Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การอ่านภาษาอังกฤษธุรกิจ

การอ่านภาษาอังกฤษธุรกิจ

Published by ouf.atiwat2536, 2021-08-18 08:06:32

Description: การอ่านภาษาอังกฤษธุรกิจ

Keywords: การอ่านภาษาอังกฤษธุรกิจ

Search

Read the Text Version

การอ่านภาษา อังกฤษธุรกิจ วทิ ยาลัยเทคโนโลยี หาดใหญอ่ ํานวยวทิ ย์ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ รหสั วชิ า 30212-2005 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพชน้ั สูงปีท่ี 2 อาจารยอ์ ธิวฒั น์ ละอาด ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ อาเภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา

ลกั ษณะรายวชิ า 30212-2005 การอ่านภาษาองั กฤษธุรกิจ รหสั และช่ือวิชา Business English Reading ภาษาองั กฤษ หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศ สภาพรายวชิ า ธุรกิจ หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพชน้ั สูง พ.ศ. 2562 ประเภทวชิ าบริหารธุรกิจ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร ระดบั วิชา หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สูงปีท่ี 2 พ้นื ฐาน - เวลาเรยี น ทฤษฎแี ละปฎบิ ตั ิ 5 ชวั่ โมงต่อสปั ดาหร์ วม 18 สปั ดาหจ์ านวน 90 คาบต่อภาค เรยี น หน่วยกติ 3 หน่วยกติ จดุ ประสงคร์ ายวชิ า 1. เพอ่ื ใหเ้ขา้ ใจเก่ยี วกบั หลกั และเทคนคิ วธิ กี ารอ่านเอกสารธุรกจิ 2. เพอ่ื ใหส้ ามารถอ่านขอ้ ความและเอกสารภาษาองั กฤษธุรกจิ 3. เพอ่ื ใหม้ เี จตคตแิ ละกจิ นิสยั ทด่ี ใี นการปฎบิ ตั งิ านดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั หลกั และเทคนคิ วธิ ใี นการอ่านเอกสารทางธุรกิจ 2. สรุปใจความสาคญั ของเอกสาร หรอื ขอ้ มลู ทางธุรกิจ 3. พูดหรอื เขยี นแสดงความเหน็ เกย่ี วกบั เอกสารทางธุรกจิ ทอ่ี ่าน 4. ตอบคาถามเก่ยี วกบั เอกสารทางธุรกจิ ทอ่ี ่าน 5. ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบตั ิเก่ียวกบั คาศพั ท์ สานวน และโครงสรา้ งภาษาองั กฤษท่ีใชใ้ น เอกสารทางธุรกิจ ลกั และเทคนิควธิ ีการอ่าน ปฏบิ ตั ิการอ่านขอ้ ความ เร่ือง และ เอกสารทางธุรกิจ

การแบง่ หน่วยการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรูร้ ายวิชาการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2562 จานวนหน่วยการเรยี นรู้ 5 หน่วย จานวน 90 ชวั่ โมง หน่วยท่ี ช่ือหน่วยการเรยี น สาระการเรยี นรู้ จานวนคาบเรยี น ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ รวม 1 Recognition Recognition 8 12 20 11 Letter Recognition 24 12 Word Recognition 34 13 Phrase Recognition 34 2 Skimming And Scanning Skimming And Scanning 7 8 15 21 Skimming 34 23 Scanning 44 3 Using Dictionary Using Dictionary 10 14 24 31 Spelling 11 32 Pronunciation 12 33 Definition 12 34 Part of Speech 23 35 Example 33 36 Usage 23 4 Simple, Compound and Simple, Compound and 6 8 14 Complex Sentence Complex Sentence 41 Simple Sentence 22 42 Compound Sentence 23 43 Complex Sentence 23 5 Topic And Topic Sentence Topic And Topic Sentence 5 7 12 51 Topic 12 52 Topic Sentence 22 53 Outlining 23 รวม 85 สอบปลายภาค 5 - 5 รวมทง้ั หมด 41 49 90

แผนการจดั การเรยี นรูว้ ิชาการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกิจ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2562 แผนท่ี 1 Recognition ระยะเวลา 20 ชวั่ โมง 1. สมรรถนะประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั ความสาคญั ของกระบวนการอ่านแบบบนลงลา่ งการอ่านแบบลา่ งข้นึ บน 12 พดู อธบิ ายกระบวนการอ่านแบบรูจ้ า 13 อภปิ รายเก่ยี วกบั วธิ กี ารอ่านแบบรูจ้ าทาใหส้ ามารถอ่านไดเ้ร็วข้นึ 14 พดู อธบิ ายถงึ วธิ กี ารจาแนกคา และวลี 15 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความสนใจใฝ่รู้ 2. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 111 อธบิ ายถงึ ความสาคญั ของกระบวนการอ่านแบบบนลงลา่ งการอ่านแบบลา่ งข้นึ บนไดถ้ กู ตอ้ ง 112 อธบิ ายถงึ ความสาคญั ของการอ่านเพอ่ื ความเขา้ ใจและกลวธิ ใี นการอ่าน ไดถ้ กู ตอ้ ง 121 อธบิ ายกระบวนการอ่านแบบรูจ้ าไดถ้ กู ตอ้ ง 122 สามารถรูจ้ าคาจากการวเิ คราะหต์ วั อกั ษรไดถ้ กู ตอ้ ง 131 เชอ่ื มโยงตวั อกั ษรกบั เสยี งไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 132 สามารถอ่านประโยคและคาดเดาคาศพั ทไ์ ดร้ วดเร็วและถกู ตอ้ ง 141 สามารถมองเหน็ ทงั้ คาหรอื วลแี ละเขา้ ใจความหมายของคาหรอื วลนี น้ั ไดท้ นั ที 142 อธบิ ายความหมายของวลที ป่ี รากฏในเอกสารไดถ้ กู ตอ้ ง 143 สามารถจาแนกระหวา่ งคาศพั ท์ และวลไี ดถ้ กู ตอ้ ง 151 ศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตวั เอง 152 ซกั ถามปญั หาขอ้ สงสยั 153 แสวงหาประสบการณแ์ ละคน้ หาความรูใ้ หมๆ่ 154 มคี วามกระตอื รอื รน้ ในการใฝ่หาความรูใ้ หม่ 3. แนวคิดสาระการเรยี นรู้ 3.1 ศึกษากระบวนการอ่านแบบบนลงลา่ งการอ่านแบบลา่ งข้นึ บน 3.2 ศึกษากระบวนการอ่านแบบรูจ้ า 3.3 ศึกษาวธิ กี ารมองเหน็ คาทง้ั คาหรอื วลที ง้ั วลแี ละเขา้ ใจความหมาย 3.4 ศึกษาความหมายของวลที ป่ี รากฏในเอกสาร

3.5 ศึกษาวธิ กี ารจาแนกระหวา่ งคาศพั ท์ และวลไี ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 4. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 4.2 กระบวนการกลมุ่ 4.3 กิจกรรม 3P 4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 อนิ เตอรเ์ น็ต 5.3 Dictionary 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั - ตรวจแบบทดสอบ - ตรวจคาตอบ 6.2 เครอ่ื งมอื วดั - แบบบนั ทกึ คะแนน - คาถาม/แบบทดสอบ 6.3 เกณฑก์ ารวดั - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งผ่านเกณฑท์ ก่ี าหนดรอ้ ยละ 60 7. แหลง่ การเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website 7.3 เอกสารประกอบการเรยี น 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรยี น -

9. ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื /การบูรณาการ (Integrated) - วชิ าการเขยี นภาษาองั กฤษทางธุรกิจ 1 10. บนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ/ปญั หา/อน่ื ๆ) .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................... * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบูรณาการ

แผนการจดั การเรยี นรูว้ ิชาการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกิจ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สูง พทุ ธศกั ราช 2562 แผนท่ี 2 Skimming And Scanning ระยะเวลา 15 ชวั่ โมง 1. สมรรถนะประจาหน่วย 21 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั การอา่ นแบบกวาดตา (Skimming) และการอ่านแบบหาขอ้ มลู เฉพาะ (Scanning) 22 หา Key Words ทป่ี ระกอบอยู่ในเอกสาร เพอ่ื คาดเดาเน้อื หา 23 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ 2. จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 211 อธบิ ายความสาคญั ของ การอ่านแบบ Skimming และ Scanning ไดถ้ กู ตอ้ ง 212 อภปิ รายถงึ จดุ ประสงคใ์ นการอ่านบทความประเภทต่าง ๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง 213 จาแนก เน้อื หาของเอกสารจากการอ่านแค่ปกไดถ้ กู ตอ้ ง 221 บอกเมนูอาหารจากวธิ กี ารอ่านแบบกวาดตาไดถ้ กู ตอ้ ง 222 อ่านตารางเวลาการจากการอ่านกวาดสายตาไดถ้ กู ตอ้ ง 223 คน้ หาความหมายของคาศพั ทจ์ ากการคน้ หาในพจนานุกรมไดถ้ กู ตอ้ ง 231 มคี วามพรอ้ มในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน 232 ปฏบิ ตั งิ านตามขน้ั ตอนทว่ี างไว้ 233 ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความตง้ั ใจ 233 มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน 3. แนวคดิ และสาระการเรยี นรู้ 3.1 ศึกษา การอ่านแบบ Skimming และ Scanning 3.2 ศึกษาวธิ กี ารจาแนก เน้อื หาของเอกสารจากการอ่านแค่ปก 3.3 ศึกษาการบอกเมนูอาหารจากวธิ กี ารอ่านแบบกวาดตา 3.4 ศึกษาการอ่านตารางเวลาการจากการอ่านกวาดสายตา 3.5 ศึกษาการคน้ หาความหมายของคาศพั ทจ์ ากการคน้ หาในพจนานุกรม 4. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 4.2 กระบวนการกลมุ่ 4.3 กจิ กรรม 3P

4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 อนิ เตอรเ์ น็ต 5.3 Dictionary 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั - ตรวจแบบฝึกหดั - สงั เกตการทางานกลมุ่ 6.2 เคร่อื งมอื วดั - แบบฝึกหดั 6.3 เกณฑก์ ารวดั - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งผ่านเกณฑท์ ก่ี าหนดรอ้ ยละ 60 7. แหลง่ การเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website 7.3 เอกสารประกอบการเรยี น 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรยี น - 9. ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื /การบูรณาการ (Integrated) - วชิ าการเขยี นภาษาองั กฤษทางธุรกิจ 1 10. บนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ/ปญั หา/อน่ื ๆ) .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบูรณาการ

แผนการจดั การเรยี นรูว้ ิชาการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกจิ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2562 แผนท่ี 3 Using Dictionary ระยะเวลา 24 ชวั่ โมง 1. สมรรถนะประจาหน่วย 31 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั การใช้ Dictionary 32 อธบิ ายความสาคญั ของการใช้ Dictionary กบั การอ่าน 33 แสดงวธิ กี ารใช้ Dictionary ในการหาตวั สะกด ทราบการออกเสยี ง 34 บอกความหมายของคาศพั ทจ์ ากการเปิด Dictionary 35 อธบิ ายวธิ กี ารทใ่ี ชใ้ นการคน้ หาคาศพั ทใ์ น Dictionary 36 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในความมนั่ ใจในตนเอง 2. จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 311 บอกความสาคญั ของ Dictionaryไดถ้ กู ตอ้ ง 312 อธบิ ายคาศพั ทใ์ นพจนานุกรมเรยี งตามลาดบั ไดถ้ กู ตอ้ ง 321 เขยี นอธบิ ายวธิ ใี ช้ Dictionary ไดถ้ กู ตอ้ ง 322 อ่านออกเสยี งคาศพั ทจ์ ากการเปิด Dictionary ไดถ้ กู ตอ้ ง 331 อธบิ ายการใช้ Dictionary หาตวั สะกดไดถ้ กู ตอ้ ง 341 บอกความหมายของคาศพั ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 351 อธบิ ายเทคนคิ การใช้ Dictionary หาความหมายไดถ้ กู ตอ้ ง 361 กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล 362 กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง 363 เสนอตวั เขา้ แขง่ ขนั หรอื ทางานทา้ ทาย 364 กลา้ แสดงออกในสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง 3. แนวคดิ และสาระการเรยี นรู้ 3.1 ความสาคญั ของการใช้ Dictionary กบั การอ่าน 3.2 วธิ กี ารใช้ Dictionary ในการหาตวั สะกด ทราบการออกเสยี ง 3.3 วธิ กี ารทใ่ี ชใ้ นการคน้ หาคาศพั ทใ์ น Dictionary 4. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 4.2 กระบวนการกลมุ่

4.3 กจิ กรรม 3P 4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 อนิ เตอรเ์ น็ต 5.3 Dictionary 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั - ตรวจแบบฝึกหดั - สงั เกตการการออกเสยี ง 6.2 เคร่อื งมอื วดั - แบบถฝึกหดั - แบบทดสอบอ่านออกเสยี ง 6.3 เกณฑก์ ารวดั - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งผา่ นเกณฑท์ ก่ี าหนดรอ้ ยละ 60 7. แหลง่ การเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website 7.3 เอกสารประกอบการเรยี น 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรยี น - 9. ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื /การบูรณาการ (Integrated) - วชิ าการเขยี นภาษาองั กฤษทางธุรกิจ 1 10. บนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ/ปญั หา/อน่ื ๆ) .................................................................................................................................................................. * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบูรณาการ แผนการจดั การเรยี นรูว้ ชิ าการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ

หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกจิ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2562 แผนท่ี 4 Simple, Compound and Complex Sentence ระยะเวลา 14 ชวั่ โมง 1. สมรรถนะประจาหน่วย 41 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั ประโยค Simple, Compound และ Complex 42 อธบิ ายโครงสรา้ งสาคญั ของประโยค Simple, Compound และ Complex 43 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั คาสนั ธาน 44 อธบิ ายความเขา้ ใจเก่ยี วกบั อนุประโยค 45 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความมมี นุษยส์ มั พนั ธ์ 2. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 411 อธบิ ายความแตกต่างของประโยค Simple, Compound และ Complex ไดถ้ กู ตอ้ ง 412 บอกวธิ กี ารใชป้ ระโยค Simple, Compound และ Complex ไดถ้ กู ตอ้ ง 421 บอกโครงสรา้ งของประโยค Simple, Compound และ Complex ไดถ้ กู ตอ้ ง 422 สรา้ งประโยค Simple, Compound และ Complex ไดถ้ กู ตอ้ ง 431 อธบิ ายประเภทของคาสนั ธานไดถ้ กู ตอ้ ง 441 บอกหนา้ ทข่ี องอนุประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง 442 แสดงตวั อย่างของอนุประโยคแต่ละประเภทไดถ้ กู ตอ้ ง 451 แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพ 452 พดู จาสุภาพ 453 ช่วยเหลอื ผูอ้ น่ื 454 รบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื 455 ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผูอ้ น่ื 456 ช่นื ชมยนิ ดเี มอ่ื ผูอ้ น่ื ประสบความสาเรจ็ 3. แนวคิดสาระการเรยี นรู้ 3.1 ศึกษาความแตกต่างของประโยค Simple, Compound และ Complex 3.2 ศึกษาการสรา้ งประโยค Simple, Compound และ Complex 3.3 ศึกษาโครงสรา้ งของประโยค Simple, Compound และ Complex ไดถ้ กู ตอ้ ง 3.4 ศึกษาประเภทของคาสนั ธานและอนุประโยค 4. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 4.2 กระบวนการกลมุ่

4.3 กจิ กรรม 3P 4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 อนิ เตอรเ์ น็ต 5.3 Dictionary 6. การวดั ผลและการประเมนิ ผล 6.1 วธิ วี ดั - ตรวจแบบฝึกหดั - ตรวจคาตอบ 6.2 เครอ่ื งมอื วดั - แบบฝึกหดั 6.3 เกณฑก์ ารวดั - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งผา่ นเกณฑท์ ก่ี าหนดรอ้ ยละ 60 7. แหลง่ การเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website 7.3 เอกสารประกอบการเรยี น 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรยี น - 9. ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื /การบูรณาการ (Integrated) - วชิ าการเขยี นภาษาองั กฤษทางธุรกิจ 1 10. บนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ/ปญั หา/อน่ื ๆ) .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบูรณาการ

แผนการจดั การเรยี นรูว้ ชิ าการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกิจ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2562 แผนท่ี 5 Topic And Topic Sentence ระยะเวลา 12 ชวั่ โมง 1. สมรรถนะประจาหน่วย 51 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั Topic และ Topic Sentence 52 อธบิ ายความแตกต่างระหวา่ ง Topic และ Topic Sentence 53 อธบิ ายการหาประโยคสาคญั ในแต่ละย่อหนา้ 54 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในความสามคั คี 2. จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 511 อธบิ ายความหมายของ Topic และ Topic Sentence ไดถ้ กู ตอ้ ง 521 บอกความแตกต่างระหวา่ ง Topic และ Topic Sentence ไดถ้ กู ตอ้ ง 531 แสดงวธิ กี ารหา Topic และ Topic Sentence ในแต่ละบทความไดถ้ กู ตอ้ ง 522 สรา้ งประโยค Simple, Compound และ Complex ไดถ้ กู ตอ้ ง 531 ร่วมใจในการทางานดว้ ยความกลมเกลยี ว 532 รบั ฟงั ความเหน็ ของผูอ้ น่ื 533 ปฏบิ ตั ติ ามบทบาทผูน้ าและผูต้ าม 534 ไม่ทะเลาะววิ าท 3. แนวคิดสาระการเรยี นรู้ 3.1 ศึกษาความหมายของ Topic และ Topic Sentence 3.2 ศึกษาความแตกต่างระหวา่ ง Topic และ Topic Sentence 3.3 ศึกษาการหาประโยคสาคญั ในแต่ละย่อหนา้ 4. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 4.2 กระบวนการกลมุ่ 4.3 กจิ กรรม 3P 4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 อนิ เตอรเ์ น็ต

5.3 Dictionary 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั - ตรวจแบบฝึกหดั - ตรวจคาตอบ 6.2 เครอ่ื งมอื วดั - แบบฝึกหดั 6.3 เกณฑก์ ารวดั - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งผ่านเกณฑท์ ก่ี าหนดรอ้ ยละ 60 7. แหลง่ การเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website 7.3 เอกสารประกอบการเรยี น 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรยี น - 9. ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื /การบูรณาการ (Integrated) - วชิ าการเขยี นภาษาองั กฤษทางธุรกจิ 1 10. บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ/ปญั หา/อน่ื ๆ) .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบูรณาการ

ตารางกาหนดน้าหนกั คะแนนการวดั วชิ าการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ รหสั วชิ า 30212-2005 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2562 (ปวส. 2) กระทรวงศึกษาธิการ น้าหนกั คะแนน พทุ ธิพสิ ยั พฤตกิ รรม เกณฑ์ ่ผาน (%) คะแนนรวมรายเ ้ืนอหา หน่วยท่ี ความ ูร้-ความจา เน้ือหา ความเข ้าใจ การนาไปใช ้ การวิเคราะห์ ูสงกว่า ทักษะพิสัย จิตพิสัย รวม อันดับความสาคัญ 1 Recognition 70 5 1 2 2 - - 5 10 4 25 1 2 Skimming And Scanning 70 10 3 3 4 - - 15 85 10 3 3 Using Dictionary 70 3 1 1 1 - - 5 17 2 4 Simple, Compound and Complex 70 5 1 2 2 - - 5 Sentence 5 Topic And Topic Sentence 70 7 2 2 3 - - 10 รวม 30 8 10 12 40 20 70 อนั ดบั ความสาคญั * คะแนนดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั 321 * คะแนนดา้ นทกั ษะพสิ ยั * คะแนนดา้ นจติ พสิ ยั 30 หมายเหตุ : สูงกวา่ เช่น การสงั เคราะห์ การประเมนิ ค่า * คะแนนงานทม่ี อบหมาย 40 รวมทงั้ ส้นิ 20 10 100

ใบความรู้ (Information Sheet) ใบความรู้ (Information Sheet) รหสั วชิ า 30212-2005 วชิ า การอ่านภาษาองั กฤษธุรกจิ หน่วยกิต 3 หน่วยกติ หน่วยท่ี 1 ช่อื หน่วย Recognition จานวนชวั่ โมงรวม 20 ชวั่ โมง ใบความรูท้ ่ี 1 ช่อื ใบความรู้ Word Recognition จานวนชวั่ โมง 3 ชวั่ โมง สมรรถนะประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั ความสาคญั ของกระบวนการอ่านแบบบนลงลา่ งการอ่านแบบลา่ งข้นึ บน 12 พดู อธบิ ายกระบวนการอ่านแบบรูจ้ า 13 อภปิ รายเกย่ี วกบั วธิ กี ารอ่านแบบรูจ้ าทาใหส้ ามารถอ่านไดเ้ร็วข้นึ 14 พดู อธบิ ายถงึ วธิ กี ารจาแนกคา และวลี 15 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความสนใจใฝ่รู้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 122 สามารถรูจ้ าคาจากการวเิ คราะหต์ วั อกั ษรไดถ้ กู ตอ้ ง 132 สามารถอ่านประโยคและคาดเดาคาศพั ทไ์ ดร้ วดเรว็ และถกู ตอ้ ง 141 สามารถมองเหน็ ทงั้ คาหรอื วลแี ละเขา้ ใจความหมายของคาหรอื วลนี นั้ ไดท้ นั ที 142 อธบิ ายความหมายของวลที ป่ี รากฏในเอกสารไดถ้ กู ตอ้ ง 151 ศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตวั เอง สาระการเรยี นรู้ ความสามารถในการรูจ้ าตวั อกั ษร (Letter recognition) เป็นทกั ษะการอ่านขนั้ พ้นื ฐานสาคญั สาหรบั นกั อ่าน ทต่ี อ้ งสามารถจารูปตวั อกั ษร (Form) เชอ่ื มโยงกบั เสยี ง (Sound) และนาตวั อกั ษรมารวมกนั เป็นคา(Spelling) ก่อนท่ี จะทาการถอดรูปออกมาเป็นความหมาย (Decoding) ซง่ึ จะสงั เกตไดจ้ ากการทค่ี รูปฐมวยั สอนนกั เรียนใหส้ ะกดคาที ละตวั อกั ษร ซง่ึ ต่อมาความสามารถดงั กลา่ วถูกพฒั นาใหเ้ป็นความสามารถในการรูจ้ าคา (Word Recognition) และ การรูจ้ าวล(ี Phrase Recognition) นกั อ่านทม่ี คี วามชานาญจะสามารถมองเหน็ คาทงั้ คาหรอื วลที งั้ วลแี ละเขา้ ใจ ความหมายของคาหรือวลนี น้ั ไดท้ นั ทโี ดยไม่ตอ้ งสะกด ดงั กล่าวส่งผลใหส้ ามารถอ่านไดเ้ ร็วข้นึ และขณะเดียวกนั สามารถทาความเขา้ ใจบทความไดด้ ยี ง่ิ ข้นึ เอกสารอา้ งองิ ดร.สรพล จริ ะสวสั ด์.ิ กลวิธกี ารอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ . ศูนยบ์ รกิ ารสอ่ื และสง่ิ พมิ พก์ ราฟฟิคไซท.์ 2561

ใบงาน (Job Sheet) ใบงานท่ี 1 (Job Sheet) รหสั วชิ า 30212-2005 วชิ า การอ่านภาษาองั กฤษธุรกจิ หน่วยกิต 3 หน่วยกติ หน่วยท่ี 1 ช่อื หน่วย Recognition จานวนชวั่ โมงรวม 20 ชวั่ โมง ชวั่ โมง ใบงานท่ี 1 ช่อื ใบงาน Word Recognition จานวนชวั่ โมง 3 จุดประสงคก์ ารเรยี นการสอน รายการสอน สมรรถนะประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั ความสาคญั ของกระบวนการอ่าน Word Recognition แบบบนลงลา่ งการอ่านแบบลา่ งข้นึ บน 12 พดู อธบิ ายกระบวนการอ่านแบบรูจ้ า 13 อภปิ รายเกย่ี วกบั วธิ กี ารอ่านแบบรูจ้ าทาใหส้ ามารถอ่านได้ เรว็ ข้นึ 14 พดู อธบิ ายถงึ วธิ กี ารจาแนกคา และวลี 15 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความ สนใจใฝ่ รู ้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 122 สามารถรูจ้ าคาจากการวเิ คราะหต์ วั อกั ษรไดถ้ กู ตอ้ ง 132 สามารถอ่านประโยคและคาดเดาคาศพั ทไ์ ดร้ วดเร็วและ ถกู ตอ้ ง 141 สามารถมองเหน็ ทง้ั คาหรอื วลแี ละเขา้ ใจความหมายของ คาหรอื วลนี นั้ ไดท้ นั ที 142 อธบิ ายความหมายของวลที ป่ี รากฏในเอกสารไดถ้ กู ตอ้ ง 151 ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตวั เอง เครอ่ื งมือและอปุ กรณ์ วสั ดุ 1. มดี , กรรไกร 1. ปากกา 2. กระดาษ 100 ปอนด์ 2. ดนิ สอ 3. กาว 3. สสี าหรบั ตกแต่ง 4. สี

ลาดบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 1. แบ่งนกั เรยี นตามความสมคั รใจ 5 กลมุ่ เลอื กหวั หนา้ กลมุ่ ประชมุ แบง่ หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ 2. ศึกษาขอ้ มลู ประเภทจองเอกสารทางธุรกจิ 3. เขยี นสรุปเน้อื หาย่อยๆ ลงในกระดาษ 4. ออกแบบช้นิ งานลงในกระดาษ 100 ปอนด์ 5. ผา่ นการตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากครูผูส้ อน 6. นาเสนอช้นิ งาน บรหิ ารเวลากลมุ่ ละ 10 นาที 7. นกั เรยี นบนั ทกึ ขอ้ มลู ลงสมดุ บรหิ ารเวลา 10 นาที การประเมนิ ผล 1. วธิ วี ดั - ตรวจผลงาน 2. เครอ่ื งมอื วดั - เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 3. เกณฑก์ ารวดั - ความถกู ตอ้ ง 4 คะแนน - ความคิดสรา้ งสรรค์ 4 คะแนน - ตรงเวลา 2 คะแนน เอกสารอา้ งองิ ดร.สรพล จริ ะสวสั ด์.ิ กลวิธกี ารอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ . ศูนยบ์ รกิ ารสอ่ื และสง่ิ พมิ พก์ ราฟฟิคไซท.์ 2561

แผนภมู ิการจดั งาน (Flow’s Chart) 1. แบ่งนกั เรียนตามความสมคั รใจ 5 กลุ่มเลอื กหวั หนา้ บรหิ ารเวลา 20 นาที กลมุ่ ประชมุ แบ่งหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ 2. ศึกษาขอ้ มลู ประเภทของเอกสารทางธุรกิจ บรหิ ารเวลา 20 นาที 3. เขยี นสรปุ เน้อื หาย่อยๆ ลงในกระดาษ บรหิ ารเวลา 30 นาที 5. ผ่านการตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากครูผูส้ อน บรหิ ารเวลา 20 นาที 6. นาเสนอช้นิ งาน บรหิ ารเวลากลมุ่ ละ 10 นาที บรหิ ารเวลา 55 นาที 7. นกั เรยี นบนั ทกึ ขอ้ มลู ลงสมดุ บรหิ ารเวลา 20 นาที บรหิ ารเวลา 20 นาที รวมเวลา 165 นาที

ตารางกาหนดเวลาการปฏบิ ตั กิ าร (Gantt’s Chart) วชิ า การอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ รหสั วิชา 30212-2005 ภาคเรยี นท่ี 1 ท่ี งาน มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. จด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 บนั ทกึ 1 Table Setting Presentation 2 3 4 5 สถานศึกษา วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ อาจารยผ์ ูส้ อน อ.อธวิ ฒั น์ ละอาด

แบบฟอรม์ การประเมนิ ผลการนาเสนอช้ินงาน (Folio) แบบประเมนิ ผล กจิ กรรม.................................................................................................................... ชอ่ื ..............................ชอ่ื สกลุ ...................................สาขาวชิ า..............................เลขท.่ี .................. ท่ี รายการประเมิน ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ บนั ทกึ 4321 1 ดา้ นการออกเสยี ง 1.1 ออกเสยี งอกั ขระถกู ตอ้ งชดั เจน 1.2 ใชร้ ะดบั ภาษาไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม มคี วามมนั่ ใจ 2 ดา้ นบคุ ลกิ ภาพ ความคลอ่ งแคลว่ 2.1 พดู ไดต้ ่อเน่ือง ไมต่ ดิ ขดั ตะกกุ ตะกกั 2.2 กม้ หนา้ อ่านเน้อื หานอ้ ยมาก 2.3 แสดงทา่ ทางประกอบเหมาะสมกบั เรอ่ื ง 2.4 แต่งการสุภาพเรยี บรอ้ ย 3 ดา้ นการนาเสนอ 3.1 นาเสนอไดอ้ ยา่ งน่าสนใจ 3.2 เสนอเร่อื งตามลาดบั ขนั้ ตอน 3.3 ชกั ชวนผูฟ้ งั ใหต้ ดิ ตาม 3.4 ใชส้ อ่ื ประกอบการนาเสนอไดเ้หมาะสม 4 ดา้ นเวลา 4.1 พดู จบเน้ือหาภายในเวลาทก่ี าหนด 4.2 ใชเ้วลามากนอ้ ยจากทก่ี าหนดไมเ่ กนิ 2 นาที รวม บนั ทกึ ความคดิ เหน็ ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... .......................................... อาจารยป์ ระจาวชิ า .........../........../.........

กจิ กรรม/ขอ้ เสนอแนะ 1. วิชาการอ่านภาษาองั กฤษธุรกิจ หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกิจ เรยี นทฤษฎแี ละปฏบิ ตั ิ 5 ชวั่ โมงต่อสปั ดาห์ ระยะเวลา 18 สปั ดาห์ รวมทง้ั ส้นิ 90 ชวั่ โมง ตลอดภาคเรยี น 3 หน่วยกิต จุดประสงคร์ ายวชิ าเนน้ ในเรอ่ื งทกั ษะ (skill) เพอ่ื นาไปใชใ้ นอาชีพ ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ดงั นน้ั การเรียนการสอนจงึ ตอ้ งม่งุ เนน้ การสรา้ งทกั ษะ โดยการฝึกปฏบิ ตั ิยดึ หลกั ไวยากรณ์ กระบวนการในการทางาน ความสามารถเฉพาะตวั และการทางานเป็นทมี ยดึ ผูเ้รยี น เป็นสาคญั โดยมชี ้นิ งานเป็นร่องรอยการปฏบิ ตั ิงานมแี ผนบูรณาการกบั วชิ าอ่นื ทเ่ี ก่ียวขอ้ งเพอ่ื นาไปสู่กระบวนการการ เรยี นการสอน มเี กณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน/ช้นิ งาน 2. มุ่งสรา้ งความรบั ผิดชอบงาน/ภารกิจ ความเป็นระเบียบในการทางาน การบูรณาการเนน้ การฝึกปฏบิ ตั ิเพอ่ื ใหเ้ กิดทกั ษะ นกั เรยี นแต่ละคนจะมคี วามรูใ้ นส่วนทเ่ี ป็นทฤษฎี หลกั การกระบวนก าร (คอื การสรุปคาศพั ทส์ านวนทใ่ี ชใ้ นสถานการณ์ต่างๆ ตอบคาถามเพอ่ื ทบทวน) และสว่ นทเ่ี ป็นทกั ษะ (skill) โดยนาเอากระบวนการของทฤษฎไี ปสู่ภาคปฏบิ ตั ิ (การนาเสนอช้นิ งาน การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ฯลฯ) นกั เรยี น แต่ละคนจะไดร้ บั การเอาใจใสจ่ ากครูผูส้ อน โดยใชเ้กณฑก์ ารใหค้ ะแนน ทกุ ช้นิ งานจะถกู ควบคมุ โดยตาราง เวลาควบคมุ การปฏบิ ตั งิ าน (Gantt’s Chart) 3. ม่งุ เนน้ สรา้ งบุคลกิ ภาพทด่ี ี ความรอบรูจ้ ากแหลง่ เรียนรูอ้ ่นื ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียน และนามาประยุกตใ์ ชใ้ หเ้หมาะสมกบั สถานการณ์ในการสนทนาโตต้ อบ 4. จดั ป้ายนเิ ทศการนาเสนอและการสาธติ 5. สนทนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร การแสดงบทบาทสมมติ 6. กิจกรรม/ภารกิจทุกช้ินงาน ผูส้ อนจะมอบหมายงานล่วงหนา้ อย่างชดั เจน เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียน ทราบวา่ จะไดร้ บั ประโยชนอ์ ะไรบา้ ง และนาไปใชใ้ นสถานการณ์จรงิ ไดอ้ ย่างไร

การวดั ผลและการประเมินผลการเรยี น 1. ผูส้ อนจะตอ้ งเตรียมการวางแผนการสอนอย่างรอบคอบ โดยสรุปบทเรียนแต่ละบทท่เี ป็น สาระสาคญั ในส่วนทเ่ี ป็นทฤษฎี กระบวนการ ตามกาหนดเวลาและจดั หาส่อื การเรียนการสอนประกอบ ในแต่ละบทเรยี น 2. มอบหมายกิจกรรม/ภารกิจ ส่วนทเ่ี ป็นความรูแ้ ละส่วนทเ่ี ป็นทกั ษะตลอดภาคเรยี น 3. กาหนดตารางการสง่ งาน ครง้ั ท่ี 1 เน้อื งาน 10 4. การส่งงานทุกครงั้ ผูส้ อนจะตอ้ งสรุปขอ้ ท่ีควรปรบั ปรุงและแกไ้ ขใหต้ รงกบั ความตอ้ งการ ของผูส้ อน 5. ผูส้ อนจะตอ้ งออกแบบประเมินผลตามหลกั เกณฑ์ และอธิบายใหผ้ ูเ้ รียนไดท้ ราบการ ประเมินผลกิจกรรมบางอย่าง เช่น การนาเสนอหนา้ ชนั้ เรียน ควรใหผ้ ูเ้ รียนมีส่วนร่วมประเมินดว้ ย เป็นการสรา้ งความยุติธรรมระหว่างผูส้ อนและผูเ้ รียน (การออกแบบประเมินผลอาจออกแบบร่วมกนั ระหวา่ งผูส้ อนและผูเ้รยี นก็ได)้ 6. ผูส้ อนจะตอ้ งอธบิ ายการวดั ผลและประเมนิ ผลใหผ้ ูเ้รยี นไดร้ บั รูอ้ ย่างชดั เจน 7. วชิ าภาษาองั กฤษเพ่อื ธุรกิจบริการ การใหน้ า้ หนกั คะแนนเป็นไปตามระเบยี บ การวดั ผลของ โรงเรียน โดยมแี นวคิดดงั น้ี วชิ าการเรยี นภาษาองั กฤษผ่านสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เป็นการผสมผสานระหว่าง ทฤษฎีและปฏิบตั ิ โดยนาเอาทฤษฎีสู่การปฏบิ ตั ิเพ่อื ใหเ้ ป็นช้ินงาน (Folio) ดงั นน้ั นา้ หนกั คะแนนจะเป็น 80:20 ซ่งึ หมายความวา่ 80 คะแนนเป็นคะแนนสอบรายจุดประสงค์ 50 คะแนน ช้ินงาน 10 คะแนนจติ พสิ ยั 20 คะแนน และ 20 คะแนนเป็นคะแนนสอบปลายภาค

แนวขอ้ สอบปลายภาค 40 10 Final Examination 10 Business English Reading (30212-2005) 5 Part I Choose the correct answer Part II Matching the meaning Part III Fill in the blanks Part IV Reading comprehension

หนงั สอื อา้ งองิ /เอกสารประกอบการสอน รายชอ่ื หนงั สอื ทน่ี กั เรยี นใชเ้รยี นและคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ ในวชิ าการอ่านภาษาองั กฤษธุรกจิ หนงั สอื หลกั เลม่ ท่ี ชอ่ื หนงั สอื ชอ่ื ผูเ้รยี บเรยี ง พ.ศ. ทพ่ี มิ พ์ 1 กลวธิ กี ารอ่านภาษาองั กฤษธุรกจิ ดร.สรพล จริ ะสวสั ด์ิ 2561 หนงั สอื ประกอบ เลม่ ท่ี ชอ่ื หนงั สอื ชอ่ื ผูเ้รยี บเรยี ง พ.ศ. ทพ่ี มิ พ์

กาหนดการสอน สปั ดาห์ คาบท่ี รายการสอน หมายเหตุ 1. Recognition 11 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั ความสาคญั ของกระบวนการอ่านแบบบนลง ลา่ งการอ่านแบบลา่ งข้นึ บน 12 พดู อธบิ ายกระบวนการอ่านแบบรูจ้ า 13 อภปิ รายเกย่ี วกบั วธิ กี ารอ่านแบบรูจ้ าทาใหส้ ามารถอ่านไดเ้ร็วข้นึ 1 1-5 14 พูดอธบิ ายถงึ วธิ กี ารจาแนกคา และวลี 15 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความสนใจใฝ่รู้ 111 อธบิ ายถงึ ความสาคญั ของกระบวนการอ่านแบบบนลงลา่ งการอ่าน แบบลา่ งข้นึ บนไดถ้ กู ตอ้ ง 112 อธบิ ายถงึ ความสาคญั ของการอ่านเพอ่ื ความเขา้ ใจและกลวธิ ใี น การอ่าน ไดถ้ กู ตอ้ ง 151 ศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตวั เอง 2 6-10 121 อธบิ ายกระบวนการอ่านแบบรูจ้ าไดถ้ กู ตอ้ ง 3 11-15 122 สามารถรูจ้ าคาจากการวเิ คราะหต์ วั อกั ษรไดถ้ กู ตอ้ ง 152 ซกั ถามปญั หาขอ้ สงสยั 131 เชอ่ื มโยงตวั อกั ษรกบั เสยี งไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 132 สามารถอ่านประโยคและคาดเดาคาศพั ทไ์ ดร้ วดเร็วและถกู ตอ้ ง 4 16-20 153 แสวงหาประสบการณแ์ ละคน้ หาความรูใ้ หม่ๆ 141 สามารถมองเหน็ ทง้ั คาหรอื วลแี ละเขา้ ใจความหมายของคาหรอื วลี นนั้ ไดท้ นั ที 142 อธบิ ายความหมายของวลที ป่ี รากฏในเอกสารไดถ้ กู ตอ้ ง 143 สามารถจาแนกระหวา่ งคาศพั ท์ และวลไี ดถ้ กู ตอ้ ง 154 มคี วามกระตอื รอื รน้ ในการใฝ่หาความรูใ้ หม่ 2. Skimming And Scanning 21 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั การอ่านแบบกวาดตา (Skimming) และการ อ่านแบบหาขอ้ มลู เฉพาะ (Scanning) 22 หา Key Words ทป่ี ระกอบอยู่ในเอกสาร เพอ่ื คาดเดาเน้อื หา

กาหนดการสอน (ตอ่ ) สปั ดาห์ คาบท่ี รายการสอน หมายเหตุ 23 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ 5 21-25 211 อธบิ ายความสาคญั ของ การอ่านแบบ Skimming และ Scanning ไดถ้ กู ตอ้ ง 212 อภปิ รายถงึ จดุ ประสงคใ์ นการอ่านบทความประเภทต่าง ๆ ได้ ถกู ตอ้ ง 231 มคี วามพรอ้ มในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน 6 26-30 213 จาแนก เน้อื หาของเอกสารจากการอ่านแค่ปกไดถ้ กู ตอ้ ง 232 ปฏบิ ตั งิ านตามขนั้ ตอนทว่ี างไว้ 7 31-35 221 บอกเมนูอาหารจากวธิ กี ารอ่านแบบกวาดตาไดถ้ กู ตอ้ ง 222 อา่ นตารางเวลาการจากการอ่านกวาดสายตาไดถ้ กู ตอ้ ง 233 ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความตง้ั ใจ 8 36-40 223 คน้ หาความหมายของคาศพั ทจ์ ากการคน้ หาในพจนานุกรมไดถ้ กู ตอ้ ง 233 มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน 3. Using Dictionary 31 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั การใช้ Dictionary 32 อธบิ ายความสาคญั ของการใช้ Dictionary กบั การอ่าน 33 แสดงวธิ กี ารใช้ Dictionary ในการหาตวั สะกด ทราบการออกเสยี ง 34 บอกความหมายของคาศพั ทจ์ ากการเปิด Dictionary 35 อธบิ ายวธิ กี ารทใ่ี ชใ้ นการคน้ หาคาศพั ทใ์ น Dictionary 36 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในความมนั่ ใจในตนเอง 9 41-45 311 บอกความสาคญั ของ Dictionaryไดถ้ กู ตอ้ ง 312 อธบิ ายคาศพั ทใ์ นพจนานุกรมเรยี งตามลาดบั ไดถ้ กู ตอ้ ง 361 กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล 10 46-50 321 เขยี นอธบิ ายวธิ ใี ช้ Dictionary ไดถ้ กู ตอ้ ง 322 อ่านออกเสยี งคาศพั ทจ์ ากการเปิด Dictionary ไดถ้ กู ตอ้ ง 362 กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง 11 51-55 331 อธบิ ายการใช้ Dictionary หาตวั สะกดไดถ้ กู ตอ้ ง 341 บอกความหมายของคาศพั ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง

กาหนดการสอน (ตอ่ ) สปั ดาห์ คาบท่ี รายการสอน หมายเหตุ 12 56-60 363 เสนอตวั เขา้ แขง่ ขนั หรอื ทางานทา้ ทาย 351 อธบิ ายเทคนคิ การใช้ Dictionary หาความหมายไดถ้ กู ตอ้ ง 13 61-65 364 กลา้ แสดงออกในสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง 14 66-70 4. Simple, Compound and Complex Sentence 15 71-75 41 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั ประโยค Simple, Compound และ Complex 42 อธบิ ายโครงสรา้ งสาคญั ของประโยค Simple, Compound และ Complex 43 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั คาสนั ธาน 44 อธบิ ายความเขา้ ใจเก่ยี วกบั อนุประโยค 45 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนิสยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความมมี นุษย์ สมั พนั ธ์ 411 อธบิ ายความแตกต่างของประโยค Simple, Compound และ Complex ไดถ้ กู ตอ้ ง 412 บอกวธิ กี ารใชป้ ระโยค Simple, Compound และ Complex ได้ ถกู ตอ้ ง 451 แสดงกรยิ าทา่ ทางสุภาพ 421 บอกโครงสรา้ งของประโยค Simple, Compound และ Complex ไดถ้ กู ตอ้ ง 422 สรา้ งประโยค Simple, Compound และ Complex ไดถ้ กู ตอ้ ง 453 ช่วยเหลอื ผูอ้ น่ื 454 รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ น่ื 431 อธบิ ายประเภทของคาสนั ธานไดถ้ กู ตอ้ ง 441 บอกหนา้ ทข่ี องอนุประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง 442 แสดงตวั อย่างของอนุประโยคแต่ละประเภทไดถ้ กู ตอ้ ง 455 ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผูอ้ น่ื 456 ชน่ื ชมยนิ ดเี มอ่ื ผูอ้ น่ื ประสบความสาเรจ็

กาหนดการสอน (ตอ่ ) สปั ดาห์ คาบท่ี รายการสอน หมายเหตุ 5. Topic And Topic Sentence 51 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั Topic และ Topic Sentence 52 อธบิ ายความแตกต่างระหวา่ ง Topic และ Topic Sentence 53 อธบิ ายการหาประโยคสาคญั ในแต่ละย่อหนา้ 54 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในความสามคั คี 16 76-80 511 อธบิ ายความหมายของ Topic และ Topic Sentence ไดถ้ กู ตอ้ ง 521 บอกความแตกต่างระหวา่ ง Topic และ Topic Sentence ได้ ถกู ตอ้ ง 531 ร่วมใจในการทางานดว้ ยความกลมเกลยี ว 532 รบั ฟงั ความเหน็ ของผูอ้ น่ื 17 81-85 531 แสดงวธิ กี ารหา Topic และ Topic Sentence ในแต่ละบทความ ไดถ้ กู ตอ้ ง 522 สรา้ งประโยค Simple, Compound และ Complex ไดถ้ กู ตอ้ ง 533 ปฏบิ ตั ติ ามบทบาทผูน้ าและผูต้ าม 534 ไม่ทะเลาะววิ าท 18 86-90 สอบปลายภาค

การประเมินผลรายวชิ า รายวิชาน้ีแบ่งออกเป็น 3 หน่วยการเรียน แยกได้ 10 หวั ขอ้ การวดั และประเมินผลจะ ดาเนินการดงั น้ี 1. วธิ กี าร ดาเนินการรวบรวมขอ้ มลู เพอ่ื การประเมนิ ผลแยกเป็น 3 ส่วน โดยแบ่งคะแนนแต่ละส่วนจาก คะแนนเตม็ 100 คะแนน 1.1 พจิ ารณาผลงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 10 คะแนน หรอื 10% 1.2 พจิ ารณาจติ พสิ ยั ความสนใจ การเขา้ ร่วมกจิ กรรม 20 คะแนน หรอื 20% 1.3 การทดสอบหน่วยการเรยี น 70 คะแนน หรอื 70% 1.3.1 สอบเก็บคะแนน 5 ครงั้ 50 คะแนน หรอื 50% 1.3.2 สอบกลางภาค ครง้ั คะแนน หรอื 1.3.3 สอบปลายภาค 1 ครงั้ 20 คะแนน หรอื 20% 2. เกณฑผ์ า่ น ผูท้ ผ่ี ่านวชิ าน้จี ะตอ้ ง 2.1 ทาผลงานท่ีมอบหมายได้ 7 คะแนน เป็นอย่างนอ้ ยหรือรอ้ ยละ 70 ของคะแนนผลงาน 2.2 มเี วลาเขา้ หอ้ งเรยี นไมต่ า่ กวา่ รอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นทงั้ หมด 2.3 ผลรวมของคะแนนทงั้ หมดตอ้ งไม่ตา่ กวา่ รอ้ ยละ 70 2.4 ตอ้ งสอบผ่านหน่วยท่ีสาคญั 5 หน่วย คือ หน่วยท่ี 1 ถึงหน่วยท่ี 5 ซ่ึงเป็น หน่วยบงั คบั ไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ 70 ถา้ สอบไม่ผ่านตามเกณฑใ์ หม้ ีโอกาสสอบแกต้ วั ในหน่วยท่ตี ก 1 ครง้ั เป็นอย่างนอ้ ย 3. เกณฑค์ ่าระดบั คะแนน 3.1 พจิ ารณาตามเกณฑผ์ ่านรายวชิ าตามขอ้ 2 ผูไ้ ม่ผ่านเกณฑข์ อ้ 2.2 จะไดร้ บั ค่าคะแนน 1 หรือ จ หรอื F 3.2 ผูท้ ส่ี อบผา่ นเกณฑข์ อ้ ท่ี 2 จะไดค้ ่าคะแนนตามเกณฑด์ งั น้ี คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 4 หรอื ก หรอื A คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 3.5 หรอื ข+ หรอื B+ คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 3 หรอื ข หรอื B คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 2.5 หรอื ค+ หรอื C+ คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 2 หรอื ค หรอื C คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 1.5 หรอื ง+ หรอื D+ คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 1 หรอื ง หรอื D

วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวทิ ย์ สปั ดาหท์ ่ี 1 คาบท่ี 1-5 ท-ป-น 1-4-3 เวลา 5 คาบ 275 นาที รหสั วิชา 30212-2005 วชิ า การอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย Recognition ****************************************************************************************** รายการสอน Letter recognition สาระสาคญั ความสามารถในการรูจ้ าตวั อกั ษร (Letter recognition) เป็นทกั ษะการอ่านขน้ั พ้นื ฐานสาคญั สาหรบั นกั อ่าน ท่ตี อ้ งสามารถจารูปตวั อกั ษร (Form) เช่ือมโยงกบั เสยี ง (Sound) และนาตวั อกั ษรมารวมกนั เป็นคา (Spelling) ก่อนทจ่ี ะทาการถอด รูปออกมาเป็นความหมาย (Decoding) ซง่ึ จะสงั เกตไดจ้ ากการท่คี รูปฐมวยั สอน นกั เรยี นใหส้ ะกดคาทลี ะตวั อกั ษร ซง่ึ ต่อมาความสามารถดงั กลา่ วถกู พฒั นาใหเ้ป็น ความสามารถในการรูจ้ าคา (Word Recognition) และการรูจ้ าวลี(Phrase Recognition) นกั อ่านท่มี คี วามชานาญจะสามารถมองเห็นคาทงั้ คาหรือวลที งั้ วลี และเขา้ ใจความหมายของคาหรอื วลนี นั้ ไดท้ นั ทโี ดยไมต่ อ้ งสะกด คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. นกั เรยี นมวี นิ ยั ในตนเอง 2. นกั เรยี นมคี วามกลา้ แสดงออกมากข้นึ 3. นกั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ คณุ ธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา สมรรถนะประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั ความสาคญั ของกระบวนการอ่านแบบบนลงลา่ งการอ่าน แบบลา่ งข้นึ บน 12 พดู อธบิ ายกระบวนการอ่านแบบรูจ้ า 13 อภปิ รายเก่ยี วกบั วธิ กี ารอ่านแบบรูจ้ าทาใหส้ ามารถอ่านไดเ้ร็วข้นึ 14 พดู อธบิ ายถงึ วธิ กี ารจาแนกคา และวลี 15 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความสนใจใฝ่รู้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 111 อธบิ ายถงึ ความสาคญั ของกระบวนการอ่านแบบบนลงลา่ งการอ่าน แบบลา่ งข้นึ บนไดถ้ กู ตอ้ ง 112 อธบิ ายถงึ ความสาคญั ของการอ่านเพอ่ื ความเขา้ ใจและกลวธิ ใี น การอ่าน ไดถ้ กู ตอ้ ง 151 ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตวั เอง

เน้ือหา -Letter Recognition

Recognition By Letter เน้ือหา (คาบท่ี 1-2) 13. T_k_ c_r_ 14. Pl_as_ 1. B _ e 7. I m_ss y_u 15. S_riousl_ 2. G_ _ d J _ b 8. M_ b_d 16. S_rr_ 3. H _ 9. N_ 17. St_p 4. H _ rr _ _ p 10 N_v_r m_nd. 18. I d_n’t c_r_ 5. I l _ v _ y _ u 11. N_ pr_bl_m 6. I s_e 12. Ok_y

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี 1-2) กจิ กรรม 3P 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ผูส้ อนนาเขา้ บทเรยี นโดยอธบิ ายถงึ ความสาคญั ของการอ่านเพอ่ื ความเขา้ ใจ และ กลวธิ ใี นการอ่าน 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 ขนั้ นาเสนอ (P1 = Presentation) ครูอธบิ ายความหมายของคาวา่ การรูจ้ า 2.2 ขน้ั ฝึก (P2 = Practice) นกั เรยี นใหผ้ ูเ้รยี นทาแบบฝึกหดั โดยการเตมิ ตวั อกั ษรลงไปในช่องวา่ ง 2.3 ขน้ั นาไปใช้ (P3 = Production) นกั เรยี นใชค้ วามรูท้ ไ่ี ดไ้ ปใชใ้ นการอ่านบทความ 3. ขน้ั สรุป ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปเน้อื หาเกย่ี วกบั การรูค้ า 4. ขน้ั การประเมนิ ผล 4.1 เคร่อื งมอื วดั ผล - แบบฝึกหดั 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - การตรวจคาตอบ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งรอ้ ยละ 70 ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื - วชิ า การเขยี นภาษาองั กฤษทางธุรกจิ กจิ กรรมเสนอแนะ - การคน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ยี วกบั การรูจ้ าจากอกั ษร

สอ่ื การเรยี นการสอน - ใบความรู้ เอกสารอา้ งองิ ดร.สรพล จริ ะสวสั ด์.ิ กลวธิ ีการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ . ศูนยบ์ รกิ ารสอ่ื และสง่ิ พมิ พก์ ราฟฟิคไซท.์ 2561

เน้ือหา (คาบท่ี 3-4) อ่านประโยคดา้ นลา่ ง แลว้ อภปิ รายวา่ เหน็ ดว้ ยหรอื ไม่กบั ประโยคดงั กลา่ ว “Aoccdrnig to a rscheearch at Cmabrigde Uinervtisy, it deosn't mttaer in waht oredr the ltteers in a wrod are, the olny iprmoetnt tihng is taht the frist and lsat ltteer be at the rghit pclae. The rset can be a toatl mses and you can sitll raed it wouthit porbelm. Tihs is bcuseae the huamn mnid deos not raed ervey lteter by istlef, but the wrod as a wlohe”. หากอ่านไมเ่ ขา้ ใจก็ไมต่ อ้ งกงั วลเน่ืองจากคาในประโยคดงั กลา่ วนนั้ สะกดผดิ เป็นสว่ นมาก แต่ นกั อ่านผูช้ านาญจะสามารถรูจ้ ารูปแบบตวั อกั ษรและอ่านไดค้ วามดงั น้ี “According to a researcher at Cambridge University, it doesn't matter in what order the letters in a word are, the only important thing is that the first and last letter be at the right place. The rest can be a total mess and you can still read it without problem. This is because the human mind does not read every letter by itself but the word as a whole”.

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี 3-4) กจิ กรรมการเรยี นภาษา 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ผูส้ อนนาเขา้ บทเรยี นโดยอธบิ ายถงึ การรูจ้ าตวั อกั ษร คาและพยางคถ์ อื เป็นกระบวนการอ่านแบบบน ลงลา่ ง (Top-Down Reading Process) 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 ขนั้ นาเสนอ (P1 = Presentation) ครูอธบิ ายความหมายของคาวา่ การรูจ้ า 2.2 ขนั้ ฝึก (P2 = Practice) นกั เรยี นใหผ้ ูเ้รยี นทาแบบฝึกหดั โดยการเตมิ ตวั อกั ษรลงไปในช่องวา่ ง 2.3 ขนั้ นาไปใช้ (P3 = Production) นกั เรยี นใชค้ วามรูท้ ไ่ี ดไ้ ปใชใ้ นการอ่านบทความ 3. ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปเน้อื หาเก่ยี วกบั การรูค้ า 4. ขน้ั การประเมนิ ผล 4.1 เคร่อื งมอื วดั ผล - แบบฝึกหดั 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - การตรวจคาตอบ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งรอ้ ยละ 70 ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - วชิ า การเขยี นภาษาองั กฤษทางธุรกิจ กจิ กรรมเสนอแนะ - การคน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ยี วกบั การรูจ้ าจากอกั ษร

สอ่ื การเรยี นการสอน - ใบความรู้ เอกสารอา้ งองิ ดร.สรพล จริ ะสวสั ด์.ิ กลวธิ ีการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ . ศูนยบ์ รกิ ารสอ่ื และสง่ิ พมิ พก์ ราฟฟิคไซท.์ 2561

เน้ือหา (คาบท่ี 5) การรูจ้ าตวั อกั ษร แบบฝึกหดั ตอ่ ไปน้ีมจี ุดประสงคเ์ พอ่ื ฝึกการรูจ้ าตวั อกั ษร (Letter Recognition) ไมไ่ ดต้ อ้ งการสอนการ สะกดคาหรอื คาศพั ท์ แนะนาใหก้ วาดสายตาทาแบบฝึกหดั อยา่ งรวดเรว็ โดยคดิ ถงึ ความหมายของคาท่อี า่ น แบบฝึกหดั ท่ี 2 วงรอบคาในคอลมั น์ขวาท่ีข้ึนตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรในคอลมั น์ซา้ ย

วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวทิ ย์ สปั ดาหท์ ่ี 2 คาบท่ี 6-10 ท-ป-น 1-4-3 เวลา 5 คาบ 275 นาที รหสั วชิ า 30212-2005 วชิ า การอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย Recognition ****************************************************************************************** รายการสอน Word Recognition สาระสาคญั ความสามารถในการรูจ้ าตวั อกั ษร (Letter recognition) เป็นทกั ษะการอ่านขน้ั พ้นื ฐานสาคญั สาหรบั นกั อ่าน ท่ตี อ้ งสามารถจารูปตวั อกั ษร (Form) เช่ือมโยงกบั เสยี ง (Sound) และนาตวั อกั ษรมารวมกนั เป็นคา (Spelling) ก่อนทจ่ี ะทาการถอด รูปออกมาเป็นความหมาย (Decoding) ซง่ึ จะสงั เกตไดจ้ ากการท่คี รูปฐมวยั สอน นกั เรยี นใหส้ ะกดคาทลี ะตวั อกั ษร ซง่ึ ต่อมาความสามารถดงั กลา่ วถกู พฒั นาใหเ้ป็น ความสามารถในการรูจ้ าคา (Word Recognition) และการรูจ้ าวลี(Phrase Recognition) นกั อ่านท่มี คี วามชานาญจะสามารถมองเห็นคาทงั้ คาหรือวลที งั้ วลี และเขา้ ใจความหมายของคาหรอื วลนี น้ั ไดท้ นั ทโี ดยไม่ตอ้ งสะกด คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. นกั เรยี นมวี นิ ยั ในตนเอง 2. นกั เรยี นมคี วามกลา้ แสดงออกมากข้นึ 3. นกั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ คณุ ธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา สมรรถนะประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั ความสาคญั ของกระบวนการอ่านแบบบนลงลา่ งการอ่าน แบบลา่ งข้นึ บน 12 พดู อธบิ ายกระบวนการอ่านแบบรูจ้ า 13 อภปิ รายเกย่ี วกบั วธิ กี ารอ่านแบบรูจ้ าทาใหส้ ามารถอ่านไดเ้รว็ ข้นึ 14 พดู อธบิ ายถงึ วธิ กี ารจาแนกคา และวลี 15 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความสนใจใฝ่รู้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 121 อธบิ ายกระบวนการอา่ นแบบรูจ้ าไดถ้ กู ตอ้ ง 122 สามารถรูจ้ าคาจากการวเิ คราะหต์ วั อกั ษรไดถ้ กู ตอ้ ง 152 ซกั ถามปญั หาขอ้ สงสยั

เน้ือหา Word Recognition

เน้ือหา (คาบท่ี 6-7)

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี 6-7) กระบวนการปฏบิ ตั ิ 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สขุ ภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูยกตวั อย่างคาทอ่ี ยู่ในใบความรูใ้ หน้ กั เรยี นตอบโดยการใชว้ ธิ คี าดเดาคาจากรูป 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 การสงั เกต ครูอธบิ ายวธิ กี ารรูจ้ าคา 2.2 การทาตามแบบ นกั เรยี นวางแผนการในการวเิ คราะหค์ าดว้ ยวธิ กี ารรูจ้ า 2.3 การทาโดยไมม่ แี บบ นกั เรยี นฝึกการอ่านแบบรูค้ า ซง่ึ นกั เรยี นใหค้ วามร่วมมอื กบั ผูอ้ น่ื 2.4 การฝึกใหเ้กดิ ทกั ษะ นกั เรยี นสนทนาโตต้ อบอธบิ ายประเภทของเอกสารทางธุรกจิ กบั เพอ่ื นใน สถานการณต์ ่างๆ 3. ขน้ั สรุป ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ รายเน้อื หาเก่ยี วกบั การรูจ้ าคา 4. ขน้ั การประเมนิ ผล 4.1 เคร่อื งมอื วดั ผล - แบบฝึกหดั 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - การตรวจคาตอบ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งรอ้ ยละ 70 ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - วชิ าการเขยี นภาษาองั กฤษทางธุรกิจ 1 กจิ กรรมเสนอแนะ - ขอ้ มลู เก่ยี วกบั เอกสารทางธุรกจิ

สอ่ื การเรยี นการสอน - ใบความรู้ เอกสารอา้ งองิ ดร.สรพล จริ ะสวสั ด์.ิ กลวธิ ีการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ . ศูนยบ์ รกิ ารสอ่ื และสง่ิ พมิ พก์ ราฟฟิคไซท.์ 2561

เน้ือหา(คาบท่ี 8-9)

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี 8-9) กจิ กรรม 3P 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สขุ ภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ผูส้ อนนาเขา้ บทเรยี นโดยอธบิ ายถงึ กลวธิ ใี นการอ่านแบบรูค้ า 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 ขนั้ นาเสนอ (P1 = Presentation) ครูอธบิ ายความหมายของคาวา่ การรูจ้ า 2.2 ขน้ั ฝึก (P2 = Practice) นกั เรยี นใหผ้ ูเ้รยี นทาแบบฝึกหดั โดยการวงคาในตาราง 2.3 ขนั้ นาไปใช้ (P3 = Production) นกั เรยี นใชค้ วามรูท้ ไ่ี ดไ้ ปใชใ้ นการอ่านบทความ 3. ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เน้อื หาเก่ยี วกบั การรูค้ า 4. ขน้ั การประเมนิ ผล 4.1 เคร่อื งมอื วดั ผล - แบบฝึกหดั 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - การตรวจคาตอบ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งรอ้ ยละ 70 ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื - วชิ า การเขยี นภาษาองั กฤษทางธุรกิจ กจิ กรรมเสนอแนะ - การคน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ยี วกบั การรูจ้ าจากอกั ษร สอ่ื การเรยี นการสอน

- ใบความรู้ เอกสารอา้ งองิ ดร.สรพล จริ ะสวสั ด์.ิ กลวธิ ีการอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ . ศูนยบ์ รกิ ารสอ่ื และสง่ิ พมิ พก์ ราฟฟิคไซท.์ 2561

เน้ือหา(คาบท่ี 10)

วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวิทย์ สปั ดาหท์ ่ี 3 คาบท่ี 11-15 ท-ป-น 1-4-3 เวลา 5 คาบ 275 นาที รหสั วชิ า 30212-2005 วชิ า การอา่ นภาษาองั กฤษธุรกจิ หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย Recognition ****************************************************************************************** รายการสอน Phrase Recognition สาระสาคญั วลี คือกลุ่มของค า เช่น วลีค านาม (Noun Phrase) วลีค ากริยา (Verb Phrase) วลคี าบพุ บท (Prepositional Phrase) หรอื วลกี รยิ าวเิ ศษ (Adverbial Phrase) ในบางบรบิ ท ค าบางค าจะปรากฏ คู่กนั เป็นวลเี สมอ ผูอ้ ่านจะสามารถอ่านไดเ้ร็วข้นึ หากสามารถมองเหน็ ค าเหลา่ นน้ั พรอ้ มกนั ในลกั ษณะ วลแี ละเขา้ ใจความหมายไปในเวลาเดยี วกนั คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. นกั เรยี นมวี นิ ยั ในตนเอง 2. นกั เรยี นมคี วามกลา้ แสดงออกมากข้นึ 3. นกั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ คณุ ธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา สมรรถนะประจาหน่วย 12 เรยี นรูค้ วามหมายของคาศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นงานดา้ นเอกสารทางธุรกจิ 14 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความสนใจใฝ่รู้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 121 บอกความหมายของคาศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นงานเอกสารทางธุรกิจไดถ้ กู ตอ้ ง 122 ใชค้ าศพั ทท์ ไ่ี ดเ้รยี นรูใ้ นการอธบิ ายความหมายของประโยคไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 143 แสวงหาประสบการณแ์ ละคน้ หาความรูใ้ หม่ๆ 144 มคี วามกระตอื รอื รน้ ในการใฝ่หาความรูใ้ หม่ เน้ือหา คาศพั ท์ BUSINESS สาคญั ท่คี วรรู้ เน้ือหา (คาบท่ี 11-15)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook