Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบเรียนภาษาจีนเล่มที่1

แบบเรียนภาษาจีนเล่มที่1

Description: แบบเรียนภาษาจีนเล่มที่1

Search

Read the Text Version

基础汉语 第一册 แบบเรียนภาษาจนี พนื้ ฐาน เล่มท่ี 1 รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต อาจารย์ เฉิน หลีอนั วิทยาลยั นานาชาตปิ รีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ lesson1.indd 1 18/7/2555 22:51:11

基础汉语 第一册 แบบเรียนภาษาจนี พนื้ ฐาน เล่มท่ี 1 พมิ พ์ครัง้ ท่ี 1 จำนวน 1,000 เล่ม กรกฎาคม 2555 ช่ือผู้แต่ง รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต อาจารย์ เฉิน หลอี นั เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ ( ISBN ) ISBN 978-974-449-643-0 ออกแบบปกและรูปเล่ม นนั ทินี วสิ มล พิชญ์สนิ ี นิชยพนั ธ์ พิราดา เจ้าแก้ว ผู้สนับสนุนการจดั พมิ พ์ สำนกั งานสลากกินแบง่ รัฐบาล วิทยาลยั นานาชาตปิ รีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ชมรมพนกั งานสถาบนั พระปกเกล้า พมิ พ์ท่ี บริษัท ธรรมดาเพรส จำกดั 86 ซอย 50/1 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขนั เขตบางพลดั กรุงเทพฯ 10700 โทร.02-8830342-4 แฟ็กซ์ 02-4356960 lesson1.indd 2 18/7/2555 22:51:11

lesson1.indd 3 18/7/2555 22:51:12

lesson1.indd 4 18/7/2555 22:51:12

คำนำ แบบเรียนภาษาจีนพืน้ ฐานชดุ นี ้ จดั ทำขนึ ้ สำหรับนกั เรียนท่ีเริ่มต้นเรียนภาษาจีน มี ทงั้ หมด 3 เลม่ แตล่ ะเลม่ ประกอบด้วยประโยคพืน้ ฐานท่ีใช้พดู ในชีวิตประจำวนั คำศพั ท์ คำอา่ น บทสนทนา หลกั ไวยากรณ์และแบบฝึกหดั การออกเสยี ง การเขียน และวธิ ีเขียน แบบเรียนแตล่ ะเลม่ จะมีคำศพั ท์ระหวา่ ง 300-350 คำ และมีระดบั ความยากงา่ ย เรียงตามลำดบั จากเลม่ 1 ไปถงึ เลม่ 3 เม่ือนกั เรียนเรียนจบทงั้ 3 เลม่ จะได้คำศพั ท์ ประมาณ 1,000 คำ ซง่ึ จะเป็นพืน้ ฐานพอเพียงสำหรับการใช้พดู คยุ ในชีวติ ประจำวนั นักเรี ยนระดับมัธยมปลายที่ประสงค์จะเรี ยนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แบบเรียนภาษาจีนชดุ นีจ้ ะเป็นพืน้ ฐานอยา่ งดีสำหรับการเรียนตอ่ เพราะในแบบเรียนบรรจุ ทงั้ เนือ้ หาความรู้และทกั ษะด้านการพดู การเขียน และการอา่ น ครบถ้วนตามมาตรฐานการ ศกึ ษาของมหาวทิ ยาลยั ชนั้ แนวหน้าทางด้านภาษาของประเทศจีนในปัจจบุ นั โดยเฉพาะอยา่ ง ย่ิงมหาวทิ ยาลยั ปักก่ิงภาษาและวฒั นธรรม ภาษาจีนเป็นภาษาท่ีมีคนใช้พดู มากท่ีสดุ ในโลก และเป็นภาษาที่กำลงั ได้รับความ สนใจเพิ่มขนึ ้ อยา่ งมากทงั้ ในประเทศไทยและตา่ งประเทศ การเรียนรู้ภาษาจีนจะทำให้ สามารถสอ่ื สารกบั ผ้คุู นได้อยา่ งกว้างขวางสำหรับนกั เรียนท่ีปรารถนาความก้าวหน้า การเรียน ภาษาจีนจะเป็นคำตอบอยา่ งดีสำหรับทา่ น (5) lesson1.indd 5 18/7/2555 22:51:12

นกั เรียนท่ีเป็นหว่ งวา่ จะเรียนภาษาจีนไมไ่ หว ขอเรียนให้ทราบวา่ ภาษาจีนมีโครง สร้างทางภาษาหรือหลกั ไวยากรณ์ใกล้เคียงกบั ภาษาไทยในประเดน็ นี ้ ทำให้การเรียนภาษา จีนงา่ ยกวา่ การเรียนภาษาองั กฤษ นอกจากนี ้ ในปัจจบุ นั นกั วชิ าการด้านภาษาจีนยงั ได้คดิ ค้นคำอา่ นท่ีทำให้การอา่ นภาษาจีนงา่ ยขนึ ้ โดยการนำตวั อกั ษรในภาษาโรมนั ɑ, b, c, มาเป็น ตวั สะกดการอา่ นตวั อกั ษรจีน และได้มีการปรับแก้การเขียนอกั ษรจีนให้งา่ ยขนึ ้ ตวั อกั ษรภาษาจีนเป็นภาษากง่ึ สญั ลกั ษณ์กง่ึ อกั ขระ กลา่ วคือตวั อกั ษรจีนแตล่ ะตวั แสดงความหมายภายในตัวและอาจบอกการออกเสียงหรือไม่บอกการออกเสียง ซงึ่ ตา่ งจากภาษาไทยหรือภาษาองั กฤษท่ีเป็นภาษาอกั ขระ ตวั อกั ขระบอกเสียง แตไ่ มบ่ อก ความหมาย สว่ นเสียงที่ออกนนั้ จะหมายถงึ อะไร แล้วแตเ่ จ้าของภาษาจะตกลง ข้อดีของภาษากง่ึ สญั ลกั ษณ์กง่ึ อกั ขระคือ เหน็ ตวั อกั ษรอาจเดาความหมายได้ เชน่ 一,二, 三,...อกั ษรเหลา่ นีไ้ มว่ า่ จะอา่ นวา่ อะไร ล้วนมีความหมายวา่ หนง่ึ สอง สาม ...ทงั้ สนิ ้ สว่ นข้อเสยี คือวา่ ต้องทอ่ งจำมากกวา่ ภาษาอกั ขระ แตอ่ ปุ สรรคที่วา่ นีจ้ ะหมดไปเม่ือ ทา่ นเรียนรู้ภาษาจีนถงึ ขนั้ พอใช้งานได้ สดุ ท้ายนี ้ขอให้ทา่ นมีความมมุ านะในการเรียนและมีอนาคตอนั สดใส รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต อาจารย์ เฉิน หลีอนั (6) lesson1.indd 6 18/7/2555 22:51:13

目录 สารบญั หน้า (5) 前言 คำนำ (7) 目录 สารบญั 1 序言 บทนำ 17 附录 ภาคผนวก 18 19 汉字笔画名称表 ประเภทของลายเส้นใน 20 ตวั อกั ษรจีน 21 汉字笔顺规则表 หลกั เกณฑ์การเขียนตวั 26 อกั ษรจีน 37 词类简称表 ตารางแสดงประเภทของคำ 45 汉语拼音综合表 ตารางรวมพยญั ชนะ สระ 53 และวรรณยกุ ต์ภาษาจีน 61 第一课 打招呼 ทกั ทายปราศรัย 68 第二课 问候 ถามสารทกุ ข์สกุ ดบิ 第三课 这是我朋友 น่ีคือเพ่ือนของฉนั 第四课 这是我的书 น่ีคือหนงั สอื ของฉนั 第五课 你去哪儿? คณุ ไปไหน 第六课 你叫什么名字? คณุ ชื่ออะไร (7) lesson1.indd 7 18/7/2555 22:51:14

หน้า 生词综合表(一) ประมวลคำศพั ท์ 78 语法(一) ไวยากรณ์ 80 第七课 我要看电视 ฉนั จะดโู ทรทศั น์ 87 第八课 他睡觉了 เขาเข้านอนแล้ว 95 第九课 他在房间里 เขาอยใู่ นห้อง 104 第十课 我在银行工作 ฉนั ทำงานที่ธนาคาร 111 第十一课 我有三本书 ฉนั มีหนงั สือสามเลม่ 118 第十二课 你认识不认识她? คณุ รู้จกั เธอไหม 126 生词综合表(二) ประมวลคำศพั ท์ 132 语法(二) ไวยากรณ์ 134 第十三课 今天几月几号? วนั นีว้ นั ที่เทา่ ไร 142 第十四课 现在几点? ตอนนีก้ ี่โมง 151 第十五课 你住在哪儿? คณุ พกั อยทู่ ่ีไหน 159 第十六课 八楼在九楼旁边 อาคารแปดอยขู่ ้าง ๆ อาคารเก้า 167 第十七课(1)您要什么? คณุ ต้องการอะไร 176 (2)我要买桔子 ฉนั ต้องการซือ้ ส้ม 178 第十八课(1)我想买毛衣 ฉนั อยากจะซือ้ เสือ้ ไหมพรม 185 (2)我看看那件毛衣 ฉนั ขอดเู สือ้ ไหม พรมตวั นนั้ หนอ่ ย 186 生词综合表(三) ประมวลคำศพั ท์ 195 语法(三) ไวยากรณ์ 197 (8) lesson1.indd 8 18/7/2555 22:51:14

บทนำ ความสำคญั ของภาษา คนเราจะรักกนั หรือโกรธกนั ก็เพราะภาษาท่ีใช้เจรจาตดิ ตอ่ กนั ภาษาเป็นเคร่ืองมือ แสดงออกซงึ่ ความคิดและความรู้สกึ ของบคุ คลหนง่ึ ตอ่ อีกบคุ คลหนง่ึ เพื่อให้คเู่ จรจาตดิ ตอ่ รู้ และเข้าใจ รวมถงึ บง่ บอกถงึ การกระทำที่จะเกิดตามมา ดงั นนั้ ภาษาจงึ เป็นสงิ่ สำคญั มาก สำหรับการสอ่ื สารและการสร้างความสมั พนั ธ์ระหวา่ งบคุ คล รวมถงึ การสง่ ทอดอารยธรรม จากคนรุ่นหนงึ่ สคู่ นอีกรุ่นหนง่ึ โดยเฉพาะผา่ นทางภาษาเขียนท่ีเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ภาษาเป็นการใช้เครื่องหมายหรือเสยี งในการสือ่ ความหมาย รูปแบบของภาษาอยา่ ง งา่ ยท่ีสดุ ได้แก่ การแสดงทา่ ทาง และการแสดงออกทางใบหน้า เราสามารถเรียนรู้ความคดิ ตา่ งๆของบคุ คลจากใบหน้าและการแสดงออกทางกาย ภาษาที่มีความซับซ้ อนมากกว่าการแสดงออกด้ วยทางท่าทางและใบหน้ าขึน้ ไปอีกได้แก่ ภาษามือของคนหหู นวกและเป็นใบ้ หรือรหสั ระหวา่ งประเทศเกี่ยวกบั แสงไฟและ ธงที่ใช้ในวงการค้าหรือวงการทหาร ภาษาเสยี งที่งา่ ยท่ีสดุ ได้แก่ การโอดครวญ การร้อง และการอทุ านเชน่ โอ้ย! ซงึ่ บง่ บอกความหมายของความรู้สกึ บางอยา่ งเป็นการเฉพาะ ภาษาเสยี งที่ยากและซบั ซ้อน มากได้แก่ภาษาพดู ซง่ึ เป็นเครื่องมือที่แพร่หลายท่ีสดุ ที่บคุ คลใช้ในการสื่อสารความคดิ ของตน ไปยงั บคุ คลอื่น เนื่องจากภาษาพดู มกั จะควบคกู่ บั ทา่ ทางและการแสดงออกทางใบหน้านนั่ ก็ lesson1.indd 9 |1基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:17

คือภาษาอาจจะเป็นการผสมระหวา่ งเครื่องหมายและเสยี ง เง่ือนไขที่สำคญั ท่ีสดุ ของภาษาคือ ความเข้าใจของผ้รู ับสอ่ื ถ้าใครสกั คนคดิ ค้นประดษิ ฐ์ระบบเสยี งและเคร่ืองหมายท่ีแสดงถงึ ความหมายและความคดิ หลากหลายตา่ งๆขนึ ้ มาแตไ่ มม่ ีใครเข้าใจ ยกเว้นตวั เขาเอง สง่ิ นนั้ ไม่ อาจเรียกวา่ “ภาษา” แตอ่ ยา่ งใด การเรียนภาษา ภาษาเป็นสงิ่ ประดษิ ฐ์ทางวฒั นธรรมของกลมุ่ คน ซง่ึ เรียนรู้และถ่ายทอดกนั ภายใน กลมุ่ จากรุ่นสรู่ ุ่น คนนอกกลมุ่ ที่ไมไ่ ด้เก่ียวข้อง ไมไ่ ด้เรียนรู้ยอ่ มเป็นการยากท่ีจะเข้าใจโดย เฉพาะภาษาพดู ภาษาเขียน ดงั นนั้ บคุ คลที่ต้องการจะเรียนรู้และเข้าใจภาษาของคนกลมุ่ อื่น จงึ ต้องเรียนต้องฝึกฝน ต้องเข้าไปมีปฏิสมั พนั ธ์กบั คนกลมุ่ นนั้ ๆให้เกิดความรู้ความค้นุ เคยและจดจำให้ได้ จงึ จะสามารถใช้ภษานนั้ ได้ ย่ิงค้นุ เคยมาก จดจำได้มาก ยิ่งสามารถ ใช้ภาษานนั้ ได้มาก ภาษาอาจจำแนกตามวิธีการส่ือสารได้เป็น 3 ประเภท คือ ภาษาพดู ภาษาเขียน และภาษาทา่ ทาง สำหรับนกั เรียน การฝึกฝนทกั ษะทางภาษาให้เกิดความชำนาญ ดงั นนั้ จงึ จำเป็นต้องฝึกฝนทงั้ ทกั ษะด้านการฟัง การอา่ น การพดู และการเขียนควบคกู่ นั ไปเพราะ ทักษะแต่ละทักษะจะช่วยหนุนเสริมซึ่งกันและกันให้คล่องแคล่วในทางภาษาย่ิงขึน้ ย่ิง ฝึกฝนมาก ยิ่งจะมีความคลอ่ งแคลว่ มาก การเรียนภาษาจีนให้แตกฉาน ในระยะเร่ิมต้น นกั เรียนจำเป็นต้องหมน่ั จดจำคำศพั ท์ โดยการทอ่ งจำ ฝึกพดู ดงั ๆ และเขียนมากๆ สะสมไปเร่ือยๆเม่ือได้เรียนรู้คำศพั ท์ประมาณ อ50ย0เู่ ส-1ม,อ00ๆ0จะเคกำ่ียกว็จขะ้อสงากมบั าสรง่ิถตใอ่ช้ไปปรนะีโ้1ยชน์จากภาษาจีนท่ีเรียนได้ โดยทว่ั ไปคำศพั ท์พืน้ ฐานท่ีใช้ 1 黄伯荣,廖序东。现代汉语(增订三版)(北京:高等教育出版社, 2006), 307 页 2| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:17 lesson1.indd 10

ศพั ท์ท่ีเก่ียวกบั ธรรมชาติ เชน่ ฟ้ า ดนิ ลม ฝน เมฆ หมอก นํา้ ไฟ ต้นไม้ ใบหญ้า คู คลอง แมน่ ํา้ ทะเล ศพั ท์ท่ีเก่ียวกบั การดำรงชีพและการผลติ เชน่ ข้าว ผกั หญ้า มีด ชาม จาน ตะเกียบ ช้อน เสือ้ ผ้า กางเกง โต๊ะ เก้าอี ้ปากกา ดนิ สอ หมา แมว รถ เรือ ศพั ท์ท่ีเกี่ยวกบั อวยั วะและชิน้ สว่ นของร่างกาย เชน่ ศีรษะ มือ เท้า ฟัน ปาก จมกู คิว้ ผม หวั ใจ ปอด ตบั ไต ศพั ท์ท่ีเกี่ยวกบั ความสมั พนั ทางเครือญาติ เชน่ ป่ ู ยา่ ตา ยาย พอ่ แม่ ลงุ ป้ า น้า อา พี่ชาย น้องสาว ลกู หลาน ศพั ท์ที่เกี่ยวกบั การกระทำหรือเปล่ียนแปลงของบคุ คลหรือสง่ิ ของ เชน่ เดนิ คดิ เขียน ชอบ เรียน รัก พฒั นา ศพั ท์ที่เกี่ยวกบั คณุ สมบตั หิ รือสภาพของสง่ิ ของ เชน่ เลก็ ใหญ่ ดี ชว่ั หวาน ขม เผด็ จืด อร่อย สวย นา่ เกลยี ด นา่ รัก ศพั ท์ที่ใช้บอกหรือแทนบคุ คลหรือสงิ่ ของ เชน่ ฉนั เธอ เขา น่ี นนั่ ใคร อะไร ที่ไหน อยา่ งไร เมื่อไร ของใคร ศพั ท์ท่ีใช้บอกจำนวน เชน่ สบิ ร้อย พนั หมื่น ชง่ั กิโลกรัม ลติ ร ลี ้ฟตุ นิว้ ไร่ ตารางเมตร บาท สตางค์ ศพั ท์ท่ีใช้บอกระดบั ขอบเขต ความเก่ียวพนั นํา้ เสียง เชน่ ใกล้เคียง มาก น้อย กว้าง แคบ ใกล้ ไกล หนกั แนน่ แผว่ เบา เม่ือมีความรู้ความชำนาญถงึ ระดบั ใช้ภาษาจีนสอ่ื สารได้ จะเร่ิมรู้สกึ สนกุ และไมร่ ู้สกึ เป็นภาระท่ีจะต้องจดจำอีกตอ่ ไป lesson1.indd 11 |3基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:17

ภาษากบั วฒั นธรรม การเข้ าใจภาษาของชนชาติใดชนชาติหน่ึงจะลึกซึง้ ย่ิงขึน้ เมื่อนักเรียนเรียน รู้วฒั นธรรม และชีวติ ความเป็นอยขู่ องคนชาตนิ นั้ มากขนึ ้ เพราะภาษาคือวฒั นธรรมอยา่ งหนง่ึ ท่ีสะท้อนถงึ วิถีชีวติ และวิธีคดิ ของคนชาตนิ นั้ ตวั อยา่ งเชน่ คนจีน คนเกาหลี คนญ่ีป่ นุ คน เวียดนาม ล้วนกินอาหารด้วยตะเกียบ สามารถเรียกได้วา่ เป็น “วฒั นธรรมตะเกียบ” ดเู ผิน ๆ การใช้ตะเกียบของคนเหลา่ นีอ้ าจไมม่ ีอะไรแตกตา่ งกนั แตถ่ ้าดใู ห้ละเอียดลงไป จะพบวา่ มี ความแตกตา่ งอยไู่ มน่ ้อย โดยเฉพาะตะเกียบของคนจีนกบั ตะเกียบของคนญ่ีป่ นุ เราจะพบวา่ ตะเกียบของคนจีนมีขนาดยาวและใหญ่กวา่ ตะเกียบของคนญี่ป่ นุ นอกจากนี ้ ปลายตะเกียบ ของคนจีนจะทู่ ในขณะท่ีปลายตะเกียบของคนญ่ีป่ นุ จะแหลมกลา่ วคือ แม้จะใช้ ตะเกียบ เหมือนกนั แตอ่ าจจะมีรูปลกั ษณ์และการใช้สอยไมเ่ หมือนกนั 4| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:20 lesson1.indd 12

การวางตะเกียบบนโต๊ะก็ไมเ่ หมือนกนั โดยทว่ั ไป คนจีนจะวางตะเกียบตามแนวตงั้ ในขณะท่ีคนญ่ีป่ นุ จะวางตะเกียบในแนวนอน เหตทุ ่ีตะเกียบและการวางตะเกียบไมเ่ หมือน กนั เชน่ นี ้ อาจกลา่ วได้วา่ เกิดจากวฒั นธรรมและวถิ ีชีวติ ที่ไมเ่ หมือนกนั กลา่ วคือคนจีนกิน อาหารโดยมีกบั ข้าววางกลางโต๊ะ กินร่วมกนั ใครต้องการทานกบั ข้าวอะไรก็เอือ้ มมือไปคีบ กบั ข้าวนนั้ จงึ ต้องใช้ตะเกียบยาว สว่ นคนญี่ป่ นุ เป็นชาวเกาะมีอาหารปลาเป็นหลกั เวลา สกินว่ นอตาหะเากรียกบ็กขินอกงนั คคนนญล่ีปะ่สนุ ำทร่ีมับีปๆลขาอยงใแคหรลขมอกง็เมพนั ่ือแไยมกจ่ กำ้าเงปป็นลตา้อองอเอกือจ้ มากมเือนไือ้ป2คีบอาหารกลางโต๊ะ ส่วนตะเกียบของคนเกาหลีและคนเวียดนามจะมีรูปลกั ษณ์และความยาวพอๆกบั ตะเกียบของคนจีน แตต่ ะเกียบของคนเกาหลีในปัจจบุ นั จะทำด้วยเหลก็ กล้า แตบ่ างกวา่ ตะเกียบไม้เลา่ กนั วา่ ในอดตี ตะเกียบท่ีใช้ในวงั ไมว่ า่ จะเป็นวงั ของจีนหรือวงั ของเกาหลที ำด้วย เงิน เวลาคีบอาหาร ถ้าในอาหารมียาพิษ ตะเกียบจะมีสดี ำ ก็จะรู้ได้ทนั ทีวา่ มีการใสย่ าพิษ ในอาหาร แตใ่ นปัจจบุ นั ตะเกียบของเกาหลที ่ีเหน็ ในร้านอาหารหรือท่ีวางขายในตลาดเป็น เหลก็ กล้า เหตทุ ่ีเป็นเชน่ นีม้ ีบางคนอธิบายวา่ เพราะแร่เงินมีราคาแพงสว่ นเหลก็ กล้ามีราคา ถกู นอกจากนี ้ การใช้เหลก็ กล้าทำตะเกียบยงั เป็นการอนรุ ักษ์สงิ่ แวดล้อมเพราะไมต่ ้องตดั ไม้ ทำลายป่ าอีกด้วย ภาษาจีนกลาง ภาษาจีนที่กลา่ วถงึ ในท่ีนีห้ มายถงึ ภาษาของชาวฮนั่ (汉族) ซงึ่ เป็น 1 ใน 56 ชนเผ่าท่ีรวมกันเป็ นพลเมืองของสาธารณรัฐประชาชนจีนและท่ีต้องเน้นยํา้ คือภาษาจีน ที่กลา่ วถงึ นีห้ มายถงึ ภาษา“จีนกลาง”(普通话) หรือภาษาท่ีคนจีนทงั้ ประเทศใช้ร่วมกนั โดยทว่ั ไป อาจกลา่ วได้วา่ ภาษาของชาวจีนฮนั่ อาจแยกตามภมู ิภาคได้เป็น 7 กลมุ่ ใหญ่ ได้แก่ 2 舆谁优等著,赵嘉文,张宏编,谢福荣,钱华译, 汉英中华文化图解词典 (上海:上海外语教育出版办 社, 1 页. lesson1.indd 13 |5基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:20

1) ภาษาถ่ินของชาวเหนือ(北方方言)2) ภาษาถิ่นของชาวอ(ู๋ 吴方言)หรือ เจ้อเจียง 3) ภาษาถ่ินของชาวเซียง(湘方言)หรือหหู นาน 4) ภาษาถ่ินของชาวกนั้ (赣方言)หรือเจียงซี 5) ภาษาถ่ินของชาวแคะ(客家方言)ซง่ึ รวมตวั กนั อยใู่ น ห言ลา)ยมหณรือฑฝลเู จโดีย้ นยเฉแลพะาะ7ก)่วภงาตษงาฝถเู ่ินจขีย้ อนงเคจนียเงยซ้วี ์(ซ่ือช粤วน方6言) ภ)าษหารถือิ่นกข่วองงตชงา3วหม่ิน(闽方 ในบรรดาภาษาถิ่นของชาวฮน่ั ทงั้ 7 กลมุ่ นี ้ ภาษาถิ่นของชาวเหนือนบั วา่ มีปริมาณ ผ้คู นมากท่ีสดุ ถงึ ร้อยละ 70 ของประชากรฮนั่ ทงั้ หมด และไมจ่ ำกดั วงอยเู่ ฉพาะพืน้ ที่ใน ภาคเหนือของจีนเทา่ นนั้ แตย่ งั กระจายไปยงั ภาคอ่ืนๆของจีน เชน่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ภาคตะวนั ตก อีกด้วย สว่ นภาษาถ่ินอีก 6 กลมุ่ ถือวา่ มีประชากรไมม่ ากมีเพียงร้อยละ 5 ร้อยละ 4 หรือร้อยละ 3 เทา่ นนั้ เนื่องจากจำนวนผ้ใู ช้ภาษาถ่ินของชาวเหนือมีปริมาณมาก ท่ีสดุ ดงั นนั้ การกำหนดให้ภาษาถิ่นของชาวเหนือเป็นภาษากลางจงึ สมเหตุสมผลที่สดุ ในเชิง จำนวนคน เพราะเป็นภาษาของคนสว่ นใหญ่อยแู่ ล้ว สว่ นสำเนียงท่ีได้รับเลือกให้เป็นสำเนียง มาตรฐานเป็นสำเนียงของชาวปักก่ิง เพราะปักก่ิงเป็นเมืองหลวงของจีนตงั้ แตส่ มยั ราชวงศ์ หยวนหมิง ชิง และ ตอ่ เนื่อง มอาีกถทงึ งั้ปเปัจ็นจสบุ ำนั นยวานวทนี่ไาพนเถรงึากะวดา่้วย7เม0่ือ0เทปียี บยกอ่ บัมภเปา็นษสาำถเิ่นนอีย่ืนงทๆ่ีค4้นุ เคย ในวงราชการและนกั วชิ าการ เสียงในภาษาจีน โดยแยกเป็นเสยี ง พ ยญั ชนะภเาสษียางใสนรระูปแแลบะบรขะอดงบั เสเสยี ยี งงใน(วภรารษณายจกุีนตป์)รดะงกั ตออ่บไดป้วนยี้ เ5สียงตา่ งๆ 543 北京大学中文系现代汉语教研室,现代汉语(北京:商务印书馆。2008),5-7 页。 同一个地方,14-15 页。 徐林。优秀小学生语文知识大全(北京:华语教学出版社,2010), 2-3 页。 6| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:20 lesson1.indd 14

1. พยญั ชนะ 23 ตวั ได้แก่ b (ปอ) = ป p (พอ) = พ m (มอ) = ม f (ฟอ) = ฟ d (เตอ) = ต t (เทอ) = ท n (เนอ) = น l (เลอ) = ล g (เกอ) = ก k (เคอ) = ค h (เฮอ) = ฮ j (จี) = จ q (ชี) = ช x (ซี) = ซ zh (จือ - ม้วนลนิ ้ ) = จ ch (ชือ - ม้วนลนิ ้ ) = ช sh (ซือ - ม้วนลนิ ้ ) = ซ r (ยือ - ฟันบนชิดฟันลา่ ง) = ย z (จือ - ลนิ ้ ตรง) = จ c (ชือ - ลนิ ้ ตรง) = ช s (ซือ - ลนิ ้ ตรง) = ซ y (อี) = ย (ฟันบนไมช่ ิดฟันลา่ ง) w (อ)ู = ว 2. สระ แยกได้เป็ น 4 กลุ่ม สระเดี่ยว มี 6 ตวั ได้แก่ ɑ (อา) o (โอ ) e (เออ) i (อี) u (อ)ู ü (อีว์) สระผสม มี 10 ตวั ได้แก่ ɑi (ไอ) ei (เอย) u( e )i (อยุ ) ɑo (เอา) ou (โอว) uo (อวั ) i( o )u (อิว) ie (เอีย) üe (เอียว์) er (เออร์) lesson1.indd 15 |7基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:20

สระที่ออกเสียงตรงสว่ นหน้าของจมกู 8 ตวั ได้แก่ ɑn (อนั ) en (เอิน) in (อิน) iɑn (เอียน) ün (อนุ ) u(e)n (อินว์) üɑn (เอียนว์) uɑn (อวน) สระที่ออกเสียงตรงสว่ นหลงั ของจมกู 8 ตวั ได้แก่ ɑng (องั ) eng (เอิง) ing (อิง) iɑng (เอียง) ong (อง) iong (องุ ) uɑng (อวง) ueng (เอิงว์) คำท่ีอา่ นออกเสยี งตา่ งจากหลกั ทวั่ ไป 1) zhi (จือ) chi (ชือ) shi (ซือ) ri (ยือ) zi (จือซ์) ci (ชือซ์) si (ซือซ์) 2) yi (อี) yu (อีว์) yin (อิน) ying (อิง) หมายเหตุ พยญั ชนะ “y” ในที่นีไ้ มอ่ า่ นออกเสียง 3) wu (อ)ู หมายเหตุ พยญั ชนะ “ w ” ในที่นีไ้ มอ่ า่ นออกเสียง 4) ye (เย) yue (เยว์) หมายเหตุ พยญั ชนะ “y” = ย เมื่อผสมกบั สระ “e” ในท่ีนีอ้ า่ นออก เสยี งเป็น “เย” และเม่ือผสมกบั สระ “üe” ในท่ีนีอ้ า่ นออกเสยี งเป็น “เยว์” 8| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:21 lesson1.indd 16

3. วรรณยุกต์ 4 รูป 5 ระดบั เสียง ( อิน ) ( หยาง ) ( สร่าง ) ( ช่ีว์ ) ( ชิง ) เสยี งเบาไมม่ ีเครื่องหมาย lesson1.indd 17 |9基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:24

ข้อสงั เกตเกี่ยวกบั การออกเสียง นอกจากภาษาจีนมีเสียงท่ีแตกต่างจากเสียงในภาษาไทยแล้วท่ีสำคัญการออก เสยี งบางคำในภาษาจีนขนึ ้ อยกู่ บั ตำแหนง่ ของลนิ ้ (ชิดฟันหรือแตะเพดานบน) ลกั ษณะของ ปเสายี กงอ(อทกำทปาางกดก้าลนมหหนร้าือจปมากู กแหบรือนทาปงาดก้าอน้าหลปงั าจกมปกู ิ ดเป็น) ต้นก6ารเปลง่ เสยี ง(พน่ ลมหรือไมพ่ น่ ลม) ลายเส้นในภาษาจีน ภาษาจีนที่คนจำนวนไมน่ ้อยเหน็ วา่ ซบั ซ้อน ยากตอ่ การเขียนอยา่ งย่ิงนนั้ ในความ เอปกั ็นษจรริงอตาวัจอไมกั ษย่ ารภกอาษยา่างจทีน่ีคปดิ ระกถอ้าบมดีโ้วอยกลาาสยไเดส้เ้นรียแนลระู้ลมาีชยื่อเเสร้ีนยใกนตภา่ างๆษกานัจดีนงัทต่ีปอ่ รไะปกนอี บ้ 7กนั เป็นตวั ขีดขวาง ( ) 横 ( เหิง ) ขีดลง ( ) 竖 ( ซู่ ) ขีดเฉียงลงซ้าย ( ) 撇 ( เพ่ีย ) ขีดเฉียงลงขวา ( ) 捺 ( นะ ) จดุ ( ) 点 ( เต่ียน ) ขีดขวางแล้วหกั ลง ( ) 横折 ( เหิงเจอ๋ ) ขีดขวางแล้วตวดั เป็นขอ ( ) 横钩 ( เหิงโกว ) ขีดลงแล้วหกั ขวาง ( ) 竖折 ( ซเู่ จอ๋ ) ขีดลงตวดั ขนึ ้ ทางขวา ( ) 竖提 ( ซถู่ ี ) ขีดลงแล้วโค้งทางขวา ( ) 竖弯 ( ซวู่ นั ) ขีดลงแล้งตวดั เป็นขอทางซ้าย ( ) 竖钩 ( ซโู่ กว ) ขีดโค้งลงขวาแล้วตวดั เป็นขอ ( ) 斜钩 ( เซ๋ียโกว ) 6 黄伯荣,廖序东。在上面所引的著作中, 37-46 页。 7 徐林。在上面所引的著作中, 13 页。 10| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:25 lesson1.indd 18

ขีดโค้งนอนแล้วตวดั เป็นขอ ( ) 卧钩 ( อวั้ โกว ) ขีดเฉียงลงซ้ายแล้วหกั มมุ ทางขวา ( ) 撇折 ( เพี่ยเจอ๋ ) ขีดขวางแล้วเฉียงลงทางขวา ( ) 横撇 ( เหิงเพ่ีย ) ขีดขวางแล้วหกั ลงตวดั เป็นขอ ( ) 横折钩 ( เหิงเจอ๋ โกว) ขีดลงแล้วหกั โค้งตวดั เป็นขอ ( ) 竖弯钩 ( ซวู่ นั โกว ) ขีดขวางแล้วหกั ลงโค้งตวดั ( ) 横折弯钩 เป็นขอ ( เหิงเจอ๋ วนั โกว ) ขีดขวางเอียงลงทางขวาแล้ว ( ) 横斜钩 ตวดั ขนึ ้ ( เหิงเซ๋ียโกว ) ขีดลงหกั ไปทางขวาแล้วหกั ลง ( ) 竖折折钩 ตวดั เป็นขอ ( ซเู่ จอ๋ เจอ๋ โกว ) ขีดขวางเฉียงลงทางขวาแล้วโค้ง ( ) 横撇弯钩 ตวดั เป็นขอ ( เหิงเพี่ยวนั โกว ) ขีดขวางหกั ลงหกั ไปทางขวาแล้ว ( ) 横折折折钩 หกั ลงตวดั เป็นขอ ( เหิงเจอ๋ เจอ๋ เจอ๋ โกว ) lesson1.indd 19 |11基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:29

การเขียนภาษาจีน ตวั อกั ษรจีนจดั ได้วา่ เป็นศลิ ปะอยา่ งหนงึ่ ย่ิงเขียนยิ่งสนกุ และท้าทายผ้เู ขียนมากวา่ จดะงั นต้ีอ้ 8งเขียนอยา่ งไรจงึ จะสวย จงึ จะสมสว่ น การเขียนตวั อกั ษรจีนนนั้ มีหลกั เกณฑ์การเขียน หลกั เกณฑ์พืน้ ฐาน 1. เขียนเส้นขวางก่อนแล้วจงึ เขียนเส้นตงั้ เชน่ 王,干,十 2. เขียนเส้นเฉียงทางซ้ายก่อนแล้วเขียนเส้นเฉียงทางขวา เชน่ 八,人,入 3. เขียนจากบนลงลา่ ง เชน่ 二,三,兰 4. เขียนจากซ้ายไปขวา เชน่ 好,湖,川 5. เขียนโครงด้านนอกก่อนแล้วจงึ เขียนสว่ นประกอบด้านใน เชน่ 同,周 6. เขียนโครงด้านนอกก่อนเขียนสว่ นประกอบด้านใน แล้วจงึ ปิ ดสว่ นที่เป็นฐาน เชน่ 国,图 7. เขียนขีดตรงกลางก่อนแล้วจงึ เขียนสองด้านภายหลงั เชน่ 水,小 หลกั เกณฑ์เพิ่มเตมิ 1. ตวั อักษรท่มี ีจุด 1.1 จดุ อยบู่ นตรงกลางหรือบนซ้าย ให้เขียนจดุ ก่อน เชน่ 衣,为 1.2 จดุ อยทู่ างขวาหรืออยภู่ ายใน ให้เขียนจดุ ภายหลงั เชน่ 发,瓦 8 同一个地方,17 页。 18/7/2555 22:51:29 12| 基础汉语 第一册 lesson1.indd 20

2. ตวั อักษรท่มี ีเส้นล้อม 2 ด้าน 2.1ด้านบนกบั ด้านขวาหรือด้านบนกบั ด้านซ้าย เขียนสว่ นนอกก่อนแล้วจงึ เขียนสว่ น ใน เชน่ 可, 屋 2.2 ล้อมด้านซ้ายกบั ด้านลา่ ง เขียนสว่ นในก่อนแล้วจงึ เขียนสว่ นนอก เชน่ 远, 过,逃 3. ตวั อักษรท่มี ีเส้นล้อม 3 ด้าน 3.1 สว่ นเปิ ดของโครงสร้างหงายขนึ ้ เขียนสว่ นประกอบด้านในก่อนแล้วจงึ เขียนโครง ด้านนอก เชน่ 凶, 画 3.2 สว่ นเปิ ดของโครงสร้างคว่ําลง เขียนโครงด้านนอกก่อน แล้วจงึ เขียนสว่ นประกอบ ด้านใน เชน่ 风, 凤 3.3ส่วนเปิ ดของโครงสร้ างอยู่ทางขวาเขียนเส้นขวางด้านบนก่อนตามด้วยส่วน ประกอบด้านใน แล้วจงึ เขียนโครงด้านนอกปิ ดท้ายโดยขีดซ้ายจากบนลงลา่ งแล้วหกั ขวางเชน่ 医,区,匠 การสร้ างคำในภาษาจีน ภาษาในรูปแบบของภาษาเขียนหรือตวั อกั ษร ภาษาจีนเป็นภาษากงึ่ สญั ลกั ษณ์ กงึ่ อกั ขระ ท่ีพฒั นามาจากภาษาภาพ ร่องรอยของภาษาจีนวา่ เป็นการพฒั นามาจากภาษา ภาพ ยงั คงเหน็ ได้จากตวั เขียนหลายๆตวั เชน่ ดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ ภเู ขา ต้นไม้ สายนํา้ คน ม้า ล้วนมีรูปทรงที่พฒั นา หรือดดั แปลงมาจากรูปทรงของสง่ิ นนั้ ๆทงั้ สนิ ้ ภาษาเขยี นของจนี เป็นสง่ิ ประดษิ ฐ์โบราณ พบบนกระดองเตา่ และกระดกู สตั ว์จำนวน มากที่แกะสลกั ตงั้ แตก่ อ่ นสมยั ราชวงศ์ซาง(商) แตท่ ่พี บมากที่สดุ เป็นของยคุ ราชวงศ์ซาง คอื เมื่อ 1400 ปี ก่อนคริสต์ศกั ราช หรือ ราว 3400 ปี เศษที่แล้วมา ตวั อกั ษรจีนเริ่มมีการ เปลีย่ นแปลงรูปลกั ษณ์ lesson1.indd 21 |13基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:29

เป็ นแบบปั จจุบันในยุคฉินส่ือฮวางตี้( 秦 始 皇 帝 ) หรือจ๋ินซีฮ่องเต้ ในภาษา จีนแต้จิ๋ว เม่ือ 221 ปี ก่อนคริสตกาล (ดู ภาคผนวกท้ายบทนำ)ตวั เขียนใน ภาษาจีนอาจแยก ได้เป็น 5 ลกั ษณะดงั นี ้ 1. อกั ษรภาพ เป็นการจำลองภาพลกั ษณ์ภายนอกหรือลกั ษณะพิเศษของคน สตั ว์ พืช หรือสง่ิ ของ เป็นตวั อกั ษร เชน่ 人 (เหยิน) คน 马 (หมา่ ) ม้า 木 (ม)ู่ ต้นไม้ 2. อกั ษรสญั ลกั ษณ์ เป็นการสร้างตวั อกั ษรเพื่อบง่ บอกความหมายในเชิงนามธรรม เชน่ ความรัก ความเศร้า ความอดทน หรือบง่ บอกความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสง่ิ หนงึ่ กบั อีกสง่ิ หนง่ึ เชน่ บน ลา่ ง ก่อน หลงั โดยไมไ่ ด้วาดเป็นภาพ เชน่ 上 (ซา่ ง) ขนึ ้ 下 (เซีย้ ) ลง 3. อกั ษรผสมระหวา่ งลกั ษณะกบั เสยี ง เป็นการสร้างตวั อกั ษรโดยใช้สว่ นหนง่ึ แทน ลกั ษณะอีกสว่ นหนงึ่ แทนเสยี ง สว่ นท่ีแทนลกั ษณะบอกความหมายของคำ สว่ นท่ีแทนเสยี ง บอกการออกเสยี งท่ีเหมือนกนั หรือใกล้กนั เชน่ 妈 (มา) แม่ 爸 (ปา) พอ่ 4.อกั ษรบอกความหมาย เป็นการสร้างตวั อกั ษรโดยนำอกั ษรเด่ียว ๒ ตวั หรือ มากกวา่ ๒ ตวั รวมเข้าด้วยกนั เพ่ือใช้บง่ บอกความหมายของตวั อกั ษรนนั้ เชน่ 明 (หมิง) สวา่ ง ประกอบด้วยดวงอาทิตย์กบั ดวงจนั ทร์ มีแสงด้วยกนั ทงั้ คู่ 旦 (ตนั้ ) รุ่งอรุณประกอบ ด้วยดวงอาทิตย์ตงั้ อยบู่ นเส้นขวางตรงแทนแผน่ ดนิ 5. อกั ษรแสร้งยืม การแสร้งยืมคือการนำตวั อกั ษรท่ีมีเสยี งเหมือนกนั มาใช้แทนคำท่ี ต้องการจะสือ่ สารออกไป โดยเฉพาะภาษาพดู บางคำหาตวั อกั ษรที่มีความหมายอยา่ งท่ี ต้องการไมไ่ ด้ “ฟังจ”งึ แหตยถ่ ิบกู ยยืมืมคมำาทใ่ีมช้ีเใสนียคงวเาหมมหือมนายกวนั า่ ม“าไดใช้ก้แลทน่ิ นเหคมำน็นนั”้ 9 เชน่ 闻(เหวนิ ) ปรกตแิ ปลวา่ 9 同一个地方,11-12 页。Bruce K. Grant, A Guide to Korean Characters: Reading and Writing Hangul and Hanja (3rd revised ed.) (Elizabeth, New Jersey: Hollym, 2009), pp. 12-16. 14| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:30 lesson1.indd 22

ภาษาเขียนหรือตวั อกั ษรจีนแตกต่างจากภาษาเขียนของไทยและองั กฤษอย่างเห็น ได้ชดั ในแงท่ ี่วา่ ตวั เขียนในภาษาจีนบางตวั บง่ บอกความหมายของคำโดยตวั เอง สามารถ สื่อสารได้เร็วในทนั ทีท่ีเหน็ วา่ หมายถงึ อะไร สว่ นการออกเสยี งจะออกเสียงอยา่ งไรเป็นอีกเรื่อง หนงึ่ สว่ นภาษา เขียนในภาษาไทยนนั้ ประกอบด้วยพยญั ชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ซงึ่ ต้อง นำมาผสมเข้าด้วยกนั เพื่ออา่ นเป็นเสยี ง ทำให้ต้องใช้เวลามากกวา่ ในการ สื่อความหมาย เพราะโดยตวั อกั ษรเองไมบ่ ง่ บอกความหมาย แตบ่ อกวา่ เป็นเสียงอะไร เม่ืออา่ นได้จงึ จะบอก ความหมายได้ ภาษาเขียนที่ประกอบด้วยตวั พยญั ชนะและสระประเภทนีม้ ีข้อดี คือ งา่ ยตอ่ การ เขียนและการอา่ น สว่ นภาษาภาพหรือภาษาสญั ลกั ษณ์ มีข้อยงุ่ ยาก คือต้องใช้ ความจำมาก แตอ่ ยา่ งไรก็ดี ในโลกยคุ ใหมท่ ่ีเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า พจนานกุ รมอีเลก็ ทรอนิกส์สามารถ ชว่ ยทำให้การเรียนภาษาจีนงา่ ยขนึ ้ มากโดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในการสบื ค้นคำศพั ท์ การสะกด การออกเสยี ง หรือการเขียนคำ นอกจากนีต้ งั้ แตม่ ีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 เป็นต้นมา รัฐบาล จีนให้ความสำคญั กบั การปฏิรูปภาษาจีนอยา่ งจริงจงั โดยมีการจดั ตงั้ คณะกรรมการปฏิรูป ตวั อกั ษรจีนเพ่ือให้ทำหน้าที่ปฏิรูปตวั อกั ษรจีนการเขียน การออกเสียง ความหมายของคำให้ เป็นมาตรฐานเดียวกนั ทว่ั ประเทศ ในปี 1956 สำนกั นายกรัฐมนตรีได้ประกาศแนวทางการ ปฏิรูปภาษาจีน ในปี 1964 ได้มีการจดั ทำตารางรวมตวั อกั ษรจีนท่ีมีการลดจำนวนขีดให้งา่ ย ตอ่ การเขียนจำนวนหนงึ่ และในปี 1986 ได้มีการเพิ่มเตมิ ตวั อกั ษรท่ีมีการลดขีดให้งา่ ยตอ่ การเขียนขนึ ้ อีก รวมเป็น 2,235 ตวั อีกทงั้ กำหนดการออกเสียงตวั อกั ษรภาษาจีนให้เป็น มาตรฐานเดียวกนั ทว่ั ประเทศ ในสว่ นของคำอา่ น ได้มีการนำเอาพยญั ชนะโรมนั (ɑ,b,c,…) มาเป็ นตวั สะกดใน การอา่ นตวั อกั ษรจีน ซง่ึ ทำให้การอา่ นอกั ษรจีน สะดวกขนึ ้ มากสำหรับผ้เู รียน เน่ืองจาก ค้นุ เคยกบั การอา่ นออกเสยี งตามระบบการออกเสียงของภาษาองั กฤษอยแู่ ล้ว แตใ่ นระบบ ไกปาบร้อาง่าบนาขงอตงวั จ1ีน0 อาเชจน่ มีตbัวเอทักา่ ษกบรั บปาง, ตpัวทเ่ีอทอา่ กกบัเสียพง,แdตกเทตา่ ่ากงบั จาตก,เสt ียเงททา่ ี่ใกชบั้ในทภ,gาษเทาอา่ กังกบั ฤกษ, k เทา่ กบั ค, ɑ เทา่ กบั อา, e เทา่ กบั เออ 10 黄伯荣,廖序东。在上面所引的著作著,190-191 页 lesson1.indd 23 |15基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:30

ภาษาจีนมีสว่ นที่เหมือนกบั ภาษาไทย คือ เป็นภาษาดนตรี เป็นภาษาที่มีวรรณยกุ ต์ กำกบั คือมีเสยี งสงู เสยี งตํ่า เสยี งหนกั เสยี งเบา เสยี งในภาษาจีนมี 5 ระดบั คือสามญั ( - ) จตั วา ( ๋ ) เอก ( ่ ) โท ( ้ )และเสยี งเบา (ไมม่ ีเคร่ืองหมาย)ในขณะท่ีเสยี งวรรณยกุ ต์ ในภาษาไทยก็มี 5 ระดบั เชน่ กนั คือ สามญั (ไมม่ ีเคร่ืองหมาย) เอก ( ่ ) โท ( ้ ) ตรี ( ๊ )และจตั วา( ๋ )ถ้าระดบั เสยี งตา่ งจะทำให้ความหมายตา่ งออกไปในขณะทภี่ าษาองั กฤษ ไมม่ ีกำหนดเสยี งวรรณยกุ ต์ตายตวั 16| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:35 lesson1.indd 24

附录 ภาคผนวก 6000汉字经过了 多年的变化,其演变 过程是:甲骨文→金文→大篆→小篆→隶书 →楷书→行书 lesson1.indd 25 |17基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:35

hàn zì bǐ huà míng chēng biǎo 汉 字笔 画 名 称 表 ช่ือและประเภทของเส้นในตวั อักษรจนี 18| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:35 lesson1.indd 26

hàn zì bǐ shùn guī zé biǎo 汉字笔顺规则表 หลักเกณฑ์การเขียนตวั อักษรจนี xiān héng hòu shù 十 十 干 先横后竖 干 八 ลากเส้นขวางก่อนเส้นตงั ้ 八 人 xiān piě hòu nà 三 先撇后捺 人 京 เส้นซ้ายก่อนเส้นขวา 三 地 cóng shàng dào xià 做 从上到下 京 月 向 จากบนลงลา่ ง 地 cóng zuǒ dào yòu 日 因 从左到右 做 小 จากซ้ายไปขวา 月 水 cóng wài dào nèi 从外到内 向 จากนอกสใู่ น xiān lǐ hòu fēng kǒu 日 先里后封口 因 จากนอกเข้าหาในเสร็จแล้วจงึ ปิ ด xiān zhōng hòu liǎng biān 小 先中后两边 水 เขียนสว่ นกลางก่อนแล้วเขียนซ้ายและขวา lesson1.indd 27 |19基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:36

cí lèi jiǎn chēng biǎo 词类简 称 表 ตารางแสดงประเภทของคำ 1. 名词 (名) míng cí คำนาม 2.代词 (代) dài cí คำสรรพนาม 3.动词 (动) dòng cí คำกริยา 4.能愿动词(能动) néng yuàn dòng cí คำกริยาชว่ ย 5.形容词 (形) xíng róng cí คำคณุ ศพั ท์ 6.数词 (数) shù cí คำบอกจำนวนท่ีเป็นตวั เลข 7.量词 (量) liàng cí คำลกั ษณะนาม 8.副词 (副) fù cí คำกริยาวิเศษณ์ 9. 介词 (介) jiè cí คำบพุ บท 10.连词 (连) lián cí คำสนั ธาน 11.助词 (助) zhù cí คำเสริม 结构助词 jié gòu zhù cí คำเสริมประเภทโครงสร้าง (的,地,得) 动态助词 dòng tài zhù cí คำเสริมประเภทบอกสภาวะ (了,着,过) 语气助词 yǔ qì zhù cí คำเสริมประเภทบอกนํา้ เสยี ง (吧,呢,了) 12.叹词 (叹) tàn cí คำอทุ าน 13.象声词 (象声) xiàng shēng cí คำเลยี นเสยี ง 20| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:36 lesson1.indd 28

hàn yǔ pīn yīn zōng hé biǎo 汉 语拼 音 综 合 表 ตารางรวมพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ภาษาจนี (1) 韵 母 สระ 6 ตวั ɑ o e i u ü 啊喔鹅衣乌鱼 -i ê er สระเฉพาะ 3 ตวั (2)声 调 วรรณยกุ ต์ 4 ตวั 阴平 阳平 上声 去声 轻声 ˉ ˊ ˇ ˋ mā má mǎ mà mɑ 吗 妈 麻 马 骂 lesson1.indd 29 |21基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:36

(3) 声 母 พยญั ชนะ 23 ตวั bpmf dtnl gkh- zch- zh ch sh r jqxy w--- 22| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:39 lesson1.indd 30

(4) 复 韵 母 สระผสม 1 2 3 4 - i=y u=w ü = yu - iu - - - iɑ uɑ - - - uo - - - - - - - - - ie - üe ɑi - - - ei - uɑi - ɑo iɑo uei - ou iou - - - lesson1.indd 31 |23基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:39

(5) 前 鼻 韵 母 สระท่ีออกเสียงตรงสว่ นหน้าของจมกู n = น 8 ตวั 1 2 3 4 - i=y u=w ü = yu ɑn iɑn uɑn üɑn en - uen - - in - - ün 后鼻韵母 สระที่ออกเสยี งตรงสว่ นหลงั ของจมกู ng = ง 8 ตวั 12 3 4 - i = y u = w ü = yu ɑng iɑng uɑng - eng - ueng - ong iong - - - ing - - 24| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:39 lesson1.indd 32

(6) 韵母特殊拼写法 การลดรูปสระและวิธีเขียน iou = - iu diū 丢 uei = - ui duì 对 uen = - un dūn 吨 er = - r nǎr 哪儿 lesson1.indd 33 |25基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:42

学会中国话 朋友遍天下 第 一 课 dì yī kè 打招呼 26| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:44 lesson1.indd 34

一.句子 ประโยค Chén shù jù Nǐ hǎo 陈 述 句 :* 你 好! Wèn jù Nǐ hǎo mɑ 问 句 :* 你 好 吗? Nǐ men hǎo mɑ Huí dá jù 你 们 好 吗? 回 答 句 :* Wǒ hěn hǎo 我 很 好。 Wǒ yě hěn hǎo 我 也 很 好。 Wǒ men dōu hěn hǎo 我 们 都 很 好。 Wǒ men yě dōu hěn hǎo 我 们 也 都 很 好。 * 陈述句 Chén shù jù เฉิน ชจู่ ีว้ ์ (ประโยคบอกเลา่ ) * 问句 Wèn jù เวน่ิ ชจู่ ีว้ ์ (ประโยคคำถาม) * 回答句 Huí dá jù หยุ ตา๋ ชจู่ ีว้ ์ (ประโยคคำตอบ) lesson1.indd 35 |27基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:46

二.生 词 คำศัพท์ 1.你 (代) nǐ คณุ , เธอ 2.你们 (代) nǐmen พวกคณุ , ทา่ นทงั้ หลาย 3.我 (代) wǒ ฉนั , ผม 4.我们 (代) wǒ men พวกเรา, เรา 5.他,她 (代) tā เขา(ผ้ชู าย), เขา(ผ้หู ญิง) 6.他(她)们(代) tā men พวกเขา, เขาทงั้ หลาย 7.大家 (代) dà jiā ทกุ คน, ทา่ นทงั้ หลาย 8.也 (副) yě ก็ 9.都 (副) dōu ล้วน, ทงั้ หมด 10.很 (副) hěn มาก 11.好 (形) hǎo ดี 12.吗 (助) mɑ ไหม 13.爸爸 (名) bà bɑ พอ่ 14.妈妈 (名) mā mɑ แม่ 15.哥哥 (名) gē ge พ่ีชาย 16.弟弟 (名) dì di น้องชาย 17.姐姐 (名) jiě jie พี่สาว 18.妹妹 (名) mèi mei น้องสาว 19.大卫 (专名) Dà wèi (ช่ือคน) 20.玛丽 (专名) Mǎ lì (ช่ือคน) 28| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:46 lesson1.indd 36

三.熟读句子 ฝึ กอ่านประโยคต่อไปนีใ้ ห้คล่อง Nǐ hǎo Nǐ hǎo mɑ 你 好! 你 好 吗? Nǐ men hǎo Nǐ men hǎo mɑ 你 们 好! 你 们 好 吗? Dà jiā hǎo Dà jiā hǎo mɑ 大 家 好! 大 家 好 吗? Tā hǎo mɑ Tā men hǎo mɑ 他 好 吗? 他 们 好 吗? Bà bɑ hǎo mɑ Mā mɑ hǎo mɑ 爸 爸 好 吗? 妈 妈 好 吗? Gē ge hǎo mɑ Jiě jie hǎo mɑ 哥 哥 好 吗? 姐 姐 好 吗? Dì di hǎo mɑ Mèi mei hǎo mɑ 弟 弟 好 吗? 妹 妹 好 吗? Tā men hěn hǎo Tā men yě hěn hǎo 他 们 很 好。 他 们 也 很 好。 Tā men dōu hěn hǎo Tā men yě dōu hěn hǎo 他 们 都 很 好。 他 们 也 都 很 好。 lesson1.indd 37 |29基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:48

四.会话 สนทนา Dà wèi Mǎ lì nǐ hǎo 大卫: 玛 丽,你 好! Mǎ lì Dà wèi nǐ hǎo 玛丽: 大 卫,你 好! Dà wèi Nǐ hǎo mɑ 大卫: 你 好 吗? Mǎ lì Hěn hǎo Nǐ hǎo mɑ 玛丽: 很 好。你 好 吗? Dà wèi Wǒ yě hěn hǎo 大卫: 我 也 很 好。 30| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:49 lesson1.indd 38

五.语音 เสียงในภาษาจนี l w 1.声母 พยญั ชนะ bp m f d t n jqxgkhy z c s zh ch sh r 2.单韵母 สระเดี่ยว ɑo e i u ü lesson1.indd 39 |31基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:50

3.练习发音 แบบฝึกหดั ออกเสยี ง ɑe e ɑ ɑo o ɑ eo o e iu u i iü ü i uü ü u 32| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:54 lesson1.indd 40

4.拼读 การสะกดและอา่ น b: bɑ bo bi bu p: pɑ po pi pu m: mɑ mo mi mu f: fɑ fo fu d: dɑ di du t: tɑ de ti tu n: nɑ te ni nu nü l: lɑ ne li lu lü g: gɑ le gu k: kɑ ge ji ku h: hɑ ke qi hu j: he xi ju q: qu x: ze xu z: zɑ ce zu c: cɑ se cu s: sɑ zhe su zh: zhɑ che zhu ch: chɑ she chu sh: shɑ re shu r: ru lesson1.indd 41 |33基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:54

5.拼写说明 การเขียนคำอา่ นอกั ษรจีน (1)韵母 i 或 u 自成音节时,前边分别加 y 或 w。 例如 i - yi;u - wu。 เมื่อเสียงที่มีสระ i หรือ u นำหน้าต้องใช้ y หรือ w เขียนนำหน้าสระนนั้ เสมอ เชน่ i เป็ น yi;u เป็ น wu (2)以 i 或 u 开头的韵母,前面没有声母时,必须 把 i 改写为 y;把u改写为 w。例如:ie - ye;uo - wo。 คำที่ขนึ ้ ต้นด้วย i หรือ u คือไมม่ ีพยญั ชนะนำ จะต้องเปลีย่ น i เป็น y และ เปลยี่ น u เป็ น w เชน่ ie เป็ น ye;uo เป็ น wo (3)j q x y 与 ü 以及 ü 开头韵母相拼时,ü上的 两个点省略。例如:jù zi(句子)、qù(去)、xué xí (学习)、hàn yǔ(汉语)。 เมื่อพยญั ชนะ j q x y ใช้ร่วมกบั เสยี งสระที่ขนึ ้ ต้นด้วย ü เวลาเขียนตวั สะกด ให้ตดั จดุ สองจดุ บนตวั ü ทิง้ เชน่ jù zi (ประโยค)、qù (ไป)、xué xí (เรียน)、 hàn yǔ (ภาษาจีน) 34| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:54 lesson1.indd 42

注释 หมายเหตุ 1.“你好!”สวสั ด“ี 你好!”是任何时间、任何场合以及 任何身份的人都可以使用的日常问候语。对方的回答也应 是“你好!”。 “Nǐ hǎo!”เป็นคำทกั ทายท่ีใช้ในชีวิตประจำวนั สามารถใช้ได้ทกุ เวลา ทกุ โอกาส และกบั บคุ คลทกุ สถานะสว่ นการตอบรับการทกั ทายควรตอบรับด้วยคำวา่ “Nǐ hǎo!”เชน่ กนั 2.“你好吗?”คณุ สบายดีหรือ“你好吗?”是常用问候语。 回答一般是“我很好。”等套语。一般用于已经相识的人之 间。 “Nǐ hǎo mɑ?”เป็ นคำทกั ทายท่ีใช้เป็ นประจำ โดยทว่ั ไป การตอบรับ จะกลา่ ววา่ “Wǒ hěn hǎo.”และมกั ใช้กบั บคุ คลท่ีรู้จกั กนั แล้ว lesson1.indd 43 |35基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:55

我会写:ฉันรู้วธิ ีเขียน 36| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:51:56 lesson1.indd 44

学 会 中 国 话 朋 友 遍 天 下 第 二 课 dì èr kè 问 候 |37基础汉语 第一册 lesson2-18.indd 1 18/7/2555 22:07:29

一.句子 ประโยค Chén shù jù Jīn tiān wǒ shēn tǐ hěn hǎo 陈 述 句: 今 天 我 身 体 很 好。 Jīn tiān wǒ gōng zuò hěn máng 今 天 我 工 作 很 忙。 Wèn jù Nín shēn tǐ hǎo mɑ 问 句: 您 身 体 好 吗? Wǒ shēn tǐ hěn hǎo Nǐ ne 我 身 体 很 好。你 呢? Tā gōng zuò máng mɑ 他 工 作 忙 吗? Huí dá jù Wǒ shēn tǐ hěn hǎo 回 答 句: 我 身 体 很 好。 Bù hǎo 不 好。 Bú tài hǎo 不 太 好。 Hěn máng 很 忙。 Bù máng 不 忙。 Bú tài máng 不 太 忙。 38| 基础汉语 第一册 18/7/2555 22:07:31 lesson2-18.indd 2

二.生词 คำศัพท์ 1.今天 (名) jīn tiān วนั นี้ งาน, การงาน 2.工作 (名) gōng zuò ร่างกายสขุ ภาพ ทา่ น, คณุ (คำสภุ าพซง่ึ มาจากคำวา่ 你) 3.身体 (名) shēn tǐ ครู, อาจารย์ นกั เรียน, นกั ศกึ ษา 4.您 (代) nín ยงุ่ , ภารกิจมาก เหน่ือย 5.老师 (名) lǎo shī ไม่ เกินไป, มาก 6.学生 (名) xué sheng ละ่ ขอบคณุ 7.忙 (形) máng ลาก่อน, พบกนั ใหม่ หวงั (แซ่) 8.累 (形) lèi 9.不 (副) bù 10.太 (副) tài 11.呢 (助) ne 12.谢谢(动) xiè xie 13.再见(动) zài jiàn 14.王 (专名) Wáng 三.熟读句子 ฝึ กอ่านประโยคต่อไปนีใ้ ห้คล่อง Nǐ shēn tǐ hǎo mɑ 你 身 体 好 吗? Nǐ bà bɑ mā mɑ shēn tǐ hǎo mɑ 你 爸 爸 妈 妈 身 体 好 吗? Jīn tiān nǐ máng mɑ 今 天 你 忙 吗? Nǐ bà bɑ mā mɑ gōng zuò máng mɑ 你 爸 爸 妈 妈 工 作 忙 吗? lesson2-18.indd 3 |39基础汉语 第一册 18/7/2555 22:07:31

四.会话 สนทนา xué sheng Wáng lǎo shī Nín hǎo 学 生 A,B: 王 老 师,您 好! Wáng lǎo shī Nǐ men hǎo 王 老 师: 你 们 好! xué sheng Wáng lǎo shī nín shēn tǐ hǎo mɑ 学 生 A: 王 老 师, 您 身 体 好 吗? Wáng lǎo shī Hěn hǎo Xiè xie Nǐ men ne 王 老 师: 很 好。谢 谢!你 们 呢? xué sheng Wǒ men shēn tǐ yě hěn hǎo Xiè xie 学 生 A,B: 我 们 身 体 也 很 好。谢 谢! Wáng lǎo shī Nǐ bà bɑ mā mɑ shēn tǐ hǎo mɑ 王 老 师: 你 爸 爸 妈 妈 身 体 好 吗? xué sheng Bà bɑ shēn tǐ hěn hǎo mā mɑ shēn tǐ 学 生 A: 爸 爸 身 体 很 好,妈 妈 身 体 bú tài hǎo 不 太 好。 xué sheng Wáng lǎo shī gōng zuò máng mɑ 学 生 A: 王 老 师 工 作 忙 吗? Wáng lǎo shī Jīn tiān bú tài máng Nǐ ne 王 老 师: 今 天 不 太 忙。 你 呢? xué sheng Wǒ yě bú tài máng Wáng lǎo shī zài jiàn 学 生 A: 我 也 不 太 忙。 王 老 师 再 见。 Wáng lǎo shī Zài jiàn 王 老 师: 再 见。 40| 基础汉语 第一册 lesson2-18.indd 4 18/7/2555 22:07:33