Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้วิชาสังคม ป.๑

แผนจัดการเรียนรู้วิชาสังคม ป.๑

Published by Jeerawan Patiwong, 2020-04-01 00:13:06

Description: แผนจัดการเรียนรู้วิชาสังคม ป.๑ แก้ไข

Search

Read the Text Version

2. ภาพวนั วสิ าขบชู า 3. ภาพพระพทุ ธเจา้ แสดงธรรมโปรดปัญจวคั คีย์ 4. ชิ้นงานท่ี 11 เร่ือง วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจชิ้นงานท่ี 11 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานท่ี 11 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา เกณฑ์การ 4 ระดบั คะแนน 1 ประเมนิ สารวจตนเอง 32 สารวจตนเอง ในการเขา้ ร่วม สารวจตนเอง สารวจตนเอง ในการเขา้ ร่วม สารวจตนเอง กิจกรรมใน ในการเขา้ ร่วม ในการเขา้ ร่วม กิจกรรมใน ในการเขา้ ร่วม วนั สาคญั ทาง กิจกรรมใน กิจกรรมใน วนั สาคญั ทาง กิจกรรมใน พระพทุ ธศาสนา วนั สาคญั ทาง วนั สาคญั ทาง พระพทุ ธศาสนา วนั สาคญั ทาง และเขียนอธิบาย พระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศาสนา และเขียนอธิบาย พระพทุ ธศาสนา หรือสรุปการ และเขียนอธิบาย และเขยี นอธิบาย หรือสรุปการ และเขียนอธิบาย ปฏบิ ตั ิตนได้ หรือสรุปการ หรือสรุปการ ปฏบิ ตั ติ นได้ แต่ หรือสรุปการ สมั พนั ธเ์ ช่ือมโยง ปฏบิ ตั ิตนได้ ปฏบิ ตั ิตนได้ ยงั ไม่สอดคลอ้ ง ปฏบิ ตั ิตน กนั แสดงใหเ้ ห็น มีการจาแนก สอดคลอ้ งกบั กบั ขอ้ มลู เขียน ภาพรวมทแ่ี สดง สมั พนั ธข์ อ้ มูล ขอ้ มูล มีการ ตามขอ้ มูลที่อ่าน แสดงให้เห็นถึง เขยี นอธิบาย

ถึงความสมั พนั ธ์ ความสมั พนั ธก์ บั ยกตวั อยา่ ง ไม่มกี ารอธิบาย กบั ตนเองและ ตนเองอยา่ ง เพมิ่ เติม เพมิ่ เติม ผอู้ ่ืน เป็นเหตุเป็นผล ใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย

บันทึกหลงั การสอน  ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทกึ ) ( นางสาวจีรวรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 หน่วยที่ 1 เรื่อง การเป็ นพลเมืองดี วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 3 ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหนา้ ทข่ี องการเป็ นพลเมืองดี มีคา่ นิยมท่ดี ีงามและธารงรักษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ติสุข ตวั ชี้วดั ป.1/1 บอกประโยชนแ์ ละปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน ป.1/2 ยกตวั อยา่ งความสามารถและความดีของตนเอง ผอู้ ่ืน และบอกผลจากการกระทาน้นั สาระสาคญั การเป็ นพลเมืองดีต้องรู้จกั การปฏิบัติตนเป็ นสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียน รู้จกั ใช้ ความสามารถและความดีของตนเอง เพอ่ื ทาประโยชน์ตอ่ ผอู้ ่ืน และเห็นความสามารถและความดีของผอู้ ื่น สาระการเรียนรู้ 1. รู้จกั หนา้ ทีแ่ ละทาประโยชน์ตอ่ ครอบครัวและโรงเรียน 2. รู้จกั ความสามารถและความดีของตนเองและผอู้ ่ืน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน 10. ชิ้นงานท่ี 12 เร่ือง ประโยชน์ของการปฏิบตั ติ นเป็ นสมาชิกทด่ี ีของครอบครวั และโรงเรียน 11. ชิ้นงานที่ 13 เรื่อง การทาความดีของตนเองและผอู้ ่ืน การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูนานิทานมาเล่าเปรียบเทียบการเป็ นสมาชิกทด่ี ีของสงั คม และใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การปฏิบตั ติ นในฐานะสมาชิกของครอบครวั และจาแนกการปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิก ท่ีดีของครอบครวั โดยครูสรุปคาตอบเป็นแผนภาพลงบนกระดาน

2. ให้ตวั แทนนกั เรียน 3-5 คน ออกมาเล่าประสบการณ์การปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิกที่ดีของครอบครัว หนา้ ช้นั เรียน และใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นโดยการตอบคาถาม 3. ใหน้ กั เรียนจาแนกประโยชนข์ องการปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกท่ดี ีของครอบครัว โดยครูสรุปคาตอบ เป็ นแผนภาพลงบนกระดาน 4. ครูนาสถานการณ์การปฏิบตั ิตนของนกั เรียนใหน้ กั เรียนฟัง จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความ คิดเห็นเก่ียวกบั การปฏิบตั ิตน ตามระเบยี บ กฎ และกติกาของโรงเรียน 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยการจาแนกการปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิกทีด่ ีของโรงเรียน และครูสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพ 6. ครูจดั บตั รคาใหน้ ักเรียนอ่าน จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แยกบตั รคาการปฏิบตั ิตน ที่เหมาะสม และการปฏิบตั ิตนทไ่ี ม่เหมาะสมในโรงเรียน ออกจากกนั 7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนกประโยชน์ของการปฏิบตั ติ นเป็ นสมาชิกท่ีดีของโรงเรียน โดยครูสรุป คาตอบเป็ นแผนภาพลงบนกระดาน 8. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถ และความดีของตนเองและการ ยอมรบั ความสามารถ และความดีของบคุ คลอ่ืน 9. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนกลกั ษณะความดีของตนเอง และบุคคลอ่ืน และความดีที่ควรปฏิบตั ิ 10. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลของการทาความดีของตนเองและผูอ้ ่ืนโดยสรุปคาตอบของ นกั เรียนเป็นแผนภาพ 11. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การเป็ นพลเมืองดีจะตอ้ งปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียน รู้จกั ใช้ ความสามารถของตนเอง เพอ่ื ทาประโยชนต์ ่อผอู้ ่ืน ช่วยใหส้ งั คมอยอู่ ยา่ งสงบสุขได้ สื่อการเรียนรู้ 14. เพลงเขา้ แถว 15. บตั รคา การปฏิบตั ิตนทเ่ี หมาะสมและไม่เหมาะสมในโรงเรียน 16. ช้ินงานท่ี 12 เรื่อง ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ิตนเป็ นสมาชิกทดี ีของครอบครวั และโรงเรียน 17. ช้ินงานที่ 13 เรื่อง การทาความดีของตนเองและผอู้ ่ืน การประเมินผล 1. การประเมนิ ผลตวั ชี้วดั ชิ้นงานท่ี 12 เร่ือง ประโยชน์ของการปฏิบัติตนเป็ นสมาชิกทด่ี ขี องครอบครัวและโรงเรียน เกณฑ์การ ระดบั คะแนน ประเมนิ 4 3 2 1

บอกประโยชน์ บอกประโยชน์ บอกประโยชน์์ บอกประโยชน์ บอกประโยชน์ และปฏบิ ตั ติ น และปฏิบตั ิตน และปฏิบตั ติ น และปฏิบตั ิตน และปฏิบตั ิตน เป็นสมาชิกทีด่ ี เป็นสมาชิกท่ดี ี เป็นสมาชิกทีด่ ี เป็ นสมาชิกท่ีดี เป็ นสมาชิกที่ดี ของครอบครัว ของครอบครัว ของครอบครวั ของครอบครวั ของครอบครวั และโรงเรียน และโรงเรียน และโรงเรียน และโรงเรียน และโรงเรียน แตไ่ ม่ ไดส้ มั พนั ธก์ บั มีการอธิบาย สอดคลอ้ ง สอดคลอ้ งกบั ความเป็ นจริง ใหเ้ ห็นถึง กบั ความเป็ นจริง ความเป็ นจริง มีการเชื่อมโยง ความสมั พนั ธก์ บั ใหเ้ ห็นเป็น ตนเองอยา่ ง ภาพรวม เป็นเหตุเป็ นผล ชิ้นงานท่ี 13 เรื่อง การทาความดขี องตนเองและผู้อ่ืน เกณฑ์การ ระดบั คะแนน ประเมิน 4 3 2 1 วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ ความสามารถหรือ ความสามารถหรือ ความสามารถหรือ ความสามารถหรือ ความสามารถหรือ ความดีของตนเอง ความดีของตนเอง ความดีของตนเอง ความดีของตนเอง ความดีของตนเอง หรือเพอื่ น พรอ้ ม หรือเพอื่ น พร้อม หรือเพอ่ื น พร้อม หรือเพอ่ื น พร้อม หรือเพอื่ น พรอ้ ม บอกผลของการ บอกผลของการ บอกผลของการ บอกผลของการ บอกผลของการ กระทา กระทาได้ กระทา มีการ กระทา สอดคลอ้ ง กระทา แต่ไม่ สมั พนั ธก์ นั มีการ อธิบายใหเ้ ห็นถึง ตามความเป็นจริง สอดคลอ้ งตามความ เชื่อมโยงใหเ้ ห็น ความสมั พนั ธก์ บั เป็ นจริง เป็นภาพรวม ตนเองอยา่ ง แสดงใหเ้ ห็นถึง เป็นเหตุเป็นผล ความสมั พนั ธก์ บั ตนเองและผอู้ ื่น

2. การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชี้วดั ท่ี 4.1 ต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ยี ม (3 ) 4.1.1 ต้งั ใจเรียน ไม่ต้งั ใจเรียน ต้งั ใจ เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ 4.1.2 เอาใจใส่ ในการเรียน และมีความเพยี ร- และมีความเพยี ร- และมีความเพยี ร- พยายามในการเรียน พยายามในการ พยายาม เรียนรู้ เขา้ ร่วม ในการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม ตา่ ง ๆ กิจกรรม การเรียนรูต้ ่าง ๆ

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 14 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยท่ี 1 เร่ือง การเป็ นพลเมอื งดี เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง การปฏิบตั ติ นเป็ นสมาชิกท่ีดขี องครอบครัว มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ตั ติ นตามหนา้ ทีข่ องการเป็ นพลเมืองดี มีคา่ นิยมท่ดี ีงามและธารงรกั ษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข ตัวชี้วัด ส 2.1 ป.1/1 บอกประโยชนแ์ ละปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครวั และโรงเรียน จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายการปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกท่ดี ีของครอบครัว (K) 2. ปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกทีด่ ีของครอบครัว (P) 3. ตระหนกั ถึงการมีส่วนร่วมในครอบครวั (A) สาระสาคญั การปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว จะช่วยใหอ้ ยรู่ ่วมกบั ผูอ้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมีความสุข ส่งผลให้ สงั คมเกิดความสงบสุข และอยรู่ ่วมกนั อยา่ งเป็ นระเบียบเรียบรอ้ ย สาระการเรียนรู้ การเป็นพลเมืองดี : การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกทดี่ ีของครอบครวั คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพเกี่ยวกบั การปฏิบตั ติ นที่บา้ นของนกั เรียน 2. แผนภาพเก่ียวกบั การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูเล่านิทานเรื่อง หมึกยกั ษจ์ อมขยนั ใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี นิทานเร่ือง หมึกยกั ษ์จอมขยนั ใตท้ อ้ งทะเลแสนงามอันมีปลาหมึกยกั ษเ์ ป็ นหัวหน้าฝูงปลาท้งั หลาย วนั หน่ึงปลาหมึกยกั ษ์ เรียกสมาชิกปลาท้งั หมดประชุมเกี่ยวกบั การทาความสะอาดทอ้ งทะเลอนั เปรียบเสมือนบา้ นของ พวกปลาท้งั หลาย ซ่ึงเหล่าฝงู ปลาต่างก็เห็นดว้ ยวา่ ควรทาความสะอาดทอ้ งทะเลแห่งน้ีเสียที เพอื่ ความ สะอาดน่าอยู่ แต่แมงกะพรุนกบั ดาวทะเลแยง้ ดว้ ยความข้ีเกียจวา่ “ทาทาไมเพราะตอนน้ีกอ็ ยสู่ บายดีแลว้ ทาไปก็เหน่ือยเปล่า ๆ” วนั ตอ่ มาหมึกยกั ษจ์ ึงถามความคิดเห็นปลาท้งั หลายวา่ “เราควรจะออกกาลงั กาย ก่อนทางานดีไหม” เม่ือปลาท้งั หลายต่างกเ็ ห็นดว้ ยจึงพากนั ออกกาลงั กายแลว้ ช่วยกนั ทาความสะอาด ทอ้ งทะเลจนสะอาด ยกเวน้ แมงกะพรุนและดาวทะเลเท่าน้นั ที่นอนเฉยไม่สนใจ แต่ก็ตอ้ งตกใจตื่น เพราะมีเศษขยะลอยมาทบั จนหายใจไม่ออกตอ้ งใหเ้ หล่าฝงู ปลาช่วยจงึ รอดชีวติ มาได้ จากน้นั ท้งั ดาวทะเลและแมงกะพรุนก็ช่วยฝูงปลาท้งั หลายทาความสะอาดทอ้ งทะเล เพราะกลวั วา่ ถา้ ทอ้ งทะเล สกปรกแลว้ จะไดร้ ับอนั ตรายอีก ผลของการช่วยกนั ทาความสะอาดทอ้ งทะเลอนั เปรียบเหมือนบา้ น ของปลา ทาใหเ้ หล่าฝงู ปลาท้งั หลายมีทอ้ งทะเลทส่ี ะอาดงดงามไวอ้ ยอู่ าศยั ต่อไป จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั นิทานเร่ืองดงั กล่าว โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี จากนิทานเรื่องน้ี ใครเป็ นหวั หนา้ ฝงู ปลา (หมึกยกั ษ์) จากนิทานเรื่องน้ี ใครไม่ยอมช่วยทาความสะอาดทอ้ งทะเล (ดาวทะเลและแมงกะพรุน) จากนิทานเร่ืองน้ีฝงู ปลาทาอะไรก่อนทาความสะอาด (ออกกาลงั กาย) เหล่าฝงู ปลาเตม็ ใจออกกาลงั กายหรือไม่ (เต็มใจ) การออกกาลงั กายของฝงู ปลามีผลต่อสุขภาพของปลาอยา่ งไร (แข็งแรง) เกิดเหตุการณ์ใดกบั แมงกะพรุนและดาวทะเลในขณะนอนหลบั (เศษขยะหล่นทับ ทาให้ หายใจไม่ออก) ใครเป็ นคนช่วยเอาเศษขยะออกจนดาวทะเลกับแมงกะพรุนรอดชีวิต (เหล่าฝูงปลา ท้งั หลาย) เพราะเหตุใดดาวทะเลกบั แมงกะพรุนจงึ เปลี่ยนใจช่วยทาความสะอาด (กลัวได้รับอนั ตราย ถ้าท้องทะเลสกปรก)

เม่ือฝูงปลาช่วยทาความสะอาดทอ้ งทะเลแลว้ ทาให้ทอ้ งทะเลเป็ นอยา่ งไร (สะอาด น่าอยู่ อาศัย) นกั เรียนคิดวา่ ฝงู ปลามีคุณธรรมขอ้ ใด (ความสามัคค)ี ครูสรุปเก่ียวกับนิทานเร่ืองน้ีให้นักเรียนฟังว่า ฝูงปลาในทอ้ งทะเลเปรียบเสมือนสมาชิก ใน ครอบครัวเดียวกนั ถา้ สมาชิกในครอบครัวเป็ นแบบฝูงปลาท้งั หลายคือมีความสามคั คี ทาตามหนา้ ที่ของตน อยา่ งเตม็ ที่และรับฟังความคิดเห็นของผูอ้ ่ืน จะทาใหอ้ ยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข แต่ถา้ สมาชิกครอบครัวเป็ น เหมือนดาวทะเลและแมงกะพรุน จะทาใหค้ รอบครัววนุ่ วายและไม่มีความสุข ดงั น้นั ในฐานะที่นกั เรียนเป็ น สมาชิกคนหน่ึงของครอบครัวควรยดึ ฝงู ปลาเป็นแบบอยา่ งและไม่ควรทาตาม ดาวทะเลและแมงกะพรุน 2. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตนที่บา้ นของนักเรียน โดยครู ใช้ คาถาม ดงั น้ี นกั เรียนช่วยทางานบา้ นอะไรบา้ ง ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ กวาดบา้ น ช่วยแม่ทากบั ขา้ ว การปฏิบัตติ นท่บี ้าน ปลูกตน้ ไม้ ของนักเรียน รดน้าตน้ ไม้ นักเรียนรู้สึกอยา่ งไรเมื่อไดท้ างานบา้ นร่วมกับสมาชิกคนอ่ืนในครอบครัว (ตัวอย่าง คาตอบ มคี วามสุข สนุก) ครูอธิบายเพมิ่ เติมว่า การปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิกที่ดีของครอบครัว จะตอ้ งปฏิบตั ิตนตามกฎระเบยี บ กติกาของครอบครวั เช่น ปฏบิ ตั ิหนา้ ทข่ี องตนเองใหค้ รบถว้ น ช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั ในการทางานต่าง ๆ ในบา้ นดว้ ยความเตม็ ใจ รูจ้ กั ช่วยเหลือตนเองเทา่ ที่จะทาไดเ้ พอื่ แบ่งเบาภาระของ พอ่ แม่และทาตนเป็ นเดก็ ดีใหพ้ อ่ แม่มีความสุข 3. ให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การทากิจกรรมร่วมกนั ในครอบครัว โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี

ครอบครัวของนักเรียนเคยทากิจกรรมอะไรร่วมกนั บา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เท่ียวพักผ่อน ออกกาลงั กาย ทางานบ้าน) ครอบครัวของนัก เรี ยน เค ยร่ วมกัน แสดงค วามคิด เห็ น เกี่ ยว กับกิ จก รรมที่ จะ ทา ด้ว ยกัน หรือไม่ (ตวั อย่างคาตอบ เคย) นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรเมื่อแสดงความคิดเห็น (ตัวอย่างคาตอบ ดใี จ ภูมใิ จ) การรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืนเกิดผลดีอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ทาให้ทุกคนร่วมกจิ กรรม ด้วยความเตม็ ใจ และมคี วามสุข) ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ การเป็ นสมาชิกท่ดี ีของครอบครัวควรใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรมต่าง ๆ โดยในการทากิจกรรมจะตอ้ งให้สมาชิกในครอบครัวยอมรับและเต็มใจที่จะทาร่วมกนั มีการแสดงความ คิดเห็นและตกลงกนั อยา่ งมีเหตุผลเพ่อื ให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุข ก่อใหเ้ กิดความรัก ความผูกพนั ใน ครอบครัว 4. ให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิกท่ีดีในครอบครัว โดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนจะปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิกท่ีดีของครอบครัวอยา่ งไรบา้ ง ครูบนั ทึกคาตอบของนักเรียนเป็ น แผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ กตญั ญูตอ่ พอ่ แม่ ช่วยทางานบา้ น และญาตผิ ใู้ หญ่ การปฏิบัตติ นเป็ นสมาชิก ที่ดขี องครอบครัว เคารพเช่ือฟัง มีส่วนร่วมในกิจกรรม คาสงั่ สอนของพอ่ แม่ ต่าง ๆ ของครอบครัว ครูอธิบายสรุปเร่ือง การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกทีด่ ีของครอบครวั ดงั น้ี การปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว สามารถปฏิบตั ิได้โดยการปฏิบตั ิตนตามกฎระเบียบ กติกาของครอบครัว ช่วยเหลือการทางานต่าง ๆ ในบา้ น มีความกตญั ญูต่อพ่อแม่และญาติผใู้ หญ่ ใชค้ าพูดท่ี ไพเราะน่าฟัง เชื่อฟังคาสง่ั สอนของพอ่ แม่ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมตา่ ง ๆ ของครอบครัวอยา่ งเตม็ ใจ เป็น ตน้ 5. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี

การปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว จะช่วยใหอ้ ยกู่ บั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมีความสุข ส่งผล ใหส้ งั คมเกิดความสงบสุข และอยรู่ ่วมกนั อยา่ งเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย 6. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี ถ้าสมาชิกในครอบครัวไม่ปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิกที่ดีของครอบครัว นักเรียนจะแนะนา สมาชิกผนู้ ้นั อยา่ งไร สื่อการเรียนรู้ นิทานเร่ือง หมึกยกั ษจ์ อมขยนั การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยท่ี 1 เร่ือง การเป็ นพลเมืองดี เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง การปฏบิ ัติตนเป็ นสมาชิกทด่ี ขี องโรงเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหนา้ ทขี่ องการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมทีด่ ีงามและธารงรกั ษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข ตัวชี้วดั ส 2.1 ป.1/1 บอกประโยชนแ์ ละปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกทดี่ ีของครอบครัวและโรงเรียน จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายการปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียน (K) 2. ปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกท่ีดีของโรงเรียน (P) 3. ตระหนกั ถึงการมีส่วนร่วมในโรงเรียน (A) สาระสาคญั การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดีของโรงเรียนจะช่วยใหอ้ ยรู่ ่วมกบั ผูอ้ ื่นไดอ้ ยา่ งมีความสุข เกิดความ เป็นระเบยี บเรียบร้อย สาระการเรียนรู้ การเป็นพลเมืองดี : แนวทางปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกทดี่ ีของโรงเรียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียน 2. ตารางเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตนในโรงเรียนทเี่ หมาะสมและไม่เหมาะสม 3. แผนภาพเก่ียวกบั ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียน 4. ช้ินงานท่ี 12 เร่ือง ประโยชนข์ องการปฏิบตั ติ นเป็ นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ครูติดเน้ือเพลง เพลงเขา้ แถวลงบนกระดาน ดงั น้ี เขา้ แถว เพลงเข้าแถว อยา่ ล้าแนว เดินเรียงกนั เขา้ แถว เดินตามเพอ่ื นใหท้ นั อยา่ มวั แชเชือน เขา้ แถวพลนั วอ่ งไว ระวงั จะเดินชนกนั ครูอ่านเน้ือร้องของเพลงทีละวรรค แลว้ ให้นักเรียนอ่านและร้องตาม จานวน 2 รอบ จากน้ันให้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เพลงดงั กล่าว โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนเขา้ แถวเวลาทที่ ากิจกรรมใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เคารพธงชาติ ซื้ออาหาร กลางวนั ) เวลาเขา้ แถวนกั เรียนเคยชนกนั กบั เพอ่ื นหรือไม่ (เคย/ไม่เคย) เวลาชนกบั เพอ่ื นนกั เรียนทาอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ กล่าวคาขอโทษ เฉย ๆ ไม่สนใจ) การเขา้ แถวเป็ นส่ิงท่ที ุกคนควรปฏิบตั หิ รือไม่ (ควรปฏบิ ัต)ิ ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ การเขา้ แถวถือวา่ เป็นระเบียบท่ที กุ คนในโรงเรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิ เพอื่ ความเป็ น ระเบยี บเรียบรอ้ ยของโรงเรียน 2. ครูเล่าสถานการณ์เก่ียวกบั การปฏิบตั ิตนของนกั เรียนใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี สถานการณ์ ป้อมมกั จะมาโรงเรียนสายและขีดเขียนตามฝาผนังอาคารเรียน แต่ป๊ัม จะมาโรงเรียนแตเ่ ชา้ และทาความเคารพครูทุกคน เวลาเรียนก็ต้งั ใจเรียน และช่วย ทาความสะอาดโรงเรียน ทาใหไ้ ดร้ บั คาชมจากครูเสมอ จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตนของนกั เรียน โดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี ป้อมปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ มาโรงเรียนสาย ขดี เขยี นตามฝาผนังอาคารเรียน)

ปั๊มปฏิบตั ิตนอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ มาโรงเรียนแต่เช้า ทาความเคารพครูทุกคน ต้ังใจ เรียน และช่วยทาความสะอาดโรงเรียน) นกั เรียนควรปฏิบตั ิตนเหมือนใคร (ป๊ัม) การปฏิบตั ติ นของป๊ัมไดร้ ับรางวลั จากครูในฐานะเป็ นเด็กดีเป็ นอะไร (ตวั อย่างคาตอบ คาชม) ถา้ นกั เรียนไดร้ บั คาชมจากครูจะรู้สึกอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ช่ืนใจ มคี วามสุข) 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ิตนตามระเบียบ กฎ และกตกิ าของ โรงเรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ระเบียบ กฎ และกติกาของโรงเรียนขอ้ ใดบา้ งทน่ี กั เรียนปฏิบตั ิเป็นประจา (ตัวอย่างคาตอบ ไม่ทงิ้ ขยะ ไม่ส่งเสียงดงั ในห้องสมดุ แต่งกายถูกระเบยี บ) ระเบียบ กฎ และกติกาของโรงเรียนขอ้ ใดบา้ งท่ีนักเรียนไม่ไดป้ ฏิบตั ิเป็ นประจา (ตัวอย่าง คาตอบ ไม่พูดคยุ กับเพื่อนในขณะครูสอน มาโรงเรียนให้ทนั เวลา) ครูอธิบายเพิม่ เติมวา่ โรงเรียนเป็ นสถานท่ีท่ีให้ความรู้ และอบรมส่งั สอนใหน้ กั เรียนเป็ น คนดี มี ระเบียบวนิ ยั นักเรียนจึงควรปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียนโดยการปฏิบตั ติ นตามกฎระเบยี บ กติกา ของโรงเรียน เช่น มาโรงเรียนใหท้ นั เวลาเขา้ แถวเคารพธงชาติ ไม่ส่งเสียงดงั ในห้องสมุด แต่งกายเรียบร้อย ถูกระเบียบ เพอื่ ใหส้ มาชิกในโรงเรียนอยรู่ ่วมกนั อยา่ งเป็นระเบยี บ เกิดความสงบสุขในสงั คม 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกท่ดี ีของโรงเรียนโดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนจะปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกทด่ี ีของโรงเรียนอยา่ งไร ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพ ลงบนกระดาน ดงั น้ี

ตัวอย่างแผนภาพ แสดงความเคารพครู ปฏิบตั ิตามกฎ กติกาของโรงเรียน การปฏบิ ตั ิตนเป็ นสมาชิก ทด่ี ขี องโรงเรียน ต้งั ใจเรียน มีน้าใจเอ้ือเฟ้ือเผอื่ แผผ่ อู้ ่ืน ครูอธิบายสรุปเร่ือง การปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกท่ดี ีของโรงเรียน ดงั น้ี นกั เรียนสามารถปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดีของโรงเรียนไดโ้ ดยการปฏบิ ตั ิตามกฎ ระเบียบ กติกาของ โรงเรียน ต้งั ใจเรียน เช่ือฟังคาสง่ั สอนของครู มีส่วนร่วมในกิจกรรมของหอ้ งเรียน มีน้าใจ เอ้ือเฟ้ื อเผอ่ื แผ่ ผอู้ ื่น เป็นตน้ 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตนของนกั เรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนมาโรงเรียนทนั เวลาเขา้ แถวเคารพธงชาติหรือไม่ (ตวั อย่างคาตอบ ทันเวลา) นกั เรียนเคยแบ่งปันสิ่งของให้เพอ่ื นร่วมช้นั หรือไม่ (เคย/ไม่เคย) เม่ือกระทาสิ่งดงั กล่าว นกั เรียนรูส้ ึกอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ภูมิใจ) 2. ครูตดิ แถบประโยคเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ติ นในโรงเรียนลงบนกระดาน ดงั น้ี คุยเสียงดงั ในหอ้ งเรียน มีน้าใจ แบ่งปันส่ิงของให้เพอื่ น มาโรงเรียนทนั เวลาเขา้ แถว ขีดเขยี นโตะ๊ เกา้ อ้ีเรียน แต่งกายไม่เรียบรอ้ ย ต้งั ใจเรียนหนงั สือ ครูเขียนตารางเกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ิตนในโรงเรียนทเ่ี หมาะสมและไม่เหมาะสมลงบนกระดาน แลว้ ให้ นกั เรียนร่วมกนั จาแนกแถบประโยคใหส้ มั พนั ธก์ บั ตาราง ดงั น้ี

ตวั อย่างตาราง การปฏิบตั ิตนในโรงเรียน การปฏบิ ตั ิตนในโรงเรียน ท่ไี ม่เหมาะสม ทเี่ หมาะสม ต้งั ใจเรียนหนงั สือ คุยเสียงดงั ในหอ้ งเรียน 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ผลของการปฏบิ ตั ิตนเป็ นสมาชิกที่ดีของโรงเรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ถา้ นกั เรียนปฏิบตั ติ นตามระเบยี บ กฎ กตกิ าของโรงเรียนจะเกิดผลดีอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ สมาชิกอยู่ร่วมกันอย่างเป็ นระเบียบ สงบสุข มีแนวปฏิบัติที่เหมือนกัน ทาให้สังคมไม่ ว่นุ วาย) ถา้ นกั เรียนไม่ปฏิบตั ิตนตามระเบยี บ กฎ กตกิ าของโรงเรียนจะเกิดผลอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ สมาชิกในโรงเรียนมีแนวปฏิบตั ทิ ่ีไม่เหมือนกนั ก่อให้เกิดความวุ่นวายและไม่สงบสุข) ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียน จะส่งผลใหส้ มาชิกอยรู่ ่วมกนั อยา่ ง เป็นระเบียบเรียบร้อย มีแนวปฏบิ ตั ทิ ีเ่ หมือนกนั เพอื่ ใหส้ งั คมสงบสุข ไม่วนุ่ วาย 7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ของการปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิก ที่ดีของ โรงเรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกท่ดี ีของโรงเรียนมีอะไรบา้ ง ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ เกิดความเป็ น ประโยชน์ของ โรงเรียนเกิดความ ระเบียบเรียบร้อย การปฏบิ ัติตนเป็ น สงบสุข สมาชิกท่ีดขี องโรงเรียน สร้างวนิ ยั ใหต้ นเอง ลดปัญหาความวนุ่ วาย ในโรงเรียน

ครูอธิบายสรุปเรื่อง ประโยชน์ของการปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกท่ดี ีของโรงเรียน ดงั น้ี การปฏิบตั ิตน เป็นสมาชิกทีด่ ีของโรงเรียนจะส่งผลใหส้ มาชิกในโรงเรียน มีความเป็ นระเบียบเรียบร้อย สร้างวนิ ยั ใหต้ นเอง ทาใหโ้ รงเรียนเกิดความสงบสุข ลดปัญหาความวนุ่ วายภายในโรงเรียน 8. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิกที่ดีของโรงเรียนส่งผลใหส้ มาชิกทุกคนในโรงเรียนอยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข เกิดความเป็นระเบยี บเรียบร้อย และมีวนิ ยั 9. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 12 เรื่อง ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกทด่ี ีของโรงเรียน ส่ือการเรียนรู้ 1. เน้ือเพลง เพลงเขา้ แถว 2. แถบประโยคเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตนในโรงเรียน 3. ชิ้นงานที่ 12 เร่ือง ประโยชน์ของการปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกทดี่ ีของโรงเรียน การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ตรวจช้ินงานท่ี 12 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานท่ี 12 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียน เกณฑ์การ 4 ระดบั คะแนน 1 ประเมนิ 32

บอกประโยชน์ บอกประโยชน์ บอกประโยชน์ บอกประโยชน์ บอกประโยชน์ และปฏบิ ตั ติ น และปฏบิ ตั ิตน และปฏบิ ตั ิตน และปฏบิ ตั ติ น และปฏิบตั ิตน เป็นสมาชิกทดี่ ี เป็ นสมาชิกท่ีดี เป็ นสมาชิกท่ีดี เป็ นสมาชิกที่ดี เป็นสมาชิกทด่ี ี ของครอบครัว ของครอบครวั ของครอบครวั ของครอบครัว ของครอบครวั และโรงเรียน และโรงเรียน และโรงเรียน และโรงเรียน และโรงเรียน แตไ่ ม่ ไดส้ มั พนั ธก์ บั มีการอธิบาย สอดคลอ้ ง สอดคลอ้ งกบั ความเป็ นจริง ใหเ้ ห็นถึง กบั ความเป็ นจริง ความเป็ นจริง มีการเช่ือมโยง ความสมั พนั ธก์ บั ใหเ้ ห็นเป็น ตนเองอยา่ ง ภาพรวม เป็นเหตุเป็ นผล

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยท่ี 1 เรื่อง การเป็ นพลเมืองดี เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง ลกั ษณะความสามารถและความดีของตนเองและผู้อื่น มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ที่ของการเป็ นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงามและธารงรกั ษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ติสุข ตัวชี้วัด ส 2.1 ป.1/2 ยกตวั อยา่ งความสามารถและความดีของตนเอง ผอู้ ่ืน และบอกผลจากการกระทาน้นั จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายลกั ษณะความสามารถและความดีของตนเองและผอู้ ่ืน (K) 2. บอกความสามารถและความดีของตนเองและผอู้ ่ืน (P) 3. เห็นคุณค่าและความสามารถและความดีของตนเองและผอู้ ื่น (A) สาระสาคญั การยอมรบั ความสามารถและเห็นคุณคา่ ของตนเองและผอู้ ่ืนเป็ นสิ่งทีน่ กั เรียนควรปฏิบตั ิ เพอ่ื ใหท้ ุก คนอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยา่ งสงบสุข การทาความดีเป็นส่ิงทท่ี ุกคนควรปฏบิ ตั ิ เพอื่ ใหอ้ ยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสุข สาระการเรียนรู้ การจาแนกความสามารถและความดีของตนเองและผอู้ ่ืน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียน และเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1.แผนภาพความสามารถของนกั เรียน 2. แผนภาพเกี่ยวกบั การเป็นลูกทด่ี ี 3. แผนภาพเกี่ยวกบั การเป็นเพอื่ นทดี่ ี

4. แผนภาพเกี่ยวกบั ความดีที่ควรปฏิบตั ิ 5. ชิ้นงานท่ี 13 เร่ือง การทาความดีของตนเองและผอู้ ่ืน การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ความสามารถของนกั เรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ใครเรียนเก่งทส่ี ุดในหอ้ ง (ตวั อย่างคาตอบ วรายทุ ธ) ใครวาดภาพสวยทส่ี ุดในหอ้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ปิ ยพงษ์) ใครลายมือสวยทสี่ ุดในหอ้ ง (ตัวอย่างคาตอบ กรกนก) ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ นักเรียนแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกนั ช่ืนชมและยอมรับความสามารถ ของตนเองและผอู้ ื่น 2. ครูเล่าสถานการณ์เก่ียวกบั การยอมรับความสามารถของตนเองใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี สถานการณ์ท่ี 1 นาครเป็ นนักมวยที่ขาดความมน่ั ใจในความสามารถของตนเอง ทาใหเ้ ขาชกแพค้ ูต่ อ่ สูท้ กุ คร้ัง สถานการณ์ที่ 2 สุดเขตเป็ นนักมวยที่มีความมั่นใจในความสามารถของตนเอง ดงั น้นั เขาจึงชกชนะคู่ตอ่ สูท้ ุกคร้งั จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั สถานการณ์โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การกระทาของนาครเป็ นอยา่ งไร (ขาดความมั่นใจในตนเอง) การขาดความมนั่ ใจในตนเองของนาครส่งผลต่อตนเองอยา่ งไร (ชกแพ้คู่ต่อสู้ ทุกคร้ัง) การกระทาของสุดเขตเป็นอยา่ งไร (มคี วามมนั่ ใจในตนเอง) การมีความมนั่ ใจในตนเองของสุดเขตส่งผลต่อตนเองอยา่ งไร (ชกชนะคู่ต่อสู้ ทุกคร้ัง) นกั เรียนควรปฏิบตั ิตนตามบุคคลในสถานการณใ์ ด (สถานการณ์ท่ี 2) 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ความสามารถของนกั เรียนแต่ละคน โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี นกั เรียนมีความสามารถอะไรบา้ ง ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี

ตัวอย่างแผนภาพ เล่นดนตรีเก่ง เรียนเก่ง ความสามารถของ นักเรียน วาดภาพเก่ง เล่นกีฬาเก่ง เม่ือทากิจกรรมเหล่าน้ีไดส้ าเร็จ นกั เรียนรูส้ ึกอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ดใี จ ภูมใิ จ) 4. ใหน้ กั เรียนเล่นเกมลมเพลมพดั โดยมีวธิ ีการเล่น ดงั น้ี ครูกล่าวคาวา่ ลมเพลมพดั นกั เรียนถามวา่ พดั อะไร ครูตอบตามเงือ่ นไขตอ่ ไปน้ีทีละเง่อื นไข  พดั คนทว่ี าดภาพสวยให้ยกมือข้นึ  พดั คนที่เรียนเก่งให้ยนื ข้ึน  พดั คนทวี่ งิ่ เร็วใหท้ าท่าเป็ ด  พดั คนทีเ่ ล่นฟุตบอลเก่งทาท่าลิง  พดั คนทร่ี อ้ งเพลงเก่งรอ้ งเพลงใหเ้ พอื่ นฟัง  พดั คนทเี่ ล่นดนตรีเก่งใหแ้ สดงท่าทางการเล่นดนตรี  พดั คนทล่ี ายมือสวยใหท้ าทา่ ปลา จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การยอมรบั ความสามารถและเห็นคุณคา่ ของ ตนเอง โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การยอมรับความสามารถและเห็นคุณคา่ ของตนเอง จะก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อตนเอง อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เกดิ ความมั่นใจในการทากิจกรรมและสามารถทาได้ดี ประสบความสาเร็จ)

ถา้ ทุกคนในสงั คมยอมรับความสามารถและเห็นคุณค่าของตนเอง จะส่งผล ต่อสังคม อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ สังคมได้รับการพฒั นาเพราะสมาชิกทมี่ คี ณุ ภาพ) 5. ครูเล่าสถานการณ์เก่ียวกบั การยอมรับความสามารถของผอู้ ื่นใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี สถานการณ์ท่ี 1 เด็กชายณฐั ภทั รไดร้ บั รางวลั นกั เรียนดีเด่น ดา้ นผลการเรียน ยอดเยย่ี มของระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 2 สถานการณ์ที่ 2 เด็กชายปิ นุวฒั น์เป็ นนักกีฬาของโรงเรียนที่ไดร้ ับรางวลั นักกีฬา ดีเด่นระดบั จงั หวดั จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั สถานการณ์ดงั กล่าวโดยครูใชค้ าถามดงั น้ี เดก็ ชายณัฐภทั รมีความสามารถอะไร (ผลการเรียนยอดเยย่ี ม) ถา้ นกั เรียนเป็นเพอื่ นของเด็กชายณฐั ภทั รควรพดู กบั เดก็ ชายณฐั ภทั รที่ไดร้ บั รางวลั วา่ อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ดีใจด้วยทไี่ ด้รับรางวัล เธอเก่งมาก) ถา้ นกั เรียนทาไดเ้ หมือนเดก็ ชายณฐั ภทั รจะรูส้ ึกอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ภูมใิ จ) เดก็ ชายปิ นุวฒั น์มีความสามารถอะไร (เป็ นนกั กฬี าดเี ด่นระดบั จังหวดั ) ถา้ นกั เรียนเป็นเพอ่ื นของเดก็ ชายปิ นุวฒั นค์ วรพดู กบั เดก็ ชายปิ นุวฒั น์ท่ีไดร้ ับรางวลั วา่ อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เธอเก่งมากดใี จด้วยนะ) ถา้ นกั เรียนทาไดเ้ หมือนเดก็ ชายปิ นุวฒั นจ์ ะรูส้ ึกอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ภูมิใจ) ครูอธิบายเพมิ่ เติมวา่ การอยรู่ ่วมกนั กบั เพอ่ื นในโรงเรียน นกั เรียนควรยอมรับความสามารถและเห็น คุณค่าของเพอื่ น 6. ให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การยอมรับความสามารถและเห็นคุณค่าของผอู้ ื่น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การยอมรับความสามารถและเห็นคุณค่าของผูอ้ ่ืนจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ทาให้เราเป็ นพลเมืองดี และมีเพื่อนทดี่ )ี ถา้ ทกุ คนในสงั คมยอมรับความสามารถและเห็นคุณคา่ ของผอู้ น่ื จะส่งผลต่อสงั คมอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ทกุ คนในสังคมอยู่ร่วมกนั อย่างสงบสุข)

7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การยอมรบั ความสามารถและเห็นคุณคา่ ของตนเองและผอู้ ื่น เป็ นสิ่งท่นี กั เรียนควรปฏิบตั ิ เพอื่ ใหส้ งั คมเกิดความสงบสุข 8. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การทาความดีของตนเอง โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนเคยทาความดีอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ทางานบ้าน ช่วยแม่ถอื ของแบ่งปันสิ่งของ ให้เพ่ือน) เม่ือทาความดีแลว้ นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ภูมใิ จ มคี วามสุข) ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ การทาความดีเป็ นสิ่งทคี่ วรกระทาไดง้ ่ายดว้ ยการรูจ้ กั รบั ผดิ ชอบ ตอ่ ตนเอง มีความเมตตากรุณา มีน้าใจ เอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผ่ และช่วยเหลือผอู้ ื่นเม่ือไดร้ บั ความลาบาก 9. ครูเล่านิทานเร่ือง เดก็ ขา้ งบา้ นใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี เด็กข้างบ้าน เด็กขา้ งบา้ นของครูช่ือเด็กหญิงอ้อมซ่ึงเป็ นเด็กที่มีความ ขยนั ตน่ื แตเ่ ชา้ เพอื่ ช่วยแม่ทางานบา้ น เช่น กรอกน้า กวาดบา้ น ถู บา้ นก่อนไปเรียนทุกวนั พอเลิกเรียนกลบั บา้ นออ้ มจะรีบทาการบา้ น ให้เสร็จก่อน แลว้ ช่วยแม่ทากบั ขา้ วก่อนท่ีจะไปดูโทรทศั น์ ทาให้ คนท่ีบา้ นของออ้ มรักและชื่นชมออ้ มมาก จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั นิทานเร่ืองดงั กล่าว โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี เด็กหญงิ ออ้ มทางานบา้ นอะไรบา้ ง (กรอกนา้ กวาดบ้าน ถูบ้าน) ตอนเยน็ หลงั เลิกเรียนเด็กหญิงออ้ มทาอะไรบา้ ง (ทาการบ้าน ช่วยแม่ทากับข้าว) คนรอบขา้ งเด็กหญิงออ้ มรู้สึกตอ่ เด็กหญิงออ้ มอยา่ งไร (รักและชื่นชม) นกั เรียนเคยทาแบบเดก็ หญิงออ้ มหรือไม่ (เคย/ไม่เคย) เมื่อนกั เรียนช่วยทางานบา้ นสมาชิกในบา้ นแสดงออกตอ่ นกั เรียนอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ กล่าวคาชม) นกั เรียนรูส้ ึกอยา่ งไรเมื่อไดร้ บั คาชม (ตวั อย่างคาตอบ ดีใจ)

นกั เรียนจะยงั คงปฏบิ ตั ติ นเช่นน้ีหรือไม่ (ตวั อย่างคาตอบ ปฏบิ ตั ติ ่อไป) ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า การช่วยเหลืองานบา้ นในครอบครัวเป็ นการทาความดีอยา่ งหน่ึงที่นักเรียน สามารถปฏิบตั ิตามได้ นักเรียนจึงควรช่วยเหลืองานบา้ นในครอบครัวเท่าท่ีนักเรียนสามารถทาได้ เพ่อื ให้ บา้ นสะอาดน่าอยู่ สมาชิกในครอบครวั อยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข 10. ใหต้ วั แทนนกั เรียน 3-4 คน ออกมาพดู เล่าประสบการณ์เก่ียวกบั การเป็ นลูกท่ีดี ใหเ้ พอ่ื นฟังหนา้ ช้นั เรียน จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การเป็ นลูกทดี่ ี โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนมีการกระทาใดบา้ งทีถ่ ือวา่ เป็ นการกระทาของลูกทด่ี ี ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ ช่วยทางานบา้ น การเป็ นลูกทดี่ ี ดูแลพอ่ แม่ยามเจบ็ ป่ วย รบั ผดิ ชอบต่องาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ การทาความดีเป็นสิ่งท่ีทุกคนควรปฏบิ ตั ิ ซ่ึงนกั เรียนสามารถทาความดีไดด้ ว้ ย การเป็ นลูกที่ดีของพ่อแม่ เช่น ช่วยทางานบา้ น ดูแลพ่อแม่ยามเจ็บป่ วย รับผิดชอบต่องาน ที่ได้รับ มอบหมาย 11. ครูตดิ บตั รคา เพอ่ื นที่ดี ลงบนกระดานแลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านตามจานวน 1 รอบ จากน้นั ให้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เพอื่ นทีด่ ี โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนมีเพอ่ื นท่ีดีหรือไม่ (ตัวอย่างคาตอบ มี) เพอื่ นท่ดี ีท่สี ุดของนกั เรียนคือใคร (ตวั อย่างคาตอบ ต้ัม ป้อม) ความดีของเพอ่ื นทีน่ กั เรียนประทบั ใจคอื อะไร ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี

ตวั อย่างแผนภาพ มีน้าใจชอบ ช่วยเหลือผอู้ ื่น ไม่รงั แกเพอื่ น ต้งั ใจเรียน การเป็ น เพ่ือนที่ดี ปฏิบตั ิตนตามระเบียบ เอ้ือเฟ้ือเผอื่ แผ่ ของโรงเรียน ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ การทาความดีของเพื่อน เช่น การต้งั ใจเรียน ไม่รังแกเพ่อื น เอ้ือเฟ้ื อเผ่ือแผ่ มี น้าใจชอบช่วยเหลือผูอ้ ่ืน และปฏิบตั ิตนตามระเบียบของโรงเรียน เป็ นส่ิงท่ีนกั เรียนควรยอมรับและปฏบิ ตั ิ ตาม เพอื่ ใหท้ กุ คนในสงั คมอยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข 12. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ความดีท่คี วรปฏบิ ตั ิ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ความดีทีน่ กั เรียนควรปฏิบตั ิมีอะไรบา้ ง ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี (ตวั อย่างแผนภาพ) ขยนั อดทน มีความกตญั ญู ความดีท่คี วร มีความเมตตา ต่อพอ่ แม่ ปฏบิ ัติ กรุณา มีความซื่อสตั ย์

ครูอธิบายสรุปเร่ือง ความดีที่ควรปฏิบตั ิ ดงั น้ี การทาความดีเป็ นสิ่งที่นักเรียนควรปฏิบตั ิ เช่น การ ต้งั ใจเรียน รับผดิ ชอบต่องานท่ีไดร้ ับมอบหมาย ขยนั อดทน มีความซ่ือสตั ย์ พูดแต่ ความจริง กตญั ญูต่อ พอ่ แม่ครูอาจารย์ มีความเมตตา กรุณา เอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผ่ และช่วยเหลือผอู้ ่ืน 13. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การทาความดีและการเห็นคุณคา่ ของความดีเป็นสิ่งทท่ี ุกคนควรปฏิบตั ิ เพอ่ื ใหอ้ ยใู่ นสงั คม อยา่ งสงบสุข 14. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 13 เรื่อง การทาความดีของตนเองและผอู้ ่ืน สื่อการเรียนรู้ 1. นิทานเรื่อง เดก็ ขา้ งบา้ น 2. ชิ้นงานท่ี 13 เรื่อง การทาความดีของตนเองและผอู้ ่ืน การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมินผล สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมนิ ชิ้นงานที่ 13 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การทาความดีของตนเองและผอู้ ื่น เกณฑ์การ ระดบั คะแนน ประเมนิ 4 3 2 1 วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ ความสามารถหรือ ความสามารถหรือ ความสามารถหรือ ความสามารถหรือ ความสามารถหรือ ความดีของตนเอง ความดีของตนเอง ความดีของตนเอง ความดีของตนเอง ความดีของตนเอง หรือเพอ่ื น พร้อม หรือเพอ่ื น พร้อม หรือเพอ่ื น พรอ้ ม หรือเพอื่ น พรอ้ ม หรือเพอ่ื น พร้อม

บอกผลของการ บอกผลของการ บอกผลของการ บอกผลของการ บอกผลของการ กระทา กระทาได้ กระทา มีการ กระทา สอดคลอ้ ง กระทา แตไ่ ม่ สมั พนั ธก์ นั มีการ อธิบายใหเ้ ห็นถึง ตามความเป็ นจริง สอดคลอ้ งตามความ เช่ือมโยงใหเ้ ห็น ความสมั พนั ธก์ บั เป็ นจริง เป็ นภาพรวม ตนเองอยา่ ง แสดงใหเ้ ห็นถึง เป็ นเหตุเป็ นผล ความสมั พนั ธก์ บั ตนเองและผอู้ ื่น

บันทกึ หลังการสอน  ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงชื่อ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) ( นางสาวจีรวรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 หน่วยท่ี 2 เร่ือง บทบาทหน้าทข่ี องสมาชิกในครอบครัวและโรงเรียน เวลา 3 ช่ัวโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปัจจุบนั ยดึ มน่ั ศรัทธา และธารงรักษาไวซ้ ่ึงการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข ตวั ชี้วัด ป.1/1 บอกโครงสร้าง บทบาท และหนา้ ทข่ี องสมาชิกในครอบครวั และโรงเรียน ป.1/2 ระบบุ ทบาท สิทธิ หนา้ ที่ของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน สาระสาคญั สมาชิกทุกคนในครอบครัวและโรงเรียนมีหน้าท่ีแตกต่างกนั แต่มีเป้าหมายเพอ่ื ให้ครอบครัวและ โรงเรียนมีความสงบสุข สาระการเรียนรู้ 1. โครงสร้าง บทบาทหนา้ ทขี่ องสมาชิกในครอบครวั 2. โครงสร้าง บทบาทหนา้ ทข่ี องสมาชิกในโรงเรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน 12. ช้ินงานที่ 14 เร่ือง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในครอบครวั 13. ช้ินงานที่ 15 เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในโรงเรียน 14. ชิ้นงานที่ 16 เร่ือง บทบาทหนา้ ที่ สิทธิของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูเขียนแผนภูมิโครงสร้างของครอบครัว และให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั สมาชิกในครอบครวั 2. ใหต้ วั แทนนกั เรียนออกมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกบั ครอบครวั ของตนเองให้เพอ่ื นฟัง และร่วมกนั สรุป ประโยชน์ของการรู้จกั สมาชิกในครอบครวั เป็นแผนภาพ

3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนกบทบาท หนา้ ท่ีของสมาชิกในครอบครวั 4. สรุปประโยชน์ของการปฏบิ ตั ติ ามบทบาทหนา้ ทที่ ่ีดีของสมาชิกในครอบครัว 5. ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับโครงสร้างของโรงเรียนโดยครูสรุปโครงสร้าง เป็ น แผนภาพ 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั บทบาท หนา้ ที่ของบุคคลในโรงเรียน 7. ให้นกั เรียนร่วมกนั จาแนกและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั บทบาท หน้าท่ี และความสมั พนั ธข์ อง สมาชิกในโรงเรียน 8. สรุปผลของการปฏิบตั ิตนตามบทบาทหนา้ ทขี่ องสมาชิกท่ีดีในโรงเรียน 9. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนกสิทธิของตนเองในครอบครัวและในโรงเรียนและ ความแตกตา่ ง ของบทบาทหนา้ ท่ีสิทธิของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน 10. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นการปฏิบตั ิตนตามบทบาทหน้าท่ีและสิทธิของสมาชิกใน ครอบครัว 11. สรุปความรู้การปฏิบตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทใี่ นครอบครัวท่เี หมาะสม 12. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การทาหนา้ ทข่ี องสมาชิกทกุ คนในครอบครัวและโรงเรียนมีความแตกต่างกนั แตม่ ีเป้าหมายเพอื่ ใหค้ รอบครวั และโรงเรียนมีความสงบสุข สื่อการเรียนรู้ 18. บตั รคา โครงสรา้ งของครอบครวั และโรงเรียน 19. แผนผงั โครงสรา้ งของครอบครวั 20. ตารางบทบาท หนา้ ท่ีของสมาชิกในโรงเรียน 21. บตั รคา บทบาท หนา้ ทข่ี องบคุ คลในครอบครวั และโรงเรียน 22. แถบประโยคเกี่ยวกบั บทบาทหนา้ ทข่ี องสมาชิกในครอบครวั 23. นิทานเรื่อง น้ิวไหนใช่หัวหนา้ 24. เกมทายไดใ้ หเ้ ลย 25. ชิ้นงานที่ 14 เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในครอบครวั 26. ช้ินงานท่ี 15 เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในโรงเรียน 27. ชิ้นงานท่ี 16 เรื่อง บทบาทหนา้ ท่ี สิทธิของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน การประเมินผล 1. การประเมินผลตวั ชี้วัด

1.1 ชิ้นงานท่ี 14 เร่ือง ความสัมพนั ธ์ของสมาชิกในครอบครัว เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 บอกโครงสร้าง บอกโครงสรา้ ง บอกโครงสร้าง บอกโครงสรา้ ง บอกโครงสร้าง บทบาทหนา้ ท่ขี อง บทบาทหนา้ ท่ขี อง บทบาทหนา้ ท่ีของ บทบาทหนา้ ที่ของ บทบาทหนา้ ที่ของ สมาชิก สมาชิก สมาชิก สมาชิก สมาชิก ในครอบครวั ในครอบครัว ในครอบครัว ในครอบครวั ในครอบครัว ของตนเอง ของตนเอง ของตนเองได้ ของตนเองได้ ของตนเองได้ ไดส้ มั พนั ธก์ บั สอดคลอ้ งกบั ความ สอดคลอ้ งกบั ความ แตไ่ ม่สอดคลอ้ ง ความเป็นจริง เป็นจริง เป็นจริง โดยมีครู กบั ความเป็ นจริง ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง แตม่ ี หรือผอู้ ื่นแนะนา โดยไม่ตอ้ งมีครู ครูหรือผอู้ ่ืน หรือผอู้ ื่นแนะนา แนะนาบา้ ง 1.2 ชิ้นงานที่ 15 เรื่อง ความสัมพนั ธ์ของสมาชิกในโรงเรียน เกณฑ์การ ระดบั คะแนน ประเมิน 4 3 2 1 บอกโครงสร้าง บอกโครงสร้าง บอกโครงสร้าง บอกโครงสรา้ ง บอกโครงสรา้ ง บทบาทหนา้ ที่ บทบาทหนา้ ท่ี บทบาทหนา้ ที่ บทบาทหนา้ ที่ บทบาทหนา้ ที่ ของสมาชิก ของสมาชิก ของสมาชิก ของสมาชิก ของสมาชิก ในโรงเรียน ในโรงเรียนของ ในโรงเรียน ในโรงเรียน ในโรงเรียน ของตนเอง ตนเองได้ ของตนเอง ของตนเอง ของตนเองได้ สอดคลอ้ ง ไดส้ อดคลอ้ ง ไดส้ อดคลอ้ ง แต่ไม่สอดคลอ้ ง ตามความเป็นจริง ตามความเป็นจริง ตามความเป็นจริง กบั ความเป็ นจริง ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง โดยมีครูหรือ โดยมีครูหรือ ผอู้ ่ืนแนะนาบา้ ง ผอู้ ่ืนแนะนา 1.3 ชิ้นงานท่ี 16 เร่ือง บทบาทหน้าท่ี สิทธิของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน

เกณฑ์การประเมนิ ระดับคะแนน 4 321 บอกบทบาท บอกบทบาท บอกบทบาท บอกบทบาท บอกบทบาท หนา้ ท่สี ิทธิ หนา้ ท่สี ิทธิ หนา้ ทส่ี ิทธิ หนา้ ท่ีสิทธิ หนา้ ทีส่ ิทธิ ของตนเอง ของตนเองใน ของตนเอง ของตนเอง ของตนเอง ในครอบครัว ครอบครัว ในครอบครัว ในครอบครัว ในครอบครัว และโรงเรียน และโรงเรียน และโรงเรียนได้ และโรงเรียนได้ และโรงเรียนได้ ไดส้ มั พนั ธก์ บั สอดคลอ้ งตาม สอดคลอ้ งตาม แต่ไม่สอดคลอ้ ง ความเป็ นจริง ความเป็นจริง ความเป็นจริง โดย ตามความเป็นจริง ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง ครูหรือ โดยไม่มีครู โดยครูหรือผอู้ ื่น ผอู้ ่ืนแนะนา หรือผอู้ ื่นแนะนา แนะนาบา้ ง 2. การประเมินผลคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตัวชี้วดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียน และเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม (3) 4.1.1 ต้งั ใจเรียน ไม่ต้งั ใจเรียน ต้งั ใจ เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ 4.1.2 เอาใจใส่และมี ในการเรียน และมีความเพยี ร- และมีความเพยี ร- ความเพยี รพยายาม พยายามในการเรียน พยายามใน ในการเรียนรู้ การเรียนรู้ เขา้ ร่วม 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วมกิจกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ การเรียนรู้ต่าง ๆ ตา่ ง ๆ

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 3 ช่ัวโมง หน่วยที่ 2 เรื่อง บทบาทหน้าทีข่ องสมาชิกในครอบครัวและโรงเรียน เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง โครงสร้างของครอบครัวความสัมพนั ธ์ของสมาชิกในครอบครัว มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบนั ยดึ มน่ั ศรัทธา และธารงรักษาไวซ้ ่ึงการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข ตัวชี้วัด ป.1/1 บอกโครงสรา้ ง บทบาทและหนา้ ท่ขี องสมาชิกในครอบครวั และโรงเรียน ป.1/2 ระบุบทบาท สิทธิ หนา้ ทขี่ องตนเองในครอบครัวและโรงเรียน จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายโครงสรา้ งของครอบครัว (K) 2. แสดงความคิดเห็นประโยชน์ของโครงสร้างของครอบครวั ตนเอง (P) 3. เห็นประโยชนข์ องการรู้จกั สมาชิกในครอบครัว (A) สาระสาคญั สมาชิกทุกคนในครอบครวั มีบทบาทหนา้ ที่แตกต่างกนั ทกุ คนจงึ ควรรู้จกั บทบาทหนา้ ท่ขี องตนเอง และปฏบิ ตั ิใหเ้ หมาะสม สาระการเรียนรู้ ลาดบั สมาชิกหรือโครงสรา้ งของครอบครัวและการจาแนกบทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชิกในครอบครัว คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียน และเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพเก่ียวกบั ประโยชน์ของการรูจ้ กั สมาชิกในครอบครัว 2. แผนภาพเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ติ นเป็ นหัวหนา้ ครอบครัวทดี่ ี 3. แผนภาพเกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ิตนเป็ นสมาชิกในครอบครัวที่ดี 4. ช้ินงานท่ี 14 เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในครอบครวั

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความเห็นเกี่ยวกบั ครอบครวั ของนกั เรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ครอบครัวของนกั เรียนมีสมาชิกท้งั หมดก่ีคน ประกอบดว้ ยใครบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ 5 คน พ่อ แม่ พ่ีชาย ตนเอง น้องสาว) ทบ่ี า้ นของนกั เรียนมีญาตอิ าศยั อยหู่ รือไม่ (มี/ไม่มี) ถา้ ไมม่ ี ญาตขิ องนกั เรียนอาศยั อยทู่ ่ีใด (ตวั อย่างคาตอบ จังหวดั ลาปาง) นกั เรียนเคยเดินทางไปเยยี่ มญาติหรือไม่ (เคย/ไม่เคย) ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า ครอบครัวประกอบดว้ ย พ่อ แม่ ลูก ในแต่ละครอบครัว จะมีโครงสร้างของ ครอบครัวท่ีแตกต่างกนั บางครอบครัวเป็ นครอบครัวเดียว มีพ่อ แม่ และลูก เป็ นสมาชิกในครอบครัว บาง ครอบครวั เป็นครอบครวั ใหญ่ มีญาติพนี่ อ้ งอาศยั อยดู่ ว้ ย เช่น ป่ ู ยา่ ตา ยาย ลุง ป้า นา้ อา 2. ครูอธิบายเก่ียวกบั แผนผงั ครอบครวั โดยครูเขยี นชื่อลงบนกระดานและลาดบั การ อธิบาย แผนผงั ใหน้ กั เรียนดู ดงั น้ี  นกั เรียนเป็นลูกของพอ่ กบั แม่ วาดแผนผงั การ สงั เก พอ่ แม่ ตเพื่อ สร้าง องค์ นกั เรียน ความ รู้ เตมิ ) ตดนว้เอยคนทเี่ กิดก่อนนกั เรียนเรียกวา่ พี่ คนท่เี กิดหลงั นกั เรียนเรียกวา่ นอ้ ง วาดแผนผงั (ต่อ ง สสกกางัาารเรกร พอ่ แม่ ตวจเพื่อ สสริ่ง้าแง พ่ี วองดคล์ ้ นกั เรียน นอ้ ง คอวมาม รู้ ดว้ ย ตนเอ ง การ

 พอ่ กบั แม่ของนกั เรียนก็มีพอ่ กบั แม่เหมือนกนั เราเรียกพอ่ ของพอ่ วา่ ป่ ู เราเรียกแม่ของ พอ่ วา่ ยา่ พอ่ ของแม่เราเรียกวา่ ตา แม่ของแม่เราเรียกวา่ ยาย วาดแผนผงั (ตอ่ เติม) การ ตา ยาย สงั เกป่ ู ยา่ ตเพื่อ แม่ สร้าง พอ่ องค์ ความ นกั เรียน นอ้ ง รู้ พ่ี ดว้ ย ตนเอ ง พอ่ และแม่ของเราก็มีพนี่ อ้ ง พช่ี ายของพอ่ และแม่เราเรียกวา่ ลุง พสี่ าวของพอ่ และแม่ เรียกวา่ ป้ากาสวกราาารดรแผปน่ ูผงั (เพม่ิ เติม) ยา่ ตา ยาย สวังเจก ลตเุสงพหิ่ง่ือแรือป้า พอ่ ลุงหรือป้า แม่ สวร้าดงล้ องอคม์ พี่ นกั เรียน นอ้ ง ความ วาดแรู้ดผว้นยนผงัอ้ ง(ขเพอมิ่งพเตอ่ มิ เ)ราเรียกวา่ อา นอ้ งของแม่เราเรียกวา่ นา้ กตานรเอ สง ังเก ป่ ู สอคลวตสวสกวงดจเรุงิ่างพาคา้าหรลแร่ือมง์ ้รือป้า ยา่ ตา ยาย พอ่ อา ลุงหรือป้า แม่ นา้ พี่ อรู้ ม นกั เรียน นอ้ ง 3. คดรูตว้ ยิดบตั รคาเก่ียวกบั โครงสรา้ งของครอบครัวลงบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านตามจานวน 1 รอบ ดงั น้ี ตนเอ ง การ สาร วจ

ป่ ู ยา่ ตา ยาย ลุง ป้า นา้ อา พอ่ แม่ พชี่ าย พสี่ าว นอ้ งชาย นอ้ งสาว จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบคาถามเก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี พอ่ ของพอ่ เรียกวา่ อะไร (ป่ ู) แม่ของพอ่ เรียกวา่ อะไร (ย่า) พอ่ ของแม่เรียกวา่ อะไร (ตา) แม่ของแม่เรียกวา่ อะไร (ยาย) พชี่ ายของพอ่ เรียกวา่ อะไร (ลงุ ) พส่ี าวของพอ่ เรียกวา่ อะไร (ป้า) นอ้ งชายหรือนอ้ งสาวของพอ่ เรียกวา่ อะไร (อา) พช่ี ายของแม่เรียกวา่ อะไร (ลงุ ) พส่ี าวของแม่เรียกวา่ อะไร (ป้า) นอ้ งชายหรือนอ้ งสาวของแม่เรียกวา่ อะไร (น้า) ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ โครงสร้างของครอบครวั ประกอบดว้ ย ป่ ู ยา่ ตา ยาย ลุง ป้า นา้ อา พอ่ แม่ ตนเอง พช่ี าย พสี่ าว นอ้ งชาย และนอ้ งสาว เป็นตน้ นกั เรียนควรรู้จกั สมาชิกในครอบครัวของตนเองเพอ่ื การ อยรู่ ่วมกนั ในครอบครัวอยา่ งมีความสุข 4. ใหต้ วั แทนนกั เรียน 2-3 คน ออกมาพดู เล่าเรื่องราวเกี่ยวกบั ครอบครัวของตนเองใหเ้ พอ่ื นฟังหน้า ช้นั เรียน จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ประโยชนข์ องการรูจ้ กั สมาชิกในครอบครวั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนรูจ้ กั สมาชิกในครอบครวั ทุกคนหรือไม่ (รู้จกั /ไม่รู้จกั ) การรู้จกั สมาชิกในครอบครัว มีประโยชน์ต่อนกั เรียนอยา่ งไร ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี

ตวั อย่างแผนภาพ ประโยชน์ของการรู้จัก เกิดความสุขใน สมาชิกในครอบครัว ครอบครวั ทราบประวตั คิ วาม เป็ นมาของครอบครัว ช่วยเหลือกนั เวลา เดือดรอ้ น ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า การรู้จกั สมาชิกในครอบครัว ทาให้นักเรียนทราบประวตั ิความเป็ นมาของ ตนเองและครอบครวั เกิดความสุขในครอบครวั สมาชิกในครอบครวั ช่วยเหลือดูแลกนั 5. ครูเล่านิทานเร่ือง นิ้วไหนใช่หวั หนา้ ซ่ึงมีเน้ือเรื่องดงั น้ี นิทานเรื่อง นิว้ ไหนใช่หัวหน้า มือขวาของรุจพูดคุยกนั เม่ือรุจหลบั แลว้ โดยแต่ละน้ิวตอ้ งการที่จะเป็ นหัวหน้า ของนิ้วท้งั หมด แต่ไม่สามารถตกลงกนั ได้ น้ิวโป้งบอกว่า ตนควรไดเ้ ป็ นหัวหนา้ เพราะ การจบั สิ่งของท้งั หมดตอ้ งใช้นิ้วโป้งเป็ นหลักในการจบั น้ิวช้ีบอกว่า ตนควรไดเ้ ป็ น หัวหน้า เพราะการช้ีสิ่งต่าง ๆ ตอ้ งใชน้ ิ้วช้ี นิ้วกลางบอกว่า ตนควรไดเ้ ป็ นหวั หนา้ เพราะ เป็ นนิ้วท่ีสูงที่สุด นิ้วนางบอกว่า ตนควรไดเ้ ป็ นหวั หน้า เพราะเป็ นน้ิวที่มีความสวยงาม ทส่ี ุด น้ิวกอ้ ยบอกวา่ ตนควรไดเ้ ป็นหวั หนา้ เพราะเป็นน้ิวที่คนใชเ้ กี่ยวกนั เพอ่ื แสดง การ สญั ญาหรือคืนดี จากน้นั น้ิวท้งั หมดของมือขวาจึงไม่ยอมทาหนา้ ที่ของตน เม่ือรุจจะเขียนหนังสือ ก็ไม่สามารถเขียนได้ จบั ส่ิงของต่าง ๆ ก็ตกแตกเสียหาย รุจเสียใจมาก น้ิวท้งั หมดจึง ปรึกษากนั แลว้ ตกลงกนั ในที่สุด โดยใหน้ ิ้วโป้งเป็ นหวั หนา้ เพราะหนา้ ทที่ ่สี าคญั ของมือ คือ การหยิบจบั สิ่งต่าง ๆ ต่อมารุจจึงสามารถทาส่ิงต่าง ๆ ได้ เพราะน้ิวท้งั หมดทางาน ดว้ ยดี โดยมีนิ้วโป้งคอยดูแลน้ิวอื่น ๆ อยู่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั นิทานเรื่องดงั กล่าวโดยครูใชค้ าถามดงั น้ี น้ิวไหนท่ีมีเหตผุ ลเหมาะสมท่สี ุดในการเป็ นหวั หนา้ (ตวั อย่างคาตอบ นิว้ โป้ง) การทีน่ ้ิวทุกน้ิวไม่ยอมทาหนา้ ท่ีของตน ทาใหเ้ กิดผลอยา่ งไร (รุจไม่สามารถ ทา ง า น ได้ ตา ม ป ก ติ )

นกั เรียนเห็นดว้ ยกบั การเลือกน้ิวโป้งเป็นหวั หนา้ หรือไม่ เพราะอะไร (ตวั อย่างคาตอบ เห็นด้วย เพราะเป็ นนิว้ ทส่ี าคญั ในการหยิบจับส่ิงต่าง ๆ) เมื่อมีหวั หนา้ แลว้ การทางานของมือขวาเป็ นอยา่ งไร (ทางานได้ด้วยดี โดยมี นิ้วโป้งดูแลอยู่) ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ การอยรู่ ่วมกนั ควรมีหวั หนา้ เพอื่ ดูแลใหค้ วามช่วยเหลือสมาชิก ของตนเอง ใหอ้ ยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข 6. ให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั บทบาทหนา้ ทข่ี องสมาชิกในครอบครัว โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี ครอบครัวของนกั เรียนแตง่ ต้งั ใหใ้ ครเป็นหวั หนา้ ครอบครัว (ตวั อย่างคาตอบ พ่อ/แม่) ทาไมครอบครวั ส่วนใหญ่จึงแตง่ ต้งั ใหพ้ อ่ เป็นหวั หนา้ ครอบครัว (ตัวอย่างคาตอบ เพราะพ่อเป็ นคนหารายได้ เป็ นคนเข้มแขง็ ดูแลครอบครัวได้) ทาไมบางครอบครัวจงึ ใหพ้ อ่ และแม่เป็ นหวั หนา้ ครอบครวั ร่วมกนั (ตัวอย่างคาตอบ เพราะพ่อและแม่เป็ นคนหารายได้ เพราะท้งั สองคน ช่วยดูแลครอบครัวเท่าเทยี มกนั ) 7. ใหต้ วั แทนนกั เรียน 2-3 คน ออกมาเล่าเรื่องราวเก่ียวกบั บทบาทหนา้ ที่ของหวั หนา้ ครอบครัวของ ตนเอง โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ครอบครัวของนกั เรียนมีสมาชิกท้งั หมดก่ีคน (ตวั อย่างคาตอบ 5 คน) ประกอบดว้ ยใครบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ พ่อ แม่ พี่ ตนเอง น้อง) ใครเป็นหัวหนา้ ครอบครัว (ตัวอย่างคาตอบ พ่อ) หวั หนา้ ครอบครัว มีบทบาทหนา้ ท่อี ยา่ งไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ทางานหารายได้ ช่วยทางานบ้าน ดูแลสมาชิกในครอบครัวไม่ให้ทะเลาะกนั ) ครูอธิบายเพมิ่ เติมว่า การอยรู่ ่วมกนั ในครอบครัว จะมีหัวหน้าครอบครัว ทาหนา้ ท่ีดูแลสมาชิกใน ครอบครวั เป็ นผนู้ าในการปรึกษาหารือเร่ืองต่าง ๆ ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั สมาชิกในครอบครัว สมาชิกในครอบครัว จงึ ควรเคารพและเชื่อฟังหวั หนา้ ครอบครัว เพอื่ ใหส้ มาชิกในครอบครวั อยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข 8. ครูตดิ บตั รคา ลงบนกระดานใหน้ กั เรียนดู แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั บทพบอ่ าทหนแา้มท่ ี่ของสลมูกาชิกในครอบครวั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี พอ่ ทาหนา้ ที่อะไรบา้ งในครอบครวั (ตวั อย่างคาตอบ ทางานหารายได้ ดูแลสมาชิก ในครอบครัว เป็ นผู้นาการประชุมในครอบครัว) แม่ทาหนา้ ทีอ่ ะไรบา้ งในครอบครวั (ตวั อย่างคาตอบ ดูแลความเป็ นอยู่ของสมาชิก ในครอบครัว) ลูกทาหนา้ ที่อะไรบา้ งในครอบครวั (ตวั อย่างคาตอบ ต้งั ใจเรียน เชื่อฟังคาสั่งสอนของพ่อ แม่)

ครูอธิบายเพมิ่ เติมวา่ สมาชิกในครอบครัวทกุ คน มีบทบาทหนา้ ที่ของตนเองพอ่ มีหนา้ ท่ีเป็นผนู้ าการ ประชุมในครอบครัว ทางานหารายได้ ดูแลสมาชิกในครอบครัวให้อยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข แม่มีบทบาท หนา้ ท่ีเป็ นผูด้ ูแลความเป็ นอยขู่ องสมาชิกในครอบครัว และทาหน้าท่ีอื่นร่วมกบั พอ่ ลูกมีบทบาทหน้าที่ใน การต้งั ใจเรียนหนงั สือ เชื่อฟังคาสงั่ สอนของพอ่ แม่ เป็นตน้ 9. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทที่ ี่ดี ของสมาชิกในครอบครัว โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี หวั หนา้ ครอบครวั ท่ดี ีควรปฏิบตั ิตนอยา่ งไร สมาชิกในครอบครวั ท่ดี ีควรปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไร ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียน เป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ รับฟังความคดิ เห็นของ ดูแลความเป็ นอยขู่ อง สมาชิกในครอบครัว สมาชิกในครอบครวั การปฏบิ ัติตน เป็ นหัวหน้าครอบครัวทด่ี ี สรา้ งความสุข ตดั สินใจเรื่องตา่ ง ๆ ในครอบครัว ดว้ ยความเป็นกลาง ช่วยเหลืองานบา้ น ต้งั ใจเรียน การปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิก ในครอบครัวท่ีดี เคารพและเชื่อฟัง ช่วยเหลือตนเอง หวั หนา้ ครอบครวั เทา่ ทที่ าได้

การปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหนา้ ท่ที ่ีดีของสมาชิกในครอบครวั มีประโยชน์อยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ครอบครัวเกิดความสามัคคกี ลมเกลยี วกนั และอยู่ร่วมกนั อย่างมคี วามสุข) ครูอธิบายเพิม่ เติมวา่ การปฏิบตั ิตนตามบทบาทหนา้ ทที่ ี่ดีของสมาชิกในครอบครัว เป็ นส่ิงท่ีทุกคน ในครอบครัวควรปฏิบตั ิ หัวหน้าครอบครัวควรดูแลความเป็ นอยู่ของสมาชิกในครอบครัว รับฟังความ คิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ตดั สินใจเรื่องต่าง ๆ ดว้ ยความเป็ นกลาง เป็ นตน้ นกั เรียนในฐานะสมาชิก ในครอบครัวจึงควรปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ดี ีในครอบครัว ช่วยเหลือ งานบา้ น ต้งั ใจเรียน เคารพและเชื่อ ฟังหวั หนา้ ครอบครัว เพอ่ื ใหค้ รอบครวั เกิดความสงบสุข มีระเบยี บเรียบรอ้ ย 10. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี สมาชิกทุกคนในครอบครัวมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกนั ทุกคนจึงควรรู้จกั บทบาทหน้าที่ ของตนเอง และปฏบิ ตั ติ นใหเ้ หมาะสม เพอื่ ใหค้ รอบครัวเกิดความสงบสุข 11. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 14 เร่ือง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในครอบครวั สื่อการเรียนรู้ 1. บตั รคาเก่ียวกบั โครงสร้างของครอบครัว 2. แผนผงั โครงสรา้ งของครอบครวั 3. นิทานเร่ือง น้ิวไหนใช่หวั หนา้ 4. บตั รคา พอ่ แม่ ลูก 5. ชิ้นงานท่ี 14 เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในครอบครัว การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ตรวจช้ินงานท่ี 14 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน

การประเมนิ ชิ้นงานท่ี 14 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในครอบครวั เกณฑ์การ ระดบั คะแนน ประเมิน 4 3 2 1 บอกโครงสร้าง บอกโครงสร้าง บอกโครงสรา้ ง บอกโครงสรา้ ง บอกโครงสรา้ ง บทบาทหนา้ ท่ีของ บทบาทหนา้ ท่ขี อง บทบาทหนา้ ท่ขี อง บทบาทหนา้ ทข่ี อง บทบาทหนา้ ทีข่ อง สมาชิก สมาชิก สมาชิก สมาชิก สมาชิก ในครอบครัว ในครอบครัว ในครอบครัว ในครอบครวั ในครอบครัว ของตนเอง ของตนเอง ของตนเองได้ ของตนเองได้ ของตนเองได้ ไดส้ มั พนั ธก์ บั สอดคลอ้ งกบั ความ สอดคลอ้ งกบั ความ แตไ่ ม่สอดคลอ้ ง ความเป็นจริง เป็นจริง เป็นจริง โดยมีครู กบั ความเป็ นจริง ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง แตม่ ี หรือผอู้ ื่นแนะนา โดยไม่ตอ้ งมีครู ครูหรือผอู้ ื่น หรือผอู้ ่ืนแนะนา แนะนาบา้ ง

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 18 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 3 ช่ัวโมง หน่วยที่ 2 เร่ือง บทบาทหน้าทขี่ องสมาชิกในครอบครัวและโรงเรียน เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง โครงสร้างของโรงเรียนความสัมพนั ธ์ของสมาชิกในโรงเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปัจจุบนั ยดึ มนั่ ศรัทธา และธารงรักษาไวซ้ ่ึงการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข ตัวชี้วัด ป.1/1 บอกโครงสร้าง บทบาท และหนา้ ทข่ี องสมาชิกในครอบครวั และโรงเรียน ป.1/2 ระบบุ ทบาท สิทธิ หนา้ ที่ของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายโครงสรา้ งของโรงเรียน (K) 2. บอกโครงสรา้ งของโรงเรียนตนเอง (P) 3. ตระหนกั ถึงความสาคญั ของบุคคลทมี่ ีบทบาทในโรงเรียน (A) สาระสาคญั โครงสร้างของโรงเรียนเป็ นส่ิงทน่ี กั เรียนควรทราบเพอื่ ใหส้ มาชิกในโรงเรียนอยรู่ ่วมกนั อยา่ งมี ความสุข เป็นระเบียบเรียบรอ้ ย สาระการเรียนรู้ บทบาทหนา้ ที่ ของสมาชิกในโรงเรียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพเก่ียวกบั โครงสร้างของโรงเรียน 2. แผนภาพเก่ียวกบั บทบาทหนา้ ทใี่ นโรงเรียนของนกั เรียน 3. แผนภาพเกี่ยวกบั ผลของการปฏบิ ตั ติ นตามหนา้ ที่ของสมาชิกท่ีดีในโรงเรียน 4. ช้ินงานท่ี 15 เร่ือง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในโรงเรียน

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั โครงสรา้ งของโรงเรียน โดยครูใชค้ าถามดงั น้ี ในโรงเรียนประกอบดว้ ยใครบา้ ง ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ ครู เจา้ หนา้ ที่ ผอู้ านวยการโรงเรียน โครงสร้าง ภารโรง ของโรงเรียน นกั เรียน หวั หนา้ หอ้ งเรียน ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ โครงสร้างของโรงเรียน ประกอบดว้ ย ผอู้ านวยการโรงเรียน ครู เจา้ หนา้ ท่ี นกั เรียน หวั หนา้ หอ้ งเรียนและภารโรง เป็นตน้ 2. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั บทบาทหนา้ ทข่ี องบุคคลในโรงเรียน โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี ผอู้ านวยการโรงเรียนของเราชื่ออะไร (ตัวอย่างคาตอบ นายอาทิตย์ คนด)ี นกั เรียนพบผอู้ านวยการโรงเรียนในเวลาใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เวลาเช้า ตอนเข้าแถวเคารพธงชาต)ิ ผอู้ านวยการไดร้ ับการแตง่ ต้งั หรือไดร้ บั การเลือกต้งั (การแต่งต้งั ) ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า บุคคลที่มีอานาจบริหารโรงเรียน ไดแ้ ก่ ผอู้ านวยการโรงเรียน ซ่ึงไดร้ ับ การแตง่ ต้งั มาทาหนา้ ท่ีบริหารโรงเรียน ผอู้ านวยการโรงเรียนจึงมีบทบาทหนา้ ที่ในการบริหาร ดูแลโรงเรียน ใหเ้ ป็นระเบียบเรียบรอ้ ย 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั โครงสร้างของหอ้ งเรียน โดยครูใชค้ าถามดงั น้ี ในหอ้ งเรียนประกอบดว้ ยใครบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ ครู นักเรียน หัวหน้าห้องเรียน)

หวั หนา้ หอ้ งเรียนเราช่ืออะไร (ตัวอย่างคาตอบ เดก็ ชายอธิชาติ ทาด)ี หัวหน้าหอ้ งเรียนมีหน้าที่อะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ บอกนาสวัสดีครู ช่วยดูแลเพื่อนใน ห้องเรียน) หวั หนา้ หอ้ งเรียนไดร้ บั การแตง่ ต้งั หรือไดร้ ับการเลือกต้งั (การเลือกต้งั ) ครูอธิบายเพ่มิ เติมว่า โครงสร้างของห้องเรียนประกอบดว้ ย ครู หัวหนา้ ห้องเรียน และสมาชิกใน ห้องเรียน หวั หน้าหอ้ งเรียนมีหนา้ ท่ีดูแลความสงบเรียบร้อยในหอ้ งเรียน โดยหัวหน้าห้องเรียน อาจไดร้ ับ การแตง่ ต้งั จากครู หรือไดร้ บั การเลือกต้งั จากนกั เรียนในหอ้ งเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย 4. ครูตดิ บตั รคาเก่ียวกบั บคุ คลทม่ี ีบทบาทหนา้ ท่ีในโรงเรียน ลงบนกระดาน ดงั น้ี ผอู้ านวยการโรงเรียน หวั หนา้ หอ้ งเรียน ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็ น 2 กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กนั แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนกลุม่ ออกมาเลือก บตั รคาบนกระดาน เพอ่ื เลือกหวั ขอ้ ในการแสดงบทบาทสมมุติ จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลุ่มฝึกซอ้ มตามหวั ขอ้ ท่ีไดร้ ับและออกมาแสดงให้เพือ่ นกลุ่มอ่ืนๆดู จากน้นั ให้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ความสาคญั ของบุคคลทีม่ ีบทบาทหนา้ ที่ ในโรงเรียน โดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี ผอู้ านวยการโรงเรียน และหวั หนา้ หอ้ งเรียนมีความสาคญั ตอ่ โรงเรียนอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ดูแลความสงบเรียบร้อยในโรงเรียน) ในฐานะท่นี กั เรียนมีบทบาทหนา้ ทเี่ ป็นสมาชิกในโรงเรียน นกั เรียนจะปฏิบตั ติ น อยา่ งไรใหโ้ รงเรียนเกิดความสงบสุข (ตัวอย่างคาตอบ ต้งั ใจเรียน เคารพและเช่ือฟังคาสอนของครู) 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั บทบาทหนา้ ทขี่ องตนเองในโรงเรียน โดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนมีบทบาทหนา้ ทใี่ นโรงเรียนอยา่ งไร ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ

ปฏบิ ตั ติ ามกฎ บทบาทหน้าที่ ต้งั ใจเรียนหนงั สือ ระเบยี บของโรงเรียน ในโรงเรียนของนักเรียน เช่ือฟังคาสง่ั สอน ของครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา่ การเป็ นสมาชิกที่ดีของโรงเรียน นกั เรียนควรรู้จกั บทบาทหน้าที่ของตนเอง เพอื่ ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตนในโรงเรียนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม 3. ครูติดบตั รคาเกี่ยวกบั บทบาทหนา้ ท่ีของสมาชิกในโรงเรียนลงบนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนอ่าน ตามจานวน 1 รอบ ดงั น้ี ผอู้ านวยการโรงเรียน ครู นกั เรียน ภารโรง เจา้ หนา้ ที่ของโรงเรียน 7. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กนั แลว้ ใหต้ วั แทนกลุ่มออกมาเลือก บตั รคา บนกระดาน กลุ่มละ 1 ใบ จากน้นั ใหน้ กั เรียน แต่ละกลุ่มร่วมกนั ตอบคาถามเก่ียวกบั บตั รคา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี บคุ คลในบตั รคามีบทบาทหนา้ ท่ีในโรงเรียนอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ครู มหี น้าท่ีสอนหนังสือ อบรมส่ังสอนนักเรียนให้เป็ นคนด)ี ครูเขยี นตารางเก่ียวกบั บทบาทหนา้ ที่ของสมาชิกในโรงเรียนลงบนกระดานใหน้ กั เรียนดู ดงั น้ี บทบาท หน้าท่ี ผอู้ านวยการโรงเรียน บริหารโรงเรียน ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสมาชิกทกุ คน ใน ครู โรงเรียน เจา้ หนา้ ทีข่ องโรงเรียน สอนหนงั สืออบรมสง่ั สอนนกั เรียนใหเ้ ป็นคนดี ดูแลจดั เก็บเอกสารขอ้ มูลท่ีเก่ียวกบั โรงเรียน ภารโรง ดูแลความสะอาดภายในบริเวณโรงเรียน นกั เรียน เรียนหนงั สือ เช่ือฟังคาสงั่ สอนของครู และปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ของ โรงเรียน

จากน้นั ครูอธิบายเพมิ่ เติมวา่ สมาชิกในโรงเรียนมีบทบาทหนา้ ท่ีที่แตกต่างกนั สมาชิกทุกคน ใน โรงเรียนจึงควรรู้จกั บทบาทหนา้ ท่ขี องตนเองเพอ่ื ใหโ้ รงเรียนเกิดความสงบสุข 8. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ผลของการปฏิบตั ิตนตามบทบาทหนา้ ท่ีของสมาชิก ท่ีดีในโรงเรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ถา้ สมาชิกทุกคนในโรงเรียนปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหนา้ ท่ขี องตนเอง จะเกิดผล อยา่ งไร ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ สมาชิกในโรงเรียน เกิดความเป็ นระเบยี บ สามคั คกี นั เรียบรอ้ ยในโรงเรียน ผลของการปฏบิ ัตติ น ตามบทบาทหน้าทข่ี อง สมาชิกท่ดี ใี นโรงเรียน โรงเรียนเกิดความ สงบสุข ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า ถา้ สมาชิกทุกคนในโรงเรียนปฏิบตั ิตนตามบทบาทหนา้ ที่ของตนเอง สมาชิก ทุกคนในโรงเรียนจะอยรู่ ่วมกันอย่างสงบสุข เกิดความเป็ นระเบียบเรียบร้อย และความสามคั คีภายใน โรงเรียน 9. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี สมาชิกทุกคนในโรงเรียนมีบทบาทหนา้ ท่ีแตกต่างกนั แต่มีความสมั พนั ธเ์ กี่ยวขอ้ งกนั ทุก คนในโรงเรียนจึงควรรูจ้ กั บทบาทหนา้ ทขี่ องตนเองและปฏิบตั ิตนใหเ้ หมาะสม 10. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานท่ี 15 เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในโรงเรียน ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคาเกี่ยวกบั บทบาทหนา้ ทขี่ องสมาชิกในโรงเรียน 2. ตารางบทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชิกในโรงเรียน 3. ช้ินงานที่ 15 เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในโรงเรียน

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1.3 ตรวจชิ้นงานท่ี 15 2. เครื่องมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง การประเมนิ ชิ้นงานที่ 15 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในโรงเรียน เกณฑ์การ ระดับคะแนน ประเมนิ 4 3 2 1 บอกโครงสร้าง บอกโครงสรา้ ง บอกโครงสรา้ ง บอกโครงสร้าง บอกโครงสรา้ ง บทบาทหนา้ ที่ บทบาทหนา้ ท่ี บทบาทหนา้ ท่ี บทบาทหนา้ ท่ี บทบาทหนา้ ท่ี ของสมาชิก ของสมาชิก ของสมาชิก ของสมาชิก ของสมาชิก ในโรงเรียน ในโรงเรียนของ ในโรงเรียน ในโรงเรียน ในโรงเรียน ของตนเอง ตนเองได้ ของตนเอง ของตนเอง ของตนเองได้ สอดคลอ้ ง ไดส้ อดคลอ้ ง ไดส้ อดคลอ้ ง แตไ่ ม่สอดคลอ้ ง ตามความเป็นจริง ตามความเป็นจริง ตามความเป็นจริง กบั ความเป็ นจริง ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง โดยมีครูหรือ โดยมีครูหรือ ผอู้ ่ืนแนะนา ผอู้ ื่นแนะนาบา้ ง

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 19 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยที่ 2 เรื่อง บทบาทหน้าท่ขี องสมาชิกในครอบครัวและโรงเรียน เวลา 1 ชั่วโมง เร่ือง บทบาทหน้าท่ี สิทธิของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบนั ยดึ มน่ั ศรัทธา และธารงรักษาไวซ้ ่ึงการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข ตัวชี้วัด ป.1/2 ระบบุ ทบาท สิทธิ หนา้ ทีข่ องตนเองในครอบครัวและโรงเรียน จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด 1. อธิบายบทบาทหนา้ ท่ี สิทธิของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน (K) 2. จาแนกบทบาทหนา้ ที่ สิทธิของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน (P) 3. ตระหนกั ถึงบทบาทหนา้ ท่ี สิทธิของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน (A) สาระสาคญั บทบาทหน้าที่ สิทธิ เป็ นสิ่งที่ทุกคนควรปฏิบตั ิให้ถูกตอ้ ง เพื่อให้สมาชิกในครอบครัว และ โรงเรียนอยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข สาระการเรียนรู้ 1. บทบาทหนา้ ท่ี สิทธิของตนเองในครอบครวั 2. บทบาทหนา้ ท่ี สิทธิของตนเองในโรงเรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพเกี่ยวกบั สิทธิของตนเองในครอบครวั 2. แผนภาพเก่ียวกบั สิทธิของตนเองในโรงเรียน 3. ชิ้นงานที่ 16 เรื่อง บทบาท หนา้ ที่ สิทธิของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบตั ิตนของตนเองในครอบครัว และ โรงเรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนปฏิบตั ิตนอยา่ งไรในครอบครวั (ตัวอย่างคาตอบ เชื่อฟังคาส่ังสอนของ พ่อแม่ ช่วยเหลืองานบ้าน) นักเรียนปฏิบตั ิงานของตนอยา่ งไรในโรงเรียน (ตัวอย่างคาตอบ ต้ังใจเรียน เชื่อฟังคาสั่ง สอนของครู) ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ การปฏิบตั ิตนเป็ นเด็กดี นกั เรียนควรปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว และโรงเรียน 2. ครูติดบตั รคาเก่ียวกบั บทบาทหนา้ ท่ี ลงบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนอ่านตามจานวน 1 รอบ ดงั น้ี ลูก นกั เรียน เรียนหนงั สือ เชื่อฟังคาสงั่ สอนของพอ่ แม่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ความหมายของบทบาทหนา้ ท่ี โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี เมื่ออยบู่ า้ นเรามีบทบาทเป็นอะไร (ลูก) เม่ืออยโู่ รงเรียนเรามีบทบาทเป็นอะไร (นักเรียน) การเช่ือฟังคาสงั่ สอนของพอ่ แม่เป็นหนา้ ที่ของลกู ท่ีดีหรือไม่ (เป็ น) การต้งั ใจเรียนหนงั สือ เป็นหนา้ ท่ขี องนกั เรียนที่ดีหรือไม่ (เป็ น) ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ บทบาท คอื ส่ิงท่เี ราเป็ นอยใู่ นขณะน้นั เช่น เมื่อเราอยบู่ า้ น เรามีบทบาท เป็ นลูก เม่ืออยโู่ รงเรียน เราจะมีบทบาทเป็ นนกั เรียน หน้าที่ คือ สิ่งท่ีเราตอ้ งปฏิบตั ิตามบทบาทท่ไี ดร้ ับ เช่น ลูกมีหนา้ ทต่ี อ้ งเช่ือฟังคาสง่ั สอนของพอ่ แม่ นกั เรียนมีหนา้ ท่ีเรียนหนังสือ บทบาทหนา้ ทจ่ี ึงเป็ นส่ิงทเี่ ราตอ้ ง ปฏบิ ตั ิใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสมท้งั ในครอบครวั และโรงเรียน 3. ใหน้ กั เรียนเล่นเกมทายไดใ้ หเ้ ลย โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็ น 2 กลุ่ม กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั กลุ่มที่ 1 ใหบ้ ตั รคา พอ่ แม่ ลูก นกั เรียน กลุ่มที่ 2 ใหบ้ ตั รคา เล้ียงดูลูก ช่วยเหลืองานบา้ น เรียนหนงั สือ ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษากนั วา่ จะเลือกบตั รคาใดก่อน โดยไม่ใหอ้ ีกกลุ่มทราบ จากน้ันแตล่ ะ กลุ่มเลือกตวั แทนกลุ่ม กลุ่มละ 1 คน ถือบตั รคาออกมาทห่ี นา้ ช้นั เรียน เมื่อครู ใหส้ ญั ญาณเปิ ดบตั รคา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook