Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วารสารวิชาการ "วารสารศาสตร์" คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

วารสารวิชาการ "วารสารศาสตร์" คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Description: วารสารศาสตร์ ฉบับ "รักก็คือรัก หลงก็คือหลง ถ้าถามประชาสังคม...ก็คงไม่เข้าใจ"
ปีที่ 23 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2563

Keywords: การโกหก

Search

Read the Text Version

ภาพที่ 14 ปริมาณพ้ืนทท่ี ี่น�ำเสนอเกยี่ วกับพรรคการเมืองตา่ งๆ ท่ลี งสมัครรบั เลอื กต้ัง เทยี บ 3 ชอ่ื ฉบบั (ตารางนวิ้ ) จากภาพที่ 14 พบวา่ หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ มพี นื้ ทที่ นี่ ำ� เสนอเนอ้ื หา เก่ยี วกบั พรรคเพื่อไทยมากทสี่ ุด 655.80 ตารางน้วิ คดิ เปน็ ร้อยละ 35.53 ตาม ดว้ ยพรรคพลงั ประชารฐั 520.08 ตารางนวิ้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 21.18 พรรคอนาคต ใหม่ 236.14 ตารางนิว้ คิดเป็นรอ้ ยละ 12.79 พรรคอ่ืนๆ 207.86 ตารางนว้ิ คิดเปน็ ร้อยละ 11.26 พรรคประชาธิปตั ย์ 114.12 ตารางนวิ้ คดิ เปน็ ร้อยละ 7.81 และพรรคภูมิใจไทย 81.62 ตารางนวิ้ คิดเป็นร้อยละ 4.42 หนงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ มพี นื้ ทที่ นี่ ำ� เสนอเนอื้ หาเกยี่ วกบั พรรคเพอ่ื ไทยมาก ที่สุด 1,242.76 ตารางน้ิว คดิ เปน็ รอ้ ยละ 83.34 ตามดว้ ยพรรคอื่นๆ 69.23 ตารางนิ้ว คดิ เปน็ ร้อยละ 4.64 พรรคพลงั ประชารัฐ 69.14 ตารางนว้ิ คดิ เป็น รอ้ ยละ 4.64 พรรคอนาคตใหม่ 52.60 ตารางน้วิ คิดเป็นร้อยละ 3.53 พรรค ประชาธปิ ตั ย์ 43.54 ตารางนิ้ว คดิ เป็นร้อยละ 2.92 และพรรคภมู ิใจไทย 13.88 ตารางน้ิว คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.93 สว่ นหนังสือพมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั มพี น้ื ท่ีท่นี �ำเสนอเน้ือหาเกย่ี วกับพรรค การเมอื งอ่ืนๆ มากท่ีสดุ 781.00 ตารางนวิ้ คิดเปน็ รอ้ ยละ 31.88 (ดูตัวอยา่ ง ท่ี 2 ในภาคผนวก) ตามดว้ ยพรรคประชาธิปัตย์ 745.50 ตารางนิว้ คดิ เป็น ร้อยละ 30.43 พรรคภมู ใิ จไทย 492.60 ตารางน้วิ คิดเปน็ ร้อยละ 20.11 พรรค กันยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   101

พลังประชารัฐ 318.00 ตารางน้ิว คิดเป็นร้อยละ 12.98 พรรคอนาคตใหม่ 102.50 ตารางนว้ิ คิดเป็นรอ้ ยละ 4.18 และพรรคเพื่อไทย 10.00 ตารางนว้ิ คิดเป็นรอ้ ยละ 0.41 ภาพที่ 15 ปรมิ าณพนื้ ทจ่ี ดุ ยนื ตา่ งๆ ของหนงั สอื พมิ พท์ น่ี ำ� เสนอเกยี่ วกบั ผสู้ มคั รเลอื กตงั้ ส.ส. รวม 3 ช่ือฉบับ (ตารางนิ้ว) จากภาพที่ 15 พบว่า หนงั สอื พิมพท์ อ้ งถิน่ ลำ� ปางและสงขลา มพี ้นื ทท่ี ี่ นำ� เสนอเนอ้ื หาเก่ียวกับผู้สมคั รเลอื กต้ัง ส.ส. ในจดุ ยืนบวกมากท่สี ุด 4,501.86 ตารางน้วิ คดิ เป็นร้อยละ 77.80 ตามด้วยจุดยนื ลบ 949.13 ตารางน้ิว คิดเปน็ รอ้ ยละ 16.40 และจดุ ยืนกลาง 335.38 ตารางน้วิ คิดเปน็ ร้อยละ 5.80 102 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ภาพท่ี 16 ปรมิ าณพน้ื ทจ่ี ดุ ยนื ตา่ งๆ ของหนงั สอื พมิ พท์ น่ี ำ� เสนอเกยี่ วกบั ผสู้ มคั รเลอื กตงั้ ส.ส. เทยี บ 3 ช่ือฉบับ (ตารางนวิ้ ) จากภาพที่ 16 พบวา่ หนังสือพิมพ์ ลานนาโพสต์ แมงมุม และ ภาคใต้ โฟกสั มพี นื้ ท่ีที่น�ำเสนอเน้อื หาเกยี่ วกบั ผู้สมคั รเลอื กต้งั ส.ส. ในจุดยืนบวกมาก ทีส่ ดุ 1,217.25 ตารางนว้ิ คิดเป็นร้อยละ 65.95 1,440.01 ตารางนิ้ว คดิ เป็น รอ้ ยละ 96.57 และ 1,844.60 ตารางน้วิ คดิ เป็นร้อยละ 75.30 ตามล�ำดบั ภาพที่ 17 ปรมิ าณพน้ื ท่ีท่ีนำ� เสนอเก่ยี วกบั พรรคการเมืองต่างๆ ท่ีลงสมคั รรับเลือกตงั้ และจุดยนื ของหนงั สอื พมิ พ์ รวม 3 ช่อื ฉบบั (ตารางนวิ้ ) กันยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   103

จากภาพที่ 17 พบวา่ หนงั สอื พมิ พ์ทอ้ งถ่ินล�ำปางและสงขลา มพี ืน้ ทีท่ ่ี นำ� เสนอเนอื้ หาเกย่ี วกบั พรรคการเมอื งตา่ งๆ ในจดุ ยนื ตา่ งๆ 10 อนั ดบั แรก ไดแ้ ก่ (1) พรรคเพอ่ื ไทยในจดุ ยนื บวกมากที่สดุ 1,864.12 ตารางน้ิว คิดเปน็ ร้อยละ 32.22 (2) พรรคการเมอื งอื่นๆ ในจุดยืนบวก 976.28 ตารางนิ้ว คิดเปน็ ร้อยละ 16.87 (3) พรรคภมู ใิ จไทยในจดุ ยนื บวก 572.09 ตารางนว้ิ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 9.89 (4) พรรคพลังประชารฐั ในจดุ ยนื ลบ 492.76 ตารางนว้ิ คิดเป็นร้อยละ 8.52 (5) พรรคประชาธิปัตย์ในจุดยืนลบ 424.91 ตารางนิ้ว คิดเป็นร้อยละ 7.34 (6) พรรคประชาธิปตั ย์ในจดุ ยนื บวก 372.72 ตารางนวิ้ คิดเป็นร้อยละ 6.44 (7) พรรคพลงั ประชารัฐในจดุ ยืนบวก 367.24 ตารางน้ิว คดิ เปน็ ร้อยละ 6.35 (8) พรรคอนาคตใหม่ในจุดยืนบวก 349.41 ตารางน้ิว คดิ เปน็ รอ้ ยละ 6.04 (9) พรรคประชาธปิ ตั ยใ์ นจดุ ยนื กลาง 135.53 ตารางนว้ิ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 2.34 และ (10) พรรคการเมืองอ่นื ๆ ในจดุ ยนื กลาง 58.61 ตารางนิ้ว คดิ เป็นรอ้ ยละ 1.01 ภาพที่ 18 ปริมาณพืน้ ที่ท่ีน�ำเสนอเก่ยี วกับพรรคการเมอื งต่างๆ ทีล่ งสมัครรับเลือกต้งั และจุดยนื ของหนงั สือพมิ พ์ เทยี บ 3 ชื่อฉบับ (ตารางนิ้ว) จากภาพท่ี 18 พบว่า ปริมาณพ้ืนที่ที่น�ำเสนอเกี่ยวกับพรรคการเมือง ตา่ งๆ และจดุ ยืนต่างๆ ของหนังสอื พมิ พ์แต่ละชือ่ ฉบบั 10 ล�ำดับแรก มดี งั นี้ 104 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

1. หนงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ นำ� เสนอเนอื้ หาเกย่ี วกบั พรรคเพอ่ื ไทยในจดุ ยนื บวก 1,235.63 ตารางนิ้ว คดิ เป็นร้อยละ 82.14 2. หนังสือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส น�ำเสนอเน้ือหาเกี่ยวกับพรรคการเมือง อืน่ ๆ ในจุดยืนบวก 781.00 ตารางนว้ิ คิดเป็นร้อยละ 31.88 3. หนงั สือพมิ พ์ ลานนาโพสต์ นำ� เสนอเนื้อหาเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยใน จดุ ยืนบวก 618.49 ตารางน้วิ คดิ เปน็ ร้อยละ 33.51 4. หนังสอื พิมพ์ ภาคใตโ้ ฟกัส นำ� เสนอเน้ือหาเกยี่ วกบั พรรคภมู ใิ จไทย ในจุดยืนบวก 492.60 ตารางน้ิว คิดเป็นร้อยละ 20.11 (ดูตัวอย่างท่ี 3 ใน ภาคผนวก) 5. หนงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั นำ� เสนอเนอื้ หาเกย่ี วกบั พรรคประชาธปิ ตั ย์ ในจดุ ยืนลบ 414.00 ตารางนวิ้ คิดเปน็ รอ้ ยละ 16.90 6. หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ นำ� เสนอเนอ้ื หาเกยี่ วกบั พรรคพลงั ประชารฐั ในจุดยืนลบ 380.38 ตารางนิ้ว คิดเป็นร้อยละ 29.61 (ดูตัวอย่างท่ี 4 ใน ภาคผนวก) 7. หนงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั นำ� เสนอเนอ้ื หาเกยี่ วกบั พรรคพลงั ประชารฐั ในจดุ ยืนบวก 232.60 ตารางนิ้ว คิดเป็นรอ้ ยละ 9.47 8. หนงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั นำ� เสนอเนอื้ หาเกย่ี วกบั พรรคประชาธปิ ตั ย์ ในจดุ ยืนบวก 226.50 ตารางนิ้ว คดิ เปน็ รอ้ ยละ 9.25 9. หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ นำ� เสนอเนอื้ หาเกยี่ วกบั พรรคอนาคตใหม่ ในจุดยืนบวก 195.44 ตารางนิว้ คิดเป็นรอ้ ยละ 10.59 10. หนังสือพิมพ์ ลานนาโพสต์ น�ำเสนอเน้ือหาเกี่ยวกับพรรค ประชาธิปัตย์ในจุดยืนบวก 104.93 ตารางนิ้ว คิดเป็นร้อยละ 5.69 สรุปได้วา่ หนังสอื พมิ พ์ แมงมุม ใชพ้ ้ืนทีจ่ ำ� นวนมาก (รอ้ ยละ 82.14) ในการนำ� เสนอเกยี่ วกบั พรรคเพ่อื ไทยในจุดยืนบวก โดยนำ� เสนอพรรคตา่ งๆ ใน จำ� นวนนอ้ ยมาก ขณะทหี่ นังสือพมิ พ์ ลานนาโพสต์ ใช้พื้นที่จ�ำนวนมากนำ� เสนอ เกยี่ วกบั พรรคเพอื่ ไทยและอนาคตใหมใ่ นจดุ ยนื บวก (รอ้ ยละ 33.51 และรอ้ ยละ กันยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   105

10.59) และพรรคพลงั ประชารฐั ในจดุ ยนื ลบ (รอ้ ยละ 29.61) โดยพาดพิงใน ปรมิ าณเล็กน้อยต่อพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคอื่นๆ ในจดุ ยนื บวก และกลาง ส่วนหนังสอื พิมพ์ ภาคใต้โฟกสั น�ำเสนอเก่ยี วกบั พรรคอน่ื ๆ ในจุดยนื บวก (รอ้ ยละ 31.88) ตามดว้ ยพรรคภมู ิใจไทย และพลังประชารัฐในจดุ ยนื บวก (ร้อยละ 20.11 และร้อยละ 9.47) และพรรคประชาธปิ ตั ยใ์ นจดุ ยนื ลบ (รอ้ ยละ 16.90) โดยพาดพิงพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่น้อยมาก ภาพท่ี 19 ปรมิ าณพนื้ ท่ีท่ีน�ำเสนอเก่ียวกบั พรรคการเมืองต่างๆ ที่ลงสมคั รรับเลือกตง้ั และจุดยืนของหนังสือพิมพ์ในรปู แบบขา่ ว เทียบ 3 ชอื่ ฉบบั (ตารางนว้ิ ) จากภาพท่ี 19 พบวา่ หนงั สอื พมิ พแ์ ตล่ ะชอ่ื ฉบบั น�ำเสนอเนอ้ื หาเกย่ี วกบั พรรคการเมอื งตา่ งๆ และจดุ ยนื ตา่ งๆ ในรปู แบบข่าว ดงั น้ี 1. หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ น�ำเสนอเน้อื หาในรปู แบบข่าวจุดยืนบวก ต่อพรรคอน่ื ๆ มากท่สี ุด 99.37 ตารางนิ้ว คิดเปน็ รอ้ ยละ 18.70 ตามด้วยพรรค เพอื่ ไทย 90.16 ตารางนวิ้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 16.97 พรรคอนาคตใหม่ 86.39 ตาราง นวิ้ คดิ เป็นรอ้ ยละ 16.26 พรรคพลังประชารฐั 67.40 ตารางนิว้ คิดเปน็ รอ้ ยละ 12.68 และพรรคประชาธปิ ัตย์ 31.09 ตารางน้ิว คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.85 106 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

2. หนงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ นำ� เสนอเนอื้ หาในรปู แบบขา่ วตอ่ พรรคเพอื่ ไทย ในจดุ ยนื บวกมากทีส่ ดุ 81.44 ตารางนวิ้ คดิ เป็นร้อยละ 100.00 3. หนังสือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส น�ำเสนอเนื้อหาในรูปแบบข่าวในจุดยืน บวกต่อพรรคอ่ืนๆ มากท่ีสุด 576.50 ตารางนิว้ คิดเปน็ ร้อยละ 36.74 ตามด้วย พรรคภูมใิ จไทย 315.00 ตารางนว้ิ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20.08 พรรคประชาธิปัตย์ ในจุดยนื ลบ 297.00 ตารางน้วิ คิดเปน็ ร้อยละ 18.93 พรรคพลงั ประชารฐั ใน จุดยนื บวก 179.50 ตารางนิ้ว คดิ เปน็ ร้อยละ 11.44 และพรรคประชาธปิ ตั ยใ์ น จุดยนื บวก 142.50 ตารางนว้ิ คิดเปน็ ร้อยละ 9.08 สรปุ ไดว้ า่ หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ ใชร้ ปู แบบขา่ วในการนำ� เสนอเนอ้ื หา เกยี่ วกบั พรรคการเมอื งตา่ งๆ กระจายไปยงั ทกุ พรรค (คอ่ นในทางจดุ ยนื บวกและ กลาง) ขณะท่หี นงั สือพมิ พ์ ภาคใต้โฟกัส ใช้รูปแบบข่าวในการน�ำเสนอเนือ้ หา เก่ยี วกบั พรรคอืน่ ๆ พรรคภูมิใจไทย ประชาธิปตั ย์ และพลังประชารฐั (คอ่ นใน ทางจดุ ยนื บวกและลบ) โดยไมน่ �ำเสนอเนอ้ื หาเกย่ี วกบั พรรคเพอ่ื ไทยและอนาคต ใหม่เลย สว่ นหนงั สือพมิ พ์ แมงมุม ใช้รปู แบบขา่ วในการนำ� เสนอเน้อื หาเก่ยี วกับ พรรคเพือ่ ไทยเพยี งพรรคเดยี วในจุดยนื บวกเท่านน้ั ภาพที่ 20 ปริมาณพน้ื ท่ที ี่น�ำเสนอเก่ยี วกบั พรรคการเมอื งต่างๆ ท่ลี งสมคั รรบั เลือกตง้ั และจดุ ยนื ของหนงั สอื พมิ พใ์ นรปู แบบบทความ เทยี บ 3 ชอื่ ฉบบั (ตารางนวิ้ ) กันยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   107

จากภาพที่ 20 พบว่า หนังสอื พิมพแ์ ต่ละชอ่ื ฉบบั นำ� เสนอเน้อื หาเก่ยี ว กับพรรคการเมืองต่างๆ และจุดยืนต่างๆ ในรปู แบบบทความ ดงั นี้ 1. หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ มพี นื้ ทท่ี นี่ ำ� เสนอเนอ้ื หาในรปู แบบบทความ เกยี่ วกบั พรรคพลงั ประชารฐั ในจดุ ยนื ลบมากทส่ี ดุ 380.38 ตารางนวิ้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 18.70 ตามด้วยพรรคเพ่อื ไทยในจดุ ยนื บวก 176.95 ตารางนวิ้ คดิ เป็นรอ้ ยละ 21.81 และพรรคอนาคตใหมใ่ นจดุ ยนื บวก 79.49 ตารางนว้ิ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 9.80 2. หนังสือพิมพ์ แมงมุม มีพื้นท่ีที่น�ำเสนอเนื้อหาในรูปแบบบทความ เกี่ยวกับพรรคเพอื่ ไทยในจดุ ยืนบวกมากที่สดุ 95.65 ตารางน้วิ คิดเปน็ รอ้ ยละ 34.45 ตามด้วยพรรคอนาคตใหมใ่ นจดุ ยืนบวก 51.47 ตารางน้วิ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 18.54 และพรรคอ่นื ๆ ในจุดยนื บวก 26.48 ตารางนว้ิ คิดเป็นร้อยละ 9.54 3. หนงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั มพี นื้ ทที่ นี่ ำ� เสนอเนอ้ื หาในรปู แบบบทความ เกยี่ วกบั พรรคพลงั ประชารฐั ในจดุ ยนื ลบมากทส่ี ดุ 26.00 ตารางนวิ้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 40.63 ตามดว้ ยพรรคอน่ื ๆ ในจดุ ยนื บวก 12.00 ตารางนว้ิ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 18.75 พรรคเพ่ือไทยในจุดยนื บวกและพรรคอนาคตใหมใ่ นจุดยนื บวก 10.00 ตารางนว้ิ คดิ เป็นรอ้ ยละ 15.63 สรปุ ไดว้ า่ หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ ใชร้ ปู แบบบทความเปน็ จำ� นวนมาก ในการนำ� เสนอเนอื้ หาเกยี่ วกบั พรรคพลงั ประชารฐั ในจดุ ยนื ลบ และพรรคเพอื่ ไทย และอนาคตใหม่ในจดุ ยืนบวก ขณะทีห่ นงั สือพิมพ์ แมงมุม ใช้รปู แบบบทความ น�ำเสนอเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ตามดว้ ยพรรคอนาคตใหม่ และพรรคอนื่ ๆ ใน จดุ ยืนบวก สว่ นหนงั สอื พิมพ์ ภาคใตโ้ ฟกสั ใชร้ ปู แบบบทความนำ� เสนอกระจาย ไปยงั ทกุ พรรค ยกเว้นพรรคภมู ิใจไทย 108 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ภาพที่ 21 ปริมาณพนื้ ท่ที ี่นำ� เสนอเก่ยี วกบั พรรคการเมอื งตา่ งๆ ท่ลี งสมัครรบั เลือกตัง้ และจดุ ยนื ของหนังสอื พิมพใ์ นรูปแบบภาพ เทียบ 3 ชอื่ ฉบับ (ตารางน้วิ ) จากภาพท่ี 21 พบวา่ หนงั สอื พมิ พแ์ ตล่ ะชอ่ื ฉบบั นำ� เสนอเนอื้ หาเกยี่ วกบั พรรคการเมืองต่างๆ และจุดยืนต่างๆ ในรูปแบบภาพ ดงั น้ี 1. หนังสือพิมพ์ ลานนาโพสต์ มีพ้ืนท่ีที่นำ� เสนอเน้ือหาในรูปแบบภาพ เกี่ยวกบั พรรคเพื่อไทยในจดุ ยืนบวกมากทีส่ ุด 351.38 ตารางนวิ้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 69.86 ตามดว้ ยพรรคประชาธปิ ตั ยใ์ นจดุ ยนื บวก 58.76 ตารางนวิ้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 11.68 และพรรคอนาคตใหมใ่ นจดุ ยนื บวก 29.56 ตารางนว้ิ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.88 2. หนงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ มพี นื้ ทท่ี น่ี ำ� เสนอเนอื้ หาในรปู แบบภาพเกย่ี วกบั พรรคเพ่อื ไทยในจุดยืนบวกมากที่สุด 1,058.54 ตารางน้ิว คิดเปน็ รอ้ ยละ 93.51 (ดูตัวอย่างที่ 5 ในภาคผนวก) ตามด้วยพรรคอื่นๆ ในจุดยืนบวก 28.50 ตารางนิ้ว คิดเปน็ ร้อยละ 2.52 และพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธปิ ัตย์ ในจดุ ยนื บวก 22.50 ตารางน้ิว คดิ เป็นรอ้ ยละ 1.99 3. หนังสือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส มีพื้นท่ีที่น�ำเสนอเนื้อหาในรูปแบบภาพ เกีย่ วกบั พรรคการเมืองอ่นื ๆ ในจุดยืนบวกมากท่ีสุด 192.50 ตารางนิว้ คิดเปน็ รอ้ ยละ 23.57 ตามด้วยพรรคภมู ิใจไทยในจดุ ยืนบวก 177.60 ตารางนวิ้ คดิ เป็น กนั ยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   109

รอ้ ยละ 21.75 และพรรคประชาธิปตั ย์ในจุดยนื ลบ 117.00 ตารางนิว้ คิดเป็น รอ้ ยละ 14.33 สรุปได้ว่า หนังสือพิมพ์ แมงมุม ใช้รูปแบบภาพเป็นจ�ำนวนมากใน การน�ำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยในจุดยืนบวก ขณะท่ีหนังสือพิมพ์ ลานนาโพสต์ ใชร้ ปู แบบภาพนำ� เสนอเกยี่ วกบั พรรคเพอ่ื ไทย ตามดว้ ยพรรคตา่ งๆ ในจดุ ยืนบวก สว่ นหนงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกัส ใชร้ ปู แบบภาพน�ำเสนอกระจายไป ยงั ทุกพรรค ยกเวน้ พรรคเพื่อไทย สรปุ ผลการศกึ ษา จากผลการศกึ ษาหนงั สอื พมิ พท์ อ้ งถนิ่ ทงั้ 3 ชอ่ื ฉบบั ไดแ้ ก่ ลานนาโพสต์ แมงมมุ และ ภาคใต้โฟกัส สรุปประเดน็ สำ� คัญไดด้ ังนี้ 1. ปริมาณการน�ำเสนอ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นท้ัง 3 ช่ือฉบับน�ำเสนอ เนือ้ หาท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ผ้สู มคั รเลือกตง้ั ส.ส. จำ� นวน 188 ชนิ้ ในพน้ื ที่ 5,786.37 ตารางน้ิว หรือคิดเป็นร้อยละ 4.59 ของพ้ืนที่การน�ำเสนอทั้งหมด โดย หนังสอื พิมพ์ ภาคใตโ้ ฟกสั (จังหวัดสงขลา) มีสัดส่วนพนื้ ท่ที ่ีมีเน้ือหาที่เกีย่ วกับ ผสู้ มคั รเลอื กตง้ั ส.ส. เทยี บกบั เนอ้ื หาอน่ื ๆ มากทสี่ ดุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.47 ตามดว้ ย หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ (จงั หวดั ลำ� ปาง) คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.31 และหนงั สอื พมิ พ์ แมงมุม (จงั หวัดลำ� ปาง) คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3.21 ภูวสษิ ฏ์ สขุ ใส (สัมภาษณ,์ 27 ตุลาคม 2562) บรรณาธิการบรหิ าร หนังสอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกัส อธิบายถงึ นโยบายของหนงั สอื พมิ พ์ ภาคใต้โฟกัส ว่า เป็นหนังพิมพ์ท้องถ่ินเชิงคุณภาพ ประเภทสังคม-การเมือง ที่เน้นน�ำเสนอข่าว สงั คม การเมอื ง ธรุ กจิ และการศกึ ษาทใ่ี กลช้ ดิ กบั คนในทอ้ งถน่ิ ภาคใต้ ไมน่ ำ� เสนอ ขา่ วอาชญากรรม หรือเนอ้ื หาท่ไี ม่ท�ำใหเ้ กิดการเรยี นรู้แกผ่ ู้อ่าน มกี ลุ่มเปา้ หมาย หลกั เปน็ ชนชนั้ ผนู้ �ำ ตง้ั แตร่ ะดบั ชมุ ชน ภมู ภิ าค ไปจนถงึ ระดบั ประเทศ เนอื่ งดว้ ย ลกั ษณะผลิตภัณฑ์ท่มี รี ปู ลกั ษณ์คล้ายนิตยสาร และจำ� หนา่ ยในราคา 30 บาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นทั่วไป ท�ำให้คนท่ัวไปไม่สนใจอ่าน ท้ังน้ี หนังสือพมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั เปน็ หนังสอื พมิ พร์ ายสัปดาห์ ท�ำให้ไม่สามารถเสนอ 110 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ข่าวได้รวดเร็วเท่าส่ือออนไลน์ จึงปรับเปล่ียนรูปเล่มให้มีลักษณะคล้ายนิตยสาร และเนน้ นำ� เสนอขอ้ มลู เชงิ ลกึ และขา่ วเชงิ วเิ คราะห์ ทงั้ นต้ี ง้ั แตห่ ลงั จากวนั ประกาศ พระราชกฤษฎกี าการเลอื กตงั้ (23 มกราคม 2562) จนถงึ วนั เลอื กตง้ั (24 มนี าคม 2562) หนังสือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส ได้ให้ความส�ำคัญกับการน�ำเสนอเน้ือหาที่ เก่ยี วขอ้ งกบั ผูส้ มัครเลือกตง้ั ส.ส. โดยมีพาดหวั ขา่ วและภาพทม่ี ีเน้อื หาเก่ยี วข้อง กบั ผู้สมคั รเลือกตงั้ ส.ส. ในหนา้ หน่ึงทกุ ฉบบั ส่วนในหน้าในไดม้ ีการลดจำ� นวน หนา้ ทน่ี ำ� เสนอเนือ้ หาเกย่ี วกบั สังคม การเมือง ธุรกจิ และการศึกษาลงอยา่ งละ หน่ึงหน้า และเพิม่ พื้นที่หนา้ “โฟกสั เลือกต้ัง 62” ซึ่งนำ� เสนอเน้อื หาทเ่ี กี่ยวข้อง กบั การเลือกตงั้ และผู้สมัครเลือกตัง้ ส.ส. โดยเฉพาะ ท้งั ในรปู แบบขา่ ว บทความ และภาพ 2. รปู แบบการน�ำเสนอ หนงั สือพิมพท์ อ้ งถิ่นลำ� ปางและสงขลาใหพ้ ื้นท่ี น�ำเสนอเน้อื หาเกย่ี วกบั ผสู้ มคั รเลอื กตง้ั ส.ส. ในรูปแบบภาพมากทีส่ ุด คิดเปน็ รอ้ ยละ 42.37 ตามด้วยรปู แบบข่าว คดิ เป็นรอ้ ยละ 37.71 และรูปแบบบทความ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 19.92 หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ ใหพ้ น้ื ทนี่ ำ� เสนอเนอ้ื หาทเี่ กยี่ วกบั ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส. ในรูปแบบบทความมากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ 43.96 หนังสือพิมพ์ แมงมุม ให้พื้นท่ีน�ำเสนอเนื้อหาท่ีเก่ียวกับผู้สมัครเลือกต้ัง ส.ส. ในรูปแบบภาพมากที่สุด คิดเปน็ ร้อยละ 75.92 หนังสอื พิมพ์ ภาคใต้โฟกสั ให้ พืน้ ท่นี ำ� เสนอเนือ้ หาท่เี กย่ี วกบั ผสู้ มคั รเลอื กตง้ั ส.ส. ในรูปแบบข่าวมากทีส่ ดุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 64.05 วรษิ ฐา ภกั ดี (สมั ภาษณ,์ 27 ตลุ าคม 2562) ผอู้ �ำนวยการหนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ อธิบายว่า สาเหตุท่ีน�ำเสนอบทความมากที่สุดน้ัน เป็นเพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้คนภายนอกไดแ้ สดงความคดิ เห็นถึงประเดน็ สำ� คัญๆ ส่วนหนังสอื พิมพ์ ภาคใต้โฟกสั ทน่ี �ำเสนอเนอ้ื หาท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ผสู้ มัคร เลอื กตงั้ ส.ส. ในรปู แบบขา่ วมากท่สี ุด ภวู สษิ ฏ์ สขุ ใส (สัมภาษณ,์ 27 ตุลาคม 2562) บรรณาธกิ ารบริหารหนงั สือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส อธิบายว่า หนังสอื พิมพ์ ภาคใตโ้ ฟกสั มกี ารนำ� เสนอเนอื้ หาในรปู แบบบทความนอ้ ย เนอ่ื งจากปจั จยั ภายใน คอื มนี ักข่าวน้อย โดยมนี กั ข่าวประจ�ำทม่ี ีความสามารถในการเขยี นบทความและ กันยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   111

สกปู๊ พเิ ศษเพยี งแค่ 1 คน สว่ นนกั ขา่ วท่เี หลอื อกี 3 คน มีอายงุ านไม่ถงึ 3 ปี จงึ ยงั ไมม่ ปี ระสบการณใ์ นการทำ� งานทเี่ กย่ี วกบั การเลอื กตง้ั เพราะประเทศไทยหา่ ง หายจากการเลอื กตง้ั มานาน ทำ� ใหบ้ รรณาธกิ ารบรหิ ารไมไ่ ดเ้ ขา้ ไปเรง่ รดั ใหน้ กั ขา่ ว ตอ้ งท�ำบทความ อีกเหตุผลหนง่ึ คอื ปัจจัยภายนอก ท่ใี นอดีตหนังสอื พิมพ์ ภาคใต้ โฟกัส น�ำเสนอเนื้อหาในรูปแบบบทความที่มาจากนักเขียนภายนอกค่อนข้าง มาก แต่ก็ตอ้ งยกเลกิ ไป เพราะในปจั จบุ ันนักเขียนภายนอกมกั อยากลงบทความ ในส่ือออนไลน์ของตนเอง และอยากส่งบทความไปให้หนังสือพิมพ์ฉบับอื่นด้วย ซึ่งไม่สอดคล้องกับระบบการท�ำงานของหนังสือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส อย่างไร กต็ าม หนงั สอื พมิ พค์ วรมบี ทความจากนกั วชิ าการ แตห่ นงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั ยงั ขาดการจดั การตรงสว่ นนอี้ ยู่ จงึ เปน็ โจทยส์ �ำคญั ในการเลอื กตง้ั ทง้ั ระดบั ทอ้ งถนิ่ และระดบั ประเทศในครงั้ ตอ่ ไป ทจี่ �ำเปน็ จะตอ้ งมกี ารน�ำเสนอเนอ้ื หาและขา่ วสาร ในรปู แบบทหี่ ลากหลายมากข้นึ 3. หนา้ ท่ีนำ� เสนอ หนังสือพมิ พท์ อ้ งถนิ่ ล�ำปางและสงขลามพี ้นื ทเี่ นื้อหา ทเี่ ก่ยี วกบั ผสู้ มัครเลอื กตัง้ ส.ส. ปรากฏในหน้าอืน่ ๆ มากกว่าหน้า 1 โดยมพี น้ื ท่ี ปรากฏในหนา้ อืน่ ๆ คิดเป็นรอ้ ยละ 75.33 และพื้นท่ีปรากฏในหนา้ 1 คดิ เปน็ ร้อยละ 24.67 หนังสือพิมพ์ ลานนาโพสต์ มีสัดส่วนพ้ืนที่ที่น�ำเสนอเน้ือหาท่ี เก่ยี วกบั ผสู้ มัครเลือกตง้ั ส.ส. ในหนา้ 1 เทียบกบั หน้าอืน่ ๆ มากทส่ี ุด คิดเปน็ รอ้ ยละ 36.05 ตามดว้ ยหนังสือพิมพ์ ภาคใตโ้ ฟกสั คิดเป็นรอ้ ยละ 26.84 และ หนงั สือพมิ พ์ แมงมุม คิดเป็นรอ้ ยละ 7.00 บัณฑิต ภักดีวงศ์ (สัมภาษณ์, 26 ตุลาคม 2562) บรรณาธิการ หนังสอื พิมพ์ แมงมมุ อธบิ ายถึงเรอื่ งนโยบายหนงั สอื พมิ พ์ แมงมุม ว่า การท่ี หนา้ หน่ึงมีขา่ วการเลอื กตั้งน้อย แต่มขี ่าวอาชญากรรมเปน็ สว่ นมาก เพราะกลุ่ม เป้าหมายหลักคือชาวบ้าน อีกท้ังข่าวอาชญากรรมเป็นข่าวท่ีท�ำให้คนหยิบอ่าน มากกวา่ เพ่ือให้หนังสอื พมิ พ์ท้องถน่ิ อยู่รอดได้ทางธรุ กจิ และเมื่อประชาชนซือ้ หนงั สอื พมิ พไ์ ปแลว้ กจ็ ะไดอ้ า่ นเนอื้ หาทอี่ ยดู่ า้ นในดว้ ย หากคนไมซ่ อื้ หนงั สอื พมิ พ์ เนื้อหาข้างในก็ไม่มีค่า คอลัมน์ข้างในจะเน้นเป็นเร่ืองการเมืองด้วย และมีแฟน ติดตามอยู่ค่อนข้างมาก บางคนก็ซ้ือเพ่ืออ่านเนื้อหาเก่ียวกับการเมืองข้างใน 112 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

นอกจากนน้ี กั ขา่ วในกองบรรณาธกิ ารมเี พยี งแค่ 4 คนเทา่ น้ัน ไมม่ ีบคุ ลากรไป เจาะข่าวการเมืองโดยตรง 4. แหลง่ ขา่ ว หนงั สอื พมิ พท์ อ้ งถนิ่ ลำ� ปางและสงขลามพี นื้ ทกี่ ารนำ� เสนอ เน้อื หาทเ่ี ก่ียวกับผสู้ มัครเลือกต้ัง ส.ส. จากแหล่งข่าวกองบรรณาธกิ ารมากที่สดุ คิดเป็นร้อยละ 57.28 ตามดว้ ยแหลง่ ขา่ วพรรคการเมอื ง คดิ เป็นร้อยละ 32.04 แหล่งขา่ วอ่ืนๆ คดิ เป็นรอ้ ยละ 7.38 แหลง่ ขา่ วประชาชน คิดเปน็ ร้อยละ 1.74 และแหล่งข่าวนักวิชาการ คิดเป็นร้อยละ 1.56 หนังสือพิมพ์ แมงมุม และ ลานนาโพสต์ มีพื้นท่ีที่น�ำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับผู้สมัครเลือกต้ัง ส.ส. จาก แหลง่ ขา่ วกองบรรณาธกิ ารมากทสี่ ดุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 98.84 และ 84.76 ตามลำ� ดบั หนงั สือพมิ พ์ ภาคใต้โฟกัส นำ� เสนอเน้อื หาเก่ยี วกบั ผูส้ มคั รเลอื กต้ัง ส.ส. จาก แหลง่ ข่าวพรรคการเมอื งมากท่ีสุด คดิ เป็นร้อยละ 65.90 วริษฐา ภักดี ผู้อำ� นวยการหนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ (สัมภาษณ์, 27 ตุลาคม 2562) ให้สมั ภาษณ์วา่ หนงั สือพิมพ์ ลานนาโพสต์ นำ� เสนอเน้อื หาจาก กองบรรณาธกิ ารมากทสี่ ดุ โดยไมน่ ำ� เสนอผา่ นแหลง่ ขา่ วตา่ งๆ เนอื่ งจากตอ้ งการ สรปุ ประเดน็ และภาพรวมใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจไดร้ วดเรว็ มากขน้ึ จากการรวบรวมเนอ้ื หา จากแหลง่ ขา่ วจำ� นวนมากมาตลอดสปั ดาห์ ขณะที่ บณั ฑติ ภกั ดวี งศ์ บรรณาธกิ าร หนงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ (สมั ภาษณ,์ 26 ตลุ าคม 2562) อธบิ ายวา่ การทมี่ แี หลง่ ขา่ ว ประเภทอื่นน้อยเกิดจากนักข่าวไม่ถนัดในการถามค�ำถามกับแหล่งข่าว จึงใช้ การเขียนขา่ วในเชงิ บรรยายเหตุการณ์ แทนการอ้างแหล่งขา่ ว 5. พรรคการเมือง หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นล�ำปางและสงขลา มีพ้ืนท่ีที่ น�ำเสนอเนอื้ หาเกี่ยวกบั พรรคเพ่ือไทยมากทส่ี ุด คิดเปน็ รอ้ ยละ 32.98 ตามดว้ ย พรรคการเมอื งอนื่ ๆ คิดเป็นร้อยละ 18.29 พรรคพลังประชารฐั คิดเป็นร้อยละ 15.68 พรรคประชาธิปตั ย์ คิดเป็นรอ้ ยละ 16.13 พรรคภูมใิ จไทย คดิ เป็นร้อยละ 10.16 และพรรคอนาคตใหม่ คดิ เป็นร้อยละ 6.76 หนังสือพมิ พ์ ลานนาโพสต์ มีพ้ืนทท่ี ีน่ ำ� เสนอเน้ือหาเกย่ี วกับพรรคเพือ่ ไทยมากทสี่ ดุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 35.53 ตามดว้ ยพรรคพลงั ประชารฐั คดิ เปน็ รอ้ ยละ 21.18 พรรคอนาคตใหม่ คิดเปน็ รอ้ ยละ 12.79 พรรคอืน่ ๆ คิดเป็นรอ้ ยละ 11.26 พรรคประชาธปิ ตั ย์ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 7.81 และพรรคภมู ใิ จไทย คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4.42 กันยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   113

หนงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ มพี นื้ ทท่ี นี่ ำ� เสนอเนอ้ื หาเกยี่ วกบั พรรคเพอ่ื ไทยมาก ทสี่ ดุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 83.34 ตามดว้ ยพรรคอน่ื ๆ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4.64 พรรคพลงั ประชารัฐ คดิ เปน็ ร้อยละ 4.64 พรรคอนาคตใหม่ คิดเปน็ รอ้ ยละ 3.53 พรรค ประชาธปิ ัตย์ คิดเปน็ ร้อยละ 2.92 และพรรคภมู ิใจไทย คดิ เป็นร้อยละ 0.93 สว่ นหนงั สือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส มพี ้ืนทีท่ นี่ ำ� เสนอเนอ้ื หาเกีย่ วกับพรรค การเมืองอื่นๆ มากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ 31.88 ตามด้วยพรรคประชาธิปัตย์ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 30.43 พรรคภมู ใิ จไทย คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20.11 พรรคพลงั ประชารฐั คดิ เปน็ รอ้ ยละ 12.98 พรรคอนาคตใหม่ คิดเป็นร้อยละ 4.18 และพรรคเพอื่ ไทย คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.41 วรษิ ฐา ภกั ดี (สมั ภาษณ,์ 27 ตลุ าคม 2562) ผอู้ �ำนวยการหนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุท่ีน�ำเสนอเนื้อหาเก่ียวกับพรรคเพ่ือไทย มาก เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเป็นเพียงพรรคเดียวท่ีส่งภาพเข้ามาให้กอง บรรณาธิการจัดพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ ส่วนพรรคพลังประชารัฐมาจากความ สนใจของคอลัมนิสต์แต่ละคน ท่ีต้องการหยิบประเด็นของพรรคขึ้นมานำ� เสนอ ทางกองบรรณาธิการจะไม่เขา้ ไปเปลี่ยนเนอื้ หาใดๆ เพราะหนงั สือพิมพ์ ลานนา โพสต์ ใหเ้ สรีภาพในการน�ำเสนอข้อมลู แกท่ กุ คน ภูวสิษฏ์ สขุ ใส (สมั ภาษณ์, 27 ตลุ าคม 2562) บรรณาธิการบรหิ าร หนงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั อธบิ ายวา่ ทมี่ กี ารนำ� เสนอเนอ้ื หาทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ผสู้ มคั ร เลือกต้ัง ส.ส. ของพรรคการเมืองอื่นๆ มากท่ีสุด เป็นเพราะหนังสือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส มีเป้าหมายเพ่ือให้ผู้อ่านได้ทราบว่า จังหวัดสงขลาไม่ได้มีเพียง ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีพรรคการเมืองและผู้สมัครหน้าใหม่ อกี หลายราย เป็นการให้พืน้ ทกี่ ับผู้สมคั รใหม่ทไ่ี ม่มีโอกาสไปอยู่ในส่ือระดับชาติ ได้ใช้พื้นที่ส่ือระดับท้องถิ่นนี้ในการแนะน�ำตัวและน�ำเสนอนโยบาย ส่วนการ นำ� เสนอเนอ้ื หาทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ผสู้ มคั รเลอื กตงั้ ส.ส. ของพรรคประชาธปิ ตั ยท์ ม่ี พี น้ื ท่ี มากรองลงมานนั้ เปน็ เพราะพรรคประชาธปิ ตั ยม์ คี วามขดั แยง้ ภายในเกดิ ขน้ึ มาก และเกิดข้ึนมาโดยตลอด มคี วามจ�ำเป็นทจี่ ะตอ้ งถกู นำ� เสนอ นอกจากนี้ การที่ เน้ือหาท่ีเกี่ยวข้องกับผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยถูกนำ� เสนอมากเช่นกัน 114 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

เปน็ เพราะเปน็ พรรคใหมท่ เ่ี พง่ิ ลงมาเขา้ ถงึ ภาคใตอ้ ยา่ งจรงิ จงั สง่ ผสู้ มคั รในจงั หวดั สงขลาครบทกุ เขต หวั หนา้ พรรคไปลงพน้ื ทดี่ ว้ ยตวั เองบอ่ ยครง้ั และมกี ารด�ำเนนิ กิจกรรมทางการเมอื งในภาคใตอ้ ยา่ งต่อเนือ่ ง หนงั สือพมิ พ์ ภาคใต้โฟกสั ทีม่ งุ่ น�ำเสนอข้อมูลของผสู้ มัครและนโยบายของพรรค เพ่อื ให้ข้อมูลแกผ่ ู้อ่าน โดยไม่ สนบั สนนุ ฝา่ ยใด จึงตอ้ งน�ำเสนอเนือ้ หาในรูปแบบและปรมิ าณในลกั ษณะน้ี และ ในกรณที ห่ี นงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั นำ� เสนอเนอ้ื หาทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ผสู้ มคั รเลอื กตง้ั ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ และเพอ่ื ไทยนอ้ ยมาก เปน็ เพราะพรรคเพอ่ื ไทยไมส่ ง่ ผสู้ มคั รในจงั หวดั สงขลาเลย สว่ นพรรคอนาคตใหมส่ ง่ ผสู้ มคั รนอ้ ย และไมม่ คี วาม โดดเดน่ หวั หนา้ พรรคลงพ้นื ท่ใี นจังหวดั สงขลาน้อยมาก สว่ นเลขาธกิ ารพรรคไม่ เคยลงพนื้ ทเ่ี ลย ทำ� ใหไ้ มม่ เี หตกุ ารณท์ จี่ ะนำ� เสนอเปน็ ขา่ วได้ ทง้ั นจี้ ากการประเมนิ คนในพืน้ ท่ี ทำ� ให้หนังสอื พิมพ์ ภาคใตโ้ ฟกสั ต้องมองขา้ มพรรคเพ่อื ไทย รวมถึง พรรคเครือข่ายทักษิณ ชนิ วัตร อดตี นายกรฐั มนตรี ท้ังหมด เพราะถ้านำ� เสนอ จะไม่มีคนอ่าน ไม่มีคนซื้อ ส่งผลต่อยอดจ�ำหน่าย ต่อให้ประเด็นน่าสนใจมาก แต่ก็ไม่ควรนำ� ขนึ้ หนา้ หนึง่ ไมค่ วรเป็นข่าว 1 หรอื 2 เป็นได้แคข่ ่าวรองเทา่ นั้น ต่างกับพรรคประชาธิปัตย์ท่ีมีฐานเสียงท่ีแข็งแรง หรือพรรคภูมิใจไทยท่ีมีคนใน พนื้ ทช่ี น่ื ชอบและมกั จะมกี องเชยี รม์ าซอ้ื หนงั สอื พมิ พไ์ ปแจกอยเู่ สมอ นกั การเมอื ง จากพรรคการเมอื งใหม่ๆ ก็มกั ซื้อไปแจกเพื่อเปน็ การเปดิ ตัวอีกทางหนึง่ 6. จุดยืนต่อพรรคการเมือง หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นล�ำปางและสงขลา มีพนื้ ที่ที่นำ� เสนอเนือ้ หาเก่ียวกบั พรรคการเมอื งต่างๆ ในจุดยนื ต่างๆ 10 อันดับ แรก ไดแ้ ก่ (1) พรรคเพอื่ ไทยในจุดยืนบวก คดิ เปน็ ร้อยละ 32.22 (2) พรรค การเมอื งอนื่ ๆ ในจดุ ยนื บวก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 16.87 (3) พรรคภมู ใิ จไทยในจดุ ยนื บวก คดิ เป็นรอ้ ยละ 9.89 (4) พรรคพลังประชารัฐในจดุ ยนื ลบ คิดเป็นรอ้ ยละ 8.52 (5) พรรคประชาธปิ ตั ยใ์ นจดุ ยนื ลบ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 7.34 (6) พรรคประชาธปิ ตั ย์ ในจดุ ยนื บวก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 6.44 (7) พรรคพลงั ประชารฐั ในจดุ ยนื บวก คดิ เปน็ ร้อยละ 6.35 (8) พรรคอนาคตใหม่ในจดุ ยนื บวก คิดเป็นร้อยละ 6.04 (9) พรรคประชาธปิ ตั ยใ์ นจดุ ยนื กลาง คดิ เปน็ รอ้ ยละ 2.34 และ (10) พรรคการเมอื ง อน่ื ๆ ในจดุ ยืนกลาง คดิ เป็นรอ้ ยละ 1.01 กันยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   115

เมอื่ พจิ ารณาเปน็ รายชอื่ ฉบบั พบวา่ หนงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ ใชพ้ น้ื ทจ่ี ำ� นวน มาก (รอ้ ยละ 82.14) ในการน�ำเสนอเกีย่ วกบั พรรคเพ่อื ไทยในจุดยืนบวก โดย นำ� เสนอพรรคตา่ งๆ ในจำ� นวนนอ้ ยมาก ขณะทห่ี นงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ ใชพ้ นื้ ท่ี จำ� นวนมากนำ� เสนอเกยี่ วกบั พรรคเพอ่ื ไทยและอนาคตใหมใ่ นจดุ ยนื บวก (รอ้ ยละ 33.51 และรอ้ ยละ 10.59) และพรรคพลงั ประชารฐั ในจดุ ยนื ลบ (รอ้ ยละ 29.61) โดยพาดพงิ ในปรมิ าณเลก็ น้อยต่อพรรคภูมใิ จไทย ประชาธิปตั ย์ และพรรคอื่นๆ ในจุดยืนบวกและกลาง สว่ นหนังสอื พมิ พ์ ภาคใต้โฟกสั นำ� เสนอเกย่ี วกับพรรค อน่ื ๆ ในจดุ ยนื บวก (รอ้ ยละ 31.88) ตามดว้ ยพรรคภมู ใิ จไทย และพลงั ประชารฐั ในจดุ ยนื บวก (รอ้ ยละ 20.11 และรอ้ ยละ 9.47) และพรรคประชาธปิ ตั ยใ์ นจดุ ยนื ลบ (รอ้ ยละ 16.90) โดยพาดพิงพรรคเพอ่ื ไทยและพรรคอนาคตใหม่น้อยมาก ภูวสิษฏ์ สุขใส บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส (สมั ภาษณ์, 27 ตลุ าคม 2562) อธบิ ายวา่ เน่อื งจากหนงั สือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส เน้นน�ำเสนอเน้ือหาเก่ียวกับผู้สมัคร ส.ส. เพ่ือเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้อ่าน ข่าว สว่ นใหญจ่ งึ เปน็ การแนะนำ� ตวั ผสู้ มคั รและแสดงนโยบายของพรรคการเมอื งตา่ งๆ เน้ือหาส่วนใหญจ่ ึงมีจุดยนื บวก และพรรคใหมๆ่ ผ้สู มัครหน้าใหม่กแ็ ทบไมม่ มี ุม ลบ เพราะยงั ไมม่ คี วามขดั แยง้ ใดๆ สว่ นจดุ ยนื ลบทม่ี มี ากในการน�ำเสนอเนอ้ื หาท่ี เกย่ี วขอ้ งกบั ผสู้ มคั รเลอื กต้ัง ส.ส. ของพรรคประชาธิปตั ยน์ นั้ เป็นเพราะพรรค ประชาธิปัตย์มีความขัดแย้งภายในมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพ ลกั ษณข์ องพรรคดแู ย่ลง 7. รปู แบบการนำ� เสนอ และจดุ ยนื ในรูปแบบขา่ วพบวา่ หนังสือพมิ พ์ ลานนาโพสต์ ใช้รูปแบบข่าวในการนำ� เสนอเนื้อหาเกี่ยวกับพรรคการเมืองต่างๆ กระจายไปยังทุกพรรค (ค่อนในทางจุดยืนบวกและกลาง) ขณะที่หนังสือพิมพ์ ภาคใตโ้ ฟกสั ใชร้ ปู แบบขา่ วในการนำ� เสนอเนอ้ื หาเกย่ี วกบั พรรคอน่ื ๆ พรรคภมู ใิ จ ไทย ประชาธปิ ัตย์ และพลงั ประชารฐั (คอ่ นในทางจุดยนื บวกและลบ) โดยไม่ นำ� เสนอเนอื้ หาเกย่ี วกบั พรรคเพอื่ ไทยและอนาคตใหมเ่ ลย สว่ นหนงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ ใช้รูปแบบข่าวในการน�ำเสนอเนื้อหาเก่ียวกับพรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียวใน จดุ ยืนบวกเท่าน้ัน 116 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ในรปู แบบบทความพบวา่ หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ ใชร้ ปู แบบบทความ เป็นจ�ำนวนมากในการน�ำเสนอเน้ือหาเก่ียวกับพรรคพลังประชารัฐในจุดยืนลบ และพรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ในจุดยืนบวก ขณะที่หนังสือพิมพ์ แมงมุม ใช้รูปแบบบทความน�ำเสนอเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ตามด้วยพรรคอนาคตใหม่ และพรรคอนื่ ๆ ในจดุ ยนื บวก สว่ นหนงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั ใชร้ ปู แบบบทความ นำ� เสนอกระจายไปยงั ทกุ พรรค ยกเว้นพรรคภมู ิใจไทย ในรปู แบบภาพพบว่า หนงั สือพมิ พ์ แมงมุม ใชร้ ปู แบบภาพเปน็ จ�ำนวน มากในการนำ� เสนอเนอ้ื หาเกย่ี วกบั พรรคเพอ่ื ไทยในจดุ ยนื บวก ขณะทหี่ นงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ ใชร้ ปู แบบภาพนำ� เสนอเกย่ี วกบั พรรคเพอ่ื ไทย ตามดว้ ยพรรคตา่ งๆ ในจุดยืนบวก ส่วนหนงั สือพิมพ์ ภาคใต้โฟกสั ใชร้ ปู แบบภาพน�ำเสนอกระจาย ไปยงั ทกุ พรรค ยกเวน้ พรรคเพอื่ ไทย วรษิ ฐา ภกั ดี (สมั ภาษณ,์ 27 ตลุ าคม 2562) ผอู้ �ำนวยการหนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ ใหส้ ัมภาษณ์ในประเด็นนว้ี า่ ขา่ วในหนงั สือพมิ พ์ ลานนาโพสต์ จะ ถกู น�ำเสนออยา่ งเป็นกลางอยแู่ ลว้ สว่ นในเร่ืองจดุ ยนื ลบนน้ั กม็ ที ้งั เปน็ ความเห็น ของคอลัมนสิ ต์ภายนอก ที่ทางหนงั สือพมิ พ์จะไม่เข้าไปควบคุม หรอื หากเป็นใน สว่ นของบทบรรณาธิการนนั้ ก็ยนื ยนั ว่าเป็นการนำ� เสนอขอ้ เทจ็ จริง ไม่มกี ารเอน เอยี งไปทางใดทางหน่ึง สว่ นจุดยืนบวกของพรรคเพ่อื ไทยในการน�ำเสนอภาพนั้น เพราะทางพรรคสง่ ภาพมาให้หนงั สือพมิ พ์เป็นจำ� นวนมาก บัณฑิต ภักดีวงศ์ (สัมภาษณ์, 26 ตุลาคม 2562) บรรณาธิการ หนงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ อธบิ ายวา่ ทมี่ ภี าพเกย่ี วกบั พรรคเพอื่ ไทยมาก เพราะวา่ ฝา่ ย ประชาสมั พนั ธข์ องพรรคสง่ มาใหท้ ห่ี นงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ แตท่ างกองบรรณาธกิ าร กเ็ ปดิ กวา้ งกบั พรรคการเมอื งอนื่ ตลอด แตค่ าดวา่ นกั การเมอื งพรรคอน่ื อาจจะไมม่ ี ฝ่ายประชาสมั พนั ธ์ กนั ยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   117

อภิปรายผล การศกึ ษาเรอ่ื ง “การนำ� เสนอเนอ้ื หาเกยี่ วกบั ผสู้ มคั รเลอื กตง้ั สมาชกิ สภา ผแู้ ทนราษฎรในการเลอื กต้งั ทัว่ ไป พ.ศ. 2562 ของหนังสอื พิมพ์ท้องถิน่ ล�ำปาง และสงขลา” สามารถอภปิ รายผลตามประเดน็ ตา่ งๆ โดยแบง่ ออกเปน็ 4 ประเดน็ ดงั นี้ 1. นโยบายของหนงั สอื พมิ พ์ การศกึ ษาพบวา่ หนังสอื พิมพ์ ภาคใตโ้ ฟกสั (จงั หวัดสงขลา) มสี ดั ส่วน พน้ื ท่ีที่มเี นอ้ื หาท่ีเกีย่ วกบั ผูส้ มคั รเลอื กต้ัง ส.ส. เทียบกับเนื้อหาอื่นๆ มากท่สี ดุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.47 ตามดว้ ยหนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ (จงั หวดั ลำ� ปาง) คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.31 และหนงั สือพมิ พ์ แมงมุม (จงั หวัดลำ� ปาง) คิดเป็นร้อยละ 3.21 นอกจากนี้ หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ มสี ดั สว่ นพนื้ ทที่ นี่ �ำเสนอเนอ้ื หาทเี่ กยี่ วกบั ผสู้ มัครเลือกต้ัง ส.ส. ในหน้า 1 เทียบกับหนา้ อนื่ ๆ มากทสี่ ุด คดิ เป็นรอ้ ยละ 36.05 ตามด้วยหนังสือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส คิดเป็นร้อยละ 26.84 และ หนงั สือพมิ พ์ แมงมมุ คิดเปน็ ร้อยละ 7.00 ท้ังน้ีปริมาณการนำ� เสนอ และหน้าท่ี น�ำเสนอเกี่ยวกับผู้สมัคร ส.ส. เป็นผลมาจากนโยบายของหนังสือพิมพ์นั่นเอง กล่าวคือ หนังสือพิมพ์ ภาคใต้โฟกัส เป็นหนังสือพิมพ์เชิงคุณภาพ เน้นกลุ่ม เปา้ หมายเปน็ ชนชนั้ ผนู้ ำ� ระดบั ชมุ ชน ภมู ภิ าค ไปจนถงึ ระดบั ประเทศ และชนชน้ั กลาง มนี โยบายในการนำ� เสนอข่าวสารการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการศกึ ษา จึง ใหค้ วามสำ� คัญตอ่ การนำ� เสนอเนือ้ หาเก่ียวกับผสู้ มัครเลือกตง้ั ส.ส. อยา่ งมาก ส่วนหนังสือพิมพ์ ลานนาโพสต์ เป็นหนังสือพิมพ์เชิงคุณภาพ กลุ่ม เปา้ หมายเปน็ ชนชั้นกลาง มนี โยบายน�ำเสนอเน้อื หาการเมอื ง เศรษฐกจิ สังคม และอาชญากรรม รุจน์ โกมลบุตร (2554) พบวา่ นโยบายอันแน่วแน่ และ แนวทางการท�ำงานของหนังสือพมิ พ์ ลานนาโพสต์ ต้งั แตแ่ รกเร่มิ ที่ไมเ่ น้นขา่ ว อาชญากรรมเพยี งอยา่ งเดยี ว ไมไ่ ดท้ ำ� ให้ ลานนาโพสต์ มโี อกาสทางธรุ กจิ นอ้ ยกวา่ ชอ่ื ฉบบั อนื่ ๆ ในทางตรงกนั ขา้ ม การก�ำหนดนโยบายดงั กลา่ ว ท�ำให้ ลานนาโพสต์ มตี ำ� แหนง่ ทางการตลาดทแี่ ตกตา่ งจากหนงั สอื พมิ พช์ อื่ ฉบบั อนื่ ๆ ในล�ำปาง มกี ลมุ่ เปา้ หมายชดั เจนทเี่ ปน็ ชนชน้ั กลาง ทำ� ใหผ้ ปู้ ระกอบการ โดยเฉพาะผปู้ ระกอบการ ขนาดใหญ่ ยังสนใจท่ีจะซ้อื พืน้ ท่ีโฆษณากับหนังสอื พิมพ์ ลานนาโพสต์ 118 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ส�ำหรบั หนงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ เป็นหนังสอื พิมพ์เชิงปรมิ าณ เนน้ น�ำเสนอ เนื้อหาในรูปแบบภาพมากกว่าข่าวและบทความ เพราะกลุ่มเป้าหมายเป็น หนังสือพิมพ์ส�ำหรับประชาชนท่วั ไป และเน้นขา่ วเร่ืองอาชญากรรม เปน็ กลยทุ ธ์ ท่จี ะทำ� ใหธ้ ุรกิจอยรู่ อดได้ ทำ� ใหห้ นงั สอื พิมพ์ แมงมุม น�ำเสนอเนอ้ื หาเกี่ยวกบั ผู้สมคั รเลอื กต้งั ส.ส. ในสดั สว่ นนอ้ ยกว่าช่ือฉบับอ่นื ๆ 2. การกระจายของแหล่งขา่ วและเนอื้ หา หนงั สอื พมิ พท์ อ้ งถน่ิ ทงั้ 3 ชอื่ ฉบบั มรี ะดบั การกระจายตวั ของแหลง่ ขา่ ว และเนอื้ หาทแี่ ตกตา่ งกนั โดยหนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ และ แมงมมุ นยิ มใชแ้ หลง่ ขา่ วท่เี ป็นกองบรรณาธิการ (รอ้ ยละ 84.76 และรอ้ ยละ 98.48 ตามล�ำดับ) ใน การนำ� เสนอเนอ้ื หาผา่ นสายตาหรอื มมุ มองของผสู้ อื่ ขา่ ว หรอื กองบรรณาธกิ ารเปน็ หลกั โดยไม่อ้างองิ แหล่งขา่ ว ขณะทหี่ นงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกัส มกี ารกระจายตวั ของแหลง่ ขา่ วมากกวา่ โดยมแี หลง่ ข่าวทน่ี ำ� เสนอเนอื้ หาเก่ียวกบั ผสู้ มัครเลอื กต้งั ส.ส. ครบทั้ง 5 ประเภท ได้แก่ พรรคการเมือง นักวิชาการ ประชาชน กองบรรณาธิการ และอื่นๆ ท้ังนี้การท่ีมีการอ้างอิงแหลง่ ข่าว และมีการกระจาย ความหลากหลายของแหล่งขา่ ว มีผลทำ� ใหเ้ นื้อหามีความนา่ เช่อื ถือ สรา้ งมมุ มอง ทห่ี ลากหลาย รอบดา้ น และเกิดประโยชนต์ ่อประชาชนผู้รับสาร พนม วรรณศริ ิ (2544) เสนอว่า แหล่งขา่ วมีบทบาทชว่ ยให้ข่าวมีความสมบูรณม์ ากยง่ิ ขน้ึ และ ยงั ชว่ ยสร้างความน่าเชอื่ ถือให้กับข่าว ท�ำให้ข่าวมีชีวิตชีวา ชว่ ยใหเ้ นอื้ หาเบาะแส ของขา่ วนำ� ไปตอ่ ยอดได้ และชว่ ยเผยแพรท่ ศั นคตแิ ละมมุ มองทน่ี า่ สนใจของแหลง่ ขา่ วใหผ้ อู้ า่ นไดท้ ราบดว้ ย ยงิ่ เปน็ แหลง่ ขา่ วทย่ี นิ ดเี ปดิ เผยชอื่ นามสกลุ และขอ้ มลู สว่ นตวั จะชว่ ยเสรมิ ใหข้ า่ วนา่ เชอ่ื มน่ั มากยง่ิ ขนึ้ รตั นวดี นาควานชิ (2558) เสนอวา่ การรายงานขา่ วจำ� เปน็ ตอ้ งมแี หลง่ ขา่ วอา้ งองิ เพราะผสู้ อื่ ขา่ วไมไ่ ดพ้ บเหน็ เหตกุ ารณ์ ตา่ งๆ ทกุ เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ดว้ ยตนเอง จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งหาขอ้ มลู จากแหลง่ ขา่ วตา่ งๆ และอ้างอิงแหล่งข่าวซ่ึงเป็นผู้พบเห็นหรือเก่ียวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆ รวมท้ัง ผสู้ อ่ื ข่าวต้องการมุมมองท่หี ลากหลายจากแหล่งข่าวหลายๆ มุมมอง เพอื่ ทำ� ให้ ขา่ วถกู ตอ้ ง เทยี่ งธรรม และมคี วามนา่ เชอ่ื ถอื การรายงานขา่ วโดยระบใุ หผ้ รู้ บั สาร ทราบวา่ ขอ้ มลู มาจากทใี่ ด ใครเปน็ คนใหข้ อ้ มลู หรอื เปน็ ความคดิ เหน็ ของใครนนั้ กนั ยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   119

จะทำ� ให้มีการตรวจสอบ (cross-checking) ขอ้ เท็จและข้อจรงิ กันเองจากแหลง่ ข่าวหลายๆ แหลง่ จนเกดิ ความรอบด้านและท�ำใหค้ วามจริงปรากฏในภายหลัง ส�ำหรบั การกระจายตวั ของเนือ้ หาท่พี าดพิงพรรคการเมืองตา่ งๆ ในช่วง เลือกตั้งนั้น แม้ส่ือสถาบันจะถูกคาดหวังให้น�ำเสนอเนื้อหาของพรรคการเมือง ตา่ งๆ ด้วยความเป็นธรรม แต่ในความเป็นจริงกลบั พบว่า หนังสอื พมิ พท์ อ้ งถ่ิน ล�ำปางและสงขลาน�ำเสนอเนื้อหาของพรรคต่างๆ ในสัดส่วนท่ีไม่เท่าเทียมกัน กลา่ วคอื มพี น้ื ทท่ี นี่ �ำเสนอเนอื้ หาเกย่ี วกบั พรรคเพอื่ ไทยมากทส่ี ดุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 32.98 ตามด้วยพรรคการเมอื งอนื่ ๆ คิดเป็นรอ้ ยละ 18.29 พรรคประชาธปิ ตั ย์ คิดเป็นรอ้ ยละ 16.13 พรรคพลังประชารฐั คดิ เป็นรอ้ ยละ 15.68 พรรคภูมิใจ ไทย คดิ เป็นรอ้ ยละ 10.16 และพรรคอนาคตใหม่ คดิ เป็นร้อยละ 6.76 หาก พจิ ารณาเฉพาะพรรคใหญๆ่ ไดแ้ ก่ พรรคเพอ่ื ไทย พรรคประชาธปิ ตั ย์ และพรรค พลงั ประชารฐั จะไดเ้ นอ้ื ทีก่ ารนำ� เสนอไปมากถงึ รอ้ ยละ 64.79 หากพิจารณาในรายชอื่ ฉบับจะพบวา่ หนงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ มกี าร กระจายพนื้ ทใี่ นการนำ� เสนอพรรคการเมอื งตา่ งๆ ไดด้ ที สี่ ดุ กลา่ วคอื มกี ารพาดพงิ พรรคต่างๆ อย่างกวา้ งขวาง ในปรมิ าณท่ไี ม่ตา่ งกนั มากนกั ขณะท่หี นังสือพิมพ์ แมงมุม และ ภาคใต้โฟกัส มีการพาดพิงพรรคการเมืองที่ค่อนข้างกระจุกตัว กลา่ วคอื หนงั สือพิมพ์ แมงมมุ มงุ่ นำ� เสนอเนอ้ื หาเกย่ี วกบั พรรคเพือ่ ไทยสูงมาก (รอ้ ยละ 83.34) สว่ นหนังสือพมิ พ์ ภาคใต้โฟกสั นำ� เสนอพรรคเพือ่ ไทยเพียง ร้อยละ 0.41 เท่านน้ั ในการนำ� เสนอเนอื้ หาในภาคสว่ นตา่ งๆ ในสดั สว่ นทไี่ มเ่ สมอกนั นน้ั สภุ า ศิริมานนท์ (2536) กล่าวว่า ความไม่เป็นฝักเป็นฝ่าย และการปราศจากข้อ ขัดแย้งทางผลประโยชน์หรือทางความสนใจเป็นองค์ประกอบหน่ึงของแนวทาง ปฏิบัติเพ่ือบรรลุ “ความจริงท่ีแท้จริง” ซ่ึงจะท�ำให้ข่าวหรือเน้ือหาที่น�ำเสนอใน หนังสือพิมพ์ตอบจุดประสงค์ของหน้าท่ีของสื่ออย่างสมบูรณ์ ขณะท่ี กฤษณ์ ทองเลศิ (2540) เสนอวา่ การนำ� เสนอข่าวสารเกย่ี วกบั นักการเมอื ง ควรจะอยู่ ภายใต้ความเป็นกลาง ปราศจากอคติ หรือผู้ที่ให้การสนับสนุนเป็นพิเศษ แต่ บางครง้ั นกั การเมอื งกใ็ ชห้ นงั สอื พมิ พท์ อ้ งถน่ิ เพอ่ื เปน็ ชอ่ งทางการสอ่ื สารทางการ 120 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

เมอื ง หรอื สร้างภาพลกั ษณ์สำ� หรบั ตน ส่วน ภทั มยั อนิ ทจักร (2563) เสนอว่า ความไม่ล�ำเอียง (impartiality) ประกอบด้วยการน�ำเสนอด้วยทัศนคติท่ีเป็น กลาง (neutral presentation/neutral attitude) โดยผา่ นสว่ นผสมของความสมดลุ (balance) ซึ่งหมายถึงความเท่าเทียมกันท้ังด้านเวลาหรอื พื้นที่ หรือการเนน้ ย้�ำ ในระหวา่ งความคดิ เห็นของทั้งสองฝ่ายทขี่ ดั แย้งกัน 3. จดุ ยนื ของหนังสือพมิ พ์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นทั้ง 3 ช่ือฉบับล้วนมีจุดยืนต่อพรรคการเมืองที่ แตกตา่ งกนั โดยหนงั สอื พมิ พ์ แมงมมุ ใชพ้ น้ื ทจี่ ำ� นวนมากในการนำ� เสนอเกย่ี วกบั พรรคเพอื่ ไทยในจดุ ยืนบวก โดยนำ� เสนอพรรคตา่ งๆ ในจ�ำนวนนอ้ ยมาก ขณะ ท่หี นงั สอื พมิ พ์ ลานนาโพสต์ ใชพ้ ืน้ ที่จ�ำนวนมากน�ำเสนอเกี่ยวกบั พรรคเพอ่ื ไทย และอนาคตใหมใ่ นจดุ ยนื บวก และพรรคพลงั ประชารฐั ในจดุ ยนื ลบ โดยพาดพงิ ใน ปริมาณเล็กน้อยต่อพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคอืน่ ๆ ในจุดยนื บวก และกลาง ส่วนหนังสอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั นำ� เสนอเก่ยี วกับพรรคอน่ื ๆ พรรค ภูมิใจไทย และพลังประชารฐั ในจดุ ยืนบวก และพรรคประชาธิปตั ย์ในจดุ ยนื ลบ โดยพาดพิงพรรคเพ่ือไทยและพรรคอนาคตใหม่นอ้ ยมาก ในการที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมีจุดยืนและมุมมองต่อพรรคการเมืองท่ี ตา่ งกันน้ี ณฐั ฉมามหทั ธนา (2550) เสนอวา่ นอกจากการรายงานเหตกุ ารณ์ แลว้ หนงั สอื พมิ พย์ งั สะทอ้ นมมุ มองทมี่ ตี อ่ นกั การเมอื ง การน�ำเสนอภาพดงั กลา่ ว สะทอ้ นความคดิ และมมุ มองของสอ่ื ทม่ี ตี อ่ ขา่ วหรอื บคุ คลนนั้ ๆ ไปยงั ผอู้ า่ น ซงึ่ อาจ จะส่งผลต่อมุมมองและความคิดความเชื่อของประชาชนผู้รับสาร และส่งผลต่อ ความคดิ เหน็ และทัศนคตเิ ก่ียวกับการเมอื งของประชาชนได้ 4. ความกระตือรือรน้ ของผรู้ บั สาร การศกึ ษาพบวา่ หนงั สือพิมพ์ ลานนาโพสต์ และ แมงมุม ค่อนข้างให้ พนื้ ทใ่ี นจดุ ยนื บวกกบั พรรคเพอื่ ไทย และใหพ้ นื้ ทใ่ี นทางลบกบั พรรคพลงั ประชารฐั แตเ่ มือ่ พิจารณาจากผลการเลอื กต้ังของท้งั 4 เขต ในจังหวดั ล�ำปาง พบว่า แม้ว่า ผชู้ นะในทัง้ 4 เขต จะเป็นสมาชกิ ของพรรคเพ่ือไทย แต่พรรคท่ไี ดอ้ ันดบั 2 และ 3 กไ็ มไ่ ดม้ คี ะแนนทที่ ง้ิ หา่ ง เชน่ เขต 1 พรรคเพอื่ ไทย ได้ 36,573 คะแนน อนั ดบั กันยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   121

ท่ี 2 พรรคอนาคตใหม่ ได้ 34,205 คะแนน และอันดบั ที่ 3 พรรคพลงั ประชารัฐ ได้ 32,402 คะแนน (https://election.pptvhd36.com/region/1/40) แสดงให้ เห็นว่า พรรคพลังประชารัฐท่ีถูกน�ำเสนอในจุดยืนลบส่วนเสียเป็นส่วนมากใน หนงั สอื พมิ พท์ ้องถ่ินล�ำปางนนั้ ก็ยังคงชนะใจประชาชนชาวล�ำปางบางสว่ นไดอ้ ยู่ สว่ นหนงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกสั นำ� เสนอเกยี่ วกบั พรรคอน่ื ๆ พรรคภมู ใิ จ ไทย และพลงั ประชารฐั ในจดุ ยืนบวก และพรรคประชาธิปตั ย์ในจดุ ยนื ลบ โดย พาดพิงพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่น้อยมากนั้น เม่ือพิจารณาผลการ เลือกต้งั ที่จงั หวดั สงขลา ทงั้ 8 เขต พบวา่ พรรคพลังประชารฐั ชนะ 4 เขต ไดแ้ ก่ เขต 1, 2, 3 และ 4 พรรคประชาธิปัตย์ชนะ 3 เขต ไดแ้ ก่ เขต 5, 6 และ 8 และพรรคภมู ใิ จไทยชนะ 1 เขต คือเขต 7 (https://election.pptvhd36.com/ region/4/70) ในประเดน็ น้ี สุรพงษ์ โสธนะเสถยี ร (2533) เสนอวา่ ผูร้ ับสารสามารถ มฐี านะเปน็ ผ้ทู ม่ี ีบทบาทเชงิ รุก (active) คือ ใช้ส่ือหรอื การเปิดรับสอื่ ท่ีเลอื กสรร มาแล้ว เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตนเอง ไม่ใช่เป็นการเปิดรับสารที่ เลอ่ื นลอยหรือเปน็ ผลชักจูงใจจากผูส้ ่งสาร ขอ้ เสนอแนะ การศกึ ษาเรือ่ งนี้ มขี ้อเสนอแนะดงั ตอ่ ไปน้ี 1. หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นควรเพ่ิมสัดส่วนของแหล่งข่าวต่างๆ ให้มีความ สมดุลกันมากขึน้ เพ่อื ใหเ้ นอื้ หาข่าวหลากหลาย พร้อมท้งั มีแหล่งท่มี าท่อี ้างอิงได้ และลดจำ� นวนแหลง่ ขา่ วของกองบรรณาธกิ ารลง เพอื่ ชว่ ยเพมิ่ ความนา่ เชอื่ ถอื ของ เนื้อหาให้มากขน้ึ 2. หนังสือพิมพ์ท้องถ่ินควรน�ำเสนอเนื้อหาของทุกพรรคการเมืองให้มี ปริมาณใกล้เคียงกัน เพื่อความเป็นธรรม และประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูลอย่าง รอบด้าน 3. ประชาชนควรเปิดรับเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งและผู้สมัครเลือก ต้ัง ส.ส. จากแหล่งข้อมลู ท่ีหลากหลาย เพอ่ื ใหไ้ ด้ขา่ วสารที่รอบด้านเพยี งพอต่อ 122 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

การตัดสินใจทแ่ี ม่นยำ� เนือ่ งจากผลการศกึ ษาพบว่า สอ่ื มวลชนแตล่ ะแหง่ มกั จะ นำ� เสนอเนอื้ หาจากมมุ มองและจดุ ยนื ของตวั เอง ซง่ึ จะท�ำใหป้ ระชาชนไดร้ บั ขอ้ มลู ไมค่ รบถ้วน 4. ข้อเสนอแนะในการศึกษาครงั้ ถัดไปคอื การศกึ ษาประชาชนในฐานะ ผรู้ บั สารวา่ มปี ฏกิ ริ ยิ าตอ่ การนำ� เสนอเนอ้ื หาเกยี่ วกบั ผสู้ มคั รเลอื กตง้ั สมาชกิ สภา ผแู้ ทนราษฎรในการเลอื กตง้ั ทว่ั ไปอยา่ งไร บรรณานกุ รม กฤษณ์ ทองเลศิ (2540), ส่อื มวลชนการเมืองและวัฒนธรรมองค์รวมแหง่ สายสัมพนั ธข์ องวิถชี ีวิต, กรุงเทพฯ: โรงพิมพส์ ่วนท้องถนิ่ . คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (2552), งานวิจัยสถานภาพและบทบาท หนังสือพิมพท์ ้องถิ่นในประเทศไทย, ม.ป.ท.. ฑติ ิยา เปล่ียนเฉย (2553), “หนังสือพมิ พท์ ้องถ่นิ กับการก�ำหนดวาระข่าวสารดา้ นสิทธพิ ลเมอื ง”, วารสารวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร,์ 6(1). ณัฐ ฉมามหัทธนา (2550), ปจั จยั ทเ่ี ป็นอุปสรรคในการทำ� ข่าวและนำ� เสนอข่าวการเมอื งในมุมมอง ของนักหนังสือพิมพ์, สารนิพนธ์วารสารศาสตรบัณฑิต สาขาหนังสือพิมพ์และส่ิงพิมพ์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. ธนภร เจริญธัญสกุล (2549), “การสร้างตราสนิ ค้าทางการเมอื ง (Political Branding)”, วารสาร วิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต ปัตตาน,ี 2(1). บรรยงค์ สุวรรณผ่อง และคณะ (2552), งานวิจัยสถานภาพและบทบาทหนังสือพิมพ์ท้องถ่ินใน ประเทศไทย, รายงานการวิจยั สภาหนังสอื พิมพแ์ หง่ ชาต.ิ พนม วรรณศริ ิ (2544), การสื่อข่าวและการเขยี นข่าว, กรุงเทพฯ: สถาบนั ราชภฏั สวนดุสิต. พิศษิ ฐ์ ชวาลาธวชั และคณะ (2539), การรายงานข่าวข้นั สงู , กรงุ เทพฯ: สำ� นักพมิ พ์ดอกหญ้า. รตั นวดี นาควานชิ (2558), “การประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถอื ของแหลง่ ขา่ ว: จดุ เรมิ่ ตน้ ของคณุ ภาพขา่ ว”, วารสารวชิ าการ มหาวทิ ยาลยั หอการค้าไทย, 35(1). รจุ น์ โกมลบตุ ร (2552), สถานการณใ์ นทางวชิ าชพี ของหนงั สอื พมิ พท์ อ้ งถน่ิ ในจงั หวดั ลำ� ปาง, รายงาน การวิจยั คณะวารสารศาสตร์และสอ่ื สารมวลชน มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์. _________. (2554), การบริหารหนังสือพิมพ์ “ลานนาโพสต”์ : ขอ้ เสนอต่อการปฏิรูปหนังสือพิมพ์ ทอ้ งถนิ่ , รายงานการวจิ ยั คณะวารสารศาสตรแ์ ละสอื่ สารมวลชน มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์ รจุ น์ โกมลบตุ ร และคณะ (2562), “การนำ� เสนอเนอ้ื หาเกย่ี วกบั นกั การเมอื งทอ้ งถนิ่ ของหนงั สอื พมิ พ์ ทอ้ งถ่ินลำ� ปาง”, วารสารศาสตร,์ 12(1). กันยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   123

สิริทิพย์ ขันสุวรรณ (2555), แนวคิดและหลักวารสารศาสตร์, ปทุมธานี: ศูนย์สนับสนุนและ พฒั นาการ เรยี นการสอน มหาวิทยาลัยรงั สติ . สุภา ศริ ิมานนท์ (2536), นกั หนงั สอื พมิ พ,์ กรงุ เทพฯ: ที.พ.ี พรน้ิ จำ� กัด. สรุ พงษ์ โสธนะเสถยี ร (2533), การสอ่ื สารกบั สงั คม, กรงุ เทพฯ: สำ� นกั พมิ พจ์ ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . เสถยี ร เชยประทบั (2540), การสอ่ื สารกบั การเมอื งเนน้ สงั คมประชาธปิ ไตย, กรงุ เทพฯ: สำ� นกั พมิ พ์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. ส่ือออนไลน์ กวา่ จะมาถงึ วันน:้ี เรียงลำ� ดบั เหตกุ ารณ์ของการเลอื่ นเลอื กตั้ง 57-62 (2562) (ออนไลน)์ , สบื คน้ เมือ่ 23 ตลุ าคม 2562 จาก https://prachatai.com/journal/2019/03/81662 ภัทมัย อนิ ทจกั ร (2563), “สื่อมวลชนบนถนนประชาธปิ ไตยใหม:่ เป็นกลาง ชนี้ ำ� เลือกข้าง?”, สบื คน้ เมื่อ 13 พฤษภาคม 2563 จาก https://www.isranews.org/thaireform-data- strategy/14056-2010-05-13-07-58-50.html ลำ� ปาง-รายงานผลการเลือกตงั้ 62: PPTVHD36 (2562), สืบค้นเมอื่ 23 ตลุ าคม 2562 จาก https://election.pptvhd36.com/region/1/40 เลอื กต้งั 62: 81 พรรคการเมืองในสนามเลอื กตัง้ เกินครง่ึ เปน็ พรรคต้งั ใหม่ (2562), สบื คน้ เมื่อ 23 ตุลาคม 2562 จาก https://ilaw.or.th/node/5181 สงขลา-รายงานผลการเลอื กต้ัง 62: PPTVHD36 (2562), สืบคน้ เม่อื 23 ตลุ าคม 2562 จาก https://election.pptvhd36.com/region/4/70 สภาการหนงั สอื พมิ พแ์ หง่ ชาติ (2559), ขอ้ บงั คบั วา่ ดว้ ยจรยิ ธรรมแหง่ วชิ าชพี หนงั สอื พมิ พ,์ สบื คน้ เมอื่ 23 ตุลาคม 2562 จาก http://www.presscouncil.or.th สัมภาษณ์ บัณฑติ ภกั ดีวงศ์, บรรณาธิการหนังสือพมิ พ์ แมงมุม, สัมภาษณ,์ 26 ตุลาคม 2562. ภวู สิษฏ์ สุขใส, บรรณาธิการบริหารหนงั สือพิมพ์ ภาคใตโ้ ฟกสั , สัมภาษณ์, 27 ตลุ าคม 2562. วริษฐา ภกั ดี, ผู้อ�ำนวยการหนังสอื พมิ พ์ ลานนาโพสต,์ สมั ภาษณ์, 27 ตลุ าคม 2562. 124 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ภาคผนวก ตัวอย่างที่ 1 การน�ำเสนอข่าวจากแหล่งข่าวกองบรรณาธิการของ หนงั สือพมิ พ์ ลานนาโพสต์ กองบรรณาธิการ รายงานข่าวว่าเขตเลือกตั้งท่ี 2 น่าสนใจ เพราะ ตัวแทนจากพรรคเพ่ือไทยและพรรคพลังประชารัฐเคยชิงต�ำแหน่งนายกสมาคม กฬี าจงั หวัดลำ� ปางมาก่อน (ลานนาโพสต,์ 8-14 กมุ ภาพันธ์ 2562: 2) ตวั อยา่ งที่ 2 การนำ� เสนอเน้อื หาทีเ่ ก่ยี วกบั ผู้สมคั รเลือกตงั้ ส.ส. ของ พรรคอน่ื ๆ ของหนงั สอื พมิ พ์ ภาคใตโ้ ฟกัส ข้อมูลผู้สมัครและนโยบายของพรรคการเมืองอนื่ ๆ 11 พรรค (ภาคใต้ โฟกัส, 25-31 มีนาคม 2562: 14) กนั ยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   125

ตวั อยา่ งที่ 3 ขา่ วท่มี ีจดุ ยนื บวกต่อผ้สู มัคร ส.ส. พรรคภูมใิ จไทยของ หนงั สือพมิ พ์ ภาคใต้โฟกัส ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 พรรคภมู ิใจไทย ดีใจกระแสเปลี่ยนคนชอบมากขนึ้ แสดงนโยบายพรรค (ภาคใตโ้ ฟกัส, 4-10 มนี าคม 2562: 24) ตัวอยา่ งที่ 4 การน�ำเสนอบทความในจดุ ยืนลบตอ่ พรรคพลังประชารัฐ ของหนงั สอื พิมพ์ ลานนาโพสต์ บทบรรณาธกิ ารเสยี ดสีพรรคพลังประชารัฐว่า ท่ผี ่านมาบริหารประเทศ อยา่ งไมม่ ีประสิทธิภาพ และไม่มีทางทจี่ ะเป็นอันดบั หน่ึงในการเลือกตงั้ (ลานนา โพสต,์ 1-7 กมุ ภาพนั ธ์ 2562: 3) 126 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ตัวอย่างท่ี 5 การน�ำเสนอรูปแบบภาพในจุดยืนบวกต่อพรรคเพ่ือไทย ของหนงั สอื พิมพ์ แมงมมุ คำ� บรรยายภาพในหนังสอื พิมพ์ แมงมมุ ระบุวา่ ประชาชนส่งใจเชียร์ เกินร้อยใหแ้ ก่ผ้สู มคั ร ส.ส. พรรคเพื่อไทย ซึ่งเปน็ นกั การเมอื งมาอยา่ งยาวนาน ของจังหวดั ล�ำปาง (แมงมุม, 15-21 กุมภาพันธ์ 2562: 14) กนั ยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   127

พลวตั ของสอื่ ทางเลอื กในยคุ ดจิ ทิ ลั กบั การเปน็ สอื่ สนั ตภิ าพ ในจงั หวัดชายแดนใต้ นันท์วิสทิ ธิ์ ตง้ั แสงประทปี 1 มาโนช ชุม่ เมอื งปกั 2 และ วไิ ลวรรณ จงวไิ ลเกษม3 บทคัดย่อ สถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนใต้เกิดข้ึนต่อเนื่องมา เป็นระยะเวลากว่า 15 ปี ช่วงเวลาดังกล่าวได้เกิดองค์กรส่ือทางเลือกในพ้ืนท่ี จังหวัดชายแดนใต้ข้ึนจ�ำนวนมากในพ้ืนท่ี องค์กรส่ือทางเลือกที่ถือได้ว่า เป็น ผู้น�ำเสนอชุดข้อมูลข่าวสารที่ส่ือกระแสหลักเข้าไม่ถึง และอาจจะเป็นกลไกหน่ึง ทสี่ �ำคญั อย่างย่งิ ที่จะท�ำใหเ้ กิดกระบวนการสันติภาพไดใ้ นพ้ืนท่ี งานวจิ ยั นมี้ งุ่ เนน้ ศกึ ษาการกอ่ ตงั้ ดำ� รงอยู่ และพฒั นาการ รวมถงึ ปจั จยั ท่ีส่งผลต่อองค์กรส่ือทางเลือกในจังหวัดชายแดนใต้ในการท�ำบทบาทหน้าที่ของ ตนเอง โดยท�ำการสมั ภาษณเ์ ชงิ ลกึ และวเิ คราะหเ์ นอ้ื หาทนี่ �ำเสนอกบั กลมุ่ องคก์ ร สือ่ จ�ำนวน 5 องค์กร ได้แก่ ศนู ย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ส�ำนกั ข่าวอามาน ส�ำนักส่ือวาร์ตานี ปาตานีฟอรั่ม เครือข่ายผู้หญิงเฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ผลการวิจัยพบประเด็นท่ีน่าสนใจคือ ปัจจัยท่ีส่งผลต่อการก่อต้ังและการด�ำรง อย่ทู สี่ �ำคญั คอื ประเดน็ เรอื่ ง “ทนุ ” ทไ่ี ด้ถูกหนว่ ยงานรฐั ใชเ้ ป็นเครอื่ งมือในการ * วันทรี่ ับบทความ 13 เมษายน 2563; วนั ท่ีแก้ไขบทความ 11 พฤษภาคม 2563; วันทต่ี อบรบั บทความ 1 มิถุนายน 2563 1 นกั ศึกษาปริญญาเอก คณะนเิ ทศศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธุรกจิ บัณฑติ ย ์ 2 ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. ประจ�ำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรุ กิจบัณฑติ ย์ 3 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ประจ�ำกลุ่มวิชาวิทยุและโทรทัศน์ คณะวารสารศาสตร์และส่ือสารมวลชน มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ 128 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

เข้ามามีบทบาทและอิทธิพลต่อองค์กรสื่อทางเลือกจำ� นวนหนึ่งในการช้ีนำ� และ สอ่ื สารในประเดน็ ทห่ี นว่ ยงานรัฐต้องการ และมีแนวโน้มจะขยายตวั ไปยงั องคก์ ร สอ่ื ทางเลอื กอน่ื ๆ เปน็ การอาศยั จดุ ออ่ นของผทู้ �ำงานองคก์ รสอ่ื ทางเลอื กทแ่ี สวงหา งบประมาณในการดำ� เนนิ การ การด�ำเนนิ การในลักษณะดงั กล่าวของหนว่ ยงาน รัฐ ถอื เปน็ การปฏิบตั ิการสารสนเทศ (information operation) ที่สะท้อนถึงการ เล็งเห็นความส�ำคัญและบทบาทของส่ือทางเลือกในพ้ืนท่ี ท่ีท้ายท่ีสุดอาจส่งผล ต่อความเปน็ อิสระหรือการล่มสลายขององคก์ รส่อื ทางเลือกในชายแดนใต้ ขณะ เดียวกนั ยังพบวา่ สอื่ ทางเลือกได้แสดงบทบาทการเปน็ ส่อื สันตภิ าพ แตย่ ังขาด พลังเนื่องมาจากการขาดองค์ความร้ดู า้ นสื่อขา่ วที่ไหวรตู้ อ่ ความขดั แย้ง คำ� ส�ำคญั : สอื่ ทางเลือก พลวัตของสือ่ ทางเลอื ก พ้ืนที่ชายแดนใต้ สอ่ื สันตภิ าพ สอ่ื ดิจทิ ัล กันยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   129

The Dynamic of Alternative Media in the Digital Age and Peace Journalism in the Southernmost Provinces of Thailand Nunwisit Tungsangprateep4 Manoch Chummuangpak5 and Wilaiwan Jongwilaikasaem6 Abstract Unrest in southern border provinces has been ongoing for more than 15 years. During that time, there were many alternative media organizations in the southern border provinces and alternative media organizations are regarded as presenters of a series of information that the mainstream media has not reached and it may be one of the most important mechanisms to create a peace process in the area. This research focuses to study about the establishment, existence and development including factor that affect to the alternative media in southern border provinces on their own responsibilities by depth interview and analyze the content that present with 5 media organization including Surveillance Center in the Southern of Thailand, Aman Media, Wartani Media, Patani Forum, and Woman Surveillance Network in the Southern of Thailand. The research found the interesting point which is the main factor that affect to the establishment and existence is “capital” that is used as a tool from the government to play a role and 4 PhD candidate, Faculty of Communication Arts, Dhurakij Pandit University. 5 Assistant Professor, Faculty of Communication Arts, Dhurakij Pandit University. 6 Assistant Professor, Department of Radio and Television, Faculty of Journalism and Mass Communication, Thammasat University. 130 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

influence for some of alternative media to guide and communicate in the point that the government agency desire with an increasing tend to the rest of alternative media relying on the weakness of alternative media’s employee that seek the budget for their proceed. This kind of government’s action assumes as the information operation that reflect to realize the importance and role of alternative media in the area that may eventually affect to the independence or collapse of the alternative media in the southern border provinces at the end. Meanwhile, alternative media plays a role of peace journalism but cannot function to be powerful due to lacks of conflict sensitive journalism knowledge Keywords: alternative media, dynamics of alternative media, southern border area, peace journalism, digital media กันยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   131

ความส�ำคญั ของการวจิ ัย เหตกุ ารณค์ วามไมส่ งบในจงั หวดั ชายแดนใตท้ เี่ กดิ ขนึ้ มาตงั้ แตต่ น้ ปี 2547 ตอ่ เน่อื งมาจนปัจจุบัน เป็นเหตกุ ารณท์ ม่ี ีความรุนแรงและยืดเยื้อยาวนานมากวา่ สิบสี่ปี “ไฟใต้” ส่งผลกระทบต่อผู้คนและสังคมทั้งในพ้ืนท่ีและสังคมโดยรวม แมป้ จั จบุ นั จำ� นวนเหตกุ ารณค์ วามไมส่ งบจะลดลงอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั เจน เมอื่ เปรยี บ เทียบกับระยะแรกท่ีเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น แต่ก็ยังมีช่วงเวลาความ แปรปรวนการเกดิ เหตุใหญ่อยู่เป็นระยะ ท�ำใหเ้ กิดความไมแ่ นใ่ จวา่ สถานการณ์ จะไปในทศิ ทางที่ดขี น้ึ จริงหรอื ไม่อยา่ งไร การมุ่งความสนใจไปท่ีเหตุการณ์เพียงอย่างเดียวของรัฐท่ีนักวิชาการ เรียกวา่ “ความรุนแรงที่มองเหน็ ” (visible violence) เพียงอยา่ งเดยี ว ท�ำใหก้ าร แก้ปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้ยังไปไม่ถึงปัญหาที่แท้จริงของความ ขดั แยง้ มากนกั จนนำ� ไปสู่คำ� ถามว่า พจิ ารณาไดจ้ ากอะไร คำ� ตอบคอื พจิ ารณา จากการท�ำหน้าท่ีของสื่อมวลชนไทยท่ีรายงานเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัด ชายแดนภาคใตไ้ ดอ้ ยา่ งชดั เจนทส่ี ดุ บทบาทหนา้ ทข่ี องสอื่ มวลชนตอ่ การรายงาน ขา่ วดังกล่าว มักไดร้ ับการวิพากษว์ ิจารณ์เสมอว่า ขายขา่ วความรุนแรงมากกว่า การเสนอแนะทางออกและไมเ่ คยนำ� เสนอขา่ วทเี่ ปน็ ประเดน็ สาเหตหุ รอื เงอ่ื นไขท่ี ซอ่ นอยโู่ ดยเฉพาะสือ่ มวลชนท่มี าจากสว่ นกลาง งานวจิ ยั เรอ่ื ง ผลกระทบของการสอื่ สารมวลชน: ทศั นคตขิ องประชาชน ในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อการน�ำเสนอข่าวเหตุการณ์ความไม่สงบ (นวุ รรณ ทบั เทย่ี ง, 2550) ซง่ึ เปน็ งานวจิ ยั เพยี งไมก่ ชี่ อื่ เรอื่ งทสี่ นใจผลกระทบของ การน�ำเสนอเนื้อหาข่าวสารเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีต่อประชาชนใน พ้ืนท่ี ส่วนหน่งึ พบวา่ ภาพสะทอ้ นของสือ่ มวลชนท�ำใหเ้ กดิ การรับรวู้ ่า เหตุการณ์ ความไม่สงบเปน็ การกอ่ การร้ายโดย “ชาวมสุ ลมิ ” ผทู้ ีม่ คี วามนา่ กลวั โหดเหยี้ ม รนุ แรง อ�ำมหิต ปา่ เถ่ือน ซงึ่ เปน็ ภาพสะท้อนในสือ่ มวลชนตอ่ กลุม่ คน สว่ นภาพ สะท้อนตอ่ พ้ืนทน่ี ั้น คือ เปน็ พน้ื ทีท่ นี่ ่ากลวั อนั ตราย และความไมป่ ลอดภัยใน ชีวิตและทรัพยส์ ิน 132 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ผลการศึกษาที่ส�ำคัญในงานวิจัยดังกล่าวคือ การน�ำเสนอให้เห็น ผลกระทบจากการสรา้ งภาพสะทอ้ นเกยี่ วกบั จงั หวดั ชายแดนใตว้ า่ ไดท้ ำ� ใหเ้ กดิ ภาพจำ� หรือภาพแบบฉบับตายตัว (stereotype) ต่อศาสนาอิสลาม ชาวมุสลิม และ พื้นที่ 3 จงั หวัดชายแดนใต้ ก่อใหเ้ กดิ ความหวาดกลัว ระแวง และไมไ่ วว้ างใจกัน จนถึงการเลอื กปฏิบตั ขิ องเจ้าหนา้ ท่รี ัฐต่อประชาชนชาวมุสลิม นอกจากน้ี ยังพบว่า มีอีกหลากหลายประเด็นในจังหวัดชายแดนใต้ที่ สือ่ มวลชนระดับประเทศให้ความสนใจน้อย หรอื แทบไม่ปรากฏในพ้ืนท่ีขา่ วสาร เลย ทั้งที่ประชาชนในพ้ืนท่ีและนอกพ้ืนท่ีมีการต้ังค�ำถามหรือเกิดข้อสงสัย มากมาย แต่ส่ือมวลชนกระแสหลักกลับไม่ได้แสดงออกถึงการท�ำหน้าท่ีของ ตนเองมากนกั เชน่ การพจิ ารณาคดอี าชญากรรมท่วั ไปเป็นคดีความมัน่ คง และ การพจิ ารณาคดคี วามมน่ั คงเปน็ คดสี ว่ นตวั หรอื การพจิ ารณาใหค้ ดสี ว่ นตวั เปน็ คดี ความมนั่ คง การซอ้ มทรมานผตู้ อ้ งหาคดคี วามมนั่ คง และการละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชน ต่อประชาชนในพ้ืนที่ การหายตัวไปในจังหวัดชายแดนใต้ การละเมิดสิทธิเด็ก ที่เกยี่ วข้องกับคดคี วามมั่นคงในจังหวัดชายแดนใต้ ความคุ้มค่า ความโปรง่ ใสใน การใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินเก่ียวกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปน็ ต้น (ภรี กาญจน์ ไคน่ นุ่ นา และดุษฎี เพ็ชรมงคล, 2555) ประเด็นเหล่านี้ แทบจะไมเ่ ป็นขา่ วในสอ่ื มวลชนกระแสหลักเลย เม่ือสอื่ มวลชนกระแสหลักไม่ได้ ทำ� หนา้ ทด่ี งั กลา่ วอยา่ งครบถว้ น สอ่ื ทางเลอื กในจงั หวดั ชายแดนใตจ้ งึ ไดเ้ รม่ิ ปรากฏ ข้นึ ในช่วงหลงั ปี 2548 การปรากฏข้ึนของส่ือทางเลือกชายแดนใต้ เช่น ศูนย์ข่าวอามาน (ที่ ต่อมาเปลี่ยนช่ือเป็นส�ำนักข่าวอามาน) สถานีวิทยุมีเดียสลาตัน ศูนย์เฝ้าระวัง สถานการณภ์ าคใต้ สำ� นกั สอ่ื วารต์ านี ปาตานฟี อรมั่ เปน็ ตน้ มกี ารนำ� เสนอเนอื้ หา ในมิติทแ่ี ตกต่างจากสือ่ กระแสหลกั ท้ังมิตเิ ชิงลึก มิติสงั คม วัฒนธรรม ศาสนา ตามทแี่ ตล่ ะองคก์ รมคี วามถนดั และวางนโยบายไว้ ซง่ึ ทำ� ใหเ้ หน็ พลวตั ในแตล่ ะหว้ ง เวลาของแต่ละส่ือที่แตกต่างกันออกไป ภายใต้เง่ือนไขและปัจจัยท่ีเหมือนและ แตกตา่ งกนั ไปแตล่ ะองคก์ ร และมบี ทบาทส�ำคญั ในการสอ่ื สารในพนื้ ทค่ี วามขดั แยง้ ทส่ี อ่ื กระแสหลกั ไมส่ ามารถท�ำหนา้ ทไี่ ด้ หรอื ไมไ่ ดอ้ ยภู่ ายใตน้ โยบายทจ่ี ะท�ำ โดย กนั ยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   133

เฉพาะการทำ� ในประเดน็ ของขอ้ มลู ขา่ วสารอนื่ ๆ ทอี่ ยใู่ นบรบิ ทของความขดั แยง้ ท่ี สำ� คัญคอื การสอื่ สารในประเดน็ ทเี่ รียกวา่ การสือ่ สารเพอื่ สันติภาพ ประเด็นท่ีน่าสนใจคือ สื่อทางเลือกชายแดนใต้ที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน อาจไม่ใช่สื่อทางเลือกในนิยามเก่า แต่แปรเปล่ียนไปตามการให้นิยามของผู้คน เพราะหลายองคก์ รทอ่ี าจจะไมไ่ ดก้ อ่ ตง้ั ขน้ึ มาเพอื่ เปน็ องคก์ รสอ่ื ทางเลอื กตงั้ แตต่ น้ มีการริเริ่มมาจากภาคประชาสังคมหรือภาคอ่ืนๆ แต่ท้ายท่ีสุดมีการผลิตสื่อ ทางเลือกด้วยเช่นกัน ส่ือทางเลือกประเภทน้ีถือเป็นส่ือทางเลือกที่มุ่งเน้นสังคม (society-centred) โดยมีกระบวนทัศน์ว่า ส่ือทางเลือกน้ันเป็นส่วนของประชา สงั คม (alternative media as part of civil society) โดยสอื่ ทางเลอื กตาม กระบวนทศั นน์ ้จี ะเป็น “เสียงทสี่ าม” (third voice) ระหว่างส่อื ของรฐั และส่อื เชงิ พาณิชย์ โดยหลายองคก์ รกท็ ำ� งานทางด้านส่ือดว้ ยเช่นกัน (Bailey et al., 2007) จากการศกึ ษาเบอื้ งตน้ ตอ้ งยอมรบั วา่ การเกดิ ขนึ้ และดำ� รงอยขู่ องสอ่ื ทาง เลือกในจังหวัดชายแดนใต้นั้น ยังมีบทบาทอย่างส�ำคัญในการส่งเสริมสันติภาพ ในพ้ืนท่ีความขัดแย้งโดยเฉพาะปัจจัยและเงื่อนไขต่างๆ ขององค์กรสื่อทางเลือก ท่ีเกิดขึ้น ซึ่งจากการศึกษาเก่ียวกับส่ือทางเลือกของ วลักษณ์กมล จ่างกมล และอมรรัตน์ ชนะการณ์ (2557) เรือ่ ง สอ่ื ทางเลอื กยุคดิจิทัลกบั ผลประโยชน์ สาธารณะ: กรณศี กึ ษาการเปน็ พนื้ ทก่ี ลางเพอื่ สนั ตภิ าพในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ เปน็ การศกึ ษาบทบาทสอ่ื ทางเลอื กในยคุ ดจิ ทิ ลั ตอ่ การรายงานขา่ วในสถานการณ์ ความขดั แยง้ ในจงั หวดั ชายแดนใต้ การวจิ ยั นมี้ ปี ระเดน็ ทน่ี า่ สนใจคอื สอื่ ทางเลอื ก ซง่ึ เปน็ กลมุ่ ตวั อยา่ งของการศกึ ษานน้ั ตา่ งกต็ ระหนกั ถงึ การเปน็ สอ่ื เพอ่ื สนั ตภิ าพ ของตนเอง โดยเฉพาะการเปน็ พื้นทก่ี ลางของการสื่อสารเฉพาะกล่มุ ขณะที่จากการศึกษาของ วิไลวรรณ จงวิไลเกษม และพัทธ์ธีรา นาคอไุ รรตั น์ (2562) เรอื่ งสอื่ ชายแดนใตใ้ นกระบวนการสนั ตภิ าพ: การลดทอน อคติและความเกลียดชังต่อพ้ืนที่และผู้คนในชายแดนใต้ ในวิจัยเรื่องนี้จัดส่ือ ทางเลือกเป็นประเภทหนึ่งของสื่อภาคพลเมือง (citizen reporter) ท่ีเน้นการ น�ำเสนอความเคล่ือนไหวของภาคประชาสังคม โลกอิสลาม และสถานการณ์ 134 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ท่ีผู้คนในท้องถ่ินสนใจ และยังต้ังข้อสังเกตว่า การนิยมใช้ช่องทางส่ือใหม่เป็น เครือ่ งมือในการส่ือสารส�ำหรบั สอื่ ชายแดนใต้แลว้ ถือเป็นปรากฏการณข์ องการ ต่อรองทางอุดมการณ์กับต้นสังกัดส่วนกลาง ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาท่ี นำ� เสนอมากอ่ นหนา้ นว้ี า่ การกมุ อำ� นาจในการนำ� เสนอภาพความขดั แยง้ ในจงั หวดั ชายแดนใตม้ าจากกรุงเทพฯ เปน็ หลัก ภาพในสื่อกระแสหลักท่ีน�ำเสนอดังกลา่ ว อาจไมส่ อดคลอ้ งกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ หรอื ความรสู้ กึ ของพวกเขา ขณะเดยี วกนั ชอ่ งทาง ออนไลน์ยังเป็นการต่อรองกับอ�ำนาจท้องถิ่นด้วย รวมถึงการเป็นพื้นท่ีแห่งการ สรา้ งตวั ตนของสื่อชายแดนใต้ อยา่ งไรก็ดี งานวจิ ัยดงั กล่าวยงั ไม่ไดม้ กี ารศึกษา ในรายละเอยี ดของการใชช้ อ่ งทางสอ่ื ดจิ ทิ ลั วา่ เกดิ ประสทิ ธภิ าพมากนอ้ ยเพยี งใด ในประเดน็ การเขา้ ถงึ กลมุ่ เปา้ หมาย ซงึ่ ตอ้ งเกดิ จากองคค์ วามรทู้ งั้ ดา้ นวชิ าชพี ขา่ ว และดา้ นเทคโนโลยีส่ือดิจิทัล จุดเด่นท่ีน่าสนใจของสื่อทางเลือกในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้นั้นคือ การมีเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ หลายระดับ ต้ังแต่ระดับชุมชน ภาคประชาสังคม สถาบนั วชิ าการ จนถงึ หน่วยงานรฐั การมีเครือขา่ ยดงั กล่าว มีส่วนอย่างส�ำคัญที่จะหนุนเสริมบทบาทของสื่อทางเลือกในการคลี่คลายความ ขดั แยง้ ประกอบกบั ปจั จยั ภายนอกดา้ นเทคโนโลยที ม่ี สี ว่ นสง่ เสรมิ ใหก้ ระบวนการ สอื่ สารของสอ่ื ทางเลอื กเปน็ ไปอยา่ งหลากหลาย รวมถงึ ประเดน็ เรอื่ งทนุ ทเ่ี ปน็ อกี ปจั จัยทมี่ คี วามสำ� คัญและยังไม่มกี ารศกึ ษาวิจยั ดงั นัน้ ผ้วู ิจัยจงึ สนใจในประเด็น พลวัตของการกอ่ ตงั้ ตลอดจนปัจจัยทส่ี ่งผลตอ่ การด�ำรงอยู่ และการพัฒนาที่จะ ส่งผลต่อการแสดงบทบาทหน้าท่ีการเป็นส่ือสันติภาพในพ้ืนท่ีโดยการศึกษาใน ครงั้ นี้มวี ตั ถุประสงคด์ งั น้ี (1) เพื่อศกึ ษาการกอ่ ตัง้ พัฒนาการ และปัจจยั ทีส่ ง่ ผลตอ่ ส่อื ทางเลือก จังหวดั ชายแดนใต้ (2) เพ่ือศึกษาสื่อทางเลือกในการท�ำบทบาทหน้าที่เป็นสื่อสันติภาพใน จังหวัดชายแดนใต้ กนั ยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   135

แนวคดิ และทฤษฎีที่เกีย่ วข้อง งานวจิ ัยน้ีใช้แนวคิดและทฤษฎี ดงั นี้ (1) แนวคิดเกย่ี วกับส่อื ทางเลือก แนวคดิ สอ่ื ทางเลอื กเปน็ แนวคดิ ทใ่ี ชเ้ ปน็ นยิ ามความเปน็ สอื่ ทางเลอื กและ หนา้ ทข่ี องการเปน็ สอ่ื ทางเลอื กทเ่ี ปน็ ไปตามคณุ ลกั ษณะ Jeppersen (2015/2016) ได้ใหน้ ยิ ามลักษณะของสอ่ื ทางเลือกไวค้ อื สื่อที่มขี นาดเล็ก กระบวนการสื่อสาร ท�ำงานแนวราบ มีเนื้อหาจากพ้ืนท่ีเพื่อการส่ือสารด้านใดด้านหนึ่งท่ีมุ่งไปสู่การ สรา้ งความเปน็ ธรรมในสงั คม มคี วามเปน็ อสิ ระ และมกี ารมสี ว่ นรว่ มเชอ่ื มตอ่ กบั ภาคประชาสังคมตา่ งๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงนโยบายของรฐั บาล (2) แนวคดิ เทคโนโลยสี ่อื ดิจทิ ัล แนวคดิ เทคโนโลยสี อ่ื ดจิ ทิ ลั เปน็ แนวคดิ ทอี่ ธบิ ายเรอ่ื งเทคโนโลยสี อื่ ใหมท่ ี่ เขา้ มามสี ว่ นหนนุ เสรมิ ในการเปดิ พนื้ ทใี่ หป้ ระชาชน ท�ำใหส้ อื่ ตา่ งๆ รวมทง้ั สอื่ ทาง เลอื ก สามารถขา้ มข้อจำ� กัดเรอื่ งเวลา ต้นทุน และสามารถสร้างการสือ่ สารแบบ ปฏิสมั พันธ์ (interactive) ยกระดบั การมสี ว่ นรว่ มของภาคประชาชน ทส่ี ำ� คัญ คอื การชว่ ยเสรมิ พลงั อำ� นาจ และลดการพ่ึงพาสอ่ื กระแสหลกั ทีถ่ กู ควบคมุ ด้วย กระบวนการเฝ้าประตูขา่ วสาร ตามแนวคดิ ของ Harlow and Harp (2013) (3) แนวคิดวารสารศาสตร์สนั ตภิ าพ แนวคดิ วารสารศาสตรส์ นั ตภิ าพ เนน้ ยำ�้ ถงึ การนำ� เสนอขา่ วสารทมี่ งุ่ เนน้ ในการลดความขัดแย้ง ความรุนแรง น�ำเสนอกระบวนการแก้ไขปัญหาอย่าง สรา้ งสรรค์ และสนั ติสุข ซง่ึ มีคณุ ลกั ษณะต่างๆ หลายประการ เช่น การน�ำเสนอ เนื้อหาที่มุ่งแสวงหาทางออก มีมิติเชิงลึก ผลกระทบท่ีเกิดข้ึนต่อชีวิต สังคม วฒั นธรรม การใชภ้ าษาทห่ี ลกี เลย่ี งการสรา้ งความเกลยี ดชงั หรอื นา่ เวทนา ไมต่ ตี รา ฝา่ ยหนง่ึ ฝา่ ยใด การน�ำเสนอโดยแหลง่ ขา่ วทห่ี ลากหลายไม่ใชแ้ หลง่ ขา่ วเพียงขา้ ง เดยี ว ตามแนวคิดของ Johan Galtung รวมถึงการทำ� หน้าท่ีสอื่ ในการส่ือข่าวที่ ไหวรตู้ อ่ ความขดั แยง้ (conflict sensitive journalism) ซง่ึ เปน็ การกำ� หนดบทบาท หน้าที่ของสื่อสันตภิ าพท่ี Ross Howard (2004) ไดท้ �ำค่มู อื ออกมาส�ำหรับผสู้ อ่ื ข่าว ผู้วิจัยได้น�ำแนวคิดดังกล่าวมาเป็นกรอบในการวิเคราะห์ลักษณะการเป็น 136 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ส่ือสันติภาพของส่ือทางเลือก ควบคู่ไปกับการน�ำเสนอข่าวของสื่อทางเลือกบน ส่อื ดิจทิ ลั (4) แนวคดิ เก่ียวกบั กระบวนการทำ� งานของสื่อในยุคดิจิทัล แนวคิดเก่ียวกับกระบวนการท�ำงานของสื่อในยุคดิจิทัล มีรูปแบบ กระบวนการท�ำข่าวรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากการส่ือข่าวแบบเดิม เป็นการวาง โครงสรา้ งการท�ำงานในลักษณะแนวราบ สื่อสารแบบสองทางท่ีมีการมีส่วนร่วม จากประชาชนเกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การให้ข้อมูลจากผู้รับสารเป็น ผู้ส่งสารหรือผู้ให้ข้อมูลได้ สามารถยกระดับผู้รับสารให้เป็นผู้ส่งสารได้ ตาม แนวคดิ ของ Paul Bradshaw (2007 อา้ งถึงใน สกุลศรี ศรีสารคาม, 2554) ที่ สะท้อนบทบาทและความสัมพันธ์ที่เปล่ียนไปของผู้ผลิตสื่อกับผู้บริโภคข่าวสาร ในยุคปัจจบุ นั (5) แนวคดิ เกยี่ วกับการส่อื สารแบบมสี ่วนรว่ มของประชาชน แนวคดิ เกย่ี วกบั การสอื่ สารแบบมสี ว่ นรว่ มของประชาชน เปน็ การอธบิ าย ถึงการส่ือสารแบบมีส่วนร่วมโดยค�ำนึงถึงผลที่เกิดขึ้นที่จะสร้างความตระหนัก ความสนใจ ความรบั ผิดชอบรว่ มกัน ทงั้ น้ี Fuglesang and Chandler (1986 อา้ งถงึ ในกาญจนา แก้วเทพ, 2543) ได้ให้นิยามการสอ่ื สารแบบมีส่วนรว่ มไวว้ ่า เปน็ กระบวนการทกี่ ลมุ่ บคุ คลตา่ งๆ มคี วามตง้ั ใจและมคี วามเกย่ี วขอ้ งกบั ประเดน็ ปัญหาหน่ึงๆ ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในกระบวนการแลกเปล่ียนเรียนรู้และการ สร้างความเขา้ ใจร่วมกัน ทำ� ให้บคุ คลตา่ งๆ มีโอกาสเข้าถงึ ช่องการส่ือสารแสดง มุมมองความคิดเห็น จากแนวคิดทฤษฎีเหล่านี้ ผู้วิจัยได้น�ำมาใช้เป็นกรอบส�ำหรับการวิจัย และใชเ้ ปน็ แนวทางในการศกึ ษา การวิเคราะหแ์ ละอภปิ รายผล โดยผูว้ ิจยั จะได้ น�ำแนวคิดส่ือทางเลือกมาเพ่ือใช้ในการศึกษาลักษณะและบทบาทของสื่อทาง เลือกชายแดนใต้ว่า สามารถขับเคลื่อนหรือน�ำเสนอเน้ือหาเป็นส่ือสันติภาพ โดยผู้วิจัยจะน�ำมาใช้เป็นแนวทางในการวิเคราะห์และท�ำความเข้าใจต่อนโยบาย วตั ถปุ ระสงค์ ลักษณะการดำ� เนนิ งานในการน�ำเสนอขา่ วสารความขัดแย้ง ความ รุนแรงในสังคม ขณะเดียวกัน จะท�ำแนวคิดเรื่องกระบวนการท�ำงานของสื่อใน กนั ยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   137

ยุคดิจิทัลมาเป็นการศึกษาว่า สื่อทางเลือกได้ใช้กระบวนการท�ำงานในลักษณะ ทส่ี อดคล้องกบั การทำ� งานในยคุ ดจิ ิทัลหรือไม่ อยา่ งไร พรอ้ มกันน้ีจะน�ำแนวคดิ สื่อสันติภาพมาใช้เป็นเกณฑ์ในการวิเคราะห์และอภิปรายผลการท�ำหน้าที่สื่อ สันติภาพของส่ือทางเลือกว่า เป็นไปตามคุณลักษณะของส่ือสันติภาพหรือไม่ อยา่ งไร ในขณะทจ่ี ะนำ� แนวคดิ เทคโนโลยสี อื่ ดจิ ทิ ลั และแนวคดิ กระบวนการสอื่ สาร แบบมสี ว่ นร่วมของประชาชน มาทำ� การวิเคราะห์และอภิปรายผลวา่ เทคโนโลยี สอ่ื ดจิ ทิ ลั ไดม้ สี ว่ นหนนุ เสรมิ ใหส้ อื่ ทางเลอื กไดท้ ำ� บทบาทและใชช้ อ่ งทางสอื่ ดจิ ทิ ลั ในการส่ือสารไปถึงเป้าหมาย สร้างความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากนอ้ ยเพยี งใด วธิ ีด�ำเนินการวิจัย งานวิจยั นม้ี ีวตั ถุประสงคใ์ นการศึกษาการก่อตั้ง พฒั นาการ และปจั จยั ทีส่ ง่ ผลต่อส่อื ทางเลือกชายแดนใต้ เพ่อื ชว่ ยใหผ้ ู้วจิ ัยสามารถน�ำข้อมูลทัง้ หมดมา ประมวล ส�ำหรับการวิเคราะห์และอธิบายปรากฏการณ์ที่จะศึกษาได้อย่างครบ ถว้ น ชดั เจน และถกู ตอ้ งเหมาะสม จงึ ใชร้ ะเบยี บวธิ วี จิ ยั เชงิ คณุ ภาพ (qualitative research) โดยใช้การสมั ภาษณเ์ ชิงลึก (in-depth interview) โดยมรี ายละเอยี ด ดงั นี้ (1) การสมั ภาษณ์เชิงลึก (in-depth interview) ประชากรและกลุ่ม ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นกลุ่มสื่อทางเลือกท่ีมีพ้ืนท่ีการนำ� เสนอข่าวและการ เผยแพร่อยู่ในจังหวัดชายแดนใต้ผ่านสื่อยุคดิจิทัล โดยกลุ่มผู้ให้สัมภาษณ์มี ความเชื่อมโยงและโดยตรงกับกลุ่มตัวอย่างสำ� หรับการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบ ไปด้วยผู้ก่อต้ัง บรรณาธิการ ผู้ปฏิบัติงานของส่ือทางเลือก จำ� นวนองค์กรละ 2-3 คนจากองคก์ รสอ่ื ทางเลอื ก 5 แหง่ ดงั นี้ (1) ศนู ยเ์ ฝา้ ระวงั สถานการณภ์ าคใต้ (Deep South Watch) (2)ส�ำนักขา่ วอามาน (Aman News Agency (3) ส�ำนกั สื่อวารต์ านี (Wartani) (4) เครือขา่ ยผู้หญิงภาคประชาสังคมชายแดนใต้ (Civic Women) (5) ปาตานี ฟอร่ัม (Patani Forum) 138 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

(2) การวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) เป็นเนื้อหาของกลุ่ม ตัวอย่างที่ได้คัดเลือกไว้ โดยจ�ำกัดเฉพาะเน้ือหาที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ใน จงั หวดั ชายแดนใต้ โดยหน่วยวิเคราะหจ์ ะเป็นทัง้ การนำ� เสนอทเี่ ป็นขา่ ว (news) และเนื้อหาที่ไม่ใช่ขา่ ว (non-news) ท่ีมีการนำ� เสนอผา่ นกลมุ่ ตวั อย่างดงั กล่าว ผลการวิจยั ผลการวิจัยท่ีเป็นประเด็นส�ำคัญส�ำหรับงานวิจัยช้ินนี้คือ ปัจจัยที่เป็น ตวั แปรอย่างมีนัยสำ� คัญตอ่ ประเดน็ การด�ำรงอยูข่ ององค์กรสื่อทางเลือกคอื เรอ่ื ง “ทุน” ทีห่ มายถงึ งบประมาณสำ� หรับการด�ำเนนิ การ ทพี่ บวา่ พื้นท่ขี องส่อื ทาง เลือกท่ีได้ขยายตัวเพิ่มทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพเป็นจ�ำนวนมากในพื้นท่ี ชายแดนใต้ มีความจ�ำเป็นต้องใช้ทุนในการขับเคล่ือน จนน�ำมาสู่การเข้ามามี บทบาทมาจากหน่วยงานภาครัฐ และเร่ิมมีองค์กรส่ือทางเลือกรับทุนจากหน่วย งานรัฐเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้พื้นท่ีการสื่อสารขององค์กรสื่อเหล่าน้ีเร่ิมมีเนื้อหา จากหน่วยงานภาครัฐเพ่ิมมากข้ึน รวมถึงการเข้ามามีส่วนร่วมกับกระบวนการ ท�ำงานเช่นการจัดกจิ กรรมต่างๆ ขณะทผี่ ทู้ ำ� งานในองคก์ รสอ่ื อกี องคก์ รหนง่ึ ไดเ้ ปดิ เผยวา่ กอ่ นหนา้ นเี้ คยมี การชกั จงู ใหเ้ ขา้ มารบั ทนุ ของหนว่ ยงานรฐั ดงั กลา่ ว ในขณะเดยี วกนั กม็ ผี ทู้ ที่ �ำงาน ในสอ่ื ทางเลอื กบางสว่ นทเ่ี ปน็ นกั ขา่ วประจ�ำพนื้ ทหี่ รอื เปน็ แกนนำ� ภาคประชาสงั คม ในการสวมหมวกบทบาทอ่ืนๆ ไปพร้อมกัน ได้รับค่าใช้จ่ายจากหน่วยงานรัฐ โดยให้เป็นค่าใช้จ่ายในลักษณะของค่าน้�ำมัน ค่าเดินทาง ค่าเบ้ียเลี้ยงมา ก่อน หนา้ ทจ่ี ะเปลย่ี นเปน็ การใหง้ บประมาณโดยตรงกบั องคก์ รสอื่ ทางเลอื ก นอกจากนี้ ยังมีผู้ท�ำงานในองค์กรท่ีปฏิเสธจะรับทุนจากหน่วยงานรัฐ โดยระบุชัดเจนว่า มีการเปล่ียนแปลงของการเข้าแทรกแซงของหน่วยงานด้านความม่ันคงเร่ืองทุน จงึ ปฏเิ สธท่จี ะรับทนุ จากหน่วยงานเดมิ ทเ่ี คยรบั ขอ้ นา่ สงั เกตจากผลการวจิ ยั พบวา่ การเขา้ มาของทนุ ทมี่ าจากหนว่ ยงาน ภาครัฐจะเข้ามาในกลุ่มองค์กรส่ือทางเลือกที่ไม่มี “ทุน” ที่หมายถึง บุคลากร ท่ีเป็น “นักวิชาการ” ร่วมอยู่ด้วย ในขณะท่ีองค์กรสื่อทางเลือกท่ีมีนักวิชาการ กนั ยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   139

เป็นหลักได้ปฏิเสธการรับทุนจากหน่วยงานของรัฐอย่างชัดเจน รวมถึง “ทุน” ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในการท�ำงานเป็นหลัก นักวิชาการยังมีส่วนส�ำคัญในการ ของบประมาณจากหน่วยงานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อันเน่ืองมา จากศักยภาพและความน่าเชื่อถือ รวมถึงองค์ความรู้ในการด�ำเนินการขอทุนใน ลกั ษณะเดียวกับการทำ� งานวิชาการหรอื งานวจิ ัย โดยมกี ารอาศยั เครือขา่ ยความ ร่วมมอื จากภาคต่างๆ ท้งั ภาควิชาการ ภาคประชาสงั คม และภาคสื่อมวลชนใน พื้นที่ สะท้อนให้เห็นถึงความส�ำคัญของ “ทุน” ท่ีผู้วิจัยเรียกว่า ต้นทุนที่ไม่ใช่ งบประมาณ แต่หมายถงึ ทนุ ด้านบคุ ลากรและเครือข่าย ต่อประเด็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการก่อต้ังขององค์กรสื่อทางเลือกน้ัน ผลการวิจยั พบว่า คนในทมี่ ีศักยภาพประกอบไปด้วยนักวิชาการ นักขา่ วในพนื้ ท่ี พลังคนรุ่นใหม่ นักศึกษา ได้กลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำ� ให้การก่อต้ังองค์กรส่ือ เกิดข้ึนได้ โดยมีแรงหนุนเสริมจากเครือข่ายภาคประชาสังคมในพ้ืนท่ี สถาบัน การศกึ ษาคือ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ วทิ ยาเขตปัตตานี (ม.อ. ปัตตาน)ี ที่ เปรียบเสมือนพืน้ ที่อิสระทางความคิด และเปน็ พืน้ ทีป่ ลอดภยั และประเด็นผูไ้ ด้ รับผลกระทบท่ีไม่ได้รับการเยียวยา ขณะท่ีปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อการก่อต้ัง องค์กรสื่อทางเลือกในชายแดนใต้ ได้แก่ ประเด็นสถานการณค์ วามไมส่ งบที่เกดิ ขน้ึ การนำ� เสนอขา่ วของสอื่ กระแสหลกั ทม่ี งุ่ เนน้ เรอื่ งเหตกุ ารณ์ และมองเพยี งเปน็ ข่าวอาชญากรรม โดยไม่แสวงหาสาเหตุของปัญหาท่ีแท้จริง เรื่องความเป็นรัฐ ปัตตานีที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และถูกฝังลึกในผู้คนในพ้ืนท่ีท่ีไม่ได้รับความ เปน็ ธรรมหรอื เทา่ เทยี ม รวมถงึ ประเดน็ นโยบายรฐั ทม่ี งุ่ เนน้ การใชก้ �ำลงั เขา้ ปราบ ปรามเพยี งอยา่ งเดียว องคก์ รสอ่ื ทางเลอื กทจี่ ดั ตงั้ ขน้ึ ผลวจิ ยั ยงั พบวา่ ไดท้ ำ� หนา้ ทอ่ี ยู่ 3 ประการ ตามนโยบายเพื่อไปสู่เป้าหมายกระบวนการสันติภาพและขจัดความขัดแย้งคือ การท�ำหน้าที่เป็นสื่อเน้นน�ำเสนอข่าวในมิติที่ลึกและหลากหลาย ทำ� หน้าท่ีเป็น พน้ื ทกี่ ลาง หรอื พนื้ ทส่ี าธารณะ เพอ่ื เปน็ เวทแี ลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ และนำ� เสนอ ทางออก และการทำ� หน้าท่ตี ่อสู้ต่อรองใหก้ ับผู้ทไี่ ด้รบั ผลกระทบ 140 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ความส�ำคัญของเทคโนโลยีสื่อดิจิทัลและองค์ความรู้ด้านวิชาชีพข่าว วารสารศาสตร์ หรือนิเทศศาสตร์ เป็นอีกประเด็นหน่ึงท่ีผลการวิจัยพบว่า แม้เทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นส่วนหนุนเสริม แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้กลายเป็น ปัญหาขององค์กรส่ือทางเลือกที่ขาดทักษะองค์ความรู้ด้านวารสารศาสตร์และ เทคโนโลยีสื่อดิจิทลั เช่น การใชช้ ่องทางสอื่ ดิจิทัลท่ีเหมาะสมกบั กล่มุ เปา้ หมาย โดยผลการวิจัยพบว่า การเข้ามามีส่วนร่วมของผู้รับสารทางช่องทางต่างๆ มจี ำ� นวนไม่มากนกั ในแตล่ ะกล่มุ ท�ำให้ทา้ ยท่ีสุดต้องละทิ้งชอ่ งทางหลายชอ่ งทาง ท่ีสร้างข้ึน รวมถึงการไม่มีองค์ความรู้ด้านวิชาชีพสื่อ ท่ีส่งผลให้การเขียน เนอ้ื หาขาดพลงั ในการสื่อสาร ในขณะเดยี วกัน กลับพบวา่ ผทู้ ม่ี อี งคค์ วามรดู้ ้าน วารสารศาสตร์หรือนิเทศศาสตร์ ได้เลือกใช้ช่องทางการนำ� เสนอที่เป็นส่ือผสม ผสานระหวา่ งสอ่ื ดง้ั เดมิ และสอื่ ดจิ ทิ ลั อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และตรงกลมุ่ เปา้ หมาย มากกว่า ส�ำหรับประเด็นการขับเคล่ือนเร่ืองเน้ือหาเพ่ือสร้างกระบวนการส่ือสาร สนั ติภาพ ผลการวิจยั พบวา่ แมแ้ ตล่ ะสือ่ จะสามารถสื่อสารเนอ้ื หาทต่ี นเองได้ตงั้ วตั ถปุ ระสงคไ์ ว้ แตก่ ลบั พบวา่ แตล่ ะองคก์ รสอื่ ไมม่ กี ระบวนการมสี ว่ นรว่ มในการ ท�ำงานรว่ มกัน เป็นลักษณะต่างคนตา่ งท�ำ และท่ีสำ� คัญคือ การขาดองคค์ วามรู้ ดา้ นสอื่ สนั ติภาพ ท�ำใหห้ ลายองคก์ รยังคงทำ� หน้าท่เี ป็นเพยี งสอ่ื ทางเลือก “เลือก ข้าง” เท่านัน้ ทนุ จากหน่วยงานภาครัฐเรมิ่ ปรากฏเด่นชดั ขึน้ ประเดน็ ทน่ี ่าสนใจและส�ำคัญของงานวิจยั น้ี คอื แหลง่ ทุน (งบประมาณ) ทเี่ ปน็ หนว่ ยงานรฐั ทไี่ ดส้ ง่ ผลโดยตรงตอ่ การดำ� รงอยขู่ ององคก์ รสอ่ื ทางเลอื ก โดย ผลการวจิ ัยพบว่า องคก์ รสอื่ ทางเลือกบางองคก์ รไดเ้ ร่ิมรบั ทนุ จากหนว่ ยงานภาค รฐั มากขน้ึ บางองคก์ รตงั้ ขนึ้ มาในระยะเวลาไมน่ านนกั แตม่ กี ารรวมตวั กบั องคก์ ร สอื่ ทางเลอื กทม่ี กี ารตงั้ มาเปน็ ระยะเวลานาน และไดร้ บั ความนา่ เชอื่ ถอื สบั เปลย่ี น หมนุ เวยี น การมหี มวกในตำ� แหน่งตา่ งๆ เช่น อุปนายกสมาคม นายกสมาคม ประธานชมรม ที่ปรกึ ษา เพ่ือสร้างภาพลกั ษณ์และน้�ำหนกั ให้กับองคก์ รตนเอง กันยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   141

ที่หน่วยงานรัฐจะเข้ามาสนับสนุนทุนในการด�ำเนินการ ส่งผลให้หน่วยงานรัฐท่ี น�ำงบประมาณมาให้ ได้เข้ามามบี ทบาท โดยเฉพาะเข้ายึดพื้นทก่ี ารส่ือสารจาก องค์กรส่ือ และกลายเป็นการประชาสัมพันธ์องค์กรภาครัฐมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยการยอมรบั จากการสัมภาษณ์เชิงลกึ ของผทู้ �ำงานใน 2 องคก์ ร “...มีการคุยกัน และเราก็ยอมรับท่ีจะให้เขามามีส่วนร่วมในการท�ำ กจิ กรรม มาร่วมกำ� หนดงานทจ่ี ะท�ำ มกี ารประชาสมั พันธ์ในการทำ� งานของเขา ซ่ึงผมมองว่า ไม่ใช่เรื่องเสียหาย หลักการของสื่อก็ต้องเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายอยู่ แล้วนี่ในการแสดงความคิดเห็นการมีส่วนร่วม...ไม่ๆ เขาไม่ได้ถึงขั้นมาสั่งว่า ตอ้ งทำ� อะไรหรอื ไมท่ ำ� อะไร สงั่ ไมไ่ ดอ้ ยแู่ ลว้ ...จะมองวา่ เปน็ การประชาสมั พนั ธเ์ หรอ อืม...ก็มองได้ เพราะเป็นหน้าที่เขา แต่ผมเชื่อว่า คนอ่านคนดูมีวิจารณญาณ จะเชอ่ื หรือไม่เช่อื ก็ไดเ้ หมือนกัน แตเ่ ราเป็นพ้นื ทส่ี ือ่ เราเปิดกว้างตามหลักการ ของเราทีว่ างไว้...” (B1, สมั ภาษณ์ 2 กนั ยายน 2561) ขณะท่ีองค์กรสื่อทางเลือกองค์กรหนึ่งยังได้เปิดเผยว่า มีการรับ งบประมาณมาเปน็ เวลานานจากหนว่ ยงานรฐั เพยี งแตม่ รี ปู แบบในลกั ษณะของการ ให้เป็นรายบคุ คลมากกว่า “เอาตรงๆ ไหม นกั ขา่ วรบั เงนิ ไหม โอนเงนิ เขา้ บญั ชไี หม จา่ ยเปน็ คา่ นำ้� มนั ไหม รบั เป็นอะไร หรอื เป็นโครงการ เราไม่ไดว้ ่าใครคนใดคนหน่ึง แตม่ นั มีอยู่ จรงิ ...แบบทบี่ อกเปน็ ไอโอหรอื เปลา่ แบบนใ้ี หท้ ำ� ไม งบมาจากไหนใชไ้ ดก้ นั ขนาดน้ี อย่ดู ีๆ ก็ให้ ถ้าใหพ้ ดู ไปกไ็ ม่ดีกว็ า่ กันไป...มาหาหมด มาเองก็มา ถามขาดไรไหม ช่วยไรไหม คอม โนต้ บุ๊ก อปุ กรณก์ ล้อง...บางทกี ็ให้พวกเดยี วกนั นีล่ ะมา รับทนุ มารบั โครงการมาใหม้ าชว่ ยเขา้ รว่ ม ตอ้ งแยกแยะ ถา้ เรารบั ตอ่ ไป จะท�ำงานยงั ไง มนั ท�ำงานไม่ได้ จดุ ยืนของเรามี แตเ่ ราไมไ่ ดว้ า่ ใครถ้าจะรับ ข้นึ กับนโยบายของ เขา ไปว่าไมไ่ ด้ แต่คนพ้ืนท่นี กั ข่าวพนื้ ทีร่ ู้กนั อยูไ่ ปถามไดใ้ ครว่าไม่จรงิ ...” (C2, สมั ภาษณ์ 17 ธันวาคม 2561) ในขณะเดยี วกนั กย็ งั คงมอี งคก์ รสอ่ื ทางเลอื กทปี่ ฏเิ สธจะรบั ทนุ จากหนว่ ยงาน ภาครัฐและหน่วยงานต่างประเทศ ท่ีเป็นคู่ขัดแย้งในเชิงสัญลักษณ์กับศาสนาคือ สถานทตู อเมรกิ า โดยปรากฏอยา่ งนอ้ ยสององคก์ รทป่ี ฏเิ สธการรบั ทนุ จากหนว่ ยงาน ดงั กลา่ ว 142 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

“...ช่วงปี พ.ศ. 2557 มีก�ำลังกองทหารเข้ามา ซ่ึงในช่วงนั้นได้เกิด รัฐประหาร ทำ� ให้มกี ารพดู คุยกนั ระหว่างศนู ยก์ ับกองทหารในเรื่องของสันตภิ าพ ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงพ้ืนที่กลาง กลายเป็นว่า ทหารเข้ามามีอิทธิพล ดา้ นฝา่ ยความม่นั คง อ�ำนาจอยูใ่ นมือกองกำ� ลงั ทหาร ใน ส่วนของงบประมาณในช่วงแรกๆ ทางศูนย์ฯ มีความเป็นอิสรเสรีไม่ขึ้นตรงกับ องค์กรใดๆ และเม่อื มีกองก�ำลงั ทหารเข้ามาสภาพแวดล้อม ระบบนเิ วศเกิดการ เปล่ียนแปลง คนในองค์กรต้องพึ่งพาอาศัยกัน กองกำ� ลังทหารเข้ามาในพื้นที่ กลาง ท�ำใหพ้ น้ื ทก่ี ลางกลายเปน็ พนื้ ทีข่ องรฐั บาล โดยมที หารก็เข้ามาครอบคลมุ ไม่ไดเ้ ป็นการท�ำลาย แต่เขากองก�ำลงั ทหารกแ็ สดงตนเหมือนซ้อื กจิ การของ...น้ี ไปเลย ทรัพยากรทุนในการขับเคลื่อนภายใน สัญญาโครงการการดำ� เนินการใน หมวดกจิ กรรมเรมิ่ ลดลงแตอ่ งคก์ รกย็ งั ตอ้ งอย.ู่ ..” (A1, สมั ภาษณ์ 7 พฤศจกิ ายน 2561) ทนุ คือปจั จยั ต่อการด�ำรงอยู่ ประเดน็ เรอื่ งทนุ ทผี่ วู้ จิ ยั ไดท้ ำ� การศกึ ษาแบง่ ออกเปน็ สองความหมายคอื ทุนในฐานะแหล่งเงิน หรืองบประมาณเพอื่ การด�ำเนินการ และทนุ ในฐานะของ ตน้ ทนุ ทเี่ ปน็ บคุ ลากร และเครอื ขา่ ยทท่ี ำ� ใหอ้ งคก์ รสอื่ ทางเลอื กชายแดนใตด้ ำ� รงอยู่ ได้ โดยในประเดน็ เรอ่ื งแหลง่ ทนุ ทอี่ งคก์ รสอื่ ทางเลอื กใช้ มวี ธิ กี ารอยสู่ ามลกั ษณะ คือ การเสนอโครงการโดยต่างคนต่างยื่นของบประมาณ การรวมตัวกันขอ งบประมาณหลายๆ องคก์ รในรปู แบบของชมรมหรอื สมาคม และการของบประมาณ มาเพยี งองคก์ รหลกั องคก์ รเดยี ว แตม่ กี ารกระจายงบประมาณในลกั ษณะชว่ ยกนั ทำ� งาน โดยพบวา่ แหล่งทนุ ส่วนใหญ่ แบง่ เปน็ สองส่วนคอื จากในประเทศและ ตา่ งประเทศ โดยในประเทศมาจากทงั้ หนว่ ยงานรฐั องคก์ รพฒั นาเอกชน และหนว่ ย งานความมนั่ คง ขณะทใ่ี นตา่ งประเทศ มาจากองคก์ รตา่ งประเทศ องคก์ รระหวา่ ง ประเทศ และองคก์ รพัฒนาเอกชน โดยแหลง่ ทุนสว่ นใหญเ่ ป็นไปในลักษณะทบั ซ้อนหมุนเวียนกัน ท่ีน่าสนใจในการหางบประมาณขององค์กรส่ือทางเลือกอีก ประเภทคอื การเปดิ บรษิ ทั เพอ่ื รบั งานและการลงทนุ กบั เครอื ขา่ ยภาคประชาสงั คม ในการทำ� การเกษตร เช่น กลมุ่ สำ� นกั สอ่ื วาร์ตานี และสำ� นักขา่ วอามาน กนั ยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   143

แหลง่ ทุนยังส่งผลต่อการท�ำงานอย่างเห็นไดช้ ดั เม่ือองค์กรส่ือทางเลือก ไมม่ งี บประมาณในการบรหิ ารจดั การ หรอื ขาดทกั ษะความรใู้ นการบรหิ ารจดั การ งบประมาณที่ดีพอ ไม่ค�ำนึงถึงการบริหารจัดการระยะยาวที่ต้องมีต้นทุนหรือ ค่าใชจ้ ่ายประจำ� เช่น คา่ เช่าโดเมนเวบ็ ไซต์ เงินเดือนเจา้ หนา้ ท่ที ่ตี ้องดแู ลบรหิ าร โครงการ ส่งผลให้เมือ่ หมดโครงการ ประสิทธภิ าพในการท�ำงานลดลง รวมถงึ ชอ่ งทางส่อื ดิจิทลั ในการนำ� เสนอขอ้ มลู ข่าวสารทต่ี อ้ งยตุ ไิ ปด้วย ขณะท่ีในประเด็นเร่ืองทุนที่เป็นบุคลากรและเครือข่าย ถือเป็นปัจจัย สำ� คญั อยา่ งยงิ่ ดว้ ยบคุ ลากรขององคก์ รสอื่ ทางเลอื กทเี่ ปน็ นกั วชิ าการ และนกั ขา่ วท่ี เปน็ แกนหลกั ทม่ี ปี ระสบการณ์ องคค์ วามรใู้ นการของบประมาณในลกั ษณะเดยี ว กบั การท�ำงานวิชาการหรืองานวจิ ัย รวมถึงประวตั ผิ ลงานเปน็ ทยี่ อมรบั มีหมวก ในฐานะนักวิชาการ และในฐานะอื่นๆ ทางสังคมเช่นเดียวกับนักข่าวในพื้นท่ีท่ี ทำ� งานองคก์ รสอ่ื ทางเลอื ก ยงั มหี มวกของการเปน็ นกั ขา่ วของสอ่ื กระแสหลกั หรอื ส่ือตา่ งประเทศในฐานะนกั ขา่ วในพน้ื ที่ (สตรงิ เกอร)์ อีกดว้ ย ส่วนเครือข่ายทง้ั ภาควชิ าการ ภาคประชาสงั คม ตา่ งกม็ สี ว่ นในการหนนุ เสรมิ ใหเ้ กดิ การไดม้ าของ งบประมาณเชน่ เดยี วกนั อยา่ งไรกต็ าม การของบประมาณสนบั สนนุ สว่ นใหญจ่ ะ เกดิ ขนึ้ ภายใตเ้ งอื่ นไขทต่ี อ้ งเปน็ นติ บิ คุ คล ทำ� ใหอ้ งคก์ รสอ่ื ทางเลอื กเกอื บทงั้ หมด ตอ้ งอาศยั องคก์ รภาควชิ าการ เชน่ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขตปตั ตานี (ม.อ. ปัตตานี) ในการยืน่ เสนอขอทุน เปน็ ส่วนใหญซ่ ่งึ ถอื เป็นขอ้ จ�ำกดั คนในคือหัวใจส�ำคัญของการก่อต้ัง และนโยบายท่ีชัดเจนเพ่ือ ประโยชนส์ าธารณะ การกอ่ ตงั้ สอ่ื ทางเลอื กชายแดนใตน้ นั้ มลี กั ษณะเฉพาะทน่ี า่ สนใจ คอื เกดิ ข้นึ จากองคป์ ระกอบหลายประการอย่างมนี ยั ส�ำคญั โดยเฉพาะประเด็น “คนใน” ทป่ี ระกอบไปดว้ ยนกั วชิ าการ และนกั ขา่ วในพน้ื ท่ี ไดก้ ลายเปน็ แกนหลกั ในการกอ่ ตั้งองค์กรส่ือทางเลือกข้ึนในพ้ืนที่ ท้ังนักวิชาการในฐานะผู้มีองค์ความรู้ในพื้นที่ และนกั ขา่ วในฐานะผมู้ ปี ระสบการณท์ ำ� ขา่ ว มคี วามรดู้ า้ นภาษาทอ้ งถน่ิ และมถี นิ่ กำ� เนดิ ในพ้ืนท่จี งั หวัดชายแดนใต้ ขณะที่มีองค์ประกอบเสริมคอื เครอื ขา่ ยภาค 144 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

ประชาสังคม และภาควชิ าการ ตลอดจนนกั ศกึ ษา พลังคนรนุ่ ใหม่ทเ่ี กดิ ขน้ึ และ ตามมาในภายหลงั รวมถงึ สถานการณท์ เ่ี ปน็ ปจั จยั ใหเ้ กดิ การกอ่ ตง้ั อน่ื ๆ เชน่ การ เกดิ รัฐประหารในปี 2557 และการยบุ โต๊ะข่าวภาคใต้ ศูนย์ข่าวอศิ ราของสมาคม นักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ที่เป็นแรงผลักให้เกิดการก่อต้ังองค์กร สอ่ื ทางเลอื กขนึ้ อยา่ งหลกี เลยี่ งไมไ่ ด้ ขณะเดยี วกนั ความเปน็ พนื้ ทป่ี ลอดภยั อยา่ ง มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขตปตั ตานี (ม.อ. ปัตตานี) ท่ีอยูใ่ นสถานะ พนื้ ทขี่ องการแสดงความคิดเห็นในเชงิ สาธารณะ อสิ ระทางความคิด และปลอด จากการแทรกแซงทางการเมอื ง รวมถึงประวัตศิ าสตร์การตอ่ สู้ในช่ือ “ปาตาน”ี หรือจังหวัดปัตตานี เป็นอกี องค์ประกอบท่ีกลายเป็นคำ� สำ� คัญ ท่ีทำ� ใหก้ ารกอ่ ต้งั องค์กรสอื่ ทางเลอื กในพื้นทีป่ ระสบความสำ� เรจ็ ในระยะเวลาอันสั้น การก่อต้ังขององค์กรส่ือทางเลือกชายแดนใต้ ยังมีนโยบายที่ชัดเจน มีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน คือ การสร้างพ้ืนท่ีการส่ือสารสาธารณะเพ่ือ แสวงหากระบวนการสันติภาพ โดยการแสดงบทบาทท่ีแตกต่างกันทั้งบทบาท “สอ่ื ” ท่ตี อ้ งการเปน็ สือ่ หลักในชายแดนใต้ บทบาทการตอ่ สตู้ ่อรองเพื่อกลุม่ คน ทไี่ ด้รับผลกระทบ สทิ ธิ และความเทา่ เทยี ม และบทบาทการเปน็ พน้ื ทีก่ ลางเพือ่ เชื่อมตอ่ เครอื ข่ายทุกภาคส่วนในการสร้างพลงั การตอ่ รองทางการเมอื ง เครอื ข่ายมคี วามส�ำคัญหนุนเสริม เครือข่ายภาคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคประชาสังคม ภาควิชาการ หรือ องคก์ รสอ่ื ดว้ ยกนั เอง รวมถึงสอ่ื กระแสหลัก ล้วนแลว้ แต่มีสว่ นหนุนเสริม ตงั้ แต่ กระบวนการก่อต้งั การท�ำงาน ตลอดจนทนุ โดยจะเห็นไดจ้ ากผลการศึกษาท่มี ี ความชดั เจนถงึ การเขา้ มาช่วยกนั ขับเคลอ่ื น ซึง่ ทกุ คนตา่ งมี “จดุ รว่ ม” คอื การ ไปสู่สันตภิ าพ โดยพบว่า เครอื ข่ายมีส่วนร่วมตง้ั แต่การกอ่ ตั้ง เชน่ การใช้พ้ืนท่ี ของมหาวิทยาลัย ท่ีถอื เป็นพื้นท่ีอิสระปลอดจากการแทรกแซง โดยเฉพาะจาก หนว่ ยงานความมน่ั คงทเ่ี รยี กวา่ เปน็ พน้ื ทป่ี ลอดภยั และยงั มกี ลมุ่ นกั วชิ าการหรอื องค์กรวิชาการเปน็ ผูส้ นับสนนุ ซึ่งในกรณเี ดยี วกัน ยังคงเป็นผสู้ นับสนุนอยูเ่ บือ้ ง หลงั การเปน็ หนว่ ยงานตน้ ทางในการขอรบั ทนุ สนบั สนนุ จากองคก์ รตา่ งๆ อกี ดว้ ย กันยายน – ธันวาคม  2 5 6 3   145

ในขณะเดียวกัน กระบวนการท�ำงานก็พบการมีส่วนร่วมผลักดันของเครือข่าย ในลักษณะของการร่วมโครงการ หรือทำ� กจิ กรรมตา่ งๆ กนั อย่เู ปน็ ระยะ แมแ้ ต่ องคก์ รสอื่ กระแสหลกั ยงั ไดเ้ ขา้ มสี ว่ นรว่ มในการสนบั สนนุ เผยแพรเ่ นอ้ื หาขา่ วสาร หรือร่วมกจิ กรรมในบางกรณี บทบาทหนา้ ทแี่ ตกตา่ งกนั : สื่อ พนื้ ทกี่ ลาง ตอ่ ส้ตู ่อรอง ผลการศึกษาพบว่า องค์กรส่ือทางเลือกทั้งหมดได้วางบทบาทหน้าท่ี ตามนโยบายท่ีได้กำ� หนดเอาไว้คือ กระบวนการไปสู่สันติภาพ โดยพบว่า การ ท�ำบทบาทหน้าท่แี บ่งออกเป็น 3 ลกั ษณะคอื การท�ำหน้าท่เี ป็นองคก์ รส่อื การ ทำ� หนา้ ท่ีเป็นพนื้ ท่กี ลาง และการทำ� หน้าทีใ่ นการตอ่ ส้ตู ่อรอง โดยการทำ� บทบาท หนา้ ที่ทั้ง 3 ลักษณะ โดยกลมุ่ ท่ีท�ำหน้าทอ่ี งค์กรสื่อ ได้มีความพยายามในการ นำ� เสนอขา่ วในทกุ มติ ิ บางกลมุ่ เนน้ ทจี่ ะน�ำเสนอขา่ วในมติ เิ ชงิ ลกึ ของผทู้ ตี่ กเปน็ เหยอื่ ของสถานการณ์ สว่ นกลมุ่ ทท่ี �ำหนา้ ทเ่ี ปน็ พน้ื ทก่ี ลาง พนื้ ทสี่ าธารณะ ไดท้ �ำบทบาท ชัดเจนในฐานะผู้ทเ่ี ชือ่ มตอ่ เปดิ พื้นที่การพูดคุย การเจรจา รูปแบบทางออกทจี่ ะ ไปส่กู ระบวนการสันตภิ าพ ขณะท่ีกลุ่มทท่ี ำ� หนา้ ทีต่ ่อสตู้ อ่ รอง ได้แสดงบทบาท ที่ต้องการให้ผู้ท่ีได้รับผลกระทบได้รับโอกาสในการช่วยเหลืออย่างยุติธรรมและ เท่าเทยี ม บทบาททท่ี ับซ้อนของผทู้ �ำสอ่ื ทางเลือก ผลการศึกษาพบว่า ผู้ท่ีท�ำงานส่ือทางเลือกบางส่วนมีบทบาทหน้าท่ี ที่หลากหลาย ทบั ซอ้ นหมวกหลายใบ เชน่ การเปน็ นักขา่ วในพนื้ ที่ (สตริงเกอร)์ ให้กบั สือ่ กระแสหลกั หรอื ส�ำนกั สื่อต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ยงั มบี ทบาทหนา้ ท่ี ในองคก์ รอ่นื ๆ เชน่ ชมรม สมาคม องคก์ รอื่นๆ นักเคลื่อนไหวภาคประชาสงั คม ทงั้ ทกี่ อ่ ตง้ั ขน้ึ เองและถกู รบั เชญิ เขา้ ไป บทบาทดงั กลา่ วทำ� ใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั หิ นา้ ทอี่ งคก์ ร สอ่ื ทางเลอื กกลายเปน็ ท้ังผู้จดั กิจกรรม ผบู้ รหิ าร หรือผู้ปฏิบัตงิ านองค์กรส่ือทาง เลือก ผู้รับทุน และบทบาททางสังคมอื่นๆ ซ่ึงส่งผลต่อการเข้ามาให้ทุนจากใน พ้นื ที่ ทีอ่ าจแฝงมาในหลากหลายรูปแบบ เชน่ เงนิ คา่ ใชจ้ ่ายอน่ื ๆ เช่น ค่าน�ำ้ มัน 146 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

คา่ เดินทาง ค่าตอบแทน จนถงึ ลักษณะการมอบทนุ ให้ด�ำเนนิ กจิ กรรมโครงการ ตา่ งๆ โครงสร้างแนวราบเชือ่ มโยงเครือข่ายสรา้ งการมสี ่วนรว่ ม การด�ำเนินงานขององค์กรสื่อทางเลือกในพ้ืนที่ชายแดนใต้ มีการวาง โครงสร้างการท�ำงานในลักษณะขนาดเล็กมีคนท�ำงานเพียง 2-3 คน แนวราบ เชื่อมต่อกับเครือข่ายท้ังภาคประชาสังคม ภาควิชาการ ภาคส่ือ ท้ังองค์กรส่ือ ทางเลือกด้วยกัน และสือ่ กระแสหลัก เหน็ ได้ชัดในกรณขี ององคก์ รสื่อทางเลือก ที่วางบทบาทเป็นพื้นที่กลางหรือพื้นที่เช่ือมต่อ ส่วนที่วางบทบาทเป็นองค์กรสื่อ หรือสำ� นักข่าว ท่ีแม้จะใช้กระบวนการทำ� งานแบบส่ือกระแสหลัก แต่ยังคงเป็น องค์กรขนาดเลก็ และไม่มสี ายบังคับบัญชาทเี่ ปน็ ลกั ษณะการสงั่ การ ในขณะท่ี กระบวนการทำ� งานจะเปน็ ไปในลกั ษณะปจั เจกบคุ คลเชอ่ื มตอ่ เครอื ขา่ ย และการ ทำ� งานในลกั ษณะสำ� นกั ขา่ วทมี่ นี กั ขา่ ว และการกำ� หนดประเดน็ โดยผคู้ วบคมุ หรอื ประเดน็ ทมี่ าจากนกั ขา่ วหรอื แหลง่ ขา่ ว โดยระดบั บรรณาธกิ ารหรอื ผกู้ ำ� กบั ดแู ลจะ ทำ� หนา้ ทเี่ ป็นผู้คดั เลือก สรรหา เสนอแนะ ควบค่ไู ปกบั การทำ� หนา้ ท่ตี รวจสอบ ข่าวสาร (gatekeeper) กอ่ นน�ำเสนอออกสู่สาธารณะ ประเด็นส�ำคัญคือ การวางโครงสร้างและกระบวนการท�ำงานในแนว ราบ เช่อื มโยงกบั เครือขา่ ยภาคประชาสงั คม ภาควชิ าการ สง่ ผลต่อโครงสรา้ ง ความสัมพันธ์ในแนวราบกับผู้รับสาร จนสามารถส่งผลให้ผู้รับสารกลายเป็น ผสู้ ง่ สาร และยกระดบั กลายเปน็ ผมู้ สี ว่ นรว่ มในการผลติ นอกจากนี้ ยงั มปี ระเดน็ การสร้างการมีส่วนร่วมในกระบวนการท�ำงาน โดยให้เครือข่ายเข้ามามี บทบาทในระดับต่างๆ ตั้งแต่การเป็นผู้รับสาร ผู้ส่งสาร แหล่งข่าวแหล่งข้อมูล ผรู้ ว่ มดำ� เนนิ กจิ กรรม จนกระทงั่ ถงึ ระดบั การกำ� กบั ดแู ลนโยบายและรว่ มตดั สนิ ใจ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีประเด็นท่ีองค์กรสื่อทางเลือกท่ีมีนโยบายและ เป้าหมายเดียวกันทุกองค์กรคือ การแสวงหากระบวนการสันติภาพ แต่ยังไม่ สามารถสร้างกระบวนการท�ำงานแบบมีส่วนร่วมด้วยกันเองขององค์กรสื่อทาง เลือก ที่จะผลักดันให้ไปสู่เป้าหมายได้ ยังคงเป็นการทำ� งานในลักษณะต่างคน ตา่ งท�ำอยู่ กันยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   147

เน้อื หา รปู แบบและภาษา ท่เี นน้ แสวงหาสันติภาพ องค์กรสื่อทางเลือกชายแดนใต้มีการผลิตเน้ือหาท่ีมุ่งเน้นตามแนวท่ี ผทู้ ำ� งานถนดั กลา่ วคอื หากเปน็ กลมุ่ นกั วชิ าการทเ่ี ปน็ แกนกจ็ ะใชก้ ารผลติ เนอื้ หา ในเชิงวิชาการ ในรปู แบบทไี่ มใ่ ช่ข่าว (non-news) บทความ บทวเิ คราะห์ หรอื กลุ่มที่ผลิตเน้ือหาข่าว (news) เพ่ือการต่อสู้เรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียม ท่ีผลิตในรูปแบบของส่ือคลิปวิดีโอ สารคดีเสียง เนื้อหาท้ังหมดยังคงตอบโจทย์ ตามวัตถุประสงค์ และน�ำไปสู่เป้าหมายคือ กระบวนการสร้างสันติภาพ ท้ัง การแสวงหาทางออกไปสู่สันติภาพ การนำ� เสนอผู้ถูกละเมิดสิทธ์ิตกเป็นเหย่ือ และผทู้ ีไ่ ดร้ ับผลกระทบจากเหตุการณท์ ง้ั ทางตรงและทางออ้ ม ท่ีมปี ลายทางคือ การแสวงหาสนั ติภาพ เนื้อหาเปน็ การน�ำเสนอขอ้ มูลท่ีเกี่ยวกับคนในพน้ื ที่ท่ีนอก เหนอื จากประเด็นหลกั ในการน�ำเสนอ ยังมกี ารน�ำเสนอเรอื่ งภาษา ศาสนา และ วฒั นธรรมอยูด่ ้วย เนื้อหาเหลา่ นไี้ มเ่ คยปรากฏในสอ่ื กระแสหลกั เชน่ เครือข่าย ผู้หญงิ ภาคประชาสังคมชายแดนใต้ ที่นำ� เสนอเร่อื งประเพณีเร่ืองวัฒนธรรมด้าน อาหารทอ้ งถ่ินในสารคดีเสยี ง ส่วนภาษามกี ารวางเป้าหมายที่ใช้ในการสื่อสารในพ้ืนทค่ี อื การใชภ้ าษา ของท้องถิ่นในการสื่อสาร และภาษาสากลท่ีเป็นภาษามลายู รวมถึงภาษาไทย และการสอ่ื สารภายนอกสสู่ าธารณะทง้ั ในระดบั ประเทศ ประเทศเพอ่ื นบา้ น และ ประเทศอืน่ ๆ โดยใชภ้ าษาองั กฤษ ภาษาไทย ภาษามลายู อย่างไรก็ดี การผลิต หลายภาษาก็ยังคงเป็นปัญหาในเรื่องของการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะในภาษา มลายแู ละภาษาอังกฤษ สือ่ ดจิ ิทลั หนุนเสรมิ การด�ำรงอยู่ เสริมดว้ ยสื่อดั้งเดิมผสมผสาน การใช้ช่องทางส่ือสังคมหรือสื่อดิจิทัลในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของ องคก์ รสอ่ื ทางเลอื กชายแดนใต้ มกี ารใชช้ อ่ งทางการสอื่ สารทกุ ชอ่ งทางทงั้ ออนไลน์ คือ เว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย โดยในระยะแรกเป็นการใช้ส่ือออนไลน์เพียง อย่างเดียวคือ เว็บไซต์ และมีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในเวลาต่อมาคือ เฟซบุ๊ก ทวติ เตอร์ และยทู บู โดยพบวา่ การใชช้ อ่ งทางการสอื่ สารดงั กลา่ วสามารถสรา้ งการ 148 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์

มสี ว่ นรว่ ม นอกเหนือไปจากในประเดน็ การรับสาร คอื การแสดงความคิดเหน็ และแจ้งข้อมูลข่าวสารท่ีเป็นประโยชน์ต่อการผลิตเน้ือหา และน�ำไปสู่การยก ระดับขึ้นมาเปน็ ผูม้ ีส่วนรว่ มในการผลติ อย่างไรกด็ ี ในทางกลับกัน พบวา่ ใน เชงิ สถติ ิช่องทางทางโซเชยี ลมีเดียพบ การสรา้ งการมีสว่ นร่วม (engagement) ไดไ้ มม่ ากนัก อยา่ งไรกต็ าม ยงั มอี งคก์ รสอ่ื ทางเลอื กทมี่ อี งคค์ วามรดู้ า้ นวารสารศาสตร์ หรือนิเทศศาสตร์ เลือกท่ีจะวางกลยุทธ์การส่ือสารตรงตามเป้าหมาย โดยการ ใช้สื่อดั้งเดิม เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ร่วมกับส่ือดิจิทัล ท้ังเป้าหมายในพื้นท่ีและ นอกพน้ื ท่ี ซง่ึ ทำ� ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากกวา่ รวมถงึ การใชช้ อ่ งทางการสอ่ื สารแบบ การจัดกจิ กรรมเวทสี าธารณะ (on ground) ศกั ยภาพผทู้ ำ� งานวชิ าชีพส่ือยงั ไปไมถ่ ึง ผลการวิจัยพบว่า แม้กล่มุ องค์กรสอ่ื ทางเลือกจะสามารถใช้ช่องทางสอ่ื ดจิ ทิ ลั ในการเผยแพรข่ อ้ มลู ไดอ้ ยา่ งดี แตก่ ลบั พบวา่ เชงิ สถติ ชิ อ่ งทางทางโซเชยี ล มเี ดียพบการสรา้ งการมสี ว่ นรว่ ม (engagement) ไดไ้ มม่ ากนกั สาเหตุหนึ่งเปน็ เพราะทกั ษะความชำ� นาญของผทู้ ท่ี ำ� องคก์ รสอื่ ทางเลอื ก ทไี่ มม่ คี วามรใู้ นดา้ นการ ใชเ้ ทคโนโลยสี อื่ ดจิ ทิ ลั วา่ ชอ่ งทางการสอื่ สารใดเหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมายใดเปน็ หลัก ท่เี สพเน้ือหาจากช่องทางนัน้ ๆ และการผลติ เนือ้ หาการส่อื สารทสี่ อดคล้อง กับช่องทางการส่ือสารน้ันๆ เช่น เฟซบุ๊กที่นิยมการส่ือสารส้ันๆ และนำ� เสนอ ภาพที่นา่ สนใจ หรือทวติ เตอร์ทเ่ี น้นน�ำเสนอข่าวทเ่ี กิดขึ้นในระยะสนั้ ทำ� ใหห้ ลาย ชอ่ งทางถกู ละท้งิ และไม่เกิดประสิทธภิ าพท่ีสงู สดุ เชน่ ทวิตเตอร์ ยูทบู รวมถึง ประเด็นเช่ือมโยงกับแหล่งทุนที่ท�ำให้ท้ายที่สุดต้องทิ้งช่องทางการสื่อสารอย่าง เว็บไซต์ไป นอกจากน้ี ยงั มปี ระเดน็ ของการขาดทกั ษะทางวชิ าชพี วารสารศาสตรห์ รอื นเิ ทศศาสตร์ เช่น การเขยี นขา่ วให้น่าสนใจ การพาดหัว ภาษาขา่ ว การถา่ ยภาพ เทคนคิ การตัดต่อ รูปแบบการนำ� เสนอท่หี ลากหลาย เช่น การท�ำอนิ โฟกราฟิก ท�ำวิดโี อคอนเทนต์ ทำ� ใหท้ ้ายท่ีสุด เนอ้ื หาท่ีผลติ ออกมาขาดความนา่ สนใจ แม้ กันยายน – ธนั วาคม  2 5 6 3   149

ผ้ทู ที่ ำ� องคก์ รสอ่ื ทางเลอื กจะเป็นนกั ขา่ วในพนื้ ท่ี (สตรงิ เกอร)์ มาก่อนกต็ าม แต่ ก็มีเพยี งทักษะด้านการเขียนหรอื ผลติ เน้ือหาเท่านนั้ อภิปรายผล องคป์ ระกอบส�ำคญั สำ� หรับการก่อต้ังและดำ� รงอยูค่ ือ “นักวชิ าการ” การเกิดข้นึ ขององคก์ รส่ือทางเลือกชายแดนใตน้ น้ั มีความแตกต่างจาก การเกิดขึ้นขององค์กรสื่อทางเลือกภาวะปกติ อันเน่ืองมาจากเป็นการเกิดขึ้น ภายใตบ้ รบิ ทสถานการณค์ วามรนุ แรง และปจั จยั ทส่ี �ำคญั เปน็ ตวั กระตนุ้ ทถี่ อื เปน็ ปัจจยั ภายนอก ไมว่ ่าจะเป็นเรือ่ งนโยบายของรฐั ที่เนน้ ใชก้ ำ� ลงั ในการปราบปราม แก้ไขปญั หา ความขัดแย้งในประวตั ิศาสตร์ท่ีถูกกดทบั หรือการนำ� เสนอขา่ วสาร ของสื่อกระแสหลักที่ไม่นำ� เสนอสาเหตุหรือต้นตอของปัญหาที่แท้จริง แต่เลือก รายงานเพียงเหตุการณ์ความรุนแรงรายวัน ท�ำให้การเกิดข้ึนขององค์กรส่ือทาง เลอื กชายแดนใตเ้ ปน็ ไปอยา่ งรวดเรว็ ซง่ึ หากน�ำมาเปรยี บเทยี บกบั แนวคดิ สอ่ื ทาง เลือกท่ีมีการแบ่งประเภทขององค์กรสื่อทางเลือก ตามแนวคิดของ Jeppesen (2015/2016) และ Bailey et al. (2007) จะพบวา่ องคก์ รสอื่ ทางเลอื กชายแดนใต้ จดั อยู่ในกลุม่ สือ่ ประเภทสอ่ื อิสระตอ่ สทู้ างการเมอื ง (autonomous and radical media) ทมี่ อี ดุ มการณเ์ พอื่ การตอ่ สกู้ บั อ�ำนาจนยิ ม ในทน่ี คี้ อื การตอ่ สกู้ บั นโยบาย ของรฐั สอ่ื ประเภทนเี้ นน้ คณุ คา่ หลกั ในเรอื่ งอธปิ ไตยรว่ ม (collective autonomy) คอื การมสี ว่ นรว่ มตอ่ กระบวนการตดั สนิ ใจ โดยมผี รู้ บั มอบอำ� นาจหรอื ผดู้ ำ� เนนิ การ คือประชาชน และการรวมตัวเป็นกลุ่มองค์กร (collectively organized) หรอื อีกในมติ หิ นึง่ สื่อทางเลือกในชายแดนใต้นั้นเป็นสื่อทางเลือกท่ีมงุ่ เนน้ สังคม มากกว่าสอื่ ทางเลือกทมี่ ่งุ เน้นตวั สอ่ื อยา่ งไรกต็ าม การเกิดขึน้ ขององคก์ รสื่อทางเลอื กชายแดนใต้ นอกจาก จะมปี จั จัยจากภายนอกแลว้ ยังมีปจั จัยภายในที่ส�ำคญั อยา่ งย่ิงและทำ� ใหป้ ระสบ ความส�ำเรจ็ ในการก่อตงั้ นน่ั คอื ศักยภาพของ “คนใน” คือ นกั วิชาการ นกั ขา่ ว ขา่ วในพื้นท่ี คนรนุ่ ใหม่ และการร่วมมอื ของเครือข่ายภาคตา่ งๆ ท้งั ภาควชิ าการ ภาคประชาสังคม และภาคส่ือมวลชนในพ้ืนท่ี ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับ 150 ว า ร ส า ร ศ า ส ต ร์