Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การคาดการณ์เชิงยุุทธศาสตร์

การคาดการณ์เชิงยุุทธศาสตร์

Published by palitaaun52.2, 2021-09-08 06:10:55

Description: การคาดการณ์เชิงยุุทธศาสตร์ โดน รศ.ดร.อภิวัฒน์ รัตนวราหะ

Search

Read the Text Version

การคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ 186 แนวคดิ เบอ้ื งตน้ กระบวนการกำำ�หนดวิิสัยั ทัศั น์ท์ ี่เ่� ป็็นอนาคตที่พ่� ึึงประสงค์ม์ ีีความสำ�ำ คัญั มาก เพราะเป็น็ พื้น�้ ฐานของการ กำำ�หนดและตัดั สินิ ใจว่า่ ภาพอนาคตใดบ้า้ งที่จ�่ ะนำำ�มาใช้เ้ ป็น็ กรอบในการวางแผนยุทุ ธศาสตร์ต์ ่อ่ ไป การ กำ�ำ หนดวิสิ ัยั ทัศั น์ท์ ี่ม่� าจากการคาดการณ์เ์ ชิงิ ยุทุ ธศาสตร์ม์ ีีส่ว่ นที่แ่� ตกต่า่ งออกไปจากการกำ�ำ หนดวิสิ ัยั ทัศั น์์ ขององค์ก์ รทั่่ว� ไป ในบริบิ ทของการคาดการณ์เ์ ชิงิ ยุทุ ธศาสตร์์ การกำ�ำ หนดวิสิ ัยั ทัศั น์์ (visioning) จะเน้น้ ภาพอนาคตที่พ�่ ึึงประสงค์ข์ องสภาพแวดล้อ้ มภายนอกองค์ก์ ร โดยเน้น้ วัตั ถุปุ ระสงค์แ์ ละเป้า้ หมายร่ว่ มกันั ของผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีีย กระบวนการและผลลััพธ์์ของการสร้้างวิิสััยทััศน์์ที่�่ดีีจะทำำ�ให้้ผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีีย โดยเฉพาะที่อ่� ยู่�ในองค์ก์ ร มีีความรู้�สึกเป็น็ ส่ว่ นหนึ่ง่� ของการดำ�ำ เนินิ การเพื่่อ� บรรลุวุ ิสิ ัยั ทัศั น์ท์ ี่ไ�่ ด้พ้ ัฒั นาขึ้น� มา การสร้า้ งวิสิ ัยั ทัศั น์จ์ ึึงเป็น็ กระบวนการร่ว่ มหารืือและต่อ่ รองกันั ระหว่า่ งผู้้�มีีส่ว่ นได้ส้ ่ว่ นเสีีย เพื่่อ� สร้า้ ง ฉันั ทามติิว่า่ ภาพอนาคตที่พ่� ึึงประสงค์์เป็น็ อย่่างไร การพััฒนาวิิสััยทััศน์์อาจเลืือกองค์์ประกอบที่่�พึึงประสงค์์จากแต่่ละฉากทััศน์์ แล้้วสร้้างภาพ อนาคตที่่�พึึงประสงค์์จากองค์์ประกอบเหล่่านั้้�น หรืืออาจเลืือกฉากทััศน์์ที่�่พึึงประสงค์์ที่่�สุุดจาก 4 ฉาก ทััศน์์ที่ไ�่ ด้้พัฒั นามาก่่อนหน้า้ นี้้ก� ็็ได้้ จะเลืือกวิิธีีการใดนั้้น� ก็็ขึ้�นอยู่่�กัับความเหมาะสมในแต่ล่ ะสถานการณ์์ วิิธีีการพััฒนาอนาคตที่่�พึึงประสงค์์มีีอยู่�หลากหลาย นัับตั้้�งแต่่การสััมภาษณ์์ผู้้�บริิหาร การ ประชุมุ กลุ่�มย่อ่ ย ไปจนถึึงการจัดั ประชาพิจิ ารณ์์ ขึ้น� อยู่่�กับั ขอบเขตและวัตั ถุปุ ระสงค์ข์ องการคาดการณ์์ เนื่่อ� งจากความพึึงประสงค์์เป็น็ การตััดสิินใจเชิงิ ปทััสถานหรืือบรรทััดฐาน ซึ่�่งขึ้น� อยู่่�กัับความเชื่อ� คุณุ ค่่า ค่า่ นิยิ มและความคิดิ เห็น็ ส่ว่ นบุคุ คล การกำำ�หนดความพึึงประสงค์ข์ องอนาคตในระดับั องค์ก์ รหรืือระดับั สังั คม จึึงต้อ้ งย่อ่ มเกิดิ จากการต่่อรองและตกลงร่ว่ มกัันของบุคุ ลากรในองค์์กรหรืือผู้้�มีีส่ว่ นได้้ส่ว่ นเสีียที่�่ อยู่�ในขอบเขตของเรื่�องนั้้น� ๆ ในบางกรณีีที่�่อำ�ำ นาจการตััดสิินใจอยู่่�ที่�่ผู้้�นำำ�หรืือผู้้�บริิหารองค์์กรเป็็นหลััก ภาพอนาคตที่�่พึึง ประสงค์์อาจสะท้้อนความคิิดและความต้้องการของผู้้�บริิหารมากกว่่าคนกลุ่�มอื่�นในองค์์กร แต่่กระนั้้�น ก็็ตาม ยุุทธศาสตร์์ที่่�สามารถถ่่ายออกมาเป็็นแผนปฏิิบััติิการที่่�ดำำ�เนิินการได้้จริิงและบรรลุุประสิิทธิิผล ย่อ่ มต้อ้ งได้ร้ ับั การยอมรับั จากผู้้�ปฏิบิ ัตั ิดิ ้ว้ ย กระบวนการสร้า้ งภาพอนาคตที่พ่� ึึงประสงค์ห์ รืือวิสิ ัยั ทัศั น์จ์ ึึง มักั เปิดิ โอกาสให้ผ้ ู้้�มีีส่ว่ นได้ส้ ่ว่ นเสีียทั้้ง� ในและนอกองค์ก์ รเข้า้ มาร่ว่ มให้ค้ วามเห็น็ และกำ�ำ หนดภาพอนาคต ด้ว้ ย

187 การคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ การประเมนิ ฉากทัศน์ ไมว่ า่ วธิ ีการตัดสินใจเลือกภาพอนาคตทพี่ งึ ประสงค์จะเป็นเชน่ ใดกต็ าม กิจกรรมหนึ่งทต่ี ้องด�ำเนนิ การ คือการประเมินองค์ประกอบที่พึงประสงค์และไม่พึงประสงค์ในแต่ละฉากทัศน์ การประเมินฉากทัศน์ นี้สามารถก�ำหนดให้เป็นสว่ นหนึ่งของการจดั ประชุมเชิงปฏิบัติการกับผู้มสี ่วนไดส้ ว่ นเสีย หรืออาจเป็น กิจกรรมท่ีด�ำเนินการโดยคณะท�ำงาน อีกแนวทางหนึ่งคือ คณะท�ำงานประเมินฉากทัศน์ไว้โดยคร่าว กอ่ น แลว้ น�ำผลการประเมนิ น้ั นไปเสนอผนู้ �ำองคก์ รเพอ่ื ตดั สนิ ใจ หรือน�ำไปใชเ้ ปน็ เอกสารพื้นฐานในการ อภปิ รายและตอ่ รองกนั ระหวา่ งผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี อื่น ๆ ในการประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเพอื่ สรา้ งวสิ ยั ทศั น์ การประเมิินใด ๆ ย่่อมจำำ�เป็็นต้้องมีีเกณฑ์์ในการประเมิิน ยกตััวอย่่างในโครงการคนเมืือง 4.0: อนาคตชีีวิิตเมืืองในประเทศไทย ได้้ใช้้วิิธีีการเลืือกภาพฉากทััศน์์ที่�่พึึงประสงค์์ที่่�สุุดตามเกณฑ์์ที่�่ ตั้�งไว้้ คืือ ใช้้หลักั เกณฑ์พ์ ื้น�้ ฐานของการวางแผนนโยบายในเมืือง ได้้แก่่ หลักั ผลิิตภาพ (productivity) หลัักประสิทิ ธิิภาพ (efficiency) ความเสมอภาค (equity) และความยั่�งยืืน (sustainability) โดยการ ประเมิินว่่า ภาพในแต่ล่ ะฉากทััศน์์ มีีข้อ้ ดีีข้้อด้อ้ ยใน 4 องค์ป์ ระกอบนั้้�นอย่า่ งไร แล้้วภาพฉากทััศน์ใ์ ดจะ ทำ�ำ ให้้บรรลุุเป้้าหมายด้า้ นนโยบาย (policy objective) หรืือภาพที่�่พึึงประสงค์์ได้้มากที่�่สุดุ

การคาดการณ์เชงิ ยุทธศาสตร์ 188 การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร เพอ่ื สรา้ งภาพอนาคตท่ี พงึ ประสงค์ ในการพัฒั นาวิสิ ัยั ทัศั น์ท์ ี่แ่� สดงภาพอนาคตที่พ�่ ึึงประสงค์์ วิธิ ีีการที่ใ�่ ช้อ้ ย่า่ งแพร่ห่ ลายในกระบวนการคาด การณ์์เชิิงยุทุ ธศาสตร์์คืือ การประชุมุ เชิงิ ปฏิิบัตั ิกิ ารกับั ผู้้�มีีส่่วนได้้ส่ว่ นเสีียและผู้�เชี่ย่� วชาญทั้้ง� ภายในและ ภายนอกองค์์กร นัับตั้้�งแต่่ผู้้�บริิหารองค์์กรที่่�มีีอำ�ำ นาจในการตััดสิินใจเชิิงยุุทธศาสตร์์ ไปจนถึึงผู้้�ที่่�จะนำ�ำ ผลการคาดการณ์ไ์ ปใช้้ต่่อในการปฏิบิ ัตั ิกิ ารในภายหลังั การเปิิดโอกาสให้้กลุ่�มคนเหล่่านี้้�เข้้าร่่วมกระบวนการกำ�ำ หนดวิิสััยทััศน์์ จะทำ�ำ ให้้เกิิดความ รู้�สึกเป็็นเจ้้าของหรืือเป็็นส่่วนหนึ่�่งของกระบวนการ ซึ่�่งมัักนำำ�ไปสู่่�การนำำ�ผลปฏิิบััติิต่่อจริิง ทั้้�งนี้้� ผู้�เข้้า ร่่วมกระบวนการควรมาจากกลุ่�มต่า่ ง ๆ เพื่่�อให้เ้ กิดิ ความหลากหลายในด้า้ นความคิดิ เห็น็ มุมุ มอง เพื่่อ� ให้้ผลลัพั ธ์์ที่�่ได้้จากกระบวนการมีีความครอบคลุมุ และสามารถรับั มืือได้้กัับหลายสถานการณ์์ การเตรีียมการ ก่อ่ นการจัดั การประชุุมเชิงิ ปฏิิบัตั ิกิ ารเพื่่อ� สร้้างวิิสััยทัศั น์์ คณะทำำ�งานควรเตรีียมการดัังต่่อไปนี้้� • บทสรปุ ขอบเขตการคาดการณ:์ ทั้งในเชิงหัวขอ้ พื้นที่ ช่วงเวลา ฯลฯ เพอื่ ใชเ้ ป็นกรอบใน การสรา้ งวสิ ัยทศั น์ • บทสรปุ ฉากทศั น์: ทไ่ี ด้พฒั นามาแล้วดว้ ยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง โดยพิมพอ์ อกมาเป็นเอกสาร ประกอบการประชมุ เพือ่ แจกให้กบั ผเู้ ขา้ ร่วมประชุมทุกคน • รูปแบบ: การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการที่แบ่งเป็นกลุ่มย่อยประมาณกลุ่มละ 5-8 คน ขึ้นอยู่ กับจ�ำนวนกระบวนกรหลักและกระบวนกรประจ�ำกลุ่ม ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนอาจร่วมกัน พัฒนาวสิ ยั ทัศนพ์ ร้อมกันเป็นกลุม่ เดียว หรือแบง่ เปน็ กลุ่มย่อยแลว้ คอ่ ยมารวมกันในภายหลงั

189 การคาดการณ์เชงิ ยุทธศาสตร์ • ระยะเวลา: 1-2 วนั โดยขึ้นอยกู่ ับความละเอียดและครอบคลุมที่ต้องการ • ผู้เข้าร่วมประชุม: ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียส�ำคัญทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยเฉพาะผู้น�ำ องค์กร เพื่อให้เกิดความหลากหลายในด้านกรอบแนวคิดและมุมมอง และความรู้สึกเป็น เจ้าของและการยอมรบั ในกระบวนการ เพอ่ื น�ำไปสู่การด�ำเนนิ การจรงิ ต่อไป ในขณะเดยี วกัน ก็ต้องมีผู้เช่ียวชาญในด้านที่เก่ียวข้อง เพ่ือให้วิสัยทัศน์ท่ีได้พัฒนามาเป็นท่ียอมรับของคนใน องค์กร • พ้ืนที่จัดประชุม: ควรกว้างขวางมากพอส�ำหรับให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถลุกเดินไปมาได้ ถ้าหากมีกล่มุ ย่อยหลายกลุ่ม ก็ควรมีระยะหา่ งระหวา่ งกลุ่ม เพอ่ื ไมไ่ ดเ้ สียงดงั รบกวนกันได้ • อปุ กรณส์ �ำหรบั การประชมุ : กระดานไวทบ์ อรด์ หรือกระดานฟลบิ ชารท์ พรอ้ มกระดาษ ปากกา เมจิก กระดาษโพสต์อทิ ขั้้�นตอนการประชุมุ การประชุุมเชิงิ ปฏิิบััติกิ ารเพื่่�อพัฒั นาวิิสััยทััศน์์ โดยทั่่ว� ไปแบ่ง่ เป็็นขั้้�นตอนดังั นี้้� แนะนำ�ำ กระบวนการ และอธิิบายขอบเขตการคาดการณ์์ • กระบวนกรอธิบายแนวคิดพื้นฐานและกระบวนการสร้างวิสัยทัศน์ พร้อมตัวอย่างของการ พฒั นาวสิ ยั ทศั นจ์ ากโครงการคาดการณอ์ ื่นก่อนหนา้ นี้ จากนั้นกระบวนกรชี้แจงขอบเขตการ คาดการณ์ ทง้ั ในเชงิ เนื้อหา ชว่ งเวลา พื้นท่ี ฯลฯ ทใี่ ชเ้ ปน็ กรอบในการคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ ทบทวนปััจจัยั ขับั เคลื่�อนสำ�ำ คััญและฉากทัศั น์์ • กระบวนกรน�ำเสนอผลผลิตโดยคร่าวของกระบวนการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยเน้นแสดง ปจั จยั ขบั เคลื่อนส�ำคญั ทเ่ี ปน็ พื้นฐานของการพยากรณภ์ าพอนาคตฐานและอนาคตทางเลือกที่ เปน็ ฉากทศั น์ รวมถงึ รายละเอยี ดโดยครา่ วเกยี่ วกบั แตล่ ะฉากทศั น์ อนึ่ง ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ ควรได้ รบั และอา่ นเอกสารสรปุ กระบวนการและผลผลติ ของการคาดการณก์ อ่ นหนา้ การประชมุ แลว้ • จากนั้น ในแต่ละกลุ่มย่อย ผู้เข้าร่วมประชุมพิจารณาและอภิปรายว่า ประเด็นไหนในแต่ละ ฉากทัศน์มีความส�ำคัญและน่าสนใจในเชิงยุทธศาสตร์ โดยอาจเร่ิมจากค�ำถามว่า ฉากทัศน์ ไหนท้าทายความคิดมากท่ีสุด ด้วยเหตุผลอะไร หรือปัจจัยขับเคลื่อนอะไรที่ส�ำคัญท่ีสุดใน แตล่ ะฉากทศั น์ เป็นต้น กำำ�หนดประเด็น็ เชิิงวิสิ ัยั ทัศั น์์ • ผู้เข้าร่วมประชุมในแต่ละกลุ่มเสนอประเด็นหรือแนวคิดท่ีแสดงภาพอนาคตท่ีพึงประสงค์ใน เรื่องที่ไดค้ าดการณ์มาประมาณ 15-20 ประเด็น แลว้ แตค่ วามเหมาะสมด้านเวลา โดยอาจ แยกกันเขียนบนกระดาษโพสต์อิท หรือระดมสมองร่วมกันและเขียนบนกระดานฟลิบชาร์ท ก็ได้ ตัวอย่างค�ำถามที่ใช้ในการเริ่มต้นการสนทนา ได้แก่ ในภาพอนาคตนี้ ฉัน/เราต้องการ

การคาดการณเ์ ชิงยุทธศาสตร์ 190 อะไร โดยอาจตอบจากมมุ มองของแตล่ ะคน หรือจากมมุ มองของกลมุ่ เปา้ หมายในเชงิ นโยบาย เชน่ เด็ก ลกู คา้ ครอบครวั คนด้อยโอกาส ชุมชน ฯลฯ • จากนั้น จึงอภปิ รายในแตล่ ะประเดน็ เพอ่ื ใหไ้ ดฉ้ นั ทามตใิ นแตล่ ะกลมุ่ วา่ ภาพอนาคตที่ประสงค์ ประกอบด้วยองค์ประกอบอะไรบ้าง ท้งั ท่ีเกิดขึ้นในทุกฉากทัศน์หรือเฉพาะในบางฉากทัศน์ กระบวนกรควรกระตนุ้ ใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มประชมุ ยอ้ นกลบั ไปพจิ ารณาเปรียบเทยี บประเดน็ ทย่ี กขึ้น มากบั ฉากทศั นท์ ไี่ ดพ้ ัฒนามาก่อนหน้านี้ • ในขั้นตอนต่อมา ผู้เข้าร่วมประชุมเขียนสรุปวิสัยทัศน์หรืออนาคตที่พึงประสงค์ของสภาพ แวดล้อมนอกองค์กร เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมกลุ่มอื่นสามารถเข้าใจและอภิปรายต่อไปได้ ขั้นตอนนี้จะท�ำกลบั ไปกลับมาภายในเวลาท่กี �ำหนดไว้ จนผู้เขา้ รว่ มประชมุ พอใจในวิสยั ทศั น์ ทพ่ี ัฒนาขึ้นมา • เมือ่ ได้เนื้อหาและค�ำอธิบายวิสัยทศั นแ์ ลว้ อาจตั้งชอ่ื วสิ ัยทัศน์ และหาค�ำอปุ มาอปุ มยั ที่แสดง ถงึ เนื้อหาของวสิ ยั ทศั นน์ ั้น • วสิ ยั ทศั นท์ ไ่ี ดพ้ ฒั นาขึ้นมาควรแยกใหช้ ดั เจนระหวา่ งองคป์ ระกอบสภาพแวดลอ้ มภายนอกทไี่ ม่ สามารถจะเปลี่ยนแปลงไดก้ บั องค์ประกอบที่คาดหวงั ว่าจะเปลี่ยนแปลงให้ได้ เนื้อหาในวิสัย ทศั นค์ วรสอดคลอ้ งและไปในทศิ ทางเดยี วกนั ไมข่ ดั แยง้ กนั เองในเชงิ ตรรกะ หากมีประเดน็ ไหน ทด่ี ูเหมอื นจะขัดแยง้ กันหรือเป็นปฏทิ รรศน์ (paradox) ก็ต้องสามารถอธบิ ายได้อย่างชดั เจน นอกจากนี้ เนื้อหาในวิสัยทัศน์ควรเน้นผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในโลกภายนอก มากกว่าการระบุ ว่าจะท�ำอะไร อีกท้ังยังต้องมีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงและน่าเชื่อถือ เพ่ือให้วิสัยทัศน์น�ำไปสู่การ ปฏิบัติต่อและเกิดผลกระทบได้จริงตามท่ีมุ่งหวังไว้ นอกจากนี้ วิสัยทัศน์ที่ดีมักสะท้อนค่า นยิ มและคุณคา่ ที่ผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสยี ต้องการและเหน็ พอ้ งกนั ว่าจะน�ำไปสูส่ ภาวะทีด่ กี ว่าเดิม สรุุปและกำ�ำ หนดงานขั้้�นต่่อไป • กระบวนกรสรุปผลผลิตท่ีได้ในขั้นตอนนี้ และอธิบายการน�ำผลผลิตดังกล่าวไปใช้ในขั้นตอน ต่อไป วิสัยทัศน์ท่ีได้จากข้ั นตอนนี้จะเป็นพื้นฐานของการพัฒนายุทธศาสตร์ซึ่งอาจใช้วิธีการ พยากรณ์ย้อนกลับหรือการสร้างแผนที่น�ำทาง รวมไปถึงการวิเคราะห์ความยืดหยุ่นและ ทนทานตามสถานการณต์ ่าง ๆ ในอนาคตด้วยวธิ ีการทดสอบอโุ มงคล์ ม (wind tunneling)

191 การคาดการณ์เชงิ ยทุ ธศาสตร์

การคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ 192 8 การพฒั นา ยทุ ธศาสตร์ Strategy without tactics is the slowest route to victory. Tactics without strategy is the noise before defeat. Sun Tzu

193 การคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ แนวคิดหนึ่งท่ีถือเป็นพื้นฐานของอนาคตศึกษาและการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์คือ อนาคตสามารถ ก�ำหนดได้ด้วยการกระท�ำในปัจจุบันไม่มากก็น้อย การที่เราตัดสินใจไม่ท�ำอะไรเลยย่อมหมายถึง การยอมรับในอนาคตที่ก�ำหนดโดยธรรมชาติหรือโดยผู้อื่น วัตถุประสงค์หลักของการคาดการณ์เชิง ยทุ ธศาสตรจ์ ึงอยทู่ กี่ ารสรา้ งทางเลือกของยทุ ธศาสตรแ์ ละนโยบายทส่ี ามารถด�ำเนนิ การตอ่ เพอื่ บรรลภุ าพ อนาคตทพ่ี ึงประสงค์ ภายใต้เง่ือนไขของอนาคตทม่ี ีความไมแ่ น่นอนและอาจพลกิ ผนั ไดเ้ สมอ แนวคดิ นี้ แตกตา่ งอยา่ งชดั เจนจากการวางแผนยทุ ธศาสตรแ์ บบดัง้ เดมิ ซงึ่ มกั เนน้ การก�ำหนดแนวทางและกจิ กรรม ตามวิสัยทศั นภ์ าพเดียวท่สี รา้ งจากความคาดหวงั และความเชอ่ื ในความแนน่ อนของภาพอนาคต ในกระบวนการคาดการณ์์เชิิงยุุทธศาสตร์์ เมื่ �อคณะทำำ�งานได้้พยากรณ์์ภาพอนาคตฐานและ อนาคตทางเลืือกเป็็นฉากทััศน์์ และกำำ�หนดภาพอนาคตที่่พ� ึึงประสงค์แ์ ล้้ว ขั้น� ตอนต่่อไปจึึงเป็็นการนำ�ำ ผลการคาดการณ์์ไปพััฒนาหรืือประเมิินยุุทธศาสตร์์ขององค์์กรหรืือพื้�้นที่่�ศึึกษา เพื่่�อดำำ�เนิินการต่่อให้้ สามารถบรรลุุเป้า้ หมายหรืือพัันธกิิจที่�่ตั้�งไว้้ การพััฒนาและประเมิินยุุทธศาสตร์์และนโยบายจึึงเป็็นขั้้�น ตอนการวิิเคราะห์์และจิินตนาการว่่า ชุุดปรากฏการณ์์ เหตุุการณ์์ นโยบายและมาตรการอะไรบ้้างที่�่ หากเกิดิ ขึ้น� หรืือพัฒั นาต่่อเนื่่อ� งกัันไปแล้้ว จะนำ�ำ ไปสู่่�ภาพอนาคตที่พ�่ ึึงประสงค์ไ์ ด้้ แนวทางหนึ่�่งในการพััฒนายุุทธศาสตร์์คืือการเริ่�มจากภาพอนาคตที่�่ตั้�งเป้้าหมายไว้้ แล้้ว วิิเคราะห์์ย้้อนกลัับมาหาปััจจุุบัันว่่า ในช่่วงระหว่่างเวลาในอนาคตกัับเวลา ณ ปััจจุุบััน จะต้้องดำ�ำ เนิิน การอะไรบ้้าง มีีทางเลืือกอะไรบ้้าง และมีีบุุคคลหรืือองค์์กรใดบ้้างเป็็นผู้้�มีีบทบาทในการดำ�ำ เนิินการใน เรื่�องนั้้�น แนวทางนี้้เ� ป็็นหลักั การพื้้�นฐานของวิธิ ีีการที่�่เรีียกว่่า การพยากรณ์ย์ ้อ้ นกลัับ (backcasting) วิธิ ีี การนี้้ส� ามารถใช้ร้ ่่วมกับั วิิธีีการอื่่�น ๆ ในการพััฒนายุุทธศาสตร์์เช่่น การวิิเคราะห์์จุดุ แข็็ง จุุดอ่่อน โอกาส และภัยั คุกุ คาม ที่�เ่ รีียกว่่าการวิเิ คราะห์์สวอตและโทวส์์ (SWOT/TOWS) ซึ่�ง่ ใช้แ้ พร่ห่ ลายในการพัฒั นา ยุุทธศาสตร์์ขององค์์กร อีีกวิิธีีการหนึ่�่งที่่�นิิยมใช้้ในการสร้้างยุุทธศาสตร์์จากผลลััพธ์์ของการคาดการณ์์ คืือ การวิิเคราะห์เ์ ส้้นทางอนาคตสามช่่วง (Three Horizons) เมื่อ� ได้พ้ ัฒั นายุทุ ธศาสตร์แ์ ล้ว้ ขั้น� ตอนสำำ�คัญั ในการประยุกุ ต์ใ์ ช้ผ้ ลผลิติ จากการคาดการณ์ใ์ นการ สร้า้ งทางเลืือกเชิงิ ยุทุ ธศาสตร์ค์ ืือ การวิเิ คราะห์ค์ วามยืืดหยุ่่�นและทนทานของนโยบายและยุทุ ธศาสตร์ท์ ี่�่ พััฒนาขึ้น� โดยการทดสอบว่่าสามารถตอบรับั ได้้ดีีกัับฉากทัศั น์ต์ ่า่ ง ๆ ได้ม้ ากน้อ้ ยเพีียงใด วิิธีีการหนึ่่�งที่�่ ใช้้คืือการทดสอบอุโุ มงค์์ลม (wind tunneling) เนื้้�อหาในบทนี้้�นำำ�เสนอแนวคิิดและแนวทางเบื้้�องต้้นในการพััฒนายุุทธศาสตร์์จากฉากทััศน์์ ด้้วยวิิธีีการพยากรณ์์ย้้อนกลัับ การวิิเคราะห์์สวอตและโทวส์์ การวิิเคราะห์์เส้้นทางอนาคตสามช่่วง (Three Horizons) รวมทั้้�งการวิิเคราะห์์ความยืืดหยุ่่�นของยุุทธศาสตร์์ด้้วยวิิธีีการทดสอบอุุโมงค์์ลม ในเนื้้�อหาส่่วนที่�่อธิิบายวิิธีีการแต่่ละแบบจะมีีตััวอย่่างของการจััดประชุุมเชิิงปฏิิบััติิการเพื่่�อดำ�ำ เนิินการ ตามวิธิ ีีการนั้้�น ๆ

การคาดการณ์เชงิ ยุทธศาสตร์ 194 แนวคดิ เบอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั ยทุ ธศาสตร์ คำ�ำ ว่่ายุุทธศาสตร์์ใช้้กัันอย่่างแพร่่หลายในแทบทุุกวงการ นัับตั้้�งแต่่บริิษััทเอกชนที่่�มีียุุทธศาสตร์์ในการ ทำ�ำ ธุุรกิิจเพื่่�อสร้้างกำ�ำ ไรและผลตอบแทนสููงสุุดให้้กัับผู้้�ถืือหุ้้�น หน่่วยงานภาครััฐที่�่มีียุุทธศาสตร์์เพื่่�อตอบ โจทย์์ที่�่กำ�ำ หนดโดยพัันธกิิจและปรััชญาขององค์์กร ไปจนถึึงองค์์กรภาคประชาสัังคมที่�่มีียุุทธศาสตร์์ใน การดำำ�เนินิ งานเพื่่อ� ขับั เคลื่่อ� นและผลักั ดันั ให้เ้ กิดิ การเปลี่ย่� นแปลงทางสังั คม แม้ก้ ระทั่่ง� ในครอบครัวั และ ปััจเจกบุุคคลที่�่มีี “ยุุทธศาสตร์์” ในการดำำ�เนินิ ชีีวิติ ประจำ�ำ วันั โดยทั่่ว� ไป เรามักั ใช้ค้ ำำ�ว่า่ ยุทุ ธศาสตร์เ์ พื่่อ� สื่อ� ถึึงแผนหรืือวิธิ ีีการที่ว�่ ิเิ คราะห์แ์ ละคิดิ มาแล้ว้ อย่า่ ง ดีี เพื่่อ� บรรลุเุ ป้า้ หมายที่ต่�ั้ง� ไว้้ โดยดำ�ำ เนินิ กิจิ กรรมที่ถ�่ ูกู ต้อ้ งและถูกู กาละเทศะ ด้ว้ ยความเชื่อ� ว่า่ ถ้า้ ดำ�ำ เนินิ ยุุทธศาสตร์์ที่ถ�่ ููกต้้องแล้้ว จะทำ�ำ ให้้สามารถประสบความสำำ�เร็จ็ และได้้ผลลััพธ์์ที่่�พึึงประสงค์์ ทั้้�งนี้้ท� ั้้�งนั้้�น แต่ล่ ะองค์ก์ รย่อ่ มมีีเป้า้ หมายที่แ่� ตกต่า่ งกันั บริษิ ัทั เอกชนมักั มีีเป้า้ หมายอยู่่�ที่ก� ารอยู่่�รอดและการชนะใน การแข่ง่ ขันั ในตลาดเพื่่อ� สร้า้ งกำ�ำ ไรและรายได้ส้ ูงู สุดุ ในขณะที่อ�่ งค์ก์ รภาครัฐั ในอุดุ มคติดิ ้า้ นประชาธิปิ ไตย มีีเป้า้ หมายหลักั คืือ การตอบสนองความต้อ้ งการของประชาชน เป็น็ ต้น้ อย่า่ งไรก็ต็ าม ในโลกแห่ง่ ความ เป็็นจริงิ องค์์กรจำ�ำ นวนมากไม่ส่ ามารถดำำ�เนินิ ยุุทธศาสตร์์เพื่่อ� บรรลุุเป้้าหมายตามพันั ธกิิจของตนเองได้้ จึึงมีีตััวอย่่างของความล้ม้ เหลวในการดำำ�เนิินธุุรกิิจและกิจิ การต่่าง ๆ อยู่�ทั่ว� ไป นัักคิิดและนัักปฏิิบััติิจำ�ำ นวนมากได้้เสนอนิิยามและคำ�ำ อธิิบายเกี่�่ยวกัับกัับยุุทธศาสตร์์ แต่่ละ แนวคิิดและนิิยามก็็มีีประเด็็นเฉพาะที่่�ต้้องการนำ�ำ เสนอแตกต่่างกัันออกไป แนวคิิดพื้้�นฐานว่่าด้้วย ยุทุ ธศาสตร์เ์ ชื่�อว่า่ องค์ก์ รจะสามารถพััฒนายุุทธศาสตร์์ที่เ�่ หมาะสมได้้ ถ้า้ มีีการวิิเคราะห์ส์ ภาพปัจั จุุบันั อย่่างเป็็นระบบจนมีีความเข้้าใจอย่่างถ่่องแท้้ แล้้วจึึงนำำ�ยุุทธศาสตร์์นั้้�นไปดำ�ำ เนิินการต่่อเพื่่�อบรรลุุเป้้า หมายขององค์์กร

195 การคาดการณ์เชงิ ยุทธศาสตร์ นักคิดและนักปฏิบัติจ�ำนวนมากได้เสนอนิยามและค�ำอธิบายเกี่ยวกับกับยุทธศาสตร์ แต่ละ แนวคิดและนิยามก็มีประเด็นเฉพาะท่ีต้องการน�ำเสนอแตกต่างกันออกไป แนวคิดพื้นฐานว่าด้วย ยทุ ธศาสตรเ์ ชือ่ ว่า องค์กรจะสามารถพฒั นายทุ ธศาสตรท์ ี่เหมาะสมได้ ถ้ามกี ารวเิ คราะหส์ ภาพปจั จบุ นั อย่างเป็นระบบจนมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ แล้วจึงน�ำยุทธศาสตร์น้ั นไปด�ำเนินการต่อเพ่ือบรรลุเป้า หมายขององคก์ ร แบบจำ�ำ ลอง (model) พื้�้นฐานของการกำำ�หนดและดำำ�เนิินยุุทธศาสตร์์มีี 3 องค์์ประกอบ หลััก38 ได้้แก่่ 1. การวิเิ คราะห์ย์ ุทุ ธศาสตร์์ ประกอบด้ว้ ย (1) การกำ�ำ หนดเป้า้ หมาย วัตั ถุปุ ระสงค์์ ความคาดหวังั (2) การวิเิ คราะห์บ์ ริบิ ทและสภาพแวดล้อ้ ม และ (3) การวิเิ คราะห์ท์ รัพั ยากรที่ม่� ีีอยู่�ขององค์ก์ ร 2. การเลืือกยุทุ ธศาสตร์์ ประกอบด้ว้ ย (1) การสร้้างทางเลืือกเชิิงยุทุ ธศาสตร์์ (2) การประเมินิ ทางเลืือกยุทุ ธศาสตร์์ และ (3) การเลืือกยุุทธศาสตร์์ 3. การดำำ�เนิินยุุทธศาสตร์์ ประกอบด้้วย (1) การวางแผนทรััพยกร (2) การวางแผนโครงสร้้าง องค์์กร และ (3) การวางแผนบุุคลากร แบบจำำ�ลองดังั กล่า่ วเป็น็ องค์ป์ ระกอบมาตรฐานที่ใ่� ช้อ้ ยู่�ทั่ว� ไปในการวางแผนยุทุ ธศาสตร์์ แต่ใ่ น วงการวิิชาการและการปฏิิบััติิด้้านการวางแผนยุุทธศาสตร์์ทั้้�งในด้้านธุุรกิิจและด้้านนโยบายสาธารณะ มีีหลัักการ กรอบแนวคิดิ และวิธิ ีีการในการพััฒนาและดำำ�เนิินยุุทธศาสตร์์อยู่�จำ�ำ นวนมาก และมีีแนวคิิด ใหม่่ ๆ เกิดิ ขึ้�นอยู่�เสมอ แม้้ว่่าแนวคิิดการบริิหารเชิิงยุทุ ธศาสตร์์ (strategic management) และการ วางแผนยุุทธศาสตร์์ (strategic planning) เพิ่่�งได้้รัับการเผยแพร่่ในวงการบริิหารธุุรกิิจในช่่วงไม่่กี่่� ทศวรรษที่�่ผ่่านมา แต่่ในประวััติิศาสตร์์ มนุุษย์์ได้้ดำำ�เนิินกิิจกรรมตามแนวคิิดแบบยุุทธศาสตร์์มาเป็็น เวลานานแล้ว้ โดยเฉพาะในด้้านการทหาร เช่น่ ตำำ�ราพิิชัยั สงคราม (The Art of War) ของซุุนจื่่�อ (Sun Tzu) และหนัังสืือ “เจ้า้ ผู้้�ครองนคร” (The Prince) ของนิกิ โกโล มาเคีียเวลลีี (Niccolo Machiavelli) แนวคิิดการวางแผนยุุทธศาสตร์์อย่่างเป็็นระบบเริ่�มใช้้ในวงการธุุรกิิจในช่่วงคริิสต์์ทศวรรษ 1960 หนึ่ง่� ในงานเขีียนสำำ�คัญั ที่ม่� ีีอิทิ ธิพิ ลต่อ่ แนวคิดิ ในการบริหิ ารธุรุ กิจิ คืือหนังั สืือชื่อ� Corporate Strate- egy: An Analytical Approach to Business Poicy for Growth and Expansion ใน ค.ศ. 1965 ซึ่�ง่ นำ�ำ เสนอแนวคิิดยุทุ ธศาสตร์์ในฐานะแนวทางการบริิหารธุรุ กิิจ นัับเป็็นจุุดเริ่�มต้้นของศาสตร์์ด้า้ นการ วางแผนยุุทธศาสตร์์ หลัังจากนั้้�นเป็็นต้้นมา ได้้มีีการพััฒนาแนวคิิดเกี่�่ยวกัับยุุทธศาสตร์์เรื่�อยมา โดย สามารถแบ่ง่ ออกเป็็น 3 ช่ว่ ง39 ได้้แก่่

การคาดการณ์เชงิ ยุทธศาสตร์ 196 1. แนวคิิดยุุทธศาสตร์์ที่�่เน้้นกระบวนการ (process-oriented) เชื่�อว่่า การพััฒนายุุทธศาสตร์์ เป็็นกระบวนการต่่อเนื่่�องที่�่เน้้นการมีีส่่วนร่่วมของผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียทั้้�งหมดในกระบวนการ พัฒั นายุุทธศาสตร์์ 2. แนวคิดิ ยุทุ ธศาสตร์เ์ ชิงิ วิวิ ัฒั นาการ (evolutionary) เสนอว่า่ ยุทุ ธศาสตร์ข์ึ้น� อยู่่�กับั บริบิ ทเฉพาะ และปรัับไปตามสถานการณ์ข์ องตลาดและเงื่อ� นไขอื่น� ๆ ภายนอกองค์ก์ ร ในขณะที่พ�่ ฤติกิ รรม ขององค์ก์ รเกี่�ย่ วพันั อย่่างแยกไม่่ออกจากเครืือข่า่ ยทางสัังคมและวััฒนธรรม 3. แนวคิิดการบริิหารเชิงิ ยุทุ ธศาสตร์์ (strategic management) ให้้ความสำ�ำ คัญั กัับระบบย่่อย (sub-systems) ต่่าง ๆ ทั้้�งภายในและภายนอกองค์์กรในกระบวนการพััฒนายุทุ ธศาสตร์์ ในปััจจุุบััน “ยุุทธศาสตร์์” เป็็นคำ�ำ ที่่�ใช้้กัันแพร่่หลายในทุุกวงการที่�่มีีการวางแผน ทั้้�งในภาค เอกชน ภาครััฐ และภาคประชาสัังคม และมีีนิิยามอยู่�เป็็นจำำ�นวนมากนัับตั้้�งแต่่นิิยามพื้้�นฐานของ อัลั เฟรด ชานด์เ์ ลอร์์ (Alfred Chandler) ใน ค.ศ. 1962 ที่ร�่ ะบุวุ ่า่ ยุทุ ธศาสตร์์ คืือ “การกำ�ำ หนดเป้า้ หมาย พื้้�นฐานและกิิจกรรมที่�่ดำำ�เนิินการในระยะยาวของบริิษััท และการจััดหาและจััดสรรทรััพยากรที่่�เหมาะ สม”40 ในขณะที่น่� ิยิ ามที่ใ�่ ห้ค้ วามสำ�ำ คัญั กับั ความไม่แ่ น่น่ อนในการพัฒั นายุทุ ธศาสตร์ร์ ะบุวุ ่า่ ยุทุ ธศาสตร์์ เป็น็ “ชุดุ การตัดั สินิ ใจที่ก่� ำำ�หนดและขับั เคลื่่อ� นกิจิ กรรมเกืือบทั้้ง� หมดขององค์ก์ ร และเปลี่ย่� นแปลงได้ย้ าก เมื่อ� เลืือกและดำ�ำ เนินิ การไปแล้ว้ โดยมีีผลกระทบสูงู สุดุ ต่อ่ การบรรลุพุ ันั ธกิจิ และวิสิ ัยั ทัศั น์ข์ ององค์ก์ ร”41 คุณุ ลักั ษณะสำ�ำ คัญั ของยุุทธศาสตร์์มีี 3 ปััจจััยด้ว้ ยกััน42 ได้้แก่่ 1. ความเหมาะสมเชิิงยุุทธศาสตร์์ (strategic fit) ซึ่่�งหมายถึึงการจััดวางทิิศทางขององค์์กรที่�่มีี ประสิิทธิิภาพและดีีที่ส่� ุดุ ภายใต้ส้ ถานการณ์์ภายนอกและสภาพการแข่่งขัันในตลาด 2. มีีแนวทางการจัดั การทรััพยากรภายในองค์์กรที่�่เลืือกมาจากหลายทางเลืือก 3. มุ่่�งไปที่ภ�่ าพอนาคตและการจัดั การระยะยาว ความนิยิ มและความแพร่ห่ ลายในการใช้แ้ นวคิดิ ยุทุ ธศาสตร์ใ์ นการวางแผนสะท้อ้ นวิวิ ัฒั นาการ ของแนวคิดิ เกี่ย�่ วกับั ยุทุ ธศาสตร์์ ซึ่ง่� ได้เ้ ปลี่ย่� นแปลงไปตามบริบิ ทและเงื่อ� นไขที่เ�่ ปลี่ย่� นไป และด้ว้ ยความ ซับั ซ้้อนที่่�เพิ่่�มมากขึ้น� การแก้ไ้ ขปัญั หาและการวางแผนแบบเดิิมไม่่สามารถใช้ไ้ ด้้อีีกต่่อไป ส่่วนหนึ่่ง� เป็็น เพราะการตัดั สินิ ใจในองค์ก์ รในยุคุ ปัจั จุบุ ันั ไม่ว่ ่า่ จะในด้า้ นธุรุ กิจิ หรืือด้า้ นนโยบายสาธารณะ อยู่�ในสภาพ ที่ไ่� ม่ข่ าดแคลนข้อ้ มูลู แต่อ่ ยู่่�ท่า่ มกลางข้อ้ มูลู ที่ม�่ ีีมากมายมหาศาล และมีีเวลาอยู่�จำ�ำ กัดั แนวคิดิ การวางแผน แบบดั้้�งเดิิมที่�่ตั้ง� อยู่่�บนหลัักเหตุุผลและความครอบคลุุมไม่ส่ ามารถใช้ไ้ ด้้อีีกต่่อไป สาเหตุสุ ำ�ำ คัญั ประการ หนึ่่�งคืือ การวางแผนแบบหลัักเหตุุผลแบบดั้้�งเดิิมต้้องการข้้อมููลและความเข้้าใจเกี่่�ยวกัับปััญหาในทุุก ด้้านและอย่า่ งครอบคลุุม ซึ่ง�่ เป็น็ ไปไม่ไ่ ด้้อีีกต่่อไปในยุุคปัจั จุบุ ันั

197 การคาดการณ์เชิงยทุ ธศาสตร์ เฮนรีี มินิ ส์เ์ บิริ ์ก์ (Henry Mintzberg) ได้้จำ�ำ แนกแนวคิดิ เกี่�่ยวกับั การพััฒนายุทุ ธศาสตร์แ์ ละ การบริหิ ารเชิิงยุุทธศาสตร์อ์ อกเป็็น 10 สำำ�นัักคิิด43 ตามที่�ส่ รุุปไว้ใ้ นตารางที่�่ 21 แต่่ละสำำ�นักั คิิดก็็มีีความ แตกต่่างกัันออกไป ทั้้�งในเชิิงมุุมมอง ประเด็็นที่�่สนใจ วิิธีีการและเครื่่�องมืือที่่�ใช้้ รวมไปถึึงข้้อดีีข้้อด้้อย ดังั นี้้� 1. สำำ�นัักคิิดแนวการออกแบบ (The Design School) เน้้นกระบวนการค้้นหาจดที่่�เหมาะสม ระหว่า่ งขีีดความสามารถขององค์ก์ รกัับบริบิ ทและโอกาสภายนอกองค์์กร 2. สำ�ำ นัักคิิดแนวการวางแผน (The Planning School) เน้้นกระบวนการที่�เ่ ป็็นทางการและการ วิิเคราะห์์ด้ว้ ยเครื่่อ� งมืือและข้อ้ มูลู เชิงิ ประจัักษ์์ 3. สำ�ำ นักั คิิดแนวสร้้างตำำ�แหน่่งในตลาด (The Positioning School) เน้น้ กระบวนการวิิเคราะห์์ หาตำำ�แหน่่งที่่ด� ีีที่�ส่ ุดุ ในตลาด 4. สำ�ำ นัักคิิดแนวผู้้�ประกอบการ (The Entrepreneurial School) เน้้นบทบาทในการกำ�ำ หนด ยุุทธศาสตร์โ์ ดยผู้้�นำ�ำ ที่�ม่ ีีวิิสัยั ทััศน์์ 5. สำ�ำ นัักคิิดแนวการรัับรู้้� (The Cognitive School) เน้้นกระบวนการคิิดของนัักยุุทธศาสตร์ท์ ี่ม�่ ีี แนวคิดิ แตกต่า่ งกััน 6. สำ�ำ นัักคิดิ แนวการเรีียนรู้้� (The Learning School) เน้น้ กระบวนการหาสิ่ง� อุุบััติิใหม่่ เมื่�อคน และองค์์กรค้้นพบความรู้�ใหม่่และใช้้ประโยชน์จ์ ากความรู้�นั้น� 7. สำำ�นัักคิิดแนวอำำ�นาจ (The Power School) มองยุุทธศาสตร์์ว่่าเป็็นผลมาจากการต่่อรอง ระหว่่างกลุ่ �มคนภายในและภายนอกองค์์กร 8. สำ�ำ นักั คิิดแนววััฒนธรรม (The Cultural School) มองว่่าการพััฒนายุุทธศาสตร์์เป็็นกระบวน การเชิงิ สัังคม และเน้น้ ความร่ว่ มมืือและการบูรู ณาการ 9. สำำ�นัักคิิดแนวสภาพแวดล้้อม (The Environmental School) มองยุุทธศาสตร์์ว่่าเป็็นการ รับั มืือกับั สภาพแวดล้้อมภายนอก 10. สำำ�นักั คิดิ แนวโครงสร้้าง (The Configuration School) มองยุุทธศาสตร์์เป็็นส่ว่ นหนึ่�ง่ ของ การเปลี่ย�่ นโครงสร้า้ งองค์ก์ ร ยุทุ ธศาสตร์โ์ ดยทั่่ว� ไปเน้น้ เสถีียรภาพ แต่บ่ างครั้้ง� ก็เ็ น้น้ การปฏิริ ูปู ไปสู่่�สภาวะใหม่่

การคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ 198 ตารางที่่� 21 สำำ�นัักคิิดว่่าด้้วยการพััฒนายุุทธศาสตร์์ แบบจำำ�ลอง แนวทางดำ�ำ เนินิ การ พื้้น� ฐานแนวคิดิ ประโยชน์์และจุุดเด่่น ข้อ้ จำ�ำ กััด ตััวอย่า่ งเครื่�องมือื สำำ�นักั คิดิ แนวการ • ก�ำหนดยุทธศาสตร์ ใช้ส้ ถาปัตั ยกรรมเป็น็ • มีความเป็นระเบียบ • การท�ำให้เขา้ ใจได้ • SWOT Analysis ออกแบบ (The Design ที่ช�่ ััดเจนและเฉพาะ อุุปมาอุปุ มัยั เรีียบร้อ้ ย ง่่ายอาจบิดิ เบืือน • Ashridge Mission School) เจาะจง • ลดความไม่ชดั เจน ความเป็็นจริิง Model (เน้้นกระบวนการสร้า้ ง • ก�ำหนดองค์ • ใชไ้ ด้ดีในสภาพ • ยทุ ธศาสตร์มี ความคิิด) ประกอบภายใน แวดล้้อมที่ค่� ่่อนข้้างมีี ตััวแปรมากมาย และ องค์์กรให้้เข้้ากับั เสถีียรภาพ มีีความซัับซ้อ้ นอย่า่ ง บริิบทภายนอก • สนับสนนุ ความเปน็ มาก ผู้้�นำ�ำ ที่่แ� ข็็งแกร่่งและมีี • การก้าวขา้ มการ วิิสััยทัศั น์์ เรีียนรู้้� ไม่่ยืืดหยุ่่�นใน สภาพแวดล้้อมที่่� เปลี่�่ยนแปลงอย่่าง รวดเร็็ว • มีความเสีย่ งสูงที่จะ เกิิดการต่่อต้า้ น สำำ�นักั คิดิ แนวการ • ด�ำเนินการตามขั้น การวางผัังเมืือง • มีทิศทางทชี่ ัดเจน • มีความน่งิ และคงที่ • Theory of วางแผน (The ตอนอย่า่ งชััดเจน ทฤษฎีใี นระบบ • มีการจดั สรร มากเกิินไป Mechanistic and Planning School) ตั้�งแต่ก่ ระบวนการ Cybernetics ทรัพั ยากร • มีความเสย่ี งที่จะ Organic Systems (เน้น้ กระบวนการที่เ�่ ป็น็ วิเิ คราะห์์จนถึึงการ • เน้นการควบคุม คิิดแบบติิดกลุ่ �ม • Parenting styles ทางการ) ดำำ�เนินิ การตามแผน • การท�ำนายเปน็ • Levers of Control ยุุทธศาสตร์์ เรื่อ� งยาก • Scenario • ผู้บริหารระดับสูง Planning มักั สร้า้ งยุุทธศาสตร์์ จากหอคอยงาช้า้ ง สำำ�นักั คิดิ แนวสร้้าง • วางต�ำแหน่งของ โครงสร้้าง • การจดั การเชงิ • เช่นเดยี วกันกับ • Competitive ตำำ�แหน่่งในตลาด (The องค์์กรท่่ามกลาง อุุตสาหกรรมและ ยุุทธศาสตร์์เป็็น สำำ�นัักคิิดแนวการ Advantage. Positioning School) บริิบทของตลาดโดย ยุทุ ธศาสตร์ท์ างการ ศาสตร์์ วางแผน • Five Forces. (เน้น้ กระบวนการ รวม และสำำ�รวจว่า่ ทหาร • วิเคราะหย์ ุทธศาสตร์ • ละเลยประเดน็ ด้าน • Value Chain วิิเคราะห์์) สามารถปรับั เปลี่ย�่ น ที่�่ใช้อ้ ยู่�ในปััจจุุบันั อย่า่ ง อำ�ำ นาจ การเมืือง • BCG Matrix. ตำำ�แหน่่งเชิิง เป็น็ ระบบ วัฒั นธรรมและองค์์ • Game Theory. ยุุทธศาสตร์์ของ • มุ่งเน้นไปท่ขี อ้ เท็จ ประกอบทางสัังคม • The Art of War องค์ก์ รในตลาดนั้้น� ได้้ จริงิ • มีความล�ำเอยี งที่จะ (Sun Tzu) อย่า่ งไร • มีประโยชน์อยา่ ง เน้้นบริิษัทั ใหญ่่ มากในช่ว่ งแรกของ • เนน้ ตัวเลขเปน็ การพััฒนาแผน หลักั ยุุทธศาสตร์์

199 การคาดการณเ์ ชงิ ยุทธศาสตร์ แบบจำำ�ลอง แนวทางดำำ�เนินิ การ พื้้น� ฐานแนวคิดิ ประโยชน์์และจุุดเด่่น ข้้อจำ�ำ กััด ตัวั อย่า่ งเครื่อ� งมือื สำ�ำ นัักคิดิ แนวผู้้�ประกอบ • กระบวนการสร้าง เศรษฐศาสตร์์ การ (The Entrepren- วิสิ ััยทัศั น์ท์ ี่เ�่ กิิดขึ้�นจาก • วิสัยทัศนอ์ งค์กรที่ • การด�ำเนนิ การตาม • Entrepreneurial neurial School) มุุมมองและความ เหมาะสมและผู้้�บริิหารที่่� แผนที่ก่� ำ�ำ หนดไว้้ล่่วง Government (เน้้นกระบวนการเชิงิ เข้า้ ใจอย่า่ งถ่่องแท้้ มีีวิสิ ัยั ทััศน์ก์ ้้าวไกล หน้า้ อาจทำ�ำ ให้้มอง • Seven surprises วิิสัยั ทัศั น์)์ ของผู้้�ก่่อตั้ �งหรืือผู้้�นำ�ำ สามารถนำ�ำ พาองค์์กรให้้ ไม่เ่ ห็็นอุปุ สรรค for new CEO’s องค์ก์ ร ดำ�ำ เนินิ การได้อ้ ย่่างราบ ระหว่า่ งทางหรืือ Leadership styles • การพึ่งพา รื่น� โดยเฉพาะในช่ว่ งเริ่�ม อัันตรายที่�ไ่ ม่ค่ าดคิดิ วิจิ ารณญาณ สติิ ต้้นหรืือช่่วงที่่�ประสบ ได้้ ปัญั ญา ประสบการณ์์ อุปุ สรรค • เป็นเรื่องยากใน และความเข้้าใจอย่า่ ง • ม่งุ เปา้ และชดั เจนใน การหาผู้้�นำ�ำ ที่เ�่ หมาะ ลึึกซึ้ �ง ภาพกว้้าง แต่่มีีความ สม ยืืดหยุ่่�นและปรัับเปลี่ย่� น • ผู้น�ำแนวผู้ประกอบ ได้้ในรายละเอีียด การและมีีวิสิ ัยั ทััศน์์ ก้้าวไกล มีีแนวโน้ม้ ที่�่ จะคิดิ ไกลเกินิ ไป • การเปน็ ผนู้ �ำ องค์ก์ รตามแนวทาง นี้้�เป็็นงานที่่�ยากมาก สำำ�นัักคิิดแนวการรับั รู้� • การวิเคราะห์เกย่ี ว จิิตวิิทยา • มองยุทธศาสตรว์ ่า • ใชป้ ระโยชน์ไม่คอ่ ย • Whole Brain (The Cognitive กับั การรับั รู้้�และ เป็น็ กระบวนการทาง ได้้มากกว่า่ ขั้น� ตอน Model School) ประมวลผลข้้อมูลู ของ ความคิิดของนักั การสร้า้ งกรอบความ • Johari Window (เน้้นกระบวนการคิดิ ) คน ยุทุ ธศาสตร์์ คิดิ • Groupthink • มงุ่ ความสนใจไปที่ • ยทุ ธศาสตร์เกิดขึ้นใน • ใชป้ ระโยชน์ไม่ค่อย • Cognitive Bias มุุมมองของนััก รููปแบบแนวคิิด แผนที่่� ได้้ในการสร้า้ ง • Myers-Briggs ยุุทธศาสตร์์และวิธิ ีี แผนผังั และกรอบความ แนวคิิดหรืือ • Type Indicator การประมวลผล จริิง ยุทุ ธศาสตร์์ที่ด�่ ีี ข้อ้ มููล • เนน้ ดา้ นความคดิ • ใช้ประโยชนไ์ ม่คอ่ ย สร้า้ งสรรค์ใ์ น ได้ใ้ นกระบวนการจัดั กระบวนการจัดั ทำ�ำ ทำ�ำ ยุุทธศาสตร์์ร่ว่ ม ยุุทธศาสตร์์ กันั • มีความม่ั นคงในระดบั ปััจเจกของนักั ยุุทธศาสตร์์ • มีประโยชนใ์ นการ อธิบิ ายไม่ส่ มบููรณ์์ของ ความคิดิ ของมนุษุ ย์์

การคาดการณ์เชงิ ยทุ ธศาสตร์ 200 แบบจำำ�ลอง แนวทางดำำ�เนินิ การ พื้้น� ฐานแนวคิดิ ประโยชน์์และจุุดเด่่น ข้้อจำำ�กัดั ตัวั อย่า่ งเครื่อ� งมือื สำ�ำ นัักคิิดแนวการเรีียนรู้� • ฝ่ายบริหารใหค้ วาม การศึึกษา (The Learning สำำ�คััญตลอดเวลาว่า่ ทฤษฎีีการเรีียนรู้้� • น�ำเสนอวิธีการเพอื่ • อาจน�ำไปสกู่ าร • Organisational School) สิ่ �งไหนได้้ผลและไม่่ได้้ จัดั การความซัับซ้้อนและ ไม่ม่ ีียุทุ ธศาสตร์์ หรืือ Learning (เน้้นกระบวนการหาสิ่ ง� ผล และรวมบทเรีียน สิ่�งที่่ท� ำ�ำ นายไม่ไ่ ด้ใ้ นการ เพีียงแค่ป่ รัับกลยุุทธ์์ • Forget Borrow อุบุ ััติใิ หม่่) ที่ไ�่ ด้เ้ รีียนรู้้�ไว้ใ้ นแผน พััฒนายุทุ ธศาสตร์์ เฉพาะหน้้า Learn Framework ปฏิบิ ััติกิ าร • ไมเ่ ฉพาะผู้น�ำ แตค่ น • ใช้ไมค่ อ่ ยได้ในชว่ ง • Knowledge • โลกมีความซับซ้อน อื่น� ๆ ก็็สามารถเรีียนรู้้� วิกิ ฤต Management เกิินกว่่าที่�่จะพััฒนา ได้้ • ไมค่ อ่ ยมีประโยชน์ • SECI Model แผนยุทุ ธศาสตร์ไ์ ด้้ • ไม่จ�ำเป็นตอ้ งมผี นู้ �ำท่ี ในสถานการณ์์คงที่�่ ทั้้ง� หมด เก่่งไปหมดทุกุ อย่า่ ง • การปฏิบัติตามข้ั น • เป็นแผนหรือวิสัย • สามารถใช้รว่ มกบั มมุ ตอนที่่ส� มเหตุสุ มผล ทััศน์ท์ ี่�่มีีความชััดเจน มองที่่เ� กิดิ ขึ้�นใหม่่ได้้ หลายขั้�น ไม่ไ่ ด้้ • ยทุ ธศาสตร์เกิดขึ้น • ใชไ้ ด้ดีในสภาวะที่ซับ เป็็นการสร้้าง จากขั้น� ตอนเล็็กๆ ซ้อ้ นและมีีการ ยุุทธศาสตร์โ์ ดยรวมที่่� เมื่ �อองค์์กรมีีการปรัับ เปลี่�่ยนแปลงอย่่างต่่อ ดีี ตััวและเรีียนรู้้� เนื่่อ� ง • การเรียนรมู้ ตี น้ ทนุ • มอี งค์กรทางวิชาชพี ท่ี แข็ง็ แกร่่ง สำ�ำ นัักคิิดแนวอำ�ำ นาจ ยุทุ ธศาสตร์น์ ี้้พ� ััฒนา รัฐั ศาสตร์์ • ชว่ ยใหผ้ ้ทู แ่ี ขง็ แกร่ง • การเมอื งอาจสรา้ ง • Bases of Social (The Power School) จากกระบวนการ ที่่�สุดุ สามารถเอาตััวรอด ความแตกแยก สิ้�น Power (เน้้นกระบวนการเจรจา) เจรจาระหว่า่ งผู้�มี ในองค์ก์ รได้้ เปลืืองกำำ�ลััง • Power Distance อำำ�นาจภายในบริษิ ััท • ท�ำให้ปญั หาทุกดา้ นได้ บิิดเบืือน และต้้นทุนุ • Stakeholder และ/หรืือระหว่่าง รัับความใส่่ใจและถก สูงู Value บริิษััท กัับผู้้�มีีส่ว่ นได้้ เถีียงเพื่่�อแก้ป้ ััญหา • อาจน�ำไปสู่ • Perspective Core ส่ว่ นเสีียภายนอก • ช่วยในการฝ่าอุปสรรค ความคลาดเคลื่่อ� น Group เพื่่�อการเปลี่่�ยนแปลง ได้้ • Theory Force • เป็นประชาธิปไตย • อาจน�ำไปส่กู าร • Field Analysis • ชว่ ยลดแรงตอ่ ตา้ นเมอ่ื ไม่่มีียุทุ ธศาสตร์์ หรืือ • Stakeholder ได้้ตัดั สินิ ใจแล้ว้ เพีียงแค่ท่ ำำ�ปรัับ Mapping • สะทอ้ นความเปน็ จริง เปลี่่�ยนกลยุุทธ์เ์ ฉพาะ • เปน็ ประโยชนใ์ นการ หน้า้ ทำ�ำ ความเข้้าใจใน • เน้นบทบาทของ พัันธมิติ รทางยุทุ ธศาสตร์์ อำ�ำ นาจมากเกินิ ไปใน การร่ว่ มทุนุ และ การพััฒนา วิิเคราะห์์ผู้้�มีีส่ว่ นได้้ส่่วน ยุุทธศาสตร์์ เสีีย

201 การคาดการณ์เชิงยทุ ธศาสตร์ แบบจำำ�ลอง แนวทางดำ�ำ เนินิ การ พื้้�นฐานแนวคิดิ ประโยชน์์และจุุดเด่่น ข้อ้ จำำ�กัดั ตัวั อย่า่ งเครื่อ� งมือื สำ�ำ นักั คิิดแนววััฒนธรรม • มีความพยายาม มานุษุ ยวิิทยา • มงุ่ ความสนใจไปที่ • มีความคลุมเครือ • Appreciative (The Cultural School) สร้า้ งการมีีส่ว่ นร่่วม กระบวนการทางสัังคม และอาจเสริมิ สร้้าง Inquiry (เน้น้ กระบวนการร่่วมมืือ) กับั กลุ่�มและแผนก ความเชื่�อ และค่่านิิยมใน การต่่อต้้านการ • Cultural ต่า่ ง ๆ ในองค์์กร การตััดสิินใจในการ เปลี่�่ยนแปลง และใช้้ Dimensions • การจัดท�ำแผน พัฒั นายุทุ ธศาสตร์์ เพีียงเพื่่�อรับั รอง • Cultural ยุทุ ธศาสตร์ถ์ ืือเป็น็ • อธิบายการต่อต้านการ สภาพปััจจุบุ ันั Intelligence กระบวนการร่ว่ มมืือ เปลี่ย่� นแปลงเชิงิ • ไมแ่ สดงภาพที่ • Ashridge Mission และประสานงาน ยุทุ ธศาสตร์์ และช่่วยใน ชััดเจนว่า่ อนาคตควร Model • ยทุ ธศาสตร์ทไ่ี ด้ การจััดการเมื่อ� มีีการควบ พัฒั นาเป็็นอย่่างไร พััฒนามาสะท้้อน รวมกิจิ การ วััฒนธรรมองค์์กร สำ�ำ นักั คิดิ แนวสภาพ ยุทุ ธศาสตร์เ์ ป็น็ การ ชีีววิิทยา ให้้บทบาทสำำ�คััญต่่อ • มติ ิดา้ นสภาพ • Contingency แวดล้้อม (The ตอบสนองความ สภาพแวดล้อ้ มในการ แวดล้้อมมีีความ Theory Environmental School) ท้้าทายจากสภาพ สร้้างยุทุ ธศาสตร์์ คลุุมเครืือ และเป็น็ • Situational (เน้น้ กระบวนการเชิงิ แวดล้อ้ มภายนอก ภาพรวม จึึงไม่่ค่อ่ ย Leadership เปรีียบเทีียบ) ในขณะที่่�สำ�ำ นัักคิดิ อื่�น เป็็นประโยชน์์ในการ สภาพแวดล้อ้ มเป็น็ สร้้างยุทุ ธศาสตร์์ เพีียงปัจั จัยั หนึ่่�ง • ปฏิเสธทางเลือก สำำ�นักั คิิดนี้้�กลัับมอง เชิิงยุทุ ธศาสตร์์ของ ว่า่ สภาพแวดล้อ้ มเป็น็ องค์์กร ตัวั ละครหลััก • ไม่สมจรงิ สำำ�นัักคิดิ แนวโครงสร้้าง การพััฒนา บริบิ ท • ยทุ ธศาสตรแ์ ละ ในความเป็็นจริงิ มีี • Organisational (The Configuration ยุุทธศาสตร์์เป็น็ โครงสร้า้ งองค์์กรสััมพัันธ์์ รูปู แบบโครงสร้้าง Configurations School) กระบวนการ กันั อย่่างแยกไม่อ่ อก จึึง องค์ก์ รอยู่�หลายแบบ • Chaos Theory (เน้น้ กระบวนการเปลี่ย�่ น เปลี่่�ยนแปลงองค์์กร ควรวางแผนไปพร้อ้ มกััน จึึงไม่่สามารถกำำ�หนด • Catastrophe รูปู ) จากโครงสร้้างการ • การจัดการเชงิ ได้ช้ ััดเจน และขึ้�นอยู่� Theory ตััดสินิ ใจรูปู แบบหนึ่�่ง ยุทุ ธศาสตร์โ์ ดยทั่่�วไปเน้้น กัับมุุมมอง • Disruptive ไปสู่่�อีีกรูปู แบบหนึ่�่ง เสถีียรภาพที่ส่� ามารถ Innovations ปรับั เปลี่่�ยนได้ต้ ามบริิบท และสามารถจััดการกัับ ความเปลี่่ย� นแปลงได้้โดย ไม่่ทำ�ำ ลายองค์์กร ที่่�มา: ดัดั แปลงจาก Mintzberg (1990) และ 12manage.com

การคาดการณเ์ ชงิ ยุทธศาสตร์ 202 เกณฑ์หนึ่งที่มินส์เบิร์กใช้แสดงความแตกต่างระหว่างแนวคิดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ในแต่ละ ส�ำนกั คือ มมุ มองทม่ี ตี อ่ กระบวนการพฒั นายทุ ธศาสตรภ์ ายในองคก์ รและมมุ มองทม่ี ตี อ่ สภาพแวดลอ้ ม นอกองคก์ ร แผนภาพท่ี 15 แสดงพื้นทขี่ องทางเลือกในการพฒั นายทุ ธศาสตรข์ องส�ำนกั คดิ ตา่ ง ๆ ในมติ ิ ของมมุ มองสองประการขา้ งตน้ ตวั อย่างเชน่ แนวคิดยทุ ธศาสตร์เชงิ การวางแผน (Planning School) ต้ังอยบู่ นขอ้ สมมติที่ว่า ปจั จยั ภายนอกสามารถท�ำความเขา้ ใจได้และควบคุมได้ และเนน้ หลักการและ กระบวนการภายในองคก์ รที่ยึดหลกั เหตุผล (rationality) ท่ีด�ำเนนิ การอย่างเปน็ ทางการ ในขั้วตรงกนั ข้าม แนวคดิ ยทุ ธศาสตรเ์ ชิงการรบั รู้ (Cognitive School) เช่ือว่าปัจจัยภายนอกไมส่ ามารถพยากรณ์ ไดแ้ ละยากที่จะท�ำความเขา้ ใจได้ และการพฒั นายทุ ธศาสตรภ์ ายในองคก์ รจึงเนน้ กระบวนการทเี่ ปน็ ไป ตามธรรมชาติ แผนภาพที่�่ 15 พื้้�นที่�่ของทางเลือื กในการพัฒั นายุทุ ธศาสตร์์ ที่�ม่ า: ดััดแปลงจาก Mintzber (1999) ทั้้�งนี้้� ไม่่ว่า่ แต่่ละสำำ�นักั คิิดจะมีีมุุมมองเกี่�่ยวกัับยุุทธศาสตร์์อย่่างไรก็ต็ าม ทุกุ แนวคิิดมีีจุุดร่ว่ ม กัันตรงที่�่ว่่า ยุุทธศาสตร์์มีีผลกระทบอย่่างมากต่่อความเป็็นอยู่�และความสำ�ำ เร็็จขององค์์กร ในขณะที่�่ กระบวนการวิเิ คราะห์แ์ ละพัฒั นายุทุ ธศาสตร์จ์ ะครอบคลุมุ ทั้้ง� สิ่ง� ที่เ�่ กิดิ ขึ้น� ภายในองค์ก์ รและปัจั จัยั สภาพ แวดล้้อมที่่เ� กิิดขึ้น� นอกองค์์กร แต่ล่ ะสำ�ำ นัักคิดิ ยังั ยอมรัับว่า่ ยุุทธศาสตร์์มีีความซัับซ้้อน นับั ตั้้ง� แต่่ในด้้าน นิยิ าม แนวคิิด กระบวนการพัฒั นา ทางเลืือกยุทุ ธศาสตร์์ ไปจนถึึงการดำ�ำ เนิินยุุทธศาสตร์์ นอกจากนี้้�

203 การคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ ระดับั การพััฒนาและดำำ�เนินิ การยุุทธศาสตร์์มีีตั้้ง� แต่ร่ ะดัับองค์์กร ระดัับหน่ว่ ยธุรุ กิิจหรืือกลุ่�มงาน ไปจึึง ถึึงระดัับปฏิิบััติิการ ในการพััฒนายุุทธศาสตร์์เอง ก็็มีีความแตกต่่างระหว่่างการพััฒนายุุทธศาสตร์์กัับ การพััฒนากลยุทุ ธ์์ (tactics) นอกจากนี้้� การพัฒั นาและดำำ�เนินิ ยุทุ ธศาสตร์์จึึงไม่ไ่ ด้้เป็็นเพีียงเรื่�องสาระ ยุทุ ธศาสตร์์ แต่่กระบวนการก็็สำ�ำ คัญั เช่น่ กััน กล่่าวโดยสรุุปได้้ว่่า แนวคิิดการพััฒนายุุทธศาสตร์์เริ่�มจากการวิิเคราะห์์องค์์กรและสภาพ แวดล้อ้ มภายนอกองค์ก์ ร เพื่่อ� ให้ไ้ ด้ท้ างเลืือกของยุทุ ธศาสตร์ท์ ี่เ�่ ป็น็ กรอบในการดำ�ำ เนินิ กิจิ การขององค์ก์ ร ในการบรรลุเุ ป้้าหมายและพัันธกิิจในระยะยาว เมื่อ� ได้ท้ างเลืือกของยุทุ ธศาสตร์์แล้้ว จึึงมีีการประเมิิน และคัดั เลืือกยุทุ ธศาสตร์เ์ พื่่อ� ดำ�ำ เนินิ การด้ว้ ยวิธิ ีีการและมาตรการที่เ�่ หมาะสมต่อ่ ไป เมื่อ� ดำำ�เนินิ การไปได้้ ระยะหนึ่ง�่ แล้ว้ จึึงมีีการประเมินิ และติดิ ตามผลลัพั ธ์ท์ ี่เ่� กิดิ ขึ้น� ว่า่ เป็น็ ไปตามเป้า้ หมายที่ต่�ั้ง� ไว้ห้ รืือไม่่ เพื่่อ� นำำ�ผลการประเมิินนั้้น� มาปรัับปรุุงหรืือปรับั เปลี่่�ยนยุทุ ธศาสตร์ข์ ององค์ก์ รต่อ่ ไป กระบวนการวิเิ คราะห์์ คััดเลืือกและดำำ�เนิินยุุทธศาสตร์์ตามขั้�นตอนดัังกล่่าวยัังคงใช้้กัันอยู่�ทั่�วไปอย่่างแพร่่หลาย และถืือเป็็น กระบวนการพื้�้นฐานที่่ต� ้้องทำ�ำ ไม่่ว่่าจะยึึดถืือสำำ�นัักคิดิ แนวไหนก็ต็ าม ยุุทธศาสตร์ท์ ่่ามกลางความซับั ซ้้อนและความไม่แ่ น่น่ อน ตามที่่�อธิิบายไปก่่อนหน้า้ นี้้� ยุุทธศาสตร์ท์ ี่�พ่ ัฒั นาขึ้น� มาด้ว้ ยแนวคิดิ และกระบวนการแบบดั้้ง� เดิมิ มักั เน้้น ความครอบคลุมุ ของเนื้อ้� หาและเป้า้ หมายระยะยาว แต่แ่ นวทางดังั กล่า่ วมักั ไม่ไ่ ด้ม้ องว่า่ การเปลี่ย่� นแปลง ในโลกปััจจุุบัันเป็็นไปอย่่างรวดเร็็ว จึึงไม่่สามารถพยากรณ์์ได้้อย่่างแม่่นยำำ�เหมืือนก่่อน ตััวอย่่างหนึ่�่ง ในประเทศไทยคืือ ยุุทธศาสตร์์ชาติิ 20 ปีี (พ.ศ. 2561-2580) ที่่�ออกตามพระราชบััญญััติิการจััดทำำ� ยุุทธศาสตร์์ชาติิ พ.ศ. 2560 ตามรัฐั ธรรมนููญแห่่งราชอาณาจัักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 65 ที่ก่� ํําหนด ให้้รััฐพึึงจััดให้้มีียุุทธศาสตร์ช์ าติิ ในแผนดัังกล่่าวแทบไม่่ได้ม้ ีีการกล่า่ วถึึงการจััดการกัับความไม่่แน่น่ อน และความผัันผวนในด้้านเทคโนโลยีี สิ่�งแวดล้้อม เศรษฐกิิจ สังั คมและการเมืือง แต่ว่ งการวิชิ าการและวิชิ าชีีพด้า้ นการวางแผนยุทุ ธศาสตร์ใ์ นยุคุ หลังั โดยเฉพาะในวงการธุรุ กิจิ ได้ใ้ ห้ค้ วามสำำ�คัญั มากขึ้น� กับั ปัจั จัยั เรื่อ� งพลวัตั ความซับั ซ้อ้ น ความไม่แ่ น่น่ อน และความเสี่ย่� งที่อ่� งค์ก์ รต้อ้ ง ประสบทั้้�งภายในและภายนอกองค์์กร การพััฒนายุทุ ธศาสตร์์สำำ�หรับั องค์์กรในปัจั จุบุ ันั จึึงจำำ�เป็น็ ต้้องใช้้ ความรู้� ทักั ษะและทััศนคติใิ นหลายด้้านด้้วยกันั นัับตั้้ง� แต่ค่ วามสามารถในการวิิเคราะห์แ์ ละการสังั เกต ที่่�เฉีียบคม ความสามารถในการจิินตนาการออกนอกกรอบคิิดเดิิม ไปจนถึึงความพร้้อมในการยอมรับั ความเสี่ย่� ง และความพร้อ้ มและเด็ด็ ขาดในการตัดั สินิ ใจ เนื่่อ� งจากความรู้�และทักั ษะเหล่า่ นี้้ส� ามารถเรีียน รู้�ได้บ้ ้้างในห้้องเรีียนและในสถานการณ์ส์ มมติิ แต่ท่ ้า้ ยที่่�สุดุ ก็ย็ ังั จำำ�เป็น็ ต้้องเรีียนรู้้�ผ่า่ นทางประสบการณ์์ ดำำ�เนินิ การจริิง

การคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ 204 ตามท่ยี �้ำเนน้ มาตลอดในหนังสอื เลม่ นี้ การคาดการณ์เชงิ ยุทธศาสตร์ตั้งอยูบ่ นการยอมรบั ใน ความไมแ่ นน่ อนของอนาคต และมงุ่ สรา้ งทางเลือกของภาพอนาคตที่น�ำมาใชเ้ ปน็ กรอบความคดิ ในการ พฒั นายทุ ธศาสตรข์ ององคก์ ร เนื่องจากฉากทศั นห์ รืออนาคตทางเลือกทไี่ ดพ้ ฒั นามาในขั้นตอนกอ่ นหนา้ นี้เปน็ ภาพอนาคตของสภาพแวดลอ้ มภายนอกทมี่ โี อกาสเกดิ ขึ้นได้ ขั้นตอนส�ำคญั ตอ่ จากนี้ไปคือ การน�ำ ฉากทศั นด์ งั กลา่ วมาใชใ้ นการคา้ หายทุ ธศาสตรท์ เี่ นน้ การปรบั เปลี่ยนโครงสรา้ งและองคป์ ระกอบภายใน องค์กรตอ่ ไป การค้น้ หายุทุ ธศาสตร์ท์ ี่่�เหมาะสมมีี 2 กรณีีหลักั ได้้แก่่ การประเมิินยุุทธศาสตร์์ (strategy assessment) และการพััฒนายุุทธศาสตร์์ (strategy development) ในกรณีีแรก องค์์กรโดยมากมััก มีียุทุ ธศาสตร์อ์ ยู่�แล้ว้ การค้้นหายุทุ ธศาสตร์จ์ ึึงเป็น็ การนำำ�เอาฉากทัศั น์์มาประเมินิ ความเหมาะสม และ ปรัับปรุุงยุุทธศาสตร์์และนโยบายการตััดสิินใจด้้านต่่าง ๆ ให้้เหมาะสมกัับฉากทััศน์์ในอนาคต ส่่วนใน กรณีีที่่�สองอาจเป็็นองค์์กรที่�่ยัังไม่่มีียุุทธศาสตร์์ที่่�ชััดเจน หรืือเป็็นกรณีีที่�่ผลการวิิเคราะห์์เบื้�้องต้้นแสดง ให้้เห็็นว่่า จำำ�เป็็นต้้องมีีการพััฒนายุุทธศาสตร์์ขององค์์กรขึ้้�นมาใหม่่ ก็็สามารถนำ�ำ ฉากทััศน์์มาพััฒนา ยุุทธศาสตร์์ใหม่่ขององค์์กรได้้ หากใช้แ้ นวคิดิ และท่า่ ทีีเกี่ย�่ วกับั ความไม่แ่ น่น่ อนเป็น็ เกณฑ์ใ์ นการจัดั กลุ่�มของแนวทางในการ พััฒนายุทุ ธศาสตร์์ จะสามารถแบ่่งได้้ 3 แนวทางหลัักด้ว้ ยกันั 44 ได้แ้ ก่่ 1. แนวทางยทุ ธศาสตรแ์ บบการวางแผน (planning approach) เนน้ การวางแผนเพอ่ื เปา้ หมาย ระยะยาว โดยฝา่ ยบริหารเป็นผูก้ �ำหนดและตัดสนิ ใจในทศิ ทางของยุทธศาสตรอ์ งค์กร ภายใต้ เง่ือนไขของสภาพแวดลอ้ มท่มี เี สถยี รภาพ จึงตั้งอย่บู นความเชื่อว่าอนาคตมีความชดั เจนมาก พอ การวางแผนจึงไม่ได้ต้องรอแล้วจึงตัดสินใจ แต่สามารถก�ำหนดทิศทางและเนื้อหาของ ยทุ ธศาสตร์ รวมถงึ สง่ิ ทีต่ ้องด�ำเนินการไดเ้ ลย 2. แนวทางยุุทธศาสตร์เ์ ชิงิ ป้อ้ งกันั และปรับั ตัวั (preventive and adaptive approach) เชื่�อว่่า สภาพแวดล้อ้ มมีีความซับั ซ้อ้ นและมีีความไม่แ่ น่น่ อนสูงู จึึงเน้น้ การปรับั ตัวั ในระยะสั้น� และเน้น้ การดำ�ำ เนินิ การทีีละเล็ก็ ทีีละน้อ้ ย แม้ว้ ่า่ ยังั คงมุ่�งไปที่เ�่ ป้า้ หมายระยะยาวขององค์ก์ ร ยุทุ ธศาสตร์์ แนวนี้้น� ัยั หนึ่ง�่ เป็น็ เชิงิ ป้อ้ งกันั โดยเน้น้ การรับั มืือกับั ปัจั จัยั ภายนอกที่ค่� าดว่า่ จะเปลี่ย่� นแปลง จึึง เป็น็ แนวทางที่�ย่ อมรัับในความไม่่แน่น่ อนระดัับหนึ่�่ง 3. แนวทางยุทุ ธศาสตร์เ์ ชิงิ รุกุ แนวผู้้�ประกอบการ (proactive and entrepreneurial approach) ยังั คงเน้น้ ภาพระยะยาว แต่ย่ ุุทธศาสตร์์มีีความยืืดหยุ่่�นมากกว่่าแบบแรก และเปิดิ ช่อ่ งทางใน การตััดสิินใจแบบเด็็ดขาดได้้ ยุุทธศาสตร์์นี้้�จึึงเป็็นแนวเชิิงรุุก และเชื่�อว่่าการเปลี่่�ยนแปลงที่�่ เกิิดขึ้�นในสภาพแวดล้้อมนอกองค์์กรมีีความไม่่แน่่นอนสููงและยากที่�่จะคาดการณ์์ได้้ แต่่ก็็ยััง พยายามคาดการณ์ใ์ ห้ไ้ ด้ใ้ นระดับั หนึ่ง�่ เพื่่อ� ดำำ�เนินิ การบางอย่า่ งในการเตรีียมพร้อ้ มรับั มืือก่อ่ นที่่� เหตุกุ ารณ์น์ ั้้น� จะเกิดิ ขึ้น� จริงิ ยุทุ ธศาสตร์แ์ นวทางนี้้ม�ุ่�งปรับั เปลี่ย่� นสภาพภายนอกองค์ก์ รให้เ้ ป็น็ ไปในทิิศทางที่พ่� ึึงประสงค์์ เพื่่อ� ป้้องกันั ไม่่ให้อ้ นาคตที่ไ่� ม่พ่ ึึงประสงค์เ์ กิดิ ขึ้น� ตามที่่�คาดการณ์์ไว้้

205 การคาดการณเ์ ชิงยทุ ธศาสตร์ แต่่เดิิม หรืือเพื่่�อส่่งเสริิมให้้สภาพที่่�พึึงประสงค์์เกิิดขึ้�นได้้จริิงหรืือได้้เร็็วกว่่าที่�่คาดการณ์์ไว้้ ยุทุ ธศาสตร์แ์ นวทางนี้้ม�ุ่�งปรับั เปลี่ย�่ นสภาพและองค์ป์ ระกอบภายในองค์ก์ รและดำ�ำ เนินิ กิจิ กรรม บางอย่า่ งที่�จ่ ะนำำ�ไปสู่่�เป้้าหมายที่�่พึึงประสงค์์นั้้�น การตััดสิินใจเลืือกแนวทางในการพััฒนาและดำำ�เนิินยุุทธศาสตร์์มัักขึ้�นอยู่่�กัับสถานการณ์์ที่่� องค์ก์ รประสบอยู่� ณ เวลานั้้น� รวมถึึงวัฒั นธรรมองค์ก์ รที่ม�่ ีีอยู่�แต่เ่ ดิมิ และการตัดั สินิ ใจของผู้้�นำำ�องค์ก์ ร ณ เวลานั้้น� บางองค์ก์ รอาจเลืือกการพััฒนายุทุ ธศาสตร์แ์ บบมุ่่�งเป้า้ (focused strategies) ซึ่�ง่ เลืือกหนึ่ง�่ ฉากทัศั น์ข์ องอนาคตเป็น็ ภาพอ้า้ งอิงิ หลักั ในการพัฒั นายุทุ ธศาสตร์์ แนวทางนี้้ม� ีีความชัดั เจนและเฉพาะ เจาะจง จึึงสื่�อสารให้้เข้้าใจได้ง้ ่า่ ย แต่อ่ าจมีีขอบเขตที่่แ� คบเกินิ ไป และสภาพแวดล้้อมที่่�เปลี่่ย� นแปลงไป อาจทำำ�ให้ย้ ุทุ ธศาสตร์แ์ บบนี้้ป� ระสบปััญหาได้้ ในการพััฒนาและเลืือกแนวทางยุทุ ธศาสตร์แ์ บบมุ่่�งเป้้านี้้� องค์์กรต้้องมีีการคาดการณ์์และศึึกษาเกี่่�ยวกัับสภาพแวดล้้อมและสภาพตลาดมาเป็็นอย่่างดีี อีีกทั้้�งยััง ต้้องมีีระบบบการเตืือนภายในองค์ก์ รที่่�คอยติิดตามว่่า ยุทุ ธศาสตร์์ที่ด่� ำ�ำ เนิินการอยู่�นั้น� ยัังคงใช้้ได้้ดีี และ สามารถปรับั ตัวั ได้้อย่า่ งรวดเร็ว็ และทัันท่่วงทีี ถ้า้ ทิศิ ทางและปััจจัยั ของสภาพแวดล้อ้ มเปลี่ย่� นแปลงไป ในทางกลัับกััน บางองค์ก์ รอาจเลืือกแนวทางยุุทธศาสตร์์แบบยืืดหยุ่่�นและทนทาน (flexible and robust) ที่ต่� อบรับั กับั ฉากทัศั น์ห์ รืือสถานการณ์ท์ ี่ห่� ลากหลายในอนาคตได้้ ยุทุ ธศาสตร์แ์ นวทางนี้้จ� ึึง มักั สร้้างความยืืดหยุ่่�นให้้เกิดิ ขึ้น� ในการดำำ�เนิินงาน แต่ป่ ัญั หาที่่เ� กิิดขึ้น� คืือ องค์ป์ ระกอบของยุุทธศาสตร์์ มักั มีีความซัับซ้้อน จึึงอาจยากต่อ่ การดำ�ำ เนินิ การและการสื่่�อสารให้ผ้ ู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียเข้้าใจ ในทางปฏิบิ ัตั ิิ หากใช้้ระดับั ความครอบคลุมุ ของเนื้อ้� หาและวัตั ถุปุ ระสงค์ห์ ลักั ของยุทุ ธศาสตร์์ เป็น็ เกณฑ์ใ์ นการแบ่ง่ ประเภทยุุทธศาสตร์์ ก็ส็ ามารถแบ่่งยุุทธศาสตร์์ออกเป็็น 9 แนวทางด้ว้ ยกััน ดัังที่่� แสดงในตารางที่�่ 2245 ยุทุ ธศาสตร์์แบบที่่� 1 และ 2 เป็็นยุุทธศาสตร์์เชิิงการวางแผนที่ม�ุ่่�งตอบสนองแนวโน้้มสำำ�คััญ ในอนาคตฐานที่่�มีีโอกาสเกิิดสููงที่�่สุุด โดยเน้้นการตอบรัับแนวโน้้มที่�่ปรากฏชััดเจนในปััจจุุบัันและคาด ว่่าจะยัังคงมีีต่่อไปอีีกในอนาคต ยุุทธศาสตร์์ที่�่ 1 เป็็นแนวมุ่่�งเป้้า จึึงทุ่�มทรััพยากรและการดำำ�เนิินงาน ขององค์์กรตามยุุทธศาสตร์์นั้้�น ส่่วนยุุทธศาสตร์์ที่่� 2 ยัังคงเปิิดช่่องไว้้สำ�ำ หรัับแผนทางเลืือก ในกรณีีที่่� ยุุทธศาสตร์์ที่ว�่ างแผนไว้ไ้ ม่่เป็น็ ไปตามคาด ยุุทธศาสตร์์แบบที่่� 3 และ 4 เป็็นยุุทธศาสตร์์เชิิงรัับที่�่มุ่�งจััดการความเสี่่�ยงที่�่อาจเกิิดขึ้�นใน อนาคต โดยยุทุ ธศาสตร์์มุ่�งเป้า้ จะเน้น้ ฉากทัศั น์ท์ ี่�ภ่ ัยั คุุกคามสููงสุุด ในขณะที่่�ยุทุ ธศาสตร์์แนวทนทานจะ มุ่�งเน้้นไปที่�่การลดภััยคุุกคามให้้ต่ำ��ำ ที่�่สุุด ยุุทธศาสตร์์แนวนี้้�จึึงเป็็นส่่วนหนึ่่�งของการบริิหารความเสี่�่ยง อย่่างไรก็ต็ าม ยุทุ ธศาสตร์์แนวทางนี้้เ� ป็น็ เพีียงส่่วนหนึ่�ง่ ของการพัฒั นายุุทธศาสตร์์ในภาพรวม ยุุทธศาสตร์์แบบที่่� 5 เป็็นยุุทธศาสตร์์เชิิงป้้องกัันที่่�เน้้นความยืืดหยุ่่�นขององค์์กร จึึงไม่่มีี ยุุทธศาสตร์์แนวมุ่่�งเป้้า และมีีเฉพาะแนวทนทานที่�่เน้้นการเพิ่่�มความยืืดหยุ่่�นในการดำ�ำ เนิินการของ องค์ก์ ร โดยการลงทุนุ หรืือดำำ�เนินิ การในหลายแพร่ง่ ทางเลืือกพร้อ้ มกันั หรืือรอให้เ้ กิดิ ความแน่น่ อนมาก ขึ้น� จึึงเริ่ม� ตัดั สินิ ใจดำ�ำ เนินิ การ ยุทุ ธศาสตร์แ์ นวทางนี้้ม� ีีประสิทิ ธิภิ าพในการรัับมืือกับั ความไม่แ่ น่น่ อน แต่่

การคาดการณเ์ ชงิ ยุทธศาสตร์ 206 อาจไมส่ ร้างผลลัพธท์ ีโ่ ดดเดน่ เนื่องจากทรพั ยากรทม่ี ีอยตู่ อ้ งแบ่งเผ่ือไปกับทางเลือกตา่ ง ๆ จึงไมไ่ ด้ทมุ่ ทรพั ยากรให้กับแนวทางใดแนวทางหนึ่งตง้ั แตแ่ รก ยทุ ธศาสตรแ์ บบที่ 6 และ 7 เปน็ ยทุ ธศาสตรเ์ ชงิ รกุ ทเี่ นน้ โอกาสทเ่ี กดิ ขึ้นแลว้ ในปจั จบุ นั และใน อนาคต ยทุ ธศาสตรแ์ นวมงุ่ เปา้ จะทมุ่ ทรพั ยากรไปที่ฉากทศั นท์ สี่ รา้ งโอกาสมากทส่ี ดุ ในขณะทย่ี ทุ ธศาสตร์ แนวทนทานจะพยายามใชป้ ระโยชนจ์ ากโอกาสทอี่ าจจะเกดิ ขึ้นทง้ั หมดในทกุ ฉากทศั น์ ยทุ ธศาสตรก์ ลมุ่ นี้เปน็ ทางเลือกทอี่ าจสรา้ งผลลพั ธท์ เ่ี ปน็ เลศิ ได้ เนื่องจากตดั สนิ ใจเลือกลงทนุ และด�ำเนนิ การในโอกาสท่ี มศี กั ยภาพสงู ตง้ั แตเ่ น่ิ น ๆ อยา่ งไรกต็ าม แนวทางนี้กอ็ าจประสบกบั ความเสยี่ งสงู มาก เพราะอาจละเลย แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงส�ำคัญอื่น ๆ ทม่ี ีผลต่อทิศทางในอนาคต ยุทุ ธศาสตร์แ์ บบที่�่ 8 และ 9 เป็น็ ยุทุ ธศาสตร์เ์ ชิงิ รุกุ ที่อ�่ งค์ก์ รจะมุ่�งสร้า้ งภาพอนาคตที่พ่� ึึงประสงค์์ ด้ว้ ยตนเอง โดยใช้้ฉากทัศั น์ท์ ี่�่ดีีที่่�สุดุ เป็น็ กรอบและเป้า้ หมายของการพััฒนายุทุ ธศาสตร์์ แนวทางนี้้�ไม่ไ่ ด้้ พยายามปรัับเปลี่่ย� นเฉพาะทรััพยากรและปััจจััยอื่น� ๆ ภายในองค์ก์ ร แต่่มุ่�งหวังั ว่า่ จะนำ�ำ ไปสู่่�การปรัับ เปลี่่�ยนของสภาพแวดล้้อมหรืือระบบนิิเวศของการดำ�ำ เนิินกิิจการได้้ในที่�่สุุด สำำ�หรัับยุุทธศาสตร์์แนว ทนทานในกลุ่�มนี้้� จะพัฒั นาขึ้น� จากการทดสอบยุทุ ธศาสตร์ใ์ นสถานการณ์ห์ รืือฉากทัศั น์ต์ ่า่ ง ๆ แล้้วปรัับ องค์์ประกอบให้ส้ ามารถรัับมืือกัับความไม่่แน่น่ อนได้ม้ ากขึ้น� ตารางที่�่ 22 ประเภทของยุุทธศาสตร์ท์ ี่�่พัฒั นาตามฉากทััศน์์ ย ุุทธศาสตร ์์เช ิิงป ้้องก ััน ย ุุทธศาสตร ์์เช ิิงการวางแผน แนวทาง ยุทุ ธศาสตร์์แนวมุ่�งเป้้า ยุุทธศาสตร์แ์ นวทนทาน (focused strategies) (robust strategies) วัตั ถุุประสงค์์หลััก 1. ยุุทธศาสตร์แ์ นวการวางแผน 2. ยุุทธศาสตร์์แนวการวางแผนตา ปรับั ตััวตามแนวโน้ม้ ที่่เ� ห็็นใน ตามภาพอนาคตฐานที่ม่� ีีโอกาสเกิดิ มอนาคนฐานที่ม่� ีีโอกาสเกิิดสููงสุุด ปััจจุุบััน สูงู สุดุ แต่เ่ พิ่่ม� แผนสำ�ำ รองไว้้ จััดการกับั ความเสี่่�ยงที่จ่� ะเกิดิ ขึ้น� 3. ยุทุ ธศาสตร์์เชิิงรัับที่เ�่ น้น้ ภัยั 4. ยุทุ ธศาสตร์์ที่�เ่ น้น้ การลดความ คุกุ คามที่่ใ� หญ่ท่ ี่�่สุุด โดยใช้้เป็็นส่ว่ น เสี่ย�่ งให้ต้ ่ำ�ำ�ที่ส่� ุดุ โดยการเตรีียม หนึ่่�งของการบริิหารความเสี่�ย่ งของ พร้อ้ มสำำ�หรับั ภััยคุุกคามที่่ส� ามารถ องค์์กร ระบุุได้ใ้ นทุุกฉากทััศน์์ คงไว้ซ้ ึ่�่งความยืืดหยุ่่�น 5. ยุุทธศาสตร์์ที่เ�่ น้น้ ความยืืดหยุ่่�น จนกว่า่ จะปรากฏชััดว่่า อนาคตจะ มีีแนวโน้ม้ เป็น็ ไปตามฉากทัศั น์์ ไหน

207 การคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ แนวทาง ยุทุ ธศาสตร์์แนวมุ่�งเป้้า ยุุทธศาสตร์์แนวทนทาน (focused strategies) (robust strategies) วัตั ถุุประสงค์์หลััก 7. ยุทุ ธศาสตร์์ที่ม่�ุ่�งเน้น้ ไปที่�ก่ าร สร้า้ งโอกาสให้ม้ ากที่่ส� ุุด คว้า้ และใช้ป้ ระโยชน์จ์ ากโอกาส 6. ยุทุ ธศาสตร์เ์ ชิงิ รุุกที่ม่�ุ่�งไปที่�่ฉาก เพื่่�อความสำำ�เร็จ็ ในอนาคต ทััศน์ท์ ี่เ�่ ปิิดโอกาสสำ�ำ หรัับความ ย ุุทธศาสตร ์์เช ิิงร ุุก สำ�ำ เร็็จมากที่ส�่ ุุดในอนาคต สร้้างภาพอนาคตตามวิสิ ััยทัศั น์์ที่่� 8. ยุุทธศาสตร์เ์ ชิิงรุุกที่่�เลืือกฉาก 9. ยุุทธศาสตร์เ์ ชิิงรุุกที่่เ� ลืือกฉาก ตั้ �งไว้้ ทัศั น์์ที่่�ดีีที่่ส� ุุด โดยมุ่�งปรัับเงื่อ� นไขให้้ ทัศั น์ท์ ี่ด่� ีีที่ส�่ ุุด แต่่มีีแผนสำ�ำ รองไว้ใ้ น อนาคตเป็น็ ไปตามฉากทััศน์์ดังั กรณีีที่�เ่ กิดิ เป็็นฉากทัศั น์อ์ื่�น กล่า่ ว ที่ม่� า: Fink, Siebe, Hollman (2007). Figure 6. ไม่ว่ ่่าองค์ก์ รจะเลืือกแนวทางไหนในการพััฒนายุุทธศาสตร์์ก็็ตาม การวิิเคราะห์์ความทนทาน ของยุุทธศาสตร์์ภายใต้้ฉากทััศน์์ต่่าง ๆ จะช่่วยให้้คณะทำำ�งานสามารถระบุุองค์์ประกอบพื้้�นฐานของ ยุุทธศาสตร์์ที่่�มีีความทนทานได้้ ในการวางแผนยุุทธศาสตร์์ด้้วยฉากทััศน์์ คณะทำำ�งานสามารถใช้้องค์์ ประกอบพื้้�นฐานของยุุทธศาสตร์์ตามฉากทััศน์์ที่�่คิิดว่่าเกี่�่ยวข้้องและสำำ�คััญที่่�สุุด แล้้วผููกโยงหรืือผสม ผสานยุทุ ธศาสตร์เ์ หล่า่ นี้้ก� ัับแผน การพััฒนายุทุ ธศาสตร์จ์ ากฉากทัศั น์์ การวางแผนนโยบายแบบดั้้ง� เดิมิ ที่ใ�่ ช้แ้ พร่ห่ ลายอยู่�ทั่ว� ไปเป็น็ ไปตามกระบวนทัศั น์แ์ ละแนวทางแบบการ ทำำ�นายแล้ว้ ดำำ�เนินิ การแบบควบคุมุ (predict and control) ซึ่ง�่ โดยมากเริ่ม� จากการทำ�ำ นายว่า่ อนาคตจะ เป็น็ อย่า่ งไร จากนั้้น� จึึงตั้ง� วิสิ ัยั ทัศั น์ท์ ี่อ่� ยากให้เ้ กิดิ ขึ้น� แล้ว้ ระดมทรัพั ยากรและปัจั จัยั นำ�ำ เข้า้ ต่า่ ง ๆ เพื่่อ� ใช้้ กระบวนการทำ�ำ งานหรืือการผลิติ ที่อ่� ยู่่�ภายใต้ส้ ภาพสิ่ง� แวดล้อ้ มและเงื่อ� นไขที่ค�่ วบคุมุ ได้้ แนวทางและวิธิ ีี การวางแผนแบบนี้้อ� าจใช้้ได้ด้ ีีภายใต้้สถานการณ์ท์ ี่่�ปัจั จััยและเงื่�อนไขต่่าง ๆ มีีความแน่น่ อนและเสถีียร ระดับั หนึ่ง่� และไม่ม่ ีีการเปลี่ย่� นแปลงอย่า่ งรวดเร็็วมาก การทำ�ำ นายอนาคตด้ว้ ยการต่อ่ ยอดแนวโน้ม้ ของ การเปลี่�่ยนแปลงที่่�เป็น็ มาแต่่อดีีต (trend extrapolation) แสดงภาพอนาคตที่่เ� ข้า้ ใจได้้ง่า่ ยด้้วยวิธิ ีีการ ที่ไ�่ ม่ซ่ ับั ซ้อ้ นมาก จึึงเป็น็ ที่่น� ิยิ มกันั อยู่�ทั่�วไป อย่า่ งไรก็ต็ าม กระบวนทัศั น์แ์ ละวิธิ ีีการมองอนาคตและวางแผนตามแนวโน้ม้ มีีข้อ้ จำำ�กัดั หลักั อยู่� ที่่�ความสามารถในการรัับรู้้�ของมนุุษย์์ กล่่าวคืือ ในสภาพการณ์ท์ ี่ต�่ ้อ้ งทำำ�ความเข้า้ ใจและรัับมืือกัับความ ซับั ซ้อ้ นในโลกของความเป็น็ จริงิ มนุษุ ย์ม์ ักั ลดทอนความซับั ซ้อ้ นนั้้น� ลงในการรับั รู้้�และการวิเิ คราะห์ข์ อง ตนเอง เพื่่อ� ให้ส้ ามารถตัดั สินิ ใจได้ง้ ่า่ ย โดยมักั ลดความซับั ซ้อ้ นให้เ้ หลืือเพีียงทางเลืือกเป็น็ ทางใดทางหนึ่ง่� เพื่่�อให้้ได้้คำ�ำ ตอบว่่าใช่่หรืือไม่่ใช่่ หรืือเป็็นสีีขาวหรืือสีีดำ�ำ 46 แม้้ว่่าการลดทอนและย่่อส่่วนความซัับซ้้อน

การคาดการณ์เชงิ ยุทธศาสตร์ 208 ลงจะท�ำใหส้ ามารถท�ำความเขา้ ใจไดง้ า่ ยขึ้น แตแ่ นวทางดงั กลา่ วท�ำใหก้ ารมองภาพอนาคตมีความหลาก หลายน้อยลง และเมื่อผลลัพธ์จากการคาดการณ์ตามแนวโน้มได้รับการยอมรับและก�ำหนดเป็นวิสัย ทศั นข์ ององคก์ รโดยผนู้ �ำหรือผู้บรหิ ารองคก์ ร ซึง่ อาจมีกระบวนทศั น์และมมุ มองแบบเดิม คนอื่น ๆ ใน องค์กรอาจลังเลหรือไม่สามารถที่จะมองเห็นอนาคตที่แตกต่างและแปลกแยกออกจากวิสัยทัศน์ท่ีเป็น ทางการขององคก์ รได้ การยอมรบั ของผบู้ รหิ ารในวสิ ยั ทศั นท์ เี่ กดิ จากการคาดการณต์ ามแนวโนม้ ทเี่ ปน็ อยู่ในปัจจุบัน อาจท�ำให้การสนทนาเก่ียวกับอนาคตเป็นการซ่อนและปกปิดความเส่ียง มากกว่าการ คน้ หาและเปดิ เผยความเสย่ี ง47 ในโลกปััจจุุบัันที่�่ปััจจััยด้้านเทคโนโลยีี เศรษฐกิิจ สัังคม สิ่�งแวดล้้อมและการเมืืองเปลี่�่ยนไป อย่า่ งรวดเร็ว็ และคาดไม่ถ่ ึึง การวางแผนด้ว้ ยกระบวนทัศั น์แ์ บบเดิมิ ย่อ่ มมีีข้อ้ จำ�ำ กัดั และอาจสร้า้ งผลลัพั ธ์์ ที่ไ่� ม่เ่ ป็น็ ไปตามเป้้าประสงค์์ และในบางกรณีีอาจนำำ�ไปสู่่�วิิกฤติิการดำำ�รงอยู่�ขององค์ก์ ร หน่ว่ ยงาน หรืือ แม้แ้ ต่่มนุุษยชาติิ กระบวนทััศน์์การวางแผนแบบฉากทััศน์ท์ ี่่ใ� ห้้ความสำ�ำ คัญั กับั ความไม่่แน่น่ อนจึึงได้้รัับ ความสนใจและเป็น็ ที่น่� ิยิ มมากขึ้น� และเมื่อ� นักั วิเิ คราะห์ไ์ ด้พ้ ัฒั นาฉากทัศั น์แ์ ละยุทุ ธศาสตร์แ์ ล้ว้ ขั้น� ตอน ต่อ่ ไป คืือ การประเมินิ ว่า่ แต่ล่ ะยุทุ ธศาสตร์ส์ ามารถรับั มืือกับั สถานการณ์ท์ ี่แ่� ตกต่า่ งกันั ในแต่ล่ ะฉากทัศั น์์ ได้้ดีีมากน้อ้ ยต่า่ งกัันอย่า่ งไร อย่่างไรก็็ตาม ผู้้�วิเิ คราะห์์อาจใช้แ้ นวทางอื่น� ในการประเมิินและปรัับปรุงุ ยุุทธศาสตร์์ โดยการ ทดสอบความทนทานในแต่ล่ ะสถานการณ์์ โดยวิเิ คราะห์แ์ ละปรับั เปลี่ย�่ นองค์ป์ ระกอบของยุทุ ธศาสตร์ใ์ ห้้ เหมาะสม จนกระทั่่ง� สามารถเลืือกยุทุ ธศาสตร์ท์ ี่ค่� วรดำำ�เนิินการต่อ่ ไปอย่า่ งชัดั เจนมากขึ้น� หลักั การหนึ่ง�่ ของการสร้า้ งยุทุ ธศาสตร์์ในส่่วนนี้้� คืือ การเพิ่่�มความยืืดหยุ่่�นของยุทุ ธศาสตร์์ เพื่่�อลดปััจจััยเสี่่�ยงที่่�อาจ เกิิดขึ้น� ในแต่่ละฉากทััศน์์ แนวทางนี้้เ� รีียกว่า่ การทดสอบอุุโมงค์์ลม หรืือการทดสอบภาวะวิิกฤติิ (stress testing) ของยุุทธศาสตร์ห์ รืือนโยบายที่�่พััฒนามาแต่ต่ ้้น ซึ่ง�่ จะกล่า่ วรายละเอีียดการทดสอบอุโุ มงค์์ลม ในหัวั ข้้อถััดไป หนึ่่�งในกรอบแนวคิิดเบื้�้องต้้นที่่�ใช้้ในการแปลงแนวโน้้มและภาพอนาคตทางเลืือกมาเป็็น ยุุทธศาสตร์์และกิิจกรรมในการดำำ�เนิินการงานคืือ ความสััมพัันธ์์ระหว่่างความรู้�เกี่�่ยวกัับปััญหาและวิิธีี การแก้้ไข ซึ่�่งสามารถแสดงเป็น็ ตารางได้้ดัังนี้้�

209 การคาดการณ์เชงิ ยุทธศาสตร์ ตารางท่ี 23 มติ ิดา้ นความรู้ของปญั หาและทางออกในการก�ำหนดยทุ ธศาสตร์ ทางออก (4) (1) ไม ่่รู้� ค้น้ หาทางออก ตั้ง� คำ�ำ ถาม และการสนับั สนุุน ค้น้ หา วิิจัยั รู้� (3) (2) วางแผน รับั ฟังั ค้น้ หา ดำำ�เนิินการ กวาดสัญั ญาณ ติดิ ตาม สังั เกตการณ์์ รู้� ไม่่รู้� ปัญั หา ที่่ม� า: Pillkahn (2008), Figure 1 ในกรณีีที่่�ผู้้�วางแผนมีีข้้อมููลและความรู้�อยู่�แล้้วเกี่�่ยวกัับปััญหาที่�่สนใจและมีีทางออกอยู่�แล้้ว (ช่่องที่่� 3) ก็็สามารถวางแผนและดำำ�เนิินการต่่อไปได้้ แต่่ถ้้ายัังไม่่ทราบคำำ�ตอบหรืือวิิธีีการแก้้ไข (ช่อ่ งที่่� 4) ก็พ็ ยายามค้น้ หาทางออกนั้้น� ตััวอย่า่ งเช่น่ ในกรณีีที่ร่� ัฐั บาลท้อ้ งถิ่น� รัับรู้้�ปัญั หาน้ำ��ำ เสีียว่า่ เกิดิ มาจากแหล่ง่ ไหนด้ว้ ยสาเหตุอุ ะไร และทราบว่า่ ต้อ้ งดำำ�เนินิ การแก้ไ้ ขปัญั หานั้้น� อย่า่ งไร ก็ส็ ามารถวางแผน และดำำ�เนินิ การแก้ไ้ ขปัญั หาได้เ้ ลย แต่ถ่ ้า้ รู้�ถึงปัญั หาแต่ย่ ังั ไม่ท่ ราบคำ�ำ ตอบ ก็ต็ ้อ้ งพยายามทางออกและวิธิ ีี การแก้้ไขที่่เ� หมาะสม เช่น่ การวิิเคราะห์ข์ ้้อดีีข้อ้ เสีียของการสร้า้ งโรงบำำ�บััดน้ำ��ำ เสีีย การค้น้ หาเทคโนโลยีี ใหม่่ที่ล่� ดต้้นทุุน เป็น็ ต้น้ อย่่างไรก็็ตาม การสร้้างยุุทธศาสตร์์และวิิธีีการจะมีีความยากและซัับซ้้อนมากขึ้�น ในกรณีี ที่่�ปััญหายัังไม่่ปรากฏให้้เห็็นเลยหรืือไม่่เห็็นอย่่างชััดเจนมากพอที่�่จะสามารถระบุุและกำ�ำ หนดขอบเขต ได้้อย่่างแน่่ชััด แต่่กลัับมีีวิิธีีการหรืือทางออกบางอย่่างอยู่�แล้้ว (ช่่องที่�่ 2) เช่่น มีีการค้้นพบเทคโนโลยีี ใหม่่หรืือทรััพยากรใหม่่ แต่่ยัังไม่่ชััดเจนว่่าจะนำ�ำ เทคโนโลยีีนั้้�นไปใช้้ในการแก้้ไขปััญหาอะไร กิิจกรรม เชิิงยุุทธศาสตร์์ในกรณีีนี้้�จึึงเน้้นไปที่่�การค้้นหาช่่องทางหรืือความเป็็นไปได้้ในการประยุุกต์์ใช้้เทคโนโลยีี หรืือทรััพยากร ซึ่ง�่ รวมไปถึึงการกวาดสััญญาณและการติิดตามและสัังเกตการณ์์หาช่อ่ งทางและโอกาส ใหม่่ ๆ ไปพร้อ้ มกััน แต่ใ่ นกรณีีที่อ่� งค์ก์ รหรืือผู้้�วางแผนยังั ไม่รู่้�ทั้ง� ปัญั หาและทางออกอย่า่ งชัดั แจ้ง้ (ช่อ่ งที่�่ 1) อนาคต ข้า้ งหน้า้ จึึงเต็ม็ ไปด้ว้ ยความไม่แ่ น่น่ อน ในกรณีีนี้้� การวางแผนแบบดั้้ง� เดิมิ ที่ม�่ องภาพอนาคตเป็น็ เส้น้ ตรง และเชื่�อในความคงที่�่และความแน่น่ นอนของเหตุุการณ์์ในอนาคต จะไม่่สามารถใช้ก้ ารได้้อีีกต่่อไป โดย เฉพาะในโลกปััจจุุบัันที่่�การเปลี่่�ยนแปลงเกิิดขึ้�นอย่่างรวดเร็็ว และในหลายกรณีีเรายัังไม่่รู้�แม้้กระทั่่�งว่่า

การคาดการณ์เชงิ ยทุ ธศาสตร์ 210 อนาคตอนั ใกลน้ ี้จะเกดิ ปญั หาอะไรขึ้นบา้ ง ดว้ ยเหตนุ ี้ แนวทางและวธิ ีการแกไ้ ขปญั หาทใี่ ชอ้ ยใู่ นปจั จบุ นั จึงมโี อกาสสงู ที่จะใชไ้ มไ่ ดอ้ กี ตอ่ ไปในอนาคต การหาค�ำตอบในสถานการณเ์ ชน่ นี้จึงตอ้ งมาจากการวจิ ยั ซง่ึ เรม่ิ ตน้ จากการตัง้ ค�ำถาม การตงั้ สมมตฐิ าน และการเกบ็ ขอ้ มลู หรือลองผดิ ลองถกู เพอ่ื ใหไ้ ดค้ �ำตอบที่ ตอ้ งการ องค์ก์ รทุุกแห่่งไม่ว่ ่า่ ในภาครัฐั เอกชน หรืือประชาสัังคม ย่่อมมีีประสบการในการวางแผนมา ด้ว้ ยกันั ทั้้ง� สิ้น� แต่ก่ ารวางแผนที่ใ่� ห้ค้ วามสำ�ำ คัญั กับั ความไม่แ่ น่น่ อนถืือเป็น็ เรื่อ� งใหม่ส่ ำำ�หรับั องค์ก์ รจำำ�นวน มาก ท่า่ มกลางบริบิ ทความไม่แ่ น่น่ อนทางเศรษฐกิจิ สังั คม เทคโนโลยีี สิ่ง� แวดล้อ้ มและการเมืือง องค์ก์ ร ใดที่ต�่ ้อ้ งการพัฒั นายุทุ ธศาสตร์ด์ ้ว้ ยความรู้�ที่ม� ีีอยู่�อย่า่ งจำำ�กัดั เกี่ย�่ วกับั อนาคต ต้อ้ งเริ่ม� จากการยอมรัับว่า่ ไม่ว่ ่า่ องค์ก์ รจะเข้ม้ แข็ง็ และมีีทรัพั ยากรเท่า่ ไหร่่ ก็ไ็ ม่ม่ ีีทางที่จ�่ ะควบคุมุ ความไม่แ่ น่น่ อนที่เ�่ กิดิ ขึ้น� ทั้้ง� ภายใน และภายนอกองค์์กรได้้ทั้้�งหมด ในขณะเดีียวกััน การละเลย เพิิกเฉยและไม่่ยอมรัับรู้้�เกี่�่ยวกัับความไม่่ แน่น่ อน ก็ไ็ ม่ใ่ ช่ท่ างออกเช่น่ กันั ทั้้ง� สำ�ำ หรับั องค์ก์ รภาคเอกชนที่ต่� ้อ้ งต่อ่ สู้�และแข่ง่ ขันั อย่า่ งเข้ม้ ข้น้ กับั องค์ก์ ร อื่น� และสำ�ำ หรัับองค์์กรภาครัฐั และภาคประชาสังั คมที่ต�่ ้้องตอบโจทย์ค์ วามต้้องการของประชาชนและผู้� มีีส่่วนได้ส้ ่ว่ นเสีียที่เ่� พิ่่ม� มากขึ้น� และหลากหลายมากขึ้�น การที่่�องค์์กรใดองค์์กรหนึ่�่งเลืือกที่�่จะประยุุกต์์ใช้้แนวทางการคาดการณ์์เชิิงยุุทธศาสตร์์เพื่่�อ วางแผนยุุทธศาสตร์์ นััยหนึ่�่งคืือ ยอมรัับว่่าอนาคตเต็็มไปด้้วยความไม่่แน่่นอน แต่่ก็็เชื่�อว่่าองค์์กรยัังมีี ช่อ่ งทางในการพัฒั นายุทุ ธศาสตร์เ์ พื่่อ� รับั มืือหรืืออาจใช้ป้ ระโยชน์จ์ ากเหตุกุ ารณ์ไ์ ม่แ่ น่น่ อนที่อ่� าจเกิดิ ขึ้น� ในอนาคตได้้ ตารางที่�่ 24 แนวทางของยุุทธศาสตร์์ในการค้น้ หาปััญหาและทางออก ทางออก (4) (1) ไม ่่รู้� ค้้นหาทางออก ตั้�งคำ�ำ ถาม และการสนับั สนุนุ ค้้นหา วิจิ ััย รู้� (3) (2) วางแผน รัับฟังั ค้น้ หา ดำ�ำ เนินิ การ กวาดสััญญาณ ติดิ ตาม สังั เกตการณ์์ รู้� ไม่รู่้� ปััญหา ที่�ม่ า: Pillkahn (2008)

211 การคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ การพยากรณย์ อ้ นกลบั การคาดการณ์์เชิิงยุุทธศาสตร์์มีีทั้้�งที่่�เป็็นการคาดการณ์์เชิิงปฏิิฐาน (positive foresight) และการ คาดการณ์์เชิิงปทััสถาน (normative foresight) งานคาดการณ์์เชิิงยุุทธศาสตร์์จำ�ำ นวนมากเป็็นการ คาดการณ์เ์ ชิงิ สำ�ำ รวจ (exploratory) ซึ่ง�่ มุ่�งไปที่�่อนาคตที่อ�่ าจเกิดิ ขึ้น� ได้้ (possible futures) และเชื่อ� ว่า่ เกิดิ ขึ้น� ได้้ (plausible futures) จึึงเป็น็ การคาดการณ์เ์ ชิงิ ปฏิฐิ าน การศึึกษาในแนวทางนี้้เ� ริ่ม� จากการ วิเิ คราะห์แ์ นวโน้ม้ การเปลี่ย�่ นแปลงจากอดีีตจนถึึงปัจั จุบุ ันั แล้ว้ จึึงพยากรณ์ก์ ารเปลี่ย่� นแปลงไปสู่่�อนาคต การคาดการณ์แ์ นวนี้้ม� ีีทั้้ง� การคาดการณ์ภ์ าพอนาคตฐานตามแนวโน้ม้ ที่ผ่� ่า่ นมา และการคาดการณ์ภ์ าพ อนาคตทางเลืือก เช่่น การสร้้างฉากทััศน์์ ส่่วนการคาดการณ์์เชิิงปทััสถานหรืือบรรทััดฐานจะตั้�งคำ�ำ ถามว่่า อนาคตที่่�ปรารถนาหรืือพึึง ประสงค์เ์ ป็็นอย่่างไร การวิิเคราะห์ใ์ นแนวทางนี้้�เริ่�มจากการวาดภาพอนาคตที่พ�่ ึึงประสงค์์ แล้ว้ จึึงย้้อน กลัับมาเตรีียมแนวทางและกิิจกรรมในปััจจุุบัันที่่�คาดว่่าจะนำ�ำ ไปสู่่�อนาคตที่�่ต้้องการ การวางวิิสััยทััศน์์ (visioning) จึึงเป็็นองค์์ประกอบสำ�ำ คััญของการคาดการณ์ใ์ นแนวทางนี้้� การคาดการณ์์เชิิงยุทุ ธศาสตร์์ ที่�่เน้้นภาพอนาคตที่่�พึึงประสงค์์เป็็นที่�่นิิยมมากขึ้ �นในงานเขีียนและงานนโยบายเกี่�่ยวกัับการพััฒนาที่่� ยั่�งยืืนเนื่่�องจากภาพอนาคตที่่�ยั่�งยืืนเป็็นภาพอนาคตที่�่พึึงประสงค์์อยู่�แล้้ว วััตถุุประสงค์์หลัักของงาน คาดการณ์เ์ ชิงิ ปทัสั ถานคืือ การค้น้ หาเส้น้ ทางเชิงิ ยุทุ ธศาสตร์ใ์ นการเข้า้ ไปถึึงภาพอนาคตของความยั่ง� ยืืน และพึึงประสงค์์ หรืือป้้องกัันไม่่ให้้เกิิดภาพอนาคตที่�่ไม่่ยั่�งยืืนและไม่่พึึงประสงค์์ ทั้้�งนี้้�ทั้้�งนั้้�น โครงการ คาดการณ์์ที่่�เป็็นส่่วนหนึ่่�งของการวางแผนยุุทธศาสตร์์ขององค์์กรจำำ�นวนมากมัักผสมผสานการ คาดการณ์ท์ ั้้�ง 2 ประเภทเข้า้ ด้้วยกััน วิธิ ีีการหนึ่ง่� ในการสร้า้ งทางเลืือกเชิงิ ยุทุ ธศาสตร์เ์ พื่่อ� บรรลุภุ าพอนาคตที่พ�่ ึึงประสงค์์ คืือ การ พยากรณ์์ย้้อนกลัับ ซึ่�่งเป็็นตั้้�งหมุุดหมายไว้้ที่�่เป้้าหมายที่่�ต้้องการในอนาคต แล้้ววิิเคราะห์์ย้้อนกลัับ มาจนถึึงปััจจุุบัันว่่า นโยบาย แผนงาน โครงการ หรืือเหตุุการณ์์อะไรบ้้างที่�่เชื่�อมโยงภาพปััจจุุบัันกัับ อนาคตเข้า้ ด้้วยกันั แนวคิดิ และวิธิ ีีการนี้้�เสนอเป็น็ ครั้้�งแรกโดยจอห์น์ รอบินิ สันั (John Robinson) ใน พ.ศ. 253348 เพื่่อ� ใช้เ้ ป็น็ แนวทางที่ม่� าเสริมิ วิธิ ีีการพยากรณ์อ์ นาคตแบบดั้้ง� เดิมิ โดยเฉพาะในกรณีีที่ภ�่ าพ อนาคตนั้้�นมีีเป้้าหมายในเชิิงบรรทััดฐานหรืือเป็็นอนาคตที่่�พึึงประสงค์์อยู่�แล้้ว เช่่น อนาคตของความ ยั่�งยืืน เป็น็ ต้้น

การคาดการณเ์ ชิงยทุ ธศาสตร์ 212 ขอ้ แตกตา่ งทชี่ ดั เจนระหวา่ งการพยากรณไ์ ปขา้ งหนา้ (forecasting) กบั การพยากรณย์ อ้ นกลบั คือ แบบแรกเนน้ การตอ่ ยอดหรือปรบั แนวโนม้ ทม่ี อี ยใู่ นปจั จบุ นั ไปหาอนาคต ในขณะทแี่ บบหลงั เรมิ่ จาก การภาพอนาคตแลว้ ยอ้ นกลบั มาหาปจั จบุ นั และหาชอ่ งทางหรือทางออกวา่ จะตอ้ งด�ำเนนิ การอะไรบา้ ง ถึงจะเขา้ ไปหาภาพอนาคตน้ั นได้ อีกนยั หนึ่งคือ การพยากรณเ์ ปน็ การท�ำนายอนาคตของตัวแปรตามท่ี ไม่รคู้ ่า (unknown value) ด้วยตัวแปรต้นที่รคู้ า่ (known value) ในทางกลบั กัน การพยากรณ์ย้อน กลับคือการท�ำนายตวั แปรต้นท่อี าจมีอยู่ แต่ไมร่ คู้ า่ เพื่ออธิบายคา่ ของตวั แปรตาม49 การพยากรณ์์ย้้อนกลัับจึึงเน้้นการอธิิบายสถานการณ์์หรืือเหตุุการณ์์ที่่�ชััดเจน เฉพาะเจาะจง และเป็น็ ขั้้น� เป็็นตอนมากที่ส่� ุดุ เท่า่ ที่ม�่ ากได้ภ้ ายในเงื่อ� นไขที่ม่� ีีอยู่� เพื่่อ� แสดงถึึงเส้้นทางหรืือกลไกของการ เปลี่ย�่ นแปลงจากปััจจุุบันั ไปสู่่�อนาคตที่�่เป็น็ เป้า้ หมาย ข้้อสมมติสิ ำำ�คัญั ของแนวทางนี้้� คืือ การบรรลุุเป้า้ หมายในอนาคตสามารถดำ�ำ เนินิ การได้ห้ ลายแนวทาง แต่ล่ ะแนวทางทางมีีข้อ้ ดีีข้อ้ เสีียแตกต่า่ งกันั ออกไป แต่่จะมีีบางเหตุุการณ์์ บางปััจจััยที่�่เป็็นเงื่�อนไขสำำ�คััญของทุุกแนวทางหรืือหลายแนวทาง การทราบถึึง เงื่อ� นไขสำ�ำ คัญั ดัังกล่า่ วจะเป็น็ ประโยชน์์สำำ�หรับั การสร้้างยุทุ ธศาสตร์์ นโยบายหรืือกิิจกรรมที่่�รับั มืือและ ทนทานกับั สถานการณ์์ต่่าง ๆ ได้้ ในปััจจุุบััน การพยากรณ์์ย้้อนกลัับได้้รัับการประยุุกต์์ใช้้ในหลากหลายสาขา จนกลายเป็็น วิิธีีการพื้�้นฐานที่่�ใช้้อย่่างแพร่่หลายในโครงการคาดการณ์์เชิิงยุุทธศาสตร์์จำำ�นวนมาก โดยเฉพาะในงาน ด้้านความยั่�งยืืน ทั้้�งนี้้� ขั้น� ตอนที่่�เหมาะสมสำำ�หรัับการใช้้วิธิ ีีการพยากรณ์์ย้้อนกลัับคืือ เมื่�อคณะทำำ�งาน ได้ก้ ำ�ำ หนดภาพอนาคตที่พ่� ึึงประสงค์จ์ ากฉากทัศั น์ท์ างเลืือก และได้ก้ ำำ�หนดรายละเอีียดขององค์ป์ ระกอบ ของภาพที่ต่� ้อ้ งการในอนาคตแล้ว้ วัตั ถุปุ ระสงค์์ วััตถุปุ ระสงค์์หลักั ของการพยากรณ์ย์ ้อ้ นกลัับมีีดัังนี้้� 1. เข้า้ ใจเส้น้ ทางเลืือกที่ท่� ำำ�ให้้เกิดิ ฉากทััศน์ใ์ ดฉากทััศน์ห์ นึ่่ง� 2. พััฒนาทางเลืือกโดยอาศััยทฤษฎีกี ารเปลี่�่ยนแปลง (theory of change) 3. เข้้าใจถึึงผลลััพธ์์และผลกระทบที่่�อาจเกิิดจากเหตุุการณ์ภ์ ายนอก 4. สร้้างฐานความรู้้�สำ�หรัับการวางแผนยุุทธศาสตร์์และการบริิหารจััดการองค์์กร

213 การคาดการณ์เชงิ ยทุ ธศาสตร์ การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร เพอ่ื พยากรณย์ อ้ นกลบั การพยากรณย์ อ้ นกลับมักเนน้ กระบวนการมีส่วนรว่ มและการท�ำงานร่วมกันของผู้มสี ว่ นไดส้ ่วนเสยี ใน การระบเุ หตกุ ารณ์ นโยบายและยทุ ธศาสตรท์ ี่จ�ำเปน็ ในการบรรลภุ าพอนาคตทพ่ี งึ ประสงค์ คณะท�ำงาน อาจประชุมหารือภายในกลุ่มในการพยากรณ์ย้อนกลับ แต่วิธีการท่ีใช้อย่างแพร่หลายในโครงการคาด การณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรค์ ือ การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารกบั ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี และผเู้ ชยี่ วชาญทง้ั ในและนอก องค์กร เพือ่ พัฒนาทางเลือกของเส้นทางยุทธศาสตรท์ ี่จะบรรลุเปา้ หมายท่ตี ั้งไว้ เนื้�้อหาในส่่วนนี้้�แสดงตััวอย่่างขั้�นตอนในการดำำ�เนิินการประชุุมเชิิงปฏิิบััติิการเพื่่�อพยากรณ์์ ย้อ้ นกลัับเส้น้ ทางเข้า้ สู่�อนาคตที่�พ่ ึึงประสงค์์ การเตรีียมการ ก่อ่ นการจััดการประชุมุ เชิงิ ปฏิบิ ัตั ิิการเพื่่�อการพยากรณ์ย์ ้อ้ นกลัับ คณะทำำ�งานควรเตรีียมการดัังต่อ่ ไปนี้้� • บทสรุปขอบเขตการคาดการณ:์ ทงั้ ในเชิงหัวข้อ พื้นที่ ชว่ งเวลา ฯลฯ ทเี่ ปน็ กรอบของการ สรา้ งฉากทัศน์ • บทสรปุ ภาพอนาคต: ทัง้ ฉากทศั นท์ ่ีเป็นอนาคตทางเลือกและภาพอนาคตทพี่ ึงประสงค์ • รูปแบบ: การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการท่ีแบ่งเป็นกลุ่มย่อยประมาณกลุ่มละ 5-8 คน ขึ้นอยู่ กับจ�ำนวนกระบวนกรหลักและกระบวนกรประจ�ำกลุ่ม ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนอาจร่วมกัน วิเคราะห์ หรือแบ่งเป็นกลุ่มย่อย ขึ้นอยู่กับจ�ำนวนผู้เข้าร่วมประชุมและความละเอียดของ ผลลัพธ์ท่ตี อ้ งการ • ระยะเวลา: 1-2 วนั โดยขึ้นอย่กู บั ความละเอียดและครอบคลมุ ท่ตี ้องการ

การคาดการณ์เชงิ ยุทธศาสตร์ 214 • ผู้เข้าร่วมประชุม: ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียส�ำคัญท้ังภายในและภายนอกองค์กร โดยเฉพาะผู้น�ำ องค์กร เพ่ือให้เกิดความหลากหลายในด้านกรอบแนวคิดและมุมมอง และความรู้สึกเป็น เจา้ ของและการยอมรบั ในกระบวนการ เพอื่ น�ำไปสกู่ ารด�ำเนนิ การจรงิ ตอ่ ไป ในขณะเดยี วกนั ก็ ตอ้ งมผี เู้ ชย่ี วชาญในดา้ นทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เพอ่ื ใหข้ อ้ มลู ทใี่ ชใ้ นการประเมนิ ในการพยากรณย์ อ้ นกลบั มีความนา่ เชอื่ ถือและตง้ั อยู่บนหลักฐานหรือข้อมูลเชิงประจกั ษท์ เี่ ชื่อถือได้ • พ้ืนที่จัดประชุม: ควรกว้างขวางมากพอส�ำหรับให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถลุกเดินไปมาได้ ถ้าหากมกี ลุ่มย่อยหลายกล่มุ ก็ควรมีระยะห่างระหว่างกลุ่ม เพื่อไม่ไดเ้ สียงดงั รบกวนกนั ได้ • อปุ กรณส์ �ำหรบั การประชมุ : กระดานไวทบ์ อรด์ หรือกระดานฟลบิ ชารท์ พรอ้ มกระดาษ ปากกา เมจิก กระดาษโพสต์อิท นอกจากนี้ คณะท�ำงานควรเตรียมแผนภาพของการพยากรณ์ย้อน กลับพร้อมเส้นตรงแสดงช่วงเวลาและเส้นเวลา (timeline) ไว้บนผนังห้องหรือบนกระดาน ไวทบ์ อร์ด โดยแบง่ ช่วงเวลาท่ีเหมาะสม เชน่ ทกุ ๆ 5 ปี หรือ 2 ปี ขั้้�นตอนการประชุุม การประชุุมเชิงิ ปฏิบิ ัตั ิิการเพื่่อ� การพยากรณ์ย์ ้้อนกลัับ โดยมากแบ่ง่ เป็็นขั้้น� ตอนดังั นี้้� แนะนำำ�กระบวนการ • กระบวนกรอธิบายแนวคิดพื้นฐานและกระบวนการพยากรณ์ย้อนกลับ พร้อมตัวอย่างจาก โครงการคาดการณอ์ ื่นก่อนหน้านี้ อธิิบายฉากทัศั น์์และวิสิ ัยั ทัศั น์์หรือื อนาคตที่่�พึึงประสงค์์ • กระบวนกรอธิบายประเดน็ หลกั ของการคาดการณ์ รวมถึงขอบเขตการคาดการณ์ ทัง้ ในเชิง เนื้อหา ช่วงเวลา พื้นที่ ฯลฯ แล้วจึงอธบิ ายรายละเอียดเกี่ยวกับฉากทัศน์และวิสยั ทศั นท์ ่ไี ด้ พัฒนามาก่อนหน้านี้ โดยอาจแจกเป็นเอกสารประกอบให้กับผู้เข้าร่วมประชุม เพื่อใช้เป็น เอกสารอา้ งอิงในการวิเคราะหเ์ พอื่ พยากรณย์ อ้ นกลบั • ท้ังนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมควรมีความเข้าใจอย่างชัดเจนในองค์ประกอบของฉากทัศน์หรือวิสัย ทัศน์ทใี่ ช้เปน็ หมดุ หมายของการพยากรณ์ย้อนกลับ ถ้าหากวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั คือ การบรรลุ วิสัยทัศน์ ก็ควรช้ีแจงให้ชัดเจนว่า เป้าหมายในวิสัยทัศน์น้ั นประกอบด้วยอะไรบ้าง ถ้าหาก วตั ถุประสงค์ คือ การวเิ คราะห์ฉากทัศน์ กค็ วรระบุวา่ องค์ประกอบอะไรในฉากทัศน์ทีเ่ ปน็ สงิ่ ท่พี ึงประสงค์และสิง่ ใดทไ่ี มพ่ ึงประสงค์ รวมถึงนยั และผลกระทบทม่ี ีตอ่ องค์กร พื้นทีห่ รือเป้า หมายของการวางแผนยทุ ธศาสตร์ • หากการพยากรณ์ย้อนกลับมีโจทย์เป็นฉากทัศน์หลายฉาก ก็ควรแบ่งผู้เข้าร่วมประชุมเป็น กลุ่�มย่อ่ ย และให้้แต่ล่ ะกลุ่�มวิิเคราะห์ค์ นละฉาก

215 การคาดการณเ์ ชิงยทุ ธศาสตร์ วิเคราะห์ความแตกตา่ งส�ำคญั ระหวา่ งภาพอนาคตกับภาพปัจจบุ ัน • ในข้ั นตอนนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมระดมสมองเพ่ือระบคุ วามแตกต่างส�ำคญั ระหว่างภาพอนาคตที่ ตอ้ งการวเิ คราะหก์ บั ภาพปจั จบุ นั ทสี่ งั เกตเหน็ ไดอ้ ยา่ งชดั เจน การวเิ คราะหส์ ว่ นนี้อาจมขี อ้ มลู ท่ี ไดม้ าจากการวเิ คราะหใ์ นชว่ งแรกของงานคาดการณ์ การวเิ คราะหส์ ว่ นนี้อาจใชก้ รอบแนวคดิ STEEPV หรืือมุ่�งไปที่่�พฤติิกรรมหรืือกิิจกรรมของผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียในองค์์กรหรืือระบบที่�่ ต้อ้ งการศึึกษา • ตัวอย่างค�ำถามที่สามารถใช้ได้ในการอภิปรายในส่วนนี้ ได้แก่ ปัญหาหรือข้อจ�ำกัดอะไรท่ี สามารถแก้ไขได้แล้วในภาพอนาคต ปัญหาอะไรเกิดขึ้นใหม่ เทคโนโลยีและนวัตกรรมอะไร เกิดขึ้นในภาพนั้น โครงสร้างประชากร เศรษฐกจิ สังคมและการเมอื งในภาพนั้นแตกต่างจาก ภาพปจั จบุ นั อยา่ งไร อะไรทเ่ี ปลี่ยนแปลงไป นโยบายหรือกรอบกฎหมายอะไรทเี่ กดิ ขึ้นในภาพ น้ั น ผ้คู นในเวลาน้ั นใชช้ ีวิตกนั อยา่ งไร เป็นต้น จากนั้นจึงย้อนกลับมาดภู าพในปจั จุบนั แลว้ ถามต่อวา่ อุปสรรคอะไรที่กีดขวางภาพในปัจจบุ นั กับภาพอนาคตนั้น พัฒั นาเส้้นทางการพยากรณ์ย์ ้อ้ นกลัับ • ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ กรอกรายละเอยี ดลงในตารางพยากรณย์ อ้ นกลบั หรืออาจเขยี นลงในแผน่ กระ ดาษโพสตอ์ ทิ แลว้ น�ำไปแปะบนแผนภาพบนผนงั หอ้ งหรือกระดานทเ่ี ตรียมไวก้ อ่ นหนา้ นี้ โดย เรม่ิ จากการระบุเหตุการณห์ รือองค์ประกอบที่คิดว่าจะเกิดขึ้นในภาพอนาคตกอ่ น จากนั้นจึง คอ่ ย ๆ ยอ้ นกลับมาทีละข้ั นทีละตอนจนถงึ เวลาปัจจุบัน โดยวิเคราะหว์ า่ อะไรเป็นเงือ่ นไขท่ี ต้องเกิดก่อนหนา้ นั้น ไม่วา่ จะเปน็ เหตุการณ์ ปรากฏการณ์ ปัจจยั นโยบายหรือกจิ กรรมอะไร กไ็ ด้ ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ สามารถเสนอความคดิ ไดห้ ลากหลายและมากทสี่ ดุ เทา่ ที่จะท�ำไดภ้ ายใน เวลาทก่ี �ำหนดไว้ • เม่ือได้พยากรณ์ย้อนกลับมาจนถึงเวลาปัจจุบันแล้ว ให้พิจารณาย้อนกลับจากปัจจุบันไปหา อนาคตอีกครงั้ หนึ่ง เพ่อื ตรวจทานทีละขั้นตอนว่า เหตุการณ์ กจิ กรรมและเง่อื นไขต่าง ๆ ทไ่ี ด้ ระบุไว้น้ั นสมเหตุสมผลแลว้ หรือไม่ ทงั้ ในเชงิ สาเหตุและผลลพั ธ์ และในเชิงช่วงเวลา • เมื่อได้เส้นทางหนึ่งแล้ว จึงด�ำเนินกระบวนการนี้ซ�้ำต้ังแต่ต้นอีกคร้ังหนึ่ง โดยหาทางเลือกท่ี จะท�ำให้เกิดภาพอนาคตเดียวกันได้และไม่ซ�้ำกับทางเลือกก่อนหน้านี้ จนได้เส้นทางของการ พยากรณย์ อ้ นกลับจ�ำนวนมากท่สี ุดภายในเวลาท่ีมีอยู่ • สมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ อาจเลือกที่จะเนน้ หวั ขอ้ หรือประเดน็ ทสี่ นใจเปน็ พเิ ศษ เชน่ บางคนอาจ เนน้ เรื่องประชากรและสังคม ในขณะที่คนอื่นอาจเน้นเรื่องเทคโนโลยี เศรษฐกจิ ส่ิงแวดลอ้ ม และการเมอื ง เปน็ ตน้ หรือถา้ ขอบเขตการคาดการณม์ ีความชดั เจนและเฉพาะเจาะจงอยแู่ ลว้ กอ็ าจเนน้ ไปในแตล่ ะเรื่องได้ เชน่ ในการพยากรณย์ อ้ นกลบั ภาพอนาคตมหาวทิ ยาลยั ในอกี 20 ขา้ งหนา้ ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ บางคนอาจเนน้ เรื่องการเรียนการสอน บางคนอาจเนน้ เรื่องการวจิ ยั โครงสรา้ งพื้นฐาน การเงิน หรือการบรหิ ารจัดการดา้ นบคุ คล เป็นต้น

การคาดการณ์เชิงยทุ ธศาสตร์ 216 อภิปรายเหตุการณ์ส�ำคญั ในแต่ละเสน้ ทาง • ในกลมุ่ เหตกุ ารณ์ ปจั จยั และเงอ่ื นไขทไ่ี ดร้ ะบมุ า บางเหตกุ ารณอ์ าจมีนยั ส�ำคญั เปน็ พเิ ศษทถี่ อื เปน็ หมดุ หมายส�ำคัญของเสน้ ทางไปส่อู นาคต ทั้งในเชิงผลกระทบท่ีมีตอ่ ภาพอนาคตโดยรวม และเป็็นเงื่�อนไขจำำ�เป็็นในการเกิิดขึ้�นของเหตุุการณ์์อื่�น ๆ ตามมา คำ�ำ ถามสำ�ำ คััญสำำ�หรัับการ อภิปิ รายในส่ว่ นนี้้� คืือ จะทำำ�อย่า่ งไรเพื่่อ� ให้เ้ หตุกุ ารณ์ห์ รืือปัจั จัยั นั้้น� เกิดิ ขึ้น� ได้จ้ ริงิ หรืือมีีโอกาส เกิดิ ขึ้�นมากขึ้น� คำ�ำ ถามที่�่ผู้�เข้้าร่่วมประชุุมสามารถใช้ใ้ นการอภิปิ รายในส่่วนนี้้ม� ีีตััวอย่่างดังั นี้้� • ส�ำหรบั เหตกุ ารณ/์ ปจั จยั ทไ่ี ดร้ ะบวุ า่ เปน็ หมดุ หมายส�ำคญั ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ สามารถตง้ั ค�ำถาม ว่า องค์กรหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคนไหนควรเข้ามามีส่วนร่วมส�ำคัญในการผลักดันให้เกิด เหตกุ ารณแ์ ละภาพอนาคตนั้น และใครบา้ งที่จะได้รบั ผลกระทบจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกดิ ขึ้นตามแนวทางน้ั น • จากน้ั นจึงถามต่อว่า นโยบาย มาตรการหรือกิจกรรมอะไรบ้างที่ควรเพิ่มเติมเข้าไป เพ่ือให้ เหตุการณ์หรือปัจจัยท่ีเป็นหมุดหมายส�ำคัญน้ั นเกิดขึ้นได้จริง ใครบ้างที่ควรเข้ามามีส่วนร่วม และผลักดันให้เกิดนโยบายหรือมาตรการเพ่มิ เติมในส่วนนี้ มีอุปสรรคอะไรบ้างที่จะจ�ำเป็น ตอ้ งจัดการเพือ่ ใหเ้ กดิ นโยบายและมาตรการเหล่านั้น • ทา้ ยสดุ จึงถามค�ำถามวา่ กจิ กรรมหรือมาตรการอะไรบา้ งทตี่ อ้ งหรือควรด�ำเนนิ การในปจั จบุ นั อะไรบา้ งท่ีสามารถด�ำเนินการไดเ้ ลย ใครบา้ งที่ควรเขา้ มามีสว่ นร่วมในงานดงั กลา่ ว และมีข้ั น ตอนในการด�ำเนนิ การอะไรบ้าง • เมอื่ ไดว้ เิ คราะหป์ ระเดน็ เหลา่ นี้แลว้ ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ จึงวเิ คราะหแ์ ละอภปิ รายตอ่ วา่ เหตกุ ารณ์ หรือปัจจัยใดประมาณ 3-5 ปจั จัยที่มีผลกระทบและนยั ส�ำคญั ท่ีสดุ ส�ำหรบั เสน้ ทางแต่ละสาย ที่น�ำไปสู่ภาพอนาคตท่ีต้ังเป็นเป้าหมายไว้ และปัจจัยใดบ้างท่ีมีความส�ำคัญในเส้นทางหลาย สาย ซ่งึ ส่ือวา่ เป็นปจั จัยทท่ี นทานหรือสามารถใช้ไดใ้ นหลายสถานการณ์ สรุุปและกำำ�หนดงานขั้้น� ต่่อไป • กระบวนกรสรุปผลลัพธ์ท่ีแสดงออกมาเป็นเส้นทางไปสู่อนาคต และเหตุการณ์และปัจจัยที่ เงอ่ื นไขส�ำคญั ของการเกดิ ภาพอนาคต และอธบิ ายการน�ำผลผลติ ดงั กลา่ วไปใชใ้ นการก�ำหนด รายละเอยี ดของยุทธศาสตรใ์ นข้ั นตอนตอ่ ไป

217 การคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ การวเิ คราะหเ์ สน้ ทาง อนาคตสามชว่ ง อีีกวิิธีีการหนึ่�่งที่่�ช่่วยแปลงภาพฉากทััศน์์ในอนาคตและอนาคตที่�่พึึงประสงค์์ออกมาเป็็นยุุทธศาสตร์์ นโยบายและมาตรการที่ค่� วรดำ�ำ เนินิ การ คืือ การวิเิ คราะห์เ์ ส้น้ ทางอนาคตสามช่ว่ ง (Three Horizons) ซึ่ง่� เน้น้ การทำำ�ความเข้า้ ใจว่า่ สิ่ง� ใดบ้า้ งที่ต่� ้อ้ งดำ�ำ เนินิ การปรับั เปลี่ย่� น เพื่่อ� ให้ภ้ าพอนาคตสามารถเปลี่ย่� นแปลง ไปได้ต้ ามที่ต่� ้้องการในระยะสั้�น ระยะกลางและระยะยาว แนวคิิดพื้้�นฐานของวิธิ ีีการนี้้ค� ล้า้ ยคลึึงกัับวิธิ ีี การพยากรณ์ย์ ้อ้ นกลัับที่�อ่ ธิิบายไปก่่อนหน้้านี้้� ในประเด็น็ ที่�ท่ ั้้ง� 2 วิิธีีการพยายามวิิเคราะห์์และอธิบิ าย ว่่า ภาพอนาคตจะมีีวิิวััฒนาการเปลี่�่ยนแปลงไปได้้อย่่างไรบ้้าง ข้้อแตกต่่างที่ส�่ ำ�ำ คัญั คืือ วิิธีีการเส้น้ ทาง อนาคตสามช่่วงแสดงความแตกต่่างระหว่่างภาพปััจจุุบัันที่่�จะเสื่�อมถอยหรืือลดความสำำ�คััญลงไป ภาพ อนาคตที่ก่� ำำ�ลังั เกิดิ ขึ้น� และมีีนัยั ของการเปลี่ย�่ นแปลงที่ส่� ำ�ำ คัญั และภาพของช่ว่ งเวลาของการเปลี่ย�่ นผ่า่ น (transition) ระหว่่างภาพปัจั จุบุ ันั กัับภาพอนาคต ตามที่่แ� สดงในแผนภาพที่่� 16 เส้น้ ทางอนาคตสามช่ว่ งดังั กล่า่ วอธิิบายได้ด้ ัังนี้้� เส้้นทางอนาคตที่่� 1 (H1) เน้้นเหตุุการณ์์ ปรากฏการณ์์หรืือปััจจััยที่�่พบเห็็นและรัับรู้้� อยู่�ในปัจั จุบุ ันั และโดยทั่่ว� ไปมักั ยึึดถืือว่า่ จะดำ�ำ เนินิ ต่อ่ ไปเรื่อ� ย ๆ ในอนาคตโดยแทบไม่ม่ ีีการเปลี่ย่� นแปลง สำ�ำ คััญ กรอบคิิดของช่่วงเวลานี้้ค� ืือการรักั ษาเสถีียรภาพให้้คงอยู่่�ต่อ่ ไป อย่า่ งไรก็ต็ าม ปรากฏการณ์ห์ รืือ ปััจจัยั ที่ว�่ ่่านี้้จ� ะลดความนิยิ ม คุุณค่า่ หรืือเสื่�อมถอยจนล้า้ สมััยไปในอนาคต เส้้นทางอนาคตที่�่ 2 (H2) เน้้นการปรัับเปลี่่�ยนทีีละเล็็กทีีละน้้อย รวมถึึงกิิจกรรมหรืือ เหตุกุ ารณ์ท์ ี่�ต่ ่อ่ ต้้านการเปลี่ย่� นแปลง และสิ่ง� ใหม่่ ๆ หรืือนวััตกรรมที่่�สร้า้ งโอกาสจากการเปลี่ย�่ นแปลง ที่เ�่ กิดิ ขึ้น� สิ่ง� ที่เ่� กิดิ ขึ้น� ในช่ว่ งนี้้เ� ป็น็ ทางเลืือกที่อ�่ าจยอมรับั ได้้ ถ้า้ เปรีียบเทีียบกับั เส้น้ ทางการเปลี่ย�่ นแปลง แบบเส้น้ ทางช่่วงเวลาที่่� 1 แต่ก่ ็็นัับว่่าเป็น็ เพีียงช่ว่ งเปลี่ย�่ นผ่่านเข้า้ ไปหาเส้้นทางช่่วงที่่� 3 เส้้นทางอนาคตที่่� 3 (H3) เน้้นการเปลี่่�ยนแปลงครั้้�งใหญ่่ที่�่ก้้าวพ้้นภาพจำ�ำ ที่่�มีีมาแต่่เดิิม โดยรื้อ้� สร้้างธรรมเนีียมปฏิิบัตั ิิ โครงสร้้างและกระบวนการดั้้ง� เดิมิ รวมถึึงข้อ้ สมมติิและความเชื่�อที่่�มีีอยู่� ในปััจจุุบััน สััญญาณของการเปลี่่�ยนแปลงนี้้�มีีทั้้�งเหตุุการณ์์หรืือปััจจััยที่�่เริ่�มพบเห็็นอย่่างชััดเจนแล้้วใน ปัจั จุบุ ันั และปัจั จัยั หรืือกิจิ กรรมที่เ่� ริ่ม� เห็น็ อยู่่�บ้า้ งแล้ว้ และยังั ไม่เ่ ป็น็ กระแสหลักั แต่ม่ ีีโอกาสและศักั ยภาพ ที่จ�่ ะแพร่่ขยายและเพิ่่�มความสำำ�คัญั ต่่อไปได้ใ้ นอนาคต

การคาดการณเ์ ชงิ ยุทธศาสตร์ 218 แผนภาพที่�่ 16 กรอบแนวคิดิ ของเส้้นทางอนาคตสามช่่วง วัตั ถุุประสงค์์ ในกระบวนการคาดการณ์เ์ ชิงิ ยุทุ ธศาสตร์์ วิธิ ีีการวิเิ คราะห์์ 3 ช่่วง สามารถใช้้ได้ต้ ามวััตถุุประสงค์์ดังั นี้้� 1. วิเิ คราะห์แ์ ละสร้า้ งรายละเอีียดของฉากทัศั น์โ์ ดยเน้น้ พลวัตั การเปลี่ย�่ นแปลงขององค์ป์ ระกอบ ฉากทัศั น์์ 2. ทำำ�ความเข้้าใจเกี่่�ยวกับั แนวโน้ม้ และปัจั จัยั ที่ท่� ำำ�ให้เ้ กิิดการเปลี่�่ยนแปลง 3. พััฒนายุุทธศาสตร์์ที่�่พร้้อมในการคว้้าโอกาสและรัับมืือกัับความเสี่่�ยงที่่�เกิิดจากแนวโน้้มและ กระบวนทััศน์ท์ ี่อ�่ าจพลิกิ ผันั ไปในแต่ล่ ะช่ว่ งเวลาในอนาคต ตัวั อย่า่ งที่น�่ ำำ�เสนอในแผนภาพที่่� 17 แสดงเส้น้ ทางอนาคตสามช่ว่ งของการทำำ�งานบริกิ ารแบบ อิิสระในมหานครกรุุงเทพ จะเห็็นได้้ว่่า ผลการวิิเคราะห์์แบ่่งประเด็็น เหตุุการณ์์ และมาตรการหรืือ นวัตั กรรมออกเป็น็ 5 กลุ่�มด้ว้ ยกันั กลุ่�มแรกเป็น็ ภาพปัจั จุุบันั (H1) คืือ ปัจั จััยหรืือแนวโน้้มที่�่น่่าเป็น็ ห่่วง ที่�่เริ่ม� ปรากฏเห็็นชััดขึ้�นแล้ว้ ในปััจจุบุ ััน เช่่น งานภาคอุุตสาหกรรมที่่เ� ริ่�มลดความสำำ�คััญลงและจะหายไป ในอนาคต อีีกกลุ่�มหนึ่ง่� เป็น็ ปัจั จัยั ที่เ่� ห็น็ ว่า่ ควรรักั ษาไว้ใ้ นอนาคต แม้ว้ ่า่ ตามแนวโน้ม้ ปัจั จุบุ ันั (H1) ปัจั จัยั เหล่่านี้้อ� าจลดคุุณค่า่ หรืือลดน้อ้ ยถอยลงไป เช่่น วัฒั นธรรมไทยภายใต้้บริิบทความหลากหลาย เป็น็ ต้้น

219 การคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ ส�ำหรบั ภาพอนาคตตามเสน้ ทางอนาคตที่ 3 (H3) เปน็ ภาพอนาคตตามฉากทศั นท์ พ่ี งึ ประสงค์ มีตัวอย่างขององค์ประกอบ ได้แก่ แรงงานท่ีมีทักษะทั้งด้านภาษาและเทคโนโลยี และการมีสัญญา ประชาคมรปู แบบใหมส่ �ำหรบั คนท�ำงานอสิ ระ เปน็ ตน้ ในเสน้ ทางอนาคตเดยี วกนั นี้ มกี ลมุ่ ที่ปจั จยั ทเี่ กดิ ขึ้นแลว้ และนา่ สนบั สนนุ และตอ่ ยอดตอ่ ไป และเปน็ ปจั จยั ที่นา่ จะมพี ฒั นาการกลายเปน็ แนวโนม้ ส�ำคญั ในอนาคต เชน่ เศรษฐกจิ ฐานแพลตฟอร์ม คนท�ำงานหลังวยั เกษียณ เป็นต้น สำำ�หรับั ในช่ว่ งเปลี่ย�่ นผ่า่ นบนเส้น้ ทางอนาคตที่่� 2 ปัจั จัยั และมาตรการที่จ�่ ะเชื่อ� มเส้น้ ทางอนาคต ที่�่ 1 กัับเส้้นทางอนาคตที่�่ 3 มีีตััวอย่่างเป็็นแนวคิิดและนวััตกรรมที่่�น่่าสนใจ เช่่น การสร้้างหมายเลข ประจำ�ำ ตัวั ดิิจิิทััลของประชาชนทุกุ คน (National Digital ID) บล็็อกเชนสำำ�หรัับการเงินิ ระหว่า่ งประเทศ และศูนู ย์ด์ ิิจิิทัลั ชุมุ ชน เป็็นต้น้ แผนภาพที่�่ 17 ตัวั อย่่างผัังเส้น้ ทางอนาคตสามช่ว่ งของภาพอนาคตงานบริิการในเมือื ง ที่�ม่ า: ว่า่ น และอภิวิ ัฒั น์์ (2563)

การคาดการณเ์ ชิงยุทธศาสตร์ 220 การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร ในการวเิ คราะหเ์ สน้ ทาง อนาคตสามชว่ ง การวิเิ คราะห์์อนาคตสามช่่วงเน้น้ การระดมสมองและอภิิปรายในกลุ่�มผู้�เข้้าประชุุม เพื่่�อค้น้ หาและระบุุ ประเด็็นและปััจจัยั ที่�่สำ�ำ คััญในแต่ล่ ะช่่วงเวลาในอนาคต ตามกรอบฉากทัศั น์์ที่พ�่ ััฒนามาก่่อนหน้า้ นี้้� การเตรีียมการ ก่อ่ นการจัดั การประชุมุ เชิงิ ปฏิบิ ััติกิ ารเพื่่อ� การวิิเคราะห์เ์ ส้น้ ทางอนาคตสามช่ว่ ง คณะทำำ�งานควรเตรีียม การดัังต่่อไปนี้้� • บทสรุปฉากทัศน:์ การวเิ คราะห์เสน้ ทางอนาคตสามช่วงอาจมุง่ วเิ คราะห์ฉากทศั น์ แนวโน้ม หรือปัจจัยขับเคลื่อนเป็นฐานของการวิเคราะห์ก็ได้ ค�ำอธิบายในส่วนนี้จะยกตัวอย่างการใช้ ฉากทศั นท์ พ่ี ฒั นามากอ่ นหนา้ นี้ หรืออาจเปน็ ฉากทศั นท์ พ่ี ฒั นาโดยผอู้ ื่นแตม่ เี นื้อหาทเี่ กย่ี วขอ้ ง และมากพอที่จะน�ำมาใชเ้ ปน็ ฐานการวเิ คราะหต์ อ่ ได้ โดยอาจรวมถงึ วสิ ยั ทศั นห์ รืออนาคตทพี่ งึ ประสงคห์ รือไมก่ ็ได้ บทสรุปฉากทัศนค์ วรแสดงความแตกตา่ งอย่างชัดเจนมากพอทีผ่ เู้ ข้าร่วม ประชมุ จะเหน็ ถงึ ความแตกตา่ งระหวา่ งฉากทศั นต์ า่ ง ๆ • ขอบเขตการวิเคราะห์: คณะท�ำงานควรก�ำหนดค�ำถามท่ีชัดเจนและเฉพาะเจาะจงส�ำหรับ การวิเคราะห์เส้นทางอนาคตสามช่วง เช่น อนาคตของมหาวิทยาลัยภูมิภาคในประเทศไทย จะเป็นอย่างไร หรือองค์กรภาคเอกชนของไทยควรสร้างขีดความสามารถด้านไหนบ้างใน อนาคต เป็นต้น ส่วนช่วงเวลาของการวิเคราะห์อาจเป็นไปตามขอบเขตเวลาของการคาด การณ์ท่กี �ำหนดไว้ตอนต้น เชน่ 20 ปี หรือก�ำหนดชว่ งเวลาท่สี นใจส�ำหรับการวางยุทธศาสตร์ ซึ่งอาจสั้นหรือยาวกว่า 20 ปกี ไ็ ด้

221 การคาดการณเ์ ชิงยุทธศาสตร์ • รปู แบบ: การจดั ประชุมเชิงปฏบิ ตั กิ ารแบบกลมุ่ ย่อย • ระยะเวลา: ครึ่งวันหรือ 1 วัน โดยขึ้นอยกู่ บั ความละเอยี ดและครอบคลุมทตี่ อ้ งการ • ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ : ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ส�ำคญั โดยเนน้ คนภายในองคก์ รทเ่ี กยี่ วขอ้ งในการพฒั นา และด�ำเนนิ การตามยทุ ธศาสตรแ์ ละแผน เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความหลากหลายในกรอบแนวคดิ และมมุ มอง และเพอื่ สรา้ งความร้สู กึ เป็นเจ้าของและการยอมรบั ในกระบวนการ เพอ่ื ใหย้ ทุ ธศาสตร์ และแผนน�ำไปสกู่ ารด�ำเนินการจริงต่อไป • พื้นที่จัดประชุม: ควรกว้างขวางมากพอส�ำหรับให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถลุกเดินไปมาได้ ถ้้าหากมีีกลุ่�มย่่อยหลายกลุ่�ม ก็ค็ วรมีีระยะห่่างระหว่่างกลุ่�ม เพื่่อ� ไม่ไ่ ด้้เสีียงดัังรบกวนกัันได้้ • อุปกรณ์ส�ำหรับการประชุม: กระดานขาวหรือกระดานฟลิบชาร์ทพร้อมกระดาษ ปากกา เมจิกกระดาษโพสตอ์ ิท ขั้้�นตอนการประชุมุ การประชุุมเชิงิ ปฏิบิ ััติิการเพื่่อ� วิิเคราะห์์เส้้นทางอนาคตสามช่ว่ ง มีีขั้้น� ตอนดัังต่อ่ ไปนี้้� แนะนำำ�กระบวนการ • กระบวนกรอธบิ ายแนวคิดพื้นฐานและกระบวนการวเิ คราะหเ์ สน้ ทางอนาคตสามช่วง พร้อม ตวั อย่างของการประเมินยทุ ธศาสตรด์ ้วยวธิ ีการดงั กลา่ วจากโครงการอื่นกอ่ นหน้านี้ • กระบวนกรอธิบายท่ีมาและรายละเอยี ดของฉากทศั น์ ตามเอกสารสรุปฉากทศั นท์ ่แี จกให้กบั ผู้เข้าประชุม ข้ั นตอนนี้อาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง เพื่อให้ผู้เข้าประชุมเข้าใจในรายละเอียด ของฉากทัศน์ หากส่งเอกสารให้ผู้เข้าประชุมเพื่อท�ำความเข้าใจไว้ก่อนหน้าวันประชุม ก็จะ ช่วยรน่ เวลาสว่ นนี้ลงได้ สรุปุ ภาพความเป็็นมาจากอดีีต • ในกลมุ่ รวมหรือกลมุ่ ยอ่ ย ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ แลกเปลี่ยนความคดิ เกย่ี วกบั ภาพการเปลี่ยนแปลง ของประเด็นคาดการณ์ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา การย้อนกลับไปดูการเปลี่ยนแปลงจากอดีต จนถงึ ปจั จบุ นั จะชว่ ยใหผ้ เู้ ขา้ ประชมุ มฐี านคดิ ส�ำหรบั การมองภาพการเปลี่ยนแปลงในอนาคต สำำ�รวจภาพปััจจุุบััน (H1) • ในกลุ่มย่อย ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ ระดมสมองในการส�ำรวจวา่ ภาพปจั จุบันเปน็ อยา่ งไร โดยแต่ละ คนเขยี นประเดน็ ลงในกระดาษโพสตอ์ ทิ โดยเลือกใชค้ นกระดาษคนละสสี �ำหรบั คนละชว่ งเวลา • ค�ำถามส�ำคัญที่สามารถใช้ชี้น�ำการสนทนาได้แก่ สภาพปัจจุบันของเรื่องที่สนใจเป็นอย่างไร ขอ้ สมมตแิ ละเงอื่ นไขท่ยี ดึ ถอื กนั อย่ใู นปจั จบุ นั คืออะไร

การคาดการณ์เชงิ ยทุ ธศาสตร์ 222 สำำ�รวจภาพอนาคต (H3) • ผู้เข้าประชุมระดมสมองในการส�ำรวจว่าภาพอนาคตจะเป็นอย่างไรได้บ้าง โดยย้อนกลับไป พิจารณาประเด็นหลัก ข้อสมมติและเง่ือนไขที่ระบุไว้ในฉากทัศน์ โดยเขียนลงบนกระดาษ โพสตอ์ ทิ อีกสหี นึ่ง • ค�ำถามส�ำคัญที่สามารถใช้ชี้น�ำการสนทนา ได้แก่ อะไรใหม่เกิดขึ้นบ้างในอนาคตที่แตกต่าง อย่างส้ิ นเชิงจากปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี นวัตกรรม กระบวนทัศน์ หรือวิถีชีวิตและ กิจกรรมของผู้คน ส่ิงใดหรือเหตกุ ารณใ์ ดที่น่าตื่นเตน้ น่ากลวั หรือนา่ เป็นหว่ ง • นอกจากความเห็นของผ้เู ข้ารว่ มประชมุ แลว้ อาจเพิม่ ประเดน็ เกีย่ วกับอนาคตที่น่าสนใจและ ท้าทายทเี่ สนอโดยผู้น�ำด้านความคดิ และนวัตกรทมี่ ีชอื่ เสียง สำำ�รวจภาพการเปลี่�ย่ นผ่่าน (H2) • ผู้เข้าประชุมระดมสมองเพ่ือค้นหาว่า อะไรต้องเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงบ้างในการปรับ เปลี่ยนจากเสน้ ทาง H1 ไปหาเสน้ ทาง H3 หรือเหตกุ ารณอ์ ะไรอาจเกดิ ขึ้นไดบ้ า้ งในการเปลี่ยน เส้นทางน้ั น และจะมีวิวฒั นาการตอ่ ไปอยา่ งไร • อกี ชดุ ค�ำถามหนึ่งทชี่ ี้น�ำการสนทนาคือ เหตกุ ารณห์ รือนวตั กรรมทเี่ กดิ ขึ้นในเสน้ ทางอนาคตที่ 3 ทา้ ทายความเชอ่ื หรือขอ้ สมมตใิ ดบา้ งในปจั จบุ นั และองคก์ รหรือผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี จะสามารถ ท�ำอะไรไดบ้ ้างเพือ่ ควา้ โอกาสและรบั มอื กบั ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงน้ั น สำำ�รวจสััญญาณในปัจั จุุบััน • ผู้เข้าประชุมระดมสมองเพื่อระบุว่า องค์ประกอบหรือปัจจัยอะไรบ้างท่ีเกิดขึ้นขึ้นแล้ว ในปัจจุบัน และเร่ิมก�ำหนดทิศทางและเรื่องราวในฉากทัศน์ตามเส้นทางอนาคตที่ 3 ยก ตัวอยา่ งเชน่ ในฉากทศั นท์ พ่ี รรคการเมอื งสเี ขียว (Green Party) เป็นพรรคการเมืองส�ำคัญ ในประเทศไทยใน พ.ศ. 2580 อาจมีสญั ญาณที่ปรากฏเห็นบ้างแล้วในปัจจุบัน เช่น นโยบาย การหาเสยี งในการเลือกตง้ั ทใ่ี หค้ วามส�ำคญั กบั สง่ิ แวดลอ้ ม การรณรงคบ์ รโิ ภคสนิ คา้ ทมี่ แี บรนด์ ของความยง่ั ยืน เป็นต้น ระบุุสิ่�งที่่ค� วรรัักษาไว้้ในอนาคต • การวิเคราะห์เส้นทางอนาคตสามช่วงยังรวมถึงการระบุว่า องค์ประกอบหรือปัจจัยอะไรใน ปัจจุบันที่ควรยังคงรักษาไว้ เพื่อให้ระบบมีเสถียรภาพหรือด้วยเหตุผลบางประการที่ผู้มีส่วน ไดส้ ว่ นเสยี เหน็ วา่ ส�ำคญั ตวั อยา่ งเชน่ ในฉากทศั นข์ องการเงนิ การธนาคารในอนาคตที่ธรุ กรรม จ�ำนวนมากเกิดขึ้นในโลกเสมือน ความทา้ ทายคือ จะรกั ษาความเชื่อมโยงอยา่ งระหวา่ งความ นา่ เชือ่ ถือดา้ นเครดติ กบั การระบตุ ัวตน (identity) ของผูใ้ ช้บริการอย่างไร

223 การคาดการณเ์ ชงิ ยุทธศาสตร์ ทบทวนผลการวเิ คราะห์ • เมื่อผู้เข้าประชุมได้เติมรายละเอียดบนแผนผังเส้นทางอนาคตสามช่วงได้มากพอสมควรแล้ว จึงรว่ มแลกเปลี่ยนและอภิปรายกนั ในประเด็นดงั ตอ่ ไปนี้ ความทา้ ทายในปจั จุบนั - ความทา้ ทายส�ำคญั มอี ะไรบา้ ง ปจั จยั ใดทเี่ รม่ิ เสอ่ื มถอยและลดความนยิ มลงแลว้ ในปจั จบุ นั - ข้อสมมติ ความเชื่อและเงื่อนไขในปัจจุบันอะไรบ้างที่จะถูกท้าทายหรือล้มล้างโดยการ เปลี่ยนแปลงท่ีเกดิ ขึ้นในเส้นทางอนาคตที่ 2 และ 3 - ปัจจัยอะไรบา้ งที่ในท่สี ดุ จะถดถอยและหายจากไป ถา้ เกดิ การเปลี่ยนแปลงขึ้นจริง นวตั กรรมและแนวคิดใหม่ในอนาคต - การเปลี่ยนแปลง นวัตกรรม หรือแนวคิดอะไรที่สร้างโอกาสและผลลัพธ์ที่น่าพึงประสงค์ มากทส่ี ดุ - วิธีการใดบ้างที่จะใช้แนวคิด เทคโนโลยีหรือเหตุการณ์ใหม่ที่เริ่มเกิดขึ้นแล้ว ในการสร้าง สนิ คา้ การบรกิ าร หรือขดี ความสามารถใหมไ่ ดอ้ ยา่ งไร เพอื่ ตอบรบั กบั ความตอ้ งการทเ่ี รมิ่ เกดิ ขึ้นแล้วหรือที่คาดวา่ จะเกดิ ขึ้นใหม่ในอนาคต - รูปแบบองค์กรหรือการบริหารจัดการแบบใหม่ใดบ้างที่อาจเข้ามาแทนที่รูปแบบเดิมใน ปัจจบุ ัน ปจั จัยที่ควรรักษาไว้ - องคป์ ระกอบหรือปจั จยั ในปจั จุบนั อะไรบา้ งที่ควรตอ้ งรกั ษาไว้ในอนาคต • ผู้เข้าประชุมอภิปรายเพื่อก�ำหนดว่า กิจกรรมใดควรด�ำเนินการในระยะส้ั น ระยะกลางและ ระยะยาว เพอื่ การเปลี่ยนผ่านไปสูภ่ าพอนาคตทีพ่ งึ ประสงค์ สรุปและขน้ั ตอนต่อไป • กระบวนกรสรุปผลผลิตท่ีได้จากการประชุม และชี้แจงถึงแนวทางในการใช้ผลผลิตดังกล่าว ในงานขั้นตอ่ ไป

การคาดการณเ์ ชิงยุทธศาสตร์ 224 การวเิ คราะหส์ วอตและโทวส์ การวิเิ คราะห์ส์ วอต (SWOT Analysis) เป็น็ วิธิ ีีการใช้อ้ ย่า่ งแพร่ห่ ลายมากที่ส่� ุดุ วิธิ ีีการหนึ่ง่� ในการวางแผน ยุุทธศาสตร์์ ทั้้�งในองค์์กรเอกชนสำำ�หรัับการกำ�ำ หนดยุุทธศาสตร์์ทางธุุรกิิจ องค์์กรภาครััฐสำ�ำ หรัับการ วางแผนนโยบายสาธารณะ และองค์์กรภาคประชาสังั คมในการทำำ�งานขับั เคลื่่�อน คำ�ำ ว่า่ SWOT ย่่อมา จากคำ�ำ ว่า่ Strengths, Weaknesses, Opportunities, Threats ซึ่ง่� หมายถึึงปััจจัยั ภายในองค์ก์ รที่เ่� ป็็น จุุดแข็็งและจุุดอ่่อน และปััจจััยภายนอกองค์์กรที่่�เป็็นโอกาสและภััยคุุกคาม การวิิเคราะห์์สวอตมุ่�งไป ที่ก่� ารค้้นหาและจััดกลุ่�มปัจั จัยั สำำ�คัญั ทั้้�ง 4 กลุ่�มที่ก�่ ำำ�ลัังเกิดิ ขึ้น� กัับองค์ก์ รหรืือพื้น้� ที่่�ศึึกษา การวิิเคราะห์์ สวอตมีีแปลเป็็นภาษาไทยว่า่ การวิเิ คราะห์ส์ ภาพแวดล้้อมและศัักยภาพบ้้าง หรืือการวิเิ คราะห์ส์ ภาวะ แวดล้้อมบ้้าง ในที่น่� ี้้� ขอใช้้ทับั ศัพั ท์ว์ ่า่ การวิิเคราะห์ส์ วอต เนื่่�องจากเป็น็ คำำ�ที่ร่�ู้�จักอย่่างแพร่ห่ ลายแล้ว้ ในทางกลัับกััน การวิิเคราะห์โ์ ทวส์์ (TOWS Analysis) เป็็นวิิธีีการวิเิ คราะห์ท์ ี่พ�่ ััฒนาต่อ่ เนื่่อ� ง มาจากการวิเิ คราะห์ส์ วอต แต่ก่ ลับั มุมุ มองและขั้น� ตอนของการวิเิ คราะห์์ โดยเริ่ม� จากการวิเิ คราะห์ป์ ัจั จัยั และสถานการณ์ภ์ ายนอกก่อ่ น แล้้วจึึงย้้อนกลัับเข้า้ มาวิิเคราะห์จ์ ุุดแข็็งและจุดุ อ่่อนภายในองค์์กร ผลผลิิตจากการวิิเคราะห์์สวอตและโทวส์์จะเป็็นประโยชน์์สำ�ำ หรัับองค์์กรในการเพิ่่�มลดและ ปรัับเปลี่�่ยนทรััพยากรและขีีดความสามารถไปตามสภาพแวดล้้อมและการแข่่งขัันที่�่เปลี่่ย� นแปลงไป จึึง เป็็นวิิธีีการหนึ่่�งที่�่นิิยมใช้้ในการวางแผนยุุทธศาสตร์์ เช่่นเดีียวกัับวิิธีีการแบบอื่่�น การวิิเคราะห์์สวอตไม่่ ได้้มีีประโยชน์์เพีียงเป็็นเครื่่�องมืือสำ�ำ หรัับการวิิเคราะห์์ แต่่เป็็นเครื่่�องมืือหนึ่่�งในการบริิหารจััดการและ พััฒนาธุุรกิิจองค์์กรอย่่างต่่อเนื่่�อง และยัังเป็็นเครื่่�องมืือในการสร้้างกระบวนการมีีส่่วนร่่วมของผู้้�มีีส่่วน ได้้ส่่วนเสีีย ทั้้ง� ภายในและภายนอกองค์์กรหรืือพื้น้� ที่�่ศึึกษา การวิิเคราะห์์สวอตและโทวส์์โดยพื้้�นฐานคืือ การเก็็บ ประมวลและวิิเคราะห์์ข้้อมููลเกี่�่ยวกัับ ปัจั จัยั ภายในและภายนอกองค์ก์ รที่ม่� ีีผลกระทบหรืืออาจมีีผลกระทบต่อ่ การพัฒั นาองค์ก์ รหรืือพื้น้� ที่เ�่ ป้า้ หมาย เมื่อ� จำำ�แนกและวิเิ คราะห์ป์ ัจั จัยั ที่แ�่ สดงถึึงจุดุ แข็ง็ จุดุ อ่อ่ น โอกาสและภัยั คุกุ คามแล้ว้ จึึงนำำ�ผลการ วิเิ คราะห์ม์ าสร้า้ งยุทุ ธศาสตร์แ์ ละชุดุ กิจิ กรรมที่ต�่ ้อ้ งดำำ�เนินิ การ โดยอาจเน้น้ การเสริมิ สร้า้ งจุดุ แข็ง็ เพื่่อ� คว้า้ โอกาสให้เ้ ป็็นประโยชน์์ พร้้อมกับั รับั มืือกัับภัยั คุกุ คามภายนอกและจำำ�กัดั ข้้อด้อ้ ยหรืือจุุดอ่อ่ นที่่�มีีอยู่�

225 การคาดการณ์เชงิ ยทุ ธศาสตร์ วิธีการวเิ คราะห์สวอตและโทวสอ์ าจไม่ใชเ่ ครื่องมือการคาดการณ์เลยทีเดยี วนัก เนื่องจากไม่ ได้มุ่งไปที่การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในอนาคตและการฉายภาพอนาคต แต่ถือเป็นวิธีการท่ีใช้เสริม ไดใ้ นกระบวนการคาดการณ์ ทัง้ ในชว่ งแรกของกระบวนการคาดการณท์ ส่ี ามารถใชว้ ธิ ีการนี้ในการเปดิ ประเด็นเรื่องความทา้ ทายและโอกาสต่าง ๆ ทีอ่ งคก์ รก�ำลังประสบอยู่ หรือในช่วงหลังทีใ่ ชผ้ ลผลิตจาก การวเิ คราะหจ์ ุดแขง็ และจดุ ออ่ นขององคก์ รเปรียบเทยี บกับผลผลิตของการคาดการณ์ ทง้ั อนาคตฐาน และอนาคตทางเลือก ผลการวิเคราะหฉ์ ากทศั น์เพือ่ คน้ หาโอกาสและความเสี่ยง และยังช่วยให้ผลการ วิเคราะหโ์ อกาสและความเสยี่ งจากการวเิ คราะหส์ วอต มีความละเอียดและคมชัดมากยง่ิ ขึ้น แนวทางการวิเิ คราะห์์ กรอบแนวคิิดที่�่ใช้้ในการวิิเคราะห์์สวอตและโทวส์์โดยพื้�้นฐานคืือ การตอบคำำ�ถามเกี่่�ยวกัับจุุดแข็็ง จุุด อ่่อน โอกาส และภััยคุุกคามที่่�องค์์กรหรืือพื้้�นที่�่ศึึกษากำำ�ลัังประสบอยู่� โดยเก็็บรวบรวมข้้อมููลทั้้�งระดัับ ปฐมภูมู ิิและทุุติยิ ภูมู ิิ เพื่่อ� ประมวลและวิิเคราะห์์ออกมาเป็น็ ตารางเปรีียบเทีียบ จุุดแข็ง็ คำ�ำ ถามหลััก ได้้แก่่ องค์์กรหรืือพื้้�นที่่ศ� ึึกษามีีข้อ้ ได้เ้ ปรีียบอะไร สามารถทำำ�อะไรได้ด้ ีี มีี ทรัพั ยากรสำ�ำ คัญั อะไรบ้า้ งที่ส่� ามารถเข้า้ ถึึงได้แ้ ละที่ค่�ู่�แข่ง่ ไม่ม่ ีีหรืือมีีน้อ้ ยกว่า่ และบุคุ คลภายนอกมองว่า่ องค์ก์ รหรืือพื้น�้ ที่ศ่� ึึกษามีีจุดุ แข็ง็ อะไรบ้า้ ง การวิเิ คราะห์จ์ ุดุ แข็ง็ ควรเน้น้ มุมุ มองของตนเองไปพร้อ้ มกับั มุมุ มองของผู้�อื่น� ที่ม�่ ีีส่ว่ นได้ส้ ่ว่ นเสีียกับั องค์ก์ รหรืือพื้น้� ที่ศ�่ ึึกษา รวมถึึงการเปรีียบเทีียบกับั คู่่�แข่ง่ เพื่่อ� แสดงถึึง ระดับั จุดุ แข็ง็ ที่แ�่ ท้จ้ ริงิ ยกตัวั อย่า่ งเช่น่ ในการวิเิ คราะห์จ์ ุดุ แข็ง็ ของมหาวิทิ ยาลัยั ในการวางแผนยุทุ ธศาสตร์์ ผู้้�วิเิ คราะห์ส์ วอตอาจมองว่่า มหาวิิทยาลััยมีีจุดุ แข็็งอยู่่�ที่�หลัักสูตู รมีีความน่่าสนใจ แต่่ถ้า้ มหาวิิทยาลััยที่่� เป็น็ คู่่�แข่ง่ ทั้้ง� หมดล้้วนแล้ว้ แต่่มีีหลัักสููตรที่น�่ ่า่ สนใจเช่น่ กััน ในกรณีีนี้้� หลัักสูตู รที่�่น่่าสนใจจึึงไม่ใ่ ช่เ่ ป็น็ จุุด แข็ง็ ของมหาวิทิ ยาลััย แต่่เป็น็ ปััจจััยพื้น้� ฐานของมหาวิทิ ยาลัยั จุุดอ่่อน ตััวอย่่างคำำ�ถามในส่่วนนี้้�ได้้แก่่ โครงสร้้างพื้้�นฐานหรืือทรััพยากรอะไรที่�่องค์์กรไม่่มีี หรืือมีีน้อ้ ยกว่า่ คนอื่่น� กิจิ กรรมหรืือผลผลิติ ใดขององค์ก์ รที่ย่� ังั ไม่ค่ ่อ่ ยมีีคุณุ ภาพที่ด่� ีี อะไรบ้า้ งที่ย�่ ังั สามารถ ปรับั ปรุงุ ได้้ และอะไรบ้า้ งที่ค่� วรหลีีกเลี่ย�่ ง เช่น่ เดีียวกับั การวิเิ คราะห์จ์ ุดุ แข็ง็ การวิเิ คราะห์ส์ ่ว่ นนี้้ค� วรเน้น้ ทั้้�งมุุมมองจากภายในและภายนอกองค์์กรไปพร้้อมกััน โดยพยายามเปรีียบเทีียบว่่า สิ่�งที่�่คนภายนอก มองเกี่ย�่ วกัับองค์์กรนั้้�น เหมืือนหรืือแตกต่่างจากสิ่ง� ที่ค่� นภายในองค์ก์ รเห็็น พร้อ้ มกันั นี้้� ก็็ควรพยายาม เก็็บข้อ้ มูลู เพื่่�อเปรีียบเทีียบกัับคู่่�แข่ง่ โอกาส คำำ�ถามในเรื่อ� งนี้้ไ� ด้แ้ ก่่ โอกาสอะไรบ้า้ งที่เ�่ กิดิ ขึ้น� แล้ว้ ภายนอกองค์ก์ ร และแนวโน้ม้ อะไร ที่เ�่ กิดิ ภายนอกที่น่� ่า่ สนใจสำ�ำ หรับั องค์ก์ ร โอกาสที่ว่� ่า่ นี้้อ� าจเกิดิ ขึ้น� จากการพัฒั นาด้า้ นเทคโนโลยีีและการ เปลี่ย�่ นแปลงของตลาด ทั้้ง� ในระดับั โลกและระดับั ท้อ้ งถิ่น� ใกล้ต้ ัวั รวมถึึงการเปลี่ย่� นแปลงด้า้ นประชากร และสังั คม วิถิ ีีชีีวิติ ของผู้้�คน เหตุกุ ารณ์ใ์ หม่่ ฯลฯ นอกจากนี้้� การเปลี่ย่� นแปลงของนโยบายรัฐั ก็อ็ าจสร้า้ ง โอกาสใหม่ใ่ ห้ก้ ับั องค์ก์ รได้เ้ ช่น่ กันั อีีกแนวทางหนึ่ง่� ในการวิเิ คราะห์โ์ อกาสคืือ การย้อ้ นกับั ไปดูจู ุดุ แข็ง็ ของ

การคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ 226 องค์กร แล้วถามว่าหากเสริมจุดแข็งดังกล่าวได้ จะเปิดหรือเพิ่มโอกาสอะไรได้บ้าง ในทางกลับกันก็ อาจกลบั ไปวเิ คราะห์จดุ ออ่ น แลว้ ถามวา่ ถา้ สามารถลดหรือก�ำจัดจุดอ่อนได้ จะเปิดโอกาสอะไรให้กับ องค์กรได้บา้ ง ภัยั คุกุ คาม คำ�ำ ถามสำำ�หรับั ส่ว่ นนี้้� ได้แ้ ก่่ องค์ก์ รกำำ�ลังั ประสบอุปุ สรรคอะไรบ้า้ ง การเปลี่ย่� นแปลง ของปััจจััยภายนอกอะไรบ้้างที่่�ผลกระทบต่่อองค์์กร เช่่น การเปลี่่�ยนแปลงด้้านเทคโนโลยีี ประชากร เศรษฐกิจิ สังั คม และนโยบายของรัฐั องค์ก์ รมีีปัญั หาเรื่อ� งทรัพั ยากรหรืือไม่่ ทั้้ง� ด้า้ นการเงินิ และบุคุ ลากร คู่�แข่่งทำำ�อะไรบ้้างที่่�อาจทำ�ำ ให้้เกิิดผลกระทบต่่อองค์์กร และจุุดอ่่อนที่่�มีีอยู่่�จะกลายเป็็นภััยคุุกคามต่่อ องค์์กรหรืือไม่่ การวิิเคราะห์์ตามคำำ�ถามเหล่่านี้้�จะช่่วยให้้องค์์กรสามารถมองเห็็นภาพของปััญหาที่่�เกิิด ขึ้�นได้ช้ ัดั เจนขึ้้น� การวิเิ คราะห์ส์ วอตและโทวส์ต์ ้อ้ งมุ่�งไปที่ส�่ ภาพที่เ่� กิดิ ขึ้น� จริงิ นักั วิเิ คราะห์จ์ ึึงต้อ้ งพยายามรักั ษา มุุมมองที่�่เป็น็ กลางมากที่่ส� ุดุ เพื่่อ� ให้้ผลการวิิเคราะห์์ไม่่โน้ม้ เอีียงไปตามความคิดิ ที่�อ่ ยากเห็น็ องค์์กรเป็็น แบบใดแบบหนึ่่�ง แม้้ว่่าผลการวิิเคราะห์์อาจไม่่เป็็นที่�่พอใจของผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียในองค์์กรบ้้างก็็ตาม อนึ่ง่� การวิิเคราะห์ส์ วอตและโทวส์เ์ น้น้ การใช้ห้ ลักั ฐานเชิิงประจักั ษ์์ ซึ่ง�่ อาจต้้องใช้เ้ วลาและทรัพั ยากรใน การเก็บ็ รวมรวมและประมวลข้อ้ มูลู นักั วิเิ คราะห์ท์ ี่ร่� ับั หน้า้ ที่น่� ี้้จ� ึึงต้อ้ งได้ร้ ับั การสนับั สนุนุ อย่า่ งเต็ม็ ที่จ่� าก องค์ก์ ร และควรมีีความรู้�และประสบการณ์์ในการวิเิ คราะห์์ การวิเิ คราะห์ส์ วอตและโทวส์ใ์ นแต่ล่ ะด้า้ นอาจเพิ่่ม� ความละเอีียดโดยการประเมินิ ระดับั ความ สำ�ำ คัญั ของแต่ล่ ะปัจั จัยั ได้้ เช่น่ อาจแบ่ง่ จุดุ แข็ง็ จุดุ อ่อ่ นเป็น็ ระดับั สูงู กลาง และต่ำำ�� ส่ว่ นการประเมินิ โอกาส และภัยั คุกุ คาม ก็อ็ าจประเมินิ ด้ว้ ยเกณฑ์ร์ ะดับั ความเป็น็ ไปได้ใ้ นการเกิดิ ขึ้น� และเกณฑ์ร์ ะดับั ผลกระทบ ที่�อ่ าจเกิิดขึ้�นกัับองค์์กร จะเห็็นได้้ว่่า การประเมินิ ในส่่วนหลังั นี้้� จะคล้า้ ยคลึึงกัับการประเมิินปััจจัยั ขับั เคลื่่อ� นในขั้้�นตอนการกวาดสััญญาณในกระบวนการคาดการณ์์ ไม่ว่ ่า่ คณะทำำ�งานจะเลืือกขั้�นตอนการวิเิ คราะห์เ์ ป็็นแบบ SWOT หรืือ TOWS ก็็ตาม ขั้�นตอน สำำ�คัญั ในการนำ�ำ ผลการวิเิ คราะห์ใ์ นแต่ล่ ะด้า้ นไปพัฒั นาเป็น็ ยุทุ ธศาสตร์ต์ ่อ่ คืือ การไขว้ผ้ ลลัพั ธ์แ์ ต่ล่ ะหัวั ข้อ้ เข้า้ ด้ว้ ยกันั จนได้อ้ อกมาเป็น็ ตารางกลุ่�มยุทุ ธศาสตร์ท์ ี่แ�่ ตกต่า่ งกันั ซึ่ง�่ แบ่ง่ ออกเป็น็ 4 กลุ่�ม (ตารางที่่� 25) ดัังนี้้� - ยุุทธศาสตร์์เชิงิ รุุก เป็น็ การไขว้้จุุดแข็ง็ ภายในกัับโอกาสภายนอก โดยตั้�งคำำ�ถามว่า่ องค์์กรจะ สามารถใช้จ้ ุดุ แข็ง็ ที่ม�่ ีีอยู่�เพื่่�อคว้้าและใช้ป้ ระโยชน์จ์ ากโอกาสภายนอกได้อ้ ย่า่ งไร - ยุุทธศาสตร์เ์ ชิงิ แก้ไ้ ข เป็็นการไขว้้จุดุ อ่่อนภายในกับั โอกาสภายนอก โดยตั้ง� คำ�ำ ถามว่า่ องค์์กร จะใช้้โอกาสที่�่มีีอยู่่�ภายนอกในการลดจุดุ อ่อ่ นได้อ้ ย่า่ งไร - ยุุทธศาสตร์เ์ ชิิงป้้องกันั เป็็นการไขว้้จุุดแข็ง็ ภายในกับั ภััยคุุกคามจากภายนอก โดยตั้�งคำำ�ถาม ว่่า จะใช้้จุุดแข็ง็ ที่ม่� ีีอยู่�ในการหลีีกเลี่�ย่ งหรืือลดผลกระทบจากภัยั คุกุ คามภายนอกได้้อย่า่ งไร - ยุทุ ธศาสตร์เ์ ชิงิ รับั เป็น็ การไขว้จ้ ุดุ อ่อ่ นภายในกับั ภัยั คุกุ คามจากภายนอก โดยตั้ง� คำ�ำ ถามว่า่ จะ ลดจุดุ อ่่อนที่�่มีีอยู่�ให้เ้ หลืือน้อ้ ยที่�่สุุดและหลีีกเลี่่ย� งภััยคุกุ คามไปพร้้อมกัันได้้อย่า่ งไร

227 การคาดการณเ์ ชิงยุทธศาสตร์ ตารางที่่� 25 ประเภทยุทุ ธศาสตร์์ตามการไขว้้ SWOT/TOWS ปัจั จัยั ภายใน จุุดแข็็ง (S) จุุดอ่่อน (W) โอกาส (O) ยุทุ ธศาสตร์์เชิิงรุกุ (SO) ยุทุ ธศาสตร์เ์ ชิิงแก้ไ้ ข (WO) ป ััจจ ััยภายนอก ภ ััยค ุุกคาม (T) ยุุทธศาสตร์์เชิงิ ป้อ้ งกััน (ST) ยุทุ ธศาสตร์เ์ ชิงิ รับั (WT) ผลผลิติ ผลการวิิเคราะห์์สวอตมัักออกมาเป็็นรููปแบบตารางที่�่เปรีียบเทีียบและแสดงภาพรวมของจุุดแข็็ง จุุด อ่่อน โอกาสและภััยคุุกคามที่�่สำำ�คััญที่่�สุุดสำ�ำ หรัับองค์์กรหรืือพื้้�นที่่�ศึึกษา และคำ�ำ อธิิบายประเด็็นต่่าง ๆ โดยคร่า่ วพร้้อมหลัักฐานเชิิงประจัักษ์ท์ ี่อ่� าจเป็็นตััวเลขหรืือเป็น็ บทสรุปุ ความเห็็น หากดำ�ำ เนิินการไขว้้ประเด็น็ ต่่าง ๆ เข้้าด้้วยกันั แบบวิิธีีการโทวส์์ ก็จ็ ะได้ต้ ารางยุุทธศาสตร์์ 4 กลุ่�มที่ส�่ ามารถประเมินิ และเลืือกใช้ไ้ ด้ต้ ามความเหมาะสม ตารางที่�่ 26 แสดงตัวั อย่า่ งของการวิเิ คราะห์์ ยุุทธศาสตร์์จากการไขว้้แบบโทวส์์ ในกรณีีของบริิษััทออกแบบสถาปััตยกรรมขนาดกลางที่่�ลููกค้้าหลััก คืือ หน่ว่ ยงานราชการและรัฐั วิสิ าหกิจิ รายใหญ่่ การวิเิ คราะห์เ์ ริ่ม� จากโอกาสและภัยั คุกุ คามก่อ่ น แล้ว้ จึึง วิิเคราะห์์จุดุ แข็็งและจุดุ อ่อ่ น จากนั้้�นจึึงนำำ�ผลการประเมินิ นั้้น� มาไขว้้เป็็นยุทุ ธศาสตร์์ 4 กลุ่�ม

การคาดการณ์เชงิ ยุทธศาสตร์ 228 ตารางที่ 26 ตัวอยา่ งการวเิ คราะห์ยทุ ธศาสตรจ์ ากการไขว้แบบโทวส์ ปััจจัยั ภายใน จุดุ แข็ง็ (S) จุุดอ่อ่ น (W) S1: บริิษััทมีีพนัักงานที่ม่� ีี W1: บริิษััทไม่ค่ ่อ่ ยหาลููกค้้าใหม่่ ประสบการณ์แ์ ละความเชี่�่ยวชาญ แต่เ่ น้น้ ให้ล้ ูกู ค้้าเข้้ามาติดิ ต่่อ ป ััจจ ััยภายนอก โอกาส (O) ยุุทธศาสตร์เ์ ชิิงรุุก (SO) ยุุทธศาสตร์เ์ ชิงิ แก้ไ้ ข (WO) O1: หลายมหาวิทิ ยาลัยั S1-O1: การสร้้างความร่่วมมืือกับั W1-O1: นำ�ำ เสนอกัับลูกู ค้้าใหม่ว่ ่า่ ต้้องการส่ง่ นักั ศึึกษาไปฝึกึ งาน มหาวิทิ ยาลััยในสร้้างตำ�ำ แหน่่งและ เป็็นบริิษัทั ที่ม่� ีีระบบการฝึึกงานที่ไ่� ด้้ ในสถานการณ์์จริงิ รับั พนัักงานฝึกึ งาน รับั การยอมรัับ ภััยคุกุ คาม (T) ยุุทธศาสตร์์เชิิงป้อ้ งกััน (ST) ยุุทธศาสตร์เ์ ชิิงรับั (WT) T1: การแข่่งขัันที่่เ� พิ่่ม� ขึ้�นจาก S1-T1: สนัับสนุนุ ให้้พนัักงานเพิ่่ม� O1-T1: การให้้บริิการออกแบบโดย ฟรีีแลนซ์ท์ ี่่ค� ิดิ ราคาถููกกว่า่ ทัักษะที่่ม� ีีใบรัับรองที่่ถ� ููกต้้องตาม พนัักงานฝึกึ งานในราคาที่ต่� ่ำ�ำ�ลง กฎหมาย จากการวิเิ คราะห์ต์ ามตัวั อย่า่ งข้า้ งบน แสดงทางเลืือกเชิงิ ยุทุ ธศาสตร์์ 4 แนวทางด้ว้ ยกััน ดังั นี้้� ยุุทธศาสตร์์เชิงิ รุุก โจทย์์ในส่ว่ นนี้้ค� ืือ บริษิ ัทั ออกแบบสถาปัตั ยกรรมนี้้�จะใช้ท้ รััพยากรที่่ม� ีีอยู่� เดิิมคืือ สถาปนิิกที่่�มีีประสบการณ์์มากให้้เกิิดประโยชน์์ได้้อย่่างไร ในกรณีีที่�่มหาวิิทยาลััยที่�่มีีหลัักสููตร ด้้านสถาปััตยกรรมหลายแห่่งเริ่�มต้้องการส่่งนัักศึึกษาไปฝึึกงานในสถานการณ์์ทำ�ำ งานจริิง ยุุทธศาสตร์์ ที่่�ตอบรัับในส่่วนนี้้�คืือ การสร้้างความร่่วมมืือกัับมหาวิิทยาลััยดัังกล่่าวในการสร้้างตำ�ำ แหน่่งและเปิิดรัับ นักั ศึึกษาฝึกึ งาน ยุุทธศาสตร์์เชิงิ แก้้ไข โจทย์์สำ�ำ คัญั ในสถานการณ์์นี้้ค� ืือ บริษิ ััทจะใช้โ้ อกาสที่่เ� ล็ง็ เห็็นคืือจำ�ำ นวน นักั ศึึกษาฝึกึ งานจากมหาวิทิ ยาลัยั ในการลดจุดุ อ่อ่ นของบริษิ ัทั ในการหาลูกู ค้า้ ใหม่ไ่ ด้อ้ ย่า่ งไร ยุทุ ธศาสตร์์ ในส่่วนนี้้ค� ืือ เมื่อ� เข้้าไปนำ�ำ เสนองานให้้กัับลููกค้้าใหม่่ บริษิ ััทสามารถแสดงให้ล้ ููกค้า้ เห็็นว่า่ บริษิ ัทั ได้้ปรับั ตัวั ให้เ้ ข้า้ กับั ยุคุ สมัยั และดำ�ำ เนินิ กิจิ การในรูปู แบบที่แ�่ ตกต่า่ งไปจากเดิมิ โดยเฉพาะในการสร้า้ งมูลู ค่า่ และ คุุณค่่าให้ก้ ัับสังั คมโดยรวม ยุทุ ธศาสตร์์เชิงิ ป้้องกันั ในสถานการณ์ท์ ี่่�การแข่่งขันั เพิ่่�มความเข้้มข้น้ และรุุนแรงมากขึ้น� โดย เฉพาะจากนักั ออกแบบอิสิ ระหรืือฟรีีแลนซ์์ ซึ่ง�่ หลายคนเป็น็ คนต่า่ งชาติิ ยุทุ ธศาสตร์ใ์ นเชิงิ ป้อ้ งกันั ในจุดุ นี้้ค� ืือ การส่ง่ เสริิมให้พ้ นัักงานที่�่อยู่�ในองค์ก์ รสามารถเพิ่่�มทักั ษะได้้ โดยเฉพาะทัักษะที่ม�่ ีีการรับั รองตาม กฎหมาย เช่่น ใบประกอบวิชิ าชีีพ แล้้วใช้ป้ ระเด็น็ นี้้เ� ป็น็ จุุดขายกับั ลูกู ค้้า

229 การคาดการณ์เชงิ ยทุ ธศาสตร์ ยทุ ธศาสตรเ์ ชิงรับ หากคแู่ ขง่ เสนอบริการที่ราคาต�่ำกว่า ทางบริษัทก็อาจใชย้ ุทธศาสตร์เชิง รับโดยน�ำเสนอการบรกิ ารในราคาทตี่ �่ำลงโดยพนกั งานฝึกงาน แตเ่ น้นย�้ำวา่ พนกั งานเหลา่ นี้ท�ำงานตาม มาตรฐานของบริษทั และไดร้ บั การรับรองอย่างเป็นทางการจากหนว่ ยงานที่เก่ยี วขอ้ ง จากตัวอยา่ งยทุ ธศาสตรข์ ้างตน้ จะเหน็ ได้วา่ หนว่ ยงานภายในองคก์ รทเี่ กยี่ วข้องและเหมาะ สมส�ำหรบั การด�ำเนนิ ยทุ ธศาสตรใ์ นแตล่ ะดา้ นอาจแตกตา่ งกนั ออกไป บางยทุ ธศาสตรเ์ นน้ เรื่องการตลาด และการบริหารลูกคา้ สัมพันธ์ ในขณะที่บางยุทธศาสตรเ์ นน้ เรื่องการบรหิ ารบุคคล การจ�ำแนกประเภท ยทุ ธศาสตรด์ ว้ ยวธิ ีการนี้จะท�ำใหค้ ณะท�ำงานและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี มองเหน็ ภาพทางเลือกเชงิ ยทุ ธศาสตร์ ท่ชี ดั เจนและคมชดั มากขึ้น

การคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ 230 การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร เพอ่ื วเิ คราะหส์ วอต วิิธีีการสวอตสามารถใช้้เป็็นเครื่่�องมืือประกอบในกระบวนการคาดการณ์์เชิิงยุุทธศาสตร์์ โดยอาจใช้้ใน ตอนเริ่�มกระบวนการคาดการณ์์ เพื่่�อสร้้างความตระหนัักในกลุ่�มผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีีย และสร้้างข้้อมููล พื้น�้ ฐานในการวิเิ คราะห์ช์ ่ว่ งต่อ่ ไป หรืือในขั้้น� ตอนการประเมิินยุุทธศาสตร์์ที่พ่� ััฒนามาแล้ว้ จากฉากทััศน์์ และวิิสััยทััศน์์ การเตรีียมการ ก่่อนการจััดการประชุุมเชิิงปฏิิบััติิการเพื่่�อการวิิเคราะห์์สวอตและโทวส์์ คณะทำ�ำ งานควรเตรีียมการดััง ต่่อไปนี้้� • บทสรุปขอบเขตการคาดการณ:์ ท้งั ในเชิงหัวขอ้ พื้นที่ ชว่ งเวลา ฯลฯ • บทสรปุ ภาพอนาคต: หากวัตถปุ ระสงค์ของการวิเคราะหส์ วอต คือ เพอื่ ประเมนิ ยทุ ธศาสตร์ ท่ไี ดม้ าจากฉากทัศนแ์ ละวสิ ัยทศั น์ กค็ วรจัดเตรียมบทสรุปเนื้อหาส่วนนี้ไว้ • บทสรุปยทุ ธศาสตร์: หากวตั ถุประสงคข์ องการวิเคราะห์สวอต คือ เพ่อื ประเมนิ ยทุ ธศาสตร์ กค็ วรจัดเตรียมบทสรปุ เนื้อหาสว่ นนี้ไว้ • รูปแบบ: การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการท่ีแบ่งเป็นกลุ่มย่อยประมาณกลุ่มละ 5-8 คน ขึ้นอยู่ กับจ�ำนวนกระบวนกรหลักและกระบวนกรประจ�ำกลุ่ม ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนอาจร่วมกัน วิเคราะห์ หรือแบ่งเป็นกลุ่มย่อย ขึ้นอยู่กับจ�ำนวนผู้เข้าร่วมประชุมและความละเอียดของ ผลลพั ธ์ทีต่ อ้ งการ • ระยะเวลา: ครึ่งวนั หรือ 1 วัน โดยขึ้นอยกู่ ับความละเอียดและครอบคลุมทีต่ อ้ งการ • ผู้เข้าร่วมประชุม: ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียส�ำคัญทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยเฉพาะผู้น�ำ องค์กร เพื่อให้เกิดความหลากหลายในด้านกรอบแนวคิดและมุมมอง และความรู้สึกเป็น เจา้ ของและการยอมรับในกระบวนการ เพอื่ น�ำไปสู่การด�ำเนนิ การจริงต่อไป ในขณะเดยี วกัน

231 การคาดการณเ์ ชงิ ยุทธศาสตร์ ก็ต้องมผี ู้เชี่ยวชาญในดา้ นท่ีเกย่ี วข้อง เพอ่ื ให้ขอ้ มูลที่ใชใ้ นการประเมินสวอตด้านต่าง ๆ ท่ีตงั้ อยู่บนหลักฐานเชิงประจักษ์ทีเ่ ชอ่ื ถือได้ • พ้ืนที่จัดประชุม: ควรกว้างขวางมากพอส�ำหรับให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถลุกเดินไปมาได้ ถ้าหากมกี ลมุ่ ย่อยหลายกลมุ่ ก็ควรมีระยะห่างระหวา่ งกล่มุ เพ่อื ไมไ่ ด้เสยี งดงั รบกวนกันได้ • อปุ กรณส์ �ำหรบั การประชมุ : กระดานไวทบ์ อรด์ หรือกระดานฟลบิ ชารท์ พรอ้ มกระดาษ ปากกา เมจกิ กระดาษโพสต์อิท โดยเตรียมตารางสวอตบนกระดาษที่แปะไวก้ ระดานหรือผนงั หอ้ ง ขั้้�นตอนการประชุมุ แนะนำำ�กระบวนการ • กระบวนกรอธิบายแนวคิดพื้นฐานและกระบวนการวิเคราะห์สวอต พร้อมตัวอย่างของการ สรา้ งหรือประเมนิ ยทุ ธศาสตรด์ ว้ ยวธิ ีการดงั กลา่ วจากโครงการอื่นกอ่ นหนา้ นี้ โดยย�้ำเนน้ เกยี่ ว กบั มมุ มองของการวิเคราะห์ที่ควรครอบคลมุ ทั้งจากภายในและภายนอกองคก์ ร ระดมสมอง • ผเู้ ขา้ ประชุมร่วมกนั ระดมสมองเก่ยี วกับจดุ แข็ง จุดอ่อน โอกาสและภัยคุกคาม โดยเขยี นลง บนกระดาษโพสต์อิทก่อน แล้วจึงแปะกระดาษลงบนตารางที่เตรียมไว้บนกระดานหรือผนัง ห้อง หากข้ั นตอนนี้เป็นการวิเคราะห์สวอตหลังจากท่ีได้พัฒนาฉากทัศน์มาแล้ว ในส่วนของ การวเิ คราะหโ์ อกาสและภัยคกุ คาม กส็ ามารถเนน้ ไปท่ผี ลจากการวเิ คราะหเ์ รื่องราวในแต่ละ ฉากทัศนไ์ ด้ โดยพยายามตอบค�ำถามว่า โอกาสและความเสยี่ งอะไรบา้ งที่จะเกดิ ขึ้นในแต่ละ ฉากทัศน์ อภิปิ รายและประมวลผลสวอต • ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ รว่ มอภปิ รายแตล่ ะประเดน็ ทย่ี กมา โดยอาจเรียงไปตามล�ำดบั ของจดุ แขง็ จดุ ออ่ น โอกาสและความทา้ ทาย ในกรณีทใี่ ชก้ รอบสวอตแบบดงั้ เดมิ หรือในทางกลบั กนั อาจเรียง จากโอกาสและความทา้ ทาย แลว้ ตามดว้ ยจดุ แขง็ และจดุ ออ่ น หากใชก้ รอบแนวคดิ แบบโทวส์ • จากน้ั นจึงรว่ มกนั สรปุ วา่ ปจั จยั ใดมีความส�ำคญั มากทสี่ ดุ โดยอาจใชว้ ธิ ีการลงคะแนนกไ็ ด้ เพอ่ื จัดล�ำดับความส�ำคญั ตามมุมมองของผู้เขา้ ประชมุ สร้า้ งยุุทธศาสตร์์โดยการไขว้้ • ผู้เข้าประชุมแยกกันท�ำงานเป็นกลุ่มย่อย 4 กลุ่ม แล้วให้แต่ละกลุ่มระดมสมองในการสร้าง ยุทธศาสตรเ์ ชงิ รกุ (SO) เชงิ แก้ไข (WO) เชิงป้องกนั (ST) และเชงิ รบั (WT) ตามตวั อยา่ งใน ตารางท่ี 26

การคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ 232 อภิิปรายและเลือื กยุทุ ธศาสตร์์ • ผเู้ ข้าประชมุ ในกลมุ่ ย่อยกลบั มารวมเปน็ กลมุ่ ใหญ่ เพื่ออภิปรายเก่ียวกับยทุ ธศาสตร์ในแตล่ ะ กลมุ่ จากน้ั นจึงประเมนิ ขอ้ ดขี อ้ เสยี ของแตล่ ะยทุ ธศาสตร์ เพอื่ เลือกยทุ ธศาสตรท์ เ่ี หมาะสมใน การด�ำเนนิ การตอ่ ไป สรุุปและขั้้�นตอนต่อ่ ไป • กระบวนกรสรุปผลผลิตที่ได้จากการประชุม และช้ีแจงถึงแนวทางในการใช้ผลผลิตดังกล่าว ในงานข้ั นตอ่ ไป

233 การคาดการณ์เชิงยทุ ธศาสตร์ การทดสอบอโุ มงคล์ ม การออกแบบทางเลืือกเชิิงยุุทธศาสตร์์ขึ้�นอยู่่�กัับแนวทางในภาพรวมที่่�เป็็นกรอบแนวคิิดสำ�ำ หรัับราย ละเอีียดของยุุทธศาสตร์์ที่่�ต้้องพััฒนาตามมา ตามแนวคิิดของสตีีเวน ชนารส์์ (Steven Schnaars) แนวทางการออกแบบทางเลืือกเชิงิ ยุทุ ธศาสตร์์มีีอยู่� 4 แนวทาง50 ได้แ้ ก่่ ยุทุ ธศาสตร์แ์ นวทนทาน (robust strategy) มุ่�งเน้น้ ไปที่ก่� ารรับั มืือกับั สถานการณ์แ์ ละบรรลุุ วััตถุุประสงค์์ได้้ดีีในทุุกฉากทััศน์์ การดำ�ำ เนิินงานตามยุุทธศาสตร์์แนวทางนี้้�จึึงมัักอยู่�ในกรอบของความ เป็น็ ไปได้ท้ ี่ค่� ่อ่ นข้า้ งแน่น่ อนระดับั หนึ่ง�่ และมีีความเสี่ย�่ งต่ำำ�� โดยเน้น้ การป้อ้ งกันั ความเสีียหายขนาดใหญ่่ และรักั ษาสภาพหรืือตำำ�แหน่่งที่ม่� ีีความเป็น็ ไปได้้ มากกว่า่ การทุ่่�มลงทุุนเพื่่อ� ได้้ผลลัพั ธ์์ที่เ่� ป็น็ เลิิศ ดังั นั้้น� ผลลััพธ์์หรืือผลตอบแทนที่่ไ� ด้้มีีความเสถีียร แต่่จะอยู่�ในระดับั พอประมาณเท่า่ นั้้น� ไม่่เด่่นเป็็นพิิเศษและ หวืือหวาเท่่าใด ยุุทธศาสตร์์แนวยืืดหยุ่�น (flexible strategy) เน้้นการเปิิดทางเลืือกในการตััดสิินใจไว้้ ให้้นานที่�่สุุดเท่่าที่�่จะทำ�ำ ได้้ ยุุทธศาสตร์์แนวทางนี้้�อาจเหมาะสมกัับสถานการณ์์ที่�่มีีความไม่่แน่่นอนสููง มากกว่่ายุุทธศาสตร์แ์ นวทนทาน ขึ้�นอยู่่�กัับระดับั ความไม่แ่ น่น่ อนที่่ร� ับั รู้้�ได้้และต้้นทุุนของการเลื่อ� นการ ตััดสิินใจออกไป หากเลืือกที่่�จะดำ�ำ เนิินยุุทธศาสตร์์ตามแนวทางนี้้� ผู้้�วางแผนต้้องเข้้าใจว่่าจะต้้องปรัับ ยุทุ ธศาสตร์อ์ ย่า่ งไรตามเงื่อ� นไขในแต่ล่ ะฉากทัศั น์์ พร้อ้ มกันั นี้้ก� ็ต็ ้อ้ งมีีระบบการสังั เกตการณ์แ์ ละติดิ ตาม การเปลี่�่ยนแปลงของสัญั ญาณต่่าง ๆ อยู่�เสมอ เพื่่�อปรัับเปลี่ย�่ นยุทุ ธศาสตร์ต์ ามเงื่�อนไขที่่�เปลี่ย�่ นไป ทั้้�งนี้้� ทั้้�งนั้้น� องค์ก์ รวางแผนต้้องสามารถปรัับตััวได้้อย่า่ งรวดเร็ว็ ตามการเปลี่�่ยนแปลงที่�่เกิดิ ขึ้�นด้้วย ยุุทธศาสตร์แ์ นวครอบคลุุมหลายด้้าน (multiple coverage strategy) เลืือกที่จ�่ ะดำำ�เนิิน ยุทุ ธศาสตร์ห์ ลายอย่า่ งไปพร้อ้ มกันั จนกว่า่ สถานการณ์ใ์ นอนาคตจะชัดั เจนมากขึ้น� ยุทุ ธศาสตร์น์ ี้้เ� หมาะ สำ�ำ หรัับองค์์กรหรืือประเทศที่�่มีีทรััพยากรอยู่�มากเพีียงพอที่�่จะดำ�ำ เนิินการตามยุุทธศาสตร์์ที่�่หลากหลาย เพื่่�อประกัันได้้ว่่าจะไม่่พลาดโอกาสสำ�ำ คัญั ไปในอนาคต แต่่ในขณะเดีียวกััน ก็เ็ ป็น็ ยุทุ ธศาสตร์์ที่ม�่ ีีต้้นทุนุ สูงู เนื่่�องจากจะมีีบางยุุทธศาสตร์ท์ ี่่�จะไม่่สร้้างผลลัพั ธ์แ์ ละจะถูกู ยกเลิกิ ไปในอนาคต ยุทุ ธศาสตร์แ์ นวเสี่ย่� งพนันั (gambling strategy) เป็น็ การเลืือกเส้น้ ทางยุทุ ธศาสตร์ท์ ี่ท�่ ราบ แต่ต่ ้น้ แล้ว้ ว่า่ จะนำำ�ไปสู่่�ผลลัพั ธ์ท์ ี่ไ�่ ม่ใ่ ช่ท่ ี่ด�่ ีีที่ส�่ ุดุ ในกรณีีที่เ่� งื่อ� นไขบางอย่า่ งและภาพอนาคตบางฉากเป็น็ จริงิ ขึ้�นมา แต่่จะสามารถสร้้างผลลัพั ธ์์ที่่�เป็น็ เลิิศได้้ ถ้้าเป็็นตามฉากทััศน์์ที่�เ่ ลืือกไว้้ อย่า่ งไรก็ต็ าม เนื่่�องจาก

การคาดการณ์เชงิ ยุทธศาสตร์ 234 การประเมินความเป็นไปได้โดยรวมของแต่ละฉากทัศน์แทบเป็นไปไม่ได้ ในหลายกรณี การเลือกแนว ยุทธศาสตร์แบบเสี่ยงพนันนี้จะเลือกใช้ต่อเม่ือได้วิเคราะห์แล้วว่า หากเกิดฉากทัศน์ท่ีแย่ท่ีสุดแล้ว จะ ไมท่ �ำให้เกดิ ภัยอยา่ งใหญห่ ลวงต่อองค์กรหรือพื้นทเี่ ป้าหมายของการใช้ยุทธศาสตร์น้ั น วััตถุุประสงค์์สำ�ำ คััญประการหนึ่่�งของการวางแผนแบบฉากทััศน์์ คืือ การสร้้างยุุทธศาสตร์์ที่�่ สามารถตอบรับั ได้ก้ ับั ทุกุ สถานการณ์ห์ รืือหลายสถานการณ์ท์ ี่ม่� ีีความไม่แ่ น่น่ อน หรืือการสร้า้ งยุทุ ธศาสตร์์ แนวทนทานตามที่่�กล่่าวไปข้้างต้้น การทดสอบความทนทานของยุุทธศาสตร์์จึึงเป็็นวิิธีีการหนึ่่�งในการ ปรับั ปรุงุ รายละเอีียดของยุทุ ธศาสตร์ใ์ ห้ด้ ีียิ่่ง� ขึ้น� เพื่่อ� ให้ส้ ามารถตอบรับั ได้ก้ ับั ฉากทัศั น์ต์ ่า่ ง ๆ ที่ไ่� ด้พ้ ัฒั นา มาก่อ่ นหน้า้ นี้้� เมื่อ� คณะทำำ�งานได้พ้ ัฒั นาฉากทัศั น์แ์ บบสองแกนและอนาคตที่พ่� ึึงประสงค์แ์ ล้ว้ ยุทุ ธศาสตร์์ ที่่�ได้ก้ ำ�ำ หนดขึ้�นจึึงมุ่�งเน้น้ บรรลุเุ ป้้าประสงค์์ของฉากทััศน์ท์ ี่่�เลืือกนั้้�น การทดสอบอุุโมงค์ล์ มจะช่่วยทำ�ำ ให้้ สามารถสร้า้ งทางเลืือกเชิิงยุุทธศาสตร์์ที่ม่� ีีความยืืดหยุ่่�นมากขึ้�น และขึ้น� อยู่่�กัับเงื่�อนไขในแต่ล่ ะฉากทััศน์์ น้อ้ ยลง เมื่�อนโยบายและยุุทธศาสตร์์ได้้ผ่่านกระบวนการวิิเคราะห์์ความทนทานแล้้ว และมั่ �นใจได้้ว่่า เป็็นยุุทธศาสตร์์ที่่ท� ำำ�ให้้บรรลุุเป้้าประสงค์ข์ องภาพอนาคตที่พ่� ึึงประสงค์์ คณะทำำ�งานอาจคำ�ำ นึึงถึึงความ เป็็นไปได้้ในการนำำ�นโยบายไปใช้้ในเชิิงปฏิิบััติิด้้วย โดยมีีหลัักพิิจารณาเบื้�้องต้้น 2 ประการ คืือ หลััก ประสิิทธิิผล (effectiveness) และหลัักความยากง่่ายในการนำำ�นโยบายและยุุทธศาสตร์์ไปดำำ�เนิินการ (implementation) วิธิ ีีการหนึ่�่งที่�่ใช้ใ้ นการทดสอบความทนทานของยุุทธศาสตร์ค์ ืือการทดสอบอุุโมงค์์ลม ซึ่่ง� ช่ว่ ย ให้ค้ ณะทำำ�งานสามารถประเมินิ ได้ว้ ่า่ ยุทุ ธศาสตร์ใ์ ดที่ม�่ ีีความทนทานมากที่ส่� ุดุ และองค์ก์ รจะต้อ้ งเตรีียม พร้้อมอย่่างไรกัับเหตุุการณ์์ที่่�อาจเกิิดขึ้�นในฉากทััศน์์ใดฉากทััศน์์หนึ่�่ง วิิธีีการนี้้�มัักใช้้เป็็นส่่วนหนึ่�่งของ กระบวนการวางแผนยุทุ ธศาสตร์์ และเป็น็ ส่ว่ นหนึ่�่งของการประเมิินความเสี่่ย� งที่�เ่ กิิดจากยุุทธศาสตร์์ วิิธีีการทดสอบอุุโมงค์์ลมมีีพื้้�นฐานมาจากการพััฒนาและทดสอบต้้นแบบ (prototype) ใน ด้้านวิศิ วกรรม โดยเฉพาะในการพัฒั นารถยนต์์ เครื่่�องบิินและพาหนะประเภทต่่าง ๆ วััตถุุประสงค์์ของ อุโุ มงค์ล์ มคืือเพื่่อ� ใช้ท้ ดสอบว่า่ ต้น้ แบบที่ไ่� ด้พ้ ัฒั นามานั้้น� สามารถทนทานและรัับมืือกับั สภาพอากาศและ เงื่�อนไขทางสิ่�งแวดล้อ้ มที่่�ไม่ป่ กติไิ ด้้หรืือไม่แ่ ละได้้เท่่าใด ทั้้ง� ลมพายุุรุนุ แรง หิมิ ะที่่ต� กหนักั หรืืออุณุ หภูมู ิิ สูงู หรืือต่ำ�ำ�มาก เป็็นต้้น ฉัันใดก็ฉ็ ัันนั้้น� การทดสอบอุุโมงค์์ลมในการคาดการณ์์และวางแผนเชิิงยุทุ ธศาสตร์์จึึงเป็็นการ ทดสอบว่า่ ยุทุ ธศาสตร์ท์ ี่ด่� ำ�ำ เนินิ การอยู่�หรืือที่พ�่ ัฒั นาขึ้น� ใหม่น่ั้้น� จะสามารถทนทานกับั เงื่อ� นไขและสภาวะ ภายนอกต่า่ ง ๆ ได้ด้ ีีเพีียงใดในแต่ล่ ะฉากทััศน์ท์ ี่่ไ� ด้้วิเิ คราะห์ม์ า โดยเฉพาะเงื่อ� นไขและสภาวะที่่�มีีความ รุุนแรงเป็น็ พิเิ ศษ ดังั ในกรณีีการทดสอบลมพายุุรุนุ แรง ถ้า้ ยุุทธศาสตร์ท์ ี่�ม่ ีีอยู่�หรืือที่่�พััฒนาขึ้�นมาใหม่ย่ ังั สามารถบรรลุผุ ลลัพั ธ์์ได้้ภายใต้เ้ งื่�อนไขที่่�มีีความรุุนแรง ก็็ถืือว่า่ ยุทุ ธศาสตร์น์ ั้้�นมีีความทนทาน (robust) ในฉากทััศน์์หรืือสถานการณ์์นั้้�น แต่ห่ ากยุุทธศาสตร์์นั้้น� ไม่ส่ ามารถรับั มืือกับั สถานการณ์ร์ ุุนแรงในฉาก ใดฉากหนึ่่�งได้้ ผู้้�วางแผนก็็ต้้องตััดสิินใจว่่าจะปรัับเปลี่�่ยนรายละเอีียดยุุทธศาสตร์์นั้้�นหรืือจะไม่่เลืือก ดำ�ำ เนิินการตามยุุทธศาสตร์ด์ ังั กล่า่ ว

235 การคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ จดุ เดน่ ของวธิ ีการทดสอบอโุ มงคล์ มคือการเปดิ โอกาสใหอ้ งคก์ รสามารถระบไุ ดว้ า่ ยทุ ธศาสตร์ หรือนโยบายใดที่ด�ำเนินการอยู่ในปัจจุบันจะใช้ไม่ได้อีกต่อไปในอนาคต และปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ให้เหมาะสมและมีความทนทานกับสถานการณ์ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น การทดสอบอุโมงค์ลมยังใช้ได้กับ ยุทธศาสตร์ที่จะพัฒนาขึ้นมาใหม่ ยุทธศาสตร์ของคู่แข่ง รวมไปถึงแนวคิดและแนวทางด�ำเนินกิจการ ใหม่ อกี ทงั้ ยังสามารถใช้วิธีการนี้ในการทดสอบวา่ ขีดความสามารถขององค์กรทม่ี ีอย่ใู นปัจจบุ นั จะยัง เหมาะสมและเพยี งพอหรือไมใ่ นแต่ละฉากทัศน์ ข้้อจำ�ำ กััดหนึ่่�งของวิิธีีการทดสอบอุุโมงค์์ลมคืือการประเมิินความทนทานของยุุทธศาสตร์์มัักมีี ความเป็น็ อัตั วิสิ ัยั (subjective) ในกรณีีที่อ�่ งค์ก์ รดำ�ำ เนินิ ยุทุ ธศาสตร์อ์ ยู่�หลายแนวทางและหลายด้า้ น และ ต้อ้ งตัดั สินิ ใจว่า่ จะดำำ�เนินิ ยุทุ ธศาสตร์ไ์ หนต่อ่ และยกเลิกิ ยุทุ ธศาสตร์ไ์ หน การประเมินิ ความทนทานของ ยุทุ ธศาสตร์ด์ ้ว้ ยวิธิ ีีการทดสอบอุโุ มงค์ล์ มอาจทำ�ำ ให้ผ้ ลการประเมินิ ไม่ส่ ะท้อ้ นพันั ธกิจิ หรืือเป้า้ หมายหลักั ขององค์์กรได้้ วิธิ ีีการหนึ่ง่� ในการแก้้ไขข้อ้ จำำ�กััดดัังกล่่าวคืือ การประเมิินและเปรีียบเทีียบความทนทาน ของยุทุ ธศาสตร์ต์ ่า่ ง ๆ ในแต่ล่ ะฉากทัศั น์์ โดยยึึดโยงกับั เกณฑ์ต์ ามพันั ธกิจิ หรืือเป้า้ หมายขององค์ก์ ร เพื่่อ� ท้า้ ยสุุดสามารถเลืือกยุุทธศาสตร์์ที่ท�่ นทานและเหมาะสมที่ส่� ุดุ สำ�ำ หรัับองค์ก์ ร51 วััตถุปุ ระสงค์์ การทดสอบอุุโมงค์์ลมมีีวััตถุปุ ระสงค์์หลัักดัังนี้้� 1. สำำ�รวจว่่ายุทุ ธศาสตร์์และนโยบายต่่าง ๆ แสดงผลอย่า่ งไรในฉากทัศั น์ท์ ี่�่แตกต่่างกันั 2. ประเมิินความทนทานของยุทุ ธศาสตร์์หรืือนโยบายในปัจั จุบุ ันั หรืือที่�ว่ างแผนไว้้ 3. ระบุุว่่านโยบายหรืือมาตรการใดมีีโอกาสอ่่อนไหวไปตามปัจั จััยที่ไ�่ ม่แ่ น่่นอนมากที่ส่� ุดุ การประเมินิ ความทนทานของนโยบายและมาตรการด้ว้ ยวิธิ ีีการอุโุ มงค์ล์ ม อาจดำ�ำ เนินิ การได้้ โดยคณะทำำ�งานเอง หรืือเปิิดให้ผ้ ู้้�มีีส่่วนได้ส้ ่่วนเสีียเข้า้ มามีีส่ว่ นร่ว่ มในการประเมิินยุทุ ธศาสตร์์ ผลผลิติ ที่่�ได้จ้ ากการทดสอบอุโุ มงค์์ลม คืือ ตารางที่แ�่ สดงระดับั ประสิทิ ธิผิ ลของแต่่ละยุุทธศาสตร์ใ์ นฉากทัศั น์ท์ ี่�่ แตกต่่างกันั ผลผลิติ ดังั กล่่าวจะใช้ต้ ่่อได้้ในการปรับั ปรุงุ และพัฒั นายุทุ ธศาสตร์์และแผนดำำ�เนินิ การ รวม ถึึงการติิดตามและประเมิินความเสี่่�ยง และการประเมิินผลกระทบและขีีดความสามารถขององค์์กรใน การจัดั การกัับความเสี่่�ยงนั้้�น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook