Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 30 ปี ประกันสังคม

30 ปี ประกันสังคม

Description: 30 ปี ประกันสังคม

Search

Read the Text Version

การคว่�ำกฎหมายฉบับนี้เป็นชนวนของความขัดแย้งทางการเมืองท่ี ไปไกลถึงข้ันท�ำให้เกิดกระแสข่าวว่า พล.อ. ชาติชาย จะลาออกจากต�ำแหน่ง นายกรัฐมนตรี 23 สภาพการเมืองเต็มไปด้วยการแบ่งฝักฝ่ายระหว่างรัฐบาลกับ ฝ่ายกองทัพท่ีคว่�ำกฎหมายฉบับน้ีด้วยเหตุผลต่าง ๆ ถึงขั้นที่มีการใช้สื่อของ กองทัพเป็นกระบอกเสียงในการโจมตีกฎหมายฉบับน้ีโดยตรง ดังปรากฏว่า พล.อ. วิชติ บณุ ยะวฒั น์ วฒุ ิสมาชิกสายทหารอ้างวา่ กฎหมายประกนั สังคมนั้น “เมอื่ ออกไปแล้ว ไมส่ ามารถปฏบิ ัตไิ ดจ้ ริง” 24 รายการสยามมานสุ ตวิ นั ที่ 11 กรกฎาคม มกี ารกระจายเสยี งในรายการ ผา่ นเครอื ขา่ ยสถานวี ทิ ยขุ องกองทพั โดยมเี นอ้ื หาปกปอ้ งวฒุ สิ มาชกิ กลมุ่ ทลี่ งมติ ไมร่ บั รองกฎหมายประกนั สังคม ความว่า “วุฒิสมาชิกท�ำหน้าที่เป็นมโนธรรม คอยช่วยท้วงติงดุลยพินิจของ สภาผู้แทนราษฎร... ถ้ากฎหมายประกันสังคมมีข้อบกพร่องหรือผิดพลาด ก็ไม่ยอมปล่อยปละละเลยออกไป ต้องการความมั่นใจว่า กฎหมายจะเป็น ประโยชนแ์ กค่ นยากจนหรือผ้มู ีรายได้น้อยอยา่ งแทจ้ รงิ ” นา่ สนใจวา่ การคว�ำ่ กฎหมายและขอ้ โจมตีของฝา่ ยกองทัพถกู ตอบโต้ โดยฝ่ายรัฐบาล และนักการเมืองท่ีมาจากการเลือกตั้งแทบท้ังหมด ตัวอย่าง เชน่ นายสวุ ทิ ย์ ยอดมณี โฆษกประจ�ำสำ� นกั นายกรฐั มนตรใี นเวลานน้ั เปดิ เผยวา่ “นายกรฐั มนตรีเสียใจท่รี ่าง พ.ร.บ.ไมผ่ า่ นวุฒสิ ภา” 25 สว่ นนายสมัคร สนุ ทรเวช หวั หนา้ พรรคประชากรไทย และคณุ หญิงสพุ ตั รา มาศดติ ถ์ พรรคประชาธปิ ตั ย์ มีความเห็นคล้ายคลึงกันว่า ทุกฝ่ายร่วมผลักดันกฎหมายฉบับนี้มากว่า 36 ปี แมจ้ ะมีขอ้ บกพรอ่ งบา้ งกค็ วรออกมา 26 23 มติชน, 8 กรกฎาคม 2533. 24 มติชน, 9 กรกฎาคม 2533. 25 มติชน, 8 กรกฎาคม 2533. 26 มตชิ น, 9 กรกฎาคม 2533. 101

ความขัดแยง้ ทางการเมืองทีข่ ยายตวั อยา่ งกว้างขวางนี้ ท�ำให้การผลัก ดนั กฎหมายประกนั สงั คมกลายเปน็ สว่ นหนง่ึ ของการตอ่ สทู้ างการเมอื ง ระหวา่ ง รฐั บาลที่มาจากการเลือกต้งั กบั เครอื ข่ายอำ� นาจกองทพั โดยไมอ่ าจหลกี เล่ยี งได้ ในแงน่ แี้ ลว้ ความเคลอื่ นไหวของฝา่ ยสหพนั ธน์ สิ ติ นกั ศกึ ษาฯ จงึ สำ� คญั เพราะเปน็ การตอกยำ้� ใหค้ นในสงั คมเหน็ ภาพพลงั การเมอื งฝา่ ยตา่ ง ๆ ทอี่ ยเู่ บอ้ื ง หลงั การคว�่ำกฎหมายฉบบั น้ไี ดอ้ ยา่ งดี ความไม่พอใจที่คนหลายฝ่ายมีต่อการคว�่ำกฎหมาย ส่งผลให้รัฐบาล ตอบโต้กองทัพด้วยการเสนอกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทน ราษฎรในวันที่ 11 กรกฎาคม 2533 ตามช่องทางท่ีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521 ระบุว่า ร่างกฎหมายที่ถูกปฏิเสธโดยวุฒิสภานั้นสามารถมีสภาพบังคับใช้ได้ หากได้การรับรองจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจ�ำนวนมากกว่าครึ่งหน่ึงของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรท้ังหมดที่มีอยู่ในเวลานั้น นั่นก็คือได้คะแนนเสียง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรไมต่ ำ่� กว่า 179 คน จากสมาชิกท้งั หมด 351 คน วันท่ี 11 กรกฎาคม ที่บริเวณท้องสนามหลวง ขณะท่ีผู้ใช้แรงงาน จากย่านอุตสาหกรรมต่าง ๆ จัดการชุมนุมเพื่อผลักดันกฎหมายประกันสังคม รว่ มกบั สหพนั ธน์ สิ ติ นกั ศกึ ษาแหง่ ประเทศไทย ทปี่ ระชมุ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ก็มีมติเห็นชอบพระราชบัญญัติประกันสังคมด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ การชุมนุมท่ีเกิดจากความร่วมมือระหว่างคนหลายฝ่ายจึงปิดฉากไปในท่ีสุด เหลือไว้แต่กฎหมายซ่ึงเป็นรากฐานของการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้ แรงงานและคนสว่ นใหญใ่ นสงั คมมาจนปจั จุบัน โดยภาพรวมแล้ว สหพันธ์นิสิตนักศึกษาฯ มีส่วนผลักดันกฎหมาย ประกนั สังคมอยา่ งเตม็ ที่ ในสถานการณ์ท่ีกฎหมายประกนั สังคมกลายเปน็ สว่ น หนง่ึ ของการต่อสทู้ างการเมอื ง ระหวา่ งฝา่ ยรัฐบาล-สภาผ้แู ทนราษฎร และฝ่าย กองทพั -วฒุ สิ ภา ความสำ� คญั ของนกั ศกึ ษาอยทู่ กี่ ารเปน็ พลงั หลกั แทบจะเปน็ พลงั เดยี วในการชใี้ หส้ าธารณะเหน็ ความเปน็ การเมอื งทอ่ี ยเู่ บอ้ื งหลงั การลม้ กฎหมาย 102

ฉบับนี้ แนวทางการเคลื่อนไหวนี้ จ�ำเป็นในสถานการณ์ซงึ่ ปราศจากพลังฝา่ ยท่ี สามารถยกระดับการต่อสู้เพื่อผลักดันกฎหมายประกันสังคม ให้เป็นส่วนหน่ึง ของการต่อสู้ทางการเมืองเพ่ือประชาธิปไตยในระดับมหภาค หรือพูดอีกอย่าง คือนักศึกษาส�ำคัญเพราะท�ำให้การเรียกร้องกฎหมายประกันสังคมเป็นเร่ือง เดียวกันกับการตอ่ ตา้ นอำ� นาจทหาร และอิทธิพลของระบอบอ�ำมาตยาธปิ ไตย ในแงน่ แี้ ลว้ การมสี ว่ นรว่ มของนกั ศกึ ษาในการผลกั ดนั กฎหมายประกนั สังคม จงึ เปน็ สว่ นหน่งึ ของ “วาระทางการเมือง” ท่สี ำ� คัญของฝา่ ยนกั ศกึ ษาใน ขณะนนั้ นนั่ กค็ อื การตอ่ ตา้ นอำ� นาจนอกระบบของกองทพั และขา้ ราชการประจำ� รวมทง้ั การขยายอำ� นาจประชาธปิ ไตยของพรรคการเมอื งและสภาผแู้ ทนราษฎร ควรสงั เกตดว้ ยวา่ การมสี ่วนรว่ มของสหพันธน์ สิ ิตนักศกึ ษาฯ ในการ ผลกั ดันกฎหมายประกันสงั คม ดำ� เนนิ ไปโดยนักศึกษาจำ� นวนไม่มากนกั กลา่ ว คือ นอกเหนอื จากนกั ศึกษาจากกล่มุ อสิ ระตา่ ง ๆ ทส่ี นใจปัญหาผใู้ ช้แรงงานเป็น ทุนเดิมแล้ว ก็ถือได้ว่ามีนักศึกษาร่วมเคลื่อนไหวผลักดันกฎหมายน้ีเพียงหยิบ มือเดียว ปัจจัยด้านจ�ำนวนท�ำให้การมีส่วนร่วมของนักศึกษาไม่มีนัยต่อการ ชุมนุมประท้วง และชัยชนะในการเคลื่อนไหวของผู้ใช้แรงงานต่อไป นั่นหมาย ความว่าจ�ำนวนนักศึกษาที่ร่วมเคลื่อนไหวไม่ใช่เร่ืองส�ำคัญอีกต่อไป เพราะ บทบาทของนกั ศกึ ษาไดก้ ลายเปน็ เรอ่ื งของการใชน้ กั ศกึ ษาจำ� นวนนอ้ ยไปรณรงค์ เคลอื่ นไหวเพอื่ สรา้ ง “ความเขา้ ใจสาธารณะ” เพอื่ อาศยั ความเขา้ ใจนน้ั เปน็ พลงั ในการผลกั ดันกฎหมายท่ีเปน็ ประโยชนก์ ับคนสว่ นใหญใ่ นบัน้ ปลาย ข้อดีของการมีส่วนร่วมผลักดันกฎหมายประกันสังคม พ.ศ. 2533 คือการรื้อฟื้นความร่วมมือระหว่างคนงานกับนักศึกษา กล่าวอีกนัยหน่ึง การ เคลอื่ นไหวประกนั สงั คมเปน็ จดุ เรมิ่ ตน้ ของความไวเ้ นอ้ื เชอ่ื ใจระดบั “ขบวนการ” ของฝา่ ยทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การผลกั ดนั กฎหมายนท้ี ง้ั หมด สายสมั พนั ธน์ เี้ ปน็ รากฐาน 103

ของความสมานฉนั ทข์ องนกั ศกึ ษาและผใู้ ชแ้ รงงาน ในการรณรงคป์ ญั หาแรงงาน และการตอ่ สทู้ างการเมอื งหลงั จากนน้ั โดยเฉพาะการเคลอื่ นไหวคดั คา้ นการแยก สหภาพแรงงานรฐั วสิ าหกจิ ออกจากกฎหมายแรงงานสมั พนั ธ์ รวมทงั้ การคดั คา้ น รฐั ธรรมนญู ฉบับท่เี กิดจากการรฐั ประหารโดย รสช. พ.ศ. 2534 ถงึ แม้ทง้ั หมดนี้ จะเป็นปรากฏการณ์ท่ีด�ำรงอย่ชู ว่ั ครู่ กล่าวได้ว่า บทบาทของสหพันธ์นิสิตนักศึกษาฯ ต่อการผลักดัน กฎหมายประกนั สงั คม เป็นสัญลักษณส์ �ำคัญของแนวทางการใช้คนจำ� นวนนอ้ ย ไปรณรงค์ และท�ำงานผ่านส่ือมวลชนเพื่อช้ีน�ำประเด็นสาธารณะ “ขบวนการ นักศึกษา” ในทศวรรษ 2530 ไมใ่ ชข่ บวนการมวลชน และไม่ใช่แมก้ ระทัง่ กลุ่ม กดดนั ท่มี นี สิ ิตนกั ศกึ ษาเป็นสมาชิกท่แี นน่ อนจ�ำนวนหนึ่ง จงึ ไมม่ ีหลกั ประกันวา่ กจิ กรรมนกั ศกึ ษาแนวทางนม้ี ศี กั ยภาพสรา้ งจติ ส�ำนกึ ดา้ นกวา้ งของนกั ศกึ ษา ไมม่ ี หลกั ประกนั วา่ กจิ กรรมนกั ศกึ ษาสามารถสรา้ งผนู้ �ำความคดิ แหง่ ยคุ สมยั รวมทงั้ ไมม่ ีหลักประกันว่าจะสรา้ งนกั ปฏิบัติการทม่ี ีศกั ยภาพเปลยี่ นแปลงสงั คม ธรรมชาตขิ องกจิ กรรมประเภทนี้ รวมศนู ยท์ ก่ี ารสรา้ งผแู้ ทนนกั ศกึ ษาท่ี มคี วามชำ� นาญในการแถลงขา่ ว ยน่ื จดหมาย จดั กจิ กรรมภาพเปน็ ขา่ ว แลว้ อาศยั กลไกสื่อสารมวลชนไปผลักดันประเด็นสาธารณะบางอย่าง “ผู้น�ำนักศึกษา” รุ่นทศวรรษ 2530-2540 จึงไม่มีลักษณะผู้น�ำความคิดหรือนักปฏิบัติเพ่ือ เปลีย่ นแปลงสงั คม แต่มีจุดแขง็ ในด้านการเปน็ นักรณรงค์การเมือง  104

บทสรุป การมีส่วนร่วมของนักศึกษาในการผลักดันกฎหมายประกันสังคม เกิดขึ้นโดยเงื่อนไขสองข้อ เงื่อนไขประการแรกคือ การด�ำรงอยู่ของกลุ่ม นกั ศกึ ษาอสิ ระทส่ี นใจปญั หาผใู้ ชแ้ รงงานเปน็ เวลานาน เงอื่ นไขประการทส่ี อง คอื การดำ� รงอยขู่ องสหพนั ธน์ สิ ติ นกั ศกึ ษาแหง่ ประเทศไทย (สนนท.) ในฐานะ องค์กรต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของฝ่ายนักศึกษา นักศึกษากลุ่มแรกส�ำคัญใน ฐานะตวั เชอ่ื มใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื ระหวา่ งผใู้ ชแ้ รงงาน องคก์ รพฒั นาเอกชน และ นกั ศกึ ษาทว่ั ไป ขณะทนี่ กั ศกึ ษากลมุ่ หลงั ส�ำคญั ในแงท่ ำ� ใหก้ ารผลกั ดนั กฎหมาย ประกันสงั คมเป็นสว่ นหนึ่งของการต่อสเู้ พือ่ ประชาธปิ ไตยรัฐสภาในเวลานัน้ การต่อสู้อย่างอิสระและไม่ท้อถอยของผู้ใช้แรงงานเป็นเหตุผลส�ำคัญ ในการได้มาซ่ึงกฎหมายประกันสังคม แต่การสนับสนุนจากกลุ่มพลังอ่ืนก็มี ความส�ำคัญไม่น้อย ในกรณีกฎหมายประกันสังคมนั้น ความสัมพันธ์ระหว่าง คนงาน องค์กรพัฒนาเอกชน และนิสติ นักศกึ ษา เป็นแรงผลกั ดันอกี ขอ้ ที่ปฏเิ สธ ไมไ่ ด้วา่ เก่ยี วข้องโดยตรงต่อกระบวนการผลักดันกฎหมายฉบับน้ี พลังนักศึกษานั้นอ่อนแอด้านการจัดต้ังจนปราศจากพลังทางจ�ำนวน จึงไม่มีทางเป็นแรงสนับสนุนขั้นชี้ขาดให้คนงานได้ในการต่อสู้ในโรงงานหรือ การชมุ นมุ บนทอ้ งถนน ความสำ� คญั ของนกั ศกึ ษาไมไ่ ดข้ นึ้ อยกู่ บั ปรมิ าณนกั ศกึ ษา ท่ีเข้าร่วมกิจกรรมหรือเคล่ือนไหวในกรณีต่าง ๆ แต่นักศึกษาส�ำคัญเพราะ นักศึกษาเป็นพลังกลุ่มหน่ึงที่มีศักยภาพจะยกระดับข้อเรียกร้องของคนงานให้ เป็นส่วนหน่ึงของญัตติสาธารณะ หรือพูดอีกอย่างคือส�ำคัญเพราะนักศึกษา สามารถท�ำให้ประเด็นคนงานไม่ได้จ�ำกัดแต่ในโรงงาน แต่เป็นประเด็นทางการ เมอื งของสงั คม 105

ในแง่ยุทธศาสตร์แล้ว บทเรียนจากการผลักดันกฎหมายประกัน สังคมแสดงให้เห็นว่า ความร่วมมือระหว่างคนงานกับคนกลุ่มอ่ืนในสังคมเป็น เร่ืองใหญ่ เพราะกลไกแบบน้ีทำ� หน้าที่สร้างความรู้สึกร่วมแก่คนในสังคมว่า การต่อสขู้ องคนงานคอื การตอ่ สเู้ พอื่ คนในสงั คมทง้ั หมด จงึ จำ� เป็นตอ้ งมีการ สรา้ งเครอื ขา่ ย หรอื กลไกเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื ลกั ษณะน้ี แตค่ วามรว่ มมอื นี้ ต้องด�ำเนินไปในทิศทางที่มีวาระหรือความต้องการของคนงานเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่ ใหพ้ ลงั กลมุ่ อนื่ ครอบงำ� คนงาน แลว้ อาศยั พลงั คนงานไปเปน็ แคม่ วลชนสนบั สนนุ การตอ่ สทู้ างการเมืองของฝา่ ยตนเอง ปัญหาข้อเดียวของยุทธศาสตร์น้ี คือ ไม่มีใครให้หลักประกันได้ว่า นิสติ นักศกึ ษาจะสนใจปัญหาผ้ใู ช้แรงงานอย่างตอ่ เนอ่ื ง ยิ่งเมอ่ื ค�ำนงึ ถึงปัจจยั ทางชนชั้น ก็จะยิ่งเห็นว่าแทบเป็นเร่ืองเหลวไหลที่จะคาดหวังให้ปัญญาชน เหลยี วมองคนในสงั กดั วรรณะทเ่ี ปน็ อน่ื ดว้ ยสายตาแบบน้ี หนทางเดยี วทจ่ี ะทำ� ให้ เรอ่ื งนเี้ ปน็ ไปได้ จงึ ขน้ึ อยกู่ บั ฝา่ ยคนงานเองทจ่ี ะรกั ษาขบวนการแรงงานใหอ้ ยู่ ในสถานภาพทพี่ ลงั ฝา่ ยอน่ื จะยอมรบั ไดม้ ากทส่ี ดุ นน่ั กค็ อื การธ�ำรงสถานภาพ ของขบวนการแรงงานในฐานะทเี่ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของการตอ่ สเู้ พอื่ ประชาธปิ ไตย เสรีภาพ และสิทธิมนุษยชนของคนทัง้ หมดในสงั คม • บทสรุป บทสรปุ น้ี สังเคราะหจ์ ากบทเรยี นในการเคล่อื นไหวผลักดันกฎหมาย ประกันสังคมในอดีตเพ่ือเป็นแนวทางส�ำหรับการพิจารณาเพ่ือผลักดันนโยบาย สาธารณะจากภาคประชาชนในปจั จบุ นั โดยขอน�ำเสนอบทสงั เคราะหจ์ ากเนอ้ื หา ในบทตา่ ง ๆ ทีผ่ ่านมา ดังน้ี 1. ฐานคดิ ของกลุ่มทีเ่ ก่ยี วข้องกบั การผลักดนั กฎหมายประกนั สังคม กฎหมายประกนั สงั คมถกู ผลกั ดนั จากฝา่ ยประชาชน มอี งคก์ รเกย่ี วขอ้ ง หลายองคก์ ร โดยมขี บวนการแรงงานเปน็ แกนกลางของความเคลอื่ นไหวทงั้ หมด 106

นภาพร อตวิ านชิ ยพงศ์ (2547) สรปุ ว่า ใน พ.ศ. 2533 ขบวนการแรงงานภายใต้ การนำ� ของกลมุ่ สหภาพแรงงานในเขตยา่ นอตุ สาหกรรม กลมุ่ รฐั วสิ าหกจิ สมั พนั ธ์ รวมท้ังกลุ่มสหพันธ์แรงงานในกิจการต่าง ๆ ได้สร้างความร่วมมือกับองค์กร พัฒนาเอกชนด้านแรงงาน และสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย จน สามารถผลักดันใหส้ ภาผู้แทนราษฎรลงมตริ ับรองพระราชบญั ญัติประกันสงั คม เม่ือวนั ที่ 11 กรกฎาคม 2533 ไดเ้ ปน็ ผลสำ� เร็จ กลุ่มผลักดันกฎหมายประกันสังคมมาจากชนชั้น กลุ่มผลประโยชน์ ทางสังคม และสถานะทางสังคมท่ีต่างกัน หากแต่เช่ือมโยงกันเพราะมีฐานคิด ที่คล้ายคลึงกันบางอย่าง นั่นคือ ความคิดเร่ืองความเป็นธรรมทางสังคม การ กระจายรายได้ และการปฏิรูปสังคม กระบวนการเรียกร้องกฎหมายจึงไม่ได้ เกิดจากความต้องการสวัสดิการเฉพาะส่วนของผู้ใช้แรงงาน แต่เกิดจากความ ร่วมมือของกลุ่มคนท่ีในเวลานั้น ไม่ได้ประโยชน์จากการคุ้มครองของกฎหมาย และเหน็ ว่ากฎหมายน้สี �ำคญั ตอ่ การสรา้ งความมน่ั คงในสงั คม การมสี ว่ นรว่ มผลกั ดนั กฎหมาย สมั พนั ธก์ บั โลกทศั นท์ างการเมอื งและ สงั คมดว้ ย กลา่ วคอื มนี กั ศกึ ษาจำ� นวนหนง่ึ รว่ มเคลอ่ื นไหวกรณนี กี้ บั ผใู้ ชแ้ รงงาน เพราะเช่ือว่าคนงานเป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงสังคม ขณะท่ีนักวิชาการ สนับสนุนการประกันสังคมเพราะเช่ือว่า วิธีนี้จะทำ� ให้แรงงานเอกชนสามารถ ท�ำงานได้โดยไม่ต้องกังวลเร่ืองการขาดรายได้ ในกรณีเจ็บป่วยหรือประสบ อบุ ตั เิ หตุ โดยเฉพาะนกั วชิ าการดา้ นแรงงานนน้ั มองวา่ แรงงานเปน็ ปจั จยั ส�ำคญั ตอ่ การพฒั นาประเทศ จงึ จ�ำเปน็ ตอ้ งมีสวสั ดกิ ารสังคม ความส�ำเร็จในการผลักดันกฎหมายประกันสังคม เป็นผลของ ความสามารถรวบรวมพลังสนับสนุนจากฝ่ายต่าง ๆ ท่ีมีลักษณะ ข้ามชนชั้น (non-class alliance) ประเด็นที่น่าสนใจก็คือโดยท่ัวไปของพลังแบบน้ี มักท�ำงานโดยอาศัยอภิวาทกรรมบางอย่าง ไปย่อยสลายความแตกต่างหลาก หลายของคนแต่ละกลุ่ม แต่ละฝ่าย ขณะท่ีกระบวนการผลักดันกฎหมาย 107

ประกันสังคมไม่มีลักษณะของการสร้างอุดมการณ์ครอบง�ำเช่นน้ี การมีส่วน รว่ มของคนหลายกลมุ่ จงึ แสดงใหเ้ หน็ พลงั ของความคดิ เรอ่ื งความเปน็ ธรรมและ ความยตุ ิธรรมทางสงั คม 2. พลวตั รของการเคลอื่ นไหวจากคนงานในโรงงานขนาดกลางและขนาดเลก็ โดยปกติแล้ว การต่อสู้ประเด็นแรงงานที่มีพลังในสังคมไทย มักขับ เคลอื่ นโดยแรงงานรัฐวิสาหกิจหรอื คนงานในโรงงานเอกชนขนาดใหญ่ แตก่ าร ต่อสู้เพือ่ ใหไ้ ดม้ าซ่งึ กฎหมายประกนั สังคมมีลักษณะแตกต่างไป เพราะเป็นการ ตอ่ สทู้ ม่ี กี ำ� ลงั หลกั จากคนงานในโรงงานเอกชนขนาดกลางและขนาดเลก็ เหตผุ ล คือ พนักงานรฐั วิสาหกจิ มีสวสั ดิการในการทำ� งานสูงใกล้เคียงกบั ขา้ ราชการ จงึ มีสภาพการด�ำรงชีวิตดีกว่าคนงานเอกชนในโรงงานขนาดกลาง และขนาดเล็ก อยา่ งมากมาย เพราะคนงานเหลา่ นมี้ กั ทำ� งานภายใตส้ ภาพการจา้ ง และสภาพ แวดลอ้ มในการทำ� งานทเ่ี ลวรา้ ย รวมทง้ั ไดร้ บั สวสั ดกิ ารตำ�่ กวา่ อตั ราทก่ี ฎหมาย แรงงานกำ� หนดไว้ ท�ำให้ไมม่ ีสิทธปิ ระโยชนอ์ ยา่ งท่คี นงานพงึ มีพงึ ได้ ไมว่ ่าจะ เปน็ การคมุ้ ครองความเจบ็ ปว่ ยนอกงาน การคลอดบตุ ร หรอื การประกนั ชราภาพ เป็นต้น ระดับสวัสดิการท่ีพนักงานรัฐวิสาหกิจได้จากหน่วยงานต้นสังกัด ส่งผลให้สหภาพแรงงาน รัฐวิสาหกิจในฐานะองค์กรแรงงาน ปราศจากแรง จูงใจในการเข้าร่วมผลักดันกฎหมายประกันสังคม ย่ิงไปกว่าน้ัน ความกังวล ว่ารัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายประกันสังคมกับพนักงานรัฐวิสาหกิจ ยังท�ำให้ สหภาพแรงงานรฐั วสิ าหกจิ มที า่ ทไี มเ่ หน็ ดว้ ยกบั การออกกฎหมายฉบบั นี้ เพราะ เกรงว่าจะท�ำให้พนักงานรัฐวิสาหกิจได้รับสวัสดิการ ความคุ้มครอง และสิทธิ ประโยชนใ์ นอตั ราท่นี อ้ ยกวา่ เดิม กล่าวได้ว่า สภาพการจ้างงานและการไม่มีสวัสดิการของคนงานใน โรงงานเอกชนขนาดกลางและเลก็ เปน็ ปจั จยั หลกั ทท่ี ำ� ใหค้ นงานกลมุ่ นตี้ ระหนกั ถึงความส�ำคัญในการผลักดันกฎหมายประกันสังคม จึงไม่น่าแปลกใจที่ก�ำลัง 108

หลกั ในการตอ่ สเู้ พอื่ การประกนั สงั คมยกสดุ ทา้ ย จะมาจากกลมุ่ สหภาพแรงงาน ในระดบั เขตยา่ นอตุ สาหกรรมตา่ ง ๆ อนั เปน็ เครอื ขา่ ยของสหภาพแรงงานระดบั พื้นฐานท่ีสุดของคนงานในภาคอตุ สาหกรรมไทย ควรระบุด้วยว่า ความทุกข์ในชีวิตประจ�ำวันจากการเป็นคนงานใน โรงงานทป่ี ราศจากสวสั ดกิ ารแทบทกุ ดา้ น สง่ ผลใหแ้ นวทางการตอ่ สเู้ พอื่ กฎหมาย ฉบับนเี้ ดนิ ไปสทู่ ิศทางท่จี รงิ จังกว่าอดตี ซึ่งสว่ นใหญม่ ักจำ� กดั แนวการต่อสู้ไว้ แตใ่ นรูปแบบการย่ืนหนงั สือ แถลงขา่ ว เขา้ พบรฐั มนตรี พดู คยุ เปน็ การภายใน หรอื ประกาศคำ� ขวัญในวันแรงงาน 3. การจัดองค์กรแบบมคี นงานมูลฐานเป็นศนู ย์กลาง ในรปู กลุ่มสหภาพ แรงงานยา่ นอุตสาหกรรม ปรากฏการณ์ส�ำคัญของขบวนการแรงงานไทยในช่วงปี 2530-2533 คอื การท่ีสหภาพแรงงานของคนงานภาคเอกชนในเขตยา่ นอตุ สาหกรรมตา่ ง ๆ ในแถบปรมิ ณฑลของกรงุ เทพฯ โดยเฉพาะแถบพระประแดง ออ้ มนอ้ ย-ออ้ มใหญ่ รงั สติ และนวนคร รวมตัวกนั เป็นเครอื ข่ายที่มักเรยี กส้นั  ๆ วา่ “กลมุ่ ย่าน” โดย กลมุ่ ยา่ นนนั้ เปน็ แกนหลกั ของการรณรงคเ์ คลอื่ นไหว และการระดมมวลชนเพอ่ื ผลกั ดันกฎหมายประกันสังคม พ.ศ. 2533 ไดอ้ ยา่ งมีพลงั หนักแน่น และจรงิ จัง กล่าวในเชิงประวัติศาสตร์แล้ว การรวมตัวของคนงานและสหภาพ แรงงานที่ท�ำงานในละแวกใกล้เคียงกันเป็น “กลุ่มย่าน” ไม่ได้เป็นเร่ืองใหม่ ในทางตรงกันข้าม การรวมกลุ่มลักษณะคล้ายคลึงกับ “กลุ่มย่าน” เป็น ปรากฏการณ์ที่มีต้ังแต่หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 แต่ต้องยุติบทบาท ไปเพราะระบอบเผด็จการ ในช่วงหลังการสังหารหมู่ประชาชนและรัฐประหาร เม่ือวันท่ี 6 ตุลาคม 2519 ท่ีมีการขม่ ข่คู กุ คามโดยวธิ ตี า่ ง ๆ เชน่ การหา้ มชมุ นุม หา้ มรวมกลุ่ม จนทำ� ให้การรวมกล่มุ ขาดความต่อเนอื่ ง กระทงั่ สบโอกาสอีกคร้ัง เมอื่ สภาพการเมอื งระดบั ประเทศเปดิ กวา้ งขน้ึ ในชว่ งหลงั พ.ศ. 2523 เปน็ ตน้ มา 109

การรวมตัวของคนงานในเขตอุตสาหกรรมเดียวกันเป็น “กลุ่มย่าน” สัมพันธ์โดยตรงกับความเสื่อมประสิทธิภาพขององค์กรแรงงานระดับชาติอย่าง สภาองคก์ ารลกู จา้ งแทบทกุ สภา ปรากฏการณน์ เ้ี กดิ และพฒั นาขน้ึ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2525 จนถึง พ.ศ. 2533 อันเป็นช่วงเวลาที่สภาองค์การ ลูกจ้างแทบท้ังหมดตกอยู่ภายใต้การน�ำของผู้น�ำที่มุ่งใช้สหภาพเป็นฐานอ�ำนาจ ในการแสวงหาผลประโยชนส์ ว่ นตวั ผลกค็ อื ขบวนการแรงงานแยง่ ชงิ ประโยชน์ กนั เองจนขดั แยง้ ถงึ ขนั้ ทำ� ใหข้ บวนการแตกเปน็ เสยี่ ง ๆ ยงั ผลใหส้ หภาพแรงงาน ต้องปรับตัว โดยสร้างองค์กรประสานงานที่ไม่เป็นทางการในรูปแบบของ กลมุ่ สหภาพแรงงานในยา่ นอุตสาหกรรมต่าง ๆ ขนึ้ มา การรวมตัวกันของคนงานในลักษณะของสหภาพแรงงานกลุ่มย่าน มีเป้าหมายใน 2 ระดับ ระดับแรก คือ การช่วยเหลือซ่ึงกันและกันระหว่าง สหภาพในพ้ืนท่ีใกล้เคียง ตลอดจนการแลกเปลี่ยนบทเรียน ประสบการณ์ ในการจัดต้ังคนงาน และการต่อรองกับนายจ้างและรัฐ และระดับท่ีสอง คือ การก�ำหนดจุดยืนรวมหมู่ของสหภาพแรงงานกลุ่มย่าน ในการเคลื่อนไหว เรยี กร้องสทิ ธแิ รงงานกับองคก์ รแรงงานอ่ืน ๆ นอกจากความเขม้ แขง็ ของคนงานเปน็ กลมุ่ ยา่ นในการผลกั ดนั กฎหมาย ประกันสังคมแล้ว รูปแบบการรวมตัวกันในลักษณะดังกล่าวสอดคล้องกับการ ผลักดันนโยบายสาธารณะ และยังก่อจิตส�ำนึกร่วมของคนงานในการเรียกร้อง สิทธิประโยชน์ให้คนงานกลุ่มอ่ืน ๆ ที่ไม่อยู่เฉพาะแต่ในสถานประกอบการของ ตนเทา่ นั้น ความเข้มแข็งของสหภาพแรงงานกลุ่มย่านในการต่อสู้เรียกร้อง กฎหมายประกันสังคม ได้จุดประกายให้แนวร่วมการเคลื่อนไหวขยายตัวไป อยา่ งกวา้ งขวาง โดยเฉพาะในหมคู่ นงานเอกชนทม่ี กี ารรวมตวั กนั ในรปู แบบของ สหพันธ์แรงงาน เช่น สหพันธ์แรงงานกระดาษ สมาพันธ์คนงานกิจการอาหาร เครื่องดื่ม และโรงแรม เป็นต้น การขยายแนวร่วมในส่วนของคนงานเอกชน 110

จงึ สง่ ผลใหอ้ งคก์ รแรงงานระดบั ชาติ เชน่ องคก์ รสภาแรงงานตา่ ง ๆ เขา้ รว่ มตอ่ สู้ อยา่ งจริงจังกว่าท่ผี า่ นมา ในแงม่ มุ นเี้ หน็ ไดว้ า่ ความสำ� เรจ็ ของการผลกั ดนั กฎหมายประกนั สงั คม นอกจากจะทำ� ใหค้ นงานทกุ สถานประกอบการ ไดร้ บั สทิ ธปิ ระโยชนร์ ว่ มกนั แลว้ ยังสะท้อนถึงภราดรภาพของชนช้ันผู้ใช้แรงงานที่เป็นพลังในการเปล่ียนแปลง สงั คมด้วย 4. ความรว่ มมือกันของภาคสว่ นตา่ ง ๆ ในการสร้างประเดน็ สาธารณะ แม้ว่าคนงานระดับรากฐานจะเป็นพลังหลักในการได้มาซ่ึงกฎหมาย ประกนั สงั คม จนประสบผลสำ� เรจ็ ในปี 2533 แตห่ ากพจิ ารณากระบวนการผลกั ดนั กฎหมายฉบบั นใ้ี นเชงิ ยทุ ธศาสตร์ กจ็ ะพบวา่ การเคลอื่ นไหวของคนงานตอ้ ง เผชญิ กบั ข้อจ�ำกดั อยา่ งน้อย 2 ประการ ประการแรก ความเข้าใจของคนงานพนื้ ฐานตอ่ รา่ งกฎหมายประกนั สังคม ประการทส่ี อง การทำ� ใหห้ ลกั ความมน่ั คงทางสงั คมและประกนั สงั คม กลายเป็นประเดน็ สาธารณะ เป็นความจริงว่า มีความพยายามผลักดันกฎหมายประกันสังคมใน สงั คมไทยมานานแล้ว โดยเฉพาะความพยายามของ นายนคิ ม จนั ทรวทิ ุร ผซู้ ึ่ง ยืนหยัดเสนอความคิดเร่ืองการประกันสังคมมาตั้งแต่ดำ� รงต�ำแหน่งข้าราชการ กรมประชาสงเคราะห์ในทศวรรษ 2500 จนกระทั่งเป็นวุฒิสมาชิกในทศวรรษ 2530 แต่แนวคดิ นใ้ี นขณะนน้ั ยังจ�ำกดั ในวงผู้เกี่ยวขอ้ งไมม่ ากนกั น่ันคือ ในหมู่ ข้าราชการประจ�ำ และรัฐบาลในระบอบอ�ำมาตยาธิปไตย ขณะที่ความเข้าใจ ประเดน็ นี้ในส่วนผใู้ ช้แรงงานยังไมป่ รากฏชดั เจน ดา้ นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านแรงงานนัน้ มีบทบาทสำ� คญั ในการเผย แพร่ข้อมูล ความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎหมายประกันสังคมสู่ผู้ใช้แรงงานระดับ 111

รากฐาน งานศึกษาของ ศกั ดินา ฉตั รกลุ ณ อยุธยา และบัณฑติ ธนชยั เศรษฐวุฒิ ระบุว่า องค์กรพัฒนาเอกชนมีพลังถึงข้ันพูดได้ว่าเป็น “กลุ่มพลังทางสังคม ท่ีเติบโตข้ึนมา และมีบทบาทแทนที่นักศึกษา กรรมกร และชาวนาในการ เคล่ือนไหวทางการเมืองและสังคม ในช่วงตั้งแต่ปี 2525-2535 องค์กรพัฒนา เอกชนที่มีโครงการเก่ียวกับกรรมกรในภาคอุตสาหกรรม ได้เป็นพันธมิตรท่ี มีบทบาทในการให้การศึกษา และสนับสนุนการท�ำงานของสหภาพแรงงาน ในภาคเอกชน” ในชว่ งทศวรรษ 2530 องค์กรพัฒนาเอกชนได้จดั การศึกษา ใหข้ อ้ มลู เผยแพรส่ าระสำ� คญั ของรา่ งกฎหมายประกนั สงั คม รวมถงึ การจดั เวทแี ลกเปลย่ี น ความคดิ เหน็ เรอื่ งประกนั สงั คม ยงั ผลใหค้ นงานเกดิ ความเขา้ ใจและตน่ื ตวั ในการ เคลื่อนไหวประเด็นน้ี นอกจากนั้น องค์กรพัฒนาเอกชนยังมีบทบาทส�ำคัญใน การท�ำให้การผลักดันร่างกฎหมายประกันสังคม กลายเป็นประเด็นสาธารณะ ของสังคม การท�ำให้กฎหมายประกันสังคมเป็นประเด็นสาธารณะ สัมพันธ์ โดยตรงกบั การมสี ว่ นรว่ มผลกั ดนั กฎหมายประกนั สงั คมของนสิ ติ นกั ศกึ ษา พลงั ฝ่ายนักศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหว จากการริเริ่มของนักศึกษากลุ่ม อิสระหลายคน ทสี่ นใจปญั หาผใู้ ชแ้ รงงานมาเปน็ เวลานานแล้ว นกั ศกึ ษากลุ่มน้ี เป็นเสมือนผู้ปฏิบัติงานสนับสนุนคนงาน และเป็น “ตัวเช่ือม” ปัญหาแรงงาน ไปสู่นักศึกษาท่ัวไป ท�ำให้สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยร่วมผลักดัน กฎหมายนอ้ี ย่างเตม็ ท่ีเม่ือกฎหมายนเ้ี ขา้ สูก่ ารพจิ ารณาของรฐั สภา นิสิตนักศึกษามีบทบาทต่อสู้เพ่ือกฎหมายนี้อย่างส�ำคัญ เม่ือคนงาน ตัดสินใจอดอาหารประท้วงพร้อมท้ังชุมนุมหน้ารัฐสภา ตัวแทนนักศึกษาจาก หลายสถาบันร่วมอดอาหารเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ใช้แรงงาน เมื่อวุฒิสมาชิกลง มติคว่�ำร่างกฎหมายฉบับนี้ นักศึกษาก็ได้ยกระดับการต่อสู้เพ่ือกฎหมายนี้ไป 112

สู่การต่อต้านระบอบอำ� มาตยาธิปไตย และการแทรกแซงของกองทัพในระบบ การเมือง โดยเฉพาะการโจมตีวุฒสิ มาชกิ ทีม่ าจากการแต่งตั้งของทหารในชว่ ง เผด็จการครงึ่ ใบ 5. การดำ� รงอยขู่ องการเมืองแบบประชาธปิ ไตย การผลักดันกฎหมายประกันสังคมเป็นผลส�ำเร็จในช่วงปี 2533 ซ่ึง อยู่ในช่วงเดียวกันกับท่ีประเทศไทยมีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีท่ีมาจากการ เลอื กต้งั เปน็ คร้งั แรก หลังการสังหารหมปู่ ระชาชนและนกั ศกึ ษาทีม่ หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์เม่ือ 6 ตุลาคม 2519 บรรยากาศทางการเมืองในเวลาน้ัน จึงเป็นการเปลี่ยนผ่านจากระบอบเผด็จการคร่ึงใบไปสู่ประชาธิปไตยเต็มใบ กลา่ วคอื เปน็ การเรม่ิ ตน้ ก�ำจดั อทิ ธพิ ลของขา้ ราชการระดบั สงู และการแทรกแซง ทางการเมืองของกองทัพ ยุทธศาสตร์การผลักดันกฎหมายประกันสังคม พ.ศ. 2533 รวมศูนย์บนการเคลื่อนไหวเรียกร้องกับสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาล ของพรรคการเมืองท่ีได้เสียงข้างมาก และนายกรัฐมนตรีท่ีมาจากการเลือกตั้ง จึงกล่าวได้ว่าการได้มาซึ่งกฎหมายประกันสังคมแยกไม่ออกจากการมีสภาวะ การเมืองแบบประชาธิปไตย ยุทธศาสตร์ที่ใช้ผลักดันกฎหมายน้ีที่ส�ำคัญอีกข้อหน่ึง คือ การท�ำให้ การเรยี กรอ้ งกฎหมายประกนั สงั คมไมไ่ ดจ้ ำ� กดั อยแู่ คผ่ ใู้ ชแ้ รงงาน แตเ่ ปน็ ประเดน็ สาธารณะของคนในสงั คมทง้ั หมด ยทุ ธศาสตรน์ ส้ี ำ� เรจ็ เพราะสภาพการเมอื งขณะ นนั้ เปน็ “การเมอื งแบบเปดิ ” ที่รฐั บาลจากการเลือกต้งั เคารพสิทธิเสรีภาพของ ประชาชนอยา่ งกวา้ งขวางกวา่ รฐั บาลที่มาจากการแต่งต้งั จนเห็นได้ชัด การเติบโตของสิทธิเสรีภาพทางการเมือง ส่งผลโดยตรงให้คนงานมี “พื้นที่สาธารณะ” ที่จะอภิปรายชี้แจงความส�ำคัญของกฎหมายประกันสังคม ได้อย่างเต็มที่ ผลก็คือ สาธารณะกลายเป็นพลังกดดันวุฒิสมาชิกสายกองทัพ ท่ีคว่�ำกฎหมายนี้ เช่นเดียวกับเป็นพลังสนับสนุนทางการเมืองอันใหญ่หลวงต่อ 113

รัฐบาลท่ีมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถึงแม้รัฐบาลเวลาน้ันจะประกอบ ไปด้วยคณะรฐั มนตรีที่มาจากชนช้นั นายทุนจำ� นวนไมน่ ้อย แตค่ วามเปน็ รัฐบาล ในระบอบประชาธิปไตยก็จำ� เป็นต้องได้การสนับสนุนจากประชาชนอย่างหลีก เล่ียงไม่ได้ โดยเฉพาะคนงานซ่ึงมีการรวมกลุ่มเป็นองค์กรท่ีเหนียวแน่นและ กวา้ งขวาง จงึ กลา่ วไดว้ า่ การเมอื งแบบประชาธปิ ไตยสำ� คญั ตอ่ การตอ่ สเู้ พอื่ สทิ ธิ และสวสั ดกิ ารตา่ ง ๆ ของผ้ใู ช้แรงงาน ความขดั แยง้ ของการผลกั ดนั กฎหมายประกนั สงั คมในรฐั สภา ระหวา่ ง รัฐบาลกับสมาชิกวุฒิสภาปีกหน่ึง ยังเป็นภาพสะท้อนถึงระบบการเมืองแบบ ประชาธิปไตยในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน กล่าวคือ แนวความคิดแบบราชการ แบบเดิม ยังมีอิทธิพลในการก�ำหนดนโยบายสาธารณะของรัฐบาล รวมไปถึง การใช้กฎหมายประกันสังคมเข้ามาเป็นเคร่ืองมือในการล้มรัฐบาลที่มาจากการ เลือกต้ัง เน่อื งจากเป็นรา่ งกฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาล กระแสการเรียกร้องและกดดันของคนงาน และภาคส่วนต่าง ๆ ภายนอกรัฐสภา เป็นปัจจัยส�ำคัญที่ท�ำให้รัฐบาลมีท่าทีตอบรับกับกฎหมาย ประกันสังคมในช่วงนั้น และยังนำ� มาสู่ข้อพิจารณาว่า ควรมีการปฏิรูประบบ การเมืองให้เอ้ือต่อการผลักดันนโยบายสาธารณะจากภาคประชาชน เช่น ข้อเสนอให้เปล่ียนแปลงท่ีมาของวุฒิสมาชิกให้มาจากการเลือกต้ังโดยตรง ท้ังหมด  114

สมั ภาษณ์ผูร้ ่วมตอ่ ส้กู ฎหมายประกันสังคม ผศ. ดร.บญุ เลิศ วเิ ศษปรีชา เฉิดโฉม อภิชาติชัยกลุ นักวิชาการและนักมานุษยวิทยาผู้ทุ่มเท ลงลึก ในการศึกษาชีวิต ของคนชายขอบ คนยากจน โดยลงพื้นที่เพ่ือท�ำวิจัย ด้วยความเช่ือว่าการ จะไดม้ าซง่ึ คำ� ตอบ เราตอ้ งออกจากจดุ ทเี่ รายนื อยู่ ลองไปยนื อยใู่ นมมุ ของคนอน่ื เพอ่ื ทจี่ ะไดเ้ ขา้ ใจคนทแี่ ตกตา่ งไปจากเรา ผศ.ดร.บญุ เลศิ วเิ ศษปรชี า นกั วชิ าการ ที่มีมุมมองการท�ำงานกับชาวบ้านอย่างลึกซ้ึง และสะท้อนวิถีชีวิตคนจนผ่าน งานเขียน งานวิจัยต่าง ๆ มากมาย ซ่ึงการสร้างความเข้าใจในการท�ำงานกับ ชาวบ้านเชิงลึกนั้น คณุ บญุ เลศิ ไดพ้ ฒั นาแนวคิดและมปี ระสบการณก์ ารท�ำงาน กับชาวบ้านตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีโอกาสเข้า ร่วมอย่ใู นสหพนั ธน์ สิ ติ นกั ศกึ ษาแหง่ ประเทศไทย ชอบคดิ ชอบเขยี น ชอบเรยี นรู้ ในการท�ำงานเชิงลึก คุณบุญเลิศเล่าประสบการณ์การเข้าร่วมในกระบวนการ นกั ศึกษา ใหฟ้ งั ว่า “ผมเข้ามาช่วงหลังเหตุการณ์การเมืองช่วงปี 2535 ตอนนั้นอยู่ ปี 1 ม.เกษตร องคก์ รนกั ศึกษาจะมงุ่ เน้นไปในเร่อื งการการฟนื้ ฟปู ระชาธปิ ไตย นักศึกษาไปเคลื่อนไหวเรื่องการกระจายอ�ำนาจ วิเคราะห์ทิศทางการเมือง มากกว่า ซ่ึงหลังปี 2535 กิจกรรมเดียวเท่าน้ันที่นักศึกษาเข้าไปเกี่ยวข้อง กับแรงงาน คือโรงงานไทยเกรียงปิด ในปี 2536-2537 ประมาณน้ี คนท่ี ยังจับประเด็นเรื่องแรงงานคือไผ่ ต้องพูดถึงเพราะเขาไม่ท้ิงประเด็นชาวบ้าน ไผเ่ ป็นคนถนดั งานลา่ ง การทำ� งานกบั ชาวบา้ น เลยยงั มีกลมุ่ ทยี่ ังไมท่ ง้ิ ประเด็น 115

แรงงานเสยี ทเี ดยี ว บทบาทนกั ศกึ ษาตอนนนั้ เหมอื นสะพานเชอ่ื ม ระหวา่ งมวลชน กบั สังคม องค์กรอืน่  ๆ ผา่ นงานค่ายของนกั ศึกษา หลัง ๆ นักศกึ ษาไมไ่ ดเ้ ข้มแขง็ อย่างสมัยก่อน และมองเห็นว่าเราท�ำงานกับชาวบ้านมานาน มองว่าชาวบ้าน มีความเข้มแข็งอยู่แล้ว บทบาทนักศึกษาจึงเปล่ียนไปเป็นแค่ตัวหนุนเสริม เป็นสะพานเชื่อมองค์กรต่าง ๆ เท่านนั้ ” คุณบุญเลิศบอกอีกว่า ในช่วงหลังจากน้ันสหพันธ์นิสิตนักศึกษาฯ ได้มาสนใจการทำ� งานดา้ นส่ิงแวดลอ้ มมากขน้ึ แบ่งเปน็ 2 สาย คือสิง่ แวดลอ้ ม แบบ GREEN GREEN จะเนน้ การออกค่ายเชิงอนุรกั ษ์ รักษาพื้นทปี่ า่ ตัง้ แคมป์ ปลกู ตน้ ไม้ กบั สายสงิ่ แวดลอ้ มอกี รปู แบบทเี่ รยี กวา่ GREEN RED มงุ่ เนน้ ทางการ แยง่ ชงิ ทรพั ยากร ใหค้ วามสำ� คญั กบั ตวั คนหรอื ชาวบา้ น โครงสรา้ งทไ่ี มเ่ ปน็ ธรรม ประเดน็ เรอื่ งสงิ่ แวดลอ้ มเปน็ งานทท่ี ำ� ใหน้ กั ศกึ ษารว่ มกบั ชาวบา้ นอกี ครงั้ ในการ เคลื่อนไหวตอ่ ตา้ นเขื่อนน้�ำโจน เข่ือนปากมูล เปน็ ตน้ และการทำ� งานฐานราก เก่ยี วกบั ชาวบา้ นของนกั ศกึ ษาคอ่ ย ๆ เลือนหายไป “ถ้าให้วิเคราะห์ถึงปัจจัยการท�ำงานท่ีมันหายไป ก็คงเป็นเรื่องของ ตัวคน ไม่มีใครที่ลงมาท�ำงานกับแรงงานหรือชาวบ้านอย่างลึกซ้ึง มีแต่คนไป ท�ำงานเนน้ เรอ่ื งโครงสร้างประชาธิปไตยสว่ นใหญ่ บางส่วน ไปท�ำงานสนับสนุน เรื่องเชิงอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม กลุ่มก้อนคนท�ำงานเชิงลึกกับกระบวนแรงงาน มันไมม่ ีแล้ว หมดยุคค่อย ๆ หายไปจากขบวน” เชอื่ มโยงถงึ ปจั จบุ นั ในเรอื่ งประกนั สงั คมในปจั จบุ นั เมอ่ื 30 ปที ผี่ า่ นมา ขบวนการนักศึกษามีส่วนในการผลกั ดนั ให้ประสบความสำ� เรจ็ ดังนัน้ เมอื่ ผ่าน มาถึงปัจจุบัน ยุคสมัยหรือสถานการณ์สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง การประกัน สงั คมควรมแี นวโน้มปรับปรงุ ไดใ้ นรูปแบบไหนได้บา้ ง “การท่ีผมได้ท�ำวิจัยเรื่องคนจนเมืองเก่ียวกับสถานการณ์โควิด-19 ด้วยนั้น จะเห็นชัดว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้คนท�ำงานภาคเอกชน หรือโรงงานปิดตัวลง พนักงานตกงาน ถูกเลิกจ้าง ส่วนใหญ่พวกเขาอาศัยอยู่ 116

ในเมอื ง และเพอ่ื ความอย่รู อดจงึ หันมาประกอบอาชีพอสิ ระ กลายเปน็ แรงงาน นอกระบบจ�ำนวนมาก ผมเคยไปสัมภาษณ์แรงงานกรีดหมูในตลาด ได้เงิน รายวนั 300 บาท แตม่ ีคนใหไ้ ปท�ำประกนั สังคม มาตรา 40 พอมาดสู วสั ดกิ าร ทไ่ี ดก้ บั อตั ราสว่ นของเงนิ ทจ่ี า่ ยไป ไมค่ มุ้ นะ พวกเขาไมเ่ อาดว้ ย ผมวา่ หลกั ประกนั สังคมมันไม่ตอบโจทกค์ วามตอ้ งการของกลมุ่ แรงงานนอกระบบ ทอ่ี นาคตก�ำลงั จะมมี ากกวา่ ในระบบดว้ ยซ�ำ้ “คนจนเมอื ง ณ ขณะนีอ้ ยู่ในภาค informal เข้าสู่สังคมการทำ� งาน แบบไม่เป็นทางการ ฉะนั้น การออกแบบระบบประกันสังคมต้องตอบโจทก์ ส่ิงเหล่าน้ี ประโยชน์ท่ีมาตรา 39 และมาตรา 40 ได้รับต้องสร้างแรงจูงใจให้ กับผู้ประกันตน เหมือนจ่ายไปแล้วคุ้ม ทั้งเงินชราภาพ การบริการทางการ แพทย์” คุณบญุ เลศิ ได้กลา่ วทง้ิ ท้ายต่ออกี วา่ “อกี ขอ้ คอื ในสถานการณโ์ ควดิ แบบน้ี ทม่ี ีการเสนอเรอ่ื งการกยู้ ืมเงนิ ตัวเองของผู้ประกนั ตน ควรใหเ้ ขาเป็นการช่วยเหลอื โดยการใหไ้ ดใ้ ชเ้ งินตวั เอง และคิดดอกเบี้ยต่�ำ ดอกเบ้ียท่ีได้น�ำมาบริหารต่อไปได้แบบสิงคโปร์ท่ีสามารถ กู้เงินตัวเองซื้อบ้านได้อะไรแบบน้ี ทางประกันสังคมเองควรคิดในรูปแบบน้ี ไดแ้ ล้ว ถึงจะตอบโจทกป์ ัญหาของผู้ประกันตน และทนั กับความเดอื ดรอ้ นของ ชาวบ้าน”  117

คุณศรีไพร นนทรยี ์ เฉดิ โฉม อภิชาตชิ ยั กลุ • จุดเริม่ ตน้ การทำ� งานสหภาพแรงงาน คุณศรีไพร นนทรีย์ หญงิ แกรง่ จากสหภาพแรงงานพาการเ์ มน้ ต์ และ ผนู้ �ำคนงานร่วมเคล่อื นไหวกฎหมายประกันสงั คม ปี 2533 เลา่ ถงึ ประสบการณ์ การร่วมเคล่ือนไหวว่า “ยอ้ นกลบั ไปปี 2530 ไดเ้ ริ่มเข้ามาท�ำงานโรงงานไทยแอรโ์ ร่กาเม้นท์ เริ่มจากเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตอนนั้นยังไม่รู้เร่ืองอะไรเก่ียวกับกฎหมาย ไม่มี ความรู้ เขาให้ท�ำก็ท�ำ ท�ำงานอยู่พักใหญ่ พี่สาวเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน ยา่ นรงั สติ เขาจะไปประทว้ งเรอื่ งการยกเลกิ สญั ญาจา้ งลกู จา้ งชวั่ คราว ทเ่ี ราใชอ้ ยู่ แต่พสี่ าวไมอ่ ยากไป เลยส่งเราไปแทน ด้วยความเป็นเด็กก็ตามเขาไป ตอนนั้น ประท้วงท่ีสนามหลวง การไปเรียกร้องครั้งนั้น ท�ำให้เราได้เปิดหูเปิดตา ว่าเรา เสยี เปรยี บนะ เราไดเ้ ปน็ แคล่ กู จา้ งชว่ั คราวตอ่ สญั ญาแคเ่ ดอื นตอ่ เดอื น กฎหมาย นมี้ นั อมุ้ นายจา้ งทำ� ใหเ้ ราไมไ่ ดร้ บั การดแู ลอะไรเลย พอการประทว้ งครง้ั นน้ั สำ� เรจ็ สญั ญาลูกจา้ งชว่ั คราวถูกยกเลกิ ไป เปลี่ยนมาเป็นการทดลองงาน 120 วันแทน ทำ� ใหร้ สู้ กึ วา่ มนั เปน็ ประโยชนน์ ะ แลว้ เรากย็ า้ ยทท่ี ำ� งานมาอยโู่ รงงานพาการเ์ มน้ ต์ เป็นโรงงานตัดเย็บส่ิงทอ ได้เข้ามาท�ำงานสหภาพแรงงานต่อสู้เคล่ือนไหวกัน มาเร่อื ย ๆ เรมิ่ เขา้ มามบี ทบาทในสหภาพแรงงานตั้งแตต่ อนนน้ั ” หลังจากน้ันคุณศรีไพรเข้ามามีบทบาทในต�ำแหน่งประธานสหภาพ แรงงานฯ ซึ่งตนเองยอมรับว่าถูกกดดันอย่างมาก และไม่เป็นที่ยอมรับของ กลุ่มผู้น�ำผู้ชายในขณะนั้น ท่ีจะให้ผู้หญิงข้ึนเป็นผู้น�ำ แต่จากความตั้งใจใน การช่วยเหลือพ่ีน้องแรงงาน นำ� กลุ่มเคล่ือนไหวเรียกร้องประเด็นต่าง ๆ ให้กับ 118

พี่น้องคนงาน ก็ได้กลายเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในบทบาทความ เปน็ ผู้นำ� หญงิ ในตอนนั้นคณุ ศรีไพรไดเ้ ริม่ เรยี นรู้กระบวนการจัดตงั้ จากการจัดกลมุ่ ศึกษาทอ่ี งค์กรพฒั นาเอกชนด้านแรงงาน กล่มุ นกั ศึกษา ลงไปท�ำงานดา้ นความ คิดกับกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิต ท�ำให้เกิดความเข้าใจการมองปัญหาของ คนงานและตนเองได้มากขึน้ คณุ ศรีไพรบอกต่อวา่ “เม่ือ 30 ปีที่แล้ว สวัสดิการไม่มีให้คนงานเลย หลัก ๆ เป็นเรื่อง การเจ็บป่วย คือ ถ้าคนงานเจ็บป่วยก็ต้องเสียเงินไปรักษาเอง เงินรายได้ เรานอ้ ย บางคนไดเ้ งนิ รายวนั เจบ็ ปว่ ยเขา้ นอนโรงพยาบาลขน้ึ มาไมว่ า่ จะเจบ็ เลก็ เจ็บมาก ก็เสียเงินเอง เงินชดเชยท่ีหยุดงานไปก็ไม่ได้ และค่ารักษาพยาบาล กแ็ พงมาก พวกคนงานเลยหนั ไปพึง่ ยาหมอต๋แี ทน สมัยน้ันซือ้ ยาเองมันถูกกวา่ เยอะ “มีอยู่ครั้งนึงเราเกิดอุบัติเหตุ ต้องไปท�ำแผล ฉีดยาท่ีโรงพยาบาล การรอหมอเป็นอะไรท่ีนานมาก ทรมานนะ และสิ่งที่เห็นทุกคร้ังเวลาไป โรงพยาบาล เป็นอะไรท่ีน่าอเนจอนาถใจ คือภาพคนไข้ท่ีอยู่ในชุดโรงพยาบาล วง่ิ หนอี อกจากโรงพยาบาล มีเจ้าหนา้ ที่ 4-5 คน ว่งิ ไล่จับกลางทงุ่ นา เห็นแบบนี้ ทุกครั้งที่ไป เราก็เลยมานั่งคิดว่าไม่ดีเลย คนไม่อยากนอนโรงพยาบาลเพราะ มันไม่มีเงินจ่าย เป็นอะไรหนัก ๆ ท่ียอมตายเลยดีกว่า พอเห็นแบบน้ันมันเป็น ภาพติดตา สะเทอื นใจทุกครงั้ ” น่ันคือปัญหาแรก ๆ ของคนงานท่ีคุณศรีไพรมองเห็น คุณศรีไพร มองวา่ คอื การขาดการเขา้ ถงึ ในระบบการรกั ษาพยาบาลทด่ี เี มอื่ เจบ็ ปว่ ยนอกจาก ตอ้ งเสยี เงนิ เอง ลาหยดุ ลาปว่ ยก็ขาดรายได้ จากรายได้ทตี่ ่ำ� อยูแ่ ล้วของคนงาน ท�ำให้ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล�้ำเกิดขึ้นสูงมาก โดยเฉพาะกับแรงงานหญิงใน โรงงานประเภทตดั เยบ็ สง่ิ ทอ สัดส่วนของแรงงานหญงิ จะมากกวา่ แรงงานชาย 119

ปญั หาทพี่ บในการท�ำงานของแรงงานหญงิ ทถ่ี กู กดทบั ในหลายๆ ดา้ น ท�ำให้เกิดจุดร่วมของปัญหาท่ีคนงานมองเห็น น�ำไปสู่การรวมตัวเพ่ือเรียกร้อง กฎหมายประกนั สงั คม และเกดิ การเคลอ่ื นไหวเรยี กรอ้ งสทิ ธปิ ระโยชนด์ า้ นอนื่  ๆ เช่น ลาคลอด การว่างงาน เปน็ ตน้ มาตลอดในช่วงตัง้ แตป่ ี 2533-2536 • ปัจจยั นำ� สู่ความสำ� เรจ็ กฎหมายประกนั สังคม คุณศรีไพรกล่าวถึงปัจจัยท่ีน�ำสู่ความส�ำเร็จของการเคลื่อนไหว กฎหมายประกันสังคมเม่ือปี 2533 ว่า คือ การได้รับความรู้ที่คนงานไม่เคยรู้ มากอ่ น จากสภาพการทำ� งานและขาดการสนับสนนุ ใหไ้ ด้เรียนรู้ “เราได้รับการจัดกลุ่มศึกษาจากกลุ่มเยาวชนคนงาน หรือ YCW ทลี่ งมาจดั ต้ังให้สหภาพ ต้องยกเครดิตใหน้ ะ เพราะคนงานความรนู้ ้อย ทำ� งาน เช้าถึงค่�ำ ปากกัดตีนถีบ ไม่มีเวลา และไม่รู้จะหาความรู้จากตรงไหน เราเร่ิม เข้ามาสู่งานสหภาพ ท�ำให้รู้จักองค์กรหลากหลายมากข้ึน และ YCW เป็น ตัวเชื่อมหาคนที่มีความรู้ ปัญญาชนเข้ามาจัดกระบวนการให้ข้อมูลความรู้เรา เร่ิมแรกเลยไม่ได้ให้ความรู้ข้อมูลเร่ืองกฎหมายอะไรเลยนะ แต่เขาจะลงมา สรา้ งแนวคดิ กอ่ น ให้ความรูเ้ รอื่ งระบบสงั คมนิยม ทุนนยิ ม พวกมารก์ ซิสม์ อะไร ประมาณน้ีก่อน แนวคิดเร่ืองการรวมกลุ่มให้มีอ�ำนาจต่อรอง ท�ำให้เราไม่กลัว หมดความกลัวในช่ัวข้ามวันเอง มันคือความแปลกท่ีอาจารย์ที่ท�ำกระบวนการ ให้เรา เขาท�ำให้เราเข้าใจและไม่กลัวการเปล่ียนแปลงอะไรเลย อันน้ีเป็น จุดเริ่มต้นในการจัดต้ังพวกคนงาน และก็เร่ิมให้ข้อมูล ความรู้ และฝึกเรา มองปัญหาร่วมกันให้ลึกซ้ึง จนท�ำให้เรามองเห็นปัญหาท่ีเกิดขึ้นกับคนงาน ตอนน้ันปัญหาในระบบสังคม มันเห็นชัดมากจึงท�ำให้กลุ่มสหภาพเรารวมตัว กันบ่อย ประชุมวางแผนงานกันก่อนเริ่มการรวมพลเคล่ือนไหวหลายเดือน พอเราได้สัญญาณจากพันธมิตร 3-4 โรงงานย่านรังสิต ตอนน้ันมารวมตัว กันเลย ทุกคนพร้อมในการประท้วงตลอดเวลา ท�ำให้เกิดก�ำลังคนเยอะมาก การต่อรองมันกเ็ ลยมีพลัง 120

“อกี อยา่ งสถานการณก์ ารเมอื งตอนนนั้ เปดิ โอกาส เราสามารถแยง่ ชงิ พื้นท่ีข่าว สร้างกระแสสังคมให้เกิดการตื่นตัว ท�ำให้คนจากหลากหลายอาชีพ เหน็ ดว้ ยกบั เรา ออกมารว่ มดว้ ย ทำ� ใหโ้ คง้ สดุ ทา้ ยเราสามารถท�ำใหผ้ า่ นกฎหมาย ประกันสงั คมมาได้” • มมุ มองการปฏริ ปู ระบบประกนั สงั คม สังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ประกันสังคมก็ต้องมีการปรับตัวตาม ไม่ย่�ำ อยู่กบั ท่ี คุณศรีไพรให้มมุ มองต่อเรือ่ งการปฏิรปู กฎหมายประกันสงั คมวา่ “30 ปีท่ีผ่านมา เราเรียกร้องสิทธิประโยชน์มาเยอะ ให้คนงานมี คุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้น แต่มันก็ยังย่�ำอยู่กับท่ี ประกันสังคมควรยกระดับการเป็น รฐั สวัสดิการ ใหเ้ ขา้ กบั ยุคสังคมท่ีมีการเปลยี่ นแปลง ที่คนตกงานกันเยอะ หรอื ออกมาท�ำงานอิสระกันมากขึ้น กลายเป็นแรงงานนอกระบบ หรือแบบรับส่ง อาหาร แม่บ้านนวดท่ีรับงานเอง อะไรแบบน้ี มันขยายตัวมากขึ้น พอมัน เกิดกลุ่มอาชีพแบบนี้มากขึ้น ไม่มีนายจ้างมันก็ไม่เกิดการสบทบจาก 3 ฝ่าย เงินในการบริหารกองทุนมันก็น้อยลง ท�ำให้ต้องเอาไปลงทุนในกิจการต่าง ๆ ที่มีความเส่ียงสูง ซ่ึงไม่คุ้ม ถ้าจัดให้เป็นรัฐสวัสดิการได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้าง ประเภทไหน อิสระ ทีม่ ีนายจา้ ง หรือลูกจา้ งหุ้นส่วน ทกุ ฝ่ายต้องจา่ ยเงนิ สมทบ เขา้ มาการบรหิ ารกองทนุ มันก็จะมีประสิทธิภาพและมีเงนิ หมุนเวียน “ส่วนการปรับโครงสร้างการบริหารประกันสังคมก็ต้องมาจากการ เลอื กตงั้ ใหม้ ตี วั แทนผู้ประกันตนทุกภาคสว่ น 1 คน 1 โหวต จะทำ� ใหเ้ กิดการมี ส่วนรว่ มของกลมุ่ คนทำ� งานจากทกุ ประเภทดว้ ย”  121

คณุ อากร ภูวสุธร มณี ขนุ ภักดี • เส้นทางนกั สหภาพแรงงาน คุณอากร ภูวสุธร นักสหภาพแรงงานกลุ่มสหภาพแรงงานโรงแรม บอกเลา่ ถงึ สภาพการทำ� งานของพนกั งานโรงแรมในอดตี วา่ “การทำ� งานโรงแรม ก็สบายในระดับหนึ่ง สถานที่ท�ำงานเราดี อยู่ในห้องแอร์ ได้พบปะกับลูกค้า ชั้นสูง เปน็ พวกมเี งินมที อง แตว่ ่ามีปญั หาเรอื่ งความมน่ั คงในการทำ� งาน พรุง่ น้ี ถูกเลิกจา้ งก็ต้องออก เราทำ� อะไรไมไ่ ดเ้ ลย” ในชว่ งปี 2522 คณุ อากร ซง่ึ ในขณะนน้ั ทำ� งานอยทู่ โ่ี รงแรมนวิ อมรนิ ทร์ ไดเ้ ข้าไปมสี ว่ นรว่ มกอ่ ต้งั สหภาพแรงงานนวิ อมรนิ ทร์ ซึ่งส่วนใหญเ่ ป็นพนกั งาน ท่ีถูกเลิกจ้างจากโรงแรมอมรินทร์ และส่วนหนึ่งเป็นพนักงานโรงแรมอมรินทร์ ที่ด�ำรงต�ำแหนง่ กรรมการสหภาพแรงงานและถกู เลิกจา้ ง “โชคดีท่ีว่าฝ่ายบริหารโรงแรมนิวอมรินทร์ก็มาจากโรงแรมอมรินทร์ ไปเจรจาขอขึ้นค่าครองชีพ ค่าบริการ ผู้บริหารญ่ีปุ่นไม่ให้ ไปเจรจากับฝ่าย บุคคล ซ่ึงเป็นอดีตผู้พิพากษาจบธรรมศาสตร์ เขาบอกให้ไปตั้งสหภาพมา เราก็ไปตั้งสหภาพ ผู้จัดการใหญ่พวกน้ีมาจากธรรมศาสตร์ ส่วนใหญ่แล้ว ลูกคนจน จึงมีความเขา้ อกเข้าใจกนั จงึ ตง้ั สหภาพไดส้ บาย” หลังจากต้ังสหภาพแรงงานแล้ว คุณอากรก็ได้มีโอกาสเรียนรู้และ เข้าร่วมเคล่ือนไหวกับขบวนการแรงงานมาตลอด โดยคุณอากร สังกัดกลุ่ม โรงแรม ภายหลงั กลมุ่ โรงแรมและกลมุ่ อน่ื อกี 6 กลมุ่ ไดร้ วมตวั กนั จดั ตงั้ กลมุ่ อสิ ระ ข้นึ มา กลุม่ เหลา่ นี้จดั ตงั้ ตามลกั ษณะชมุ ชนทอ่ี ย่ใู นยา่ นเดยี วกนั บางแห่งจัดต้งั ตามลักษณะประเภทอตุ สาหกรรมเดยี วกัน และประสานกนั เคล่อื นไหวทัง้ หมด 7 กลมุ่ ไดแ้ ก่ กลมุ่ รฐั วสิ าหกจิ กลมุ่ สงิ่ ทอ กลมุ่ ยา่ นรงั สติ กลมุ่ ยา่ นสมทุ รปราการ และธนบรุ ี กลมุ่ อาหารและเครือ่ งดื่ม กลุ่มโรงแรม และกลมุ่ ธนาคาร 122

การเกิดข้ึนของกลุ่มอิสระซึ่งไม่จดทะเบียนมีสาเหตุมาจากการ แตกแยกในสภาแรงงานท่ีได้มาถงึ จุดแตกหกั เมอื่ กลุม่ ไพศาลถกู โคน่ ลม้ อำ� นาจ น�ำโดยกลมุ่ นายสวสั ดิ์ ลูกโดด และนายอาหมดั ขามเทศทอง จากการเลือกตง้ั สภาแรงงานเมื่อวันท่ี 1 มิถุนายน 2523 แต่จากการท่ีกลุ่มสวัสดิ์-อาหมัด ไมไ่ ดร้ บั การยอมรบั จากขบวนการแรงงานในวงกวา้ ง และไมไ่ ดด้ �ำเนินกิจกรรม เคลื่อนไหวเพ่ือคนงานอย่างอิสระ ด้วยเหตุน้ีท�ำให้สมาชิกสภาแรงงานท่ี สนับสนุนกลุ่มไพศาลได้แยกตัวออกมาจัดต้ังกลุ่มอิสระเพ่ือเคลื่อนไหวเอง โดยไมต่ อ้ งรอการนำ� จากสภาแรงงาน กลมุ่ อสิ ระเหลา่ นไ้ี มจ่ ดทะเบยี นตอ่ รฐั ทำ� ให้ การเคลื่อนไหวคล่องตัวไม่ติดอยู่กับระเบียบกฎหมาย (สมศักด์ิ สามัคคีธรรม, โฉมหนา้ แรงงานไทย) จากนนั้ มากลมุ่ สหภาพแรงงานโรงแรมและกลมุ่ สหภาพแรงงานอาหาร และเครอื่ งดืม่ ไดร้ วมตัวกันจดั ตัง้ “สมาพนั ธค์ นงานในกจิ การอาหาร เคร่อื งด่ืม โรงแรม และกจิ การทค่ี ลา้ ยคลงึ ” และเปน็ สมาชกิ สหพนั ธก์ จิ การอาหารระหวา่ ง ประเทศ (IUF) คุณอากรสะท้อนให้เห็นว่า ถึงแม้ว่าจะอยู่สมาพันธ์เดียวกัน อาชีพ เดยี วกนั แตค่ วามคดิ ทสี่ นบั สนนุ ผนู้ ำ� คนละทาง ทำ� ใหก้ ลมุ่ โรงแรมแตกเปน็ 2 สว่ น “สว่ นหนงึ่ 5-6 สหภาพสนบั สนนุ กลมุ่ ไพศาล อกี 5-6 สหภาพสนบั สนนุ กลมุ่ อาหมดั ซงึ่ กเ็ ปน็ เชอื้ ตวั หนง่ึ ทท่ี �ำใหส้ หภาพโรงแรมไมค่ อ่ ยโตเทา่ ไร เพราะวา่ ความเหน็ นักสหภาพโรงแรมไม่เป็นทศิ ทางเดยี วกนั ” • จดุ เปลยี่ นทางความคิด “การจัดกลุ่มศึกษา การจัดสัมมนาเร่ืองประกันสังคม เป็นการจุด ประเด็น จุดความคิดให้กับพวกเรา มันท�ำให้คนงานได้เริ่มรู้ระดับหน่ึง เพราะ ถ้าไม่มกี ลุ่มพดู คยุ แบบนีก้ ็ลำ� บาก” แมง้ านในโรงแรมจะมสี ภาพการท�ำงานทดี่ กี วา่ แตส่ ภาพการจา้ งงานที่ ถกู เอารดั เอาเปรยี บ ความไมม่ น่ั คงในการทำ� งาน รวมถงึ การไมม่ หี ลกั ประกนั ใน 123

ชวี ติ ก็เหมอื นกับคนงานเอกชนทว่ั  ๆ ไป อกี ทง้ั คนงานทอี่ ยูใ่ นกจิ การอาหารและ เครื่องด่ืมท่ีเป็นสมาชิก “สมาพันธ์คนงานในกิจการอาหาร เคร่ืองด่ืม โรงแรม และกจิ การทค่ี ลา้ ยคลงึ ” กม็ สี ภาพการจา้ งทย่ี ่�ำแย่ ไมม่ สี วสั ดกิ ารใด มแี ตค่ า่ แรง อกี ทั้งมกี ารเลกิ จา้ งผู้นำ� แรงงาน จากจุดน้ีเองการเคลื่อนไหวประกันสังคมจึงเริ่มเกิดข้ึน และเป็น ประเด็นพูดคุยกันในกลุ่มคนงานจนขยายเป็นวงกว้าง ซึ่งการเคลื่อนไหวใน ยุคแรก ๆ ยังไม่มีการระดมคนงานออกมา ส่วนใหญ่จะเป็นเวทีสัมมนา การ จดั การศกึ ษา “ช่วงที่มีความไม่เข้าใจว่าเมื่อไรกฎหมายจะออก คนที่มีประโยชน์ มากท่ีสุดก็คือ อาจารย์นิคม จันทรวิทุร ถ้าไม่มีอาจารย์นิคม พวกเราก็ไม่ได้ อานสิ งสท์ ง้ั ชวี ติ ใครจะดา่ กรรมกรจะดา่ กไ็ มส่ นใจ แกทำ� ตามอดุ มการณข์ องแก ความจรงิ ถา้ จะเรียกว่าบิดาประกนั สังคมตอ้ งยกให้อาจารยน์ ิคม” • ชยั ชนะบนความหลากหลาย “เราให้เครดิตกับกรรมกรหมดเลยก็ไม่ได้ มันต้องให้เครดิตพันธมิตร เราด้วย ถ้าเราบอกว่า ถ้าไม่มีกรรมกร ประกันสังคมก็ไม่ได้ เราพูดอย่างนั้น ไม่ได้ คือท�ำงานกันใกล้ชิด ต่อเนื่อง บอกว่าส�ำเร็จเพราะกรรมกรไม่ได้ ต้อง บอกว่าส�ำเร็จเพราะท�ำงานรวมกลุ่มกัน ท�ำเป้าหมายเดียวกัน ท�ำงานเป็น เครือข่ายที่มีความหลากหลาย แรงงานหญิงก็เป็นพลังในการขับเคล่ือน การเคลื่อนไหวเร่ืองประกันสังคมมีผู้หญิงเยอะ ทั้งจากอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ พระประแดง รงั สิต” “การขับเคลื่อนช่วงโค้งสุดท้ายท่ีมีการอดอาหารและท�ำให้เราได้ กฎหมาย พลังส่วนหน่ึงก็มาจากกรรมกร นักศึกษา สนนท. องค์กรพัฒนา เอกชน พรรคการเมอื ง เราสามารถทำ� งานกบั พนั ธมติ รไดด้ ี ในแตล่ ะกลมุ่ กค็ ยุ กนั เรื่องประกันสงั คม มนั เป็นการเคล่อื นไหวเพอื่ คนส่วนใหญ”่ 124

• ปัจจัยสู่ความส�ำเร็จ คุณอากร กล่าวถึงยุทธศาสตร์การขับเคล่ือนว่า การท�ำงานล็อบบี้ ก็มีผล สมัยนนั้ รัฐบาลชาตชิ าย ชณุ หะวัน กผ็ า่ นทางอาจารย์ไกรศักดิ์ ชุณหะวนั “พลังกรรมกรก็ส่วนหนึ่ง พลังนักศึกษาเข้ามาช่วยส่วนหนึ่ง พรรคการเมอื งทห่ี นนุ ชว่ ยเราทางออ้ มกม็ พี รรคชาตไิ ทย สอ่ื มวลชนชว่ ยประโคม ข่าวเกิดเป็นกระแส สนนท. ก็มีบทบาท ภาพท่ีออกมามันมีผล ต่างคนต่าง ช่วยกัน มันจึงเกดิ พลัง” • ขอ้ เสนอตอ่ เรือ่ งประกันสังคม “ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไปยังสิ่งท่ีดีกว่า ท่ีผ่านมาเราเห็นว่าอยู่ ในกรอบราชการมากเกินไป ก็น่าจะปล่อยให้เจ้าของผู้ออกทุนมาบริหารบ้าง หรอื เราจะปลอ่ ยใหพ้ วกกาฝากเขา้ มาบรหิ ารแลว้ มาหากนิ กบั เงนิ กองทนุ ประกนั สงั คม ในสว่ นของคนงานเอง พรอ้ มทจ่ี ะมาบรหิ ารตรงนหี้ รอื เปลา่ เราตอ้ งศกึ ษา ก่อนทจี่ ะเขา้ ไปส่ตู รงนั้น ตรงนต้ี อ้ งชดั เจนกันก่อน” “ถ้าสหภาพเข้าไปบริหารมันต้องมีอุดมการณ์ในการบริหาร ต้องท�ำ ประโยชนเ์ พอื่ ผู้ประกนั ตน” ส�ำหรับในส่วนผู้ประกันตน มาตรา 39 คุณอากรได้ให้ความเห็นว่า ให้ผู้ประกันตน มาตรา 39 จ่ายเพียงส่วนเดียว ไม่ต้องจ่ายในส่วนนายจ้าง ซ่ึงกองทุนต้องเข้ามาช่วยคนที่ตกงาน “ตอนที่มีงานทำ� เราก็สมทบ เฉล่ียทุกข์ ไปแล้ว ตอนนต้ี กงานเฉล่ยี สขุ บ้าง มันไม่เท่าไหร่หรอก ใครจะอยากตกงาน”  125

คุณวฒั นะ เอ่ียมบำ� รุง องั คณา อินทสา หากย้อนภาพประวัติศาสตร์การเรียกร้องกฎหมายประกันสังคมจาก ภาคประชาสังคมเมื่อ 18 ปีก่อน แกนน�ำภาครัฐวิสาหกิจที่มีบทบาทออกมา ผลกั ดนั รว่ มเรยี กรอ้ งรว่ มกบั ภาคประชาสงั คมในขณะนน้ั คอื “คณุ วฒั นะ เอยี่ ม บ�ำรุง” ปัจจบุ ันดว้ ยวยั 62 ปี หลงั เกษียณอายุการทำ� งานจาก บรษิ ทั กสท. โทรคมนาคม จำ� กดั (มหาชน) คณุ วฒั นะไมไ่ ดอ้ ยเู่ ฉย ยงั คงทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ ทป่ี รกึ ษา ให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อน�ำประสบการณ์ตนเองมาให้ค�ำปรึกษา หนนุ ชว่ ยกรรมการสหภาพแรงงานฯ ในการเรยี กรอ้ งสทิ ธใิ หก้ บั พนกั งานในดา้ น ตา่ ง ๆ คณุ วฒั นะ เลา่ ถงึ ประวตั ศิ าสตรก์ ารรว่ มผลกั ดนั ตอ่ สเู้ รยี กรอ้ งกฎหมาย ประกันสงั คม เม่ือช่วงปี 2530-2532 ว่า ขณะนั้นตนเองมี 2 สถานะ สถานะ แรก คือ “เลขาธิการกลุม่ รัฐวสิ าหกจิ สมั พนั ธ์” สถานะทส่ี อง คือ “ประธาน สภาองค์การลูกจ้างสมาพันธ์แรงงานแหง่ ประเทศไทย” บทบาทการท�ำงานต�ำแหน่ง “เลขาธิการกลุ่มรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์” ซึ่งถือเป็นกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่เกิดจากการรวมตัวกันจากหลายสหภาพแรงงาน เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนซ่ึงกันและกันในหมู่สมาชิกของกลุ่มคนงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงหนุนช่วยสหภาพแรงงานภาคเอกชนในประเด็นปัญหาต่าง ๆ และต่อสู้ เพ่ือความเปน็ ธรรมและประชาธปิ ไตยในสงั คมไทย ภาพการออกมาเคลอื่ นไหวรว่ มกบั ขบวนการประชาชน นกั ศกึ ษา และ ผู้ใช้แรงงาน ในการต่อสู้เพ่ือความเป็นธรรมและความเป็นประชาธิปไตย โดย 126

การเรยี กรอ้ งกฎหมายประกนั สงั คม เนอ่ื งดว้ ยกลมุ่ รฐั วสิ าหกจิ ฯ มองเหน็ ปญั หา ของเพอ่ื นผใู้ ชแ้ รงงานทถี่ กู เอารดั เอาเปรยี บจากนายจา้ งและรฐั บาล เชน่ ปญั หา การเลกิ จ้างคนงานซึ่งสว่ นใหญ่เป็นคนงานทใี่ ช้แรงงาน คนงานไม่มคี วามม่ันคง ในการท�ำงาน หรือระหว่างการท�ำงานหากเจ็บป่วยก็ไม่มีสิทธิในการรักษา เป็นต้น สภาพปญั หาดังกลา่ วท่ีเกดิ ข้ึน กลมุ่ รฐั วสิ าหกิจฯ ถอื ว่าเป็นการละเมิด สทิ ธขิ ั้นพื้นฐานและเป็นความไม่เทา่ เทียมกันของคนในสังคม คณุ วฒั นะบอกวา่ “ภาคเอกชนหากเปน็ บรษิ ทั ใหญ ่ ๆ สวสั ดกิ ารอาจจะดี รายไดใ้ กลเ้ คยี ง กับรัฐวิสาหกิจ แต่คนงานที่ต้องใช้แรงงานเป็นหลัก อาศัยเครื่องจักรเป็น ตัวประกอบหลัก และคนงานสว่ นหน่งึ ซึ่งนายจา้ งไมเ่ ปิดโอกาสให้พัฒนาทกั ษะ กลายเปน็ แรงงานไรฝ้ มี อื เราจึงมองวา่ กฎหมายประกนั สังคมเปน็ จะตัวนำ� และ สามารถเชื่อมโยงไปสู่จดุ อ่ืน ๆ ไดใ้ นเรอื่ งการร่วมกันพฒั นาทักษะคนงาน “กฎหมายประกันสังคมเป็นเร่ืองที่ชี้ให้เห็นถึงความเท่าเทียมกัน ของมนุษย์ในประเทศ ช่วงผมเป็นเลขาธิการกลุ่มรัฐวิสาหกิจฯ ได้ออกมา เคล่ือนไหวร่วมเรียกร้องกฎหมายประกันสังคมร่วมกับคนอื่น ๆ เพราะอยาก ให้คนอ่ืน ๆ ได้มีการใช้กฎหมายประกันสังคม ถึงแม้ว่าของตนเองมีสวัสดิการ ดอี ยู่แล้ว รวมถึงร่วมเรียกรอ้ งกฎหมายอืน่  ๆ เชน่ เรือ่ งสญั ญาจา้ งชัว่ คราว” นอกจากการมองภาพปญั หาของเพอ่ื นผใู้ ชแ้ รงงานจากการถกู เลกิ จา้ ง ไม่มีความมั่นคงในการท�ำงาน หรือเม่ือเจ็บป่วยไม่มีสิทธิในการรักษาพยาบาล แล้ว เหตุผลส�ำคัญในการออกมาเคล่ือนไหวเรียกร้องของกลุ่มรัฐวิสาหกิจฯ คือ “การร่วมมือ ร่วมใจ ของขบวนการแรงงาน ความเป็นประชาธิปไตยการ เฉลีย่ ทกุ ข์ เฉล่ยี สุข” คุณวัฒนะเล่าวา่ “มองขบวนการแรงงานเป็นภาพใหญ่ ส่วนเรื่องผลประโยชน์ของ กฎหมายตอนนั้นยังคิดไม่มาก เป็นการสร้างสวัสดิการในการแก้ปัญหา คิดแค่ การประกนั เงนิ เนน้ เรอื่ งการเจบ็ ปว่ ย สว่ นการลาคลอดยงั ไมไ่ ดค้ ดิ หากกฎหมาย ออกมาคนงานภาคเอกชนจะไดม้ หี ลกั ประกนั เพราะชว่ งนน้ั เขาไมม่ ี ไดร้ บั คา่ จา้ ง 127

น้อย มองถงึ ว่าเมอื่ เขาชราภาพจะทำ� อยา่ งไร การลงขนั จากทง้ั นายจ้าง ลกู จ้าง รฐั บาล แรงงานสัมพนั ธน์ ่าจะดีข้นึ เพราะทุกฝ่ายเปน็ เจา้ ของกองทนุ ร่วมกัน” ในปี พ.ศ. 2531-2532 คุณวัฒนะได้รับเลือกตั้งให้เป็น “ประธาน สภาองค์การลูกจ้างสมาพันธ์แรงงานแห่งประเทศไทย” ซ่ึงสภาองค์การลูกจ้าง สมาพันธ์แรงงานฯ มีบทบาทในการช่วยเหลือแรงงานที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ในด้านตา่ ง ๆ และรณรงค์นโยบายด้านแรงงานกับรัฐบาล “สภาองค์การลูกจ้างสมาพันธ์แรงงานฯ ร่วมเรียกร้องให้มีกฎหมาย ประกนั สงั คม โดยมองเหน็ ถงึ ความเจรญิ ของประเทศนน้ั  ๆ ตราบใดไมม่ กี ฎหมาย รองรับความเจริญถือว่าประเทศล้าหลัง นอกจากความเจริญแล้วยังมองถึง ความเป็นประชาธิปไตยระหว่างนายจา้ ง รฐั บาล และลกู จา้ งในการลงขันจัดตง้ั กองทุน” บทเรียนการต่อสู้จากกฎหมายประกันสังคม คุณวัฒนะ มองว่า คือ ความร่วมมือของภาคประชาสังคม อาทิ องค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) นัก วิชาการ นักศึกษา กล่มุ คนงานย่านอ้อมนอ้ ย-อ้อมใหญ่ กลุ่มยา่ นพระประแดง กลุ่มสหพันธ์แรงงานต่าง ๆ และกลุ่มรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ท่ีได้ร่วมมือกันอย่าง มากในการต่อสเู้ พ่อื ความเปน็ ธรรม ความเป็นประชาธปิ ไตย “องค์กรพัฒนาเอกชนด้านแรงงาน เสมือนเทียนส่องสว่าง มองไป ข้างหน้าว่าจะท�ำอะไรได้ เอ็นจีโอ ถือได้ว่าเป็นตัวส่องทาง ช่วยให้ค�ำปรึกษา ท�ำให้ทุกคนที่เข้าร่วมได้เรียนรู้ใกล้เคียงกัน ได้รับทราบข้อมูลท่ีไม่แตกต่างกัน มากนัก บทบาทเหล่าน้ีประสานกันหมด เอ็นจีโอเป็นตัวเชื่อม เป็นตัวกระตุ้น ว่าท�ำไมเรื่องนี้รัฐวิสาหกิจไม่จัดการ หรือด�ำเนินการให้ข้อมูลแก่คนงานท้ัง ภาคเอกชนและรฐั วสิ าหกิจ “รศ.แล ดิลกวทิ ยรตั น์ อาจารยณ์ รงค์ เพช็ รประเสรฐิ อาจารยว์ รวิทย์ เจริญเลิศ ได้เสนอแนวทางการต่อสู้จากประเทศต่าง ๆ มาแลกเปลี่ยน เรา พยายามผสมผสานบนความตอ้ งการพน้ื ฐานทต่ี ้องการและดที ส่ี ุด” 128

• ยุทธวธิ กี ารอดอาหาร ถือเป็นวิธีการหน่ึงที่แกนน�ำใช้ ถือได้ว่าประสบความส�ำเร็จในการใช้ เรยี กรอ้ งกบั ภาครฐั เมอื่ วนั ท่ี 17 พฤษภาคม 2533 เวลา 12.00 น. คณะกรรมการ ผลกั ดนั กฎหมายประกนั สงั คมไดม้ าชมุ นมุ บรเิ วณหนา้ รฐั สภา โดยมผี นู้ �ำแรงงาน และนักวิชาการจ�ำนวน 18 คน ประกาศอดอาหารประท้วงจนกว่าวุฒิสภา จะผ่านร่าง พ.ร.บ. ประกันสังคม ซึ่งขณะน้ันเป็นเวลาท่ีมีการประชุมของ วุฒิสภา และช่วงเย็นมีกลุ่มผู้ใช้แรงงานจากกลุ่มย่านต่าง ๆ เช่น พระประแดง อ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ สหภาพแรงงานรังสิต กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ สัมพันธ์ มาร่วมชุมนมุ และใหก้ ำ� ลังใจผู้อดอาหารประมาณ 5,000 คน คุณวัฒนะ ถือเปน็ แกนนำ� คนหนง่ึ ทรี่ ่วมอดอาหารด้วยในช่วงนัน้ คณุ วัฒนะเล่าถึงวิธีการเรียกร้องของขบวนการแรงงานในขณะนัน้ ไว้ 2 ระดบั คอื ระดับท่ีหนึ่ง คือ การใช้ความแข็งกร้าว โดยขบวนการแรงงานใช้ ความเข้มแข็งของขบวนการแรงงานผลักดัน เช่น การเดินรณรงค์ การชุมนุม เรยี กรอ้ ง เปน็ ต้น “มาตรการของขบวนการแรงงานท�ำกันอย่างเต็มท่ี เพื่อใช้ความ เข้มแขง็ ของขบวนการแรงงานเขา้ ไปผลกั ดันซ่ึงไดผ้ ลระดับหนึ่ง” ระดบั ท่ีสอง คอื การขอความเหน็ ใจ โดยการใช้วธิ กี ารอดอาหาร เพ่ือ ขอความเห็นใจจากคนท้ังประเทศ รวมถึงเป็นการส่งสัญญาณให้กับนายทุน รฐั บาล และวฒุ สิ มาชกิ ใหห้ นั กลบั มามองปญั หาและเรง่ ด�ำเนนิ การออกกฎหมาย ประกนั สงั คม “วิธีการอดอาหารถือว่าได้ผล ขบวนการแรงงานไม่มีใครท�ำ มีแต่ใช้ ความแขง็ กรา้ วบบี รฐั บาล และนายจา้ ง การอดอาหารมขี า่ วออกทง้ั หนงั สอื พมิ พ์ โทรทัศน์ ส่ิงส�ำคัญท่ีท�ำให้ขบวนการแรงงานมองว่าความส�ำเร็จอยู่ไม่ไกลเกิน ทจ่ี ะทำ� ได้ คอื การมหี ลายสว่ นเขา้ รว่ ม ทงั้ เอน็ จโี อ นกั ศกึ ษา แรงงาน รฐั วสิ าหกจิ ถอื เปน็ ปรากฏการณ์ทีไ่ มเ่ คยเกิดขน้ึ ในประเทศไทย” 129

• การปฏิรปู กฎหมายประกนั สงั คม ตลอดระยะเวลา 18 ปี ของการประกาศใช้พระราชบัญญตั ิกฎหมาย ประกันสังคม พ.ศ. 2533 ภาคประชาสังคมได้มีการเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูป กฎหมายประกันสังคมและกองทุนประกันสังคม (กองทุนประกันสังคม คือ กองทุนที่จัดต้ังข้ึนตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม พ.ศ. 2533 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2537 และแก้ไข เพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2542 เพ่ือสร้างหลักประกันให้แก่ลูกจ้างท่ีท�ำงาน ในสถานประกอบการ ใหไ้ ด้รบั ความค้มุ ครองเมอ่ื ประสบอันตราย หรอื เจบ็ ปว่ ย คลอดบุตร ตาย ทพุ พลภาพ สงเคราะห์บุตร และชราภาพ) คุณวัฒนะ ได้เสนอแนวคิดการปฏิรูปกฎหมายประกันสังคม ใน ดา้ นการบรหิ ารจดั การกองทนุ การมสี ว่ นรว่ มในการบรหิ ารจดั การกองทนุ และ ความเปน็ ประชาธิปไตยทต่ี อ้ งมกี ารเลือกต้งั “ต้องถามวา่ ตลอดเวลา 18 ปี มีเงินกองทุนจากการบริหารมากนอ้ ย แคไ่ หน คนบรหิ ารมสี ว่ นกำ� หนดคนเขา้ มาบรหิ ารไดไ้ หม ความเปน็ ประชาธปิ ไตย การมีส่วนร่วมของคนท่ีจ่ายเงินมีหรือไม่ หรือความโปร่งใสในการบริหารงาน มีหรอื ไม่ เหน็ ด้วยกบั การเลือกตั้ง” ในส่วนการให้กองทุนประกันสังคม เป็นองค์กรอิสระ คุณวัฒนะตั้ง ข้อสังเกตไว้น่าสนใจ โดยการให้มองว่า ปัญหาอุปสรรคของกองทุนเม่ืออยู่ ในราชการคืออะไร เช่น การลงทุน ประสิทธิภาพการท�ำงานมีปัญหาอย่างไร การลงทุนจะต้องให้มีสภาพัฒน์มาดูแล หากออกนอกระบบ จะดีกว่าหรือไม่ อยา่ งไร ซ่งึ ต้องดูหลากหลายรปู แบบ ทา้ ยสดุ ของบทเรยี นการรว่ มตอ่ สขู้ องภาคประชาสงั คมจนไดก้ ฎหมาย ประกันสงั คมมา นา่ จะเป็นบทเรียนในการน�ำมาช่วยแก้ไขปญั หาของขบวนการ แรงงานในปัจจุบัน 130

“เป้าหมายส�ำคัญ คือ ต้องการให้ขบวนการแรงงานเป็นปึกแผ่น อยา่ งทเ่ี คยรว่ มมอื กนั ในการเรียกร้องกฎหมายประกนั สงั คม โดยมที ุกภาคสว่ น ทัง้ ภาคเอกชน องคก์ รพฒั นาเอกชน นกั วชิ าการ นกั ศกึ ษา มกี ารใหก้ ารศึกษา รว่ มกันอยา่ งใกลช้ ดิ ซ่งึ รูปแบบการต่อสกู้ ฎหมายประกนั สงั คมน่าจะน�ำกลบั มา แกไ้ ขปญั หาขบวนการแรงงานในปัจจบุ ัน”  ลุงบุญมี วันดี รวีวุฒิ สุวรรณรัตน์ คณุ บญุ มี หรอื “ลงุ บญุ ม”ี อดตี ผนู้ ำ� แรงงานจากสหภาพแรงงานกจิ การ ปน่ั -ทอแหง่ ประเทศไทย (พพิ ฒั นสมั พันธ์) ยา่ นพระประแดง จ.สมุทรปราการ เดิมเป็นคน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เข้ามาท�ำงานเม่ือปี 2521 ในแผนก โกดังฝา้ ย และเขา้ สกู่ ระบวนการแรงงานโดยเรม่ิ จากการเรียกร้องกบั ฝ่ายบคุ คล ของ บรษิ ทั พพิ ฒั นกจิ เทก็ ซไ์ ทล์ จำ� กดั ในประเดน็ ไดค้ า่ ตอบแทนนอ้ ยกวา่ คา่ แรง ขั้นต่ำ� ซึง่ ตอนน้ันคา่ จา้ งอย่ทู ่ี 35 บาท แตล่ ุงบญุ มไี ด้ 28 บาท จงึ มีการเรียกรอ้ ง ให้ปรับค่าจ้าง ลุงบุญมีได้ลงสมัครรับเลือกต้ังเป็นกรรมการสหภาพ 2 ครั้ง ในปี 2522 โดยไดร้ ับเลือกตั้งเปน็ กรรมการสหภาพในครั้งที่ 2 ลุงบุญมีเล่าให้ฟังว่า สาเหตุท่ีประกันสังคมเร่ิมเป็นที่สนใจและให้ ความส�ำคัญน้ัน เริ่มจากการประชุมกับ อาจารย์นิคม จันทรวิทุร ว่าประกัน สังคมนั้นมีไว้เพื่อเป็นหลักประกันในการท�ำงานของคนงาน ทางสมาคมสิทธิ 131

และเสรีภาพของประชาชน (สสส.) มสี ว่ นชว่ ยในการนำ� ความคิดของอาจารย์ นิคมมาท�ำให้ง่ายต่อการท�ำความเข้าใจของคนงานในย่านพระประแดง และ อ้อมน้อย-ออ้ มใหญ่ ทำ� ให้เกดิ การสร้างความเข้าใจในหมคู่ นงานถงึ ความส�ำคัญ ของประกันสังคม โดยการขับเคล่ือนเรียกร้องเริ่มจากกลุ่มสหพันธ์ส่ิงทอที่รวม ตวั กนั กว่า 50 สหภาพ มีประธานสหพันธฯ์ คอื นายบญุ ขำ� ศรีกรา่ งทอง ซึ่งมี บทบาทอยา่ งมากในการกำ� หนดทศิ ทาง และทำ� ใหก้ ลมุ่ ยา่ นพระประแดงเปน็ ตวั ส�ำคัญในการขับเคลื่อนการเรียกร้องประกันสังคม ร่วมกับกลุ่มนักศึกษา และ รฐั วสิ าหกิจ ซง่ึ ได้รว่ มเรียกร้องที่หนา้ รฐั สภา โดยรปู แบบการจดั อบรมใหค้ วามรกู้ บั แรงงานในประเดน็ ประกนั สงั คม นน้ั ยา่ นพระประแดงจะจัดนอกสถานที่ เช่น จัดในรา้ นอาหารแล้วเชญิ วิทยากร มาใหค้ วามรู้ เป็นต้น บางคร้ังก็รว่ มกันจดั รวมหลายสหภาพในนามของสหพันธ์ แรงงานส่ิงทอ ซ่ึงแตกต่างจากรูปแบบของอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ ท่ีเอ็นจีโอด้าน แรงงาน มีคุณจะเด็จ เชาวน์วไิ ล กลุม่ เพ่ือนหญงิ คณุ ทรงศกั ด์ิ บุญกวนี ภานนท์ ผู้ประสานงานสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน เป็นผู้มีบทบาทในการลงไป ใหค้ วามรู้ แจกแผ่นพบั เพอื่ สรา้ งความตระหนกั ให้กบั คนงาน การเข้าร่วมการเรียกร้องประกันสังคมของกลุ่มย่านพระประแดงนั้น มีแนวทางมาจากการจัดตั้ง โดยแต่ละสหภาพจะมีการให้ความรู้ในประเด็น ท่เี รียกร้อง แกนน�ำทม่ี แี นวคดิ แบบฝา่ ยซ้ายสามารถวางยุทธศาสตรใ์ นการตอ่ สู้ ได้อยา่ งลึกซงึ้ ซง่ึ เป็นจดุ แข็งของกลมุ่ ยา่ นพระประแดง การประสานงานระหว่างกลุ่มย่านพระประแดงกับนักศึกษา ผู้ที่ ประสานงานหลัก คือ คุณสมบัติ ทองเปลว (ผู้ล่วงลับ) โดยองค์กรนักศึกษา นนั้ จะถกู เรียกวา่ “กองหน้าสะพานเชือ่ ม” เชอ่ื มระหว่างผูใ้ ช้แรงงานกับชาวนา หลังจากนนั้ ไดม้ ีการตง้ั กลุ่มใหม่ชอ่ื “คบไฟ” โดยมี ศโิ รตม์ คลา้ มไพบูลย์ เปน็ คนทำ� งานลงพน้ื ท่ี และเปน็ คนสำ� คัญทเ่ี ชื่อมประเดน็ ประกนั สังคม 132

ลุงบุญมีพูดถึง บุญข�ำ ศรีกร่างทอง อดีตประธานสหพันธ์สิ่งทอว่า เป็นคนตรงไปตรงมา มีมนุษย์สัมพันธ์ดี รักความเป็นธรรม เป็นคนมีความคิด แบบฝ่ายซ้าย (ลัทธิสหภาพนิยม) หลังจากการเรียกร้องประกันสังคม ก็ไปลง เล่นการเมืองทอ้ งถน่ิ ลุงบุญมีได้ให้ความเห็นเก่ียวกับการเคลื่อนไหวเรียกร้องในอดีตว่า ใช้การจัดต้ัง ใช้การรวมตัวของคนงานไปร่วมกดดัน แต่ปัจจุบันใช้การล็อบบี้ เจรจาต่าง ๆ ไปเสนอนโยบายซึ่งบางครั้งก็ไม่สำ� เร็จ ซึ่งการเรียกร้องต่อโรงงาน เมื่อก่อนต้องใช้การกดดัน Slowdown การทำ� งาน การ Strike งาน เพราะ นายจ้างจะไม่ยอมรับในข้อเสนอท่ีเสนอไป • ในประเด็นการปรบั แก้ไขการประกนั สงั คม ลุงบญุ มีมีข้อเสนอวา่ 1. การไดส้ ทิ ธปิ ระโยชนค์ ่อนข้างตำ�่ เชน่ เงนิ เกษยี ณอายุ เงนิ บำ� นาญ ต้องเรยี กรอ้ งใหม้ กี ารปรับเพมิ่ 2. องค์กรประกันสังคมควรต้องเป็นอิสระจากรัฐ เพราะคนงานเป็น คนจา่ ย คนงานควรจะไดป้ ระโยชน์ ปจั จบุ นั คนทป่ี ระชมุ สว่ นใหญจ่ ะเปน็ คนจาก หน่วยงานรัฐ คนงานมสี ว่ นร่วมน้อยมาก  133

คณุ ศรายุทธ ต้ังประเสริฐ เฉิดโฉม อภชิ าติชยั กุล ย้อนภาพประวัติศาสตร์การเรียกร้องกฎหมายประกันสังคมเม่ือ 30 ปี ท่ีผ่านมา บทบาทขบวนการเคล่ือนไหวของสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่ง ประเทศไทย มีความส�ำคญั ในการขบั เคลอ่ื นรว่ มกบั แรงงานอยา่ งมาก ในฐานะ ปัญญาชนในรั้วอุดมศึกษา คุณศรายุทธ ต้ังประเสริฐ หรือกุ้ย นักข่าวส�ำนัก ขา่ วประชาไท ทที่ �ำงานยนื ขา้ งภาคประชาชนมายาวนาน กเ็ ปน็ หนงึ่ ในนกั ศกึ ษา ท่ีเข้ามามีส่วนหนุนเสริมพลังของแรงงานในการเคลื่อนไหวกฎหมายประกัน สังคมจนประสบความส�ำเรจ็ คุณกุ้ยเลา่ ถึงประสบการณก์ ารรว่ มกบั ขบวนการ แรงงานครง้ั นน้ั วา่ “ชว่ งการเรยี กรอ้ ง ผมกำ� ลงั เรยี นอยพู่ ระจอมเกลา้ พระนครเหนอื แรก ๆ มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับรุ่นพี่ ไปออกค่าย ไปเดินป่า ท�ำกิจกรรมตรงนั้น สนุกดี ชอบธรรมชาติ ยังไม่ได้สนใจการท�ำงานกับสายแรงงานเลย พอได้เริ่ม ออกค่ายจดั กิจกรรมบ่อยครงั้ ข้ึน ได้เจอคนหลากหลาย คนหน่ึงทต่ี อ้ งให้เครดติ คอื ศโิ รตม์ คลา้ มไพบลู ย์ เขาสนใจในงานลา่ ง คอื ระดบั คนงานแรงงงาน กรรมกร ซึ่งในขณะนั้นสหพันธ์นิสติ นกั ศกึ ษาฯ ไมค่ ่อยสนใจเท่าไหร่ จะม่งุ เนน้ ไปทำ� งาน ระดับบนคือ ระดับโครงสร้าง การเมือง เรื่องคอร์รัปชัน เบนเข็มไปแบบนั้น แต่ศิโรตม์ฐานการท�ำงานกับแรงงานเขาแข็งแรง ก็พยายามต่อสู้ทางความคิด พอสมควรจนไดม้ าเจอกนั และได้มาทำ� เร่อื งกระบวนการแรงงาน” เมอ่ื ถามถงึ บทบาทของคณุ กยุ้ เปน็ อยา่ งไร ในการทำ� งานกบั แรงงาน ไดค้ ำ� ตอบว่า “ยังไม่ค่อยมีอะไรมาก ในช่วงแรกเราก็ลงไปจัดกิจกรรม สร้างสีสัน ในการจดั กลุ่มศึกษาบ้าง แต่มาช่วงโคง้ สดุ ทา้ ยในช่วงหลงั ตอ้ งบอกว่าการเชอ่ื ม โยงงานของนกั ศกึ ษากบั แรงงาน คอื องคก์ รเอน็ จโี อดา้ นแรงาน ทเ่ี ชอื่ มประสาน เราในตอนนนั้ บทบาทของนกั ศกึ ษาเหมอื นเปน็ กองหนา้ ในการประทว้ งมากกวา่ 134

เป็นตวั หนนุ เสรมิ ให้กจิ กรรมมีสสี นั สรา้ งสรรค์ ทบ่ี อกว่าเป็นกองหนา้ คือ สมัย ก่อนเวลามมี อ็ บกัน ตำ� รวจมักใช้ความรนุ แรงกับคนงาน พอมีนกั ศกึ ษาเข้าร่วม ประท้วงด้วย เหมือนทางรัฐบาลก็ยังมีความเกรงใจบ้าง ว่ามีกลุ่มคนที่มีความ รู้ มเี ดก็  ๆ มาด้วย การใช้แรงปะทะมันกเ็ บาบางลงบา้ งก็เลยถือว่านกั ศกึ ษาเป็น กองหน้าม็อบ ผมก็หนง่ึ ในน้ันท่ีเป็นไม้กันหมา” นอกจากนักศึกษาจะเป็นกองหน้า หนุนเสริมพลังของแรงงาน กระบวนการนักศึกษายังมีความส�ำคัญในการเรียกร้องกฎหมายประกันสังคม โดยการใช้วิธี “อดอาหาร” เมื่อถามคุณกุ้ยถึงการตัดสินใจเข้าร่วมอดอาหาร ประทว้ งรัฐบาลครง้ั นั้น คุณกยุ้ เล่าต่อวา่ “สาเหตุที่ตัดสินใจร่วมอดอาหารหน้าท�ำเนียบคือช่วงโค้งสุดท้าย แล้วล่ะ มันคงต้องมีอะไรแรง ๆ ในการกดดันแล้วล่ะ เพ่ือให้รัฐบาลเห็น ความส�ำคัญ พอคุยกันและหาคนท่ีจะมานั่งอดอาหารกัน มีแต่คนกลัว ว่ามัน จะยดื เย้ือหรอื เปล่า ร่างกายจะพรอ้ มไหม มนั มกี ารตงั้ ค�ำถามกนั เยอะ ไมม่ ใี คร กล้า มาถามผม ผมกลา้ นะ เพราะเราเองก็เด็กชา่ งตอนนนั้ พระนครเหนอื มอง วา่ รา่ งกายผมแขง็ แรงกว่าคนอื่นและแค่ 2 วันเอง เลยตกลงอดขา้ วดว้ ย ไมก่ ิน อะไรเลย 2 วนั จนกวา่ รา่ งจะผา่ น” เมอ่ื รา่ งกฎหมายประกนั สงั คมผา่ นการพจิ ารณา กระบวนการนกั ศกึ ษา กับการท�ำงานกับชาวบ้านก็เลือนหายไป ในการวิเคราะห์ช่วงเวลาท่ีผ่านมา กระบวนการนักศึกษาให้ความสนใจในการท�ำงานระดับโครงสร้างการบริหาร การเมืองมากขึ้น ท�ำให้คนท�ำงานในประเด็นแรงงานกับชาวบ้านมีน้อยลง กลุ่มก้อนคนท�ำงานก็ค่อย ๆ หายไปหลังจากปี 2535 เป็นต้นมา จึงอาจถือ ไดว้ ่า คณุ ศรายทุ ธ ตงั้ ประเสรฐิ เป็นกลมุ่ นักศกึ ษาร่นุ สดุ ทา้ ยที่ร่วมหนุนเสริม ขบั เคลื่อนประเด็นแรงงาน ภายใต้สหพนั ธน์ สิ ิตนักศกึ ษาฯ ในสมัยน้นั และเป็น หน่งึ ในความสำ� เรจ็ ของการผลกั ดนั กฎหมายประกนั สงั คมให้เกิดขน้ึ  135

พี่บญุ ข�ำ ศรีกร่างทอง (ผ้ชู ายถอื แผน่ กระดาษ) ประธานสหพันธแ์ รงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ ผู้น�ำแรงงานจากย่านพระประแดง ปา้ บุญช่วย จนั ทร์ลบ (ลูกสรชี้) ประธานสหภาพแรงงานอาภรณไ์ ทย ผู้นำ� แรงงานจากยา่ นพระประแดง

แด่ผทู้ ี่จากไป จะเดจ็ เชาวนว์ ิไล • คุณสมบัติ ทองเปลว การก่อเกิดสหภาพแรงงานอาภรณไ์ ทย พระประแดงเป็นเขตอุตสาหกรรมท่ีสำ� คัญของจังหวัดสมุทรปราการ เป็นนโยบายขยายตัวของอุตสาหกรรมไปยังเขตปริมณฑลกรุงเทพฯ ของ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส่งผลให้จังหวัดสมุทรปราการเป็น เขตอุตสาหกรรมท่ีส�ำคัญ พระประแดงเป็นพื้นท่ีที่มีการขยายตัวของโรงงาน อุตสาหกรรมอย่างหนาแน่น มีโรงงาน 1,113 แห่ง จ�ำนวนลูกจ้าง 86,730 คน โดยสมุทรปราการมีโรงงานทง้ั ส้นิ 4,139 แหง่ มลี ูกจา้ ง 295,875 คน จะ เห็นว่าจำ� นวนลูกจา้ งในเขตพระประแดงมีลูกจา้ งเกือบ 1 ใน 3 ของคนงานใน จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากเป็นเขตอุตสาหกรรมท่ีส�ำคัญ ท�ำให้เศรษฐกิจ ของประเทศเจริญเติบโตแล้ว พระประแดงยังเป็นเขตที่มีการรวมกลุ่มของคน งานจากโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ท่ีมีบทบาทเคลื่อนไหวในการแก้ไขปัญหา แรงงานท่ีส�ำคัญหลายคร้ัง มีสหภาพแรงงานหลายแห่งเป็นสหภาพแรงงานท่ี เข้มแข็ง มีอ�ำนาจต่อรองกับนายจ้าง แต่ก็มีบางแห่งยังมีปัญหากับนายจ้างท่ี ต้องการท�ำลายสหภาพแรงงาน สหภาพแรงงานในเขตจังหวัดสมุทรปราการมี ประมาณ 130 กว่าแห่ง สหภาพแรงงานอาภรณไ์ ทยกเ็ ปน็ อกี สหภาพแรงงานหนง่ึ ทถ่ี อื กำ� เนดิ มาและตอ่ สู้เพื่อคนงานมาตลอด โดยมีจดุ เร่ิมต้น ดังน้ี โรงงานไทยพัตราภรณเ์ ปน็ บริษัทประเภทปน่ั ดา้ ยและทอผ้า กอ่ ตง้ั มา ตั้งแต่ปี 2500 ท่ีตั้งโรงงานเดิมอยู่แถวคลองตัน ช่วงแรกผลิตทอผ้าอย่างเดียว 137

ต่อมาปี 2514 บรษิ ทั ไดย้ ้ายมาอยแู่ ถวพระประแดง ถนนปเู่ จา้ สมิงพราย โดย ได้ท�ำการผลิตท้ังเส้นด้ายและทอผ้า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนจีนสัญชาติไทย และอังกฤษ สภาพการจ้างอยู่ในสภาพท่ีต�่ำกว่ามาตรฐาน ท�ำให้คนงาน ในโรงงานมคี วามกดดันมาตลอด และก็ได้ปะทุในชว่ งประชาธปิ ไตยเบ่งบานแต่ ก็เป็นเพยี งชวั่ คราว โดยในปี 2518 หวั หน้าคนงานรายวันซึ่งสว่ นใหญเ่ ปน็ ผชู้ าย ไดใ้ ชเ้ ครอื่ งกระจายเสยี งประกาศใหค้ นงานรายวนั ทอี่ ยโู่ รงปน่ั ดา้ ยและโรงทอผา้ ให้ปิดเคร่ืองจักร ปิดไฟฟ้า และให้ออกจากห้องท�ำงาน คนงานรายวันท่ีก�ำลัง ทำ� งานอยไู่ มท่ ราบเรอื่ งอะไร จงึ ไมย่ อมเลกิ ทำ� งาน หวั หนา้ คนงานรายวนั ดงั กลา่ ว จงึ ปิดไฟฟ้า ปิดเคร่ืองจักร ไล่ต้อนคนงานทก่ี �ำลังท�ำงานให้ออกจากหอ้ งท�ำงาน เม่ือคนงานทุกคนยอมออกมายืนหน้าโรงงานปั่นด้ายและโรงงานทอผ้าแล้ว หัวหน้าคนงานได้ช้ีแจงให้ทราบว่า มีการนัดหยุดงานเพื่อจะเรียกร้องค่าจ้าง สวสั ดิการ และขณะน้ีที่โรงงานอื่น ๆ กท็ ำ� กนั และนายจา้ งก็ยนิ ยอมเพ่ิมคา่ จา้ ง และสวสั ดิการให้ คร้งั นัน้ มีการเขา้ เจรจากับนายจา้ งเปน็ เวลา 1 ช่วั โมง นายจ้าง ก็ตกลงจะข้ึนคา่ จ้างให้คนงานทุกคน คนละ 50 สตางค์ต่อวนั นายจ้างยอมจ่าย ค่าจ้างให้ในช่วงหนึ่ง แต่ปรากฏอีก 3 ปีต่อมา นายจ้างก็ตัดค่าจ้างส่วนน้ีออก • โดยท่ีคนงานรายวนั เองก็ไม่สนใจ เนือ่ งจากไมเ่ ขา้ ใจเรื่องสิทธิคนงาน การประทว้ งครงั้ ท่ี 2 ตอ่ ตา้ นแมบ่ า้ นหอพกั หญิง ในช่วงต้นปี 2523 บริษัทได้ว่าจ้างอดีตผู้ช่วยนางพยาบาลมาเป็น แม่บ้านดูแลหอพักหญิง โดยท่ีก่อนหน้าน้ีหัวหน้าคนงานรายวันเป็นผู้ดูแล แต่นายจ้างมีความคิดว่าสภาพหอพักไม่สะอาดจึงจ้างแม่บ้านใหม่เข้ามา เม่ือ แมบ่ า้ นใหมเ่ ขา้ มาทำ� งานกเ็ รมิ่ วางกฎระเบยี บตา่ ง ๆ เพอื่ ใหห้ อพกั สะอาด ตงั้ แต่ ให้คนท�ำความสะอาดมาท�ำความสะอาดมากขึ้น มีท่ีท้ิงขยะประจ�ำ ในส่วนท่ี เก่ียวข้องกบั คนงานหญิงนนั้ แม่บ้านได้ออกกฎข้ึนมาชุดหนึง่ เช่น ไม่ให้คนงาน หญิงรับประทานอาหารในหอพัก และหน้าห้องพักซ่ึงเป็นระเบียงยาว สำ� หรับ การห้ามรบั ประทานอาหารในหอพักน้ัน ไมว่ ่าจะเปน็ อาหารหลกั หรือของเคี้ยว เล่นกไ็ มไ่ ดท้ ัง้ สิ้น 138

ปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้น เมื่อแม่บ้านใหม่อยู่ได้ 3 - 4 เดือน ท้ังน้ี เพราะระเบยี บบางขอ้ คนงานหญงิ ปฏบิ ตั ไิ ดไ้ มค่ รบถว้ น แตแ่ มบ่ า้ นใหมไ่ มย่ นิ ยอม เช่น กรณีคนงานจากอีสานน่ังรวมกลุ่มกัน 4 - 5 คน ต�ำส้มต�ำกันหน้าระเบียง หอพกั เมือ่ แม่บ้านมาเห็นก็ไมย่ อมนำ� ครกกบั สากทิ้งถังขยะ กรณแี มบ่ า้ นขอเขา้ ไปในหอ้ งนอนของคนงานเวลาคนงานพกั เพอ่ื ดแู ล ความสะอาด และถ้าเห็นหรือได้ยินใครเค้ียวอะไรอยู่ในปาก แม่บ้านจะให้คาย ของในปากทิ้งทันที แต่เหตุการณ์ท่ีได้ปะทุน�ำไปสู่การประท้วง คือ มีคนงาน ทอี่ ายุมากซ้อื ของเตรยี มไวส้ �ำหรบั ใสบ่ าตรในวันรงุ่ ขึ้น ซงึ่ คนงานทุกคนรูว้ ่าเปน็ นสิ ยั ของเพอ่ื นรนุ่ พ่คี นนที้ ีต่ อ้ งใส่บาตรทกุ วันพระ คนงานอาวโุ สคนน้ีไดว้ างของ ใส่บาตรไว้ท่ีระเบียงหน้าห้อง ปรากฏว่าแม่บ้านมาเห็นได้น�ำไปท้ิงในถังขยะ และกล่าวหาว่าคนงานลองดี เหตกุ ารณ์นี้น�ำไปสู่การประทว้ งคนงานหญิง โดยวิธแี รก คอื พรอ้ มใจ กันโห่ร้องขับไล่เหมือนไล่ควาย เมื่อแม่บ้านถูกกระท�ำดังกล่าวจึงกล่าวท้าทาย กับคนงานหญิงว่า “แน่จริงเธอไปบอกให้เจ้าของบริษัทไล่ฉันออกซิ เธอไม่มี สิทธิ์ไล่ฉันออกหรอก และถ้าฉันได้รับการบรรจุ เจ้าของบริษัทก็ให้ฉันออกไม่ ได้แล้ว” จากค�ำท้าทายของแม่บ้าน นำ� ไปสู่การประท้วงหน้าอาคารสำ� นักงาน บรษิ ทั โดยมีคนงานหญิงจ�ำนวน 300 คน ร่วมประทว้ ง และแจ้งความประสงค์ ต้องการให้แม่บ้านใหม่ออกไป ผู้จัดการรับฟังเร่ืองแล้วก็ให้สัญญาว่าจะเรียก แม่บ้านใหม่มาพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาให้ ให้คนงานกลับไปหอพักและอีก 3 วัน ใหค้ นงานหญิงมาฟงั ผล ปรากฏวา่ เม่อื ครบ 3 วัน คนงานหญิงทราบวา่ นายจา้ ง เพียงแค่เรียกแม่บ้านไปพูดคุยแต่ไม่ได้เลิกจ้างแต่อย่างใด ท�ำให้มีคนงานหญิง จ�ำนวนมากขึ้นออกมาประท้วงท่ีหน้าบริษัทอีก จนทางบริษัทยินยอมเลิกจ้าง แม่บ้านใหม่ ถือเป็นชัยชนะของคนงานอีกคร้ังหน่ึงซึ่งน�ำไปสู่การประท้วงใหญ่ ในปตี ่อมา ในช่วงน้ี สมบตั ิ ทองเปลว เริม่ เขา้ มาทำ� งานในบริษัทไทยพัตราภรณ์ ในปี 2522 เหตุการณ์นี้สมบัติเองมีบทบาทเพียงให้คำ� ปรึกษาเล็กน้อย ไม่ได้ ไปชว่ ยอะไรมากและก็ดอู ย่หู ่าง ๆ 139

• การประชุมเพอ่ื ขอค่าครองชพี น�ำไปสกู่ ารกอ่ ตัง้ สหภาพแรงงาน สาเหตุทีน่ ำ� มาสกู่ ารประชมุ ใหญข่ องคนงานในปี 2524 คือ 1. คนงานไม่พอใจในค่าแรงและสภาพการจ้าง คนงานรายวันของ บริษัททุกคนมีรายได้เฉพาะค่าจ้างซ่ึงส่วนใหญ่แล้วเท่ากับอัตราค่าจ้างข้ันต�่ำ คนงานรสู้ กึ วา่ ตนเองไดร้ บั คา่ จา้ งนอ้ ยโดยเฉพาะคนงานทท่ี ำ� งานมาเปน็ เวลา 10 ปี แต่ยังได้รับค่าจ้างเท่ากับคนงานเข้ามาใหม่ ไม่มีค่าครองชีพให้ บริษัทยังจัด สวัสดิการให้คนงานไม่เพียงพอ เช่น ให้ค่าข้าวต้มคืนละ 300 บาท แบ่งเป็น โรงทอผ้า 150 บาท โรงปั่นด้าย 150 บาท และให้ไข่เค็มคนละคร่ึงลูก หรือ ปลาทูตัวเล็ก ๆ บริษัทจัดน�้ำแข็งเป็นก้อนใหญ่ ๆ ใส่ไว้ในหม้อน�้ำ ซ่ึงบางคร้ัง นำ�้ แขง็ กส็ กปรก บางครง้ั นำ้� แขง็ ละลายนำ�้ หมดแลว้ นำ้� กย็ งั ไมเ่ ยน็ เลย สว่ นเสอื้ ผา้ ชุดทำ� งานบางปีก็ได้ บางปกี ็ไมไ่ ด้ คนงานตอ้ งซอื้ ผา้ มาตดั เอง 2. มกี ารเปรยี บเทยี บกบั สภาพการจา้ งบรษิ ทั ทดี่ กี วา่ น้ี ในชว่ งปี 2524 มสี หภาพแรงงานในพนื้ ทพ่ี ระประแดง ไดก้ อ่ ตง้ั ขน้ึ ประมาณ 21 สหภาพแรงงาน การตง้ั สหภาพแรงงานแตล่ ะแหง่ นนั้ ตอ้ งมกี ารประทว้ งนดั หยดุ งาน เพอื่ เรยี กรอ้ ง คา่ จา้ งและค่าครองชพี เพ่มิ ขนึ้ ท�ำใหค้ นงานของไทยพตั ราภรณท์ ่ีมคี วามรู้สกึ ว่า สภาพการจ้างของตนอยู่ในสภาพท่ีย�่ำแย่มาก โดยเห็นจากตัวอย่างของคนงาน บริษัทเอราวัณสิ่งทอในปี 2523 ได้มีการประท้วงนัดหยุดงานและผลจากการ ต่อส้ขู องคนงานในคร้ังนน้ั ทำ� ใหค้ นงานไดร้ ับค่าครองชีพจำ� นวน 200 บาท และ ไดร้ ับค่าจ้างสูงกวา่ อตั ราคา่ จา้ งข้ันต่ำ� ประมาณวนั ละ 5-10 บาท จากการท่เี หน็ คนงานบริษัทอ่ืน ๆ สู้แล้วชนะ และจากการประสบความสำ� เร็จในการร่วมกัน ขบั ไลแ่ มบ่ า้ นจนส�ำเรจ็ เปน็ ประสบการณท์ ที่ �ำใหค้ นงานหญงิ ภมู ใิ จ และตกผลกึ ความคิดว่าถา้ รวมกลุม่ กันไดแ้ ล้วตนเองก็สามารถตอ่ สู้กับนายจา้ งได้ จากมูลเหตุเหล่าน้ี ให้ท�ำ สมบตั ิ ทองเปลว และสงั เวียน มาสวัสดิ์ ได้ มกี ารพดู คยุ กนั ทจี่ ะรวมกลมุ่ คนงานยนื่ ขอ้ เรยี กรอ้ งกบั นายจา้ ง โดยไดไ้ ปปรกึ ษา 140

กับองค์กรภายนอก คอื ค�ำปุน่ วงษ์ขนั ธ์จากสหภาพแรงงานเหล็กและโลหะ ใน การวางแผนย่นื ขอ้ เรียกรอ้ ง หลงั จากน้นั ก็มาหาตัวแทนคนงานหญงิ ทีม่ ีบทบาท ได้รับการยอมรับจากคนงาน คือ ป้าบุญช่วย จันทร์ลบ ซ่ึงมีส่วนส�ำคัญท�ำให้ การต่อสู้ของคนงานหญิงในปี 2523 ขับไล่แม่บ้านออกจนชนะ และได้เตรียม การวางแผนล่ารายชื่อคนงานได้จ�ำนวน 841 คน จากคนงานทั้งหมด 1,250 คน แต่การเจรจาไม่ประสบความส�ำเร็จคนงานจึงประกาศนัดหยุดงานในวัน ท่ี 6 พฤษภาคม 2524 ขณะทีน่ ายจ้างประกาศปดิ งานในวนั เดียวกนั การต่อสู้ ของท้งั สองฝ่ายใช้เวลา 54 วนั จงึ ตกลงกันได้ คนงานจึงกลบั เข้าท�ำงาน โดยท่ี คนงานได้ค่าครองชีพ 150 บาท จากการย่ืนขอ้ เรียกรอ้ งไป 600 บาท ในชว่ ง การตอ่ สขู้ องคนงานนนั้ ไดร้ บั การสนบั สนนุ จากสหภาพแรงงานในพนื้ ทแ่ี ละกลมุ่ สหภาพแรงงานตา่ ง ๆ อยา่ งแข็งขัน ท�ำให้คนงานมกี ำ� ลงั ใจในการต่อสจู้ นไดร้ ับ ชัยชนะ ต่อมากไ็ ด้มีการต้ังสหภาพแรงงานชอ่ื ว่า สหภาพแรงงานอตุ สาหกรรม อาภรณไ์ ทย สมบตั ิ ทองเปลว ไดม้ บี ทบาทในการชว่ ยเหลอื สหภาพแรงงานมาตลอด โดยในช่วงแรกได้รับต�ำแหน่งเลขาธิการสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมอาภรณ์ ไทย และไดพ้ ยายามค้นคิดการพัฒนาสหภาพแรงงานรูปแบบใหม ่ ๆ เพ่ือเสรมิ ความเขม้ แข็งใหก้ บั สหภาพแรงงานอตุ สาหกรรมอาภรณไ์ ทย ดังตัวอยา่ ง 1. รูปแบบการจัดต้ังตัวแทนคนงานประจำ� ผลัด (กะ) ในโรงงานจะมี คนงานต่าง ๆ 4 กะ คือ กะเชา้ กะบ่าย กะดึก กะกลางวนั ตวั แทนของคนงาน ในกะ คนงานในกะจะเลือกข้ึนมาโดยจะเลือกคนท่ีใกล้ชิดพวกตน และจะมี หน้าท่ีทำ� งานหนุนเสรมิ งานของสหภาพแรงงาน เพราะบางครงั้ สหภาพแรงงาน ไม่สามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ของตวั คนงาน ตัวแทนกะจะเขา้ ถงึ ขอ้ มูล และความรู้สกึ ของคนงานไดด้ ีกวา่ ทำ� ให้การเคล่ือนไหวของสหภาพแรงงานแต่ละคร้งั มคี วาม เข้มแข็งมากขึ้น จากการประเมินข้อมูลได้รอบด้าน และบทบาทอีกอย่างหน่ึง ก็คอื คอยตรวจสอบการท�ำงานสหภาพแรงงานด้วย 141

2. รูปแบบการจัดการศึกษาของคนงาน เน้นถึงสภาพให้เห็นชนช้ัน ตนเอง ในชว่ งท่คี นงานมเี หตกุ ารณ์ความขัดแยง้ กับนายจา้ งในหลายกรณี กจ็ ะ ใช้รูปแบบการจัดการศึกษามูลค่าส่วนเกินให้กับคนงานได้เห็นถึงการถูกขูดรีด จากนายจ้าง ว่ามีกระบวนการถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างไร แล้วก็ต้ังคำ� ถามกับ คนงานวา่ จะทนอยใู่ นสภาพเชน่ นหี้ รอื ออกมาตอ่ สู้ การใหก้ ารศกึ ษาแบบนที้ ำ� ให้ คนงานเห็นถึงการถูกเอาเปรียบและออกมารวมตัวต่อสู้ได้อย่างได้ผล ท�ำให้ คนงานเห็นถึงความเปน็ ชนช้นั ของคนงาน 3. รูปแบบสหภาพแรงงานอุตสาหกรรม หลังจากสหภาพแรงงาน อุตสาหกรรมอาภรณ์ไทยตั้งมาได้ 3 - 4 ปี ก็มีคนงานในพ้ืนท่ีพระประแดง โดยเฉพาะโรงงานสิ่งทอมาขอค�ำปรกึ ษาท่ีถูกนายจา้ งเอารดั เอาเปรียบ จึงท�ำให้ มีการน�ำรูปแบบการจัดตั้งสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมเดียวกัน ท่ีกฎหมาย แรงงานสัมพันธ์เปิดช่องให้เพ่ือให้คนงานมีความใกล้ชิดกันมากข้ึน ไม่แยก สหภาพแรงงานใครแรงงานมัน และเพ่ิมความเข้มแข็งโดยท่ีใช้งบประมาณ เดียวกัน ชว่ ยประหยัดคา่ ใช้จา่ ย เวลามกี ารตอ่ รองกบั นายจา้ งก็มีการหนนุ ช่วย กันได้ง่ายข้ึน เพราะอยู่สหภาพแรงงานเดียวกัน อนาคตก็หวังว่าจะร่วมกัน ยื่นข้อเรียกร้องพร้อมกันเพ่อื เพ่ิมอำ� นาจการตอ่ รอง สหภาพแรงงานอตุ สาหกรรมอาภรณไ์ ทยมสี มาชิกอยู่ 11 บรษิ ทั คอื 1) บรษิ ัท อดเิ รกการทอ จำ� กัด 2) บริษัท ไทยทวสี ิน จ�ำกัด 3) บริษทั วิเชยี รการ ทอ จำ� กดั 4) บรษิ ัท สามคั คกี ารทอ จำ� กดั 5)บริษัท นครหลวงการทอ จ�ำกัด 6) บริษทั ไทยพตั ราภรณ์ จำ� กดั 7) บริษทั เยนเนอรลั จ�ำกัด 8) บรษิ ัท รุง่ อุดม จ�ำกดั 9) บรษิ ัท ไทยภณั ฑ์ จำ� กัด 10) บรษิ ทั เอยี มเชงิ จ�ำกดั และ 11) ร้าน Start Brand Shop นอกจากน้ี สหภาพแรงงานอุตสาหกรรมอาภรณ์ไทย ยังมีบทบาท สำ� คัญในการหนนุ ชว่ ยคนงานในพนื้ ทีแ่ ละพ้นื ที่อืน่  ๆ นัดหยุดงาน 142

• สมบตั กิ ับบทบาทในกลุ่มย่านพระประแดง สมุทรปราการ และใกลเ้ คียง นอกจากบทบาทการท�ำงานในสหภาพแรงงานอุตสาหกรรม สมบัติ ทองเปลว ยังมีส่วนในการรวมกลุ่มเพื่อนสหภาพแรงงานอื่น ๆ ในพ้ืนที่ย่าน พระประแดง โดยในช่วงแรกของกลุ่มย่านนับตั้งแต่ปี 2524 มีผู้น�ำท่ีส�ำคัญ ในการประสานการรวมตัว คือ ค�ำปุ่น วงษ์ขันธ์ แต่ถูกลอบสังหารเสียชีวิต ในปี 2526 ท�ำให้การรวมตัวของกลุ่มย่านซบเซาไปประมาณ 3 ปี ต่อมาใน ชว่ งน้นั กลุม่ ย่านพระประแดงได้ร่วมเคลอ่ื นไหวแรงงานกับกลมุ่ แรงงาน 7 กลุ่ม เช่น กลุ่มสหภาพแรงงานกิจการโรงแรม กลุ่มสหภาพแรงงานกิจการอาหาร และเคร่ืองด่ืม กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิต กลุ่มสหภาพแรงงานส่ิงทอแห่ง ประเทศไทย กลุม่ สหภาพแรงงานรฐั วสิ าหกจิ สัมพันธ์ สหภาพแรงงานธนาคาร กรงุ เทพ บทบาทกลุ่มย่านเริ่มมาฟื้นฟูขึ้นอีกในช่วงปี 2529 ได้มีการพูดคุย ในหมู่เพื่อนสหภาพแรงงานในย่านพระประแดง โดยมีแกนน�ำในกลุ่มย่านคือ สมบัติ ทองเปลว บุญมี วันดี จาก สร. กิจการปั่นทอแห่งประเทศไทย เสนอ บญุ ทอง และวชิ ยั สิงหท์ ศิ จาก สร. สง่ เสริมส่งิ ทอไทย บุญข�ำ ศรกี ร่างทอง จาก สร. ทอผา้ เมโทร สุทิตย์ พรหมบุตร จาก สร. เซน็ จรู ี่เท็กซไ์ ทล์ ตวั แทนคนงาน สหภาพแรงงานสง่ิ ทอไทยเกรยี ง และตวั แทนจากสหภาพแรงงานเหลก็ และโลหะ ในปี 2530 - 2531 สมบัติ ทองเปลว ได้เป็นเลขาธิการกลุ่มย่าน พระประแดง ต่อมาในปี 2532 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มย่านพระประแดง สมุทรปราการและใกล้เคียง มสี มาชิกเพ่มิ ขึ้นจาก 7 แห่งเปน็ 10 แหง่ ท่เี พ่มิ ขึ้นคอื สหภาพแรงงานธนบุรีทอผ้าลูกไมแ้ ห่งประเทศไทย และสหภาพแรงงาน กระดาษกล่องกระดาษปัญจพล สหภาพแรงงานนำ� ง่ายฮง และได้มีบทบาทท่ี โดดเด่นข้ึนในช่วงปี 2529-2536 เป็นกลุ่มย่านที่มีมติไม่เข้าร่วมระบบไตรภาคี เพราะเหน็ วา่ ไมเ่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ผใู้ ชแ้ รงงาน และเปน็ ทชี่ ว่ งชงิ ผลประโยชนข์ อง ผ้นู �ำแรงงานบางกล่มุ 143

ในชว่ งปี 2530 - 2536 นนั้ มกี ารเคลอื่ นไหวของกลมุ่ ยา่ นพระประแดง กบั ขบวนการแรงงานในหลายครง้ั ทมี่ ผี ลสำ� คญั ทำ� ใหใ้ ชก้ ฎหมายทเี่ ปน็ ประโยชน์ กบั ผใู้ ชแ้ รงงานหรอื การแกป้ ญั หาแรงงาน โดยสมบตั ิ ทองเปลว ไดม้ บี ทบาทหลกั ในการเคล่ือนไหวกับกลุ่มย่านพระประแดง และนำ� คนงานในสหภาพแรงงาน รว่ มเคล่ือนไหวมาตลอด นอกจากบทบาทในกลุ่มยา่ น สมบัติ ทองเปลว ยังได้ เปน็ เลขาธิการสหพนั ธ์แรงงานอตุ สาหกรรมส่งิ ทอในปี 2532 ในปี 2530 ไดเ้ กดิ กรณพี พิ าทแรงงานโรงงานศรเี กา้ การทอและสามคั คี การทอ ซงึ่ เปน็ สมาชกิ ของสหภาพแรงงานอตุ สาหกรรมอาภรณไ์ ทย ท�ำใหม้ กี าร รวมสองกรณีต่อสู้ด้วยกันหน้าท�ำเนียบรัฐบาลยาวนานถึง 3 เดือน กลุ่มย่าน พระประแดงก็มีบทบาทส�ำคัญในการระดมสมาชิกไปช่วยเหลือคนงานสามัคคี การทอและศรีเก้าการทอ ท่ีอยู่หน้าท�ำเนียบรัฐบาล จนท�ำให้การต่อสู้ของ คนงานสามคั คกี ารทอและศรีเกา้ การทอไดร้ ับชยั ชนะ ในปี 2531 - 2532 ได้ร่วมการเคล่ือนไหวกับคนงานกลุ่มด้านต่าง ๆ ต่อต้านสัญญาจ้างชั่วคราว ซ่ึงเป็นปัญหาคนงานในย่านพระประแดงด้วย โดย ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการร่วมเคล่ือนไหวกับองค์กรแรงงานและกลุ่มย่าน ออ้ มน้อย-อ้อมใหญ่ รังสิต จนทำ� ใหม้ กี ารแกไ้ ขกฎหมายสญั ญาจา้ งชวั่ คราว ใน วนั ท่ี 11 ตุลาคม 2532 ในปี 2532 - 2533 ได้ร่วมเคล่ือนไหวกฎหมายประกันสังคม ร่วม กับกลุ่มย่านอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ รังสิต กลุ่มรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สหพันธ์นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย และองค์กรพัฒนาเอกชนการเคล่ือนไหวเร่ิมจาก เดือนพฤษภาคม 2532 ถงึ เดือนกรกฎาคมปี 2533 จนสภาผ้แู ทนราษฎรยอม ให้ผา่ นกฎหมายประกนั สงั คมในวันท่ี 11 กรกฎาคม 2533 นบั เปน็ ชยั ชนะของ คนงานในกลุ่มย่านต่าง ๆ ท่ไี ดร้ ว่ มกนั เคลอ่ื นไหวอยา่ งแข็งขันและจรงิ จงั หลงั จากนี้ได้มีการก่อตั้งกลุ่มประสานงานสหภาพแรงงานแห่งประเทศไทย โดยมี กลุ่มย่านพระประแดง สมุทรปราการและใกล้เคียง กลุ่มย่านอ้อมน้อย-อ้อม 144

ใหญ่ กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิต และกลุ่มรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ มีบทบาท ในการเคลอื่ นไหวการแกไ้ ขปญั หาแรงงาน โดยเฉพาะในชว่ งเดอื นตลุ าคม 2533 ได้มีการเคล่ือนไหวค่าแรงข้ันตำ่� กลุ่มประสานงานสหภาพแรงงานฯ องค์กรท่ี เคลื่อนไหวเป็นองค์กรหลัก จนได้ค่าแรงเพ่ิมขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มอิสระไม่ข้ึนอยู่กับ สหภาพแรงงานใด การก�ำหนดการเคลื่อนไหวจากคนงานระดับฐานในพื้นที่ อตุ สาหกรรมแตก่ ารรวมตวั กเ็ ปน็ เพยี งในระยะสนั้ บทบาทไดย้ ตุ ลิ งหลงั เหตกุ ารณ์ พฤษภามหาโหด ปี 2535 ในช่วง 2535 - 2536 กลุ่มย่านพระประแดง สมุทรปราการและ ใกล้เคียง กลมุ่ ยา่ นออ้ มนอ้ ย-ออ้ มใหญ่ รังสติ องค์กรพฒั นาเอกชนดา้ นแรงงาน ผหู้ ญงิ เดก็ กลมุ่ รฐั วสิ าหกจิ สมั พนั ธ์ นกั วชิ าการสหพนั ธแ์ รงงานตา่ ง ๆ ไดร้ ว่ มกนั รณรงค์กฎหมายลาคลอด 90 วัน จนไดร้ บั ความส�ำเร็จในชว่ งพฤษภาคม 2536 นอกจากการเคล่ือนไหวปัญหาแรงงานในพื้นที่อุตสาหกรรม และ การรณรงค์กฎหมายแรงงานต่าง ๆ สมบัติ ทองเปลว และสหภาพแรงงาน อุตสาหกรรมอาภรณ์ไทย ยังให้ความส�ำคัญกับประเด็นปัญหาทางสังคม โดย ได้ร่วมกลุ่มเคล่ือนไหวกับองค์กรทางสังคมอื่น ๆ เช่น ในปี 2529 ได้ร่วมกัน เคลื่อนไหวคัดค้านกฎหมายฟาร์มแอ็กต์ของสหรัฐอเมริกา ซ่ึงออกมากีดกัน สินค้าเกษตรจากประเทศไทยและประเทศในโลกท่ี 3 โดยร่วมกับสหพันธ์ นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย มีการเดินขบวนคนงานและนักศึกษาไปยัง สถานทูตอเมริกาหลายคร้ัง ในปี 2530 ได้ร่วมกับสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เคลื่อนไหวคัดค้านการสร้างเขื่อนน�้ำโจน จังหวัดกาญจนบุรี จนกระทั่งคณะ รัฐมนตรปี ระกาศรบั การสร้าง ในปี 2531 ได้ร่วมกบั สหพันธน์ ิสิตนกั ศกึ ษาแหง่ ประเทศไทย ในการ คดั คา้ นการฆา่ นกั ศกึ ษาและประชาชนทจี่ ตั รุ สั เทยี นอนั เหมนิ ประเทศจนี ทห่ี นา้ สถานที่ทูตจนี 145

ในช่วงปี 2535 ได้ร่วมกับองค์กรประชาธิปไตย เคลื่อนไหวคัดค้าน พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี จนเกิดเหตุการณ์พฤษภา มหาโหด ซึ่งคนงานจากสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมอาภรณ์ไทย ได้เวียนกัน มาร่วมเคล่ือนไหว ออกกะก็มาท่ีถนนราชด�ำเนิน จนท�ำให้ผู้น�ำหลายคนใน สหภาพแรงงานอุตสาหกรรมอาภรณ์ไทย ต้องถูกจับเข้าคุกในช่วงเหตุการณ์ วิกฤติ ภายหลังเหตุการณ์พฤษภามหาโหด สหภาพแรงงานอุตสาหกรรม อาภรณ์ไทย ได้ย่ืนข้อเรียกร้องกับ บริษัท ไทยพัตราภรณ์ จำ� กัด ในวันท่ี 8 กนั ยายน 2535 แลว้ ในวนั ท่ี 9 กนั ยายน 2535 ทางบรษิ ทั ไดย้ น่ื ขอ้ เรยี กรอ้ งสวน ภายหลงั จากการยน่ื ขอ้ เรยี กรอ้ ง แลว้ มกี ารเจรจาหลายครง้ั แตไ่ มส่ ามารถตกลง กันได้ ท�ำให้เกิดข้อพิพาทแรงงานและสหภาพแรงงานได้แจ้งการนัดหยุดงาน 1 ตุลาคม 2535 ตลอดระยะเวลา 10 วัน ฝ่ายคนงานได้มีการชุมชนกัน อย่างสงบโดยมคี นงาน 70-80 คน ทม่ี าชุมนมุ อยหู่ น้าบรษิ ัท สว่ นคนงานทเี่ หลอื บางสว่ นหางานท�ำ เมอื่ การเจรจาตา่ ง ๆ ลม้ เหลว โดยฝา่ ยนายจา้ งแจง้ วา่ บรษิ ทั ขาดทุนไม่สามารถให้ตามข้อเรียกร้อง สหภาพแรงงานจึงพาคนงานประมาณ 600 กวา่ คน เดนิ ทางมาทหี่ นา้ ทท่ี ำ� เนยี บรฐั บาล ในวนั ที่ 9 สงิ หาคม 2536 ตอ่ มา วนั ที่ 10 สงิ หาคม 2536 รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ให้ใชอ้ ำ� นาจตาม มาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ. แรงงานสมั พันธ์ ให้นายจ้างรบั ลกู จ้างเข้าท�ำงาน ต้ังแต่ วันท่ี 13 สงิ หาคม 2536 แตว่ นั ที่ 17 ตลุ าคม 2536 บริษัทไทยพัตราภรณ์ไดป้ ระกาศเลกิ จ้าง คนงานจ�ำนวน 690 คนโดยอ้างว่าบริษัทประสบกับภาวะขาดทุนมาเป็น เวลานาน ประกอบกับภายในโรงงานมีการถ่วงงานและใช้งานจึงต้องเลิกจ้าง คนงาน ท�ำให้บทบาทของสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมอาภรณ์ไทย ท่ีมีความ เข้มแข็งและต่อสู้มาอย่างโชกโชนต้องยุติลงไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากถูก เลิกจ้าง สมบัติ ทองเปลว กไ็ ดเ้ ขา้ ไปรว่ มงานกับองค์กรพฒั นาเอกชนหลายแห่ง 146

เชน่ พพิ ิธภณั ฑ์แรงงานไทย ศนู ยบ์ รกิ ารขอ้ มลู และฝกึ อบรมแรงงาน และท่สี ดุ คือมูลนิธิเพื่อนหญิง และภายหลังก็ออกมาท�ำงานอิสระเป็นตัวแทนขายตรง เคร่ืองส�ำอางที่มชี ื่อเสยี ง ดา้ นชีวติ ครอบครัว สมบตั ิไดส้ มรสกับประหยดั ฤาชา มลี ูกชายวัย 7 ขวบด้วยกนั 1 คน จนกระทัง่ วันท่ี 14 พฤศจิกายน 2542 สมบัติ ทองเปลว ได้ เสยี ชีวิตลงด้วยโรคปอดติดเชื้อท่ีโรงพยาบาลสมุทรปราการ รวมอายไุ ด้ 41 ปี นับเป็นการสูญเสียผู้น�ำแรงงานท่ีต่อสู้เพ่ือคนงานรากหญ้าและ ความเป็นธรรมของสังคมไปอีกหนงึ่ คน  พี่บุญขำ� ศรกี รา่ งทอง บุญข�ำ ศรีกร่างทอง หรือ พี่บุญข�ำ เป็นผู้น�ำแรงงานที่ผมได้เรียนรู้ จากแกในความมุ่งม่ัน และจริงจังในการต่อสู้ให้คนงาน เป็นคนพูดตรงไปตรง มา เวลาเคลอื่ นไหวแรงงานแกชอบบอกเราว่า “พวกคณุ มวั เสียเวลาถกเถยี งกนั อยู่นั่นแหละ คนงานเขามีความเดือนร้อนใกล้ตายกันหมดแล้ว หาเหตุผลจน ไมไ่ ด้ทำ� อะไรกัน” ก็น่าจรงิ ของแกนะ บางทเี่ หตุผลมากจนไมต่ ้องทำ� อะไร ท้ัง ๆ ที่คนเดือดรอ้ น ตกงาน ถกู เอาเปรียบ แตเ่ รามวั พดู เรือ่ งหลกั การอยรู่ ่ำ� ไป ช่วงการเคลื่อนไหวประกันสังคม ในช่วงท้าย ๆ ท่ีจะผ่านรัฐสภา คณะกรรมการณรงค์ผลักดันกฎหมายประกันสังคม มีการประชุมที่สำ� นักงาน สร.การประปานครหลวง มกี ารพดู ถงึ ว่าจะเคลือ่ นไหวอย่างไร ดูเหมือนรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย เริ่มแผ่ว เหมือนจะไม่สนับสนุนประกันสังคมแล้ว พ่ีบุญข�ำ พูดขึ้นมาว่าต้องพึ่งเทวดากันแล้ว ไปประท้วงบนหัวหมูกันหน้าท�ำเนียบกัน 147

ดีกว่า ท่ีประชุมก็หัวเราะตลกกัน ไม่ค่อยเห็นด้วย แต่พี่บุญข�ำยืนยันจะบน หวั หมูประทว้ งใหไ้ ด้ ทป่ี ระชุมกย็ อมรบั ให้แกเปน็ คนรับผดิ ชอบไปประทว้ งกัน ที่ท�ำเนียบ แต่ใครจะรู้ว่าจะกลับเป็นข่าวใหญ่โต ว่าคนงานหมดหวังกับรัฐบาล ที่จะดันกฎหมายประกันสังคมถึงขั้นบนหัวหมูกันแล้ว หลังเสร็จงานพวกเรา หวงั กนิ หวั หมกู ัน พี ่ ๆ คนงานพระประแดงบอกวา่ หัวหมอู นั ตรธานไปหมดแล้ว ตอนนัน้ พี่บญุ ข�ำเป็นประธานสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมสงิ่ ทอ เปน็ หัวเร่ียวหัวแรงในการต่อสู้เรียกร้องกฎหมายประกันสังคมในปี 2533 ถึงแก ได้จากเราไปแล้ว เราก็ยังคงนึกถึงแกที่เป็นคนหน่ึงในการต่อสู้ให้ได้มาถึง กฎหมายนี้  ป้าบุญช่วย จนั ทร์ลบ ช่วงท่ีผมลงไปท�ำงานกับคนงาน ได้เรียนรู้กับคนงานที่พระประแดง สมุทรปราการ เป็นท่ีแรกของชีวิตการท�ำงานอาสาสมัครจากมูลนิธิอาสา สมัครเพ่ือสังคม (มอส.) ที่ต้องรับผิดชอบท�ำงานกับคนงานหญิง เพ่ือหาทาง สนับสนุนคนงานหญงิ พนื้ ที่พระประแดงน้ี ผมไปท�ำความร้จู ักกับผู้น�ำแรงงานท่ี สหภาพแรงงานอาภรณไ์ ทย ท่ีถนนปเู่ จา้ สมิงพราย สหภาพแรงงานอาภรณไ์ ทยนี้ มีคนงานที่เปน็ สมาชิกสหภาพแรงงาน อยู่ 1,000 กวา่ คน ทที่ ำ� งานในโรงงานทอผา้ ปน่ั ดา้ ย ตงั้ อยบู่ นถนนปเู่ จา้ สมงิ พราย ต้ังสหภาพแรงงานเมื่อปี 2523 มีป้าบุญช่วย จันทร์ลบ เป็นประธานสหภาพ ช่วงท่ีผมเข้าไปเรียนรู้การท�ำงาน ไปนอนท่ีสหภาพแรงงานเป็นเดือน ๆ มีป้า บญุ ชว่ ย ดแู ลความเปน็ อยขู่ องผม แกเหมอื นญาตผิ ใู้ หญจ่ รงิ  ๆ คอยหาขา้ วใหก้ นิ 148

หรอื ไมก่ บ็ อกวา่ รา้ นอาหารอยแู่ ถวไหนบา้ ง ผมเองกไ็ ดร้ เู้ รอ่ื งงานสหภาพแรงงาน และผู้น�ำว่าใครเป็นอย่างไร มีนิสัยใจคอ มีบทบาทอะไร แกจะเล่าให้ฟังหมด ป้าบุญช่วยแกเป็นผู้น�ำบารมี คือ เป็นผู้น�ำอาวุโส เป็นท่ียอมรับ คนงานให้ ความเคารพนบั ถอื เพราะแกเหมอื นญาตผิ ใู้ หญข่ องคนงานจรงิ  ๆ คนงานมคี วาม เดือดร้อน มเี รอ่ื งทุกข์ แกจะไปช่วยเสมอ ก่อนต้ังสหภาพแรงงาน แกเป็นผู้น�ำประท้วงปัญหาในหอพักของ คนงานหญิง ท่ีมีแม่บ้านเจ้าระเบียบ ห้ามคนงานทำ� โน่นท�ำน่ี เช่น ห้ามรีดผ้า หา้ มน�ำอาหารไปกนิ ทห่ี ้องพัก จนคนงานทนไมไ่ หว ประกอบกบั สภาพการจา้ ง กไ็ ม่ดี สภาพแวดล้อมการทำ� งานกย็ ่ำ� แย่ ทำ� ใหค้ นงานออกมาประทว้ ง น�ำไปสู่ การตั้งสหภาพแรงงาน ปา้ บญุ ชว่ ย และกรรมการสหภาพแรงงาน ที่มี พีส่ มบตั ิ ทองเปลว และผนู้ ำ� อกี หลายทา่ น มบี ทบาสำ� คญั ทำ� ใหส้ ภาพการทำ� งานในโรงงาน ดีข้ึน ค่าจ้างเพิ่มขึ้น สวัสดิการเพิ่มขึ้น มีโบนัส และยังมีบทบาทในกลุ่มย่าน พระประแดง ผมไดเ้ รยี นรแู้ ละทำ� ความเขา้ ใจชวี ติ คนงานจากปา้ บญุ ชว่ ยมากมาย ตง้ั แตว่ ถิ ชี วี ติ ของคนงานจนถงึ เรอ่ื งสว่ นตวั ของคนงาน ท�ำใหเ้ ขา้ ใจวา่ คนงานเขา ถูกเอาเปรียบอย่างไร มีปัญหาครอบครัวอย่างไร โดยเฉพาะคนงานหญิงที่ต้อง ดน้ิ รนหาเงินเพอื่ สง่ ให้ทางบา้ น วันหนึ่งป้าบุญช่วยชวนผมเล่นหวยใต้ดิน ช่วงน้ันมีหวยล็อกคนงาน ถูกกันมาก คนงานส่วนใหญ่เล่นเพราะมีความหวังอันหน่ึงที่คนยากคนจนมี ผมเองอาจมีทัศนคติไม่ดีกับการเล่นการพนัน ไม่เล่นหวยใต้ดิน จึงปฏิเสธป้า แกไป ปา้ แกคงรูแ้ กเลยเตอื นสติผมอ้อม ๆ วา่ คนงานทีเ่ ขาเล่นหวยนัน้ หลาย คนที่ได้เงินมาก เขาก็ไม่ลุ่มหลง เล่นแล้วได้เงินมาก็เก็บออม ไปซื้อท่ีดิน เพื่อความม่ันคงก็มีหลายคน เพราะรู้ว่าไม่ได้ถูกเสมอไป ดังน้ันเองผมก็คิดได้ วา่ เราไม่ควรอหงั การ์ ผมเองได้คิดว่า สิ่งที่เรียนในมหาวิทยาลัยนั้นแทบเป็นศูนย์ มาช่วย คนยากคนจนไม่ไดเ้ ลย รสู้ ึกละอายแกใ่ จ ตอนนน้ั รอู้ ย่างเดยี วว่าต้องเรียนรูจ้ าก 149

ปา้ บญุ ชว่ ยและพี่ ๆ ทสี่ หภาพแรงงานใหม้ าก และวนั หนง่ึ จะไดต้ อบแทนเขาบา้ ง ป้าบุญช่วยมีบทบาทเป็นผู้น�ำท่ีคอยช่วยเหลือคนงานในโรงงานอ่ืน ๆ ในย่าน พระประแดงดว้ ยทม่ี กี ารสไตรค์ งาน และรว่ มเคลอื่ นไหวนโยบายแรงงานสำ� คญั  ๆ เช่น กฎหมายประกนั สังคม ลาคลอด 90 วนั สัญญาชั่วคราว ต่อส้จู นโรงงาน เลิกกิจการเพราะมีการสไตร์คงานของสหภาพแรงงานเป็นปี แล้วแกก็ออกไป ค้าขายกับผู้น�ำแรงงาน จนวาระสุดท้ายแกไปอาศัยอยู่กับลูกชาย ป้าบุญช่วย ถอื วา่ เปน็ ผนู้ ำ� แรงงานทต่ี อ่ สมู้ าตลอดชวี ติ ของและเปน็ ครคู นหนง่ึ ของผม ทที่ �ำให้ ผมได้เรยี นรู้ชีวิตและเข้าใจคนยากคนจน  150


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook