Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้วิชาสังคม ป.๒

แผนจัดการเรียนรู้วิชาสังคม ป.๒

Published by Jeerawan Patiwong, 2020-04-03 23:30:22

Description: แผนจัดการเรียนรู้วิชาสังคม ป.๒

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 6 เร่ือง วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาและศาสนพธิ ี เวลา 1 ชั่วโมง เร่ือง วันสาคญั ทางศาสนา มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.2 เขา้ ใจ ตระหนกั และปฏิบตั ติ นเป็นศาสนิกชนทีด่ ีและธารงรกั ษาพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนา ที่ตนเองนบั ถือ ตวั ชี้วดั ป.2/2 ปฏบิ ตั ติ นในศาสนพธิ ี พธิ ีกรรม และวนั สาคญั ทางศาสนาตามทกี่ าหนดไดถ้ ูกตอ้ ง จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด 1. อธิบายวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา (K) 2. จาแนกกิจกรรมสาคญั ที่ปฏิบตั ใิ นวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา (P) 3. เห็นความสาคญั ในการเขา้ ร่วมกิจกรรมและการปฏบิ ตั ิตนในวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา (A) สาระสาคญั วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาเป็ นวนั ทีร่ ะลึกถึงเหตุการณ์สาคญั ที่เกิดข้นึ ในทางพระพทุ ธศาสนา โดยการปฏิบตั ติ น ทาทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา สาระการเรียนรู้ 1. วนั มาฆบูชา 2. วนั วสิ าขบชู า 3. วนั อฏั ฐมีบชู า 4. วนั อาสาฬหบชู า คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ย การเลือกใชส้ ื่ออยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ และสามารถนาไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ได้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

ชิ้นงานหรือภาระงาน  แผนภาพการปฏบิ ตั ิตนในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา  ชิ้นงานท่ี 12 เรื่อง วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพพธิ ีเวยี นเทยี นในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนามาใหน้ กั เรียนดูแลว้ ร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  ภาพทีน่ กั เรียนเห็นเก่ียวกบั พธิ ีอะไร (พิธีเวยี นเทยี นในวันสาคญั ทาง พระพุทธศาสนา)  นกั เรียนเคยร่วมในพธิ ีดงั กล่าวหรือไม่ (เคย/ไม่เคย)  วนั สาคญั ในทางพระพทุ ธศาสนามีวนั อะไรบา้ ง (วนั มาฆบูชา วนั วสิ าขบูชา วนั อัฏฐมีบูชา และวนั อาสาฬหบูชา) 2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั อ่านวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา คอื วนั มาฆบชู า และ วนั วสิ าขบชู า เสร็จแลว้ ครูตดิ บตั รคา และแถบประโยคทีบ่ นกระดาน ใหน้ กั เรียนนาแถบประโยค ติดใหต้ รงกบั ความหมายของบตั รคา ตวั อย่างบัตรคาและแถบประโยค วันมาฆบูชา วนั วิสาขบูชา พระพทุ ธเจา้ แสดงโอวาทปาติโมกข์ พระอรหนั ต์ 1,250 องค์ ประชุมกนั เป็นวนั คลา้ ยวนั ประสูติและปรินิพพานของพระพทุ ธเจา้ วนั เพญ็ 15 ค่า เดือน 3 เป็นวนั ท่พี ระพทุ ธเจา้ ทรงตรัสรู้ธรรม วนั เพญ็ 15 ค่า เดือน 6 จากน้นั ครูใชค้ าถามทบทวนความรูว้ นั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา วนั มาฆบูชา และวนั วสิ าขบูชา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  มีเหตุการณ์สาคญั ใดบา้ งที่เกิดข้นึ ในวนั มาฆบชู า (เป็ นวันทม่ี พี ระอรหันต์ 1,250 รูปมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยมไิ ด้นัดหมาย เป็ นวันเพ็ญ 15 คา่ เดือน 3 และพระพทุ ธเจ้าได้ประทาน โอวาทปาตโิ มกข์ในวนั ดังกล่าว)  มีเหตกุ ารณ์สาคญั ใดบา้ งที่เกิดข้นึ ในวนั วสิ าขบชู า (เป็ นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า)

 นกั เรียนจะปฏิบตั ติ นอยา่ งไรในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา (ตวั อย่างคาตอบ ทาบญุ ตักบาตร รักษาศีลฟังธรรม ไปร่วมพธิ ีเวียนเทียนบูชาพระรัตนตรัย) 3. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพ การทาบุญตกั บาตร การเวียนเทียน การฟังธรรมเทศนา จากน้นั ครูใชค้ าถาม ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา ดงั น้ี  ภาพดงั กล่าวเป็นภาพเก่ียวกบั อะไร (ภาพการเข้าร่วมกิจกรรมในวนั สาคญั ทาง ศาสนาของพุทธศาสนิกชน)  นกั เรียนเคยปฏิบตั ิกิจกรรมเหมือนในภาพใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ ทาบญุ ตักบาตร ฟังธรรมเทศนา) 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อ่านเน้ือหาเร่ือง วธิ ีปฏิบตั ติ นในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา จากน้นั ให้ นกั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  ในช่วงเชา้ พทุ ธศาสนิกชนปฏิบตั ติ นในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาอยา่ งไร (ทาบุญตักบาตร รักษาศีล ฟังธรรมเทศนา และฝึ กสมาธิ)  ในช่วงค่าพทุ ธศาสนิกชนปฏิบตั ติ นในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาอยา่ งไร (เข้าร่วมพธิ ีเวยี นเทียนทว่ี ัด)  พทุ ธศาสนิกชนควรแต่งกายอยา่ งไรในการทาบญุ ที่วดั (แต่งกายด้วยชุดสุภาพ เรียบร้อย) 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษาวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา คือ วนั อฏั ฐมีบูชา และ วนั อาสาฬหบชู า จากน้นั ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  วนั อฏั ฐมีบชู ามีความสาคญั อยา่ งไร (เป็ นวันทค่ี ล้ายวันถวายพระเพลิง พุทธสรีระของพระพุทธเจ้า หลงั จากท่ีทรงดบั ขันธปรินพิ พานได้ 8 วนั )  วนั อาสาฬหบูชามีความสาคญั อยา่ งไร (เป็ นวนั ทพ่ี ระพทุ ธเจ้าประกาศ พระพุทธศาสนา ทรงแสดงพระธรรมเทศนากณั ฑ์แรก คอื ธัมมจกั กปั ปวตั นสูตร แก่พระ- ปัญจวัคคยี ์จนมีดวงตาเห็นธรรม และได้ทูลขออปุ สมบทในพระพทุ ธศาสนาทาให้เกดิ มพี ระสงฆ์เกดิ ขึน้ ทา ให้มพี ระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครบองค์สาม)

6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปกิจกรรมในการปฏิบตั ติ นในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาเป็ น แผนภาพ ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ ทาบญุ ตกั บาตรทว่ี ดั เชา้ สมาทานศีล การปฏบิ ตั ติ น ฟังพระธรรมเทศนา บา่ ย เจริญสมาธิภาวนา งดเลิกอบายมุข ค่า เวยี นเทียนท่ีวดั 7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาประโยชน์ของการเขา้ ร่วมกิจกรรมวนั สาคญั ในทางพระพทุ ธ- ศาสนา โดยใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น เสนอความคิดของตนเองทไ่ี ดร้ บั ประโยชนจ์ ากการเขา้ ร่วม กิจกรรมมาคนละ 1 ตวั อยา่ ง จากน้นั ครูสรุปเป็ นแผนภาพบนกระดาน ตัวอย่างแผนภาพ เป็นการสืบทอดพระพทุ ธศาสนา ไดท้ าหนา้ ท่ีของชาวพทุ ธท่ีดี เป็ นการรักษาประเพณีไทย ครอบครัวไดท้ าความดีร่วมกนั ประโยชน์ ของส่วนรวม ประโยชน์ ประโยชน์ ตนเองและ การเข้าร่วมกจิ กรรม สรา้ งความรักความสามคั คขี อง ครอบครัว คนในชุมชน วันสาคญั ทาง มีพระพทุ ธศาสนาเป็นศนู ยร์ วมจติ ใจ พระพุทธศาสนา เขา้ ใจการทาความดีตามหลกั ศาสนา ไดน้ าหลกั ธรรมมาปฏิบตั ิกบั ตนเอง และครอบครวั

8. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาเป็นวนั ท่ชี าวพทุ ธระลึกถึงคุณของพระรตั นตรยั และปฏิบตั ิ ตนตามหลกั ธรรม เพอื่ ใชเ้ ป็นหลกั ปฏิบตั ิในการดาเนินชีวติ ประจาวนั 9. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 12 เร่ือง วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา สื่อการเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. แถบประโยค 3. ภาพกิจกรรมในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา 4. ช้ินงานท่ี 12 เรื่อง วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจชิ้นงานท่ี 12 2. เครื่องมือ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ - การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน

การประเมนิ ชิ้นงานท่ี 12 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คะแนน วาดภาพหรือติดภาพ 432 1 การเขา้ ร่วมกิจกรรม ในวนั สาคญั ทาง วาดภาพหรือตดิ วาดภาพหรือตดิ วาดภาพหรือตดิ วาดภาพหรือตดิ พระพทุ ธศาสนา ภาพการเขา้ ร่วม ภาพการเขา้ ร่วม ภาพการเขา้ ร่วม ภาพการเขา้ ร่วม กิจกรรมใน วนั สาคญั ทาง กิจกรรมใน กิจกรรมใน กิจกรรมใน พระพทุ ธศาสนา ไดส้ มั พนั ธก์ บั วนั สาคญั ทาง วนั สาคญั ทาง วนั สาคญั ทาง หวั ขอ้ ท่ีกาหนด ตามทีค่ รู พระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศาสนา ยกตวั อยา่ ง ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่กี าหนด หวั ขอ้ ท่ีกาหนด หวั ขอ้ ท่กี าหนด และแตกตา่ งจากที่ และแตกตา่ งจากท่ี ตามทีค่ รู ครูยกตวั อยา่ ง ครูยกตวั อยา่ ง ยกตวั อยา่ ง แต่มี มีการเชื่อมโยง แต่เชื่อมโยงใหเ้ ห็น การดดั แปลงให้ ใหเ้ ห็นถึง เฉพาะตนเอง แตกต่าง ความสมั พนั ธก์ บั ตนเองและผอู้ ่ืน

บันทึกหลงั การสอน  ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงชื่อ_____________________________ (ผบู้ นั ทกึ ) ( นางสาวจีรวรรณ ปฏิวงศ์ ) _________/__________/________

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 หน่วยท่ี 1 เร่ือง การปฏบิ ตั ิตนตามข้อตกลงกตกิ า กฎ ระเบียบ หน้าที่ เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหนา้ ทีข่ องการเป็ นพลเมืองดี มีค่านิยมทีด่ ีงามและธารงรักษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข ตวั ชี้วัด ป.2/1 ปฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบยี บ และหนา้ ท่ที ่ตี อ้ งปฏบิ ตั ิในชีวติ ประจาวนั สาระสาคญั การปฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ หนา้ ทใี่ นครอบครัว โรงเรียน และสถานที่สาธารณะ เป็นหนา้ ท่ที ี่คนทกุ คนในสงั คมพงึ ปฏิบตั ิตนอยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม สาระการเรียนรู้ 1. การปฏบิ ตั ติ นในครอบครัว 2. การปฏบิ ตั ติ นในโรงเรียน 3. การปฏิบตั ิตนในสถานทส่ี าธารณะ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้ีวดั ท่ี 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน ชิ้นงานท่ี 14 เร่ือง การปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบยี บ หนา้ ทใ่ี นชีวติ ประจาวนั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูตดิ บตั รคา ขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหนา้ ที่ ใหน้ กั เรียนอ่านและครูอธิบายความหมาย แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาการปฏิบตั ิตนในครอบครวั และสรุปความรูเ้ ป็ นแผนภาพ 3. ครูคดั นกั เรียนท่ปี ฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยา่ งออกมาเล่าการปฏิบตั ิของตนเองในชีวติ ประจาวนั ให้ เพอื่ นฟัง และใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษาการปฏบิ ตั ติ นในโรงเรียน โดยใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งการทาความดีใน โรงเรียนมาคนละ 1 ตวั อยา่ ง และจาแนกบตั รคาระหวา่ งการทาความดีกบั การประพฤตไิ ม่เหมาะสม 4. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ติ นในโรงเรียนและสรุปความรูเ้ ป็ นแผนภาพบน กระดาน

5. ใหน้ กั เรียนท่ีมีประสบการณ์ในการใชบ้ ริการสถานทสี่ าธารณะออกมาเล่าประสบการณ์ใหเ้ พอ่ื น ฟัง ร่วมกนั สนทนาและจาแนกบตั รคา 6. สรุปความรู้ การปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบียบ หนา้ ทใ่ี นชีวติ ประจาวนั และทา ชิ้นงานท่ี 15 เรื่อง การปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบยี บ หนา้ ที่ในชีวติ ประจาวนั 7. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมทา้ ยบทเรียนหรือตามที่ครูกาหนด 8. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  ขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบียบ และหนา้ ที่ เป็นตวั กาหนดการปฏิบตั ติ นเพอื่ การอยรู่ ่วมกนั ของคนในครอบครวั โรงเรียน สถานทีส่ าธารณะเพอ่ื ใหเ้ กิดความสงบสุข ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคา การปฏบิ ตั ิตนในครอบครวั 2. ช้ินงานที่ 14 เร่ือง การปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบยี บ หนา้ ท่ีในชีวติ ประจาวนั การประเมินผล 1. การประเมนิ ผลตัวชี้วดั ชิ้นงานที่ 15 เรื่อง การปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบียบ หนา้ ทใ่ี นชีวติ ประจาวนั เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 เขยี นอธิบายหรือสรุป เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขยี นอธิบายหรือ การปฏิบตั ิตนใน สรุปการปฏบิ ตั ติ น สรุปการปฏบิ ตั ติ น สรุปการปฏบิ ตั ติ น สรุปการปฏิบตั ติ น ครอบครวั โรงเรียน ในครอบครวั ในครอบครวั ในครอบครัว ในครอบครัว และสถานท่สี าธารณะ โรงเรียน และ โรงเรียน และ โรงเรียน และ โรงเรียน และ สถานที่สาธารณะ สถานท่สี าธารณะ สถานที่สาธารณะ สถานทส่ี าธารณะ ไดส้ มั พนั ธก์ นั ได้ มีการจาแนก ไดส้ อดคลอ้ งกบั ได้ แตย่ งั ไม่ มีการเช่ือมโยง ขอ้ มูล แสดง ขอ้ มูลเขียนตาม สอดคลอ้ งกบั ใหเ้ ห็นภาพรวม ใหเ้ ห็นถึงความ ขอ้ มูลทอ่ี ่านไมม่ ี ขอ้ มูลเขียนตาม แสดงถึงความ สมั พนั ธก์ บั ตนเอง การอธิบายเพม่ิ เตมิ ขอ้ มูลทอี่ ่านไม่มี สมั พนั ธก์ บั ตนเอง อยา่ งเป็ นเหตเุ ป็ นผล การอธิบายเพมิ่ เติม และผอู้ ่ืน

2. การประเมินผลคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ มีวินัย ตวั ชี้วัดที่ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ียม (3) 3.1.1 ปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ตกลง ไม่ปฏิบตั ติ นตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏิบตั ิตาม กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว กฏเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบียบ โรงเรียน และสงั คม ไม่ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ละเมิดสิทธิของผอู้ ื่น ครอบครัว ครอบครัวและ ครอบครวั และ ครอบครวั 3.1.2 ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิ และโรงเรียน โรงเรียน โดยตอ้ ง โรงเรียน โดยตอ้ ง และโรงเรียน กิจกรรมต่างๆ ใน มีการเตอื นเป็น มีการเตอื นเป็น ไดด้ ว้ ยตนเอง ชีวติ ประจาวนั และ ส่วนใหญ่ บางคร้ัง รับผดิ ชอบ ในการทางาน

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 15 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยที่ 1 เรื่อง การปฏบิ ัติตนตามข้อตกลงกติกา กฎ ระเบียบ หน้าท่ี เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง การปฏิบัติตนในครอบครัว โรงเรียนและสถานทส่ี าธารณะ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหนา้ ทีข่ องการเป็นพลเมืองดี มีคา่ นิยมที่ดีงาม และธารงรักษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข ตัวชี้วดั ป.2/1 ปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบยี บ และหนา้ ที่ท่ตี อ้ งปฏบิ ตั ใิ นชีวติ ประจาวนั จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด 1. อธิบายการปฏิบตั ติ นในครอบครวั (K) 2. จาแนกขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบยี บ และหนา้ ทข่ี องตนในครอบครวั (P) 3. เห็นความสาคญั ในการปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ และระเบยี บของครอบครัว (A) สาระสาคญั ขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบยี บ และหนา้ ท่เี ป็นขอ้ กาหนดในการปฏิบตั อิ ยรู่ ่วมกนั ของคนในครอบครวั โรงเรียนและทสี่ าธารณะ เพอ่ื ให้เกิดความสงบสุข สาระการเรียนรู้ 1. การปฏิบตั ติ นในครอบครวั 2. การปฏบิ ตั ิตนในโรงเรียน 3. การปฏบิ ตั ติ นในสถานท่สี าธารณะ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้ีวดั ที่ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน  แผนภาพ การปฏบิ ตั ิตนในครอบครัว  แผนภาพ การปฏิบตั ิตนในโรงเรียน

 ช้ินงานท่ี 15 เรื่อง การปฏิบตั ิตนตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบยี บ หนา้ ทใี่ นชีวติ ประจาวนั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูตดิ บตั รคาใหน้ กั เรียนอ่านและศกึ ษา ดงั น้ี ขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบียบ หนา้ ท่ี จากน้นั ครูอธิบายความหมายของแต่ละบตั รคาใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี ขอ้ ตกลง เป็ นขอ้ สรุปร่วมกนั ของบคุ คลต้งั แต่ 2 คนข้นึ ไปที่มีความเห็นตรงกนั และปฏบิ ตั ิ ร่วมกนั กติกา เป็ นกฎเกณฑห์ รือขอ้ ตกลงทีบ่ คุ คลต้งั แต่ 2 ฝ่ายข้นึ ไปกาหนดข้ึนเป็ นแนวปฏิบตั ิ กฎ เป็ นขอ้ กาหนดทตี่ อ้ งปฏบิ ตั ติ ามหากฝ่ าฝืนอาจมบี ทลงโทษตามความผดิ ระเบียบ เป็นแบบแผนท่วี างไวเ้ ป็นแนวปฏบิ ตั ิ หนา้ ที่ เป็นความรับผดิ ชอบของบุคคลตามสถานภาพของตนเองที่ตอ้ งปฏบิ ตั ิ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  ขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหนา้ ที่มีประโยชนอ์ ยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เป็ นข้อกาหนดในการปฏบิ ัติตนเพ่ือความเป็ นระเบียบเรียบร้อยในสังคม)  นกั เรียนปฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหนา้ ที่ของตนเองหรือไม่ (ปฏบิ ตั ติ าม)  นกั เรียนไดร้ ับประโยชนอ์ ยา่ งไรจากการปฏิบตั ดิ งั กล่าว (ตวั อย่างคาตอบ เป็ นคน มีระเบียบวินัย รู้จกั หน้าที่ของตนเอง) 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษาการปฏบิ ตั ิตนในครอบครวั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  ในครอบครวั ของนกั เรียนประกอบไปดว้ ยบุคคลใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ พ่อแม่ ตาและยาย ป่ ูและย่า พีช่ าย พส่ี าว น้องชาย และน้องสาว)  ครอบครวั ของนกั เรียนมีความสุขหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (ตัวอย่างคาตอบ มีความสุข เพราะ ทกุ คนปฏิบัติตนตามกฎ กติกา ระเบยี บ และหน้าทขี่ องตนเอง)

 นกั เรียนปฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบียบ และหนา้ ท่ี ในฐานะสมาชิกของ ครอบครวั อยา่ งไรบา้ ง ครูสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพบนกระดาน ตัวอย่างแผนภาพ กติกา หลงั เลิกเรียนตอ้ งรีบกลบั บา้ นไม่ ไปเทีย่ วเตร่ทอี่ ่ืน ทาการบา้ นทกุ คร้งั หลงั จาก ขอ้ ตกลง กลบั ถึงบา้ นตามที่ตกลงกบั พอ่ แม่ การปฏิบัติตนใน เช่ือฟังคาสง่ั สอนของพอ่ แม่ ครอบครัว กฎ ทาตนเป็นลูกทด่ี ีของพอ่ แม่ ช่วยเหลืองานบา้ น หา้ มทะเลาะตบตกี นั หนา้ ที่ จดั เก็บของส่วนตวั ของตวั เอง ระเบียบ ใหเ้ รียบร้อยในท่ีเกบ็ เคารพกราบไหวพ้ อ่ แม่ ป่ ยู า่ ตายาย 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษา การปฏิบตั ิตนในโรงเรียน โดยครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั ยกตวั อยา่ งการทา ความดีในโรงเรียนมาคนละ 1 ตวั อยา่ ง จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนจาแนกบตั รคาระหวา่ งการทาความดีกบั การ ประพฤตทิ ่ีไม่เหมาะสมออกจากกนั มาโรงเรียนตรงเวลา ชวนเพอื่ นคุยขณะครูสอน ลอกการบา้ นเพอ่ื น แอบทานขนมในหอ้ งเรียน ต้งั ใจเรียน เขา้ แถวซ้ืออาหารอยา่ งมีระเบียบ แสดงความเคารพเสมอ ไม่ชอบครูสอนวชิ าสงั คม

ครูใหน้ กั เรียนอ่านบตั รคาแลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  ในโรงเรียนของนกั เรียนประกอบดว้ ยบคุ คลใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบผู้อานวยการ โรงเรียน คณะครู ภารโรง นักเรียน)  โรงเรียนของนกั เรียนน่าเรียนหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (ตวั อย่างคาตอบ น่าเรียน เพราะมคี วามสุข และทุกคนปฏิบัติตนตามกฎ กติกา ระเบยี บของโรงเรียน)  นกั เรียนปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหนา้ ที่ในฐานะนกั เรียนของโรงเรียน อยา่ งไรบา้ งครูสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็ นแผนภาพบนกระดาน ตัวอย่างแผนภาพ ไม่ลอกการบา้ นเพอ่ื น ไม่พดู คุยขณะเรียนหนงั สือ ทาการบา้ นส่งครูตามทก่ี าหนด กติกา ทาแบบฝึกหดั ตามทีค่ รูสงั่ จดั เวรทาความสะอาด ขอ้ ตกลง แต่งกายตามกฎของโรงเรียน หอ้ งเรียน การปฏิบัติตน กฎ มาและเลกิ โรงเรียนตรงเวลา เชื่อฟังคาสงั่ สอนของครู ในโรงเรียน เคารพครูอาจารย์ เขา้ แถวเคารพธงชาติอยา่ งเป็นระเบียบ ตดั ผม เล็บมือ เล็บเทา้ ใหส้ ะอาด หนา้ ที่ ต้งั ใจศกึ ษาเล่าเรียนหาความรู้ ระเบยี บ เขา้ แถวซ้ืออาหารหรือสิ่งของอยา่ ง เป็ นระเบียบ 4. ครูนาบตั รคาที่เก่ียวกบั สถานทีส่ าธารณะและสถานทส่ี ่วนบคุ คลใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาและ จาแนกประเภท สวนสาธารณะ หอ้ งสมุดชุมชน บา้ น พพิ ธิ ภณั ฑ์ โบราณสถาน โรงภาพยนตร์

ครูใหน้ กั เรียนอ่านบตั รคาแลว้ ร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  สถานท่สี าธารณะมีความสาคญั อยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เป็ นสถานทสี่ ่วนรวม ท่ที กุ คนมสี ิทธิใช้ร่วมกัน)  นกั เรียนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ไม่ทาลาย หรือสร้างความสกปรกให้เกดิ กับสถานที่)  นกั เรียนควรปฏิบตั ิตนตามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบียบ และหนา้ ทข่ี องสมาชิก ทางสงั คมต่อสถานทสี่ าธารณะอยา่ งไร  ครูสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพบนกระดาน ตัวอย่างแผนภาพ ไม่ทงิ้ ขยะหรือ ส่ิงปฏิกูลลงพน้ื ช่วยกนั ดูแล การปฏบิ ตั ิตนใน ไม่ส่งเสียงดงั รบกวนบคุ คลอ่ืน รักษาความสะอาด สถานทสี่ าธารณะ ไม่ทาลายหรือสรา้ ง เขา้ แถวใชบ้ ริการอยา่ งเป็นระเบยี บ ความเสียหาย สนบั สนุนส่งเสริมกิจกรรมอนุรักษ์ 5. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  การรกั ษาระเบยี บ กฎ กตกิ า เป็นขอ้ ตกลงและหนา้ ท่ีของทุกคนในสงั คม พงึ ปฏิบตั ริ ่วมกนั ในสถานท่สี าธารณะ 6. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 14 เรื่อง การปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบยี บ หนา้ ท่ี ในชีวติ ประจาวนั

ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. ชิ้นงานท่ี 15 เรื่อง การปฏิบตั ิตนตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ หนา้ ที่ในชีวติ ประจาวนั การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจช้ินงานที่ 14 2. เคร่ืองมือ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน - การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานที่ 15 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎ ระเบยี บ หนา้ ทใ่ี นชีวติ ประจาวนั เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 เขียนอธิบายหรือสรุป เขยี นอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขยี นอธิบายหรือ เขยี นอธิบายหรือ การปฏบิ ตั ิตนใน สรุปการปฏิบตั ติ น สรุปการปฏิบตั ิตน สรุปการปฏิบตั ติ น สรุปการปฏิบตั ิตน ครอบครัว โรงเรียน ในครอบครวั ในครอบครวั ในครอบครัว ในครอบครวั และสถานที่สาธารณะ โรงเรียน และ โรงเรียน และ โรงเรียน และ โรงเรียน และ สถานทีส่ าธารณะ สถานท่ีสาธารณะ สถานท่ีสาธารณะ สถานทีส่ าธารณะ ไดส้ มั พนั ธก์ นั ได้ มีการจาแนก ไดส้ อดคลอ้ งกบั ได้ แตย่ งั ไม่ มีการเช่ือมโยง ขอ้ มูล แสดง ขอ้ มูลเขียนตาม สอดคลอ้ งกบั ใหเ้ ห็นภาพรวม ใหเ้ ห็นถึงความ ขอ้ มูลทอี่ ่านไมม่ ี ขอ้ มูลเขียนตาม แสดงถึงความ สมั พนั ธก์ บั ตนเอง การอธิบายเพม่ิ เตมิ ขอ้ มูลทอ่ี ่านไมม่ ี สมั พนั ธก์ บั ตนเอง อยา่ งเป็ นเหตเุ ป็นผล การอธิบายเพม่ิ เตมิ และผอู้ ่ืน

บนั ทกึ หลงั การสอน  ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทกึ ) ( นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________

กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 หน่วยท่ี 2 เร่ือง มารยาทไทย วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหนา้ ทข่ี องการเป็ นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ดี ีงามและธารงรักษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข ตวั ชี้วัด ป.2/2 ปฏบิ ตั ิตนตามมารยาทไทย สาระสาคญั มารยาทไทยเป็นกิริยาทส่ี ุภาพเรียบร้อย เป็ นเอกลกั ษณ์ของชาติไทยทท่ี กุ คนควรปฏิบตั ิตนใหถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสมจึงเป็นการรกั ษาเอกลกั ษณ์ของชาตไิ ทย สาระการเรียนรู้ มารยาท : การแสดงความเคารพ การทกั ทาย การพดู การยนื การเดิน การนงั่ และการแต่งกาย คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ความเป็นไทย ตวั ช้ีวดั ที่ 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน ช้ินงานที่ 15 เรื่อง มารยาทไทย การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพมารยาทไทยตดิ บนกระดาน ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาและแสดงความคดิ เห็น 2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษามารยาทไทยในการแสดงความเคารพและการทกั ทายโดยครูอธิบาย และสาธิตใหน้ กั เรียนดูและฝึกปฏิบตั ิตาม 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษามารยาทในการพดู และสรุปความรูเ้ ป็ นแผนภาพ 4. ครูใหน้ กั เรียนศึกษามารยาทในการยนื และการเดินจากภาพ โดยครูนาสถานการณ์มาเล่าให้ นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเปรียบเทียบ และอธิบายมารยาทในการยนื ที่ถูกตอ้ งใหน้ กั เรียน ฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ครูแบง่ กลุ่มใหน้ กั เรียนฝึกปฏบิ ตั มิ ารยาทในการเดิน โดยครูคอยตรวจสอบความถูกตอ้ ง

6. สรุปความรู้เก่ียวกบั มารยาทในการยนื และการเดิน 7. ครูใหน้ กั เรียน 2 คนมาสาธิตวธิ ีการนง่ั ตามหลกั มารยาทไทย แลว้ แบ่งนกั เรียนออกเป็ นกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน ฝึกปฏิบตั ิ 8. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาเร่ือง มารยาทการแต่งกาย โดยครูสารวจการแต่งกายของนกั เรียนภายใน หอ้ งเรียน และอธิบายแลว้ ร่วมกนั สนทนาแสดงความคิดเห็น 9. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 16 เรื่อง มารยาทไทย 10. สรุปความรู้เก่ียวกบั มารยาทการแต่งกาย 11. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียนหรือตามท่คี รูกาหนด 12. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  มารยาทไทยเป็นเอกลกั ษณ์ที่สาคญั ของคนไทยที่คนไทยทุกคนควรปฏบิ ตั ิ ใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม สื่อการเรียนรู้ 1. ภาพมารยาทไทย 2. การสาธิตมารยาทไทย 3. ชิ้นงานที่ 15 เรื่อง มารยาทไทย การประเมนิ ผล 1. การประเมินผลตวั ชี้วัด ชิ้นงานที่ 15 เร่ือง มารยาทไทย เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 สารวจและเขยี น สารวจและเขยี น สารวจและเขยี น สารวจและเขยี น สารวจและเขียน เครื่องหมาย  ที่เก่ียวกบั การ เคร่ืองหมาย  เคร่ืองหมาย  เครื่องหมาย  เคร่ืองหมาย  ปฏบิ ตั ติ นตาม มารยาทไทย ทีเ่ ก่ียวกบั การปฏบิ ตั ิ ที่เกี่ยวกบั การ ท่เี ก่ียวกบั การ ทเี่ ก่ียวกบั การ ได้ แต่ยงั ไม่ สอดคลอ้ งกบั การ ตนตามมารยาทไทย ปฏิบตั ติ นตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏิบตั ิของตนเอง มารยาทไทย มารยาทไทย มารยาทไทย ไดส้ มั พนั ธก์ นั ไดส้ มั พนั ธก์ นั ไดส้ อดคลอ้ งกบั ตามทก่ี าหนด ตามทกี่ าหนด การปฏิบตั ิ แสดงให้เห็นถึง แสดงใหเ้ ห็นถึง ของตนเอง ความสมั พนั ธก์ บั ความสมั พนั ธใ์ น ตนเองและผอู้ ่ืน การปฏิบตั ิ ของตนเอง

2. การประเมนิ ผลคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ : รักความเป็ นไทย ตวั ชี้วดั ท่ี 7.1 ภาคภูมใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมคี วามกตัญญูกตเวที พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม (3) 7.1.1 แตง่ กายและมีมารยาท ไม่มีสมั มาคารวะ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ ี ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ ี ปฏิบตั ติ นเป็นผมู้ ี งดงามแบบไทย ต่อผใู้ หญ่ มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย มีสมั มาคารวะ มีสมั มาคารวะ มีสมั มาคารวะ มีสมั มาคารวะ กตญั ญกู ตเวที กตญั ญกู ตเวที กตญั ญูกตเวที กตญั ญูกตเวที ต่อผมู้ ีพระคุณ ตอ่ ผมู้ ีพระคุณ ต่อผมู้ ีพระคุณ ต่อผมู้ ีพระคุณ 7.1.2 ร่วมกิจกรรมท่เี ก่ียวขอ้ ง และแต่งกาย และแต่งกาย กบั ประเพณี ศิลปะ แบบไทย แบบไทย และวฒั นธรรมไทย เขา้ ร่วมกิจกรรม 7.1.3 ชกั ชวน แนะนาใหผ้ อู้ ่ืน ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั ปฏบิ ตั ิตามขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปะ ประเพณี ศลิ ปะ และวฒั นธรรมไทย และวฒั นธรรมไทย

กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 16 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 หน่วยที่ 2 เร่ือง มารยาทไทย วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง มารยาทไทย เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหนา้ ทข่ี องการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงาม และธารงรกั ษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ติสุข ตัวชี้วดั ป.2/2 ปฏบิ ตั ติ นตามมารยาทไทย จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายการปฏิบตั ิตนตามหลกั มารยาทไทย (K) 2. แสดงวธิ ีการปฏิบตั ิตนตามมารยาทไทย (P) 3. เห็นคุณคา่ และชื่นชมในการปฏบิ ตั ติ นตามหลกั มารยาทไทย (A) สาระสาคญั มารยาทเป็นกิริยา วาจาท่สี ุภาพเรียบร้อยทพี่ งึ ปฏิบตั ใิ หเ้ หมาะสม สาระการเรียนรู้ มารยาท : การแสดงความเคารพการทกั ทายและการพดู มารยาท : การยนื และการเดิน มารยาท : การนงั่ และการแต่งกาย คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ รักความเป็ นไทย ตวั ช้ีวดั ท่ี 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน  แผนภาพ มารยาทไทย  ช้ินงานที่ 15 เรื่อง มารยาทไทย

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพมารยาทไทยตดิ ท่บี นกระดานใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษาจากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดง ความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  มารยาท หมายถึงอะไร (ตวั อย่างคาตอบ ปฏบิ ัติตนด้วยกริ ิยาวาจาทสี่ ุภาพ เรียบร้อย)  มารยาทท่ีนกั เรียนเคยปฏิบตั ิมีอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ การไหว้ การกราบ)  นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรในการปฏิบตั ติ นตามมารยาททีด่ ี (ตวั อย่างคาตอบ รู้สึก ภาคภูมิใจ) 2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษามารยาทไทยในการแสดงความเคารพและการทกั ทาย โดยครูอธิบาย ใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี มารยาทในการแสดงความเคารพ และการทกั ทายตามมารยาทของ ไทย คือ การกราบ การไหว้ และกล่าวคาวา่ “สวสั ดี” เป็ นเอกลกั ษณ์ที่สาคญั ของชาติไทย การปฏิบตั ิตนตามมารยาทไทยจึงเป็ นการรักษาเอกลกั ษณ์และ วฒั นธรรมของชาตไิ ทย ครูอธิบายและสาธิตใหน้ กั เรียนดูเก่ียวกบั การกราบไหวบ้ คุ คลต่าง ๆ ดงั น้ี  การกราบพระ เป็นการกราบแบบเบญจางคประดิษฐซ์ ่ึงนกั เรียนไดฝ้ ึกปฏบิ ตั ิ มาแลว้ ในวชิ าพระพทุ ธศาสนา  การไหวก้ ราบบดิ ามารดา หรือผใู้ หญ่ท่เี คารพนบั ถือ เช่น ป่ ู ยา่ ตา ยาย และครู ใหค้ รูสาธิตวธิ ีปฏบิ ตั ิใหน้ กั เรียนดู จากน้นั ครูจบั คู่ใหน้ กั เรียนฝึกปฏิบตั ิ  การไหวห้ รือทกั ทายบุคคลผเู้ สมอกนั ครูอธิบายและสาธิตใหน้ กั เรียนดู  การรับไหวห้ รือทกั ทายบุคคลผอู้ ่อนกวา่ ครูอธิบายและสาธิตใหน้ กั เรียนดู 3. จบการสาธิตและฝึกปฏบิ ตั ขิ องนกั เรียน ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาโดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  ก่อนนกั เรียนจะออกจากบา้ นเพอื่ จะไปโรงเรียนควรปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไร (ทาความเคารพพ่อแม่ โดยการไหว้)  เม่ือกลบั ถึงบา้ นควรปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไรเม่ือเจอพอ่ แม่หรือญาตผิ ใู้ หญ่ (ทาความ เคารพโดยการไหว้)

 เมื่อนกั เรียนมาถึงท่โี รงเรียนและกลบั จากโรงเรียนควรปฏิบตั ติ นอยา่ งไรต่อครู อาจารย์ (แสดงความเคารพโดยการไหว้)  การทกั ทายกนั ดว้ ยคาวา่ “สวสั ดี” กระทาในโอกาสใด (เม่ือพบเจอกันและ จากกนั ) 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาเรื่องมารยาทในการพดู โดยครูอธิบายวา่ การพดู หรือการใชถ้ อ้ ยคาเป็ น มารยาททางสงั คมที่ผคู้ นพบปะเจอกนั ตอ้ งมีการสนทนาพดู จากนั ดงั น้นั มารยาทในการพดู จงึ มีความสาคญั ในการสื่อสารระหวา่ งกนั จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  การพดู หรือการสนทนากบั บคุ คลอน่ื นกั เรียนควรปฏิบตั ิตนอยา่ งไรบา้ ง ครูสรุปคาตอบของนกั เรียนแลว้ บนั ทึกเป็นแผนภาพบนกระดาน ตวั อย่างแผนภาพ ใชถ้ อ้ ยคาหรือวาจาท่สี ุภาพ รู้จกั กล่าวคาวา่ ขอบคุณ พดู จาดว้ ยคาไพเราะ และขอโทษ ไม่พดู เสียงดงั เกินไป ใหเ้ กียรตคิ ูส่ นทนา มารยาท ในการพูด สารวมขณะพดู คุย พดู ควรมีคาลงทา้ ยวา่ “ครบั ”/ “ค่ะ”

5. ครูนาภาพการยนื และการเดินตามมารยาทไทยใหน้ กั เรียนดู จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนศกึ ษาการ ปฏบิ ตั ติ นในมารยาทการยนื โดยครูนาสถานการณ์ 2 สถานการณ์มาเล่าใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ใหน้ กั เรียน ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ดงั น้ี สถานการณ์ท่ี 1 พมิ พใ์ จ ยนื คุยกบั คุณครูหนา้ ช้นั เรียน โดยเธอประสานมือท้งั 2 ขา้ งดา้ นหนา้ คอ้ มตวั ลงเล็กนอ้ ย เธอยกมือไหวก้ ่อนรับสิ่งของจากครู สถานการณ์ที่ 2 ระพี ยนื พงิ เสา ขณะรอ้ งเพลงสรรเสริญพระบารมี  บคุ คลใน 2 สถานการณ์ ผใู้ ดปฏิบตั ิตนถูกตอ้ งเหมาะสมและผใู้ ดปฏบิ ตั ผิ ดิ มารยาท (พิมพ์ใจ ปฏบิ ตั ิตนถูกต้องเหมาะสม ระพี ปฏิบตั ติ นผดิ หลักมารยาท)  นกั เรียนควรปฏบิ ตั ติ ามแบบอยา่ งของผใู้ ด (ตัวอย่างคาตอบ ปฏบิ ัติตาม แบบอย่างของพมิ พ์ใจ เพราะเป็ นผู้ปฏบิ ัตติ นถูกกาลเทศะ รู้จักเคารพผู้ใหญ่) 6. ครูอธิบายถึงมารยาทในการยนื ท่ถี ูกตอ้ งเหมาะสมใหน้ กั เรียนฟังวา่ การยนื ต่อหนา้ ผใู้ หญ่ ควร ปฏิบตั ิตนโดยการยนื ตวั ตรง เทา้ ชิดกนั มือประสานดา้ นหนา้ คอ้ มตวั ลงเล็กนอ้ ย ไม่ควรยนื ชิดหรือห่าง จนเกินไป จากน้นั ครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา ดงั น้ี  มารยาทในการยนื ทถี่ ูกตอ้ งเหมาะสมควรปฏิบตั ิตนในโอกาสใดบา้ ง  ครูสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพบนกระดาน

ตัวอย่างคาตอบแผนภาพ การยนื เคารพ เพลงชาติ มารยาทท่ีควร การยนื สนทนากบั ผใู้ หญ่ เพลงสรรเสริญพระบารมี ปฏิบตั ใิ นการยืน การยนื ตอ่ หนา้ ชุมชน การยนื ต่อหนา้ พระภกิ ษุ 7. ครูใหน้ กั เรียนร่วมการศกึ ษามารยาทในการเดิน โดยครูแบง่ กลุ่มนกั เรียนสาธิตและฝึกปฏิบตั ใิ น การเดินในโอกาสต่าง ๆ ดงั น้ี กลุ่มท่ี 1 สาธิตและปฏบิ ตั กิ ารเดินผา่ นขณะผใู้ หญ่ยนื กลุ่มท่ี 2 สาธิตและฝึกปฏบิ ตั ิเดินผา่ นขณะผใู้ หญน่ งั่ เกา้ อ้ี กลุ่มท่ี 3 สาธิตและฝึกปฏิบตั กิ ารเดินผา่ นขณะผใู้ หญน่ งั่ กบั พน้ื โดยครูใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมาฝึกปฏบิ ตั ใิ หเ้ พอ่ื นดูหนา้ ช้นั เรียนและครูคอยตรวจสอบความถูกตอ้ ง และอธิบายเพมิ่ เติม 8. ครูคดั เลือกตวั แทนนกั เรียน 2 คน ใหอ้ อกมาสาธิตวธิ ีการนง่ั 2 แบบ คอื  การนง่ั กบั พ้นื  การนง่ั บนเกา้ อ้ี โดยครูอธิบายและใหต้ วั แทนนกั เรียนปฏิบตั ติ ามเสร็จแลว้ ครูแบ่งกลุ่มนกั เรียนกลุ่มละ 5 คน ออกมาฝึกปฏิบตั ิหนา้ ช้นั เรียนนกั เรียนทเ่ี หลือเป็ นผสู้ งั เกตการณ์ โดยเวยี นปฏบิ ตั ิสลบั กนั ท้งั 2 แบบจนกวา่ จะครบทกุ กลุ่ม จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  มารยาทในการนงั่ ควรใชป้ ฏบิ ตั ิในโอกาสใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ การน่ังต่อ หน้าพระภกิ ษุ น่ังต่อหน้าผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพนบั ถือ)  การปฏบิ ตั ิการนง่ั อยา่ งถูกวธิ ีมีผลดีตอ่ นกั เรียนและผอู้ ่ืนอยา่ งไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เป็ นผู้มรี ะเบยี บวนิ ัย รู้จกั การสารวมและเป็ นการให้เกียรติต่อผู้ใหญ่)

9. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาเรื่องมารยาทการแตง่ กาย ใหค้ รูคดั ผแู้ ทนนกั เรียนท่แี ตง่ กายสุภาพ เรียบรอ้ ยออกมาหนา้ ช้นั เรียนใหเ้ พอื่ นดูเป็นตวั อยา่ ง จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนที่เหลือสารวจการแต่งกายของ ตนเอง แลว้ ครูใหแ้ ต่ละคนออกมายนื เรียงแถวหนา้ ช้นั เรียนแลว้ ครูสารวจดูความเรียบรอ้ ยการแต่งกายของ นกั เรียนแต่ละคนจนครบทุกคน 10. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั เรื่องการแต่งกาย โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี  การแต่งกายที่ดีนกั เรียนควรปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบแต่งกายให้ ถูกกับกาลเทศะ เสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อย ใช้สีทีส่ ุภาพ)  การแตง่ กายแบบใดทต่ี อ้ งแต่งใหถ้ ูกกบั กฎระเบียบ (การแต่งกายด้วยชุด นักเรียน)  การแตง่ กายเวลาไปวดั หรือสถานท่ีสาคญั และไปพบผใู้ หญ่ควรปฏิบตั ติ น อยา่ งไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ แต่งกายด้วยชุดสุภาพสะอาดเรียบร้อย) 11. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานท่ี 16 เร่ือง มารยาทไทย ส่ือการเรียนรู้ 1. ภาพ มารยาทไทย 2. การสาธิต/ปฏิบตั ิมารยาทไทย 3. ช้ินงานท่ี 16 เรื่อง มารยาทไทย การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1.3 ตรวจชิ้นงานที่ 16 2. เครื่องมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน

3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง การประเมินชิ้นงานท่ี 16 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง มารยาทไทย 4 ระดบั คะแนน 1 เกณฑ์การประเมนิ 32 สารวจและเขยี น สารวจและเขียน สารวจและเขียน สารวจและเขยี น สารวจและเขียน เครื่องหมาย  ที่ เครื่องหมาย  เคร่ืองหมาย  เคร่ืองหมาย  เคร่ืองหมาย  เกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ติ น ทีเ่ ก่ียวกบั การ ทเ่ี ก่ียวกบั การ ทีเ่ กี่ยวกบั การ ที่เกี่ยวกบั การ ตามมารยาทไทย ปฏิบตั ิตนตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏิบตั ิตนตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม มารยาทไทย มารยาทไทย มารยาทไทย มารยาทไทย ไดส้ มั พนั ธก์ นั ไดส้ อดคลอ้ งกบั ได้ แตย่ งั ไม่ ไดส้ มั พนั ธก์ นั ตามที่กาหนด การปฏบิ ตั ิ สอดคลอ้ งกบั การ ตามที่กาหนด แสดงให้เห็นถึง ของตนเอง ปฏิบตั ขิ องตนเอง แสดงให้เห็นถึง ความสมั พนั ธใ์ น ความสมั พนั ธก์ บั การปฏิบตั ิ ตนเองและผอู้ ่ืน ของตนเอง

บนั ทกึ หลังการสอน  ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงชื่อ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) (____________________________) _________/__________/________

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 3 เร่ือง การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ทีข่ องการเป็ นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ดี ีงามและธารงรกั ษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข ตัวชี้วดั ป.2/3 แสดงพฤติกรรมในการยอมรบั ความคดิ ความเช่ือ และการปฏิบตั ิของบุคคลอ่ืนท่ีแตกตา่ งกนั โดยปราศจากอคติ ป.2/4 เคารพในสิทธิเสรีภาพของตนเองและผอู้ ่ืน สาระสาคญั การยอมรับความคดิ ความเชื่อ ความสามารถ และการปฏิบตั ขิ องบุคคลท่แี ตกตา่ งกนั เป็ นการเคารพ สิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น สาระการเรียนรู้ 1. การยอมรับความคิด ความเชื่อ ความสามารถและการปฏบิ ตั ิของบคุ คลทแี่ ตกต่างกนั 2. การเคารพในสิทธิและเสรีภาพของบคุ คลอ่ืน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้ีวดั ท่ี 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ชิ้นงานที่ 16 เรื่อง การยอมรบั ความคดิ ความเช่ือ ความสามารถและการปฏบิ ตั ิของบุคคลท่ี แตกตา่ งกนั 2. ชิ้นงานที่ 17 เร่ือง การเคารพในสิทธิและเสรีภาพของบคุ คลอื่น การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1. การนาสถานการณ์มาเล่าเปรียบเทียบและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การยอมรับความคดิ ความ เชื่อ ความสามารถและการปฏิบตั ิตนของบุคคลทแี่ ตกต่างกนั 2. ครูใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การนบั ถือศาสนาและอธิบายถึงการยอมรบั ในความเช่ือ 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปการยอมรับความคดิ ความเช่ือ ความสามารถและการปฏิบตั ิของ บคุ คลที่แตกตา่ งกนั เป็นแผนภาพ 4. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานที่ 16 เร่ือง การยอมรับความคดิ ความเช่ือ ความสามารถและการปฏิบตั ขิ อง บคุ คลท่แี ตกต่างกนั 5. ครูเล่าสถานการณ์และตดิ บตั รคา สิทธิ และเสรีภาพ ใหน้ กั เรียนอ่านแลว้ ครูอธิบายความหมาย และร่วมกนั สนทนา 6. สรุปความรูเ้ ก่ียวกบั สิทธิและเสรีภาพ 7. ครูนาแถบประโยคท่เี กี่ยวกบั สิทธิและเสรีภาพท่ีถูกกฎหมายและผดิ กฎหมายใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนกและสนทนาแสดงความคดิ เห็น 8. ครูนาแถบประโยค สิทธิและเสรีภาพในชีวติ และร่างกาย ทรพั ยส์ ิน และการแสดงความคดิ เห็น ติดบนกระดาน ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาและสนทนา 9. สรุปความรู้เกี่ยวกบั สิทธิและเสรีภาพในดา้ นต่าง ๆ 10. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 17 เร่ือง การเคารพในสิทธิและเสรีภาพของบคุ คลอ่ืน 11. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียนหรือตามที่ครูกาหนด 12. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  การเคารพสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอ่ืน ช่วยใหอ้ ยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไดอ้ ยา่ งสนั ตสิ ุข ส่ือการเรียนรู้ 1. สถานการณ์ 2. บตั รคา 3. แถบประโยค 4. ช้ินงานท่ี 16 เร่ือง การยอมรบั ความคิด ความเชื่อ ความสามารถและการปฏิบตั ขิ องบุคคลท่ี แตกตา่ งกนั 5. ชิ้นงานท่ี 17 เร่ือง การเคารพในสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอ่ืน

การประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ผลตวั ชี้วดั 1.1 ช้ินงานท่ี 16 เรื่อง การยอมรบั ความคดิ ความเช่ือ ความสามารถและการปฏิบตั ขิ องบคุ คลที่แตกต่างกนั เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 เขียนอธิบายหรือสรุป เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ การยอมรบั ความคิด สรุปการยอมรบั สรุปการยอมรับ สรุปการยอมรบั สรุปการยอมรับ ความเชื่อความสามารถ ความคดิ ความเช่ือ ความคดิ ความเช่ือ ความคดิ ความเชื่อ ความคดิ ความเช่ือ และการปฏิบตั ิของ ความสามารถ และ ความสามารถ และ ความสามารถ และ ความสามารถ และ บุคคลทม่ี ีความ การปฏิบตั ขิ อง การปฏบิ ตั ขิ อง การปฏิบตั ิของ การปฏิบตั ขิ อง แตกตา่ งกนั บุคคลทีม่ ีความ บุคคลทีม่ ีความ บคุ คลท่ีมีความ บคุ คลที่มีความ แตกต่างกนั ได้ แตกตา่ งกนั ได้ แตกต่างกนั ได้ แตกตา่ งกนั ไดแ้ ต่ สมั พนั ธเ์ ชื่อมโยง สมั พนั ธก์ นั แสดง สอดคลอ้ งกบั ยงั ไม่สอดคลอ้ ง กนั แสดงใหเ้ ห็นถึง ใหเ้ ห็นถึง ขอ้ มูลมีการเขยี น กบั ขอ้ มูลและไม่มี ความสมั พนั ธก์ บั ความสมั พนั ธก์ บั อธิบายยกตวั อยา่ ง การอธิบายเพมิ่ เติม ตนเองและผอู้ ่ืน ตนเองอยา่ ง ใหเ้ ขา้ ใจง่าย เป็ นเหตุเป็ นผล

1.2 ช้ินงานที่ 17 เร่ือง การเคารพในสิทธิและเสรีภาพของบคุ คลอื่น เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 สารวจและเขยี น สารวจและเขียน สารวจและเขยี น สารวจและเขียน สารวจและเขยี น เครื่องหมาย  เครื่องหมาย  เคร่ืองหมาย  เคร่ืองหมาย  เครื่องหมาย  ลงในช่องเกี่ยวกบั ลงในช่องเกี่ยวกบั ลงในช่องเก่ียวกบั ลงในช่องเกี่ยวกบั ลงในช่องเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ติ น การปฏบิ ตั ิตนใน การปฏิบตั ิตนใน การปฏบิ ตั ติ นใน การปฏิบตั ิตนใน ในการเคารพสิทธิ การเคารพสิทธิ การเคารพสิทธิและ การเคารพสิทธิและ การเคารพสิทธิและ และเสรีภาพของผอู้ ่ืน และเสรีภาพของ เสรีภาพของผอู้ ื่น เสรีภาพของผอู้ ื่น เสรีภาพของผอู้ ่ืน ผอู้ ื่น ไดส้ มั พนั ธ์ ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั กบั หวั ขอ้ ทกี่ าหนด หวั ขอ้ ท่ีกาหนดมี หวั ขอ้ ที่กาหนดอยู่ หวั ขอ้ ทก่ี าหนดใน ตามความเป็นจริง ความสมั พนั ธก์ บั ในระดบั ท่ีพอใจ ระดบั ที่ควร ในการปฏบิ ตั ขิ อง การปฏบิ ตั ิ ปรบั ปรุงการปฏิบตั ิ ตนเองและผอู้ ่ืน ของตนเอง ของตนอง 2. การประเมินผลคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มวี นิ ัย ตัวชี้วัดท่ี 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครัว โรงเรียน และสังคม พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม (3) 3.1.1 ปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ตกลง ไม่ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏิบตั ิตนตาม กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั กฏเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ โรงเรียน และสงั คม ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ไม่ละเมิดสิทธิของผอู้ ่ืน ครอบครวั และ ครอบครวั และ ครอบครัวและ ครอบครวั และ 3.1.2 ตรงตอ่ เวลาในการ โรงเรียน โรงเรียน โดยตอ้ ง โรงเรียน โดยตอ้ ง โรงเรียนไดด้ ว้ ย ปฏิบตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ มีการเตอื นเป็น มีการเตือนเป็น ตนเอง ในชีวติ ประจาวนั และ ส่วนใหญ่ บางคร้ัง รับผดิ ชอบในการทางาน

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 17 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยท่ี 3 เร่ือง การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง การยอมรับความคดิ ความสามารถ และการปฏิบตั ขิ องบคุ คลอ่ืน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหนา้ ท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีคา่ นิยมที่ดีงาม และธารงรกั ษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข ตัวชี้วดั ป.2/3 แสดงพฤติกรรมในการยอมรบั ความคดิ ความเช่ือ และการปฏบิ ตั ขิ องบุคคลอ่ืนที่แตกตา่ งกนั โดยปราศจากอคติ จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด 1. ยกตวั อยา่ งหรืออธิบาย ความคดิ ความเช่ือ ความสามารถและการปฏบิ ตั ขิ องบคุ คลทแี่ ตกตา่ งกนั (K) 2. มีความรู้ความเขา้ ใจความแตกต่างในดา้ นต่าง ๆ ของบคุ คลในสงั คม (P) 3. ยอมรบั ความคิด ความเชื่อ ความสามารถ และการปฏบิ ตั ิของบคุ คลท่แี ตกตา่ งกนั (A) สาระสาคญั สมาชิกในสงั คมยอ่ มมีความคิด ความเช่ือ ความสามารถ และการปฏิบตั ิทีแ่ ตกต่างกนั การยอมรับความแตกต่างของบุคคลอ่ืนทาใหส้ ามารถอยรู่ ่วมกนั ไดอ้ ยา่ งสนั ติสุข สาระการเรียนรู้ การยอมรับความคดิ ความเชื่อ ความสามารถ และการปฏบิ ตั ิของบุคคลอ่ืน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้ีวดั ท่ี 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชิ้นงานหรือภาระงาน  ชิ้นงานท่ี 16 เร่ือง การยอมรับความคดิ ความเช่ือ ความสามารถและการปฏิบตั ขิ องบุคคลที่ แตกต่างกนั

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาสถานการณ์ 2 เหตกุ ารณ์มาใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นร่วมกนั ดงั น้ี สถานการณ์ท่ี 1 นนทรีย์ เป็ นหัวหนา้ ช้นั ป.2/1 ประชุมสมาชิกในหอ้ งเก่ียวกบั การจดั เวรทาความสะอาดหอ้ งเรียน ทกุ คนเห็นพอ้ งกนั วา่ ควรแบ่งกลุ่มกนั ทาซ่ึงอารีย์ เห็นดว้ ยกบั เสียงส่วนใหญ่ สถานการณ์ท่ี 2 ดูดี ประชุมร่วมกบั สมาชิกในช้นั เรียน ป.2 เก่ียวกบั การจดั กิจกรรมในช้นั เรียน ซ่ึงดูดีไดเ้ สนอกิจกรรมของตนเองไป แตเ่ พอื่ นเห็นวา่ ทายากจึงไม่เห็นดว้ ย ดูดีจึงลุกหนีไปจากที่ประชุม จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นร่วมกนั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  การกระทาของนนทรีย์ เป็นอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เป็ นผู้ทีย่ อมรับความ คดิ เห็นของผู้อ่ืน เห็นความสาคญั ของเสียงส่วนใหญ่)  ถา้ นนทรียไ์ ม่ปฏบิ ตั ติ ามความคดิ เห็นตามเสียงส่วนใหญ่จะเป็นอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ขาดความเป็ นผู้นาทด่ี ี เพราะไม่ยอมรับความคดิ เห็นทมี่ เี หตผุ ลของบคุ คลอื่น)  การกระทาของดูดีเป็นอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ปฏบิ ัตติ นไม่เหมาะสม ขาดหลักของเหตแุ ละผลไม่ยอมรับความคดิ เห็นของบคุ คลอ่ืน)  ถา้ นกั เรียนประพฤตแิ บบอยา่ งของดูดี จะมีผลกระทบต่อตนเองอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เป็ นคนขาดเหตุผล จะทาให้ร่วมงานกบั บุคคลอื่นไม่ได้)  นกั เรียนจะปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไรในการอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม (ตวั อย่างคาตอบ ยอมรับความคดิ ท่ีมีเหตุและผลของบุคคลอ่ืน) 2. ครูสอบถามนกั เรียนวา่ แตล่ ะคนนบั ถือศาสนาอะไรบา้ ง จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความ คดิ เห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  นกั เรียนปฏบิ ตั ิตนตอ่ เพอื่ นท่นี บั ถือศาสนาตา่ งไปจากเรา อยา่ งไรบา้ ง เพราะ

อะไร (ตวั อย่างคาตอบ เป็ นเพื่อนที่ดตี ่อกัน ยอมรับความแตกต่างของเพ่ือนเพราะทกุ คนย่อมมีความเชื่อท่ี แตกต่างกัน การยอมรับกนั เป็ นการให้เกยี รติกนั ทางสังคม)  การยอมรับความเชื่อของบุคคลอน่ื ทแ่ี ตกตา่ งไปจากเรามีผลดีต่อนกั เรียนและ ผอู้ ื่นอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ทาให้เราเป็ นคนมเี หตผุ ล และสามารถอยู่ร่วมสังคมกับผู้อ่ืนทีม่ คี วามแตกต่าง ทางด้านความเช่ือได้อย่างสงบสุข) ครูอธิบายเพมิ่ เติมวา่ การยอมรบั ความแตกตา่ งทางดา้ นความเช่ือของผอู้ ื่น เป็นแนวทางการ สรา้ งความสมานฉนั ทท์ างสงั คม ทาใหส้ งั คมเกิดความสงบสุขไม่มีการแบง่ พรรคแบ่งพวก ทาใหเ้ กิดความรกั ความสามคั คีกนั ของคนในชุมชนหรือสงั คม 3. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคนบอกความสามารถของตนเองใหเ้ พอื่ นฟังหนา้ ช้นั เรียน โดยครูสรุปเป็ น แผนภาพบนกระดาน ตัวอย่างแผนภาพ มีความสามารถทางการเรียน มีความสามารถในดา้ นกีฬา มีความสามารถทางดา้ นดนตรี ความสามารถ มีความสามารถในการรอ้ งเพลง ทแ่ี ตกต่างกัน ของนักเรียน มีความสามารถในการพดู มีความสามารถในการวาดภาพ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นโดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี

 นกั เรียนรูส้ ึกอยา่ งไรในความสามารถทตี่ นเองมีอยู่ (ตวั อย่างคาตอบ มีความ ภาคภูมใิ จ)  นกั เรียนยอมรบั ในความสามารถของเพอื่ นหรือไม่ และจะปฏิบตั ิตอ่ เพอื่ น อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ยอมรับและสนับสนุนส่งเสริมในความสามารถของเพ่ือนหรือบุคคลอ่ืน)  การยอมรับความคดิ ความเชื่อ ความสามารถ และการปฏบิ ตั ขิ องบคุ คลที่ แตกตา่ งกนั นกั เรียนควรปฏิบตั ติ นอยา่ งไรบา้ ง และเกิดผลดีอยา่ งไร  ครูสรุปคาตอบของนกั เรียนเป็ นแผนภาพบนกระดาน ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ ไม่พดู หรือแสดงอาการ เหยยี ดหยาม ไม่ทาการลอ้ เลียนกนั ไม่ดูถูกรงั เกียจผอู้ ่ืน ยอมรับใน การปฏิบตั ิ การยอมรับ เกิดความรกั ความคดิ ความเชื่อ ความสามคั คี เกิดความสมานฉนั ท์ ความเห็นของ ใหเ้ กียรตผิ อู้ ่ืน ความสามารถ และ การปฏิบตั ิของบุคคล คนส่วนใหญ่ ยอมรบั คกวนั ามคิด ท่ีแตกต่างกนั ท่มี ีเหตผุ ล ผลของ เกิดความร่วมมือกนั การปฏบิ ตั ิ สงั คมเกิดการพฒั นา สงั คมสงบสุข 4. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  การยอมรบั ความแตกต่างทางดา้ นความคดิ ความเช่ือ ความสามารถและการ ปฏิบตั ิของบุคคลในสงั คม ทาใหส้ งั คมเกิดความสงบสุข 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี  เมื่อนกั เรียนมีความคดิ เห็นท่ขี ดั แยง้ กบั เพอ่ื น จะปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไร 6. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานท่ี 16 เร่ือง การยอมรบั ความคิด ความเช่ือ ความสามารถและการ ปฏบิ ตั ติ นของบุคคลที่แตกตา่ งกนั ส่ือการเรียนรู้ 1. สถานการณ์

2. ชิ้นงานที่ 16 เร่ือง การยอมรบั ความคิด ความเช่ือ ความสามารถและการปฏบิ ตั ขิ องบคุ คลท่ี แตกตา่ งกนั การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจช้ินงานที่ 16 2. เครื่องมือ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ - การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานท่ี 16 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การยอมรบั ความคิด ความเช่ือ ความสามารถและการปฏบิ ตั ขิ องบคุ คลทีแ่ ตกตา่ งกนั เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 เขยี นอธิบายหรือสรุป เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขยี นอธิบายหรือ การยอมรับความคดิ สรุปการยอมรับ สรุปการยอมรบั สรุปการยอมรับ สรุปการยอมรบั ความเช่ือความสามารถ ความคิด ความเช่ือ ความคิด ความเชื่อ ความคดิ ความเช่ือ ความคิด ความเช่ือ และการปฏิบตั ขิ อง ความสามารถและ ความสามารถและ ความสามารถและ ความสามารถและ บุคคลทมี่ ีความ การปฏบิ ตั ิของ การปฏิบตั ิของ การปฏิบตั ขิ อง การปฏิบตั ขิ อง แตกตา่ งกนั บุคคลทม่ี ีความ บคุ คลทม่ี ีความ บคุ คลท่ีมีความ บคุ คลทีม่ ีความ แตกตา่ งกนั ได้ แตกต่างกนั ได้ แตกต่างกนั ได้ แตกต่างกนั ไดแ้ ต่ สมั พนั ธเ์ ช่ือมโยง สมั พนั ธก์ นั แสดง สอดคลอ้ งกบั ยงั ไม่สอดคลอ้ ง กนั แสดงใหเ้ ห็นถึง ใหเ้ ห็นถึง ขอ้ มูล มีการเขยี น กบั ขอ้ มูลและไม่มี ความสมั พนั ธก์ บั ความสมั พนั ธก์ บั อธิบายยกตวั อยา่ ง การอธิบายเพมิ่ เตมิ ตนเองและผอู้ ่ืน ตนเองอยา่ ง ใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย เป็ นเหตุเป็ นผล

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 18 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 3 เร่ือง การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันตสิ ุข เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง สิทธิและเสรีภาพ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรกั ษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข ตัวชี้วัด ป.2/4 เคารพในสิทธิเสรีภาพของตนเองและผอู้ ื่น จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด 1. อธิบายความหมายของสิทธิและเสรีภาพ (K) 2. จาแนกการปฏบิ ตั ิตนตามสิทธิและเสรีภาพ (P) 3. เห็นความสาคญั ของการปฏิบตั ติ นตามสิทธิและเสรีภาพท่ีกฎหมายกาหนด (A) สาระสาคญั สิทธิเป็นประโยชน์ท่บี ุคคลพงึ ไดร้ ับตามกฎหมาย เสรีภาพ เป็ นความอิสระของบคุ คลทจ่ี ะทาส่ิงใดก็ ไดโ้ ดยไม่ขดั กบั กฎหมาย สาระการเรียนรู้ 1. สิทธิ 2. เสรีภาพ 3. สิทธิและเสรีภาพในชีวติ และร่างกาย 4. สิทธิและเสรีภาพในทรัพยส์ ินและการแสดงความคดิ เห็น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้ีวดั ท่ี 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรียนและสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชิ้นงานหรือภาระงาน  แผนภาพ สิทธิ

 ช้ินงานท่ี 17 เรื่อง การเคารพในสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอ่ืน การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูเล่าสถานการณ์เกี่ยวกบั การไม่ไดร้ บั การศึกษาของเด็กใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี สถานการณ์ พที อาศยั อยกู่ บั ตาและยายที่มีอาชีพเกบ็ ของเก่าขาย ซ่ึงมีฐานะยากจนทาให้ พที ไม่ไดเ้ รียนหนงั สือ เพราะตากบั ยายไม่มีเงินส่งใหพ้ ที เรียน ดงั น้นั พที จงึ กลายเป็ น คนไม่มีความรู้ และตอ้ งยดึ อาชีพเกบ็ ของเก่าขายเหมือนตากบั ยาย แลว้ ครูใชค้ าถามเพอื่ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั สถานการณ์ดงั กล่าว ดงั น้ี  ครอบครัวของพที ประกอบอาชีพอะไร (เกบ็ ของเก่าขาย)  เพราะเหตใุ ดพที จงึ ไม่ไดเ้ รียนหนงั สือ (ตากับยายมฐี านะยากจน จงึ ไม่มีเงินส่ง ให้พีทเรียนหนังสือ)  ผลของการไมไ่ ดเ้ รียนหนงั สือของพที คืออะไร (ทาให้ไม่มีความรู้)  ถา้ พที ไดเ้ รียนหนงั สือจะเกิดประโยชน์อยา่ งไร (ทาให้ตนเองมีความรู้และเป็ น สมาชิกที่มคี ณุ ภาพของสังคม)  นกั เรียนคิดวา่ พที มีสิทธิไดเ้ รียนหนงั สือหรือไม่ (ม/ี ไม่มี) จากน้นั ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ พที มีสิทธิไดร้ ับการศึกษาเล่าเรียนเหมือนกบั นกั เรียน ทกุ คน เพราะกฎหมายคุม้ ครองใหท้ กุ คนไดร้ บั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานเท่าเทียมกนั 2. ครูนาบตั รคา สิทธิ มาตดิ ไวบ้ นกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านตามจานวน 2 รอบ และอธิบายเก่ียวกบั ความหมายของสิทธิให้นกั เรียนฟัง พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งประกอบและสรุปความรู้ เป็นแผนภาพ ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ สิทธิไดร้ บั ความคุม้ ครอง เทา่ เทยี มกนั ตามกฎหมาย สิทธิไดร้ บั การบริการ สิทธิตาม สิทธิไดร้ บั การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน สาธารณสุขจากรัฐ กฎหมาย

3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การนบั ถือศาสนาของนกั เรียน โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี  นกั เรียนรู้จกั ศาสนาอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ พระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ ศาสนาอสิ ลาม)  นกั เรียนนบั ถือศาสนาอะไร (ตวั อย่างคาตอบ พระพทุ ธศาสนา ศาสนาคริสต์ ศาสนาอสิ ลาม)  การนบั ถือศาสนาของนกั เรียนแตกต่างกนั หรือไม่ (แตกต่างกัน) จากน้นั ครูนาบตั รคา เสรีภาพ มาติดไวบ้ นกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านตามจานวน 2 รอบ และอธิบายเก่ียวกบั บตั รคาดงั กล่าวใหน้ กั เรียนฟังวา่ เสรีภาพ คอื ความเป็นอิสระของบคุ คลทจี่ ะทาส่ิง ใดกไ็ ดท้ ี่ไม่ผดิ กฎหมาย เช่น เสรีภาพในการนบั ถือศาสนา เสรีภาพในการพดู และแสดงความคดิ เห็นการนบั ถือศาสนาทีแ่ ตกต่างกนั ของนกั เรียนเป็ นการแสดงออกถึงการ มีเสรีภาพในการนบั ถือศาสนาตามความศรทั ธาของแตล่ ะบุคคล 4. ครูนาแถบประโยคทีเ่ ก่ียวกบั สิทธิและเสรีภาพทีป่ ฏิบตั ิถูกตอ้ งตามกฎหมาย และปฏิบตั ผิ ดิ กฎหมายใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนก ดงั น้ี เดินทางท่องเทยี่ วตามธรรมชาติ แอบเขา้ บา้ นเพอื่ นเวลาวกิ าล เขา้ รบั บริการตรวจสุขภาพฟรีจากโรงพยาบาลของรัฐ หยบิ ขนมเพอื่ นทานโดยไม่ตอ้ งขออนุญาต รัฐ ใชโ้ ทรศพั ทป์ รึกษาการบา้ นกบั เพอื่ น ชวนเพอื่ นเล่นฟุตบอลวางเงนิ เดิมพนั รัฐ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นโดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  สิทธิและเสรีภาพแบบใดท่ีเป็นการปฏิบตั ทิ ่ีถูกตอ้ ง (ตวั อย่างคาตอบ สิทธิและ เสรีภาพทไี่ ม่ไปละเมดิ กฎหมายและบคุ คลอื่น)  นกั เรียนจะปฏิบตั ิตนตามสิทธิและเสรีภาพอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เคารพ กฎหมาย และสิทธิเสรีภาพของบุคคลอ่ืน) 5. ครูนาแถบประโยคใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษา สิทธิและเสรีภาพในชีวติ และร่างกาย โดยครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ดงั น้ี

 การปฏิบตั เิ ช่นไรเป็ นการไปละเมิดสิทธิและเสรีภาพในชีวติ และร่างกาย (ตวั อย่างคาตอบ การทาร้ายร่างกาย การทารุณกรรม การลงโทษด้วยวิธีโหดร้ายในชีวิตและร่างกายของผู้อื่น)  นกั เรียนมีสิทธิและเสรีภาพในชีวติ และร่างกายอยา่ งไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ สิทธิเสรีภาพในการทากจิ กรรมต่าง ๆ สิทธิเสรีภาพในการเดนิ ทาง สิทธิเสรีภาพในการตดิ ต่อสื่อสาร) 6. ครูนาแถบประโยค สิทธิและเสรีภาพในทรัพยส์ ิน ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อ่านและศกึ ษา และใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นโดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  การปฏบิ ตั ิเช่นไรเป็นการไปละเมิดสิทธิเสรีภาพในทรพั ยส์ ินของบคุ คลอื่น (ตวั อย่างคาตอบ การไปหยิบฉวยส่ิงของบุคคลอ่ืนมาใช้โดยพลการ การลกั ขโมยของผู้อ่ืน)  นกั เรียนมีสิทธิและเสรีภาพในทรัพยส์ ินของตนเองอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เป็ นเจ้าของทรัพย์สินทีไ่ ด้รับความค้มุ ครองตามกฎหมาย บุคคลอ่ืนจะนาทรัพย์เราไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ได้) 7. ครูนาแถบประโยค สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคดิ เห็น ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อ่านและศกึ ษา และใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  การแสดงความคิดเห็นอยา่ งไรเป็ นการไปละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบคุ คล อ่ืน (ตวั อย่างคาตอบ การแสดงความคดิ เห็นทไี่ ปทาให้เกดิ ความเสียหายแก่บุคคลอื่น)  นกั เรียนจะใชส้ ิทธิเสรีภาพในการแสดงความคดิ เห็นอยา่ งไร จึงจะเกิด ประโยชนต์ ่อตนเองและบคุ คลอื่น (ตวั อย่างคาตอบ แสดงความคดิ เห็นโดยสร้างสรรค์ มีเหตแุ ละผลและเกดิ ประโยชน์ ต่อส่ วนรวม) 8. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  สิทธิและเสรีภาพในชีวติ ร่างกาย ทรัพยส์ ิน และการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิและ เสรีภาพตามกฎหมาย 9. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 17 เร่ือง การเคารพในสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. แถบประโยค 3. ชิ้นงานที่ 17 เร่ือง การเคารพในสิทธิและเสรีภาพของบคุ คลอ่ืน

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจชิ้นงานท่ี 17 2. เครื่องมือ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ - การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานที่ 17 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การเคารพในสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 สารวจและเขียน สารวจและเขียน สารวจและเขยี น สารวจและเขียน สารวจและเขียน เครื่องหมาย  เครื่องหมาย  เคร่ืองหมาย  เคร่ืองหมาย  เคร่ืองหมาย  ลงในช่องเกี่ยวกบั ลงในช่องเก่ียวกบั ลงในช่องเก่ียวกบั ลงในช่องเกี่ยวกบั ลงในช่องเก่ียวกบั การปฏิบตั ิตน การปฏิบตั ติ นใน การปฏบิ ตั ติ นใน การปฏบิ ตั ติ นใน การปฏบิ ตั ติ นใน ในการเคารพสิทธิ การเคารพสิทธิ การเคารพสิทธิและ การเคารพสิทธิและ การเคารพสิทธิและ และเสรีภาพของผอู้ ื่น และเสรีภาพของ เสรีภาพของผอู้ ื่น เสรีภาพของผอู้ ื่น เสรีภาพของผอู้ ่ืน ผอู้ ื่น ไดส้ มั พนั ธ์ ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั กบั หวั ขอ้ ทีก่ าหนด หวั ขอ้ ทก่ี าหนดมี หวั ขอ้ ทีก่ าหนดอยู่ หวั ขอ้ ที่กาหนดใน ตามความเป็นจริง ความสมั พนั ธก์ บั ในระดบั ที่พอใจ ระดบั ทคี่ วร ในการปฏบิ ตั ขิ อง การปฏบิ ตั ิ ปรับปรุงการปฏิบตั ิ ตนเองและผอู้ ื่น ของตนเอง ของตนอง

บนั ทึกหลังการสอน  ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________  แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) ( นางสาววจีรวรรณ ปฏิวงศ์ ) _________/__________/________

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 1 ชั่วโมง หน่วยที่ 4 เร่ือง ความสัมพันธ์ของตนเอง ครอบครัวและชุมชน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปัจจุบนั ยดึ มนั่ ศรทั ธา และธารงรักษาไวซ้ ่ึงการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข ตวั ชี้วดั ป.2/1 อธิบายความสมั พนั ธข์ องตนเองและสมาชิกในครอบครวั ในฐานะเป็น ส่วนหน่ึงของชุมชน สาระสาคญั การปฏิบตั ติ ามกฎ ระเบยี บ การช่วยเหลือกิจกรรม และการรกั ษาสาธารณสมบตั ขิ องชุมชน เป็น หนา้ ทข่ี องสมาชิกทุกคนในชุมชนในฐานะเป็นส่วนหน่ึงของชุมชน สาระการเรียนรู้ 1. การปฏิบตั ติ ามกฎ ระเบียบของชุมชน 2. การช่วยเหลือกิจกรรมของชุมชน 3. การดูแลรกั ษาสาธารณสมบตั ขิ องชุมชน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ มีจติ สาธารณะ ตวั ช้ีวดั ที่ 8.1 ช่วยเหลือผอู้ ่ืนดว้ ยความเตม็ ใจและพงึ พอใจ โดยไม่หวงั ส่ิงตอบแทน สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน ช้ินงานท่ี 18 เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องตนเองและสมาชิกในครอบครวั กบั ชุมชน การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาบตั รคา กฎ กตกิ า ระเบยี บ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อา่ นและศกึ ษาแลว้ ครูใชค้ าถาม ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น และสรุปความรู้บนั ทกึ เป็ นแผนภาพบนกระดาน 2. ครูเล่าสถานการณ์เก่ียวกบั การปฏบิ ตั ติ นตามกฎ กตกิ า ระเบยี บของชุมชนแลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา 3. สรุปความรูเ้ ก่ียวกบั การปฏิบตั ิตนตามกฎระเบยี บและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน

4. ครูนาแถบประโยคเก่ียวกบั การปฏิบตั ิตนในการดูแลรักษาสาธารณสมบตั ิของชุมชน ใหน้ กั เรียนสารวจการปฏิบตั ขิ องตนเอง 5. ครูใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งสาธารณสมบตั ขิ องชุมชนทีน่ กั เรียนรู้จกั โดยครูบนั ทกึ เป็นแผนภาพบน กระดาน และร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การดูแลรักษา 6. สรุปความรูเ้ ก่ียวกบั การดูแลรักษาสาธารณสมบตั ิของชุมชน 7. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 19 เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องตนเองและสมาชิกในครอบครัวกบั ชุมชน 8. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียนหรือตามที่ครูกาหนด 9. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี  สมาชิกทุกคนในชุมชนมีหนา้ ที่ ปฏบิ ตั ิตามกฎ ระเบียบของชุมชน และดูแลรักษา สาธารณสมบตั ขิ องชุมชน เพอื่ ใหช้ ุมชนสงบสุข ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. สถานการณ์ 3. แถบประโยค 4. ช้ินงานที่ 18 เร่ือง ความสมั พนั ธข์ องตนเองและสมาชิกในครอบครัวกบั ชุมชน การประเมนิ ผล 1. การประเมินผลตวั ชี้วดั ชิ้นงานที่ 18 เร่ือง ความสมั พนั ธข์ องตนเองและสมาชิกในครอบครวั กบั ชุมชน เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 สารวจและเขียน สารวจและเขยี น สารวจและเขยี น สารวจและเขยี น สารวจและเขยี น เครื่องหมาย  เคร่ืองหมาย  เคร่ืองหมาย  เครื่องหมาย  เคร่ืองหมาย  ในช่องการปฏบิ ตั ิของ ในช่องการปฏิบตั ิ ในช่องการปฏบิ ตั ิ ในช่องการปฏิบตั ิ ในช่องการปฏบิ ตั ิ ตนเอง และสมาชิกใน ของตนเอง และ ของตนเอง และ ของตนเอง และ ของตนเอง และ ครอบครัวในฐานะ สมาชิกใน สมาชิกใน สมาชิกใน สมาชิกใน เป็ นส่วนหน่ึง ครอบครัวในฐานะ ครอบครวั ในฐานะ ครอบครัวในฐานะ ครอบครัวในฐานะ ของชุมชน เป็ นส่วนหน่ึงของ เป็ นส่วนหน่ึงของ เป็ นส่วนหน่ึงของ เป็ นส่วนหน่ึงของ ชุมชน ไดส้ มั พนั ธ์ ชุมชน ไดส้ มั พนั ธ์ ชุมชน ไดส้ มั พนั ธ์ ชุมชน ไดส้ มั พนั ธ์ กบั หวั ขอ้ ทีก่ าหนด กบั หวั ขอ้ ทีก่ าหนด กบั หวั ขอ้ กบั หวั ขอ้ ตามความเป็นจริง มีความสมั พนั ธ์ ท่ีกาหนดในระดบั

ในการปฏิบตั ิของ กบั การปฏบิ ตั ิของ ที่กาหนดอยใู่ น ท่ีควรปรบั ปรุง ตนเองและผอู้ ื่น ตนเอง ระดบั ทีพ่ อใจ 2. การประเมนิ ผลคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มีจิตสาธารณะ ตัวชี้วัดที่ 8.1 ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจและพงึ พอใจ โดยไม่หวงั ส่ิงตอบแทน พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม (3) 8.1.1 ช่วยพอ่ แม่ ไม่ช่วยเหลือพอ่ ช่วยพอ่ แม่ ช่วยพอ่ แม่ ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครู แม่ ผปู้ กครอง ผปู้ กครอง และครู ผปู้ กครอง และครู ผปู้ กครอง และ ทางานดว้ ยความ และครู ทางานดว้ ยความเตม็ ทางาน อาสา ครูทางาน อาสา เตม็ ใจ ใจ ทางานใหผ้ อู้ ่ืนดว้ ย ทางานและ 8.1.2 อาสาทางานให้ ความเตม็ ใจ แบ่งปันส่ิงของ ผอู้ ่ืนดว้ ยกาลงั กาย ใหผ้ อู้ ื่นดว้ ยความ กาลงั ใจ และ เตม็ ใจ กาลงั สตปิ ัญญาดว้ ย ความสมคั รใจ 8.1.3 แบง่ ปันสิ่งของ ทรั พยส์ ิน และอ่ืน ๆ และช่วยแกป้ ัญหา หรือสรา้ งความสุข ใหก้ บั ผอู้ ื่น

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 19 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยที่ 4 เร่ือง ความสัมพนั ธ์ของตนเอง ครอบครัวและชุมชน เวลา 1 ชั่วโมง เร่ือง ความสัมพนั ธ์ของตนเองและสมาชิกในครอบครัวกับชุมชน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปัจจุบนั ยดึ มนั่ ศรทั ธา และธารงรกั ษาไวซ้ ่ึงการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข ตวั ชี้วดั ป.2/1 อธิบายความสมั พนั ธข์ องตนเอง และสมาชิกในครอบครัวในฐานะเป็ นส่วนหน่ึงของชุมชน จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด 1. อธิบายความสมั พนั ธข์ องตนเอง สมาชิกในครอบครัวกบั ชุมชน และการดูแลรกั ษา สาธารณ สมบตั ขิ องชุมชน (K) 2. เขียนแผนภาพการปฏบิ ตั ติ นตามกฎระเบียบของชุมชนและจาแนกสาธารณสมบตั ขิ องชุมชน (P) 3. เห็นความสาคญั ของการปฏบิ ตั ติ นในฐานะส่วนหน่ึงของชุมชน (A) สาระสาคญั การปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบียบของชุมชนและการช่วยเหลือกิจกรรมของชุมชนเป็ นหนา้ ที่ของสมาชิก ในชุมชนพงึ ปฏิบตั ิในฐานะเป็นส่วนหน่ึงของชุมชน สาธารณสมบตั ิของชุมชนเป็นสมบตั ิส่วนกลางของสมาชิกทกุ คนในชุมชนที่ตอ้ งดูแลช่วยกนั รักษา สาระการเรียนรู้ 1. การปฏบิ ตั ิตามกฎ ระเบยี บของชุมชน 2. การช่วยเหลือกิจกรรมของชุมชน 3. การรกั ษาสาธารณสมบตั ิของชุมชน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มีจติ สาธารณะ ตวั ช้ีวดั ที่ 8.1 ช่วยเหลือผอู้ ่ืนดว้ ยความเตม็ ใจและพงึ พอใจ โดยไม่หวงั สิ่งตอบแทน สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานหรือภาระงาน

 แผนภาพ กฎ กตกิ า ระเบยี บของหมู่บา้ นหรือชุมชน  ช้ินงานที่ 19 เร่ือง ความสมั พนั ธข์ องตนเอง และสมาชิกในครอบครัวกบั ชุมชน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาบตั ร กฎ กตกิ า ระเบยี บ มาตดิ ไวบ้ นกระดาน แลว้ ให้ นกั เรียนอ่านตามจานวน 2 รอบ จากน้นั ครูอธิบายเก่ียวกบั บตั รคาท้งั 3 ใบ ใหน้ กั เรียนฟังดงั น้ี กฎ กติกา และ ระเบียบ คือขอ้ กาหนดในการปฏิบตั ิตนเพอ่ื การอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นในชุมชนอยา่ งสงบสุข กฎ กติกา และระเบียบ เป็ นส่ิงสาคญั ในการอยรู่ ่วมกนั เพราะจะทาให้คนในหมู่บา้ นหรือชุมชนปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมเป็ นไปในทาง เดียวกนั โดยไม่ทาใหผ้ อู้ ื่นเดือดรอ้ น ดงั น้นั หมู่บา้ นหรือชุมชนจึงสงบสุขเรียบร้อย 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การปฏิบตั ิตนตามกฎ กติกา ระเบยี บของ หมู่บา้ นหรือชุมชนที่ตนเองรู้จกั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  ในหมู่บา้ นหรือชุมชนของนกั เรียนมีการต้งั กฎ กตกิ า และระเบียบหรือไม่ (ม)ี  นกั เรียนรู้จกั กฎ กตกิ า และระเบยี บของหมู่บา้ นหรือชุมชนของตนเอง อะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ทิง้ ขยะลงในถังขยะ ข้ามถนนตรงทางม้าลาย ไม่ขโมยสิ่งของของผู้อนื่ )  นกั เรียนเคยปฏิบตั ติ นตามกฎ กตกิ า และระเบยี บของหมู่บา้ นหรือชุมชน หรือไม่ อยา่ งไร (เคย โดยทงิ้ ขยะลงในถงั ขยะ ข้ามถนนตรงทางม้าลาย)  นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรเม่ือไดป้ ฏิบตั ติ นตามกฎ กติกา และระเบยี บของหมู่บา้ น หรือชุมชน (ตัวอย่างคาตอบ ดใี จ ภูมใิ จ) จากน้นั ครูนาขอ้ มูลเกี่ยวกบั กฎ กตกิ า ระเบียบของหมู่บา้ นหรือชุมชนทีน่ กั เรียนรูจ้ กั มาบนั ทึกลงใน แผนภาพบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี กฎ กติกา ระเบยี บ ของหมู่บ้าน หรือชุมชน 3. ครูเล่าสถานการณ์เกี่ยวกบั การปฏิบตั ติ นตามกฎ กติกา ระเบยี บของหมู่บา้ นหรือชุมชนใหน้ กั เรียน ฟัง ดงั น้ี

สถานการณ์ที่ 1 ตอ้ มเป็นสมาชิกของชุมชนร่มร่ืน ซ่ึงมีการจดั วางถงั ขยะเพอ่ื ใหท้ ุกคน ทง้ิ ขยะ แต่ตอ้ มไม่เคยท้ิงขยะลงถงั ขยะเลย สถานการณ์ท่ี 2 ตยุ้ เป็นสมาชิกของชุมชนสุขสบาย ซ่ึงมีการจดั วางถงั ขยะเพอื่ ให้ ทกุ คนท้งิ ขยะ และตุย้ กท็ ้ิงขยะลงถงั ขยะทกุ คร้ัง แลว้ ครูใชค้ าถามเพอ่ื ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ดงั น้ี  การกระทาของตอ้ มจะทาใหช้ ุมชนเป็นอยา่ งไร (ชุมชนไม่น่าอยู่ เพราะ ทกุ พื้นที่ของชุมชนเต็มไปด้วยขยะ)  การกระทาของตยุ้ จะทาใหช้ ุมชนเป็นอยา่ งไร (ชุมชนน่าอยู่ เพราะขยะถูกกาจัดอย่าง ถูกวธิ ี)  นกั เรียนควรปฏิบตั ิตนเหมือนใคร (ต้ยุ ) จากน้นั ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ การท้งิ ขยะลงในถงั ขยะจะทาใหห้ มู่บา้ นหรือชุมชนมี ความสะอาดเรียบรอ้ ยน่าอยอู่ าศยั และเป็ นการกระทาของเดก็ ดีท่ีควรปฏบิ ตั ิ 4. ครูเล่าสถานการณ์เก่ียวกบั การขา้ มถนนใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี สถานการณ์ที่ 1 เด็กหญงิ พชั ราอาศยั อยใู่ นชุมชนสุขสนั ต์ ซ่ึงมีสะพานลอยขา้ มถนน แตเ่ ดก็ หญงิ พชั รามกั จะวงิ่ ขา้ มถนนโดยไม่เดินมาข้ึนสะพานลอยแมแ้ ตค่ ร้งั เดียว สถานการณ์ที่ 2 เด็กหญงิ แพรวาอาศยั อยใู่ นชุมชนสุขสนั ต์ ซ่ึงมีสะพานลอยขา้ มถนน แลเเดดว้ ีก็ยควหรูใญชงิ ค้ แาพถราวมาเพเดอื่ ินใขหา้ น้ มกัถเนรียนนโรด่วยมใชกส้นั ะแพสาดนงคลวอายมทคกุ ดิ คเรห้ัง็นเก่ียวกบั สถานการณ์ดงั กล่าว ดงั น้ี

 การกระทาของเด็กหญิงพชั ราอาจก่อใหเ้ กิดผลอยา่ งไร (อาจเกดิ อบุ ตั เิ หตุถูก รถชน)  การกระทาของเด็กหญิงแพรวาทาให้เกิดผลอยา่ งไร (ข้ามถนนด้วยความ ปลอดภัย)  เด็กหญงิ พชั ราควรปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร (เดินข้ามถนนด้วยการใช้สะพานลอย)  นกั เรียนควรปฏิบตั ติ นเหมือนใคร (เดก็ หญิงแพรวา) จากน้นั ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ การขา้ มถนนควรขา้ มถนนตรงทางมา้ ลาย หรือใช้ สะพานลอย แต่ถา้ ในชุมชนของนกั เรียนไม่มีท้งั ทางมา้ ลายหรือสะพานลอยควรมองซา้ ยมองขวาใหแ้ น่ใจวา่ ปลอดภยั แลว้ จึงขา้ ม ไม่เช่นน้นั อาจทาใหไ้ ดร้ บั อุบตั ิเหตุได้ 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเพอ่ื สรุปเก่ียวกบั กฎ กตกิ า ระเบียบของ หมู่บา้ นหรือชุมชน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี  การปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา ระเบยี บของหมู่บา้ นและชุมชนจะเกิดผลดีต่อตนเองอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ มคี วามปลอดภยั ในการดาเนินชีวติ มคี วามสุข)  การปฏิบตั ิตามกฎ กตกิ า ระเบียบของหมู่บา้ นจะเกิดผลดีตอ่ ผอู้ ่ืนอยา่ งไร (ทาให้ผ้อู ื่นไม่ได้รับความเดือดร้อนอนั อาจจะเกิดจากตนเองและดาเนินชีวติ อย่างมีความสุข) 6. ครูนาแถบประโยคและตารางบนั ทกึ ผลตอ่ ไปน้ีมาตดิ ไวบ้ นกระดาน ท้งิ ขยะลงในถงั ขยะ การปฏิบัติตนในหมู่บ้านหรือชุมชน จานวนผู้ปฏิบัติ (คน) ปฏบิ ตั ติ ามกฎจราจร ปฏบิ ัติ ไม่ปฏบิ ัติ ไม่ทารา้ ยร่างกายผอู้ ่ืน 1. ทิง้ ขยะลงในถงั ขยะ ไม่ส่งเสียงดงั รบกวนผอู้ ่ืน 2. ปฏิบตั ติ ามกฎจราจร ไม่ขายหรือเสพสารเสพตดิ 3. ไม่ทาร้ายร่างกายผอู้ ่ืน 4. ไม่ส่งเสียงดงั รบกวนผอู้ ื่น 5. ไม่ขายหรือเสพสารเสพติด แลว้ ครูนานกั เรียนอ่านขอ้ ความในแถบประโยคจานวน 2 รอบ และใชค้ าถามเพอ่ื ใหน้ กั เรียนสารวจ ตนเองวา่ ปฏิบตั ิตามขอ้ ความในแถบประโยคหรือไม่ ถา้ ปฏบิ ตั ิตามใหย้ กมือข้นึ ถา้ ไม่ปฏิบตั ิตามใหน้ ง่ั น่ิง ๆ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั นบั ผทู้ ป่ี ฏิบตั ติ ามกฎ กตกิ า ระเบยี บของหมู่บา้ นหรือชุมชน  นกั เรียนทิ้งขยะลงในถงั ขยะหรือไม่ (ทงิ้ /ไม่ทงิ้ )  นกั เรียนปฏิบตั ติ ามกฎจราจรหรือไม่ (ปฏิบตั ิ/ไม่ปฏิบตั )ิ  นกั เรียนไม่ทารา้ ยร่างกายผอู้ ่ืนใช่หรือไม่ (ใช่/ไม่ใช่)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook