Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการบริหารจัดการควาามเสี่ยงด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ_ADPC

คู่มือการบริหารจัดการควาามเสี่ยงด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ_ADPC

Published by pischa.pc, 2021-04-22 18:55:59

Description: คู่มือการบริหารจัดการควาามเสี่ยงด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ_ADPC

Search

Read the Text Version

บท ่ีท 1 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงดา้ นอุทกภัยอย่างบูรณาการ 1

ïììęǰĊ  ความคิดเหน็ ท่ีปรากฏในหนังสือเลม น้ีมิไดส ะทอนความคิดเห็นขององคการเพ่อื การพฒั นาระหวาง ประเทศของสหรฐั ฯ (USAID) หนงั สอื ประกอบการฝก อบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจัดการความเสยี่ ง ดา นอทุ กภัยอยางบรู ณาการเลมนีจ้ ัดทำข้ึนโดยอิสระภายใตโครงการลดความเสี่ยงตออทุ กภยั ใน ประเทศไทย โดยศนู ยเ ตรยี มความพรอ มปอ งกันภยั พิบัติแหง เอเชีย (ADPC) ภายใตก ารสนบั สนุน จากองคก ารเพ่ือการพัฒนาระหวางประเทศของสหรฐั ฯ đĂÖÿćøðøąÖĂïÖćøòÖř Ăïøö ĀúĆÖÿĎêøÖćøïøĀĉ ćøÝĆéÖćøÙüćöđÿ÷Ċę ÜéšćîĂčìÖõĆ÷Ă÷ćŠ ÜïĎøèćÖćø đú×öćêøåćîÿćÖúðøąÝćĞ ĀîĆÜÿĂČ ǰ *4#/ ǰǰǰ óĉöóÙŤ øĚÜĆ ìĊęǰǰǰ êčúćÙöǰ ÙèąìęðĊ øċÖþćǰǰǰ îć÷ÞêĆ øßĆ÷ǰǰóøĀöđúĉý ǰǰǰǰǰǰǰǰ ǰ ýćÿêøćÝćø÷ŤđÖĊ÷øêĉÙčèǰéøǰÖøąĒÿǰßîąüÜýŤ ǰ ǰ îćÜÿćüúÖĆ ×èćǰöîĉöćÖø ǰ ǰ îćÜÿćüĂćøĊøĆêîǰŤ ǰüÝĉ êĉ øóßĆ øñú ïøøèćíÖĉ ćøǰǰǰ éøǰöìč øÖĉ ćǰóùÖþćóÜþŤ ǰ ǰ éøǰßÿĎ ìĉ íĝĉǰĂõøĉ öĆ èÖĊ úč õćóðøąÖĂïǰǰ ðÖĀîćš ǰéøǰßĎÿìĉ íĉĝǰĂõĉøöĆ èÖĊ čú ǰ ǰ ðÖĀúÜĆ ǰîćÜÿćüüøĉãåćǰüøøèìĂÜ ÝéĆ óĉöóŤēé÷ǰǰ ýîĎ ÷Ťđêø÷Ċ öÙüćöóøšĂöðŜĂÜÖîĆ õ÷Ć óĉïĆêĒĉ ĀŠÜđĂđßĊ÷ ǰ ǰ ēìøýóĆ ìŤǰ ǰ ǰ XXXBEQDOFU óĉöóŤìǰęĊ ǰ ǰ 5IFNNBǰ(SPVQǰ$P ǰ-UE 2 đĂÖÿćøðøąÖĂïÖćøòÖř ĂïøöĀúĆÖÿêĎ øÖćøïøĀĉ ćøÝéĆ ÖćøÙüćöđÿ÷Ċę ÜéšćîĂìč ÖõĆ÷Ă÷ćŠ ÜïøĎ èćÖćø

บท ่ีท 1 เอกสารประกอบการฝกึ อบรม หลักสตู รการบรหิ ารจัดการความเสย่ี ง ด้านอทุ กภัยอย่างบูรณาการ ภายใต้การสนับสนนุ จากองค์การเพอื่ การพัฒนาระหวา่ งประเทศของสหรฐั ฯ เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจดั การความเสี่ยงดา้ นอทุ กภัยอย่างบรู ณาการ 3

บทท่ี 1 4 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสตู รการบรหิ ารจดั การความเส่ยี งดา้ นอทุ กภยั อย่างบรู ณาการ

บทน�ำ บท ่ีท 1 เหตกุ ารณ์มหาอทุ กภยั ทเี่ กิดขึ้นในประเทศไทยเม่ือปี พ.ศ. 2554 ไดส้ รา้ งผลกระทบต่อ ประชาชนมากกว่า 13 ล้านคนในพืน้ ท่ี 66 จงั หวัด จาก 77 จงั หวัดทว่ั ประเทศ ประเมินมูลคา่ ความเสียหายไดก้ วา่ 1.44 ลา้ นล้านบาท ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในวงกวา้ งโดย เฉพาะทางดา้ นเศรษฐกิจ อยา่ งไรกด็ ี เราคงไม่อาจหลกี เล่ยี งภัยพิบัตจิ ากอุทกภัยทีจ่ ะเกดิ ขึ้น ในอนาคตได้ เนอื่ งจากประเทศไทยถกู จดั เปน็ ประเทศทีม่ ีความเสี่ยงต่อการเกิดอทุ กภยั เป็น อันดับที่ 7 ของโลกจากการศึกษาวิจยั ของธนาคารโลก ซง่ึ หากไม่มีการเตรียมพรอ้ มปอ้ งกนั ผลกระทบจากอทุ กภยั อย่างมีประสทิ ธิภาพแล้ว คาดวา่ ประเทศไทยจะมีความสญู เสียทาง เศรษฐกิจอันเน่ืองจากภัยพบิ ัติสูงขึ้นเป็นอันดบั ท่ี 4 ของโลกในปี พ.ศ. 2573 กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ในฐานะหนว่ ยงานกลางด้านการปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภัยของประเทศ ได้ตระหนกั ถึงมหันตภัยรา้ ยแรงทีเ่ กดิ ขน้ึ จากภัยพิบัตโิ ดยเฉพาะ อุทกภยั จงึ มีเป้าประสงค์ในการบรู ณาการการปอ้ งกันและเตรียมความพรอ้ มในการรับมือ ภัยพิบัติในอนาคตรว่ มกบั หน่วยงานทกุ ภาคสว่ น พร้อมทง้ั สร้างความร่วมมือกับหน่วยงาน ตา่ งประเทศท่ีเกยี่ วขอ้ งอยา่ งต่อเนอ่ื ง ท้ังน้ีได้รับความรว่ มมอื จากศนู ยเ์ ตรยี มความพรอ้ ม ปอ้ งกันภัยพบิ ัตแิ หง่ เอเชยี (Asian Disaster Preparedness Center: ADPC) ในการ ด�ำ เนนิ โครงการลดความเสี่ยงจากอทุ กภยั ในประเทศไทย ภายใต้การสนบั สนุนจากองค์การ เพอ่ื การพฒั นาระหว่างประเทศของสหรฐั ฯ (United State Agency for International Development: USAID) และได้รว่ มกันพฒั นาหลักสตู ร“การบรหิ ารจดั การความเส่ยี งดา้ น อุทกภัยอย่างบรู ณาการ” และจัดการฝกึ อบรมหลักสตู รดังกล่าวตลอดชว่ งเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ถงึ เดือนมนี าคม พ.ศ. 2556 ใหแ้ กเ่ จ้าหน้าทผ่ี ูร้ บั ผดิ ชอบงานด้านการจัดทำ� แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจากหนว่ ยงานท่ีเกีย่ วขอ้ ง ในระดบั จังหวัดและระดับ ท้องถิน่ ในเขตพนื้ ทเ่ี ส่ียงอุทกภัย นอกจากนย้ี ังได้จัดประชมุ ติดตามและประเมินผลโครงการ เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสตู รการบริหารจัดการความเสีย่ งดา้ นอทุ กภยั อย่างบูรณาการ 5

บทท่ี 1 ฝกึ อบรมฯ รวมทง้ั จดั ท�ำ เอกสารประกอบการฝึกอบรมฯ ทคี่ ณะวทิ ยากรและผทู้ รงคุณวุฒไิ ด้ ร่วมกันพัฒนาและเรียบเรยี งข้นึ ใหม่ ดว้ ยหวังว่าเอกสารเลม่ น้ีจะเป็นประโยชนแ์ ก่ผูท้ ป่ี ฏบิ ัติ งานในสว่ นท่ีเก่ยี วขอ้ งหรอื ผู้ทสี่ นใจทั่วไป เพอ่ื ให้สามารถประยุกต์ใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและหน่วยงานตอ่ ไป นายฉัตรชยั พรหมเลิศ อธิบดกี รมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 6 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบริหารจัดการความเส่ยี งดา้ นอุทกภยั อย่างบรู ณาการ

บทนำ� บท ่ีท 1 “อทุ กภยั ” เปน็ ภยั ทส่ี รา้ งความสญู เสยี ตอ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ใหแ้ กส่ งั คมไทยมาเปน็ เวลานาน และ ยังมีแนวโน้มที่จะเกิดถี่ขึ้นและมีความรุนแรงมากขึ้นจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง สภาพภมู อิ ากาศ การเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทยเพ่อื การบริหารจดั การความเสีย่ ง จากภัยดังกล่าวจึงมีความจำ�เป็นอย่างยิ่งเพื่อเป็นการสร้างเกราะป้องกันและลดผลกระทบ จากภยั ทอ่ี าจเกดิ ข้ึนไดใ้ นอนาคต การบริหารจัดการกับความเสี่ยงภัยดังกล่าวไม่สามารถสำ�เร็จลุล่วงไปได้ด้วยบุคคลใดบุคคล หนงึ่ หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เนื่องจาก “อุทกภัย” “ความเส่ียงภยั ” และ “การ บริหารจัดการ” เปน็ ศาสตร์ทม่ี ีความเชอ่ื มโยงกับหลากหลายสาขาวชิ าท้ังในด้านวิทยาศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ผู้ที่เกี่ยวข้องมีความจำ�เป็นต้องสร้างความเข้าใจในความสัมพันธ์ ระหว่างสหสาขาวิชาเหล่านที้ ้ังในดา้ นหลักการและการปฏบิ ัติ “การบรหิ ารจดั การความเสีย่ ง ด้านอุทกภยั อย่างบรู ณาการ (Integrated Flood Disaster Risk Management)” ม่งุ เน้น ใหก้ ารบรหิ ารจัดการความเส่ียงด้านอุทกภัยมีความเชอื่ มโยงกันระหว่างหน่วยงาน ภาคส่วน ตลอดจนการคำ�นึงถึงเขตพ้นื ทีข่ ้างเคียง ท้งั น้ี เนือ่ งจากการบรหิ ารจัดการความเสยี่ งจากภัย ดังกล่าวไมส่ ามารถส�ำ เรจ็ ลลุ ่วงไปได้ดว้ ยบุคคลใดบคุ คลหนึง่ หรอื โดยหน่วยงานในหนว่ ยงาน หน่ึง องคค์ วามรู้เกี่ยวกบั “อทุ กภยั ” “ความเส่ยี งภัย” และ “การบริหารจัดการ” ล้วนแลว้ แตม่ คี วามเชือ่ มโยงกบั หลากหลายสาขาวิชาทง้ั ในดา้ นวิทยาศาสตร์ และสงั คมศาสตร์ ผู้ที่ เกี่ยวข้องมีความจำ�เป็นต้องเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างสหสาขาวิขาเหล่านี้ทั้งในเชิงหลัก การและการปฏิบตั ิ เพื่อให้การจดั การความเสีย่ งจากอุทกภัยมัีประสทิ ธภิ าพ และสามารถลด ผลกระทบที่มีต่อประชาชนไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธผิ ล ศนู ยเ์ ตรียมความพร้อมปอ้ งกันภัยพบิ ตั ิแห่งเอเชีย (ADPC) รว่ มกับ กรมป้องกันและบรรเทา เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สตู รการบริหารจดั การความเสย่ี งดา้ นอุทกภยั อย่างบรู ณาการ 7

บทท่ี 1 สาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยเลง็ เห็นความสำ�คญั ของการเชื่อมโยงดงั กล่าว จงึ ได้จดั ท�ำ หลักสูตร “การบริหารจัดการความเสยี่ งดา้ นอทุ กภยั อย่างบรู ณาการ” ภายใตโ้ ครงการ ลดความเส่ยี งต่ออุทกภัยในประเทศไทย (Program for Reduction of Vulnerability to Floods in Thailand) ในการสนับสนุนขององคก์ ารเพอ่ื การพฒั นาระหว่างประเทศของ สหรฐั ฯ (USAID) โดยประยุกต์จากหลักการสากลท่ีศูนยเ์ ตรยี มความพร้อมป้องกนั ภยั พิบัติ แหง่ เอเชยี ไดด้ �ำ เนินการอยู่ และปรบั ปรุงให้มคี วามเหมาะสมกบั บรบิ ทและตรงกบั ความ ตอ้ งการของประเทศไทย เพอ่ื เสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจในหลกั การและแนวคดิ การบรหิ ารจดั การ ความเสี่ยงดา้ นอทุ กภยั อยา่ งบูรณาการให้กับหนว่ ยงานทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ตลอดจนผสู้ นใจทว่ั ไปไดม้ ี ความรคู้ วามเขา้ ใจทต่ี รงกนั เพอ่ื สนบั สนนุ การท�ำ งานรว่ มกนั อยา่ งเปน็ ระบบ ท้ายนี้ ศูนย์เตรียมความพรอ้ มปอ้ งกนั ภยั พิบัตแิ ห่งเอเชียใครข่ อขอบพระคณุ วทิ ยาลยั ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ และเจ้าหนา้ ที่ผเู้ กยี่ วขอ้ งทกุ ทา่ นทไ่ี ด้รว่ มดำ�เนนิ การ พัฒนาและให้ข้อคดิ เหน็ ตอ่ หลักสตู รฯ นี้ด้วยดีเสมอมา ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. กระแส ชนะวงศ์ ประธานและผูอ้ �ำ นวยการบริหาร ศนู ย์เตรียมความพรอ้ มปอ้ งกนั ภยั พบิ ตั ิแห่งเอเชีย 8 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจดั การความเสยี่ งดา้ นอทุ กภยั อยา่ งบูรณาการ

บท ่ีท 1 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงดา้ นอุทกภัยอย่างบูรณาการ 9

บทท่ี 1 ท่มี า: นางสาววรฎิ ฐา วรรณทอง 10 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสตู รการบรหิ ารจดั การความเสี่ยงดา้ นอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ

สารบญั บท ่ีท 1 บทท่ี 1 ภาพรวมการบรหิ ารจดั การความเสยี่ งจากภัยพิบัติ 1 (Introduction to Disaster Risk Management) ส่วนที่ 1 ค�ำ ศพั ทเ์ ก่ยี วกบั การบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบตั ิ 3 (Terminologies in Disaster Risk Management) วรฎิ ฐา วรรณทอง สว่ นท่ี 2 ความรเู้ บือ้ งต้นเกี่ยวกบั การบรหิ ารจัดการความเส่ียงจากภยั พบิ ัติ 17 (Overview of Disaster Risk Management) ดร. ปารฉิ ัตต์ ครองขันธ์ บทท่ี 2 ความรู้เก่ียวกับอทุ กภัยและการประเมินความเส่ียงจากอทุ กภยั 35 (Knowing Flood Hazard and Risk) ส่วนท่ี 1 รูปแบบและลกั ษณะของอุทกภยั (Nature of Flood) 37 ดร. ชสู ทิ ธ์ิ อภิรมั ณกี ุลและกิตติพงศ์ พงศาปาน สว่ นที่ 2 การระบแุ ละการประเมินความเส่ยี งจากอุทกภัย 49 (Flood Risk Identification and Assessment) กติ ตพิ งศ์ พงศาปาน บทท่ี 3 การวางแผนและการบรหิ ารจดั การเพ่อื ลดความเสี่ยงจากอทุ กภยั ใน 63 พืน้ ทร่ี าบน้�ำ ท่วมถงึ อย่างบูรณาการ (Planning and Implementing Integrated Floodplain Management for Flood Risk Reduction) สว่ นที่ 1 การบริหารจดั การพ้ืนที่ราบน�ำ้ ท่วมถึงแบบบูรณาการ 67 (Integrated Flood Plain Management) ศ.ดร.ธวัชชยั ติงสญั ชลี ส่วนท่ี 2 มาตรการลดผลกระทบเพ่อื การลดความเสีย่ งจากอุทกภัย 105 (Mitigation Measures for Flood Risk Reduction) ดร. ชูสทิ ธ์ิ อภิรัมณกี ุล สว่ นที่ 3 มาตรการการเตรียมความพรอ้ มเพื่อการลดความเสยี่ งจากอุทกภยั : 117 การเตอื นภยั แบบครบวงจร (Preparedness Measure for Flood Risk Reduction: End-to-End Early Warning System) ดร. ชูสิทธิ์ อภิรัมณกี ลุ เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบรหิ ารจดั การความเส่ยี งด้านอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ 11

บทท่ี 1 สว่ นที่ 4 มาตรการการเตรียมความพรอ้ มเพ่ือลดความเสย่ี งจากอทุ กภยั : 123 การวางแผนเตรยี มความพรอ้ มและการอพยพ (Preparedness Measure for Flood Risk Reduction: 141 Preparedness and Evacuation Planning) 143 ดร. ปาริฉัตต์ ครองขันธ์ 161 179 บทที่ 4 การรบั มือกบั อทุ กภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน 181 (Coping with Flood Emergencies) 193 ส่วนท่ี 1 แผนและการรบั มือสถานการณฉ์ ุกเฉินจากอุทกภยั 209 (Flood Emergency Response Plan and Management) 211 ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวช ส่วนที่ 2 การบริหารจดั การอาสาสมคั รในภาวะภยั พิบตั ิ (Disaster Volunteer Management) วริฎฐา วรรณทอง บทที่ 5 การบริหารจัดการการฟ้ืนฟูหลงั อุทกภัย (Post-Flood Recovery Management) สว่ นท่ี 1 การประเมินความต้องการและการวางแผนฟื้นฟภู ายหลัง เหตุการณภ์ ยั พิบตั ิ (Post Disaster Need Assessment and Recovery Planning) ฐติ พิ ร สนิ สุพรรณ สว่ นที่ 2 การประกันภัยและการบรหิ ารความเสี่ยงดา้ นการเงินอันเนือ่ งมาจาก อุทกภยั (Flood Insurance and Flood Risk Financing) ดร. จฑุ าทอง จารมุ ลิ นิ ท บทที่ 6 แนวทางการนำ�หลกั บริหารจดั การความเส่ยี งจากอุทกภยั ไปปฏบิ ตั ิ (Making Flood Risk Management Work) ส่วนที่ 1 การบรู ณาการแนวคดิ การลดความเส่ยี งจากภัยพิบัตเิ พอ่ื จัดท�ำ แผนพฒั นา (Mainstreaming Disaster Risk Reduction into Development) พรรณวดี สมบูรณ์ 12 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจัดการความเสีย่ งดา้ นอุทกภยั อย่างบูรณาการ

ค�ำ ยอ่ บท ่ีท 1 ADPC Asian Disaster Preparedness Center CBDRM ศนู ย์เตรยี มความพรอ้ มป้องกนั ภยั พบิ ัติแห่งเอเชยี CONOPS Community Based Disaster Risk Management DaLA การจดั การความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั ิโดยอาศยั ชมุ ชนเปน็ ฐาน Concepts of Operations DEM การประมวลแนวคดิ DM Damange , Loss and Needs Assessment DRM การประเมินความเสยี หายความสญู เสยี และความตอ้ งการหลังจากเกดิ DRR ภยั พบิ ตั ิ DSS Digital Elevation Model ECLAC แบบจ�ำ ลองพ้ืนดนิ แบบดจิ ติ ัล Disaster Management EWS การจัดการภัยพบิ ัติ Disaster Risk Management การบริหารจดั การความเสี่ยงจากภัยพบิ ตั ิ Disaster Risk Reduction การลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ตั ิ Decision Support System ระบบการชว่ ยการตดั สนิ ใจ United Nations Economic Commission for Latin American and the Caribbean คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งลาตนิ อเมรกิ าและคารบิ เบยี น End-to-End Early Warning System ระบบเตอื นภัยแบบครบวงจร เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจัดการความเสยี่ งดา้ นอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ 13

บทท่ี 1 FEMA Federal Emergency Management Agency องค์กรเพ่ือการบริหารจัดการสถานการณฉ์ กุ เฉินแห่งรัฐบาลกลาง FHI Flood Hazard Indicator ตวั บ่งชีภ้ าวะภยั น�้ำ ท่วม FVF Flood-damage Vulnerability Factor คา่ ตัวแปรความเปราะบางตอ่ ความเสียหายจากน้ำ�ทว่ ม FVI Flood Damange Vulnerability Indicators ตัวบง่ ชค้ี วามเปราะบางตอ่ ความเสียหายจากน้ำ�ท่วม FVIa Flood Damage Vulnerability Indicator of Assets at Risk ตวั บ่งชี้ความเปราะบางต่อความเสียหายจากน้ำ�ทว่ มของสนิ ทรพั ยท์ ่ีอยู่ ในภาวะเส่ียง FVIp Flood Damage Vulnerability Indicator of the Population at Risk ตัวบ่งชค้ี วามเปราะบางต่อความเสียหายจากนำ้�ทว่ มของประชากรทอ่ี ยู่ ในภาวะเสยี่ ง GIS Geographic Information System ระบบสารสนเทศภูมศาสตร์ HFA Hyogo Framework for Action การพฒั นากรอบการดำ�เนนิ งานเฮียวโกะ HRNA Human Recovery Needs Assessment การประเมินความต้องการของมนษุ ย์ด้านการฟน้ื ฟู IAR Industrial All Risks การประกนั ความเสย่ี งภยั ทรัพยส์ นิ ICS Incident Command System ระบบการบญั ชาการสถานการณ์ 14 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สูตรการบริหารจดั การความเสีย่ งด้านอทุ กภยั อย่างบูรณาการ

IDNDR International Decade for Natural Disaster Reduction บท ่ีท 1 IFDRM ทศวรรษสากลเพือ่ การลดภยั พิบัติทางธรรมชาติ NGOs Integrated Flood Disaster Risk Management PDNA การบริหารจัดการความเส่ยี งด้านอทุ กภยั อย่างบรู ณาการ PMF Non-Governmental Organizations SMEs หน่วยงานทีไ่ ม่แสวงหาก�ำ ไร SOP Post Disaster Need Assessment UNISDR การประเมนิ ความตอ้ งการภายหลงั เหตกุ ารณภ์ ัยพบิ ัติ Probable Maximum Flood UNV พนื้ ท่ที ีถ่ กู น�ำ้ ทว่ มภายใตส้ ภาพน�ำ้ ท่วมสูงสุดทีส่ ามารถเกิดข้ึนได้ USAID Small and Medium Enterprises ก.ช.ภ.อ. ภาคธรุ กิจขนาดกลางและขนาดย่อม คปภ. Standard Operating Procedure ธ.ก.ส. ระเบียบการปฏิบตั ิการประจ�ำ สสส. United Nations Office for Disaster Risk Reduction ส�ำ นกั งานวา่ ด้วยกลยุทธร์ ะหวา่ งประเทศเพอ่ื การลดภยั พิบตั แิ หง่ สหประชาชาติ The United Nations Volunteers หน่วยงานอาสาสมคั รแหง่ สหประชาชาติ United State Agency for International Development องค์การเพือ่ การพัฒนาระหว่างประเทศของสหรฐั อเมริกา คณะกรรมการให้ความชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบภัยระดับอ�ำ เภอ สำ�นักงานคณะกรรมการก�ำ กบั และสง่ เสรมิ การประกอบธรุ กจิ ประกนั ภยั ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ส�ำ นักงานกองทุนสนับสนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจัดการความเสยี่ งด้านอทุ กภัยอยา่ งบูรณาการ 15

บทท่ี 1 ทีม่ า: นางสาววริฎฐา วรรณทอง, พ.ศ. 2554 16 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบริหารจัดการความเส่ยี งด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ

บท ่ีท 1 บทที่ 1 ภาพรวมการบริหารจดั การความเสีย่ งจากภัยพบิ ัติ (Introduction to Disaster Risk Management) เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบริหารจัดการความเส่ียงด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ 1

บทท่ี 1 วัตถุประสงค:์ • เพื่อทราบและมคี วามเข้าใจในค�ำ ศัพทแ์ ละแนวคดิ พนื้ ฐานทเี่ กย่ี วกบั การบรหิ ารจัดการความ เสย่ี งจากภัยพบิ ัติ • เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจความแตกตา่ งระหวา่ งการบรหิ ารจดั การภยั พบิ ตั ิ (Disaster Management: DM) การบรหิ ารจดั การความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิ (Disaster Risk Management: DRM) และการลด ความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิ (Disaster Risk Reduction: DRR) เป้าหมายการเรียนรู้ • ผู้เรียนสามารถอธิบายความหมายของคำ�ศัพท์พื้นฐานในการบริหารจัดการความเสี่ยงจาก ภัยพิบัติได้ • ผู้เรียนสามารถอธิบายแนวคิดพื้นฐานของการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติได้ • ผู้เรียนสามารถอภิปรายเกี่ยวกับกระบวนการการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติได้ กรอบเน้อื หา บทที่ 1 สว่ นท่ี 1 คำ�ศัพทเ์ ก่ียวกบั การบรหิ ารจดั การความเสี่ยงจากภยั พิบัติ (Terminologies in Disaster Risk Management) บทท่ี 1 สว่ นที่ 2 ความรู้เบือ้ งต้นเกี่ยวกับการบริหารจดั การความเส่ยี งจากภยั พบิ ัติ (Overview of Disaster Risk Management) 2 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบรหิ ารจัดการความเสย่ี งดา้ นอุทกภัยอย่างบรู ณาการ

บทที่ 1 สว่ นท่ี 1 บท ่ีท 1 ค�ำ ศพั ทเ์ ก่ียวกับการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงจากภยั พิบตั ิ (Terminologies in Disaster Risk Management) วรฎิ ฐา วรรณทอง เจ้าหนา้ ท่ีประสานงานโครงการอาวโุ ส ศูนย์เตรียมความพรอ้ มป้องกนั ภัยพิบตั ิแห่งเอเชีย 1. ภยั (Hazard) สำ�นักงานว่าด้วยกลยุทธ์ระหว่างประเทศเพื่อการลดภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office for Disaster Risk Reduction: UNISDR) ได้ให้ความหมายของคำ�ว่า “ภัย” ไว้ว่า เหตุการณ์ หรืออันตรายที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติหรือจากการกระทำ�ของมนุษย์ ที่อาจนำ�มาซึ่งความสูญเสียต่อ ชีวิต ทรัพย์สิน ตลอดจนทำ�ให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (UNISDR, 2009) ภัยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังน้ี 1.1 ภยั ธรรมชาติ (Natural Hazard) เปน็ ภยั ท่ีเกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติ สามารถแบง่ ยอ่ ย ตามลกั ษณะการเกดิ ได้หลายประเภท เชน่ o ภยั ทางธรณีวิทยา • แผน่ ดินไหว สนึ ามิ • การปะทหุ รือการระเบิดของภเู ขาไฟ • แผน่ ดินถล่ม ดนิ ทรดุ เน่อื งจากน�ำ้ ใตด้ ิน o ภัยทางอุตนุ ยิ มวิทยา-อทุ กวิทยา • น�ำ้ ท่วม โคลนถล่ม • พายลุ มแรง ไตฝ้ นุ่ คลน่ื ซดั ชายฝ่ัง ฟา้ ผ่า • ภยั แลง้ การแปลสภาพเป็นทะเลทราย ไฟป่า คลนื่ ความร้อน พายทุ ราย • ภัยหนาว หมิ ะถล่ม เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สูตรการบริหารจดั การความเสยี่ งดา้ นอุทกภยั อยา่ งบรู ณาการ 3

บทท่ี 1 o ภัยทางชีววทิ ยา • โรคระบาด โรคภัยไข้เจบ็ ต่าง ๆ 1.2 ภยั จากความกา้ วหน้าทางวิทยาการ (Technological Hazard) เป็นภัยท่ีเกดิ ขึ้นจากการกระทำ� ของมนุษย์ทง้ั ทางตรงและทางอ้อม ซง่ึ การกระท�ำ เหลา่ นัน้ อาจส่งผลใหเ้ กดิ ความสูญเสยี ได้ เชน่ การ ระเบิดของสารพิษจากโรงงาน การก่อการรา้ ย และการร่ัวไหลของสารเคมจี ากโรงไฟฟา้ นวิ เคลยี ร์ เป็นตน้ ดังน้นั อาจกล่าวได้ว่า “ภัย” คอื เหตุการณ์หรืออันตรายท่ีเกดิ จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหรือ การกระทำ�ของมนุษย์ ซง่ึ อาจสร้างความเสียหายทางกายภาพ เป็นสาเหตุให้เกิดการสูญเสยี ชวี ิต หรือไดร้ ับบาดเจบ็ รวมทงั้ สรา้ งความเสียหายตอ่ ทรัพย์สิน สร้างความกระทบกระเทือนทางสงั คม และเศรษฐกิจ หรอื การเสือ่ มสลายทางสิง่ แวดลอ้ ม ทง้ั น้ี ภยั สามารถเกดิ ขึ้นเปน็ เหตกุ ารณ์เดี่ยว เช่น เหตุการณ์น�้ำ ทว่ ม หรอื เป็นเหตกุ ารณภ์ ยั ซอ้ นภัยทส่ี ลบั ซับซ้อน เช่น เหตกุ ารณ์แผน่ ดนิ ไหวชายฝ่งั ทะเลญี่ปุ่น ก่อใหเ้ กิดสนึ ามิ และการรวั่ ไหลของสารเคมีจากโรงไฟฟ้านวิ เคลียร์ เป็นตน้ รูปท่ี 1.1.1 เปน็ ตัวอยา่ งของภัยทางธรรมชาติ แสดงให้เหน็ วา่ เฮอร์ริเคนก�ำ ลังจะเดนิ ทางไปส่จู ุดใดและอาจกอ่ ให้เกิดอันตรายได้ รปู ท่ี 1.1.1 แผนที่ภาพถา่ ยดาวเทยี มแสดงให้เห็นการกอ่ ตวั ของเฮอร์รเิ คน Mitch ทม่ี า : http://www.noaanews.noaa.gov/stories/images/mitch102698.jpg 4 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบรหิ ารจัดการความเสีย่ งด้านอทุ กภัยอย่างบรู ณาการ

2. ภยั พบิ ตั ิ (Disaster) บท ่ีท 1 หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติหรือจากการกระทำ�ของมนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบหรือ สร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม หรือสภาพแวดล้อมของคนใน สังคมหรือชุมชนจนเกินความสามารถของคนในชุมชนหรือสังคมนั้น ๆ จะจัดการกับภัยพิบัติที่เกิด ขึ้นได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ ผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยพิบัติจะมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับประเภท และความรุนแรงของภัย ความอ่อนไหวทางกายภาพและสงั คมของคนในชมุ ชน ตลอดจนความ สามารถในการรับรู้ ทำ�ความเข้าใจ และเลือกวิธใี นการตอบสนองตอ่ สถานการณไ์ ด้อย่างมปี ระสิทธิภาพ (ทวดิ า กมลเวชช, พ.ศ. 2554) ตัวอย่างรูปที่ 1.1.2 และ 1.1.3 เปน็ ภาพเหตกุ ารณ์มหาอุทกภยั ปี พ.ศ. 2554 ทส่ี ง่ ผลกระทบต่อชวี ติ และทรพั ยส์ ินของประชาชนตลอดจนระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ โดยภาพแรกเป็นผลกระทบต่อคนใน ชมุ ชนทำ�ใหไ้ มส่ ามารถใชช้ วี ติ ได้ตามปกติ การเดนิ ทางเปน็ ไปดว้ ยความยากลำ�บากและต้องใชเ้ รอื เป็น พาหนะในการสัญจร ภาพทีส่ องแสดงให้เหน็ วา่ อุทกภัยสง่ ผลใหไ้ มส่ ามารถด�ำ เนนิ ธุรกิจไดอ้ ยา่ งต่อเนื่อง และภยั พิบัตทิ ีเ่ กดิ ข้นึ เกินขีดความสามารถในการรบั มือของสังคม รปู ท่ี 1.1.2 น�ำ้ ทว่ มในเขตพน้ื ทบ่ี างเขน กรงุ เทพฯ รูปท่ี 1.1.3 น�้ำ ทว่ มปี พ.ศ. 2554 ในแหล่งชุมชนและ โรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของ ทมี่ า : วริฎฐา วรรณทอง (2011) ประเทศอย่างมหาศาล 3. ความล่อแหลม (Exposure) ท่ีมา : http://blogs.denverpost.comcaptured/2011/11/07/ captured-aerial-photos-of-flooding-in-thailand/5072/ หมายถงึ การทีส่ ่งิ ใด ๆ กต็ ามมีสถานท่ีตัง้ อยูภ่ ายในอาณาบริเวณพืน้ ที่ท่ีอาจจะเกดิ ภยั และมีโอกาสได้รบั ความเสยี หายจากภยั นน้ั ๆ หมายความรวมถงึ ประชาชน ทรพั ยส์ นิ อาคารบา้ นเรอื น กจิ การรา้ นคา้ หรอื สภาพแวดลอ้ มต่าง ๆ ท่ปี รากฏอยู่ในอาณาเขตนนั้ เชน่ บา้ นท่ีปรากฏในรปู ท่ี 1.1.4 สรา้ งอยู่ในบริเวณ เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสตู รการบริหารจัดการความเสยี่ งด้านอุทกภยั อยา่ งบรู ณาการ 5

บทท่ี 1 ที่อาจได้รับผลกระทบจากปริมาณนำ้�ที่สงู ข้ึน ซงึ่ หากเกดิ เหตกุ ารณ์น�้ำ ทว่ มก็จะมโี อกาสได้รบั ความเสีย หาย จงึ กลา่ วไดว้ า่ บ้านในรปู นม่ี้ ีความล่อแหลมตอ่ ภัยนำ�้ ท่วม นอกจากนี้ สมาชิกครอบครวั ทอี่ าศัยอยู่ ในบา้ นหลงั นกี้ ็นับไดว้ ่ามคี วามล่อแหลมต่อภัยน้�ำ ท่วม เชน่ กนั รูปที่ 1.1.4 บา้ นท่ีอย่รู ิมแมน่ �้ำ เจา้ พระยามีโอกาสได้รับผลกระทบจากนำ้�ท่วมเมอ่ื ปริมาณน�ำ้ เพิ่มสูงขน้ึ ทมี่ า : วริฎฐา วรรณทอง (2011) 4. ความเปราะบาง (Vulnerability) ตามนิยามของ UNISDR กล่าวว่า “ความเปราะบาง” หมายถึง • ปจั จยั หรอื สภาวะใด ๆ ท่ีท�ำ ใหช้ ุมชนหรอื สังคมขาดความสามารถในการปกปอ้ งตนเอง ทำ�ให้ไม่ สามารถรับมอื กับภยั พิบัติ หรือไม่สามารถฟนื้ ฟูไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ จากความเสยี หายอันเกดิ จากภัย • ปัจจยั เหล่านีม้ อี ยู่ในชุมชนหรอื สงั คมมานานก่อนเกดิ ภัยพบิ ัติ และอาจเป็นปจั จัยทีท่ ำ�ให้ผล กระทบของภัยมีความรนุ แรงมากขึ้น ความเปราะบาง สามารถแบ่งออกได้ 3 รปู แบบ (Kafle, S.K. and Murshed, Z., 2006) ได้แก่ 4.1 ความเปราะบางทางกายภาย เชน่ อาคารบา้ นเรือนทปี่ ลูกสรา้ งดว้ ยวัสดุชว่ั คราวซ่งึ ไมม่ คี วาม คงทนถาวร ระบบสาธารณูปโภคท่ไี ม่ไดค้ ุณภาพ หรอื ระบบการคมนาคมทไี่ ม่ครอบคลุมทว่ั พื้นท่ขี องสงั คม ฯลฯ ทง้ั นี้ กลมุ่ คนหรือสังคมทมี่ ีความยากจนและไมม่ ีตน้ ทนุ ในการเตรยี ม พรอ้ มมักจะไดร้ ับผลกระทบจากภัยพบิ ตั มิ ากกวา่ คนรวย รวมท้ังเม่ือเกิดภัยพิบัติข้ึนแล้วและ 6 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจดั การความเสีย่ งด้านอุทกภยั อย่างบูรณาการ

ตอ้ งการฟืน้ ฟูก็จะสามารถทำ�ไดย้ ากกว่าชุมชนหรือสงั คมทม่ี ีความพรอ้ มทางเศรษฐกิจมากกว่า บท ่ีท 1 (รปู ท่ี 1.1.5) รปู ท่ี 1.1.5 ชุมชนแออดั และบ้านท่สี รา้ งอย่างไม่แขง็ แรงเป็นความเปราะบางตอ่ ภัย ที่มา : http://blogs.worldbank.org/dmblog/informality-and-disaster-vulnerability 4.2 ความเปราะบางเชิงสงั คมและโครงสร้างทางสังคม เชน่ ข้อจ�ำ กัดในการเขา้ ถึงสวสั ดิการตา่ ง ๆ ทางสงั คม เชน่ บริการทางสาธารณสุข การประกนั ภัยและการเก็บออม ทัง้ ยงั หมายรวมถงึ ความขดั แยง้ ในการแยง่ ชงิ ทรัพยากร ความแตกแยกและไมส่ ามัคคีของคนในชุมชนและสังคม ตลอดจนการไมม่ ีภาคีเครอื ขา่ ย ดังจะเหน็ ไดจ้ ากสังคมหรือชมุ ชนใดทม่ี ีองคก์ รหรือการรวม กลุ่มภายในชมุ ชน เช่น กลุม่ ผนู้ ำ�เยาวชน กลุ่มสตรี หรือกลุ่มตวั แทนชมุ ชนตา่ ง ๆ จะมกี ารชว่ ย เหลอื กันได้ดกี วา่ ในสังคมทม่ี คี วามขัดแยง้ หรือไมม่ อี งคก์ รในการท�ำ งานทีช่ ดั เจน เป็นต้น 4.3 ความเปราะบางทางทศั นคตแิ ละแรงจูงใจ เชน่ การขาดความรู้ ความเชอ่ื ม่นั หรือความเขา้ ใจ ในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการขาดความรู้และความสามารถในการเตรยี มความพรอ้ มและ การวางมาตรการปอ้ งกนั ตลอดจนทศั นคตใิ นการรอรบั ความชว่ ยเหลอื จากหน่วยงานภาครัฐ และหนว่ ยงานภายนอกอ่นื ๆ หากประชาชนหรอื ชุมชนมีความรู้และมีทศั นคตทิ ี่ดแี ละมคี วาม สร้างสรรค์ ยอ่ มมีความพรอ้ มในการปรับตวั มแี รงจงู ใจและกำ�ลังใจในการต่อสกู้ บั เหตกุ ารณ์ ท้ัง ยงั จะสามารถรับมือกบั ภัยตา่ ง ๆ ได้ดกี ว่า 5. ขดี ความสามารถ / ศักยภาพ (Capacity) หมายถงึ ความรู้ ทกั ษะ ความสามารถและทรพั ยากรตา่ ง ๆ ทม่ี อี ยใู่ นชมุ ชน สงั คม หรอื หนว่ ยงานใด ๆ ซง่ึ สามารถน�ำ มาใชเ้ พอ่ื ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายทต่ี ง้ั ไว้ เชน่ หากชมุ ชนมที รพั ยากรทพ่ี รอ้ ม สามารถแบง่ ปนั และ เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบรหิ ารจัดการความเสย่ี งด้านอุทกภยั อย่างบูรณาการ 7

บทท่ี 1 ชว่ ยเหลอื เกอ้ื กลู กนั ไดเ้ มอ่ื เกดิ ภยั หรอื การทป่ี ระชาชนในพน้ื ทเ่ี ปน็ คนมคี วามรใู้ นการชว่ ยเหลอื ตนเอง และชมุ ชนใหส้ ามารถรบั มอื กบั ภยั ตา่ ง ๆ ได้ กน็ บั เปน็ ขดี ความสามารถตามค�ำ นยิ ามของการบรหิ าร จดั การความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ไิ ดเ้ ชน่ กนั อยา่ งไรก็ตาม ขดี ความสามารถน้นั แบ่งได้หลายประเภท ท้ังใน เชงิ กายภาพ สงั คม และทศั นคติ ซึง่ ขีดความสามารถประเภทต่าง ๆ เหล่านี้อาจช่วยใหช้ ุมชนสามารถ รบั มือกบั ภัยได้ในหลากหลายมติ ิที่แตกตา่ งกัน ตวั อย่างเช่น * โครงสร้างสาธารณปู โภคทด่ี ี อาทิ การวางระบบประปา ระบบไฟฟา้ หรอื ระบบขนส่งมวลชน ให้สอดคล้องกบั ความเสย่ี งภัยในพื้นที่ เช่น การกำ�หนดเส้นทางคมนาคมและสร้างถนนที่มคี วาม ปลอดภัยจากน�ำ้ ทว่ มและสามารถท�ำ หนา้ ทเี่ ป็นคนั ก้นั น�ำ้ ของพน้ื ที่ รปู ที่ 1.1.6 แสดงตวั อย่างใน การเพม่ิ ศักยภาพของระบบระบายน�ำ้ โดยการขดุ ลอกคคู ลองใหม้ คี วามสะดวกในการระบายน�ำ้ ไดม้ ากข้ึน * ความพรอ้ มของอปุ กรณแ์ ละเครอ่ื งมอื ตา่ ง ๆ หมายถงึ อปุ กรณเ์ พอ่ื การสอ่ื สารและการรบั มอื ตอบโต้ กับภยั เช่น วิทยสุ อื่ สาร อุปกรณใ์ นการขนยา้ ยผู้ปว่ ย และอปุ กรณ์ในการกู้ชีพกูภ้ ัย เปน็ ต้น ความ พรอ้ มของอปุ กรณ์และเครอ่ื งมอื ต่าง ๆ ท่ีกลา่ วถงึ ครอบคลุมอุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมอื ต่าง ๆ ที่ สามารถเตรียมพรอ้ มได้ต้ังแตใ่ นระดับครัวเรอื น * การช่วยเหลือครอบครัวและชมุ ชนในภาวะวกิ ฤตอิ ยา่ งทันท่วงที เชน่ ความสามารถของครอบครัว หรือชุมชนทม่ี กี ารเตรียมความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการมีความร้ดู ้านการปฐมพยาบาล การจดั เตรยี มถงุ ยงั ชีพ เพื่อให้ครอบครัวและชมุ ชนสามารถรบั มือกบั ภัยได้ดว้ ยตนเอง * ความเข้มแขง็ ขององค์กรชมุ ชน กล่าวคอื ในบางชุมชนท่ีขาดความสามคั คี หรือ ไม่มีองคก์ รทจี่ ัดตง้ั ขึ้นในชมุ ชนจะขาดความพร้อมในการรับมอื และไม่สามารถชว่ ยเหลอื ตนเองได้ในทางกลับกนั หาก ชุมชนมีองค์กรชมุ ชนท่เี ข้มแขง็ จะสามารถรบั มือกับภยั ไดด้ ยี ่งิ ขนึ้ อาจมีผนู้ �ำ ในการจัดการภยั ใน ชมุ ชนเอง ซ่งึ จะลดการแกง่ แยง่ กนั ภายในชมุ ชน ดังตวั อย่างในรูปที่ 1.1.7 ประชาชนรว่ มมอื กนั วางแผนกำ�หนดจดุ อพยพและเส้นทางอพยพของตน มีการรวมตัวกันในชุมชนเพ่อื รว่ มกันสรา้ งขีด ความสามารถชมุ ชนตนเอง 8 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจดั การความเสีย่ งดา้ นอทุ กภัยอยา่ งบูรณาการ

บท ่ีท 1 รูปที่ 1.1.6 การขุดลอกคูคลองเพื่อเพิ่มความ รปู ท่ี 1.1.7 การฝกึ อบรมเพอ่ื สง่ เสรมิ ใหช้ มุ ชน สามารถของพื้นที่ในการรับมือกับปริมาณน้ำ� วางแผนเสน้ ทางอพยพและก�ำ หนดพน้ื ทป่ี ลอดภยั จากอทุ กภยั ที่มา: http://dds.bangkok.go.th/News_dds/2553/ new24jun10.html ทม่ี า : ชสู ิทธิ์ อภิรมั ณกี ุล (2012) 6. ความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Disaster Risk) หมายถงึ แนวโน้มทีช่ ุมชนหรือสังคมใด ๆ จะได้รบั ผลกระทบจากเหตกุ ารณ์ภัยพิบัติ ท้งั ความเสียหาย ทางทรพั ยส์ ิน และการสูญเสียชวี ติ สขุ ภาพ การด�ำ รงชวี ิต รวมถงึ ผลกระทบในเชิงสังคมและเศรษฐกจิ อื่นๆ (รปู ที่ 1.1.8) รปู ท่ี 1.1.8 ภาพแสดงการคาดการณ์ความเส่ียงอทุ กภัยในเขตพนื้ ทีภ่ าคกลางตอนเหนือของประเทศ สหรฐั อเมริกา ท่ีมา : http://www.noaanews.noaa.gov/stories2011/20110218_floodoutlook.html เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจดั การความเส่ียงด้านอทุ กภัยอย่างบรู ณาการ 9

บทท่ี 1 7. การปอ้ งกนั (Prevention) หมายถึง มาตรการหรือแนวทางต่าง ๆ เพ่ือชว่ ยขจดั ผลกระทบเชิงลบจากเหตกุ ารณ์ภยั พิบัติใหห้ มดไป อยา่ งสน้ิ เชงิ ท้ังน้ี มาตการเพอ่ื การป้องกันควรมีการปฏบิ ตั ิกอ่ นทจ่ี ะเกดิ เหตุการณภ์ ยั น้ัน ๆ เช่น การ สร้างเขอ่ื นเพอื่ ป้องกนั อุทกภยั หรอื การไม่อนญุ าตให้มกี ารกอ่ สรา้ งใด ๆ ในเขตพืน้ ท่ีที่มคี วามเส่ยี งสงู เป็นต้น 8. การลดผลกระทบ (Mitigation) หมายถงึ มาตรการหรอื แนวทางต่าง ๆ เพอ่ื ช่วยจำ�กดั หรอื ลดความรุนแรงของเหตอุ นั ตรายทั้งหลายเพือ่ ไมใ่ ห้กลายเปน็ ภยั พิบตั ิ หรือเพ่ือลดผลกระทบทีภ่ ัยต่าง ๆ อาจมีต่อชมุ ชน สงั คม และส่งิ แวดล้อม มาตรการเพอ่ื ลดผลกระทบสามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ประเภทสำ�คัญ ได้แก่ 8.1 มาตรการเชิงโครงสรา้ ง (Structural Approach) คอื มาตรการที่ต้องอาศยั หลักการเชิงวศิ วกรรม ในการดำ�เนินการ เช่น การก่อสร้างอาคารบ้านเรือนใหม้ ีความคงทนตอ่ แรงส่นั สะเทือนแผน่ ดนิ ไหว การสร้างทางระบายน�ำ้ หรอื การสร้างพนังกั้นน�ำ้ เปน็ ต้น (รูปท่ี 1.1.9 และรูปที่ 1.1.10) รปู ที่ 1.1.9 คันก้นั น�ำ้ รอบบา้ นเพือ่ ปอ้ งกนั น้�ำ ทว่ ม รปู ท่ี 1.1.10 พนงั กน้ั น�ำ้ วดั ไชยวฒั นาราม จงั หวดั ในมสิ ซิสซปิ ปี้ พระนครศรอี ยธุ ยา ทม่ี า: http://www.design-laorosa.com/2011/05/homemade- ที่มา: http://www.oknation.net/blogTHAM- dams-of-mississippi-flood.html RONG/2010/10/20/entry-1 8.2 มาตรการทไ่ี ม่ใช่เชงิ โครงสรา้ ง (Non-structural Approach) เปน็ มาตรการเชิงนโยบาย กฎหมาย หรอื การฝกึ อบรมความรเู้ กย่ี วกบั การพฒั นาหรอื สง่ เสรมิ การด�ำ เนนิ มาตรการเชงิ โครงสรา้ ง ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ และช่วยลดผลกระทบจากภยั พิบตั ิไดม้ ากขึ้น เช่น การกำ�หนดมาตรฐานการ ก่อสรา้ งบา้ นในเขตพ้นื ทเี่ สย่ี งต่ออุทกภัย และการประชาสัมพันธท์ �ำ ความเข้าใจกบั ประชาชนให้ รบั รู้และเปลี่ยนแปลงแบบบ้านให้มคี วามเหมาะสมกับพื้นท่ีของตน หรอื การฝึกอบรมการสร้าง บา้ นลอยน�้ำ และการวางผงั เมอื ง เป็นตน้ (รูปท่ี 1.1.11) 10 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบรหิ ารจดั การความเสี่ยงด้านอุทกภัยอยา่ งบูรณาการ

บท ่ีท 1 รูปที่ 1.1.11 แบบบา้ นลอยนำ�้ เพือ่ เผยแพร่แก่ประชาชนท่ตี ้องการสรา้ งบา้ นเพือ่ ลดผลกระทบจาก อุทกภยั ท่ีมา : http://www.dpt.go.th/download/PW/floating_house/floatingH.html 9. การเตรียมความพร้อม (Preparedness) หมายถงึ กจิ กรรมต่าง ๆ ทช่ี ว่ ยให้เกดิ ความสามารถในการคาดการณ์ รับมอื และจัดการกับผลกระทบ จากภัยพิบัติอย่างเปน็ ระบบ ท�ำ ให้สามารถดำ�เนินการไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและมปี ระสิทธิภาพทง้ั ในชว่ ง กอ่ น ระหว่าง และหลังการเกิดภัยพิบัติ เช่น การติดตัง้ ระบบเตอื นภัยอยา่ งครบวงจร การก�ำ หนดพืน้ ท่ี เส่ียง การวางแผนเสน้ ทางอพยพ การฝึกอบรมในการปฐมพยาบาลเบื้องตน้ การจัดเตรยี มถงุ ยงั ชีพ การ จัดวางแผนผงั การประสานงาน และการฝึกซอ้ มการบญั ชาการเหตกุ ารณฉ์ ุกเฉนิ เปน็ ต้น ตัวอยา่ งในรูปท่ี 1.1.12 แสดงให้เหน็ ภาพป้ายแจง้ เตือนความเสยี่ งอทุ กภยั ในพ้ืนที่องคก์ ารบรหิ ารส่วน ตำ�บลทา่ หลวง จงั หวัดพระนครศรีอยุธยา ซ่งึ เป็นหน่ึงในเครือ่ งมือและอปุ กรณท์ ่ชี ุมชนเห็นวา่ มีความ ส�ำ คญั ตอ่ การเตรยี มความพรอ้ มและรับมือกับภยั ท่ีอาจจะเกิดขึน้ ในอนาคต เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจัดการความเสีย่ งด้านอุทกภยั อย่างบูรณาการ 11

บทท่ี 1 รปู ที่ 1.1.12 คณะกรรมการของชุมชนอธบิ ายข้อความทร่ี ะบใุ นปา้ ยเตอื นภัย ที่มา : ชสู ิทธิ์ อภริ มั ณีกลุ (2013) 10. การตอบโต้เหตกุ ารณฉ์ กุ เฉิน (Response) หมายถงึ มาตรการหรือแนวทางตา่ ง ๆ ท่สี ามารถน�ำ ใชไ้ ด้ทนั ทเี มอื่ เกดิ เหตกุ ารณฉ์ กุ เฉนิ เพื่อรักษา ชีวติ และลดผลกระทบดา้ นสขุ ภาพและอนามยั รวมทง้ั เพอ่ื รกั ษาความปลอดภัยและใหค้ วามช่วยเหลอื บรรเทาทุกข์ข้ันพ้นื ฐานแก่ประชาชนที่ไดร้ ับผลกระทบ ในท่ีนีห้ มายรวมถึงแนวทางการตอบโต้เหตกุ ารณ์ ฉุกเฉนิ ของทงั้ ภาครัฐ ภาคประชาชน ชุมชน และหนว่ ยงานตา่ งๆ ท่ีเกีย่ วข้องท้งั หมด เช่น การกู้ชีพกภู้ ัย การปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้ การแจกถุงยงั ชพี และส่งิ ของบรรเทาทุกข์ การบญั ชาการในเหตุการณ์ฉุกเฉิน การประสานงานเพ่อื ล�ำ เลยี งผปู้ ว่ ย การบริหารจดั การศนู ย์อพยพ เปน็ ตน้ (รปู ท่ี 1.1.13) ทั้งน้ี การ ตอบโต้เหตุการณ์ฉกุ เฉนิ ควรเกิดขึน้ อยา่ งเร็วและทนั ทเี ม่ือเกิดภาวะฉกุ เฉินข้ึน เพ่ือลดผลกระทบในระยะ สน้ั ต่อชีวิตและสุขภาพของผปู้ ระสบภยั อยา่ งทนั ท่วงที รปู ที่ 1.1.13 การจดั ตั้งศูนย์อพยพเพอ่ื รองรับผปู้ ระสบภัยขณะเกดิ อุทกภัย ที่มา : หนังสอื พมิ พก์ รงุ เทพธุรกจิ (http://daily.bangkokbiznews.com/gallery/20111024) 12 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงดา้ นอทุ กภัยอยา่ งบูรณาการ

11. การฟ้นี ฟู (Recovery) บท ่ีท 1 หมายถึง การปรับสภาพระบบสาธารณูปโภค การด�ำ รงชพี และสภาวะวิถคี วามเปน็ อยขู่ องชมุ ชนที่ ประสบภยั ใหก้ ลับสูส่ ภาวะปกติ หรือพฒั นาใหด้ ียง่ิ ข้ึนกว่าเก่าตามความเหมาะสมโดยการนำ�เอาปัจจัย ต่าง ๆ เพ่อื ลดความเสยี่ งภัยพบิ ตั เิ ข้ามาชว่ ยในการฟื้นฟสู ภาพดว้ ย ท้ังนี้ การฟืน้ ฟูหมายรวมถงึ การ ซ่อมแซมและสร้างใหม่ (Reconstruction) หรือการฟืน้ ฟูโครงสร้างและส่งิ กอ่ สรา้ งทไ่ี ด้รับผลกระทบ รปู ท่ี 1.1.14 เปน็ รปู การสร้างหรอื ซอ่ มแซมบ้านซึง่ เปน็ ส่วนหนึ่งของการฟน้ื ฟู เป็นการแสดงใหเ้ ห็นวา่ มกี าร เอาแนวทางการลดผลกระทบจากภยั นำ�้ ทว่ ม เมื่อมีการกอ่ สร้างใหม่ โดยยกตวั บา้ นใหส้ งู ขึ้น และการ เยยี วยา (Rehabilitation) หรือการฟืน้ ฟสู ภาพจติ ใจของผไู้ ดร้ ับผลกระทบ ตลอดจนการฟ้นื ฟูสภาวะ ความเป็นอยู่ใหส้ ามารถกลบั มาดำ�รงชีวติ ไดเ้ ชน่ เดิมหรอื ดกี ว่าเดมิ รูปที่ 1.1.14 การฟีน้ ฟบู ้านให้มีสภาพดีกว่าเดิม ท่มี า : http://www.zimmerei-grebe.de/bildnachweise.html (รปู ซ้าย) John Pardy Architects (รูปขวา) เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบริหารจัดการความเสีย่ งดา้ นอทุ กภัยอยา่ งบูรณาการ 13

บทท่ี 1 เอกสารอ้างองิ ทวิดา กมลเวช (พ.ศ. 2554) คูม่ ือการจดั การภยั พบิ ตั ิทอ้ งถิ่น. สถาบันพระปกเกลา้ , กรุงเทพมหานคร Kafle, S.K. and Murshed, Z. (2006). Participant’s Workbook Community-Based Disaster Risk Management for Local Authorities. Asian Disaster Preparedness Center, Bangkok UNISDR (United Nations Office for Disaster Risk Reduction) (2009). UNISDR Termi- nology on Disaster Risk Reduction. Geneva, Switzerland. บรรณานกุ รม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (พ.ศ. 2551). คำ�ศพั ทด์ ้านสาธารณภัย. กรงุ เทพมหานคร 14 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจดั การความเสย่ี งด้านอทุ กภัยอยา่ งบูรณาการ

จดบันทึก บท ่ีท 1 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบรหิ ารจัดการความเส่ียงด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ 15

บทท่ี 1 จดบันทึก 16 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจัดการความเส่ยี งดา้ นอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ

บทท่ี 1 สว่ นที่ 2 บท ่ีท 1 ความรเู้ บื้องต้นเกย่ี วกบั การบรหิ ารจัดการความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั ิ (Overview of Disaster Risk Management) ดร. ปารฉิ ัตต์ ครองขันธ์ ผ้ปู ระสานงานการลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ัติ CBM International 1. แนวคดิ เรื่องการจัดการภยั พิบตั ิ ภยั พบิ ตั ิเกิดขนึ้ มาพรอ้ ม ๆ กบั การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ในยุคประวตั ศิ าสตร์มนษุ ยเ์ ลอื กอาศัยอย่ใู น ถ�ำ้ เพอื่ หลีกเลีย่ งอันตรายจากสภาพดินฟา้ อากาศและสภาพแวดลอ้ ม ภัยพบิ ัติมีอานภุ าพในการทำ�ลาย ล้างสงู บางทฤษฎีกลา่ วว่าอารยธรรมทีย่ ิง่ ใหญ่ที่สุดในประวตั ิศาสตร์หลายแห่ง ท้งั อารยธรรมชาวมายัน (Mayans), นอร์ส (Norse), ไมนวน (Minoans), ซเู ป (Supe) และจักรวรรดิอยี ิปต์เกา่ ก็อาจถงึ จุดจบได้ ด้วยภัยพบิ ัตทิ ่เี กดิ จากภยั ธรรมชาตมิ ากกวา่ จากการรบราฆ่าฟนั กนั เรอื่ งราวของเรอื โนอาห์จากคัมภีร์ไบเบลิ มักถกู ใช้อา้ งเปน็ บทเรียนตน้ ในความสำ�คัญของการเตรียมความ พร้อมการเตือนภัยและการลดผลกระทบจากภัยพิบัติ กลา่ วคือ โนอาหไ์ ด้รับการเตอื นจากพระเจา้ ถงึ เหตุการณ์น�้ำ ทว่ มโลกทีก่ �ำ ลงั จะเกิดขน้ึ โนอาหแ์ ละครอบครวั ของเขาจึงไดเ้ ตรียมการดว้ ยการสร้างเรือ เพอ่ื อพยพ โนอาหแ์ ละครอบครวั จงึ ปลอดภัยในทีส่ ดุ สว่ นใหญก่ ารจดั การภยั พบิ ตั ใิ นชว่ งไมก่ พ่ี นั ปที ผ่ี า่ นมานน้ั จะจ�ำ กดั กบั ภยั ประเภทเดยี ว แตก่ ม็ กี ารบันทกึ วา่ มีการจัดองค์กรเพื่อการจัดการภัยพิบัติแบบบูรณาการที่ค่อนข้างครอบคลุมหลายภัยและมีประสิทธิภาพ ในลดความเสยี หายต่อสภาพแวดล้อมและชุมชน เชน่ การสร้างระหดั วดิ น�ำ้ เพ่ือควบคมุ และผนั น�ำ้ ใน แมน่ �้ำ ไนล์ของอยี ปิ ตเ์ พ่ือลดปัญหาน้�ำ ท่วม การต้งั หน่วยงานควบคมุ อัคคภี ัยในอาณาจักรโรมนั เรยี กวา่ Corps of Vigiles ซ่ึงเปน็ ตน้ กำ�เนดิ ของหน่วยดับเพลงิ ในปจั จุบนั การจดั การภัยพิบตั ทิ ี่ทนั สมยั มีมาตรฐานระดบั โลกและถอื เป็นความพยายามในการจดั เตรยี มความพร้อม เพือ่ รบั มือและเพอ่ื บรรเทาผลกระทบจากภยั เรมิ่ เป็นรูปเปน็ ร่างมากขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 20 อย่างไร กต็ าม การจัดการเหตฉุ กุ เฉนิ หรือเหตุภัยพบิ ตั นิ ้นั ไมม่ ีสตู รตายตัว ประเทศทัว่ โลกต่างมีการจัดตงั้ องค์กร องคค์ วามรูแ้ ละสภาพแวดล้อมแตกต่างกันไป ทั้งน้ี สบื เนอื่ งมาจากสาเหตหุ ลายประการ ไดแ้ ก่ การ เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการความเสี่ยงดา้ นอุทกภยั อย่างบรู ณาการ 17

บทท่ี 1 ปกครอง สภาวะของภยั ความรบั รคู้ วามเสี่ยงภัยของประชาชน ความตงั้ ใจทางการเมืองในการปอ้ งกัน ภยั พิบัติ ความสามารถในการรับมอื งบประมาณ ประสบการณ์ในการเผชญิ เหตุ สถานท่ีต้ังทางกายภาพ ของประเทศนั้น ๆ และความเปราะบาง ไมว่ ่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม และส่งิ แวดลอ้ ม คำ�วา่ “Disaster” มรี ากทรพั ย์มาจากภาษาลาติน คอื ค�ำ ว่า dis และ astro ซงึ่ หมายความว่า “formed on a star” (Quarantelli 1987, 8) แปลวา่ “เกิดจากดวงดาว” แนวคดิ เกย่ี วกับภยั พบิ ตั ใิ นยคุ โบราณ มองว่าการเกิดภัยพิบัติเป็นเหตุการณ์ที่มีผลมาจากการเรียงตัวของดวงดาวต่าง ๆ บนท้องฟ้าที่ส่ง ผลกระทบมาสู่โลกและมนุษย์ เช่น การเกิดนำ้�ทว่ ม และแผ่นดนิ ไหว จึงน�ำ ไปสคู่ วามเชื่อทวี่ ่าภัยพบิ ตั ิ เปน็ การกระทำ�ของพระผเู้ ป็นเจ้า (Act of God) เพอ่ื เปน็ การลงโทษความเลวร้ายหรอื ความล้มเหลวของ มนุษย์ แนวคดิ นี้พบท้ังในวัฒนธรรมตะวนั ตก ทั้งกรีกและโรมัน และในวัฒนธรรมตะวนั ออก เช่น ในยคุ แรก ๆ ของจีน ซง่ึ White และคณะ (2001, 87) พบวา่ ในสมัยราชวงศ์ Zhow ของจีนมีความเชื่อวา่ สวรรค์ ไดส้ ง่ ผู้นำ�ท่ฉี ลาดและมคี ุณธรรมมาทำ�หนา้ ท่ปี กครองประชาชน และสวรรค์จะยกเลิกการใหส้ ทิ ธใิ นการ ทำ�หน้าทีน่ น้ั หากผ้นู ำ�มคี วามชว่ั รา้ ยหรือฉ้อโกง ซงึ่ ความเชอ่ื นไ้ี ด้ปรากฏอยใู่ นแนวคิดของเตา๋ ท่ีวา่ สวรรค์ แสดงการไม่ยอมรับในการปกครองท่ชี ัว่ ร้ายผ่านภัยพบิ ตั ิทางธรรมชาติ เช่น น�ำ้ ทว่ ม แผน่ ดนิ ไหว หรือ โรคระบาด เปน็ ต้น เมือ่ ความเชือ่ เก่ียวกับภัยพิบัตแิ ละพระเจา้ เปน็ เชน่ น้นั จึงนำ�ไปสกู่ ารสรา้ งความพึงพอใจให้พระเจา้ ดว้ ย การบชู ายัญ การท�ำ พิธกี รรมอ้อนวอนและขอขมาตา่ ง ๆ นานา เพือ่ ไม่ใหพ้ ระเจ้าลงโทษ แนวคิดดังกล่าว ทำ�ให้คนเชือ่ ว่าภยั ธรรมชาตเิ ปน็ เรอื่ งของการควบคุมสงั คม และเป็นการจัดระเบียบสงั คมโดยอำ�นาจ ทอี่ ยู่นอกเหนอื การควบคมุ ของมนุษย์ เม่อื ประกอบกับการไมม่ คี วามรแู้ ละความเขา้ ใจในเหตกุ ารณภ์ ยั ธรรมชาติ ทำ�ใหม้ นุษยใ์ นยคุ ต่อ ๆ มาเริ่มยอมรบั ว่าภัยธรรมชาติเป็นส่วนหนงึ่ ของวถิ ีชวี ติ ท่ีกำ�หนดมาลว่ ง หนา้ โดยพระเจ้า ดังน้นั มนษุ ยจ์ ึงเป็นเหย่อื บริสทุ ธิ์ที่ไม่สามารถเปลยี่ นแปลงโชคชะตาได้ นกั วชิ าการต่าง ประเทศไดใ้ ช้ค�ำ ว่า “Fatalistic Syndrome” เพ่อื แสดงถงึ ความคดิ ว่าภยั พบิ ตั ิเปน็ เรือ่ งของพรหมลิขิต และพบว่าเปน็ หน่งึ ในข้ออ้างส�ำ หรับการหลกี เลี่ยงความรับผิดชอบตอ่ การลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ัติ “A fatalistic syndrome whereby individuals feel no personal responsibility for hazard response and wish to avoid expenditure on risk reduction.” (Smith 1996, 70.) การศกึ ษาวิจยั เก่ยี วกบั เร่ืองภัยพบิ ัตเิ รม่ิ ข้นึ ในช่วงทศวรรษ 1950-1960 โดยอธิบายเรือ่ งการปรับตวั ของ มนษุ ยต์ ่อสถานการณ์ฉกุ เฉินรา้ ยแรงทมี่ ีผลกระทบต่อสงั คมในวงกว้าง ซงึ่ ในขณะนั้นเปน็ การศกึ ษาเพือ่ 18 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสตู รการบริหารจดั การความเสี่ยงดา้ นอทุ กภัยอยา่ งบูรณาการ

เรียนรู้พฤตกิ รรมการตอบสนองของประชาชนในเหตุการณฉ์ ุกเฉินท่อี าจเกิดขน้ึ จากการโจมตที างอากาศ บท ่ีท 1 ของขา้ ศกึ ในสงครามโลกคร้ังที่ 2 เปน็ การอธิบายเร่อื งความมั่นคงทางสังคมและความเปล่ียนแปลงทาง สังคม เปน็ สำ�คัญ การศกึ ษาเกย่ี วกบั ภยั พบิ ตั ใิ นยดุ ตอ่ มามกั ใชแ้ นวคดิ ทางภมู ศิ าสตรเ์ ปน็ หลกั จงึ เปน็ การศกึ ษาเกย่ี วกบั ภัย เชน่ วาตภัย แผน่ ดนิ ไหว หิมะถลม่ ความแหง้ แล้ง เปน็ ตน้ ตอ่ มาการศึกษาเกยี่ วกับภยั พบิ ัตมิ ีความสนใจใน ประเดน็ เกย่ี วกบั เรือ่ งทางสังคมมากขึน้ เช่น โครงสร้างความสัมพนั ธ์ระหวา่ งมนษุ ย์กบั สิ่งแวดลอ้ ม บรบิ ท ทางประวัตศิ าสตร์ เชน่ การตกเป็นเมืองขน้ึ ของตะวันตก เปน็ ตน้ การศกึ ษาภัยพบิ ตั ิในทางมานษุ ยวทิ ยา มแี นวคิดในการศกึ ษาอยู่ 3 ประเดน็ หลกั ไดแ้ ก่ 1) แนวคดิ เร่อื งการจัดระเบียบและพฤติกรรม ม่งุ เนน้ ไปท่ีเรื่องพฤตกิ รรมของบุคคลและสงั คมทไ่ี ด้รบั ผลกระทบจากภยั พิบัตใิ นแบบตา่ งๆ ปฏสิ มั พันธร์ ะหว่าง บคุ คล สงั คม และการจัดระเบยี บสังคมจะเกิดขนึ้ เพ่อื การเตอื นภัย การรบั ผลกระทบ และความสญู เสยี ที่ตามมา 2) แนวคิดเรือ่ งการเปล่ียนแปลงทางสงั คมและการพฒั นา โดยอาศยั แนวคดิ ทฤษฎวี วิ ฒั นาการ และการศกึ ษาแบบองคร์ วม เพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ การปรบั ตวั ของสงั คมมนษุ ยต์ อ่ การเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติ เปน็ การศกึ ษาการเปลย่ี นแปลงทางสงั คมในระยะยาว และ 3) แนวคดิ เรอ่ื งอ�ำ นาจกบั การควบคมุ ทรัพยากร เป็นการศกึ ษาแนวคดิ เรอ่ื งนิเวศน์วัฒนธรรมและความสมั พนั ธเ์ ชงิ เศรษฐกิจการเมอื ง เช่น มองวา่ รัฐ มีนโยบายทางการเมอื งและเศรษฐกิจบางประการ แม้จะมเี ป้าหมายเพ่อื ขยายการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ก็เปน็ นโยบายท่ีไมเ่ หมาะสมกบั ระบบนเิ วศนว์ ทิ ยา เช่น นโยบายการท�ำ เหมืองแร่ การตัดไม้ การ ชลประทาน การสรา้ งเขือ่ น และโรงงานอุตสาหกรรม อาจจะสง่ ผลต่อการเปล่ยี นแปลงท่อี ย่อู าศัย การ โยกย้ายถิน่ ฐาน การทำ�ลายสภาพแวดลอ้ ม และเปน็ ปัจจยั ทท่ี �ำ ให้สภาพแวดลอ้ มเสื่อมโทรม และน�ำ ไปสู่ การเกดิ ภัยพิบัติ เปน็ ตน้ (David Levinson and Melvin Ember (eds.), 1996) ประเทศสหรฐั อเมรกิ าเปน็ ประเทศหนง่ึ ทม่ี อี งคค์ วามรดู้ า้ นการจดั การภยั พบิ ตั มิ ายาวนานและประเทศไทย ได้รับอิทธิพลทางแนวคิดและการจัดตั้งองค์กรด้านการจัดการภัยพิบัติมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาผ่าน ความสมั พนั ธท์ างการทหาร ทง้ั น้ี ประวตั ศิ าสตรก์ ารจดั การภยั พบิ ตั ใิ นอเมรกิ า สามารถแบง่ เปน็ ยคุ ตา่ งๆ ดงั น้ี • ยคุ ต้น 1800-1950 เน้นการป้องกนั อคั คีภยั • ชว่ งทศวรรษ 1950 ยุคสงครามเยน็ และการเกิดแนวคิดการปอ้ งกันภยั ฝ่ายพลเรือน (Civil Defense) • ชว่ งทศวรรษ 1960 การรบั มอื เหตฉุ ุกเฉนิ จากภัยธรรมชาติ • ชว่ งทศวรรษ 1970 การบรู ณาการงานด้านการจดั การภาวะฉกุ เฉนิ • ชว่ งทศวรรษ 1980 การป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเพอ่ื เผชญิ เหตุสงครามนิวเคลียร์ • ช่วงทศวรรษ 1990 การรบั มอื ภยั พบิ ัติทกุ ประเภท • ปี 2001 การจัดการภัยกอ่ การร้าย ภยั ธรรมชาติ และกอ่ ต้งั หนว่ ยงานใหม่ เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการความเสย่ี งดา้ นอุทกภยั อย่างบูรณาการ 19

บทท่ี 1 ส�ำ หรบั ประเทศไทยในอดตี ชมุ ชนของไทยในพน้ื ทเ่ี สย่ี งหรอื ประสบภยั พบิ ตั มิ กี ารเรยี นรแู้ ละสง่ั สมภมู ิปัญญา เพ่ือปรับวิถชี วี ิตใหอ้ ยู่รว่ มกับความแปรปรวนของธรรมชาติตามฤดูกาลไดเ้ ปน็ อย่างดี เชน่ ลกั ษณะของ บ้านใต้ถุนสูง การมรี ูปแบบการเพาะปลกู ให้เขา้ กบั สภาพอากาศ การเลอื กใชแ้ ละปรบั ปรงุ พันธุ์ขา้ วท่ี เหมาะสมกบั สภาพพื้นท่แี ละปรมิ าณนำ�้ ซึง่ เปน็ การปรบั ตวั เพอ่ื เผชญิ กับภัยธรรมชาติทีไ่ ม่รุนแรงนกั และ เนอื่ งจากในอดีต ภยั พิบัติในประเทศไทยมีคอ่ นข้างน้อยเมอื่ เปรยี บเทียบกับต่างประเทศ ประเทศไทยจงึ มปี ระสบการณใ์ นการจัดการภัยพบิ ตั ิคอ่ นขา้ งจ�ำ กดั และมเี ฉพาะกับภยั ท่ีเกิดขึ้นเป็นประจำ� ไดแ้ ก่ ภาวะ น�้ำ ท่วม พายฝุ น และภัยแล้งท่เี กิดขึน้ ตามฤดกู าลซ่งึ มีความรนุ แรงไม่มากนกั การเตรียมการต่าง ๆ จงึ อยบู่ นสมมตุ ฐิ านของลกั ษณะภยั ขนาดยอ่ มทีม่ ีขอบเขตความรนุ แรงระดับหน่งึ เท่านั้น ทำ�ใหร้ ะบบการเต รยี มพรอ้ ม การจัดการในภาวะฉุกเฉิน และการกภู้ ัยจงึ ไมม่ ปี ระสทิ ธิภาพเพียงพอในการรองรับภยั ขนาด ใหญ่ ในทางปฏบิ ตั ิ การจดั การภัยพบิ ตั ิในยคุ แรก ๆ เน้นเรื่องการช่วยเหลอื บรรเทาทุกข์และการโตต้ อบ กับสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเหตกุ ารณ์วิกฤติ นโยบาย ยทุ ธศาสตร์และกิจกรรมจึงมุ่งไปท่ีการจัดสรร ทรพั ยากรและบุคลากรเพือ่ ดำ�เนนิ การระหว่างเกดิ เหตุ การบรรเทาทุกข์ และการฟ้ืนฟหู ลงั เกดิ เหตเุ ป็น หลัก (รูปที่ 1.2.1) เนื่องจากแนวคิดในยุคแรกมองว่า รัฐบาลมีหน้าที่ในการป้องกันและตอบสนอง ต่อภัยพบิ ตั ิ ซ่ึงแนวคดิ น้ีเป็นผลมาจากยุคสงครามทกี่ ารต่อตา้ นการรกุ รานจากศตั รทู ี่เป็นอันตรายตอ่ พลเมอื ง และเปน็ หน้าที่ของรัฐบาลในการใช้ก�ำ ลังทหาร ต่อมาจึงได้เปล่ียนแนวคิดใหก้ ารจดั การภัยพิบตั ิ เป็นเร่อื งของชมุ ชนและสังคมเพราะเกิดแนวคิดทวี่ ่าภยั พิบัติส่งผลกระทบตอ่ ชุมชน จงึ ตอ้ งฝกึ ใหช้ ุมชน หรอื สังคมตอบสนองตอ่ ภัยพิบัตดิ ้วยตัวเอง รูปท่ี 1.2.1 แนวคิดเดมิ เรื่องการจดั การภัยพบิ ตั ิ ทมี่ า: ดดั แปลงจาก An International Network for Education in Emergencies (INEE) and Education Cluster 20 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจดั การความเสีย่ งด้านอทุ กภัยอย่างบรู ณาการ

ในระยะตอ่ มา แนวคิดด้านการจดั การภยั พิบัตจิ ะมีลกั ษณะของการเตรียมการเชงิ รกุ มากขนึ้ โดยมอง บท ่ีท 1 ทก่ี ารจัดการความเสย่ี งตอ่ การเกิดภยั พิบตั ิ (Disaster Risk Management) หมายถงึ กระบวนการเชงิ ระบบซ่งึ เปน็ กระบวนการทางดา้ นการบรหิ ารจดั การ การตดั สินใจในองคก์ ร การใช้ทรพั ยากรและทกั ษะ ทางการปฏิบตั ิงาน เพอื่ ดำ�เนินการตามยทุ ธศาสตรแ์ ละนโยบายทีว่ างไว้ รวมถงึ การพัฒนาปรบั ปรงุ ทักษะต่าง ๆ ในการรบั มอื กับเหตุการณ์ เพื่อลดผลกระทบอันรา้ ยแรงจากสภาวะอันตรายของภยั และ ลดโอกาสท่จี ะท�ำ ใหภ้ ยั คกุ คามกลายเป็นภยั พบิ ัติ การจดั การภยั พบิ ัติครอบคลุมถงึ การหามาตรการแกไ้ ข ปญั หาทัง้ ระยะส้นั และระยะยาว ม่งุ ที่การวางแผนตัง้ แตก่ อ่ นเกดิ เหตุ ขณะเกิดเหตุและหลงั เกิดเหตุจน ครบกระบวนการ ซงึ่ ประกอบด้วยการปอ้ งกันและลดผลกระทบ (Prevention and Mitigation) และ การเตรียมความพร้อม (Preparedness) ในระยะกอ่ นเกิดเหตุ การตอบโต้เหตกุ ารณ์ฉุกเฉนิ (Emergency Response) ในขณะเกดิ เหตุ และการฟน้ื ฟู (Recovery) ภายหลงั เหตุการณ์ (รปู ที่ 1.2.2) รูปที่ 1.2.2 วงจรการจดั การความเสีย่ งจากภัยพิบตั ิ (Disaster Risk Management Cycle) ที่มา: ดัดแปลงจาก ASEAN Disaster Risk Management Course; United Nations Office for the Coordination of Humanitarian Affairs (UNOCHA) ความเส่ียง (Risk) จากภยั พิบัติ ข้ึนอยูก่ บั ปัจจัยหลายสาเหตุ ไดแ้ ก่ ภยั (Hazard) ความเปราะบาง (Vulnerability) และ ความสามารถในการรบั มอื (Capacity) ซ่งึ ภยั เชน่ ภยั ธรรมชาติเปน็ ปจั จยั ที่ ควบคมุ ไม่ได้ ในขณะท่ปี จั จยั ดา้ นความเปราะบางและความสามารถในการรับมือน้ันเป็นผลต่อเนือ่ งมา จากปัจจัยทางสงั คมและเศรษฐกิจ เช่น ถ้าประชาชนสร้างบ้านเรอื นทไี่ ม่ถูกหลกั ทางวศิ วกรรมและต้ัง ถ่ินฐานอยใู่ นบริเวณรมิ แม่น้ำ�ซ่ึงมโี อกาสได้รบั ผลกระทบจากนำ้�ทว่ ม กจ็ ะมคี วามล่อแหลมเปราะบางสูง ซึง่ จะทำ�ใหม้ คี วามเสี่ยงจากภยั สูงขึ้นตามมา ในขณะทถี่ ้าประชาชนมีระบบเตอื นภัยทดี่ ีหรือประชาชนมี เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงดา้ นอทุ กภยั อย่างบรู ณาการ 21

บทท่ี 1 การเตรยี มความพรอ้ มส�ำ หรบั การอพยพเมอ่ื ไดย้ นิ การเตอื นภยั ประชาชนเหลา่ นน้ั กถ็ อื วา่ มคี วามสามารถ ในการรับมือสงู ซ่งึ ก็จะทำ�ใหค้ วามเสี่ยงภยั ตำ่�ลง จะเหน็ ไดว้ า่ ความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ขิ น้ึ อยกู่ บั ปจั จยั ทางสงั คมซง่ึ สามารถควบคมุ หรอื บรหิ ารจดั การได้ ใน ชว่ งสองทศวรรษทีผ่ ่านมาจึงไดม้ กี ารปรับเปลี่ยนกระบวนทัศนใ์ นเรอ่ื งการบรหิ ารจัดการภยั พบิ ัตจิ ากการ บรรเทาทุกข์ภายหลังจากที่ภัยเกิดขึ้นแล้วไปสู่การเตรียมความพร้อมและการลดผลกระทบก่อนเกิดเหตุ จนเมือ่ ไม่ก่ีปีมาน้ี ไดม้ ีการยอมรับในการให้ความส�ำ คัญกับการผนวกขอ้ ปฏิบตั ิด้านการบรหิ ารจดั การ ความเส่ียงจากภยั พบิ ตั เิ ขา้ ไวใ้ นแผนการพฒั นามากย่งิ ข้ึนเร่อื ย ๆ เพราะเปน็ ทปี ระจักษช์ ดั ว่า การลด ความเสย่ี งตอ่ ภยั พบิ ตั ิมคี วามสัมพันธ์กบั การพฒั นาท่ยี ัง่ ยืน ซึ่งเป็นเป้าหมายส�ำ คญั ของสหประชาชาตใิ น ทศวรรษนี้ หลักการการบรหิ ารจดั การความเสย่ี งจากภัยพิบตั ิ • มุ่งประเมนิ และวิเคราะหโ์ อกาส ความเปน็ ไปไดใ้ นการเกิดภัยซงึ่ เปน็ สาเหตุ ไม่ใช่เนน้ ทเ่ี หตุการณ์ ภัยพิบัติ • เนน้ การปอ้ งกนั กอ่ นเกดิ เหตุ ทง้ั ในการลดผลกระทบและการเตรยี มความพรอ้ มเพอ่ื เผชญิ เหตกุ ารณ์ ฉกุ เฉนิ • มผี เู้ กยี่ วขอ้ งมากมายหลายกลุ่ม • มีเป้าหมายที่จะบูรณาการแนวทางการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยพิบัติเข้ากับการพัฒนา ที่ยั่งยืน 2. แนวคิดการลดความเส่ียงจากภยั พิบัติ (Disaster Risk Reduction) เป็นแนวคิดและแนวทางการปฏิบัติในยุคปัจจุบันที่มุ่งเน้นการลดความเสี่ยงจากภัยโดยใช้ความอุตสาหะ พยายามอยา่ งเปน็ ระบบของทุกภาคส่วนในการวเิ คราะหค์ วามเสี่ยงในด้านต่าง ๆ และจัดการความ เสี่ยงอนั เปน็ สาเหตขุ องการเกดิ ภยั พิบตั ใิ ห้ลดนอ้ ยลงไป เชน่ การลดการเผชญิ สภาวะทเ่ี ปน็ อันตราย การลดความลอ่ แหลมหรือความเปราะบางของชมุ ชนและสิง่ แวดล้อม การกำ�หนดให้มกี ารใชท้ ีด่ ินและ ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการปรบั ปรุงการเตรยี มความพรอ้ มเพือ่ รับเหตกุ ารณ์ เป็นต้น การลดความเสย่ี งจากภยั พิบตั ิเน้นในชว่ งก่อนเกิดภยั โดยมีขอบเขตการดำ�เนินงานที่ครอบคลมุ 3 ดา้ น หลัก ๆ ไดแ้ ก่ การปอ้ งกัน การลดผลกระทบ และการเตรียมความพรอ้ ม ซง่ึ เป็นกิจกรรมท่ีสามารถท�ำ ได้ ทุกวัน สว่ นการจัดการภัยพบิ ตั ินน้ั จะดำ�เนินการตอ่ เมอื่ เกดิ ภยั ข้ึนโดยครอบคลมุ ถงึ การตอบโต้ในสภาวะ ฉุกเฉนิ และการฟื้นฟู (รปู ท่ี 1.2.3) แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม หากเมอ่ื เกิดภยั ขึ้นแล้วกส็ ามารถประยุกต์ใช้แนวคิด การลดความเส่ยี งจากภยั พิบัตใิ หเ้ ปน็ สว่ นหน่ึงของการฟ้ืนฟไู ด้ ดังเชน่ แนวความคดิ การสร้างใหม่ให้ดีกวา่ 22 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการความเสย่ี งดา้ นอุทกภยั อย่างบรู ณาการ

เดมิ (Build Back Better) บท ่ีท 1 รูปท่ี 1.2.3 แผนภมู ิแสดงความสมั พันธ์ระหว่างการลดความเสีย่ งจากภยั พิบตั ิ (Disaster Risk Reduction: DRR), การจัดการภยั พบิ ตั ิ (Disaster Management: DM) และการบริหารจดั การความเสย่ี งจากภัย พิบตั ิ (Disaster Risk Management: DRM) ที่มา: ดัดแปลงจาก ADPC, 2012 นอกจากนี้แนวคิดการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติยังมีการผสมผสานแนวทางการปรับตัวเพื่อรองรับการ เปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศภายใต้กรอบการพัฒนาที่ยั่งยืน เนื่องจากการเปล่ียนแปลงสภาพ อากาศถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่นำ�ไปสู่ความเสี่ยงภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติ และสามารถสร้างผลกระทบ และความเสียหายต่อประชาชน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมได้ ปัจจยั หลัก 2 ประการในกระบวนการทำ�งานเพ่ือลดความเสี่ยงตอ่ การเกิดภยั พบิ ัติและน�ำ ไปสกู่ ารพฒั นา ท่ียงั่ ยืน ได้แก่ 1) การบรหิ ารจัดการทีด่ ี และ 2) การสร้างความสามารถในการจัดการภยั พบิ ัติในทุกระดบั ไม่วา่ จะเปน็ ระดับชมุ ชนหรอื ระดับประเทศ ซงึ่ ถือเปน็ การทำ�งานรว่ มกันระหว่างภาครฐั และชุมชน กลา่ ว คอื ภาครัฐมีหน้าท่สี รา้ งสภาพแวดลอ้ มทป่ี ลอดภยั โดยเปิดโอกาสใหท้ ุกกลุ่มสงั คมเข้าร่วมในการวางแผน ด�ำ เนนิ การและเขา้ ถงึ ข้อมลู ทถ่ี กู ต้อง ส่วนชุมชนก็มหี นา้ ทส่ี รา้ งความสามารถในการรบั มอื กบั ภัยพบิ ัติ ไม่ วา่ จะเปน็ การสร้างและถ่ายทอดองคค์ วามรู้ การพัฒนาทักษะในการชว่ ยเหลือ กภู้ ัย ประเมนิ สถานการณ์ หรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลือสมาชกิ ในชมุ ชนใหพ้ รอ้ มรับมือกบั ภัยได้ (รูปท่ี 1.2.4) เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจดั การความเสยี่ งด้านอุทกภัยอย่างบรู ณาการ 23

บทท่ี 1 รปู ท่ี 1.2.4 ปัจจยั ส�ำ หรับการพัฒนาที่ย่ังยืนและการลดความเสยี่ งภยั พิบัติ 3. ข้ันตอนหรือกระบวนการบริหารจัดการความเสีย่ งจากภยั พิบตั ิ 3.1 ก�ำ หนดบริบท (Establish context) ข้ันตอนนเ้ี ปน็ การคน้ หาข้อมลู เบื้องต้นของพนื้ ที่ เพอ่ื ท�ำ ความเข้าใจเกีย่ วกบั สภาพแวดลอ้ ม ตวั อยา่ งของ บรบิ ททค่ี วรพิจารณาไดแ้ ก่ • ขอบเขตอำ�นาจในการดำ�เนนิ การของหนว่ ยงานดา้ นการจัดการภัยพบิ ตั นิ นั้ • ชือ่ พน้ื ที่และขอบเขตการปกครองทร่ี บั ผิดชอบ • องค์ประกอบและบทบาทของกลุม่ ทตี่ ั้งข้ึนมาหรอื มอี ยแู่ ลว้ ในการดำ�เนนิ การจัดการภัยพบิ ัติ • พนั ธมติ รหรือผู้มสี ว่ นเก่ียวข้องทง้ั หมด • กระบวนการตดิ ตามและประเมนิ ผล • ปจั จยั ทางเศรษฐกจิ สงั คม การเมอื งและสง่ิ แวดลอ้ ม 3.2 ระบคุ วามเสย่ี งภัย (Identify the risk) เป็นการระบุภัยหรอื สภาพอนั ตรายและรวบรวมความรเู้ ก่ียวกับสภาพอนั ตรายนน้ั ๆ พรอ้ มท้งั ระบุ ความเปราะบางและสิง่ ท่ีมคี วามเสย่ี งภัย (Elements At Risk) ตลอดจนระบุความสามารถทมี่ ีเพอ่ื ตรวจ หาความสมั พนั ธร์ ะหว่างสภาพอันตรายหรือภัยกบั สิ่งท่มี ีความเสยี่ งและความสามารถ ซึง่ จากขน้ั ตอน น้ี จะไดข้ ้อมลู เกีย่ วกบั สภาพอนั ตรายหรือภยั ข้อมลู เกย่ี วกับส่งิ ท่ีมีความเสีย่ งภยั ขอ้ มลู เกีย่ วกับความ สามารถของชุมชนหรอื องคก์ ร ซ่ึงอยใู่ นรูปของตารางท่แี สดงความสมั พันธร์ ะหวา่ งภยั หรือสภาพอันตราย ส่งิ ทม่ี ีความเสีย่ งและความสามารถ 24 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบริหารจดั การความเสยี่ งดา้ นอทุ กภยั อยา่ งบรู ณาการ

3.3 วเิ คราะหค์ วามเสยี่ ง (Analyze the risk) บท ่ีท 1 เป็นการประมวลขอ้ มูลปัจจยั ความเสย่ี งทัง้ หมด โดยใชต้ ัวช้วี ัด เช่น ความถข่ี องการเกิดภัยและระดบั ผล กระทบทอ่ี าจเกดิ ข้นึ เพื่อกำ�หนดระดับของความเส่ยี ง โดยสามารถอาศัยแผนภูมิดงั รูปที่ 1.2.5 ในการ พิจารณา หรอื อาจกำ�หนดระดบั ความเสยี่ งเป็นตวั เลข เชน่ ความเสย่ี งนอ้ ย ก�ำ หนดให้เป็นเลข 1 ความ เส่ยี งสงู กำ�หนดใหเ้ ปน็ เลข 2 ความเส่ยี งสงู สดุ ก�ำ หนดใหเ้ ปน็ เลข 3 เปน็ ต้น รูปที่ 1.2.5 ความสมั พนั ธ์ระหว่างโอกาสเกิดภัยและผลกระทบเพือ่ การวิเคราะห์ความเส่ยี ง 3.4 ประเมินความเสยี่ ง (Evaluate the risk) และจดั ลำ�ดบั ตามความ เป็นการประเมินวา่ ความเสี่ยงใดเป็นความเสี่ยงในระดับที่รบั ได้หรอื รับไมไ่ ด้ สำ�คญั เพื่อกำ�หนดวิธกี ารแก้ไข 3.5 จดั การความเสย่ี ง (Treat the risk) เป็นการจดั การกับความเสยี่ งท่คี วรได้รบั การแก้ไขหรือเปน็ ความเส่ียงทไ่ี ม่สามารถยอมรบั ได้ สามารถ ทำ�ได้หลายระดบั เช่น 1) การบรรเทาความเส่ยี งนัน้ ใหล้ ดลง ดว้ ยมาตรการเพ่ือป้องกนั ลดผลกระทบ และเตรียมความพร้อมกอ่ นเกดิ เหตุ หรือ 2) การถ่ายโอนความเสย่ี งด้วยการท�ำ ประกนั ภยั การตงั้ กองทุน กยู้ ืมส�ำ หรับเหตกุ ารณ์ภัยพิบัติ หรอื กลไกทางการเงินตา่ งๆ หรอื 3) การขจัดความเสย่ี งอยา่ งส้ินเชงิ จาก การย้ายถิ่นฐาน เป็นต้น เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรการบรหิ ารจดั การความเส่ยี งดา้ นอุทกภัยอย่างบรู ณาการ 25

บทท่ี 1 รูปที่ 1.2.6 กระบวนการจดั การความเสี่ยงภยั พบิ ตั ิ 4. กรอบการด�ำ เนนิ งานเฮียวโกะเพือ่ การลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั ิ สำ�นักงานว่าด้วยกลยุทธ์ระหว่างประเทศเพื่อการลดภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office for Disaster Risk Reduction: UNISDR) ได้รับการแต่งตั้งโดยที่ประชุมสมัชชาใหญ่ สหประชาชาติ ให้เป็นองค์กรที่สืบทอดภารกิจจากทศวรรษสากลเพื่อการลดภัยพิบัติทางธรรมชาติ (International Decade for Natural Disaster Reduction: IDNDR) เพื่อทำ�หน้าที่เป็นกลไกของ สหประชาชาติในการประสานงานเกี่ยวกับกิจกรรมการลดภัยพิบัติทั่วโลก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการ พัฒนากรอบการดำ�เนินงานเฮียวโกะ (Hyogo Framework for Action: HFA) เพื่อความชัดเจนใน การนำ�แนวทางการลดความเสีย่ งจากภัยพิบัติไปดำ�เนินการอยา่ งมเี อกภาพตามความเหมาะสมของสภาพ สังคมและเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2548 รัฐบาลของ 168 ประเทศสมาชิกสหประชาชาตไิ ดต้ กลงรับรองแผนการลด ภยั พิบัติสากลทมี่ ีกรอบระยะเวลาดำ�เนินงาน 10 ปี (พ.ศ. 2548-2558) ซึ่งเปน็ ทรี่ ้จู ักกันดใี นนาม “กรอบ การดําเนนิ งานเฮยี วโกะ” ในการประชมุ วา่ ด้วยการลดภัยพบิ ตั ิระดบั โลก ทีจ่ ัดขน้ึ ณ เมอื งโกเบ จงั หวัด เฮยี วโกะ ประเทศญป่ี ุ่น กรอบการด�ำ เนินงานเฮยี วโกะถอื เปน็ พมิ พเ์ ขยี วของโลกทเ่ี ป็นยุทธศาสตรส์ ากล ในการลดความเสีย่ งจากภยั พิบตั ิในทศวรรษหนา้ มีเปา้ หมายเพอื่ ลดภยั ท้งั มวลทีจ่ ะมีผลกระทบต่อชีวติ เศรษฐกจิ สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ มของชมุ ชนและของทกุ ประเทศ โดยแนวคดิ ส�ำ คญั ของกรอบด�ำ เนนิ การน้ี คอื ภยั พบิ ตั สิ ง่ ผลกระทบถงึ ทกุ คน ดงั นน้ั การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั จิ งึ เปน็ ภาระหนา้ ทข่ี องทกุ คนและ 26 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจดั การความเสย่ี งดา้ นอุทกภัยอย่างบูรณาการ

ทุกประเทศท่จี ะต้องร่วมแรงรว่ มใจกนั การลดความเสีย่ งจากภัยพิบัติต้องเป็นสว่ นหน่ึงของกระบวนการ บท ่ีท 1 ตัดสนิ ใจในการปฏิบัติงานประจ�ำ และบรรจุอยูใ่ นยุทธศาสตร์ของการพัฒนา ตงั้ แต่การใหค้ วามรแู้ ก่เด็ก และเยาวชนไปจนถงึ การวางแผนการพัฒนาประเทศ เป้าหมายยทุ ธศาสตร์ของ HFA • การลดความเส่ียงจากภยั พิบตั จิ ะต้องอยใู่ นนโยบายและพฒั นาทกุ ระดบั • สร้างเสรมิ กลไกทางสถาบนั เพ่ือให้สามารถรับมือและฟนื้ ตวั จากภัยพบิ ัตไิ ด้ • การลดความเสี่ยงในการเกิดภัยพิบัติเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมต่อสถานะการณ์ ฉุกเฉิน การตอบโต้และการฟื้นฟู การจัดล�ำ ดบั ความสำ�คญั ของการปฏบิ ตั ิการเพื่อลดความเสย่ี งจากภัยพิบัติ ผลลพั ธ์คาดหวงั ของกรอบท�ำ งานเฮยี วโกะ คอื การลดความสญู เสียจากภยั พิบัติ ทงั้ ในชวี ติ สังคม เศรษฐกจิ และสิ่งแวดลอ้ มทง้ั ในระดับชุมชนและระดับประเทศ ทั้งน้ี มีการจดั ล�ำ ดับความส�ำ คญั ของการ ปฏบิ ตั ิการเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Priority for Action) ตามกรอบการด�ำ เนนิ งานเฮียวโกะรวม 5 ประการ ไดแ้ ก่ ก. การใหค้ วามส�ำ คญั แกก่ ารลดความเสย่ี งจากภยั เปน็ ล�ำ ดบั แรกทง้ั ในระดบั ชาตแิ ละระดบั ชมุ ชน บนพน้ื ฐาน โครงสรา้ งองคก์ รทม่ี น่ั คงและเออ้ื อ�ำ นวยตอ่ การปฏบิ ตั กิ าร กระบวนการตดั สินใจของภาครฐั และภาคเอกชนจะตอ้ งใหค้ วามส�ำ คญั ต่อภัยธรรมชาติ เชน่ เดยี วกัน กับการให้ความสำ�คัญต่อการประเมินสิ่งแวดล้อมและสังคม รัฐจึงจำ�เป็นต้องพัฒนาหรือปรับปรุง นโยบาย กฎหมาย และการจัดองค์กร เชน่ เดียวกนั กบั แผนงานโครงการและโครงงานให้ครอบคลุม การลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ัติ และจะต้องจัดให้มีทรัพยากรทีพ่ อเพยี งเพ่อื สนบั สนนุ และคำ�้ จนุ แผน งานโครงการเหลา่ นด้ี ้วย ไดแ้ ก่ 1. จัดใหม้ หี น่วยงานแบบองค์รวมทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพ เพอ่ื นำ�เสนอนโยบายและประสานงานใน กิจกรรมตา่ ง ๆ 2. จดั ใหม้ นี โยบายและแผนโดยบรู ณาการการลดความเส่ียงภัย เช่น ยุทธศาสตร์ในการลดความ ยากจน 3. ใหช้ มุ ชนมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมตา่ ง ๆ เพ่อื สนองความตอ้ งการในระดบั พ้นื ที่ ข. ร้จู กั ความเสยี่ งและการดำ�เนินการจำ�แนก ประเมิน และติดตามความเสีย่ งท่ีเกิดขึ้นจากภยั พบิ ตั ิและ ส่งเสริมการเตอื นภัยล่วงหน้า ประเทศและชมุ ชนจะต้องรจู้ ักความเส่ยี งท่กี �ำ ลังเผชิญอยู่และดำ�เนินการบนพ้นื ฐานของความรู้ ท้ังนี้ การเข้าใจความเสี่ยงจะต้องมีความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์เทคนิควิธีและความสามารถขององค์กรที่ เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบริหารจดั การความเสย่ี งดา้ นอทุ กภัยอยา่ งบูรณาการ 27

บทท่ี 1 จะสังเกต บันทึก วิจัย วิเคราะห์ ใช้รูปแบบในการพยากรณ์และจัดทำ�แผนที่ภัยที่เกิดจากธรรมชาติ ตลอดจนพฒั นาเคร่อื งมอื และให้ความรทู้ ีม่ คี วามส�ำ คญั ไดแ้ ก่ ข้อมูลสถติ เิ กย่ี วกับภยั ทเ่ี กดิ ขึ้น ความ เสยี หายจากภยั แผนทเี่ ส่ียงภยั และตวั ชวี้ ัดความเสยี่ ง ทส่ี �ำ คญั ที่สุด ประเทศตา่ ง ๆ จำ�เป็นต้อง ใช้องค์ความรู้ในการพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้าให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมต่อสถานการณ์ ของประชาชนที่มีความเสี่ยง การเตือนภัยล่วงหนา้ เป็นทย่ี อมรับอยา่ งกว้างขวางวา่ เปน็ องคป์ ระกอบ ที่สำ�คญั ของการลดความเส่ยี งจากภยั เพราะการปกป้องชวี ติ ของคนหลายพนั คนจะทำ�ได้ก็ต่อเม่ือ มีระบบการเตอื นภัยลว่ งหนา้ ทมี่ ีประสทิ ธิภาพท่ีใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั ภัยท่จี ะมีผลเสียหายตอ่ ประชาชน และมีแผนปฏิบตั ิการท่พี ร้อมจะด�ำ เนนิ การไดท้ นั ที ค. การสร้างความรู้ ความเข้าใจและจิตสำ�นึก การใชค้ วามรู้ ความคดิ การประดษิ ฐส์ ่ิงใหม่ ๆ และการ ศกึ ษาเพอ่ื ชว่ ยสร้างวฒั นธรรมความปลอดภัยและความพร้อมเผชญิ ภยั ในทกุ ระดับ ผลกระทบจากภัยพิบัติสามารถลดลงได้อย่างมากหากประชาชนได้รับการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับวิธี ปฎิบตั ิเพ่อื ลดความเสียหาย และไดร้ ับแรงจงู ใจให้ปฏบิ ัตติ ามกจิ กรรมสำ�คัญที่จะเพมิ่ จติ สำ�นกึ ในการ ปอ้ งกนั ภยั พบิ ตั ิ ตัวอยา่ งเชน่ 1. การจัดใหม้ ขี ้อมูลทีเ่ กยี่ วเนอ่ื งกบั ความเสี่ยงภยั และวิธกี ารปอ้ งกนั ภยั โดยเฉพาะอย่างยงิ่ สำ�หรบั ประชากรในพน้ื ทีเ่ สยี่ งภยั สงู 2. การเสรมิ สรา้ งเครอื ขา่ ย การหารอื และการรว่ มมอื ระหวา่ งผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นภยั พบิ ตั ิ ดา้ นเทคนคิ และวชิ าการ นกั วางแผน และผเู้ กย่ี วขอ้ งอน่ื ๆ 3. การบรรจเุ รื่องราวการลดภยั พิบัตใิ นกิจกรรมตา่ ง ๆ ทั้งทเ่ี ปน็ ทางการ ไม่เปน็ ทางการ และ การศกึ ษานอกโรงเรยี น รวมทั้งการฝึกอบรมตา่ ง ๆ 4. การพฒั นาและสง่ เสริมโครงการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงภัยในชุมชน 5. การทำ�งานกับสอ่ื ในกิจกรรมสร้างจิตส�ำ นกึ ในการลดความเสย่ี งภยั ง. การลดปัจจัยท่ที �ำ ให้เกดิ ความเสีย่ ง ความเสยี หายทีไ่ ดร้ บั จากภัยธรรมชาตจิ ะเพิม่ ขึ้นได้ในหลายกรณี เช่น 1. การตัง้ บา้ นเรอื นชุมชนในพ้นื ท่เี ส่ยี งภยั เชน่ ภยั นำ�้ ทว่ ม 2. การตดั ไม้และท�ำ ลายพ้ืนท่ีชุม่ น้ำ�ทลี่ ดความสามารถของสิง่ แวดลอ้ มที่รองรบั ภัย 3. การก่อสรา้ งอาคารสถานทแี่ ละบ้านเรือนท่ีไม่สามารถทนทานตอ่ ภยั ได้ 4. การไม่มคี วามปลอดภยั ทางดา้ นสังคมและการเงนิ เพยี งพอท่ีจะรองรบั ความปลอดภัย ประเทศตา่ ง ๆ สามารถสร้างความพรอ้ มเผชญิ ภัยโดยการจดั ใหม้ วี ิธปี ฏิบตั งิ า่ ย ๆ ในการลดความ เสีย่ งและความเสยี หาย เช่น การก่อสร้างทไี่ ด้มาตรฐานเพอื่ ปอ้ งกันโครงสรา้ งส�ำ คัญ ไดแ้ ก่ โรงเรียน โรงพยาบาล และบ้านเรอื น หรือการปรับปรงุ อาคารท่มี ีความเปราะบางใหม้ ีความปลอดภัยสงู ข้ึน 28 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจัดการความเสยี่ งด้านอุทกภยั อยา่ งบรู ณาการ

หรอื แมแ้ ตก่ ารป้องกนั ระบบนเิ วศ ได้แก่ ปะการังและป่าชายเลน จะชว่ ยใหร้ ะบบนิเวศเหล่านีช้ ่วย บท ่ีท 1 ป้องกันคลนื่ ลมตามธรรมชาติ รวมท้งั การประกนั ภัยและแหลง่ เงนิ ทุนขนาดเล็ก จะสามารถชว่ ยให้มี ทรัพยากรเพิ่มข้นึ และลดความเสี่ยงได้เช่นกนั จ. เสริมสร้างศักยภาพในการเตรียมความพร้อมเพื่อการเผชิญภัยอย่างมีประสิทธิภาพในทุกระดับ การเตรียมความพร้อมด้วยการประเมินความเสี่ยงก่อนการพัฒนาในทุกระดับของสังคมจะช่วยให้ ประชาชนมคี วามสามารถทจ่ี ะเผชญิ ภยั ธรรมชาตไิ ดด้ ขี น้ึ การเตรยี มความพรอ้ มเกย่ี วขอ้ งกบั กิจกรรม ตา่ งๆ ดังนี้ 1. การพฒั นาและการทดสอบแผนสำ�รอง 2. การจัดตง้ั กองทนุ ฉกุ เฉนิ เพือ่ สนบั สนนุ กิจกรรมการเตรียมพรอ้ มเผชญิ ภัยและการฟ้นื ฟู 3. การพฒั นาแนวทางการประสานงานในภมู ภิ าค เพื่อการเผชิญภยั ทมี่ ีประสิทธภิ าพ และ 4. การหารือระหว่างหนว่ ยงานเผชญิ ภยั นักวางแผน และผู้กำ�หนดนโยบาย รวมท้งั องคก์ รเพอ่ื การพัฒนา การฝึกซ้อมเพ่อื เตรียมพรอ้ มเปน็ ประจ�ำ รวมทงั้ การฝกึ แผนอพยพจะเป็นกุญแจสำ�คญั ในการรองรบั การเผชิญภัยทรี่ วดเร็วและมปี ระสทิ ธิภาพ แผนการเตรียมพรอ้ มและองคก์ รทม่ี ีประสิทธิภาพจะชว่ ย ใหส้ ามารถจดั การกบั ภัยพบิ ตั ขิ นาดเลก็ และขนาดกลางท่ีเกดิ ข้นึ บอ่ ยครง้ั ในหลายชุมชนได้ ทัง้ นี้ แม้ เราจะไม่สามารถป้องกนั ภยั ธรรมชาติได้ แต่เราสามารถลดผลกระทบโดยบรรเทาความเสียหายทีจ่ ะ เกดิ ข้ึนต่อชีวิตและความเปน็ อยขู่ องประชาชนได้ 5. แนวคิดการจัดการภัยพบิ ัติในระดับชุมชน เนอ่ื งจากชุมชนเปน็ ดา่ นแรกทจ่ี ะต้องเผชิญกบั ผลกระทบของภัยพิบตั ิ ไม่วา่ จะเปน็ ผลกระทบตอ่ ความ ปลอดภัยในชีวิตและทรพั ยส์ นิ ตลอดจนผลกระทบตอ่ การประกอบอาชีพ ด้วยเหตุนี้ ตราบใดท่ไี มอ่ าจ โยกย้ายชมุ ชนออกจากพืน้ ท่เี สย่ี งภยั ไดไ้ ม่วา่ จะเป็นเพราะปจั จยั ทางเศรษฐกจิ ทางสังคม ความรกั ถ่ินฐาน หรือการเปน็ แหล่งท�ำ มาหากิน ประชาชนจะดำ�รงชีวติ อยู่ในภาวะเส่ยี งท้งั ๆ ทร่ี วู้ ่าพนื้ ทีน่ ้ันเปน็ พื้นท่ีเส่ยี งภยั ดังนน้ั จึงไดม้ ีการนำ�แนวคิดในการจัดการความเสีย่ งจากภัยพิบตั ิโดยอาศัยชมุ ชนเป็นฐาน หรอื Community-Based Disaster Risk Management (CBDRM) มาใช้ตัง้ แตท่ ศวรรษ 1980 (ประ มาณปี พ.ศ. 2532-2533) ทงั้ น้ี มีหลักการมุ่งเน้นในการลดความเส่ยี งภัยดว้ ยการลดผลกระทบและ ความลอ่ แหลมเปราะบาง ตลอดจน การดำ�เนนิ การสร้างความสามารถในการป้องกนั และรับมอื ภัยพิบตั ิ ทสี่ ามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ในชมุ ชนเป็นสำ�คัญ นอกจากนี้ เน่อื งด้วยแต่ละชุมชนต่างประสบปญั หาภยั พบิ ัตใิ น ลักษณะที่แตกตา่ งกัน ดงั น้นั ชมุ ชนจึงมบี ทบาทสำ�คญั ในการจัดการภัยพิบตั ดิ ้วยตัวเองตามลกั ษณะทาง สงั คมท้องถิน่ และวิถที างวัฒนธรรมของตน เพอ่ื ให้เกดิ การสือ่ สารองค์ความรูด้ ้านการจดั การภยั พบิ ตั ิได้ เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สูตรการบริหารจดั การความเสี่ยงด้านอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ 29

ถูกตอ้ งและเข้าใจทว่ั ถงึ บทท่ี 1 การจัดการภัยพิบัติในระดับชุมชนในยุคปัจจุบัน เป็นการส่งเสริมให้ชุมชน/หมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ภัยมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และตระหนักถึงความสำ�คัญของการมีส่วนร่วม (Community Participation) ในการบริหารจัดการสาธารณภัยของชุมชน โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบใน ทุกขั้นตอนของกระบวนการในการวางแผน ตัดสินใจ กำ�หนดแนวทางแก้ปัญหาและบริหารจัดการ ภัย โดยใช้ทรัพยากรและบุคลากรในชุมชน วิธีการนี้เน้นชุมชนเป็นศูนย์กลางในการดำ�เนินการคิด เพื่อระบุปัญหา หาทางป้องกัน แก้ไข บรรเทา และฟื้นฟูความเสี่ยงจากภัยพิบัติ โดยมีจุดมุ่งหมาย 2 ประการ คือ ลดความเสี่ยงภัยของชุมชน และเพิ่มขีดความสามารถให้คนในชุมชนจัดการกับภัยได้ ด้วยตัวเองก่อนที่หน่วยงานภายนอกจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยสรุป ปจั จบุ ันแนวคิดการจดั การภยั พบิ ตั สิ �ำ หรบั ชุมชนมีการเปลีย่ นแปลงไปจากแนวคดิ เดิม ดังท่ี แสดงในตารางท่ี 1.2.1 ตารางท่ี 1.2.1 การเปล่ียนแปลงแนวคิดการจดั การภัยพบิ ตั ิระดบั ชุมชน แนวคดิ เดมิ แนวคิดใหม่ • ผูป้ ระสบภัยตอ้ งมคี นชว่ ยเหลอื • เจ้าของปัญหาแกป้ ญั หาตนเอง • การชว่ ยเหลือคอื หนา้ ที่ของหน่วยงาน • กระจายความรับผิดชอบไปยังองค์กรปกครอง • อำ�นาจในการสงั่ การอยู่ทหี่ นว่ ยงาน ส่วนท้องถิ่นและชุมชน • การจดั การตอ้ งรวมศนู ย์ • ชุมชนจะต้องทำ�งานเป็นองค์กรเชื่อมโยงเป็น • เครื่องมือในการเผชิญเหตุอยู่ที่หน่วยงาน เครือข่าย เพื่อประสานการบริหารจัดการ ภาครัฐ • เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารที่ทันท่วงทีและ • ประชาชนเปน็ ผู้รอรับความชว่ ยเหลือ ถูกต้องในการเผชิญเหตุ เพื่อให้สามารถช่วย คนจำ�นวนมากได้ 30 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจดั การความเสย่ี งด้านอทุ กภัยอยา่ งบรู ณาการ

ขนั้ ตอนสำ�คัญในจดั กระบวนการ CBDRM แสดงใหเ้ หน็ ในตารางที่ 1.2.2 ตารางท่ี 1.2.2 กระบวนการเตรียมความพรอ้ มชมุ ชน บท ่ีท 1 ข้ันตอนส�ำ คญั ในจัดกระบวนการ CBDRM ขอ้ มลู ทีต่ อ้ งใช้ในแตล่ ะขั้นตอน ขน้ั ท่ี 1 การเลอื กชมุ ชนและพน้ื ท่ดี �ำ เนนิ การ ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัยที่มีเกณฑ์กำ�หนดความเสี่ยง ภัยที่ชัดเจนจากภาครัฐ เชน่ ควรจะเป็นพืน้ ทที่ ม่ี ี ความเสยี่ งสูง มีจานวนผู้ไดร้ บั ผลกระทบจากการ เกิดภัยพบิ ตั ธิ รรมชาติสงู ขน้ั ท่ี 2 สรา้ งความเชอ่ื มน่ั ความไวว้ างใจระหวา่ ง ขอ้ มลู เฉพาะของชมุ ชน และการสรา้ งความสมั พนั ธ์ ชมุ ชนและผจู้ ดั กระบวนการ CBDRM เพื่อเตรียมความพร้อมให้ชุมชนได้เข้าใจความ เสี่ยงภยั และยอมรับกระบวนการ CBDRM ข้อมูลเบ้อื งต้นท้งั เชิงปริมาณและคุณภาพเก่ยี วกับ การประเมินความเส่ียงจากภัยพิบัติ ภยั ความลอ่ แหลมเปราะบาง และความสามารถ ขัน้ ที่ 3 ธรรมชาติโดยการมีส่วนร่วมของชมุ ชน ของชมุ ชน รวมทง้ั การรบั รขู้ องชมุ ชนเกย่ี วกบั ความ เสย่ี ง ขน้ั ที่ 4 อำ�นวยการให้ชุมชนจัดทำ�แผนจัดการ การพูดคุยหารือกับชุมชนเพื่อกำ�หนดมาตรการท่ี ความเสี่ยงภัยพิบัติ จ�ำ เป็น ต้ังคณะกรรมการป้องกันภัยพิบัติใน ชุมชนและกำ�หนดหัวข้อการฝึกอบรม คัดเลือกคณะกรรมการป้องกันภัยพิบัติหมู่บ้านซ่ึง ข้นั ท่ี 5 ให้ความรู้และเพ่ิมทักษะในการนำ� เข้ามามีส่วนร่วมด้วยความสมัครใจและระบุการ แผนจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติไป ฝกึ อบรมเพิม่ เติมสำ�หรับคณะกรรมการ ปฏิบตั ิ ดำ�เนินกิจกรรมตามที่ได้ระบุไว้ในแผน ข้อมูลกิจกรรมในความความรับผิดชอบของคณะ ขนั้ ท่ี 6 ตามระยะเวลาทกี่ �ำ หนด โดยใหช้ มุ ชน กรรมการแตล่ ะฝา่ ย และการทบทวนแผนตามระยะ มสี ่วนร่วมอย่างจริงจัง เวลาทก่ี �ำ หนด จดั ท�ำ ตวั ชว้ี ดั โครงการ มาตรการตดิ ตาม ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพเกี่ยวกับ ข้ันท่ี 7 และประเมนิ ผล โดยใหช้ มุ ชนมสี ว่ นรว่ ม ผลกระทบที่ได้จากกระบวนการ CBDRM และ ในกระบวนการ การหารือกับผู้เกี่ยวข้อง เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจัดการความเสีย่ งด้านอทุ กภยั อย่างบูรณาการ 31

บทท่ี 1 เอกสารอ้างอิง David Levinson and Melvin Ember (eds.) (1996). Encyclopedia of Cultural Anthropology, Volume 4. New York : Henry Holt & Co. UNISDR (United Nations Office for Disaster Risk Reduction) (2005). Hyogo Frame- work for Action 2005-2015: Building the Resilience of Nations and Commu- nities to Disasters บรรณานุกรม ADPC (Asian Disaster Preparedness Center) (2012). 42nd Regional Training Course on Disaster Management, November 2012. 32 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสตู รการบริหารจัดการความเส่ียงด้านอุทกภยั อย่างบูรณาการ

จดบันทึก บท ่ีท 1 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบรหิ ารจัดการความเส่ียงด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ 33

บทท่ี 1 ทีม่ า: ดร.ชสู ิทธิ์ อภริ มั ณกี ุล, พ.ศ. 2554 34 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจัดการความเส่ยี งด้านอทุ กภยั อยา่ งบูรณาการ