140 หรือไม่ “ความอยากรู้อยากเห็น ปัญหา และความสงสัย” จะทาให้เกิดประเด็นคาถามว่า “ใคร ทา อะไร ทีไ่ หน เมือ่ ไหร่ ทาไม และอยา่ งไร” ซึง่ จะนาไปสวู่ ธิ ีการสืบคน้ และแหล่งขอ้ มูลหลกั ฐานต่อไป กาหนดหวั ขอ้ ทจ่ี ะศึกษา ขั้นตอนในการกาหนดหัวข้อท่ีจะศึกษาประวัติศาสตร์จะ เริ่มด้วยการกาหนดหวั ข้ออย่างกว้าง ๆ ก่อนแล้วตีกรอบให้แคบลง ไม่ให้มีหัวข้อท่ีกว้างจนเกินไปหรือ แคบจนเกินไปในการกาหนดหัวข้อท่ีจะศึกษาในเร่ืองใดหรือมีความสนใจในเรื่องใด ต้องเร่ิมต้นด้วย ความสนใจในเรื่องน้ัน ๆ ก่อน ซ่ึงหากนึกไม่ออกว่ามีความสนใจในเร่ืองใดต้องฝึกอ่านหนังสือ และหา ข้อมลู ในเรื่องต่าง ๆ ให้มาก เม่ือสนใจจะศึกษาในเรื่องใด ก็หาข้อมูลอย่างกว้าง ๆ ในเร่ืองนั้น ๆ ก่อน หรือการศึกษาภูมิหลังของเรื่องท่ีสนใจ เพื่อเป็นพื้นฐานความรู้ก่อนที่จะมีการสืบค้นหาข้อมูลหรือ ประเด็นใดประเด็นหนึ่งให้ลึกซ้ึงต่อไป โดยต้ังเป็นประเด็นคาถาม เช่น มีการศึกษาเร่ืองอไร ในช่วง เวลาไหน เหตใุ ดตอ้ งศึกษา เพอ่ื กาหนดแนวทางในการแสวงหาคาตอบอยา่ งมีเหตุผล การกาหนดประเด็นปัญหา เป็นจุดเร่ิมต้นของการศึกษาค้นคว้าเร่ืองราวในอดีต ซึ่งจะเป็นแนวทางทีจ่ ะนาไปสู่การสืบค้นข้อมูลจากหลักฐานประเภทต่าง ๆ ประเด็นศึกษาอาจมาจาก ความต้องการอยากรอู้ ยากเห็นเรื่องราวท่ีเก่ียวข้องกับตนเอง และครอบครัว หรือเกิดจากปัญหาท่ีพบ เห็นในชุมชน หรือท้องถิ่นของตนเอง รวมทั้งอาจมาจากความสงสัยในข้อมูลที่ได้รับว่าเป็นจริงเช่นน้ัน หรือไม่ “ความอยากรู้อยากเห็น ปัญหา และความสงสัย” จะทาให้เกิดประเด็นคาถามว่า “ใคร ทา อะไร ทไ่ี หน เมอ่ื ไหร่ ทาไม และอยา่ งไร” ซ่งึ จะนาไปสู่วิธกี ารสืบคน้ และแหล่งข้อมลู หลกั ฐานต่อไป กล่าวโดยสรปุ การตง้ั ประเดน็ ที่จะศกึ ษา เปน็ การกาหนดหัวข้ออย่างกว้าง ๆ ก่อน แล้วตีกรอบให้แคบลง เป็นแนวทางทีน่ าไปสกู่ ารสืบคน้ ขอ้ มูลจากหลกั ฐานประเภทต่าง ๆ เป็นเร่ืองราว ที่เกี่ยวข้องกับตนเอง และครอบครัว หรือเกิดจากปัญหาท่ีพบเห็นในชุมชน หรือท้องถิ่นของตนเอง ตามประเด็นคาถามว่า “ใคร ทาอะไร ที่ไหน เม่ือไหร่ ทาไม และอย่างไร” ซึ่งจะนาไปสู่วิธีการสืบค้น และแหลง่ ข้อมลู หลักฐานต่อไป 2.2 การสืบคน้ และรวบรวมข้อมูล การรวบรวมหลักฐาน เป็นการสืบค้นข้อมูลจากหลักฐานต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจถึง ข้อเท็จจริงที่เก่ียวข้องกับประเด็นศึกษาที่เราต้องการสืบค้น วิธีการสืบค้นข้อมูลทาได้หลายวิธี เช่น การสอบถาม การสัมภาษณ์ การศึกษาวิเคราะห์เอกสารหรือหนังสือ การไปชมสถานที่จริง การฟังคา บรรยายจากผทู้ รงคุณวุฒิ การวิเคราะหจ์ ากรูปภาพ แผนที่ กราฟ สถติ ิ แหลง่ ขอ้ มลู ที่เก่ียวขอ้ งกับประเดน็ ศึกษา ไดแ้ ก่ ประเด็นที่ 1 บุคคลที่เป็นผู้รู้เร่ืองราวนั้น ๆ ท้ังน้ีอาจเป็นเพราะเป็นผู้มีความ เกยี่ วข้องโดยตรง เช่น เป็นญาติพน่ี อ้ ง เปน็ ผู้มีส่วนรว่ มรู้เหน็ กบั เหตกุ ารณ์ หรอื เปน็ ผู้ท่ีศึกษาค้นคว้าใน เร่อื งราวนัน้ ๆ เช่น นักโบราณคดี นกั จดหมายเหตุ นักภาษาศาสตร์ เป็นตน้
141 ประเด็นท่ี 2 สถานที่สาคัญ และแหล่งข้อมูลในท้องถ่ิน เช่น วัด มัสยิด โบสถ์ คริสต์ โรงเรียน ท่ีว่าการอาเภอ สานักงานเขตเทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การ บรหิ ารสว่ นตาบล (อบต.) พิพิธภณั ฑ์ท้องถ่นิ แหล่งโบราณสถาน ศนู ย์วฒั นธรรม ประเด็นท่ี 3 ห้องสมุด และแหล่งรวบรวมเอกสารทางประวัติสาสตร์ต่าง ๆ เช่น ห้องสมุดประชาชน หอสมดุ แห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ การค้นคว้า และรวบรวมข้อมูล เม่ือมีประเด็นปัญหาหรือหัวข้อที่ต้องการศึกษา แล้ว ก็ต้องหาข้อมูล หรือรวบรวมข้อมูลจากหลักฐานต่าง ๆ ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่จะศึกษา จากหลักฐานที่เป็นตัวหนังสือ หรือจากหลักฐานอื่น ๆ ท่ีผู้ศึกษาเข้าใจความหมายได้ เช่น รายงาน การศึกษาหลักฐานทางโบราณคดี และบันทึกท่ีเป็นตัวอักษรทั้งหลาย หรือสอบถามจากผู้รู้เห็น เหตกุ ารณ์ เป็นต้น กล่าวโดยสรุปการสืบค้น และรวบรวมข้อมูล เป็นการรวบรวมข้อเท็จจริงที่ เกี่ยวข้องกับประเด็นในการศึกษาที่เราต้องการสืบค้น โดยใช้วิธีการสืบค้นข้อมูลทาได้หลายวิธี เช่น การสอบถาม การสัมภาษณ์ การศกึ ษาวิเคราะห์เอกสาร หรือหนังสือ การไปชมสถานที่จริง การฟังคา บรรยายจากผูท้ รงคุณวฒุ ิ การวเิ คราะหจ์ ากรูปภาพ แผนที่ กราฟ สถติ ิ 2.3 การวเิ คราะห์ และตคี วามขอ้ มลู ทางประวตั ศิ าสตร์ การวิเคราะห์ การตีความ และการประเมนิ หลักฐาน เมอื่ ผู้ศึกษาได้รวบรวมข้อมูล ท่ีเกี่ยวข้องกับประเด็นการศึกษาแล้ว ผู้ศึกษาต้องไต่สวนหลักฐานแต่ละชิ้น เพ่ือให้ได้ข้อเท็จจริง ท่ี น่าเชอ่ื ถือและไดร้ บั การยอมรับมากทส่ี ุด ด้วยการประเมนิ ภายนอก และประเมินภายใน การวเิ คราะห์ การตีความ และการประเมินหลกั ฐาน เม่อื ผศู้ ึกษาได้รวบรวมข้อมูล ท่ีเก่ียวข้องกับประเด็นศึกษาแล้ว ผู้ศึกษาต้องไต่สวนหลักฐานแต่ละช้ิน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ น่าเชือ่ ถอื และได้รับการยอมรบั มากท่สี ุด การวิเคราะห์ข้อมูล เม่ือได้ข้อมูลมากพอตามความต้องการ และจัดให้เป็นระบบ แล้วจึงนาหลักฐานข้อมูลน้ันมาศึกษาอย่างละเอียดถ่ีถ้วน และพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูล เหล่านั้น ซึ่งในข้ันตอนนี้ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์จะต้องพิจารณาว่าข้อมูลท่ีได้มานั้นมีความน่าเช่ือถือได้ แค่ไหน โดยปกติข้อมูลช้ันต้นจะมีความน่าเช่ือถือมากกว่าข้อมูลช้ันรอง แต่ก็ไม่เสมอไป ข้ึนอยู่กับ เง่ือนไขอ่ืน ๆ ด้วย จากนั้นนาข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ ตีความ เลือกสรรข้อเท็จจริงให้สามารถตอบ ประเด็นปัญหาหรือ ครอบคลุมหัวข้อในการศึกษาได้ โดยปราศจากอคติ และมีความซ่ือสัตย์ในการ ตีความหลักฐาน กล่าวโดยสรุปการวิเคราะห์ และตีความข้อมูลทางประวัติศาสตร์ คือ การนา ข้อมูลมาจัดให้เป็นระบบแล้วแล้วจึงนาหลักฐานข้อมูลน้ันมาศึกษาอย่างละเอียดถ่ีถ้วน และพิจารณา ความน่าเช่ือถือของข้อมูลเหล่าน้ัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับมากที่สุด
142 สามารถตอบประเด็นปัญหาหรือครอบคลุมหัวข้อในการศึกษาได้ โดยปราศจากอคติและมีความ ซอ่ื สัตย์ในการตคี วามหลกั ฐาน 2.4 การคัดเลือก และประเมนิ ข้อมูล การประเมินภายนอก หมายถึง การประเมินผู้บันทึกหลักฐาน และตัวหลักฐาน เน่ืองจากหลักฐานมีหลายประเภท และหลายลักษณะ เช่น หลักฐานชั้นต้นหรือหลักฐานปฐมภูมิ ซึ่ง เป็นหลักฐานท่ีเกิดขึ้นร่วมสมัยกับเหตุการณ์น้ัน หรือเกิดจากบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ นน้ั ๆ และหลักฐานช้นั รองหรอื หลักฐานทุติยภูมิ ซง่ึ เป็นหลักฐานที่เกดิ ขึ้นภายหลังเหตุการณ์ หรือจาก ผู้ท่ีไม่มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ แต่ได้ศึกษาค้นคว้ารวบรวมขึ้นในภายหลัง นอกจากน้ียังมีหลักฐาน โบราณคดี เช่น โครงกระดูก เคร่ืองมือเคร่ืองใช้ของโบราณ ศิลาจารึก วรรณกรรมโบราณ ซ่ึง จาเป็นต้องอาศัยผู้เช่ียวชาญเฉพาะด้าน เช่น นักโบราณคดี นักภาษาศาสตร์ เป็นผู้วิเคราะห์และ ประเมนิ หลักฐานดังกลา่ ว การประเมินผ้บู นั ทกึ หลกั ฐาน คือ การสืบคน้ ว่าผู้จัดทาหลักฐานคือใคร ขณะท่ีทา หลักฐานน้ันมี สถานะใด มีความเก่ียวข้องกับเหตุการณ์นั้นหรือไม่ มีจุดมุ่งหมายอย่างไรจึงจัดทา หลกั ฐานข้ึน มีความร้คู วามสามารถในเร่ืองนั้นแค่ไหน ผู้จัดทามีเจตนาปกป้องผลประโยชน์หรือมีอคติ กับเรือ่ งนัน้ หรอื ไม่ การประเมินตัวหลักฐาน คือ การสืบค้นว่าตัวหลักฐานเป็นต้นฉบับแท้ หรือฉบับ คัดลอก หรอื ฉบับพิมพ์ขนึ้ ภายหลัง ผา่ นการชาระแกไ้ ขหรอื ไม่ ใช้ภาษาหรือสานวนตามยคุ สมยั หรือไม่ อนึ่ง แม้ว่าหลักฐานท่ีนามาศึกษานั้นจะเป็นหลักฐานทุติยภูมิ หรือผู้จัดทามี ผลประโยชน์ ร่วมกับเหตุการณ์นั้นก็ตาม เราสามารถนามาใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ การ ประเมินภายนอกจะทาให้เรารู้จักหลักฐานนั้นอย่างแท้จริง และเป็นการประเมินความน่าเช่ือถือของ หลักฐานกอ่ นนาไปวิเคราะหเ์ รอ่ื งราวในอดตี การประเมินภายใน หมายถึง การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏใน หลักฐานกับข้อมูลจากหลักฐานร่วมสมัยอื่น ๆ ว่าสอดคล้องกันหรือแตกต่างกันหรือไม่ ถ้าพบความ แตกตา่ งตอ้ งสืบคน้ ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด ทั้งน้ีอาจเกิดความผิดพลาดในระบบการพิมพ์ หรือเกิดจาก อคตขิ องผู้จดั ทาหลกั ฐาน หรอื ความไมร่ ู้ขอ้ มูลทแี่ ท้จริงกเ็ ปน็ ได้ การประเมินความสาคัญของข้อมูลหรือหลักฐาน โดยการประเมินความสาคัญ ของขอ้ มลู แตล่ ะช้ินทีค่ ดั เลือกมาวา่ มีความน่าเชื่อถือท่ีแท้จริงเพียงไร มีอคติในข้อมูลหรือหลักฐานนั้น หรือไม่ และข้อมูลหรือหลักฐานน้ันมีความสาคัญเพียงพอต่อการนามาอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนใน อดีตหรือไม่ ทั้งนี้ผู้ศึกษาต้องทาการวิเคราะห์ ตีความ และประเมินข้อมูลหรือหลักฐานนั้น ๆ อย่างมี วิจารณญาณ
143 การประเมินคุณค่าของหลักฐาน หลักฐานหรือข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกับหัวข้อศึกษาท่ี รวบรวมมาเพ่ือหาความนา่ เชอ่ื ถอื ของหลักฐานประเภทต่าง ๆ ที่หามาได้ไม่ใช่ว่าจะนาไปใช้ได้ทั้งหมด อาจพบทีหลังว่าบางช้ินไม่เก่ียวข้องโดยตรง และบางช้ินหากนาไปใช้หรือนาไปอธิบายเหตุการณ์กลับ จะทาให้เรื่องราวท่ีค้นคว้าขาดความน่าเชื่อถือได้ ดังน้ันจะต้องมีการประเมินคุณค่าของหลักฐานก่อน ซึ่งเรียกวา่ การวิพากษว์ ธิ ีทางประวตั ศิ าสตร์ อนั ประกอบด้วย 2 ข้ันตอน ดงั น้ี ข้ันตอนที่ 1 การวิพากษ์หลักฐานภายนอก เป็นข้ันตอนที่พิจารณาเริ่มแรกว่า หลักฐานที่ได้มาน้ันเป็นของจริงหรือของปลอม หรือหลักฐานท่ีกล่าวกันว่าบุคคลน้ันเขียนหรือทาข้ึน แทจ้ รงิ แล้วเป็นเช่นน้ันหรือไม่ ขน้ั ตอนท่ี 2 การวิพากษ์หลักฐานภายใน เป็นการประเมินคุณค่าของหลักฐานน้ัน ว่าจะให้ข้อมูลอะไรแก่ผู้ค้นคว้าบ้าง หรือข้อมูลน้ัน ๆ ให้น้าหนักหรือความน่าเช่ือถือได้มากน้อย เพียงใด นั่นคือการตรวจสอบองค์ประกอบของหลักฐานที่เกี่ยวกับเวลา สถานท่ี และบุคคล โดยมี ประเมิน 3 ประเดน็ ดังนี้ ประเด็นท่ี 1 หลักฐานนั้นเขียนขึ้นเมื่อใด หรือเขียนขึ้นภายหลัง เหตุการณเ์ กดิ ข้นึ มานานแล้วมากน้อยแค่ไหน ประเด็นที่ 2 หลักฐานนั้นเขียนหรือสร้างข้ึนที่ใด หลักฐานท่ีทาขึ้น ร่วมสมัยกับเหตุการณ์ ย่อมให้น้าหนักแก่เร่ืองราวได้มาก หลักฐานบางชิ้นถึงแม้จะเป็นหลักฐานร่วม สมัยเหตุการณ์ แต่มาขยายความเพิ่มเติมทีหลัง อาจทาให้ข้อมูลเกิดความคลาดเคลื่อนได้ ซ่ึงผู้ศึกษา ต้องใชค้ วามระมัดระวังอย่างมาก ประเดน็ ที่ 3 หลักฐานนั้นใครเป็นผู้ทาข้ึน ด้วยวัตถุประสงค์อะไร มี การเตมิ แตง่ เนอ้ื เรอ่ื งใหเ้ กนิ จรงิ หรอื ไม่รวมถึงมีการกล่าวถึงเหตุการณ์น้ัน ๆ ตรงตามความจริงท้ังหมด หรือไม่ ซึง่ ผศู้ ึกษาควรต้องระมัดระวังในการแยกแยะหลักฐานอยา่ งรอบคอบ กล่าวโดยสรุปการคัดเลือก และประเมินข้อมูล คือการประเมินความสาคัญของ ขอ้ มลู หรือหลักฐาน โดยการประเมนิ ความสาคญั ของข้อมูลแต่ละช้ินที่คัดเลือกมาว่า มีความน่าเช่ือถือ ที่แท้จริงเพียงไร มีอคติในข้อมูลหรือหลักฐานนั้นหรือไม่ และข้อมูลหรือหลักฐานนั้นมีความสาคัญ เพียงพอต่อการนามาอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในอดีตหรือไม่ ท้ังนี้ผู้ศึกษาต้องทาการวิเคราะห์ ตคี วาม และประเมินข้อมูลหรอื หลักฐานนนั้ ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ 2.5 การเรยี บเรยี งรายงานขอ้ เทจ็ จริงทางประวัตศิ าสตร์ การนาเสนอข้อเท็จจริง เม่ือผู้ศึกษาสามารถสรุปสาเหตุ และเหตุผลท่ีทาให้เกิด เหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีต แล้วเรียบเรียงข้อเท็จจริงที่ค้นพบได้ด้วยภาษาท่ีเข้าใจง่าย มีความต่อเน่ือง เป็นเหตเุ ปน็ ผล วิธกี ารนาเสนอท่เี หมาะสม เช่นการเรียงลาดับเหตุการณ์ก่อน - หลัง เพื่อให้เข้าใจง่าย
144 รวมทัง้ มกี ารวเิ คราะห์ และสรุปประเดน็ ใหช้ ัดเจน นอกจากนี้เมื่อมีการอ้างอิงหลักฐาน ผู้ศึกษาจะต้อง บอกทีม่ าของหลกั ฐานหรอื แหลง่ ขอ้ มลู อยา่ งถูกตอ้ ง เพือ่ ให้สามารถตรวจสอบได้ การเรียบเรียงเป็นขั้นสุดท้ายของวิธีการทางประวัติศาสตร์คือผู้ศึกษานาส่ิงท่ีได้ ศึกษา วิเคราะห์ และตีความแล้วทั้งหมดมาเรียบเรียงขึ้น ต้องมีความน่าเช่ือถือ น่าอ่าน และติดตาม ท้ังน้ีโดยใช้แนวหรือรูปแบบของผู้เขียนแต่ละคน การนาเสนอข้อเท็จจริง เมื่อผู้ศึกษาสามารถสรุป สาเหตุและเหตุผลทีท่ าใหเ้ กิดเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ในอดตี แล้วเรียบเรยี งข้อเท็จจริงท่ีค้นพบได้ด้วยภาษาท่ี เข้าใจง่าย มีความต่อเน่ืองเป็นเหตุเป็นผลกัน วิธีการนาเสนอที่เหมาะสม เช่น การเรียงลาดับ เหตุการณ์ก่อน - หลัง เพ่ือให้เข้าใจง่าย รวมทั้งมีการวิเคราะห์และสรุปประเด็นให้ชัดเจน นอกจากน้ี เม่ือมีการอ้างอิงหลักฐานผู้ศึกษาจะต้องบอกที่มาของหลักฐานหรือแหล่งข้อมูลอย่างถูกต้องเพ่ือให้ สามารถตรวจสอบได้ กล่าวโดยสรุปการเรียบเรยี งรายงานข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ คือ ขั้นสุดท้าย ของวิธีการทางประวัติศาสตร์ การเรียบเรียงเป็นนาสิ่งท่ีได้ศึกษามา วิเคราะห์ และตีความ แล้วนามา เรียบเรียงขึ้นด้วยภาษาท่ีเข้าใจง่าย มีความต่อเน่ืองเป็นเหตุเป็นผลกัน วิธีการนาเสนอที่เหมาะสม เช่น การเรียงลาดับเหตุการณก์ อ่ น - หลงั เพื่อให้เข้าใจง่าย รวมท้ังมีการวิเคราะห์และสรุปประเด็นให้ ชัดเจน มีการอ้างอิงหลักฐาน ผู้ศึกษาจะต้องบอกที่มาของหลักฐานหรือแหล่งข้อมูลอย่างถูกต้อง เพือ่ ใหส้ ามารถตรวจสอบได้ กล่าวโดยรวมวิธกี ารประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย 5 ขน้ั ตอน คือ (1) การต้ัง ประเด็นท่ีจะศึกษา (2) สบื คน้ และรวบรวมขอ้ มลู (3) การวเิ คราะห์ และตคี วามขอ้ มลู ทาง ประวัตศิ าสตร์ (4) คัดเลือก และประเมนิ ข้อมลู และ(5) การเรียบเรียงรายงานข้อเท็จจริงทาง ประวตั ิศาสตร์ สาหรับการประยุกต์ใช้ข้ันตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษา วิธีทาง ภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์ในการศึกษาวัดสวยงาม คู่นามบางใหญ่ ให้ครูผู้สอนแนะนาผู้เรียนใน ข้ันตอนการกาหนดประเด็นศึกษา แล้วให้ไปศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล โดยผู้เรียนต้องประยุกต์ใช้การ วิเคราะห์และตีความข้อมูลทางประวัติศาสตร์กับข้อมูลที่ค้นคว้าได้ ต่อจากนั้นให้ผู้เรียนคัดเลือกและ ประเมินข้อมูล นามาเปรียบเทียบสรุปผลการศึกษาค้นคว้าลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) เพอ่ื นาไปพบกลุม่ ตามทนี่ ัดหมายไว้กับครูผสู้ อน การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 1. บรรยายสรปุ 2. กาหนดประเด็นศึกษาค้นควา้ รว่ มกนั 3. ศกึ ษาค้นควา้ ดว้ ยตนเองจากสื่อการเรยี นรทู้ ีห่ ลากหลาย
145 4. บนั ทึกผลการศึกษาคน้ คว้าลงในเอกสารการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) 5. พบกลมุ่ อภปิ รายแลกเปล่ยี นเรียนรจู้ ากผลการศึกษาคน้ คว้า คดิ วเิ คราะห์ข้อมูลทไี่ ด้ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ คดิ สงั เคราะห์สรุปผลการเรยี นรทู้ ไ่ี ดใ้ หมร่ ่วมกัน บันทกึ ลงในเอกสารการเรยี นรู้ ดว้ ยตนเอง (กรต.) 6. สรปุ ผลการเรียนร้ทู ไ่ี ด้ไปทาแบบฝึกหดั และกิจกรรมตามใบงานท่มี อบหมาย 7. บนั ทึกผลการเรียนรู้ที่ได้จากการศกึ ษา และฝกึ ปฏิบตั ิ บนั ทึกลงในเอกสารการเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง (กรต.) สื่อและแหลง่ เรียนรู้ 1. สือ่ เอกสาร ได้แก่ 1.1 ใบความรู้ที่ 7 วธิ ีทางภูมศิ าสตร์ และประวัติศาสตร์ ในการศึกษา วดั สวยงาม คนู่ ามบางใหญ่ 1.2 ใบงานท่ี 7 วธิ ีทางภมู ิศาสตร์ และประวตั ศิ าสตร์ ในการศึกษา วดั สวยงาม คนู่ ามบางใหญ่ 1.3 หนังสือเรยี น สาระการพัฒนาสงั คม รายวิชา สค33162 วัดสวยงาม คู่นามบางใหญ่ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 1.4 หนงั สือท่ีเกี่ยวข้อง กกกกกกกกกกก 1.4.1 การรเู้ รอื่ งภมู ิศาสตร์ ถอดบทเรียนจากประสบการณใ์ นช้นั เรียน (Geo- literacy : Learning for our planet) กนก จันทรา ปีที่พิมพ์ 2561 จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั กกกกกกกกกกก 1.4.2 คมู่ อื ครูประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 สถาบนั พฒั นาวิชาการ(พว.) ปที พี่ ิมพ์ 2555 บริษทั พฒั นาวชิ าการ (พว.) จากดั กกกกกกกก กกกกกกกกกกก 1.4.3 ประวตั ิศาสตร์ เคน จนั ทร์วงษ์ ปที พี่ ิมพ์ 2551 โรงพมิ พ์ภูมบิ ัณฑิต กกกกกกกกกกก 1.4.5 การวิจัยทางภมู ิศาสตร์ ประมาณ เทพสงเคราะห์ ปีท่พี ิมพ์ 2561 มหาวิทยาลัยทกั ษิณ กกกกกกกกกกก 1.4.6 ประวตั ศิ าสตร์ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษา ขน้ั พ้นื ฐาน ปที ี่พิมพ์ 2557 สกสค. ลาดพรา้ ว กกกกกกกกกกก 1.4.7 ประวัติศาสตร์ วงเดอื น นาราสัจจ์ และชมพนู ทุ นาครี ักษ์ ปีทพี่ มิ พ์ 2555 บรษิ ทั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ กกกกกกกกกกก 1.4.8 การจดั การเรยี นการสอนวชิ าประวัติศาสตร์ในสถานศกึ ษา สิรวิ รรณ ศรี พหล ปที ่พี มิ พ์ 2553 โครงการส่งเสรมิ การแต่งตารา สานักวชิ าการมหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช
146 2. สื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ ได้แก่ กกกกกกกกก 2.1 ภมู ิศาสตรเ์ ปน็ ศาสตรท์ ี่มีความสาคัญอย่างไร สืบค้นจาก www.https://wachirapong1991.blogspot.com/2011/04/blog-post_1326.html กกกกกกกกก 2.2 ข้ันตอนวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ สืบคน้ จาก www.https://sites.google.com/site//02-khan-txn-withi-kar-thang-prawatisastr กกกกกกกกก 2.3 ภมู ศิ าสตร์ สืบคน้ จาก www.https://th.wikipedia.org/wik 3. สอ่ื แหลง่ เรียนรใู้ นชมุ ชน กกกกกกกกก 3.1 ห้องสมุดประชาชนอาเภอบางใหญ่ ตั้งอยทู่ ่ี 47 หม.ู่ 4 กศน.อาเภอบางใหญ่ จงั หวัดนนทบรุ ี หมายเลขโทรศพั ท์ 02-926-5846 การวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความก้าวหนา้ ดว้ ยวธิ กี าร ดงั น้ี 1.1 การสงั เกต 1.2 การซักถาม การตอบคาถาม 1.3 ตรวจเอกสารการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง (กรต.) 2. ประเมนิ ผลรวม ด้วยวธิ กี าร ดงั น้ี 2.1 ตอบแบบทดสอบ หัวเร่ืองที่ 7 วิธีการทางภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์ใน การศกึ ษาวดั สวยงาม คู่นามบางใหญ่ จานวน 5 ขอ้ 2.2 ตอบแบบสอบถามวัดทักษะ 2.3 ตอบแบบสอบถามวดั เจตคติ
147 หวั เร่อื งที่ 8 การสืบสานและการอนรุ กั ษ์ วัดสวยงาม คนู่ ามบางใหญ่ สาระสาคญั 1. การสบื สานและอนุรักษ์วัดสวยงาม คู่นามบางใหญ่ ดว้ ยการทาแผน่ พับเผยแพร่ 1.1 ความหมายของแผ่นพับ ความหมายของแผ่นพับ คือ แผ่นกระดาษท่ีใช้พิมพ์ภาพ ข้อความ และ องค์ประกอบอื่น เพ่ือใช้ในการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร ในการโฆษณา ลักษณะเป็นใบ แล้วพับทบไปมา พบั ได้มากกวา่ หนงึ่ ครงั้ ขึน้ ไป มขี นั้ ตอนทซี่ ับซ้อนกว่าใบปลิว วิธีการพับมีหลายแบบ เช่น พับทบกันไป มาเท่ากันทุกด้านพับไม่เท่ากันทุกด้านรูปแบบของแผ่นพับจะเป็นกระดาษแผ่นเดียวพิมพ์ทั้ง 2 ด้าน แลว้ พับอย่างน้อย 1 พบั รูปแบบท่นี ิยมท่ีสดุ คอื เป็นกระดาษขนาด A 4 แลว้ พับ 2 คร้ัง 1.2 องคป์ ระกอบของแผน่ พบั แผ่นพับประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ คือ (1) พาดหัว มักเป็นตัวอักษรท่ีใหญ่ หรืออยู่ในตาแหน่งที่เด่นอยู่ด้านหน้าของแผ่นพับ และนิยมวางไว้ในส่วนบนของหน้าแผ่นพับเป็น ข้อความสั้น ๆ เข้าใจง่าย (2) ภาพประกอบ มักวางอยู่หน้าเดียวกับพาดหัว (แต่ไม่จาเป็นต้องมีคู่กัน เสมอ) เป็นภาพที่จะช่วยดึงความสนใจของผู้อ่าน ตามข้อความ อาจมีภาพประกอบเล็ก ๆ เพื่อใช้ ประกอบเนื้อหา (3) ข้อความ เนื่องจากพ้ืนท่ีมีจากัด ข้อความเน้ือหาจึงมักมีขนาดเล็ก แต่ไม่ควรเล็ก กวา่ 12 พอยต์ ควรใช้ตัวอักษรสีเข้มบนพื้นสีอ่อน การวางข้อมูลต้องคานึงถึงลาดับการอ่านให้ถูกต้อง และ (4) ภาพสินค้า และตราสัญลักษณ์ภาพสินค้าอาจนามาเป็นภาพประกอบในหน้าแรกของแผ่น พับได้ หากภาพสินค้าไม่ใช่ภาพหลักควรมีภาพสินค้าอยู่ในแผ่นพับด้วยตราสัญลักษณ์ควรอยู่ที่ ด้านหน้าแผ่นพับรวม กับพาดหัวหรือภาพประกอบหลัก ควรมีตราสัญลักษณ์ในตอนท้ายของแผ่นพับด้วย เพ่อื เป็นการยา้ เตือนถึงสนิ ค้า 1.3 ขน้ั ตอนการทาแผ่นพับด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ขั้นตอนการทาแผ่นพับด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์มี 3 ขั้นตอน คือ (1) เข้า โปรแกรม Microsoft Office Word เลือกไปที่เค้าโครงหน้ากระดาษ ปรับแนวกระดาษเป็น แนวนอน โดยคลิกท่ีคาสั่งการวางแนวกระดาษ เสร็จแล้วคลิกคาสั่งคอลัมน์เลือกไปที่ 3 คอลัมน์ (2) เตรียมเน้ือหาและรูปของเนื้อหาให้เรียบร้อย แล้วนามาใส่ในหน้ากระดาษท่ีเราแบ่งคอลัมน์ไว้แล้ว โดยเรียงเนื้อหา ตามหน้ากระดาษแรกและหน้ากระดาษที่สอง และ (3) แทรกรูปภาพต่าง ๆ หรือตารางในแผ่นพับให้เราคลิกที่คาส่ังแทรกแล้วจะมีคาส่ังให้เลือกแทรกรูปลงได้
148 2. การสืบสานและอนรุ ักษ์วดั สวยงาม คูน่ ามบางใหญ่ ด้วยการทาคลปิ วดี ิทัศน์ (Video) เผยแพร่ 2.1 ความหมายคลปิ วดี ิทศั น์ (Video) ตอ้ งการนามาแสดง เชน่ มีความขบขัน หรืออาจเป็นเรื่องความลับที่ต้องการคลิป วีดิทัศน์ (Video) คือ ไฟล์คอมพิวเตอร์ท่ีบรรจุเน้ือหาเป็นภาพยนตร์แบบสั้น ๆ มักจะตัดต่อมาจาก ภาพยนตร์ท้ังเร่ือง ซ่ึงมีขนาดความยาวปกติ คลิปมักจะเป็นส่วนที่สาคัญ หรือนามาเผยแพร่จาก ต้นฉบับเดิม เป็นต้น แหล่งของคลิปวีดิทัศน์ (Video) ได้แก่ ข่าว มิวสิค วิดีโอ รายการโทรทัศน์ หรือ ภาพยนตร์โดยคลิปวีดิทัศน์ (Video) จะเป็นไฟล์ที่มีรูปแบบการบีบอัดข้อมูลที่แตกต่างกันไปตาม โปรแกรมท่ีผู้ผลิตสร้างข้ึนมา ปัจจุบันมีการใช้คลิปวีดิทัศน์ (Video) อย่างแพร่หลาย เน่ืองจากไฟล์ คลิปนี้มีขนาดเล็ก สามารถส่งผ่านอีเมล์ หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ได้สะดวก ในประเทศตะวันตก เรยี กการแพรห่ ลายของคลิปวดี ทิ ัศน์ (Video) นวี้ ่า วฒั นธรรมคลปิ (Clip Culture) กกกกกก ก2.2 องค์ประกอบคลปิ วีดทิ ศั น์ (Video) องค์ประกอบของคลิปวดี ีทศั น์ (Video) ประกอบดว้ ย 5 องคป์ ระกอบ คอื (1) ข้อความหรือตัวอักษร (Text) ข้อความหรือตัวอักษรถือว่าเป็นองค์ประกอบพ้ืนฐานท่ีสาคัญของ มัลติมีเดีย (2) ภาพน่ิง (Still Image) ภาพน่ิงเป็นภาพท่ีไม่มีการเคลื่อนไหว เช่น ภาพถ่าย ภาพวาด และภาพลายเสน้ (3) ภาพเคลื่อนไหว (Animation) หมายถึง ภาพกราฟิกทมี่ ีการเคลือ่ นไหวเพ่ือ แสดงข้ันตอนหรือปรากฏการณ์ตา่ ง ๆ ทเี่ กิดขึ้นอยา่ งตอ่ เนื่อง (4) เสียง (Sound) เสียงจะถูกจัดเก็บอยู่ ในรูปของสัญญาณดิจิตอล ซ่ึงสามารถเล่นซ้ากลับไป กลับมาได้ และ (5) วีดิโอ (Video) วีดิโอเป็น องค์ประกอบของมัลติมีเดียที่มีความสาคัญ โดยสามารถนาเสนอข้อความหรือรูปภาพ (ภาพนิ่งหรือ ภาพเคลือ่ นไหว) ประกอบกับเสียงได้สมบรู ณม์ ากกว่าองคป์ ระกอบชนดิ อื่น ๆ กกกกกกก 2.3 ขนั้ ตอนการทาคลิปวดี ทิ ศั น์ (Video) การทาคลิปวีดทิ ัศน์ (Video) ด้วยสมาร์ทโฟน (Smart Phone) โดยใชร้ ะบบ แอปพลิเคช่ัน ViVa Vidao ซึ่งสามารถใช้ได้กับโทรศัพท์ทั้ง 2 ระบบ คือ (1) ระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ (Android) และ (2) ระบบปฏิบัติการไอโอเอส (IOS) โดยมีขั้นตอนการตัดต่อคลิปวีดิทัศน์ (Video) อย่างง่าย มี 7 ขั้นตอน ดังน้ี (1) เปิดหน้าจอโทรศัพท์ (2) เลือกโปรแกรมดาว์โหลดแอปพิเคช่ัน พิมพ์ คาว่า ViVa Video แล้วกด ดาวน์โหลดติดตั้งโปรแกรม ViVa Video (3) กดเข้าโปรแกรม ViVa Video กดเลือกปุ่มตัดต่อวิดีโอ((4) กดเลือกไฟล์วิดีโอ ที่ต้องการตัดต่อ หน้าจอที่ตัดต่อคลิปวิดีโอจะ แสดงดา้ นล่างของหน้าจอ (5) ถ้าต้องการเพ่ิมไฟล์วิดีโอท่ี 2 ให้เลือกปุ่มเพ่ิม (6) ถ้าต้องการตัดวิดีโอที่ ให้เลือกปุ่มตัดไฟล์วิดีโอได้ตามต้องการ (7) เมื่อตัดต่อไฟล์วิดีโอได้ตามคามต้องการ ให้กดปุ่ม play video
149 ตัวช้ีวดั 1. สามารถจดั ทาแผ่นพับ คลปิ วดี ทิ ัศน์ (Video) เผยแพร่ เพอ่ื การสืบสานและการอนุรักษ์ วดั สวยงาม คู่นามบางใหญ่ 2. ตระหนกั เหน็ คณุ คา่ ของการสืบสานและการอนุรกั ษว์ ัดสวยงาม คูน่ ามบางใหญ่ 3. เกดิ ความภาคภมู ิใจที่ได้อาศัยอยู่ และหรือประกอบอาชีพอยู่ในอาเภอบางใหญ่ จังหวัด นนทบรุ ี ขอบข่ายเนื้อหา 1. การสืบสานและอนุรักษ์ วัดสวยงาม คูน่ ามบางใหญ่ ด้วยการทาแผ่นพับ เผยแพร่ 2. การสืบสานและอนรุ ักษ์ วดั สวยงาม คู่นามบางใหญ่ ด้วยการทาคลิปวดี ทิ ัศน์ (Video) เน้อื หา 1. การสบื สานและอนุรกั ษ์ วัดสวยงาม คนู่ ามบางใหญ่ ดว้ ยการทาแผน่ พบั เผยแพร่ 1.1 ความหมายของแผน่ พบั แผ่นพับ หมายถึง กระดาษที่มีลักษณะคล้ายใบปลิว แต่ว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่า (เมอ่ื คล่ีออกมา) เน่อื งจากถูกออกแบบให้บรรจุรายละเอียด ได้มากกว่าใบปลิว มีลักษณะเป็นใบติดกัน พับทบกันไปมาพับได้มากกว่าหนึ่งคร้ังข้ึนไป มีขั้นตอนท่ีซับซ้อนกว่าใบปลิว วิธีการพับมี 2 แบบ คือ (1) พับทบกันไปมาเท่ากันทุกด้าน (2) พับไม่เท่ากันทุกด้าน ปัจจุบันมีการออกแบบให้มีรูปแบบ มากมาย ขน้ึ อยู่กบั ผูอ้ อกแบบและเจา้ ของสินคา้ วธิ กี ารจดั แจกเปน็ เชน่ เดยี วกบั ใบปลิว แผน่ พับ หมายถึง แผ่นกระดาษทีใ่ ชพ้ มิ พภ์ าพ ข้อความ และองค์ประกอบอื่นเพ่ือ ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร ในการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การศึกษา การรณรงค์ และ ในกิจการเฉพาะกิจอื่น ๆ รูปแบบของแผ่นพับนิยมทาเป็นลักษณะท่ีสามารถใช้กระดาษมาตรฐานใน การจัดทาโดยอาจพมิ พส์ เี ดยี วหรือสอดสีก็ได้ แล้วแตค่ วามประสงค์ของผ้จู ดั ทา แผ่นพับ หมายถึง สื่อส่ิงพิมพ์ท่ีสามารถเผยแพร่ถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงชนิด หน่ึง การนาไปใช้งานน้ันอาจทาได้หลายวิธีโดยส่งทางไปรษณีย์ให้ผู้อ่านที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มท่ีสนใจ สนิ คา้ หรือบรกิ ารน้ัน ๆ หรือนาไปใสไ่ วใ้ นกล่องท่ีจัดทาข้ึนเป็นพิเศษ ซ่ึงจะไปตั้งตามสถานท่ีสาธารณะ เช่น ศูนย์การค้า เพ่ือให้ผู้ท่ีสนใจหยิบไปเอง (Take - Onebox) นอกจากนี้ยังสามารถไปยืนแจกตาม สถานท่ีต่าง ๆ การผลิตรูปแบบของแผ่นพับจะเป็นกระดาษแผ่นเดียวพิมพ์ทั้ง 2 ด้าน แล้วพับอย่าง นอ้ ย 1 พับ รปู แบบที่นยิ มทีส่ ุด คือ เป็นกระดาษขนาด A4 แลว้ พับ 2 คร้ัง
150 กล่าวโดยสรปุ ความหมายของแผ่นพับ คือ แผ่นกระดาษที่ใช้พิมพ์ภาพ ข้อความ และองค์ประกอบอน่ื เพื่อใช้ในการเผยแพรข่ ้อมลู ข่าวสาร ในการโฆษณา มลี กั ษณะเป็นใบ แล้วพับทบ ไปมา พับได้มากกว่าหนึง่ คร้งั ข้ึนไป มขี น้ั ตอนทซ่ี บั ซอ้ นกวา่ ใบปลวิ วธิ ีการพับมีหลายแบบ เช่น พับทบ กันไปมาเท่ากันทุกด้าน พบั ไม่เท่ากันทุกด้าน รูปแบบของแผ่นพับจะเป็นกระดาษแผ่นเดียวพิมพ์ทั้ง 2 ด้าน แลว้ พับอยา่ งนอ้ ย 1 พับ รูปแบบท่ีนยิ มท่ีสุด คือ เปน็ กระดาษขนาด A4 แล้วพบั 2 ครั้ง 1.2 องค์ประกอบของแผน่ พบั แผ่นพับประกอบด้วย (1) พาดหัว (2) ภาพประกอบ (3) ข้อความและ (4) ภาพ สนิ คา้ และตราสัญลกั ษณ์ แผน่ พับประกอบดว้ ย (1) รปู ภาพ (2) พาดหัว (3) พาดหัวรอง (4 ) ข้อความบอก รายละเอียด (5) ขอ้ ความพสิ จู นก์ ลา่ วอ้าง (6) ขอ้ ความปดิ ท้าย และ (7) ผูพ้ ิมพ์และโฆษณา แผ่นพบั ประกอบด้วย 4 องคป์ ระกอบ ได้แก่ องค์ประกอบท่ี 1 พาดหวั มักเป็นตวั อกั ษรทใ่ี หญห่ รอื อยใู่ นตาแหน่งท่เี ด่นอยู่ ดา้ นหนา้ ของแผน่ พบั และนิยมวางไวใ้ นส่วนบนของหน้าแผ่นพับเป็นข้อความสน้ั ๆ เข้าใจงา่ ย องคป์ ระกอบท่ี 2 ภาพประกอบ มกั วางอยหู่ น้าเดยี วกับพาดหัว (แต่ไม่จาเป็นต้อง มคี ูก่ นั เสมอ) เปน็ ภาพท่จี ะช่วยดึงความสนใจของผู้อา่ น องค์ประกอบที่ 3 ข้อความ เนื่องจากพ้ืนท่ีมีจากัดข้อความเน้ือหามักมีขนาดเล็ก ควรใชต้ ัวอักษรสีเข้มบนพน้ื สีออ่ น ดีกว่าตัวอกั ษรสีออ่ นบนพน้ื เขม้ ควรใชแ้ บบอักษรเพียง 1–2 แบบ การวางข้อมลู ต้องคานงึ ถึงลาดับการอา่ นให้ถกู ต้อง องค์ประกอบที่ 4 ภาพสินค้าและตราสัญลักษณ์ ภาพสินค้าอาจนามาเป็น ภาพประกอบในหน้าแรกของแผน่ พับได้ หากภาพสินค้าไม่ใช่ภาพหลัก ควรมีภาพสินค้าอยู่ในแผ่นพับ ด้วย ตราสัญลักษณ์ควรอยู่ท่ีด้านหน้าแผ่นพับรวมกับพาดหัว ควรมีตราสัญลักษณ์ในตอนท้าย เพ่ือเป็นการย้าเตือนถงึ สินคา้ กล่าวโดยสรุป แผ่นพับประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ คือ (1) พาดหัวมักเป็น ตัวอักษรที่ใหญ่หรืออยู่ในตาแหน่งที่เด่นอยู่ด้านหน้าของแผ่นพับและนิยมวางไว้ในส่วนบนของหน้า แผ่นพับเป็นข้อความสั้น ๆ เข้าใจง่าย (2) ภาพประกอบมักวางอยู่หน้าเดียวกับพาดหัว (แต่ไม่ จาเป็นต้องมีคู่กันเสมอ) เป็นภาพท่ีจะช่วยดึงความสนใจของผู้อ่านตามข้อความอาจมีภาพประกอบ เล็ก ๆ เพื่อใชป้ ระกอบเนือ้ หา (3) ข้อความ เนอื่ งจากพืน้ ทีม่ จี ากดั ข้อความเนื้อหาจึงมักมีขนาดเล็ก แต่ ไม่ควรเลก็ กวา่ 12 พอยต์ ควรใชต้ ัวอกั ษรสีเขม้ บนพ้ืนสีอ่อน การวางข้อมูลต้องคานึงถึงลาดับการอ่าน ให้ถูกต้อง และ (4) ภาพสินค้าและตราสัญลักษณ์ ภาพสินค้าอาจนามาเป็นภาพประกอบในหน้าแรก ของแผน่ พบั ได้ หากภาพสินค้าไมใ่ ช่ภาพหลกั ควรมีภาพสินค้าอยใู่ นแผน่ พับด้วย ตราสัญลักษณ์ควรอยู่
151 ทด่ี า้ นหนา้ แผ่นพับรวมกบั พาดหัวหรอื ภาพประกอบหลกั ควรมีตราสัญลักษณ์ในตอนท้ายของแผ่นพับ ด้วยเพอื่ เป็นการยา้ เตอื นถงึ สินคา้ 1.3 ขัน้ ตอนการทาแผ่นพับดว้ ยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ขนั้ ตอนที่ 1 เขา้ โปรแกรม Microsoft Office Word เลอื กไปท่ีเค้าโครงหนา้ กระดาษปรับแนว กระดาษเป็นแนวนอน โดยคลิกท่ีคาส่ังการวางแนวกระดาษ เสร็จแล้ว คลิกคาสั่งคอลัมน์เลือกไปที่ 3 คอลมั น์ ตามรูป
152 ข้นั ตอนท่ี 2 เตรียมเน้ือหาและรูปของเน้ือหาให้เรียบร้อย แล้วนามาใส่ในหน้ากระดาษท่ีเรา แบ่งคอลัมน์ไว้แล้ว โดยเรยี งเนอื้ ตามหนา้ กระดาษแรก และหนา้ กระดาษที่ 2
153 ข้นั ตอนท่ี 3 แทรกรูปภาพและข้อวามตา่ ง ๆ หรอื ตารางในแผ่นพับให้เราคลิกที่คาส่ังแทรกแล้ว จะมคี าส่งั ให้เลอื กแทรกรปู ลงในคอลมั น์ ตามภาพ กลา่ วโดยสรุป ขัน้ ตอนการทาแผน่ พบั ดว้ ยโปรแกรมคอมพิวเตอร์มี 3 ขั้นตอน คือ (1) เข้าโปรแกรม Microsoft Office Word เลือกไปที่เค้าโครงหน้ากระดาษปรับแนวกระดาษเป็น แนวนอน โดยคลิกที่คาส่ังการวางแนวกระดาษเสร็จแล้วคลิกคาส่ังคอลัมน์เลือกไปท่ี 3 คอลัมน์ (2) เตรียมเนือ้ หาและรูปของเนือ้ หาใหเ้ รียบร้อย แลว้ นามาใสใ่ นหนา้ กระดาษท่ีเราแบ่งคอลัมน์ไว้แล้ว โดย เรียงเนื้อตามหน้ากระดาษแรกและหน้ากระดาษท่ีสอง และ (3) แทรกรูปภาพต่าง ๆ หรือตารางใน แผ่นพบั ให้เราคลกิ ทคี่ าสัง่ แทรกแลว้ จะมีคาสง่ั ใหเ้ ลือกรปู สามารถลงได้
154 2. การสืบสานและการอนุรักษ์ วัดสวยงาม คู่นามบางใหญ่ ด้วยการทาคลิปวีดิทัศน์ (Video) เผยแพร่ 2.1 ความหมายของคลิปวดี ทิ ัศน์ (Video) คลิปวีดิทัศน์ (Video) หมายถึง ไฟล์คอมพิวเตอร์ที่บรรจุเน้ือหาเป็นภาพยนตร์ แบบสั้น ๆ มักจะตัดตอนมาจากภาพยนตร์ท้ังเร่ือง ซึ่งมีขนาดความยาวปกติ คลิปเป็นส่วนที่สาคัญ หรือต้องการนามาแสดง เช่น มีความขบขัน หรืออาจเป็นเรื่องความลับที่ต้องการนามาเผยแพร่จาก ตน้ ฉบบั แหล่งของวดิ โี อคลิป ได้แก่ ข่าว มวิ สคิ วดิ ีโอ รายการโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ ปัจจุบันมีการใช้ วีดิโอคลิปแพร่หลาย เน่ืองจากไฟล์คลิปนี้มีขนาดเล็ก สามารถส่งผ่านอีเมล์ หรือดาวน์โหลดจาก เว็บไซต์ได้สะดวก ในประเทศตะวันตกเรียกการแพร่หลายของคลิปวิดีโอน้ีว่า วัฒนธรรมคลิปวิดีโอ (Clip Culture) คลิปวีดิทัศน์ (Video) หมายถึง ไฟล์ภาพยนต์ท่ีถูกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ หรือ อาจจะเป็นไฟล์ภาพยนต์ทีม่ รี ะยะเวลาในการเล่นไมน่ านมากนัก โดยคลปิ วดี ิทัศน์ (Video) จะเป็นไฟล์ ทีม่ ีรูปแบบการบบี อดั ขอ้ มูลทีแ่ ตกต่างกนั ไปตามโปรแกรมที่ผูผ้ ลิตสรา้ งขน้ึ มา กล่าวโดยสรุป คลิปวีดิทัศน์ (Video) คือ ไฟล์คอมพิวเตอร์ท่ีบรรจุเน้ือหาเป็น ภาพยนตร์แบบสั้น ๆ มักจะตัดต่อมาจากภาพยนตร์ทั้งเรื่อง ซ่ึงมีขนาดความยาวปกติ คลิปมักจะเป็น ส่วนที่สาคัญ หรือต้องการนามาแสดง เช่น มีความขบขัน หรืออาจเป็นเร่ืองความลับท่ีต้องการนามา เผยแพร่จากต้นฉบับเดิม เป็นต้น แหล่งของคลิปวีดิทัศน์ (Video) ได้แก่ ข่าว มิวสิค วิดีโอ รายการ โทรทัศน์ หรอื ภาพยนตร์ โดยคลิปวีดิทัศน์ (Video) จะเป็นไฟล์ที่มีรูปแบบการบีบอัดข้อมูลท่ีแตกต่าง กันไป ตามโปรแกรมที่ผู้ผลิตสร้างขึ้นมา ปัจจุบันมีการใช้คลิปวีดิทัศน์ (Video) อย่างแพร่หลาย เน่ืองจากไฟล์คลิปนี้มีขนาดเล็ก สามารถส่งผ่านอีเมล์ หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ได้สะดวก ใน ประเทศตะวันตกเรียกการแพรห่ ลายของคลปิ วีดิทัศน์ (Video) น้วี ่า วัฒนธรรมคลิป (Clip Culture) 2.2 องคป์ ระกอบของคลปิ วีดทิ ัศน์ (Video) คลิปวีดิทัศน์ (Video) ประกอบด้วย (1) ข้อความหรือตัวอักษร (2) ภาพนิ่ง (3) ภาพเคลื่อนไหว (4) เสยี ง และ (5) ภาพวิดีโอ คลิปวีดิทัศน์ (Video) มีองค์ประกอบ 5ประเภท ได้แก่ ข้อความหรือตัวอักษร (Text) ภาพนิง่ (Still / Image) ภาพเคลือ่ นไหว (Animation) เสียง (Sound) และภาพวีดิโอ (Video) แล้วนามาผสมผสานเข้าด้วยกัน เพ่ือใช้สาหรับการปฏิสัมพันธ์หรือโต้ตอบ (Interaction) ระหว่าง คอมพวิ เตอร์กับผใู้ ช้ ซ่ึงถือได้ว่าเป็นกจิ กรรมที่ผู้ใช้ สามารถเลือกกระทาต่อมลั ติมเี ดียได้ตามต้องการ
155 องค์ประกอบของคลปิ วีดิทัศน์ (Video) ประกอบด้วย องค์ประกอบท่ี 1 ขอ้ ความหรือตัวอักษร (Text) ขอ้ ความหรอื ตัวอกั ษรถอื ว่าเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สาคัญของมัลติมีเดีย ระบบ มัลติมีเดียท่ีนาเสนอผ่านจอภาพของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ นอกจากจะมีรูปแบบและสีของตัวอักษรให้ เลือกมากมายตามความต้องการแล้วยังสามารถกาหนดลักษณะของการปฏิสัมพันธ์(โต้ตอบ) ใน ระหวา่ งการนาเสนอได้อกี ด้วย องค์ประกอบท่ี 2 ภาพน่ิง (Still Image) ภาพน่ิงเปน็ ภาพทไี่ ม่มีการเคล่ือนไหว เช่น ภาพถ่าย ภาพวาด และ ภาพลายเส้น เป็นต้น ภาพน่ิงนับว่ามีบทบาทต่อระบบงานมัลติมีเดียมากกว่าข้อความหรือตัวอักษร ท้ังนี้ เนื่องจาก ภาพจะให้ผลในเชิงการเรียนรู้หรือรับรู้ด้วยการมองเห็นได้ดีกว่า นอกจากน้ียังสามารถถ่ายทอด ความหมายได้ลึกซ้ึงมากกว่าข้อความ หรือตัวอักษรนั่นเอง ซ่ึงข้อความหรือตัวอักษรจะมีข้อจากัด ทางด้านความแตกต่างของแต่ละภาษา แต่ภาพนั้นสามารถสื่อความหมายได้กับทุกชนชาติ ภาพน่ิง มักจะแสดงอยบู่ นสอื่ ชนิดต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์ หนงั สอื พมิ พ์ หรือวารสารวชิ าการ เป็นต้น องคป์ ระกอบท่ี 3 ภาพเคลอ่ื นไหว (Animation) ภาพเคล่ือนไหว หมายถึง ภาพกราฟฟิกท่ีมีการเคล่ือนไหวเพื่อแสดงข้ันตอนหรือ ปรากฏการณต์ า่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ข้ึนอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เช่น การเคลอื่ นที่ของอะตอมในโมเลกุล หรือการเคล่ือนท่ี ของลูกสูบของเครื่องยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อสร้างสรรค์จินตนาการให้เกิดแรงจูงใจจากผู้ชม การผลิต ภาพเคลื่อนไหวจะต้องใช้โปรแกรมท่ีมีคุณสมบัติเฉพาะทาง ซึ่งอาจมีปัญหาเกิดข้ึนอยู่บ้างเก่ียวกับ ขนาดของไฟล์ท่ตี อ้ งใชพ้ นื้ ท่ใี นการจดั เก็บมากกวา่ ภาพนิ่งหลายเท่านั่นเอง องคป์ ระกอบท่ี 4 เสยี ง (Sound) เสียงเป็นองค์ประกอบหน่ึงที่สาคัญของมัลติมีเดีย โดยจะถูกจัดเก็บอยู่ในรูปของ สัญญาณดิจิตอล ซึ่งสามารถเล่นซ้ากลับไป กลับมาได้ โดยใช้โปรแกรมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ สาหรับทางานด้านเสียง หากในงานมัลติมีเดียมีการใช้เสียงที่เร้าใจ และสอดคล้องกับเนื้อหาในการ นาเสนอจะช่วยให้ระบบมัลติมีเดียนั้นเกิดความสมบูรณ์แบบมากย่ิงข้ึน นอกจากน้ียังช่วยสร้างความ น่าสนใจและน่าติดตามในเรื่องราวต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ท้ังนี้ เนื่องจากเสียงมีอิทธิพลต่อผู้ใช้มากกว่า ข้อความหรือภาพนิ่งนั่นเอง ดังนั้น เสียงจึงเป็นองค์ประกอบท่ีจาเป็นสาหรับมัลติมีเดียซ่ึงสามารถ นาเขา้ เสียงผ่านทางไมโครโฟน แผ่นซีดี ดวี ีดี เทป และวิทยุ เป็นตน้ องคป์ ระกอบที่ 5 วีดิโอ (Video) วีดิโอเป็นองค์ประกอบของมัลติมีเดียท่ีมีความสาคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ภาพวีดิโอในระบบดิจิตอล สามารถนาเสนอข้อความหรือรูปภาพ (ภาพน่ิงหรือภาพเคล่ือนไหว) ประกอบกับเสียงได้สมบูรณ์มากกว่าองค์ประกอบชนิดอ่ืน ๆ อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักของการใช้
156 วิดีโอในระบบมัลติมีเดียก็ คือ การส้ินเปลืองทรัพยากรของพื้นท่ีบนหน่วยความจาเป็นจานวนมาก เน่ืองจากการนาเสนอวิดีโอขณะเวลาที่เกิดขึ้นจริง (Real - Time) จะต้องประกอบด้วยภาพไม่ต่ากว่า 30 ภาพต่อวินาที (Frame Second) และ ถ้าหากการประมวลผลภาพดังกล่าวไม่ได้ผ่านกระบวนการ บีบอัดขนาดของสัญญาณมาก่อน การนาเสนอภาพเพียง 1 นาที อาจต้องใช้หน่วยความจามากกว่า 100 MB ซ่ึงจะทาให้ไฟล์มีขนาดใหญ่เกินขนาด และมีประสิทธิภาพในการทางานที่ด้อยลง ซ่ึงเม่ือมี การพฒั นาเทคโนโลยีทีส่ ามารถบีบอัดขนาดของภาพอย่างต่อเนื่อง จนทาให้ภาพวิดีโอสามารถทางาน ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพมากยิ่งขึ้นและกลายเปน็ ส่อื ทม่ี ีบทบาทสาคญั ตอ่ ระบบมัลติมีเดีย (Multimedia System) กกกกกกกกกกกกกกกล่าวโดยสรุป องค์ประกอบของคลิปวีดีทัศน์ (Video) ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ (1) ข้อความหรือตัวอักษร (Text) ข้อความหรือตัวอักษรถือว่าเป็นองค์ประกอบ พื้นฐานที่สาคัญของมัลติมีเดีย (2) ภาพน่ิง (Still Image) ภาพน่ิงเป็นภาพท่ีไม่มีการเคล่ือนไหว เช่น ภาพถ่าย ภาพวาด และภาพลายเส้น (3) ภาพเคลื่อนไหว (Animation) หมายถึง ภาพกราฟิกท่ีมีการ เคลือ่ นไหวเพื่อแสดงขั้นตอนหรือปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเน่ือง (4) เสียง (Sound) เสียง จะถูกจัดเก็บอยู่ในรูปของสัญญาณดิจิตอล ซึ่งสามารถเล่นซ้ากลับไป กลับมาได้ และ (5) วีดิโอ (Video) วีดิโอเป็นองค์ประกอบของมัลติมีเดียที่มีความสาคัญ โดยสามารถนาเสนอข้อความหรือ รูปภาพ (ภาพนิ่งหรอื ภาพเคล่ือนไหว) ประกอบกับเสียงไดส้ มบูรณม์ ากกว่าองค์ประกอบชนดิ อืน่ ๆ
157 กกกกกกก2.3 ข้นั ตอนการทาคลิปวดี ทิ ศั น์ (Video) การทาคลปิ วดี ทิ ศั น์ (Video) ด้วยสมาร์ทโฟน (Smart Phone) โดยใชร้ ะบบ แอปพลิเคชน่ั ViVa Video ซ่ึงสามารถใชไ้ ด้กับโทรศัพท์ท้ัง 2 ระบบ คอื (1) ระบบปฏบิ ัตกิ ารแอน ดรอยด์ (Android) และ (2) ระบบปฏิบตั กิ ารไอเอสโอ (ISO) ซึ่งมขี นั้ ตอนการปฏบิ ัติ ดงั นี้ กกกกกก กขนั้ ตอนที่ 1 เปดิ หน้าจอโทรศัพท์
158 กกกกกกกขัน้ ตอนที่ 2 เลอื กโปรแกรมดาวโ์ หลดแอปพลิเคชั่น โดยพมิ พค์ าวา่ ViVa Video แลว้ กด ดาวนโ์ หลดติดตัง้ โปรแกรม ViVa Video
159 กกกกกกกขน้ั ตอนที่ 3 กดเขา้ โปรแกรม ViVa Video กดเลือกปุ่มตัดต่อวดิ โี อ กกกกกกก
160 กกกกกกกข้ันตอนที่ 4 กดเลือกไฟล์วิดีโอ ทต่ี ้องการตัดต่อ หน้าจอที่ตัดต่อคลปิ วิดโี อจะแสดงดา้ นล่าง ของหนา้ จอ
161 กกกกกกกขน้ั ตอนท่ี 5 ถ้าต้องการเพม่ิ ไฟล์วดี โิ อท่ี 2 ให้เลอื กปมุ่ เพิม่
162 กกกกกกกขน้ั ตอนท่ี 6 ถ้าต้องการตดั วดิ โี อท่ีใหเ้ ลอื กปุม่ ตดั ไฟลว์ ิดีโอ ได้ตามต้องการ
163 กกกกกกกขัน้ ตอนท่ี 7 เมื่อตัดตอ่ ไฟลว์ ดิ ีโอได้ตามต้องการ ให้กดปมุ่ play video
164 กกกกกกกกกล่าวโดยสรุป การทาคลิปวีดิทัศน์ (Video) ด้วยสมาร์ทโฟน (Smart Phone) โดยใช้ ระบบแอปพลิเคช่ัน ViVa Vidao ซ่ึงสามารถใช้ได้กบโทรศัพท์ทั้ง 2 ระบบ คือ (1) ระบบปฏิบัติการ แอนดรอย์ (Android) และ (2) ระบบปฏิบัติการไอโอเอส (IOS) โดยมีข้ันตอนการตัดต่อวีดิโออย่าง ง่าย มี 7 ข้ันตอน ดังน้ี (1) เปิดหน้าจอโทรศัพท์ (2) เลือกโปรแกรมดาว์โหลดแอปพลิเคช่ัน พิมพ์ คาว่า ViVa Video แล้วกด ดาวน์โหลดติดตั้งโปรแกรม ViVa Video (3) กดเข้าโปรแกรม ViVa Video กดเลอื กปมุ่ ตดั ตอ่ วดิ โี อ (4) กดเลือกไฟล์วดิ โี อ ท่ตี อ้ งการตดั ต่อ หน้าจอที่ตัดต่อคลิปวิดีโอจะ แสดงด้านล่างของหน้าจอ (5) ถ้าต้องการเพิ่มไฟล์วิดีโอท่ี 2 ให้เลือกปุ่มเพ่ิม (6) ถ้าต้องการตัด วิดีโอที่ ให้เลือกปุ่มตัดไฟล์วิดีโอ ได้ตามต้องการ (7) เม่ือตัดต่อไฟล์วิดีโอได้ตามต้องการ ให้กดปุ่ม play video การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 1. บรรยายสรปุ 2. กาหนดประเด็นศึกษาคน้ คว้าร่วมกนั 3. ศึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเองจากส่ือการเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย 4. บนั ทกึ ผลการศกึ ษาค้นคว้าลงในเอกสารการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) 5. พบกลมุ่ อภิปรายแลกเปล่ียนเรยี นรจู้ ากผลการศึกษาค้นคว้า คดิ วเิ คราะห์ข้อมูลที่ได้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ คิดสังเคราะหส์ รุปผลการเรียนรู้ที่ได้ใหม่ร่วมกนั บันทึกลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วย ตนเอง (กรต.) 6. สรปุ ผลการเรียนรูท้ ไี่ ดไ้ ปทาแบบฝึกหดั และกจิ กรรมตามใบงานท่ีมอบหมาย 7. บนั ทกึ ผลการเรียนรทู้ ไี่ ดจ้ ากการศึกษา และฝกึ ปฏบิ ตั ิ บนั ทกึ ลงในเอกสาร การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง (กรต.) ส่อื และแหลง่ เรียนรู้ กกก 1. ส่ือเอกสาร ไดแ้ ก่ กกกกกกกกd 1.1 ใบความรู้ที่ 8 การสบื สานและการอนรุ ักษ์ วดั สวยงาม คู่นามบางใหญ่ กกกกกกกกd 1.2 ใบงานท่ี 8 การสืบสานและการอนรุ ักษ์ วัดสวยงาม ค่นู ามบางใหญ่ กกกกกกกกd 1.3 หนงั สือเรียน สาระการพัฒนาสงั คม รายวชิ า สค33162 วดั สวยงาม คู่นามบางใหญ่ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
165 กกกกกกก 2. สอ่ื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ได้แก่ กกกกกกกกd 2.1 องคป์ ระกอบของแผ่นพบั สบื ค้นจาก https://cho mchompoonoot.files. wordpress.com กกกกกกกกd 2.2 คลิปวีดิทศั น์ (Video) สืบค้นจาก https://th.wikipedia.org กกกกกก ก3. สื่อบุคคลและภมู ิปัญญา กกกกกกกกd 3.1 ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอบางใหญ่ ตงั้ อยทู่ ี่ 47 หมู่ท่ี 4 กศน.อาเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบุรี หมายเลขโทรศพั ท์ 02-926-5846 กกกกกกกกก 3.2 วัดปรางค์หลวง ต้ังอยูท่ ่ี 32 หมู่ที่ 1 อาเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี หมายเลขโทรศพั ท์ 02-595-1477 3.3 วัดเสาธงหิน ต้ังอยู่ที่ 38 หมู่ท่ี 1 ตาบลเสาธงหิน อาเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี หมายเลขโทรศพั ท์ 02-595-1449 3.4 วัดต้นเชือก ตง้ั อยู่ท่ี 8 หมู่ท่ี 4 ตาบลบ้านใหม่ อาเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 083-544-5726 3.5 วัดท่าบันเทงิ ธรรม ตัง้ อยทู่ ่ี 1 หมทู่ ี่ 1 ตาบลบางใหญ่ อาเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 02-595-1525 3.6 วัดบางโค ตั้งอยู่ที่ 1 หมทู่ ่ี 14 ตาบลบางแมน่ าง อาเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี หมายเลขโทรศพั ท์ 02-595-2145 3.7 วัดยุคันธราวาส ต้งั อยทู่ ี่ 22 หมู่ที่ 7 ตาบลบางเลน อาเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 02-276-2720-1 4. ส่อื แหล่งเรียนรใู้ นชมุ ชน ได้แก่ กกกกกกกกกd4.1 ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอบางใหญ่ ตง้ั อยู่ที่ 47 หมู่ท่ี 4 กศน.อาเภอบางใหญ่ จงั หวดั นนทบรุ ี หมายเลขโทรศัพท์ 02-926-5846 กกกกกกกกกd4.2 วัดปรางค์หลวง วัดเสาธงหิน วัดต้นเชือก วัดท่าบันเทิงธรรม วัดบางโค และ วัดยุคันธราวาส การวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความกา้ วหน้า ดว้ ยวธิ ี ดงั นี้ 1.1 การสังเกต 1.2 การซกั ถาม การตอบคาถาม 1.3 ตรวจเอกสารการเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง (กรต.) 1.4 ตรวจชนิ้ งาน คลิปวดี ิทศั น์ (Video) เผยแพร่
166 1.5 ตรวจชิ้นงาน แผ่นพบั เผยแพร่ 2. ประเมินผลรวม ด้วยวธิ กี ารดังนี้ 2.1 ตอบแบบทดสอบวดั ความรู้ หวั เร่ืองท่ี 8 จานวน 7 ข้อ 2.2 ตอบแบบสอบถามวดั ทกั ษะ 2.3 ตอบแบบสอบถามวดั เจตคติ กกก
บรรณานกุ รม
168 บรรณานุกรม กนก จนั ทรา.//(2561).//การร้เู รื่องภูมศิ าสตร์ ถอดบทเรียนจากประสบการณ์ในช้นั เรียน (Geo- กกกกกกกliteracy ://Learning for our planet).//กรุงเทพฯ/:/จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. กรมการศาสนา.//(2525).//ประวัตวิ ดั ทั่วราชอาณาจกั ร.//กรุงเทพฯ/:/ม.ป.พ. กรมศิลปากร.//(2542).//วัฒนธรรมพัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ เอกลักษณ์ และภมู ิปญั ญา กกกกกกกจงั หวดั นนทบุร.ี //กรุงเทพฯ/://กรมศลิ ปากร. เคน จนั ทรว์ งษ.์ //(2551).//ประวัติศาสตร์.//กรุงเทพฯ/:/ภมู บิ ัณฑิต. ณฏั ฐิรา แพงคุณ.//(ม.ป.ป.).//เทย่ี วใกล้กรุงเทพ นนทบุรี มดี ีนา่ เทย่ี ว.//กรงุ เทพฯ/:/บรษิ ัท วาสนาดอี ารต์ มเี ดีย จากดั . ธธั ชยั ยอดพิชยั .//(2558).//พระประวตั สิ มเดจ็ พระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช กกกกกกกพระองค์ที่ 9 แหง่ กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ วัดราชประดษิ ฐสถิตมหาสีมาราม.//พิมพ์คร้ังที่ 3. กกกกกกกนนทบุรี/:/มตชิ นปากเกรด็ . นศิ าล บุญผกู .//(2561).//นนทบรุ ีศรมี หานคร.//นนทบรุ ี/:/มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. ประภัสสร ชูวิเชยี ร.//(2561).//อยุธยาในยา่ นกรงุ เทพฯศลิ ปกรรมทสี่ ัมพันธ์กบั แม่นา้ ลา้ คลอง. กกกกกกกกรุงเทพฯ/:/มติชน. ประมาณ เทพสงเคราะห.์ //(2561).//การวจิ ัยทางภมู ศิ าสตร.์ //สงขลา/:/มหาวิทยาลัยทกั ษิณ. ประวตั ศิ าสตร์.//(2557).//พิมพค์ ร้งั ท่ี 3.//กรงุ เทพฯ/:/โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว. พจนานุกรมไทย ฉบับทนั สมัยและสมบรู ณ์.//(2552).//กรุงเทพฯ/:/ซเี อด็ ยูเคชัน่ . ราชบัณฑติ ยสถาน.//(2556).//พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2554.//พิมพ์ครั้งที่ 2. กกกกกกกกรงุ เทพฯ/:/ราชบณั ฑิตยสถาน. วงเดอื น/นาราสจั จ์ /และ/ชมพูนุท/นาครี ักษ์.//(2555).//ประวตั ิศาสตร.์ //กรุงเทพฯ/:/บรษิ ทั พฒั นา กกกกกกกคุณภาพวชิ าการ. สถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ.//(2555).//คมู่ อื ครปู ระวตั ิศาสตรช์ ้ันมธั ยมศึกษาปืที่ 3.//กรงุ เทพฯ กกกกกกก:/บริษทั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ. สิรวิ รรณ ศรีพหล.//(2553).//การจดั การเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตรใ์ นสถานศกึ ษา./นนทบรุ ี/: กกกกกกกโครงการส่งเสรมิ การแตง่ ตารา สานักวิชาการ มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช. สปุ ราณี หลักคา.//(2550).//ช่อื บา้ นนามเมือง จังหวัดนนทบรุ .ี //กรุงเทพฯ/:/บรษิ ทั บอลพริ้นติ้ง กกกกกกกจากดั . สานักงานการท่องเทีย่ วและกีฬาจังหวัดนนทบรุ ี.//(ม.ป.ป.).//เที่ยวใกล้กรงุ เทพฯนนทบรุ ีมดี นี ่าเทย่ี ว. กกกกกกกกรุงเทพฯ/:/บริษัท วาสนาดี อารต์ มเี ดียว.
169 สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบการศึกษาตามอธั ยาศยั .//(2552).//หลกั สูตรการศกึ ษานอก กกกกกกกระบบระดับการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551.//กรุงเทพฯ/:/ม.ป.พ. .//(2553).//แนวทางการพฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษาหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั กกกกกกกการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551.//กรงุ เทพฯ/:/บริษทั ไทยพับบลิคเอด็ ดูเคชั่น กกกกกกกจากัด. .//(2555) คู่มือการดา้ เนินงานหลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน กกกกกกกพทุ ธศกั ราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2554).//กรงุ เทพฯ/://รงั สี กกกกกกกการพิมพ์. .//(2555).//หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช กกกกกกก2551 สาระการเรียนร(ู้ ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2554).//กรงุ เทพฯ/:/โรงพมิ พ์องค์การ กกกกกกกสงเคราะห์ทหารผ่านศกึ . ขัน้ ตอนวิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์.//สืบคน้ เมื่อ 4 มีนาคม 2558.//จาก/https :/sites. google. กก กกกกก com โครงการบวชสามเณร ภาคฤดรู อ้ น.// สืบค้นเมอ่ื 4 มนี าคม 2558.//จาก/https ://www. กกกกกกกDhammkaya.net คลปิ วดี ทิ ัศน์.//สบื คน้ เมื่อ 4 มีนาคม 2558.//จาก https://th.wikipedia.org ตกั บาตรเทโว./สืบคน้ เมอื่ 20 เมษายน 2562.//จาก http ://db.sac.or.th บรม บตุ รศริ ิ ครใู หญโ่ รงเรียนวดั ตน้ เชือก เนื่องในงานวางศลิ าฤกษพ์ ระวหิ ารของหลวงพ่อวิหาร. กกกกกกกสืบค้นเม่ือ 14 พฤษภาคม 2562.//จาก http :/non2550.tripod.com ประเพณีตกั บาตรพระร้อยแปด.//สืบค้นเมือ่ 5 พฤศจิกายน 2557.//จาก http :// กกกกกกกtravelnonthaburi.com ประเพณีสา้ คญั วดั ทา่ บันเทิงธรรม.//สืบค้นเมื่อ 10 กมุ ภาพนั ธ์ 2562.//จาก http :/kanchana กกกกกกกpisek.or.th/kp8 /culture ประวัตินายมี หมื่นพรหมสมพัตสร อาจณิ จันทรมั พร/และประพนธ์ เรืองณรงค์.//สบื ค้นเมอ่ื 14 กกกกกกกพฤษภาคม 2562.//จาก http ://www.rimkhobfabooks.com ประวตั วิ ัดท่าบนั เทิงธรรม จ.นนทบุรี.//สบื คน้ เมอื่ 2 กมุ ภาพนั ธ์ 2562.//จาก https ://www. กกกกกกกyoutube.com/watch ปาฏิหารยิ ์น้าทะเลลึก หลวงพอ่ โต วดั เสาธงหิน.//สืบค้นเม่อื 22 เมษายน 2559.//จาก. กกกกกกกhttp ://www.komchadluek.net/news/knowledge พุทธคุณสมพระนาม ”พระนิรันตราย”.//สืบค้นเม่ือ 30 มีนาคม 2562.//จาก http ://www. กกกกกกกkhaosod.co.th
170 พิธวี างหินหลักปกั ธง.//สืบค้นเม่ือ 3 พฤศจิกายน 2561.//จาก http ://nonthaburi.go.th พิพิธภัณฑว์ ดั ตน้ เชอื ก.//สบื ค้นเมือ่ 29 เมษายน 2562.//จาก http :// www.museum กกกกกกกthailand.com พระครกู ติ ติวริ ิยาภรณ.์ /สืบค้นเมื่อ 18 ธนั วาคม 2556. /จาก https ://www.khaosod.co.th พระสุนทรโวหาร.//สืบคน้ เมอื่ 14 พฤษภาคม 2562.//จาก https ://th.wikipedia.org/wiki ภมู ศิ าสตร์.//สบื คน้ เมอื่ 14 พฤษภาคม 2562.//จาก https ://th.wikipedia.org/wiki ภูมิศาสตร์ มมส./: /ภูมศิ าสตร์เปน็ ศาสตร์ทีม่ ีความส้าคัญอย่างไร.//สบื คน้ เมือ่ 18 เมษายน 2554. กกกกกกกจาก/https ://wachirapong1991.blogspot.com วดั ตน้ เชอื ก นนทบรุ ี.//สบื คน้ เมอื่ 29 เมษายน 2562. /จาก http :// www.tourismthailand วัดทา่ บันเทิงธรรม จ.นนทบรุ ี.aสบื ค้นเม่อื 2 กุมภาพนั ธ์ 2562.//จาก http :// กกกกกกกWattabunteongtom 2011. blogspot.com สถานท่สี า้ คญั ต้าบลบ้านใหม่./ สบื คน้ เมื่อ 14 พฤษภาคม 2562./ จาก http://baanmai- non.go.th องค์ประกอบแผน่ พบั .//สืบคน้ เม่อื 14 พฤษภาคม 2562.//จาก https://chomchompoonoot. กกกกกกกfiles.wordpress.com
ภาคผนวก
172 ภาคผนวก ก. ใบความรู้
173 ใบความรทู้ ่ี 1 เร่อื ง ประวัติของตาบล และวัดในตาบลบางมว่ ง วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจเร่ืองประวตั ขิ องตาบลและวัดในตาบลบางมว่ ง 2. เพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการคิดวิเคราะห์เรื่องประวัติของ ตาบลและวดั ในตาบลบางม่วง 3. เพื่อใหผ้ ้เู รยี นมีความตระหนกั เห็นคณุ ค่าของประวัตขิ องตาบลและวัดในตาบลบางม่วง เนอื้ หา 1. ประวัติของตาบลบางม่วง ตาบลบางม่วงในอดีตมีทาเลที่ต้ังอยู่ริมแม่น้าเจ้าพระยา (ปัจจุบันคือคลองอ้อมนนท์ และคลองบางกอกน้อย) จึงเป็นพื้นท่ีหนึ่งในจังหวัดนนทบุรีท่ีมีการตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนมาตั้งแต่สมัย อยุธยาตอนต้น หลักฐานชัดเจนท่ีบ่งชี้ความเป็นปึกแผ่นและความเจริญของชุมชนแถบนี้ต้ังแต่สมัย โบราณอยู่ที่วัดปรางค์หลวง (ปัจจุบันอยู่ในเขตเทศบาลตาบลบ้านบางม่วง) โดยเฉพาะอย่างย่ิง สถาปัตยกรรมองค์พระปรางค์ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ ทอง) เม่อื มกี ารปฏิรูปการบริหารราชการและการปกครองท้องท่ีในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ บริเวณท่ีตั้ง ชุมชนบางม่วงก็มีฐานะเป็นตาบลบางม่วง ตาบลบางเลน และตาบลเสาธงหินตามกฎหมายลักษณะ การปกครองท้องท่ี โดยมีคลองอ้อมนนท์และคลองบางใหญ่เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างตาบลทั้งสาม ต่อมาบริเวณปากคลองบางใหญ่ซ่ึงอยู่ในบริเวณชุมชนนี้เช่นกันได้กลายเป็นท่ีตั้งของท่ีว่าการอาเภอ บางแม่นาง (ซงึ่ เปลี่ยนช่ือเปน็ อาเภอบางใหญ่ในภายหลัง) จึงทาให้มีประชาชนเข้ามาอาศัยอยู่ในพ้ืนท่ี หนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนกระท่ังในวันท่ี 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2499 กระทรวงมหาดไทยจึงได้จัดต้ัง สุขาภบิ าลบางมว่ งขน้ึ ครอบคลุมบริเวณชุมชนบางมว่ ง (บางใหญ่) บริเวณปากคลองบางใหญ่ท้ังสองฝั่ง คลองอ้อมนนท์ เพ่ือประโยชน์ในการทะนุบารุงท้องถ่ินให้เจริญก้าวหน้าและแม้ว่าการย้ายท่ีว่าการ อาเภอบางใหญ่ไปต้ังในสถานทใ่ี หม่ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2532 ทาให้สภาพเศรษฐกิจของชุมชนบางม่วง (บาง ใหญ่เก่า) ซบเซาลง ในวันท่ี 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 ได้มีพระราชบัญญัติยกเลิกการปกครองส่วน ท้องถ่ินรูปแบบสุขาภิบาล และให้ยกฐานะสุขาภิบาลท่ีมีอยู่ท่ัวประเทศในขณะน้ันเป็นเทศบาลตาบล ทั้งหมด เนื่องจากโครงสร้างการปกครองในรูปแบบน้ีไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและ ไม่เหมาะสมที่จะรองรับการกระจายอานาจได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว
174 จึงทาให้สุขาภิบาลบางม่วงได้รับการเปล่ียนแปลงฐานะเป็น เทศบาลตาบลบางม่วง โดยมีผลบังคับใช้ ต้ังแต่วนั ท่ี 25 พฤษภาคม 2542 เปน็ ตน้ มา 2. วดั ในตาบลบางมว่ ง 2.1 วดั อมั พวนั สถานทีต่ งั้ เลขท่ี 1 หมทู่ ี่ 13 ตาบลบางม่วง อาเภอบางใหญ่ จงั หวัดนนทบุรี วัดอัมพวนั สร้างสมัยกรงุ ศรีอยุธยาตอนปลาย เดมิ ช่ือ วัดบางม่วง ต้ังอยู่ริมคลอง แม่น้าอ้อม ซ่ึงเป็นคลองโบราณ หรือเรียกว่าเจ้าพระยาสายเก่า ในสมัยพระเจ้าปราสาททองได้อพยพ ไพร่พล หนีโรคระบาดมาพักไพร่พลและสร้างวัดบางม่วงขึ้น เพราะต้ังอยู่ในตาบลบางม่วง ซ่ึงมีสวน มะม่วงล้อมรอบต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อ \"วัดอัมพวัน\" แปลว่า วัดป่ามะม่วง ส่ิงท่ีน่าสนใจของวัดนี้คือ หอไตรกลางน้า เป็นสถาปัตยกรรมไทยท่ีสมบูรณ์ที่สุด โดยมีลักษณะเป็นเรือนไม้ยกใต้ถุนสูงต้ังอยู่ใน สระน้าขนาดเล็ก ตัวหอเป็น 2 ช้ัน ชั้นล่างโล่งไม่มีพื้นและฝา ผนังชั้นบนเป็นตัวหอขนาด 2 ห้อง ช่วง ล่างเป็นลูกฟักกระดานดุน ตอนบนเป็นซี่ลูกกรงไม้ กลึงเสา กรอบประตูเป็นเสาหัวเม็ด ประตูหูช้าง เคร่ืองลายองเป็นไมจ้ าหลกั หลงั คาซ้อน 2 ชั้น มีปีกนก 1 ช้ัน มุงกระเบื้องดินเผาใต้เชิงชาย และหน้า บันประดับไม้สลักลายรดนา้ ฝาผนังด้านนอกทาสีลูกฟักด้วยสีแดง ขอบขาว ส่วนตัวไม้เคร่ืองบันอ่ืน ๆ ทาสีขาว ตัดเหล่ียมสีแดง เสาลงพ้ืนสีขาวเขียนลายแดง จึงค่อนข้างเห็นได้เด่นชัด หน้าบานประตูเข้า ในหอไตรเปน็ บานไมล้ งรักปดิ ทองลายพุม่ ข้าวบิณฑ์ อกเลาเปน็ ไมจ้ าหลักลายดอกพุดตานลูกฟัก เหนือ ประตูเป็นภาพนกข้างละตวั เหนอื ข้นึ ไปเป็นภาพพระอาทิตย์ พระจันทร์ ในห้องสะกัดท้ายหอไตรเป็น
175 ที่เก็บพานตะลุ่ม และฐานพระพุทธรูปไม้จาหลักเป็นจานวนมาก นอกจากนี้ยังมีมณฑปพระพุทธบาท ภายในมพี ระพุทธบาทจาลองทาดว้ ยโลหะประดษิ ฐานอยบู่ นฐานปูน สาหรับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธ์ิของวัด คือ “พระพุทธมงคลสุโขทัย” ประดิษฐาน เป็นพระประธานในอุโบสถ นอกจากน้ีในกุฏิเจ้าอาวาสมีพระปางเทริดสะดุ้งมาร ซ่ึงมีลักษณะเหมือน ใส่หมวก อยู่ในท่ายืนตรง มีต้นกาเนิดมาจากสมัยอยุธยา วัดอัมพวันยังมีศาลาท่าน้าที่งดงามมากซ่ึง สามารถมานง่ั ชมตวั วัดในบรรยากาศทผี่ ่อนคลายได้ 2.2 วดั คงคา สถานท่ีตั้ง เลขท่ี 38 หมู่ท่ี 3 ตาบลบางม่วง อาเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบรุ ี วัดคงคา สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2370 ไม่ปรากฏหลักฐานที่สร้างวัด ชาวบ้านเรียกว่า วัดโคก เน่ืองจากภายในบริเวณวัดบางแห่งเป็นท่ีเนินสูงแต่ท่ีได้นามว่า วัดคงคา เน่ืองจากอยรู่ มิ คลองลดั และคลองบางใหญ่ เม่ือครั้งสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราชทรงรวบรวมไพร่พล หนมี ายงั กรุงธนบุรี พมา่ ได้ยกทัพตามมาพกั ท่ีวดั นเี้ พื่อปราบปราม สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรง พระสุบินนมิ ิตวา่ หลวงพอ่ ศิลาแดง พระประธานในพระอุโบสถ มาเตือนให้ ระวังพระองค์ เมื่อทรงต่ืน จากบรรทม จงึ วางแผนนาทหารไทยเข้าโจมตีทหารพม่าจนแตกพ่ายกลับไป ด้วยเหตุน้ีเองชาวบ้านจึง นบั ถือหลวงพอ่ ศลิ าแดง วดั คงคากันเรือ่ ยมา
176 2.3 วดั สงั วรพิมลไพบลู ย์ สถานท่ตี ั้ง เลขที่ 2 หมู่ท่ี 12 บ้านคลองบางม่วง ตาบลบางม่วง อาเภอบางใหญ่ จงั หวดั นนทบรุ ี วัดสังวรพิมลไพบูลย์ สร้างข้ึนเมื่อปี พ.ศ. 2404 สร้างข้ึนในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมอ่ื ประมาณ 300 ปี ไม่ปรากฏว่าใครเปน็ ผสู้ รา้ งและบริจาคท่ีดินให้ เดิมช่ือว่า วัดขนุน ชาวบ้านเรียก กนั ว่า วดั ใน และต่อมาเปลี่ยนช่ือใหม่ว่า วัดสังวรพิมลไพบูลย์ เพ่ือให้สอดคล้องกับปากคลองบางม่วง ท่ีมีวัดอัมพวันหรือวัดนอกต้ังอยู่ ในสมัยพระครูนนทวุฒาจารย์ (อดีตเจ้าอาวาส) โดยสมเด็จพระวัน รัตน์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นผู้เปลี่ยนให้ เพราะบ้านเกิดของท่านอยู่ในคลองบางม่วงและ ในปี พ.ศ. 2500 มีนายเปลี่ยน ซึง่ เปน็ ผู้ใหญ่บา้ น นางปุ่น จันพดั พรอ้ มดว้ ยอุบาสกอบุ าสิกา เป็นกาลัง สาคัญในการก่อสร้างและบูรณะอาคารเสนาสนะต่าง ๆ เร่ือยมา อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อโุ บสถสรา้ งเม่อื ปี พ.ศ. 2493 เป็นอาคารคอนกรตี เสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2549 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทย 2 ชั้น หอสวดมนต์สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2502 เป็นอาคารไม้ กุฏิ สงฆ์เป็นอาคารคร่ึงตึกคร่ึงไม้ ศาลาอเนกประสงค์สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2542 เป็นอาคารคอนกรีตเสริม เหล็ก ศาลาบาเพ็ญกุศลเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนปูชนียวัตถุ มีพระประธานประจาอุโบสถ ปางมารวิชัย สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2503 พระประธานประจาศาลาการเปรียญปางมารวิชัย สร้างเม่ือ ปี พ.ศ. 2542 พระนอน เจดีย์และรูปหล่อหลวงปู่เหยียบ (อดตี เจา้ อาวาส)
177 2.4 วัดพกิ ุลเงนิ สถานท่ีตั้ง เลขท่ี 36 หมู่ที่ 2 ตาบลบางม่วง อาเภอบางใหญ่ จงั หวดั นนทบรุ ี วัดพิกุลเงิน ต้ังอยู่ริมคลองแม่น้าอ้อม ในท้องที่ตาบลบางม่วง อาเภอบางใหญ่ วัดพิกุลเงินสร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ปี พ.ศ. 2374 ต่อมาปี พ.ศ. 2421 ชาวจีนคน หนงึ่ ช่ือ ฮะ ซง่ึ เป็นตน้ ตระกลู โฑณวนกิ ไดล้ ่องเรอื ผา่ นมาเหน็ สภาพวัดทรดุ โทรมจึงเกิดความศรัทธา ได้ บรจิ าคทรัพยส์ ่วนตวั สรา้ งพระอโุ บสถขน้ึ วัดแห่งน้ีเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อพุทธโสธรจาลององค์แรกของประเทศไทย พระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หรือปางที่มีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิเพชร พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา มีส่วนสูง 6 ฟตุ 7 นิ้ว พระเพลากว้าง 5 ฟุต 6 นว้ิ แตก่ เ็ ปน็ ท่เี คารพ และสกั การะบชู าของประชาชน
178 2.5 วัดพระเงิน สถานท่ีตงั้ เลขที่ 23 หมู่ท่ี 8 ตาบลบางม่วง อาเภอบางใหญ่ จงั หวดั นนทบรุ ี วัดพระเงิน สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2364 ผู้ริเริ่มสร้าง คือ พระอาจารย์เสือ ภายในวัดมีหอไตรอายปุ ระมาณ 100 ปี เป็นอาคารไม้ ขนาด 2 ห้อง ตั้งบนคานและเสาคอนกรีตเสริม เหล็กซ่ึงปักอยู่ในสระน้า หอไตรมีเฉลียงโดยรอบ หลังคาเป็นชั้นซ้อน 2 ชั้น ประดับเคร่ืองลายอง คือ ส่วนประกอบช่วงบนของป้ันลมปราสาท หรือวิหาร ไม้จาหลักปิดทอง ประดับกระจกหน้าบันเป็นไม้ กระดานเรียบ สภาพปจั จุบนั ไม้ผพุ งั ไปมากพอสมควร 4444 สรปุ 1. ประวัติของตาบลบางม่วงในอดีตมีท่ีต้ังอยู่ริมแม่น้าเจ้าพระยา ปัจจุบันคือคลองอ้อม นนท์และคลองบางกอกน้อย จึงเป็นพ้ืนท่ีหนึ่งในจังหวัดนนทบุรีที่มีการตั้งถ่ินฐานเป็นชุมชนมาต้ังแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น หลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ความเป็นปึกแผ่นและความเจริญของชุมชนแถบนี้ ต้งั แต่สมยั โบราณอย่ทู ี่วดั ปรางค์หลวง ปัจจุบนั อยใู่ นเขตเทศบาลตาบลบางม่วง
179 2. วัดในตาบลบางม่วง อาเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ที่น่าสนใจศึกษาเพิ่มเติม มีอีก จานวน 5 วัด ดังน้ี วัดอัมพวัน ต้ังอยู่หมู่ท่ี 13 วัดสังวรพิมลไพบูลย์ ต้ังอยู่หมู่ที่ 12 วัดคงคา ตั้งอยู่ หมทู่ ่ี 14 วัดพิกลุ เงนิ ต้งั อยู่หมูท่ ่ี 2 และวดั พระเงนิ ต้งั อยู่หมทู่ ่ี 8
179 ใบความรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ประวัตขิ องตาบล และวัดในตาบลเสาธงหิน วตั ถุประสงค์ 1. เพือ่ ให้ผเู้ รียนมีความรคู้ วามเข้าใจเรอ่ื งประวัติของตาบลและวัดในตาบลเสาธงหิน 2. เพื่อให้ผ้เู รยี นมีทกั ษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการคิดวเิ คราะห์เร่ืองประวตั ขิ อง ตาบลและวัดในตาบลเสาธงหิน 3. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมคี วามตระหนกั เห็นคุณค่าของเรื่องประวัติของตาบลและวัดในตาบล เสา ธงหิน เนอื้ หา 1. ประวัตติ าบลเสาธงหนิ ในสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อพระองค์ได้เสด็จกรีธาทัพ เพื่อท่ีจะทา การกอบกู้เอกราชที่กรุงศรีอยุธยา ได้เสด็จนาทัพผ่านวัดสัก เมื่อทอดพระเนตรเห็นต้นสักจานวนมาก เป็นท่รี ่มรน่ื จงึ รับสั่งให้หยุดทัพพัก ณ ที่วัดสักแห่งน้ีเพ่ือพักเอาแรงและรวบรวมกาลังพลจากที่ต่าง ๆ มาร่วมรบไม่ว่าจะเป็นทัพของผู้ใดย่อมมีธงชัยประจาทัพหรือธงประจาตัวของแม่ทัพคนน้ัน ๆ สมเด็จ พระเจ้าตากสินได้มีรับสั่งให้ปักธงประจาทัพของพระองค์ลงบนกองทราย ณ ตาบลนั้น โดยให้หัวหมู่ ทหารนาพลพรรคไปหาหนิ กอ้ นใหญ่ ๆ มากองสุมทบั และล้อมรอบเสาธงไว้มิให้ล้ม เพื่อเป็นเอกลักษณ์ ของทพั และเปน็ สัญลักษณ์จดุ นัดหมายของทหาร แมท่ ัพนายกองและไพร่พลทั้งหลายจึงพากันเรียกจุด นัดหมายนี้ว่า เสาธงหิน และในปี พ.ศ. 2464 ซึ่งเป็นปีท่ีก่ิงอาเภอบางแม่นางได้รับการยกฐานะเป็น อาเภอบางแม่นาง (ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นอาเภอบางใหญ่) กานันคนแรกช่ือ ขุนละออ นิราศพาน ได้ตั้งช่อื วา่ ตาบลเสาธงหิน ในท่สี ดุ ในสภาพปัจจบุ นั เนอ่ื งจากการเจริญเตบิ โตทางด้านเศรษฐกิจ ตาบลเสาธงหิน ซ่ึงอยู่ใน เขตการปกครองของอาเภอบางใหญ่อยู่ติดกับถนนรัตนาธิเบศร์และถนนกาญจนาภิเษก จึงเป็น ศนู ย์กลางของการขยายตัวของชุมชนเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร สภาพพ้ืนที่ส่วนหน่ึงจึงได้ แปรเปลย่ี นเป็นทอ่ี ยู่อาศยั ในรูปแบบของหมูบ่ า้ นจัดสรรหรอื อาคารชุด
180 2. วัดในตาบลเสาธงหิน 2.1 วัดอนิ ทร์ ตัง้ อยเู่ ลขท่ี 48 หมู่ท่ี 2 ตาบลเสาธงหนิ อาเภอบางใหญ่ จงั หวดั นนทบรุ ี วดั อินทร์ สมยั โบราณเปน็ ชุมชนขนาดใหญ่ เน่ืองจากมีวัดในบริเวณแถบนี้หลาย วัดแต่ละวัดอยู่ติดกันเป็นวัดขนาดใหญ่ มีเสนาสนะสวยงามแทบทุกวัด อันเป็นเคร่ืองหมายบ่งบอก ฐานะความเป็นอย่ทู ม่ี น่ั คงของคนโบราณ ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูป พระประธานปางมารวิชัยสร้าง ด้วยหินทรายแดง ฐานชุกชีอ่อนโค้งท้องสาเภา ตกแต่งด้วยผ้าพิมพ์และลายปูนป้ัน เป็นฝีมือช่างสมัย กรงุ ศรีอยธุ ยาตอนปลาย นอกจากนี้ยังมีร่องรอยการลงรักปิดทองประดับกระจกมาก่อน แสดงให้เห็น วา่ เป็นช่างช้นั สงู ที่มีฝีมอื ในแถบน้ี อุโบสถหลงั เกา่ และวหิ ารเป็นอาคารเคร่ืองก่อท้ัง 2 หลัง เดิมหลังคา มุงด้วยกระเบ้ืองเผากาบกล้วยไม่เคลือบสีด้านหน้าด้านหลัง มีหลังคาซ้อน 2 ตอน หน้าบันเรียบไม่มี ลวดลายเหมอื นกันทั้ง 2 หลัง อโุ บสถมปี ระตเู ข้า 1 ประตู
181 2.2 วดั ราษฎรป์ ระคองธรรม ต้งั อย่เู ลขท่ี 63/1 หมทู่ ี่ 1 ตาบลเสาธงหิน อาเภอบางใหญ่ จงั หวัดนนทบรุ ี วัดราษฎร์ประคองธรรม เป็นวัดในสังกัดมหานิกาย สร้างเม่ือประมาณ พ.ศ. 2256 ด้านหน้าวัดติดคลองอ้อมนนท์ ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ขนาดใหญ่ ท่ีมีความยาว 32 เมตร ในวิหารเปิดโล่ง ที่ด้านบนหลังคาเป็นการจาลองปูชนียสถานสาคัญของ ประเทศไทย คือ พระธาตหุ ริภุญชัย พระธาตุพนม และพระปฐมเจดยี ์ วดั ราษฎร์ประคองธรรม ต้ังอยู่ติดรมิ คลอง บรรยากาศริมคลองก็ยังคงหลงเหลือ บรรยากาศชาวบ้านริมคลอง ท่ีตาบลเสาธงหิน อาเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี นับว่าเป็นหน่ึงใน สถานท่ีทอ่ งเท่ียวทางพระพทุ ธศาสนาท่โี ดง่ ดงั ลาดบั ต้นๆของจงั หวดั สรา้ งข้ึนเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2256 เดิมชาวบ้านเรียก วัดค้างคาว ต่อมาปีพ.ศ. 2493 เปลี่ยนช่ือใหม่เป็น วัดราษฎร์ประคองธรรม และ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปีพ.ศ. 2505 ปัจจุบันมีพระครูกิตติวิริยาภรณ์ ดารงตาแหน่งเจ้า อาวาสและตาแหน่งเจ้าคณะอาเภอบางใหญ่
182 สรปุ ก 1. ประวัติตาบลเสาธงหนิ ในสมัยของสมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช ไดเ้ สดจ็ กรธี าทพั เพ่ือท่ีจะไปกอบกู้เอกราช ที่กรุงศรีอยุธยาได้เสด็จนาทัพผ่านวัดสักจึงรับสั่งให้หยุดทัพพักพลรบ ณ ที่ วัดสักแห่งนี้เพ่ือพักเอาแรงและรวบรวมกาลังพล สมเด็จพระเจ้าตากสินได้มีรับส่ังให้ปักธงประจาทัพ ของพระองค์ลงบนกองทราย ณ ตาบลน้ัน แม่ทัพนายกองและไพร่พลท้ังหลายจึงนาหินก้อนใหญ่ ๆ มากองสุมทับและล้อมรอบเสาธงไว้มิให้ล้ม พากันเรียกขานจุดนัดหมายน้ีว่า เสาธงหิน ปัจจุบันการ เจริญเติบโตทางดา้ นเศรษฐกิจตาบลเสาธงหนิ มีความเจริญมากขนึ้ พ้ืนท่จี ึงเปลี่ยนเป็นบ้านจัดสรรหรือ อาคารชุด 2. วดั ในตาบลเสาธงหิน ท่นี า่ สนใจศึกษาเพม่ิ เตมิ มอี กี จานวน 2 วัด ไดแ้ ก่ วดั อนิ ทรต์ ้งั อยู่ เลขท่ี 48 หมู่ท่ี 2 ตาบลเสาธงหิน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2263 และวัดราษฎร์ประคองธรรม ต้ังอยู่เลขที่ 63/1 หมู่ท่ี 1 ตาบลเสาธงหิน อาเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบุรี
183 ใบความรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ประวตั ิของตาบล และวัดในตาบลบา้ นใหม่ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนมีความรู้ความเข้าใจเรอ่ื งประวตั ิของตาบลและวดั ในตาบลบ้านใหม่ 2. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการคิดวิเคราะห์เรื่องประวัติของ ตาบลและวดั ในตาบลบา้ นใหม่ 3. เพ่ือให้ผู้เรียนมีความตระหนักเห็นคุณค่าของเร่ืองประวัติของตาบลและวัดในตาบล บา้ นใหม่ เน้ือหา 1. ประวัตขิ องตาบลบา้ นใหม่ ตาบลบ้านใหม่จากตานานเล่าขานท่ีผ่านมา จากหลักฐานการสร้างวัดต้นเชือก เม่ือ พ.ศ. 2324 เปน็ ปสี ดุ ท้ายในรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แสดงว่ามีชุมชนเดิมอยู่มาก่อน หน้านี้แล้ว เพราะตามสภาพภูมิประเทศตาบลบ้านใหม่ต้ังอยู่ริมคลองบางใหญ่ เป็นล่องน้าโบราณท่ี เกิดข้นึ เองตามธรรมชาติ ท่ีใช้เป็นเส้นทางสัญจรระหว่างแม่น้าสองสาย คือ แม่น้านครชัยศรีกับแม่น้า เจา้ พระยา เนอื่ งจากในยุคน้ันยังไม่มีการขุดคลองอื่นใด คลองบางใหญ่ จึงเป็นคลองเดียวที่ประชาชน ใชเ้ ป็นเสน้ ทางการสัญจรทางน้าจากหัวเมอื งนครชัยศรี และเมอื งดา้ นตะวนั ตกมายังเมอื งหลวง คอื กรุงธนบุรี ประกอบกับประชากรเพ่ิมข้ึน ผู้คนบางกลุ่มจึงเข้ามาหักล้างถางพง เพ่ือทานาแรก ๆ ก็จะ มาทานากนั ตามฤดูกาล แตใ่ นระยะหลงั ก็มาลงหลกั ปักฐานจงึ เรม่ิ เปน็ ชมุ ชนใหญข่ ้ึน ชาติพันธ์ุของชาวตาบลท่ีมาของประชากรตาบลบ้านใหม่ เช่น สืบเชื้อสายมาจากชาว จนี เป็นพอ่ คา้ เข้ามาค้าขายตามแพชายคลอง และชาวจีนส่วนหน่ึงเป็นนายด่าน และมีชาวเขมรส่วน หนึ่งท่ีอพยพมาอาศัยอยู่ภายหลังจาก พระตะบอง เสียมราษฎร์ และศรีโสภณ ตกเป็นเมืองข้ึนกับ ฝรั่งเศส สันนษิ ฐานว่าน่าจะเป็นการอพยพมาตามทหารไทยทเ่ี คยเข้าไปปกครองท้ังสามเมืองนัน้ ต่อมาในสมัย รัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2458 ตาบล บ้านใหม่ ขึ้นกับอาเภอบางบัวทอง ใช้ช่ือตาบลศีรษะเชือก อาเภอบางบัวทอง ต่อมา พ.ศ. 2460 ทางราชการได้โอนตาบลบ้านใหม่ให้มาข้ึนกับกิ่งอาเภอบางแม่นาง และเม่ือวันท่ี 1 เมษายน พ.ศ. 2464 ได้ยกฐานะจากกงิ่ อาเภอบางแม่นางมาเป็นอาเภอบางแม่นาง และได้เปล่ียนช่ือเป็นอาเภอบาง ใหญ่ และในส่วนตาบลบ้านใหม่เอง เมือ่ ประกาศในพระราชบัญญัติสภาตาบลและองค์การบริหารส่วน
184 ตาบล พ.ศ. 2537 ตาบลบ้านใหม่ ได้ยกฐานะเป็นสภาตาบลและจัดตั้งเป็น องค์การบริหารส่วนตาบล บา้ นใหม่ครงั้ แรกเมอ่ื วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2539 2. วัดในตาบลบา้ นใหม่ 2.1 วัดพร้อมพลสทุ ธาวาส ตั้งอยู่หมู่ที่ 10 ชุมชนคลองราชประเสริฐ ตาบลบา้ นใหม่ อาเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบุรี วัดพร้อมพลสุทธาวาส เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ได้รับบริจาค ที่ดินจากคุณชม สว่างแก้ว จานวน 9 ไร่ เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและแหล่งเรียนรู้ให้กับชาวบ้าน และประชาชนทวั่ ไป สรปุ 1. ประวตั ิตาบลบา้ นใหม่ จากหลกั ฐานการสร้างวดั ต้นเชอื ก เม่ือ พ.ศ. 2324 เปน็ ปี สุดทา้ ยในรชั กาลของสมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช แสดงว่ามชี มุ ชนเดมิ อยู่มาก่อนหน้าน้ีแลว้ เพราะ ตามสภาพภมู ปิ ระเทศตาบลบ้านใหม่ต้ังอยู่ริมคลองบางใหญ่ ชาตพิ นั ธขุ์ องชาวตาบลสืบเชื้อสายมา จากชาวจีน เปน็ พอ่ ค้า เข้ามาคา้ ขายตามแพชายคลอง และชาวจนี ส่วนหนึง่ เป็นนายด่าน และมชี าว เขมรส่วนหนงึ่ ท่อี พยพมาอาศัยอยู่ ในสมัยรชั กาลท่ี 6 พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั พ.ศ.
185 2458 ตาบลบ้านใหม่ ข้นึ กับอาเภอบางบัวทอง ใช้ช่ือตาบลศีรษะเชือก อาเภอบางบวั ทอง ตอ่ มา พ.ศ. 2460 ทางราชการได้โอนตาบลบา้ นใหม่ใหม้ าข้ึนกับก่ิงอาเภอบางแม่นาง และเม่ือวนั ท่ี 1 เมษายน พ.ศ. 2464 ไดย้ กฐานะจากก่งิ อาเภอบางแมน่ างมาเปน็ อาเภอบางแม่นาง และไดเ้ ปลย่ี นช่ือเป็นอาเภอ บางใหญ่ 2. วัดในตาบลบ้านใหม่ ท่ีน่าสนใจศึกษาเพิ่มเติมมีอีก จานวน 1 วัด ได้แก่ วัดพร้อมพล สุทธาวาส อยหู่ มู่ท่ี 10 ชมุ ชนคลองราชประเสรฐิ ตาบลบา้ นใหม่
186 ใบความร้ทู ่ี 4 เรื่อง ประวัติของตาบล และวัดในตาบลบางใหญ่ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ความเข้าใจเร่ืองประวัตขิ องตาบลและวดั ในตาบลบางใหญ่ 2. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมีทกั ษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการคดิ วเิ คราะหเ์ รื่องประวัติของ ตาบลและวัดในตาบลบางใหญ่ 3. เพ่ือให้ผู้เรียนมีความตระหนักเห็นคุณค่าของเร่ืองประวัติของตาบลและวัดในตาบล บางใหญ่ เน้ือหา 1. ประวตั ิของตาบลบางใหญ่ ประวตั ิตาบลบางใหญ่ อาเภอบางใหญ่ จงั หวัดนนทบุรี ตง้ั อย่ใู นบริเวณ ที่ราบลุ่มแม่น้า เจ้าพระยาท่ีเกิดจากการทับถมของตะกอนแม่น้าหลายสาย โดยจัดเป็นพื้นที่ลุ่มแม่น้าใหม่ หรือพ้ืน ที่ดินดอนสามเหล่ียมใหม่ (Young delta) อน่ึง ลักษณะการตั้งถ่ินฐานของมนุษย์ในระยะแรกเร่ิมน้ัน จะยึดเอาพ้ืนท่ีราบมีภูเขาขนาบเป็นท่ีตั้ง ก่อนที่จะเร่ิมขยับลงสู่พ้ืนท่ีสามเหล่ียมปากแม่น้าเก่า ในราว พุทธศตวรรษท่ี 9 - 10 ซง่ึ มีความเหมาะสมในด้านของการเพาะปลูก อีกท้ังเริ่มมีการติดต่อค้าขายทาง ทะเล เกิดเปน็ เมอื งท่าและเมืองโบราณสาคัญ เช่น เมืองอู่ทอง เมืองคูบัว และเมื่อมนุษย์มีจานวนมาก ขึ้นจึงเร่ิมมีความต้องการขยายท่ีทาการเพาะปลูก พร้อมกับที่พ้ืนท่ีบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้าใหม่ นน้ั พัฒนาเปน็ ท่ดี อน จงึ ได้ขยบั ขยายการตั้งถิ่นฐานลงมาสู่พ้ืนทดี่ ินดอนสามเหลีย่ มปากแม่น้าใหม่ ในชว่ งเวลาที่เกิดเมอื งอยธุ ยา มกี ารเกิดข้นึ ของเมอื งรุน่ ใกลเ้ คยี งกนั ตามลาน้าสายอื่น ๆ ที่เป็นเส้นทางคมนาคมยุคใหม่ของบริเวณดินดอนสามเหล่ียมเจ้าพระยาควบคู่กันไป (พุทธศตวรรษที่ 17 - 19) มกี ารต้งั ถน่ิ ฐานและบ้านเมืองแถวบริเวณปากแม่น้าและชายทะเลในพื้นท่ีซึ่งเป็นป่าชายเลน และทะเลตมในรูปแบบของบางต่าง ๆ ที่มชี ือ่ สัมพันธ์กบั ลกั ษณะพ้ืนที่ภูมิประเทศ พืชพันธุ์ ต้นไม้ และ สัตว์ที่อยู่ในท้องถิ่น ในสมัยหลังลงมาบรรดาบางหรือท้องถิ่นเหล่านี้ หลายแห่งก็กลายเป็นเมือง เช่น เมอื งสมุทรสงคราม เมืองธนบุรี เมอื งนนทบุรี ฯลฯ บริเวณที่เป็นโค้งแม่น้าอ้อม เช่น บริเวณเมืองพระนครศรีอยุธยา เมืองบางกอกหรือ เมืองธนบุรี เมืองนนทบุรี เมืองสามโคก และบริเวณอาเภอบางใหญ่พื้นท่ีน้ันจะเป็นดินท่ีอุดมสมบูรณ์ ด้วยปุ๋ยธรรมชาติ เหมาะกับการเพาะปลูก และการมีลาน้าหรือแม่น้าท่ีไหลลงสู่ทะเลได้ ทาให้มีการ อพยพของผคู้ นเข้ามาต้ังหลักแหล่งท่ีอยู่อาศัยอย่างถาวรและพัฒนาข้ึนเป็นบ้านเมืองทางเกษตรกรรม
187 และการค้าขายเกิดข้ึน เช่นเดียวกับพื้นท่ีบริเวณคลองอ้อมนนท์ อยู่บริเวณทางตอนใต้ของนนทบุรีใน ปจั จุบนั ใกล้กับเมืองบางกอกหรือกรุงเทพฯ ซ่ึงแต่เดิมคือแม่น้าเจ้าพระยาซึ่งถือเป็นทางสัญจรหลักใน การเดินทางเข้าสู่กรุงศรีอยุธยาก่อนท่ีจะมีการขุดคลองลัดทาให้แม่น้าเปลี่ยนเส้นทางและทางแม่น้า เดิมกลายเปน็ คลอง อันถอื เป็นปัจจยั พนื้ ฐานท่สี าคัญของพ้นื ท่ี คือเป็นเส้นทางคมนาคมด่านสาคัญรอง จากเมืองบางกอกท้ังทางบกและทางน้า มีกลุ่มชุมชนและวัดโบราณหลายแห่งกระจายตัวอยู่ในท้ัง บรเิ วณรอบคลองอ้อมนนท์และคลองสาขา ตามธรรมเนียมของไทยโบราณวัดคือศูนย์กลางของหมู่บ้าน กษัตริย์เกือบทุกพระองค์ ในสมัยอยุธยาทรงทานุบารุงพระพุทธศาสนา ซึ่งไม่ได้เพียงเพ่ือกรรมดีเท่าน้ันแต่เพ่ือผลทางการเมือง อกี ด้วย ส่ิงท่ีสาคัญทสี่ ดุ คอื การสร้างหรอื ซอ่ มแซมวดั ซึง่ การสรา้ งวดั นน้ั นอกจากเพ่ือให้เกิดความพอใจ แก่พระสงฆ์ซ่ึงเป็นผู้นาที่ทรงอานาจในสังคมชนบทแล้ว หากยังเพื่อให้ประชาชนได้ต้ังถ่ินฐานในพ้ืนท่ี รอบวดั อกี ดว้ ย ซง่ึ ส่งผลในเร่อื งของการเรยี กกาลังพลไดส้ ะดวกในยามท่ีต้องการ การขุดคลองลัดทาให้มีการขยับขยายไปต้ังถิ่นฐานยังคลองขุดใหม่ซึ่งกลายเป็นทาง สัญจรหลักส่วนคลองอ้อมนนท์กลายเป็นทางรอง แต่ยังคงมีการอยู่อาศัยและตั้งถิ่นฐานในพ้ืนท่ีด้วย เพราะเป็นเส้นทางเก่าก่อน อกี ท้ังยงั เป็นเสน้ ทางลัดจากกรงุ ศรีอยุธยา โดยสามารถเดินเรือผ่านมาทาง คลองบางใหญ่ คลองออ้ มนนท์ ผา่ นบางใหญ่เขา้ สบู่ างกรวย ผา่ นบางบาหรุ มายงั คลองบางระมาดและ คลองบางกอกน้อยท่ีเป็นลาแม่น้าอ้อมของคลองบางกอก นอกจากนี้บริเวณคลองบางใหญ่ยังเป็น เส้นทางหลักในการเดินทางเชื่อมกับแม่น้านครชัยศรีหรือแม่น้าท่าจีน ดังนั้นแม้เส้นทางสัญจรหลักใน การเดินทางระหว่างเมืองทา่ กับเมอื งอยุธยาจะเปลี่ยนแปลงไป แต่คลองอ้อมนนท์ยังคงมีการคมนาคม สัญจรมาอย่างต่อเน่ืองในภูมิภาค สังเกตได้จากยังคงมีหลักฐานงานสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอน ปลายหลายแห่งในพ้ืนทบี่ รเิ วณนี้ แสดงให้เหน็ วา่ พนื้ ท่บี ริเวณนย้ี ังคงไดร้ ับความสาคัญและมีผู้คนอาศัย อยู่อย่างค่อนข้างหนาแน่น เพราะมีดินอุดมสมบูรณ์และเหมาะแก่การทาสวน ไม่เพียงแต่บริเวณรอบ คลองอ้อมนนท์เท่าน้ัน แต่ยังรวมไปถึงบริเวณคลองสาขาต่าง ๆ ท้ังที่เป็นคลองเดิมและคลองขุดใหม่ นอกจากเป็นบริเวณผลิตพืชผลท่ีสาคัญแล้วพ้ืนที่บริเวณน้ียังถูกใช้เป็นสถาน ท่ีตั้งประชุมพลกองทัพ ยามเมื่อเกดิ ศกึ สงครามอีกดว้ ย ในคราวเสียกรุงศรอี ยธุ ยา ครั้งท่ี 2 ในสมัยพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงวงษาธิราชสนิท (เจ้าชายนวม) ปราชญ์ผู้เป็น กาลงั ของแผ่นดนิ พระราชโอรสองคท์ ่ี 49 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลท่ี 2 ได้ เสดจ็ ทางชลมารคผา่ นคลองบางใหญ่ หมู่บ้านสแ่ี ยกคลองโยง ตาบลบางใหญ่ ในปัจจบุ ัน ต่อมาพื้นที่บริเวณน้ีเริ่มเจริญข้ึนในช่วงสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นผู้ทรงสร้างวัดท่าบันเทิงธรรมและรอยพระพุทธบาทจาลอง ได้เสร็จโดยเดินเรือจาก เส้นทางคลองบางกอกน้อยมาตามคลองลัดถึงบางกรวย แล้วข้ึนตามคลองอ้อมนนท์มาที่บางใหญ่และ จากบางใหญ่ก็เข้าคลองบางใหญ่ไปยังบ้านลานตากฟ้าท่ีแม่น้านครชัยศรี นอกจากน้ีบริเวณพ้ืนท่ีบ้าน
188 บางกรา่ ง บางขนนุ บางราวนก บางคูเวียง บางใหญ่ ยังเปน็ ยา่ นทีม่ ีโรงหีบอ้อยทาน้าตาลอยู่หลายแห่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเส้นทางน้ียังคงมีผู้คนอยู่อาศัยและใช้เป็นทางคมนาคม จนกระทั่งมีการขุดคลอง มหาสวสั ดิ์ใน พ.ศ. 2402 ทาให้เสน้ ทางคลองบางใหญ่ ถกู ลดความสาคญั ลง ในปี พ.ศ. 2377 รัชการท่ี 3 ได้เสด็จไปนมัสการพระปฐมเจดีย์เป็นเรื่องท่ีเจ้านาย ขุนนาง และชาวบ้านนิยมล่องเรือกันไปผ่าน คลองบางใหญ่ ในสมัย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 4 ปี พ.ศ. 2395 ยังมีเหตุการณ์อีกหนึ่งอย่าง คือ หลวงปู่จันทร์ พระธุดงค์จากเขมรมาที่จังหวัดนนทบุรี หลวงปจู่ นั ทร์ทา่ นเปน็ พระทเี่ ชีย่ วชาญดา้ นคาถาอาคม สามารถเล่นแร่แปรธาตุได้ ท่านได้พบแร่บางไผ่ ในลุ่มคลองบางคูลัดในเขตตาบลบางใหญ่ ต่อมาหลวงปู่จันทร์ได้เป็นเจ้าอาวาส รูปที่ 3 ของวัดโมรี แรบ่ างไผ่นี้คนโบราณเช่อื วา่ เป็นแรท่ ี่มคี ณุ วิเศษสามารถขุดพบได้ในลุ่มคลองบางคลู ดั ตาบลบางใหญ่ ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 6 ปี พ.ศ. 2458 ตาบลบางใหญ่ข้ึนตรงกับอาเภอบางบัวทอง ใช้ช่ือว่าตาบลศีรษะเชือก ต่อมา ปี พ.ศ. 2460 ทางราชการได้โอนตาบลบางใหญ่ ให้ขึ้นกับก่ิงอาเภอบางแม่นาง เม่ือวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2464 และไดย้ กฐานะจากก่ิงอาเภอบางแม่นางเป็นอาเภอบางแม่นาง และได้เปลี่ยนช่ือ เป็นอาเภอบางใหญ่และตาบลบางใหญ่ โดยมีประกาศในพระราชบัญญัติสภาตาบลและองค์การ บริหารสว่ นตาบล เมอ่ื ปี พ.ศ. 2537 จนถึงปัจจบุ นั 1. วัดในตาบลบางใหญ่ 1.1 วดั เอนกดษิ ฐาราม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295