การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การใชท้ รัพยากร โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนคิดวา่ ทรพั ยากรมีวนั หมดหรือไม่ (ตวั อย่างคาตอบ ม)ี ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ ทรพั ยากรหลายอยา่ งเม่ือถูกใชแ้ ลว้ จะหมดไป เช่น น้ามนั แร่ธาตุ แตค่ วามตอ้ งการในการใชท้ รัพยากรของมนุษยม์ ีไม่จากดั 2. ครูตดิ แถบประโยคเก่ียวกบั วธิ ีการใชท้ รัพยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ ค่า แลว้ ใหน้ กั เรียน อ่านตามจานวน 1 รอบ ดงั น้ี ศุภวฒั น์ ชอบขีดเขยี น วราภา ชอบขีดเขียน ขอ้ ความลงบนโตะ๊ หนงั สือในหอ้ งสมุด ณภทั ร ปิ ดไฟทกุ คร้ัง ลดา นากระดาษ เมื่อไม่ใชง้ าน ไปชงั่ กิโลขาย กชกร ลา้ งจานโดยใชน้ ้า สุดารตั น์ เยบ็ ซ่อมแซม ปริมาณมาก เส้ือผา้ เม่ือเกิดรอยขาด ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การใชท้ รัพยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ ค่าแลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนกแถบประโยคใหส้ มั พนั ธก์ บั ตาราง ดงั น้ี ตวั อย่างตาราง การใชท้ รัพยากรอยา่ งถูกตอ้ ง การใชท้ รัพยากรอยา่ งไม่ถูกตอ้ ง กชกร ลา้ งจานโดย ณภทั ร ปิ ดไฟทุกคร้งั ใชน้ ้าปริมาณมาก เมื่อไม่ใชง้ าน
3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การใชท้ รัพยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ คา่ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนมีวธิ ีใชท้ รัพยากรส่วนตวั อยา่ งไรใหป้ ระหยดั และคุม้ ค่าทส่ี ุด นกั เรียนมีวธิ ีใชท้ รัพยากรส่วนรวมอยา่ งไรใหป้ ระหยดั และคุม้ ค่าทส่ี ุด ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพ ลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ ใชด้ ินสอ จนหมดแท่ง วธิ ีการใช้ ซ่อมแซมเส้ือผา้ ทรัพยากรส่ วนตวั เม่ือเกิดรอยขาด ให้ประหยดั และค้มุ ค่า นากระดาษ หนา้ เดียวกลบั มาใชใ้ หม่ ไม่เปิ ดน้าท้ิงไว้ ปิ ดไฟทกุ คร้ัง ขณะแปรงฟัน เมื่อไม่ใชง้ าน วธิ ีการใช้ทรัพยากร ส่ วนรวมให้ ประหยดั และค้มุ ค่า ไม่ขดี เขยี น โตะ๊ นกั เรียน
ครูอธิบายสรุปเรื่อง การใชท้ รัพยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ ค่าดงั น้ี ทรัพยากรส่วนตัวและ ทรัพยากรส่วนรวมหลายอย่างเมื่อถูกใช้แล้วจะหมดไป เราจึงควรใช้ทรัพยากรให้ถูกวิธีและใช้อย่างประหยัด เช่น การใช้ดนิ สอจนหมดแท่ง การซ่อมแซมเสื้อผ้าเมื่อเกดิ รอยขาด ใช้นา้ และไฟเท่าท่จี าเป็ น 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ของการใชท้ รัพยากร อยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ ค่า โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การใชท้ รัพยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ คา่ มีประโยชน์ตอ่ นกั เรียนอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ช่วยให้มีทรัพยากรใช้ต่อไปในอนาคต) 5. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ทรัพยากรที่นามาใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวนั มีความจาเป็นต่อการดารงชีวติ เราจึงควรใชท้ รัพยากรใหเ้ กิดประโยชนแ์ ละคุม้ คา่ เพอ่ื ใหม้ ีทรพั ยากรใชใ้ นอนาคต 6. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 22 เร่ือง การใชท้ รพั ยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ ค่า สื่อการเรียนรู้ 1. แถบประโยคเก่ียวกบั วธิ ีการใชท้ รพั ยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ ค่า 2. ช้ินงานท่ี 22 เร่ือง การใชท้ รัพยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ ค่า การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจช้ินงานที่ 22 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานท่ี 22 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เร่ือง การใชท้ รพั ยากรอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และคุม้ ค่า เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 วาดภาพเก่ียวกบั วาดภาพเกี่ยวกบั วาดภาพเกี่ยวกบั วาดภาพเก่ียวกบั วาดภาพเกี่ยวกบั วธิ ีการประหยดั วธิ ีการประหยดั วธิ ีการประหยดั วธิ ีการประหยดั วธิ ีการประหยดั ทรพั ยากร ทรพั ยากร ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ทรัพยากร ทรพั ยากร ทรพั ยากร พรอ้ มบอกวธิ ีการ พร้อมบอกวธิ ีการ ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ประหยดั ประหยดั ทรัพยากร พร้อมบอกวธิ ีการ พรอ้ มบอกวธิ ีการ พรอ้ มบอกวธิ ีการ ทรพั ยากร ในชีวติ ประจาวนั ประหยดั ประหยดั ประหยดั ในชีวติ ประจาวนั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ทรัพยากร ทรัพยากร ทรัพยากร หวั ขอ้ ทกี่ าหนด ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ตามทค่ี รู ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ยกตวั อยา่ ง หวั ขอ้ ทก่ี าหนด หวั ขอ้ ทกี่ าหนด หวั ขอ้ ที่กาหนด และแตกต่างจาก และแตกต่างจาก ตามทีค่ รู ท่ีครูยกตวั อยา่ ง ท่คี รูยกตวั อยา่ ง ยกตวั อยา่ ง แต่มี มีการเช่ือมโยง แตเ่ ช่ือมโยงให้ การดดั แปลงให้ แตกต่าง ใหเ้ ห็นถึง เห็นเฉพาะตนเอง ความสมั พนั ธก์ บั ตนเองและผอู้ ่ืน
บนั ทกึ หลังการสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) ( นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๓ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เร่ือง หลักการทางาน วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา ๔ ชั่วโมง มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสมั พันธ์ทางเศรษฐกิจและความจาเป็นของ การรว่ มมอื กนั ทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก ตัวช้ีวัด ป.1/1 อธิบายเหตุผลความจาเป็นท่ีคนต้องทางานอย่างสุจริต สาระสาคญั การทางานมีทั้งแบบท่ีก่อให้เกิดรายได้และไม่ก่อให้เกิดรายได้ ทุกคนจาเป็นต้องทางาน เพื่อให้ ครอบครวั มีความเป็นอยู่ที่ดี และมคี วามสขุ สาระการเรยี นรู้ 1. อาชีพของบคุ คล 2. ความสาคัญของการทางาน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มุ่งม่ันในการทางาน ตัวชี้วัดที่ 6.2 ทางานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพื่อใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ชิ้นงานหรือภาระงาน ช้นิ งานที่ 23 เรอ่ื ง ความสาคญั ของการทางาน
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ให้นักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับอาชีพของบุคคลในครอบครัวและกิจกรรมที่นักเรียนช่วย ครอบครวั หลงั จากเลิกเรยี นหรอื วนั หยุด 2. ให้นักเรียนจาแนกงานท่ีก่อให้เกิดรายได้กับงานที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ โดยครูสรุปคาตอบของ นกั เรียนเป็นแผนภาพ 3. สรุปความรเู้ ก่ยี วกบั ประโยชนข์ องการทางาน 4. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นและสนทนาเกีย่ วกบั เหตุผล และความจาเป็นท่ีคนต้องทางาน 5. จาแนกเหตุผลและความจาเป็นที่คนจะต้องทางานท่ีก่อให้เกิดรายได้และงานท่ี ไม่ ก่อใหเ้ กดิ รายได้ 6. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลของการทางานประเภทต่าง ๆ และผลจากการ ทางานที่สุจรติ 7. สรุปความสาคญั ของการทางาน 8. นักเรียนและครูร่วมกันสรปุ ความรู้ ดังน้ี การทางานทส่ี จุ ริตจะทาให้ครอบครวั มีรายได้และทาให้สังคมสงบสุข ส่ือการเรยี นรู้ 1. บัตรคาเกยี่ วกับประเภทของงาน 2. เพลงอย่าเกยี จครา้ น 3. ชน้ิ งานท่ี 23 เรื่อง ความสาคญั ของการทางาน การประเมินผล 1. การประเมินผลตวั ชีว้ ัด ชิน้ งานที่ 23 เรอื่ ง ความสาคญั ของการทางาน เกณฑ์การ ระดับคะแนน ประเมนิ 4 3 2 1 วาดภาพการ วาดภาพการ วาดภาพการ วาดภาพการ วาดภาพการ ทางานพร้อมบอก ทางานพร้อมบอก ทางานพร้อมบอก ทางานพร้อมบอก ทางานพร้อมบอก เหตผุ ลความ เหตผุ ลความ เหตุผลความ เหตผุ ลความ เหตุผลความ จาเปน็ ท่ตี อ้ ง จาเป็นท่ีตอ้ ง จาเปน็ ที่ตอ้ ง จาเปน็ ท่ีต้อง จาเป็นท่ีต้อง ทางานอยา่ ง ทางานอยา่ งสจุ ริต ทางานอยา่ งสจุ ริต ทางานอย่างสุจริต ทางานอยา่ งสุจรติ สุจริต ไดส้ มั พันธ์กัน ได้ มีการจาแนก ได้สอดคล้องกับ ได้ แต่ไม่ มีการเชื่อมโยง ข้อมูลหรืออธิบาย ขอ้ มูล มีการเขยี น สอดคลอ้ งกบั ให้เหน็ เปน็ ภาพรวม ให้เหน็ ถงึ ขยายความและมี ข้อมลู เขียนตาม แสดงให้เห็นถงึ ความสัมพนั ธ์กับ การยกตวั อยา่ ง ขอ้ มูลท่อี า่ น ความสัมพันธก์ ับ ตนเองอย่าง เพิ่มเตมิ ให้ ไมม่ ีการอธบิ าย ตนเองและผู้อืน่ เปน็ เหตเุ ปน็ ผล เข้าใจงา่ ย เพ่ิมเติม
2. การประเมินผลคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มุ่งมน่ั ในการทางาน ตวั ชีว้ ัดท่ี 6.2 ทางานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านสาเร็จตามเปา้ หมาย พฤติกรรมบง่ ชี้ ไมผ่ ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยีย่ ม (๓) 6.2.1 ทมุ่ เททางาน อดทน ไมข่ ยนั อดทน ทางานด้วยความขยัน ทางานดว้ ยความขยนั ทางานด้วยความขยัน ไมย่ อ่ ท้อต่อปัญหาและ ในการทางาน เพอื่ ใหง้ านเสร็จตามท่ี พยายามใหง้ าน อดทน พยายาม อุปสรรคในการทางาน ไดร้ ับมอบหมาย สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย ใหง้ านสาเร็จ 6.2.2 พยายามแก้ปญั หาและ ตามเป้าหมาย อุปสรรคในการทางาน ช่นื ชมผลงาน ให้สาเร็จ ดว้ ยความภาคภมู ิใจ 6.2.3 ชืน่ ชมผลงานดว้ ยความ ภาคภมู ิใจ
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 26 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยที่ 3 เร่ือง หลกั การทางาน เวลา 2 ชั่วโมง เร่ือง การทางานและประเภทของการทางาน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจและความจาเป็ นของ การร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก ตัวชี้วดั ส 3.2 ป.1/1 อธิบายเหตุผลความจาเป็นท่คี นตอ้ งทางานอยา่ งสุจริต จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายการทางานและประเภทของการทางาน (K) 2. จาแนกประเภทของการทางาน (P) 3. เห็นประโยชน์ของการทางาน (A) สาระสาคญั กิจกรรมท่ีเราปฏิบตั ิในแตล่ ะวนั เป็นการทางานทก่ี ่อใหเ้ กิดรายไดแ้ ละท่ีไม่ก่อใหเ้ กิดรายได้ สาระการเรียนรู้ การทางานท่ีก่อใหเ้ กิดรายได้ และงานทไ่ี ม่กอ่ ใหเ้ กิดรายได้ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มุ่งมน่ั ในการทางาน
ตวั ช้ีวดั ท่ี 6.2 ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพเกี่ยวกบั อาชีพของบุคคลในครอบครัว 2. ตารางเกี่ยวกบั ประเภทของการทางาน 3. แผนภาพเก่ียวกบั การทางานทกี่ ่อใหเ้ กิดรายได้ 4. แผนภาพเก่ียวกบั การทางานทไี่ ม่ก่อใหเ้ กิดรายได้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั อาชีพของบคุ คลในครอบครวั และกิจกรรมทีน่ กั เรียนช่วยทาง บา้ นทาหลงั เลิกเรียนหรือวนั หยดุ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี สมาชิกในบา้ นของนกั เรียนประกอบอาชีพอะไร ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพ ลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ ทานา ช่างตดั ผม ทหาร อาชีพของ ผู้ปกครอง ครู ช่างก่อสร้าง อาชีพทีท่ ามีรายไดห้ รือค่าตอบแทนหรือไม่ (ม)ี (ตวั อย่างคาตอบ หลงั เลิกเรียนหรือวนั หยดุ เสาร์-อาทติ ย์ นกั เรียนช่วยพอ่ แม่ทาอะไรบา้ ง กวาดบ้าน ถูบ้าน) การช่วยงานบา้ นนกั เรียนไดค้ า่ ตอบแทนหรือไม่ (ไม่ได้) ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ งาน หมายถึง กิจกรรมต่าง ๆ ที่เราปฏบิ ตั ิในแตล่ ะวนั 2. ครูเตรียมบตั รคาเกี่ยวกบั ประเภทของการทางาน ติดบนกระดาน ดงั น้ี
ขายผลไม้ ขบั รถรับจา้ ง เปิ ดร้านซกั ผา้ เล้ียงนอ้ ง ถูบา้ น รีดผา้ ตนเอง นกั แสดง ปลูกตน้ ไม้ ครูเขียนตารางเกี่ยวกบั ประเภทของการทางานลงบนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนกบตั ร คาใหส้ มั พนั ธก์ บั ตาราง ดงั น้ี ตัวอย่างตาราง การทางานท่กี ่อให้เกดิ รายได้ การทางานที่ไม่ก่อให้เกดิ รายได้ ขายผลไม้ เล้ียงนอ้ ง ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ ภารโรง พนกั งานธนาคาร เจา้ หนา้ ทีก่ ารไฟฟ้า แม่คา้ กานนั การทางาน ท่ีก่อให้เกิดรายได้ ลา้ งจานในบา้ น กวาดบา้ นตนเอง การทางาน ทไ่ี ม่ก่อให้เกดิ รายได้ รีดผา้ ของตนเอง ปลูกตน้ ไมท้ บี่ า้ น
ครูอธิบายสรุปเรื่อง ประเภทของการทางาน ดงั น้ี การทางานแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ การ ทางานทีก่ ่อใหเ้ กิดรายได้ เช่น ครู แม่คา้ ขายผลไม้ หมอ ตารวจ และการทางานท่ีไมก่ ่อใหเ้ กิดรายได้ เช่น ลา้ ง จานในบา้ น กวาดบา้ น ปลูกตน้ ไม้ 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ประโยชน์ของการทางาน โดยครูใชค้ าถามดงั น้ี การทางานมีประโยชน์อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ช่วยให้มีรายได้และมีความสุข) รายไดจ้ ากการทางานนามาใชจ้ า่ ยอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ จ่ายค่านา้ ค่าไฟค่าอาหาร) การทางานทที่ าใหเ้ กิดรายไดม้ ีประโยชน์อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ สร้างรายได้) การทางานท่ีไม่ก่อใหเ้ กิดรายไดม้ ีประโยชน์อยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ทาให้คน ในบ้านมี ความสุข ได้รับความสบายใจ) ครูอธิบายสรุปเรื่อง ประโยชน์ของการทางาน ดงั น้ี การทางานท่ีก่อให้เกิดรายได้ ทาใหเ้ รามีรายไดม้ าซ้ือ อาหาร เส้ือผา้ ยารกั ษาโรค และทาใหค้ นในครอบครัวมีความเป็ นอยทู่ ี่ดี การทางานท่ไี ม่ก่อใหเ้ กิดรายไดจ้ ะทาให้ทุก คนในบา้ นไดร้ ับความสะดวกและมีความสุข 4. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี กิจกรรมทเี่ ราปฏบิ ตั ิในแต่ละวนั เป็ นการทางานที่ก่อใหเ้ กิดรายไดแ้ ละที่ไม่ก่อใหเ้ กิด รายได้ ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคาเกี่ยวกบั ประเภทของการทางาน 2. บตั รคาเกี่ยวกบั ประเภทของการทางาน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ แผนการจดั เรียนรู้ที่ 27 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 หน่วยที่ 3 เร่ือง หลักการทางาน วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง เร่ือง ความสาคญั ของการทางาน เวลา 1 ช่ัวโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจและความจาเป็ นของ การร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก ตวั ชี้วดั ส 3.2 ป.1/1 อธิบายเหตผุ ลความจาเป็ นที่คนตอ้ งทางานอยา่ งสุจริต จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายเหตุผลและความจาเป็นทค่ี นตอ้ งทางาน (K) 2. จาแนกเหตผุ ลและความจาเป็นทคี่ นตอ้ งทางาน (P) 3. เห็นประโยชน์ของการทางาน (A) สาระสาคญั คนจาเป็นตอ้ งทางานเพอื่ ใหค้ รอบครัวมีความเป็ นอยทู่ ่ีดี มีความสุข สงั คมเกิดความสงบสุข สาระการเรียนรู้ เหตผุ ลและความจาเป็นทตี่ อ้ งทางาน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มุ่งมน่ั ในการทางาน ตวั ช้ีวดั ท่ี 6.2 ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพแสดงเหตุผลและความจาเป็ นทค่ี นตอ้ งทางานทก่ี อ่ ใหเ้ กิดรายได้ 2. แผนภาพแสดงเหตผุ ลและความจาเป็นทค่ี นตอ้ งทางานทีไ่ ม่ก่อใหเ้ กิดรายได้ 3. ชิ้นงานที่ 23 เร่ือง ความสาคญั ของการทางาน การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การทางาน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนช่วยทางานบา้ นอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ กวาดบ้าน ล้างจาน) นักเรียนรู้สึกอย่างไรท่ีได้ช่วยทางานบา้ น (ตัวอย่างคาตอบ ภูมิใจท่ีมีส่ วนร่วม ใน ครอบครัว) มีงานอะไรที่ทาแลว้ เกิดความภาคภมู ิใจ (ตัวอย่างคาตอบ ปลูกต้นไม้ รดน้าต้นไม้ ในบ้าน) 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เหตผุ ลและความจาเป็ นทค่ี นตอ้ งทางาน โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี คนตอ้ งทางานทก่ี ่อใหเ้ กิดรายไดเ้ พราะอะไร คนตอ้ งทางานทไ่ี ม่ก่อใหเ้ กิดรายไดเ้ พราะอะไร ครูบนั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเป็ นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ มีเงินมาใชจ้ ่าย เหตุผลและ เพอื่ ใหค้ รอบครัว ในชีวติ ประจาวนั ความจาเป็นทค่ี นตอ้ ง มีความเป็ นอยทู่ ี่ดีข้ึน ทางานท่ีก่อใหเ้ กิด รายได้ มีรายไดเ้ พม่ิ ข้นึ
เพอ่ื ใหท้ ุกคนในบา้ น เหตผุ ลและ เพอ่ื ใหบ้ า้ นสะอาดน่า มีความสุข ความจาเป็นที่คนตอ้ ง อยู่ ทางานทไ่ี ม่ก่อให้เกิด รายได้ เพอื่ ใหท้ ุกคนในบา้ น ไดร้ บั ความสะดวก ครูอธิบายสรุปเรื่อง เหตุผลและความจาเป็ นท่ีคนตอ้ งทางาน ดังน้ี “ทุกคนจาเป็ นต้องทางานที่ ก่อให้เกิดรายได้ เพราะทุกคนต้องการทรัพยากรต่าง ๆ ในการดารงชีวิตซึ่งต้องใช้เงินซื้อ ทุกคนจึงจาเป็ นต้อง ทางานเพ่ือให้มีเงนิ มาใช้จ่ายในชีวติ ประจาวัน มรี ายได้เพ่ิมขนึ้ และเพื่อให้ครอบครัวมคี วามเป็ นอยู่ทีด่ ขี นึ้ และ ค น จ า เ ป็ น ต้ อ ง ท า ง า น ท่ี ไ ม่ ก่ อ ใ ห้ เ กิ ด ร า ย ไ ด้ เ พ ร า ะ ทุ ก ค น ต้ อ ง ใ ห้ บ้ า น ส ะ อ า ด น่าอยู่ เพ่ือให้ทกุ คนในบ้านได้รับความสะดวกและมคี วามสุข” 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปผลดีและประโยชน์ทเี่ กิดจากการทางานท้งั 2 ประเภท สรุปเป็น โครงสรา้ งแผนภาพบนกระดาน ดงั น้ี มีเงินใชจ้ ่ายเพือ่ ซ้ือ บา้ นสะอาด สินคา้ และบริการ น่าอยู่ มคี วามเป็นอยู่ สมาชิกในครอบครวั ท่ีดีข้ึน มคี วามสุข การทางานทก่ี ่อใหเ้ กิดรายได้ การทางานท่ีไม่ก่อใหเ้ กิดรายได้ เศรษฐกิจของสงั คม ชุมชนสะอาด ดีข้นึ น่าอยู่ สังคม สมาชิกในสังคม มคี วามเจริญ มีความสุข กา้ วหนา้ 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ผลของการทางานประเภทต่าง ๆ โดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี การทางานทก่ี ่อใหเ้ กิดรายไดส้ ่งผลต่อครอบครัวนกั เรียนอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ
มคี วามเป็ นอยู่ที่ดีขึน้ ) การทางานท่ีก่อให้เกิดรายไดส้ ่งผลตอ่ สงั คมอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ สังคม มีความ เจริญก้าวหน้า) การทางานท่ีไม่ก่อใหเ้ กิดรายไดส้ ่งผลตอ่ ครอบครวั นกั เรียนอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ สมาชิกใน ครอบครัวมคี วามสุข) การทางานทไี่ ม่ก่อใหเ้ กิดรายไดส้ ่งผลตอ่ สงั คมอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ชุมชนสะอาดน่า อยู่) ครูอธิบายสรุปเร่ือง ผลของการทางานประเภทต่าง ๆ ดงั น้ี การทางานท่ีก่อใหเ้ กิดรายได้ จะส่งผล ใหค้ รอบครัวมีเงินใชจ้ ่าย เพ่อื ซ้ือสินคา้ และบริการ มีความเป็ นอยทู่ ี่ดีข้ึน สงั คมมีความเจริญกา้ วหนา้ การ ทางานท่ไี ม่ก่อใหเ้ กิดรายไดจ้ ะส่งผลใหส้ มาชิกในครอบครวั มีความสุข บา้ นและชุมชนสะอาด น่าอยู่ 5. ครูเล่าเหตุการณ์เก่ียวกบั การทางานใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี เหตกุ ารณ์ท่ี 1 วรวฒุ ชอบเล่นการพนนั ทาใหม้ ีหน้ีสินมากมาย วรวฒุ จงึ หนั ไปประกอบอาชีพคา้ สารเสพติด เหตกุ ารณ์ที่ 2 ลดาชอบใชข้ องทีม่ ีราคาแพงแตล่ ดาไม่มีเงนิ พอทจี่ ะซ้ือ ลดาจงึ ขโมยกระเป๋ าของผอู้ ื่น เพอ่ื นาเงนิ มาใชจ้ ่าย ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี คนในเหตกุ ารณ์ประกอบอาชีพสุจริตหรือไม่ (ไม่) การประกอบอาชีพสุจริตมีอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ หมอ ตารวจ แม่ค้าขายผลไม้) การทางานอยา่ งสุจริตส่งผลตอ่ สงั คมอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ช่วยให้สังคม สงบสุข ลด ปัญหาในสังคม) ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ การทางานอยา่ งสุจริตเป็ นการประกอบอาชีพทไี่ ม่ผดิ กฎหมาย ไม่ทา ใหผ้ อู้ ื่นเดือดร้อน เสียหาย 6. ครูติดเน้ือเพลง อยา่ เกียจครา้ น ลงบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ร้องเพลงตาม ดงั น้ี อยา่ เกียจคร้าน อยา่ เกียจคร้านการทางานนะพวกเรา งานหนกั งานเบา เหน่ือยแลว้ เรา พกั ผอ่ นก็หาย ไม่ทางาน หลบหลีกงาน เฝ้าเกียจครา้ น เอาแต่สบาย แก่จนตาย ขอทานายวา่ ไม่เจริญ (ซ้า)
ใหค้ รูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปวา่ เราควรต้งั ใจทางานไม่เกียจครา้ น 7. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี คนจาเป็นตอ้ งทางานเพอื่ ใหส้ มาชิกในครอบครัวมีความสุข มีความเป็ นอยทู่ ่ดี ี สงั คมเกิดความสงบสุข 8. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 23 เรื่อง ความสาคญั ของการทางาน ส่ือการเรียนรู้ 1. เพลงอยา่ เกียจครา้ น 2. ชิ้นงานท่ี 23 เร่ือง ความสาคญั ของการทางาน การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจช้ินงานท่ี 23 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานท่ี 23 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง ความสาคญั ของการทางาน เกณฑ์การ ระดับคะแนน ประเมิน 4 3 2 1
วาดภาพการ วาดภาพการ วาดภาพการ วาดภาพการ วาดภาพการ ทางานพร้อมบอก ทางานพรอ้ มบอก ทางานพร้อมบอก ทางานพรอ้ มบอก ทางานพรอ้ มบอก เหตผุ ลความ เหตผุ ลความ เหตุผลความ เหตุผลความ เหตผุ ลความ จาเป็นทต่ี อ้ ง จาเป็นท่ีตอ้ ง จาเป็นที่ตอ้ ง จาเป็นท่ีตอ้ ง จาเป็นท่ีตอ้ ง ทางานอยา่ ง ทางานอยา่ งสุจริต ทางานอยา่ งสุจริต ทางานอยา่ งสุจริต ทางานอยา่ งสุจริต สุจริต ไดส้ มั พนั ธก์ นั ได้ มีการจาแนก ไดส้ อดคลอ้ งกบั ได้ แตไ่ ม่ มีการเชื่อมโยง ขอ้ มูลหรืออธิบาย ขอ้ มูล มีการเขียน สอดคลอ้ งกบั ให้เห็นเป็ นภาพรวม ใหเ้ ห็นถึง ขยายความและมี ขอ้ มูล เขียนตาม แสดงใหเ้ ห็นถึง ความสมั พนั ธก์ บั การยกตวั อยา่ ง ขอ้ มูลทอ่ี ่าน ความสมั พนั ธก์ บั ตนเองอยา่ ง เพม่ิ เตมิ ให้ ไม่มีการอธิบาย ตนเองและผอู้ ่ืน เป็นเหตุเป็นผล เขา้ ใจงา่ ย เพม่ิ เติม บนั ทึกหลังการสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงชื่อ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) ( นางสาวจีรวรรณ ปฏิวงศ์ ) _________/__________/________ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๑ หน่วยที่ 1 เร่ือง สิ่งต่าง ๆ รอบตวั วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพส่ิงซ่ึงมีผลตอ่ กนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่แี ละเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภมู ิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ป.1/1 แยกแยะส่ิงต่าง ๆ รอบตวั ทเ่ี กิดข้ึนเองตามธรรมชาติและท่ีมนุษยส์ รา้ งข้นึ สาระสาคญั สิ่งต่าง ๆ รอบตวั เรารวมเรียกวา่ สิ่งแวดลอ้ ม มีท้งั ที่เกิดข้นึ เองตามธรรมชาติ และ สิ่งทีม่ นุษยส์ รา้ ง ข้ึน ดงั น้นั เราจึงตอ้ งเรียนรูแ้ ละร่วมกนั ดูแลรักษา สาระการเรียนรู้ 14. ส่ิงแวดลอ้ มท่ีมนุษยส์ รา้ งข้นึ 15. สิ่งแวดลอ้ มทเ่ี กิดข้นึ เองตามธรรมชาติ 16. มนุษยห์ รือผคู้ น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีวนิ ยั
ตวั ช้ีวดั ท่ี 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน ช้ินงานที่ 24 เร่ือง การจาแนกสิ่งต่าง ๆ รอบตวั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็ น 2 กลุ่ม แบง่ กระดานออกเป็ น 2 ดา้ น ซา้ ย-ขวา จากน้นั ใหน้ กั เรียนแตล่ ะ กลุ่มจาส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั ในโรงเรียน และสิ่งต่าง ๆ รอบตวั ที่บา้ น 2. ครูใหน้ กั เรียนจาแนกส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั ที่เป็ นสิ่งมีชีวติ และไม่มีชีวติ โดยครูสรุปคาตอบของ นกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน 3. สรุปความรู้เกี่ยวกบั ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั โดยครูสรุปวา่ ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั ของเรารวมเรียกวา่ สิ่งแวดลอ้ ม 4. ครูนาบตั รคาเก่ียวกบั ส่ิงแวดลอ้ มท่เี กิดข้ึนเองตามธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึน มา ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มจาแนกบตั รคา 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ยกตวั อยา่ งสิ่งแวดลอ้ มทเี่ กิดข้ึนเองตามธรรมชาติ และสิ่งท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึน 6. สรุปความรู้เก่ียวกบั ส่ิงแวดลอ้ ม และการปฏบิ ตั ติ นตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม 7. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ส่ิงแวดลอ้ ม คือ สิ่งทอี่ ยรู่ อบ ๆ ตวั เรา ท้งั ที่เกิดข้นึ เองตามธรรมชาติ และมนุษยส์ รา้ งข้นึ ส่ือการเรียนรู้ 39. บตั รคา ส่ิงต่าง ๆ รอบตวั 40. ชิ้นงานที่ 24 เรื่อง การจาแนกส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั การประเมินผล 1. การประเมินผลตัวชี้วดั ชิ้นงานที่ 24 เร่ือง การจาแนกส่ิงต่าง ๆ รอบตวั เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32
วาดภาพสิ่งท่ี วาดภาพสิ่งท่ี วาดภาพสิ่งที่ วาดภาพสิ่งที่ วาดภาพส่ิงท่ี เกิดข้ึนเองตาม เกิดข้ึนเองตาม เกิดข้นึ เองตาม เกิดข้นึ เองตาม เกิดข้ึนเองตาม ธรรมชาติและส่ิงท่ี ธรรมชาติและส่ิงท่ี ธรรมชาติและส่ิงที่ ธรรมชาติ และ ธรรมชาติและ มนุษยส์ รา้ งข้ึน มนุษยส์ รา้ งข้นึ มนุษยส์ ร้างข้ึน สิ่งท่ีมนุษยส์ รา้ งข้นึ ส่ิงท่มี นุษยส์ ร้างข้ึน พร้อมเขยี นชื่อ พรอ้ มเขียนช่ือ พร้อมเขยี นช่ือ พร้อมเขียนชื่อ พร้อมเขยี นช่ือ ประกอบภาพ ประกอบภาพ ประกอบภาพ ประกอบภาพ ประกอบภาพ ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ทีก่ าหนด หวั ขอ้ ทีก่ าหนด หวั ขอ้ ทีก่ าหนด หวั ขอ้ ทกี่ าหนด และแตกตา่ งจากที่ และแตกต่างจากที่ ตามทคี่ รู ตามที่ครู ครูยกตวั อยา่ ง ครูยกตวั อยา่ งแต่ ยกตวั อยา่ ง แต่มี ยกตวั อยา่ ง แสดงใหเ้ ห็นถึง เช่ือมโยงใหเ้ ห็น การดดั แปลง ความสมั พนั ธก์ บั เฉพาะตนเอง ใหแ้ ตกต่าง ตนเองและผอู้ ่ืน 2. การประเมินผลคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มวี ินัย ตวั ชี้วัดท่ี 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ย่ียม (3) 3.1.1 ปฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลง ไม่ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ครอบครัว โรงเรียนและสงั คม ไม่ กฎเกณฑ์ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ละเมิดสิทธิของผอู้ ื่น ระเบียบ ครอบครัวและ ครอบครวั และ ครอบครัวและ 3.1.2 ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิ ขอ้ บงั คบั โรงเรียน โดยตอ้ งมี โรงเรียน โดยตอ้ งมี โรงเรียน กิจกรรมตา่ งๆในชีวติ ประจาวนั และ ของครอบครวั การเตอื นเป็น การเตือนเป็น ไดด้ ว้ ยตนเอง รบั ผดิ ชอบในการทางาน และโรงเรียน ส่วนใหญ่ บางคร้งั
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 28 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 หน่วยท่ี 1 เร่ือง สิ่งต่าง ๆ รอบตวั วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ชั่วโมง เร่ือง ส่ิงแวดล้อมรอบๆ ตวั เรา เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนทีแ่ ละเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ส 5.1 ป.1/1 แยกแยะส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั ทเี่ กิดข้นึ เองตามธรรมชาติและทมี่ นุษยส์ รา้ งข้นึ จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายสิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั (K) 2. มีความสามารถในการจาแนกสิ่งต่าง ๆ รอบตวั (P) 3. สนใจศึกษาเรียนรู้ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั (A)
สาระสาคญั ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั มีความสมั พนั ธก์ นั ท้งั เป็ นสิ่งท่ีมีชีวติ และไม่มีชีวติ รวมเรียกวา่ ส่ิงแวดลอ้ ม สาระการเรียนรู้ ความหมายสิ่งแวดลอ้ ม คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้ีวดั ที่ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน แผนภาพสิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็ น 2 กลุ่ม และแบ่งกระดานออกเป็ น 2 ดา้ น พร้อมเขียนขอ้ ความ ลงบน กระดานดงั น้ี ตัวอย่าง กลุ่มที่ 1 กลุ่มท่ี 2 สิ่งต่าง ๆ รอบตวั ในโรงเรียน ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั ท่บี า้ น (ครู) (พอ่ แม่) (เพอื่ นนกั เรียน) (พชี่ าย พส่ี าว) (โตะ๊ ) (สตั วเ์ ล้ียง) . (เกา้ อ้ี) (ตเู้ ยน็ ) (โทรทศั น)์ (กระดาน)
จากน้ันครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มคัดเลือกตัวแทน กลุ่มละ 5 คน ยนื เรียงแถวเขียนสิ่งต่าง ๆ ที่ เก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มตนเองจนครบจานวนคนในกลุ่ม กลุ่มใดเขยี นเสร็จก่อนและถูกตอ้ งเป็ นผชู้ นะ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ส่ิงต่าง ๆ รอบตวั ท่ีอยบู่ ริเวณรอบ ๆ ตวั ของนักเรียนมีอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบอาคาร เรียน สนามกีฬา ครู เพื่อนนักเรียน โต๊ะ เก้าอี้ กระดาน ปากกา ยางลบ ดนิ สอ สมุด เป็ นต้น) 2. ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ ส่ิงตา่ ง ๆ ทอี่ ยรู่ อบตวั ของนกั เรียนสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ สิ่งทมี่ ี ชีวติ และส่ิงทไ่ี ม่มีชีวติ จากน้ันครูให้นักเรียนท้งั 2 กลุ่ม ส่งผแู้ ทนนักเรียนที่ยงั ไม่ไดอ้ อกมาร่วมกิจกรรมในคร้ังแรกออกมาทา กิจกรรมหน้าช้นั เรียน จานวนกลุ่มละ 5 คน โดยให้ยนื เรียงแถวแล้วให้กลุ่มที่ 1 บอกส่ิงต่าง ๆ รอบตวั ท่ีเป็ น สิ่งมีชีวติ และกลุ่มที่ 2 บอกสิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั ท่ีเป็นส่ิงไม่มีชีวติ คนละ 1 อยา่ งหา้ มซ้ากนั จนครบจานวนคน จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งต่าง ๆ รอบตวั เป็ นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ สิ่งตา่ ง ๆ บา้ น โรงเรียน ตน้ ไม้ รอบตวั เรา บ่อน้า โตะ๊ เกา้ อ้ี คน สตั ว์ ส่ิงไม่มีชีวติ โทรทศั น์ พชื ลูกฟุตบอล สิ่งมีชีวติ ส่ิงแวดลอ้ ม 3. ให้นักเรียนร่วมกันศึกษาแผนภาพ โดยครูอธิบายสรุปว่า สิ่งต่าง ๆ รอบตวั ของนักเรียน รวม เรียกวา่ ส่ิงแวดลอ้ ม 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี สิ่งต่าง ๆ รอบตวั ท้งั ทีม่ ีชีวติ และไม่มีชีวติ มีความเกี่ยวเน่ืองสมั พนั ธก์ นั รวมเรียกวา่ ส่ิงแวดลอ้ ม 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี ส่ิงต่าง ๆ รอบตวั มีความสาคญั ตอ่ นกั เรียนอยา่ งไร
สื่อการเรียนรู้ การทากิจกรรมกลุ่มของนกั เรียน โดยเขียนระบสุ ิ่งต่าง ๆ รอบตวั ท่บี นกระดานและ การบอกกล่าว การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เครื่องมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 29 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 หน่วยที่ 1 เร่ือง สิ่งต่าง ๆ รอบตวั วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ชั่วโมง เรื่อง การจาแนกส่ิงต่าง ๆ รอบตัว เวลา 1 ช่ัวโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธข์ องสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ส 5.1 ป.1/1 แยกแยะสิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั ท่เี กิดข้ึนเองตามธรรมชาติและทมี่ นุษยส์ ร้างข้นึ จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายส่ิงแวดลอ้ มท่เี กิดข้ึนเองตามธรรมชาติและส่ิงท่ีมนุษยส์ รา้ งข้นึ (K) 2. จาแนกสิ่งต่าง ๆ รอบตวั ท่เี กิดข้นึ เองตามธรรมชาตแิ ละส่ิงท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึน (P)
3. สนใจศกึ ษาเรียนรู้สิ่งแวดลอ้ มต่าง ๆ ท่ีอยรู่ อบตวั (A) สาระสาคญั สิ่งแวดลอ้ มท่อี ยรู่ อบตวั มีท้งั สิ่งทเ่ี กิดข้ึนเองตามธรรมชาติ และสิ่งทมี่ นุษยส์ ร้างข้ึน สาระการเรียนรู้ 1. ส่ิงที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ 2. สิ่งทม่ี นุษยส์ รา้ งข้นึ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้ีวดั ที่ 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. บตั รคาส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั 2. ช้ินงานที่ 24 เรื่อง การจาแนกสิ่งต่าง ๆ รอบตวั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาตน้ หญา้ หรือดอกไมแ้ ละแกว้ น้าแสดงใหน้ กั เรียนดู จากน้นั ใหน้ กั เรียนตอบคาถาม ดงั น้ี ส่ิงท่อี ยใู่ นมือครู คอื อะไร (ต้นหญ้า และแก้วนา้ ) ส่ิงไหนมีชีวติ และสิ่งไหนไม่มีชีวติ (ต้นหญ้าเป็ นสิ่งมชี ีวิต แก้วน้าเป็ นสิ่งไม่มชี ีวติ ) ส่ิงไหนเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ ส่ิงไหนเกิดเพราะมนุษยส์ รา้ งข้นึ (ต้นหญ้าเกดิ ขนึ้ เองตาม ธรรมชาติ แก้วน้าเกิดจากมนุษย์สร้างขึน้ ) 2. ครูนาบตั รคาติดบนกระดาน ดงั น้ี แม่น้า บา้ น ทะเล เมฆ ฝน โตะ๊ เกา้ อ้ี ถนน โรงเรียน ตน้ ไม้ รถยนต์ สตั วป์ ่ า หลอดไฟ อากาศ
จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนออกมาเล่นกิจกรรมท่ีหนา้ ช้นั เรียนจานวน 12 คน โดยครูแจก บตั รคาที่ครู ติดบนกระดานให้นักเรียนคนละ 1 บตั รคา จนครบ จากน้ันครูให้นักเรียนศึกษาดูว่า บตั รคาของตนเอง เก่ียวขอ้ งกบั สิ่งท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ หรือเป็ นสิ่งที่มนุษยส์ ร้างข้ึน ให้ครูและนกั เรียนยนื รวมกนั กลาง ช้นั เรียนบริเวณหน้ากระดาน จากน้ันครูบอกให้นักเรียนแยกเป็ นกลุ่ม ใครไดบ้ ตั รคาส่ิงที่เกิดข้ึนเองตาม ธรรมชาติใหไ้ ปรวมกลุ่มยนื เรียงแถวดา้ นขวามือครู ใครไดบ้ ตั รคาเกี่ยวกบั ส่ิงทม่ี นุษยส์ รา้ งข้นึ ใหไ้ ปยนื เรียง แถวและแสดงบตั รคาดา้ นซ้ายมือครู โดยครูให้ สัญญาณนับ 1-3 กลุ่มไหนยืนเรียงแถวเสร็จก่อนและ ถูกตอ้ งเป็นฝ่ายชนะ 3.ครูพานกั เรียนเดินสารวจรอบโรงเรียน 4.ใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งส่ิงแวดลอ้ มทโี่ รงเรียนทมี่ นุษยส์ ร้างข้ึน (ตวั อยา่ งคาตอบ อาคารเรียน เสาธง ร้วั โรงเรียน ป้ายโรงเรียน) 5. ให้นักเรียนยกตวั อยา่ งส่ิงแวดลอ้ มทางธรรมชาติที่โรงเรียน (ตัวอย่างคาตอบ ผีเสื้อ พื้นดิน ดอกไม้) 6. ให้ครูอธิบายถึงประโยชน์และความสาคัญของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ครูยกตวั อย่าง สิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติท่สี าคญั ไดแ้ ก่ อากาศ น้า และดิน โดยครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความ คดิ เห็น ดงั น้ี นกั เรียนใชอ้ ากาศทาอะไรบา้ ง (หายใจ) นกั เรียนใชน้ ้าทาอะไรบา้ ง (อาบนา้ ดื่ม ชาระล้าง) นกั เรียนใชด้ ินทาอะไรบา้ ง (ปลูกต้นไม้ ทาเครื่องใช้ ก่อสร้างบ้านเรือน) เม่ือส่ิงแวดลอ้ มมีประโยชนแ์ ละมีความสาคญั นกั เรียนควรปฏบิ ตั ติ อ่ ส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งไรบา้ ง (ครูสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพลงบนกระดาน) ใชส้ ิ่งแวดลอ้ มอยา่ งประหยดั ดูแลรักษาไม่ทาลาย ไม่เปิ ดแอร์ท้งิ ไว้ การปฏบิ ัติตน ไม่ท้งิ ของเสียหรือ ต่อส่ิงแวดล้อม ส่ิงปฏกิ ูลลงแม่น้า ใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ ปลูกตน้ ไมเ้ พม่ิ เท่าทจี่ าเป็น เพอื่ ลดภาวะโลกรอ้ น มนุษยส์ ร้างส่ิงต่าง ๆ ข้ึนเพื่ออะไร (ตัวอย่างคาตอบ เพื่ออานวยความสะดวกสบายในการ ดาเนินชีวติ ประจาวัน เช่น ผลิตรถยนต์เพ่ือให้เดนิ ทางเร็วขนึ้ )
7. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ส่ิงแวดลอ้ มทีอ่ ยรู่ อบตวั มีท้งั ส่ิงทเ่ี กิดข้ึนเองตามธรรมชาติและสิ่งที่มนุษยส์ ร้างข้นึ ลว้ นมีความเกี่ยวขอ้ งสมั พนั ธก์ นั และมีประโยชนต์ ่อการดารงชีวติ ของมนุษย์ 8. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 24 เร่ือง การจาแนกสิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคา ส่ิงต่าง ๆ รอบตวั 2. ชิ้นงานที่ 24 เรื่อง การจาแนกส่ิงต่าง ๆ รอบตวั การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจชิ้นงานที่ 24 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมนิ ชิ้นงานที่ 24 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การ จาแนกส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32
วาดภาพส่ิงท่ี วาดภาพส่ิงท่ี วาดภาพส่ิงท่ี วาดภาพสิ่งท่ี วาดภาพส่ิงท่ี เกิดข้นึ เองตาม เกิดข้นึ เองตาม เกิดข้นึ เองตาม เกิดข้ึนเองตาม เกิดข้นึ เองตาม ธรรมชาติและสิ่งท่ี ธรรมชาติและส่ิงที่ ธรรมชาติและส่ิงที่ ธรรมชาติและ ธรรมชาติและสิ่งที่ มนุษยส์ รา้ งข้นึ มนุษยส์ ร้างข้นึ มนุษยส์ รา้ งข้นึ สิ่งที่มนุษยส์ รา้ งข้นึ มนุษยส์ ร้างข้ึน พรอ้ มเขยี นชื่อ พรอ้ มเขียนชื่อ พรอ้ มเขียนชื่อ พร้อมเขียน พร้อมเขียนช่ือ ประกอบภาพ ประกอบภาพ ประกอบภาพ ชื่อประกอบภาพ ประกอบภาพ ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ทกี่ าหนด หวั ขอ้ ที่กาหนด หวั ขอ้ ทก่ี าหนด หวั ขอ้ ที่กาหนด และแตกตา่ งจากที่ และแตกต่างจากท่ี ตามทค่ี รู ตามท่คี รู ครูยกตวั อยา่ ง ครูยกตวั อยา่ งแต่ ยกตวั อยา่ ง ยกตวั อยา่ ง แสดงให้เห็นถึง เชื่อมโยงใหเ้ ห็น แตม่ ีการดดั แปลง ความสมั พนั ธก์ บั เฉพาะตนเอง ใหแ้ ตกตา่ ง ตนเองและผอู้ ื่น บันทกึ หลังการสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________
ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทกึ ) ( นางสาวจีรวรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยท่ี 2 เรื่อง ความสัมพันธ์ของตาแหน่ง ระยะ และทศิ มาตรฐานการเรียนรู้
ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่แี ละเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภมู ิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ป.1/2 ระบุความสมั พนั ธข์ องตาแหน่ง ระยะ ทิศของสิ่งต่าง ๆ รอบตวั สาระสาคญั ดวงอาทิตยเ์ ป็ นเคร่ืองหมายที่ใช้สังเกตบอกทิศ ทิศท้ัง 4 บอกความสัมพนั ธ์ระหว่างตาแหน่ง ระยะใกลไ้ กลของสิ่งต่าง ๆ ที่อยรู่ อบตวั สาระการเรียนรู้ 17. การหาทิศหลกั 18. ทศิ หลกั 4 ทิศ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน ชิ้นงานที่ 25 เร่ือง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตาแหน่ง ระยะ และทศิ ของสิ่งต่าง ๆ ทอ่ี ยรู่ อบตวั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนสงั เกตและบอกตาแหน่งทต่ี ้งั และตาแหน่งทอี่ ยขู่ องสิ่งตา่ ง ๆ ที่อยใู่ นหอ้ งเรียน 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั หาระยะของสิ่งตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรียนโดยใชอ้ ุปกรณ์ท่ใี ชใ้ นการจดั ระยะและใช้ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปความรูเ้ ก่ียวกบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตาแหน่งที่ต้งั และระยะ 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั หาทศิ บริเวณกลางสนามโดยการยนื หนั หนา้ ไปทางที่ดวงอาทติ ยข์ ้นึ ให้ นกั เรียนกางแขนท้งั 2 ขา้ งออก จากน้นั ใหร้ ะบทุ ิศ ดา้ นหนา้ ดา้ นหลงั ดา้ นซา้ ยมือ ดา้ นขวามือ 5. ร่วมกนั สรุปความรู้เกี่ยวกบั เรื่องทศิ 6. ให้นักเรียนบอกทิศทางของสิ่งต่าง ๆ ที่อยโู่ ดยรอบของตนเอง โดยมีทิศท้งั 4 เป็ น เครื่องหมายกาหนดทศิ ทาง 7. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั ระบุทศิ แตล่ ะทศิ มีอะไรบา้ งท่ีอยรู่ อบตนเองตามทิศต่าง ๆ โดยใหเ้ ขียนลง ในสมุด 8. สรุปความรู้เกี่ยวกบั ประโยชนข์ องการรู้ทิศตา่ ง ๆ
9. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ทิศทาใหท้ ราบดา้ น ขา้ ง และจดุ หมาย โดยมีทศิ หลกั ท้งั 4 ทิศเป็ นเคร่ืองหมายกาหนดทศิ ทาง ส่ือการเรียนรู้ 41. แบบบนั ทกึ ระยะห่างของตาแหน่งที่ต้งั ของส่ิงต่าง ๆ รอบตวั เรา 42. อุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการวดั ระยะ 43. บตั รคาทศิ ท้งั 4 44. ช้ินงานท่ี 25 เรื่อง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตาแหน่ง ระยะ และทิศของส่ิงตา่ ง ๆ ทีอ่ ยรู่ อบตวั การประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ผลตวั ชี้วดั ชิ้นงานท่ี 25 เร่ือง ความสัมพันธ์ระหว่างตาแหน่ง ระยะ และทศิ ของส่ิงต่าง ๆ ทอ่ี ยู่รอบตัว เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขยี นอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ สรุปสิ่งแวดลอ้ ม สรุปสิ่งแวดลอ้ ม สรุปสิ่งแวดลอ้ ม สรุปส่ิงแวดลอ้ ม สรุปส่ิงแวดลอ้ ม ในทศิ ตา่ ง ๆ ทอี่ ยู่ ในทศิ ต่าง ๆ ทอ่ี ยู่ ในทศิ ต่าง ๆ ทีอ่ ยู่ ในทิศตา่ ง ๆ ท่อี ยู่ ในทศิ ต่าง ๆ ท่ีอยู่ รอบตวั รอบตวั ได้ รอบตวั ได้ รอบตวั ได้ รอบตวั ได้ แตย่ งั สอดคลอ้ งกบั ทศิ ที่ สอดคลอ้ งกบั ทศิ ท่ี สอดคลอ้ งกบั ทิศท่ี ไม่สอดคลอ้ งกบั กาหนดไดถ้ ูกตอ้ ง กาหนด 2-3ทิศ กาหนดไดถ้ ูกตอ้ ง ทศิ ท่กี าหนด 4 ทิศ 1 ทิศ 2. การประเมนิ ผลคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชี้วัดท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยีย่ ม (3) 4.1.1 ต้งั ใจเรียน ไม่ต้งั ใจเรียน ต้งั ใจ เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ 4.1.2 เอาใจใส่และมีความ ในการเรียน และมีความเพยี ร- และมีความเพยี ร- พยายามในการเรียน พยายามในการ เพยี รพยายาม ในการเรียนรู้ เรียนรู้ เขา้ ร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ
4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 30 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยที่ 2 เร่ือง ความสัมพันธ์ของตาแหน่ง ระยะ และทิศ เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง ตาแหน่งและระยะ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ส 5.1 ป.1/2 ระบุความสมั พนั ธข์ องตาแหน่ง ระยะ ทศิ ของสิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วัด 1. อธิบายตาแหน่งและระยะของสิ่งต่าง ๆ (K) 2. หาตาแหน่งและระยะของส่ิงต่าง ๆ ไดด้ ว้ ยตนเอง (P) 3. เห็นประโยชนข์ องการรู้ตาแหน่ง ระยะของสิ่งต่าง ๆ (A) สาระสาคญั ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั เรามีท่ตี ้งั และทอ่ี ยู่ มีระยะทส่ี มั พนั ธก์ นั สาระการเรียนรู้ 1. ส่ิงท้งั หลายมีตาแหน่ง 2. ส่ิงท้งั หลายสมั พนั ธก์ นั ดว้ ยระยะ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ ชิ้นงานหรือภาระงาน แบบบนั ทกึ ระยะห่างของตาแหน่งของส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนสงั เกตสิ่งตา่ ง ๆ ทอี่ ยใู่ นหอ้ งเรียน จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี โตะ๊ ครูต้งั อยทู่ ่ีใด (ต้ังอยู่หน้าห้องเรียน) ถงั ขยะต้งั อยทู่ ่ใี ด (หลงั ห้องเรียน) หนงั สือเรียนของนกั เรียนอยทู่ ่ใี ด (ในกระเป๋ านักเรียน/บนโต๊ะเรียน) หอ้ งเรียนต้งั อยทู่ ี่ใด (ต้ังอยู่บนช้ัน 2 ของอาคารเรียน/อยู่ในโรงเรียน) จากน้นั ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังเพม่ิ เตมิ วา่ ส่ิงต่าง ๆ มีตาแหน่งท่ีต้งั และตาแหน่งทีอ่ ยทู่ ้งั ส้ิน 2. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ระยะของสิ่งต่าง ๆ โดยยกตวั อย่างของสิ่งต่าง ๆ ใน หอ้ งเรียน ดงั น้ี นกั เรียนคนใดนง่ั อยใู่ กลค้ รูมากทส่ี ุด นกั เรียนคนใดนงั่ อยไู่ กลจากครูมากท่ีสุด นกั เรียนทนี่ งั่ อยใู่ กลค้ รูกบั นกั เรียนทนี่ งั่ อยไู่ กลจากครู ถา้ ตอ้ งเดินมาหาครู นกั เรียนคนไหน จะถึงก่อน เพราะเหตใุ ด จากน้นั ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังเพมิ่ เตมิ วา่ ระยะ คอื ความห่างของตาแหน่งทตี่ ้งั ของสิ่งต่าง ๆ ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั เรามีตาแหน่งท่ีต้งั และระยะท่แี ตกตา่ งกนั เช่น หอ้ งเรียนอยไู่ กลจากหอ้ งสมุด หอ้ งเรียนอยู่ ใกลห้ อ้ งพยาบาล ดงั น้นั การเดินไปหอ้ งสมุดจงึ ใชเ้ วลามากกวา่ การเดินจากหอ้ งเรียน ไปหอ้ งพยาบาล 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนจะใชอ้ ุปกรณ์ใดในการวดั ระยะห่างของสิ่งต่าง ๆ (ตวั อย่างคาตอบ ไม้บรรทัด ตลับ เมตร) ถา้ นกั เรียนไม่มีอุปกรณ์ทใี่ ชว้ ดั ระยะ นกั เรียนจะใชส้ ่ิงใดแทน (ตวั อย่างคาตอบ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ใช้มือในการวัดคบื ใช้แขนในการวัดศอก วัดวา ใช้ขาในการนับก้าว) 4. ครูแจกอุปกรณ์ท่ใี ชใ้ นการหาระยะของส่ิงตา่ ง ๆ แลว้ ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม จดบนั ทกึ ระยะห่างของ ตาแหน่งของส่ิงต่าง ๆ รอบตวั ท้งั การหาระยะโดยใชอ้ ุปกรณ์และใชส้ ่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ตาแหน่งท่ีต้งั ของสิ่งตา่ ง ๆ และระยะมีความสมั พนั ธก์ นั ระยะเมื่อใชก้ บั ตาแหน่งทีต่ ้งั จะได้ ระยะทาง ระยะเมื่อเอาไปใชก้ บั เวลาจะไดร้ ะยะเวลา 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี การรู้ตาแหน่งและระยะของส่ิงตา่ ง ๆ มีประโยชนอ์ ยา่ งไร
ส่ือการเรียนรู้ 1. อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการวดั ระยะ 2. แบบบนั ทกึ ระยะห่างของตาแหน่งของสิ่งต่าง ๆ รอบตวั การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 31 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 2 เร่ือง ความสัมพนั ธ์ของตาแหน่ง ระยะ และทิศ เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง ตาแหน่ง ระยะ และทศิ ของส่ิงต่าง ๆ รอบตวั เรา มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ส 5.1 ป.1/2 ระบคุ วามสมั พนั ธข์ องตาแหน่ง ระยะ ทศิ ของสิ่งต่าง ๆ รอบตวั จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด 1. อธิบายหรือบอกตาแหน่ง ระยะ และทศิ ของส่ิงต่าง ๆ ที่อยรู่ อบตวั (K) 2. แสดงวธิ ีการบอกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตาแหน่ง ระยะ ทิศของสิ่งตา่ ง ๆ (P) 3. ใชป้ ระโยชน์จากการรู้ทิศตา่ ง ๆ ให้เกิดประโยชนต์ อ่ ตนเอง (A) สาระสาคญั ทิศท้งั 4 บอกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตาแหน่ง ระยะใกลไ้ กลของสิ่งต่าง ๆ ที่อยรู่ อบตวั สาระการเรียนรู้ ทิศหลกั ท้งั 4 ทิศ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนภาพ ระบสุ ่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั 2. ชิ้นงานท่ี 25 เร่ือง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตาแหน่ง ระยะ และทิศของสิ่งต่าง ๆ ที่อยรู่ อบตวั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูเตรียมบตั รคาชื่อทิศตา่ ง ๆ ใหน้ กั เรียนฝึกอ่านและตอบคาถาม ดงั น้ี
ทศิ เหนือ ทิศตะวนั ตก ทิศตะวนั ออก ทิศใต้ ทศิ ตะวนั ออกคอื (ทิศท่ีดวงอาทิตย์ขนึ้ ) ทิศตะวนั ตกคือ (ทศิ ที่ดวงอาทติ ย์ตกดนิ ) ครูอยดู่ า้ นทศิ ใดของนกั เรียน (ตวั อย่างคาตอบ ทิศเหนือ) นกั เรียนอยทู่ างดา้ นทิศใดของครู (ตวั อย่างคาตอบ ทิศใต้) 2. ครูใหน้ กั เรียนจานวน 5 คน ออกมาหนา้ ช้นั เรียน โดยที่เด็กนกั เรียนหญิง 3 คน นกั เรียนชาย 2 คน จากน้นั ใหน้ กั เรียนจดั ตาแหน่งตามแผนภาพ ดงั น้ี ทิศเหนือ เดก็ ชาย ข ทิศตะวนั ตก เด็กหญงิ เด็กหญงิ เดก็ หญิง ทศิ ตะวนั ออก ง ก จ เดก็ ชาย ค ทิศใต้
โดยครูใหน้ กั เรียนหนั หลงั ให้กระดานหนา้ ช้นั เรียน หนั หนา้ ไปทางเพอื่ นในช้นั เรียน จากน้นั ให้แต่ ละคนบอกตาแหน่งท่ีอยขู่ องตนและตาแหน่งของเพ่อื นแต่ละคนอยทู่ างทิศใดของตนเอง และถดั จากเพอื่ น ไปเป็นทิศอะไร จนครบท้งั 5 คน โดยครูคอยใหก้ ารแนะนา 3. ครูให้นักเรียนในช้นั เรียนเขียนระบุสิ่งต่าง ๆ รอบตวั ลงในสมุดของตนเองวา่ แต่ละส่ิงอยทู่ างทิศ ใดบา้ ง ดงั ตวั อยา่ งแผนภาพ ทิศเหนือ ทศิ ตะวนั ตก นกั เรียน ทิศตะวนั ออก ทศิ ใต้ จากน้ันครูอธิบายเพิ่มเติมว่า ทิศทาให้เราสามารถทราบท่ีอย่แู ละตาแหน่งของสิ่งต่าง ๆ บอก ระยะใกลไ้ กลได้ 4. ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ เกี่ยวกบั รอบรูอ้ าเซียน ดงั น้ี ประเทศไทย ต้งั อยบู่ นคาบสมุทรอินโดจีนในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ ีพรมแดนติดต่อกบั ประเทศเพอื่ นบา้ น ดงั น้ี
ทิศเหนือติดกบั ประเทศเมียนมาและประเทศลาว ทิศตะวนั ออกติดกบั ประเทศลาว และ ทศิ ตะวนั ตกตดิ กบั ประเทศกมั พชู า ทะเลอนั ดามนั และ ประเทศเมียนมา ภาพแผนทอ่ี าณาเขตประเทศไทยและประเทศเพ่อื นบ้าน ทศิ ใตต้ ิดอ่าวไทยและประเทศมาเลเซีย 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ทิศทาให้บุคคลสามารถรู้ความสมั พนั ธ์ระหว่างตาแหน่ง ระยะใกลไ้ กลของส่ิงต่าง ๆ ท่ีอยู่ รอบตวั ของตนเอง 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี การรูท้ ศิ ระยะใกลไ้ กลมีประโยชน์ตอ่ การดาเนินชีวติ ของนกั เรียนอยา่ งไร 7. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 25 เร่ือง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตาแหน่ง ระยะ และทศิ ของ สิ่งต่าง ๆ ทอี่ ยรู่ อบตวั สื่อการเรียนรู้ 1. บตั รคาทศิ ท้งั 4 2. ช้ินงานที่ 25 เรื่อง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตาแหน่ง ระยะ และทศิ ของส่ิงต่าง ๆ ท่ีอยรู่ อบตวั
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจใบงานที่ 25 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมนิ ชิ้นงานท่ี 25 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตาแหน่ง ระยะ และทิศของส่ิงตา่ ง ๆ ท่ีอยรู่ อบตวั เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ สรุปสิ่งแวดลอ้ ม สรุปสิ่งแวดลอ้ ม สรุปสิ่งแวดลอ้ ม สรุปส่ิงแวดลอ้ ม สรุปสิ่งแวดลอ้ ม ในทศิ ตา่ ง ๆ ท่ีอยู่ ในทศิ ต่าง ๆ ทีอ่ ยู่ ในทศิ ตา่ ง ๆ ที่อยู่ ในทิศตา่ ง ๆ ทอ่ี ยู่ ในทศิ ตา่ ง ๆ ทอ่ี ยู่ รอบตวั รอบตวั ได้ รอบตวั ได้ รอบตวั ได้ รอบตวั ได้ แตย่ งั สอดคลอ้ งกบั ทศิ ท่ี สอดคลอ้ งกบั ทิศท่ี สอดคลอ้ งกบั ทศิ ท่ี ไม่สอดคลอ้ งกบั กาหนดไดถ้ กู ตอ้ ง กาหนด 2-3 ทศิ กาหนดไดถ้ กู ตอ้ ง ทศิ ทีก่ าหนด 4 ทิศ 1 ทิศ
บนั ทกึ หลงั การสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทกึ ) ( นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยที่ 3 เรื่อง แผนผงั ห้องเรียนของเรา มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ป.1/4 ใชแ้ ผนผงั งา่ ย ๆ ในการแสดงตาแหน่งของส่ิงตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรียน สาระสาคญั แผนผงั เป็ นเคร่ืองมือท่ีไดจ้ ากการเขียนยอ่ หรือขยายจากของจริงเพือ่ ใหเ้ ห็นภาพรวมของสถานที่ และการใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียนช่วยใหท้ ราบตาแหน่งทิศและส่ิงตา่ ง ๆ ท่ีอยภู่ ายในหอ้ งเรียน สาระการเรียนรู้ 19. การใชท้ ิศท้งั 4 กาหนดแผนผงั 20. การใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน ช้ินงานที่ 26 เรื่อง การใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียน การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูเขียนรูปสี่เหล่ียมผนื ผา้ ลงบนกระดาน และเขยี นช่ือทศิ ท้งั 4 จากน้นั ใหน้ กั เรียนสารวจหรือ ระบสุ ถานทีส่ าคญั ทอี่ ยตู่ ามทิศตา่ ง ๆ ภายในโรงเรียนพร้อมเขยี นแผนภาพเก่ียวกบั สถานที่สาคญั ตา่ ง ๆ ลง ในรูปส่ีเหล่ียมผนื ผา้ จนครบท้งั 4 ทศิ 2. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม จากน้นั ใหช้ ่วยกนั ระบสุ ถานทต่ี ่าง ๆ ภายในโรงเรียนทอี่ ยใู่ น แผนภาพบนกระดาน เขียนลงในแผน่ กระดาษทีค่ รูแจกให้ 3. สรุปความรูเ้ กี่ยวกบั แผนผงั
4. ให้นกั เรียนร่วมกนั สารวจหอ้ งเรียน โดยใหน้ ักเรียนบอกแต่ละทิศว่ามีอะไรบา้ ง อยรู่ อบ ตนเอง 5. ครูและนักเรียนช่วยกนั นาขอ้ มูลจากการสารวจห้องเรียนแลว้ เขียนเป็ นแผนภาพลงในตาราง ส่ีเหลี่ยมผนื ผา้ บนกระดาน 6. สรุปความรู้เกี่ยวกบั ประโยชน์ของการเรียนรู้แผนผงั หอ้ งเรียน 7. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี แผนผงั เป็นการเขียนยอ่ หรือขยายจากภาพจริง ช่วยใหท้ ราบตาแหน่งและทิศทางของส่ิงตา่ ง ๆ สื่อการเรียนรู้ 45. ภาพแผนผงั บนกระดาน 46. ภาพแผนผงั หอ้ งเรียนบนกระดาน 47. ชิ้นงานท่ี 26 เรื่อง การใชแ้ ผนผงั หอ้ งเรียน การประเมินผล 1. การประเมินผลตัวชี้วดั ชิ้นงานท่ี 26 เร่ือง การใช้แผนผงั ห้องเรียน เกณฑ์การ ระดบั คะแนน ประเมิน 4 3 2 1 วาดแผนผงั วาดแผนผงั หอ้ งเรียน วาดแผนผงั หอ้ งเรียน วาดแผนผงั หอ้ งเรียน วาดแผนผงั หอ้ งเรียน ของตนเองพรอ้ มเขียน หอ้ งเรียน ของตนเองพร้อม ของตนเองพรอ้ ม ของตนเองพรอ้ ม บอกตาแหน่งของ ตนเองและ ของตนเอง เขียนบอกตาแหน่ง เขยี นบอกตาแหน่ง เขียนบอกตาแหน่ง ตอบคาถามไดส้ มั พนั ธ์ กบั หวั ขอ้ ทก่ี าหนด พร้อมเขียนบอก ของตนเองและ ของตนเองและ ของตนเองและ ตามทีค่ รูแนะนา เทา่ น้นั ตาแหน่ง ตอบคาถาม ตอบคาถาม ตอบคาถามได้ ของตนเอง ไดส้ มั พนั ธก์ นั ไดส้ มั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี และตอบคาถาม เช่ือมโยง ทก่ี าหนด ระบใุ ห้ กาหนด โดยมีครู แสดงให้เห็นถึง เห็นถึงความสมั พนั ธ์ และผอู้ ื่นคอยให้ ความสมั พนั ธก์ บั กบั ตนเองไดช้ ดั เจน การแนะนาบา้ ง ตนเองและผอู้ ื่น 2. การประเมินผลคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้
ตัวชี้วัดท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยี่ยม (3) 4.1.1 ต้งั ใจเรียน ไม่ต้งั ใจเรียน ต้งั ใจ เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ 4.1.2 เอาใจใส่และมีความ ในการเรียน และมีความเพยี ร- และมีความเพยี ร- พยายามในการเรียน พยายามในการ เพยี รพยายาม ในการเรียนรู้ เรียนรู้ เขา้ ร่วม 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ตา่ ง ๆ ต่าง ๆ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 32 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ าสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 3 เร่ือง แผนผงั ห้องเรียนของเรา เวลา 1 ชั่วโมง เร่ือง แผนผงั และการใช้แผนผัง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธข์ องสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ส 5.1 ป.1/4 ใชแ้ ผนผงั งา่ ย ๆ ในการแสดงตาแหน่งของสิ่งตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรียน จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วัด 1. อธิบายความหมายของแผนผงั (K) 2. แสดงวธิ ีการเขยี นแผนผงั (P) 3. สนใจศึกษาเรียนรูก้ ารเขียนแผนผงั (A) สาระสาคญั แผนผงั เป็นเคร่ืองมือท่ีไดจ้ ากการเขียนยอ่ หรือขยายจากของจริงเพอื่ แสดงใหเ้ ห็นภาพรวมของ สถานท่ตี ่าง ๆ สาระการเรียนรู้ การใชท้ ศิ ท้งั 4 กาหนดแผนผงั คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน แผนผงั โรงเรียน ระบุท่ตี ้งั และตาแหน่งของสถานทต่ี ่าง ๆ ในโรงเรียน
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูเขียนแผนภาพ ทิศท้งั 4 บนกระดาน โดยเขียนรูปสี่เหลี่ยมผนื ผา้ ลงบนกระดาน ทิศเหนือ ทิศตะวนั ตก ภายในบริเวณโรงเรียน ทศิ ตะวนั ออก ทศิ ใต้ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั สารวจสถานทต่ี า่ ง ๆ ภายในบริเวณโรงเรียนวา่ แตล่ ะทิศ มีสถานที่ สาคญั อะไรบา้ ง ดงั น้ี ตัวอย่าง ทิศเหนือ มีอาคารอเนกประสงค์ เสาธง โรงอาหาร ทศิ ตะวนั ออก มีอาคารเรียน 1 อาคารเรียน 2 สนามเด็กเล่น ตรงกลาง มีสนามฟุตบอล ทิศตะวนั ตก มีหอประชุม ที่จอดรถ ทศิ ใต้ มีประตูเขา้ -ออก ของโรงเรียน และร้ัวหน้าโรงเรียน 2. ครูและนกั เรียนช่วยกนั จดั สถานท่ีต่าง ๆ ของโรงเรียนตามขอ้ มูลท่ีสารวจจากขอ้ 1 ลงในตาราง สี่เหลี่ยมบนกระดาน โดยครูถามนกั เรียนและเขียนลงเป็นแผนผงั ทลี ะทิศจนครบทกุ ทิศ ตวั อย่างแผนผัง โรงเรียน
เม่ือครูและนกั เรียนจดั สถานท่ีต่าง ๆ ของโรงเรียนลงในแผนผงั เสร็จ ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนมองเห็นภาพโดยรวมของโรงเรียนตนเองชดั เจนหรือไม่ (ตวั อย่างคาตอบ ชัดเจน) กรอบส่ีเหล่ียมบนกระดานบอกสถานท่ีต่าง ๆ ของโรงเรียนเรียกวา่ .... (แผนผังของโรงเรียน) สรุปแลว้ นักเรียนเขา้ ใจคาว่า แผนผงั ว่าอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ แผนผัง คือ การเขียน ย่อสถานท่ีต่าง ๆ จากของจริงลงเป็ นภาพเพื่อให้เห็นภาพโดยรวมท้ังหมดของสถานที่น้ัน ๆ หรือสามารถ เขียนขยายจากสิ่งของท่ีเล็กให้เห็นชัดเจนขนึ้ ได้ เช่น แผนผังของวงจรคอมพวิ เตอร์) นักเรียนสามารถบอกสถานท่ีต่าง ๆ ตามแผนผงั ของโรงเรียนได้โดยใชอ้ ะไรเป็ นเกณฑ์ (ตัวอย่างคาตอบ ใช้ทิศท้งั 4 ระบุตาแหน่งของสถานทน่ี ้ันโดยการดูจากแผนผัง) ดงั น้นั การเขียนหรือดูแผนผงั ทุกคร้ังตอ้ งสงั เกตจากอะไร (ตัวอย่างคาตอบ จากทิศทตี่ ้ังหรือ ตาแหน่งท่อี ยู่ของสถานท่)ี 3. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็ น 2 กลุ่ม โดยใหแ้ ต่ละกลุ่มระบสุ ถานทต่ี ้งั ตาแหน่งของสถานทต่ี ่าง ๆ ของ โรงเรียน ตามแผนผงั ขอ้ ท่ี 1 ลงในกระดาษที่ครูแจกให้ ดงั น้ี สนามฟุตบอลอยทู่ างทศิ ใดของเสาธง ____________________________________ ที่จอดรถอยทู่ างทิศใดของหอประชุม ____________________________________ อาคารเรียน 2 อยทู่ างทิศใดของอาคารเรียน 1 ______________________________ โรงอาหารอยตู่ ิดกบั สถานที่ใดบา้ ง ______________________________________ เมื่อกลุ่มใดช่วยกนั ทาเสร็จก่อนหรือตอบถูกตอ้ งมากท่ีสุดให้เป็ นผชู้ นะ โดยครูใหค้ าแนะนาเพม่ิ เติม 4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี แผนผงั เป็นเคร่ืองมือเพอ่ื แสดงให้เห็นภาพโดยรวมของสถานที่ต่าง ๆ โดยการเขยี นยอ่ หรือ ขยายจากของจริง 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนจะนาความรู้การใชแ้ ผนผงั ไปใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ ง ส่ือการเรียนรู้ ภาพแผนผงั สถานศกึ ษา การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298