แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 33 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยที่ 3 เรื่อง แผนผังห้องเรียนของเรา เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง แผนผังห้องเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วิเคราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วัด ส 5.1 ป.1/4 การใชแ้ ผนผงั งา่ ย ๆ ในการแสดงตาแหน่งของส่ิงต่าง ๆ ในหอ้ งเรียน จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายการใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียน (K) 2. แสดงวธิ ีการใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียนใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ตนเอง (P) 3. สนใจเรียนรูก้ ารใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียนใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ ตนเอง (A) สาระสาคญั การใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียน ช่วยใหร้ ู้ตาแหน่งทิศ และสิ่งตา่ ง ๆ ทอี่ ยภู่ ายในหอ้ งเรียน สาระการเรียนรู้ แผนผงั หอ้ งเรียน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนผงั หอ้ งเรียน 2. ช้ินงานที่ 26 เรื่อง การใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียน
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ใหค้ รูเขียน 1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สารวจหอ้ งเรียน โดยใหน้ กั เรียนยนื อยรู่ วมกนั กลางหอ้ งเรียน รูปเรขาคณิตส่ีเหล่ียมผนื ผา้ ลงบนกระดานพร้อมบอกทิศและตาแหน่งของนกั เรียน ทิศเหนือ ทิศตะวนั ตก นกั เรียน ทศิ ตะวนั ออก ทิศใต้ จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกครูวา่ แต่ละทิศภายในหอ้ งเรียนมีอะไรบา้ ง ดงั น้ี ตวั อย่าง ทศิ เหนือ มีภาพแผนท่ี กระดาน ภาพตวั อกั ษรไทย โตะ๊ ครู ทิศตะวนั ออก เป็ นประตูเขา้ -ออก 2 ขา้ ง ทศิ ตะวนั ตก มีหนา้ ตา่ งระบายอากาศ 5 ช่อง ตรงกลางหอ้ ง มีโตะ๊ นกั เรียน 4 แถว แถวละ 3 ตวั ทิศใต้ เป็นฝาก้นั ผนงั หอ้ งเรียน เม่ือสารวจเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนน่ังท่ีนงั่ ของตนเอง 2. ครูและนกั เรียนช่วยกันนาขอ้ มูลการสารวจห้องเรียนของตนเองจดั ลงในตารางสี่เหลี่ยมผืนผา้ ท่ี เขยี นไวบ้ นกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนผังห้องเรียน
เม่ือครูจดั แผนผงั ห้องเรียนบนกระดานเสร็จ ครูใหน้ กั เรียนออกมาช้ีตาแหน่งท่ีตนเองอยู่ จนครบ จานวนนกั เรียน จากน้นั ร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนสามารถบอกตาแหน่งของส่ิงตา่ ง ๆ ทีอ่ ยใู่ นหอ้ งเรียนไดห้ รือไม่ (ตัวอย่าง คาตอบ ได้ครับ/ได้ค่ะ) กระดาน ภาพแผนท่ี ภาพอักษรไทยอยู่ทางทิศใดของนักเรียน (อยู่ทางด้าน ทิศเหนือของ ห้องเรียน) ประตู หนา้ ต่างอยทู่ างทิศใดของหอ้ งเรียน (ประตูอยู่ทางทศิ ตะวนั ออก ของห้องเรียน หน้าต่างอยู่ทางทิศตะวันตกของห้องเรียน) ทิศใตด้ า้ นหลงั นกั เรียนเป็ นอะไร (ฝาผนังก้นั ห้องเรียน) 3. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกประโยชน์ของการเรียนรู้แผนผงั หอ้ งเรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การสารวจและเขียนแผนผงั หอ้ งเรียนมีประโยชน์ตอ่ นักเรียนอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ช่วยให้มองเห็นภาพรวม ตาแหน่งและทิศทางของส่ิงต่าง ๆ ทอ่ี ยู่ภายในห้องเรียน) นักเรียนจะใชแ้ ผนผงั ให้เกิดประโยชน์ต่อห้องเรียนของเราอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ จัดวาง ส่ิงของให้เป็ นระเบียบและจัดห้องให้น่าเรียน) 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียนช่วยให้รู้ตาแหน่งและทิศทางของส่ิงต่าง ๆ ทอ่ี ยภู่ ายในหอ้ งเรียน ทา ใหส้ ามารถจดั หอ้ งเรียนใหม้ ีความเป็นระเบียบ น่าเรียน 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนนาความรู้จากการจดั แผนผงั หอ้ งเรียนไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนต์ ่อตนเองไดอ้ ยา่ งไร 6. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 26 เรื่อง การใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียน ส่ือการเรียนรู้ 1. แผนผงั หอ้ งเรียนบนกระดาน 2. ชิ้นงาน 26 เรื่อง การใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียน
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจชิ้นงานท่ี 26 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานที่ 26 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียน เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 วาดแผนผงั วาดแผนผงั วาดแผนผงั วาดแผนผงั วาดแผนผงั หอ้ งเรียน หอ้ งเรียนของ หอ้ งเรียนของ หอ้ งเรียนของ หอ้ งเรียนของ ของตนเอง ตนเองพรอ้ มเขียน ตนเองพร้อมเขยี น ตนเองพร้อมเขียน ตนเองพร้อมเขยี น พร้อมเขยี นบอก บอกตาแหน่งของ บอกตาแหน่งของ บอกตาแหน่งของ บอกตาแหน่งของ ตาแหน่ง ตนเองและ ตนเองและ ตนเองและ ตนเองและ ของตนเอง ตอบคาถาม ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ และตอบคาถาม ไดส้ มั พนั ธก์ นั สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ เชื่อมโยงแสดงให้ ที่กาหนด ระบุ ทก่ี าหนด โดยมี ทีก่ าหนด ตามที่ เห็นถึง ใหเ้ ห็นถึง ครูและผอู้ ่ืนคอย ครูแนะนาเทา่ น้นั ความสมั พนั ธก์ บั ความสมั พนั ธก์ บั ใหก้ ารแนะนาบา้ ง ตนเองและผอู้ ื่น ตนเองไดช้ ดั เจน
บนั ทกึ หลังการสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) ( นางสาวจีรวรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยที่ 4 เร่ือง การเปลยี่ นแปลงของสภาพอากาศในรอบวัน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนทแ่ี ละเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภมู ิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ป.1/5 สังเกตและบอกการเปล่ียนแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั สาระสาคญั ในรอบวนั สภาพอากาศจะมีการเปล่ียนแปลงตามเวลากลางวนั และกลางคืน และ การเปล่ียนแปลง อุณหภูมิของบรรยากาศทาใหเ้ กิดฝน เมฆ และลม สาระการเรียนรู้ 21. สภาพอากาศในเวลากลางวนั และกลางคนื 22. อุณหภูมิในบรรยากาศ ฝน เมฆ ลม คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้ีวดั ท่ี 3.1 ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน ชิ้นงานท่ี 27 เรื่อง สารวจการเปล่ียนแปลงสภาพอากาศ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั สภาพอากาศ และกิจกรรมทนี่ กั เรียนทาในเวลากลางวนั และ กลางคนื 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ดวงอาทติ ย์ การโคจรของดวงอาทติ ยใ์ นรอบวนั และประโยชน์ ของดวงอาทิตย์ 3. สรุปความรูเ้ ก่ียวกบั การเปล่ียนแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาเร่ือง ฝน และสรุปประโยชนข์ องฝน
5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาเรื่อง เมฆ โดยครูเขยี นภาพวฏั จกั รของการเกิดเมฆ ฝนบนกระดาน และ สรุปประโยชนข์ องเมฆ 6. ใหน้ กั เรียนศึกษาเรื่อง ลมและสรุปความรู้เร่ือง ลม 7. ครูแบ่งกลุ่มนกั เรียนสารวจสภาพอากาศในรอบวนั เก่ียวกบั เมฆ ลม ฝน 8. สรุปความรูเ้ ก่ียวกบั ฝน เมฆ ลม 9. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี เวลากลางวนั และเวลากลางคืนเป็ นตวั กาหนดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ในรอบวนั และฝน เมฆ ลม เกิดจากการเปล่ียนแปลงอุณหภูมิของบรรยากาศ สื่อการเรียนรู้ 48. ภาพดวงอาทติ ยแ์ ละดวงจนั ทร์ 49. เทอร์มอมิเตอร์ 50. ภาพฝน เมฆ และลกั ษณะการเกิดลม 51. ภาพวาด วฏั จกั รของการเกิดเมฆ ฝนในบรรยากาศ 52. ช้ินงานที่ 27 เรื่อง สารวจการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ผลตัวชี้วดั ชิ้นงานท่ี 27 เร่ือง สารวจการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 สารวจสภาพ สารวจสภาพ สารวจสภาพ สารวจสภาพ สารวจสภาพ อากาศกลางวนั - อากาศกลางวนั - อากาศกลางวนั - อากาศกลางวนั - อากาศกลางวนั - กลางคืน ความ กลางคนื ความ กลางคนื ความ กลางคนื ความ กลางคืน ความ ร้อน-เยน็ เมฆ ฝน ร้อน-เยน็ เมฆ ฝน รอ้ น-เยน็ เมฆ ฝน รอ้ น-เยน็ เมฆ ฝน ร้อน-เยน็ เมฆ ฝน ลม ลงในช่อง ลม ลงในช่อง ลม ลงในช่อง ลม ลงในช่อง ลม ลงในช่อง สารวจโดยทา สารวจโดยทา สารวจโดยทา สารวจโดยทา สารวจโดยทา เคร่ืองหมาย เครื่องหมาย เครื่องหมาย ได้ เครื่องหมาย เคร่ืองหมาย ไดส้ มั พนั ธก์ นั สมั พนั ธก์ นั ไดส้ มั พนั ธก์ นั ไดส้ มั พนั ธก์ นั เช่ือมโยงถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง 3-4 ขอ้ แต่ ถูกตอ้ ง 2 ขอ้ แต่ 1 ขอ้ ครบทุกขอ้ ยงั มีบางขอ้ ทีย่ งั ไม่ ยงั มีบางขอ้ ทยี่ งั ไม่ สมั พนั ธก์ นั บา้ ง สมั พนั ธก์ นั กบั ทีส่ ารวจ
2. การประเมินผลคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ มีวินัย ตวั ชี้วดั ท่ี 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดเี ยี่ยม (๓) 3.1.1 ปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ตกลง ไม่ปฏิบตั ิตนตาม ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ของครอบครวั โรงเรียน ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ และสงั คม ไม่ละเมิดสิทธิ ของครอบครวั ครอบครวั และ ครอบครัวและ ครอบครวั และ ของผอู้ ื่น และโรงเรียน โรงเรียน โดยตอ้ งมี โรงเรียน โดยตอ้ งมี โรงเรียน 3.1.2 ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ การเตือนเป็น การเตือนเป็ นบางคร้ัง ไดด้ ว้ ยตนเอง กิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ส่วนใหญ่ ประจาวนั และรับผดิ ชอบ ในการทางาน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 34 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยที่ 4 เร่ือง การเปลยี่ นแปลงของสภาพอากาศในรอบวัน เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง การเปล่ยี นแปลงสภาพอากาศในรอบวนั มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ส 5.1 ป.1/5 สงั เกตและบอกการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในรอบวนั (K) 2. จาแนกการเปล่ียนแปลงสภาพอากาศในรอบวนั (P) 3. ใชป้ ระโยชน์จากการเรียนรู้สภาพการเปลี่ยนแปลงอากาศในการดาเนินชีวิตประจาวนั (A) สาระสาคญั ในรอบหน่ึงวนั จะมีเวลากลางวนั และกลางคืนตามการโคจรข้นึ และตกของดวงอาทิตย์ สาระการเรียนรู้ 1. เวลาในรอบวนั กลางวนั และกลางคืน 2. ความร้อนเยน็ ของอากาศ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้ีวดั ท่ี 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน แผนภาพการเปล่ียนแปลงสภาพอากาศในรอบวนั
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพ หรือวาดดวงอาทิตยแ์ ละดวงจนั ทร์บนกระดาน และร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ถา้ นกั เรียนเห็นดวงอาทิตย์ แสดงวา่ เวลาน้นั เป็นเวลาอะไร ลกั ษณะของอากาศ เป็ นอยา่ งไร (เป็ นเวลากลางวนั อากาศร้อน) ถา้ หลงั จากทีด่ วงอาทติ ยต์ กดินไปแลว้ นกั เรียนมองเห็นดวงจนั ทร์ แสดงวา่ เวลาน้นั เป็ นเวลา อะไร ลกั ษณะอากาศจะเป็ นอยา่ งไร (เป็ นเวลากลางคนื อากาศจะเย็นกว่ากลางวันเพราะไม่มีแสงแดดจากดวง อาทติ ย์) 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั กลางวนั และกลางคืน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ในเวลากลางวนั นกั เรียนทากิจกรรมอะไรบา้ ง ในเวลากลางคนื นกั เรียนทากิจกรรมอะไรบา้ ง จากน้นั ใหค้ รูสรุปกิจกรรมท่ีทาในเวลากลางวนั และกลางคนื เป็ นแผนภาพบนกระดาน ดงั น้ี กจิ กรรมในเวลา กจิ กรรมในเวลา กลางวนั กลางคืน 3. ครูเลือกนกั เรียน 2-3 คน และใชค้ าถามกระตนุ้ ความคิดเกี่ยวกบั ความรู้สึก ดงั น้ี นกั เรียนชอบเวลากลางวนั หรือเวลากลางคนื มากท่สี ุด เพราะอะไร 4. ครูอธิบายเก่ียวกบั ดวงอาทิตยเ์ พม่ิ เติมวา่ ดวงอาทิตยม์ ีรูปร่างกลม มีขนาดใหญ่โตกว่าโลกมาก มีความร้อนและแสงสว่างในตวั เอง ให้แสงสว่างแก่โลกและดวงจนั ทร์ แสงอาทิตยช์ ่วยพืชปรุงอาหารทาให้พืชเจริญเติบโต ใหค้ วามอบอุ่นแก่คนและสตั ว์ รวมท้งั บอกเวลาเชา้ สาย เท่ยี ง บ่ายและเยน็ 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ดวงอาทติ ย์ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ในเวลากลางวนั ขณะทมี่ ีแสงอาทิตยส์ ่อง ถา้ ยนื อยกู่ ลางแดดจะรู้สึกอยา่ งไร (ร้อน) ในเวลากลางวนั ขณะทม่ี ีแสงอาทิตยส์ ่อง ถา้ ยนื อยใู่ ตร้ ่มไมจ้ ะรู้สึกอยา่ งไร (เย็น) ในเวลากลางวนั บริเวณกลางสนามกบั ในหอ้ งเรียนท่ีใดจะสวา่ งมากกวา่ กนั (สนาม)
6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ประโยชนข์ องดวงอาทิตย์ โดยครูใชค้ าถามกระตุน้ ความคิด ดงั น้ี ดวงอาทิตยม์ ีประโยชนต์ ่อการซกั ผา้ อยา่ งไร (ทาให้ผ้าแห้ง) ดวงอาทิตยม์ ีประโยชนต์ อ่ ตน้ ไมอ้ ยา่ งไร (ทาให้พืชเจริญเตบิ โต) ดวงอาทิตยม์ ีประโยชนต์ อ่ โลกอยา่ งไร (ทาให้มีแสงสว่าง) ถา้ ไม่มีดวงอาทิตยจ์ ะเป็ นอยา่ งไร (ไม่มีแสงสว่าง พืชไม่เจริญเติบโต) 7. ครูนาเทอร์มอมิเตอร์มาให้นักเรียนร่วมกนั ศึกษา จากน้นั ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟัง และทา ความเขา้ ใจถึงเคร่ืองมือวดั อุณหภมู ิ ใหค้ รูศกึ ษาเพมิ่ เตมิ จากความรู้เพมิ่ เตมิ สาหรบั ครู 8. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การเปลี่ยนแปลงของอากาศในรอบวนั จะมีเวลากลางวนั และกลางคนื ตามการข้นึ และตกของ ดวงอาทิตย์ สภาพอากาศจะมีความแตกต่างกันตามเวลา เวลากลางวนั อากาศร้อน เวลากลางคืนอากาศเยน็ เพราะอิทธิพลจากแสงสว่างของดวงอาทิตย์ 9. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนจะใชเ้ วลาในแตล่ ะวนั ใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ตนเองอยา่ งไร ส่ือการเรียนรู้ 1. ภาพ หรือภาพวาดดวงอาทิตยแ์ ละดวงจนั ทร์ 2. เทอร์มอมิเตอร์เครื่องมือวดั อุณหภูมิ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
ความรู้เพมิ่ เตมิ สาหรับครู เทอร์มอมิเตอร์ เป็ นเครื่องมือทใ่ี ช้วดั อุณหภูมิ เทอร์มอมิเตอร์แบ่งเป็ น 2 ประเภท คือ 1. เทอร์มอมิเตอร์แบบธรรมดา 2. เทอร์มอมิเตอร์วดั ไข้ มาตราส่วนบนเทอร์มอมิเตอร์มกี ารแบ่งอยู่หลายแบบ 1. แบบองศาเซลเซียส ( ̊C) เป็ นหน่วยบอกอุณหภูมิในระบบเมตริก 2. แบบองศาฟาเรนไฮต์ ( F) เป็นหน่วยบอกอุณหภมู ิในระบบองั กฤษ 3. แบบเคลวิน (K) เป็ นหน่วยบอกอุณหภมู ิในระบบเอสไอ วธิ ีใช้เทอร์มอมเิ ตอร์แบบธรรมดา 1. เม่ือใชเ้ ทอร์มอมิเตอร์วดั ส่ิงใดตอ้ งใหก้ ระเปาะเทอร์มอมิเตอร์จุม่ อยใู่ นสิ่งน้นั หรือสมั ผสั กบั ส่ิงท่ีจะวดั ใหม้ ากทส่ี ุด 2. ต้งั เทอร์มอมิเตอร์ใหต้ รง 3. เม่ือระดบั ของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์ไม่เปล่ียนแปลงแลว้ จึงอ่านค่าอุณหภูมิตรงขีดท่ีตรงกบั ระดบั ของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์ 4. ให้สายตาอยใู่ นระดบั เดียวกนั กบั ของเหลวน้นั และเทอร์มอมิเตอร์ยงั จมุ่ อยใู่ นสิ่งทตี่ อ้ งการวดั ข้อระวังในการใช้เทอร์มอมเิ ตอร์ 1. อยา่ ใหก้ ระเปาะเทอร์มอมิเตอร์กระทบกบั ของแขง็ เพราะจะทาใหแ้ ตกได้ 2. ไม่ควรใชเ้ ทอร์มอมิเตอร์วดั ส่ิงทอี่ ุณหภมู ิแตกตา่ งกนั มาก ๆ ในเวลาต่อเน่ืองกนั 3. เมื่อใชแ้ ลว้ ตอ้ งทาความสะอาด เช็ดให้แหง้ ก่อนเกบ็ เขา้ กล่อง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 35 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 3 ช่ัวโมง หน่วยที่ 4 เร่ือง การเปลย่ี นแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง การเกิด ฝน เมฆ ในบรรยากาศ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วิเคราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ส 5.1 ป.1/5 สงั เกตและบอกการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วัด 1. อธิบายการเกิดฝน เมฆ (K) 2. สารวจหรือจาแนกการเปล่ียนแปลงสภาพอากาศ (P) 3. สนใจศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (A) สาระสาคญั การเปล่ียนแปลงสภาพอากาศ ทาใหอ้ ุณหภมู ิในบรรยากาศมีการเปลี่ยนแปลงทาใหเ้ กิดเมฆ ลม ฝน สาระการเรียนรู้ การเกิด ฝน เมฆ ในบรรยากาศ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้ีวดั ท่ี 3.1 ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน แผนภาพประโยชน์ของเมฆและฝน การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพหรือวาดภาพ ฝน เมฆ บนกระดาน จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนชอบเวลาฝนตกหรือไม่ เพราะอะไร
นกั เรียนเคยสงั เกตหรือไม่วา่ ก่อนฝนตกจะมีเหตุการณ์อะไร (เมฆดา ลมพดั ) ฝน 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาเรื่อง ฝน ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ฝนมีลกั ษณะอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เป็ นหยดนา้ ละอองน้าเป็ นเมด็ เล็ก ๆ โปรยและตกจาก ฟ้า) นกั เรียนจะสงั เกตไดอ้ ยา่ งไรวา่ จะมีฝนตก (ตวั อย่างคาตอบ จะมีเมฆลอยมา ในปริมาณ มาก ท้องฟ้ามืดครึ้ม) การมีฝนตกลงมายงั พ้ืนดินมีประโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ ง (ครูสรุปคาตอบของนกั เรียน เขยี นเป็นแผนภาพลงบนกระดาน) มีน้าดื่ม น้าใช้ ช่วยใหพ้ น้ื ดินชุ่มช้ืน ทาใหอ้ ากาศเยน็ สดช่ืน ประโยชน์ ช่วยใหต้ น้ ไมเ้ จริญเติบโต ของฝน มีน้าใชป้ ลูกผกั ทานา ช่วยเพม่ิ ปริมาณน้าในแม่น้าลาคลอง ช่วยใหป้ ่ าไมอ้ ุดมสมบรู ณ์ จากน้ันครูอธิบายเพ่ิมเติมวา่ ถา้ ฝนตกปริมาณมากก็จะเกิดน้าท่วม แต่มีวิธีป้องกนั คือหยดุ ตดั ไม้ ทาลายป่ าและปลูกป่ าเพม่ิ เพราะป่ าไมจ้ ะดูดเก็บน้าฝนไม่ให้เกิดน้าทว่ มฉบั พลนั เมฆ 3.ใหน้ ักเรียนร่วมกนั ศึกษาเรื่องเมฆ โดยครูพานกั เรียนไปดูกอ้ นเมฆแลว้ ร่วมกนั สนทนา โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี กอ้ นเมฆมีอยบู่ ริเวณใด มีลกั ษณะอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เมฆจะลอยอยู่บนท้องฟ้า มลี กั ษณะคล้ายภูเขาลอยได้ เป็ นก้อนสีขาว เทาหรือสีดาเทาเข้ม) เมฆลกั ษณะใดทที่ าให้เกิดฝนตกและเกิดมีลมพดั (ตวั อย่างคาตอบ เมฆทีม่ ลี ักษณะ สีดาเทาเข้ม)
ถา้ นกั เรียนเห็นเมฆสีดาเทาเขม้ ลอยมาในปริมาณมากจะปฏิบตั ิตนอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เตรียมหาทหี่ ลบฝน ไม่ออกไปเล่นนอกบ้าน) นกั เรียนรู้หรือไม่วา่ เมฆเกิดจากอะไร (ตัวอย่างคาตอบ เมฆเกิดจากไอน้าที่ระเหยจากพื้น โลก แล้วรวมตัวจับกันเป็ นก้อนเมฆลอยอยู่บนท้องฟ้า พอถูกความร้อนที่ระเหยขึ้นจากพื้นดินก็ละลาย กลายเป็ นฝนตกลงมา) ให้ครูวาดภาพวฏั จกั รการเกิดกอ้ นเมฆใหน้ กั เรียนศกึ ษาบนกระดาน ตวั อย่าง 1. ดวง 3. กระทบความเยน็ ของ 5. กลายเป็นฝนตก อาทิตย์ บรรยากาศรวมตวั กนั เป็ น ลงมาบนพ้นื ดิน กอ้ นเมฆ 2. ไอน้าทร่ี ะเหยจากพ้นื โลก 4. ความร้อนจากพ้นื ดินลอยข้ึนไปกระทบกอ้ นเมฆ 4. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาแผนภาพบนกระดานและอธิบายใหน้ กั เรียนฟังเพมิ่ เตมิ จากน้นั ครูให้ นกั เรียนสรุปประโยชน์ของเมฆลงบนกระดานเป็ นแผนภาพ ดงั น้ี ทาใหอ้ ากาศเยน็ ช่วยใหเ้ กิดฝนตก ประโยชน์ของเมฆ บดบงั แสงแดด ช่วยใหเ้ กิดไอน้าในอากาศ ทาใหพ้ ้นื ดินมีน้าไวใ้ ช้ 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี เมฆ ฝน เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภมู ิในบรรยากาศ
6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี การฟังพยากรณ์อากาศมีประโยชน์ต่อการดาเนินชีวติ ประจาวนั อยา่ งไร สื่อการเรียนรู้ 1. ภาพ ฝน เมฆ 2. ภาพวาดวฏั จกั รของการเกิด เมฆ ฝน ในบรรยากาศ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 36 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยท่ี 4 เรื่อง การเปลยี่ นแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง สารวจการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ส 5.1 ป.1/5 สงั เกตและบอกการเปล่ียนแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายการเกิดฝน เมฆ และลม (K) 2. สารวจหรือจาแนกการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (P) 3. สนใจศกึ ษาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (A) สาระสาคญั การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทาใหอ้ ุณหภมู ิในบรรยากาศมีการเปล่ียนแปลงทาใหเ้ กิดเมฆ ลม ฝน สาระการเรียนรู้ การเกิด ฝน เมฆ และลมในบรรยากาศ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้ีวดั ที่ 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน ช้ินงานที่ 27 เร่ือง สารวจการเปล่ียนแปลงสภาพอากาศ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาเร่ืองลม ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ลมมีรูปร่างและลกั ษณะอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ลมไม่มรี ูปร่าง มลี ักษณะเยน็
เม่ือพดั ผ่านมากระทบกับตวั ของเรา) นกั เรียนจะสงั เกตไดอ้ ยา่ งไรวา่ มีลมเกิดข้ึน (ตวั อย่างคาตอบ สังเกตจากใบไม้ ที่เคล่ือนไหวไปมา และรู้สึกเยน็ สบายเม่ือมลี มพดั ผ่านร่างกาย) นกั เรียนทราบหรือไม่วา่ ลมเกิดจากอะไร (ตัวอย่างคาตอบ ไม่ทราบ ครูอธิบายให้ นักเรียนฟังว่า ลมเกดิ จากการเคล่อื นท่ีเข้าหากนั ของอากาศเย็นและอากาศร้อน เช่น บริเวณใดมอี ากาศร้อน อากาศเยน็ กจ็ ะเคลื่อนทเ่ี ข้าหากนั จงึ ทาให้เกดิ ลมพดั ) 2. ครูแบง่ กลุ่มนกั เรียนออกเป็น 3 กลุ่ม จากน้นั ใหน้ กั เรียนสารวจลกั ษณะของอากาศ ดงั น้ี กลุ่มท่ี 1 สารวจเร่ือง ฝน วา่ วนั น้ีจะมีฝนตกหรือไม่ กลุ่มท่ี 2 สารวจเร่ือง เมฆ วา่ วนั น้ีจะมีเมฆมากนอ้ ยอยา่ งไร กลุ่มที่ 3 สารวจเรื่อง ลม วา่ วนั น้ีจะมีลมลกั ษณะอยา่ งไร จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกมาเล่าใหเ้ พอื่ น ๆ ฟังหนา้ ช้นั เรียนจนครบทกุ กลุ่ม 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี เมฆ ลม ฝน เกิดจากการเปล่ียนแปลงของอุณหภูมิในบรรยากาศ 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี การฟังพยากรณ์อากาศมีประโยชน์ตอ่ การดาเนินชีวติ ประจาวนั อยา่ งไร 5. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 27 เรื่อง สารวจการเปล่ียนแปลงสภาพอากาศ สื่อการเรียนรู้ 1. ภาพ ฝน เมฆ และลกั ษณะการเกิดของลม 2. ช้ินงานท่ี 27 เรื่อง สารวจการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1.3 ตรวจช้ินงานท่ี 27 2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง การประเมินชิ้นงานที่ 27 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง สารวจการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คะแนน 4 32 1 สารวจสภาพ สารวจสภาพ สารวจสภาพ สารวจสภาพ สารวจสภาพ อากาศกลางวนั - อากาศกลางวนั - อากาศกลางวนั - อากาศกลางวนั - อากาศกลางวนั - กลางคนื ความ รอ้ น-เยน็ เมฆ ฝน กลางคืน ความ กลางคืน ความ กลางคืน ความ กลางคืน ความ ลม ลงในช่อง สารวจโดยทา ร้อน-เยน็ เมฆ ฝน รอ้ น-เยน็ เมฆ ฝน ร้อน-เยน็ เมฆ ฝน ร้อน-เยน็ เมฆ ฝน เคร่ืองหมาย ไดส้ มั พนั ธก์ นั ลม ลงในช่อง ลม ลงในช่อง ลม ลงในช่อง ลม ลงในช่อง 1 ขอ้ สารวจโดยทา สารวจโดยทา สารวจโดยทา สารวจโดยทา เครื่องหมาย เครื่องหมาย เครื่องหมาย ได้ เครื่องหมาย ไดส้ มั พนั ธก์ นั สมั พนั ธก์ นั ไดส้ มั พนั ธก์ นั เชื่อมโยงถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง 3-4 ขอ้ แต่ ถูกตอ้ ง 2 ขอ้ แต่ ครบทุกขอ้ ยงั มีบางขอ้ ทีย่ งั ไม่ ยงั มีบางขอ้ ท่ยี งั ไม่ สมั พนั ธก์ นั บา้ ง สมั พนั ธก์ นั กบั ทีส่ ารวจ
บนั ทึกหลงั การสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงชื่อ_____________________________ (ผบู้ นั ทกึ ) ( นางสาวจรี วรรณ ปฏิวงศ์ ) _________/__________/________
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 หน่วยท่ี 5 เร่ือง ภูมปิ ระเทศและภูมอิ ากาศกบั ความเป็ นอยู่ของมนุษย์ เวลา 2 ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสมั พนั ธร์ ะหว่างมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ วฒั นธรรม มีจติ สานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ ม เพอื่ การพฒั นาที่ยงั่ ยนื ตวั ชี้วดั ป.1/1 บอกส่ิงตา่ ง ๆ ท่ีเกิดตามธรรมชาตทิ ี่ส่งผลต่อความเป็นอยขู่ องมนุษย์ สาระสาคญั ภูมิประเทศ และภูมิอากาศมีผลตอ่ การประกอบอาชีพ การสร้างบา้ น การบริโภคอาหารและการแต่ง กาย ในการดารงชีวติ ของมนุษย์ สาระการเรียนรู้ 23. ภูมิประเทศกบั ความเป็นอยขู่ องมนุษย์ 24. ภูมิอากาศกบั ความเป็นอยขู่ องมนุษย์ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ ชิ้นงานหรือภาระงาน ช้ินงานท่ี 28 เร่ือง ภูมิประเทศและภมู ิอากาศกบั ความเป็นอยขู่ องมนุษย์ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็ น 5 กลุ่ม สารวจ ภูมิประเทศ การประกอบอาชีพ ลกั ษณะของบา้ นเรือน การบริโภคอาหาร และลกั ษณะการแตง่ กาย ในชุมชนของตนเองลงในตารางทีค่ รูแจกให้ 2. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอแบบสารวจของตนเองหนา้ ช้นั เรียน จากน้นั ครูสรุปคาตอบของ นกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน 3. สรุปความรู้ลกั ษณะของภมู ิประเทศที่มีผลตอ่ ความเป็ นอยขู่ องมนุษย์ 4. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั สนทนาและสารวจภูมิอากาศในทอ้ งถ่ินของตนเอง โดยครูเขียนตารางการ สารวจลงบนกระดาน
5. ครูใชค้ าถามและสรุปคาตอบของนกั เรียนเกี่ยวกบั ลกั ษณะของภูมิอากาศ ที่มีผลในการประกอบ อาชีพ การสรา้ งบา้ นเรือน การบริโภคอาหาร และการแต่งกายเป็นแผนภาพลงบนกระดาน 6. สรุปความรู้เก่ียวกบั ภูมิอากาศกบั ความเป็ นอยขู่ องมนุษย์ 7. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ภมู ิประเทศและภมู ิอากาศมีผลตอ่ การดารงชีวติ ของมนุษย์ สื่อการเรียนรู้ 53. ภาพลกั ษณะของภูมิประเทศ 54. แบบสารวจ ลกั ษณะภูมิประเทศ 55. ภาพแผนทป่ี ระเทศไทย 56. แบบสารวจลกั ษณะภมู ิอากาศ 57. ช้ินงานที่ 28 เร่ือง ภูมิประเทศและภมู ิอากาศกบั ความเป็ นอยขู่ องมนุษย์ การประเมินผล 1. การประเมนิ ผลตวั ชี้วัด ชิ้นงานที่ 28 เรื่อง ภูมปิ ระเทศและภูมิอากาศกบั ความเป็ นอยู่ของมนุษย์ เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 วาดภาพส่ิงที่ วาดภาพส่ิงท่ี วาดภาพสิ่งที่ วาดภาพสิ่งท่ี วาดภาพส่ิงท่ี เกิดข้นึ เองตาม เกิดข้นึ เองตาม เกิดข้นึ เองตาม เกิดข้ึนเองตาม เกิดข้นึ เองตาม ธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาติและ ธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาติและ เขยี นอธิบาย เขยี นอธิบาย เขียนอธิบาย เขยี นอธิบาย เขยี นอธิบาย หรือสรุปช่ือภาพ หรือสรุปชื่อภาพ หรือสรุปช่ือภาพ หรือสรุปชื่อภาพ หรือสรุปช่ือภาพ บอกประโยชน์ทมี่ ี บอกประโยชน์ท่ีมี บอกประโยชน์ทีม่ ี บอกประโยชนท์ ่มี ี บอกประโยชน์ทีม่ ี ตอ่ ความเป็ นอยู่ ต่อความเป็นอยู่ ตอ่ ความเป็นอยู่ ตอ่ ความเป็ นอยขู่ อง ต่อความเป็ นอยู่ ของมนุษย์ ของมนุษยไ์ ด้ ของมนุษย์ มนุษย์ ของมนุษยไ์ ด้ แต่ สมั พนั ธ์ เชื่อมโยง ไดส้ มั พนั ธก์ นั ไดส้ มั พนั ธ์ ยงั ไม่สอดคลอ้ ง กนั แสดงใหเ้ ห็น มีการจาแนก สอดคลอ้ งกบั ขอ้ มูล กบั ขอ้ มูล วาดภาพ ถึงความสมั พนั ธ์ ใหเ้ ห็น มีการเขียนขยาย หรือเขยี นตาม กบั ตนเองและ ความสมั พนั ธก์ บั อธิบายความให้ ขอ้ มูลทอ่ี ่าน ไม่มี ผอู้ ื่น ตนเองอยา่ ง เขา้ ใจงา่ ย การอธิบายเพมิ่ เติม เป็ นเหตุเป็ นผล
2. การประเมนิ ผลคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชี้วัดท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยีย่ ม (3) 4.1.1 ต้งั ใจเรียน ไม่ต้งั ใจเรียน ต้งั ใจ เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ 4.1.2 เอาใจใส่และมีความ ในการเรียน และมีความเพยี ร- และมีความเพยี ร- พยายามในการเรียน พยายามในการ เพยี รพยายาม ในการเรียนรู้ เรียนรู้ เขา้ ร่วม 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ ตา่ ง ๆ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 37 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยที่ 5 เร่ือง ภูมปิ ระเทศและภูมิอากาศกบั ความเป็ นอยู่ของมนุษย์ เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง ภูมปิ ระเทศกับความเป็ นอยู่ของมนุษย์ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างมนุษยก์ ับสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่ีก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ วฒั นธรรม มีจติ สานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม เพอื่ การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื ตวั ชี้วัด ส 5.2 ป.1/1 บอกส่ิงต่าง ๆ ทีเ่ กิดตามธรรมชาตทิ ส่ี ่งผลตอ่ ความเป็ นอยขู่ องมนุษย์ จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายลกั ษณะของภูมิประเทศทีแ่ ตกต่างกนั (K) 2. จาแนกสาเหตกุ ารประกอบอาชีพ การสรา้ งบา้ นเรือน การบริโภคอาหาร และการแตง่ กาย (P) 3. สนใจศึกษาเรียนรู้ลกั ษณะของภูมิประเทศท่มี ีความสมั พนั ธก์ บั การดาเนินชีวติ (A) สาระสาคญั ลกั ษณะภูมิประเทศเป็นสาเหตุหน่ึงที่ทาใหม้ นุษย์ มีการประกอบอาชีพ การสรา้ งท่ีอยอู่ าศยั การ บริโภคอาหารและการแต่งกายท่ีแตกตา่ งกนั สาระการเรียนรู้ ภมู ิประเทศกบั การประกอบอาชีพ การสร้างบา้ นเรือน การบริโภคอาหาร และการแต่งกาย คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แบบสารวจภมู ิประเทศกบั ความเป็นอยขู่ องมนุษย์ 2. แผนภาพ สรุปภมู ิประเทศกบั ความเป็ นอยขู่ องมนุษย์
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูตดิ ภาพลกั ษณะภมู ิประเทศตา่ ง ๆ บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษา เช่น ภเู ขา ท่ดี อน ทร่ี าบ ที่ลุ่ม จากน้นั ครูอธิบายถึงลกั ษณะของแตล่ ะภมู ิประเทศต่าง ๆ ใหน้ กั เรียนฟัง 2. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 5 กลุ่ม ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สารวจตามหวั ขอ้ ทคี่ รูกาหนด ดงั น้ี กลมุ่ ท่ี 1 สารวจลกั ษณะภูมิประเทศในชุมชนของตนเอง โดยใหน้ กั เรียนเขียนเคร่ืองหมาย ลงใน ตารางท่คี รูกาหนดให้ ลกั ษณะภูมิประเทศ เป็นภูเขา เป็ นท่ีดอน เป็ นที่ราบ เป็ นที่ลุ่ม ชุมชนของเรา กลุ่มท่ี 2 สารวจการประกอบอาชีพในชุมชนของตนเอง การประกอบอาชีพ ปลูกพชื ผกั ทาไร่ เล้ียงสัตว์ ทานาขา้ ว ทานาขา้ ว ของชุมชนของเรา ต่าง ๆ เล้ียงสตั วน์ ้า กลุ่มท่ี 3 สารวจลกั ษณะของบา้ นเรือนในชุมชนของตนเอง บา้ น ยกจากพ้นื ยกสูง ยกสูงจาก ลกั ษณะของบา้ นเรือน ช้นั เดียว ไม่สูง จากพ้นื พ้นื มาก กลุ่มที่ 4 สารวจการบริโภคอาหารในชุมชนของตนเอง อาหารท่ีบริโภค เน้ือสตั ว์ ผกั เน้ือสตั ว์ ผกั ตา่ ง ๆ เน้ือสตั วผ์ กั ตา่ ง ๆ เน้ือสตั วเ์ ล้ียง ในชุมชน ตา่ ง ๆ ทีม่ ีใน ท่มี ีนอกชุมชน ท่หี าซ้ือมา สตั วน์ ้า พชื ผกั ในทอ้ งถิ่น ชุมชน
กลุ่มที่ 5 สารวจลกั ษณะการแต่งกายของคนในชุมชนของตนเอง ลกั ษณะการแต่งกาย เส้ือผา้ หนา เส้ือผา้ บาง เส้ือพ้นื บา้ น เส้ือผา้ ทว่ั ไป ของคนในชุมชน มาก จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลการสารวจของตนเองหนา้ ช้นั เรียน โดยครูคอยใหค้ าแนะนาอธิบายเพม่ิ เติม 3. เม่ือจบการนาเสนอทุกกลุ่ม ในชว่ั โมงที่แลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม สรุปคาตอบของนกั เรียนเป็ นแผนภาพลงบนกระดานทีละคาถาม ดงั น้ี ถา้ ลกั ษณะภมู ิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา นกั เรียนจะประกอบอาชีพ สรา้ งบา้ น บริโภคอาหารและแตง่ กาย ลกั ษณะแบบใด ปลูกบา้ นช้นั เดียว ปลูกพชื ผกั ผลไมเ้ มืองหนาว พ้นื ต้นื ไม่สูง การประกอบอาชีพ เล้ียงสตั ว์ การสร้างบา้ น แต่งกาย ภมู ิประเทศ การบริโภคอาหาร ใส่ผา้ หนาเพราะอากาศเยน็ เป็ นภูเขา เน้ือสตั วเ์ ล้ียง พชื ในทอ้ งถ่ิน ถา้ ลกั ษณะภมู ิประเทศเป็นที่ดอน หรือที่ราบ นกั เรียนควรประกอบอาชีพสร้างบา้ น บริโภคอาหารและแต่งกายในลกั ษณะใด สรา้ งยกจากพ้นื ไม่สูงมาก ทาไร่ และเล้ียงสตั วใ์ นที่ดอน พ้นื ต้นื ไม่สูง การประกอบอาชีพ ทาสวนผลไม้ การสร้างบา้ น การแต่งกาย ภูมิประเทศ ทานาขา้ วในพน้ื ทรี่ าบ เป็ นที่ราบดอน การบริโภคอาหาร ใส่เส้ือผา้ เน้ือบางช่วยระบายความรอ้ น เน้ือสตั วใ์ นทอ้ งถ่ิน พชื ผกั ท่ปี ลูก
ถา้ ลกั ษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มแม่น้า นกั เรียนควรประกอบอาชีพ สรา้ งบา้ น บริโภคอาหาร แต่งกายในลกั ษณะใด ยกพ้นื สูงมากป้องกนั น้าทว่ ม ทานาขา้ ว นาบวั นาเผอื ก การสรา้ งบา้ น การประกอบอาชีพ เล้ียงสตั วน์ ้า ภมู ิประเทศ ทาประมงน้าจดื การแต่งกาย เป็นทร่ี าบลุ่ม การบริโนภ้าคอาหาร สวมใส่เส้ือผา้ แม่น้า พชื ผกั ในทอ้ งถิ่น น้า ทโี่ ปร่งและระบายอากาศเน้ือสตั วต์ า่ ง ๆ เช่น สตั วน์ ้า สตั วบ์ ก 4. ใหค้ รูอธิบายสรุปความรู้เพม่ิ เติมจากแผนภาพ 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การประกอบอาชีพ การสรา้ งบา้ นเรือน การบริโภคอาหารและการแตง่ กายของคน ในทอ้ งถิ่นข้นึ อยกู่ บั ลกั ษณะภูมิประเทศของทอ้ งถิ่นน้นั สื่อการเรียนรู้ 1. ภาพลกั ษณะของภมู ิประเทศ 2. แบบสารวจลกั ษณะภมู ิประเทศ 3. ภาพลกั ษณะของภูมิประเทศ 4. แบบสารวจลกั ษณะภมู ิประเทศ
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 38 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยที่ 5 เรื่อง ภูมปิ ระเทศและภูมอิ ากาศกับความเป็ นอยู่ของมนุษย์ เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง ภูมิอากาศกับความเป็ นอยู่ของมนุษย์ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสัมพนั ธร์ ะหวา่ งมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่ีก่อให้เกิด การสร้างสรรค์ วฒั นธรรม มีจติ สานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรกั ษท์ รพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ ม เพอื่ การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื ตัวชี้วัด ส 5.2 ป.1/1 บอกส่ิงต่าง ๆ ทเี่ กิดข้นึ ตามธรรมชาติทสี่ ่งผลตอ่ ความเป็ นอยขู่ องมนุษย์ จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายลกั ษณะของภูมิอากาศทแี่ ตกต่างกนั (K) 2. จาแนกสาเหตุของการประกอบอาชีพ การสร้างบา้ นเรือน การบริโภคอาหาร และการแตง่ กาย (P) 3. สนใจศึกษาเรียนรูล้ กั ษณะของภมู ิอากาศท่ีมีความสมั พนั ธก์ บั การดาเนินชีวติ (A) สาระสาคญั ลกั ษณะภมู ิอากาศเป็นสาเหตุหน่ึงทท่ี าใหม้ นุษยม์ ีการประกอบอาชีพ การสรา้ งบา้ นเรือน การบริโภค อาหาร และการแต่งกายที่แตกต่างกนั สาระการเรียนรู้ ภูมิอากาศกบั การประกอบอาชีพ การสร้างบา้ นเรือน การบริโภคอาหาร และการแต่งกาย คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพภูมิอากาศกบั ความเป็นอยขู่ องมนุษย์ 2. ช้ินงานท่ี 28 เร่ือง ภมู ิประเทศและภมู ิอากาศกบั ความเป็ นอยขู่ องมนุษย์
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ลกั ษณะภูมิอากาศในทอ้ งถิ่นของตนเอง โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ชุมชนของนักเรียนมีสภาพภูมิอากาศเป็ นอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ อากาศร้อนอบอ้าว ใน ฤดูร้อน มฝี นตกชุกในฤดูฝนและมอี ากาศหนาวช่วงเดือนพฤศจิกายนถงึ เดือนกมุ ภาพนั ธ์ของทุกปี ) ลกั ษณะอากาศแบบน้ี นกั เรียนแตง่ ตวั อยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ใส่ชุดทีโ่ ปร่งและบางในช่วง ฤดูร้อน และสวมใส่ชุดทมี่ เี นื้อหนาในช่วงฤดูหนาว) ลกั ษณะอากาศแบบน้ีนักเรียนจะสร้างบา้ นเรือนอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ สร้างบ้านเรือน ยกพืน้ สูงจากพื้นดนิ เพื่อป้องกันนา้ หลากในฤดูฝน) ลกั ษณะอากาศแบบน้ีนกั เรียนจะบริโภคอาหารแบบใด (ตวั อย่างคาตอบ บริโภคอาหารท่ีมี อยู่ในท้องถน่ิ เช่น ผัก เนื้อสัตว์) 2. ให้นักเรียนร่วมกันสารวจสภาพภูมิอากาศในทอ้ งถิ่นของตนเอง โดยครูทาเป็ นตารางลงบน กระดานใหน้ กั เรียนสารวจร่วมกนั ดงั น้ี ตวั อย่าง ตารางสารวจ ลกั ษณะภูมิอากาศ ๐ หนาวเยน็ ๐ อากาศ รอ้ นช้ืน ๐ อากาศรอ้ นแหง้ ๐ อากาศรอ้ นช้ืน ในทอ้ งถิ่นของเรา หมอกจดั ๐ มีฝนตกใน ๐ มีฝนตกฤดูฝน ๐ มีฝนตกตลอดปี ๐ มีฝนตกใน ฤดูฝน ฤดูฝน ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมาย ลงในช่องวา่ งท่ีตรงกบั ลกั ษณะภมู อิ ากาศของทอ้ งถ่ินตนเอง 3. จบการสารวจ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถามและสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็ น แผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างคาถาม และแผนภาพ ถา้ ลกั ษณะภมู ิอากาศในทอ้ งถน่ิ ของเรามีอากาศทรี่ ้อนและมีฝนตกชุก ผปู้ กครองนกั เรียนควรจะ ประกอบอาชีพ ปลูกสรา้ งบา้ น การบริโภคอาหาร และแตง่ กายในลกั ษณะใด
1. การประกอบอาชีพ เล้ียงสตั วบ์ ก สตั วน์ ้า ขา้ ว สวนผลไม้ ปลูกพชื เขตร้อน ยางพารา สวนปาลม์ น้ามนั 2. การสร้างบา้ น สร้างบา้ นมีช่องหนา้ ต่างมากเพอ่ื ระบายอากาศ ยอกาตกวัาศบา้ นสูงจากพ้นื ป้องกนั น้าทว่ ม ภูมอิ ากาศร้อน 3. มีฝนตกชุก การบริโภคอาหาร ปลา ผกั ผลไม้ เน้ือสตั ว์ 4. ใส่เส้ือผา้ โปร่งบาง การแต่งกาย เตรียมหมวก ร่มไวเ้ สมอ 4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การประกอบอาชีพ การสรา้ งบา้ น การบริโภคอาหาร และการแตง่ กายข้นึ อยกู่ บั ลกั ษณะ ภมู ิอากาศของทอ้ งถ่ิน 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนชอบลกั ษณะภมู ิอากาศแบบใด เพราะอะไร 6. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 28 เร่ือง ภูมิประเทศและภมู ิอากาศกบั ความเป็นอยขู่ องมนุษย์ สื่อการเรียนรู้ 1. ภาพ แผนที่ประเทศไทย 2. แบบสารวจ ลกั ษณะภมู ิอากาศ 3. ชิ้นงานที่ 28 เร่ือง ภูมิประเทศและภมู ิอากาศกบั ความเป็ นอยขู่ องมนุษย์ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจชิ้นงานที่ 28 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
การประเมินชิ้นงานที่ 28 ให้ผูส้ อนพิจารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง ภูมิประเทศ และภูมิอากาศกบั ความเป็นอยขู่ องมนุษย์ เกณฑ์การ ระดบั คะแนน ประเมิน 4 3 2 1 วาดภาพส่ิงที่ วาดภาพสิ่งที่ วาดภาพสิ่งที่ วาดภาพส่ิงที่ วาดภาพสิ่งท่ี เกิดข้นึ เองตาม เกิดข้ึนเองตาม เกิดข้ึนเองตาม เกิดข้ึนเองตาม เกิดข้นึ เองตาม ธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาติและ ธรรมชาตแิ ละ เขยี นอธิบาย เขยี นอธิบาย เขียนอธิบาย เขยี นอธิบาย เขยี นอธิบาย หรือสรุปช่ือภาพ หรือสรุปช่ือภาพ หรือสรุปชื่อภาพ หรือสรุปชื่อภาพ หรือสรุปช่ือภาพ บอกประโยชนท์ ี่ บอกประโยชนท์ ี่มี บอกประโยชน์ทีม่ ี บอกประโยชนท์ ม่ี ี บอกประโยชน์ท่มี ี มีตอ่ ความเป็นอยู่ ต่อความเป็นอยู่ ตอ่ ความเป็นอยู่ ต่อความเป็ นอยขู่ อง ตอ่ ความเป็ นอยู่ ของมนุษย์ ของมนุษยไ์ ด้ ของมนุษย์ มนุษย์ ของมนุษยไ์ ด้ สมั พนั ธ์ เชื่อมโยง ไดส้ มั พนั ธก์ นั ไดส้ มั พนั ธ์ แตย่ งั ไม่สอดคลอ้ ง กนั แสดงให้เห็น มีการจาแนก สอดคลอ้ งกบั ขอ้ มูล กบั ขอ้ มูล วาดภาพ ถึงความสมั พนั ธ์ ใหเ้ ห็น มีการเขียนขยาย หรือเขียนตาม กบั ตนเองและ ความสมั พนั ธก์ บั อธิบายความให้ ขอ้ มูลทอี่ ่าน ผอู้ ื่น ตนเองอยา่ ง เขา้ ใจงา่ ย ไม่มกี ารอธิบาย เป็ นเหตุเป็ นผล เพม่ิ เตมิ
บันทึกหลังการสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงชื่อ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) ( นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 หน่วยท่ี 6 เรื่อง ส่ิงแวดล้อม วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างมนุษยก์ ับสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ วฒั นธรรม มีจติ สานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรกั ษท์ รพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพอื่ การพฒั นาท่ียงั่ ยนื ตวั ชี้วัด ป.1/2 สังเกตและเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดลอ้ ม เพอื่ การปฏติ บิ ตั ิตนอยา่ งเหมาะสม ป.1/3 มีส่วนร่วมในการจดั ระเบียบสิ่งแวดลอ้ มที่บา้ นและช้นั เรียน สาระสาคญั การเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดลอ้ มมีผลกระทบตอ่ ตวั เรา การรู้เท่าทนั และปรับตวั เขา้ กบั สิ่งแวดลอ้ ม ทาใหก้ ารดาเนินชีวติ มีความสุข สาระการเรียนรู้ 25. การรูเ้ ท่าทนั และปรบั ตวั เขา้ กบั การเปล่ียนแปลงของส่ิงแวดลอ้ ม 26. การจดั ระเบียบส่ิงแวดลอ้ มทบ่ี า้ นและโรงเรียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีจติ สาธารณะ ตวั ช้ีวดั ที่ 8.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมทีเ่ ป็ นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน 20. ชิ้นงานที่ 29 เรื่อง การเปล่ียนแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม 21. ช้ินงานท่ี 30 เรื่อง การจดั ระเบียบส่ิงแวดลอ้ มท่ีบา้ นและโรงเรียน การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูทาบตั รคาเกี่ยวกบั การเปลี่ยนแปลงส่ิงแวดลอ้ มโดยจดั ให้ตวั แทนนกั เรียนออกมาทากิจกรรม หนา้ ช้นั เรียน 12 คน แจกบตั รคาใหน้ กั เรียนคนละ 1 ใบ จากน้ันครูให้นกั เรียนจาแนก บตั รคาของตนเอง
ตรงกบั หวั ขอ้ ใด ระหวา่ งการเปลี่ยนแปลงส่ิงแวดลอ้ มที่เกิดข้นึ เองตามธรรมชาติ หรือการกระทาของมนุษย์ และร่วมกนั สนทนาสาเหตขุ องการเปล่ียนแปลงส่ิงแวดลอ้ ม 2. ครูใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เห็นการรู้เทา่ ทนั และการปรบั ตวั เขา้ กบั ส่ิงแวดลอ้ ม โดยครูสรุป คาตอบเป็ นแผนภาพ 3. สรุปความรู้เกี่ยวกบั การเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดลอ้ ม 4. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั รอ้ งเพลงเก่ียวกบั บา้ นและโรงเรียน จากน้นั ร่วมกนั สนทนา 5. ครูแบง่ กลุ่มนกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ออกมาเลา่ วธิ ีการจดั ระเบียบส่ิงแวดลอ้ มทบ่ี า้ นของตนเอง และที่โรงเรียน โดยครูสรุปคาบอกเล่าของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน 6. ร่วมกนั สรุปความรูเ้ กี่ยวกบั การจดั ระเบียบส่ิงแวดลอ้ มทีบ่ า้ นและโรงเรียน 7. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดลอ้ มมีผลกระทบตอ่ การดาเนินชีวติ ของมนุษย์ เราจงึ ควร ปรบั ตวั เขา้ กบั สิ่งแวดลอ้ ม เพอื่ ใหก้ ารดาเนินชีวติ มีความสุข สื่อการเรียนรู้ 58. บตั รคา การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม 59. เพลงบา้ นและโรงเรียน 60. ชิ้นงานที่ 29 เร่ือง การเปล่ียนแปลงของส่ิงแวดลอ้ ม 61. ชิ้นงานท่ี 30 เร่ือง การจดั ระเบยี บสิ่งแวดลอ้ มทบ่ี า้ นและโรงเรียน การประเมนิ ผล 1. การประเมินผลตวั ชี้วดั 1.1 ชิ้นงานที่ 29 เรื่อง การเปลย่ี นแปลงของสิ่งแวดล้อม เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ สภาพแวดลอ้ มใน สภาพแวดลอ้ มใน สภาพแวดลอ้ มใน สภาพแวดลอ้ มใน สภาพแวดลอ้ มใน โรงเรียนทต่ี อ้ งการ โรงเรียนทีต่ อ้ งการ โรงเรียนท่ตี อ้ งการ โรงเรียนที่ตอ้ งการ โรงเรียนท่ีตอ้ งการ ใหเ้ กิดข้นึ ใน ใหเ้ กิดข้นึ ใน ใหเ้ กิดข้ึนใน ใหเ้ กิดข้ึนใน ใหเ้ กิดข้นึ ใน อนาคตและเขียน อนาคตและเขียน อนาคตและเขียน อนาคตและเขียน อนาคตและเขยี น สรุปการ สรุปการ สรุปการ สรุปการ สรุปการ เปล่ียนแปลง เปล่ียนแปลงได้ เปล่ียนแปลงได้ เปลี่ยนแปลงได้ เปล่ียนแปลงได้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั ทก่ี าหนดและ ที่กาหนดและตา่ ง ที่กาหนดตามทค่ี รู จากท่คี รู ยกตวั อยา่ ง แตม่ ี
แตกต่างจากท่ีครู ยกตวั อยา่ ง การดดั แปลงให้ หวั ขอ้ ทีค่ รูกาหนด ยกตวั อยา่ ง เชื่อมโยงใหเ้ ห็น แตกต่าง ตามท่คี รู มีการเชื่อมโยง ความสมั พนั ธก์ บั ยกตวั อยา่ ง ใหเ้ ห็น ตนเอง ความสมั พนั ธก์ บั ตนเองและผอู้ ่ืน 1.2 ชิ้นงานที่ 30 เร่ือง การจดั ระเบยี บสิ่งแวดล้อมทบี่ ้านและโรงเรียน เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 วาดภาพการทาให้ วาดภาพการทาให้ วาดภาพการทาให้ วาดภาพการทาให้ วาดภาพการทาให้ บา้ นหรือหอ้ งเรียน บา้ นหรือหอ้ งเรียน บา้ นหรือหอ้ งเรียน บา้ นหรือหอ้ งเรียน บา้ นหรือหอ้ งเรียน สะอาด น่าอยู่ สะอาดน่าอยู่ สะอาดน่าอยู่ สะอาดน่าอยู่ สะอาดน่าอยู่ พร้อมท้งั เขียน พรอ้ มท้งั เขยี น พร้อมท้งั เขียน พรอ้ มท้งั เขียน พรอ้ มท้งั เขยี น อธิบายหรือสรุป อธิบายหรือสรุป อธิบายหรือสรุป อธิบายหรือสรุป อธิบายหรือสรุป วธิ ีการ วธิ ีการ วธิ ีการ วธิ ีการ วธิ ีการ ทาใหบ้ า้ นหรือ ทาใหบ้ า้ นหรือ ทาใหบ้ า้ นหรือ ทาใหบ้ า้ นหรือ ทาใหบ้ า้ นหรือ หอ้ งเรียนสะอาด หอ้ งเรียนสะอาด หอ้ งเรียนสะอาด หอ้ งเรียนสะอาด หอ้ งเรียนสะอาด น่าอยู่ น่าอยู่ ไดส้ มั พนั ธ์ น่าอยู่ ไดส้ มั พนั ธ์ น่าอยู่ ไดส้ มั พนั ธ์ น่าอยู่ ไดส้ มั พนั ธ์ กบั หวั ขอ้ ท่ี กบั หวั ขอ้ ท่ี กบั หวั ขอ้ ท่ี กบั หวั ขอ้ ที่กาหนด กาหนดและ กาหนดและ กาหนดตามท่คี รู ตามทคี่ รู แตกต่างจากทค่ี รู แตกต่างจากท่ีครู ยกตวั อยา่ ง มีการ ยกตวั อยา่ ง ยกตวั อยา่ ง มีการ ยกตวั อยา่ ง แต่ อธิบายเพม่ิ เตมิ ให้ และไมม่ ีการ เช่ือมโยง เชื่อมโยงใหเ้ ห็น เขา้ ใจง่าย อธิบายเพมิ่ เติม ใหเ้ ห็นถึง เฉพาะตนเอง ความสมั พนั ธก์ บั ตนเองและผอู้ ่ืน
2. การประเมินผลคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มีจติ สาธารณะ ตัวชี้วัดที่ 8.2 เข้าร่วมกจิ กรรมทเี่ ป็ นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม (3) 8.2.1 ดูแล รักษาสาธารณสมบตั ิ ไม่สนใจดูแล รกั ษา ดูแล รักษา ดูแล รักษา ดูแล รกั ษา ทรัพยส์ มบตั ิและ และส่ิงแวดลอ้ ม ทรัพยส์ มบตั ิและ ทรัพยส์ มบตั แิ ละ ทรัพยส์ มบตั ิและ สิ่งแวดลอ้ มของ หอ้ งเรียน โรงเรียน ดว้ ยความเตม็ ใจ สิ่งแวดลอ้ มของ สิ่งแวดลอ้ มของ สิ่งแวดลอ้ มของ เขา้ ร่วมกิจกรรม ของโรงเรียน 8.2.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ี โรงเรียน หอ้ งเรียน โรงเรียน หอ้ งเรียน โรงเรียน ดว้ ยความเตม็ ใจ เป็ นประโยชน์ต่อโรงเรียน เขา้ ร่วมกิจกรรม ชุมชน และสงั คม ของโรงเรียน 8.2.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมเพอื่ แกป้ ัญหา หรือร่วมสรา้ ง สิ่งทด่ี ีงามของส่วนรวม ตามสถานการณ์ทเี่ กิดข้ึน ดว้ ยความกระตอื รือรน้
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 39 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยที่ 6 เรื่อง ส่ิงแวดล้อม เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสัมพนั ธ์ระหว่างมนุษยก์ ับสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่ีก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ วฒั นธรรม มีจติ สานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพอื่ การพฒั นาท่ียง่ั ยนื ตัวชี้วดั ส 5.2 ป.1/2 สงั เกตและเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม เพอื่ การปฏิติบตั ิตนอย่าง เหมาะสม จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายการเปล่ียนแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม (K) 2. รู้เท่าทนั และปรบั ตวั เขา้ กบั สิ่งแวดลอ้ ม (P) 3. สนใจศกึ ษาเรียนรู้ปรบั ตวั ใหส้ อดคลอ้ งกบั สิ่งแวดลอ้ มที่เปล่ียนแปลงไป (A) จากการ สาระสาคญั การเปล่ียนแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม เกิดจากการเปล่ียนแปลงท้งั จากธรรมชาติ และเกิด กระทาของมนุษย์ สาระการเรียนรู้ การรูเ้ ท่าทนั และปรับตวั เขา้ กบั การเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดลอ้ ม คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มีจิตสาธารณะ ตวั ช้ีวดั ที่ 8.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ ป็ นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพ การรูเ้ ท่าทนั และปรบั ตวั เขา้ กบั ส่ิงแวดลอ้ ม 2. ชิ้นงานท่ี 29 เร่ือง การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาบตั รคาเก่ียวกบั ปัจจยั ทท่ี าใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงส่ิงแวดลอ้ มติดบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างบัตรคา แสงแดด ลม อากาศ น้าป่ า ฝนชะลา้ ง น้าต้ืนเขนิ การประกอบอาชีพ การสรา้ งโรงเรียน การตดั ไม้ ควนั รถยนต์ ปล่อยน้าเสีย การสร้างบา้ นเรือน ตน้ ไม้ ประกอบ ประกอบอาชีพ ครูใหน้ กั เรียนอ่านบตั รคาทีละใบ จากน้นั ครูคดั ผอแู้ ทาชนีพนกั เรียนออกมาร่วมกิจกรรมที่ หนา้ ช้นั เรียน 12 คน แลว้ ครูแจกบตั รคาใหน้ ักเรียนคนละแผ่น ให้นกั เรียนศึกษาบตั รคาของตนเอง จากน้นั ครูอธิบายการ เปล่ียนแปลงของสิ่งแวดลอ้ มท่ีเกิดจากปัจจยั ทางธรรมชาติและการกระทาของมนุษย์ นกั เรียนคนไหนไดบ้ ตั ร คาท่ีเกี่ยวกบั การเปล่ียนแปลงสิ่งแวดลอ้ มท่ีเกิดจากธรรมชาติให้ไปยนื เรียงแถวแสดงบตั รคาทางดา้ นซ้ายมือ ครู นักเรียนที่ไดบ้ ตั รคาการเปล่ียนแปลงสิ่งแวดลอ้ มจากการกระทาของมนุษยใ์ ห้ไปยนื ขวามือครู กลุ่มไหน ทาเสร็จก่อนและถูกตอ้ งเป็นผชู้ นะ 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี สีบา้ นของนกั เรียน เมื่อเวลาผา่ นไปกลบั มีสีจางลงเกิดจากสาเหตุอะไร (ตวั อย่างคาตอบ ถูกแสงแดดแผดเผาทาให้สีซีดจางลง เป็ นลักษณะของการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติ) ลาคลองหรือแม่น้าจากเดิมทีน่ ้าใสสะอาด มีสตั วน์ ้าอาศยั อยมู่ าก แต่ปัจจุบนั กลบั ต้ืนเขิน น้าเริ่มเน่าเสีย สัตวน์ ้าหายากข้ึน เกิดจากสาเหตุอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เกิดจากการเปล่ียนแปลงทาง ธรรมชาตแิ ละการกระทาของมนุษย์) เกิดจากการเปล่ียนแปลงทางธรรมชาติอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เวลาฝนตกเกดิ การชะล้างเอา ตะกอนดินไหลลงแม่นา้ ลาคลอง เวลาผ่านไปเกดิ การทบั ถมดนิ ตะกอนทาให้เกดิ การ ตื้นเขิน) เกิดจากการกระทาของมนุษยอ์ ยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ มนุษย์ปล่อยนา้ เสียลงใน แม่น้าลาคลอง ทาให้เกิดน้าเสีย และมนุษย์จับปลาในปริมาณมากจากแม่น้าลาคลองทาให้จานวน สัตว์น้า ลดลง) 3. ครูใหน้ กั เรียนศกึ ษาการปรับตวั เขา้ กบั ส่ิงแวดลอ้ ม โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดลอ้ มยอ่ มส่งผลกระทบต่อการดาเนินชีวติ ประจาวนั ของนกั เรียน นกั เรียนมีวธิ ีการรู้เทา่ ทนั และปรับตวั เขา้ กบั สิ่งแวดลอ้ มอยา่ งไร ครูสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน
3. ศกึ ษาหรือหาทางแกไ้ ข 4. ดูแลรักษาสภาพแวดลอ้ มใหค้ งสภาพเดิม 2. ศึกษาสาเหตุวา่ เกิดจากอะไร 5. ปรบั ปรุงส่ิงแวดลอ้ มท่ีเส่ือมโทรม 1. รู้จกั สงั เกตการเปล่ียนแปลง การรู้เท่าทนั และ 6. ร่วมกนั รับผดิ ชอบสิ่งแวดลอ้ ม ของส่ิงแวดลอ้ ม ปรับตวั เข้ากบั 9. ร่วมมือกนั แกป้ ัญหาส่ิงแวดลอ้ ม ส่ิงแวดล้อม 7. ไม่เป็ นคนท่ีสร้างปัญหาใหก้ บั สิ่งแวดลอ้ ม ประกอบอา8ช.ีพหลีกเลี่ยงหรือไม่อยอู่ าศยั ในส่ิงแวดลอ้ มที่ไม่ดี 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ประกอบอาชีพ ส่ิงแวดลอ้ มมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ท้งั จากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ และการกระทาของมนุษย์ ดงั น้นั ทุกคนจะตอ้ งรู้จกั การร่วมมือกนั รักษาส่ิงแวดลอ้ มใหน้ ่าอยอู่ าศยั 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนมีวธิ ีเปล่ียนแปลงส่ิงแวดลอ้ มใหด้ ีข้ึนอยา่ งไร 6. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานท่ี 29 เรื่อง การเปล่ียนแปลงของส่ิงแวดลอ้ ม สื่อการเรียนรู้ 1. บตั รคา การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม 2. ช้ินงานที่ 29 เร่ือง การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจช้ินงานท่ี 29 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
การประเมนิ ชิ้นงานที่ 29 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การเปล่ียนแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ สภาพแวดลอ้ มใน สภาพแวดลอ้ มใน สภาพแวดลอ้ มใน สภาพแวดลอ้ มใน สภาพแวดลอ้ มใน โรงเรียนทตี่ อ้ งการ โรงเรียนท่ีตอ้ งการ โรงเรียนทตี่ อ้ งการ โรงเรียนท่ตี อ้ งการ โรงเรียนท่ีตอ้ งการ ใหเ้ กิดข้ึนใน ใหเ้ กิดข้ึนใน ใหเ้ กิดข้ึนใน ใหเ้ กิดข้ึนใน ใหเ้ กิดข้นึ ใน อนาคตและเขยี น อนาคตและเขียน อนาคตและเขียน อนาคตและเขียน อนาคตและเขียน สรุปการ สรุปการ สรุปการ สรุปการ สรุปการ เปล่ียนแปลง เปล่ียนแปลงได้ เปล่ียนแปลงได้ เปลี่ยนแปลงได้ เปลี่ยนแปลงได้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั ที่กาหนดและ ทก่ี าหนดและต่าง ทีก่ าหนดตามทค่ี รู หวั ขอ้ ทค่ี รูกาหนด แตกตา่ งจากท่คี รู จากทค่ี รู ยกตวั อยา่ ง แตม่ ี ตามทค่ี รู ยกตวั อยา่ ง ยกตวั อยา่ ง การดดั แปลงให้ ยกตวั อยา่ ง มีการเช่ือมโยง เชื่อมโยงใหเ้ ห็น แตกต่าง ใหเ้ ห็น ความสมั พนั ธก์ บั ความสมั พนั ธก์ บั ตนเอง ตนเองและผอู้ ่ืน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 40 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 6 เรื่อง สิ่งแวดล้อม เวลา 1 ชั่วโมง เร่ือง การจดั ระเบียบส่ิงแวดล้อมทีบ่ ้านและโรงเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสัมพนั ธ์ระหว่างมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่ีก่อให้เกิด การสร้างสรรค์ วฒั นธรรม มีจติ สานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพอ่ื การพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื ตวั ชี้วดั ส 5.2 ป.1/3 มีส่วนร่วมในการจดั ระเบียบสิ่งแวดลอ้ มท่ีบา้ นและช้นั เรียน จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายการจดั ระเบยี บส่ิงแวดลอ้ มทบี่ า้ นและโรงเรียน (K) 2. แสดงวธิ ีการจดั ส่ิงแวดลอ้ มท่ีบา้ นและโรงเรียนใหเ้ ป็นระเบียบ (P) 3. เห็นความสาคญั ของการจดั ระเบยี บส่ิงแวดลอ้ มภายในบา้ นและโรงเรียน (A) สาระสาคญั การจดั ระเบียบสิ่งแวดลอ้ มที่บา้ นและโรงเรียน ทาใหท้ ี่บา้ นน่าอยอู่ าศยั และทโี่ รงเรียนน่าเรียน หนงั สือ สาระการเรียนรู้ การจดั ระเบียบส่ิงแวดลอ้ มท่บี า้ นและโรงเรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีจติ สาธารณะ ตวั ช้ีวดั ท่ี 8.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมทีเ่ ป็ นประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชุมชน และสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. เน้ือหาเพลงบา้ นของเราและเพลงโรงเรียนของเรา 2. แผนภาพการจดั ระเบียบส่ิงแวดลอ้ มทีบ่ า้ นและโรงเรียน 3. ชิ้นงานท่ี 30 เรื่อง การจดั ระเบียบสิ่งแวดลอ้ มทีบ่ า้ นและโรงเรียน
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั บา้ นของตนเอง โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี บา้ นของนกั เรียนมีหอ้ งอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ห้องนอน ห้องน้า ห้องครัว ห้องรับแขก) 2. ครูรอ้ งเพลงบา้ นของเรา ใหน้ กั เรียนฟังและใหน้ กั เรียนร่วมกนั รอ้ งตามเน้ือเพลงตอ่ ไปน้ี คารอ้ ง / ทานอง : เนรญั ชรา บ้านของเรา บา้ นคือวมิ านของเรา เราซ้ือเราช่วยเราปลูกของเราตามใจ ยอ่ มเป็ นสถานทพิ ยว์ มิ านพอหาได้ เป็ นทีเ่ กิดท่ตี ายทีเ่ ราสร้างไวค้ อยทา่ บา้ นคือวมิ านของคน ถึงแมย้ ากจนก็ตอ้ งดิ้นรนอยา่ จนปัญญา เพอ่ื สนิทในนิทราใหต้ ่นื มามองโลกชื่นใจ หาบา้ นสกั หลงั ทพี่ อประทงั ชีวา มีเสียงระฆงั จากกงั สดาลพล้ิวไป บา้ นฉนั มีเพลงฝันใหฟ้ ัง มีความรักมีน้าใจ มีใหอ้ ภยั มีกรุณา ยามพบความเศร้ารีบกลบั บา้ นเราจะเปรมปรีดา มีสวนไมด้ อกผลิบานกา้ นกอช่อใบ คอยเราอยทู่ กุ เวลาในชายคาเขตบา้ นเรา บา้ นคอื วมิ านของเรา เพราะบา้ นเรามีรักน้าใจอภยั กรุณา จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น ดงั น้ี เน้ือหาในเพลงกล่าวถึงเรื่องใด (บ้าน) บา้ นมปี ระโยชนก์ บั นกั เรียนอยา่ งไร (เป็ นท่ีอยู่อาศัย ได้นอนหลบั พกั ผ่อน) 3. ครูร้องเพลงโรงเรียนของเรา ใหน้ กั เรียนฟัง และนกั เรียนร่วมกนั ร้องตามเน้ือเพลงตอ่ ไปน้ี โรงเรียนของเรา โรงเรียนของเราน่าอยู่ คุณครูใจดีทกุ คน เด็ก ๆ จะไม่ซกุ ซน พวกเราทุกคนชอบไปโรงเรียน ชอบไป ชอบไปโรงเรียน ชอบไป ชอบไปโรงเรียน จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น ดงั น้ี เน้ือเพลงกล่าวถึงเรื่องใด (โรงเรียน) โรงเรียนมีความสาคญั กบั นกั เรียนอยา่ งไร (เป็ นท่เี รียนหนังสือ ทาให้มคี วามรู้) ในโรงเรียนมีสถานที่สาคญั อะไรบา้ ง (อาคารเรียน หอประชุม เสาธง โรงอาหาร)
4. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ดงั น้ี กลุม่ ท่ี 1 มาเล่าวธิ ีการจดั ระเบียบส่ิงแวดลอ้ มทบ่ี า้ นของตนเอง กลุ่มท่ี 2 มาเล่าวธิ ีการจดั ระเบียบส่ิงแวดลอ้ มที่โรงเรียนของตนเอง โดยใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมาเล่าถึงวิธีการของตนเองในการจดั ระเบียบสิ่งแวดลอ้ มท่ีบา้ นและโรงเรียนให้ น่าอยอู่ าศยั อยา่ งไร 5. จบการนาเสนอของกลุ่มท่ี 1 การจดั ระเบยี บส่ิงแวดลอ้ มทบ่ี า้ น ใหค้ รูสรุปเป็ นแผนภาพ ลงบน กระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ 3. ทานขา้ วเสร็จจดั เก็บจานขา้ ววางในที่จดั ไวส้ าหรบั ลา้ ง 2. หลงั ตื่นนอนจดั เก็บท่ีนอนใหเ้ รียบรอ้ ย 4. ไม่ทิ้งขยะลงบริเวณบา้ นควรทิ้งบริเวณท่ีจดั ไว้ 1. เก็บเส้ือผา้ ใหเ้ ป็ นระเบียบ การจดั ระเบยี บ 5. จดั เกบ็ เครื่ปองรใะชกส้อ่วบนอตาชวั ใีพหอ้ ยใู่ นท่ีจดั เก็บ 8. ช่วยพอ่ กบั แม่ทางานบา้ น ส่ิงแวดล้อมที่ 6. ปัดกวาดเชด็ บา้ นใหส้ ะอาด บ้าน 7. ปลูกตน้ ไมใ้ หร้ ่มรื่นน่าอยู่ 6. จบการนาเสนอของกลุ่มท่ี 2 การปจรดั ะรกะอเบบียอบาสชีิ่พงแวดลอ้ มท่ีโรงเรียน ให้ครูสรุปเป็ นแผนภาพลงบน กระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ 3. ช่วยกนั ปลูกตน้ ไมภ้ ายในโรงเรียน 2. ทิ้งขยะลงในสถานทจี่ ดั ไวใ้ ห้ 4. จดั เกบ็ หนงั สือทีอ่ ่านแลว้ ใหเ้ ป็นระเบียบ 1. ช่วยกนั ทาความสะอาดบริเวณ การจัดระเบยี บ 5. ดูแลรกั ษาความสะอาดในหอ้ งเรียน โรงเรียน สิ่งแวดล้อมที่ 8. จดั เกบ็ ภาชนะใส่อาหารในท่ีจดั ไว้ โรงเรียน 7. ยนื เขา้ คิวซ้ือของตามลาดบั มาก่อน - หลงั 6. จดั โตะ๊ เกา้ อ้ีเรียนภายในหอ้ งเรียนใหเ้ ป็นระเบียบ
7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี บา้ นจะน่าอยอู่ าศยั และโรงเรียนน่าเรียนหนงั สือจะตอ้ งรู้จกั จดั ระเบียบสิ่งแวดลอ้ มภายในบา้ น และโรงเรียนใหม้ ีความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย 8. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานที่ 30 เร่ือง การจดั ระเบียบส่ิงแวดลอ้ มทีบ่ า้ นและโรงเรียน ส่ือการเรียนรู้ 1. เพลงบา้ นของเรา และเพลงโรงเรียนของเรา 2. ชิ้นงานท่ี 30 เรื่อง การจดั ระเบยี บสิ่งแวดลอ้ มทบ่ี า้ นและโรงเรียน การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมินผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1.3 ตรวจชิ้นงานที่ 30 2. เครื่องมอื 2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่ 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง
การประเมินชิ้นงานท่ี 30 ให้ผูส้ อนพิจารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การจดั ระเบยี บสิ่งแวดลอ้ มทีบ่ า้ นและโรงเรียน เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 วาดภาพการทาให้ วาดภาพการทาให้ วาดภาพการทาให้ วาดภาพการทาให้ วาดภาพการทาให้ บา้ นหรือหอ้ งเรียน บา้ นหรือหอ้ งเรียน บา้ นหรือหอ้ งเรียน บา้ นหรือหอ้ งเรียน บา้ นหรือหอ้ งเรียน สะอาด น่าอยู่ สะอาดน่าอยู่ สะอาดน่าอยู่ สะอาดน่าอยู่ สะอาดน่าอยู่ พร้อมท้งั เขียน พร้อมท้งั เขียน พรอ้ มท้งั เขยี น พร้อมท้งั เขียน พรอ้ มท้งั เขียน อธิบายหรือสรุป อธิบายหรือสรุป อธิบายหรือสรุป อธิบายหรือสรุป อธิบายหรือสรุป วธิ ีการ วธิ ีการ วธิ ีการ วธิ ีการ วธิ ีการ ทาใหบ้ า้ นหรือ ทาใหบ้ า้ นหรือ ทาใหบ้ า้ นหรือ ทาใหบ้ า้ นหรือ ทาใหบ้ า้ นหรือ หอ้ งเรียนสะอาด หอ้ งเรียนสะอาด หอ้ งเรียนสะอาด หอ้ งเรียนสะอาด หอ้ งเรียนสะอาด น่าอยู่ น่าอยู่ ไดส้ มั พนั ธ์ น่าอยู่ ไดส้ มั พนั ธ์ น่าอยู่ ไดส้ มั พนั ธ์ น่าอยู่ ไดส้ มั พนั ธ์ กบั หวั ขอ้ ท่ี กบั หวั ขอ้ ท่ี กบั หวั ขอ้ ท่ี กบั หวั ขอ้ ท่กี าหนด กาหนดและ กาหนดและ กาหนดตามที่ครู ตามทีค่ รู แตกต่างจากทค่ี รู แตกตา่ งจากทค่ี รู ยกตวั อยา่ ง มีการ ยกตวั อยา่ ง ยกตวั อยา่ ง มีการ ยกตวั อยา่ ง แต่ อธิบายเพม่ิ เตมิ ให้ และไม่มีการ เชื่อมโยง เช่ือมโยงใหเ้ ห็น เขา้ ใจง่าย อธิบายเพมิ่ เตมิ ใหเ้ ห็นถึง เฉพาะตนเอง ความสมั พนั ธก์ บั ตนเองและผอู้ ื่น
บนั ทกึ หลังการสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงชื่อ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) ( นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________
โรงเรยี นวดั พืชนิมติ (คาสวัสดร์ิ าษฎร์บารุง) สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาปทุมธานเี ขต ๑ กระทรวงศึกษาธิการ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298