Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนรวม เทอม 1-ส่วนหน้า

แผนรวม เทอม 1-ส่วนหน้า

Published by Guset User, 2022-08-25 08:19:13

Description: แผนรวม เทอม 1-ส่วนหน้า

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ า ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน รหสั วิชา อ32102 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 โดย นายทกั ษิณ ชูชั่ง ครผู ูส้ อน โรงเรยี นสิงห์บุรี ตาบลบางมัญ อาเภอเมือง จังหวดั สิงห์บุรี สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษาสงิ ห์บุรี อา่ งทอง สานกั งานคณะกรรมการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน

แผนการจดั การเรยี นรูว้ ชิ าภาษาอังกฤษพ้นื ฐานรหัสวิชา อ32101 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 นายทกั ษณิ ชูช่ัง ครผู ู้สอน ความเหน็ ของหวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ความเหน็ ของรองผู้อานวยการฝา่ ยวิชาการ ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ลงชอื่ ............................................................ ลงชื่อ............................................................... (นางสาวสนุ ทรี กันพ่วง) (นางเรณู รม่ โพธ)์ิ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ วัน ........... เดอื น ..................... พ.ศ. .............. วัน ........... เดือน ..................... พ.ศ. .............. ความเหน็ ของผู้บริหารโรงเรียน ............................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................... ......................................................................... ............................................................................................................................. ....................................... .............................................................................................................................................. ...................... ลงชื่อ........................................................ (นายชาครสิ ภูง่ าม) ผ้อู านวยการโรงเรียนสิงห์บุรี วนั ........... เดอื น ..................... พ.ศ. ..............

ใบขออนมุ ตั ิแผนการจัดการเรียนรู้ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑ ชอ่ื วิชา ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ครูผู้สอน นายทักษณิ ชชู ง่ั  แผนการจัดการเรียนร้ฉู บับปรับปรงุ ใหม่ ปี ๒๕๖๔  แผนการจดั การเรียนรฉู้ บับเดิม ปี ๒๕๖๓ การบูรณาการตามจดุ เนน้ ของรัฐบาล สพฐ. สพม.สงิ ห์บุรี อ่างทอง โรงเรยี น  เศรษฐกจิ พอเพียง  หน้าทพ่ี ลเมอื ง  ประชาธิปไตย  การอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติ พลงั งาน และสง่ิ แวดล้อม  คา่ นิยมหลกั คนไทย 12 ประการ  พุทธศิ ึกษา จริยศกึ ษา หตั ถศึกษา พลศกึ ษา  คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 ประการ …………………………………………………… ลงช่อื ...................................................... ลงชื่อ ...................................................... ครผู สู้ อน (นางสาวสนุ ทรี กนั พว่ ง) (นางสกุ ัลยา นวลจันทร์) หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ลงช่อื ...................................................... (นางเรณู รม่ โพธิ)์ รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ  อนุมัติ  ไม่อนุมตั ิ ................................................... (นายชาคริส ภูง่ าม) ผู้อานวยการโรงเรียนสงิ หบ์ ุรี

รายละเอียดและขอ้ ตกลงการจัดการเรยี นการสอน รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหสั วิชา อ32101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 256๕ ครูผู้สอน นายทกั ษิณ ชูชงั่ ขอ้ มูลรายวิชา วชิ า ภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า อ32101 จานวนหน่วยการเรยี น 1 หนว่ ยการเรยี น 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ แผนการประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. จานวนช่วั โมงสอนตลอดภาคเรียน 60 ชว่ั โมง 2. นกั เรียนตอ้ งมีเวลาเรียนไมน่ ้อยกว่า 48 ชว่ั โมง จงึ จะมสี ทิ ธ์สิ อบปลายภาคเรียน นักเรียนท่เี ขา้ ห้องเรียนสาย 2 ครั้ง ใหถ้ ือว่าขาดเรยี น 1 ช่ัวโมง (การเขา้ ห้องเรียนสายหมายถึง การเขา้ ห้องเรียนชา้ กวา่ เวลาทก่ี าหนดเกนิ 15 นาท)ี 3. การประเมินผลประกอบด้วย - ด้านความรู้ - ดา้ นทกั ษะกระบวนการ - ดา้ นคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ 4. อัตราสว่ นคะแนนระหวา่ งภาคเรียนและปลายภาคเรียน 80 : 20 คะแนนระหวา่ งภาคเรียน 80 คะแนน แบ่งออกเปน็ 3 สว่ นดงั นี้ คะแนนประเมินผลระหวา่ งเรียนกอ่ นสอบกลางภาค 30 คะแนน คะแนนประเมนิ ผลกลางภาคเรยี น 20 คะแนน คะแนนประเมนิ ผลระหวา่ งเรียนหลังสอบกลางภาค 30 คะแนน คะแนนประเมินผลปลายภาคเรยี น 20 คะแนน เวลาในการสอบปลายภาคเรียน 60 นาที 5. หน่วยการเรียน - หน่วยการเรียนรู้ท่ีประเมินก่อนสอบกลางภาคเรยี น คือ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1, 2 - หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ประเมนิ สอบกลางภาคเรียน คือ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1, 2 - หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ประเมินหลังสอบกลางภาคเรียน คอื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3, 4 - หน่วยการเรยี นรู้ท่ีประเมนิ ผลสอบปลายภาคเรียน คือ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3, 4 6. ภาระงานและกาหนดเวลาการสง่ งาน กาหนดเวลาการส่งงาน ภาระงาน 1. การพูดแนะนาตนเอง 2. งานและสมุด 3. การสอบเกบ็ คะแนนแต่ละหนว่ ยการเรยี น

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน อ 32101 ภำษำองั กฤษ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 5 ภำคเรียนที่ 1 เวลำเรียน 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาคาแนะนา คาช้ีแจง คาอธิบาย คาบรรยาย ขอ้ ความท้งั ท่ีเป็นความเรียงและไมใ่ ช่ความเรียง ข่าว ประกาศโฆษณา บทร้อยกรองและบทละครส้ัน การใชพ้ จนานุกรม หลกั การอ่านออกเสียง เรื่องที่เป็นสารคดีและ บนั เทิงคดี ภาษาที่ใชส้ ่ือสารระหวา่ งบุคคลในชีวติ ประจาวนั และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ข่าว เหตุการณ์ และประเด็นที่อยู่ ในความสนใจของสังคม ภาษาที่ใชแ้ สดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วามช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการใหค้ วาม ช่วยเหลือในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ภาษาท่ีใชแ้ สดงความรู้สึก ความคิดเห็นและเหตุผล ภาษาในการสืบคน้ /คน้ ควา้ ความรู้/ขอ้ มูล จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ภาษาในการเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ขอ้ มูล ภาษาท่ีใชใ้ นการสื่อสารใน สถานการณ์จริง สถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม คาศพั ท์ สานวน ประโยค และขอ้ ความท่ีใชใ้ นการขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ประเด็น ข่าว เหตุการณ์ท่ีฟังและอา่ น กิจกรรม ประสบการณ์และเหตุการณ์ในทอ้ งถิ่น สังคม และโลก ความแตกตา่ งระหวา่ ง โครงสร้างประโยค ขอ้ ความ สานวน คาพงั เพย สุภาษิตและบทกลอน วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย โดยการจดั การเรียนรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ดว้ ยกระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เช่น กระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนทางสังคม เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนมีทกั ษะทางภาษาเพ่ือ การสื่อสาร เขา้ ใจความสาคญั ระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา สามารถใชภ้ าษาในการเช่ือมโยง ความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นและสามารถใชภ้ าษาเป็นเคร่ืองมือในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั สังคมโลก ตวั ชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร อ 1.1 ม.5 / 1,2,3,4 อ 1.2 ม. 5 / 1,2,3,4,5 อ 1.3 ม. 5 / 1,2,3 สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม อ 2.1 ม.5 / 1,2,3 อ 2.2 ม. 5 / 1,2 สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น อ 3.1 ม. 5 / 1 สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก อ 4.1 ม.5 / 1 อ 4.2 ม. 5 / 1,2

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน อ 32102 ภำษำองั กฤษ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 5 ภำคเรียนที่ 2 เวลำเรียน 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาคาแนะนา คาช้ีแจง คาอธิบาย คาบรรยาย ขอ้ ความท้งั ท่ีเป็นความเรียงและไมใ่ ช่ความเรียง ข่าว ประกาศโฆษณา บทร้อยกรองและบทละครส้ัน การใชพ้ จนานุกรม หลกั การอ่านออกเสียง เรื่องที่เป็นสารคดีและ บนั เทิงคดี ภาษาที่ใชส้ ่ือสารระหวา่ งบุคคลในชีวติ ประจาวนั และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ขา่ ว เหตุการณ์ และประเด็นที่อยู่ ในความสนใจของสังคม ภาษาท่ีใชแ้ สดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วามช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการใหค้ วาม ช่วยเหลือในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ภาษาที่ใชแ้ สดงความรู้สึก ความคิดเห็นและเหตุผล ภาษาในการสืบคน้ /คน้ ควา้ ความรู้/ขอ้ มูล จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ ภาษาในการเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ขอ้ มูล ภาษาท่ีใชใ้ นการสื่อสารใน สถานการณ์จริง สถานการณ์จาลองที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม คาศพั ท์ สานวน ประโยค และขอ้ ความท่ีใชใ้ นการขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ประเด็น ขา่ ว เหตุการณ์ท่ีฟังและอา่ น กิจกรรม ประสบการณ์และเหตุการณ์ในทอ้ งถิ่น สังคม และโลก ความแตกต่างระหวา่ ง โครงสร้างประโยค ขอ้ ความ สานวน คาพงั เพย สุภาษิตและบทกลอน วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย โดยการจดั การเรียนรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ดว้ ยกระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เช่น กระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนทางสังคม เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีทกั ษะทางภาษาเพื่อ การสื่อสาร เขา้ ใจความสาคญั ระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา สามารถใชภ้ าษาในการเช่ือมโยง ความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นและสามารถใชภ้ าษาเป็นเคร่ืองมือในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั สังคมโลก ตัวชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การส่ือสาร อ 1.1 ม.5 / 1,2,3,4 อ 1.2 ม. 5 / 1,2,3,4,5 อ 1.3 ม. 5 / 1,2,3 สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม อ 2.1 ม.5 / 1,2,3 อ 2.2 ม. 5 / 1,2 สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น อ 3.1 ม. 5 / 1 สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั ชุมชนและโลก อ 4.1 ม.5 / 1 อ 4.2 ม. 5 / 1,2

หนว่ ยการเรยี นรู้ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ32101 เวลา 60 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ 5 หนว่ ย เวลา (ชั่วโมง) หนว่ ยการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ 12 12 1 Neighbors 12 12 2 The call of the wild 12 60 3 Take a break 4 Live and learn 5 Wired and wonderful รวม

โครงการสอนและแผนการประเมนิ ผล รายวชิ า ภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหสั วชิ า อ 32101 คะแนน ระหวา่ งเรยี น ัสปดาห์ท่ี คาบท่ี ก่อนสอบ สอบกลางภาค ห ัลงสอบ คะแนนปลายภาคเรียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั หน่วยการเรยี นรู้และ สาระสาคญั 1-10 สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร ส่ิงทผี่ ู้เรียนควรรู้ 15 มาตรฐาน ต 1.1 ม.5/1, ต 1.1 ม.5/2, - คำศพั ทเ์ ก่ียวกบั ลกั ษณะ ต 1.1 ม.5/3, ต 1.1 ม.5/4 ภูมิอำกำศ มาตรฐาน ต 1.2 ม.5/1, ต 1.2 ม.5/2, - กำรหำค่ำอุณหภูมิเฉล่ีย ต 1.2 ม.5/3, ต1.2 ม.5/4, ต1.2ม.5/5 - รูปแบบประโยค Present มาตรฐาน ต 1.3 ม.5/1 ,ต 1.3 ม.5/2, simple และPresent ต 1.3 ม.5/3 continuous สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม - ชนิดของคำ มาตรฐาน ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 - Adverb มาตรฐาน ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพันธ์กบั - -รูปแบบประโยค กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่ืน Present simple และ มาตรฐาน ต 3.1 ม.5/1 Present continuous สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับ ชมุ ชนและโลก - ลกั ษณะภูมิประเทศของ มาตรฐาน ต 4.1 ม.5/1 ประเทศอินเดีย มาตรฐาน ต 4.2 ม.5/1 - ชนิดของคำและกำรใช้ คำบุพบท

คะแนน ระหวา่ งเรยี น ัสปดาห์ท่ี คาบท่ี ก่อนสอบ สอบกลางภาค ห ัลงสอบ คะแนนปลายภาคเรียน มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด หนว่ ยการเรยี นรูแ้ ละ สาระสาคญั 11-12 สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร A balancing act 15 มาตรฐาน ต 1.1 ม.5/1,ต 1.1 ม.5/2, ส่ิงทผ่ี ู้เรียนควรรู้ ต 1.1 ม.5/3,ต1.1 ม.5/4 - ควำมหมำย ชนิด และ มาตรฐาน ต 1.2 ม.5/1,ต 1.2 ม.5/2, หนำ้ ที่ของคำกริยำ ต 1.2 ม.5/3,ต 1.2 ม.5/4, - ประวตั ิของผกู้ ่อต้งั ต 1.2 ม.5/5 Broadway มาตรฐาน ต 1.3 ม.5/1,ต 1.3 ม.5/2, - เรียนรู้กำรใช้ Should ต 1.3 ม.5/3 และ Must พดู คุย สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม เกี่ยวกบั ปัญหำและให้ มาตรฐาน ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 คำแนะนำโดยใช้ มาตรฐาน ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 Should และ must สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั - การใช้ have to, กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื don’t have to, มาตรฐาน ต 3.1 ม.5/1 mustn’t สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับ - ฝึกการเขยี นบรรยาย ชมุ ชนและโลก เรอื่ งราวในชีวติ มาตรฐาน ต 4.1 ม.5/1 มาตรฐาน ต 4.2 ม.5/1 13 สอบกลางภาค 20 20

คะแนน ระหวา่ งเรยี น ัสปดาห์ท่ี คาบท่ี ก่อนสอบ สอบกลางภาค ห ัลงสอบ คะแนนปลายภาคเรียน มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวัด หน่วยการเรยี นรแู้ ละ สาระสาคญั 14-15 สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การสือ่ สาร Art all around us 15 มาตรฐาน ต 1.1 ม.5/1,ต 1.1 ม.5/2, เรยี นรู้ ต 1.1 ม.5/3,ต1.1 ม.5/4 - คาศัพทป์ ระเภทต่างๆของ มาตรฐาน ต 1.2 ม.5/1,ต 1.2 ม.5/2, ศิลปะ และศลิ ปิน ต 1.2 ม.5/3,ต 1.2 ม.5/4,ต1.2 ม.5/5 - พดู คุยเก่ยี วกบั ศลิ ปะและ มาตรฐาน ต 1.3 ม.5/1,ต 1.3 ม.5/2, การแสดงตามท้องถนน ต 1.3 ม.5/3 - กำรใช้ present perfect สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม อดีตทีไม่ระบุ เวลำ ควำม มาตรฐาน ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 แตกต่ำง ระหวำ่ ง been และ มาตรฐาน ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 Gone ถำมและตอบคำถำม สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธก์ ับ โดยใช้ present perfect กลุ่มสาระการเรียนรอู้ ่ืน - เทศกำลสำกลที่สำคญั ๆ มาตรฐาน ต 3.1 ม.5/1 ของเจำ้ ของภำษำ สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธก์ บั - อ่ำนบทควำมเก่ียวกบั ชมุ ชนและโลก เทศกำล Burning manใน มาตรฐาน ต 4.1 ม.5/1 อเมริกำ พดู คุยเกี่ยวกบั มาตรฐาน ต 4.2 ม.5/1 เทศกำลตำ่ งๆ เขียนเก่ียวกบั เทศกำลคร้ังล่ำสุดท่ีเคยไป

คะแนน ระหว่างเรยี น ัสปดาห์ท่ี คาบท่ี ก่อนสอบ สอบกลางภาค ห ัลงสอบ คะแนนปลายภาคเรียน มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด หนว่ ยการเรียนรู้และ สาระสาคัญ 16-19 สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่อื สาร - เรียนรู้กำรใชส้ ำนวนกบั 15 มาตรฐาน ต 1.1 ม.5/1,ต 1.1 ม.5/2,ต คำวำ่ go ฟังบทสนทนำ 1.1 ม.5/3,ต1.1 ม.5/4 เก่ียวกบั กำรทอ่ งเที่ยว มาตรฐาน ต 1.2 ม.5/1,ต 1.2 ม.5/2,ต ในวนั หยดุ หนำ้ ร้อน 1.2 ม.5/3,ต 1.2 ม.5/4,ต1.2 ม.5/5 พดู คุยเก่ียวกบั กำร มาตรฐาน ต 1.3 ม.5/1,ต 1.3 ม.5/2,ต ท่องเที่ยวในหนำ้ ร้อน การอ่านโฆษณาเกย่ี ว 1.3 ม.5/3 - กันการเดินทางผา่ นการ ล่องเรือ สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 มาตรฐาน ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 - เรียนรู้ present perfect สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธก์ บั กบั กำรใช้ still yet, กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ่นื already and just มาตรฐาน ต 3.1 ม.5/1 สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธก์ บั - ชนิดและประเภทของ ชุมชนและโลก คำกริยำ กริยำวลี มาตรฐาน ต 4.1 ม.5/1 มาตรฐาน ต 4.2 ม.5/1 - เรียนรู้สถำนที่ต่ำงๆ สัตวแ์ ละกีฬำใน ออสเตรเลีย - อำ่ นขอ้ มูลของผคู้ น ภูมิ ประเทศ กีฬำ และ ระบบกำรศึกษำของ ประเทศนิวซีแลนด์ 20 20 สอบปลายภาค 20 รวมคะแนน 100 คะแนน 30 20 30 20

โครงสร้างรายวิชาภาษาอังกฤษ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชั่วโมง คะแนนเก็บ 100 คะแนน เวลา น้าหนักคะแนน ลาดับ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้วี ัด (ชั่วโมง) (100 คะแนน) ท่ี 12 15 ต 1.1 ม.5/1, ต 1.1 ม.5/2, ต 1.1 ม.5/3, 1 Neighbour ต 1.1 ม.5/4 12 15 ต 1.2 ม.5/1, ต 1.2 ม.5/2, ต 1.2 ม.5/3, 2 Call of the wild ต 1.2 ม.5/4, ต 1.2 ม.5/5 ต 1.3 ม.5/1 ,ต 1.3 ม.5/2, ต 1.3 ม.5/3 ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 ต 3.1 ม.5/1 ต 4.1 ม.5/1 ต 4.2 ม.5/1 ต 1.1 ม.5/1,ต 1.1 ม.5/2,ต 1.1 ม.5/3, ต1.1ม.5/4 ต 1.2 ม.5/1,ต 1.2 ม.5/2,ต 1.2 ม.5/3, ต 1.2 ม.5/4,ต 1.2 ม.5/5 ต 1.3 ม.5/1,ต 1.3 ม.5/2,ต 1.3 ม.5/3 ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 ต 3.1 ม.5/1 ต 4.1 ม.5/1 ต 4.2 ม.5/1 Mid - Term Examination 1 20

ลาดับ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั เวลา น้าหนักคะแนน ท่ี (ชั่วโมง) (100 คะแนน) ต 1.1 ม.5/1,ต 1.1 ม.5/2,ต 1.1 ม.5/3, 3 Take a break ต1.1 ม.5/4 12 15 ต 1.2 ม.5/1,ต 1.2 ม.5/2,ต 1.2 ม.5/3, ต 1.2 ม.5/4,ต 1.2 ม.5/5 12 15 ต 1.3 ม.5/1,ต 1.3 ม.5/2,ต 1.3 ม.5/3 ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 ต 3.1 ม.5/1 ต 4.1 ม.5/1 ต 4.2 ม.5/1 4 Live and learn ต 1.1 ม.5/1,ต 1.1 ม.5/2,ต 1.1 ม.5/3, ต1.1 ม.5/4 ต 1.2 ม.5/1,ต 1.2 ม.5/2,ต 1.2 ม.5/3, ต 1.2 ม.5/4,ต 1.2 ม.5/5 ต 1.3 ม.5/1,ต 1.3 ม.5/2,ต 1.3 ม.5/3 ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 ต 3.1 ม.5/1 ต 4.1 ม.5/1 ต 4.2 ม.5/1

Wired and ต 1.1 ม.5/1,ต 1.1 ม.5/2,ต 1.1 ม.5/3, 12 wonderful ต1.1 ม.5/4 ต 1.2 ม.5/1,ต 1.2 ม.5/2,ต 1.2 ม.5/3, 1 20 ต 1.2 ม.5/4,ต 1.2 ม.5/5 60 100 ต 1.3 ม.5/1,ต 1.3 ม.5/2,ต 1.3 ม.5/3 ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 ต 3.1 ม.5/1 Final Examination Total in Term round

ตารางวิเคราะห์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ตามหลกั สตู ร ความสอดคล้องกับสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ แล สาระท่ี 1 สาระท หนว่ ยที่ หวั เร่ือง ต 1.1 ต 1.2 ต 1.3 ต 2.1 1234123 45123123 1 Extreme living               2 Balancing act     

รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ละตัวชวี้ ดั ของหลักสตู ร 2551 ที่ 2 สาระที่ 3 สาระท่ี 4 สมรรถนะสาคญั คุณลักษณะ ของผ้เู รยี น อันพึงประสงค์ ต ต 3.1 ต 4.1 ต 4.2 2.2 - ซื่อสัตยส์ ุจริต - มวี นิ ัย 12 1 1 12 - ใฝเ่ รยี นรู้ - อยู่อย่างพอเพียง   ความสามารถในการ - มีจติ สาธารณะ สือ่ สาร, การคดิ , การ - รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ แก้ปัญหา, การใช้ทักษะ - ซือ่ สัตยส์ ุจรติ ชีวติ - มวี ินยั - อยอู่ ย่างพอเพยี ง   ความสามารถในการ ส่อื สาร, การคดิ , การ แก้ปัญหา, การใช้ เทคโนโลยี

ตารางวิเคราะห์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ตามหลักสตู ร ความสอดคล้องกับสาระ มาตรฐานการเรยี นรู้ แล สาระที่ 1 สาระท หนว่ ยที่ หัวเรื่อง ต 1.1 ต 1.2 ต 1.3 ต 2.1 1234123 45123123 3 Art all around   us 4 Adventure    

รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ละตวั ช้วี ัดของหลกั สูตร 2551 ที่ 2 สาระที่ 3 สาระท่ี 4 สมรรถนะสาคัญ คุณลักษณะ ของผเู้ รยี น อนั พงึ ประสงค์ ต ต 3.1 ต 4.1 ต 4.2 2.2 12 1 1 12 - รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ - ซื่อสตั ยส์ จุ ริต ความสามารถในการส่ือสาร - มีวนิ ยั   , การคดิ , การแกป้ ัญหา, - ใฝเ่ รยี นรู้    การใชท้ กั ษะชวี ติ , การใช้ -อย่อู ยา่ งพอเพยี ง เทคโนโลยี - ม่งุ ม่นั ในการทางาน - รักความเป็นไทย - มจี ิตสาธารณะ - รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ - ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ ความสามารถในการส่ือสาร - มวี นิ ัย - ใฝ่เรยี นรู้      , การคิด, การแกป้ ัญหา, - อยู่อยา่ งพอเพียง การใชเ้ ทคโนโลยี - ม่งุ มน่ั ในการทางาน - รกั ความเปน็ ไทย - มจี ติ สาธารณะ

ตารางวเิ คราะห์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ตามหลักสตู ร

รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

โครงสร้างรายวิชาภาษาอังกฤษ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชั่วโมง คะแนนเก็บ 100 คะแนน เวลา น้าหนักคะแนน ลาดับ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้วี ัด (ชั่วโมง) (100 คะแนน) ท่ี 12 15 ต 1.1 ม.5/1, ต 1.1 ม.5/2, ต 1.1 ม.5/3, 1 Neighbour ต 1.1 ม.5/4 12 15 ต 1.2 ม.5/1, ต 1.2 ม.5/2, ต 1.2 ม.5/3, 2 Call of the wild ต 1.2 ม.5/4, ต 1.2 ม.5/5 ต 1.3 ม.5/1 ,ต 1.3 ม.5/2, ต 1.3 ม.5/3 ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 ต 3.1 ม.5/1 ต 4.1 ม.5/1 ต 4.2 ม.5/1 ต 1.1 ม.5/1,ต 1.1 ม.5/2,ต 1.1 ม.5/3, ต1.1ม.5/4 ต 1.2 ม.5/1,ต 1.2 ม.5/2,ต 1.2 ม.5/3, ต 1.2 ม.5/4,ต 1.2 ม.5/5 ต 1.3 ม.5/1,ต 1.3 ม.5/2,ต 1.3 ม.5/3 ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 ต 3.1 ม.5/1 ต 4.1 ม.5/1 ต 4.2 ม.5/1 Mid - Term Examination 1 20

ลาดับ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั เวลา น้าหนักคะแนน ท่ี (ชั่วโมง) (100 คะแนน) ต 1.1 ม.5/1,ต 1.1 ม.5/2,ต 1.1 ม.5/3, 3 Take a break ต1.1 ม.5/4 12 15 ต 1.2 ม.5/1,ต 1.2 ม.5/2,ต 1.2 ม.5/3, ต 1.2 ม.5/4,ต 1.2 ม.5/5 12 15 ต 1.3 ม.5/1,ต 1.3 ม.5/2,ต 1.3 ม.5/3 ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 ต 3.1 ม.5/1 ต 4.1 ม.5/1 ต 4.2 ม.5/1 4 Live and learn ต 1.1 ม.5/1,ต 1.1 ม.5/2,ต 1.1 ม.5/3, ต1.1 ม.5/4 ต 1.2 ม.5/1,ต 1.2 ม.5/2,ต 1.2 ม.5/3, ต 1.2 ม.5/4,ต 1.2 ม.5/5 ต 1.3 ม.5/1,ต 1.3 ม.5/2,ต 1.3 ม.5/3 ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 ต 3.1 ม.5/1 ต 4.1 ม.5/1 ต 4.2 ม.5/1

Wired and ต 1.1 ม.5/1,ต 1.1 ม.5/2,ต 1.1 ม.5/3, 12 wonderful ต1.1 ม.5/4 ต 1.2 ม.5/1,ต 1.2 ม.5/2,ต 1.2 ม.5/3, 1 20 ต 1.2 ม.5/4,ต 1.2 ม.5/5 60 100 ต 1.3 ม.5/1,ต 1.3 ม.5/2,ต 1.3 ม.5/3 ต 2.1 ม.5/1, ต 2.1 ม.5/3 ต 2.2 ม.5/1, ต 2.2 ม.5/2 ต 3.1 ม.5/1 Final Examination Total in Term round

หนว1 ยการเรียนร8ทู ี่ 1 เรอ่ื ง Our world/ Neighbors รหัสวชิ า อ32101 ชื่อรายวชิ า ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน กล1มุ สาระการเรียนรภู8 าษาตา่ งประเทศ ภาคเรียนที่ 1 ปก> ารศึกษา 2565 จำนวน 5 ชั่วโมง ครูผู8สอน นายทักษิณ ชูชง่ั 1. มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชีว้ ัด มาตรฐาน ต 1.1: ต 1.1 ม.4-6/2-4 มาตรฐาน ต 1.2: ต 1.2 ม.4-6/1, ต 1.2 ม.4-6/3 มาตรฐาน ต 1.3: ต 1.3 ม.4-6/1 มาตรฐาน ต 2.1: ต 2.1 ม.4-6/1-3 มาตรฐาน ต 2.2: ต 2.2 ม.4-6/1 มาตรฐาน ต 4.1: ต 4.1 ม.4-6/1 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา • Language features and functions Grammar: present simple (subject + verb 1) present continuous (subject + verb to be + verb-ing) present perfect (subject + have + verb 3) present perfect continuous (subject + have + been + verb-ing) stative verbs Vocabulary: personality names and the kind of behaviour they refer to adjectives associated with describing people’s personality and appearance everyday activities/chores forming adjectives from verbs & nouns phrasal verbs with after animal similes social expressions Function: apologizing, requesting help, describing people’s appearance introducing ourselves and others

Pronunciation: expressing admiration • Language skills Listening: การฟงั บทสนทนาส้ันๆ แบบไม่เปน็ ทางการ (ฟงั และเลอื กภาพท่ีถูกต้อง) Speaking: การพูดบรรยายบคุ ลกิ ลักษณะ, การพดู บรรยายรปู ร่าง, การพูดเกีย่ วกบั งานบ้าน, การพดู ขอความชว่ ยเหลอื พรอ้ มท้งั ตอบรับและปฏเิ สธ, การพูดแนะนําตวั เองและ ผอู้ น่ื Reading: การอ่านบทอา่ นเพอื่ เรียนรเู้ กี่ยวกับการเป็นเพ่อื นบา้ นท่ีด,ี การอ่านแบบทดสอบ (a quiz) การอา่ นการต์ ูนสั้นๆ, การอ่านบทสนทนาทเี่ กิดขนึ้ ในงานเล้ียง, การอ่าน จดหมายแบบไมเ่ ปน็ ทางการเพ่อื ใหข้ ่าวสาร, การอ่านออกเสยี งบทอ่าน Writing: การเขียนย่อหน้าสั้นๆ เก่ยี วกับเพอื่ นบ้านและเพ่อื น, การเขียนจดหมายแบบไม่เปน็ ทางการเพ่อื ใหข้ า่ วสาร Culture: การกล่าวขอโทษ, การพูดแนะนําผอู้ ่ืน 3. ทกั ษะการคิด 3.2 ทกั ษะการสังเกต 3.4 ทักษะการเปรียบเทียบ 3.1 ทกั ษะการส่อื สาร 3.3 ทกั ษะการนาํ ความรู้ไปใช้ 4. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 4.1 ใฝ่เรยี นรู้ 4.2 มงุ่ มนั่ ในการทาํ งาน

รหัสวชิ า อ32101 ช่อื รายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน กล1ุมสาระการเรยี นรภู8 าษาตา่ งประเทศ ภาคเรยี นที่ 1 ปก> ารศึกษา 2565 จำนวน 5 ชว่ั โมง หนว1 ยการเรยี นร8ทู ี่ 1 เรือ่ ง Our world/ Neighbors ครูผส8ู อน นายทกั ษิณ ชชู งั่ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แผนการจัดการเรียนร8ทู .ี่ ....1.... เร่ือง neighbors 1.เปVาหมายการเรยี นร8ู 1.1มาตรฐานการเรยี นร/ู8 ตัวชีว้ ดั มาตรฐานการเรยี นร8ู . มาตรฐาน ต 1.1: มาตรฐาน ต 1.2: . มาตรฐาน ต 1.3: ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรียนร8ู มาตรฐาน ต 1.1: ต 1.1 ม.4-6/2, ต 1.1 ม.4-6/4 มาตรฐาน ต 1.2: ต 1.2 ม.4-6/1 มาตรฐาน ต 1.3: ต 1.3 ม.4-6/1 1.2 จุดประสงคกF ารเรยี นรู8 ฝึกทกั ษะการอา่ นและการเขียนภาษาอังกฤษ สังเกตการออกเสียงและอ่านตามต้นแบบที่ได้ฟงั ศกึ ษาข้อมูลใน Study skills และนาํ ไปใช้ 1.3 สาระสำคัญ(เปน$ แก(นความรโู/ ดยเขียนเป$นหวั ขอ/ ยอ( ย หรอื ความเรียง ให/ชัดเจน กะทักรดั ) นักเรียนจะได้ฝึกอา่ นและเขยี นในประเดน็ เกย่ี วกบั เพ่ือนบา้ น (neighbour) รวมทง้ั ฝกึ พูดขอโทษและ ตอบรับการขอโทษ

1.4 สาระการเรยี นร8ู Lead-in 1. ครูเขยี นคาํ ต่อไปน้ีบนกระดาน bad - neighbour - good และให้นักเรยี นชว่ ยกันบอกวา่ เพื่อนบา้ น ทดี่ ีและไม่ดีในความคดิ ของนักเรยี นเป็นอยา่ งไร ครเู ขียนส่งิ ทนี่ ักเรียนบอกบนกระดาน จากนั้นให้ นกั เรยี นดูภาพ 1-10 ในหนงั สอื เรียน หน้า 4-5 และใหน้ ักเรียนตรวจสอบว่ามีภาพใดท่ตี รงกับ ความคิดทนี่ กั เรยี นได้นําเสนอไปบา้ ง เสร็จแลว้ จึงใหน้ กั เรียนทํา Ex.1 (presenting vocabulary) พดู บอกสง่ิ ทเี่ พือ่ นบา้ นทดี่ /ี ไมด่ ที ํา ครสู มุ่ เรยี กนักเรียน 3-5 คน ใหร้ ายงานคําตอบให้เพ่อื นๆ ในชน้ั ฟงั 1. A good neighbour waters your plants when you are away. 2. A good neighbour watches your house when you’re away. 3. A good neighbour feeds your pet. 4. A good neighbour does the shopping for you. 5. A good neighbour babysits your kids. 6. A bad neighbour does DIY (Do It Yourself) at night. 7. A bad neighbour lets their dog bark all day/night. 8. A bad neighbour lets their children run wild. 9. A bad neighbour drops litter in your garden. 10. A bad neighbour plays loud music late at night. 2. ครูอ่านคาํ คณุ ศพั ท์ทใ่ี หไ้ วใ้ นคําสั่งในหนังสือเรยี น หน้า 4 Ex.2 (describing feelings) และแสดง ทา่ ทางประกอบ เพ่ือให้นักเรยี นอธิบายความหมายของคําคณุ ศพั ท์เหลา่ นี้ angry (adj) having strong feelings about something that you dislike very much or about an unfair situation (โกรธ) annoyed (adj) irritated, slightly angry (ราํ คาญ, โกรธเลก็ นอ้ ย) embarrassed (adj) shy, awkward or ashamed, especially in a social situation (ร้สู ึก อบั อาย, ลําบากใจ) thankful (adj) pleased about something good that has happened, or something bad that has not happened (ยินดีสาํ หรบั สง่ิ ดีๆ ท่เี กิดข้นึ หรือส่งิ เลวรา้ ยท่ี ไม่ไดเ้ กิดขึน้ ) grateful (adj) feeling that you want to thank someone because of something kind that they have done, or showing this feeling (รสู้ ึกอยากจะ ขอบคุณใครบางคนเพราะส่งิ ดีๆ ทพ่ี วกเขาไดท้ าํ ให)้

จากน้ันนักเรยี นทํางานคู่ชว่ ยกันพจิ ารณาว่ารู้สกึ เช่นใดกับการกระทาํ ของเพอ่ื นบา้ นในภาพ 1-10 ครู เดนิ สังเกตการทาํ งานของนกั เรียน เสรจ็ แลว้ สมุ่ เรียกนกั เรยี น 2-3 คู่ ออกมาพดู ทหี่ น้าช้ัน A: I feel very thankful when my neighbour waters my plants and watches my house when I’m away. B: Me too. I’m also grateful when my neighbour feeds my pet and does my shopping for me. etc Reading & Listening 1. ใหน้ กั เรยี นสนใจที่ช่ือเรือ่ งและภาพประกอบบทอ่าน ในหนงั สือเรยี น หนา้ 4 Ex.3a (predicting the content of a text) และชว่ ยกันอธบิ ายความหมายของชือ่ เรื่อง Love your neighbour? เชน่ It is originally from the Bible but the question mark at the end shows that this may not always be possible จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นคดิ วา่ บทอา่ นน้ีน่าจะมีเนือ้ หาเกยี่ วกบั อะไร ครใู ห้เวลา นักเรยี นอา่ น บทอ่านเพือ่ ตรวจคาํ ตอบของตนเอง The text is about the relationship the writer has with his/her neighbours and what they do that pleases or bothers him/her. 2. ครแู ละนักเรียนศกึ ษา Study skills ในหนังสอื เรยี น หนา้ 4 ร่วมกนั • การเตมิ คําลงในชอ่ งว่างแบบปรนยั (completing a multiple choice cloze) อา่ นเนื้อเร่ืองท้ังหมดเพอื่ ให้ไดแ้ นวความคดิ เกย่ี วกับประเด็นและความหมายโดยรวมของ เนื้อเรือ่ ง จากนน้ั อ่านเน้อื เรอ่ื งอกี ครัง้ อยา่ งละเอียด แล้วอา่ นประโยคที่เว้นช่องวา่ งไว้ให้ สาํ หรบั เตมิ คาํ ให้จบท้งั ประโยค กอ่ นท่จี ะตัดสนิ ใจเลือกคําตอบ เมอ่ื เติมคาํ เสรจ็ แลว้ ให้ อา่ นเน้อื เรอ่ื งทงั้ หมดอกี ครงั้ พรอ้ มคาํ ตอบทีเ่ ตมิ เพอ่ื พิจารณาวา่ คําตอบดังกล่าวทาํ ให้ เนื้อเรื่อง มีความสมเหตสุ มผลหรือไม่ 3. ให้นักเรียนทํา Ex.3b (listening for specific information) โดยให้เวลานักเรียน 5-7 นาที อา่ นเนื้อเรอื่ งทัง้ หมด และเลือกตวั เลอื กที่ถกู ตอ้ งท่จี ะนํามาเตมิ ในชอ่ งว่างแต่ละชอ่ ง โดยใหน้ กั เรยี น ปฏบิ ตั ติ ามข้นั ตอนทไ่ี ดแ้ นะนําไวใ้ น Study skills เมือ่ ทาํ เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่กับเพ่ือน เพ่ือ เปรยี บเทยี บคาํ ตอบกัน แล้วจงึ เปดิ CD1/Track 1 ให้นักเรียนฟัง เพอื่ ตรวจคําตอบอกี ครัง้

1. B 2. D 3. C 4. A 5. B 6. D 7. A 8. B 9. D 10. B ต่อมาให้นักเรียนทํางานกลุม่ ชว่ ยกนั อธิบายคาํ ศพั ท์ท่พี ิมพต์ ัวหนาในเรื่อง Love your neighbour? ดว้ ยการบอกคําจาํ กัดความ หรอื คาํ ท่มี ีความหมายเหมือนกัน ครูกระตนุ้ ให้นกั เรียนเดาความหมาย ของคาํ ศพั ทจ์ ากบรบิ ท กอ่ นทจ่ี ะใชพ้ จนานุกรม เพ่อื ตรวจความหมายทนี่ กั เรียนได้เดาไป ครสู ังเกต การทํากิจกรรม แล้วจึงสุม่ เรียกนกั เรียนให้ออกมาอธบิ ายความหมายของคําศัพท์เหล่าน้ี depends on (phr): used to mean that the first of two things will be affected by the second keen (adj): enthusiastic digging (gerund): making holes in soil, rubbish, rubble, etc bulbs (n): large, round roots that grow into flowers or vegetables grow (v): get bigger give him the benefit of the doubt (exp): used when you're not sure someone is guilty, so you act as if they are innocent does me a favour (phr): does something nice or good for sb seeds (n): what you plant to grow into flowers, vegetables, etc chases them away (phr): runs after to make something or someone go away patch (n): small area of land where crops are grown keeps an eye on things (phr): watches, looks out for chatting cheerfully (phr): talking happily drives me crazy (phr): makes me angry/irritated clear away (phr): pick up and throw/put away keep on good terms (phr): stay friendly get along (phr v): have a good relationship กิจกรรมเพ่ิมเตมิ : ใหน้ กั เรยี นระบชุ นิดของคาํ ของคาํ ศพั ท์ท่พี มิ พต์ ัวหนาในบทอา่ น Study Tip: ให้นกั เรียนเร่มิ หน้าคําศัพท์ในสมดุ โดยเขยี นคําศพั ทห์ รือวลที ไี่ มร่ จู้ ัก และเขียนคําจาํ กัด ความสั้นๆ/คําท่ีมคี วามหมายเหมอื นกนั และตวั อย่างประโยค หรอื วาดภาพประกอบ โดยใหน้ กั เรยี น จดคาํ /วลีเหลา่ นเี้ รียงตามลาํ ดับตวั อักษร การทําเชน่ นจี้ ะช่วยในการทบทวนคําศัพทใ์ หมๆ่ ได้ง่ายข้นึ 4. ครูเปดิ CD1/Track 1 อีก 1-2 ครงั้ ใหน้ กั เรยี นฟงั และฝึกอา่ นออกเสยี งบทอ่านเรอ่ื ง Love your neighbour? ตามไปด้วย จากนน้ั ครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ และใหน้ ักเรียนฝกึ อา่ นบทอา่ นจนคลอ่ ง โดย เนน้ การแบ่งวรรคตอนในการอา่ น และใช้ระดับเสียงสงู -ต่าํ (intonation) นํ้าเสยี ง ให้ใกลเ้ คยี งกบั ต้นฉบับทไ่ี ด้ฟงั

Everyday English (apologising) ให้นักเรยี นชว่ ยกันบอกว่าเพ่ือนบา้ นที่ไม่ดจี ะมีพฤตกิ รรมอย่างไร เช่น play music loud at night, drop litter in your garden เปน็ ต้น จากน้ันศึกษาวลีเกี่ยวกับการขอโทษและยอมรบั การขอโทษใน หนังสอื เรียน หน้า 5 Ex.4 (apologising) ร่วมกัน และใหน้ กั เรยี น 2 คน อ่านตวั อย่างบทสนทนาท่ี ให้มา เสรจ็ แล้วให้นกั เรยี นจบั คู่สนทนากนั เหมอื นดังตัวอย่าง โดยสมมตวิ า่ นกั เรียนคนหนง่ึ เปน็ เพื่อนบ้านทเ่ี คยทาํ ตวั ไม่ดี และนกั เรียนอกี คนหน่งึ เปน็ เพ่อื นบา้ นที่ตอบรับคาํ ขอโทษ ครเู ดนิ สงั เกต การทํางานของนกั เรียน และเลอื กนกั เรยี น 2-3 คู่ ออกมาสนทนาทห่ี น้าชัน้ เรยี น Suggested answer key: A: Mr Roberts, I’d like to apologise to you. I know that our dog, Jeff, was barking all night. I hope he didn’t keep you awake. B: Don’t worry about it. It’s the first time it has ever happened. Culture: การขอโทษ (apologising) คนองั กฤษมกั จะพูดคาํ ว่า sorry จนติดปาก เชน่ เดินชนคนอ่นื หรอื ไมไ่ ดย้ นิ ทีค่ นอ่นื พดู หรอื แม้กระท่งั มีคนเดนิ ไปเหยียบเทา้ คนอังกฤษ คนองั กฤษยังเปน็ ฝ่ายพดู sorry กอ่ น คําวา่ sorry จงึ เป็นการแสดงความสุภาพของคนองั กฤษ อย่างไรกต็ ามในการกล่าวขอโทษจรงิ ๆ เมอ่ื การกระทําของ ตนเองทาํ ให้ผู้อน่ื เดอื ดร้อน จงึ ควรระบุด้วยว่าขอโทษในความผิดเรือ่ งใด เช่น “I’m sorry. I was so late.”(ทีม่ า: http://www.debretts.com/british-etiquette/british- behaviour/h/apologising) ทกั ษะชีวติ (Life กาsรkรil้จู lsัก)ขอโทษ ถือเป็นความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ อยา่ งหน่ึง เพราะเป็นการหลกี เลยี่ งการใช้ ความรุนแรงในการแกป้ ญั หา จึงทําใหเ้ ราอยรู่ ว่ มกันในสังคมได้อย่างมคี วามสขุ 1.5 สมรรถนะสำคญั ของผ8เู รียน (ใหเ/ ลือกเขยี นเฉพาะหัวขอ/ ทีส่ อดคลอ/ งกบั กิจกรรมการเรยี นในแตล( ะหน(วยและตอ/ ง ประเมนิ ได/จริง) 1 ทักษะการสือ่ สาร - ฝกึ ทกั ษะการอ่านและการเขยี นภาษาอังกฤษ 2 ทักษะการสงั เกต - สงั เกตการออกเสยี งและอ่านตามต้นแบบทไี่ ดฟ้ งั

3 ทกั ษะการนาํ ความร้ไู ปใช้ - ศึกษาข้อมลู ใน Study skills และนําไปใช้ 1.6 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงคF (ใหเ/ ลือกเขียนเฉพาะหัวขอ/ ทส่ี อดคล/องกับกิจกรรมการเรยี นในแตล( ะหนว( ยและ ตอ/ งประเมนิ ไดจ/ ริง) (1) ใฝเ่ รยี นรู้ (2) ม่งุ มน่ั ในการทาํ งาน (3) มีวนิ ยั 1.7 ทักษะการอาS น คดิ วิเคราะหFและเขียน (1) ความสามารถในการสอ่ื สาร (2) ความสามารถในการคิด (3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา (4) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ (5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1.8 สาระการเรยี นรูส8 ูกS ารบรู ณาการ r หน8าท่ีพลเมือง r เศรษฐกจิ พอเพียง r การอนุรักษFทรัพยากรธรรมชาติ พลงั งาน และสิ่งแวดลอ8 ม r ประชาธิปไตย r หลกั สตู รตา8 นทจุ ริต r คSานิยมหลักคนไทย 12 ประการ r ................................................................................ r จุดเน8นโรงเรียนมาตรฐานสากล 2.หลักฐานการเรยี นร8ู 2.1ชิ้นงาน/ภาระงาน ใหน้ กั เรียนทาํ Ex.3b (listening for specific information) โดยใหเ้ วลานักเรยี น 5-7 นาที อ่านเนอ้ื เรอ่ื งท้ังหมด และเลอื กตัวเลือกที่ถกู ต้องทจี่ ะนาํ มาเตมิ ในช่องวา่ งแตล่ ะชอ่ ง โดยใหน้ ักเรยี นปฏบิ ตั ติ าม ขัน้ ตอนทไ่ี ด้แนะนําไว้ใน Study skills 2.2 การวัดและประเมนิ ผล(หมายถึงหลกั ฐาน/ร(องรอยทีแ่ สดงถงึ ความรู/ ของนักเรยี น) 2.2.1 การวัดและประเมนิ ผลระหวาS งการจัดการเรียนร8ู (คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค)F คุณลักษณะอันพึง ภาระงาน/ วิธีการประเมนิ เครือ่ งมอื เกณฑZทใ่ี ช8ประเมิน ผ8ูประเมิน ประสงคZ ชิน้ งาน ตรวจ แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ผ่าน ตรวจ

คณุ ลักษณะอนั พึง ภาระงาน/ วธิ ีการประเมนิ เคร่ืองมอื เกณฑทZ ใ่ี ช8ประเมิน ผปู8 ระเมนิ ประสงคZ ชิ้นงาน แบบฝกึ หัด แบบทดสอบ ความรกู้ อ่ น เกณฑ์ ความรู้กอ่ นเรียน เรยี น Unit Unit test 1 test 1 ประเมินการ ประเมนิ การเขยี น แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 เขยี นยอ่ หน้า การเขียน ผ่านเกณฑ์ สนั้ ๆ เกีย่ วกบั เพื่อนบ้าน เกณฑFการประเมิน ร8อยละ .............. เกณฑกF ารตดั สิน.............. 2.2.2การวัดและประเมินผลเมือ่ ส้ินสุดกิจกรรมการเรยี นร8ู จดุ ประสงคZ ภาระงาน/ วธิ กี ารประเมนิ เครอ่ื งมอื เกณฑZท่ใี ช8ประเมิน ผ8ูประเมิน การเรียนรู8 ช้นิ งาน อ่านออกเสยี ง ประเมนิ การอ่าน แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 ออกเสียง การอา่ นออก ผ่านเกณฑ์ เสียง เกณฑFการประเมิน รอ8 ยละ .............. เกณฑFการตดั สนิ .............. การแปลความหมาย ระดบั 4 หมายถงึ มรี ะดับคณุ ภาพดมี าก ระดับ 3 หมายถงึ มีระดบั คุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพพอใช8 ระดบั 1 หมายถงึ มรี ะดบั คณุ ภาพปรบั ปรงุ 3. การจดั กิจกรรมการเรียนการสอน (ให/เน/นผเู/ รียนเปน$ สำคญั ดว/ ยวธิ ีการสอน เทคนคิ การสอน กระบวนการสอนท่ี หลากหลายเหมาะสมกับรายวชิ า) Writing 1. ให้นักเรยี นทํา Ex.5 (reviewing new vocabulary) ในหนงั สือเรียน หน้า 5 โดยดหู นงั สือเรยี น หน้า 4-5 ประมาณ 2-3 นาที เพือ่ ทบทวนคําศพั ทใ์ หมท่ ไ่ี ดเ้ รยี นรู้ จากนัน้ ใหน้ กั เรียนปดิ หนังสอื เรยี น และบอกคาํ ศัพท์ 10 คาํ จากในบทเรียนนี้ ต่อมาใหน้ กั เรยี นจับคู่กัน โดยใชเ้ กณฑ์ เช่น ช่ือขนึ้ ต้นด้วยตวั อกั ษรเดยี วกนั ชอบอาหารประเภท เดยี วกัน เปน็ ต้น แล้วให้นักเรียนแตล่ ะคู่อภปิ รายเกี่ยวกับสงิ่ ทไ่ี ด้เรยี นร้ใู นบทเรียนนี้

2. นักเรียนอา่ นคาํ สงั่ ในกจิ กรรม Writing (writing a short paragraph about a neighbour) ใน หนงั สือเรียน หนา้ 5 ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ดว้ ยการถามคําถามตอ่ ไปนี้ - What are you going to write? (a short paragraph) - What will it be about? (a neighbour) - What do you have to write about? (name & general impression, what I like about him/her, what I don’t like & reasons, sum up my opinion) ครูให้นักเรียนนําโครงร่างในการเขียนของนักเรียนมาส่งก่อนท่ีจะเริ่มเขียนจริงๆ เม่ือนักเรียนเขียน เสรจ็ แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คน ใหอ้ ่านงานเขียนของตนเองใหเ้ พ่ือนๆ ฟัง Suggested answer key: The man that lives next door to us is called Mr Smith. He has been our neighbour for many years and I really think he is a nice person. He always waters our plants and feeds our pet when we are away. However, sometimes, Mr Smith lets his dog bark all night. This drives me crazy because I can’t get to sleep, but generally Mr Smith is a good neighbour. I think I am very lucky to live beside him! 4.การจัดการประสบการณกZ ารเรยี นรู8 4.1 สื่อการเรยี นร/8ู แหลงS เรยี นรู8 ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. 4.2 การบูรณาการเช่อื มโยงกบั จุดเน8น ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. 4.3 แหลงS ค8นควา8 เพมิ่ เตมิ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. 5. เวลาเรียน/จำนวนช่วั โมง ..............................................................................................................................................................................

6.บนั ทึกผลหลังการสอน 6.1 ดา8 นความร8ู (K) นักเรียน ม.5/1 ท้ังหมดมีความเข8าใจในบทเรียนเปcนอยSางดี นักเรียนชั้น ม.5/2 สSวนใหญS มากกวSา 90% มีความเขา8 ใจในบทเรียน นกั เรียนชนั้ ม.5/7ประมาณ 70% มีความเข8าใจในบทเรียน และนักเรียนช้ัน ม.5/11 โดยประมาณ 60% มีความเข8าใจในบทเรียนโดยสามารถวัดจากผลของการทำกิจกรรม โดยวัดจาก คะแนนของแบบทดสอบท่ีนักเรียนทำ ด8านทักษะกระบวนการ (P) นกั เรยี นในแตลS ะห8องมที ักษะการคิดและการสื่อสาร โดยสามารถใช8หลักทางภาษาท่เี รยี นในการทำ กจิ กรรมในหอ8 งเรยี นได8เปนc อยาS งดคี ิดเปcนร8อยละ 60% สามารถใชภ8 าษาสอื่ สารในการทำกจิ กรรมตาS ง ๆ ใน หอ8 งเรยี นไดเ8 ปcนอยาS งดี ด8านคณุ ลักษณะ (A) นกั เรยี นมคี วามรู8ความเขา8 ใจเกยี่ วกบั ความแตกตSางทางด8านของภาษาหลักภาษาและวฒั นธรรมของ ภาษาอังกฤษรวS มมอื กนั คดิ วิเคราะหFการแก8ไขปญl หาในกิจกรรมการเรยี นร8ูทีค่ รไู ดส8 อดแทรกวัฒนธรรมที่ แตกตSางใหน8 กั เรียนได8ฝnกและเรียนร8ู 6.2 ปญl หา/อปุ สรรค/แนวทางแก8ไข นกั เรียนบางคนทยี่ งั ไมเS ข8าใจในบทเรยี นกSอนหนา8 นีท้ ำให8ไมSสามารถทำกิจกรรมได8อยSางราบร่นื เพราะมี ความไมSเขา8 ใจในความสมั พนั ธFระหวาS งบทเรยี นกอS นหนา8 นี้ ทสี่ งS ผลใหเ8 กดิ ความรู8ความเข8าใจในบทเรียนใน ปจl จบุ นั 6.3 ข8อเสนอแนะ ควรมีการสอนเสริมให8กบั นักเรียนทยี่ งั ไมSเขา8 ใจในบทเรียนกอS นหนา8 น้หี รือบทเรียนในปlจจุบนั เพ่อื จะทำ ให8นกั เรียนเรยี นตามทนั เพอื่ น ๆ ในหอ8 งและการเรียนการสอนจะไดม8 ีประสิทธภิ าพมากข้ึน ลงชือ่ .............................................ครูผส8ู อน (นายทักษณิ ชชู ง่ั )

7. ข/อเสนอแนะของครผู ูน/ ิเทศ/ผ/ูที่ได/รบั มอบหมาย ข\"อคดิ เหน็ /ข\"อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………............................................................................................................................................... ลงช่อื .............................................ครผู น/ู เิ ทศ (..................................................) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………….......................................................................................................................................... ลงช่ือ.............................................หวั หน/ากลมุ( สาระฯ ( นางมัณตรีณี ยงั ถิน ) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………........................................................................................................................................ ลงชอื่ ............................................. (นางเรณู ร(มโพธ)ิ์ รองผ/ูอำนวยการ กล(ุมบรหิ ารงานวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………....................................................................................................................................... ลงชอื่ ............................................. (นายชาครสิ ภู(งาม) ผอู/ ำนวยการโรงเรียนสงิ หYบรุ ี

รหัสวิชา อ32101 ชอ่ื รายวิชา ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน กลุม1 สาระการเรยี นรภ8ู าษาต่างประเทศ ภาคเรยี นท่ี 1 ปก> ารศกึ ษา 2565 จำนวน 5 ชวั่ โมง หนว1 ยการเรยี นร8ทู ี่ 1 เรอื่ ง Our world/ Neighbors ครผู ูส8 อน นายทักษณิ ชชู ัง่ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แผนการจดั การเรียนรู8ท่.ี ....2.... เรอื่ ง Vocabulary practice 1.เปาV หมายการเรยี นรู8 มาตรฐาน ต 1.3 1.1มาตรฐานการเรียนรู8/ตวั ชีว้ ัด มาตรฐาน ต 1.2: ต 1.2 ม.4-6/3 มาตรฐานการเรยี นรู8 มาตรฐาน ต 2.1: ต 2.1 ม.4-6/3 มาตรฐาน ต 1.1 มาตรฐาน ต 1.2 มาตรฐาน ต 2.1 มาตรฐาน ต 2.2 ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนร8ู มาตรฐาน ต 1.1: ต 1.1 ม.4-6/3 มาตรฐาน ต 1.3: ต 1.3 ม.4-6/1 มาตรฐาน ต 2.2: ต 2.2 ม.4-6/1 1.2 จุดประสงคFการเรยี นร8ู การพูดบรรยายบคุ ลิกลกั ษณะ, การพูดเกย่ี วกบั งานบา้ น, การพูดขอความชว่ ยเหลอื พร้อมท้ังตอบรบั และปฏิเสธ1.3 สาระสำคญั (เปน$ แกน( ความร/โู ดยเขียนเปน$ หวั ขอ/ ย(อย หรอื ความเรยี ง ให/ชัดเจน กะทักรดั ) 1.4 สาระการเรียนร8ู Language features and functions Vocabulary: คําศัพทเ์ กีย่ วกบั ชอ่ื บุคลิกลักษณะและลักษณะพฤติกรรมของบคุ ลิกลกั ษณะ ดังกล่าว, คําคุณศพั ทเ์ กี่ยวกบั บุคลิกลักษณะ, คําศพั ทเ์ กยี่ วกบั งานบา้ น, สาํ นวนท่ี เกย่ี วขอ้ งกบั สัตว์, phrasal verbs with after, forming adjectives from verbs & nouns Function: การขอความช่วยเหลอื พร้อมทงั้ ตอบรับและปฏเิ สธ Language skills

Speaking: การพดู บรรยายบุคลิกลกั ษณะ, การพดู เกีย่ วกับงานบ้าน, การพดู ขอความช่วยเหลือ พร้อมท้งั ตอบรบั และปฏเิ สธ Reading: การอ่านแบบทดสอบ (Skill – reading for detailed comprehension) Writing: การเขยี นยอ่ หนา้ ส้ันๆ เกีย่ วกบั เพอ่ื น 1.5 สมรรถนะสำคญั ของผเู8 รยี น (ใหเ/ ลอื กเขียนเฉพาะหัวขอ/ ที่สอดคลอ/ งกบั กิจกรรมการเรยี นในแตล( ะหนว( ยและ ตอ/ งประเมินได/จรงิ ) 1 ทักษะการส่อื สาร - ฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาองั กฤษ 2 ทกั ษะการสงั เกต - สังเกตการออกเสียงและอา่ นตามต้นแบบทไ่ี ดฟ้ ัง 3 ทักษะการนาํ ความรไู้ ปใช้ - ศึกษาขอ้ มูลใน Study skills และนําไปใช้ 1.6 คุณลักษณะอนั พึงประสงคF (ใหเ/ ลือกเขยี นเฉพาะหัวขอ/ ท่สี อดคลอ/ งกับกจิ กรรมการเรยี นในแต(ละหนว( ยและ ตอ/ งประเมนิ ได/จรงิ ) (1) ใฝเ่ รยี นรู้ (2) ม่งุ มน่ั ในการทํางาน (3) มีวนิ ัย 1.7 ทกั ษะการอSาน คดิ วเิ คราะหFและเขยี น (1) ความสามารถในการสอื่ สาร (2) ความสามารถในการคดิ (3) ความสามารถในการแกป้ ญั หา (4) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ (5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1.8 สาระการเรยี นร8ูสูSการบูรณาการ r หนา8 ที่พลเมอื ง r เศรษฐกจิ พอเพียง r การอนุรักษFทรพั ยากรธรรมชาติ พลงั งาน และสิ่งแวดล8อม r ประชาธปิ ไตย r หลกั สตู รตา8 นทุจริต r คSานิยมหลกั คนไทย 12 ประการ r ................................................................................ r จุดเนน8 โรงเรยี นมาตรฐานสากล 2.หลักฐานการเรียนร8ู 2.1ช้นิ งาน/ภาระงาน ประเมินการเขียนย่อหนา้ สน้ั ๆ เกี่ยวกบั เพ่อื น

2.2 การวัดและประเมินผล(หมายถงึ หลกั ฐาน/รอ( งรอยท่แี สดงถึงความร/ูของนกั เรยี น) 2.2.1 การวัดและประเมินผลระหวSางการจดั การเรยี นรู8 (คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค)F คณุ ลกั ษณะอนั พึง ภาระงาน/ วิธกี ารประเมนิ เครอื่ งมือ เกณฑZท่ใี ช8ประเมนิ ผป8ู ระเมิน ประสงคZ ชิน้ งาน ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 ยอ่ หน้าสั้นๆ ยอ่ หนา้ สนั้ ๆ การเขยี น ผา่ นเกณฑ์ เกยี่ วกบั เพอื่ น เกยี่ วกบั เพ่ือน เกณฑกF ารประเมิน ร8อยละ .............. เกณฑFการตัดสิน.............. 2.2.2การวดั และประเมินผลเม่อื สนิ้ สดุ กิจกรรมการเรยี นรู8 จุดประสงคZ ภาระงาน/ วิธีการประเมนิ เครื่องมอื เกณฑทZ ใี่ ช8ประเมิน ผ8ปู ระเมนิ การเรียนรู8 ชน้ิ งาน เกณฑกF ารประเมนิ ร8อยละ .............. เกณฑFการตดั สิน .............. การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถงึ มีระดบั คณุ ภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถงึ มรี ะดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถงึ มีระดบั คณุ ภาพพอใช8 ระดบั 1 หมายถงึ มีระดบั คณุ ภาพปรบั ปรุง 3. การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน (ใหเ/ น/นผู/เรียนเปน$ สำคญั ด/วยวธิ ีการสอน เทคนิคการสอน กระบวนการสอนท่ี หลากหลายเหมาะสมกบั รายวิชา) Personality 1. ครูอ่านช่ือบคุ ลิกลักษณะ (1-10) และลักษณะพฤตกิ รรม (a-j) ที่ให้มา ในหนงั สือเรียน หน้า 6 Ex.1a (presenting personality names and behaviour traits) และอธบิ ายคาํ ศัพทย์ ากใหน้ ักเรียน เข้าใจ จากนั้นอธบิ ายภาระงาน และใหเ้ วลานกั เรยี นจับค่ชู อ่ื บคุ ลิกลกั ษณะ 1-10 กับลกั ษณะ พฤตกิ รรม a-j เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนจบั คกู่ บั เพื่อนเพือ่ เปรียบเทียบคาํ ตอบกัน แลว้ จงึ สุ่มเรยี กนกั เรียน ให้ชว่ ยกนั เฉลยคาํ ตอบ 1. e 2. f 3. h 4. a 5. g 6. j 7. i 8. b 9. c 10. d

ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนช่วยกันบอกช่ือบคุ ลกิ ลักษณะในภาษาไทยท่คี ลา้ ยกบั ชอื่ บคุ ลิกลักษณะของ ภาษาองั กฤษ (1-10) และระบุว่าชอ่ื บุคลกิ ลกั ษณะดงั กลา่ วใช้อธิบายถึงพฤติกรรมแบบใด เชน่ ข้ีเกยี จสันหลงั ยาว หมายถงึ คนทีข่ ีเ้ กียจ หรอื เกยี จคร้าน ยนื่ จมูก หมายถึง เข้าไปยุ่งในธุระท่ไี ม่ใชข่ องตน เข้าไปสอดแทรกในขณะทีเ่ ขาพดู กนั หรอื ทําอะไรกัน 2. ครูเลอื กนกั เรยี น 2 คน ออกมาอ่านตัวอยา่ งบทสนทนาในหนังสอื เรียน หนา้ 6 Ex.1b (talking about family members, friends and neighbours and their personalities) จากนนั้ ให้ นักเรียนจบั คกู่ นั และสนทนาเหมอื นดังตวั อย่าง ด้วยการบอกบุคลกิ ลักษณะของสมาชิกในครอบครัว เพือ่ น หรอื เพอ่ื นบ้านของตนเอง ครูสังเกตขณะนกั เรยี นทาํ กจิ กรรม แล้วสุม่ เรยี ก นักเรียนหลายๆ คู่ ให้ออกมานําเสนอบทสนทนาทหี่ น้าชัน้ เรยี น Suggested answer key: Why do you say that? A: My sister, Sara, is a lazybones. B: A: Because she is always tired no matter what she does. A: My dad, Peter, is a high flier. B: Why do you say that? A: Because he is ambitious and achieves success easily. 3. ครใู หน้ กั เรยี นอ่านช่อื ของแบบทดสอบ (What does your bedroom say about you?) ใน หนังสอื -เรยี น หน้า 6 Ex.2a (reading for specific information) และช่วยกนั บอกความหมายของ ชือ่ แบบทดสอบดงั กล่าว (the way your bedroom looks shows a lot about what kind of person you are) จากน้นั ใหน้ ักเรียนอ่านคาํ ถามและตวั เลือกท่ีให้มาในแบบทดสอบ โดยใชว้ ธิ ีการ อา่ นแบบ skimming ครูอธบิ ายคาํ ศัพท์ใหม่ และให้เวลานกั เรียนอ่านและทาํ แบบทดสอบ เม่ือทํา เสรจ็ แลว้ ครูให้นกั เรียนประเมนิ การตอบแบบทดสอบของตนเองว่าส่วนใหญแ่ ลว้ ตอบข้อ A, B หรอื C และอ่านคําอธิบายผลทใ่ี หม้ า แล้วเปรยี บเทยี บผลกบั เพ่ือน ถ้าคาํ ตอบสว่ นใหญเ่ ป็น ข้อ A คณุ เปน็ คนมีความคิดสรา้ งสรรค์และคิดถงึ ผู้อน่ื คณุ ชอบแสดง ตัวตนของคณุ ผ่านทางศลิ ปะ ดนตรี การเขียน หรือกฬี า ถา้ คาํ ตอบส่วนใหญเ่ ป็น ขอ้ B คณุ เปน็ คนมีเหตุผลและทะเยอทะยาน คณุ รูใ้ นส่ิงทคี่ ณุ ตอ้ งการ และวางแผนล่วงหนา้ เสมอ

ครเู ดินสงั เกตขณะนกั เรยี นทาํ กจิ กรรม และให้นกั เรียนแตล่ ะคนออกมารายงานว่าคู่ของตนเองมี บุคลิกลักษณะแบบใดจากผลของการทาํ แบบทดสอบ สดุ ท้ายใหน้ ักเรยี นช่วยกันบอกวา่ ผลดงั กล่าว ตรงกับบคุ ลกิ ลกั ษณะของนักเรยี นตามความเปน็ จรงิ หรือไม่ (Students’ own answers) 4. ให้นักเรียนทํา Ex.2b ในหนังสือเรียน หน้า 6 โดยดูแบบทดสอบอีกคร้ัง และจับคู่คําคุณศัพท์ที่อยู่ใน พ้ืนสีเขียวในแบบทดสอบกับคําจํากัดความ 1-8 ครูกระตุ้นให้นักเรียนใช้ความพยายามในการเดา ความหมาย ก่อนเปิดพจนานกุ รม เพ่ือตรวจการเดาคําตอบของตนเอง creative: 1 easy-going: 4 thoughtful: 8 joyful: 7 sensible: 2 honest: 6 5 ambitious: 3 caring: เมื่อทําเสร็จแล้วใหน้ กั เรยี น 2 คน อ่านตวั อยา่ งบทสนทนาทใี่ ห้มา แล้วจงึ ให้นักเรยี นจับคู่กนั สนทนา เกี่ยวกบั บุคลิกลักษณะของเพ่อื นโดยใช้คาํ คุณศัพท์ทกี่ าํ หนดให้ ครูสุ่มเรยี กนกั เรยี น หลายๆ คู่ออกมาพูดสนทนาหนา้ ชั้นเรียน Suggested answer key: A: What’s Jane like? B: She’s very creative. She develops original ideas and is imaginative. A: What’s Kevin like? B: He’s very ambitious. He wants to be successful. Word formation ครูอธิบายวา่ คําลงท้ายหรือปจั จัย (suffixes) ในตารางในหนังสือเรยี น หนา้ 6 Ex.3 (forming adjectives - word formation) เม่อื เติมไปท่ที า้ ยคาํ แล้ว จะเปล่ียนหน้าที่ของคําเหล่านน้ั ใหเ้ ป็น คําคุณศพั ท์ (adjectives) ครเู ขียนตัวอย่างตอ่ ไปน้บี นกระดาน care – careful hero – heroic decide – decisive sense – sensible ambition – ambitious care – careless self – selfish fun – funny bore – boring

จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นหาคําศัพท์ทลี่ งท้ายดว้ ยปัจจัย (suffixes) เหล่านี้ใน Exs.1-2 เมื่อหาได้แล้ว ใหน้ กั เรียนระบรุ ากศัพท์ (roots) ของคําเหล่าน้ี เช่น helpful มาจาก help ambitious มาจาก ambition forgetful มาจาก forget active มาจาก act childish มาจาก child sensible มาจาก sense messy มาจาก mess creative มาจาก create thoughtful มาจาก thought joyful มาจาก joy caring มาจาก care imaginative มาจาก imagine successful มาจาก success ตอ่ มาครูให้นกั เรยี นเติมช่องว่างในประโยค 1-6 ในหน้า 7 โดยเปลีย่ นคาํ ศัพท์ในวงเลบ็ ให้เปน็ คาํ คณุ ศัพท์ ด้วยการเติมปัจจยั (suffixes) ที่ได้เรียนมาแลว้ ครูให้นักเรยี นศึกษาตวั อย่างคําตอบใน ข้อ 1 รว่ มกนั กอ่ น จากนนั้ จงึ ใหน้ ักเรยี นทําขอ้ ที่เหลอื ด้วยตนเองตามลําพงั เสรจ็ แลว้ ให้นกั เรียนตรวจ คาํ ตอบกับพจนานุกรม แลว้ จึงเฉลยคําตอบพรอ้ มกนั บนกระดาน 1. forgetful 2. creative 3. ambitious 4. careless 5. selfish 6. funny Study tip: ใหน้ กั เรียนเร่ิมหนา้ Word formation ในสมดุ ของตนเอง โดยในหน้าดังกล่าว ใหน้ กั เรียนเขียนหวั ข้อตอ่ ไปนี้ในแต่ละคอลมั น์ Adjective Adverb Verb Noun Noun - - - (person) (abstract) จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นหาชนดิ ของคาํ ต่างๆ ของคําศพั ทใ์ น Ex.3 ในพจนานุกรม แล้วนําขอ้ มูลเตมิ ลงใน ตารางในสมดุ ของนกั เรยี น Verb Noun Noun Adjective Adverb - (person) (abstract) - - - forgetfulness forget creator creation/creativity forgetful forgetfully create - ambition creative creatively - care/ ambitious ambitiously care carelessness caring/ carelessly selfishness/ careless selfishly/ selflessness selfish/ selflessly fun selfless funnily funny

Chores ครูอา่ นวลเี กย่ี วกับงานบา้ น (chores) ในหนงั สือเรียน หน้า 7 Ex.4 (talking about chores) และ อธบิ ายคําศัพท์ใหม่ จากนัน้ ให้นักเรียน 2 คน อา่ นตัวอยา่ งบทสนทนาท่ใี ห้มา แล้วจึงใหน้ กั เรียนจบั คู่ สนทนากนั เหมือนดังตวั อย่าง เพอ่ื หาวา่ นกั เรยี นทํางานบา้ นอะไร และทําบอ่ ยมากนอ้ ยแคไ่ หน ครู สงั เกตขณะนกั เรยี นทํากจิ กรรม และสมุ่ เรียกนักเรียนหลายๆ คู่ ออกมานาํ เสนอคําตอบทหี่ น้าชน้ั Suggested answer key: B: Every day. And you? A: How often do you tidy your room? A: Me too. A: How often do you change your bedsheet? B: Once a week. And you? A: Never. My mum does it. กิจกรรมเพิ่มเตมิ : ให้นักเรยี นเลน่ เกมเปน็ ทีม ช่ือเกมว่า Chores you hate. โดยให้นักเรียนแสดง ทา่ ทางใบค้ าํ แล้วให้นักเรียนอกี ทีมหนึ่งทายวา่ นกั เรยี นคนนนั้ กาํ ลังทํางานบา้ นอะไร Team A S1: (mimes mopping the floor). แสดงทา่ ทางกาํ ลงั ถูพ้นื โดยใช้ไม้ถพู น้ื Team B S1: Juan hates mopping the floor. Everyday English ครูอา่ นสํานวนภาษาในการขอความช่วยเหลือ การตอบรบั และปฏเิ สธ ในหนังสอื เรียน หน้า 7 Ex.5 (requesting help) และให้นกั เรยี นเติมประโยคดงั กล่าวใหส้ มบรู ณ์ เช่น Can you polish the furniture? Do you mind mopping the floor for me? ครูอธบิ ายภาระงานให้นกั เรยี นฟงั จากนน้ั ให้นักเรยี นสนใจการใช้ bare infinitive หรอื –ing ตามหลังสํานวนภาษาในการขอความ ชว่ ยเหลือในตาราง แลว้ จึงให้นกั เรยี นจบั คูก่ นั แตง่ บทสนทนาสนั้ ๆ เหมือนดังตวั อยา่ ง ครูเดินสังเกต การทํางาน และสมุ่ เรยี กนักเรยี นออกมาสนทนาหน้าช้นั เรยี น Suggested answer key: B: I’d like to, but I must clean A: Could you take out the rubbish? out the fridge. A: Do you think you could clean the bathroom? B: Yes, of course.

A: Can you please dust the furniture? B: Sure. No problem. Phrasal verbs ครอู ธบิ ายหรอื ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันอธิบายความหมายของกริยาวลี (phrasal verbs) ในหนังสือเรยี น หนา้ 7 Ex.6 (working with phrasal verbs) แล้วจึงให้นกั เรยี นเตมิ คาํ ลงในประโยคให้ถกู ต้อง จากนั้นเฉลยคําตอบพรอ้ มกัน 1. takes 2. ran 3. looks เสรจ็ แลว้ ครูใหน้ กั เรยี นเลือกกริยาวลมี า 1 คาํ และวาดรปู ประกอบ ครูเก็บรวบรวมภาพวาดของ นกั เรียน และนาํ มาแสดงทลี ะภาพ ให้นักเรยี นในชนั้ ชว่ ยกันเดาว่าภาพดังกล่าวคือกรยิ าวลีคาํ ใด Study tip: ให้นักเรยี นเรมิ่ หนา้ Phrasal verbs ในสมุดของตนเอง สาํ หรบั ไวจ้ ดกริยาวลีทีน่ กั เรยี น ได้เรียนในแตล่ ะบท โดยใหจ้ ดเรียงลาํ ดับตามตัวอกั ษร พร้อมทง้ั จดคาํ ท่ีมคี วามหมายเหมอื นกนั ตัวอย่างประโยค หรือวาดรูปประกอบเพอื่ อธิบายความหมาย โดยให้นกั เรยี นหมั่นทบทวนกริยาวลี เหล่านอ้ี ยา่ งสม่ําเสมอ Animal similes ครูอธิบายภาระงานในหนงั สอื เรียน หนา้ 7 Ex.7 (learning animal similes) และอธบิ ายเพ่ิมเตมิ วา่ similes ในภาษาไทย คอื การอปุ มาหรือการเปรียบเทียบวา่ ส่ิงหนึ่งเหมือนกบั อกี สง่ิ หน่ึง เชน่ เค็มเหมือนเกลือ ขาวเหมือนไข่ตม้ แดงเหมอื นลูกตําลงึ สกุ จากน้นั ใหเ้ วลานักเรียนเตมิ ชื่อสัตว์ ลงในชอ่ งวา่ ง เพ่ือทําให้เปน็ สํานวนท่ถี กู ตอ้ ง เสรจ็ แลว้ จึงเฉลยคาํ ตอบพรอ้ มกัน แลว้ จงึ ให้นกั เรยี น ชว่ ยกันอธิบายความหมายของ similes เหล่าน้ี 1. a fox 2. a bee 3. a bat ต่อมาครูใหน้ กั เรยี น 1 คน อ่านตวั อยา่ งประโยคทใ่ี ห้มา แล้วให้นกั เรยี นเลือกสํานวนท่เี หมาะสมทจ่ี ะ บรรยายสมาชิกในครอบครัวหรอื เพ่ือนของตนเอง แล้วให้เวลานกั เรียนจับค่กู ันพดู ถึงสมาชิกใน ครอบครัวหรือเพือ่ นของตนเอง เสรจ็ แลว้ ครูสมุ่ เรยี กนักเรยี นให้อา่ นคาํ ตอบของตนเอง Suggested answer key:

My mum is always as busy as a bee. She has so much work to do in the house when she gets back from her job at the hospital. กจิ กรรมเพ่มิ เติม: ครูอาจแนะนําสํานวนเพิม่ เติม เช่น as quiet as a mouse = very quiet (เงียบเหมือนหนู, เงียบมาก) as stubborn as a mule = very stubborn (ดอื้ เหมือนลา, ดือ้ มาก) แล้วให้นักเรียนชว่ ยกนั บอกการเปรยี บเทยี บในภาษาไทยทม่ี ีลกั ษณะเช่นน้ี เชน่ ซนเหมอื นลงิ ชา้ เหมอื นเตา่ เดนิ เหมือนเปด็ ซีดเหมอื นไก่ต้ม ใจเสาะเหมือนปลาซวิ ใจดําเหมือนอกี า Writing 1. ให้นกั เรียนทํา Ex.8 (reviewing) ในหนังสอื เรียน หนา้ 7 โดยให้เวลานักเรยี น 2-3 นาที ทบทวน เก่ยี วกบั ส่ิงทน่ี ักเรียนไดเ้ รยี นรู้มาใน Unit 1b นี้ จากนน้ั ให้นกั เรยี นปดิ หนงั สือเรียน และจับคกู่ ับเพื่อน เพอื่ พดู คยุ กนั เก่ียวกับสงิ่ ทเี่ รยี น ครูเดนิ สังเกตการทาํ กิจกรรมของนักเรยี น และสุม่ เลือกนักเรียน 2-3 คู่ ออกมานําเสนอหนา้ ชัน้ เรียน (Students’ own answers) 2. ให้นักเรียนอา่ นคาํ ส่งั การทํางานในกจิ กรรม Writing ในหนงั สอื เรยี น หน้า 7 ครูถามคําถาม เพ่ือตรวจสอบวา่ นักเรียนเขา้ ใจคําสั่งในการทาํ งานหรอื ไม่ เชน่ Ss: a paragraph T: What are you going to write? T: What will it be about? Ss: a friend จากน้นั ใหเ้ วลานกั เรยี นระดมความคดิ เก่ยี วกับประเด็นที่กําหนดให้ในการเขยี น และเรียบเรยี งข้อมลู โดยนกั เรียนสามารถใช้ขอ้ มูลจาก Exs.1-3 เพอ่ื ชว่ ยในการเขยี นได้ ครตู รวจโครงร่างใน การเขยี นหรอื โน้ตยอ่ ของนกั เรียน กอ่ นทจ่ี ะให้นกั เรยี นเรมิ่ เขียนจรงิ ๆ เสรจ็ แล้วสมุ่ เรียกนกั เรียน ให้อ่านงานของตนเองใหเ้ พื่อนๆ ฟงั Suggested answer key: My best friend is a boy called Mike. He is a very easy-going boy and he does not get annoyed easily. He is also very thoughtful and does not like to upset others. I really like Mike and I am glad he’s my friend. He’s always there for me.

4.การจดั การประสบการณZการเรยี นรู8 6.บันทกึ ผลหลงั การสอน 6.1 ดา8 นความรู8 (K) นักเรียน ม.5/1 ท้ังหมดมีความเข8าใจในบทเรียนเปcนอยSางดี นักเรียนชั้น ม.5/2 สSวนใหญS มากกวSา 90% มคี วามเขา8 ใจในบทเรียน นักเรยี นชนั้ ม.5/7ประมาณ 70% มีความเข8าใจในบทเรียน และนักเรียนชั้น ม.5/11 โดยประมาณ 60% มีความเข8าใจในบทเรียนโดยสามารถวัดจากผลของการทำกิจกรรม โดยวัดจาก คะแนนของแบบทดสอบท่ีนกั เรียนทำ ด8านทกั ษะกระบวนการ (P) นักเรยี นในแตSละห8องมที กั ษะการคิดและการสอื่ สาร โดยสามารถใช8หลักทางภาษาทเ่ี รยี นในการทำ กิจกรรมในห8องเรยี นได8เปนc อยาS งดคี ดิ เปนc ร8อยละ 60% สามารถใช8ภาษาสอ่ื สารในการทำกิจกรรมตาS ง ๆ ใน หอ8 งเรยี นไดเ8 ปนc อยSางดี ด8านคุณลกั ษณะ (A) นกั เรียนมคี วามร8คู วามเขา8 ใจเกย่ี วกับความแตกตSางทางด8านของภาษาหลักภาษาและวัฒนธรรมของ ภาษาองั กฤษรวS มมือกนั คดิ วิเคราะหกF ารแกไ8 ขปญl หาในกิจกรรมการเรยี นร8ทู ีค่ รูได8สอดแทรกวัฒนธรรมที่ แตกตาS งให8นกั เรียนได8ฝnกและเรยี นรู8 6.2 ปญl หา/อุปสรรค/แนวทางแก8ไข นกั เรียนบางคนท่ียังไมเS ขา8 ใจในบทเรียนกอS นหนา8 นี้ทำใหไ8 มSสามารถทำกิจกรรมไดอ8 ยSางราบรื่นเพราะมี ความไมเS ขา8 ใจในความสมั พนั ธรF ะหวSางบทเรยี นกอS นหนา8 นี้ ทส่ี งS ผลใหเ8 กิดความรู8ความเข8าใจในบทเรยี นใน ปจl จบุ นั 6.3 ข8อเสนอแนะ ควรมกี ารสอนเสรมิ ให8กับนกั เรียนที่ยงั ไมเS ข8าใจในบทเรียนกSอนหนา8 น้ีหรือบทเรียนในปlจจบุ ันเพื่อจะทำ ให8นักเรยี นเรียนตามทนั เพ่ือน ๆ ในห8องและการเรยี นการสอนจะได8มปี ระสทิ ธภิ าพมากขนึ้ ลงชือ่ .............................................ครูผสู8 อน (นายทกั ษิณ ชชู ง่ั )

7. ขอ/ เสนอแนะของครูผ/ูนิเทศ/ผ/ทู ีไ่ ดร/ บั มอบหมาย ข\"อคดิ เหน็ /ข\"อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………............................................................................................................................................... ลงช่ือ.............................................ครูผ/ูนเิ ทศ (..................................................) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………….......................................................................................................................................... ลงช่ือ.............................................หวั หนา/ กลุ(มสาระฯ ( นางมณั ตรีณี ยังถนิ ) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………........................................................................................................................................ ลงชื่อ............................................. (นางเรณู ร(มโพธ)์ิ รองผอ/ู ำนวยการ กล(ุมบริหารงานวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………....................................................................................................................................... ลงชอื่ ............................................. (นายชาครสิ ภ(ูงาม) ผอู/ ำนวยการโรงเรยี นสงิ หบY ุรี

รหสั วชิ า อ32101 ช่อื รายวิชา ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน กลุ1มสาระการเรยี นรภู8 าษาต่างประเทศ ภาคเรียนที่ 1 ปก> ารศกึ ษา 2565 จำนวน 5 ช่วั โมง หนว1 ยการเรยี นร8ูท่ี 1 เรอื่ ง Our world/ Neighbors ครูผ8สู อน นายทกั ษิณ ชชู ่ัง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แผนการจัดการเรียนร8ทู ี่.....3.... เร่อื ง Grammar in use 1.เปVาหมายการเรยี นร8ู 1.1มาตรฐานการเรยี นรู/8 ตัวชว้ี ัด มาตรฐานการเรยี นรู8 มาตรฐาน ต 1.1 ตัวช้ีวดั /ผลการเรยี นร8ู มาตรฐาน ต 1.1: ต 1.1 ม.4-6/3 1.2 จดุ ประสงคFการเรยี นรู8 ฝกึ ทกั ษะการอา่ นภาษาองั กฤษพดู และเขียนโดยใช้โครงสร้างประโยคที่เรยี น 1.3 สาระสำคญั (เป$นแกน( ความร/ูโดยเขียนเปน$ หัวข/อยอ( ย หรือความเรยี ง ให/ชัดเจน กะทักรัด) ครชู ี้แจงให้นักเรียนทราบวา่ Unit 1c ซงึ่ เนน้ ฝึกไวยากรณ์ นักเรยี นจะไดฝ้ กึ ฝนการใช้ present simple, present continuous, present perfect, present perfect continuous และ stative verbs 1.4 สาระการเรียนรู8 Present simple, present continuous, present perfect 1. นกั เรยี นฟัง และอา่ นบทสนทนาในการ์ตนู ตามไปด้วย เพื่อตรวจคาํ ตอบ นกั เรียนชว่ ยกนั อธิบาย คําศัพท์ยาก 2. นกั เรยี นสนใจทีร่ ปู ของคํากริยาทพ่ี ิมพต์ วั หนาคําแรกในการต์ นู (comes) และระบุ tense (present simple) จากนั้นใหน้ ักเรยี นอ่านรายการทใ่ี หม้ าในหนังสือเรียน หนา้ 8 Ex.1b ดงั นี้

1.5 สมรรถนะสำคัญของผ8เู รยี น (ให/เลอื กเขยี นเฉพาะหวั ข/อท่สี อดคลอ/ งกับกจิ กรรมการเรียนในแตล( ะหนว( ยและต/อง ประเมนิ ไดจ/ รงิ ) (1) ความสามารถในการสื่อสาร (2) ความสามารถในการคดิ (3) ความสามารถในการแกป้ ญั หา (4) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ (5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1.6 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคF (ใหเ/ ลอื กเขียนเฉพาะหวั ข/อท่ีสอดคล/องกบั กิจกรรมการเรยี นในแต(ละหน(วยและต/อง ประเมินไดจ/ รงิ ) (1) ซื่อสตั ย์สจุ ริต (2) ใฝเ่ รียนรู้ (3) มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน 1.7 ทักษะการอาS น คดิ วิเคราะหFและเขยี น ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. 1.8 สาระการเรยี นร8ูสกSู ารบรู ณาการ r เศรษฐกิจพอเพียง r หน8าทพ่ี ลเมอื ง r ประชาธปิ ไตย r การอนรุ ักษทF รพั ยากรธรรมชาติ พลังงาน และสิ่งแวดลอ8 ม r คาS นิยมหลกั คนไทย 12 ประการ r หลักสตู รต8านทจุ รติ r จุดเนน8 โรงเรยี นมาตรฐานสากล r ................................................................................ 2.หลกั ฐานการเรียนรู8 2.1ชน้ิ งาน/ภาระงาน ............................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................

2.2 การวัดและประเมนิ ผล(หมายถงึ หลกั ฐาน/ร(องรอยท่แี สดงถงึ ความรข/ู องนกั เรยี น) 2.2.1 การวัดและประเมนิ ผลระหวSางการจัดการเรียนรู8 (คุณลักษณะอนั พึงประสงค)F คณุ ลกั ษณะอันพึง ภาระงาน/ วิธกี ารประเมิน เคร่ืองมอื เกณฑทZ ี่ใช8ประเมนิ ผู8ประเมิน ประสงคZ ชน้ิ งาน ตรวจ แบบฝกึ หัด รอ้ ยละ 60 ผา่ น แบบฝกึ หัด (Workbook) เกณฑ์ เกณฑกF ารประเมนิ รอ8 ยละ .............. เกณฑกF ารตัดสิน.............. 2.2.2การวดั และประเมนิ ผลเมื่อสิน้ สุดกจิ กรรมการเรยี นรู8 จุดประสงคZ ภาระงาน/ วธิ ีการประเมนิ เคร่ืองมอื เกณฑZท่ใี ชป8 ระเมนิ ผป8ู ระเมิน การเรยี นร8ู ช้นิ งาน ประเมนิ ประเมนิ แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 2 พฤติกรรมบง่ ช้ี คุณลกั ษณะอัน คุณลักษณะอนั ผา่ นเกณฑ์ ด้านใฝเ่ รียนรู้ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ และมุ่งมั่นใน การทาํ งาน เกณฑFการประเมนิ รอ8 ยละ .............. เกณฑFการตดั สิน .............. การแปลความหมาย ระดบั 4 หมายถึง มีระดับคุณภาพดีมาก ระดบั 3 หมายถงึ มีระดบั คณุ ภาพดี ระดับ 2 หมายถงึ มีระดับคณุ ภาพพอใช8 ระดับ 1 หมายถงึ มรี ะดับคุณภาพปรับปรุง

3. การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน (ใหเ/ น/นผู/เรยี นเป$นสำคญั ด/วยวธิ ีการสอน เทคนคิ การสอน กระบวนการสอนท่ี หลากหลายเหมาะสมกับรายวชิ า) Suggested answer key: I am a student. I’m having an English lesson now. My classes start at 8:00 every weekday. I’m seeing my friends tonight. I have studied English for five years now. 3. ครูอธบิ ายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 8 Ex.2 (reviewing do, go, have & practicing present simple) และให้เวลานกั เรียนเตมิ คําในชอ่ งว่าง 1-15 ด้วย do, go หรือ have โดยทํางานเป็นคู่ เสรจ็ แลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกันเฉลยคาํ ตอบ 1. have 2. go 3. do 4. go 5. go 6. go 7. go 8. do 9. do 10. do 11. go 12. go 13. go 14. go 15. have ต่อมาทบทวน question words ในตารางท่ีใหม้ า และให้นกั เรยี นช่วยกนั บอกวา่ จะใช้ question word แตล่ ะคาํ เมอ่ื ใด how often: ask about frequency where: ask about place how: ask about manner when: ask about time what time: ask about specific time จากนั้นใหน้ กั เรียน 2 คน อ่านตวั อยา่ งบทสนทนาท่ีใหม้ า แล้วจึงใหน้ กั เรียนจบั คสู่ นทนากนั เกี่ยวกบั กจิ วัตรประจําวันและกจิ กรรมท่ีทาํ ในเวลาว่าง โดยใชว้ ลใี น Ex.2 ครูเดินสงั เกตขณะนักเรียนทาํ กิจกรรม แล้วสมุ่ เรียกนักเรยี นหลายๆ คู่ ออกมาสนทนาหน้าชน้ั เรียน Suggested answer key: A: Where do you go shopping? B: At the shopping centre in town. A: How do you go to school? B: On foot. A: When do you go to bed? B: At nine every night. A: What time do you go jogging? B: At 8 o’clock every morning. etc


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook