Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน้าที่ สว.

หน้าที่ สว.

Description: ทีมงานได้ดึงงานบางส่วน ทั้งการผลักดันกฎหมาย การติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ การเสนอแนะให้คำปรึกษา รวมถึงงานอื่นๆ ตามบทบาทหน้าที่ของ สว. ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2562-มีนาคม 2564 ยกเว้นงานตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร ด้วยการตั้งกระทู้ถาม ปรึกษาหารือ อภิปรายซักถาม และการเสนอรายงาน ได้แยกทำหนังสือต่างหาก

การจัดทำเป็นอีบุ๊ค ลำดับ 8/2564 เล่มนี้ เพื่อบันทึกไว้เป็นฐานข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และพัฒนางานสาธารณะตามสมควรต่อไป

Keywords: อำพล จินดาวัฒนะ

Search

Read the Text Version

|1

|2

|3 คำนยิ ม โดย นายสมพล เกยี รตไิ พบลู ย์ สมาชกิ วฒุ ิสภา อดีตปลดั กระทรวงพาณชิ ย์ ตลอดระยะเวลาเกือบสามปี ที่ผมได้ร่วมงานกับคุณหมออำพล จินดาวัฒนะ ในฐานะที่เป็นสมาชิกวุฒิสภาด้วยกัน ผมมีความสนใจผลงานของคุณหมอ ซึง่ ได้ตีพิมพ์เผยแพรอ่ อกมาก่อนหน้าน้แี ลว้ หลายเรอ่ื ง ผมขอชื่นชมคุณหมออำพล ว่าเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่ทุ่มเทให้กับงานของ รัฐสภาอย่างยิ่งท่านหนึ่ง คุณหมออำพล ทำงานด้วยความมุ่งมั่น หวัง ผลสมั ฤทธใิ์ นงานอยา่ งจรงิ จงั มีผลงานมากมายเป็นทปี่ ระจักษ์ ทั้งในด้านการกลั่นกรองกฎหมายแต่ละฉบับที่เสนอเข้าวุฒิสภา ด้านการ ติดตามกำกับดูแลการปฏิบัติราชการ การปฏิรูปประเทศ และการขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ชาติ ดังจะเห็นได้จากการที่คุณหมออำพล ได้ตั้งกระทู้ถามในท่ี ประชุมวุฒิสภาเกือบทกุ สปั ดาห์ นอกจากการศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ภายใต้กรรมาธิการที่ รับผิดชอบแล้ว คุณหมอยังมุ่งมั่นศึกษาข้อมูล ค้นคว้านำหลักวิชาการมา

|4 วิเคราะห์และตั้งเป็นประเด็นอภิปรายและข้อสังเกต รวมทั้งมีข้อเสนอแนะท่ี ปฏิบัติได้ให้แก่กรรมาธิการต่างๆ ซึ่งมีคุณค่าทั้งในด้านการบริหารประเทศ และด้านวิชาการ ในหลายครั้งที่พบกัน ผมจึงมักทักทายคุณหมอเสมอว่า “คุณหมอขยันและ มหี ลกั คิดดีเย่ียม เป็นประโยชนม์ ากครบั ” เมื่อได้อ่าน e-book ของท่าน สว. คุณหมออำพล ซึ่งมีความหลากหลายทั้ง สาระและแนวคิดต่างๆ ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วิทยาศาสตร์ และ สาธารณสุข เป็น e-book ที่มีอรรถรสและข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างย่ิง สมควรไดร้ บั การเผยแพร่ให้กว้างขวางต่อไป ในโอกาสนี้ ผมขอแสดงความช่นื ชมการทำหน้าทีส่ มาชิกวฒุ สิ ภาของคณุ หมอ อำพล และ e-book เรื่อง “หน้าที่ สว.” เล่มนี้ เป็นการยืนยันได้ถึงความ มุ่งมั่นในการทำหน้าที่ สว. ของคุณหมออำพลอย่างเต็มกำลังความรู้ ความสามารถ เต็มไปด้วยเน้ือหาและสาระในแง่มุมต่างๆ จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านได้อ่าน e-book “หน้าที่ สว.” เล่มนี้ ซึ่งจะเติม เต็มมุมมองและประสบการณ์ของสมาชิกวุฒิสภาและผู้สนใจการเมือง โดยเฉพาะอย่างย่งิ “บทบาทหนา้ ท่ีของวุฒิสภา” ไดด้ ียิง่ ขึน้ อันจะช่วยสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเมือง ของ ประเทศไทย ให้มกี ารพฒั นากา้ วหนา้ ย่งิ ขน้ึ ตอ่ ไป (นายสมพล เกยี รตไิ พบลู ย)์ สมาชกิ วุฒิสภา

|5 คำนำ ท่านพทุ ธทาสภกิ ขุ สอนไวว้ ่า “การทำงาน คอื การปฏิบัตธิ รรม” ต้องตั้งจติ ใหด้ ี ทำหนา้ ท่ใี หถ้ ูกตอ้ ง เมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาในช่วงปัจฉิมวัย ก็เป็นโอกาสได้ ทำงานเพอื่ ประโยชนข์ องประเทศชาติ บ้านเมือง และสว่ นรวมอกี คร้ังหนงึ่ งานจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน บอกไม่ได้ แต่ก็ต้องทำให้ดีที่สุด จนกว่า จะครบวาระ กล็ งเวทไี ปตามครรลอง ในช่วงที่ผ่านมา ทีมงานของผมได้ช่วยรวบรวมงานและเรื่องราว บางส่วน จัดทำเป็นหนังสืออี-บุ๊คเผยแพร่ไปแล้วหลายเล่ม ได้แก่ มองเมือง แพร่ , ออมทองคำเขียว , จุดแข็งระบบสุขภาพไทย , โควิดสอนคน , ร่วม เรียนร่วมคิด 13 ชีวิตติดถ้ำ , สังคมสูงวัย คนไทยอายุยืน , แด่น้องสูงวัย , ชุมชนเขม้ แขง็ ประเทศม่ันคง มาบัดนี้ ทีมงานได้ช่วยดึงงานบางส่วน ทั้งการผลักดันกฎหมาย การ ติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ การเสนอแนะให้คำปรึกษา รวมถึงงานอื่นๆ ตามบทบาทหน้าท่ีของ สว. ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2562- มนี าคม 2564 ยกเว้นงานตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร ด้วยการตั้งกระทู้ถาม ปรึกษาหารือ อภิปรายซักถาม และการเสนอรายงาน ได้แยกทำหนังสือ ต่างหาก การจัดทำเป็นอีบุ๊ค ลำดับ 1/2565 เล่มนี้ เพื่อบันทึกไว้เป็นฐานข้อมูล ท่อี าจเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรแู้ ละพฒั นางานสาธารณะตามสมควรตอ่ ไป ขอขอบคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้อง ที่สนับสนุนให้ผมได้ทำหน้าที่ สว. ได้ อยา่ งเต็มทตี่ ลอดมา อำพล จนิ ดาวฒั นะ 1 มีนาคม 2565

สารบาญ |6 ชื่อเรื่อง บนั ทกึ สว. วันเดอื นปี หน้า ตอนท่ี นกั เรยี น 14 ทำข้อบงั คบั อนุ่ เคร่อื ง 1 พค. 62 16 บทบาท สว. 26 มิย. 62 18 มองประชุมรัฐสภา (1) 29 มยิ . 62 20 เชือ่ ม (2) 27 กค. 62 23 ดาวสภา (4) 2 สค. 62 25 ลอบบ้ี (16) 3 สค. 62 27 กรรมาธกิ าร (21) 14 สค. 62 29 ลงแลว้ (22) 7 กย. 62 33 (29) 10 กย. 62 กรณปี า่ แหวง่ (31) 36 รบั มือสงั คมสูงวัย (44) 1 กค. 62 37 สังคมสงู วยั เชิงโครงสรา้ ง 4 กค. 62 40 ทำไปเรียนไป 22 กค. 62 (5) (7) (11)

สารบาญ |7 ชื่อเรอ่ื ง บนั ทกึ สว. วนั เดอื นปี หน้า ตอนที่ สังคมสงู วัย (3) (27) 13 สค. 62 43 ปลี ะคน (41) 7 กย. 62 48 อบจ. งานดี (42) 8 กย. 62 50 หนุนแบนสารพษิ (56) 7 ตค. 62 53 ให้ใจไปเลย (68) 22 ตค. 62 54 หาบเรเ่ สนห่ ์บางกอก (69) 26 ตค. 62 56 เชอ่ื มภูฏาน (79) 6 พย. 62 59 รบั ฑูตภูฏาน (99) 29 พย. 62 61 รอบหนึ่ง (มฮส.) (86) 17 พย. 62 63 พบปะ รับฟงั ช้ีแนะ (252) 14 สค. 63 67 ร่วมหนนุ ภาคี (255) 16 สค. 63 70 แนะนำ SE (279) 8 กย. 63 72 ช่นื ชมการด์ ไมต่ ก (285) 13 กย. 63 74 ลงคลอง (296) 25 กย. 63 75

สารบาญ |8 ชอ่ื เรื่อง บันทึก สว. วนั เดือนปี หน้า ตอนท่ี 10 ตค. 63 77 อาชวี ะ (306) 12 พย. 62 81 เสนอแนะ 26 พย. 62 82 4 ธค. 62 83 กอช. (82) 17 ธค. 62 84 4 กพ. 63 86 ธกส.เป็นมากกวา่ ธนาคาร (96) 7 กพ. 63 88 14 พค. 63 89 ถามแทนชาวเล (105) 19 พค. 63 90 1 มิย. 63 91 ชาวเล (ต่อ) (112) 2 มิย. 63 96 ช่วยกนั หยุดวกิ ฤต (143) 15 มยิ . 63 98 21 กค. 63 99 ดีที่ไมด่ ึงดัน (146) รีบผ่าตดั ดว่ น (208) ขอบคณุ ครบั (211) เสนอ 2 ข้อ ต่อการใช้เงินกู้ 1 ลา้ นล้าน (219) บาท ขอทำนาย (220) อยา่ ถลุงเงนิ กู้ (222) ความรุนแรงในครอบครวั (235)

สารบาญ |9 ชอ่ื เรอ่ื ง บันทกึ สว. วันเดือนปี หน้า ตอนที่ 19 สค. 63 101 ความรอบรูท้ างการเงนิ (258) 24 สค. 63 102 25 สค. 63 104 เศรษฐกิจหลงั โควดิ (261) 1 กย. 63 106 2 กย. 63 107 ความมน่ั คงหลงั โควิด (262) 28 กย. 63 108 1 ตค. 63 109 ขอบคุณท่หี ยุดชะลอซอ้ื เรือดำน้ำ (271) 5 ตค. 63 112 ไม่เห็นด้วยกับ รมว.เกษตร (273) 8 กค. 62 115 16 ตค. 62 117 ขอบคุณทไ่ี มเ่ ปลย่ี น (298) 21 ตค. 62 119 30 ตค. 62 121 เบ้ียสูงอายุ VS. รฐั บาลถงั แตก (300) 13 พย. 62 123 บำนาญ (302) ตสร.ปฏริ ูป ปลดลอ็ คตน้ ไม้ กับ ชมุ ชนเข้มแขง็ (9) ดงึ -ดัน (62) จับ 2 เรือ่ งก่อน (66) ตสร. 2 เรือ่ ง (72) ตำบลเขม้ แข็ง (83)

| 10 สารบาญ ช่ือเรือ่ ง บันทกึ สว. วันเดอื นปี หน้า ตอนท่ี 125 ปฏิรปู สังคมสงู วัย ไปถงึ ไหนแล้ว (98) 27 พย. 62 127 129 ยงิ่ เร่งย่ิงแผว่ (140) 28 มค. 63 132 134 ชาตพิ ันธ์ุ (145) 6 กพ. 63 136 138 ดึง-ดัน (2) (155) 20 กพ. 63 140 144 3 ช. ปฏริ ปู (223) 16 มิย. 63 147 ตามติด ติดตาม (240) 29 กค. 63 153 157 วสิ าหกจิ เพ่ือสงั คม ถงึ ไหน อยา่ งไร (241) 30 กค. 63 160 โรงงานกระดาษเก่าเมอื งกาญจน์ กบั SE (242) 31 กค. 63 ใหญ่-กลาง-เลก็ (251) 13 สค. 63 ปฏิรูปด้านสงั คม (281) 9 กย. 63 ผลกั ดนั กฎหมาย & รายงานศึกษา งบประมาณแผน่ ดนิ (123) 9 มค. 63 สามประเดน็ กับ 3.2 ล้านลา้ นบาท (130) 20 มค. 63 รายงานหาบเร่ (144) 5 กพ. 63

| 11 สารบาญ ช่ือเร่อื ง บันทกึ สว. วันเดือนปี หน้า ตอนที่ หนนุ กฎหมายประชาชนเสนอกฎหมาย (245) 4 สค. 63 162 นดั แรก (247) 7 สค. 63 164 แถลงขา่ ว พ.ร.บ.เขา้ ชื่อ (263) 25 สค. 63 165 แถลงข่าวปดิ จ๊อบ (367) 26 มค. 64 166 นัดสดุ ทา้ ย (375) 2 กพ. 64 168 งานเสรจ็ (406) 18 มคี . 64 169 ถูกไล่ (292) 23 กย. 63 170 ออกมาไดแ้ ลว้ (294) 24 กย. 63 171 ตง้ั ใจโหวตให้แก้ รธน. (295) 25 กย. 63 173 12 นาทีกบั การอภิปราบ พ.ร.บ. (290) 21 กย. 63 175 งบประมาณ 64 ร่วมแก้วิกฤตชาติ (309) 26 ตค. 63 178 สติ (328) 17 พย. 63 185 รับ 4-ไมร่ ับ 2-งด 1 (329) 18 พย. 63 186 รา่ ง รธน.ฉบบั ไอลอว์ (330) 22 พย. 63 188

| 12 สารบาญ ชอื่ เร่อื ง บันทึก สว. วันเดอื นปี หน้า ตอนที่ 191 งานเฉพาะเร่ือง 193 ขยาย VS. ชะลอขยายอายเุ กษยี ณราชการ 195 198 ขยายอายุเกษียณราชการ (1) (73) 31 ตค. 62 200 ขยายอายุเกษียณราชการ (2) (74) 1 พย. 62 203 206 ขยายอายุเกษียณราชการ (3) (75) 2 พย. 62 207 208 ขยายอายุเกษียณราชการ (4) (76) 3 พย. 62 กระทู้ด้วยวาจา : ขยายอายเุ กษยี ณ (87) 18 พย. 62 ราชการ ชะลอการขยายอายุเกษยี ณราชการ (314) 2 พย. 63 ราชการไทย ตวั ถ่วงหรอื ตวั หนนุ (322) 10 พย. 63 ขา้ ราชการ หลอดไฟรว่ มสมยั (332) 22 พย. 63 ครม.ชะลอการขยายอายุเกษยี ณราชการ (395) 2 มีค. 64 212

| 13

| 14 แม้ผมเคยมีโอกาสเข้าไปทำงานในสภา แบบ “แฮตทริก” มาแล้ว คือเป็น สนช.ปี 49-51, เป็น สปช. ปี 57-58 และเป็น สปท. ปี 58-60 การเข้าไปแต่ละครั้งล้วนแตกต่างกัน ก็ต้องเป็นนักเรียนใหม่ เรียนรู้อะไรต่อ มิอะไรเพ่ิมเตมิ เสมอ แบบทเ่ี รยี กว่า ตอ้ งเรียนรตู้ ลอดชวี ิต เมื่อได้เข้าสภาครั้งท่ี 4 ไปเป็น สว.ครั้งนี้ (พค.62) ก็ต้องทำงานไป เรียนรู้ ตอ่ ไป สว.250 คน ก็เหมือนนักเรียนเข้าโรงเรียนใหม่ มีทั้งที่เก่าและเก๋า และที่ใหม่ มาจากหลากหลายภูมิ หลากหลายอาชีพ และหลากหลายประสบการณ์ แต่ ต้องมาทำงานร่วมกัน (ร่วมชั้นเรียนเดียวกัน) ในระบบและโครงสร้างขนาด ใหญ่ ที่มีวัฒนธรรม จารีต กรอบ กฎระเบียบกติกาใช้มาช้านาน ต้องทำ หน้าที่แสดงบทบาทสำคัญระดับชาติตามที่ รธน.กำหนด และตามที่สังคม คาดหวงั คนเก่าคนเก๋าเขาไปไกล คนใหม่ก็ต้องเร่งเรียนรู้และพัฒนาตน พัฒนางาน อย่างเร่งรดั และรวดเร็ว ผมก็เลยตัดสินใจอาสาเป็นแกนจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันจากการ ทำงานจริง ชวนเพื่อน สว.กลุ่มเล็กๆที่สมัครใจและสนใจ มาแลกเปลี่ยน เรยี นรรู้ ว่ มกนั แบบท่เี รียกวา่ interactive learning through action ซึ่งก็คอื การ “ร่วมกนั จดั การความรู้จากการทำงานจริง” นัน่ เอง ทีนี้เมื่อทำไปแล้ว พบว่ามีเกร็ดความรู้ ประสบการณ์ บทเรียนต่างๆเกิดข้ึน ซึ่งเป็นเรื่องดีๆ มีประโยชน์สำหรับผู้สนใจใฝ่รู้ ไม่มีอะไรเป็นความลับ น่าจะ เผยแพรต่ อ่ สาธารณะได้

| 15 ผมจึงตัดสินใจนำมาเขียน เอาแบบ เล่ากันไป-เรียนกันไป-แลกกันไป เพ่ือ พฒั นาสตปิ ญั ญาของกนั และกนั ครง้ั นแ้ี ค่เกร่นิ นำ ครั้งต่อๆไปจะคยุ เปน็ เรือ่ งๆไป ท่านใดมีคำแนะนำอะไร หรือจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้อะไรร่วมกัน ก็เชิญได้ นะครบั บันทึกสว.(1) 1 พค.62

| 16 การทำงานของสภาผู้แทนฯ, วุฒิสภา และรัฐสภา (ที่ประชุมร่วม สส./สว.) ต้องมี “ข้อบังคับการประชุม” (ของสภาใครสภามัน ซึ่งมีส่วนคล้ายกันอยู่ มาก) เพื่อใช้เป็นกฎเกณฑ์ กติกา และจัดระบบ/โครงสร้างการทำงานของ แต่ละสภาไปในตัวด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือการกำหนดคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ/วิสามัญ ใหเ้ ปน็ กลไกทำงานยอ่ ย เพื่อทำงานให้สภาใหญ่ กมธ.สามัญ/วิสามัญ คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร จะขยายในโอกาสต่อๆไป ครับ ร่างข้อบังคับของวุฒิสภา ที่กรรมการยกร่างเสร็จ เสนอที่ประชุมวุฒิสภารับ หลักการไปแล้วเมื่อวันที่ 24 มิย.62 มี 11 หมวด รวมบทสุดท้ายและบท เฉพาะกาล มีมากถึง 191 ขอ้ อา่ นกันเหน่ือย เวลาประชุมสภา ต้องดำเนินการตามข้อบังคับ ในแต่ละสภามักจะมีสมาชิก บางคนทีเ่ ก๋าสภา เก่งขอ้ บังคบั อ้างขอ้ น้ันขอ้ นไ้ี ดอ้ ย่างคลอ่ งแคลว่ อย่างในสภาผู้แทนฯ สมัยที่ผ่านๆมา เห็นคุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน (นอ้ งรักของผม) อภปิ รายอ้างขอ้ บังคับได้อย่างแม่นยำเปน็ ทเี่ ล่อื งช่ือ ในร่างข้อบังคับวุฒิสภา หมวด 4 เป็นเรื่องกรรมาธิการ ซึ่งมีความสำคัญ มาก มักจะ “เป็นเรื่อง” ตอนให้สมาชิกเลือกลง กมธ.และเลือกประธาน กมธ. รวมไปถงึ ตอนทำงานจรงิ (ไว้จะเลา่ ในโอกาสต่อๆไป) ผมได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการร่วมยกร่างฯ ทำงาน 2 สัปดาห์เสร็จ เสนอ สภาไปแลว้ วุฒิสภาตั้ง กมธ.พิจารณาร่างข้อบังคับฯวาระ 2 จำนวน 39 คน เพื่อนำ กลับไปเสนอทป่ี ระชุมวฒุ สิ ภาภายในเวลาไมเ่ กนิ 30 วัน

| 17 ผมได้รบั การเสนอชือ่ กลับเข้าไปร่วมเป็น กมธ.อกี วันนี้ (26 มิย.62) ประชุมครั้งแรก เลือกท่านสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เป็น ประธาน กมธ. กท็ ำกนั ตอ่ ไป เรียนรูก้ นั ต่อไป เดือนหน้าวางแผนจะออกไปทำงานภาคสนามกับเครอื ขา่ ยภาคใี นพื้นทีแ่ ลว้ อย่สู ภานานๆ ชักจะเฉาครบั ! บันทึก สว.(2) 26 มิย. 62

| 18 สว.ที่เข้ามาทำหน้าที่ตาม รธน.ปี 2560 ระบุให้เป็น “ผู้แทนปวงชนชาว ไทย” เช่นเดยี วกบั สส. (มาตรา 114) มหี น้าทีห่ ลกั ๆ คอื 1) เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ดูแลกลั่นกรองการออกกฎหมายร่วมกับสภา ผู้แทนราษฎร 2) ติดตามควบคุมกำกับการทำงานของฝ่ายบริหาร (รัฐบาล) และให้ ข้อเสนอแนะ 3) พิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหนง่ ในองคก์ รอิสระตา่ งๆ และมีหนา้ ทเ่ี ฉพาะตามบทเฉพาะกาล (เปน็ เวลา 5 ปี) ได้แก่ 1) ติดตามการขบั เคลือ่ นงานปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ 2) รว่ มกบั สส.เลือกนายกรฐั มนตรี

| 19 นั่นคือการทำงานในสภาสูง โดยการทำงานจริง สว.ต้องเชื่อมโยง-ยึดโยง การประชาชน ชุมชนท้องถิ่น เพื่อหนุนเสริมการขับเคลื่อนงานพัฒนาและ การปฏิรูปประเทศภาคปฏบิ ัตไิ ปพรอ้ มๆกนั ด้วย สว.เป็นเจ้าหน้าที่รัฐด้านนิติบัญญัติ เป็นบุคคลสาธารณะ ต้องดำรงตนให้ เป็นแบบอยา่ งท่ีดีของสังคม ต้องปฏิบัติตนตามกรอบมาตรฐานทางจริยธรรม ฯ พ.ศ.2561 (วันหลังจะเล่าเพ่ิมเตมิ ) เห็นไหมล่ะ เปน็ สว. สงู วัยอย่บู า้ นสบายๆชิลๆ มา 2-3 ปี เมอ่ื ได้รับสรรหาและคัดเลอื กมาเปน็ สว.เนยี่ ชักไม่ชิลซะแลว้ ! บันทกึ สว.(4) 29 มยิ .62 หมายเหตุ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาชุดปัจจุบัน เข้ารับหน้าที่เดือน พฤษภาคม 2562 ใช้หอประชุมใหญ่ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ท่ี แจ้งวัฒนะ เป็นที่ประชุมสภา เนื่องจากรัฐสภาเดิมซึ่งใช้งานมานาน 44 ปี ปิด การใช้งานไปแล้ว และสัปปายะสภาสถาน อาคารรัฐสภาใหม่ที่เกียกกายยัง ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ จนถึงเดือนตุลาคม 2562 จึงเริ่มย้ายการประชุมสภาไปที่ เกียกกาย

| 20 มีโอกาสร่วมประชุมรัฐสภา 2 วัน 2 คืน (25-26 กค.62) สรุปบทเรียนรู้ ของตวั เองได้ดังนี้ มุมด้านบวก 1) นายกรัฐมนตรีและ ครม.ในฐานะฝ่ายบริหาร ให้ความสำคัญต่อการร่วม ประชมุ รัฐสภาเปน็ อย่างมาก อย่รู ่วมประชมุ ตลอด นับเปน็ สปริ ิตท่นี ่าช่นื ชม 2) ประธานรัฐสภา (ท่านชวน หลีกภัย) ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม เป็นกลาง น่ิง ยึดหลักการ แม่นข้อบังคับ รักษากติกา นุ่มนวล ให้เกียรติ ไม่แข็งกระด้าง ไมว่ างอำนาจ อดทน จรงิ จงั มเี มตตา เรียกวา่ “สงู วยั แตไ่ มแ่ ก”่ 3) มี สส. สว.ส่วนหนึ่งทำหน้าที่ได้ดี/ดีมาก ทำการบ้าน เตรียมตัวดี มี ความรู้ มีประสบการณ์ เอาใจใส่เนื้อหาสาระ นำเสนอดี มีข้อมูล สร้างสรรค์ มคี วามมงุ่ ม่นั ปรารถนาดี หลายคนที่เป็นคนหนุ่มสาว น่าเป็นความหวังของบ้านเมือง ถ้ามีความอดทน เรียนรู้ ปรบั ตวั ไปในทศิ ทางท่ดี ี ไมอ่ กหกั หรอื ถูกทำลายจนถอดใจไปเสียก่อน อย่าลืมว่า “พลังทำลาย” ในสังคมไทยเรานี้ แรงย่ิงนัก ความจริงใจ ไม่มีวาระหรือประโยชน์ซ้อนเร้น เรียนรู้ นอบน้อมถ่อมตน รู้ ควรไม่ควร รู้จังหวะโอกาส ไม่ก้าวร้าว อวดเก่ง-อวดดี เหล่านี้อาจเป็น คาถาพาไปถึงฝง่ั ฝันได้ คลื่นลูกใหม่ ควรแรงและมีพลังสร้างสรรค์มากกว่าคลื่นลูกเก่าๆ บ้านเมือง จงึ จะเจรญิ กา้ วหนา้

| 21 4) การประชุมให้ความสำคัญกับอรรถสาระ เนื้อหามากขึ้น แม้ว่ายังมีส่วน ที่เสียเวลาไม่น้อยไปกับการชิงไหวชิงพริบทางการเมือง และกฎเกณฑ์กติกา รวมไปถึงการเล่นสำนวนโวหาร ลีลาต่างๆ เล่นละครน้ำเน่า สร้างความ เป็นฮโี ร่ เอาใจแฟนคลับ ฯลฯ 5) ประชาชนและสงั คมติดตามการประชมุ ค่อนขา้ งมาก มกี ารแลกเปล่ียนกัน ทางสื่อสังคมกันไม่น้อย (เมื่อตามอ่านดู เห็นความไม่ชอบ ไม่ถูกใจอยู่เป็น ส่วนมาก) เวทีประชุมสภา ถ้าพัฒนาให้ดี น่าจะเป็นช่องทางการเรียนรู้ประชาธิปไตย และการทำงานสาธารณะได้มากทีเดียว ซึ่งงานเหล่านั้นยุ่งยากซับซ้อนมาก แตท่ กุ เร่ืองล้วนเกีย่ วของกับชวี ติ ความเป็นอยู่ของคนท้ังสังคม มมุ ที่ตอ้ งยกระดับ 1) ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ติดอยู่ในวังวนเดิม ๆ มุ่งเอาชนะคะคาน มุ่งเพียง ผลประโยชนท์ างการเมืองและหมู่พวก แสดงความก้าวร้าว นกั เลง อนั ธพาล แบ่งเขาแบ่งเรา ไม่เอาสาระ ไม่เรียนรู้ ไม่ปรับตัว ไม่สร้างสรร ไม่เคารพกฎ กติกา ฯลฯ ซึ่งต้องช่วยกันลดสัดส่วนตรงนี้ลง ด้วยการไม่แสดงความนิยม ชมชอบ ไมย่ อมรบั รวมไปถึงการตำหน/ิ ประนาม 2) มีคนจำนวนหนึ่งยังคิดแบบเกา่ ๆ ยึดมั่นถือมั่น วางอำนาจ ใช้อารมณ์ ไม่ เปิดใจ ไม่ยอมรับหรือเรียนรู้อะไรใหม่ๆ น้ำชาล้นถ้วย มองไม่เห็นคุณค่าของ คนอื่น ไมเ่ ป็นตวั อย่างท่ดี แี กส่ ังคม 3) ประสิทธิภาพการประชุมค่อนข้างต่ำ ใช้เวลาต่อเนื่องยาวนานเกินกว่าที่ คนจะร่วมได้อย่างมีสมาธิและต่อเนื่อง คนประชุมจำนวนมากต้องการกติกา ที่เข้มงวด จึงสูญเสียเวลาไปกับเรื่องกติกา การประท้วง การหารือการทำ ความเขา้ ใจกัน และการบริหารเวลาในสดั สว่ นท่สี ูงมาก จนแทบจะหมดแรง ใส่ใจในเนอื้ หาสาระทม่ี มี ากและซับซ้อนมาก

| 22 นอกจากเวทปี ระชมุ รฐั สภาแบบน้ี สงั คมควรมีเวทีการประชุมหรอื แลกเปลี่ยน ในรูปแบบอื่นๆที่สามารถร่วมกันขบประเด็นยากๆของบ้านเมืองได้ลึกและตก ผลึกสู่การปฏิบัติร่วมกันอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่ติดฝักฝ่ายแบบสุดโต่ง ตายตัว เวทีประชุมสภาไม่ไช่คำตอบเดียวของการขับเคลื่อนบ้านเมืองให้ไปข้างหน้า อย่างแน่นอน ทา่ นใดเห็นอะไร? มองอยา่ งไร?อยากฟังครบั บนั ทกึ สว. (16) 27 กค.62

| 23 “โลกน้ใี บเดิม แตโ่ ลกไม่เหมือนเดิม” เหมอื นเลน่ ลิน้ แตเ่ ป็นความจรงิ โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงมากและเร็ว ซับซ้อน สับสน ลื่นไหล กำกวม และ กระทบถงึ กนั ไปหมด ไม่มีประเทศใดอยู่โดดๆได้ มีการเชื่อมโยงกัน (connectivity) กันทั้งด้าน กายภาพ องค์กร ผู้คน และเสมือนจริง มีการหนุนเสริมกัน คานกัน เรียนรู้ ไปดว้ ยกัน ฯลฯ แยกกนั เบด็ เสรจ็ เด็ดขาดไม่ได้ หน่วยงาน องค์กรก็เช่นกัน ทำเองได้น้อย ร่วมมือกันทำได้มากขี้นดีขึ้น ไม่ แบ่งเขา-เรา ถ้ามวั แตแ่ ขง่ ขันกดี กันกนั เอาเป็นเอาตาย จะตายไปด้วยกัน น่ีเรียกวา่ organizational connectivity สายการบินทั่วโลกก็มีการจับมือเป็นเครือข่ายพันธมิตรหากินด้วยกัน ช่วยกัน เสรมิ กนั มานานแล้ว เอกชนไปไกลแล้วในเรื่องเช่ือมโยงกัน หน่วยงานรัฐเชื่อมกันน้อยและช้า เพราะระบบและโครงสร้างแข็งมาก รู้ร้อน รูห้ นาวช้าตอ่ การเปลย่ี นแปลงที่กระทบกบั การทำงาน เปน็ อย่างน้กี ันทวั่ โลก ที่รฐั สภาไทย มกี ิจการดีๆท่ีเรียกวา่ “กลุม่ มติ รภาพสมาชิกรฐั สภาไทยระหวา่ งประเทศ”

| 24 ส่งเสริมให้สมาชิก ทั้ง สส.และ สว. สมัครเข้าร่วมกลุ่มมิตรภาพกับสมาชิก รัฐสภาประเทศต่างๆเกือบร้อยประเทศทั่วโลก โดยใหส้ มาชิกเลือกรว่ มกลุ่มได้ ไมเ่ กนิ คนละ 5 กลมุ่ เพื่อส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสานสัมพนั ธ์ที่ดีต่อกันด้วย วิธกี ารและชอ่ งทางต่างๆ ไม่ไชเ่ พื่อใหส้ มาชกิ รฐั สภามโี อกาสเดินทางไปเท่ยี วตา่ งประเทศ นนั่ ไมไ่ ชว่ ัตถุประสงค์หลักอยา่ งแน่นอน โครงการน้ี คือ การสรา้ งความเช่อื มโยงระหวา่ งองค์กร มีมาหลายปแี ล้ว นับว่าดี และทันสมัย ถ้าไม่ทำอะไรไปนอกลู่นอกทาง ซึ่งประชาชนต้อง ติดตามเฝา้ ดแู ละตรวจสอบดว้ ย ผมสมัครร่วมกลุ่ม 5 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน และภูฏาน เพ่อื หวังเช่อื มโยง แลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ ับสมาชิกรัฐสภาของประเทศใกลๆ้ เม่ือไดร้ ว่ มกิจกรรมจรงิ ๆแล้ว จะเล่าสูก่ นั ฟังตอ่ ไปครบั บนั ทกึ สว. (21) 2 สค.62

| 25 ผู้ที่อภิปรายในสภา แล้วได้รับความสนใจจากสังคม มักจะถูกขนานนามว่า เปน็ “ดาวสภา” บางคนดุเด็ดเผ็ดมัน บางคนมีลูกเล่นลูกฮามาก บางคนเนื้อหาสาระดี บาง คนจอมหลักการ บางคนมีจุดน่าสนใจเฉพาะตัว บางคนจอมโวหาร บางคน เป็นจอมประท้วง บางคนออกจะนักเลง อนั ธพาล ฯลฯ มีตัวอยา่ งใหเ้ ห็นมาแตล่ ะยุคแต่ละสมยั ถา้ สงั คมชอบ เขาก็ทำอกี และมีคนทำเลยี นแบบ ถา้ สังคมตติ งิ บางคนก็ปรบั แต่บางคนยง่ิ ว่าเหมือนย่ิงยุ เพราะทำแล้วดัง บางคร้งั รัฐสภาจงึ กลายเป็นเหมอื นเวทีการแสดงไป ทั้งที่ควรจะเป็นเวทีร่วมกันขบคิดนโยบายและการแก้ปัญหาสำคัญของชาติ บา้ นเมือง การประชุมรัฐสภา อภิปรายนโยบายรัฐบาล แบบมาราธอน 2 วัน 2 คืน เมื่อ 25-26 กค.62 ท่ผี า่ นมา กม็ ดี าวสภา บางคนใช้การแต่งตัวแปลก พูดจาแปลกๆ ใส่อารมณ์มากกว่าข้อเท็จจริง ก็ ได้รับความสนใจจากสังคม บอกวา่ สนกุ ดี! บางคนก้าวร้าว ตีรวน ก็กลายเปน็ ดาวรา้ ยในสภาไป บางคนทพี่ ูดจาน่มุ นวล ทว่ งทำนองดี ใช้ขอ้ มูล มเี นือ้ หาสาระ มขี อ้ เสนอแนะ ดี นำเสนอดี รจู้ ักใช้สื่อช่วย และพดู เข้าใจง่าย

| 26 ก็ได้รบั การช่ืนชมว่าเป็น “ดาวสภายุคใหม่” แต่ก็มีบางคนค่อนขอดว่า สร้างภาพ หรือดีแต่พูด ทำไม่เป็น ก็ว่ากันไป นานาจติ ตงั ผมอยากให้สภามีดาวอย่างหลังนี้มากๆ อย่างน้อยก็ให้เป็นน้ำดีไล่ดาวสภา แบบเกา่ ๆกลับบา้ นไป หรอื ใหม้ สี ดั สว่ นลดลงไปหนอ่ ยก็ยงั ดี สำหรับในส่วนของสมาชิกวุฒิสภา ที่ผมชื่นชม คือ “คุณคำนูณ สิทธิสมาน” ตั้งแต่สมัยเป็น สนช.ด้วยกันเมื่อปี 2549 ทำการบ้านเตรียมตัวดี อภิปรายก็ ดี นำเสนอเข้าใจงา่ ย ด้วยท่วงทำนองสุภาพเรียบงา่ ย ได้สาระทกุ คราว ดาวสภา สามารถใช้เป็น “ตัวชี้วัด” ระดับการพัฒนาของรัฐสภาและสังคม ไดน้ ะครบั บนั ทึกสว.(22) 3 สค.62

| 27 หลายท่านคงเคยได้ยินคำว่า “ลอบบี้” (lobby ) ที่แปลว่า ห้องนั่งเล่น ห้อง โถงตามโรงแรม หรอื สถานทต่ี า่ งๆ แต่อีกความหมายหนึ่ง หมายถึง การเจรจาโน้มน้าว ชักจูง หว่านล้อม หรือ ว่ิงเตน้ มนั เริ่มมาจากทีร่ ัฐสภาอเมรกิ าเมื่อปี คศ.1830 โน่น ที่อาคารรัฐสภามีห้องนั่งพักผ่อนของ สส.รอประชุมและระหว่างประชุม มัน เกิดเหตุการณ์ที่มีบางคน ใช้เป็นพื้นที่เจรจาหว่านล้อม โน้มน้าวชักจูงให้สส. ลงคะแนนตามทพี่ วกตนต้องการ หลงั จากนัน้ ก็มกี ารใชก้ นั มาเรอ่ื ยๆ คำว่า “ลอบบี้” จึงถูกนำมาใช้กับการวิ่งเต้น เจรจา โน้มน้าว ให้การ ตัดสินใจต่างๆเป็นไปตามประสงค์ของตนหรือพวกตน ซึ่งลามไปถึงทุกเรื่อง ทุกกิจการ ในอเมริกาและประเทศต่างๆ เกิดคนทำอาชีพวิ่งเต้น เจรจาโน้มน้าว ชักจูง ด้วยวิธกี ารและรูปแบบ ลูกเลน่ ต่างๆมากมาย เรียกคนพวกนวี้ า่ lobbyist ที่รัฐสภาไทยก็มีโถงนั่งพักของ สส./สว. ก็มีการใช้เพื่อการเจรจา ต่อรอง โนม้ นา้ ว วิ่งเต้น หรอื ลอบบ้ีเรือ่ งตา่ งๆกนั เรือ่ ยมา แต่เรอื่ งอะไรบ้าง ผมไม่รู้ ที่เคยมขี า่ วรายงานว่า มกี ารเจรจาต่อรอง โน้มนา้ ว วิง่ เต้นกนั ในห้องนำ้ สภา น่นั กเ็ ขา้ ข่าย “ลอบบ้”ี ตามความหมายนี้ ทุกวันนี้ โลกยุคไอที โลกยุคเร็ว การ “ลอบบี้” เกิดได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ไช่แค่ ห้องนั่งเล่น หอ้ งโถงอีกตอ่ ไปแล้ว

| 28 ดูตัวอย่างการจัดเก้าอี้รัฐมนตรี การเจรจานั่นนี่ของพรรคเล็กพรรคน้อย ฯลฯ เปน็ ตวั อย่าง บกี้ ันท้งั เปดิ เผยและไมเ่ ปดิ เผยล่ะครับทา่ น บันทกึ สว.(29) 14 สค.62 (เครดติ ภาพจาก google)

| 29 สมัยที่เป็น สนช.เมื่อปี 2549-51 นอกจากเป็นกรรมาธิการอยู่ใน กมธ. วิสามัญกิจการสภา (วิป) และอยู่ใน กมธ.พิจารณากฎหมายต่างๆ รวมถึง กมธ.พิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2 ครงั้ แลว้ ในส่วนของกรรมาธิการสามัญประจำสภา ผมเป็นกรรมาธิการและ เลขานุการ กมธ.สาธารณสุข (กมธ.สามัญประจำสภา คือ กมธ.ที่มีแต่ สมาชิกเท่านั้นเป็นกรรมาธิการได้ ไม่มีคนนอก แต่ถ้าเป็น กมธ.วิสามัญ ถึง จะมีคนนอกเป็นกรรมาธิการได้ เช่น กมธ.พิจารณาร่างกฎหมาย, กมธ. ท่ีตงั้ ข้ึนเพื่อให้ศกึ ษาเร่ืองเฉพาะตา่ งๆ เปน็ ตน้ ) สมัยนั้นมีท่านผู้หญิงปรียา เกษมสันต์ ณ อยุธยา อดีตรองปลัดกระทรวง สาธารณสุข ผู้ใหญ่ใจดี-มีฝีมือ-มีบารมี เป็นประธาน กมธ.สาธารณสุขได้ ทำงานผลักดนั งานดีๆมากพอสมควร และไดเ้ รียนรู้มากทเี ดยี ว ประธาน กมธ.สำคัญมาก ถ้าได้คนดี มีความรู้ความสามารถสูง มีบารมี มี ภาวะผู้นำท่ดี ี การทำงานของ กมธ.นัน้ ๆก็จะไปไดด้ ี และไปได้มาก แต่บังเอิญว่าตำแหน่งประธาน กมธ.กำหนดให้ได้เข้าไปเป็น กมธ.กิจการ สภา(วิป), ได้เป็นตัวแทนกมธ.ไปทำกิจการต่างๆ, มีห้องทำงานให้, มี อำนาจเกี่ยวกับการใช้งบประมาณของ กมธ. และการแต่งตั้งคนนอกเข้ามา ช่วยงาน การอนุมัติโครงการไปทำงานต่างๆ, มีสิทธิ์ขอรับพระราชทาน เครื่องราชฯเป็นพิเศษเหนือกว่าสมาชิกทัว่ ไป เป็นต้น ซึ่งก็คือ มอี ำนาจบารมี แฝงทม่ี ากับหัวโขน ถึงขนาดเทียบกันว่า ประธาน กมธ.สามัญประจำสภาผู้แทนฯนั้น เทียบเท่า ตำแหน่งรัฐมนตรี คำวา่ “ทา่ น” กใ็ หญ่แลว้

| 30 คำวา่ “ท่านประธาน” ใหญย่ ง่ิ กวา่ ตำแหน่งประธาน กมธ.สามัญประจำสภา จึงกลายเป็นตำแหน่งหอมหวล ชวนเปน็ ทั้งท่ีสภาผู้แทนและวฒุ ิสภา ในสภาผู้แทนฯ เขามักแบ่งตำแหน่งประธาน กมธ.ให้พรรคต่างๆตามเสียงใน สภา ก็มีแย่ง กมธ.กันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านบ้าง แต่สุดท้ายก็จะ ลงตัว จากนั้นพรรคก็จัดสรรให้ สส.ของพรรคนั้นๆ ถ้าเป็นพรรครัฐบาล ก็ มักจะจัดสรรให้คนที่พลาดจากตำแหน่ง รมต.หรือตำแหน่งช่วยบริหารต่างๆ ของรฐั บาล ส่วนวุฒิสภาไม่มีพรรค ก็มักจะมีการเล็งหรือจองประธาน กมธ.ต่างๆกัน เสมอๆ คนที่เคยเป็นประธานกมธ.ในวุฒิสภาชุดเดิมๆ และในสนช.เดิมๆ ก็ มักจะจองเกา้ อีเ้ พราะทำงานมาเกา๋ แล้ว เรยี กวา่ เป็น “ขาใหญ”่ บางคนทำงานในสภามานานนบั สบิ ปีแลว้ และยังอยากทำตอ่ !

| 31 คนใหมๆ่ ก็มเี ล็ง มจี องตั้งแตข่ อ้ บงั คบั ยงั ไม่เสร็จ! มีการวางแผนเข้าสู่ตำแหน่งประธาน กมธ.กัน มากน้อยแค่ไหนไม่รู้ (ถึงรู้ก็ ไมก่ ลา้ ยนื ยัน!) มีที่เลือกกันตามเนื้อผ้า พิจารณาคนที่มีความรู้ความสามารถ และมีความ เหมาะสมกับงานด้านนั้นจริงๆ และเหมาะสมจะเป็นผู้นำของ กมธ.นั้นๆอยู่ บ้าง เคยมีการกำหนดในข้อบังคับของบางสภาในอดีต ให้ประธาน กมธ.เป็นได้ ครึ่งเทอมบ้าง 1 ใน 3 ของเทอมบ้าง เพื่อให้สมาชิกเลือกสมาชิกคนอื่นใน กมธ.เป็นประธานคนใหมบ่ ้าง เราจึงเคยได้ยินข่าวว่าประธานเก่าบางคนรากงอก ไม่ยอมลุกออกจาก ตำแหน่ง ถึงขนาดมีการขับไล่เลื่อยขาเก้าอี้กันเป็นข่าวครึกโครมมาแล้วใน อดตี สว.ชดุ ปจั จุบันจะเปน็ อย่างไร โปรดตดิ ตามดูกนั ตอ่ ไป สมัยผมเข้าสภาครั้งที่ 2 ไปเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ เมื่อปี 2557 เขา นำระบบงานรฐั สภามาใช้ ออกแบบการทำงานเหมือนสภาทกุ อย่าง ผมทำงานใน กมธ.ปฏิรูปด้านสังคม ชุมชน และกลุ่มเป้าหมายต่างๆ โดย ไดร้ บั เลอื กจากเพื่อน สปช.ในกมธ.ชุดนี้ ใหเ้ ปน็ ประธาน กมธ.ปฏิรปู สังคมฯ ไมไ่ ด้วง่ิ เต้น ไมม่ กี ารจองเก้าอี้ แตส่ มาชิกกรณุ าเลือกเพื่อใช้ให้ทำงานหนกั สปช.ไม่ไช่สภาที่มีอำนาจ มีหน้าที่ศึกษาวิเคราะห์พัฒนาข้อเสนอการปฏิรูป ประธานกมธ.และกมธ.จงึ ต้องทำงานแข่งกับเวลา เรียกว่า “ทำงานกันหูตูบ” ทำงานได้ 11 เดือน มีการแก้ รธน.ฉบับชั่วคราวให้ สปช. หมดอายุไป เกิด สปท.ขนี้ มาแทน

| 32 ใน สปท. ก็ใช้ระบบแบบเดียวกับสภา แต่ข้อบังคับมาแปลก ให้ประธาน สปท.มีอำนาจแต่งตั้งประธานคณะกรรมาธิการเองเลย สมาชิกใน กมธ. ต่างๆไม่มีสทิ ธิเลือกประธาน ใน สปท. ผมก็เลยทำหน้าที่รองประธาน กมธ. สำหรับประธาน กมธ. แต่งตั้งโดยตรงมาจากประธาน สปท. และยังเป็นประธานอนุกมธ.ขับเคลื่อน การปฏริ ูประบบสรา้ งเสรมิ ชุมชนเข้มแข็งเป็นหลกั ใน สว.เที่ยวนี้ จะได้ไปเป็นอะไร ไปทำอะไร ก็ให้เป็นไปตามธรรมะจัดสรร ครับ บนั ทกึ สว.(31) 7กย.62

| 33 อังคาร 10 กย.62 ที่ประชุมวุฒิสภาเห็นชอบจัดสรร สว.ลงทำงานใน กมธ. สามัญต่างๆ ตามขอ้ บังคบั เรียบรอ้ ยแล้ว กมธ.สามัญประจำวุฒิสภา คือ กลไกทำงานให้กับวุฒิสภา มีเฉพาะ สว. เท่านั้นที่เป็นกรรมาธิการได้ (ถ้าเป็น กมธ.วิสามัญ มีคนนอกร่วมเป็น กรรมาธกิ ารได้ เชน่ กมธ.พิจารณาร่างกฎหมาย กมธ.ศึกษาเรื่องตา่ งๆ) กมธ.สามัญหลัก มี 26 คณะ แต่ละคณะจะต้องส่งผู้แทน 1 คน ไปเป็น กมธ.สามัญติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ ชาติ (กมธ.สามัญชุดที่ 27) ซึ่งเป็นงานสำคัญของวุฒิสภาชุดนี้ตาม บทบญั ญัตใิ นบทเฉพาะกาลของ รธน. สว.แต่ละคน มีสิทธิเป็นกรรมาธิการสามัญได้ไม่เกินคนละ 2 กมธ. ซึ่งผม เลอื กไปทำงานใน (1) กมธ.การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลอ่ื มล้ำ (2) กมธ.การพัฒนาสงั คม และกิจการเดก็ เยาวชน สตรี ผูส้ งู อายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส กมธ. 2 คณะนี้ มีคนสมัครไม่เกินจำนวน (ไม่เกิน 19 คน) ก็ได้เข้าทำงาน ตามที่เลือก ซึ่งเป็นงานต่อเนื่องเชื่อมโยงกับงานปฏิรูปที่ผลักดัน และ ขับเคลื่อนมาเกือบ 20 ปี ในบทบาทต่างๆ ตั้งแต่ สปรส.-สช.-คปร.- คสป.-สปช.-สปท.-กก. ปฏิรูปดา้ นสงั คม กมธ.(1) เลือกอาจารย์สังศิต พิริยะรังสรรค์ เป็นประธาน ผมเป็นรอง ประธาน กมธ. คนท่ี 2

| 34 รอง 1-อาจารย์วีระศักดิ์ โควสุรัตน์, รอง 3-คุณหมอพลเดช ปิ่นประทีป, รอง 4-คณุ คำนณู สิทธิสมาน, เลขานุการ-คณุ ภาณุ อุทัยรตั น์ กมธ. (2) ครูวัลลภ ตังคณานุรักษ์ “ครูหยุยเจ้าเก่า” เป็นประธาน มีรอง 3 คน ตั้งอนุ กมธ. 4 ชุด ผมเป็นประธานอนุ กมธ.ติดตามการปฏิรูปด้านสังคม กิจการผู้สูงอายุและ สงั คมสูงวัย รบั หนา้ ท่ตี ิดตามงานปฏริ ปู ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับด้านสงั คมเป็นหลัก เห็นประธาน กมธ.ทั้งสองชุดและ กมธ.แล้ว ดูมีความมุ่งมั่นตั้งใจ เอาจริง เอาจังกบั การทำงานเชิงรกุ อย่างมาก จากนีไ้ ป คงจะไม่คอ่ ยได้นง่ั กนั แลว้ ! บนั ทกึ สว.(44) 10 กย.62

| 35

| 36 ประชุมวุฒิสภาวันนี้ (1 กค.62) ทำหน้าท่ี แทนภาคีเครือข่ายอภิปรายสอบถามเรื่อง สถานการณ์บ้านพักผู้พิพากษา ศาล อุทธรณ์ ภาค 5 เชียงใหม่ (ป่าแหว่ง ตีน ดอยสุเทพ) ว่าการก่อสร้าง การเข้าพัก การแก้ปัญหา ไปถึงไหนแล้ว? ขอบคุณ คุณสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ตอบเรื่อง นว้ี ่า 1) การกอ่ สรา้ งบา้ นพกั ทป่ี า่ แหว่งเสรจ็ สิน้ ตรวจรบั งานไปแล้ว 1.1) อาคารบา้ นพักผูพ้ พิ ากษา 45 หลัง ไม่มีการใช้/ไม่เขา้ อยู่ เป็นไปตามมติ ครม. 1.2) อาคารชุดเจ้าหน้าที่ทางธุรการ 13 หลัง มีการเข้าอยู่อาศัยแล้วตั้งแต่ กอ่ นมีมติ ครม. 2. มีการแกไ้ ขฟื้นฟพู นื้ ท่ี (ตามมติ ครม.) ดว้ ยงบประมาณ 40 ล้านบาท 3. มีการอนุมัติงบกลาง 800 ล้านบาทเศษ ให้ย้ายไปก่อสร้างที่ทำการศาล อุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักที่จังหวัดเชียงราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการ ประกวดราคา จะเปิดซองในเดอื นนี้ ฝากส่ือสารถงึ เพ่ือนภาคเี ครือข่ายและผสู้ นใจทต่ี ดิ ตามเรอ่ื งนี้ได้ทราบครับ บันทึกสว.(5) 1 กค.62

| 37 เช้าวันน้ี (4 กค.62) สว.สูงวัยและ สว.สมาชิกวฒุ ิสภา ไปแสดงปาฐกถา ใน การประชุม “สมัชชานโยบายรองรับสังคมสูงวัย” จัดโดยสำนักงาน คณะกรรมการสขุ ภาพแหง่ ชาติ (สช.) และองค์กรภาคี องค์ปาฐกท่านแรกคือ ศ.เทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตประธานสภาปฏิรูป แห่งชาติ (สปช.) ผู้ซึ่งดันหลังให้ผมจัดกลไกสังเคราะห์และพัฒนาข้อเสนอ การปฏิรปู ระบบรองรบั สงั คมสูงวัย (Ageing Society) สมัยทผี่ มเปน็ ประธาน กมธ.ปฏิรูปด้านสังคม ชุมชนและกลุ่มเป้าหมายต่างๆ อยู่ใน สปช.เมื่อปี 2557-2558 อาจารย์ให้ขอ้ มลู ฉายภาพเหน็ ชัดเจนวา่ เรอ่ื งสงั คมสงู วัยเปน็ เรอ่ื งที่เกี่ยวกับทุก เรอ่ื ง ทุกระบบ ไม่ไชแ่ ค่เร่ืองผสู้ ูงอายเุ ทา่ น้ัน อาจารย์ชี้ให้เห็นสภาพสังคมทุกวันนี้มีคนหลายรุ่นอยู่ด้วยกัน ในสัดส่วนท่ี เปลี่ยนไป และสภาวะสังคมที่เปลี่ยนไปทุกด้าน ไม่เหมือนเดิม สังคมจึงต้องมี การปรับตัวและเตรียมการรองรับอยา่ งมาก อาจารย์ยกตัวอย่างประเด็นทางเศรษฐกิจ ว่าไม่ไช่แค่เรื่องการออมเพื่อการ ดำรงชีวิตของผู้สูงอายุเท่านัน้ แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแบบแผนการบริโภค ของคนทุกช่วงวัย ทั้งสังคม และแบบแผนการผลิตที่เปลี่ยนไปทั้งหมด นโยบายรองรับสงั คมสงู วัยจึงตอ้ งมองใหก้ ว้างและครอบคลมุ ผมได้ให้ขอ้ มลู และมุมมองสรปุ ได้ 3 ประเดน็ 1. เห็นด้วยว่าเรื่องสังคมสูงวัยเป็นเรื่องที่ใหญ่และกว้างกว่าเรื่องการดูแล ผู้สูงอายุ (แม้ว่ามีการขยายความครอบคลุมไปถึงมิติเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมแล้วก็ตาม) เพราะเรื่องสังคมสูงวัยเกี่ยวไปถึงงานใน ทุกระบบ ทุกสาขา เกี่ยวถึงคนทุกกลุ่มวัย เด็กเกิดใหม่วันนี้ก็เกี่ยว นักเรียน นกั ศกึ ษาก็เกี่ยว คนวยั ทำงานกเ็ กย่ี ว ชาวไรช่ าวนาก็เกี่ยว คนทำธรุ กิจกเ็ กี่ยว

| 38 ข้าราชการก็เกี่ยว คนสูงอายุก็เกี่ยว ระบบการจ้างงานก็เกี่ยว ระบบคิด ระบบการจดั การทางสงั คมก็เกยี่ ว ระบบธรุ กจิ กเ็ กย่ี ว ฯลฯ เพราะระบบทั้งหลายเหล่านั้นต่างก็กำลังสูงวัย บางระบบอาจกำลังล้าสมัย เมื่อเทียบกับสภาพสังคมและโลกที่กำลังเปลี่ยนไป การคิดเรื่องสังคมสูงวัย จึงต้องมองให้เหน็ ภาพใหญ่ 2. การสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง คือ คำตอบของการปฏิรูประบบรองรับ สงั คมสูงวยั ได้เล่าถึงบ้านคำปลาหลาย อ.อุบลรัตน์ ขอนแก่น ที่มีกระบวนการพัฒนา อย่างเป็นองค์รวม ทุกมิติ มานานกว่า 30 ปี เน้นทิศทางทำอยู่ทำกินตาม แนวพอดีพอเพียง พลิกฟื้นคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม วิถีชุมชนจากชุมชนล่ม สลายมาเป็นชุมชนอยู่ดีมีสุข คนทุกช่วงวัยเข้าร่วมพัฒนา มีการชวนกันปลูก ต้นไมย้ ืนตน้ มูลคา่ สงู มานาน วันนี้แตล่ ะครอบครวั มตี ้นไม้ใหญ่ เปน็ 10-100-1,000 ต้น เปน็ บำนาญชวี ิต ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่ต้องรอเพียงเงินสงเคราะห์ใดๆ บ้านคำปลาหลาย กลายเป็น “สวรรค์บนดิน” เป็นการพัฒนาอย่างองค์รวมรองรับสังคมสูงวัย ไดอ้ ยา่ งชาญฉลาด กรณีที่สอง ตำบลนาทอน สตูล ชุมชนมุสลิมที่นั่น มีการพัฒนาหลากหลาย เรื่อง ทั้งการท่องเที่ยวโดยชุมชน การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม ทรพั ยากร ธรรมชาติ/มรดกโลกทางธรณวี ิทยา มีกลุ่มอาชีพต่างๆ มีกิจกรรมเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงวัย มีกิจกรรมชุมชนท่ี หลากหลาย ต่อเนื่อง คนทุกเพศวัยเข้าร่วมแบบไม่แบ่งแยก บัณฑิตกลับคืน ถิ่น คนทุกวัยมีงานที่เหมาะสมทำ มีกิจกรรมลดละเลิกอบายมุข ครอบครัว อบอุ่น สร้างสังคมสันติสุขที่หลากหลายเป็นการพัฒนาชุมชนทุกมิติ รองรับ สังคมสงู วยั อย่างองคร์ วม

| 39 3. ได้สรุปชี้ให้เห็นว่า การพัฒนาชุมชนเข้มแข็งอย่างองค์รวมของชุมชน เหล่านั้น เขาเน้นกระบวนการมีส่วนร่วม เรียนรู้ไปด้วยกัน คำนึงถึงภูมิ สังคม-ภูมิศาสตร์-สังคมศาสตร์ พึ่งตนเอง พออยู่พอกิน ทำไปอย่างมี ความสุข ไม่ลอกตำรา (ไม่ติดตำรา) และมีความเพียรเป็นอย่างมาก ซึ่ง เหล่านี้ก็คือแนวทางการทำงานสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง รองรับสังคมสูงวัย ดว้ ย “ศาสตรพ์ ระราชา” ของในหลวงรชั กาลท่ี 9 นัน่ เอง นี่อาจจะเป็นคำตอบหนึ่งของการปฏิรูประบบรองรับสังคมสูงวัยของประเทศ ไทย ท่ี “ททท.” คือ ทำได้ทนั ที บันทกึ สว.(7) 4 กค.62

| 40 เมื่อต้นเดือน (4 กค.62) ไปปาฐกถาเรื่อง “ชุมชนเขม้ แข็ง กับสังคมสงู วยั ” ชัดเจนว่า เรื่องสังคมสูงวัย ไม่ไช่แค่เรื่องเกี่ยวกับผู้สูงอายุที่มีสัดส่วนเพิ่มข้ึน เท่าน้นั แตร่ วมไปถงึ เรอ่ื งทางสงั คมทุกระบบ ทกุ สาขาซึ่งก็ “สูงวัย” ไปดว้ ย ถ้าระบบและโครงสร้างปรับตัวไม่ทันก็ล้าสมัย ตกยุค ตามไม่ทันโลกและ สรรพส่ิงที่เปล่ียนไปอย่างรวดเร็ว ระบบและโครงสร้างการบริหารราชการแผ่นดินก็เหมือนกับคนเรา ออกแบบ มานาน (เกิดมานาน) ใชม้ านาน อยุ้ อา้ ยมาก และแก่ชราไปตามกาลเวลา ที่เคยทำงานได้ผลดีในยุคสมัยหนึ่ง เมื่อกาลสมัยเปลี่ยนไป สภาพแวดล้อม เปลี่ยน วิทยาการเทคโนโลยีเปลี่ยน ปัญหาเปลี่ยน ที่เคยทำงานได้ผล กลับ ไมไ่ ด้ผล มหิ นำซ้ำ อาจเกดิ ผลเสยี อกี ทุกระบบ ทกุ โครงสร้าง ท้ังองคาพยพของประเทศเปน็ ไปเชน่ นไ้ี ดห้ มด ดังนั้น เมื่อเข้าสู้สังคมสูงวัย ทุกอย่างแก่ไปพร้อมๆกัน ก็ต้องเรียนรู้ให้เท่านั้น ปรบั เปลีย่ นใหเ้ หมาะสม “อายุมากขึน้ ” จะได้ “ไม่แก่” เรื่องอย่างนี้พูดง่าย แต่ทำยากมาก เพราะคนเ รามักคุ้นเคยกับอดีต ความล้าสมัยจึงมาเยอื นไดโ้ ดยง่าย ผมมีพี่ๆเพื่อนๆสูงอายุมากขึ้นไปพร้อมๆกัน เห็นบางคนปรับตัว ใฝ่เรียนรู้ ทันสมัยอยู่เสมอทั้งความคิด วิถีปฏิบัติ รวมไปถึงการกล้าเรียนกล้าใช้ เทคโนโลยีร่วมสมยั เปน็ ตน้

| 41 ตัวอยา่ งที่ขออนญุ าตยก คือ อาจารย์หมอธรี ะ รามสตู อาจารย์หมอวิจารณ์ พานิช เป็นอาทิ ทา่ นไมแ่ ก่อย่างไร ไปตามดไู ดค้ รับ ระบบทส่ี ูงวยั ข้ึน จึงตอ้ งปรับตวั การปกครองสมัยเวียง วัง คลัง นา ที่ในอดีตนานมาแล้วใช้ได้ผล ถ้าใช้ เร่อื ยมาถงึ ทุกวนั นี้ ประเทศไทยเราคงชิดซ้ายไปนานแลว้ ระบบกระทรวง ทบวง กรม รวมศูนยอ์ ำนาจอย่ทู ่รี ัฐบาล ครม. นายกรฐั มนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี มีการบริหารส่วนภูมิภาคเป็นแขนขา ใช้มาเป็นร้อยปี ถึงตอนนกี้ แ็ กเ่ ตม็ ที เมื่อก่อนทำงานได้ผล สังคมยังไม่เจริญก้าวหน้า คนรู้คนเก่งมีอยู่ข้างบนไม่ มาก การเดินทางถึงกันยากลำบาก ปัญหาไม่ซับซ้อน ใช้อำนาจ ใช้เงิน ใช้ คนทีม่ คี วามรเู้ ทคโนโลยมี ากกว่าแกป้ ัญหาได้ดีไม่นอ้ ย แต่วันนี้โลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน ระบบเดิมสุดจะชรา ต้องจัดการกับเรื่อง ใหญ่ เรื่องข้ามชาติ ไร้พรมแดน แล้วยังต้องพะวงกับจัดการเรื่องย่อยเรื่อง เล็กทด่ี ึงมาเปน็ อำนาจของตัวเองเต็มไปหมด เรียกวา่ สากกระเบอื ยันเรอื รบ ทุกเรื่องไม่ว่าใหญ่เล็ก ต้องขึ้นมาข้างบนหมด แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปคิด เรือ่ งสำคัญใหญๆ่ ได้ ใหญ่ๆกเ็ ลยทำไดไ้ มด่ ี เล็กๆก็ทำไดไ้ มด่ ี-ไมท่ วั่ ถึง อย่างนี้เรียกว่า ระบบบริหารราชการแผ่นดินแก่ แล้วไม่ปรับตัว หรือปรับตัว ชา้ แต่ระบบมันปรับตัวเองไมไ่ ด้ คนเปน็ คนออกแบบและใชร้ ะบบ

| 42 ถ้าคน (ไม่ว่ามีอายุมากหรือน้อย) “ไม่ทำตัวแก่กันไปหมด” ก็ต้องช่วยกัน ทบทวนปรับระบบให้ไม่แก่เกิน อายุมากแต่ต้องทันสมัย ทำในสิ่งที่ควรทำ เท่านน้ั พอ สร้างระบบที่เป็นเดก็ หรือคนอายนุ ้อยให้ทำงานแทน คือ กระจายงานกันออกไปให้อำนาจประชาชน ชุมชนท้องถิ่นคิด ทำ ใช้ ทรัพยากร สร้างสง่ิ ดๆี แก้ปญั หาระดบั พน้ื ท่ี จดั การกันเองใหม้ าก ลูกๆโตแลว้ ครับ ใหเ้ ขาจัดการตัวเอง จดั การกันเอง ผดิ บา้ งถูกบา้ ง ดแู ลสนับสนุนแกไ้ ขกนั ไป พ่อแม่แก่เต็มทีแล้ว จัดการได้ดีได้ผลมามากแล้ว ถ้ารวบจัดการอย่างเดิมไป เสียหมด เสยี จะมากกว่าได้ โลกเชื่อมโยงถึงกันไปหมดแล้ว พ่อแม่ยังจะปิดกั้น ห้ามโน่นห้ามนี่อยู่ แบบเดมิ ๆ คงไมไ่ ดแ้ ลว้ นี่แหละ “ปัญหาสังคมสูงวยั ” เชงิ โครงสร้างครบั บนั ทึกสว.(11) 22 กค.62

| 43 3 วา่ ดว้ ย “ทกุ คนคือวัยแรงงาน” เรื่องสังคมสูงวัย มีประเด็นคุยกันได้มาก ถ้าไม่เผลอคุยกันแต่เรื่องของคน สงู วยั /คนสงู อายุ หรือเรอ่ื งของคนแก่ชราเท่าน้นั วันน้ี (13 สค.62) ขอต่อมมุ มองเกย่ี วกับแรงงานในสงั คมสูงวยั สังคมสูงวัย ในทางสากล หมายถึง สังคมที่มีสัดส่วนคนอายุเกิน 60/65/70 สงู เป็นอตั ราเท่านนั้ เท่าน้ี โดยมีสดั สว่ นคนวัยทำงาน (15-60 ปี) ลดลง และ สัดสว่ นเด็กกล็ ดลงด้วย ก็เลยเกิดปริวิตกว่า กำลังการผลิตจะไม่พอ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายของผู้สูงอายุ จะมากขึ้น สังคมจะเกดิ ปญั หาตามมาสารพัด นน่ั เป็นการมองเชงิ ภาระ แต่ถ้ามองมุมบวก เราต้องปรับทัศนะการมองเรื่อง “แรงงาน” กันใหม่ ไม่ ติดกรอบนิยามแรงงานแบบดั้งเดิม ที่เอาผลิตภาพของแรงงานเหล่านั้นไปวัด จีดพี ี คือควรมองว่า “คนทุกคน คนทุกวยั คอื วัยแรงงาน” เพราะคนทุกคน “ทำงานที่เหมาะสมกับช่วงวัยและความสามารถได้” แรงงานทุกคนมีค่ามาก ทำให้สังคมอยู่ดีมีสุข และก้าวหน้าได้ การวัดจีดีพี ควรขยายกรอบมองให้กวา้ งกว่าเดมิ

| 44 เด็กเกิดใหม่ เด็กเล็กๆ งานของเขาคือการกิน นอน เล่น เรียนรู้ วัดจีดีพี ไม่ได้ ไม่เป็นไร แต่พอถึงวัยเรียน สามารถทำงานไปพร้อมๆกับการเรียนได้ ช่วยพ่อแม่ ทำงานบา้ น นอกจากได้เรยี นรูฝ้ กึ ฝน กไ็ ด้งานด้วย เด็กญี่ปุ่นบางคน เลี้ยงไก่ที่บ้าน เอาไข่ไปขายท่ี รร. นั่นก็คือการทำงาน ได้ ทั้งประสบการณ์ ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ได้บ่มนิสัย และได้เงินที่ควร คิดเป็นจีดีพดี ้วย เด็กบางคนช่วยพ่อแม่ขายของนอกเวลาเรียน ปลูกพืชผักไปขายวันหยุด ทำงานไดท้ ง้ั น้ัน ไมต่ อ้ งรอถึงวัยแรงงาน มีลูกของน้องคนหนึ่ง เธอเรียนเก่ง ตอนเย็นๆและช่วงหยุดเทอม เธอรับสอน พิเศษ ประกาศทางออนไลน์ สอนตัวต่อตัว มีรายได้พิเศษ นั่นเธอก็ทำงาน ในโลกยุคใหมไ่ ด้ บ้านเธอไม่ได้อัตคัดขัดสน แต่พ่อแม่เธอสอนให้ลูกรู้จักทำงาน ไม่เอาแต่สุข สบาย นน่ั ก็คอื การทำงาน เพิม่ จดี พี ีได้ ถ้าเธอเกง่ ขน้ึ สอนข้ามชาตผิ ่านไอที ก็อาจทำงานหาเงินเข้าประเทศได้ เห็นนักเรียนมัธยม อาชีวะไปฝึกงานบริการตามร้านอาหาร ทำอาหาร ขาย ของ ฯลฯ น้กี ค็ ือการทำงาน ไมต่ ้องรอเรยี นจบแลว้ ค่อยทำงานเท่านั้น คนไทยไปเรยี นเมืองนอก ยงั ไปทำงานเสริฟอาหารไดเ้ ลย เรื่องสำคัญอยู่ที่ “การปรับทัศนะหมู่” ของคนไทย ว่าอย่าได้ดูแคลนการ ทำงานที่สุจริต งานอะไรก็ได้ ทุกวัยทำได้หมด ไม่ต้องรอทำงานประจำ น่ังโต๊ะ มเี งนิ เดอื น หรอื รอเป็นเจา้ คนนายคนแบบทส่ี อนกนั มาในอดตี

| 45 สำหรับคนวัยทำงาน โลกทุกวันนี้มีงานที่หลากหลายมากกว่าในอดีตมาก มี เคร่ืองมือ เทคโนโลยีเขา้ ช่วยมาก ทำงานแทนคนก็ได้มากขนึ้ เร่อื ย ๆ ผลผลติ ก็ไม่ได้ลดลง ตรงกนั ขา้ มจะเพิ่มขนึ้ ด้วย คนวัยทำงานทุกคนสามารถแสวงหาโอกาสทำงานในลักษณะทำงานหลาย อย่างไปพร้อมๆกัน เช่น มีงานประจำแล้ว ก็ควรทำงานท่ี 2 ที่ 3 ไปพร้อม กันด้วย ใช้ช่องทางและเทคโนโลยีสมัยให้ทำงานทางไกล ออนไลน์ ฯลฯ ได้ สารพัด เปน็ การสรา้ งผลิตภาพเพิ่มพนู คน 1 คน ทำงานในโลกสังคมสูงวัย ควรทำงานได้เท่ากับ 2-3 คน ในโลก ยคุ เดมิ ดังนั้น คนวัยแรงงานลดลง ก็จะไม่เป็นปญั หาอะไรต่อการสร้างงาน ต้องเอา เทคโนโลยเี ขา้ มาช่วยให้คนแต่ละคนทำงานใหไ้ ดม้ ากข้ึน สำหรับคนอายุมาก ที่เรียกว่า คนสูงวัย วันก่อน เจอลุงขับแท็กซี่อายุ 70 เศษ ออกรถใหม่มาขับ หลังจากลูกให้อยู่บ้านพักผ่อนเฉยๆ ลุงอยู่ไม่ได้ เหงา ไมม่ ีอะไรทำ กเ็ ลยไปออกรถคันมาขับ ขบั หารายได้ไปแบบชลิ ๆ งานคือคุณค่าของชีวิต ใครได้นั่งรถลุงก็มีความสุข เพราะลุงใจดี ผลิตงาน บรกิ ารเพม่ิ จีดพี ใี ห้ประเทศชาตดิ ้วย นแ่ี สดงวา่ คนสงู อายกุ ็ทำงานทีเ่ หมาะสมกับอายแุ ละเหมาะสมกบั แต่ละคนได้ เคยไปเที่ยวชมสวนดอกไม้ในชนบท ที่ญี่ปุ่น ชุมชนท้องถิ่นเข้ามาจัดการ ให้ คนสูงอายุทั้งชายหญิงมาทำงาน ทั้งเก็บเงิน ดูแลการจราจร ดูแลต้นไม้ บริการอาหาร ฯลฯ ทำงานกนั อยา่ งมคี ุณค่าและมีความสขุ ราชการไทย พออายุครบ 60 ปี จ่ายบำนาญทุกเดือน จ้างให้ไปนอนเกา สะดือเล่นอยู่บ้านเฉยๆ (แล้วร้องว่าคนไม่พอทำงาน ขอตำแหน่งใหม่เพิ่มทุก หนว่ ยทุกป)ี

| 46 เม่ือกอ่ นนอนเลน่ เฉยๆไมก่ ี่ปกี ต็ าย เด๋ียวนกี้ ารแพทย์และสงั คมเปลีย่ นไป บาง คนอย่ไู ด้อีก 30-40 ปี กย็ งั ไมต่ าย แต่ราชการบอกว่า ไม่ตอ้ งทำงาน ในอดตี ไมผ่ ดิ แต่ทุกวันนผี้ ดิ ชัดๆ ถ้าปล่อยให้ระบบราชการแกเ่ ฒา่ ไมป่ รบั ตวั ไม่ทันสถานการณ์ ข้าราชการข้างบน คนเคยมีตำแหน่งสูงๆ คนที่มีโอกาส ซึ่งเป็นส่วนน้อย คน เหล่านั้นมีโอกาสทำงานต่อ ทั้งในระบบราชการ และเอกชนเอาตัวไปทำงาน หรือไปประกอบกจิ การตวั เอง แต่ข้าราชการส่วนใหญ่ไม่ไช่แบบนั้น หลวงยังจ่ายเงินแล้วทิ้งในนอนเล่นอยู่ กบั บ้าน ไมม่ ีงานให้ทำ ไรค้ ณุ คา่ ดว้ ย เปน็ เรอื่ งไมถ่ ูกไม่ควร การขยายอายุราชการออกไปแบบยกแผง ไม่ไช่คำตอบ หรือเป็นคำตอบท่ี ง่ายเกินไป เหมือนคำตอบของเด็กชั้นประถม เพราะมีโอกาสส่งผลให้ระบบ ราชการประสทิ ธภิ าพต่ำลงไปกว่าเดิมไดอ้ ีก ราชการควรสร้างช่องทางใหม่ให้คนเกษียณได้มีโอกาสทำงานตามความรู้ ความสามารถ ประสบการณแ์ ละวยั ทีร่ ว่ งโรยไปตามลำดบั โดยมคี า่ ตอบแทน ท่ีเหมาะสมตามงานท่ที ำ เสรมิ รายได้จากบำนาญอันน้อยนดิ ชวี ิตขา้ ราชการ วัยเกษียณก็จะดีและมีคุณค่าเพิ่มขึ้น สังคมก็ได้งาน คนทุกวัยก็ยังคงเป็น แรงงานของประเทศได้ จนกว่าจะหมดแรงจริงๆ ติดบ้านติดเตียงรอกลับ บ้านเก่าตามธรรมชาติ เคยยกตวั อยา่ งมานาน แต่ไมเ่ คยเหน็ ว่าเปน็ ความจรงิ คือ พยาบาลทเี่ กษียณ อายุ 60 ปี ยังแข็งแรง มีความรู้ประสบการณ์มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานด้านส่งเสริมสุขภาพ งานดูแลสุขภาพที่บ้านที่ชุมชน เป็นพี่เลี้ยง อาสาสมัคร/นักบริบาลทั้งหลาย ที่เรียกว่างานปฐมภูมิที่บ้านที่ชุมชน (community health care) แต่ยังไม่มีระบบที่ให้เขาเหล่านั้นได้มีโอกาสทำงานดีๆท่ีประชาชน ครอบครัว และชุมชนท้ังในเมืองและในชนบทต้องการเปน็ อย่างมาก

| 47 นี่คือทิศทางที่ควรปรับเพื่อรองรับสังคมสูงวัย และสร้างโอกาสให้คนทุกวัยได้ ทำงาน สร้างผลิตภาพมวลรวมหรือไม่? ที่สำคัญยงั เปน็ การ สรา้ งเสรมิ คุณค่าศกั ด์ิศรีของคนทกุ คน แต่อย่าขยายอายุราชการให้เป็นพยาบาลสูงวัยทำงานบริหารกระดาษ บริหารระบบ หรือบริการผู้ป่วยใน รพ. ซึ่งเป็นงานที่หนักและไม่เหมาะกับ พยาบาลสูงวยั แลว้ ที่วา่ มานี้ เพอ่ื ยนื ยนั ความคิดใหม่ทว่ี ่า ในยุคสังคมสูงวยั “คนทกุ คน คนทุกวยั คอื วยั แรงงานไดด้ ว้ ยกันทัง้ หมด” ขอชวนคดิ แบบ lateral thinking ครับ บนั ทึกสว.(27) 13 สค.62

| 48 6 กย.62 ไม่มีงานในสภา จึงชวนคุณคณิศร ขุริรัง อดีตสมาชิกสภาปฏิรูป แห่งชาติหนองบัวลำภู (สปช.) คุณหมอบุญชัย สมบูรณ์สุข อดีตเลขาธิการ อย./ อดีต นพ.สสจ.หนองบัวลำภูคนแรก และคณะ เยี่ยมรับฟังข้อมูลการ พัฒนาจังหวัดขนาดเล็ก และปัญหาอุปสรรคการทำงานเชิงระบบและ โครงสรา้ ง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด (นายชัยธวัช เนียมศิริ) ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และเป็นกนั เอง ท่านบอกว่ารู้จักผมตั้งแต่ผมเป็น สนช.เมื่อปี 2549 ตอนนั้นท่านเป็นทีมงาน ของ มรว.กำลูนเทพ เทวกุล สนช.ผู้อาวโุ ส ต้องขอบคุณทท่ี า่ นจำได้ หนองบวั ลำภูเปน็ จังหวัดเล็ก มีอนั ดับการพัฒนาอยู่ท้ายๆของประเทศ เป็นจังหวัดเกิดใหม่ มี 6 อำเภอ ประชากร 5 แสนเศษ เท่าๆกับหนองคาย สมัยที่ผมเป็น นพ. สสจ.อุดรธานี ปี 2533-34 หนองบัวลำภูยังเป็นอำเภอ หนง่ึ ของอดุ รฯอยู่ 25 ปีผ่านไป หนองบัวลำภูมีผู้ว่าฯ 19 คน เฉลี่ยอยู่คนละปีเศษๆ กลายเป็น เก้าอ้ีของผู้ว่าแตง่ ตง้ั ใหม่เกือบทง้ั หมด มาแตะก่อนขยบั ไปอยูจ่ งั หวดั ใหญ่ ทจ่ี ริงจังหวดั เล็กและยากจน ตอ้ งการผู้นำท่ีมีความสามารถสงู มีความม่งุ มัน่ ทำงานได้ต่อเนื่อง ต้องกล้าคิดกล้าทำ กล้าฟันฝ่าข้อจำกัดและอุปสรรค มากมาย อีกทั้งรัฐต้องให้ “แต้มต่อ” ในทุกด้าน ไม่ไช่ปล่อยให้แข่งกับพื้นที่อื่นแบบ เหมอื นๆกัน

| 49 ผู้ว่าใหม่แต่ละท่านที่ไปอยู่ก็ตั้งใจดี แต่มาเร็วไปเร็ว คิดและทำงานได้ไม่ ตอ่ เนอ่ื ง จังหวัดไม่สามารถพัฒนากา้ วกระโดด ประชาชนกเ็ สียโอกาส ตรงกับที่อาจารย์หมอประเวศมองว่า เรื่องแบบนี้ กลายเป็นเรื่อง “สิทธิของ ข้าราชการ” ไป แทนที่จะเป็น “สิทธิของประชาชน” ในท้องถิ่น ที่ควรได้ ผู้นำเก่ง มงุ่ ม่ัน อยนู่ าน และทำงานได้ต่อเนือ่ ง นี่คือจุดอ่อนเชิงโครงสร้างที่สำคัญประการหนึ่งของการบริหารราชการ แผ่นดนิ ทม่ี ีมานานแล้ว ส่วนนายก อบจ.เป็นคนหนองบัวลำภู ทีมงานเกือบทั้งหมดเป็นคนพื้นที่ ทำงานตอ่ เนอ่ื งมาได้ 10 กวา่ ปีแลว้ บนั ทึกสว.(41) 7 กย.62

| 50 6 กย.62 เยี่ยมรับฟังข้อมูลการทำงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)หนองบัวลำภู มีนพ.ศราวุฒิ สันตินันตรักษ์ เป็นนายก @ “ศูนย์ ประชาชน” แนวคิดการจัดให้มี “ศูนย์ประชาชน” ก็เพื่อเป็นสถานที่ซึ่ง อบจ.จัดขึ้นในตัว เมือง สำหรับบริการประชาชนให้หน่วยงานต่างๆมาใช้ เพื่อความสะดวกของ ประชาชน แทนที่จะต้องวิ่งไปตามหน่วยงานต่างๆที่อยู่กระจัดกระจาย (แต่ หน่วยงานตา่ งๆยังไมม่ าใชม้ ากนกั ) ภาคประชาชนมาขอใช้งานได้ ฟัง นายก อบจ.เล่างานให้ฟงั หลายเร่อื ง ที่น่าสนใจมาก คือ การจัดหาแหล่งน้ำให้ชาวบ้าน ด้วยหลัก “ร่วมด้วยช่วยกัน” ตามแนวทาง ประชารฐั โดย อบจ.นำเครื่องจักรกลทีม่ ีอยู่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แทนที่จะจอดไว้ เฉยๆ หรือทำงานตามภารกิจเฉพาะเท่านั้น ออกขุดบ่อน้ำตื้น บ่อบาดาลให้ ตามบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้าน ตามความต้องการและคำขอของชาวบ้าน (demand driven) ผ่านการพิจารณาของ อปท.เจ้าของพื้นที่(อบจ./ เทศบาล/อบต.) ชาวบ้านเป็นผู้ออกค่าน้ำมัน ทำผลงานมาแล้วเป็นหลักพัน กระจายทั่วจังหวัด อีสานแล้งมาช้านาน การจัดหาแหล่งน้ำขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นนั้นดีและจำเป็น แต่ไม่เพียงพอความต้องการ และการเข้าถึงการใช้ประโยชน์ของชาวบ้านมี ขอ้ จำกดั มาก อกี ทง้ั ตอ้ งใชง้ บประมาณมาก การที่ทางการช่วยทำให้ชาวบ้านมีแหล่งน้ำขนาดเล็กตามหัวไร่ปลายนาและ บ้านเรือน ทำให้ชาวบ้านมีน้ำ หาอยู่หากินได้ตลอดปีหรือเกือบตลอดปี จะ ช่วยพ่ีน้องภาคอีสานลมื ตาอา้ ปากได้ จงึ เปน็ เรื่องที่ดีมากมาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook