Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 57นักการเมืองถิ่นสตูล

57นักการเมืองถิ่นสตูล

Description: เล่มที่57 นักการเมืองถิ่นสตูล

Search

Read the Text Version

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล โดย เฉลิมศกั ดิ์ บุญนำ ข้อมลู ทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data เฉลิมศกั ด์ิ บุญนำ. นกั การเมอื งถน่ิ จงั หวดั สตลู - - กรงุ เทพฯ : สถาบนั พระปกเกลา้ , 2559. 264 หน้า. 1. นักการเมือง - - สตูล. 2. สตูล - - การเมืองการปกครอง l. ชื่อเรื่อง. 342.2092 ISBN 978-974-449-XXX-X รหสั สิ่งพิมพข์ องสถาบนั พระปกเกลา้ สวพ.59-XX-500.0 เลขมาตรฐานสากลประจำหนงั สอื 978-974-449-XXX-X ราคา พมิ พ์ครง้ั ท่ี 1 กันยายน 2559 จำนวนพมิ พ ์ 500 เล่ม ลขิ สทิ ธ ิ์ สถาบันพระปกเกล้า ทป่ี รกึ ษา ศาสตราจารย์(พิเศษ)นรนิติ เศรษฐบุตร รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต รองศาสตราจารย์ ดร.ปรีชา หงษ์ไกรเลิศ รองศาสตราจารย์พรชัย เทพปัญญา ดร.ถวิลวดี บุรีกุล ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผแู้ ตง่ เฉลิมศักดิ์ บุญนำ ผ้พู มิ พ์ผูโ้ ฆษณา สถาบันพระปกเกล้า จดั พิมพ์โดย สถาบันพระปกเกล้า ศนู ย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 (โซนทิศใต้) เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 02-141-9607 โทรสาร 02-143-8177 http://www.kpi.ac.th พิมพท์ ี่

นักการเมืองถิ่น จังหวัดสตูล เฉลิมศักด์ิ บุญนำ สถาบันพระปกเกล้า

คำนำ การวิจัยการเมืองถิ่นและนักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล เป็นการวิจัยที่ศึกษาปรากฏการณ์ทางการเมืองถิ่นที่เชื่อมโยง ผู้คนและกลไกโครงสร้างอำนาจที่มีความสัมพันธ์เครือข่าย เพื่อสนับสนุนการต่อสู้ในการเข้าไปเป็นตัวแทนในการทำหน้าที่ การบริหารประเทศเพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชน ภายใต้ระบบการเลือกตั้งตามวิถีประชาธิปไตยที่มีการเสนอ แนวนโยบายต่อประชาชนจังหวัดสตูล ระบบการเลือกตั้ง การต่อสู้ทางการเมือง เพื่อแสดงออกของความสัมพันธ์ พฤตกิ รรมทางการเมอื ง วางแผนยทุ ธวธิ แี ละการระดมสรรพกำลงั หัวคะแนน การแข่งขัน และผู้คน อำนาจ กลวิธีภายใต้โดยมี ระบบอุปถัมภ์ผสานกับอิทธิพลของผู้ให้การสนับสนุนนักธุรกิจ กลุ่มผลประโยชน์ และวัฒนธรรมทางการเมืองท้องถิ่น ตลอดจน กระแสการเมืองมาถาโถมต่อทรรศนะร่วมของผู้คนเกิดความ เชื่อโน้มนำการตัดสินใจทางการเมืองแบบรวมหมู่เรื่องศาสนา วัฒนธรรมในพื้นที่และเป็นปรากฏการณ์ที่มีความซับซ้อน

นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล ทั้งวาทกรรมที่แยบยล ความเชื่อความศรัทธาต่อพรรคการเมือง ภูมิภาคนิยมเป็นสถานการณ์ของการเมืองถิ่นสตูลที่มีการ ช่วงชิงเป็นการเมืองถิ่นที่มีอัตลักษณ์ของตนเอง งานวิจัยเรื่องนี้ มุ่งศึกษาค้นคว้าปรากฏการณ์ทางการเมือง หรือพฤติกรรม ทางการเมืองและนักการเมืองถิ่นสตูล เพื่อใช้เป็นการศึกษา เรียนรู้พัฒนาการการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในการขับเคลื่อน ประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพและดุลยภาพของระบบการเมือง เพือ่ นำไปสกู่ ารสรา้ งการเมืองเขม้ แขง็ ในระบอบการปกครองไทย ที่มีอารยะวิถีการพัฒนาตามครรลองประชาธิปไตย ขอขอบคุณผู้ให้ข้อมูลหลักที่ได้เสียสละเวลาให้ความ อนุเคราะห์ข้อมูลการเมืองและนักการเมืองถิ่นสตูลด้วยความ ร่วมมืออย่างดียิ่งต่องานวิจัย นับเป็นรายงานวิชาการที่ได้ถักทอ ช่วยหนุนเสริมสังคมให้เกิดผลในการพัฒนาองค์ความรู้ของ การพัฒนาการเมืองไทย งานวิจัยฉบับนี้สำเร็จด้วยทุนสนับสนุน งบประมาณ พรอ้ มทง้ั ข้อเสนอแนะทางวิชาการของผทู้ รงคุณวฒุ ิ รวมถึงการประสนงานเป็นอย่างดียิ่งจากสำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า จึงใคร่ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ เฉลมิ ศักด์ิ บญุ นำ ผูว้ ิจยั

บทคัดย่อ ก า ร เ ม ื อ ง ถ ิ ่ น แ ล ะ น ั ก ก า ร เ ม ื อ ง ถ ิ ่ น จ ั ง ห ว ั ด ส ตู ล มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษานักการเมืองที่เคยได้รับการเลือกตั้ง เครือข่ายและความสัมพันธ์ของนักการเมือง บทบาทและ ความสัมพันธ์ของกลุ่มผลประโยชน์และกลุ่มที่ไม่เป็นทางการ ที่มีส่วนในการสนับสนุนทางการเมืองแก่นักการเมือง บทบาท และความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองกับนักการเมือง และ วิธีการหาเสียงในการเลือกตั้งของนักการเมืองถิ่นในจังหวัดสตูล ระเบียบวิธีการศึกษาเชิงคุณภาพ โดยการสังเคราะห์ข้อมูลจาก เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การสัมภาษณ์เชิงลึก นำข้อมูล ที่ได้มาทำการจัดระบบข้อมูลแล้วนำมาทำการวิเคราะห์ข้อมูล พร้อมการนำเสนอข้อมูลแบบพรรณนา ผลการศึกษาพบว่า 1) การเมืองถิ่นที่มีความหลากหลาย ทางวัฒนธรรมและศาสนา อาศัยเครือข่ายความสัมพันธ ์

นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล การทำงานพัฒนาจังหวัดร่วมกัน นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล เป็นนักการเมืองซึ่งอาศัยความสัมพันธ์ที่มาจากกลุ่มญาติ พน่ี อ้ ง เพอ่ื นใหก้ ารสนบั สนนุ 2) นกั การเมอื งถน่ิ สตลู ประกอบดว้ ย กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น นักธุรกิจ ครู อาจารย์ ข้าราชการ และ นายแพทย์ 3) นักการเมืองถิ่นสตูลที่มีเครือข่ายความสัมพันธ์ กับครอบครัว เครือญาติ ที่ค่อนข้างเห็นชัดเจน ญาติพี่น้อง มีส่วนช่วยในการหาเสียง รวมถึงเพื่อนสนิท นักธุรกิจ และกลุ่ม ผลประโยชน์ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง 4) พรรคการเมือง ที่เก่าแก่มีบทบาทความสัมพันธ์ต่อการได้รับการเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร และในบางห้วงเวลามีปรากฏการณ์ทาง การเมืองที่มีพรรคการเมืองอื่นเข้ามาแทรกตัวในพื้นที่ และ 5) นักการเมืองถิ่นสตูลมีการจัดการทางการเมืองโดยมีกลวิธี การหาเสียงในการเลือกตั้งด้วยวิธีการปราศรัยหาเสียง การเข้า ร่วมกิจกรรมศาสนา หัวคะแนน การแจกของ การลงพื้นที่พบ ประชาชน และการให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ตามที่ ประชาชนขอมา การระดมทุนในการขอรับการสนับสนุนในการ เลือกตั้ง การจัดการสื่อประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง และ โครงสร้างทางอำนาจที่สัมพันธ์กันของจังหวัดสตลู คำสำคัญ : การเมืองถิ่น นักการเมืองถิ่น การจัดการทาง การเมือง จังหวัดสตูล VII

Abstract Entitled “Local Politics and Local Politicians in Satun”, the research aims to collect information pertaining to elected Satun politicians’ networks and relationships, roles and beneficial relationship in a group, unofficial political supporters, roles and relationship among political parties and politicians, and methods of electioneering. The present study uses qualitative methods by synthesizing data from relevant documents and research, and in-depth interviews. The collected data is systemized and analyzed in terms of descriptive information. The results are as follow. 1) Local politics had cultural and religious diversity. They relied on relationship networks to develop the province. Satun politicians depend on relationships among their relatives and supportive friends. 2) Satun politicians consist of local politic groups, businesspersons, teachers, lecturers, government officials, and

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล doctors. 3) The relationships among family and relatives are considered as an obvious relationship including close friends, businesspersons, and beneficial groups of society, economy, and politics who are involved in their electioneering. 4) An old political party is most likely to be elected as a representative. Sometimes, candidates of other parties had some chance to be elected. 5) Satun politicians’ electioneering strategies include giving speeches, taking part in religious activities, canvassing, giving away gifts, holding mass meetings, giving assistance according to people’s requests, raising funds for electioneering campaigns, providing publications on electioneering, and exploiting relationships with Satun authority structures. Keywords: local politics, local politicians, political management, Satun IX

สารบัญ หนา้ คำนำ IV บทคดั ย่อ VI Abstract IX บทที่ 1 บทนำ 1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา 1 วัตถุประสงค์ 3 ขอบเขตของการศึกษา 3 นิยามคำศัพท์ 4 วิธีการศึกษา 5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 8 บทท่ี 2 ข้อมลู ทั่วไปของจงั หวดั สตูล 10 ที่ตั้งและสภาพภูมิศาสตร์ 11 สภาพสังคมและวัฒนธรรม 52 การบริหารและการปกครอง 55

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล หน้า บทที่ 3 แนวคิด ทฤษฎี และงานวจิ ยั ทเ่ี กี่ยวข้อง 66 ความหมายของคำว่า “นักการเมือง” 67 ความหมายของคำว่า “ผู้นำ” 68 ทฤษฎีผู้นำ 69 ระบบอุปถัมภ์ 72 การสื่อสารทางการเมือง 74 เครือข่ายทางสังคม 76 พื้นที่สาธารณะ 78 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 80 กรอบแนวคิดในการศึกษา 92 บทที่ 4 ภมู ิหลงั ทางการเมอื ง และนักการเมืองจังหวัดสตลู 94 ภมู ิหลังทางการเมืองจังหวดสตูล 95 ประวัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 98 ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่ 1-22 จังหวัดสตลู 109 4.1 การเมืองและนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 110 ยุคแรก (พ.ศ.2475-พ.ศ.2511) 126 4.1.1 พระยาสมันตรัฐบุรินทร์ 128 4.1.2 นายสงวน ณ นคร 154 4.1.3 นายเจ๊ะอับดุลลาห์ หลังปเู ต๊ะ 155 สรุปภาพรวมการเมืองและนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 156 ยุคแรก (พ.ศ. 2475 – พ.ศ. 2500) 165 4.2 การเมืองและนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตลู 170 ยุคสอง (พ.ศ.2512-พ.ศ.2535) 174 4.2.1 นายชสู ิน โคนันทน์ 179 4.2.2 นายสมศักดิ์ เส็นดาโอ๊ะ 4.2.3 นายจิรายุส เนาวเกตุ 4.2.4 นายวิทรู หลังจิ 4.2.5 นายธานินทร์ ใจสมุทร XI

นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล หน้า สรุปภาพรวมการเมืองและนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 185 ยุคสอง (พ.ศ. 2512 – พ.ศ. 2535) 4.3 การเมืองและนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 187 ยุคสาม (พ.ศ.2538-พ.ศ.2550) 4.3.1 นายสนั่น สุธากุล 188 4.3.2 นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี 193 4.3.3 นายฮอซาลี ม่าเหร็ม 197 สรุปภาพรวมการเมืองและนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 202 ยุคสาม (พ.ศ. 2538 – พ.ศ. 2550) บทที่ 5 บทสรุป วิเคราะห์ และขอ้ เสนอแนะ 205 บทสรุป 205 บทวิเคราะห์ 222 ข้อเสนอแนะ 235 ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยในอนาคต 235 ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาการเมือง 236 บรรณานุกรม 239 ภาคผนวก 243 ภาคผนวก ก บุคลานุกรม 243 ภาคผนวก ข ภาพนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตลู 245 ประวัติผ้วู ิจยั 248 XII

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล สารบัญภาพ หน้า ภาพที่ 1 แผนที่จังหวัดสตลู 12 2 เขตการปกครองจังหวัดสตูล แบ่งออกเป็น 7 อำเภอ 60 3 กรอบแนวคิดในการศึกษา 92 4 คุณมนตรี สมันตรัฐ 126 5 บทบาททางการเมืองของพระยาสมันตรัฐบุรินทร์ 126 6 นายสงวน ณ นคร ทายาททางสายเลือด 128 ไม่ใช่ทายาททางการเมือง 7 นางเตือนใจ โคนันทน์ 161 8 นางเตอื นใจ โคนนั ทน์ กลา่ ววา่ “ทา่ น ส.ส.อยากเลน่ การเมอื ง 161 เพราะต้องการช่วยเหลือในสิ่งที่สังคมต้องการ” 9 นายสมศักดิ์ เส็นดาโอ๊ะ 168 10 นายสมศักดิ์ เส็นดาโอ๊ะ กับ เส้นทางการเมือง 169 11 นายจิรายุส เนาวเกตุ ให้สัมภาษณ์แนวความคิดกับ 171 การทำงานทางการเมือง 12 นางยุพิณ หลังจิ (ภรรยานายวิทรู หลังจิ) 179 13 นางยาสินี หลังจิ (บุตรสาวนายวิทรู หลังจิ) 179 14 นายธานินทร์ ใจสมุทร 185 15 เรื่องเล่าทางการเมืองของนายธานินทร์ ใจสมุทร 185 16 อาจารย์ประยรู โขขัด บุคคลผู้มีบทบาทต่องาน 191 ทางการเมืองของนายสนั่น สุธากุล 17 อาจารย์ประยรู โขขัด บอกเล่าการเดินทางด้านการเมือง 191 ของนายสนั่น สุธากุล 18 สื่อจำลองการหาเสียงของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 193 19 นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี 194 20 ภาพเล่าการทำงานด้วยแนวคิดที่ว่า 196 “ทำงานด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม” XIII

นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล สารบัญภาพ หนา้ 197 ภาพที่ 200 21 นายไพศาล หลีเส็น ญาติสนิทกับเส้นทางการเมือง 200 ของนายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี 22 นายฮอซาลี ม่าเหร็ม กับการให้สัมภาษณ์งานการเมือง 23 แนวคิดสำคัญของนายฮอซารี คือ “การสร้างคน สถาบันการศึกษาการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว” สารบัญตาราง หนา้ ตาราง 1 แผนภูมิแสดงจำนวนโรงเรียน ห้องเรียน 53 ครแู ละนักเรียนของสังกัดต่างๆ ประจำปีการศึกษา 2547 2 ข้อมลู เขตการปกครองในจังหวัดสตลู 61 3 ข้อมูลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดสตูล 62 XIV

บ1ทท ี่ บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา จ ั ง ห ว ั ด ส ตู ล ต ั ้ ง อ ยู ่ ท า ง ภ า ค ใ ต ้ ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไทยภายใต้การปกครองระบอบ ประชาธิปไตย นับตั้งแต่ปี 2475 ได้สร้างระบบการเมืองแบบที่ ประชาชนเลือกผู้แทนของตนเข้าไปทำหน้าที่กำหนดนโยบาย สาธารณะแทนตนทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ที่ผ่านมา ในระดับชาติประเทศไทยจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมรวม 22 ครั้ง มีการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภาทางอ้อม 1 ครั้ง ในปี 2489 และมีการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภาโดยตรงครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2543 ในขณะที่ในระดับท้องถิ่นก็ได้จัดให้มีการเลือกตั้งตัวแทนเพื่อทำ หน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในหลายรูปแบบพัฒนาขึ้น

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล ตามลำดับ จังหวัดสตูลซึ่งมีลักษณะของจังหวัดขนาดเล็กและมี ประชากรไทยมุสลิมและไทยพุทธมีการเสนอตัวของประชาชน ที่สังกัดพรรคและไม่สังกัดพรรคเพื่อเข้าไปเป็นตัวแทนในการ แข่งขันการเลือกตั้งนั้นถือเป็นกิจกรรมตามเจตนารมณ์ใน ระบอบประชาธิปไตยที่มีการแข่งขันต่อสู้ชิงไหวชิงพริบของ นักการเมือง โดยมีการระดมสรรพกำลังทุกด้านเพื่อให้ได้รับ ชัยชนะผ่านระบบเครือญาติ พวกพ้องมีบทบาทความสัมพันธ์ ของเครือข่ายและการสนับสนุนทางการเมือง การจัดตั้งและ แยกแยะฐานมวลชน บรรดาสมัครพรรคพวกและผู้สนับสนุนทั้ง หลายก็กำลังดำเนินกิจกรรมเพื่อรักษาฐานเสียงในพื้นที่ด้วย เช่นกัน และทันทีที่ภารกิจที่ส่วนกลางสิ้นสุดลง การลงพื้นที่ พบปะประชาชนตามสถานที่และงานบุญงานประเพณีต่างๆ และกิจกรรมทางวัฒนธรรม ความเชื่อ ทัศนคติของกลุ่มคน เป็นสิ่งที่นักการเมืองผู้หวังชัยชนะในการเลือกตั้งทางการเมือง เพื่อโน้มน้าวและชักจูงใจ ซึ่งจะมีพัฒนาการทางการเมืองของ นกั การเมอื งถน่ิ และเพอ่ื นำไปสกู่ ารปลกู ฝงั อดุ มการณเ์ พอ่ี ถกั ทอ เครือข่ายและการสร้าง อัตลักษณ์ท้องถิ่นเป็นพรรคการเมือง ของท้องถิ่นนิยม อย่างไรก็ตาม การเมืองที่ศึกษากันอยู่ก็คือ สิ่งที่เรียกว่า “การเมืองถิ่น” หรือ “การเมืองท้องถิ่น” ที่เป็นการศึกษาเรื่อง ราวของการเมืองที่เกิดขึ้นในอาณาบริเวณของท้องถิ่นในจังหวัด สตูลนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงหลายสิ่งหลายอย่างของการเมืองถิ่น ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนานในแง่มุมของนักการเมือง เครือข่ายและความสัมพันธ์บทบาทกลุ่มผลประโยชน์ตลอดจน พรรคการเมืองในการเมืองระดับชาติ “การเมืองถิ่น” และ

บทนำ “นักการเมืองถิ่น” จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจแก่การศึกษาเพื่อ เติมเต็มองค์ความรู้ที่ได้ค้นพบมาพิจารณาอย่างลึกซึ้งถ่องแท้ การเมืองจังหวัดสตลู วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษานักการเมืองที่เคยได้รับการเลือกตั้ง ในจังหวัดสตูล 2. เพอ่ื ศกึ ษาถงึ เครอื ขา่ ยและความสมั พนั ธข์ องนกั การเมอื ง ในจังหวัดสตูล 3. เพื่อศึกษาบทบาทและความสัมพันธ์ของกลุ่ม ผลประโยชนแ์ ละกลมุ่ ทไ่ี มเ่ ปน็ ทางการ เชน่ ครอบครวั วงศาคณาญาติ ฯลฯ ที่มีส่วนในการสนับสนุน ทางการเมืองแก่นักการเมืองในจังหวัดสตลู 4. เพื่อศึกษาบทบาท และความสัมพันธ์ของพรรค การเมืองกับนักการเมืองใน จังหวัดสตลู 5. เพื่อศึกษาถึงวิธีการหาเสียงในการเลือกตั้งของ นักการเมืองในจังหวัดสตูล ขอบเขตของการศึกษา การเมืองของนักการเมืองระดับชาติตั้งแต่การเลือกตั้ง ทั่วไปครั้งแรกจนถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 22 ในจังหวัดสตูล โดยให้ความสำคัญกับเครือข่ายและความ สัมพันธ์ของนักการเมือง บทบาทของกลุ่มผลประโยชน์และ

นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล กลุ่มที่ไม่เป็นทางการ กลุ่มต่างๆ บทบาทและความสัมพันธ์ของ พรรคการเมืองกับนักการเมืองภายในจังหวัดสตูล ตลอดจน รปู แบบ วิธีการ และกลวิธีต่างๆ ที่นักการเมืองใช้ในการเลือกตั้ง นิยามคำศัพท์ 1. อิหม่าม หมายถึง ผู้นำในศาสนาอิสลาม, ผู้นำ ในการทำละหมาด 2. โต๊ะอิหม่าม หมายถึง คำเรียกหัวหน้านักบวช ในศาสนาอิสลาม 3. ดาโต๊ะ หมายถึง คนเฒ่า คนแก่ และยังหมายถึง ฐานันดรของข้าราชการ 4. ดะโต๊ะยุติธรรม หมายถึง ผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดี ครอบครัวและมรดกโดยใช้กฎหมายอิสลาม สำหรับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับคดีที่ผู้ร้อง หรือ คู่ความเป็นมุสลิม และมีกฎหมายบัญญัติให้ใช้ กฎหมายอิสลาม 5. ตาดีกา หมายถึง ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กเล็กใน ชุมชนมุสลิมซึ่งถูกจัดขึ้น เพื่อให้การอบรมทางด้าน ศาสนาแก่เด็ก 6. บิหลั่น หมายถึง ผู้ทำหน้าที่ป่าวประกาศให้มุสลิม มาละหมาดที่มัสยิด เมื่อถึงเวลา คำว่า “บิหลั่น” มาจากคำว่า “บิลาล” ซึ่งเป็น ชื่อของทาสผิวดำผู้ทำ หน้าที่ป่าว ประกาศเชิญชวนมุสลิม ให้มาละหมาด เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์อิสลาม

บทนำ 7. การเมืองถิ่นสตูล หมายถึง ปรากฏการณ์ทาง การเมืองที่เกิดขึ้นในจังหวัดสตลู 8. นักการเมืองถิ่นสตูล หมายถึง บุคคลผู้เป็นตัวแทน ของประชาชนในการทำหน้าที่ทางการเมือง เพื่อ ผลประโยชน์ต่อประชาชนในจังหวัดสตูล วิธีการศึกษา ก า ร ศ ึ ก ษ า ว ิ จ ั ย ค ร ั ้ ง น ี ้ เ ป ็ น ก า ร ว ิ จ ั ย เ ช ิ ง ค ุ ณ ภ า พ (Qualitative Research) ที่มุ่งเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา และการตีความสภาพการณ์ที่เกี่ยวกับ “นักการเมืองถิ่น” และ “การเมืองถิ่น” การเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญของ นักการเมืองทุกคนในจังหวัดสตูล โดยนักวิจัยทำการศึกษา ข้อมลู ที่จำเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. ข้อมูลทุติยภูมิ ข้อมูลส่วนนี้ คือ การศึกษาข้อมูลเอกสาร บทความ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (Documentary Research) ต่างๆ เช่น รายงานการวิจัยนักการเมืองถิ่น หนังสือพิมพ์รายวัน หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ เอกสารทางวิชาการ ห้องสมุดรัฐสภา วิทยานิพนธ์ หลักฐานจากภาคราชการที่เกี่ยวข้อง 2. ข้อมูลปฐมภูมิ ข้อมูลส่วนนี้ คือข้อมูลที่เก็บรวบรวมประวัติ สถานการณ์ การเมือง ความสัมพันธ์ทางการเมือง บทบาทเครือข่าย การเมืองของนักการเมืองจังหวัดสตลู

นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล 2.1 ประชากร ประชากรที่ศึกษาคือ โดยพิจารณาจาก คำแนะนำของบุคคลที่ทราบเรื่องการเมืองหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง กับการเมืองเน้นผู้สูงอายุในจังหวัดสตูลหรือกรณีที่เคยทำงาน ในจังหวัดสตูล ข้อมูลเกี่ยวกับนักการเมืองถิ่นและการเมืองถิ่น บทบาทและเครือข่ายความสัมพันธ์ของพฤติกรรมทางการเมือง ที่ปรากฏในช่วงเวลาสถานที่เหตุการณ์ในขณะใดขณะหนึ่งของ นักการเมือง 2.2 การเลอื กกลมุ่ ตวั อยา่ ง ใชว้ ธิ กี ารเลอื กกลมุ่ ตวั อยา่ ง ผู้สูงอายุแบบเจาะจง(Purposive Sample) โดยอาศัยผู้ให้ข้อมูล หลัก (Key Informant) ผู้วิจัยได้กำหนดจากคุณสมบัติผู้สูงอายุ มีอายุไม่น้อยกว่า 60 ปี เป็นผู้ที่มีความจำดี สามารถพูดคุยด้าน ประวัติศาสตร์การเมืองความสัมพันธ์ทางการเมือง ความเชื่อ ค่านิยม ทัศนคติของคนในขณะนั้นและการสัมภาษณ์บุคคล ในปัจจุบันที่เกี่ยวข้องทางการเมืองในจังหวัดสตูล จำนวน 10 - 12 คน โดยมีเกณฑ์ดังนี้ 2.2.1 บุคคลทางการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งและ แต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.2.2 บุคคลทางการเมืองคู่แข่งขัน หรือฝ่ายตรงกัน ข้ามทางการเมือง 2.2.3 กลุ่มเครือข่ายทางการเมือง เช่น ผู้สมัคร ทางการเมือง หัวคะแนน ผู้มีอิทธิพล ผู้สนับสนุนทางการเมือง เครือญาติของนักการเมืองเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุไม่น้อยกว่า 60 ปี เป็นผู้ที่มีความจำดี สามารถพูดคุยด้านประวัติศาสตร์ การเมืองความสัมพันธ์ทางการเมืองความเชื่อ ค่านิยมทัศนคติ

บทนำ ของคนในขณะนั้น และการสัมภาษณ์บุคคลในปัจจุบัน ที่เกี่ยวข้องทางการเมืองจำนวน 10-12 คน 2.3 เคร่ืองมือการวิจัย คือ แนวคำถามแบบสัมภาษณ์ มีลักษณะแนวคำถามกึ่งโครงสร้าง (Semi-Structure) ได้จากการ ศึกษารายละเอียดของนักการเมืองจังหวัดสตูลประวัติ ภูมิหลัง เครือข่ายเครือญาติ พรรคพวกเพื่อนฝูง สังคมวัฒนธรรม การเกาะเกี่ยวกันทางสังคม ความสัมพันธ์กลุ่มผลประโยชน์และ อิทธิพลรวมทั้งค่านิยม ความเชื่อ ระบบอุปถัมภ์ แล้วนำมาสร้าง เป็นแนวคำถามแบบกึ่งโครงสร้าง 2.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล คือ ใช้วิธีการสัมภาษณ์ แบบเจาะลึก (In-depth Interview) การสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ ข้อมูลสำคัญและการเชื่อมโยงโดยใช้วิธีการ snow ball เพื่อให้ ได้ข้อมลู จากการแนะนำของผู้ให้ข้อมูลไปยังบุคคลอื่นที่สามารถ เพิ่มเติมและมีข้อมูลที่ชัดเจนยิ่งขึ้นจากกลุ่มบุคคลดังกล่าว ขา้ งตน้ จะทำการศกึ ษารายละเอยี ดของขอ้ มลู เกย่ี วกบั นกั การเมอื ง ถิ่นและการเมืองถิ่นสตูล บทบาทและเครือข่ายความสัมพันธ์ ของพฤติกรรมทางการเมืองที่ปรากฏในช่วงเวลาสถานที่ เหตุการณ์ในขณะใดขณะหนึ่งของนักการเมืองถิ่น 2.5 การจัดการข้อมูล คือ หลังจากการสัมภาษณ์ นักวิจัยต้องตรวจสอบข้อมูลให้มีความครบถ้วนเพียงพอและ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือได้จากการถามซ้ำและใช้การสังเกต ร่วมด้วยหลังจากนั้นจึงนำมาจัดระเบียบข้อมูลแยกประเภท ข ้ อ มู ล ต า ม ป ร ะ เ ด ็ น ท ี ่ ศ ึ ก ษ า ห ร ื อ ต า ม ว ั ต ถ ุ ป ร ะ ส ง ค ์ โ ด ย องค์ประกอบผูกพันกับผู้ให้ข้อมูล เช่น อายุ เวลา เหตุการณ ์

นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น 2.6 การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลเชิง คุณภาพของการศึกษาครั้งนี้มาจัดระเบียบตามวัตถุประสงค์มา เขียนเรียบเรียงเพื่อหาความสัมพันธ์ของปรากฏการณ์ต่างๆ การวิเคราะห์ความเชื่อมโยงและการพรรณนาความด้วยความ เรียง ตลอดจนข้อสรุปทั้งหมดโดยมุ่งให้เห็นภาพรวมของ การเมืองในแต่ละช่วงสถานการณ์ ประวัติ ภูมิหลังนักการเมือง วัฒนธรรมการเมือง ค่านิยม ความเชื่อ อัตลักษณ์ พัฒนาการ ตามลำดับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญเพื่อ หาคำตอบตามวัตถุประสงค์ของการศึกษาได้ 2.7 การสังเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบจากการเชิญ บุคคลต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองมาร่วมพิจารณา ข้อมูลในรูปแบบของ Focus Group จำนวน 10 คน เพื่อให้ อ่านข้อมูลแล้ววิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูล มาโดยสามารถปรับปรุงแก้ไขจากผู้ทรงคุณวุฒิ 2.8 การจดั ทำร่างรายงานการวิจยั 2.9 การจดั ทำรายงานการวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ ์ ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รับ 1. เกิดความเข้าใจถึงกลไกทางการเมืองในจังหวัดสตูล ตั้งแต่มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกจนถึงการเลือกตั้ง ครั้งที่ 22

บทนำ 2. ได้ทราบว่าตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรกเป็นต้นมา มีนักการเมืองคนใดในจังหวัดสตูลได้รับการเลือกตั้ง บ้าง และชัยชนะของนักการเมืองเหล่านี้มีสาเหตุและ ปัจจัยอะไรสนับสนุน 3. ได้ทราบถึงความสำคัญของกลุ่มผลประโยชน์และ กลมุ่ ทไ่ี มเ่ ปน็ ทางการ เชน่ ครอบครวั วงศาคณาญาติ ฯลฯ ที่มีต่อการเมืองในท้องถิ่นจังหวัดสตูล 4. ได้ทราบถึงความสำคัญของพรรคการเมืองในการ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดสตูล 5. ไดท้ ราบรปู แบบ วธิ กี าร และกลวธิ ตี า่ งๆ ทน่ี กั การเมอื ง จังหวัดสตูลใช้ในการเลือกตั้ง 6. ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับ “การเมืองถิ่น” และ “นกั การเมอื งถ่นิ ” จงั หวดั สตลู สำหรบั เป็นองคค์ วามรู้ ในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการเมืองการปกครองไทย ต่อไป

บ2ทท ี่ ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดสตูล จังหวัดสตูลแม้เป็นเพียงจังหวัดขนาดเล็ก แต่ก็เป็น จังหวัดที่ติดบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันทางภาคใต้ของ ประเทศไทย และมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีเกาะแก่งที่งดงามเป็นที่ กล่าวขาน ทั้งยังอุดมด้วยธรรมชาติป่าเขาที่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้ นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยประชากร ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม นอกจากนั้น เป็นผู้นับถือศาสนาพุทธ โดยมีวัฒนธรรมประเพณีทางศาสนา ที่แตกต่างกัน แต่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้แบบพหุวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมในพิธีกรรม ประเพณีที่แตกต่างกันโดยไม่เกิด ความขัดแย้งในวิถีชีวิตทางสังคมร่วมกันได้อย่างมีความสุข

ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดสตูล นอกจากนี้ จังหวัดสตูลยังมีสภาพภูมิประเทศที่มีความ เหมาะสมทั้งสถานที่ตั้ง ภูมิอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทุนทางสังคมของจังหวัดในเรื่องต่างๆ มากมาย จนกระทั่งทำให้จังหวัดขนาดเล็กทางภาคใต้เกิดการ พัฒนาสู่การเป็นจังหวัดทางเศรษฐกิจ จึงทำการศึกษาข้อมูล บริบทจังหวัดสตลู ดังต่อไปนี้ ท่ีต้ังและสภาพภูมิศาสตร์ 1. ท่ีต้ัง ขนาด และอาณาเขต จังหวัดสตูลตั้งอยู่ทางตอนใต้ด้านตะวันตกของประเทศ ทางฝั่งอันดามันแห่งมหาสมุทรอินเดีย เป็นจังหวัดชายแดนภาค ใต้ที่มีพรมแดนติดกับประเทศมาเลเซีย ตามพิกัดของแผนที่ ที่ตั้งอยู่ระหว่างละติจูดที่ 6 องศา 37 ลิปดา 15 ฟิลิปดา ลองจิจูดที่ 100 องศา 4 ลิปดา 10 ฟิลิปดา ตะวันออก อยู่ห่าง จากกรุงเทพมหานครโดยเส้นทางรถยนต์ 973 กิโลเมตร มีเนื้อที่ ทั้งสิ้น 2,478.98 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,549,361.00 ไร่ ใหญ่เป็นอันดับที่ 60 ของประเทศ จังหวัดสงขลาซึ่งมีอาณาเขต ติดต่อกัน ใหญ่กว่าจังหวัดสตูล 2.98 เท่า จังหวัดที่มีพื้นที่ ใกล้เคียงกับจังหวัดสตูล ได้แก่ จังหวัดพัทลุงกับจังหวัดตรัง จังหวัดสตูลมีพื้นที่เป็นเกาะประมาณ 105 เกาะ ชายฝั่งทะเล ยาว 144.80 กิโลเมตร มีอาณาเขต ดังนี้ ทิศเหนือ จดอำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง และอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ทิศใต้ จดรัฐปะลิส กับรัฐเคดาห์ของ ประเทศมาเลเซีย 11

นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล ทิศตะวันออก จดอำเภอรัตภูมิ กับอำเภอสะเดา จังหวัด สงขลา และรัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย ทิศตะวันตก จดทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย ภาพที่ 1 แผนท่ีจงั หวดั สตูล 2. ลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่จังหวัดสตูลทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก เป็นเนินเขาและภูเขาสลับซับซ้อน โดยมีเทือกเขาที่สำคัญ คือ เทือกเขานครศรีธรรมราช มีลักษณะเป็นทิวเขายาวพุ่งลงใต้ไป ติดต่อกับทิวเขาสันกาลาคีรี พื้นที่ของจังหวัดค่อยๆ ลาดเอียงลง สู่ทะเลด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ โดยมีที่ราบแคบๆ ขนานไป กับชายฝั่งทะเล ถัดจากที่ราบลงไปเป็นป่าชายเลนน้ำเค็มขึ้นถึง 12

ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดสตูล อุดมไปด้วยป่าแสมและป่าโกงกาง เป็นจังหวัดที่ไม่มีแม่น้ำ ไหลผ่าน คงมีแต่ลำน้ำสั้น ๆ ต้นน้ำเกิดจากภูเขาทางทิศเหนือ และทิศตะวันออกของจังหวัด ดังนั้น จึงมีพื้นที่ที่เป็นภูเขา ประมาณร้อยละ 40.31 เป็นพื้นที่ราบหรือเนินร้อยละ 41.81 และเป็นพื้นที่แฉะน้ำท่วมร้อยละ 17.88 ดังมีรายละเอียดด้าน พื้นที่ต่อไปนี้ 2.1 ภูเขา ภเู ขาที่สำคัญในจังหวัดสตลู ได้แก่ 2.1.1 เขาจีน หรือบูเก็ตจีนา เป็นส่วนหนึ่งของทิวเขา นครศรีธรรมราช มีความสูง 740 เมตร นับเป็นเขาที่สูงที่สุดใน จังหวัดสตูล มีลักษณะเป็นทิวยาวเชื่อมกับเขาอื่นๆ หลายลูก และติดต่อกับทิวเขาสันกาลาคีรี ซึ่งแบ่งเขตประเทศไทยกับ ประเทศมาเลเซีย เป็นต้นกำเนิดของสายน้ำหลายสาย น้ำตก ที่มีชื่อ ได้แก่ น้ำตกยาโรย บริเวณหุบเขาที่ติดต่อกับชายแดน ใหญ่เรียกว่า บึงทะเลบัน มีเนื้อที่ประมาณ 125 ไร่ เป็นที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติด้านทิศตะวันตกของเขาจีนมีเขามดแดง ตั้งเป็นแนวยาวไปทางทิศใต้ เขามดแดงมีความสูง 489 เมตร ถัดไปทางด้านทิศตะวันตกของเขามดแดงเป็นที่ตั้งเขาวังประจัน บริเวณหุบเขามีที่ราบกว้างใหญ่เป็นทุ่งหญ้าและป่าโปร่ง 2.1.2 เขาวังเพนียด เขาเกตรีตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ของเขาวังประจัน เขาวังเพนียดมีความสูง 374 เมตร เชื่อมต่อ กับเขาหาบเคยซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ ด้านตะวันตกของเขา วังเพนียดเป็นที่ตั้งของเขาเกตรี ซึ่งอยู่ในแนวขนานกันมีความสูง 286 เมตร ทิศเหนือของเขาเกตรีเชื่อมกับเขาอีกหลายลูกได้แก่ เขาหินร้อง เขาวังสาย และเขาวังช้างซึ่งมีความสูง 290 เมตร 13

นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล ด้านตะวันตกของเขาเกตรีเป็นที่ตั้งของเขาออก ซึ่งเป็นทิวยาว ขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 406 ตั้งแต่ตำบลบ้านควนถึง ตำบลฉลุง 2.1.3 เขากวงใหญ่ เขากวงเล็ก เป็นทิวเขาที่เชื่อมต่อ กับเขาหาบเคยทอดยาวลงไปทางใต้ขนานกับทิวเขาสันกาลาคีรี ผ่านท้องที่ตำบลเกตรี ตำบลคลองขุด เชื่อมต่อกับเขาวังกลอง เขากายัง เขาคราม และเขาปูยู ซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลปูยู บริเวณเทือกเขาเหล่านี้มีป่าไม้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และพื้นที่ ส่วนหนึ่งเป็นป่าชายเลน 2.1.4 เขาหวังหมัน เขาพ้อ เป็นทิวเขาที่ตั้งอยู่ทาง ดา้ นทศิ ตะวนั ออกของเขตเทศบาลเมอื งสตลู ขนานกบั เขากวงเลก็ และเขากวงใหญ่ เขาวังหมันมีความสูง 348 เมตร ตั้งอยู่ทาง ทิศเหนือของเขาพ้อ พื้นที่ราบระหว่างเขาวังหมัน-เขาพ้อ กับ เขากวงเล็ก เขากวงใหญ่ จะมีคลองวังเพนียดและคลองท่าจีน ไหลผ่านทำให้บริเวณดังกล่าวอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าชายเลน 2.1.5 เขากาหมิง เป็นทิวเขายาวจากตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง ทอดยาวลงใต้ เชื่อมกับทิวเขาจีนที่ตำบล วังประจัน อำเภอควนโดน เขากาหมิงมีความสูง 649 เมตร เป็นต้นกำเนิดของลำคลอง และสายน้ำหลายสายน้ำตกที่มีชื่อ ได้แก่ น้ำตกปาหนัน น้ำตกโตนปลิว และมีถ้ำสวยงามอีกหลาย แห่ง 2.1.6 เขาพระยาบังสา เป็นทิวเขาตั้งอยู่ในตำบลฉลุง ของอำเภอเมืองสตูล ตำบลย่านซื่อ และตำบลควนโดนของ อำเภอควนโดนเป็นแนวยาวขนานไปกับทางหลวงสาย 406 และ 14

ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดสตูล 416 ด้านทิศเหนือของเขาพระยาบังสาเชื่อมกับเขาไฟไหม้ เขาพระยาบังสามีความสูง 445 เมตร เขาพระยาบังสาตั้งอยู่ใน เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักยาพระและเขาพระยาบังสา 2.1.7 เขาค้อม เขาแดง เขาค้อมเป็นทิวเขาตั้งอยู่ใน ท้องที่ตำบลควนกาหลง มีความสูง 490 เมตร เชื่อมต่อกับ เขาแดงในท้องที่ตำบลทุ่งนุ้ย และติดต่อกับเขาไคร เขาขาว ซง่ึ ตง้ั อยทู่ างเหนอื เขาไครมนี ำ้ ตกทม่ี ชี อ่ื ไดแ้ ก่ นำ้ ตกธาราสวรรค์ และน้ำตกสายใจ 2.1.8 เขาเปรีย เขาแดง เป็นทิวเขาสำคัญของอำเภอ ทงุ่ หวา้ ตง้ั อยใู่ นทอ้ งทข่ี องตำบลนาทอน ตำบลทงุ่ หวา้ เปน็ ทวิ เขา ขนานไปกับทางหลวงแผ่นดินสาย 416 2.1.9 เขายาระ เขานาตงิ เขาทงุ่ ดนิ ลมุ่ และเขาลงุ เตรอะ ป่าแก่บ่อหิน และตอนเหนือของตำบลทุ่งหว้า บริเวณทิวเขานี้ มีน้ำตกสำคัญ ได้แก่ น้ำตกธารปลิว มีลักษณะเป็นน้ำตก 2 ชั้น ชั้นบนเป็นน้ำตก ชั้นล่างเป็นแอ่งน้ำขนาดกว้างประมาณ 40 เมตร ยาว 50 เมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่ง 2.1.10 เขาขาว เป็นทิวเขาสำคัญตั้งอยู่ในเขตตำบล กำแพงกับตำบลเขาขาว อำเภอละงู มีความสูง 262 เมตร 2.1.11 เขาโต๊ะพญาวัง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมือง สตูลทางการปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะหรือ อุทยานเขต พญาวัง ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ด้านทิศตะวันตกของเขาโต๊ะ พญาวังมีคลองมำบังไหลเลียบริมภูเขา อีกทั้งมีถนนเวียนรอบ ภูเขา สงบร่มรื่นด้วยพรรณไม้ และมีถ้ำสวยงามหลายแห่ง เขาโต๊ะพญาวังมีความสงู 200 เมตร 15

นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล 2.1.12 เขาโต๊ะหยงกง เป็นภูเขาลูกเล็กตั้งอยู่ในเขต เทศบาลเมืองสตูล คู่กับเขาโต๊ะพญาวัง ตั้งอยู่ทางทิศด้านทิศใต้ ของเขาโตะ๊ พญาวงั มคี ลองมำบงั ไหลผา่ นดา้ นตะวนั ตก เชอ่ื กนั วา่ เป็นภเู ขาศักดิ์สิทธิ์ 2.1.13 เขาทะนาน ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งบุหลัง อำเภอทุ่งหว้า เป็นภูเขาที่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นสถานที่ ท่องเที่ยวมีน้ำล้อมรอบทิศตะวันตกและทิศใต้ ด้านทิศเหนือ และทิศตะวันออกเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป มีถ้ำ สวยงาม 2.1.14 เขาโต๊ะดู ตั้งอยู่ที่ทางทิศตะวันตกของ เทศบาลตำบลกำแพง ประมาณ 2 กิโลเมตร เทศบาลตำบล กำแพงได้ใช้รูปภูเขาเป็นสัญลักษณ์ของเทศบาลเชื่อกันว่าเป็น เขาศักดิ์สิทธิ์ 2.2 แหลง่ น้ำสำคญั จังหวัดสตูลมีแม่น้ำ มีเฉพาะสายน้ำเล็กๆ และ ลำคลองซึ่งมีต้นน้ำจากภูเขาที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือและทิศ ตะวันออก แหล่งน้ำที่สำคัญมีดังนี้ 2.2.1 คลองละงู คลองละงูเป็นเส้นแบ่งเขตอำเภอ ละงู และกิ่งอำเภอมะนังเปรียบเสมือนเส้นโลหิตหล่อเลี้ยง ราษฎรสองอำเภอ ต้นน้ำเกิดจากทิวเขาปลายห้วยยอดต้นไทร ใต้ในเขตจังหวัดตรังกับจังหวัดสตูลไหลผ่านด้านทิศตะวันตก ของตำบลนิคมพัฒนากิ่งอำเภอมะนัง และผ่านตำบลน้ำผุด ตำบลเขาขาว ตำบลกำแพง และตำบลปากน้ำ อำเภอละงู 16

ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดสตูล คลองสายนี้แยกออกเป็นสองสายที่บริเวณปากแพรก ซึ่งอยู่ ระหว่างตำบลละงู ตำบลกำแพงกับตำบลปากน้ำ สายที่ 1 ไหลออกสู่ทะเลที่บ้านปากบารา ตำบล ปากน้ำ สายที่ 2 ไหลผ่านบ้านปิใหญ่แล้วแยกเป็นสองสาย ที่บ้านตูตำหรำ โดยสายหนึ่งไหลไปบรรจบกับคลองบ่อเจ็ดลูก แล้วไหลออกทะเลที่บ้านบ่อเจ็ดลูก ตำบลปากน้ำ ส่วนอีก สายหนึ่งไหลออกทะเลที่บ้านบุโบย ตำบลแหลมสน ความยาว ของคลองละงูประมาณ 60 กิโลเมตร 2.2.2 คลองท่าแพ คลองบาระเกต หรือ คลอง การะเกต เป็นคลองสายเดียวกัน ต้นน้ำเกิดจากทิวเขาที่ตั้งอยู่ ในจังหวัดสงขลา ไหลผ่านตำบลทุ่งนุ้ย มักเรียกชื่อคลอง การะเกตผ่านอำเภอควนโดน เป็นเส้นแบ่งเขตกับอำเภอ ควนกาหลง ไหลผ่านอำเภอท่าแพ บริเวณบ้านนาแห้ว บ้านท่าแพ ช่วงนี้เรียกว่าคลองบาระเกต หรือชื่อทางราชการ เรียกว่า คลองท่าแพ (ตำบลท่าแพเดิมชื่อตำบลการะเกต) 2.2.3 คลองลำโลน คลองสายนี้เปรียบเสมือน เส้นโลหิตที่หล่อเลี้ยงพื้นที่ต่างๆ ของกิ่งอำเภอมะนังและอำเภอ ควนกาหลงคลองลำโลนแบ่งเป็นสองสายใหญ่ สายเหนือต้นน้ำ เกิดจากเทือกเขาในเขตจังหวัดพัทลุง ตรัง แล้วไหลผ่านทาง ตอนเหนือของกิ่งอำเภอมะนัง บรรจบกับคลองละงูทางตอน เหนือของอำเภอละงู ส่วนอีกสายหนึ่งต้นน้ำเกิดจากทิวเขา หลวง ไหลผ่านตำบลทุ่งนุ้ย ตำบลควนกาหลง ตำบลอุใดเจริญ ไปบรรจบกับคลองละงูที่บ้านส้านแดง ตำบลเขาขาว อำเภอ ละง ู 17

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 2.2.4 คลองดุสนต้นน้ำไหลมาจากบ้านโตน ตำบล ทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลงไหลมารวมกับคลองหัก ซึ่งต้นน้ำเกิด จากเขากาหมิงและคลองหัวเฉียว โดยต้นน้ำเกิดจากบริเวณ เขากาหมิงแล้วไปบรรจบกับคลองฉลุงที่ตำบลฉลุง อำเภอเมือง สตูล 2.2.5 คลองมำบัง ไหลผ่านตำบลพิมาน ตำบล ควนขันและตำบลคลองขุด ต้นน้ำเกิดจากคลองสองสาย ได้แก่ คลองน้ำพระกับคลองกาเนะ ไหลมารวมกันทางตอนเหนือของ บ้านกาเนะ สำหรับคลองน้ำพระมีต้นน้ำมาจากเขาพระยาบังสา ไหลมาเชื่อมกับคลองฉลุงที่บ้านน้ำพระ ส่วนคลองกาเนะมี ต้นน้ำจากตอนเหนือของเขาโภคา อำเภอควนโดน คลองมำบัง ไหลผ่านบ้านเกาะนก โดยแยกออกเป็นสองสาย สายแรกไหล ออกปากน้ำตำมะลัง สายที่สองไหลไปรวมกับคลองตะเมียง แล้วออกสู่ปากน้ำที่บ้านตันหยงโป 2.2.6 คลองท่าจีน เริ่มต้นเป็นคลองวังเพนียด ต้นน้ำ เกิดจากเขาวังเพนียด ไหลมาบรรจบกับคลองวังประที่บ้าน ท่าจีนแล้วมาบรรจบกับคลองท่าจีนไหลผ่านระหว่างหุบเขา ทิศตะวันตกเป็นทิวเขาวังหมันกับเขาพ้อ ทิศตะวันออกเป็น เขากวงใหญ่กับเขากายัง ไหลออกสู่ปากอ่าวท่าจีน 2.2.7 คลองทุ่งหว้า ต้นน้ำเกิดจากทิวเขาเขตต่อ ระหว่างจังหวัดตรังและจังหวัดสตูลทางตอนเหนือของบ้าน ทุ่งดินลุ่ม ตำบลป่าแก่บ่อหินไหลผ่านบ้านเหนือคลอง บ้าน ท่าข้าม บ้านท่าอ้อยออกสู่ทะเลที่บ้านท่าอ้อย เป็นคลอง สายสำคัญของอำเภอทุ่งหว้า 18

ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดสตูล 2.2.8 คลองดาว้า เกิดจากคลองปาเต๊ะซึ่งมีต้นน้ำ จากบ้านปาเต๊ะไหลมารวมกันกับคลองหลบออกสู่ทะเลที่ปาก อ่าวเกาะฮันตทู ี่บ้านปาเต๊ะ 2.2.9 คลองชลประทาน เปน็ ลำคลองทก่ี รมชลประทาน ขุดขึ้นโดยขุดแยกจากคลองดุสนเพื่อส่งน้ำไปใช้ในการเกษตร บริเวณพื้นที่ตำบลควนสตอ อำเภอควนโดน ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล มีความยาวทั้งสิ้น 18 กิโลเมตร 2.2.10 หนองปลักพระยา ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล ริมทางหลวงหมายเลข 416 คือ หนองน้ำ มีเนื้อที่ 270 ไร่ สำหรับอนุรักษ์พันธุ์นกน้ำ และสัตว์น้ำ โดยเป็น สถานที่พักผ่อนหย่อนใจซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หนองปลักพระยาและเขาพระยาบังสา 2.2.11 ทะเลบัน เป็นบึงขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ 125 ไร่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบล วังประจัน อำเภอควนโดน อยู่ระหว่าง หุบเขา ได้แก่ เขาจีนกับเขามดแดง ห่างจากชายแดนประเทศ มาเลเซีย 2 กิโลเมตร จังหวัดได้ปรับปรุงให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดสตลู 2.3 เกาะ จังหวัดสตูลมีชายฝั่งทะเลเป็นแนวยาว 144.80 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นเกาะยาวประมาณ 105 เกาะ ดังนั้น เมืองนี้น่าจะได้รับสมญาว่า “เมืองร้อยเกาะ” หมู่เกาะที่สำคัญ ได้แก่ 19

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 2.3.1 หมู่เกาะอาดัง – ราวี อยู่ห่างจากตัวจังหวัด ประมาณ 80 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาต ิ ตะรุเตา ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองสตูล ประกอบด้วย เกาะต่างๆ ไม่น้อยกว่า 27 เกาะ ได้แก่ เกาะอาดัง เกาะหลีเป๊ะ เกาะราวี เกาะลังจา เกาะบูบู เกาะบิสสี เกาะบูตัง เกาะสาวัง เกาะดง เกาะตาลัง เกาะบงกัง เกาะอุเส็น เกาะหินงาม เกาะฮันตู เกาะลอกวย เกาะซาไก เกาะพิน เกาะกาต้า เกาะซอมวง เกาะบุราด เกาะปานากา เกาะปะลัย เกาะกาจา เกาะยาง เกาะจะบัง เกาะละมะ และเกาะบุโล 2.3.2 หมู่เกาะตะรุเตา อยู่ห่างจากตัวจังหวัด ประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ ตะรุเตา ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองสตูล ประกอบด้วย เกาะต่างๆ ไม่น้อยกว่า 23 เกาะ ได้แก่ เกาะตะรุเตา เกาะกอและ เกาะเหล็ก เกาะแลน เกาะแดง เกาะกลาง เกาะดอเลาะ เกาะกามัน เกาะสิงห์ เกาะปาลิตง เกาะตะงาห์ (เกาะกลาง) เกาะไข่ (เกาะตะรัน) เกาะปัน เกาะลาละ เกาะดินเจน เกาะโต๊ะเส็น เกาะมุยจุก เกาะซินนา เกาะปุเลายง เกาะปันตัน เกาะอาขา เกาะลิงงา และเกาะบัน 2.3.3 หมู่เกาะสาหร่าย ตั้งอยู่ในตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล ประกอบด้วย เกาะน้อยใหญ่ไม่น้อยกว่า 15 เกาะ ไดแ้ ก่ เกาะสาหรา่ ย เกาะยะระโตดนยุ้ เกาะตนั หยงอมุ า เกาะมดแดง เกาะคำเป้ เกาะแรดใหญ่ เกาะแรดน้อย เกาะปุ เลาเออ เกาะกา เกาะเปลายัน เกาะตูบัน เกาะปูรู เกาะพีพี เกาะถ้ำ และเกาะหอขาว 20

ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดสตูล 2.3.4 หมู่เกาะตำมะนัง ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลตำมะลัง และตำบลปูยู อำเภอเมืองสตูล ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ไม่น้อย กว่า 1 เกาะ ได้แก่ เกาะติกาใหญ่ เกาะติกากลาง เกาะติกาเล็ก เกาะหัวมัน เกาะยาวใหญ่ เกาะยาวเล็ก เกาะคูนิง เกาะการับ เกาะปรัสมานา เกาะมิ และเกาะนกขมิ้น 2.3.5 หมู่เกาะหาดทรายยาว ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบล ตันหยงโปตำบลเจ๊ะบิลัง ประกอบด้วยเกาะต่างๆ จำนวน 9 เกาะ ได้แก่ เกาะหาดทรายยาว เกาะนก เกาะฮันต ู เกาะยะบัง เกาะลันบาตู เกาะสาม เกาะสัมพาย เกาะเกวเล็ก และเกาะเกวใหญ่ 2.3.6 หมู่เกาะบูโหลน ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู ประกอบด้วยเกาะต่างๆไม่น้อยกว่า 8 เกาะ ได้แก่ เกาะบูโหลนเล เกาะบูโหลนดอน เกาะบูโหลนไม้ไผ่ เกาะตงกู เกาะลามา เกาะอำยำ เกาะรังนก และเกาะลูกหิน หมู่เกาะ บโู หลนเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา 2.3.7 หมู่เกาะเขาใหญ่ ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลปากน้ำ และตำบลละงู ประกอบด้วยเกาะต่างๆ จำนวนไม่น้อยกว่า 10 เกาะ ได้แก่ เกาะเขาใหญ่ เกาะบุหลัน เกาะอันยิง เกาะลินิน เกาะลินตี เกาะจุปะ เกาะลิดีใหญ่ เกาะลิดีเล็ก เกาะเขาตะโละ แบนแต และเกาะหน้าบ้าน หมู่เกาะเขาใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา 2.3.8 หมู่เกาะเภตรา ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า ประกอบด้วยเกาะ 2 เกาะ ได้แก่ เกาะป้อย 21

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล เกาะตะบัน (สบัน) ทั้งสองเกาะนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาต ิ หมู่เกาะเภตรา จังหวัดสตูลจึงมีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นเกาะประมาณ 105 เกาะ ทั้งนี้ยังไม่นับรวมหินตะกอน หรือ ตูกน ซึ่งโผล่มา เหนือน้ำดูลักษณะคล้ายเกาะ 3. ลักษณะทางธรณีวิทยา 3.1 ลกั ษณะของหิน พื้นที่ของจังหวัดสตูลส่วนใหญ่รองรับด้วยหินชั้นและ หินแปร ส่วนหินอัคนีมีปรากฏเป็นบางบริเวณ ได้แก่ บริเวณ เทือกเขาทางตอนเหนือซึ่งต่อเนื่องมาจากจังหวัดพัทลุงและ บริเวณหมู่เกาะอาดัง ราวี เป็นหินแกรนิตและแกรโนไดโอไรท์ หินแปรที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย ได้แก่ ชุดหิน ตะรุเตา มีลักษณะเป็นหินดินดานสีแดงและหินทรายเนื้อปน ไมก้า จัดอยู่ในยุคแคมเบรียนมีอายุ 600 ล้านปี ชุดหินตะรุเตา อยู่ในเขตบริเวณพื้นที่สันเขาทางทิศเหนือ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอ ควนกาหลง บ้านน้ำหรา บ้านเขาไคร บ้านเขานุ้ย และพื้นที่ บริเวณเกาะตะรุเตา ยกเว้นทางตอนเหนือและด้านตะวันออก ของเกาะ ชุดหินอันดับรองได้แก่ ชุดหินทุ่งสง มีลักษณะเป็น หินปูนพบที่อำเภอทุ่งหว้า เป็นหินยุคออโดวิเชียนมีอายุ 500 ล้านปี มีลักษณะเป็นหินปูนเนื้อปนดิน หินดินดานพบในพื้นที่ ทางด้านตะวันออกและทิศเหนือของเกาะตะรุเตา ได้แก่ เกาะ กลาง เกาะกอและ เกาะสิงห์ และเกาะบูโหลนเล เกาะลามา เกาะเขาใหญ่ เกาะตงกู บ้านตะโละใส บ้านท่าแลหลา 22

ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดสตูล บ้านควน บ้านทุ่งเสม็ด บ้านหนองหอยโข่ง นอกจากนั้นยังพบ แถบพื้นที่สันเขาบริเวณรอยต่อประเทศไทยกับมาเลเซีย และ บริเวณรอยต่อจังหวัดสตูลกับจังหวัดสงขลา ได้แก่ เขากวงใหญ่ เขากวงเล็ก บ้านท่าคลอง หลักเขตแดนที่ 8 บ้านวังเพนียด บ้านฉลุง บ้านกุบังปะโหลด บ้านวังประจัน บ้านหัวกาหมิง บ้านน้ำร้อน บ้านทุ่งนุ้ย บ้านค่ายรวมมิตร บ้านเขาไคร และ บ้านกองกรวด 3.2 ลกั ษณะของดนิ แบ่งออกตามความเหมาะสมของการใช้ดินได้ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้ 3.2.1 กลุ่มดินที่เหมาะแก่การทำนา มี 2 ชุด 3.2.1.1 ดินตะกอนน้ำกร่อย เป็นดินใหม่ที่เกิด จากอิทธิพลของน้ำกร่อย มีฤทธิ์เป็นกรดจัดเนื่องจากมี กรดกำมะถันสูง เนื้อดินละเอียด ลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม การระบายน้ำเร็ว ความอุดมสมบูรณ์ปานกลางถึงสูง พบในเขต อำเภอเมืองสตูล มีเนื้อที่ประมาณ 57.7 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 2.33 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด 3.2.1.2 ดินค่อนข้างใหม่ถึงเก่า เกิดจากการ ทับถมของตะกอนแม่น้ำ ลักษณะเป็นพื้นที่ราบหรือสูงๆ ต่ำ เนื้อดินร่วนถึงดินทราย มีการระบายน้ำเลวถึงดี ความอุดม สมบูรณ์ต่ำถึงปานกลาง ในฤดูฝนจะมีระดับน้ำเร็วถึงดี ความ อุดมสมบูรณ์ต่ำถึงปานกลาง ในฤดูร้อนจะมีระดับน้ำใต้ดินสูง พบเป็นหย่อม 2 บริเวณ คือ พื้นที่อำเภอละงู และพื้นที่บริเวณ 23

นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล ตะเข็บติดต่อระหว่างอำเภอเมืองสตูลกับอำเภอควนโดนและ อำเภอท่าแพ รวมทั้งอำเภอควนกาหลง และกิ่งอำเภอมะนัง รวมพื้นที่ทั้งหมด 200 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 8.07 ของ พื้นที่ทั้งหมด ดิน 2 ชุดนี้ เหมาะแก่การปลูกข้าวและพืช หมนุ เวยี นในนา โดยอาศยั การชลประทาน ปยุ๋ และการปรบั ปรงุ ดนิ ช่วยในการเพิ่มผลผลิต 3.2.2 กลุ่มดินที่มีความเหมาะสมแก่การปลูกพืชไร่ มี 2 ชุด 3.2.2.1 ดินพอดโซลิคสีเทา เป็นดินเก่าเกิดจาก อิทธิพลพัดพาเนื้อดินร่วมถึงดินทรายมาทับถมกัน มีการระบาย น้ำดีถึงดีมาก มีปริมาณแร่ธาตุที่สลายตัวง่าย คุณสมบัติเป็น ด่างน้อยมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ พบเป็นบริเวณต่อเนื่องใน บริเวณตอนกลางของจังหวัดและบริเวณเล็กๆในอำเภอทุ่งหว้า รวมพื้นที่จังหวัด 435 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 17.55 ของ พื้นที่ทั้งจังหวัด 3.2.2.2 ดินพอดโซลิคสีแดง-เหลือง เป็นดินที่ เกิดจากการสลายตัวอยู่กับที่ของดินพวกที่มีคุณสมบัติเป็นกรด ลักษณะพื้นที่สูงๆต่ำ จนถึงสูงชัน เนื้อดินเหนียวและร่วน การระบายน้ำดี มีความเป็นด่างต่ำ ความอุดมสมบูรณ์ต่ำ พบเป็นหย่อมๆ คือ ตอนเหนือของเกาะตะรุเตา อำเภอเมือง สตูล กิ่งอำเภอมะนัง และบริเวณรอยต่อของอำเภอทุ่งหว้า กับ กิ่งอำเภอมะนัง รวมพื้นที่ 720 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 29.04 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด 24

ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดสตูล ดินทั้ง 2 ชุดนี้ เหมาะแก่การปลูกพืชไร่ สวนมะพร้าว สวนยางพารา โดยอาศัยปุ๋ยและวิธีป้องกันการ สึกกร่อยและพังทลายของดินในที่สงู ชัน เพื่อการเพิ่มผลผลิต 3.2.3 กลุ่มดินที่ไม่เหมาะแก่ การเกษตร มี 4 ชุด 3.2.3.1 ดินรีโกโซลส์ เป็นดินที่เกิดขึ้นใหม่ หรือ ค่อนข้างใหม่ชายทะเล ลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบเรียบหรือสูงๆ ต่ำๆ เป็นลูกคลื่นเนื้อดินปนทรายมีการระบายน้ำดีมาก ความ อุดมสมบูรณ์ต่ำพบเป็นบริเวณเล็ก ๆ ในอำเภอละงูพื้นที่ 11.25 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 0.45 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด 3.2.3.2 ดินตะกอนน้ำเค็มเป็นดินเค็มที่เกิดจาก อิทธิพลของน้ำทะเลพัดมาทับถม ลักษณะเป็นพื้นที่ราบลุ่ม เนื้อดินเหนียวมีการระบายน้ำเลว ความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง ถึงสูง น้ำทะเลท่วมถึงเป็นบางครั้งบางคราว พบเป็นแนวยาว ตลอดชายฝั่งทะเลตั้งแต่อำเภอเมืองสตูล รวมพื้นที่ 580 ตาราง กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 23.40 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด 3.2.3.3 ดินภูเขาหินปูนเกิดตามที่สูงชัน เป็น หินปูนอย่างหยาบมีความชันสูงพบเป็นบริเวณกว้างแถบ เทือกเขาด้านตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอเมืองสตูล ติดต่อ กับอำเภอควนโดนและบริเวณเล็กๆ ในอำเภอทุ่งหว้าและอำเภอ ละงู รวมพื้นที่ 175 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 7.06 ของ พื้นที่ทั้งจังหวัด 3.2.2.4 ดินภูเขาเกิดที่สูงชัน ส่วนใหญ่เป็นดิน พอดโซลิคสีแดงเหลือง ชั้นดินมีก้อนหินปูนพบเป็นบริเวณกว้าง 25

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล ในอำเภอควนกาหลง และกิ่งอำเภอมะนัง เกาะตะรุเตาและ บริเวณหมู่เกาะอาดัง รวมพื้นที่ 626.25 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น ร้อยละ 25.26 ของพื้นทั้งจังหวัด 4. ลักษณะภูมิอากาศ จังหวัดสตูลมีลักษณะภูมิอากาศแบบร้อนชื้นแถบ ศูนย์สูตร คือ อากาศจะร้อนชื้น ฝนตกชุกมี 2 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูร้อน และฤดูฝน ช่วงฤดูร้อนมีระยะสั้น เริ่มตั้งแต่เดือน มกราคมถึงเดือนเมษายน ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึง เดือนธันวาคม จังหวัดสตูลได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดจากมหาสมุทรอินเดียเข้าสู่พื้นแผ่นดินใหญ่หอบไอน้ำเข้า มาปะทะกับทิวเขานครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นทิวเขาที่กั้นทิศทาง ลม ลักษณะแนวเหนือใต้ทำให้ฝนตกบริเวณพื้นที่ตามแนวภูเขา ซึ่งจะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนพฤศจิกายน ดังนั้น ฤดูฝนของจังหวัดสตูลขึ้นอยู่กับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เป็น สำคัญ ครั้นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งพัดจากทะเลจีนใต้ ผ่านอ่าวไทยมาปะทะกับทิวเขานครศรีธรรมราชในช่วงเดือน มกราคมถึงเดือนเมษายน ทำให้จังหวัดสตูลฝนตกน้อยจึงเป็น ช่วงฤดรู ้อน จากข้อมูลของสถานีอากาศจังหวัดสตูล พ.ศ. 2546 จำนวนวันที่ฝนตกทั้งสิ้น 165 วัน ปริมาณน้ำฝนรวม 2,625.0 มิลลิเมตร ปริมาณฝนตกตลอดปีเฉลี่ย 218.75 มิลลิเมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21.7 องศาเซลเซียส สูงสุด 34.8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ย 28.25 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย 26

ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดสตูล 78.78% ช่วงที่มีฝนตกมากที่สุดคือระหว่างเดือนสิงหาคม ถึง เดือนตุลาคม 5. ทรัพยากรธรรมชาติ จังหวัดสตูลมีทรัพยากรธรรมชาตี่เป็นประโยชน์ต่อ ประชากรได้แก่ ป่าไม้ ดิน น้ำ แร่ธาตุ สัตว์ป่า สัตว์น้ำ ฯลฯ 5.1 ปา่ ไม ้ จากข้อมูล พ.ศ.2548 ของสำนักงานทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสตูล (สำนักงานป่าไม้จังหวัด สตูลเดิม) จังหวัดสตูลมีเนื้อที่ป่าประมาณ 1,268.05 ตาราง กิโลเมตร หรือ 792,529.20 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 51.51 ของพื้นที่ทั้ง จังหวัด โดยแยกเป็นสภาพพื้นที่ป่า ดังนี้ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 18 ป่า มีเนื้อที่ 337,842.45 ไร่ พื้นที่อุทยานแห่งชาติ จำนวน 3 แห่ง มีเนื้อที่ 304,693.75 ไร่ (เฉพาะพื้นที่ป่า) พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำนวน 2 แห่ง มีเนื้อที่ 137,493.00 ไร่ พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่า จำนวน 1 แห่ง มีเนื้อที่ 12,770.00 ไร่ พนื้ ท่ีป่าสงวนแหง่ ชาติ ป่าสงวนแห่งชาติป่าบก 13 ป่า มีดังนี้ 27

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 1) ป่าควนบ่อน้ำ ตั้งอยู่ในตำบลปูย ู อำเภอเมือง สตูล มีเนื้อที่ 400.00 ไร่ ทับซ้อนในเขตอุทยานแห่งชาติทะเลบัน ทั้งหมด 2) ป่าเขาค้อม ป่าเขาแกง และป่าเขาใหญ่ ตั้งอยู่ใน ตำบลทุ่งนุ้ย ตำบลควนกาหลง อำเภอควนกาหลง เนื้อที่เดิม 55,408.00 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติใช้ประโยชน์ 1,664.04 ไร่ มอบให้ สปก.ไปแล้ว 11,842.00 ไร่ คงเหลือ 41,901.96 ไร่ 3) ป่ากุบังและป่าปุโลต ตั้งอยู่ในตำบลควนสตอ อำเภอควนโดน และตำบลปูยู อำเภอปูยู อำเภอเมืองสตูล มีเนื้อที่เดิม 107,025.00 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติใช้ประโยชน์ 85.05 ไร่ ที่เหลือทับซ้อนในเขตอุทยานแห่งชาติทะเลบัน 106,939.95 ไร่ 4) ป่าควนกาหลง ตั้งอยู่ในตำบลควนกาหลง อำเภอควนกาหลง มีเนื้อที่เดิม 11,887.00 ไร่ มอบให้ สปก. ไปแล้ว 2,506.75 ไร่ คงเหลือเนื้อที่ป่า 9,380.25 ไร่ 5) ป่าเขาหมาไม่หยก ตั้งอยู่ในตำบลควนกาหลง อำเภอควนกาหลง มีเนื้อที่เดิม 13,125.00 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติ ขอใช้ประโยชน์ 8.25 ไร่ คงเหลือเนื้อที่ป่า 13,116.75 ไร่ 6) ป่าควนบารายี ป่าควนโรงพัก และป่าควนสังหยุด ตั้งอยู่ในตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า มีเนื้อที่เดิม 9,687.50 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติใช้ประโยชน์ 44.94 ไร่ มอบให้ สปก. ไปแล้ว 1,663.00 ไร่ คงเหลือเนื้อที่ป่า 7,979.56 ไร่ 28

ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดสตูล 7) ป่าพะยอม ตั้งอยู่ที่ในตำบลละงู อำเภอละง ู มีเนื้อที่เดิม 4,187.50 ไร่ มอบให้ สปก. ไปแล้ว 4,081.25 ไร่ คงเหลือเนื้อที่ป่า 106.25 ไร่ 8) ป่าตระ ป่าห้วยหลอด ป่าเขาขุมทรัพย์ ตั้งอยู่ใน ตำบลทุ่งหว้า มีเนื้อที่เดิม 93,750.00 ไร่ ทับซ้อนกับเขตรักษา พันธ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด 82,081.25 ไร่ มอบให้ สปก. ไปแล้ว 8,975.00 ไร่ คงเหลือเนื้อที่ป่า 2,693.75 ไร่ 9) ป่าควนทังและป่าเขาขาว ตั้งอยู่ในตำบลกำแพง ตำบลเขาขาว อำเภอละงู ตำบลทุ่งหว้า อำเภอทุ่งหว้า เนื้อที่ เดิม 23,619.00 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติใช้ประโยชน์ 195.42 ไร่ มอบให้ สปก. ไปแลว้ 1,362.73 ไร่ คงเหลอื เนอ้ื ทป่ี า่ 22,060.85 ไร ่ 10) ป่าควนโต๊ะอม ป่าควนขี้หมา และป่าท่าหิน ตั้งอยู่ในตำบลควนขัน เจ๊ะบิลัง บ้านควน อำเภอเมืองสตูล เนื้อที่เดิม 11,306.00 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติใช้ประโยชน์ 9.5 ไร่ มอบให้ สปก. ไปแลว้ 5,119.50 ไร่ คงเหลอื เนอ้ื ทป่ี า่ 6,177.00 ไร ่ 11) ป่าดงเชือกช้าง ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอ ควนกาหลง เนื้อที่เดิม 28,625.00 ไร่ ทับซ้อนกับเขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าโตนงาช้างทั้งหมด 12) ป่าห้วยบ่วง ป่าเขาแกง และป่าเขาโต๊ะดู ตั้งอยู่ ในตำบลกำแพง อำเภอละงู เนื้อที่ทั้งหมด 1,875.00 ไร่ 13) ป่าหัวกาหมิง ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอ ควนกาหลง และตำบลควนสตอ อำเภอควนโดน เนื้อที่เดิม 91,643.00 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติใช้ประโยชน์ 213.75 ไร่ มอบให้ 29

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล สปก.แล้ว 955.00 ไร่ ทับซ้อนกับเขตอุทยานแห่งชาติทะเลบัน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง 85,243.00 ไร่ คงเหลือ เนื้อที่ป่าสงวน 5,231.25 ไร่ ปา่ สงวนแห่งชาติ ป่าชายเลน จำนวน 5 ป่า ดังนี้ 1) ป่าเลนจังหวัดสตูล ตอนที่ 1 ตั้งอยู่ในตำบล ขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า ตำบลแหลมสน ตำบลกำแพง และ ตำบลปากน้ำ เนื้อที่เดิม 89,281.00 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติใช้ ประโยชน์ 44,895.62 ไร่ ทับซ้อนกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะ เภตรา 2,471.00 ไร่ คงเหลือเนื้อที่ป่าสงวน 41,914.38 ไร่ 2) ป่าเลนจังหวัดสตูล ตอนที่ 2 ตั้งอยู่ในตำบลละงู อำเภอละงู ตำบลท่าแพ ตำบลสาคร และตำบลแประ อำเภอ ท่าแพ และตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล มีเนื้อที่ป่าทั้งสิ้น 25,950.00 ไร่ 3) ปา่ เลนจงั หวดั สตลู ตอนท่ี 3 ตง้ั อยใู่ นตำบลเจะ๊ บลิ งั อำเภอเมืองสตูล มีเนื้อที่ป่า 30,593.75 ไร่ 4) ปา่ เลนจงั หวดั สตลู ตอนท่ี 4 ตง้ั อยใู่ นตำบลเจะ๊ บลิ งั ตำบลตันหยงโป ตำบลตำมะลัง และตำบลควนขัน เนื้อที่เดิม 55,687.00 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติใช้ประโยชน์ 195.05 ไร่ คงเหลือ เนื้อที่ป่า 55,494.95 ไร่ 5) ป่าเลนจังหวัดสตูลตอนที่ 5 ตั้งอยู่ในตำบลคลอง ขุดตำบลปูยู อำเภอเมืองสตูล เนื้อที่เดิม 75,924.80 ไร่ ป่าสงวน แหง่ ชาตใิ ชป้ ระโยชน์ 2,555.05 ไร่ คงเหลอื เนอ้ื ทป่ี า่ 73,369.75 ไร ่ จากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ประกาศตามกฎ 30

ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดสตูล กระทรวงเดิมจังหวัดสตูล มีพื้นที่ป่าไม้ทั้งสิ้น 452,538.00 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติใช้ประโยชน์แล้ว 49,867.67 ไร่ มอบให้ สปก. เพื่อจัดสรรที่ทำกินให้แก่ราษฎรไปแล้ว 36,505.23 ไร่ พื้นที่ป่า ทับซ้อนอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 303,288.20 ไร่ คงเหลอื เนอ้ื ทป่ี า่ สงวนจรงิ ๆ จำนวน 110,522.62 ไร ่ พื้นที่อุทยานแห่งชาติ จังหวัดสตูลมีอุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง มีพื้นที่ป่าไม้ ดังนี้ 1) อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองสตูล มีเนื้อที่ทั้งหมด 931,250.00 ไร่ (รวมพื้นที่เกาะและพื้นที่ทะเล) มีพื้นที่บกหรือป่าไม้ 167,625.00 ไร่ 2) อุทยานแห่งชาติทะเลบัน ตั้งอยู่ในอำเภอควนโดน และอำเภอเมืองสตูล มีเนื้อที่บนบกและพื้นที่ทะเลรวมกัน 122,500.00 ไร่ เฉพาะเนื้อที่ทะเลมีประมาณ 500 ไร่ 3) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ตั้งอยู่ในอำเภอ ละงู และอำเภอทุ่งหว้า มีเนื้อที่ 187,656.25 ไร่ เป็นพื้นที่ทะเล 172,462.50 ไร่ พื้นที่บกหรือป่า 15,193.75 ไร่ (พื้นที่เฉพาะใน จังหวัดสตลู ) พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จังหวัดสตูลมีเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่า 2 แห่งมีพื้นที่ป่า ดังนี้ 1) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ตั้งอยู่ในอำเภอ ทุ่งหว้า อำเภอละงู กิ่งอำเภอมะนังและอำเภอควนกาหลง มีเนื้อที่ป่า 88,250.00 ไร่ (บางส่วนทับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวน แห่งชาติ) 31

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 2) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ตั้งอยู่ในตำบล ทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง มีเนื้อที่ป่า 49,243.00 ไร่ (บางส่วน ทับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ) พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ จังหวัดสตูลมีเขตห้ามล่าสัตว์ ป่าจำนวน 1 แห่ง คือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยาและ เขาพระยาบังสา ตั้งอยู่ในตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล และ ตำบลย่านซื่อและตำบลควนโดน อำเภอควนโดน มีเนื้อที่ 12,770.00 ไร่ กล่าวได้ว่า จังหวัดสตูลมีทรัพยากรป่าไม้ที่ค่อนข้าง สมบูรณ์มีพื้นที่สีเขียวเหลืออยู่ร้อยละ 51.51 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด เปรียบเทียบกับพื้นที่ป่าทั้งจังหวัด เปรียบเทียบกับพื้นที่ป่าไม้ ทั้งประเทศมีอยู่เพียงร้อยละ 25 จังหวัดสตูล จึงมีพื้นที่ป่าไม้สูง กว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศ แต่ในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา พื้นที่ป่าของจังหวัดโดยเฉพาะป่าชายเลนบางส่วนถูกบุกรุก ทำลายแปรสภาพเป็นที่เพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำมีผลกระทบต่อ ระบบนิเวศทางราชการต้องควบคุมดูแลพื้นที่ป่าอย่างเข้มงวด ยิ่งขึ้น 5.2 แหลง่ แร่ สภาพทางธรณีวิทยาของจังหวัดสตูล มีหินชั้นที่อายุ แตกต่างกันหลายยุค มีการสำรวจพบแหล่งแร่ที่สำคัญหลาย ชนดิ ดว้ ยกนั เชน่ แบไรทพ์ บในอำเภอทงุ่ หวา้ และกง่ิ อำเภอมะนงั พลวงพบบริเวณกิ่งอำเภอมะนังและอำเภอละงู ดีบุกพบบริเวณ อำเภอควนโดนและอำเภอเมืองสตูล ตะกั่วพบบริเวณอำเภอ 32

ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดสตูล ควนกาหลง และนอกจากนี้ยังพบแร่อื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น ถ่านหิน หินปูน โดโลไมต์ และวุลแฟรม 5.3 สตั ว์น้ำ ส่วนใหญ่เป็นสัตว์น้ำเค็ม จำพวกปลา ได้แก่ ปลา เบญจพรรณ และปลาเป็ด (ปลาเล็กปลาน้อย) ที่ใช้เป็นวัตถุดิบ ป้อนโรงงานปลาป่น นอกจากนั้นก็เป็นสัตว์น้ำชนิดอื่นได้แก่ ปู หอย กุ้ง จังหวัดสตูลมีเส้นฝั่งทะเลยาว 144.80 กิโลเมตร จึงมีพื้นที่จับสัตว์น้ำที่กว้างใหญ่ไพศาล กิจการประมงเจริญ ก้าวหน้ามากเจ้าของเรือใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย ใช้อวน ตาถี่เล็ก ปลาเล็กปลาน้อยติดอวนไปด้วย ทำให้ปริมาณสัตว์น้ำ ลดน้อยลงไป มีชาวประมงล่วงละเมิดเข้าจับสัตว์น้ำในเขตหวง ห้ามของอุทยานแห่งชาติ และล่วงล้ำจับในเขตน่านน้ำของ ประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียบ้าง บางรายนิยมใช้ระเบิด ทำลายสัตว์น้ำ ทำให้ปลาเล็กปลาน้อยและสัตว์อื่นๆ ถูกทำลาย ลงไป ความงามตามธรรมชาติโดยเฉพาะปะการังใต้น้ำ พลอยถกู กระทบกระเทือนไปด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจการประมง เมื่อ พ.ศ. 2521 กรมประมงได้จัดตั้งสถานีประมงน้ำกร่อยขึ้นที่ตำบล ปากน้ำ อำเภอละงู ทำหน้าที่พัฒนาและส่งเสริมการเพาะเลี้ยง สัตว์น้ำชายฝั่งได้ทดลองวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อยเพื่อ สนับสนุนการประกอบอาชีพของเกษตรกร สัตว์น้ำสำคัญทาง เศรษฐกิจได้แก่ กุ้งกุลาดำ กุ้งแช่บ๊วย ปลากะพงขาว ปลากะรัง ปลากะพงแดง และสัตว์น้ำกร่อยชนิดอื่นๆ จึงมีการเลี้ยงสัตว์น้ำ กร่อยกันทั่วไปตามบริเวณชายฝั่งทะเลหรือป่าชายเลน 33

นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 5.4 สตั วป์ ่า เป็นที่น่าเสียดายว่าในทุกวันนี้ปริมาณสัตว์ป่า ลดน้อยลงไป สัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากมีการ ตัดไม้ทำลายป่ากันมายาวนาน ความอุดมสมบูรณ์ของป่า ได้ลดน้อยไปตามลำดับสัตว์ป่าที่หลงเหลือจึงอาศัยอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และอุทยานแห่งชาติทะเลบัน มีสัตว์ป่าที่สำคัญ ได้แก่ เก้ง เลียงผา กระจง ลิง ค่าง หมูป่า และนกพันธุ์ต่างๆ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยาและเขา พระยาบังสา มีนกหลายชนิดอาศัยอยู่ บางฤดูกาลก็มีนก มาจากต่างถิ่น อยู่รวมกันเป็นฝูง เหมาะสำหรับการศึกษาตาม วิถีธรรมชาติของนก สถานที่ตั้งไปมาสะดวกเพราะอยู่ใกล้ ถนนสายสำคัญของจังหวัด สภาพเศรษฐกิจ ประชากร ตามข้อมูลของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2546 จังหวัดสตูลมีจำนวน ประชากรทั้งสิ้น 273,702 คน คือ ชาย 136,766 คน หญิง 136,926 คน จำนวนทารกเกิดใหม่ทั้งปี 4,232 คน เฉลี่ยเด็ก เกิดใหม่เดือนละประมาณ 360 คน หรือเฉลี่ยวันละ 12 คน จำนวนคนตายทั้งปี 1,250 คน เฉลี่ยคนตายเดือนละ 104 คน หรือวันละ 3.5 คน โดยประมาณ จำนวนคนย้ายเข้า 15,768 คน เฉลี่ยย้ายเข้าเดือนละ 1,314 คน หรือวันละ 44 คน โดยประมาณ 34

ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดสตูล จำนวนคนย้ายออก 11, 466 คน เฉลี่ยคนย้ายออกเดือน ละ 955.50 คน หรือประมาณวันละ 32 คน เปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงของประชากรกับปี พ.ศ. 2545 คิดเป็นร้อยละ 1.06 ความหนาแน่นของประชากรประมาณ 110.41 คน ต่อ หนึ่งตารางกิโลเมตร จำนวนประชากรอาศัยในเขตเทศบาล 40, 600 คน และอาศัยอยู่นอกเขตเทศบาล 233,102 คน จังหวัดสตูลมีสภาพสังคมแบบผสมผสานกลมกลืน ประชากรส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 76 นับถือศาสนาอิสลาม ส่วนที่เหลือร้อยละ 23 นับถือศาสนาพุทธ และนับถือศาสนาอื่น ไม่เกินร้อยละ 1 มีชาวพื้นเมืองอาศัยอยู่ตามเกาะเรียกว่า ชาวเล หรือชาวน้ำ ประมาณ 1,300 คน ได้แก่ ที่เกาะหลีเป๊ะ ของหมู่เกาะอาดัง และอีกกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่ที่หมู่เกาะบูโหลน นอกจากนั้นบริเวณป่าเขา ด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือของ จังหวัด ยังมีชนกลุ่มน้อยหรือ “พวกเงาะป่า” หรือ “นิกริโต” อาศัยอยู่ จำนวนไม่แน่นอน ประมาณ 60-70 คน เร่ร่อนในท้อง ที่อำเภอควนโดน ควนกาหลง ละงู ทุ่งหว้า และกิ่งอำเภอมะนัง บางครั้งก็อพยพเข้าเขตจังหวัดพัทลุง สงขลา และตรัง พวกเงาะ ป่าจัดเป็นคนเถื่อน เพราะไม่มีชื่อปรากฏในทะเบียน สำมะโนครัวแต่อย่างใด อาชีพของประชากร ประชากรจังหวดสตูลมีรายได้จากอาชีพเกษตรกรรม การประมง พาณิชยกรรม และการอุตสาหกรรม ดังรายละเอียด ต่อไปนี้ 35