หลกั สูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หลกั สตู รสถานศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม พทุ ธศักราช 2564 ตามหลักสตู รแกนกลางศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง 2560) โรงเรียนวดั คฤหบด(ี จันทรสถติ ย)์ สำนกั งานเขตบางพลดั กรงุ เทพมหานคร
ก คำนำ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคำสั่ง กระทรวงศกึ ษาธิการท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคำสงั่ สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) สถานศึกษา ได้ยึดหลักสตู รแกนกลางของประเทศ โดยกำหนดจดุ หมาย และมาตรฐานการเรยี นรู้เปน็ เป้าหมายและกรอบ ทิศทางในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพและมีทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายของแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรุงเทพมหานคร ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๙) กรุงเทพมหานคร ที่ว่า “จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน อย่างมคี ณุ ภาพ เพ่อื พฒั นาสู่อัตลกั ษณ์ผเู้ รยี นแหง่ มหานครท่พี ร้อมดว้ ยคณุ ธรรม” โรงเรียนวัดคฤหบดี (จันทรสถิตย์) จึงได้มีการทบทวนหลกั สูตรสถานศึกษา พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ในกลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา และจัดการเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ให้มีกระบวนการนาหลักสูตรไปสู่ การปฏิบัติ โดยมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะหลักของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การวัดประเมนิ ผลให้มีความสอดคล้อง กบั มาตรฐานการเรยี นรู้ เปดิ โอกาสใหโ้ รงเรยี นสามารถกำหนดทิศทางในการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอน ในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเน้น โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางที่ชัดเจน เพื่อก้าวสู่สังคม คุณภาพ มคี วามรอู้ ย่างแท้จริง และมที ักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ คณะครูโรงเรียนวัดคฤหบดี(จันทรสถิตย์) ได้ดำเนินการวิเคราะห์หลักสูตรจนเป็นผลสำเร็จตาม เอกสารฉบบั น้ี จึงขอขอบคุณผทู้ ่ีมีส่วนร่วมทุกฝ่ายในการจดั ทำหลักสตู รสถานศึกษาของโรงเรียน ให้มีความ สมบูรณ์และเหมาะสมสำหรับการจดั การเรยี นการสอนในแต่ละระดบั ชั้น สามารถพัฒนาผู้เรยี นใหม้ ีคุณภาพ ตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชว้ี ัดที่กำหนดในหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ประจำปี ๒๕๖๕ เป็นอยา่ งยงิ่ คณะกรรมการพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นวดั คฤหบดี(จันทรสถิตย์)
ข สารบญั หน้า เรื่อง ๑ ส่วนที่ ๑ ส่วนนำ ๑ ๑ บทนำ ๒ วสิ ยั ทศั น์ ๒ หลักการ ๓ จดุ มุ่งหมาย ๔ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ๔ กรอบสมรรถนะหลกั ของผูเ้ รียนระดบั ประถมศกึ ษา ๔ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๕ วสิ ยั ทศั นข์ องโรงเรยี น ๕ พันธกิจของโรงเรียน ๗ เป้าหมายของโรงเรยี น มาตรฐานการเรยี นรู้ ๘ ตวั ชว้ี ัด ๙ สว่ นท่ี ๒ โครงสร้าง ๑๐ โครงสร้างเวลาเรียน ๑ – ๓ ๑๖ โครงสร้างเวลาเรยี น ๔ – ๖ ๑๗ โครงสร้างหลักสตู รชนั้ ปี ๒๒ โครงสร้างกล่มุ สาระการเรยี นรู้ เรียนรูอ้ ะไรในสังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๑๒๕ ตัวช้วี ดั และหลักสูตรแกนกลาง ๑๒๖ ส่วนที่ ๓ คำอธิบาย/โครงสร้างรายชั่วโมง ๑๓๑ คำอธิบายรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑๓๒ โครงสร้างรายช่วั โมง ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ๑๓๕ คำอธิบายรายวิชาสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ ๑๓๗ โครงสรา้ งรายชั่วโมง ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ ๑๔๐ คำอธิบายรายวิชาสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ ๑๔๒ โครงสร้างรายชว่ั โมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ๑๔๘ คำอธบิ ายรายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ ๑๕๐ โครงสร้างรายช่ัวโมง ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ คำอธิบายรายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ โครงสรา้ งรายชว่ั โมง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
ค ๑๕๔ ๑๕๕ คำอธิบายรายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ ๑๕๘ โครงสร้างรายชวั่ โมง ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ๑๕๙ คำอธิบายรายวิชาประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ๑๖๑ โครงสร้างรายชว่ั โมง ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ๑๖๒ คำอธบิ ายรายวิชาประวตั ิศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๒ ๑๖๓ โครงสรา้ งรายช่ัวโมง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ ๑๖๔ คำอธบิ ายรายวชิ าประวัติศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ ๑๖๖ โครงสรา้ งรายชว่ั โมง ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ ๑๖๗ คำอธิบายรายวชิ าประวัตศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ๑๖๙ โครงสรา้ งรายช่วั โมง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ๑๗๐ คำอธิบายรายวชิ าประวัตศิ าสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ ๑๗๑ โครงสร้างรายชัว่ โมง ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ ๑๗๒ คำอธบิ ายรายวชิ าประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ ๑๗๔ โครงสร้างรายชว่ั โมง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ ๑๗๖ คำอธบิ ายรายวิชาหน้าทพ่ี ลเมือง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑๗๗ โครงสรา้ งรายชั่วโมง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ๑๗๙ คำอธบิ ายรายวชิ าหน้าที่พลเมือง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ ๑๘๑ โครงสร้างรายชว่ั โมง ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ ๑๘๓ คำอธิบายรายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมือง ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓ ๑๘๕ โครงสรา้ งรายชั่วโมง ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ ๑๘๗ คำอธิบายรายวิชาหน้าทพ่ี ลเมอื ง ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ ๑๘๙ โครงสรา้ งรายชั่วโมง ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ๑๙๑ คำอธิบายรายวิชาหน้าท่พี ลเมือง ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๕ ๑๙๓ โครงสรา้ งรายชว่ั โมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๕ ๑๙๕ คำอธิบายรายวิชาหนา้ ท่ีพลเมอื ง ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ โครงสรา้ งรายชั่วโมง ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ ๑๙๗ สว่ นท่ี ๔ การวัดและประเมนิ ผล การวัดและประเมนิ ผล ๒๑๗ ภาคผนวก ๒๔๖ อภธิ านคำศพั ท์ คำสัง่ โรงเรียนวัดคฤหบดี(จนั ทรสถติ ย์)
๑ บทนำ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดคฤหบดี(จันทรสถิตย์) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) เป็นแผน แนวทางหรือข้อกำหนดของการจัดการศึกษา ของสถานศึกษาที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด มุ่งพัฒนา ผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพที่สุจริต ตลอดจนการรู้จัก อนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น โดยมุ่งหวังให้มีความสมบูรณ์ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานกรุงเทพมหานคร ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๙) เป็นการพัฒนาผู้เรียนที่มีศักยภาพอันสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพประชากรของกรุงเทพมหานคร ภายใต้วิสยั ทศั น์ท่ีว่า “ จดั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐานอย่างมีคณุ ภาพ เพ่อื พฒั นาสอู่ ัตลักษณ์ผู้เรียนแห่งมหานครท่ีพร้อม ด้วยคุณธรรม ” โดยอาศัยกรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๕ ที่มุ่งเน้นการจัดการเรยี น การสอนเพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ให้ได้ทั้งความรู้และทักษะที่จำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิต ท่ามกลางกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงอันประกอบดว้ ย ๓Rs + ๘Cs ทักษะที่จำเปน็ สำหรับการดำรงชีวิตในสังคม ทีม่ กี ารเปลยี่ นแปลง และแสวงหาความรูเ้ พอื่ พัฒนาตนเองอย่างตอ่ เนอ่ื งตลอดชวี ติ วสิ ยั ทัศน์ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดคฤหบดี(จันทรสถิตย์) พุทธศักราช ๒๕๖๕ มุ่งพัฒนาผู้เรียนเป็นกำลัง ของชาติ ใหเ้ ป็นมนษุ ย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มจี ิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทย และเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รักและภูมิใจ ในถิ่นกำเนิด มีความรู้ทักษะพื้นฐานรวมทั้งเจตคติที่จำเป็นในการดำรงชีวิตตามหลักของเศรษฐกิจพอเพียงรัก และศรัทธาในการทำความดกี ารประกอบอาชพี ท่สี ุจริตใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมในการเรยี นรู้ตลอดชวี ติ โดยม่งุ เน้น ผเู้ รียนเป็นสำคญั บนพ้นื ฐานความเชอ่ื วา่ ทกุ คนสามารถเรยี นรู้และพฒั นาตนเองไดเ้ ต็มตามศกั ยภาพ หลกั การ ๑. เปน็ หลกั สตู รทย่ี ึดแนวทางของหลกั สตู รแกนกลางเปน็ กรอบ เพอื่ ความเปน็ เอกภาพของชาติ มจี ุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็ก เยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรม บนพื้นฐานของความเป็นไทยควบคู่กบั ความเป็นสากล ๒. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมีคุณภาพ ๓. เป็นหลักสูตรการศกึ ษาที่สนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมสี ว่ นร่วมในการจัดการศึกษาให้สอดคล้อง กับสภาพและความตอ้ งการของท้องถ่ิน ๔. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจัดการเรียนรู้ ท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั
๒ จดุ มงุ่ หมาย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดคฤหบดี(จันทรสถติ ย์) พุทธศักราช ๒๕๖๕ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ จึงกำหนดเป็นจุดหมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรยี น เม่ือจบการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน ดังนี้ ๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตน ตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทต่ี นนับถอื ยดึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๒. มีความรู้ ความสามารถในการส่อื สาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชเ้ ทคโนโลยี และมที ักษะชีวิต ๓. มสี ุขภาพกายและสุขภาพจติ ท่ีดี มสี ุขนิสัย และรักการออกกำลงั กาย ๔. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครอง ตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข ๕. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มจี ิตสาธารณะท่ีมุง่ ทำประโยชนแ์ ละสรา้ งส่งิ ท่ดี งี ามในสงั คม และอยู่ร่วมกนั ในสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน กรอบสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี นระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน ม่งุ ใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ สมรรถนะสำคญั ๕ ประการ ดงั นี้ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้องตลอดจน การเลอื กใช้วธิ ีการสื่อสารท่ีมปี ระสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบทม่ี ตี อ่ ตนเองและสงั คม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ หรอื สารสนเทศเพือ่ การตัดสินใจเกยี่ วกับตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์ และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรมู้ าใช้ในการป้องกันและแก้ไข ปญั หา และมีการตัดสนิ ใจทีม่ ีประสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบที่เกิดข้นึ ตอ่ ตนเอง สังคมและส่ิงแวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนนิ ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรบั ตวั ใหท้ นั กบั การเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม และการรจู้ ักหลีกเลยี่ งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ ทีส่ ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผ้อู น่ื
๓ ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเอง และสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสารการทำงาน การแกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมคี ุณธรรม กรอบสมรรถนะหลกั ของผูเ้ รียนระดบั ประถมศกึ ษา ประกอบด้วยสมรรถนะสำคัญ ๑๐ สมรรถนะ เป็นสมรรถนะที่สามารถตอบสนอง และมีความสอดคล้อง กบั หลกั การสำคัญ ๖ ประการ ดงั นี้ ๑. ความต้องการของประเทศตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐ แผนปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙และมาตรฐานการศกึ ษาของชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๒. สอดคล้องกับทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ซง่ึ เปน็ ทกั ษะทีจ่ ำเป็นตอ่ การดำรงชีวิตในโลกปัจจุบันและอนาคต ๓. ส่งเสริมการใช้ศาสตร์พระราชา พระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ และพระราชดำรัส ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ๔. ใหค้ วามสำคัญกบั ความเปน็ ไทย ความเป็นชาติไทย เพื่อดำรงรักษาเอกลกั ษณ์ความเปน็ ไทยให้ถาวรสืบไป ๕. สอดคล้องกับหลักพัฒนาการตามวัยของมนุษย์และตอบสนองต่อความแตกต่างที่หลากหลาย ทัง้ ของผ้เู รียน บรบิ ท และภูมิสงั คม ๖. สามารถเทยี บเคยี งกับมาตรฐานสากลได้สมรรถนะทั้ง ๑๐ ประการ เปน็ สมรรถนะหลักที่เด็กและเยาวชน ไทยจะต้องได้รับการพัฒนาในช่วงเวลา ๑๒ ปี ของการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้สามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และดำรงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งมคี ุณภาพในโลกแหง่ ศตวรรษที่ ๒๑ การจัดการเรียนการสอนและพฒั นาผู้เรียนใหเ้ กิดสมรรถนะ ที่ต้องการในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมรรถนะภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร คณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ทกั ษะกระบวนการสืบสอบทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตร์ รวมทงั้ สมรรถนะการใช้ภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่ือสาร สมรรถนะทั้ง ๔ น้ี เป็นสมรรถนะที่จะช่วยให้เดก็ และเยาวชนไทย เป็นคนไทยฉลาดรู้ (Literate Thais) คือ มีความรู้ และเครื่องมือพื้นฐาน ที่จะใช้ในการแสวงหาความรู้และเรียนรู้ตลอดชีวิต ส่วนสมรรถนะทักษะชีวิตและความเจริญ แห่งตน และทักษะอาชีพและการเป็นผู้ประกอบการจะช่วยให้เด็กและเยาวชนไทยมชี ีวิตท่ีอยู่ดมี สี ุข (Happy Thais) สำหรบั ทกั ษะการคิดข้ันสูงและนวตั กรรม รวมทั้งการรเู้ ท่าทนั ส่ือ สารสนเทศและดิจทิ ัล จะช่วยเพม่ิ พูนความสามารถ ความเก่ง ให้เด็กและเยาวชนไทยคิดเก่ง และรู้ทันโลกทำให้เด็กและเยาวชนไทยเก่งขึ้น มีความสามารถสูง (Smart Thais) ส่งผลต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกด้วย ส่วน ๒ สมรรถนะสุดท้าย คือ สมรรถนะการทำงานแบบรวมพลัง เป็นทีมและมีภาวะผู้นำและสมรรถนะการเป็นพลเมอื งทเ่ี ขม้ เเข็ง/ตืน่ รทู้ ม่ี สี ำนึก สงั คม จะชว่ ยใหเ้ ด็กและเยาวชนไทยเปน็ ผู้ท่ีสามารถทำงานร่วมกับผู้อ่ืน เป็นผนู้ ำทีด่ ีและเปน็ พลเมืองไทยใส่ใจสังคม และมีสำนึกสากล (Active Thai Citizen with Global Mindedness) มีความรับผิดชอบมีส่วนร่วมในกิจการ ของสงั คมและผดุงความเป็นธรรมในสงั คมเพื่อการอยรู่ ว่ มกนั อย่างสนั ตสิ ุขตลอดไป สมรรถนะหลัก ๑๐ ประการ ดังน้ี ๑. ภาษาไทยเพ่ือการส่อื สาร (Thai Language for Communication) ๒. คณติ ศาสตรใ์ นชีวติ ประจำวนั (Mathematics in Everyday Life)
๔ ๓. การสบื สอบทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวิทยาศาสตร์ (Scientific Inquiry and Scientific Mind) ๔. ภาษาองั กฤษเพอื่ การสือ่ สาร (English for Communication) ๕. ทักษะชวี ติ และความเจริญแห่งตน (Life Skills and Personal Growth) ๖. ทักษะอาชพี และการเป็นผปู้ ระกอบการ (Career Skills and Entrepreneurship) ๗. ทักษะการคิดข้ันสงู และนวัตกรรม (Higher - Order Thinking Skills and Innovation) HOTS: Critical Thinking, Problem Solving, Creative Thinking ๘. การรู้เท่าทันสอ่ื สารสนเทศ และดิจิทัล (Media, Information and Digital Literacy : MIDL) ๙. การทำงานแบบรวมพลัง เป็นทีม และมภี าวะผนู้ ำ (Collaboration Teamwork and Leadership) ๑๐. การเปน็ พลเมอื งที่เขม้ แขง็ /ต่ืนร้ทู ีม่ จี ติ สำนึกสากล (Active Citizen with Global Mindedness) คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถ อย่รู ว่ มกับผูอ้ ่นื ในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ ในฐานะเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ดังนี้ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. ซ่อื สตั ย์สจุ ริต ๓. มวี ินัย ๔. ใฝเ่ รียนรู้ ๕. อยู่อย่างพอเพียง ๖. มงุ่ ม่ันในการทำงาน ๗. รกั ความเปน็ ไทย ๘. มจี ิตสาธารณะ วิสัยทัศน์ของโรงเรียน (Vision) เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ มุ่งพัฒนาผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษา สอดคล้องตามแนวทางการจดั การเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ โดยความรว่ มมือจากทุกภาคสว่ น พนั ธกจิ ของโรงเรยี น (Mission) ๑. พัฒนาผู้เรียนใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาและมีคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงคต์ ามแนวทางการจัด การเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 ๒. โรงเรยี นมีการบริหารจัดการด้วยระบบคณุ ภาพโดยการมสี ว่ นรว่ มของผู้มีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ๓. พัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ และการจดั การเรียนการสอนทีเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ๔. ประสานความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน วัด และภาคีเครือข่าย เพื่อสนับสนุน การจัดการศกึ ษา ๕. จัดการศึกษาให้มีคณุ ภาพสอดคลอ้ งตามนโยบายการจัดการศึกษากรงุ เทพมหานคร
๕ เป้าหมายของโรงเรียน (Goals) 1. ผู้เรียนมคี วามรู้ ทักษะตามหลักสตู ร สามารถอ่าน เขียน สื่อสาร และคิดคำนวณ รักการเรยี นรูพ้ ัฒนา ตนเองอย่างต่อเนอ่ื ง มเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ งานอาชีพ รกั การทำงาน และสามารถทำงานรว่ มกบั ผู้อ่นื ได้ 2. ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ สามารถสร้างนวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีอย่าง สร้างสรรค์ ตดั สินใจแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งสมเหตสุ มผล 3. ผูเ้ รียนมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงคต์ ามท่ีสถานศึกษากำหนด 4. ผู้เรียนมีสุขภาวะทีด่ มี ีสุนทรียภาพและจิตสังคม 5. สถานศึกษามีการบริหารจัดการที่เป็นระบบและจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุน การบรหิ าร และการจดั การเรยี นรู้ 6. สถานศกึ ษามกี ารจดั สภาพแวดลอ้ มและการบริการทสี่ ่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรียนพัฒนาเต็มตามศักยภาพ 7. สถานศกึ ษาสง่ เสริมและสนับสนนุ พฒั นาครู บุคลากร เพ่ือใหเ้ กดิ ชุมชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ 8. สถานศึกษามกี ารประกนั คุณภาพภายในตามที่กำหนดในกฎกระทรวง 9. ครูมีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก เน้นกระบวนการคิด การปฏิบัติจริง ใช้สื่อเทคโนโลยี และแหล่งเรียนรทู้ ีห่ ลากหลาย สามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ 10. ครูมีกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่สร้างโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม โดยใช้สื่อเทคโนโลยี นวัตกรรมทีห่ ลากหลายอยา่ งมีคณุ ภาพ เพ่อื พัฒนาผเู้ รยี นอยา่ งรอบดา้ น 11. ครมู ีการวดั ประเมนิ ผลผู้เรียนท่ีหลากหลายและนำผลการประเมินมาแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และให้ข้อมูล สะทอ้ นกลับ เพ่อื พฒั นาผเู้ รียนและปรบั ปรุงการจดั การเรียนรู้ 12. สถานศึกษาส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ปกครอง ชุมชน สถานประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามา มีส่วนรว่ มในการจัดการเรยี นรแู้ ละรว่ มพัฒนาสถานศึกษา 13. สถานศึกษามีการบรหิ ารและการจดั การศึกษาสอดคลอ้ งตามนโยบายกรงุ เทพมหานคร มาตรฐานการเรยี นรู้ การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล ต้องคำนึงถึงหลักพัฒนาการทางสมอง และพหุปัญญา จึงกำหนด ใหผ้ เู้ รยี นเรยี นรู้ ๘ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ดงั น้ี ๑. ภาษาไทย : ความรู้ ทักษะ และวัฒนธรรมการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร ความชื่นชม การเห็นคุณคา่ ภมู ปิ ัญญาไทย และภูมิใจในภาษาประจำชาติ ๒. คณิตศาสตร์ : การนำความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา การดำเนินชีวิตและศึกษาต่อ การมีเหตึมีผล มีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ พัฒนาการคิดอย่างเป็นระบบ และสรา้ งสรรค์
๖ ๓. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : การนำความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ในการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล คิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ และจติ วิทยาศาสตร์และการใชเ้ ทคโนโลยี ๔. สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม : การอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข การเป็นพลเมืองดี ศรัทธาในหลักธรรมของศาสนา การเห็นคุณค่าของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ความรกั ชาติ และภูมิใจในความเป็นไทย ๕. สุขศึกษาและพลศึกษา : ความรู้ ทักษะ และเจตคติในการสร้างเสริมสุขภาพพลานามัยของตนเอง และผูอ้ น่ื การป้องกันและปฏบิ ัติตอ่ สิง่ ต่าง ๆ ทีม่ ีผลตอ่ สขุ ภาพอยา่ งถกู วิธแี ละทักษะในการดำเนินชวี ติ ๖. ศิลปะ : ความรู้และทักษะในการคิดริเริ่ม จินตนาการ สร้างสรรค์งานศิลปะ สุนทรีภาพ และการเหน็ คณุ คา่ ทางศิลปะ ๗. การงานอาชีพ : ความรู้ ทักษะ และเจตคติในการทำงาน การจัดการ การดำรงชีวิต การประกอบ อาชพี ๘. ภาษาต่างประเทศ : ความรู้ ทักษะ เจตคติ และวัฒนธรรมการใช้ภาษาต่างประเทศในการสื่อสาร การแสวงหาความรู้และการประกอบอาชีพ ในแต่ละกลุม่ สาระการเรียนรู้ ไดก้ ำหนดมาตรฐานการเรยี นรเู้ ป็นเป้าหมายสำคญั ของการพฒั นาคุณภาพ ผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้ ปฏิบัติได้ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เม่ือจบการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน นอกจากน้นั มาตรฐานการเรียนรู้ยงั เป็นกลไกสำคญั ในการขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษา ทั้งระบบ เพราะมาตรฐานการเรียนรู้จะสะท้อนให้ทราบว่า ต้องการอะไร จะสอนอย่างไร และประเมินอย่างไร รวมทง้ั เป็นเครอื่ งมือในการตรวจสอบ เพือ่ การประกันคณุ ภาพการศึกษา โดยใช้ระบบการประเมนิ คุณภาพภายใน และการประเมินคุณภาพภายนอก ซึ่งรวมถึงการทดสอบระดับเขตพื้นที่การศึกษา และการทดสอบระดับชาติ ระบบการตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพดังกล่าว เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสะท้อนภาพการจัดการศึกษาว่าสามารถ พัฒนาผูเ้ รยี นให้มคี ณุ ภาพตามทม่ี าตรฐานการเรียนรู้กำหนดเพียงใด
๗ ตัวชี้วดั ตัวชีว้ ัด ระบุสิ่งที่นกั เรียนพงึ ร้แู ละปฏบิ ตั ไิ ด้ รวมทง้ั คณุ ลกั ษณะของผเู้ รียนในแตล่ ะระดับชนั้ ซึ่งสะท้อน ถงึ มาตรฐานการเรียนรู้ มคี วามเฉพาะเจาะจง และมีความเปน็ รูปธรรม นำไปใช้ในการกำหนดเน้ือหา จัดทำหน่วย การเรยี นรู้ จดั การเรยี นการสอน และเปน็ เกณฑส์ ำคัญสำหรับการวดั ประเมินผลเพื่อตรวจสอบคณุ ภาพผู้เรียน ตัวชี้วัดช้นั ปี เปน็ เปา้ หมายในการพัฒนาผูเ้ รยี นแต่ละชนั้ ปี ในระดับการศกึ ษาภาคบงั คบั (ประถมศึกษา ปที ่ี ๑ – มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓) ส ๑.๑ ป. ๑/๒ ป.๑/๒ ตัวชีว้ ดั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ข้อท่ี ๒ ๑.๑ สาระที่ ๑ มาตรฐานข้อที่ ๑ ส กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม หมายเหตุ : ๑. อาเซียนศกึ ษา ใชต้ วั หนงั สือสีแดง ตัวหนาเอียง ๒. กรงุ เทพมหานคร ใชต้ วั หนงั สือสีเขียว ตวั หนาเอียง ๓. เงินทองของมีคา่ ใช้ตวั หนังสอื สีนำ้ เงิน ตวั หนาเอยี ง ๔. หน้าท่พี ลเมอื ง ใช้ตัวหนงั สือสชี มพู ตวั หนาเอยี ง ๕. โตไปไม่โกง ใช้ตัวหนังสือสีม่วง ตัวหนาเอียง
๘ ๑. โครงสรา้ งเวลาเรียน โรงเรียนวัดคฤหบดี(จันทรสถิตย์) จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดคฤหบดี (จันทรสถิตย์) ตามแนวทางของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) โรงเรยี นไดจ้ ัดโครงสรา้ งเวลาเรยี นในปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ ดงั นี้ โครงสร้างเวลาเรียน ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้/ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๒ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ กจิ กรรม รหัสวชิ า เวลาเรยี น รหัสวิชา เวลาเรียน รหัสวิชา เวลาเรียน (ชม./ปี) (ชม./ป)ี (ชม./ป)ี รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ท ๑๑๑๐๑ ๒๐๐ (๕) ท ๑๒๑๐๑ ๒๐๐ (๕) ท ๑๓๑๐๑ ๒๐๐ (๕) ค ๑๓๑๐๑ ๒๐๐ (๕) คณติ ศาสตร์ ค ๑๑๑๐๑ ๒๐๐ (๕) ค ๑๒๑๐๑ ๒๐๐ (๕) ว ๑๓๑๐๑ ๘๐ (๒) ส ๑๓๑๐๑ ๘๐ (๒) วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว ๑๑๑๐๑ ๘๐ (๒) ว ๑๒๑๐๑ ๘๐ (๒) ส ๑๓๑๐๒ ๔๐ (๑) พ ๑๓๑๐๑ ๘๐ (๒) สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส ๑๑๑๐๑ ๘๐ (๒) ส ๑๒๑๐๑ ๘๐ (๒) ศ ๑๓๑๐๑ ๘๐ (๒) ง ๑๓๑๐๑ ๔๐ (๑) ประวัติศาสตร์ ส ๑๑๑๐๒ ๔๐ (๑) ส ๑๒๑๐๒ ๔๐ (๑) อ ๑๓๑๐๑ ๔๐ (๑) ๘๔๐ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา พ ๑๑๑๐๑ ๘๐ (๒) พ ๑๒๑๐๑ ๘๐ (๒) ศลิ ปะ ศ ๑๑๑๐๑ ๘๐ (๒) ศ ๑๒๑๐๑ ๘๐ (๒) การงานอาชีพ ง ๑๑๑๐๑ ๔๐ (๑) ง ๑๒๑๐๑ ๔๐ (๑) ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน อ ๑๑๑๐๑ ๔๐ (๑) อ ๑๒๑๐๑ ๔๐ (๑) รวม รายวิชาพ้ืนฐาน ๘๔๐ ๘๔๐ กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น - แนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ - ลูกเสอื / ยวุ กาชาด ๔๐ ๔๐ ๓๐ ๑๐ - ชมรม ๓๐ ๓๐ ๑๒๐ - กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ รวม กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน ๑๒๐ ๑๒๐ รายวชิ าเพมิ่ เติม - หน้าที่พลเมอื ง ส ๑๑๒๐๑ ๔๐ (๑) ส ๑๒๒๐๑ ๔๐ (๑) ส ๑๓๒๐๑ ๔๐ (๑) อ ๑๓๒๐๑ ๑๔๐ (๔) - ภาษาองั กฤษเพ่ือการสือ่ สาร อ ๑๑๒๐๑ ๑๖๐ (๔) อ ๑๒๒๐๑ ๑๖๐ (๔) ๒๐๐ รวม รายวิชาเพิม่ เติม ๒๐๐ ๒๐๐ กิจกรรมเพิม่ เวลารู้ - โรงเรียนคณุ ธรรม/ตา้ นทุจริต ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๑,๒๐๐ รวมเวลาเรียนทั้งหมด ๑,๒๐๐ ๑,๒๐๐
๙ โครงสรา้ งเวลาเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ – ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้/ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ กจิ กรรม รหัสวชิ า เวลาเรียน รหสั วชิ า เวลาเรยี น รหสั วิชา เวลาเรยี น (ชม./ป)ี (ชม./ปี) (ชม./ปี) รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ท ๑๔๑๐๑ ๑๖๐ (๔) ท ๑๕๑๐๑ ๑๖๐ (๔) ท ๑๖๑๐๑ ๑๖๐ (๔) ค ๑๖๑๐๑ ๑๖๐ (๔) คณิตศาสตร์ ค ๑๔๑๐๑ ๑๖๐ (๔) ค ๑๕๑๐๑ ๑๖๐ (๔) ว ๑๖๑๐๑ ๘๐ (๒) ส ๑๖๑๐๑ ๘๐ (๒) วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว ๑๔๑๐๑ ๘๐ (๒) ว ๑๕๑๐๑ ๘๐ (๒) ส ๑๖๑๐๒ ๔๐ (๑) พ ๑๖๑๐๑ ๘๐ (๒) สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส ๑๔๑๐๑ ๘๐ (๒) ส ๑๕๑๐๑ ๘๐ (๒) ศ ๑๖๑๐๑ ๘๐ (๒) ง ๑๖๑๐๑ ๘๐ (๒) ประวตั ิศาสตร์ ส ๑๔๑๐๒ ๔๐ (๑) ส ๑๕๑๐๒ ๔๐ (๑) อ ๑๖๑๐๑ ๘๐ (๒) ๘๔๐ สุขศกึ ษาและพลศึกษา พ ๑๔๑๐๑ ๘๐ (๒) พ ๑๕๑๐๑ ๘๐ (๒) ศิลปะ ศ ๑๔๑๐๑ ๘๐ (๒) ศ ๑๕๑๐๑ ๘๐ (๒) การงานอาชพี ง ๑๔๑๐๑ ๘๐ (๒) ง ๑๕๑๐๑ ๘๐ (๒) ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน อ ๑๔๑๐๑ ๘๐ (๒) อ ๑๕๑๐๑ ๘๐ (๒) รวม รายวชิ าพ้ืนฐาน ๘๔๐ ๘๔๐ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น - แนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ - ลกู เสือ / ยวุ กาชาด ๔๐ ๔๐ ๓๐ ๑๐ - ชมรม ๓๐ ๓๐ ๑๒๐ - กจิ กรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ รวม กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ๑๒๐ ๑๒๐ รายวิชาเพิ่มเติม - หนา้ ทพ่ี ลเมือง ส ๑๔๒๐๑ ๔๐ (๑) ส ๑๕๒๐๑ ๔๐ (๑) ส ๑๖๒๐๑ ๔๐ (๑) อ ๑๖๒๐๑ ๔๐ (๑) - ภาษาองั กฤษเพือ่ การส่อื สาร อ ๑๔๒๐๑ ๔๐ (๑) อ ๑๕๒๐๑ ๔๐ (๑) ว ๑๖๒๐๑ ๔๐ (๑) ๑๒๐ - คอมพิวเตอร์ ว ๑๔๒๐๑ ๔๐ (๑) ว ๑๕๒๐๑ ๔๐ (๑) รวมรายวิชาเพม่ิ เติม ๑๒๐ ๑๒๐ กิจกรรมเพม่ิ เวลารู้ - โรงเรยี นคุณธรรม/ต้านทุจริต ๔๐ (๑) ๔๐ (๑) ๔๐ (๑) ๔๐ (๑) - ภาษาจีน ๔๐ (๑) ๔๐ (๑) ๔๐ (๑) ๑๒๐ - ภาษาอังกฤษชาวต่างชาติ ๔๐ (๑) ๔๐ (๑) ๑,๒๐๐ รวมกิจกรรมเพ่ิมเวลารู้ ๑๒๐ ๑๒๐ รวมเวลาเรยี นทงั้ หมด ๑,๒๐๐ ๑,๒๐๐
10 ๒. โครงสร้างหลกั สูตรชั้นปี โครงสรา้ งหลกั สูตร ระดับประถมศกึ ษา เวลาเรียน ชม./ปี ชม./สด. ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ๘๔๐ ๒๑ รายวชิ า / กิจกรรม ๒๐๐ ๕ รายวชิ าพ้ืนฐาน ๒๐๐ ๕ ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๘๐ ๒ ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐ ๒ ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐ ๑ ส ๑๑๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐ ๒ ส ๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๘๐ ๒ พ ๑๑๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๑ ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐ ๑ ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี ๒๐๐ ๕ อ ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน ๔๐ ๑ รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ๑๖๐ ๔ ส ๑๑๒๐๑ หนา้ ท่ีพลเมือง ๑๒๐ ๓ อ ๑๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพือ่ การส่ือสาร ๔๐ ๑ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ● กจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ๑ ● กจิ กรรมนักเรยี น ๓๐ ๑ ลูกเสือ - ยุวกาชาด ๑๐ ชมรม ๑ ● กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๔๐ ๑ กจิ กรรมเพิ่มเวลารู้ ๔๐ ๓๐ ● กจิ กรรมโรงเรยี นคุณธรรม/ต้านทุจริต ๑,๒๐๐ รวมเวลาท้ังสนิ้
11 โครงสร้างหลักสตู ร ระดบั ประถมศึกษา เวลาเรยี น ชม./ปี ชม./สด. ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ ๘๔๐ ๒๑ รายวิชา / กิจกรรม ๒๐๐ ๕ รายวชิ าพื้นฐาน ๒๐๐ ๕ ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๘๐ ๒ ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐ ๒ ว ๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐ ๑ ส ๑๒๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐ ๒ ส ๑๒๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๘๐ ๒ พ ๑๒๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๑ ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๔๐ ๑ ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชพี ๒๐๐ ๕ อ ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน ๔๐ ๑ รายวิชาเพมิ่ เติม ๑๖๐ ๔ ส ๑๒๒๐๑ หนา้ ที่พลเมือง ๑๒๐ ๓ อ ๑๒๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่ือสาร ๔๐ ๑ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ● กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๑ ● กจิ กรรมนักเรยี น ๓๐ ๑ ลูกเสือ - ยุวกาชาด ๑๐ ชมรม ๑ ● กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ๔๐ ๑ กจิ กรรมเพ่ิมเวลารู้ ๔๐ ๓๐ ● กิจกรรมโรงเรยี นคุณธรรม/ตา้ นทุจริต ๑,๒๐๐ รวมเวลาทั้งส้นิ
12 โครงสรา้ งหลักสูตร ระดบั ประถมศกึ ษา เวลาเรียน ชม./ปี ชม./สด. ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ ๘๔๐ ๒๑ รายวชิ า / กจิ กรรม ๒๐๐ ๕ รายวชิ าพื้นฐาน ๒๐๐ ๕ ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๘๐ ๒ ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐ ๒ ว ๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐ ๑ ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐ ๒ ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๘๐ ๒ พ ๑๓๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๑ ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๔๐ ๑ ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๒๐๐ ๕ อ ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษพื้นฐาน ๔๐ ๑ รายวิชาเพ่มิ เติม ๑๖๐ ๔ ส ๑๓๒๐๑ หนา้ ที่พลเมอื ง ๑๒๐ ๓ อ ๑๓๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่อื การสือ่ สาร ๔๐ ๑ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ● กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๑ ● กจิ กรรมนักเรยี น ๓๐ ๑ ลูกเสือ - ยุวกาชาด ๑๐ ชมรม ๑ ● กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ๔๐ ๑ กจิ กรรมเพม่ิ เวลารู้ ๔๐ ๓๐ ● กิจกรรมโรงเรยี นคุณธรรม/ต้านทจุ ริต ๑,๒๐๐ รวมเวลาทง้ั สิ้น
13 โครงสร้างหลกั สูตร ระดบั ประถมศึกษา เวลาเรยี น ชม./ปี ชม./สด. ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ ๘๔๐ ๒๑ รายวิชา / กิจกรรม ๑๖๐ ๔ รายวิชาพ้ืนฐาน ๑๖๐ ๔ ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๘๐ ๒ ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐ ๒ ว ๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐ ๑ ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๘๐ ๒ ส ๑๔๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๘๐ ๒ พ ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๘๐ ๒ ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๘๐ ๒ ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ ๑๒๐ ๓ อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน ๔๐ ๑ รายวิชาเพ่มิ เติม ๔๐ ๑ ส ๑๔๒๐๑ หน้าทพ่ี ลเมือง ๔๐ ๑ อ ๑๔๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่อื การสอื่ สาร ๑๒๐ ๓ ว ๑๔๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๑ ๔๐ ๑ กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ● กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๑ ● กิจกรรมนกั เรียน ๓๐ ๑ ลูกเสือ - ยุวกาชาด ๑๐ ชมรม ๑๒๐ ๓ ● กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ๔๐ ๑ กจิ กรรมเพ่มิ เวลารู้ ๔๐ ๑ ● กิจกรรมโรงเรยี นคุณธรรม/ตา้ นทุจริต ๔๐ ๑ ● ภาษาจีน ๑,๒๐๐ ๓๐ ● ภาษาอังกฤษชาวต่างชาติ รวมเวลาทง้ั ส้นิ
14 โครงสรา้ งหลกั สตู ร ระดบั ประถมศกึ ษา เวลาเรยี น ชม./ปี ชม./สด. ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๕ ๘๔๐ ๒๑ รายวชิ า / กิจกรรม ๑๖๐ ๔ รายวชิ าพ้ืนฐาน ๑๖๐ ๔ ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๘๐ ๒ ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐ ๒ ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔๐ ๑ ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐ ๒ ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๘๐ ๒ พ ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๘๐ ๒ ศ ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๘๐ ๒ ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ๑๒๐ ๓ อ ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน ๔๐ ๑ รายวิชาเพ่มิ เติม ๔๐ ๑ ส ๑๕๒๐๑ หน้าทพ่ี ลเมือง ๔๐ ๑ อ ๑๕๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพอื่ การส่ือสาร ๑๒๐ ๓ ว ๑๕๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๒ ๔๐ ๑ กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ● กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๑ ● กิจกรรมนกั เรียน ๓๐ ๑ ลกู เสือ - ยุวกาชาด ๑๐ ชมรม ๑๒๐ ๓ ● กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ๔๐ ๑ กจิ กรรมเพ่มิ เวลารู้ ๔๐ ๑ ● กิจกรรมโรงเรยี นคุณธรรม/ตา้ นทจุ ริต ๔๐ ๑ ● ภาษาจีน ๑,๒๐๐ ๓๐ ● ภาษาอังกฤษชาวต่างชาติ รวมเวลาทั้งส้ิน
15 โครงสรา้ งหลกั สูตร ระดับประถมศกึ ษา เวลาเรยี น ชม./ปี ชม./สด. ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ ๘๔๐ ๒๑ รายวิชา / กจิ กรรม ๑๖๐ ๔ รายวิชาพ้ืนฐาน ๑๖๐ ๔ ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๘๐ ๒ ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐ ๒ ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐ ๑ ส ๑๖๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๘๐ ๒ ส ๑๖๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๘๐ ๒ พ ๑๖๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๘๐ ๒ ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๘๐ ๒ ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๑๒๐ ๓ อ ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน ๔๐ ๑ รายวิชาเพิ่มเตมิ ๔๐ ๑ ส ๑๖๒๐๑ หน้าทีพ่ ลเมือง ๔๐ ๑ อ ๑๖๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสือ่ สาร ๑๒๐ ๓ ว ๑๖๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๓ ๔๐ ๑ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ● กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๑ ● กิจกรรมนกั เรยี น ๓๐ ๑ ลูกเสอื - ยุวกาชาด ๑๐ ชมรม ๑๒๐ ๓ ● กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๔๐ ๑ กจิ กรรมเพม่ิ เวลารู้ ๔๐ ๑ ● กิจกรรมโรงเรียนคุณธรรม/ต้านทจุ รติ ๔๐ ๑ ● ภาษาจนี ๑,๒๐๐ ๓๐ ● ภาษาอังกฤษชาวต่างชาติ รวมเวลาทง้ั สนิ้
16 โครงสรา้ งกลุม่ สาระการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส ๑๑๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง ส ๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๒๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง ส ๑๒๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๓๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง ส ๑๓๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ จำนวน ๔๐ ช่วั โมง ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง ส ๑๔๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง ส ๑๕๑๐๑ สังคมศึกษาฯ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง ส ๑๖๑๐๑ สังคมศึกษาฯ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง ส ๑๖๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนา้ ทพ่ี ลเมือง จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๑๒๐๑ หน้าที่พลเมือง จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๒๒๐๑ หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง จำนวน ๔๐ ชั่วโมง ส ๑๓๒๐๑ หน้าท่ีพลเมือง จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๔๒๐๒ หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง ส ๑๕๒๐๒ หนา้ ท่ีพลเมือง จำนวน ๔๐ ชั่วโมง ส ๑๖๒๐๒
17 กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ทำไมตอ้ งเรียนสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ว่ามนุษย์ดำรงชีวิตอย่างไร ทั้งในฐานะปัจเจกบุคคล และการอยู่รว่ มกนั ในสังคม การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม การจดั การทรพั ยากรทม่ี ีอยอู่ ย่างจำกัด นอกจากนี้ ยังช่วยใหผ้ ู้เรียนเข้าใจถึงการพัฒนา เปลย่ี นแปลงตามยุคสมยั กาลเวลา ตามเหตปุ ัจจัยต่าง ๆ ทำให้เกิดความ เขา้ ใจในตนเอง และผอู้ ื่น มคี วามอดทน อดกลน้ั ยอมรบั ในความแตกตา่ ง และมีคุณธรรม สามารถนำความรู้ไป ปรบั ใช้ในการดำเนินชีวิต เปน็ พลเมืองดีของประเทศชาติ และสงั คมโลก เรยี นรู้อะไรในสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมว่าด้วยการอยู่ร่วมกันในสังคม ที่มีความ เชื่อมสัมพันธ์กัน และมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตนเองกับบริบท สภาพแวดล้อม เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ มีความรู้ ทักษะ คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม โดยได้กำหนดสาระต่าง ๆ ไว้ ดงั นี้ ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลักธรรม ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ การนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเอง และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เป็นผู้กระทำความดี มีค่านิยมที่ดีงาม พัฒนาตนเองอยู่เสมอ รวมทั้งบำเพญ็ ประโยชนต์ อ่ สงั คมและสว่ นรวม หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลักษณะและความสำคัญ การเป็น พลเมืองดี ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ปลูกฝังค่านิยมด้าน ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพการดำเนินชีวิตอย่างสันติสุข ในสังคมไทยและสังคมโลก เศรษฐศาสตร์ การผลิต การแจกจา่ ย และการบรโิ ภคสินคา้ และบริการ การบรหิ ารจัดการทรัพยากร ที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ การดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ และการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ประวัติศาสตร์ เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วิธีการทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการ ของ มนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์และเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ผลกระทบที่เกิดจาก
18 เหตกุ ารณ์สำคัญในอดีต บคุ คลสำคญั ที่มีอิทธพิ ลต่อการเปลีย่ นแปลงต่าง ๆ ในอดตี ความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย แหล่งอารยธรรมทส่ี ำคัญของโลก ภูมิศาสตร์ ลักษณะของโลกทางกายภาพ ลักษณะทางกายภาพ แหล่งทรัพยากร และภูมิอากาศ ของประเทศไทย และภูมิภาคต่างๆ ของโลก การใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธ์กัน ของส่งิ ตา่ ง ๆ ในระบบธรรมชาติ ความสัมพนั ธ์ของมนุษยก์ ับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และส่ิงท่มี นษุ ย์สร้าง ข้ึน การนำเสนอขอ้ มลู ภมู ิสารสนเทศ การอนุรักษส์ ่งิ แวดลอ้ มเพ่ือการพัฒนาที่ยั่งยนื สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนา ที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพอื่ อย่รู ่วมกันอย่างสนั ตสิ ุข มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาท่ตี นนับถอื สาระท่ี ๒ หนา้ ท่พี ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนินชวี ิตในสังคม มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธำรง รักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลก อย่างสนั ตสิ ขุ มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จุบนั ยึดมั่น ศรัทธา และธำรงรักษาไว้ ซงึ่ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส.๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ ทรัพยากร ที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจ หลักการ ของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่อื การดำรงชวี ติ อย่างมดี ลุ ยภาพ มาตรฐาน ส.๓.๒ เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความ จำเป็นของการรว่ มมือกันทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก สาระท่ี ๔ ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้ วธิ ีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ตา่ ง ๆ อย่างเป็นระบบ
มาตรฐาน ส ๔.๒ 19 มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และ การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถ วเิ คราะห์ผลกระทบท่เี กดิ ขึ้น เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ และธำรงความเปน็ ไทย สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร์ เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกัน มาตรฐาน ส ๕.๑ และกันในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหา วิเคราะห์ สรปุ และใชข้ ้อมูลภมู ิสารสนเทศอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ มาตรฐาน ส ๕.๒ เขา้ ใจปฏสิ ัมพันธร์ ะหวา่ งมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพทก่ี อ่ ให้เกิดการสร้าง วัฒนธรรม มีจิตสำนึก และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม เพื่อการพฒั นาทยี่ ่ังยืน คณุ ภาพผ้เู รียน จบชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ • ได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับตนเองและผู้ที่อยู่รอบข้าง ตลอดจนสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น ที่อยู่ อาศยั และเชื่อมโยงประสบการณ์ไปส่โู ลกกว้าง • ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีทักษะกระบวนการ และมีข้อมูลที่จำเป็นต่อการพัฒนา ใหเ้ ป็นผู้มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ประพฤติปฏิบัติตามหลกั คำสอนของศาสนาที่ตนนับถือ มีความเป็นพลเมือง ดี มีความรับผิดชอบ การอยู่ร่วมกันและการทำงานกับผู้อื่น มีส่วนร่วมในกิจกรรมของห้องเรียน และไดฝ้ ึกหดั ในการตัดสนิ ใจ • ได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน และชุมชนในลักษณะการบูรณาการ ผู้เรียนได้เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับปัจจุบันและอดีต มีความรู้พื้นฐานทางเศรษฐกิจได้ข้อคิดเกี่ยวกับรายรบั รายจา่ ยของครอบครวั เข้าใจถงึ การเป็นผผู้ ลติ ผบู้ ริโภค รจู้ กั การออมขั้นต้นและวิธกี ารเศรษฐกิจพอเพยี ง • ได้รับการพัฒนาแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ และภมู ิปญั ญา เพื่อเป็นพ้ืนฐานในการทำความเขา้ ใจในขน้ั ทีส่ ูงต่อไป
20 จบช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ • ได้เรียนรู้เรื่องของจังหวัด ภาค และประทศของตนเอง ทั้งเชิงประวัติศาสตร์ ลักษณะ ทางกายภาพ สงั คม ประเพณี และวัฒนธรรม รวมท้งั การเมืองการปกครอง สภาพเศรษฐกจิ โดยเน้นความ เปน็ ประเทศไทย • ได้รับการพัฒนาความรู้และความเข้าใจ ในเรื่องศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตน ตามหลักคำสอนของศาสนาท่ีตนนบั ถือ รวมท้ังมสี ่วนรว่ มศาสนพิธี และพธิ ีกรรมทางศาสนามากยิ่งขน้ึ • ได้ศึกษาและปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิหน้าที่ในฐานะพลเมืองดีของท้องถิ่น จังหวัด ภาค และประเทศ รวมทั้งได้มีส่วนร่วมในกจิ กรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ของ ทอ้ งถิน่ ตนเองมากยิง่ ขึน้ • ได้ศึกษาเปรียบเทียบเรื่องราวของจังหวัดและภาคต่างๆของประเทศไทยกับประเทศเพื่อน บ้าน ได้รับการพัฒนาแนวคิดทางสังคมศาสตร์ เกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์เพื่อขยายประสบการณ์ไปสู่การทำความเข้าใจ ในภูมิภาค ซีกโลกตะวันออกและตะวันตกเกี่ยวกับศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วฒั นธรรม การดำเนินชวี ติ การจดั ระเบยี บทางสังคม และการเปลย่ี นแปลงทางสังคม จากอดีตสปู่ จั จบุ นั จบชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ • ได้เรียนรู้และศึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปของโลก โดยการศึกษาประเทศไทยเปรียบเทียบ กับประเทศในภมู ิภาคต่างๆในโลก เพอื่ พัฒนาแนวคดิ เรือ่ งการอยูร่ ว่ มกันอย่างสันติสุข • ได้เรียนรู้และพัฒนาให้มีทักษะที่จำเป็นต่อการเป็นนักคิดอย่างมีวิจารณญาณได้รับการพัฒนา แนวคิด และขยายประสบการณ์ เปรียบเทียบระหว่างประเทศไทยกบั ประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ในโลก ได้แก่ เอเชีย โอเชียเนีย แอฟริกา ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ในด้านศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การเมืองการปกครอง ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ ดว้ ยวิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ และสงั คมศาสตร์ • ได้รับการพัฒนาแนวคิดและวิเคราะห์เหตุการณ์ในอนาคต สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ ในการดำเนนิ ชีวิตและวางแผนการดำเนินงานได้อย่างเหมาะสม
21 จบช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ • ได้เรียนรู้และศกึ ษาความเปน็ ไปของโลกอย่างกว้างขวางและลกึ ซ้งึ ยงิ่ ข้นึ • ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้พัฒนาตนเองเป็นพลเมืองที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตาม หลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ รวมทั้งมีค่านิยมอันพึงประสงค์ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นและอยู่ในสังคมได้ อยา่ ง มคี วามสขุ รวมทงั้ มีศกั ยภาพเพ่ือการศึกษาต่อในชน้ั สงู ตามความประสงค์ได้ • ไดเ้ รยี นรู้เร่ืองภมู ิปัญญาไทย ความภมู ใิ จในความเปน็ ไทย ประวัติศาสตร์ของชาตไิ ทย ยึดมั่นในวิถี ชีวิต และการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข • ไดร้ ับการส่งเสริมให้มนี สิ ยั ท่ีดีในการบริโภค เลือกและตดั สินใจบรโิ ภคได้อย่างเหมาะสมมจี ิตสำนึก และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ประเพณีวัฒนธรรมไทย และสิ่งแวดล้อม มีความรักท้องถิ่น และประเทศชาติ มุ่งทำประโยชน์ และสร้างสง่ิ ท่ีดีงามใหก้ ับสงั คม • เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของตนเอง ชี้นำตนเองได้ และสามารถแสวงหา ความรจู้ ากแหลง่ การเรียนรูต้ ่างๆในสงั คมได้ตลอดชีวิต
22 ตวั ชีว้ ัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาท่ี ตนนบั ถือและศาสนาอืน่ มศี รัทธาทถ่ี กู ตอ้ ง ยึดม่ันและปฏบิ ตั ติ าม หลกั ธรรมเพอื่ อยู่ร่วมกันอย่างสนั ติสุข ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๑ ๑. บอกพุทธประวตั ิ หรอื ประวตั ขิ อง ➢ พุทธประวัติ ศาสดาท่ีตนนับถือโดยสงั เขป ประสตู ิ ตรัสรู้ ปรนิ ิพพาน ๒. ช่นื ชมและบอกแบบอย่างการดำเนิน สามเณรบัณฑิต ชีวติ และข้อคิดจากประวตั สิ าวก ชาดก/ วัณณปถุ ชาดก เรือ่ งเลา่ และศาสนกิ ชนตวั อย่างตามท่ี สวุ ัณณสามชาดก กำหนด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (หนพู รอ้ ม) ๓. บอกความหมาย ความสำคัญ และ ➢ พระรัตนตรยั เคารพพระรตั นตรัย ปฏิบัตติ ามหลกั ธรรม ศรัทธา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โอวาท ๓ ในพระพุทธศาสนา หรอื ➢ โอวาท ๓ หลักธรรมของศาสนาทีต่ นนับถือตามที่ ไม่ทำช่ัว กำหนด o เบญจศีล ทำความดี ° เบญจธรรม ° สงั คหวัตถุ ๔ ° กตัญญกู ตเวทตี อ่ พ่อแม่ และครอบครัว ° มงคล ๓๘ - ทำตัวดี - วา่ งา่ ย - รบั ใช้พอ่ แม่ ทำจติ ให้บรสิ ทุ ธ์ิ (บริหารจิตและเจรญิ ปัญญา) ➢ พุทธศาสนสภุ าษิต
23 ช้นั ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง อตตฺ า หิ อตฺตโน นาโถ ตนแลเปน็ ที่พึ่งของตน มาตา มิตตฺ ํ สเก ฆเร มารดาเปน็ มิตรในเรือนของตน ๔. เหน็ คณุ ค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตา ➢ ฝกึ สวดมนต์และแผ่เมตตา มสี ติท่เี ปน็ พืน้ ฐานของสมาธใิ น รคู้ วามหมายและประโยชน์ของสติ พระพุทธศาสนา หรอื การพัฒนาจติ ตาม ฟงั เพลงและร้องเพลงอยา่ งมีสติ แนวทางของศาสนาที่ตนนบั ถอื เล่นและทำงานอยา่ งมีสติ ตามทีก่ ำหนด ฝกึ ให้มสี ติในการฟัง การอา่ น การคิด การถามและการเขียน ป.๒ ๑. บอกความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา พระพุทธศาสนาเป็นเอกลกั ษณ์ของ ชาตไิ ทย หรือศาสนาที่ตนนบั ถอื ๒. สรุปพุทธประวตั ติ งั้ แตป่ ระสูตจิ นถงึ การ ➢ สรปุ พุทธประวัติ ออกผนวชหรอื ประวัติศาสดาท่ตี นนับถือ ประสตู ิ ตามทก่ี ำหนด o เหตุการณ์หลงั ประสูติ o แรกนาขวัญ o การศกึ ษา o การอภิเษกสมรส o เทวทูต ๔ o การออกผนวช ๓. ชื่นชมและบอกแบบอย่างการดำเนนิ สามเณรราหุล ชวี ิตและขอ้ คิดจากประวตั สิ าวก ชาดก/ วรุณชาดก เรอ่ื งเลา่ และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามท่ี วานรนิ ทชาดก กำหนด สมเดจ็ พระญาณสงั วร (ศขุ ไก่เถอื่ น) สมเดจ็ พระญาณสงั วรสมเด็จพระสังฆราช (เจรญิ สวุ ฑฒฺ โน) ๔. บอกความหมาย ความสำคัญ และ ➢ พระรตั นตรัย เคารพพระรัตนตรัย ปฏบิ ัตติ ามหลกั ธรรม ศรัทธา โอวาท ๓ ในพระพุทธศาสนา หรือ ➢ โอวาท ๓ หลักธรรมของศาสนาท่ีตน ไมท่ ำชั่ว นบั ถือตามทกี่ ำหนด o เบญจศลี
24 ช้ัน ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ทำความดี o เบญจธรรม o หิริ-โอตตปั ปะ o สังคหวตั ถุ ๔ o ฆราวาสธรรม ๔ o กตัญญูกตเวทตี ่อครู อาจารย์ และโรงเรียน o มงคล ๓๘ - กตญั ญู - สงเคราะห์ญาตพิ ่ีน้อง ทำจติ ให้บรสิ ุทธิ์ (บริหารจติ และเจริญ ปญั ญา) ➢ พทุ ธศาสนสุภาษติ นิมิตฺตํ สาธุรปู านํ กตญญฺ กตเวทิตา ความ กตญั ญ กตเวทเี ปน็ เครือ่ งหมายของคนดี พรฺ หมฺ าติ มาตาปติ โร มารดาบดิ าเปน็ พรหม ของบตุ ร ๕. ชน่ื ชมการทำความดีของตนเอง บุคคล ตวั อย่างการกระทำความดีของตนเอง ในครอบครัวและในโรงเรียน และบุคคลในครอบครัว และในโรงเรียน ตามหลกั ศาสนา (ตามสาระในข้อ ๔) ๖. เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตา ◆ ฝกึ สวดมนต์ไหว้พระและแผเ่ มตตา มีสติทเ่ี ปน็ พนื้ ฐานของสมาธิในพระพทุ ธ- ร้คู วามหมายและประโยชนข์ องสติและสมาธิ ศาสนา หรือการพัฒนาจติ ตามแนวทาง ฝึกสมาธเิ บอื้ งต้น ของศาสนาทีต่ นนับถอื ตามท่ีกำหนด ฝึกสติเบื้องตน้ ด้วยกิจกรรมการเคลื่อนไหว อยา่ งมีสติ ฝึกใหม้ ีสมาธิในการฟงั การอ่าน การคิด การถาม และการเขยี น ๗. บอกช่ือศาสนา ศาสดา และ ➢ ชอื่ ศาสนา ศาสดาและคัมภีรข์ องศาสนาตา่ ง ๆ ความสำคญั ของคมั ภีร์ของศาสนาที่ตน ◆ พระพุทธศาสนา นับถือและศาสนาอนื่ ๆ o ศาสดา : พระพทุ ธเจา้ o คมั ภรี ์ : พระไตรปฎิ ก
ช้นั ตวั ชีว้ ัด 25 ป.๓ ๑. อธิบายความสำคัญของพระพุทธศาสนา สาระการเรยี นร้แู กนกลาง หรือศาสนาที่ตนนับถอื ในฐานะท่ีเป็น ศาสนาอิสลาม รากฐานสำคัญของวฒั นธรรมไทย o ศาสดา : มุฮมั มดั o คมั ภีร์ : อัลกุรอาน ๒. สรุปพุทธประวตั ิตัง้ แตก่ ารบำเพญ็ เพยี ร คริสต์ศาสนา จนถึงปรนิ พิ พาน หรอื ประวัติของศาสดา o ศาสดา : พระเยซู ทตี่ นนับถือตามท่ีกำหนด o คัมภรี ์ : ไบเบลิ ศาสนาฮินดู ๓. ชนื่ ชมและบอกแบบอย่างการดำเนนิ o ศาสดา : ไม่มศี าสดา ชีวติ และขอ้ คิดจากประวัตสิ าวก ชาดก/ เร่ืองเล่าและศาสนกิ ชนตวั อย่าง คัมภรี ์ : พระเวท พราหมณะ อุปนิษัท ตามที่กำหนด อารณั ยกะ ความสมั พนั ธ์ของพระพุทธศาสนากับการ ดำเนินชวี ิตประจำวัน เชน่ การสวดมนต์ การทำบญุ ใส่บาตร การแสดงความเคารพ การใชภ้ าษา พระพุทธศาสนามีอิทธิพลตอ่ การสรา้ งสรรค์ ผลงานทางวฒั นธรรมไทยอนั เกิดจากความ ศรทั ธา เชน่ วดั ภาพวาด พระพทุ ธรปู วรรณคดี สถาปัตยกรรมไทย สรุปพทุ ธประวตั ิ (ทบทวน) การบำเพ็ญเพียร ผจญมาร ตรสั รู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน สามเณรสังกจิ จะ อารามทูสกชาดก มหาวาณชิ ชาดก สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ (โต พฺรหมฺ รสํ )ี สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช
26 ช้ัน ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๔. บอกความหมาย ความสำคญั ของ ความสำคญั ของพระไตรปิฎก เชน่ พระไตรปิฎก หรือคัมภีรข์ องศาสนาทตี่ น เป็นแหล่งอ้างอิง ของหลักธรรมคำสอน นับถือ ๕. แสดงความเคารพพระรตั นตรัย ➢ พระรตั นตรยั และปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมโอวาท ๓ ศรทั ธา ในพระพทุ ธศาสนา หรือหลกั ธรรม ➢ โอวาท ๓ ของศาสนาท่ีตนนบั ถือตามทก่ี ำหนด ไมท่ ำชว่ั o เบญจศีล ทำความดี o เบญจธรรม o สติ-สมั ปชัญญะ o สังคหวัตถุ ๔ o ฆราวาสธรรม ๔ o ฆราวาสธรรม ๔ o อตั ถะ ๓ (อัตตัตถะ, ปรตั ถะ, อภุ ยัตถะ) o กตญั ญูกตเวทตี อ่ ชุมชน, สิ่งแวดลอ้ ม o มงคล ๓๘ - รู้จักให้ - พดู ไพเราะ - อยใู่ นสง่ิ แวดลอ้ มทด่ี ี ทำจติ ให้บรสิ ุทธิ์ (บริหารจติ และเจริญปัญญา) ➢ พทุ ธศาสนสุภาษติ ททมาโน ปโิ ย โหติ ผใู้ หย้ อ่ มเป็นที่รกั โมกโฺ ข กลฺยาณิยา สาธุ เปล่งวาจาไพเราะให้สำเร็จประโยชน์ ๖. เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตา ◆ ฝกึ สวดมนต์ ไหว้พระ สรรเสริญคณุ พระ- มีสติท่เี ป็นพืน้ ฐานของสมาธิ รตั นตรยั และแผ่เมตตา ในพระพุทธศาสนา หรอื การพัฒนาจิต รคู้ วามหมายและประโยชนข์ องสตแิ ละสมาธิ ตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับถอื รู้ประโยชนข์ องการฝึกสติ ตามที่กำหนด ฝึกสมาธเิ บอ้ื งต้นดว้ ยการนบั ลมหายใจ ฝึกการยืน การเดิน การนัง่ และการนอน อย่างมสี ติ
ช้นั ตัวช้ีวัด 27 ๗. บอกช่อื ความสำคัญและปฏบิ ัติตน สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมต่อศาสนวัตถุ ศาสน- ◆ ฝกึ ใหม้ ีสมาธิในการฟัง การอ่าน การคิด สถาน และศาสนบุคคลของศาสนาอนื่ ๆ การถาม และการเขียน ป.๔ ๑. อธิบายความสำคัญของพระพุทธศาสนา ◆ ชอ่ื และความสำคัญของศาสนวตั ถุ หรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถอื ในฐานะเปน็ ศูนย์ รวมจิตใจของศาสนกิ ชน ศาสนสถานและ ศาสนบุคคล ในพระพทุ ธศาสนา ศาสนาอสิ ลาม คริสต์ ๒. สรุปพทุ ธประวตั ิตง้ั แตบ่ รรลธุ รรมจนถึง ศาสนา ศาสนาฮนิ ดู ประกาศธรรม หรือประวตั ศิ าสดาท่ีตน ◆ การปฏบิ ัติตนท่เี หมาะสมตอ่ ศาสนวัตถุ นับถือตามท่ีกำหนด ศาสนสถานและศาสนบุคคลในศาสนาอ่ืน ๆ พระพุทธศาสนา ในฐานะท่ีเป็น ๓. เห็นคุณค่า และปฏิบตั ิตนตาม เครอื่ งยดึ เหนี่ยวจิตใจ แบบอยา่ งการดำเนนิ ชีวติ และข้อคิดจาก เป็นศูนย์รวมการทำความดี และพฒั นาจิตใจ ประวตั สิ าวก ชาดก/เร่อื งเลา่ เชน่ ฝกึ สมาธิ สวดมนต์ และศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง ตามทีก่ ำหนด ศกึ ษาหลักธรรม เป็นที่ประกอบศาสนพธิ ี (การทอดกฐิน การทอดผ้าป่า การเวยี นเทียน การทำบุญ) เปน็ แหล่งทำกิจกรรมทางสงั คม เช่น การจัด ประเพณที ้องถ่ิน การเผยแพรข่ ้อมลู ข่าวสาร ชมุ ชน และการสง่ เสรมิ พฒั นาชุมชน สรปุ พุทธประวัติ (ทบทวน) ตรัสรู้ ประกาศธรรม ได้แก่ o โปรดชฎิล o โปรดพระเจา้ พมิ พสิ าร o พระอัครสาวกแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ พระอรุ เุ วลกสั สปะ กุฏิทูสกชาดก มหาอุกกสุ ชาดก สมเด็จพระมหิตลาธเิ บศร อดุลยเดชวิกรม- พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรนี ครินทราบรมราชชนนี
28 ช้ัน ตัวช้ีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ๔. แสดงความเคารพ พระรัตนตรยั ➢ พระรัตนตรัย ปฏบิ ัติตามไตรสิกขาและหลกั ธรรมโอวาท o ศรัทธา ๔ ๓ ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรม ของศาสนาท่ตี นนบั ถือตามท่กี ำหนด พระพทุ ธ o พุทธคณุ ๓ พระธรรม o หลักกรรม พระสงฆ์ ➢ ไตรสกิ ขา ศีล สมาธิ ปัญญา ➢ โอวาท ๓ ไม่ทำชั่ว o เบญจศลี o ทุจรติ ๓ ทำความดี o เบญจธรรม o สุจริต ๓ o พรหมวิหาร ๔ o กตญั ญูกตเวทตี ่อประเทศชาติ o มงคล ๓๘ - เคารพ - ถอ่ มตน - ทำความดีใหพ้ รอ้ มไวก้ อ่ น ทำจิตให้บรสิ ุทธ์ิ (บรหิ ารจิตและเจรญิ ปัญญา) ➢ พุทธศาสนสุภาษติ สุขา สงฆฺ สฺส สามคฺคี ความพรอ้ มเพรยี งของหมู่ให้เกิดสขุ o โลโกปตฺถมฺภิกา เมตฺตา ๕. ชื่นชมการทำความดขี องตนเอง บุคคล เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก ในครอบครัว โรงเรยี นและชมุ ชนตาม ตวั อยา่ งการกระทำความดีของตนเองและ หลกั ศาสนา พรอ้ มท้งั บอกแนวปฏบิ ตั ิ ในการดำเนนิ ชีวติ บุคคลในครอบครัว ในโรงเรียน และใน 6. เหน็ คณุ ค่าและสวดมนต์แผ่เมตตามีสติท่ี ชุมชน เป็นพ้นื ฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา ◆ สวดมนตไ์ หวพ้ ระ สรรเสรญิ คณุ พระ-
29 ชั้น ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง หรอื การพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนา รัตนตรัยและแผ่เมตตา ที่ตนนบั ถือตามทีก่ ำหนด รคู้ วามหมายของสตสิ มั ปชัญญะ สมาธแิ ละ ปัญญา รวู้ ิธปี ฏิบัติของการบริหารจติ และเจรญิ ปญั ญา ฝึกการยืน การเดนิ การน่ัง และการนอน อยา่ ง มสี ติ ฝกึ การกำหนดรู้ความรู้สึก เม่อื ตาเหน็ รปู หูฟัง เสียง จมูกดมกลิน่ ล้ินลม้ิ รส กายสมั ผัสสง่ิ ท่ีมากระทบ ใจรบั รูธ้ รรมารมณฝ์ กึ ให้มสี มาธิ ในการฟงั การอา่ น การคิด การถาม และการเขยี น ๗. ปฏบิ ัตติ นตามหลักธรรมของศาสนา ◆ หลกั ธรรมเพอื่ การอยู่รว่ มกนั อยา่ งสมานฉนั ท์ ท่ีตนนับถอื เพ่ือการอยรู่ ่วมกันเป็นชาติได้ o เบญจศีล – เบญจธรรม อย่างสมานฉนั ท์ o ทุจรติ ๓ – สุจริต ๓ o พรหมวหิ าร ๔ o มงคล ๓๘ - เคารพ - ถอ่ มตน - ทำความดใี ห้พรอ้ มไว้ก่อน o พุทธศาสนสภุ าษิต : ความพรอ้ มเพรียง ของหมู่ใหเ้ กดิ สุข เมตตาธรรมค้ำจุนโลก กตัญญกู ตเวทีตอ่ ประเทศชาติ ๘. อธิบายประวตั ศิ าสดาของศาสนาอน่ื ๆ ประวตั ศิ าสดา โดยสงั เขป o พระพุทธเจ้า o มฮุ ัมมัด o พระเยซู ป.๕ ๑. วเิ คราะห์ความสำคญั ของ ➢ มรดกทางวฒั นธรรมทไ่ี ดร้ บั จากพระพุทธศาสนา พระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ o มรดกทางด้านรปู ธรรม เชน่ ศาสนสถาน ในฐานะทเ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม โบราณวัตถุ สถาปัตยกรรม และหลักในการพัฒนาชาตไิ ทย o มรดกทางด้านจติ ใจ เชน่ หลักธรรมคำส่ัง- สอน ความเช่อื และคุณธรรมต่าง ๆ
30 ช้ัน ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง การนำพระพุทธศาสนาไปใช้เป็นแนวทาง ๒. สรปุ พุทธประวัตติ ้ังแตเ่ สด็จกรุง- ในการพัฒนาชาติไทย กบลิ พัสดจ์ุ นถึงพุทธกจิ สำคัญ หรอื o พฒั นาด้านกายภาพ และสง่ิ แวดล้อม เช่น ประวตั ศิ าสดาที่ตนนบั ถือตามท่ีกำหนด ๓. เหน็ คุณค่า และประพฤตติ นตาม ภาวนา ๔ (กาย ศีล จิต ปัญญา) แบบอยา่ งการดำเนินชวี ิตและข้อคดิ ไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) และอริยสัจ จากประวัติสาวก ชาดก/เรือ่ งเลา่ ๔ พฒั นาจิตใจ เช่น หลกั โอวาท ๓ (ละ และศาสนกิ ชนตัวอย่าง ตามทกี่ ำหนด ความชั่ว ทำดี ทำจิตใจใหบ้ ริสุทธ)ิ์ และการ บรหิ ารจิตและเจริญปญั ญา สรุปพทุ ธประวตั ิ (ทบทวน) โปรดพระพุทธบดิ า (เสด็จกรงุ กบิลพัสด)์ุ พทุ ธกจิ สำคญั ได้แก่ โลกตั ถจริยา ญาตัตถจริยา และพทุ ธตั ถจรยิ า พระโสณโกฬิวสิ ะ จฬู เสฏฐิชาดก วัณณาโรหชาดก สมเด็จพระสังฆราช (สา) อาจารย์เสถยี ร โพธนิ ันทะ ๔. อธิบายองคป์ ระกอบ และความสำคัญ ➢ องคป์ ระกอบของพระไตรปิฎก ของพระไตรปิฎก หรือคมั ภีร์ของศาสนา พระสตุ ตนั ตปิฎก ทตี่ นนบั ถอื พระวินยั ปฎิ ก พระอภธิ รรมปิฎกความสำคญั ๕. แสดงความเคารพพระรัตนตรยั ของพระไตรปิฎก และปฏบิ ัติตามไตรสิกขาและหลักธรรม โอวาท ๓ ในพระพุทธศาสนาหรือ ➢ พระรัตนตรัย หลกั ธรรมของศาสนาท่ตี นนับถอื o ศรัทธา ๔ ตามที่กำหนด พระพทุ ธ o พทุ ธจริยา ๓ พระธรรม o อริยสจั ๔ o หลกั กรรม
ช้ัน ตวั ชว้ี ัด 31 ๖. เห็นคุณค่าและสวดมนต์แผ่เมตตา สาระการเรียนรแู้ กนกลาง มีสตทิ ี่เปน็ พ้ืนฐานของสมาธใิ น พระสงฆ์ พระพุทธศาสนา หรอื การพัฒนาจิต ➢ ไตรสกิ ขา ตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนับถือ ศีล สมาธิ ปัญญา ตามทก่ี ำหนด ➢ โอวาท ๓ ไม่ทำช่ัว o เบญจศลี อบายมุข ๔ ทำความดี o เบญจธรรม o บญุ กริ ิยาวตั ถุ ๓ o อคติ ๔ o อิทธบิ าท ๔ o กตัญญูกตเวทีตอ่ พระพทุ ธศาสนา o มงคล ๓๘ - ใฝ่รู้ ใฝเ่ รียน - การงานไม่อากูล - อดทน ทำจิตให้บริสุทธิ์(บรหิ ารจติ และเจรญิ ปญั ญา) ➢ พุทธศาสนสุภาษิต วริ เิ ยน ทกุ ฺขมจเฺ จติ คนจะล่วงทกุ ขไ์ ดเ้ พราะความเพียร ปญญฺ า โลกสฺมิ ปชโฺ ชโต ปญั ญา คอื แสงสว่างในโลก ➢ สวดมนตไ์ หวพ้ ระ สรรเสริญ คุณพระรตั นตรยั และแผ่เมตตา ร้คู วามหมายของสติสัมปชัญญะ สมาธิ และปญั ญา รูว้ ิธีปฏบิ ัติและประโยชน์ของการบริหารจิต และเจรญิ ปัญญา ฝึกการยืน การเดิน การนง่ั และ การนอน อย่างมีสติ
32 ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ฝกึ การกำหนดรูค้ วามรู้สึก เม่ือตา เห็นรูป หฟู งั เสียง จมกู ดมกลิ่น ลิน้ ลมิ้ รส กายสัมผัสสงิ่ ท่มี ากระทบใจรบั รธู้ รรมารมณ์ ฝึกใหม้ สี มาธิในการฟัง การอา่ น การคดิ การถามและการเขียน ๗. ปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมของศาสนา ◆ โอวาท ๓ (ตามสาระการเรยี นรขู้ อ้ ๕) ที่ตนนบั ถือ เพอ่ื การพัฒนาตนเอง และสงิ่ แวดลอ้ ม ป.๖ ๑. วิเคราะหค์ วามสำคญั ของพระพุทธ- ◆ พระพุทธศาสนาในฐานะเปน็ ศาสนาประจำ ศาสนาในฐานะเปน็ ศาสนาประจำชาติ ชาติ เช่น เปน็ เอกลักษณ์ของชาติไทย หรอื ความสำคัญของศาสนาท่ีตนนบั ถือ เปน็ รากฐานทางวฒั นธรรมไทย เปน็ ศูนย์รวม จติ ใจ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมไทย ๒. สรุปพุทธประวตั ติ งั้ แตป่ ลงอายุสังขาร และเป็นหลักในการพัฒนาชาตไิ ทย สรุปพุทธประวตั ิ (ทบทวน) จนถงึ สงั เวชนยี สถาน หรือประวตั ศิ าสดา ปลงอายุสงั ขาร ที่ตนนบั ถือตามที่กำหนด ปจั ฉมิ สาวก ปรนิ พิ พาน ๓. เห็นคณุ ค่าและประพฤตติ นตาม การถวายพระเพลิง แจกพระบรมสารรี กิ ธาตุ ◆ สังเวชนียสถาน ๔ พระราธะ แบบอยา่ งการดำเนนิ ชวี ิตและข้อคดิ จาก ทฆี ตี ิโกสลชาดก ประวัตสิ าวก ชาดก/เร่อื งเล่า สัพพทาฐชิ าดก และศาสนิกชนตัวอย่างตามทก่ี ำหนด พอ่ ขุนรามคำแหงมหาราช ◆ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรม-พระปรมานุ- ชิตชโิ นรส ๔. วเิ คราะห์ความสำคญั และเคารพ ➢ พระรัตนตรัย พระรตั นตรยั ปฏิบัตติ ามไตรสกิ ขา o ศรัทธา ๔ พระพทุ ธ และหลักธรรมโอวาท ๓ ในพระพทุ ธศาสนา o พทุ ธกิจ ๕ หรือหลักธรรมของศาสนาท่ตี นนบั ถอื พระธรรม o อรยิ สัจ ๔ ตามทีก่ ำหนด o หลักกรรม พระสงฆ์ ➢ ไตรสกิ ขา ศีล สมาธิ ปญั ญา ➢ โอวาท ๓ ไมท่ ำชั่ว o เบญจศีล
33 ช้ัน ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง o อบายมุข ๖ o อกศุ ลมูล ๓ ทำความดี o เบญจธรรม o กุศลมูล ๓ o พละ ๔ o คารวะ ๖ o กตัญญูกตเวทตี อ่ พระมหากษตั ริย์ o มงคล ๓๘ - มีวนิ ยั - การงานไมม่ โี ทษ - ไมป่ ระมาทในธรรม ทำจติ ให้บริสทุ ธิ์ (บริหารจิตและเจริญ ปญั ญา) ➢ พทุ ธศาสนสภุ าษิต สจเฺ จน กิตฺตึ ปปโฺ ปติ คนจะได้เกยี รตดิ ว้ ยสัจจะ ยถาวาที ตถาการี พูดเชน่ ไร ทำเชน่ นนั้ ๕. ชื่นชมการทำความดีของบคุ คลใน ตัวอย่างการกระทำความดีของบุคคลใน ประเทศตามหลักศาสนา พร้อมท้ัง ประเทศ บอกแนวปฏบิ ัตใิ นการดำเนินชีวิต ๖. เหน็ คุณค่าและสวดมนตแ์ ผ่เมตตา สวดมนตไ์ หว้พระ สรรเสรญิ และบรหิ ารจิตเจริญปญั ญา มีสติทีเ่ ปน็ พืน้ ฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนา คุณพระรัตนตรยั และแผ่เมตตา หรือการพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนา รู้ความหมายของสติสมั ปชญั ญะ สมาธิและ ท่ีตนนับถือ ตามทีก่ ำหนด ปญั ญา รู้วธิ ปี ฏิบตั ิและประโยชน์ของการบริหารจติ และเจริญปญั ญา ฝึกการยืน การเดิน การน่ัง และ การนอน อย่างมีสติ ฝกึ การกำหนดรคู้ วามรูส้ ึกเมอ่ื ตาเหน็ รูป หู ฟงั เสยี ง จมกู ดมกลน่ิ ลิน้ ล้ิมรส กายสมั ผสั ส่ิง
ช้ัน ตัวช้วี ัด 34 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ท่มี ากระทบ ใจรับรธู้ รรมารมณ์ ฝึกให้มีสมาธใิ นการฟัง การอา่ น การคดิ การถาม และการเขียน ๗. ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา ◆ หลกั ธรรม : อรยิ สจั ๔ หลกั กรรม ทตี่ นนบั ถอื เพอ่ื แกป้ ญั หาอบายมุข ◆ โอวาท ๓ : เบญจศีล – เบญจธรรม และ สิ่งเสพติด ๘. อธบิ ายหลกั ธรรมสำคัญของศาสนา อบายมขุ ๖ อกุศลมูล ๓ กุศลมลู ๓ อืน่ ๆ โดยสงั เขป ➢ หลกั ธรรมสำคญั ของศาสนาตา่ ง ๆ ๙. อธบิ ายลักษณะสำคัญของศาสนพธิ ี ◆ พระพทุ ธศาสนา : อรยิ สัจ ๔ โอวาท ๓ฯลฯ พธิ ีกรรมของศาสนาอื่น ๆ และปฏิบัตติ น ◆ ศาสนาอิสลาม : หลกั ศรทั ธา ได้อยา่ งเหมาะสมเมอ่ื ต้องเข้าร่วมพธิ ี หลกั ปฏิบัติ หลกั จรยิ ธรรม ◆ ครสิ ต์ศาสนา : บญั ญตั ิ ๑๐ ประการ ➢ ศาสนพิธีของศาสนาตา่ ง ๆ ◆ พระพทุ ธศาสนา o ศาสนพิธที ่เี ป็นพทุ ธบัญญัติ เชน่ บรรพชา อุปสมบท o ศาสนพธิ ีทีเ่ ก่ยี วเน่ืองกับพระพุทธศาสนา เช่น ทำบุญพิธีเนือ่ งในวันสำคญั ทางศาสนา o ศาสนาอิสลาม เชน่ การละหมาด การถือศลี อด การบำเพ็ญฮจั ญ์ ฯลฯ o ครสิ ตศ์ าสนา เช่น ศลี ลา้ งบาป ศีลอภยั บาป ศลี กำลัง ศีลมหาสนิท ฯลฯ o ศาสนาฮนิ ดู เชน่ พธิ ีศราทธ์ พธิ ีบูชาเทวดา
35 สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏบิ ัตติ นเป็นศาสนกิ ชนทีด่ ี และธำรงรกั ษาพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทีต่ นนบั ถอื ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๑ ๑. บำเพญ็ ประโยชน์ต่อวัด หรอื ศาสน ➢ การบำเพญ็ ประโยชน์ต่อวดั หรือศาสน- สถานของศาสนาท่ีตนนบั ถอื สถาน การพัฒนาทำความสะอาด การบริจาค การร่วมกจิ กรรมทางศาสนา ๒. แสดงตนเปน็ พุทธมามกะ หรือแสดงตน ➢ การแสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะ เป็นศาสนกิ ชนของศาสนาทตี่ น ขนั้ เตรียมการ นับถอื ขัน้ พธิ ีการ ๓. ปฏบิ ัติตนในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม ➢ ประวตั โิ ดยสังเขปของวันสำคัญทาง และ วันสำคัญทางศาสนา ตามท่ีกำหนด พระพทุ ธศาสนา ได้ถกู ตอ้ ง วนั มาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วนั อฏั ฐมีบชู า ➢ การบชู าพระรัตนตรยั ป.๒ ๑. ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมตอ่ สาวก ➢ การฝกึ ปฏิบัตมิ รรยาทชาวพุทธ ของศาสนาทีต่ นนับถอื ตามที่กำหนด การพนมมอื ไดถ้ ูกต้อง การไหว้ การกราบ การนงั่ การยืน การเดนิ ๒. ปฏิบัตติ นในศาสนพธิ ี พธิ ีกรรม การเขา้ ร่วมกจิ กรรมและพธิ กี รรม และวนั สำคัญทางศาสนา ตามทก่ี ำหนด ท่ีเกี่ยวเนื่องกบั วันสำคญั ทางพุทธศาสนา ได้ถูกต้อง ระเบียบพธิ ีการบชู าพระรัตนตรัย การทำบุญตักบาตร ป.๓ ๑. ปฏบิ ัตติ นอยา่ งเหมาะสมตอ่ สาวก ➢ ฝึกปฏิบตั มิ รรยาทชาวพทุ ธ ศาสนสถาน ศาสนวัตถุของศาสนาที่ การลกุ ข้นึ ยืนรบั ตนนบั ถอื ตามที่กำหนดได้ถูกตอ้ ง การต้อนรบั
36 ช้ัน ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง การรับ – ส่งสิ่งของแกพ่ ระภิกษุ มรรยาทในการสนทนา การสำรวมกริ ิยามารยาท การแต่ง กายที่เหมาะสมเม่อื อยใู่ นวัดและ พทุ ธสถาน การดแู ลรกั ษาศาสนวัตถุและ ศาสนสถาน ๒. เห็นคุณค่า และปฏบิ ัตติ นในศาสนพธิ ี การอาราธนาศีล พิธกี รรม และวนั สำคัญทางศาสนา การสมาทานศีล ตามทีก่ ำหนดไดถ้ ูกต้อง เครือ่ งประกอบโต๊ะหมบู่ ชู า การจดั โตะ๊ หมูบ่ ูชา ๓. แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ หรือแสดงตน ➢ ความเป็นมาของการแสดงตนเปน็ เปน็ ศาสนกิ ชนของศาสนาท่ีตนนบั ถอื พุทธมามกะ ➢ การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ ขั้นเตรยี มการ ข้ันพิธกี าร ป.๔ ๑. อภิปรายความสำคญั และมสี ่วนร่วม ความรเู้ บอ้ื งตน้ และความสำคญั ของ ในการบำรงุ รักษาศาสนสถานของศาสนา ศาสนสถาน ท่ีตนนับถอื การแสดงความเคารพต่อศาสนสถาน การบำรุงรักษาศาสนสถาน ๒. มมี รรยาทของความเปน็ ศาสนกิ ชนท่ดี ี การปฏิบัตติ นที่เหมาะสมตอ่ พระภกิ ษุ ตามทก่ี ำหนด การยนื การเดนิ และการนั่งทเี่ หมาะสม ในโอกาสตา่ ง ๆ ๓. ปฏิบตั ิตนในศาสนพธิ ี พิธีกรรมและวนั การอาราธนาศลี สำคญั ทางศาสนา ตามทีก่ ำหนดไดถ้ ูกต้อง การอาราธนาธรรม การอาราธนาพระปรติ ร ระเบยี บพิธีและการปฏบิ ัติตนในวนั ธรรม- สวนะ ป.๕ ๑. จดั พิธีกรรมตามศาสนาท่ีตนนบั ถอื การจดั พิธีกรรมทเ่ี รยี บง่าย ประหยดั อยา่ งเรยี บงา่ ย มปี ระโยชน์ และปฏิบตั ิตน มีประโยชน์ และถกู ตอ้ งตามหลักทาง ถูกตอ้ ง ศาสนาที่ตนนับถือ
37 ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๒. ปฏิบัตติ นในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม และวัน การมสี ่วนรว่ มในการจดั เตรยี มสถานท่ี สำคญั ทางศาสนา ตามทก่ี ำหนด และ ประกอบศาสนพิธี พิธกี รรมทางศาสนา อภปิ รายประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากการเขา้ ร่วม พิธถี วายสงั ฆทาน เคร่ืองสงั ฆทาน กิจกรรม ระเบยี บพิธใี นการทำบุญงานมงคล ประโยชน์ของ การเขา้ รว่ มศาสนพิธี พธิ ีกรรมทางศาสนา หรือกจิ กรรม ในวนั สำคญั ทางศาสนา ๓. มมี รรยาทของความเป็นศาสนิกชนทด่ี ี การกราบพระรัตนตรยั ตามท่กี ำหนด การไหวบ้ ดิ า มารดา ครู/อาจารย์ ผทู้ ่เี คารพนบั ถอื การกราบศพ ป.๖ ๑. อธิบายความร้เู กี่ยวกบั สถานท่ีตา่ งๆ ความรู้เบื้องต้นเก่ยี วกบั สถานท่ตี ่าง ๆ ในศาสนสถาน และปฏบิ ัตติ น ภายในวดั เช่น เขตพทุ ธาวาส สงั ฆาวาส ได้อย่างเหมาะสม การปฏบิ ัติตนทเี่ หมาะสมภายในวัด ๒. มมี รรยาทของความเปน็ ศาสนกิ ชนท่ีดี การถวายของแกพ่ ระภกิ ษุ ตามทกี่ ำหนด การปฏบิ ัติตนในขณะฟังธรรม การปฏิบัติตนตามแนวทางของ พุทธศาสนกิ ชน เพอ่ื ประโยชน์ต่อศาสนา ๓. อธบิ ายประโยชน์ของการเข้าร่วม ทบทวนการอาราธนาศีล อาราธนาธรรม ใน ศาสนพิธี พธิ กี รรม และกจิ กรรม และอาราธนาพระปริตร ในวันสำคัญทางศาสนา ตามทกี่ ำหนด พธิ ที อดผา้ ปา่ พิธที อดกฐนิ และปฏิบตั ิตนไดถ้ ูกต้อง ระเบยี บพิธใี นการทำบุญงานอวมงคล การปฏิบตั ิตนทถี่ ูกตอ้ งในศาสนพิธี พธิ กี รรม และวันสำคญั ทางศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วนั วสิ าขบูชา วนั อัฐมีบูชา วนั อาสาฬหบูชา วนั ธรรมสวนะ ประโยชน์ของการเขา้ รว่ มในศาสนพิธ/ี พิธกี รรม และวันสำคญั ทางศาสนา ๔. แสดงตนเปน็ พุทธมามกะ หรือแสดงตน ➢ การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ เปน็ ศาสนิกชนของศาสนาทต่ี นนบั ถือ o ขั้นเตรียมการ o ข้นั พธิ กี าร
38 สาระที่ ๒ หนา้ ทพี่ ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชีวติ ในสงั คม มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏิบัติตนตามหนา้ ที่ของการเปน็ พลเมอื งดี มีค่านิยมทดี่ ีงามและธำรงรักษา ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ติ อย่รู ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ติสุข ชั้น ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๑ ๑. บอกประโยชนแ์ ละปฏิบตั ติ น การเปน็ สมาชิกทด่ี ีของครอบครัวและ เปน็ สมาชกิ ท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียน โรงเรยี น เชน่ o กตญั ญูกตเวทแี ละเคารพรับฟัง คำแนะนำของพอ่ แม่ ญาติผใู้ หญ่ และครู o รู้จกั กลา่ วคำขอบคุณ ขอโทษ การไหวผ้ ้ใู หญ่ o ปฏิบัติตาม ขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบยี บ ของครอบครวั และโรงเรียน o มสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมของครอบครวั และโรงเรียน o มเี หตผุ ลและยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผูอ้ ่ืน o มีระเบียบ วนิ ยั มนี ้ำใจ ประโยชน์ของการปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกทดี่ ี ของครอบครวั และโรงเรยี น ๒. ยกตัวอยา่ งความสามารถและความดี ลกั ษณะความสามารถและลกั ษณะ ความดี ของตนเองผู้อนื่ และบอกผลจากการ ของตนเองและผอู้ ่นื เชน่ กระทำนัน้ o ความกตัญญกู ตเวที o ความมีระเบยี บวินยั o ความรบั ผิดชอบ o ความขยนั o การเอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่และช่วยเหลือผอู้ ่ืน o ความซ่ือสัตยส์ ุจรติ o ความเมตตากรุณา ผลของการกระทำความดี เช่น o ภาคภูมิใจ o มีความสุข o ไดร้ ับการชน่ื ชม ยกย่อง ป.๒ ๑. ปฏิบัตติ นตามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ หน้าท่ี ระเบยี บและหนา้ ทีท่ ีต่ อ้ งปฏิบัติ
39 ช้ัน ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ในชวี ติ ประจำวนั ทีต่ ้องปฏบิ ัติในครอบครัว โรงเรียน สถานท่ี สาธารณะ เช่น โรงภาพยนต์ โบราณสถาน ฯลฯ ๒. ปฏบิ ัติตนตนตามมารยาทไทย มารยาทไทย เช่น การแสดงความเคารพ การยืน การเดิน การนัง่ การนอน การทักทาย การรับประทาน ๓. แสดงพฤตกิ รรมในการยอมรับความคดิ การยอมรับความแตกต่างของคนในสังคม ความเช่ือและการปฏบิ ัติของบุคคลอืน่ ในเร่ือง ความคิด ความเชอ่ื ความสามารถ ทแ่ี ตกตา่ งกนั โดยปราศจากอคติ และการปฏบิ ตั ิตนของบุคคลอนื่ ที่ แตกต่างกนั เชน่ o บุคคลย่อมมีความคดิ ทม่ี ีเหตผุ ล o การปฏบิ ตั ิตนตามพิธีกรรมตามความ เช่อื ของบุคคล o บุคคลย่อมมีความสามารถแตกตา่ งกัน o ไมพ่ ดู หรอื แสดงอาการดูถูกรังเกียจผอู้ ืน่ ในเรอ่ื งของรูปรา่ งหน้าตา สีผม สผี วิ ท่ี แตกตา่ งกัน ๔. เคารพในสทิ ธิ เสรีภาพของผอู้ นื่ สิทธสิ ่วนบุคคล เช่น o สทิ ธแิ สดงความคิดเห็น o สิทธเิ สรีภาพในร่างกาย o สทิ ธิในทรพั ย์สิน ป.๓ ๑. สรปุ ประโยชน์และปฏบิ ัติตนตาม ประเพณแี ละวฒั นธรรมในครอบครัว ประเพณแี ละวฒั นธรรมในครอบครวั เชน่ การแสดงความเคารพและการเชอื่ ฟัง และทอ้ งถ่ิน ผู้ใหญ่ การกระทำกิจกรรมร่วมกัน ในครอบครวั ประเพณีและวฒั นธรรมในท้องถ่ิน เช่น การเข้ารว่ มประเพณีทางศาสนา ประเพณี เกี่ยวกับการดำเนินชีวติ ประโยชนข์ องการ ปฏบิ ตั ิตนตามประเพณแี ละวัฒนธรรมใน ครอบครวั และท้องถ่ิน ๒. บอกพฤตกิ รรมการดำเนินชีวติ พฤติกรรมของตนเองและเพื่อน ๆ ของตนเอง และผู้อน่ื ที่อย่ใู นกระแส ในชีวติ ประจำวัน เชน่ การทักทาย วฒั นธรรมทหี่ ลากหลาย การทำความเคารพ การปฏบิ ัตติ าม ศาสนพิธี การรับประทานอาหาร
40 ช้นั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง การใชภ้ าษา (ภาษาถ่ินกบั ภาษาราชการ และ ภาษาอน่ื ๆ ฯลฯ ) สาเหตทุ ่ีทำให้พฤตกิ รรมการดำเนินชีวิตใน ปัจจบุ ันของนักเรยี น และผู้อน่ื แตกตา่ งกัน ๓. อธิบายความสำคัญของวนั หยดุ ราชการ วนั หยุดราชการทสี่ ำคญั เชน่ ที่สำคัญ o วนั หยดุ เกี่ยวกับชาตแิ ละพระมหากษัตรยิ ์ เช่น วันจกั รี วนั รฐั ธรรมนญู วนั ฉตั ร มงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา o วนั หยดุ ราชการเกย่ี วกับศาสนา เชน่ วนั มาฆบชู า วนั วิสาขบชู า วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา วันหยดุ ราชการเกย่ี วกับประเพณีและ วัฒนธรรม เช่น วนั สงกรานต์ วันพชื มงคล ๔. ยกตวั อย่างบคุ คลซ่งึ มีผลงาน บุคคลท่ีมีผลงานเป็นประโยชน์แกช่ ุมชน ที่เปน็ ประโยชนแ์ ก่ชุมชนและทอ้ งถ่ิน และท้องถนิ่ ของตน ของตน ลกั ษณะผลงานท่ีเปน็ ประโยชน์แกช่ มุ ชน และทอ้ งถิ่น ป.๔ ๑. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมืองดตี ามวิถี การเข้าร่วมกจิ กรรมประชาธิปไตย ประชาธปิ ไตยในฐานะสมาชกิ ท่ีดี ของชมุ ชน เชน่ การรณรงค์การเลอื กตั้ง ของชุมชน แนวทางการปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชิกทีด่ ี ของชุมชน เช่น อนุรกั ษส์ ่งิ แวดลอ้ ม สาธารณ-สมบตั ิ โบราณวัตถุ และโบราณสถาน การพัฒนาชมุ ชน ๒. ปฏิบตั ติ นในการเป็นผนู้ ำและผ้ตู าม การเปน็ ผนู้ ำและผู้ตามที่ดี ที่ดี - บทบาทและความรับผิดชอบของผู้นำ - บทบาทและความรับผิดชอบของผู้ตาม หรือสมาชิก - การทำงานกล่มุ ใหม้ ปี ระสิทธผิ ลและ ประสิทธิภาพ และประโยชน์ของการทำงาน เปน็ กล่มุ
41 ชั้น ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๓. วิเคราะห์สทิ ธิพนื้ ฐานท่เี ดก็ ทุกคน สิทธิพ้ืนฐานของเดก็ เช่น สทิ ธิทจี่ ะมชี ีวิต พึงไดร้ บั ตามกฎหมาย สิทธทิ จ่ี ะได้รับการปกปอ้ ง สิทธทิ ่ีจะได้รบั การพฒั นา สิทธทิ จี่ ะมสี ว่ นรว่ ม ๔. อธบิ ายความแตกต่างทางวฒั นธรรม วฒั นธรรมในภาคต่างๆ ของไทยที่แตกตา่ ง ของกล่มุ คนในท้องถ่ิน กัน เชน่ การแต่งกาย ภาษา อาหาร ๕. เสนอวธิ ีการทจ่ี ะอย่รู ่วมกันอย่าง ปัญหาและสาเหตขุ องการเกดิ ความขัดแย้ง สันติสขุ ในชวี ิตประจำวัน ในชีวิตประจำวนั แนวทางการแก้ปัญหาความขัดแยง้ ดว้ ยสันติ วธิ ี ป.๕ ๑. ยกตวั อย่างและปฏบิ ัติตนตาม สถานภาพ บทบาท สิทธิเสรภี าพ สถานภาพ บทบาท สทิ ธิเสรีภาพ หนา้ ท่ีของพลเมืองดี เช่น เคารพ เทิดทูน และหน้าท่ีในฐานะพลเมืองดี สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ อนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ อนุรกั ษ์ ศิลปวัฒนธรรม ปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย คุณลักษณะของพลเมืองดี เชน่ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ สว่ นตน มคี วามรับผิดชอบ เสยี สละ ๒. เสนอวิธกี ารปกป้องคุ้มครองตนเอง เหตกุ ารณ์ท่ีละเมดิ สทิ ธเิ ด็กในสังคมไทย หรือผู้อ่ืนจากการละเมดิ สิทธิเดก็ แนวทางการปกป้องคุ้มครองตนเองหรือผูอ้ ่ืน จากการละเมดิ สิทธเิ ดก็ การปกปอ้ งคมุ้ ครองสทิ ธิเดก็ ในสังคมไทย ๓. เห็นคุณค่าวัฒนธรรมไทยท่ีมผี ลต่อ วัฒนธรรมไทย ทม่ี ผี ลตอ่ การดำเนินชีวติ ของ การดำเนนิ ชีวิตในสงั คมไทย คนในสงั คมไทย คุณค่าของวัฒนธรรมกับการดำเนนิ ชีวิต ๔. มสี ่วนรว่ มในการอนรุ ักษ์และเผยแพร่ ความสำคญั ของภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ินของชุมชน ตวั อย่างภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ ในชมุ ชนของตน การอนรุ ักษ์และเผยแพรภ่ ูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ของชุมชน
42 ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๖ ๑. ปฏบิ ัติตามกฎหมายท่ีเกีย่ วขอ้ งกับ กฎหมายท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั ชวี ติ ประจำวนั เชน่ ชวี ติ ประจำวันของครอบครวั และชุมชน - กฎหมายจราจร - กฎหมายทะเบียนราษฎร - กฎหมายยาเสพติดใหโ้ ทษ - เทศบญั ญตั ิ ขอ้ บญั ญตั ิ อบต. อบจ. ประโยชนข์ องการปฏบิ ัตติ นตามกฎหมาย ดงั กล่าว ๒. วิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงวฒั นธรรม ความหมายและประเภทของวฒั นธรรม ตามกาลเวลาและธำรงรกั ษาวฒั นธรรม การเปลยี่ นแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลาท่ีมี อันดงี าม ผลตอ่ ตนเองและสงั คมไทย แนวทางการธำรงรกั ษาวัฒนธรรมไทย ๓. แสดงออกถงึ มารยาทไทยได้เหมาะสม ความหมายและสำคัญของมารยาทไทย ถูกกาลเทศะ มารยาทไทยและมารยาทสงั คม เชน่ การ แสดงความเคารพ การยนื การเดิน การนงั่ การนอน การรับของสง่ ของ การรบั ประทาน อาหาร การแสดงกริ ิยาอาการ การทักทาย การสนทนา การใช้คำพูด ๔. อธบิ ายคุณค่าทางวัฒนธรรมท่ีแตกตา่ ง ประโยชน์และคุณคา่ ทางวัฒนธรรม กนั ระหว่างกลุ่มคนในสงั คมไทย ความแตกตา่ งทางวัฒนธรรมระหว่างกลุม่ คน ภาคต่าง ๆ ในสงั คมไทย แนวทางการรักษาวฒั นธรรม ๕. ติดตามข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์ต่าง ๆ ข้อมูล ข่าวสาร เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ เช่น วิทยุ ในชีวิตประจำวนั เลอื กรบั และใช้ข้อมูล โทรทศั น์ หนังสอื พิมพ์ แหล่งข่าวต่าง ๆ ข่าวสารในการเรียนรไู้ ด้เหมาะสม สถานการณ์จริง ประโยชน์จากการติดตามขอ้ มูล ข่าวสาร เหตกุ ารณ์ต่างๆ หลักการเลอื กรับและใชข้ ้อมูล ขา่ วสาร จากสอื่ ตา่ ง ๆ รวมทั้งส่ือทีไ่ รพ้ รมแดน
43 สาระที่ ๒ หนา้ ท่ีพลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชีวติ ในสังคม มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปัจจบุ นั ยึดมัน่ ศรัทธาและธำรงรกั ษาไว้ซง่ึ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข ช้นั ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๑ ๑. บอกโครงสร้าง บทบาทและหน้าท่ี โครงสร้างของครอบครัวและความสัมพันธ์ ของสมาชิกในครอบครัวและโรงเรียน ของบทบาท หน้าท่ขี องสมาชิกในครอบครัว โครงสร้างของโรงเรียน ความสมั พนั ธ์ของ บทบาท หน้าที่ของสมาชิกในโรงเรยี น ๒. ระบุบทบาท สทิ ธิ หนา้ ที่ของตนเอง ความหมายและความแตกต่างของอำนาจ ในครอบครวั และโรงเรียน ตามบทบาท สทิ ธิ หนา้ ทใี่ นครอบครวั และโรงเรยี น การใชอ้ ำนาจในครอบครวั ตามบทบาท สทิ ธิหนา้ ท่ี ๓. มสี ่วนร่วมในการตัดสินใจและทำ กิจกรรมตามกระบวนการประชาธปิ ไตย กิจกรรมในครอบครวั และโรงเรียน ในครอบครวั เช่น การแบ่งหนา้ ท่ี ตามกระบวนการประชาธปิ ไตย ความรับผิดชอบในครอบครัว การรับฟงั และแสดงความคิดเห็น กิจกรรมตามกระบวนการประชาธปิ ไตย ในโรงเรียน เช่น เลือกหัวหน้าหอ้ ง ประธาน ชมุ นมุ ประธานนกั เรยี น ป.๒ ๑. อธบิ ายความสมั พนั ธข์ องตนเอง และ ความสมั พนั ธ์ของตนเอง และสมาชิก สมาชิกในครอบครวั ในฐานะเป็นสว่ นหนึง่ ในครอบครัวกบั ชุมชน เช่น การช่วยเหลือ ของชุมชน กจิ กรรมของชมุ ชน ๒. ระบุผมู้ บี ทบาท อำนาจในการตดั สินใจ ผู้มีบทบาท อำนาจในการตัดสนิ ใจ ในโรงเรียน และชุมชน ในโรงเรียน และชมุ ชน เชน่ ผู้บรหิ าร สถานศกึ ษา ผูน้ ำทอ้ งถิ่น กำนนั ผู้ใหญบ่ ้าน ป.๓ ๑. ระบุบทบาทหนา้ ท่ีของสมาชิก บทบาทหน้าท่ขี องสมาชิกในชุมชน ของชุมชนในการมีส่วนร่วมในกิจกรรม การมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมตา่ ง ๆ ตาม ต่าง ๆ ตามกระบวนการประชาธิปไตย กระบวนการประชาธิปไตย
44 ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๒. วิเคราะหค์ วามแตกตา่ งของ การออกเสียงโดยตรงและการเลือกตวั แทน กระบวนการการตัดสินใจในช้นั เรยี น/ ออกเสยี ง โรงเรยี นและชมุ ชนโดยวธิ ีการออกเสยี ง โดยตรงและการเลือกตวั แทนออกเสยี ง ๓. ยกตัวอยา่ งการเปล่ยี นแปลงในช้ัน การตัดสินใจของบคุ คลและกล่มุ ที่มีผลต่อ เรียน/โรงเรยี นและชมุ ชนทเี่ ปน็ ผล การเปลีย่ นแปลงในช้นั เรยี น โรงเรียน จากการตัดสนิ ใจของบุคคลและกลมุ่ และชมุ ชน การเปลย่ี นแปลงในชน้ั เรียน เชน่ การเลือกหัวหนา้ ห้อง การเลือก คณะกรรมการห้องเรียน การเปลีย่ นแปลงในโรงเรยี น เช่น เลือก ประธานนักเรยี น เลือกคณะกรรมการ นักเรียน การเปลีย่ นแปลงในชุมชน เชน่ การเลือก ผู้ใหญบ่ า้ น กำนนั สมาชกิ อบต. อบจ. ป.๔ ๑. อธบิ ายอำนาจอธปิ ไตยและความสำคัญ อำนาจอธปิ ไตย ของระบอบประชาธิปไตย ความสำคญั ของการปกครองตามระบอบ ประชาธิปไตย ๒. อธิบายบทบาทหน้าท่ีของพลเมอื งใน บทบาทหน้าท่ีของพลเมอื งในกระบวน กระบวนการเลือกตง้ั การเลอื กต้งั ทงั้ ก่อนการเลือกตัง้ ระหว่าง การเลือกต้งั หลังการเลือกตัง้ ๓. อธิบายความสำคญั ของสถาบนั สถาบันพระมหากษตั ริยใ์ นสังคมไทย พระมหากษตั รยิ ต์ ามระบอบประชาธปิ ไตย ความสำคัญของสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ อันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ในสังคมไทย ป.๕ ๑. อธบิ ายโครงสร้าง อำนาจ หน้าท่ี โครงสรา้ งการปกครองในท้องถน่ิ เช่น และความสำคัญของการปกครองส่วน อบต. อบจ. เทศบาล และการปกครอง ท้องถ่ิน พิเศษ เชน่ พัทยา กทม. อำนาจหน้าทีแ่ ละความสำคญั ของการปกครองส่วนท้องถ่ิน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254