สาร ตัวชีว้ ัด 1. ตีความหมายจากน้ำเสียงของผูอ้ ื่นและรู้จักใช้น้ำเสียงในการแสดงความรู้สึกระหว่าง การสนทนา ได้แก่ ดใี จ เสยี ใจ พึงพอใจ ไมพ่ งึ พอใจ ซาบซง้ึ ผิดหวัง ปรารถนาดี ชื่นชมและเหน็ ใจ 2. อ่านและทำตามคำแนะนำในการใช้คู่มือในการใช้คู่มือ ป้าย คำแนะนำ วิธีการปรุง ข้อควรระวังและปา้ ยประกาศ 3. เข้าใจและใช้ประโยคที่ซบั ซอ้ นในสถานการณต์ ่างๆ 4. ใช้ Tenses ทย่ี ุ่งยากและซบั ซอ้ น 5. ศกึ ษาค้นควา้ ความรแู้ ละขอ้ มูลจากสื่อหนงั สอื พิมพ์ 6. แลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสารความรูอ้ ยา่ งเป็นอย่างทางการ 7. สบื ค้นขอ้ มูลในด้านตา่ ง ๆ จาก Internet จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ผู้เรียนสามารถตีความหมายจากน้ำเสียงของผู้อื่นและรู้จักใช้น้ำเสียงในการแสดง ความรู้สึกระหว่างการสนทนา ได้แก่ ดีใจ เสียใจ พึงพอใจ ไม่พึงพอใจ ซาบซ้ึง ผิดหวัง ปรารถนาดี ชนื่ ชมและเห็นใจได้

5 2. ผู้เรียนสามารถอ่านและทำตามคำแนะนำในการใชค้ ู่มือในการใช้คมู่ ือ ปา้ ย คำแนะนำ วิธกี ารปรุง ขอ้ ควรระวังและปา้ ยประกาศได้ 3. ผู้เรียนเขา้ ใจและใชป้ ระโยคทซ่ี ับซ้อนในสถานการณต์ ่าง ๆ ได้ 4. ผเู้ รียนสามารถใช้ Tenses ท่ยี ุง่ ยากและซบั ซ้อนได้ 5. ผู้เรียนสามารถศึกษาค้นคว้าความรู้และข้อมลู จากสื่อหนังสอื พมิ พไ์ ด้ 6. ผ้เู รียนสามารถแลกเปลีย่ นขอ้ มูลข่าวสารความรู้อยา่ งเปน็ อยา่ งทางการได้ 7. ผเู้ รียนสามารถสบื คน้ ข้อมูลในด้านตา่ ง ๆ จาก Internet ได้ สาระสำคัญ ตคี วามหมายจากน้ำเสียงของผู้อื่นและรู้จักใช้น้ำเสียงในการแสดงความรู้สึกระหว่างการ สนทนาได้แก่ ดีใจ เสียใจ พึงพอใจ ไม่พึงพอใจ ซาบซึ้ง ผิดหวัง ปรารถนาดี ช่ืนชมและเห็นใจ อ่านและทำตามคำแนะนำในการใช้คมู่ ือ ป้าย คำแนะนำ วธิ กี ารปรงุ ขอ้ ควรระวังและป้ายประกาศ ชนิ้ งาน ภาระงาน 1. เอกสารการเรยี นรู้ด้วยตนเอง 2. กจิ กรรมท้ายบท เน้ือหา 1. การออกเสยี งพยัญชนะต้นคำ - ท้ายคำ 1.1 ทบทวนการออกเสยี ง พยัญชนะตน้ คำที่ยาก เชน่ เสยี ง s z ch sh - sit, see, soon - zebra, zero, zoo - cheap, chat, choose - ship, shoe, shut etc. 1.2 การอ่านออกเสียงท้ายคำท่ีถูกต้อง เช่น เสียง [d] , [t] , หรือ [id] เมื่อเป็นกริยา ชอ่ ง 2 และ past participle เช่น - moved, turned, loved - walked, talked, knocked - wanted, rented, waited 2. การออกเสียงหนกั -เบา (Stress) วธิ ีการออกเสียงหนัก-เบา ของคำในลกั ษณะตา่ ง ๆ เช่น คำเดีย่ ว คำประสมในลักษณะต่าง ๆ เปน็ ต้น วา่ คำประเภทใดจะตอ้ งออกเสยี งเนน้ ที่พยางค์แรก พยางคก์ ลางหรือพยางค์หลงั

6 3. การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ต่ำ (Intonation) วิธีการออกเสียงของประโยค ลักษณะต่าง ๆ ซ่ึงจะต้องออกเสียงสูง-ต่ำ ให้ถูกต้องเพ่ือให้ส่ือความหมายท่ีผู้พูดต้องการ ประโยค ประเภทเดียวกัน ถา้ ออกเสยี งสูง-ต่ำ ต่างกันจะใหค้ วามรู้สกึ ท่ีต่างกนั 4. การออกเสียงเช่ือมโยง (Linking Sound) วิธีการอา่ นออกเสยี งเชอื่ มโยงระหว่างคำ ในภาษาอังกฤษที่ถูกตอ้ งตามกฎเกณฑ์ของภาษาอังกฤษ เชน่ - Ten years ago. - Far away etc. 5. การแสดงความดใี จ/เสยี ใจ การใชค้ ำ วลแี ละรูปประโยคท่ีจะนำมาใชใ้ นการแสดง ความดีใจและเสียใจในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ถกู ต้อง เชน่ แสดงความดีใจที่ได้พบกันอีกครง้ั หรอื แสดงความ เสยี ใจท่ที ำผิด เป็นตน้ ตัวอยา่ ง คำวลี และรูปประโยค เชน่ - Congratulations! - Sorry. Glad is hear about that. - Sorry about that. - I’m glad to...................... - I’m pleased to........................ - I love to........................... - I’m sorry to......................... - It’s my fault that............................ 6. การแสดงความพอใจ/ไม่พอใจ ให้รู้จักคำ วลี และรูปประโยคที่จะท่ีจะนำมาใช้ใน การแสดงความพอใจ/ไมพ่ อใจในโอกาสต่าง ๆ ได้ถูกต้อง เช่น แสดงความพอใจ/ไม่พอใจในการรับ บริการ เป็นตน้ ตวั อยา่ งคำ วลี และรปู ประโยค เชน่ - Great! - Awful! - Good news! - How nice! - How terrible! - That’s fantastic! - I can’t stand it! - I’m very disappointed with................. - It’s ashamed that............................. 7. การแสดงความปรารถนา/ เหน็ ใจและการตอบรับ การใช้คำ วลี และรปู ประโยคท่ี จะนำมาใช้ในการแสดงความปรารถนาดี/เห็นใจในโอกาสต่าง ๆ ได้ถูกต้อง เช่น การแสดงความ ระลึกถงึ การแสดงความเหน็ ใจเม่ือผอู้ ่ืนประสบปัญหา เป็นต้น ตวั อยา่ งคำ วลี และรปู ประโยค เชน่

7 - Best wishes. - Take care. - Get well soon. - Good luck. - With sympathy. - We hope everything go well through this suffering period. - I understand how difficult it is. - It must be for you. - I feel sympathy for you. - Thank you for your hospitality. - Thanks a million for............................ - I’m very grateful to your........................... - It’s very appreciative that.................... - I’m very appreciated for...................... 8. การแสดงความต้องการการเสนอ/ใหค้ วามชว่ ยเหลือ/บรกิ าร รวมท้งั การตอบรับ/ ปฏิเสธ การ ให้ความช่วยเหลือ/บริการ การใช้คำ วลี และรูปประโยคเพื่อแสดงความต้องการ การเสนอ/ ให้ความช่วยเหลือ/บริการ รวมทัง้ การตอบรับ/ปฏเิ สธในการให้ความชว่ ยเหลือ/บริการใน โอกาสและสถานที่ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างถูกต้อง ไดแ้ ก่ การซอื้ สนิ ค้า/บริการในรา้ น การสัง่ จองตว๋ั เคร่ืองบิน/ รถไฟ/ภาพยนตร์/การบริการในบริษัททัวร์ การจองโรงแรม/ ที่พัก การใช้บริการในท่ีทำการ ไปรษณีย์/ธนาคาร/รา้ นอนิ เตอร์เนต็ ตวั อยา่ ง คำ วลี และรปู ประโยค เช่น - May I help you? - What can I do for you? - Let me.............................. - Shall I ...............................? - Is there anything I can do for you? - I would like......................... - I prefer................................. - I’d rather.............................. - How much..............................? - How about..............................? - I’m afraid..............................? - We recommend.............................. - Would you please..............................? - Please let me know............................ - It’s occupied.

8 etc. 9. การใชพ้ จนานกุ รม (Dictionary) 9.1 ทบทวนการค้นหาความหมายของคำศัพท์โดยเรียงตามตัวอักษรของคำศัพท์ที่ ค้นหาจาก a ถึง z 9.2 ใหอ้ า่ นวิธีการใช้พจนานกุ รมและขอ้ มูลตา่ ง ๆ ทอี่ ยู่ในส่วนหน้า (คำช้ีแจงในการ ใช)้ ของ Dictionary ให้เข้าใจ 9.3 เม่ือค้นหาคำศัพท์พบแล้ว ให้ศึกษาวิธีการอ่านออกเสียงหน้าที่ของคำ ความหมาย และตวั อย่างในการใช้ (ซ่ึงคำบางคำอาจจะทำหน้าที่ได้หลายอย่าง) และคำท่ีมีความหมาย ใกล้เคียงกัน เช่น drug(ดรัก) n. ยา ผลิตภัณฑ์ยา ยาเสพติด สินค้าท่ีเกี่ยวกับสุขภาพท่ีขายในร้านขายยา vt. drugged, drugging ผสมกับยา ทำให้ติดยา ทำให้ได้รับพิษจากยา drug on the market สินค้าท่ีมี มากเกนิ ความตอ้ งการในตลาด 10. การวิเคราะห์ศัพท์และรูปประโยคท่ีใช้ในสัญลักษณ์ ป้ายประกาศ/คำแนะนำ ในการใช้/คำแนะนำ/คำเตอื นตา่ ง ๆ 10.1 การวเิ คราะห์ศพั ท์โดยการรู้จกั ส่วนท่ีเป็นรากศัพท์ (Root) อุปสรรค หรือท่ีคำ เติมไปข้างหน้า (Prefix) และปัจจัยหรือคำท่ีเติม ข้างหลัง (Suffix) โดยทราบความหมายของ สว่ นประกอบของคำศพั ทต์ ่าง ๆ เหล่าน้ันก็จะทราบความหมายของศพั ท์ได้ เชน่ Prefix : re = again anti = against tele = far Suffix : ant = person er = personwho dom = condition ern = direction 10.2 รูปประโยคท่ีใช้ในสัญลักษณ์/ป้ายประกาศ/คำแนะนำในการใช้/คำแนะนำ/ คำเตอื นตา่ ง ๆ ซงึ่ จะใชร้ ปู ประโยคคำสัง่ (Imperative Sentence) ท้งั ในลกั ษณะบอกเล่าและปฏิเสธ เชน่ - Don’t smoke. - No smoking. - No entry. - Put some oil in the pan, then put the garlic and stir until it become yellow. 11. สัญลักษณ์และป้ายประกาศต่าง ๆ (Signs & Notices) รู้จักความหมายของ สญั ลักษณ์และปา้ ยประกาศท่พี บในชวี ิตประจำวันและการประกอบอาชีพ เช่น การปฏิบตั ิตนในแหล่ง ท่องเท่ยี ว โรงแรม พพิ ธิ ภณั ฑ์ โรงงาน สำนักงาน ยานพาหนะ เปน็ ตวั อย่าง เช่น

9 12. สลากยาและคมู่ ือในการใช้อุปกรณ์ตา่ ง ๆ (Instructions) การอ่าน ทำความเข้าใจ และ ปฏบิ ตั ิตามคำแนะนำในการใช้ยาและอุปกรณต์ า่ ง ๆ ท่ีใช้ในชวี ติ ประจำวัน เช่น หม้อหุงขา้ วไฟฟา้ เครอื่ งซัก ผา้ คอมพวิ เตอร์ โทรศัพท์มอื ถือ เปน็ ตน้ โดยใหเ้ ข้าใจสำนวนหรอื โครงสร้างของประโยคทม่ี กั ใช้ เช่น - Keep out of reach of children. - Take one tablet after each meal. - Shake well before use. การใช้ Active Voice และ PassiveVoice Modal verb Direct Speech, Indirect speech, Conjunction และ Connective words ทีส่ ำคญั เชน่ - You should have it directly after meal. - The doses must not be divided. - Don’t use if the package is open. - First open the can with the opener. Pull it in a bowl. Then put some chopped chili, lemon juice and fish sauce. After that mix them together. 13. คำแนะนำและคำเตอื นต่าง ๆ (Tips and Warning) รู้จักวิธีการอ่านและตีความ คำแนะนำ คำชีแ้ จง และคำอธิบายตา่ ง ๆ เช่น พยากรณอ์ ากาศประกาศ เตือนภัย คำแนะนำในการ เข้าไปในสถานท่ีตา่ ง ๆ คำอธบิ ายสินค้าและสว่ นประกอบหรือเคร่ืองปรงุ วธิ ีการปรงุ อาหาร เปน็ ตน้ 14. เสียง คำศพั ท์ วลี สำนวน ที่ มกั ใชบ้ ่อย ๆ ในข่าว 15. องค์ประกอบของขา่ วประกอบด้วย Headline, Sub headline, Lead และ Detail 16. ประเภทของขา่ ว เช่น ขา่ วการเมอื ง ขา่ วการศกึ ษา ขา่ วกฬี า ข่าวสังคม ข่าว เศรษฐกจิ เป็นต้น 17. โครงสรา้ งของการเขยี นพาดหวั ข่าว (News Headline) ได้แก่ 17.1 ข่าวและพาดหัวขา่ ว 17.2 การถามและตอบคำถามจากข่าวดว้ ย คำถามที่ เป็น Wh-Question และ Yes/No Question 17.3 การถามและแสดงความคดิ เห็นวา่ เหน็ ด้วย หรอื ไมเ่ หน็ ดว้ ย เช่น - Do you agree with this....................? - What do you think about.................. 17.4 Website ของหนงั สือพมิ พ์ The Nation หรอื Bangkok Post เพอ่ื ศกึ ษาขา่ ว ประเภทตา่ ง ๆ ทสี่ นใจแล้ววเิ คราะหโ์ ครงสร้างของพาดหวั ขา่ วน้นั ๆ หรอื บอกประเภทของขา่ วนนั้ ๆ

10 - Subj. + V1 - Subj. + V3 - Subj. + to + V1 - Subj. + V. ing Noun phrase คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2. ทักษะการคิดเปน็ กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ขัน้ เตรียมการ ประกอบด้วย 1.1 ขั้นเตรียมตนเองของครูผู้สอน ด้วยการศึกษาเนื้อหาเร่ืองที่ 1.1 Acting & Feeling และเขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ใหพ้ รอ้ ม 1.2 เตรียมนักศึกษา ด้วยการให้ข้อมูลวิธีการศึกษาเรียนรู้เรื่องท่ี 1.1 Acting & Feeling เปิดโอกาสให้นกั ศกึ ษาซกั ถามข้อสงสัย 1.3 เตรียมวัสดุอุปกรณ์และส่ือการเรียนรู้ ได้แก่ ใบความรู้ ใบงาน หนังสือเรียน รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อชวี ิตและสังคม ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย รวมถึงส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ และ ส่ือแหล่งเรยี นรู้ในชุมชน 1.4 เตรียมสถานที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยการจัดเตรียมโต๊ะเก้าอี้ให้เพียงกับ จำนวนนกั ศกึ ษาดแู ลความพรอ้ มของแสงไฟฟ้าหรืออปุ กรณเ์ ครอ่ื งใช้ไฟฟ้า ดูแลการระบายอากาศให้มี การถา่ ยเทท่ีดี ตลอดจนบรรยากาศโดยรอบของหน่วยจดั การเรยี นรู้ใหเ้ อ้ือต่อการเรียนรู้ 2. ขัน้ สอน ประกอบดว้ ย 2.1 ขนั้ นำ ครูผู้สอนสร้างความตระหนักให้กับผูเ้ รียนเห็นคุณค่าความสำคญั ในเรื่อง ของ Acting & Feeling 2.2 ขั้นสอน ครูผู้สอนได้จดั กระบวนการเรยี นรู้แบบ ONIE MODEL ดงั นี้ 2.2.1 ครผู ู้สอนรว่ มกับนักศึกษากำหนดประเดน็ การเรียนรู้ เรื่องที่ 1.1 Acting & Feeling 2.2.2 นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าตามประเด็นการเรียนรู้จากส่ือการเรียนรู้ท่ี หลากหลาย นกั ศึกษาบนั ทึกข้อมูลทศี่ กึ ษาค้นควา้ ไดล้ งในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) 2.2.3 นักศึกษามาพบกลุ่ม อภิปราย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูล สรุป การเรยี นรทู้ ีไ่ ดล้ งในเอกสารการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง (กรต.) ดงั นี้ 1) ครูอธิบายเน้ือหาเรื่อง การอ่านออกเสียง พยัญชนะต้นคำ – ท้ายคำ การแสดงความร้สู กึ 2) ครูผู้สอนอธิบายเนื้อหาเรื่อง การใช้พจนานุกรม และรู้เกี่ยวกับ สญั ลกั ษณแ์ ละป้ายประกาศต่าง ๆ

11 3) ครูผู้สอนยกตัวอย่างภาษาอังกฤษท่ีพบเห็นทั่วไป เช่น การแสดง ความรู้สึก โดยการใช้น้ำเสียงแสดงความรู้สึกระหว่างสนทนา การอ่านและทำตามคำแนะนำ สัญลกั ษณ์ ปา้ ยประกาศต่าง ๆ 4) ให้ผู้เรียนจับคู่สนทนาในข้อหัวต่าง ๆ แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็น รว่ มกนั 2.2.4 นักศึกษานำผลสรุปการเรียนรู้ท่ีได้ไปทดลองปฏิบัติด้วยการตอบคำถาม ในใบงานทกี่ ำหนด 2.2.5 นักศึกษาสรุปการเรียนรู้ท่ีได้จากการตอบคำถามด้วยการบันทึกลง ในเอกสารการเรียนรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) 2.3 ข้ันสรุป ครูผู้สอนกระตุ้นให้นักศึกษาสรุปการเรียนรูท้ ี่ได้จากเรื่องท่ี 1.1 Acting & Feeling ด้วยการต้งั คำถามและใหน้ กั ศกึ ษาตอบคำถามความคดิ รวบยอดที่ไดจ้ ากการศกึ ษาเรอ่ื งน้ี 3. ขน้ั ประเมนิ ผล ประกอบดว้ ย 3.1 ประเมินความก้าวหน้า ดว้ ยวธิ ีการ 3.1.1 การสงั เกต 3.1.2 การซักถาม ตอบคำถาม 3.1.3 การตรวจเอกสารการเรยี นร้ดู ้วยตนเอง (กรต.) 3.2 ประเมนิ ผลรวม ด้วยวิธกี าร 3.2.1 ตอบแบบทดสอบวัดความรู้เรอ่ื ง Acting & Feeling สอื่ การเรยี นรู้ 1. ส่ือเอกสาร ได้แก่ 1.1 ใบความรู้ เรอ่ื ง คำ วลี ประโยคการแสดงความร้สู กึ ตา่ ง ๆ 1.2 ใบงานท่ี 1 เร่ือง คำ วลี ประโยคการแสดงความรูส้ กึ ตา่ ง ๆ 1.3 ใบความรู้ เรื่อง สัญลักษณ์ และปา้ ยประกาศตา่ ง ๆ 1.4 ใบงานที่ 2 เรอื่ ง สญั ลักษณ์ และปา้ ยประกาศต่าง ๆ 1.5 หนังสือเรียนรายวชิ า พต31001 ภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคม 2. ส่อื แหลง่ เรยี นรู้ในชมุ ชน ได้แก่ 2.1 หอ้ งสมดุ ประชาชนอำเภอบ้านแหลม 3. สอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 3.1 สือ่ ออนไลนก์ ารสอน ETV วชิ าภาษาองั กฤษ

12 การวัดและประเมนิ ผล สิง่ ท่วี ัด เคร่อื งมือท่ใี ช้วดั วิธีการวัด เกณฑ์ 1. ผู้ เรีย น ส าม าร ถ แบบประเมนิ ผลการ ตรวจเอกสารการเรยี นรู้ ตอบถกู ต้อง ครอบคลมุ ตี ค วา ม ห ม า ย จ า ก เรยี นร้ดู ้วยตนเอง (กรต.) ด้วยตนเอง (กรต.) ท่ี เน้ือหาให้ น้ำเสียงของผู้อ่ืนและ ใบงานท่ี 1 และใบงานที่ นกั ศึกษาไดบ้ นั ทกึ ผล 2 คะแนน รู้จักใช้น้ำเสียงในการ 2 หัวเร่อื งที่ 1 Acting การทำใบงานที่ 1 และ ตอบถกู ตอ้ งแตไ่ ม่ แ ส ด ง ค ว า ม รู้ สึ ก & Feeling ใบงานท่ี 2 ครอบคลุมเน้อื หาให้ ร ะ ห ว่ า ง ก า ร ส น ท น า 1 คะแนน ได้แก่ ดีใจ เสียใจ พึง ตอบไม่ถกู ตอ้ งและ พ อ ใจ ไม่ พึ งพ อ ใจ ไม่ครอบคลมุ หรือไมไ่ ด้ ซ า บ ซึ้ ง ผิ ด ห วั ง ทำ ให้ 0 คะแนน ปรารถนาดี ชื่นชม และเห็นใจได้ 2. ผู้เรียนสามารถ แบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบกอ่ น ตอบถกู ให้ 1 คะแนน อ่ า น แ ล ะ ท ำ ต า ม และหลังเรยี น เรยี นและ ตอบผดิ ให้ 0 คะแนน ค ำ แ น ะ น ำ ใ น ก า ร ใ ช้ หลงั เรยี น คู่มือ ข้อควรระวงั และ

13 ปา้ ย ประกาศได้ 3. ผู้เรยี นมคี วามเข้าใจ แ ล ะ ใช้ ป ร ะ โย ค ท่ี ซบั ซอ้ นในสถานการณ์ ตา่ งๆ ได้ สงิ่ ทวี่ ัด เคร่อื งมือท่ีใชว้ ดั วธิ กี ารวัด เกณฑ์ 4. ผู้เรียนสามารใช้ Tenses ที่ยุ่งยากและ ซบั ซ้อนได้ 5. ผู้เรียนสามารถ ศึกษาค้นคว้าความรู้ และขอ้ มลู จากสอื่ ได้ 6. ผู้ เรีย น ส าม าร ถ แ ล ก เป ล่ี ย น ข้ อ มู ล ข่าวสารความรู้อย่าง เปน็ อย่างทางการได้ 7. ผู้ เรีย น ส าม าร ถ สื บ ค้ น ข้ อ มู ล ใ น ด้ า น ต่าง ๆ จาก Internet ได้

14 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียน เรอ่ื ง Acting & Feeling Choose the best answer 1. Jane : Oh dear ! I’ve broken all the plates. Mother : ………………………….…… a. I’mI mglaisds.ed the bus this morning. b. I’m sorry. c. That’s all right. d. It doesn’t matter. 2. Mrs. Supa : Sak, you are late again. Sak : ………………………….…… I miss the bus this morning. a. I’m glad. b. I’mI msoirsrsye.d the bus this morning. c. How terrible! d. I agree with you. 3. Lady : How much does it cost? Hairdresser : Only shampoo is 50 baht with blow-dry is 60 baht. Lady : If so, I want my hair shampooed with blow-dry. Hairdresser : OK. This way, please. WHhaairtdrdeosesesrth: iOs.lKa.dTyhwisawnat?y, please. a. hair-cut

15 b. blow-dry c. hair- shampoo d. hair shampooed with blow-dry. 4. You are looking for a word in a dictionary and come across “s”. What does “s” stand for? a. synonym b. sentence c. stress d. same 5. Which word has suffix? a. monotone b. antisocial c. historian d. bicycle 6. Which one is correct according to alphabetically ordered? a. bill egg glad law soil meaning b. bill glad egg law soil meaning c. bill egg glad law meaning soil d. bill glad egg law meaning soil 7. What does this sign tell you? a. Don’t take durian inside. b. There is no durian inside c. Durian is not available here. d. Durian is not good for health. 8. Jan takes medicine …………………. After meal. a. late b. before c. always d. directly 9. What kind are these following sentences? Turn left, No parking, Don’t use the phone. Don’t use the phone.

16 a. Negative sentence b. Imperative sentence c. Affirmative sentence d. Comparative sentence 10. Which item is a warning sign? a. stop b. No parking c. Do not Enter d. Pedestrian Crossing เฉลยแบบทดสอบเรอ่ื ง Acting & Feeling 1. D 2. B 3. D 4. A 5. B 6. C 7. A 8. C 9. B 10. D ใบความรู้ท่ี 1 เรื่องคำ วลี ประโยคการแสดงความรสู้ กึ ตา่ ง ๆ 1. การกล่าวแสดงความเห็นใจ สำนวนทใ่ี ช้กล่าวแสดงความเห็นใจในข่าวรา้ ย เช่น เร่ืองการตาย หรอื เรื่องไม่ดี ดงั ตวั อย่างตอ่ ไปน้ี - I’m very sorry to hear that…………………….. (อาม เวริ ซอริ ทู เฮยี แดท................................)

17 ฉนั เสยี ใจด้วยนะทไี่ ดย้ นิ วา่ .................................. - I was very sorry to hear of ……………………. (ไอ วอซ เวริ ซอริ ทู เฮยี เอฟิ ) ฉนั เสยี ใจดว้ ยนะท่ีได้ยนิ ว่า.................................. - Please accept my sincere sympathy. (พลสี แอคเซฟ มาย ซนิ เซอร์ ซิมพาทท)ิ ไมม่ ีคำไทยตรง หมายถงึ ว่า ขอแสดงความเสียใจดว้ ยจรงิ ๆ - How unfortunate ! (ฮาว อนั ฟอรจ์ ูเนท) ชา่ งโชครา้ ยอะไรอยา่ งนี้ - What a pity ! (วอท อะ พทิ ทิ ) ช่างนา่ สงสาร - What a shame ! (วอท อะ เชม) ชา่ งนา่ ละอาย การตอบรับการแสดงความเห็นใจนนั้ มกั จะพดู วา่ - Thank you for your concern (แธงค์ก่ิว ฟอร์ ยัวร์ คันเซนิ ) ขอบคณุ สำหรับความหว่ งใยของคุณ - Thank you . I appreciate it . (แธงคก์ ว่ิ ไอ แอพพรีชเิ อท อทิ ) ขอบคุณคะ่ ดิฉนั ซาบซง้ึ ในนำ้ ใจของคุณ หรอื กล่าวเพยี งสนั้ ๆ วา่ - Thanks. (แธงคส์ ) ขอบคณุ 2. การเห็นดว้ ย (Agreements) รปู ประโยคทใี่ ช้แสดงการเหน็ ดว้ ยมีดังนี้ A : Do you agree with me? (ดู ยู อะกรี วธิ มี?) คณุ เห็นดว้ ยกบั ผมไหมครบั B : Yes, I do. (เยส, ไอ ดู) เหน็ ด้วยครับ C: I agree with you. (ไอ อะกรี วิธ ยู) ผมเห็นด้วยกับคณุ ครบั O.K. That could be the best solution for us.

18 (โอเค. แดท คูด บี เดอะ เบสท์ โซลูชนั ฟอร์ อซั ) ครับ นัน่ อาจจะเป็นทางแก้ปญั หาท่ีดที สี่ ุดสำหรับเรา I am glad that we share the same point of view. (ไอ แอม แกลด แดท วี แชร์ เดอะ เซม พอยท์ ออฟว ววิ ) ผมดีใจที่เรามีมมุ มองเหมอื นกัน I have no reason to disagree. (ไอ แฮฟว โน รซี ัน ทู ดิสอะกรี) ผมไมม่ เี หตผุ ลที่จะไม่เหน็ ด้วยครบั I belive that it is the best way to solve it. (ไอ บลี ฟี ว แดท อทิ อิซ เดอะ เบสท์ เวย์ ทู โซลฟว อทิ ) ผมเช่ือวา่ มนั เปน็ ทางแกป้ ญั หาทีด่ ที ส่ี ดุ Your idea is really creative. (ยัวร์ ไอเดยี อซิ เรียลลี ครเี อทีฟ) ความคิดเหน็ ของคุณสรา้ งสรรคม์ าก 3. การไมเ่ ห็นดว้ ย (Disagreements) รูปประโยคที่ใชแ้ สดงการไม่เหน็ ดว้ ยมีดังน้ี Do you agree with me? (ดู ยู อะกรี วธิ มี?) คุณเห็นด้วยกับผมไหมครบั No, I don't. (โน, ไอ โดนท.์ ) ไมเ่ ห็นด้วยครบั I am sorry. I disagree with you. (ไอ แอม ซอรี. ไอ ดสิ อะกรี วธิ ย.ู ) ขอโทษนะครับ ผมไมเ่ ห็นด้วยกบั คณุ I can't agree anymore. (ไอ แคนท์ อะกรี เอนมี อร์. ) ผมไมส่ ามารถเหน็ ด้วยไดอ้ ีกต่อไปแล้ว I am afraid I can't agree with you. (ไอ แอม อะเฟรด ไอ แคนท์ อะกรี วิธ ยู.) ผมเกรงว่าจะไมส่ ามารถเหน็ ดว้ ยกบั คุณได้ We have opposite views on this. (วี แฮฟว ออพโพสทิ ววิ ซ์ ออน ดสิ .) เรามมี ุมมองตรงข้ามกันในเร่ืองนี้

19 I don't mean to argue, but I think you had better think again. (ไอ โดนท์ มนี ทู อารก์ วิ , บัท ไอ ธงิ ค์ ยู แฮด เบทเทอะ ธงิ ค์ อะเกน) ผมไมอ่ ยากจะเถยี ง แตผ่ มคดิ ว่าคณุ นา่ จะคิดใหมน่ ะครบั 4. การกลา่ วชมเชย เมอ่ื ตอ้ งการกลา่ วชมเชย จะใช้สำนวนต่อไปน้ี - I like your hair. (ไอ ไลท์ ยวั ร์ แฮร์) ฉนั ชอบทรงผมของคุณ - I really like your hair. (ไอ เรียวล่ิ ไลท์ ยัวร์ แฮร)์ ฉนั ชอบทรงผมของคุณจรงิ ๆ - What a nice dress ! (วอท อะ ไนส้ เดรส) ชุดชา่ งสวยจริง ๆ - You look wonderful. (ยู ลุคค์ วันเดอร์ฟุล) คุณดดู อี ยา่ งน่าพศิ วงจัง -That’s a lovely shirt. (แธทส์ สะลัฟลิ เช๊ติ ท์) เส้ือเช้ติ นั่นน่ารักจงั การตอบรบั การกลา่ วชมเชย อาจพูดไดด้ งั น้ี - Thank you very much. (แธงคก์ ่วิ เวริ มชั ) ขอบคณุ มาก - It’s kind of you to say so. (อิทส คาย ออ๊ ฟ ยู ทู เซ โซ) ไม่มีคำแปลตรง ๆ เหมือนกบั ขอบคุณแล้วแตว่ า่ ชมเร่อื งอะไร

20 ใบความรู้ที่ 2 เร่ืองสญั ลกั ษณ์ และปา้ ยประกาศตา่ ง ๆ

21

22

23

24

25 ใบงานท่ี 1 เร่อื ง ประโยคการแสดงความรสู้ ึกตา่ งๆ

26 คำชแ้ี จง 1. ใหผ้ ู้เรียนเขียนบทสนทนามา 1 เรอื่ ง และจบั คสู่ นทนา โดยเลอื กสถานการณ์ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1.1 สถานการณ์แสดงความดีใจ 1.2 สถานการณ์แสดงความเสยี ใจ 1.3 สถานการณ์แสดงความเสยี ใจ 1.4 สถานการณ์แสดงความยินดี 2. ใหผ้ ูเ้ รียนเตมิ คำลงในช่องวา่ ง Dialogue 1 that’s / sorry / apologize Mary : I’m (1) but I can’t find the pen that you lend me. Harry : Oh, (2) all right. Mary : I must (3) . I’ll buy you a new one tomorrow. Harry : No. Please don’t. I couldn’t let you do that. Dialogue 2 been / missed / boss / had / I’m sorry /apologize / boss / that’s Helen : John, I’m sorry. John : Where have you (4) , Helen? You’re over an hour late. Helen : I was late because I (5) the first bus. I took the second bus. The bus got stuck in the traffic jam. Helen : Yes. But those are the rush in the moment. And my (6) ? asked me to do some urgent letters. John : Didn’t you tell him you (7) an appointment? Helen : Well, no. I thought I could finish it in five minutes. If I hadn’t been missing the bus in the traffic I wouldn’t have been so late. (8)

27 เฉลยใบงานเรือ่ ง วลี คำ ประโยค แสดงความรสู้ ึกตา่ งๆ Dialogue 1 1. Sorry 2. That’s 3. Apologize Dialogue 2 4. Been 5. Missed 6. Boss 7. Had 8. I’m sorry ใบงานที่ 2 เรื่องเคร่ืองหมาย สัญลกั ษณ์ ป้ายประกาศและคำอธิบาย คำส่งั ใหผ้ เู้ รียนเขยี นชือ่ ปา้ ยเป็นภาษาอังกฤษ คำอา่ น และความหมาย

28 คำศัพท.์ ..................................................................... คำอ่าน...................................................................... ความหมาย............................................................... คำศพั ท.์ ..................................................................... คำอา่ น...................................................................... ความหมาย............................................................... คำศพั ท.์ ..................................................................... คำอา่ น...................................................................... ความหมาย............................................................... คำศัพท์...................................................................... คำอ่าน...................................................................... ความหมาย............................................................... บันทกึ ผลหลงั สอน 1. ความสำเรจ็ ในการจัดการเรียนรู้ เร่อื ง Acting & Feeling 1.1 ดา้ นความรู้ ผ่าน ...............คน ไม่ผา่ น ................ คน 1.2 ด้านทักษะ ผ่าน ...............คน ไมผ่ า่ น ................ คน 1.3 ดา้ นเจตคติ ผา่ น ...............คน ไมผ่ ่าน ................ คน 2. ปญั หาหรืออปุ สรรคในการจดั การเรยี นรมู้ อี ะไรบา้ ง………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

29 3. แนวทางในการแก้ไขปัญหาอปุ สรรคมอี ะไรบา้ ง………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ส่ิงท่ีไมไ่ ดป้ ฏิบตั ติ ามแผนและเหตผุ ลคอื อะไร………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.......................................................................... () ครูผู้สอน ความคดิ เห็นของผูน้ เิ ทศทไ่ี ด้รับมอบหมายจากผู้บริหาร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .......................................................................... () ตำแหนง่ ………………………………………………… ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ............................................................................ (นางวภิ ารตั น์ ชาแจ้ง) ตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอบา้ นแหลม แผนการจัดการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 รายวชิ า ภาษาอังกฤษเพ่ือชวี ติ และสังคม สาระความรู้พนื้ ฐาน รหสั วิชา พต31001 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ENGLISH IS FUN เร่ืองที่ 1.2 ภาษาในการสื่อสาร จำนวน 6 ชว่ั โมง สถานที่จัดการเรยี นรู้.............................................................................................................................. ช่อื ครูผสู้ อน………………………………………………………………………………………………………………….. _________________________________________________________________________________________________________________ มาตรฐานการเรียนรู้

30 มาตรฐานที่ 2.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะพ้ืนฐานเกยี่ วกบั ภาษาและการส่อื สาร ตัวชวี้ ดั 1. ติดต่อส่ือสารทางโทรศพั ท์ไดคลองแคล่ว 2. ปฏบิ ัตติ นตามมารยาท วฒั นธรรมและประเพณตี ่าง ๆ ไดอย่างถูกต้อง 3. เปรยี บเทียบความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรมองั กฤษกับวฒั นธรรมไทย จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ผเู้ รยี นสามารถตดิ ตอ่ ส่อื สารทางโทรศพั ท์ไดคลองแคลว่ 2. ผเู้ รียนสามารถปฏิบัติตนตามมารยาท วัฒนธรรมและประเพณตี า่ ง ๆ ไดอยา่ งถูกต้อง 3. ผเู้ รยี นสามารถเปรยี บเทียบความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรมองั กฤษกบั วัฒนธรรมไทยได้ สาระสำคญั ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์มีการใช้กันอย่างกว้างขวาง ดังนั้นมารยาทการใช้ โทรศัพท์ในการติดต่อกับเพ่ือน ญาติ หรือสอบถามข้อมูล จำเป็นต้องใช้สำนวนภาษาที่เหมาะสม ถกู ตอ้ ง จะประสบความสำเร็จตามเปา้ หมายของการส่อื สารในเรอื่ งทีต่ ้องการ การเข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เป็นเร่ืองจำเป็นสำหรับสภาวะในปัจจุบันของ ยุคโลกาภิวัตน์ ท่ีมีการติดต่อส่ือสารอย่างสะดวก และรวดเร็ว นักศึกษาจำเป็นต้องศึกษาคำศัพท์ สำนวน โครงสร้างภาษาและวัฒนธรรมท่ีถูกต้อง และเหมาะสมกับเจ้าของภาษา และสามารถแสดง ความคิดเห็นตอ่ วัฒนธรรมความเป็นอยขู่ องเจ้าของภาษาได้ ช้ินงาน ภาระงาน 1. เอกสารการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง 2. กจิ กรรมท้ายบท เนอื้ หา 1. การติดต่อทางโทรศัพท์กับผู้ท่ีคุนเคย รูจักวิธีการพูดโตตอบทางโทรศัพท์กับเพื่อน ญาตพิ นี่ ้องและผูท้ ี่คุ้นเคยในเร่อื งต่าง ๆ โดยใชส้ ำนวนและภาษาที่เหมาะสม เช่น - Is ……………. at home? - Could I speak to………., please? - May I speak to ……..…., please? - She/he is out. - Sorry, she’s not here now. - Would you like to wait? - Will you leave a message? - May I take a message for her/him?

31 - Wait a minute, please. - Will you hole on? - Just a moment, please. - Please tell ............... to call me at....................... กกกกกกก2. การติดต่อทางโทรศัพท์เพ่ือสอบถามข้อมูลต่าง ๆ การใช้สำนวนภาษาที่ใช้พูดทาง โทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ท่ีต้องการทราบโดยใช้รูปประโยคขอร้อง /ขอร้องอย่างสุภาพ (request, polite, request) ประโยค direct/ indirect speech ประโยคคำถามลักษณะต่าง ๆ ประโยคแสดงความคิดเห็นและการขอบคุณ เช่น การสอบถามเสนทาง การเดินทางไปที่ต่าง ๆ สอบถามตารางรถไฟ เครอ่ื งบิน สอบถามข้อมูลด้านการคุมครองผบู้ รโิ ภค / สขุ ภาพอนามยั /พยากรณ์ อากาศ เป็นตน้ ตัวอยา่ งประโยคท่ีใช้ - Hello, I’d like to ask about......................... - Could you tell me......................, please? - Would you mind giving me the information about...............................? - Can/Could you...............................? - May/Can/Could I.................................? - Don’t............................, please? - At what time...........................? - How many.................................? - How far..............................? - How much..............................? - I need your help..............................? - Pradon. - I think.............................. - Well, I must.............................. - In my opinion, .............................. - Thanks. /Thank you. - Sorry. /I’m sorry. - You’re welcome. กกกกกกก3. การติดตอทางโทรศัพทเพ่ือการประกอบอาชีพ วิธีการพูดโตตอบทางโทรศัพท เพื่อ ถามใหขอมูล เกี่ยวกับการประกอบอาชีพ โดยใชสํานวนและภาษาทเี่ หมาะสมในการสอบถามขอมูล เก่ียวการสมัครงาน การซื้อ-ขายสนิ คา การใหขอมูลเกย่ี วกับคุณภาพและราคาของสินคา การสงเสริม การขาย การตอรองราคา การรบั และสงของ ตวั อยางประโยคทใ่ี ช - Hello. I’d like to ask/know about...................... - Can/could you tell me about...........................? - May/Could I speak to.........................., please? - Can/Could you inform me about..................? - What is the position required?

32 - What is the qualification? - How can I apply for this position? - When is the dateline of the application? - Do I have to send the application form? - Should I also send the resume/reference? - When/Where will the interview take place? - What kind of goods are available? - How much does it cost? - How can I send the order? - Is there any discount? - How about the present promotion? - How about the quality? - Where/When can I buy this product? - What is the product’s significance? - Please let me know if............................ - I’m interested in........................... - That’s very interesting. - I’m very appreciated......................... - When will I receive the product? - How should I pay for the product? - By cash/check /credit. - Thanks for your interest /kindness/information. - It’s my pleasure. - You’re welcome. - Sorry. /I’m sorry. กกกกกกก4. การใชภาษาในการส่อื สารไดเหมาะสมตามมารยาท ทางสงั คมและวฒั นธรรมของเจ าของภาษา การใชภาษา น้ำเสียงและภาษาท่าทางไดอย่าง เหมาะสมกับบุคคล เวลา สถานที่และ โอกาส เชน การสมั ผสั มือ การโบกมอื การใชส้ ีหนา้ ทา่ ทาง และ น้ำเสียงประกอบการพดู การแนะนำ ตัวเอง การแสดงความรูสึกในโอกาสต่าง ๆ การแต่งกาย การรับประทานอาหาร รวมงานเลี้ยง งานสงั สรรค์และกิจกรรมทางสงั คมต่าง ๆ ตัวอยา่ ง เชน - Blow a kiss. (สงจบู )

33 - I love you. (ภาษาใบ) - Be quiet. (เงียบ)กกก กก - That’s bad. (ยกหัวแมมอื ชล้ี งไปที่พ้ืน) - How’s everything? - How have you been? - What’s going on with your life? - How’s life? - What’s up? - May I introduce myself? - Let me introduce myself, ............................... - Allow me to introduce.................. to................ - Have you met......................? - Congratulations on........................ - Happy Birthday.

34 - Merry Christmas. - Happy New Year. - I’m sorry for......................... - May god bless you. - May god be with you. - I feel sorry............................... - Please pass my warm regards to..................... - Toast! - I wish you................................... - Would you mind................................... - Please let me know................................... - Would you please................................... - May I have................................... - Can you help me................................... - You look smart. - How nice............................... - I wonder if.............................. - How to cook.............................. 5. ความเช่ือและขนบธรรมเนียม ประเพณีของ เจาของภาษา ความเป็นมาของความ เชื่อ ขนบธรรมเนียมและ ประเพณีต่าง ๆ ในสังคมของเจาของภาษา การทำกิจกรรมตามความเชื่อ ขนบธรรมเนยี มและประเพณีตา่ ง ๆ ในด้านบทเพลง การแตง่ กาย อาหาร เครือ่ งดมื่ และการประกอบ พธิ ีกรรมที่เกี่ยวข้อง ไดแก วันครสิ ตมาส วันขอบคุณพระเจา วนั วาเลนไทน์ และวันพ่อ กกกกกกก6. การเปรยี บเทยี บโครงสรางภาษาไทยกบั ภาษาองั กฤษ เปรยี บเทียบลกั ษณะคำทีม่ าของ คำ ความหมายและการประยุกตคำในภาษาอังกฤษใชในภาษาไทยและ คำในภาษาไทยที่นำไปใน ภาษาองั กฤษ ตัวอยาง เชน - ศัพทของภาษาไทยสวนใหญมาจากภาษาบาลี/ สันสกฤตในขณะท่ีศัพทของ ภาษาอังกฤษ สวนใหญจากภาษากรกี และโรมนั - คําในภาษาอังกฤษที่นำมาใชในภาษาไทย เชน กิโลกรัม กิโลเมตร เซนติเมตร คำในภาษาไทยที่ นำไปใชในภาษาองั กฤษ เชน Tom Yam Kung, Muai Thai เปนตน โครงสรางของ ประโยคตางๆ - ประโยคความเดยี ว (Simple Sentence) - ประโยคความรวม (Compound Sentence) - ประโยคความซอน (Complex Sentence) - ประโยคความผสม (Compound-Complex Sentence) - การใช Transitive / intransitive/ auxiliary verbs - Tense ตางๆ

35 - ลักษณะของประโยคคำถาม - ประโยคเง่อื นไข - การใชสนั ธาน (Conjunction) และบุพบท (Preposition) 7. เปรยี บเทียบ สำนวน คำพงั เพย สภุ าษิต บทกลอน ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 7.1 คำและสำนวนทไ่ี ดรับอิทธพิ ลจากศาสนา เชน - Oh, god! = คุณพระชวย - Oh, my god! = พทุ โธ ธัมโม สงั โฆ 7.2 คำพงั เพย สุภาษิตที่มักจะใชในชวี ติ ประจำวนั เชน - It’s a piece of cake. = ปลอกกลวยเขาปาก - Silence is gold. = นิ่งเสียตำลงึ ทอง - Time and tide wait for no one. = เวลาและวารไี มเคยคอยใคร ลกั ษณะของบทกลอนภาษาไทยกบั ภาษาอังกฤษท่ี เหมือนและแตกตางกัน แรงบันดาลใจของ กวใี นการแตงคำประพันธพรอมตวั อยางทีม่ กั ไดยินเสมอ ๆ เชน Roses are red, violets are blue, sugar is sweet, but not as sweet as you. แมเน้ือเย็นเปนหวงมหรรณพ จะขอพบศรีสวัสดิ์เปนมจั ฉา แมเปนบวั ตัวพ่เี ปนภุมรา เชยผกาโกสุมภประทมุ ทอง แมเปนถ้ำอำไพใครเปนหงส จะรอนลงสงิ สเู ปนคสู อง จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เปนคูครอง พิสวาส ทกุ ชาตไิ ป คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ทักษะการแสวงหาความรู้ 2. ทักษะการคดิ เป็น กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ขน้ั เตรยี มการ ประกอบด้วย 1.1 ข้ันเตรียมตนเองของครูผู้สอน ด้วยการศึกษาเนื้อหาเร่ืองที่ 1.2 ภาษาในการ สือ่ สาร และเขยี นแผนการจดั การเรยี นร้ใู หพ้ ร้อม 1.2 เตรียมนักศึกษา ด้วยการให้ข้อมูลวิธีการศึกษาเรียนรู้เรื่องท่ี 1.2 ภาษาในการ สื่อสาร เปิดโอกาสให้นักศึกษาซักถามขอ้ สงสัย 1.3 เตรียมวัสดุอุปกรณ์และสื่อการเรียนรู้ ได้แก่ ใบความรู้ ใบงาน หนังสือเรียน รายวชิ าภาษาอังกฤษเพ่ือชวี ิตและสังคม ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย รวมถงึ สอื่ อิเล็กทรอนิกส์ และ ส่อื แหล่งเรียนรู้ในชมุ ชน

36 1.4 เตรียมสถานท่ีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยการจัดเตรียมโต๊ะเก้าอ้ีให้เพียงกับ จำนวนนักศกึ ษาดูแลความพรอ้ มของแสงไฟฟา้ หรอื อปุ กรณเ์ คร่ืองใช้ไฟฟา้ ดแู ลการระบายอากาศใหม้ ี การถา่ ยเททีด่ ี ตลอดจนบรรยากาศโดยรอบของหน่วยจัดการเรยี นร้ใู ห้เอือ้ ตอ่ การเรยี นรู้ 2. ขน้ั สอน ประกอบดว้ ย 2.1 ขนั้ นำ ครผู ู้สอนสร้างความตระหนักให้กับผู้เรียนเห็นคุณค่าความสำคญั ในเร่ือง ของภาษาในการสอ่ื สาร 2.2 ขน้ั สอน ครูผู้สอนได้จัดกระบวนการเรยี นรู้แบบ ONIE MODEL ดังนี้ 2.2.1 ครูผู้สอนร่วมกับนักศึกษากำหนดประเด็นการเรียนรู้ เร่ืองที่ 1.2 ภาษาใน การสอื่ สาร 2.2.2 นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าตามประเด็นการเรียนรู้จากส่ือการเรียนรู้ท่ี หลากหลาย นักศึกษาบันทึกข้อมูลที่ศึกษาค้นคว้าได้ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) เช่น การติดตอทางโทรศัพทกับผูที่คุนเคย รูจักวิธีการพูดโตตอบทางโทรศัพทกับเพ่ือน ญาติพี่นอง และผูทีค่ นุ เคยในเรอ่ื งตาง ๆ โดยใชสาํ นวนและภาษาท่ีเหมาะสม เป็นต้น 2.2.3 นักศึกษามาพบกลุ่ม อภิปราย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูล สรุป การเรียนรู้ทไี่ ดล้ งในเอกสารการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) ดงั นี้ 1) ให้ผูเ้ รียนชมวิดีทัศน์จากสื่อต่าง ๆ เรอ่ื งการทักทายและการส่ือสารทาง โทรศัพท์พร้อมกบั แจกใบงานเก่ียวบทสนทนาเรือ่ งการทักทายและการส่อื สารทางโทรศัพท์ 2) ให้ผู้เรียนจับคู่สนทนาตามเร่ืองที่กำหนด ในใบงานพร้อม กับฝึกอ่าน บทสนทนา 3) ครูอธบิ ายเร่ืองภาษาในการสื่อสาร แล้วให้ผู้เรียนฝึกอ่านตามบทสนทนา และใหม้ าแสดงบทบาทสมมตุ ิหนา้ ชน้ั เรียน 2.2.4 ผเู้ รียนนำผลสรปุ การเรียนรู้ทีไ่ ดไ้ ปฝึกอา่ นและฝึกพูด 2.2.5 ผู้เรียนสรปุ การเรียนรู้ท่ไี ด้จากการตอบคำถามด้วยการบันทึกลงในเอกสาร การเรียนรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) 2.3 ขัน้ สรุป ครผู สู้ อนกระต้นุ ให้ผเู้ รยี นกลา้ แสดงออกโดยการฝึกอ่านตามบทสนทนา และ แสดงบทบาทสมมติหนา้ ชัน้ เรียน และสรุปการเรียนรู้ท่ไี ดจ้ ากเร่ืองที่ 1.2 ภาษาในการสอ่ื สาร พร้อมท้ัง การต้ังคำถามและใหน้ ักศกึ ษาตอบคำถามความคดิ รวบยอดที่ได้จากการศกึ ษาเรอื่ งนี้ 3. ข้ันประเมนิ ผล ประกอบด้วย 3.1 ประเมนิ ความก้าวหน้า ด้วยวิธกี าร 3.1.1 การสงั เกต 3.1.2 การซักถาม ตอบคำถาม 3.1.3 การตรวจเอกสารการเรียนรูด้ ้วยตนเอง (กรต.) 3.2 ประเมินผลรวม ด้วยวธิ กี าร 3.2.1 ตอบแบบทดสอบวดั ความร้เู รื่องที่ 1.2 ภาษาในการสอ่ื สาร

37 ส่ือการเรยี นรู้ 1. สือ่ เอกสาร ไดแ้ ก่ 1.1 ใบงานท่ี 1 เรือ่ ง ภาษาในการส่ือสาร 1.2 หนังสอื เรียนรายวิชา พต31001 ภาษาองั กฤษเพอ่ื ชีวติ และสังคม 2. ส่ือแหล่งเรียนร้ใู นชมุ ชน ได้แก่ 2.1 หอ้ งสมดุ ประชาชนอำเภอบ้านแหลม 3. ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 3.1 สอื่ ออนไลนก์ ารสอน ETV วิชาภาษาอังกฤษ การวัดและประเมนิ ผล ส่งิ ทว่ี ดั เครื่องมือทีใ่ ชว้ ัด วธิ กี ารวัด เกณฑ์ 1. ผเู้ รียนตดิ ตอ่ ส่ือสาร แบบประเมนิ ผลการ ตรวจเอกสารการเรียนรู้ ตอบถกู ตอ้ ง ครอบคลมุ ทางโทรศัพท์ไดคลอง เรยี นรดู้ ้วยตนเอง แคลว่ (กรต.) ด้วยตนเอง (กรต.) ที่ เนอื้ หาให้ 2. ผู้เรียนปฏิบัติตน ใบงาน นกั ศกึ ษาไดบ้ นั ทกึ ผล 2 คะแนน ต า ม ม า ร ย า ท ภาษาในการสอ่ื สาร วั ฒ น ธ ร ร ม แ ล ะ การทำใบงาน ตอบถกู ต้องแตไ่ ม่ ประเพ ณี ต่าง ๆ ได ครอบคลมุ เนือ้ หาให้ อย่างถูกตอ้ ง 3. ผู้เรยี นเปรียบเทียบ 1 คะแนน ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง ตอบไมถ่ กู ตอ้ งและ ระห ว่างวัฒ น ธรรม แบบทดสอบกอ่ นเรียน อังกฤษกับวัฒนธรรม และหลังเรียน ไมค่ รอบคลมุ หรือไมไ่ ด้ ไทยได้ ทำ ให้ 0 คะแนน ตรวจแบบทดสอบกอ่ น ตอบถกู ให้ 1 คะแนน เรยี นและหลังเรยี น ตอบผดิ ให้ 0 คะแนน

38 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น เร่ือง ภาษาในการส่ือสาร Choose the correct answer. 1. What country do women always kiss on both checks? a. Japan b. Canada c. Thailand d. Spain 2. The people do not point anything with their feet. a. Indonesia b. Indonesian c. Chinese d. American 3. Japanese donot emphasize . a. wai b. wink c. wave hand d. eye contact 4. The people in France will with their friend before they sit down. a. kiss b. greet c. say goodbye d. shake hands 5. You should not touch someone’s head when you are in . a. Italy b. Greek c. France d. Thailand 6. In Thailand the weather ………….. normally cold in December. a. is b. was c. will be d. is going to be

39 7. She always ………………. up at six o’clock. a. gets b. got c. is getting d. was getting 8. Sugar ……….. sweet. a. is b. are c. was d. were 9. Wait until the manager …………… . a. come b. comes c. is coming d. will come 10. They usually …………….. breakfast at 7 o’clock. a. has b. had c. have d. will have เฉลย 1. d 2. b 3. d 4. d 5. d 6. a. 7. a. 8. a. 9. b. 10. c.

40 ใบงาน เรือ่ ง ภาษาในการสอื่ สาร 1. ให้ผู้เรียนหาความหมายของคำในตารางขา้ งลา่ งน้ี ตามตวั อย่าง Find the meaning of the following as in the example. คํา/ขอความ ความหมาย Keech อาหารชนดิ หนง่ึ คล้ายพาย ทำจากไข่และส่วนประกอบอน่ื ๆ Quality Catering prepare some food dinner party main course dessert some don’t eat meat. selections of sea food mushrooms peppers chocolate cake deliver 2. Fill in the blanks ให้ผู้เรียนฟังการสนทนา และเติมคำลงในช่องว่างต่อไปน้ี Listen and fill in the blanks. Linda : Quality Catering, ………(1)…………..? Tom : Yes, you can, I am having a party ……………(2)…………... Could you prepare………(3)………. for me? Linda : Certainly. ………(4)………. party is it? Tom : It’s a ……………(5)…………… for eight people.

41 Linda : I see. What do you like us …………………(6)…………………….? Tom : …………(7)……….. make a main course and a dessert? Linda : No problem. ….…(8)..….. tell me what kind of food your guests like? Tom : Well, most of them like ……(9)….. but some don’t eat ….(10)…… Linda : I could prepare selections of ……(11)……. and vegetarian keech with mushrooms and ………(12)……….. Tom : That sounds great! …(13)… make some chocolate cakes for dessert? Linda : Of course, I can. Tom : Can you ………(14)…………. to my house? Linda : Yes. But I can’t deliver until ……(15)…….. p.m. Is that Okay? Tom : Yes. That’s fine. Thank you very much. 3. จงเปล่ียนกรยิ าในวงเลบ็ ใหเปนกริยาในรปู Passive Voice Change verb in brackets in Passive Voice. 1. Most cupboards (make) ……………… of wood. 2. The rubber (catch) …………………… yesterday. 3. The novel (write) …………………. by Tomyanti. 4. The letter (send) …………………. by air. 5. Those spoons must (wash) ……………… right now. 6. Thousand of cars (sell) ………………….. every day. 7. My house (built) ………………….. twenty years ago. 8. English (speak) ……………………… all over the world. 9. All the doors should (lock) ………………… every night. 10. The shop (close) ………………….. at night. 4. Culture check What kinds of behavior are acceptable in some cultures but not in others? จงกาเครือ่ งหมาย (√) หนาขอ้ ความที่ตรงกับวฒั นธรรมในประเทศไทย และกาเครอื่ งหมาย (X) ถาข้อความน้นั ไมตรงกบั วฒั นธรรมในประเทศไทย Check (√) in the front of statements about cultural behavior that are true in Thailand and check (X) if it’s not true. Socializing

42 ________ 1. People often kiss friends on the check when they meet. ________ 2. It’s O.K. to ask people how much money they earn. ________ 3. It’s all right to ask someone what his or her religion is. ________ 4. It’s common to introduce yourself to new neighbors and give them a small gift. ________ 5. People always arrive on time when they’re invited to someone’s house. ________ 6. It’s O.K. to bring a friend or family member when you’re invited to a party at someone’s home. ________ 7. It’s O.K. to drop by a friend’s house without calling first. ________ 8. When friends have dinner out together, each person pays his or her share of the check. ________ 9. It’s all right to chew gum while talking to someone. ________ 10. It’s common to bargain when you buy things in stores. 5. คำตอ่ ไปนแี้ สดงความรสู ึกของคนทไี่ ปอยู่ตางประเทศ ให้ระบวุ ่าคำไหนเป็นความรสู ึกทด่ี ี และ คำไหนความรสู ึกทไ่ี มดี These words are used to describe how people sometime feel when they live in a foreign country. Which are positive (P)? Which are negative (N)? anxious ………………….. fascinated ………………….. clam ………………….. nervous ………………….. comfortable ………………….. secure ………………….. confident ………………….. sure of oneself ………………….. curious ………………….. suspicious ………………….. depressed ………………….. uncertain ………………….. enthusiastic ………………….. uncomfortable ………………….. embarrassed ………………….. worried …………………..

44 บนั ทึกผลหลงั สอน 1. ความสำเรจ็ ในการจัดการเรยี นรู้ เร่ืองภาษาในการสือ่ สาร 1.1 ดา้ นความรู้ ผ่าน ...............คน ไมผ่ ่าน ................ คน 1.2 ดา้ นทกั ษะ ผา่ น ...............คน ไม่ผ่าน ................ คน 1.3 ดา้ นเจตคติ ผา่ น ...............คน ไม่ผา่ น ................ คน 2. ปญั หาหรืออุปสรรคในการจดั การเรยี นรมู้ อี ะไรบ้าง………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางในการแก้ไขปญั หาอุปสรรคมีอะไรบ้าง………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ส่งิ ทไ่ี มไ่ ด้ปฏบิ ัติตามแผนและเหตผุ ลคืออะไร………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. การปรับปรุงแผนการจดั การเรยี นรู้………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ.......................................................................... () ครูผู้สอน ความคดิ เหน็ ของผู้นเิ ทศท่ีได้รับมอบหมายจากผู้บรหิ าร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ.......................................................................... () ตำแหน่ง………………………………………………… ความเห็นของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ............................................................................ (นางวิภารตั น์ ชาแจ้ง) ตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอบ้านแหลม แผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563

45 รายวิชา ภาษาองั กฤษเพ่ือชวี ติ และสงั คม สาระความรูพ้ ้นื ฐาน รหสั วชิ า พต31001 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ENGLISH IS FUN เร่ืองท่ี 1.3 Have you exercised today and Shall we save the energy? จำนวน 6 ชวั่ โมง สถานทีจ่ ัดการเรยี นรู้.............................................................................................................................. ชอ่ื ครูผู้สอน………………………………………………………………………………………………………………….. _________________________________________________________________________________________________________________ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 2.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะพืน้ ฐานเก่ยี วกับภาษาและการสอ่ื สาร ตัวช้ีวัด 1. ศกึ ษาค้นควา้ ความรู และข้อมลู จากส่ือตา่ ง ๆ 2. สบื คน้ ขอ้ มลู ในด้านต่าง ๆ จาก Internet 3. เขา้ ใจและใช้ประโยคซบั ซอ้ นในสถานการณตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 4. การแลกเปล่ยี นขอ้ มูลขา่ วสารความรู ทั้งอยา่ งเป็นทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ 5. ใช้ Tense ทยี่ ุง่ ยากและซบั ซ้อนได้อยา่ งถูกต้อง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ผเู้ รยี นสามารถศึกษาคน้ คว้าความรู และข้อมลู จากสอ่ื ตา่ ง ๆ ได้ 2. ผ้เู รยี นสามารถสบื ค้นขอ้ มลู ในด้านต่าง ๆ จาก Internet ได้ 3. ผ้เู รยี นเข้าใจและใช้ประโยคซับซ้อนในสถานการณตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 4. ผู้เรียนสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารความรู ท้ังอย่างเป็นทางการและไม่เป็น ทางการได้ 5. ผเู้ รียนสามารถใช้ Tense ทยี่ ่งุ ยากและซับซ้อนไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งได้ สาระสำคัญ การศึกษาข้อมูลค้นควา้ ความรูจากส่ือเก่ียวกับการออกกำลังกาย แบบสอบถามเบ้ืองต้น เกีย่ วกับพฤติกรรมประจำวันที่แสดงถงึ ความตระหนักในการออกกำลังกาย สาระเน้อื หาประกอบด้วย ศพั ทท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกับการออกกำลงั กายในรปู ประโยคทีซ่ ับซอ้ น พลังงานเป็นส่ิงที่มีคุณค่า และมีประโยชนอย่างอเนกอนันต์ต่อชีวิตมนุษย์บนโลกนี้ แต่ มนษุ ย์ ตองเรยี นรูวธิ ีใช้พลงั งานอย่างรูคณุ คา่ ด้วย เนื่องจากพลงั งานมีวันทจ่ี ะหมดไป หากไมรูจักวธิ ีใช นอกจากนนั้ ปัญหาเรอื่ งพลังงานยังเป็นประเด็นสำคัญระดับโลกการเรยี นรูถอ้ ยคำ สำนวน และการใช้ ภาษาอังกฤษเกยี่ วกบั การอนุรักษพ์ ลงั งานเป็นสิ่งจำเป็น

46 ช้นิ งาน ภาระงาน 1. เอกสารการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 2. กิจกรรมทา้ ยบท เนื้อหา 1. แบบสอบถาม (Questionnaire) เก่ียวกับการ ดูแลสุขภาพจากหนังสือหรือ Website เกีย่ วของ กกกกกกก 2. การอ่านออกเสียง คำศัพท สำนวน วลี ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เชน aerobics, once, relaxed, health, healthy, firm, have a headache เป็นตน้ กกกกกกก3. ประโยคทเี่ ขยี นดว้ ย Modal Verb เชน should, must, ought to, had better, will เปนตน กกกกกกก 4. Present Perfect Tense กกกกกกก 5. การสำรวจแบบสอบถามเก่ยี วกบั สุขภาพ บุคคลใกลช้ ิดแลว้ นำเสนอขอ้ มูลเป็น รูปกราฟ หรือแผนภูมิ กกกกกกก 6. บทความเก่ียวกับการประหยัดพลังงาน (Energy Saving) จากหนังสือ หนังสือพิมพ หรอื Website ท่ีเกยี่ วข้อง กกกกกกก 7. เสียง คำศัพท วลี สำนวนที่เก่ียวข้องกับการ ประหยัดพลังงาน เชน reuse, recycle, plug in, unplug, turn on, turn off, reduce เปนตน กกกกกกก 8. โครงสรา้ ง เรอื่ ง Imperative + V1 _________. Don’t + V1 + ........................... คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ทักษะการแสวงหาความรู้ 2. ทกั ษะการคดิ เป็น กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ขั้นเตรียมการ ประกอบด้วย 1.1 ข้ันเตรียมตนเองของครูผู้สอน ด้วยการศึกษาเนื้อหาเรื่องท่ี 1.3 Have you exercised today and Shall we save the energy? และเขยี นแผนการจดั การเรียนรใู้ หพ้ รอ้ ม 1.2 เตรียมนักศึกษา ด้วยการให้ข้อมูลวิธีการศึกษาเรียนรู้เร่ืองที่ 1.3 Have you exercised today and Shall we save the energy? เปดิ โอกาสให้นักศกึ ษาซักถามข้อสงสัย 1.3 เตรียมวัสดุอุปกรณ์และสื่อการเรียนรู้ ได้แก่ ใบความรู้ ใบงาน หนังสือเรียน รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อชวี ิตและสังคม ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รวมถงึ สื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ และ ส่ือแหล่งเรยี นรู้ในชมุ ชน

47 1.4 เตรียมสถานท่ีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยการจัดเตรียมโต๊ะเก้าอี้ให้เพียงกับ จำนวนนักศึกษาดแู ลความพร้อมของแสงไฟฟ้าหรอื อปุ กรณเ์ ครอื่ งใช้ไฟฟ้า ดแู ลการระบายอากาศใหม้ ี การถ่ายเทท่ีดี ตลอดจนบรรยากาศโดยรอบของหนว่ ยจดั การเรียนรูใ้ ห้เอือ้ ต่อการเรียนรู้ 2. ขน้ั สอน ประกอบด้วย 2.1 ข้ันนำ ครูผู้สอนสร้างความตระหนักให้กับผู้เรยี นเห็นคุณค่าความสำคัญในเรื่อง Have you exercised today and Shall we save the energy? 2.2 ข้นั สอน ครผู ้สู อนไดจ้ ดั กระบวนการเรยี นรูแ้ บบ ONIE MODEL ดังนี้ 2.2.1 ครูผู้สอนร่วมกับนกั ศึกษากำหนดประเด็นการเรียนรู้ เรอื่ งท่ี 1.3 Have you exercised today and Shall we save the energy? 2.2.2 นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าตามประเด็นการเรียนรู้จากสื่อการเรียนรู้ท่ี หลากหลาย นักศกึ ษาบันทึกขอ้ มูลท่ศี ึกษาค้นคว้าได้ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) เช่น การอ่านออกเสียง คำศัพท์ สำนวน วลี ที่เก่ียวข้องกับสุขภาพ เชน aerobics, once, relaxed, health, healthy, firm, have a headache หรือ บทความเกย่ี วกบั การประหยดั พลงั งาน (Energy Saving) จาก หนงั สอื หนงั สอื พมิ พ หรอื Website ที่เก่ยี วข้อง เป็นตน้ 2.2.3 นักศึกษามาพบกลุ่ม อภิปราย แลกเปล่ียนเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูล สรุป การเรียนรูท้ ไี่ ด้ลงในเอกสารการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง (กรต.) ดงั น้ี 1) ใหผ้ ูเ้ รยี นอ่านบทความจากใบงาน และแปลความหมายจากใบงาน 2) ครูอธบิ ายเร่ือง Have you exercised today and Shall we save the energy? แล้วให้ผู้เรยี นฝึกอา่ นบทความหนา้ ชัน้ เรยี น พรอ้ มทั้งแปลความหมายจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น 2.2.4 ผเู้ รียนนำผลสรุปการเรียนรทู้ ไ่ี ด้ไปฝึกอ่านและฝึกพูดจากบทความต่าง ๆ 2.2.5 ผเู้ รยี นสรปุ การเรียนรู้ทไ่ี ดจ้ ากการตอบคำถามด้วยการบนั ทึกลงในเอกสารการ เรียนร้ดู ว้ ยตนเอง (กรต.) 2.3 ข้นั สรุป ครผู ู้สอนกระตนุ้ ให้ผเู้ รยี นกลา้ แสดงออกโดยการฝึกอ่านตามบทความหน้าชนั้ เรียน พร้อมแปลความหมายจากเร่ืองที่อ่าน และสรุปการเรียนรู้ที่ได้จากเรื่องท่ี 1.3 Have you exercised today and Shall we save the energy? พร้อมท้ังการต้ังคำถามและให้ผู้เรียนตอบ คำถามความคิดรวบยอดทีไ่ ดจ้ ากการศึกษาเรือ่ งน้ี 3. ขน้ั ประเมินผล ประกอบดว้ ย 3.1 ประเมนิ ความกา้ วหน้า ดว้ ยวธิ กี าร 3.1.1 การสังเกต 3.1.2 การซกั ถาม ตอบคำถาม 3.1.3 การตรวจเอกสารการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) 3.2 ประเมนิ ผลรวม ด้วยวิธกี าร 3.2.1 ตอบแบบทดสอบวัดความรู้เรื่องที่ 1.3 Have you exercised today and Shall we save the energy?


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook