234 อยา่ งไรกต็ าม เครอ่ื งมอื ทางการบรหิ ารเหล่าน้ี สว่ นใหญ่มกั มตี น้ กาเนิดทส่ี หรฐั อเมรกิ า ยโุ รป หรอื ญป่ี นุ่ ซง่ึ มสี ภาพแวดลอ้ มหรอื บรบิ ททแ่ี ตกต่างจากประเทศไทย ดงั นนั้ การพจิ ารณานา เทคนคิ หรอื เครอ่ื งมอื ทางการบรหิ ารเหล่าน้ีมาใช้ จงึ ตอ้ งคานึงถงึ ความเหมาะสม ขอ้ ดี และขอ้ จากดั ของเทคนิคหรอื เครอ่ื งมอื ทางการบรหิ ารแตล่ ะประเภทดว้ ย
235 คาถามท้ายบท 1. ทาไมจงึ ตอ้ งนาเทคนคิ การบรหิ ารสมยั ใหมม่ าใชแ้ ทนการบรหิ ารแบบเดมิ 2. สาระสาคญั ของการบรหิ ารโดยวตั ถุประสงค์ (MBO) หมายถงึ อะไร 3. สาระสาคญั ของการบรหิ ารโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ (Management by information technology) หมายถงึ อะไร 4. สาระสาคญั ของการบรหิ ารโดยใชส้ ญั ญาจา้ ง (Management by contract) หมายถงึ อะไร 5. สาระสาคญั ของการบรหิ ารโดยการเทยี บเคยี งสมรรถนะ (Benchmarking) หมายถงึ อะไร 6. สาระสาคญั ของการบรหิ ารโดยการบรหิ ารภาครฐั แนวใหม่ (New Public Administration) หมายถงึ อะไร 7. สาระสาคญั ของการบรหิ ารโดยยดึ หลกั ธรรมาภบิ าล (Good governance) หมายถงึ อะไร 8. สาระสาคญั ของการบรหิ ารตามหลกั การของทฤษฎี Z (Theory Z) หมายถงึ อะไร 9. สาระสาคญั ของการปรบั รอ้ื ระบบ (Reengineering) หมายถงึ อะไร 10. สาระสาคญั ของการจดั การลกู คา้ สมั พนั ธ์ (CRM) หมายถงึ อะไร
236 เอกสารอ้างอิง ณฏั ฐพนั ธ์ เขจรนนั ทน์. (2552). การจดั การเชิงกลยทุ ธ์ (Strategic management). กรงุ เทพฯ: ซเี อด็ ยเู คชนั่ . ดวงรตั น์ เรอื งอไุ ร. (2557). แนวคิดของโจเซฟ เอม็ จแู รน (Joseph M. Juran) อารม์ นั วี เฟเกนบาม (Armand V. Feigenbaum) และ ฟิ ลิป คอรสบี (Philip B. Crosby) [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http://www.gotoknow.org/posts/454819.ดวงรตั น์ เรอื งอุไร. (2557). สาระสนเทศเพื่อการจดั การ (Management information system- MIS) [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http://www.gotoknow.org/posts/454819.ถวลิ วลี บุรกี ุลและ คณะ. (2545). โครงการศึกษาเพ่ือพฒั นาดชั นีวดั ผลการพฒั นาระบบ การบริหารจดั การที่ดี. นนทบุร:ี สถาบนั พระปกเกลา้ . ทพิ วรรณ หลอ่ สุวรรณรตั น์. (2550). เครือ่ งมอื การจดั การ (Management tools).กรงุ เทพฯ: สถาบนั บณั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร.์ วราพงศ์ ยอดชาร.ี (2552). การปรบั รอื้ ระบบ [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http://www.gotoknow.org/ posts/318161. วนั ชยั มชี าต.ิ (2555). การบริหารองคก์ าร. กรงุ เทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . สงบ คงไพศาล.(2006). การรอื้ ปรบั ระบบ (Reengineering) [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http:// sakong.wordpress.com. Bittel, L. R. (1989). The McGraw-Hill 36-hour management course. NY: McGraw- Hill. Burtonshaw-Gunn, A. Simon. (2008). The essential management toolbox: Tools, model and notes for managements and consultants. CA: John Wiley & Sons. Getha-Taylor, H. (2009). Where's (dwight) waldo? Public Performance & Management Review, 4(32). doi:10.2753/PRM1530-9576320406. Kaiser Associates.com. (1988). Beating the competition: A practical guide to benchmarking. Washington, DC: ISBN 978-1-56365-018-5. Luthans, F. (1989). Organizational behavior. NY: McGraw-Hill. Odiorne, G. S. (1965). Management by objectives: A system of managerial leadership. NY: Pitman Pub. Sheldrake, J. (2002). Management theory. NY: Cengage Learning Emea.
แผนบริหารการสอนประจาบทท่ี 10 การประยกุ ตเ์ กณฑค์ ณุ ภาพกบั การบริหารภาครฐั หวั ข้อเนื้อหา 1. ระบบมาตรฐานสากลของประเทศไทย P.S.O. 2. เกณฑค์ ณุ ภาพแหง่ ชาติ TQA 3. เกณฑค์ ุณภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั PMQA 4. เกณฑค์ ณุ ภาพดา้ นการบรหิ ารจดั การทด่ี สี าหรบั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ 5. รางวลั ประปกเกลา้ ทองคา 6. รางวลั คุณภาพการใหบ้ รกิ ารประชาชน 7. รางวลั องคก์ ารบรหิ ารส่วนทอ้ งถนิ่ ดา้ นการป้องกนั การทุจรติ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ ความสามารถ ดงั น้ี 1. อธบิ ายถงึ หลกั การของระบบมาตรฐานสากลของประเทศไทย P.S.O. ได้ 2. อธบิ ายถงึ หลกั การของเกณฑค์ ณุ ภาพแหง่ ชาติ TQA ได้ 3. อธบิ ายถงึ หลกั การของเกณฑค์ ณุ ภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั PMQA ได้ 4. อธบิ ายถงึ หลกั การของเกณฑค์ ณุ ภาพดา้ นการบรหิ ารจดั การทด่ี สี าหรบั องคก์ รปกครอง สว่ นทอ้ งถนิ่ ได้ 5. อธบิ ายถงึ หลกั การของรางวลั ประปกเกลา้ ทองคาได้ 6. อธบิ ายถงึ หลกั การของรางวลั คุณภาพการใหบ้ รกิ ารประชาชนได้ 7. อธบิ ายถงึ หลกั การของรางวลั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นทอ้ งถน่ิ ดา้ นการป้องกนั การทุจรติ ได้ วิธีการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน 1. บรรยายประกอบการใชโ้ ปรแกรมนาเสนอพาวเวอรพ์ ๊อย (PowerPoint) 2. ผเู้ รยี นตอบคาถามทา้ ยบท 3. ผเู้ รยี นและผสู้ อนชว่ ยกนั สรุปเน้อื หาในบทท่ี 10
238 สื่อการเรียนการสอน 1. เอกสารคาสอนรายวชิ าเทคนิคการบรหิ าร บทท่ี 10 2. คอมพวิ เตอรแ์ ละโปรแกรมพาวเวอรพ์ ๊อย (Power Point) 3. ใบคาถาม การวดั ผลและประเมินผล 1. สงั เกตจากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 2. พจิ ารณาจากการตอบคาถามในหอ้ งเรยี น 3. การตอบคาถามทา้ ยบท 4. การทดสอบกลางภาคและปลายภาค
บทที่ 10 การประยกุ ตเ์ กณฑค์ ณุ ภาพกบั การบริหารภาครฐั สบื เน่อื งจากยทุ ธศาสตรด์ า้ นการพฒั นาระบบราชการของประเทศไทย ปีพ.ศ. 2546–2550) ไดก้ าหนดใหห้ น่วยงานราชการของประเทศไทย ไดท้ าการพฒั นาระบบในการดาเนนิ งาน ใหม้ ขี ดี ความสามารถเพม่ิ ขน้ึ เทยี บเท่ามาตรฐานในระดบั สากล โดยยดึ หลกั การบรหิ ารจดั การบา้ นเมอื งทด่ี ี เป็นแนวทางพน้ื ฐาน ซง่ึ มเี ป้าหมายเพอ่ื ประโยชน์สุขของประชาชน เกดิ ผลสมั ฤทธติ ์ ่อภารกจิ ของรฐั มปี ระสทิ ธภิ าพและเกดิ ความคุม้ ค่า ลดขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ม่จาเป็นลง ประชาชนไดร้ บั การ อานวยความสะดวกมากขน้ึ และไดร้ บั การตอบสนองความตอ้ งการมากขน้ึ ดว้ ย ทงั้ น้ี ตอ้ งมกี าร ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านอยา่ งสม่าเสมอ ดงั นนั้ สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ หรอื ก.พ.ร. ซง่ึ เป็นหน่วยงานทม่ี ี พนั ธกจิ หลกั ในการพฒั นาบุคลากรในภาครฐั และพฒั นาระบบราชการใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ จงึ ไดน้ าเอาแนวคดิ และหลกั การของรางวลั คณุ ภาพแห่งชาตขิ องสหรฐั อเมรกิ า (Malcolm Baldrige National Quality Award – MBNQA) มาประยกุ ตใ์ ช้ เพ่อื ใหม้ วี ธิ กี ารในการดาเนินการ การ ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน ตามมาตรฐานทเ่ี ป็นสากลและยอมรบั กนั ทวั่ ไป และไดก้ าหนดรางวลั ขน้ึ ใหมช่ อ่ื คณุ ภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั (Public Sector Management Quality Award - PMQA) เพ่อื เป็นกรอบในการบรหิ ารจดั การองคก์ าร สานกั งาน ซง่ึ ก.พ.ร. ไดท้ าการสง่ เสรมิ และสนบั สนุน ให้ สว่ นราชการนาไปใชใ้ นการประเมนิ องคก์ ารดว้ ยตนเอง ทค่ี รอบคลุมภาพรวมในทุกมติ ิ เพ่อื ยกระดบั คุณภาพ การบรหิ ารจดั การใหเ้ ทยี บเทา่ มาตรฐานสากล ระบบมาตรฐานสากลของประเทศไทย P.S.O. ประวตั ิความเป็ นมาของ P.S.O. ระบบมาตรฐานสากลของประเทศไทย ดา้ นการจดั การและสมั ฤทธผิ ์ ลของงานภาครฐั ภาษาองั กฤษใชค้ าวา่ Thailand International Public Sector Standard Management System and Outcomes ( P.S.O.) เป็นการปรบั ปรงุ ระบบทางานในภาครฐั ใหม้ คี ณุ ภาพตามมาตรฐาน โดยการ กาหนดดชั นีชว้ี ดั หรอื การนาหลกั เกณฑข์ องมาตรฐานต่างๆมาบงั คบั ใช้ เพอ่ื ใหบ้ รรลุผลสมั ฤทธขิ ์ อง การปฏบิ ตั งิ าน ซง่ึ แนวคดิ ในการบรหิ ารส่คู วามเป็นเลศิ ในระดบั สากลน้ี ไดเ้ รม่ิ ตน้ ขน้ึ ชว่ งหลงั สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 ประเทศญป่ี นุ่ ซง่ึ เป็นทแ่ี พส้ งคราม เศรษฐกจิ ของญป่ี ุน่ ตกต่าอย่างมาก สนิ คา้ ท่ี ผลติ กไ็ มม่ คี ุณภาพ ญป่ี นุ่ ไม่สามารถคา้ ขายกบั ต่างประเทศได้ สหรฐั อเมรกิ าจงึ ไดใ้ หค้ วามช่วยเหลอื โดยการส่งนกั วชิ าการและนักบรหิ ารชอ่ื เอด็ วารด์ เดมมงิ่ (Edward Deming) มาช่วยแนะนาระบบ การบรหิ ารคุณภาพ เพอ่ื ทาใหญ้ ป่ี ุน่ สามารถแขง่ ขนั กบั ประเทศอ่นื ๆได้ ซง่ึ ผลจากการนาระบบ
240 บรหิ ารมาใชไ้ ดท้ าใหญ้ ป่ี ุน่ ไดก้ าหนดรางวลั คุณภาพเรยี กวา่ Deming Prize ทาใหป้ ระเทศญป่ี ุน่ ประสบความสาเรจ็ อยา่ งมาก หลงั จากนนั้ ประเทศต่างๆจงึ ไดต้ ่นื ตวั ทจ่ี ะกาหนดรางวลั คุณภาพตาม แบบญป่ี นุ่ โดยในปี ค.ศ. 1964 ประเทศแคนาดาไดพ้ ฒั นารางวลั Canada Award ขน้ึ ในปี ค.ศ. 1987 ประเทศสหรฐั อเมรกิ ากไ็ ดพ้ ฒั นารางวลั Malcolm Baldrige National Quality Award (MBNQA) ขน้ึ รวมถงึ ประเทศอ่นื ๆ เชน่ ประเทศออสเตรเลยี สงิ คโปร์ และกลุ่มสหภาพยโุ รป โดย ในระยะเรม่ิ แรกจะจากดั อยเู่ ฉพาะกจิ การของเอกชน ต่อมาจงึ ไดข้ ยายสหู่ น่วยงานของรฐั ส่วนประเทศไทยไดเ้ รม่ิ นาแนวคดิ การบรหิ ารตามมาตรฐานสากลมาใช้ โดยวนั ท่ี 14 กนั ยายน พ.ศ. 2541 คณะรฐั มนตรขี องไทย ไดม้ มี ตใิ หท้ กุ ภาคส่วนงานของรฐั บาล จดั ทาและพฒั นา ระบบมาตรฐานระบบมาตรฐานสากลของประเทศไทย ดา้ นการจดั การและสมั ฤทธผิ ์ ลของงาน ภาครฐั (P.S.O) ขน้ึ โดยมอบหมายใหส้ านกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น (ก.พ.) เป็น ผรู้ บั ผดิ ชอบ ต่อจากนนั้ สานกั งาน ก.พ. ไดร้ ว่ มกบั คณะกรรมการว่าดว้ ยการปฏบิ ตั ริ าชการเพ่อื ประชาชนของหน่วยงานภาครฐั ไดเ้ สนอใหม้ กี ารจดั ทาระบบมาตรฐานมาตรฐานสากลของประเทศ ไทยดา้ นการจดั การและสมั ฤทธผิ ์ ลของงานภาครฐั (P.S.O) เมอ่ื วนั ท่ี 27 ตุลาคม พ.ศ. 2541 ทงั้ น้ี แนวทางและวธิ กี ารพฒั นาระบบ P.S.O. ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บสานกั นายกรฐั มนตรี วา่ ดว้ ยการ รบั รองมาตรฐานดา้ นการจดั การและสมั ฤทธผิ ์ ลของงานภาครฐั พ.ศ. 2543 โดยสานกั งาน งบประมาณเป็นหน่วยงานทใ่ี หก้ ารสนบั สนุนดา้ นงบประมาณใหแ้ ก่ส่วนราชการต่างๆ (สถาบนั มาตรฐานสากลภาครฐั แหง่ ประเทศไทย, 2549) การพฒั นาระบบมาตรฐาน P.S.O ขน้ึ มาเป็นแนวทางในการปฏบิ ตั งิ านในภาครฐั ของไทย นบั เป็นนวตั กรรมใหมด่ า้ นการบรหิ ารภาครฐั ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพตามมาตรฐานในระดบั สากล ก่อใหเ้ กดิ ประสทิ ธผิ ลแก่ประชาชนผรู้ บั บรกิ าร ประเทศชาติ และสงั คมโดยรวม ทงั้ น้ี โดยมี วตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายของการพฒั นาระบบมาตรฐาน P.S.O ดงั น้ี วตั ถุประสงคแ์ ละเป้ าหมายการพฒั นาระบบมาตรฐาน P.S.O วตั ถุประสงคห์ ลกั ของการพฒั นา เพ่อื ใหห้ น่วยงานของรฐั มรี ะบบการบรหิ ารโดยเน้นท่ี ผลลพั ธข์ องงานใหเ้ กดิ ผลสมั ฤทธดิ ์ า้ นต่างๆ ดงั น้ี (สถาบนั มาตรฐานสากลภาครฐั แหง่ ประเทศไทย, 2549) 1. ดา้ นความเสมอภาคในการใหบ้ รกิ ารของรฐั 2. ดา้ นความเป็นธรรมในการใหบ้ รกิ ารของรฐั 3. ดา้ นความปลอดภยั ในชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ของประชาชน 4. ดา้ นสทิ ธแิ ละเสรภี าพของประชาชน 5. ดา้ นการทวั่ ถงึ ในการใหบ้ รกิ าร 6. ดา้ นความพงึ พอใจของประชาชน
241 7. ดา้ นประสทิ ธภิ าพของหน่วยงานของรฐั 8. ดา้ นความประหยดั ทงั้ หน่วยงานผใู้ หบ้ รกิ ารและประชาชนผรู้ บั บรกิ าร 9. ดา้ นคุณภาพและความถูกต้องในการบรกิ ารรวมทงั้ เอกสารทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 10. ดา้ นการรกั ษาผลประโยชน์สาธารณะ มาตรฐานดา้ นผลสมั ฤทธ์ิของการปฏิบตั ิงาน มาตรฐานดา้ นผลสมั ฤทธขิ ์ องงานนนั้ กาหนดการวดั ผลสมั ฤทธอิ ์ อกเป็น 2 ดา้ น คอื 1) มาตรฐานดา้ นระบบการบรหิ ารจดั การ 2) มาตรฐานดา้ นการปฏบิ ตั งิ าน ซง่ึ ในแต่ละดา้ นมาตรฐาน ไดก้ าหนดองคป์ ระกอบไวห้ ลายองคป์ ระกอบ ดงั น้ี (สถาบนั มาตรฐานสากลภาครฐั แหง่ ประเทศไทย, 2549) 1. มาตรฐานด้านการบริหารจดั การ (Standard of Management System) 1.1 ระบบขอ้ มลู (Information System) พจิ ารณาจาก ความครอบคลุมทวั่ ถงึ ความ ทนั สมยั รวดเรว็ ถกู ตอ้ ง ความน่าเชอ่ื ถอื การเขา้ ถงึ และความสามารถในตรวจสอบได้ 1.2 ระบบการสอ่ื สาร (Communication System) พจิ ารณาดา้ นการสอ่ื สารภายใน องคก์ าร ระหวา่ งหน่วยงาน ระหวา่ งองคก์ ารกบั ประชาชน ความละเอยี ดถกู ตอ้ งของเน้ือหา การ นาเสนอ ระบบเครอื ขา่ ยการส่อื สาร การพฒั นาสอ่ื เพอ่ื ใชใ้ นการส่อื สาร วสั ดุอุปกรณ์ บคุ ลากรท่ี รบั ผดิ ชอบดา้ นการสอ่ื สาร และแผนงานเกย่ี วกบั การสอ่ื สาร 1.3 ระบบการตดั สนิ ใจ (Decision Making System) พจิ ารณาจากการกระอานาจใน การตดั สนิ ใจ การตดั สนิ ใจทท่ี นั ต่อเหตุการณ์ มคี วามเป็นประชาธปิ ไตย การใหก้ ารยอมรบั ในการ ตดั สนิ ใจของเพ่อื นรว่ มงานและจากประชาชน ความขดั แยง้ และความสญู เสยี ลดลง และก่อใหเ้ กดิ สมั ฤทธผิ ์ ล 1.4 ระบบการพฒั นาบคุ ลากร (Personal Development System : HRM) ไดแ้ ก่ กจิ กรรมทท่ี าใหเ้ กดิ การบุคลากรขององคก์ ารไดร้ บั การพฒั นาใหม้ สี มรรถนะ มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม มี ประสทิ ธภิ าพประสทิ ธผิ ล มที ศั นคตแิ ละจติ สานึกในการใหบ้ รกิ ารมากขน้ึ เชน่ การนิเทศงาน การ ประเมนิ การสมั ฤทธผิ ์ ลและพฤตกิ รรม เป็นตน้ 1.5 ระบบการตรวจสอบและถ่วงดลุ อานาจ (Balance and Checking System) เป็น การตรวจสอบเกย่ี วกบั แผนงาน ผลงาน การตรวจสอบภายใน การมอบอานาจการตรวจสอบ การมี ส่วนรว่ มในการตรวจสอบ ผทู้ าหน้าทใ่ี นการตรวจสอบ การพฒั นาองคก์ ารดา้ นการตรวจสอบ ระบบ ขอ้ มลู ทท่ี าการตรวจสอบ วชิ าชพี ของผตู้ รวจสอบ และสมรรถนะของหน่วยงานทท่ี าการตรวจสอบ 1.6 ระบบการมสี ่วนรว่ ม (Participation System) ไดแ้ ก่หน่วยงานทเ่ี ขา้ รว่ มในการทา กจิ กรรมต่างๆ ระดบั ของการมสี ่วนรว่ ม ลกั ษณะของการมสี ่วนรว่ ม กจิ กรรมการมสี ว่ นรว่ ม สภาพแวดลอ้ มทเ่ี ออ้ื อานวย และความคาดหวงั ผมู้ สี ว่ นได้-เสยี
242 1.7 ระบบการใหบ้ รกิ ารประชาชน (Service System) เป็นการพจิ ารณาถงึ ประสทิ ธภิ าพ คุณภาพ ความทวั่ ถงึ ความเป็นธรรม การตอบสนองความตอ้ งการ ความพงึ พอใจ ความต่อเน่อื ง ความสะดวกสบาย และความพรอ้ มในการใหบ้ รกิ าร 1.8 ระบบการประเมนิ ผล (Evaluation System) เป็นการพจิ ารณาดา้ นประสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล ความกา้ วหน้า ความสอดคลอ้ ง ความมนั่ คงยงั่ ยนื ผลกระทบ ความสมั ฤทธผิ ์ ล ความ ประหยดั และความพงึ พอใจ 1.9 ระบบประเมนิ ความเสย่ี ง (Risk Assessment System) ไดแ้ ก่ การขา่ ว การวจิ ยั และพฒั นา การประชาสมั พนั ธเ์ ชงิ รกุ การมเี ทคโนโลยี มรี ะบบสญั ญาณเตอื นภยั ขอ้ มลู ประกอบการ ตดั สนิ ใจ มาตรการดา้ นกฎหมาย และการพฒั นาทมี งาน 1.10 ระบบวฒั นธรรมและจรรยาบรรณ (Culture and Ethics system) ไดแ้ ก่ วฒั นธรรมในการบรหิ าร การสนองตอบต่อความตอ้ งการ ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม มาตรฐานใน การปฏบิ ตั งิ าน ความเป็นวชิ าชพี การตดิ ตามควบคุม และการพฒั นาวชิ าชพี 2. มาตรฐานการสมั ฤทธ์ิผลของการปฏิบตั ิงาน (Standard Achievement Outcome) 2.1 ผลผลติ (Output) 2.2 ผลลพั ธ์ (Outcomes) 2.3 ผลลพั ธส์ ุดทา้ ย (Ultimate Outcomes) 2.4 ระบบป้องกนั ผลกระทบทจ่ี ะตามมา (Prevention System of Ultimate Consequences) ประโยชนข์ องระบบมาตรฐาน P.S.O. การนาระบบมาตรฐาน P.S.O. มาใชท้ าใหเ้ กดิ ประโยชน์ทงั้ ต่อเจา้ หน้าทร่ี าชการ และต่อ ประชาชนผรู้ บั บรกิ าร ดงั น้ี (สถาบนั มาตรฐานสากลภาครฐั แหง่ ประเทศไทย, 2549) 1. ประโยชน์ทเ่ี จา้ หน้าทร่ี าชการจะไดร้ บั จากการทา P.S.O. มดี งั น้ี 1.1 ไดร้ บั ความเลอ่ื มใสศรทั ธาจากประชาชน 1.2 เกดิ ความภาคภมู ใิ จในศกั ดศิ ์ รขี องความเป็นขา้ ราชการ 1.3 เกดิ การทางานเป็นทมี 1.4 เกดิ ความเขา้ ใจงานอ่นื ๆในองคก์ รมากขน้ึ 1.5 ลดภาระงาน 1.6 เกดิ การยอมรบั ในคาวพิ ากษว์ จิ ารณ์ได้ 1.7 เกดิ การพฒั นาศกั ยภาพของตน 1.8 เกดิ ความกระตอื รอื รน้ ในการเพมิ่ พนู ความรู้
243 1.9 ใกลช้ ดิ กบั เพ่อื นรว่ มงาน ผบู้ งั คบั บญั ชา และประชาชนมากขน้ึ 2. ประโยชน์ทป่ี ระชาชนจะไดร้ บั จากการนา P.S.O. มาใชม้ ดี งั น้ี 2.1 ไดร้ บั ความเสมอภาคในการบรกิ าร 2.2 ไดร้ บั ความเป็นธรรมในการบรกิ าร 2.3 เกดิ ความปลอดภยั ในชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ของประชาชน 2.4 ความทวั่ ถงึ ของการบรกิ ารสาธารณะ 2.5 ประชาชนเกดิ ความพงึ พอใจ 2.6 เกดิ ความเขา้ ใจทงั้ ภาครฐั และประชาชนผรู้ บั บรกิ าร 2.7 คุณภาพและความถูกตอ้ งของการบรกิ ารและเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 2.8 เกดิ การรกั ษาผลประโยชน์ของสาธารณะ 2.9 คุณภาพชวี ติ ของประชาชนดขี น้ึ ผลการดาเนนิ งานระบบมาตรฐาน P.S.O ผลการดาเนนิ งานหลงั จากทไ่ี ดน้ าระบบมาตรฐาน P.S.O. มาใช้ ไดม้ หี น่วยงานภาครฐั หลายหน่วยงานมคี วามสนใจสมคั รเขา้ รบั การประเมนิ และสามารถผ่านเกณฑห์ ลายหน่วยงาน เช่น สานกั งาน ก.พ. สานกั งานสลากกนิ แบ่งรฐั บาล สานกั งานเศรษฐกจิ การคลงั โรงพยาบาลหลายแห่ง สานกั งานจงั หวดั สานกั งานทด่ี นิ ทท่ี าการปกครองอาเภอ และสานกั งานอ่นื ๆเป็นจานวนมาก เกณฑค์ ณุ ภาพแห่งชาติ TQA ประวตั ิความเป็ นมาของ TQA สานกั งานรางวลั คณุ ภาพแห่งชาติ สงั กดั สถาบนั เพมิ่ ผลผลติ แห่งชาติ ยงั ไดท้ าการพฒั นา รางวลั ดา้ นคณุ ภาพ ชอ่ื รางวลั คุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award - TQA) ขน้ึ โดยเรม่ิ ตน้ ตงั้ แต่ไดม้ กี ารลงนามในบนั ทกึ ความเขา้ ใจระหวา่ งสถาบนั เพม่ิ ผลผลติ แห่งชาติ และสานกั งาน พฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ เมอ่ื วนั ท่ี 5 กนั ยายน 2539 เพ่อื ศกึ ษาแนวทางการ จดั ตงั้ รางวลั คณุ ภาพแหง่ ชาตขิ น้ึ ในประเทศไทย และดว้ ยการตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของรางวลั น้ี สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ จงึ ไดบ้ รรจรุ างวลั คุณภาพแหง่ ชาติ ไวใ้ นแผนยทุ ธศาสตรก์ ารเพมิ่ ผลผลติ ของประเทศไทย ซง่ึ เป็นสว่ นหน่งึ ของแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาตฉิ บบั ท่ี 9 โดยมสี ถาบนั เพม่ิ ผลผลติ แหง่ ชาตเิ ป็นหน่วยงานหลกั ในการประสาน ความรว่ มมอื กบั หน่วยงานต่างๆ ทงั้ ภาครฐั และเอกชน เพ่อื เผยแพร่สนบั สนุน และผลกั ดนั ใหอ้ งคก์ ร ต่างๆ ทงั้ ภาคการผลติ และการบรกิ าร ไดน้ าเกณฑร์ างวลั คณุ ภาพแหง่ ชาตไิ ปพฒั นาขดี ความสามารถดา้ นการบรหิ ารจดั การองคก์ ร ทม่ี วี ธิ ปี ฏบิ ตั แิ ละผลการดาเนินการในระดบั มาตรฐาน โลก ใหไ้ ดร้ บั รบั การประกาศเกยี รตคิ ุณดว้ ยรางวลั คณุ ภาพแหง่ ชาติ และองคก์ รทไ่ี ดร้ บั รางวลั จะ
244 นาเสนอวธิ ปี ฏบิ ตั ิ ทน่ี าองคก์ รของตนไปส่คู วามสาเรจ็ เพอ่ื เป็นแบบอยา่ งใหอ้ งคก์ รอ่นื ๆนาไป ประยกุ ต์ เพ่อื ใหป้ ระสบผลสาเรจ็ เชน่ เดยี วกนั ซง่ึ เมอ่ื มกี ารขยายการดาเนินงานไปอยา่ งกวา้ งขวาง ยอ่ มจะสง่ ผลต่อการพฒั นาขดี ความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ ใหส้ ามารถแขง่ ขนั ในตลาด การคา้ โลกได้ วตั ถุประสงคข์ องการนารางวลั คุณภาพแห่งชาติ (TQA) มาใช้ สาหรบั วตั ถุประสงค์ ในการพฒั นาและนาเกณฑร์ างวลั คุณภาพแห่งชาติ TQA มาใช้ มดี งั น้ี (สานกั งานรางวลั คุณภาพแหง่ ชาตสิ ถาบนั เพม่ิ ผลผลติ แห่งชาต,ิ 2539) 1. เพ่อื สนบั สนุนการนาแนวทางของรางวลั คุณภาพแหง่ ชาตมิ าใชใ้ นการปรบั ปรงุ ความสามารถในการแขง่ ขนั 2. เพ่อื เป็นการยกยอ่ งประกาศเกยี รตคิ ณุ ใหแ้ ก่องคก์ รทป่ี ระสบผลสาเรจ็ ในระดบั มาตรฐานสากล 3. เพ่อื กระตุน้ ใหเ้ กดิ การเรยี นรแู้ ละแลกเปลย่ี นวธิ ปี ฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นเลศิ 4. เพ่อื แสดงใหน้ านาชาตเิ หน็ ถงึ ความมุ่งมนั่ ในการยกระดบั มาตรฐานความเป็นเลศิ ใน การบรหิ ารจดั การ หลกั เกณฑร์ างวลั คุณภาพแห่งชาติ (TQA) สานกั งานรางวลั คุณภาพแห่งชาติ สถาบนั เพม่ิ ผลผลติ แหง่ ชาติ ไดท้ าการกาหนดเกณฑร์ างวลั ครอบคลุม 7 หมวด ดงั น้ี (สานกั งานรางวลั คุณภาพแห่งชาตสิ ถาบนั เพมิ่ ผลผลติ แห่งชาต,ิ 2539) 1. การนาองคก์ าร เป็นการประเมนิ พฤตกิ รรมในการบรหิ ารของผบู้ รหิ ารระดบั สงู ขององคก์ าร ว่าได้มี การคานงึ ถงึ ทศั นคติ ค่านิยมของสมาชกิ ในองคก์ ารหรอื ไม่ ไดท้ าการกาหนดทศิ ทางขององคก์ าร อยา่ งไร และผลจากการดาเนินงานเป็นอยา่ งไร ตลอดจนไดใ้ หก้ ารสนับสนุนการสรา้ งนวตั กรรม การเรยี นรใู้ นองคก์ าร การมงุ่ เน้นการบรหิ ารจดั การเพอ่ื ให้ลกู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารไดป้ ระโยชน์ รวมถงึ การบรหิ ารตามหลกั ธรรมาภบิ าล และการรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 2. การวางแผนเชิงกลยทุ ธ์ เป็นการประเมนิ ถงึ ขนั้ ตอนของการวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์ เช่น การกาหนดวตั ถุประสงค์ การระบุรายละเอยี ดกจิ กรรมทก่ี าหนดไวใ้ นแผน การปฏบิ ตั ติ ามแผนและการวดั และประเมนิ ผลจาก การปฏบิ ตั ติ ามแผนนนั้ 3. การม่งุ เน้นท่ีลูกค้าหรอื ตลาด เป็นการประเมนิ ว่า องคก์ ารมวี ธิ กี ารในการคน้ หาความตอ้ งการของลกู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารอยา่ งไร ลกู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารมคี วามคาดหวงั ต่อองคก์ ารอยา่ งไร และองคก์ ารไดท้ าการ ตอบสนองความตอ้ งการแก่ลกู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารอย่างไร รวมถงึ การดาเนนิ งานขององคก์ ารดา้ น
245 การสรา้ งความสมั พนั ธก์ บั ลูกคา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ าร การสรา้ งความพงึ พอใจ การสรา้ งความภกั ดี การ รกั ษาฐานลกู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ าร ตลอดจนการนาไปสคู่ วามเจรญิ ก้าวหน้าขององคก์ ารอยา่ งไร 4. การวดั การวิเคราะหแ์ ละการจดั การความรู้ เป็นการตรวจประเมนิ วา่ องคก์ ารมวี ธิ กี ารเลอื กขอ้ มลู สารสนเทศ การรวบรวม การ วเิ คราะห์ การบรหิ ารจดั การ รวมถงึ การปรบั ปรุงขอ้ มลู สารสนเทศ และการบรหิ ารจดั การทรพั ยส์ นิ ทางความรตู้ ่างๆ อยา่ งไร 5. การมงุ่ เน้นทรพั ยากรบคุ คล เป็นการตรวจประเมนิ ดา้ นการพฒั นาศกั ยภาพของบุคลากร โดยพจิ ารณาจากระบบ การสนบั สนุนการเรยี นรู้ การสรา้ งแรงจงู ใจ การสรา้ งสภาพแวดลอ้ มและบรรยากาศทเ่ี กอ้ื หนุนต่อ การทางานของบคุ ลากร การกาหนดวตั ถุประสงคแ์ ละวธิ ใี นการปฏบิ ตั ิ เพอ่ื ท่จี ะนาไปสคู่ วามสาเรจ็ ขององคก์ ารในอนาคต 6. การจดั การกระบวนการ เป็นการตรวจประเมนิ กระบวนการในการบรหิ ารจดั การดา้ นต่างๆ เชน่ กระบวนการ ในการผลติ กระบวนการในการใหบ้ รกิ าร รวมถงึ กระบวนการในการสนับสนุนการดาเนินงานในดา้ น อ่นื ๆ 7. ผลลพั ธ์ เป็นการตรวจประเมนิ ผลลพั ธข์ องการดาเนนิ งานในดา้ นต่างๆ เช่น ความพงึ พอใจ ของลกู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ าร ผลการดาเนนิ งานดา้ นผลติ ภณั ฑแ์ ละการใหบ้ รกิ าร ผลการดาเนนิ งาน ดา้ นการเงนิ การตลาด การบรหิ ารทรพั ยากรมนุษย์ การปฏบิ ตั งิ าน ตลอดจนดา้ นธรรมาภบิ าลและ ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม นอกจากน้ี ยงั ประเมนิ ครอบคลุมถงึ การนาผลการประเมนิ ไปใชใ้ นการ แกไ้ ขปรบั ปรงุ อกี ดว้ ย ซง่ึ เกณฑแ์ ต่ละดา้ นทก่ี าหนดไวใ้ นรางวลั คณุ ภาพแห่งชาติ (TQA) นนั้ จะมคี วามสมั พนั ธ์ และเชอ่ื มโยงกนั ดงั น้ี
246 โครงสร้างองคก์ าร: สภาพแวดลอ้ ม ความสมั พนั ธ์ และความทา้ ทาย 2.การวางแผน 5.การม่งุ เนน้ เชิงกลยทุ ธ์ ทรัพยากรบุคคล 1.การนาองคก์ ร 7. ผลลพั ธ์ทางธุรกิจ 3.การม่งุ เนน้ 6.การจดั การ ลกู คา้ /ตลาด กระบวนการ 4. การวดั การวเิ คราะห์ และการจดั การความรู้ รปู ภาพที่ 10-1 แสดงความสมั พนั ธข์ องเกณฑแ์ ต่ละดา้ นทก่ี าหนดไวใ้ นรางวลั คณุ ภาพแหง่ ชาติ ท่ีมา: สานกั เลขานุการคณะกรรมการรางวลั คุณภาพแห่งชาต,ิ 2547 : 16 ผลการดาเนินงานตามกรอบของรางวลั คุณภาพแห่งชาติ (TQA) ผลจากการดาเนินงานตามกรอบของ TQA ทผ่ี า่ นมา ปรากฏว่าไดม้ กี จิ การธุรกจิ เอกชนใน ภาคการผลติ สมคั รเขา้ เพอ่ื ขอรบั รางวลั คอ่ นขา้ งมากในระยะแรก ต่อมาจงึ ไดม้ อี งคก์ ารทางดา้ นการ ใหบ้ รกิ าร สถาบนั การศกึ ษา และลา่ สดุ โรงพยาบาลสมคั รเขา้ มาเพมิ่ มากขน้ึ ซง่ึ ตวั อยา่ งองคก์ ารท่ี ไดร้ บั รางวลั TQA ทผ่ี ่านมา เช่น บรษิ ทั ผลติ ภณั ฑก์ ระดาษไทย จากดั บรษิ ทั ซ.ี พ.ี เซเว่นอเี ลฟเวน่ จากดั (มหาชน) และโรงแยกก๊าซธรรมชาตริ ะยอง บรษิ ทั การปิโตรเลยี มแห่งประเทศไทย จากดั (มหาชน) เป็นต้น ประโยชนข์ องการนารางวลั คุณภาพแห่งชาติ (TQA) มาใช้ องคก์ ารต่างๆทงั้ องคก์ ารภาครฐั และภาคเอกชน องคก์ ารทุกประเภทและทุกขนาด ทไ่ี ดน้ า เกณฑร์ างวลั คณุ ภาพน้ี ไปใชเ้ ป็นกรอบในการประเมนิ หรอื ทาการเปรยี บเทยี บกบั กระบวนการใน การบรหิ ารจดั การของตน กจ็ ะทาใหไ้ ดร้ บั ประโยชน์ในหลายขนั้ ตอน โดยเรม่ิ ตน้ ตงั้ แต่การตรวจ ประเมนิ ตนเอง จะทาใหท้ ราบถงึ สภาพทแ่ี ทจ้ รงิ ว่าระบบการบรหิ ารจดั การของตน ขาดตกบกพรอ่ ง ในเรอ่ื งใดบา้ ง เพอ่ื นาเอาขอ้ มลู ทไ่ี ดน้ ้ไี ปทาการกาหนดวธิ กี ารและเป้าหมายทช่ี ดั เจน ในขนั้ ตอนของ การจดั ทาแผนปฏบิ ตั งิ าน และเมอ่ื องคก์ ารปฏบิ ตั ิงานตามแผนจนบรรลเุ ป้าหมายทว่ี างไวแ้ ลว้ กจ็ ะ แสดงใหเ้ หน็ ว่าองคก์ ารมคี วามพรอ้ มแลว้ ทจ่ี ะสมคั รเขา้ รบั รางวลั หลงั จากนนั้ องคก์ ารกจ็ ะไดร้ บั การ ตรวจประเมนิ ดว้ ยกระบวนการทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ โดยผทู้ รงคณุ วฒุ จิ ากหลากหลายสาขาอาชพี ท่ี
247 ไดร้ บั การฝึกอบรมในดา้ นการเป็นผตู้ รวจประเมนิ มาโดยเฉพาะ และไมว่ า่ องคก์ ารทส่ี มคั เขา่ รบั รางวลั จะผา่ นเกณฑร์ บั รางวลั หรอื ไมก่ ต็ าม องคก์ ารจะไดร้ บั รายงานป้อนกลบั ซง่ึ จะระบุรายละเอยี ด ดา้ นจดุ แขง็ และจดุ อ่อนทค่ี วรปรบั ปรงุ ซง่ึ นบั เป็นประโยชน์อยา่ งมากต่อการนาเอาขอ้ มลู ไป วางแผนปรบั ปรงุ องคก์ รให้มคี วามสมบรู ณ์มากยงิ่ ขน้ึ ส่วนองคก์ ารทไ่ี ดร้ บั รางวลั กจ็ ะไดร้ บั การยอมรบั ทงั้ จากองคก์ ารภายในประเทศและ องคก์ ารต่างประเทศ และยงั มสี ทิ ธใิ ์ นการใชต้ ราสญั ลกั ษณ์รางวลั คณุ ภาพแห่งชาติ (TQA) ซง่ึ เป็น การแสดงออกถงึ ความเป็นเลศิ ในการบรหิ ารจดั การ เป็นการโฆษณาประชาสมั พนั ธอ์ งคก์ ารของตน รวมทงั้ การมโี อกาสในการส่งเสรมิ และการไดร้ บั การสนบั สนุนในการพฒั นาขดี ความสามารถในการ แขง่ ขนั ของประเทศอกี ดว้ ย การนาเสนอวธิ กี ารปฏบิ ตั ทิ น่ี าไปสคู่ วามสาเรจ็ จะกลายเป็นแบบอยา่ ง ใหก้ บั องคก์ ารอ่นื ๆ เพ่อื ไดน้ าเอาแนวทางการบรหิ ารจดั การไปประยกุ ตใ์ ช้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ผลสาเรจ็ เชน่ เดยี วกนั ต่อไป เกณฑค์ ณุ ภาพการบริหารจดั การภาครฐั PMQA ประวตั ิความเป็ นมาของเกณฑ์ PMQA สบื เน่อื งจากการทร่ี ฐั บาลไทย ไดม้ นี โยบายในการปฏริ ปู ระบบราชการ และไดก้ าหนดพระราช กฤษฎกี า วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทด่ี ี พ.ศ. 2546 ขน้ึ สานกั งานคณะกรรม พฒั นาระบบราชการ (ก.พ.ร.) จงึ ไดท้ าการกาหนดแนวทางในการพฒั นาคณุ ภาพดา้ นการบรหิ ารจดั การ โดย การพฒั นาเครอ่ื งมอื ในการบรหิ ารทเ่ี รยี กวา่ คณุ ภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั (PMQA) ซง่ึ ก.พ.ร. ไดน้ า หลกั เกณฑร์ างวลั คุณภาพแห่งชาตขิ องสหรฐั อเมรกิ า Malcom Baldridge National Quality Award (MBNQA) และรางวลั คุณภาพแหง่ ชาตขิ องไทย (TQA) มาปรบั ใชใ้ หเ้ ขา้ กบั บรบิ ทของประเทศไทย รวมทงั้ ไดม้ กี าร ปรบั ปรงุ กฎระเบยี บต่างๆทเ่ี กย่ี วขอ้ ง โดยกาหนดเป็นกลยทุ ธข์ น้ึ มาเพ่อื เป็นแนวทางในการปฏบิ ตั ิ รวมทงั้ กาหนดกลยทุ ธใ์ นการควบคุม (Strategic Control) ซง่ึ มสี ถาบนั เพมิ่ ผลผลติ แห่งชาติ เป็นหน่วยงานทเ่ี ขา้ รว่ ม ในการกาหนดเกณฑร์ างวลั และรว่ มทาการอบรมผปู้ ระเมนิ ภายนอก ต่อมาใน ปี พ.ศ. 2548 จงึ ไดท้ าการจดั อบรมวทิ ยากรขน้ึ จานวน 150 คน และทาการอบรมผตู้ รวจประเมนิ ภายใน โดยกาหนดใหก้ รมละ 4-5 คน เพอ่ื ทาหน้าทเ่ี ป็นทป่ี รกึ ษาและนาความรไู้ ปถ่ายทอดใหอ้ งคก์ รของตน ในปี พ.ศ. 2549 จงึ ไดจ้ ดั ทาเกณฑ์ คุณภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั (PMQA) ขน้ึ อยา่ งเป็นทางการ ซง่ึ วตั ถุประสงคข์ องการพฒั นา คุณภาพการดา้ นการบรหิ ารจดั การภาครฐั (PMQA) นนั้ มดี งั น้ี (สานกั งานพฒั นาระบบราชการ, 2558)
248 วตั ถุประสงคข์ องการนา PMQA มาใช้ 1. เพอ่ื ยกระดบั คุณภาพในการปฏบิ ตั งิ านของหน่วยงานภาครฐั ใหเ้ กดิ ความสอดคลอ้ งกบั พระราช กฤษฎกี าว่าดว้ ยหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทด่ี ี พ.ศ. 2546 2. เป็นแบบอยา่ งใหห้ น่วยงานภาครฐั ไดน้ าไปใชเ้ ป็นแนวทางในการบรหิ าร เพ่อื เพมิ่ ระดบั คุณภาพ การบรหิ ารจดั การของหน่วยงานภาครฐั ใหม้ มี าตรฐานในระดบั สากล นอกจากน้ี รางวลั PMQA ยงั มลี กั ษณะ เป็นขอ้ บงั คบั ทค่ี ลา้ ยกบั รางวลั TQA ดงั นนั้ หากหน่วยงานใดไดร้ บั รางวลั PMQA แลว้ กม็ โี อกาสไดร้ บั รางวลั TQA ดว้ ยเช่นกนั 3. เพ่อื ใหห้ น่วยงานภาครฐั นาไปใชใ้ นการประเมนิ ตนเอง เมอ่ื ตรวจหาปจั จยั ทเ่ี ป็นปญั หาหรอื อุปสรรค และใหใ้ ชเ้ ทคนคิ การบรหิ ารเขา้ ไปทาการแกไ้ ข รวมถงึ ตอ้ งการใหเ้ กดิ การแลกเปลย่ี นความรแู้ ละ ประสบการณ์ระหว่างกนั ดว้ ย เกณฑก์ ารใหร้ างวลั PMQA เกณฑใ์ นการใชป้ ระเมนิ หน่วยงานทส่ี มคั รเขา้ รบั รางวลั PMQA แบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยในส่วนท่ี 2 ยงั ไดแ้ บ่งออกเป็นอกี หลายเกณฑ์ ดงั น้ี (สานกั งานพฒั นาระบบราชการ, 2558) 1. ส่วนแรกเป็นข้อมูลเกี่ยวกบั ลกั ษณะที่สาคญั ขององคก์ าร ในสว่ นน้จี ะเก่ยี วขอ้ งกบั ขอ้ มลู เบอ้ื งตน้ วธิ กี ารบรหิ ารจดั การขององคก์ าร สภาพแวดลอ้ มโดยรวม ความสมั พนั ธก์ บั หน่วยงานอ่นื ๆ แผนยทุ ธศ์ าสตรแ์ ละกลยทุ ธใ์ นการดาเนินงานขององคก์ าร ระบบการพฒั นา ปรบั ปรงุ คณุ ภาพ ขององคก์ ารทงั้ ระบบ ซง่ึ หน่วยงานจะตอ้ งคน้ หาลกั ษณะทส่ี าคญั ขององคก์ าร สภาพแวดลอ้ ม ความสมั พนั ธแ์ ละความทา้ ทายขององคก์ ารใหไ้ ด้ นอกจากนนั้ บคุ ลากรในองคก์ ารจะตอ้ งมี ความเขา้ ใจไปในทศิ ทางเดยี วกนั คอื ตอ้ งรเู้ กย่ี วกบั พนั ธกจิ หน้าท่ี วสิ ยั ทศั น์ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างองคก์ าร กบั องคก์ ารอ่นื ๆ และอะไรบา้ งคอื ความทา้ ทายขององคก์ ารทจ่ี ะรว่ มกนั ฝ่าฟนั ใหป้ ระสบความสาเรจ็ 2. ส่วนที่ 2เกณฑค์ ณุ ภาพด้านการบริการจดั การภาครฐั ในสว่ นน้สี านกั งานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ไดก้ าหนดเกณฑโ์ ดยมงุ่ เน้น ใหห้ น่วยงานราชการ ทาการปรบั ปรงุ องคก์ ารอยา่ งรอบดา้ น หลากหลายมติ แิ ละกระทาอยา่ งต่อเน่อื งซง่ึ ครอบคลมุ 7 ดา้ น ดงั น้ี (สานกั งานพฒั นาระบบราชการ, 2558) 2.1 ด้านการนาองคก์ าร เป็นการประเมนิ การดา้ นการสรา้ งผนู้ าทเ่ี ขม้ แขง็ ดาเนนิ การของผบู้ รหิ าร เกย่ี วกบั วสิ ยั ทศั น์ เป้าประสงค์ คา่ นยิ ม ความคาดหวงั ในผลการดาเนินการ การใหค้ วามสาคญั กบั ผรู้ บั บรกิ ารและผมู้ สี ่วนไดส้ ่วนเสยี การกระจายอานาจการตดั สนิ ใจ การสรา้ งนวตั กรรมและการ เรยี นรใู้ นส่วนราชการ การกากบั ดแู ลตนเองทด่ี ี การดาเนินการเกย่ี วกบั ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม และชุมชน รวมถงึ การสรา้ งวฒั นธรรมองคก์ ารในการบรรลคุ า่ นิยมตามทต่ี อ้ งการ
249 2.2 การวางแผนเชิงกลยทุ ธ์ เรมิ่ จากการวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มในการดาเนินงาน (SWOT) ต่อมาจงึ เป็น การประเมนิ ดา้ นการกาหนดวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ เป้าหมาย วตั ถุประสงค์ ตลอดจนกระบวนการในการ วางแผน วธิ กี ารในการกาหนดและการถ่ายทอดประเดน็ ยุทธศาสตร์ เป้าประสงคเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ กลยทุ ธ์ หลกั และแผนปฏบิ ตั ริ าชการ ปจั จยั แห่งความสาเรจ็ เพ่อื นาไปปฏบิ ตั แิ ละวดั ผลความกา้ วหน้าของ การดาเนินการ 2.3 การให้ความสาคญั กบั ผรู้ บั บริการและผมู้ ีส่วนได้ส่วนเสีย มกี ารแบง่ กล่มุ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ประเมนิ ความตอ้ งการ ความคาดหวงั และ ความนิยมชมชอบ การสรา้ งความสมั พนั ธโ์ ดยการพฒั นาชอ่ งทางทห่ี ลากหลาย และการกาหนด มาตรฐานในการใหบ้ รกิ ารทส่ี ามารถวดั ได้ ทท่ี าใหผ้ รู้ บั บรกิ ารและผมู้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสยี เกดิ ความพงึ พอใจ มกี ารตดิ ตามแกไ้ ขขอ้ รอ้ งเรยี นอยา่ งรวดเรว็ และสรา้ งความจงรกั ภกั ดแี ก่ผมู้ สี ว่ นไดส้ ่วนเสยี ใหเ้ กดิ ขน้ึ 2.4 การวดั การวิเคราะห์ และการจดั การความรู้ เป็นการกาหนดตวั ชว้ี ดั ดา้ นความเช่อื มโยงกบั ภารกจิ และกลยทุ ธข์ อง องคก์ ารสรา้ งความสมดุลระหว่างมุมมองและความมเี หตุมผี ลของตวั ชว้ี ดั ทาการสอ่ื สารขอ้ มลู ดา้ น ผลการดาเนนิ งานอยา่ งสม่าเสมอในรปู แบบทเ่ี ขา้ ใจงา่ ยและทนั สมยั มกี ารประเมนิ ทางเลอื ก รวบรวม วเิ คราะห์ จดั การ และปรบั ปรงุ ขอ้ มลู สารสนเทศ และการจดั การความรู้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อการปรบั ปรงุ ผลการดาเนินงานขององคก์ าร 2.5 การมงุ่ เน้นทรพั ยากรบคุ คล เป็นการประเมนิ ระบบงาน ระบบการเรยี นรูข้ องบุคลากร มกี ารจดั ทา แผนการฝึกอบรมและปรบั ปรงุ ระบบงาน มกี ารสรา้ งความผาสกุ และแรงจงู ใจของบุคลากร ยกยอ่ ง ชมเชยและใหผ้ ลตอบแทนทเ่ี ป็นธรรมและเหมาะสม มกี ารสรา้ งสมดลุ ระหวา่ งชวี ติ การทางานและ ชวี ติ สว่ นตวั ตลอดจนการใหก้ ารสนบั สนุนใหบ้ คุ ลากรใชศ้ กั ยภาพของตน ในการทางานอยา่ งเตม็ ท่ี ตามทศิ ทางขององคก์ าร 2.6 การจดั การกระบวนการ เป็นการวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการของลกู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารและผมู้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสยี การกาหนดตวั ชว้ี ดั ประเมนิ การบรหิ ารจดั การกระบวนการในการใหบ้ รกิ ารและกระบวนการอ่นื ทช่ี ่วย สรา้ งคุณคา่ แก่ผรู้ บั บรกิ ารและผมู้ สี ว่ นไดส้ ่วนเสยี อกี ทงั้ กระบวนการสนบั สนุน เพอ่ื ใหบ้ รรลุพนั ธกจิ ของ องคก์ าร การคน้ หาแนวทางในการปรบั ปรงุ กระบวนการ การเปรยี บเทยี บกบั องคก์ ารทม่ี คี วามเป็น เลศิ อ่นื ๆ มกี ารตดิ ตามและควบคมุ องคก์ ารใหบ้ รรลุผลสาเรจ็
250 2.7 ผลลพั ธก์ ารดาเนินการ เป็นการประเมนิ ผลการดาเนินงาน และแนวโน้มของส่วนราชการในมติ ดิ า้ น ประสทิ ธผิ ล มติ ดิ า้ นคุณภาพของการใหบ้ รกิ าร มติ ดิ า้ นประสทิ ธภิ าพ และมติ ดิ า้ นการพฒั นา องคก์ าร โดยมขี อ้ มลู ดา้ นความพงึ พอใจและไมพ่ งึ พอใจของลกู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ าร และผมู้ สี ่วนได้ สว่ นเสยี สามารถอธบิ ายการลดลงของความพงึ พอใจไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล การปรบั แกไ้ ขผลการ ดาเนินงานทไ่ี มเ่ ป็นไปตามเป้าหมาย ดงั นนั้ หากพจิ ารณาตามเกณฑท์ ก่ี าหนด กจ็ ะพบวา่ มคี วามคลา้ ยคลงึ กบั รางวลั คณุ ภาพแหง่ ชาติ ของสหรฐั อเมรกิ า (MBNQA) และรางวลั คุณภาพแห่งชาตขิ องไทย (TQA) ซง่ึ จะทาใหม้ าตรฐานการบรหิ าร จดั การของไทย ใกลเ้ คยี งกบั การบรหิ ารจดั การในระดบั สากล สาหรบั วธิ กี ารประเมนิ องคก์ ารตามเกณฑ์ PMQA นนั้ จะใชว้ ธิ กี ารถามตอบโดยการตอบคาถาม ตามเกณฑใ์ นแต่ละหมวด ซง่ึ เปรยี บเสมอื นการตรวจสุขภาพองคก์ าร ทจ่ี ะทาใหท้ ราบจุดแขง็ และโอกาสใน การปรบั ปรงุ และนาเอาโอกาสในการปรบั ปรงุ ทพ่ี บ ไปประกอบการวางแผนพฒั นาองคก์ าร ใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพ โดยเลอื กเครอ่ื งมอื ทางการบรหิ ารทเ่ี หมาะสม เพอ่ื ใหก้ ารพฒั นาองคก์ ารใหม้ รี ะดบั การ บรหิ ารจดั การ ทไ่ี ดม้ าตรฐานเทยี บเทา่ สากล ผลการดาเนินงาน การดาเนินงานทผ่ี ่านมาปรากฏวา่ ไดม้ หี น่วยงานภาครฐั ต่างๆไดส้ มคั รเขา้ รบั รางวลั เป็น จานวนมาก โดยไดแ้ บง่ ประเภทของรางวลั ออกเป็น รางวลั คุณภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั ระดบั ดเี ด่น และ รางวลั คุณภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั รายหมวด โดยในปี พ.ศ. 2558 มผี ลงานท่ี ไดร้ บั รางวลั ทงั้ สน้ิ 12 ผลงาน จาก 12 หน่วยงาน เช่น รางวลั คุณภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั ระดบั ดเี ด่น ไดแ้ ก่ กรมปศุสตั ว์ รางวลั คุณภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั รายหมวด โดยหมวดท่ี 1 ดา้ นการนาองคก์ ารและความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมมหี น่วยงานทไ่ี ดร้ บั รางวลั คอื กรมทางหลวง ชนบท กรมสง่ เสรมิ และพฒั นาคุณภาพชวี ติ คนพกิ าร ส่วนหมวดท่ี 2 ดา้ นการวางแผนยทุ ธศาสตร์ และการส่อื สารเพ่อื นาไปส่กู ารปฏบิ ตั ิ มหี น่วยงานทไ่ี ดร้ บั รางวลั คอื สานกั งานปลดั กระทรวง สาธารณสุข สานกั งานบรหิ ารหน้สี าธารณะ นอกจากน้ี ยงั มี หมวดท่ี 4 และหมวดท่ี 6 ซง่ึ มี กรมธนารกั ษ์ เป็นหน่วยงานทไ่ี ดร้ บั รางวลั และหมวดท่ี 6 ซง่ึ กรมควบคุมโรคและกรมสรรพากรเป็น หน่วยงานทไ่ี ดร้ บั รางวลั เป็นตน้ เกณฑค์ ณุ ภาพด้านการบริหารจดั การที่ดีสาหรบั องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการการกระจายอานาจใหแ้ ก่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ (ก.ก.ถ.) ไดร้ เิ รมิ่ แนวคดิ ในการกระตุน้ จงู ใจ ใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ตระหนกั ต่อการเพมิ่ คุณภาพในการ บรหิ ารจดั การ ซง่ึ วธิ กี ารท่ี ก.ก.ถ. นามาใชค้ อื การกาหนดรางวลั สาหรบั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่
251 ทม่ี ผี ลการดาเนินงานดา้ นการบรหิ ารจดั การทด่ี ี เพอ่ื จงู ใจใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ เกดิ ความ สนใจต่อการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการบรหิ ารจดั การมากขน้ึ ซง่ึ รางวลั แบง่ ออกเป็นหลายประเภท ดงั น้ี 1. รางวลั การบรหิ ารจดั การทด่ี ี ประเภทโดดเด่น สาหรบั องคก์ รปกครองทอ้ งถนิ่ ขนาดใหญ่ ซง่ึ ประกอบดว้ ยองคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั เทศบาลนคร และเทศบาลเมอื ง 2. รางวลั การบรหิ ารจดั การทด่ี ี ประเภทโดดเด่น สาหรบั องคก์ รปกครองทอ้ งถนิ่ ขนาดเลก็ ซง่ึ ประกอบดว้ ย เทศบาลตาบล และองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล 3. รางวลั การบรหิ ารจดั การทด่ี ี ประเภททวั่ ไป สาหรบั องคก์ รปกครองทอ้ งถนิ่ ขนาดใหญ่ ซง่ึ ประกอบดว้ ย องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั เทศบาลนคร และเทศบาลเมอื ง 4. รางวลั การบรหิ ารจดั การทด่ี ี ประเภททวั่ ไป สาหรบั เทศบาลตาบล 5. รางวลั การบรหิ ารจดั การทด่ี ี ประเภททวั่ ไป สาหรบั องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล นอกจากน้ี ก.ก.ถ. ยงั ไดม้ อบรางวลั สาหรบั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ทผ่ี ่านเกณฑด์ า้ น การบรหิ ารจดั การทด่ี ี โดยมรี ายละเอยี ด ดงั น้ี 1. รางวลั ประเภทโดดเด่นสาหรบั องคก์ รปกครองทอ้ งถนิ่ ขนาดใหญ่ ซง่ึ ไดแ้ ก่ องคก์ าร บรหิ ารส่วนจงั หวดั เทศบาล และเทศบาลเมอื ง 2. ประเภทโดดเด่นสาหรบั องคก์ รปกครองทอ้ งถน่ิ ขนาดเลก็ ซง่ึ ไดแ้ ก่ เทศบาลตาบล และ องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล 3. ประเภททวั่ ไปสาหรบั องคก์ รปกครองทอ้ งถน่ิ ขนาดใหญ่ ซง่ึ ไดแ้ ก่ องคก์ ารบรหิ ารส่วน จงั หวดั เทศบาลนคร และเทศบาลเมอื ง 4. ประเภททวั่ ไปสาหรบั องคก์ รปกครองทอ้ งถน่ิ ประเภท เทศบาลตาบล 5. ประเภททวั่ ไปสาหรบั องคก์ รปกครองทอ้ งถนิ่ ประเภทองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ซง่ึ การกาหนดรางวลั คุณภาพการบรหิ ารจดั การทด่ี ขี อง ก.ก.ถ. ดงั ทไ่ี ดก้ ล่าวมาน้ี เป็นการ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การใหค้ วามสาคญั และการมงุ่ มนั่ ในการกระตุน้ จงู ใจ ใหอ้ งคก์ รปกครองทอ้ งถนิ่ ของ ไทยไดพ้ ฒั นาส่กู ารเป็นองคก์ ารทม่ี สี มรรถนะสงู (High Performance Organization : HPOs) ต่อไป ในอนาคต รางวลั พระปกเกลา้ ทองคา สถาบนั พระปกเกลา้ (King Prajadhipok’s Institute) เป็นหน่วยงานอสิ ระของรฐั บาลภายใต้ กากบั ของรฐั สภา โดยมพี นั ธกจิ หลกั ดา้ นการส่งเสรมิ และพฒั นาความรดู้ า้ นการปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตย ซง่ึ เป็นอกี หน่วยงานหน่งึ ทไ่ี ดใ้ หค้ วามสาคญั ต่อการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการบรหิ าร จดั การ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ โดยไดก้ าหนดรางวลั พระปกเกลา้ สาหรบั องคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถนิ่ ทม่ี คี วามเป็นเลศิ ดา้ นความโปรง่ ใสในการบรหิ ารงานและสง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มของ
252 ประชาชน เรมิ่ ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2544 ต่อมาในปี พ.ศ. 2549 สถาบนั พระปกเกลา้ จงึ ไดจ้ ดั ใหม้ กี ารมอบ รางวลั พระปกเกลา้ ทองคาขน้ึ เป็นครงั้ แรก เพอ่ื กระตุน้ จงู ใจใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ซง่ึ เป็น หน่วยงานของรฐั ทม่ี คี วามใกลช้ ดิ กบั ประชาชนมากทส่ี ุด และครอบคลุมพน้ื ทส่ี ว่ นใหญ่ของประเทศ โดยจะทาการมอบรางวลั ทกุ ๆ 2 ปี ซง่ึ มเี งอ่ื นไขวา่ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ทจ่ี ะเขา้ รว่ มการ พจิ ารณารางวลั พระปกเกลา้ ทองคานนั้ จะตอ้ งเคยไดร้ บั รางวลั พระปกเกลา้ ในระดบั เป็นเลศิ มาแลว้ อยา่ งน้อย 2 ครงั้ ในระยะเวลา 5 ปี และจะไมไ่ ดร้ บั การพจิ ารณารางวลั พระปกเกลา้ เป็นเวลาอยา่ ง น้อย 1 ปี รางวลั พระปกเกลา้ ทองคาเป็นเครอ่ื งหมายเชดิ ชอู งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ วา่ เป็น หน่วยงานทบ่ี รหิ ารงานดว้ ยความโปรง่ ใส และส่งเสรมิ การมสี ว่ นรว่ มของประชาชนทโ่ี ดดเดน่ ต่อเน่อื ง และมกี ารสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมทางการบรหิ ารงานแบบใหม่ ทเ่ี ป็นแบบอยา่ งทด่ี แี ก่องคก์ ร ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ อ่นื ๆ ซง่ึ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทม่ี คี วามประสงคจ์ ะสมคั รเขา้ รบั รางวลั จะตอ้ งนาเสนอ โครงการ 1 โครงการ ต่อจากนนั้ คณะกรรมการจะทาการประเมนิ ในรอบแรก และหากผา่ นเกณฑก์ ็ จะถกู ประเมนิ ในรอบสอง ซง่ึ จะมนี กั วจิ ยั ภาคสนามทาการสารวจความพงึ พอใจและสนทนากลุ่ม (Focus Group) กบั ผมู้ สี ่วนไดส้ ่วนเสยี และตวั แทนจากภาคประชาชนในพน้ื ท่ี วตั ถุประสงคข์ องรางวลั พระปกเกลา้ ทองคา 1. เพอ่ื จงู ใจใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ทเ่ี คยไดร้ บั รางวลั พระปกเกลา้ เขา้ รว่ มโครงการ และพฒั นาความเป็นเลศิ และนวตั กรรมดา้ นความโปรง่ ใสและการมสี ่วนรว่ มของประชาชน 2. เพอ่ื เชดิ ชเู กยี รตขิ ององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ทเ่ี ป็นสุดยอดดา้ นการมสี ่วนรว่ มของ ประชาชนและความโปรง่ ใส และเป็นแบบอยา่ งแก่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ อ่นื ๆ 3. เพ่อื ธารงรกั ษาความศกั ดสิ ์ ทิ ธขิ องรางวลั พระปกเกลา้ เกณฑใ์ นการใหค้ ะแนนรางวลั พระปกเกลา้ ทองคา เกณฑใ์ นการใหค้ ะแนน (Scoring Rubrics) สาหรบั รางวลั พระปกเกลา้ ทองคานนั้ จะ ประกอบดว้ ย 4 มติ ิ ดงั น้ี (สถาบนั พระปกเกลา้ , 2559) 1. มติ ดิ า้ นการวเิ คราะหป์ ญั หาและสถานการณ์ปจั จบุ นั ซง่ึ เน้นถงึ ประเดน็ ความเป็นมาของ ปญั หาทน่ี ามาส่กู ารเสนอโครงการ 2. มติ ดิ า้ นการวางแผนเชงิ กลยทุ ธแ์ ละนวตั กรรมการบรหิ ารจดั การ ซง่ึ เน้นการมสี ่วนรว่ ม ในการวางแผนของผบู้ รหิ ารและภาคเี ครอื ข่าย 3. มติ ดิ า้ นการนาโครงการไปสภู่ าคปฏบิ ตั ซิ ง่ึ เน้นวธิ ปี ฏบิ ตั ิ และการเน้นผลสมั ฤทธอิ ์ ยา่ ง เป็นรปู ธรรม 4. มติ ดิ า้ นผลกระทบต่อชมุ ชนและความยงั่ ยนื ซง่ึ เน้นดา้ นการแกไ้ ขปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ และ การถ่ายทอดเผยแพรโ่ ครงการเพ่อื ใหห้ น่วยงานอ่นื นาไปปรบั ใชต้ ่อไป
253 หลกั เกณฑก์ ารมอบรางวลั หลกั เกณฑก์ ารมอบรางวลั พระปกเกลา้ ทองคาประกอบดว้ ย เกณฑใ์ นขนั้ ตรวจสอบเบอ้ื งตน้ และเกณฑข์ องรางวลั พระปกเกลา้ ทองคา โดยองคก์ ารทส่ี มคั รจะตอ้ งผ่านเกณฑข์ นั้ แรกก่อน ถงึ จะ ไดร้ บั การพจิ ารณาเกณฑร์ างวลั พระปกเกลา้ ทองคาขนั้ ต่อไป ซง่ึ เกณฑร์ างวลั พระปกเกลา้ ทองคา แบง่ ออกเป็นหลายดา้ น ดงั น้ี (สถาบนั พระปกเกลา้ , 2559) 1. ดา้ นนวตั กรรม (Innovation) การมสี ว่ นรว่ มของประชาชนและความโปรง่ ใส ไดแ้ ก่ 1.1 เป็นกจิ กรรมทแ่ี ตกต่างจากกจิ กรรมทไ่ี ดเ้ คยไดร้ บั รางวลั พระปกเกลา้ 1.2 เป็นกจิ กรรมใหมห่ รอื พฒั นากจิ กรรมเดมิ ใหม้ คี วามต่อเน่อื งยงั่ ยนื โดยเฉพาะ ยงั ไมเ่ คยมกี ารปฏบิ ตั ใิ นองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ มาก่อน 2. การมสี ว่ นรว่ มของประชาชน (Public Participation) ไดแ้ ก่ 2.1 สง่ เสรมิ หรอื ใหบ้ ทบาทของประชาชนในกระบวนการตดั สนิ ใจ 2.2 รว่ มทาและรบั ผดิ ชอบไมใ่ ช่การรอรบั ประโยชน์เทา่ นนั้ 3. ความพงึ พอใจของประชาชนต่อคณะผบู้ รหิ าร (Citizen Satisfaction) ไดแ้ ก่ 3.1 การเปิดใหป้ ระชาชนเขา้ มามสี ่วนรว่ มในการบรหิ าร 3.2 เปิดเผยและโปรง่ ใสในการบรหิ ารงาน 3.3 มคี วามน่าไวว้ างใจ 3.4 จรยิ ธรรมและความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ เกณฑข์ ้นั ตรวจสอบองคก์ รทีไ่ ดร้ บั รางวลั 1. ตอ้ งเป็นองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทไ่ี มม่ กี รณที ุจรติ คอรปั ชนั่ หรอื การฟ้องรอ้ งท่ี เกย่ี วขอ้ งกบั ทจุ รติ คอรปั ชนั่ อนั เชอ่ื ไดว้ า่ มมี ลู 2. ตอ้ งเป็นองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทป่ี ฏบิ ตั กิ จิ กรรมดา้ นความโปรง่ ใส และการมสี ว่ น รว่ มของประชาชนตามทก่ี ฎหมายกาหนด ผลการดาเนินงาน จากผลการดาเนนิ งานทผ่ี า่ นมาปรากฏวา่ ไดม้ อี งคก์ รหลายองคก์ รเสนอเขา้ รบั รางวลั และ ไดร้ บั รางวลั หลากหลาย เช่น องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ตรงั องคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั ภเู กต็ เทศบาลนครของแก่น และเทศบาลนครพษิ ณุโลก เป็นตน้ นอกจากการมอบรางวลั พระปกเกลา้ ทองคาแลว้ สถาบนั พระปกเกลา้ ยงั ไดก้ าหนดรางวลั ขน้ึ อกี คอื รางวลั พระปกเกลา้ และใบประกาศเกยี รตคิ ณุ ใหแ้ ก่องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทม่ี คี วาม เป็นเลศิ ดา้ นการบรหิ ารจดั การทม่ี คี วามโปรง่ ใส สง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มของประชาชน และมธี รรมาภิ บาลในการปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ โดยแบ่งรางวลั ออกเป็น 2 ระดบั ดงั น้ี (สถาบนั พระปกเกลา้ , 2559)
254 1. องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ทม่ี ผี ลการดาเนินงานเป็นเลศิ จะไดร้ บั โล่รางวลั พระปกเกลา้ พรอ้ มใบประกาศเกยี รตคิ ณุ สถาบนั พระปกเกลา้ 2. องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทม่ี ผี ลการดาเนินงานในระดบั ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ จะไดร้ บั ใบประกาศเกยี รตคิ ณุ สถาบนั พระปกเกลา้ ซง่ึ ผนู้ าองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทส่ี มคั รเขา้ รบั รางวลั จะตอ้ งเลอื กประเภทของรางวลั ซง่ึ มี 3 ประเภท ดงั น้ี (สถาบนั พระปกเกลา้ , 2559) 1. ด้านความโปร่งใสและส่งเสริมการมสี ่วนร่วมของประชาชน เกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นความโปรง่ ใสและส่งเสรมิ การมสี ่วนรว่ มของประชาชน จะประเมนิ จากการจดั สรรงบประมาณทช่ี ดั เจน นวตั กรรมการสง่ เสรมิ ความโปรง่ ใสในการบรหิ ารงาน การเปิด โอกาสใหป้ ระชาชนไดเ้ ขา้ ถงึ ขอ้ มลู ขา่ วสาร การตอบสนองปญั หาและความเดอื ดรอ้ นของประชาชน การมสี ว่ นรว่ มของประชาชนในการป้องกนั การทุจรติ คอรปั ชนั่ กระบวนการตดิ ตามและประเมนิ ผล การรเิ รม่ิ และเสนอแนะโครงการ การมสี ว่ นรว่ มของผดู้ อ้ ยโอกาสในสงั คม และการมสี ่วนรว่ มของ ประชาชนในกจิ การของสภาทอ้ งถน่ิ ซง่ึ เหตุผลของการกาหนดรางวลั ประเภทน้ี เพอ่ื เป็นการสง่ เสรมิ และกระตุน้ ในองคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ไดต้ ระหนกั ถงึ ความสาคญั ของหลกั ธรรมาภบิ าลในการปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ โดยเฉพาะหลกั ความโปรง่ ใสและการมสี ่วนรว่ มของประชาชน 2. ด้านการเสริมสร้างสนั ติสุขและความสามานฉันท์ เกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นการเสรมิ สรา้ งสนั ตสิ ุขและความสามานฉนั ท์ จะประเมนิ เกย่ี วกบั นโยบาย บุคลากรทม่ี คี วามรแู้ ละประสบการณ์เกย่ี วกบั การเสรมิ สนั ตสิ ขุ และความสามานฉนั ท์ การมี กลไก มแี ผนการดาเนินงาน มโี ครงการ กจิ กรรม ในการเสรมิ สรา้ งสนั ตสิ ขุ และความสามานฉนั ทม์ ี การประยกุ ตใ์ ชศ้ าสนา ประเพณี วฒั นธรรมในการเสรมิ สรา้ งสนั ตสิ ุขและความสามานฉนั ท์ มกี าร สรา้ งองคค์ วามรู้ การปลกู ฝงั ค่านยิ ม ประสบการณ์ขอ้ พพิ าทกบั ประชาชน และการมกี รณีทเ่ี ป็นเลศิ ดา้ นการเสรมิ สรา้ งสนั ตสิ ุขและความสามานฉนั ท์ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ซง่ึ เหตุผลของการกาหนดรางวลั ประเภทน้ี คอื เพ่อื เป็นการสง่ เสรมิ และผลกั ดนั ให้ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ เป็นหน่วยงานทส่ี าคญั ในการเสรมิ สรา้ งสนั ตสิ ุขและความสามานฉนั ท์ ใหเ้ กดิ ขน้ึ ในทอ้ งถน่ิ อนั เป็นรากฐานสาคญั ทจ่ี ะก่อใหเ้ กดิ ความสนั ตสิ ุขสมานฉนั ทใ์ นระดบั ชาตติ ่อไป 3. ด้านการเสริมสร้างเครือข่ายรฐั เอกชน และประชาสงั คม เกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นการเสรมิ สรา้ งเครอื ข่ายรฐั เอกชน และประชาสงั คม เป็นการ ประเมนิ นโยบายการทางานขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ดา้ นการเสรมิ สรา้ งเครอื ขา่ ย แผนงาน โครงการ กจิ กรรม สนบั สนุน บทบาทขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ในการรเิ รม่ิ การจดั ทา
255 ฐานขอ้ มลู การเรยี นรแู้ รกเปลย่ี นประสบการณ์ การจดั ทารายงานผลการประเมนิ และกรณศี กึ ษาท่ี ประสบผลสาเรจ็ ของการดาเนนิ งานดา้ นเครอื ขา่ ย ซง่ึ เหตุผลของการกาหนดรางวลั ประเภทน้ี กเ็ พอ่ื เป็นการสง่ เสรมิ ใหอ้ งคก์ รปกครอง สว่ นทอ้ งถนิ่ ในฐานะหน่วยงานหลกั ทท่ี าหน้าทบ่ี รหิ ารจดั การทอ้ งถนิ่ ใหส้ ามารถรว่ มมอื กบั เครอื ขา่ ย จากภาคส่วนต่างๆในพน้ื ท่ี ไดแ้ ก่ ภาครฐั ภาคเอกชน และภาคประชาสงั คมในการรว่ มมอื พฒั นา ทอ้ งถนิ่ ไปสเู่ ป้าหมายของการพฒั นาอยา่ งยงั่ ยนื รว่ มกนั รางวลั คณุ ภาพการให้บริการประชาชน รางวลั คุณภาพการใหบ้ รกิ ารประชาชน เป็นรางวลั ทส่ี านกั งานคณะกรรมการพฒั นาระบบ ราชการ (ก.พ.ร.) ไดท้ าการมอบใหแ้ ก่หน่วยงานของภาครฐั ทงั้ ทเ่ี ป็นสว่ นราชการ จงั หวดั สถาบนั อุดมศกึ ษาและทอ้ งถน่ิ เพ่อื เชดิ ชเู กยี รตแิ ละเป็นขวญั กาลงั ใจใหแ้ ก่เจา้ หน้าท่ี และหน่วยงาน ทม่ี คี วามโดดเด่นในการพฒั นา หรอื ปรบั ปรงุ คุณภาพการใหบ้ รกิ ารประชาชน ซง่ึ ไดจ้ ดั ใหม้ ขี น้ึ มา ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2546 จนกระทงั่ ปจั จบุ นั (สถาบนั ศกึ ษานโยบายสาธารณะมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่, 2559) วตั ถุประสงคห์ ลกั ของการมอบรางวลั คุณภาพการใหบ้ ริการประชาชน 1. เพอ่ื สง่ เสรมิ การพฒั นาและปรบั ปรงุ คุณภาพ การใหบ้ รกิ ารประชาชนของหน่วยงานของ รฐั ให้ เป็นไปอยา่ งต่อเน่ืองจนเกดิ ประสทิ ธภิ าพ สามารถตอบสนองความตอ้ งการและเป็นทพ่ี งึ พอใจของประชาชน 2. เพ่อื ยกระดบั มาตรฐานคณุ ภาพการใหบ้ รกิ ารประชาชนของหน่วยงานของภาครฐั ไทย ใหเ้ ป็นทย่ี อมรบั ในระดบั สากล ประเภทของรางวลั คุณภาพการใหบ้ ริการประชาชน 1. รางวลั รายกระบวนงาน เป็นรางวลั ทพ่ี จิ ารณาจากผลการดาเนินงานดา้ นพฒั นาคณุ ภาพการใหบ้ รกิ าร สาหรบั รายกระบวนงานในหน่งึ หน่วยบรกิ าร โดยมเี งอ่ื นไขของรางวลั ดงั น้ี (สถาบนั ศกึ ษานโยบาย สาธารณะมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม,่ 2559) 1.1 เป็นกระบวนงานหลกั ทส่ี าคญั ทป่ี ระชาชนใชบ้ รกิ าร มผี ลกระทบต่อประชาชน หรอื มผี รู้ อ้ งเรยี นจานวนมาก และเป็นกระบวนงานหลกั ทส่ี ง่ ผลกระทบต่อการเพมิ่ ขดี ความสามารถใน การแขง่ ขนั ของประเทศโดยภาพรวม 1.2 เป็นกระบวนงานทห่ี น่วยบรกิ ารอ่นื ๆในสงั กดั เดยี วกนั ยงั ไมเ่ คยไดร้ บั รางวลั ดเี ดน่ มาก่อน หรอื อาจเป็นกระบวนงานทม่ี มี าตรฐานการบรกิ าร ไมต่ ่ากว่ากระบวนงานเดยี วกนั ทเ่ี คยได้ รางวลั ดเี ดน่ ในปีก่อนๆ
256 2. รางวลั ภาพรวมกระบวนงาน เป็นรางวลั ทพ่ี จิ ารณาจากผลการดาเนนิ งาน ดา้ นพฒั นาคณุ ภาพการใหบ้ รกิ ารสาหรบั สาหรบั กระบวนงานนนั้ ๆ ในทกุ หน่วยบรกิ าร โดยพจิ ารณาจากค่าเฉลย่ี ของผลการดาเนินงานในทกุ หน่วยงานบรกิ าร ทอ่ี าจมที งั้ หน่วยบรกิ ารในสว่ นกลางและสว่ นภมู ภิ าค โดยมเี งอ่ื นไขการเสนอ กระบวนงานเพ่อื ขอรบั รางวลั ดงั น้ี 2.1 ผเู้ สนอขอรบั รางวลั เป็น ส่วนราชการ (กรม) เท่านัน้ 2.2 เป็นกระบวนงานหลกั ทม่ี คี วามสาคญั ของหน่วยงาน 2.3 เป็นกระบวนงานทม่ี กี ารใหบ้ รกิ ารในหน่วยงานไมน่ ้อยกวา่ 5 แหง่ 2.4 พจิ ารณาจากผลงานในทุกหน่วยบรกิ าร ซง่ึ อาจมที งั้ ในสว่ นกลาง (กรม) และสว่ น ภมู ภิ าค 3. รางวลั กระบวนงานท่ีมคี วามเชื่อมโยงหลายส่วนราชการ เป็นรางวลั ทป่ี ระเมนิ จากกระบวนงานทม่ี ลี กั ษณะการบรกิ ารทต่ี อ้ งผา่ นการพจิ ารณา หลายสว่ นราชการ และเป็นกระบวนงานทม่ี ขี นั้ ตอนการดาเนินการผ่านการพจิ ารณาใหค้ วาม เหน็ ชอบอยา่ งน้อย 3 สว่ นราชการ (กรม/จงั หวดั /ทอ้ งถนิ่ ) โดยใหส้ ว่ นราชการผมู้ อี านาจพจิ ารณา อนุมตั เิ ป็นผเู้ สนอขอรางวลั หรอื เป็นกระบวนงานทม่ี คี วามรว่ มมอื จากสว่ นราชการทเ่ี กย่ี วขอ้ งไม่ น้อยกวา่ 3 สว่ นราชการในการปรบั ปรงุ และพฒั นาแลว้ มผี ลกาทาใหก้ ารบรกิ ารดขี น้ึ 4. รางวลั นวตั กรรมการให้บริการ เป็นรางวลั ทพ่ี จิ ารณาจากผลการดาเนินการปรบั ปรุงการใหบ้ รกิ าร โดยนานวตั กรรมมา ใช้ เพอ่ื เป็นการอานวยความสะดวกและตอบสนองความตอ้ งการของประชาชน ใหไ้ ดร้ บั บรกิ ารท่ี สะดวกและรวดเรว็ ยงิ่ ขน้ึ ซง่ึ รปู แบบการใหบ้ รกิ ารใหมๆ่ ทเ่ี ป็นนวตั กรรม ไดแ้ ก่ 4.1 การสรา้ งสรรคง์ านบรกิ ารใหมท่ ส่ี ามารถสรา้ งประโยชน์กบั ประชาชน 4.2 การสรา้ งสรรคว์ ธิ กี ารทางานในเรอ่ื งขนั้ ตอนการทางานหรอื วธิ กี ารปฏบิ ตั งิ านใหม่ ในกระบวนการใหบ้ รกิ ารทส่ี ามารถลดเวลาขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ยา่ งเฉียบพลนั 4.3 การนาเทคโนโลยใี หม่มาปรบั ใชใ้ นการใหบ้ รกิ าร เช่น การพฒั นาหรอื คดิ คน้ เครอ่ื งมอื หรอื อุปกรณ์ทท่ี าใหก้ ารใหบ้ รกิ ารหรอื การปฏบิ ตั งิ านมคี วามรวดเรว็ ขน้ึ หรอื การเพมิ่ รปู แบบช่องทางการใหบ้ รกิ ารทส่ี ามารถลดขนั้ ตอนและระยะเวลาการปฏบิ ตั งิ านได้ เป็นตน้ 4.4 การเพม่ิ คณุ ลกั ษณะใหมใ่ หก้ บั งานบรกิ ารเดมิ ซง่ึ เป็นการเพม่ิ รปู แบบการเขา้ ถงึ บรกิ าร เช่น การทางานเชงิ รกุ ทส่ี ามารถสรา้ งความพงึ พอใจใหก้ บั ประชาชนทกุ กลุม่ รวมถงึ ผดู้ อ้ ยโอกาส เป็นตน้
257 การดาเนนิ งานทีผ่ ่านมา รางวลั คณุ ภาพการใหบ้ รกิ ารประชาชน (เฉพาะองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ) ทผ่ี ่านมา พบวา่ มอี งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ หลายแหง่ ไดร้ บั รางวลั เช่น กรมการปกครอง ไดร้ บั รางวลั ดเี ด่น ประเภทภาพรวมกระบวนงาน โดยงานทไ่ี ดร้ บั รางวลั คอื การจดั ทาบตั รประจาตวั ประชาชนดว้ ย ระบบอเิ ลคทรอนิกส์ สว่ นเทศบาลเมอื งตรงั ไดร้ บั รางวลั ดเี ด่นประเภทกระบวนงานทม่ี คี วาม เชอ่ื มโยงหลายสว่ นราชการ โดยงานทไ่ี ดร้ บั รางวลั คอื การใหบ้ รกิ ารดา้ นป้องกนั และบรรเทาสา ธารณภยั เป็นตน้ รางวลั องคก์ ารบริหารส่วนท้องถิ่นด้านการป้ องกนั การทจุ ริต ประวตั ิความเป็ นมา รางวลั องคก์ ารบรหิ ารส่วนทอ้ งถน่ิ ดา้ นการป้องกนั การทุจรติ เกดิ ขน้ึ เน่อื งจากสานกั งาน คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไดต้ ระหนกั ถงึ ความสาคญั ของ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ทม่ี คี วามมงุ่ มนั่ ในการบรหิ ารราชการเพ่อื ใหเ้ กดิ ความคุม้ ค่าและเกดิ ประโยชน์สงู สดุ แก่ประชาชน จงึ ไดพ้ จิ ารณาใหร้ างวลั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ดเี ด่นดา้ นการ ป้องกนั การทุจรติ เพ่อื ส่งเสรมิ และสนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ใหบ้ รหิ ารราชการดว้ ยความ โปรง่ ใส เป็นธรรม ดาเนินการเพ่อื ป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาการทุจรติ รวมทงั้ เพ่อื ยกยอ่ งประกาศ เกยี ตคิ ุณใหเ้ ป็นทร่ี จู้ กั ของสงั คม (ป.ป.ช., 2559) คุณสมบตั ิขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ที่มคี วามประสงคเ์ สนอผลงาน องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทม่ี คี วามประสงค์ จะเสนอผลงานเพอ่ื ขอรบั รางวลั จะตอ้ งเป็น องคก์ ร ดงั น้ี (ป.ป.ช., 2559) 1. องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทกุ รปู แบบ 2. องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทไ่ี ม่มพี ฤตกิ รรมทน่ี ่าเช่อื วา่ การปฏบิ ตั งิ านของผบู้ รหิ าร และบุคลากรขององคก์ ารปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ เป็นการทุจรติ หรอื มกี ารใชอ้ านาจหน้าทโ่ี ดยมชิ อบ ก่อใหเ้ กดิ ความเสยี หายแก่เงนิ งบประมาณและทรพั ยส์ นิ ของทางราชการ การพจิ ารณาการตดั สินใหร้ างวลั การพจิ ารณาการตดั สนิ ใหร้ างวลั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นทอ้ งถนิ่ ดา้ นการป้องกนั การทจุ รติ แบง่ ออกเป็น 2 ขนั้ ตอน ดงั น้ี (ป.ป.ช., 2559) 1. การประเมินจากเอกสาร ทาการประเมนิ จากผลการปฏบิ ตั งิ านขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทไ่ี ดด้ าเนนิ การ เสรจ็ แลว้ ใน ดา้ นต่างๆ ดงั น้ี
258 การส่งเสรมิ การป้องกนั การทจุ รติ ในการปฏบิ ตั งิ าน ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ประกอบดว้ ย การจดั ซอ้ื จดั จา้ ง การเกบ็ ภาษแี ละรายไดอ้ ่นื ๆ การปรบั กระบวนการในการทางาน การบรกิ ารประชาชนเพอ่ื ป้องกนั การทุจรติ และบทบาทของสภาในการป้องกนั การทจุ รติ 1.1 การสง่ เสรมิ ทศั นคตแิ ละค่านิยมความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ คุณธรรม จรยิ ธรรม ภายใน และภายนอกองคก์ าร ประกอบดว้ ยกลุม่ ผบู้ รหิ ารและบุคลากร กล่มุ สมาชกิ สภาขององคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถน่ิ กลุม่ องคก์ ร ธรุ กจิ เอกชน ชุมชน และประชาชน 1.2 การสง่ เสรมิ การรบั รขู้ อ้ มลู ขา่ วสาร ประกอบดว้ ยการจดั ตงั้ ศูนยข์ อ้ มลู ขา่ วสาร สาหรบั ประชาชน การจดั ใหม้ ชี ่องทางเผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู ขา่ วสารหลากหลายช่องทาง การเผยแพรเ่ อกสารขอ้ มลู ทจ่ี าเป็นตามพระราชบญั ญตั ขิ อ้ มลู ขา่ วสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 การจดั ใหม้ กี จิ กรรมกระตุ้นใหป้ ระชาชนในทอ้ งถน่ิ ไดร้ บั รบั รขู้ า่ วสาร การจดั ใหม้ กี ลไกดาเนินการ เกย่ี วกบั เรอ่ื งรอ้ งเรยี น 1.3 การส่งเสรมิ ใหท้ ุกภาคสว่ น มสี ่วนรว่ มในการบรหิ าร เพ่อื ป้องกนั การทุจรติ และ การเฝ้าระวงั ตรวจสอบการปฏบิ ตั งิ านขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ซง่ึ ประกอบดว้ ย กลุ่มองคก์ ร ประชาชน กลมุ่ ภาคราชการ กลุ่มธุรกจิ เอกชน และกล่มุ ศาสนา มลู นิธิ สมาคม หลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาทางดา้ นเอกสาร หลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาทางดา้ นเอกสาร คณะกรรมการตดั สนิ จะทาการพจิ ารณาจากใบ สมคั ร พรอ้ มเอกสารประกอบ เชน่ ภาพถ่ายหรอื หลกั ฐานทแ่ี สดงใหเ้ หน็ วา่ องคก์ รปกครองสว่ น ทอ้ งถนิ่ ไดก้ าหนดใหม้ มี าตรการ แนวทาง โครงการ กจิ กรรม หรอื การดาเนินการอ่นื ใดเพ่อื เป็นการ ป้องกนั การทุจรติ ในกรณตี ่างๆ ทก่ี าหนดขน้ึ จรงิ ทงั้ น้ีในคาอธบิ ายจะตอ้ งแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ประเดน็ สาคญั ดงั น้ี (ป.ป.ช., 2559) 1. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม 2. ความยากงา่ ยของการดาเนินกจิ กรรม 3. ความคุม้ ค่าของการใชจ้ ่ายงบประมาณ 4. เกดิ ผลต่อการป้องกนั การทุจรติ 5. ความยงั่ ยนื ของกจิ กรรม 6. ประโยชน์ทป่ี ระชาชนและชุมชนจะไดร้ บั 2. การประเมินภาคสนาม เป็นการประเมนิ จากการเขา้ ตรวจเยย่ี มและรบั ฟงั บรรยายสรปุ ผลการดาเนินงานของ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ และการสอบถามประชาชนหรอื ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งในพน้ื ท่ี
259 ประเภทของรางวลั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ทช่ี นะเลศิ จะไดร้ บั โลเ่ ชดิ ชเู กยี รตขิ องประธานกรรมการ ป.ป.ช. พรอ้ มเงนิ สนบั สนุน จากสานกั งานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ - ป.ป.ช.ใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ไดด้ าเนินกจิ กรรมดา้ นการป้องกนั การทุจรติ ต่อไป ผลการดาเนินงาน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 สานกั งาน ป.ป.ช. ไดจ้ ดั ใหม้ กี ารมอบรางวลั การประเมนิ คณุ ธรรมและความโปรง่ ใสในการดาเนนิ งานภาครฐั (Integrity and Transparency Assessment: ITA Awards) ใหแ้ ก่หน่วยงานภาครฐั ทม่ี ผี ลการประเมนิ คณุ ธรรมและความโปรง่ ใสผา่ นเกณฑ์ ตามทส่ี านกั งาน ป.ป.ช. ไดก้ าหนดไวซ้ ง่ึ แบ่งเป็น 3 ประเภทรางวลั ดงั น้ี (ป.ป.ช., 2559) 1. รางวลั หน่วยงานภาครฐั ทม่ี ผี ลคะแนนการประเมนิ คุณธรรมและความโปรง่ ใสในการ ดาเนินงาน (ITA) สงู สดุ ของแต่ละประเภทหน่วยงานจานวนทงั้ สน้ิ 6 รางวลั ซง่ึ หน่วยงานทไ่ี ดร้ บั รางวลั ประกอบดว้ ย สานกั งานศาลยตุ ธิ รรม กรมราชองคร์ กั ษ์ ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ และมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสุนนั ทา 2. รางวลั หน่วยงานภาครฐั ทม่ี ผี ลคะแนนการประเมนิ คุณธรรมและความโปรง่ ใสในการ ดาเนินงาน (ITA) สงู สดุ ของแต่ละประเภทหน่วยงานจานวนทงั้ สน้ิ 6 รางวลั (ยกเวน้ องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ) ซง่ึ หน่วยงานทไ่ี ดร้ บั รางวลั ประกอบดว้ ย สานกั งานศาลยตุ ธิ รรม สานกั งาน ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สานกั งานพฒั นาการวจิ ยั การเกษตร และ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเดจ็ เจา้ พระยา 3. รางวลั หน่วยงานทไ่ี ดน้ าเอาการประเมนิ คุณธรรมและความโปรง่ ใสในการดาเนินงาน (ITA) ไปขยายผลเพ่อื การพฒั นาและยกระดบั คุณธรรมและความโปรง่ ใส ในหน่วยงานจนประสบ ความสาเรจ็ จานวนทงั้ สน้ิ 2 รางวลั ซง่ึ หน่วยงานทไ่ี ดร้ บั รางวลั คอื สานกั งานคณะกรรมการ การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน และ สานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสุข สรปุ รฐั บาลไดม้ งุ่ พฒั นาระบบราชการเพอ่ื ใหห้ น่วยงานภาครฐั ปรบั ปรงุ การทางานใหม้ สี มรรถนะ ทส่ี งู ขน้ึ เทยี บเท่ามาตรฐานระบบสากล ดงั นนั้ จงึ ไดม้ นี าเกณฑท์ ใ่ี ชใ้ นต่างประเทศมาประยกุ ตใ์ ชก้ บั การบรหิ ารภาครฐั ของไทย โดยเกณฑม์ าตรฐานทส่ี าคญั มดี งั น้ี 1) ระบบมาตรฐานสากลของ ประเทศไทย P.S.O. 2) เกณฑค์ ณุ ภาพแห่งชาติ TQA 3) เกณฑค์ ณุ ภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั PMQA 4) เกณฑค์ ุณภาพดา้ นการบรหิ ารจดั การทด่ี สี าหรบั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ 5) รางวลั ประปกเกลา้ ทองคา 6) รางวลั คุณภาพการใหบ้ รกิ ารประชาชน และ 7) รางวลั องคก์ ารบรหิ ารส่วน ทอ้ งถน่ิ ดา้ นการป้องกนั การทุจรติ
260 อยา่ งไรกต็ าม เกณฑต์ ่างๆเหล่าน้ี มขี อ้ บงั คบั ทแ่ี ตกต่างกนั ดงั นนั้ การนามาประยกุ ตใ์ ชก้ บั การดาเนินงานในหน่วยงานภาครฐั ของไทยจงึ ตอ้ งปรบั หลกั เกณฑใ์ หม้ คี วามเหมาะสมกบั ลกั ษณะ ของการทางาน ตลอดจนวตั ถุประสงคข์ องหน่วยงานภาครฐั แต่ละแห่ง เช่น องคก์ รปกครองส่วน ทอ้ งถน่ิ องคก์ รอสิ ระ สถาบนั การศกึ ษา โรงพยาบาล และองคก์ รทไ่ี มแ่ สวงหาผลกาไร เพ่อื ทอ่ี งคก์ ร เหลา่ นนั้ จะมมี าตรฐานในการทางานทส่ี งู ขน้ึ ในระดบั สากลต่อไป
261 คาถามท้ายบท 1. วตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายของการพฒั นาระบบมาตรฐานสากลของประเทศไทย P.S.O. มอี ะไรบา้ ง 2. วตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายของการนาเกณฑค์ ุณภาพแห่งชาติ TQA มอี ะไรบา้ ง 3. หลกั เกณฑค์ ุณภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั PMQA มอี ะไรบา้ ง อธบิ าย 4. จงเปรยี บเทยี บเกณฑ์ PMQA และ TQA ว่ามคี วามเหมอื นหรอื ต่างกนั อย่างไร 5. วตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายของการนาเกณฑค์ ุณภาพดา้ นการบรหิ ารจดั การทด่ี สี าหรบั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ มอี ะไรบา้ ง 6. เกณฑค์ ุณภาพ ดา้ นการบรหิ ารจดั การทด่ี สี าหรบั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ มกี ่ี ประเภท อะไรบา้ ง 7. รางวลั ประปกเกลา้ ทองคา พฒั นาขน้ึ โดยหน่วยงานใด มี 8. วตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายของการนารางวลั คณุ ภาพการใหบ้ รกิ ารประชาชน อะไรบา้ ง 9. รางวลั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นทอ้ งถนิ่ ดา้ นการป้องกนั การทุจรติ ใชก้ บั หน่วยงานใด 10. การพจิ ารณารางวลั ดา้ นการป้องกนั การทุจรติ มอี ะไรบา้ ง
262 เอกสารอ้างอิง ณฏั ฐพนั ธ์ เขจรนนั ทน์. (2552). การจดั การเชิงกลยทุ ธ์ (Strategic management). กรงุ เทพฯ: บ.ซเี อด็ ยเู คชนั่ จากดั . ดวงรตั น์ เรอื งอุไร. (2557). แนวคิดของโจเซฟ เอม็ จแู รน (Joseph M. Juran) อารม์ นั วี เฟเกน บาม (Armand V. Feigenbaum) และ ฟิ ลิป คอรสบี (Philip B. Crosby) [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http://www.gotoknow.org/posts/454819. ดวงรตั น์ เรอื งอุไร. (2557). สาระสนเทศเพ่ือการจดั การ (Management information system- MIS) [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http://www.gotoknow.org/posts/454819. ถวลิ วลี บุรกี ุลและคณะ. (2545). โครงการศึกษาเพ่ือพฒั นาดชั นีวดั ผลการพฒั นาระบบการ บริหารจดั การที่ดี. นนทบุร:ี สถาบนั พระปกเกลา้ . ทพิ วรรณ หลอ่ สุวรรณรตั น์. (2550). เครอ่ื งมือการจดั การ (Management tools). กรงุ เทพฯ: สถาบนั บณั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร.์ วราพงศ์ ยอดชาร.ี (2552). การปรบั รือ้ ระบบ [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http://www.gotoknow.org/ posts/318161. วนั ชยั มชี าต.ิ (2555). การบริหารองคก์ าร. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . สงบ คงไพศาล.(2006). การรอื้ ปรบั ระบบ (Reengineering) [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http:// sakong.wordpress.com. สถาบนั พระปกเกลา้ . (2559). รางวลั พระปกเกลา้ [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http://www.kpi.ac.th/kpi- award-2019/ สถาบนั มาตรฐานสากลภาครฐั แหง่ ประเทศไทย. (2549). มาตรฐานสากลแห่งประเทศไทย [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http://www.geocities.com/psothailand/pso.html สถาบนั ศกึ ษานโยบายสาธารณะมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม.่ (2559). รางวลั คุณภาพการใหบ้ รกิ ารประชาชน [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http://www.tlg.rmutt.ac.th/?page_id=4934 สานกั งานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาต-ิ ป.ป.ช. (2559) [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก https://www.nacc.go.th/main.php?filename=nacc4 สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ (ก.พ.ร.). (2558). รางวลั คณุ ภาพการบริหารจดั การ ภาครฐั (PMQA) [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก https://opdc.thaijobjob.com/ สานกั เลขานุการคณะกรรมการรางวลั คุณภาพแหง่ ชาต.ิ (2547). เกณฑร์ างวลั คุณภาพแห่งชาตเิ พอ่ื องคก์ รทเ่ี ป็นเลศิ . กรงุ เทพฯ: อนิ โนกราฟฟิกส.์
263 Bittel, L. R. (1989). The McGraw-Hill 36-hour management course. NY: McGraw- Hill. Getha-Taylor, H. (2009). Where's (dwight) waldo? Public Performance & Management Review, 4(32). doi:10.2753/PRM1530-9576320406. Kaiser Associates.com. (1988). Beating the competition: A practical guide to benchmarking. Washington, DC: ISBN 978-1-56365-018-5. Luthans, F. (1989). Organizational behavior. NY: McGraw-Hill. Odiorne, G. S. (1965). Management by objectives: A system of managerial leadership. NY: Pitman Pub. Sheldrake, J. (2002). Management theory. NY: Cengage Learning Emea.
บรรณานุกรม กลมุ่ งานตดิ ตามและประเมนิ ผล สานกั งานเลขาธกิ ารวุฒสิ ภา. (2559). ค่มู อื การติดตามและ ประเมินผล. กรงุ เทพฯ: สานกั นโยบายและแผน สานกั งานเลขาธกิ ารวุฒสิ ภา. เขมณฐั ภกู องไชย. (2558). องคก์ ารและการจดั การเชิงกลยทุ ธ.์ อุดรธานี: มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุดรธานี คมกรชิ ดอทคอม. (2559). ประวตั ิศาสตรส์ งั คม เช กวู ารา ปฏิวตั ิละติน [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http.//www.komkit.com ชยั ทวี เสนะวงศ.์ (2556). ทิศทางและแนวโน้มของงาน HR ในกระแสโลก. วารสารการบรหิ าร คน: สมาคมการจดั การงานบคุ คลแห่งประเทศไทย (PMAT). โชติ บดรี ฐั . (2558). เทคนิคการบริหาร. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ไชยวฒั น์ คา้ ชู ประทุมพร วชั รเสถยี ร กุลลดา เกษบญุ ชู และศุภมติ ร ปิตพิ ฒั น์. (2545). ธรรมาภิ บาล. กรงุ เทพฯ: น้าฝน จากดั . ณฏั ฐพนั ธ์ เขจรนันทน์. (2552). การจดั การเชิงกลยทุ ธ์ (Strategic management). กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั ซเี อด็ ยเู คชนั่ จากดั . ณฏั ฐพนั ธ์ เขจรนนั ทน์. (2555). การจดั การทรพั ยากรมนุษย.์ กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั ซเี อด็ ยเู คชนั่ . ดวงรตั น์ เรอื งอุไร. (2557). แนวคิดของโจเซฟ เอม็ จแู รน (Joseph M. Juran) อารม์ นั วี เฟ เกนบาม (Armand Feigenbaum) และ ฟิ ลิป คอรสบี (Philip B. Crosby). [Online]. Available http://www.gotoknow.org/posts/454819. ดวงรตั น์ เรอื งอุไร. (2557). สาระสนเทศเพ่ือการจดั การ (Management information system- MIS). [Online]. Available http://www.gotoknow.org/posts/454819. ถวลิ วลี บรุ กี ุลและคณะ. (2545). โครงการศึกษาเพ่ือพฒั นาดชั นีวดั ผลการพฒั นาระบบการ บริหารจดั การท่ีดี. นนทบุร:ี สถาบนั พระปกเกลา้ . ทพิ วรรณ หล่อสวุ รรณรตั น์. (2550). เครอ่ื งมือการจดั การ (Management tools). กรงุ เทพฯ: สถาบนั บณั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร.์ นสิ ดารก์ เวชยานนท.์ (2551). มิติใหมใ่ นการบริหารทรพั ยากรมนุษย:์ บทความวิชาการ. กรงุ เทพฯ: สถาบนั บณั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร์ เนตรพ์ ณั ณา ยาวริ าช. (2556). การจดั การสมยั ใหม่ (Modern management). พมิ พค์ รงั้ ท่ี 8. กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั ทรปิ เพล้ิ กรปุ๊ จากดั .
266 ประมวลสาระชุดวชิ าหน่วยท่ี 1-7. (2549). แนวคิด ทฤษฏี และหลกั การรฐั ประศาสนศาสตร์ (Concepts theories and principles of public administration). นนทบุร:ี มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. ประยงค์ มใี จสอ่ื . (2556). การจดั การเชิงกลยทุ ธ์ (Strategic management). พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. พรทพิ ย์ อยั ยมิ าพนั ธ์. (2547). ผนู้ าสาหรบั องคก์ ารท่ีมีประสิทธิผล. กรงุ เทพฯ: อนิ โนกราฟฟิกส์ พชั สริ ี ชมพคู า. (2552). องคก์ ารและการจดั การ (Organization and management). กรงุ เทพฯ: สานกั พมิ พแ์ มคกรอ-ฮลิ . พทิ ยา บวรวฒั นา. (2538). รฐั ประศาสนศาสตร:์ ทฤษฏีและแนวทางการศึกษา (ค.ศ.1970- 1980). กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . พทิ ยา บวรวฒั นา. (2544). ทฤษฏีองคก์ ารสาธารณะ. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 4. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั . พทิ ยา บวรวฒั นา. (2556). รฐั ศาสตร์ ทฤษฏี และแนวทางการศึกษา (ค.ศ. 1887-1970). กรงุ เทพฯ:จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . รชั ยา ภกั ดจี ติ ต.์ (2555). ธรรมาภิบาลเพื่อการบริหารภาครฐั และเอกชน. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . วรชั ยา ศริ วิ ฒั น์. (2554). การบริหารร่วมสมยั (Contemporary administration). กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. วราพงศ์ ยอดชาร.ี (2552). การปรบั รื้อระบบ. [Online]. Available http://www.gotoknow.org/ posts/318161. วนั ชยั มชี าต.ิ (2555). การบริหารองคก์ าร. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . วชิ ติ วงศ์ ณ ป้อมเพชร. (2552). เบอื้ งแรกของเศรษฐศาสตร.์ กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั วศริ ะ จากดั . วภิ าดา คุปตานนท.์ (2544). การจดั การและพฤติกรรมองคก์ าร. กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลยั รงั สติ วริ ชั วริ ชั นิภาวรรณ. (2550). การบริหารจดั การและการบริหารการพฒั นาของหน่วยงาน ภาครฐั . กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั เอก็ ซเปอรเ์ น็ท จากดั . วณี า พงึ ววิ ฒั น์นกิ ุล. (2555). สมั มนาการบริหารองคก์ ารในภาครฐั (Seminar on Organization Administration). กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง.
267 ศริ พิ งษ์ ลดาวลั ย์ ณ อยธุ ยา. (2524). หนังสือรวบรวมบทความคณาจารยผ์ มู้ ีคณุ ูปการต่อ รฐั ศาสตร์ มช: ธรรมาภิบาลกบั การบริหารงานภาครฐั ไทย (Good governance and Thai public sector administration). เชยี งใหม่: มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม.่ ศริ พิ งษ์ ลดาวลั ย์ ณ อยธุ ยา. (2555). หลกั และกระบวนการบริหารการศึกษา: ทฤษฎีและแนว ปฏิบตั ิ, พมิ พค์ รงั้ ท่ี 3. นนทบรุ :ี บุ๊คพ๊อยท.์ ศริ วิ รรณ เสรรี ตั น์, สมชาย หริ ญั กติ ติ และสมศกั ดิ ์วานิชยาภรณ์. (2545). ทฤษฏีองคก์ าร. กรงุ เทพฯ: ธรรมสาร. ศุภชยั ยาวะประภาษ. (2547). การปรบั ปรงุ กระบวนงานอย่างต่อเนื่อง: กลยทุ ธใ์ นการเพ่ิม คณุ ภาพบริการภาครฐั . เอกสารวชิ าการปีแห่งการสง่ เสรมิ การบรกิ ารประชาชนของรฐั เศรษฐสารหอ้ งสมดุ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่. (2549). นักเศรษฐศาสตรท์ ่ีควรรจู้ กั : โรเบิรต์ โอ เวน (Robert Owen). [Online]. Available: http: // library.cmu.ac.th/faculty/econ/ index.php? สงบ คงไพศาล. (2006). การรอื้ ปรบั ระบบ (Reengineering). [Online]. Available http:// sakong.wordpress.com. สถาบนั เพม่ิ ผลผลติ แหง่ ชาต.ิ (2559). การปรบั ปรงุ งาน [ออนไลน์], สบื คน้ จาก http://www.ftpi.or.th สถาบนั มาตรฐานสากลภาครฐั แห่งประเทศไทย. (2543). การพฒั นาระบบมาตรฐานของประเทศ ไทย ด้านการจดั การและสมั ฤทธ์ิผลของงานภาครฐั . กรงุ เทพฯ: ศรเี มอื งการพมิ พ.์ สถาบนั มาตรฐานสากลภาครฐั แหง่ ประเทศไทย. (2549). มาตรฐานสากลแห่งประเทศไทย. สบื คน้ จาก http://www.geocities.com สถาบนั ศกึ ษานโยบายสาธารณะมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ (2559). รางวลั คณุ ภาพการให้บริการ ประชาชน. สบื คน้ จาก http://www.tig.rmutt.ac.th สนธิ ์บางยข่ี นั . (2544). การวิเคราะหอ์ งคก์ าร: องคก์ ารและการจดั การ (Organization Analysis: Organizational and management). กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. สมั ฤทธิ ์ยศสมศกั ด.ิ ์ (2549). รฐั ประศาสนศาสตร:์ แนวคิดและทฤษฏี. กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั เอก็ ซ เปอรเ์ น็ท จากดั . สาคร สขุ ศรวี งศ.์ (2550). หลกั การจดั การ. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
268 สานกั งานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาต-ิ ป.ป.ช. (2559). รางวลั องคก์ าร บริหารส่วนท้องถิ่นด้านการป้ องกนั การทุจริต [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http://www.nacc.go.th สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ-ก.พ.ร. (2558). รางวลั คณุ ภาพการบริหารจดั การ ภาครฐั (PMQA) [ออนไลน์]. สบื คน้ จาก http://www.opdc.thaijobjob.com สานกั งานพฒั นาระบบราชการ. (2558). การพฒั นาคณุ ภาพการบริหารจดั การภาครฐั . กรงุ เทพฯ สานกั เลขานุการคณะกรรมการรางวลั คุณภาพแห่งชาต.ิ (2547). เกณฑร์ างวลั คณุ ภาพแห่งชาติ เพ่ือองคก์ รท่ีเป็นเลิศ. กรงุ เทพฯ: อนิ โนกราฟฟิกส.์ สุนทร เกดิ แกว้ . (2541). การบริหารโครงการ: การติดตามควบคมุ และประเมินผล. กรงุ เทพฯ: เสนาธรรม. สวุ ฒั น์ พฒั นไพบลู ย.์ (2544). การบริหารโครงการ. กรุงเทพฯ: ซเี อด็ ยเู คชนั่ . เสนาะ ตเิ ยาว.์ (2544). หลกั การจดั การ. กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์ เสรมิ ศกั ดิ ์วศิ าลาภรณ์. (2536). ภาวะผนู้ าและความขดั แย้ง. กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ท รวโิ รฒ. แสงเดอื น ทวสี นิ (2540). จิตวิทยาการศึกษา. กรงุ เทพฯ: เอก็ เพรสมเี ดยี . อนิวชั แกว้ จานง. (2550). หลกั การจดั การ. สงขลา: มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ อนิวชั แกว้ จานง. (2557). หลกั การจดั การ. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 5. สงขลา: นาศลิ ป์โฆษณา BBC news. (2005). 1979: Thatcher wins story landslide [Online]. Available: http://news.bcc.co.uk Bedeian, A. G., & Wren, D. A. (2001). Most influential management books of the 20th century. Organizational Dynamics, 29(3), p. 221–225. Bittel, L. R. (1989). The McGraw-Hill 36-hour management course. NY: McGraw- Hill. Blake, R., and Mouton, J. (1964). The managerial grid: The key to leadership excellence. TX: Gulf Publishing Co. Boje, D. (2000). “The Isles leadership: The voyage of the behaviorists.” The Leadership Box. Northern Michigan State University Brennan, M (1968). PERT and CPM. IL: Council of planning librarians. Burtonshaw-Gunn, A. Simon. (2008). The essential management toolbox: Tools, model and notes for management and consultants. CA: John Wiley & Sons.
269 Campbell, S. & Meynell, L. (2009). Embodiment and agency. PA: Penn State Press, Colenso, M. (2000). Kaizen strategies for improving team performance. London: Pearson Education Limited Corben, R. (2015). Lee Kuan Yew (LKY), Former Singapore Prime Minister [Online]. Available: http://www.voathai.com/a/lee-kuan-yew-orbit-ss/2690922.html Creech, B. (1994). The five pillars of TQM: How to make total quality management work for you. NY: Truman Talley Books Daft, R. L. & Armstrong, A. (2009). Organization theory and design. Toronto: Nelson Education. Daft, R. L. (2010). Management, 9th ed. OH: South-Western Cengage Learning. Drucker, P. F. (1998). Management: Tasks, responsibilities, practices. Reprint ed. IL: Harper Business. Ellliot, A. J., Covington, M. (2001). Approach and avoidance motivation. Educational Psychology Review, 13(2). Fores, J. (2001). John R. Commons and Herbert A Simon on the concept of rationality, Journal of Economic, 35. Foster, C. (2012). Organization Development: The theorists-rensislikert [Online]. Available: http://organisationdevelopment.org/the-theorists-rensis-likert/. Foulkes, F. K. (1993). The expanding role of the personnel function. Harvard Business Review, 71. Frick, W. B. (1989). Interview with Dr. Abraham Maslow. In Conversations with Abraham Maslow, Gardner, Murphy, and Rogers. Humanistic psychology. Bristol, IN: Wyndham Hall Press. Getha-Taylor, H. (2009). Where's (Dwight) Waldo? Public Performance & Management Review, 4(32). doi:10.2753/PRM1530-9576320406. Gibson, J.L., Ivancevich, J.M., and Donnelly, J.H. (1997). Organization behavior structure process, 9th ed. NY: McGraw-Hill. Gouldner, A. W. (1954). Patterns of industrial bureaucracy. NY: Free Press.
270 Graham, J., Amos, B., & Plumtre, T. (2003). Principles for good governance in the 21st century. Policy Brief No. 15, [Online], Available http://unpan1.un.org Hersey, P. (1984). The situational leader. NY: Warner Books. Hersey, P. and Blanchard, K. H. (1977). Management of organizational behavior utilizing human resources, 3rd ed. NJ: Prentice Hall. Herzberg, C. D. (1996). Still a key to understanding motivation. Training Officer, 32(6). Herzberg, F. (1968). One more time: how do you motivate employees? Harvard Business Review, 46(1). Herzberg, F. (1987). One more time: how do you motivate employees? Harvard Business Review, 65(5). Hicks, H. G. (1967). The Management organization. NY: McGraw-Hill. Hill, C. H., Jones, G. (2008). Strategic management. NY: Houghton Mifflin Company Hoffman, E. (1988). The Right to be Human: A biography of Abraham Maslow. NY: St. Martin’s Press. Hoy, K. H., & Miskel, G. M. (2008). Structure in schools. In Barrosse, E., Patterson, D. & Eccher, J., (Eds.), Educational administration: Theory, research, and practice. NY: McGraw-Hill. Jack, R. Miller, J. G., & Hildreth, W. B. (2000). Handbook of strategic management. NY: Marcel Dekker. Kaiser Associates.com. (1988). Beating the competition: A practical guide to benchmarking. Washington, DC: ISBN 978-1-56365-018-5. Kast, F. E., & Rosenzwieg, E. J. (1985). Organization and management: A systems and contingency approach. NY: McGraw-Hill. Kat Kadian-Baumeyer. (2014). Education portal: Deming, Juran & Crosby; Contributors to TQM [Online]. Available: http://education-portal.com/ academy/lesson/deming-juran- crosby-contributors-to-tqm.html#lesson.
271 Koontz, H. and Weihrich, H. (1990). Essentials of management, 5th ed. Singapore: McGraw-Hill. Koontz, H. and Weihrich, H. (2010). Essentials of management. NY: McGraw-Hill. Kreiter, R. (1995). Management. 6th ed. MA: Houghton Mifflin company. Le Breton, P. P., & Henning, D. A. (1964). Planning theory, 2nd ed. NJ: Prentice-Hall. Luthans, F. (1989). Organizational behavior. NY: McGraw-Hill. Malcolm, D. G., Roseboom, J. H., Clark, C. E., & Fazar, W. (1959). Application of a technique for research and development program evaluation: Operation research, (7)5. Masaaki, I. (1986). Kaizen: The key to Japan’s competitive success. NY: Random House. Maslow, A. H. (1967). A theory of Metamotivation: The biological rooting of the value-life. Journal of Humanistic Psychology, 7(2). McFarland, D. E. (1974). Management, principles and practices. NY: Macmillan/McGraw- Hill. Newell, M., & Grashina, M. (2003). The project management question and answer. NY: American Management Association. Odiorne, G. S. (1965). Management by objectives: A system of managerial leadership. NY: Pitman Pub. Oxford Dictionary. (2015). The meaning of leader. UK: Oxford University Press. Quality Assurance News. (2014). Vision. [Online]. Available: http:// it.kmutnb.ac.th/thai/readnews.asp?id=498. Rakesh, K. (2010). From higher aims to hired hands: The social transformation of American business schools and the unfulfilled promise of management as a profession. NJ: Princeton University Press. Robbins, P. S. (2010). Essentials of organizational behavior. Singapore: Prentice Hall. Rost, J.C. (1991). Leadership for the twenty-first century. NY: Praeger Press. Runglaksamee rodkam. (2014). The 5s process [Online], Available: http://rungdab- 04.blogspot.com/2012/09/5-tool-for-organizing.html.
272 Schades, M. B. (2014). Influences on the total quality management philosophy. Business-Leaning. [Online]. Available: http://www.business-online-learning.com/total- quality-management-philosophy.html. Selznick, P. (1951). Institutional vulnerability in mass society. American Journal of Sociology, 56. Sheldrake, J. (2002). Management theory. NY: Cengage Learning Emea. Simon, H. A. (1976). Administration behavior. 3rd ed. NY: The Free Press. Strategic management insight (2013). BCG growth - matrix. [Online]. Available http://www.strategicmanagementinsight.com/tools/bcg-matrix-growth-share.html. Strategic management insight. (2013). McKinsey 7s model. [Online], Available: http://www.strategicmanagementinsight.com/tools/mckinsey-s-model-framework.html. Strategic management insight. (2013). Value chain analysis. [Online]. Available http://www.strategicmanagementinsight.com/tools/value-chain-analysis.html). Tadros, M. (2012). Backstage governance. IDS Bulletin, 43(1), 62-70. [Online], Available: http://untexas.summon.serialssolutions.com/. Thaichinese.net. (2011). History of China. [Online]. Available: http://www.thaichinese.net /History/ history-modern8.html Weihrich, H. & Koontz, H. (1994). Management: A global perspective, 9th ed. Singapore: McGraw-Hill. Williams, C. (2007). Management, 4th ed. Mason, OH: Thomson Higher Education. Wilter Olympics official report. (1968). 10th Winter Olympic Game in French. Grenoble: The Steering Committee of the 10th Winter Olympics of Grenoble. Woods, N. (2000). The challenge of good governance for the IMF and the world bank themselves. [Online], Available: http:// ac.els-cdn.com/.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288