การจัดการผา้ เป้อื นในโรงพยาบาล 189 3.1.3 อาคาร สว. ใหน้ ำ� ผา้ เปอ้ื นทง้ิ ลงในทอ่ นำ� สง่ ผา้ เปอ้ื น ตามเวลาทก่ี ำ� หนด เพอื่ ปอ้ งกนั ผา้ เปอ้ื น ธรรมดาปะปนกบั ผา้ เปื้อนตดิ เช้ือและการบาดเจบ็ ของบคุ ลากรท่มี ารับผ้า (ดังตารางที่ 2) ตารางท่ี 2 แสดงชว่ งเวลาทงิ้ ผ้าเปอื้ นประเภทตา่ งๆ ชว่ งเวลาทง้ิ ผา้ ประเภทผา้ ทที่ ิ้ง 7.00-8.30 น. ทง้ิ ผ้าเปื้อนธรรมดา 9.00-9.30 น. ทิ้งผ้าเปอื้ นตดิ เชอ้ื 10.00-14.00 น. ทง้ิ ผ้าเปื้อนธรรมดา 14.40-15.00 น. ท้ิงผ้าเป้อื นตดิ เช้ือ 15.30-16.40 น. ทิ้งผา้ เปอ้ื นธรรมดา 17.20-17.30 น. ทิง้ ผา้ เปือ้ นตดิ เชอ้ื 3.1.4 หลังเสร็จสิ้นการขนส่งผ้าให้ท�ำความสะอาดรถเข็นผ้าด้วยน�้ำและผงซักฟอก ล้างให้สะอาด และผ่งึ ใหแ้ ห้งกอ่ นน�ำมาใช้งานคร้ังตอ่ ไป 3.2 การขนสง่ ผา้ เปื้อนจากห้องพักผ้าไปหนว่ ยซักฟอก 3.2.1 คนงานที่รับผ้าต้องสวมเคร่ืองป้องกันร่างกายให้ถูกต้องเหมาะสม ได้แก่ เส้ือคลุม ผ้าปดิ ปาก-จมูก หมวก ถุงมือยางหนาและรองเทา้ บตู๊ 3.2.2 เจ้าหน้าท่ีซักฟอกมารับผ้าเปื้อน โดยใช้รถขนส่งผ้าเปื้อนแยกประเภทการขนส่งผ้าเปื้อน ไม่ปะปนกนั และปิดผา้ คลุมรถขนสง่ ใหม้ ดิ ชิด ตามช่วงเวลาท่กี �ำหนด (ดงั ตารางที่ 3) ตารางที่ 3 แสดงช่วงเวลาการขนสง่ ผ้าจากจุดพกั ผา้ ไปทห่ี น่วยซักฟอก ช่วงเวลาทขี่ นส่งผา้ จดุ พกั ผา้ เป้ือน อาคาร ก-ข อาคาร ค-ง จดุ พกั AE 1, CCU, CVT-ICU ,Burn unit, S&EICU ห้องผา่ ตัด เวลา 7.00 -8.30 น. และหอ้ งคลอด เวลา 8.40 น. ผา้ เปื้อนธรรมดาอาคารสว. เวลา 9.40 น. รับผ้าเปื้อนตดิ เช้อื อาคารสว. อาคารเฉลมิ พระบารมี อาคารกว. เวลา 12.00 น. ห้องผา่ ตัด อาคาร ก-ข อาคาร ค-ง จุดพกั AE 1 CCU, CVT-ICU ,Burn unit, S&EICU เวลา 13.00-14.00 น. และหอ้ งคลอด หอ้ งผา่ ตัด เวลา 14.10 น. รบั ผ้าเปอื้ นธรรมดา อาคารสว. เวลา 15.00 น. รับผ้าเปือ้ นติดเชอ้ื อาคารสว. หอ้ งผ่าตัด AE 1, AE 2, AE3 เวลา 17.00 น. รบั ผ้าเป้ือนธรรมดา อาคารสว. และหอ้ งผา่ ตัด เวลา 17.40 น. รบั ผ้าเปื้อนติดเชื้อ อาคารสว.หอ้ งผ่าตัด หมายเหต:ุ กรณีจดุ พกั ผา้ มีผา้ เป้ือนจ�ำนวนมากให้เพิม่ รอบขนสง่ ผ้าในชว่ งเวลา 17.00-19.00 น.
190 คมู่ อื การป้องกนั และควบคุมการติดเช้ือ โรงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น 3.2.3 การขนส่งผ้าเปื้อน ให้ขนส่งตามเส้นทางและช่วงเวลาท่ีก�ำหนดไว้ ห้ามออกนอกเส้นทาง และควรใชล้ ิฟต์ขนของเทา่ นน้ั เพือ่ หลกี เลยี่ งการขนสง่ ผา้ เป้ือนสวนกับการขนส่งอาหารของงานโภชนาการ 3.2.4 เมอ่ื เสรจ็ กจิ กรรมขนสง่ ผา้ ใหท้ ำ� ความสะอาดรถเขน็ ผา้ และลฟิ ตข์ นผา้ ดว้ ยนำ้� และผงซกั ฟอก หรือนำ�้ ร้อน ทกุ คร้ังกอ่ นนำ� มาใชง้ านครั้งตอ่ ไป 3.2.5 ห้องพักผ้าเปื้อนภายหลังการขนส่งผ้าเปื้อนออกจากห้องพักผ้า ให้ท�ำความสะอาดห้อง ด้วยน�ำ้ ยาเช็ดถูพ้ืนทุกคร้งั 4. การซกั ผา้ เปอ้ื น (Washing) การซกั ผา้ ในปรมิ าณมากและใหบ้ รกิ ารผปู้ ว่ ยอยา่ งเพยี งพอ จำ� เปน็ ตอ้ งใชก้ ารซกั ผา้ เปอ้ื นดว้ ยเครอื่ งจกั ร ทใ่ี ชอ้ ณุ หภมู แิ ละสารเคมซี กั ผา้ ในการทำ� ลายเชอื้ เพอ่ื ปอ้ งกนั การตดิ เชอื้ ของบคุ ลากรทป่ี ฏบิ ตั งิ านเกย่ี วกบั ผา้ เปอ้ื น ห้ามบคุ ลากรคัดแยกผา้ เป้ือนก่อนการซัก โดยมแี นวทางปฏิบัติในการซักผา้ ดงั นี้ 4.1 บุคลากรสวมใส่เคร่ืองป้องกันอันตรายส่วนบุคคลให้ครบถ้วน ได้แก่ หมวกคลุมผม แว่นตา ผ้าปิดปาก-ปิดจมูก เส้ือคลุมแขนยาว ผ้ายางกันเปื้อน ถุงมือยางอย่างหนา และรองเท้าบู๊ต โดยสวมใส่ทุกคร้ัง ในการปฏบิ ัติงานดา้ นการซกั ผ้า 4.2 ซักผา้ ตามโปรแกรมการซกั ผา้ ได้แก่ 4.2.1 ผ้าเปื้อนติดเช้ือ ตั้งโปรแกรมซักที่ 120-150 นาที อุณหภูมิ 71 -90 องศาเซลเซียส โดยมี ข้นั ตอนการซัก ดังนี้ 4.2.1.1 ล้างด้วยนำ�้ สะอาดจ�ำนวน 3 รอบ(Flush) 4.2.1.2 ซกั ขน้ั ตอนหลกั (Main wash) ใชอ้ ณุ หภมู ิ 70-80 องศาเซลเซยี ส เวลา 10 นาที ขน้ั ตอนน้ีประกอบด้วยนำ�้ ยาซกั ผลิตภณั ฑ์ดา่ งเสรมิ การซัก ผลติ ภณั ฑฟ์ อกขาวชนิดคลอรินหรือชนดิ ออกซเิ จน 4.2.1.3 ลา้ งด้วยน้ำ� สะอาดน�้ำจำ� นวน 1 รอบ (Rising) 4.2.1.4 ซกั 1 รอบ ที่อณุ หภูมิ 80 องศาเซลเซยี ส เวลา 15 นาที ขัน้ ตอนนี้ประกอบด้วย นำ้� ยาซกั ผลติ ภณั ฑด์ า่ งเสรมิ การซกั ผลติ ภณั ฑฟ์ อกขาวชนดิ คลอรนิ หรอื ชนดิ ออกซเิ จน (Main wash & Bleaching) 4.2.1.5 ลา้ งนำ้� 3 รอบ ขนั้ ตอนนป้ี ระกอบดว้ ยผลติ ภณั ฑท์ ำ� ความสะอาดลา้ งสารตกคา้ ง,นำ้� ยา ปรับผ้านมุ่ (Souring) อัตราส่วน นำ้� ยาแต่ละชนิด 2 ลติ ร: ผ้า 100 กิโลกรัม/รอบการซัก 4.2.2 ผา้ เป้ือนธรรมดา ตง้ั โปรแกรมท่ี 45-60 นาที อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซยี ส โดยมขี น้ั ตอนการ ซกั ดงั น้ี 4.2.2.1 ลา้ งด้วยนำ้� สะอาดจำ� นวน 1 รอบ 4.2.2.2 ซักข้นั ตอนหลกั ใช้อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซยี ส เวลา 15 นาที ขั้นตอนนปี้ ระกอบ ด้วยน�้ำยาซกั ผลิตภัณฑด์ า่ งเสรมิ การซกั ผลิตภัณฑ์ฟอกขาวชนดิ คลอรินหรอื ชนิดออกซิเจน 4.2.2.3 ลา้ งนำ�้ 3 รอบ ขน้ั ตอนนป้ี ระกอบดว้ ยผลติ ภณั ฑท์ ำ� ความสะอาดลา้ งสารตกคา้ ง,นำ�้ ยา ปรับผา้ นุ่ม อตั ราส่วน น้ำ� ยาแตล่ ะชนดิ 1 ลติ ร: ผา้ 100 กิโลกรัม/รอบการซัก 4.2.3 ผ้าหตั ถการทใี่ ช้ในหอ้ งผา่ ตัดตงั้ โปรแกรมท่ี 75-95 นาที วธิ ีการซักเหมอื นผ้าเปื้อนตดิ เชอื้ 4.2.4 ผา้ เปอ้ื นสารเคมี ตงั้ โปรแกรมท่ี 15-45 นาที วธิ กี ารซกั เหมอื นผา้ เปอ้ื นตดิ เชอ้ื แตต่ อ้ งทำ� การ สะเทินก่อนจงึ ท�ำการซัก ดังน้ี
การจัดการผา้ เป้อื นในโรงพยาบาล 191 4.2.4.1 แยกผา้ เปื้อนสารเคมีออกจากผา้ ทัว่ ไป 4.2.4.2 ลา้ งคราบสกปรกเบือ้ งต้นออก 4.2.4.3 แช่สารฟอกขาวหรือผงซกั ฟอกทงิ้ ไว้อยา่ งนอ้ ย 3 ชวั่ โมง 4.2.4.4 ปล่อยน�้ำแชท่ ิ้ง 4.2.4.5 ซกั ตามขั้นตอนโปรแกรมผา้ ตดิ เชือ้ 4.2.5 ผา้ เปอื้ นอนื่ ๆ ไดแ้ ก่ ผา้ ถูพ้นื ผา้ ดนั ฝุ่น ผา้ ข้ีรวิ้ ต้ังโปรแกรมท่ี 25-30 นาที 4.2.2.1 ลา้ งด้วยน้ำ� สะอาดจำ� นวน 1 รอบ 4.2.2.2 ซักขั้นตอนหลัก ใช้อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เวลา 25 นาที ข้ันตอนนี้ ประกอบดว้ ย น�ำ้ ยาซกั ผลติ ภัณฑด์ า่ งเสรมิ การซกั ผลิตภณั ฑ์ฟอกขาวชนิดคลอรินหรือชนดิ ออกซเิ จน 4.2.2.3 ล้างน้�ำ 3 รอบ ขั้นตอนน้ีประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ท�ำความสะอาดล้างสารตกค้าง น้�ำยาปรับผ้าน่มุ 4.3 การน�ำผ้าที่ซักแล้วออกจากเคร่ือง ต้องระมัดระวังอันตรายจากความร้อนของเครื่องซักและ เศษอุปกรณ์ทอี่ าจจะปนมากบั ผา้ 4.4 รถเข็นรองรับผ้าที่ซักแล้ว ควรเป็นรถเข็นเฉพาะไม่ปะปนกับรถเข็นผ้าเปื้อนอ่ืนและมีผ้าสะอาด รองรับผา้ ท่ีซกั แลว้ 4.5 การอบแหง้ นำ� ผา้ ทผ่ี า่ นการซกั แลว้ นำ� ไปอบแหง้ ในเครอื่ งอบผา้ โดยใชอ้ ณุ หภมู ิ 79-90 องศาเซลเซยี ส นาน 22 นาที (25 - 45 นาที) หรอื ตามข้อก�ำหนดของผ้าแต่ละประเภท 4.6 การรดี ผ้า นำ� ผา้ ท่ซี กั แล้วทมี่ ีขนาดใหญ่ รีดในเครื่องรีดผ้า แล้วพบั เกบ็ เข้าในตู้เก็บผา้ เพอื่ เตรยี ม บรกิ ารตอ่ ไป 5. การเบิกและจ่ายผ้าสะอาด เพื่อให้การบริหารจัดการระบบผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและหอผู้ป่วยมีผ้าให้บริการผู้ป่วย อยา่ งเพยี งพอ หอผู้ปว่ ยตา่ งๆ ให้เบกิ ผ้าตามความเปน็ จริง ไม่ควรสะสมผ้าไวใ้ ชเ้ กินความเปน็ ควรปฏิบัติดังนี้ 5.1 หอผปู้ ่วยตรวจนบั จำ� นวนผ้าที่คงเหลอื ในตเู้ ก็บผา้ กอ่ นเบกิ ผา้ ทกุ ครัง้ 5.2 หอผ้ปู ว่ ยระบจุ ำ� นวนผ้าแตล่ ะชนิดทีต่ อ้ งการเบกิ ตามจ�ำนวนผ้าทีข่ าด 5.3 หอผ้ปู ่วยตา่ งๆ สามารถเบกิ ผ้าได้วนั ละ 2 รอบ ตามชว่ งเวลา (ดังตารางที่ 4)
192 คู่มอื การป้องกันและควบคมุ การติดเชือ้ โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ตารางที่ 4 แสดงชว่ งเวลาการเบิกผา้ สะอาดของหนว่ ยงานต่างๆ ช่วงเวลาทเ่ี บิก หนว่ ยงานทเ่ี บิก 07.00 - 07.30 น. AE1 AE2 AE3 AE4 2ฉ และ3ฉ 07.30 - 08.00 น. CVT-ICU,CCU,SICU,S&EICU.Burn unit และหนว่ ยรบั -สง่ ผปู้ ่วย 08.30 - 09.30 น. OPD AE 3ง 2ง 3ก 3ข 3ค และ 3จ 09.00 - 09.30 น. ห้องตรวจผู้ป่วยนอก (OPD1-10) ห้องพักแพทย์ ห้องเจาะเลือด หอ้ งกายภาพบำ� บัด และห้องตรวจคลนื่ หายใจ 09.30 - 10.00 น. 5ก 5ข 5ค 5จ และ 4ง 10.00 - 10.30 น. 2ก 2ข 2ค 2จ และ NICU 11.00 - 12.00 น. 6ก 6ข 6ค 6จ 13.00 - 14.00 น. AE1 AE2 AE3 AE4 2ฉ และ3ฉ 14.00 -14.30 น. CVT-ICU, CCU, SICU, S&EICU. Burn unit 14.30-15.30 น. OPD AE 3ง 2ง 3ก 3ข 3ค และ 3จ 15.30 -16.00 น. 5ก 5ข 5ค 5จ และ จิตเวช 16.00 -16.30 น. 2ก 2ข 2ค 2จ 6ก 6ข และ 6จ หมายเหตุ: หอผู้ป่วยท่ีอยู่ในอาคาร สว.19 ช้ัน หน่วยซักฟอกจะน�ำผ้าส่งให้หอผู้ป่วยต่างๆ ตามจ�ำนวนสต๊อกผ้า แต่ละชนดิ 6. การขนผา้ สะอาด 6.1 ขนผ้าสะอาดในหบี หอ่ หรอื รถขนสง่ ท่ปี ิดมดิ ชดิ 6.2 รถขนผ้าตอ้ งได้รบั การทำ� ความสะอาดและแหง้ เสมอกอ่ นขนผา้ ทกุ ครัง้ 7. การจดั เกบ็ ผา้ สะอาด การจดั เกบ็ ผา้ สะอาดในหนว่ ยซกั ฟอกและในหอผปู้ ว่ ย จดั เกบ็ ตามประเภทผา้ ใหเ้ ปน็ ระเบยี บ จดั เกบ็ ไว้ ในช้ัน/ตู้ท่ีสะอาดมีฝาปิดมิดชิด ป้องกันฝุ่นละออง สัตว์ และแมลงต่างๆ และมีการท�ำความสะอาดตู้/ชั้น อย่างสมำ�่ เสมอ
การคดั แยกผ้าเปือ้ นและมาตรฐานการซกั ประเภทต่างๆ ประเภท ประเภทถงั ผ้า ประเภทถงุ ผ้า มาตรฐาน โปรแกรมการซกั หมายเหตุ 1. ผา้ เปอ้ื นธรรมดา ผา้ ขวางเตียง ผา้ ปเู ตยี ง เสือ้ ผา้ ผู้ป่วย ถุงผ้าสีนำ้� เงนิ ต้งั โปรแกรม โปรแกรมผ้าเปอื้ นธรรมดา ใสส่ ารฟอกขาว หมายถงึ ผ้าทกุ ประเภททเี่ ปอ้ื น ผ้ายาง ผา้ เอ้ยี มยาง ผา้ ห่อเซตสีขาว 45-60 นาที ซกั ด้วยอณุ หภมู ิ 70 องศาเซลเซยี ส เหงื่อไคล ฝุ่นละอองต่างๆ รอบการซกั ที่ใชก้ บั ผู้ป่วยทว่ั ไป ผ้าหม่ ถงุ ผา้ สนี ำ�้ เงนิ 1. ล้างน�ำ้ 1 รอบ แยกเครือ่ งซกั 2. ซัก 15 นาที (ประกอบดว้ ยน้ำ� ยาซัก สารปรบั ค่าความ เฉพาะ ผา้ เชด็ ตวั ผ้าเช็ดแก้วยา ถุงพลาสตกิ ใส เป็นกรด-ด่าง ของน้�ำ สารฟอกขาวหรือสี ตามสีผ้า) ผ้าเช็ดมอื ผู้ปว่ ยอาคารสว. ผา้ ซบั นำ้� ผา้ เชด็ เจล 3. ลา้ งน�ำ้ 3 รอบ (ประกอบด้วยสารดูดซับสารเคมีตกค้างบน ใยผา้ น้�ำยาปรับผ้าน่มุ ) อตั ราสว่ น น้�ำยา/สาร 1 ลิตร: ผา้ 100 กิโลกรมั /รอบการซกั ผ้าหอ่ เซตสีเขยี ว (กรณีท่หี อผู้ปว่ ยไมม่ ี ถงุ พลาสติกใส หนว่ ยซักฟอกซักรวมกันกบั ผ้าเขยี วหอ้ งผ่าตดั ผา้ สีเขยี วหอ้ งผา่ ตัด) 2. ผา้ เป้ือนตดิ เช้ือ ผ้าขวางเตียง ผ้าปเู ตียง เส้อื ผ้าผปู้ ว่ ย ถุงผ้าสแี ดง โปรแกรมผ้าเปือ้ นติดเชอ้ื ใสส่ ารฟอกขาว หมายถึง ผา้ ทุกประเภททีป่ น ผ้ายาง ผ้าเอย้ี มยาง เส้ือคลุมแขนยาว ซกั ดว้ ยอุณหภมู ิ 70-90 องศาเซลเซยี ส ใส่สารฟอกสี เป้ือนเลอื ดสารคัดหลั่งอุจจาระ เสื้อกโิ มโนผา้ ห่ม ผา้ เช็ดตวั ผ้ปู ว่ ย รอบการซกั ปัสสาวะของผู้ปว่ ยและผ้าทุก ผ้าเช็ดมือผู้ปว่ ยอาคารสว. 1. ล้างนำ้� 3 รอบ ประเภทที่ใชก้ ับผู้ปว่ ยโรคตดิ กรณีผา้ เป้ือนเปยี กชมุ่ ให้ใส่ถงุ 2. ซกั 10 นาที (ประกอบดว้ ยน�ำ้ ยาซกั สารปรบั ค่าความ เชอ้ื และเช้อื ด้ือยา พลาสตกิ ใสก่อนทง้ิ ถุงผา้ แดง เป็นกรด-ดา่ งของน�้ำ สารฟอกขาวหรือสี ตามสีผา้ ) ผา้ ม่านพลาสตกิ ถงุ พลาสติกสีแดง 3. ลา้ งน�ำ้ 1 รอบ การจดั การผา้ เปื้อนในโรงพยาบาล 193 ตดิ ชอื่ หอผู้ปว่ ย ตง้ั โปรแกรม 4. ซัก 1 รอบ (ประกอบดว้ ยน�้ำยาซัก สารปรบั คา่ ความเป็น และบอกชนิดผา้ 120-150 นาที กรด-ดา่ งของน�ำ้ สารฟอกขาวหรอื สี ตามสผี ้า) ม่าน 5. ลา้ งน้�ำ 3 รอบ (ประกอบด้วยสารดดู ซบั สารเคมตี กค้างบน ให้ส่ง-รบั เอง ใยผ้า น้�ำยาปรบั ผา้ น่มุ ) อัตราสว่ น นำ�้ ยา/สาร 2 ลิตร: ผ้า 100 กิโลกรมั /รอบการซกั
ประเภท ประเภทถงั ผา้ ประเภทถุงผา้ มาตรฐาน โปรแกรมการซกั หมายเหตุ 194 ตั้งโปรแกรม 120-150 นาที โปรแกรมผา้ เปอื้ นติดเชอ้ื 3. ผ้าเปอื้ นหัตถการจาก ผ้าปเู ตียง เส้ือผ้าผ้ปู ่วย เสือ้ ผา้ คู่มือการปอ้ งกันและควบคุมการติดเชอ้ื โรงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ หอ้ งผ่าตดั หมายถงึ ผา้ ทกุ บุคลากร ผ้าคลมุ ตวั ผปู้ ว่ ยหรือผา้ อ่นื ที่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ประเภททม่ี สี ีเขยี วหรอื สีท่ี ใช้ในการผา่ ตัด ผา้ หอ่ เซตสีเขยี ว ถกู ก�ำหนดใหใ้ ชใ้ น (กรณที ห่ี อผู้ปว่ ยมผี ้าสีเขยี วหอ้ ง กระบวนการผา่ ตดั ผปู้ ่วย ผา่ ตดั ) ถงุ ผ้าสีแดง รวมทงั้ เสอ้ื ผ้าบคุ ลากรที่ ปฏิบัติงานในห้องผ่าตดั 4. ผ้าเปื้อนสารเคมี ผา้ ขวางเตยี ง ผา้ ปูเตียง เส้ือผา้ ผู้ป่วย ใสถ่ ุงพลาสตกิ สี ตง้ั โปรแกรม 120-150 นาที โปรแกรมผ้าเป้ือนติดเชื้อ หมายถึง ผา เปอ นทกุ ผา้ ยาง ผา้ เอย้ี มยาง เสื้อคลมุ แขนยาว เหลอื งมดั ปากให้ ผา้ เปอื้ นผู้ป่วยท่ไี ดร้ ับยาเคมีบ�ำบดั ซกั ด้วยอุณหภมู ิ 70-80 องศาเซลเซยี ส ประเภททปี่ นเปอนสารเคมี เส้อื กิโมโน ผ้าหม่ ผา้ เช็ดตวั ผปู้ ่วย แน่นกอ่ นทิง้ ลงใน ไม่เกนิ 48 ช่วั โมง ใหป้ ฏบิ ัตดิ งั นี้ รอบการซกั เคมบี าํ บดั หรอื ผา้ ทุกชนดิ ที่ ถุงผา้ สแี ดง 1.แยกผ้าออกจากผ้าทั่วไป 1. ลา้ งนำ้� 3 รอบ ใชก้ บั ผู้ป่วยท่ไี ดรับการ 2.ลา้ งคราบสกปรกเบอื้ งตน้ ออก 2. ซัก 10 นาท(ี ประกอบด้วยนำ�้ ยาซัก รักษาดว ยเคมีบาํ บัด 3.แชส่ ารฟอกขาวหรอื ผงซกั ฟอก สารปรับค่าความเป็นกรด-ดา่ งของนำ�้ สาร ท้ิงไว้ 3 ชั่วโมง ฟอกขาวหรอื สี ตามสีผ้า) 4.รนิ น�้ำแช่ท้งิ 3. ล้างนำ้� 1 รอบ 5.ซักตามข้ันตอนโปรแกรมผา้ ตดิ 4. ซัก 1 รอบทอี่ ุณหภมู ิ 80 องศา เช้ือ เซลเซยี ส เวลา 15 นาที (ประกอบด้วย น�ำ้ ยาซกั สารปรบั ค่าความเป็นกรด-ดา่ ง อา้ งองิ หน่วยผลติ ยาและ ของน�้ำ สารฟอกขาวหรอื สี ตามสีผา้ ) สำ� นกั งานอาชวี อนามยั และความ 5. ลา้ งน�้ำ 3 รอบ(ประกอบดว้ ยสารดูด ปลอดภยั ซับสารเคมี,น้ำ� ยาปรบั ผ้านุ่ม อัตราส่วน น้�ำยา/สาร 2 ลิตร: ผ้า 100 กิโลกรัม/รอบการซกั
ประเภท ประเภทถังผ้า ประเภทถงุ ผ้า มาตรฐาน ประแกรมการซัก หมายเหตุ 5.ผา้ เปอื้ นอนื่ ๆ ผ้าถูพื้น ผ้าดนั ฝนุ่ ผา้ ขี้รวิ้ ถุงพลาสติกใส ต้งั โปรแกรมเฉพาะ โปรแกรมผ้าเป้อื นธรรมดา แยกเครอ่ื งเฉพาะ ถุงผา้ สีน้ำ� เงนิ ต้ังโปรแกรม 45-60 นาที ซักดว้ ยอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส รอบการซัก 1.ลา้ งน�้ำ 1 รอบ 2.ซัก 10 นาที (ประกอบด้วยนำ�้ ยาซัก สารปรับคา่ ความเป็นกรด-ดา่ งของน�ำ้ สารฟอกขาวหรือสี ตามสี ผ้า) 3.ลา้ งน้ำ� 3 รอบ (ประกอบด้วยสารดูดซบั สารเคมี ตกคา้ งบนใยผา้ น�้ำยาปรับผ้านมุ่ ) อตั ราสว่ น นำ้� ยา/สาร 1 ลติ ร: ผา้ 100 กิโลกรมั /รอบ การซัก ผา้ ม่าน โปรแกรมผา้ เป้อื นธรรมดา ติดชอื่ หอผูป้ ่วย และ ซกั ด้วยอุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียส บอกชนดิ ผา้ ม่าน ให้ ส่ง-รับเอง ซกั เฉพาะวันอาทิตย์ หมายเหตุ : การจดั การผา้ เปื้อนในโรงพยาบาล 195 1. การซักด้วยอณุ หภูมิ 65 องศาเซลเซียส นาน 10 นาทหี รือ อณุ หภูมิ 71 องศาเซลเซยี ส นาน 3 นาที สามารถท�ำลายเชอ้ื แบคทเี รยี เชอ้ื ไวรสั และเช้อื เอชไอวีได้ 2. หลังซกั ผ้าทุกชนิด อบแห้งดว้ ยอุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส แตใ่ ช้เวลาต่างกนั ตามประเภทผา้ (ต่ำ� สุด 23 นาที)
196 คูม่ อื การป้องกันและควบคมุ การติดเชื้อ โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ บรรณานกุ รม คณะกรรมการอำ� นวยการควบคมุ การตดิ เชอื้ และตดิ ตอ่ . 2552. คมู่ อื และระเบยี บปฏบิ ตั ิ การปอ้ งกนั และควบคมุ การติดเช้ือในโรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ ปี 2550 – 2552. คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ . หน่วยซักฟอก. 2546. Unit Profile กระบวนการปฏิบัติงานบริการผ้า. งานแม่บ้าน โรงพยาบาลศรีนครินทร์. คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น. อะเคอ้ื อณุ หเลขกะ. 2542. การป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล. พิมพ์ครัง้ ท่ี 2. กรุงเทพฯ : เจ.ซ.ี ซ.ี Eva T. & Åsa M. 2014. Level of decontamination after washing textiles at 60°C or 70°C followed by tumble drying. Infect Ecol Epidemiol. Centers for Disease Control and Prevention (CDC).2003. Guidelines for Environmental Infection Control in Health-Care Facilities: G.Laundry and Bedding. สืบค้นจาก www.cdc.gov/ infectioncontrol/guidelines/environmental/background/laundry.html เม่ือวันท่ี 25 มิถุนายน พ.ศ.2561
การจดั การขยะมูลฝอยในโรงพยาบาล 197 การจัดการขยะมูลฝอยในโรงพยาบาล พรพิมล ผักไหม* ภัทรวรรณ ระยะเพมิ่ ** ชนดิ า สีกาโมก*** ความสำ� คญั ขยะมูลฝอยจากสถานพยาบาลมีลักษณะหลากหลายและแตกต่างจากขยะจากชุมชนทั่วไป มีท้ังขยะทั่วไป ขยะรีไซเคิล ขยะติดเช้ือ ขยะเคมีบ�ำบัด ขยะอันตราย เป็นต้น หากมีการจัดการที่ไม่ถูกหลักสุขาภิบาลและ ได้มาตรฐาน ตั้งแต่ข้ันตอนการเก็บรวบรวม การขนย้าย และการก�ำจัด อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้ปฏิบัติงาน และเปน็ แหล่งแพร่กระจายเชื้อโรคสู่สิง่ แวดลอ้ มได้ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ เป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ ขนาด 1,200 เตียง ผลิตขยะ รวมทุกประเภทประมาณ 3.25-3.69 ตัน/วัน หรือ 1,187.29 – 1,347.64 ตัน/ปี (ปริมาณขยะโรงพยาบาล ศรีนครินทร์ปี 2557 - 2560) โดยขยะไม่ติดเชื้อ ขยะติดเชื้อ และขยะรีไซเคิลปริมาณเฉล่ีย 568.83, 453.17, 233.73 ตนั /ปี ตามลำ� ดบั ซงึ่ โรงพยาบาลมนี โยบายการจดั การขยะมลู ฝอยในโรงพยาบาล ทส่ี อดคลอ้ งกบั นโยบาย ด้านการอนุรักษ์พลังงานและสอดคล้องกับแนวทางการป้องกันการแพร่กระจายเช้ือ โดยก�ำหนดให้ทุกหน่วยงาน คัดแยกขยะมลู ฝอยใหถ้ กู ประเภท จดั เก็บรวบรวม ขนยา้ ย และก�ำจดั ขยะมูลฝอยอนั ตรายใหถ้ ูกสขุ ลกั ษณะและได้ มาตรฐานเพอื่ ความปลอดภยั ของผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ผใู้ ชบ้ รกิ าร และปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชอื้ สสู่ ง่ิ แวดลอ้ มและชมุ ชน ค�ำจำ� กดั ความ 1. ขยะมูลฝอยในโรงพยาบาล หมายถึง ขยะมูลฝอยที่เกิดจากกระบวนการดูแลรักษาผู้ป่วย การให้บริการ ผปู้ ว่ ยและญาติ รวมทง้ั การบรหิ ารจดั การในทกุ หนว่ ยงานภายในโรงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ ซง่ึ แบง่ เปน็ 3 ประเภท ดงั น้ี 1.1 ขยะมูลฝอยไม่ติดเช้ือ หมายถึง เศษวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ภายในสำ� นักงาน เช่น เศษกระดาษ วัสดุ ส�ำนกั งาน เศษอาหาร ถงุ พลาสติก กลอ่ งโฟมบรรจุอาหาร ซองบรรจุวัสดทุ างการแพทย์ กระดาษเช็ดมอื ของเสีย ที่ผ่านการฆา่ เชือ้ แลว้ (Autoclaved Wastes) เปน็ ต้น 1.2 ขยะมลู ฝอยตดิ เชอื้ หมายถงึ ขยะมลู ฝอยทเ่ี ปน็ ผลจากกระบวนการรกั ษาพยาบาล การตรวจวนิ จิ ฉยั การให้ภูมิคุ้มกันโรค และการศึกษาวิจัยที่จัดท�ำข้ึนท้ังในมนุษย์และสัตว์ อุปกรณ์และวัสดุต่างๆ ท่ีปนเปื้อน เลือด หนอง สารคัดหล่ังของผู้ป่วย เช่น ส�ำลี ผ้าก๊อซ ผ้าปิดปากปิดจมูก หมวกคุลมผมชนิดใช้แล้วท้ิง กระบอก ฉีดยา กระบอกเจาะเลือด ท่อระบาย สายสวน ชุดให้เลือด เศษช้ินเนื้อ รก ถุงใส่ปัสสาวะ ผ้าอ้อมส�ำเร็จรูป ผ้าอนามัย ตลับเก็บ อุจจาระ กระป๋องเก็บปัสสาวะ หลอดบรรจุเลือด ขวดวัคซีน ขวดน�้ำเกลือท่ีปนเปื้อนเลือด ถงุ มอื ใช้แล้วทิ้ง ถุงมือปราศจากเชอ้ื และขยะมูลฝอยจากผูป้ ่วยตดิ เช้อื ดื้อยา เป็นตน้ 1.3 ขยะมูลฝอยพิเศษ หมายถึง ขยะมูลฝอยท่ีมีความยุ่งยากในการเก็บและต้องก�ำจัดด้วยวิธีการท่ี แตกต่างจากขยะมลู ฝอยติดเช้อื และไมต่ ดิ เชอ้ื ไดแ้ ก่ * นกั วิชาการสาธารณสขุ หน่วยควบคมุ การตดิ เชอ้ื โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ** หัวหน้าหนว่ ยอาคารและสถานท่ี โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ *** นักอาชวี อนามัย ส�ำนกั งานอาชวี อนามัยและความปลอดภยั คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่
198 ค่มู ือการป้องกันและควบคุมการตดิ เชอื้ โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 1) ขยะมูลฝอยมคี ม หมายถงึ ขยะมคี มท่ีเกดิ จากกระบวนการดแู ลรักษา วนิ ิจฉัยและการปฏิบตั ิ ทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ เข็มทุกชนิด ใบมีด หลอดยา หลอดแก้วแตก ปรอทแตก ขวดยาแตก ฝาขวดโลหะ เข็มเจาะเลือดที่ปลายนิ้ว (Blood lancet) แผ่นสไลด์ Hematocrit tube ขวดยาปฏิชีวนะ ขวดวัคซีน; วัคซนี ป้องกนั วัณโรค โปลโิ อ หดั หัดเยอรมนั คางทูม ไข้รากสาดน้อย เปน็ ตน้ 2) ขยะมูลฝอยเคมีบ�ำบัด หมายถึง ขยะท่ีเป็นอันตรายและมีพิษ ที่ถูกท้ิงเป็นขยะภายหลัง การใชง้ านดา้ นการรกั ษาพยาบาลผปู้ ว่ ยเคมบี ำ� บดั และอปุ กรณท์ ส่ี มั ผสั ยาเคมบี ำ� บดั ทกุ ชนดิ เชน่ ขวดยาเคมบี ำ� บดั ภาชนะบรรจุยาเคมีบำ� บดั กระบอกฉีดยาเคมีบ�ำบัดและอปุ กรณผ์ สมยาเคมบี �ำบดั ทุกชนิด ขวดน้ำ� เกลอื ทผ่ี สมเคมี บำ� บัด สงิ่ ของตา่ งๆ ท่สี มั ผสั กบั สารเคมบี �ำบดั (ยกเวน้ ของมีคม) 3) ขยะมลู ฝอยสารพษิ หมายถงึ วสั ดุ อปุ กรณท์ เ่ี หลอื จากการใชง้ านและมพี ษิ ตอ่ สขุ ภาพรา่ งกาย ของมนษุ ย์ รวมท้ังมีผลตอ่ สงิ่ แวดล้อม เชน่ ถา่ นไฟฉาย แบตเตอร่ีทีห่ มดอายุ กระปอ๋ งสเปรย์ กระป๋องยาฆ่าแมลง ทุกชนดิ หลอดนอี อน (Fluorescent) ยาหมดอายุ ปากกาเคมี ปากกาลบคำ� ผดิ ของเสยี ผลิตภณั ฑท์ างการแพทย์ ทม่ี ีปรอท กระดาษคาร์บอน และซองน�้ำยาท�ำลายเช้ือ; Virkon, Per acetic acid เปน็ ตน้ 4) ขยะมูลฝอยรีไซเคิล (Re-cycle) หมายถึง วัสดุ อุปกรณ์ส่ิงของท่ีใช้ภายในอาคารส�ำนักงาน สามารถน�ำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก เช่น กระดาษ กล่องกระดาษ พลาสติก ขวดนม ขวดพลาสติกขาวขุ่น ขวดพลาสติกใส ขวดน�้ำดื่ม ขวดน้�ำเกลือ กระป๋องเครื่องด่ืมทุกชนิด ขวดยา (ยกเว้น ขวดยาเคมี ขวดวัคซีน ขวดยาปฏิชวี นะ) แกลลอนทกุ ขนาด ขวดแกว้ ที่ไม่แตก เหลก็ อลูมิเนียม ทองแดง และขดลวด เป็นตน้ 5) ขยะกัมมนั ตรงั สี หมายถงึ เศษหรือส่วนที่เกิดจากการใชห้ รอื ปนเป้อื นสารกมั มนั ตรงั สีชนดิ ต่างๆ จากการวินิจฉยั โรค 6) ขยะสารเคมีจากห้องปฏิบัติการ หมายถึง ขยะของเสียหรือของที่เหลือใช้ที่ปนเปื้อนสารเคมี ที่เป็นอันตรายและมีพิษท่ีผ่านการใช้งานในห้องปฏิบัติการ เช่น Ethanol, Methanol, Phenol, Formalin, Toluene, Halogenated Solvent, Cyaninde, Glutaraldehyde, และกรด-ดา่ ง เป็นตน้ วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานด้านการจัดการขยะมูลฝอยในโรงพยาบาล ต้ังแต่ข้ันตอน การคัดแยก การรวบรวม การขนส่ง และการกำ� จัดขยะมูลฝอยในโรงพยาบาล 2. เพ่ือให้บุคลากรทุกระดับมีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนัก และให้ความร่วมมือในการจัดการมูลฝอย และปฏิบตั ติ ามแนวทางการป้องกันการติดเช้อื ในโรงพยาบาลไดอ้ ย่างถูกต้อง 3. เพอ่ื ป้องกันการปนเป้อื นของขยะทุกประเภทสสู่ ิ่งแวดล้อมและชุมชน แนวทางการจดั การขยะมลู ฝอยในโรงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ 1. บคุ ลากร ผ้ปู ่วย ญาติและผใู้ ชบ้ รกิ าร แยกขยะตามประเภทของขยะ และทิง้ ขยะให้ถกู ประเภท 1.1 ขยะไมต่ ิดเชอ้ื ท้งิ ในถังขยะทม่ี ถี ุงพลาสตกิ สีด�ำ 1.2 ขยะตดิ เช้อื ทิ้งในถงั ขยะทม่ี ีถุงพลาสติกสแี ดง และเป็นถงั ขยะทม่ี ีฝาปิด 1.3 ขยะพิเศษ ทมี่ กี ารแยกท้ิงเฉพาะดงั นี้ 1) ขยะของมีคม ทิง้ ในกลอ่ งบรรจขุ องมคี มหรือแกลลอนพลาสติกอยา่ งหนา 2) ขยะเคมีบ�ำบดั ทง้ิ ในถังขยะทมี่ ถี ุงพลาสตกิ สีเหลอื ง และมสี ญั ลักษณ์ยารกั ษาโรคมะเรง็ ก�ำกับตดิ ถงุ 3) ขยะสารพิษ ท้งิ ในถงั ขยะที่มถี ุงพลาสติกใส และเขยี นสต๊กิ เกอร์กำ� กบั ติดถุงว่าขยะสารพษิ
การจัดการขยะมูลฝอยในโรงพยาบาล 199 4) ขยะรีไซเคลิ ท้งิ ในถุง/ถังพลาสติกขนาดใหญ่ หรอื กล่องกระดาษ 5) ขยะกัมมันตภาพรังสี ทิ้งในถุงพลาสติกสีเหลืองซึ่งเป็นภาชนะรองรับเฉพาะตามมาตรฐาน ขององค์กรปรมาณเู พอื่ สันติ และเก็บให้สลายตัวอยา่ งนอ้ ย 8 ครง่ึ ชวี ติ 6) สารเคมีจากหอ้ งปฏิบัติการ บรรจใุ ส่ขวดสารเคมหี รือแกลลอนที่บรรจสุ ารเคมีเดมิ 2. ทุกหน่วยงานก�ำหนดท่ีตั้งของถังขยะแต่ละประเภทให้ชัดเจน มีป้ายแสดงลักษณะประเภทของขยะ ใช้ถุง รองรบั ขยะตามประเภทบดุ า้ นในของถงั ขยะ แล้วพลกิ สว่ นบนของถงุ ใหด้ า้ นในกลับออกด้านนอกและหุ้มปากถังขยะไว้ 3. ท้งิ ขยะตามประเภท (ตาม ข้อ 1.1-1.3) 4. เมือ่ ขยะมปี รมิ าณ 2 ใน 3 ของถงุ ขยะ คนงานเป็นผู้รวบรวมและเก็บถุงขยะโดยมดั ปากถุงใหแ้ น่น และ ติดป้ายประเภทขยะบนถุงขยะทุกถุง แล้วติดป้ายระบุประเภทขยะและช่ือหอผู้ป่วยหรือหน่วยงานให้เรียบร้อย หากเปน็ กลอ่ งหรือแกลลอนส�ำหรับทิง้ ของมีคมเมอื่ มปี รมิ าณ 3 ใน 4 ของภาชนะใหป้ ิดฝาให้แนน่ สนทิ ก่อนขนสง่ และเขียนช่ือหนว่ ยงานใหเ้ รียบรอ้ ย 5. น�ำขยะบรรจุในรถเข็นขยะและขนส่งไปไว้ท่ีจุดพักขยะ ที่โรงพยาบาลก�ำหนด โดยระมัดระวังเรื่อง การตกหลน่ ของขยะ 5.1 การขนส่งขยะจะก�ำหนดเวลาท่ีชัดเจน โดยจะมีเจ้าหน้าท่ีจากหน่วยอาคารและสถานที่ จัดเก็บ ในชว่ งเวลา 10.00 - 11.00 น. และ 14.00 - 15.00 น. 5.2 เน้นความปลอดภัยในการเก็บและขนส่งขยะ ซ่ึงคนงานผู้ปฏิบัติงานจะต้องระมัดระวังอันตราย จากการบาดเจ็บจากของมีคม 5.3 การวางขยะในที่พักขยะ จะต้องแยกตามประเภทของขยะ โดยการยกถุงจากรถเข็นขยะ วางในภาชนะรองรับด้วยความระมดั ระวงั หา้ มใช้ไมห้ รือเหลก็ ในการยกถงุ ขยะ หา้ มโยนถงุ ขยะ 5.4 คนงานขนขยะส่วนกลาง (หน่วยอาคารและสถานที่) รวบรวมและบรรจุขยะในรถเข็นขยะ ตามเส้นทางท่ีก�ำหนดด้วยความระมัดระวัง 6. การก�ำจดั ขยะ 6.1 ขยะไม่ตดิ เช้ือ นำ� ไปวางในคอนเทนเนอร์บรรจุขยะเพ่ือน�ำสง่ ให้เทศบาลนครขอนแก่นด�ำเนนิ การ ก�ำจัดตอ่ ไป 6.2 ขยะติดเชื้อ ก�ำจัดโดยบริษัทเอกชนขนย้ายไปเผาท�ำลายด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงตามท่ีกระทรวง สาธารณสขุ กำ� หนดโดยประกาศในราชกจิ จาอเุ บกษา โดยการเผาในเตาเผา ใหใ้ ชเ้ ตาเผาทม่ี หี อ้ งเผามลู ฝอยตดิ เชอ้ื และหอ้ งเผาควัน การเผามลู ฝอยตดิ เชอ้ื ให้เผาท่ีอุณหภมู ิไม่ต่ำ� กวา่ 760 องศาเซลเซยี ส และในการเผาควันใหเ้ ผา ด้วยอุณหภูมิไม่ต่�ำกว่า 1,000 องศาเซลเซียส ส่วนขยะติดเช้ือที่เป็นน้�ำ เช่น น�้ำเลือด หนอง ให้เทลงในชักโครก แล้วราดน�ำ้ ตามมากๆ 6.3 ขยะมลู ฝอยมีคม อบทำ� ลายเชื้อทอ่ี ณุ หภมู ิ 134 องศาเซลเซยี ส เปน็ เวลา 1 ช่วั โมง 30 นาที และ บดละเอียด จากนั้นบรรจุใส่กล้องพลาสติกหรือกล่องกระดาษรวบรวมไว้ เพ่ือส่งศูนย์ก�ำจัดขยะติดเชื้อมหาลัย ขอนแกน่ และเทศบาลนครขอนแกน่ ตอ่ ไป 6.4 ขยะเคมบี �ำบดั สง่ ก�ำจัดท่ีศูนย์กำ� จดั ขยะตดิ เชอื้ มหาลยั ขอนแกน่ 6.5 ขยะสารพษิ นำ� ไปพักไว้ท่ีพกั ขยะสารพิษเพือ่ สง่ เทศบาลนครขอนแก่น น�ำไปกำ� จดั 6.6 ขยะรไี ซเคลิ นำ� ไปรวมไว้ในบริเวณก�ำหนดเพ่ือใหผ้ ู้รับซ้อื ขยะมาจัดการต่อไป 6.7 ขยะกัมมันตภาพรังสี รวบรวมไว้ ณ ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ เพื่อรวบรวมจัดส่ง ไปท�ำลายตามมาตรฐานของส�ำนกั งานปรมาณูเพ่อื สันตแิ ห่งประเทศไทย
200 คู่มือการป้องกนั และควบคุมการติดเชือ้ โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ 6.8 สารเคมีจากห้องปฏิบตั กิ าร รวบรวมไว้ ณ ห้องพักสารเคมที ่โี รงพยาบาลกำ� หนด เพ่ือจัดส่งใหก้ ับ บรษิ ทั เอกชน นำ� ไปทำ� ลายตามมาตรฐานกระทรวงอตุ สาหกรรม โดยกอ่ นการขนยา้ ยใหแ้ จง้ สำ� นกั งานอาชวี อนามยั และความปลอดภยั เพ่อื จัดทำ� รายชื่อสารเคมที ี่จะสง่ กำ� จัดกอ่ นทกุ คร้ัง ตารางสรุปแนวทางการจดั การขยะมูลฝอยในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ประเภทขยะ ภาชนะรองรบั การก�ำจดั หนว่ ยงานรับกำ� จดั เทศบาลนครขอนแก่น ขยะมูลฝอยไม่ติดเชอ้ื ถงุ พลาสตกิ สีด�ำ ฝงั กลบ หจก.ส.เรืองโรจน์ ขยะมูลฝอยติดเชือ้ ถงุ พลาสตกิ สีแดง บริษัทเอกชนขนยา้ ยไปเผาท�ำลายดว้ ยวิธี เฉพาะเจาะจงท่ีอุณหภมู ไิ ม่ต�่ำกวา่ 7600C หนว่ ยงาน/หอผปู้ ่วย และเผาควนั ดว้ ยอุณหภมู ไิ มต่ ่�ำกวา่ 1,0000C ศนู ย์กำ� จัดขยะติดเช้อื ขยะมูลฝอย เทท้งิ ชักโครก เขา้ ระบบบ�ำบดั น�้ำเสียมหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น มหาลยั ขอนแกน่ / ทีเ่ ปน็ น�้ำและสารคดั หลั่ง เทศบาลนครขอนแก่น ศนู ย์ก�ำจดั ขยะตดิ เชอ้ื กล่องพลาสตกิ แข็ง อบทำ� ลายเชื้อ (Autoclave) ทีอ่ ณุ หภูมิ มหาลยั ขอนแกน่ / สแี ดง 1340C เปน็ เวลา 1 ชว่ั โมง 30 นาที เทศบาลนครขอนแกน่ และบดละเอียด ศูนยก์ �ำจดั ขยะตดิ เช้อื มหาลยั ขอนแก่น / ขยะมลู ฝอยมคี ม อบท�ำลายเชอ้ื (Autoclave) ทอ่ี ณุ หภมู ิ เทศบาลนครขอนแกน่ กลอ่ งพลาสติกแขง็ สดี ำ� 1340C เป็นเวลา 1 ชัว่ โมง 30 นาที ศูนย์กำ� จัดขยะติดเชอ้ื มหาลยั ขอนแกน่ และบดละเอยี ด เทศบาลนครขอนแก่น ธนาคารขยะ คณะ กล่องกระดาษแข็ง อบทำ� ลายเชอื้ (Autoclave) ท่ีอณุ หภูมิ แพทยศาสตร์/เอกชน ห่อหุ้มดว้ ยถงุ พลาสตกิ 1340C เป็นเวลา 1 ชัว่ โมง 30 นาที ภาควชิ ารังสวี ิทยา คณะ สแี ดง และบดละเอียด แพทยศาสตร์ บจ.สยามแมททีเรยี ล ขยะมลู ฝอยเคมบี �ำบัด ถงุ พลาสติกสเี หลอื ง ส่งศนู ยก์ �ำจดั ขยะติดเชือ้ มหาลยั ขอนแก่น บจ.อคั คีปราการ ขยะมลู ฝอยสารพษิ ถุงพลาสติกใส ฝงั กลบ ขยะมูลฝอยรีไซเคิล ถงุ พลาสตกิ ใส/ รบั ซ้อื โดยบริษทั เอกชน ภาชนะที่เหมาะสม ขยะกมั มันตภาพรังสี ถุงพลาสติกสีเหลอื ง เก็บให้สลายตัวอย่างนอ้ ย 8 คร่ึงชีวิต ขยะสารเคมี ใสถ่ ุงพลาสติกสีเหลอื ง จัดส่งให้กบั บรษิ ทั เอกชน จากห้องปฏบิ ตั ิการ ระบขุ ยะสารเคมี แนวทางการทำ� ความสะอาดถังขยะและรถเข็นขยะ 1. สวมเครอื่ งปอ้ งกนั รา่ งกายใหถ้ กู ตอ้ งครบถว้ นกอ่ นทำ� ปฏบิ ตั งิ านทกุ ครงั้ ไดแ้ ก่ หมวกคลมุ ผม ผา้ ปดิ ปาก ปดิ จมูก เส้อื คลมุ แขนยาว ผา้ ยางกนั เป้ือน ถงุ มอื ยางยาว และรองเท้าบูต๊ 2. ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับขยะทุกขั้นตอนจะต้องล้างถังขยะ และรถเข็นขยะด้วยน้�ำและผงซักฟอกทุกคร้ัง ที่มีการขนส่งขยะ
การจดั การขยะมลู ฝอยในโรงพยาบาล 201 3. ถังขยะท่ีใช้ในหน่วยงานต้องท�ำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือเม่ือสกปรก โดยท�ำ ความสะอาดดว้ ยน้�ำและผงซกั ฟอก แลว้ ผงึ่ หรอื เชด็ ใหแ้ ห้ง 4. น�้ำจากการชะล้างถังขยะและรถเขน็ ขยะ ต้องไหลเข้าสทู่ อ่ นำ�้ เสยี ของโรงพยาบาลเทา่ น้ัน การปอ้ งกนั การติดเชื้อในโรงพยาบาลส�ำหรบั บุคลากรทป่ี ฏบิ ัตงิ านเกย่ี วข้องกับขยะ 1. การจัดเตรยี มอุปกรณส์ �ำหรบั การจดั การขยะให้พร้อมใช้งาน ไดแ้ ก่ ถุงขยะ เชอื กฟางรัดถงุ ขยะ คีมคีบ รถเขน็ ขยะ เป็นตน้ 2. บคุ ลากรปฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานการปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชอื้ แบบมาตรฐาน (Standard Precautions) โดยเนน้ การทำ� ความสะอาดมืออยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ กอ่ นและหลงั การปฏิบัตงิ าน 3. แตง่ กายใหร้ ดั กมุ และสวมเครอ่ื งปอ้ งกนั รา่ งกายสว่ นบคุ คล ใหค้ รบถว้ น ไดแ้ ก่ หมวกคลมุ ผม ผา้ ปดิ ปาก ปดิ จมกู เสอ้ื คลมุ แขนยาว ผา้ ยางกนั เปอ้ื น ถงุ มอื ยางยาว และรองเทา้ บตู๊ และถอดอปุ กรณอ์ อกดว้ ยความระมดั ระวงั ปอ้ งกนั ไม่ให้เกดิ การปนเปอ้ื นโรคขณะถอดอุปกรณ์ 4. ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง ไม่อุ้ม ไม่โยน ไม่ลากถุงขยะหรือใช้เคร่ืองมือท่ีเป็นโลหะแหลมคม ไมล่ ากถงุ ขยะ และระมัดระวังสงิ่ แปลกปลอมของมคี มในถงุ ขยะทิม่ ต�ำขณะปฏิบตั งิ าน 5. หากมกี ารแตกรั่วของถงุ ขยะรองรับอีก 1 ชั้น และมดั ปากถุงให้แนน่ และหากมีขยะตดิ เชอ้ื หรอื สารน้ำ� จากขยะตดิ เชอื้ ตกหล่น ใหเ้ ช็ดคราบสกปรกด้วยเศษผ้าหรอื กระดาษช�ำระ แลว้ ทิง้ ขยะตดิ เช้ือ และใชน้ ้ำ� ยาฆ่าเชอื้ 0.5% Sodium hypochlorite (0.5% virkon) ราดบริเวณพนื้ ผวิ ที่ปนเปอ้ื น ทิ้งไว้ 10 นาที กอ่ นทำ� ความสะอาด พ้นื ตามปกติ 6. เม่อื เกิดอุบตั เิ หตุถกู ของมีคมทิม่ ต�ำหรอื สัมผสั สารคัดหล่ัง สารเหลวในขยะ กระเดน็ ถกู ตา ปาก บาดแผล ของบคุ ลากรในขณะปฏบิ ตั งิ าน ให้ปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ และติดต่อหน่วยควบคุมการติดเชอ้ื เพอื่ ให้การดูแลต่อไป 7. บคุ ลากร ตอ้ งได้รบั การตรวจสขุ ภาพประจำ� ปี โดยเนน้ การถ่ายภาพรงั สีทรวงอก การตรวจหาเชื้อไวรสั ตับอกั เสบชนิดบีและซี เป็นประจำ� ทกุ ปี 8. บคุ ลากร ไดร้ บั การเสรมิ สรา้ งภูมิคมุ้ กนั โรคไวรัสตับอักเสบ ชนดิ บี กอ่ นการปฏิบัตงิ านเก่ยี วกับขยะ เครอื่ งปอ้ งกนั รา่ งกายส่วนบคุ คล การเลือกใช้เครื่องป้องกันร่างกายที่ถูกต้องเหมาะสมจะช่วยลดความเส่ียงในการสัมผัสส่ิงคุกคามและ สุขอนามัยของผู้ปฏิบตั ิ ควรประกอบดว้ ยสง่ิ ตา่ งๆ ดงั น้ี 1. หมวกคลุมผม ส�ำหรับป้องกันการกระเด็นของเชื้อโรคจากเลือด สารคัดหล่ัง และน้�ำชะล้างถังขยะ ถูกผมและศรี ษะ 2. ผ้าปิดปาก-ปิดจมูก ใช้ป้องกันฝุ่น เลือด และสารคัดหล่ังกระเด็นเข้าปากและจมูกของผู้ปฏิบัติงาน และปอ้ งกันการแพรก่ ระจายเชือ้ จากระบบทางเดินหายใจ 3. ถุงมือสะอาดหรือถุงมือยางหนา ใช้ส�ำหรับงานซักล้างหรือหยิบจับของหนักๆที่สกปรก ควรมีขนาด ยาวถงึ ขอ้ ศอก โดยกอ่ นใสถ่ งุ มอื และหลงั ถอดถงุ มอื ตอ้ งลา้ งมอื ใหส้ ะอาดดว้ ยนำ้� และนำ�้ ยาฆา่ เชอื้ ประมาณ 40 - 60 วนิ าที 4. เสอื้ คลมุ เพ่อื ปอ้ งกนั ไมใ่ หช้ ุดปฏิบัตงิ านเปรอะเป้ือนหรือสัมผสั ส่ิงสกปรกจากการขนยา้ ยขยะมลู ฝอย 5. ผ้ายางกนั เป้อื น เพอ่ื ปอ้ งกันการกระเดน็ ของส่ิงสกปรกนำ้� ชะขยะ เลอื ด หรอื สารคัดหลงั่ เปอื้ นเสือ้ ผา้ 6. รองเทา้ บู๊ต เพ่อื ป้องกนั ไมใ่ หค้ วามสกปรก สารคัดหลงั่ เปรอะเปอื้ นเทา้ และหน้าแข้ง
202 คู่มือการป้องกันและควบคุมการติดเชอื้ โรงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น แผนผังการจัดการระบบขยะมลู ฝอยในโรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ ผูร้ ับผิดชอบ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิ ผเู้ ก่ยี วขอ้ ง หน่วยงาน/ภาควชิ า - บคุ ลากร 1. ขยะมลู ฝอยตดิ เชอ้ื หน่วยควบคุมการตดิ เชือ้ / - ผปู้ ่วย 2. ขยะมลู ฝอยไม่ติดเช้ือ หน่วยอาคารและสถานที่/ - ญาติ 3. ขยะมลู ฝอยพิเศษ สำ� นกั งานอาชวี อนามัย - ของมคี ม และความปลอดภัย บุคลากร แยกประเภทขยะ - เคมีบำ� บัด - สารพษิ หัวหนา้ /หนว่ ย ก�ำหนดบรเิ วณที่ตั้ง - รีไซเคิล งาน/หอผู้ป่วย/ ของถงั ขยะในหนว่ ยงาน - กัมมนั ตภาพรงั สี ภาควิชา/แม่ ทง้ิ ขยะให้ถกู ประเภท - สารเคมีจากห้องปฏิบัตกิ าร บา้ น/บคุ ลากร คนงาน เก็บรวบรวมขยะ - ในหนว่ ยงาน สำ� นักงานอาชวี อนามยั - ทพี่ ักขยะ และความปลอดภัย คนงาน ขนส่งขยะ - เสน้ ทาง หน่วยอาคารและสถานที่ - ความปลอดภยั คนงาน การพักขยะ - ก�ำหนดเวลา ศนู ย์ขยะรีไซเคลิ / - ในหน่วยงาน หน่วยอาคารและสถานท/่ี คนงาน การกำ� จัดขยะ - ทีพ่ ักขยะ งานพสั ดุ หวั หนา้ หนว่ ย ไม่ได้ ส�ำนกั งานอาชีวอนามัย อาคารและ - เทศบาลนครขอนแกน่ ได้ ศนู ยข์ ยะรีไซเคลิ และความปลอดภัย/ สถานท่ี - มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น งานพัสด/ุ เทศบาลนคร - บริษทั เอกชน ขอนแก่น/มหาวิทยาลัย ขอนแก่น การประเมินการปฏบิ ตั ิการจดั การขยะมูลฝอยในโรงพยาบาล โรงพยาบาลศรนี ครนิ ทรม์ กี ารตดิ ตามการปฏบิ ตั ทิ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กบั การจดั ขยะมลู ฝอย อยา่ งตอ่ เนอื่ งเปน็ ประจำ� ทุกเดอื นโดยส�ำนกั งานอาชีวอนามัยและความปลอดภยั ซึง่ มีเกณฑ์การประเมินดังนี้
การจัดการขยะมลู ฝอยในโรงพยาบาล 203 แบบตรวจสอบการจดั การขยะมูลฝอยในคณะแพทยศาสตร์ หัวข้อการประเมนิ ผา่ น ไมผ่ า่ น 1. การเกบ็ และแยกขยะถูกตอ้ งตามประเภทขยะในโรงพยาบาล 1.1 ขยะติดเชอ้ื ใสถ่ ุงพลาสตกิ สีแดง 1.2 ขยะไมต่ ดิ เช้ือ ใส่ถงุ พลาสตกิ สดี ำ� 1.3 ขยะพเิ ศษ 1.3.1 ขยะของมีคม ได้แก่ - เข็ม ใบมีด / Slide แกว้ ใสก่ ลอ่ งพลาสติกสแี ดง - Ampule/Vial ยา และหลอดแกว้ แตก ใส่แกลลอนสีด�ำ - Set IV ทิ้งในถุงพลาสตกิ สีแดง 1.3.2 ขยะเคมบี �ำบัด / กมั มนั ตรังสี ใสถ่ งุ พลาสติกสีเหลอื ง 1.3.3 ขยะถุงมอื ใชแ้ ล้วท้งิ ใส่ถุงพลาสติกสีแดง 1.3.4 ขยะสารพษิ ใส่ถงุ พลาสตกิ ใสเลก็ ติดฉลากขยะสารพษิ 1.3.5 ขยะรไี ซเคิล ใส่ถงุ พลาสติกใส 1.3.6 ขยะสารเคมีจากห้องปฏบิ ัติการ - ประเภทของแข็ง ใส่ถงุ พลาสติกสเี หลือง - ประเภทของเหลวใส่ในขวดปิดฝาตดิ ฉลากให้ชัดเจน 2. มปี า้ ยบอกประเภทของขยะชดั เจนและถกู ตอ้ ง 3. ถังขยะตดิ เชอื้ มีฝาปดิ มดิ ชดิ ใช้กลไกการปดิ เปิดดว้ ยเทา้ 4. มกี ารติดสต๊กิ เกอร์ระบุประเภทขยะมลู ฝอย วันท่ี และหอผปู้ ่วย/หน่วยงานบนถงุ ขยะ กอ่ นนำ� ไปไวท้ ่ีพกั 5. การป้องกนั การติดเชอ้ื ในขณะปฏิบัตงิ านเกี่ยวกับขยะของคนงานเก็บขยะ 5.1 คนงานเก็บขยะใช้อุปกรณ์ป้องกันสารสมั ผสั ขยะท่ถี ูกตอ้ งเหมาะสม ไดแ้ ก่ ผา้ กนั เปอ้ื น ถุงมอื ยางชนดิ ยาว ผ้าปดิ ปากปิดจมกู รองเทา้ บู๊ต 5.2 ปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความระมดั ระวงั ไมว่ า่ จะเป็นทา่ ทางการยก และสิ่งแปลกปลอมตา่ งๆ 5.3 เม่อื เสรจ็ สน้ิ การปฏบิ ัตงิ านควรล้างมอื อย่างถกู วธิ ีทกุ คร้ัง และอาบน�้ำเปลย่ี นเส้ือผ้ากอ่ นกลบั ดัชนชี ้วี ัด : ความถกู ต้องของการแยกประเภทขยะมลู ฝอย ร้อยละ 80 ขึ้นไป
204 คู่มือการปอ้ งกนั และควบคุมการติดเชื้อ โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น บรรณานกุ รม กฎกระทรวงสาธารณสขุ วา่ ด้วยการกำ� จัดมลู ฝอยติดเชอื้ พ.ศ.2545. ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั กฤษฎกี า เลม่ 119 ตอนท่ี 86 ก วนั ท่ี 5 กันยายน 2545. คณะกรรมการบริหารความเส่ียงทางกายภาพและส่ิงแวดล้อมโรงพยาบาลศรีนครินทร์. (2545). คู่มือการก�ำจัด ขยะมูลฝอยในโรงพยาบาลศรีนครินทร.์ ขอนแก่น: โรงพิมพ์มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น. คณะกรรมการบรหิ ารขยะและสารพษิ คณะแพทยศาสตรศ์ ริ ริ าชพยาบาล. คมู่ อื การบรหิ ารจดั การขยะและสารพษิ . จุฑารัตน์ เอี่ยมทอง. (2548). คู่มือการก�ำจัดขยะมูลฝอยในโรงพยาบาลศรีนครินทร์และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ . ขอนแก่น: โรงพมิ พ์คลงั นานาวทิ ยา. จันทร์เพ็ญ บวั เผ่อื น, บุญหลาย มงคลชยั และเพลนิ จันทร์ เชษฐ์โชติศักด.์ิ (2557). การจดั การขยะมูลฝอยในโรง พยาบาล. อ้างใน คู่มือการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปี 2557-2560. (หน้า 108-113). ขอนแก่น: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา จังหวัด ขอนแก่น. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เร่ืองหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบมาตรฐานทางชีวภาพในการก�ำจัดมูลฝอยติด เชอื้ พ.ศ.2546. ประกาศ ณ 4 มนี าคม 2546 ราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั ประกาศทวั่ ไป. เลม่ ที่ 120 ตอนพเิ ศษ 45 วนั ท่ี 11 เมษายน 2546 พระราชบญั ญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535. (2535). หมวด 3 การก�ำจดั ส่ิงปฏกิ ูลและมูลฝอย. ประกาศ ณ 29 มีนาคม 2535. สำ� นกั อนามยั สง่ิ แวดลอ้ ม กรมอนามยั . (2556). คมู่ อื การฝกึ อบรมผปู้ ฏบิ ตั งิ านมลู ฝอยตดิ เชอื้ หลกั สตู รการปอ้ งกนั และระงับการแพร่เช้ือหรืออันตรายที่อาจเกิดจากมูลฝอยติดเชื้อ. กรุงเทพฯ: ส�ำนักงานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก. สำ� นักอนามยั สิง่ แวดล้อม กรมอนามยั . พมิ พ์ครัง้ ท่ี 4 พฤษภาคม 2555. คมู่ ือมาตรฐานการสุขาภิบาลและความ ปลอดภยั ในโรงพยาบาล. กรงุ เทพฯ: ส�ำนกั งานกจิ การโรงพมิ พอ์ งค์การสงเคราะห์ทหารผา่ นศึก.
แนวทางการปอ้ งกนั การติดเชอื้ จากศพในโรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ 205 แนวทางการป้องกนั การติดเชอ้ื จากศพในโรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ วรรณา ช่นื นอก* รศ.พญ. ศริ ิลักษณ์ อนนั ต์ณัฐศริ ิ** อ.นพ. สกั การ สงั ฆมานนท์*** ทวนทอง พณั ธะโร และคณะ**** บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนมีความเส่ียงต่อการสัมผัสโรค ท้ังบุคลากรผู้มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยและดูแล ภายหลังจากผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว ท้ังนี้เนื่องจากเชื้อโรคมีความสามารถในการคงอยู่ในสิ่งเชลล์และสิ่งแวดล้อม จากการศกึ ษาของ Douceron H และคณะ (อา้ งใน Supawon, 2006) พบว่าสามารถเพาะเชอื้ จากตวั อยา่ งเลอื ด ของศพที่เสียชีวิตมานาน 16 วัน และส�ำหรับเชื้อไวรัส HBV สามารถพบเชื้อได้นาน 1 สัปดาห์หลังเลือดแห้ง ในสภาวะแวดล้อมท่ัวไป ความเสี่ยงของการติดเชื้อจากศพอาจเน่ืองมาจากการได้รับบาดเจ็บจากของมีคมขณะ ผา่ ตดั ศพหรอื การสมั ผสั เลอื ด สารคดั หลงั่ ทมี่ เี ชอื้ ขณะทผ่ี วิ หนงั เดมิ มรี อยบาดแผล รวมทงั้ อาจไดร้ บั เชอ้ื วณั โรคและ โรคติดต่อร้ายแรงอ่ืนๆ จากการสัมผัสละอองฝอยขนาดเล็กฟุ้งกระจายในอากาศจากการไม่ได้ใส่เคร่ืองป้องกัน รา่ งกายสว่ นบคุ คลทเ่ี หมาะสม โดยพบวา่ เนอื้ ปอดของศพทเ่ี สยี ชวี ติ มานาน 8 วนั แลว้ ยงั ไมผ่ า่ นนำ้� ยาดองศพสามารถ เพาะเชื้อขนึ้ และแม้ศพท่ีผ่านการดอง 60 ชวั่ โมง ก็เพาะเชอ้ื ข้นึ เชน่ กนั เพอ่ื ปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชอื้ จากศพสบู่ คุ คลหรอื สง่ิ แวดลอ้ ม และลดความเสยี่ งของการตดิ เชอ้ื อนั เนอื่ งจาก การปฏิบัติงานจึงมีการจัดแบ่งประเภทของศพติดเช้ือตามความเส่ียง แนวทางการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตราย สว่ นบุคคลทเ่ี หมาะสม และมีแนวทางการปฏบิ ัตทิ เี่ ฉพาะดงั นี้ การจัดแบง่ ประเภทของศพติดเชื้อ ประเภทที่ 1 : ศพตดิ เช้อื ท่ัวไปทีน่ อกเหนอื จากประเภทท่ี 2 และ 3 ประเภทที่ 2 : ศพติดเชื้อจากเช้ือ HIV, Hepatitis C, Creutzfeldt-Jacob Disease (CJD) without Nec- ropsy, Severe Acute Respiratory Syndrome (SARS), Avian influenza, Middle East Respiratory Syn- drome (MERS) และโรคอน่ื ๆ ทีไ่ ด้รับคำ� แนะน�ำจากแพทย์โรคตดิ เชื้อ หรือพยาบาลควบคมุ การติดเชือ้ ประเภทท่ี 3 : ศพติดเช้ือจากเช้ือ Anthrax, Plague, Rabies, Viral hemorrhagic fever: EBOLA, Creutzfeldt-Jacob Disease (CJD) with necropsy และโรคอ่ืนๆ ท่ไี ดร้ ับคำ� แนะนำ� จากแพทยโ์ รคตดิ เช้ือหรือ พยาบาลควบคุมการติดเชอื้ * พยาบาลควบคมุ การติดเชอ้ื หนว่ ยควบคุมการติดเช้ือ งานบรกิ ารพยาบาล โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ** รองศาสตราจารย์ สาขาวชิ าโรคติดเชือ้ และเวชศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น *** อาจารย์ หัวหนา้ ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น **** พยาบาลชำ� นาญการ รองหวั หน้างานพยาบาลฝ่ายคณุ ภาพและบริหารความเสย่ี ง งานบรกิ ารพยาบาล โรงพยาบาลศรีนครินทร์
206 คูม่ อื การป้องกันและควบคมุ การติดเชอื้ โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ขอ้ ปฏบิ ัตใิ นการใสเ่ คร่อื งปอ้ งกันร่างกายสว่ นบุคคล เพอ่ื ความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั งิ าน บคุ ลากรทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ศพตดิ เชอื้ ตอ้ งมกี ารสวมอปุ กรณป์ อ้ งกนั อนั ตราย สว่ นบุคคลตามประเภทของศพติดเชอื้ ตามตารางที่ 1 ตารางที่ 1 การเลือกใชอ้ ุปกรณ์ปอ้ งกันร่างกายในการปฏบิ ัติกิจกรรมทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับศพตดิ เช้ือ ประเภท เครื่องปอ้ งกนั รา่ งกาย ศพติดเชือ้ ถงุ มอื หมวกคลุมผม mask เสื้อคลมุ ผ้ายาง แวน่ ตา/ รองเทา้ บ๊ตู ถงุ คลุม แขนยาว พลาสติก face shield รองเทา้ ประเภทท่ี 1 √ √ √ √ - √ - - (1 ชน้ั ) (*surgical กรณีมคี วามเสี่ยง mask) ที่มกี ารกระเด็น ประเภทที่ 2 √ √ √ √ √√ - - (2 ชั้น) (*N95) กรณมี ีความเส่ยี ง ท่ีมีการกระเด็น ประเภทที่ 3 √ √ √ √ √ √ √ √ (2 ชั้น) (*N95) หมายเหตุ ศพตดิ เช้อื ประเภทที่ 2 ใหส้ วม N95 ยกเวน้ HIV, Hepatitis C ใหส้ วม Surgical mask ขอ้ ปฏิบัติในการจัดการศพติดเช้อื เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเช้ือในโรงพยาบาลและการจัดการศพติดเชื้อในการจัดการศพและประกอบ พธิ ีกรรมศพใหบ้ ุคลากรและญาติมีการปฏิบัตกิ จิ กรรมตามตารางที่ 2 ตารางท่ี 2 ข้อปฏบิ ตั แิ ละขอ้ ห้ามในการจดั การศพติดเชอ้ื ประเภทศพ การปฏบิ ตั ิในบคุ ลากรในโรงพยาบาล การปฏิบัติสำ� หรับญาติในการ ติดเช้อื ประกอบพธิ ีกรรม การอาบนำ�้ ศพ การหอ่ หมุ้ ศพ การฉีดยาศพ การผ่าศพ ประเภทท่ี 1 ทำ� ได้ - วางศพประกอบพธิ ไี ด้ ทำ� ได้ ไม่จำ� เปน็ * ทำ� ได้ - หา้ มสมั ผสั ศพ (ใส่เครือ่ งป้องกัน รา่ งกายสว่ นบุคคล) - จัดการศพโดยการเผาหรือฝัง ประเภทที่ 2 ทำ� ได้ จ�ำเปน็ ไมค่ วรทำ� ** ไมค่ วรทำ� *** - วางศพประกอบพธิ ีได้ (ใส่เครื่องปอ้ งกัน - หา้ มสมั ผัสศพ ร่างกายสว่ นบุคคล) - แนะน�ำจดั การศพโดยการเผา ประเภทท่ี 3 หา้ มท�ำ จำ� เปน็ ห้ามท�ำ หา้ มทำ� - หา้ มวางศพประกอบพธิ ี - จดั การศพโดยการเผาเทา่ นั้น * พจิ ารณาตามความเส่ียงของการร่ัวซึมของสารคัดหลั่ง ** หากกระทำ� ต้องระมดั ระวงั เป็นอย่างยง่ิ และใสเ่ ครือ่ งปอ้ งกันร่างกายส่วนบุคคลตามข้อก�ำหนด *** หากกระท�ำต้องระมัดระวงั เป็นอย่างย่ิงและใส่เครอ่ื งปอ้ งกันรา่ งกายสว่ นบคุ คลตามขอ้ ก�ำหนด และกระทำ� ในห้องทีม่ ีความดนั ภายในหอ้ งเปน็ ลบ (Negative pressure)
แนวทางการปอ้ งกันการตดิ เชือ้ จากศพในโรงพยาบาลศรนี ครินทร์ 207 ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการหอ่ หุม้ ศพ ประเภทที่ 1 : ใชผ้ ้าหอ่ ศพหรอื ถุงห่อศพ 1 ชนั้ ประเภทท่ี 2, 3 : ใช้ถุงห่อหุ้มศพพลาสติกกันน�้ำ 2 ช้ัน และปิดผนึกด้วยแถบกาวด้านหน้า/บริเวณซิบ ใชผ้ า้ ชบุ นำ�้ ยาทำ� ลายเชอ้ื 0.5% Sodium hypochlorite (Virkon) เชด็ ทถ่ี งุ หอ่ ศพชน้ั ในและใชผ้ า้ ผนื ใหมช่ บุ นำ�้ ยา ท�ำลายเช้อื 0.5% Sodium hypochlorite เชด็ ที่ถงุ หอ่ ศพชน้ั นอกอกี ครงั้ แนวปฏิบตั ใิ นการป้องกนั การตดิ เชอื้ จากศพส�ำหรับบคุ ลากรในโรงพยาบาล เม่ือมีผู้ป่วยเสียชีวิตและพบมีความเสี่ยงตามประเภทของศพติดเชื้อให้บุคลากรท่ีเก่ียวข้องมีการปฏิบัติเพ่ือ ปอ้ งกนั การแพร่กระจายเชอื้ ตามตารางท่ี 3 ตารางท่ี 3: แนวปฏบิ ัตใิ นการปอ้ งกันการติดเชื้อจากศพ กระบวนการ ผปู้ ฏบิ ัติ การปฏิบตั ิ 1. การท�ำความ พยาบาลหรอื 1. บุคลากรสวมเครือ่ งป้องกันรา่ งกายสว่ นบุคคลตามประเภทศพตดิ เช้ือ สะอาดศพท่ีหอ ผู้ชว่ ยพยาบาล 2. กรณีศพตดิ เชอื้ ประเภท 1,2 ท�ำความสะอาดศพเชน่ เดียวกบั การเชด็ ตวั ผู้ปว่ ย ผ้ปู ่วย 3. ระบชุ อ่ื -สกลุ และทรัพย์สนิ ของศพติดกับศพ (ทไี่ ม่สามารถคืนญาติได)้ กอ่ นเคล่ือนยา้ ย 4. กรณศี พตดิ เชอื้ ประเภท 1 ใชส้ ำ� ลอี ดุ จมกู และรทู วารเพอ่ื ปอ้ งกนั การไหลของสารคดั หลงั่ จากศพ 5. กรณีศพตดิ เชอื้ ประเภท 2,3 ใชถ้ งุ ห่อหุ้มศพพลาสตกิ กนั นำ�้ 2 ชนั้ และปดิ ผนกึ ดว้ ยแถบ กาวดา้ นหนา้ /บรเิ วณซบิ ใช้ผ้าชุบน�้ำยาท�ำลายเชื้อเช็ดที่ถุงห่อศพช้ันในและใช้ผ้าผืนใหม่ ชบุ น�้ำยาทำ� ลายเชอ้ื เชด็ ทถ่ี ุงห่อศพชน้ั นอก 6. ขยะทีเ่ กดิ จากการท�ำหัตถการให้ทิง้ ในขยะติดเชื้อ 7. ผา้ ที่ใชศ้ พผูป้ ว่ ยติดเช้ือใหท้ ้งิ ในถงั ผ้าตดิ เช้อื และปฏบิ ัตติ ามแนวทางการจัดการผ้าเปื้อน 8. กรณที ม่ี เี ลอื ด สารคดั หลง่ั จากศพ หกหรอื เปอ้ื นสง่ิ แวดลอ้ ม ใหร้ าดสง่ิ ปนเปอ้ื นดว้ ยนำ�้ ยา 0.5% Sodium hypochlorite (Virkon) หรอื ใช้ผง Virkon โรยใหท้ ัว่ ทง้ิ ไว้ 10 นาที กำ� จดั สงิ่ ปนเปื้อนออกด้วยผา้ หรือกระดาษทิชชู่ ท้ิงลงในถังขยะตดิ เช้อื จากน้นั ท�ำความ สะอาดดว้ ยนำ�้ ผงซกั ฟอกแลว้ เชด็ ทำ� ลายเชอ้ื ดว้ ย 0.5% Sodium hypochlorite (Virkon) ท้ิงไว้10 นาที แล้วเช็ดตามด้วยน้�ำสะอาด 9. หลงั เสรจ็ สน้ิ ภารกจิ ใหถ้ อดเครอ่ื งปอ้ งกนั รา่ งกายสว่ นบคุ คล และลา้ งมอื แบบ hygienic hand washing
208 คมู่ ือการปอ้ งกันและควบคุมการติดเช้อื โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น กระบวนการ ผปู้ ฏิบัติ การปฏบิ ตั ิ 2. การเคลื่อน ยา้ ยศพ พนักงานรบั ศพ 1. บุคลากรสวมเครอ่ื งป้องกนั รา่ งกายสว่ นบคุ คลตามประเภทศพติดเชื้อ 2. นำ� สง่ ทห่ี ้องศพตามเส้นทางการเคล่ือนย้ายศพ 3. ระหวา่ งการเคลอ่ื นยา้ ย พนกั งานรบั ศพระวงั ไมใ่ หร้ ถรบั ศพสมั ผสั สง่ิ แวดลอ้ ม กดปมุ่ ลฟิ ต์ และสง่ิ แวดล้อมในลฟิ ตใ์ หน้ ้อยทส่ี ุด โดยมคี นชว่ ยกดลิฟตแ์ ยกตา่ งหาก 1 คน การทำ� ความสะอาดเปลและรถรบั ศพ 1. บคุ ลากรสวมเครอ่ื งปอ้ งกันร่างกายสว่ นบุคคล; สวมถงุ มือยางหนา ผา้ ยางกนั เปอ้ื นและ เคร่อื งปอ้ งกนั ร่างกายสว่ นบคุ คลอ่นื ตามข้อบง่ ชป้ี ระเภทศพตดิ เชื้อ 2. ท�ำความสะอาดเปลเข็นศพด้วยน้�ำและผงซักฟอกอย่างน้อยวันละคร้ังและทุกคร้ังที่ สกปรก 3. กรณที ม่ี เี ลอื ด สารคดั หลง่ั จากศพ หกหรือเปื้อนส่ิงแวดล้อม ให้ราดสิง่ ปนเปือ้ นดว้ ยน้�ำยา 0.5% Sodium hypochlorite (Virkon) หรอื ใชผ้ ง Virkon โรยใหท้ ว่ั ท้งิ ไว้ 10 นาที ก�ำจดั ส่ิงปนเปื้อนออกด้วยผ้าหรือกระดาษทิชชู่ ท้ิงลงในถังขยะติดเช้ือ จากน้ันท�ำความสะอาด ด้วยนำ�้ ผงซกั ฟอกแลว้ เชด็ ทำ� ลายเชื้อดว้ ย 0.5% Sodium hypochlorite (Virkon) ท้งิ ไว้ 10 นาที แลว้ เชด็ ตามด้วยน�้ำสะอาด 4. ขยะเกดิ จากการท�ำหตั ถการใหท้ ิ้งในขยะติดเช้อื 5. ผ้าท่ใี ชศ้ พผูป้ ว่ ยตดิ เชอ้ื ใหท้ ง้ิ ในถังผ้าติดเชื้อและปฏิบัตติ ามแนวทางการจดั การผ้าเปอ้ื น 6. หลังเสร็จสิ้นภารกิจให้ถอดเคร่ืองป้องกันร่างกายส่วนบุคคลและล้างมือแบบ hygienic hand washing 7. กรณศี พตดิ เชอื้ ประเภท 3 หลงั เสรจ็ สน้ิ ภารกจิ ใหอ้ าบนำ้� ทกุ ครงั้ กอ่ นสวมใสเ่ สอ้ื ผา้ ปกติ 3. การท�ำความ พนักงาน 1. บุคลากรสวมเครอื่ งปอ้ งกันร่างกายสว่ นบุคคลตามประเภทศพติดเช้อื สะอาดสง่ิ แวดลอ้ ม ท�ำความสะอาด 2. กรณศี พตดิ เช้อื ประเภท 1 ใหท้ ำ� ความสะอาดส่งิ แวดลอ้ มภายหลงั การจำ� หน่ายศพ ดว้ ย ในห้องแยกโรค น้�ำและผงซักฟอก และท�ำความสะอาดพื้นด้วยน�้ำยาท�ำความสะอาดพื้นตามมาตรฐาน โรงพยาบาล และลิฟตท์ ่ีใช้ 3. กรณีศพติดเชื้อประเภท 2 และ 3 หลังท�ำความสะอาดตามข้อ 2. ให้เช็ดด้วย 0.5% เคลอ่ื นยา้ ยศพ Sodium hypochlorite ท้งิ ไว้ 10 นาที และเชด็ ตามด้วยน้�ำสะอาด
แนวทางการปอ้ งกนั การตดิ เช้ือจากศพในโรงพยาบาลศรนี ครินทร์ 209 กระบวนการ ผู้ปฏบิ ัติ การปฏิบัติ 4. การปฏิบัติ ในห้องศพ แพทยแ์ ละ การชันสตู รศพ พนกั งานผชู้ ่วย (เฉพาะศพประเภท 1 ท่ีแนะนำ� ให้ทำ� ได้) 1. บุคลากรสวมเครื่องป้องกันร่างกายส่วนบคุ คล; สวมถงุ มือ Disposable (เมื่อสมั ผัสศพ) หรอื ถงุ มอื ยางยาว (เมอื่ ทำ� การชนั สตู รอวยั วะภายใน), Surgical mask, แวน่ ปอ้ งกนั ตา,เสอื้ คลมุ แขนยาว ผา้ ยางกนั เปอ้ื นและรองเทา้ บตู๊ 2. เปดิ น้�ำทใ่ี ช้ทำ� ความสะอาดศพให้ไหลตลอดเวลาในขณะผา่ ชันสูตร 3. ถ้าต้องเลอื่ ยกระดูกใหใ้ ช้เลอ่ื ยมือ ห้ามใช้เลื่อยไฟฟ้าเพราะจะท�ำให้เศษกระดูกและสาร น�้ำในศพฟุง้ กระจาย 4. แชช่ ิน้ เน้ือที่ต้องการตรวจในฟอรม์ าลิน กอ่ นนำ� ไปตรวจ 5. หลังเสร็จการผา่ ตรวจศพ หอ่ ศพด้วยผา้ พลาสตกิ หอ่ ศพก่อนเคลื่อนย้ายเขา้ ช่องเกบ็ ศพ 6. เครอ่ื งมอื ตา่ งๆที่ใชใ้ นการผา่ ศพขจัดคราบเบือ้ งต้นแลว้ แชด่ ้วย 0.5% Sodium hypo- chlorite (Virkon) นาน 10 นาที เพอื่ ทำ� ลายเชอื้ เบอ้ื งตน้ แลว้ ลา้ งทำ� ความสะอาดอปุ กรณ์ ด้วยผงซักฟอกและน้�ำให้สะอาด จากนัน้ แช่ท�ำลายเช้ือด้วย 0.5% Sodium hypochlo- rite (Virkon) นาน 10 นาที แล้วลา้ งนำ้� สะอาดผง่ึ ไว้ใหแ้ ห้ง 7. ขยะที่เกดิ จากการทำ� หตั ถการใหท้ ง้ิ ในขยะติดเชือ้ การทำ� ความสะอาดเตยี งรับ เตียงชนั สตู รศพ อา่ งน�้ำและช่องเยน็ เกบ็ ศพ 1. เตียงรับศพและช่องเก็บศพ ใหท้ ำ� ความสะอาดเชน่ เดียวกบั เปลขนศพ 2. เตียงชันสูตรและอ่างน้�ำ ให้ราดเตียงและอ่างน�้ำด้วย 0.5% Sodium hypochlorite (Virkon) ท้งิ ไว้ 10 นาที แล้วล้างดว้ ยผงซกั ฟอกและนำ้� สะอาด การท�ำความสะอาดพ้นื และผนงั ห้องผ่าศพ 1. เช็ดและท�ำความสะอาดดว้ ยนำ�้ และนำ้� ยาท�ำความสะอาดพน้ื ทุกวนั 2. กรณที ม่ี เี ลอื ด สารคดั หลงั่ จากศพ หกหรอื เปอ้ื นสง่ิ แวดลอ้ ม ใหร้ าดสงิ่ ปนเปอ้ื นดว้ ยนำ้� ยา 0.5% Sodium hypochlorite (Virkon) หรอื ใช้ผง Virkon โรยให้ทั่ว ทงิ้ ไว้ 10 นาที กำ� จัดสิ่งปนเปอ้ื นออกดว้ ยผ้าหรอื กระดาษทชิ ชู่ ทง้ิ ลงในถงั ขยะติดเชื้อ จากนัน้ ทำ� ความ สะอาดดว้ ยนำ้� ผงซกั ฟอกแลว้ เชด็ ทำ� ลายเชอ้ื ดว้ ย 0.5% Sodium hypochlorite (Virkon) ทง้ิ ไว้ 10 นาที แล้วเชด็ ตามด้วยนำ�้ สะอาด เมอ่ื เสรจ็ สน้ิ ภารกจิ 1. ให้ถอดเคร่อื งปอ้ งกันรา่ งกายสว่ นบคุ คลและลา้ งมอื แบบ hygienic hand washing 2. ตอ้ งอาบน้ำ� ทุกครั้ง กอ่ นสวมใสเ่ สอ้ื ผา้ ตามปกติ 5. การจัดการ บคุ ลากร/ 1. เคร่ืองป้องกันร่างกายส่วนบุคคลชนิดใช้แล้วทิ้งให้ทิ้งในถังขยะติดเชื้อและปฏิบัติตาม เครอื่ งปอ้ งกัน พนกั งานผู้ช่วย แนวทางการจดั การขยะ รา่ งกายหลงั การ ใชง้ าน 2. เครอื่ งปอ้ งกนั รา่ งกายทต่ี อ้ งนำ� กลบั มาใชใ้ หม่ เชน่ รองเทา้ บทู แวน่ ปอ้ งกนั ตา ใหแ้ ชด่ ว้ ย 0.5% Sodium hypochlorite (Virkon) นาน 10 นาที แลว้ ลา้ งทำ� ความสะอาดอปุ กรณ์ ดว้ ยผงซกั ฟอกและนำ้� สะอาด จากนน้ั แชท่ ำ� ลายเชอื้ ดว้ ย 0.5% Sodium hypochlorite (Virkon) นาน 10 นาที ล้างน�ำ้ สะอาดผงึ่ ไว้ใหแ้ หง้
210 คู่มอื การปอ้ งกนั และควบคุมการตดิ เชอื้ โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ แผนผงั ที่ 1: แนวทางการปฏบิ ัตใิ นการป้องกันและควบคุมการตดิ เชอ้ื จากศพในโรงพยาบาล ผ้รู บั ผิดชอบ ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิ ผ้เู กีย่ วข้อง ผเู้ สียชวี ติ ในโรงพยาบาล แพทยโ์ รค ตดิ เชอ้ื /ICN แพทย์เจา้ ของไข/้ ประเมินประเภทศพตดิ เช้ือ ไมส่ ามารถประเมนิ ได้ จนท.หอผปู้ ว่ ย หัวหนา้ หอผปู้ ว่ ย/ ปรึกษาผู้เชีย่ วชาญ ID/ICN หัวหนา้ เวร ประเมนิ ได้ ศพติดเช้ือ แพทย์เจา้ ของไข/้ ประเภทท่ี 3 หัวหน้าหอผู้ปว่ ย/ ศพตดิ เช้อื ศพติดเชื้อ หวั หนา้ เวร ประเภทที่ 1 ประเภทท่ี 2 จนท.หอผู้ป่วย ท�ำความสะอาดศพ PPE ศพติดเช้ือ จนท.หอผปู้ ว่ ย 1,2 ญาตผิ ู้ป่วย จนท.หอผ้ปู ่วย แนะน�ำญาตใิ นการจัดการศพ/การประกอบพิธกี รรม จนท.หอ้ งศพ จนท.หอ้ งศพ แจง้ หอ้ งศพ เตรียม PPE จนท.หอ้ งศพ จนท.หอ้ งศพ ศพตดิ เชอ้ื สำ� หรับเจ้าหน้าทเ่ี คลือ่ นยา้ ยศพ จนท.หอผู้ป่วย ประเภทที่ 2 จนท.ห้องศพ ศพติดเชือ้ ศพตดิ เชื้อ จนท.หอ้ งศพ ประเภทท่ี 1 ประเภทท่ี 3 เตรียมอปุ กรณห์ อ่ ศพ จนท.หอผูป้ ่วย มารับศพทห่ี อผู้ปว่ ย จนท.หอผปู้ ่วย จนท.หอผปู้ ว่ ย สวม PPE ตามประเภทของศพติดเชือ้ จนท.หอ้ งศพ ห่อหมุ้ ศพตามข้อบง่ ชี้ จนท.หอ้ งศพ นำ� ส่งหอ้ งศพ จนท.ห้องศพ พนักงานทำ� ความความสะอาดเปลหลงั ใช้งาน จนท.หอ้ งศพ พนกั งานเปลถอด PPE จนท.หอ้ งศพ และท�ำความความสะอาดรา่ งกายหลงั ปฏิบตั ิงาน
11 แนวทางการป้องกนั การตดิ เช้ือจากศพในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ 211 แผนผงั ทศแี่ 2ผพศนเตสพผดิ น้ ังตเทชทดิ า้ือ่ีเง2ชปกื้อรเาสะปรเน้ รเภคทะทลเาภทอ่ืงท่ีนก2ทายร(่ีา้ ย2เยคกศ(ลเยวพ่อืก้นผนเวปู้Hยน้ ว่้าIVยยH,ศตIHVพดิ e,เผHpชปู้ aอeื้ ว่tpจiยtaาisตtกiดิtCหisเ)้อชแCงือ้ แล)จะยแาปกลกรโะหระป้อคเรภงะAทแเภยทE4กท่ี 3โทร)่ีค3 AE4 ชน้ั ที่ 3 หอ้ งศพ หอผ้ปู ่วย อาคาร 10 ค-ง เตรยี มวิทยาศาสตร์ ห้องปฏิบตั ิการ ชั้นท่ี 2 อาคารหอผ้ปู ่วยใน AE3 ก-ข หนว่ ยผลติ ยา ลฟิ ท์ งานจา่ ยกลาง *ลิฟท์ No.9 *ลิฟท์ No.9 หอ้ งผ่าตัด หอ้ งทำแผล เอกซเรย์ หอ้ งน้ำ ห้องแยกโรค OPD AE Modify AIIR AE4
212 คู่มือการปอ้ งกนั และควบคุมการตดิ เชือ้ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ บรรณานกุ รม กำ� ธร มาลาธรรม, และ สสุ ณั ห์ อาศนะเสน (บรรณาธกิ าร). (2556). การปอ้ งกนั การตดิ เชอ้ื จากศพ ใน คมู่ อื ปฏบิ ตั ิ การป้องกันและควบคุมการติดเช้ือในโรงพยาบาล. (หน้า 79-84). นนทบุรี : โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย. คณะกรรมการควบคุมโรคติดเช้ือในโรงพยาบาลศิริราช. ระเบียบปฏิบัติการป้องกันการติดเชื้อจากศพ.ธันวาคม 2555. สบื คน้ จากhttp://www.si.mahidol.ac.th/th/division/siic/admin/rule_files/33_29_1.pdf สายสมร พลดงนอก, จันทร์เพ็ญ บัวเผ่ือน, และ ประกาย พทิ กั ษ์ (บรรณาธิการ). (2550). แนวทางการปฏบิ ัติการ สง่ ศพผู้ปว่ ยโรคตดิ ต่อรุนแรงระบบทางเดินหายใจในโรงพยาบาล. ใน ระเบียบปฏิบัติการป้องกันและควบคุมการติดเช้ือในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น ปี 2550-2552. (หน้า166-171). ขอนแก่น : คลังนานาวทิ ยา; 2550 สำ� นกั โรคตดิ ตอ่ อบุ ตั ใิ หม่ กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารสขุ . (2557). คมู่ อื ปฏบิ ตั กิ ารโรคตดิ เชอ้ื โรคตดิ เชอื้ ไวรสั อีโบลา (Ebola Virus Disease) ส�ำหรับผู้ปฏิบัติงาน. นนทบุรี: ส�ำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การ สงเคราะหท์ หารผ่านศึก. ส�ำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารสุข. (2557). คู่มือปฏิบัติงานป้องกัน ควบคุมโรคติด เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ สายพนั ธใ์ุ หม่ 2012 สำ� หรบั บคุ ลากรทางการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ .นนทบรุ :ี สำ� นกั งาน กิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะหท์ หารผา่ นศึก. Department of Health Hospital Authority Food and Environmental Hygiene Department. Precau- tions for Handling and Disposal of Dead Bodies The 10 th edition 2014. Retrieved from : https://www.chp.gov.hk/files/pdf/grp-guideline-hp-ic-precautions_for_handling_and_dis- posal_of_dead bodies en.pdf. Sopawon Srettabunjong. Biosafety for autopsy prosectors. Siriraj Med J 2006; 58: 883-9 Southern Health NHS Foundation Trust. Care of the Deceased Patient in Relation to Infection Control Procedure. Retrieved from : http://www.southernhealth.nhs.uk/_resources/assets/ inline/full/0/34128.pdf
แนวทางการป้องกนั การติดเชือ้ จากศพในโรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ 213 Appendix 1: Guidance on care of the cadaver in relation to known and/or suspected infection risk - Adapted from HSE 2005 and CDR 1995 Infection Degree Heavy Duty Bereaved permitted Embalming Hygiene of Risk Body Bag to touch and spend Precautions (Last Offices) time with body Acute Encephalitis Low X√ √√ Acute Poliomyelitis Medium Anthrax Very high X√ √√ Botulism Brucellosis High √X XX Chickenpox/Shingles Medium Cholera √√ X√ Low Medium X√ √√ X√ √√ X* √ √√ with special care Cryptosporidiosis Low X* √ √√ Dermatophtosis Low X√ √√ Diphtheria Medium X√ √√ Dysentery Medium X* √ √√ (Amoebic or Bacillary) Food Poisoning Medium X* √ √√ (or suspected) Haemolytic uraemic High X√ X√ syndrome (HUS) HIV/AIDS High X* √ Not advised √** Infectious bloody High √√ √√ diarrhoea Influenza Low X√ √√ Lassa Fever Very high √X XX Legionnaires Disease Low X√ √√ Leprosy Low X√ √√ Leptospirosis Medium X√ √√ Lyme Disease Low X√ √√ Malaria Medium X√ √√ with special care Measles Low X√ √√
214 คู่มือการปอ้ งกันและควบคมุ การติดเชื้อ โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ Infection Degree Heavy Duty Bereaved permitted Embalming Hygiene of Risk Body Bag to touch and spend Precautions Meningitis Low √ (Last Offices) (non-meningococcal) time with body √ Meningococcal Medium √ √ Disease X√ √ Mumps Low √ √ MRSA Low X√ √ Ophthalmia Low √ √ Neonatorum X√ X √ Orf virus disease Low X√ √ √ Paratyphoid Fever Medium X√ √ Plague Very high √ √ Pneumonia/Bronchi- X√ X √ tis Low X√ X Psittacosis √X √ √ Q Fever Low X√ √ Rabies Low X √ Very high X√ √ Relapsing Fever X√ √ X Rubella Medium √√ √ SARS Low X √ But relative would be X √ Salmonellosis Very high discouraged from X Scarlet Fever touching the body √ Smallpox Medium √ √ Invasive Group A Medium X√ √ Streptococcal Very high X√ X Infection Very high √X X Tetanus Low But current WHO √ Tuberculosis Medium guidance state that √ relative may view the body if they wear appropriate PPE X* √ X√ √X √√ But relative would be discouraged from touching the body X√ X√
แนวทางการปอ้ งกันการตดิ เช้อื จากศพในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ 215 Infection Degree Heavy Duty Bereaved permitted Embalming Hygiene of Risk Body Bag to touch and spend √ Precautions Typhoid Fever Medium X (Last Offices) Typhus High time with body X Viral Hemorrhagic Very high X √ Fever Medium X* √ X Transmissible √ X Spongiform Medium √X Not advised √ Encephalopathies Medium e.g. Creutzfeldt – √X √ √ Jakob Disease Low X √** Viral Hepatitis A Very high √√ Viral Hepatitis √ B, C & Non A, non B X√ X Hepatitis X* √ Whooping Cough Yellow Fever X√ √X X * Means no unless there is leakage of body fluids √ ** Means Last offices can be performed unless there is leakage of body fluids. Standard precautions are always required and supervision of relatives.
216 คูม่ อื การปอ้ งกนั และควบคุมการตดิ เชือ้ โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ การปอ้ งกันและควบคุมการติดเช้อื งานจ่ายกลาง จรัสพร สอนส*ี ศศธิ ร เรอื งประเสริฐกลุ ** ความส�ำคญั งานจ่ายกลางเป็นหน่วยงานท่ีมีความส�ำคัญหน่วยงานหนึ่งในโรงพยาบาล มีหน้าที่รับผิดชอบในกระบวน การรับเครื่องมือที่ปนเปื้อน การท�ำความสะอาด การบรรจุห่อ และการท�ำให้ปราศจากเช้ือ รวมทั้งการแจกจ่าย เครอื่ งมอื แพทยท์ ป่ี ราศจากเชือ้ เพื่อใหส้ ามารถน�ำกลับมาใชใ้ หมไ่ ดอ้ ยา่ งปลอดภยั งานจา่ ยกลางควรมีการบริหารจัดการ ดงั นี้ 1. การก�ำหนดนโยบายและขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 2. การจดั การอาคาร สถานที่ 3. การจัดกาด้านสาธารณปู โภค 4. การจัดหาครภุ ัณฑ์ และเครอื่ งมอื แพทย์ 5. การจดั การดา้ นบุคลากร 6. การจดั ท�ำตัวบง่ ช้ผี ลการดำ� เนินงาน 7. การควบคมุ คณุ ภาพในงานจ่ายกลาง 1. การก�ำหนดนโยบายและขน้ั ตอนการปฏิบตั ิงาน งานจ่ายกลางต้องมีการก�ำหนดนโยบายและข้ันตอนการปฏิบัติเก่ียวกับกระบวนการท�ำลายเชื้อ และ การทำ� ใหป้ ราศจากเชื้อทถี่ กู ตอ้ งและทนั สมยั โดยทีมสหสาขาวิชาชพี และตอ้ งไดร้ บั การรบั รองโดยคณะกรรมการ ปอ้ งกนั และควบคมุ การตดิ เชอ้ื ในโรงพยาบาล หรอื ผรู้ บั ผดิ ชอบดา้ นความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั งิ านการนำ� กลบั มา ใชใ้ หม่ และมกี ารตดิ ตามการปฏบิ ตั งิ านของบคุ ลากร เพอื่ ใหก้ ารปฏบิ ตั เิ ปน็ ไปตามมาตรฐาน และเพอื่ ความปลอดภยั ของผปู้ ่วยและบุคลากร สำ� หรบั โรงพยาบาลทมี่ หี นว่ ยงานทปี่ ฏบิ ตั งิ านดา้ นการทำ� ลายเชอื้ และการทำ� ใหป้ ราศจากเชอ้ื เครอ่ื งมอื แพทย์ที่ปนเปื้อนกลับมาใช้ใหม่ เช่น ห้องผ่าตัด ห้องส่องกล้อง หน่วยงานทันตกรรม สถานพยาบาลสาธารณสุข มูลฐาน เปน็ ตน้ ตอ้ งใชแ้ นวปฏิบตั ิเช่นเดียวกับงานจ่ายกลาง การกำ� หนดนโยบายและขน้ั ตอนการปฏิบัติงานในงานจ่ายกลางควรครอบคลุมประเดน็ ต่อไปนี้ 1.1 การจดั การเครอื่ งมอื แพทยเ์ พอื่ นำ� กลบั มาใชใ้ หม่ ประกอบดว้ ยการทำ� ความสะอาด การทำ� ลายเชอ้ื การทำ� ใหป้ ราศจากเชอ้ื ตามทบี่ รษิ ทั ผผู้ ลติ เครอ่ื งมอื แพทยก์ ำ� หนด เหมาะสมตามแนวปฏบิ ตั สิ ำ� หรบั เครอื่ งมอื แพทย์ ปนเปอื้ นหรอื เครอ่ื งมอื แพทยท์ ่หี มดอายกุ ารปราศจากเช้อื (Expire date) และเครอื่ งมอื แพทย์ในโรงพยาบาล 1.2 เครอ่ื งมอื แพทย์ที่น�ำมาจากภายนอก (Loaner management) การจัดการสถานที่ ส่งิ แวดล้อม และสาธารณูปโภค รวมทง้ั การให้บรกิ ารงานจ่ายกลาง * พยาบาลปฏิบตั กิ าร หนว่ ยควบคุมการตดิ เชอ้ื โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ** พยาบาลช�ำนาญการพิเศษ หนว่ ยงานจา่ ยกลาง โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น
การปอ้ งกนั และควบคุมการตดิ เชือ้ งานจ่ายกลาง 217 1.3 การปอ้ งกนั และควบคมุ การตดิ เชอื้ เชน่ การทำ� ความสะอาดสงิ่ แวดลอ้ ม การจดั เกบ็ ขอ้ มลู ทสี่ ามารถ ตรวจสอบขั้นตอนและประสิทธิภาพของกระบวนการท�ำงาน การเรียกคืนเคร่ืองมือ การก�ำกับดูแลกระบวนการ ปฏิบัติงานท่ีก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคลากรและความปลอดภัยของผู้ป่วย การไม่น�ำเคร่ืองมือแพทย์ท่ีใช้คร้ังเดียว กลบั มาใชซ้ �้ำ เปน็ ตน้ 1.4 กระบวนการจัดซ้ือจัดหา การบ�ำรุงรักษาเชิงป้องกัน และการซ่อมบ�ำรุงเคร่ืองมือแพทย์ วัสดุ ครภุ ัณฑ์ ต้องมเี อกสารแนะน�ำการใชง้ านจากบรษิ ัทผผู้ ลิต (IFU) กรณีการจัดซ้ือจัดหาสารเคมีตอ้ งมีเอกสารข้อมลู ความปลอดภัยท่ีส�ำคัญของสารเคมี (Safety data sheet) และบุคลากรต้องมีความรู้ความสามารถเข้าถึงข้อมูล ไดโ้ ดยง่าย 1.5 การบรหิ ารจดั การบคุ ลากร ควรมกี ารระบหุ นา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ คณุ สมบตั ิ การศกึ ษา การฝกึ อบรม รวมถงึ ด้านอาชวี อนามัยและความปลอดภยั ของบุคลากรในการปฏบิ ตั งิ าน 1.6 การบริหารจัดการความเสี่ยง ควรครอบคลุมถึงการรายงานอุบัติการณ์ โดยค�ำนึงถึงคุณภาพ ความทันต่อเวลา ความคุ้มค่าของการใช้ทรัพยากร มุ่งเน้นการเรียนรู้พัฒนาอย่างต่อเน่ืองขององค์กร เพ่ือให้ การทำ� งานมปี ระสิทธิภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วย 1.7 การจัดการภาวะฉุกเฉิน งานจ่ายกลางต้องจัดให้มีแผนรองรับกรณีฉุกเฉินหรือเกิดภัยพิบัติต่างๆ เพอื่ เปน็ การเตรยี มความพร้อมในการให้การดูแลรกั ษาผปู้ ว่ ยไดอ้ ย่างต่อเน่ืองและปลอดภยั 1.8 การก�ำหนดตัวช้ีวัด ควรครอบคลุมมิติคุณภาพด้านปัจจัยน�ำเข้า กระบวนการ และผลลัพธ์ ของประสิทธภิ าพการท�ำงานขององค์กร 2. การจัดการอาคาร สถานท่ี มาตรฐานการจัดการอาคารสถานท่ีของงานจ่ายกลางมีการจัดแบ่งพ้ืนท่ีออกเป็นสัดส่วน ตั้งอยู่ใกล้ ห้องผา่ ตัด ห้องคลอด หออภบิ าลผ้ปู ว่ ย หอ้ งฉกุ เฉนิ ควรอยูห่ า่ งไกลจากสถานทที่ กี่ ่อใหเ้ กิดมลภาวะ เช่น ที่พกั ขยะ หนว่ ยซกั ฟอก โภชนาการ ฯลฯ มกี ารกำ� หนดสญั จรทสี่ ะดวกและทางเดยี วภายในงานจา่ ยกลาง ระหวา่ งหนว่ ยงาน และอาคารตา่ งๆ นโยบายในการเข้าออกพน้ื ที่งานจา่ ยกลาง มกี ารจำ� กดั การเขา้ ออกเฉพาะผเู้ ก่ียวข้อง 2.1 ลักษณะโครงสรา้ งทางกายภาพของงานจ่ายกลาง มดี ังน้ี 2.1.1 เพดานห้อง (Ceiling) พ้ืนผิวต้องเรียบ ปราศจากร่อง และป้องกันความชื้น ไม่เจาะ ช่องเซอร์วสิ ทีฝ่ า้ เพดานตรงกับบรเิ วณสะอาดและบริเวณปลอดเชื้อ 2.1.2 ผนัง (Walls) จะต้องตอ่ เนือ่ ง พน้ื ผวิ เรยี บ และเคลือบด้วยวัสดทุ ่ีสามารถทำ� ความสะอาด ไดง้ ่าย มุมผนังควรใชโ้ ลหะแข็งเพอ่ื ปอ้ งกนั การกระแทกของรถเข็น 2.1.3 พ้ืนห้อง (Floor) ต้องเรียบมีความต่อเนื่อง ปราศจากร่อง คงทนต่อสารเคมี และง่าย ตอ่ การทำ� ความสะอาด ไม่ใช้วัสดทุ ่ดี ูดซับนำ้� หรือสารเคมี เชน่ ลามเิ นต ไม้ เปน็ ต้น พนื้ สามารถรบั น�้ำหนักของรถ ตา่ งๆ ที่ใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน 2.1.4 ระบบระบายอากาศ (Ventilation) อากาศภายในงานจ่ายกลางต้องสะอาด อากาศ ต้องไหลจากเขตสะอาดไปยังเขตสกปรก ไม่ใช้พัดลม มีการทวนสอบและแผนบ�ำรุงรักษาตามค�ำแนะน�ำของ บริษัทผู้ผลิต อากาศหมุนเวียนในเขตสกปรก 6 รอบต่อชั่วโมง (Air change per hour) เขตสะอาดและเขต เกบ็ เครอ่ื งมอื แพทยป์ ราศจากเช้ือ 4 รอบต่อชัว่ โมง เขตสะอาดต้องมคี วามดันสูงกวา่ เขตสกปรก (ASHRAE,2017) ส�ำหรับหอ้ งทีม่ เี คร่ืองทำ� ใหป้ ราศจากเช้ืออากาศหมนุ เวยี นไม่ต่ำ� กวา่ 10 รอบตอ่ ช่วั โมง (APSIC,2017) 2.1.5 ความชน้ื สมั พทั ธ์ (Relative humidity) เขตสะอาดและเขตเกบ็ เครอ่ื งมอื แพทยป์ ราศจาก เชอื้ ความช้ืนสมั พทั ธส์ ูงสดุ ไม่เกิน 60% (ASHRAE,2017)
218 คู่มอื การป้องกนั และควบคมุ การติดเชอื้ โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น 2.1.6 อุณหภูมิ (Temperature) อุณหภูมิในเขตสกปรกอยู่ระหว่าง 16-23 ºC เขตสะอาด อยู่ระหวา่ ง 20-23 ºC และเขตเก็บเครอ่ื งมือแพทยป์ ราศจากเช้อื ไม่เกนิ 24 ºC (ASHRAE,2017) 2.2 การแบ่งพืน้ ท่ใี นงานจ่ายกลางและการบรหิ ารจดั การพน้ื ที่ การเขา้ งานจา่ ยกลางควรมรี ะบบรกั ษาความปลอดภยั โดยใชร้ ะบบควบคมุ ดว้ ยมอื หรอื ระบบไฟฟา้ ทางเดินของบุคลากรเมื่อผ่านประตูควรตรงไปยังห้องส�ำหรับเปลี่ยนชุดปฏิบัติงาน และทางเดินควรแยกไปยัง เขตสกปรกหรือเขตสะอาด พนื้ ทงี่ านจา่ ยกลางแบ่งออกเป็น 2 พืน้ ท่ี คอื พนื้ ทสี่ ำ� นักงานและพน้ื ท่ีปฏบิ ตั งิ าน 2.2.1 พน้ื ทสี่ ำ� นกั งาน เปน็ สว่ นอำ� นวยความสะดวกสำ� หรบั เจา้ หนา้ ที่ ประกอบดว้ ย พนื้ ทสี่ ำ� นกั งาน หอ้ งประชมุ หอ้ งพักบคุ ลากร ห้องเปลีย่ นชุดปฏบิ ัติงาน หอ้ งอาบน้�ำ และหอ้ งสุขา อา่ งลา้ งมอื ล้างหนา้ ควรมนี ำ�้ ยา ท�ำความสะอาด กระดาษเช็ดมอื หรอื Alcohol hand rub ทำ� ความสะอาดมอื หอ้ งพักรับรองควรอยู่ใกลก้ ับพ้ืนท่ี ของบคุ ลากรโดยไมส่ ามารถเขา้ ถงึ พนื้ ทป่ี ฏบิ ตั งิ านได้ หอ้ งเปลยี่ นชดุ ปฏบิ ตั งิ านควรมกี ารถา่ ยเทอากาศไดด้ ี สะอาด ควรแยกหอ้ งระหวา่ งชายหญงิ จดั เตรยี มชดุ ปฏบิ ตั งิ านอยา่ งเพยี งพอและพรอ้ มใชง้ านอยเู่ สมอ มตี เู้ กบ็ ของบคุ ลากร และท่แี ขวนเสอ้ื ผา้ บคุ ลากร พื้นที่นีค้ วรแยกจากหอ้ งเก็บอปุ กรณป์ ้องกนั ร่างกายสว่ นบุคคล (PPE) 2.2.2 พื้นที่ปฏิบตั ิงาน แบง่ ออกเป็น 3 เขต ดังน้ี 1) เขตสกปรก (Dirty zone) เป็นบริเวณแรกของงานจ่ายกลางที่รับเครื่องมือท่ีปนเปื้อน หรือใช้แล้ว เครื่องมือแพทย์ปนเปื้อนเช้ือจะถูกขนส่งไปยังงานจ่ายกลางเพ่ือเข้าสู่กระบวนการท�ำลายเช้ือและท�ำให้ ปราศจากเชื้อ โดยผ่านทางเดินหรือทางเข้างานจ่ายกลางตรงไปยังเขตสกปรกเท่านั้น ทางเดินควรมีขนาดกว้างเพียง พอทจี่ ะใหร้ ถหรอื บคุ ลากรเดนิ ทางไดส้ ะดวก ไมม่ สี ง่ิ กดี ขวาง อาจมกี ารสรา้ งลฟิ ตใ์ หข้ นสง่ เครอ่ื งมอื จากหอ้ งผา่ ตดั ไดเ้ ลย และควรแยกจากเขตสะอาดอยา่ งชดั เจน มกี ารควบคมุ การเขา้ ออก การขนสง่ เครอื่ งมอื และแนวทางการเดนิ ของบคุ ลากร ต้องเปน็ ทางเดยี ว (One way) เขตสกปรกควรจดั สดั ส่วนในการรบั เครอ่ื งมอื และทำ� ความสะอาดเครือ่ งมอื ดงั น้ี 1.1) บริเวณรับเครื่องมืออปุ กรณ์ที่ใช้แล้วจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย - บริเวณรับเครอื่ งมอื ทใ่ี ชแ้ ลว้ (Contaminated equipment return zone) - บริเวณเกบ็ รถเข็นสง่ เคร่ืองมอื แพทย์รบั เครอื่ งมือแพทย ์ (Trolley store–dirty) - บริเวณลา้ งรถเขน็ (Trolley wash) หากรถขนสง่ เคร่อื งมือแพทย์ที่ปนเปอ้ื น ต้องน�ำ มาใสเ่ ครือ่ งมือแพทย์ทผี่ า่ นการทำ� ลายเช้ือหรือทำ� ให้ปราศจากเช้อื แลว้ ตอ้ งน�ำรถมาผา่ นการท�ำลายเชอื้ ด้วยความร้อน 1.2) บรเิ วณล้างท�ำความสะอาดเครื่องมอื แพทย์ทีป่ นเปอ้ื น - ห้อง/บรเิ วณท�ำความสะอาด - ห้อง/บรเิ วณเก็บอปุ กรณง์ านบ้าน 2) เขตสะอาด (Clean zone) เปน็ บรเิ วณหลังจากเคร่ืองมือไดผ้ า่ นการทำ� ความสะอาด แลว้ เครอื่ งมอื จะถูกส่งมายังพ้นื ที่เตรียม จัดแยกและบรรจุหอ่ ดว้ ยมอื รวมทั้งกระบวนการทำ� ให้ปราศจากเช้อื เขต สะอาดแยกออกจากเขตส�ำหรับเก็บเครื่องมืออย่างชัดเจน ควบคุมการเข้าออกการขนส่งเคร่ืองมือและแนวทาง การเดินของบุคลากรต้องเป็นทางเดียว (One way) พื้นผิวของห้องควรท�ำความสะอาดหรือท�ำลายเชื้อได้ง่าย มีการจัดเกบ็ อปุ กรณท์ ชี่ ว่ ยสง่ เสริม Hand hygiene เขตสะอาดแบง่ พนื้ ทอี่ อกเปน็ - ห้องจดั เคร่อื งมือ (Assembly & Pacing) - หอ้ งเกบ็ ส�ำรองผ้าหอ่ เครอ่ื งมือ - หอ้ งเก็บเครอ่ื งมอื แพทย์และจัดเก็บวัสดุต่างๆ - บริเวณทีพ่ กั ชุดเคร่ืองมือแพทย์กอ่ นเข้าเคร่อื งท�ำใหป้ ราศจากเชอื้ - บรเิ วณทต่ี ิดตัง้ เคร่ืองท�ำให้ปราศจากเชื้อ ไดแ้ ก่ บรเิ วณท่ีตดิ ต้งั เครื่องทำ� ให้ปราศจากเช้ือ
การปอ้ งกนั และควบคมุ การติดเชอ้ื งานจ่ายกลาง 219 ด้วยอุณหภูมิสูง เช่น autoclave, hot air-oven บริเวณที่ติดต้ังเคร่ืองท�ำให้ปราศจากเช้ือด้วยอุณหภูมิต่�ำ เช่น low temperature steam formaldehyde (LTSF), ethylene oxide (EO), hydrogen peroxide gas plasma และอนื่ ๆ - บริเวณพักเครื่องมือแพทย์ปราศจากเช้ือก่อนเก็บ ควรมีการแยกบริเวณที่เตรียม ห่อผ้าออกจากบริเวณที่เตรียมเคร่ืองมือ เพ่ือลดฝุ่นละอองจากผ้า บริเวณท่ีเตรียมห่อผ้าควรมีการถ่ายเทอากาศ ท่ีดีและมีระบบดูดอากาศออก ไม่ควรมีท่อหรือสายไฟอยู่ในบริเวณท่ีจัดเตรียมห่อเคร่ืองมือและเครื่องผ้า เพราะ จะเป็นทสี่ ะสมของละอองผา้ และฝุ่นละออง 3) เขตเก็บเคร่ืองมอื แพทยป์ ราศจากเชอื้ (Sterile storage zone) อยู่ตดิ กบั บรเิ วณ ท�ำให้ปราศจากเชื้อ มีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ และระบบไหลเวียนอากาศตามมาตรฐาน จ�ำกัด การเข้าออกของบุคลากร และควรมีบริเวณพักเครื่องมือก่อนจัดเก็บเวชภัณฑ์/เครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ ท่จี ดั ซ้อื มาจากบรษิ ทั มีการแยกเป็นสดั สว่ น ควรประกอบไปด้วย - บริเวณพักชุดเคร่อื งมือแพทยป์ ราศจากเชอ้ื กอ่ นเก็บ - บรเิ วณเก็บชดุ เครอ่ื งมอื แพทยป์ ราศจากเชือ้ - บริเวณเก็บชุดเคร่ืองมือแพทย์ (Set) และวัสดุใช้คร้ังเดียวแล้วท้ิง (Disposable) ซึ่งแยกกันเปน็ สัดส่วน - บรเิ วณแจกจา่ ยชดุ เครอ่ื งมือแพทย์ปราศจากเชื้อ 3. การจัดการด้านสาธารณูปโภค การจัดการด้านสาธารณูปโภคมีความส�ำคัญต่อประสิทธิภาพงานจ่ายกลางเป็นอย่างมาก ระบบ สาธารณูปโภคท่ตี อ้ งคำ� นึงถงึ มดี ังตอ่ ไปนี้ 3.1 ระบบน้�ำ มีความส�ำคัญต่อกระบวนการท�ำลายเชื้อ ต้ังแต่การเตรียมสารท�ำความสะอาด การท�ำความสะอาด การทำ� ใหป้ ราศจากเชือ้ น�้ำทีใ่ ชต้ อ้ งมคี ณุ ภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน ตารางที่ 1 คณุ ภาพน�้ำท่ใี ชใ้ นกระบวนการท�ำลายเชื้อและการทำ� ปราศจากเชอ้ื เครือ่ งมอื ทางการแพทย์ Type of water หนว่ ยวดั Utility water Critical water Water use specification Flushing/washing/rinsing Final rinse/stream Hardness (mg/L=ppm) Mg/L <150 <1 Conductivity Us/cm <500 <10 pH N/a 6-9 5-7 Chlorides Mg/L <250 <1 Bacteria Cfu/ml N/a <10 <10 Endotoxin Eu/ml N/a <20 <10 ดดั แปลงจาก Association for the advancement of medical instrumentation (AMMI).2014 Comprehensive guide to stream sterilization and sterility assurance in health care facilities. American national standard ANSI/AAMI TIR 34:2014 Utility water หมายถงึ น้�ำประปาส�ำหรบั สาธารณูปโภคทัว่ ไป เป็นน้�ำท่ีมาจากระบบประปาปกติ Critical water หมายถงึ นำ�้ ทไ่ี ดร้ บั การบำ� บดั เชน่ ผา่ นการกรองจากแผน่ คารบ์ อน การกรองใหน้ ำ�้ กระดา้ งนอ้ ย การขจดั ออิ อนเพอ่ื ให้น�ำ้ บริสทุ ธท์ิ ีป่ ราศจากเกลอื แร่
220 คูม่ ือการปอ้ งกนั และควบคมุ การติดเช้อื โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น 3.2 ระบบแสงสว่าง ควรมีการจัดระดับความเข้มข้นของแสงสว่างให้เหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน ในแตล่ ะพน้ื ที่ และควรค�ำนึงถึงปัจจัยด้านอายุของบุคลากร ลักษณะของงาน และการสะทอ้ นแสงสว่างของพื้นผิว บริเวณที่ปฏบิ ัติงาน ตารางท่ี 2 ระดับความเขม้ ขน้ ของแสงสวา่ งจ�ำแนกตามบรเิ วณท่ปี ฏบิ ตั งิ าน บรเิ วณปฏิบัติงาน ความเข้มแสงสวา่ งนอ้ ยทส่ี ุด ความเข้มแสงสวา่ งเฉลี่ย ความเข้มแสงสวา่ งมากท่ีสุด (Least illuminance) (Average illuminance) (Highest illuminance บรเิ วณอ่างล้างเครอ่ื งมือ 500 Lux 750 Lux 1000 Lux (50 foot-candles) (75 foot-candles) (100 foot-candles) บรเิ วณตรวจสอบเครือ่ งมือ 500 Lux 750 Lux 1000 Lux (50 foot-candles) (75 foot-candles) (100 foot-candles) บรเิ วณตรวจสอบเคร่อื งมอื 1000 Lux 1500 Lux 2000 Lux ท่ีใชค้ วามละเอียด (100 foot-candles) (150 foot-candles) (200 foot-candles) บรเิ วณทำ� งานทว่ั ไป 200 Lux 300 Lux 500 Lux (20 foot-candles) (30 foot-candles) (50 foot-candles) บรเิ วณจัดเก็บเครื่องมอื 200 Lux 300 Lux 500 Lux (20 foot-candles) (30 foot-candles) (50 foot-candles) ดัดแปลงจาก Association for the advancement of medical instrumentation (AMMI). Comprehensive guide to stream sterilization and sterility assurance in health care facilities. American national standard ANSI/AAMI ST79:2010/A2:2011:1-230 3.3 ระบบระบายอากาศแลปรับอากาศ ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิ ความช้ืน และระบบหมุนเวียน อากาศตามมาตรฐาน บรเิ วณทม่ี ีการปนเป้อื นมากตอ้ งมีความดันเปน็ ลบเมือ่ เทียบกบั บรเิ วณขา้ งเคียง เพ่ือปอ้ งกนั การแพร่กระจายเชอ้ื ตารางท่ี 3 คา่ ความดนั การหมนุ เวยี นของอากาศ ความชนื้ สมั พทั ธ์ และอณุ หภมู จิ ำ� แนกตามเขตพน้ื ทใ่ี นงานจา่ ยกลาง เขตพน้ื ท่ีในงาน ความสมั พนั ธ์ Minimum Minimum อากาศในห้อง ความชื้นสัมพัทธ์ อณุ หภมู ิ จา่ ยกลาง ของความดัน outdoor Total ทัง้ หมดออกสู่ (%) (ºC) กบั พน้ื ทตี่ ดิ กัน ACH ACH ภายนอกโดยตรง เขตสกปรก 16-23 เขตสะอาด ลบ 2 6 ใช่ ไม่มีขอ้ กำ� หนด 20-23 บวก 2 4 ไม่มีข้อกำ� หนด ไมเ่ กิน 60% เขตเกบ็ เครอื่ งมือ บวก 2 4 ไม่มขี ้อกำ� หนด ไม่เกนิ 60% ไมเ่ กนิ 24 แพทย์ปราศจากเชอื้ ดัดแปลงจาก American society for heating, refrigeration, and air conditioning engineers ASHRAE 2017
การปอ้ งกนั และควบคมุ การติดเช้ืองานจ่ายกลาง 221 4. การจดั หาครุภณั ฑ์และเครื่องมือแพทย์ งานจ่ายกลาง เป็นหน่วยงานที่ต้องมีการจัดซื้อจัดจ้างวัสดุและครุภัณฑ์ตามระเบียบการจัดซ้ือจัดหา โดยมีรายละเอียดวัสดุและครุภัณฑ์ตามบริเวณปฏบิ ัตงิ านแสดงดงั ในตาราง ตารางที่ 4 ครุภณั ฑ์และเครื่องมือที่จำ� เปน็ และควรมี แบ่งตามพน้ื ที่ปฏบิ ตั ิงาน (ตามบริบท) บริเวณ ครภุ ัณฑ์และเครือ่ งมอื 1. เขตสกปรก (Dirty zone) 1.1 บริเวณรับเครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ท่ีใชแ้ ลว้ - counter อา่ งล้างมือ รถเข็นภายใน รถเขน็ รับของปนเปอื้ น ตู้หรอื ช้นั เกบ็ อปุ กรณ์ จากหน่วยงาน ป้องกนั รา่ งกายส่วนบุคคล Cart washer 1.2 บริเวณลา้ งท�ำความสะอาดเครือ่ งมอื - เคร่ืองลา้ งอตั โนมตั ิ (Washer) พรอ้ มอุปกรณ์ช่วยในการลา้ งเคร่อื งสายและท่อ (Decontaminate area) (Lumen device) - อ่างล้างมือ อา่ งลา้ งเครือ่ งมอื แบบ 3 หลมุ ก้นอา่ งลกึ มพี นื้ ราบ - อ่างลา้ งตา - เครื่อง Ultrasonic ปนื ฉดี แรงดนั สง่ (Spray gun) - อปุ กรณท์ �ำความสะอาด - เครอ่ื งอบแห้งด้วยความรอ้ น (Drying cabinet) 2. เขตสะอาด (Clean zone) 2.1 บริเวณจดั เตรยี มและห่อเครือ่ งมือ - โต๊ะจัดชดุ เคร่อื งมือ (Assembly and processing area) - โคมไฟส่องตรวจพรอ้ มเลนส์ (Magnifying lamp) 2.2 บริเวณทำ� ให้เครือ่ งมือปราศจากเชอ้ื - เครือ่ งปิดผนกึ ดว้ ยความรอ้ น (Heat sealer) (Sterilizing area) - เครอ่ื งอบแห้งดว้ ยความรอ้ น (Drying cabinet) - รถเข็น/ชั้นวางชนิดมีล้อเล่อื น - เครื่องนึ่งไอน�้ำ (Autoclave) - เครอ่ื งอบไอร้อน (Hot air oven) - เครอื่ งท�ำใหป้ ราศจากเช้ือด้วยอุณหภูมติ ำ�่ ได้แก่ LTSF EO Hydrogen gas plasma และอน่ื ๆ ตามความเหมาะสม 3. เขตเก็บของปราศจากเช้ือ - ชน้ั เก็บชุดเครอ่ื งมือปราศจากเชอ้ื (ตอ้ งสูงจากพ้นื ไม่ต�ำ่ กวา่ 30 ซม.) (Steriled storage zone) - รถเขน็ /ชั้นวางชนดิ มลี ้อเลื่อน - อุปกรณต์ รวจวดั อุณหภูมิ ความชื้นสมั พทั ธ์ บรเิ วณเตรยี มน�ำสง่ เครอ่ื งมือ - รถเข็น/ชั้นวางชนดิ มีล้อเล่ือน (Distribution area)
222 คูม่ อื การปอ้ งกันและควบคมุ การติดเชอ้ื โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 5. การจัดการดา้ นบุคลากร บุคลากรงานจ่ายกลางต้องมีความรู้ความสามารถมีความรับผิดชอบและมีความเช่ียวชาญเกี่ยวกับ เคร่ืองมือแพทย์ การท�ำลายเชื้อ และการท�ำปราศจากเช้ือ ดังนั้นบุคลากรจ�ำเป็นต้องได้รับการปฐมนิเทศอบรม เพิ่มพนู ความรู้ และมกี ารประเมนิ สมรรถนะอยา่ งต่อเนอื่ ง คณุ สมบตั ิบคุ ลากรทีป่ ฏิบตั ิงานในงานจ่ายกลาง - หัวหน้างานจ่ายกลาง ต้องเป็นผู้ส�ำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ผ่านการอบรมและได้รับ วฒุ บิ ัตรด้านการท�ำลายเชอ้ื และท�ำใหป้ ราศจากเชอ้ื จากสถาบนั ท่ีได้รับการยอมรับ - บุคลากรงานจ่ายกลาง ต้องเป็นผู้ส�ำเร็จการศึกษาไม่ต�่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาปีท่ี 6 หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ผ่านการอบรมและได้รับวุฒิบัตรด้านการท�ำลายเชื้อและท�ำให้ปราศจากเชื้อจาก สถาบันท่ีได้รับการยอมรบั จำ� นวนบคุ ลากรในงานจ่ายกลาง ค�ำนวณจากภาระงาน (Productivity) ตารางท่ี 5 จำ� นวนบคุ ลากรต่อจำ� นวนเตยี งของโรงพยาบาล จ�ำนวนเตยี ง RN* TN/PN* พนกั งาน ธรุ การ/แม่บา้ น 10 - 60 1 - 2-3 1 61 – 120 1 1 3-5 1 121 - 200 1 1 5-8 1 201 - 300 1 1 - 2 8 - 12 1 301 - 400 1 2 - 4 12 - 16 1 401 - 500 1 2 - 4 16 - 25 1 501 - 1000 2 3 - 8 25 - 35 1 1001 - 2000 2 8 - 17 35 - 45 2 > 2000 3 17 - 27 45 - 80 2 * RN = พยาบาลวชิ าชีพ TN = พยาบาลเทคนิค PN = ผูช้ ว่ ยพยาบาล 6. ตวั ชี้วัดผลการด�ำเนินงาน ตัวชวี้ ัดในงานจ่ายกลาง (Key performance indicators - KPIs) ประกอบดว้ ยรายละเอยี ดดังน้ี - ด้านโครงสร้าง อาคาร สถานที่ และสิ่งแวดล้อม เช่น อัตราการตรวจสอบคุณภาพน้�ำผ่านเกณฑ์ มาตรฐาน อบุ ตั กิ ารณก์ ารตรวจพบระบบระบายอากาศและระบบปรบั อากาศไมผ่ า่ นเกณฑ์ (Heating ventilation and air conditioning; HVAC) เป็นตน้ - ดา้ นบคุ ลากร เชน่ รอ้ ยละของบคุ ลากรผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะ รอ้ ยละของบคุ ลากรทไ่ี ดร้ บั การฝึกอบรมระหวา่ งปฏบิ ตั ิงาน (In-service training) เปน็ ตน้ - ด้านวสั ดุ ครุภัณฑ์ เช่น อบุ ตั ิการณว์ ัสดุไมเ่ พียงพอต่อการใชง้ าน อบุ ตั ิการณ์เครอ่ื งมอื เช่น เคร่ืองน่ึง ไอน้ำ� เครอื่ งล้างอัตโนมตั ิ ชำ� รดุ เสียหายขณะปฏบิ ตั งิ าน
การปอ้ งกันและควบคุมการติดเชื้องานจา่ ยกลาง 223 - ตัวช้ีวัดกระบวนการ เช่น ร้อยละการตรวจสอบการล้างเคร่ืองมือผ่านเกณฑ์ ร้อยละการเกิด Wet pack อบุ ตั กิ ารณก์ ารพบเครอ่ื งมอื ไมพ่ รอ้ มใช้ รอ้ ยละการตรวจประสทิ ธภิ าพการทำ� ใหป้ ราศจากเชอื้ ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละการจา่ ยเครอื่ งมอื แพทยใ์ หห้ น่วยงานถกู ตอ้ ง - ตวั ชวี้ ดั ผลลพั ธ์ เชน่ ร้อยละการเรยี กคนื เครื่องมือกลับ ร้อยละความพึงพอใจของหน่วยงาน เปน็ ต้น นอกจากการบรหิ ารจัดการงานจ่ายกลางท้ัง 6 ด้านขา้ งตน้ แลว้ ยงั ต้องคำ� นึงถงึ การดำ� เนินการเกย่ี วกับการจัดการ มลู ฝอย การทำ� ความสะอาดสง่ิ แวดลอ้ มและระบบสนบั สนนุ ฉกุ เฉนิ การทำ� ความสะอาดสง่ิ แวดลอ้ มในงานจา่ ยกลาง การก�ำหนดข้ันตอนและความถ่ีในการท�ำความสะอาดแต่ละบริเวณอย่างชัดเจน และมีการอบรมบุคลากร ผู้รับผิดชอบท�ำความสะอาดตามาตรฐานการท�ำความสะอาดส่ิงแวดล้อมของโรงพยาบาล ระบบสนับสนุนฉุกเฉิน เชน่ กรณไี ฟไหม้ ไฟดับ น้�ำไม่ไหล น�ำ้ ท่วม แผน่ ดนิ ไหว อุบัตภิ ยั หมู่ เปน็ ตน้ ตอ้ งมกี ารจดั ทำ� แผนของหนว่ ยงาน สอดคลอ้ งกับแผนของโรงพยาบาล มกี ารซ้อมแผนเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง 7. การควบคุมคณุ ภาพในงานจา่ ยกลาง (Quality control in CSSD) การควบคุมคุณภาพเป็นระบบท่ีมีความส�ำคัญอย่างย่ิงต่อการท�ำให้เคร่ืองมือแพทย์ปราศจากเช้ือ ในโรงพยาบาล เพอื่ ความปลอดภยั สงู สุดต่อผปู้ ่วย หลกั สำ� คญั ของการควบคมุ คณุ ภาพ คอื การควบคมุ ทุกขน้ั ตอน ของกระบวนการท�ำให้ปราศจากเช้ือให้เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ได้ก�ำหนดไว้ การตรวจสอบปัจจัย นำ� เขา้ และปจั จยั ตา่ งๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งอยา่ งเปน็ ระบบและตอ่ เนอ่ื ง เพอ่ื บรรลเุ ปา้ หมาย คอื เครอื่ งมอื สะอาด ปราศจาก เชอื้ ครบถว้ น ถกู ต้อง เพียงพอ พรอ้ มใช้ และทนั เวลา หลักการควบคุมคุณภาพในงานจ่ายกลางใช้กรอบแนวคิดในการพัฒนาคุณภาพพ้ืนฐานเชิงระบบเช่ือม โยงกบั หลกั แนวคดิ 3P ประกอบด้วย Purpose Process และ Performance การทำ� งานหรือการพฒั นาทกุ เรอื่ ง ตอ้ งมเี ป้าหมายท่ีชดั เจน ทำ� อยา่ งไรให้บรรลเุ ป้าหมาย หรือผลลพั ธ์ใกล้เคียงกบั เปา้ หมายท่ีต้องการ ตารางท่ี 6 การควบคุมคณุ ภาพกระบวนการท�ำปราศจากเชอ้ื (Quality control of sterilization process) กระบวนการ กระบวนการ ประเดน็ สำ� คญั 1. การจัดเก็บรวบรวม ณ จดุ ทใี่ ช้งาน 1. ขจัดคราบสกปรกเบือ้ งต้น ค ออกจากเครื่องมอื และขนสง่ เครอื่ งมอื แพทย์ (Pont of use) 2. กรณีไม่สามารถล้างได้ทันทีใช้ผลิตภัณฑ์เอนไซม์เคลือบเครื่องมือ ปนเปื้อน ไม่ให้แห้ง 3. ระวังการแพรก่ ระจายเช้ือโรค การเคล่อื นย้าย 1. บรรจุในภาชะท่ีมิดชิดและใช้เฉพาะส�ำหรับเคล่ือนย้ายเครื่องมือท่ีมี เครื่องมือแพทย์ปนเปื้อน การปนเปอ้ื นและปิดมิดชดิ 2. หลีกเลี่ยงเส้นทางทม่ี คี นพลกุ พลา่ น 3. ระวงั การแพร่กระจายเชื้อโรค 2. ข้ันตอนการท�ำความ คุณภาพนำ้� 1. มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำ� ตามเกณฑ์ สะอาดเครอ่ื งมือแพทย์ คณุ ภาพสารทำ� ความสะอาด 1. ผสมสารท�ำความสะอาดด้วยความเข้มข้นตามค�ำแนะน�ำของบริษัท ผผู้ ลิตสารท�ำความสะอาดและเครอ่ื งล้าง 2. รอบการเปลย่ี นสารทำ� ความสะอาดพจิ ารณาขากความถใ่ี นการใชง้ าน ปริมาณเครื่องมือ และลักษณะของสารท�ำความสะอาดท่ีเปลี่ยนไป เชน่ ความขุ่น และการตกตะกอน เปน็ ตน้
224 คู่มอื การปอ้ งกันและควบคุมการตดิ เช้อื โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น กระบวนการ กระบวนการ ประเด็นสำ� คัญ อปุ กรณท์ ใ่ี ชท้ ำ� ความสะอาด 1. เลือกขนาดและชนิดของแปรงให้เหมาะสมกับเครื่องมือแพทย์ โดย เฉพาะเครื่องมือที่เปน็ สายและท่อกลวง 2. ต้องท�ำความสะอาดและท�ำให้แห้ง หากสามารถท�ำได้ควรท�ำความ สะอาด ท�ำลายเชอ้ื และท�ำให้แหง้ หลังเสร็จส้ินการใช้งานทุกวัน 3. เปล่ียนอุปกรณ์ท่ีใช้ท�ำความสะอาดเม่ือไม่สามารถใช้งานได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ เครอื่ งลา้ งอตั โนมตั ิ 1. ตรวจสอบคุณสมบัติของเครื่องล้างหลังการติดต้ัง การเคล่ือนย้าย เคร่ือง และการซ่อมเคร่ืองคร้ังใหญ่ (Major repair) ด้วย PCDs (Process challenge device) ได้แก่ การตรวจสอบการล้างคราบ เลอื ดเทยี ม 2. ตรวจสอบแรงดันและปรมิ าณนำ้� ทีอ่ อกจากแขนฉดี น้ำ� (Spray arm) 3. ตรวจสอบระดับ/ปริมาณ สารท�ำความสะอาดท่ีใชง้ านทุกวนั 4. ตรวจสอบโปรแกรมการลา้ ง เช่น อณุ หภมู ิ และเวลา เป็นตน้ 5. ตรวจสอบความพร้อมและประสิทธิภาพการทำ� งานของเครือ่ งทุกวัน ก่อนเริม่ ใชง้ าน 6. จดั ท�ำแผนบำ� รงุ รกั ษาเชงิ ปอ้ งกันอย่างน้อยปีละ 1 ครงั้ 7. จัดท�ำข้ันตอนการใช้งานอย่างง่ายของเครื่องล้างไว้ประจ�ำในจุดที่ สามารถเข้าถึงไดง้ า่ ย เครื่องลา้ งด้วยคลน่ื 1.ตรวจสอบประสทิ ธภิ าพการทำ� งานของเครอ่ื งอยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะครงั้ ความถี่สูง (Ultrasonic) หรอื ตามค�ำแนะนำ� ของบริษัทผ้ผู ลติ (IFU) 2.ก�ำจดั ฟองอากาศ (Degassing) ทุกวนั กอ่ นเริม่ ใช้งานและหลังเปล่ียน น้�ำทุกครัง้ 3.เปลี่ยนน�้ำในเคร่ืองตามความถ่ีในการใช้งาน ปริมาณของเคร่ืองมือ และลักษณะของสารท�ำความสะอาดทีเ่ ปล่ยี นไป เช่น ความขนุ่ และ การตกตะกอน เป็นต้น 4.ตะแกรงทใ่ี ชใ้ สเ่ ครอ่ื งมอื แพทยค์ วรเปน็ ชนดิ ทผ่ี ลติ มาเพอ่ื ใชก้ บั เครอื่ ง โดยเฉพาะ ขั้นตอนและวิธีการท�ำความ 1. สวมอุปกรณป์ อ้ งกนั สว่ นบุคคลตลอดระยะเวลาลา้ งเครอ่ื งมอื แพทย์ สะอาด 2. ท�ำความสะอาดหลังเสรจ็ การใช้งานทกุ คร้ัง 3. ตดิ ตามการปฏิบตั ติ ามแนวทางนโยบายและวธิ ีวธิ ีปฏิบัติทก่ี ำ� หนด 4. กรณเี ครอื่ งมอื แพทยท์ ซ่ี บั ซอ้ น หรอื เครอ่ื งมอื ทน่ี ำ� เขา้ มาใหม่ บคุ ลากร ตอ้ งไดร้ ับการอบรมและประเมนิ สมรรถนะก่อนปฏบิ ตั งิ าน การตรวจสอบความสะอาด 1. ต้องการตรวจสอบความสะอาดด้วยตาโดยใช้แว่นขยายชนิดท่ีมีไฟ เคร่ืองมอื ส่อง (Magnifying lamp) รว่ มกบั การตรวจสอบดว้ ยวธิ ีอนื่ เชน่ การ (Cleaning verification) ตรวจสอบคราบโปรตีน คราบเลอื ด และ ATP เป็นตน้ 2. สุ่มตรวจสอบความสะอาดของเคร่ืองมือแพทย์หลังการล้างโดยสุ่ม ตวั อยา่ งเครอื่ งมือแพทย์ที่ล้างทำ� ความสะอาดไดย้ าก 3. พจิ ารณาความถแ่ี ละปรมิ าณในการตรวจสอบตามปริมาณงาน
การป้องกันและควบคุมการตดิ เชื้องานจ่ายกลาง 225 กระบวนการ กระบวนการ ประเด็นส�ำคัญ 3. การตรวจสอบและ การตรวจสอบ 1. ตรวจสอบการทำ� งาน (Function) ของเครอ่ื งมอื แพทย์ เชน่ ความคม การหอ่ เครือ่ งมอื แพทย์ เครอ่ื งมือแพทย์ ส่วนเชอื่ มตอ่ สามารถเคลอื่ นไหวได้อย่างอิสระ ไม่ตดิ ขัด เป็นต้น การห่อเครื่องมอื แพทย์ 2. ปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำของบริษัทผู้ผลิต เช่น การหล่อลื่น Power instruments และ Hand pieces เปน็ ต้น 4. การจัดเรียงห่อเคร่ือง การจัดเรยี งหอ่ มือแพทย์และการท�ำให้ เครอื่ งมือแพทย์ 1. เลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับชนิดของเคร่ืองมือและวิธีการท�ำให้ ปราศจากเชอ้ื ปราศจากเชือ้ การท�ำให้ปราศจากเชื้อ 2. ตรวจสอบสภาพของวัสดทุ ีใ่ ชใ้ นการห่อเครื่องมือแพทย์ เช่น รู ฝนุ่ ใย ผ้า รอยเปื้อน ฉีกขาด เป็นต้น 3. ควบคุมขนาดและน�้ำหนักของห่อเคร่ืองมือแพทย์ให้เป็นไปตาม มาตรฐาน เชน่ หอ่ เครอ่ื งมอื ผา่ ตดั ดว้ ยผา้ ไมค่ วรหนกั เกนิ 10 กโิ ลกรมั เปน็ ต้น 4. เลือกตัวบ่งชท้ี างเคมี (Type 4 5 หรอื 6) วางตวั บ่งช้ีทางเคมีภายใน ในตำ� แหนง่ ท่ีตวั การทำ� ให้ปราศจากเช้อื (Sterilant) เข้าถงึ ไดย้ าก 5. ใชต้ ัวบ่งชี้ทางเคมภี ายนอกที่ได้มาตรฐานตามวิธีการทำ� ให้ปราศจาก เช้ือ 6. ตรวจสอบการทำ� งานของเครอื่ งปดิ ผนกึ (Heat sealer) ทดสอบดว้ ย ตวั Seal check หรือ Dying test อยา่ งสม่ำ� เสมอ 7. ระบุรายละเอยี ดบนฉลากห่อเคร่ืองมือแพทยใ์ หค้ รบถว้ น 1. จดั เรยี งเครอ่ื งมอื แพทยช์ นดิ เดยี วกนั ไวใ้ นการทำ� ใหป้ ราศจากเชอ้ื รอบ เดียวกนั 2. ในกรณจี ดั เรียงแบบผสม (Mix loads) ควรวางห่อเคร่อื งมือแพทยท์ ี่ เป็นโลหะไว้ช้ันลา่ งสดุ หอ่ ผ้า และซอง Peel pouches ไวช้ ้ันบน 3. จดั เรยี งใหม้ ชี อ่ งวา่ งระหวา่ งหอ่ เครอื่ งมอื อยา่ งเหมาะสม ชามอา่ งและ ถาดที่ไม่มีรูจัดวางลักษณะตะแคงคว�่ำหันไปทางเดียวกันให้น�้ำหยด ออกไดง้ ่าย 1. เลอื กวธิ แี ละโปรแกรมใหเ้ หมาะสมกบั เครอื่ งมอื แพทยต์ ามคำ� แนะนำ� ของบริษทั ผู้ผลิต (IFU) 2. เคร่อื งมอื ที่ผา่ นการทำ� ปราศจากเชือ้ ดว้ ยระบบไอนำ้� IUSS (Imme- diate use steam sterilization) ควรน�ำไปใช้ทนั ที 3. ตรวจสอบหอ่ เครื่องมือแพทย์ท่ผี ่านการท�ำให้ปราศจากเชอื้ ห่อตอ้ ง ไมเ่ ปยี กชน้ื (Wet pack) ไม่ขาด หลดุ ลุ่ย
226 ค่มู อื การป้องกนั และควบคุมการตดิ เชอ้ื โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ กระบวนการ กระบวนการ ประเดน็ ส�ำคญั 5. ตรวจสอบประสทิ ธภิ าพ การตรวจสอบประสิทธิภาพ 1. ตรวจสอบตวั บง่ ชท้ี างกายภาพ ไดแ้ ก่ พารามเิ ตอรต์ า่ งๆ ตามโปรแกรม การท�ำปราศจากเช้อื การทำ� ปราศจากเช้อื ที่เลือกใช้จากกระดาษที่พิมพ์ออกจากเคร่ือง ได้แก่ อุณหภูมิ ระยะ เวลา ความดัน เป็นต้น พรอ้ มทง้ั ลงชือ่ และวนั ที่ หรือตรวจสอบจาก จอแสดงผลหนา้ เครื่องพรอ้ มบันทึก ทุกรอบ 2.ตรวจสอบตัวบง่ ชที้ างเคมี ไดแ้ ก่ 2.1 ตรวจสอบระบบดูดอากาศของเคร่ืองท�ำให้ปราศจากเช้ือด้วย ไอน�้ำระบบสุญญากาศ โดยใช้ Bowie–Dick test ในช่องอบโอ่ง อา่ นและบันทึกผลทกุ วันก่อนเร่ิมการใชง้ าน 2.2 ตรวจสอบตัวบ่งช้ีทางเคมีภายนอก (External chemical indicators) ตดิ ตวั บง่ ชที้ างเคมภี ายนอกบนหอ่ เครอื่ งมอื แพทยท์ กุ หอ่ 2.3 ตรวจสอบตัวบ่งชี้ทางเคมีภายใน (Internal chemical indicators) ทกุ หอ่ 3. ตรวจสอบตัวบ่งช้ที างชวี ภาพ (Biological indicators) Steam : ทดสอบทกุ วนั ด้วย BI PCD (Biological indicator process challenge device) และทกุ รอบทม่ี กี ารทำ� ให้ Implant ปราศจากเชอ้ื Ethylene oxide : ทดสอบทุกรอบด้วย BI PCD Vaporized hydrogen peroxide/Hydrogen peroxide gas plasma : ทดสอบทกุ รอบหรอื อย่างนอ้ ยทุกวนั ด้วย BI PCD Dry heat : ทดสอบทกุ วันหรืออยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะคร้งั ด้วย BI PCD การจดั เกบ็ บันทึกข้อมลู 1. บันทกึ และจัดเก็บขอ้ มลู เช่น การท�ำงานของเครอื่ งลา้ ง เครอ่ื งท�ำให้ ปราศจากเช้ือ และบันทึกการซ่อมบ�ำรุงให้ครบถ้วน ถูกต้อง และ สามารถตรวจสอบไดง้ า่ ย 2. นำ� ข้อมลู มาวเิ คราะหจ์ ัดท�ำสถติ ิเพือ่ นำ� ไปใชป้ ระโยชน์ 6. การจัดเก็บและแจก การจัดเก็บห่อเคร่ืองมือ 1. ควบคุมอณุ หภมู แิ ละความชนื้ สมั พทั ธใ์ ห้อยูใ่ นเกณฑ์มาตรฐาน จ่ายห่อเคร่ืองมือแพทย์ แพทย์ปราศจากเชอื้ 2. ชัน้ วางเครอ่ื งมอื ปราศจากเช้อื ให้สูงจากพน้ื อย่างน้อย 8 นวิ้ ห่างจาก ปราศจากเชอ้ื เพดานอย่างนอ้ ย 18 น้ิว และจากฝาผนัง 2 น้ิว 3. ทำ� ความสะอาดอย่างสม�ำ่ เสมอ 4. ก�ำหนดปริมาณสูงสุดและต่�ำสุดของเครื่องมือแต่ละประเภทตาม ปริมาณการใชง้ านเพือ่ ลดการ Resterile การแจกจ่ายห่อเครื่องมือ 1. แจกจา่ ยตามหลักการ First in first out (FIFO) แพทย์ปราศจากเชอื้ 2. ระวงั การปนเป้อื นเชื้อในขณะแจกจา่ ย
การป้องกนั และควบคุมการตดิ เชื้องานจ่ายกลาง 227 การตรวจสอบประสิทธิภาพกระบวนการท�ำใหป้ ราศจากเช้อื ของวิธีการทำ� ให้ปราศจากเชอื้ การตรวจสอบประสิทธิภาพกระบวนการท�ำให้ปราศจากเชื้อของวิธีการท�ำให้ปราศจากเชื้อมีการก�ำหนด เพื่อเป็นนโยบายและแนวทางการปฏบิ ตั ิ เพื่อใช้เป็นแนวทางการปฏบิ ตั ิ โดยมรี ายละเอียดในการปฏบิ ัติ ดังนี้ ตารางที่ 7 ความถีใ่ นการตรวจสอบประสิทธภิ าพกระบวนการท�ำใหป้ ราศจากเชอ้ื ของวธิ ีการท�ำให้ปราศจากเช้อื แต่ละวิธี ความถี่ในการตรวจสอบ วธิ ีทำ� ใหป้ ราศจากเชือ้ ทางกายภาพ ทางเคมี Bowie-Dick ตวั บง่ ช้ที างเคมี ตวั บง่ ชี้ทางเคมี ทางชีวภาพ test ภายนอก ภายใน ทุกวนั ไอน้ำ� ระบบ Gravity ทุกรอบ ทกุ วนั ทกุ หอ่ ทกุ หอ่ ทุกวัน ไอนำ้� ระบบ Pre vacuum ทุกรอบ ทกุ รอบ เอทธลิ ีนออกไซด์ ทุกรอบ - ทกุ ห่อ ทกุ ห่อ (Ethylene oxide) ทกุ รอบ ไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ - ทุกหอ่ ทกุ หอ่ Vaporized hydrogen ทกุ รอบ peroxide/ Hydrogen - ทกุ ห่อ ทกุ หอ่ ทกุ รอบ peroxide gas plasma ทกุ รอบ หรืออย่างนอ้ ยทุกวนั ฟอร์มลั ดไี ฮด์ (Low temperature - ทุกหอ่ ทกุ ห่อ ทุกรอบ stem formaldehyde) หรอื อยา่ งน้อยทุกวัน ความร้อนแหง้ (Dry heat) - ทุกหอ่ ทกุ ห่อ ทุกวนั หรืออยา่ งน้อย สปั ดาห์ละครง้ั ดัดแปลงจาก Sterilization process monitoring recommendations ANSI/AAMI ST79:2010 & A1:2010 & A2:2011 & A3:2012 & A4:2013. หมายเหตุ ตรวจสอบดว้ ยตวั บ่งชีท้ างชีวภาพทุกรอบที่มีการท�ำให้ Implant ปราศจากเชอ้ื
228 คู่มือการป้องกนั และควบคมุ การตดิ เชอ้ื โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ บรรณานกุ รม สถาบันบ�ำราศนราดูร กระทรวงสาธารณสุข. (2560). คู่มือปฏิบัติการป้องกันและควบคุมการติดเช้ือในโรง พยาบาล : หนว่ ยจ่ายกลาง. พมิ พค์ รงั้ ที่ 2. นนทบรุ ี : สำ� นกั พิมพอ์ ักษรกราฟฟิคแอนดด์ ีไซน์. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย. (2561). แนวปฏิบัติในการท�ำลายเชื้อและการท�ำให้ ปราศจากเชื้อเครือ่ งมือแพทย์ Thailand CSSA guideline for disinfection and sterilization of medical devices. อะเคื้อ อุณหเลขกะ. (2554). หลักและแนวปฏิบัติในการท�ำลายเชื้อและการท�ำให้ปราศจากเชื้อ. เชียงใหม่ : มิง่ เมอื งนวรตั นก์ ารพมิ พ์. Centers for Disease Control and Prevention. (2017). Guideline for disinfection and sterilization in healthcare facilities 2008 : 2017 update. Retrieved November5, 2017from : https:// www.cdc.gov/infectioncontrol/guidelines/disinfection/ index.html. The Asia Pacific society of infection control. (2561). APSIC guidelines for disinfection and sterilization of instruments in health care facilities. Retrieved September11, 2017, from : http://apsic-apac.org/wp-content/uploads/2017/01/ APSIC-Sterilization-guidelines- 2017.pdf
การป้องกนั การแพร่กระจายโรคตดิ ต่อและโรคติดเชื้อในผปู้ ่วยนอก 229 การป้องกันการแพร่กระจายโรคตดิ ต่อและโรคตดิ เชือ้ ในผู้ปว่ ยนอก สงวน บุญพนู * รศ.นพ.สมศักด์ิ เทยี มเก่า** ทวนทอง พนั ธะโร*** สลักจติ ศรีมงคล**** ความส�ำคญั โรคติดต่อและโรคติดเชื้อเป็นโรคท่ีสามารถติดต่อจากบุคคลหน่ึงสู่บุคคลหนึ่งได้โดยวิถีทางการสัมผัส หรือการหายใจเอาอากาศที่เช้ือโรคเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะห้องตรวจผู้ป่วยนอกซึ่งเป็นสถานท่ีมีผู้ป่วย ญาติ รวมทั้งบุคลากรอยู่ร่วมกันจ�ำนวนมากและเป็นด่านแรกที่ผู้ป่วยโรคติดต่อและโรคติดเชื้อจะเข้าถึง หากไม่มีระบบ การบรหิ ารจดั การทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพจะทำ� ใหม้ โี อกาสแพรก่ ระจายสบู่ คุ คลอนื่ ไดง้ า่ ย ดงั นน้ั ระบบการคดั กรองผปู้ ว่ ย ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพจะสามารถใหก้ ารดแู ลผปู้ ว่ ยไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชอื้ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โรงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ มหี อ้ งตรวจผปู้ ว่ ยนอกใหบ้ รกิ าร จำ� นวน 18 ห้อง ซ่ึงสามารถให้บรกิ ารผูป้ ว่ ยนอกไดจ้ �ำนวนมาก จากสถติ ผ้ปู ่วยของหน่วยงานเวชสถิติ งานเวชระเบียนและ สถติ ิ ในปี พ.ศ. 2558-2560 มผี ปู้ ว่ ยนอกมาใชบ้ ริการจ�ำนวน 591,533 915,516 และ 955,306 คน ตามล�ำดบั และในปี 2558-2560 มีผู้ปว่ ยมาใชบ้ รกิ ารท้งั หมดจ�ำนวน 840,899 915,516 และ 955,320 คร้ัง โดยในจำ� นวนนี้ มีผู้ป่วยที่เป็นโรคติดเชื้อจ�ำนวน 41,129 48,780 และ 44,329 โรค ซ่ึงผู้ป่วยเหล่านี้จะไปรับบริการท่ีห้องตรวจ ตา่ งๆและนงั่ รว่ มกบั ผปู้ ว่ ยอนื่ ๆ หากไมม่ กี ารปอ้ งกนั อาจทำ� ใหเ้ กดิ การแพรก่ ระจายเชอ้ื โรคตดิ ตอ่ ไปสผู่ มู้ ารบั บรกิ าร รายอนื่ รวมทง้ั บคุ ลากรทใี่ หบ้ รกิ าร โดยเฉพาะโรคตดิ ตอ่ ในระบบทางเดนิ หายใจในกลมุ่ ทม่ี กี ารตดิ ตอ่ ทาง Airborne precautions และ Droplet precautions ได้แก่ โรควณั โรค โรคไขห้ วัดใหญ่ โรคสกุ ใส โรคคอตบี โรคไอกรน เป็นต้น ซึ่งสามารถแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาลได้ง่ายและรวดเร็ว ดังนั้นคณะกรรมการป้องกันและควบคุม การติดเช้ือจึงได้มีการทบทวนและจัดท�ำแนวปฏิบัติการป้องกันการแพร่กระจายโรคติดต่อและโรคติดเช้ือ ในผู้ป่วยนอกขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดการระบาดของเชื้อโรคในโรงพยาบาลและความปลอดภัยของผู้ป่วยทั่วไป ญาติ และบคุ ลากรทปี่ ฏิบตั งิ าน คำ� จ�ำกัดความ โรคตดิ ต่อ หมายถงึ โรคท่ีเกิดจากเชื้อโรคหรือพษิ ของเชื้อโรค ซ่งึ สามารถแพรเ่ ชอื้ โดยทางตรงหรือทางอ้อม มาสคู้ นได้ ผปู้ ว่ ยนอก หมายถงึ ผปู้ ว่ ยท่ีมารบั การตรวจรักษาท่ีหอ้ งตรวจตา่ งๆทุกราย และผู้ป่วยทีร่ ับการตรวจพเิ ศษ ตา่ งๆ โดยไมไ่ ด้นอนรับการรักษาในโรงพยาบาล * พยาบาลชำ� นาญการพเิ ศษ หน่วยควบคุมการติดเชอ้ื งานบริการพยาบาล โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ ** รองศาสตราจารย์ สาขาอายรุ กรรมระบบประสาท ภาควิชาอายรุ ศาสตร ์ โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ *** พยาบาลชำ� นาญการ งานบริการพยาบาล โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ **** พยาบาลช�ำนาญการพเิ ศษ แผนกการพยาบาลผู้ปว่ ยนอก งานบริการพยาบาล โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์
230 คมู่ อื การปอ้ งกนั และควบคุมการติดเช้อื โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ หลักการปอ้ งกันการติดเชอ้ื ในห้องตรวจผู้ป่วยนอก การปอ้ งกนั การตดิ เชอื้ ในหอ้ งตรวจผปู้ ว่ ยนอกใชห้ ลกั การเดยี วกนั กบั หอผปู้ ว่ ย แตม่ ขี อ้ ปลกี ยอ่ ยทเี่ พม่ิ เตมิ ดงั น้ี 1. การระบายอากาศ เน่อื งจากห้องตรวจผปู้ ว่ ยนอกมีคนจ�ำนวนมาก ท�ำใหม้ โี อกาสการแพรเ่ ชอื้ ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น ไวรัสต่างๆ และวัณโรค เป็นต้น จึงต้องมีการระบายอากาศให้ดีเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ (ดังตารางที่ 1) 2. ควรมีสถานที่แยกผู้ท่ีมารับบริการสร้างเสริมสุขภาพหรือป้องกันโรค เช่น มารับวัคซีน ออกจาก ผู้ท่มี ารับบริการบำ� บัดรักษา เพอื่ ลดโอกาสสัมผัสเชือ้ 3. การให้ความรู้เพื่อกระตุ้นเตือนให้บุคลากรปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำในกรรมวิธีการรักษาต่างๆ ให้มากขึน้ เชน่ standard precautions, Aceptic techniques, Hand hygiene เพอ่ื ลดความเส่ยี งการติดเชอ้ื ทงั้ ของตนเองและผปู้ ว่ ย สำ� หรบั แนวปฏบิ ตั กิ ารปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชอื้ โรคตดิ ตอ่ และโรคตดิ เชอ้ื ในผปู้ ว่ ยนอก ผเู้ ขยี นไดร้ วบรวม จากแนวปฏิบัติต่างๆและศึกษาเพิ่มเติม เพื่อประยุกต์น�ำมาใช้ให้เข้ากับบริบทของแผนกการพยาบาลผู้ป่วยนอก ให้ไดต้ ามมาตรฐานมากทีส่ ุด ตารางที่ 1 แสดงอตั ราการนำ� เข้าอากาศภายนอก อตั ราการหมนุ เวยี นภายในหอ้ งและความดันสัมพนั ธ์ สถานที่ อัตราการน�ำเขา้ อากาศ อัตราการหมนุ เวียนภายใน อุณหภมู ิ ความดนั สมั พันธ์กบั ภายนอกไมน่ อ้ ยกว่า หอ้ งไม่นอ้ ยกวา่ จำ� นวนเทา่ (C ๐) พ้ืนที่ข้างเคียง บริเวณท่พี ักรอคอยผู้ป่วย จำ� นวนเท่าของปริมาตร ของปริมาตรห้องตอ่ ช่ัวโมง หอ้ งตรวจรักษา หอ้ งต่อชัว่ โมง (ACH) 21-24 ต�ำ่ กวา่ (ACH) 21-24 สูงกวา่ 2 2 12 6 ทมี่ า: วศิ วกรรมสถานแห่งประเทศไทยและสมาคมวิศวกรรมปรบั อากาศแห่งประเทศไทย แนวปฏิบัตกิ ารป้องกันการแพรก่ ระจายเชอ้ื โรคติดต่อและโรคตดิ เชือ้ ในผปู้ ่วยนอก 1. แนวทางการคดั กรองผู้ปว่ ยรายใหมแ่ ละผู้ปว่ ยสง่ ตอ่ จากโรงพยาบาลอื่นๆ ผู้ป่วยรายใหม่และผู้ป่วยส่งต่อจากโรงพยาบาลอ่ืนๆ ต้องได้รับการคัดกรองจากหน่วยบริการด่านหน้า ทกุ ราย โดยมแี นวปฏิบตั ิดงั นี้ 1.1 มีการคัดกรองและเฝ้าระวังผู้ป่วยทุกราย โดยการซักประวัติ ประเมินอาการตามรายละเอียด การคัดกรองผู้ป่วยเพื่อป้องกัน การแพร่กระจายเช้ือโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น (ตามเอกสารหมายเลขท่ี 1) 1.2 เขียนช่ือ เลขประจ�ำตัวผู้ป่วย(HN) หรือ ติดสติกเกอร์ช่ือผู้ป่วย ในใบ “การคัดกรองผู้ป่วย เพ่ือป้องกันการแพรก่ ระจายเชอ้ื โรคติดตอ่ และโรคตดิ เชือ้ ” 1.3 ให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัย (Surgical mask) (กรณีเป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ) พร้อมอธิบายความจ�ำเป็นในการแยกผู้ป่วยในการรับการตรวจรักษา และแนะน�ำการท�ำความสะอาดมือที่ถูกวิธี แก่ผู้ปว่ ยและญาติ 1.4 ตดิ การ์ดแยกโรคทม่ี มุ ซ้ายบนของใบ “การคดั กรองผ้ปู ่วยเพื่อป้องกันการแพรก่ ระจายเช้ือฯ” (ดตู ารางท่ี 2)
การป้องกันการแพร่กระจายโรคติดต่อและโรคตดิ เช้อื ในผู้ปว่ ยนอก 231 ตารางท่ี 2 แสดงการตดิ การด์ แยกโรคเพื่อส่ือสารภายในทมี สหสาขาวชิ าชีพ ชนดิ การ์ดแยกโรค โรคที่ตดิ การด์ แยกโรค การด์ แยกโรค Airborne precautions วัณโรคปอด โรคหดั (Measles) การ์ดแยกโรค Droplet precautions โรคหัดเยอรมัน (Rubella) โรคคางทูม (Mumps) โรคไอกรน (Pertussis) โรคคอตีบ (Diphtheria) โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) โรคไข้กาฬหลงั แอ่น (Meningococcal infection) โรคอดี ำ� อีแดง (Scarlet Fever) การด์ แยกโรค Contact precautions ติดเช้อื ดือ้ ยา MDR-GNB VRE CRE CoRO MRSA โรคตาแดง (Viral conjunctivitis) โรคหิด (Scabies) การด์ แยกโรค Airborne precautions โรคซารส์ (SARS) โรคเมอรส์ (MERS) โรคอีโบลา โรคซาร์ส (SARS) โรคเมอร์ส (MERS) โรคอีโบลา (Ebola) งูสวดั และเรมิ แบบแพร่ กระจาย (Disseminated herpes simplex) โรคสกุ ใส (Chickenpox) ไขห้ วดั นก (Avian influenza) และ Contact precautions
232 คู่มอื การป้องกันและควบคมุ การติดเชอื้ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 1.5 แนบใบ “การคดั กรองผปู้ ว่ ยเพอ่ื ปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชอ้ื โรคตดิ ตอ่ และโรคตดิ เชอื้ ” โดยปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1.5.1 กรณีผู้ป่วยไม่มีใบนัด/ประวัติ ให้ญาติหรือผู้ป่วยถือเอกสาร เพื่อยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ หอ้ งตรวจหรือผเู้ กยี่ วขอ้ งเพอ่ื แนบกับประวัตผิ ้ปู ว่ ย 1.5.2 กรณีผ้ปู ่วยมีใบนัด/ประวตั ิ ให้แนบกับใบนัดหรือประวัติผูป้ ว่ ย 1.6 แยกผปู้ ว่ ยไปยงั พน้ื ทแี่ ยกโรค (Zoning) ทหี่ อ้ งตรวจกำ� หนดไว้ พรอ้ มแนะนำ� ผปู้ ว่ ยและญาตติ ดิ ตอ่ หรอื แจ้งพยาบาลหอ้ งตรวจน้นั ๆ กรณผี ู้ปว่ ยเปน็ โรควัณโรคและโรคอุบตั ใิ หม่และอบุ ตั ิซ้�ำ ให้ตรวจแยกโรคที่คลนิ กิ วัณโรคและปฏิบัติตามแนวทางการบริการและตรวจรักษาผู้ป่วยวัณโรคปอดระยะแพร่เชื้อ และโรคอุบัติใหม่และ อบุ ตั ิซำ้� เพื่อปอ้ งกนั และควบคุมการแพรก่ ระจายเชอื้ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ 1.7 ด�ำเนินการตรวจรักษาผู้ป่วยตามมาตรการตรวจรักษาผู้ป่วยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อของ หอ้ งตรวจนั้นๆ 1.8 กรณผี ูป้ ว่ ยมีนดั ตรวจรกั ษาครง้ั ตอ่ ไป ให้พจิ ารณาติดการด์ แยกโรคท่มี มุ ซ้ายบนของใบนัด (ดตู ารางท่ี 1) หากผู้ป่วยยังคงมีภาวะการติดเช้ือโรคติดต่อที่จะแพร่กระจายเชื้อได้ (ปรึกษาและพิจารณาร่วมกับแพทย์เจ้าของไข้) พรอ้ มอธิบายและให้ความรู้การปฏบิ ตั ติ ัวเพอื่ ป้องกนั การแพร่กระจายเช้อื ส�ำหรบั ผปู้ ว่ ยและญาติ 1.9 กรณีโรคติดต่อที่ต้องรายงาน ให้ห้องตรวจแจ้งหน่วยระบาดวิทยาโรคติดต่อ โทร. 63568 และ รายงาน รง. 506 (ตามเอกสารหมายเลข 2) 1.10 หากบุคลากรสัมผัสเชื้อผู้ป่วยโรคติดต่อ โดยไม่สวมเคร่ืองป้องกันร่างกาย มีโอกาสเสี่ยงต่อ การตดิ เชื้อ ให้แจง้ หน่วยระบาดวิทยาโรคตดิ ตอ่ โทร. 63568 2. แนวทางการคดั กรองผปู้ ว่ ยรายเกา่ ทีม่ บี ตั รนดั ที่หอ้ งตรวจตา่ งๆ บุคลากรที่ได้รับมอบหมายในการคัดกรองผู้ป่วยโรคติดต่อและโรคติดเช้ือต้องคัดกรองผู้ป่วยทุกราย โดยมีแนวปฏบิ ัติดงั น้ี 2.1 มีการคัดกรองและเฝ้าระวังผู้ป่วยทุกราย โดยการสังเกตป้ายเตือนท่ีติดใบนัด หรือซักประวัติ ประเมินอาการตามรายละเอียดการคัดกรองผู้ป่วยเพื่อป้องกัน การแพร่กระจายเชื้อโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น (ตามเอกสารหมายเลขท่ี 1) 2.2 เขียนช่ือ เลขประจ�ำตัวผู้ป่วย (HN) หรือ ติดสติกเกอร์ช่ือผู้ป่วย ในใบ “การคัดกรองผู้ป่วย เพือ่ ปอ้ งกันการแพรก่ ระจายเชื้อโรคตดิ ตอ่ และโรคติดเชอื้ ” 2.3 ให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัย (Surgical mask) (กรณีเป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ) พร้อมอธิบายความจ�ำเป็นในการแยกผู้ป่วยในการรับการตรวจรักษา และแนะน�ำการท�ำความสะอาดมือที่ถูกวิธี แก่ผูป้ ว่ ยและญาติ 2.4 ติดการ์ดแยกโรคท่ีมุมซ้ายบนของใบ “การคัดกรองผู้ป่วยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเช้ือฯ” (ดตู ารางท่ี 2) 2.5 แยกผู้ป่วยไปยังพื้นที่แยกโรค (Zoning) ที่ห้องตรวจก�ำหนดไว้ กรณีผู้ป่วยเป็นโรควัณโรคและ โรคอบุ ตั ใิ หมแ่ ละอบุ ตั ซิ ำ้� ใหน้ ำ� ผปู้ ว่ ยไปตรวจทห่ี อ้ งตรวจแยกโรคทค่ี ลนิ กิ วณั โรคและปฏบิ ตั ติ ามแนวทางการบรกิ าร และตรวจรักษาผู้ป่วยวัณโรคปอดระยะแพร่เชื้อและโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้�ำ เพ่ือป้องกันและควบคุมการแพร่ กระจายเชอื้ โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ 2.6 ด�ำเนินการตรวจรักษาผู้ป่วยตามมาตรการตรวจรักษาผู้ป่วยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อของ ห้องตรวจนนั้ ๆ
การปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายโรคตดิ ตอ่ และโรคติดเชื้อในผปู้ ว่ ยนอก 233 2.7 กรณีผู้ป่วยมีนัดตรวจรักษาครั้งต่อไป ให้พิจารณาติดการ์ดแยกโรคที่มุมซ้ายบนของใบนัด (ดูตารางท่ี 1) หากผู้ป่วยยังคงมีภาวะการติดเช้ือโรคติดต่อที่จะแพร่กระจายเช้ือได้ (ปรึกษาและพิจารณาร่วมกับ แพทยเ์ จา้ ของไข)้ พรอ้ มอธบิ ายและใหค้ วามรกู้ ารปฏบิ ตั ติ วั เพอื่ ปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชอื้ สำ� หรบั ผปู้ ว่ ยและญาติ 2.8 กรณีโรคติดต่อท่ีต้องรายงาน ให้ห้องตรวจแจ้งหน่วยระบาดวิทยาโรคติดต่อ โทร. 63568 และ รายงาน รง. 506 (ตามเอกสารหมายเลข 2) 2.9 หากบุคลากรสัมผัสเช้ือผู้ป่วยโรคติดต่อ โดยไม่สวมเคร่ืองป้องกันร่างกาย มีโอกาสเสี่ยงต่อ การติดเชอื้ ให้แจง้ หนว่ ยระบาดวิทยาโรคตดิ ตอ่ โทร. 63568 3. แนวทางการคดั กรองผูป้ ่วยนอก กรณที ม่ี สี ถานการณร์ ะบาดในชุมชน เมื่อมีสถานการณ์การระบาดของโรคติดต่อให้ปฏิบัติตามคู่มือแนวทางการเตรียมพร้อมภายใต้ ภาวะฉกุ เฉินดา้ นการแพทย์และสาธารณสขุ ระหว่างหนว่ ยงาน โรงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ ปี 2562 4. การปฏบิ ตั ติ วั ของบคุ ลากรเมอ่ื ใหก้ ารพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคตดิ ตอ่ และโรคตดิ เชอื้ ทหี่ อ้ งตรวจผปู้ ว่ ยนอก ปฏิบัตติ ัวดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ท�ำความสะอาดมือถกู ต้องตาม 5 ขอ้ บ่งชี้ ดว้ ยน�ำ้ กับนำ้� ยาฆา่ เช้ือหรอื alcohol hand rub 2. การใส่เครื่องปอ้ งกันร่างกายสว่ นบคุ คล ควรใช้ตามความจำ� เป็นและเหมาะสมกับวถิ ที างการแพร่ กระจายเชือ้ ดงั น้ี 2.1 ผู้ป่วยทุกราย ใหป้ ฏิบตั ิตามหลกั Standard precautions 2.2 ผปู้ ว่ ยทม่ี กี ารแพรก่ ระจายเชอื้ แบบ Contact precautions ใหส้ วมถงุ มอื ทกุ ครงั้ ทดี่ แู ลผปู้ ว่ ย สว่ นเส้อื คลุมแขนยาว เมอื่ คาดว่าจะสัมผัสใกลช้ ดิ ผู้ปว่ ย สารคดั หลง่ั หรอื สง่ิ แวดลอ้ ม 2.3 ผปู้ ว่ ยทม่ี กี ารแพรก่ ระจายเชอื้ แบบ Droplet precautions ใหส้ วมผา้ ปดิ ปากปดิ จมกู Surgical mask เม่ือเข้าใกล้ผู้ป่วยในระยะ 3 ฟุต ส่วนถุงมือและเส้ือคลุม ใช้เมื่อคาดว่าจะสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย สารคัดหลั่ง หรอื สิ่งแวดล้อม 2.4 ผปู้ ว่ ยทมี่ กี ารแพรก่ ระจายเชอ้ื แบบ Airborne precautions ใหส้ วมผา้ ปดิ ปากจมกู ชนดิ N-95 เม่อื เขา้ ไปดูแลผู้ปว่ ย 3. การท�ำความสะอาดเตียงตรวจผู้ป่วยและเก้าอี้หลังให้บริการผู้ป่วยโรคโรคติดต่อและโรคติดเชื้อ ให้ท�ำความสะอาด ดว้ ยนำ�้ ผงซกั ฟอก และเชด็ ตามดัวยน�ำ้ สะอาด ยกเว้นผู้ปว่ ยตดิ เช้ือดือ้ ยากลมุ่ CRE VRE CoRO วัณโรคปอดและกล่องเสียงและโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้�ำให้ท�ำความสะอาดด้วยน้�ำผงซักฟอก ตามด้วยน�้ำยา 0.5% โซเดียมไฮโปคลอไรด์ (Virkon) ท้ิงไว้ 10 นาที แล้วเช็ดตามดว้ ยนำ�้ สะอาด 4. ผา้ ปเู ตยี งและผา้ ทกุ ชนดิ ทใี่ ชก้ บั ผปู้ ว่ ยโรคตดิ ตอ่ และโรคตดิ เชอื้ ใหเ้ ปลย่ี นใหมท่ กุ ครง้ั กอ่ นใหบ้ รกิ าร ผปู้ ่วยรายอืน่ และแยกท้ิงให้เป็นผ้าติดเชอ้ื 5. ขยะทีเ่ กิดจากการดูแลผู้ป่วยใหท้ ง้ิ เป็นขยะติดเชื้อ
234 ค่มู ือการป้องกนั และควบคุมการติดเชื้อ โรงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น เอกสารหมายเลขท่ี 1 แบบคัดกรองผปู้ ว่ ยโรคตดิ เช้อื และเช้ือดือ้ ยา โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ เลขประจ�ำตวั ผปู้ ่วย ใบต่อบตั รตรวจโรค ชอื่ -นามสกลุ ..................................................................................แผน่ ท.่ี ............. การคดั กรองผู้ป่วยเพอื่ ป้องกันการแพรก่ ระจายเชื้อสำ� หรับหนว่ ยบรกิ ารดา่ นหน้าและหอ้ งตรวจต่างๆ โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ผู้ปว่ ยสงสัยเข้าข่าย โรคติดตอ่ เชื้อด้ือยา 1.คดั กรองผปู้ ่วยจากอาการและอาการแสดง ไขแ้ ละไอหรือเจบ็ คอหรอื น�้ำมูก หรือร่วมกบั หายใจล�ำบาก ปวดเม่อื ยกลา้ มเนอ้ื มาก (ไขห้ วัดใหญ่ โรคซาร์ส โรคเมอร์ส) มเี สมหะ เจบ็ หนา้ อก (โรคหลอดลมอักเสบ) หายใจเรว็ หอบ ทรวงอกโปรง่ (หลอดลมฝอยอกั เสบ) หายใจเสยี งดัง เสยี งแหบ ไอเสยี งก้อง เหมือนสนุ ัขเหา่ หายใจจมกู บาน กล้ามเน้อื หน้าอกบุ๋มขณะหายใจ (โรคครูฟ) แผลและมเี ยอื่ บุสเี ทาเกดิ ข้ึนทใ่ี นล�ำคอและบรเิ วณต่อมทอนซิล (สงสัยโรคคอตบี ) เจบ็ คอ กลนื ลาํ บาก น้าํ ลายไหล epiglottis บวมโต (สงสัยโรคฝาปิดกลอ่ งเสียงอักเสบ) ผน่ื สีแดงตามรา่ งกาย (สงสยั โรคหัด หัดเยอรมัน โรคฟีฟธแ์ ละโรคอีดำ� อีแดง) ปวดศีรษะรนุ แรง อาเจยี นมาก และคอแข็ง (โรคเย่ือหมุ้ สมองอักเสบ) ตอ่ มน้ำ� ลายบริเวณขา้ งหเู จบ็ และบวม โต (โรคคางทมุ ) ไอรนุ แรงและหลงั การไอสิ้นสุดลงจะมเี สยี งดังวู้ปหรอื วู้ (สงสยั โรคไอกรน) คอแขง็ ปวดเมื่อยกล้ามเน้ือ ปวดขอ้ ผืน่ เลือดออกใตผ้ ิวหนงั มีจ้ำ� เลอื ดขึน้ ตามตวั แขน ขาและ ชกั (สงสัยโรคกาฬหลังแอ่น) ไอเร้ือรังเกนิ 2 สปั ดาหแ์ ละ/หรือไอมเี สมหะปนเลือด 1 เดือนท่ีผา่ นมาและ/หรือน�ำ้ หนักลด 3-5 กก./เดอื น (สงสยั วณั โรค) มีตุม่ น�ำ้ ใสหลายระยะ (สงสัยโรคสกุ ใส) มีตุม้ นำ�้ เจ็บบริเวณปากหรืออวัยวะเพศ ตั้งแต่ 2 dermatome (สงสัยโรคเริม) 2.คัดกรองผู้ป่วยจากประวตั ิ มปี ระวตั กิ ารตดิ เช้ือดอื้ ยาทยี่ ังไมพ่ ้นระยะแพรก่ ระจายเชอ้ื ไดแ้ ก่ MDR, MRSA, CRE, VRE, CoRO มปี ระวัตสิ ัมผัสผูป้ ว่ ยที่เปน็ โรคติดตอ่ มีประวัตเิ ดนิ ทางกลบั จากประเทศท่มี กี ารระบาดอบุ ตั ใิ หมอ่ บุ ัตซิ �้ำ 7-14 วนั มปี ระวัตสิ ัมผัสสัตวป์ กี ทีป่ ่วยตาย
การป้องกันการแพร่กระจายโรคตดิ ต่อและโรคตดิ เชื้อในผปู้ ว่ ยนอก 235 บรรณานุกรม ศูนยก์ ฎหมาย . 2558. พระราชบัญญตั โิ รคตดิ ต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ . พมิ พ์ครง้ั ที่ 2.โรงพมิ พแ์ ห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย. กรงุ เทพมหานคร. หน่วยเวชสถิติ. 2558. สถิติผู้ป่วย. งานเวชระเบียนและสถิติ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร ์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ . หน่วยเวชสถิติ. 2559. สถิติผู้ป่วย. งานเวชระเบียนและสถิติ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร ์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ . หนว่ ยเวชสถติ .ิ 2560. ตารางแสดงจำ� นวนผปู้ ว่ ยนอกทงั้ หมด จำ� แนกตามแผนกตรวจ. งานเวชระเบยี นและสถติ ิ โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ คณะแพทยศาสตร ์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ . หน่วยควบคุมการติดเช้ือ. 2560. แนวทางการคัดกรองผู้ป่วยเพ่ือป้องกันการแพร่กระจายเช้ือโรงพยาบาล ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ส�ำหรับหน่วยบริการด่านหน้าและห้องตรวจ ต่างๆ.งานบรกิ ารพยาบาล โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ . หน่วยควบคุมการติดเช้ือ. 2560. แนวทางการส่งต่อผู้ป่วยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเช้ือส�ำหรับหอผู้ป่วยต่างๆ. งานบรกิ ารพยาบาล โรงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . หนว่ ยควบคมุ การตดิ เชอื้ . 2560. แนวทางการบรกิ ารและตรวจรกั ษาผปู้ ว่ ยวณั โรคปอดระยะแพรเ่ ชอ้ื เพอื่ ปอ้ งกนั และควบคุมการแพร่กระจายเชอ้ื โรงพยาบาลศรนี ครินทร.์ งานบริการพยาบาล โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร ์ คณะแพทยศาสตร์ World Health Organization . 2018 . Infectious disease .http:// www. who.int/topics/infectious_ diseases/en /
ภาคผนวก
238 การตรวจเยี่ยม Open House ดา้ นการเฝา้ ระวงั ป้องกันและควบคมุ การตดิ เช้อื วนั ท.่ี ... เดอื น................ พ.ศ. .......... II-4 การปอ้ งกนั และควบคมุ การตดิ เชอื้ (IC) 2P Safety Goals: Infection Prevention and Control หน่วยงาน......................... ทมี ผูเ้ ย่ียม.......................... ลำ� ดับที่ ประเด็นการตรวจเยีย่ ม Current/Actual Desired Action Plan Practice Practice 4.2 ก (11) การระบุความเสย่ี ง 1 หนว่ ยงานระบหุ ัตถการและกระบวนการทเ่ี สย่ี งสูงต่อการ ติดเช้อื 2 หน่วยงานน�ำกลยุทธท์ ี่จะลดความเสี่ยงตอ่ การติดเชอื้ ใน กระบวนเหล่านน้ั ไปสกู่ ารปฏบิ ัติ 3 หนว่ ยงานระบุความเสีย่ งที่ตอ้ งการนโยบายและระเบียบ ปฏบิ ัติ การใหค้ วามร้แู กบ่ คุ ลากร การเปลี่ยนแปลงการ ปฏิบตั แิ ละกิจกรรมอื่นๆ เพือ่ ลดความเสยี่ ง 4.2 ก (12) การใช้ standard precautions และ isolation precautions 4 มกี ารแยกผู้ป่วยที่ทราบหรือสงสัยว่าเป็นโรคตดิ ต่อตาม นโยบายขององค์กร 5 มแี นวทางการแยกผู้ปว่ ยท่ีเปน็ โรคติดตอ่ จากผู้ปว่ ยและ บคุ ลากรซ่ึงมีภมู ิต้านทานตำ�่ หรอื ความเส่ยี งดว้ ยเหตอุ ่ืนๆ และไดร้ ับการน�ำไปปฏบิ ตั ิ 6 มแี นวทางการจัดการกบั ผ้ปู ว่ ยที่สามารถแพร่กระจายเชอ้ื ทางอากาศเม่อื ไม่มีหอ้ งความดนั ลบสำ� หรบั ช่วงเวลาสน้ั ๆ และได้รบั การนำ� ไปปฏบิ ตั ิ 7 องค์กรมีกลยุทธใ์ นการจัดการเมอื่ มีผปู้ ว่ ยโรคติดต่อมา พรอ้ มกนั คราวละมากๆ 8 มีห้องทีเ่ หมาะสมสำ� หรบั แยกผูป้ ว่ ยติดเชอื้ ท่แี พร่กระจาย เช้ือทางอากาศได้ และไดร้ ับการเฝา้ ตดิ ตามเป็นประจำ� 9 บุคลากรทราบแนวทาง/ได้รับการอบรม และปฏบิ ตั ิตาม การปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเช้อื ตามแบบมาตรฐาน (standard precautions) 4.2 ก (13) การท�ำความสะอาด การท�ำลายเชื้อ และการทำ� ให้ปราศจากเชือ้ 10 การจัดเตรยี มเคร่ืองมอื เพ่อื สง่ ทำ� ให้ปราศจากเชื้อ ถกู ต้อง ตามแนวทางงานจา่ ยกลาง 11 มีการท�ำลายเชื้อและท�ำให้ปราศจากเช้อื ในหน่วยงานถูก ตอ้ งตามประเภทเครอ่ื งมือ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255