42 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์มบี ทบาทสำคญั ยง่ิ ตอ่ การพฒั นาความคดิ มนุษย์ ทำใหม้ นุษย์มีความคดิ สรา้ งสรรค์ คดิ อยา่ งมีเหตุผล เปน็ ระบบ มแี บบแผน สามารถวิเคราะห์ปญั หาหรือสถานการณ์ได้อยา่ งถี่ถว้ นรอบคอบ ชว่ ยให้ คาดการณ์ วางแผน ตดั สินใจ แก้ปญั หา และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม นอกจากน้ี คณติ ศาสตร์ยงั เป็นเคร่ืองมือในการศกึ ษาทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละศาสตร์อืน่ ๆ คณติ ศาสตรจ์ งึ มี ประโยชน์ต่อการดำเนนิ ชีวติ ชว่ ยพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ให้ดขี นึ้ และสามารถอยู่ร่วมกบั ผู้อืน่ ได้อย่างมคี วามสขุ กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์เปดิ โอกาสให้เยาวชนทกุ คนไดเ้ รียนรูค้ ณติ ศาสตร์อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ตาม ศกั ยภาพ โดยกำหนดสาระหลักทจ่ี ำเปน็ สำหรับผ้เู รยี นทกุ คนดงั น้ี - จำนวนและพีชคณติ เรียนรู้เกย่ี วกบั ระบบจำนวนจริง สมบัติเก่ยี วกับจำนวนจรงิ อตั ราส่วนร้อย ละ การประมาณคา่ การแกป้ ญั หาเก่ยี วกับจำนวน การใชจ้ ำนวนในชวี ติ จรงิ แบบรปู ความสัมพันธ์ ฟงั ก์ชัน เซต ตรรกศาสตร์ นิพจน์ เอกนาม พหนุ าม สมการ อสมการ กราฟ ดอกเบยี้ และมูลคา่ ของเงิน ลำดับและอนกุ รม และการนำความร้เู กยี่ วกับจำนวนและพีชคณิตไปใช้ในสถานการณต์ ่าง ๆ - การวดั และเรขาคณิต เรยี นรูเ้ กย่ี วกับความยาว ระยะทาง น้ำหนกั พื้นท่ี ปริมาตรและความจุ เงนิ และเวลา หน่วยวดั ระบบตา่ ง ๆ การคาดคะเนเก่ยี วกับการวดั อัตราสว่ นตรีโกณมติ ิ รูปเรขาคณิตและ สมบตั ขิ องรูปเรขาคณติ การนกึ ภาพ แบบจำลองทางเรขาคณิต ทฤษฎบี ททางเรขาคณติ การแปลงทาง เรขาคณติ ในเรื่องการเลอื่ นขนาน การสะทอ้ น การหมนุ และการนำความรูเ้ ก่ยี วกบั การวัดและเรขาคณิตไปใช้ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ - สถิตแิ ละความน่าจะเป็น เรยี นร้เู กย่ี วกบั การตง้ั คำถามทางสถติ ิ การเก็บรวบรวมข้อมลู การ คำนวณค่าสถิติ การนำเสนอและแปลผลสำหรบั ขอ้ มูลเชงิ คุณภาพและเชงิ ปริมาณ หลักการนับเบ้อื งตน้ ความนา่ จะเป็น การใชค้ วามรเู้ กีย่ วกบั สถติ แิ ละความน่าจะเป็นในการอธบิ ายเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ และช่วยในการ ตดั สินใจ
43 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลท่ี เกดิ ขน้ึ จากการดำเนินการ สมบัตขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้ มาตรฐาน ค 1.2 เขา้ ใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสมั พันธ์ ฟังก์ชนั ลำดับและอนกุ รม และนำไปใช้ มาตรฐาน ค 1.3 ใชน้ ิพจน์ สมการ และอสมการ อธบิ ายความสมั พันธห์ รอื ช่วยแก้ปญั หาทกี่ ำหนดให้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทีต่ อ้ งการวดั และนำไปใช้ มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณิต สมบัตขิ องรูปเรขาคณิต ความสัมพนั ธร์ ะหว่างรูป เรขาคณิตและทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนำไปใช้ สาระที่ 3 สถติ ิและความน่าจะเปน็ มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามร้ทู างสถิตใิ นการแกป้ ญั หา มาตรฐาน ค 3.2 เขา้ ใจหลักการนบั เบ้ืองต้น ความนา่ จะเป็น และนำไปใช้
44 รายวชิ าพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวน 200 ชว่ั โมง รายวชิ าพ้ืนฐาน จำนวน 200 ชัว่ โมง จำนวน 200 ชั่วโมง ค11101 คณิตศาสตร์ ค12101 คณิตศาสตร์ จำนวน 160 ชั่วโมง ค13101 คณิตศาสตร์ จำนวน 160 ช่วั โมง จำนวน 160 ช่ัวโมง ค14101 คณิตศาสตร์ ค15101 คณิตศาสตร์ ค16101 คณติ ศาสตร์ ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 จำนวน 60 ชว่ั โมง รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 60 ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 60 ชว่ั โมง ค 21101 คณิตศาสตร์ จำนวน 60 ชว่ั โมง ค 21102 คณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี 2 จำนวน 60 ชวั่ โมง ค 22101 คณิตศาสตร์ ภาคเรยี นที่ 1 จำนวน 60 ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี 2 ค 22102 คณติ ศาสตร์ จำนวน 20 ชว่ั โมง ค 23101 คณติ ศาสตร์ จำนวน 20 ช่วั โมง ค 23102 คณิตศาสตร์ รายวชิ าเพิ่มเตมิ ค 20201 คณิตศาสตรเ์ สรมิ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ค 20202 คณิตศาสตร์เสรมิ 2 ภาคเรียนท่ี 2
45 คำอธบิ ายรายวิชา ชอ่ื วิชา คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค11101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง คณิตศาสตร์ ชั้น ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ศึกษาและเรียนรู้จำนวนของส่ิงต่าง ๆ จำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ จำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ตั้งแต่ ๓ ถึง ๕ จำนวน ตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ คำตอบของโจทย์ ปัญหาการบวกของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ คำตอบของโจทย์ปัญหาการลบของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ จำนวนที่หายไปในแบบรูปของจำนวนท่ี เพม่ิ ขน้ึ หรือลดลงทลี ะ ๑ และทลี ะ ๑๐ รปู ทหี่ ายไปในแบบรูป ซ้ายของรูปเรขาคณิต และรูปอื่น ๆ ที่สมาชิกในแต่ละชุดที่ซ้ายมี ๒ รูป บอกความยาวเป็นเซนติเมตร เป็น เมตร น้ำหนักเป็นกิโลกรัมเป็นขีด รูปสามเหล่ียม รูปส่ีเหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงส่ีเหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และ กรวย คำตอบของโจทย์ปัญหา เม่ือกำหนดรูป ๑ รูปแทน ๑ หน่วย การแก้ปัญหาที่พบ ในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่ือสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ รูเ้ ทา่ ทนั และมีจริยธรรม โดยใช้การจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัว ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การ ส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ใน การเรยี นรูส้ ่ิงตา่ งๆ เพ่ือให้เกิดคุณลักษณะการเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม ตวั ชวี้ ดั ค๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ป.๑/๕ ค๑.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๑ ค๒.๑ ป.๑/๒ ค๒.๒ ป.๑/๑ ค๓.๑ ป.๑/๑ รวมทัง้ หมด ๑๐ ตัวชี้วัด
46 คำอธิบายรายวิชา ชอื่ วชิ า คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค ๑๒๑๐๑ กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 เวลา ๕ ช่วั โมง/สปั ดาห์ เวลาเรียน ๒๐๐ ชั่วโมง/ปี ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคำนวณ และฝึกการแก้ปญั หาในสาระต่อไปนี้ การอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวน การนับเพิ่มทีละ ๕ ทีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ การนับลดทีละ ๒ ทีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ จำนวนคู่ จำนวนค่ี หลักและค่าของ เลขโดดในแต่ละหลักและการใช้ ๐ เพื่อยึดตำแหน่งของหลัก การเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การ เปรียบเทยี บจำนวนและการใช้เคร่ืองหมาย = ≠ > < การเรียงลำดบั จำนวนไมเ่ กนิ หา้ จำนวน การบวก การลบ การคูณจำนวนหนึ่งหลักกับจำนวนไม่เกินสองหลัก การหารท่ีตัวหารและผลหารมี หนึง่ หลกั การบวก ลบ คูณ หารระคน โจทย์ปญั หา การวัดความยาว (เมตร เซนติเมตร) การชั่งน้ำหนัก (กิโลกรัม กรัม ขีด) การตวง (ลิตร) การ เปรียบเทียบความยาว น้ำหนัก ปริมาตรและความจุ (หน่วยเดียวกัน) การบอกเวลาเป็นนาฬิกากับนาที (ช่วง ๕ นาที) การอ่านปฏิทิน เดือนและอันดับท่ีของเดือน โจทย์ปัญหาบวก ลบ เกี่ยวกับการวัดความยาว การช่ัง โจทยป์ ญั หาบวก ลบ คณู หารเกีย่ วกบั การตวง จำแนกลักษณะของรปู หลายเหลี่ยม วงกลมและวงรี การเขียนรปู เรขาคณติ สองมติ โิ ดยใช้แบบของรูป แบบรูปของจำนวนที่เพ่ิมขึ้นทีละ ๕ ทีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ แบบรูปของจำนวนท่ีลดลงทีละ ๒ ที ละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ แบบรูปของรูปท่ีมรี ปู ร่าง ขนาด หรอื สีท่ีสมั พนั ธก์ ันอย่างใดอย่างหนึ่ง การจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการ เรียนรู้ส่ิงต่างๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และเชื่อมั่นในตนเอง ดำรงชีวิตตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การวัดผลและประเมินผล ใช้วิธีการหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงของเนื้อหาและทักษะท่ี ตอ้ งการวดั รหสั ตัวช้วี ัด ค ๑.๑ ป ๒/๑ - ป ๒/๘ ค ๒.๑ ป ๒/๑ - ป ๒/๖ ค ๒.๒ ป ๒/๑ ค ๓.๑ ป ๒/๑ รวมท้งั หมด ๑๖ ตวั ชว้ี ัด
กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ คำอธบิ ายรายวิชา 47 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ รหัสวิชา ค ๑๓๑๐๑ รายวิชาคณิตศาสตร์ เวลา ๕ ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาเรียน ๒๐๐ ช่ัวโมง/ปี ศึกษาความรู้เก่ียวกับ การอ่าน การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยและตัวหนังสือแสดงจำนวน หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบและ เรียงลำดับจำนวน การบวก การลบ การคูณ การหารยาวและการหารส้ัน การบวก ลบ คูณ หารระคน การแก้ โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหา พร้อมทั้งหาคำตอบ ของจำนวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 เศษส่วน ท่ีตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วน การเปรียบเทียบและเรียงลำดับเศษส่วน การบวก และการลบเศษส่วน การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหา การลบเศษส่วน แบบรูปของจำนวนที่เพิ่มข้ึนหรือลดลงทีละ เท่าๆกัน การบอกจำนวนเงินและเขียนแสดงจำนวนเงินแบบใช้จุด การเปรียบเทียบจำนวนเงินและการแลก เงิน การอ่านและเขียนบันทึกรายรับรายจ่าย การแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับเงิน การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที การเขียนบอกเวลาโดยใช้มหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) และการอ่าน การบอกระยะเวลาเป็นช่ัวโมงและนาที การเปรียบเทียบระยะเวลาโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างช่ัวโมงกับนาที การอ่านและการเขียนบันทึกกิจกรรมที่ ระบุเวลา การแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับเวลาและระยะเวลา การวัดความยาวเป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตร และเซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร การเลือกเครื่องวัดความยาวท่ีเหมาะสม การคาดคะเนความยาวเป็นเมตร และเป็นเซนติเมตร การเปรียบเทียบความยาวโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยความยาว การแก้โจทย์ปัญหา เก่ียวกับความยาว การเลือกเคร่ืองชั่งท่ีเหมาะสม การคาดคะเนน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและเป็นขีด การ เปรียบเทียบน้ำหนักโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม การแก้โจทย์ปัญหา เก่ียวกับน้ำหนัก การวัดปริมาตรและความจุเป็นลิตรและมิลลิลิตร การเลือกเคร่ืองตวงที่เหมาะสม การคาดคะเน ปริมาตรและความจุเป็นลิตร การเปรียบเทียบปริมาตรและความจุโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างลิตรกับมิลลิลิตรช้อนชา ช้อนโต๊ะถ้วยตวงกับมิลลิลิตร การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุที่มีหน่วยเป็นลิตรและมิลลิลิตร รูป เรขาคณิตสองมิติท่ีมีแกนสมมาตร การเก็บรวบรวมข้อมูลและจำแนกข้อมูล การอ่านและการเขียนแผนภูมิ รูปภาพ การอา่ นและการเขียนตารางทางเดยี ว(One-Way Table) โดยจัดประสบการณ์ กิจกรรม หรือโจทย์ปัญหาที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การเชื่อมโยง การให้เหตุผล การคิดสร้างสรรค์ การส่ือสาร และการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ความคิดรวบยอด ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีระเบียบวินัยมุ่งมั่นในการทำงานอย่างมี ระบบ ประหยัด ซ่ือสัตย์ มีวิจารณญาณ รู้จักนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิต รวมทั้งมีเจตคติท่ีดีต่อ คณิตศาสตร์ ดำรงชวี ติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง รหัสตวั ชี้วดั ค ๑.๑ ป ๓/๑ - ป ๓/๑๑ ค ๑.๒ ป ๓/๑ ค ๒.๑ ป ๓/๑ - ป ๓/๑๓ ค ๒.๒ ป ๓/๑ ค ๓.๑ ป ๓/๑ - ป ๓/๒ รวมท้งั หมด ๒๘ ตวั ชวี้ ัด
48 รายวิชา คณติ ศาสตร์ คำอธบิ ายรายวชิ า ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 รหัสวิชา ค 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 160 ช่วั โมง/ปี ศึกษาการอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับ เปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับที่มากกว่า100,000 จากสถานการณ์ต่างๆ ค่าประจำหลักของเลขโดด ในแต่ละหลักของจำนวนนับ การบวก ลบ คูณ หารจำนวนท่ีมีหลายหลักและโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ และหาร การเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย ความหมาย การเปรียบเทียบและเรียงลำดับ ค่าประมาณของจำนวนนับ และการใช้เคร่ืองหมาย ≈ บอก อ่าน เขียน เศษส่วน จำนวนคละ เปรียบเทียบ เรียงลำดับเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนเป็นเป็นพหุคูณของอีกตัวหนึ่ง อ่านเขียน เปรียบเทียบและ เรียงลำดับทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่ง หาค่าประมาณผลลัพธ์ของการบวก ลบ คูณ หาร อย่างสมเหตุสมผล การหาค่าของตัวไม่ทราบค่า สัญลักษณ์แสดงการบวกและ การลบ ของจำนวนที่มากกว่า 100,000 และ 0 หาค่าของตัวไม่ทราบค่า สัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวนหลายหลักไม่เกิน 6 หลัก การหารที่ตัวหารตัวต้ัง ไม่เกิน 6 หลักและตัวหารไม่เกิน 2 หลักหาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คูณ หารระคน โจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ของจำนวนนับท่ีมากกว่า 100,000 และ 0 พร้อมท้ังหาคำตอบ การหาผลบวก ลบ และโจทย์ปัญหาการบวก ลบ และจำนวนคละของที่ตัวส่วนหนึ่งเป็นพหุคูณของอีกตัวหน่ึง การบวก ลบ และทศนิยม โจทย์ปัญหาการ บวก ลบ 2 ขั้นตอนของทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่ง การบอก การเปรียบเทียบ การอ่าน โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ เวลา การวัดและสร้างมุม โดยใช้โพรแทรกเตอร์ โจทย์ปัญหาเก่ียวกับความยาวรอบรูปและพื้นท่ีของรูป ส่ีเหลี่ยมมุมฉาก รูปเรขาคณิต ระนาบ จุด เส้นตรง รังสี ส่วนของเส้นตรง และสัญลักษณ์แสดงเส้นตรง รังสี ส่วนของเส้นตรง การจำแนกชนิดของมุม บอกชื่อมุม ส่วนประกอบของมุม การเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม การ สร้างรูปสี่เหล่ียมมุมฉากการนำเสนอข้อมูล การใช้ข้อมูล การอ่าน การเขียน แผนภูมิแท่ง ตาราง 2 ทาง ในการ หาคำตอบโจทย์ปัญหาการจัดประสบการณ์ การสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า ฝึกทักษะ ปฏิบัติ จริง ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การใช้เหตุผล การเช่ือมโยง การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสร้างสรรค์ เห็น คุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ ทำงานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มี วิจารณญาณ มีความคดิ สร้างสรรค์ และมคี วามเช่ือมั่นในตนเอง ตัวชว้ี ัด ค 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8,ป.4/9, ป.4/10, ป.4/11,ป.4/12, ป.4/13, ป.4/14, ป.4/15, ป.4/16 ค 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ค 2.2 ป.4/1, ป.4/2 ค 3.1 ป.4/1 รวม 2๒ ตวั ชว้ี ดั
49 คำอธิบายรายวิชา รายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1-2 รหสั วิชา ค 15101 เวลา 160 ช่ัวโมง/ปี ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคำนวณ และฝกึ การแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี ความหมาย การอ่าน และการเขียนเศษส่วนแท้ จำนวนคละ และทศนิยมไม่เกินสองตำแหน่ง เศษส่วนท่ีเท่ากับจำนวนนับ การเขียนจำนวนนับในรูปเศษส่วน การเขียนเศษเกินในรูปจำนวนคละและการ เขียนจำนวนคละในรูปเศษเกิน เศษส่วนที่เท่ากัน เศษส่วนอย่างต่ำ หลัก ค่าประจำหลัก และค่าของเลขโดดใน แต่ละหลักของจำนนวนนับและทศนิยมไม่เกินสองตำแหน่ง การเขียนทศนิยมในรูปกระจาย การเปรียบเทียบ และเรียงลำดับเศษส่วนที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของตัวส่วนอีกตัวหนึ่ง ความหมาย การอ่าน และการเขียน ร้อยละ การเขียนเศษส่วนท่ีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ ๑๐ และ ๑๐๐ ในรูปทศนิยมและร้อยละ การเขียน ร้อยละในรปู เศษส่วนและทศนิยม การเขียนทศนิยมไม่เกินสองตำแหนง่ ในรูปเศษส่วนและร้อยละ การบวก และการลบเศษส่วนที่ตัวส่วนตัวหน่ึงเป็นพหุคูณของตัวส่วนอีกตัวหน่ึง การคูณเศษส่วน การหารเศษส่วน การบวก ลบ คูณระคนของเศษส่วน การบวก และการลบทศนิยมไม่เกินสองตำแหน่ง การ คูณทศนยิ ม การบวก ลบ คณู ระคนของทศนยิ ม โจทย์ปญั หาของจำนวนนับ เศษสว่ น ทศนยิ ม และรอ้ ยละ ความสัมพันธ์ของหน่วยการวัด การช่ัง ปริมาตรหรือความจุ ความยาวรอบรูปของรูปส่ีเหล่ียม และรูป สามเหลี่ยม การหาพ้ืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก และรูปสามเหลี่ยม การวัดขนาดของมุมโดยใช้โปรแทรกเตอร์ การหาขนาดของมุมกลับ การหาปริมาตรหรือความจุของทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับพ้ืนที่และ ความยาวรอบรปู ของรูปสเ่ี หลี่ยมมมุ ฉากและรูปสามเหลี่ยม ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย ปริซึม พีระมิด รูปสี่เหล่ียมและรูปสามเหลี่ยมชนิดต่างๆ ส่วนประกอบ ของรูปสามเหล่ียม ชนิดของมุม การสร้างมุมโดยใช้โปรแทรกเตอร์ การสร้างรูปส่ีเหล่ียม มุมฉาก รูป สามเหล่ยี ม และรูปวงกลม การสร้างเสน้ ขนานโดยใช้ไมฉ้ าก การเก็บรวบรวมข้อมูลและการจำแนกข้อมูล การเขียนแผนภูมิแท่งที่มีการย่นระยะของเส้นจำนวน การอ่านแผนภมู แิ ท่งและกราฟเสน้ การจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการ เรียนรู้ส่ิงต่างๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และเช่ือมั่นในตนเอง ดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การวัดผลและประเมินผล ใช้วิธีการหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงของเน้ือหาและทักษะที่ ต้องการวดั
50 รหัสตัวช้ีวัด ค ๑.๑ ป ๕/๑ - ป ๕/๙ ค ๒.๑ ป ๕/๑ - ป ๕/๔ ค ๒.๒ ป ๕/๑ - ป ๕/๔ ค ๓.๑ ป ๕/๑ - ป ๕/๒ รวมทั้งหมด ๑๙ ตัวช้วี ัด
51 คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค ๑๖๑๐๑ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๔ หน่วยกิต ศกึ ษาตวั ประกอบ จำนวนเฉพาะ การแยกตวั ประกอบ ตัวหารร่วมหรอื ตัวประกอบรว่ ม ตัวหารร่วมมาก พหุคณู ตัวคูณรว่ ม ตวั คูณรว่ มนอ้ ย การแกโ้ จทย์ปญั หาเกย่ี วกบั ห.ร.ม. การแก้โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั ค.ร.น. การ เปรยี บเทียบและเรียงลำดับเศษสว่ นและจำนวนคละ การบวก การลบเศษสว่ นและจำนวนคละ โจทยป์ ัญหา การบวก การลบเศษสว่ นและจำนวนคละ การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษสว่ นและจำนวนคละ โจทย์ ปญั หา การบวก ลบ คณู หารระคนของเศษสว่ นและจำนวนคละ ความสมั พันธ์ระหวา่ งเศษสว่ นและทศนิยม การบวก การลบ การคณู และการหารทศนยิ ม โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม อตั ราสว่ น อตั ราส่วนทเ่ี ท่ากนั มาตราสว่ น โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกับอตั ราสว่ นและมาตราส่วน และโจทย์ปัญหา เกี่ยวกบั รอ้ ยละ โดยการจัดประสบการณห์ รือสร้างสถานการณท์ ีใ่ กลต้ ัวผ้เู รียนไดศ้ กึ ษา คน้ คว้า ฝึกทักษะ โดยการปฏบิ ัตจิ ริง ทดลอง สรุป รายงาน เพือ่ พฒั นาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การใหเ้ หตผุ ล การ เชอ่ื มโยง การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทกั ษะและกระบวนการ ทไ่ี ด้ไปใช้ใน การเรียนรู้สง่ิ ต่าง ๆ และใช้ในชวี ติ ประจำวันอยา่ งสรา้ งสรรค์ เพ่ือให้เห็นคุณค่าและมเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ คณิตศาสตร์ สามารถทำงานไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ มีระเบียบ รอบคอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรคแ์ ละมีความเชื่อมน่ั ในตนเอง ตวั ชีว้ ดั ค ๑.๑ ป.๖/๑ เปรยี บเทยี บ เรยี งลำดบั เศษส่วนและจำนวนคละจากสถานการณ์ตา่ ง ๆ ค ๑.๑ ป.๖/๒ เขียนอตั ราส่วนแสดงการเปรียบเทยี บระหว่างปรมิ าณ ๒ ปริมาณ จากข้อความหรือสถานการณ์ โดยที่ปรมิ าณแต่ละปรมิ าณเป็นจำนวนนบั ค ๑.๑ ป.๖/๓ หาอตั ราสว่ นที่เทา่ กับอตั ราส่วนทกี่ ำหนดให้ ค ๑.๑ ป.๖/๔ หา ห.ร.ม. ของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๓ จำนวน ค ๑.๑ ป.๖/๕ หา ค.ร.ม. ของจำนวนนับไม่เกิน ๓ จำนวน ค ๑.๑ ป.๖/๖ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาโดยใชค้ วามร้เู กยี่ วกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ค ๑.๑ ป.๖/๗ หาผลลพั ธ์ของการบวก ลบ คณู หารระคนของเศษสว่ นและจำนวนคละ ค ๑.๑ ป.๖/๘ แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ ๒-๓ ขัน้ ตอน ค ๑.๑ ป.๖/๙ หาผลหารของทศนิยมทตี่ ัวหารและผลหาร เป็นทศนยิ มไมเ่ กนิ ๓ ตำแหน่ง ค ๑.๑ ป.๖/๑๐แสดงวธิ กี ารหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา การบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๓ ขั้นตอน แคส๑ด.ง๑วิธกี ปา.ร๖ห/า๑ค๑ำตแอสบดขงอวงิธโีหจาทคยำป์ ตญั อหบาขอกงาโรจบทวยกป์ กัญารหลาบอตักพราิเารศสคษวู่ณ6นการหารทศนิยม ๓ ขัน้ ตอน ค ๑.๑ ป.๖/๑๒แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาร้อยละ ๒-๓ ขัน้ ตอน ค ๑.๒ ป.๖/๑ แสดงวิธคี ดิ และหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกยี่ วกับแบบรปู ค ๒.๑ ป.๖/๑ แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั ปรมิ าตรของรปู เรขาคณติ สามมติ ิท่ีประกอบดว้ ย ส่เี หลยี่ มมุมฉาก
52 ค ๒.๑ ป.๖/๒ แสดงวิธกี ารหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ยี วกับความยาวรอบรูปและพน้ื ทขี่ องรปู หลาย เหลีย่ ม ค ๒.๑ ป.๖/๒ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกับความยาวรอบรูปและพน้ื ทข่ี องวงกลม ค ๒.๒ ป.๖/๑ จำแนกรปู สามเหลี่ยมโดยพิจารณาจากสมบตั ขิ องรปู ค ๒.๒ ป.๖/๑ สรา้ งรปู สามเหล่ยี มเม่ือกำหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมุม ค ๒.๒ ป.๖/๑ บอกลักษณะของรูปเรขาคณติ สามมิตชิ นิดตา่ ง ๆ ค ๒.๒ ป.๖/๑ ระบุรปู เรขาคณิตสามมติ ิท่ีประกอบจากรูปคล่ี และระบุรปู เรขาคณิตสามมติ ิ ค ๓.๑ ป.๖/๑ ใชแ้ ผนภูมริ ปู วงกลมในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา รวม ๒๑ ตัวช้ีวดั
53 คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ รายวชิ าพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง ศึกษาการเปรียบเทยี บจำนวนเต็ม จำนวนตรงข้ามและค่าสมั บรู ณ์ การบวก การลบ การคณู และ การหาร จำนวนเต็ม สมบตั ิของจำนวนเต็ม และการนำความร้เู ก่ียวกับจำนวนเตม็ ไปใชใ้ นชีวติ จริง เศษส่วน การเปรยี บเทียบเศษส่วน การบวก การลบ การคณู และการหารเศษส่วน และการนำไปใช้ในชีวติ จรงิ ทศนยิ ม ค่าประจำหลักทศนยิ ม การเปรยี บเทียบทศนยิ ม การบวก การลบ การคณู และการหารทศนยิ ม (ไม่ รวมผลลพั ธท์ เ่ี ปน็ ทศนยิ มซ้ำ) ความสัมพันธข์ องเศษส่วนกับทศนยิ ม การนำความรู้เกีย่ วกับทศนยิ มไปใชใ้ น ชีวิตจริง และจำนวนตรรกยะและสมบัตขิ องจำนวนตรรกยะ การเขยี นเลขยกกำลังท่มี เี ลขชก้ี ำลังเป็นจำนวน เตม็ บวก การคณู และการหารเลขยกกำลงั เม่ือเลขชก้ี ำลังเป็นจำนวนเตม็ บวก การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์ วทิ ยาศาสตร์ และการนำความรู้เก่ียวกบั เลขยกกำลังไปใช้ในชวี ิตจริง หน้าตัดของรปู เรขาคณิตสามมติ ิ การ อธิบายภาพสองมติ ทิ ่ีไดจ้ ากการมองดา้ นหนา้ ดา้ นข้าง และด้านบนของรูปเรขาคณิตสามมิติ และรปู เรขาคณิตสามมติ ิที่ประกอบขน้ึ ลกู บาศก์ แบบรปู และความสมั พนั ธ์คำตอบของสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดยี ว การแก้สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดียว และการนำความรู้เก่ียวกบั สมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดียวไปใช้ในชวี ติ จริง โดยจดั ประสบการณ์หรอื สร้างสถานการณใ์ หผ้ ู้เรียนไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ โดยการปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพ่อื พฒั นาทกั ษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ แกป้ ญั หา การให้เหตุผล และนำความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีไดไ้ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์ เพ่ือให้เหน็ คุณค่าและมีเจตคติท่ีดตี ่อคณติ ศาสตร์ สามารถทำงานได้อยา่ งเป็นระบบ มรี ะเบยี บ มี ความรบั ผดิ ชอบ มีวิจารณญาณ มคี วามคิดอย่างสร้างสรรคแ์ ละมคี วามเช่ือม่ันในตนเอง ตัวชีว้ ดั ค 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ค 1.3 ม.1/1 ค 2.2 ม.1/2 รวม 4 ตวั ชวี้ ดั
54 คำอธบิ ายรายวิชา ค 22101 คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ศึกษาเลขยกกำลังทม่ี ีเลขชีก้ ำลังเป็นจำนวนเต็ม การคณู และการหารเลขยกกำลงั เมอ่ื เลขชี้กำลงั เปน็ จำนวนเต็ม สัญกรณว์ ิทยาศาสตร์ และการนำความรูเ้ ก่ยี วกบั เลขยกกำลงั ไปใชใ้ นชีวิตจรงิ การเขียนเศษสว่ นใน รูปทศนยิ มซ้ำ การเขยี นทศนิยมซ้ำในรูปเศษสว่ น จำนวนจริง สมบตั ขิ องจำนวนจริง รากท่ีสองและรากท่สี าม ของจำนวนจริง การหารากที่สองและรากทสี่ ามของจำนวนจรงิ โดยการแยกตวั ประกอบ การประมาณค่า เปดิ ตาราง และใช้เครอ่ื งคำนวณ และการนำความร้เู กีย่ วกบั จำนวนจริงไปใช้ในชีวติ จรงิ เอกนาม การบวกและการ ลบเอกนาม พหุนาม การบวกและการลบพหุนาม การคูณระหวา่ งเอกนามกบั เอกนาม การคณู ระหวา่ งเอกนาม กับพหนุ าม การคูณระหวา่ งพหุนามกับพหุนาม การหารเอกนามดว้ ยเอกนาม การหารพหนุ ามด้วยเอกนาม ที่มี ผลหารเป็นพหุนาม การแปลง การแปลงทางเรขาคณิต การเล่ือนขนาน การสะทอ้ น และการหมุนไปใช้ในชีวติ จรงิ ความเทา่ กนั ทกุ ประการของรปู เรขาคณติ ความเท่ากันทกุ ประการของรูปสามเหล่ียมสองรูปท่มี ี ความสมั พันธ์แบบต่างๆรูปสามเหลี่ยมสองรูปท่ีสัมพันธ์กบั แบบ ดา้ น-มุม-ดา้ น รปู สามหล่ยี มสองรูปท่ีสมั พนั ธ์ กันแบบ มุม-ดา้ น-มุม รปู สามเหลย่ี มสองรปู ทส่ี ัมพันธก์ ันแบบ ดา้ น-ดา้ น-ดา้ น และการนำความรเู้ ก่ียวกับความ เท่ากันทุกประการไปใชใ้ นการแก้ปญั หา เสน้ ขนานและมุมภายใน เส้นขนานและมมุ แย้ง เส้นขนานและมุม ภายนอกกับมุมภายใน เสน้ ขนานและรูปสามเหลี่ยม การให้เหตุผลและแกป้ ญั หาโดยใชส้ มบตั ิของเส้นขนาน และความเทา่ กันทกุ ประการของรปู สามเหล่ียม โดยการจัดประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณใ์ นชีวิตประจำวันทใ่ี กลต้ ัวให้ผูเ้ รียนไดศ้ ึกษา คน้ คว้า ฝึก ทกั ษะ โดยการปฏบิ ตั จิ ริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ กระบวนการในการคำนวณ การแก้ปญั หา การให้เหตุผล การส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนำประสบการณด์ า้ นความรู้ ความคดิ ทกั ษะและ กระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรยี นรูส้ ิ่งตา่ งๆ และใช้ในชีวติ ประจำวนั อย่างสรา้ งสรรค์ เพอ่ื ให้เหน็ คณุ ค่าและมเี จตคติท่ดี ีต่อคณติ ศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเปน็ ระบบ มีระเบียบ รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ มีความคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์ และมคี วามเช่อื ม่นั ในตนเอง รหัสตัวชว้ี ัด ค 1.1 ม.2/1 ค 1.1 ม.2/2 ค 1.2 ม.2/1 ค 2.2 ม.2/2 ค 2.2 ม.2/3 ค 2.2 ม.2/4 รวม 6 ตวั ช้ีวดั
55 คำอธบิ ายรายวิชา ค 22102 คณิตศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ศึกษาการหารพหนุ าม ตัวประกอบของพหุนาม การแยกตวั ประกอบของพหนุ ามโดยใช้สมบตั กิ ารแจก แจง การแยกตัวประกอบของพหุนามดกี รสี องตัวแปรเดยี ว การแยกตัวประกอบของพหุนามดกี รีสองท่ีเปน็ กำลังสองสมบรู ณ์ การแยกตวั ประกอบของพหุนามดกี รีสองทเ่ี ปน็ ผลตา่ งกำลงั สอง ทฤษฎีบทปีทาโกรสั บท กลับของทฤษฎีบทปีทาโกรัส และการนำความรูเ้ กี่ยวกับทฤษฎบี ทปีทาโกรสั และบทกลับไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ความรเู้ กยี่ วกับปริมาตร พื้นทีผ่ วิ ของปรซิ ึม ปริมาตรของปรซิ มึ การนำความรู้เกย่ี วกับพ้นื ท่ีผิวและปรมิ าตรของ ทรงกระบอกไปใชใ้ นชีวิตจรงิ พืน้ ที่ผิวของทรงกระบอก ปรมิ าตรของทรงกระบอก และการนำความรู้เกยี่ วกับ พืน้ ทผ่ี ิวและปริมาตรของทรงกระบอกไปใชใ้ นชีวติ จริง แผนภาพจุด แผนภาพตน้ -ใบ อิสโทแกรม ค่าเฉล่ียเลข คณติ มัธยฐาน ฐานนิยม การเลือกใช้คา่ เฉล่ียเลขคณติ การเลอื กใชม้ ธั ยฐาน การเลือกใชฐ้ านนยิ ม และการใช้ ความรูเ้ กย่ี วกับการสร้างทางเรขาคณติ และการใหเ้ หตผุ ลไปใช้ในชวี ิตจริง โดยการจัดประสบการณห์ รอื สรา้ งสถานการณใ์ นชวี ติ ประจำวนั ทใ่ี กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นได้ศกึ ษา คน้ คว้า ฝกึ ทกั ษะ โดยการปฏิบตั ิจรงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพ่อื พัฒนาทักษะ กระบวนการในการคดิ คำนวณ การ แกป้ ัญหา การให้เหตผุ ล การส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณด์ ้านความรู้ ความคดิ ทักษะ และกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนร้สู ่งิ ต่างๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ เพ่ือใหเ้ หน็ คุณค่าและมีเจตคติทีด่ ีต่อคณติ ศาสตร์ สามารถทำงานไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ มีระเบยี บ รอบคอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ และมีความเชอ่ื ม่นั ในตนเอง รหัสตวั ช้ีวดั ค 1.2 ม.2/2 ค 2.1 ม.2/1 ค 2.1 ม.2/2 ค 2.2 ม.2/1 ค 2.2 ม.2/5 ค 3.1 ม.2/1 รวม 6 ตวั ชว้ี ัด
56 คำอธิบายรายวิชา รายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 23๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ ศกึ ษาความร้เู กีย่ วกับอสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดยี ว การนำความร้เู กยี่ วกับอสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดียวไปใช้ ในการแก้ปญั หา การแก้อสมการเชิงเส้นหลายช้ัน สมการกำลังสองตวั แปรเดยี ว การแกส้ มการกำลังสองตัวแปรเดียว โดยใชว้ ธิ แี ยกตัวประกอบของพหนุ าม วิธีทำเปน็ กำลังสองสมบรู ณ์และการใช้สตู ร การนำความรเู้ กย่ี วกับสมการ กำลังสองตวั แปรเดียวไปใชใ้ นชีวติ จรงิ ฟงั ก์ชนั กำลงั สอง กราฟของฟังกช์ ันกำลังสองที่อยู่ในรปู y = (x -h)(x -k ) หรือ y = -(x -h)(x -k ) กราฟของฟังก์ชันกำลงั สองที่อยู่ในรปู y = (x -p)2 +q หรอื y = -( x -p)2 พีระมดิ กรวย ทรงกลม รูปประกอบ มัธยฐาน คลอรไ์ ทล์ พิสัย พิสยั ระหว่างควอรไ์ ทล์ แผนภาพ กล่อง ความรู้เบอื้ งตน้ เกย่ี วกับความนา่ จะเป็น ปริภูมติ วั อย่าง (sample space) ความนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณ์ การ นำความนา่ จะเป็นของเหตุการณ์ไปใชใ้ นการแก้ปัญหา และความน่าจะเปน็ ของเหตุการณห์ ลายเหตกุ ารณ์ท่เี กิดข้ึน รว่ มกัน โดยการจดั ประสบการณ์หรือสร้างสถานการณท์ ใี่ กล้ตวั ผู้เรียนได้ศึกษา คน้ ควา้ ฝกึ ทกั ษะ โดยการ ปฏบิ ัติจรงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคดิ คำนวณ การแกป้ ญั หา การให้ เหตุผล การเชื่อมโยง การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทกั ษะ และกระบวนการทีไ่ ดไ้ ปใชใ้ นการเรยี นรู้สิ่งต่าง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวันอย่างสร้างสรรค์ เพอ่ื ใหเ้ ห็นคณุ คา่ และมีเจตคตทิ ด่ี ีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ มีระเบยี บ รอบคอบ มคี วามรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณ มีความคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรคแ์ ละมคี วามเชื่อมนั่ ในตนเอง ตัวชวี้ ัด ค. 1.2 ม.3/2 ค. 1.3 ม.3/1 ค. 1.3 ม.3/2 ค. 2.1 ม.3/1 ค. 2.1 ม.3/2 ค. 3.1 ม.3/1 ค. 3.2 ม.3/1 รวม 7 ตวั ช้วี ัด
57 คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน ค23102คณิตศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา60ชั่วโมง จำนวน 1.5หนว่ ยกิต เข้าใจและใชส้ มบตั ขิ องการไมเ่ ท่ากัน เพือ่ วเิ คราะห์และแกป้ ัญหา โดยใชอ้ สมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว เข้าใจและใช้สมบตั ิของรปู สามเหลีย่ มทค่ี ล้ายกนั ความรเู้ ก่ียวกบั อัตราส่วนตรีโกณมติ ิ ในการแก้ปัญหา คณติ ศาสตรแ์ ละปญั หาในชีวิตจริง เข้าใจและใชท้ ฤษฎีบทเกย่ี วกบั วงกลมในการแก้ปญั หาคณติ ศาสตร์ เขา้ ใจ และใช้ความรู้ทางสถติ ิในการนำเสนอและวเิ คราะหข์ ้อมลู จากแผนภาพกลอ่ งและแปลความหมาย ผลลัพธ์ รวมทง้ั นำสถติ ไิ ปใช้ในชวี ิตจรงิ โดยใช้เทคโนโลยที เี่ หมาะสม เขา้ ใจเกี่ยวกบั การทดลองสมุ่ และนำผลทีไ่ ด้ไปหา ความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ โดยใชว้ ิธีการทางคณิตศาสตร์ กระบวนการสืบสอบ กระบวนการ5ข้นั ตอน วธิ ีการทห่ี ลากหลาย การ ใหเ้ หตผุ ล การสรุปผล การใชเ้ ทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหา การใชภ้ าษาและสัญลักษณ์ทางคณติ ศาสตรใ์ นการ ส่อื สาร การส่อื ความหมายและการนำเสนอ การเช่ือมโยงความรู้ตา่ งๆทางคณติ ศาสตรแ์ ละนำความรู้ หลักการ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไปเชือ่ มโยงกบั ศาสตรอ์ ืน่ ๆ มคี วามคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ในการแกป้ ัญหา ช่วยในการ ตัดสนิ ใจและแก้ปญั หาเรียนรู้โดยใชโ้ ครงงานเป็นฐานด้วยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและ การเรยี นร้สู ศู่ ตวรรษที่ 21 เพือ่ ให้ผู้เรยี นไดศ้ ึกษา พฒั นาทักษะกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปญั หา การให้เหตผุ ล การ ส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ ไปใชใ้ นชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ เห็นคุณคา่ และมเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ คณิตศาสตร์ สามารถทำงานอยา่ งเป็นระบบระเบยี บ รอบคอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ และเชือ่ มั่น ในตนเอง รหสั ตัวช้วี ดั ค ๑.๓ ม.๓/๑ ค ๒.๒ ม.๓/๑ม.๓/๒ ม.๓/๓ ค ๓.๑ ม.๓/๑ ค ๓.๒ ม.๓/๑ รวมทั้งหมด ๖ตวั ชวี้ ดั
58 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ ค 20201 คณิตศาสตรเ์ สรมิ 1 กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษา ฝกึ ทักษะการคดิ คำนวณและฝกึ การแกป้ ญั หาในสาระต่อไปนี้ การประยุกต์ เศษซอ้ น รอ้ ยละ กำไร-ขาดทุน ดอกเบ้ีย จำนวนและตัวเลข ประวตั ิการนับ การใช้ฐานต่างๆในการนับ ความแตกต่างระว่างจำนวนและ ตวั เลข ระบบตวั เลขโรมนั ระบบตวั เลขฐานต่างๆ การบวก ลบ คูณและหารระบบตวั เลขฐานต่างๆ การจัดประสบการณ์หรอื สร้างสถานการณท์ ใี่ กล้ตัวให้ผ้เู รยี นไดศ้ กึ ษาค้นคว้าโดยปฏบิ ตั ิจรงิ ทดลอง สรปุ รายงาน โดยคำนึงถึงมาตรฐานดา้ นทักษะ/กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไดแ้ ก่ ความสามารถในการ แกป้ ญั หา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนำเสนอ การเช่ือมโยงความรู้ และการคิด ริเริ่มสรา้ งสรรค์ส่งเสริมให้นกั เรียนตระหนักในคณุ ค่าและมีเจตคติที่ดตี อ่ คณิตศาสตร์ ฝึกการทำงานอยา่ งเป็น ระบบ มีระเบียบวินยั รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณและมคี วามเชอื่ มีน่ันในตนเอง จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ใชค้ วามรู้และทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แกป้ ญั หาเก่ียวกบั เศษซ้อนได้ 2. ใช้ความรู้และทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แกป้ ญั หาเกี่ยวกับรอ้ ยละ กำไร - ขาดทนุ และ ดอกเบย้ี ได้ 3. อ่านและเขียนตัวเลขโรมนั ได้ 4. บอกค่าของเลขโดดในตวั เลขฐานตา่ งๆทีก่ ำหนดให้ได้ 5. เขียนตัวเลขทกี่ ำหนดใหเ้ ป็นตัวเลขฐานตา่ งๆได้
59 คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม ค 20202 คณิตศาสตรเ์ สรมิ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษา ฝึกทกั ษะการคิดคำนวณและฝกึ การแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี การประยุกต์ของเลขยกกำลงั เลขยกกำลัง เลขยกกำลงั ที่มีฐานเป็นเลขยกกำลังกฎของเลขยกกำลัง เลขยกกำลงั ทม่ี ีเลขช้กี ำลงั เป็นศูนยแ์ ละจำนวนเตม็ ลบ สมการเลขยกกำลงั ท่มี ีเลขชกี้ ำลังเปน็ ตัวแปร สัญกรณ์ วิทยาศาสตร์ กำลังสองและรากท่ีสอง กำลังสามและรากทสี่ าม การสรา้ ง การสรา้ งสว่ นของเสน้ ตรงให้ยาวตามเงอ่ื นไขท่ีกำหนด การสรา้ งมุมให้มขี นาดตามเง่อื นไขท่ี กำหนด การสสรา้ งรปู สามเหลย่ี มตามเงือ่ นไขที่กำหนด การสร้างรปู ส่ีเหล่ยี มตามเงื่อนไขท่กี ำหนด การสรา้ งรูป หลายเหลย่ี มดา้ นเท่า มมุ เทา่ ตามเงื่อนไขทกี่ ำหนด การจดั ประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณท์ ใี่ กลต้ วั ใหผ้ ูเ้ รยี นไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ โดยปฏิบัตจิ รงิ ทดลอง สรปุ รายงาน โดยคำนึงถงึ มาตรฐานดา้ นทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตรไ์ ด้แก่ ความสามารถในการ แก้ปัญหา การให้เหตผุ ล การสอ่ื สาร การสื่อความหมาย และการนำเสนอ การเช่อื มโยงความรู้ และการคิด รเิ ริม่ สร้างสรรคส์ ่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนตระหนักในคณุ ค่าและมีเจตคตทิ ่ดี ีต่อคณิตศาสตร์ ฝกึ การทำงานอยา่ งเป็น ระบบ มรี ะเบียบวินัย รอบคอบ มีความรบั ผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณและมคี วามเช่อื มีน่ันในตนเอง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ผเู้ รียนสามารถใชค้ วามรเู้ ก่ยี วกับจำนวนเต็มและเลขยกกำลังในการแก้ปัญหาได้ 2. ผเู้ รยี นสามารถใชก้ ารสรา้ งพ้นื ฐานสรา้ งรปู ทีซ่ บั ซ้อนข้ีนได้
60 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์
61 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความสำคัญของวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตรม์ ีบทบาทสำคัญย่งิ ในสังคมโลกปัจจบุ ันและอนาคต เพราะวิทยาศาสตรเ์ กย่ี วข้องกบั ทุก คนท้งั ในชีวติ ประจำวนั และการงานอาชีพต่าง ๆ ตลอดจนเทคโนโลยี เคร่ืองมือเคร่อื งใชแ้ ละผลผลิตตา่ ง ๆ ทม่ี นษุ ย์ไดใ้ ช้เพือ่ อำนวยความสะดวกในชวี ิตและการทำงาน เหล่านี้ล้วนเป็นผลของความรวู้ ิทยาศาสตร์ ผสมผสานกับความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละศาสตร์อนื่ ๆ วิทยาศาสตร์ช่วยใหม้ นุษย์ไดพ้ ฒั นาวิธคี ิด ทัง้ ความคิดเปน็ เหตเุ ปน็ ผล คดิ สรา้ งสรรค์ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มที ักษะสำคญั ในการคน้ คว้าหาความรู้ มคี วามสามารถใน การแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ สามารถตัดสนิ ใจโดยใชข้ ้อมูลที่หลากหลายและมปี ระจกั ษพ์ ยานทีต่ รวจสอบได้ วทิ ยาศาสตรเ์ ป็นวัฒนธรรมของโลกสมยั ใหม่ซง่ึ เปน็ สังคมแห่งการเรียนรู้ (K knowledge-based society) ดังน้นั ทกุ คนจึงจำเป็นตอ้ งได้รบั การพฒั นาใหร้ ู้วทิ ยาศาสตร์ เพอ่ื ท่ีจะมคี วามรู้ความเข้าใจในธรรมชาตแิ ละเทคโนโลยี ทีม่ นษุ ยส์ ร้างสรรค์ขน้ึ สามารถนำความรูไ้ ปใช้อย่างมีเหตผุ ล สรา้ งสรรค์ และมีคณุ ธรรม กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์มุง่ หวงั ใหผ้ เู้ รียน ได้เรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ทเี่ น้นการเชอ่ื มโยงความรู้กับ กระบวนการ มีทักษะสำคญั ในการค้นควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู้ โดยใชก้ ระบวนการในการสืบเสาะหาความรู้ และการแก้ปญั หาทหี่ ลากหลาย ใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกขัน้ ตอน มีการทำกิจกรรมดว้ ยการลงมอื ปฏบิ ตั ิจริงอยา่ งหลากหลาย เหมาะสมกับระดบั ชนั้ โดยได้กำหนดสาระสำคัญไว้ดังน้ี - วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ เรยี นรู้เกย่ี วกบั ชีวติ ในสงิ่ แวดลอ้ ม องคป์ ระกอบของสิ่งมีชีวติ การ ดำรงชีวติ ของมนุษย์และสัตว์ การดำรงชีวติ ของพืช พนั ธุกรรม ความหลากหลายทางชวี ภาพและวิวัฒนาการ ของส่ิงมีชวี ิต - วทิ ยาศาสตร์กายภาพ เรียนรเู้ ก่ยี วกบั ธรรมชาติของสาร การเปล่ียนแปลงของสาร การเคลือ่ นท่ี พลงั งานและคลน่ื - วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ เรียนรู้เก่ียวกบั องคป์ ระกอบของเอกภพ ปฏสิ มั พันธ์ภายในระบบ สุริยะ เทคโนโลยีอวกาศ ระบบโลก การเปล่ียนแปลงทางธรณวี ิทยา การเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ และผล ตอ่ สิง่ มีชวี ิตและส่ิงแวดล้อม - เทคโนโลยี - การออกแบบและเทคโนโลยี เรยี นรเู้ กย่ี วกบั เทคโนโลยเี พอื่ การดำรงชวี ติ ในสังคมทมี่ ีการ เปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใชค้ วามรู้และทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตรแ์ ละศาสตรอ์ นื่ ๆ เพอ่ื แกป้ ัญหาหรอื พฒั นางานอย่างมคี วามคดิ สร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ สังคม และสง่ิ แวดลอ้ ม - วิทยาการคำนวณ เรยี นรเู้ กีย่ วกบั กาคดิ เชงิ คำนวร การคดิ วเิ คราะห์ แก้ปัญหาเป็น ข้ันตอนและเป็นระบบ ประยกุ ต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ ส่อื สารในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชีวิตจรงิ ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ
62 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจหนว่ ยพนื้ ฐานของชีวติ ความสมั พันธข์ องโครงสร้างและหนา้ ที่ของระบบ ต่าง ๆ ของสง่ิ มีชวี ิตท่ีทำงานสมั พนั ธ์กัน มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสงิ่ ท่เี รยี นรแู้ ละนำความรู้ไปใชใ้ นการดำรงชวี ิตของตนเองและดแู ล สิ่งมชี วี ติ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจกระบวนการและความสำคญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม วิวฒั นาการของส่ิงมีชีวติ ความหลากหลายทางชวี ภาพ การใช้เทคโนโลยชี วี ภาพ ที่มผี ลกระทบตอ่ มนษุ ยแ์ ละส่งิ แวดล้อม มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ และ จิตวิทยาศาสตร์ สือ่ สารสงิ่ ท่ีเรียนรู้ และนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสง่ิ แวดลอ้ มในท้องถ่นิ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่งิ แวดลอ้ มกบั สง่ิ มีชีวติ ความสัมพันธ์ ระหว่างสิ่งมีชีวติ ตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศ มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวทิ ยา ศาสตรส์ อ่ื สารสง่ิ ท่ีเรยี นรู้และนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจความสำคญั ของทรัพยากรธรรมชาติ การใชท้ รพั ยากรธรรมชาติในระดบั ท้องถิน่ ประเทศและโลก นำความรไู้ ปใชใ้ นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อมใน ทอ้ งถิน่ อยา่ งยัง่ ยนื สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจสมบตั ขิ องสาร ความสมั พันธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารกบั โครงสรา้ งและแรงยดึ เหนี่ยว ระหวา่ งอนุภาค มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรูแ้ ละจิตวิทยาศาสตร์ สอื่ สารสิง่ ทเี่ รียนรู้ และนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว ๓.๒ เขา้ ใจหลักการและธรรมชาตขิ องการเปล่ยี นแปลงสถานะของสาร การเกดิ สารละลาย การเกิดปฏกิ ริ ิยา มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ ละจติ ศาสตร์ ส่อื สารสิ่งทเี่ รยี นรู้ และนำความร้ไู ป ใชป้ ระโยชน์ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของแรงแม่เหลก็ ไฟฟ้า แรงโน้มถว่ ง และแรงนวิ เคลยี ร์ มกี ระบวนการ สบื เสาะหาความรู้ สอ่ื สารสิ่งทเ่ี รียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชนอ์ ยา่ งถกู ตอ้ งและมี คุณธรรม มาตรฐาน ว ๔.๒ เขา้ ใจลกั ษณะการเคลอ่ื นทแี่ บบตา่ ง ๆ ของวัตถใุ นธรรมชาติ มกี ระบวนการสบื เสาะหา ความรู้และจติ วทิ ยาศาสตร์ ส่ือสารสงิ่ ทีเ่ รียนรู้และนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
63 รายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษา จำนวน 200 ชั่วโมง จำนวน 200 ชว่ั โมง รายวชิ าพน้ื ฐาน ว 11101 วทิ ยาศาสตร์ จำนวน 200 ชวั่ โมง ว 12101 วทิ ยาศาสตร์ จำนวน 200 ชว่ั โมง จำนวน 200 ชัว่ โมง ว 13101 วทิ ยาศาสตร์ ว 14101 วิทยาศาสตร์ จำนวน 200 ชว่ั โมง ว 15101 วทิ ยาศาสตร์ ว 16101 วิทยาศาสตร์ ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 จำนวน 60 ชั่วโมง รายวชิ าพื้นฐาน ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 60 ชว่ั โมง ภาคเรียนท่ี 1 จำนวน 60 ชั่วโมง ว 21101 วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 60 ชว่ั โมง ว 21102 วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี 1 จำนวน 60 ชั่วโมง ว 22101 วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 60 ชว่ั โมง ว 22102 วทิ ยาศาสตร์ ว 23101 วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 20 ชั่วโมง ว 23102 วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 20 ช่วั โมง ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 40 ชว่ั โมง รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ภาคเรยี นท่ี 2 จำนวน 40 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 40 ชั่วโมง ว 21210 เทคโนโลยีกับชวี ติ 1 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 40 ชัว่ โมง ว 21211 เทคโนโลยกี บั ชีวติ 2 ว 20201 วิทยาศาสตรเ์ สริม 1 (โครงงาน1) ว 20202 วทิ ยาศาสตรเ์ สรมิ 2 (โครงงาน 2) ว 20203 วทิ ยาศาสตร์เสริม 3 (โครงงาน 3) ว 20204 วทิ ยาศาสตร์เสริม 4 (โครงงาน 4)
64 คำอธบิ ายรายวิชา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว ๑๑๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ เวลา ๘๐ ช่วั โมง ศึกษาและเรียนรู้พืชและสัตว์ท่ีอาศัยอยู่ในบริเวณต่างๆสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมกับการดำรงชีวิต ของสัตว์ในบริเวณท่ีอาศัยอยู่ ลักษณะและหน้าท่ีของส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์ และพืชการทำหน้าท่ี ร่วมกันของส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ในการทำกิจกรรมต่างๆการดูแลส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างถูกต้อง วัสดุที่ใช้ทำวัตถุ ซ่ึงทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิดประกอบกันจัดกลุ่มวัสดุการเกิดเสียง และทิศทางการ เคล่ือนท่ีของเสียงดาวท่ีปรากฏบนท้องฟ้าในเวลากลางวันและกลางคืนสาเหตุที่มองไม่เห็นดาวส่วนใหญ่ในเวลา กลางวันลักษณะภายนอกของหินการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ และการส่ือสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมี จรยิ ธรรม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสังเกต ระบุ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจ ตรวจสอบ สามารถใช้ส่ือเทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูลและอภิปราย เพ่ือให้เกิด ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจและการ แกป้ ญั หา เพ่ือให้เกิดคุณลักษณะการเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม รหัสตวั ชีว้ ัด ว ๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ว ๑.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ว ๒.๑ป.๑/๑ ป.๑/๒ ว ๒.๓ป.๑/๑ ว ๓.๑ป.๑/๑ ป.๑/๒ ว ๓.๒ ป.๑/๑ ว ๔.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ป.๑/๔ป.๑/๕ รวมทัง้ หมด ๑๕ ตวั ช้ีวดั
65 คำอธบิ ายรายวชิ า วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว ๑2๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา ๘๐ ชั่วโมง ศกึ ษาการเรยี นรู้แบบนักวทิ ยาศาสตร์ ลกั ษณะของสงิ่ มีชีวิตและสิง่ ไม่มีชวี ติ ควานจำเป็นของแสงและ นำ้ ตอ่ ความเจริญเตบิ โตของพืช วฏั จกั รชีวิตของพชื ดอก สมบตั กิ ารดูดซบั นำ้ ของวสั ดุและการนำไปใชป้ ระโยชน์ สมบตั ิของวสั ดทุ เี่ กดิ จาการนำวสั ดุมาผสมกนั การเลือกวสั ดมุ าใชท้ ำวตั ถุตามสมบตั ิของการนำวสั ดุ การนำวัสดุ ที่ใชแ้ ลว้ กลบั มาใช้ใหม่ การเคลอ่ื นที่ของแสง การมองเห็นวตั ถุ การป้องกนั อนั ตรายจากการมองวัตถุในบริเวณ ท่ีมีแสงสวา่ งไม่เหมาะสม ส่วนประกอบและการจำแนกชนดิ ของดนิ การใชป้ ระโยชนจ์ ากดินการแสดงข้นั ตอน การแกป้ ญั หา การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม การใช้งานซอฟตแ์ วร์เบ้อื งตน้ การจดั การไฟลแ์ ละ โฟลเดอร์ การใช้งานและดูแลรกั ษาอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ เทคโนโลยใี นชีวติ ประจำวนั การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอย่างปลอดภยั โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ สงั เกต จำแนกประเภท รวบรวมขอ้ มลู บนั ทกึ และอธิบายผลการสำรวจ ตรวจสอบ เพอื่ ให้เกิดความรคู้ วามเขา้ ใจ มที ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพน้ื ฐานและมีทักษะการ เรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ในดา้ นการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารเบ้อื งตน้ สามารถส่อื สารส่ิงทีเ่ รยี นรู้ มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ สามารถทำงานร่วมกบั ผู้อื่น แสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหาอย่างง่าย เขยี นโปรแกรมแบบมี เงอ่ื นไขโดยใชบ้ ตั รคำสั่งและตรวจหาข้อผิดพลาด ใช้งานซอฟตแ์ วร์ สร้าง จัดหมวดหม่ไู ฟลแ์ ละโฟลเดอร์ ตระหนักถงึ ประโยชนข์ องการใชค้ วามรูแ้ ละกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการดำรงชวี ติ ตระหนัก ถงึ ความสำคญั ของการปกปอ้ งขอ้ มูลสว่ นตวั ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ดูแลรกั ษาอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม รหสั ตัวชีว้ ดั ว ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ ว ๑.๓ ป.๒/๑ ว ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ว ๒.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ตัวชว้ี ดั รวม ๑๖ ตวั ชี้วัด
66 คำอธบิ ายรายวิชา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วิชา ว ๑3๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา ๘๐ ชัว่ โมง ศกึ ษา วิเคราะห์ สิ่งทจี่ ำเปน็ ตอ่ การดำรงชวี ติ การเจริญเติบโตของมนุษย์และสตั ว์ ประโยชนข์ อง อาหาร น้ำ และอากาศ การดแู ลตนเองและสตั ว์อย่างเหมาะสม วฏั จักรชีวติ ของสตั ว์และคุณค่าของสัตว์ ส่วนประกอบของวัตถุ การเปลี่ยนแปลงของวัสดุเม่อื ทำให้รอ้ นขน้ึ หรือทำใหเ้ ย็นลง แรงทีม่ ตี ่อการเปล่ียนแปลง การเคลอื่ นที่ของวัตถุ แรงสมั ผัสและแรงไมส่ ัมผัส แรงกบั การเคลื่อนทีข่ องวัตถุ การดงึ ดูดระหว่างแมเ่ หล็กกับ วัตถุ ข้ัวแมเ่ หลก็ การเปล่ียนพลังงาน การทำงานของเคร่ืองกำเนิดไฟฟา้ และแหลง่ พลงั งานในการผลิตไฟฟ้า ประโยชนแ์ ละโทษของไฟฟา้ วิธกี ารใช้ไฟฟา้ อยา่ งประหยดั และปลอดภัย เส้นทางการขน้ึ และตกของดวง อาทิตย์ การเกดิ กลางวนั กลางคนื การกำหนดทศิ ความสำคญั ของดวงอาทติ ย์ต่อสงิ่ มชี ีวิต ส่วนประกอบของ อากาศ ความสำคญั ของอากาศ ผลกระทบของมลพิษทางอากาศตอ่ สิ่งมชี ีวติ การปฏบิ ัตติ นในการลดมลพิษ ทางอากาศ การเกิดลม ประโยชน์และโทษของลม โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหา ความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรยี บเทียบข้อมลู จากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ การอธบิ าย อภปิ ราย และการสรา้ งแบบจำลอง เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ มี ความสามารถในการตัดสนิ ใจ นำความร้ไู ปใช้ ในชีวิตประจำวัน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และ ค่านยิ มที่เหมาะสม ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหา แสดงอลั กอรทิ ึมในการทำงาน แก้ปัญหา อย่างงา่ ย โดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์หรือข้อความ เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ยโดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสือ่ ตรวจหาข้อผดิ พลาด และแกไ้ ข ใชอ้ นิ เทอร์เน็ตค้นหาความรู้ รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ รหัสตัวช้วี ดั ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 มาตรฐาน ว 1.2 มาตรฐาน ว 2.1 ป.3/1 , ป.3/2 มาตรฐาน ว 2.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3, ป.3/4 มาตรฐาน ว 2.3 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 มาตรฐาน ว 3.1 มาตรฐาน ว 3.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 มาตรฐาน ว 4.2 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3 , ป.3/4 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3 , ป.3/4, ป3/5 รวม 25 ตวั ชว้ี ัด
67 คำอธบิ ายรายวชิ า วิทยาศาสตรว์ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว ๑4๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลา ๘๐ ชั่วโมง ศึกษาหน้าท่ีของท่อลำเลียงและ ปากใบของพืช ปจั จยั ที่สำคัญตอ่ การเจริญเติบโตและ การสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื ได้แก่ นำ้ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ แสง และคลอโรฟิลล์ การตอบสนองต่อแสง เสยี ง และการสมั ผัส ซง่ึ เป็นสภาพแวดล้อมภายนอก พฤตกิ รรมของสัตว์ เป็นการแสดงออกของสตั ว์ใน ลักษณะต่าง ๆ เพอ่ื ตอบสนองต่อส่ิงเร้า เช่น แสง อณุ หภูมิ การสัมผสั การเคล่อื นท่ขี องแสงจากแหล่งกำเนดิ การเคล่ือนผ่านตัวกลางของแสง การสะทอ้ นแสง การหักเหของแสง เซลล์สรุ ิยะ การกระจายของแสงขาว การเกดิ รุ้ง การเกดิ ดิน สว่ นประกอบของดนิ ชนิดและคณุ สมบตั ขิ องดิน ระบบสรุ ิยะ โดยใชก้ ระบวนการและทักษะทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการคดิ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบคน้ ข้อมลู การบนั ทกึ การจดั กลมุ่ ข้อมูล การอภิปราย การตัง้ คำถามในการเรยี นรู้ และการนำเสนอข้อมูล เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีทักษะทางวทิ ยาศาสตร์ มีความสามารถในการ ตดั สินใจ สื่อสารส่งิ ทเี่ รียนรู้ และนำความร้ไู ปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ ตระหนักและเหน็ คณุ ค่า ของการอนรุ กั ษ์ธรรมชาติ คณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม รหัสตวั ชว้ี ัด ว 1.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ว 5.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5 ป.4/6 ว 6.1 ป.4/1 ป.4/2 ว 7.1 ป.4/1 ว 8.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5 ป.4/6 ป.4/7 ป.4/8 รวมทั้งหมด 21 ตวั ชีว้ ัด
68 คำอธบิ ายรายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว ๑5๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา ๘๐ ชั่วโมง ศึกษาการเรียนร,ูแบบนักวิทยาศาสตร5 โครงสร,างและลักษณะของส่ิงมีชีวิตท่ีเหมาะสมในแตDละ แหลDงท่ี อยูD ความสัมพันธ5ระหวDางส่ิงมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ5ระหวDางส่ิงมีชีวิตกับส่ิงไมDมีชีวิต การถDายทอด ลักษณะทางพันธุกรรมของพืช สัตว5 และมนุษย5การเปลี่ยนสถานะของสสาร การละลายของสาร ในน้ำ การ เปลี่ยนแปลงทางเคมี การเปล่ียนแปลงท่ีผันกลับได,และผันกลับไมDได, แรงลัพธ5 แรงเสียดทาน การได,ยินเสียง ผDานตัวกลาง ลักษณะและการเกิดเสียงสูง เสียงต่ำ เสียงดัง และเสียงคDอย ระดับเสียงและมลพิษ ทางเสียง ความแตกตDางของดาวเคราะห5และดาวฤกษ5 การใช,แผนท่ีดาว แบบรูปเส,นทางการข้ึนและตก ของกลDุมดาว ฤกษ5บนท,องฟRาในรอบปSปริมาณน้ำในแตDละแหลDง ปริมาณน้ำท่ีมนุษย5สามารถนํามาใช,ได,การใช, น้ำอยDาง ประหยัดและการอนุรักษ5น้ำ วัฏจักรน้ำ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค,าง และน้ำค,างแข็ง กระบวนการเกิด ฝน หิมะ และลูกเห็บ การใช,เหตุผลเชิงตรรกะในการแก,ปZญหา การเขียนรหัสลําลองเพ่ือแสดง วิธีแก,ปZญหา การออกแบบ และการเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขและการทํางานแบบวนซ้ำการใช,ซอฟแวร5 ประมวลผล ข,อมูล การติดตDอสื่อสารผDานอินเทอร5เน็ต การใช,อินเทอร5เน็ตค,นหาข,อมูลและการประเมิน ความนDาเชื่อถือของ ขอ, มลู อันตรายจากการใช,งานและอาชญากรรมทางอินเทอร5เนต็ ใช,การสืบเสาะหาความร,ู สังเกต รวบรวมข,อมลู จัดกระทาํ และสอ่ื ความหมายข,อมูล สร,างแบบจาํ ลอง และอธิบายผลการสํารวจตรวจสอบ เพ่ือใหเ, กดิ ความร,ูความเข,าใจ มที กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร5 ข้ัน พ้ืนฐานและทกั ษะการเรยี นร,ูในศตวรรษท่ี ๒๑ ในดา, นการใช,เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบอื้ งต,น สามารถสอื่ สารสง่ิ ท่ีเรยี นร,ู มีความคิดสรา, งสรรค สามารถทาํ งานร วมกับผู อื่น แสดงวธิ แี ก ป ญหา โดยใช เหตผุ ล เชงิ ตรรกะ ใช รหสั ลาํ ลองแสดงวิธีการแก ป ญหาอย างเป นข้ันตอน ออกแบบ และเขียนโปรแกรมแบบมีเงือ่ นไข และการทาํ งานแบบวนซ้ำ ตรวจหาข อผดิ พลาดของโปรแกรม ใช ซอฟต แวร ช วยในการแก ป ญหา ใช อนิ เทอร เนต็ ติดต อสือ่ สารและค นหาข อมูล แยก แยะข อเทจ็ จรงิ กบั ข อคิดเห็น ประเมินความน าเชือ่ ถอื ของข อมลู ตระหนักถึงคณุ ค าของความรู ทางวิทยาศาสตร และเทคโนโลยี และใช ความรู และ กระบวนการ ทางวิทยาศาสตร ในการดาํ รงชวี ติ ใช เทคโนโลยีสารสนเทศอย างปลอดภัยและมี มารยาท มจี ิตวทิ ยาศาสตร จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค านิยมท่ีเหมาะสม
69 รหัสตัวชว้ี ัด ว ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ว ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ว ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ว ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ว ๒.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ รวม 32 ตวั ชีว้ ัด
70 คำอธบิ ายรายวิชา วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว ๑6๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลา ๘๐ ช่ัวโมง ศกึ ษา วเิ คราะห์ สารอาหารประโยชนข์ องสารอาหารแตล่ ะประเภทจากอาหารทต่ี นเองรับประทาน เพ่อื การเลอื กรับประทานอาหารใหไ้ ด้สารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนทีเ่ หมาะสมกับเพศและวัย รวมทั้งความ ปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยมีแบบจำลอง ระบบย่อยอาหาร อวัยวะในระบบย่อยอาหารมีหน้าทีส่ ำหรับการยอ่ ย อาหารและการดดู ซมึ สารอาหาร ความสำคญั ของระบบย่อยอาหาร การดแู ลรกั ษาอวยั วะในระบบย่อยอาหาร ใหท้ ำงานเป็นปกติ มกี ารแยกสารผสม โดยการหยบิ ออก การรอ่ น การใชแ้ ม่เหลก็ ดึงดูด การรนิ ออก การกรอง และการตกตะกอน สามารถหาวธิ ีการแก้ปญั หาในชีวิตประจำวนั เก่ยี วกบั การแยกสาร การเกิดผลของแรงไฟฟา้ ซึ่งเกิดจากวัตถุท่ผี ่านการขัดถู จากสว่ นประกอบ หน้าท่ี ของวงจรไฟฟา้ แต่ละส่วนอย่างงา่ ย โดยมแี ผนภาพ การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน สามารถใชก้ ารตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและขนานดว้ ยวธิ ีการ ทเี่ หมาะสม มีประโยชน์ ข้อจำกัด ของการเกดิ เงามดื เงามัว จากแผนภาพรงั สีของแสงแสดงการเกดิ เงามืดเงา มัว จากแบบจำลองปรากฏการณ์สรุ ิยุปราคา และจันทรปุ ราคา มกี ารพัฒนาของเทคโนโลยีอวกาศและการใช้ ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวัน ส่วนกระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร ดูจากแบบจำลองวัฏจกั ร หนิ เพอ่ื หาประโยชนข์ องหินและแร่ในชีวติ ประจำวัน ศึกษาหินที่พบบรเิ วณโรงเรียน ชมุ ชน และทอ้ งถน่ิ มีแบบจำลองการเกดิ ของซากดกึ ดำบรรพส์ ภาพแวดลอ้ มในอดีต ท่ีเกดิ จากลมบก ลมทะเล และมรสุม จาก แบบจำลองและบรเิ วณท้องถ่ิน สามารถสง่ ผลตอ่ การเกิดของมรสมุ ในฤดูตา่ งๆ ของประเทศไทยและประเทศ อาเซียน เกิดผลกระทบของ น้ำท่วม การกัดเซาะชายฝงั่ ดินถลม่ แผน่ ดินไหว สนึ ามิ ร่วมถึงผลกระทบของภยั ธรรมชาติและธรณีพิบัติภัยในท้องถิน่ เพ่ือหาแนวทางการเฝา้ ระวงั และปฏบิ ัติตนให้ปลอดภัยจากภยั ธรรมชาติ จากแบบจำลองเพือ่ อธิบายการเกดิ และผลของปรากฏการณเ์ รือนกระจก กิจกรรมท่กี ่อใหเ้ กดิ แกส๊ เรอื น กระจกท่มี ีทำใหเ้ กิดปรากฏการณ์เรือนกระจกลกู เหบ็ ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา การทำงาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์ จากปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และ เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรอื สอื่ และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดและแกไ้ ขใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตค้นหา ความรู้ รวบรวม ประเมิน นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ทีห่ ลากหลาย เพื่อแกป้ ัญหาใน ชีวติ ประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เขา้ ใจสิทธิและหนา้ ทข่ี องตน เคารพในสทิ ธิของผู้อนื่ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมูล การเปรยี บเทียบขอ้ มลู จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ และการอภปิ รายเพ่อื ให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถสือ่ สารส่งิ ท่เี รยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ เกดิ การรบั รู้ และเห็นคณุ คา่ ของการนำความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่เี หมาะสมที่พึงประสงคต์ อ่ การดำเนนิ ชวี ิตในปัจจบุ ัน
71 รหสั ตวั ช้วี ัด วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ มาตรฐาน ว ๒.๑ ป.๖/๑ มาตรฐาน ว ๒.๒ ป.๖/๑ มาตรฐาน ว ๒.๓ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ มาตรฐาน ว ๓.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ มาตรฐาน ว ๓.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป’๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ , ป.๖/๙ วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) มาตรฐาน ว ๔.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓, ป.๖/๔ รวมท้งั หมด ๓๐ ตัวชวี้ ดั
72 รหสั วชิ า คำอธบิ ายรายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว21101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง / ภาคเรยี น จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต ภาคเรยี นที่ 1 ศกึ ษา สงั เกต วิเคราะห5 อธิบาย ทดลอง บรรยาย ระบุ เลือก เปรียบเทียบ จำลอง รปู ราD งและ โครงสร,างของเซลลพ5 ืชและเซลลส5 ตั ว5 รวมทงั้ หน,าทีข่ องผนังเซลล5 เยหื่ ุม, เซลล5 ไซโทพลาสซึม นิวเคลยี ส แลคิว โอล ไมโทคอนเดยี และคลอโรพลาสต5 โดยใชก, ล,องจลุ ทรรศน5แบบใชแ, สงศึกษาเซลลแ5 ละโครงสร,างตาD งๆ ภายในเซลล5 ความสมั พันธ5ระหวาD งรปู ราD งกับการทำหนา, ท่ขี องเซลล5 การลำเลียงสารเข,าออกเซลลด5 ว, ย กระบวนการแพรDและออสโมซสี การสังเคราะห5ดว, ยแสง การลำเลย้ี งนำ้ ธาตอุ าหาร และอาหารของพืช การ สืบพนั ธ5 และขยายพันธ5พืชในทอ, งถ่ินและการใชเ, ทคโนโลยีประโยชนข5 องขยายพันธ5พชื ในทอ, งถ่ิน สมบัติของ สารบรสิ ทุ ธ์ิ การจำแนกและองค5ประกอบของสาร โดยใชแ, นวคดิ เชิงนามธรรม การคดั เลือกคุณลกั ษณะทจี่ ำเปiนตDอการแกป, Zญหา ขน้ั ตอนการแกป, Zญหา การเขยี นรหสั จำลองและผังงาน การเขยี นออกแบบอยาD งงDายและเขียนโปรแกรมอยาD งงาD ยทีม่ ีการใช,งานตวั แปร เงอ่ื นไขและการวนซำ้ (วิทยาการคำนวณ) และการใชก, ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร5 การสบื เสาะหาความร,ู การ สำรวจ ตรวจสอบ การสบื ค,นข,อมลู และการอภิปรายด,วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม (สเต็มศกึ ษา) เลอื กใช,เทคโนโลยอี ยDางเหมาะสม เพ่อื ใหเ, กิดความร,ู ความคดิ ความเข,าใจ ความสามารถสอ่ื สารส่ิงท่เี รียนรู, มคี วามสามารถในการ ตดั สินใจ นำความร,ูใชใ, นชีวิตประจำวนั ตระหนักถงึ การใช,เทคโนโลยีสารสนเทศอยาD งปลอดภยั เกดิ ประโยชน5 ตDอผู,เรยี นและไมDสรา, งความเสยี หายแกDผู,อ่ืนและมีมีจติ วิทยาศาสตร5 จริยธรรม คณุ ธรรม และคDานิยมท่ี เหมาะสม รหสั ตัวชว้ี ดั ว ๑.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖,ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙, ม.๑/๑๐, ม.๑/๑๑, ม.๑/๑๒,ม.๑/๑๓, ม.๑/๑๔, ม.๑/๑๕, ม.๑/๑๖, ม.๑/๑๗, ม.๑/๑๘ ว ๒.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖,ม.๑/๗, ม.๑/๘ ม.๑/9 ว 4.2 ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔ รวมทงั้ หมด 31 ตวั ช้วี ัด
73 รหัสวิชา คำอธิบายรายวิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว 21102 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง / ภาคเรยี น จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ภาคเรยี นท่ี 2 ศกึ ษา สงั เกต วเิ คราะห5 อธบิ าย ทดลอง เกย่ี วกับอณุ หภมู แิ ละการวดั ผลของความรอ, นทมี่ ตี Dอการ เปลย่ี นแปลงของสาร การถDายโอนความร,อน การดูดกลืนและการคายความร,อน สมดุลความรอ, นองค5ประกอบ ของบรรยากาศ การแบDงชนั้ บรรยากาศ ผลของรงั สีจากดวงอาทติ ย5ตอD บรรยากาศ องคป5 ระกอบของ บรรยากาศไดแ, กD อณุ หภูมอิ ากาศ ความดนั อากาศ ความช้ืนอากาศ ลม เมฆ และฝน พายุฟRาคะนอง พายุหมนุ เขตร,อน มรสมุ การพยากรณอ5 ากาศ และการเปลยี่ นแปลงภมู อิ ากาศของโลก โดย อธิบายความหมายของเทคโนโลยี และวิเคราะห5สาเหตุหรือปจZ จัยทส่ี DงผลตอD การเปลีย่ นแปลง ของเทคโนโลยี การทำงานของระบบทางเทคโนโลยี ประยกุ ต5ใช,ความรู, ทกั ษะ และทรัพยากร โดยวเิ คราะห5 เปรยี บเทียบและเลือกขอ, มลู ที่จำเปiนเพือ่ ออกแบบวิธกี ารแกป, ญZ หาในชีวติ ประจำวันในด,านการเกษตรและ อาหาร และสรา, งชนิ้ งานหรือพฒั นาวธิ ีการโดยใชก, ระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม รวมทงั้ เลอื กใช,วสั ดุ อปุ กรณ5 เครือ่ งมอื ในการแกป, ญZ หาได,อยDางถูกตอ, ง เหมาะสม และปลอดภัย เพื่อให,เกิดความรู, ความคดิ ความเขา, ใจ ความสามารถสอ่ื สารส่ิงท่ีเรยี นร,ู มคี วามสามารถในการ ตดั สนิ ใจ นำความรู,ใช,ในชวี ติ ประจำวนั ตระหนกั ถึงการใชเ, ทคโนโลยสี ารสนเทศอยDางปลอดภัย เกดิ ประโยชน5 ตอD ผ,เู รยี นและไมสD รา, งความเสยี หายแกผD ,อู ื่นและมมี ีจิตวิทยาศาสตร5 จริยธรรม คณุ ธรรม และคDานิยมท่ี เหมาะสม รหสั ตัวชีว้ ัด ว ๒.๑ ม.๑/๑๐ ว ๒.๒ ม.๑/๑, ว ๒.๓ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖ ,ม.๑/๗ ว ๓.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖ ,ม.๑/๗ ว ๔.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕ รวมทง้ั หมด 21 ตัวช้ีวดั
74 คำอธิบายรายวิชาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว22101 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา 60 ช่วั โมง / ภาคเรยี น จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต ภาคเรยี นท่ี 1 ศกึ ษาเกี่ยวกับระบบรา่ งกายมนษุ ย์ ระบบหายใจ โครงสรา้ งและหนา้ ทข่ี องอวยั วะในระบบ หายใจ การหายใจ การดูแล รักษาอวยั วะในระบบหายใจ ระบบขบั ถ่าย โครงสร้างและหนา้ ท่ขี องอวัยวะใน ระบบขบั ถ่าย กลไกการกำจดั ของเสยี การดแู ลรักษา อวยั วะในระบบขับถา่ ย ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด โครงสร้าง และหนา้ ท่ีของอวยั วะในระบบหมุนเวยี นเลอื ด การทำงานของระบบ หมนุ เวยี นเลือด การดูแลรักษาอวยั วะใน ระบบหมนุ เวียนเลือด ระบบประสาท โครงสร้างและหน้าทขี่ องอวยั วะในระบบประสาท การทำงานของระบบ ประสาท การดแู ลรักษาอวัยวะในระบบประสาท ระบบสบื พนั ธ์ุ โครงสรา้ งและหน้าทีข่ องอวยั วะในระบบ สบื พันธ์เุ พศชายและเพศหญงิ ฮอรโ์ มนเพศ การปฏสิ นธแิ ละการตัง้ ครรภ์ การคุมกำเนิด ศกึ ษาเกี่ยวกบั การ แยกสารผสม การระเหยแห้ง การตกผลกึ การกล่ัน โครมาโทกราฟแี บบกระดาษ การสกัดด้วยตวั ทำละลาย การนำวธิ กี ารแยกสารไปใช้แก้ปัญหา ในชวี ิตประจำวนั โดยใชแ, นวคดิ เชงิ คำนวณ การออกแบบอลั กอลทิ ึม ในการแกป, ZญหาอยDางงDายตามขัน้ ตอนการ แก,ปญZ หา การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีใชต, รรกะฟงZ กช5 นั่ ในการแก,ปญZ หา อภปิ รายองคป5 ระกอบและ หลักการทำงานของคอมพวิ เตอร5และเทคโนโลยกี ารสื่อสาร การใช,เทคโนโลยีสารสนเทศอยาD งเหมาะสม ปลอดภยั และ สร,างแสดงสทิ ธใิ นการเผลแพรDผลงาน เพอื่ ให,เกิดความร,ู ความคิด ความเข,าใจ มีความคิดสรา, งสรรค5 ความสามารถสอ่ื สารสง่ิ ทเี่ รยี นร,ู มี ความสามารถในการตดั สินใจ นำความรใู, ชใ, นชวี ติ ประจำวัน ตระหนกั ถึงการใชเ, ทคโนโลยสี ารสนเทศอยDาง ปลอดภยั เกิดประโยชนต5 อD ผ,ูเรียนและไมสD รา, งความเสียหายแกDผ,อู ื่นและมมี จี ติ วิทยาศาสตร5 จรยิ ธรรม คุณธรรม และคาD นยิ มท่ีเหมาะสม รหัสตวั ช้วี ัด ว1.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10 ม.2/11 ม.2/12 ม.2/13 ม.2/14 ม.2/15 ม.2/16 ม.2/17 ว2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ว4.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 รวมตัวช้วี ดั 27 ตวั ชวี้ ัด
75 คำอธบิ ายรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 22102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 60 ชว่ั โมง / ภาคเรียน จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ภาคเรียนท่ี 2 ศึกษาเกีย่ วกบั แรงและการเคล่อื นท่ี แรง แรงดันในของเหลว แรงพยุง แรงเสียดทาน โมเมนต์ ของแรง แรงใน ธรรมชาติ การเคลอ่ื นที่ ระยะทางและการกระจัด อตั ราเรว็ ความเร็ว ศกึ ษาเกี่ยวกับงานและ พลังงาน งาน กำลงั เครือ่ งกล พลังงาน ประเภทของพลังงาน กฎการอนุรักษพ์ ลังงาน ศึกษาเก่ียวกบั โลกและ การเปลี่ยนแปลง เชอ้ื เพลงิ ซากดกึ ดำบรรพ์ ถา่ นหนิ หินนำ้ มัน ปิโตรเลยี ม พลังงานทดแทน โครงสรา้ งของโลก การเปลย่ี นแปลงของโลก ทรัพยากรดนิ กระบวนการเกิดดนิ หนา้ ตัดขา้ ง ของดิน ปัจจยั ในการเกิดดนิ สมบัติ ของดนิ การปรบั ปรงุ คุณภาพของดิน แหล่งน้ำ น้ำบนดิน น้ำใตด้ นิ การใชป้ ระโยชน์จากแหลง่ น้ำ ภยั พบิ ตั ทิ ีเ่ กิด จากน้ำ โดย วเิ คราะห5สาเหตุหรอื ปZจจัยท่สี DงผลตอD การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การทำงานของระบบทาง เทคโนโลยี ประยุกตใ5 ช,ความรู, ทกั ษะ และทรัพยากร โดยวเิ คราะหเ5 ปรยี บเทยี บและเลอื กขอ, มูลทจ่ี ำเปนi เพือ่ ออกแบบวธิ กี ารแกป, Zญหาในชวี ติ ประจำวนั ในดา, นการเกษตรอาหาร ด,านส่งิ แวดล,อมและพลังงาน และสร,าง ชิ้นงานหรือพัฒนาวธิ ีการโดยใช,กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม รวมทงั้ เลอื กใช,วสั ดุอุปกรณ5 เครื่องมอื ใน การแก,ปญZ หาได,อยาD งถูกตอ, ง เหมาะสม และปลอดภัย เพ่อื ใหเ, กดิ ความรู, ความคดิ ความเข,าใจ มีความคิดสร,างสรรค5 ความสามารถสื่อสารส่งิ ทีเ่ รยี นรู, มี ความสามารถในการตัดสินใจ นำความรใ,ู ช,ในชวี ิตประจำวัน ตระหนักถึงการใช,เทคโนโลยีสารสนเทศอยDาง ปลอดภัย เกดิ ประโยชนต5 อD ผู,เรียนและไมสD ร,างความเสียหายแกผD อู, นื่ และมีมีจติ วทิ ยาศาสตร5 จรยิ ธรรม คุณธรรม และคDานิยมท่เี หมาะสม รหัสตวั ช้วี ัด ว2.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10 ม.2/11 ม.2/12 ม.2/13 ม.2/14 ม.2/15 ว2.3 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ว3.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10 ว4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 รวม 35 ตัวช้วี ดั
76 รหสั วชิ า ว 23101 คำอธิบายรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 60 ชว่ั โมง / ภาคเรยี น จำนวน 1.5 หน่วยกิต ภาคเรยี นท่ี 1 ศึกษาเกย่ี วกบั ระบบนเิ วศ องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่งิ มีชวี ติ ใน ระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ พันธกุ รรม โครโมโซม ดเี อ็นเอ และยนี การถา่ ยทอดลักษณะ ทางพนั ธกุ รรม การแบง่ เซลลข์ องสงิ่ มีชวี ติ ความผิดปกตทิ างพนั ธกุ รรม การดัดแปรทางพันธกุ รรม ความหลากหลายทางชวี ภาพ วสั ดุในชวี ติ ประจำวัน สมบตั ิทางกายภาพและการใชป้ ระโยชน์พอลเิ มอร์ เซรามกิ และวัสดุผสม ผลกระทบจากการใชว้ สั ดปุ ระเภทพอลิเมอร์ เซรามิกและวสั ดุผสม ปฏกิ ิรยิ าเคมี การเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี ประเภทของปฏิกริ ยิ าเคมี ปฏกิ ิรยิ าเคมใี นชวี ติ ประจำวนั โดย ศึกษาเกยี่ วกบั การจดั การขอ้ มลู และสารสารเทศ การใช้ซอฟตแ์ วร์ในการจดั การข้อมลู และ สารสนเทศ ศกึ ษาเก่ยี วกบั การประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถอื ของขอ้ มลู การรเู้ ทา่ ทันสอื่ ศกึ ษาเกยี่ วกับการใชง้ าน เทคโนโลยสี ารสนเทศและกฎหมายคอมพวิ เตอร์ ศึกษาเกีย่ วกับแอปพลเิ คชัน เทคโนโลยี IoT และการพัฒนา แอปพลิเคชนั เพอ่ื ให้เกดิ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสบื ค้นข้อมลู การสงั เกต การวเิ คราะห์ การทดลอง การอภปิ ราย การอธิบาย และการสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ สอื่ สารสงิ่ ทเ่ี รียนรแู้ ละนำความรไู้ ปใชใ้ นชวี ิตของตนเอง มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยม ตวั ช้วี ัด ว 1.1 ม.3/1 ว 1.1 ม.3/2 ว 1.1 ม.3/3 ว 1.1 ม.3/4 ว 1.1 ม.3/5 ว 1.1 ม.3/6 ว 1.3 ม.3/1 ว 1.3 ม.3/2 ว 1.3 ม.3/3 ว 1.3 ม.3/4 ว 1.3 ม.3/5 ว 1.3 ม.3/6 ว 1.3 ม.3/7 ว 1.3 ม.3/8 ว 1.3 ม.3/9 ว 1.3 ม.3/10 ว 1.3 ม.3/11 ว 2.1 ม.3/1 ว 2.1 ม.3/2 ว 2.1 ม.3/3 ว 2.1 ม.3/4 ว 2.1 ม.3/5 ว 2.1 ม.3/6 ว2.1 ม.3/7 ว 2.1 ม.3/8 ว 4.2 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 รวมตัวชี้วดั 29 ตัว
77 รหสั วิชา ว 23102 คำอธิบายรายวิชาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลาเรยี น 60 ชว่ั โมง / ภาคเรียน จำนวน 1.5 หน่วยกิต ภาคเรยี นที่ 2 ศึกษา วิเคราะห์ ปริมาณทางไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ความต่างศักย์ ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้ากับ ความต่างศักย์ กฎของโอห์ม ความต้านทาน ตัวต้านทาน การต่อตัวต้านทานแบบอนุกรมและแบบขนาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างง่าย ไดโอด ทรานซิสเตอร์ ตัวเก็บประจุ วงจรรวม การต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์ พลังงานไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้า การคำนวณค่าไฟฟ้า วงจรไฟฟ้าในบ้าน อุปกรณ์ไฟฟ้าและเคร่ืองใช้ไฟฟ้าในบ้าน การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัย การเกิดคลื่น ส่วนประกอบของคลื่น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สเปกตรัม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ประโยชน์และการป้องกันอันตรายจากคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า การสะท้อนของแสงบนกระจก เงาราบ การสะท้อนของแสงบนกระจกเงาโค้ง การหักเหของแสงผ่านเลนส์ การทดลองการหักเหของแสง การ เกิดภาพจากเลนส์บาง ปรากฏการณ์ที่เก่ียวกับแสง เช่น รุ้ง มิราจ และการทำงานของทัศนอุปกรณ์ เช่น แว่น ขยาย กระจกโค้งจราจร การมองเห็นวัตถุ ความสว่างของแสง การโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ การ เกิดฤดูกาล การเคล่ือนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์ การเกิดข้างข้ึนข้างแรม การเกิดน้ำขึ้นน้ำลง น้ำเป็น นำ้ ตาย เทคโนโลยอี วกาศ กล้องโทรทรรศน์ ดาวเทยี มและยานอวกาศ นกั บนิ อวกาศ โครงการสำรวจอวกาศ โดยศึกษาสาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และผลกระทบต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกจิ ส่งิ แวดล้อมและอาชีพในชุมชน เพื่อสำรวจและระบุปัญหาที่เกิดข้นึ ได้ตรงความเป็นจรงิ กระบวนการ แก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และศาสตร์อ่ืนๆร่วมกัน ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับประเภท และ สมบัติของวัสดุต่างๆเช่น ไม้ เหล็ก พลาสติก ยางพารา เครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน เช่น ค้อน ประแจ สว่าน คมี ประเภทต่างๆเพอื่ ใหส้ ามารถตัดสินใจเลือกแนวทางในการออกแบบแก้ปญั หาไดอ้ ย่างเหมาะสม เพ่ือให้เกิดกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การทดลอง การอภิปราย การอธิบาย และการสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มี ความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยม รวมตวั ชว้ี ดั ว 2.3 ม.3/1 ว 2.3 ม.3/2 ว 2.3 ม.3/3 ว 2.3 ม.3/4 ว 2.3 ม.3/5 ว 2.3 ม.3/6 ว 2.3 ม.3/7 ว 2.3 ม.3/8 ว 2.3 ม.3/9 ว 2.3 ม.3/10 ว 2.3 ม.3/11 ว 2.3 ม.3/12 ว 2.3 ม.3/13 ว 2.3 ม.3/14 ว 2.3 ม.3/15 ว 2.3 ม.3/16 ว 2.3 ม.3/17 ว2.3 ม.3/18 ว 2.3 ม.3/19 ว 2.3 ม.3/20 ว 2.3 ม.3/21 ว 3.1 ม.3/1 ว 3.1 ม.3/2 ว 3.1 ม.3/3 ว 3.1 ม.3/4 ว4.1ม.3/1 ว4.1ม.3/2 ว4.1ม.3/3 ว4.1ม.3/4 ว4.1ม.3/5 รวมตัวชี้วดั 30 ตัว
78 คำอธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เติม ว ๒๐๒๐๑ เร่มิ ตน5 กับโครงงานวิทยาศาสตร> ๑ กลAุมสาระการเรยี นรว5ู ิทยาศาสตร> ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปทI ่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หนวA ยกติ ศกึ ษาค,นควา, สืบคน, ขอ, มลู ฝกm ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร5 กำหนดตัวแปรและควบคมุ ตัวแปร การจกั ระเบยี บขอ, มลู การวเิ คราะหข5 ,อมลู ใช,กราฟแสดงขอ, มูล การแปลข,อมูลและการลง ข,อสรปุ และกจิ กรรมในรูปแบบตาD งทเ่ี ก่ยี วกับโครงงานวทิ ยาศาสตร5 ประเภทสำรวจ การทดลองสิ่งประดษิ ฐ5 และทฤษฎี วิเคราะหโ5 ครงงานวทิ ยาศาสตร5 ศกึ ษาเอกสารและสำรวจธรรมชาตริ อบตัวในท,องถิ่น เพอื่ นำไปสDู การระบุปญZ หาและหัวเร่อื งในการทำโครงงานวิทยาศาสตร5ตามขน้ั ตอนทางวทิ ยาศาสตร5ที่เนน, การแก,ปZญหา อยาD งมรี ะบบฝmกทักษะการตั้งปZญหา ตงั้ สมมตฐิ าน ออกแบบการทดลอง กำหนดและควบคุมตัวแปร การใช, เคร่อื งมอื พน้ื ฐานทางวิทยาศาสตรโ5 ดยใช,กระบวนการโครงงานวิทยาศาสตร5 กาสงั เกต เปรยี บเทียบ รวบรวม ขอ, มูล วิเคราะห5 บนั ทกึ และอธิบาย การทดลอง นำเสนอ เพอ่ื ให,เกดิ ความร,ู ความคดิ ความเข,าใจ สามารถฝกm ทกั ษะกระบวนวทิ ยาศาสตร5 จากประสบการณ5 ตรงตามวธิ ีทางวิทยาศาสตร5 สือ่ สารส่ิงทีเ่ รียนรู, สามารถนำไปใชป, ระโยชน5 ในชีวติ ประจำวนั มีจิต วทิ ยาศาสตร5 คณุ ธรรมจริยธรรม และลกั ษณะอันพึงประสงค5 ผลการเรียนร5ู ๑. สบื คน, ข,อมลู เก่ยี วกบั กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร5 ๒. บอกหรืออธบิ ายความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร5ได, ๓. บอกหลกั การและจดุ มDุงหมายในการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร5ได, ๔. บอกหรอื อธิบายคุณคDาของการทำโครงงานวิทยาศาสตร5ได, ๕. เขา, ใจและจำแนกประเภทของโครงงานวิทยาศาสตรไ5 ด, ๖. บอกหรอื อธิบายลกั ษณะของโครงงานวิทยาศาสตร5แตลD ะประเภทได, ๗. บอกหรืออธบิ ายแนวทางในการเลือกหวั ขอ, เร่ืองในการทำโครงงานได, ๘. บอกหรืออธิบายหลกั การตงั้ ชือ่ โครงงานได, ๙. สามารถต้งั ชอื่ โครงงานวิทยาศาสตรไ5 ด, ๑๐. บอกความสำคัญของเอกสารที่เกยี่ วขอ, งกับโครงงานได, ๑๑. บอกแหลงD ความร,ูทใี่ ช,ในการศกึ ษาค,นคว,าประกอบการทำโครงงานได, ๑๒. บอกสDวนประกอบเคา, โครงยDอของโครงงานได, ๑๓. เขียนเค,าโครงยอD ของโครงงานได, รวม 13 ขอ้
79 คำอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ ว ๒๐๒๐๒ โครงงานวทิ ยาศาสตร> ๒ กลมAุ สาระการเรียนรวู5 ทิ ยาศาสตร> ช้นั มัธยมศึกษาปIท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หนAวยกิต การเรียนการสอนรายวชิ า โครงงานวทิ ยาศาสตร5ทางวทิ ยาศาสตร5 ประกอบด,วยโครงงานประเภท สำรวจ ทดลอง และสง่ิ ประดิษฐ5 และกจิ กรรมทใี่ หน, ักเรยี นทำโครงงานวทิ ยาศาสตร5ตามความสนใจ ตง้ั แตDเรม่ิ จนทำโครงงานสำเรจ็ การทำโครงงานเนน, ให,นกั เรยี นฝmกคิด วิเคราะห5ปZญหาทส่ี นใจท่ีจะทำโครงงาน คิดออกแบบการประดิษฐแ5 ละทดลองประสิทธภิ าพได, และตัดสินใจเลอื กวิธกี ารทเ่ี หมาะสม มกี ารวางแผนการ ดำเนินงานเพ่ือลงมอื ปฏิบตั ิทดลองไดอ, ยาD งเปนi ขน้ั ตอนและมรี ะบบ บันทกึ ผล วิเคราะหผ5 ล สรุปผล และเขยี น รายงาน ตลอดจนนำเสนอผลงานและแสดงผลงานของโครงงานวทิ ยาศาสตร5 การทำกิจกรรมจะชวD ยพฒั นา นกั เรยี นใหส, ามารถคิดเปนi ทำเปiน และแกป, Zญหา ผลการศกึ ษาคน, คว,าในระดับของนกั เรียนจะขยายไปถึงข้ัน นำไปใช,แกป, Zญหาวทิ ยาศาสตร5และเทคโนโลยใี นทอ, งถนิ่ สงD ผลตอD การพัฒนาด,านตาD งๆ ได, โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล และบันทึก การจัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจำวัน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ คุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม ผลการเรียนร5ู ๑. ระบปุ ญZ หาจากชวี ติ ประจำวันเพือ่ นำไปสกDู ารทำโครงงานวิทยาศาสตร5 ๒. สบื คน, ข,อมลู ประกอบการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร5จากแหลงD ขอ, มลู ท่หี ลากหลาย และมีความ นDาเชื่อถือ ๓. วิเคราะห5ปญZ หา วางแผนการทดลอง ๔. ทำงานเปนi กลDุมมคี วามคิดริเร่ิมสร,างสรรค5ในการแสดงความคิดเห็น การออกแบบหรือดัดแลงการ ทดลอง ตลอดจนวสั ดอุ ุปกรณใ5 นการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร5 ๕. ทำโครงงานวิทยาศาสตร5ตามความถนดั และสนใจกลมุD ละโครงงาน ๖. เขยี นรายงานประกอบการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร5ได, ๗. นำเสนอและจัดแสดงผลงานในรูปแบบการนำเสนอปากเปลาD หรือ นิทรรศการ รวม 7 ขอ้
80 คำอธบิ ายรายวิชา วชิ า เทคโนโลยกี บั ชีวิต ๑ รหสั ว ๒๑๒๑๐ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… อธิบายแนวคิดหลักของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวนั และวเิ คราะหส์ าเหตหุ รือปจั จัยทีส่ ง่ ผลต่อการ เปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี วิเคราะหข์ ้อมลู และแนวคิดที่เกย่ี วข้องกบั ปญั หา การทำงานของระบบทาง เทคโนโลยี ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ ทกั ษะ และทรัพยากร โดยวเิ คราะห์เปรียบเทียบและเลอื กขอ้ มลู ท่ีจำเปน็ เพอื่ ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหาในชีวิตประจาวัน ออกแบบอัลกอรทิ มึ ที่ใชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมเพอื่ แกป้ ัญหาหรอื อธบิ ายการทำงานที่พบในชีวิตจรงิ ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย เพอ่ื แก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์หรอื วิทยาศาสตร์ ใชก้ ระบวนการคดิ วิเคราะห์ในการประมวลผลขอ้ มูลให้เปน็ สารสนเทศ การรวบรวมข้อมูลปฐมภมู ิ การประมวลผลข้อมูล การสรา้ งทางเลอื กและประเมนิ ผลเพ่อื ตดั สินใจ ซอฟต์แวรแ์ ละบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ี ใชใ้ นการจดั การขอ้ มลู แนวทางการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศให้ปลอดภัย การจดั การอตั ลักษณ์ การ พิจารณาความเหมาะสมของเน้อื หา ข้อตกลงและข้อกำหนดการใช้สือ่ และแหลง่ ขอ้ มูล เพอ่ื พัฒนาผเู้ รียนใหเ้ ข้าใจและเห็นคณุ คา่ ของเทคโนโลยีสารสนเทศท่มี ีตอ่ ชวี ิต สงั คม และ ส่งิ แวดลอ้ ม ตลอดจนนำความรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกบั เทคโนโลยไี ปใช้ให้เกิดประโยชนต์ อ่ สังคม และการ ดำรงชวี ติ และใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ใชส้ อื่ และแหลง่ ข้อมูลตามขอ้ กำหนดและข้อตกลง อย่างมีจิตสำนึกและรบั ผิดชอบ นำช้ินงานเผยแพรส่ ูส่ าธารณะชนได้อยา่ งมคี ณุ ธรรมและจริยธรรม ผลการเรียนรู้ ๑. อธบิ ายถงึ ววิ ฒั นาการของของอินเทอร์เนต็ และการกำเนิดอนิ เทอรเ์ นต็ ๒. ใช้เทคโนโลยีการสือ่ สารและเครือข่ายอินเทอรเ์ น็ตในการสืบคน้ และจดั การข้อมลู ๓. ออกแบบอลั กอริทึมทใ่ี ช้แนวคดิ เชิงนามธรรมเพ่ือแกป้ ญั หาหรอื อธิบายการทางานท่ีพบในชีวิต ๔. รวบรวมขอ้ มูลปฐมภมู ิ ประมวลผล ประเมนิ ผล นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอรเ์ นต็ ทหี่ ลากหลาย ๕. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มคี วามรับผิดชอบ และมีคณุ ธรรม ๖ .ใช้สอ่ื และแหล่งข้อมูลตามขอ้ กำหนดและขอ้ ตกลง
81 คำอธิบายรายวิชา วิชา เทคโนโลยีกับชวี ติ ๒ รหสั ว ๒๑๒๑๑ ภาคเรียนที่ ๒ ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… อธิบายแนวคิดหลักของเทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวนั และวิเคราะหส์ าเหตหุ รือปัจจัยท่ีสง่ ผลตอ่ การ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี วิเคราะหข์ อ้ มูลและแนวคดิ ท่ีเก่ยี วข้องกบั ปัญหา การทำงานของระบบทาง เทคโนโลยี ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ ทกั ษะ และทรัพยากร โดยวิเคราะหเ์ ปรยี บเทยี บและเลือกขอ้ มูลทจ่ี ำเปน็ เพือ่ ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาในชีวิตประจาวนั ออกแบบอัลกอรทิ ึมทใ่ี ชแ้ นวคิดเชงิ นามธรรมเพอ่ื แก้ปัญหาหรอื อธิบายการทำงานท่ีพบในชีวติ จริง ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย เพอื่ แก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์หรือ วิทยาศาสตร์ ใช้กระบวนการคดิ วิเคราะหใ์ นการประมวลผลข้อมลู ใหเ้ ป็นสารสนเทศ การรวบรวมข้อมลู ปฐมภมู ิ การประมวลผลขอ้ มูล การสร้างทางเลือกและประเมนิ ผลเพื่อตัดสนิ ใจ ซอฟตแ์ วร์และบริการบนอินเทอรเ์ นต็ ท่ี ใชใ้ นการจัดการข้อมลู แนวทางการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศใหป้ ลอดภัย การจดั การอัตลักษณ์ การ พจิ ารณาความเหมาะสมของเนื้อหา ขอ้ ตกลงและข้อกำหนดการใช้สอื่ และแหล่งข้อมลู เพอ่ื พฒั นาผู้เรยี นให้เขา้ ใจและเหน็ คุณคา่ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศท่มี ีตอ่ ชวี ิต สังคม และ ส่งิ แวดล้อม ตลอดจนนำความร้คู วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั เทคโนโลยไี ปใชใ้ ห้เกิดประโยชนต์ ่อสังคม และการ ดำรงชวี ิต และใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ใชส้ อ่ื และแหลง่ ข้อมลู ตามขอ้ กำหนดและขอ้ ตกลง อย่างมจี ติ สำนึกและรับผดิ ชอบ นำช้ินงานเผยแพรส่ สู่ าธารณะชนไดอ้ ยา่ งมคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายเกยี่ วกับเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรพ์ ืน้ ฐานและองค์ประกอบพื้นฐานของเครือขา่ ย ๒. อธิบายระบบปฏิบตั ิการเครอื ขา่ ยและประเภทของระบบเครือข่าย ๓. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย เพ่ือแก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์หรอื วิทยาศาสตร์ ๔. สรา้ งสรรค์สื่อจากโปรแกรมประยุกต์ Photoshop , Authorware ได้ ๕. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มคี วามรับผดิ ชอบ และมีคณุ ธรรม
82 กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม
83 กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ความสำคญั ของสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สังคมโลกมกี ารเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ตลอดเวลา กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และ วัฒนธรรม ชว่ ยใหผ้ ้เู รียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ วา่ มนษุ ยด์ ำรงชีวิตอยา่ งไร ทัง้ ในฐานะปัจเจกบุคคล และการ อยรู่ ว่ มกนั ในสังคม การปรบั ตวั ตามสภาพแวดล้อม การจัดการทรัพยากรท่มี ีอย่อู ยา่ งจำกัด นอกจากนี้ ยงั ช่วย ใหผ้ ู้เรียนเข้าใจถึงการพัฒนา เปล่ียนแปลงตามยคุ สมยั กาลเวลา ตามเหตปุ จั จยั ต่างๆ ทำใหเ้ กิดความเข้าใจใน ตนเอง และผู้อื่น มคี วามอดทน อดกลน้ั ยอมรับในความแตกต่าง และมีคุณธรรม สามารถนำความร้ไู ปปรบั ใช้ ในการดำเนินชีวิต เปน็ พลเมืองดขี องประเทศชาติ และสังคมโลก กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรมว่าดว้ ยการอยู่รว่ มกนั ในสงั คม ท่มี คี วามเช่ือม สัมพนั ธ์กนั และมีความแตกต่างกนั อยา่ งหลากหลาย เพ่อื ชว่ ยให้สามารถปรับตนเองกับบริบทสภาพแวดลอ้ ม เป็นพลเมืองดี มีความรบั ผิดชอบ มคี วามรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม โดยได้กำหนดสาระ ต่างๆไว้ ดงั น้ี - ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม แนวคิดพ้ืนฐานเกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลักธรรมของ พระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือ การนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเอง และการอยู่ ร่วมกันอย่างสันติสุข เป็นผู้กระทำความดี มีค่านิยมท่ีดีงาม พัฒนาตนเองอยู่เสมอ รวมท้ังบำเพ็ญประโยชน์ต่อ สังคมและส่วนรวม - หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบันการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลักษณะและความสำคัญ การเป็นพลเมือง ดี ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเช่ือ ปลูกฝังค่านิยมด้านประชาธิปไตยอันมี พระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข สทิ ธิ หนา้ ท่ี เสรภี าพการดำเนนิ ชวี ติ อยา่ งสนั ตสิ ุขในสังคมไทยและสงั คมโลก - เศรษฐศาสตร์ การผลิต การแจกจ่าย และการบริโภคสินค้าและบริการ การบริหารจัดการ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ การดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ และการนำหลักเศรษฐกิจ พอเพียงไปใช้ในชีวิตประจำวัน - ภมู ศิ าสตร์ ลักษณะทางกายภาพของโลก การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพ ปญั หาทางกายภาพและ ภยั พิบตั ิ ความสัมพันธข์ องสรรพสิ่งซ่งึ มีผลต่อกัน แผนท่ีและเครื่องมือทางภมู ศิ าสตร์ การใชภ้ มู สิ ารสนเทศ ปฏิสัมพนั ธ์ระหว่างมนุษย์กับสงิ่ แวดล้อมทางกายภาพกับการสรา้ งสรรค์วถิ กี ารดำเนินชีวติ กจิ กรรมทาง เศรษฐกิจและสงั คม ความรว่ มมือดา้ นทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ มในประเทศและระหว่างประเทศและการ จดั การทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ มเพ่ือการพัฒนาอย่างย่ังยนื - ประวตั ิศาสตร์ เวลาและยคุ สมยั ทางประวัติศาสตร์ วิธกี ารทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการของ มนษุ ยชาตจิ ากอดีตถึงปัจจุบัน ความสมั พันธแ์ ละเปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณต์ ่างๆ ผลกระทบท่ีเกดิ จาก
84 เหตุการณส์ ำคญั ในอดตี บุคคลสำคญั ที่มีอทิ ธิพลต่อการเปล่ยี นแปลงตา่ งๆในอดีต ความเปน็ มาของชาติไทย วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย แหลง่ อารยธรรมท่ีสำคัญของโลก สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส 1.1 รู้ และเขา้ ใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนับถอื และศาสนาอืน่ มศี รัทธาทีถ่ กู ตอ้ ง ยดึ มัน่ และปฏบิ ัตติ าม หลกั ธรรม เพ่ืออยูร่ ว่ มกนั อยา่ งสันตสิ ุข มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนกั และปฏบิ ัติตนเป็นศาสนกิ ชนทดี่ ี และธำรงรักษาพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตนนับถอื สาระที่ 2 หน้าท่ีพลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนินชวี ติ ในสงั คม มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัตติ นตามหน้าทข่ี องการเป็นพลเมอื งดี มีคา่ นิยมท่ีดงี าม และธำรงรกั ษา ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกนั ในสงั คมไทย และ สังคมโลกอยา่ งสนั ติ สุข มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปจั จบุ ัน ยึดมั่น ศรัทธา และธำรง รักษาไว้ซึง่ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส.3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจดั การทรพั ยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ ทรัพยากรทม่ี อี ยจู่ ำกัดไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพและคมุ้ คา่ รวมทงั้ เข้าใจ หลักการของเศรษฐกจิ พอเพียง เพอื่ การดำรงชวี ติ อย่างมีดุลยภาพ มาตรฐาน ส.3.2 เข้าใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกิจ และความจำเปน็ ของการร่วมมือกันทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก สาระที่ 4 ประวตั ิศาสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถ ใช้วิธีการทางประวัตศิ าสตรม์ าวิเคราะห์เหตุการณ์ตา่ งๆ อยา่ งเปน็ ระบบ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดตี จนถงึ ปัจจบุ ัน ในด้านความสมั พันธ์ และการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณอ์ ย่างต่อเนื่อง ตระหนกั ถงึ ความสำคัญและ สามารถ วเิ คราะหผ์ ลกระทบที่เกิดขน้ึ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภมู ิปัญญาไทย มคี วามรกั ความภมู ิใจและธำรงความเปน็ ไทย
85 สาระท่ี 5 ภมู ศิ าสตร์ มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพส่งิ ซง่ึ มีผล ต่อกันและกนั ใช้แผนทแี่ ละเคร่อื งมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหาวเิ คราะหแ์ ละสรุป ขอ้ มูลตามกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภมู สิ ารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างมนุษยก์ บั ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพทีก่ ่อใหเ้ กิดการสรา้ งสรรค์วถิ ี การดำเนินชวี ิต มีจติ สำนึกและมสี ว่ นรว่ มในการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ มเพ่ือการ พัฒนาท่ยี ่งั ยืน
86 รายวชิ าพ้นื ฐานและรายวิชาเพมิ่ เตมิ กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ระดบั ช้ันประถมศกึ ษา จำนวน 40 ชว่ั โมง รายวิชาพ้ืนฐาน จำนวน 40 ชว่ั โมง วิชาสงั คมศกึ ษา ฯ จำนวน 40 ช่ัวโมง ส11101 สังคมศึกษา ฯ จำนวน 80 ช่วั โมง ส12101 สังคมศกึ ษา ฯ จำนวน 80 ชั่วโมง ส13101 สงั คมศึกษา ฯ จำนวน 80 ชัว่ โมง ส14101 สงั คมศกึ ษา ฯ ส15101 สังคมศึกษา ฯ ส16101 สังคมศึกษา ฯ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษา จำนวน 60 ชั่วโมง ส21101 สงั คมศึกษา ฯ จำนวน 60 ชั่วโมง ส21103 สงั คมศึกษา ฯ จำนวน 60 ชั่วโมง ส22101 สังคมศึกษา ฯ จำนวน 60 ชั่วโมง ส22103 สงั คมศึกษา ฯ จำนวน 60 ชั่วโมง ส23101 สงั คมศกึ ษา ฯ จำนวน 60 ชั่วโมง ส23103 สงั คมศกึ ษา ฯ จำนวน 40 ชั่วโมง วิชาประวตั ิศาสตร์ จำนวน 40 ชั่วโมง ระดบั ชั้นประถมศึกษา จำนวน 40 ชั่วโมง ส11102 ประวัติศาสตร์ จำนวน 40 ชว่ั โมง ส12102 ประวัติศาสตร์ จำนวน 40 ชว่ั โมง ส13102 ประวตั ิศาสตร์ จำนวน 40 ชว่ั โมง ส14102 ประวัตศิ าสตร์ ส15102 ประวัติศาสตร์ จำนวน 20 ชว่ั โมง ส16102 ประวตั ศิ าสตร์ จำนวน 20 ชั่วโมง จำนวน 20 ชั่วโมง ระดับช้ันมัธยมศกึ ษา จำนวน 20 ชั่วโมง ส21102 ประวัติศาสตร์ จำนวน 20 ชว่ั โมง ส21103 ประวตั ศิ าสตร์ จำนวน 20 ชั่วโมง ส22102 ประวตั ศิ าสตร์ ส22104 ประวัติศาสตร์ ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ส23104 ประวตั ศิ าสตร์
87 คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน ส 11101 สังคมศึกษา กล่มุ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง ศึกษาวิเคราะห์พุทธประวัติ หรือประวัติของศาสดาท่ีตนนับถือ แบบอย่างการดำเนินชีวิต และข้อคิด จากประวัติสาวก ชาดก/เร่ืองเล่าและศาสนิกชนตัวอย่างตามท่ีกำหนด ความหมาย ความสำคัญและเคารพ พระรัตนตรัย ปฏิบัติตามหลักธรรม โอวาท 3 ในพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ สวดมนต์ แผ่เมตตา มี สติ บำเพ็ญประโยชน์ต่อวัด แสดงตนเป็นพุทธมามกะ หรือศาสนิกชนของศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติในศาสน พิธี พิธีกรรมและวันสำคัญทางศาสนาตามที่กำหนดได้ถูกต้อง ประโยชน์และปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของ ครอบครัวและโรงเรียน ศึกษา วิเคราะห์ ความสามารถและความดีและผลจากการกระทำของตนเอง ผู้อ่ืน โครงสร้าง บทบาท หน้าที่ของสมาชิกในครอบครัวและโรงเรียน บทบาท สิทธิ หน้าท่ีของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และทำกิจกรรมในครอบครัวและโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย สินค้าและ บริการที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน การใช้จ่ายเงินในชีวิตประจำวันไม่เกินตัวและประโยชน์ของการออม การใช้ทรัพยากรในชีวิตประจำวันอย่างประหยัด ความจำเป็นของการทำงานท่ีสุจริต จำแนกบอกสิ่งต่างที่อยู่ รอบตัว ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและท่ีมนุษย์สร้างขึ้น ที่มีผลต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ ระบุความสำคัญของ ตำแหน่ง ระยะ ทิศของสิ่งต่างๆ ใช้แผนผังง่ายๆ ในการแสดงตำแหน่งของสิ่งต่างๆ ในห้องเรียน สังเกตและ เปรียบเทียบการเปล่ียนแปลงสภาพอากาศในรอบวัน และการเปล่ยี นแปลงของสิง่ แวดล้อมท่ีอยรู่ อบตวั ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและ ความไม่ทนต่อการทุจริต STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต รู้หน้าที่ของพลเมืองและรับผิดชอบต่อ สังคมในการตอ่ ต้านการทุจริต โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ใช้ทักษะทาง ภูมิศาสตรด์ ้านการสังเกต การแปรความขอ้ มูลทางภูมศิ าสตร์ รวมถึงทักษะดา้ นการคดิ และการส่ือสาร เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ความสามารถทางภูมิศาสตร์ กระบวนการทางภูมิศาตร์ ทักษะทางภูมิศาสตร์ และมีทักษะในทศวรรษที่ 21 ด้านการส่ือสาร ความสามารถ ในการคิด มีคุณลักษณะด้านมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน มีส่วนร่วมและปฏิบัติตนในการดูแล ส่ิงแวดล้อมทีบ้านและชั้นเรียนอย่างเหมาะสม มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ในด้านรัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีความตระหนักและเห็นความสำคัญของการต่อต้านและการป้องกันการ ทุจริต มีความรับผิดชอบ รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สามารถดำเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทยและ สังคมโลก รหสั ตัวชีว้ ัด ส 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4 ส 1.2 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 ส 2.1 ป.1/1, ป.1/2 ส 2.2 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 ส 3.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3
88 ส 3.2 ป.1/1 ส 5.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ส 5.2 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 รวมทั้งหมด 23 ตัวช้ีวัด
89 คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน ส 12101 สงั คมศึกษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง ศึกษา วิเคราะห์ เรื่องความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย ประวัติศาสนา คัมภีร์และหลักธรรมของศาสนาต่างๆ การปฏิบัติตนในพิธีกรรมทางศาสนา การทำความดีตาม หลักธรรมของศาสนา ข้อตกลง กฎ ระเบียบ ในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน การยอมรับความแตกต่างของ บุคคลในสังคม สิทธิส่วนบุคคล การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน บทบาทอำนาจของบุคคล มรรยาทไทย เช่น การแสดงความเคารพ การเดิน การยืน การนั่ง การนอน เป็นต้น อาชีพในชุมชน รายรับ-รายจ่ายของ ครอบครัวและตนเอง การออมเงิน การซื้อขายแลกเปลี่ยน ผู้ผลิต ผู้บริโภค ผู้ซื้อ ผู้ขาย ทรัพยากรการผลิต สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ความสำคัญ การเปลี่ยนแปลงการรักษาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ตำแหน่งของสิ่ง ต่างๆ เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ โลกและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ศึกษาเก่ียวกับการแยกแยะระหว่าง ผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต STRONG / จิต พอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต รูห้ น้าท่ีของพลเมืองและรับผิดชอบต่อสงั คมในการตอ่ ตา้ นการทุจรติ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการกลุ่ม กระบวนการแกป้ ัญหา เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต มีคุณธรรมจริยธรรม มี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความตระหนักและเห็นความสำคัญของ การต่อต้านและการป้องกันการทุจริตมีหลักธรรมในการดำเนินชีวิต รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ และ สามารถดำเนินชวี ิตในสงั คมไดอ้ ย่างสันติสขุ รหัสตวั ช้วี ัด ส 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7 ส 1.2 ป.2/1, ป.2/2 ส 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4 ส 2.2 ป.2/1, ป.2/2 ส 3.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4 ส 3.2 ป.2/1, ป.2/2 ส 5.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3 ส 5.2 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4 รวมทั้งหมด 28 ตัวชวี้ ัด
90 คำอธิบายรายวิชา วชิ าสังคมศึกษาฯ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส ๑๓๑๐๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลา 4๐ ชว่ั โมง/ปี ศึกษา วเิ คราะห์ เรือ่ งความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะทีเ่ ปน็ รากฐานสำคัญของวฒั นธรรมไทย ประวตั ิศาสดาของศาสนา พระไตรปิฎก ชืน่ ชมและบอกแบบอยา่ งการดำเนนิ ชวี ติ และข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก และศาสนกิ ชน ตวั อย่าง แสดงความเคารพพระรัตนตรยั เหน็ คณุ ค่าของการสวดมนต์ แผ่เมตตา พฒั นา จติ และปฏบิ ัตติ นตามหลักธรรมของศาสนา ศาสนวตั ถุ ศาสนสถาน ศาสนบคุ คล ประเพณวี ฒั นธรรม พฤติกรรมในการดำเนินชวี ติ ของตนเองและผู้อืน่ วันหยุดราชการ บุคคลสำคัญในทอ้ งถิน่ บทบาทหน้าทข่ี อง สมาชิกของชมุ ชนในการมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมต่างๆ ตามกระบวนการประชาธิปไตย ความแตกต่างของ กระบวนการตัดสินใจ การเปล่ยี นแปลงในชัน้ เรยี น โรงเรียน และชมุ ชน จำแนกความตอ้ งการและความจำเป็น ในการใชส้ ินคา้ และบริการ วิเคราะห์การใช้จา่ ยของตนเอง อธิบายทรัพยากรทม่ี อี ยจู่ ำกดั มีผลต่อการผลติ และ การบริโภค สนิ ค้าและบริการทร่ี ฐั จัดหาให้ ภาษี ทตี่ ั้งและลักษณะทางกายภาพ ความสัมพนั ธ์ระหว่างลกั ษณะ ทางกายภาพและวัฒนธรรมชมุ ชน แผนผงั แผนที่และภาพถ่าย เปรยี บเทียบสภาพแวดล้อมของชมุ ชนในอดตี และปจั จุบนั สภาพแวดลอ้ มทม่ี ีผลต่อการดำเนนิ ชวี ิต ลกั ษณะของเมอื งและชนบท มลพิษท่ีเกดิ จากมนษุ ย์ และ มสี ่วนรว่ มในการจัดการสิง่ แวดล้อมผลกระทบของส่ิงแวดลอ้ มท่มี ีตอ่ มนุษย์ โดยใชก้ ระบวนการคดิ กระบวนการสืบค้นข้อมลู กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการกลุม่ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ และใช้เคร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตรใ์ นการ สบื คน้ และสรปุ ขอ้ มลู กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ จนสามารถนำไปปฏบิ ัตใิ นการดำเนินชวี ิต มีความสามารถทาง ภูมิศาสตร์ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ทักษะในศตวรรษท่ี 21 คณุ ธรรม จริยธรรม คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ในดา้ นรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ มีหลกั ธรรมในการดำเนินชวี ิต รักความเปน็ ไทย มจี ิตสาธารณะ และ สามารถดำเนนิ ชีวิตในสงั คมได้อยา่ งสันตสิ ุข ตัวชี้วดั ส 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7 ส 1.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ส 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4 ส 2.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ส 3.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3
91 ส 3.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ส 5.1 ป.3/1, ป.3/2 ส 5.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6 รวม 31 ตวั ช้วี ดั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292