Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สังคมศึกษา ม.3 เทอม 1

สังคมศึกษา ม.3 เทอม 1

Published by alongkorn.arsa, 2021-07-27 10:29:43

Description: สังคมศึกษา ม.3 เทอม 1

Search

Read the Text Version

พระพุทธศาสนา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม บรษิ ัท อักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จำกัด : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand โทรศัพท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com

๑หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ประวัติและความสาคัญ ของพระพุทธศาสนา จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธบิ ำยกำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำหรือศำสนำทตี่ นนับถอื ได้ ๒. วิเครำะหค์ วำมสำคญั ของพระพทุ ธศำสนำหรือศำสนำท่ตี นนบั ถือในฐำนะท่ีชว่ ยสรำ้ งสรรค์อำรยธรรมและควำมสงบสขุ แก่โลกได้

การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำในสมัยโบรำณ ๑. การเผยแผด่ ว้ ยการแสดงธรรม • กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำโดยวิธีน้ี ผู้เผยแผ่จะต้องมีควำมรู้ หรอื การเทศน์ ควำมเข้ำใจในหลักธรรมคำสอนเป็นอย่ำงดียิ่ง กำรเทศน์หรือกำร แสดงธรรมเปน็ รปู แบบกำรเผยแผท่ ่ีใชไ้ ด้ผลดมี ำทกุ ยุค ทกุ สมัย ๒. การเผยแผ่ดว้ ยการศึกษา • ในยุคแรกของกำรศึกษำพระพุทธศำสนำ เป็นกำรศึกษำแบบ และการปฏบิ ัติธรรม ท่องจำสืบทอดกันมำ เน่ืองจำกกำรถ่ำยทอดด้วยวิธีกำรท่องจำทำ ให้เกิดกำรคลำดเคล่ือน ต่อมำจึงได้มีกำรจดจำรจำรึกพระพุทธ ๓. สถาบนั พระมหากษตั ริย์ วจนะเปน็ ลำยลกั ษณ์อกั ษร เป็นศนู ยก์ ลางการเผยแผ่ • ในยุคแรกกำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำ กลุ่มเป้ำหมำยหลัก คือ ผู้นำ สังคม เพรำะถือเป็นศูนย์กลำงควำมเชื่อของประชำชน โดยเฉพำะ พระมหำกษัตริย์ ถ้ำพระมหำกษัตริย์เลื่อมใสและศรัทธำ ประชำชน จะยอ่ มเชื่อและนับถือตำม

การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำในสมยั โบรำณ ๑. การเผยแผ่ดว้ ยการแสดงธรรม • เป็นรูปแบบเฉพำะและเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในพระพุทธศำสนำ หรอื การเทศน์ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง กำรแสดงปำฐกถำธรรม ๒. การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา • พระพุทธศำสนำมีถ่ินกำเนิดท่ีประเทศอินเดีย มีศูนย์กลำงอยู่ใน ผา่ นองค์กรทางพระพุทธศาสนา ทวีปเอเชียช่วงพุทธศตวรรษท่ี ๒๕ พุทธศำสนิกชนชำวเอเชียได้ อพยพไปทำมำหำกินในทวีปยุโรปและทวีปอเมริกำ ได้นำเอำ พระพุทธศำสนำเข้ำไปเผยแผ่ในดินแดนเหล่ำน้ันด้วย เพื่อควำม เ ป็ น เ อ ก ภ ำ พ จึ ง ไ ด้ มี ก ำ ร ร ว ม ก ลุ่ ม กั น เ ป็ น อ ง ค์ ก ร ท ำ ง พระพุทธศำสนำในรปู แบบต่ำงๆ

การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำในสมยั โบรำณ องคก์ รทางพระพุทธศาสนา สมำคม มูลนธิ ิ สถำบันเฉพำะทำงพระพุทธศำสนำ และชมรมทำงพระพทุ ธศำสนำ วดั หรอื พทุ ธศำสนสถำน ศนู ยส์ ่งเสรมิ ศูนย์สง่ เสรมิ พระพุทธศำสนำแหง่ ประเทศไทย อ.ลำดหลมุ แกว้ จ.ปทมุ ธำนี ตรำสำนักงำนพระพุทธศำสนำแห่งชำติ วดั พระศรีรตั นศำสดำรำม (วัดพระแกว้ )

การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา กำรเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำในสมยั โบรำณ ๓. การเผยแผ่พระพุทธศาสนา • กำรบรรลผุ ลหรือเปำ้ หมำยจำกกำรปฏบิ ตั ิดว้ ยตนเอง พระพุทธเจ้ำ ด้วยการปฏิบตั ธิ รรม พระสงฆ์ หรือผู้แสดงธรรมเปน็ เพียงกลั ยำณมติ รที่คอยแนะนำส่ิงท่ี ถูกต้อง บุคคลจะประสบควำมสำเร็จได้ต้องลงมือปฏิบัติด้วย ตนเอง ๔. การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา • อิทธิพลจำกควำมเจรญิ ควำมก้ำวหนำ้ ทำงเทคโนโลยี ส่งผลให้กำร ผา่ นสื่อเทคโนโลยี เผยแผ่พระพุทธศำสนำมีกำรเผยแผ่หลักธรรมผ่ำนส่ือในรูปแบบ ต่ำงๆ ท่ีเรียกว่ำ มัลติมีเดีย ซ่ึงคนท่ัวไปสำมำรถ เข้ำไปศึกษำ คน้ คว้ำได้อย่ำงสะดวก

การเผยแผ่และการนับถอื พระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆ ทว่ั โลก ทวปี เอเชยี ประเทศอนิ เดีย • เป็นดนิ แดนแหง่ พทุ ธมำตภุ มู ิ ซงึ่ เปน็ สถำนท่ีประสูตขิ องพระพทุ ธเจำ้ • เม่ือประมำณพุทธศตวรรษที่ ๑๗ มีร่องรอยกำรเส่อื มถอยของพระพทุ ธศำสนำ • พระพทุ ธศำสนำไดก้ ลับมำเจริญร่งุ เรืองอกี ครัง้ ในสมัยกำรกอบกู้เอกรำช ผู้ฟ้ืนฟูพระพุทธศำสนำคนสำคัญ เช่น เซอร์ อเล็กซำนเดอร์ คนั นงิ แฮม, เซอรเ์ อ็ดวิน อำรโ์ นลด์ และดร.เอ็มเบดกำร์

การเผยแผ่และการนบั ถอื พระพทุ ธศาสนาในประเทศตา่ งๆ ทัว่ โลก ทวปี เอเชยี ประเทศศรลี งั กา • พระพุทธศำสนำเริ่มเข้ำสูศ่ รีลังกำประมำณ พ.ศ. ๒๓๖-๒๘๗ • สมัยพระเจ้ำเทวำนัมปิยติสสะ ทรงประกำศให้พระพุทธศำสนำเป็นศำสนำประจำชำติสืบมำถึง ปัจจุบัน • พระพุทธศำสนำในศรีลังกำมีควำมรุ่งเรืองและเสื่อมถอยโดยเปล่ียนแปลงไปตำมอำนำจกำรปกครอง มีช่วงหนึ่งท่ีศรีลังกำส่งทูตมำ ขอพระสงฆ์ไทยไปบวชให้กลุ บุตรชำวศรลี ังกำ

การเผยแผแ่ ละการนับถือพระพุทธศาสนาในประเทศตา่ งๆ ทั่วโลก ทวีปเอเชยี ประเทศเนปาล • ในอดีตเนปำลเป็นดินแดนส่วนหน่ึงของอินเดีย และเป็นสถำนท่ีต้ังของสวนลุมพินีวัน สถำนท่ีประสูติ ของพระพทุ ธเจ้ำ • ในยุคแรกพระพุทธศำสนำเถรวำทรุ่งเรืองมำก ต่อมำเสื่อมถอยลงทำให้พระพุทธศำสนำมหำยำน นิกำย ตนั ตระซ่ึงผสมกบั ควำมเชื่อพ้ืนเมอื งเจรญิ ข้นึ มำแทน • ปจั จบุ นั พระพุทธศำสนำนิกำยเถรวำทได้รับกำรฟื้นฟู โดยไทยเป็นกำลังสำคญั ในกำรฟืน้ ฟพู ระพุทธศำสนำเถรวำท

การเผยแผ่และการนับถอื พระพุทธศาสนาในประเทศตา่ งๆ ท่ัวโลก ทวีปเอเชยี ประเทศภฏู าน • พระพุทธศำสนำเขำ้ สปู่ ระเทศภฏู ำน รำว พ.ศ. ๘๐๐-๑๒๐๐ โดยเป็นนิกำยวัชรยำน และได้เป็นศำสนำ ประจำชำติภูฏำน • พ.ศ. ๑๗๖๓ มีกำรก่อต้ังนิกำยดรุกปะกัคยุขึ้นจนถึงยุคของท่ำนงำวังนัมเยล ได้สร้ำงพูนำคำซอง สถำนทปี่ ระกอบพิธีกรรมสำคัญ เชน่ พิธสี ถำปนำสมเดจ็ พระสังฆรำช • ชำวภูฏำนนบั ว่ำมคี วำมศรัทธำและยดึ ม่ันในพระพทุ ธศำสนำมำก

การเผยแผ่และการนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศต่างๆ ทัว่ โลก ทวปี เอเชยี เขตปกครองตนเองทเิ บต • พระพุทธศำสนำในทิเบตเป็นมหำยำนแบบวชั รยำน • พระพุทธศำสนำจำกอินเดียเข้ำสู่ทิเบตในพุทธศตวรรษท่ี ๑๒ หลังจำกนั้นกษัตริย์ทิเบตได้ทรงให้กำร อุปถัมภ์เป็นอย่ำงดี • ก่อนจะรวมเข้ำเป็นดินแดนส่วนหน่ึงของจีน พระพุทธศำสนำถูกแบ่งออกเป็น ๔ นิกำย โดยนิกำยเคลุกปะเป็นท่ีนับถือแพร่หลำยที่สุด พระสงฆใ์ นนิกำยนี้เรยี กวำ่ ลำมะ สว่ นผู้นำสงู สดุ ในกำรปกครอง เรยี กวำ่ องคด์ ำไลลำมะ

การเผยแผ่และการนับถือพระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆ ทว่ั โลก ทวปี เอเชยี ประเทศจีน • ประเทศจีนเรม่ิ ยอมรบั พระพุทธศำสนำในสมัยรำชวงศฮ์ ่นั • พระพุทธศำสนำเจริญสูงสุดในสมัยรำชวงศ์ถัง เพรำะได้รับกำรสนับสนุนจำกจักรพรรดิ จำกน้ันก็เจริญ สูงสุดในบำงสมยั และเสื่อมสดุ ในบำงช่วงเวลำ • ช่วงที่จีนปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ พระพุทธศำสนำได้รับผลกระทบมำก ภำยหลังต่อมำก็ได้รับกำรฟื้นฟูให้กลับมำดี ดังทีเ่ ป็นอยใู่ นปจั จุบัน

การเผยแผแ่ ละการนบั ถือพระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆ ท่วั โลก ทวีปเอเชยี ประเทศเกาหลี • ช่วงแรกชำวเกำหลีนับถือศำสนำชำมำน ต่อมำภำยหลังจึงนับถือพระพุทธศำสนำโดยจีนและ อนิ เดียนำมำเผยแผ่ • เม่ือรำชวงศ์ลีหรือรำชวงศ์โชซอนเข้ำมำมีอำนำจได้สนับสนุนให้ลัทธิขงจ๊ือเป็นศำสนำ ประจำชำติ พระพทุ ธศำสนำจงึ เสอื่ มโทรมลง • เมื่อเกำหลีอยู่ใต้กำรปกครองของญ่ีปุ่น พระพุทธศำสนำได้รับกำรฟื้นฟู จนกระท่ังเกำหลีถูกแบ่งออกเป็น ๒ ประเทศ พระพุทธศำสนำจึง รุง่ เรอื งเฉพำะในเกำหลีใต้

การเผยแผแ่ ละการนับถอื พระพุทธศาสนาในประเทศตา่ งๆ ท่วั โลก ทวีปเอเชยี ประเทศญีป่ นุ่ • ชว่ งพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๓ กษัตริย์เกำหลีไดส้ ง่ คณะทตู นำพระพุทธรปู และคมั ภรี ์ทำงพระพทุ ธศำสนำไปเจริญ สมั พนั ธไมตรกี ับพระจักรพรรดิญ่ีปนุ่ • ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๒ พระพุทธศำสนำเจริญรุ่งเรืองขึ้นตำมลำดับ โดยเร่ิมนับถือในหมู่ชนชั้นสูงก่อน แล้วคอ่ ยแพร่หลำยไปสปู่ ระชำชน • ในปลำยพุทธศตวรรษที่ ๑๔ พระพุทธศำสนำแบ่งเป็น ๓ นิกำยหลัก และเป็นที่นับถือกันมำจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ นิกำยโจโดหรือ สขุ ำวดี นกิ ำยเซน และนิกำย นิชิเรน

การเผยแผ่และการนับถอื พระพทุ ธศาสนาในประเทศต่างๆ ท่วั โลก ทวีปยโุ รป ประเทศองั กฤษ • กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำเริ่มข้ึนใน พ.ศ. ๒๓๙๓ เม่ือสเปนเซอร์ อำร์ดี ได้พิมพ์หนังสือ ชือ่ ศำสนจกั รแหง่ บรู พำทิศออกเผยแพร่ • ใน พ.ศ. ๒๔๒๒ เซอร์ เอด็ วิน อำรโ์ นลด์ ไดเ้ ขยี นประทีปแห่งเอเชีย ทำให้ไดร้ ับควำมสนใจจำกชำวอังกฤษมำก • องค์กรทำงพระพุทธศำสนำได้เป็นศนู ยก์ ลำงในกำรเผยแผ่ จนเกิดวัดพุทธในประเทศองั กฤษจำนวนมำก

การเผยแผแ่ ละการนบั ถอื พระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆ ท่วั โลก ทวีปยโุ รป ประเทศเยอรมนี • พระพุทธศำสนำได้เผยแผ่เขำ้ สปู่ ระเทศเยอรมนีก่อนสงครำมโลกคร้ังที่ ๒ • ดร.คำรล์ ไชเกนสตคิ เกอร์ ได้ก่อตงั้ พุทธสมำคมเยอรมนั ข้ึน เพอื่ เผยแผแ่ ละทำกิจกรรมทำงพระพุทธศำสนำ • หลงั สงครำมโลกครั้งที่ ๒ สน้ิ สุด พระพทุ ธศำสนำไดร้ ับกำรฟืน้ ฟขู ึ้นอกี ครง้ั

การเผยแผแ่ ละการนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทวปี ยโุ รป ประเทศฝร่งั เศส • กลุ่มพทุ ธศำสนิกชนชำวฝรัง่ เศสรว่ มกันกอ่ ต้งั พทุ ธสมำคมขน้ึ ใน พ.ศ.๒๔๗๑ • มีกำรจัดกจิ กรรมตำ่ งๆ ทำงพระพทุ ธศำสนำ • นมิ นต์พระสงฆ์จำกไทย ลำว เมยี นมำ ไปฝึกอบรม

การเผยแผแ่ ละการนับถอื พระพทุ ธศาสนาในประเทศตา่ งๆ ทว่ั โลก ทวีปยโุ รป ประเทศรัสเซยี • พระพุทธศำสนำเข้ำส่สู หภำพโซเวียตในอดีต ต้งั แต่ พ.ศ.๑๗๖๖ แต่ไม่แพรห่ ลำยนัก • หลงั สงครำมโลกครง้ั ที่ ๑ มีควำมพยำยำมเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำผ่ำนกลุ่มปัญญำชนรสั เวยี • ปัจจบุ นั มพี ุทธศำสนิกชนกระจำยอยใู่ นประเทศต่ำงๆ ของอดีตสหภำพโซเวียต

การเผยแผแ่ ละการนับถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศตา่ งๆ ทัว่ โลก ทวปี ยโุ รป ประเทศเนเธอร์แลนด์ • พระพทุ ธศำสนำเขำ้ สปู่ ระเทศเนเธอรแ์ ลนดท์ ำงกำรคำ้ • หลังสงครำมโลกคร้งั ที่ ๒ ไดม้ ีกำรฟน้ื ฟชู มรมชำวพทุ ธข้ึน • มกี ำรจัดตัง้ พทุ ธสมำคมข้นึ ใน พ.ศ. ๒๕๑๒

การเผยแผแ่ ละการนบั ถอื พระพุทธศาสนาในประเทศตา่ งๆ ทั่วโลก ทวีปอเมริกำเหนือ • ภำยหลังสงครำมโลกครั้งท่ี ๒ มีชำวเอเชียอพยพเข้ำมำในสหรัฐอเมริกำและแคนำดำเพิ่ม มำกขน้ึ และไดเ้ ผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำดว้ ย • ใน พ.ศ. ๒๔๔๘ ชำวพุทธญี่ปุ่นได้สร้ำงวัดนิกำยสุขำวดีที่แซนแฟรนซิสโก ต่อมำได้มีกำร กอ่ ตัง้ สมำคมพระพทุ ธศำสนำแหง่ อเมริกำ รวมท้ังมหำวิทยำลัยพทุ ธธรรมข้นึ • ปจั จบุ ันมีวัดไทยในสหรัฐอเมริกำและแคนำดำหลำยแห่ง

การเผยแผแ่ ละการนบั ถอื พระพทุ ธศาสนาในประเทศตา่ งๆ ทว่ั โลก ทวีปอเมรกิ ำใต้ • ส่วนมำกเป็นกำรนับถือของผู้อพยพย้ำยถ่ินฐำนจำกทวีปเอเชียเข้ำไปทำมำหำกินใน ประเทศต่ำงๆ ในทวปี อเมรกิ ำใต้ โดยเฉพำะชำวจีน ชำวเกำหลี ชำวญ่ปี ุ่น • มีกำรจัดตั้งองค์กรทำงพระพุทธศำสนำข้ึนเป็นจำนวนมำก เพื่อเป็นศูนย์กลำง กำรศึกษำ กำรปฏบิ ตั ิ และกำรทำกิจกรรมทำงพระพุทธศำสนำ • กำรนับถือพระพุทธศำสนำยงั คงจำกดั ในหมู่ชำวเอเชีย ส่วน ชำวพนื้ เมอื งนบั ถอื กนั น้อย

การเผยแผแ่ ละการนับถอื พระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆ ทว่ั โลก ทวปี ออสเตรเลยี ประเทศออสเตรเลีย • ใน พ.ศ. ๒๔๕๓ พระศำสนธชะ (มร.อี.สตีเวนสัน) พระภิกษุชำวอังกฤษได้เดินทำงไปเผยแผ่ พระพทุ ธศำสนำในออสเตรเลยี ทำ่ นแนะนำว่ำพระพุทธศำสนำเป็นศำสนำท่ีเน้นกำรพัฒนำจิตใจ จนทำให้ กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำเป็นรปู ธรรมยง่ิ ขนึ้ • ใน พ.ศ. ๒๔๙๖ มีกำรจัดตั้งพทุ ธสมำคมขึ้นในรฐั ควนี สแ์ ลนด์ นวิ เซำทเ์ วลส์ และวกิ ตอเรยี และ มกี ำรตงั้ องคก์ รทำงพระพุทธศำสนำข้นึ อีกหลำยแหง่ • ปัจจุบันกำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำในประเทศออสเตรเลียดำเนินไปได้ด้วยดี มีผู้ศรัทธำเล่ือมใสนับถือพระพุทธศำสนำเพิ่มข้ึน วัดไทย ในออสเตรเลีย เชน่ วัดพุทธรังษี เมอื งซดิ นยี ์ วดั ธรรมรังษี เมืองเมลเบิร์น

การเผยแผแ่ ละการนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทวปี ออสเตรเลยี ประเทศนิวซแี ลนด์ • ปัจจบุ ันพระพุทธศำสนำในนิวซีแลนดย์ งั ไม่รงุ่ เรืองเหมอื นในออสเตรเลีย แตม่ ีแนวโนม้ ที่ดใี นอนำคต ส่วนกำร เผยแผพ่ ระพุทธศำสนำ เปน็ กำรดำเนนิ กำรโดยพระสงฆ์ชำวองั กฤษ ทิเบต ญ่ีปุ่น และไทย โดยกำรสนับสนุน ของพุทธสมำคมแห่งเมืองโอกแลนด์ • ปัจจุบันมีจำนวนผู้นับถือพระพุทธศำสนำไม่มำก จำกัดอยู่เฉพำะในเมืองใหญ่ เช่น เวลลิงตัน ไค รสตเ์ ชริ ช์ ดูเนดนิ โอตำโก • กำรเผยแผพ่ ระพุทธศำสนำไดเ้ ปดิ กว้ำงมำกขึน้ มีวดั ไทยในนิวซีแลนด์ เช่น วดั ญำณประทปี เมอื งโอกแลนด์

การเผยแผแ่ ละการนับถอื พระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆ ทว่ั โลก ทวปี แอฟรกิ ำ • ร่องรอยกำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำปรำกฏเป็นหลักฐำนอยู่บ้ำงในประเทศอียิปต์และเคนยำ แต่เป็นอยำ่ งไม่เป็นทำงกำร • ในอียิปต์ พระพุทธศำสนำเข้ำไปพร้อมกับชำวญ่ีปุ่น เกำหลี ไทย ศรีลังกำ อินเดีย ซ่ึงเดินทำงไปศึกษำ ทำงำน และท่องเที่ยว ชำวพุทธเหล่ำน้ีได้ถ่ำยทอดพระพุทธศำสนำผ่ำนชำวอียิปต์รุ่นใหม่ ที่ไม่ยึดติดกับ วัฒนธรรมดั้งเดิม พร้อมรับแนวคิดใหม่แบบพระพุทธศำสนำ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงไคโรและเมืองอะเล็ก ซำนเดรยี • ในเคนยำ มีกำรก่อตั้งชมรมชำวพุทธ และมีกำรนิมนต์พระสงฆ์จำกจีน ญ่ีปุ่น ไทย เดินทำงไปแลกเปล่ียนและเผยแผ่พระพุทธศำสนำใน ชว่ งเวลำสั้นๆ แตเ่ ป็นไปอย่ำงจำกัด เนื่องจำกปญั หำเศรษฐกิจและกำรเมืองภำยในประเทศ รวมทงั้ ชำวพื้นเมืองยงั ไม่เปิดกวำ้ ง

ความสาคญั ของพระพุทธศาสนา พระพทุ ธศำสนำในฐำนะทชี่ ว่ ยสร้ำงสรรคอ์ ำรยธรรมให้แกโ่ ลก ดา้ นการปกครอง กำรปกครองระบอบรำชำธิปไตย • ระบอบรำชำธปิ ไตยหรือสมบูรณำญำสิทธิรำชย์ พระมหำกษัตริย์มีอำนำจสิทธิ์ขำดในกำรปกครองแต่เพียงผู้เดียว พระพุทธศำสนำมีหลักคำสอนสำหรับพระมหำกษัตริย์เพ่ือให้เป็นผู้นำท่ีดี มีคุณธรรม ได้แก่ ทศพิธรำชธรรม จักรวรรดิวตั ร กำรปกครองระบอบสำมคั คธี รรม • พระพุทธศำสนำได้มีหลักอปริหำนิยธรรมเพ่ือประยุกต์ใช้ในกำรปกครอง เช่น หมั่นประชุม ปรึกษำหำรือกิจกำร งำนอย่ำงพร้อมเพรียง เคำรพ ให้เกียรติ ยอมรับฟังควำมคิดเห็นของผู้อำวุโสกว่ำ เคำรพบูชำเจดีย์ ปูชนียสถำน และอนุสำวรยี ป์ ระจำชำติ จดั อำรักขำ บำรุง คุ้มครองแก่บรรพชติ ผู้ทรงศลี

ความสาคญั ของพระพุทธศาสนา พระพทุ ธศำสนำในฐำนะท่ชี ่วยสรำ้ งสรรค์อำรยธรรมใหแ้ กโ่ ลก ด้านการจัดระเบยี บสงั คม สถาบันครอบครัว ควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำง ควำมสัมพนั ธร์ ะหวำ่ ง สถาบนั สงั คม บิดำมำรดำกับบุตรธดิ ำ สำมีกับภรรยำ สถาบนั การศกึ ษา ควำมสัมพันธ์ระหว่ำง ควำมสัมพันธร์ ะหว่ำง สถาบันศาสนา มติ รกบั มิตร นำยจ้ำงกับลูกจำ้ ง ควำมสมั พันธร์ ะหว่ำงครูอำจำรย์กบั ลกู ศิษย์ ควำมสมั พันธร์ ะหวำ่ งพระสงฆ์กบั ประชำชน

ความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา พระพุทธศำสนำในฐำนะท่ชี ว่ ยสรำ้ งสรรค์อำรยธรรมใหแ้ กโ่ ลก ดา้ นการสรา้ งสรรค์อารยธรรมให้แกโ่ ลก ด้าน • แม้ว่ำคนเรำล้วนต้องกำรปัจจัย ๔ เพ่ือตอบสนองควำมต้องกำรทำงกำย แต่ก็ต้องกำร จติ ใจ แสวงหำควำมสขุ ทำงจิตใจด้วย ดงั จะเห็นได้ว่ำคนพำกันสนใจศึกษำพระพุทธศำสนำเพมิ่ ข้ึน • พระพุทธศำสนำมีลักษณะเป็นปรัชญำ โดยอธิบำยสรรพสิ่งทั้งปวงด้วยวิธีกำรของ ด้าน เหตผุ ล ซ่ึงมหำวิทยำลยั ชน้ั นำของโลกไดเ้ ปิดสอนวิชำพระพุทธศำสนำกนั แพรห่ ลำย วิชาการ ด้าน • พระพทุ ธศำสนำได้สรำ้ งสรรคส์ ง่ิ ท่ีเปน็ วตั ถุให้เป็นมรดกแก่อำรยธรรมของโลกด้วย วตั ถุ เช่น พระพทุ ธรูป เจดีย์ วดั สถูป ซ่ึงล้วนเกิดจำกแรงศรทั ธำในพระพทุ ธศำสนำ

ความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศำสนำในฐำนะท่ีชว่ ยสรำ้ งควำมสงบสขุ ให้แก่โลก • สอนไม่ใหเ้ บียดเบียนท้ังตนเองและผอู้ น่ื เหมือนหลักธรรมคำสอน ๑ ในศีล ๕ ที่เน้นกำรไม่เบียดเบยี นคนอ่นื ไม่ละเมิดสทิ ธ์ิและของรัก ของหวงของคนอื่น • สอนให้มีควำมเมตตำกันทั้งต่อหน้ำและลับหลัง จะพูด จะทำ ๒ จะคิด ก็มีจิตประกอบด้วยเมตตำ มีควำมรักและให้อภัยซึ่งกัน และกนั • สอนให้มีควำมเสียสละ คือ เสียสละภายใน ละโลภ โกรธ หลง ๓ ควำมเห็นแก่ตัว และเสียสละภายนอก กำรแบ่งปันวัตถุส่ิงของที่มี สงเครำะห์แกค่ นอน่ื บำ้ ง คนเรำจะอยู่ร่วมกันได้อยำ่ งมีควำมสขุ

ความสาคัญของพระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศำสนำในฐำนะทชี่ ว่ ยสร้ำงควำมสงบสุขให้แกโ่ ลก • สอนให้มีควำมอดทน (ขันติ) และไม่ยึดม่ันในตัวตนเกินไป ๔ (อนัตตำ) คนจะมีควำมอดทนไดด้ นี ้นั จะต้องเป็นคนยดึ มั่นในตัวตน นอ้ ย มีอัตตำเบำบำง ไม่เห็นว่ำตนสำคัญมำกจนเห็นคนอื่นต่ำต้อย หรอื เปน็ คนไมด่ ี • สอนใหเ้ ป็นคนใจกวำ้ ง ยอมรับในควำมแตกต่ำงได้ สอนให้รู้ควำม ๕ จริงว่ำในโลกที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมำก ย่อมมีควำมแตกต่ำงกันใน เร่อื งต่ำงๆ • สอนให้เอำชนะควำมช่ัวด้วยควำมดี เอำชนะคนโกรธด้วยกำรไม่ ๖ โกรธตอบ เอำชนะคนตระหน่ีด้วยกำรให้ เอำชนะเวรด้วยกำรไม่ จองเวร

๒หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี พทุ ธประวตั ิ พระสาวก ศาสนิกชนตวั อย่าง และชาดก จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. วเิ ครำะห์พุทธประวตั ิจำกพระพุทธรูปปำงต่ำงๆ หรอื ประวตั ิศำสดำทีต่ นนับถือตำมท่กี ำหนดได้ ๒. วเิ ครำะห์และประพฤติตนตำมแบบอยำ่ งกำรดำเนนิ ชวี ิตและข้อคดิ จำกประวัติสำวก ชำดก เรื่องเลำ่ และศำสนกิ ชนตวั อยำ่ งตำมทก่ี ำหนดได้

พทุ ธประวัติ กำรแสดงปฐมเทศนำ ธมั มจกั กปั ปวัตตนสูตร • หลังจำกตรัสรู้แล้ว พระพุทธเจ้ำทรงมีพระมหำกรุณำสงสำรสัตว์โลก จึงทรงมีพระประสงค์จะไปแสดงธรรม โปรดอำฬำรดำบส กำลำมโคตร และอุททกดำบส รำมบุตร แต่ทำ่ นท้งั สองส้นิ ชพี ไปก่อนหนำ้ นนั้ ๗ วันแล้ว จึง ตัดสนิ พระทยั จะไปโปรดปญั จวคั คีย์ ซ่ึงเคยรบั ใชพ้ ระองค์ขณะทรงบำเพ็ญทุกกรกิริยำ โดยพระองค์ทรงแสดง ปฐมเทศนำท่ีเรยี กวำ่ ธัมมจกั กัปปวตั ตนสตู ร

พทุ ธประวัติ กำรแสดงปฐมเทศนำ ธัมมจกั กปั ปวตั ตนสตู ร ๑ • ทรงชี้ว่ำมีทำง “สุดโต่ง” ๒ ทำงที่บรรพชิตไม่พึงปฏิบัติ คือ กำรหมกมุ่นในกำมอันเป็นทำงหย่อนเกินไป และกำรทรมำนตน ใหล้ ำบำก อนั เป็นทำงตึงเกนิ ไป ๒ • ทรงแสดง “ทำงสำยกลำง หรอื มัชฌิมำปฏิปทำ” คือ อริยมรรค มีองค์แปดประกำร อันได้แก่ เห็นชอบ ดำริชอบ เจรจำชอบ กำรงำนชอบ อำชพี ชอบ พยำยำมชอบ สติชอบและสมำธชิ อบ ๓ • ทรงแสดง “อรยิ สัจส่ปี ระกำร” คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค อย่ำงพิสดำร และครบวงจร ว่ำพระองค์นั้นทรงตรัสรู้สิ่งเหล่ำน้ี อยำ่ งไร ๔ • หลังฟังเทศน์จบลง โกณฑัญญะได้ “ดวงตำเห็นธรรม” จึงทูลขอบวช พระพุทธองค์ประทำนกำรบวชด้วยกำรอุปสมบท เรยี กว่ำ “เอหภิ กิ ขอุ ปุ สมั ปทำ” ถือเปน็ พระสำวกรปู แรกในพระพทุ ธศำสนำ ๕ • กล่ำวถึงเทพท้ังหลำยต้ังแต่ภุมมเทวดำ ได้ป่ำวร้องบอกต่อๆ กันไปจนถึงหมู่พรหมว่ำ พระพุทธเจ้ำทรงหมุนกงล้อ คือ พระธรรม ทไ่ี ม่มีใครไม่วำ่ สมณะ พรำหมณ์ เทวดำ มำร พรหม สำมำรถหมุนกลับได้

พทุ ธประวตั ิ โอวำทปำฏิโมกข์ • ในคืนวันเพ็ญเดือน ๓ พระสงฆ์สำวกจำนวน ๑,๒๕๐ รูป ได้มำเฝ้ำพระพุทธเจ้ำท่ีวัดพระเวฬุวันโดยมิได้นัด หมำยกนั ท่ำนเหล่ำน้ันล้วนเป็นเอหิภิกขุ (พระสงฆ์ท่ีพระพุทธเจ้ำประทำนอุปสมบทให้) ซ่ึงเป็นพระอรหันต์ผู้ ทรงอภิญญำ พระพุทธเจ้ำทรงเห็นว่ำกำรประชุมใหญ่ของสงฆ์ประกอบด้วยองค์ ๔ คือ จำตุรงคสันนิบำต จึง ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์

พทุ ธประวัติ โอวำทปำฏโิ มกข์ โอวาทปาฏิโมกข์ • ทรงแสดงถงึ อดุ มกำรณ์ของพระพุทธศำสนำ คือ พระนิพพำน หวั ใจพระพุทธศาสนา • ทรงแสดงถึงหลักกำรทั่วไปของพระพุทธศำสนำ ๓ ประกำร คือ กำรไม่ทำ ควำมชวั่ ทั้งปวง กำรทำควำมดีใหพ้ ร้อม และกำรทำจิตของตนให้ผอ่ งแผว้ • ทรงแสดงถึงวิธีกำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำโดยเน้นกำรไม่ว่ำร้ำยคนอ่ืน ไม่ เบยี ดเบียนคนอ่นื ใชข้ นั ติธรรม และสันติวิธใี นกำรเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำ • ตรัสถึงคุณสมบัติของผู้เผยแผ่พระพุทธศำสนำ คือ ต้องเป็นผู้เคร่งครัดใน ระเบียบ ข้อบังคับ อยู่ในท่ีสงบสงัด รู้ประมำณโภชนำกำร และฝึกจิตให้มี สมำธอิ ย่ำงสูงยง่ิ

พทุ ธประวตั ิ พทุ ธประวัติจำกพระพทุ ธรปู ปำงต่ำงๆ ปางมารวิชัย • ขณะที่พระพทุ ธองค์ทรงนั่งสมำธอิ ยูใ่ ต้ต้นโพธ์ิ พญำวสวัตดีมำรได้มำขับไล่พระองค์ และอำ้ งว่ำบัลลงั ก์เปน็ ของตน พระพุทธองค์ทรงแย้งว่ำบัลลังก์เป็นของพระองค์ และทรงตรัสว่ำ “ขอให้วสุนธรำจงเป็นพยำน” ทันใดนั้น พระแมธ่ รณไี ด้ผดุ ขนึ้ มำจำกแผ่นดินและบีบมวยผมบันดำลให้เกิดกระแสน้ำไหลท่วมกองทัพพญำมำรจนพ่ำยแพ้ ชำวพทุ ธจงึ สรำ้ งปำงนข้ี ้ึน

พุทธประวตั ิ พทุ ธประวัตจิ ำกพระพุทธรูปปำงต่ำงๆ ปางลีลา • ปำงนี้มีควำมเก่ียวโยงกับปำงเสด็จลงมำจำกสวรรค์ช้ันดำวดึงส์ กล่ำวคือ หลังจำกพระพุทธองค์เสด็จขึ้นไปจำ พรรษำ ณ สวรรค์ช้ันดำวดึงส์ เพ่ือแสดงธรรมโปรดพุทธมำรดำตลอด ๓ เดือนแล้ว ก็เสด็จลงมำจำกสวรรค์ ซ่ึงพระพุทธลีลำนอกจำกบ่งบอกถึงควำมงำมอันอ่อนช้อย น่ำเลื่อมใสศรัทธำแล้วยังหมำยถึงกำรเคล่ือนไหวด้วย พระมหำกรณุ ำ เพอ่ื โปรดเวไนยสตั ว์ใหห้ ลดุ พ้นจำกควำมทกุ ข์

พทุ ธประวตั ิ พทุ ธประวตั ิจำกพระพทุ ธรูปปำงต่ำงๆ ปางปฐมเทศนา • หลังจำกตรัสรู้แล้ว พระพุทธเจ้ำเสด็จดำเนินด้วยพระบำทไปยังป่ำอิสิปตนมฤคทำยวัน แขวงเมืองพำรำณสี ทรงแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อันว่ำด้วยอริยสัจ ๔ ประกำร แก่ปัญจวัคคีย์โดยมีโกณฑัญญะเป็นหัวหน้ำ ในกำรแสดงปฐมเทศนำน้ี เรียกอีกอย่ำงว่ำ ทรงหมุนกงล้อธรรมชาติ ซึ่งเป็นเครื่องหมำยแห่งกำรประกำศ พระพทุ ธศำสนำเปน็ ครั้งแรก

พุทธประวัติ พุทธประวตั จิ ำกพระพทุ ธรปู ปำงต่ำงๆ ปางประจาวนั เกิด • สงั คมไทยเปน็ สังคมชำวพุทธ สว่ นใหญ่นับถือพระพุทธศำสนำ มีคติควำมเชื่อและนับถือในเร่ืองของกำรบูชำพระ ประจำวนั เกดิ ของตนนอกเหนือไปจำกกำรเคำรพบูชำพระพุทธรูปทว่ั ๆ ไป โดยเช่ือวำ่ ถำ้ ได้บูชำพระประจำวนั เกิด กจ็ ะยิง่ ทำใหเ้ กดิ ควำมเป็นสริ ิมงคลแกต่ นเองมำกขึ้น โดยพระปำงประจำวนั เกดิ แตล่ ะปำงมดี ังน้ี

พทุ ธประวัติ พทุ ธประวัติจำกพระพุทธรปู ปำงตำ่ งๆ วนั อาทิตย์ ปางถวายเนตร • พระพุทธรูปในพระอิริยำบถยืน ลืมพระเนตรทั้งสองเพ่งไปข้ำงหน้ำ พระหัตถ์ท้ังสองห้อยลงมำประสำนกันอยู่ ขำ้ งหน้ำ พระหตั ถข์ วำซ้อนเหลื่อมอยบู่ นพระหัตถซ์ ำ้ ย • หลงั ตรสั ร้ใู หมๆ่ พระพุทธเจ้ำเสด็จออกจำกโคนต้นพระศรีมหำโพธิ์ไปทำงทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสำน) ทรง ทอดพระเนตรต้นพระศรมี หำโพธโิ์ ดยไมก่ ระพริบพระเนตรเป็นเวลำ ๗ วนั เพอ่ื รำลกึ ถึงคุณประโยชน์ของต้นพระ ศรมี หำโพธท์ิ ี่อำนวยชว่ ยพระองค์จนไดต้ รสั ร้เู ป็นพระพุทธเจ้ำ

พุทธประวัติ พทุ ธประวตั จิ ำกพระพทุ ธรูปปำงตำ่ งๆ วนั จันทร์ ปางหา้ มสมุทร • พระพทุ ธรปู ในพระอิริยำบถยนื ยน่ื พระหัตถ์ทงั้ สองไปขำ้ งหนำ้ แบพระหตั ถ์ตงั้ ข้ำงหนำ้ เสมอพระอุระ • ขณะที่พระพุทธเจ้ำประทับที่โรงไฟเม่ือครำวเสด็จไปโปรดชฎิล ๓ พ่ีน้องแล้วเกิดฝนตกหนัก น้ำหลำกท่วม บริเวณที่ประทบั อยู่ พวกชฎลิ ๓ พี่นอ้ งหนีข้นึ บนท่ดี อน ส่วนพระพุทธเจำ้ มไิ ดเ้ สดจ็ หนี เช้ำมำพวกชฎลิ ๓ พี่น้อง ไดอ้ อกตำมหำจนพบพระพทุ ธองคท์ รงยืนอยภู่ ำยในวงลอ้ มของน้ำที่ท่วม

พทุ ธประวัติ พุทธประวตั จิ ำกพระพุทธรปู ปำงตำ่ งๆ วันอังคาร ปางไสยาสน์ • พระพุทธรูปในพระอิริยำบถนอนตะแคงขวำ พระบำททั้งสองเสมอกัน พระหัตถ์ซ้ำยทำบพระวรกำย พระหัตถ์ ขวำตัง้ ขึ้นรับพระเศยี ร มพี ระเขนยรองรบั เรยี กอกี อย่ำงวำ่ “ปางโปรดอสุรินทราหู” • เป็นเหตุกำรณ์เม่ือคร้ังพระพุทธเจ้ำประทับอยู่ ณ วัดเชตวัน เมืองสำวัตถี ครั้งน้ันอสุรินทรำหูจอมอสูรสำคัญว่ำ ตนมีร่ำงกำยใหญ่โต แสดงควำมกระด้ำงกระเด่ืองไม่ยอมอ่อนน้อมต่อพระพุทธองค์ จึงทรงมีพระประสงค์จะลด ทิฐขิ องจอมอสูร จงึ ทรงเนรมติ กำยจนใหญก่ วำ่ อสรุ ินทรำหจู งึ ยอมออ่ นนอ้ ม

พุทธประวตั ิ พทุ ธประวัติจำกพระพทุ ธรูปปำงตำ่ งๆ วันพธุ (กลางวัน) ปางอมุ้ บาตร • พระพุทธรปู ในพระอิรยิ ำบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองประคองบำตร • เปน็ เหตุกำรณ์เมื่อคร้ังพระพุทธเจ้ำได้เสด็จไปโปรดพระประยูรญำติกรุงกบิลพัสด์ุ รุ่งขึ้นอีกวันจำกวันเสด็จไปถึง ในเวลำตอนเช้ำ พระพุทธองค์ก็ทรงบำตรพำภิกษุสงฆ์ออกไปโปรดสัตว์ เสด็จพุทธดำเนินไปตำมถนนในกรุง กบลิ พัสดุ์

พทุ ธประวตั ิ พทุ ธประวตั จิ ำกพระพุทธรูปปำงต่ำงๆ วันพธุ (กลางคนื ) ปางป่าเลไลยก์ • พระพทุ ธรูปในพระอิริยำบถประทบั นง่ั หอ้ ยพระบำท พระหัตถซ์ ้ำยวำงควำ่ บนพระชำนุ พระหตั ถ์ขวำวำงหงำย • เป็นเหตุกำรณ์เม่ือครั้งพระภิกษุเมืองโกสัมพีทะเลำะกันขนำนใหญ่ พระพุทธองค์ได้เสด็จไปห้ำมปรำม แตเ่ นื่องจำกไมม่ ใี ครฟัง พระองค์จงึ เสดจ็ หลกี ไปประทบั อยใู่ นป่ำ โดยมีพญำชำ้ งปำลิไลยกะและลิงคอยดแู ลเฝำ้ ปรนนิบตั ิ

พทุ ธประวตั ิ พุทธประวตั ิจำกพระพทุ ธรูปปำงตำ่ งๆ วนั พฤหสั บดี ปางสมาธิ • พระพุทธรูปในพระอิริยำบถประทับน่ังขัดสมำธิ พระบำทขวำทับพระบำทซ้ำย พระหัตถ์ท้ังสองวำงหงำยบน พระเพลำ โดยพระหตั ถข์ วำทบั พระหัตถซ์ ้ำย • เป็นเหตุกำรณ์เมื่อพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำตรัสรู้อนุตรสัมมำสัมโพธิญำณ ตรัสรู้เป็นพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำ ในเวลำเช้ำตรู่ของวันเพญ็ ข้ึน ๑๕ คำ่ เดอื น ๖ (วันวิสำขบชู ำ) ใตต้ น้ พระศรมี หำโพธ์ิ

พทุ ธประวตั ิ พทุ ธประวตั ิจำกพระพุทธรูปปำงตำ่ งๆ วนั ศุกร์ ปางราพงึ • พระพุทธรปู ในพระอิริยำบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองประสำนกัน ยกข้ึนทำบพระอุระ โดยพระหัตถ์ขวำทับพระหัตถ์ ซ้ำย • เมื่อพระพทุ ธองค์ทรงรำพงึ ถงึ ธรรมะทต่ี รสั รู้ว่ำมคี วำมลกึ ซง้ึ คมั ภีรภ์ ำพ ยำกทคี่ นทวั่ ไปจะเขำ้ ใจได้ ก็ทรงรสู้ กึ ออ่ น พระทัยในกำรออกไปโปรดสัตว์ แต่เมื่อท้ำวสหัมบดีพรหมมำทูลอัญเชิญ จึงทรงตัดสินพระทัยไปเทศนำสั่งสอน ประชำชน

พทุ ธประวัติ พุทธประวัตจิ ำกพระพุทธรูปปำงต่ำงๆ วนั เสาร์ ปางนาคปรก • พระพุทธรปู ประทบั ขัดสมำธิเหนือขนดพญำนำคทม่ี ำขดใหป้ ระทบั และแผพ่ ังพำนบงั ลมและฝนให้ • เป็นเหตุกำรณ์หลังจำกพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำตรัสรู้ ขณะประทับใต้ต้นมุจจลินท์ (ต้นจิก) มีฝนตกพร่ำๆ ๗ วัน เม่อื ฝนหยุดแล้ว พญำนำคไดจ้ ำแลงกำยเป็นมำนพหนุ่ม ยนื ประคองอัญชลอี ยูข่ ำ้ งๆ

ประวตั พิ ทุ ธสาวก พทุ ธสาวกิ า พระอญั ญาโกณฑญั ญะ ประวตั ิ • เดมิ ช่ือ โกณฑัญญะ เกดิ ในตระกูลพรำหมณแ์ ห่งบ้ำนโทณวตั ถุ กรุงกบลิ พัสด์ุ • เป็นพรำหมณ์ท่มี ำทำนำยพระลักษณะของเจ้ำชำยสิทธัตถะหลังประสูติได้ ๕ วัน โดยทำนำยว่ำ “เจ้าชายน้อยนี้ ตอ่ ไปจะเสด็จออกผนวชและได้เปน็ ศาสดาเอกของโลกแน่นอน” • ภำยหลังเม่อื พระพทุ ธเจำ้ ตรัสรูแ้ ลว้ โกณฑัญญะฟงั ธรรมจน (ดวงตำเห็นธรรม) และทูลขออุปสมบทเป็นพระสงฆ์ รปู แรกในพระพุทธศำสนำ คณุ ธรรมทคี่ วรถือเป็นแบบอยำ่ ง • เปน็ ผมู้ ปี ระสบกำรณม์ ำก มีควำมรอบรทู้ ง้ั ทำงโลกและทำงธรรม • เปน็ คนรกั สันโดษ ชอบชีวิตสงบ • ทำตนเป็นแบบอย่ำงท่ดี ีในด้ำนควำมประพฤติ • เป็นผเู้ ห็นกำรณไ์ กล

ประวตั พิ ุทธสาวก พุทธสาวิกา พระนางมหาปชาบดโี คตมีเถรี ประวตั ิ • พระนำงมหำปชำบดีโคตมี เปน็ พระน้ำนำงของพระพทุ ธเจ้ำ • เม่อื พระพทุ ธเจำ้ เสด็จเมอื งเวสำลี พระนำงประชำบดีโคตรมีและนำงสำกิยำนีจำนวนมำกได้ปลงพระเกศำ ห่มผ้ำ กำสำยะเพือ่ ทลู ขอบวช ทำให้พระพทุ ธเจำ้ ทรงวำงหลักปฎบิ ัติครธุ รรม ๘ ประการ สำหรบั สตรีผจู้ ะมำบวช • พระนำงประชำบดีโคตรมีทรงยินดีปฏิบัติตำมครุธรรม ๘ ประกำร จึงได้รับกำรอุปสมบท ออกผนวชเป็นภิกษุณี รูปแรกในพระพุทธศำสนำ คุณธรรมที่ควรถอื เป็นแบบอย่ำง • เปน็ ผมู้ คี วำมตง้ั ใจแนว่ แน่หรือแรงจงู ใจใฝส่ ัมฤทธ์ิ เมอ่ื ตง้ั ใจกระทำอะไรแลว้ จะไม่ละควำมพยำยำมงำ่ ยๆ • เปน็ ผู้มีควำมอดทนสูงย่งิ • เป็นผูม้ ีคำรวธรรมอย่ำงย่งิ มคี วำมเคำรพ นอ้ มรับฟังและปฏบิ ัติตำมอยำ่ งวำ่ งำ่ ย

ประวัตพิ ทุ ธสาวก พุทธสาวกิ า พระเขมาเถรี ประวตั ิ • พระนำงเขมำเป็นพระรำชธิดำของพระเจ้ำสำคละแห่งสำคลนคร ในมัททรัฐ ต่อมำเม่ือเจริญวัยได้เป็นมเหสีของ พระเจำ้ พมิ พสิ ำร • ระยะแรกมไิ ดฝ้ ักใฝใ่ นพระพทุ ธศำสนำ ทรงหลงใหลในพระรปู สมบตั ขิ องตนเอง จึงไม่ยอมเขำ้ เฝ้ำพระพทุ ธเจำ้ • พระเจ้ำพิมพิสำรทรงหำอุบำย โดยให้กวีแต่งชมควำมงำมของพระวิหำรเวฬุวัน จนในที่สุดพระนำงเขมำก็ได้รับ ฟงั ธรรมจำกพระพุทธเจำ้ จึงทูลขอบวชและบรรลอุ รหตั ผล คุณธรรมที่ควรถือเปน็ แบบอยำ่ ง • เป็นผู้มปี ญั ญำมำก จนกระทง่ั ได้รับกำรยกย่องจำกพระพุทธเจ้ำว่ำเป็นเลศิ กว่ำผูอ้ นื่ ได้รบั กำรแต่งต้ังเป็นพระอัคร สำวิกำเบื้องขวำฝำ่ ยภิกษณุ ี • เป็นผูม้ ีปฏภิ ำณ มีไหวพรบิ ท่ีดี เรำสำมำรถฝกึ ฝนได้เชน่ เดียวกัน

ประวตั พิ ุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า พระเจ้าปเสนทโิ กศล พระรำชประวตั ิ • พระเจำ้ ปเสนทโิ กศลเป็นพระรำชโอรสของพระเจำ้ โกศล ผคู้ รองเมอื งสำวตั ถี แควน้ โกศล • ก่อนนั้นนับถือนักบวชนอกพระพุทธศำสนำ ต่อมำนับถือพระพุทธศำสนำ เพรำะเห็นจริยวัตรอันงดงำมของ พระสงฆ์ • พระเจ้ำปเสนทิโกศลทรงมีควำมม่ันคงในพระรัตนตรัยและเคำรพต่อพระพุทธเจ้ำอย่ำงย่ิง ทุกคร้ังที่เข้ำเฝ้ำจะ อภิวำทหรอื กรำบอย่ำงนอบน้อม • ภำยหลงั ถูกกำรำยนอำมำตยก์ ่อกบฏ และตอ่ มำก็เสดจ็ สวรรคต คณุ ธรรมท่ีควรถอื เป็นแบบอยำ่ ง • ทรงมั่นคงในพระรัตนตรยั • ทรงรกั ษำควำมมนั่ คงของพระพทุ ธศำสนำอย่ำงดยี ิง่ • ทรงมีพระทยั กว้ำง ยอมรับควำมคดิ เห็นของคนอน่ื • ทรงยอมรับผดิ และพรอ้ มจะแกไ้ ข


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook