การประเมนิ ชิ้นงานท่ี 23 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การใชจ้ า่ ยท่ีเหมาะสมกบั รายได้ และการออมเงิน เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 เขียนอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ เขยี นอธิบายหรือ เขยี นอธิบายหรือ เขียนอธิบายหรือ สรุปการใชจ้ า่ ยเงนิ ท่ี เหมาะสมกบั รายได้ สรุปการใชจ้ ่ายเงนิ สรุปการใชจ้ ่ายเงนิ สรุปการใชจ้ ่ายเงิน สรุปการใชจ้ า่ ยเงิน และการออม ที่เหมาะสมกบั ท่เี หมาะสมกบั ทเี่ หมาะสมกบั ท่ีเหมาะสมกบั รายไดแ้ ละการออม รายไดแ้ ละการออม รายไดแ้ ละการออม รายไดแ้ ละการออม ไดส้ มั พนั ธก์ นั ได้ มีการจาแนก ไดส้ อดคลอ้ งกบั ได้ แตย่ งั ไม่ มีการเช่ือมโยงให้ ขอ้ มูลแสดง ขอ้ มูล เขยี นอธิบาย สอดคลอ้ งกบั เห็นเป็นภาพรวม ใหเ้ ห็นถึงความ ยกตวั อยา่ งเพม่ิ เติม ขอ้ มูล และไม่มี แสดงให้เห็นถึง สมั พนั ธก์ บั ตนเอง ใหเ้ ขา้ ใจง่าย การอธิบายเพมิ่ เตมิ ความสมั พนั ธก์ บั อยา่ งเป็ นเหตเุ ป็ นผล ตนเองและผอู้ ื่น
บันทึกหลงั การสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทกึ ) ( นางสาวจรี วรรณ ปฏิวงศ์ ) _________/__________/________
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 3 ชั่วโมง เร่ือง การซื้อขายแลกเปลยี่ นสินค้าและบริการ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจและความจาเป็ นของ การร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก ตัวชี้วัด ป.2/1 อธิบายการแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการโดยวธิ ีตา่ ง ๆ ป.2/2 บอกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย สาระสาคญั การแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการเป็ นความสัมพนั ธ์ระหว่างผูซ้ ้ือและผูข้ าย ในการกาหนดราคา สินคา้ และบริการ สาระการเรียนรู้ 1. การแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ 2. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ช้ินงานท่ี 24 เร่ือง การแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ 2. ชิ้นงานท่ี 25 เรื่อง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพสินคา้ และบริการอย่างละ 1 ตวั อย่าง มาให้นักเรียนดูแลว้ ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดง ความคดิ เห็น 2. ครูนาบตั รคาเก่ียวกบั สินคา้ และบริการติดบนกระดานให้นกั เรียนร่วมกนั จาแนก เสร็จแลว้ เขยี นแผนภาพอธิบายความหมายของสินคา้ และบริการ และร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นความสาคญั ของสินคา้ และบริการ 3. สรุปความรูเ้ กี่ยวกบั สินคา้ และบริการ 4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั การซ้ือขายแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ 5. ให้นักเรียนร่วมกนั ศึกษาลักษณะของการแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ โดยครูอธิบายสรุป เพม่ิ เตมิ หลงั จากใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น 6. ครูและนกั เรียนสรุปความสาคญั ของการแลกเปลี่ยนสินคา้ และบริการ 7. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 24 เรื่อง การแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ 8. ครูนาบตั รคาและแถบประโยคใหน้ ักเรียนร่วมกนั จาแนกความหมายของผซู้ ้ือและผูข้ าย และ ร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น 9. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย และร่วมกนั จาแนกแถบประโยคที่ ครูกาหนดให้ 10. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรูเ้ กี่ยวกบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย 11. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 25 เรื่อง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือกบั ผขู้ าย 12. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมทา้ ยบทเรียนหรือตามทีค่ รูกาหนด 13. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การกาหนดราคาสินคา้ และบริการเป็ นไปตามเง่อื นไขความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. แถบประโยค 3. ชิ้นงานที่ 24 เรื่อง การแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ 4. ชิ้นงานท่ี 25 เรื่อง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือกบั ผขู้ าย
การประเมินผล 1. การประเมนิ ผลตวั ชี้วดั 1.1 ชิ้นงานท่ี 24 เร่ือง การแลกเปลย่ี นสินค้าและบริการ เกณฑ์การ ระดบั คะแนน ประเมนิ 4 3 2 1 สารวจและ สารวจและเขยี น สารวจและเขยี น สารวจและเขยี น สารวจและเขยี น เขยี นอธิบาย อธิบายหรือสรุป อธิบายหรือสรุป อธิบายหรือสรุปการ อธิบายหรือสรุปการ หรือสรุปการ การแลกเปลี่ยน การแลกเปลี่ยน แลกเปลี่ยนสินคา้ และ แลกเปลี่ยนสินคา้ และ แลกเปลี่ยน สินคา้ และบริการ สินคา้ และบริการ บริการใน บริการใน สินคา้ ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ชีวติ ประจาวนั ของ ชีวติ ประจาวนั ของ และบริการใน ของตนเองได้ ของตนเองได้ มี ตนเองไดส้ อดคลอ้ ง ตนเองไดแ้ ตย่ งั ไม่ ชีวติ ประจาวนั สมั พนั ธก์ นั การจาแนกขอ้ มลู กบั ขอ้ มลู มีการ สอดคลอ้ งกบั ขอ้ มูล ของตนเอง เช่ือมโยงใหเ้ ห็น แสดงใหเ้ ห็นถึง ยกตวั อยา่ งอธิบายให้ และไมม่ ีการอธิบาย เป็นภาพรวมแสดง ความสมั พนั ธก์ บั เขา้ ใจง่าย เพม่ิ เตมิ ใหเ้ ห็นถึง ตนเอง อยา่ ง ความสมั พนั ธก์ บั เป็นเหตุเป็นผล ตนเองและผอู้ ่ืน 1.2 ชิ้นงานที่ 25 เร่ือง ความสัมพนั ธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เกณฑ์การ ระดับคะแนน ประเมิน 4 32 1 วาดภาพหรือ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ แสดงความ สมั พนั ธ์ หาภาพแสดง แสดงความ แสดงความ สมั พนั ธ์ แสดงความ สมั พนั ธ์ ระหวา่ ง ผซู้ ้ือและผขู้ าย ความสมั พนั ธ์ สมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ระหวา่ ง ระหวา่ ง ที่พบเห็นใน ชีวติ ประจาวนั ได้ ระหวา่ งผซู้ ้ือ ผซู้ ้ือและผขู้ าย ผซู้ ้ือและผขู้ าย ผซู้ ้ือและผขู้ าย สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ กาหนดตามทค่ี รู และผขู้ ายท่ี ที่พบเห็นใน ทพ่ี บเห็นใน ท่ีพบเห็นใน ยกตวั อยา่ งเทา่ น้นั พบเห็นใน ชีวติ ประจาวนั ได้ ชีวติ ประจาวนั ได้ ชีวติ ประจาวนั ได้ ชีวติ ประจาวั สมั พนั ธ์ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ น กบั หวั ขอ้ ท่กี าหนดและ กาหนดและแตกต่าง ท่กี าหนดตามที่ แตกต่างจากท่ี จากทีค่ รูยกตวั อยา่ ง ครูยกตวั อยา่ งแต่
ครูยกตวั อยา่ ง มีการ แตเ่ ช่ือมโยงใหเ้ ห็น มีการดดั แปลงให้ เชื่อมโยงใหเ้ ห็น ถึงความสมั พนั ธก์ บั เฉพาะตนเอง แตกตา่ ง ตนเองและผอู้ ื่น 2. การประเมนิ ผลคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตัวชี้วดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม (3) 4.1.1 ต้งั ใจเรียน ไม่ต้งั ใจเรียน ต้งั ใจ เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ 4.1.2 เอาใจใส่และมีความ ในการเรียน และมีความเพยี ร- และมีความเพยี ร- เพยี รพยายาม พยายามในการเรียน พยายามในการ ในการเรียนรู้ เรียนรู้ เขา้ ร่วม 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วมกิจกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ การเรียนรู้ต่าง ๆ ต่าง ๆ
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 27 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 3 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 3 เร่ือง การซื้อขายแลกเปลีย่ นสินค้าและบริการ เวลา 1 ชั่วโมง เร่ือง ความหมายและความสาคญั ของสินค้าและบริการ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจและความจาเป็นของ การร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก ตวั ชี้วัด ส 3.2 ป.2/1 อธิบายการแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการโดยวธิ ีต่าง ๆ จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วัด 1. อธิบายความหมายของสินคา้ และบริการ (K) 2. จาแนกประเภทของสินคา้ และบริการ (P) 3. เห็นความสาคญั ของการใชส้ ินคา้ และบริการในชีวติ ประจาวนั (A) สาระสาคญั สินคา้ เป็นส่ิงของทผี่ ลิตข้ึนมามีราคานามาซ้ือขายแลกเปลี่ยนกนั ได้ บริการ คอื การผลิตท่ีให้ ประโยชนใ์ นดา้ นการอานวยความสะดวก ไม่ปรากฏเป็ นส่ิงของ สาระการเรียนรู้ 1. สินคา้ 2. บริการ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน แผนภาพสินคา้ และบริการ
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพสินคา้ และบริการอยา่ งละ 1 ตวั อยา่ งมาใหน้ กั เรียนดู จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นโดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี สินคา้ ทน่ี กั เรียนซ้ือมาดว้ ยเงินทีอ่ ยกู่ บั นกั เรียนมีอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ เสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้า กระเป๋ านักเรียน สมุด หนังสือ ดนิ สอ) นกั เรียนเขา้ ใจคาวา่ สินคา้ อยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ สินค้าเป็ นสิ่งของทไ่ี ด้มา ด้วยการซื้อด้วยเงิน) ครูอธิบายสรุปวา่ “สินค้า คือ สิ่งท่ผี ลติ ขนึ้ มรี าคา นามาซื้อขายแลกเปลยี่ นกนั ได้ ท้งั สิ่งของเครื่องใช้ และอาหาร” ในชีวติ ประจาวนั นกั เรียนเคยใชบ้ ริการอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ใช้บริการ รถโดยสารประจาทางและร้านตดั ผม) นกั เรียนเขา้ ใจคาวา่ “บริการ” วา่ อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เป็ นสิ่งทอี่ านวยให้ เกดิ ความสะดวกในด้านต่าง ๆ เช่น รถโดยสาร ร้านตดั ผม) ครูอธิบายสรุปวา่ “บริการ คือ การผลติ ทีอ่ านวยความสะดวกความพึงพอใจ โดยเกบ็ เงินจาก ผู้ใช้บริการ แต่ไม่มีส่ิงของให้ตอบแทน โดยเป็ นการอานวยความสะดวกความสบายเป็ นส่ิง ตอบแทน เช่น ร้านเสริมสวย รถโดยสารประจาทาง โทรศัพท์สาธารณะ ” 2. ครูนาบตั รคาเกี่ยวกบั สินคา้ และบริการติดบนกระดานใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนกประเภท ดงั น้ี ตวั อย่างบัตรคา หนงั สือ สระวา่ ยน้า กระเป๋ า โรงภาพยนตร์ ไอศกรีม รา้ นอินเทอร์เน็ต เมื่อนกั เรียนจาแนกบตั รคาเสร็จ ครูสรุปเป็ นแผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี สินคา้ ส่ิงของทไี่ ดม้ าโดยการแลกเปล่ียนดว้ ยเงินหรือแลกระหวา่ งส่ิงของ บริการ ความสะดวกสบาย โดยการใชเ้ งินแลกเปล่ียนแต่ไม่มีสิ่งของเป็ นรูปร่างตอบแทน
3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาความสาคญั ของสินคา้ และบริการ โดยครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบเพอ่ื แสดงความคิดเห็น ดงั น้ี สินคา้ มีความสาคญั ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เป็ นสิ่งจาเป็ น ในการใช้เพ่ือดาเนินชีวติ ประจาวนั ) สินคา้ ประเภทใดทีส่ าคญั ทีส่ ุดในชีวติ ประจาวนั (อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ทอี่ ยู่ อาศัย และยารักษาโรค) บริการมีความสาคญั อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เป็ นสิ่งที่อานวยให้เกดิ ความ สะดวกสบายในการดาเนินชีวติ ประจาวัน) นกั เรียนจะใชบ้ ริการอยา่ งไรให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง (ตวั อย่างคาตอบ ใช้ที่ มคี วามจาเป็ นต่อการดาเนินชีวิตประจาวนั เท่าน้นั ) 4. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี สินคา้ เป็นส่ิงของทผ่ี ลิตข้ึนมามีราคานามาซ้ือขายแลกเปล่ียนกนั ได้ บริการ คอื การผลิต ทใี่ หป้ ระโยชน์ในดา้ นการอานวยความสะดวกในดา้ นต่าง ๆ โดยไม่ปรากฏเป็ นส่ิงของตอบแทน 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี สินคา้ และบริการประเภทใดทจี่ าเป็นต่อการดาเนินชีวติ ประจาวนั ของนกั เรียน สื่อการเรียนรู้ บตั รคาสินคา้ และบริการ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เคร่ืองมือ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ - การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 28 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 3 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 3 เรื่อง การซื้อขายแลกเปลย่ี นสินค้าและบริการ เวลา 1 ชั่วโมง เร่ือง การแลกเปลย่ี นสินค้าและบริการ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจและความจาเป็ นของ การร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก ตวั ชี้วดั ป.2/1 อธิบายการแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการโดยวธิ ีต่าง ๆ จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายความหมายและความสาคญั ของการแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ (K) 2. จาแนกความหมายและความสาคญั ของการแลกเปลี่ยนสินคา้ และบริการ (P) 3. เห็นความสาคญั และความจาเป็นในการแลกเปลยี่ นสินคา้ และบริการในชีวติ ประจาวนั (A) สาระสาคญั การซ้ือขายแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการในชีวติ ประจาวนั เป็ นกิจกรรมการดาเนินชีวติ ประจาวนั ของ ผคู้ นในสงั คม สาระการเรียนรู้ 1. ความหมาย ความสาคญั ของการแลกเปลี่ยนสินคา้ และบริการ 2. ลกั ษณะของการแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน แผนภาพสินคา้ บริการ ชิ้นงานที่ 24 เรื่อง การแลกเปลี่ยนสินคา้ และบริการ
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การซ้ือขายแลกเปล่ียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนเคยซ้ือสินคา้ อะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ สบู่) ทาไมตอ้ งซ้ือสินคา้ น้นั (ตัวอย่างคาตอบ ต้องใช้อาบนา้ ) มีอะไรบา้ งท่ีเราไม่ตอ้ งซ้ือ เพราะอะไร (ตวั อย่างคาตอบ ผกั ตาลึงริมร้ัว) 2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การซ้ือขายแลกเปลี่ยน โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี พอ่ คา้ แม่คา้ นาส่ิงใดมาขายบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ สิ่งของ เครื่องใช้ อาหาร) เมื่อพอ่ คา้ แมค่ า้ ขายของไปจะไดส้ ่ิงใดแลกเปลี่ยน (เงิน) ถา้ ไมม่ ีพอ่ คา้ แม่คา้ จะเป็นอยา่ งไร (ไม่มสี ิ่งของเครื่องใช้เพ่ือใช้ใน ชีวติ ประจาวัน) ถา้ ไมม่ ีคนซ้ือจะเป็นอยา่ งไร (ขายของไม่ได้ พ่อค้าแม่ค้าไม่มเี งนิ นาไปใช้ทา อย่างอ่นื ) 3. ครูสนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกบั อาชีพของผปู้ กครองวา่ มีนกั เรียนคนใดบา้ งท่ีผปู้ กครองมีอาชีพ คา้ ขาย และใหค้ รูเลือกนกั เรียนที่ผปู้ กครองมีอาชีพคา้ ขายมาแลกเปลี่ยนเพอ่ื แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้ คาถาม ดงั น้ี ผปู้ กครองของนกั เรียนคา้ ขายอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ ผลไม้ ผัก เนื้อสัตว์) เมื่อไดเ้ งนิ จากการคา้ ขายสินคา้ น้นั แลว้ ตอ้ งนาเงินไปซ้ือส่ิงใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เสื้อผ้า ยา และค่าใช้จ่ายอ่ืน ๆ ในครอบครัว) มีส่ิงใดบา้ งทีไ่ ม่ตอ้ งซ้ือ (ตัวอย่างคาตอบ ข้าว พืชผักสวนครัวทป่ี ลูกเอง) 4. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปคาจากดั ความของความหมายและความสาคญั ของ การ แลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การแลกเปลี่ยนสินคา้ และบริการนกั เรียนเขา้ ใจความหมายวา่ อยา่ งไร การแลกเปลี่ยนสินคา้ และบริการมีความสาคญั อยา่ งไร จบการแสดงความคิดเห็นและตอบคาถามของนกั เรียนครูอธิบายสรุปเป็ นแผนภาพ ดงั น้ี ความหมาย การนาสินคา้ และบริการมาแลกเปลี่ยนกนั โดยอาจเป็ นสินคา้ กบั สินคา้ หรือมีสื่อกลางเช่น เงิน เป็ นตน้ สินค้า บริการ ความสาคญั ทาใหเ้ ราสามารถไดส้ ินคา้ และบริการตามที่ ตนเองตอ้ งการโดยไม่ตอ้ งเป็นผผู้ ลิตเอง และเกิดความ หลากหลายของสินคา้ และบริการ
5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษาลกั ษณะของการแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ โดยครูอธิบายใหน้ กั เรียน ฟังวา่ การแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการมีลกั ษณะท่ีสาคญั 2 ประการ คือ การแลกเปลี่ยนสินคา้ และบริการ โดยไม่ใชเ้ งินเป็นการตกลงระหวา่ ง 2 ฝ่าย ในการแลกเปล่ียนสินคา้ ระหวา่ งกนั ซ่ึงในปัจจบุ นั ไม่เป็ นที่นิยมกนั การแลกเปลี่ยนสินคา้ และบริการโดยการใชเ้ งิน เป็นส่ือกลางในการ แลกเปล่ียนซ่ึงเป็นระบบการคา้ ในปัจจุบนั ที่นิยมใชก้ นั 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปความสาคญั ของการแลกเปลี่ยนสินคา้ และบริการเป็ นแผนภาพ ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ เกิดการหมุนเวยี นของสินคา้ และบริการในตลาด สามารถเลือกสินคา้ และ ความสาคญั ของ เกิดการจา้ งงาน บริการไดต้ ามทตี่ อ้ งการ การแลกเปลยี่ น สินค้าและบริการ มีสินคา้ และบริการอานวย การเงินหมุนเวยี น ความสะดวก ในระบบเศรษฐกิจ ทาใหม้ ีสินคา้ และบริการ ท่ีหลากหลาย 7. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การซ้ือขายแลกเปลี่ยนสินคา้ และบริการในชีวติ ประจาวนั เป็ นกิจกรรมการดาเนิน ชีวติ ประจาวนั ของผคู้ นในสงั คม 8. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี
ระหวา่ งการแลกเปลี่ยนสินคา้ ท่ใี ชส้ ินคา้ กบั สินคา้ แลกกนั และระหวา่ งการใชเ้ งินและสินคา้ นกั เรียนชอบวธิ ีการใด เพราะเหตใุ ด 9. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 25 เร่ือง การแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ สื่อการเรียนรู้ ช้ินงานที่ 24 เร่ือง การแลกเปลี่ยนสินคา้ และบริการ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจชิ้นงานท่ี 24 2. เคร่ืองมือ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ - การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานท่ี 24 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 สารวจและเขยี น สารวจและเขยี น สารวจและเขียน สารวจและเขยี น สารวจและเขยี น อธิบายหรือสรุปการ อธิบายหรือสรุปการ อธิบายหรือสรุปการ อธิบายหรือสรุปการ อธิบายหรือสรุปการ แลกเปล่ียนสินคา้ แลกเปล่ียนสินคา้ แลกเปล่ียนสินคา้ แลกเปลี่ยนสินคา้ แลกเปล่ียนสินคา้ และบริการใน และบริการใน และบริการใน และบริการใน และบริการใน ชีวติ ประจาวนั ของ ชีวติ ประจาวนั ของ ชีวติ ประจาวนั ของ ชีวติ ประจาวนั ของ ชีวติ ประจาวนั ของ ตนเอง ตนเองไดส้ มั พนั ธก์ นั ตนเองได้ มีการ ตนเองไดส้ อดคลอ้ ง ตนเองไดแ้ ตย่ งั ไม่ เชื่อมโยงใหเ้ ห็นเป็น จาแนกขอ้ มูลแสดง กบั ขอ้ มูลมีการ สอดคลอ้ งกบั ขอ้ มูล ภาพรวมแสดงให้ ใหเ้ ห็นถึง ยกตวั อยา่ งอธิบายให้ และไมม่ ีการอธิบาย เห็นถึงความสมั พนั ธ์ ความสมั พนั ธก์ บั เขา้ ใจงา่ ย เพม่ิ เติม กบั ตนเองและผอู้ ื่น ตนเอง อยา่ ง เป็ นเหตุเป็ นผล
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 29 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 3 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 3 เรื่อง การซื้อขายแลกเปลย่ี นสินค้าและบริการ เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจและความจาเป็ นของ การร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก ตวั ชี้วดั ป.2/2 บอกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายความหมายและบทบาทของผซู้ ้ือและผขู้ าย (K) 2. รู้และเขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย (P) 3. สนใจศกึ ษาเรียนรูร้ ะบบกลไกของการตลาดในฐานะผบู้ ริโภคสินคา้ และบริการ (A) สาระสาคญั การแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการเป็ นความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือหรือผบู้ ริโภคกบั ผขู้ ายหรือผผู้ ลิต สาระการเรียนรู้ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ชิ้นงานหรือภาระงาน ชิ้นงานที่ 25 เรื่อง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาบตั รคาและแถบประโยคใหน้ กั เรียนร่วมกนั จาแนก โดยครูติดบตั รคา ผูซ้ ้ือ และ ผขู้ าย ติดบนกระดานซา้ ยขวาและใหน้ กั เรียนนาแถบประโยคไปติดใหต้ รงกบั ความหมายของบตั รคา นารีนาผกั สวนครัวไปจาหน่าย สุรียไ์ ปอุดฟันที่คลินิก พชั ฌารับตดั เยบ็ เส้ือผา้ อานนทซ์ ้ือก๋วยเตย๋ี ว นิภาเล้ียงไก่ไข่เพอ่ื จาหน่าย อดุลยซ์ ้ือปากกา จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ผซู้ ้ือหรือผบู้ ริโภค หมายถึง (ผู้ซื้อสินค้าและบริการจากผู้ขาย) ผขู้ ายหรือผผู้ ลิต หมายถึง (ผู้ทีข่ ายสินค้าและบริการให้แก่ผู้ซื้อ) 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย โดยครูกาหนดขอ้ ความเป็ นแถบ ประโยค 2 ประโยค ใหน้ กั เรียนจาแนกวา่ เป็ นบทบาทของใคร ระหวา่ งผซู้ ้ือกบั ผขู้ าย จดั หาสินคา้ และกาหนดราคา เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการแก่ผบู้ ริโภค ผซู้ ้ือ เลือกหาสินคา้ ที่มีราคาและคุณภาพทีเ่ หมาะสมทต่ี นเองตอ้ งการใช้ ผขู้ าย จากน้นั ครูอธิบายสรุปวา่ ผู้ซื้อ หาซ้ือสินคา้ ท่ตี นเองตอ้ งการ โดยมีราคาและคุณภาพเป็ นตวั กาหนดใน การตดั สินใจซ้ือ ผู้ขาย มีหนา้ ท่จี ดั หาสินคา้ และกาหนดราคาใหเ้ หมาะสมกบั ความ ตอ้ งการของผซู้ ้ือ 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปผลดีของความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ ายในระบบการตลาด โดยครู บนั ทกึ เป็นแผนภาพบนกระดาน ดงั น้ี
ตัวอย่างแผนภาพ จดั หาสินคา้ อานวยความสะดวก ไดบ้ ริโภคสินคา้ ตามท่ตี อ้ งการ แก่ผซู้ ้ือ ไดร้ ับความสะดวกจากผขู้ าย เกิดการหมุนเวยี นทางการเงิน ผซู้ ้ือ ความสัมพนั ธ์ ผขู้ าย ไดร้ ับสินคา้ จากผขู้ าย มีรายไดจ้ ากผมู้ าซ้ือสินคา้ เกิดความสะดวกและความพงึ พอใจ ของท้งั 2 ฝ่าย 4. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ ายเป็นความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี ถา้ นกั เรียนเป็นผซู้ ้ือสินคา้ นกั เรียนจะปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไร ถา้ นกั เรียนเป็นผจู้ าหน่ายสินคา้ นกั เรียนจะปฏิบตั ติ นอยา่ งไร 6. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานที่ 26 เรื่อง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. แถบประโยค 3. ช้ินงานท่ี 25 เรื่อง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผซู้ ้ือและผขู้ าย การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจชิ้นงานที่ 25 2. เคร่ืองมือ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน - การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมนิ ชิ้นงานท่ี 25 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผูซ้ ้ือและผขู้ าย เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหา วาดภาพหรือหา วาดภาพหรือหา วาดภาพหรือหา แสดงความสมั พนั ธ์ ภาพแสดงความ ภาพแสดงความ ภาพแสดงความ ภาพแสดงความ ระหวา่ งผซู้ ้ือและ สมั พนั ธร์ ะหวา่ ง สมั พนั ธร์ ะหวา่ ง สมั พนั ธร์ ะหวา่ ง สมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ผขู้ ายทพ่ี บเห็นใน ผซู้ ้ือและผขู้ าย ผซู้ ้ือและผขู้ าย ผซู้ ้ือและผขู้ าย ผซู้ ้ือและผขู้ าย ชีวติ ประจาวนั ทีพ่ บเห็นใน ที่พบเห็นใน ท่ีพบเห็นใน ที่พบเห็นใน ชีวติ ประจาวนั ได้ ชีวติ ประจาวนั ได้ ชีวติ ประจาวนั ได้ ชีวติ ประจาวนั ได้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ทก่ี าหนดและ ที่กาหนดและ ทก่ี าหนดตามท่ี ทก่ี าหนดตามท่ีครู แตกต่างจากที่ครู แตกตา่ งจากทค่ี รู ครูยกตวั อยา่ งแต่ ยกตวั อยา่ ง ยกตวั อยา่ ง มีการ ยกตวั อยา่ งแต่ มีการดดั แปลงให้ เช่ือมโยงใหเ้ ห็นถึง เช่ือมโยงใหเ้ ห็น แตกต่าง ความสมั พนั ธก์ บั เฉพาะตนเอง ตนเองและผอู้ ่ืน
บันทึกหลงั การสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงชื่อ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) ( นางสาวจีรวรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 1 ชั่วโมง หน่วยที่ 1 เร่ือง ส่ิงต่าง ๆ ระหว่างโรงเรียนกับบ้าน มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพสิ่งซ่ึงมีผลตอ่ กนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่แี ละเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภมู ิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ป.2/1 ระบุสิ่งต่าง ๆ ท่เี ป็นธรรมชาตกิ บั ท่มี นุษยส์ รา้ งข้ึน ซ่ึงปรากฏระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น สาระสาคญั สิ่งต่าง ๆ ทอี่ ยรู่ อบตวั เรา หรือสิ่งทเ่ี ราสามารถพบเห็นไดใ้ นแต่ละวนั ลว้ นแตเ่ ป็ นธรรมชาติ มนุษย์ และสิ่งทมี่ นุษยส์ รา้ งข้นึ และส่ิงตา่ ง ๆ ลว้ นมีความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกนั ไม่มีส่ิงใดอยอู่ ยา่ งโดดเด่ียวแยกตวั ออกมาได้ สาระการเรียนรู้ 1. สิ่งที่เกิดข้ึนเองในธรรมชาติ 2. สิ่งทม่ี นุษยส์ รา้ งข้นึ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ ชิ้นงานหรือภาระงาน ช้ินงานท่ี 26 เรื่อง สิ่งตา่ ง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งสิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น แลว้ จดบนั ทึกไว้
บนกระดาน 2. ใหน้ กั เรียนจาแนกระหวา่ งส่ิงทีเ่ กิดข้นึ เองตามธรรมชาตกิ บั ส่ิงที่มนุษยส์ ร้างข้นึ จาก บตั รคาทค่ี รูยกตวั อยา่ ง 3. ครูใหน้ กั เรียนนาส่ิงต่าง ๆ ที่ยกตวั อยา่ งคาถามไวบ้ นกระดานมาจาแนกระหวา่ งสิ่งทเี่ กิดข้นึ เอง ตามธรรมชาติกบั ส่ิงที่มนุษยส์ ร้างข้ึนลงในตาราง 4. สรุปความรู้เกี่ยวกบั ส่ิงตา่ ง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น 5. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 26 เร่ือง สิ่งต่าง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น 6. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียนหรือตามท่ีครูกาหนด 7. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี สิ่งต่าง ๆ รอบตวั มีท้งั ส่ิงท่ีเกิดข้นึ เองในธรรมชาตแิ ละส่ิงทมี่ นุษยส์ รา้ งข้ึน ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. ช้ินงานท่ี 26 เรื่อง สิ่งต่าง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น การประเมนิ ผล 1. การประเมินผลตัวชี้วดั ชิ้นงานที่ 26 เร่ือง สิ่งตา่ ง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 วาดภาพหรือหา วาดภาพหรือหาภาพส่ิง วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ ภาพสิ่งตา่ ง ๆ ต่าง ๆ ระหวา่ ง ส่ิงตา่ ง ๆ ระหวา่ ง สิ่งตา่ ง ๆ ระหวา่ ง ส่ิงต่าง ๆ ระหวา่ ง ระหวา่ งโรงเรียน โรงเรียนกบั บา้ นได้ โรงเรียนกบั บา้ นได้ โรงเรียนกบั บา้ นได้ โรงเรียนกบั บา้ นได้ กบั บา้ น สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ กาหนดและแตกตา่ ง กาหนดและแตกต่าง กาหนดแตม่ ีการ กาหนดตามที่ครู จากทีค่ รยกตวั อยา่ งมี จากที่ครูยกตวั อยา่ ง ดดั แปลงใหแ้ ตกต่าง ยกตวั อยา่ งเท่าน้นั การเชื่อมโยงใหเ้ ห็นถึง แต่เชื่อมโยงสมั พนั ธ์ จากทคี่ รูยกตวั อยา่ ง ความสมั พนั ธก์ บั เฉพาะตนเอง ตนเองและผอู้ ่ืน
2. การประเมนิ ผลคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตัวชี้วัดท่ี 4.1 ต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยีย่ ม (3) 4.1.1 ต้งั ใจเรียน ไม่ต้งั ใจเรียน ต้งั ใจ เอาใจใส่ใน ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ 4.1.2 เอาใจใส่และมี การเรียน และมีความเพยี ร- และมีความเพยี ร- ความเพยี รพยายาม พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ ในการเรียน ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม เขา้ ร่วมกิจกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ การเรียนรู้ต่าง ๆ ต่าง ๆ
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 30 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 1 ชั่วโมง หน่วยที่ 1 เร่ือง ส่ิงต่าง ๆ ระหว่างโรงเรียนกับบ้าน เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง ส่ิงต่าง ๆ รอบตวั เรา มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อกนั ในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนทแี่ ละเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิสารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ส 5.1 ป.2/1 ระบุส่ิงต่าง ๆ ท่ีเป็นธรรมชาตกิ บั ที่มนุษยส์ ร้างข้นึ ซ่ึงปรากฏระหวา่ งโรงเรียน กบั บา้ น จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วัด 1. อธิบายสิ่งต่าง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น (K) 2. จาแนกส่ิงทเ่ี กิดข้ึนเองในธรรมชาติและสิ่งที่มนุษยส์ ร้างข้ึน (P) 3. มีความสนใจศึกษาสงั เกตสิ่งต่าง ๆ รอบตวั เพอื่ พฒั นาการเรียนรู้ในชีวติ ประจาวนั (A) สาระสาคญั สิ่งต่าง ๆ รอบตวั เป็นสิ่งท่ีเกิดข้นึ เองในธรรมชาติและเป็ นส่ิงทมี่ นุษยส์ รา้ งข้นึ สาระการเรียนรู้ 1. สิ่งที่เกิดข้นึ เองในธรรมชาติ 2. สิ่งที่มนุษยส์ รา้ งข้นึ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิ้นงานและภาระงาน ช้ินงานที่ 26 เรื่อง ส่ิงต่าง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งสิ่งตา่ ง ๆ ที่มีอยรู่ ะหวา่ งบา้ นกบั โรงเรียนวา่ มีอะไรบา้ ง ให้ ยกตวั อยา่ งมาคนละ 1 ตวั อยา่ ง แลว้ ครูจดบนั ทกึ ลงบนกระดาน 2. ครูนาบตั รคาช่ือส่ิงแวดลอ้ ม 2 บตั รคา ดงั น้ี ทอ้ งฟ้า สนามฟตุ บอล จากน้นั ครูใชค้ าถามเปรียบเทียบความแตกต่าง ดงั น้ี ทอ้ งฟ้าเป็นสิ่งทีม่ นุษยส์ รา้ งข้นึ หรือเกิดข้นึ เองตามธรรมชาติ (เกิดขนึ้ เองตาม ธรรมชาติ) บา้ นเป็นสิ่งทมี่ นุษยส์ รา้ งข้ึนหรือเกิดข้นึ เองตามธรรมชาติ (มนุษย์สร้างขนึ้ ) 3. ครูสรุปวา่ ส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั เราสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ ส่ิงแวดลอ้ มทเ่ี กิดข้นึ เองใน ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มท่มี นุษยส์ รา้ งข้ึน 4. ครูทาตารางแบ่งส่ิงแวดลอ้ มเป็น 2 ประเภท บนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนนาช่ือสิ่งแวดลอ้ มใน ขอ้ 1 มาแบง่ ประเภท แลว้ ใหค้ รูตรวจสอบความถูกตอ้ ง สิ่งต่าง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น สิ่งแวดล้อมทเ่ี กิดขนึ้ เองในธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมทมี่ นุษย์สร้างขึน้ 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั สิ่งแวดลอ้ มในโรงเรียนและรอบ ๆ โรงเรียน โดยครูใช้ คาถามกระตนุ้ ความคิด ดงั น้ี นกั เรียนคดิ วา่ ในโรงเรียนและรอบ ๆ โรงเรียนควรมีสิ่งแวดลอ้ มใดเพม่ิ ข้นึ (ตัวอย่าง คาตอบ ต้นไม้ ก๊อกนา้ โรงอาหาร) นกั เรียนคิดวา่ ในโรงเรียนและรอบ ๆ โรงเรียนควรมีส่ิงแวดลอ้ มใดลดลง (ตัวอย่างคาตอบ ขยะ ต้นหญ้า) 6. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
ส่ิงต่าง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ นมีท้งั ส่ิงทเี่ กิดข้นึ เองในธรรมชาตแิ ละสิ่งทีม่ นุษย์ สรา้ งข้นึ 7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนตอ้ งการใหส้ ่ิงแวดลอ้ มรอบตวั มีลกั ษณะอยา่ งไร 8. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี 26 เร่ือง ส่ิงต่าง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น สื่อการเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. ช้ินงานท่ี 26 เรื่อง ส่ิงตา่ ง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจช้ินงานที่ 26 2. เครื่องมือ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ - การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมินชิ้นงานที่ 26 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง สิ่งต่าง ๆ ระหวา่ งโรงเรียนกบั บา้ น เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ สิ่งต่าง ๆ ระหวา่ ง สิ่งตา่ ง ๆ ระหวา่ ง สิ่งต่าง ๆ ระหวา่ ง สิ่งตา่ ง ๆ ระหวา่ ง ส่ิงตา่ ง ๆ ระหวา่ ง โรงเรียนกบั บา้ น โรงเรียนกบั บา้ นได้ โรงเรียนกบั บา้ นได้ โรงเรียนกบั บา้ นได้ โรงเรียนกบั บา้ นได้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี กาหนดและแตกตา่ ง กาหนดและแตกต่าง กาหนดแต่มีการ กาหนดตามทคี่ รู จากท่ีครูยกตวั อยา่ งมี จากท่ีครูยกตวั อยา่ ง ดดั แปลงใหแ้ ตกตา่ ง ยกตวั อยา่ งเท่าน้นั การเชื่อมโยงใหเ้ ห็น แตเ่ ช่ือมโยงสมั พนั ธ์ จากที่ครูยกตวั อยา่ ง ถึงความสมั พนั ธก์ บั เฉพาะตนเอง ตนเองและผอู้ ื่น
บันทึกหลงั การสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) ( นางสาวจีรวรรณ ปฏิวงศ์ ) _________/__________/________
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 2 เรื่อง เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนทแี่ ละเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภมู ิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ป.2/2 ระบุตาแหน่งอยา่ งง่าย และลกั ษณะทางกายภาพของส่ิงต่าง ๆ ทปี่ รากฏในลูกโลก แผนท่ี แผนผงั และภาพถ่าย สาระสาคญั แผนผงั แผนที่ ลูกโลก ภาพถ่ายทางอากาศ และภาพถ่ายจากดาวเทียม เป็ นเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ใชส้ าหรบั ศกึ ษาสภาพทางภูมิศาสตร์ของพน้ื ที่ตา่ ง ๆ สาระการเรียนรู้ เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ : แผนผงั แผนที่ ลูกโลก ภาพถ่ายทางอากาศ และภาพถ่ายจากดาวเทียม คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ มุ่งมนั่ ในการทางาน ตวั ช้ีวดั ท่ี 6.2 ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชิ้นงานหรือภาระงาน ชิ้นงานท่ี 27 เร่ือง การใชเ้ ครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนบอกตาแหน่งท่ีต้งั ของสถานทตี่ า่ ง ๆ ภายในโรงเรียนโดยครูวาดเป็นภาพแผนผงั บนกระดาน และเขียนสญั ลกั ษณ์ของสิ่งต่าง ๆ พรอ้ มอธิบาย และเขียนเคร่ืองหมายบอกทศิ ใหน้ กั เรียน ร่วมกนั สนทนา 2. ครูเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของแผนผงั และแผนท่โี ดยเขียนแสดงเป็ น แผนภาพบนกระดาน 3. ใหน้ กั เรียนฝึกอ่านแผนท่ี โดยการศึกษาและอ่านสญั ลกั ษณ์ พรอ้ มระบุตาแหน่งสถานทต่ี า่ ง ๆ ท่ี ปรากฏในแผนท่ี
4. ครูนาลูกโลกจาลองใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษา โดยครูอธิบายและใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความ คดิ เห็น 5. ครูอธิบายสรุปความรูเ้ ก่ียวกบั แผนผงั แผนท่ี และลูกโลก และใหน้ กั เรียนทาช้ินงานท่ี 27เร่ือง การ ใชเ้ คร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ 6. ครูและนกั เรียนแสดงความคิดเห็น และสรุปเครื่องมือทางภูมิศาสตร์เป็นแผนภาพ 7. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษาภาพถ่ายทางอากาศ โดยครูนาตวั อยา่ งภาพถ่ายทางอากาศใหน้ กั เรียนดู และร่วมกนั สนทนาแสดงความคิดเห็น และครูอธิบายสรุปเพม่ิ เติม 8. ครูนาภาพตวั อยา่ งจากภาพถ่ายดาวเทียมใหน้ กั เรียนดูและแสดงความคดิ เห็นและครูอธิบายสรุป ความรู้เพมิ่ เติม 9. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียนหรือตามท่ีครูกาหนด 10. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์มีประโยชนต์ ่อการศึกษาสภาพทางภูมิศาสตร์ของพน้ื ทต่ี ่าง ๆ ส่ือการเรียนรู้ 1. ภาพ แผนผงั แผนท่ี และลูกโลก 2. ภาพถ่ายทางอากาศ 3. ภาพถ่ายจากดาวเทียม 4. ชิ้นงานที่ 27 เร่ือง การใชเ้ ครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ การประเมินผล 1. การประเมินผลตวั ชี้วัด ช้ินงานท่ี 27 เร่ือง การใชเ้ ครื่องมือทางภูมิศาสตร์ เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 ศึกษาแผนทท่ี ี่ ศึกษาแผนทท่ี ี่ ศึกษาแผนท่ีที่ ศกึ ษาแผนท่ีท่ี ศึกษาแผนทีท่ ่ี กาหนดใหแ้ ลว้ เขยี น กาหนดใหแ้ ลว้ เขยี น กาหนดใหแ้ ลว้ เขียน กาหนดใหแ้ ลว้ เขยี น กาหนดใหแ้ ลว้ เขยี น เคร่ืองหมาย ลง เครื่องหมาย ลง เคร่ืองหมาย ลง เคร่ืองหมาย ลง เคร่ืองหมาย ลง หนา้ ขอ้ ความที่ หนา้ ขอ้ ความท่ี หนา้ ขอ้ ความท่ี หนา้ ขอ้ ความท่ี หนา้ ขอ้ ความท่ี ถูกตอ้ งและเขียนบอก ถูกตอ้ งและเขยี น ถูกตอ้ งและเขียน ถูกตอ้ งและเขียน ถูกตอ้ งและเขียน สถานที่ในแผนท่ี บอกสถานทใี่ น บอกสถานทใ่ี น บอกสถานท่ใี น บอกสถานท่ใี น แผนทไ่ี ดส้ มั พนั ธ์ แผนที่ไดส้ มั พนั ธ์ แผนทไี่ ดส้ มั พนั ธ์ แผนทไ่ี ดส้ มั พนั ธ์ กบั หวั ขอ้ ทกี่ าหนด กบั หวั ขอ้ ท่ีกาหนด กบั หวั ขอ้ ท่กี าหนด กบั หวั ขอ้ ท่ีกาหนด ใหถ้ ูกตอ้ งครบทุกขอ้
ใหไ้ ดถ้ ูกตอ้ งมากกวา่ ใหไ้ ดถ้ ูกตอ้ งมากกวา่ ใหไ้ ดถ้ ูกตอ้ งมากกวา่ 90 เปอร์เซ็นต์ 80 เปอร์เซ็นต์ 60 เปอร์เซ็นต์ 2. การประเมนิ ผลคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ม่งุ มนั่ ในการทางาน ตวั ชี้วดั ที่ 6.2 ทางานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ยี ม (3) 6.2.1 ทุ่มเททางาน อดทน ไม่ขยนั อดทน ทางานดว้ ยความขยนั ทางานดว้ ยความขยนั ทางานดว้ ยความขยนั ไม่ยอ่ ทอ้ ตอ่ ปัญหาและ ในการทางาน เพอ่ื ใหง้ านเสร็จตามที่ พยายามใหง้ าน อดทน พยายาม อุปสรรคในการทางาน ไดร้ บั มอบหมาย สาเร็จตามเป้าหมาย ใหง้ านสาเร็จ 6.2.2 พยายามแกป้ ัญหาและ ตามเป้าหมาย อุปสรรคในการทางาน ชื่นชมผลงาน ใหส้ าเร็จ ดว้ ยความภาคภมู ิใจ 6.2.3 ช่ืนชมผลงานดว้ ยความ ภาคภูมิใจ
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 31 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยที่ 2 เร่ือง เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง แผนผัง แผนที่ และลูกโลก มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพส่ิงซ่ึงมีผลตอ่ กนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่แี ละเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภมู ิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ป.2/2 ระบตุ าแหน่งอยา่ งง่ายและลกั ษณะทางกายภาพของส่ิงต่าง ๆ ท่ปี รากฏ ในลูกโลก แผนที่ แผนผงั และภาพถ่าย จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด 1. อธิบายลกั ษณะทางกายภาพของส่ิงต่าง ๆ ทป่ี รากฏอยใู่ นแผนผงั แผนที่และลูกโลก (K) 2. มีความเขา้ ใจในการอ่านแผนผงั แผนที่ และลกู โลก (P) 3. สนใจศกึ ษาแสวงหาความรู้จากเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ (A) สาระสาคญั แผนผงั แผนท่ี และลูกโลกเป็นเครื่องมอื ทางภมู ิศาสตร์มีประโยชน์ในการใชศ้ กึ ษาสภาพทาง ภูมิศาสตร์ของพ้นื ทต่ี า่ ง ๆ สาระการเรียนรู้ แผนผงั แผนที่ และลูกโลก คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มุ่งมน่ั ในการทางาน ตวั ช้ีวดั ท่ี 6.2 ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชิ้นงานหรือภาระงาน ชิ้นงานที่ 27 เรื่อง การใชเ้ ครื่องมือทางภูมิศาสตร์
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันบอกตาแหน่งท่ีต้ังของอาคารเรียน ที่ต้ังของสิ่งต่าง ๆ ภายในบริเวณ โรงเรียน โดยครูวาดเป็นแผนผงั โรงเรียนตามคาพดู ของนกั เรียนลงบนกระดาน จากน้นั ทาสญั ลกั ษณ์ของส่ิง ต่าง ๆ พร้อมท้งั เขียนคาอธิบายสญั ลกั ษณ์ จากน้ันเขียนเคร่ืองหมายบอกทิศและให้นกั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี อาคารเรียนของนกั เรียนอยใู่ กลก้ บั ส่ิงใด (ตัวอย่างคาตอบ โรงอาหาร) หอประชุมอยทู่ างทศิ ใดของเสาธง (ตัวอย่างคาตอบ ทศิ เหนือ) สนามเด็กเล่นอยทู่ างทิศใด (ตัวอย่างคาตอบ ทศิ ใต้) ถา้ นกั เรียนตอ้ งเดินไปหอ้ งน้า จะตอ้ งผา่ นสถานทใี่ ดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ อาคารเรียน) 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษาเน้ือหาเรื่องแผนผงั และแผนที่ จากน้นั ครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา ดงั น้ี แผนผงั มีลกั ษณะอยา่ งไร (เป็ นเคร่ืองมอื ทางภูมิศาสตร์ จดั ทาในพื้นทท่ี ไี่ ม่กว้างเกนิ ไป เช่น แผนผงั บ้าน) 3. ครูเปรียบเทยี บความเหมือนและความแตกตา่ งของแผนผงั และแผนท่ี โดยแสดงเป็ นแผนภาพบน กระดาน ดงั น้ี แผนผัง ความเหมือน แผนท่ี - มีสญั ลกั ษณ์ ความแตกต่าง และคาอธิบาย ความแตกต่าง - จดั ทาในพ้นื ที่ สญั ลกั ษณ์ - จดั ทาในพ้นื ที่ ทไี่ ม่กวา้ ง ทกี่ วา้ งได้ เกินไป จากน้นั ครูนาตวั อยา่ งแผนท่ีมาใหน้ กั เรียนฝึกการอ่านแผนท่ี โดยการศกึ ษาสญั ลกั ษณ์ตา่ ง ๆ ที่ ปรากฏในแผนที่ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ระบตุ าแหน่ง และบอกสถานท่สี าคญั ทีป่ รากฏในแผนที่ 4. ครูนาลูกโลกจาลองใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษา โดยครูอธิบายลกั ษณะต่าง ๆ ทปี่ รากฏในลูกโลก จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ลูกโลกของเรามีรูปทรงใด (ทรงกลม คล้ายผลส้ม) พ้นื ผวิ โลกประกอบดว้ ย (พืน้ ผิวนา้ และพื้นผวิ ดิน)
พ้นื ผวิ ใดท่ีมีปริมาณมากทสี่ ุด บนพน้ื ผวิ โลก (พื้นผวิ นา้ ) 5. ครูอธิบายสรุปวา่ แผนผงั แผนท่ี และลูกโลกเป็นเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ที่ใชศ้ ึกษาลกั ษณะ ทางกายภาพของพ้นื ที่ต่าง ๆ ทาใหท้ ราบตาแหน่งของสถานที่ ระยะ ทิศทาง ขนาด รูปร่าง ลกั ษณะของสภาพแวดลอ้ ม และภูมิอากาศของสถานที่ต่าง ๆ ซ่ึงมีความสาคญั และความจาเป็ นตอ่ การดารงชีวติ ของมนุษย์ 6. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์มีประโยชน์และมีความสาคญั ในการศกึ ษาลกั ษณะสภาพแวดลอ้ มทาง กายภาพในสถานท่ตี ่าง ๆ ทาใหท้ ราบตาแหน่ง ระยะ และทศิ ทาง 7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ใชเ้ พอื่ ประโยชน์ทางดา้ นใด 8. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ 27 เรื่อง การใชเ้ คร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ สื่อการเรียนรู้ 1. ภาพแผนผงั แผนที่ และลูกโลก 2. ช้ินงานที่ 27 เร่ือง การใชเ้ ครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจชิ้นงานที่ 27 2. เครื่องมือ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ - การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
การประเมนิ ชิ้นงานที่ 27 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การใชเ้ คร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 ศึกษาแผนท่ที ่ี ศึกษาแผนท่ีท่ี ศกึ ษาแผนทท่ี ี่ ศกึ ษาแผนที่ที่ ศึกษาแผนทที่ ี่ กาหนดใหแ้ ลว้ เขียน กาหนดใหแ้ ลว้ เขียน กาหนดใหแ้ ลว้ เขียน กาหนดใหแ้ ลว้ เขียน กาหนดใหแ้ ลว้ เขยี น เครื่องหมาย ลง เครื่องหมาย ลง เครื่องหมาย ลง เครื่องหมาย ลง เคร่ืองหมาย ลง หนา้ ขอ้ ความที่ หนา้ ขอ้ ความที่ หนา้ ขอ้ ความท่ี หนา้ ขอ้ ความที่ หนา้ ขอ้ ความที่ ถูกตอ้ งและเขียนบอก ถูกตอ้ งและเขยี น ถูกตอ้ งและเขยี น ถูกตอ้ งและเขยี น ถูกตอ้ งและเขียน สถานทีใ่ นแผนที่ บอกสถานท่ใี น บอกสถานทใ่ี น บอกสถานที่ใน บอกสถานทใ่ี น แผนท่ไี ดส้ มั พนั ธ์ แผนทีไ่ ดส้ มั พนั ธ์ แผนท่ีไดส้ มั พนั ธ์ แผนทีไ่ ดส้ มั พนั ธ์ กบั หวั ขอ้ ที่กาหนด กบั หวั ขอ้ ที่กาหนด กบั หวั ขอ้ ทก่ี าหนด กบั หวั ขอ้ ทีก่ าหนด ใหถ้ ูกตอ้ งครบทุกขอ้ ใหไ้ ดถ้ ูกตอ้ งมากกวา่ ใหไ้ ดถ้ ูกตอ้ งมากกวา่ ใหไ้ ดถ้ ูกตอ้ งมากกวา่ 90 เปอร์เซ็นต์ 80 เปอร์เซ็นต์ 60 เปอร์เซ็นต์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 32 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 2 เรื่อง เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง ภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายจากดาวเทยี ม มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพสิ่งซ่ึงมีผลตอ่ กนั และกนั ในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใช้ ขอ้ มูลภมู ิสารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ป.2/2 ระบุตาแหน่งอยา่ งงา่ ย และลกั ษณะทางกายภาพของส่ิงต่าง ๆ ทปี่ รากฏในลูกโลก แผนที่ แผนผงั และภาพถ่าย จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วัด 1. อธิบายลกั ษณะทางกายภาพของสิ่งตา่ ง ๆ ท่ีปรากฏอยใู่ นภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายจาก ดาวเทยี ม (K) 2. มีความรูแ้ ละเขา้ ใจการอ่านภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายจากดาวเทยี ม (P) 3. สนใจศกึ ษาแสวงหาความรูจ้ ากเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ (A) สาระสาคญั ภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายจากดาวเทียม เป็นเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ทีใ่ ชส้ าหรบั ศกึ ษาลกั ษณะ ทางกายภาพของพน้ื ท่ตี ่าง ๆ เพอื่ ประโยชน์ทางดา้ นการศกึ ษาและพฒั นาในดา้ นตา่ ง ๆ สาระการเรียนรู้ ภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายจากดาวเทียม คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ มุ่งมน่ั ในการทางาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.2 ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชิ้นงานหรือภาระงาน แผนภาพ เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ แผนภาพ เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาแลว้ แสดงความคดิ เห็นวา่ นอกจากแผนที่แลว้ ยงั มีเครื่องมือทาง ภูมิศาสตร์อะไรอีกบา้ งทีท่ าใหเ้ รารูข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั พน้ื ที่ จากน้นั ครูสรุปความรูเ้ ก่ียวกบั เคร่ืองมือทาง ภมู ิศาสตร์เป็นแผนภาพลงบนกระดาน ตวั อย่างแผนภาพ แผนที่ ลูกโลก เครื่องมือทาง เขม็ ทศิ ภูมิศาสตร์ ภาพถ่ายทางอากาศ แผนผงั ภาพถ่ายจากดาวเทียม 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศกึ ษาภาพถ่ายทางอากาศโดยครูนาตวั อยา่ งภาพถ่ายทางอากาศ ใหน้ กั เรียนดู แลว้ ร่วมกนั สนทนาแสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามดงั น้ี ภาพถ่ายทางอากาศถ่ายจากสถานท่ีใด (ถ่ายจากเคร่ืองบินในมุมสูง) ภาพถ่ายทางอากาศมีประโยชน์อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ทาให้ทราบและเห็น ลักษณะของพื้นทที่ เ่ี ป็ นภาพจริง) ภาพถ่ายทางอากาศใชเ้ พอื่ ประโยชนท์ างดา้ นใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ ศึกษา ลักษณะของพื้นทใ่ี ช้ประโยชน์ทางด้านการพัฒนาทางด้านต่าง ๆ เช่น การวางผงั เมอื ง การตดั เส้นทาง คมนาคม และอื่น ๆ) 3. ครูอธิบายสรุปเพมิ่ เติมวา่ ภาพถ่ายทางอากาศ เป็ นการสารวจลกั ษณะของพ้นื ท่ีเพื่อนามาวเิ คราะห์ วางแผนการอนุรักษ์หรือการพฒั นาพ้ืนท่ีในดา้ นต่าง ๆ เช่น การพฒั นาวางผงั เมือง เส้นทางคมนาคม การสร้างเขื่อน การสารวจปัญหาจราจร และการวางแผนเพ่ือ อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ
4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาและทบทวนความรู้เร่ืองเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ โดยสรุปเป็ นแผนภาพดงั น้ี ตัวอย่างแผนภาพ แผนท่ี ลูกโลก เคร่ืองมือทาง เขม็ ทิศ ภูมศิ าสตร์ ภาพถ่ายทางอากาศ แผนผงั ภาพถ่ายจากดาวเทยี ม 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาภาพถ่ายจากดาวเทยี ม โดยครูนาภาพตวั อยา่ งใหน้ กั เรียน ร่วมกนั ดู และแสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ภาพถ่ายจากดาวเทียมถ่ายโดยวธิ ีใด (ถ่ายจากดาวเทยี มทโ่ี คจรอยู่นอกพื้นที่ของโลก) นกั เรียนเขา้ ใจดาวเทียมวา่ อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ดาวเทียมเป็ นเคร่ือง สารวจอวกาศที่โคจรรอบโลก โดยถูกยิงขึน้ จากพนื้ โลกแล้วโคจรรอบโลก) จากน้นั ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ ดาวเทียม คือ สิ่งประดิษฐท์ ี่มนุษยค์ ิดคน้ ข้นึ ทสี่ ามารถโคจรรอบโลกโดย อาศยั แรงดึงดูดของโลก การประดิษฐด์ าวเทียมมีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ นาขอ้ มลู ทไ่ี ดม้ าใช้ ในดา้ นการทหาร การส่ือสาร การรายงานสภาพอากาศและการสงั เกตสภาพอากาศ โลก ดวงอาทติ ย์ ดวงจนั ทร์
6. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี เครื่องมือทางภูมิศาสตร์มีประโยชน์ในการศึกษาลกั ษณะทางกายภาพของพ้นื ทีต่ า่ ง ๆ เพอื่ ประโยชน์ทางการศกึ ษาและพฒั นาในดา้ นต่าง ๆ 7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี ดาวเทียมสามารถใชส้ ารวจอะไรไดบ้ า้ ง ส่ือการเรียนรู้ ภาพถ่ายจากดาวเทียมและภาพถ่ายทางอากาศ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เครื่องมือ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ - การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
บนั ทึกหลงั การสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ปัญหา/อุปสรรค ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ลงช่ือ_____________________________ (ผบู้ นั ทึก) ( นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ ) _________/__________/________
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาสังคมศึกษาฯ เวลา 4 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 3 เรื่อง ดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจันทร์กบั มนุษย์ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภมู ิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ป.2/3 อธิบายความสมั พนั ธข์ องปรากฏการณ์ระหวา่ งโลก ดวงอาทิตย์ และ ดวงจนั ทร์ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.2 เขา้ ใจปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพที่ก่อใหเ้ กิดการสรา้ งสรรค์ วฒั นธรรม มีจติ สานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ ม เพอ่ื การพฒั นาทย่ี งั่ ยนื ตวั ชี้วดั ป.2/3 อธิบายความสมั พนั ธข์ องฤดูกาลกบั การดาเนินชีวติ ของมนุษย์ สาระสาคญั การโคจรของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ ทาใหเ้ กิดปรากฏการณ์ทางฤดูกาลขา้ งข้นึ -ขา้ งแรม และ น้าข้ึน-น้าลง มีอิทธิพลตอ่ การดารงชีวติ ของมนุษย์ สาระการเรียนรู้ 1. ดวงอาทิตย์ โลก ดวงจนั ทร์ 2. ฤดูกาล ขา้ งข้ึน-ขา้ งแรม และน้าข้นึ -น้าลง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการแกป้ ัญหา
ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ชิ้นงานท่ี 28 เรื่อง ฤดูกาล 2. ช้ินงานที่ 29 เร่ือง ขา้ งข้นึ -ขา้ งแรม การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์ใหน้ ักเรียนดูและแสดงความคดิ เห็น 2. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 3 กลุ่ม ออกนาเสนอความรู้เก่ียวกบั ดวงอาทติ ย์ โลก และ ดวงจนั ทร์ และครูเขียนแผนภาพอธิบายความสมั พนั ธแ์ ละใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น และครู อธิบายสรุปเพม่ิ เตมิ 3. สรุปความรู้เกี่ยวกบั ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ 4. ครูนาบตั รคา ฤดูกาลใหน้ กั เรียนอ่านและแสดงความคิดเห็น เสร็จแลว้ ครูอธิบายสรุปเพม่ิ เตมิ 5. ครูนาบตั รคา ขา้ งข้นึ -ขา้ งแรม ใหน้ กั เรียนอ่านและแสดงความคดิ เห็น 6. ครูเขียนแผนภาพ อธิบายปรากฏการณ์ขา้ งข้นึ และขา้ งแรม และสรุปเพม่ิ เติม 7. ครูนาบตั รคา น้าข้ึน-น้าลง ใหน้ กั เรียนอ่านและร่วมกนั แสดงความคิดเห็น 8. ครูเขียนแผนภาพอธิบายปรากฏการณ์น้าข้ึน-น้าลง บนกระดาน 9. สรุปความรูเ้ ก่ียวกบั ฤดูกาล ขา้ งข้นึ -ขา้ งแรม และน้าข้นึ -น้าลง 10. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานที่ 28 เร่ือง ฤดูกาล และช้ินงานท่ี 29 เรื่อง ขา้ งข้นึ -ขา้ งแรม 11. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียนหรือตามที่ครูกาหนด 12. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การโคจรของดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์ ทาใหเ้ กิดปรากฏการณ์ที่มีอิทธิพลตอ่ การ ดารงชีวติ ของมนุษย์ ส่ือการเรียนรู้ 1. ภาพดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์ 2. บตั รคา ฤดูกาล ขา้ งข้ึน-ขา้ งแรม และน้าข้นึ -น้าลง 3. ชิ้นงานที่ 28 เร่ือง ฤดูกาล 4. ช้ินงานที่ 29 เรื่อง ขา้ งข้ึน-ขา้ งแรม
การประเมนิ ผล 1. การประเมินผลตัวชี้วัด 1.1 ช้ินงานท่ี 28 เรื่อง ฤดูกาล เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหา เก่ียวกบั ฤดูกาลที่ เกี่ยวกบั ฤดูกาลที่ เกี่ยวกบั ฤดูกาลท่ี เกี่ยวกบั ฤดูกาลท่ี ภาพเก่ียวกบั ฤดูกาล ตนเองชอบ ตนเองชอบได้ ตนเองชอบได้ ตนเองชอบได้ ทีต่ นเองชอบได้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ กาหนดและแตกตา่ ง กาหนด และ กาหนดตามที่ครู กาหนดตามที่ครู จากทคี่ รูยกตวั อยา่ ง แตกตา่ งจากท่ีครู ยกตวั อยา่ งแต่มีการ แนะนาเท่าน้นั มีการเชื่อมโยง ยกตวั อยา่ ง แต่ ดดั แปลงใหแ้ ตกตา่ ง ใหเ้ ห็นถึง เชื่อมโยงใหเ้ ห็น ความสมั พนั ธก์ บั เฉพาะตนเอง ตนเองและผอู้ ่ืน 1.2 ช้ินงานที่ 29 เรื่อง ขา้ งข้ึน-ขา้ งแรม เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ ดวงจนั ทร์ที่เป็น ดวงจนั ทร์ท่ีเป็น ดวงจนั ทร์ทเี่ ป็น ดวงจนั ทร์ทเ่ี ป็น ดวงจนั ทร์ท่ีเป็น ปรากฏการณ์ ปรากฏการณ์ ปรากฏการณ์ ปรากฏการณ์ ปรากฏการณ์ ขา้ งข้ึน-ขา้ งแรม ขา้ งข้ึน-ขา้ งแรมได้ ขา้ งข้นึ -ขา้ งแรมได้ ขา้ งข้นึ -ขา้ งแรมได้ ขา้ งข้นึ -ขา้ งแรมได้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ กาหนดและแตกต่าง กาหนดและแตกต่าง กาหนดตามทีค่ รู กาหนดตามทค่ี รู จากที่ครูยกตวั อยา่ ง จากที่ครูยกตวั อยา่ ง ยกตวั อยา่ งแตม่ ีการ ยกตวั อยา่ งเท่าน้นั มีการเช่ือมโยงให้ แตเ่ ชื่อมโยงใหเ้ ห็น ดดั แปลงใหแ้ ตกต่าง เห็นถึง เฉพาะตนเอง ความสมั พนั ธก์ บั ตนเองและผอู้ ่ืน
2. การประเมนิ ผลคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชี้วัดท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม (3) 4.1.1 ต้งั ใจเรียน ไม่ต้งั ใจเรียน ต้งั ใจ เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ 4.1.2 เอาใจใส่และมีความเพยี ร- ในการเรียน และมีความเพยี ร- และมีความเพยี ร- พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการเรียน พยายามในการ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม เรียนรู้ เขา้ ร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ตา่ ง ๆ ต่าง ๆ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 33 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 4 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 3 เร่ือง ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์กบั มนุษย์ เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนทแ่ี ละเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภมู ิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ป.2/3 อธิบายความสมั พนั ธข์ องปรากฏการณ์ระหวา่ งโลก ดวงอาทติ ย์ และ ดวงจนั ทร์ จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. อธิบายความสมั พนั ธป์ รากฏการณ์ของโลก ดวงอาทติ ย์ และดวงจนั ทร์ (K) 2. จาแนกลกั ษณะและการโคจรของโลก ดวงอาทิตย์ และดวงจนั ทร์ (P) 3. มีความสนใจในการศึกษาเรียนรู้การโคจรของโลก ดวงอาทิตย์ และดวงจนั ทร์ (A) สาระสาคญั ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์มีความสมั พนั ธก์ นั ทาใหเ้ กิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ และมีอิทธิพลต่อ การดาเนินชีวติ ของมนุษย์ สาระการเรียนรู้ ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชิ้นงานหรือภาระงาน แผนภาพ ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์ใหน้ ักเรียนดู จากน้นั ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครู ใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนสามารถมองเห็นดวงอาทติ ยค์ ร้ังแรกเวลาใด (เวลาเช้า) โลกหมายถึงอะไร (พื้นดิน พื้นน้า ท้งั หมดทมี่ นุษย์และสัตว์อยู่อาศัย) ดวงจนั ทร์สามารถปรากฏใหเ้ ห็นชดั เจนเวลาใด (เวลากลางคนื ) 2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาเกี่ยวกบั ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ โดยแบ่งนกั เรียน ออกเป็ น 3 กลุ่ม คอื กลุ่มดวงอาทติ ย์ กลุ่มดวงจนั ทร์ กลุ่มโลก จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลุ่มออกนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน เม่ือจบแลว้ ครูเขียนแผนภาพความสมั พนั ธข์ องดวง อาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์บนกระดาน ตวั อย่างแผนภาพ ดวงอาทิตยใ์ หแ้ สงสวา่ งและเป็น โลกหมุนรอบตวั เองและโคจรรอบดวงอาทิตย์ ศนู ยก์ ลางของโลกและดาวอื่น ๆ ทาใหเ้ กิดเวลากลางวนั กลางคนื และฤดกู าล ดวงจนั ทร์โคจรรอบโลก ดวง โลก ดวงอาทติ ย์ จากทิศตะวนั ตกไป จนั ทร์ ตะวนั ออกทวนเขม็ โลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์ นาฬิกา จากทิศตะวนั ออกไป ทิศตะวนั ตกตามเขม็ นาฬิกา ดวงจนั ทร์โคจรรอบโลกทาให้เกิด น้าข้ึน-น้าลง และเกิดขา้ งข้นึ และขา้ งแรม 3. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาแผนภาพขอ้ ท่ี 2 แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ดวงอาทติ ยม์ ีความสาคญั อยา่ งไรตอ่ โลก (ตวั อย่างคาตอบ ให้แสงสว่าง แก่โลก ทาให้สัตว์พืชมีการเจริญเติบโต และทาให้เกิดฤดูกาลต่าง ๆ เม่ือโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์) โลกมีรูปร่างลกั ษณะอยา่ งไรและสาคญั อยา่ งไรตอ่ มนุษย์ พชื และสตั ว์
(ตัวอย่างคาตอบ เป็ นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ พืช และสัตว์ โลกมีลกั ษณะทรงกลมคล้ายผลส้ม) ดวงจนั ทร์มีความสาคญั อยา่ งไรต่อโลก (ตวั อย่างคาตอบ การโคจรรอบโลก ของดวงจนั ทร์ ทาให้เกดิ ช่วงเวลาข้างขนึ้ และข้างแรม ซึ่งใช้เป็ นการนับปฏทิ นิ แบบจนั ทรคตทิ าง พระพทุ ธศาสนา นอกจากน้ันยงั ทาให้เกิดแรงดงึ ดูดระหว่างดวงอาทิตย์กบั ดวงจันทร์ทาให้เกดิ นา้ ขนึ้ และน้าลง) 4. ครูอธิบายสรุปเพม่ิ เตมิ ดงั น้ี (ตวั อยา่ ง) ดวงอาทิตยเ์ ป็ นดาวเคราะห์ดวงใหญ่ที่มีแสงสว่างในตวั เองให้พลังงาน ความร้อน เป็ นศูนยก์ ลางของดวงดาวอื่น ๆ เช่น โลก และดวงจนั ทร์ การโคจรของ โลกรอบดวงอาทิตยท์ าใหเ้ กิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ เช่น เวลาและฤดูกาล นอกจากน้นั การโคจรของดวงจนั ทร์รอบโลกยงั ทาให้ปรากฏแสงสว่างเวลากลางคืนซ่ึงเป็ นแสง จากดวงอาทิตยท์ ี่สะทอ้ นจากดวงจนั ทร์มาสู่พ้ืนโลก ทาให้มีปรากฏการณ์ขา้ งข้ึน- ขา้ งแรม และเกิดแรงดึงดูดทาให้เกิดน้าข้ึนและน้าลงตามปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ซ่ึงจาเป็ นต่อการดารงชีวติ ของสตั วแ์ ละพชื บนพน้ื โลก 5. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์ มีความสมั พนั ธก์ นั ทาใหเ้ กิดปรากฏการณ์ตา่ ง ๆ และมี อิทธิพลต่อการดาเนินชีวติ ของมนุษย์ 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ มีความสาคญั ต่อนกั เรียนอยา่ งไร สื่อการเรียนรู้ ภาพดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 34 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 4 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 3 เรื่อง ดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจันทร์กบั มนุษย์ เวลา 1 ชั่วโมง เร่ือง ความสัมพันธ์ระหว่างดวงอาทิตย์ โลกและดวงจันทร์กับมนุษย์ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.2 เขา้ ใจปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทก่ี ่อใหเ้ กิดการสร้างสรรค์ วฒั นธรรม มีจติ สานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพอื่ การพฒั นาทีย่ งั่ ยนื ตวั ชี้วัด ป.2/3 อธิบายความสมั พนั ธข์ องฤดูกาลกบั การดาเนินชีวติ ของมนุษย์ จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั 1. อธิบายฤดูกาล (K) 2. จาแนก การเกิดฤดูกาล (P) 3. มีความสนใจศกึ ษาเรียนรูป้ รากฏการณ์ทางธรรมชาติ เพอื่ ใชป้ ระโยชนใ์ นการดาเนิน ชีวติ ประจาวนั (A) สาระสาคญั ฤดูกาล เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทีเ่ กิดจากโลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์ สาระการเรียนรู้ ฤดูกาล คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชิ้นงานหรือภาระงาน ชิ้นงานท่ี 28 เรื่อง ฤดูกาล
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ฤดูฝน ฤดูหนาว ตดิ บนกระดานให้ 1. ครูนาบตั รคาฤดูกาล 3 ฤดู ฤดูรอ้ น นกั เรียนอ่าน และใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี ฤดูกาลเกิดจากอะไร (เกดิ จากโลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์) โลกโคจรรอบดวงอาทิตยใ์ ชเ้ วลาก่ีวนั (365 วัน หรือ 1 ปี ) การโคจรของโลกรอบดวงอาทติ ยท์ าใหเ้ กิดฤดูกาลใดบา้ ง (ฤดูร้อน ฤดูหนาว และฤดู ฝน) 2. ครูอธิบายสรุปเพม่ิ เติมดงั น้ี (ตวั อยา่ ง) การโคจรของโลกรอบดวงอาทติ ยแ์ ต่ละช่วงเวลาทาใหอ้ ุณหภูมิแตกตา่ งกนั เพราะปริมาณการรบั แสงอาทิตยไ์ ม่เท่ากนั ทาใหเ้ กิดฤดูกาลตา่ ง ๆ ข้ึน ในประเทศไทย มี 3 ฤดู คอื ฤดูรอ้ น ฤดูฝน และฤดูหนาว 3. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ฤดูกาล ขา้ งข้นึ -ขา้ งแรม เกิดจากโลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์ และดวงจนั ทร์โคจรรอบ โลก 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี การเกิดฤดูกาลมีความสาคญั ตอ่ การดาเนินชีวติ อยา่ งไร 5. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานที่ 29 เรื่อง ฤดูกาล ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รคา ฤดูกาล 2. ช้ินงานที่ 28 เรื่อง ฤดูกาล
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจช้ินงานที่ 28 2. เคร่ืองมือ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน - การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน การประเมนิ ชิ้นงานท่ี 28 ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง ฤดูกาล ระดับคะแนน เกณฑ์การประเมนิ 4321 วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหาภาพ วาดภาพหรือหา เก่ียวกบั ฤดูกาลที่ ตนเองชอบ เกี่ยวกบั ฤดูกาลที่ เก่ียวกบั ฤดูกาลท่ี เกี่ยวกบั ฤดูกาลท่ี ภาพเก่ียวกบั ฤดูกาล ตนเองชอบได้ ตนเองชอบได้ ตนเองชอบได้ ทีต่ นเองชอบได้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่ กาหนดและแตกต่าง กาหนด และ กาหนดตามท่ีครู กาหนดตามที่ครู จากท่คี รูยกตวั อยา่ ง แตกต่างจากท่คี รู ยกตวั อยา่ งแตม่ ีการ แนะนาเท่าน้นั มีการเช่ือมโยง ยกตวั อยา่ ง แต่ ดดั แปลงใหแ้ ตกตา่ ง ใหเ้ ห็นถึง เช่ือมโยงใหเ้ ห็น ความสมั พนั ธก์ บั เฉพาะตนเอง ตนเองและผอู้ ่ืน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 35 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 4 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 3 เรื่อง ดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์กบั มนุษย์ เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง ข้างขนึ้ - ข้างแรม มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.2 เขา้ ใจปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพที่ก่อใหเ้ กิดการสร้างสรรค์ วฒั นธรรม มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรกั ษท์ รัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพอื่ การพฒั นาทีย่ งั่ ยนื ตวั ชี้วดั ป.2/3 อธิบายความสมั พนั ธข์ องฤดูกาลกบั การดาเนินชีวติ ของมนุษย์ จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด 1. อธิบายขา้ งข้ึน-ขา้ งแรม (K) 2. จาแนก การเกิดขา้ งข้นึ -ขา้ งแรม (P) 3. มีความสนใจศึกษาเรียนรู้ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เพอ่ื ใชป้ ระโยชน์ในการดาเนิน ชีวติ ประจาวนั (A) สาระสาคญั ขา้ งข้ึน-ขา้ งแรม เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติท่ีเกิดจากการโคจรของดวงจนั ทร์ รอบโลก สาระการเรียนรู้ ขา้ งข้ึน-ขา้ งแรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชิ้นงานหรือภาระงาน ช้ินงานท่ี 29 เร่ือง ขา้ งข้นึ -ขา้ งแรม การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขา้ งแรม บนกระดานใหน้ กั เรียนอ่านและร่วมกนั แสดง 1. ครูติดบตั รคา ขา้ งข้ึน ความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
ขา้ งข้ึน-ขา้ งแรมเกิดจากอะไร (เกดิ จากดวงจันทร์โคจรรอบโลก ภายในเวลา 1 เดือน) ขา้ งข้นึ คอื ช่วงเวลาใด (ช่วงเวลาของคืนที่พระจนั ทร์สว่างเริ่มจากขนึ้ 1 คา่ - 15 คา่ ) ขา้ งแรมคอื ช่วงเวลาใด (ช่วงเวลาของคนื ท่พี ระจันทร์มืด เริ่มจากแรม 1 คา่ - 15 คา่ ) จากน้นั ครูเขียนแผนภาพอธิบายปรากฏการณ์ขา้ งข้นึ และขา้ งแรม ดงั น้ี ตวั อย่างแผนภาพ ขา้ งแรมเดือนมืดเกิดจากโลกบดบงั ขา้ งข้นึ ของพระจนั ทร์เตม็ ดวง แสงจากดวงอาทิตย์ เป็นเงาปิ ดบงั ไดร้ ับแสงอาทติ ยเ์ ตม็ ดวงสะทอ้ น ดวงจนั ทร์ หาโลก ดวงอาทิตย์ โลก 2. ครูอธิบายสรุปการเกิดปรากฏการณ์ขา้ งข้ึน ขา้ งแรมเป็นความรู้เพม่ิ เติม ดงั น้ี (ตวั อยา่ ง) การเกิดขา้ งข้ึน-ขา้ งแรมทาให้ทราบช่วงเวลาทางจนั ทรคติ ซ่ึงเป็ นการนบั เวลาทางปฏิทินทางพระพุทธศาสนา ทาให้เรารู้เกี่ยวกบั วนั พระและวนั สาคญั ทาง พระพทุ ธศาสนา 3. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ขา้ งข้นึ -ขา้ งแรม เกิดจากดวงจนั ทร์โคจรรอบโลก 4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286