Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 58นักการเมืองถิ่นภูเก็ต

58นักการเมืองถิ่นภูเก็ต

Description: 58นักการเมืองถิ่นภูเก็ต

Search

Read the Text Version

นักการเมืองถิ่นจังหวัดภูเก็ต ผู้สมัครสังกัดพรรคพลังใหม่กล่าวว่า ตอนที่ลงสมัครพรรคยังไม่ จ่ายค่าสมัครให้เลย แต่การที่พรรคสังคมนิยมที่มีจุดเด่น ด้านการจัดตั้งระบบผู้สนับสนุนจนประสบผลสำเร็จได้รับการ เลือกตั้งก็ทำให้พรรคอื่น ๆ หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนา ระบบพรรคให้มีความชัดเจนและเข้มแข็งมากขึ้น พรรคที่ สามารถทำได้ คือ พรรคที่มีความต่อเนื่องอย่างพรรคประชา- ธิปัตย์เป็นหลัก แต่ในช่วงนี้ก็ยังคงไม่สามารถอาศัยพรรค มาหนุนช่วยผู้สมัครได้เช่นกัน ในช่วงนี้ เมื่อถึงเวลารับสมัคร ผู้สมัครแต่ละคนจึงมีการรณรงค์หาเสียงเองด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การจัดเวทีไฮด์ปาร์ค (Hyde Park) หาเสียง การสร้าง หัวคะแนน แล้วผู้สมัครก็อาจเอาเงินให้หัวคะแนนนำไปหาเสียง ยังไม่มีการรวมตัวกันอย่างเป็นระบบมาก พอถึงยุคที่ 3 อันเป็นช่วงของการกุมอำนาจของพรรค ประชาธิปัตย์ท่ามกลางทุนโลกาภิวัตน์ (พ.ศ. 2535 ถึงปัจจุบัน 2557) นี่เองที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้งในจังหวัด ภูเก็ตมาโดยตลอด ก็เริ่มมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ พรรคประชาธิปัตย์มากขึ้น สาขาพรรคมีบทบาทมากขึ้น พรรค มีบทบาทในการมาหนุนช่วยผู้ลงสมัครอย่างเป็นรูปธรรมขึ้น กว่าเดิม การบริหารจัดการหัวคะแนนมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งทั่วทั้งประเทศก็เริ่มมีการพัฒนาการระบบบริหารพรรคที่เป็น ระบบชัดเจนโดยทั่วไปในช่วงนี้เช่นกัน ช่วงนี้ที่นางอัญชล ี มีบทบาทในจังหวัดภูเก็ต และในพรรคประชาธิปัตย ์ อย่างสูง จึงมีการจัดระบบอย่างจริงจัง การดำเนินการต่างๆ จะ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของพรรคที่ต้องการ และพรรคก็พร้อมจะ ลงมาหนุนช่วย เช่น การจัดเวทีปราศรัยของบุคคลสำคัญของ 236

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ พรรค เป็นต้น ทำให้นางอัญชลีซึ่งถือว่า เป็นตัวแทนของพรรค มีบทบาทอย่างสงู 5.1.2.5 วิธีการหาเสียงในการเลือกตั้งของนักการเมือง ในจังหวัดภูเก็ต โดยภาพรวมแล้ววิธีการหาเสียงในการเลือกตั้งของ นักการเมืองในจังหวัดภูเก็ต มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่าง มากตั้งแต่สมัยนายเรวุฒิ จินดาพล ลงสมัครใน พ.ศ. 2529 ซึ่งเป็นช่วงปลายของยุคที่ 1 นั่นคือ วิธีการหาเสียงในยุคที่ 1 อันเป็นช่วงของการประลองกำลังหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง (พ.ศ. 2475 ถึง 2521) และยุคที่ 2 อันเป็นช่วงของการค้นหา แนวทางหลังยุคเหมืองแร่ (พ.ศ. 2522 ถึง 2534) นั้น ผู้ลงสมัคร ยังใช้วิธีการไม่ซับซ้อน ตัวผู้สมัครมีบทบาทสำคัญในการ กำหนดแนวทางการหาเสียง มีการใช้อุดมคติ หรือแนวคิด ทางการเมือง หรือจุดเด่นของผู้ลงสมัครมาเป็นจุดเด่นที่ใช้ใน การณรงค์หาเสียง หรือทำหลายๆ ทางไปพร้อมกัน โดยไม่โจมตี กันอย่างรุนแรง ซึ่งจะเห็นได้ชัดดังช่วงการหาเสียงของนายชิต เวชประสิทธิ์ แต่พอมาถึงสมัยที่นายเรวุฒิหาเสียงจะเห็นว่า แม้นายเรวุฒิจะสังกัดพรรคการเมืองที่ได้ชื่อว่าก้าวหน้าอย่าง พรรคพลังใหม่ แต่นายเรวุฒิเริ่มต้องใช้วิธีการอย่างหลากหลาย เข้มข้น มีทีมงานคอยวิเคราะห์วางแนวทางการหาเสียง และมี วิธีการที่พลิกแพลงอย่างมาก การชนะการเลือกตั้งจึงไม่ได้ใช้ เพียงอุดมคติล้วน ๆ แบบเดิมแล้ว การรณรงค์เลือกตั้งตั้งแต่ สมัยเรวุฒิจนถึงยุคที่ 3 อันเป็นช่วงของการกุมอำนาจของพรรค ประชาธิปัตย์ท่ามกลางทุนโลกาภิวัตน์ (พ.ศ. 2535 ถึงปัจจุบัน 2557) ผู้ลงสมัครจึงมีการใช้เทคนิควิธีการมากขึ้น 237

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต วิธีการที่สำคัญในการหาเสียงในการเลือกตั้งของ นักการเมืองในจังหวัดภูเก็ตอาจแบ่งได้เป็น 9 วิธีการ คือ การลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน การใช้สื่อ การปราศรัย การใช้ ขบวนแห่ การร่วมงานด้านประเพณีวัฒนธรรม การชูจุดเด่น การสร้าง รักษา และขยายฐานเสียงสนับสนุน และการใช ้ วิธีการที่พลิกแพลงหลากหลาย ดังต่อไปนี้ 1) การลงพ้ืนที่ ผู้ลงสมัครจะไปพบปะกับชาวบ้าน เพื่อแนะนำตัวในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในเมือง หรือในชุมชน หรือเวลามีงานที่คนเข้าร่วมมาก ผู้สมัครมักเข้าไปกับทีมงาน ในช่วงหลังที่ทีมงานของผู้สมัครมีบทบาทสำคัญมากขึ้น ก็จะมีการจัดคนออกเดินสายเคาะประตูบ้านตามบ้านเรือน ตามตลาด หรือชุมชนมากขึ้น อาจจะเป็นการสร้างกระแสให้ เป็นที่สนใจและเป็นข่าวพร้อมกันไปด้วย 2) การใช้ส่ือ การใช้สื่อที่พบกันทั่วไปตั้งแต่อดีตจน ปัจจุบัน คือ การพิมพ์ใบประกาศโฆษณาในรูปแบบต่างๆ ในยุคแรกเป็นเพียงการใช้เทคนิคง่าย ๆ ด้วยสีขาวดำ ขนาดเล็ก ต่อมาเมื่อมีการแข่งขันมากขึ้นและเทคโนโลยีการผลิตก้าวหน้า ขึ้น ทำให้ให้เทคนิคที่ซับซ้อน มีสีสัน มีขนาดเล็กจนถึงขนาด ใหญ่ทั้งนี้เพื่อให้คนรู้จัก คุ้นเคย สื่อที่สำคัญ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ แผ่นปลิว นามบัตร ป้ายประกาศ ซึ่งปัจจุบันจะทำด้วยแผ่น ไวนิลมากขึ้นเพราะสะดวก สวยงาม ทนทาน และราคาถูก การใช้สื่อเหล่านี้ทีมงานจะต้องวางแผนถึงรายละเอียด คือ เนื้อหาของสื่อรวมถึงรูปแบบที่ต้องทำให้ผู้สมัครเป็นที่จดจำ และได้เปรียบ โดยมักชูจุดเด่นของผู้ลงสมัคร นอกจากนี้ยังต้อง 238

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ คำนึงถึงทำเลสถานที่ที่จะติดตั้ง ความถี่ จำนวนในการติดตั้ง และช่วงเวลาในการติดตั้ง เช่น ช่วงแรก ช่วงกลาง หรือช่วงก่อน ถึงวันเลือกตั้งเล็กน้อย เป็นต้น 3) การปราศรัย การปราศรัยเป็นการเปิดโอกาสให ้ ชาวบ้านได้รู้จักคุ้นเคยกับผู้สมัคร ผู้ลงสมัครที่พูดเก่ง จะปราศรัยด้วยตัวเองเป็นหลัก แต่ถ้าพูดไม่เก่งก็อาจต้องอาศัย ทีมงาน หรือผู้สมัครพรรคเดียวจากจากจังหวัดอื่นที่มีชื่อเสียง หรือโดดเด่นมาช่วยกันปราศรัยสนับสนุน การปราศรัยมีทั้งถือ โอกาสปราศรัยตามงานต่าง ๆ การจัดเวทีย่อย และการจัดเวที ใหญ่ ผู้สมัครที่มีความพร้อมมักจะจัดปราศรัยเวทีใหญ่ใกล้ถึง วันเลือกตั้งไม่นาน จนบางครั้งก็เกิดการประชันกันในวัน เดียวกันของพรรคการเมือง เช่น ระหว่างพรรคพลังธรรมกับ พรรคประชาธิปัตย์ใน พ.ศ. 2535 เป็นต้น นอกจากนี้การจัดเวทีปราศรัยใหญ่ยังเป็นการหยั่งเสียง ของเครือข่ายผู้สนับสนุน โดยดูจากการประสานกลุ่มผู้ที่จะมา เข้าร่วมฟังว่า มีมากน้อยเพียงใด พร้อมทั้งเป็นการสร้างกระแส ประชาสัมพันธ์ผู้สมัครก่อนถึงวันเลือกตั้งไม่นานไปด้วย บางครั้งเวทีปราศรัยใหญ่เป็นปัจจัยชี้ขาดสำคัญที่ทำให ้ ผู้ลงสมัครแพ้หรือชนะก็ได้ ดังที่ทีมงานการจัดปราศรัยคนหนึ่ง กล่าวว่า การที่ผู้สมัครจากพรรคพลังธรรมแพ้แก่ผู้สมัครจาก พรรคประชาธิปัตย์ใน พ.ศ. 2535 มาจากการที่ พลตรี จำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรมไม่ยอมอยู่ปราศรัยช่วยในเวที ปราศรัยใหญ่ของพรรคที่จังหวัดภูเก็ต (วินิจ หงส์อติกุล, สัมภาษณ์, 16 มกราคม 2557) ทำให้คนที่มาร่วมเวทีของพรรค 239

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต พลังธรรมซึ่งตอนแรกมีมากกว่าได้ย้ายไปฟังการปราศรัยของ พรรคประชาธิปัตย์ที่จัดในเวลาเดียวกัน และปราศรัยโจมตี พลตรี จำลอง ว่าพาคนไปตายในเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 เป็นต้น 4) การใช้ขบวนแห่ ผู้ลงสมัครมีโอกาสลงพื้นที่ให้ ครบถ้วนได้ยาก ดังนั้นการใช้รถออกโฆษณาด้วยรถขยายเสียง จึงทำให้ชาวบ้านได้ฟังเสียงการหาสียงจากรถขยายเสียง ทำให้ เกิดความคุ้นเคยกัน การใช้รถขยายเสียงมีทั้งใช้รถหนึ่งคัน หรือขับตามกันไปหลายคันเพื่อสร้างความตื่นตาเป็นที่จดจำของ ชาวบ้าน เสียงที่ใช้สื่อสารก็มักเป็นการอัดเสียงจากห้องอัด หรือสปอตโฆษณา มีเพลงประกอบ ผู้ที่เป็นเจ้าของเสียงอาจ เป็นเสียงของผู้สมัครเอง แต่ส่วนใหญ่จะใช้เสียงของทีมงาน หรือจ้างนักจัดรายการวิทยุในท้องถิ่นที่คนคุ้นเคยมาพูดบันทึก เสียง การใช้ขบวนแห่ทีมงานต้องคำนึงถึงจุดที่จะผ่าน ความถี่ ช่วงเวลา จำนวนรถ และการตกแต่งขบวนรถ ถ้าใช้ขบวนแห่ อย่างถูกจังหวะจะเรียกคะแนนได้มาก เช่น กรณีนายชิต เวชประสิทธิ์ หาเสียงใน พ.ศ. 2512 ทีมงานได้เชิญชวนให ้ ผู้สนับสนุนซึ่งเป็นคนที่ชาวภูเก็ตรู้จักและเชื่อถือขึ้นรถแห่ไปด้วย พร้อมกับกำหนดเนื้อหาการหาเสียงที่ไม่โจมตีคู่ต่อสู้ เน้นเพียง การเรียกร้องให้ชาวบ้านออกมาเลือกตั้งใครก็ได้ที่คิดว่าดีที่สุด พร้อมทั้งชูคำขวัญ “คนบ้านเรา” เพื่อให้เกิดภาพเปรียบเทียบ กับคู่แข่งคนสำคัญอย่างคุณหญิงแร่ม พรหโมบล บุณยประสพ ซึ่งเป็นคนกรุงเทพฯ หรือกรณีที่นายเรวุฒิ จินดาพล ถูกจับกุม 240

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ในขณะยังต้องหาเสียง ทีมงานจึงตกแต่งรถแห่เป็นรูปคุกที่มีคน ถูกขังอยู่แห่ไปตามชุมชนต่าง ๆ ซึ่งสามารถเรียกร้องความสนใจ ได้มาก เป็นที่จดจำมาจนถึงปัจจุบัน 5) การร่วมงานด้านประเพณีวัฒนธรรม งาน ประเพณีวัฒนธรรมจะมีชาวบ้านเข้าร่วมมาก ผู้สมัครจึงมักเข้า ร่วมเพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นเนื้อเดียวกับชาวบ้าน ดังที ่ คุณหญิงแร่ม พรหโมบล บุณยประสพ เป็นผู้สร้างอาคาร ที่วัดพระนางสร้าง จนเป็นที่จดจำของชาวบ้านละแวกนั้น ผสู้ มคั รบางคนจะเขา้ รว่ มดว้ ยตวั เองใหม้ ากทส่ี ดุ โดยเฉพาะงานศพ จนถูกพูดถึงว่า เป็น “ส.ส. งานศพ” ต่อมาเมื่อการดำเนินงาน ของผู้สมัครเป็นระบบมากขึ้น จึงมีการจัดระบบการเข้าร่วมงาน อย่างเป็นระบบโดยให้ทีมงานเป็นตัวแทนเข้าร่วม มีการซื้อ พวงหรีดจากกลุ่มชาวบ้านที่ทำจากพวงหรีดเก่ามาขายทำให้ซื้อ ได้ด้วยราคาถกู และยังได้สัมพันธ์กับกลุ่มผู้ทำพวงหรีดด้วย การร่วมงานประเพณียังทำให้ผู้สมัครบางคนสามารถ ใช้เป็นสถานการณ์ทำให้ชาวบ้านประทับใจได้ เช่น ทีมงาน นายเรวุฒิวิเคราะห์ว่า ในสายตาของชาวบ้านนายเรวุฒิ คือ ผู้มีการศึกษาไม่สูง ไม่สามารถแข่งกับคนอื่นได้ ทีมงานจึงได้ กำหนดให้นายเรวุฒิขยายจุดอ่อนนี้ให้กลายเป็นจุดแข็ง โดยทำให้ภาพของนายเรวุฒิเป็นคนติดดินธรรมดาเหมือน คนทั่วไปที่อ่อนน้อมถ่อมตัว ทีมงานกำหนดให้นายเรวุฒิต้องไป ร่วมงานประเพณี และต้องเข้าไปคลุกคลีล้างถ้วยชามอยู่ในครัว ของงานจนเป็นที่ร่ำลือกันทั่วไป เป็นต้น 241

นักการเมืองถิ่นจังหวัดภูเก็ต 6) การชูจุดเด่น ผู้สมัครแต่ละคนจะมีจุดเด่นต่างกัน ในอดีตการหาเสียงมักชูผู้ลงสมัครเป็นจุดเด่น แต่ตั้งแต่การ หาเสียงของนายเรวุฒิ จินดาพล ใน พ.ศ. 2529 ประกอบกับ หลัง พ.ศ. 2535 ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับความนิยมเป็นต้นมา การหาเสียงจึงมีรายละเอียดซับซ้อนกว่าเดิม การชูจุดเด่นของ ผู้สมัครแต่ละคนจึงอาจต่างกัน ทีมงานก็จะนำจุดเด่นนั้นไป ขยายให้เด่นชัดขึ้น เช่น ผู้สมัครบางคนมีจุดเด่นที่นโยบายพรรค หรือที่หัวหน้าพรรค หรือที่ตัวผู้สมัครเอง เป็นต้น การวิเคราะห์ เพื่อเลือกจุดเด่นของผู้สมัครจะทำให้ทีมงานนำไปผลิตสื่อ และออกแบบการณรงค์หาเสียงที่ไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ผู้ลงสมัครที่มีพรรคและหัวหน้าพรรคเด่น ก็อาจขึ้นป้ายโฆษณา หาเสียงที่มีพื้นที่เนื้อหาของชื่อพรรค นโยบายพรรค หัวหน้า พรรค หรือบุคคลเด่นของพรรค ซึ่งช่วงหลังจะพบในการหาเสียง ของพรรคประชาธิปัตย์ในทำนองนี้มาก ขณะที่ผู้ลงสมัคร บางคนอาจชูจุดเด่นเฉพาะของตน ซึ่งบางครั้งก็เป็นการชูเพราะ ชาวบ้านรู้อยู่แล้วว่า ผู้ลงสมัครคนนั้นมีแนวคิดอย่างไร ดังกรณี นายชิต เวชประสิทธิ์ ที่ลงสมัครโดยไม่สังกัดพรรคแต่ชาวบ้าน รู้ว่า มีแนวคิดในสายสังคมนิยมและอยู่ในกลุ่มนายปรีดี พนมยงค์ บางครั้งนายชิตก็การแสดงออกถึงความใจกว้าง เช่น การรณรงค์ให้ชาวบ้านออกไปเลือกตั้งโดยจะเลือกใครก็ได ้ ที่คิดว่าดีที่สุด เป็นต้น 7) การสร้าง รักษา การขยายฐานเสียงสนับสนุน จากชาวบ้าน ตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา ในช่วงแรกของ การเลือกตั้งผู้ลงสมัครจะอาศัยจุดเด่นของตนเป็นหลัก การสร้าง รักษา และขยายฐานเสียงจึงมักใช้ต้นทุนเดิม 242

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ที่ผู้สมัครแต่ละคนมีอยู่เป็นสำคัญ เช่น บางคนมาจากกลุ่ม ขุนนางเก่า กลุ่มคหบดีนายทุน กลุ่มผู้มีแนวคิดสังคมนิยม เป็นต้น การสร้าง รักษา การขยายฐานเสียงสนับสนุนจาก ชาวบ้านจึงไม่มีอย่างเป็นระบบ มีเพียงผู้สมัครสายสังคมนิยม อย่างนายชิต เวชประสิทธิ์ ที่มีรูปแบบการจัดตั้งกลุ่มผู้สนับสนุน อยบู่ า้ ง แตก่ ไ็ มเ่ ปน็ ระบบตอ่ เนอ่ื ง ตอ่ มาเมอ่ื การแขง่ ขนั เขม้ ขน้ ขน้ึ โดยเฉพาะตั้งแต่สมัยนายเรวุฒิ จินดาพล เป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรใน พ.ศ. 2535 และพรรคประชาธิปัตย์ได้รับ การเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องจากอดีตจนปัจจุบัน ผู้สมัครและ พรรคการเมืองต่างๆ ก็พยายามออกแบบระบบการสร้าง รักษา และขยายฐานผู้สนับสนุน โดยเฉพาะในพรรคที่มีความต่อเนื่อง อย่างพรรคประชาธิปัตย์ คือ พยายามสร้างระบบสมาชิกพรรค การสร้างและขยายการรวมกลุ่มพร้อมกับให้แต่ละกลุ่มทำ กิจกรรม การสร้างคนรุ่นใหม่มาสืบทอด เป็นต้น 8) การรว่ มมอื กบั กลไกราชการ สว่ นราชการมแี ผนงาน มีงบประมาณสนับสนุน และเป็นผู้ทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้าน เช่น พัฒนากร อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) เป็นต้น ประกอบกับการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องทำงานประสานกับส่วนราชการ จึงทำให้ผู้สมัครบางคน โดยเฉพาะที่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาก่อน หรือผู้ที่มี ความสัมพันธ์กับส่วนราชการอาศัยเป็นช่องทางในการสร้าง ฐานเสียงของตนก็ได้ 9) การใช้วิธีการท่ีพลิกแพลงหลากหลาย นอกจาก ที่กล่าวมาแล้วผู้ลงสมัครก็อาจใช้วิธีการอื่นนอกจากนี้ ซึ่งมักจะ 243

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต เน้นที่เทคนิควิธีการหาเสียงที่พลิกแพลงหลากหลาย ผู้ที่มี บทบาทในการคิดค้นเทคนิควิธีการเหล่านี้มักเป็นทีมงานของ ผู้ลงสมัคร ซึ่งพบได้มากตั้งแต่สมัยการหาเสียงของนายเรวุฒิ จินดาพล ใน พ.ศ. 2529 เป็นต้นมา เช่น การเข้าร่วมชุมนุมกับ ชาวบ้าน การเข้าถึงข้าราชการะดับสูง เป็นต้น บางครั้งการค้นหารูปแบบหาเสียงก็มีวิธีการที่ล่อแหลม ต่อความเหมาะสม เช่น การรณรงค์บางอย่างอาจถูกถือว่า เป็นการโจมตีคู่ต่อสู้ เช่น การที่นายสตางค์ พุทธรักษา เคยตีพิมพ์ใบปลิวเปรียบเทียบแนวคิดเสรีนิยม สังคมนิยม และคอมมิวนิสต์ออกมาในช่วงใกล้วันเลือกตั้ง แม้จะไม่กล่าว หาใดๆ แต่ก็ส่งผลกระทบด้านลบต่อนายชิต เวชประสิทธิ์ ที่ลงสมัครด้วยและไม่สามารถแก้ไขได้ทัน เป็นต้น 5.2 อภิปรายผล การเมืองหรือความสัมพันธ์ทางอำนาจในจังหวัดภูเก็ต สามารถสืบค้นการคลี่คลายย้อนกลับไปถึงช่วงหน้าการ เปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 โดยเริ่มต้นขึ้นอย่าง น้อยตั้งแต่ช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมา ซึ่งแบ่งได้เป็น ช่วงของการกุมอำนาจโดยเครือข่ายเจ้าเมืองประมาณ พ.ศ. 2253 ถึง 2424 และช่วงของการกุมอำนาจโดยรัฐส่วนกลาง และ การเริ่มสะสมทุนของชาวจีน ประมาณ พ.ศ. 2425 ถึง 2574 อันทำให้เห็นบทบาทของข้าราชการหรือขุนนางที่เข้ามามี อำนาจโดยมีฐานทรัพยากรที่สำคัญ คือ แร่ดีบุก จนต่อมา เมื่อการทำเหมืองดีบุกขยายตัวจึงทำให้ชาวจีนสามารถสะสม ทุนและมีบทบาทมากขึ้น จนเทียบเท่าหรือมากกว่ากลุ่มขุนนาง 244

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ เดิม กลายเป็นกลุ่มนายทุนท้องถิ่น ดังนั้นกลุ่มที่มีบทบาทใน ภูเก็ตก่อน พ.ศ. 2475 คือ กลุ่มขุนนางเดิม และกลุ่มนายทุน ท้องถิ่นของภูเก็ต โดยที่รัฐส่วนกลางก็พยายามเข้ามาควบคุม ในระดับท้องถิ่นมากขึ้น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และมีการเลือกตั้ง ขึ้นครั้งแรกใน พ.ศ. 2475 ขุนนางเก่า และนายทุนท้องถิ่น ในภูเก็ตจึงยังมีบทบาทอยู่มาก ขณะที่ฝ่ายผู้ก่อการ เปลี่ยนแปลงการปกครองก็พยายามขยายบทบาทจึงเกิดการ แข่งขันประลองกำลังหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองในช่วงเวลา ที่ยาวนาน คือ ประมาณ พ.ศ. 2475 ถึง 2521 การเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ตสมัยแรก พระพิไสย- สุนทรการ (แปลง ณ ถลาง) ได้รับเลือกเพราะชาวบ้านยังให้ ความเชื่อถือกับการเมืองการปกครองแบบเดิมที่เป็นแบบไพร่- นาย หรือศักดินาที่มีการสืบทอดอำนาจแบบสายตระกูลมา โดยตลอด ชาวบ้านจึงเลือกเชื้อสายเจ้าเมืองเก่าเข้ามา แต่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากสายขุนนางเก่าก็มีเพียง คนเดียวเท่านั้น ต่อมาก็เป็นนายทุนท้องถิ่นชาวจีนภูเก็ตที่ได้รับ การมอบตำแหน่งจากรัฐที่เป็นผู้มีฐานะร่ำรวย มีอิทธิพลเป็นที่ เชื่อถือของคนจีนทั่วไป คนเหล่านี้เป็นผู้ที่มีความสามารถจริง ๆ โดยมักมีบทบาทในการเก็บภาษีเข้าสู่ส่วนกลาง ถือว่า เป็น ขุนนางทีมีเชื้อสายจีน ส่วนขุนนางฝ่ายราชการจะตั้งโดยถือเอา ความจงรักภักดีเป็นหลัก ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรภูเก็ตในสมัยที่ 2 ขุนนางที่มีเชื้อสายจีนจึงได้รับการ เลือกตั้ง คือ ขุนชินสถานพิทักษ์ (ตันยู่อี่ ตันทวณิช) 245

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกก่อนนี้ กลุ่มขุนนางเก่า และ คนที่มีฐานะดีคนรวยมักจะไม่สนใจมาเล่นการเมือง โดยการ สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นการเมืองในระดับชาติ มากนัก โดยสังเกตได้ว่า นายทุนท้องถิ่นน่าจะสนใจเล่น การเมืองในระดับท้องถิ่น เช่น เทศบาล มากกว่า เนื่องจาก มีบทบาทโดยตรงต่อระดับพื้นที่ที่กลุ่มทุนท้องถิ่นมีผลประโยชน์ อยู่ แต่การที่กลุ่มขุนนางเก่า และขุนนางชาวจีนได้รับเลือกตั้ง ในสองสมัยแรกเป็นเพราะไม่มีผู้ลงสมัครมาก และไม่มีการ แข่งขันมาก ต่อมาจึงมีผู้ที่ได้รับเลือกจากกลุ่มหนุนการ เปลี่ยนแปลงการปกครอง และสายสังคมนิยม ในขณะที่กลุ่ม ทุนท้องถิ่นจะส่งผู้สมัครที่เป็นตัวแทนมากกว่า คือ คุณหญิงแร่ม พรหโมบล บุณยประสพ, นายสตางค์ พุทธรักษา, นายอมรศักดิ์ องค์สรณะคม, นายจรูญ เสรีถวัลย์ ทั้งนี้ อาจจะมาจากการที่ ระบบความสัมพันธ์ด้านผลประโยชน์ของกลุ่มทุนท้องถิ่น มีความลงตัว แม้ว่าจะมีฝ่ายใดมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็ตาม นายทุนท้องถิ่นจึงเลือกที่จะลงเล่นการเมืองในระดับ ท้องถิ่น อย่างเทศบาล หรือ อบจ. แทน ต่อมาเมื่อฐานของผลประโยชน์หรือฐานทางเศรษฐกิจ เปลี่ยน เนื่องจากการชะลอตัวและเลิกไปของการทำเหมืองแร่ ในช่วงเวลาเช่นนี้นักการเมืองจึงจะมีบทบาทมากในการกำหนด แนวทางของภูเก็ต ในที่สุดก็มีธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ มาแทนการทำเหมืองแร่ ทำให้ระบบความสัมพันธ์ทาง ผลประโยชน์ที่เคยลงตัวเริ่มผันแปร จะเห็นได้ว่า มีนายทุน ท้องถิ่นมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่นายเรวุฒิ จินดาพล แต่เนื่องจากยังอยู่ใน 246

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ระยะเปลี่ยนผ่านจึงยังไม่ลงตัว ดังจะเห็นว่า นายเรวุฒิไม่ได้มี ฐานการสนับสนุนจากกลุ่มทุนท้องถิ่นนัก จนต่อมา ตั้งแต่ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนั้นจึงมีแต่นายทุนท้องถิ่นและคนในเครือข่ายนายทุน ท้องถิ่นแทบทั้งสิ้นที่เข้ามาลงสมัครจนถึงปัจจุบัน (2557) ทั้งยัง พยายามเข้าไปมีบทบาทในการเมืองระดับอื่น เช่น วุฒิสมาชิก ตลอดจนในการเมืองระดับท้องถิ่นอย่าง อบจ. จนทำให้เกิด ความขัดแย้งกับทุนท้องถิ่นกลุ่มอื่นมากขึ้น การมีบทบาทของนางอัญชลี มาจากนางอัญชลีเป็น นายทุนคนสำคัญที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ หรือกล่าวได้ว่า พรรคต้องพึ่งนางอัญชลี ทำให้พรรคจึงมาหนุนนางอัญชลีอย่าง เต็มที่ เนื่องจากนายทุนพรรคลงสมัครเอง ทำให้นางอัญชลี สามารถกำหนดแนวทางของพรรค โดยเฉพาะในส่วนของ จังหวัดภูเก็ตได้ เช่น เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจว่า จะเลือกใครลงสมัครในตำแหน่งใดได้ ดังกรณีของนายสุวิทย์ เสงี่ยมกุล, นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ และ นายเรวัต อารีรอบ ที่บางครั้งคนเหล่านี้ต้องสลับพื้นที่หรือตำแหน่งในการ ลงสมัคร ขณะเดียวกันในระดับพรรคประชาธิปัตย์ก็มีการพัฒนา ระบบในการเสริมนักการเมืองในท้องถิ่นมากขึ้น มีการจัดตั้ง สมาชิกเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น มีหัวคะแนน มีสาขาพรรค มีการ จัดตั้งมวลชน มีองค์กรหรือบริษัทของเขาเองที่จะมาจัดการ รณรงค์เรื่องการเลือกตั้ง ทำให้ปัจจุบันนี้ คนหน้าใหม่ที่จะลง สมัครโดยไม่มีฐานสนับสนุนรองรับมากพอ จะไม่สามารถ 247

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต แข่งขันได้ หรือทำได้ยากขึ้น ดังกรณีนายเรวัตร จินดาพล ได้ลงสมัครแทนนายเรวุฒิผู้เป็นพี่ชายที่มีฐานเสียงดีมาก่อน แต่ นายเรวัตรก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง ปัจจุบันถ้าพิจารณาจากข้อมูลพื้นฐานทั่วไปของจังหวัด ภูเก็ตจะพบว่า มีคนที่เข้ามาเนื่องจากการท่องเที่ยวทำให้มี ประชากรมากกว่าเดิม มีคนจากทั่วประเทศทั่วโลกมาอยู่ที่นี่ มาก โฉมหน้าภูเก็ตเปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว ในด้านการเมืองแม้ ปัจจุบันจะดูสงบนิ่งอยู่ที่นักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ แตก่ จ็ ะเหน็ ถงึ รอ่ งรอยของการเปลย่ี นแปลงทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต คนในจังหวัดภูเก็ตมีความคิดแตกต่างกันไปหลากหลาย จนการ พยายามจัดตั้งฐานคะแนนเสียงเพื่อให้คนไปในทางเดียวกัน เป็นไปได้ยากขึ้น ดังจะเห็นจากการที่ผู้สมัครจากพรรค ประชาธิปัตย์ หรือผู้ที่พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนได้พ่ายแพ้แก่ การเลือกตั้งหลายคนทั้งในตำแหน่งวุฒิสมาชิก โดยเฉพาะ ในการเมืองท้องถิ่นระดับ อบจ. ปัจจุบันคนจึงไม่ได้หนุนพรรค ประชาธิปัตย์ทั้งหมดอย่างเบ็ดเสร็จ แต่อย่างไรก็ตาม พรรค ประชาธิปัตย์ก็ยังคงเป็นพรรคอันดับหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต ในปัจจุบัน 5.3 ข้อเสนอแนะเพ่ือการพัฒนาการเมืองถิ่น ในจังหวัดภูเก็ต ปัจจัยที่น่าพิจารณาเกี่ยวกับการเมืองในจังหวัดภูเก็ต ปัจจุบัน คือ ระบบความสัมพันธ์ทางผลประโยชน์ หรือฐานทาง เศรษฐกิจในปัจจุบันซึ่งมีทุนขนาดใหญ่จากภายนอกเข้ามาสู่ จังหวัดภูเก็ตมาก ทำให้กลุ่มทุนท้องถิ่นที่มีขนาดเล็กกว่าสู้ไม่ได้ 248

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ และต้องปรับตัว ที่ผ่านมากลุ่มทุนภายนอกจากทั้งจากกรุงเทพฯ หรือทุนจากต่างประเทศจะเข้าไปแทรกแซงการเมืองในระดับ พื้นที่หรือระดับจังหวัดอย่างชัดเจนหรือยังเชื่อมต่อกันไม่ติด ส่วนมากกลุ่มทุนภายนอกจะเข้าไปแทรกแซงระดับพื้นที่ที่ตั้ง โครงการโดยตรงมากกว่า เช่น ระดับ อบต.ไม้ขาว อบต. ป่าคลอก ที่ทุนท่าเรือยอร์ชหนุนให้นักการเมืองท้องถิ่นบางคน ลงสมัคร หรือกลุ่มทุนอุซเบกิสถานที่มาหนุน อบต.ไม้ขาว แต่ไม่มีความชัดเจนว่า กลุ่มเหล่านี้จะมาร่วมมือกับกลุ่มของ นางอัญชลีในระดับจังหวัดหรือพรรค นางอัญชลีจึงยังคงมี บทบาทอยู่เฉพาะในกลุ่มทุนท้องถิ่นเดิม ส่วนทุนใหม่ๆ จาก ภายนอกที่เข้ามาก็อาจมีจำนวนมากมายและซับซ้อนจน นักการเมืองในท้องถิ่นไม่สามารถติดตามหรือเข้าไปมีส่วนได้ หรือกลุ่มทุนภายนอกอาจระวังตัวไม่หนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพราะ ถ้าการเมืองในท้องถิ่นเกิดเปลี่ยนขั้วอำนาจขึ้นภายหลังอาจเกิด ผลเสียกับธุรกิจได้ กลุ่มทุนจากภายนอกจึงเลือกที่จะสัมพันธ์ กับการเมืองในวงที่พอจะรับมือ หรือกลุ่มทุนภายนอกบางกลุ่ม ก็อาจไม่ใช่ทุนขนาดใหญ่มาก กลุ่มทุนเหล่านั้นจึงไม่จำเป็นต้อง ลงมาหนุนการเมืองในพื้นที่อีก อย่างไรก็ตาม กลุ่มทุนที่เข้ามาใหม่ก็จำเป็นต้องมาใช้ ทรัพยากรที่อยู่ในมือของกลุ่มทุนท้องถิ่นเดิมอยู่ดี เช่น ที่ดิน เพื่อการท่องเที่ยว หรือการทำโรงพยาบาล เป็นต้น แต่ก็นำมา ซึ่งการเสียเปรียบของทุนท้องถิ่น เช่น การขาดทุน ทุนท้องถิ่น การกลายเป็นเพียงตัวแทนหรือนายหน้าของทุนจากภายนอก การถูกควบรวมกิจการ เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า ในปัจจุบันได้ถึงจุดของการปรับตัวอีกครั้งหนึ่งของการเมืองถิ่น 249

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต ในจังหวัดภูเก็ตว่า จะมีบทบาทในการจัดการผลประโยชน์ให้กับ กลุ่มไหนบ้าง ระดับใด จัดการอย่างไร จะทำโดยอาศัยกลไก การเมืองที่เคยเป็นมาดังที่เป็นอยู่ ขณะนี้ซึ่งพบว่า มีปัญหา ไม่ลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ หรือต้องคิดค้นหารูปแบบวิธีการใหม่ อื่นๆ ในยุคโลกาภิวัตน์ที่กลุ่มทุนภายนอกสามารถข้ามหัว กลุ่มทุนท้องถิ่นเข้ามาได้ง่าย การที่กลุ่มทุนท้องถิ่นจะยังคง ควบคุมการเมืองระดับท้องถิ่นไว้ได้จึงอาจไม่มีความหมาย อีกต่อไป ถ้าพิจารณาในด้านการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและ ก า ร ร ั ก ษ า ฐ า น เ ส ี ย ง ไ ว ้ ข อ ง น ั ก ก า ร เ ม ื อ ง ถ ิ ่ น แ ต ่ ล ะ ค น ผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองของจังหวัดภูเก็ตบางคนตั้ง ข้อสังเกตว่า แม้พรรคประชาธิปัตย์จะสามารถครองตำแหน่ง ทางการเมืองในภูเก็ตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ. 2535 แต่ระยะหลังโดยเฉพาะตั้งแต่ พ.ศ. 2549 หลังจากมีการยึด อำนาจเป็นต้นมา พรรคประชาธิปัตย์ก็เริ่มเอาชนะได้ยากขึ้น ต้องอาศัยบารมีของพรรคมาหนุนช่วยผู้สมัครในพื้นที่มากขึ้น เช่น การให้สมาชิกพรรคเด่นอย่างนายชวน หลีกภัย มาเรียก ความศรัทธาเพื่อช่วยในการหาเสียง ต้องระดมทรัพยากรลงเพื่อ การแข่งขันมากขึ้น แม้กระนั้น นางอัญชลีก็ยังพ่ายแพ้ในการ ชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) อย่างไรก็ตาม ต่อมานางอัญชลีก็สามารถได้รับเลือกเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรได้อีก และในช่วง พ.ศ. 2556 ถึง 2557 ที่มีการ รณรงค์ของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อสนับสนุนการชุมนุมและ กิจกรรมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยใหเ้ ปน็ ประชาธปิ ไตยทส่ี มบรู ณอ์ นั มพี ระมหากษตั รยิ ์ 250

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ทรงเป็นประมุข (กปปส.) พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังสามารถระดม คนเข้าร่วมจากจังหวัดภูเก็ตได้จำนวนมาก ทำให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังสามารถครองใจชาวภูเก็ตได้เป็นหลัก แต่ ก็เริ่มเห็นถึงช่องว่างที่ต่อไปอาจขยายกว้างขึ้นและทำให้คู่แข่ง ขันจากพรรคและกลุ่มอื่น ๆ สามารถแทรกตัวเข้ามาได้ดังกล่าว ในปัจจุบันที่สภาพทางการเมืองในจังหวัดภูเก็ตเริ่มมี ผู้เข้ามาร่วมแข่งขันหลายกลุ่มมากขึ้นและแต่ละกลุ่มมีศักยภาพ ในการแข่งขันมากขึ้น การพัฒนาในขั้นต่อไปของการเมืองถิ่น ในจังหวัดภูเก็ตควรจะต้องมีการพัฒนาให้ระบบพรรคการเมือง กา้ วหนา้ มากขน้ึ เชน่ การพฒั นาระบบสมาชกิ ระบบการตดั สนิ ใจ การสร้างคนรุ่นใหม่มาทดแทน การพัฒนากลไกระดมปัญหา จากคนทุกกลุ่มในพื้นที่ขึ้นไปสู่การแก้ไขในระดับนโยบาย การพัฒนาองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้การเมืองถิ่นเป็นระบบ บริหารจัดการง่าย ปรับปรุงได้ง่าย ทุกคนมีส่วนร่วมได้จริง ไม่เกิดการผูกขาด โดยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอันเป็นการแก้ปัญหาระบบอุปถัมภ์ใน รูปแบบต่างๆ ได้ ทำให้ไม่เป็นการเล่นการเมืองเพื่อเพียง ต้องการจัดสรรผลประโยชน์ของกลุ่มนายทุน หรือคนชนชั้นนำ ในท้องถิ่น แต่จะทำให้ทุกคนจะสามารถอาศัยการเมืองแก้ไข ปัญหาในสังคมได้จริงต่อไป 251

บรรณานุกรม หนังสือและบทความในหนงั สือ จันจิรา แก้วประกอบ, และ ประเสริฐ เฟื่องฟุ้ง. “100 ปี เกาะภูเก็ต จากยุค เหมืองแร่ สวนยาง สู่การท่องเที่ยว.” ผู้จัดการ, (ธันวาคม 2542ก): 51-78. จันจิรา แก้วประกอบ, และ ประเสริฐ เฟื่องฟุ้ง. “วานิช ขยายฐานธุรกิจ ที่ชำนาญ.” ผูจ้ ัดการ, (ธันวาคม 2542ข): 56-63. จันจิรา แก้วประกอบ, และ ประเสริฐ เฟื่องฟุ้ง. “อุปัติศฤงค์ กงสีเริ่มสั่น คลอน.” ผจู้ ดั การ, (ธันวาคม 2542ค): 70-74. ชัยยนต์ ประดิษฐศิลป์, และ โอฬาร ถิ่นบางเตียว. เจ้าพ่อท้องถิ่น การเมือง โลกาภิวัตน์. ม.ป.ท.: ม.ป.พ., 2549. อ้างถึงใน การต่อสู้ของทุนไทย. บรรณาธิการโดย ผาสุก พงษ์ไพจิตร. เล่มที่ 2. กรุงเทพฯ: มติชน. ม.ป.ป. นวลศรี พงศ์ภัทรวัต. “บทบาทผู้นำชาวจีนฮกเกี้ยนในเกาะภูเก็ต ระหว่าง พ.ศ. 2396-2475.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, สาขา วิชาประวัติศาสตร์ไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2543.

บรรณานุกรม นายฉันทนา. X.O. GROUP เร่ืองราวภายในขบวนเสรีไทย. กรุงเทพฯ: กระท่อม ปล., 2489/2544. นิธิ เอียวศรีวงศ์. จากรัฐชายขอบถึงมณฑลเทศาภิบาล: ความเสื่อม สลายของกลุ่มอำนาจเดิมในเกาะภูเก็ต. ม.ป.ท.: ม.ป.พ., ม.ป.ป.. อ้างถึงใน คาบสมุทรไทยในราชอาราจักรสยาม. บรรณาธิการโดย ยงยุทธ ชูแว่น. กรุงเทพฯ: นาคร. 2528/ 2550. ปฐมพงศ์ มโนหาญ. “การเมืองเรื่องการเลือกตั้งบนวิถีความเปลี่ยนแปลง ของสังคมชนบท (ปี พ.ศ. 2520-2554): กรณีศึกษา ตำบลบ้าน ดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหา บัณฑิต, สาขาวิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2555. ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต, และ พันชุดา สุขศิริสัมพันธ์. “บทบาท ทางการเมืองบนพื้นที่สาธารณะของผู้นำการเมืองหญิงภูเก็ต: เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริง.” สารนิพนธ์ปริญญา มหาบัณฑิต, สาขาวิชาพัฒนาสังคม คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2547. อ้างถึงใน หนึ่งหทัย อินทขันตี. “พลวัตการปรับตัวของกลุ่มทุนภูเก็ต พ.ศ. 2515- 2551.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, สาขาวิชา เศรษฐศาสตร์การเมือง คณะ เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, 2554. ประจวบ อัมพะเศวต. พลิกแผ่นดิน ตอนขบวนการสังคมนิยมในไทย. กรุงเทพฯ: สุขภาพใจ, 2546. ประยงค์ อนันทวงศ์. “คุณหญิงแร่ม พรหโมบล บุณยประสพ เนติบัณฑิต หญิงคนแรกของประเทศไทย.” เอกสารอัดสำเนา. (ม.ป.ป.) ปลายอ้อ ชนะนนท์. พ่อค้ากับพัฒนาการระบบทุนนิยมภาคเหนือ พ.ศ. 2464-2523. กรุงเทพฯ: โครงการหนังสือเล่ม สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2530. 253

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต ปัญญา ศรีนาค. ภูเก็ต ถลาง และบ้านเมืองฝ่ังทะเลตะวันตก. กรุงเทพฯ: มติชน, 2546. ผาสุก พงษ์ไพจิตร, และ คริส เบเคอร์. เศรษฐกิจการเมืองไทยสมัย กรุงเทพฯ. พิมพ์ครั้งที่ 2, ปรับปรุง. เชียงใหม่: ตรัสวิน (ซิลค์เวอร์มบุคส์), 2539/2542. พรรณี อวนสกุล. “กิจการเหมืองแร่กับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจภาค ใต้ พ.ศ. 2411-2474.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, แผนกวิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2522. พวงทิพย์ เกียรติสหกุล. “บทบาทชาวจีนและชาวตะวันตกต่อกิจการ เหมืองแร่ดีบุกของมณฑลภูเก็ต ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 25- พ.ศ. 2474.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, สาขาวิชา ประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2534. ภูวดล ทรงประเสริฐ. จีนในประวัติศาสตร์แรงงานไทย. ม.ป.ท.: ม.ป.พ., ม.ป.ป.. อ้างถึงใน บรรณาธิการโดย ฉลอง สุนทราวาณิชย์, สวุ มิ ล รงุ่ เจรญิ , ศกั ดนิ า ฉตั รกลุ ณ อยธุ ยา, และ สมาน แจม่ บรุ .ี ประวัติศาสตร์แรงงานไทย กุลีจีน-14 ตุลาฯ-วีรบุรุษ กรรมกร. กรุงเทพฯ: พิพิธภัณฑ์แรงงานไทย, 2542. ภูวดล ทรงประเสริฐ. The Overseas Chinese ลอดลายมังกรโพ้น ทะเล. กรุงเทพฯ: ทิปปิ้ง พอยท์ เพรส, 2545. ภูวดล ทรงประเสริฐ. ทุนจีนปักษ์ใต้: ภูมิหลังเบ้ืองลึกทุนใหญ่โพ้น ทะเล. กรุงเทพฯ: ทิปปิ้ง พอยท์เพรส, 2546. ภูวดล ทรงประเสริฐ. จีนโพ้นทะเลสมัยใหม่. กรุงเทพฯ: ทิปปิ้ง พอยท์ เพรส, 2547. วชิราวรรณ ตัณฑะหงษ์. “นโยบายเศรษฐกิจที่มีต่อหัวเมืองไทยฝั่งตะวัน ตกสมัยรัชกาลที่ 5.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, แผนกวิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2522. 254

บรรณานุกรม วิลเลียม สกินเนอร์. สังคมจันในประเทศไทย: ประวัติศาสตร์เชิง วิเคราะห์. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และ มนุษยศาสตร์, 1957/2529. วิไล พงศ์ภัทรกิจ. “บทบาทของเจ้าพระยาสุรินทราชา (จันทร์ จันทโรจ วงศ์): ข้าหลวงสำเร็จราชการหัวเมืองฝั่งตะวันตกระหว่าง พ.ศ. 2329-2350.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, สาขา วิชาประวัติศาสตร์ไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2542. เวียงรัฐ เนติโพธิ์. “จักรกลการเมืองในอเมริกา: บทเรียนเพื่อความเข้าใจ อิทธิพลในการเมืองท้องถิ่นไทย.” รัฐศาสตร์สาร 21, ฉ. 3 (2542): 235-267. เวียงรัฐ เนติโพธิ์. ทุนเชยี งใหม.่ กรุงเทพฯ: Open Books, 2552. สกุล ณ นคร. สัมภาษณ์โดย หรินทร์ สุขวัจน์, ม.ป.ท.. อ้างถึงใน หรินทร์ สุขวัจน์. “สกุล ณ นคร ราษฎรอาวุโสภูเก็ต.” จุลสารเตรียม งานรำลึก 100 ปีชาตกาล ป๋วย อ๊ึงภากรณ์ 1, ฉ. 7 (สิงหาคม): 10-11. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล. ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งสร้าง. กรุงเทพฯ: 6 ตุลา รำลึก, 2544. สิริพรรณ นกสวน (ก). Democracy, associative ประชาธิปไตยแบบ สมาคม. บรรณาธิการโดย พฤทธิสาน ชุมพล, และ เอก ทรัพย์วัฒนา. คำและความคิดในรัฐศาสตร์ร่วมสมัย. ล. 2,. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2551. สิริพรรณ นกสวน (ข). Political Party and Party System พรรคการเมืองและระบบพรรคการเมือง. บรรณาธิการ โดย พฤทธิสาน ชุมพล, และ เอก ทรัพย์วัฒนา. คำและ ความคิด ในรัฐศาสตร์ร่วมสมัย. ล. 2,.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2551. 255

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต สุจารี ไชยบุญ. แลภูเก็ตในยุคอุตสาหกรรมไร้ปล่องควัน ภูเก็ต: องค์การความร่วมมือเพ่ือการฟ้ืนฟูทรัพยากรธรรมชาติ อันดามัน. ม.ป.ท.: ม.ป.พ., 2554. สุดารา สุจฉายา, บรรณาธิการ. ภูเกต็ . กรุงเทพฯ: สารคดี, 2543. สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์, ดิลก วุฒิพาณิชย์, และ ประสิทธิ์ ชิณการณ์. จีน ทักษิณ วิถีและพลัง. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุน การวิจัย, 2544. สุรีย์ เลียงแสงทอง. “การศึกษาวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจเมืองภูเก็ต ระหว่าง พ.ศ. 2396-2475.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, ภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2524. หนึ่งหทัย อินทขันตี. “พลวัตการปรับตัวของกลุ่มทุนภูเก็ต พ.ศ. 2515-2551.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, สาขาวิชา เศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, 2554. อัปสร ณ ระนอง. “การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจจากกิจการเหมือง แร่ดีบุกสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2484-2530.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, ภาควิชา ประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2550. เอก ตั้งทรัพย์วัฒนา. Politics and Business. บรรณาธิการโดย พฤทธิสาน ชุมพล, และ เอก ทรัพย์วัฒนา. คำและความคิด ในรัฐศาสตร์ร่วมสมัย. ล. 2,.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2551. อุษณีย์ ฉวีกุลรัตน์. การเก็บภาษีอากรหัวเมืองฝ่ายทะเลตะวันตก. บรรณาธิการโดย ยงยุทธ ชูแว่น. คาบสมุทรไทยในราช อาณาจักรสยาม. กรุงเทพฯ: นาคร, 2526/2550. 256

บรรณานุกรม สอ่ื อิเลก็ ทรอนกิ ส ์ “กลุ่มผลประโยชน์.” โอเคเนชั่น. http://www.oknation.net/blog/ print.php?id=157317 (สืบค้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556). เกษียร เตชะพีระ. “ความรู้สึกคุณหญิงแร่ม (2475).” พันทิป. http:// pantip.com/topic/31529225 (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). คณะกรรมการกฤษฎีกา. “บันทึก เรื่อง การถอนการสมัครรับเลือกตั้ง (กรณีนายเรวุฒิ จินดาพล) (มีนาคม 2535).” สำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกา. http://www.lawreform.go.th/l (สืบค้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556). “คณะรัฐมนตรี.” สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี. http://www. cabinet.thaigov.go.th (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). ชาติชาย มุกสง. “เหตุการณ์จลาจลแทนทาลัม.” วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. http://th.wikipedia.org (สืบค้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556). ฐะปะนีย์ (ณ ถลาง) นาครทรรพ. ทำเนียบกุลญาติ ณ ถลาง. กรุงเทพฯ: พิมพ์เนื่องในงานศพนายสมบรู ณ์ ณ ถลาง, 2524. “ท่านปรีดี พนมยงค์กับจดหมายแนะนำคุณสุพจน์ ด่านตระกูล ใน ประเด็นข้อเท็จจริง.” Clip Mass. http://www.clipmass.com/ story/5052 (สืบค้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556). บุญศรี หงษ์หยก. สัมภาษณ์โดย ชามุกข์, “วิมานดิน-วิมานใจ” ของ บุญศรี หงษ์หยก.” Hongsyok Family. http://www.hongsyok family.in.th/interest.php (สืบค้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556). ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์. “20 ปี “เผา” แทนทาลัม จุดเปลี่ยนของ “ภูเก็ต” ผู้จัดการ (กรกฎาคม 2549). http://info.gotomanager.com (สืบค้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556). ปัญญา ไกรทัศน์. “มองการเมืองภูเก็ตก่อนเลือกตั้ง.” เสียงใต้รายวัน, 11 พฤษภาคม 2554. http://www.siangtai.com (สืบค้นเมื่อ วันที่ 10 ธันวาคม 2556). 257

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์. “ภูเก็ต” ยุค 3G เวทีนี้ฝรั่งเล่นกันเอง.” ผู้จัดการ 360 องศา (ธันวาคม 2552). http://info.gotomanager.com (สืบค้น เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2556). ปาณิศรา ชูผล. “ขุนชนานิเทศและหลวงชนาทรนิเทศ.” Phuketdata. http:// www.phuketdata.net (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). ปาณิศรา ชูผล. “ทำเนียบนายกเทศมนตรี.” Phuketdata. http://www. phuketdata.net (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). ปาณิศรา ชูผล. “ทำเนียบนายอำเภอเมืองภูเก็ต.” Phuketdata. http:// www.phuketdata.net (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). ปาณิศรา ชูผล. “นายประชา ตัณฑวณิช.” Phuketdata. http://www. phuketdata.net (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). ปาณิศรา ชูผล. “นายมานิต วัลยะเพ็ชร์.” Phuketdata. http://www. phuketdata.net (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). ปาณิศรา ชูผล. “นายอ้วน สุระกุล.” Phuketdata. http://www.phuketdata. net (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). “นามสกุลพระราชทาน.” วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. http://th.wikipedia.org (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). “รวมใจไทยชาติพัฒนา.” ข่าวเศรษฐกิจธุรกิจ, 5 กันยายน 2555. (สืบค้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). สารคดี ฉ. 269 (กรกฎาคม 2550). “ทุนสิงคโปร์ฮุบเกาะภูเก็ต ทั้ง รร.-สนามกอล์ฟมูลค่าหลายหมื่น ล..” ผู้จัดการรายวัน, 22 มกราคม 2550. นิตยสารผู้จัดการ. http:// info.gotomanager.com/news/printnews.aspx?id=55821 (สืบค้นเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2556). “ฝุ่นตลบการเมืองภูเก็ต จับตาการเมืองพลิกขั้ว.” เสียงใต้รายวัน, 7 พฤษภาคม 2554. หนังสือพิมพ์เสียงใต้รายวัน http:// www.siangtai.com (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). 258

บรรณานุกรม “พระยาบุเรศผดุงกิจ (รวย พรหโมบล).” วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. http:// th.wikipedia.org (สืบค้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556). “แพแตก พ.ศ.2474-2476-สมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์.” สิงห์ดำ. http://www.singhdum.com/images/sub_1257950810/ 2475-2476.doc (สืบค้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556). “ประวัติศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช.” Nakhoncourt. http://nakhoncourt. tripod.com (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). “ปิดฉากคดี ส.ป.ก. “ทศพร” กลั้นใจทิ้ง ที่ 100 ไร่หลุดมือ.” ฐานเศรษฐกิจ 10 มิถุนายน 2550. Blog Gang. http://www.bloggang.com/ mainblog.php?id=kheyesarn&month=17-12-2008&group=5& gblog=34 (สืบค้นเมื่อวันที่). พิชามญชุ์. “วิมานดิน-วิมานใจ” ของ บุญศรี หงษ์หยก.” Hongsyok Family. http://www.hongsyokfamily.in.th (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). มูลนิธิสกุล ณ นคร และสายสัมพันธ์. “ชั้นที่ 5 สายเมืองนคร บุตรธิดา เจ้าพระยาสุธรรมมนตรีศรีธรรมราช มาตยพงศ์สถาพรวรเดโช ไชย อภัยพิริยปรากรมพาหุ (หนู) [ผู้เป็นบุตรเจ้าพระยานคร (น้อยกลาง)].” มูลนิธิสกุล ณ นคร และสายสัมพันธ์. http:// nanagara.com (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). แร่ม พรหโมบล บุณยประสพ. เสี้ยวหนึ่งแห่งความทรงจำ. ม.ป.ท.: ม.ป.พ, 2527. อ้างถึงใน บรรณาธิการโดย ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. ธรรมศาสตร์ 50 ปี. อ้างถึงใน เกษียร เตชะพีระ. ความรู้สึก คุณหญิงแร่ม. พันทิป. http://pantip.com/topic/31529225 (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). “ศึกชิงอำนาจบริหารบลูแคนยอนยืดเยื้อ.” ผู้จัดการรายสัปดาห์ 9 มกราคม 2549. ผจู้ ดั การ 360 องศา http://info.gotomanager. com (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). 259

นักการเมืองถิ่นจังหวัดภูเก็ต สถาบันปรีดี พนมยงค์. http://www.pridiinstitute.com/autopage/ show_page.php?h= 48&s_id=163&d_id=163&page=6&start=1 (สืบค้นเมื่อวันที่ ). สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต. “ประวัติความเป็นมาของจังหวัด ภูเก็ต.” สำนักงานวัฒนธรรม จังหวัดภูเก็ต http://www. phuketculture.net/index.php?option=com_content&view= article&id=2:history&catid=3:2012-07-07-06-41-29&Itemid=5 (สืบค้นเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2557). สุภัทธา สุขชู. “ศรีพันวา” ทุน “ไทย” ที่ “หรู” ไม่แพ้ทุนนอก.” ผู้จัดการ 360 องศา ธันวาคม 2552. ผู้จัดการ 360 องศา. http:// info.gotomanager.com/news/details.aspx?id=83751 (สืบค้น เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2556). สุมาลี พันธุ์ยุรา. “กบฏวังหลวง.” สถาบันพระปกเกล้า. http://www.kpi. ac.th (สืบค้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556). “อัญชลี วานิช เทพบุตร.” วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. http://th.wikipedia.org (สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). “อัญชลี” ทิ้งเก้าอี้นายกฯ อบจ.ภูเก็ต-ปัดเอี่ยวที่ดินเช่า อบจ.” 1 มีนาคม 2551. เอเอสทีวี ผู้จัดการ. http://www.manager.co.th (สืบค้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556). การสัมภาษณ ์ ชูแรง เวชประสิทธิ์. สัมภาษณ์โดย วิทยา อาภรณ์, ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต, 15 และ 17 มกราคม 2557. ชวลิต ณ นคร [อดีตนายกเทศมนตรีเมืองภเู ก็ต ปัจจุบัน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภเู ก็ต]. สัมภาษณ์โดย วิทยา อาภรณ์, ม.ป.ท, 16 มกราคม 2557. สกุล ณ นคร [เกิดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2464]. สัมภาษณ์โดย วิทยา อาภรณ์, ม.3 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต, 16 มกราคม 2557. 260

บรรณานุกรม วินิจ หงส์อติกุล [อดีตคณะทำงานเลขานุการส่วนตัว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภเู ก็ต]. สัมภาษณ์โดย วิทยา อาภรณ์, ม.ป.ท, 16 มกราคม 2557. พิเชษฐ์ ปานดำ. สัมภาษณ์โดย วิทยา อาภรณ์, ม.ป.ท, 17 มกราคม 2557. รัตนาภรณ์ แจ้งใจดี. สัมภาษณ์โดย วิทยา อาภรณ์, ม.ป.ท, 17 มกราคม 2557. [บุคคลอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อจำนวนหนึ่ง สัมภาษณ์หลายครั้งในช่วง พ.ศ. 2556.] 261

ภาคผนวก ภาคผนวก ก รายชื่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ พ.ศ. 2476 ถึง 2556

คร้งั ที่ วนั เดอื น ป ี ชื่อ-สกลุ เขต พรรค หมายเหต ุ 1 15 พ.ย. 2476 พระพิไสยสุนทรการ (แปลง ณ ถลาง) 2 7 พ.ย. 2480 ขุนชินสถานพิทักษ์ (ตันยู่อี่ ตันทวณิช) 3 12 พ.ย. 2481 นายชิต เวชประสิทธิ์ ครั้งที่ 1 4 6 ม.ค. 2489 นายชิต เวชประสิทธิ์ ครั้งที่ 2 5 29 ม.ค. 2491 ขุนประเทศจีนนิกร (กวนฮก ตัณฑัยย์) 6 5 มิ.ย. 2492 7 26 ก.พ. 2495 -ภูเก็ตไม่มีการเลือกตั้งเพิ่ม- ครั้งที่ 1 8 26 ก.พ. 2500 คุณหญิงแร่ม พรหโมบล บุณยประสพ พรรคประชาธิปัตย์ 9 15 ธ.ค. 2500 นายสตางค์ พุทธรักษา ครั้งที่ 2 10 10 ก.พ. 2512 คุณหญิงแร่ม พรหโมบล บุณยประสพ ครั้งที่ 3 11 26 ม.ค. 2518 นายชิต เวชประสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์ 12 4 เม.ย. 2519 นายอมรศักดิ์ องค์สรณะคม พรรคพลังใหม่ 13 22 เม.ย. 2522 นายเอี่ยมศักดิ์ หลิมสมบรู ณ์ พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 1 นายจรูญ เสรีถวัลย์ ภาคผนวก 263

นักการเมืองถิ่นจังหวัดภูเก็ต วนั เดอื น ป ี 264 18 เม.ย. 2526 คร้งั ที ่ 27 ก.ค. 2529 ชือ่ -สกลุ เขต พรรค หมายเหตุ 14 24 ก.ค. 2531 15 22 มี.ค. 2535 นายจรูญ เสรีถวัลย์ พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 2 16 นายเรวุฒิ จินดาพล พรรคพลังใหม่ ครั้งที่ 1 17 13 ก.ย. 2535 นายเรวุฒิ จินดาพล พรรคชาติไทย ครั้งที่ 2 2 ก.ค. 2538 นายเรวุฒิ จินดาพล พรรคชาติไทย ครั้งที่ 3 18 17 พ.ย. 2539 (พ้นสมาชิกภาพ/ไม่มีเลือกตั้งใหม่) 19 6 ม.ค. 2544* นางอัญชลี วานิช เทพบุตร พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 1 20 นางอัญชลี วานิช เทพบุตร พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 2 21 นางอัญชลี วานิช เทพบุตร พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 3 1. นายสุวิทย์ เสงี่ยมกุล 6 ก.พ. 2548 2. นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 1 22 3. นางอัญชลี วานิช เทพบุตร 2 พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 1 1. นายสุวิทย์ เสงี่ยมกุล - พรรคประชาธิปัตย์ บัญชีรายชื่อ 2. นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 2 2 พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 2

ครัง้ ท ี่ วัน เดือน ปี ชื่อ-สกลุ เขต พรรค หมายเหตุ 23 23 ธ.ค. 2550** 1. นายทศพร เทพบุตร 1 พรรคประชาธิปัตย์ 2. นายเรวัต อารีรอบ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 1 3. นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ - พรรคประชาธิปัตย์ บัญชีรายชื่อ 24 3 ก.ค. 2554 1. นางอัญชลี วานิช เทพบุตร 1 พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 4 2. นายเรวัต อารีรอบ 2 พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 2 หมายเหตุ * ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ ** ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ ภาคผนวก 265

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต ภาคผนวก ข ภาพนักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2476 ถึง 2556 พระพิไสยสนุ ทรการ (แปลง ณ ถลาง) 15 พฤศจิกายน 2476 ถึง 9 ธันวาคม 2480 (รวม 4 ปี 25 วัน) ขนุ ชนิ สถานพิทักษ์ (ตันย่อู ี่ ตนั ทวณชิ ) 7 พฤศจกิ ายน 2480 ถงึ 11 กนั ยายน 2481 (รวม 10 เดอื น 4 วนั ) 266

ภาคผนวก นายชิต เวชประสทิ ธ ิ์ (1) 12 พฤศจิกายน 2481 ถึง 15 ตุลาคม 2488 (รวม 6 ปี 11 เดือน 3 วัน) (2) 6 มกราคม 2489 ถึง 9 พฤศจิกายน 2490 (รวม 1 ปี 10 เดือน 3 วัน) (3) 10 กุมภาพันธ์ 2512 ถึง 17 พฤศจิกายน 2514 (รวม 2 ปี 9 เดือน 7 วัน) รวมทั้งสิ้น 11 ปี 6 เดือน 13 วัน ขนุ ประเทศจนี นิกร (กวนฮก ตณั ฑัยย์) 29 มกราคม 2491 ถงึ 29 พฤศจกิ ายน 2494 (รวม 3 ปี 10 เดอื น) 267

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต คุณหญงิ แร่ม พรหโมบล บณุ ยประสพ 26 กุมภาพันธ์ 2495 ถึง 25 กุมภาพันธ์ 2500 (รวม 4 ปี) 15 ธันวาคม 2500 ถึง 20 ธันวาคม 2501 (รวม 1 ปี 5 วัน) รวมทั้งสิ้น 5 ปี 5 วัน นายสตางค์ พทุ ธรักษา พรรคประชาธิปัตย์ 26 กมุ ภาพนั ธ์ 2500 ถงึ 16 กนั ยายน 2500 (รวม 6 เดอื น 21 วนั ) 268

ภาคผนวก นายอมรศกั ดิ์ องค์สรณะคม พรรคประชาธิปัตย์ 26 มกราคม 2518 ถึง 12 มกราคม 2519 (รวม 11 เดือน 16 วัน) นายเอี่ยมศักดิ์ หลมิ สมบูรณ ์ พรรคพลังใหม่ 4 เมษายน 2519 ถึง 6 ตุลาคม 2519 (รวม 6 เดือน 2 วัน) 269

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต นายจรูญ เสรถี วัลย ์ พรรคประชาธิปัตย์ (1) 22 เมษายน 2522 ถึง 19 มีนาคม 2526 (รวม 3 ปี 10 เดือน 28 วัน) (2) 18 เมษายน 2526 ถึง 2 พฤษภาคม 2529 (รวม 3 ปี 14 วัน) รวมทั้งสิ้น 6 ปี 11 เดือน 12 วัน นายเรวฒุ ิ จินดาพล พรรคพลังใหม่ (1) 27 กรกฎาคม 2529 ถึง 29 เมษายน 2531 (รวม 1 ปี 9 เดือน 2 วัน ) พรรคชาติไทย (2) 24 กรกฎาคม 2531 ถึง 23 กุมภาพันธ์ 2534 (รวม 2 ปี 7 เดือน) (3) 22 มีนาคม 2535 ถึง 22 พฤษภาคม 2535 (1 เดือน 1 วัน) รวมทั้งสิ้น 4 ปี 5 เดือน 3 วัน 270

ภาคผนวก นางอัญชลี วานชิ เทพบุตร* พรรคประชาธิปัตย์ (1) 13 กันยายน 2535 ถึง 19 พฤษภาคม 2538 (รวม 2 ปี 8 เดือน 6 วัน) (2) 2 กรกฎาคม 2538 ถึง 28 กันยายน 2539 (รวม 1 ปี 2 เดือน 26 วัน) (3) 17 พฤศจิกายน 2539 ถึง 9 พฤศจิกายน 2543 (รวม 3 ปี 11 เดือน 21 วัน) (4) 3 กรกฎาคม 2554 ถึง 9 ธันวาคม 2556 (รวม 2 ปี 5 เดือน 6 วัน) รวมทั้งสิ้น 12 ปี 7 เดือน 1 วัน นายสุวทิ ย์ เสง่ียมกลุ พรรคประชาธิปัตย์ (1) 6 มกราคม 2544 ถึง 5 มกราคม 2548 (รวม 4 ปี) (2) 6 กุมภาพันธ์ 2548 ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2549 (รวม 1 ปี 19 วัน) รวมทั้งสิ้น 5 ปี 19 วัน 271

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต นางสาวเฉลิมลกั ษณ์ เก็บทรัพย*์ * พรรคประชาธิปัตย์ (1) 6 มกราคม 2544 ถึง 5 มกราคม 2548 (รวม 4 ปี) (2) 6 กุมภาพันธ์ 2548 ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2549 (1 ปี 19 วัน) รวมทั้งสิ้น 5 ปี 19 วัน นายทศพร เทพบตุ ร พรรคประชาธิปัตย์ 23 ธันวาคม 2550 ถึง 10 พฤษภาคม 2554 (รวม 3 ปี 4 เดือน 18 วัน) 272

ภาคผนวก นายเรวัต อารีรอบ พรรคประชาธิปัตย์ (1) 23 ธันวาคม 2550 ถึง 10 พฤษภาคม 2554 (รวม 3 ปี 4 เดือน 18 วัน) (2) 3 กรกฎาคม 2554 ถึง 9 ธันวาคม 2556 (รวม 2 ปี 5 เดือน 6 วัน) รวมทั้งสิ้น 5 ปี 9 เดือน 24 วัน หมายเหตุ * นางอัญชลี วานิช เทพบุตร เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ 1 ครั้ง ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 ** นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ 1 ครั้ง ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 273

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต ประวัตินักวิจัย วิทยา อาภรณ์ ตำแหน่ง อาจารย์ประจำสำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ วุฒิการศกึ ษา 2530: ศิลปศาสตรบัณฑิต (ภาษาอังกฤษ) มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2541: ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ประวัติศาสตร์) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผลงานทางวชิ าการ วิทยา อาภรณ์. รายงานการวิจัย เรื่อง ชุมชนกับการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ลุ่มน้ำ แม่ทาตอนบน จังหวัดเชียงใหม่. เชียงใหม่: มูลนิธิ พัฒนาศักยภาพชุมชน, 2537. วิทยา อาภรณ์. รายงานการวิจัย เรื่อง กำเนิด พัฒนาการ และ บทเรียนขององค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ. เชียงใหม่: , 2541. วิทยา อาภรณ์. แนบเนื้อแม่ลาว: พินิจพื้นที่ เวลา และสังคม ผ่านมิติลุ่มน้ำ. เชียงใหม่: ธารเหนือ, 2543. 274

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต วิทยา อาภรณ์. เครื่องมือประมงแบบทำลายล้างในภาคใต้. สงขลา: โครงการการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ภาคใต้, 2545. วิทยา อาภรณ์. รายงานการวิจัย เรื่อง ภาพรวมของเครือข่ายป่า ชุมชนในประเทศไทย พ.ศ. 2547. กรุงเทพฯ: ศูนย์ฝึก อบรมวนศาสตร์ชุมชนแห่งภูมิภาคเอเชีย, 2547. วิทยา อาภรณ์. รายงานการวิจัย เรื่อง การสังเคราะห์ ประสบการณ์กลุ่มงานวิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ภาคใต้. กรุงเทพฯ: สำนักงานภาค สำนักงานกองทุน สนับสนุนการวิจัย (สกว.), 2549. วิทยา อาภรณ์. การวิจัยคือการปลดปล่อย บทสรุปด้าน วิธีวิทยาจากการสังเคราะห์ประสบการณ์ของการ วิจัยเพื่อท้องถิ่นด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ภาคใต้. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุน การวิจัย(สกว.), 2550. วิทยา อาภรณ์. อู่เรือชุมชน: การซ่อมเรือเพื่อสร้างชุมชนชายฝั่ง อันดามันหลังสึนามิ บทเรียนจากเครือข่ายความ ร่วมมือฟื้นฟูชุมชนชายฝั่งอันดามัน (Save Andaman Network-SAN).เชียงใหม่: โครงการสึนามิ เอด วอทช์, 2550. วิทยา อาภรณ์. รายงานการวิจัย เรื่อง สังเคราะห์สืบค้น พัฒนาการแห่งพลัง คุณค่า และความสุขของงาน วิจัยเพื่อท้องถิ่นภาคใต้. กรุงเทพฯ: สำนักงานภาค สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.), 2551. 275

นักการเมืองถ่ินจังหวัดภูเก็ต วิทยา อาภรณ์. รายงานการวิจัย เรื่อง การใช้ข้อมูลเพื่อ การตัดสินใจเรื่องการสร้างนิคมอุตสาหกรรมของ ชุมชนตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัด นครศรีธรรมราช. กรุงเทพฯ: สำนักงานภาค สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.), 2552. วิทยา อาภรณ์. “ความสัมพันธ์ในระบบแพปลาระดับหมู่บ้าน ก ั บ ก า ร ป ร ั บ ต ั ว เ ข ้ า สู ่ ท ุ น น ิ ย ม ข อ ง ช า ว ป ร ะ ม ง ขนาดเล็ก.” วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย วลัยลักษณ์ ธันวาคม 2552. วิทยา อาภรณ์. รายงานการวิจัย เรื่อง การศึกษาการถือครอง ที่ดินและการจัดการที่ดินกับความเป็นธรรมทาง สังคม กรณีศึกษาพื้นที่เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่ง ประเทศไทย (คปท.): กรณีผลักดันให้ตรวจสอบ การถือครองใช้ประโยชน์อย่างมิชอบของเอกชนและ นำที่ดินมาปฏิรูปให้แก้ผู้เดือดร้อนโดยสหพันธ์ เกษตรกรภาคใต้ (สกต.). กรุงเทพฯ: เครือข่ายถม ช่องว่างทางสังคม, 2553. วิทยา อาภรณ์. รายงานการวิจัย เรื่อง การศึกษาการถือครอง ที่ดินและการจัดการที่ดินกับความเป็นธรรมทาง สังคม กรณีศึกษาพื้นที่เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่ง ประเทศไทย (คปท.): กรณีเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน เทือกเขาบรรทัด (คปบ.). กรุงเทพฯ: เครือข่ายถม ช่องว่างทางสังคม, 2553. 276

นักการเมืองถิ่นจังหวัดภูเก็ต วิทยา อาภรณ์. พลังของก้าวที่หนึ่ง ทศวรรษแรกของการวิจัย เพื่อท้องถิ่นภาคใต้. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุน สนับสนุนการวิจัย (สกว.), 2553. วิทยา อาภรณ์. เปิดปม เงามืดการพัฒนาขนาดใหญ่ในจังหวัด นครศรีธรรมราช. นครศรีธรรมราช: โครงการดับบ้าน ดับเมือง, 2553. วิทยา อาภรณ์. องค์การบริหารส่วนตำบลกับการพัฒนาเด็ก พิการจังหวัดนครศรีธรรมราช. กรุงเทพฯ: มูลนิธิเพื่อ พัฒนาเด็กพิการ, 2554. วิทยา อาภรณ์ (ร่วมเขียน). โฉนดชุมชน จินตภาพที่จับต้องได้. กรุงเทพฯ: กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน, 2556. ประสบการณ์ทำงาน 2533-2536 อาสาสมัครมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม ปฏิบัติงานที่องค์กร ชาวบ้านเพื่อการพัฒนาภาคอีสาน (ขอนแก่น) 2541-2544 ผู้ประสานงานโครงการรักษ์แม่ลาว (เชียงราย) มูลนิธิพัฒนาศักยภาพชุมชน 2546-2549 นักวิจัยโครงการสิทธิชุมชนศึกษา (ภาคใต้) 2551 ถึงปัจจุบัน (2557) อาจารย์ประจำสำนักวิชาศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 277