Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนคณิตศาสตร์แบบอุปนัยม.1ค21102 - ณฐพร จันทร์ทิตย์

แผนการสอนคณิตศาสตร์แบบอุปนัยม.1ค21102 - ณฐพร จันทร์ทิตย์

Published by ครรชิต แซ่โฮ่, 2022-02-06 10:23:19

Description: แผนการสอนคณิตศาสตร์แบบอุปนัยม.1ค21102 - ณฐพร จันทร์ทิตย์

Search

Read the Text Version

แบบประเมนิ พฤติกรรมในการทำงานเปน็ รายบคุ คล ผลงาน/กจิ กรรมที่................................เร่อื ง................................................................................................ สาระการเรียนร้ทู ี่...........................................หน่วยการเรียนร้ทู ี่.................................................................. ช่ือ.........................................................วนั ท่ี.................เดอื น..............................พ.ศ................................. คำช้แี จง : ใหผ้ ู้ประเมนิ ศึกษาขอ้ กำหนดการให้คะแนนในการประเมินผลตามสภาพจริงอยา่ งละเอยี ดรอบรอบแล้ว บนั ทึกคะแนนให้ตรงกับพฤติกรรมตามรายการประเมินท่ีกำหนดโดยการบนั ทึกในชอ่ งที่กำหนดใหพ้ ฤติกรรมการ แสดงออกของนักเรยี นกำหนดเปน็ ระดับค่าคะแนนได้ดงั น้ี ระดับคะแนน 4 มากท่สี ุด, 3 ดี, 2 พอใช้, 1 ปรบั ปรงุ ท่ี ช่อื -สกุล ความมีวินัย ความมนี ำ้ ใจ การรบั ฟังความ การแสดงความ การตรงตอ่ รวมคะแนน เอื้อเฟื้อ คิดเหน็ คดิ เห็น เวลา 20คะแนน เสยี สละ 43214321432143214321 ลงชอ่ื ...............................................................ผู้ประเมนิ .................../................/................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ได้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ได้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ได้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้งั ได้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน เกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 18-20 4 ดีมาก 14-17 3 ดี 10-13 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรงุ ต่ำกว่า 10

แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรมและค่านยิ มที่พงึ ประสงค์ ผลงาน/กจิ กรรมที่................................เรื่อง................................................................................................ สาระการเรยี นร้ทู ี่...........................................หน่วยการเรียนรทู้ ี่.................................................................. ช่อื .........................................................วนั ท่ี.................เดอื น..............................พ.ศ................................. คำช้แี จง : ให้ผูป้ ระเมนิ ศึกษาขอ้ กำหนดการให้คะแนนในการประเมินผลตามสภาพจรงิ อย่างละเอียดรอบรอบแล้ว บันทึกคะแนนให้ตรงกับพฤติกรรมตามรายการประเมนิ ที่กำหนดโดยการบนั ทกึ ในช่องท่ีกำหนดใหพ้ ฤติกรรมการ แสดงออกของนักเรียนกำหนดเปน็ ระดับค่าคะแนนได้ดงั น้ี ระดบั คะแนน 4 มากทสี่ ดุ , 3 ดี, 2 พอใช้, 1 ปรับปรงุ ที่ ชอ่ื -สกุล ความ ความสนใจใฝร่ ู้ ความมีวนิ ัย ความซื่อสัตย์ ความมีระเบยี บ รวมคะแนน รับผิดชอบ 20คะแนน 43214321432143214321 ลงชอ่ื ...............................................................ผู้ประเมนิ .................../................/................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ได้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ได้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ได้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยครัง้ ได้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ เกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 4 ดีมาก ชว่ งคะแนน 3 ดี 18-20 2 พอใช้ 14-17 1 ปรับปรุง 10-13 ตำ่ กว่า 10

บันทกึ หลังสอน คาบท่ี 1 หัวข้อ ม.1/4 ม.1/5 ชั้น/ห้อง นักเรียนสามารถบอกไ ประโยคใดเปน็ หรือไม่เ ผลการจดั การเรียนรู้ เชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว • ดา้ นความรู้ นักเรียนสามารถบอกไดว้ า่ ความสามารถ ประโยคใดเปน็ หรือไม่เปน็ สมการ เชงิ เส้นตวั แปรเดียว บอกไดว้ ่าประโยคใดเป็น หรอื ไม่เป็นสมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว • ดา้ นทักษะ นักเรยี นสามารถเขียนสมการ นกั เรียนสามารถเขยี นส กระบวนการ สมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียวจาก สมการเชงิ เส้นตวั แปรเ ประโยคบอกเลา่ ได้ ประโยคบอกเลา่ ได้ เขยี นสมการสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดียวจาก ประโยคบอกเลา่ ได้ • ดา้ นคุณลกั ษณะ นกั เรยี นมีความเช่ือมนั่ ในตนเอง นกั เรียนมีความเช่ือมัน่ อนั พงึ ประสงค์ ทำงานเป็น ระเบยี บเรยี บรอ้ ย รอบคอบ และมี ความเชือ่ มนั่ ใน ตนเอง

ม.1/9 ม.1/10 ไดว้ า่ นกั เรยี นสามารถบอกได้วา่ ประโยค นกั เรยี นสามารถบอกไดว้ า่ เปน็ สมการ ใดเปน็ หรอื ไม่เปน็ สมการเชิงเส้นตวั ประโยคใดเปน็ หรือไม่เป็นสมการ แปรเดียว เชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว สมการ นกั เรยี นสามารถเขียนสมการ นกั เรียนสามารถเขยี นสมการ เดียวจาก สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี วจาก สมการเชงิ เส้นตวั แปรเดยี วจาก ประโยคบอกเล่าได้ ประโยคบอกเล่าได้ นในตนเอง นกั เรียนมคี วามเช่ือมน่ั ในตนเอง นกั เรียนมีความเชื่อมั่นในตนเอง

หัวข้อ ม.1/4 ม.1/5 ชน้ั /หอ้ ง ปัญหาอุปสรรค • ดา้ นความรู้ นกั เรียนบางคนยังไมส่ ามารถบอก นกั เรียนบางคนยังไมส่ ความสามารถ ได้ว่าประโยคใดเปน็ หรอื ไม่เป็น ไดว้ า่ ประโยคใดเป็นหร บอกได้ว่าประโยคใดเป็น สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สมการเชิงเสน้ ตวั แปรเ หรือไมเ่ ป็นสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียว • ด้านทักษะ นักเรียนบางคนยังไม่สามารถ นักเรยี นบางคนยังไม่ส กระบวนการ เขียนสมการสมการเชงิ เสน้ ตวั แปร เขยี นสมการสมการเชงิ เขียนสมการสมการเชงิ เดยี วจากประโยคบอกเลา่ ได้ แปรเดยี วจากประโยคบ เส้นตวั แปรเดียวจาก ประโยคบอกเลา่ ได้ • ด้านคณุ ลกั ษณะ นักเรียนไมเ่ ขา้ เรยี น นักเรียนไม่เข้าเรียน อนั พึงประสงค์ ทำงานเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย รอบคอบ และมี ความเชอ่ื มัน่ ใน ตนเอง

ม.1/9 ม.1/10 สามารถบอก นกั เรยี นบางคนยังไม่สามารถบอก นกั เรียนบางคนยังไมส่ ามารถ รอื ไม่เป็น ไดว้ า่ ประโยคใดเปน็ หรอื ไมเ่ ป็น บอกไดว้ ่าประโยคใดเปน็ เดยี ว สมการเชิงเส้นตัวแปรเดยี ว หรือไมเ่ ปน็ สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว สามารถ นกั เรยี นบางคนยังไมส่ ามารถเขยี น นกั เรยี นบางคนยังไม่สามารถ งเสน้ ตวั สมการสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดยี ว เขยี นสมการสมการเชิงเสน้ บอกเล่าได้ จากประโยคบอกเลา่ ได้ ตัวแปรเดียวจากประโยค บอกเล่าได้ -นักเรียนไม่เขา้ เรยี น นักเรยี นไม่เขา้ เรียน

หวั ข้อ ม.1/4 ม.1/5 ช้ัน/ห้อง แนวทางแก้ปัญหา • ดา้ นความรู้ นักเรยี นทบทวนศึกษาเพิ่มเติม นกั เรยี นทบทวนศึกษา ความสามารถ บอกไดว้ า่ ประโยคใดเป็น หรอื ไม่เปน็ สมการเชิงเส้น ตวั แปรเดยี ว • ด้านทักษะ นักเรียนฝกึ ทำแบบฝกึ หดั และ นักเรยี นฝกึ ทำแบบฝกึ กระบวนการ ทบทวนใหม่อกี รอบจากวดี โี อทีค่ รู ทบทวนใหม่อกี รอบจา เขยี นสมการเชงิ เสน้ ตัว แขวนไว้ให้ในคลาสรมู แขวนไวใ้ ห้ในคลาสรูม แปรเดยี วจากประโยค บอกเล่าได้ • ด้านคณุ ลกั ษณะ แจ้งให้ผูป้ กครองรบั ทราบ แจง้ ให้ผ้ปู กครองรับทร อันพึงประสงค์ ทำงานเป็น ระเบียบเรยี บรอ้ ย รอบคอบ และมี ความเชื่อมั่นใน ตนเอง

ม.1/9 ม.1/10 าเพิ่มเติม นกั เรียนทบทวนศึกษาเพ่มิ เติม นักเรยี นทบทวนศึกษา เพิ่มเติม กหัดและ นักเรียนฝกึ ทำแบบฝึกหัดและ นกั เรียนฝึกทำแบบฝึกหดั ากวดี ีโอทคี่ รู ทบทวนใหม่อกี รอบจากวีดโี อทค่ี รู และทบทวนใหมอ่ ีกรอบจาก วีดีโอท่คี รูแขวนไว้ใหใ้ นคลาส แขวนไว้ให้ในคลาสรูม รูม ราบ แจ้งให้ผู้ปกครองรบั ทราบ แจง้ ให้ผปู้ กครองรบั ทราบ

ลงช่ือ.................................................................. ( นางณฐพร จันทร์ทติ ย์ ) ครผู ้สู อน ข้อคิดเห็นเพ่ิมเติมหวั หนา้ กลุ่มสาระคณติ ศาสตร์ ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................. ลงชอื่ ............................................... ( นางสาววนั ซลั มา ปานากาเซง็ ) ข้อคิดเหน็ เพิ่มเติมรองผูอ้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ หวั หนา้ กลุม่ สาระคณิตศาสตร์ ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................. .............ใ..บ...ค..ว..า...ม..ร..ชู้ ...ั่ว..โ..ม..ง..ท...ี่ .1........................................ .......................................... ...........................................................................เ.ร..ื่อ...ง...แ..บ...บ...ร..ูป...ข..อ...ง..จ..ำ..น...ว..น............ ................................................................. ใบความรชู้ ัว่ โมงที่ 1 ลงชอ่ื ............................................... เร่อื ง คำตอบของสมการ ( นางสาวเพรศิ พิศ คหู ามุข ) รองผอู้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ

สมการ สมการหมายถึง ประโยคสญั ลกั ษณ์ท่ีมีเคร่ืองหมาย = เช่น 1. 35X2 = 70 2. 25+12 = 35 3. 25-10 = 15 4. 56Xd = dX56 5. 12+34 = 34+12 คาตอบของสมการ คาตอบของสมการ ไดแ้ ก่ จานวนท่ีแทนค่าตวั แปรในสมการแลว้ ทาใหส้ มการน้นั เป็นจริง สมการที่เป็นจริง หมายถึง สมการซ่ึงจานวนท่ีอยทู่ างซา้ ยของเครื่องหมาย = กบั จานวนท่ีอยทู่ างขวา เท่ากนั เช่น 1. 35X2 = 70 2. 25+12 = 37 3. 25-10 = 15 สมการท่ีเป็นเทจ็ หมายถึง สมการซ่ึงจานวนที่อยทู่ างซา้ ยของเคร่ืองหมาย = กบั จานวนท่ีอยทู่ างขวาไมเ่ ท่ากนั เช่น 1. 35X2 = 60 2. 25+12 = 30 4. 56Xd = d+56 คาตอบของสมการหมายถึง สมการท่ีมีการใชต้ วั อกั ษรแทนจานวน เรียกตวั อกั ษรท่ีแทนจานวนใน สมการวา่ ตวั ไมท่ ราบค่า หรือ ตวั แปร เช่น 1. 35Xก = 70 2. 25+A = 37 3. B-10 = 15 เรียกจานวนที่แทนตวั ไม่ทราบค่าในสมการแลว้ ไดส้ มการท่ีเป็นจริง เช่น 35Xก = 70 ถ้าแทน ก ด้วย 1 จะได้ 35X1 = 35(สมการเป็ นเทจ็ ) ถ้าแทน ก ด้วย 2 จะได้ 35X2 = 70(สมการเป็ นจริง) ดังน้นั 2 คือคาตอบของสมการ

แบบฝกึ ทกั ษะชั่วโมงท่ี 1 คำชแี้ จง จงหาจำนวนใสใ่ น  แล้วทำใหส้ มการเป็นจรงิ 1. 15 -  = 8 2. 2 +  = 11 3. 3 x  = 9 7 4.  + 8 = 20 5. 17 -  = 7 6.  =2 9 7.  - 4 = 12 8.  - 6 = 9 9. 5 X (  + 4 ) = 20 10. 52 = 4 

เฉลยแบบฝกึ ทักษะชัว่ โมงที่ 1 คำชแ้ี จง จงหาจำนวนใสใ่ น  แลว้ ทำให้สมการเป็นจริง 1. 15 - 7 =8 2. 2 + 9 = 11 3. 3 × 21 = 9 7 4. 12 + 8 = 20 5. 17 - 10 = 7 6. 18 =2 9 7. 16 - 4 = 12 8. 15 - 6 = 9 9. 5 × ( 0 + 4 ) = 20 10. 52 =4 13

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 9 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 รายวชิ า คณติ ศาสตร์ 2 รหสั วิชา ค21102 จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 กราฟและความสัมพันธเ์ ชิงเสน้ จำนวน 13 ชั่วโมง เร่ือง คู่อนั ดบั และกราฟของคู่อันดบั จำนวน 2 ชัว่ โมง ครูผู้สอน นางณฐพร จันทร์ทิตย์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั สาระ จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์สมการและอสมการอธบิ ายความสมั พันธห์ รือช่วยแกป้ ัญหาท่ีกำหนดให้ ตวั ช้วี ัด ค 3.1 ม.1/2 เช้าใจและใช้ความรู้เกี่ยวกับกราฟ ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตรแ์ ละ ปัญหาในชีวิตจรงิ ค 3.1 ม.1/3 เช้าใจและใชค้ วามรู้เกีย่ วกบั ความสัมพนั ธ์ เซิงเส้นในการแกป้ ัญหาคณติ ศาสตร์ และปัญหา ในชีวิตจรงิ 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การแสดงความสัมพันธ์ระหวา่ งสิ่งของ 2 กลมุ่ อาจจะแสดงได้ดว้ ยแผนภาพ ตารางคู่อันดับหรือ กราฟ ในการแสดงความสัมพันธ์ดว้ ยคอู่ นั ดบั โดยทั่วไปเขยี นอยู่ในรปู (a, b) ซง่ึ a เปน็ สมาชิกตัวทห่ี นงึ่ และ b เป็นสมาชกิ ตวั ที่สอง 3.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) อ่านคู่อนั ดบั ของจุดบนกราฟ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) เขยี นกราฟของคู่อันดับที่กำหนดให้บนระนาบในระบบพิกัดฉาก ดา้ นคณุ ลักษณะ(A) ทำงานเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย รอบคอบ และมีความเช่ือม่นั ในตนเอง 4.สาระการเรยี นรู้ ความหมายของคู่อนั ดบั 5.สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการเชอื่ มโยง 3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล 4. ความสามารถในการคดิ สร้างสรรค์ 5. ความสามารถในการส่ือสาร

6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ซ่อื สตั ย์สุจริต 2. มีวินัย 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. มุ่งมั่นในการทางาน 7.ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์  การแกป้ ญั หา  การสือ่ สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์  การเช่อื มโยง  การใหเ้ หตุผล  การคิดสร้างสรรค์ 8.กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้นั นำ/ เตรียมนกั เรียน 1. ใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ข้นั สอน/แสดง 2. ครูสนทนาถงึ ความหมายของคู่อันดับวา่ ในชีวิตประจำวันของประชากรสว่ นใหญข่ องประเทศนิยมอ่าน ข่าวสาร จากหนงั สอื พิมพร์ ายวัน หนงั สอื รายปักษ์ วารสาร โดยครยู กตัวอย่างการอ่านหนังสือพิมพ์ และราคาขาย หนังสือพิมพ์ให้นักเรียนพิจารณา จำนวนหนังสือพิมพ์รายวัน (ฉบับ) 123456 ราคาขาย (บาท) 8 16 24 32 40 48 ซึ่งจากตารางขา้ งต้น แสดงความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งปริมาณสองปรมิ าณ คอื จำนวนหนังสือพิมพ์รายวัน กับ ราคาขายท่ีเปน็ คู่กนั สามารถเขียนแผนภาพแสดงการจับคู่ระหวา่ งปรมิ าณท้งั สองได้ดังนี้ 18 2 16 3 24 4 32 5 40 6 48 6 62 3 4 5

จากแผนภาพ ประกอบด้วย 2 กลุ่ม โดยกลุม่ ที่ หนึง่ มสี มาชิกท่ีแสดงปริมาณของหนังสือพมิ พ์รายวันเปน็ ฉบบั และกลุ่มท่ีสองมสี มาชิกท่แี สดงราคาขาย สามารถเขยี นแสดงการจบั คูโดยใช้สัญลกั ษณ์ ไดด้ ังนี้ (1,8),(1,16),(3,24),(4,32),(5,40),(6,48) สญั ลกั ษณ์ (1,8) อ่านวา่ “คู่อันดับ หน่ึงแปด” ซ่งึ 1 เป็นสมาชิกตวั ทหี่ นงึ่ และ 8 เปน็ สมาชิกตวั ท่สี อง หมายความว่า จำนวนหนังสือพิมพร์ ายวนั 1 ฉบับราคา 8 บาท ข้นั เปรยี บเทยี บ 3.นักเรียนเปรยี บเทียบ วิเคราะห์จากตัวอย่างเพื่อหาข้อสรปุ ข้ันสรุป 3. นกั เรียนร่วมกนั สรุปเรอ่ื งคู่อนั ดบั ดงั น้ี คอู่ ันดบั (ordered pair) แสดงถงึ ความสัมพันธ์ของการจับครู่ ะหว่างสมาชิกของกลุ่มสองกลุ่ม ถา้ a เป็น สมาชกิ จากกลุ่มแรก และ b เปน็ สมาชกิ จากกลุ่มหลัง โดยเขียนดว้ ยสัญลษั ณ์ (a,b) อ่านว่า คู่อนั ดบั ab เรียก a วา่ สมาชกิ ตวั ทห่ี นง่ึ และ b วา่ สมาชกิ ตัวท่สี อง เมอื่ ต้องการใช้คูอ่ ันดบั แสดงการจับครู่ ะหว่างสมาชิกของกลุ่มสองกลุ่ม จะต้องมีขอ้ ตกลงว่าสมาชกิ ตัวท่ี หนงึ่ และสมาชิกตัวท่สี องของคูอ่ นั ดับมาจากกลุ่มใด ข้ันนำไปใช้ 4. ครยู กตวั อย่าง แผนภาพแสดงการจบั ค่รู ะหว่างกลมุ่ รายช่อื นักเรยี นกบั กลุ่มประเภทกีฬาท่ีชอบ ดังตอ่ ไปน้ี ให้นักเรียนพจิ ารณาถึงความสัมพันธข์ องการจบั ครู่ ะหว่างสมาชกิ ของกลุ่มสองกลุ่ม ชอื่ ประเภทกฬี าทช่ี อบ กานดา แบดมินตนั เนตรนภา วอลเลยบ์ อล อภิสิทธ์ิ บาสเกตบอล ฉลาด ฟันดาบ ชาญชยั มวย มวย ซึ่งจากแผนภาพข้างต้น เขียนแสดงการจับคู่โดยใช้สัญลักษณ์ ดังน้ี (กานดา, แบดมินตัน), (เนตรนภา ,วอลเลย์บอล), (อภิสทิ ธิ,์ บาสเกตบอล), (ฉลาด,ฟันดาบ) และ (ชาญชัย, มวย) ซ่ึงสมาชิก ตัวที่หนง่ึ ของคู่อนั ดบั มา จากกลมุ่ รายชอื่ นักเรยี น และสมาชกิ ตวั ทสี่ องของคู่อันดับมาจากกลมุ่ ประเภทกีฬาทช่ี อบ 5. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาใบความรู้เรอ่ื ง คู่อันดับ กราฟ และทำแบบฝึกทกั ษะ

ชั่วโมงท่ี 2 ขัน้ นำ/เตรึยมนกั เรยี น 1. ครอู าจจัดกจิ กรรมเพอ่ื นำไปสู่การแนะนำคู่อนั ดับ โดยใช้ “กจิ กรรมเสนอแนะ 3.1 ก : ไปเท่ียวกัน เถอะ” ซง่ึ มีเจตนาใหน้ ักเรียนเห็นถึงความสำคัญของการบอกตำแหนง่ และเชอ่ื มโยงใหน้ ักเรียนเห็นว่า แต่ละ ตำแหนง่ ประกอบด้วยข้อมลู สองชุด เชน่ ตำแหน่งทีน่ ั่ง 45C ประกอบด้วย ขอ้ มลู หมายเลขแถวท่ี 45 และชอื่ หลกั C ในทางคณิตศาสตร์เราสามารถนำเสนอความสมั พนั ธล์ ักษณะนี้ด้วยคู่อนั ดับ ข้นั แสดง 2. ในการจดั กจิ กรรมเพื่อให้นักเรียนรู้จักคู่อนั ดับ ครูอาจเสนอข้อมูลของปรมิ าณสองกลุม่ ท่สี มั พันธ์กนั ใน รูปตารางและแผนภาพ จากนั้น ฝกึ ให้นักเรียนบอกความสัมพันธข์ องปรมิ าณในรปู คู่อันดับและฝึกเขียนคู่อนั ดับ นอกจากน้ีครูควรเนน้ ถึงความหมายและความสำคัญของอันดับ รวมถึงข้อตกลงเก่ียวกบั ตำแหนง่ ของสมาชกิ ตัวที่ หนึง่ และสมาชกิ ตวั ท่สี องของคู่อนั ดับ 3. ในการจัดกิจกรรมเพ่ือใหน้ ักเรยี นเข้าใจถงึ การลงจุดบนระนาบในระบบพิกัดฉาก ครูควรเนน้ ให้นักเรยี น เข้าใจว่ากราฟของคู่อนั ดบั เป็นจดุ นอกจากนี้ ครูควรพฒั นาการนกึ ภาพเก่ียวกับตำแหนง่ ของกราฟของคู่อันดับ

ข้ันเปรยี บเทียบ ครคู วรชีใ้ ห้นักเรียนสงั เกตเหน็ ความแตกตา่ งของกราฟของคู่อันดบั เดยี วกันบนระนาบในระบบพิกดั ฉาก ทีม่ ีสเกลของแตล่ ะแกนเท่ากันและไม่เทา่ กนั นัน่ คือ การเขียนกราฟของค่อู ันดับ (3, 3) ในกรณที ีส่ เกลของแตล่ ะ แกนเทา่ กัน กราฟจะอยหู่ ่างจากแกน X และแกน Y เท่ากัน แตใ่ นกรณีทส่ี เกลของแต่ละแกนไมเ่ ท่ากัน กราฟจะ อยูห่ า่ งจากแกน X และแกน Y ไม่เทา่ กนั ดังรปู ขั้นสรุป 4.นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เนื้อหาออกมาเปน็ หลกั การโดยการร่วมอภปิ รายกับครู ขน้ั นำไปใช้ 4. นกั เรียนทำ “กิจกรรมเสนอแนะ 3.1 ข : เกมถอดรหัส” เพอ่ื ให้นักเรยี นฝึกการเขียนกราฟของคู่อนั ดบั และการอา่ นคู่อันดับจากกราฟของคู่อันดบั บนระนาบในระบบพิกัดฉาก 9.สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้ 1. แบบฝึกหัด3.1 2. แบบฝึกทกั ษะ 3. แบบทดสอบก่อนเรยี น 10. ภาระงาน/ช้นิ งาน 1. แบบฝึกหดั 3.1 2. แบบฝกึ ทกั ษะ 3. แบบทดสอบก่อนเรียน 11.การวัดและการประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 50 ขึ้นไป 2. ตรวจแบบฝกึ หดั 3.1 2. แบบฝกึ หดั 3.1 2. ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 50 ขน้ึ ไป 3. ตรวจแบบฝกึ ทักษะ 3. แบบฝึกทักษะ 3. ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 50 ขน้ึ ไป 4. สงั เกตจากความสนใจ ตงั้ ใจใน 4. แบบสงั เกต/ประเมนิ พฤติกรรม 4. ถอื เกณฑผ์ า่ นจากการสงั เกต การเรียน ความรับผดิ ชอบในการ พฤติกรรมสำหรบั ผู้ทไ่ี ด้ระดบั ทำแบบฝึกทักษะและแบบทดสอบ คุณภาพตั้งแต่ 1 ข้นึ ไป ก่อนเรยี น

12.การวัดและการประเมินผลเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลแบบสงั เกตพฤติกรรมระหว่างการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ค 2110 คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ประเด็นการ ระดบั คะแนน น้ำหนกั รวม ประเมิน 4 3 2 1 มีวินัย ปฏิบตั ิตามข้อ ปฏบิ ตั ติ ามข้อ ปฏบิ ตั ิตามข้อ 1 4 ตกลงของกฎ ปฏิบตั ิตามข้อ ตกลงของกฎ ตกลงของกฎ ระเบยี บ ตกลงของกฎ ระเบียบ ระเบียบ ข้อบงั คบั และ ระเบียบ ขอ้ บังคับ ขอ้ บังคบั และ รับผิดชอบ ข้อบงั คบั แล และ รับผดิ ชอบ การ รบั ผิดชอบ รับผดิ ชอบ การ ทำงานดว้ ย การ การ ท างานด้วย ตนเอง ท างานด้วย ท างานด้วย ตนเองน้อย ตนเอง ตนเอง คร้งั บอ่ ยครง้ั บางครัง้ ใฝเ่ รียนรู้ เขา้ เรียนตรง เขา้ เรยี นตรง เขา้ เรยี นตรง เข้าเรยี นตรง 1 4 เวลา ตง้ั ใจ เวลา ตงั้ ใจ เวลา ตงั้ ใจ เวลา ตั้งใจ 1 4 มุ่งม่ันในการ เรยี น เรียน เรยี เรยี ทำงาน เอาใจใส่ มี เอาใจใส่ มี เอาใจใส่ มี เอาใจใส่ มี ความ ความ ความ ความ ขยนั หมนั่ เพีย ขยันหมน่ั เพี ขยนั หมน่ั เพยี ขยนั หมนั่ เพี ร และมสี ่วน ร และมสี ่วน และมีส่วน ร่วม และมสี ่วน รว่ ม ร่วม ในการเรียนรู้ รว่ ม ในการเรยี นรู้ ในการเรียนรู้ บอ่ ยคร้งั ในการเรยี นรู้ นอ้ ยครงั้ ครง้ั ตงั้ ใจทำงานมี บางคร้งั ตัง้ ใจทำงานมี ตงั้ ใจทำงานมี ความมุ่งมนั่ ตง้ั ใจทำงานมี ความมงุ่ มน่ั ความมงุ่ ม่นั พยายาม ความมุ่งมั่น พยายาม พยายาม อดทน พยายาม อดทน อดทน งานเสรจ็ ตาม อดทน งานเสร็จตาม งานเสร็จตาม เป้าหมายเปน็ งานเสรจ็ ตาม เป้าหมายเป็น เปา้ หมายเปน็ แบบอย่าง เปา้ หมายเป็น แบบอย่างได้ แบบอย่างได้ แบบอยา่ ง

ทุกคร้งั ไดท้ บ่อยคร้งั ไดท้ บางครงั้ นอ้ ยครง้ั เกณฑก์ ารผ่าน:ตง้ั แต่ระดับดขี น้ึ ไป เกณฑก์ ารตัดสนิ /ระดับคุณภาพ คะแนน 9- 12 หมายถึง ดีมาก คะแนน 7- 8 หมายถึง ดี คะแนน 5- 6 หมายถึง พอใช้ คะแนน 3- 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ แบบประเมินใบงาน/แบบฝึกหัด ที่ ช่อื -สกุล ความถกู ตอ้ ง การลำดบั การใชภ้ าษา ความ ความคิด รวมคะแนน เน้ือหา เรยี บร้อย วิเคราะห/์ 20คะแนน ความคิด สรา้ งสรรค์ 43214321432143214321 ลงชือ่ ...............................................................ผู้ประเมนิ .................../................/................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน เกณฑ์ ระดับคุณภาพ 18-20 4 ดมี าก

14-17 3 ดี 10-13 2 พอใช้ ต่ำกวา่ 10 1 ปรบั ปรงุ แบบประเมนิ พฤติกรรมในการทำงานเปน็ รายบุคคล ผลงาน/กจิ กรรมท่ี................................เรอื่ ง................................................................................................ สาระการเรียนร้ทู ่ี...........................................หน่วยการเรียนรู้ท่ี.................................................................. ชอ่ื .........................................................วนั ที่.................เดือน..............................พ.ศ................................. คำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินศกึ ษาข้อกำหนดการให้คะแนนในการประเมนิ ผลตามสภาพจริงอยา่ งละเอียดรอบรอบแล้ว บนั ทกึ คะแนนให้ตรงกับพฤติกรรมตามรายการประเมนิ ท่ีกำหนดโดยการบันทกึ ในช่องท่ีกำหนดให้พฤตกิ รรมการ แสดงออกของนักเรยี นกำหนดเปน็ ระดบั ค่าคะแนนได้ดงั น้ี ระดบั คะแนน 4 มากท่ีสดุ , 3 ดี, 2 พอใช้, 1 ปรับปรุง ท่ี ชือ่ -สกุล ความมีวนิ ยั ความมีน้ำใจ การรับฟงั ความ การแสดงความ การตรงตอ่ รวมคะแนน เออ้ื เฟื้อ คดิ เห็น คิดเหน็ เวลา 20คะแนน เสียสละ 43214321432143214321 ลงช่ือ...............................................................ผปู้ ระเมิน .................../................/................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ได้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ได้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ได้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั ได้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน เกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 18-20 4 ดีมาก 14-17 3 ดี 10-13 2 พอใช้ 1 ปรับปรงุ ตำ่ กว่า 10 แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรมและคา่ นิยมท่ีพึงประสงค์ ผลงาน/กิจกรรมที่................................เรื่อง................................................................................................ สาระการเรยี นรูท้ ี่...........................................หน่วยการเรียนรทู้ ่ี.................................................................. ช่ือ.........................................................วันท่ี.................เดอื น..............................พ.ศ................................. คำช้แี จง : ใหผ้ ูป้ ระเมินศึกษาขอ้ กำหนดการให้คะแนนในการประเมนิ ผลตามสภาพจริงอย่างละเอียดรอบรอบแล้ว บันทึกคะแนนให้ตรงกับพฤติกรรมตามรายการประเมินท่ีกำหนดโดยการบนั ทึกในช่องที่กำหนดใหพ้ ฤตกิ รรมการ แสดงออกของนักเรียนกำหนดเป็นระดบั ค่าคะแนนได้ดงั น้ี ระดับคะแนน 4 มากทส่ี ดุ , 3 ดี, 2 พอใช้, 1 ปรบั ปรงุ ที่ ช่ือ-สกุล ความ ความสนใจใฝร่ ู้ ความมีวินัย ความซื่อสตั ย์ ความมีระเบยี บ รวมคะแนน รบั ผิดชอบ 20คะแนน 43214321432143214321 ลงช่อื ...............................................................ผู้ประเมนิ .................../................/................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ได้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ได้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ได้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ได้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน เกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 18-20 4 ดีมาก 14-17 3 ดี 10-13 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรงุ ตำ่ กว่า 10 ลงช่ือ.................................................................. ( นางณฐพร จันทร์ทติ ย์ ) ครผู สู้ อน ขอ้ คิดเห็นเพ่ิมเติมหัวหน้ากลุ่มสาระคณติ ศาสตร์ ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................. ลงช่ือ............................................... ( นางสาววนั ซลั มา ปานากาเซ็ง ) ข้อคิดเหน็ เพิ่มเติมรองผอู้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ หวั หนา้ กลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ ............................................................................................................................. .................................................................. ...............................................................................ใ.บ...ค...ว..า..ม...ร..ชู้ ..ั่ว...โ.ม...ง..ท..ี่..1................................... .............................................. ...........................................................................เ.ร..ื่อ...ง...แ..บ...บ...ร..ูป..ข...อ..ง..จ...ำ..น...ว..น............................................................. ................ ลงชอ่ื ............................................... ( นางสาวเพรศิ พิศ คูหามขุ ) รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ

แบบฝึกเสริมทักษะช่ัวโมงที่ 1 1. จงเขียนคอู่ ันดับท้งั หมดจากแผนภาพตอ่ ไปนี้ (1) คอู่ นั ดับคอื …………………………………………… (2) คอู่ ันดับคอื ……………………………………………

(3) ค่อู นั ดับคอื …………………………………………… (4) คอู่ นั ดบั คอื …………………………………………… (5) คู่อนั ดบั คือ…………………………………………… เฉลยชว่ั โมงที่ 1

ขอ้ 1 (1) คูอ่ นั ดับคือ (1,d) , (2, c), (3, b), (4, a), (5, c) (2) คอู่ ันดบั คือ (1,20) , (2, 40), (3, 60), (4, 80) (3) คอู่ นั ดับคอื (จำนวนค่,ู 6) , (จำนวนค่ี , 9), (จำนวนเฉพาะ, 2) (4) คูอ่ นั ดับคือ (0,0) , (0, 2), (2, 1), (2, 3), (6, 4) (5) ค่อู ันดับคอื (วารี , คณติ ศาสตร์), (อรนุช, สังคมศกึ ษา), (ปรียา, วทิ ยาศาสตร์), (จนั ทรเ์ พ็ญ, ภาษาไทย), (สดุ า, ภาษาองั กฤษ

บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ ผลการจดั การ ม.1/4 ม.1/5 ม.1/9 ม.1/10 เรยี นรู้ ผ่าน ไมผ่ ่าน ผา่ น ไม่ผา่ น ผ่าน ไม่ผ่าน คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ ผ่าน ไม่ผ่าน 1. นกั เรียนสามารถ อา่ นค่อู นั ดับของจุด 35 92.11 2 7.89 36 100 - - 38 100 - - คน ℅ คน ℅ บนกราฟ 38 100 - - 2. นักเรยี นสามารถ 35 92.11 2 7.89 36 100 - - 38 100 - - 38 100 - - เขยี นกราฟของคู่ อนั ดับท่ีกำหนดให้ บนระนาบในระบบ พิกัดฉาก 3. นักเรยี นทำงาน 35 92.11 2 7.89 36 100 - - 38 100 - - 38 100 - - เปน็ ระเบียบ เรยี บรอ้ ย รอบคอบ และมคี วามเช่ือมนั่ ในตนเอง

บนั ทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางการแก้ไข 1.นักเรยี นบางคนไม่สามารถอ่านคู่อนั ดบั ของจุดบนกราฟได้ เนื่องจากนกั เรยี นไม่เข้าเรียน 2.นักเรียนบางคนไมส่ ามารถเขียนกราฟของคู่อันดบั ทีก่ ำหนดให้บนระนาบในระบบพกิ ัดฉาก 3.นักเรียนบางคนไมม่ ีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนและขาดความรบั ผดิ ชอบในการเรยี น ข้อเสนอแนะและการแก้ไข 1. นกั เรียนทไี่ ม่ผา่ นการประเมนิ ให้ทำใบงานส่งตามเวลาท่กี ำหนด 2. ให้นักเรยี นศึกษาเนื้อหาที่เรียนผา่ นวิดีโอที่ครสู ง่ ผา่ น เฟสบคุ๊ กลุ่มวชิ าคณิตศาสตรห์ อ้ งเรียนออนไลน์ 3. ตดิ ตามนักเรยี นที่ไมเ่ ข้าเรยี น โดยผา่ นไลน์ระดบั ช้ันม.1 แจง้ ครูที่ปรึกษา และสง่ ข้อมูลให้ผู้ปกครอง ลงชอื่ .................................................................. ( นางณฐพร จันทร์ทติ ย์ ) ครูผ้สู อน ข้อคิดเหน็ เพิ่มเติมหวั หน้ากลุ่มสาระคณติ ศาสตร์ ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................ ............................................... ................................................................................... ........................................................................................... ................ ลงช่ือ............................................... ( นางสาววนั ซลั มา ปานากาเซง็ ) ข้อคิดเหน็ เพิ่มเติมรองผูอ้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ หวั หน้ากล่มุ สาระคณิตศาสตร์ ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................. ลงช่อื ............................................... ( นางสาวเพรศิ พศิ คหู ามขุ ) รองผ้อู ำนวยการฝ่ายวิชาการ

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 รายวชิ า คณติ ศาสตร์ 2 รหัสวิชา ค21102 จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 อตั ราส่วน สัดสว่ น และร้อยละ จำนวน 17 ช่ัวโมง เรื่อง อัตราส่วน จำนวน 4 ชวั่ โมง ครูผสู้ อน นางณฐพร จนั ทร์ทติ ย์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 วันทใ่ี ชส้ อนวนั ที่ ........... …………………………………………………. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั สาระ จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวนผลที่ เกิดขนึ้ จากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตวั ชีว้ ัด ค 1.1 ม.1/3 เข้าใจและประยุกต์ใชอ้ ัตราสว่ น สดั สว่ นและร้อยละในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตรแ์ ละปญั หาในชีวิต จริง 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด 1. อัตราส่วนเปน็ การเขียนแทนการเปรยี บเทียบปรมิ าณต้ังแต่สองปริมาณขึ้นไป โดยมีบทนิยามคือ อัตราส่วน x ตอ่ y เขียนแทนดว้ ย x : y หรือ 2. การเปรียบเทยี บปริมาณท่ีมีหน่วยเหมือนกนั ไมน่ ิยมเขยี นหน่วยกำกบั ไว้ แตก่ ารเปรยี บเทยี บปริมาณทม่ี ี หนว่ ยต่างกัน ต้องเขยี นหนว่ ยของแต่ละปรมิ าณกำกบั ไวด้ ว้ ย 3.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) บอกความหมายของอตั ราสว่ น และเขยี นอตั ราสว่ นแทนการเปรียบเทียบปริมาณสองปริมาณที่ กำหนดให้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) 1. หาอตั ราสว่ นทเ่ี ท่ากับอัตราสว่ นท่กี ำหนดให้ และตรวจสอบว่าอตั ราสว่ นที่กำหนดให้ เป็นอตั ราส่วนท่ี เทา่ กันหรอื ไม่ 2. เขียนอัตราสว่ นของจำนวนหลาย ๆ จำนวน แทนการเปรียบเทยี บปรมิ าณหลายปริมาณทก่ี ำหนดให้ ด้านคณุ ลักษณะ(A) ทำงานเป็นระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเช่อื มั่นในตนเอง 4.สาระการเรยี นรู้ ความหมายอตั ราส่วน อตั ราสว่ นทเ่ี ทา่ กัน ความหมายของอตั ราส่วน

5.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง 3. ความสามารถในการให้เหตุผล 4. ความสามารถในการคดิ สร้างสรรค์ 5. ความสามารถในการส่อื สาร 6.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มั่นในการทางาน 7.ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์  การแกป้ ัญหา  การสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์  การเชอื่ มโยง  การให้เหตุผล  การคิดสร้างสรรค์ 8.กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่วั โมงที่ 1 ขนั้ นำ ข้ันที่ ขั้นเตรียม 1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนการเรียนรู้ ขน้ั สอน ขั้นแสดง 2. ครเู ตรียมตารางภาพที่บอกอตั ราและอตั ราส่วนของบรมิ าณสิ่งของตา่ ง ๆ 3. ครอู ธบิ ายความหมายของอัตรา และการเขยี นอัตราสว่ นแทนอตั รา พร้อมช้ใี หน้ ักเรียนเห็นความแตกตา่ ง ของอัตราและอตั ราส่วน 4. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาใบความรู้ 5. ครยู กตวั อย่างการเขียนอัตราส่วนบนกระดาน ดังน้ี อัตราส่วนของจำนวนสมุดต่อจำนวนหนังสือเป็น 17 ต่อ 12 เขียนแทนอตั ราส่วน 17 ตอ่ 12 ดว้ ย 17 : 12 หรือ ขัน้ เปรยี บเทยี บ 6. ใหน้ ักเรียนรว่ มอภปิ รายความแตกตา่ งระหว่างอตั ราและอัตราสว่ นจนไดข้ ้อสรปุ และแน่ใจวา่ ทกุ คนเขา้ ใจดีแลว้ 7. ครใู ห้นกั เรียนอาสาสมัคร 4 บอกอัตราสว่ นทเ่ี หลือบนกระดาน 8. ครูใหน้ ักเรียนทั้งห้องช่วยกนั ตรวจสอบอตั ราส่วนท่เี พื่อนนกั เรียนอาสาสมัครออกมาเขียนบนกระดานวา่ ถกู ตอ้ ง หรอื ไม่ ถ้าไม่ถูกต้องช่วยกนั แก้ไขใหถ้ กู ตอ้ ง ซ่งึ อาจเขยี นได้ดังน้ี (คำตอบขน้ึ อยกู่ ับจำนวนสงิ่ ของท่นี ักเรียนนำมาวางไว้ บนโต๊ะ) อัตราสว่ นของจำนวนดนิ สอเป็นแทง่ ต่อจำนวนปากกาเปน็ ด้ามเท่ากบั 35 ตอ่ 28 เขียนแทนด้วย 35 แท่ง : 35 28 ดา้ ม หรอื 28

อัตราส่วนของจำนวนหนังสอื เป็นเล่มต่อจำนวนไมบ้ รรทัดเป็นอนั เท่ากับ 12 ตอ่ 19 เขียนแทนดว้ ย 12 เล่ม : 19 อนั หรอื 12 19 อัตราส่วนของจำนวนปากกาเป็นดา้ มตอ่ จำนวนสมุดเปน็ เลม่ เทา่ กบั 28 ต่อ 17 เขียนแทนด้วย 28 ดา้ ม : 28 17 เล่ม หรอื 17 อัตราสว่ นของจำนวนไม้บรรทัดเปน็ อันต่อจำนวนดนิ สอเป็นแท่งเทา่ กบั 19 ตอ่ 35 เขียนแทนด้วย 19 อัน 19 : 35 แท่ง หรือ 35 ขน้ั สรุป 10.ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั สรุปความหมายของอตั ราสว่ นจนไดค้ วามหมายดังน้ี อตั ราสว่ น a ต่อ b เขยี นแทนดว้ ย a:b หรือ a อ่านวา่ a ตอ่ b เรยี กจำนวน a วา่ จำนวนแรกหรือ จำนวนทหี่ นงึ่ เรียกจำนวน b ว่าจำนวนหลงั หรือจำนวนที่สbอง แลว้ ครูสรุปเสรมิ วา่ ถ้าจำนวนทงั้ สองทน่ี ำมา เปรียบเทยี บมีหนว่ ยที่ตา่ งกนั นักเรียนต้องเขียนหนว่ ยกำกับไวด้ ้วยเสมอ ขนั้ นำไปใช้ 11. ให้นักเรยี นทำแบบฝึกหัดและแบบฝกึ หดั 2.1 ก ชัว่ โมงท่ี 2 ข้ันนำ ขน้ั เตรยี ม 1. สนทนากับนกั เรียนเกยี่ วกบั อตั ราและอตั ราส่วนที่นกั เรียนเคยเรยี นมาแล้ว พร้อมท้ังยกตัวอยา่ งประกอบ 2. ทบทวนการเขียน อตั ราส่วน a ต่อ b ว่าเขยี นแทนด้วย a : b หรอื a เรยี กวา่ จำนวนแรกหรอื จำนวนท่ี 1 b เรยี กว่าจำนวนหลงั หรือจำนวนที่ 2 โดยครเู ปน็ ผู้ซกั ถามใหน้ กั เรียนตอบเม่ือถูกตอ้ งใหน้ ักเรยี นอภปิ รายว่า อตั ราส่วน a : b และ b : a เปน็ อตั ราสว่ น เดยี วกนั หรอื ไม่ ขน้ั สอน ข้ันแสดง 3. ฝกึ ใหน้ กั เรียนเขยี นอัตราส่วนจากอตั ราที่กำหนดให้ 5 ขอ้ จากใบงาน 4. ยกตัวอยา่ งเปรียบเทียบทม่ี ีหนว่ ยตา่ งกัน ให้นักเรยี นเขียนอัตราสว่ นแทน เชน่ กระถางสงู 30 ซม. ตน้ ไมส้ ูง 1.5 ม. แล้วช่วยกนั อภปิ รายวา่ ข้อใดผิดขอ้ ใดถูก ดังนี้ 1) การเขยี นอัตราสว่ นแทนการเปรยี บเทียบปริมาณส่ิงของอย่างเดยี วกันแต่ใชห้ น่วยต่างกัน ตอ้ งเขยี น หน่วยกำกับด้วย เชน่ ความสูงของ ก. เปน็ เมตร ต่อความสูงของ ข. เป็นเซนตเิ มตรเท่ากับ 1.65 150 แต่ถ้าไมต่ ้องการ เขียนหนว่ ยกำกบั ไวต้ อ้ งเปลยี่ นหน่วยใหเ้ ป็นหนว่ ยเดยี วกนั กอ่ น เช่น ความสงู ของ ก. ต่อความสูงของ ข. เท่ากับ 165 150 หรอื 1.65 1.50 ข้นั เปรยี บเทียบ 2) การเขยี นอัตราสว่ นแสดงการเปรยี บเทยี บเก่ยี วกบั ระยะทาง ความเร็ว หรืออัตราอื่นๆ ถ้าใช้หน่วย ตา่ งกนั ต้องเขยี นหนว่ ยที่กำกับไว้ดว้ ย เชน่ กโิ ลเมตรตอ่ ชวั่ โมง

5. ใหน้ กั เรียนพิจารณาอัตราส่วนท่ีกำหนดไวว้ า่ เท่ากันหรือไม่เพราะเหตใุ ด โดยอาจจะใชร้ ปู ภาพหรือของจรงิ ประกอบ เช่น จำนวนนกั เรียนต่อจำนวนส้ม ดังต่อไปน้ี 1 : 3 , 2 : 6 , 3 : 9 , 4: 12 เปน็ อัตราสว่ นทเ่ี ทา่ กัน เพราะแต่ละอัตราส่วนเป็นการเปรียบเทยี บ นกั เรียนทุกๆ 1 คน กับสม้ 3 ผล 6. ใหน้ กั เรียนช่วยกันหาอัตราสว่ นทีเ่ ท่ากบั อัตราสว่ นทก่ี ำหนดใหม้ าคนละ 1 อตั ราส่วน โดยให้ตอบดว้ ยปาก เปล่าหรือเขียนบนกระดาน แลว้ ช่วยกันสรุปวธิ กี ารหาอตั ราสว่ น วา่ อาจใช้หลกั การคณู หรือหลักการหาร ครูเขยี นหลกั การ คูณและหลักการหารบนกระดาน ยกตวั อยา่ งเพิม่ เติมจนกว่านักเรียนเขา้ ใจ 7. ใหน้ ักเรียนหาอัตราส่วนให้เท่ากับอัตราสว่ นทก่ี ำหนดให้ขอ้ ละ 5 อตั ราส่วน 1) 2 2) 1 3) 6 4) 3 : 4 5) 15 : 9 5 7 11 ขนั้ สรุป 8. ครนู ำนักเรยี นอภปิ รายถึงการตรวจสอบคำตอบท่ีได้ในขอ้ 6 จนสรปุ ไดว้ ่า การตรวจสอบการเท่ากันของ อัตราส่วนสองอัตราส่วนใด ทำได้โดยพจิ ารณาจากผลคูณไขว้ ดงั น้ี อัตราสว่ น a กับ c จะเท่ากนั กต็ ่อเม่ือ ad = bc พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ เชน่ bd ตัวอยา่ ง จงตรวจสอบว่าอตั ราส่วนตอ่ ไปนี้ว่าเทา่ กันหรอื ไม่ 5 : 9 และ 25 : 44 วิธที ำ 5 : 9 และ 25 : 45 จากการคูณไขว้จะได้ จะได้ 5 = 25 จะเหน็ วา่ 9 5 × 45 45 225 25 ≠ 9 225 225 225 ดงั นั้น 5 = 25 9 45 9. ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ต้ังโจทยแ์ ละออกมาแสดงวิธีบนกระดานดำหนา้ ช้นั เรียน 10. ครูและนกั เรียนช่วยกันสรปุ วธิ หี าอตั ราสว่ นท่เี ทา่ กนั กบั อัตราส่วนท่ีกำหนดใหโ้ ดยใชห้ ลกั สูตรการคณู และ การหาร 11. ครแู ละนกั เรยี นสรุปหลักในการตรวจสอบการเทา่ กนั ของอตั ราสว่ นสองอัตราส่วนใด ทำไดโ้ ดยพจิ ารณาจาก ผลคณู ไขว้ ดงั นี้ อตั ราสว่ น a กับ c จะเท่ากันก็ตอ่ เมอื่ ad = bc bd ข้นั นำไปใช้ 12. ให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัด ช่ัวโมงที่ 3 – 4 Ondemarnd 1. นักเรียนศึกษา VDO. เร่ือง การขียนอัตราสว่ นท่เี ทา่ กันและอตั ราส่วนตอ่ เนือ่ ง

5. นักเรยี นทำแบบฝกึ หัด 2.1ข - ค 9.สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ เคร่ืองมือ เกณฑ์ 1. แบบฝึกหัด2.1ก 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 50 ขน้ึ ไป 2. แบบฝึกหดั 2.1ข 2. แบบฝึกหัด2.1ก 2. ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 50 ขึ้นไป 3. แบบฝึกหัด2.1ค 3. แบบฝึกหดั 2.1ข 3. ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 50 ขน้ึ ไป 4. แบบทดสอบกอ่ นเรียน 4. แบบฝกึ หัด2.1ค 4. ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 50 ขึ้นไป 5. แบบสงั เกต/ประเมนิ พฤตกิ รรม 5. ถือเกณฑ์ผา่ นจากการสงั เกต 10. ภาระงาน/ชน้ิ งาน พฤติกรรมสำหรับผทู้ ไี่ ด้ระดับ 1. แบบฝึกหัด2.1ก คณุ ภาพตั้งแต่ 1 ขึ้นไป 2. แบบฝกึ หดั 2.1ข 3. แบบฝกึ หดั 2.1ค 4. แบบทดสอบกอ่ นเรียน 11.การวดั และการประเมนิ ผล วิธีการ 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจแบบฝึกหดั 2.1ก 3. ตรวจแบบฝึกหัด 2.1ข 4. ตรวจแบบฝกึ หัด 2.1ค 5. สงั เกตจากความสนใจ ต้ังใจใน การเรียน ความรบั ผดิ ชอบในการ ทำแบบฝกึ ทักษะและ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 12.การวัดและการประเมินผลเกณฑ์การวดั และประเมนิ ผลแบบสงั เกตพฤติกรรมระหว่างการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า ค 2110 คณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 ประเด็นการ ระดับคะแนน น้ำหนกั รวม ประเมนิ 4 3 2 1

มวี นิ ยั ปฏบิ ตั ติ ามข้อ ปฏบิ ัติตามข้อ ปฏบิ ัติตามข้อ 1 4 ตกลงของกฎ ปฏบิ ัติตามข้อ ตกลงของกฎ ตกลงของกฎ 4 ระเบยี บ ตกลงของกฎ ระเบยี บ ระเบียบ 4 ขอ้ บงั คับ และ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ ข้อบงั คับและ รับผิดชอบ ข้อบังคับ แล และ รับผดิ ชอบ การ รบั ผิดชอบ รบั ผดิ ชอบ การ ทำงานดว้ ย การ การ ท างานด้วย ตนเอง ท างานดว้ ย ท างานด้วย ตนเองน้อย ตนเอง ตนเอง คร้งั บ่อยครัง้ บางคร้ัง ใฝเ่ รียนรู้ เข้าเรยี นตรง เข้าเรยี นตรง เขา้ เรียนตรง 1 เวลา ต้ังใจ เข้าเรยี นตรง เวลา ต้ังใจ เวลา ตั้งใจ เรียน เวลา ตงั้ ใจ เรยี เรยี เอาใจใส่ มี เรยี น เอาใจใส่ มี เอาใจใส่ มี ความ เอาใจใส่ มี ความ ความ ขยนั หมัน่ เพีย ความ ขยันหม่ันเพยี ขยนั หมน่ั เพี ร ขยนั หมั่นเพี ร และมีสว่ น และมีส่วน และมีสว่ น และมีสว่ น รว่ ม รว่ ม รว่ ม รว่ ม ในการเรยี นรู้ ในการเรียนรู้ ในการเรยี นรู้ ในการเรียนรู้ นอ้ ยครั้ง ครงั้ บ่อยคร้ัง บางคร้ัง มุ่งมน่ั ในการ ตง้ั ใจทำงานมี ตงั้ ใจทำงานมี ตงั้ ใจทำงานมี ตั้งใจทำงานมี 1 ทำงาน ความมุ่งมนั่ ความมงุ่ ม่นั ความมุ่งมน่ั ความมุ่งม่ัน พยายาม พยายาม พยายาม พยายาม อดทน อดทน อดทน อดทน งานเสร็จตาม งานเสรจ็ ตาม งานเสร็จตาม งานเสรจ็ ตาม เปา้ หมายเปน็ เป้าหมายเป็น เปา้ หมายเปน็ เป้าหมายเปน็ แบบอย่างได้ แบบอยา่ ง แบบอยา่ ง แบบอย่างได้ ทุกครง้ั ได้ทบ่อยครง้ั ไดท้ บางครัง้ นอ้ ยครง้ั เกณฑก์ ารผา่ น:ต้งั แต่ระดับดขี ึน้ ไป เกณฑก์ ารตัดสิน/ระดบั คณุ ภาพ คะแนน 9- 12 หมายถึง ดมี าก คะแนน 7- 8 หมายถึง ดี คะแนน 5- 6 หมายถึง พอใช้ คะแนน 3- 4 หมายถึง ปรับปรุง แบบประเมินใบงาน/แบบฝกึ หัด

ที่ ชอื่ -สกุล ความถูกต้อง การลำดบั การใชภ้ าษา ความ ความคดิ รวมคะแนน เน้อื หา เรยี บรอ้ ย วเิ คราะห/์ 20คะแนน ความคดิ สรา้ งสรรค์ 43214321432143214321 ลงช่อื ...............................................................ผปู้ ระเมนิ .................../................/................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน เกณฑ์ ระดับคุณภาพ 18-20 4 ดมี าก 14-17 3 ดี 10-13 2 พอใช้ ตำ่ กว่า 10 1 ปรับปรุง แบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคล ผลงาน/กิจกรรมท่ี................................เรื่อง................................................................................................ สาระการเรยี นรู้ที่...........................................หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่.................................................................. ชือ่ .........................................................วันที่.................เดอื น..............................พ.ศ................................. คำชีแ้ จง : ใหผ้ ูป้ ระเมินศึกษาขอ้ กำหนดการให้คะแนนในการประเมินผลตามสภาพจรงิ อยา่ งละเอียดรอบรอบแลว้ บันทกึ คะแนนให้ตรงกับพฤติกรรมตามรายการประเมินที่กำหนดโดยการบนั ทึกในชอ่ งที่กำหนดใหพ้ ฤติกรรมการแสดงออกของ นกั เรียนกำหนดเป็นระดบั ค่าคะแนนได้ดงั นี้

ระดับคะแนน 4 มากทส่ี ดุ , 3 ดี, 2 พอใช้, 1 ปรับปรงุ ท่ี ชอื่ -สกุล ความมีวินยั ความมนี ำ้ ใจ การรบั ฟงั ความ การแสดงความ การตรงต่อ รวมคะแนน เอื้อเฟอ้ื คิดเหน็ คิดเหน็ เวลา 20คะแนน เสียสละ 43214321432143214321 ลงชื่อ...............................................................ผูป้ ระเมิน .................../................/................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ได้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ได้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ได้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง ได้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน เกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 18-20 4 ดมี าก 14-17 3 ดี 10-13 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง ต่ำกว่า 10 แบบประเมนิ คุณธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นิยมที่พงึ ประสงค์ ผลงาน/กจิ กรรมท่ี................................เรอื่ ง................................................................................................ สาระการเรียนรู้ที่...........................................หน่วยการเรยี นร้ทู ี่.................................................................. ช่ือ.........................................................วนั ที่.................เดือน..............................พ.ศ................................. คำชแ้ี จง : ให้ผูป้ ระเมนิ ศึกษาข้อกำหนดการให้คะแนนในการประเมินผลตามสภาพจริงอยา่ งละเอียดรอบรอบแลว้ บนั ทกึ คะแนนให้ตรงกบั พฤติกรรมตามรายการประเมินที่กำหนดโดยการบันทึกในชอ่ งทีก่ ำหนดใหพ้ ฤติกรรมการแสดงออกของ นักเรยี นกำหนดเป็นระดับค่าคะแนนไดด้ งั น้ี ระดบั คะแนน 4 มากท่สี ุด, 3 ดี, 2 พอใช้, 1 ปรับปรุง

ที่ ชื่อ-สกุล ความ ความสนใจใฝร่ ู้ ความมีวินยั ความซื่อสตั ย์ ความมรี ะเบยี บ รวมคะแนน รบั ผดิ ชอบ 20คะแนน 43214321432143214321 ลงชอื่ ...............................................................ผู้ประเมนิ .................../................/................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ได้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ได้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ได้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง ได้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ เกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 4 ดีมาก ช่วงคะแนน 3 ดี 18-20 2 พอใช้ 14-17 1 ปรับปรุง 10-13 ต่ำกวา่ 10

ใบความรชู้ ่ัวโมงท่ี 1 อัตราส่วน ในชวี ติ ประจำวนั เราจะพบเห็นข้อมูลหรือข่าวสารทเี่ ก่ียวขอ้ งกับปริมาณของส่ิงของในสถานการณ์ ตา่ ง ๆ เช่น ยาสฟี ัน 100 กรัม มสี ว่ นผสมของฟลอู อไรด์ 7.6 มิลลิกรมั นำ้ นมถวั่ เหลอื งหนึ่งกลอ่ งปริมาณ 250 cc. มนี ้ำตาลผสม 20 cc. ไข่ไก่ 10 ฟอง ราคา 25 บาท รถยนต์วิ่งด้วยอัตราเรว็ 80 กโิ ลเมตรตอ่ ชว่ั โมง ความสมั พันธ์ทแ่ี สดงถึงการเปรยี บเทยี บจำนวนสองจำนวนท่มี ีหน่วยเดยี วกนั หรือมหี นว่ ยตา่ งกัน ขา้ งตน้ เรยี กวา่ “ อัตราส่วน ” (Ratios) อัตราสว่ นของปริมาณ a ต่อปริมาตร b เขียนแทนด้วย a : b หรือ เรียก a วา่ จำนวนแรกหรือจำนวนทห่ี นึง่ ของอัตราสว่ น เรยี ก b วา่ จำนวนหลงั หรอื จำนวนทสี่ องของอัตราสว่ น (อตั ราส่วน a : b หรอื อ่านว่า a ตอ่ b ในการเขยี นอัตราสว่ น ตำแหนง่ หรือปรมิ าณของสงิ่ แรกและปริมาณของสิง่ หลงั ในอัตราส่วนมี ความสำคัญ ถ้าเขียนสลับตำแหน่งกนั อาจทำให้คา่ ของอัตราส่วนเปล่ยี นไป เช่น ไขไ่ ก่ 10 ฟอง ราคา 25 บาท เขยี นในรปู อัตราส่วนดงั นี้ “ อัตราส่วนของจำนวนไขไ่ ก่เป็นฟองต่อราคาเป็นบาท เปน็ 10 : 25 ” แต่ถ้าเขยี นแทนด้วยสัญลักษณ์ 25 : 10 หมายถงึ ไข่ไก่ 10 ฟอง ราคา 25 บาท ซ่ึงมีความหมายเปล่ียนไป การเขียนอัตราสว่ น มี 2 แบบ 1. ปริมาณสองปริมาณมีหนว่ ยเหมือนกนั เช่น โตะ๊ ตัวหนึ่งมคี วามกว้าง 50 เซนตเิ มตร ยาว 120 เซนตเิ มตร เขียนเปน็ อัตราสว่ นไดว้ า่ ความกว้างต่อความยาวของโต๊ะ เทา่ กบั 50 : 120 2. ปริมาณสองปริมาณมหี น่วยตา่ งกนั เช่น นมเปร้ยี ว 4 กลอ่ ง ราคา 23 บาท เขยี นเป็นอัตราสว่ นไดว้ า่ อตั ราสว่ นนมเปร้ียวเป็นกลอ่ งต่อราคาเป็นบาท เปน็ 4 : 23 อัตราและอตั ราสว่ น “ อัตรา ” (Rate) เป็นข้อความทแี่ สดงความเกย่ี วข้องกันของปรมิ าณสองปริมาณที่ไมเ่ หมือนกัน อาจเป็น ปริมาณท่ีมีหน่วยเดียวกันหรือหน่วยต่างกนั ก็ได้

ตวั อย่างข้อความที่แสดงอัตราและอัตราสว่ นดังน้ี ขอ้ ความ อัตรา อตั ราสว่ น จำนวนส้มเป็นกโิ ลกรัม 1) ส้มกโิ ลกรัมละ 30 บาท 1 กโิ ลกรมั 30 บาท ต่อราคาเปน็ บาท เทา่ กับ 1 : 30 จำนวนปากกาเป็นดา้ ม 2 ) ปากกา 3 ด้าม ราคา 10 บาท 3 ดา้ ม 10 บาท ต่อราคาเปน็ บาท เท่ากับ 3 : 10 3 ) นักเรยี นห้องหนึ่ง เปน็ นักเรียน ชาย 20 หญงิ 30 จำนวนนกั เรียนชาย ชาย 20 คน นกั เรียนหญิง 30 คน ต่อจำนวนนกั เรยี นหญิง เท่ากับ 20 : 30

แบบฝึกหดั ชวั่ โมงที่ 1 ขอ้ รายการ อัตรา อัตราส่วน 1. ลูกเจ๊ียบหัวใจเตน้ 38 คร้ังในเวลา 1 นาที …………………………… ……………… 2. บา้ นพรอ้ มทีด่ นิ ราคา 5.78 ล้านบาท …………………………... ……………… 3. ขนมปงั เนยสดบรรจุกล่องละ 6 ชน้ิ 1 ชนิ้ ตอ่ ....................บาท ……………… ...............กรัมต่อ 1 กล่อง (190 กรัม/กล่อง) ราคา 16 บาท 1 กโิ ลเมตรต่อ...........บาท ……………… 4. รถจักรยานยนตค์ ันหน่ึงเติมน้ำมนั 30 บาท 1 ลกู ตอ่ ....................บาท …………………… ว่งิ ได้ 27 กโิ ลเมตร 75 บาทต่อ..............กล่อง …………………… 5. แอปเปลิ กล่องละ 6 ลูก ราคา 25 บาท ..................กล่องต่อ 6 ลูก ……

เฉลยแบบฝึกหัดช่วั โมงที่ 1 ข้อ รายการ อตั รา อตั ราส่วน 1. ลูกเจยี๊ บหัวใจเต้น 38 ครั้งในเวลา 1 นาที 2. บ้านพร้อมทดี่ ินราคา 5.78 ล้านบาท 38 คร้ังต่อนาที 38 : 1 3. ขนมปงั เนยสดบรรจกุ ล่องละ 6 ชิน้ 1 หลงั ต่อ 5.78 ลา้ นบาท 1 : 5.78 (190 กรัม/กล่อง) ราคา 16 บาท 1 ชน้ิ ต่อ 2.67 1: 4. รถจกั รยานยนตค์ นั หน่ึงเติมน้ำมัน 30 บาท วิง่ ได้ 27 กิโลเมตร บาท 2.67 5. แอปเปลิ กล่องละ 6 ลูก ราคา 25 บาท 190 กรมั ตอ่ 1 190 : 1 กลอ่ ง 1 กโิ ลเมตรตอ่ 1.11 1: บาท 1.11 1 ลกู ตอ่ 4.17 1 : บาท 4.17 75 บาทต่อ 3 75 : 3 กล่อง 1 : 6 1 กล่องต่อ 6 ลกู ใบงานชวั่ โมงท่ี 2 จงเขยี นอัตราส่วนจากอัตราต่อไปนี้ 1. นภาขับรถไปตลาดระยะทาง 70 กิโลเมตร ใชเ้ วลา 1 ช่ัวโมง 2. เก่งกาจรับจา้ งดายหญา้ วันละ 130 บาท 3. แดนซอ้ื ดอกกล้วยไม้ 40 ช่อ แม่คา้ คิดเงิน 200 บาท 4. อมั้ ทำน้ำเชือ่ มใชน้ ำ้ ตาล 3 กิโลกรัม ผสมนำ้ 2 ลติ ร 5. เต้ขับรถดว้ ยความเรว็ 100 กิโลเมตรตอ่ ชว่ั โมง

เฉลยใบงานช่วั โมงท่ี 2 จงเขยี นอัตราส่วนจากอตั ราตอ่ ไปน้ี 1. นภาขับรถไปตลาดระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ช่วั โมง 70 : 1 2 เกง่ กาจรับจ้างดายหญ้าวันละ 130 บาท 130 : 1 3. แดนซือ้ ดอกกล้วยไม้ 40 ช่อ แมค่ ้าคดิ เงิน 200 บาท 40 : 200 4. อม้ั ทำนำ้ เชื่อมใช้น้ำตาล 3 กโิ ลกรมั ผสมนำ้ 2 ลติ ร 3:2 5. เต้ขับรถด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรตอ่ ชั่วโมง 100 : 1

แบบฝกึ หัดช่ัวโมงท่ี 2 1. จงใสเ่ ครื่องหมาย = หรอื  ระหวา่ งอตั ราสว่ นท่กี ำหนดให้ในแต่ละข้อต่อไปน้เี พ่ือ ใหป้ ระโยคเปน็ จริง 1) 2 : 3  16 : 24 2) 7 : 3  21 : 28 3) 13 : 7  26 : 14 4) 4 : 8  20 : 40 5) 10 : 11  30 : 44 6) 0.6 : 15  1.2 : 30 7) 1 : 1.8  3 : 2.4 8) 0.3 : 0.4  3:4 9) 5 : 9  4.5 : 8.1 10) 12 : 13  1.2 : 13 11) 0.3 : 0.4  3.3 : 4.4 12) 1.7 : 1.2  3.4 : 2.4 13) 0.01 : 0.02  2 :1 14) 50 : 60  0.05 : 0.06 15) 3.1 : 4.2  15.5 : 21 16) 8 : 11  32 : 40

เฉลยแบบฝกึ หดั ช่ัวโมงท่ี 2 1. จงใสเ่ ครื่องหมาย = หรอื ≠ ระหวา่ งอตั ราส่วนที่กำหนดให้ในแต่ละข้อต่อไปนี้เพ่ือ ให้ประโยคเปน็ จรงิ 1) 2 : 3  16 : 24 2) 7 : 3  21 : 28 3) 13 : 7  26 : 14 4) 4 : 8  20 : 40 5) 10 : 11  30 : 44 6) 0.6 : 15  1.2 : 30 7) 1 : 1.8  3 : 2.4 8) 0.3 : 0.4  3:4 9) 5 : 9  4.5 : 8.1 10) 12 : 13  1.2 : 13 11) 0.3 : 0.4  3.3 : 4.4 12) 1.7 : 1.2  3.4 : 2.4 13) 0.01 : 0.02  2 :1 14) 50 : 60  0.05 : 0.06 15) 3.1 : 4.2  15.5 : 21 16) 8 : 11  32 : 40

แบบฝกึ หัดชั่วโมงที่ 3 จากอัตราส่วนที่เท่ากัน 2 อัตราส่วนที่กำหนดใหใ้ นแตล่ ะข้อตอ่ ไปนี้ จงหาค่าของตวั แปร 1) a : 2 = 12 : 24 9) 0.6 : i = 5.6 : 1.2 a = .....................  i = ..................... 2) 11 : b = 33 : 121 10) j : 0.1 = 0.01 : 0.001 b = ..................... j = ..................... 3) 4 : 5 = c : 60 11) 1 1 : 3 = k:5 c = 22 ..................... ..................... k = 4) 8 : 6 = 32 : d 12) l : 0.5 = 3 : 1.5 d = ..................... ..................... l = 5) e : 15 = 45 : 75 13) 3 : 9 = 11 :m e = 42 4 ..................... m = ..................... 6) 9 : f = 24 : 36 14) 3.5 : n = 1.4 : 2.0 f = ..................... ..................... n = 7) 1 : 3 = g : 27 15) 0.8 : 10= p:31 g = ..................... p = 2 ..................... 8) 17 : 19 = 102 : h 16) 2 : 1 1 = 0.5 : q h = 4 ..................... ..................... q =

เฉลยแบบฝึกหัดช่วั โมงที่ 3 1) a = 1 9) i = 12 2) b= 40 1 10) j 7 3) c = 11) k 4) d= 3 12) l =1 5) e = 13) m 48 =5 6) f = 24 14) n =1 7) g = 15) p = 71 8) h= 9 16) q 2 13 1 =5 2 = 0.28 9 =5 114 16

แบบฝกึ ทกั ษะช่ัวโมงท่ี 4 คำชแี้ จง ให้นกั เรียนหาอตั ราสว่ นตอ่ เน่ืองต่อไปนี้ 1 กำหนดใหอ้ ตั ราส่วนความสูงของมอสต่อความสูงของปลา เปน็ 167 : 160 อตั ราส่วนความสูงของปลาต่อความสงู ของนิคเป็น 160 : 163 จงเขยี นอัตราส่วนความสงู ของมอสต่อความสูงของปลาต่อความสูงของนิค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... 2 ให้นกั เรียนพจิ ารณาอตั ราส่วนต่อไปน้ี จำนวนเงนิ ของสรุ างค์ตอ่ จำนวนเงินของรัศมเี ป็น 8 : 11 จำนวนเงินของรศั มี ตอ่ จำนวนเงนิ ของสธุ ีเป็น 11 : 7 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... 3. ถ้าอัตราส่วนอายุของขาวตอ่ อายุของเขียวเทา่ กบั 5 : 6 และอายุของเขียวตอ่ อายุของ แดงเท่ากบั 6 : 4 และอายุของแดงตอ่ อายขุ องดำเท่ากับ 4 : 7 จงหาอตั ราส่วนอายุของขาวตอ่ อายขุ องดำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...........

เฉลยแบบฝึกช่วั โมงท่ี 4 คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นหาอตั ราสว่ นต่อเนอ่ื งต่อไปน้ี 1 กำหนดให้อัตราส่วนความสูงของมอสต่อความสงู ของปลา เป็น 167 : 160 อัตราสว่ นความสูงของปลาต่อความสงู ของนิคเป็น 160 : 163 จงเขียนอัตราสว่ นความสูงของมอสต่อความสูงของปลาต่อความสูงของนิค วิธีทำ อัตราส่วนความสงู ของมอสต่อความสูงของปลาเป็น 167 : 160 อตั ราสว่ นความสูงของปลาตอ่ ความสงู ของนิคเป็น 160 : 163 ดังนัน้ อตั ราส่วนความสงู ของมอสต่อความสูงของปลาตอ่ ความสงู ของนคิ เปน็ 167 : 160 : 163 2 ให้นกั เรียนพิจารณาอตั ราส่วนต่อไปน้ี จำนวนเงนิ ของสุรางคต์ อ่ จำนวนเงินของรัศมีเปน็ 8 : 11 จำนวนเงนิ ของรศั มี ต่อจำนวนเงนิ ของสุธเี ปน็ 11 : 7 วิธที ำ อัตราส่วนของจำนวนเงินของสุรางค์ต่อจำนวนเงนิ ของรัศมี เป็น 8 : 11 อัตราส่วนของจำนวนเงนิ ของรศั มตี ่อจำนวนเงินของสธุ ี เป็น 11 : 7 ดงั นัน้ อตั ราส่วนของจำนวนเงินของสรุ างคต์ ่อจำนวนเงนิ ของรัศมตี ่อจำนวนเงินของสุธี 8 : 11 : 7 3. ถ้าอตั ราส่วนอายุของขาวต่ออายุของเขียวเทา่ กับ 5 : 6 และอายุของเขียวตอ่ อายุของ แดงเท่ากับ 6 : 4 และอายขุ องแดงตอ่ อายขุ องดำเท่ากบั 4 : 7 จงหาอตั ราสว่ นอายขุ องขาวตอ่ อายขุ องดำ วิธีทำ อัตราส่วนอายุของขาวต่ออายขุ องเขียวเท่ากับ 5 : 6 อัตราส่วนอายขุ องเขยี วต่ออายุของแดงเทา่ กับ 6 : 4 อตั ราส่วนอายขุ องแดงต่ออายุของดำเท่ากบั 4 : 7 อายุของเขียวและอายุของแดงเป็นตัวรว่ ม และเปน็ ตวั รว่ มที่เทา่ กนั ดงั น้ัน อัตราส่วนอายขุ องขาวต่ออายขุ องเขยี วต่ออายุของแดงต่ออายดุ ำเท่ากับ 5 : 6 : 4 : 7 อตั ราสว่ นอายุของขาวต่ออายขุ องดำเทา่ กับ 5 : 7

บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ ผลการจดั การ ม.1/4 ม.1/5 ม.1/9 ม.1/10 เรยี นรู้ ผา่ น ไม่ผา่ น ผ่าน ไม่ผา่ น ผ่าน ไมผ่ ่าน คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ ผา่ น ไม่ผ่าน นกั เรยี นสามารถ -หาอตั ราสว่ นท่ี 35 92.11 3 7.89 38 100 - - 38 100 - - คน ℅ คน ℅ เทา่ กบั อตั ราสว่ นที่ กำหนดให้ และ 38 100 - - ตรวจสอบว่า อัตราส่วนท่ี กำหนดให้ เปน็ อัตราสว่ นที่เท่ากัน หรือไม่ นกั เรียนสามารถ 35 92.11 3 7.89 38 100 - - 38 100 - - 38 100 - - -เขียนอัตราส่วน ของจำนวนหลาย ๆ จำนวน แทนการ เปรียบเทยี บ ปรมิ าณหลาย ปรมิ าณที่ กำหนดให)้ 3. นักเรยี น 35 92.11 3 7.89 38 100 - - 38 100 - - 38 100 - - -ทำงานเป็น ระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมี ความเชือ่ มัน่ ใน ตนเอง

ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางการแกไ้ ข 1.นกั เรยี นบางคนไมส่ ามารถหาอัตราสว่ นทีเ่ ท่ากับอัตราสว่ นท่ีกำหนดให้ได้ เน่ืองจากนักเรยี นไม่เข้าเรียน 2.นกั เรยี นบางคนไมส่ ามารถ-เขียนอัตราสว่ นของจำนวนหลาย ๆ จำนวน แทนการเปรียบเทียบปรมิ าณหลาย ปริมาณท่ีกำหนดให)้ เนอื่ งจากไม่เขา้ เรยี น ทำให้นกั เรยี นไมเ่ ข้าใจในเน้ือหาที่เรียน และไม่สามารถทำการสืบคน้ หาคำตอบ ดว้ ยตนเอง จึงไมม่ ีงานส่งครู 3.นกั เรียนบางคนไม่มคี วามสนใจและกระตือรือรน้ ในการเรยี นและขาดความรับผิดชอบในการเรียน ข้อเสนอแนะและการแกไ้ ข 1. นกั เรยี นที่ไมผ่ ่านการประเมินให้ทำใบงานสง่ ตามเวลาทก่ี ำหนด 2. ให้นักเรยี นศกึ ษาเนื้อหาทเ่ี รยี นผ่านวิดีโอที่ครูส่งผ่าน เฟสบุ๊ค กลมุ่ วชิ าคณิตศาสตร์ห้องเรียนออนไลน์ 3. ติดตามนักเรียนที่ไม่เข้าเรยี น โดยผ่านไลน์ระดบั ชั้นม.1 แจง้ ครทู ่ีปรึกษา และส่งข้อมูลให้ผู้ปกครอง ลงชอ่ื .................................................................. ( นางณฐพร จันทร์ทติ ย์ ) ครูผูส้ อน ขอ้ คิดเหน็ เพ่ิมเตมิ หวั หน้ากลุ่มสาระคณิตศาสตร์ .......................................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................. ลงชือ่ ............................................... ( นางสาววนั ซลั มา ปานากาเซ็ง ) ขอ้ คิดเหน็ เพ่ิมเติมรองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ หวั หนา้ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................. .............................................. .................................................................................... .......................................................................................... ................ ลงชื่อ............................................... ( นางสาวเพริศพศิ คูหามุข ) รองผอู้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ

รายวิชาคณติ ศาสตร์ 2 การจดั ทำโครงสร้างรายวิชา(กำหนดเวลาเรยี น) รหสั วิชา ค21102 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 3 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ 60 ชั่วโมง/ภาคเรียน 1.5 หน่วยกิต ชน้ั เรยี น/ภาคเรียน สาระการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง ม.1 1. สมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว 16 1.1 การเตรียมความพร้อมก่อนรู้จักสมการ 2 ภาคเรียนท่ี 2 1.2 สมการและคำตอบของสมการ 2 1.3 การแก้สมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดยี ว 4 1.4 โจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั สมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว 8 2. อตั ราสว่ น สดั ส่วน และร้อยละ 17 2.1 อตั ราสว่ น 4 2.2 สดั สว่ น 6 2.3 รอ้ ยละ 3 2.4 บทประยุกต์ 4 3. กราฟและความสมั พันธ์เชิงเสน้ 13 3.1 คอู่ ันดับและกราฟของคอู่ ันดบั 2 3.2 กราฟและการนำไปใช้ 6 3.3 ความสมั พนั ธ์เชงิ เส้น 5 4. สถิติ 14 4.1 คำถามทางสถติ ิ 2 4.2 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 2 4.3 การนำเสนอข้อมลู และการแปลความหมายข้อมูล 10 รวม 60