Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตร สถ 63

หลักสูตร สถ 63

Published by benboriboon, 2022-05-16 06:46:16

Description: หลักสูตร สถ 63

Search

Read the Text Version

149 คำอธิบายรายวชิ าสุขศึกษาและพลศกึ ษา รหสั วชิ า พ ๑๓๑๐๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 คำอธิบายรายวชิ า เวลา 40 ชั่วโมง ศกึ ษา สังเกต รวบรวมความรูแ้ ละขอ้ ปฏบิ ัตติ า่ ง ๆ อภิปราย ซกั ถาม บันทึก หาคำตอบ อธบิ าย แลกเปล่ยี น ข้อมลู และความคดิ เห็นเกยี่ วกับลักษณะและการเจริญเติบโตของรา่ งกาย เกณฑ์มาตรฐานของการเจรญิ เติบโตของ เดก็ ไทย ปจั จัยทม่ี ีผลตอ่ การเจรญิ เติบโต ป้องกนั โรค เลือกรับประทานอาหารเพอ่ื สุขภาพ และยาสามญั ประจำ บ้าน มีสุขนิสยั ที่ดีตาม สขุ บญั ญตั ิแหง่ ชาติ รู้จกั ตนเองและธรรมชาตขิ องตนเอง ระมดั ระวังการเจ็บปว่ ย การ บาดเจ็บ โรคติดต่อในทอ้ งถ่นิ อบุ ตั เิ หตุ การใช้ยาผดิ สารพษิ สารเสพติด การลว่ งละเมดิ ทางเพศ กำหนดแนวปฏบิ ตั ิ ของตนในการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มลู บนั ทกึ จัดกลุ่มขอ้ มูล เพื่อให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ มที ักษะการดำเนินชวี ติ รจู้ ักดำรงตนอยโู่ ดยใชห้ ลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง เปน็ ผมู้ ี สขุ บญั ญัติทด่ี ี มีจิตสำนึกในการดแู ล และรบั ผิดชอบต่อสขุ ภาพ และความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว และ ส่วนรวม เปน็ แบบอย่างที่ดีดา้ นสขุ ภาพ จดั การกับความขัดแย้ง ความเครียด และปญั หาทางอารมณ์ มกี ารแสวงหา เลือก และใชข้ อ้ มลู ขา่ วสารด้านสขุ ภาพ นำความรไู้ ปใช้ในชวี ติ ประจำวนั มีคณุ ธรรมจริยธรรม คา่ นิยมหลักของคน ไทย ๑๒ ประการ ตามนโยบายของ คสช. พึ่งตนเองและมวี ิสัยทศั น์ในการดูแลสขุ ภาพและการดำเนนิ ชีวติ เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ีดา้ นสุขภาพในทอ้ งถน่ิ ภมู ใิ จในการสง่ เสรมิ สขุ ภาพดา้ นภูมปิ ญั ญาไทย ใชห้ ลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ ฝกึ ควบคมุ เข้ารว่ มกจิ กรรม บอกวธิ ี การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย ขณะอยู่กบั ที่ เคล่ือนที่ ระเบยี บแถว กจิ กรรมประกอบจงั หวะและเพลง เกมเบ็ดเตลด็ เกมนำไปสูก่ ีฬา ยดื หย่นุ ขนั้ พน้ื ฐาน กีฬา กิจกรรมนันทนาการ กายบรหิ าร การละเล่นของเด็กไทย เกมแบบผลัด ออกกำลงั กาย สร้างเสรมิ สมรรถภาพทาง กายและทางจติ ทดสอบสมรรถภาพเพื่อสขุ ภาพ โดยใชห้ ลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง โดยการฝึกปฏบิ ัติ เพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ ความหมาย ความสำคัญและเห็นคุณค่า ศกึ ษาหาความรู้ องค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายเพอ่ื สขุ ภาพ มที กั ษะการเคลือ่ นไหวรา่ งกายขั้นพนื้ ฐาน เหน็ คุณคา่ ของตนเอง และผูอ้ ื่น ร่วมกจิ กรรมทางกายอยา่ งสมำ่ เสมอ มีสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ รกั การออกกำลังกาย และการเลน่ กฬี าตามกฎ กตกิ า อย่างมีระเบยี บ วนิ ยั มนี ำ้ ใจนักกีฬา เป็นผู้นำและผูต้ ามทดี่ ี มคี วามมัน่ ใจ เคารพสิทธิของตนเอง และผู้อื่น รบั ผิดชอบหนา้ ทท่ี ไี่ ด้รับมอบหมาย สนกุ สนาน เพลดิ เพลิน ชน่ื ชมผลงานของผอู้ ่ืน ใหค้ วามร่วมมือ เสียสละและคำนึงถงึ ส่วนรวม และแกไ้ ขข้อบกพร่องของตนเองไดต้ ามคำแนะนำ รหัสตัวช้ีวดั พ 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 พ 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 พ 3.1 ป.3/1, ป.3/2 พ 3.2 ป.3/1, ป.3/2 พ 4.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5 พ 5.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 รวมทั้งหมด 18 ตวั ช้วี ัด

150 คำอธบิ ายรายวิชาสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา รหสั วิชา พ 141๐๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 คำอธิบายรายวชิ า เวลา 8๐ ชว่ั โมง ศึกษา สังเกต รวบรวมความรูแ้ ละข้อปฏิบตั ิตา่ ง ๆ อภิปราย ซกั ถาม บนั ทึก หาคำตอบ อธบิ าย แลกเปลยี่ นขอ้ มูล คดิ วิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั การเจริญเตบิ โต การปอ้ งกันดูแลรักษา พัฒนาการ ดา้ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายชว่ งอายุ ๙ - ๑๒ ปี ความสำคญั ของกล้ามเนอื้ กระดกู ระบบยอ่ ยอาหาร ระบบขับถ่าย ปัจจัยตา่ ง ๆ ทีม่ ผี ลต่อการเจริญเตบิ โต เลือกบริโภคอาหาร ผลิตภณั ฑ์สุขภาพที่เหมาะสมกับวัยและกลมุ่ บุคคลต่าง ๆ สุขอนามยั ทางเพศ ระมัดระวงั อบุ ตั เิ หตุ การใชย้ า การปฐมพยาบาลเมือ่ ไดร้ บั บาดเจบ็ จากการเลน่ การใชย้ าผดิ สารเคมี ผลเสยี ของการสูบบุหรี่ การด่มื สุรา และการปอ้ งกัน เลอื กออกกำลงั กาย พกั ผ่อน ใช้เวลาวา่ งให้เกิด ประโยชน์ กำหนดแนวปฏิบตั ขิ องตนในการสร้างเสริมสขุ ภาพ โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมลู บันทกึ จัดกล่มุ ข้อมูล เพอ่ื ให้มคี วามรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการดำเนินชวี ติ รู้จักดำรงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เปน็ ผมู้ ีสขุ บญั ญตั ิท่ดี ี มีจิตสำนกึ ในการดูแล และรับผดิ ชอบตอ่ สุขภาพ และความปลอดภยั ของตนเอง ครอบครวั และสว่ นรวม เปน็ แบบอยา่ งท่ีดดี า้ นสขุ ภาพ จดั การกบั ความขดั แย้ง ความเครียด และปญั หาทางอารมณ์ มีการ แสวงหา เลอื ก และใช้ข้อมูลข่าวสารดา้ นสุขภาพ นำความรูไ้ ปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน มีคุณธรรมจรยิ ธรรม และ ค่านยิ มหลักของคนไทย ๑๒ ประการตามนโยบายของ คสช. ใช้หลักการและรปู แบบทางวิทยาศาสตร์ การเคลอ่ื นไหว บอกวิธีฝกึ ควบคมุ เขา้ ร่วมกิจกรรม การเคลอ่ื นไหวร่างกาย ขณะอย่กู ับที่ เคลอื่ นท่ี ระเบียบแถว กิจกรรมประกอบจงั หวะและเพลง เกมนำไปสกู่ ฬี า ยืดหยุ่นขนั้ พืน้ ฐาน กฬี าไทย กฬี าสากล กิจกรรมนนั ทนาการ กายบรหิ าร การละเลน่ ของเดก็ ไทย เกมแบบผลดั ออกกำลงั กาย สร้างเสรมิ สมรรถภาพทางกายและทางจิต ทดสอบสมรรถภาพเพอื่ สขุ ภาพ ตามหลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยการฝกึ ปฏิบัติ เพอื่ ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจ ความหมาย ความสำคัญและเหน็ คุณคา่ ศึกษาหา ความรู้ องค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ มีทกั ษะการเคลอื่ นไหวร่างกายขั้นพืน้ ฐาน เหน็ คณุ คา่ ของ ตนเองและผ้อู ื่น รว่ มกจิ กรรมทางกายอยา่ งสม่ำเสมอ มีสมรรถภาพทางกายเพอื่ สุขภาพ รกั การออกกำลงั กาย และ การเลน่ กีฬาตามกฎ กติกา อยา่ งมรี ะเบยี บ วนิ ยั มีนำ้ ใจนักกฬี า เป็นผู้นำและผตู้ ามทดี่ ี มคี วามม่ันใจ เคารพสทิ ธิ ของตนเองและผอู้ ืน่ รับผิดชอบหนา้ ที่ทไี่ ด้รบั มอบหมาย สนุกสนาน เพลดิ เพลนิ ชน่ื ชมผลงานของผอู้ ่ืน ใหค้ วาม ร่วมมอื เสียสละและคำนงึ ถงึ ส่วนรวม และแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งของตนเองได้ตามคำแนะนำ รหัสตวั ชี้วดั พ 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 พ 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 พ 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 พ 3.2 ป.4/1, ป.4/2 พ 4.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 พ 5.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 รวมทั้งหมด 19 ตวั ช้วี ัด

151 คำอธบิ ายรายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา รหัสวิชา พ 151๐๑ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 คำอธิบายรายวิชา เวลา 8๐ ช่วั โมง ศึกษา สังเกต รวบรวมข้อมูล ข้อปฏิบัติต่าง ๆ อภิปราย ซักถาม บันทึก หาคำตอบ อธิบาย แลกเปล่ียนข้อมูล คิดวิเคราะห์เก่ียวกับตน และผลกระทบที่มีต่อสุขภาพ คิดอย่างมีวิจารณญาณและ สร้างสรรค์เกี่ยวกับสุขภาพบนพ้ืนฐานความเป็นจริงเกี่ยวกับระบบต่าง ๆในร่างกายที่มีผลต่อการเจริญเติบโต วิธีป้องกันดูแลรักษาอวัยวะในระบบต่าง ๆ เลือกบริโภคอาหาร ผลิตภัณฑ์สุขภาพท่ีเหมาะสมกับวัยและกลุ่ม บุคคลต่าง ๆ สุขอนามัยทางเพศโรคท่ีพบบ่อยในชีวิตประจำวันและการป้องกันภัยธรรมชาติ ระมัดระวัง อุบัติเหตุ การใช้ยาผิด สารพิษ สารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และหลีกเลี่ยงปัญหาการตั้งครรภ์ เลอื กออกกำลังกาย พกั ผอ่ น ใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ กำหนดแนวปฏิบตั ิของตนในการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการดำเนินชีวิต รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็น ผู้มีสุขบัญญัติที่ดี มีจิตสำนึกในการดูแล และรับผิดชอบต่อสุขภาพ และความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว และส่วนรวม เป็นแบบอย่างท่ีดีด้านสุขภาพ จัดการกับความขัดแย้ง ความเครียด และปัญหาทางอารมณ์ มีการ แสวงหา และปฏิบัตติ ามคา่ นยิ มหลกั ของคนไทย ๑๒ ประการตามนโยบายของ คสช. ใช้หลักการและรูปแบบทางวิทยาศาสตร์การเคล่ือนไหว บอกวิธี ฝึก ควบคุม เข้าร่วมกิจกรรม เคลื่อนไหวร่างกาย ขณะอยู่กับท่ีเคล่ือนท่ีระเบียบแถว กิจกรรมเข้าจังหวะ ยืดหยุ่นขั้นพ้ืนฐาน กีฬาไทย กีฬา สากล กีฬายอดนิยม กิจกรรมนันทนาการ กายบริหาร การละเล่นของเด็กไทย เกมแบบผลัด ออกกำลังกาย สรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายและทางจิต ทดสอบสมรรถภาพเพอ่ื สุขภาพ ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยการฝึกปฏิบัติ เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ ความหมาย ความสำคัญและเห็นคุณค่า ศึกษาหาความรู้ องค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ มีทักษะการเคล่ือนไหวร่างกายข้ันพื้นฐาน เห็นคุณค่าของ ตนเองและผู้อื่น ร่วมกิจกรรมทางกายอย่างสม่ำเสมอ มีสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ รักการออกกำลังกาย และการเล่นกีฬาตามกฎ กติกา อย่างมีระเบียบ วินัย มีน้ำใจนักกีฬา เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี มีความมั่นใจ เคารพสิทธิของตนเองและผู้อ่ืน รับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย สนุกสนาน เพลิดเพลิน ชื่นชมผลงานของ ผู้อื่น ให้ความร่วมมือ เสียสละและคำนึงถึงส่วนรวม และแก้ไขข้อบกพร่องของตนเองได้ตามคำแนะนำรหัส ตวั ชี้วัด พ 1.1 ป.5/1, ป.5/2 พ 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3 พ 3.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6 พ 3.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 พ 4.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5 พ 5.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5 รวมทง้ั หมด 25 ตัวชว้ี ัด

152 คำอธิบายรายวชิ าสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา รหสั วิชา พ 161๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 คำอธบิ ายรายวชิ า เวลา 8๐ ชวั่ โมง ศึกษา สังเกต รวบรวมขอ้ มลู ขอ้ ปฏบิ ัตติ ่าง ๆ อภิปราย ซกั ถาม บันทึก หาคำตอบ อธิบาย แลกเปล่ียนข้อมลู คิดวิเคราะห์เกยี่ วกบั ตน และผลกระทบท่มี ีต่อสุขภาพ คิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ เก่ยี วกบั สุขภาพบนพน้ื ฐานความเปน็ จรงิ เกี่ยวกับระบบต่าง ๆในร่างกายท่มี ีผลต่อการเจริญเติบโต วธิ ีปอ้ งกนั ดูแล รักษาอวัยวะในระบบตา่ ง ๆ เลือกบริโภคอาหาร ผลติ ภณั ฑ์สุขภาพทีเ่ หมาะสมกบั วยั และกลมุ่ บุคคลต่าง ๆ สขุ อนามัยทางเพศโรคทีพ่ บบ่อยในชวี ิตประจำวันและการปอ้ งกนั ภัยธรรมชาติ ระมัดระวงั อุบัตเิ หตุ การใชย้ าผดิ สารพิษ สารเสพตดิ มีเพศสมั พนั ธก์ อ่ นวัยอันควร และหลกี เล่ียงปัญหาการตัง้ ครรภ์ เลือกออกกำลงั กาย พกั ผอ่ น ใช้ เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ กำหนดแนวปฏิบัตขิ องตนในการสร้างเสรมิ สุขภาพ โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื ค้นขอ้ มูล บันทึก จัดกลมุ่ ข้อมูล เพอื่ ใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ มที ักษะการดำเนนิ ชวี ติ รจู้ ักดำรงตนอยูโ่ ดยใช้หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เป็นผูม้ ีสุขบญั ญัตทิ ่ีดี มีจิตสำนกึ ในการดูแล และรับผดิ ชอบต่อสขุ ภาพ และความปลอดภยั ของตนเอง ครอบครัว และสว่ นรวม เป็นแบบอยา่ งท่ดี ดี ้านสขุ ภาพ จดั การกบั ความขัดแย้ง ความเครยี ด และปญั หาทางอารมณ์ มีการ แสวงหา และปฏิบตั ิตามค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการตามนโยบายของ คสช. ใช้หลกั การและรปู แบบทางวทิ ยาศาสตรก์ ารเคลอ่ื นไหว บอกวธิ ี ฝึก ควบคมุ เขา้ รว่ มกิจกรรม เคลอื่ นไหวร่างกาย ขณะอยกู่ ับทเ่ี คลื่อนท่ีระเบยี บแถว กจิ กรรมเขา้ จังหวะ ยืดหย่นุ ขั้นพน้ื ฐาน กีฬาไทย กฬี าสากล กีฬายอดนยิ ม กจิ กรรมนันทนาการ กายบรหิ าร การละเล่นของเดก็ ไทย เกมแบบผลัด ออกกำลังกาย สรา้ งเสริม สมรรถภาพทางกายและทางจติ ทดสอบสมรรถภาพเพอื่ สขุ ภาพ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยการฝกึ ปฏิบตั ิ เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจ ความหมาย ความสำคญั และเหน็ คณุ ค่า ศึกษาหา ความรู้ องค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายเพอื่ สขุ ภาพ มีทกั ษะการเคลือ่ นไหวรา่ งกายขั้นพ้นื ฐาน เห็นคณุ คา่ ของ ตนเองและผู้อ่ืน รว่ มกิจกรรมทางกายอย่างสมำ่ เสมอ มสี มรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ รกั การออกกำลงั กาย และ การเลน่ กีฬาตามกฎ กติกา อย่างมรี ะเบยี บ วนิ ยั มีน้ำใจนักกฬี า เปน็ ผ้นู ำและผูต้ ามท่ดี ี มคี วามม่ันใจ เคารพสิทธิ ของตนเองและผอู้ ่นื รับผดิ ชอบหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รบั มอบหมาย สนกุ สนาน เพลดิ เพลิน ช่ืนชมผลงานของผู้อืน่ ใหค้ วาม ร่วมมอื เสยี สละและคำนงึ ถงึ สว่ นรวม และแก้ไขขอ้ บกพร่องของตนเองได้ตามคำแนะนำ รหสั ตัวชี้วัด พ 1.1 ป.6/1, ป.6/2 พ 2.1 ป.6/1, ป.6/2 พ 3.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5 พ 3.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6 พ 4.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4 พ 5.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 รวมทั้งหมด 22 ตัวชีว้ ัด

153 คำอธบิ ายรายวชิ าสุขศกึ ษาและพลศึกษา รหัสวชิ า พ 211๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 คำอธิบายรายวชิ า เวลา 2๐ ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายเกี่ยวกับความสำคัญของระบบประสาทและระบบต่อมไร้ท่อท่ีมีผลต่อ สุขภาพ การเจริญเติบโต และพัฒนาการของวัยรุ่น วิธีการดูแลรักษาระบบประสาทและต่อมไร้ท่อให้ทำงาน ตามปกติ ภาวะการเจริญเติบโตทางร่างกายของตนเองกับเกณฑ์มาตรฐาน วิธีปรับตัวต่อการเปล่ียนแปลงทาง ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และพัฒนาการทางเพศอย่างเหมาะสม แสดงทักษะการปฏิเสธเพ่ือป้องกันตนเอง จากการถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ โดยใช้กระบวนการการเรียนรู้แบบร่วมมือ สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สำนึกในคุณค่าและศักยภาพของตนเอง เพื่อให้สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนำประสบการณ์ไป ปรบั ใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สุดในการดำเนนิ ชีวติ รหัสตวั ชี้วัด พ 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 พ 2.1 ม.1/1 ม.1/2 รวมท้งั หมด 6 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชาสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 2 รหสั วิชา พ 211๐3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา คำอธบิ ายรายวชิ า เวลา 2๐ ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ เลือกกินอาหารที่เหมาะสมกับวัย วิเคราะห์ปัญหาท่ีเกิดจากภาวะโภชนาการท่ีมีผลกระทบต่อสุขภาพ ควบคุมน้ำหนักของตนเองให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน สร้างเสริมและปรับปรุงสมรรถภาพทางกายตามผลการ

154 ทดสอบ ทำการปฐมพยาบาลและเคล่ือนย้ายผู้ป่วยอย่างปลอดภัย และบอกความสัมพันธ์ของการใช้สารเสพ ตดิ กับการเกดิ โรคและอุบตั ิเหตุ และวธิ ีการชักชวนผ้อู นื่ ให้ลด ละ เลิกสารเสพตดิ โดยใช้ทักษะต่างๆ โดยใช้กระบวนการการเรียนรู้แบบร่วมมือ สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สำนึกในคุณค่าและศักยภาพของตนเอง เพื่อให้สามารถสอื่ สารส่ิงท่ีเรียนรู้และนำประสบการณ์ไป ปรับใช้ให้เกดิ ประโยชนส์ งู สุดในการดำเนินชีวติ รหสั ตวั ชว้ี ดั พ 4.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 พ 5.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 รวมทง้ั หมด 8 ตวั ชว้ี ดั คำอธบิ ายรายวชิ าสขุ ศึกษาและพลศึกษา รหสั วิชา พ 221๐1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 คำอธบิ ายรายวชิ า เวลา 2๐ ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายเกี่ยวกับการเจริญเติบโต และพัฒนาการของวัยรุ่น ปัจจัยที่มีอิทธิพล ต่อเจตคติในเรื่อง เพศ ปัญหาและผลกระทบท่ีเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ การวางตัวที่เหมาะสม และเห็น

155 ความสำคัญของความเสมอภาคทางเพศ แสดงทักษะการปฏิเสธ เพื่อป้องกันตนเองจากการถูกล่วงละเมิด ทางเพศ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่ม กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการ วิเคราะห์ และอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สำนึกในคุณค่าและศักยภาพของตนเอง เพื่อให้สามารถ สอ่ื สารส่ิงที่เรียนรู้ และนำประสบการณไ์ ปปรับใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ ในการดำเนนิ ชีวติ รหัสตัวช้วี ดั พ 1.1 ม.2/1 ม.2/2 พ 2.1 ม.2/1ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 รวมทงั้ หมด 6 ตัวช้ีวัด คำอธบิ ายรายวชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 รหสั วชิ า พ 221๐3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา คำอธบิ ายรายวิชา เวลา 2๐ ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของภาวะสมดุลระหว่างสุขภาพกายและสุขภาพจิต ปฏิบัติตนเพื่อจัดการ กับอารมณ์ และความเครียดได้อย่างเหมาะสม เลือกใช้บริการทางสุขภาพได้อย่างมีเหตุผล และสามารถ

156 เลือกใช้เทคโนโลยีทางสุขภาพมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ปฏิบัติตน เพ่ือสร้างเสริมและปรับปรุงสมรรถภาพ ทางกายตามผลการทดสอบ และสามารถให้คำแนะนำ ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ติดสารเสพติด และเรียนรู้ทักษะ การป้องกันตนเองจากพฤติกรรมเสี่ยงและสถานการณ์เสี่ยงท่ีเกิดขึ้นรอบตัว เพ่ือนำไปสู่การมีชีวิตที่ปกติสุข ใน สังคม โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่ม กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการ วิเคราะห์ และอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สำนึกในคุณค่าและศักยภาพของตนเอง เพื่อให้สามารถ สื่อสารส่งิ ท่ีเรยี นรู้ และนำประสบการณไ์ ปปรับใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ ในการดำเนินชีวติ รหัสตัวชี้วัด พ 4.1 ม.2/1ม.2/2ม.2/3ม.2/4ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 พ 5.1 ม.2/1ม.2/2ม.2/3 รวมท้ังหมด 10 ตัวช้วี ดั คำอธิบายรายวิชาสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รหัสวิชา พ 231๐1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 คำอธบิ ายรายวชิ า เวลา 2๐ ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

157 ศึกษา เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญาในแต่ละช่วง วัย วิเคราะห์อิทธิพลและความคาดหวังของสังคม สื่อโฆษณาที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการ ของวัยรุ่น อนามัยแม่และเด็ก การวางแผนครอบครัว และวิธีการปฏิบัติตนท่ีเหมาะสม ปัจจัยท่ีมีผลกระทบต่อ การตั้งครรภ์ สาเหตุ และแนวทางปอ้ งกันและการแกไ้ ขปัญหาความขัดแยง้ ในครอบครวั โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่ม กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการวิเคราะห์ และอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สำนึกในคุณค่าและศักยภาพของตนเอง เพ่ือให้สามารถส่อื สารสิง่ ทเ่ี รียนรู้ และนำประสบการณ์ไปปรบั ใชใ้ ห้เกิดประโยชน์สงู สุดในการดำเนินชวี ิต รหัสตวั ชีว้ ัด พ 1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 พ 2.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 รวมทั้งหมด 6 ตัวชวี้ ัด คำอธิบายรายวิชาสขุ ศึกษาและพลศึกษา ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 รหสั วชิ า พ 231๐3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 2 คำอธบิ ายรายวิชา เวลา 2๐ ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

158 กำหนดรายการอาหารที่เหมาะสมกับวัยต่างๆ โดยคำนึงถึงความประหยัดและคุณค่าทางโภชนาการ ป้องกันตนเองจากโรคท่ีเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของคนไทย ทั้งโรคติดต่อ และโรคไม่ ติดต่อ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชน โดยการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลด้านสุขภาพที่ แตกต่างของแต่ละชุมชน ปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพได้อย่างถูกวิธี จัดการเวลาในการออกกำลังกาย การ พักผ่อน และการสร้างเสริมสมรรถภาพตามผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายของแต่ละบุคคลอย่างเหมาะสม โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่ม กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการวิเคราะห์ และอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สำนึกในคุณค่าและศักยภาพของตนเอง เพื่อให้สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ และนำประสบการณไ์ ปปรับใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุดในการดำเนนิ ชวี ติ รหัสตวั ชว้ี ัด พ 4.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 พ 5.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 รวมท้งั หมด 10 ตวั ช้วี ัด คำอธบิ ายรายวิชาสุขศกึ ษาและพลศึกษา รหสั วชิ า พ 21102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 คำอธบิ ายรายวิชา เวลา 2๐ ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ

159 ศึกษาความรู้และวิเคราะห์การออกกำลังกายเพ่ือสุขภาพ กิจกรรมนันทนาการ และสมรรถภาพทาง กายซึง่ เป็นกจิ กรรมทเ่ี หมาะสมกับวัยและสง่ เสริมพฒั นาการของผู้เรยี น โดยใช้กระบวนการอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น และลงมือฝึกปฏิบัติทักษะท้ังแบบเดี่ยวและแบบ กลุ่ม มีการบันทึกผลการปฏิบัติ เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์และออกแบบหรือสร้างทางเลือกเพ่ือนำไปพัฒนาการ ปฏบิ ัตใิ หด้ ีขึน้ กวา่ เดิม เกดิ เป็นความรู้ตดิ ตัวผเู้ รียนเพ่อื นำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน เห็นคุณค่าและความสำคัญของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจนเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต การทำ กิจกรรมนันทนาการในยามว่างท่ีช่วยพัฒนาความรู้ในทุกด้าน รวมทั้งการทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อหา จุดบกพร่องและสร้างเสริมให้สมบูรณ์ ซึ่งส่ิงเหล่านี้จะเกิดเป็นค่านิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ติดตัว ผูเ้ รยี น ในการนำไปเป็นแนวทางสรา้ งเสรมิ สุขภาพของตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน และสงั คม รหัสตัวช้วี ดั พ 3.1 ม.1/3 พ 3.2 ม.1/1, ม.1/2 พ 4.1 ม.1/4 รวมทั้งหมด 4 ตัวช้ีวดั คำอธบิ ายรายวิชาสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 รหัสวชิ า พ 21104 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ภาคเรียนที่ 2 คำอธบิ ายรายวชิ า เวลา 2๐ ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ

160 ศึกษาความรู้และวิเคราะห์การออกกำลังกายเพ่ือสุขภาพ กิจกรรมนันทนาการ และสมรรถภาพทาง กายซงึ่ เป็นกจิ กรรมท่เี หมาะสมกับวัยและส่งเสรมิ พฒั นาการของผูเ้ รียน โดยใช้กระบวนการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และลงมือฝึกปฏิบัติทักษะทั้งแบบเดี่ยวและแบบ กลุ่ม มีการบันทึกผลการปฏิบัติ เพ่ือนำข้อมูลไปวิเคราะห์และออกแบบหรือสร้างทางเลือกเพ่ือนำไปพัฒนาการ ปฏิบตั ใิ หด้ ีข้นึ กว่าเดมิ เกิดเปน็ ความรตู้ ดิ ตวั ผ้เู รียนเพ่อื นำไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั เห็นคุณค่าและความสำคัญของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจนเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต การทำ กิจกรรมนันทนาการในยามว่างที่ช่วยพัฒนาความรู้ในทุกด้าน รวมท้ังการทดสอบสมรรถภาพทางกายเพ่ือหา จุดบกพร่องและสร้างเสริมให้สมบูรณ์ ซึ่งสิ่งเหล่าน้ีจะเกิดเป็นค่านิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ติดตัว ผเู้ รยี น ในการนำไปเป็นแนวทางสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม รหัสตัวชี้วัด พ 3.1 ม.1/3 พ 3.2 ม.1/1, ม.1/2 พ 4.1 ม.1/4 รวมทงั้ หมด 4 ตวั ชวี้ ดั คำอธบิ ายรายวชิ าสุขศกึ ษาและพลศึกษา รหสั วิชา พ 22102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 คำอธบิ ายรายวชิ า เวลา 2๐ ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ

161 ศกึ ษาการสร้างเสริมให้มสี ุขภาพดดี ้วยการออกกำลังกายและเลน่ กฬี า และหลักในการเล่นกฬี า โดยใชก้ ระบวนการอภิปรายแลกเปลย่ี นความคดิ เห็น ลงมือฝึกปฏบิ ตั ทิ ้ังแบบกลุม่ และแบบเดยี่ ว มีการบนั ทกึ จากการปฏิบัติ เพ่อื นำขอ้ มลู ไปวเิ คราะห์และออกแบบหรอื สร้างทางเลอื กเพ่ือนำไปพัฒนา การปฏิบัตใิ ห้ดีขึ้นกวา่ เดิม เหน็ คณุ ค่าและความสำคัญของการเคลอ่ื นไหวท่มี ีผลต่อการทำกจิ กรรมประจำวัน การออกกำลังกาย และเลน่ กฬี าท่ีมผี ลต่อสุขภาพรา่ งกายและจิตใจ จนเกดิ คา่ นิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตดิ ตวั ผ้เู รยี น เพื่อเปน็ แนวทางในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพของบุคคลในครอบครัว ชุมชน และสังคม รหสั ตวั ช้วี ัด พ 3.1 ม.2/1, ม.2/3 พ 3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5 รวมท้งั หมด 7 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวชิ าสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 รหัสวชิ า พ 22104 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 2 คำอธิบายรายวชิ า เวลา 2๐ ช่วั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

162 ศึกษาการเลน่ กีฬาไทยและกฬี าสากล นันทนาการกับชีวติ ประจำวนั และการพฒั นาสมรรถภาพทาง กาย โดยใช้กระบวนการอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น และลงมือฝึกปฏิบัติท้ังแบบเด่ียวและแบบกลุ่ม มี การบันทึกผลการปฏิบัติ เพ่ือนำข้อมูลไปวิเคราะห์และออกแบบหรือสร้างทางเลือกเพื่อนำไปพัฒนาการปฏิบัติให้ ดีขึ้นกวา่ เดมิ เกิดเปน็ ความรตู้ ิดตามผู้เรยี นไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำวัน เห็นคุณคา่ และความสำคญั ของการเลน่ กฬี า หรอื การทำกจิ กรรมนนั ทนาการในยามวา่ งท่มี ผี ลตอ่ สขุ ภาพร่างกายและจิตใจ เกิดเปน็ คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ิดตัวผเู้ รียน ในการนำไปเปน็ แนวทางสร้างเสรมิ สุขภาพของตนเอง ครอบครวั ชุมชน และสังคม รหสั ตวั ชี้วดั พ 3.1 ม.2/2, ม.2/4 พ 3.2 ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 พ 4.1 ม.2/7 รวมทงั้ หมด 6 ตวั ชว้ี ัด คำอธิบายรายวชิ าสขุ ศึกษาและพลศึกษา รหัสวิชา พ 23102 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 คำอธิบายรายวิชา เวลา 2๐ ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ

163 ศึกษาการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างสุขภาพ และการจัดกิจกรรมนันทนาการโดยการใช้กระบวนการ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ฝึกปฏิบัติทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยว มีการบันทึกจากการปฏิบัติ เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ และออกแบบหรือสร้างทางเลือกเพ่ือนำไปพัฒนาการปฏิบัติให้ดีข้ึนกว่าเดิม เห็นคุณค่าและความสำคัญของการเคลื่อนไหวที่มีผลต่อการทำกิจกรรมประจำวัน การออกกำลัง กายและเล่นกีฬาที่มีผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ จนเกิดค่านิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ติดตัว ผู้เรียน เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างเสริมสุขภาพของบุคคลในครอบครัว ชุมชน และสังคม รหัสตัวช้ีวดั พ 3.1 ม.3/2, ม.3/3 พ 3.2 ม.3/2 รวมท้ังหมด 3 ตวั ชี้วัด คำอธิบายรายวิชาสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 รหัสวิชา พ 23104 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 2 คำอธบิ ายรายวิชา เวลา 2๐ ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

164 ศึกษาการเล่นกีฬา และการทดสอบสมรรถภาพทางกาย โดยใช้กระบวนการอภิปรายแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น ฝึกปฏิบัติทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม มีการบันทึกผลการปฏิบัติ เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ และออกแบบหรือสร้างทางเลือกเพื่อนำไปพัฒนาการปฏิบัติให้ดีขึ้นกว่าเดิม เกิดเป็นความรู้ติดตามผู้เรียน ไปใช้ในชีวิตประจำวัน เห็นคุณค่าและความสำคัญของการเล่นกีฬา หรือการทำกิจกรรมนันทนาการในยามว่างที่มีผลต่อ สุขภาพร่างกายและจิตใจ เกิดเป็นค่านิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ติดตัวผู้เรียนในการนำไปเป็น แนวทางสร้างเสริมสุขภาพของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม รหสั ตวั ชว้ี ัด พ 3.1 ม.3/1, ม.3/2 พ 3.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5 พ 4.1 ม.3/5 รวมท้ังหมด 8 ตวั ช้ีวดั

165 กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา วิชาเพิม่ เติม ความเป็นเลศิ ด้านกฬี า (กีฬาฟตุ บอล) พ10201 ความเปน็ เลิศด้านกฬี า 1 พ10202 ความเปน็ เลิศดา้ นกีฬา 2 พ10203 ความเป็นเลศิ ด้านกฬี า 3 พ10204 ความเป็นเลศิ ดา้ นกีฬา 4 พ10205 ความเปน็ เลศิ ดา้ นกีฬา 5 พ10206 ความเป็นเลิศดา้ นกีฬา 6 พ 20201 ความเปน็ เลศิ ด้านกฬี าวอลเลยบ์ อล 1 พ 20202 ความเป็นเลิศด้านกฬี าวอลเลยบ์ อล 2

166 คำอธิบายรายวิชา กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวิชา ความเปน็ เลศิ ดา้ นกฬี า พ10201 เวลาเรียน 40 ชว่ั โมง จำนวน 1 หน่วยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. ศกึ ษาและวเิ คราะห์ความเปน็ มา องคก์ ร และการพัฒนากีฬาฟตุ บอลในและตา่ งประเทศ ความสำคัญ ของกฬี าฟุตบอล ความปลอดภัยและมารยาท การเปน็ ผ้เู ลน่ และผู้ดกู ีฬาฟตุ บอล การดูแลร่างกายและจิตใจใน การเลน่ กีฬาฟตุ บอล ศึกษาและวิเคราะหโ์ ครงสร้างและหนา้ ท่ขี องรา่ งกาย การเคลือ่ นไหวและการเคลื่อนทพ่ี นื้ ฐานของ ร่างกาย การเคลอื่ นทีใ่ นกีฬาฟตุ บอล และกลศาสตรเ์ บื้องตน้ ในกีฬาฟตุ บอล โดยใชก้ ระบวนการเลน่ และดูกฬี าฟตุ บอลใหไ้ ดอ้ ยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภยั ใช้ กระบวนการ เลน่ และฝึกการเคลือ่ นไหวและการเคล่ือนทพี่ ้นื ฐานและเฉพาะในกฬี าฟุตบอล เหน็ คณุ ค่าของการเลน่ กีฬาฟตุ บอล การออกกำลงั กาย การเป็นผเู้ ล่น และผ้ดู ูกฬี า มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมีเจตคตทิ ี่ดีตอ่ การนำไปประยกุ ต์ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวันและ การเป็นนักกีฬาฟตุ บอล ผลการเรียนรู้ 1. บอกความสำคญั ของโครงสร้างและหนา้ ทีข่ องรา่ งกายในนกั ฟตุ บอลได้ 2. เคลอื่ นไหวและเคลือ่ นทพี่ ้ืนฐานของร่างกายและในกีฬาฟตุ บอลได้ถกู ต้อง 3. อธบิ ายกลศาสตรท์ เี่ กยี่ วขอ้ งกบั การเล่นฟุตบอลให้อย่างปลอดภัยและมีประสทิ ธิภาพ 4. มคี วามสนกุ กับท่าทางการเคล่ือนไหวหรอื การเคลอื่ นที่ 5. บรรยายถงึ ประวัตคิ วามเป็นมา องค์กร และพฒั นาการของกฬี าฟุตบอลได้ 6. ระบุความสำคัญของกฬี าฟุตบอลได้ 7. มมี ารยาทในการเลน่ ฟตุ บอลและเล่นฟุตบอลไดอ้ ย่างปลอดภยั 8. ดฟู ตุ บอลได้ถกู ตอ้ งและเหมาะสม 9. มคี วามสุขในการเลน่ กฬี าฟตุ บอล รวม 9 ผลการเรยี นรู้

167 คำอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวชิ า ความเป็นเลศิ ด้านกีฬา พ10202 เวลาเรยี น 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. ศึกษาและวิเคราะหก์ ารอบอ่นุ ร่างกาย การยืดเหยียดกล้ามเนอ้ื รปู แบบการเตรยี มร่างกายก่อนเล่น ฟุตบอล พลงั งานและการรับประทานอาหารในนกั ฟตุ บอล การป้องกนั การบาดเจ็บในนักฟุตบอล สนาม ฟตุ บอล ประตแู ละลูกฟตุ บอล เส้ือผ้าและรองเท้าฟตุ บอล ศกึ ษาและวิเคราะห์สมรรถภาพทางกายและเทคนิค และสมรรถภาพทางกายเฉพาะกฬี าฟุตบอล โดยใชก้ ระบวนการเล่นและฝกึ การอบอนุ่ รา่ งกาย การยืดเหยียดกล้ามเน้ือ รูปแบบการเตรยี มรา่ งกาย ก่อนเลน่ ฟุตบอล การฝกึ วิธปี ้องกนั การบาดเจ็บ การสงั เกต สำรวจ ประเมิน และการวางแผนการรับประทาน อาหารสำหรับนกั ฟตุ บอล ใชก้ ระบวนการทดสอบและฝึกสมรรถภาพทางกายพื้นฐาน และสมรรถภาพทางกาย เฉพาะกฬี าฟุตบอล เห็นคณุ ค่าของการเล่นกีฬาฟตุ บอล การออกกำลังกาย การเปน็ ผูเ้ ลน่ ทดี่ ีและปลอดภยั และมีเจตคติท่ี ดตี อ่ การนำไปประยกุ ตใ์ ห้เปน็ ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั และการเปน็ นกั กฬี าฟตุ บอล ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความสำคัญและปฏบิ ัติการอบอุ่นรา่ งกาย การยืดเหยียดกลา้ มเนือ้ และการเตรยี มรา่ งกาย กอ่ นเลน่ ฟุตบอลดว้ ยวิธีการต่างๆ ได้ 2. บอกวธิ ีการรับประทานอาหารสำหรบั นักฟตุ บอลได้ 3. บอกและปฏบิ ัตติ นในการปอ้ งกนั การบาดเจบ็ ในการเลน่ ฟุตบอลได้ 4. มีความใสใ่ จในการดูแลรา่ งกายและอุปกรณ์ฟุตบอล 5. บอกความสำคญั สมรรถภาพทางกายและเทคนคิ และสมรรถภาพทางกายเฉพาะกีฬาฟุตบอล 6. ปฏิบตั ิการทดสอบสมรรถภาพทางกายได้ 7. บอกวธิ กี ารและฝกึ สมรรถภาพทางกายได้ 8. ใหค้ วามสำคัญกับการดูแลรักษาสมรรถภาพทางกายของตนเอง รวม 8 ผลการเรยี นรู้

168 คำอธบิ ายรายวชิ า กล่มุ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รายวิชา ความเปน็ เลิศดา้ นกฬี า พ10203 เวลาเรยี น 40 ชัว่ โมง จำนวน 1 หน่วยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. ศกึ ษาและวเิ คราะหท์ กั ษะการเล่นลูกด้วยเท้า หนา้ อก ศีรษะ และมอื ศกึ ษาและวเิ คราะห์ กฎ กตกิ า ฟุตบอล ระเบียบวนิ ยั การแตง่ กาย การตรงต่อเวลา และความรบั ผดิ ชอบของนักกฬี าฟุตบอล โดยใช้การฝกึ ทกั ษะการเล่นลกู ดว้ ยเทา้ หนา้ อก ศรี ษะ และมอื ใชก้ ารฝกึ เป็นนักฟุตบอลภายใตก้ ฎ กติกาทถี่ ูกตอ้ ง ปฏบิ ัติตนอยใู่ นระเบยี บวนิ ยั แตง่ กายเหมาะสม มีความตรงตอ่ เวลาและรบั ผิดชอบในหน้าที่ของ นักฟตุ บอล เหน็ คณุ ค่าของการเลน่ กฬี าฟุตบอล การออกกำลังกาย การเปน็ ผู้เล่นมีความสามารถเชิงทักษะกีฬา ฟุตบอลเป็นพืน้ ฐาน การเปน็ นักฟตุ บอลและผู้ชมทม่ี คี วามแม่นยำ ในกฎ กติกาฟุตบอล มรี ะเบยี บวินยั และสุข นสิ ยั ในการเปน็ นกั ฟตุ บอล และมีเจตคติท่ดี ตี อ่ การนำไปประยุกตใ์ ห้เป็นประโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั และการ เป็นนกั กีฬาฟุตบอล ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความสำคัญทักษะการเล่นลกู ด้วยเท้า หน้าอก ศรี ษะ และมอื ในกีฬาฟตุ บอล 2. แสดงทกั ษะการเล่นลูกดว้ ยเทา้ หน้าอก ศรี ษะ และมือได้ 3. บอกวธิ ีการและฝกึ ทกั ษะการเล่นลูกดว้ ยเท้า หนา้ อก ศีรษะ และมอื 4. ใหค้ วามสำคญั กับการพัฒนาทักษะการเล่นลูกด้วยเท้า หน้าอก ศรี ษะ และมอื 5. บอกกฎ กตกิ าฟตุ บอลได้ 6. มีระเบยี บวนิ ัย การแต่งกายเหมาะสม ตรงตอ่ เวลา และความรบั ผดิ ชอบในการเป็นนักกีฬาฟุตบอล 7. มคี วามสุขกบั การเปน็ นักกีฬาฟตุ บอลและชมฟุตบอล รวม 7 ผลการเรียนรู้

169 คำอธบิ ายรายวิชา กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา รายวชิ า ความเป็นเลิศดา้ นกีฬา พ10204 เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. ศกึ ษาและวิเคราะห์การนำทกั ษะและเทคนคิ การเลน่ ลกู ด้วยเท้า หน้าอก ศีรษะและมอื ในเกมฟุตบอล ศึกษาและวเิ คราะหห์ ลักการ ขน้ั ตอน รูปแบบและวธิ ีการเลน่ ฟุตบอลท้ังในการเล่นเกม และกลมุ่ ยอ่ ย โดยใช้การฝึกเพื่อเน้นการประยกุ ต์ทกั ษะและเทคนิคการเลน่ ลูกด้วยเท้า หนา้ อก ศีรษะและมือในเกม ฟุตบอล ใชก้ ารฝกึ รูปแบบและวิธกี ารเลน่ ฟตุ บอลแบบต่างๆ ท้ังในการเล่นเกม และกลมุ่ ย่อย เหน็ คณุ คา่ ของการนำทกั ษะและเทคนคิ เลน่ ลกู ดว้ ยเท้า หนา้ อก ศรี ษะและมอื ไปประยกุ ต์ใชใ้ นเกมการ เล่นฟตุ บอล การออกกำลังกาย และมเี จตคตทิ ีด่ ตี ่อการนำไปประยกุ ตใ์ หเ้ ปน็ ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและ การเป็นนักกีฬาฟตุ บอล ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความสำคัญของการประยุกตท์ ักษะและเทคนคิ การเล่นลกู ดว้ ยเทา้ หน้าอก ศีรษะ และมือได้ 2. ใช้ทกั ษะและเทคนคิ การเล่นลูกดว้ ยเท้า หน้าอก ศรี ษะและมอื ในเกมการเลน่ ฟุตบอลได้ 3. มคี วามสขุ กับการเลน่ ฟตุ บอล 4. บอกความสำคัญรูปแบบและวธิ ีการเลน่ ฟุตบอลแบบต่างๆ ได้ 5. เล่นฟตุ บอลตามรปู แบบและวิธีการเล่นแบบตา่ งๆ ได้ 6. มคี วามสขุ กบั การเลน่ ฟตุ บอล รวม 6 ผลการเรียนรู้

170 คำอธบิ ายรายวิชา กล่มุ สาระการเรียนร้สู ุขศึกษาและพลศกึ ษา รายวชิ า ความเปน็ เลศิ ดา้ นกฬี า พ10205 เวลาเรยี น 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. ศกึ ษาและวเิ คราะห์เทคนคิ การเลน่ ลูกด้วยเท้า หนา้ อก ศีรษะ และมือ เทคนคิ การบริหารจดั การและ ควบคมุ นักกฬี าและทมี ศกึ ษาและวเิ คราะหร์ ปู แบบการจดั การแข่งขนั ฟุตบอลแบบตา่ งๆ และวิธกี ารฝกึ เป็น ผ้จู ดั การแขง่ ขนั ฟุตบอล โดยใชก้ ารฝกึ เทคนิคการเลน่ ลูกด้วยเท้า หน้าอก ศรี ษะ และมอื เทคนิคการบริหารจัดการและควบคมุ นักกฬี าและทีม ใช้การฝกึ ออกแบบการจัดการแข่งขนั ฟตุ บอล และการฝึกเปน็ ผจู้ ัดการแข่งขันในรายการการ แข่งขันจริง เหน็ คุณคา่ การใชเ้ ทคนิคการเลน่ ฟุตบอลแบบตา่ งๆ รวมถึงเทคนคิ การบริหารจดั การและควบคมุ ทีม นักกฬี าและทีม เหน็ คณุ คา่ รูปแบบการจัดการแข่งขันฟุตบอล และตระหนักในบทบาทความสำคญั ของผู้จดั การ แข่งขันฟุตบอล และมเี จตคติทีด่ ีตอ่ การนำไปประยกุ ต์ให้เปน็ ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวันและการเป็นนักกฬี า ฟตุ บอล ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความสำคญั เทคนิคการเลน่ ฟตุ บอลแบบต่างๆ และเทคนิคการบริหารจัดการและควบคุม นกั กฬี าและทมี ได้ 2. เล่นฟุตบอลโดยใช้เทคนคิ การเลน่ ฟตุ บอลแบบต่างๆ ได้ 3. มีความสุขกับการเล่นและอยู่ในทีมฟตุ บอล 4. บอกลักษณะรปู แบบการจัดการแข่งขนั ฟตุ บอลแบบต่างๆ ได้ 5. เป็นผู้จัดการแข่งขันฟตุ บอลได้ 6. มคี วามสุขกบั การเปน็ ผู้จัดรปู แบบการแขง่ ขันฟตุ บอล รวม 6 ผลการเรียนรู้

171 คำอธิบายรายวิชา กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวิชา ความเป็นเลศิ ดา้ นกฬี า พ10206 เวลาเรยี น 40 ชัว่ โมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. ศึกษาและวิเคราะหต์ ำแหนง่ และคณุ สมบตั ผิ เู้ ลน่ และการฝึกระบบการเล่นฟตุ บอล ศึกษา วิเคราะห์ และประมวลความรแู้ ละทกั ษะความสามารถทางกีฬาฟตุ บอล โดยใช้การฝึกการเล่นเฉพาะตำแหนง่ และเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายเฉพาะผ้เู ล่น และการฝกึ ระบบ การเลน่ แบบต่างๆ ท้ังในสถานการณ์การแขง่ ขันจาลองและจรงิ ใช้การทดสอบและประเมินตามสภาพจริงใน เรอ่ื งของความรคู้ วามเข้าใจในกฬี าฟตุ บอล สมรรถภาพทางกายและทางกฬี าฟุตบอล การฝึกและการจดั การ กีฬาฟุตบอล เหน็ บทบาทความสำคญั ของตำแหน่งและคุณสมบัตผิ เู้ ลน่ เฉพาะตำแหนง่ และระบบการเล่นแบบต่างๆ ทใ่ี ช้ในการแข่งขัน เหน็ คณุ ค่าและตระหนักถึงการเสริมสร้างความสามารถของนกั กีฬาฟตุ บอล รวมถึงการ ตระหนักในบทบาทความสำคญั การฝึกระบบการเล่น และมเี จตคตทิ ี่ดีต่อการนำไปประยกุ ตใ์ ห้เป็นประโยชน์ใน ชวี ิตประจำวันและการเป็นนกั กฬี าฟุตบอล ผลการเรียนรู้ 1. บอกตำแหนง่ และคุณสมบัตผิ เู้ ลน่ เฉพาะตำแหน่งได้ 2. ชำนาญกับระบบการเล่นแบบตา่ งๆ 3. มคี วามสุขกบั การเล่นในตำแหนง่ ทเี่ หมะสมของตนเองและระบบการเล่นแบบต่างๆ 4. มคี วามรคู้ วามเข้าใจทถ่ี ูกตอ้ งเกยี่ วกบั กีฬาฟุตบอล 5. มสี มรรถภาพทางกายและทางกฬี าฟตุ บอลในเกณฑ์ท่ดี ีกว่าบคุ คลทวั่ ไปในวยั เดียวกัน 6. มคี วามสามารถในการบริหารและจดั การเกยี่ วกบั กฬี าฟุตบอล 7. มคี วามภาคภูมใิ นการเลน่ ฟตุ บอลของตนเองและสนใจการพัฒนาและเพมิ่ เติมทางดา้ นฟตุ บอล รวม 7 ผลการเรยี นรู้

172 คำอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา รายวิชา ความเป็นเลิศด้านกีฬาวอลเลยบ์ อล พ20201 เวลาเรียน 40 ชวั่ โมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. ศึกษาและวิเคราะห์ความเปน็ มา องคก์ ร และการพฒั นากฬี าวอลเลย์บอลในและตา่ งประเทศ ความสำคัญของกฬี าวอลเลยบ์ อล ความปลอดภัยและมารยาทในการฝกึ ซ้อมและแขง่ ขนั ในกฬี า วอลเลยบ์ อล การเปน็ ผูเ้ ลน่ และผูด้ กู ีฬาวอลเลยบ์ อล การดแู ลรา่ งกาย การเตรยี มพรอ้ มก่อนการเล่น กฬี า วอลเลยบ์ อล การยดื เหยียดกลา้ มเนือ้ การอบอนุ่ ร่างกาย และกฎกตกิ ากีฬาวอลเลยบ์ อล สำหรับนกั กฬี า รู้ทนั เหตุการณ์ การสอดแนม มีความเข้าใจในปัจจัยไปสคู่ วามสำเร็จ และคุณลกั ษณะ ทพี่ งึ ประสงค์ในกีฬา วอลเลย์บอล อีกทง้ั ยังสามารถปฏิบตั ทิ กั ษะการทรงตวั และการเคล่ือนทไ่ี ด้อย่าง ถกู ตอ้ ง และสามารถปฏิบัตทิ ักษะพ้ืนฐานในกีฬาวอลเลยบ์ อลไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ซ่ึงทกั ษะต่าง ๆ นน้ั ประกอบไปดว้ ย ทกั ษะการเลน่ ลูกสองมอื ล่าง ทักษะการเลน่ ลกู สองมอื บน ทกั ษะการส่งผา่ น ทกั ษะ การรกุ ทกั ษะการรับ และทักษะการสกดั ก้ันได้ ซ่งึ ถอื ว่าเป็นทกั ษะที่จำเป็นสำหรบั การเล่น วอลเลยบ์ อล ศกึ ษาวิเคราะห์และฝกึ ปฏิบตั ิทักษะการรกุ ซ่ึงแบง่ ออกเป็นการรกุ ดว้ ยการเสริ ์ฟ การรุก ดว้ ย การตบ การรุกดว้ ยการหยอด โดยใชก้ ระบวนการเล่นและฝกึ ดูกีฬาวอลเลย์บอลให้ไดอ้ ย่าง ถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย เห็นคณุ คา่ ของการเลน่ กฬี าวอลเลยบ์ อล การออกกำลังกาย การ เปน็ ผู้เลน่ และผดู้ กู ีฬา มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีคุณธรรม จริยธรรม และมเี จตคติท่ีดตี ่อการ นำไปประยกุ ตใ์ หเ้ ป็นประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั และการเป็นนักกีฬาวอลเลยบ์ อล ทั้งเดย่ี วและกล่มุ เพอ่ื ให้เกิดความเข้าใจ ในทา่ ทางของร่างกาย การปฏบิ ตั ิทกั ษะตา่ ง ๆ และสามารถปฏบิ ัตทิ กั ษะการ รกุ ด้วยการเสิร์ฟ การรุกดว้ ย การตบ การรุกดว้ ยการหยอด ของกีฬาวอลเลย์บอลไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง และมีเจตคติท่ีดีตอ่ การนำไป ประยกุ ต์ให้เป็นประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั และการเปน็ นกั กีฬา วอลเลยบ์ อล ศกึ ษาและวเิ คราะห์สมรรถภาพทางกายพืน้ ฐาน และสมรรถภาพทางกายเฉพาะกีฬา วอลเลย์บอล การทดสอบและฝกึ สมรรถภาพทางกายพื้นฐาน และสมรรถภาพทางกายเฉพาะกีฬา วอลเลย์บอล เห็นคุณคา่ ของการเลน่ กฬี าวอลเลยบ์ อล การออกกำลงั กาย การเปน็ ผู้เลน่ ทีม่ ี สมรรถภาพ ทางกายท่ีดี และมเี จตคตทิ ่ดี ีตอ่ การนา่ ไปประยุกต์ ให้เปน็ ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวันและ การเปน็ นักกฬี า วอลเลยบ์ อล ผลการเรยี นรู้ ๑. บรรยายถึงประวตั ิความเปน็ มา องคก์ ร และพฒั นาการของกฬี าวอลเลย์บอลได้ ๒. ร่างกายกอ่ นเล่นวอลเลย์บอลดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ ได้ ๓. มีมารยาทในการเลน่ วอลเลยบ์ อลและเล่นวอลเลยบ์ อลได้อยา่ งปลอดภยั ๔. บอกและเลน่ กฬี าวอลเลยบ์ อล ตามกฎกตกิ าทถี่ ูกต้องได้ ๕. มคี วามสุขในการเลน่ กีฬาวอลเลยบ์ อล ๖. อธบิ ายถงึ ปจั จยั สคู่ วามสำเรจ็ และคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ในกฬี าวอลเลยบ์ อลได้ ๗. สามารถปฏบิ ตั ทิ ักษะการทรงตวั และการเคล่ือนทไ่ี ด้อย่างถูกต้อง

173 ๘. สามารถอธิบายข้ันตอนทกั ษะการเลน่ ลูกสองมอื ลา่ ง ทักษะการเลน่ ลกู สองมอื บน ทกั ษะ การสง่ ผา่ น ทกั ษะการรกุ ทกั ษะการรบั และทักษะการสกดั กนั้ ได้ ๙. มคี วามสุขและสนกุ กบั การฝึกทักษะการเลน่ ลูกสองมอื ล่าง ทกั ษะการเลน่ ลูกสองมอื บน ทักษะ การสง่ ผ่าน ทกั ษะการุก ทกั ษะการรับ และทกั ษะการสกัดกัน้ ๑๐. สามารถปฏิบตั ิทกั ษะการเลน่ ลกู สองมอื ล่าง ทักษะการเล่นลูกสองมือบน ทักษะการส่งผ่าน ทักษะการรกุ ทกั ษะการรบั และทักษะการสกดั กัน้ ไดอ้ ยา่ งปลอดภัยในการฝึกซ้อมและการแขง่ ขนั รวม 10 ผลการเรียนรู้

174 คำอธบิ ายรายวิชา กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา รายวิชา ความเปน็ เลศิ ด้านกฬี าวอลเลยบ์ อล พ20201 เวลาเรยี น 40 ชว่ั โมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. ศึกษาและวเิ คราะห์ความเป็นมา องคก์ ร และการพฒั นากีฬาวอลเลยบ์ อลในและตา่ งประเทศ ความสำคัญของกฬี าวอลเลย์บอล ความปลอดภยั และมารยาทในการฝึกซ้อมและแขง่ ขนั ในกีฬา วอลเลยบ์ อล การเป็นผเู้ ล่นและผ้ดู กู ฬี าวอลเลย์บอล การดูแลรา่ งกาย การเตรยี มพรอ้ มก่อนการเล่นกฬี า วอลเลย์บอล การ ยืดเหยยี ดกล้ามเน้อื การอบอุน่ รา่ งกาย และกฎกติกากีฬาวอลเลย์บอล สำหรบั นักกฬี า รู้ทันเหตกุ ารณ์ การ สอดแนม มคี วามเข้าใจในปัจจัยไปสคู่ วามสำเร็จ และคณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงคใ์ นกีฬา วอลเลยบ์ อล อกี ทงั้ ยงั สามารถปฏบิ ตั ิทกั ษะการทรงตวั และการเคลอื่ นท่ไี ด้อยา่ งถูกตอ้ ง และสามารถปฏบิ ตั ิทกั ษะพ้นื ฐานในกฬี า วอลเลยบ์ อลได้อยา่ งถูกต้อง ซง่ึ ทักษะตา่ ง ๆ นน้ั ประกอบไปด้วย ทกั ษะการเล่นลกู สองมอื ลา่ ง ทกั ษะการเลน่ ลูกสองมือบน ทกั ษะการสง่ ผา่ น ทักษะการรุก ทกั ษะการรบั และทักษะการสกดั กน้ั ได้ ซึ่งถอื ว่าเป็นทักษะท่ี จำเปน็ สำหรบั การเลน่ วอลเลยบ์ อล ศึกษาวเิ คราะหแ์ ละฝึกปฏบิ ตั ทิ ักษะการรุก ซ่ึงแบ่งออกเป็นการรกุ ดว้ ยการ เสริ ์ฟ การรุกด้วย การตบ การรุกด้วยการหยอด โดยใช้กระบวนการเล่นและฝกึ ดูกฬี าวอลเลยบ์ อลให้ได้อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั เห็น คุณคา่ ของการเลน่ กีฬาวอลเลย์บอล การออกกำลังกาย การเป็นผเู้ ลน่ และผ้ดู กู ฬี า มคี ณุ ลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมเี จตคตทิ ด่ี ีต่อการน่าไปประยกุ ต์ใหเ้ ปน็ ประโยชนใ์ น ชีวิตประจำวนั และ การเป็นนกั กีฬาวอลเลยบ์ อล ทง้ั เดีย่ วและกล่มุ เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจ ในทา่ ทางของร่างกาย การปฏบิ ตั ิทักษะ ตา่ ง ๆ และสามารถปฏบิ ัตทิ กั ษะการรุกด้วยการเสริ ์ฟ การรกุ ด้วย การตบ การรุกดว้ ยการหยอด ของกฬี า วอลเลย์บอลได้อย่างถูกต้อง และมีเจตคติทดี่ ีต่อการนา่ ไป ประยุกต์ให้เปน็ ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวันและการ เป็นนกั กฬี าวอลเลย์บอล ศกึ ษาและวิเคราะห์สมรรถภาพทางกายพืน้ ฐาน และสมรรถภาพทางกายเฉพาะกีฬา วอลเลยบ์ อล การทดสอบและฝึกสมรรถภาพทางกายพนื้ ฐาน และสมรรถภาพทางกายเฉพาะกฬี า วอลเลยบ์ อล เหน็ คุณคา่ ของการเล่นกฬี าวอลเลย์บอล การออกกำลังกาย การเป็นผ้เู ล่นที่มีสมรรถภาพ ทาง กายทด่ี ี และมเี จตคติทีด่ ตี ่อการน่าไปประยุกตใ์ หเ้ ป็นประโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั และการเปน็ นกั กฬี า วอลเลยบ์ อล เหน็ คณุ ค่าของการเลน่ กฬี าวอลเล่ยบ์ อล การออกกำลังกาย การเป็นผู้เล่นทด่ี ีและปลอดภัย และมเี จต คตทิ ด่ี ตี อ่ การน่าไปประยุกต่ใหเ้ ป็นประโยซนใ์ นชีวิตประจำวันและการเป็นนักกฬี าวอลเลย่ บ์ อล การเปน็ ผเู้ ลน่ ทม่ี ีสมรรถภาพทางกายทด่ี ี และมเี จตคตทิ ่ีดีตอ่ การนา่ ไปประยุกต่ให้เป็นประโยซนใ์ น ชวี ิตประจำวันและการเปน็ นักกฬี าวอลเล่ยบ์ อล

175 ผลการเรียนรู้ 1. สามารถอธิบายขั้นตอนและการปฏิบตั ิทกั ษะการรกุ ดว้ ยการเสริ ฟ์ การรุกดว้ ยการตบและ การ รุกด้วยการหยอด 2. มคี วามสขุ กบั การฝึกปฏบิ ัติทกั ษะการรกุ ในรปู แบบต่าง ๆ 3. สามารถปฏิบัตทิ กั ษะการรกุ ด้วยการเสริ ์ฟ การรุกดว้ ยการตบ และการรกุ ดว้ ยการหยอดได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ 4. บอกความสำคัญสมรรถภาพทางกายพื้นฐาน และสมรรถภาพทางกายเฉพาะกีฬาวอลเลยบ์ อล 5. บอกวธิ ีการและฝึกสมรรถภาพทางกายได้ 6. มเี จตคตแิ ละใหค้ วามสำคัญกับการดแู ลรกั ษาสมรรถภาพทางกายของตนเอง 7. ปฏิบตั กิ ารทดสอบสมรรถภาพทางกายได้ รวม 7 ผลการเรยี นรู้

๑๗๖ กลุม่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ

๑๗๗ กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ความสำคญั ของศลิ ปะ กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะเปน็ กลมุ่ สาระทช่ี ่วยพัฒนาใหผ้ เู้ รยี นมคี วามคดิ ริเริม่ สร้างสรรค์ มี จินตนาการทางศลิ ปะ ชืน่ ชมความงาม มสี ุนทรยี ภาพ ความมคี ณุ ค่า ซงึ่ มผี ลต่อคณุ ภาพชวี ติ มนษุ ย์ กิจกรรม ทางศิลปะช่วยพฒั นาผูเ้ รยี นท้ังด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สงั คม ตลอดจน การนำไปสู่การพฒั นา สง่ิ แวดล้อม ส่งเสริมให้ผเู้ รียนมีความเชอ่ื มั่นในตนเอง อันเป็นพน้ื ฐาน ในการศึกษาตอ่ หรือประกอบอาชพี ได้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะม่งุ พัฒนาให้ผ้เู รยี นเกดิ ความรคู้ วามเข้าใจ มีทกั ษะวธิ กี ารทางศิลปะ เกดิ ความซาบซงึ้ ในคุณคา่ ของศิลปะ เปิดโอกาสใหผ้ ้เู รียนแสดงออกอย่างอสิ ระในศลิ ปะแขนงตา่ ง ๆ ประกอบดว้ ย สาระสำคัญ คอื - ทศั นศิลป์ มีความรคู้ วามเข้าใจองค์ประกอบศลิ ป์ ทศั นธาตุ สรา้ งและนำเสนอผลงาน ทาง ทัศนศิลปจ์ ากจินตนาการ โดยสามารถใช้อุปกรณท์ ี่เหมาะสม รวมทง้ั สามารถใชเ้ ทคนคิ วิธีการ ของศิลปินใน การสรา้ งงานได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ วิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์คณุ ค่างานทัศนศลิ ป์ เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ ระหว่างทัศนศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เหน็ คุณคา่ งานศิลปะที่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญา ทอ้ งถ่นิ ภมู ิปญั ญาไทยและสากล ชืน่ ชม ประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั - ดนตรี มคี วามรู้ความเขา้ ใจองค์ประกอบดนตรีแสดงออกทางดนตรีอย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คณุ คา่ ดนตรี ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ทางดนตรีอย่างอิสระ ชืน่ ชมและประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เข้าใจ ความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวตั ศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าดนตรที ีเ่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิ ปญั ญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปญั ญาไทย และสากล ร้องเพลง และเล่นดนตรีในรปู แบบต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เสยี งดนตรี แสดงความรสู้ ึกท่มี ตี อ่ ดนตรีในเชิงสนุ ทรยี ะ เข้าใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งดนตรกี ับประเพณี วฒั นธรรม และเหตุการณใ์ นประวัตศิ าสตร์ - นาฏศิลป์ มีความรูค้ วามเขา้ ใจองคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์ แสดงออกทางนาฏศิลป์ อย่างสร้างสรรค์ ใช้ศพั ท์ เบื้องต้นทางนาฏศลิ ป์ วิเคราะห์วพิ ากษ์ วิจารณค์ ุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สกึ ความคิดอย่างอิสระ สรา้ งสรรคก์ ารเคล่ือนไหวในรปู แบบต่าง ๆ ประยุกตใ์ ช้นาฏศลิ ป์ในชวี ิตประจำวันเขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง นาฏศลิ ป์กบั ประวตั ศิ าสตร์ วฒั นธรรม เหน็ คุณคา่ ของนาฏศลิ ป์ทเ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ ภูมปิ ญั ญาไทย และสากล สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 ทัศนศิลป์ มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศลิ ปต์ ามจินตนาการ และความคดิ สร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณค์ ุณคา่ งานทศั นศลิ ป์ ถา่ ยทอดความร้สู กึ ความคิดต่องานศิลปะอย่าง อสิ ระ ช่ืนชม และประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวัน มาตรฐาน ศ 1.2 เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ งทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคณุ คา่ งานทัศนศิลปท์ เ่ี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาท้องถ่นิ ภูมปิ ญั ญาไทย และสากล

๑๗๘ สาระที่ 2 ดนตรี มาตรฐาน ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรอี ยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณคา่ ดนตรี ถ่ายทอดความรสู้ กึ ความคดิ ต่อดนตรอี ยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวนั มาตรฐาน ศ 2.2 เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งดนตรี ประวตั ศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ คา่ ของ ดนตรที ่ี เปน็ มรดก ทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ิน ภมู ิปญั ญาไทยและสากล สาระท่ี 3 นาฏศลิ ป์ มาตรฐาน ศ 3.1 เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศิลปอ์ ย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษว์ จิ ารณ์ คณุ ค่านาฏศิลป์ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคดิ อยา่ งอิสระ ชน่ื ชม และประยกุ ตใ์ ช้ ในชวี ติ ประจำวัน มาตรฐาน ศ 3.2 เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัตศิ าสตรแ์ ละวัฒนธรรม เหน็ คุณคา่ ของนาฏศลิ ปท์ เ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน ภูมปิ ัญญาไทยและ สากล

๑๗๙ รายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวน 40 ชั่วโมง รายวชิ าพ้ืนฐาน จำนวน 40 ช่วั โมง จำนวน 40 ชวั่ โมง ศ11101 ศิลปะ ศ12101 ศลิ ปะ จำนวน 80 ช่วั โมง ศ13101 ศิลปะ จำนวน 80 ชว่ั โมง จำนวน 80 ช่ัวโมง ศ14101 ศิลปะ ศ15101 ศิลปะ ศ16101 ศิลปะ ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษา จำนวน 40 ช่ัวโมง รายวิชาพน้ื ฐาน จำนวน 40 ชั่วโมง จำนวน 40 ชว่ั โมง ศ21101 ศิลปะ ศ21102 ศิลปะ จำนวน 40 ชั่วโมง ศ22101 ศิลปะ จำนวน 40 ช่ัวโมง จำนวน 40 ชั่วโมง ศ22102 ศิลปะ ศ23101 ศิลปะ ศ23102 ศิลปะ

๑๘๐ คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชาพนื้ ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง ทศั นศิลป์ ศึกษา วิเคราะห์ รปู ร่าง ลกั ษณะ ขนาดของสงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตวั ในธรรมชาตแิ ละสิ่งทม่ี นษุ ย์สร้างขึน้ ความรสู้ ึกทม่ี ีต่อธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มรอบตัว ฝึกทักษะการใช้วัสดุ อปุ กรณ์ ดนิ เหนยี ว ดนิ นำมนั ดินสอสี พู่กัน กระดาษ สีเทียน สนี า้ํ มนั สร้างงานทัศนศลิ ป์ ทดลองการใชส้ นี าํ้ โปสเตอร์ สเี ทียน สีจากธรรมชาติ ทีม่ ีใน ท้องถิน่ การวาดภาพระบายสีตามความรู้สกึ ของตนเอง การระบุงานทัศนศลิ ปใ์ นชีวิตประจำวนั โดยใชก้ ระบวนการคิดวิเคราะห์ การอภิปราย กระบวนการกลุ่ม การสบื คน้ ขอ้ มูลและการบนั ทกึ ข้อมูล เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ และเห็นคุณค่าของการนำความรไู้ ปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในการดำเนิน ชวี ิตประจำวนั ดนตรี ศึกษา วิเคราะห์ การกําเนดิ ของเสยี ง ลกั ษณะของเสียงดังเบา และความช้าเร็วของจงั หวะ การทอ่ ง บทกลอน การรอ้ งเพลงงา่ ย ๆ การเข้ารว่ มกิจกรรมดนตรี การรอ้ งเพลง การเคาะจังหวะ การเคล่ือนไหว ประกอบเพลง การบอกเพลงท่ีใช้ในชีวิตประจำวัน บทเพลงกลอ่ มเด็ก บทเพลงประกอบการละเล่น การเลา่ การระบทุ ม่ี าของบทเพลงในท้องถ่นิ ความน่าสนใจของบทเพลงในท้องถน่ิ โดยใชก้ ระบวนการคิดวเิ คราะห์ การอภิปราย กระบวนการกล่มุ การสบื ค้นขอ้ มลู และการบันทกึ ขอ้ มลู เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถในการสือ่ สาร และเห็นคุณคา่ ของการนำความรู้ไปใชใ้ ห้ เกดิ ประโยชน์ในการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวัน นาฏศลิ ป์ ศึกษา การเลยี นแบบการเคลือ่ นไหว ลักษณะตา่ งๆ ของธรรมชาติ คน สัตว์ สิ่งของ การแสดงทา่ ทาง งา่ ย ๆ โดยใช้ภาษาทา่ การแสดงประกอบเพลงท่ีเกยี่ วกบั ธรรมชาตสิ ัตว์ การเป็นผชู้ มท่ีดี การระบุ การบอก การเล่น การละเลน่ ของเดก็ ไทย การแสดงนาฏศลิ ป์ การเห็นคณุ คา่ งานทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศลิ ปท์ ่เี ป็นมรดก ทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ภมู ิปญั ญาไทย การชนื่ ชมและการนำไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวัน โดยใชก้ ระบวนการคิดวเิ คราะห์ การอภปิ ราย กระบวนการกลมุ่ การสืบค้นข้อมลู และการบนั ทึก ข้อมูล เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการสือ่ สารและเห็นคณุ คา่ ของการนำความรูไ้ ปใชใ้ ห้ เกิดประโยชน์ในการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวนั รหัสตัวช้ีวัด ศ 1.1 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 , ป.1/5 ศ 1.2 ป.1/1 ศ 2.1 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 , ป.1/5 ศ 2.2 ป.1/1 , ป.1/2 ศ 3.1 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 ศ 3.2 ป.1/1 , ป.1/2 รวม 18 ตัวชี้วดั

๑๘๑ คำอธิบายรายวิชา รายวชิ าพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 40 ชัว่ โมง ทัศนศิลป์ ศกึ ษา วิเคราะห์ การบรรยาย รปู รา่ ง รปู ทรงที่พบในธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม ทศั นธาตแุ ละงาน ทัศนศลิ ป์ เรอื่ งเสน้ สี รูปร่าง และรปู ทรง เรอื่ งราว การเลือก สรา้ งงานทัศนศลิ ปต์ า่ ง ๆ โดยใช้ เสน้ เช่น งาน วาด งานปั้นและงานพิมพ์ภาพ รูปแบบงานโครงสร้างเคลอื่ นไหว การฝึกทกั ษะการใช้วัสดุ อุปกรณ์ การสร้าง งานทัศนศลิ ป์ 3 มิติ การสรา้ งภาพปะตดิ โดยการตดั หรือ ฉีกกระดาษ การวาดภาพ เพื่อถ่ายทอดเรือ่ งราว เกี่ยวกบั ครอบครวั ของตนเองและเพื่อนบา้ น การบอกความสำคญั ของงานทศั นศลิ ปท์ พี่ บเห็นในชีวิตประจำวัน การอภปิ รายเกย่ี วกบั งานทัศนศลิ ปป์ ระเภทตา่ ง ๆ ในท้องถิน่ โดยเน้นถงึ วิธกี ารสร้างงานและวสั ดอุ ุปกรณ์ ทใี่ ช้ ดนตรี ศกึ ษาการจำแนกแหล่งกำเนดิ ของเสียงท่ีไดย้ นิ คณุ สมบตั ขิ องเสียง สงู ต่ำ - ดังเบา ยาวส้นั ของดนตรี สง่ิ ตา่ ง ๆ ที่ก่อกำเนิดเสยี งท่แี ตกต่างกัน ลกั ษณะของเสียงดงั เบา และความชา้ เร็วของจังหวะ ความเก่ยี วข้อง ของเพลงทีใ่ ชใ้ นชีวิตประจำวนั การเคาะจังหวะหรอื การเคล่อื นไหวรา่ งกายให้สอดคลอ้ งกับเนอ้ื หาของเพลง การร้องเพลงงา่ ย ๆ ที่เหมาะสมกับวัย โดยใชก้ ระบวนการคดิ วเิ คราะห์ การอภิปราย กระบวนการกลมุ่ การสบื ค้นขอ้ มูลและการบนั ทกึ ข้อมูล เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการสอื่ สาร และเหน็ คุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ให้ เกิดประโยชนใ์ นการดำเนินชีวิตประจำวนั นาฏศลิ ป์ ศึกษา วิเคราะห์การบอกความหมายและความสำคัญของเพลงปลุกใจ เพลงสอนใจ ความสัมพนั ธข์ อง เสยี งร้อง เสยี งเครื่องดนตรีในเพลงท้องถ่นิ โดยใชค้ ำง่าย ๆ การระบุมารยาทในการชมการแสดง การเล่น การละเล่น การเคล่ือนไหวขณะอยู่กับทีแ่ ละการเคลื่อนทีอ่ ย่างมีรปู แบบ การเคลอ่ื นไหวทส่ี ะทอ้ นอารมณ์ของ ตนเองอย่างอสิ ระ ทา่ ทาง เพ่ือส่อื ความหมายแทนคำพูด ท่าทางประกอบจังหวะอย่างสรา้ งสรรค์ การใช้ภาษา ทา่ และนาฏยศพั ทป์ ระกอบจงั หวะ การแสดงและการเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางดนตรขี องท้องถิ่นในโอกาสพิเศษ การละเล่นพน้ื บ้าน การเชือ่ มโยงการละเลน่ พืน้ บา้ นกบั การดำรงชีวติ ของคนไทย การระบสุ ่งิ ที่ชื่นชอบและ ภาคภูมิใจในการละเล่นพืน้ บา้ น โดยใช้กระบวนการคิดวเิ คราะห์ การอภปิ ราย กระบวนการกลุม่ การสบื คน้ ขอ้ มูลและการบันทกึ ขอ้ มลู เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการสอ่ื สารและเหน็ คณุ คา่ ของการนำความรไู้ ปใช้ให้ เกดิ ประโยชน์ในการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวัน

๑๘๒ รหสั ตัวชี้วัด ศ 1.1 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 , ป.2/5 , ป.2/6 , ป.2/7 , ป.2/8 ศ 1.2 ป.2/1 , ป.2/2 ศ 2.1 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 , ป.2/5 ศ 2.2 ป.2/1 , ป.2/2 ศ 3.1 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 , ป.2/5 ศ 3.2 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 รวม 25 ตวั ชว้ี ัด

๑๘๓ คำอธิบายรายวิชา รายวิชาพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 40 ช่ัวโมง ทศั นศลิ ป์ ศึกษา วิเคราะห์ การบรรยาย รูปร่าง รปู ทรงในธรรมชาติสง่ิ แวดลอ้ ม และงานทศั นศิลป์ ระบุ วัสดุ อปุ กรณ์ที่ใช้สรา้ งผลงานเมื่อชมงานทัศนศิลป์ การบรรยายเหตุผลและวิธีการในการสร้างงานทัศนศิลป์ โดยเนน้ ถงึ เทคนคิ และวสั ดุ อุปกรณ์ การจำแนกทศั นธาตขุ องสิ่งตา่ ง ๆในธรรมชาตสิ ง่ิ แวดลอ้ มและงานทศั นศิลป์ โดย เนน้ เรอื่ ง เส้น สี รูปรา่ ง รปู ทรง และพ้ืนผิว มีทกั ษะพนื้ ฐานในการใชว้ สั ดุอปุ กรณส์ รา้ งสรรค์งานปั้น การวาด ภาพ การระบายสีสง่ิ ของรอบตวั การถา่ ยทอดความคดิ ความรู้สกึ จากเหตุการณ์ชวี ิตจริง โดยใชเ้ ส้น รปู รา่ ง รปู ทรง สี และพ้ืนผิว การระบุสิ่งทช่ี น่ื ชมและส่งิ ทีค่ วรปรับปรงุ ในงานทศั นศิลป์ของตนเอง การระบุ และการ จัดกลมุ่ ของภาพตามทศั นธาตทุ ่ีเน้นในงานทศั นศิลป์นนั้ ๆ การบรรยายลกั ษณะรปู ร่าง รูปทรงในงานการ ออกแบบสง่ิ ต่าง ๆ ท่ีมีในบา้ นและโรงเรียน การเล่าถึงทีม่ าของงานทัศนศลิ ปใ์ นท้องถ่ิน การอธิบายเกี่ยวกับ วสั ดุอปุ กรณ์และวิธกี ารสรา้ งงานทัศนศลิ ปใ์ นท้องถิน่ โดยใช้กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การอภิปราย กระบวนการกลุ่ม การสบื ค้นข้อมูลและการบนั ทึก ขอ้ มูล เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ และเหน็ คณุ ค่าของการนำความรูไ้ ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนใ์ นการดำเนิน ชวี ิตประจำวัน ดนตรี ศึกษา วเิ คราะห์ การระบุรูปรา่ งลกั ษณะของเครือ่ งดนตรี ทีเ่ หน็ และไดย้ นิ ในชีวติ ประจำวัน ลักษณะ เด่นและเอกลกั ษณ์ของดนตรใี นทอ้ งถิ่น ความสำคัญและประโยชน์ของดนตรีตอ่ การดำเนนิ ชีวิตของคนใน ทอ้ งถิ่นใชร้ ปู ภาพหรอื สญั ลักษณ์แทนเสยี ง และจังหวะเคาะ การบอกบทบาทหนา้ ทีข่ องเพลงทไี่ ด้ยิน การขับ รอ้ งและบรรเลงดนตรงี า่ ย ๆ การเคล่อื นไหวท่าทางสอดคลอ้ งกับอารมณ์ของเพลงที่ฟัง การแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั เสยี งดนตรี เสียงขับร้องของตนเองและผู้อน่ื การนำดนตรไี ปใช้ในชีวติ ประจำวนั หรอื โอกาสตา่ ง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม โดยใช้กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การอภปิ ราย กระบวนการกลมุ่ การสืบค้นขอ้ มูลและการบันทกึ ข้อมูล เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถในการส่อื สาร และเหน็ คณุ ค่าของการนำความรไู้ ปใช้ให้ เกดิ ประโยชนใ์ นการดำเนนิ ชีวิตประจำวนั นาฏศิลป์ ศึกษา วเิ คราะห์ การสร้างสรรคก์ ารเคลอ่ื นไหวในรปู แบบตา่ ง ๆ รำวงมาตรฐาน เพลงพระราชนพิ นธ์ สถานการณส์ ั้น ๆ สถานการณ์ทก่ี ำหนด การแสดงท่าทางประกอบเพลงตามรปู แบบนาฏศิลป์ การเปรยี บเทียบ บทบาทหน้าที่ของผแู้ สดงและผชู้ ม การมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมการแสดงท่เี หมาะสมกับวัย การบอกประโยชน์ ของการแสดงนาฏศิลปใ์ นชวี ติ ประจำวัน การเล่าการแสดงนาฏศลิ ปท์ เ่ี คยเหน็ ในท้องถ่ิน การระบสุ ่ิงทเ่ี ปน็ ลกั ษณะเด่นและเอกลักษณข์ องการแสดงนาฏศิลป์ การอธิบายความสำคญั ของการแสดงนาฏศลิ ป์ โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ การอภิปราย กระบวนการกลุม่ การสบื ค้นข้อมูลและการบันทกึ ข้อมูล เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการสอื่ สารและเหน็ คุณค่าของการนำความร้ไู ปใชใ้ ห้ เกิดประโยชนใ์ นการดำเนนิ ชีวติ ประจำวัน

๑๘๔ รหัสตวั ช้ีวัด ศ 1.1 ป.3/1 ,ป.3/2 ,ป.3/3 , ป.3/4 ,ป.3/5 , ป.3/6 ,ป.3/7 , ป.3/8 , ป.3/9 , ป.3/10 ศ 1.2 ป.3/1 , ป.3/2 ศ 2.1 ป.3/1, ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 , ป.3/5 , ป.3/6 , ป.3/7 ศ 2.2 ป.3/1 , ป.3/2 ศ 3.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 , ป.3/5 ศ 3.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 รวม 29 ตัวชีว้ ดั

๑๘๕ คำอธิบายรายวชิ า รายวชิ าพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 เวลา 80 ช่วั โมง ทศั นศลิ ป์ ศกึ ษาเปรียบเทียบรูปลักษณะของรปู รา่ ง รปู ทรงในธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อม และงานทศั นศิลป์ ถา่ ยทอด ความคดิ ความรูส้ กึ ความประทบั ใจผา่ นงานทัศนศลิ ปข์ องตนเองและบคุ คลอ่นื การอภิปรายเก่ียวกับอิทธพิ ล ของสีวรรณะอนุ่ และสีวรรณะเย็นท่มี ีต่ออารมณข์ องมนุษย์ เหตุการณ์ และงานเฉลมิ ฉลองของวัฒนธรรมใน ท้องถ่นิ จำแนกทศั นธาตขุ องสง่ิ ต่าง ๆในธรรมชาตสิ ่งิ แวดล้อมและงานทัศนศลิ ปโ์ ดยเน้นเรื่องเส้น สี รปู ร่าง รปู ทรงพน้ื ผวิ และพ้นื ทว่ี ่าง ฝึกทักษะพน้ื ฐานในการใช้วัสดุ อุปกรณส์ ร้างสรรค์งานพิมพ์ภาพ งานวาดภาพ ระบายสี บรรยายลกั ษณะของภาพโดยเน้น เร่ืองการจดั ระยะ ความลึก นำ้ หนักแสงเงาในภาพ และงาน ทศั นศิลป์ทีม่ าจากวฒั นธรรมตา่ ง ๆ วาดภาพระบายสี โดยใช้สวี รรณะอุ่นและสีวรรณะเย็น ถา่ ยทอดความรู้สึก และจนิ ตนาการ เลอื กใช้วรรณะสีเพอ่ื ถา่ ยทอดอารมณ์ ความร้สู ึกในการสรา้ งงานทศั นศิลป์ โดยเลือกใช้วัสดุ อปุ กรณส์ ร้างสรรค์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม บอกความรสู้ ึกในการรบั ร้คู วามงามและแสดง ความคิดเหน็ เกี่ยวกับความงามของทศั นธาตทุ างทศั นศิลป์ นำเสนอผลงานของตนเองและกล่มุ อภปิ ราย เปรยี บเทยี บผลงาน เพ่อื นำความร้แู ละวธิ กี ารทางทัศนศลิ ป์ไปใช้ในชวี ิตประจำวัน จำแนกรวมทง้ั ระบุ อภปิ ราย งานทศั นศลิ ป์ทมี่ าจากวัฒนธรรมในท้องถ่ิน สืบทอดงานเกย่ี วกับวฒั นธรรมประเพณี ท่เี ปน็ ภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน ภูมิปญั ญาไทยและสากล ดนตรี ศกึ ษาโครงสรา้ งของบทเพลง ความหมาย จำแนกประเภทของเครื่องดนตรี ระบทุ ิศทางการเคลอื่ นท่ี ขน้ึ ลงงา่ ย ๆ ของทำนอง รูปแบบจังหวะและความเร็ว ของจังหวะในเพลงทฟ่ี ัง เครื่องหมายและสญั ลกั ษณท์ าง ดนตรี การสบื ทอดงานทางดนตรที ีเ่ กีย่ วข้องกับความสัมพันธข์ องวิถีชวี ิตไทยทส่ี ะท้อนในดนตรแี ละเพลง ทอ้ งถิ่น การอนรุ กั ษ์ส่งเสริมวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ ภูมิปญั ญาไทยและสากล โดยอ่าน เขยี นโน้ตดนตรไี ทยและสากล รอ้ งเพลงโดยใชช้ ่วงเสียงท่ีเหมาะสมกบั ตนเอง บอก ความหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี โครงสร้างโนต้ เพลงไทย ใช้และเก็บเคร่ืองดนตรีอย่างถกู ต้องและ ปลอดภัย ระบุว่าดนตรีสามารถใช้ในการส่ือเรือ่ งราว บอกแหลง่ ทม่ี าและความสมั พันธ์ของวิถชี วี ติ ไทย ความสำคัญในการอนุรักษส์ ง่ เสรมิ วัฒนธรรมทางดนตรี ท่ีสะท้อนในดนตรี เพลงท้องถิ่นและโอกาสในการ บรรเลงดนตรี เพอ่ื นำความรแู้ ละหลักการทางดนตรไี ปใช้กบั กลมุ่ สาระการเรียนรอู้ น่ื ๆ และประยกุ ต์ใชใ้ น ชีวิตประจำวนั

๑๘๖ นาฏศลิ ป์ ศกึ ษาทกั ษะพื้นฐานทางนาฏศลิ ป์และการละครท่ีใชส้ ือ่ ความหมาย อารมณ์ หลกั และวธิ กี ารปฏบิ ตั ิ การเคลอื่ นไหวในจงั หวะตา่ ง ๆ ตามความคดิ ของตน การแสดงนาฏศลิ ป์เป็นค่แู ละหมู่ รำวงมาตรฐาน ระบำ เลา่ ส่ิงท่ีชนื่ ชอบในการแสดงโดยเนน้ จุดสำคญั ของเรอื่ งและลักษณะเดน่ ของตวั ละคร อธบิ ายประวตั ิความ เป็นมาของนาฏศลิ ป์ หรือชดุ การแสดงอย่างง่าย ๆ ใช้ภาษาทา่ และนาฏยศัพท์ถ่ายทอดเร่ืองราว อธบิ าย ประวัติความเปน็ มาของนาฏศิลป์ โดยใชภ้ าษาทา่ และนาฏยศัพทห์ รอื ศพั ทท์ างการละครง่าย ๆ ในการถา่ ยทอดเรอื่ งราว ประดิษฐท์ า่ ทาง หรอื ท่ารำประกอบจงั หวะพน้ื เมือง ชุดการแสดงอย่างงา่ ย ๆ เปรียบเทยี บการแสดงนาฏศลิ ปก์ ับการแสดงทีม่ า จากวฒั นธรรมอ่นื เพ่อื สบื ทอดการแสดง นาฏศิลป์และตระหนักในคณุ คา่ ของการจัดกจิ กรรมนาฏศิลป์ บ่งบอก ถึงค่านิยม วัฒนธรรมประเพณี ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ ภมู ิปัญญาไทยและสากล รหสั ตวั ช้วี ัด ศ 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8, ป.4/9 ศ 1.2 ป.4/1,ป.4/2 ศ 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7 ศ 2.2 ป.4/1, ป.4/2 ศ 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5 ศ 3.2 ป.4/1, ป.4/2,ป.4/3, ป4/4 รวม 29 ตัวชว้ี ดั

๑๘๗ คำอธิบายรายวิชา รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 80 ชั่วโมง ทศั นศลิ ป์ ศึกษา เกย่ี วกับจังหวะ ตำแหน่งของสิง่ ต่าง ๆ ทีป่ รากฏในส่งิ แวดล้อม และสร้างสรรค์งานทัศนศลิ ป์ ส่ือความคดิ จินตนาการ เปรยี บเทียบความแตกตา่ งระหวา่ งงานทศั นศิลปท์ ี่สร้างสรรค์ดว้ ยวสั ดุอปุ กรณ์และ วธิ ีการทต่ี า่ งกนั ใช้ความรู้ เทคนคิ วธิ ีการ และวัสดุอุปกรณป์ ระเภทตา่ ง ๆ จากแหล่งการเรียนรู้หรือ นทิ รรศการ แสดงออกถึงความร้สู กึ ความคิดเห็น ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของงานทศั นศลิ ป์ทม่ี ีผลตอ่ ชวี ิตของคน ในสังคม สรา้ งสรรคง์ านปนั้ จาก ดนิ น้ำมนั หรือดินเหนียว งานพิมพภ์ าพ โดยเน้นการถ่ายทอดจินตนาการ ศิลปะ และการจดั วางตำแหนง่ ของส่งิ ตา่ ง ๆ ในภาพ โดยเลือกเทคนิค วธิ ีการ วัสดอุ ปุ กรณใ์ นการสร้างสรรคอ์ ยา่ งเหมาะสม ใชก้ ระบวนการคดิ วิเคราะห์ การอภิปราย เพ่ือแสดงออกถึงความงาม ความประณีต สะทอ้ นวฒั นธรรม ประเพณี ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ ภูมิ ปัญญาไทยและสากลและเหน็ คุณค่าของการนำความร้ไู ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ในการดำเนนิ ชีวิตประจำวัน ดนตรี ศึกษาจงั หวะ ทำนอง องค์ประกอบดนตรีในเพลงทใ่ี ช้ในการส่อื อารมณ์ จำแนกลักษณะของเสียงขับ รอ้ งและเครือ่ งดนตรี ท่อี ยู่ในวงดนตรีประเภทตา่ ง ๆ การอา่ น เขยี นโน้ตดนตรไี ทย ดนตรสี ากล 5 ระดบั เสยี ง รอ้ งเพลงไทยหรือเพลงสากลหรอื เพลงไทยสากลทเ่ี หมาะสมกบั วยั ดน้ สดง่าย ๆ โดยใช้ประโยคเพลงแบบถาม ตอบ ใช้เคร่อื งดนตรบี รรเลงจังหวะและทำนอง รว่ มกับกิจกรรมในการแสดงออกตามจินตนาการ โดยการฝึกปฏิบตั ิ การแสดงออกตามจนิ ตนาการเพ่อื สือ่ ความคิด จนิ ตนาการ ความรูส้ ึกประทบั ใจ และเหน็ คุณค่า อธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างดนตรีกบั ประเพณใี นวฒั นธรรมต่าง ๆ ใหส้ มั พันธ์กนั เพ่อื นำไป สร้างสรรค์ระหวา่ งดนตรกี บั ประเพณีในวฒั นธรรมท้องถิน่ เหน็ คุณค่าของดนตรที ม่ี าจากวฒั นธรรมทตี่ ่างกนั นาฏศิลป์ ศึกษาความร้พู ้นื ฐานทางนาฏศิลป์ การบรรยายองค์ประกอบของนาฏศิลป์ การประดษิ ฐท์ า่ ทาง ประกอบเพลงหรอื เรือ่ งราวตามความคิด องค์ประกอบของละคร บอกท่มี าของการแสดงนาฏศลิ ป์ ประโยชน์ ทไี่ ดร้ ับจากการชมการแสดง โดยแสดงนาฏศิลป์ ละครสร้างสรรค์ การแสดงออก การถ่ายทอดความรู้สกึ เพอื่ นำความรแู้ ละ หลกั การทางด้านนาฏศิลปม์ าใชบ้ ูรณาการกบั กลมุ่ สาระการเรียนรอู้ น่ื ๆ และชวี ติ ประจำวนั สมั พันธ์กบั การ แสดงนาฏศลิ ป์พืน้ บา้ นที่สะท้อนถึงวฒั นธรรมและประเพณี ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล

๑๘๘ รหัสตวั ชว้ี ัด ศ 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7 ศ 1.2 ป.5/1, ป.5/2 ศ 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7 ศ 2.2 ป.5/1, ป.5/2 ศ 3.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6 ศ 3.2 ป.5/1, ป.5/2 รวม 26 ตัวชวี้ ัด

๑๘๙ คำอธิบายรายวิชา รายวชิ าพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 80 ชว่ั โมง ทัศนศิลป์ ศกึ ษา สร้างสรรค์งานทศั นศลิ ป์ สือ่ ความคดิ ถ่ายทอดจินตนาการ ใช้สคี ู่ตรงข้าม แสงเงา น้ำหนกั งาน ปนั้ รูปแบบ เทคนิค และวิธกี ารตา่ ง ๆ แสดงเปน็ แผนภาพ แผนผัง ภาพประกอบ อธิบายหลักการจัดขนาด สดั ส่วน ความสมดุลในการสร้างงานทัศนศลิ ป์ จากรปู แบบ 2 มติ ิ เปน็ 3 มิติ บทบาทของงานทัศนศลิ ป์ท่ี สะท้อนชวี ติ และสังคม อภปิ รายเกี่ยวกับอทิ ธพิ ลของความเชอื่ ความศรทั ธาในศาสนาทม่ี ีผลต่องานทัศนศลิ ป์ใน ทอ้ งถ่นิ อันเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ภมู ิปญั ญาไทยและสากล โดยใชก้ ระบวนการคดิ วิเคราะห์ การสร้างสรรค์งาน กระบวนการกลุม่ และรายบคุ คล เพ่ือถ่ายทอด ความคดิ หรือเรื่องราวเกี่ยวกับเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไป ใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในการดำเนินชวี ติ ประจำวัน ดนตรี ศกึ ษาวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบดนตรี เพลงที่ฟังและศัพทส์ ังคีต จำแนกประเภทเครือ่ งดนตรี ใช้เครือ่ ง ดนตรแี ละเคร่ืองดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่าง ๆ อา่ น เขียนโนต้ ไทยและโนต้ สากล รอ้ งเพลง ดน้ สด สรา้ งสรรค์ รปู แบบจงั หวะและทำนองดว้ ยเครอื่ งดนตรไี ทยหรือเคร่อื งดนตรที ่มี าจากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ สืบทอดดนตรีไทย จำแนกดนตรที ีม่ าจากยุคสมยั ท่ีต่างกนั อิทธิพลของวัฒนธรรมต่อดนตรใี นท้องถิ่น บรรยายความรูส้ กึ และแสดง ความคดิ เหน็ ท่ีมีตอ่ บทเพลง ความไพเราะของเสียงดนตรี โดยใชก้ ระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการกลมุ่ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนนำความรู้ และหลกั การทางดนตรมี าประยกุ ต์ใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนและเหน็ คณุ คา่ ในการสรา้ งสรรค์นำความรไู้ ปใชใ้ น ชีวิตประจำวนั นาฏศิลป์ ศกึ ษาพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจ นาฏศิลป์เบื้องตน้ แสดงออกอยา่ งอสิ ระในการประดษิ ฐท์ า่ ทาง ประกอบเพลงปลกุ ใจหรอื เพลงพ้นื เมืองหรือท้องถิ่น การแสดงนาฏศลิ ป์และละครสร้างสรรค์ การใชเ้ รื่องแตง่ จนิ ตนาการ ประสบการณ์ ละครสร้างสรรค์ ระบำ ฟอ้ น รำวงมาตรฐาน การอธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่าง นาฏศลิ ป์และการละครกับส่ิงท่ปี ระสบในชีวิตประจำวนั ใชห้ ลักสุนทรที างนาฏศลิ ป์ การบอกความหมาย ความ เปน็ มา ความสำคัญพรอ้ มทง้ั ระบุประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจากการแสดงหรือการชมการแสดงนาฏศิลป์ สร้างสรรค์การ เคลื่อนไหวและการถา่ ยทอดลีลา อารมณ์ ส่งิ ทม่ี ีความสำคญั ตอ่ การแสดงนาฏศิลปแ์ ละละคร ระบุประโยชนท์ ี่ ไดร้ บั จากการแสดงหรอื การชมการแสดงนาฏศิลปแ์ ละละคร

๑๙๐ โดยใช้กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การอภปิ ราย กระบวนการกลมุ่ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ และ เหน็ คุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนใ์ นการดำเนินชีวติ ประจำวนั รหัสตัวชี้วัด ศ 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7 ศ 1.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 ศ 2.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6 ศ 2.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 ศ 3.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6 ศ 3.2 ป.6/1, ป.6/2 รวม 27 ตวั ช้ีวัด

๑๙๑ คำอธบิ ายรายวชิ าศลิ ปะ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ จำนวน ๑ หนว่ ยกติ คำอธิบายรายวชิ า ( ภาคเรียนที่ ๑ ) จำนวนเวลา ๔๐ ชวั่ โมง ศลิ ปะ ศกึ ษาเพ่อื ใหม้ ีความเข้าใจถึงความแตกต่าง ความคล้ายคลึงกนั ของทัศนธาตใุ นงานทศั นศลิ ป์ การสร้างสรรค์งานศลิ ปะโดยเนน้ หลกั การจดั องค์ประกอบศิลป์ ปฏิบตั งิ านวาดภาพทัศนียภาพ ให้เหน็ ระยะไกล – ใกล้ เพอ่ื ส่อื ความคดิ และจินตนาการ ความรสู้ ึกประทบั ใจตอ่ งานทัศนศลิ ป์ของทอ้ งถ่นิ ตนเอง จากอดีตจนถึงปัจจบุ นั เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของจดุ ประสงค์ในการสร้างสรรค์งานทศั นศลิ ปข์ อง วัฒนธรรมไทยและสากล โดยเนน้ ความเป็นเอกภาพ ความกลมกลนื ทศั นศลิ ปข์ องชาติและทอ้ งถิ่น ดนตรี ศึกษาเพ่ือใหม้ คี วามรู้เร่ืองเคร่อื งหมายและสญั ลักษณ์ทางดนตรี การร้อง และเคร่อื งดนตรี จากวฒั นธรรมต่าง ๆ ปฏบิ ตั กิ ารรอ้ งเพลงหลายหลายรปู แบบ การจัดประเภทของวงดนตรีไทยและวงดนตรี ท่มี าจากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ นาฏศลิ ป์ ศึกษาเพ่ือใหม้ ีความรู้เก่ียวกับทา่ ทางเคลื่อนไหวท่ีแสดงสื่อทางอารมณ์ ระบำเบด็ เตล็ด รำ วงมาตรฐาน การปฏิบตั ิของผูแ้ สดงและผ้ชู ม ประวตั ินกั แสดงทช่ี อบ อิทธพิ ลทางการแสดง นาฏยศัพท์ ทางการแสดง เพอื่ ใหเ้ กดิ ความตระหนกั ในคณุ คา่ รกั และภาคภูมใิ จ ประทับใจในศลิ ปวัฒนธรรมไทย ภมู ิ ปัญญาไทย ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ การอภิปราย กระบวนการกลมุ่ เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ และ เห็นคณุ คา่ ของการนำความร้ไู ปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ในการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวัน รหสั ตัวชวี้ ดั ศ ๑.๑ , ม ๑/๑, ม ๑/๒ , ม ๑/๓ ศ ๑.๒ , ม ๑/๑, ศ ๒.๑ , ม ๑/๑, ม ๑/๒ , ม ๑/๓ , ม ๑/๔ ศ ๒.๒ , ม ๑/๑ ศ ๓.๑, ม ๑/๑, ม ๑/๒ ศ ๓.๒, ม ๑/๑ รวม ๑๒ ตวั ชวี้ ดั

๑๙๒ คำอธิบายรายวิชาศลิ ปะ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ จำนวน ๑ หน่วยกิต คำอธิบายรายวิชา (ภาคเรยี นท่ี ๒) จำนวนเวลา ๔๐ ชว่ั โมง ศิลปะ ศึกษาเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจการจดั องคป์ ระกอบในงานประตมิ ากรรม การสรา้ งสรรคง์ าน ประติมากรรมนนู ตำ่ นูนสงู ลอยตวั และประตมิ ากรรมสอื่ ผสม การเกบ็ รวบรวมผลงานประติมากรรม การ ออกแบบรปู ภาพ สญั ลักษณห์ รืองานกราฟิกแบบต่าง ๆ และสามารถประเมนิ รูปแบบงานทัศนศิลป์ของตนเอง และผู้อ่นื ได้ มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ในงานศลิ ปะ เพอ่ื ให้มีความรู้ ความเข้าใจเหน็ คุณคา่ ระหวา่ งทศั นศลิ ป์ ประวตั ิศาสตร์วฒั นธรรมทเ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่น ภมู ิปญั ญาไทยและสากล อย่างอสิ ระ และประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั ดนตรี ศกึ ษารูปแบบอารมณข์ องบทเพลง จงั หวะ ความดงั – เบา ความแตกต่างของอารมณ์เพลง สามารถนำเสนอบทเพลงที่ตนชอบได้ ประเมินคณุ ภาพของบทเพลงดา้ นเนอ้ื หา ดา้ นเสียง ด้านองคป์ ระกอบ ของดนตรอี ยา่ งเขา้ ใจ รจู้ กั การบำรงุ รักษา การใชเ้ คร่ืองดนตรแี ตล่ ะประเภท มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง และผอู้ น่ื นาฏศิลป์ ศึกษาเพ่ือให้เขา้ ใจรูปแบบการแสดงนาฏศลิ ปพ์ ื้นเมอื ง นาฏศลิ ปน์ านาชาติ เข้าใจทักษะ การทำงานเป็นกล่มุ ในกระบวนการผลิตการแสดง เกี่ยวกบั บทบาทหน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ในการจัดการแสดง ประเภทของละครไทยในแตล่ ะยคุ สมัย ความสามคั คีกนั ในหมคู่ ณะ โดยใช้กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ การอภปิ ราย กระบวนการกลุ่ม เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ และ เห็นคุณคา่ ของการนำความร้ไู ปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในการดำเนินชีวติ ประจำวนั รหสั ตวั ชว้ี ัด ศ ๑.๑ ม ๑/๔ , ม ๑/๕, ม ๑/๖ ศ ๑.๒ ม ๑/๑, ม ๑/๓ ศ ๒.๑ ม ๑/๕ ,ม ๑/๖ , ม ๑/๗ , ม ๑/๘ , ม ๑/๙ ศ ๒.๒ ม ๑/๒ ศ ๓.๑ ม ๑/๓, ม ๑/๔ , ม ๑/๕ ศ ๓.๒ ม ๑/๒ รวม ๑๕ ตัวชว้ี ดั

๑๙๓ คำอธบิ ายรายวชิ าศิลปะ รหัสวชิ า ศ ๒๒๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ จำนวน ๑ หนว่ ยกติ คำอธบิ ายรายวชิ า (ภาคเรยี นท่ี ๑ ) เวลา ๔๐ ชัว่ โมง ทัศนศลิ ป์ ศึกษาเกี่ยวกับทัศนธาตุในด้านรูปแบบแนวคิดของงานทัศนศิลป์มาประยุกต์ ใช้ให้ เกิดประโยชน์ ฝกึ ปฏบิ ัติงานศิลปะการวาดภาพโดยใชเ้ ทคนิคทีห่ ลากหลายถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคดิ อยา่ ง อสิ ระ เพอื่ สือ่ ความหมายการแสดงออกอยา่ งสรา้ งสรรคต์ อ่ งานศลิ ปะศึกษาเก่ียวกบั ทศั นศลิ ป์ของไทยในแต่ ละยุคสมยั โดยเนน้ ถงึ แนวคดิ และเนือ้ หาเปรยี บเทียบทมี่ าจากทศั นศิลปท์ ม่ี าจากวฒั นธรรม ประเพณี ภมู ิ ปญั ญาทอ้ งถิ่น ภมู ิปญั ญาไทยและสากล เพือ่ เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเองและสังคม ดนตรี ศึกษาที่มาและองค์ประกอบของดนตรี อ่าน เขียน ร้องโน้ตไทยและสากลฝึกปฏิบัติ การขับ ร้อง และบรรเลงดนตรีเพื่อสื่อความคิด จินตนาการณ์ ความรู้สึก ตลอดจนนำความรู้และหลักการดนตรี มาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ศกึ ษาบทบาทและอิทธพิ ลของดนตรใี นแตล่ ะยุคสมัย ทเ่ี กยี่ วกับมรดกทาง วฒั นธรรมภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน ภูมปิ ัญญาไทย และสากล นาฏศลิ ป์ ศกึ ษาเพอ่ื ให้เขา้ ใจองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ในการแสดง เช่น แสง สี เสียง ฉาก เครอื่ งแต่ง กาย อปุ กรณ์ หลกั และวิธกี ารสรา้ งสรรค์การแสดง การเปรียบเทยี บลักษณะเฉพาะของการแสดงนาฏศลิ ป์ พ้นื เมือง เก่ียวกบั ความหมาย ท่ีมา วัฒนธรรม และลกั ษณะเฉพาะ โดยใชก้ ระบวนการคดิ วเิ คราะห์ การอภิปราย กระบวนการกลุ่ม เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ และ เหน็ คณุ คา่ ของการนำความร้ไู ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนใ์ นการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวัน รหสั ตวั ชี้วดั ศ ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔ ศ ๑.๒ ม.๒/๑, ม.๒/๒ ศ ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕ ศ ๒.๒ ม.๒/๑ ศ ๓.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓ ศ ๓.๒ ม.๒/๑ รวมทงั้ หมด ๑๖ ตวั ชีว้ ัด

๑๙๔ คำอธบิ ายรายวิชาศลิ ปะ รหสั วิชา ศ ๒๒๑๐๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๑ หน่วยกติ คำอธบิ ายรายวชิ า (ภาคเรยี นท่ี ๒ ) เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ศิลปะ ศกึ ษาเพ่อื ใหเ้ กดิ การพัฒนาผลงาน การสะสมผลงาน การสร้างสรรค์งานทัศนศลิ ป์กับสือ่ โฆษณา เพือ่ ใช้ในชวี ิตประจำวนั สะท้อนวฒั นธรรมอันดงี ามในแตล่ ะยุคสมัย เข้าใจรูปแบบงานทศั นศลิ ป์ไทย และสากล รักและช่นื ชมในผลงานศลิ ปะที่สนใจ ดนตรี ศกึ ษาเพ่อื ให้เกดิ การพฒั นาการทักษะทางดนตรี ระบอุ าชีรพทางด้านดนตรีที่มบี ทบาทตอ่ ธุรกิจในสงั คมปจั จบุ ัน และวฒั นธรรมตา่ ง ๆ ท่ีมีอทิ ธพิ ลในการเปลีย่ นแปลงทางดนตรใี นประเทศไทย นาฏศลิ ป์ ศกึ ษาเพอ่ื ใหเ้ กดิ การวิเคราะห์ วจิ ารณก์ ารแสดงรำวงมาตรฐาน ความสัมพันธ์ของ นาฏศิลป์หรอื การละครกบั สาระการเรียนรอู้ ่ืน ๆ การแสดงประเภทต่าง ๆ ของไทย เช่น นาฏศิลปพ์ นื้ เมือง ละครไทย ละครพื้นบ้าน ให้เกดิ ความรกั และหวงแหนศิลปวฒั นธรรมการแสดงและการละครของไทย รปู แบบการแสดงประเภทตา่ ง ๆ การละครสมยั ตา่ ง ๆ ของไทย โดยใช้กระบวนการคิดวเิ คราะห์ การอภปิ ราย กระบวนการกลุ่ม เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ และ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในการดำเนนิ ชีวติ ประจำวนั รหัสตวั ชว้ี ดั ศ ๑.๑ ม ๒/๕ , ม ๒/๖ , ม ๒/๗ ศ ๑.๒ ม ๒/๓ ศ ๒.๑ ม ๒/๖ , ม ๒/๗ ศ ๒.๒ ม ๒/๒ ศ ๓.๑ ม ๒/๔ , ม ๒/๕ ศ ๓.๒ ม ๒/๒ , ม ๒/๓ รวม ๑๑ ตัวชี้วัด

๑๙๕ คำอธบิ ายรายวิชาดนตรี – นาฏศลิ ป์ รหสั วิชา ศ ๒๓๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 จำนวน ๑ หน่วยกิต คำอธบิ ายรายวิชา (ภาคเรียนที่ ๑ ) เวลา ๘๐ ชัว่ โมง ทศั นศิลป์ ศึกษาเพอ่ื ให้เขา้ ใจเรื่องทัศนธาตใุ นการนำมาสรา้ งงานศลิ ปะ เทคนิคต่าง ๆ ในการ สร้างสรรค์งานศลิ ปะในรูปแบบท้ังไทยและสากล การสรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะส่ือผสม การสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ทั้ง ๒ มติ ิ และ ๓ มติ ิ การสร้างสรรคผ์ ลงานทศั นศลิ ปท์ ี่สะทอ้ นคณุ คา่ ทางวฒั นธรรม มจี ินตนาการ ความคิด สรา้ งสรรค์ มีจิตใจรักในงานศิลปะ ดนตรี ศึกษาและฝกึ ทกั ษะทางดนตรี-นาฏศิลป์ผา่ นกระบวนการอธบิ าย การร้องเพลง การเลน่ ดนตรี การแต่งเพลง การจดั แสดงดนตรี การวิจารณ์เปรียบเทยี บ การฝกึ ทกั ษะการปฏิบตั ิ อธิบายเก่ียวกบั อทิ ธิพล ของดนตรที มี่ ีตอ่ บคุ คลและสงั คม อธบิ ายเหตผุ ลในการเลือกใชอ้ งคป์ ระกอบดนตรใี นการสร้างสรรค์งานดนตรี ของตนเอง ร้องเพลงเล่นดนตรเี ดีย่ วและรวมวง อธบิ ายเหตุผลในการเลือกใช้องค์ประกอบดนตรใี นการ สร้างสรรค์งานดนตรขี องตนเอง เปรยี บเทยี บความแตกต่างระหวา่ งงานดนตรขี องตนเองและผู้อ่ืน แต่งเพลง สน้ั ๆ นำเสนอแนวคดิ จากเนือ้ เร่ืองของการแสดงทส่ี ามารถนำไปปรับใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั นาฏศิลป์ ศึกษาเพือ่ ให้เขา้ ใจองค์ประกอบของบทเพลง นาฏยศัพท์ทางการละคร รปู แบบการแสดง เชน่ การแสดงหมู่ การแสดงเดีย่ ว การแสดงละคร การแสดงเป็นชดุ เปน็ ตอน การประดษิ ฐ์ท่ารำ องค์ประกอบของนาฏศิลป์ สามารถสร้างสรรคอ์ ปุ กรณ์และเคร่อื งแต่งกายเพื่อการแสดงแบบง่าย ๆ ได้ โดยใชก้ ระบวนการคดิ วิเคราะห์ การอภิปราย กระบวนการกลุม่ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ และ เหน็ คณุ ค่าของการนำความรไู้ ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนใ์ นการดำเนินชวี ิตประจำวัน รหัสตัวชวี้ ดั ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ศ ๑.1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ศ ๑.2 ม.3/1 ศ ๒.1 ม.3/1 ศ ๒.2 ม.3/1 ศ ๓.๑ ม.3/1 ศ ๓.2 รวม ๑๘ ตวั ช้วี ดั

๑๙๖ คำอธิบายรายวชิ าศลิ ปะ รายวชิ าพน้ื ฐาน รหสั วชิ า 23102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษาความรเู้ กยี่ วกับการเปรียบเทยี บองค์ประกอบดนตรีในการสรา้ งสรรค์บทบาทและอทิ ธิพลของ ดนตรีในวัฒนธรรมไทย ปฏบิ ตั ิการแต่งบทเพลง ขับรอ้ งและบรรเลงเด่ียวพรอ้ มนำเสนออย่างน่าช่นื ชม ด้าน นาฏศิลป์ โครงสร้างของละคร การพัฒนารูปแบบการแสดงและบทบาทของนาฏศลิ ปแ์ ละการละครใน ชวี ิตประจำวนั วเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านนาฏศลิ ป์ ปฏบิ ตั ินาฏยศัพทห์ รือศพั ท์ท่ใี นละคร ภาษาทา่ มีทกั ษะในการ ประดิษฐ์ท่ารำในการแสดงละคร ออกแบบและสรา้ งสรรคอ์ ปุ กรณ์ เครือ่ งแตง่ กาย สามารถจัดแสดงละครตาม บทบาทและนำเสนอผลงานด้านละคร เพอื่ ตระหนกั ในคณุ คา่ ของการจดั กิจกรรมนาฏศิลป์ เพอื่ บง่ คา่ นิยม ประเพณี ภูมิปญั ญาไทย ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน และนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน รหัสตัวช้วี ดั ศ 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6, ม.3/7 ศ 2.2 ม.3/1, ม.3/2 ศ 3.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6, ม.3/7 ศ 3.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3 รวม 19 ตวั ชีว้ ัด

197 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ วชิ าเพม่ิ เติม ความเปน็ เลศิ ดา้ นศิลปะ (ผ้ามัดยอ้ ม) ศ10201 ความเปน็ เลศิ ดา้ นศิลปะ ศ10202 ความเปน็ เลศิ ด้านศิลปะ 2 ศ10203 ความเปน็ เลศิ ด้านศิลปะ 3

คำอธบิ ายรายวิชา 198 ศ10201 ความเป็นเลิศดา้ นศิลปะ 1 จำนวน 80 ช.ม./ปี เวลาเรยี น 2 ช.ม./สัปดาห์ ศึกษาเกยี่ วกับงานทัศนศิลป์ทม่ี าจากวัฒนธรรมต่าง ๆ ท่ที ำให้เกดิ ผลงานทศั นศิลป์ท่มี คี วามแตกต่าง กนั ร้คู วามหมายและท่มี าของการทำผา้ มดั ย้อม เรียนรกู้ ารใชส้ ีจากธรรมชาติ เพือ่ นำมาทำการมัดยอ้ มดว้ ย เทคนคิ วิธีการตา่ ง ๆ อยา่ งถูกวธิ ี เพ่ือใหเ้ กิดการสร้างสรรค์ผลงานที่สามารถนำมาใช้ในชีวติ ประจำวนั ทำงาน ร่วมกบั ผูอ้ ืน่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ มีเจตคตทิ ีด่ ีและเห็นคุณคา่ ของผลงานทีเ่ ป็นมรดกและภมู ปิ ัญญาของไทย โดยใชก้ ระบวนการฝกึ ปฏิบตั กิ ารเลอื กและใช้วสั ดุ อุปกรณ์และเคร่ืองใช้แต่ละประเภทในการทำผา้ มดั ย้อมได้ถูกต้องเหมาะสม ปลอดภัย ปฏบิ ตั กิ ารเตรยี มและปฏิบัตกิ ารมดั ยอ้ มด้วยวสั ดแุ ละเทคนคิ ตา่ ง ๆ ใช้ ทักษะแสวงหาความรู้ แกไ้ ขปญั หาที่เกดิ ขน้ึ ในกระบวนการทำผ้ามดั ย้อมไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เพ่อื ให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั ศลิ ปะการทำผ้ามดั ยอ้ มและอุปกรณเ์ คร่อื งใชใ้ นการทำผา้ มดั ย้อมได้อยา่ งถูกต้องและปลอดภยั มีความรเู้ กีย่ วกับศพั ทภ์ าษาต่างประเทศที่สำคญั สามารถวเิ คราะห์ วาง แผนการสร้างสรรคผ์ ลงานในรูปแบบต่าง ๆ การดแู ลอุปกรณเ์ คร่ืองใช้ได้อย่างถูกตอ้ ง สามารถปฏิบัติจนเกดิ ทกั ษะในการเตรยี มและปฏิบตั กิ ารมดั ยอ้ ม ภมู ใิ จในศิลปะของไทย ใฝร่ ู้ใฝ่เรียน มีความสามคั คี ผา่ น กระบวนการเรียนรูแ้ บบร่วมมอื มคี ุณธรรม ทำงานด้วยความรับผดิ ชอบ ขยัน ซ่ือสัตย์ มงุ่ มั่น อดทน ใช้ พลงั งานและทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มอย่างคมุ้ คา่ และถกู วิธี ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายเกีย่ วกับความหมาย ความเปน็ มาของผา้ มัดย้อมไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 2. อธบิ ายประโยชนข์ องผา้ มัดยอ้ มทน่ี ำมาใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ 3. ใชว้ ัสดุและอุปกรณ์ในการทำผา้ มัดย้อม สามารถบอกวธิ ีดแู ลรกั ษา และเก็บอุปกรณ์ได้อย่าง ถูกต้อง 4. สามารถอธิบายเทคนิคการทำลวดลาย ในการทำผ้ามัดย้อมไดอ้ ย่างถกู ต้อง 5. มีความรู้เร่อื งสที ่ีไดจ้ ากธรรมชาติ เชน่ ส่วนต่าง ๆ จากพืชท่ีสามารถทำให้เกิดสีสันนำมา สร้างสรรคท์ ำผา้ มดั ยอ้ มได้ 6. สามารถปฏบิ ัติการทำผา้ มัดย้อมด้วยลวดลายง่าย ๆ จากสธี รรมชาตไิ ดอ้ ยา่ งสวยงาม รวม 6 ขอ้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook