Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ม.ต้นแก้ไข2

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ม.ต้นแก้ไข2

Published by fangza_8894, 2021-12-02 03:46:56

Description: แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ม.ต้นแก้ไข2

Search

Read the Text Version

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิชาแบบออนไลน์ 98 รายวิชา ภาษาไทย พท21001 จานวน 4 หนว่ ยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ผลการเรยี นรูท้ ี่ จานวน 160 ชว่ั โมง คาดหวัง บทเรียน หัวเรอ่ื ง วตั ถุประสงค์เชงิ กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวน สอ่ื การเรียนรู้ การวดั และ กศน.4 ออนไลนท์ ี่ พฤติกรรม ประเมินผล ชั่วโมง เร่อื งที่ 4 หลักการ พินิจวรรณคดี 1.2 ผ฾ูเรยี น เรียนร฾เู รอ่ื ง 1. หนงั สือวชิ า ด฾านวรรณศิลป฼ และดา฾ นสงั คม วรรณคดีและ ภาษาไทย วรรณกรรม จากหนังสือ พท 21001 เรยี น วิชาภาษาไทย พท21001 (หน฾า144- 155) โดยแสกน Qr code 1.3 ผเ฾ู รียนศกึ ษาใบ 2. ใบความร฾ู ท่ี 6 ความร฾ู ที่ 6 เร่อื ง เรื่อง วรรณคดี วรรณคดแี ละ และวรรณกรรม วรรณกรรม 98

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นร้วู ชิ าแบบออนไลน์ 99 รายวชิ า ภาษาไทย พท21001 จานวน 4 หนว่ ยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ผลการเรยี นรู้ท่ี จานวน 160 ช่วั โมง คาดหวัง บทเรียน หวั เรอื่ ง วตั ถปุ ระสงค์เชงิ กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวน สือ่ การเรยี นรู้ การวัดและ กศน.4 ออนไลนท์ ่ี พฤตกิ รรม ประเมนิ ผล ชว่ั โมง 1.4 ผูเ฾ รียนศกึ ษาสื่อจาก 3. สอื่ Youtube Youtube เรื่อง เรื่อง พื้นฐาน พ้ืนฐานวรรณคดีไทย วรรณคดีไทย โดยแสกน Qr code 1.5 ผเ฾ู รียนศกึ ษาส่ือจาก 4. สื่อ Youtube Youtube เรอ่ื ง ประวัติ เร่ือง ประวัติ ความเป็นมาและเรอ่ื ง ความเป็นมาและ ย฽อของวรรณคดีสภุ าษิต เรอ่ื งย฽อของ พระร฽วง โดยแสกน วรรณคดีสุภาษิต Qr code พระร฽วง 99

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรูว้ ชิ าแบบออนไลน์ 100 รายวิชา ภาษาไทย พท21001 จานวน 4 หนว่ ยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ผลการเรยี นรทู้ ่ี จานวน 160 ชว่ั โมง คาดหวงั บทเรยี น หวั เรื่อง วตั ถปุ ระสงค์เชงิ กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวน สอ่ื การเรยี นรู้ การวดั และ กศน.4 ออนไลนท์ ี่ พฤตกิ รรม ชั่วโมง ประเมนิ ผล 1.6 ผูเ฾ รียนศกึ ษาสื่อจาก youtube เร่ือง การ 5. สื่อyoutube วิเคราะห์ วรรณคดี เรือ่ ง การวเิ คราะห์ วรรณกรรมและบท วรรณคดี ละคร โดยแสกน วรรณกรรมและบท Qr code ละคร 1.7 ผเ฾ู รยี นทํา ใบงานที่ 5 เรื่อง การเขยี น - ผเ฾ู รยี นทาํ แบบทดสอบ หลังเรยี น เรอ่ื ง วรรณคดแี ละ วรรณกรรม 100

101 ภาคผนวก : ส่อื เอกสารบทเรียนออนไลน์ 1-5 วิชาภาษาไทย (พท21001)

102 แบบทดสอบก่อนเรียน บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 เรือ่ ง การฟังและการดู คาส่ัง ให฾เลอื กคําตอบทถี่ ูกตอ฾ งที่สดุ เพยี งคาํ ตอบเดียว 1. การฟังทมี่ ีประสทิ ธิภาพ คือการฟังในข฾อใด ก. จบั สาระสาํ คญั ได฾ ข. จดบนั ทกึ ไดท฾ นั ค. ปราศจากอคติ ง. มีสมาธิในการฟัง 2. ข฾อใดคอื ลกั ษณะของการฟังท่ดี ี ก. แสดงสหี นา฾ เมื่อสงสัยและรอถามเมื่อผ฾พู ูดพูดจบ ข. ดวงตาจับจอ฾ งอย฽ูท่ผี ฾ูพดู แสดงความใส฽ใจในคําพูดอย฽างจรงิ จัง ค. กวาดสายตาไปมาพร฾อมกบั จ฾องหนา฾ และทักท฾วงข้ึนเมือ่ ไมเ฽ หน็ ด฾วย ง. สบตากับผพู฾ ูดเป็นระยะ ๆ อย฽างเหมาะสมและเสริมหรอื โตแ฾ ย฾งตามความเหมาะสม 3. การฟงั ท่ีทําให฾ผฟ฾ู ังเกิดสตปิ ญั ญา หมายถงึ การฟงั ลักษณะใด ก. ฟังดว฾ ยความอยากรู฾ ข. ฟังดว฾ ยความตง้ั ใจ ค. ฟงั แล฾ววิเคราะหส์ าร ง. ฟงั เพอื่ จับใจความสําคญั 4. ความสามารถในการฟังข฾อใดสาํ คัญที่สุดสาํ หรับผู฾เรยี น ก. จดสิง่ ทฟ่ี ังได฾ครบถว฾ น ข. จบั สาระสาํ คญั ของเรื่องได฾ ค. ประเมนิ ค฽าเร่ืองทีฟ่ งั ได฾ ง. จับความมงุ฽ หมายของผูพ฾ ดู ได฾ 5. บุคคลในข฾อใดขาดมารยาทในการฟังมากทีส่ ดุ ก. คยุ กับเพอ่ื นขณะท่ฟี ังผู฾อ่ืนพดู ข. ฟงั ไปทานอาหารไปขณะท่ผี พู฾ ูดพดู ค. ไปถึงสถานท่ฟี งั หลังจากผ฾พู ูดเรมิ่ พูดแลว฾ ง. จดบนั ทึกขณะทีฟ่ งั โดยไม฽มองผพ฾ู ูดเลย

103 6. \"นายดําฟังครสู อนหนังสอื อย฽างต้งั อกต้งั ใจ เมื่อครูสอนจบ ครูถามนายดาํ นายดาํ สามารถตอบคาํ ถามครูได฾\"ลกั ษณะการฟังของนายดาํ ตรงกับคาํ ตอบขอ฾ ใด ก. ตงั้ ใจฟงั ข. ฟังเป็น ค. ฟงั แล฾วตดิ ตาม ง. ถกู ทกุ ข฾อ 7. \"ขา฽ วพยากรณ์อากาศ\" มปี ระโยชนต์ อ฽ ผู฾ฟังอย฽างไร ก. จดส่งิ ที่ฟงั ได฾ครบถว฾ นใหค฾ วามร฾ู ข. ทนั ตอ฽ เหตกุ ารณ์ ค. ให฾ความบันเทิง ง. ให฾ประสบการณ์ 8. ข฾อใดไมใ฽ ชห฽ ลกั การฟังและการดอู ยา฽ งสร฾างสรรค์ ก. สารจรรโลงใจ ข. ต฾องรจ฾ู ักประเภทของสาร ค. ตง้ั ใจฟงั และดูใหต฾ ลอดเรือ่ ง ง. ตอ฾ งทราบประวตั ิและการทาํ งานของผ฾แู ต฽ง 9. การฟังหรือดสู ารประเภทใดทต่ี อ฾ งใช฾วจิ ารณญาณในการวเิ คราะห์ขอ฾ เทจ็ จริง ก. จดสิง่ ที่ฟังได฾ครบถ฾วน ข. จับสาระสาํ คญั ของเร่ืองได฾ ค. สารท่ีเปน็ ขา฽ วเหตุการณ์ ง. สารท่ีเป็นสาระบนั เทิง 10. อมเดอื ดรอ฾ น''เมอ่ื ท฽านฟังประโยคนี้แลว฾ ทา฽ นต฾องพจิ ารณาในข฾อใด ก. ขอ฾ เทจ็ จรงิ ข. ความหมายของประโยค ค. เหตุผลและขอ฾ มูลอา฾ งอิง ง. ผท฾ู ก่ี ลา฽ วประโยคนี้เปน็ ใคร

104 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 เร่อื ง การฟงั และการดู 1. ก 2. ง 3. ค 4. ก 5. ก 6. ง 7. ข 8. ง 9. ค 10. ก

105 ใบกจิ กรรม บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 เรือ่ ง การฟงั และการดู กิจกรรมที่ 2 ใหผ฾ ู฾เรยี นศึกษาสอ่ื วดี ีโอ เรอ่ื ง การพูดสรุปความสาํ คญั จากเรือ่ งท่ีฟงั และการดู ใหผ฾ ฾เู รียนศึกษาสื่อวีดีโอ เรื่อง อยา฽ ตัดสนิ คนทีเ่ ปลือกนอก

106 ใบความรู้ท่ี 1 บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 เร่ือง การฟงั และการดู การวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเหน็ จากการฟัง การฟังนับว฽ามีความสําคัญยิ่งในการส฽งสารข฾อมูลต฽างๆ แต฽ถ฾าฟังไม฽ถูกวิธีก็จะไม฽ก฽อประโยชน์ เท฽าท่ีควร และบางกรณีอาจเปน็ โทษอกี ด฾วย หลักการฟงั ท่ัวไปมีดังน้ี 1. มีมารยาทในการฟัง โดยการแสดงความกระตือรือร฾นท่ีจะฟัง ต้ังคําถามตามความเหมาะสม ยอมรบั ฟังความคิดเห็นท่ีแตกตา฽ งกันออกไป และรูจ฾ ักควบคุมอารมณ์ 2. ต้ังความประสงค์ในการฟังให฾แน฽นอน และพยายามฟังให฾ได฾ตามความม฽ุงหมายมากท่ีสุดใช฾ วิจารณญาณเลือกเฟูนแต฽เรื่องที่ควรฟัง และหลีกเล่ียงเรื่องท่ีไม฽เหมาะสม รู฾จักแยกแยะส฽วนท่ีเป็น ข฾อเท็จจริงและความคิดเห็น รู฾จักใช฾เหตุผลประกอบในการลงความเห็นร฾ูจักการใช฾ศิลปะในการฟังคือ การใช฾ความ สามารถและไหวพรบิ ทจ่ี ะใหผ฾ พู฾ ดู มคี วามสบายใจทจี่ ะพูดและพูดได฾ตรงจุดประสงค์ของผ฾ูฟัง เช฽น การแสดงให฾ผ฾ูพูดเห็นว฽าเราต้ังใจฟัง เปิดโอกาสให฾ผู฾พูดได฾พูดเต็มที่และแทรกคําถามท่ีเหมาะสมใน โอกาสอนั ควรจดบันทกึ สาระสาํ คัญและประเดน็ ทค่ี วรซักถามเพ่มิ เตมิ การจับใจความสาคัญของเรือ่ ง การฟังมีความมุ฽งหมายประการสําคัญเพื่อแสวงหาความร฾ูและ เสรมิ สรา฾ งสตปิ ญั ญาการฟังทจี่ ะสัมฤทธผ์ิ ลดังกลา฽ วจะต฾องมีความสามารถจับใจความสําคัญและใจความ อันดบั รองของเรือ่ งท่ฟี งั ไดร฾ วดเร็วถกู ตอ฾ ง หลักการพิจารณาใจความสําคัญและใจความสําคัญอันดับรอง มดี งั นี้ 1. ฟงั เร่ืองทงั้ หมดใหจ฾ บ 2. เรอื่ งทฟ่ี ังเกี่ยวกับอะไร 3. มีความสําคัญอย฽างไร 4. เหตุเกิดทไี่ หน 5. เกิดจากสาเหตอุ ะไร 6. ผลทเ่ี กิดขนึ้ เปน็ อยา฽ งไร การฟังอยา่ งมวี จิ ารณญาณ การฟงั นบั วา฽ เป็นปัจจัยสาํ คัญท่ีสุดในการรับสารในชีวิตประจําวันคนเรา มกี ารรับฟังเร่อื งราวมากมาย การฟงั คาํ พูดของคนที่คุ฾นเคยหรือใกล฾ชิดอาจจะไม฽ก฽อให฾เกิดปัญหามากนัก เพราะเรารู฾ภูมิหลังของผู฾พูดและเร่ืองที่รับฟังส฽วนมาก แต฽ละวันแต฽ในปัจจุบันการสื่อสารในด฾านต฽างๆ เจรญิ มากขึ้นไม฽จํากัดแต฽เพียงแต฽ฟังกับคนที่เราพูดด฾วยแต฽เราก็ฟังทางส่ืออิเลคทรอนิคส์ต฽างๆ เช฽น วิทยุ โทรศพั ทเ์ ทปเสยี ง เทปภาพวทิ ยโุ ทรทัศน์ ซง่ึ การฟงั ไมไ฽ ด฾ประจันหนา฾ กนั บางครั้งเป็นการสื่อสารทางเดียว มีแต฽รับฟังเท฽านั้น ไม฽สามารถท่ีจะซักถามได฾อย฽างละเอียดถ่ีถ฾วนจึงทําให฾ก฽อเกิดความไม฽เข฾าใจไม฽ตรงกัน หรือบางครั้งการประกาศภัยพิบัติต฽างๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือมนุษย์เป็นผ฾ูกระทําขึ้น การโฆษณา ชวนเชื่อและข฽าวลือเรื่องต฽างๆ ในการฟังเรื่องราวต฽างๆ ดังกล฽าวถ฾าหากเกิดฟังแล฾วเช่ือหรือไม฽เช่ือแล฾ว นําไปปฏิบัติหรืองดเว฾นการปฏิบัติ หากเกิดความพลาดพล้ังอาจเกิดผลเสียหายอย฽างร฾ายแรงตามมาได฾ ดังนั้นการฟังข฽าวสารต฽างๆ จะฟังอย฽างธรรมดาไม฽พินิจพิเคราะห์ข฽าวสารท่ีได฾รับนั้นไม฽ได฾ การวินิจฉัย วิเคราะห์วิจารณ์ข฽าวสารว฽าเป็นจริงหรือเป็นเท็จควรเชื่อถือมากน฾อยเพียงใดจะต฾องใช฾ความคิดใคร฽ ควร

107 ด฾วยเหตุผล ปัญญาและประสบการณ์ ทําความเข฾าใจในสถานภาพและดูเจตนาของผู฾ส฽งสาร ว฽ามี ข฾อเท็จจริง หรือมีประโยชน์ มีคุณมีโทษเพียงใด ควรที่จะเชื่อแล฾วปฏิบัติตามหรือไม฽ การฟังสารตาม ลักษณะดงั กลา฽ วเรียกว฽าการฟังอยา฽ งวจิ ารณญาณ ดังนั้นการฟังอย฽างมีวิจารณญาณต฾องประกอบไปด฾วย การใช฾ปัญญาในการวิเคราะห์พินิจพิจารณา ไตร฽ตรอง เพื่อค฾นหาข฾อเท็จจริงสามารมารถวิเคราะห์ ตดั สินใจ และประเมินค฽าสงิ่ ทฟี่ ังได฾ หลักการฟงั อยา่ งวจิ ารณญาณ การฟงั อยา฽ งวจิ ารณญาณมหี ลกั ปฏบิ ัตดิ งั นี้ 1. ผู฾ฟังพิจารณาว฽า ฟังเร่ืองอะไรเป็นการฟังประเภทบทความ บทสัมภาษณ์การเล฽าเรื่องสรุป เหตุการณ์ ใครเป็นคนพูดคนสัมภาษณ์ ใครเป็นคนเขียนบทความ และหัวข฾อนั้นมีคุณค฽าแก฽การฟัง หรือไม฽ 1.1 พจิ ารณาผสู฾ ง฽ สารวา฽ มจี ดุ มุ฽งหมาย และมีความจริงใจในการส฽งสารนน้ั เพียงใด 1.2 พิจารณาผู฾ส฽งสารว฽ามีความร฾ู ประสบการณ์หรือความใกล฾ชิดกับเร่ืองราวในสารน้ัน เพยี งใด 1.3 พิจารณาผู฾ส฽งสารว฽าใช฾กลวิธีในการส฽งสารนั้นอย฽างไร คือวิธีการธรรมดาหรือยอกย฾อน ซ฽อนปมอยา฽ งไร 1.4 พจิ ารณาเนอ้ื หาของสารว฽า ส฽วนใดเปน็ ข฾อเทจ็ จริง ส฽วนใดเป็นขอ฾ คิดเห็น 1.5 พิจารณาสารว฽าเปน็ ไปได฾ และควรเช่ือเพียงใด 1.6 ผู฾ฟังควรประเมินว฽าส่ิงท่ีฟังมีประโยชน์และมีคุณค฽ามากน฾อยเพียงไร หลักการแยก ข฾อคิดเห็นและข฾อเท็จจริง ในการรับฟังสาร นอกจากจะจับใจความสําคัญของเร่ืองที่ฟังแล฾ว นักเรียน จะต฾องแยกแยะได฾ว฽า ใจความตอนใดเป็นข฾อคิดเห็นส฽วนตัวของผู฾พูดซ่ึงจะมีลักษณะเม่ือพิจารณาความ ถูกตอ฾ งได฾ยาก และตอนใดเป็นข฾อเท็จจรงิ ซึ่งเป็นเรอ่ื งท่สี ามารถพิสจู นค์ วามถูกตอ฾ งได฾ การแยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น มดี ังนี้ 1. การแยกขอ฾ เท็จจรงิ เป็นขอ฾ มูลท่สี ามารถพสิ ูจน์ได฾ เห็นว฽าเป็นจริงหรือเป็นเท็จ ได฾จากตัวเลข เชิงปริมาณต฽างๆ ท่ีมีอยู฽ซ่ึงทําการตรวจสอบได฾ดังนี้ เช฽นประชา หนัก 50 กิโลกรัม โอภาสสูงกว฽า เสกสรรค์ เปน็ ตน฾ 2. ความคิดเห็นเป็นเร่ืองของการคาดคะเนหรือการทํานายโดยอาศัยเหตุผลส฽วนตัวซ่ึงควรจะ เปดิ โอกาสให฾มีการโตแ฾ ย฾งหรือสนับสนุน เชน฽ ของเก฽าดีกว฽าของใหม฽ มเี งนิ ดกี ว฽ามเี กียรติ การฟงั เพอื่ ประเมินคา่ การฟงั เพ่อื ประเมินคา฽ เป็นการตรวจสอบว฽าสิ่งทฟ่ี งั ถูกตอ฾ งชดั เจนมเี หตผุ ล เชื่อถือได฾หรือไม฽การ ฟังเพื่อประเมินค฽าเป็นแสดงความคิดเห็นต฽อข฾อมูลท่ีได฾รับน้ันว฽าเป็นความจริงหรือเป็นการโฆษณาชวน เช่ือ ซ่ึงมีลักษณะเป็นการเผยแพร฽ความคิด ความเช่ือและความคิดเห็นด฾วยกลอุบายต฽างๆ เพ่ือโน฾มน฾าว จิตใจของผ฾ฟู ังให฾คล฾อยตามที่ต฾องการ และสิ่งที่ฟังนั้นมีคุณค฽าหรือไม฽ดังน้ันการฟังเพื่อประเมินค฽าจึงเป็น การฟงั อยา฽ งวิเคราะห์วิจารณเ์ พ่ือค฾นหาข฾อเท็จจรงิ และตดั สนิ ส่งิ ท่ีฟงั วา฽ มคี ณุ ค฽าหรือประโยชนอ์ ย฽างไร

108 การฟงั เพ่อื ค้นหาข้อเทจ็ จรงิ การฟังเพื่อค฾นหาข฾อเท็จจริงเป็นการฟังท่ีใช฾ความคิดไตร฽ตรองและการวิเคราะห์อย฽างมีเหตุผล จะช฽วยให฾ได฾ข฾อมูลทถ่ี ูกตอ฾ งเชื่อถอื ได฾ การคน฾ หาข฾อเท็จจริงต฾องพจิ ารณาหลายๆ ด฾านอยา฽ งรอบคอบคือ 1. วเิ คราะหเ์ จตนาของผูพ฾ ดู ว฽าผู฾พดู มจี ุดมุ฽งหมายหรอื เจตนาอยา฽ งใดอย฽างหน่งึ 2. เจตนาผู฾พูดเพอ่ื ความบันเทิง เชน฽ การพดู ในงานพบปะสงั สรรค์กันเพ่ือให฾เกิดความสนุกสนาน รื่นเรงิ 3. เจตนาผ฾ูพูดอาจเป็นการบอกเล฽า แถลงการณ์รายงานเร่ืองราวต฽าง ๆ เป็นการบอกเก่ียวกับ การปฏิบตั งิ าน บรรยายเกีย่ วกบั ทางวชิ าการ เล฽าเหตุการณท์ ี่ได฾พบเห็นประสบมาเพื่อให฾ผู฾อื่นได฾มีความร฾ู ความเข฾าใจ 4. ผู฾พูดอาจมีเจตนาในการพูดเพ่ือชักจูงให฾เห็นให฾คล฾อยตามหรือเปล่ียนความคิดให฾ปฏิบัติการ อยา฽ งใดอยา฽ งหน่ึง ผ฾พู ดู จะยกเหตุผลตา฽ ง ๆ ใหผ฾ ฟ฾ู ังเชอื่ ถอื 5. วิเคราะห์นัยของเรื่องที่ฟัง คือการพิจารณาสาระสําคัญของเรื่องที่ฟัง ว฽าประเด็นหลักคือ อะไร ผู฾พูดอาจจะพูดออกมาตรง ๆ ก็ได฾ หรืออาจมีจุดมุ฽งหมายแอบแฝง อย฽ูผู฾ฟังจะต฾องวิเคราะห์ นัยสําคญั และนัยแฝง โดยอาศยั ความร฾ูความสามารถของผู฾ฟังในการพิจารณาดงั นี้ 5.1 ขอ฾ มูลและความคดิ เหน็ ของผพ฾ู ูดจะต฾องอาศยั เหตุผลในการพจิ ารณาดังนี้ ก. ข฾อมูลที่รับฟังน้ันมีความจริงมากน฾อยเพียงใดเป็นข฾อมูลเก฽าหรือข฾อมูลใหม฽ หรือว฽า เปน็ ความจริงตามหลักตรรกวทิ ยา ซง่ึ ผฟ฾ู งั จะตอ฾ งแยกแยะพิจารณาความเป็นไปได฾ของข฾อมูลและเจตคติ ของผู฾พูดในบางครั้งข฾อเท็จจริงและข฾อคิดเห็นของผ฾ูพูดจะแยกกันอย฽างเห็นได฾ชัดเจนแต฽บางครั้ง ผ฾ู พูดจะพูดผสมผสาน ข฾อเท็จจริงและข฾อคิดเห็นของตนเข฾าด฾วยกัน ดังนั้นจึงต฾องแยกแยะออกจากกันให฾ ชัดเจน การโฆษณาชวนเช่ือ เป็นการพูดให฾ผ฾ูฟังเชื่อและปฏิบัติตาม ผ฾ูฟังจะต฾องพิจารณาแยกแยะให฾ได฾ ว฽า แนวทางที่ผ฾ูพูดเสนอมาน้ัน หากปฏิบัติตามแล฾วจะเกิดผลอย฽างไรเป็นประโยชน์ต฽อส฽วนรวมหรือต฽อ ผ฾ูฟงั อย฽างไรบา฾ ง ข. ความสําคัญและความเป็นมาของเรื่อง ว฽าผ฾ูพูดได฾แสดงความสําคัญ ตลอดจนความ เปน็ มาของเร่ืองอย฽างไรเปน็ เรื่องทน่ี า฽ สนใจทผ่ี ู฾ฟังจะได฾ประโยชน์หรอื ไม฽ 5.2 เนื้อหาสาระผู฾พูดได฾พูดได฾ชัดเจนและพูดไปตามลําดับความสําคัญ ความยากง฽าย ของเร่ืองหรือพูดออกนอกประเด็น ยกตัวอยา฽ งไดช฾ ดั เจนเพยี งใด การฟังเพื่อตัดสินใจ การฟังเพ่ือตัดสินใจเป็นกระบวนการฟังช้ันสูง ผู฾ฟังมีความสามารถจะตัดสินใจเลือกส่ิงที่ดี ที่สุดท่ีได฾จากการฟังนําไปใช฾ให฾เกิดประโยชน์ หรือเป็นแนวทางในการปฏิบัติตน ผู฾ฟังจะต฾องร฾ูจักใช฾ กระบวนการคดิ ชว฽ ยในการตัดสนิ ใจแก฾ปัญหา หรือเลือกแนวทางในการนําส่ิงใดส่ิงหน่ึง กระบวนการคิด ทเ่ี ป็นระบบนัน้ ต฾องประกอบด฾วยข฾อมูลสามดา฾ น คือ 1. ข฾อมูลเก่ียวกับตนเอง ต฾องรู฾จักตนเองอย฽างท฽องแท฾ โดยพิจารณาข฾อมูลทุกด฾าน เช฽น ด฾าน สุขภาพร฽างกาย ความรู฾ วยั สถานภาพทางสังคม เศรษฐกจิ เปน็ ต฾น 2. ข฾อมลู เกย่ี วกบั สังคมและสิง่ แวดล฾อม คือพจิ ารณาผู฾อื่น สิ่งอื่น ๆ เช฽นสภาพแวดล฾อทางชุมชน ภมู ิประเทศคุณธรรม ศีลธรรมจรรยาคา฽ นิยม สังคมตลอด จนธรรมเนยี มประเพณี เปน็ ต฾น 3. นําข฾อมลู เก่ียวกับด฾านวิชาการมาพิจารณาร฽วมด฾วยเพ่ือตัดสินเรอ่ื งใดเรอ่ื งหน่งึ ได฾ถกู ต฾อง

109 ใบงาน บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 เรือ่ ง การฟงั และการดู กิจกรรมท่ี 1 จดุ ประสงค์การเรียนรู฾ : การมมี ารยาทในการฟงั และการดู ให฾ผูเ฾ รียนศกึ ษาจากสือ่ วดี ีโอเรอื่ งมารยาทในการฟังและการดู 1. ให฾ผ฾เู รียนบอกมารยาทในการฟงั การดมู า 5 ขอ฾ ............................................................................................................................. ...................................... ......................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................ ................... ................................................................................................................ ................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ........................................................................................ ........................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ........................................................................................ ........................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................................... .................... .................................................................................. .................................................................................

110 ใบงาน บทเรยี นออนไลน์ที่ 1 เรอ่ื ง การฟังและการดู กจิ กรรมท่ี 2 ให฾ผเู฾ รยี นศกึ ษาสอื่ วีดโี อ เรื่อง การพดู สรปุ ความสาํ คญั จากเรอ่ื งที่ฟงั และการดู ใหผ฾ ฾เู รยี นศกึ ษาส่ือวดี ีโอ เร่อื ง อยา฽ ตัดสนิ คนที่เปลือกนอก คาชี้แจง ให฾ผู฾เรียนศึกษาการฟังและการดูจากคลิปวีดีโอแล฾วใช฾หลักการฟังและดูอย฽างมีวิจารญาณ พิจารณาวา฽ ตามประเด็น ดงั นี้ เนื้อหาจากท่ไี ด฾ดูและฟงั ส่ือวีดีโอ เรอ่ื ง อย฽าตัดสินคนทเี่ ปลือกนอก ..................................................................................................................... .............................................. ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... ใหน฾ ักศึกษาวิเคราะห์ (ใคร ทําอะไร ทไ่ี หน อยา฽ งไร) ............................................................................................................................. ...................................... .............................................................................................................................................................. ..... ............................................................................................................................. ............................. ............................................................................................................................. ..................................

111 แบบทดสอบหลังเรียน บทเรียนออนไลน์ที่ 1 เรอื่ ง การฟงั และการดู คาส่งั ใหเ฾ ลอื กคําตอบทถ่ี ูกต฾องทีส่ ดุ เพยี งคําตอบเดยี ว 1. การฟังทมี่ ีประสทิ ธภิ าพ คือการฟงั ในขอ฾ ใด ก. จับสาระสําคญั ได฾ ข. จดบนั ทึกได฾ทนั ค. ปราศจากอคติ ง. มีสมาธิในการฟัง 2. ข฾อใดคอื ลักษณะของการฟังทด่ี ี ก. แสดงสหี น฾าเมอ่ื สงสยั และรอถามเม่อื ผู฾พดู พดู จบ ข. ดวงตาจบั จอ฾ งอยู฽ทผี่ ู฾พูดแสดงความใสใ฽ จในคําพูดอย฽างจรงิ จัง ค. กวาดสายตาไปมาพร฾อมกบั จ฾องหน฾าและทักท฾วงขึน้ เมอื่ ไม฽เห็นดว฾ ย ง. สบตากับผ฾พู ดู เป็นระยะ ๆ อยา฽ งเหมาะสมและเสรมิ หรือโตแ฾ ยง฾ ตามความเหมาะสม 3. การฟงั ที่ทาํ ใหผ฾ ฾ฟู งั เกดิ สติปัญญา หมายถงึ การฟงั ลักษณะใด ก. ฟังด฾วยความอยากร฾ู ข. ฟงั ด฾วยความตัง้ ใจ ค. ฟังแลว฾ วิเคราะหส์ าร ง. ฟังเพื่อจับใจความสําคัญ 4. ความสามารถในการฟังข฾อใดสาํ คญั ที่สุดสาํ หรับผู฾เรียน ก. จดส่ิงทฟ่ี ังได฾ครบถ฾วน ข. จบั สาระสาํ คัญของเร่ืองได฾ ค. ประเมนิ ค฽าเร่ืองทฟ่ี งั ได฾ ง. จับความมุง฽ หมายของผูพ฾ ูดได฾ 5. บุคคลในข฾อใดขาดมารยาทในการฟังมากทส่ี ุด ก. คยุ กบั เพ่อื นขณะทีฟ่ ังผอู฾ นื่ พดู ข. ฟังไปทานอาหารไปขณะที่ผพ฾ู ดู พดู ค. ไปถงึ สถานที่ฟงั หลังจากผู฾พดู เร่มิ พูดแล฾ว ง. จดบันทึกขณะท่ีฟังโดยไมม฽ องผ฾ูพูดเลย

112 6. \"นายดําฟังครสู อนหนังสอื อย฽างต้งั อกต้งั ใจ เมื่อครูสอนจบ ครูถามนายดาํ นายดาํ สามารถตอบคาํ ถามครูได฾\"ลกั ษณะการฟังของนายดาํ ตรงกับคาํ ตอบขอ฾ ใด ก. ตงั้ ใจฟงั ข. ฟังเป็น ค. ฟงั แล฾วตดิ ตาม ง. ถกู ทกุ ข฾อ 7. \"ขา฽ วพยากรณ์อากาศ\" มปี ระโยชนต์ อ฽ ผู฾ฟังอย฽างไร ก. จดส่งิ ที่ฟงั ได฾ครบถว฾ นใหค฾ วามร฾ู ข. ทนั ตอ฽ เหตกุ ารณ์ ค. ให฾ความบันเทิง ง. ให฾ประสบการณ์ 8. ข฾อใดไมใ฽ ชห฽ ลกั การฟังและการดอู ยา฽ งสร฾างสรรค์ ก. สารจรรโลงใจ ข. ต฾องรจ฾ู ักประเภทของสาร ค. ตง้ั ใจฟงั และดูใหต฾ ลอดเรือ่ ง ง. ตอ฾ งทราบประวตั ิและการทาํ งานของผ฾แู ต฽ง 9. การฟังหรือดสู ารประเภทใดทต่ี อ฾ งใช฾วจิ ารณญาณในการวเิ คราะห์ขอ฾ เทจ็ จริง ก. จดสิง่ ที่ฟังได฾ครบถ฾วน ข. จับสาระสาํ คญั ของเร่ืองได฾ ค. สารท่ีเปน็ ขา฽ วเหตุการณ์ ง. สารท่ีเป็นสาระบนั เทิง 10. อมเดอื ดรอ฾ น''เมอ่ื ท฽านฟังประโยคนี้แลว฾ ทา฽ นต฾องพจิ ารณาในข฾อใด ก. ขอ฾ เทจ็ จรงิ ข. ความหมายของประโยค ค. เหตุผลและขอ฾ มูลอา฾ งอิง ง. ผท฾ู ก่ี ลา฽ วประโยคนี้เปน็ ใคร

113 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 เร่อื ง การฟงั และการดู 1. ก 2. ง 3. ค 4. ก 5. ก 6. ง 7. ข 8. ง 9. ค 10. ก

114 แบบทดสอบก่อนเรียน บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 2 เรอ่ื ง การพูด คาส่งั ใหเ฾ ลือกคาํ ตอบที่ถูกตอ฾ งทีส่ ุดเพยี งคําตอบเดียว 1. ขอ฾ ใดไม฽ใชอ฽ งคป์ ระกอบสําคัญของการพูด ก. ผพ฾ู ูด ข. ผ฾ูฟงั ค. สาระท่พี ดู ง. อุปกรณ์ 2. ขอ฾ ใดเป็นการพูดแบบเป็นทางการ ก. พูดกับพ่นี อ฾ ง ข. พดู กบั เพ่ือนร฽วมงาน ค. พดู บรรยายใหค฾ วามร฾ู ง. พดู ในงานสรา฾ งสรรค์ 3. สง่ิ ที่สาํ คญั ที่สดุ ทีผ่ พู฾ ูดควรเตรียมล฽วงหน฾า ตรงตามขอ฾ ใด ก. การแต฽งกาย ข. การฝึกซ฾อม ค. การเตรียมตน฾ ฉบบั พูด ง. การใชเ฾ สียงและทา฽ ทาง 4. การพูดแสดงความคดิ เหน็ เปน็ การพูดตรงตามข฾อใด ก. พดู ทักทาย ข. พูดอวยพร ค. การเตรียมตน฾ ฉบบั พูด ง. การใช฾เสียงและทา฽ ทาง 5. ขอ฾ ใดเป็นองค์ประกอบสําคัญของการพูด ก. อปุ กรณป์ ระกอบการพูด ข. สาระทพ่ี ดู ค. ผฟ฾ู ัง ง. ถกู ทุกข฾อ

115 6. การพดู ในโอกาสใดเปน็ ลกั ษณะการพูดชแ้ี จง ก. การพูดในโอกาสเปดิ การอบรมอาสาสมัครหมูบ฽ ฾าน ข. การพดู อภปิ รายของผูแ฾ ทนราษฎร์ในสภา ค. ครใู หญ฽ออกมาอธิบายถึงเหตุผลที่ทางโรงเรียนไม฽อนญุ าตใหจ฾ ัดงานวนั ปีใหม฽ ง. นายกรฐั มนตรกี ล฽าวคําปราศรัยเน่ืองในวันเดก็ 7. \"การพูดเป็น\" มคี วามหมายตรงตามขอ฾ ใด ก. กล฾าที่จะพูด ข. ออกเสยี งได฾ชัดเจน ค. พูดได฾อยา฽ งไพเราะเสนาะหู ง. พดู โนม฾ น฾าวใจผ฾ูฟังให฾คลอ฾ ยตามได฾ 8. ส่งิ ท่จี ําเปน็ ตอ฾ งคาํ นึงถึงอันดับแรกในการพูดและการฟงั คืออะไร ก. สาระ ข. มารยาท ค. กาลเทศะ ง. สภาพแวดล฾อม 9. ลกั ษณะการพูดตามข฾อใดเป็นการพูดจูงใจให฾ผฟ฾ู ังยอมรับไดด฾ ที ่ีสุด ก. พดู นอบนอ฾ มถ฽อมตน ข. พดู วจิ ารณใ์ หข฾ ฾อคิดเห็น ค. พูดแสดงเหตุผลและขอ฾ เทจ็ จริง ง. พดู ด฾วยนาํ เสียงและลีลาท่นี า฽ ฟงั 10. สาํ นวนในขอ฾ ใดเนน฾ ความสาํ คัญของการพูด ก. ปลาหมอตายเพราะปาก ข. ปากเปน็ เอก เลขเป็นโท ค. ละเลงขนมเบ้อื งด฾วยปาก ง. พูดไปสองไพเบยี้ นิ่งเสยี ตาํ ลงึ ทอง

116 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 เรื่อง การพูด 1. ง 2. ก 3. ค 4. ง 5. ค 6. ค 7. ง 8. ก 9. ค 10. ข

117 ใบความรู้ที่ 2 บทเรียนออนไลน์ที่ 2 เร่ือง การพดู สรปุ ความ จบั ประเดน็ สาคัญของเรอื่ งทีพ่ ูด การพูดเป็นทักษะหนึ่งของการสื่อสาร การพูดคือการเปล฽งเสียงออกมาเป็นถ฾อยคํา หรือ ข฾อความต฽างๆ เพ่ือตดิ ตอ฽ สอื่ สารใหผ฾ ฾พู ูดและผ฾ฟู ังเขา฾ ใจเร่ืองราวต฽างๆ การพูดเป็นการสื่อความหมายโดย ใชภ฾ าษาเสียง กิริยาทา฽ ทางต฽างๆ เพอ่ื ถ฽ายทอดความร฾ูและความรส฾ู ึกรวมทงั้ ความคดิ เห็นของผ฾ูพูดให฾ผ฾ูฟัง ได฾รับร฾ู และเข฾าใจตามความมง฽ุ หมาย ของผ฾ูฟงั เปน็ เกณฑ์ องคป์ ระกอบของการพดู ประกอบด้วย 1. ผ฾พู ูด คอื ผู฾ท่มี จี ดุ มง฽ุ หมายสาํ คัญท่จี ะเสนอความร฾คู วามคดิ เหน็ เพอ่ื ใหผ฾ ฾ูฟงั ไดร฾ บั รู฾และเข฾าใจ โดยใช฾ ศิลปะการพูดอยา฽ งมหี ลักเกณฑ์ และฝกึ ปฏิบัติอยเู฽ ปน็ ประจาํ 2. เนอื้ เรื่อง คอื เรอ่ื งราวทผ่ี ฾ูพูดนําเสนอเปน็ ความร฾หู รือความคิดเห็นใหผ฾ ฾ูฟังได฾รบั ร฾ูอย฽างเหมาะสม 3. ผ฾ูฟงั คือ ผู฾รบั ฟังเร่อื งราวต฽างๆ ท่ผี พู฾ ูดนําเสนอซึง่ ผฟ฾ู งั ต฾องมี หลกั เกณฑแ์ ละมารยาทในการฟัง นอกจากนี้ผู฾พูดยังควรมีการใช฾สื่อหรือ อุปกรณ์ต฽างๆ ประกอบการพูดเพื่อให฾ผู฾ฟัง มีความร฾ูความ เข฾าใจยิ่งขึ้น ส่ือต฽างๆ อาจเป็น แผ฽นภาพ ปูายนิเทศ เทปบันทึกเสียง หรือ วีดีทัศน์ เป็นต฾น และสิ่งท่ี สําคัญคือผ฾ูพูดต฾องคํานึงถึงโอกาสในการพูด เวลาและสภาพแวดล฾อมท่ีเก่ียวข฾องกับการพูด เพื่อให฾การ พูดนัน้ เกิดประสิทธภิ าพมากยิ่งขึ้น การพูดท่ดี ี คอื การส่ือความหมายทดี่ ีนั้นย฽อมสอื่ ความเข฾าใจกับใครๆ ได฾ตรงตามวัตถุประสงค์ของ ผ฾ูพูด การทผี่ ฟ฾ู งั ฟงั แลว฾ พงึ พอใจ สนใจ เกดิ ความศรัทธาเล่ือมใสผ฾ูพูดเรยี กวา฽ ผ฾ูน้นั มีศิลปะในการพูด ลกั ษณะการพูดทด่ี ี มดี งั น้ี 1. มีบุคลิกภาพท่ีดี การฟังคนอื่นพูดน้ันเราไม฽ได฾ฟังแต฽เพียงเสียงพูด แต฽เราจะต฾องดูการพูด ดูบุคลิกภาพของเขาด฾วย บุคลิกภาพของผ฾ูพูดมีส฽วนท่ีจะทําให฾ผู฾ฟังสนใจ ศรัทธาตัวผ฾ูพูด บุคลิกภาพ ได฾แก฽ รูปร฽าง หน฾าตา ท฽าทาง การยืน การนั่ง การเดิน ใบหน฾าที่ย้ิมแย฾ม ตลอดจนอากัปกิริยาที่ แสดงออกในขณะทพ่ี ดู อย฽างเหมาะสมดว฾ ย 2. มคี วามเชือ่ มั่นในตนเองดี ผพ฾ู ดู จะตอ฾ งเตรียมตัวล฽วงหน฾า ฝึกซอ฾ มการพูดให฾คล฽องสามารถจดจํา เรือ่ งทีพ่ ดู ได฾ ควบคุมอารมณไ์ ด฾ ไมต฽ ืน่ เตน฾ ประหม฽า หรอื ลุกลลี้ ุกลน รบี ร฾อนจนทาํ ให฾เสยี บคุ ลิก 3. พูดให฾ตรงประเด็น พูดในเร่ืองท่ีกําหนดไว฾ ไม฽นอกเรื่อง พูดอย฽างมีจุดมุ฽งหมายม฽ุงให฾ผู฾ฟัง ฟงั แลว฾ เข฾าใจ ตรงตามวัตถปุ ระสงคท์ ่ีผพ฾ู ดู ตอ฾ งการ 4. ตอ฾ งใช฾ภาษาที่เหมาะสมกบั ระดบั ผู฾ฟัง ตามปกตินิยมใชภ฾ าษาธรรมดา สุภาพ สนั้ ๆ กะทัดรัด สอื่ ความเข฾าใจได฾ง฽าย หลกี เลีย่ งสาํ นวนโลดโผน ศัพทเ์ ทคนิคหรอื สาํ นวนท่ไี ม฽ได฾มาตรฐาน 5. ต฾องคํานึงถึงผู฾ฟัง ผู฾พูดต฾องทราบว฽าผู฾ฟังเป็นใคร เพศ วัย อาชีพ ระดับการศึกษา ความสนใจ ความเช่ือถือเป็นอย฽างไร เพื่อจะได฾พูดให฾ถูกกับสภาพของผู฾ฟัง หลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นและ ความเชอ่ื ที่ขัดแย฾งกับผู฾ฟัง 6. มีมารยาทในการพูด ผ฾ูพูดต฾องพิจารณาเลือกใช฾ถ฾อยคําที่ถูกต฾องเหมาะสมกับกาลเทศะและ บคุ คลเพอ่ื แสดงถงึ ความมมี ารยาทท่ีดแี ละใหเ฾ กยี รติผ฾ฟู ัง

118 การสรุปความ จับประเด็นสาคัญของเรอื่ งท่พี ดู 1. ผู฾พดู จะต฾องทราบรายละเอยี ดของผู฾ฟงั ดังน้ี 1.1 เป็นชายหรือหญงิ 1.2 อายุ 1.3 การศึกษา 1.4 อาชพี เป็นเบ้ืองต฾นเพือ่ มากําหนดเนื้อหาสาระทจี่ ะพดู ใหเ฾ หมาะสมกบั ผฟู฾ ัง 2. ผพ฾ู ูดต฾องมวี ตั ถปุ ระสงค์ ท่จี ะพดู จะเป็นการพูดวชิ าการ เพ่ือความบนั เทิง หรือเพื่อสงั่ สอนเปน็ ตน฾ 3. เนื้อหาสาระ ผ฾ูพูดอาจเพยี งกําหนดหัวขอ฾ แตเ฽ ม่ือพูดจริงจะต฾องอธบิ ายเพิ่มเติม อาจเป็น ตัวอยา฽ ง อาจเป็นประสบการณ์ ท่ีจะเล฽าให฾ผู฾ฟงั ได฾ฟงั ผูฟ฾ งั จะสรปุ ความเรือ่ งทร่ี ับฟังได฾ หากผู฾พูดพดู มสี าระสําคัญ และมีการเตรยี มตวั ที่จะพูดมาอย฽าง ดี การพูดในโอกาสตา่ งๆ การพูดเป็นการส่ือสารที่ทําให฾ผ฾ูฟังได฾รับทราบเนื้อหารายละเอียดของสารได฾โดยตรงหากเป็น การส่ือสารในลักษณะการสนทนาโดยตรงก็ย฽อมทําให฾เห็นอากัปกิริยาต฽อกันเป็นการเสริมสร฾างความ เขา฾ ใจมากยง่ิ ขน้ึ การพูดมีหลายลักษณะ ได฾แก฽ การพูดอภิปราย พูดแนะนําตนเอง พูดกล฽าวต฾อนรับ พูด กล฽าวขอบคุณ พูดโน฾มน฾าวใจ เป็นต฾น จะมีรูปแบบนําเสนอในหลายลักษณะ เช฽น การนําเสนอเพ่ือตั้ง ขอ฾ สังเกต การแสดงความคิดเหน็ เพ่อื ตั้งขอ฾ เท็จจรงิ การโต฾แย฾ง และการประเมินคา฽ เป็นต฾น ความสาคญั ของการพดู การพดู มีความสาํ คัญดงั นี้ 1. การพูดทําให฾เกิดความเข฾าใจในประเด็นของการสื่อสารต฽างๆ ท้ังการสื่อสารเพื่อให฾ความร฾ู ทางวิชาการ การสนทนาในชีวิตประจําวัน หรือการพูดในรูปแบบต฽างๆ ย฽อมทําให฾ผ฾ูฟังเข฾าใจประเด็น เกิดความสร฾างสรรคน์ าํ ไปสู฽การปฏิบัตไิ ด฾ถูกต฾อง 2. การพูดสามารถโนม฾ น฾าวจติ ใจของผู฾ฟังให฾คล฾อยตามเพื่อเปลี่ยนความเชื่อ หรือ ทัศนคติต฽างๆ เพ่ือให฾เกิดการปฏิบัติส่ิงต฽างๆ อย฽างมีหลักเกณฑ์มีความถูกต฾อง ซึ่งผู฾ฟังต฾องใช฾วิจารณญาณในการ พจิ ารณาเรื่องราวท่ผี พ฾ู ดู เสนอสารในลักษณะต฽างๆ อยา฽ งมเี หตผุ ล 3. การพูดทําให฾เกิดความเพลดิ เพลิน โดยเฉพาะการพูดทีม่ งุ฽ เนน฾ เรื่องการบันเทิงก฽อให฾เกิดความ สนุกสนาน ทําใหผ฾ ฾ฟู งั ไดร฾ ับความรด฾ู ว฾ ยเช฽นกัน 4. การพูดมีประโยชน์ที่ช฽วยดํารงสังคม ใช฾ภาษาพูดจาทักทาย เป็นการสร฾างมนุษยสัมพันธ์แก฽ บคุ คลในสังคม การพูดยังเป็นการสื่อสารเพื่อเผยแพร฽ความร฾ูความคิดให฾ผ฾ูฟังปฏิบัติ เพ่ือให฾เกิดความสุข สงบในสังคม

119 การพูดในโอกาสต่างๆ 1. การพูดแนะนาตนเอง การพูดแนะนําตนเอง เป็นการพูดที่แทรกอยู฽กับการพูดในลักษณะ ต฽างๆ เป็นพื้นฐานเบ้ืองต฾นท่ีจะทําให฾ผู฾ฟังมีความร฾ูเก่ียวกับผู฾พูด การแนะนําตนจะให฾รายละเอียด แตกตา฽ งกนั ไปตามลักษณะของการพดู 1.1 การพูดแนะนําตนในกลุ฽มของผ฾ูเรียน ควรระบุรายละเอียด ช่ือ-นามสกุล การศึกษา สถานศกึ ษา ทอี่ ย฽ูปัจจบุ นั ภูมลิ ําเนาเดมิ ความถนัด งานอดิเรก 1.2 การพูดแนะนําตนเพ่ือเข฾าปฏิบัติงาน ควรระบุ ช่ือ – นามสกุล รายละเอียดเกี่ยวกับ การศึกษาตาํ แหน฽งหน฾าที่ ท่จี ะเข฾ามาปฏบิ ัติงาน ระยะเวลาท่ีจะเริม่ ปฏบิ ัติหน฾าท่ี 1.3 การแนะนําบุคคลอ่ืนในสังคมหรือท่ีประชุม ควรให฾รายละเอียด ช่ือ – นามสกุล ผ฾ูท่ีเรา แนะนําความสามารถของผ฾ูท่ีเราแนะนํา การแนะนําบุคคลให฾ผ฾ูอื่นรู฾จักต฾องใช฾คําพูดเพื่อสร฾างไมตรีท่ีดี ระหวา฽ งบุคคลทงั้ สองฝาุ ย ตวั อย่างการแนะนาตนเองในทช่ี ุมนุมชน ท฽านประธาน และสมาชิกชมรมพฒั นาชีวิตทุกทา฽ น ดิฉันขอขอบคุณพิธีกรมากค฽ะ ท่ีให฾โอกาสดิฉันได฾แนะนําตัวเอง ดิฉัน นางสาวสมศรี รัตนสุนทร เกิดไกลหน฽อยคืออําเภอปัว จังหวัดน฽านค฽ะ มาอย฽ูกรุงเทพฯ นี่ ๔ ปีแล฾ว โดยดิฉัน ทํางาน เป็นพนักงานขาย ท่ีร฾านใบแก฾ว ดิฉันเรียนจบช้ันมัธยมปีท่ี ๓ ที่โรงเรียนใกล฾บ฾าน น่ันเองค฽ะ ความที่ เป็นคนช฽างพูด หลังจากจบแล฾วเพื่อนชวนมาทํางานท่ีถูกกับนิสัยก็เลยมา และเน่ืองจากดิฉันไม฽มีโอกาส ได฾เรียนต฽อ จึงเห็นว฽าการศึกษาทางไกลน้ีจะช฽วยให฾ดิฉันพัฒนาชีวิตได฾ดียิ่งขึ้นแทนการศึกษาในโรงเรียน จึงสมคั รเปน็ สมาชิก และตอ฽ ไปจะต้งั ใจเรยี น และรว฽ มทํากิจกรรมต฽าง ๆ ทุกกิจกรรมค฽ะ ปัจจุบันดิฉันพัก อย฽ูที่ร฾านท่ีดิฉันทํางานนั่นแหละค฽ะถ฾ามีเรื่องใดจะให฾ทําติดต฽อได฾ท่ีร฾านนั่นเลยสําหรับท่ีอยู฽ของร฾าน มีอยใ฽ู นทะเบียนบญั ชีรายชอ่ื นกั ศกึ ษาแล฾วคะ฽ สวัสดคี ะ฽ ตวั อยา่ งการแนะนาตนเอง “เรียนท฽านอาจารย์ที่เคารพ สวัสดีค฽ะเพื่อนๆ ทุกคน ดิฉัน ด.ญ. ............ เกิดที่จังหวัดชัยภูมิ ย฾ายตามบดิ ามารดามาอย฽ทู ่ีจังหวดั นีไ้ ด฾ ๓ ปีแลว฾ ดฉิ นั เปน็ บตุ รคนสุดทอ฾ ง ดฉิ นั จบ ช้นั ประถมปีท่ี ๖ จาก โรงเรียนวัดน฾อยใน จังหวัดชัยภูมิ ดิฉันชอบเรียนวิชาศิลปะมาก เคยเข฾าประกวดงานศิลปะนานาชาติ ไดร฾ บั รางวัลชนะเลิศอันดับที่ ๒ เมื่อดิฉันมีเวลาว฽าง ดิฉันจะวาดภาพและช฽วยคุณพ฽อปลูกต฾นไม฾ ดิฉันคิด ว฽าถา฾ ดฉิ ันเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย ดฉิ นั จะไปเรียนต฽อวทิ ยาลยั เพาะช฽าง ในอนาคตดิฉันจะเป็นนัก วาดภาพที่ดคี ฽ะ” 2. การกล่าวต้อนรบั การกล฽าวตอ฾ นรบั เปน็ การกลา฽ วเพ่ือบอกความร฾ูสึกทมี่ ีตอ฽ ผทู฾ ี่มาโดย 1. กล฽าวถงึ ความยนิ ดีของการเปน็ เจา฾ ของสถานที่ 2. กลา฽ วยกย฽องผู฾มาเยอื น เชน฽ เปน็ ใคร มผี ลงานดเี ด฽นอะไร มคี วามสัมพนั ธ์อย฽างไรกบั ผู฾ต฾อนรบั 3. แสดงความยนิ ดีที่ใหก฾ ารต฾อนรับ 4. ขออภยั หากมีส่งิ ใดบกพรอ฽ งไป และหวงั จะกลับมาเยีย่ มอกี

120 ตวั อยา่ งการกล่าวต้อนรบั “สวัสดีค฽ะ ท฽านผู฾มีเกียรติทุกท฽าน ดิฉันร฾ูสึกยินดีเป็นอย฽างยิ่งที่ได฾รับเกียรติมากล฽าวอวยพรคุณ ยาใจ แมว฾ า฽ คุณยาใจจะมีอายุครบ ๕๐ ปีบริบูรณ์แล฾ว แต฽ความขยันของท฽านมิได฾ลดลง สุขภาพของท฽าน ก็ยงั แข็งแรงยงั สามารถทํางานร฽วมกับดิฉันได฾อีกนาน คุณยาใจเป็นคนที่ทํางานได฾ดีมาก มนุษย์สัมพันธ์ดี เป็นเลิศ ไม฽เลือกที่รักมักท่ีชัง และในโอกาสน้ีดิฉันขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักด์ิสิทธ์ิ ท้ังหลายจงปกปักค฾ุมครองให฾คุณยาใจปราศจากโรคภัยทั้งปวงมีความก฾าวหน฾าในการทํางาน มีอายุยืน ยาวตลอดไปเทอญ สวัสดีค฽ะ” 3. การกล่าวอวยพร โอกาสท่ีกล฽าวอวยพรมีหลายโอกาส เช฽น การกล฽าวอวยพรวันเกิด วันปีใหม฽ ข้ึนบา฾ นใหม฽ การอวยพรค฽ูบ฽าวสาว หรอื ในโอกาสท่ีจะมีการโยกย฾าย อาํ ลาไปรบั ตาํ แหน฽งใหม฽ ฯลฯ หลกั การกล฽าวอวยพร มีข฾อปฏิบัตทิ คี่ วรจําดังน้ี 1. ควรกล฽าวถึงโอกาสและวันสําคัญน้ันๆ ที่ได฾มาอวยพรว฽าเป็นวันสําคัญอย฽างไร ในโอกาสดีอย฽างไร มคี วามหมายตอ฽ เจา฾ ภาพหรอื การจดั งานนน้ั อยา฽ งไร 2. ควรใชค฾ าํ พดู ท่สี ภุ าพ ไพเราะ ถูกต฾อง เหมาะสมกบั กลม฽ุ ผู฾ฟัง 3. ควรกลา฽ วใหส฾ ้นั ๆ ใช฾คาํ พูดงา฽ ยๆ ฟงั เข฾าใจดี กะทัดรดั กระชับความ น฽าประทับใจ 4. ควรกล฽าวถึงความสัมพันธ์ระหว฽างผู฾อวยพรกับเจ฾าภาพ กล฽าวให฾เกียรติ ชมเชยในความดีของ เจ฾าภาพ และแสดงความปรารถนาดีท่ีมีตอ฽ เจา฾ ภาพ 5. ควรใชค฾ ําพูดอวยพรให฾ถูกต฾อง หากเป็นการอวยพรผู฾ใหญ฽ นิยมอ฾างสิ่งศักด์ิสิทธิ์ ท่ีเคารพนับถือมา ประทานพร ตวั อยา่ ง การกล่าวอวยพร สวัสดี.....ทา฽ นผม฾ู ีเกียรติทีเ่ คารพ ดิฉัน มีความรู฾สึกยินดีอย฽างยิ่งท่ีได฾รับเกียรติให฾ขึ้นมากล฽าวอวยพรวันเกิดในวันน้ี ซ่ึงเป็นวันครบ อายุ ๖๐ ปี ของท฽านอาจารย์มงคล โตสกุล ตลอดระยะเวลาที่ดิฉันได฾ทํางานใกล฾ชิดและรู฾จัก ท฽านอาจารย์มงคล โตสกุล มาน้ัน ท฽านเป็นคนมีความสามารถในด฾านการวาดภาพอย฽างหาใครเปรียบ ไมไ฽ ด฾ นอกจากน้ี ยังมีความเมตตา และเอื้ออาทรต฽อทุกคนที่ร฽วมงานด฾วยกัน ดิฉันรู฾สึก ดีใจและปล้ืมปิติ เป็นอย฽างย่ิงท่ีได฾มาร฽วมงานมงคลในวันน้ี ขออํานาจสิ่งศักด์ิสิทธ์ิท้ังหลายจงปกปูองค฾ุมครองให฾ท฽าน มีสุขภาพอนามัยแข็งแรง ปราศจากโรคภัยอันตรายท้ังปวง พร฾อมด฾วยอายุวรรณะ สุขะ พละ ครบทุก ประการ สวัสดคี ฽ะ 4. การกลา่ วขอบคุณ การกลา฽ วขอบคณุ เป็นการแสดงนา้ํ ใจไมตรี หรือความดที ีผ่ ู฾อื่นกระทําให฾ เช฽น ขอบคุณวทิ ยากรทบ่ี รรยายดงั น้ี 1. ควรกล฽าวขอบคุณวทิ ยากรให฾เกยี รติบรรยาย 2. มีการสรุปเรอ่ื งทีว่ ทิ ยากรบรรยายจบไปอยา฽ งส้ันๆ ไดใ฾ จความ 3. ควรกลา฽ วถึงคณุ ค฽าของเร่ืองทีฟ่ งั และประโยชน์ทไี่ ด฾รับจากการบรรยาย 4. กลา฽ วใหม฾ คี วามหวังจะได฾รับเกยี รติจากวทิ ยากรอีกในโอกาสตอ฽ ไป 5. กลา฽ วขอบคุณวทิ ยากรอกี ครงั้ ในตอนท฾าย

121 ข้อสงั เกต การใชค฾ าํ ขอบคุณ ตอ฾ งใชใ฾ หเ฾ หมาะสมกับบุคคล ดังนี้ ขอบใจ ใช฾กบั ผ฾ูที่มีอายนุ อ฾ ยกว฽า ขอบคุณ ใช฾กับผูท฾ มี่ ีอายุมากกว฽า หรือ ระดับเดียวกนั ขอบพระคุณ ใช฾กับผทู฾ มี่ ีอายุมากกวา฽ และผ฾เู คารพนบั ถอื กราบขอบพระคุณ ใช฾กับผ฾ูท่ีมีพระคณุ ต฽อผพู฾ ูดมาก ๆ เชน฽ พ฽อแม฽ ปูุ ยา฽ ตา ยาย ครู อาจารย์ ตัวอยา่ งการกลา่ วขอบคุณ 1. พ่ขี อขอบใจนอ฾ งมากท่ีช฽วยซ้อื ของให฾ 2. ดฉิ นั ขอขอบคุณคุณมาลที ี่ส฽งลูกท่บี ฾านวันนี้ค฽ะ 3. หลานขอกราบขอบพระคุณคุณตาท่ใี ห฾เงนิ หลานคะ฽ การกล่าวขอบคุณผู้ทม่ี ีอาวุโสกว่า เรียน ทา฽ นผ฾ใู หญ฽บา฾ นท่เี คารพ ผมรส฾ู ึกซาบซึ้งในความกรณุ าของท฽านผใ฾ู หญบ฽ า฾ นเป็นอย฽างยง่ิ ท่ีได฾มอบรางวัล จํานวน 100 ชุด ในวนั เด็กแก฽นักเรยี นโรงเรียนมัธยมวดั สิงห์ นับเป็นบญุ กศุ ลอันดีย่งิ ท่ี เดก็ ๆ จะได฾รบั ความสุข สนกุ สนานในการแข฽งขันกฬี าในวนั เด็กแหง฽ ชาติ ในปนี ผ้ี มและ เดก็ ๆ มีความยนิ ดใี นเมตตาจิตของท฽าน ผู฾ใหญบ฽ ฾านเปน็ อย฽างมาก จึงขอกราบขอบพระคณุ ครบั (พูดจบพร฾อมกบั ยกมอื ไว฾) 5. การพูดใหโ้ อวาท การพูดให฾โอวาท จะมีลักษณะดงั นี้ 1. กล฽าวถึงความสําคัญ และโอกาสทมี่ ากลา฽ วให฾โอวาทวา฽ มีความสาํ คญั อยา฽ งไร 2. พูดใหต฾ รงประเดน็ เลือกประเดน็ สาํ คัญๆ ท่ีมีความหมายแก฽ผูร฾ ับโอวาท 3. ควรมขี ฾อแนะนํา ตักเตอื น และเสนอแนะประสบการณ์ท่ีมปี ระโยชน์ 4. ควรพดู ชีแ้ จงและเกล้ยี กลอ฽ มใหผ฾ ฾ูฟงั ตระหนกั และนาํ โอวาทไปใชใ฾ หเ฾ กดิ ประโยชน์ได฾อย฽างแท฾จรงิ 5. กลา฽ วสั้นๆ ได฾ใจความดี ตอนท฾ายของการใหโ฾ อวาทก็ควรกลา฽ วอวยพรทปี่ ระทับใจ การพูดแสดงความคิดเห็น การพูดเพื่อแสดงความร฾ู และความคิดเห็นได฾แก฽การพูดอภิปราย การรายงาน การสื่อข฽าว และ การสนทนาความร฾ู เป็นตน฾ ซ่งึ การพดู ตา฽ งๆ เหล฽าน้มี ีแนวทางดงั นี้ 1. ศึกษารายละเอียดเนื้อหา โดยคํานึงถึงเน้ือหาตามจุดประสงค์ที่จะพูด เพื่อให฾รายละเอียดท่ี ถกู ตอ฾ งตรงประเดน็ ตามท่ตี ฾องการเสนอความรู฾ 2. วิเคราะห์เร่ืองราวอย฽างมีหลักเกณฑ์ โดยพิจารณาแยกแยะออกเป็นส฽วนๆ เพ่ือทําความ เขา฾ ใจแต฽ละส฽วนใหแ฾ จม฽ แจ฾ง และตอ฾ งคาํ นึงถงึ ความสัมพันธเ์ กี่ยวเนอ่ื งกันของแต฽ละส฽วน 3. ประเมนิ คา฽ เร่ืองทีจ่ ะพูด 4. ใช฾ภาษาอย฽างเหมาะสม มีการเรียงลําดับใจความที่ดี แบ฽งเน้ือหาเป็นเรื่องเป็นตอน ใช฾ ตัวอย฽างประกอบการพูด มีการเปรียบเทียบเพ่ือให฾ผ฾ูฟังเห็นภาพพจน์ได฾อย฽างชัดเจน มีการยํ้าความเพ่ือ เน฾นสาระสําคัญรวมทัง้ ยกโวหารคาํ คมมาประกอบเพ่ือสร฾างความเข฾าใจ และเกดิ ความประทับใจย่งิ ขนึ้

122 มารยาทในการพดู การพูดท่ีดีไม฽ว฽าจะเป็นการพูดในโอกาสใด ผ฾ูพูดจะต฾องคํานึงถึงมารยาทในการพูด ซ่ึงจะช฽วย สร฾างความชน่ื ชมจากผ฾ูฟงั มีผลให฾การพูดแตล฽ ะครงั้ ประสบความสําเร็จตามวัตถุประสงค์ท่ีตั้งไว฾ มารยาท ในการพูดสรปุ ไดด฾ งั นี้ 1. เรือ่ งท่พี ูดนน้ั ควรเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝุายสนใจร฽วมกนั หรืออยใ฽ู นความสนใจของคนทวั่ ไป 2. พดู ใหต฾ รงประเดน็ จะออกนอกเร่ืองบา฾ งก็เพียงเล็กน฾อย 3. ไม฽ถามเร่ืองส฽วนตวั ซ่งึ จะทําให฾อกี ฝุายหนึ่งร฾สู ึกอึดอัดใจ หรอื ลําบากใจในการตอบ 4. ต฾องคํานึงถึงสถานการณ์และโอกาส เช฽นไม฽พูดเร่ืองเศร฾า เร่ืองท่ีน฽ารังเกียจ ขณะรับประทานอาหาร หรืองานมงคล 5. สร฾างบรรยากาศที่ดี ยมิ้ แย฾มแจ฽มใสและสนใจเร่อื งท่กี าํ ลงั พดู 6. ไม฽แสดงกิริยาอันไม฽สมควรในขณะท่ีพูด เช฽น ล฾วง แคะ แกะ เกา ส฽วนใดส฽วนหนึ่งของ รา฽ งกาย 7. หลกี เลย่ี งการกล฽าวรา฾ ย การนนิ ทาผ฾ูอ่นื ไม฽ยกตนข฽มท฽าน 8. พูดให฾มเี สียงดังพอไดย฾ นิ กนั ทั่ว ไม฽พูดตะโกน หรือเบาจนกลายเป็นกระซิบกระซาบ 9. พูดด฾วยถ฾อยคําวาจาท่ีสุภาพ 10. พยายามรกั ษาอารมณ์ในขณะพูดใหเ฾ ปน็ ปกติ 11. หากนําคํากล฽าวหรือมีการอ฾างอิงคําพูดของผ฾ูใดควรระบุนามหรือแหล฽งท่ีมา เพื่อให฾เป็นเกียรติแก฽ บุคคลทก่ี ลา฽ วถึง 12. หากพูดในขณะท่ผี อ฾ู ่นื กาํ ลงั พูดอย฽ูควรกล฽าวขอโทษ 13. ไม฽พูดคยุ กนั ข฾ามศีรษะผู฾อน่ื จากมารยาทในการพดู ท้ัง 13 ขอ฾ ผู฾เรยี นควรจะนําไปปฏิบัตไิ ดใ฾ นชวี ติ ประจําวนั

123 ใบงาน บทเรียนออนไลน์ที่ 2 เร่อื ง การพูด วชิ า พท 21001 ภาษาไทย ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น จดุ ประสงค์การเรียนรู฾ : พูดนาํ เสนอความรู฾ ความคดิ เห็น สร฾างความม่นั ใจ โนม฾ น฾าวใจ ปฏิเสธเจรจาต฽อรองดว฾ ยภาษากริ ิยาท฽าทางทีส่ ุภาพ ให฾ผเ฾ู รยี นศึกษาใบความร฾ูและคลิปวีดีโอเรอื่ ง วชิ าภาษาไทย การพดู ในโอกาสตา฽ งๆ คาสั่ง : ให฾ผู฾เรียนเขียนคําพูดตามสถานการณท์ ่ีกาํ หนดให฾ต฽อไปน้ี 1. เขียนคําขอบคุณสน้ั ๆ ทเี่ พื่อนคนหน่ึงเกบ็ กระเป฻าสตางค์ทตี่ กหายมาให฾เรา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. เขยี นคําอวยพรวนั เกิดของเพือ่ น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เขยี นคาํ กล฽าวแสดงความยินดีในโอกาสทเี่ พ่ือนสอบสมั ภาษณเ์ ข฾าทํางานได฾ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………

124 จุดประสงค์การเรียนรู้ : ปฏบิ ัติตนเปน็ ผมู้ ีมารยาทในการพูด ให฾ผเ฾ู รยี นศึกษาใบความรู฾และคลปิ วดี ีโอเรอ่ื ง มารยาทในการฟังและการพดู คาสงั่ : ให฾ผเู฾ รียนยกตวั อยา฽ งมารยาทที่ดีในการพูดมา 5 ขอ฾ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………..……………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………..........................................

125 แบบทดสอบหลังเรียน บทเรยี นออนไลน์ที่ 2 เรือ่ ง การพดู คาสัง่ ให฾เลอื กคาํ ตอบทถ่ี ูกตอ฾ งท่ีสดุ เพียงคาํ ตอบเดียว 1. ข฾อใดไม฽ใช฽องคป์ ระกอบสาํ คญั ของการพูด ก. ผู฾พดู ข. ผฟ฾ู ัง ค. สาระที่พูด ง. อปุ กรณ์ 2. ข฾อใดเปน็ การพดู แบบเปน็ ทางการ ก. พูดกบั พน่ี อ฾ ง ข. พดู กบั เพ่อื ร฽วมงาน ค. พูดบรรยายให฾ความร฾ู ง. พูดในงานสร฾างสรรค์ 3. สง่ิ ทีส่ าํ คัญทีส่ ดุ ท่ีผพ฾ู ดู ควรเตรียมล฽วงหน฾า ตรงตามขอ฾ ใด ก. การแตง฽ กาย ข. การฝึกซ฾อม ค. การเตรียมต฾นฉบับพูด ง. การใช฾เสียงและทา฽ ทาง 4. การพูดแสดงความคิดเห็นเป็นการพูดตรงตามข฾อใด ก. พดู ทักทาย ข. พูดอวยพร ค. การเตรียมต฾นฉบบั พูด ง. การใช฾เสียงและท฽าทาง 5. ขอ฾ ใดเปน็ องค์ประกอบสําคญั ของการพดู ก. อุปกรณ์ประกอบการพูด ข. สาระทีพ่ ูด ค. ผูฟ฾ ัง ง. ถูกทกุ ข฾อ

126 6. การพดู ในโอกาสใดเป็นลักษณะการพูดชแ้ี จง ก. การพดู ในโอกาสเปิดการอบรมอาสาสมัครหมูบ฽ ฾าน ข. การพูดอภิปรายของผ฾ูแทนราษฎรใ์ นสภา ค. ครใู หญ฽ออกมาอธิบายถึงเหตผุ ลท่ีทางโรงเรียนไม฽อนุญาตให฾จัดงานวนั ปีใหม฽ ง. นายกรฐั มนตรกี ล฽าวคาํ ปราศรยั เนือ่ งในวนั เดก็ 7. \"การพดู เป็น\" มหี มายความตรงตามข฾อใด ก. กล฾าที่จะพดู ข. ออกเสียงไดช฾ ัดเจน ค. พดู ได฾อย฽างไพเราะเสนาะหู ง. พดู โนม฾ น฾าวใจผ฾ูฟงั ให฾คล฾อยตามได฾ 8. สิ่งทจ่ี ําเปน็ ต฾องคาํ นงึ ถงึ อันดับแรกในการพดู และการฟงั คอื อะไร ก. สาระ ข. มารยาท ค. กาลเทศะ ง. สภาพแวดลอ฾ ม 9. ลกั ษณะการพูดตามข฾อใดเป็นการพูดจงู ใจให฾ผฟู฾ งั ยอมรับไดด฾ ที สี่ ุด ก. พดู นอบน฾อมถ฽อมตน ข. พูดวจิ ารณ์ใหข฾ อ฾ คิดเห็น ค. พดู แสดงเหตุผลและข฾อเทจ็ จริง ง. พดู ด฾วยนาํ เสยี งและลีลาท่ีน฽าฟัง 10. สํานวนในข฾อใดเนน฾ ความสําคญั ของการพดู ก. ปลาหมอตายเพราะปาก ข. ปากเป็นเอก เลขเป็นโท ค. ละเลงขนมเบือ้ งด฾วยปาก ง. พดู ไปสองไพเบ้ยี น่งิ เสยี ตําลึงทอง

127 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 เรื่อง การพูด 1. ง 2. ก 3. ค 4. ง 5. ค 6. ค 7. ง 8. ก 9. ค 10. ข

128 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 3 เร่ือง การอา่ น คาสั่ง ให฾เลอื กคําตอบท่ถี ูกตอ฾ งทส่ี ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. การอา฽ นจบั ใจความและเขา฾ ใจเรอื่ งทอี่ ฽านอย฽างมปี ระสทิ ธภิ าพข้นึ อยกู฽ ับคุณสมบัติสาํ คญั ข฾อใด ก. รศ฾ู พั ทม์ าก ข. มีสิทธิในการอ฽าน ค. มีความม฽ุงหมายใครร฽ ู฾เรอื่ ง ง. อา฽ นในใจโดยไม฽ตอ฾ งเคล่อื นไหวรมิ ฝปี าก 2. เวลานานมาก กล฾วยปลูกงา฽ ยดูแลง฽าย ใบใช฾หอ฽ ของผลใชก฾ ิน ลําตน฾ ใชเ฾ ลย้ี งสัตว์ ดังนนั้ เรามาปลูกกลว฾ ยกนั ดกี วา฽ จะได฾มีกลว฾ ยกินกันทกุ โรงเรียนใจความสําคัญของขอ฾ ความนี้ ตรงตามขอ฾ ใด ก. กลว฾ ยเปน็ พืชทีป่ ลูกง฽าย ข. กลว฾ ยเปน็ พชื ท่มี ีประโยชนม์ าก ค. กลว฾ ยสามารถกินไดท฾ ุกโรงเรยี น ง. กล฾วยเปน็ พชื ทีใ่ ช฾เลี้ยงสัตว์ได฾ 3. โดยทั่วไปประโยคใจความสาํ คัญจะอยู฽สว฽ นใดของย฽อหน฾า ก. ตน฾ ยอ฽ หน฾า ข. กลางยอ฽ หน฾า ค. สว฽ นทา฾ ยย฽อหนา฾ ง. ต฾นหรือทา฾ ยย฽อหน฾า 4. ยีราฟเปน็ สตั วป์ ุา มีขายาวจึงวิ่งเร็ว มันมคี อยาวเหมอื นเสาไฟฟูาจงึ มองเห็นไดไ฾ กลๆ ยีราฟกินใบไมเ฾ ปน็ อาหาร เรานาํ ยรี าฟจากเมืองอนื่ มาเลีย้ งไว฾ในสวนสัตว์ เดก็ ๆชอบ ดูยรี าฟในสวนสตั วเ์ พราะมหี น฾าตาตลก ใจความสําคญั ของข฾อความนี้ตรงตามข฾อใด ก. ยีราฟเปน็ สตั ว์ปาุ ข. ยรี าฟเป็นสตั ว์ท่มี ีขายาว ค. ยรี าฟเป็นสัตว์ทมี่ ีหน฾าตาตลก ง. ยีราฟเปน็ สตั ว์ทก่ี นิ ใบไม฾เป็นอาหาร

129 5. คนขยันชอบทํางานและหม่ันหาความร฾ู เพื่อจะได฾ทํางานด฾วยความฉลาด และรอบคอบ ดังตัวอย฽าง ปูาแช฽มปูาแช฽มเป็นคนขยันจึงตื่นนอนแต฽เช฾าทําขนมกล฾วย ขนมตาล และ ข฾าวเหนียว สังขยา ไปขายที่ตลาด ปูาแช฽มบอกกับใครๆเสมอว฽า ถ฾าคนเราขยันทํางาน มีระเบยี บ รูว฾ ธิ ที าํ มาหากิน ก็จะไมอ฽ ดตายใจความสาํ คัญของข฾อความนี้ตรงตามขอ฾ ใด ก. ปูาแชม฽ ทําขนมไปขายที่ตลาด ข. ปาู แชม฽ เป็นคนขยนั จึงต่นื นอนแต฽เชา฾ ค. คนขยันทํางานดว฾ ยความฉลาดและ รอบคอบ ง. คนเราขยนั ทํางานมรี ะเบียบ ร฾ูวธิ ที ํามาหากนิ ก็จะไมอ฽ ดตาย อา่ นบทรอ้ ยกรองต่อไปน้ี แลว฾ ตอบคาํ ถามข฾อท่ี 6-10 ยิ้มใหก฾ นั วนั ละนิดจิตแจม฽ ใส ยมิ้ ใหก฾ นั ใจสขุ สนั ต์วันละไมล์ ยม้ิ ใหก฾ ันวันละชนื่ อกตนื้ ตนั ยิม้ ทัง้ วันย้ิมกนั ในศรีธัญญา 6. ผ฾ูเขยี นข฾อความนเ้ี ป็นคนประเภทใด ก. ชา฽ งฝนั หวาน ข. มีอารมณ์ชัน ค. ตลกโปกฮา ง. ไมเ฽ ต็มเตง็ 7. ข฾อความน้ีจัดเปน็ ข฾อเขียนชนดิ ใด ก. กลอนส่ี ข. กลอนหก ค. กลอนแปด ง. กลอนเปลา฽ 8. เมื่ออา฽ นบทรอ฾ ยกรองนี้แลว฾ ผอ฾ู ฽านจะมปี ฏิกริ ยิ าอย฽างไร ก. เฉย ๆ ข. ขมวดค้ิว ค. อมย้มิ นดิ ๆ ง. หัวเราะกา฿ ก

130 9. คนประเภทใดที่เหมาะสมกับข฾อความ ก. คนตกงาน ข. คนท่ีโกรธกนั ค. คนท่ีเป็นคู฽รักกนั ง. คนทก่ี ําลังผดิ หวัง 10. “ยม้ิ ทงั้ วันย้มิ กันในศรีธัญญา” ควรเป็นบคุ คลประเภทใด ก. คนบ฾า ข. คนตาบอด ค. คนท่มี คี วามรกั ง. คนท่มี คี วามสุข

131 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน บทเรียนออนไลนท์ ี่ 3 เรื่องการอา่ น 1. ก 2. ค 3. ก 4. ข 5. ง 6. ก 7. ค 8. ค 9. ก 10. ก

132 ใบความรทู้ ี่ 3 บทเรยี นออนไลน์ที่ 3 เร่อื ง การอา่ น การอา่ น ความหมาย ความสาคัญ และประโยชน์ที่ไดจ้ ากการอ่าน 1. ความหมายของการอ่าน นพดล จันทร์เพ็ญ กล฽าวว฽า การอ฽านคือ การแปลความหมาย ของตัวอักษร เครื่องหมายสัญลักษณ์ เครื่องส่ือความหมายต฽าง ๆ ท่ีปรากฏแก฽สายตาออกมาเป็น ความคิดความเข฾าใจเชิงสื่อสาร แล฾วผ฾ูอ฽านสามารถนําความคิดความเข฾าใจนั้นไปใช฾ให฾เกิดประโยชน์ได฾ ต฽อไป ความสาคัญของการอา่ น การอ฽านมคี วามสําคญั ดังนี้ เป็นเครื่องมือท่ีสําคัญในการแสวงหาความรู฾เพื่อพัฒนาตนเองให฾ทันโลกทันเหตุการณ์ ทําให฾เกิดความ เพลิดเพลินพอใจ และคลายทุกข์ได฾ ผอ฾ู ฽านสามารถฝึกการคดิ และสรา฾ งจินตนาการได฾เองในขณะท่ีอ฽าน ประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากการอ่าน ผทู฾ ี่ฝกึ ฝนการอ฽านจนชํานาญแล฾ว จะได฾รับประโยชน์ดังต฽อไปนี้ จะเขา฾ ใจเรอื่ งท่ีอา฽ นในเวลาอันรวดเร็ว สามารถนําสงิ่ ท่ไี ด฾จากการอา฽ นไปใชใ฾ หเ฾ กิดประโยชน์ได฾ สามารถเรียนรวู฾ ชิ าต฽าง ๆ ได฾อย฽างมปี ระสทิ ธิภาพมากขึ้น ทําให฾เปน็ ผท฾ู ่ีมีโลกทศั น์กวา฾ งขน้ึ 2. จดุ มุ่งหมายของการอ่าน อาจแบง฽ จุดประสงคใ์ นการอ฽านอย฽างกวา฾ ง ๆ ได฾ดงั นี้ 1) อ฽านเพ่ือศึกษาหาความร฾ู เป็นการอ฽านเพ่ือม฽ุงให฾เกิดความร฾ู ความเข฾าใจในเรื่องท่ีต฾องการ ศึกษา ซึ่งมกั ใช฾ในการอา฽ นตาราวิชาการตา฽ ง ๆ หรอื อา฽ นงานเขยี นเฉพาะเรอ่ื งท่ีต฾องการศึกษาใหเ฾ ข฾าใจ 2) อ฽านเพื่อความเพลิดเพลินบันเทิงใจ เป็นการอ฽านที่ม฽ุงให฾เกิดความผ฽อนคลายอารมณ์ เกิด ความเพลิดเพลินจากการอ฽าน ได฾แก฽ การอ฽านหนังสือประเภทบันเทิงคดี สารคดี ท่ีมีเน้ือหามุ฽งความ เพลิดเพลนิ เช฽น นวนิยาย สารคดีทอ฽ งเท่ยี ว นิตยสาร วารสารตา฽ ง ๆ 3) อ฽านเพ่ือความจรรโลงใจ เป็นการอ฽านเพ่ือยกระดับจิตใจให฾สูงขึ้น มักเป็นสารที่ให฾ข฾อคิด คติเตอื นใจ ไดแ฾ ก฽ ปรชั ญา ศาสนา สภุ าษิต คาํ พงั เพย 4) อ฽านเพ่อื หาคาํ ตอบในสง่ิ ทตี่ ฾องการ ซึ่งหมายถงึ การคิดคน฾ ในเรอื่ งที่ตนสนใจเป็นพเิ ศษ การอ฽านแบ฽งได฾เปน็ 4 ประเภท คือ 1. การอ่านในใจ เป็นการอ฽านที่มุ฽งหมายให฾อ฽านได฾รวดเร็ว และสามารถจับใจความสําคัญ ไดด฾ ี ซง่ึ ผ฾ูอา฽ นอาจใชว฾ ิธีฝึกฝนให฾อ฽านได฾เรว็ โดยอาศัยหลกั ดังตอ฽ ไปนี้ 1) กําหนดเวลาในการอ฽านหนังสือให฾แน฽นอน และพยายามอ฽านให฾ได฾จํานวนคํา หรือจํานวน หนา฾ เพิ่มขนึ้ 2) ฝึกการเคลือ่ นไหวสายตา ใหม฾ ีการเคลือ่ นไหวทีถ่ กู ต฾อง โดยการจับสายตาอย฽ูท่ีข฾อความเป็น ช฽วงระยะ และควรฝึกให฾สามารถเคลื่อนไหวสายตาได฾ในช฽วงที่กว฾าง ไม฽ควรย฾อนกลับไปอ฽านข฾อความที่ อา฽ นผ฽านมาแลว฾ เนอ่ื งจากจะทําให฾เสียเวลา และเสียสมาธิในการทําความเข฾าใจเนื้อเร่ือง และเม่ือจะขึ้น บรรทดั ใหมใ฽ หก฾ วาดสายตากลบั มาทางซา฾ ยอย฽างรวดเร็วแมน฽ ยํา

133 3) ทดสอบความเข฾าเร่ืองเมื่ออ฽านจบ ได฾แก฽การจับใจความสําคัญของข฾อความที่อ฽านหลังจาก อา฽ นจบแตล฽ ะย฽อหนา฾ หรือหลังจากท่อี ฽านจบทั้งเรอื่ งไปแลว฾ เพือ่ ช฽วยใหเ฾ ข฾าใจเรอื่ งที่อา฽ นไดด฾ ขี ึ้น 4) ศึกษาหาความหมายของคําศัพท์ต฽าง ๆ อยู฽เสมอ หากพบคําศัพท์แปลกใหม฽ในขณะท่ีอ฽าน อย฽าหยุดเพ่ือค฾นหาความหมายในขณะนนั้ แต฽ให฾อ฽านจนจบ และพยายามทําความเข฾าใจความหมายของ ศัพทใ์ หม฽ โดยพิจารณาจากข฾อความแวดล฾อม(บริบท)ก฽อน หากยังไม฽เข฾าใจจึงค฽อยค฾นคว฾าหาความหมาย ของคาํ ศพั ท์น้นั 5) หลีกเลี่ยงลักษณะนิสัยการอ฽านท่ีไม฽ดี ซึ่งจะทําให฾อ฽านหนังสือช฾า เช฽นการทําปากขมุบขมิบ หรือออกเสียงพึมพําตามตัวหนังสือ ใช฾มือช้ีไปตามตัวหนังสือ หรือย฾อนกลับไปอ฽านทบทวนข฾อความ ที่อ฽าน เมอื่ เกดิ ความสงสยั 6) ควรฝกึ ฝนการอ฽านบ฽อย ๆ และสมํ่าเสมอ เนื่องจากการอ฽านเป็นทักษะ ดังนั้นความชํานาญ จะเกิดขึน้ ได฾กต็ ฽อเม่ือมีการฝึกฝนอย฽างสมํ่าเสมอ 2. การอ่านออกเสียง เป็นการเปล฽งเสียงตามตัวอักษร ถ฾อยคํา และเคร่ืองหมายต฽าง ๆท่ีเขียน ไว฾ให฾ถูกต฾องชัดถ฾อยชัดคํา โดยผ฾ูอ฽านต฾องคํานึงว฽ากําลังอ฽านให฾ผ฾ูอื่นฟัง และการอ฽านของเราจะสามารถ สื่อสารแก฽ผู฾ฟังได฾ตรงตามท่ีผู฾เขียนต฾องการหรือไม฽ ส่ิงสําคัญท่ีผ฾ูอ฽านต฾องคํานึงถึงคือข฾อความท่ีอ฽าน ซึ่ง ประกอบด฾วย ถอ฾ ยคํา เรอื่ งราว และบรรยากาศ โดยมหี ลักทั่วไปในการอ฽านออกเสียงดังนี้ 1) ความชัดเจน หมายถึงออกเสียงได฾ชัดถ฾อยชัดคําทั้งเสียงสระ พยัญชนะ วรรณยุกต์ และเสียง ควบกล้ํา 2) ความถูกต฾อง คืออ฽านออกเสียงได฾ถูกต฾องตามอักขระวิธีของไทย หรือของภาษาอ่ืนท่ีไทย นาํ มาใช฾ 3. การอ่านเพ่ือจับใจความ หรือการอ่านเก็บใจความ เป็นการอ฽านเพื่อเก็บสาระความร฾ู ข฾อคิด ทัศนคติของผ฾ูเขียน จากเน้ือหาที่อ฽าน การอ฽านเพ่ือจับใจความมี แนวทางคือการอ฽านจับใจความ สว฽ นรวม และการอ฽านจับใจความสําคัญ 1) การอ฽านจับใจความส฽วนรวม คือการทําความเข฾าใจเนื้อหาส฽วนรวมของงานเขียน อาจใช฾ วิธีการต้ังคําถามอย฽างกว฾าง ๆ ว฽าใคร ทําอะไร ที่ไหน เม่ือไร อย฽างไร แล฾วพยายามตอบคําถามเหล฽านั้น ส้ัน ๆ ให฾ไดใ฾ จความชัดเจน หรอื สามารถดาํ เนินการตามขน้ั ตอนได฾ดงั น้ี 2) สงั เกตส฽วนประกอบของงานเขยี น เช฽น ชอ่ื เร่ือง คํานํา สารบญั วตั ถุประสงค์ของผู฾เขียน เพ่ือ จะได฾มองเหน็ จดุ มุ฽งหมายของงานเขยี น วา฽ เป็นงานเขียนเกี่ยวกบั อะไรและผู฾เขยี นต฾องการอะไร 3) สงั เกตหัวขอ฾ ใหญ฽ และหัวขอ฾ ย฽อยของงานเขยี น เพือ่ หาเน้ือหาสําคัญของงานเขียน 4) จัดลําดับเนือ้ หาของหัวขอ฾ เพอ่ื จัดลาํ ดับความสําคัญของเนือ้ หา 5) สงั เกตความสมั พนั ธ์ของการดําเนนิ เร่ือง การเชื่อมโยงเนื้อหา เพือ่ ดู

134 4. การอา่ นประเมินคณุ คา่ เป็นการอ฽านเพื่อพจิ ารณา และประเมินคุณค฽าของงานเขียน ซ่ึงโดย ปกตเิ มื่อเราอา฽ นงานเขียนเราก็จะประเมนิ คณุ ค฽างานเขียนไปโดยอตั โนมัติอย฽ูแล฾ว แต฽จะเป็นการประเมิน โดยใช฾ความร฾ูสึกส฽วนตัวเราเป็นเกณฑ์ตัดสิน โดยมักใช฾คําพูดว฽า ดี สนุก น฽าสนใจ น฽าเบื่อ ซึ่งเป็นการ ประเมินคุณค฽าที่ไม฽มีหลักเกณฑ์ ไม฽เป็นท่ียอมรับ ดังน้ันในการประเมินคุณค฽างานเขียน จึงต฾องประเมิน อย฽างมหี ลกั เกณฑ์ เพ่ือให฾ความเปน็ ธรรมกับผู฾เขียนจึงควรดําเนินการดังน้ี 1) หนังสือตํารา และเอกสารทางวิชาการ การประเมินคุณค฽าของงานเขียนประเภทนี้ ต฾อง คํานึงถึงด฾านเน้ือหา ประโยชน์ในด฾านความรู฾ทางวิชาการ รวมท้ังพิจารณาการใช฾ภาษา และการลําดับ ความร฾ู 2) หนังสือสารคดีและบทความ การประเมินคุณค฽าของงานเขียนประเภทนี้ต฾องคํานึงถึงด฾าน เน้อื หาความรู฾ ว฽าเปน็ เรื่องทนี่ ฽าสนใจหรือไม฽ ความคิดเห็นของผเู฾ ขยี นน฽าเชื่อถือได฾มากน฾อยเพียงใด ข฾อคิด ของผูเ฾ ขยี นมเี หตผุ ลหนกั แนน฽ หรือไม฽ 3) หนงั สอื พมิ พ์ การอ฽านหนงั สือพิมพ์ตอ฾ งรู฾จกั คิดพิจารณา ไม฽ควรเชือ่ ทันที ควรวิเคราะห์ข฽าวใน แง฽มุมต฽าง ๆ เช฽นแหล฽งท่ีมาของข฽าว อคติของผู฾เขียน และต฾องตรวจสอบข฽าวเดียวกันจากหนังสือพิมพ์ ฉบับอน่ื ๆ หรอื จากส่อื มวลชนแขนงอ่นื ๆ เช฽น วทิ ยุ โทรทัศน์ แลว฾ คอ฽ ยสรปุ ข฾อเท็จจรงิ ของข฽าว 4) หนังสือบันเทิงคดี ได฾แก฽นิทาน นวนิยาย เรื่องส้ัน เนื่องจากเป็นงานเขียนท่ีไม฽ใช฽เร่ืองจริง ดังน้ันในการประเมินคุณค฽าจะพิจารณาในด฾าน โครงเร่ือง ฉาก บรรยากาศ ตัวละคร ความสมจริง แนวคดิ กลวธิ กี ารแต฽ง ฯลฯ 5) กวีนิพนธ์ หรือบทร฾อยกรอง การประเมินคุณค฽าจะพิจารณาจากศิลปะในการใช฾คํา ความหมาย เนอื้ หา และโวหารท่ไี พเราะสละสลวย อยา฽ งไรก็ตาม การอ฽านทุกวิธีการดังกล฽าวมาแล฾วต฾อง อาศัยประสบการณ์ในการอ฽าน อ฽านมาก และอ฽านอย฽างละเอียดลึกซึ้ง นอกจากน้ันต฾องอาศัยพื้นฐานใน การอา฽ น และต฾องอ฽านอยา฽ งมวี ิจารณญาณด฾วย

การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง 135 ความหมายของ “การอา่ นทานองเสนาะ” การอ฽านทาํ นองเสนาะคอื วธิ ีการอ฽านออกเสยี งอยา฽ งไพเราะตามลลี าของบทร฾อยกรองแต฽ละ ประเภทหรอื หมายถึง การอา฽ นตามทาํ นอง (ทํานอง = ระบบเสียงสงู ต่ํา ซ่ึงมจี งั หวะสัน้ ยาว) เพื่อให฾ เกดิ ความเสนาะ (เสนาะ, นา฽ ฟงั , เพราะ, วงั เวงใจ) วัตถุประสงคใ์ นการอ่านทานองเสนาะ การอ฽านทํานองเสนาะเป็นการอ฽านให฾คนอื่นฟัง ฉะนั้นทํานองเสนาะต฾องอ฽านออกเสียง ทําให฾เกิดความรู฾สึก-ทําให฾เห็นความงาม-เห็นความไพเราะ-เห็นภาพพจน์ ผู฾ฟังสัมผัสด฾วยเสียง จึงจะเข฾าถึงรสและความงามของบทร฾อยกรองท่เี รยี กว฽าอา฽ นแล฾วฟังพร้ิงเพราะเสนาะโสต การอ฽าน ทาํ นองเสนาะจงึ ม฽งุ ใหผ฾ ฾ูฟังเขา฾ ถงึ รสและเหน็ ความงามของบทรอ฾ ยกรอง รสท่ใี ช้ในการอ่านทานองเสนาะ รสถ้อย (คาํ พูด) แต฽ละคาํ มีรสในคําของตัวเอง ผ฾อู า฽ นจะตอ฾ งอ฽านใหเ฾ กิดรสถอ฾ ย ตัวอย่าง สักวาหวานอ่นื มีหม่นื แสน ไม฽เหมือนแม฾นพจมานที่หวานหอม กล่นิ ประเทียบเปรียบดวงพวงพะยอม อาจจะน฾อมจิตโน฾มดว฾ ยโลมลม แม฾นลอ฾ ลามหยามหยาบไมป฽ ลาบปลมื้ ดังดูดดืม่ บอระเพด็ ต฾องเขด็ ขม ผูด฾ ไี พร฽ไมป฽ ระกอบชอบอารมณ์ .ใครฟังลมเมนิ หน฾าระอาเอย (พระเจ้าวรวงศเ์ ธอกรมหลวงบดนิ ทร์ไพศาลโสภณ) 5. ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากการอา่ นทานองเสนาะ 1) ช฽วยให฾ผู฾ฟังเข฾าถงึ รสและเหน็ ความงามของบทรอ฾ ยกรองทอี่ า฽ น 2) ช฽วยให฾ผฟู฾ ังไดร฾ บั ความไพเราะและเกิดความซาบซึ้ง (อาการรู฾สึกจบั ใจอย฽างลกึ ซึง้ ) 3) ชว฽ ยให฾เกดิ ความสนกุ สนาน ความเพลิดเพลิน 4) ช฽วยให฾จดจาํ บทรอ฾ ยกรองไดร฾ วดเร็วและแมน฽ ยํา 5) ชว฽ ยกล฽อมเกลาจิตใจให฾เปน็ คนอ฽อนโยนและเยือกเย็น (ประโยชนโ์ ดยอ฾อม) 6) ชว฽ ยสบื ทอดวฒั นธรรม ในการอา฽ นทาํ นองเสนาะไว฾เป็นมรดกต฽อไป

136 ใบงาน บทเรียนออนไลน์ที่ 3 เรื่อง การอ่าน ให฾ผ฾ูเรียนศกึ ษาคลิปวดี ีโอ เรอื่ งการอา฽ น และเรื่องมารยาทในการอา฽ น โดยสแกนควิ อาโค฾ดและ มอบหมายให฾ผ฾ูเรยี นศึกษาใบความรูเ฾ ร่อื งการอ฽าน วิชาภาษาไทย เร่ือง การอา฽ น วชิ าภาษาไทย เรอื่ ง มารยาทในการอ฽าน คําชี้แจง เม่อื ผเ฾ู รียนศึกษาวีดโี อดงั กลา฽ วแลว฾ ตอบคาํ ถามต฽อไปน้ี 1. การอ฽านในใจมจี ุดมง฽ุ หมายอยา฽ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. บอกหลักการอ฽านในใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ให฾ผเ฾ู รียนบอกหลกั การอา฽ นออกเสยี ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ผเู฾ รียนตอ฾ งการเปน็ คนอา฽ นเร็ว ควรเริ่มต฾นฝกึ ฝนอย฽างไรตอบมาเปน็ ข฾อ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ให฾ผเ฾ู รียนตอบคาํ ถามต฽อไปน้ีส่ืออิเล็กทรอนิกส์ชว฽ ยใหเ฾ กิดการเรียนรู฾ตลอดชีวิตได฾แก฽อะไรบา฾ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

137 6. อ฽านอย฽างไรจึงจะเรียกว฽าเป็นการอ฽านวเิ คราะหว์ จิ ารณ์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. ผเู฾ รยี นต฾องการเป็นคนทมี่ ีนิสัยรกั การอ฽านควรจะฝกึ ฝนตนเองอย฽างไร ใหบ฾ อกมาเปน็ ข฾อๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ : ปฏิบัตติ นเปน็ ผ้มู มี ารยาทในการอ่านและมีนสิ ัยรักการอ่าน คาสง่ั : ใหผ฾ ฾เู รียนตอบคาํ ถามตอ฽ ไปน้ี 1. ในการอา฽ นท่ีดี ควรมมี ารยาทอยา฽ งไร ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................... ............................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ........................................................................................................................................... ......... ......................................................................................................................... .......................................... ............................................................................................................................. ................................ 2. ผูเ฾ รยี นตอ฾ งการเปน็ คนท่ีมีนสิ ยั รกั การอา฽ นควรจะฝกึ ฝนตนเองอยา฽ งไร ให฾บอกมาเป็นขอ฾ ๆ ............................................................................................................................. ...................................... ....................................................................................................................................... ............................ ....................................................................................................... ............................................................ ............................................................................................................................. ...................................... .............................................................................................................................................................. ..... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ......................................

138 แบบทดสอบหลังเรยี น บทเรียนออนไลนท์ ี่ 3 เรือ่ ง การอา่ น คาสัง่ ให฾เลือกคําตอบท่ถี ูกตอ฾ งท่สี ุดเพียงคาํ ตอบเดียว 1. การอ฽านจบั ใจความและเข฾าใจเรือ่ งท่ีอา฽ นอย฽างมปี ระสิทธภิ าพขน้ึ อยู฽กับคุณสมบัติสําคัญ ข฾อใด ก. รูศ฾ ัพท์มาก ข. มสี ิทธิในการอ฽าน ค. มคี วามมุ฽งหมายใคร฽ร฾ูเรือ่ ง ง. อา฽ นในใจโดยไมต฽ อ฾ งเคลอื่ นไหวริมฝปี าก 2. เวลานานมาก กล฾วยปลูกง฽ายดแู ลง฽าย ใบใชห฾ ฽อของผลใชก฾ นิ ลําตน฾ ใชเ฾ ลย้ี งสัตว์ ดังนน้ั เรามาปลูกกล฾วยกันดีกวา฽ จะไดม฾ ีกล฾วยกินกันทุกโรงเรยี นใจความสําคัญของขอ฾ ความนี้ ตรงตามขอ฾ ใด ก. กล฾วยเป็นพืชท่ีปลูกง฽าย ข. กลว฾ ยเป็นพชื ท่ีมีประโยชน์มาก ค. กลว฾ ยสามารถกินได฾ทุกโรงเรยี น ง. กลว฾ ยเปน็ พชื ทีใ่ ช฾เลยี้ งสตั วไ์ ด฾ 3. โดยทัว่ ไปประโยคใจความสําคญั จะอย฽สู ฽วนใดของย฽อหนา฾ ก. ต฾นยอ฽ หนา฾ ข. กลางยอ฽ หน฾า ค. ส฽วนทา฾ ยย฽อหนา฾ ง. ตน฾ หรอื ทา฾ ยย฽อหนา฾ 4. ยีราฟเปน็ สตั วป์ ุา มีขายาวจงึ วง่ิ เร็ว มนั มคี อยาวเหมือนเสาไฟฟูาจงึ มองเห็นได฾ไกลๆ ยีราฟกินใบไม฾เป็นอาหาร เรานํายรี าฟจากเมืองอนื่ มาเล้ยี งไว฾ในสวนสตั ว์ เด็กๆชอบ ดูยรี าฟในสวนสตั ว์เพราะมหี น฾าตาตลก ใจความสําคัญของขอ฾ ความนตี้ รงตามข฾อใด ก. ยรี าฟเป็นสัตว์ปาุ ข. ยรี าฟเป็นสัตว์ทีม่ ขี ายาว ค. ยรี าฟเปน็ สัตวท์ ี่มีหน฾าตาตลก ง. ยีราฟเปน็ สตั ว์ทก่ี นิ ใบไม฾เป็นอาหาร

139 5. คนขยนั ชอบทาํ งานและหมัน่ หาความรู฾ เพอื่ จะได฾ทาํ งานด฾วยความฉลาด และรอบคอบ ดังตวั อย฽าง ปาู แชม฽ ปูาแชม฽ เป็นคนขยนั จงึ ตน่ื นอนแตเ฽ ช฾าทาํ ขนมกล฾วย ขนมตาล และ ข฾าวเหนียว สงั ขยา ไปขายทีต่ ลาด ปูาแชม฽ บอกกบั ใครๆเสมอว฽า ถ฾าคนเราขยนั ทาํ งาน มรี ะเบียบ รว฾ู ธิ ีทาํ มาหากนิ ก็จะไมอ฽ ดตายใจความสําคัญของข฾อความนี้ตรงตามข฾อใด ก. ปูาแชม฽ ทําขนมไปขายทีต่ ลาด ข. ปาู แช฽มเปน็ คนขยันจึงตนื่ นอนแตเ฽ ชา฾ ค. คนขยันทํางานดว฾ ยความฉลาดและ รอบคอบ ง. คนเราขยันทาํ งานมรี ะเบียบ รู฾วิธที ํามาหากนิ ก็จะไมอ฽ ดตาย อ่านบทรอ้ ยกรองต่อไปนี้ แล฾วตอบคาํ ถามขอ฾ ที่ 6-10 ยมิ้ ใหก฾ ันวันละนดิ จิตแจม฽ ใส ย้มิ ใหก฾ ันใจสขุ สันตว์ ันละไมล์ ยิ้มให฾กนั วนั ละช่ืนอกตืน้ ตัน ยิ้มทัง้ วันย้มิ กันในศรีธญั ญา 6. ผ฾ูเขยี นข฾อความนเี้ ปน็ คนประเภทใด ก. ชา฽ งฝนั หวาน ข. มอี ารมณ์ชนั ค. ตลกโปกฮา ง. ไม฽เตม็ เตง็ 7. ข฾อความนีจ้ ดั เป็นขอ฾ เขียนชนิดใด ก. กลอนส่ี ข. กลอนหก ค. กลอนแปด ง. กลอนเปลา฽ 8. เมื่ออ฽านบทรอ฾ ยกรองนี้แลว฾ ผ฾ูอ฽านจะมีปฏกิ ิริยาอย฽างไร ก. เฉย ๆ ข. ขมวดคิว้ ค. อมยิ้มนิดๆ ง. หวั เราะกา฿ ก 9. คนประเภทใดท่ีเหมาะสมกบั ขอ฾ ความ ก. คนตกงาน ข. คนทโี่ กรธกัน ค. คนท่ีเป็นคูร฽ กั กัน ง. คนทกี่ ําลังผิดหวงั

140 10. “ย้ิมท้ังวันยมิ้ กนั ในศรีธญั ญา” ควรเปน็ บคุ คลประเภทใด ก. คนบา฾ ข. คนตาบอด ค. คนทีม่ ีความรัก ง. คนที่มคี วามสุข

141 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น บทเรียนออนไลน์ท่ี 3 เรื่อง การอ่าน 1. ก 2. ค 3. ก 4. ข 5. ง 6. ก 7. ค 8. ค 9. ก 10. ก

142 แบบทดสอบกอ่ นเรียน บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 เรื่อง การเขยี น จงทาเครอื่ งหมายกากบาท เลือกขอ้ ท่ีถูกตอ้ งลงในกระดาษคาตอบดา้ นล่าง 1. คําใดสะกดผิด ก. อุทธรณ์ ข. อาถรรพณ์ ค. เพฌชฆาต ง. ลูกนิมิต 2. ขอ฾ ใดสะกดถกู ต฾องทกุ คาํ ก. ตํารวจลอมชอมคก฽ู รณอี ยา฽ งขะมกั เขมน฾ ข. อย฽ามัวทําชมดชะมอ฾ ยฉนั ขยักขย฽อนเต็มที ค. อย฽ามวั ทําชมดชะม฾อยฉนั ขยักขยอ฽ นเตม็ ที ง. ตาสีวิพากษ์วจิ ารณเ์ รื่องท่ชี าวบ฾านโจษจันกนั ทวั่ 3. ข฾อใดมคี ําท่สี ะกดผดิ ก. ชบา ชโย ยโส ข. ชอุ฽ม ชะตา ชโลม ค. คะนึง ทะนุบาํ รุง ฉะนั้น ง. ขะมกุ ขะมอม ขะมกั เขมน฾ ขมกุ ขะมวั 4. ขอ฾ ใดมคี าํ ทสี่ ะกดผิด ก. สะกด สะกัด สะกิด ข. สะด฾ุง สะดดุ สะดึง ค. สะบัก สะบดั สะบัน้ ง. สะอาด สะอกึ สะอ้นื 5. ขอ฾ ใดเขยี นถูกทุกคาํ ก. ต้วั โผ เต฾าห฾ู เก้ยี มไฉ฽ ข. เกียร์ ฟิล์ม ฟตุ บอลล์ ค. อทุ จั อฏั จารส อชั ญาสยั ง. รนื่ รมย์ ประสบการณ์ สถาณการณ์

143 6. ขอ฾ ใดมีคําเขยี นสะกดคาํ ถกู ทั้งหมด ก. ตะไคร฽ สาบาน ไหหลํา ปฏสิ ันฐาน ข. อะไหล฽ บุณฑริก ยมบาล เอิกกะเหริก ค. เปรียญ สรภญั ญะ เวนคนื จนั ทรเกษม ง. สไบ กระษาปณ์ เช๊ิต ผรสุ วาท 7. ขอ฾ ความใดไมไ่ ด้กลา฽ วถึงวิธีการย฽อความ ก. เขียนคํานําตามแบบ ข. คงราชาศพั ท์ไว฾ ค. คงสรรพนามเดมิ ไว฾ ง. ใชส฾ าํ นวนภาษาของผู฾ยอ฽ 8. ขอ฾ ควรทําในการเรียบเรยี งยอ฽ ความคือขอ฾ ใด ก. เรยี งลําดบั เรื่องตามแบบเรือ่ งเดิมเสมอ ข. เรยี งให฾กลบั กันกับเร่อื งเดิม ค. เรยี งลาํ ดบั ตามความพอใจขอผ฾ูยอ฽ ง. เรียงให฾สัมพนั ธ์ตอ฽ เน่ืองกัน 9. ย฽อความควรมกี ่ีย฽อหนา฾ ก. ย฽อหนา฾ เดยี ว ข. เท฽าจาํ นวนยอ฽ หน฾าของเนื้อเรอื่ งเดิม ค. สามย฽อหน฾า คอื คาํ นํา เนือ้ เรือ่ ง สรุป ง. สองย฽อหน฾า คอื ย฽อหนา฾ คํานาํ และย฽อหนา฾ เนื้อความซ่ึงมกั ยอ฽ เหลือเพียงย฽อหน฾าเดยี ว 10. ขอ฾ ใดเปน็ หัวข฾อเรียงความเกยี่ วกบั เรื่องในโลกของจนิ ตนาการที่เก่ยี วกับอนาคต ก. ใต฾รม฽ อนิ ทนลิ ข. เดก็ ขายพวงมาลยั ค. สถานการณ์โรคเอดส์ ง. เก็บหอมรอมรบิ ไว฾เถิด

144 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 เรื่อง การเขียน 1. ข 2. ง 3. ค 4. ข 5. ก 6. ก 7. ข 8. ก 9. ค 10. ง

145 ใบความรู้ บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 เรื่อง การเขียน 1. หลักการเขยี นและการใชภ้ าษาเขียน หลักการเขียน การเขียน คือ การแสดงความร฾ู ความคิด อารมณ์ความร฾ูสึกและความต฾องการของผ฾ูส฽งสาร ออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร เพ่ือให฾ผู฾รับสารอ฽านเข฾าใจ ได฾รับความรู฾ ความคิด อารมณ์ ความรู฾สึกและ ความตอ฾ งการตา฽ ง ๆ การเขียนเพอื่ สอ่ื ความหมาย ให฾ผ฾ูอืน่ เข฾าใจน้นั ควรใช฾ถ฾อยคําที่คนอ฽านอ฽านแล฾วเข฾าใจทันทีเขียน ด฾วยลายมือท่ีชัดเจน อ฽านง฽าย ใช฾ภาษาให฾ถูกต฾องตามหลักการเขียนใช฾คําเหมาะสมกับกาลเทศะและ บคุ คล หลกั การเขยี นทด่ี คี วรปฏิบัตดิ ังนี้ 1. เขียนชัดเจน อ฽านง฽ายเป็นระเบียบ 2. เขียนใหถ฾ ูกตอ฾ ง ตรงตามตวั สะกด การันต์ วรรณยกุ ต์ 3. ใชถ฾ ฾อยคาํ สุภาพ เหมาะสมกบั กาลเทศะ และบุคคล 4. ใช฾ภาษาทีง่ า฽ ย ๆ สนั้ ๆ กะทดั รัด ส่อื ความหมายเขา฾ ใจได฾ดี 5. ใชภ฾ าษาเขยี นท่ีดี ไมค฽ วรใช฾ภาษาพูด 6. ใชเ฾ ครื่องหมายวรรคตอนให฾ถกู ตอ฾ ง 7. ต฾องเขียนใหส฾ ะอาด การใช้ภาษาในการเขยี น 1. เขยี นใหอ฾ ฽านง฽าย เขา฾ ใจง฽าย 2. เขยี นตรงตามตวั สะกด การันต์ วรรณยกุ ต์ให฾ถูกตอ฾ ง 3. เขียนให฾ได฾ใจความชัดเจน 4. ใช฾ภาษางา฽ ย ๆ สนั้ กะทัดรัด 5. ใช฾ภาษาให฾ถกู ต฾องตามแบบแผน ไม฽ควรใช฾คําหรือสาํ นวนมาปะปนกบั ภาษาต฽างประเทศ 6. ใช฾ถอ฾ ยคาํ ทีส่ ุภาพไพเราะเหมาะสม ความสาคัญของการเขียน 1. เป็นการสอ่ื สารทจ่ี ะแจง฾ ให฾ผ฾อู ่นื ไดท฾ ํางานหรอื ปฏบิ ัตติ าม 2. เป็นการเผยแพรค฽ วามรใ฾ู ห฾ผอ฾ู ื่นได฾ทราบ และนาํ ไปใชป฾ ระโยชน์ 3. เปน็ การบันทกึ สาระสาํ คัญเพือ่ เป็นหลักฐานและนําไปใช฾ประโยชน์ 4. เปน็ การเขียนที่สามารถนําไปประกอบอาชพี ได฾ เช฽น การเขียนข฽าว การเขยี นนวนิยาย หรือเขยี นบทละคร เป็นตน฾ 2. หลักการเขียนแผนภาพความคิด แผนภาพความคดิ เปน็ การแสดงความร฾ู ความคิดโดยใช฾แผนภาพในการนําความรห฾ู รอื ข฾อเทจ็ จริงมาจดั เป็นระบบ สรา฾ งเป็นภาพหรือจัดความคดิ รวบยอด นําหัวข฾อเรือ่ งใดเรอื่ งหนง่ึ มาแยกเป็นหัวขอ฾ ยอ฽ ยและนํามาจัดลําดับเปน็ แผนภาพ

146 แนวคดิ เก่ยี วกบั แผนภาพความคดิ 1. ใช฾แผนภาพความคิด เมื่อพบว฽าข฾อมูลข฽าวสารต฽าง ๆ อย฽ูกระจัดกระจายนําข฾อมูลนั้นมา เชอ่ื มโยงเป็นแผนภาพความคดิ ทําให฾เกดิ ความเขา฾ ใจเป็นความคดิ รวบยอด 2. แผนภาพความคิด จะจัดความคิดให฾เป็นระบบรวบรวมและจัดลําดับข฾อเท็จจริง นํามาจัดให฾ เป็นหมวดหมู฽ เปน็ แผนภาพความคิดรวบยอดทีช่ ดั เจนจนเกดิ ความร฾ใู หม฽ 3. นาํ ความคิดหรอื ข฾อเทจ็ จริงมาเขียนเปน็ แผนภาพ จะทาํ ใหจ฾ ําเรอ่ื งราวตา฽ ง ๆ ได฾ง฽ายขน้ึ 4. แผนภาพความคิดจะใช฾ภาษาผังท่ีเป็นสัญลักษณ์และคําพูดมาสร฾างแผนภาพทําให฾เกิด การเรียนรด฾ู ฾วยตนเอง รูปแบบของแผนภาพความคิดมี 4 รูปแบบ คอื 1. รปู แบบการจัดกลุ฽ม รูปแบบนี้จะยึดความคิดเป็นสําคัญ และจัดกล฽ุมตามลําดับความคิดรวบ ยอดย฽อยเป็นแผนภาพ 2. รูปแบบความคิดรวบยอด รูปแบบนี้จะมีความคิดหลักและมีข฾อเท็จจริงที่จัดแบ฽งเป็น ระดับชนั้ มาสนับสนนุ ความคิดหลัก 3. รูปแบบการจัดลําดับ จัดลําดับตามเหตุการณ์ การจัดลําดับตามกาลเวลา การจัดลําดับ การกระทํากอ฽ นหลังหรือการจดั ลาํ ดบั ตามกระบวนการมีการเร่มิ ต฾นและการสนิ้ สดุ 4. รูปแบบวงกลม รูปแบบนี้เป็นชุดเหตุการณ์ภายใต฾กระบวนการไม฽มีจุดเริ่มต฾น และจุดส้ินสุด แตเ฽ ปน็ เหตกุ ารณท์ ่เี ปน็ ลาํ ดับตอ฽ เนือ่ งกัน ดังตัวอย฽าง แผนภาพวงกลม ประโยชน์ของแผนภาพความคดิ 1. ชว฽ ยบรู ณาการความร฾เู ดมิ กับความรใู฾ หม฽ 2. ช฽วยพฒั นาความคดิ รวบยอดให฾ชดั เจนขนึ้ 3. ช฽วยเนน฾ องค์ประกอบลาํ ดบั ของเรอื่ ง 4. ช฽วยพฒั นาการอ฽าน การเขียนและการคิด 5. ชว฽ ยวางแผนในการเขียน และการปรับปรงุ การเขยี น 6. ช฽วยวางแผนการสอนของครู โดยการสอนแบบบรู ณาการเนอ้ื หา 7. ช฽วยในการอภิปราย 8. เปน็ เคร่ืองมือประเมินผล วิธกี ารสรา้ งแผนภาพความคดิ การสร฾างแผนภาพความคิด หรือการออกแบบแผนภาพความคิดเป็นการสร฾างสรรค์อย฽างหน่ึง ผ฾ูสร฾างแผนภาพความคดิ อาจใชง฾ านศลิ ปะเขา฾ มาช฽วย โดยวาดภาพประกอบใหแ฾ ผนภาพความคิดน฽าสนใจ และทําให฾เห็นภาพของแผนภาพชัดเจนขึ้น การสร฾างแผนภาพความคิดจะนํามาใช฾ในการทํางานร฽วมกัน ร฽วมคิดร฽วมทํา ร฽วมกันแลกเปล่ียนความรู฾และประสบการณ์ทําให฾ผู฾เรียนร฾ูจักการวางแผนงาน การ กําหนดงานที่จะตอ฾ งปฏบิ ัติ และเรียนรก฾ู ารทาํ งานรว฽ มกับผ฾อู ่ืน

147 ข้ันตอนการสรา้ งแผนภาพความคดิ มีดงั น้ี 1. กําหนดช่ือเร่ือง หรอื ความคดิ รวบยอดสาํ คัญ 2. ระดมสมองที่เก่ียวข฾องกับช่ือเรื่อง หรือ ความคิดรวบยอดสําคัญเป็นคําหรือวลีนั้น ๆแล฾วจด บันทกึ ไว฾ 3. นําคําหรือวลีท่ีจดบันทึกที่เก่ียวเนื่องสัมพันธ์กันมาจัดกลุ฽ม แล฾วตั้งช่ือกล฽ุมคําเป็นหัวข฾อย฽อย และเรยี งลาํ ดับกลุ฽มคํา 4. ออกแบบแผนภาพความคิด โดยเขยี นชอ่ื เร่ืองไว฾กลางหน฾ากระดาษ แล฾ววางชื่อกลุ฽มคําหัวข฾อ ย฽อย รอบช่ือเรื่อง นําคําท่ีสนับสนุนวางรอบช่ือกลุ฽มคํา แล฾วใช฾เส฾นโยงกลุ฽มคําให฾เห็นความสัมพันธ์ เส฾นโยงอาจเขียนคําอธบิ ายได฾ กลม฽ุ คาํ อาจแสดงด฾วยภาพประกอบ 3. การแต่งร้อยกรอง คําประพนั ธ์ หรือร฾อยกรอง คือ การเรียงถอ฾ ยร฾อยคําตามระเบียบข฾อบังคับตามฉันทลกั ษณ์มี หลายประเภท เชน฽ กาพย์ กลอน โคลง ฉนั ท์ การแตง฽ กลอน คาํ ประพนั ธร์ ฾อยกรองประเภทกลอน มหี ลายแบบเรยี กช่ือตา฽ ง ๆ ตามลักษณะ ฉนั ทลักษณท์ ่แี ตกต฽างกนั นน้ั ๆ เชน฽ กลอนส่ี กลอนหา฾ กลอนหก กลอนแปด กลอน สี่ กลอน ส่ี มี 2 แบบ คือ กลอนสี่ เปน็ คาํ ประเภทกลอนใน 1 บท มี 2 บาท 1 บาท มี 2 วรรค วรรคละ 4 คํา ตามหลักฐานทาง วรรณคดไี ทย กลอน ส่ี ที่เกา฽ ที่สุดพบในมหาชาติคําหลวงกัณฑม์ หาพน (สมยั อยธุ ยา) ตวั อยา่ งกลอนสี่ มี 2 แบบคือ กลอน สี่ แบบ 1 ประกอบด฾วย 2 บาท บาทละ 2 วรรค วรรคละ 4 คํา การสัมผัสของกลอนสี่ จะสมั ผัสแบบกลอนท่ัวไป คือ คําสุดทา฾ ย วรรคหน฾าสัมผัสกบั คําทสี่ องของวรรคหลงั และคําสุดท฾ายวรรค ท่ีสองสัมผัสกับคําสุดท฾ายวรรคท่ีสาม ส฽วนสัมผัสระหว฽างบทก็เช฽นเดียวกัน คือ คําสุดท฾ายวรรคของบท แรก สัมผสั กับคําสุดทา฾ ยของวรรคท่สี องของบทถดั ไป กลอน ส่ี แบบ 2 บทหนึง่ ประกอบด฾วย 4 บาท บาทละ 2 วรรค วรรคละ 4 คํา ตามผังตัวอย฽าง สัมผัสนอกในทุกบาท คําสุดท฾ายของวรรคหน฾า สัมผัสกับคําท่ีสองของวรรคหลัง มีสัมผัสระหว฽างบาทที่ สองกบั สาม คอื คําสุดท฾ายวรรคท่ีสี่สัมผัสกับคําสุดท฾ายวรรคที่หก ส฽วนสัมผัสระหว฽างบทน้ันจะแตกต฽าง จากแบบแรกเน่ืองจากให฾คําสดุ ทา฾ ยของบทแรกสัมผสั กับคําสดุ ท฾ายของวรรคท่สี ่ขี องบทถดั ไป ตวั อย่างกลอนส่ี ดวงจนั ทร์วันเพ็ญ ลอยเด฽นบนฟูา แสงนวลเย็นตา พาใจหฤหรรษ์ ชักชวนเพือ่ นยา มาเลน฽ รว฽ มกัน เดก็ นอ฾ ยสุขสนั ต์ บนั เทงิ เรงิ ใจ กลอนแปด (กลอนสภุ าพ) กลอนแปด เปน็ คาํ ประพันธ์ที่ได฾รับความนิยมกันท่ัวไป เพราะเป็นร฾อยกรองชนิดที่มีความเรียบ งา฽ ยตอ฽ การสอื่ ความหมาย และสามารถสือ่ ได฾อย฽างไพเราะ ซึง่ กลอนแปดมีการกาํ หนดพยางค์และสัมผสั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook