หลักสูตรรายวิชาวัดสวยงาม คู่นามบางใหญ่

189 ตง้ั อยู่ เลขท่ี 5 หมทู่ ี่ 3 ตาบลบางใหญ่ อาเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบรุ ี วัดเอนกดิษฐาราม สนั นษิ ฐานว่าสร้างขึ้น ในสมัยพระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 3 ประมาณปี พ.ศ. 2381 จนถึงปัจจุบันมีอายุรวม 181 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 5 เสด็จประพาสมาประทับ เดิมเรียกว่า “วัดบ้านใหม่” ต่อมาเกิดเพลิงไหม้พระ อุโบสถและพระวหิ าร มีพระรปู หนึ่งมาจากสุพรรณบุรีได้มาบูรณะซ่อมแซมใหม่ ในปี พ.ศ. 2450 และ ไดพ้ ระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดเอนกดิษฐาราม” มี พระครูสุธรรมาภิวัฒน์ (สนิท สุธมฺโม) เป็นเจ้า อาวาสรูปปัจจุบันมีประเพณีการทาบุญตักบาตรพระ 108 เพ่ือให้ประชาชนได้ร่วมกิจกรรมทางพุทธ ศาสนาและเกิดความสามคั คกี ันในชุมชน สรปุ 1. ประวัติตาบลบางใหญ่ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้เสด็จทางชลมารคผ่านหมู่บ้านสี่แยกคลองโยง ตาบลบางใหญ่ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ การค้าขาย กับจนี ได้เริม่ มีมากข้นึ ตัง้ แต่ตน้ รชั กาลที่ 2 และได้ขยายตัวยิ่งขึ้นใน รัชกาลที่ 3 ซ่ึงปรากฏว่าชาวจีนได้ อพยพเข้ามาต้งั ภูมลิ าเนาในเมืองไทยมากขึ้น การต้ังถิ่นฐานบ้านเรือนของพื้นท่ีบริเวณคลองอ้อมนนท์ ส่วนใหญ่จะปลูกอยู่ตามชายน้าขนาบเป็นลักษณะแนวยาวไปตามลาน้าท้ังสองข้าง ในปี พ.ศ. 2377 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้เสด็จไปนมัสการพระปฐมเจดีย์เป็นเร่ืองที่ เจ้านาย ขุนนาง และชาวบ้านนิยมล่องเรือกันไปผ่านคลองบางใหญ่ ต่อมาปี พ.ศ. 2395 สมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 4 ยังมีอีกเหตุการณ์ หน่ึง คือ หลวงปู่จันทร์ พระธุดงค์จากเขมรมาท่ีจังหวัดนนทบุรี เป็นพระที่เช่ียวชาญด้านคาถาอาคม สามารถเล่นแร่แปรธาตุได้ ท่านได้พบแร่บางไผ่ในลุ่มคลองบางคูลัด ในเขตตาบลบางใหญ่และในปี พ.ศ. 2458 สมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 6 ตาบลบางใหญ่ ขึน้ กบั อาเภอบางบวั ทอง ใช้ช่ือว่า ตาบลศีรษะเชือก อยู่ในอาเภอบางบัวทอง ต่อมา ปี พ.ศ. 2460 ทางราชการได้โอนตาบลบางใหญ่ ให้มาขึ้นกับกิ่งอาเภอบางแม่นาง และเม่ือวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2464 ได้ยกฐานะจากก่ิงอาเภอบางแม่นางมาเป็นอาเภอบางแม่นาง และได้เปลี่ยนช่ือ เป็นอาเภอบางใหญ่ และในส่วนตาบลบางใหญ่ ได้ประกาศในพระราชบัญญัติสภาตาบลและองค์การ บรหิ ารสว่ นตาบล ใน ปี พ.ศ. 2537 2. วัดในตาบลบางใหญ่ ที่นา่ สนใจศกึ ษาเพมิ่ เติมมอี ีก จานวน 1 วดั คือ (1) วัดอเนก ดิษฐาราม เลขท่ี 5 หม่ทู ่ี 3 ถนนบางใหญ่-บางคูลัด ตาบลบางใหญ่ จงั หวดั นนทบรุ ี

190 ใบความรู้ท่ี 5 เรือ่ ง ประวตั ขิ องตาบล และวัดในตาบลบางแม่นาง วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื ให้ผ้เู รียนมีความรู้ความเข้าใจเร่ืองประวัติของตาบล และวดั ในตาบลบางแมน่ าง 2. เพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการคิดวิเคราะห์เร่ืองประวัติของ ตาบล และวดั ในตาบลบางแมน่ างกกกกกกก 3. เพื่อให้ผู้เรียนมีความตระหนักเห็นคุณค่าของเรื่องประวัติของตาบล และวัดในตาบล บางแมน่ าง กกกกกกก เนอื้ หา 1. ประวตั ขิ องตาบลบางแม่นาง ตาบลบางแม่นาง เปน็ ตาบลหนง่ึ ในเขตบางใหญ่ มีประวัติความเป็นมา คือ เดิมบริเวณ เขตตาบลบางแม่นางเป็นกิ่งอาเภอบางแม่นางใช้สถานท่ีบริเวณวัดส้มเกล้ียงเป็นสถานที่ทาการ ภายหลังกิ่งอาเภอบางแม่นาง ได้ยกฐานะเป็นอาเภอบางใหญ่และย้ายที่ว่าการอาเภอไปอยู่บริเวณริม ปากคลองบางใหญ่แยกคลองอ้อมนนท์ (ปัจจุบันเป็นที่ทาการเทศบาลตาบลบางม่วง) เป็นที่ทาการ ส่วนตาบลบางแม่นางก็ใช้ช่ือเดิมของกิ่งอาเภอ และข้ึนกับอาเภอบางใหญ่ จนถึงปัจจุบันพ้ืนท่ีตาบล บางแม่นาง มีพื้นท่ีประมาณ 14.40 ตารางกิโลเมตร มีสภาพเป็นพื้นท่ีราบลุ่มต่า และมีลาคลอง ธรรมชาติไหลผ่าน รวมท้ังคลองชลประทาน ทาให้สภาพพื้นที่เป็นพ้ืนท่ีการเกษตรเหมาะแก่การ เพาะปลูกพืชผลเกษตรรวมทั้งไม้ดอกไม้ประดับเพ่ือจาหน่าย สภาพภูมิอากาศมีสภาพร้อนชื้น ซ่ึงจัด อยู่ในเกณฑ์สภาพอากาศปกติ ครอบครัว ผู้หญิง และเด็กได้อยู่อาศัยบริเวณดังกล่าว ส่วนผู้ชายก็จะ ออกไปรับจ้างขุดคลองขยายชลประทานเป็นระยะเวลานานจึงมีแต่เพียงผู้หญิงและเด็กอยู่อาศัยใน บริเวณแนวคลองและทาการเกษตรกรรมโดยปะปนกับชาวบ้านเดิมในตาบลทาเกษตรกรรม และอยู่ รว่ มกนั มาจนถึงปัจจุบนั น้ี จึงเรียกบริเวณนั้นว่าตาบลบางแม่นาง เพราะเป็นตาบลที่สมัยก่อนจะมีเด็ก และผหู้ ญงิ อาศัยอยู่มาก

191 2. วัดในตาบลบางแม่นาง 2.1 วัดส้มเกลีย้ ง ตง้ั อยู่ เลขที่ 35 หมู่ท่ี 2 ตาบลบางแมน่ าง อาเภอบางใหญ่ จงั หวัดนนทบรุ ี วดั สม้ เกล้ียง สร้างข้ึนเมื่อปี พ.ศ. 2223 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีพระอุโบสถ อยู่ด้านทิศตะวันออกสร้างข้ึน เม่ือปี พ.ศ. 2500 และใกล้พระอุโบสถมีวิหารหลวงพ่อโต เป็น พระพทุ ธรูปสมยั กรุงศรีอยุธยา พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปูนป้ันปิดทอง ภายในวัด เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อสามองค์เป็นเจดีย์สีทองที่ถูกสร้างขึ้นติดกัน 3 เจดีย์ ได้แก่ เจดีย์ของ พระอธิการดี พระอุปัชฌาย์สงฆ์ และอธิการโป๊ะ ซ่ึงเป็นเจ้าอาวาส และได้บรรจุอัฐิไว้ส่วนศาลาการ เปรียญเป็นศาลาชั้นเดียวยกข้ึนสูงทาด้วยไม้ท้ังหลังสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2491 มีหอสวดมนต์เป็นหอ เก่าทรงสงู สรา้ งขึ้นเมอื่ ปี พ.ศ. 2477 เป็นเรอื นไม้ 2 ชั้น ทรงปนั้ หยา

192 2.2วัดดอนสะแก ตัง้ อยู่ หมู่ท่ี 14 ตาบลบางแมน่ าง อาเภอบางใหญ่ จงั หวดั นนทบุรี วัดดอนสะแก เคยเป็นวัดร้างมาก่อนราว 200 ปี (อยุธยาตอนปลาย) จากคาบอกเล่า ของคนเก่า ๆ เล่าต่อกันมาว่า แต่เดิมวัดดอนสะแกเป็นป่าสะแกมีลักษณะเป็นท่ีโล่งและเป็นที่ดอน สมัยก่อนพระสงฆ์มีการทาพิธีกรรมร่วมกัน พระสงฆ์จึงต้องเดินเท้าเพื่อมาร่วมพิธี ดังกล่าว การ เดินทางด้วยเท้าจึงเป็นการเดินทางที่ยากลาบากจึงต้องมีการพักค้างแรม ณ ป่าดอนสะแกแห่งนี้ จึง เปน็ ทีม่ าของวดั ดอนสะแก กกกก สรุป 1. ประวัตติ าบลบางแมน่ าง เปน็ ตาบลหนงึ่ ในเขตบางใหญ่ มีประวัติความเป็นมา คือ เดิม บรเิ วณเขตตาบลบางแมน่ างเปน็ ก่ิงอาเภอบางแมน่ าง ใชส้ ถานที่บริเวณวัดส้มเกล้ยี งเปน็ สถานท่ีทาการ ภายหลังก่ิงอาเภอบางแม่นาง ได้ยกฐานะเป็นอาเภอบางใหญ่และย้ายท่ีว่าการอาเภอไปอยู่บริเวณริม ปากคลองบางใหญ่แยกคลองอ้อมนนท์ (ปัจจุบันเป็นที่ทาการเทศบาลตาบลบางม่วง) เป็นที่ทาการ ส่วนตาบลบางแม่นางก็ใช้ชื่อเดิมของก่ิงอาเภอ และข้ึนกับอาเภอบางใหญ่ จนถึงปัจจุบันมีพื้นที่ โดยประมาณ 14.40 ตารางกโิ ลเมตร มีสภาพเป็นพนื้ ท่รี าบลุ่มตา่ มลี าคลองธรรมชาติไหลผ่าน รวมท้ัง คลองชลประทาน ทาใหส้ ภาพพ้นื ทีเ่ ปน็ พืน้ ทีก่ ารเกษตรเหมาะแก่การเพาะปลูกพืชผลเกษตรรวมทั้งไม้ ดอกไม้ประดบั เพอ่ื จาหน่ายตามเส้นทางถนน สภาพภูมิอากาศมีสภาพร้อนช้นื อากาศดี

193 2. วัดในตาบลบางแม่นาง ที่น่าสนใจศึกษาเพ่ิมเติมมีอีก จานวน 2 วัด คือ (1) วัดส้ม เกลี้ยง เลขท่ี 35 หมู่ที่ 2 ตาบลบางแม่นาง อาเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และ (2) วัดดอนสะแก หมู่ท่ี 14 ตาบลบางแม่นาง อาเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบรุ ี

194 ใบความรทู้ ี่ 6 เรือ่ ง ประวตั ขิ องตาบล และวดั ในตาบลบางเลน วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ให้ผเู้ รียนมีความรู้ความเข้าใจเรอื่ งประวัตขิ องตาบลและวดั ในตาบลบางเลน 2. เพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการคิดวิเคราะห์เรื่องประวัติของ ตาบลและวดั ในตาบลบางเลน 3. เพ่ือให้ผู้เรียนมีความตระหนักเห็นคุณค่าของเรื่องประวัติของตาบล และวัดในตาบล บางเลน เน้อื หา 1. ประวัติของตาบลบางเลน ตาบลบางเลน แต่เดิมพื้นที่ตาบลบางเลนเป็นพ้ืนท่ีราบลุ่มมีน้าขังตลอดปี พื้นที่เป็น โคลนเลนจานวนมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทานา ทาสวน เมื่อมีการตั้งช่ือตาบลจึงเรียก ตามสภาพพื้นที่ว่า ตาบลบางเลน มาจนปัจจุบันตาบลบางเลน มีจานวนหมู่บ้าน 11 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 1 บ้านบางเลน หมู่ 2 บ้านบางพลู หมู่ 3 บ้านบางมะซาง หมู่ 4 บ้านบางสะแก หมู่ 5 บ้านท่ารถ หมู่ 6 บ้านหน้าวัดปรางค์หลวง หมู่ 7 บ้านวัดยุคันธราวาส หมู่ 8 บ้านบางสรีราษฎร์ หมู่ 9 บ้านบาง สะแก หมู่ 10 บ้านวดั นอ้ ย และหมู่ 11 บา้ นหน้าโรงสี สภาพภูมิประเทศของตาบลบางเลน มีลักษณะ เป็นท่ีราบลุ่มแม่น้าเจ้าพระยา และลาดเทจากทิศตะวันออกมาสู่ทิศตะวันตก ซึ่งเป็นคลองเหมาะแก่ การเกษตร เช่น การทาสวนผลไม้ ได้แก่ ทุเรียน กล้วย กระท้อน มังคุด แต่ปัจจุบันตาบลบางเลน เปล่ียนไปเป็นพ้ืนท่ีบ้านจัดสรรเพื่ออยอู่ าศยั เพิ่มมากขึน้ พน้ื ท่ที าการเกษตรจงึ ลดน้อยลงในปัจจบุ นั

195 2. วัดในตาบลบางเลน 2.1 วัดศรรี าษฎร์ สถานทตี่ ้งั เลขที่ 18 หมู่ท่ี 8 ตาบลบางเลน อาเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี วัดศรีราษฎร์ เป็นวัดโบราณ สร้างเม่ือปี พ.ศ. 2350กไม่ปรากฏช่ือผู้สร้าง ได้รับ พระราชทานวิสุงคามสีมา ในปี พ.ศ.ก2361 สภาพวัดเป็นท่ีลุ่ม ด้านทิศเหนือติดคลองศรีราษฎร์ ดา้ นทศิ ตะวันตกติดคลองออ้ มนนท์ ดา้ นทิศใต้ติดที่ดนิ เอกชน ตดิ ตะวันออกติดทีด่ นิ เอกชน

196 1.1 วัดสะแก สถานทีต่ ง้ั เลขที่ 47/152 หมทู่ ่ี 9 ตาบลบางเลน อาเภอบางใหญ่ จงั หวัดนนทบุรี วัดสะแก ต้ังวัดเม่ือปี พ.ศ. 2305 เดิมเรียก วัดกลางคลองได้รับพระราชทาน วสิ งุ คามสมี าเมือ่ ปี พ.ศ. 2310 พระประธานปางสมาธสิ มยั อยธุ ยา เน้ือหินทราย นามว่า หลวงพ่อพุทธ มหามงคล โบสถ์ก่อสร้างด้วยหินอ่อน ส่วนบานประตูและหน้าต่าง เป็นไม้สักที่แกะสลักตัวนูน เล่ากัน ว่าชาวบ้านมีความนิยมและมีความศรัทธา พระผงรูปเหมือนพระครูสินิทนนทคุณซ่ึงด้านหลังมียันต์ นะคงคา ทมี่ ีความเชอื่ วา่ สามารถใชใ้ นการรกั ษาโรคได้

197 1.2 วัดบางเลนเจรญิ สถานท่ตี ้ัง เลขท่ี 3 หมู่ที่ 10 ตาบลบางเลน อาเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบรุ ี วดั บางเลนเจริญ เดมิ ชอ่ื วัดน้อยไม่ปรากฏช่ือผู้สรา้ ง สรุป 1. ประวัติของตาบลบางเลน แต่เดิมพ้ืนที่ตาบลบางเลนเป็นพื้นที่ราบลุ่มมีน้าขังตลอดปี พ้ืนทเ่ี ป็นโคลนเลนจานวนมาก ชาวบา้ นส่วนใหญ่ประกอบอาชพี ทานาทาสวน เมอ่ื มกี ารตง้ั ช่ือตาบลจึง เรียกตามสภาพพืน้ ที่วา่ ตาบลบางเลน มาจนปัจจบุ ัน 2. วัดในตาบลบางเลน อาเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ท่ีน่าสนใจศึกษาเพิ่มเติมมีอีก จานวน 3 วัด ดังนี้ วัดศรีราษฎร์ ตั้งอยู่ หมู่ท่ี 8 วัดสะแก ต้ังอยู่ หมู่ที่ 9 และวัดบางเลนเจริญ ต้ังอยู่ หมู่ท่ี 10

198 ใบความรทู้ ี่ 7 เรื่อง การใช้ Google Maps เพอ่ื สารวจเสน้ ทาง วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ความเขา้ ใจเร่อื งการใช้ Google Maps เพอ่ื สารวจเสน้ ทาง 2. เพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการคิดวิเคราะห์เร่ืองการใช้ Google Maps เพ่ือสารวจเสน้ ทาง 3. เพื่อให้ผู้เรียนมีความตระหนักเห็นคุณค่าของเรื่อง การใช้ Google Maps เพื่อสารวจ เสน้ ทาง เนอ้ื หา 1. ความหมายของ Google Maps Google เปน็ บริการค้นหาทต่ี ้งั บนแผนท่ี การค้นหาเส้นทาง และให้ข้อมูลเบื้องต้นของ สถานที่นั้น ๆ เช่น ที่ตั้ง รายละเอียดการติดต่อ เส้นทางการเดินทาง โดยเฉพาะแผนท่ีและ ภาพถ่าย ดาวเทียม ท่ีครอบคลุมทั่วโลก และการกาหนดเป้าหมายท่ีชัดเจนสามารถใส่ข้อมูล ที่เป็นภาพ ข้อความ รายละเอียดเบื้องต้น จึงสามารถประยุกต์ใช้กับการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนได้ ท้ังการ กาหนดเป้าหมายในการเข้าถึงแหล่งความรู้ต่าง ๆ รอบโรงเรียน การกาหนดจุดเย่ียมชม ระยะทางใน การเดินทาง เวลา และรูปแบบในการเดินทางไปยังเป้าหมาย ทาให้เกิดความสะดวกต่อการทางาน ช่วยให้การดาเนินงานมีประสิทธิภาพย่ิงข้ึนสามารถใช้แอปพลิเคช่ัน Google Maps ในสมาร์ทโฟน และช่องทางอน่ื ๆ 2. วธิ ีการใช้ Google Maps Google Maps เป็นประโยชน์สาหรับการเดินทางในการเลือกที่หมายและการวาง แผนการใชร้ ะยะทางที่ส้ันทีส่ ดุ โดยคลกิ เขา้ http://maps.google.com หรอื ดาวนโ์ หลดแอปพลิเคชั่น Google Maps ในสมาร์ทโฟน Application น้ีช่วยให้สามารถบันทึกแผนที่แบบออฟไลน์ และจัดการ จากแผนที่ที่ง่ายต่อการเข้าถึง และแสดงระยะเวลาในการเดินทางโดยประมาณ และช่วยให้เข้าถึง เส้นทาง ได้อย่างถกู ต้อง

199 3. ขั้นตอนการใช้ Google Maps 3.1 ให้เขา้ ไปที่เวบ็ www.maps.google.com 3.2 หนา้ น้จี ะเป็นหน้าจอแผนที่ของ Google Maps การค้นหาสถานที่ต่าง ๆ ทาได้ โดยการพิมพ์ช่ือสถานที่ไปในช่องค้นหา โดย สามารถพมิ พไ์ ดท้ ง้ั ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จากน้ันเลือกค้นหา

200 ตัวอย่าง การค้นหา วดั สวนแกว้ ตาบลบางเลน อาเภอบางใหญ่ จงั หวดั นนทบรุ ี 3.3 หลงั จากคน้ หาสถานท่ีได้แล้ว ถ้าต้องการจะหาเส้นทางในการเดินทาง ก็ให้คลิก ที่เครอื่ งหมาย เสน้ ทาง

201 3.4 จากนั้นเรากส็ ามารถทาการเล่อื น ข้นึ -ลง เพื่อดูจดุ เริ่มตน้ และ จดุ สิ้นสดุ 3.5 ตัวอย่าง เลือกจุดเร่ิมต้นเป็น กศน.อาเภอบางใหญ่ และ จุดปลายทาง คือ วัด สวนแกว้ ระบบก็จะคานวณเสน้ ทางที่ดีท่ีสุดในการเดนิ ทาง ณ ขณะน้ันมาให้

202 ผู้ใช้สามารถเลือกเส้นทางต่าง ๆ ที่จะเดินทางไปได้ โดย Google จะแสดง เส้นทางท่ีดีที่สุดในขณะนั้นข้ึนมาให้ดูก่อนเป็นอันดับแรก โดยระบบจะบอกว่าเส้นทางท่ีจะไปยังจุด ปลายทาง ใชร้ ะยะทางประมาณกก่ี โิ ลเมตร และใช้เวลาประมาณเทา่ ใด สขี องแตล่ ะชว่ งในการเดินทางสีฟ้าคือ การจราจรไม่ติดขัด สีส้ม คือ การจราจร ตดิ ขดั แตข่ ยับไปได้เร่ือย ๆ สีแดง คอื ชว่ งท่ีการจราจรตดิ ขัด และหยดุ น่ิง

203 แผนทขี่ อง Google Maps สามารถดไู ด้ 2 แบบ คอื แบบแผนที่ และแบบดาวเทยี ม แบบท่ี 1 แบบแผนที่

204 แบบที่ 2 แบบดาวเทียม สรุป 1. Google Maps คือ แอปพลิเคช่ัน (Application) ที่ให้บริการฟรีแก่บุคคลทั่วไปเป็น บรกิ ารค้นหาที่ตัง้ บนแผนท่ี การค้นหาเส้นทาง และให้ข้อมูลเบ้ืองต้นของสถานที่นั้น ๆ เป็นประโยชน์ สาหรบั การเดินทางในการเลอื กทหี่ มาย และการวางแผนการใชร้ ะยะทางที่ส้นั ที่สดุ 2. วิธีการใช้ Google Maps โดยคลิกเข้า http://maps.google.com หรือดาวน์โหลด แอปพลิเคชน่ั Google Maps ในสมารท์ โฟน 3. ข้ันตอนการใช้ Google Maps ให้เข้าไปท่ีเว็บไซด์ www.maps.google.com เรา สามารถทาการค้นหาสถานท่ีต่าง ๆ ได้ โดยการพิมพ์ช่ือสถานท่ีไปในช่องค้นหา โดยสามารถพิมพ์ได้ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จากน้ันเลือกค้นหาหลังจากที่ค้นหาสถานที่ได้แล้ว ถ้าต้องการจะหา เส้นทางในการเดินทาง ก็ให้เลือกที่เครื่องหมาย เส้นทางเลือกจุดเร่ิมต้นเป็น สถานท่ีเริ่มต้น และ จุด ปลายทางเป็นสถานที่ท่ีต้องการจะเดินทางไป ระบบก็จะคานวณเส้นทางท่ีดีท่ีสุดในการเดินทาง ณ ขณะนนั้ มาให้สามารถเลือกเส้นทางต่าง ๆ ที่เราจะเดินทางไปได้ โดยระบบจะบอกว่าเส้นทางท่ีเราจะ ไปยังจุดปลายทาง ใช้ระยะทางประมาณก่ีกิโลเมตร และใช้เวลาประมาณเท่าใด สีของแต่ละช่วงใน การเดินทางสีฟ้า คือ การจราจรไม่ติดขัด สีส้ม คือ การจราจรติดขัดแต่ขยับไปได้เร่ือย ๆ สีแดง คือ ช่วงที่การจราจรติดขัดและหยุดน่ิง แผนที่ของ Google Maps สามารถดูได้ 2 แบบ คือ แบบแผนที่ และแบบดาวเทียม

205 ใบความรูท้ ่ี 8 เรอ่ื ง การใชเ้ ฟซบกุ๊ (Facebook) เพอื่ การสบื สานและอนรุ กั ษ์ วัตถุประสงค์ 1. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเรอื่ งการใช้เฟซบุ๊ก (Facebook) เพอ่ื การสืบสานและ อนุรกั ษ์ 2. เพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการคิดวิเคราะห์เร่ืองการใช้ เฟซบุ๊ก (Facebook) เพอ่ื การสบื สานและอนุรกั ษ์ 3. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมีความตระหนักเห็นคุณค่าของเร่ืองการใช้เฟซบุ๊ก (Facebook) เพ่ือการ สืบสานและอนุรักษ์กกกกกกก เนื้อหา 1. ความหมายของเฟซบกุ๊ (Facebook) เฟซบุ๊ก เป็นบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ สานักงานใหญ่อยู่ที่ เมนโลพาร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย เฟซบุ๊ก ก่อต้ัง เม่ือวันพุธ ที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 โดยมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก และเพ่ือนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดสมาชิกที่ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก ได้แก่ Eduardo, Saverin, Andrew, McCollum, Dustin Moskovitz และ Chris Hughes เริ่มแรกเว็บไซต์มีการเข้าชมอย่างจากัด ทาให้ ใช้เฉพาะนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ภายหลังได้ขยายบริการไปในมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เช่น บอสตัน ไอวลี กี และมหาวทิ ยาลัยสแตนฟอร์ด และค่อย ๆ ให้บริการมหาวิทยาลัยอื่น และต่อมา ก็ให้บรกิ ารโรงเรียนมธั ยมศึกษา โดยเฟซบ๊กุ อนุญาตให้เยาวชนอายตุ ่ากวา่ 13 ปี ท่ัวโลกสามารถสมัคร เป็นสมาชกิ ได้ จากการศกึ ษาของเวบ็ ไซต์คอมพลีตดอทคอม ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2009 เฟซบุ๊กถือ เป็นบริการเครือข่ายสังคมที่มีคนใช้มากที่สุด เมื่อดูจากผู้ใช้ประจารายเดือน รองลงมา คือ มายสเปซ เอน็ เตอร์เทนเมนต์วกี ลี ให้อยู่ในรายชื่อ สิ่งท่ีดีท่ีสุดในทศวรรษ และควอนต์แคสต์ ประเมินว่า เฟซบุ๊ก มีผู้ใช้ต่อเดือนราว 135.1 ล้านคน นับเฉพาะในสหรัฐอเมริกาข้อมูล ณ วันท่ี 4 มกราคม พ.ศ. 2554 ปัจจุบัน เฟซบุ๊กมีจานวนสมาชิกท้ังหมด 584,628,480 จากท่ัวโลก โดยเป็นสมาชิกจากประเทศไทย 6,914,800 สมาชกิ

206 2. การสรา้ ง Facebook Fanpage การสร้าง Facebook Fanpage เพื่อการประชาสัมพันธ์ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ข่าวสารตา่ ง ๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรทางการศึกษา องค์กรมหาชน หรือบริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าองค์กรขนาด ใด ก็ต่างต้องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ภายในองค์กรเพื่อการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร กิจกรรมต่าง ๆ ของตนเองให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ซึ่งปัจจุบันได้มีช่องทางการโฆษณาอย่าง มากมาย หนึ่งในนั้น Facebook Fanpage ก็เป็นช่องทางที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าถึงได้อย่าง รวดเรว็ ซึ่ง Facebook Fanpage นีเ้ ป็นเครอ่ื งมอื หนง่ึ ที่ช่วยในการประชาสัมพนั ธ์ ซึ่งต้องทาควบคู่กัน ไปกับ website ให้มีประสิทธิภาพและมีความน่าเช่ือถือ มีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันเป็น Social Media ทีน่ ยิ มอย่างมากทาง Facebook ก็ได้เปิดชอ่ งทางให้การทาธุรกจิ ตา่ ง ๆ ไดเ้ ปิด Fanpage ของตัวเองได้ด้วย วิธีการสร้าง fanpage facebook ท่ีเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กในท้องถ่ิน เช่น ร้านค้า ร้านขายของชา ร้านอาหาร การประชาสมั พนั ธ์ การขายของออนไลน์ เป็นต้น จุดเด่นของ Fanpage ประเภทน้ีจะแสดงแผนที่สถานที่สาคัญ แหล่งท่องเท่ียว ร้านค้า เวลาทาการ ราคาสินค้า เบอร์โทรศพั ท์ ทีจ่ ะใหล้ ูกค้า นกั ท่องเท่ียวทราบถงึ ขอ้ มูลท่เี ปน็ ประโยชน์ต่อร้านค้า Fanpage ที่เหมาะ กบั สถาบัน องค์กรธรุ กจิ หรอื บริษทั ข้อดีของการเปิด Fanpage รูปแบบน้ีเราจะสามารถแสดงข้อมูล ของบรษิ ัทไดอ้ ย่างครบถ้วน ซ่งึ เหมาะอย่างยิง่ กบั ธุรกจิ ขนาดใหญ่ ทีต่ ้องการแสดงขอ้ มลู ของบริษัท 3. ขั้นตอนการสรา้ ง Facebook Fanpage 3.1 ล็อกอนิ เข้าใชง้ านเว็บไซต์ www.facebook.com โดยใช้ username และ password ปกติทใี่ ช้เล่น Facebookหลังจากน้นั ใหค้ ล๊ิกเข้าไปที่ http://www.facebook.com/ pages/create.php จะเขา้ สู่หนา้ CreateaPage และปรากฏประเภทของ Page ให้เลอื กได้ 6 ประเภท แต่ในกรณจี ะสรา้ ง Facebook Fanpage ของหน่วยงานใหเ้ ลอื กบริษัทองค์กรหรอื สถาบัน

207 3.1 เมื่อคลิกเลือกหมวดหมู่ของ Page แล้วจากนั้นให้เลือกที่กลุ่มหน่วยงานงาน ราชการจากน้ันใส่ช่ือหนว่ ยงาน และกดปุ่มเรม่ิ ต้น

208 3.2 จากนน้ั จะมตี ัวช่วยการต้ังค่าเบื้องต้น Fanpage แสดงผลข้ึนมาโดยข้ันตอนแรก ให้ใสต่ าแหน่งอ้างอิงตามท่ตี อ้ งการเพื่อใหร้ ะบบทาการตรวจสอบ และคลิกปุ่มบนั ทกึ ขอ้ มูล กกกกกกกก 3.3 ขั้นตอนทส่ี องให้ใสร่ ปู โปรไฟล์ของ Fanpage โดยสามารถเลือกอัพโหลดรูปจาก คอมพิวเตอรห์ รือจะใส่ URL รปู ภาพทอี่ ัพโหลดไว้ท่เี ว็บไซตอ์ ืน่ ๆ แลว้ และคลกิ ป่มุ ถัดไป กกกกกกกก

209 3.4 ขั้นตอนที่สามให้เพิ่มหน้า Fanpage ในรายการโปรดโดยคลิกท่ีปุ่ม “กเพ่ิมใน รายการโปรด” และคลกิ ท่ปี มุ่ ถดั ไป กกกกกกก 3.5 ข้ันตอนท่ีสี่ในแท็บเข้าถึงผู้คนเพ่ิมเติมซึ่งเป็นการโปรโมทหน้า Fanpage บน Facebook ถา้ หากยงั ไมต่ อ้ งการใส่ขอ้ มูลใน Fanpage อาจคลิกปุ่ม “ข้าม” เพ่ือข้ามข้ันตอนนี้ไปหาก ใส่ขอ้ มลู ใน Fanpage ครบแลว้ สามารถเลือกโปรโมทบน Facebook ได้ กกกกกกกก

210 3.6 จะปรากฏหน้า FacebookกFanpageกขึ้นมาโดยในหน้าน้ีผู้ดูแล (Admin) Fanpage สามารถเข้าไปจัดการขอ้ มูลหรอื ต้ังค่าต่าง ๆ ของ Fanpage ได้ สรปุ เฟชบุ๊กเป็นบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ สานักงานใหญ่อยู่ที่ เมนโลพาร์ก รัฐ แคลิฟอรเ์ นยี เฟซบกุ๊ กอ่ ตงั้ เมอื่ วนั พุที 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 โดยมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก และเพ่ือนใน มหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด เฟซบุ๊กถือเป็นบริการเครือข่ายสังคมที่มีคนใช้มากท่ีสุด ราว 135.1 ล้านคน นบั เฉพาะในสหรัฐอเมรกิ าขอ้ มูล ณ วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554 จากเฟซบุ๊กมีจานวนสมาชิกทั้งหมด 584,628,480 สมาชกิ ท่ัวโลก โดยเป็นสมาชกิ จากประเทศไทย 6,914,800 สมาชกิ การสร้าง Facebook Fanpage เพื่อการประชาสัมพันธ์การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ขา่ วสารต่าง ๆ ไม่วา่ จะเปน็ องค์กรทางการศึกษา องค์กรมหาชน หรือบริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าองค์กรขนาด ใด ต่างต้องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ภายในองค์กรเพ่ือการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร กิจกรรมต่าง ๆ ของตนเองให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ซ่ึงปัจจุบันได้มีช่องทางการโฆษณาอย่าง มากมาย หน่ึงในน้ัน Facebook Fanpage ก็เป็นช่องทางที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าถึงได้อย่าง รวดเร็ว ซงึ่ Facebook Fanpage นี้เปน็ เครือ่ งมอื หนง่ึ ที่ช่วยในการประชาสัมพนั ธ์

211 ขั้นตอนการสรา้ ง Facebook Fanpage มที ั้งหมด 7 ข้นั ตอน ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ล็อกอินเข้าใช้งานเว็บไซต์ www.facebook.com โดยใช้ username และ password จะเข้าสู่หน้า Create a Page และปรากฏประเภทของ Page ให้เลือกได้ 6 ประเภท แต่ ในกรณีจะสร้าง Facebook Fanpage ของหน่วยงานใหเ้ ลอื กบริษทั องค์กรหรอื สถาบัน 2. เม่ือคลิกเลือกหมวดหมู่ของกPageกแล้วจากนั้นให้เลือกท่ีกลุ่มหน่วยงานงาน ราชการจากนน้ั ใส่ชื่อหนว่ ยงาน และกดปุ่มเริ่มต้น 3. จากน้ันจะมีตวั ชว่ ยการตงั้ คา่ เบ้อื งต้น Fanpage แสดงผลข้ึนมาโดยขั้นตอนแรกให้ ใส่ตาแหนง่ อ้างองิ ตามท่ีตอ้ งการเพอ่ื ใหร้ ะบบทาการตรวจสอบ และคลิกปุ่มบนั ทกึ ขอ้ มูล 4. ข้ันตอนท่ีสองให้ใส่รูปโปรไฟล์ของ Fanpage โดยสามารถเลือกอัพโหลดรูปจาก คอมพิวเตอร์หรอื จะใส่ URL รูปภาพท่ีอพั โหลดไวท้ เี่ ว็บไซต์อ่ืน ๆ แลว้ และคลกิ ปุ่มถดั ไป 5. ข้ันตอนที่สามให้เพ่ิมหน้า Fanpage ในรายการโปรดโดยคลิกท่ีปุ่ม “เพ่ิมใน รายการโปรด” และคลกิ ท่ปี มุ่ ถัดไป 6. ขั้นตอนท่ีสี่ในแท็บเข้าถึงผู้คนเพิ่มเติมซ่ึงเป็นการโปรโมทหน้า Fanpage บน Facebook ถ้าหากยังไม่ต้องการใส่ข้อมูลใน Fanpage อาจคลิกปุ่ม “ข้าม” เพื่อข้ามขั้นตอนนี้ไป (หากใส่ข้อมูลใน Fanpage ครบแล้วสามารถเลือกโปรโมทบน Facebook ได)้ 7. จะปรากฏหน้ากFacebook Fanpage ขึ้นมา โดยหน้านี้ผู้ดูแล (Admin) Fanpage สามารถเข้าไปจดั การข้อมลู หรอื ตง้ั ค่าต่าง ๆ ของ Fanpage ได้

ภาคผนวก ข. ใบงาน

213 ใบงานท่ี 1 หวั เร่ืองที่ 1 วัดปรางคห์ ลวง คาชแี้ จง 1. ใบงานนี้จัดทาขึ้นเพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ และประสบการณ์ในการศึกษาหัวเร่ืองที่ 1 วดั ปรางค์หลวง ใหผ้ ้เู รยี นปฏบิ ตั ขิ ัน้ ตอนต่อไปนีอ้ ยา่ งเคร่งครดั 2. ขั้นตอนการปฏิบตั ขิ องผเู้ รยี น 2.1 ให้ผเู้ รียนค้นควา้ ศกึ ษาประเดน็ ต่อไปนี้ 2.1.1 ประเด็นศกึ ษา เร่อื ง การจดั ทาพิกดั ทางภูมศิ าสตร์ของวดั ปรางค์หลวง 2.1.2 ประเดน็ ศกึ ษา เรื่อง ประวตั ิความเปน็ มาของวดั ปรางคห์ ลวง 2.1.3 ประเด็นศกึ ษา เร่ือง ความสาคญั ของวัดปรางค์หลวง 2.1.4 ประเดน็ ศกึ ษา เรื่อง บคุ คลสาคญั ท่ีเกี่ยวข้องกบั วัดปรางค์หลวง 2.1.5 ประเด็นศึกษา เรื่อง ความแตกต่างระหว่างโบราณสถานและโบราณวัตถุ ของวดั ปรางค์หลวง 2.1.6 ประเดน็ ศกึ ษา เรอื่ ง การปฏบิ ตั ติ นเมื่อเข้าร่วมประเพณที ่ีสาคัญของ วดั ปรางค์หลวงทีจ่ ดั ขึน้ 2.2 ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าประเด็นศึกษาทุกประเด็นจากสื่อเอกสาร ได้แก่ สื่อใบ ความรู้ สื่อหนังสือเรียน และส่ือหนังสือท่ีเกี่ยวข้อง จานวน 1 เล่ม จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จานวน 2 เว็บไซต์ และจากภมู ิปญั ญาท้องถิ่น จานวน 1 คน 2.3 ให้ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลท่ีศึกษาที่ได้ค้นคว้าจาก ข้อ 2.2 บันทึกผลการศึกษา คน้ คว้าทไ่ี ดล้ งในเอกสารเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง (กรต.) ส่งครผู ู้สอนเมื่อมาพบกลุม่ ตามท่นี ดั หมาย 2.4 นาข้อมูลที่ได้บันทึกในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ข้อ 2.3 มาอภิปราย และแลกเปล่ียนเรียนรู้ขณะพบกลุ่มกับเพ่ือนผู้เรียนและครูผู้สอน คิดวิเคราะห์ท่ีได้จากการอภิปราย คิดสงั เคราะหข์ อ้ มูลท่ีไดใ้ หม่ และสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ใหม่บันทึกลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผ้สู อนเมื่อพบกลุ่มเสร็จส้นิ 2.5 นาสรุปผลการเรียนรู้ท่ีได้ไปฝึกปฏิบัติจริง ด้วยการตอบแบบฝึกหัดในใบงาน จานวน 6 ข้อ แล้วเขียนคาตอบแต่ละข้อลงไนเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนตามท่ี นดั หมาย 2.6 บนั ทึกผลการเรยี นรู้ท่ไี ดจ้ ากการทาแบบฝึกหดั ลงในเอกสารการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) สง่ ครูผ้สู อนตามที่นัดหมาย

214 แบบฝึกหัด กกกกกกก1. จงบอกพิกดั ทางภมู ิศาสตรข์ องวัดปรางคห์ ลวง คาตอบ ....................................................................................................................... .... ................................................................................................................................................................ กกกกกกก2. จงบอกประวัติความเปน็ มาของวัดปรางคห์ ลวง คาตอบ ........................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก3. จงอธิบายความสาคญั ของวดั ปรางค์หลวง คาตอบ ....................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก4. จงยกตัวอยา่ งบคุ คลสาคัญท่ีเกี่ยวข้องกับวดั ปรางคห์ ลวง มีใครบา้ งพร้อมอธิบาย คาตอบ .................................................................................................................. ......... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก5. จงยกตวั อยา่ งโบราณสถาน และโบราณวตั ถุท่สี าคัญภายในวดั ปรางค์หลวง มีอะไรบา้ ง พร้อมอธิบาย คาตอบ ....................................................................................................................... .... ................................................................................................... ............................................................. กกกกกกก6. จงบอกการปฏบิ ตั ิตนในการเข้าร่วมประเพณีการตกั บาตรเทโวของวัดปรางคห์ ลวง คาตอบ ........................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................

215 ใบงานท่ี 2 หัวเร่อื งท่ี 2 วดั เสาธงหนิ คาช้แี จง 1. ใบงานน้จี ัดทาขึ้นเพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ และประสบการณ์ในการศึกษาหัวเรื่องที่ 2 วัด เสาธงหิน ใหผ้ ู้เรยี นปฏิบตั ิข้ันตอนต่อไปนอ้ี ย่างเครง่ ครดั 2. ข้นั ตอนการปฏบิ ัติของผเู้ รียน 2.1 ใหผ้ ้เู รียนค้นควา้ ศึกษาประเด็นต่อไปน้ี 2.1.1 ประเด็นศึกษา เร่ือง การจัดทาพกิ ดั ทางภมู ศิ าสตร์ของวัดเสาธงหิน 2.1.2 ประเด็นศกึ ษา เรอื่ ง ประวตั คิ วามเป็นมาของวัดเสาธงหิน 2.1.3 ประเดน็ ศึกษา เรือ่ ง ความสาคัญของวดั เสาธงหนิ 2.1.4 ประเด็นศึกษา เรื่อง บุคคลสาคัญทเี่ ก่ียวข้องกบั วดั เสาธงหนิ 2.1.5 ประเด็นศึกษา เรื่อง ความแตกต่างระหว่างวัตถุ และสิ่งก่อสร้างของ วดั เสาธงหิน 2.1.6 ประเด็นศึกษา เร่ือง การปฏิบัติตนเม่ือเข้าร่วมประเพณีที่สาคัญของ วัดเสาธงหนิ ทจ่ี ัดข้นึ 2.2 ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าประเด็นศึกษาทุกประเด็นจากสื่อเอกสาร ได้แก่ สื่อใบ ความรู้ ส่ือหนังสือเรียน และส่ือหนังสือท่ีเกี่ยวข้อง จานวน 1 เล่ม จากส่ืออิเล็กทรอนิกส์ จานวน 2 เว็บไซต์ และจากภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ จานวน 1 คน 2.3 ให้ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลท่ีศึกษาที่ได้ค้นคว้าจาก ข้อ 2.2 บันทึกผลการศึกษา ค้นคว้าทไี่ ดล้ งในเอกสารเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง (กรต.) ส่งครผู ู้สอนเม่ือมาพบกลมุ่ ตามทีน่ ดั หมาย 2.4 นาข้อมูลท่ีได้บันทึกในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ข้อ 2.3 มาอธิบาย และแลกเปล่ียนเรียนรู้ขณะพบกลุ่มกับเพื่อนผู้เรียน และครูผู้สอน คิดวิเคราะห์ที่ได้จากการอภิปราย คดิ สงั เคราะหข์ ้อมลู ท่ไี ด้ใหม่ และสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ใหม่บันทึกลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครผู ูส้ อนเม่ือพบกลมุ่ เสรจ็ สิน้ 2.5 นาสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ไปฝึกปฏิบัติจริง ด้วยการตอบแบบฝึกหัดในใบงาน จานวน 6 ขอ้ แลว้ เขยี นคาตอบแต่ละข้อลงไนเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนตามท่ี นัดหมาย 2.6 บันทึกผลการเรียนรทู้ ไ่ี ด้จากการทาแบบฝึกหดั ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครผู สู้ อนตามท่นี ัดหมาย

216 แบบฝึกหัด กกกกกกก1. จงบอกพกิ ดั ทางภูมิศาสตร์ของวดั เสาธงหิน คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก2. จงบอกประวตั ิความเป็นมาของวัดเสาธงหิน คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก3. จงอธบิ ายความสาคัญของวดั เสาธงหนิ คาตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก4. จงยกตวั อย่างบคุ คลสาคัญท่ีเก่ียวข้องกับวดั เสาธงหิน มใี ครบ้างพรอ้ มอธบิ าย คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก5. จงยกตวั อยา่ งวัตถุ และส่ิงก่อสรา้ งท่ีสาคญั ภายในวัดเสาธงหนิ มีอะไรบ้างพรอ้ มอธบิ าย คาตอบ........................................................................................................................ .... ................................................................................................................. ............................................... กกกกกกก6. จงบอกการปฏบิ ัตติ นในการเข้ารว่ มประเพณีการทาบญุ ตักบาตรพระ 108 ของ วัดเสาธงหิน คาตอบ............................................................................................ ................................ ............................................................................................................................. ...................................

217 ใบงานท่ี 3 หวั เรอื่ งที่ 3 วดั ต้นเชอื ก คาช้ีแจง 1. ใบงานน้ีจัดทาขึ้นเพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ และประสบการณ์ในการศึกษาหัวเร่ืองท่ี 3 วัดตน้ เชือก ให้ผู้เรยี นปฏบิ ัติขน้ั ตอนต่อไปน้อี ยา่ งเครง่ ครดั 2. ขัน้ ตอนการปฏิบัตขิ องผูเ้ รยี น 2.1 ให้ผู้เรยี นคน้ คว้าศึกษาประเด็นต่อไปนี้ 2.1.1 ประเดน็ ศกึ ษา เร่อื ง การจัดทาพิกัดทางภมู ิศาสตรข์ องวดั ต้นเชอื ก 2.1.2 ประเดน็ ศกึ ษา เรอื่ ง ประวตั คิ วามเปน็ มาของวัดต้นเชอื ก 2.1.3 ประเดน็ ศึกษา เรอ่ื ง ความสาคัญของวัดตน้ เชือก 2.1.4 ประเด็นศึกษา เรื่อง บคุ คลสาคัญทเี่ กี่ยวข้องกบั วัดตน้ เชอื ก 2.1.5 ประเด็นศึกษา เร่ือง ความแตกต่างระหว่างวัตถุ และส่ิงก่อสร้างของ วดั ตน้ เชอื ก 2.1.6 ประเด็นศึกษา เร่ือง การปฏิบัติตนเมื่อเข้าร่วมประเพณีที่สาคัญของวัด ตน้ เชอื ก ทีจ่ ดั ขึน้ 2.1.7 ประเด็นศกึ ษา เรือ่ ง การเห็นคณุ คา่ ความสาคญั ของวัดตน้ เชอื ก 2.2 ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าประเด็นศึกษาทุกประเด็นจากส่ือเอกสาร ได้แก่ ส่ือใบ ความรู้ ส่ือหนังสือเรียน และสื่อหนังสือท่ีเก่ียวข้อง จานวน 1 เล่ม จากส่ืออิเล็กทรอนิกส์ จานวน 2 เว็บไซต์ และจากภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน จานวน 1 คน 2.3 ให้ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลท่ีศึกษาที่ได้ค้นคว้าจาก ข้อ 2.2 บันทึกผลการศึกษา ค้นควา้ ทีไ่ ดล้ งในเอกสารเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง (กรต.) สง่ ครูผสู้ อนเมื่อมาพบกล่มุ ตามทีน่ ดั หมาย 2.4 นาข้อมูลที่ได้บันทึกในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ข้อ 2.3 มาอธิบาย และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขณะพบกลุ่มกับเพื่อนผู้เรียนและครูผู้สอน คิดวิเคราะห์ท่ีได้จากการอภิปราย คดิ สงั เคราะหข์ อ้ มูลทไ่ี ด้ใหม่ และสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ใหม่บันทึกลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) สง่ ครผู ู้สอนเม่อื พบกล่มุ เสร็จส้นิ 2.5 นาสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ไปฝึกปฏิบัติจริง ด้วยการตอบแบบฝึกหัดในใบงาน จานวน 6 ข้อ แล้วเขยี นคาตอบแตล่ ะข้อลงไนเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนตามที่ นัดหมาย

218 2.6 บันทึกผลการเรยี นรูท้ ไี่ ด้จากการนาแบบฝึกหัด ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนตามทน่ี ดั หมาย แบบฝกึ หัด กกกกกกก1. จงบอกพิกดั ทางภูมิศาสตร์ของวดั ตน้ เชือก คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก2. จงบอกประวัตคิ วามเป็นมาของวดั ตน้ เชือก คาตอบ........................................................................................................................ .... ....................................................................................................................................................... ......... กกกกกกก3. จงอธบิ ายความสาคญั ของวดั ต้นเชอื ก คาตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก4. จงยกตวั อย่างบุคคลสาคัญที่เกย่ี วข้องกับวัดต้นเชือก มีใครบ้างพรอ้ มอธิบาย คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก5. จงยกตัวอย่างวตั ถุ และส่ิงก่อสร้างทส่ี าคัญภายในวดั ต้นเชือก มีอะไรบ้างพร้อมอธิบาย คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................. ................................................... กกกกกกก6. จงบอกการปฏบิ ตั ิตนในการเขา้ รว่ มประเพณีการทาบุญตักบาตรพระ 108 ของ วัดตน้ เชอื ก คาตอบ........................................................................................................................ .... ...............................................................................................................................................................

219 ใบงานที่ 4 หัวเร่ืองท่ี 4 วดั ทา่ บนั เทิงธรรม คาชแ้ี จง 1. ใบงานนี้จัดทาขึ้นเพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ และประสบการณ์ในการศึกษาหัวเรื่องที่ 4 วัดทา่ บันเทงิ ธรรม ใหผ้ ู้เรียนปฏิบตั ิขั้นตอนต่อไปนี้อยา่ งเครง่ ครดั 2. ขัน้ ตอนการปฏิบัติของผเู้ รียน 2.1 ใหผ้ ้เู รยี นค้นคว้าศกึ ษาประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 2.1.1 ประเดน็ ศกึ ษา เร่ือง การจัดทาพกิ ดั ทางภมู ศิ าสตรข์ องวดั ทา่ บันเทงิ ธรรม 2.1.2 ประเดน็ ศกึ ษา เรื่อง ประวัติความเป็นมาของวัดท่าบนั เทงิ ธรรม 2.1.3 ประเด็นศึกษา เรอื่ ง ความสาคญั ของวดั ท่าบนั เทงิ ธรรม 2.1.4 ประเดน็ ศกึ ษา เร่ือง บุคคลสาคัญทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั วัดทา่ บันเทิงธรรม 2.1.5 ประเด็นศึกษา เรื่อง ความแตกต่างระหว่างวัตถุ และสิ่งก่อสร้างของ วดั ทา่ บันเทิงธรรม 2.1.6 ประเด็นศึกษา เรื่อง การปฏิบัติตนเมื่อเข้าร่วมประเพณีที่สาคัญของ วัดท่าบันเทงิ ธรรม ที่จัดข้นึ 2.2 ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าประเด็นศึกษาทุกประเด็นจากสื่อเอกสาร ได้แก่ สื่อใบ ความรู้ ส่ือหนังสือเรียน และสื่อหนังสือที่เก่ียวข้อง จานวน 1 เล่ม จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จานวน 2 เว็บไซต์ และจากภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น จานวน 1 คน 2.3 ให้ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลที่ศึกษาที่ได้ค้นคว้าจาก ข้อ 2.2 บันทึกผลการศึกษา คน้ ควา้ ทไี่ ดล้ งในเอกสารเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง (กรต.) ส่งครผู ูส้ อนเมอื่ มาพบกลุ่มตามที่นดั หมาย 2.4 นาข้อมูลท่ีได้บันทึกในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ข้อ 2.3 มาอธิบาย และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขณะพบกลุ่มกับเพ่ือนผู้เรียน และครูผู้สอน คิดวิเคราะห์ท่ีได้จากการอภิปราย คดิ สังเคราะหข์ อ้ มูลท่ีได้ใหม่ และสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ใหม่บันทึกลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผสู้ อนเมอ่ื พบกลุ่มเสรจ็ ส้นิ 2.5 นาสรุปผลการเรียนรู้ท่ีได้ไปฝึกปฏิบัติจริง ด้วยการตอบแบบฝึกหัดในใบงาน จานวน 6 ขอ้ แล้วเขยี นคาตอบแต่ละข้อลงไนเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนตามท่ี นดั หมาย 2.6 บันทึกผลการเรียนรู้ที่ได้จากการทาแบบฝึกหัด ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วย ตนเอง (กรต.) ส่งครผู สู้ อนตามที่นัดหมาย

220 แบบฝึกหัด 1. จงบอกพกิ ัดทางภมู ิศาสตร์ของวัดท่าบนั เทงิ ธรรม คาตอบ ......................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... 2. จงบอกประวัติความเป็นมาของวดั ท่าบันเทิงธรรม คาตอบ ...................................................................................................................... ... ................................................................................................................................................................ 3. จงอธิบายความสาคญั ของวัดทา่ บนั เทิงธรรม คาตอบ ......................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... 4. จงยกตวั อยา่ งบุคคลสาคัญท่ีเก่ยี วข้องกบั วดั ทา่ บันเทงิ ธรรม คาตอบ ......................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... 5. จงยกตวั อยา่ งวตั ถุ และส่งิ ก่อสรา้ งทส่ี าคัญภายในวดั ท่าบันเทงิ ธรรม คาตอบ ...................................................................................................................... ... ................................................................................................................................................................ 6. จงบอกการปฏิบตั ติ นในการเข้าร่วมประเพณีตกั บาตรพร 108 ของวดั ท่าบันเทิงธรรม คาตอบ ......................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................

221 ใบงานที่ 5 หวั เรือ่ งที่ 5 วดั บางโค คาชีแ้ จง 1. ใบงานน้ีจัดทาขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ และประสบการณ์ในการศึกษาหัวเร่ืองที่ 5 วดั บางโค ให้ผเู้ รยี นปฏิบตั ิขั้นตอนต่อไปน้ีอย่างเครง่ ครัด 2. ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิของผเู้ รยี น 2.1 ใหผ้ เู้ รยี นคน้ ควา้ ศกึ ษาประเด็นตอ่ ไปน้ี 2.1.1 ประเด็นศกึ ษา เรือ่ ง การจัดทาพิกัดทางภูมศิ าสตรข์ องวดั บางโค 2.1.2 ประเด็นศึกษา เรอื่ ง ประวตั ิความเปน็ มาของวัดบางโค 2.1.3 ประเดน็ ศกึ ษา เรอ่ื ง ความสาคัญของวดั บางโค 2.1.4 ประเดน็ ศกึ ษา เรื่อง บุคคลสาคัญทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั วัดบางโค 2.1.5 ประเด็นศึกษา เรื่อง ความแตกต่างระหว่างวัตถุ และส่ิงก่อสร้างของวัด บางโค 2.1.6 ประเด็นศึกษา เรื่อง การปฏิบัติตนเมื่อเข้าร่วมประเพณีท่ีสาคัญของวัด บางโคที่จัดข้ึน 2.2 ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าประเด็นศึกษาทุกประเด็นจากส่ือเอกสาร ได้แก่ ส่ือ ใบความรู้ สื่อหนังสือเรียน และสื่อหนังสือที่เก่ียวข้อง จานวน 1 เล่ม จากส่ืออิเล็กทรอนิกส์ จานวน 2 เวบ็ ไซต์ และจากภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ จานวน 1 คน 2.3 ให้ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลที่ศึกษาท่ีได้ค้นคว้าจาก ข้อ 2.2 บันทึกผลการศึกษา ค้นคว้าทีไ่ ด้ลงในเอกสารเรยี นรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนเมื่อมาพบกลุม่ ตามท่ีนดั หมาย 2.4 นาข้อมูลท่ีได้บันทึกในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ข้อ 2.3 มาอธิบาย และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขณะพบกลุ่มกับเพื่อนผู้เรียน และครูผู้สอน คิดวิเคราะห์ท่ีได้จากการอภิปราย คดิ สังเคราะห์ข้อมูลทไี่ ดใ้ หม่ และสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ใหม่บันทึกลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครผู ู้สอนเม่อื พบกล่มุ เสร็จส้นิ 2.5 นาสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ไปฝึกปฏิบัติจริง ด้วยการตอบแบบฝึกหัดในใบงาน จานวน 6 ข้อ แล้วเขยี นคาตอบแต่ละข้อลงไนเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนตามท่ี นดั หมาย 2.6 บันทึกผลการเรียนรู้ท่ีได้จากการทาแบบฝึกหัด ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วย ตนเอง (กรต.) สง่ ครูผูส้ อนตามทน่ี ดั หมาย

222 แบบฝกึ หดั กกกกกกก1. จงบอกพกิ ัดทางภูมิศาสตรข์ องวัดบางโค คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก2. จงบอกประวตั ิความเป็นมาของวัดบางโค คาตอบ........................................................................................................................ .... .......................................................................................................................................................... ...... กกกกกกก3. จงอธิบายความสาคัญของวดั บางโค คาตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก4. จงยกตัวอยา่ งบุคคลสาคญั ท่ีเกี่ยวข้องกบั วัดบางโค คาตอบ........................................................................................................................ .... ................................................................................................................................................................ กกกกกกก5. จงยกตวั อยา่ งวตั ถุ และสงิ่ ก่อสร้างที่สาคัญภายในวดั บางโค คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก6. จงบอกการปฏบิ ัติตนในการเขา้ ร่วมประเพณีสรงน้าพระของวดั บางโค คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ...................................

223 ใบงานที่ 6 หวั เร่ืองที่ 6 วดั ยุคนั ธราวาส คาชี้แจง 1. ใบงานนจ้ี ัดทาขึ้นเพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ และประสบการณ์ในการศึกษาหัวเร่ืองท่ี 6 วัด ยุคนั ธราวาส ให้ผเู้ รยี นปฏบิ ัตขิ ัน้ ตอนต่อไปน้อี ยา่ งเครง่ ครดั 2. ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิของผ้เู รยี น 2.1 ให้ผูเ้ รียนค้นควา้ ศึกษาประเดน็ ต่อไปนี้ 2.1.1 ประเดน็ ศึกษา เรื่อง การจดั ทาพิกดั ทางภูมศิ าสตร์ของวัดยุคันธราวาส 2.1.2 ประเดน็ ศกึ ษา เรื่อง ประวัตคิ วามเปน็ มาของวัดยคุ นั ธราวาส 2.1.3 ประเดน็ ศกึ ษา เรอื่ ง ความสาคัญของวดั ยคุ นั ธราวาส 2.1.4 ประเดน็ ศึกษา เร่อื ง บคุ คลสาคัญทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั วดั ยคุ ันธราวาส 2.1.5 ประเด็นศึกษา เรื่อง ความแตกต่างระหว่างโบราณสถาน และโบราณวัตถุ ของวัดยคุ นั ธราวาส 2.1.6 ประเดน็ ศึกษา เร่ือง การปฏิบตั ติ นเมือ่ เขา้ รว่ มประเพณีท่สี าคญั ของ วัดยุคันธราวาสทจ่ี ัดขึน้ 2.2 ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าประเด็นศึกษาทุกประเด็นจากสื่อเอกสาร ได้แก่ สื่อใบ ความรู้ ส่ือหนังสือเรียน และส่ือหนังสือที่เก่ียวข้อง จานวน 1 เล่ม จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จานวน 2 เว็บไซต์ และจากภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ จานวน 1 คน 2.3 ให้ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลท่ีศึกษาท่ีได้ค้นคว้าจาก ข้อ 2.2 บันทึกผลการศึกษา ค้นคว้าท่ีได้ลงในเอกสารเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) ส่งครูผสู้ อนเมอ่ื มาพบกล่มุ ตามทีน่ ัดหมาย 2.4 นาข้อมูลที่ได้บันทึกในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ข้อ 2.3 มาอธิบาย และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขณะพบกลุ่มกับเพื่อนผู้เรียน และครูผู้สอน คิดวิเคราะห์ท่ีได้จากการอภิปราย คดิ สงั เคราะห์ขอ้ มลู ที่ได้ใหม่ และสรุปผลการเรียนรู้ท่ีได้ใหม่บันทึกลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) สง่ ครูผู้สอนเม่อื พบกลมุ่ เสรจ็ ส้นิ 2.5 นาสรุปผลการเรียนรู้ท่ีได้ไปฝึกปฏิบัติจริง ด้วยการตอบแบบฝึกหัดในใบงาน จานวน 6 ข้อ แลว้ เขียนคาตอบแตล่ ะข้อลงไนเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนตามท่ี นัดหมาย 2.6 บนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ทีไ่ ด้จากการทาแบบฝึกหัด ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) สง่ ครูผสู้ อนตามที่นดั หมาย

224 แบบฝกึ หดั กกกกกกก1. จงบอกพกิ ดั ทางภูมศิ าสตร์ของวัดยุคันธราวาส คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก2. จงบอกประวัตคิ วามเป็นมาของวดั ยุคันธราวาส คาตอบ........................................................................................................................ .... ................................................................................................................................................... ............. กกกกกกก3. จงอธิบายความสาคัญของวดั ยุคันธราวาส คาตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก4. จงยกตัวอยา่ งบคุ คลสาคัญที่เกยี่ วข้องกับวดั ยุคันธราวาส มใี ครบา้ งพร้อมอธิบาย คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... กกกกกกก5. จงยกตัวอย่างโบราณสถาน และโบราณวัตถุสาคัญภายในวดั ยคุ นั ธราวาส มอี ะไรบา้ ง พรอ้ มอธบิ าย คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................... ................................................. กกกกกกก6. จงบอกการปฏิบัติตนในการเขา้ รว่ มประเพณีสรงน้าพระนิรนั ตรายของวดั ยคุ นั ธราวาส คาตอบ........................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ...................................

225 ใบงานที่ 7 หัวเรอ่ื งที่ 7 วิธกี ารทางภมู ศิ าสตร์และประวตั ศิ าสตรใ์ นการศกึ ษา วดั สวยงาม คูน่ ามบางใหญ่ คาช้แี จง 1. ใบงานน้ีจัดทาข้ึนเพื่อให้ผู้เรียนมี ความรู้ และประสบการณ์ในการศึกษา หัวเรื่องที่ 7 วิธกี ารทางภมู ิศาสตร์ และประวัติศาสตรใ์ นการศกึ ษา วัดสวยงาม คู่นามบางใหญ่ ใหผ้ เู้ รียนปฏิบัติตาม ข้นั ตอนตอ่ ไปนีอ้ ย่างเคร่งครัด 2. ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิของผ้เู รยี น 2.1 ผู้เรียนรับฟงั บรรยายสรุปหวั เร่ืองท่ี 7 วิธีการทางภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์ใน การศึกษา วัดสวยงาม คนู่ ามบางใหญจ่ ากครผู สู้ อน 2.2 ผเู้ รยี นศกึ ษาคน้ คว้าประเด็นศึกษาต่อไป 2.1.1 ประเด็นศึกษาเรื่อง การกาหนดวัตถุประสงค์ในการศึกษา เก็บรวบรวม ข้อมลู วเิ คราะห์ จัดหมวดหมู่ นาเสนอขอ้ มลู และเขยี นรายงานการศึกษา วดั สวยงาม คูน่ ามบางใหญ่ 2.1.2 ประเด็นศึกษาเรื่อง การกาหนดประเด็นศึกษา สืบค้น และรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ตีความข้อมูล คัดเลือก และประเมินข้อมูล และเรียบเรียงรายงานข้อเท็จจริงทาง ประวตั ิศาสตร์ การศกึ ษาวัดสวยงาม คู่นามบางใหญ่ 2.3 ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าประเด็นศึกษาทุกประเด็นจากส่ือเอกสาร ได้แก่ ส่ือใบ ความรู้ สือ่ หนงั สือเรียน และส่ือหนังสือท่ีเก่ียวข้อง จานวน 1 เล่ม และจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จานวน 2 เว็บไซต์ 2.4 ให้ผู้เรียนรายงานข้อมูลท่ศี ึกษาคน้ คว้าทีไ่ ด้จากข้อ 2.3 บนั ทึกผลการศึกษาค้นคว้า ที่ได้ลงในเอกสารการเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง (กรต.) สง่ ครูผู้สอนเมื่อมาพบกลุ่มตามทีน่ ัดหมาย 2.5 นาข้อมูลท่ีได้บันทึกในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ข้อ 2.4 มาอภิปราย แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ขณะพบกลุ่มกับเพื่อนผู้เรียน และครูผู้สอนคิดวิเคราะห์ข้อมูลท่ีได้จากการอภิปราย คดิ สงั เคราะหข์ อ้ มูลที่ได้ใหม่ และสรุปผลการเรยี นรู้ท่ีได้ใหม่ บนั ทึกลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครผู ูส้ อนเม่อื พบกลุม่ เสร็จสน้ิ 2.6 นาสรุปผลการเรียนรู้ท่ีได้ไปฝึกปฏิบัติจริง ด้วยการตอบแบบฝึกหัดในใบงานน้ี จานวน 2 ข้อ แล้วเขียนคาตอบของแต่ละข้อลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอน ตามนดั หมาย 2.7 นาสรปุ ผลการเรียนรู้ทไี่ ดไ้ ปฝกึ ปฏิบัติ ทากจิ กรรมตามทรี่ ะบไุ วใ้ นใบงานนี้

226 2.8 บันทึกผลการเรียนรู้ท่ีได้จากการทาแบบฝึกหัด และกิจกรรมของผู้เรียน ลงใน เอกสารการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง (กรต.) ส่งครผู สู้ อนตามทีน่ ัดหมาย แบบฝึกหัด 1. จงบอกขั้นตอน การใช้วิธีการทางภูมิศาสตร์ในการศึกษาเร่ือง วัดสวยงาม คู่นาม บางใหญ่ กกกกกกกกกกคาตอบ........................................................................................................................ .... .................................................................................................................... ........................................... 2. จงบอกขั้นตอน การใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษา วัดสวยงาม คู่นาม บางใหญ่ กกกกกกกกก คาตอบ................................................................................................................. ........... ............................................................................................................................. .................................. กจิ กรรม 1. ให้ผู้เรียนนาสรุปผลการเรียนรู้ท่ีได้ใหม่จากการศึกษาวิธีการทางภูมิศาสตร์ศึกษาใน เร่ือง ที่ต้งั แผนท่ี และพกิ ดั ทางภมู ศิ าสตรข์ องทุกวดั สวยงาม คู่นามบางใหญ่ --=== 2. ให้ผู้เรียนสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ใหม่จากการศึกษาวิธีการทางประวัติศาสตร์มาศึกษา หัวเร่ือง ประวัติความเป็นมา ความสาคัญของวัด บุคคลสาคัญที่เก่ียวข้องกับวัด โบราณสถาน โบราณวัตถุ และสงิ่ ก่อสร้าง และประเพณสี าคญั ทจ่ี ัดขึน้ ในวัดสวยงาม คูน่ ามบางใหญ่

227 ใบงานที่ 8 หวั เรือ่ งท่ี 8 การสบื สานและการอนรุ กั ษ์ วดั สวยงาม คู่นามบางใหญ่ คาชแ้ี จง 1. ใบงานนี้ จัดทาข้ึนเพื่อให้ผู้เรียนมี ความรู้ และประสบการณ์ในการศึกษา หัวเร่ือง ที่ 8 การสบื สานและการอนุรกั ษว์ ัดสวยงาม คู่นามบางใหญ่ ให้ผู้เรียนปฏิบัติตามข้ันตอนต่อไปน้ีอย่าง เคร่งครดั 2. ขน้ั ตอนการปฏบิ ัตขิ องผู้เรียน 2.1 ผู้เรียนรบั ฟังการบรรยายสรุปหัวเร่อื งที่ 8 การสืบสานและการอนุรักษ์ วดั สวยงาม คู่นามบางใหญ่จากครผู ้สู อน 2.2 ผ้เู รยี นศึกษาคน้ ควา้ ประเด็นศึกษาตอ่ ไป 2.2.1 ประเด็นศึกษา เร่ืองการจัดทาแผ่นพับ เผยแพร่ เพื่อการสืบสานและการ อนรุ ักษ์ วดั สวยงาม คู่นามบางใหญ่ 2.2.2 ประเด็นศึกษา เรื่องจัดการทาคลิปวีดโี อเผยแพร่ เพือ่ การสืบสานและการ อนุรกั ษ์ วัดสวยงาม คู่นามบางใหญ่ 2.3 ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าประเด็นศึกษาทุกประเด็น จากส่ือเอกสาร ได้แก่ สื่อ ใบ ความรู้ สื่อหนงั สอื เรยี น และสื่อหนังสอื ท่เี ก่ยี วขอ้ ง จานวน 1 เล่ม และ จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จานวน 2 เวบ็ ไซต์ 2.4 ให้ผู้เรียนรายงานข้อมูลทศี่ ึกษาคน้ ควา้ ที่ไดจ้ ากขอ้ 2.2 บันทึกผลการศึกษา ค้นคว้าท่ไี ด้ลงในเอกสารการเรียนร้ดู ้วยตนเอง (กรต.) ส่งครผู สู้ อนเมอ่ื มาพบกลุม่ ตามทน่ี ัดหมาย 2.5 นาข้อมูลที่ได้บันทึกในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ข้อ 2.3 มาอภิปราย แลกเปล่ียนเรียนรู้ขณะพบกลุ่มกับเพื่อนผู้เรียนและครูผู้สอนคิดวิเคราะห์ข้อมูลท่ีได้จากการอภิปราย คิดสงั เคราะห์ขอ้ มูลท่ไี ดใ้ หม่ และสรุปผลการเรยี นร้ทู ไี่ ด้ใหม่ บันทกึ ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครผู ้สู อนเมือ่ พบกลุ่มเสร็จส้ิน 2.6 นาสรุปผลการเรียนรู้ท่ีได้ไปฝึกปฏิบัติจริง ด้วยการตอบแบบฝึกหัดในใบงานน้ี จานวน 2 ข้อ แล้วเขียนคาตอบของแต่ละข้อลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอน ตามนัดหมาย 2.7 นาสรุปผลการเรียนรู้ท่ีได้ไปฝึกปฏิบัติ ทากิจกรรมตามท่ีระบุไว้ในใบงานน้ี และ ส่งช้นิ งานที่ได้แกค่ รูผสู้ อนตามท่นี ดั หมาย

228 2.8 บันทึกผลการเรียนรู้ท่ีได้จากการทาแบบฝึกหัด และกิจกรรมของผู้เรียน ลงใน เอกสารการเรยี นรู้ด้วยตนเอง (กรต.) สง่ ครผู ู้สอนตามท่ีนัดหมาย แบบฝกึ หัด 1. จงอธิบายข้ันตอนการทาแผ่นพับ ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพ่ือประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ เพื่อการสบื สาน และการอนรุ กั ษ์ วดั สวยงาม คนู่ ามบางใหญ่ คาตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................................................. 2. จงอธบิ ายขั้นตอนการทาคลิปวีดิทัศน์ ด้วย Smart Phone เพอื่ ประชาสัมพนั ธ์ เผยแพร่ เพื่อการสบื สาน และการอนรุ ักษ์ วัดสวยงาม คู่นามบางใหญ่ คาตอบ.......................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ กจิ กรรม 1. ใหผ้ เู้ รียนผลิตส่อื เอกสารแผ่นพับด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ เพื่อการสืบสาน และการอนรุ ักษ์ วดั สวยงาม คนู่ ามบางใหญ่ 2. ให้ผู้เรียนผลิตส่ือคลิปวีดิทัศน์ด้วย Smart Phone เผยแพร่ เพ่ือการสืบสาน และการ อนุรักษ์ วดั สวยงาม ค่นู ามบางใหญ่

ภาคผนวก ค. เครื่องมอื วดั ความกา้ วหนา้

230 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ของผู้เรยี น หลกั สตู รรายวิชา สค33162 วดั สวยงาม คนู่ ามบางใหญ่ คาช้แี จง 1. แบบสงั เกตฉบบั น้จี ดั ทำขน้ึ เพื่อให้ครผู สู้ อนใช้ประเมินควำมก้ำวหนำ้ เก่ียวกับพฤติกรรม กำรเรียนรู้ ไดแ้ ก่ กำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรม และกำรซักถำมตอบคำถำม ทค่ี รูผสู้ อนพบขณะพบกลุม่ โดยมี หลกั เกณฑก์ ำรตดั สินใจดังนี้ 1.1 เกณฑ์กำรตดั สนิ เขำ้ ร่วมกิจกรรม ผำ่ น หมำยถงึ ผูเ้ รยี นเข้ำร่วมกิจกรรมตำมนดั หมำยได้ ไม่ผ่ำน หมำยถึง ผู้เรียนไมเ่ ขำ้ รว่ มกจิ กรรมตำมนดั หมำยได้ 1.2 เกณฑ์กำรตดั สนิ กำรซกั ถำม ตอบคำถำม ผำ่ น หมำยถงึ ผ้เู รยี นสำมำรถตอบคำถำมไดถ้ ูกตอ้ งส่วนใหญ่ ไมผ่ ่ำน หมำยถงึ ผ้เู รยี นไม่สำมำรถตอบคำถำมไดถ้ ูกตอ้ งสว่ นใหญ่ 2. เมื่อเสรจ็ ส้ินกำรพบกลุ่มแต่ละครั้ง ให้ครูผู้สอนบันทึกผลกำรสังเกตท่ีได้ลงในแบบสังเกต ดว้ ยกำรทำเคร่ืองหมำยถกู ( √ ) ลงในชอ่ ง ท่ปี ระเมินได้ และให้คำแนะนำแกผ่ ู้เรียนที่ไม่ผ่ำน เพอ่ื ปรับปรุงพฤติกรรมกำรเรยี นร้ขู องผู้เรยี นในคร้ังตอ่ ไป ผลการสังเกตพฤติกรรม ผลกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเรียนรู้ ผำ่ น ไมผ่ ำ่ น รำยกำรสงั เกต ผำ่ น ไมผ่ ำ่ น 1. พฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกจิ กรรม 2. พฤตกิ รรมกำรซักถำม ตอบคำถำม เกณฑก์ ารประเมินผล 1. พฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรม และพฤติกรรมกำรซักถำมตอบคำถำมของผู้เรียน ควรผ่ำน 2. ในกรณีพฤติกรรมท่ีประเมินผล ไม่ผ่ำน ให้ครูผู้สอนให้คำแนะนำผู้เรียน เพื่อปรับปรุง พฤติกรรมกำรเรยี นรู้น้นั ๆ ใหผ้ ่ำนกำรประเมินในครั้งต่อ ๆ ไป

231 แบบตรวจเอกสารการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง (กรต.)

232 แบบตรวจเอกสารการเรยี นรู้ด้วยตนเอง (กรต.) หัวเรอ่ื งท่ี 1 เร่อื งวดั ปรางคห์ ลวง คาชแี้ จง กกกกกกก1. แบบประเมนิ ฉบบั นจี้ ดั ทำข้นึ เพ่อื ประเมนิ ควำมรขู้ องผู้เรียนหลักสูตรรำยวิชำ สค33162 วัดสวยงำม คู่นำมบำงใหญ่ ขณะเรียน ด้วยกำรตรวจแบบฝึกหัดที่มอบหมำยให้ทำในใบงำน โดยมี เกณฑ์กำรตรวจ ดงั น้ี 1.1 ถำ้ ตอบได้ถูกต้องครอบคลมุ ในแต่ละขอ้ ให้ 2 คะแนน 1.2 ถ้ำตอบไดถ้ ูกตอ้ งแต่ไม่ครอบคลุมในแตล่ ะข้อ ให้ 1 คะแนน 1.3 ถ้ำตอบไม่ถกู ต้องไมค่ รอบคลุมในแตล่ ะข้อ ให้ 0 คะแนน หรือไม่ทำแบบฝึกหัดขอ้ น้ัน ๆ กกกกกกก2. แบบประเมินฉบบั นจ้ี ดั ทำข้นึ เพื่อประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำร แสวงหำควำมรู้ โดยมีเกณฑ์กำรตรวจ ดงั นี้ 2.1 ถำ้ ปฏบิ ตั ิกำรศึกษำคน้ คว้ำจำกสือ่ มำกกว่ำ 1 สื่อ ให้ 2 คะแนน 2.2 ถ้ำปฏบิ ัติกำรศึกษำค้นคว้ำจำกสื่อได้เพียง 1 สือ่ ให้ 1 คะแนน 2.3 ถ้ำไม่ปฏบิ ตั กิ ำรศึกษำค้นคว้ำจำกสื่อเลย ให้ 0 คะแนน กกกกกกก3. แบบประเมินฉบบั น้ี จดั ทำขึน้ เพ่ือประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำรคิด วิเครำะห์ โดยมเี กณฑ์กำรตรวจ ดงั นี้ 3.1 ถ้ำสรุปผลกำรเรยี นรู้ท่ีไดใ้ หม่ได้ชดั เจนดี ให้ 2 คะแนน 3.2 ถ้ำสรุปผลกำรเรียนรูท้ ี่ได้ใหมไ่ ดช้ ัดเจนพอใช้ ให้ 1 คะแนน 3.3 ถ้ำสรุปผลกำรเรยี นรูท้ ่ไี ด้ใหม่ไดน้ ้อยหรอื ไม่ได้ ให้ 0 คะแนน กกกกกกก4. เม่ือครูผสู้ อนตรวจเอกสำรกำรเรยี นรู้ด้วนตนเอง (กรต.) ของผู้เรียน ในข้อ 1 ข้อ 2 และ ข้อ 3 เสร็จสิ้น ให้บันทึกผลกำรให้คะแนนของผู้เรียนแต่ละคนตำมผลกำรตรวจให้คะแนนในตำรำง แนบท้ำย ขอ้ น้ี

233 ผลการตรวจให้คะแนน คะแนนเต็ม ผลกำรตรวจใหค้ ะแนน รำยกำรตรวจสอบ 2 …………………. 1. ควำมรขู้ องผู้เรียนจำกกำรทำแบบฝึกหัด 2 …………………. 2 ………………… ข้อ 1 2 …………………. ข้อ 2 2 …………………. ขอ้ 3 2 …………………. ขอ้ 4 12 …………………. ข้อ 5 ขอ้ 6 …………………… รวม ……………………... 2. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำร 2 แสวงหำควำมรู้ 3. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำร 2 คดิ วิเครำะห์

234 หมายเหตุ กกกกกกก1. คะแนนควำมรู้ของผู้เรยี นจำกกำรทำแบบฝกึ หัดได้จริง มีแนวทำงกำรคำนวณ ดังนี้ คะแนนเต็มของกำรตรวจเอกสำร กรต. คะแนนท่ี ตรวจได้ใน ทก่ี ำหนดไว้ในโครงสรำ้ งหลักสูตร แบบตรวจน้ี คะแนนท่ไี ด้ = × คะแนนเต็มของกำรตรวจเอกสำรกำรเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง (กรต.) หวั เรื่องท่ี 1 ถงึ 8 ทุกฉบบั กกกกกกกกกเกณฑก์ ำรประเมิน : ผ่ำน ต้องไดค้ ะแนนไม่นอ้ ยกวำ่ รอ้ ยละ 60 ของคะแนนเตม็ รวมของรำยกำรตรวจสอบควำมรู้ ของผเู้ รียนจำกกำรทำแบบฝกึ หดั : ไม่ผำ่ น มีคะแนนระหว่ำง ร้อยละ 0.00 – 59.99 ของคะแนนเตม็ รวมของรำยกำรตรวจสอบควำมรู้ ของผู้เรียนจำกกำรทำแบบฝกึ หดั กกกกกกก2. เกณฑ์กำรประเมินผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำรแสวงหำควำมรู้ และ เกดิ ทักษะกำรคดิ วเิ ครำะห์ ผ่ำน ต้องได้คะแนนไม่น้อยกวำ่ รอ้ ยละ 50 ของคะแนนเตม็ ทีต่ รวจสอบ ไม่ผ่ำน ไดค้ ะแนนระหว่ำงร้อยละ 0.00 – 49.99 ของคะแนนเต็มทตี่ รวจสอบ

235 แบบตรวจเอกสารการเรยี นรู้ด้วยตนเอง (กรต.) หัวเร่ืองท่ี 2 เร่ืองวัดเสาธงหนิ คาชี้แจง กกกกกกก1. แบบประเมนิ ฉบับนจ้ี ัดทำขน้ึ เพอ่ื ประเมนิ ควำมรู้ของผู้เรียนหลักสูตรรำยวิชำ สค33162 วัดสวยงำม คู่นำมบำงใหญ่ ขณะเรียน ด้วยกำรตรวจแบบฝึกหัดท่ีมอบหมำยให้ทำในใบงำน โดยมี เกณฑ์กำรตรวจ ดงั น้ี 1.1 ถ้ำตอบได้ถกู ต้องครอบคลุมในแต่ละข้อ ให้ 2 คะแนน 1.2 ถำ้ ตอบได้ถูกตอ้ งแต่ไม่ครอบคลมุ ในแต่ละขอ้ ให้ 1 คะแนน 1.3 ถ้ำตอบไมถ่ กู ตอ้ งไม่ครอบคลุมในแตล่ ะขอ้ ให้ 0 คะแนน หรือไม่ทำแบบฝกึ หดั ข้อนน้ั ๆ กกกกกกก2. แบบประเมนิ ฉบบั นีจ้ ัดทำขึ้น เพื่อประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำร แสวงหำควำมรู้ โดยมีเกณฑก์ ำรตรวจ ดังนี้ 2.1 ถำ้ ปฏบิ ตั กิ ำรศกึ ษำคน้ คว้ำจำกส่อื มำกกว่ำ 1 ส่อื ให้ 2 คะแนน 2.2 ถ้ำปฏบิ ัตกิ ำรศึกษำคน้ คว้ำจำกส่อื ไดเ้ พียง 1 ส่ือ ให้ 1 คะแนน 2.3 ถำ้ ไม่ปฏบิ ตั ิกำรศกึ ษำค้นควำ้ จำกสอ่ื เลย ให้ 0 คะแนน กกกกกกก3. แบบประเมินฉบบั น้ี จดั ทำขนึ้ เพือ่ ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำรคิด วิเครำะห์ โดยมเี กณฑ์กำรตรวจ ดงั นี้ 3.1 ถำ้ สรปุ ผลกำรเรียนรู้ทีไ่ ด้ใหมไ่ ด้ชดั เจนดี ให้ 2 คะแนน 3.2 ถ้ำสรุปผลกำรเรียนรทู้ ีไ่ ด้ใหมไ่ ดช้ ัดเจนพอใช้ ให้ 1 คะแนน 3.3 ถ้ำสรุปผลกำรเรียนรทู้ ี่ไดใ้ หม่ได้น้อยหรอื ไมไ่ ด้ ให้ 0 คะแนน กกกกกกก4. เม่อื ครผู ูส้ อนตรวจเอกสำรกำรเรยี นรดู้ ว้ นตนเอง (กรต.) ของผู้เรียน ในข้อ 1 ข้อ 2 และ ข้อ 3 เสร็จสิ้น ให้บันทึกผลกำรให้คะแนนของผู้เรียนแต่ละคนตำมผลกำรตรวจให้คะแนนในตำรำง แนบท้ำย ขอ้ น้ี

236 ผลการตรวจให้คะแนน คะแนนเต็ม ผลกำรตรวจใหค้ ะแนน รำยกำรตรวจสอบ 2 …………………. 1. ควำมรขู้ องผู้เรียนจำกกำรทำแบบฝึกหัด 2 …………………. 2 ………………… ข้อ 1 2 …………………. ข้อ 2 2 …………………. ขอ้ 3 2 …………………. ขอ้ 4 12 …………………. ข้อ 5 ขอ้ 6 …………………… รวม ……………………... 2. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำร 2 แสวงหำควำมรู้ 3. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำร 2 คดิ วิเครำะห์

237 หมายเหตุ กกกกกกก1. คะแนนควำมรู้ของผเู้ รยี นจำกกำรทำแบบฝกึ หัดได้จริง มีแนวทำงกำรคำนวณ ดังนี้ คะแนนเต็มของกำรตรวจเอกสำร กรต. คะแนนท่ี ตรวจได้ใน ที่กำหนดไว้ในโครงสรำ้ งหลักสตู ร แบบตรวจนี้ คะแนนท่ไี ด้ = × คะแนนเต็มของกำรตรวจเอกสำรกำรเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง (กรต.) หวั เรื่องท่ี 1 ถึง 8 ทุกฉบบั กกกกกกกกกเกณฑก์ ำรประเมิน : ผำ่ น ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่ำร้อยละ 60 ของคะแนนเตม็ รวมของรำยกำรตรวจสอบควำมรู้ ของผเู้ รียนจำกกำรทำแบบฝกึ หัด : ไม่ผ่ำน มีคะแนนระหว่ำง ร้อยละ 0.00 – 59.99 ของคะแนนเต็มรวมของรำยกำรตรวจสอบควำมรู้ ของผู้เรยี นจำกกำรทำแบบฝกึ หัด กกกกกกก2. เกณฑ์กำรประเมินผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำรแสวงหำควำมรู้ และ เกดิ ทักษะกำรคดิ วเิ ครำะห์ ผ่ำน ต้องได้คะแนนไมน่ อ้ ยกว่ำรอ้ ยละ 50 ของคะแนนเต็มท่ีตรวจสอบ ไม่ผ่ำน ไดค้ ะแนนระหว่ำงร้อยละ 0.00 – 49.99 ของคะแนนเต็มทตี่ รวจสอบ

238 แบบตรวจเอกสารการเรียนรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) หัวเรอ่ื งท่ี 3 เรอ่ื งวัดตน้ เชอื ก คาชีแ้ จง กกกกกกก1. แบบประเมนิ ฉบบั นจ้ี ดั ทำขึ้นเพ่อื ประเมนิ ควำมรขู้ องผู้เรียนหลักสูตรรำยวิชำ สค33162 วัดสวยงำม คู่นำมบำงใหญ่ ขณะเรียน ด้วยกำรตรวจแบบฝึกหัดท่ีมอบหมำยให้ทำในใบงำน โดยมี เกณฑก์ ำรตรวจ ดังนี้ 1.1 ถ้ำตอบไดถ้ ูกต้องครอบคลุมในแตล่ ะข้อ ให้ 2 คะแนน 1.2 ถ้ำตอบได้ถกู ตอ้ งแต่ไม่ครอบคลุมในแตล่ ะข้อ ให้ 1 คะแนน 1.3 ถ้ำตอบไม่ถูกตอ้ งไมค่ รอบคลมุ ในแตล่ ะขอ้ ให้ 0 คะแนน หรอื ไมท่ ำแบบฝึกหัดขอ้ นั้น ๆ กกกกกกก2. แบบประเมินฉบับน้จี ดั ทำข้นึ เพื่อประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำร แสวงหำควำมรู้ โดยมีเกณฑ์กำรตรวจ ดังน้ี 2.1 ถำ้ ปฏบิ ตั ิกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ จำกสื่อมำกกวำ่ 1 สอ่ื ให้ 2 คะแนน 2.2 ถำ้ ปฏิบัตกิ ำรศึกษำค้นควำ้ จำกส่อื ได้เพยี ง 1 สอื่ ให้ 1 คะแนน 2.3 ถำ้ ไม่ปฏิบตั ิกำรศึกษำค้นควำ้ จำกสือ่ เลย ให้ 0 คะแนน กกกกกกก3. แบบประเมนิ ฉบบั น้ี จดั ทำขน้ึ เพอ่ื ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เกิดทักษะกำรคิด วเิ ครำะห์ โดยมีเกณฑ์กำรตรวจ ดงั นี้ 3.1 ถ้ำสรปุ ผลกำรเรียนรูท้ ีไ่ ด้ใหม่ไดช้ ดั เจนดี ให้ 2 คะแนน 3.2 ถำ้ สรุปผลกำรเรยี นรทู้ ่ไี ด้ใหมไ่ ด้ชดั เจนพอใช้ ให้ 1 คะแนน 3.3 ถำ้ สรุปผลกำรเรียนรทู้ ่ีได้ใหมไ่ ด้นอ้ ยหรือไมไ่ ด้ ให้ 0 คะแนน กกกกกกก4. เมือ่ ครูผสู้ อนตรวจเอกสำรกำรเรยี นรู้ดว้ นตนเอง (กรต.) ของผู้เรียน ในข้อ 1 ข้อ 2 และ ข้อ 3 เสร็จส้ิน ให้บันทึกผลกำรให้คะแนนของผู้เรียนแต่ละคนตำมผลกำรตรวจให้คะแนนในตำรำง แนบท้ำย ขอ้ น้ี