Power L1 F2 F3 หยุด S1 หมนุ ซ้าย K1 K2 S2 หมนุ ขวา S3 K2 K1 N K1 H1 K2 H2 รูปท่ี 5-19 จ.(ตอ่ ) การต่อวงจรกลับทางหมุนหลังจากหยดุ มอเตอร์ (Reversing after stop) ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ (ทมี่ า: http://www.lpc.rmutl.ac.th) 3-55
ใบสาระการเรียน หน่วยท่ี 5 ชือ่ วิชา การควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ เวลาเรยี น ชื่อหน่วย การควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ 6 ชั่วโมง กระแสสลบั 3 เฟส ชือ่ เร่ืองหรือชอื่ งาน การกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบ วงจรกลบั ทางหมุน แบบจ๊อกกิ้ง (Reversing by Jogging ) ดว้ ยแมกเนตกิ คอนแทคเตอร์ สาระสาคญั มอเตอร์สามเฟส มีขดลวดสามชุด แต่ละชุดต่อเข้ากับแหล่งจ่ายแรงดันระบบ 3 เฟส และสามารถทาการ กลับทางหมุนได้โดยการสลับปลายสายท่ีต่อเข้ากับแหล่งจ่ายแรงดัน 3 เฟสคู่ใดคู่หน่ึงการเลือกวิธีการกลับทาง หมุนหมุนขึ้นอยู่กับลักษณะงาน และชนิดของมอเตอร์ การกลับทางหมุนมอเตอร์สามเฟสด้วยคอนแทคเตอร์ ท่ีนยิ มกนั โดยทว่ั ไป มี 3 แบบขึ้นอยู่กับลกั ษณะการใช้งาน คอื 1. วงจรกลบั ทางหมนุ มอเตอร์โดยตรง 2. วงจรกลบั ทางหมุนหลังจากหยุดมอเตอร์ 3. วงจรกลบั ทางหมุนแบบจ๊อกก้งิ เรื่องทีจ่ ะศึกษา 1. การควบคมุ มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส 1.1. การกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบวงจรกลับทางหมุนแบบจ๊อกก้ิง (Reversing by Jogging ) ดว้ ยแมกเนตกิ คอนแทคเตอร์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. รกู้ ารควบคมุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส 1.1 บอกประเภทของการกลับทางหมุนมอเตอรส์ ามเฟสไดถ้ ูกตอ้ ง 1.2 อธิบายวิธีการกลบั ทางหมุนมอเตอรส์ ามเฟสไดถ้ กู ตอ้ ง 1.3 อธบิ ายขอ้ แตกต่างของการกลับทางหมุนมอเตอรแ์ บบ กลับทางหมุนหลงั จากหยุดมอเตอร์ได้ 1.4 อธิบายลักษณะของการกลบั ทางหมนุ มอเตอร์แบบกลับทางหมุนหลังจากหยุดมอเตอร์ได้ถูกต้อง 1.5 อธิบายการทางานของวงจรการกลับทางหมุนมอเตอร์แบบกลับทางหมุนหลังจากหยุดมอเตอร์ได้ ถูกตอ้ ง 1.6 วิเคราะหส์ าเหตุเบ้ืองตน้ ของการขดั ขอ้ งในวงจรควบคมุ ไดถ้ ูกต้อง 3-56
กิจกรรมการเรียนการสอน ขัน้ ตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนหรอื กจิ กรรมของนักเรยี น ขั้นเตรยี ม ขน้ั เตรยี ม 1. เชค็ ช่ือนกั เรยี น 1. เรยี กช่ือตามเลขที่ 2. เตรยี มเครือ่ งฉาย Power Point 2. ช่วยครเู ตรียมเคร่อื งฉาย Power Point ขน้ั ประเมนิ ผลกอ่ นเรียน ข้นั ประเมนิ ผลกอ่ นเรยี น ถามพื้นความรู้เก่ียวกับ การกลับทางหมุน ตอบคาถามด้วยความตั้งใจและสุจริตใจ โดยใช้ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบแบบวงจร ความรพู้ ืน้ ฐานท่ีมอี ยู่ กลับทางหมุนแบบจ๊อกกิ้ง (Reversing by Jogging ) ดว้ ยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน ขน้ั นาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. ถามคาถามที่เกี่ยวข้องกับเน้ือหาเพ่ือสร้างความ 1. ฟัง ตอบคาถามและซกั ถามข้อสงสยั สนใจ 2. ฟัง และซกั ถามขอ้ สงสัย 2. บอกสมรรถนะท่ีพึงประสงค์ในเร่ืองการกลับทาง หมนุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส แบบแบบ วงจรกลับทางหมุนแบบจ๊อกก้ิง (Reversing by Jogging ) ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ขัน้ สอน ขนั้ สอน 1. สอนเนอื้ หาตามหัวข้อของแผนการจัดการเรียนรู้ 1. จดบนั ทกึ ตอบคาถาม ซักถามข้อสงสัยตรงตามเนื้อหา โดยใช้วิธีถาม-ตอบกับนักเรียนโดยใช้ความรู้เดิม ดว้ ยวาจาท่ีสภุ าพเรียบร้อย ของนักเรียนมาต่อยอดเป็นความรู้ใหม่พร้อมใช้ 2. ตัวแทนนกั เรยี นรับเอกสารประกอบการสอน การกลับ สื่อ Power Point และตัวอย่างของจริง ทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบแบบ ประกอบการสอน วงจรกลับทางหมุนแบบจ๊อกกิ้ง (Reversing by 2. มอบหมายให้ทาใบงาน Jogging ) ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ไปทาใบ 3. อธิบายพร้อมเทคนิคในการต่อวงจรการควบคุม งาน โดยครูคอยสงั เกตและใหค้ าแนะนาเพ่มิ เติม มอเตอรไ์ ฟฟ้า และตอบข้อซักถามเกี่ยวกับงานที่ 3. จดบันทึก ตอบคาถาม ซักถามข้อสงสัยด้วยวาจาที่ จะปฏิบัติ โดยใช้ Power Point สุภาพเรียบรอ้ ย 4. ควบคุมดแู ลและให้คาแนะนาขณะทาใบงาน 4. ศึกษาใบงาน ซกั ถามข้อสงสยั ด้วยความตงั้ ใจ 5. ตรวจเช็ควัสดุ-อุปกรณ์และเคร่ืองมือในการต่อ 5. จดบันทกึ ตอบคาถาม ซักถามขอ้ สงสัยตรงตามเนื้อหา วงจรการควบคมุ เคร่อื งกลไฟฟ้า ดว้ ยวาจาท่ีสภุ าพเรียบร้อย 6. ตรวจวัสดุ-อปุ กรณแ์ ละเครอ่ื งมือในการทาใบงาน 7. ปฏบิ ตั ิการทาใบงาน 8. ร่วมกนั ทาความสะอาดพื้นที่ปฏิบตั ิงาน 3-57
กิจกรรมการเรยี นการสอน ขั้นตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ขน้ั ตอนการเรยี นหรอื กิจกรรมของนักเรียน ขนั้ สรปุ อภิปรายและรว่ มสรปุ เรื่องทเ่ี รยี นรว่ มกัน นาอภิปรายสรุปสาระสาคัญเร่ือง การกลับ 1. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ดว้ ยความม่ันใจและสุจรติ ใจ ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส แบบแบบ 2. ตรวจสอบความถูกต้อง ซักถามขอ้ สงสัย วงจรกลับทางหมุนแบบจ๊อกกิ้ง (Reversing by Jogging ) ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ข้นั ประเมินผลหลังเรียน 1. มอบหมายใหท้ าใบงานหลังเรียน 2. สรุปผลการประเมินผลรวมการกลับทางหมุน มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส แบบแบบวงจร กลับทางหมุนแบบจ๊อกกิ้ง(Reversing by Jogging ) ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ เกี่ ยว กั บกิ จนิ สั ยใ น กา รป ฏิ บัติ งา น แ ล ะ คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ท่ี ต้ อ ง ก า ร บู ร ณ า ก า ร คุ ณ ธ ร ร ม จริยธรรม ใบงาน และใบทดสอบ 3-58
งานทม่ี อบหมายหรอื กจิ กรรม กอ่ นเรียน 1. เชค็ ชอ่ื นกั เรยี น 2. เตรียมเคร่ืองฉาย Power point ขณะเรยี น 1. ทาแบบฝกึ หดั 2. เฉลยแบบฝึกหดั 3. ปฏบิ ัติการทดลอง 4. ประเมินผลการปฏิบตั งิ าน 5. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปสาระสาคญั เร่ืองการกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบ วงจรกลบั ทางหมุนแบบจ๊อกกิ้ง (Reversing by Jogging ) ดว้ ยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ หลังเรียน 1. ประเมินผลการปฏบิ ัตงิ าน และคณุ ลักษณะที่ตอ้ งการบรู ณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม สอื่ การเรยี นการสอน 1. ส่อื การเรยี นการสอน E-learning สื่อสิง่ พมิ พ์ 1. เอกสารประกอบการสอนการกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบวงจรกลับทางหมุน แบบจ๊อกกิง้ (Reversing by Jogging ) ดว้ ยแมกเนตกิ คอนแทคเตอร์ สือ่ โสตทัศน์ 1. Power point หุ่นจาลองหรือของจรงิ 1. แผ่นป้ายตัวอยา่ ง 2. รูปลกั ษณะของสญั ลกั ษณ์และอปุ กรณ์ควบคุมเคร่ืองกลไฟฟ้า เช่น แมกเนติกคอนแทคเตอร์ สวิทช์ปุมกด โอเวอรโ์ หลด เปน็ ตน้ 3-59
การประเมนิ ผล ขณะเรยี น 1. สงั เกตความสนใจ 2. สังเกตการนาเสนอผลงาน 3. ตรวจแบบฝึกหดั 4. สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5. ประเมินผลการปฏบิ ัติการทดลองตามใบทดลอง หลงั เรยี น 1. ทาทดสอบหลังเรยี น 2. ประเมินตนเองและเพ่ือนรว่ มงาน เร่ืองกิจนิสยั ในการปฏบิ ัตงิ าน และคุณลักษณะทต่ี ้องการบรู ณาการ คุณธรรม จรยิ ธรรม 3-60
บันทกึ หลังการสอน ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ การกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส แบบวงจรกลบั ทางหมุน แบบจ๊อกก้ิง (Reversing by Jogging ) ดว้ ยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ดงั นี้ 1. เวลาทีใ่ ช้สอน…………………………………………………............…………………………………..……………………………….. 2. เนื้อหา………………………………………………………………..........……………………………….………………………………….. 3. สอ่ื การสอน…………………………………………………………...........……………………………….………………………………… ผลการเรยี นของนักเรียน ……………………………………………………………………………………………………………….………………...........……………………. ………………...........…………………………………………………...………………………………………….……………………………………. …………………………………………………………………………………………………………….……………………............……………….. ……………………...........………………………………………………………………………………….……………………………………………. ผลการสอนของครู …………………………………………………………………………………………………….…………………...........……………………………. …………………………………………………………………………………………….………………………………...........………………………. ………………….…………………………………………………………………………………………………………...........………………………. …………………………………………………………...........………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อผบู้ นั ทกึ ……………….…………… (…………………………..) ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ สถานศึกษาหรือผูท้ ี่ได้รับมอบหมาย …………………………………………………………………………………………………............…………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………............……………………………………………………. ……………………………………………………………………………............………………………………………………………………………. ลงช่ือ…………………….………………. (…………….....………………) ตาแหนง่ ……………….………………… 3-61
5.5 วงจรกลบั ทางหมนุ แบบจอ๊ กกิ้ง (Reversing by Jogging) ลักษณะการกลับทางหมุนแบบจ๊อกกิ้ง หมายถึง การกลับทางหมุนมอเตอร์โดยการกดสวิทช์ปุมกด คา้ งไว้ เม่อื ปลอ่ ยมอื ออกจากสวทิ ช์ปุมกดมอเตอรก์ ็จะหยดุ หมุน การเริ่มเดนิ มอเตอร์จะเร่ิมเดินให้หมุนขวาหรือ ซ้ายก่อนก็ได้ โดยการกดสวิทช์ S2 หรือ S3 และเมื่อไม่ต้องการให้วงจรทางานก็ทาการปลดสวิทช์ S1 ออกซ่ึง S1 เป็นสวิทช์แบบมีลอ็ คในตัวเอง 5.5.1 อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการควบคุมวงจรการกลับทางหมนุ มอเตอร์ 1. สวทิ ช์แบบมลี อ็ คในตัวเอง 2. สวิทช์ปุมกดสีเขียวปกติปิด 1 ตวั =S2 (Push Button switch N.C. ) 3. สวทิ ช์ปมุ กดสีเหลืองปกติเปิด 1 ตวั =S3 (Push Button switch N.O. ) 3-62
4. คาร์ทรคิ ฟวิ ส์ วงจรกาลงั 3 ตวั = F1 (Power Fuse) 5. คารท์ รคิ ฟิวสว์ งจรควบคุม 1 ตัว = F2 (Control Fuse) 6. โอเวอรโ์ หลดรเี ลย์ 3 เฟส 2 ตวั = F3 7. คอนแทคเตอร์หมนุ ขวา = K1 (Forward Contactor) 8. คอนแทคเตอรห์ มุนซา้ ย = K2 (Reverse Contactor) 3-63
9. มอเตอร์ 3 เฟส = M1 ( 3 Phase Induction Motor) 5.5.2 ความหมายสัญลกั ษณ์อกั ษรกากับวงจร สัญลกั ษณ์ ความหมาย S1 สวิทช์ปุมกดหยุดเดนิ มอเตอร์ (Push Button Stop switch) S2 สวทิ ช์ปมุ กดเดนิ มอเตอร์หมนุ ขวา (Forward Start switch) S3 สวทิ ช์ปุมกดเดินมอเตอรห์ มุนซ้าย (Reversing Start switch ) F1 ฟิวสป์ ้องกันวงจรกาลัง (Power Fuse) F2 ฟวิ สป์ อ้ งกันวงจรควบคมุ (Control Fuse) F3 อปุ กรณ์ป้องกันมอเตอร์ทางานเกนิ กาลัง (Overload Relay) K1 คอนแทคเตอร์หมนุ ขวา (Forward Contactor) K2 คอนแทคเตอร์หมุนซ้าย (Reverse Contactor) M1 มอเตอร์3เฟส ( 3 Phase Induction Motor) 3-64
5.5.3 วงจรและหลกั การทางานของวงจรการกลับทางหมุน L1 L2 L3 N F1 K1 K2 F3 U1 V1 W1 M 3 รปู ที่ 5-20 ก. วงจรกาลงั ของวงจรกลบั ทางหมนุ แบบจ๊อกกิ้ง (Reversing by Jogging) ดว้ ยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ หลักการวงจรกาลังการกลับทิศทางหมุนของมอเตอร์ ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ในการกลับทางหมุน มอเตอร์ 3 เฟสนั้นทาได้โดยการสลับสายเมนคู่ใดคู่หน่ึงเข้ามอเตอร์ ส่วนอีกเส้นหน่ึงต่อไว้ดังเดิมในการกลับ ทางหมุน ในงานควบคุมจาเป็นต้องเอาคอนแทคเตอร์มาช่วยในการสลับสายให้มอเตอร์กลับทางหมุนดังนี้ คอนแทตเตอร์ K1 ต่อให้มอเตอร์หมุนขวาคอนแทคเตอร์ K2 ต่อให้มอเตอร์หมุนซ้ายในวงจรกาลังคอนแทค เตอรส์ องตัวจะทางานพรอ้ มกนั ไมไ่ ดถ้ ้าทางานพร้อมกันจะเกิดการลัดวงจรระหว่าง L1 กับ L3 ดังน้ันคอนแทค เตอร์ตัวใดตัวหนึ่งทางานอยู่อีกตัวต้องหยุดทางาน การป้องกันไม่ให้คอนแทคเตอร์ K1 และ K2 ทางานพร้อม กัน ทาไดโ้ ดยตอ่ คอนแทคปกติปิด ไวก้ อ่ นเขา้ ขดลวดของคอนแทคเตอร์สลับกัน 3-65
L1 F2 F3 S1 S2 S3 K1 H1 K2 H2 H3 N รูปท่ี 5-20 ข. วงจรควบคุมของวงจรกลับทางหมนุ แบบจ๊อกกิ้ง (Reversing by Jogging) ดว้ ยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ 5.5.4 ลกั ษณะการทางานของวงจร 1. กดสวทิ ช์ S3 ค้างไว้ตลอดเวลา คอนแทกเตอร์ K1 ทาหน้าทตี่ อ่ ให้มอเตอร์หมุนขวา Control Power L1 LLLN321 F1 F2 F3 S1 K1 K2 S2 F3 S3 U1 V1 W1 K1 H1 K2 H2 H3 3M N รปู ท่ี 5-21 ก. สภาวะการทางานของวงจร เมื่อกดสวิตซ์ S3 3. เมอ่ื กดสวิทช์ S2 คา้ งไวต้ ลอดเวลา คอนแทกเตอร์ K2 ทาหนา้ ที่ต่อให้มอเตอร์หมุนซา้ ย 3-66
Control Power L1 LLLN321 F2 F1 F3 K1 K2 S1 S2 F3 S3 U1 V1 W1 K1 H1 K2 H2 H3 3M N รปู ท่ี 5-21 ข. สภาวะการทางานของวงจร เม่ือกดสวิตซ์ S2 3. เร่ิมเดินมอเตอร์ให้หมุนซ้ายหรือขวาก่อนก็ได้โดยการกดสวิทช์ S2 หรือ S3 และจะต้อง กดสวิทช์ ตลอดเวลาท่ีต้องการให้มอเตอรห์ มุนถ้าปลอ่ ยมือออกจากสวทิ ช์ปมุ กดมอเตอรจ์ ะหยุดหมนุ 4. ถ้ากดสวทิ ช์ปมุ กด S2 และ S3 พรอ้ มกนั จะไม่มีคอนแทกเตอรต์ ัวใดทางาน และคอน แทกเตอร์ K1 และ K2 ไมส่ ามารถทางานพรอ้ มกันได้ 5. เม่ือเกิดการโอเวอร์โหลดข้ึน โอเวอร์โหลดรีเลย์ F3 แบบมีรีเซ็ทด้วยมือ จะทาหน้าที่ตัดวงจร ควบคุมออกไป Control Power L1 LLLN321 F2 F1 F3 S1 K1 K2 K1 K2 S2 F3 S3 K2 K1 U1 V1 W1 K1 H1 K2 H2 H3 3M N รูปท่ี 5-21 ค. สภาวะการทางานของวงจร เมอื่ กดสวิตซ์ S2 3-67
Control L1 F2 F3 S1 S2 S3 K1 K2 H1 N รปู ท่ี 5-21 ง. วงจรกลับทางหมนุ แบบจอ๊ กกิง้ (Reversing by Jogging) ดว้ ยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ (ที่มา: http://www.lpc.rmutl.ac.th) 3-68
Power L1 L2 L3 N PE F2 K1 K2 F3 U VW M3 M 3 รปู ท่ี 5-21 ง.(ตอ่ ) วงจรกลับทางหมุนแบบจ๊อกกง้ิ (Reversing by Jogging) ด้วยแมกเนตกิ คอนแทคเตอร์ (ทม่ี า: http://www.lpc.rmutl.ac.th) 3-69
ใบสาระการเรยี น หน่วยท่ี 5 ชื่อวชิ า การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า เวลาเรียน ชื่อหน่วย การควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ 6 ช่วั โมง กระแสสลับ 3 เฟส ชื่อเร่อื งหรือชือ่ งาน การต่อวงจรการกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส ดว้ ยแมกเนติก คอนแทคเตอร์ ควบคุมดว้ ยซเี ลก็ เตอร์ สวทิ ช์ สาระสาคญั มอเตอร์สามเฟสมีขดลวดสามชุด แต่ละชุดต่อเข้ากับแหล่งจ่ายแรงดันระบบ 3 เฟส และสามารถทาการ กลับทางหมุนได้โดยการสลับปลายสายที่ต่อเข้ากับแหล่งจ่ายแรงดัน 3 เฟสคู่ใดคู่หนึ่งการเลือกวิธีการกลับทาง หมุนหมุนขึ้นอยู่กับลักษณะงาน และชนิดของมอเตอร์ การกลับทางหมุนมอเตอร์สามเฟสด้วยคอนแทคเตอร์ ทนี่ ิยมกนั โดยทัว่ ไป มี 3 แบบข้ึนอยู่กบั ลกั ษณะการใชง้ าน คอื 1. วงจรกลับทางหมนุ มอเตอร์โดยตรง 2. วงจรกลบั ทางหมุนหลงั จากหยุดมอเตอร์ 3. วงจรกลบั ทางหมนุ แบบจ๊อกกง้ิ เร่ืองทีจ่ ะศกึ ษา 1. การควบคุมมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส 1.1. การต่อวงจรการกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคุมดว้ ยซีเลก็ เตอร์ สวิทช์ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. รูก้ ารควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส 1.1 บอกประเภทของการกลับทางหมนุ มอเตอร์สามเฟสได้ถูกตอ้ ง 1.2 อธิบายวิธีการกลบั ทางหมนุ มอเตอร์สามเฟสได้ถูกต้อง 1.3 อธิบายข้อแตกต่างของการกลับทางหมุนมอเตอร์ ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคุมด้วยซีเล็ก เตอร์สวิทช์ได้ 1.4. อธิบายลักษณะของการกลับทางหมุนมอเตอร์ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคุมด้วยซีเล็กเตอร์ สวิทช์ไดถ้ กู ต้อง 1.5. อธิบายการทางานของวงจรการกลับทางหมุนมอเตอร์ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคุมด้วย ซีเลก็ เตอร์สวทิ ช์ได้ 1.6 วิเคราะห์สาเหตุเบื้องตน้ ของการขดั ขอ้ งในวงจรควบคมุ ไดถ้ ูกต้อง 3-70
กิจกรรมการเรียนการสอน ขนั้ ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขัน้ ตอนการเรยี นหรอื กจิ กรรมของนักเรียน ข้นั เตรียม ข้นั เตรียม 1. เช็คชอื่ นักเรยี น 1. เรียกชอ่ื ตามเลขท่ี 2. เตรียมเครือ่ งฉาย Power Point 2. ช่วยครูเตรยี มเครือ่ งฉายPower Point ขัน้ ประเมินผลก่อนเรียน ขัน้ ประเมินผลกอ่ นเรยี น ถามพื้นความรู้เกี่ยวกับ การต่อวงจรการกลับ ตอบคาถามด้วยความต้ังใจและสุจริตใจ โดยใช้ ทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ด้วยแมก ความรู้พ้นื ฐานท่ีมอี ยู่ เนติกคอนแทคเตอร์ ควบคมุ ดว้ ย ซเี ลก็ เตอร์ สวทิ ช์ ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ถามคาถามท่ีเก่ียวข้องกับเนื้อหาเพื่อสร้าง 1. ฟงั ตอบคาถามและซกั ถามข้อสงสยั ความสนใจ 2. ฟงั และซกั ถามข้อสงสยั 2. บอกสมรรถนะที่พึงประสงค์ในเรื่อง การต่อ วง จ ร ก า ร ก ลั บ ท า ง ห มุ น ม อ เ ต อ ร์ ไ ฟ ฟ้ า กระแสสลับ 3 เฟส ด้วยแมกเนติกคอนแทค เตอร์ ควบคุมด้วย ซเี ล็กเตอร์ สวิทช์ ขน้ั สอน ข้นั สอน 1. สอนเน้ือหาตามหัวข้อของแผนการจัดการ 1. จดบันทึก ตอบคาถาม ซักถามข้อสงสัยตรงตาม เรียนรู้โดยใช้วิธีถาม-ตอบกับนักเรียนโดยใช้ เนอ้ื หาดว้ ยวาจาทีส่ ภุ าพเรยี บร้อย ความรู้เดิมของนักเรียนมาต่อยอดเป็นความรู้ 2. ตวั แทนนกั เรยี นรับเอกสารประกอบการสอน การต่อ ใหม่พร้อมใช้สื่อ Power Point และตัวอย่าง วงจรการกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 ของจริงประกอบการสอน เฟส ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคุมด้วย ซี 2. มอบหมายให้ทาใบงาน เล็กเตอร์ สวิทช์ ไปทาใบงาน โดยครูคอยสังเกต 3. อธิบายพร้อมเทคนิคในการต่อวงจรการ และใหค้ าแนะนาเพิ่มเตมิ ควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า และตอบข้อซักถาม 3. จดบันทึก ตอบคาถาม ซักถามข้อสงสัยด้วยวาจาที่ เกย่ี วกบั งานทจ่ี ะปฏบิ ตั ิ โดยใช้ Power Point สุภาพเรยี บรอ้ ย 4. ควบคมุ ดแู ลและให้คาแนะนาขณะทาใบงาน 4. ศกึ ษาใบงาน ซักถามขอ้ สงสัย ดว้ ยความต้งั ใจ 5. ตรวจเช็ควัสดุ-อุปกรณ์และเครื่องมือในการต่อ 5. จดบันทึก ตอบคาถาม ซักถามข้อสงสัยตรงตาม วงจรการควบคุมเครอ่ื งกลไฟฟา้ เนื้อหา ดว้ ยวาจาที่สภุ าพเรยี บร้อย 6. ตรวจวัสดุ-อปุ กรณแ์ ละเคร่อื งมือในการทาใบงาน 7. ปฏิบตั ิการทาใบงาน 8. ร่วมกันทาความสะอาดพ้ืนที่ปฏิบตั งิ าน 3-71
กิจกรรมการเรียนการสอน ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ขั้นตอนการเรยี นหรือกจิ กรรมของนกั เรยี น ขัน้ สรปุ อภปิ รายและรว่ มสรปุ เรอ่ื งท่เี รียนรว่ มกัน นาอภิปรายสรุปสาระสาคัญเร่ือง การตอ่ วงจร 1. ทาแบบทดสอบหลังเรียน ด้วยความม่ันใจและ การกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส สจุ ริตใจ ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคุมด้วย ซีเล็ก 2. ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ซักถามขอ้ สงสัย เตอร์ สวิทช์ ขน้ั ประเมนิ ผลหลงั เรยี น 1. มอบหมายให้ทาใบงานหลงั เรียน 2. สรุปผลการประเมินผลรวม การต่อวงจรการ กลับทางหมุนมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคุมด้วย ซี เล็กเตอร์ สวิทช์ เก่ียวกับกิจนิสัยในการ ปฏิบัติงาน และคุณลักษณะท่ีต้องการบูรณา การคุณธรรม จรยิ ธรรม ใบงาน และใบทดสอบ 3-72
งานท่มี อบหมายหรือกิจกรรม กอ่ นเรยี น 1. เชค็ ช่อื นักเรียน 2. เตรียมเครอ่ื งฉาย Power point ขณะเรยี น 1. ทาแบบฝึกหดั 2. เฉลยแบบฝกึ หดั 3. ปฏิบตั กิ ารทดลอง 4. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงาน 5. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ สาระสาคญั เรื่อง การต่อวงจรการกลับทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส ดว้ ยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคมุ ดว้ ย ซีเล็กเตอร์ สวทิ ช์ หลงั เรยี น 1. ประเมินผลการปฏิบตั งิ าน และคุณลักษณะท่ีต้องการบูรณาการคณุ ธรรม จริยธรรม สอ่ื การเรยี นการสอน 1. สือ่ การเรียนการสอน E-learning สือ่ สง่ิ พิมพ์ 1. เอกสารประกอบการสอน การต่อวงจรการกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ด้วยแมก เนตกิ คอนแทคเตอร์ ควบคมุ ด้วย ซีเลก็ เตอร์ สวทิ ช์ สื่อโสตทศั น์ 1. Power point หุ่นจาลองหรือของจรงิ 1. แผน่ ปา้ ยตวั อย่าง 2. รูปลกั ษณะของสญั ลักษณ์และอปุ กรณค์ วบคมุ เครื่องกลไฟฟ้า เช่น แมกเนติกคอนแทคเตอร์ สวทิ ช์ ปุมกด โอเวอร์โหลด เป็นตน้ 3-73
การประเมนิ ผล ขณะเรยี น 1. สงั เกตความสนใจ 2. สังเกตการนาเสนอผลงาน 3. ตรวจแบบฝึกหัด 4. สังเกตการณ์ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 5. ประเมินผลการปฏบิ ัติการทดลองตามใบทดลอง หลังเรยี น 1. ทาทดสอบหลังเรยี น 2. ประเมินตนเองและเพ่ือนร่วมงาน เรอื่ งกิจนสิ ยั ในการปฏิบัติงาน และคุณลกั ษณะท่ตี ้องการบรู ณา การคณุ ธรรม จริยธรรม 3-74
บนั ทกึ หลังการสอน ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ การตอ่ วงจรการกลบั ทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ดว้ ยแมก เนติกคอนแทคเตอร์ ควบคมุ ด้วย ซเี ลก็ เตอร์ สวทิ ช์ ดังน้ี 1. เวลาทใ่ี ช้สอน………………………………………………………………………….......……………..…………………………………... 2. เนอ้ื หา…………………………………………………………………………………………........…….…………………………………….. 3. สอื่ การสอน…………………………………………………………………………………………........……………………………………. ผลการเรียนของนักเรียน ……………………………………………………………………………………………………………….………………........……………………. ……………………………………………………………………………………………………………….…………………………........…………. …………………………………………………………………………………………………………….………………….........………………….. ……………………………………………………………………………………………………….……………………………………........………. ผลการสอนของครู …………………………………………………………………………………………………….……………………........…………………………. …………………………………………………………………………………………….……………………………........…………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………........………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………........…………………….. ลงชื่อผู้บันทึก……………….…………… (…………………………..) ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ สถานศึกษาหรอื ผูท้ ี่ได้รบั มอบหมาย …………………………………………………………………………………………………………………………………………….........………. …………………………………………………………………………………………………………………………………….........………………. ………………………………………………………………………………………………………………….........…………………………………. ลงชื่อ…………………….………………. (…………….....………………) ตาแหนง่ ……………….………………… 3-75
5.6 วงจรกลบั ทางหมนุ ดว้ ยแมกเนตกิ คอนแทคเตอร์ ควบคมุ ดว้ ย ซเี ล็กเตอร์ สวติ ช์ เป็นอุปกรณ์ท่ีใชค้ วบคุมวงจรไฟฟ้า เพ่อื ใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลเข้าวงจร หรือตัดกระแสไฟไม่ให้ไหลผ่าน วงจรได้ตามท่ีต้องการ เป็นสวิทช์ที่ใช้งานกันมากในงานที่ต้องควบคุมการทางานด้วยมือ โดยการบิดให้คอน แทค ที่อย่ภู ายในเปลี่ยนสภาวะปดิ (NC) หรือเปิด (NO) 5.6.1 อปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการควบคมุ วงจรการกลับทางหมุนมอเตอร์ 1.คาร์ทรคิ ฟวิ ส์ วงจรกาลงั 3 ตวั = F1 (Power Fuse) 2.คารท์ ริคฟวิ ส์วง จรควบคมุ 1 ตวั = F2 (Control Fuse) 3.โอเวอรโ์ หลดรีเลย์ 3 เฟส 2 ตวั = F3 4. คอนแทคเตอรห์ มนุ ขวา = K1 (Forward Contactor) 3-76
5. คอนแทคเตอร์หมนุ ซา้ ย = K2 (Reverse Contactor) 6.มอเตอร์ 3 เฟส = M1 (3 Phase Induction Motor) 6. ซีเลค็ เตอร์สวิทช์ (Selector Switch) 5.6.2 ความหมายสัญลักษณ์อกั ษรกากบั วงจร สัญลักษณ์ ความหมาย S1 สวิทช์ปุมกดหยดุ เดนิ มอเตอร์ (Push Button Stop switch) S2 สวิทช์ปุมกดเดนิ มอเตอร์หมุนขวา (Forward Start switch) S3 สวิทช์ปุมกดเดินมอเตอรห์ มนุ ซา้ ย (Reversing Start switch) F1 ฟิวสป์ อ้ งกันวงจรกาลงั (Power Fuse) F2 ฟวิ ส์ปอ้ งกันวงจรควบคมุ (Control Fuse) F3 อุปกรณป์ ้องกนั มอเตอร์ทางานเกนิ กาลัง (Overload Relay) K1 คอนแทคเตอร์หมุนขวา (Forward Contactor) K2 คอนแทคเตอรห์ มุนซ้าย (Reverse Contactor) M1 มอเตอร์3เฟส (3 Phase Induction Motor) 3-77
5.6.3 วงจรและหลกั การทางานของวงจรการกลับทางหมุน L1 L2 L3 N F1 K1 K2 F3 U1 V1 W1 M 3 รูปท่ี 5-22 ก. วงจรกาลงั ของการตอ่ วงจรการกลบั ทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคุมด้วยซีเล็กเตอร์สวิทช์ หลักการวงจรกาลังการกลับทิศทางหมุนของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ในการกลับทางหมุน มอเตอร์ 3 เฟสน้ันทาได้โดยการสลับสายเมนคู่ใดคู่หนึ่งเข้ามอเตอร์ ส่วนอีกเส้นหน่ึงต่อไว้ดังเดิมในการกลับ ทางหมุน ในงานควบคุมจาเปน็ ตอ้ งเอาคอนแทคเตอร์มาชว่ ยในการสลับสายให้มอเตอร์กลับทางหมุนดังน้ี คอน แทตเตอร์ K1 ต่อให้มอเตอร์หมุนขวาคอนแทคเตอร์ K2 ต่อให้มอเตอร์หมุนซ้ายในวงจรกาลังคอนแทคเตอร์ สองตัวจะทางานพรอ้ มกนั ไมไ่ ดถ้ ้าทางานพร้อมกันจะเกิดการลัดวงจรระหว่าง L1 กับ L3 ดังน้ันคอนแทคเตอร์ ตัวใดตัวหนึ่งทางานอยู่อีกตัวต้องหยุดทางาน การป้องกันไม่ให้คอนแทคเตอร์ K1 และ K2 ทางานพร้อมกัน ท า ไ ด้ โ ด ย ต่ อ ค อ น แ ท ค ป ก ติ ปิ ด ไ ว้ ก่ อ น เ ข้ า ข ด ล ว ด ข อ ง ค อ น แ ท ค เ ต อ ร์ ส ลั บ กั น ซึ่ ง เ รี ย ก ว่ า Interlockedcontactor 3-78
L1 F2 F3 1 3 K1 S1 4 K2 2 K1 K2 K1 K2 H2 H3 H4 N รปู ที่ 5-22 ข. วงจรควบคมุ ของการต่อวงจรการกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคมุ ด้วยซีเล็กเตอร์สวทิ ช์ 3-79
5.6.4 ลักษณะการทางานของวงจร 1. เมื่อบิดสวิทช์ S1 ไปทางด้านซา้ ยมือ คอนแทกเตอร์ K1 ทาหน้าท่ตี อ่ ให้มอเตอร์หมุนซ้าย L1 L1 F2 L2 L3 F3 N F1 K1 K2 F3 1 3 K1 S1 4 2 K2 K1 K2 K1 K2 H2 H3 H4 U1 V1 W1 N M 3 2. เมือ่ บดิ สวทิ ช์ S1 ไปทางด้านขวามือ คอนแทกเตอร์ K2 ทาหนา้ ที่ต่อให้มอเตอร์หมุนขวา L1 L1 L2 F2 L3 F3 N F1 K2 K1 1 3 K1 F3 S1 4 K2 U1 V1 W1 2 K1 M K2 3 K1 K2 H2 H3 H4 N 3-80
3. กดปุมทริปของโอเวอร์โหลด F3 สงั เกตการทางานของวงจร L1 L1 F2 L2 L3 N F1 F3 K1 K2 F3 1 3 K1 S1 4 2 K2 K1 K2 K1 K2 H2 H3 H4 U1 V1 W1 N M 3 4. บดิ สวิทช์ S1 ให้อยู่ตรงกลาง สงั เกตการทางานของวงจร L1 L1 L2 F2 L3 F3 N F1 K2 K1 1 3 K1 F3 S1 4 K2 U1 V1 W1 2 K1 M K2 3 K1 K2 H2 H3 H4 N 3-81
ใบสาระการเรยี น หน่วยท่ี 5 ชื่อวิชา การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า เวลาเรียน ช่ือหนว่ ย การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า 6 ช่ัวโมง กระแสสลบั 3 เฟส ช่อื เร่อื งหรือชอ่ื งาน การต่อวงจรเรม่ิ เดินมอเตอร์ แบบทางานเรยี งลาดบั สาระสาคัญ วงจรการควบคุมหลายๆ ตัวในอุตสาหกรรมบางประเภทจาเป็นท่ีต้องให้มอเตอร์แต่ละตัวในการทางาน ร่วมกัน โดยในบางครั้งการทางานร่วมกันน้ันอาจจะอยู่ในลักษณะที่ต้องให้ส่วนหนึ่งทางานก่อนแล้ว อีกส่วนหน่ึง ทางานภายหลังก็ได้ ซ่ึงลักษณะการควบคุมวงจรดังกล่าวน้ีเรียกว่า วงจรควบคุมแบบเรียงลาดับ (Sequence Control) ในวงจรการควบคุมแบบน้จี ะแบ่งประเภทการควบคุมเป็น 2 ลักษณะ คือ 1. การควบคมุ แบบ Manual Sequence Control 2. การควบคมุ แบบ Automaic Sequence Control เรือ่ งทจ่ี ะศกึ ษา 1. การตอ่ วงจรเรม่ิ เดินมอเตอร์ แบบทางานเรียงลาดับ 2. ลาดับขั้นตอนการทางานของระบบ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. เรยี นร้กู ารควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส 1.1. ต่อวงจรเริม่ เดินมอเตอร์ไฟฟ้าทางานเรยี งตามลาดับด้วยมือได้ถกู ต้อง 1.2. อธิบายวงจรเร่ิมเดนิ มอเตอรไ์ ฟฟ้าทางานเรียงตามลาดบั ดว้ ยมือได้ 3-82
กจิ กรรมการเรียนการสอน ขัน้ ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ขั้นตอนการเรยี นหรอื กจิ กรรมของนักเรียน ขั้นเตรยี ม ข้ันเตรียม 1. เชค็ ชอ่ื นักเรียน 1. เรียกชอ่ื ตามเลขท่ี 2. เตรียมเคร่ืองฉาย Power Point 2. ชว่ ยครูเตรียมเครื่องฉาย Power Point ขน้ั ประเมนิ ผลก่อนเรยี น ขั้นประเมนิ ผลกอ่ นเรยี น ถามพื้นความรู้เกี่ยวกับ การต่อวงจรเร่ิมเดิน ตอบคาถามด้วยความตั้งใจและสุจริตใจ โดยใช้ มอเตอร์ แบบทางานเรยี งลาดับ ความรู้พนื้ ฐานที่มีอยู่ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ถามคาถามที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเพื่อสร้างความ 1. ฟงั ตอบคาถามและซักถามขอ้ สงสยั สนใจ 2. ฟงั และซักถามข้อสงสัย 2. บอกสมรรถนะทพี่ งึ ประสงค์ในเรื่อง การต่อวงจร เร่มิ เดนิ มอเตอร์ แบบทางานเรียงลาดบั ขนั้ สอน ขนั้ สอน 1. สอนเน้อื หาตามหัวข้อของแผนการจัดการเรียนรู้ 1. จดบันทกึ ตอบคาถาม ซกั ถามขอ้ สงสัยตรงตามเน้ือหา โดยใช้วิธีถาม-ตอบกับนักเรียนโดยใช้ความรู้เดิม ด้วยวาจาที่สภุ าพเรียบรอ้ ย ของนักเรียนมาต่อยอดเป็นความรู้ใหม่พร้อมใช้ 2. ตัวแทนนักเรียนรับเอกสารประกอบการสอน การต่อ ส่ือ Power Point และตัวอย่างของจริง วงจรเร่ิมเดินมอเตอร์ แบบทางานเรียงลาดับ ไปทาใบ ประกอบการสอน งาน โดยครคู อยสงั เกตและใหค้ าแนะนาเพ่ิมเติม 2. มอบหมายให้ทาใบงาน 3. จดบันทึก ตอบคาถาม ซักถามข้อสงสัยด้วยวาจาที่ 3. อธิบายพร้อมเทคนิคในการต่อวงจรการควบคุม สภุ าพเรียบร้อย มอเตอร์ไฟฟา้ และตอบข้อซักถามเกี่ยวกับงานที่ 4. ศึกษาใบงาน ซกั ถามขอ้ สงสยั ดว้ ยความต้ังใจ จะปฏิบัติ โดยใช้ Power Point 5. จดบนั ทึก ตอบคาถาม ซกั ถามข้อสงสัยตรงตามเน้ือหา 4. ควบคุมดูแลและให้คาแนะนาขณะทาใบงาน ดว้ ยวาจาทีส่ ุภาพเรยี บร้อย 5. ตรวจเช็ควัสดุ-อุปกรณ์และเครื่องมือในการต่อ 6. ตรวจวสั ดุ-อปุ กรณแ์ ละเคร่ืองมือในการทาใบงาน วงจรการควบคุมเครือ่ งกลไฟฟ้า 7. ปฏบิ ัติการทาใบงาน 8. ร่วมกันทาความสะอาดพน้ื ทป่ี ฏบิ ัติงาน 3-83
กิจกรรมการเรียนการสอน ขน้ั ตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ข้ันตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของนักเรียน ข้นั สรปุ อภปิ รายและร่วมสรุปเร่อื งท่เี รียนร่วมกนั นาอภิปรายสรุปสาระสาคัญการต่อวงจรเริ่ม 1. ทาแบบทดสอบหลังเรียน ดว้ ยความมั่นใจและสจุ รติ ใจ เดนิ มอเตอร์ แบบทางานเรยี งลาดบั 2. ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ซกั ถามขอ้ สงสัย ข้ันประเมินผลหลงั เรยี น 1. มอบหมายใหท้ าใบงานหลังเรียน 2. สรุปผลการประเมินผลรวม การต่อวงจรเร่ิมเดิน มอเตอร์ แบบทางานเรียงลาดับ เกี่ยวกับกิจนิสัย ในการปฏิบัติงาน และคุณลักษณะที่ต้องการ บูรณาการคุณธรรม จริยธรรม ใบงาน และใบ ทดสอบ 3-84
งานท่ีมอบหมายหรือกจิ กรรม ก่อนเรียน 1. เช็คชอ่ื นกั เรียน 2. เตรยี มเคร่อื งฉาย Power point ขณะเรียน 1. ทาแบบฝกึ หดั 2. เฉลยแบบฝกึ หัด 3. ปฏบิ ัตกิ ารทดลอง 4. ประเมินผลการปฏบิ ตั งิ าน 5. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ สาระสาคญั เรื่อง การต่อวงจรเร่ิมเดนิ มอเตอร์ แบบทางานเรยี งลาดับ หลงั เรยี น 1. ประเมินผลการปฏบิ ัตงิ าน และคณุ ลักษณะท่ีต้องการบูรณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ส่อื การเรียนการสอน 1. สือ่ การเรยี นการสอน E-learning ส่อื สิ่งพิมพ์ 1. เอกสารประกอบการสอน การต่อวงจรเริม่ เดินมอเตอร์ แบบทางานเรยี งลาดับ สอ่ื โสตทศั น์ 1. Power point หุน่ จาลองหรือของจรงิ 1. แผน่ ปา้ ยตัวอยา่ ง 2. รปู ลกั ษณะของสัญลกั ษณแ์ ละอุปกรณค์ วบคมุ เครื่องกลไฟฟ้า เชน่ แมกเนติกคอนแทคเตอร์ สวทิ ช์ปมุ กด โอเวอรโ์ หลด เปน็ ต้น 3-85
การประเมนิ ผล ขณะเรยี น 1. สังเกตความสนใจ 2. สังเกตการณน์ าเสนอผลงาน 3. ตรวจแบบฝึกหดั 4. สงั เกตการณ์ปฏบิ ัติกิจกรรม 5. ประเมินผลการปฏิบัติการทดลองตามใบทดลอง หลังเรยี น 1. ทาทดสอบหลังเรียน 2. ประเมนิ ตนเองและเพ่ือนร่วมงาน เรอ่ื งกิจนิสยั ในการปฏิบัติงาน และคุณลกั ษณะท่ตี ้องการบรู ณาการ คุณธรรม จริยธรรม 3-86
บันทกึ หลังการสอน ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ การตอ่ วงจรเริ่มเดินมอเตอร์ แบบทางานเรยี งลาดบั ดังนี้ 1. เวลาที่ใช้สอน………………………………………………………………………………………..…..........……………………………… 2. เนื้อหา……………………………………………………………………………………………….………………………..........…………… 3. ส่อื การสอน………………………………………………………………………………………….…………………..........………………. ผลการเรยี นของนักเรียน ……………………………………………………………………………………………………………….………………...........……………………. ……………………………………………………………………………………………………………….……………………...........………………. …………………………………………………………………………………………………………….…............………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….……………………...........………………………. ผลการสอนของครู …………………………………………………………………………………………………….……………………...........…………………………. …………………………………………………………………………………………….………………………………...........………………………. ………………………………………………………………………………………………………............……………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………...........……………………………………….. ลงชื่อผบู้ ันทึก……………….…………… (…………………………..) ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ สถานศึกษาหรือผูท้ ี่ได้รบั มอบหมาย …………………………………………………………………………………………………………………………............…………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………............………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………............……………………. ลงชอ่ื …………………….………………. (…………….....………………) ตาแหนง่ ……………….………………… 3-87
5.7 การตอ่ วงจรเรม่ิ เดนิ มอเตอรไ์ ฟฟ้าทางานเรียงตามลาดบั ด้วยมอื วงจรการควบคุมหลายๆ ตัว ในอุตสาหกรรมบางประเภทจาเป็นท่ีต้องให้มอเตอร์แต่ละตัวในการทางาน ร่วมกัน โดยในบางครั้งการทางานร่วมกันน้ันอาจจะอยู่ในลักษณะท่ีต้องให้ส่วนหนึ่งทางานก่อนแล้ว อีกส่วน หน่ึงทางานภายหลังก็ได้ ซึ่งลักษณะการควบคุมวงจรดังกล่าวน้ีเรียกว่า วงจรควบคุมแบบเรียงลาดับ (Sequence Control) ในวงจรการควบคุมแบบน้จี ะแบ่งประเภทการควบคุมเป็น 2 ลกั ษณะ คอื 1. การควบคุมแบบ Manual Sequence Control 2. การควบคุมแบบ Automatic Sequence Control 5.7.1 การควบคมุ มอเตอร์ให้ทางานเรียงกนั ตามลาดับ โดยใหม้ อเตอรต์ วั ที่ 1 ทางานก่อนถึงจะสามารถสตารต์ ใหม้ อเตอรต์ ัวท่ี 2 ทางานได้ ถ้ามอเตอร์ตัวที่ 1 ยังไม่ทางาน มอเตอร์ตวั ที่ 2 กจ็ ะไมส่ ามารถทางานไดเ้ พราะการทางานของมอเตอร์ตัวที่ 2 อาศัยคอนแทคช่วย แบบปกติเปดิ ของคอนแทคเตอร์ตวั ที่ 1 ใหท้ างานล็อกตวั เองต่อให้คอนแทคตวั ที่ 2 ทางาน วงจรเรียงลาดับจัด ได้ว่าเป็นลกั ษณะของงานทท่ี าเปน็ ระบบ ซึ่ง หมายถึง เป็นงานที่ต้องใช้มอเตอร์หรือโหลดชนิดอ่ืนๆ หลายๆตัว มาทางานรว่ มกัน โดยมอเตอร์หรือโหลดเหล่าน้ันจะทางานเรียงกันไปเร่ือยๆ โดยในแต่ละช่วง การทางานอาจ ถูกกาหนดด้วยเง่ือนไขของเวลาหรือเง่ือนไขของระบบงานเองก็ได้ ซ่ึงงานควบคุมเรียงลาดับ หากเป็นแบบ อัตโนมัติแล้ว ก็จัดได้ว่าเป็นพ้ืนฐานของงานการควบคุมอัตโนมัติ ที่นับวันจะเพิ่มความสาคัญในระบบงาน อุตสาหกรรมมากขึ้น แม้ว่างานการควบคุมในปัจจุบันได้พัฒนาระบบการควบคุมไปแล้วแต่ละส่วนของงาน พื้นฐานนนั้ ยงั จาเป็นต่อนกั ศึกษาท่ีจะทาความเขา้ ใจใหช้ ัดเจนยิง่ ขึน้ 1 อุปกรณท์ ใี่ ช้ในการควบคุมวงจรควบคุมแบบทางานเรยี งลาดบั 1.สวทิ ช์ปุมกดสีแดงปกติปดิ 1 ตวั = S1 (Push Button switch N.C.) 3-88
2.สวทิ ช์ปมุ กดสีเขียวปกตเิ ปิด 1 ตัว = S2 (Push Button switch N.O.) 3.สวิทช์ปุมกดสเี หลอื งปกติเปิด 1 ตัว = S3 (Push Button switch N.O.) 4.คาร์ทริคฟิวส์ วงจรกาลัง 3 ตัว = F1 (Power Fuse) 5.คาร์ทรคิ ฟวิ สว์ ง จรควบคุม1 ตัว = F2 (Control Fuse) 3-89
6.โอเวอรโ์ หลดรีเลย์ 3 เฟส 2 ตวั = F3 - F4 7. คอนแทคเตอรห์ มุนขวา = K1 (Forward Contactor) 8. คอนแทคเตอรห์ มนุ ซา้ ย = K2 (Reverse Contactor) 9.มอเตอร์ 3 เฟส = M1-M2 (3 Phase Induction Motor) 3-90
2 ความหมายสญั ลักษณอ์ ักษรกากับวงจร สญั ลกั ษณ์ ความหมาย S1 สวิทช์ปุมกดหยดุ เดนิ มอเตอร์ (Push Button Stop Switch) S2 สวทิ ช์ปุมกดเดนิ มอเตอร์หมนุ ขวา (Forward Start Switch) S3 สวทิ ช์ปมุ กดเดนิ มอเตอร์หมุนซา้ ย (Reversing Start Switch) F1 ฟวิ ส์ปอ้ งกันวงจรกาลัง (Power Fuse) F2 อุปกรณ์ป้องกันวงจรควบคุม (Control Fuse) F3 อุปกรณ์ป้องกันมอเตอร์ทางานเกินกาลัง (Overload Relay) K1 คอนแทคเตอร์หมุนขวา (Forward Contactor) K2 คอนแทคเตอร์หมุนซ้าย (Reverse Contactor) M1 มอเตอร์3เฟส (3 Phase Induction Motor) M2 มอเตอร์3เฟส (3 Phase Induction Motor) 3 การเร่มิ เดนิ มอเตอรแ์ บบทางานเรยี งลาดบั Manual Sequence Control L1 L2 L3 N F11 F12 K1 K2 F31 F32 U1 V1 W1 U1 V1 W1 M1 M2 3 3 รูปที่ 5-23 วงจรกาลังการเริ่มเดมิ มอเตอร์แบบทางานเรียงลาดบั 3-91
L1 F2 F31 X8 X1 X7 F32 K1 X5 X2 S3 K2 S1 X3 S2 X4 X6 K1 H1 K2 H2 H3 N รูปท่ี 5 -24 วงจรควบคุมการเรม่ิ เดินมอเตอรแ์ บบทางานเรียงลาดับ Manual Sequence Control 4 ลาดบั ขนั้ การทางาน มอเตอร์ตัวที่ 1 (M1) จะต้องทางานก่อนมอเตอร์ตัวที่ 2 (M2) จึงจะทางานได้ ทั้งน้ี เนื่องจากว่า คอนแทคปกติเปิดของ K1 ในแถวที่ 3 จะก้ันคอยล์แมกเนติกคอนแทคเตอร์ K2 ไว้ก่อนแล้ว ดังนั้น มอเตอร์ ตวั ที่ 2 จงึ ไมส่ ามารถทางานก่อนได้ 1. กดสวิทช์ S2 จะทาให้แมกเนติกคอนแทคเตอร์ K1 ทางาน คอนแทคปกติเปิดของ K1 ในแถวท่ี 2 จะล็อกใหต้ วั เองทางานมอเตอร์ตัวแรกคือ M1 จะเร่มิ หมุน ขณะเดียวกันคอนแทคปกติเปิดของ K1 ในแถวที่ 3 จะต่อวงจรใหค้ อยล์แมกเนติกคอนแทคเตอร์ K2 ในแถวที่ 3 เพื่อเตรียมพร้อมจะทางาน 3-92
Control Power L1 F2 L1 F3 L2 F2 X1 L3 N F4 X8 X2 F1 S1 X7 K2 X3 K1 S2 F3 F4 X4 K1 K1 X5 S3 K2 N X6 U1 V1 W1 U1 V1 W1 H1 K2 H2 H3 M1 M2 3 3 รปู ที่ 5-25 สภาวะการทางานของวงจร เม่ือกดสวทิ ช์ S2 2. กดสวิทช์ S3 จะทาให้แมกเนติกคอนแทคเตอร์ K2 ในแถวที่ 3 ทางาน คอนแทคปกติปิดของ K2 ใน แถวที่ 1 จะแถวที่ 1 จะเปิดออกเพื่อป้องกันให้มอเตอร์ตัวที่ 2 หยุดก่อน จึงจะเริ่มสตาร์ทระบบใหม่ได้และ คอนแทคปกติเปิดของ K2 ในแถวที่ 4 จะต่อวงจรล็อกตัวเองขณะนี้มอเตอร์ตัวที่ 2 คือ M2 จะเริ่มหมุน เป็น การทางานเรยี งลาดับตอ่ จากมอเตอรต์ วั แรก Control Power L1 L1 F2 L2 F2 L3 N F3 X1 X8 F1 F4 X7 K1 K2 X2 F3 F4 S1 X5 X3 K1 S3 K2 U1 V1 W1 U1 V1 W1 S2 X6 M1 M2 X4 H1 K2 H2 H3 3 3 K1 รปู ที่ 5-26 สภาวะการทางานของวงจร เมอื่ กดสวิทช์ S3 N 3-93
3. เม่ือกดสวทิ ช์ S1 มอเตอร์ทุกตวั จะหยดุ หมุน Control Power L1 L1 F2 L2 L3 N F3 X8 F1 F2 X1 X7 K1 K2 F4 F3 F4 X2 S1 X3 K1 X5 S2 S3 K2 X6 U1 V1 W1 U1 V1 W1 K2 H2 X4 H3 M1 M2 K1 H1 3 3 N รูปท่ี 5-27 สภาวะการทางานของวงจร เม่ือกดสวิทช์ S1 3. กดปุมทริปของโอเวอรโ์ หลด F3, F4 หรือสภาวะกระแสโหลดเกิด วงจรจะตัดการทางานทนั ที Control Power L1 L1 F2 L2 L3 N F3 X8 F1 F2 X7 K1 K2 X1 F4 F3 F4 X2 S1 X3 K1 X5 S2 S3 K2 X6 U1 V1 W1 U1 V1 W1 X4 K2 H2 H3 M1 M2 K1 H1 3 3 N รปู ที่ 5-28 สภาวะโอเวอร์โหลด F3 , F4 5.7.2 การควบคมุ มอเตอร์ใหท้ างานเรียงลาดบั อตั โนมัติ เป็นวงจรที่ประยุกต์จากวงจรการควบคุมให้มอเตอร์ทางานเรียงลาดับกันแบบธรรมดา โดยมีการ เปลย่ี นการใช้สวิทช์แบบปกติเปิด S3 มาใช้รีเลยต์ งั้ เวลา แทน ซึง่ สวทิ ช์ต้ังเวลาจะเป็นตัวหน่วงเวลาและทางาน ตอ่ คอนแทคเพอื่ สตารต์ ใหม้ อเตอร์ M2 ทางานการ ควบคมุ มอเตอร์ให้ทางานเรียงกันแบบอัตโนมัติน้ีจะอานวย 3-94
ความสะดวกแก่ระบบลาเลียงวัสดุ ช้ินงาน หรือผลิตภัณฑ์ในโรงงานอุตสาหกรรม ซ่ึงรีเลย์เวลาจะช่วยหน่วง เวลาการสตารต์ มอเตอร์ M2 ในช่องเวลาที่เหมาะสม ช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า ลดการเกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้าตก ในระบบไฟฟ้ากาลงั 1.อปุ กรณท์ ี่ใช้ในการควบคุมวงจรควบคุมแบบทางานเรียงลาดับ 1.สวทิ ช์ปุมกดสีแดงปกติปิด 1 ตวั = S1 (Push Button switch N.C.) 2.สวิทช์ปมุ กดสีเขียวปกติเปิด 1 ตวั = S2 (Push Button switch N.O.) 3.สวทิ ช์ปุมกดสีเหลืองปกติเปดิ 1 ตัว = S3 (Push Button switch N.O.) 4.คารท์ รคิ ฟวิ ส์ วงจรกาลงั 3 ตัว = F1 (Power Fuse) 3-95
5.คารท์ รคิ ฟวิ ส์วง จรควบคมุ 1 ตวั = F2 (Control Fuse) 6.โอเวอรโ์ หลดรเี ลย์ 3 เฟส 2 ตวั = F3 - F4 7. คอนแทคเตอร์หมุนขวา = K1 (Forward Contactor) 8. คอนแทคเตอร์หมนุ ซ้าย = K2 (Reverse Contactor) 9. มอเตอร์ 3 เฟส = M1-M2 (3 Phase Induction Motor) 3-96
9. รีเลยห์ น่วงเวลา (Timer Relay) = T 10. 2.ความหมายสัญลักษณอ์ ักษรกากบั วงจร สัญลักษณ์ ความหมาย S1 สวทิ ช์ปุมกดหยุดเดนิ มอเตอร์ (Push Button Stop Switch) S2 สวทิ ช์ปุมกดเดนิ มอเตอรห์ มนุ ขวา (Forward Start Switch) S3 สวทิ ช์ปุมกดเดนิ มอเตอร์หมุนซ้าย (Reversing Start Switch) F1 ฟิวสป์ อ้ งกันวงจรกาลงั (Power Fuse) F2 ฟิวสป์ ้องกันวงจรควบคุม (Control Fuse) F3 อปุ กรณ์ป้องกนั มอเตอร์ทางานเกินกาลงั (Overload Relay) K1 คอนแทคเตอร์หมนุ ขวา (Forward Contactor) K2 คอนแทคเตอรห์ มุนซ้าย (Reverse Contactor) M1 มอเตอร์3เฟส (3 Phase Induction Motor) T รีเลยห์ นว่ งเวลา (Timer Relay) 3-97
3.การตอ่ วงจรเร่มิ เดินมอเตอร์ แบบทางานเรียงลาดบั แบบอตั โนมัติ L1 L2 L3 N F11 F12 K1 K2 F3 F4 U1 V1 W1 U1 V1 W1 M1 M2 3 3 รปู ท่ี 5-29 วงจรกาลงั การเริ่มเดมิ มอเตอร์แบบทางานเรยี งลาดับ 3-98
L1 K3T ( K2 K1 F2 F31 F32 S1 S2 K1 K1 K2 K2 K1 H1 K3T K2 H2 H3 H4 H5 N รปู ที่ 5-30 วงจรควบคุมการเร่ิมเดนิ มอเตอรแ์ บบทางานเรียงลาดับโดยอตั โนมัติ Automatic Sequence Control 3.ลาดบั ขนั้ การทางาน มอเตอรต์ ัวที่ 1 (M1) จะทางานก่อน จากนั้นรอเวลาให้มอเตอร์ตวั ท่ี 2 (M) ทางานเอง โดยอัตโนมตั ิ โดยอาศัยหนา้ คอนแทคของไทมเ์ มอร์เป็นตัวช่วย 1. กดสวิทช์ S2 จะทาใหแ้ มกเนตกิ คอนแทคเตอร์ K1 และไทม์เมอร์รเี ลย์ K3T ทางานเร่ิมนับเวลาตาม ทต่ี ั้งไว้ โดยทีค่ อนแทคปกติเปดิ ของ K1 ในแถวที่ 2 จะล็อคให้ตัวเองทางาน และคอนแทคปกติเปิดของ K1 ใน แถวที่ 4 จะล็อคตวั เองเช่นกนั เพ่ือเตรียมพร้อมหากหนา้ คอนแทคของไทม์เมอร์รีเลยต์ ่อวงจร 3-99
Control Power F12 L1 L1 F2 L2 L3 F31 N F32 F11 S1 S2 K1 K1 K2 K1 H1 K3T ( F31 F32 N K2 K1 K1 K2 K2 U1 V1 U1 V1 W1 W1 M1 M2 K3T K2 H2 H3 H4 H5 3 3 รูปที่ 5-31 สภาวะการทางานของวงจร เมื่อกดสวติ ซ์ S2 2. เมื่อถึงเวลาที่ต้ังไว้ คอนแทคปกติเปิดของไทม์เมอร์รีเลย์ K3T ในแถวที่ 4 จะต่อวงจรให้คอยล์ แมกเนติกคอนแทคเตอร์ K2 ทางาน Control Power L1 L1 F12 F2 L2 L3 F31 N F32 F11 S1 S2 K1 K1 K2 K1 H1 F31 F32 N K3T ( K2 K1 K1 K2 K2 U1 V1 W1 U1 V1 W1 K3T K2 H2 H3 H4 H5 M1 M2 3 3 รูปที่ 5-32 วงจรใหค้ อยลแ์ มกเนติกคอนแทคเตอร์ K2 ทางาน 3-100
3. เมื่อกดสวิทช์ S1 มอเตอรท์ ุกตัวจะหยดุ หมุน Control Power L1 L1 F2 L2 L3 N F31 F11 F12 F32 K1 K2 S1 F31 F32 S2 K1 K3T ( K2 K1 K1 K2 K2 U1 V1 W1 U1 V1 W1 K1 H1 K3T K2 H2 H3 H4 H5 M1 M2 3 3 N รูปท่ี 5-33 สภาวะการทางานของวงจร เม่ือกดสวติ ซ์ S1 4. กดปุมทรปิ ของโอเวอรโ์ หลด F3, F4 หรอื สภาวะกระแสโหลดเกิน วงจรจะตัดการทางานทันที Control Power L1 L1 F12 F2 L2 L3 F31 N F32 F11 S1 S2 K1 K1 K2 F31 F32 K1 H1 N K3T ( K2 K1 K1 K2 K2 U1 V1 W1 U1 V1 W1 K3T K2 H2 H3 H4 H5 M1 M2 3 3 รูปท่ี 5-34 สภาวะโอเวอรโ์ หลด F3, F4 3-101
4.อปุ กรณ์ทีใ่ ช้ในการควบคุม 1. สวิทช์ปมุ กด (Pushbutton Switch) เป็นอุปกรณ์อินพุท (Input) ส่วนแรกเมื่อกดสวิทช์ปุมกด จะทาให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปยังอุปกรณ์ ตา่ งๆ เพอ่ื ควบคมุ ระบบการทางาน หลักการทางาน จากโครงสร้างภายในตาแหน่งปกติหน้าสัมผัสจะไม่ต่อถึงกัน ทาให้กระแสไฟฟ้าไม่ สามารถไหลผ่านไปได้และตาแหนง่ ทางานเมอื่ มีแรงกดจากภายนอกเอาชนะแรงสปริงจะทาให้หน้าสัมผัสต่อถึง กัน มีผลทาให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปได้ และถ้าเอามือกดปุมออก จะทาให้สวิทช์ปุมกด กลับมาอยู่ใน ตาแหน่งปกติ 2. คาร์ทริดจฟ์ ิวส์ (Cartridge Fuse) มีอยู่ 2 ชนิด คือ แบบกระบอกหรือแบบเฟอร์รูล (Ferrule) และแบบใบมีด (Knife Blade Type) เป็นฟิวสท์ ี่มกั ใชร้ ว่ มกบั เซฟตีสวทิ ช์ (Safety Switch) ฟิวสจ์ ะมลี ักษณะเป็นกระบอกไฟเบอร์ที่มีหัวและท้ายเป็นโลหะตัวนารูปทรงกระบอกหรือคล้ายใบมีด ภายในบรรจุฟิวส์เส้นกับสิ่งท่ีทาหน้าท่ีระบายความร้อน และทาหน้าที่ดับประกายไฟเม่ือฟิวส์ขาดเป็นสาร จาพวกทรายละเอยี ดหรอื สารบางอยา่ ง ขนาดกระแสท่ีสามารถทนได้มีค่าตั้งแต่ 2-1200 แอมป์ มีท้ังแบบท่ีใช้ กับสวิทช์นิรภัย และตลับกระเบื้อง ตัวคาทริดฟิวส์น้ันมี 2 แบบ คือ แบบท่ีถอดเปล่ียนไส้ฟิวส์ได้และแบบที่ ถอดเปลยี่ นไส้ฟวิ สไ์ ม่ได้ 3. โอเวอร์โหลดรีเลย์ (Over Load Relay) เป็นอุปกรณป์ ้องกันมอเตอร์ทางานเกินกาลัง หรือป้องกันมอเตอร์ ไม่ให้เกิดการเสียหาย เมื่อมีกระแส ไหลเกนิ พกิ ัดในมอเตอร์ หลกั การทางาน จากโครงสร้างภายในของโอเวอร์โหลดที่ประกอบไปด้วยเหล็กมีขดลวดตัวนาพันรอบอยู่ เมื่อมอเตอร์ ทางานหนักเกนิ กาลัง จะทาใหม้ กี ระแสไหลผ่านตัวนาสูงเกินพิกัดของโอเวอร์โหลดที่ต้ังไว้ ทาให้เกิดความร้อน ที่ไบเมทัล ทาให้ไบเมทัลงอตัวไปดันก้านดันหน้าสัมผัส ทาให้หน้าผัสท่ีปิดจะเปล่ียนเป็นเปิด และหน้าสัมผัส เปดิ จะเปลยี่ นเป็นปดิ และเมอื่ กดปุมรีเซ็ทหนา้ สัมผัสจะกลับคืนสภาพเดิม แต่ในกรณีที่โอเวอร์โหลดเป็นแบบ ไมม่ ีปุมรีเซ็ทจะตอ้ งรอให้ไบเมทัลเยน็ ตวั ลง หนา้ สมั ผัสถึงจะกลบั คืนสู่สภาพเดิม 3-102
4. แมกเนติกคอนแทคเตอร์ (Magnetic Contactortor) เป็นอุปกรณ์ท่ีอาศัยการทางานโดยใช้อานาจแม่เหล็กในการเปิด ปิดหน้าสัมผัส ในการควบคุมวงจร มอเตอรเ์ ราสามารถเรียกอกี ชอ่ื ว่า สวทิ ช์แม่เหล็ก (Magnetic Switch) หลกั การทางาน เม่ือมกี ระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปยังขดลวดสนามแมเ่ หลก็ ทขี่ ากลางของแกนเหล็กจะสร้างสนามแม่เหล็ก ท่ีแรงสนามแม่เหล็กจะสามารถชนะแรงสปริงได้ ดึงให้แกนเหล็กชุดท่ีเคล่ือนที่ เคลื่อนท่ีลงมาในสภาวะเปิด (ON) คอนแทคท้ังสองชุดจะเปล่ียนสภาวะการทางานคือ คอนแทคปกติปิดจะเปิดวงจรจุดสัมผัสออก และ คอนแทคปกติเปดิ จะตอ่ วงจรของจุดสัมผัส เม่ือไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าไปยังขดลวด สนามแม่เหล็กคอน แทคทั้งสองชดุ กจ็ ะกลบั ไปสสู่ ภาวะเดิม 5. มอเตอร์ (Motor) เป็นเคร่ืองใช้ไฟฟ้าที่เปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล และเป็นอุปกรณ์ต้นกาลังใช้ในการ ขับเคลื่อนอุปกรณ์และเครื่องจักรต่างๆ ให้สามารถทางานได้ตามวัตถุประสงค์การใช้งานของอุปกรณ์หรือ เคร่ืองจักรนั้นๆ แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก คือ มอเตอร์กระแสตรงและมอเตอร์กระแสสลับ โดยมอเตอร์ กระแสตรงนิยมใช้กับงานท่ีต้องการปรับความเร็วรอบได้ และงานที่ต้องการแรงบิดสูงๆ ส่วนมอเตอร์ กระแสสลับมักนิยมใช้กับงานท่ีต้องการความเร็วรอบที่มีค่าแน่นอน ไม่ต้องการการดูแลรักษามากนัก ซ่งึ มอเตอร์กระแสสลับน้นั เป็นท่นี ิยมใช้กนั อยา่ งแพร่หลายในโรงงานอุตสาหกรรม มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ เป็นมอเตอร์ที่ใช้กับระบบไฟฟ้ากระแสสลับ เป็นเคร่ืองกลไฟฟ้าที่ทา หน้าที่เปล่ียนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล ส่วนท่ีทาหน้าที่เปล่ียนพลังงานไฟฟ้า คือ ขดลวดในสเตเตอร์ และสว่ นท่ที าหน้าทีใ่ ห้พลังงานกล คือ ตัวหมุนหรือโรเตอร์ ซ่ึงเมื่อขดลวดในสเตเตอร์ได้รับพลังงานไฟฟ้าก็จะ สรา้ งสนามแมเ่ หลก็ ขึน้ มาในตัวทอ่ี ยกู่ ับท่ีหรือสเตเตอร์ ซึ่งสนามแม่เหล็กท่ีเกิดข้ึนน้ีจะมีการเคล่ือนท่ีหรือหมุน ไปรอบ ๆ สเตเตอร์ เนื่องจากการต่างเฟสของกระแสไฟฟ้าในขดลวดและการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้า ในขณะท่ีสนามแม่เหล็กเคลื่อนที่ไปจากขั้วเหนือก็จะพุ่งเข้าหาข้ัวใต้ ซึ่งจะไปตัดกับตัวนาท่ีเป็นวงจรปิดหรือ ขดลวดโรเตอร์ ทาให้เกิดการเหน่ียวนาของกระแสไฟฟ้าข้ึนในขดลวดของโรเตอร์ ซึ่งสนามแม่เหล็กของโร เตอร์นี้จะเคลื่อนท่ีตามทิศทางการเคล่ือนท่ีของสนามแม่เหล็กท่ี สเตเตอร์ ก็จะทาให้โรเตอร์ของมอเตอร์เกิด จะพลังงานกลสามารถนาไปขบั ภาระทต่ี ้องการหมุนได้ 3-103
ใบสาระการเรยี น หนว่ ยท่ี ช่อื วชิ า การควบคมุ มอเตอรไ์ ฟฟ้า 5 ช่อื หน่วย การควบคมุ มอเตอร์ไฟฟา้ เวลาเรียน กระแสสลบั 3 เฟส 6 ชว่ั โมง ช่อื เรอ่ื งหรือชื่องาน การต่อวงจรเร่ิมเดินมอเตอร์แบบสตาร์-เดลตา้ ดว้ ยมอื สาระสาคัญ การเร่ิมเดินแบบสตาร์-เดลต้า (Star-delta starter) นิยมใช้กับมอเตอร์ 3 เฟสชนิดเหน่ียวนาท่ีใช้ โรเตอร์ชนิดกรงกระรอก ท่ีมีขนาดต้ังแต่ 5 – 20 กิโลวัตต์ การเร่ิมเดินมอเตอร์แบบน้ี เป็นวิธีลดกระแสโดยใช้ เทคนิคการต่อวงจรและคุณสมบัติของการต่อวงจรแบบสตาร์-เดลต้า โดยมอเตอร์ท่ีจะนามาเร่ิมเดินแบบนี้ได้ ขดลวดของมอเตอร์ตอ้ งรบั แรงดันไฟฟ้าไดเ้ ท่ากบั แรงดนั ระหว่างไลน์กบั ไลน์ของระบบไฟฟ้าทจ่ี า่ ย เร่ืองที่จะศกึ ษา 1. การต่อวงจรเริม่ เดินมอเตอร์แบบสตาร์-เดลตา้ ดว้ ยมือ ดว้ ยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. รู้การควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส 1.1.ต่อวงจรเร่มิ เดนิ มอเตอรแ์ บบสตาร์-เดลตา้ ดว้ ยมือ ดว้ ยแมกเนตกิ คอนแทคเตอรไ์ ด้ถูกต้อง 1.2.อธบิ ายการต่อวงจรเริ่มเดินมอเตอร์แบบสตาร์-เดลต้า ดว้ ยมือ ดว้ ยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ได้ 1.3.วิเคราะห์วงจรเริม่ เดินมอเตอร์แบบสตาร์-เดลตา้ ดว้ ยมือ ด้วยแมกเนติกคอนแทคเตอร์ได้ 3-104
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352