Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้วิชาสังคม ป.๑

แผนจัดการเรียนรู้วิชาสังคม ป.๑

Published by Jeerawan Patiwong, 2020-04-01 00:13:06

Description: แผนจัดการเรียนรู้วิชาสังคม ป.๑ แก้ไข

Search

Read the Text Version

ใหต้ วั แทนท้งั 2 กลุ่ม เปิ ดบตั รคา ถา้ บตั รคาบทบาทหนา้ ทีส่ มั พนั ธก์ นั ท้งั 2 กลุ่มจะไดค้ ะแนนกลุ่มละ 1 คะแนน ถา้ บตั รคาไม่สมั พนั ธก์ นั ท้งั 2 กลุ่ม จะไม่ไดค้ ะแนน ดาเนินกิจกรรมน้ีจนจบั คูบ่ ตั รคาไดถ้ ูกตอ้ งครบ ท้งั 3 คู่ กลุ่มใดไดค้ ะแนนมากกวา่ ใหถ้ ือเป็นผชู้ นะ ครูอ่านขอ้ ความใหน้ กั เรียนฟัง ถา้ ถูกตอ้ งใหน้ กั เรียนยกมือขวาข้ึน ถา้ ไม่ถูกตอ้ งใหน้ กั เรียนยกมือ สองขา้ งข้นึ ไขวก้ นั เป็นเครื่องหมายกากบาทโดยครูอ่านขอ้ ความ ดงั น้ี หวั หนา้ ครอบครวั ไม่ตอ้ งทางานบา้ นเลย (ไม่) ผอู้ านวยการควรเฆ่ียนตนี กั เรียนทท่ี าผดิ (ไม่) หวั หนา้ หอ้ งควรแนะนาให้เพอื่ นปฏิบตั ิตามระเบียบ (ถูกต้อง) หวั หนา้ ครอบครัวควรดูแลใหส้ มาชิกอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสงบสุข (ถูกต้อง) ผอู้ านวยการตอ้ งเขม้ งวดกบั ครูและนกั เรียนใหม้ าก ๆ (ไม่) หวั หนา้ หอ้ งควรช่วยครูดูแลเพอื่ น ๆ (ถูกต้อง) ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครูอธิบายเพม่ิ เติมว่า สมาชิกทุกคนในครอบครัวและโรงเรียนมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกนั ทุกคน ควรรู้จกั บทบาทหนา้ ทขี่ องตนเองและปฏิบตั ิตามบทบาทหนา้ ท่ีของตนเองใหเ้ หมาะสม 4. ครูติดบตั รคา สิทธิ ลงบนกระดาน แลว้ ใหน้ ักเรียนอ่านตามจานวน 1 รอบ จากน้ัน ให้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ความหมายของสิทธิ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนรูจ้ กั สิ่งท่ีอยใู่ นบตั รคาหรือไม่ (ตวั อย่างคาตอบ รู้จกั ) การไดเ้ รียนหนงั สือ เป็นสิทธิทน่ี กั เรียนไดร้ ับหรือไม่ (เป็ น) การมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็นในครอบครัวเป็นสิทธิทน่ี กั เรียนไดร้ ับ หรือไม่ (เป็ น) ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ สิทธิ หมายถึง อานาจอนั ชอบธรรมของบุคคล โดยอยภู่ ายใต้ ขอบเขตของกฎหมาย เช่น สิทธิท่ีจะไดร้ บั การปกป้องคุม้ ครอง สิทธิทจี่ ะไดร้ บั การศึกษา ข้นั พ้นื ฐาน 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั สิทธิของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน โดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี สิทธิท่ีเราไดร้ บั ในครอบครวั มีอะไรบา้ ง สิทธิทเ่ี ราไดร้ บั ในโรงเรียนมีอะไรบา้ ง ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี

(ตวั อย่างแผนภาพ) ไดร้ ับการปกป้อง ไดร้ ับการเล้ียงดู คุม้ ครองจากพอ่ แม่ จากพอ่ แม่ อแม่ สิทธิของตนเอง ในครอบครัว มีส่วนร่วมแสดงความ คดิ เห็นร่วมกบั สมาชิกในครอบครัว ไดร้ บั การศึกษา มีส่วนร่วมในกิจกรรม ข้นั พ้นื ฐาน ต่างๆ ภายในโรงเรียน สิทธิของตนเอง ในโรงเรียน มีส่วนร่วมแสดงความคดิ เห็น ร่วมกบั ผอู้ ่ืน ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ ในฐานะประชาชนของประเทศ นกั เรียนมีสิทธิไดร้ ับการคุม้ ครองตามกฎหมาย เช่น สิทธิที่ไดร้ บั การปกป้องคุม้ ครอง และเล้ียงดูจากพอ่ แม่ สิทธิทไ่ี ดร้ บั การศึกษา ข้นั พ้นื ฐาน สิทธิใน การมีส่วนร่วมแสดงความคดิ เห็นหรือทากิจกรรมร่วมกบั สมาชิกในครอบครวั และโรงเรียน 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ความแตกตา่ งของบทบาทหนา้ ที่ สิทธิของตนเอง ในครอบครวั และโรงเรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี บทบาทหนา้ ทีข่ องนกั เรียนในครอบครวั คอื อะไร (ตัวอย่างคาตอบ ช่วยพ่อแม่ ทางานบ้าน เช่ือฟังคาส่ังสอนของพ่อแม่) บทบาทหนา้ ทข่ี องนกั เรียนในครอบครัวแตกตา่ งกบั สิทธิทน่ี กั เรียนไดร้ บั หรือไม่ (ตัวอย่างคาตอบ ไม่) บทบาทหนา้ ท่ขี องนกั เรียนในโรงเรียนคอื อะไร (ตวั อย่างคาตอบ ต้งั ใจเรียน

หนังสือ เคารพและเชื่อฟังคาส่ังสอนของครู) บทบาทหนา้ ท่ีของนกั เรียนในโรงเรียน แตกต่างกบั สิทธิที่นกั เรียนไดร้ บั หรือไม่ (ตวั อย่างคาตอบ ไม่) ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า บทบาทหน้าท่ีเป็ นส่ิงที่เราควรปฏิบตั ิ แต่สิทธิเป็ นสิ่งที่เราตอ้ งได้รับตาม กฎหมาย บทบาทหนา้ ท่ีของนักเรียนในครอบครัวและโรงเรียนอาจแตกต่างกบั สิทธิที่นักเรียนควรได้รับ ท้งั น้ีข้นึ อยกู่ บั ครอบครัวและโรงเรียนของนกั เรียน 7. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี บทบาทหนา้ ท่ี และสิทธิเป็ นส่ิงที่ทุกคนควรปฏิบตั ใิ หถ้ ูกตอ้ ง เพอ่ื ใหค้ รอบครัวและ โรงเรียนเกิดความสงบสุข เป็ นระเบยี บเรียบร้อย 8. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี หนา้ ที่ของเดก็ ดีมีอะไรบา้ ง 9. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 16 เร่ือง บทบาทหนา้ ท่ี สิทธิของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคาเก่ียวกบั บทบาท หนา้ ที่ 2. บตั รคา เกมทายไดใ้ หเ้ ลย 3. บตั รคาเก่ียวกบั สิทธิ 4. ช้ินงานที่ 16 เร่ือง บทบาทหนา้ ท่ี สิทธิของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1.3 ตรวจช้ินงานท่ี 16 2. เครื่องมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก

คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง การประเมนิ ชิ้นงานท่ี 16 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง บทบาทหนา้ ท่ี สิทธิของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 บอกบทบาท บอกบทบาท บอกบทบาท บอกบทบาท บอกบทบาท หนา้ ท่สี ิทธิ หนา้ ท่ีสิทธิ หนา้ ท่ีสิทธิ หนา้ ทส่ี ิทธิ หนา้ ที่สิทธิ ของตนเอง ของตนเองใน ของตนเอง ของตนเอง ของตนเอง ในครอบครัว ครอบครวั ในครอบครัว ในครอบครวั ในครอบครัว และโรงเรียน และโรงเรียน และโรงเรียนได้ และโรงเรียนได้ และโรงเรียนได้ ไดส้ มั พนั ธก์ บั สอดคลอ้ งตาม สอดคลอ้ งตาม แต่ไม่สอดคลอ้ ง ความเป็นจริง ความเป็นจริง ความเป็นจริง โดย ตามความเป็นจริง ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง มีครูหรือ โดยไม่มีครู โดยครูหรือผอู้ ่ืน ผอู้ ื่นแนะนา หรือผอู้ ่ืนแนะนา แนะนาบา้ ง

บันทึกหลงั การสอน  ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงชื่อ_____________________________ (ผบู้ นั ทกึ ) ( นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 หน่วยที่ 3 เร่ือง การมีส่วนร่วมตามกระบวนการประชาธิปไตย เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบนั ยดึ มน่ั ศรัทธา และธารงรักษาไวซ้ ่ึงการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข ตัวชี้วดั ป.1/3 มีส่วนร่วมในการตัดสินใจและทากิจกรรมในครอบครัวและโรงเรียนตามกระบวนการ ประชาธิปไตย สาระสาคญั การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในครอบครัวและโรงเรียน ตาม กระบวนการประชาธิปไตย เป็ นการยอมรับฟังความคิดเห็นที่มีเหตุผลของสมาชิก เพอื่ ให้สงั คมเกิดความ สงบสุข สาระการเรียนรู้ 1. การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจทากิจกรรมในครอบครวั ตามกระบวนการประชาธิปไตย 2. การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจทากิจกรรมในโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ ชิ้นงานหรือภาระงาน 15. ชิ้นงานท่ี 17 เรื่อง การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในครอบครวั ตามกระบวนการประชาธิปไตย 16. ช้ินงานที่ 18 เร่ือง การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในโรงเรียน ตามกระบวนการประชาธิปไตย การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูเล่านิทานเรื่อง ครอบครัวหรรษาเพ่ือนาเขา้ สู่บทเรียน และให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความ คดิ เห็นเก่ียวกบั กิจกรรมทีน่ กั เรียนทาร่วมกนั กบั ครอบครัว

2. การอธิบายการมีส่วนร่วมตามกระบวนการประชาธิปไตยในครอบครัวโดยการสรุปความรู้ 3. การใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในโรงเรียนตาม กระบวนการประชาธิปไตย 4. สรุปความรู้การมีส่วนร่วมตามกระบวนการประชาธิปไตยในโรงเรียน 5. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและทากิจกรรม ใน หอ้ งเรียน ตามกระบวนการประชาธิปไตย 6. สรุปความรูผ้ ลของการมีส่วนร่วมในการตดั สินใจ การทากิจกรรมตามกระบวนการ ประชาธิปไตย 7. นกั เรียน และครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ประชาธิปไตยเป็นหลกั การปกครองทยี่ อมรับความคดิ เห็นทม่ี ีเหตุผลของสมาชิก สื่อการเรียนรู้ 28. นิทานเรื่อง ครอบครัวหรรษา 29. บตั รคา 30. แถบประโยค 31. ชิ้นงาน 17 เรื่อง การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในครอบครัวตาม กระบวนการประชาธิปไตย 32. ช้ินงานท่ี 18 เร่ือง การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในโรงเรียนตาม กระบวนการประชาธิปไตย การประเมินผล 1.การประเมนิ ผลตัวชี้วัด 1.1 ชิ้นงานท่ี 17 เรื่อง การมสี ่วนร่วมในการตัดสินใจและการทากจิ กรรมในครอบครัวตาม กระบวนการประชาธิปไตย เกณฑ์การ ระดับคะแนน ประเมิน 4 3 2 1 มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ ตดั สินใจและการ ตดั สินใจและการ ตดั สินใจและการ ตดั สินใจและการ ตดั สินใจและการ ทากิจกรรมใน ทากิจกรรมใน ทากิจกรรมใน ทากิจกรรมใน ทากิจกรรมใน ครอบครวั ตาม ครอบครวั ตาม ครอบครัวตาม ครอบครวั ตาม ครอบครัวตาม กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ร่วมกบั ผอู้ ่ืน ร่วมกบั ผอู้ ่ืน ร่วมกบั ผอู้ ่ืน

สามารถตดั สินใจ สามารถตดั สินใจ สามารถตดั สินใจ โดยมีครูหรือผอู้ ื่น ในระหวา่ งปฏบิ ตั ิ ในระหวา่ งปฏบิ ตั ิ โดยมีครูหรือผอู้ ่ืน แนะนาในการ ไดด้ ว้ ยตนเอง ไดด้ ว้ ยตนเองและ แนะนาในการ ปฏบิ ตั ิ มีครูหรือผอู้ ื่น ปฏบิ ตั ิ แนะนาบา้ ง 1.2 ชิ้นงานท่ี 18 เร่ือง การมสี ่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากจิ กรรมในโรงเรียนตาม กระบวนการประชาธิปไตย เกณฑ์การ ระดบั คะแนน ประเมนิ 4 3 2 1 มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ ตดั สินใจและ ตดั สินใจและ ตดั สินใจและ ตดั สินใจและ ตดั สินใจและ การทากิจกรรม การทากิจกรรม การทากิจกรรม การทากิจกรรม การทากิจกรรม ในโรงเรียน ในโรงเรียน ในโรงเรียน ในโรงเรียน ในโรงเรียน ตามกระบวนการ ตามกระบวนการ ตามกระบวนการ ตามกระบวนการ ตามกระบวนการ ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ร่วมกบั ผอู้ ื่น ร่วมกบั ผอู้ ื่น ร่วมกบั ผอู้ ่ืน โดยมีครูหรือผอู้ ื่น สามารถตดั สินใจ สามารถตดั สินใจ โดยมีครูหรือผอู้ ่ืน แนะนาในการ ในระหวา่ งปฏิบตั ิ ในระหวา่ ง แนะนาในการ ปฏิบตั ิ ไดด้ ว้ ยตนเอง ปฏบิ ตั ิได้ ปฏิบตั ิ ดว้ ยตนเองและมี ครูหรือผอู้ ่ืน แนะนาบา้ ง

2. การประเมินผลคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตัวชี้วัดที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม (3) 4.1.1 ต้งั ใจเรียน ไม่ต้งั ใจเรียน ต้งั ใจ เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ 4.1.2 เอาใจใส่และมี ในการเรียน และมีความเพยี ร- และมีความเพยี ร- ความเพยี รพยายาม พยายามในการเรียน พยายามในการ ในการเรียนรู้ เรียนรู้ เขา้ ร่วม 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วมกิจกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ การเรียนรู้ต่าง ๆ ต่าง ๆ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยที่ 3 เรื่อง การมีส่วนร่วมตามกระบวนการประชาธิปไตย เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง กระบวนการประชาธปิ ไตยในครอบครัวและในโรงเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบนั ยดึ มนั่ ศรัทธา และธารงรักษาไวซ้ ่ึงการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข ตวั ชี้วดั ส 2.2 ป.1/3 มีส่วนร่วมในการตดั สินใจและทากิจกรรมในครอบครัวและโรงเรียน ตาม กระบวนการประชาธิปไตย จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด 1. อธิบายการมีส่วนร่วมในครอบครวั และโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย (K) 2. มีส่วนร่วมในครอบครัวและโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย (P) 3. ตระหนกั ถึงความสาคญั ของการมีส่วนร่วมตามกระบวนการประชาธิปไตย (A) สาระสาคญั การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในครอบครัวตามกระบวนการประชาธิปไตย เป็นการยอมรบั ฟังความคิดเห็นท่มี ีเหตุผลของสมาชิกในครอบครวั เป็นหลกั สาระการเรียนรู้ การมีส่วนร่วมตามกระบวนการประชาธิปไตยในครอบครัวและในโรงเรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพเกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีนกั เรียนทาร่วมกนั กบั ครอบครวั 2. ชิ้นงานที่ 17 เร่ือง การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจ และการทากิจกรรมในครอบครัวตาม กระบวนการประชาธิปไตย

3. ตารางเกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ิตนท่ีเหมาะสมและไม่เหมาะสมในการร่วมตดั สินใจตามกระบวนการ ประชาธิปไตย 4. แผนภาพ การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในโรงเรียน 5. ช้ินงานท่ี 18 เร่ือง การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในโรงเรียนตาม กระบวนการประชาธิปไตย การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การมีส่วนร่วมตามกระบวนการประชาธิปไตย โดย ครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนเคยมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในครอบครวั หรือไม่ (เคย/ไม่เคย) นกั เรียนมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในครอบครัวเรื่องอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ การแบ่งหน้าท่ีรับผดิ ชอบในครอบครัว กิจกรรมทีท่ าร่วมกนั ) ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ การปกครองระบอบประชาธิปไตย เป็ นการปกครองที่ยอมรบั ความคิดเห็นของ สมาชิกเสียงส่วนใหญ่ 2. ครูเล่านิทานเร่ือง ครอบครัวหรรษาใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี นิทานเรื่อง ครอบครัวหรรษา ครอบครัวของไข่ดาวมีสมาชิกท้งั หมด 3 คน คือ พ่อ แม่ และไข่ดาว แม่จะ ถามไข่ดาวและพ่อก่อนทากบั ขา้ วเสมอว่าอยากรับประทานอะไร แลว้ แม่จะทาให้ รบั ประทาน ทาใหอ้ าหารถูกปากและถูกใจสมาชิกในครอบครวั เสมอ และทกุ คนจะมี ความสุขในเวลารับประทานอาหารมาก ๆ ขา้ งบา้ นของไข่ดาว คือบา้ นของไข่เจียว ซ่ึงจะไดย้ นิ เสียงสมาชิกในครอบครัวทะเลาะกนั ก่อนรับประทานอาหารเสมอ เพราะ แม่ของไขเ่ จียวจะทาอาหารเฉพาะท่ีตนเองชอบเท่าน้นั ทาใหพ้ อ่ ไข่เจียวไม่พอใจและ ตอ้ งเดินไปซ้ือกบั ขา้ วถุงมารับประทานทุกวนั ทาให้บรรยากาศในครอบครัวไม่มี ความสุข แม่ของไข่เจียวจึงปรึกษากบั แม่ของไขด่ าววา่ เขาควรทาอะไรใหส้ ามีกบั ลูก ของตนจึงจะยอมรับประทานอาหารท่ีตนเองทา แม่ของไขด่ าวจึงแนะนาวธิ ีท่ีตนเอง ถามความคิดของสมาชิกในครอบครวั ก่อนทาอาหารใหแ้ ม่ของไข่เจยี วฟัง เม่ือแม่ของ ไข่เจยี วนาไปใชจ้ งึ ทาใหบ้ า้ นของไขเ่ จียวไม่มีเรื่องทะเลาะกนั อีกเลย จากน้นั ใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั นิทานเรื่องดงั กล่าว โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ในนิทานเร่ืองน้ีมีครอบครัวของใครบา้ ง (ไข่ดาวกบั ไข่เจยี ว) ครอบครวั ของไข่ดาวมีวธิ ีการทาอาหารอยา่ งไร (แม่ถามสมาชิกในครอบครัว ก่อนทาอาหารแต่ละมือ้ ) ครอบครวั ของไข่เจียวมีวธิ ีการทาอาหารอยา่ งไร (แม่จะทาเฉพาะอาหารทตี่ นเอง

ชอบเท่าน้ัน) ครอบครวั ของนกั เรียนมีวธิ ีการทาอาหารอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ แม่ถามสมาชิกก่อน ทาอาหารทกุ มอื้ ) นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรต่อการกระทาของแม่ (ตัวอย่างคาตอบ ชอบ พอใจ) นกั เรียนอยากใหค้ รอบครัวของนกั เรียนเป็นครอบครัวแบบครอบครัว ของไขด่ าวหรือไขเ่ จยี ว (ตวั อย่างคาตอบ ไข่ดาว) ครูอธิบายเพมิ่ เติมว่า การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในครอบครัวตามกระบวนการประชาธิปไตย เป็ นการยอมรับความคิดเห็นของสมาชิกส่วนใหญ่ในครอบครัว โดยยดึ หลกั เสียงขา้ งมาก สมาชิกทุก คนในครอบครัวควรมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็นในเรื่องตา่ ง ๆภายในครอบครัว พร้อมบอกเหตุผล รวมท้งั ยอมรับฟังความคดิ เห็นของผอู้ ่ืน 3. ครูเล่าสถานการณ์เกี่ยวกบั การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในครอบครวั ตามกระบวนการ ประชาธิปไตยใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี สถานการณ์ พ่อของวิรัตน์ตอ้ งการพาสมาชิกในครอบครัวไปพกั ผ่อนในวนั หยดุ วิรัตน์อยากไปเที่ยว สวนสตั ว์ แต่สมาชิกท่ีเหลืออยากไปเที่ยวทะเลมากกว่า วริ ัตน์จึงเคารพการตดั สินใจของสมาชิก ส่วนใหญ่ในครอบครวั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจตามกระบวนการ ประชาธิปไตย โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ครอบครัวของวริ ัตน์ มีวธิ ีการตดั สินใจเร่ืองการไปพกั ผอ่ นอยา่ งไร (ตดั สินใจ ตามกระบวนการประชาธิปไตย) วริ ตั น์มีส่วนร่วมในการตดั สินใจเรื่องน้ีหรือไม่ (ม)ี วริ ตั นย์ อมรบั การตดั สินใจของครอบครัวคร้งั น้ีหรือไม่ (ยอมรับ) 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม ในครอบครัว โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี กิจกรรมใดทีค่ รอบครวั ของนกั เรียนทาร่วมกนั ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี

ตวั อย่างแผนภาพ รับประทานอาหาร ปลูกตน้ ไม้ กิจกรรมทนี่ ักเรียน ไปเท่ียวในวนั หยดุ ทาร่วมกนั กบั ครอบครัว นกั เรียนมีหนา้ ท่ีความรับผดิ ชอดบูโใทนรคทรศัอนบ์ครวั อะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ นักเรียนมีหน้าท่ีความรับผดิ ชอบในครอบครัวอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ กวาดบ้าน ล้างจาน) ทุกคร้ังที่ทากิจกรรมนกั เรียนไดแ้ สดงความคิดเห็นหรือไม่ (ตวั อย่างคาตอบ ได้) นกั เรียนร่วมกิจกรรมดว้ ยความเตม็ ใจหรือไม่ (ตัวอย่างคาตอบ เต็มใจ) นกั เรียนรูส้ ึกอยา่ งไรเมื่อไดร้ ่วมกิจกรรมกบั ครอบครัว (ตัวอย่างคาตอบ มีความสุข) ครูอธิบายสรุปเรื่อง การมีส่วนร่วมในการทากิจกรรมในครอบครัว ดงั น้ี การอยรู่ ่วมกนั ในครอบครัว สมาชิกทุกคนควรทากิจกรรมร่วมกนั โดยยดึ หลกั ประชาธิปไตย เช่น การแบ่งแยกหนา้ ท่ีความรับผิดชอบในครอบครัว เพ่อื ใหส้ มาชิกในครอบครัวไดท้ ากิจกรรมร่วมกนั การมี ส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็นและการรับฟังความคดิ เห็นของสมาชิกในครอบครัว 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ความสาคญั ของการมีส่วนร่วมในครอบครัวตาม กระบวนการประชาธิปไตย โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การมีส่วนร่วมในครอบครัวตามกระบวนการประชาธิปไตย มีความสาคญั ต่อนักเรียน อยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ทาให้ได้แสดงความคดิ เห็นของตนเองและรับฟังความคดิ เห็น ของสมาชิกใน ครอบครัว) 6. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ใ น ก า ร ตัด สิ น ใ จ แ ล ะ ก า ร ท า กิ จ ก ร ร ม ใ น คร อ บ ค รั ว ต า มก ร ะ บ ว นการ ประชาธิปไตย เป็นการยอมรบั ฟังความคิดเห็นของสมาชิกส่วนใหญใ่ นครอบครัวเป็นหลกั

7. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานท่ี 17 เร่ือง การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในครอบครัว ตามกระบวนการประชาธิปไตย 8. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในโรงเรียน โดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนเคยมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในโรงเรียนเร่ืองใดบา้ ง ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ เลือกหวั หนา้ หอ้ งเรียน กาหนดหวั ขอ้ การมสี ่วนร่วม เลือกหวั หนา้ กลุ่ม การจดั ป้ายนิเทศ ในการตดั สินใจในโรงเรียน กาหนดกิจกรรม ทจี่ ะแสดงในงานโรงเรียน ครูอธิบายเพมิ่ เติมวา่ การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย เป็นสิ่งทน่ี กั เรียนควรปฏิบตั ิ เพอื่ ใหส้ มาชิกในโรงเรียนอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสงบสุข 9. ครูติดแถบประโยคเก่ียวกบั การปฏิบตั ิตนในการมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในโรงเรียนตาม กระบวนการประชาธิปไตยลงบนกระดาน ดงั น้ี ยกมือออกเสียงแทนเพอ่ื นทไ่ี ม่อยู่ แสดงความคดิ เห็นพรอ้ มบอก เหตผุ ลในเรื่องต่าง ๆ ยอมรบั ขอ้ ตกลงทส่ี มาชิกส่วนใหญ่ เห็นวา่ ถูกตอ้ งและเหมาะสม ปฏบิ ตั ิตามสิ่งทต่ี นเองเสนอเทา่ น้นั

ครูเขียนตารางเก่ียวกับการปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสม และไม่เหมาะสมในการร่วมตัดสินใจตาม กระบวนการประชาธิปไตยลงบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนกแถบประโยคใหส้ มั พนั ธก์ บั ตาราง ดงั น้ี ตวั อย่างตาราง การปฏบิ ตั ิตนทีเ่ หมาะสมในการร่วม การปฏบิ ตั ิตนที่ไม่เหมาะสมในการร่วมตดั สินใจ ตดั สินใจตามกระบวนการประชาธิปไตย ตามกระบวนการประชาธิปไตย ยอมรบั ขอ้ ตกลงท่สี มาชิกส่วนใหญเ่ ห็นวา่ ปฏบิ ตั ิตามส่ิงท่ีตนเองเสนอเทา่ น้นั ถูกตอ้ งและเหมาะสม ครูอธิบายเพมิ่ เติมว่า การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย นักเรียนควรปฏิบตั ิตนให้เหมาะสมตามกระบวนการประชาธิปไตย โดยการร่วมกันแสดงความคิดเห็น พร้อมบอกเหตุผลในเรื่องต่าง ๆ ไม่ละเมิดสิทธิ การลงคะแนนเสียงของผอู้ ่ืนยอมรับขอ้ ตกลงที่สมาชิกส่วน ใหญ่เห็นวา่ ถูกตอ้ งและเหมาะสม หากไม่เห็นดว้ ยใหแ้ สดง ความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล 10. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม ในโรงเรียนตาม กระบวนการประชาธิปไตย โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนเคยมีส่วนร่วมในการทากิจกรรมของโรงเรียนตามกระบวนการ ประชาธิปไตยเรื่องอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ การเลือกหัวหน้าห้องเรียน การเลือกประธานนักเรียน) ในการทากิจกรรม นกั เรียนไดแ้ สดงความคดิ เห็นหรือไม่ (ตัวอย่างคาตอบ ได้) นกั เรียนรูส้ ึกอยา่ งไรในการมีส่วนร่วมทากิจกรรมคร้ังน้ี (ตวั อย่างคาตอบ ภาคภูมิใจในสิทธิของตนเอง) ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า การอยูร่ ่วมกนั ในโรงเรียน นักเรียนควรมีส่วนร่วมในการทากิจกรรมใน โรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย 11. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการทากิจกรรมในโรงเรี ยนตามกระบวนการ ประชาธิปไตยจะทาใหส้ มาชิกในโรงเรียนอยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข 12. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานที่ 18 เรื่อง การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในโรงเรียน ตามกระบวนการประชาธิปไตย ส่ือการเรียนรู้ 1. นิทานเร่ือง ครอบครวั หรรษา

2. แถบประโยคสถานการณ์เกี่ยวกบั การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจในครอบครวั ตามกระบวนการ ประชาธิปไตย 3. ช้ินงานท่ี 17 เร่ือง การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในครอบครวั ตาม กระบวนการประชาธิปไตย 4. แถบประโยคเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ติ นในการมีส่วนร่วมตดั สินใจในโรงเรียนตามกระบวนการ ประชาธิปไตย 5. ชิ้นงานที่ 18 เร่ือง การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการทากิจกรรมในโรงเรี ยนตาม กระบวนการประชาธิปไตย การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานท่ี 17 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในครอบครวั ตามกระบวนการประชาธิปไตย เกณฑ์การ ระดบั คะแนน ประเมนิ 4 3 2 1 มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ ตดั สินใจและการ ตดั สินใจและการ ตดั สินใจและการ ตดั สินใจและการ ตดั สินใจและการ ทากิจกรรมใน ทากิจกรรมใน ทากิจกรรมใน ทากิจกรรมใน ทากิจกรรมใน ครอบครวั ตาม ครอบครวั ตาม ครอบครัวตาม ครอบครวั ตาม ครอบครัวตาม กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ร่วมกบั ผอู้ ื่น ร่วมกบั ผอู้ ่ืน ร่วมกบั ผอู้ ่ืน โดยมีครูหรือผอู้ ื่น สามารถตดั สินใจ สามารถตดั สินใจ สามารถตดั สินใจ แนะนาในการ ในระหวา่ งปฏบิ ตั ิ ในระหว่างปฏิบตั ิ โดยมีครูหรือผอู้ ื่น ปฏบิ ตั ิ ไดด้ ว้ ยตนเอง ไดด้ ว้ ยตนเองและ แนะนาในการ มีครูหรือผอู้ ่ืน ปฏิบตั ิ แนะนาบา้ ง

การประเมินใบงานท่ี 18 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การมี ส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทากิจกรรมในโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย เกณฑ์การ ระดบั คะแนน ประเมิน 4 3 2 1 มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ มีส่วนร่วมในการ ตดั สินใจและ ตดั สินใจและ ตดั สินใจและ ตดั สินใจและ ตดั สินใจและ การทากิจกรรม การทากิจกรรม การทากิจกรรม การทากิจกรรม การทากิจกรรม ในโรงเรียน ในโรงเรียน ในโรงเรียน ในโรงเรียน ในโรงเรียน ตามกระบวนการ ตามกระบวนการ ตามกระบวนการ ตามกระบวนการ ตามกระบวนการ ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ร่วมกบั ผอู้ ่ืน ร่วมกบั ผอู้ ื่น ร่วมกบั ผอู้ ื่น โดยมีครูหรือผอู้ ื่น สามารถตดั สินใจ สามารถตดั สินใจ โดยมีครูหรือผอู้ ่ืน แนะนาในการ ในระหวา่ งปฏิบตั ิ ในระหวา่ ง แนะนาในการ ปฏิบตั ิ ไดด้ ว้ ยตนเอง ปฏบิ ตั ไิ ด้ ปฏบิ ตั ิ ดว้ ยตนเองและมี ครูหรือผอู้ ่ืน

บนั ทกึ หลงั การสอน  ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) ( นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา ๓ ชวั่ โมง เรื่อง การใชจ้ า่ ยเงินเพือ่ ซอ้ื สนิ ค้าและบริการอยา่ งค้มุ ค่า มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรพั ยากรในการผลิตและการบริโภค การใชท้ รัพยากรท่ีมีอยู่ จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี งเพอ่ื การดารงชีวิตอย่างมี ดลุ ยภาพ ตวั ชวี้ ัด ป.1/1 ระบุสนิ ค้าและบรกิ ารท่ีใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวัน ป.1/2 ยกตัวอย่างการใช้จา่ ยเงนิ ในชีวิตประจาวนั ท่ีไม่เกนิ ตัวและเหน็ ประโยชน์ของการออม สาระสาคญั สินค้าและบริการเป็นสิ่งของหรือการใหค้ วามสะดวกโดยมีเงนิ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลีย่ น การออม เงนิ เป็นการวางแผนในการใชจ้ ่ายเงนิ ในการดาเนนิ ชวี ิตประจาวัน สาระการเรียนรู้ 1. สนิ คา้ และบริการ 2. การใชจ้ ่ายเงนิ ในชวี ิตประจาวัน 3. การออมเงนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ อยู่อย่างพอเพียง ตัวชี้วดั ที่ 5.1 ดาเนนิ ชวี ิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคณุ ธรรม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน 17.ชน้ิ งานที่ 19 เรอื่ ง สนิ คา้ และบรกิ ารที่ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั 18.ชน้ิ งานท่ี 20 เรือ่ ง การใช้จา่ ยเงิน 19.ชน้ิ งานท่ี 21 เรอ่ื ง หลักการออมเงนิ และประโยชนข์ องการออมเงนิ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. การใหน้ ักเรียนร่วมกันศกึ ษาและแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับความหมายของสินค้า และบรกิ าร 2. สรุปความสาคญั ของสนิ คา้ และบริการในชีวติ ประจาวัน 3. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นการใช้สินค้าและบริการ โดยครูนาแถบประโยคเกย่ี วกับการ ใช้สินค้าและบรกิ ารในชีวติ ประจาวัน โดยการจาแนกความคุ้มคา่ กับความไม่คุ้มคา่ ของการใชส้ ินคา้ และบริการ 4. สรปุ ความรู้การใช้ประโยชนจ์ ากสินค้า และบริการให้คมุ้ ค่า 5. ครูนาเหตุการณ์ 2 ตวั อย่างมาเล่าให้นักเรยี นฟังเก่ียวกับการใช้จา่ ยเงิน จากนัน้ ให้นักเรยี นร่วมกัน แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ความเหมาะสมและความไมเ่ หมาะสมของการใชจ้ ่ายเงนิ

6. ครูให้ตัวแทนนักเรียนออกมาเล่าการใช้จ่ายเงินในชีวิตประจาวัน จานวน 4 คน จากนั้นครูบันทึก การใช้จ่ายของตัวแทนนักเรียนลงบนกระดานและให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นการใช้จ่ายเงินใน ชวี ติ ประจาวนั ของเพอ่ื น 7. สรุปความรู้วิธีการใช้จ่ายเงนิ ในชีวิตประจาวัน 8. ครูให้นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการออมเงิน โดยการนาแถบประโยคมาให้นักเรียนจาแนก หลกั การออมเงนิ 9. ให้นักเรียนร่วมกันสนทนา และสรุปความรู้ประโยชน์ของการออมเงิน และประโยชน์ของการจด บนั ทึกการออมเงิน โดยครูสรุปเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน 10. ให้นกั เรยี นรว่ มกันบันทกึ รายรับรายจ่ายประจาวันของตนเอง และให้รว่ มกัน แสดงความ คดิ เหน็ การวางแผนการใชจ้ ่าย 11. สรปุ ความรูก้ ารวางแผนการใช้จ่ายเงิน 12. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดังน้ี เงนิ เป็นส่ือกลางทใ่ี ช้ในการแลกเปลย่ี นสินค้าและบรกิ าร โดยการออมเงนิ เป็นการวาง แผนการใช้จ่ายเงนิ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสุดในการดาเนนิ ชวี ติ ส่อื การเรยี นรู้ 33.บัตรคาสินค้าและบริการ 34.แถบประโยคเกี่ยวกบั สินค้าและบรกิ าร และการออมเงนิ 35.แถบคาขวัญเกย่ี วกบั การใชจ้ า่ ยเงิน 36.ชน้ิ งานท่ี 19 เร่ือง สินคา้ และบริการที่ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั 37.ชน้ิ งานท่ี 20 เรือ่ ง การใชจ้ ่ายเงนิ 38.ช้ินงานท่ี 21 เร่อื ง หลกั การออมเงนิ และประโยชน์ของการออมเงิน

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 3 ช่ัวโมง หน่วยที่ 1 เรื่อง การใช้จ่ายเงินเพ่ือซื้อสินค้าและบริการอย่างคุ้มค่า เวลา 1 ชั่วโมง เร่ือง สินค้าและบริการ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใชท้ รัพยากรทมี่ ี อยจู่ ากดั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและคุม้ ค่า รวมท้งั เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพียงเพอ่ื การดารงชีวิต อยา่ งมีดุลยภาพ ตัวชี้วัด ส 3.1 ป.1/1 ระบุสินคา้ และบริการท่ีใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วัด 1. อธิบายสิ่งทเ่ี ป็นสินคา้ และบริการทีใ่ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั (K) 2. จาแนกประเภทของสินคา้ และบริการ (P) 3. เห็นความสาคญั ของสินคา้ และบริการท่ใี ชใ้ นชีวติ ประจาวนั (A) สาระสาคญั ในชีวติ ประจาวนั เราตอ้ งใชส้ ินคา้ และบริการหลายอยา่ งเพือ่ ให้เกิดความสะดวกสบาย ในการ ดารงชีวติ การใชป้ ระโยชน์จากสินคา้ และบริการให้คุม้ ค่าเป็ นการใช้สินคา้ และบริการอย่างประหยดั และ ก่อใหเ้ กิดประโยชน์มากทีส่ ุด สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายสินคา้ และบริการ 2. ประเภทของสินคา้ และบริการ 3. สินคา้ และบริการทีใ่ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั 4. วธิ ีการใชส้ ินคา้ และบริการใหเ้ กิดประโยชนค์ ุม้ ค่า คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ตวั ช้ีวดั ท่ี 5.1 ดาเนินชีวติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด

ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. บตั รคา สินคา้ และบริการ 2. ตารางแสดงประเภทของสินคา้ และบริการ 3. ช้ินงานที่ 19 เร่ือง สินคา้ และบริการท่ใี ชใ้ นชีวติ ประจาวนั 4. ตารางเก่ียวกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากสินคา้ และบริการทคี่ ุม้ คา่ และไม่คุม้ คา่ 5. แผนภาพเก่ียวกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากสินคา้ และบริการใหค้ ุม้ คา่ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั สินคา้ และบริการในชีวติ ประจาวนั โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี สิ่งของทน่ี กั เรียนใชใ้ นชีวติ ประจาวนั มีอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ดนิ สอ สมุด) นกั เรียนเคยซ้ือสิ่งของหรือไม่ อะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ เคย ดินสอ ไม้บรรทัด ขนม) นกั เรียนเคยโดยสารรถประจาทางหรือไม่ (เคย/ไม่เคย) 2. ใหน้ กั เรียนอ่านบตั รคาบนกระดาน ดงั น้ี ซ้ือผลไม้ ข้นึ รถโดยสาร จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั สินคา้ และบริการ โดยครูใชค้ าถามดงั น้ี การซ้ือผลไมเ้ ราไดส้ ินคา้ กลบั มาหรือไม่ (ได้) การข้นึ รถโดยสารไดส้ ินคา้ กลบั มาหรือไม่ (ไม่ได้) ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ เกี่ยวกบั ความหมายของสินคา้ และบริการ ดงั น้ี สินคา้ หมายถึง ส่ิงของท่ีซ้ือขายกนั เช่น สมุด ดินสอ ขนม ตุก๊ ตา บริการ หมายถึง การใหค้ วามสะดวกในดา้ นตา่ ง ๆ แก่ผอู้ ื่น เช่น การใหบ้ ริการรถโดยสารประจาทาง การตดั ผม 3. ครูนาบตั รคา สินคา้ บริการ ติดบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านตามจานวน 1 รอบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั คาดงั กล่าว โดยครูใชค้ าถามดงั น้ี สินคา้ ท่ีนกั เรียนใชใ้ นชีวติ ประจาวนั มีอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ กระเป๋ า เสื้อผ้า รองเท้า)

บริการที่นกั เรียนใชใ้ นชีวติ ประจาวนั มีอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ บริการ รถโดยสารประจาทาง บริการตัดผม) ถา้ นกั เรียนเป็นผผู้ ลิต นกั เรียนจะผลิตสินคา้ อะไรเพอื่ อานวยความสะดวก ในชีวติ ประจาวนั 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั สินคา้ และบริการที่ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี นกั เรียนจะไดร้ บั สินคา้ และบริการโดยวธิ ีใดบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ มผี ู้อื่นให้มา แลกเปลี่ยนสิ่งของกัน และใช้เงนิ ซื้อ) ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ สินคา้ และบริการท่ใี ชใ้ นชีวติ ประจาวนั แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ สินคา้ และบริการท่ีไดม้ าโดยไม่ใชเ้ งินซ้ือ เช่น แม่ให้รองเทา้ เป็ นของขวญั วนั เกิด คนปลูกผกั นาผกั ไป แลกกบั ผลไม้ การใชบ้ ริการหอ้ งสมุดประชาชน สินคา้ และบริการท่ีไดม้ าโดยใช้เงินซ้ือ เช่น อุปกรณ์การ เรียน อาหาร บริการตดั ผม 5. ครูติดแถบประโยคเก่ียวกบั การใชส้ ินคา้ และบริการในชีวิตประจาวนั ลงบนกระดาน แลว้ ให้ นกั เรียนอ่านตาม จานวน 1 รอบ ดงั น้ี นกั เรียนใชเ้ งนิ จ่ายคา่ บริการตดั ผม คนปลูกขา้ วนาขา้ วไปแลกกบั ไก่ นกั เรียนใชบ้ ริการหอ้ งสมุดโรงเรียน แม่ซ้ือของใชท้ ห่ี า้ งสรรพสินคา้ นกั เรียนใชเ้ งินซ้ืออาหารกลางวนั เพอ่ื นบา้ นนาผลไมท้ ่ปี ลูกไวม้ าใหฉ้ นั ครูเขียนตารางแสดงประเภทของสินคา้ และบริการลงบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนจาแนกแถบ ประโยคให้สมั พนั ธก์ บั ตาราง ดงั น้ี ตวั อย่างตาราง สินคา้ และบริการทไ่ี ดม้ าโดยไม่ใชเ้ งนิ ซ้ือ สินคา้ และบริการที่ไดม้ าโดยใชเ้ งินซ้ือ นกั เรียนใชบ้ ริการหอ้ งสมุดโรงเรียน นกั เรียนใชจ้ า่ ยค่าบริการตดั ผม

6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ความสาคญั ของสินคา้ และบริการ ในชีวติ ประจาวนั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี สินคา้ และบริการมีความสาคญั ตอ่ นกั เรียนในชีวติ ประจาวนั อยา่ งไร ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ เป็ นสิ่งอานวย ความสะดวก ความสาคญั ของสินค้า ตอบสนองความ และบริการ ตอ้ งการในชีวติ ประจาวนั ในชีวิตประจาวนั เป็ นสิ่งจาเป็ น ในการดารงชีวติ จากน้ันครูอธิบายสรุปเกี่ยวกับความสาคัญของสินค้าและบริการดังน้ี สินค้าและบริการ มี ความสาคญั ต่อเราในชีวิตประจาวนั เนื่องจากสินคา้ และบริการเป็ นสิ่งจาเป็ นในการดารงชีวิต ช่วยอานวย ความสะดวกและตอบสนองความตอ้ งการของคนในชีวติ ประจาวนั ได้ 7. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการใช้ประโยชน์จากสินค้าและบริการใน ชีวติ ประจาวนั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ในแตล่ ะวนั นกั เรียนใชป้ ระโยชน์จากสินคา้ อะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ดนิ สอ สมุด อาหาร) ในแตล่ ะวนั นกั เรียนใชป้ ระโยชน์จากบริการอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ โดยสาร รถประจาทาง) 8. ใหต้ วั แทนนกั เรียน 2-3 คน ออกมาเล่าเรื่องราวเก่ียวกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากสินคา้ และบริการให้ คุม้ คา่ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนมีวธิ ีใชป้ ระโยชนจ์ ากสินคา้ และบริการใหค้ ุม้ ค่าอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัด ไม่ใช้สินค้าฟ่ มุ เฟื อย)

9. ครูติดแถบประโยคเก่ียวกบั การใชส้ ินคา้ และบริการลงบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียน อ่านตาม จานวน 1 รอบ ดงั น้ี รับประทานอาหารในแต่ละม้ือใหห้ มด จดั วางหนงั สือในหอ้ งสมุด ใหเ้ ป็นระเบียบ ซ้ือดินสอแทง่ ใหม่เพราะความสวยงาม ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั ฉีก ทาลายหนงั สือในหอ้ งสมุด ทงิ้ ขยะลงบนรถโดยสารประจาทาง ครูเขียนตารางเกี่ยวกบั การใชป้ ระโยชน์จากสินคา้ และบริการท่ีคุม้ ค่าและไม่คุม้ ค่าลงบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนจาแนกแถบประโยคใหส้ มั พนั ธก์ บั ตาราง ดงั น้ี ตวั อย่างตาราง การใชป้ ระโยชนจ์ ากสินคา้ การใชป้ ระโยชน์จากสินคา้ และบริการท่ี และบริการทค่ี ุม้ ค่า ไม่คุม้ คา่ รับประทานอาหารในแตล่ ะม้ือใหห้ มด ซ้ือดินสอแท่งใหม่เพราะความสวยงาม 10. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การใชป้ ระโยชน์จากสินคา้ และบริการ ใหค้ ุม้ ค่า โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การใชป้ ระโยชน์จากสินคา้ และบริการใหค้ ุม้ ค่าส่งผลต่อนกั เรียนอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เห็นคุณค่าของส่ิงของท่ีใช้ เป็ นการประหยดั ค่าใช้จ่าย) นกั เรียนจะใชป้ ระโยชนจ์ ากสินคา้ และบริการในชีวติ ประจาวนั อยา่ งไรใหค้ ุม้ คา่ ทส่ี ุด

ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ ใชอ้ ุปกรณ์การเรียน รับประทานอาหาร อยา่ งประหยดั ในแตล่ ะม้ือใหห้ มด การใช้ประโยชน์ จากสินค้าและ บริการให้คุ้มค่า ดูแลรักษาหนงั สือ ไม่ขีดเขียนหรือ ในหอ้ งสมุด ทาลายบริการสาธารณะ ครูอธิบายสรุปเรื่อง การใชป้ ระโยชน์จากสินคา้ และบริการใหค้ ุม้ ค่า ดงั น้ี “การใช้ประโยชน์จากสินค้า และบริการให้คุ้มค่าเป็ นการใช้สินค้าและบริการอย่างประหยัด และก่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เช่น ใช้ อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและดูแลรักษาไม่ให้สูญหาย ดูแลรักษาหนังสือ ในห้องสมุด” 11. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การใชป้ ระโยชนจ์ ากสินคา้ และบริการใหค้ ุม้ ค่าเป็นการใชส้ ินคา้ และบริการ อยา่ งประหยดั และเกิดประโยชนม์ ากท่ีสุด 12. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานที่ 19 เร่ือง สินคา้ และบริการทใี่ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั สื่อการเรียนรู้ 1. บตั รคาสินคา้ และบริการ 2. แถบประโยคเก่ียวกบั การใชส้ ินคา้ และบริการในชีวติ ประจาวนั 3. แถบประโยคเก่ียวกบั การใชส้ ินคา้ และบริการ 4. ช้ินงานที่ 19 เรื่อง สินคา้ และบริการทใ่ี ชใ้ นชีวติ ประจาวนั

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจช้ินงานท่ี 19 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานท่ี 19 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง สินคา้ และบริการท่ีใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เกณฑ์การ ระดับคะแนน ประเมิน 4 3 2 1 ระบสุ ินคา้ และ ระบสุ ินคา้ และ ระบุสินคา้ และ ระบุสินคา้ และ ระบสุ ินคา้ และ บริการทีใ่ ชเ้ งนิ ซ้ือ บริการท่ีใชเ้ งนิ ซ้ือ บริการท่ีใชเ้ งนิ ซ้ือ บริการท่ีใชเ้ งนิ ซ้ือ บริการทีใ่ ชเ้ งินซ้ือ และใชป้ ระโยชน์ และใชป้ ระโยชน์ และใชป้ ระโยชน์ และใชป้ ระโยชน์ และใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ได้ ในชีวิตประจาวนั ได้ ในชีวติ ประจาวนั ได้ ไดส้ มั พนั ธก์ นั มีการจาแนก สอดคลอ้ งกบั แตไ่ ม่สอดคลอ้ ง มีการเช่ือมโยง ขอ้ มูลหรืออธิบาย ขอ้ มูล มีการเขียน กบั ขอ้ มลู เขยี น ใหเ้ ห็นเป็น ใหเ้ ห็นถึง ขยายความและ ตามขอ้ มูลท่ีอ่าน ภาพรวม ความสมั พนั ธก์ บั มีการยกตวั อยา่ ง ไม่มกี ารอธิบาย แสดงใหเ้ ห็นถึง ตนเองอยา่ ง เพมิ่ เติมให้ เพม่ิ เติม ความสมั พนั ธก์ บั เป็นเหตุเป็นผล เขา้ ใจง่าย ตนเองและผอู้ ื่น

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 22 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยท่ี 1 เร่ือง การใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการอย่างค้มุ ค่า เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง การใช้จ่ายเงนิ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใชท้ รัพยากรที่มี อยจู่ ากดั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและคุม้ ค่า รวมท้งั เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพียงเพือ่ การดารงชีวิต อยา่ งมีดุลยภาพ ตัวชี้วดั ส 3.1 ป.1/2 ยกตวั อยา่ งการใชจ้ า่ ยเงนิ ในชีวติ ประจาวนั ท่ไี ม่เกินตวั และเห็นประโยชน์ของการออม จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วัด 1. อธิบายการใชจ้ า่ ยเงนิ ในชีวติ ประจาวนั (K) 2. จาแนกการใชจ้ า่ ยเงินในชีวติ ประจาวนั (P) 3. ตระหนกั ถึงประโยชนแ์ ละโทษของการใชจ้ ่าย (A) สาระสาคญั ในแตล่ ะวนั เราใชจ้ า่ ยเงนิ เพอ่ื ซ้ือสินคา้ และบริการ เราจงึ ควรใชจ้ า่ ยเงินอยา่ งประหยดั และ คุม้ คา่ เพอ่ื ใหม้ ีเงินเหลือเก็บไวใ้ ชย้ ามจาเป็น สาระการเรียนรู้ การใชเ้ งินในชีวติ ประจาวนั คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ตวั ช้ีวดั ที่ 5.1 ดาเนินชีวติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ตารางเกี่ยวกบั การใชจ้ า่ ยของนกั เรียนในชีวติ ประจาวนั 2. ชิ้นงานที่ 20 เรื่อง การใชจ้ ่ายเงิน

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การใชจ้ า่ ยเงนิ ในชีวติ ประจาวนั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ในแต่ละวนั นกั เรียนใชจ้ ่ายเงนิ เพอ่ื ซ้ือสินคา้ และบริการอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ซื้ออาหาร อุปกรณ์การเรียน จ่ายค่ารถโดยสารประจาทาง) 2. ครูเล่าเหตกุ ารณ์เก่ียวกบั การใชจ้ า่ ยเงนิ ในชีวติ ประจาวนั ใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี เหตกุ ารณ์ท่ี 1 วภิ าจดรายการส่ิงทีจ่ าเป็ นตอ้ งซ้ือ 5 อยา่ ง แต่เมื่อไปถึงตลาดวภิ าเห็นสิ่งทอี่ ยากได้ แตไ่ ม่จาเป็ น จงึ ซ้ือเพมิ่ อีก 2 อยา่ ง ทาใหเ้ งนิ หมดพอดี เหตกุ ารณ์ที่ 2 นิรุจชอบนาไมบ้ รรทดั ไปเล่น จึงทาให้ไมบ้ รรทดั หกั บ่อย นิรุจตอ้ งเสียเงินซ้ือไม้บรรทดั ใหม่ เป็ นประจา จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การใชจ้ า่ ยเกินตวั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี คนในเหตุการณ์ใชจ้ ่ายเหมาะสมหรือไม่ (ตัวอย่างคาตอบ ไม่) นกั เรียนมีวธิ ีใชจ้ ่ายอยา่ งไรทไ่ี ม่เกินตวั (ตวั อย่างคาตอบ ไม่ใช้จ่ายเงนิ เกนิ กว่ารายได้ทร่ี ับมา และไม่ใช้จ่ายฟ่ มุ เฟื อย) ครูอธิบายเพม่ิ เติมว่า การใชจ้ ่ายเงินเกินตวั คือ การใชจ้ ่ายเกินกวา่ รายไดท้ ี่ไดร้ ับมาหรือ ใชจ้ ่าย ฟ่ ุมเฟื อย ซ่ึงจะส่งผลใหไ้ ม่มีเงินเหลือเก็บ นักเรียนจึงควรใชจ้ ่ายเงินอยา่ งประหยดั ไม่เกินตวั เพ่อื ที่จะมีเงิน เก็บไวใ้ ชจ้ ่ายในอนาคต 3. ให้ตวั แทนนักเรียน 4 คน ออกมาเล่าเร่ืองเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินของนักเรียน ใน ชีวติ ประจาวนั ใหเ้ พอื่ นฟังหนา้ ช้นั เรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี เม่ือวานนกั เรียนไดร้ ับเงนิ เท่าไร ใชจ้ า่ ยไปเท่าไร นกั เรียนมีเงนิ เหลือหรือไม่ และถา้ มีเงินเหลือ เหลือกี่บาท ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นตารางลงบนกระดาน ดงั น้ี

ตัวอย่างตาราง รายได้ คนท่ี 1 คนที่ 2 คนท่ี 3 คนท่ี 4 รายจ่าย (20) (20) (20) (20) เงนิ คงเหลือ (15) (20) (10) (20) (5) (0) (10) (0) จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ขอ้ มลู โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนคนใดท่มี ีเงนิ คงเหลือมากทีส่ ุด (คนที่ 3) นกั เรียนคนใดทีม่ ีเงนิ คงเหลือนอ้ ยทส่ี ุด (คนท่ี 1) นกั เรียนคนใดไม่มีเงินคงเหลือ (คนที่ 2 และคนท่ี 4) นกั เรียนควรใชจ้ ่ายเหมือนเพอ่ื นคนใด เพราะอะไร (ตวั อย่างคาตอบ คนที่ 1 และคนท่ี 3 เพราะไม่ใช้จ่ายเงนิ เกนิ กว่ารายได้ที่ได้รับมา ทาให้มีเงนิ เหลือเกบ็ ) 4. ครูเล่านิทานเร่ือง ลูกหมี 2 ตวั ใหน้ กั เรียนฟัง โดยมีเน้ือเรื่อง ดงั น้ี นิทานเรื่อง ลูกหมี 2 ตวั แม่หมีมีลูก 2 ตวั เชา้ วนั จนั ทร์แม่หมีใหเ้ งนิ ลูกหมีตวั ละ 20 บาท พหี่ มีคดิ ไวว้ า่ จะ นาเงนิ ไปซ้ือขา้ วและนม 15 บาท และเหลือเก็บ 5 บาท ส่วนนอ้ งหมีคิดไวว้ า่ จะนาเงินไปซ้ือ ขา้ ว ขนม และของเล่นท้งั หมด 20 บาท จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การใชจ้ ่ายเงนิ เหมือนพหี่ มีมีประโยชนอ์ ยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ทาให้มเี งิน เหลือเก็บ) ถา้ ใชจ้ ่ายเงนิ เหมือนนอ้ งหมีจะเกิดผลอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ไม่มีเงินเก็บ) นักเรียนควรใชจ้ ่ายเงินเหมือนหมีตวั ใด เพราะอะไร (ตัวอย่างคาตอบ ใช้จ่ายเงินเหมือนพ่ี หมี เพราะจะได้มีเงนิ เก็บออมไว้ใช้ในยามจาเป็ น) ครูอธิบายสรุปเรื่อง ประโยชน์และโทษของการใชจ้ า่ ยดงั น้ี การไม่ใชจ้ า่ ยเงินเกินกวา่ รายไดท้ ่ีได้รับ มาและไม่ใชจ้ ่ายฟ่ ุมเฟื อยเป็ นการใชจ้ ่ายที่ไม่เกินตวั ซ่ึงจะส่งผลใหม้ ีเงินเหลือเก็บไวใ้ ชย้ ามจาเป็ น แต่หาก นกั เรียนใชจ้ า่ ยเงินเกินตวั จะส่งผลใหไ้ ม่มีเงนิ เหลือเกบ็ และอาจมีหน้ีสิน ถา้ มีการกูย้ มื เงินมาใช้ 5. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ในแต่ละวนั เราตอ้ งใชจ้ ่ายเงินซ้ือสินคา้ และบริการ เราจึงควรใชจ้ ่ายเงินอยา่ งประหยดั

และคุม้ ค่า เพอ่ื ใหม้ ีเงนิ เหลือเก็บไวใ้ ชย้ ามจาเป็ น 6. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนจะใชจ้ า่ ยเงินในชีวติ ประจาวนั อยา่ งไรใหค้ ุม้ คา่ มากทส่ี ุด 7. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานที่ 20 เร่ือง การใชจ้ ่ายเงิน ส่ือการเรียนรู้ 1. นิทานเร่ือง ลูกหมี 2 ตวั 2. ช้ินงานท่ี 20 เร่ือง การใชจ้ า่ ยเงิน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1.3 ตรวจชิ้นงานที่ 20 2. เครื่องมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง

การประเมนิ ชิ้นงานที่ 20 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การใช้ จ่ายเงนิ เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 บนั ทกึ การ บนั ทกึ การ บนั ทึกการ บนั ทึกการ บนั ทกึ การ ใชจ้ ่ายเงิน ใชจ้ า่ ยเงิน ใชจ้ ่ายเงนิ ใชจ้ า่ ยเงนิ ใชจ้ า่ ยเงิน ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ท่ไี ม่เกินตวั ทไ่ี ม่เกินตวั ทไ่ี ม่เกินตวั ท่ไี ม่เกินตวั ท่ีไม่เกินตวั ของตนเอง ของตนเองได้ มี ของตนเองได้ ของตนเองได้ แต่ไม่ ไดส้ มั พนั ธก์ นั มี การจาแนกขอ้ มลู สอดคลอ้ งกบั สอดคลอ้ งกบั ของตนเอง การเช่ือมโยงให้ หรืออธิบาย ขอ้ มูล มีการเขียน ขอ้ มูล เขยี นตาม เห็นเป็ นภาพรวม ใหเ้ ห็นถึง ขยายความ และมี ขอ้ มูลทไี่ ด้ ไม่มี แสดงให้เห็นถึง ความสมั พนั ธก์ บั การยกตวั อยา่ ง การอธิบายเพม่ิ เตมิ ความสมั พนั ธข์ อง ตนเองอยา่ ง เพม่ิ เติม ใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย ตนเองและผอู้ ื่น เป็ นเหตุเป็ นผล

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 23 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 3 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 1 เร่ือง การใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการอย่างค้มุ ค่า เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง การออมเงนิ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใชท้ รัพยากรท่ีมี อยจู่ ากดั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและคุม้ ค่า รวมท้งั เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพียงเพือ่ การดารงชีวิต อยา่ งมีดุลยภาพ ตัวชี้วัด ส 3.1 ป.1/2 ยกตวั อยา่ งการใชจ้ ่ายเงินในชีวติ ประจาวนั ทไี่ ม่เกินตวั และเห็นประโยชน์ของการออม จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายหลกั การออมเงินและการวางแผนการใชจ้ ่ายเงนิ (K) 2. บนั ทึกการออมเงนิ และการวางแผนการใชจ้ ่ายเงิน ในชีวติ ประจาวนั (P) 3. เห็นประโยชน์ของการออมเงนิ และการวางแผนการใชจ้ ่ายเงิน (A) สาระสาคญั การออมเงินเป็ นการนาเงินที่เหลือจากการใชจ้ ่ายมาเก็บออมไวเ้ พือ่ ใชป้ ระโยชน์ ในยาม จาเป็ น เราควรมีการวางแผนการใชจ้ า่ ยในแตล่ ะวนั เพอื่ ใหม้ ีเงินเหลือเกบ็ ออมและสามารถนาไปใชใ้ นยาม จาเป็ น สาระการเรียนรู้ การนาเงนิ ทเ่ี หลือมาเก็บออมไวเ้ พอ่ื ใชจ้ า่ ยในคราวท่ีจาเป็ น และวธิ ีการวางแผนการใชจ้ ่ายเงินท่ี เหมาะสม คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ตวั ช้ีวดั ที่ 5.1 ดาเนินชีวติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ

ชิ้นงานหรือภาระงาน 1.แผนภาพสิ่งท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การออมเงิน 2. แผนภาพประโยชน์ของการออมเงิน 3. แผนภาพประโยชน์ของการจดบนั ทกึ การออม 4. ชิ้นงานที่ 21 เร่ือง หลกั การออมเงินและประโยชนข์ องการออมเงนิ 5. แผนภาพเกี่ยวกบั รายจา่ ย 6. ตารางบนั ทึกรายรบั -รายจ่าย 7. แผนภาพเก่ียวกบั การวางแผนการใชจ้ ่าย การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั การออมเงนิ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี เม่ือนึกถึงการออมเงนิ นกั เรียนนึกถึงส่ิงใดบา้ ง ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ กระปุกออมสิน เงนิ การออมเงิน บนั ทกึ การออม ธนาคาร จากน้นั ครูอธิบายสรุปเร่ือง การออมเงินดงั น้ี การออมเงนิ เป็นการนาเงินที่เหลือจากการ ใชจ้ ่ายมา เก็บรวมไวเ้ พื่อใชป้ ระโยชน์ โดยเราสามารถออมเงินไดโ้ ดยการเกบ็ เงินไวใ้ นกระปุก ออมสินแลว้ นาไป ฝากธนาคาร 2. ครูติดแถบประโยคเก่ียวกบั การออมเงิน บนกระดาน ดงั น้ี ลูกหมีตวั ที่ 1 ไดเ้ งิน 15 บาท ซ้ืออาหารรวม 15 บาท ลูกหมีตวั ที่ 2 ไดเ้ งนิ 15 บาท ซ้ืออาหาร 10 บาท เหลือเงนิ ซ้ือขนมอีก 5 บาท ลูกหมีตวั ท่ี 3 ไดเ้ งิน 15 บาท ซ้ืออาหาร 10 บาท เหลือเกบ็ 5 บาท

จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ลูกหมีตวั ใดมีเงินออม (ลูกหมีตัวท่ี 3) 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั หลกั การออมเงนิ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนเคยออมเงินหรือไม่ และออมเงนิ โดยวธิ ีใด (ตวั อย่างคาตอบ เคย เกบ็ เงนิ ในกระปุกออมสิน) หลกั การออมเงินทีด่ ีมีอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ จดบันทกึ การออมเงิน) ครูอธิบายเพิม่ เติมว่า หลกั การออมเงินท่ีดี คือ การออมเงินที่เหลือจากการใชจ้ ่ายส่ิงท่ี จาเป็ นแลว้ โดยเก็บเงินที่จะออมไวใ้ หเ้ ป็นท่ี เช่น เก็บในกระปกุ ออมสิน หรือนาไปฝากธนาคาร เมื่อมีเงินออมมากข้ึน นอกจากน้ีนกั เรียนควรจดบนั ทึกจานวนเงนิ ออมไว้ เพอ่ื ใหร้ ู้จานวนเงนิ ออมของตนเอง 4. ให้ตวั แทนนักเรียน 2-3 คน ออกมาเล่าเร่ืองราวการออมเงินของตนเองให้เพื่อนฟัง หน้าช้ัน เรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนมีวธิ ีการออมเงนิ อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ จดบนั ทึกจานวนเงินออมไว้ ทกุ วนั ) 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ของการออมเงิน โดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี การออมเงินมีประโยชน์อยา่ งไร การจดบนั ทกึ การออมเงนิ มีประโยชนอ์ ยา่ งไร ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ เกบ็ ออมไวใ้ ช้ ประโยชน์ของ มีเงินเพมิ่ ข้นึ ยามจาเป็ น การออมเงนิ นาไปซ้ือสิ่งของ ทอี่ ยากได้ ช่วยสรา้ งวนิ ยั ประโยชน์ของ รู้รายรบั รายจ่าย ในการออม การจดบันทกึ ในแต่ละวนั การออมเงนิ รูจ้ านวน เงนิ ออมปัจจุบนั

ครูอธิบายสรุปเร่ือง “ประโยชน์ของการออมเงินและการจดบันทึกการออมเงนิ ดงั นี้ การออม เงนิ ทาให้มเี งนิ เหลือเก็บออมไว้ใช้ยามจาเป็ น มีเงินใช้ซื้อส่ิงของท่อี ยากได้ ถ้านาเงนิ ออมไปฝากไว้กบั ธนาคาร ก็จะได้รับดอกเบีย้ เป็ นผลตอบแทน ทาให้มีเงินเพมิ่ มากขึ้นและถ้าเรารู้จักการจดบันทึกการออมเงินก็จะทา ให้เรารู้รายรับ รายจ่ายในแต่ละวนั รู้จานวนเงินออมในปัจจบุ ันและถือเป็ นการสร้างวนิ ัยในการออมอีกด้วย” 6. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การออมเงินเป็ นการนาเงินท่เี หลือจากการใชจ้ า่ ยมาเกบ็ ออมไวเ้ พอื่ ใชป้ ระโยชน์ ในยามจาเป็ น 7. ครูตดิ แถบคาขวญั เกี่ยวกบั การใชจ้ า่ ยเงินลงบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านตามจานวน 1 รอบ ดงั น้ี วนั วานเงนิ มี วนั น้ีเงนิ หมด ใชเ้ งินไม่ลด อนาคตอดเงนิ จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั คาขวญั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี คาขวญั น้ีเป็นเร่ืองเกี่ยวกบั อะไร (ตวั อย่างคาตอบ การใช้จ่ายเงนิ ) 8. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั รายรับ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนไดร้ ับเงินมาโรงเรียนจากใครบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ พ่อแม่) นอกจากไดร้ บั เงนิ จากคนทีบ่ า้ นแลว้ นกั เรียนเคยไดร้ ับเงินจากการทาส่ิงใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เงินทนุ การศึกษา เงนิ จากญาติพน่ี ้อง เงนิ จากการแสดงราอวยพร) พ่อแม่ของนกั เรียนได้เงินมาอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เงินเดือนจากการทางาน เงินจาก การค้าขาย) ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ รายรบั เป็ นเงินท่ไี ดม้ าจากการประกอบอาชีพหรือการทางานอ่ืน ๆ 9. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั รายจา่ ย โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนนาเงินที่ไดไ้ ปใชจ้ ่ายอะไรบา้ ง ท่บี า้ นของนกั เรียนตอ้ งใชจ้ า่ ยอะไรบา้ ง ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ ค่าอาหาร ค่าไฟฟ้า คา่ ขนม รายจ่าย คา่ เส้ือผา้ คา่ น้าประปา คา่ ยารักษาโรค

ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ การนาเงนิ ไปใชเ้ รียกวา่ รายจา่ ย 10. ครูเขียนตารางบนั ทึกรายรบั -รายจา่ ย ลงบนกระดาน จากน้นั ใหต้ วั แทนนกั เรียน 1 คน ออกมา บนั ทึกรายรับ-รายจา่ ยของตนเอง ลงในตารางบนั ทกึ รายรับ-รายจ่าย โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ถา้ นกั เรียนไดเ้ งนิ มา 20 บาท จะใชก้ ี่บาทและจะเก็บก่ีบาท ตัวอย่างตาราง วนั เดือน ปี รายรับ(บาท) รายจา่ ย(บาท) เงินออม(บาท) 23 มี.ค. 2552 (20) (10) (10) จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การวางแผนการใชจ้ ่าย โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ถา้ ตอ้ งการใหม้ ีเงนิ เก็บมากข้ึนควรทาอยา่ งไร ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ ใชจ้ ่ายเทา่ ท่ี การวางแผน เก็บออมเงนิ จาเป็ น การใช้จ่าย ทาบนั ทกึ รายรับ-รายจ่าย ครูอธิบายสรุปเรื่อง การวางแผนการใชจ้ ่ายดงั น้ี การวางแผนการใชจ้ ่ายเพ่อื ใหม้ ีเงินเหลือเก็บออม สามารถปฏิบตั ไิ ดโ้ ดยการคานึงถึงความจาเป็ นและประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั ก่อนตดั สินใจ ซ้ือสินคา้ และบริการ ต่าง ๆ จดั ทาบนั ทึกรายรับ-รายจ่ายในแตล่ ะวนั และไม่ควรใชจ้ า่ ยเงินจนหมด ควรเหลือเงนิ ไวส้ าหรับเก็บ ออมดว้ ย 11. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ประโยชน์ของการวางแผนการใชเ้ งิน โดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี การวางแผนการใชเ้ งนิ มีประโยชน์อยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ทาให้รู้จานวนเงนิ ที่ ใช้จ่าย ทา ให้รู้จานวนเงนิ ออม รู้แนวทางทจี่ ะลดรายจ่าย) 12. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การวางแผนการใช้จ่ายในแต่ละวนั เป็ นส่ิงควรปฏิบตั ิเพื่อให้มีเงินเหลือเก็บออมและ สามารถนาไปใชใ้ นยามจาเป็น 13. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 21 เร่ือง หลกั การออมเงินและประโยชน์ของการออมเงิน

ส่ือการเรียนรู้ 1. แถบประโยคเก่ียวกบั การออมเงนิ 2. ช้ินงานที่ 21 เรื่อง หลกั การออมเงนิ และประโยชนข์ องการออมเงนิ 3. แถบคาขวญั เก่ียวกบั การใชจ้ า่ ยเงนิ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจช้ินงานที่ 21 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานท่ี 21 ให้ผูส้ อนพิจารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง หลกั การออมเงินและประโยชนข์ องการออมเงิน เกณฑ์การ ระดับคะแนน ประเมนิ 4 3 2 1 จดบนั ทึกการ จดบนั ทกึ การ จดบนั ทกึ การ จดบนั ทกึ การ จดบนั ทกึ การ ออมเงิน ออมเงิน ออมเงิน ออมเงนิ ออมเงนิ พรอ้ มบอก พร้อมบอก พรอ้ มบอก พร้อมบอก พร้อมบอก วธิ ีการออมเงิน วธิ ีการออมเงนิ วธิ ีการออมเงนิ วธิ ีการออมเงิน วธิ ีการออมเงนิ และประโยชน์ และประโยชน์ และประโยชน์ และประโยชน์ และประโยชน์ ของการออม ของการออมได้ ของการออม ของการออม ของการออม แต่ สมั พนั ธก์ นั มีการ มีการจาแนก สอดคลอ้ งกบั ไม่สอดคลอ้ งกบั เชื่อมโยงใหเ้ ห็น ขอ้ มูลหรืออธิบาย ขอ้ มูล มีการเขียน ขอ้ มูล เขยี นตาม เป็นภาพรวม ใหเ้ ห็นถึง ขยายความและมี ขอ้ มูลทอ่ี ่าน แสดงให้เห็นถึง

ความสมั พนั ธก์ บั ความสมั พนั ธก์ บั การยกตวั อยา่ ง ไม่มีการอธิบาย เพม่ิ เติม ตนเองและผอู้ ื่น ตนเองอยา่ ง เพม่ิ เตมิ ให้ เป็นเหตุเป็นผล เขา้ ใจง่าย

บนั ทึกหลงั การสอน  ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงชื่อ_____________________________ (ผบู้ นั ทกึ ) ( นางสาวจีรวรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________

กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษาฯ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๒ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เรื่อง การบรหิ ารจัดการทรพั ยากร วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา ๒ ช่วั โมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลิตและการบริโภค การใชท้ รพั ยากรท่ีมีอยู่ จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้ังเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่อื การดารงชีวิตอยา่ งมี ดลุ ยภาพ ป.1/3 ยกตวั อย่างการใช้ทรัพยากรในชีวิตประจาวันอยา่ งประหยัด สาระสาคญั ทรัพยากรเป็นส่ิงสาคัญที่เกิดข้ึนจากธรรมชาติ หรือส่ิงท่ีมนุษย์สร้างขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์ใน ชวี ติ ประจาวนั มนษุ ย์จงึ ควรช่วยกนั ดูแลรักษาและใชท้ รพั ยากรให้เกดิ ประโยชน์ และคุม้ คา่ มากทส่ี ดุ สาระการเรียนรู้ 1. ทรัพยากรทม่ี นษุ ย์สร้างข้ึน และทรัพยากรทเี่ กิดขนึ้ เองตามธรรมชาติ 2. ทรัพยากรที่เป็นของสว่ นตวั และทรพั ยากรที่เปน็ ของส่วนรวม 3. วิธีการใช้ทรพั ยากรส่วนตวั และทรัพยากรสว่ นรวม อย่างประหยดั และค้มุ ค่า คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มีจติ สาธารณะ ตวั ชว้ี ัดท่ี 8.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมทีเ่ ปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรียน ชมุ ชน และสงั คม สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ความสามารถในการคิด ชิน้ งานหรือภาระงาน ชิน้ งานท่ี 22 เรื่อง การใช้ทรพั ยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุ้มคา่ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ให้นักเรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ทรัพยากรโดยการระบุทรัพยากรที่นักเรยี นรู้และเข้าใจ และครู เขยี นสรปุ คาตอบของนักเรียนเป็นแผนภาพ 2. การจาแนกทรัพยากรท่ีมนุษย์สร้างขึ้น และทรัพยากรที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยครูสรุป คาตอบของนักเรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน 3. สรปุ ความหมายและความสาคัญของทรัพยากร

4. การจาแนกประเภทของทรพั ยากรที่เปน็ ทรัพยากรส่วนตวั และทรัพยากรส่วนรวม โดยครสู รุป การแสดงความคดิ เห็นและคาตอบของนักเรยี นเป็นแผนภาพ 5. สรุปความรกู้ ารดูแลรกั ษาทรัพยากรทใี่ ช้ในชีวติ ประจาวัน 6. ครูนาหรือติดแถบประโยควิธกี ารใชท้ รพั ยากรอย่างถกู ต้อง ประหยดั และค้มุ ค่าโดยการจาแนกการ ใช้ทรพั ยากรท่ถี กู ต้องและไมถ่ ูกต้อง 7. การร่วมกันแสดงความคิดเห็นวิธีการใช้ทรัพยากรส่วนตัว และส่วนรวมให้ถูกต้องประหยัดและ ค้มุ คา่ 8. สรุปประโยชน์การใชท้ รพั ยากรอยา่ งถกู ตอ้ ง ประหยัดและคุม้ คา่ 9. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปความรู้ ดงั น้ี ทรพั ยากรเป็นสิง่ ท่ีอยู่ตามธรรมชาติ และส่งิ ทีม่ นษุ ยส์ ร้างข้ึนมปี ระโยชน์ในการใชด้ ารงชีวิต ประจาวนั มนษุ ย์ควรใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนอ์ ยา่ งคุ้มค่า และรว่ มกันรกั ษา สือ่ การเรียนรู้ 1. บตั รคาเก่ียวกบั ทรพั ยากร 2. แถบประโยคเกย่ี วกับการปฏบิ ตั ิตนเพอื่ ดูแลรกั ษาทรพั ยากร 3. แถบประโยคเกี่ยวกบั วิธกี ารใช้ทรัพยากรอยา่ งถูกต้อง ประหยดั และค้มุ คา่ 4. ชิ้นงานที่ 22 เรือ่ ง การใช้ทรัพยากรอย่างถูกต้อง ประหยดั และค้มุ คา่ การประเมินผล 1. การประเมนิ ผลตวั ช้ีวัด ชิ้นงานท่ี 22 เรอื่ ง การใชท้ รพั ยากรอยา่ งถกู ตอ้ ง ประหยดั และค้มุ คา่ เกณฑก์ ารประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 วาดภาพเกยี่ วกบั วิธกี าร วาดภาพเกย่ี วกับวิธีการ วาดภาพเกย่ี วกับ วาดภาพเกย่ี วกับ วาดภาพเก่ยี วกับ ประหยดั ทรัพยากร ประหยัดทรพั ยากร วธิ กี ารประหยัด วธิ กี ารประหยัด วธิ ีการประหยดั ในชวี ิตประจาวนั พร้อม ในชวี ิตประจาวันพรอ้ ม ทรพั ยากร ทรัพยากร ทรพั ยากร บอกวธิ ีการประหยัด บอกวธิ กี ารประหยดั ในชวี ิตประจาวัน ในชวี ติ ประจาวนั ในชวี ิตประจาวนั ทรัพยากร ทรพั ยากร พร้อมบอกวิธีการ พรอ้ มบอกวิธกี าร พร้อมบอกวิธีการ ในชีวติ ประจาวนั ในชวี ติ ประจาวันได้สมั พนั ธ์ ประหยัดทรพั ยากร ประหยัดทรัพยากร ประหยัดทรพั ยากร กับหวั ข้อทีก่ าหนดและ ในชีวติ ประจาวันได้ ในชีวติ ประจาวนั ได้ ในชีวิตประจาวนั ได้ แตกตา่ งจากที่ครู สัมพันธ์กบั หวั ขอ้ ท่ี สมั พนั ธ์กับหวั ขอ้ ท่ี สัมพนั ธ์กบั หวั ขอ้ ท่ี ยกตัวอยา่ ง กาหนดและแตกตา่ ง กาหนดตามท่ีครู กาหนดตามที่ครู มกี ารเชอื่ มโยง จากท่คี รูยกตัวอย่าง ยกตัวอยา่ ง แต่มีการ ยกตัวอยา่ ง ให้เหน็ ถงึ ความสมั พันธ์กับ แต่เชอื่ มโยงใหเ้ ห็น ดดั แปลงให้แตกต่าง ตนเองและผู้อ่นื เฉพาะตนเอง

2. การประเมินผลคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มจี ิตสาธารณะ ตัวชว้ี ัดท่ี 8.2 เข้าร่วมกจิ กรรมทีเ่ ป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไม่ผ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยีย่ ม (3) 8.2.1 ดูแล รกั ษาสาธารณ ไม่สนใจดแู ล รักษา ดแู ล รักษา ดูแล รกั ษา ดูแล รกั ษา ทรัพย์สมบัติและ สมบตั ิ ทรพั ย์สมบัติและ ทรพั ยส์ มบตั แิ ละ ทรพั ย์สมบตั แิ ละ ส่ิงแวดลอ้ มของ หอ้ งเรียน โรงเรียน และส่ิงแวดลอ้ ม ส่ิงแวดลอ้ มของ ส่งิ แวดล้อมของ สง่ิ แวดลอ้ มของ เข้ารว่ มกิจกรรม ของโรงเรียน ดว้ ยความเตม็ ใจ โรงเรยี น หอ้ งเรยี น โรงเรยี น หอ้ งเรยี น โรงเรยี น ด้วยความเต็มใจ 8.2.2 เข้าร่วมกจิ กรรมที่ เข้ารว่ มกิจกรรม เป็นประโยชน์ตอ่ ของโรงเรียน โรงเรียน ชมุ ชน และสังคม 8.2.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื แก้ปัญหา หรือรว่ มสร้าง สิ่งทดี่ งี ามของส่วนรวม ตามสถานการณ์ทีเ่ กดิ ขึ้น ดว้ ยความกระตอื รือร้น

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยท่ี 2 เร่ือง การบริหารจดั การทรัพยากร เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง ทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใชท้ รพั ยากรทมี่ ีอยู่ จากดั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและคุม้ คา่ รวมท้งั เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพยี งเพอื่ การดารงชีวติ อยา่ งมี ดุลยภาพ ตัวชี้วดั ส 3.1 ป.1/3 ยกตวั อยา่ งการใชท้ รัพยากรในชีวิตประจาวนั อยา่ งประหยดั จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายความหมายและความสาคญั ของทรัพยากร (K) 2. จาแนกทรพั ยากรที่ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั (P) 3. ตระหนกั ถึงความสาคญั ของทรพั ยากร (A) สาระสาคญั ทรัพยากรเป็ นส่ิงสาคญั ท่ีเกิดข้นึ จากธรรมชาติ หรือ ส่ิงที่มนุษยส์ ร้างข้ึนเพอื่ นามาใชป้ ระโยชนใ์ น ชีวติ ประจาวนั สาระการเรียนรู้ 1. ทรัพยากรทม่ี นุษยส์ ร้างข้นึ 2. ทรพั ยากรทเ่ี กิดข้ึนเองตามธรรมชาติ 3. ทรพั ยากรส่วนตวั 4. ทรพั ยากรส่วนรวม คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มีจติ สาธารณะ ตวั ช้ีวดั ที่ 8.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีเป็ นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชุมชน และสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด

ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพเกี่ยวกบั ทรพั ยากร 2. แผนภาพเก่ียวกบั ทรพั ยากรที่มนุษยส์ ร้างข้นึ 3. แผนภาพเกี่ยวกบั ทรพั ยากรที่เกิดข้นึ เองตามธรรมชาติ 4. ภาพวาดเกี่ยวกบั ทรัพยากรท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาตแิ ละทรพั ยากรที่มนุษยส์ รา้ งข้ึน 5. แผนภาพเก่ียวกบั ประเภทของทรพั ยากร การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ทรัพยากร โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ที่บา้ นของนกั เรียนมีอะไรบา้ ง ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ เส้ือผา้ รถ ตน้ ไม้ ทรัพยากร เกา้ อ้ี บา้ น โตะ๊ ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ เกี่ยวกบั ทรัพยากรดงั น้ี ทรัพยากร หมายถึง สิ่งตา่ ง ๆ ทเี่ กิดข้นึ จากธรรมชาติหรือ สิ่งท่ีมนุษยส์ รา้ งข้นึ เพอื่ นามาใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวนั เช่น ตน้ ไม้ น้า บา้ น โตะ๊ เกา้ อ้ี เส้ือผา้ 2. ใหน้ กั เรียนอ่านบตั รคาบนกระดาน ดงั น้ี ตน้ ไม้ บา้ น จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ทรัพยากร โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี สิ่งใดเป็นสิ่งท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึน (บ้าน) สิ่งใดเป็นส่ิงท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ (ต้นไม้) 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ทรพั ยากรทมี่ นุษยส์ ร้างข้ึนและทรัพยากรท่เี กิดข้ึน เองตามธรรมชาติ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ทรัพยากรที่มนุษยส์ ร้างข้นึ มีอะไรบา้ ง

ทรพั ยากรทเี่ กิดข้นึ เองตามธรรมชาตมิ ีอะไรบา้ ง ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพ ลงบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ บา้ น ทรัพยากร กระดาษ อุปกรณ์การเรียน ที่มนุษย์สร้างขึน้ เครื่องมือ เคร่ืองใชใ้ นบา้ น น้า ทรัพยากร ป่ าไม้ ที่เกิดขนึ้ เอง ตามธรรมชาติ อากาศ ดิน 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ความสาคญั ของทรัพยากร โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในชีวิตประจาวนั อยา่ งไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ ใช้ในการดารงชีวิต) นกั เรียนคดิ วา่ ทรัพยากรมีความสาคญั ต่อนกั เรียนหรือไม่ (มี) นกั เรียนจะทาอยา่ งไรใหม้ ีทรัพยากรใชไ้ ดน้ านทีส่ ุด (ตวั อย่างคาตอบ ดูแลรักษา ทรัพยากรทใ่ี ช้ในชีวติ ประจาวนั ) 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ทรพั ยากรทใี่ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ในชีวติ ประจาวนั นกั เรียนใชท้ รัพยากรอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ ดินสอ กระดาษ เสื้อผ้า นา้ ) 6. ใหน้ กั เรียนอ่านบตั รคาบนกระดาน ดงั น้ี ไฟฟ้า เส้ือผา้ จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ประเภทของทรพั ยากร โดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี

สิ่งใดที่นกั เรียนใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั (ตวั อย่างคาตอบ เสื้อผ้า) ส่ิงใดที่ทกุ คนสามารถใชร้ ่วมกนั ได้ (ตวั อย่างคาตอบ ไฟฟ้า) ครูอธิบายเพมิ่ เติมวา่ สิ่งของท่นี กั เรียนใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวนั เรียกวา่ ทรพั ยากรส่วนตวั เช่น ดิ น ส อ ก ร ะ ด า ษ เ ส้ื อ ผ้ า อ า ห า ร แ ล ะ ส่ิ ง ต่ า ง ๆ ที่ เ ป็ น ข อ ง ส่ ว น ร ว ม ส ม า ชิ ก ทกุ คนสามารถใชร้ ่วมกนั ได้ เรียกวา่ ทรพั ยากรส่วนรวม เช่น โตะ๊ เกา้ อ้ีนกั เรียน ไฟฟ้า น้า 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ประเภทของทรัพยากร โดยครูใชค้ าถามดงั น้ี ทรัพยากรส่วนตวั ท่ีนกั เรียนใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั มีอะไรบา้ ง ทรัพยากรส่วนรวมทน่ี กั เรียนใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวนั มีอะไรบา้ ง ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพ ลงบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ ดินสอ อาหาร ทรัพยากร แกว้ น้า ส่ วนตวั เส้ือผา้ ไฟฟ้า ป่ าไม้ ทรัพยากร น้า ส่ วนรวม โตะ๊ เกา้ อ้ีนกั เรียน

7. ครูติดแถบประโยคเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตนเพื่อดูแลรักษาทรัพยากร แลว้ ให้นักเรียน อ่านตาม จานวน 1 รอบ ดงั น้ี ธีระเปิ ดน้าท้ิงไว้ นิภานากระดาษหนา้ เดียว ขณะแปรงฟัน กลบั มาใชใ้ หม่ วรดาปิ ดไฟทุกคร้ัง เมื่อไม่ใชง้ าน ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบตั ิตนเพ่ือดูแลรักษาทรัพยากร ใน ชีวติ ประจาวนั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี บคุ คลใดปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื ดูแลรักษาทรพั ยากร (นิภา และวรดา) บคุ คลใดปฏิบตั ติ นในการดูแลรักษาทรัพยากรไม่ถูกตอ้ ง (ธีระ) นักเรียนควรปฏิบตั ิตนในการดูแลรักษาทรัพยากรอย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ ใช้ทรัพยากรอย่าง ประหยดั ไม่ฟ่ มุ เฟื อย) การดูแลรักษาทรัพยากรในชีวติ ประจาวนั มีความสาคญั อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ช่วยให้มี ทรัพยากรใช้ต่อไปในอนาคต) 8. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ทรพั ยากรทใ่ี ชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวนั มีความจาเป็ นต่อการดารงชีวติ เราจงึ ควรช่วยกนั ดูแลรกั ษาทรพั ยากรทใี่ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ส่ือการเรียนรู้ 1. แผนภาพเก่ียวกบั ทรัพยากร 2. แผนภาพเก่ียวกบั ทรัพยากรท่ีมนุษยส์ ร้างข้นึ 3. แผนภาพเกี่ยวกบั ทรัพยากรทเ่ี กิดข้นึ เองตามธรรมชาติ 4. ภาพวาดเก่ียวกบั ทรพั ยากรที่เกิดข้นึ เองตามธรรมชาตแิ ละทรพั ยากรท่มี นุษยส์ รา้ งข้ึน 5. แผนภาพเก่ียวกบั ประเภทของทรัพยากร 7. บตั รคาเก่ียวกบั ทรพั ยากร 8. แถบประโยคเก่ียวกบั การปฏิบตั ติ นเพอ่ื ดูแลรักษาทรพั ยากร การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 25 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 1 เร่ือง การใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการอย่างคุ้มค่า เวลา 1 ชั่วโมง เร่ือง การใช้ทรัพยากรอย่างถกู ต้องประหยดั และค้มุ ค่า มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใชท้ รพั ยากรที่มีอยู่ จากดั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและคุม้ คา่ รวมท้งั เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพียงเพอื่ การดารงชีวติ อยา่ งมี ดุลยภาพ ตวั ชี้วดั ส 3.1 ป.1/3 ยกตวั อยา่ งการใชท้ รัพยากรในชีวติ ประจาวนั อยา่ งประหยดั จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายการใชท้ รัพยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ คา่ (K) 2. จาแนกวธิ ีการใชท้ รพั ยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ คา่ (P) 3. เห็นประโยชน์ของการใชท้ รัพยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ คา่ (A) สาระสาคญั ทรัพยากรท่นี ามาใชใ้ นชีวติ ประจาวนั มีความจาเป็นตอ่ การดารงชีวติ เราจึงควรใชท้ รพั ยากรใหเ้ กิด ประโยชนแ์ ละคุม้ ค่า สาระการเรียนรู้ วธิ ีการใชท้ รัพยากรส่วนตวั และทรัพยากรส่วนรวม คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีจิตสาธารณะ ตวั ช้ีวดั ท่ี 8.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเ่ี ป็ นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ตารางเก่ียวกบั การใชท้ รพั ยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ ค่า 2. แผนภาพเก่ียวกบั วธิ ีการใชท้ รัพยากรส่วนตวั ใหป้ ระหยดั และคุม้ คา่ 3. แผนภาพเก่ียวกบั วธิ ีการใชท้ รัพยากรส่วนรวมใหป้ ระหยดั และคุม้ คา่ 4. ช้ินงานที่ 22 เรื่อง การใชท้ รัพยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ คา่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook